Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนภาษาจีนกลาง 1 ม. 4 อรวรรณ เต็มรูป

แผนภาษาจีนกลาง 1 ม. 4 อรวรรณ เต็มรูป

Published by Kru Mint, 2019-09-01 01:42:07

Description: แผนภาษาจีนกลาง 1 ม. 4 อรวรรณ เต็มรูป

Search

Read the Text Version

วช-ร 03 การจดั ทาโครงสร้างรายวิชา รายวชิ า ภาษาจนี กลาง 1 รหสั วชิ า จ 31201 ระดับชั้น ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ จดั ทาโดย ว่าทรี่ ้อยตรหี ญิงอรวรรณ เมืองแก้ว ตาแหน่ง พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตาบลช่างเคง่ิ อาเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชยี งใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สานกั งานการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม (ภาคเรยี นท่ี 1) รหัสวชิ า จ 31201 ภาษาจนี กลาง 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 2 หน่วยกติ กลุ่มสาระภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาจีน) เวลา 80 ช่วั โมง ศกึ ษาคาศัพท์ สานวน ประโยค ขอ้ ความที่ใชใ้ นการสื่อสารขั้นพน้ื ฐานและศกึ ษาขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมจีน ฝึกทักษะฟังพูด อ่าน เขียนภาษาจีนเกี่ยวกับคาศัพท์ สานวน ประโยคท่ีใช้ใน ชีวิตประจาวันเพื่อให้มีทักษะพื้นฐาน การใช้ภาษาจีนระดับต้นในการส่ือสารในเรื่องท่ีเก่ียวกับตัวเอง สถานการณ์ใกล้ตัว เข้าใจคาส่ังท่ีใช้ในห้องเรียน คาขอร้อง คาแนะนา ภาษาท่าทางการแสดงความรูส้ ึก การ แสดงความตอ้ งการของตนเองอย่างงา่ ยๆ การเสนอความช่วยเหลือผู้อน่ื การขอและให้ข้อมูล การเสนอความ คิดเห็นต่อเรื่องต่าง ๆ นาเสนอบทเพลงสาหรับเด็ก ข้อมูลจากสื่อประเภทต่าง ๆ การเสนอความคิดรวบยอด รวมทัง้ มีทักษะในการอ่านคา กลมุ่ คา ประโยค ข้อความสั้นๆ เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างของภาษา และวัฒนธรรมเพื่อให้เห็นคุณค่าของการเรียนภาษาจีนและนาความรู้ท่ีได้ไปใช้ในการแสวงหาความรู้ ความ บนั เทิง โดยผ่านสอื่ เทคโนโลยี หรอื นวัตกรรม ใชภ้ าษาสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลใชภ้ าษาตาม สถานการณต์ ่าง ๆ ภายในสถานศึกษาได้อยา่ งเหมาะสม และเชอ่ื มโยงความรูก้ บั กลุม่ สาระการเรยี นรู้อ่นื มีความสามารถในการรบั และส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ รวมทงั้ การเลือกใช้วิธกี ารสอื่ สาร ทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสังคม เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทางาน รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1.เข้าใจคาส่ัง คาขอร้อง คาแนะนา ภาษาทา่ ทาง ประโยคง่ายๆ ในสถานการณ์ใกล้ตวั 2.อา่ นออกเสยี งกลุ่มคา กลุ่มคาประโยคง่ายๆ และบทอา่ นสัน้ ๆ ไดถ้ กู ตอ้ งตามหลักการออกเสยี ง 3.เข้าใจคา กลุ่มคา และประโยค โดยถ่ายโอนเป็นภาพ หรือสัญลักษณ์ง่ายๆ หรือถ่ายโอนข้อมูลจาก ภาพหรือสัญลกั ษณ์เป็นประโยคหรอื ข้อความสัน้ ๆได้ 4.เข้าใจ บทสนทนา เรื่องสนั้ ๆ หรอื นทิ านงา่ ยๆ ทม่ี ภี าพประกอบ และแสดงความรู้สึกเกย่ี วกับเรื่องที่ อยใู่ นความสนใจในชวี ิตประจาวัน 5.ใชภ้ าษาง่ายๆ ส้ันๆ ตามมารยาททางสังคม เพ่ือสรา้ งความสมั พนั ธ์ระหว่างบคุ คลโดยใช้ส่ือนวตั กรรม ง่ายๆ 6.ให้ขอ้ มลู งา่ ยๆ เกี่ยวกบั ตนเอง สิง่ แวดลอ้ ม และสังคมใกลต้ ัว ด้วยท่าทาง ภาพ คา และข้อความ สน้ั ๆ

7.นาเสนอบทเพลง หรือขอ้ มูลจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ ตามความสนใจดว้ ยความสนกุ สนาน 8.เขา้ ใจรปู แบบ พฤติกรรม และการใช้ถ้อยคา สานวนงา่ ยๆในการติดต่อ ปฏิสัมพนั ธต์ ามวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา 9.เขา้ ใจความแตกต่างระหวา่ งภาษาจีนกับภาษาไทย ในเรือ่ งเสียงสระ พยญั ชนะ คา วลี ประโยคและ ขอ้ ความ งา่ ยๆ และนาไปใชไ้ ด้อยา่ งถูกตอ้ ง รวมทงั้ หมด 9 ผลการเรยี นรู้

ผงั มโนทศั น์ รายวชิ าภาษาจีนกลาง 1 รหสั วชิ า จ 31201 ระดบั ชั้นช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 ช่ือหน่วย สัทอักษรภาษาจีน ช่ือหน่วย การทกั ทาย จานวน 20 ชั่วโมง : 25 คะแนน จานวน 20 ชวั่ โมง : 25 คะแนน รายวชิ าภาษาจีนกลาง 1 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 จานวน 80 ชวั่ โมง ชื่อหนว่ ย บ้านของฉัน ชื่อหนว่ ย ช้ันเรียนของพวกเรา จานวน 20 ช่วั โมง : 25 คะแนน 20 ช่ัวโมง : 25 คะแนน จานวน ………ช่ัวโมง : ….. คะแนน

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรอ่ื ง สทั อกั ษรภาษาจีน แผนจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง พยญั ชนะภาษาจีน รายวิชา ภาษาจีนกลาง 1 รหัสวิชา จ 31201 ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 นา้ หนักเวลาเรยี น 2 (นน./นก.) เวลาเรยี น 4 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาที่ใช้ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 ชัว่ โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ ในการเรียนภาษาจีนจะต้องเรียนรู้เรื่องระบบสัทอักษรจีน (พินอิน) การเรียนรู้สัทอักษรจีน (พินอิน) เป็นการปูพื้นฐานในการ เรียนรู้ภาษาจีนเบ้ืองต้น ซ่ึงเป็นปัจจัยสาคัญที่จะทาให้ผู้เรียนสามารถอ่านออกเสียง ภาษาจีนได้ถูกต้อง ดังน้ัน นักเรียนจึงควรเรียนรู้ระบบสัทอักษรจีน (พินอิน) ซ่ึงมี พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ การเติมเสียง การประสมสระ ลาดับขีด ไปจนถึงวิธีการใช้กฎต่าง ๆ เพ่ือปูพื้นฐานเบ้ืองต้นในการเรียนภาษาจีน ตอ่ ไป 2. ผลการเรยี นรู้ 1. ทักษะการฟงั การพดู และเข้าใจ 2. อ่านออกเสียงพยัญชนะภาษาจีนได้ถูกตอ้ งตามหลักการออกเสียง 3. สามารถเขียนระบุพยัญชนะภาษาจีน ได้อย่างถูกตอ้ ง 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ (K) 1. นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจเร่ืองพยัญชนะภาษาจีน 2. นกั เรยี นสามรถบอกพยัญชนะภาษาจีนไดถ้ กู ตอ้ ง 3.2 ดา้ นทกั ษะ (P) 1. ทกั ษะการฟัง - นกั เรยี นฟังภาษาจีนท่ีครพู ดู สามารถจาแนกความแตกตา่ งของเสียงเพ่อื ระบุวา่ เปน็ อักษรจนี หรอื พยญั ชนะสัทอกั ษร 拼音 ใดไดอ้ ยา่ งเข้าใจความหมาย 2. ทกั ษะการพดู - นกั เรยี นพดู โตต้ อบเกีย่ วกบั พยญั ชนะภาษาจนี ไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจ 3. ทักษะการอา่ น

- นักเรยี นสามารถอ่านออกเสียงพยัญชนะภาษาจนี ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 4. ทักษะการเขียน - นกั เรยี นฟงั ภาษาจนี ทีค่ รพู ูดและสามารถเขียนเป็นพยญั ชนะภาษาจีน 3.3 ด้านจิตพสิ ัย/คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ ( A ) 1. นักเรียนมคี วามรบั ผดิ ชอบส่งงานตรงเวลา 2. นกั เรยี นเป็นผู้มีคณุ ธรรมในการดารงชวี ติ ขยนั ใฝ่หาความรู้ 4. สาระการเรียนรู้ 声母 : พยัญชนะต้นของภาษาจีนมี 21 เสยี ง เสยี งของพยัญชนะต้นแบ่งได้ตามทมี่ าของเสยี งไดเ้ ปน็ 7 กลมุ่ ดงั นี้ เสยี งรมิ ฝีปาก bp m เสยี งฟนั แตะทีร่ มิ ฝีปาก f เสยี งปลายล้ิน dt n l เสยี งโคนลิ้น ɡk h เสยี งหน้าล้นิ jqx เสยี งปลายลิน้ สว่ นหนา้ zcs เสียงปลายลิ้นสว่ นหลัง zh ch sh r หมายเหตุ zh ch sh r ใหอ้ อกเสียงโดยยกปลายลนิ้ ข้ึนแตะบริเวณเพดานปาก ในการสะกดเสียงอ่านแบบไทยนัน้ ผเู้ ขียนไดเ้ ลือกอักษร “ ร ” เปน็ ตวั แทนการออกเสยี งยกลน้ิ ข้ึน มไิ ด้หมายถงึ ให้ สะกดเปน็ จะ-รือ ชะ-รือ ซะ – รือ ยะ-รอื แตใ่ ห้ออกเสยี งควบกัน พยญั ชนะตน้ กง่ึ สระมี 2 เสียง คอื y (i) และ w (u)

5. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร ( วิเคราะห์ / สังเคราะห์ ) 2. ความสามารถในการคดิ 6. คณุ ลกั ษณะของวิชา 1. ความรบั ผดิ ชอบ 2. ความต้ังใจ 3. ความสนใจ 4. มมี ารยาทในการอา่ นสนทนา 7. คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทางาน

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 - 2 ขั้นนาเข้าสูบ่ ทเรยี น 10 นาที 1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน 同学们好 ( สวัสดคี ่ะนักเรยี นทุกคน ) 2. ครพู ูดเกีย่ วกับความรู้ท่วั ไปเก่ยี วกบั ภาษาจนี วา่ ภาษาจนี กลางมีความสาคญั อย่างไร การเรยี นภาษาจนี เราต้องรจู้ กั ระบบสทั อักษรจีน แล้วระบบสัทอักษรจีนมีอะไรบา้ ง อธิบายใหน้ กั เรียนฟงั ครา่ วๆ ขนั้ สอน 1. ครูพดู ถงึ เร่อื งระบบสัทอกั ษรจนี สงิ่ แรกทเ่ี ราต้องรจู้ กั ในการเรยี นภาษาจนี คืออะไร 2. นักเรยี นตอบ หลงั จากนนั้ ครนู าบัตรคาเกีย่ วกบั เรือ่ งทส่ี อนขึ้นมาคอื เรือ่ งพยญั ชนะพนิ อนิ ภาษาจนี และ ถามนักเรียนว่านักเรียนรู้จักพยญั ชนะพนิ อินไหม? (นกั เรยี นตอบ) และหลงั จากนนั้ ครูอธิบายความหมาย ความเปน็ มาเก่ยี วกบั เรือ่ งพยญั ชนะพินอนิ ภาษาจนี ที่ใช้เปน็ ระบบเสียงใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจ 2. อธิบายการออกเสยี งพยัญชนะพนิ อินภาษาจีน 3. ฝกึ ออกเสียงพยญั ชนะพินอนิ ภาษาจนี ตามครูก่อน 1 รอบ หลงั จากนน้ั ครูเปิดเสยี งการอ่านพยัญชนะพนิ อนิ ให้นักเรียนฟัง 1 รอบ เม่ือฟังจบแล้ว ครเู ปดิ เสยี ง การอ่านพยญั ชนะอีก 1รอบ โดยให้นกั เรียนอา่ นตาม ทีละตัวจนครบ 4. ครูสุ่มนักเรียนสองถึงสามคน อ่านออกเสยี งพยัญชนะพนิ อนิ โดยครสู ุม่ บตั รคาที่เป็น พยญั ชนะพินอนิ ชูขน้ึ ให้นกั เรยี นอ่าน เพอ่ื เป็นการทดสอบว่านกั เรียนอา่ นพยญั ชนะพนิ อนิ ได้ จากน้ันให้ผู้เรียนเขียนพยัญชนะ พินอนิ ภาษาจีนลงในสมดุ 5. ครูใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบทักษะการฟงั (เทปเสยี ง)เรื่องพยญั ชนะพนิ อินภาษาจีนเพ่อื ทบทวนความ เข้าใจ เสร็จแลว้ เฉลยและตรวจพร้อมกนั ขนั้ สรปุ 1. ทบทวนการออกเสยี งอีกครัง้ 2. ครูให้นกั เรยี นเอาสมุดทท่ี าแบบทดสอบการฟงั มาส่ง พรอ้ มกบั สอบอ่านพินอินเปน็ รายบุคคล โดยให้ นกั เรียนอ่านออกเสยี งทีละตัว ซึง่ ไม่จาเป็นตอ้ งอา่ นตามตัวอกั ษรทเ่ี รยี งกนั เพอื่ จะไดท้ บสอบว่านักเรียน มี ความรู้ ความจา ความเข้าใจในคาศพั ท์นั้น ๆ

ช่วั โมงที่ 3 - 4 ข้นั นา 1. ทบทวนการออกเสยี งพยญั ชนะพนิ อินภาษาจนี ครหู ยบิ บัตรคาข้นึ มาชูให้นกั เรียนเห็น แล้วถามนักเรยี น ว่าจา ตัวอกั ษรท่ีเห็นได้ไหมว่า เรียกวา่ อะไร เมื่อนักเรียนตอบแลว้ ให้นกั เรียนอา่ นพยญั ชนะน้นั ๆใหฟ้ งั จนครบ หากมบี างตัวทีอ่ ่านผดิ ครสู อนนักเรยี นอ่านออกเสยี งใหถ้ ูกตอ้ ง ขัน้ สอน 1. ครูเปิดเสียงพยญัชนะพนิ อินต้นฉบบั เจ้าของภาษาให้นกั เรยี นเรียนฟัง 1 รอบ แล้วให้นักเรยี นอา่ นตาม 2. ดูคลปิ วิดโี อวิธกี ารอ่านออกเสียงพยญั ชนะพนิ อินท่ีถกู ต้องเพอื่ เป็นแนวทางในการทาความเข้าใจของ ผเู้ รียน 3. ครูสมุ่ นกั เรียนสองถงึ สามคน ออกมาอ่านออกเสยี งพยัญชนะพนิ อินให้เพ่ือนๆฟงั โดยครูสมุ่ บตั รคาท่ี เป็นพยัญชนะพนิ อนิ ชขู นึ้ ให้นกั เรียนอา่ น เพ่ือเปน็ การทดสอบวา่ นักเรียนอ่านพยญั ชนะพนิ อนิ ได้ ข้ันสรปุ 1. ทบทวนบทเรียนเรือ่ งพยญั ชนะภาษาจนี อีกครั้ง 9. ภาระช้ินงาน 1. ใบงานเรอื่ งพยญั ชนะภาษาจีน 2. การอ่านออกเสยี งพยัญชนะ 10. ส่อื การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ 1. เทปเสยี งเก่ยี วกบั พยญั ชนะพนิ อนิ ของภาษาจนี 2. Power Point /เพลงประกอบการสอน/วิดโี อประกอบการสอนเรอื่ งพยญั ชนะพนิ อินของภาษาจีน 3. บัตรคาเก่ียวกับพยญั ชนะพินอินของภาษาจนี รายการสอื่ จานวน สภาพการใช้ส่ือ 1.แบบทดสอบทักษะการฟงั (เทปเสยี ง)พยญั ชนะ 1 ชดุ ขน้ั สร้างความสนใจ 2. แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงพยญั ชนะ 1 ชุด ขน้ั ขยายความรู้

11. การวัดผลและประเมนิ ผล รายการประเมนิ 5 ระดับคณุ ภาพ 4 3 2 1 คะแนน 1.นักเรียนสามารถ นักเรยี นสามารถ นกั เรียนเขยี น นักเรยี นเขยี น นักเรียนเขยี น นกั เรียนเขยี น เขียนพยญั ชนะ เขยี นพยญั ชนะ พยญั ชนะพนิ อิน พยัญชนะพนิ อิน พยัญชนะพนิ อนิ พยัญชนะพนิ อิน พนิ อินภาษาจนี จาก พินอินภาษาจนี จาก ภาษาจีนจากการ ภาษาจนี จากการ ภาษาจนี จาก ภาษาจีนจาก การฟงั ไดอ้ ยา่ ง การฟังได้อย่าง ฟังถูกตอ้ ง 20 - ฟงั ถูกต้อง การฟังถกู ตอ้ ง การฟังถกู ตอ้ ง 5 ถกู ตอ้ ง ถกู ต้องทงั้ หมด 16 ข้อ 15 – 11 ข้อ 10 – 6 ขอ้ ข้อลงไป 2.นักเรียนสามารถ นกั เรยี นอ่านออก นกั เรยี นอ่านออก นกั เรียนอา่ นออก นักเรียนอ่าน นกั เรยี นอ่าน อา่ นออกเสยี ง เสยี งพยัญชนะ เสยี งพยัญชนะ เสยี งพยัญชนะ พยญั ชนะพนิ อิน พินอินภาษาจนี ได้ พนิ อินภาษาจีน พินอินภาษาจีน ออกเสียง ออกเสียง ภาษาจนี ไดอ้ ยา่ ง อย่างถูกต้องทงั้ หมด ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง 15 - 11 ถูกต้อง ตัว พยัญชนะพนิ อนิ พยญั ชนะพนิ อิน 20 - 16 ตัว ภาษาจนี ถูกตอ้ ง ภาษาจนี ถูกต้อง 10 - 6 ตัว 5 ตัว ระดบั คุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ดมี าก ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5-6 พอใช้ 3-4 ปรับปรุง 0-2

แบบทดสอบทักษะการฟัง จงเขยี นพยญั ชนะตามทไ่ี ดย้ ินให้ถกู ตอ้ ง 1. 14. 2. 15. 3. 16. 4. 17. 5. 18. 6. 19. 7. 20. 8. 21. 9. 10. 11. 12. 13.

แบบฝึกทกั ษะการอ่านออกเสียง เร่อื ง พยญั ชนะ 声母 : พยญั ชนะตน้ ของภาษาจีนมี 21 เสยี ง b p mf d t nl ɡ kh j qx z cs zh ch sh r พยญั ชนะตน้ กึ่งสระมี 2 เสยี ง คือ Y (i) และ w (u)

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เร่อื ง สัทอักษรภาษาจีน แผนจดั การเรยี นรูท้ ี่ 2 เร่อื ง สระภาษาจีน รายวิชา ภาษาจีนกลาง 1 รหสั วิชา จ 31201 ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 น้าหนกั เวลาเรยี น 2 (นน./นก.) เวลาเรยี น 4 ชั่วโมง/สปั ดาห์ เวลาที่ใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 ช่วั โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ ในการเรียนภาษาจีนจะต้องเรียนรู้เรื่องระบบสัทอักษรจีน (พินอิน) การเรียนรู้สัทอักษรจีน (พินอิน) เป็นการปูพ้ืนฐานในการเรียนรู้ภาษาจีนเบ้ืองต้น ซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญท่ีจะทาให้ผู้เรียนสามารถอ่านออกเสียง ภาษาจีนได้ถูกต้อง ดังน้ัน นักเรียนจึงควรเรียนรู้ระบบสัทอักษรจีน (พินอิน) ซ่ึงมี พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ การ เติมเสียง การประสมสระ ลาดับขีด ไปจนถึงวิธีการใช้กฎต่าง ๆ เพ่ือปูพ้ืนฐานเบ้ืองต้นในการเรียนภาษาจีน ตอ่ ไป 2. ผลการเรียนรู้ 1. ทกั ษะการฟงั การพดู และเขา้ ใจ 2. อ่านออกเสียงสระภาษาจีนไดถ้ ูกต้องตามหลักการออกเสยี ง 3. สามารถเขยี นระบสุ ระภาษาจีน ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ (K) 1. นกั เรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเรอื่ งสระภาษาจีน 3.2 ดา้ นทักษะ (P) 1. ทกั ษะการฟัง นักเรียนฟังภาษาจนี ทค่ี รูพูด สามารถจาแนกความแตกต่างของเสยี งเพอ่ื ระบุว่าเปน็ หรือสระ ภาษาจนี ใดได้อย่างเขา้ ใจความหมาย 2. ทักษะการพดู นกั เรียนพูดโตต้ อบเกย่ี วกบั สระภาษาจนี ได้อยา่ งเขา้ ใจ

3. ทักษะการอ่าน นักเรียนสามารถ อา่ นออกเสยี งสระภาษาจีนไดอ้ ย่างถกู ต้อง 4. ทกั ษะการเขยี น นกั เรียนฟงั ภาษาจีนท่ีครูพดู และ สามารถเขยี นเปน็ สระภาษาจนี 3.3 ด้านจติ พิสัย/คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ (A ) 1. นกั เรยี นมคี วามรับผิดชอบส่งงานตรงเวลา 2. นกั เรยี นเป็นผมู้ ีคณุ ธรรมในการดารงชวี ิต ขยันใฝ่หาความรู้ 4. สาระการเรียนรู้ 韵母 yùnmǔ อวนิ้ หมู่ สระ มีท้งั หมด 36 ตัว แบ่งออกเปน็ สระเดีย่ ว 6 ตัว และสระผสม 30 ตวั ดังนี้ 1. 单韵母 สระเดี่ยว มี 6 เสียง ดงั น้ี ɑ(อา) o (โอ) e (เออ) i (อี) u (อู) ü ( อว)ี ** สระ ü จะออกเสยี งสระ u (อ)ู ควบกับ สระ i (อี) ( u + i ) โดยจุดสองจดุ ที่อยู่ดา้ นบน u เทา่ กบั สระ i นนั่ เอง 2. สระประสมสองเสียง 复韵母 ได้แก่ ɑi (ไอ) ei (เอย) ɑo (เอา) ou (โอว) iɑ (เอีย) ie (เอีย+เอ) uɑ (อัว) uo (อัว+ออ) üe (เอว์) 3. สระประสมสามเสียง 三重韵母 ไดแ้ ก่ uɑi (อไว) ui (อเวย) iɑo (เอยี ว) iu (อิว) 4. สระเสยี งนาสกิ 鼻韵母 ไดแ้ ก่ ɑn (อัน) ɑnɡ (อัง) en (เอิน) enɡ (เองิ ) in (อิน) inɡ (อิง) iɑn (เอยี น) iɑnɡ (เอยี ง) ionɡ (อ+ี โอง) uɑn (อวาน) uɑnɡ (อวาง) uen (un) (อเวนิ ) uenɡ (เอวงิ ) üɑn(เอวยี น) ün (อวนิ ) onɡ (อง)

5.สระเสยี งพเิ ศษ 特殊韵母 ไดแ้ ก่ er (เออร์) วิธีการผสมเสยี ง(พยญั ชนะ+สระ) วิธกี ารผสมเสียงตอ้ งประกอบดว้ ย พยญั ชนะ + สระ พยญั ชนะ รวมกบั สระเดยี่ ว 1 ตัว P + a = Pa พยญั ชนะ รวมกับ สระผสม เช่น สระผสม 2 ตัว เชน่ bɑi ɡei hɑo tou ฯลฯ สระผสม 3 ตวั เช่น bɑnɡ tenɡ tonɡ ฯลฯ สระผสม 4 ตวั เชน่ xionɡ lianɡ xiɑnɡ ฯลฯ *ข้อควรระวงั * - n เหมอื นแม่กนและกงในภาษาไทย - nɡ เหมอื นแม่กง - r มีไวแ้ สดงเสยี งเออ้ ต้องเอาปลายลนิ้ งอขึ้นไปแตะทีเ่ พดานปาก 1. สระ u อู(อู) ไมใ่ ช้กับพยัญชนะ y, j, q, x 2. สระ ü อ.วี -ถ้าใช้ควบคกู่ บั พยัญชนะ y, j, q, x จะตอ้ งตัดจุดสองจุดท่อี ย่ขู า้ งบนของ ü ออกไป เช่น ü –> yu üe –> yue - ถา้ ใช้ควบคู่กับพยัญชนะ l, n จะละสองจดุ ไม่ได้ ไม่นัน้ จะไปซา้ กับเสียงu (อู) ทาใหเ้ กิดการสบั สนได้ 3. สระ er เชน่ 儿 เม่อื ทาหนา้ ท่เี ปน็ สระต่อทา้ ย จะเขยี นพนิ อินแค่ r เท่าน้ัน เช่น 一点儿 yīdiǎnr

5. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร ( วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ) 2. ความสามารถในการคิด 6. คณุ ลกั ษณะของวิชา 1. ความรับผิดชอบ 2. ความต้ังใจ 3. ความสนใจ 4. มีมารยาทในการอ่านสนทนา 7. คณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1-2 ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรียน 5 นาที 1. ครกู ล่าวทกั ทายนกั เรียน 同学们好 ( สวัสดคี ะ่ นกั เรียนทกุ คน ) 2. ครูเปิดเสยี งในแผน่ ซีดภี าษาจนี ให้นกั เรียนฟัง แลว้ ลองฝกึ อา่ นออกเสยี งตาม ข้นั สอน 1.ครูถามนกั เรียนว่าได้ยนิ เสียงอะไรจากเสยี งทีไ่ ด้ฟังบ้าง และเร่ิมเขา้ สู่บทเรยี นโดย ครนู าบัตรคาท่ีเปน็ สระของภาษาจนี ใหน้ ักเรียนดู แล้วถามนักเรยี นว่ารจู้ กั สระภาษาจนี ไหม? ถ้าหากนักเรียนไมร่ ้กู เ็ ร่ิมอธิบาย ความหมายและความสาคญั ของสระภาษาจนี ใหน้ ักเรียนเข้าใจ 2. ครูเปิดสื่อการสอน ppt เก่ียวกบั เรือ่ งสระและให้นักเรียนเขียนสระภาษาจีนลงในสมดุ 3. ครนู าบัตรคาสระภาษาจนี ขึ้นมาพรอ้ มอ่านออกเสยี งสระภาษาจนี ท้งั หมดใหน้ ักเรียนฟัง 1 รอบ 4. ครูใหน้ ักเรียนอา่ นออกเสียงสระภาษาจีนท้ังหมดตามครู 2 รอบ 5. ครูส่มุ บัตรคาสระภาษาจนี แลว้ ใหน้ ักเรยี นอา่ นออกเสยี งพร้อมกนั

ขั้นสรปุ 1. ครูใหน้ กั เรยี นกลบั ไปทบทวนสระภาษาจีนพรอ้ มให้ฝกึ อา่ นออกเสยี งสระ ช่ัวโมงที่ 3 - 4 ขั้นนา 1. ครูหยิบบัตรคาขน้ึ มาชูให้นักเรยี นเห็น แลว้ ถามนกั เรียนว่าจา ตัวอกั ษรท่เี หน็ ไดไ้ หมวา่ เรียกว่าอะไร เมอ่ื นกั เรยี นตอบแล้วใหน้ ักเรียนอ่านสระภาษาจีนนั้น ๆ ใหฟ้ ังจนครบ หากมบี างตวั ทีอ่ ่านผิดครู สอนนักเรียนอ่าน ออกเสียงให้ถูกตอ้ ง ข้ันสอน 1. ครูเปิดเสยี งสระภาษาจีนให้นกั เรยี นฟัง 1 รอบ แลว้ ให้นกั เรยี นอา่ นตาม 2. ครใู หน้ กั เรยี นอ่านสระภาษาจีนพรอ้ มกันอีก 1 รอบ 3. ครูสมุ่ นกั เรยี น 3-4 คน อ่านออกเสียงสระภาษาจีนตามบัตรคาท่คี รูชูให้เห็น เพ่ือทดสอบว่านักเรียนรู้ และสามารถอา่ นออกเสียงสระภาษาจนี นั้น ๆ ไดถ้ กู ต้อง ขน้ั สรุป 1. ทบทวนสระภาษาจีน ครูใหน้ ักเรยี นเอาสมดุ มาสง่ พร้อมกับสอบอา่ นออกเสยี งสระภาษาจนี เป็น รายบคุ คล โดยใหน้ ักเรียนอา่ นออกเสยี งสระแตล่ ะตัว ทีไ่ มจ่ าเปน็ ตอ้ งเปน็ สระท่ีเรยี งต่อกัน ทดสอบวา่ นักเรยี นมคี วามรู้ ความจาและเขา้ ใจ 9. ภาระชน้ิ งาน 1. แบบฝกึ หัดเร่อื งสระภาษาจีน 2. การอ่านออกเสยี งสระภาษาจนี 10. ส่อื การเรียนการสอน / แหลง่ เรียนรู้ 1. เทปเสยี งเกี่ยวกบั สระภาษาจีน 2. Power Point /เพลงประกอบการสอน/วิดีโอประกอบการสอนเรอ่ื งสระภาษาจนี 3. บัตรคาเกย่ี วกับสระภาษาจีน

รายการสอ่ื จานวน สภาพการใช้ส่ือ 1. แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านออกเสียงสระภาษาจีน 1 ชุด ขนั้ ทบทวนความรู้ 11. การวัดผลและประเมนิ ผล รายการประเมิน 5 4 ระดับคณุ ภาพ 2 1 คะแนน 3 1. นักเรียนสามารถ นกั เรียนสามารถ นักเรยี นอา่ นออก นักเรยี นอา่ นออก นกั เรยี นอา่ นออก นักเรียนอา่ นออก อ่านออกเสียง อ่านออกเสยี งสระ เสยี งสระภาษาจนี เสียงสระภาษาจีน เสยี งสระภาษาจนี เสียงสระภาษาจีน สระภาษาจีนได้ ภาษาจนี ไดอ้ ยา่ ง ไดถ้ กู ตอ้ ง ไดถ้ ูกต้อง ไดถ้ ูกตอ้ ง ได้ถกู ต้อง 8 ตัว อยา่ งถกู ตอ้ ง ถกู ต้องทงั้ หมด 35 – 27 ตัว 26 – 18 ตวั 17 – 9 ตัว ระดบั คุณภาพ ระดับคุณภาพ ชว่ งคะแนน ดีมาก ดี 5 4 ปานกลาง 3 พอใช้ 2 ปรับปรุง 1

แบบฝึกทักษะการอ่าน 韵母 : สระ สระเดย่ี ว มี 6 เสยี ง uü ɑo e i สระประสมสองเสยี ง 9 เสยี ง ɑi ei ɑo ou iɑ ie uɑ uo üe สระประสมสามเสยี งมี 4 เสยี ง ui( uei ) iɑo iu( iou ) uɑi สระเสยี งนาสกิ (สระท่ีมีพยญชั นะสะกด n และ nɡ) ɑn en ɑnɡ enɡ onɡ ionɡ iɑn in iɑnɡ inɡ uɑn uen uɑnɡ uenɡ üɑn ün

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง สัทอกั ษรภาษาจีน แผนจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง พยญั ชนะ/วรรณยุกต์ รายวิชา ภาษาจีนกลาง 1 รหัสวิชา จ 31201 ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 น้าหนักเวลาเรยี น 2 (นน./นก.) เวลาเรยี น 4 ชว่ั โมง/สัปดาห์ เวลาทีใ่ ช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 ช่วั โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ ในการเรียนภาษาจีนจะต้องเรียนรู้เรื่องระบบสัทอักษรจีน (พินอิน) การเรียนรู้สัทอักษรจีน (พินอิน) เป็นการปูพื้นฐานในการ เรียนรู้ภาษาจีนเบ้ืองต้น ซ่ึงเป็นปัจจัยสาคัญที่จะทาให้ผู้เรียนสามารถอ่านออกเสียง ภาษาจีนได้ถูกต้อง ดังน้ัน นักเรียนจึงควรเรียนรู้ระบบสัทอักษรจีน (พินอิน) ซึ่งมี พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ การเติมเสียง การประสมสระ ลาดับขีด ไปจนถึงวิธีการใช้กฎต่าง ๆ เพ่ือปูพ้ืนฐานเบื้องต้นในการเรียนภาษาจีน ตอ่ ไป 2. ผลการเรยี นรู้ 1. ทกั ษะการฟงั การพดู และเขา้ ใจ 2. อ่านออกเสียงพยญั ชนะท่ีผสมสระและวรรณยกุ ตภ์ าษาจีนได้ถกู ต้องตามหลักการออกเสียง 3. สามารถเขยี นระบพุ ยัญชนะท่ผี สมสระและวรรณยุกต์ภาษาจีนได้อย่างถกู ตอ้ ง 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ (K) 1. นกั เรียนมีความร้คู วามเข้าใจเรือ่ งพยญั ชนะท่ผี สมสระและวรรณยกุ ต์ภาษาจีน 3.2 ด้านทกั ษะ (P) 1. ทกั ษะการฟงั นกั เรียนฟังภาษาจีนทคี่ รูพูด สามารถจาแนกความแตกต่างของเสียงเพอ่ื ระบวุ า่ เป็นเสียง วรรณยุกตภ์ าษาจนี ใดไดอ้ ย่างเข้าใจ 2. ทักษะการพดู นักเรียนพูดโตต้ อบเกย่ี วกบั วรรณยุกต์ภาษาจนี ได้อย่างเขา้ ใจ 3. ทักษะการอ่าน

นักเรยี นสามารถอ่านออกเสียงพยัญชนะทีผ่ สมสระและวรรณยกุ ต์ภาษาจีนได้ อย่างถกู ตอ้ ง 4. ทกั ษะการเขียน นักเรียนฟงั ภาษาจีนทค่ี รพู ดู และ สามารถเขยี นเปน็ พยญั ชนะ สระ และ วรรณยุกต์ภาษาจีน 3.3 ด้านจติ พสิ ัย/คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ (A ) 1. นักเรียนมีความรบั ผดิ ชอบสง่ งานตรงเวลา 2. นกั เรียนเปน็ ผ้มู คี ุณธรรมในการดารงชีวติ ขยันใฝห่ าความรู้ 4. สาระการเรียนรู้ เนื้อหาที่ 1 วิธีการผสมเสยี ง(พยญั ชนะ+สระ) วธิ กี ารผสมเสยี งตอ้ งประกอบด้วย พยญั ชนะ + สระ พยญั ชนะ รวมกบั สระเดีย่ ว 1 ตวั P + ɑ = Pɑ พยญั ชนะ รวมกบั สระผสม เช่น สระผสม 2 ตวั เชน่ bɑi ɡei hɑo tou ฯลฯ สระผสม 3 ตัว เช่น bɑnɡ tenɡ tonɡ ฯลฯ สระผสม 4 ตวั เช่น xionɡ liɑnɡ shuɑnɡ ฯลฯ *ขอ้ ควรระวัง* - n เหมือนแม่กนและกงในภาษาไทย - nɡ เหมอื นแมก่ ง - r มไี ว้แสดงเสียงเอ้อ ต้องเอาปลายลิน้ งอขน้ึ ไปแตะทีเ่ พดานปาก 1. สระ u อู (อ)ู ไม่ใช้กบั พยัญชนะ y, j, q, x 2. สระ ü อวี - ถ้าใช้ควบคูก่ ับพยัญชนะ y, j, q, x จะตอ้ งตัดจุดสองจุดท่อี ย่ขู า้ งบนของ ü ออกไป

เชน่ ü –> yu üe –> yue - ถ้าใช้ควบคกู่ ับพยญั ชนะ l, n จะละสองจุดไม่ได้ ไม่น้นั จะไปซา้ กับเสียงu (อู) ทาใหเ้ กิดการ สบั สนได้ 3. สระ er เชน่ 儿 เม่อื ทาหน้าทเี่ ป็นสระต่อทา้ ย จะเขยี นพินอนิ แค่ r เทา่ น้ัน เชน่ 一点儿 yīdiǎnr เนื้อหาที่ 2 1. เสียงวรรณยุกต์ 声调 เสยี งวรรณยกุ ต์ คือการเปลย่ี นแปลงของระดับเสียงสูงต่าในการออกเสียง เสยี งวรรณยกุ ตใ์ นภาษาจีนกลางมีทั้งหมด 4 เสียง ได้แก่ เสยี งหนงึ่ “ — ” 阴平 คลา้ ยกับเสียงสามัญในภาษาไทย แต่ออกเสยี งสงู กว่าและลากเสยี งยาว กว่าเล็กน้อย เสียงสอง “ ̸ ” 阳平 คลา้ ยกบั เสียงจัตวาในภาษาไทย แตจ่ ะลากเสยี งขน้ึ สูงกว่าเล็กนอ้ ย เสียงสาม “ ˅”上声 เป็นเสยี งวรรณยกุ ต์ทตี่ อ้ งกดเสียงลงต่าก่อน แล้วจงึ ลากเสยี งให้สงู ขึ้น ตอนหลัง ในช่วงที่กดเสียงลงตา่ จะออกเสียงใกล้เคยี งกับ เสียงเอก ในภาษาไทย เสียงส่ี “ \\ ” 去声 คลา้ ยกบั เสียงโทในภาษาไทย แต่จะออกเสียงส้นั และจบเสยี งเรว็ กว่า ตัวอย่างการออกเสยี งและการวางวรรณยกุ ต์ 1.เสยี ง 1 ā 2.เสยี ง 2 á 3.เสียง 3 ǎ 4.เสยี ง 4 à

เทียบเสียงภาษาจีน เทียบเสยี งภาษาไทย กฎของการเติมวรรณยุกต์ การเขียนเคร่ืองหมายแทนเสียงวรรณยุกต์ การวางเครื่องหมายวรรณยุกตใ์ หว้ างไว้บนสระหลกั ซ่ึงมี ɑoeiuü 1. ตาแหน่งการใสเ่ ครอื่ งหมายวรรณยุกต์ จะใสไ่ ว้ตามลาดบั สระทเี่ รยี งไว้ขา้ งบน 2. ถา้ ไมม่ ี α ใหม้ องหา o และ e ตามลาดับ เช่น běi (วางไวบ้ นตัว e เพราะ e มากอ่ น i) 3. ถา้ มี iu หรือ ui ให้วางวรรณยกุ ตไ์ ว้ทต่ี ัวหลังสุด diū 4. ในการเตมิ เสยี งวรรณยกุ ต์ลงบนตวั i นนั้ ใหต้ ดั จดุ บนตัว i ออกดว้ ย เช่น bī 5. สระ ü ให้ตดั จุดบนตัว ü เช่นกัน yū ตัวอยา่ ง พนิ อนิ ทถี่ กู ตอ้ ง วธิ ใี ส่วรรณยกุ ต์ miāo วางไว้บนตวั α เพราะ α มากอ่ น i และ o běi วางไว้บนตวั e เพราะ e มาก่อน i liè วางไว้บนตัว e เพราะ e มากอ่ น i yüē วางไวบ้ นตัว e เพราะ e มาก่อน ü

kū วางไวบ้ นตวั u เพราะมสี ระตวั เดยี ว shuài วางไวบ้ นตวั α เพราะ α มาก่อน u และ i 5. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร ( วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ) 2. ความสามารถในการคิด 6. คณุ ลักษณะของวิชา 1. ความรับผิดชอบ 2. ความตัง้ ใจ 3. ความสนใจ 4. มีมารยาทในการอา่ นสนทนา 7. คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ ม่ันในการทางาน 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 - 2 ขัน้ นาเข้าส่บู ทเรยี น 10 นาที 1. ครกู ลา่ วทกั ทายนักเรยี น 同学们好 ( สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคน ) 2. ครูให้นักเรยี นฟังคลิปเสียงภาษาจีน แลว้ ให้นักเรยี นทายวา่ เสียงที่ไดย้ ินน้นั คอื เสยี งอะไร ในเน้อื หาที่จะ เรียนต่อไป และมกี ารถามตอบนักเรยี นและครู ขัน้ สอน 1. หลงั จากทน่ี ักเรยี นฟงั เสียงภาษาจนี แล้วตอบคาถาม ครผู สู้ อนเฉลยและอธิบายเก่ียวกบั เสยี งทผ่ี เู้ รยี น ไดย้ นิ นั้นว่าเป็นเรือ่ งสญั ลกั ษณ์แทนวรรณยุกต์ภาษาจีนเพือ่ ใช้ในการออกเสยี ง 2. ครูผู้สอนเปิดสอ่ื การสอน (ppt) และอธบิ ายเนื้อหาและวิธกี ารใช้วรรณยกุ ตภ์ าษาจีน 3. ครูผู้สอนยกตวั อย่างการใช้วรรณยกุ ตภ์ าษาจีนและพดู ออกเสียงให้นกั เรยี นฟังอย่างเขา้ ใจ 1 รอบ

4. ครูผู้สอนให้นกั เรยี นอา่ นออกเสียงวรรณยุกตภ์ าษาจีนพร้อมกนั 1 รอบ 5. ครูสุ่มนักเรียน 2 – 3 คนอ่านออกเสียงวรรณยกุ ต์และถามวธิ หี รือกฎการใช้วรรณยกุ ตภ์ าษาจีนเพอ่ื ทบทวนเนื้อหาในบทเรยี น 6. ครูให้นกั เรียนเขียนเนือ้ หาที่สาคัญเร่ืองวรรณยกุ ต์ภาษาจนี ข้นั สรุป 1. ครใู หน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หัดเรื่องวรรณยกุ ต์ภาษาจนี เพ่ือทาความเข้าใจ พร้อมส่งสมุด 2. ทบทวนการอา่ นออกเสยี งวรรณยุกต์ภาษาจีนและมีช่วงถาม – ตอบในเรอ่ื งท่เี รยี นไป ชว่ั โมงท่ี 3 - 4 ข้ันนา 1. ครทู บทวนเร่ืองวรรณยุกต์ภาษาจีน 2. ครใู หน้ ักเรยี นฟังเสยี งการอ่านออกเสียงวรรณยกุ ต์ภาษาจนี และให้นกั เรียนตอบคาถามที่สอดคล้องกบั เน้อื หาท่เี รียน ขัน้ สอน 1. หลังจากนกั เรียนตอบคาถามเสร็จแลว้ ครผู สู้ อนนาบตั รคาที่เป็นพยัญชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ ภาษาจนี ข้นึ มา และนามาวางประกอบกันเป็นพินอินภาษาจนี ทีอ่ ่านออกเสียงไดอ้ ยา่ งชดั เจน 2. อธบิ ายในส่วนทเ่ี ปน็ บตั รคา พยญั ชนะ สระและวรรณยุกต์เพอ่ื ใหเ้ ชื่อมโยงและสอดคล้องกบั เนือ้ หา เร่ืองการผสมพยัญชนะและสระพรอ้ มการวางเสียงของวรรณยกุ ต์ภาษาจนี 3. ยกตัวอย่างการผสมพยัญชนะ สระ และวรรณยกุ ตภ์ าษาจนี และสอนนกั เรียนอ่านออกเสยี ง 1 รอบ 4. สุม่ นกั เรยี นประมาณ 3 – 4 คนให้ออกมาอ่านออกเสยี งพินอินการผสมพยัญชนะสระและวรรณยกุ ต์ 5. ครูผ้สู อนใหน้ ักเรียนจดบนั ทึกเนือ้ หาที่สาคญั พยัญชนะผสมสระและวรรณยกุ ตภ์ าษาจีน ภาษาจีนใหเ้ พ่อื นฟงั 6. ครูผสู้ อนให้นกั เรียนทาตารางพินอินการประสมเสยี งทมี่ ีพยญั ชนะ สระ และวรรณยุกต์ภาษาจนี 7. ครูผู้สอนทบทวนเร่ืองกฎของการผสมพยัญชนะ สระ และวรรณยกุ ตภ์ าษาจนี 8. กจิ กรรมกลมุ่ โดยสมมตุ ิให้กลุม่ แต่ละกลมุ่ มเี สียงวรรณยุกต์ประจากลุ่มของตน จากนนั้ ใหฟ้ งั สยี งจากซีดี เมื่อได้ยนิ สยี งวรรณยกุ ต์ของกลุ่มตัวเองให้ยนื ขน้ึ ทนั ที ขั้นสรุป 1. ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ หัด เสร็จแล้วสง่ สมดุ และพรอ้ มกบั สอบอา่ นการผันเสียงเร่อื งพยัญชนะ ผสมสระและวรรณยกุ ต์ภาษาจีน ท่ีครูกาหนดให้

9. ภาระชิ้นงาน 1. แบบฝึกหดั เรื่องพยญั ชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ 2. แบบทดสอบทักษะการอ่านออกเสียงเรือ่ งการผสมพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ 10. สอ่ื การเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ รายการสอ่ื จานวน สภาพการใช้สอ่ื ขัน้ สรา้ งความสนใจ 1. แบบฝกึ หัดเรอ่ื งพยัญชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ 1 ชดุ ขั้นขยายความรู้ 2. แบบฝึกทกั ษะการอา่ นออกเสยี ง ( สอบอ่าน ) 1 ชุด 1. ppt ,CD การออกเสยี งเรื่องพยญั ชนะ สระ และวรรณยุกต์ 2. บตั รคาเก่ียวกับการผสมพยัญชนะสระและวรรณยุกตภ์ าษาจีน 11. การวัดผลและประเมินผล รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ 1.นกั เรียนสามารถ 543 2 1 คะแนน ทาแบบฝกึ หดั เรื่อง การผสมพยญั ชนะ นักเรียนสามารถ นกั เรยี นทา นกั เรียนทา นกั เรียนทา นักเรยี นทา สระและวรรณยุกต์ ภาษาจีนได้อยา่ ง ทาแบบฝกึ หัดเรอ่ื ง แบบฝกึ หดั เรอ่ื ง แบบฝึกหัดเรอ่ื ง แบบฝกึ หดั เร่อื งการ แบบฝึกหัดเรือ่ ง ถูกต้อง 2.นกั เรียนสามารถ การผสมพยัญชนะ การผสมพยญั ชนะ การผสมพยัญชนะ ผสมพยญั ชนะสระ การผสมพยญั ชนะ อา่ นออกเสยี ง พนิ อินเรื่องการผสม สระแลวรรณยกุ ต์ สระแลวรรณยุกต์ สระแลวรรณยุกต์ แลวรรณยกุ ต์ สระแลวรรณยกุ ต์ พยญั ชนะสระและ วรรณยุกต์ภาษาจนี ภาษาจนี ไดอ้ ย่าง ภาษาจนี ผิด ภาษาจนี ผิด ภาษาจนี ผดิ 9 ข้อ ภาษาจนี ผดิ 10 ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ งทั้งหมด 3 - 5 ข้อ 6 - 8 ข้อ ข้อขน้ึ ไป นกั เรียนสามารถ นักเรยี นอ่านออก นกั เรียนอา่ นออก นกั เรยี นอ่านออก นักเรียนอ่านออก อ่านออกเสยี ง เสยี งพินอินเร่อื ง เสยี งพินอินเรื่อง เสียงพินอนิ เร่ืองการ เสียงพนิ อินเรื่อง พนิ อินเรือ่ งการ การผสมพยญั ชนะ การผสมพยัญชนะ ผสมพยญั ชนะสระ การผสมพยญั ชนะ ผสมพยญั ชนะสระ สระและ สระและ และวรรณยกุ ต์ สระและ และวรรณยกุ ต์ วรรณยุกต์ วรรณยกุ ต์ ภาษาจีนได้ถกู ตอ้ ง วรรณยกุ ต์ ภาษาจีนไดอ้ ยา่ ง ภาษาจนี ได้ถูกต้อง ภาษาจีนได้ถกู ตอ้ ง 15 – 12 ตัว ภาษาจนี ไดถ้ กู ต้อง ถกู ต้องท้งั หมด 24 – 20 ตัว 19 – 16 ตัว 11- 8 ตวั

ระดับคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 9 - 10 ดีมาก 7-8 ดี 5-6 3-4 ปานกลาง 0-2 พอใช้ ปรับปรงุ

แบบฝึกทักษะ ออกเสยี งพินอนิ เรือ่ ง การผสมพยญั ชนะสระและวรรณยกุ ต์ภาษาจีน quán wànɡ liànɡ yù wánɡ xiē duì nǚ jūn xiǎnɡ chī bò yànɡ wèn kùi jiào zhào chán hēi qián sì shì xué zhè shēnɡ

แบบฝกึ หัดการผสมพยญั ชนะ สระและวรรณยุกต์ 1. b + ɑnɡ + ˋ = 10. m + ei + ˊ= 2. x + ionɡ + ˉ = 11. j + ie + ˇ = 3. k + uɑn + ˉ = 12. l + ie + ˋ = 4. zh + uɑnɡ + ˋ = 13. j + iɑnɡ + ˇ = 5. x + iu + ˉ = 14. sh + ɑnɡ + ˋ = 6. ɡ + ɑn + ˋ = 15. q + ün + ˉ = 7. j + ün + ˉ = 16. z + e + ˊ = 8. ɡ + e + ˋ = 17. s + e + ˋ = 9. ch + onɡ + ˊ= 18. ɡ + enɡ + ˋ =

แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง สัทอักษรภาษาจีน แผนจัดการเรยี นรู้ที่ 4 เร่อื ง เสยี งเบา/เสยี งวรรณยกุ ต์ รายวิชา ภาษาจีนกลาง 1 รหสั วิชา จ 31201 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนกั เวลาเรยี น 2 (นน./นก.) เวลาเรยี น 4 ชว่ั โมง/สัปดาห์ เวลาที่ใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 ชว่ั โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ ในการเรยี นภาษาจีนจะต้องเรยี นรู้เร่อื งระบบสัทอกั ษรจีน(พินอนิ ) การเรียนรู้สัทอักษรจีน(พนิ อนิ )เปน็ การ ปูพื้นฐานในการ เรียนรู้ภาษาจีนเบื้องต้น ซ่ึงเป็นปัจจัยสาคัญท่ีจะทาให้ผู้เรียนสามารถอ่านออกเสียงภาษาจีนได้ ถูกต้อง ดังนั้น นักเรียนจึงควรเรียนรู้ระบบสัทอักษรจีน (พินอิน) ซ่ึงมี พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ การเติมเสียง การประสมสระ ลาดบั ขีด ไปจนถงึ วิธีการใชก้ ฏตา่ งๆ เพื่อปูพ้นื ฐานเบ้อื งตน้ ในการเรยี นภาษาจีนต่อไป 2. ผลการเรียนรู้ 1. ทกั ษะการฟัง การพูด และเข้าใจ 2. อา่ นออกเสยี งพินอินท่ีเป็นเสียงเบาและพินอนิ ทแี่ ปรเสยี งภาษาจนี ไดถ้ ูกต้องตามหลกั การออกเสยี ง 3. สามารถเขียนระบเุ สียงของพนิ อินภาษาจนี ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ (K) 1. นกั เรียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจเรอ่ื งเสียงเบาและการแปรเสียงวรรณยุกตภ์ าษาจนี 3.2 ด้านทกั ษะ (P) 1. ทกั ษะการฟงั นักเรยี นฟังภาษาจีนที่ครพู ดู สามารถจาแนกความแตกตา่ งของเสียงเพือ่ ระบุว่าเป็นเสยี ง เสยี งเบาและการแปรเสยี งวรรณยุกต์ภาษาจีนใดได้อย่างเขา้ ใจ 2. ทกั ษะการพดู นกั เรยี นพูดโตต้ อบเกี่ยวกับเรื่องเสยี งเบาและการแปรเสยี งวรรณยุกตภ์ าษาจนี ได้ อย่างเข้าใจ 3. ทักษะการอ่าน นกั เรยี นสามารถอ่านพยญั ชนะผสมสระและวรรณยุกตภ์ าษาจีนที่เปน็ เสยี งเบา และสามารถแปรเสียงวรรณยุกตภ์ าษาจีนไดอ้ ยา่ งถูกต้อง

4. ทักษะการเขยี น นักเรียนฟงั ภาษาจนี ทค่ี รพู ดู และ สามารถเขยี นเปน็ พนิ อินท่เี ปน็ เสียงเบา 3.3 ดา้ นจิตพิสัย/คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ (A ) 1. นกั เรยี นมีความรับผดิ ชอบส่งงานตรงเวลา 2. นกั เรียนเป็นผู้มคี ุณธรรมในการดารงชีวติ ขยันใฝห่ าความรู้ 4. สาระการเรยี นรู้ เสยี งเบา 轻声 เสียงเบา หมายถึง เสยี งทเี่ ปล่งออกมาต่อจากพยางค์กอ่ นหนา้ นนั้ อย่างกระช้นั ชดิ มีลักษณะการ ออกเสยี งส้ันและเบากว่าเสยี งท่ัวไป เสยี งเบาทอี่ ย่หู ลงั วรรณยกุ ตเ์ สียงหนงึ่ เสียงสอง และเสียงสาม จะ ออกเสยี งตา่ ต่อเนอ่ื งจากเสยี งวรรณยุกต์ก่อนหนา้ ส่วนเสยี งเบาท่ีอยหู่ ลังวรรณยกุ ต์เสียงสาม จะออก เสยี งสงู ข้ึนจากระดับเสียงของพยางคห์ น้าเลก็ น้อย เชน่ 妈妈 māmɑ มาหมะ่ แม่ 爷爷 yéye เย๋เย ปู่ 奶奶 nǎinɑi ไหนไ่ น ยา่ 爸爸 bàbɑ ปา้ ปะ พอ่ การแปรวรรณยุกต์เสียงท่ี 3 กรณีเสียงวรรณยกุ ตเ์ สยี งที่ 3 เจอวรรณยุกต์เสยี งท่ี 3 ดว้ ยกนั เสยี งขา้ งหนา้ จะเปล่ยี นเป็นเสยี ง 2 เชน่ nǐhǎo níhǎo wǒ hěn hǎo wǒ hén hǎo หน่ีหา่ ว หนหี ่าว หว่อ เหน่ิ ห่าว หวอ่ เหิน ห่าว wǒ yě hěn hǎo wó yě hén hǎo หว่อ เย่ เฮน่ิ หา่ ว หวอ๋ เย่ เฮิ๋น หา่ ว

การแปรเสยี งวรรณยุกต์ของ “不” เม่อื 不 ใช้โดยลาพังหรอื อยู่หนา้ พยางค์เสียงวรรณยุกต์ที่ 1 , 2 และ 3 ให้อ่านเปน็ เสยี งท่ี 4 (bù) เชน่ bù ɡā o ,bù mánɡ ,bù hǎo , bù tīnɡ , bù nán , bù dǒnɡ , bù nán แต่เมื่อ อยูห่ นา้ พยางค์เสียงท่ี 4 ·กใ็ ห้อ่านเป็นเสยี งท่ี 2 (bú) เชน่ bú dà , bú kàn , bú niàn , bú xiè คาวา่ “不” และ “一” ในภาษาจนี กลางจะมีการกลายเสียงเฉพาะ กล่าวคอื เมอ่ื “不” และ “一” อยู่ หนา้ พยางคเ์ สียงสีห่ รอื พยางคเ์ สยี งเบาทกี่ ลายมาจากเสยี งส่ี จะต้องออกเสยี งว่า “bú” และ “yí” ตามลาดบั เช่น bú shì 不是; yí ɡè 一个 แต่หากสองคานี้อยู่หน้าพยางค์เสยี งหนง่ึ เสยี งสองและเสียงสาม กย็ ังคงออกเสยี งเป็นเสียงส่ตี ามเดมิ ว่า “bù” และ “yì” เช่น bù shuō 不说; bù lái 不来; bù hǎo 不好 yì tiān 一天; yì nián 一年; yì qǐ 一起 พยางค์เสริมท้ายด้วยเสียง er พยางคเ์ สริมทา้ ยดว้ ยเสียง er หมายถงึ พยางค์ทีเ่ กดิ จากการเพ่มิ เสยี ง er(-r) ตอ่ ขา้ งทา้ ยเสียงสระ ใน ภาษาจีนกลางมีคาจานวนมากทม่ี ีการเสรมิ ท้ายด้วยเสยี ง er เวลาเขยี นสัทอักษรพนิ อนิ ให้เพม่ิ ตัว r ตอ่ ท้าย สระ หากเขยี นเปน็ ตวั อกั ษรจีนใหเ้ ขียนตัว “儿” ต่อท้ายคา เชน่ ɡēr 歌儿 (เพลง); huār 花儿 (ดอกไม)้ หากเป็นพยางคม์ สี ระทีล่ งทา้ ยดว้ ยเสียง –i หรอื –n เม่ือจะประกอบเปน็ พยางคเ์ สรมิ ท้ายดว้ ยเสียง er ก็จะ ไมอ่ อกเสียง –i หรอื -n เชน่ xiǎo háir 小孩儿 (เดก็ ); wánr 玩儿 (เลน่ )

5. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร ( วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ) 2. ความสามารถในการคิด 6. คุณลกั ษณะของวิชา 1. ความรับผิดชอบ 2. ความตัง้ ใจ 3. ความสนใจ 4. มมี ารยาทในการอา่ นสนทนา 7. คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 - 2 ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น 10 นาที 1. ครูกลา่ วทกั ทายนักเรียน 同学们好 ( สวัสดีคะ่ นกั เรียนทุกคน ) 2. ครใู หน้ กั เรียนฟงั คลิปเสียงภาษาจนี แลว้ ให้นกั เรยี นทายว่าเสียงทไ่ี ด้ยินนนั้ คอื เสียงอะไรในเนื้อหาทีจ่ ะ เรียนต่อไป และมีการถามตอบนักเรยี นและครู ข้นั สอน 1. หลังจากทีน่ ักเรียนฟังเสียงภาษาจีนแลว้ ตอบคาถาม ครูผู้สอนเฉลยและอธบิ ายเกยี่ วกับเสยี งที่ผเู้ รยี น ได้ยนิ น้นั ว่าเปน็ เสียงเบาและการแปรเสียงวรรณยกุ ต์ภาษาจีน 2. ครผู ู้สอนเปดิ ส่ือการสอน (ppt) และอธิบายเน้ือหาและวิธีการออกเสียงเบาและการแปรเสยี ง วรรณยกุ ตภ์ าษาจีน 3. ครผู ู้สอนเปดิ คลปิ ตวั อย่างการออกเสียงเบาและการออกเสียงเม่อื มกี ารแปรเสียงวรรณยกุ ต์ภาษาจีน และพูดออกเสียงให้นกั เรียนฟังอยา่ งเข้าใจ 1 รอบ 4. ครผู ู้สอนใหน้ ักเรียนอา่ นออกเสียงพนิ อินภาษาจนี ทเี่ ปน็ เสยี งเบาพร้อมกนั 1 รอบ เช่น 妈妈 māmɑ มาหมะ่ แม่ และอ่านออกเสียงพินอนิ ภาษาจนี ที่ต้องแปรเสยี งวรรณยกุ ตพ์ รอ้ มกนั 1 รอบ

เช่น yìnián 一年 5. ครูสุม่ นกั เรยี น 2 – 3 คนอ่านออกเสียงเบา อ่านออกเสยี งพินอินทีแ่ ปรเสยี งวรรณยกุ ต์ และถามวิธีการ อ่านออกเสียงเบา และการแปรเสียงวรรณยุกตภ์ าษาจีนเพ่อื ทบทวนเนอ้ื หาในบทเรียน 6. ครูใหน้ ักเรียนเขียนเนือ้ หาท่ีสาคญั เรื่องเสียงเบาและการแปรเสยี งวรรณยุกต์ภาษาจนี ข้นั สรปุ 1. ครใู หน้ ักเรียนฝึกอ่านออกเสยี งเบาและฝกึ อา่ นออกเสยี งเร่ืองการแปรเสยี ง 2. ทบทวนการอ่านออกเสยี งเบา การแปรเสยี งวรรณยุกต์ภาษาจนี และมชี ว่ งถาม – ตอบในเร่อื งท่ีเรียนไป ชัว่ โมงที่ 3 - 4 ขนั้ นา 1. ครูทบทวนเรอ่ื งเสียงเบาและการแปรเสียงวรรณยุกตภ์ าษาจนี 2. ครูให้นักเรยี นฟังเสยี งการอา่ นออกเสียงวรรณยกุ ตภ์ าษาจนี และใหน้ กั เรยี นตอบคาถามที่สอดคล้องกับ เนื้อหาทีเ่ รียน ขนั้ สอน 1. หลังจากนกั เรียนตอบคาถามเสร็จแล้ว ครผู สู้ อนนาบตั รคาพินอินภาษาจีนขึน้ มาแลว้ อา่ นออกเสียงได้ ใหน้ กั เรียนฟงั อย่างชัดเจน 2. อธิบายในส่วนท่เี ป็นบตั รคา เพื่อให้เชื่อมโยงและสอดคล้องกับเน้อื หาเรอื่ งเสยี งเบาและการแปรเสยี ง วรรณยุกต์ภาษาจนี 3 . ยกตัวอยา่ งพินอินท่ีเสยี งเบาและพนิ อนิ ทม่ี ีการแปรเสียงวรรณยุกต์ภาษาจนี และสอนนกั เรยี นอา่ นออก เสยี ง 1 รอบ 4. สุ่มนักเรยี นประมาณ 3 – 4 คนให้ออกมาอา่ นออกเสียงพนิ อนิ เสยี งเบา และให้นักเรียนอา่ นออกเสยี ง พนิ อนิ ที่มกี ารแปรเสียงวรรณยกุ ตภ์ าษาจนี ให้เพ่อื นฟัง เช่น 儿子 érzi , yìqǐ 一起 5. ครูให้นักเรียนจดบันทึกเนื้อหาที่สาคญั ลงในสมดุ พร้อมกบั ส่งสมดุ หลงั เลิกเรียน 6 .กจิ กรรมแยกแยะพยางค์เสยี ง ครเู ปดิ เสียงจากแผ่น CD ใหน้ ักเรยี นฟงั แลว้ ให้นักเรยี นยกมอื ตอบว่าทีไ่ ด้ ยินคือเสียงแบบไหน เสียงเบาหรอื วา่ การแปรเสยี ง ขั้นสรุป 1. ทบทวนเรื่องเสียงเบาและการแปรเสยี งวรรณยุกต์ภาษาจนี 2. ส่งสมดุ และพร้อมกบั สอบอา่ นออกเสียงเรอื่ งเสยี งเบาและการแปรเสียงวรรณยกุ ต์ภาษาจีนทคี่ รู กาหนดให้

9. ภาระช้นิ งาน 1. แบบทดสอบทกั ษะการอ่านออกเสยี ง 10. สือ่ การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ 1. Power Point ,CD การออกเสียง 2. บัตรคาเกีย่ วกบั พนิ อนิ ภาษาจนี ใช้ฝกึ การออกเสียงเบาและการแปรเสียง รายการสอ่ื จานวน สภาพการใช้สือ่ 1. แบบฝกึ ทักษะการอา่ นออกเสียง ( สอบอา่ น ) 1 ชดุ ขน้ั ขยายความรู้ 11. การวัดผลและประเมินผล รายการประเมิน 5 4 ระดับคณุ ภาพ 2 1 คะแนน 3 1.นกั เรียนสามารถ นักเรยี น นกั เรยี นอ่านออก นกั เรียนอ่านออก นกั เรียนอา่ นออก นักเรียนอ่านออก อา่ นออกเสียงพนิ เสียงพินอินเสยี ง เสยี งพินอนิ เสยี ง อนิ เสยี งเบาและพิน สามารถอ่าน เสียงพินอนิ เสียง เสียงพนิ อินเสียง เบาและพนิ อนิ ที่ เบาและพินอินที่ อินท่ีแปรเสียง แปรเสียง แปรเสียง วรรณยกุ ต์ภาษาจนี ออกเสียงพนิ อิน เบาและพนิ อินท่ี เบาและพินอนิ ท่ี วรรณยกุ ต์ วรรณยกุ ต์ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ภาษาจนี ถกู ต้อง ภาษาจีนถูกต้อง เสียงเบาและพิน แปรเสียงวรรณยุกต์ แปรเสยี ง 8 - 5 ตวั 4 ตวั อินท่ีแปรเสยี ง ภาษาจีนได้ถกู ตอ้ ง วรรณยกุ ต์ วรรณยุกต์ 16 – 13 ตัว ภาษาจีนถกู ต้อง ภาษาจนี ได้ 12 – 9 ตวั อย่างถกู ตอ้ ง ท้งั หมด

ระดบั คณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ ชว่ งคะแนน ดีมาก ดี 5 4 ปานกลาง 3 พอใช้ 2 ปรับปรุง 1

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เร่อื ง สัทอักษรภาษาจีน แผนจัดการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรอ่ื ง ลาดับขีด รายวิชา ภาษาจีนกลาง 1 รหสั วิชา จ 31201 ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 น้าหนักเวลาเรยี น 2 (นน./นก.) เวลาเรยี น 4 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ เวลาที่ใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 ชว่ั โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั ในการเรยี นภาษาจีนจะต้องเรยี นรูเ้ รอ่ื งระบบสัทอักษรจนี (พนิ อิน) การเรียนรู้สทั อักษรจีน(พนิ อนิ )เปน็ การ ปูพื้นฐานในการ เรียนรู้ภาษาจีนเบ้ืองต้น ซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญที่จะทาให้ผู้เรียนสามารถอ่านออกเสียงภาษาจีนได้ ถูกต้อง ดังน้ัน นักเรียนจึงควรเรียนรู้ระบบสัทอักษรจีน (พินอิน) ซึ่งมี พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ การเติมเสียง การประสมสระ ลาดับขดี ไปจนถงึ วิธีการใช้กฏต่างๆ เพ่อื ปูพน้ื ฐานเบ้ืองต้นในการเรียนภาษาจีนต่อไป 2.ผลการเรียนรู้ 1. ผเู้ รียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกบั วธิ ีการเขียนลาดับขีดตวั อกั ษรจนี 2. ผู้เรียนสามารถเขยี นตวั อักษรจนี ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามหลักการเขยี น 3. ผู้เรยี นเกิดเจตคติท่ีดตี ่อการเขียนตัวอักษรจนี 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ (K) 1. นักเรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจเรือ่ งการเขยี นลาดับขีด 2. นกั เรยี นสามรถบอกวธิ ีการเขยี นลาดบั ขีดตัวอกั ษรภาษาจีนได้ 3.2 ด้านทกั ษะ (P) ทักษะการพดู 1. นักเรียนพูดโต้ตอบเก่ยี วกับเรื่องการเขยี นลาดบั ขดี ภาษาจนี ไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจ ทกั ษะการเขียน 1. นักเรยี นดคู าศัพท์ภาษาจีนแลว้ สามารถเขียนแยกลาดับขีดได้ 3.3 ด้านจิตพิสัย/คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ (A ) 1. นกั เรียนมีความรบั ผดิ ชอบสง่ งานตรงเวลา 2. นกั เรียนเป็นผมู้ คี ุณธรรมในการดารงชีวิต ขยนั ใฝ่หาความรู้

4. สาระการเรยี นรู้ 笔顺 คือ การลาดับขีดการเขียนภาษาจีน ซงึ่ พนื้ ฐานโดยทั่วไปมี 7 แบบ 规则 例子 笔顺 (ɡuīzé) (lìzi) (bǐshùn) ระเบียบการเขียน อักษรตวั อย่าง ลาดบั ขดี 先横后竖 十 shí (xiānhénɡhòu shù) 下 xià เส้นขวางกอ่ นเสน้ ตัง้ 先撇后捺 八 bā 天 (xiānpiēhòu nà) tiān เสน้ ซา้ ยก่อนเส้นขวา 三 sān 从上到下 京 jīnɡ (chónɡshànɡdàoxià) 地 de 做 zuò เสน้ บนกอ่ นเส้นลา่ ง 月 yuè 从左到右 同 (chónɡzuǒdàoyòu) tónɡ จากซ้ายไปขวา 从外到内 (chónɡwàidàonèi) จากนอกเข้าใน 先进入后关门 日 rì

(xiānjìnrúhòuɡuānmén) 国 ɡuó ตกี รอบนอก เขียนข้างใน 小 แล้วค่อยปดิ xiǎo 水 先中间后两边 shuǐ (xiānzhōnɡjiānhòu liǎnɡbiān) ตรงกลางก่อนแลว้ ซ้ายขวา คาศพั ท์ 你 Nǐ : คุณ 好 hǎo : ดี 他 tā : เขา 吗 ma : อนุภาค คาถาม งา่ ยๆ

呢 ne : ปุจฉาอนุภาค (ใชเ้ พอื่ กลบั ไปคาถามทลี่ าโพงไดร้ ับเพยี งแค่ถาม. ตวั อยา่ งเช่นNǐ ne ? และคณุ ?) 不 bù : ปฏิเสธ ไม่ 我 wǒ : ฉนั ฉนั 再 zài : (อีกคร้ัง ) 见 jiàn : (ดู )

5. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร ( วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ) 2. ความสามารถในการคดิ 6. คณุ ลกั ษณะของวิชา 1. ความรับผดิ ชอบ 2. ความตัง้ ใจ 3. ความสนใจ 4. มีมารยาทในการอ่านสนทนา 7. คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทางาน 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 - 2 ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน 10 นาท 1. ครกู ล่าวทักทายนักเรียน 同学们好 ( สวัสดคี ะ่ นักเรยี นทกุ คน ) 2. ครูเขียนคาศพั ท์ภาษาจนี ทน่ี กั เรียนคุ้นเคย และเขียนแยกลาดบั ขีดของคาศัพท์ขดี นั้น ขัน้ สอน 1 . ครูอธิบายเกี่ยวกบั การเขยี นลาดับ ว่ามวี ธิ ีการเขยี นตัวอักษรภาษาจีนอย่างไร 2. ครูผู้สอนเปิดสอ่ื การสอน ppt และอธิบายถึงความหมายของ 笔画 和 笔顺 3. ครูยกตวั อย่างคาศพั ทภ์ าษาจนี ทนี่ ักเรยี นเคยใช้ผา่ นมาในชวี ติ ประจาวนั เชน่ 你, 好, 吗 , 再 ,见, ซง่ึ เป็นคาศัพทภ์ าษาจนี ท่พี บเจอได้บ่อยๆ ยกตวั อยา่ งพร้อมสอนวิธีการเขยี นแยก เสน้ ขดี ของตัวอกั ษรจีน 4. ครูให้นกั เรยี นจดบันทึกคาศพั ท์ลงในสมุด โดยให้เขยี นแยกลาดับขดี ตามบนกระดาน 5. สุ่มนกั เรียนออกมาเขยี นแยกเสน้ ลาดบั ขีดภาษาจีน ข้นั สรปุ 1. ทบทวนหลกั การเขียนตัวอักษรจีน คาศัพท์ และส่งสมุด

ชว่ั โมงที่ 3 – 4 1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรยี น 同学们好 ( สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคน ) 2. ครูเขยี นคาศพั ทภ์ าษาจนี ท่ีบนกระดานแลว้ ใหน้ กั เรียนออกมาเขยี นแยกลาดับเสน้ ขดี ข้นั สอน 1. ครูสอนอา่ นออกเสียงคาศพั ทภ์ าษาจนี พรอ้ มแปลความหมาย 2. ครสู มุ่ ใหน้ กั เรยี นออกมาอ่านออกสยี งคาศพั ทแ์ ละแปลความหมาย 3. กิจกรรมครใู ห้นักเรียนหาแผน่ ปา้ ยของลาดบั ขีดของคาศัพทภ์ าษาจนี โดยครูจะกาหนดแผ่นปา้ ยของ คาศัพท์เหลา่ นนั้น แลว้ ให้นกั เรียนหาแผ่นปา้ ยนาไปติดหน้าบนกระดาน โดยตอ้ งเรียงการเขียนลาดับขีด ใหถ้ กู ต้อง 4. กิจกรรมแจกแบบฝกึ การเขียนตวั อกั ษรจนี โดยใหใ้ ช้พ่กู นั จนี ในการฝกึ เขียนตามตัวอย่าง 5. ให้นักเรียนทาแบบฝึกหดั ฝึกเขยี นแยกลาดบั ขีด จากคาศัพท์ภาษาจนี ลงในสมุดเสรจ็ แล้วเฉลยแล้วตรวจ พรอ้ มกนั 6. ใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรมการฝึกเขียนอักษรจันด้วยพู่กนั จีนแลว้ ขั้นสรุป 1. ทบทวนการอา่ นออกเสียงคาศัพท์ภาษาจนี 2. ทบทวนวิธกี ารใช้ หลกั การการเขยี น พรอ้ มสง่ สมดุ 9. ภาระชนิ้ งาน 1. แบบฝกึ หัดการเขยี นลาดับขีด

10. สอื่ การเรียนการสอน / แหล่งเรยี นรู้ 1. ppt 2. แผน่ ป้ายลาดับขีดของตัวอักษรจีน 3. ใบงานการฝกึ เขยี นลาดับขีดดว้ ยพูก่ ันจีน รายการส่อื จานวน สภาพการใช้สื่อ 1. แบบฝึกหัดการเขยี นลาดับขดี 1 ชุด ขั้นทบทวนความรู้ 2. ใบงานการฝึกเขยี นลาดับขดี ด้วยพกู่ ันจนี 1 ชดุ ขนั้ สรา้ งความสนใจ 11. การวัดผลและประเมนิ ผล ระดบั คุณภาพ รายการประเมนิ 5 4 3 2 1 คะแนน 1.นกั เรยี นสามารถ นักเรยี นสามารถ นักเรยี นทา นักเรียนทา นักเรยี นทา นกั เรยี นทา ทาแบบฝกึ หัดเรอ่ื ง ทาแบบฝกึ หัด ลาดบั ขีดภาษาจนี เรือ่ งลาดับขีด แบบฝึกหดั เร่อื ง แบบฝึกหดั เรื่อง แบบฝึกหดั เร่ือง แบบฝึกหดั เรื่อง ไดอ้ ย่างถกู ต้อง ภาษาจนี ไดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ งทงั้ หมด ลาดับขีดภาษาจีน ลาดับขีดภาษาจีน ลาดบั ขดี ภาษาจีน ลาดับขดี ภาษาจีน ถกู ตอ้ ง ถกู ต้อง ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ งตง้ั แต่ 17 – 15 ข้อ 14 – 12 ขอ้ 11 – 9 ข้อ 8 ข้อ

แบบฝกึ ทักษะการอ่านออกเสียง érzi เสียงเบา zhuōzi shítou mántou yīfu kùzi bàbɑ ,māmɑ shétou bú shì dōnɡxi bù hǎo การแปรเสยี งวรรณยกุ ต์ bù lái yì qǐ yí ɡè bù shuō yì tiān yì nián

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่อื ง การทกั ทาย แผนจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง สวัสดี รายวิชา ภาษาจีนกลาง 1 รหสั วิชา จ 31201 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 น้าหนักเวลาเรยี น 2 (นน./นก.) เวลาเรยี น 4 ช่วั โมง/สัปดาห์ เวลาทีใ่ ชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 ชว่ั โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั เนอ่ื งจากการทักทายเป็นมารยาทอย่างหนึ่งทางสงั คม เป็นการแสดงถงึ มนษุ ยสัมพนั ธท์ ดี่ ี ดังน้นั นักเรยี นจงึ ควรเรียนร้กู ารกลา่ วคาทักทายเปน็ ภาษาจีน ประโยคภาษาจีน เพอ่ื ที่จะสามารถนามาใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้อย่าง ถกู ตอ้ งและเหมาะสมพรอ้ มกบั เป็นการแนะนาแนะนาตนเองเบื้องต้น 2. ผลการเรียนรู้ 1. ทกั ษะการฟัง การพูด และเขา้ ใจ 2. อา่ นออกออกเสียงคาศพั ท์ภาษาจีนเรื่องการทกั ทายท่ีใช้ในชีวติ ประจาวันได้ 3. สามารถเขียนระบุคาศัพท์ภาษาจนี พร้อมความหมายได้อย่างถูกต้อง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ (K) นกั เรียนมีความร้คู วามเขา้ ใจเร่อื งคาศัพท์ภาษาจีนเรือ่ งการทกั ทาย 3.2 ด้านทักษะ (P) 1. ทักษะการฟัง นกั เรยี นฟังภาษาจนี ท่คี รพู ดู เก่ยี วกบั คาศพั ทภ์ าษาจนี ได้อย่างเข้าใจความหมาย 2. ทกั ษะการพูด นักเรียนพูดโตต้ อบเก่ยี วกบั คาศัพท์ภาษาจีนเรอื่ งการทกั ทายไดอ้ ย่างเขา้ ใจ 3. ทักษะการอ่าน นกั เรยี นสามารถอ่านคาศัพท์ภาษาจนี ไดถ้ กู ต้องตามเสียงพินอิน 4. ทักษะการเขียน นกั เรียนสามารถเขยี นคาศพั ทภ์ าษาจนี จากการทาแบบฝึกหดั ได้

3.3 ด้านจิตพิสยั /คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ (A ) 1. นกั เรียนมีความรบั ผดิ ชอบส่งงานตรงเวลา 2. นกั เรยี นเป็นผ้มู ีคุณธรรมในการดารงชีวิต ขยนั ใฝ่หาความรู้ 4. สาระการเรียนรู้ คาอา่ น ความหมาย คาศัพท์ Wǒ ฉัน Nǐ คาศัพท์ คณุ ,เธอ 1. 我 Nǐmen พวกคณุ 2. 你 Tā เขา (ผ้ชู าย) 3. 你们 hǎo 4. 他 jiào ดี 5. 好 ช่อื , เรียก 6. 叫 shénme 7. 什么 Mínɡzì อะไร 8. 名字 Xìnɡ ชื่อ 9. 性 xiǎo mínɡ jiào นามสกลุ 10. 小名叫 ชือ่ เลน่ 11. 也 yě ก็ 12. 是 shì 13. 呢 ne เปน็ ,คอื 14. 很 hěn หล่ะ 15. 高兴 ɡāoxìnɡ มาก 16. 认识 rènshì ยินดี 17. 再见 zàijiàn ร้จู กั 18. 来自 láizì ลากอ่ น 19. 泰国 tàiguó มาจาก 20. 朋友 pénɡyǒu ประเทศไทย เพื่อน

21. 做 zuò ทา 22. 和 hé และ 23. 能 nénɡ สามารถ 24. 岁 suì อายุ 25. 今年 jīnnián ปีนี้ 26. 听音乐 tīnɡ yīnyùe ฟังเพลง 27. 看书 kànshū อา่ นหนังสอื 28. 喜欢 xǐhuān ชอบ 29.旅游 lǚyóu ทอ่ งเที่ยว 30. 希望 xīwànɡ หวงั ว่า 31. 早上 zǎoshanɡ ตอนเชา้ 32. 下午 xiàwǔ ตอนกลางวนั 33. 晚上 wǎnshànɡ ตอนเยน็ 5. สมรรถนะสาคัญของนกั เรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร ( วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ) 2. ความสามารถในการคดิ 6. คณุ ลกั ษณะของวิชา 1. ความรับผดิ ชอบ 2. ความตง้ั ใจ 3. ความสนใจ 4. มมี ารยาทในการอา่ นสนทนา 7. คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทางาน

8. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 -2 ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน 5 นาที 1. ครกู ลา่ วทักทายนักเรียน 同学们好 ( สวัสดีค่ะนกั เรียนทุกคน ) 2 . ครถู ามนักเรียนว่า“คนไทยกลา่ วคาทักทายกนั อยา่ งไร” 3. เม่ือนักเรยี นตอบแล้วครถู ามนักเรียนตอ่ ว่า“นักเรียนทราบไหมว่าคนจีนกลา่ วคาทกั ทายกนั อย่างไร ขนั้ สอน 1. เปิดส่ือการสอน ppt เรอ่ื งการทักทายดบั แรกสอนเกย่ี วกบั คาศัพท์ในบทเรียน 2. สอนนักเรียนอ่านออกเสยี งคาศพั ท์ภาษาจนี 2 รอบ พร้อมแปลความหมาย และใหน้ ักเรยี นอ่านดว้ ย ตนเองอีก 1 รอบ 3. ครูผสู้ อนให้นักเรียนเขยี นคาศพั ท์ภาษาจนี ลงในสมดุ ใหเ้ รยี บรอ้ ย 4. ทบทวนคาศพั ทโ์ ดยการถามตอบคาศัพท์ภาษาจีนกบั นักเรยี น ขน้ั สรุป 1. ใหน้ กั เรยี นกลับไปฝกึ ท่องคาศพั ท์และมาสอบทอ่ งศัพทใ์ นคาบถัดไป ชวั่ โมงที่ 3 – 4 ขน้ั นา 1. ครูกลา่ วทักทายนักเรียน 同学们好 ( สวัสดีคะ่ นักเรียนทกุ คน ) 2. ครูผู้สอนให้นักเรียนทบทวนคาศพั ท์ โดยการถามตอบนกั เรียน ขน้ั สอน 1. ให้นักเรยี นทบทวนคาศัพท์ดว้ ยการทาใบงานเรื่องการทักทายเก่ยี วกับคาศพั ท์ภาษาจนี 2. หลังทาเสร็จแลว้ เฉลยพร้อมกนั ให้นกั เรยี นแลกกนั ตรวจของเพอ่ื น สรปุ 1. ให้นกั เรยี นมาฝึกทอ่ งคาศัพท์ภาษาจีนเรือ่ งการทกั ทายและการแนะนาตนเอง 9. ภาระชิน้ งาน 1. ใบงานเร่อื งการทักทาย

10. สือ่ การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ 1. Power Point เร่ือง การทักทายและแนะนาตนเอง รายการสื่อ จานวน สภาพการใช้ส่ือ ขัน้ สรา้ งความสนใจและทบทวนความรู้ 1. ใบงานเรอ่ื งการทักทาย 1 ชดุ 11. การวดั ผลและประเมนิ ผล รายการประเมิน 5 4 ระดับคุณภาพ 1 คะแนน 1.นกั เรียนสามารถทา นกั เรยี นสามารถทา นกั เรยี นทาใบงาน 32 นักเรยี นทาใบงาน เรอ่ื งการทกั ทาย นกั เรียนทาใบงาน นักเรียนทาใบงาน เร่อื งการทกั ทาย ใบงานเร่ืองการ ใบงานเรื่องการ ภาษาจีนได้ เรื่องการทักทาย เร่ืองการทักทาย ภาษาจีนได้ ถกู ต้อง ภาษาจนี ได้ ภาษาจนี ได้ ถกู ต้อง ทักทายและการ ทักทายภาษาจีนได้ 6 ข้อ ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง 4 ขอ้ 3 ข้อ 5 ขอ้ แนะนาตนเองได้อยา่ ง อยา่ งถกู ต้องทงั้ หมด ถกู ต้อง ระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 5 ดมี าก 4 ดี 3 2 ปานกลาง 1 พอใช้ ปรบั ปรุง

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เร่อื ง การทกั ทาย แผนจัดการเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง สวัสดี (บทสนทนา) รายวิชา ภาษาจีนกลาง 1 รหัสวิชา จ 31201 ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 นา้ หนกั เวลาเรยี น 2 (นน./นก.) เวลาเรยี น 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ เวลาทีใ่ ชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 ชวั่ โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั เนอื่ งจากการทกั ทายเปน็ มารยาทอยา่ งหน่ึงทางสังคม เป็นการแสดงถงึ มนุษยสัมพนั ธ์ท่ีดี ดังนนั้ นักเรียนจึง ควรเรียนรู้การกล่าวคาทักทายเป็นภาษาจีน ประโยคภาษาจนี เพื่อทจ่ี ะสามารถนามาใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้อย่าง ถูกต้องและเหมาะสมพร้อมกบั การแนะนาตนเองเบ้ืองต้น 2. ผลการเรยี นรู้ 1. ทักษะการฟัง การพูด และเข้าใจ 2. อา่ นออกออกเสยี งประโยคภาษาจีนเรอ่ื งการทกั ทายทใี่ ช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ 3. สามารถเขียนระบุประโยคสนทนาภาษาจนี พร้อมความหมายได้อย่างถกู ต้อง 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ (K) 1. นกั เรียนมีความร้คู วามเข้าใจเร่อื งบทสนทนาภาษาจีน 2. นักเรยี นสามารถแปลความหมายประโยคสนทนาภาษาจนี ไดถ้ กู ตอ้ ง 3.2 ด้านทกั ษะ (P) 1. ทักษะการฟงั นักเรยี นฟังภาษาจีนทค่ี รูพูด สามารถบอกประโยคบทสนทนาภาษาจีนทีโ่ ต้ตอบกนั ได้ 2. ทักษะการพูด นักเรียนพูดโต้ตอบเกี่ยวกับบทสนทนาภาษาจีนได้อย่างเขา้ ใจ 3. ทักษะการอา่ น นักเรียนสามารถอา่ นออกเสยี งประโยคภาษาจีนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook