Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฝึกการอ่านสัทอักษรจีน

แบบฝึกการอ่านสัทอักษรจีน

Published by Kru Mint, 2021-09-23 15:37:00

Description: แบบฝึกการอ่านสัทอักษรจีน

Search

Read the Text Version

แบบฝึกการอ่านสทั อกั ษรจนี 练读拼音 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 สาขาวชิ าภาษาจีน โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ผสู้ อน ว่าท่รี อ้ ยตรีหญิงอรวรรณ เมืองแก้ว (王美贞)

แบบฝึกหดั 1 คาสัง่ : จงเขยี น พยญั ชนะ สระเดย่ี ว สระผสมที่ไดย้ ิน 说明 : 写出来听见的声母,韵母 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40

แบบฝึกหัด 2 คาสงั่ : จงเตมิ เสียงวรรณยกุ ต์ทไี่ ดย้ ิน ให้ถูกตอ้ ง 说明 : 听生词,加正确声调 1. daxue มหาวทิ ยาลัย 2. yundong ออกกาลังกาย 3. jiji กระตือรอื ร้น 4. canjia เขา้ ร่วม 5. tiyu กีฬา 6. shenti รา่ งกาย 7. zuqiu ฟตุ บอล 8. bangzu ช่วยเหลอื 9. dajia ทุกคน 10. gaoda สูงใหญ่ 11. haopengyou เพอ่ื นทีด่ ี 12. gaozhongsheng ช้ันมัธยมศึกษา 13. bijiben สมุดบนั ทกึ 14. kianshiji โทรทัศน์ 15. kongtiaoji เคร่อื งปรับอากาศ 16. dayinji เครอื่ งถ่ายเอกสาร 17. tizuqiu เตะฟตุ บอล 18. huiyishi ห้องประชุม 19. dadianhua โทรศพั ท์ 20. yaokongqi รโี มท

แบบฝกึ หัด 3 คาสงั่ : จงเติมสระ , วรรณยุกต์ ให้ถูกต้อง 说明 : 听生词,填空 (一) p_ng y_ _ (十四) f_ j_ _ zh_ _ x_ (二) _ _ou j_ (十五) d_ _ x_ _ _ r_ s_ _ (三) d_an _ao (十六) x_ _ j_ _ _ f_ _ (四) f_ _ _i (十七) y_ x_ n y_ y_ (五) ko_ _ t_ao (十八) s_n _in _ _ y_ (六) n_ _ h_ _ (十九) w_ y_ _ l_ _ s_ (七) _ang _ _an (二十) _ ang _ _an (八) _ang _ _an (九) y_ _an (十) t_o x_ _ (十一) ch_ ch_ k_ _ _ _ _ (十二) _en _iao x_ _ _ f_ _ (十三) k_ _ _en (十四) _ao h_ng h_ng

แบบฝึกหัด 4 คาสง่ั : จงเขียนคาศพั ท์ทไี่ ดย้ นิ 说明 : 写出来听见的生词 1234 5678 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

แบบฝึกการอ่าน 2 练读 (二) bai miao biao nuan zhua pa kuo ji jia lin du zheng sai nong qing xiang zao che de she tou ceng su qi kang mou fen yao diao yong shu gao zhao gan zheng la beng jiao jiu mie bian bin bo tai hou zong zen tan bin chao lan zan ben kang cong mian nen min ming su chu chuai wan long leng mi diao xiu diu dian pei ban ben lian sheng jiao kou he gang chen lu duo tui sui cun jing ceng jiang jie miu gua pie bian ding ning ling dian bie dian qing xin jin jiang zhui suo qiong zhu xing shuai cuo tun duan zao cheng ceng jin jing sa kang lian pen pie hong liu yang sui

แบบฝกึ การอ่าน 3 练读 (三) 拼音: (tuán jié) (dān bó) (qiáo cuì) (xiān ruò) (xiù lì) (chōng jĭng) (jiān dìng) (shēn suì) (yŏu ài) (guān qiè) (shòu xuē) (xī wàng) (fù xiāng) (ĕr lún) (xīn xĭ) (féi dà) (hún zhuó) (wēn róu) (ān xiáng) (ĕr kuò) (xì tiao) (xiāo shòu) (nóng zhòng) (zàn xŭ) (fù tài) (fēng măn) (nóng hēi) (miáo tiáo) (kuí wú) (pò sù) (xì zhăng) (zhĕng jié) (fēng yú) (ĕr chuí) (níng shì) (shí máo) (dān bó) (fù xiāng) (dà fāng) (xì tiao) (gāng jiàn) (qiáng jiàn) (xiāo shòu) (cí xiáng) (miáo tiáo) (biāo zhuàng) (dāi zhì) (qīng jìng) (fēng yú) (míng liàng) (yōng zhŏng) (huān xĭ) (jiān qiáng) (mĭn ruì) (yōu xiù) (fù tài ) (jiān dìng) (fēng măn) (jiăo zhà) (mèi lì)

แบบฝึกการอา่ น 4 练读 (四) xiăo wō niú wèn mā mā : wèi shén me wŏ men cóng shēng xià lái , jiù yào bēi fù zhèi gè yòu yìng yòu zhòng de qiào ní ? mā mā : yīn wèi wŏ men de shēn tĭ méi yŏu gú gé de zhī chēng , zhǐ néng pá , yòu pá bù kuài 。 suŏ yĭ yào zhèi gè qiào de băo hù ! xiăo wō niú : máo chóng zĭ zĭ méi yŏu gǔ tou , yĕ pá bù kuài , wèi shén me tā què bù yòng bèi zhèi gè yòu yìng yòu zhòng de qiào ní ?mā mā : yīn wèi máo chóng zĭ zĭ néng biàn chéng hú dié , tiān kōng huì băo hù tā a 。xiăo wō niú : kĕ shì qiū yĭn dì di yĕ méi gǔ tou pá bù kuài , yĕ bú huì biàn chéng hú dié tā shén me bù bèi zhèi gè yòu yìng yòu zhòng de qiào ní ? mā mā :yīn wèi qiū yĭn dì di huì zuàn tŭ dà dì huì băo hù tā a 。 xiăo wō niú kū le qĭ lái : wŏ men hăo kĕ lián , tiān kōng bù băo hù , dà dì yĕ bù băo hù 。wō niú mā mā ān wèi tā : suŏ yĭ wŏ men yŏu qiào a ! wŏ men bù kào tiān , yĕ bù kào dì , wŏ men kào zì jĭ 。

เฉลย 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ing e iong g uai k ueng i en zh 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 o ü ui uo en d u uan ang q 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 p r l n an ao ün a j h 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 ong ie iu uang f sh z s üe t

เกริน่ นํากอนเรยี น คําทักทาย สวสั ดีคณุ ครู 老师好! เหลาซอื ฮาว Lǎoshīhǎo สวสั ดี (บคุ คลทวั่ ไป) 你好! หนีฮา ว Nǐhǎo สวสั ดี (ผอู้ าวโุ ส) 您好! หนนิ ฮา ว Nínhǎo ขอบคณุ คณุ ครู 谢谢老师! เซีย่ เซยี ะ เหลา ซือ Xièxie lǎoshī ! ลาก่อนคณุ ครู 老师再见! เหลา ซอื ไจเ จยี้ น Lǎoshī zàijiàn คณุ ชอ่ื อะไร 你叫什么名字? หน่ี เจยี้ ว เฉนิ เหมอะ หมิง จึ Nǐ jiào shénme míngzi ฉนั ชื่อ …(ชื่อนกั เรียน)… 我叫…(ช่ือนกั เรียน)…。 หวอ เจี้ยว …(ชื่อนักเรียน)… Wo jiào …(ชอื่ นกั เรียน)… 起立 / 请坐 ลกุ / เชิญนงั่ Qǐlǐ / Qǐngzuò ฉี่ลี่ / ฉ่งิ จวั้





พยญั ชนะ วธิ ีการออกเสียง พยญั ชนะ b ป j p พ q m ม x f ฟ z d เตอ c t เทอ s n เนอ zh l เลอ ch g เกอ sh k เคอ r h เฮอ

วธิ กี ารออกเสยี ง พยญั ชนะ วิธกี ารออกเสยี ง จี y ยี ชี ซี w อู จอื ชือ ซือ จรือ ชรือ ซรือ ยรือ

สระเดีย่ ว a o e i u ü

วธิ ีการออกเสียง อา โอ เออ อี อู อวี

สระเด่ยี ว a ai ao an ang o ou ong e er ei en eng i ia iao ie iu u ua uo uai ui ü üe üan ün

ผสม ian in iang ing iong uan un uang ueng





แบบทดสอบกอนเรียน ชุดฝก เสริมทกั ษะการอานออกเสยี งภาษาจีน ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 เรอื่ งสัทอักษรจนี (พนิ อิน) ชดุ ท่ี 1 พยัญชนะ .......................................... คําช้แี จง 1. แบบทดสอบนมี้ ีจํานวน 10 ขอ 2. จงเลือกคําตอบทีถ่ กู ตอ งทส่ี ดุ 1. พยัญชนะมีทง้ั หมดก่ีเสยี ง a. 23 b. 22 c. 21 d. 20 2. d ออกเสียงเทียบเคยี งพยญั ชนะไทย คอื อกั ษรอะไร a. ด.เด็ก b. ต.เตา c. ถ.ถุง d. ท.ทหาร 3. b ออกเสียงเทียบเคยี งพยัญชนะไทย คืออกั ษรอะไร a. บ.ใบไม b. ป.ปลา c. พ.พาน d. ฟ.ฟน 4. g ออกเสยี งเทียบเคยี งพยญั ชนะไทย คืออักษรอะไร และใชส ระใดในการอา นออกเสียง a. ก + สระเออ b. ก + สระอูโอ c. จ + สระอี d. จ + สระเออ 5. ขอใดไมเ ปนเสยี งสงลม a. t b. k c. h d. p 6. พยญั ชนะในขอใดใชส ระอือ(หนา) ในการอา นออกเสียง a. j b. f c. sh d. s 7. ขอใดอานออกเสียงตรงกบั ฐานเสยี งของพยญั ชนะ x a. z b. r c. q d. c 8. zh มีวธิ กี ารอา นออกเสยี ง โดยเกดิ จากฐานเสียงใด a. ฐานเสยี งที่เกดิ จาก สวนหนาล้ินแตะเพดานแข็ง b. ฐานเสยี งท่เี กิดจาก ปลายล้ินแตะระหวา งฟน c. ฐานเสยี งท่เี กดิ จาก โคนลิ้นแตะเพดานออ น d. ฐานเสียงที่เกิดจาก ปลายล้ินแตะเพดานแข็งสว นหนา 9. ขอใดคือพยญั ชนะกง่ึ สระ a. m b. w c. l d. n 10. y เปนพยญั ชนะก่งึ สระอะไร a. สระอี b. สระเออ c. สระอู d. สระโอ

拼音 ท่ีมา 拼音(พินอิน) เร่ิมตน้ ในปี พ.ศ. 2501 และเร่ิมใชก้ นั ในปี พ.ศ. 2522 โดยรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีน 拼音 (พินอิน) ใชแ้ ทนที่ระบบ การถา่ ยถอดเสียงแบบเกา่ เชน่ ระบบเวดและไจลส์ และระบบเปอเพอเมอเฟอ (注音符号 / จยู้ ิน ฝูฮา่ ว) นอกจากนี้ ยงั มกี ารออกแบบระบบอ่ืนๆ สาํ หรับ นาํ ไปใชก้ บั ภาษาพดู ของจีนในถิ่นตา่ งๆ และภาษาของชนกลมุ่ นอ้ ย ท่ีไมใ่ ชภ้ าษา ฮนั่ ในสาธารณรัฐประชาชนจีนดว้ ย นบั แตน่ น้ั มา 拼音(พินอิน) ก็เป็ นที่ยอมรบั จากสถาบันนานาชาติ หลายแห่ง รวมทัง้ รัฐบาลสิงคโปร์ หอสมดุ รัฐสภาอเมริกนั และสมาคมหอสมดุ อเมริกนั โดยถือว่าเป็ นระบบการถ่ายถอดเสียงที่เหมาะสมสาํ หรบั ภาษาจนี กลาง ครนั้ ปี พ.ศ. 2522 องคก์ ารมาตรฐานนานาชาติ (ISO) ก็ไดร้ บั เอาพินอิน เป็ นระบบมาตรฐาน (ISO 7098) ในการถา่ ยทอดเสียงภาษาจีนปัจจบุ ันดว้ ย อักษรโรมนั (the standard romanization for modern Chinese) ดงั นน้ั 拼音 (พินอิน) หรือ ระบบสัทอกั ษรจีน (พินอิน) ท่ีเห็นเป็ น ตวั อักษรภาษาอังกฤษนนั้ แทจ้ ริงคือ อักษรโรมนั (ซึ่งพฒั นามาจากตวั อกั ษร ละติน) นาํ มาใชเ้ ป็ นสญั ลกั ษณใ์ นการสะกดคาํ และการอา่ นออกเสียงภาษา จีนกลาง ถกู บรรจใุ นหลกั สตู รระบบการศึกษาของสาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้ ยงั ทาํ ใหช้ าวตา่ งชาตสิ ามารถเรียนรภู้ าษาจนี กลางไดง้ า่ ยและ รวดเร็วขนึ้ จากการใช้ 拼音 (พินอิน) ในการอ่านออกเสียง ความหมาย 拼 (พิน) หมายถึง การสะกด 音 (อิน) หมายถึง เสียง ดงั นนั้ 拼音 (พินอิน) จึงหมายถึง การสะกดเสียง หรือการถา่ ยทอดเสียง หรือ คาํ อ่านของอกั ษรจีนกลาง สว นประกอบ 拼音 (พินอิน) มสี ว่ นประกอบดงั น้ี 声母 (เซิงหม)ู่ พยญั ชนะ 韵母 (ยวิ้นหม)ู่ สระ และ 声调 (เซิงเต้ยี ว) วรรณยกุ ต์

Page 1 第一课 汉语拼音 Dìyīkè HànYŭ PīnYīn บทท่ี 1 การอา นออกเสียงภาษาจีน สาระสําคญั เปน สาระความรเู กยี่ วกบั พืน้ ฐานระบบการอานออกเสียงภาษาจีน การออกเสยี งตัวพยญั ชนะ สระ เสียงวรรณยกุ ตใ นภาษาจีน ผลการเรียนรทู คี่ าดหวงั 1. มคี วามรูพ ้นื ฐานเก่ยี วกับระบบการอานออกเสียงตัวพยญั ชนะ สระ และเสยี งวรรณยุกตใ น ภาษาจีน 2. สามารถอา นออกเสียงภาษาจีนไดถ ูกตอ ง ขอบขายเนอ้ื หา 1. การอานออกเสยี งตัวพยัญชนะ สระ และวรรณยุกตในภาษาจีน 2. การผสมเสยี งภาษาจีนเปน คํา ประโยค

ใบความรทู้ ่ี 1 声母 b p mf d t nl g kh j qx zh ch sh r z cs yw

การเทียบเคยี งพยัญชนะไทย  พยัญชนะในสทั อกั ษรจนี (พนิ อนิ ) หากเทยี บเคียงกบั อักษรในพยัญชนะ ไทย ไดแ้ กอ่ ักษรอะไรบ้างนกั เรยี นทราบหรือไม่ b p m f ป พ ม ฟ l d t n ล ต ท น r g k h ย ก ค ฮ j q x จ ช ซ zh ch sh จ ช ซ z c s จ ช ซ y w ย (กงึ่ สระอี) ว (กงึ่ สระอ)ู

Page 2 ระบบการออกเสียงของแตล ะภาษาแตกตางกันมากพอสมควร บางเสียงทใี่ ชอ ยใู นภาษาหนงึ่ อาจจะไมสามารถหาเสียงที่เหมือนกันพอดี หรือเสียงท่ีใกลเคียงกันมากในอีกภาษาหน่ึงได ดังนั้น การเรียนรูการออกเสียงในภาษาจีน จําเปน ตอ งอาศัยเครอื่ งหมายกํากับการออกเสียงมาชว ย เพ่อื ให การเรียนการสอนภาษาจีนมีประสทิ ธิภาพ และสะดวกมากข้ึน ในป ค.ศ. 1958 ประเทศสาธารณรัฐ ประชาชนจีนจึงไดพัฒนาและประกาศใชระบบการออกเสียงภาษาจนี หรอื ระบบสัทอักษร ที่เรียกวา 汉语拼音 (Han Yu Pin Yin) โดยดัดแปลงมาจาก International Phonetic Alphabets ซึ่ง เปรียบเสมอื นเครื่องมือทีใ่ ชใ นการเรียนภาษาจนี ใหป ระสบความสําเรจ็ ระบบการออกเสยี งภาษาจนี (ระบบสทั อักษร) ประกอบดว ย 1. สทั อักษรแทนเสียงพยัญชนะ 24 เสียง แยกเปน 1.1 เสียงพยัญชนะตนของภาษาจีนมี 21 เสยี งดังน้ี เสยี งรมิ ฝปาก b p mf เสยี งปุมเหงอื ก dt nl เสยี งเพดานออน gkh เสียงปุมเหงอื ก j qx เสียงปลายลน้ิ -ฟน zcs เสียงปลายลิน้ -เพดานแขง็ zh ch sh r 1.2 เสยี งพยัญชนะก่ึงสระมี 3 เสยี ง คอื ng y w คาํ อธิบาย b เทียบไดก บั เสยี ง ป j เทยี บไดกบั เสยี ง จ + สระอี ช, ฉ + สระอี p เทียบไดกับเสยี ง ผ, พ q เทยี บไดก บั เสยี ง ซ +สระอี จ + สระออื m เทียบไดกบั เสียง ม x เทียบไดก บั เสยี ง ช, ฉ + สระอือ ส, ซ + สระออื f เทยี บไดกบั เสยี ง ฝ, ฟ z เทยี บไดกับเสยี ง จ + สระอือ ช, ฉ + สระอือ d เทียบไดก ับเสียง ต c เทียบไดกับเสียง ส, ซ + สระออื ร มวนลิ้น t เทียบไดก ับเสยี ง ถ, ท s เทียบไดก บั เสยี ง ง n เทียบไดกับเสียง น zh เทียบไดกับเสียง l เทยี บไดก ับเสยี ง ล ch เทียบไดกับเสียง g เทียบไดก ับเสียง ก sh เทียบไดกับเสยี ง k เทยี บไดก บั เสยี ง ข, ค r เทียบไดก บั เสยี ง h เทยี บไดก บั เสยี ง ฮ ng เทียบไดก ับเสยี ง หมายเหตุ ng ในภาษาจีนกลางใชเปน พยญั ชนะสะกดเทาน้ัน

Page 3 2. สัทอักษรแทนเสียงสระ 36 เสียง แบงเปน 2.1 เสียงสระเดีย่ วมี 6 เสยี ง ดงั น้ี ao e i u ü (กรณีสระ ê ท่ีใชตามลาํ พัง ในภาษาจนี มีนอ ยมาก เพื่อความสะดวกในการเรยี น จึง ไมน ับรวมกับสระเดี่ยว ) 2.2 เสยี งสระผสมมี 30 เสยี ง ดังนี้ a) ai ao an ang o) ou ong e) er ei en eng i) ia iao ie iu ian in iang ing iong u) ua uo uai ui uan un uang ueng ü) üe üan ün การผสมเสียง วิธกี ารผสมเสยี งของสัทอักษรแทนพยชั นะและสระ ประกอบดวย 1. พยัญชนะผสมสระเดยี่ ว 1 ตวั ตามตัวอยางดังน้ี a a bo Po e e 2. พยญั ชนะผสมสระผสม ตามตวั อยา งดงั นี้ สระผสม 2 ตัว เชน ai ei ao ou ฯลฯ สระผสม 3 ตัว เชน ang eng ong ฯลฯ สระผสม 4 ตัว เชน iong liang lieng ฯลฯ

Page 5 เสยี งวรรณยุกต วรรณยกุ ตข องจนี มีทัง้ สน้ิ 4 เสยี งโดยแตละเสยี งจะใชเ คร่ืองหมายวรรณยุกตและมชี ื่อเรยี ก เฉพาะ แต ณ ที่น้ี จะขอเรียกวาเสียงท่ี 1 เสียงที่ 2 เสียงที่ 3 และ เสียงที่ 4 พรอมท้ังอธิบาย เปรียบเทยี บกบั เสยี งวรรณยกุ ตไทย เพอื่ รวดเร็วในการเรยี นรู ดังน้ี การใสวรรณยกุ ต วรรณยกุ ตเ สยี ง เสียงท่ี 1 2 3 4 ไมใ สเ สียงเบา วธิ เี ขียนปกติ bā bá bă bà ba คาํ อา น ปา ปา ปา ปา ระดบั เสยี ง 5 - 5 3 - 5 2-1-4 5 – 1 ออกเสียงเบา เครื่องหมายแทนเสียงวรรณยุกต 4 เสียง คอื - เสยี งหนง่ึ / เสยี งสอง √ เสยี งสาม \\ เสียงส่ี ตารางแสดงการอานออกเสียงพินอนิ

Page 6 กฎของการเตมิ วรรณยกุ ต 1. เครอื่ งหมายวรรณยกุ ตจะใสไ วต รงสระเทาน้ัน หามใสไวบนพยัญชนะ 2. หา มใสเครื่องหมายวรรณยุกตไ วบ น – n – ng 3. ตําแหนง การใสเ คร่อื งหมายวรรณยกุ ต จะใสไ วตามลําดับสระ ดงั น้ี 1 23 4 5 a oe i u ü อา โอ เออ อี อู อวี ตัวอยาง bāo gěi liè nüē tū หมายเหตุ 1. มีเสยี งพยชั นะสะกด 3 เสยี ง ตองตามหลงั เสียงสระ คอื -n -ng เทียบไดก บั มาตราแมกน และแมก งของภาษาไทยตามลําดบั สว นอีกเสียงคอื –r มไี วแสดงเสียงที่เกดิ จากปลายลิ้นงอข้นึ ไปแตะ เพดานแข็ง 2. ในกรณสี ระท่ีเริ่มตน ดว ยสระ i (รวมสระเดย่ี ว i) เปน พยางคตามลําพัง โดยไมม ีพยัญชนะ ใหใชพยัญชนะกงึ่ สระ y เติมหรอื แทนสระ i อยางเชน i→yi ia→ya iao→yao ie→ye iou→you ian→yan in→yin iang→yang ing→ying iong→yong 3. ในกรณีสระที่เริม่ ตน ดว ยสระ ü (รวมสระเดย่ี ว ü) เปน พยางคตามลาํ พงั โดยไมม ีพยัญชนะ ใหใ ชพยัญชนะก่งึ สระ y ไวอยูขางหนา โดยตองตัดสองจุดท่ีอยขู างบนของ ü ไป อยางเชน üi→ yu üe→yue üan→yuan ün→yun 4. ในกรณีสระท่ีเรมิ่ ตน ดว ยสระ u (รวมสระเด่ียว u) เปนพยางคต ามลาํ พัง โดยไมมีพยญั ชนะ ใหใชพยัญชนะก่งึ สระ w เติมหรือแทนสระ u อยางเชน u→wu ua→wa uo→wo uai→wai uei→wei uan→wan uen→wen uang→wang ueng→weng 5. ในกรณีสระท่ีเรม่ิ ตนดวยสระ ü (รวมสระเดี่ยว ü) ประสมกับพยญั ชนะ j q x ใหต ดั สองจดุ ทอี่ ยขู า งบนของ ü ไป แตเวลาประสมกับพยัญชนะ l n จะละสองจดุ ดงั กลา วไมได

Page 7 6. สระ e ในสระผสม ie üe เสียงจริงคือ ề แตเพื่อความสะดวก เวลาเขยี นยังคงเขียนเปน e 7. ในกรณสี ระ i ตามหลงั พยัญชนะ z c s zh ch sh r เสยี งจริงของ i ผนั ไปตาม พยญั ชนะ แตใ หอ านออกเสยี งเปนสระออื สว นเวลาเขยี น ยงั คงเขียนเปน zi ci si zhi chi shi ri 8. ในกรณีสระผสม iou uei uen ประสมกับพยญั ชนะ ใหย อเปน iu ui un ตามลําดบั คือ iou→iu uei→ui uen→un การเปลี่ยนเสยี งวรรณยกุ ตในภาษาจีน 1. ตัว yī จะออกเสียงเปน yí ก็ตอ เมอ่ื เสยี งวรรณยุกตของคาํ ศพั ทขา งหลงั เปนเสียง 4 เชน yígòng yígè yíwàn yíkuài yíjiàn yíbàn เปน ตน *yī จะออกเสียง yì กต็ อ เมอ่ื เสยี งวรรณยุกตข องคําศพั ทขา งหลังเปน เสียง 1 เสียง 2 และ เสยี ง 3 เชน yìzhī yìbān yìmáo yìqĭ yìbǎi เปน ตน 2. bù จะออกเสียงเปน bù กต็ อ เม่อื มเี สยี ง1 เสยี ง 2 และเสยี ง 3 ตามหลังเชน bùchī bù kěyǐ bùguǎn bùxíng bùcái bùchéng bùcéng bùjiǔ bùliǎo bùgǎn bùxǐhuan เปนตน * สวนจะออกเสยี ง bú ก็ตอเม่ือเสยี งวรรณยุกตของคาํ ศพั ทข างหลังเปนเสียง 4 เชน búshì búduì búdàn búgòu búguò búguì เปน ตน 3. ในกรณีทีเ่ สยี ง 3 อยูใกลก นั ก็ใหผ นั เสียงวรรณยกุ ตข องคําศัพทตัวแรกมาเปนเสียง 2 เชน nĭhǎo ใหออกเสียงเปน níhǎo แตเวลาเขียนใหค งรปู เดิมไว ถา มีวรรณยกุ ตเสยี ง 3 ติดกนั สามตัวกใ็ หผ นั ตัวที่ 2 เปนเสียง 2 เพอ่ื แยกเสยี งไมใหอ อกเสยี ง 3 ซอ นกัน เชน wŏ hĕn hǎo เปน ตน 4. ในกรณที ่ีมวี รรณยุกตเสียง 3 ติดกนั สต่ี วั กใ็ หผ ันคําศัพทต วั แรกและตวั ทส่ี ามมาเปนเสยี งสองเพ่อื ไมใ หเ สยี งสามติดกนั แตเวลาเขียนกใ็ หคงรปู เสียงเหมือนเดมิ จะผนั เสียงกต็ อ เมื่อพูดหรืออา น เทา น้ันเชน wŏ yĕ hĕn hǎo เปนตน

แบบฝึ กเสริมทกั ษะท่ี 1 แบบฝกึ การเทียบเคยี งพยัญชนะพยญั ชนะไทย  จงเขียนพยัญชนะไทยให้ตรงกบั เสยี งของพยัญชนะของสัทอักษรจีน(พินอิน)ดา้ นซา้ ย ชดุ ท่ี 1 พยญั ชนะ 23 ตวั bป p พ mม f dt nl gk h j qx zh ch sh r z cs yw ชดุ ที่ 2 พยัญชนะ 4 ตวั b p mf p mf b mb p f f pbm f b mp ชดุ ที่ 3 พยัญชนะ 4 ตัว dt nl t nl d n dt l dt l n l nt d

ชดุ ที่ 4 พยัญชนะ 3 ตวั h h gk g kg k hk h gh kg ชดุ ที่ 5 พยัญชนะ 3 ตวั x x jq j qj q xq q jx xj ชุดที่ 6 พยัญชนะ 4 ตวั zh ch sh r ch sh zh r zh r ch sh sh ch r zh r zh sh ch ชุดที่ 7 พยญั ชนะ 3 ตวั s zc szc z cs cs z szc

ชดุ ที่ 8 พยญั ชนะก่ึงสระ 2 ตัว w y yw w wy y wy w yw wy

ใบความรทู้ ่ี 2 การอา่ นออกเสียงพยัญชนะ  อ่านออกเสียง พยญั ชนะ fฟ โดยใชส้ ระ lล อ+ู โอ b ป p พmม d ต t ทnน r ย <<งอลิน้ เอือ+เออ g กkคhฮ j จqช xซ เสียงส่งลม คือ การกกั ลมไว้ อี zh จ ch ช sh ซ เม่ือออกเสยี งจะมลี มกระแทก อือ(หลัง) z จcช sซ หรือระเบิดออกมา อือ(หนา้ ) เสียงส่งลม พยญั ชนะกึ่งสระ y ยี w วู วิธกี ารอา่ นออกเสียงพยญั ชนะ 21 ตัว  ฐานเสียงที่เกิดจาก ริมฝี ปาก →ริมฝี ปากบนและริมฝี ปากล่างแตะกระทบกนั b pm →ริมฝี ปากลา่ งและฟันบนแตะกระทบกนั f  ฐานเสียงท่ีเกดิ จาก ปลายล้ินแตะป่ ุมเหงอื ก dtn l  ฐานเสียงที่เกิดจาก โคนลิ้นแตะเพดานออ่ น g kh  ฐานเสียงที่เกิดจากส่วนหนา้ ล้ินแตะเพดานแขง็ jqx (ในขณะเดยี วกนั ปลายลิ้นจะวางไวต้ าํ แหนง่ ปกติ คอื หลงั ฟันล่าง)  ฐานเสียงที่เกิดจาก ปลายลิ้นแตะเพดานแขง็ สว่ นหนา้ zh ch sh r (ขอบลิ้นแตะเพดานแขง็ สว่ นขา้ ง ปลายล้ินแตะเพดานแขง็ สว่ นหนา้ )  ฐานเสียงที่เกดิ จาก ปลายล้ินแตะระหผวา่ งฟัน zcs วธิ กี ารอา่ นออกเสยี งพยัญชนะก่ึงสระ 2 ตวั y  เสียงพยญั ชนะ ย.ยกั ษ์ กงึ่ เสียง สระอี w  เสียงพยญั ชนะ ว.แหวน กึง่ เสียง สระอู

แบบฝึ กเสริมทกั ษะท่ี 2 แบบฝึกทกั ษะการอ่านออกเสยี งพยัญชนะ 1. จงอ่านออกเสยี งพยญั ชนะตามวิธีการให้ถกู ตอ้ ง อ่านออกเสยี ง โดยใชส้ ระ พยญั ชนะ อ+ู โอ b p m f เอือ+เออ dtn l gkh r อี j qx อือ(หลัง) zh ch sh อือ(หนา้ ) zcs ออกเสียงสง่ ลม พยญั ชนะกึง่ สระ y W 2. จงเตมิ ประโยคใหส้ มบูรณ์ อธบิ ายวธิ ีการอา่ นออกเสยี งพยัญชนะใหถ้ กู ตอ้ ง พยัญชนะ 21 ตวั  ฐานเสียงท่ีเกดิ จาก ริมฝี ปาก  ริมฝี ปาก...............และริมฝี ปาก...............แตะกระทบกนั b p m  ริมฝี ปากลา่ งและ...............แตะกระทบกนั f  ฐานเสียงที่เกดิ จาก.....................แตะป่ ุมเหงอื ก dtn l  ฐานเสียงท่ีเกดิ จาก โคนลิ้นแตะ......................... g kh  ฐานเสียงที่เกดิ จาก.....................แตะเพดานแขง็ jqx (ในขณะเดยี วกนั ปลายลนิ้ จะวางไวต้ าํ แหนง่ ปกติ คอื หลงั ฟันล่าง)  ฐานเสียงที่เกดิ จาก ปลายลิน้ แตะ............................ zh ch sh r (ขอบล้ินแตะเพดานแขง็ ส่วนขา้ ง ปลายลิ้นแตะเพดานแขง็ สว่ นหนา้ )  ฐานเสียงที่เกดิ จาก ปลายลิ้นแตะ.......................... zcs พยญั ชนะกึ่งสระ 2 ตัว y w  เสยี งพยญั ชนะ ย.ยกั ษ์ กง่ึ เสียง สระ.....................  เสยี งพยญั ชนะ ว.แหวน กงึ่ เสียง สระ...................



Page 4 รูปภาพตารางผสมเสียง

3. จงฟังและเขยี นพยัญชนะ 23 เสยี งให้ถูกต้อง 1 13 2 14 3 15 4 16 5 17 6 18 7 19 8 20 9 21 10 22 11 23 12

แบบทดสอบหลงั เรยี น ชดุ ฝก เสริมทกั ษะการอานออกเสียงภาษาจนี ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 4 เรือ่ ง สทั อักษรจนี (พนิ อนิ ) ชดุ ท่ี 1 พยัญชนะ .......................................... คาํ ชแี้ จง 1. แบบทดสอบนมี้ ีจาํ นวน 10 ขอ 2. จงเลือกคาํ ตอบทีถ่ กู ตอ งที่สดุ 1. พยัญชนะมีทัง้ หมดกเ่ี สียง a. 20 b. 21 c. 22 d. 23 2. d ออกเสียงเทยี บเคียงพยัญชนะไทย คอื อักษรอะไร a. ถ.ถุง b. ต.เตา c. ด.เด็ก d. ท.ทหาร 3. b ออกเสียงเทียบเคียงพยัญชนะไทย คืออกั ษรอะไร a. ป.ปลา b. บ.ใบไม c. ฟ.ฟน d. พ.พาน 4. g ออกเสียงเทียบเคยี งพยญั ชนะไทย คืออักษรอะไร และใชส ระใดในการอา นออกเสยี ง a. ก + สระอูโอ b. ก + สระเออ c. จ + สระเออ d. จ + สระอี 5. zh มวี ิธกี ารอา นออกเสียง โดยเกดิ จากฐานเสยี งใด a. ฐานเสยี งทีเ่ กดิ จาก โคนล้ินแตะเพดานออน b. ฐานเสียงที่เกิดจาก สว นหนาลนิ้ แตะเพดานแขง็ c. ฐานเสียงท่เี กิดจาก ปลายลิน้ แตะเพดานแข็งสว นหนา d. ฐานเสียงท่ีเกิดจาก ปลายลนิ้ แตะระหวางฟน 6. ขอใดอา นออกเสียงตรงกบั ฐานเสียงของพยญั ชนะ x a. z b. q c. r d. c 7. พยัญชนะในขอ ใดใชส ระอือ(หนา ) ในการอา นออกเสยี ง a. s b. sh c. j d. f 8. ขอ ใดไมเปนเสียงสงลม a. p b. t c. k d. h 9. ขอใดคือพยญั ชนะกึง่ สระ a. n b. l c. w d. m 10. y เปน พยญั ชนะก่ึงสระอะไร a. สระโอ b. สระเออ c. สระอี d. สระอู

ภาคผนวก

เกณฑการใหค ะแนน ชุดฝกเสริมทักษะการอา นออกเสยี ภาษาจนี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที่ 4 เร่ืองสัทอกั ษรจนี (พินอนิ ) ชุดที่ 1 พยัญชนะ ------------------------------------------------ 1.แบบทดสอบ 1.1 แบบทดสอบกอ นเรียน เปนแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จาํ นวน 10 ขอ 10 คะแนน ขอละ 1 คะแนน ใหคะแนน ดังนี้ ได 1 คะแนน คําตอบถกู ตอ ง ได 0 คะแนน คําตอบไมถูกตอง หรอื ไมตอบ 1.2 แบบทดสอบหลังเรียน เปนแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลอื กตอบ 4 ตวั เลือก จาํ นวน 10 ขอ 10 คะแนน ขอละ 1 คะแนน ใหค ะแนน ดงั นี้ ได 1 คะแนน คาํ ตอบถกู ตอ ง ได 0 คะแนน คาํ ตอบไมถ ูกตอง หรือ ไมต อบ 2. แบบฝกเสริมทกั ษะ 2.1 แบบฝกเสรมิ ทักษะท่ี 1 กิจกรรมที่ 1 แบบอัตนัย ชนิดเตมิ คาํ จาํ นวน 140 ขอ ไมม ีคะแนน กําหนดเวลาเขียน ดังนี้ ชุดที่ 1 , 2 , 3 , 6 กาํ หนดเวลาชุดละ 20 วินาที ชุดที่ 4 , 5 , 7 , 8 กําหนดเวลาชุดละ 15 วนิ าที 2.2 แบบฝกเสริมทกั ษะท่ี 2 (55 คะแนน) กิจกรรมท่ี 1 การอา นออกเสียง จาํ นวน 23 ขอ 23 คะแนนขอละ 1 คะแนน ใหค ะแนน ดงั นี้ ได 1 คะแนน ออกเสยี งชดั เจน ถกู ตอ ง ได 0.5 คะแนน ออกเสียงถูกตอ ง ได 0 คะแนน ออกเสียงไมถกู ตอ ง หรอื ไมออกเสียง กจิ กรรมท่ี 2 แบบอัตนยั ชนิดเตมิ คํา จํานวน 9 ขอ 9 คะแนน ขอ ละ 1 คะแนน ใหคะแนน ดงั นี้ ได 1 คะแนน คําตอบถกู ตอ ง ได 0 คะแนน คาํ ตอบไมถ ูกตอง หรอื ไมต อบ กจิ กรรมที่ 3 การฟง และการเขยี น จาํ นวน 23 ขอ 23 คะแนน ขอ ละ 1 คะแนน ใหค ะแนน ดงั น้ี ได 1 คะแนน คําตอบถกู ตอง ได 0 คะแนน คําตอบไมถ กู ตอง หรอื ไมตอบ

เฉลยแบบทดสอบกอ นเรยี น ชดุ ฝกเสรมิ ทักษะการอานออกเสียงภาษาจนี ชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ 4 เรือ่ งสัทอักษรจนี (พนิ อิน) ชดุ ท่ี 1 พยัญชนะ ------------------------------------------------ คําตอบ ขอที่ ตวั เลือก 1a 2b 3b 4a 5c 6d 7c 8d 9b 10 a

เฉลยแบบฝก เสริมทักษะท่ี 1 การเทยี บเคียงพยัญชนะไทย  จงเขยี นพยัญชนะไทยใหต้ รงกับเสยี งของพยัญชนะของสัทอักษรจีน(พนิ อิน)ด้านซ้าย ชดุ ท่ี 1 พยญั ชนะ 23 ตวั b ป p พmม f ฟ dต t ทnน l ล gก k คhฮ j จqช x ซ zh จ ch ช sh ซ r ย z จcช s ซ y ยี w วู ชดุ ที่ 2 พยัญชนะ 4 ตวั b ป p พmม f ฟ p พmม f ฟ b ป mม b ป p พ f ฟ f ฟ p พ b ปmม f ฟ b ปmม p พ ชุดที่ 3 พยญั ชนะ 4 ตัว dต t ทnน l ล t ทnน l ลdต nนdต t ท l ล dต t ท l ลnน l ลnน t ทdต

ชุดที่ 4 พยญั ชนะ 3 ตัว gก k คhฮ k คgก h ฮ hฮ kคgก gกhฮ kค k คgก h ฮ ชุดที่ 5 พยญั ชนะ 3 ตัว j จqช x ซ qช j จ x ซ x ซqช j จ j จxซqช x ซ j จqซ ชดุ ที่ 6 พยัญชนะ 4 ตวั zh จ ch ช sh ซ r ย ch ช sh ซ zh จ r ย zh จ r ย ch ช sh ซ sh ซ ch ช r ย zh จ r ย zh จ sh ซ ch ช ชุดที่ 7 พยญั ชนะ 3 ตัว z จcช s ซ s ซ z จcช z จcช s ซ cช s ซ z จ s ซ z จcช

ชุดที่ 8 พยัญชนะกึง่ สระ 2 ตัว y ยี w วู w วู w วู y ยี y ยี w วู y ยี w วู y ยี w วู y ยี w วู y ยี w วู

เฉลยแบบฝก เสริมทกั ษะท่ี2 การอานออกเสยี งพยัญชนะ 1. จงอ่านออกเสียงพยญั ชนะตามวธิ กี ารใหถ้ กู ตอ้ ง อา่ นออกเสียง โดยใชส้ ระ พยญั ชนะ อ+ู โอ b p m f เอือ+เออ dtn l gkh r อี j qx อือ(หลงั ) zh ch sh อือ(หนา้ ) zcs ออกเสียงสง่ ลม พยญั ชนะกง่ึ สระ y W 2. จงเตมิ ประโยคใหส้ มบูรณ์ อธิบายวิธีการอา่ นออกเสียงพยญั ชนะให้ถกู ตอ้ ง พยญั ชนะ 21 ตวั  ฐานเสียงที่เกดิ จาก ริมฝี ปาก  ริมฝี ปาก บน และริมฝี ปาก ลา่ ง แตะกระทบกนั b p m  ริมฝี ปากลา่ งและ ฟันบน แตะกระทบกนั f  ฐานเสียงที่เกดิ จาก ปลายล้นิ แตะป่ ุมเหงอื ก dtn l  ฐานเสียงที่เกดิ จาก โคนลิ้นแตะ เพดานออ่ น g kh  ฐานเสียงที่เกิดจาก สว่ นหนา้ ล้ิน แตะเพดานแขง็ jqx (ในขณะเดียวกนั ปลายล้ินจะวางไวต้ าํ แหนง่ ปกติ คือ หลังฟันลา่ ง)  ฐานเสียงที่เกิดจาก ปลายลิ้นแตะ เพดานแข็งสว่ นหนา้ zh ch sh r (ขอบล้ินแตะเพดานแข็งสว่ นขา้ ง ปลายลิ้นแตะเพดานแขง็ ส่วนหนา้ )  ฐานเสียงที่เกิดจาก ปลายลิ้นแตะ ระหวา่ งฟัน zcs พยัญชนะก่งึ สระ 2 ตัว y  เสียงพยญั ชนะ ย.ยกั ษ์ กึ่งเสียง สระอี w  เสียงพยญั ชนะ ว.แหวน กึ่งเสียง สระอ ู

3. จงฟงั และเขียนพยัญชนะ 23 เสยี งใหถ้ ูกต้อง 1l 13 z 2s 14 m 3x 15 b 4d 16 k 5f 17 sh 6 zh 18 h 7n 19 g 8t 20 c 9q 21 p 10 ch 22 r 11 y 23 j 12 w

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ชดุ ฝก เสริมทกั ษะการอานออกเสยี งภาษาจีน ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ่ี 4 เร่อื งสทั อกั ษรจีน (พินอิน) ชุดท1ี่ พยญั ชนะ ------------------------------------------------ คาํ ตอบ ขอ ท่ี ตวั เลือก 1d 2b 3a 4b 5c 6b 7a 8d 9c 10 c

แบบประเมนิ ทักษะการอา นออกเสียง แบบประเมนิ ทักษะการอานออกเสยี งชดุ ฝก เสรมิ ทกั ษะการอา นออกเสียงภาษาจีน เรอ่ื งสทั อักษรจีน (พนิ อิน) ชุดท่ี 1 พยัญชนะ ---------------------------------------------- คาํ ชีแ้ จง สําหรบั ผปู ระเมินใชป ระเมินในแบบฝก ทกั ษะที่ 2 กจิ กรรมท่ี 1 จงอา นออกเสยี งพยัญชนะตามวิธีการ ใหถกู ตอง โดย การอา นออกเสียงพยญั ชนะ 23 เสยี ง ประเมินดังนี้ 1. ผปู ระเมินใส 1 คะแนนในชอง 对 เม่อื ผูถกู ประเมินออกเสยี งชัดเจนถูกตอ ง 2. ผูป ระเมินใส 0.5 คะแนนในชอ ง 对 เมอ่ื ผถู ูกประเมนิ ออกเสียงถูกตอง 3. ผปู ระเมนิ ใส 0 คะแนนในชอง 错 เมอ่ื ผูถกู ประเมนิ ออกเสียงไมถกู ตอ ง หรอื ไมต อบ 1. จงอานออกเสยี งพยญั ชนะตามวธิ ีการใหถ ูกตอ ง 对错 对错 对错 对错 b pm f dtn l gkh j qx zh ch sh r zcs yw

แบบบันทกึ คะแนน แบบบนั ทึกคะแนนชดุ ฝก เสริมทักษะการอานออกเสยี งภาษาจีน เรอื่ งสทั อกั ษรจนี (พนิ อนิ ) ชุดที่ 1 พยัญชนะ เลขที่ ชอ่ื -สกลุ แบบทดสอบ กอนเ ีรยน คะแนนเ ็ตม 10 คะแนน หมายเหตุ แบบทดสอบหลังเ ีรยน คะแนนเ ็ตม 10 คะแนน แบบ ฝก ัทกษะ ี่ท 1 คะแนนเ ็ตม 5 คะแนน แบบ ฝก ัทกษะ ี่ท 2 คะแนนเ ็ตม 15 คะแนน รวม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook