Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนแบบบูรณาการ ม.ต้น1-2563

แผนการสอนแบบบูรณาการ ม.ต้น1-2563

Published by darin.raka11, 2020-06-10 00:13:49

Description: แผนการสอนแบบบูรณาการ ม.ต้น1-2563

Search

Read the Text Version

ครั้งท่ี วัน /เดอื น/ ปี ตัวช้วี ัด เนอื้ หาสาระการ หัวเรื่อ เรยี นรู้ พลงั งานและ ส่งิ แวดล้อมใน ชุมชน สังคม ประเทศ และ ภมู ิภาค 5 ทวีป ไดแ้ ก่ ทวปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลีย ทวปี อเมริกา ทวีป ยุโรป และทวปี แอฟริกา

อง ประเดน็ /ปัญหา/ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หมายเหตุ สิ่งจาเป็นทต่ี อ้ งเรยี นรู้ พบกลมุ่ ที่ กศน.ตาบล 5. น าผู้เรี ย น ศึก ษา เรื่ อ ง การเมืองการปกครองของ สงั คมไทยจาก เทศบาล อบต. แ ล้ ว น า ม า จั ด ท า ใ บ ค ว า ม รู้ แผ่นภาพ แผ่นพับและแสดง สถานการณ์จาลองเกี่ยวกับ การเลือ กต้ัง พ ร้อมศัพ ท์ ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ เ กี่ ย ว กั บ การเมืองการปกครองอย่าง น้อย 5 คา มาจัดนิทรรศการ และอธิบายเพ่ิมเติมให้เพื่อน ฟังในการพบกลุ่มท่ี กศน. ตาบล

การพัฒนาอาชพี การพัฒนาอาชีพ หมายถงึ การพฒั นาทักษะอาชีพดา้ นต่าง ๆ ให้ทันตอ่ การเปลยี่ นแปลงของ ตลาด การพัฒนาอาชีพมคี วามสาคญั ใน ด้านเศรษฐกิจ มกี ารพฒั นาสินค้าให้สามารถใหส้ ามารถเขา้ สู่ตลาดการแขง่ ขนั และเปน็ ท่ยี อมรบั ของตา่ งประเทศ ดา้ นสังคม ประเทศที่มเี ศรษฐกจิ ดจี ะส่งผลใหส้ ภาพของสังคมดขี ึ้น ดา้ นการศกึ ษา ครอบครวั ทีม่ ี เศรษฐกจิ ดีจะสามารถมุ่งส่งบุตรหลานเข้ารับการศึกษาไดต้ ามความต้องการการพฒั นาอาชีพจึงมี ความจาเปน็ ในการพฒั นากระบวนการผลติ และ กระบวนการตลาดโดยการนาภมู ิปญั ญา นวตั กรรม / เทคโนโลยี มาประยุกตใ์ ช้ กระบวนการผลิต เป็นการบรหิ ารจดั การด้านทุน แรงงาน ทด่ี นิ หรือสถานที่ใหเ้ กดิ ผลผลิต ทีม่ ีการ พฒั นาอย่างต่อเนอ่ื ง กระบวนการตลาด เปน็ การบรหิ ารจดั การด้านการตลาด เรมิ่ ต้ังแตก่ ารศึกษาความตอ้ งการของ ลูกค้า การกาหนดเปา้ หมาย การทาแผนการตลาด การสง่ เสรมิ การขาย การกาหนดราคาขาย การ ขาย การส่งมอบสินค้าใหก้ บั ลูกคา้ เพอื่ นาข้อมลู มาใช้พฒั นาอาชีพ ภูมปิ ัญญา หมายถงึ ความรู้ ความสามารถ ความชาญฉลาด อันเกิดจากพ้ืนความรู้ทผ่ี า่ น กระบวนการสบื ทอด ปรบั ปรงุ พฒั นา สะสมมาเป็นเวลานานอย่างเหมาะสม

ใบงานที่ 1 เรื่องความสาคญั และความจาเป็ นในการพฒั นาอาชีพพร้อม คาชี้แจง ให้ผู้เรียนเขยี นคาตอบลงในช่องว่าง ขอ้ ที่ 1 จงอธิบายความสาคญั ในการพฒั นาอาชีพ มาพอสงั เขป .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ............ ขอ้ ที่ 2 จงอธิบายความจาเป็นในการพฒั นาอาชีพ มาพอสงั เขป .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ............ ชื่อ.......................................................................รหสั ..................................ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น

การศึกษาเพื่อพัฒนาสงั คมและชุมชน การจดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาสังคมและชมุ ชน เปน็ การจัดการศกึ ษาทีบ่ ูรณาการความรู้และ ทักษะจาก การศกึ ษาท่ผี เู้ รียนมอี ยหู่ รอื ไดร้ ับจากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมการศกึ ษานอกโรงเรียนโดยมรี ปู แบบการ เรียนรู้ท่หี ลากหลาย ใช้ชมุ ชนเป็นฐานในการพฒั นาการเรยี นรู้และทุนทางสงั คมเปน็ เครอ่ื งมอื ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อ พฒั นาสงั คมและ ชุมชนให้มคี วามเข้มแข็งสามารถพ่ึงพาตนเองได้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และประชาชนอยู่ รว่ มกันอยา่ งมี ความสขุ ตามวิถีทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนอยู่ในสภาพแวดล้อมทดี่ ี มีการ พฒั นาที่ยั่งยนื เรง่ รดั จัดการศกึ ษานอกโรงเรยี นเพือ่ ส่งเสริมการมสี ว่ นรว่ มในการพฒั นาสงั คม โดยใช้ ชมุ ชนเปน็ ฐาน บรู ณาการความรู้และทกั ษะการดารงชวี ติ เพ่ือใหเ้ กดิ สังคมแห่งการเรียนรู้ นาไปสสู่ ังคมทเี่ ข้มแขง็ มคี วามเอ้ืออาทร ตอ่ กัน และพ่ึงพาตนเองไดอ้ ยา่ งยง่ั ยนื การจัดการศึกษาเพ่อื พัฒนาสงั คมและชมุ ชนเปน็ การจัดการศกึ ษาทีม่ งุ่ ใชก้ ระบวนการ ศกึ ษาเปน็ เครอื่ งมอื ในการพฒั นาสังคมและชุมชนให้มคี วามเขม้ แขง็ พ่ึงตนเองไดต้ ามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี ง มี ความเอื้ออาทร มี คุณธรรม จรยิ ธรรม สืบทอดวัฒนธรรมและภูมิปญั ญา ประชาชนมีสว่ นรว่ มในการดแู ลรักษา ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดลอ้ ม และกาหนดทิศทางการพัฒนาของสังคมและชุมชนตามแนวทางในระบอบ ประชาธปิ ไตย โดยมีเปา้ หมาย ดังน้ี (1) ให้มกี ิจกรรมการพฒั นาสังคมและชมุ ชน 1 โครงการ (2) ให้บรกิ ารนิทรรศการการศึกษา (3) จัดค่ายเยาวชนประชาธิปไตย /ค่ายประชาชนประชาธปิ ไตย (4) จดั กิจกรรมธรรมะเพ่ือพฒั นาสงั คมและชุมชน

ใบงานท่ี 2 เรื่องการพฒั นาอาชีพในชุมชน สงั คม ประเทศ ของ 5 ทวปี ไดแ้ ก่ ทวปี เอเชีย ทวปี ออสเตรเลีย ทวปี อเมริกา ทวปี ยโุ รป และทวปี อฟั ริกา ประกอบดว้ ย ดา้ นงานอาชีพดา้ นเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสรา้ งสรรค์ และดา้ นการอานวยการ คาชี้แจ้ง ให้ผู้เรียนเขียนคาตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง 1. ใหน้ กั ศึกษาอธิบายการพฒั นาอาชีพในชุมชน สงั คม ประเทศ ของทวปี เอเชีย มาพอ สงั เขป ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………… 2. ถา้ ใหน้ กั ศกึ ษาเลือกการประกอบอาชีพนกั ศึกษาจะเลือกอาชีพใด และอธิบายเหตุผลความเป็นไปไดท้ จี่ ะ พฒั นาอาชีพ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………… ช่ือ.......................................................................รหสั ..................................ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น

บนั ทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ คร้งั ท่ี ……… วันท่ี …………. เดือน …………………………………..……….. พ.ศ. …………….. ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น จานวนนกั ศกึ ษา ทัง้ หมด....................คน ชาย................คน หญิง..................คน จานวนนกั ศกึ ษาทีเ่ ข้าเรียน ทัง้ หมด....................คน ชาย................คน หญิง..................คน จานวนนกั ศกึ ษาทีข่ าดเรียน ทั้งหมด....................คน ชาย................คน หญงิ ..................คน ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................... สภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ปัญหาทีพ่ บและการแกไ้ ขปญั หา ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ การดาเนินการแก้ไข/พัฒนา ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นผู้นิเทศ ……………………………………………………………………………………………………………………………….……….………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชือ่ ) ................................................... (ลงชือ่ ) ................................................... ผ้นู ิเทศ (........................................) (........................................) ………….. /….……… /…….…… ………….. /….……… /…….…… (ลงชอ่ื ) ………………………………..…………............. ผอ.กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบุรี (นายศกั ดิช์ ัย นาคเอ่ยี ม) ………….. /….……… /…….……

บรรณานกุ รม ทม่ี า : https://guru.sanook.com-/4380/ ทม่ี า:http://www.mwit.ac.th/jat/contents/30102/The%20influence%20of%20family%20life.htm ทม่ี า : file:///C:/Users/computer/Downloads/8soc.pdf ท่ีมา : https://sites.google.com/site/sangkhmm2/hnwy-kar-reiyn-ru-thi-1/phlmeuxng-di-tam-withi-prachachn/reuxng-thi-1phlmeuxng-di- ni-sangkhm-pra-chathip ท่ีมา : https://sites.google.com/site/groupsocial55/home/1-rabb-karmeuxng-kar-pkkhrxng-ni-paccuban

คณะผู้จดั ทา แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน. แบบบูรณาการ ตามรูปแบบ ONIE MODEL หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น ภาคเรียนท่ี .......... ปกี ารศึกษา ................... ที่ปรึกษา ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี นายศักด์ชิ ัย นาคเอย่ี ม ครพู เ่ี ลีย้ ง จนั ทนะ ครชู านาญการ นางสาวชมพู คณะผจู้ ัดทา 1. ครูอาสาสมัครการศกึ ษานอกโรงเรียน กศน.อาเภอเมืองกาญจนบุรี 2. ครู กศน.ตาบล กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี 3. ครู ศรช. กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี



แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ กศน. แบบบรู ณาการ ตามรูปแบบ ONIE Model หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 หัวเร่ือง พัฒนาคณุ ภาพ พัฒนาอาชีพ หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ภาคเรียนที่ ……….. ปกี ารศกึ ษา ……………. สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวัดกาญจนบุรี สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คานา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองกาญจนบุรีได้ดาเนินการ จัดทาแผนกิจกรรมการเรยี นรู้ กศน.แบบบรู ณาการ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 หัวเรือ่ ง พัฒนาคณุ ภาพ พัฒนาอาชีพ เพ่ือให้ครูผู้สอนใช้เป็นคู่มือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพตาม หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ภาคเรยี นที่ ......... ปีการศึกษา ................ .... เอกสารประกอบการจัดทาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน.แบบบูรณาการ หน่วยการ เรียนรู้ท่ี 3 หวั เรือ่ ง พฒั นาคุณภาพ พัฒนาอาชีพ ประกอบด้วยแผนผังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน. แบบ ONIE Mode แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ กศน.แบบบรู ณาการ ใบความรู้ แบบประเมินการจัดกิจกรรมการ เรยี นรู้ แนวตอบ และแบบบันทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ การดาเนินการจัดทาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน.แบบบูรณาการ หลักสูตร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ภาคเรียน ท่ี .......... ปีการศึกษา ............. ในครั้งน้ี ประสบความสาเร็จได้ด้วยดี ต้องขอขอบพระคุณ นายศักดิ์ชัย นาคเอีย่ ม ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอเมืองกาญจนบุรี นางสาวชมพู จันทนะ ครูชานาญการเป็นอย่างสูงที่เป็น ผู้ให้คาปรึกษา ในการดาเนินการจัดทาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน.แบบบูรณาการหน่วยการเรียนรู้ ที่ 3 หัวเร่ือง พัฒนาคุณภาพ พัฒนาอาชีพ หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ภาคเรยี น ที่ ………… ปกี ารศึกษา ………………… มาโดยตลอดทาให้การดาเนินการ จดั ทาแผนการเรยี นร้แู บบบรู ณาการบรรลตุ ามวัตถุประสงค์ จัดทาโดย กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี

สารบญั หนา้ เรอื่ ง คานา สารบญั แผนผงั การจดั หน่วยการเรียนรู้ กศน.แบบบูรณาการ แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ กศน.แบบบูรณาการตามรปู แบบ ONIE MODEL ใบความร้ทู ่ี 1 เร่ืองทกั ษะในการพฒั นาอาชพี ใบความรทู้ ี่ 2 เรือ่ งการจดั การการผลิตการบริการ แบบประเมนิ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ แนวตอบแบบประเมนิ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ บนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ บรรณานกุ รม คณะทางาน

แผนผงั หน่วยการจัดกิจกรรมก หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 หวั เร่อื ง หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั ก ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ภาคเร วชิ า ทกั ษะการพัฒนาอาชพี อช21002 วชิ า ทักษะการพฒั นาอาชีพ อช21002 หัวเรื่อง การจดั การความเส่ยี ง หวั เรื่อง ทักษะในการพฒั นาอาชีพ เน้ือหา เนอื้ หา - ความจาเปน็ ในการฝึกทกั ษะ กระบวนการผลิต กระบวนการตลาด - ความหมายของความเสีย่ ง และการจดั การ ท่ใี ช้นวตั กรรม ความเส่ยี ง - การวิเคราะห์ศกั ยภาพ และการจดั การความ หน่ว เสีย่ งกับผลการดาเนินงาน หวั เรอื่ ง “พัฒนาคณุ ภาพ พัฒนาอ - การแก้ปัญหาความเส่ยี ง สภาพปัญหา - การวางแผนปฏบิ ัตกิ ารจัดการความเส่ยี ง 1. การอยรู่ ่วมกันในอาชีพ วชิ า ทกั ษะการพฒั นาอาชีพ อช21002 2. การปลูกฝังเรอ่ื งความซอ่ื สัตย์ใน 3. การอนุรักษ์ทานบุ ารงุ และส่งเสร หวั เร่ือง เทคโนโลยีเพอ่ื พัฒนาอาชีพ 4. การเปน็ พลเมอื งดีต่ออาชีพของต 5. การมสี ว่ นร่วมอาชพี กันในสังคมไ เนือ้ หา - ความหมายความสาคญั ของการจัดการ อาชพี - แหล่งเรียนรู้ และสถานท่ฝี ึกอาชีพ - การวางแผนฝกึ ทักษะอาชีพ - การฝึกทกั ษะอาชพี

การเรียนรู้ กศน. แบบบูรณาการ ง พัฒนาคณุ ภาพ พฒั นาอาชีพ การศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 รียนที่ ......... ปี การศึกษา ............ วิชา ทักษะการพฒั นาอาชพี อช เนอ้ื หาเสรมิ (ภาษาไทย) 21002 - ฟัง - พดู - อ่าน - เขยี น - อธบิ าย หวั เร่อื ง การจดั การการตลาด - อภิปราย - สรปุ ความ - นทิ รรศการ เนอ้ื หา - การจัดการการตลาด เนื้อหาเสรมิ (ภาษาองั กฤษ) - การจัดทาแผนปฏิบัติการ Buddhism = ศาสนาพุทธ Christianity = ศาสนาครสิ ต์ วยท่ี 3 Islam = ศาสนาอิสลาม อาชีพ” Democracy = ระบอบประชาธิปไตย Citizen = พลเมอื ง นอาชีพ ริมอาชีพของตน เนือ้ หาเสรมิ (วสั ดุศาสตร์ 2) ตน การใช้ประโยชน์และผลกระทบจากการใชว้ สั ดุ ไทย - ผลกระทบจากการใชว้ ัสดุ - การเลือกใช้ผลิตภัณฑท์ ี่เป็นมติ รกบั ส่งิ แวดล้อม

การกาหนดประเดน็ /ปัญหา/สง่ิ จาเป็นที่ตอ้ งเรียนรู้ การจดั กิจกรร 1. ผูเ้ รยี นขาดหลักธรรมในอาชีพ 1. ให้ผู้เรียนเล 2. ผู้เรยี นขาดการปลูกฝังความซื่อสัตย์ในอาชพี เหมาะสมจากส 3. ผู้เรยี นขาดการรูห้ น้าที่ท่ีตอ้ งช่วยกันอนุรักษท์ านบุ ารุงและส่งเสรมิ และอธิบายให อาชพี ของตน 2. ให้ผู้เรียนไ 4. ผู้เรียนขาดความดีต่ออาชพี ของตน ความซอ่ื สัตย์ใ 5. ผู้เรยี นขาดการมีสว่ นร่วมทางการเมืองการปกครองในสงั คมไทย ใหเ้ พ่อื นฟังในก 3. ให้ผู้เรียนไ อาสา นามาทา 4. ใหผ้ เู้ รียนไป สรปุ ใจความสา 5. นาผูเ้ รียนศกึ ภาพ แผน่ พับแ ปกครองอยา่ ง

รมการเรยี นรู้ ล่าการดาเนินชีวิตประจาวันของแต่ละคน และไปในอาชีพ ที่สามารถนามาเป็นแบบอย่างท่ี สถานที่จริง พร้อมศพั ท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 5 คา นามาสรุปเป็นแผนผังความคิด ห้เพอ่ื นฟังในการพบกล่มุ ท่ี กศน.ตาบล และครูเปน็ ผูส้ รปุ ในภาพรวมทั้งหมดของผเู้ รยี น ไปศึกษาแนวทางด้านศาสนาการปฏิบัติตนคุณธรรม จริยธรรม ท่ีเหมาะสมของประชาชนและ ในอาชีพ จาก สื่อออนไลน์ หนงั สือ ครอบครวั ผู้รใู้ นชุมชน แลว้ นามาอภิปรายแลกเปล่ียนเรียนรู้ การพบกลุ่มที่ กศน.ตาบล ไปศึกษาค้นคว้า การอนุรักษ์ทานุบารุงส่งเสริมอาชีพของตน จาก แหล่งเรียนรู้ โดยการเป็นจิต ารายงาน และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ ใหเ้ พอื่ นฟงั ในการพบกลมุ่ ที่ กศน.ตาบล ปศึกษาค้นคว้าการเป็นพลเมืองท่ีดีดีต่ออาชีพของตน จาก ส่ือออนไลน์ แหล่งเรียนรู้ ผู้รู้ นามา าคญั ลงในกระดาษชารต์ พร้อมอภิปรายให้เพื่อนฟงั ในการพบกล่มุ ที่ กศน.ตาบล กษาเร่อื งการเมอื งการปกครองของสังคมไทยจาก เทศบาล อบต. แลว้ นามาจดั ทาใบความรู้ แผ่น และแสดงสถานการณ์จาลองเก่ยี วกบั การเลอื กตั้ง พรอ้ มศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการเมืองการ งน้อย 5 คา มาจัดนทิ รรศการและอธบิ ายเพิม่ เตมิ ใหเ้ พื่อนฟังในการพบกลุ่มที่ กศน.ตาบล

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ก หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 หวั เรือ่ ง หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับกา ระดบั มธั ยมศ ภาคเรียนที่ .......... ปีกา ครง้ั ที่ วัน /เดอื น/ ปี ตวั ช้ีวัด เนือ้ หาสาระการ หวั เรื่อ เรียนรู้ 4. มที ักษะในการ ปฏิบัติตน รายวชิ า หนว่ ยท่ี 3 ทกั ษะการพฒั นา พัฒนาคุณภาพ อาชีพ อช21002 อาชพี หวั เรอ่ื ง สภาพปัญหา ทักษะในการพฒั นา 1. การอยรู่ ว่ มก อาชีพ อาชพี - ความจาเป็นใน การฝกึ ทักษะ 2. การปลกู ฝงั เ ความซือ่ สัตย์ใน กระบวนการผลิต กระบวนการตลาด 3. การอนรุ กั ษ์ท บารุงและส่งเสร ท่ีใชน้ วตั กรรม ของตน เทคโนโลยเี พ่อื พฒั นาอาชีพ 4. การเปน็ พลเ อาชพี ของตน - ความหมาย ความสาคัญของ 5. การมีสว่ นร่ว กนั ในสังคมไทย

กศน. ตามรูปแบบ ONIE Model พัฒนาคุณภาพ พฒั นาอาชีพ ารศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ศกึ ษาตอนต้น ารศกึ ษา ..................... อง ประเดน็ /ปญั หา/ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หมายเหตุ สิ่งจาเป็นท่ตี ้องเรยี นรู้ 1. ผ้เู รยี นขาด การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ พ พัฒนา หลักธรรมในอาชีพ 1. ให้ผู้เรียนเล่าการดาเนิน ชีวิตประจาวันของแต่ละคน กันใน 2. ผเู้ รียนขาดการ และไปในอาชีพ ที่สามารถ ปลกู ฝังความซอื่ สัตยใ์ น เรอื่ ง น า ม า เ ป็ น แ บ บ อ ย่ า ง ที่ นอาชีพ อาชีพ เ ห ม า ะ ส ม จ า ก ส ถ า น ที่ จ ริ ง ทานุ 3. ผเู้ รยี นขาดการรู้ ริมอาชพี หน้าท่ีทตี่ อ้ งช่วยกนั พร้อมศัพท์ภาษาอังกฤษที่ เกี่ยวข้องอย่างน้อย 5 คา เมอื งดีต่อ อนุรักษท์ านบุ ารุงและ น า ม า ส รุ ป เ ป็ น แ ผ น ผั ง สง่ เสรมิ อาชีพของตน วมอาชีพ ความคิด และอธบิ ายใหเ้ พ่ือน ย 4. ผเู้ รียนขาดความดี ฟังในการพบกลุ่มที่ กศน. ตอ่ อาชพี ของตน 5. ผเู้ รียนขาดการมี ตาบล และครูเป็นผู้สรุปใน ภาพรวมทง้ั หมดของผู้เรียน ส่วนรว่ มทางการเมือง 2. ใหผ้ ูเ้ รยี นไปศึกษาแนวทาง การปกครองใน ด้ า น ศ า ส น า ก า ร ป ฏิ บั ติ ต น สงั คมไทย

คร้งั ที่ วนั /เดือน/ ปี ตัวช้วี ัด เนือ้ หาสาระการ หัวเรื่อ เรียนรู้ การจัดการอาชีพ - แหล่งเรียนรู้ และ สถานทฝ่ี กึ อาชพี - การวางแผนฝึก ทักษะอาชพี - การฝกึ ทกั ษะ อาชีพ การทาแผนธุรกจิ เพ่ือการพัฒนา อาชีพ - ความหมายและ ความสาคญั ของ การจดั การพฒั นา อาชีพ - การวเิ คราะห์ ชุมชนเพอื่ การ พัฒนาอาชีพ - การกาหนด วิสัยทศั น์ พนั ธกจิ เปา้ หมาย และกล ยุทธใ์ นการวางแผน พฒั นาธรุ กิจของ

อง ประเด็น/ปญั หา/ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หมายเหตุ สง่ิ จาเปน็ ทตี่ ้องเรียนรู้ คุ ณ ธ ร ร ม จ ริ ย ธ ร ร ม ที่ เหมาะสมของประชาชนและ ความซื่อสัตย์ในอาชีพ จาก ส่ื อ อ อ น ไ ล น์ ห นั ง สื อ ครอบครัว ผู้รู้ในชุมชน แล้ว นามาอภิปรายแลกเปลี่ยน เรียนรู้ให้เพื่อนฟังในการพบ กลุ่มท่ี กศน.ตาบล 3. ให้ผู้เรียนไปศึกษาค้นคว้า การอนุรักษ์ทานบุ ารุงสง่ เสริม อาชีพของตน จาก แหล่ง เรียนรู้ โดยการเป็นจิตอาสา นามาทารายงาน และอธิบาย เพิม่ เติมให้เพื่อนฟงั ในการพบ กลุ่มท่ี กศน.ตาบล 4. ให้ผู้เรียนไปศึกษาค้นคว้า การเป็นพลเมืองที่ดีดี ต่อ อาชีพของตน จาก ส่ือ ออนไลน์ แหล่งเรียนรู้ ผู้รู้ นามาสรุปใจความสาคัญลง ในก ระ ดาษชาร์ต พ ร้อม อภิปรายให้เพื่อนฟังในการ

คร้งั ที่ วนั /เดือน/ ปี ตัวช้วี ัด เน้อื หาสาระการ หวั เร่ือ เรียนรู้ ชุมชน - ปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียง - การวางแผน ปฏิบตั ิการ การจดั การความ เสย่ี ง - ความหมายของ ความเสย่ี ง และ การจัดการความ เส่ยี ง - การวเิ คราะห์ ศักยภาพ และการ จดั การความเส่ียง กบั ผลการ ดาเนนิ งาน - การแก้ปญั หา ความเสี่ยง - การวางแผน ปฏบิ ตั ิการจดั การ ความเส่ียง

อง ประเดน็ /ปัญหา/ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หมายเหตุ สิ่งจาเป็นทต่ี อ้ งเรยี นรู้ พบกลมุ่ ที่ กศน.ตาบล 5. น าผู้เรี ย น ศึก ษาเรื่ อ ง การเมืองการปกครองของ สงั คมไทยจาก เทศบาล อบต. แ ล้ ว น า ม า จั ด ท า ใ บ ค ว า ม รู้ แผ่นภาพ แผ่นพับและแสดง สถานการณ์จาลองเก่ียวกับ การเลือ กต้ัง พ ร้อมศัพ ท์ ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ เ กี่ ย ว กั บ การเมืองการปกครองอย่าง น้อย 5 คา มาจัดนิทรรศการ และอธิบายเพ่ิมเติมให้เพ่ือน ฟังในการพบกลุ่มท่ี กศน. ตาบล

ใบความรู้ท่ี 1 เรื่องทกั ษะทเี่ กยี่ วข้องกบั การพัฒนาอาชีพ เร่ือง ความหมายความสาคญั ของการจัดการอาชีพ การจัดการอาชีพ หมายถึง กระบวนการจัดกิจกรรมงานอาชพี นบั ตงั้ แตก่ ารวางแผนการจดั การ องค์การ การตัดสินใจ การสง่ั การ การควบคุม การตดิ ตามผล เพ่อื ให้ได้ผลผลติ หรือบริการที่เป็นทีต่ ้องการของ ลกู คา้ และไดร้ ับการยอมรบั จากสงั คม ความสาคญั ของการจดั การอาชีพ จากคาจากดั ความของการจดั การอาชพี ทาใหท้ ราบถงึ ความสาคญั ของการจัดการอาชพี เพราะทาให้ผู้บรหิ ารสามารถพฒั นากจิ การใหม้ ุง่ ไปสู่ความมปี ระสทิ ธภิ าพและสมารถ ดาเนินการให้บรรลุวตั ถุประสงคข์ องกจิ การได้ กลา่ วคือ กจิ การสามารถผลิตสินค้าหรือบริการท่ีมคี ุณภาพ ทันเวลาตามความตอ้ งการของลกู คา้ และกิจการไดร้ ับผลตอบแทนคอื กาไรสงู สดุ สามารถขยายกิจการได้ หรือ เพ่มิ พูนในการดาเนนิ การได้ จากการศกึ ษาวิจยั พบวา่ การจดั การอาชพี ให้ประสบความสาเร็จประกอบด้วย 1. การจัดการอย่างมคี ุณภาพ หมายถึง ผู้บรหิ ารมีความรู้ประสบการณ์ สามารถทางานให้บรรลุผลสาเรจ็ อย่าง มปี ระสทิ ธิภาพ 2. ผลิตภัณฑท์ ี่มีคณุ ภาพ หมายถึง การผลิตสนิ ค้าท่มี ีคุณภาพ อาจกระทาไดโ้ ดยการใช้เทคนิคต่างๆ เริม่ ตัง้ แต่ การใชว้ ตั ถุดิบ กระบวนการผลติ การตรวจคณุ ภาพสนิ คา้ ก่อนส่งมอบใหล้ ูกค้า 3. ผลติ ภัณฑ์ที่ทนั สมยั ด้วยนวัตกรรมใหม่ 4. การลงทนุ ระยะยาวอย่างมคี ุณคา่ 5. สถานภาพการเงินม่ันคง 6. มคี วามสามารถในการดงึ ดูดใจลกู ค้าให้สนใจผลิตภัณฑ์/สนิ ค้า 7. คานงึ ถึงความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมและสงิ่ แวดล้อม 8. การใช้ทรพั ยส์ ินอยา่ งคุม้ คา่

ใบงานท่ี 1 สาระการทกั ษะประกอบอาชพี รายวิชา ทักษะการพัฒนาอาชพี (อช21002) (ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น) บทที่ 1 ทักษะท่ีเกยี่ วข้องกบั การพฒั นาอาชีพ ขอบข่ายเนอื้ หา เร่อื งที่ 1 ทักษะพน้ื ฐานเพื่อการพัฒนาอาชีพ เร่อื งท่ี 2 ทกั ษะการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีเพอ่ื การพฒั นาอาชีพ คาชแี้ จง : จงตอบคาถามตอ่ ไปนใ้ี หถ้ กู ตอ้ งและสมบรู ณ์ท่สี ุด 1. การพัฒนาอาชพี หมายถึง ............................................................................................................................. .......................................................................... ..................................................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................ ....................................................................................... . 2. องคป์ ระกอบของกระบวนการผลติ มีอะไรบา้ ง ............................................................................................................................. .......................................................................... ..................................................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................ ....................................................................................... 3. กระบวนการการตลาด หมายถงึ ............................................................................................................................. .......................................................................... ............................................................................................................................. ...................................................................... .... ............................................................................................................................. ..........................................................................

4. ถา้ นกั ศกึ ษาต้องการพฒั นาอาชพี นกั ศกึ ษามีแนวทางการพฒั นาอย่างไร ............................................................................................................................. .......................................................................... ..................................................................................................................................................................... .................................. ....................................................................................................................................................................................................... 5. นวตั กรรมเทคโนโลยี หมายถึง ......................................................................................................................... .............................................................................. ............................................................................................................................. .......................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... 6. นกั ศกึ ษาคิดว่านวัตกรรมเทคโนโลยีเกย่ี วขอ้ งกับการพฒั นาอาชีพอยา่ งไร ............................................................................................................................. .......................................................................... ................................................................................................................................................. ...................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 5. ถา้ นกั ศกึ ษาจาเป็นต้องใช้นวตั กรรมเทคโนโลยี เพอื่ การพฒั นาอาชพี นกั ศกึ ษามีเกณฑก์ ารเลอื กใช้อย่างไร ............................................................................................................................. .......................................................................... ..................................................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................ ....................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................... ............................... ช่อื ..........................................สกุล.................................... รหสั นักศกึ ษา..................................................................... กศน.ตาบล ........................................................................

ใบงานที่ 2 เรอ่ื ง ความพรอ้ มในการสร้างอาชีพให้มคี วามเขม้ แข็ง เรื่อง แหลง่ เรียนรู้และสถานทฝี่ ึกอาชพี จากการท่ีผู้เรยี นไดศ้ ึกษาเก่ียวกบั การพัฒนากระบวนการผลิต กระบวนการตลาด การประยกุ ตใ์ ช้ ภูมิ ปัญญาและนวตั กรรม/เทคโนโลยีแลว้ ทาให้รู้ว่าต้องพฒั นาอาชพี ด้านใดบา้ ง ในการพฒั นาความรู้ เพอื่ การ พัฒนาอาชพี จาเป็นทผ่ี ู้ประกอบการอาชีพต้องศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรเู้ ฉพาะ เชน่ ต้องการเงินทนุ เพอื่ นาไปซอื้ เครอ่ื งจกั รกต็ ้องศกึ ษาจากแหลง่ เงินทุน หรือขาดแรงงานก็ต้องจัดเตรยี มหาแรงงานในช่วงที่ตอ้ งการ เป็นการเตรียมความพรอ้ มเพื่อรองรับการพัฒนาอาชีพ ผู้ท่ีมีความสามารถในการบรหิ ารจัดการธรุ กจิ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ จาเปน็ จะตอ้ งรูจ้ ักเลือกใช้ ได้แก่ 1. แหลง่ เรียนรแู้ ละสถานท่ีฝกึ อาชพี แหล่งเรยี นรู้และสถานทีฝ่ กึ อาชีพ หมายถึง แหล่งทีม่ ขี ้อมูล ขา่ วสาร ความรู้ ประสบการณ์ สารสนเทศ และเทคโนโลยี สาหรบั ผู้เรียนใช้ในการแสวงหาความรู้และหรอื ฝกึ ทักษะในการประกออาชีพ ซึง่ มีอยูต่ าม ธรรมชาติ และมนษุ ยส์ ร้างข้ึน แหล่งในท่นี อ้ี าจจะเป็นเอกสาร สถานที่ ตวั บุคคล ผ้รู ู้ แหลง่ เรียนรู้ธรรมชาติ เช่น ทะเล ป่า ภูเขา แหล่งเรียนรูท้ ี่มนษุ ย์สร้างขึน้ เชน่ หอ้ งสมดุ พิพธิ ภัณฑ์ อนิ เทอรเ์ น็ต เว็บไซตต์ ่าง ๆ แหล่งเรยี นรู้และสถานทฝ่ี ึกอาชีพมคี วามสาคัญตอ่ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรสู้ าหรบั ผู้เรยี น โดย เฉพาะผ้เู รียนทีอ่ ยนู่ อกระบบโรงเรียนที่ตอ้ งศึกษาหาความรดู้ ว้ ยตนเองเป็นสว่ นใหญ่ จงึ ต้องอาศยั แหลง่ เรียนรู้ ต่าง ๆ ใกล้ตวั เช่น ห้องสมุดอาเภอ ศนู ยก์ ารเรียนชุมชน ภมู ิปัญญา แหลง่ ธรรมชาตติ า่ ง ๆ ผู้เรียนสามารถ ศึกษาหาความรู้ได้ดว้ ยตนเอง แหลง่ เหล่าน้เี ปน็ ขุมทรพั ยท์ างปญั ญาท่ีสามารถค้นหาความรูไ้ ดไ้ ม่ร้จู บ ปจั จบุ ันสถานท่ีฝกึ อาชีพมีหลากหลายทัง้ ภาครัฐและเอกชนท่ีจดั ให้กบั ประชาชนท่ัวไป เชน่ สานักงาน กศน. กระทรวงแรงงาน สานักงานคณะกรรมการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โรงเรยี นของ เอกชนต่าง ๆ ที่เปดิ สอนหลกั สูตรวิชพี ระยะส้นั 2. แหลง่ เงนิ ทุน แหล่งเงนิ ทนุ หมายถึง แหลง่ ทสี่ ามารถให้กยู้ ืมเงนิ เพื่อการประกอบอาชพี ได้ ซึง่ มีทง้ั แหลง่ เงนิ ทนุ ของภาครัฐ และเอกชน เช่น ธนาคารพาณชิ ย์ตา่ ง ๆ สหกรณ์ กองทนุ ก้ยู ืมต่าง ๆ การทจ่ี ะกู้ยมื ได้ต้องมโี ครงการรองรับ เพื่อใหแ้ หลง่ เงินทุนพิจารณาความเป็นไปได้ในการสง่ ใช้เงินคืน 3. แหล่งวัสดุ อุปกรณ์ เคร่อื งจักร แหล่งวัสดุ อปุ กรณ์ เครื่องจกั ร หมายถงึ แหล่งขายหรือแหล่งทจี่ ะได้มาของวสั ดุ อุปกรณ์ เครอื่ งจักร ที่ เก่ยี วขอ้ งกบั การประกอบอาชีพ เช่น ประกอบอาชีพการเกษตรจะต้องมีวัสดุอปุ กรณ์ เครือ่ งจกั รท่ีเก่ียวข้อง เช่น พนั ธุพ์ ืช ปยุ๋ รถแทรกเตอร.์ 4. แหล่งแรงงาน

แหลง่ แรงงาน หมายถึง แหล่งทจี่ ะได้แรงงานมาใช้ ได้แก่ แรงงานจาก คน สตั ว์ และเครอ่ื งจกั รทใ่ี ช้ - แรงงานคน หมายถงึ แรงงานเจ้าของกบั แรงงานนอกทจ่ี า้ งมาทางาน - แรงงานสัตว์ หมายถงึ แรงงานสัตวท์ ใี่ ช้ในการประกอบอาชพี เชน่ แรงงานจากววั ควาย ชา้ ง มา้ ท่ีนามาใช้ ในการประกอบอาชพี - เครือ่ งจักร บางอาชีพมกี ารใช้เคร่ืองจกั รในการประกอบอาชพี เชน่ อาชพี ทานาอาจจะต้องใชร้ ถไถ อาชีพทา เหล็กดัดประตู หน้าต่าง อาจจะใช้เครื่องเชอื่ ม ต้องพจิ ารณาว่า อาชพี ของตนเองใช้เครอื่ งจักรอะไรบา้ ง ท่ีมีอยู่ ล้าสมยั หรือไมอ่ ยา่ งไร ขนาดหรือจานวนพอเพยี งกับการผลิตหรือไม่ 5. ตลาด คือ แหลง่ ทีม่ ีทัง้ ผซู้ ้ือและผูข้ ายสนิ ค้าต่าง ๆ จากผู้ผลิตไปสู่ผบู้ รโิ ภคหรอื ผ้ใู ช้บรกิ ารน้นั ๆ ไดร้ ับความพอใจ ร่วม ถึงการพัฒนาอาชีพมวี ัตถปุ ระสงค์ในการขยายตลาดขายสนิ คา้ ใหม้ ากข้นึ โดยพจิ ารณาตลาดเดิมว่า สามารถรบั สนิ คา้ ท่พี ฒั นาขึ้นใหมไ่ ด้หรอื ไม่ ถ้าไมไ่ ดจ้ ะต้องหาตลาดใหม่รองรบั เร่อื งท่ี การวางแผนฝกึ ทกั ษะอาชพี การวางแผน หมายถงึ วธิ ีการตดั สนิ ใจลว่ งหน้า เพื่ออนาคตองคก์ าร ซึ่งเป็นหน้าทข่ี องการจัดการในทางเลือกว่า ควรจะใหใ้ ครทาอะไร ที่ไหน อยา่ งไร เป็นข้ันตอนดาเนินงาน การใช้ทรพั ยากร การบรหิ ารเพื่อให้บรรลุ วตั ถุประสงค์ และเป้าหมายท่ีตอ้ งการ ทกั ษะ (Skill) หมายถงึ ความชัดเจน และความชานิชานาญในเร่ืองใดเรือ่ งหน่ึง ซง่ึ บุคคลสามารถสร้างข้นึ ได้ จากการเรยี นรูจ้ ากสิ่งตา่ งๆ ทอี่ ยูร่ อบตัว การฝึกทักษะอาชีพ หมายถึง ฝกึ ทกั ษะอาชพี ใดอาชพี หน่งึ จนเกดิ ความชดั เจนและชานาญ จนสามารถถา่ ยทอด ความรู้และประสบการณน์ ้ันๆ ใหก้ บั ผู้อืน่ ได้ ประโยชน์ของการวางแผนฝกึ ทักษะอาชีพ มดี ังน้ี 1. มีโอกาสวิเคราะห์ทักษะที่จาเปน็ และตอ้ งฝึกอยา่ งถถี่ ว้ น 2. ทาให้ครอบคลุมทักษะทต่ี ้องการฝกึ และมองเห็นภาพรวม ของการพฒั นาอาชพี ทัง้ ระบบ 3. สามารถวางแผนในการเลือกสถานทฝ่ี ึกและวิธีการฝกึ ทักษะกบั หนว่ ยงานทร่ี ับผดิ ชอบโดยตรง หรือบางทักษะอาจฝกึ ด้วยตนเองได้ ขนั้ ตอนการวางแผนการฝึกทักษะอาชีพ มดี ังน้ี 1. สรปุ ทกั ษะท่ีตอ้ งการฝกึ เพมิ่ เตมิ 2. ศกึ ษาหาข้อมลู เก่ียวกับแหลง่ ฝกึ ทกั ษะอาชพี และประสานงานกบั แหลง่ ฝึกว่า ต้องการฝกึ เรอื่ ง ใดบา้ ง เมื่อใด 3. กาหนดวัน เวลา สถานท่ีในการฝึกทักษะท้ังหมดลงในการฝกึ 4. ผู้ตอ้ งการฝึกควรศกึ ษาเรื่องท่ีตอ้ งการฝกึ ทักษะดว้ ยตนเองล่วงหนา้ ไปกอ่ น เพอื่ ให้มีความเขา้ ใจ ในระดบั หนึ่ง แล้วจดเปน็ คาถามทีย่ ังไม่เข้าใจเพอื่ นาไปซกั ถามในวัน เวลาทีม่ ีการฝึกจริง

ใบงานที่ 2 สาระการทักษะประกอบอาชีพ รายวิชา ทักษะการพฒั นาอาชพี (อช21002) (ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น) บทที่ 2 ความพรอ้ มในการสร้างอาชพี ให้มคี วามเขม้ แขง็ ขอบขา่ ยเนื้อหา เรือ่ งท่ี 1 แหล่งท่ีเอื้อต่อการพฒั นาอาชพี เรื่องท่ี 2 ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เรอ่ื งท่ี 3 การพัฒนาตนเองในการพัฒนาอาชพี คาช้ีแจง : จงตอบคาถามต่อไปนใ้ี ห้ถูกต้องและสมบรู ณ์ที่สุด 1. แหลง่ ท่เี ออื้ ตอ่ การพฒั นาอาชีพ หมายถึง ............................................................................................................................. .......................................................................... ..................................................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................ ....................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................... ............................... 2. วัสดุ อุปกรณ์ เคร่อื งจักร มคี วามสาคญั ตอ่ การพฒั นาอาชพี อยา่ งไร ............................................................................................................................. .......................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ......................................................................................................................................... .............................................................. ................................................................................................................................................................................................. ......

3. นกั ศึกษามีความเข้าใจเกย่ี วกบั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งอยา่ งไร ............................................................................................................................. .......................................................................... ..................................................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................ ....................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................... ............................... 4. ทางสายกลาง หมายถงึ ............................................................................................................................. .......................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ..................................................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................ ....................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................... ............................... 5. นกั ศึกษาคิดว่า เศรษฐกิจพอเพียงเกย่ี วขอ้ งกบั การพฒั นาอาชีพอยา่ งไร ............................................................................................................................. .......................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ........................................................................................................................................ ............................................................... ................................................................... ............................................................................................................................. ....... ........................................................................................................................... ............................................................................ 6. นักศึกษามีแนวทางการพฒั นาตนเองอยา่ งไร ............................................................................................................................. .......................................................................... ..................................................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................ ....................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................... ...............................

7. หลักการพฒั นาตนเอง เพอ่ื พัฒนาอาชพี มกี ่หี ลกั การ อยา่ งไรบา้ ง ............................................................................................................................. .......................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ........................................................................................................................................ ............................................................... ................................................................... ............................................................................................................................. ....... 8. การพัฒนาตนเองตามแนวทางพระพทุ ธศาสนา หมายถึง ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ..................................................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................ ....................................................................................... 9. นกั ศึกษามีแนวทางการพัฒนาอาชีพของตนเองอยา่ งไร ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ............................................................................................................................................................ ........................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ช่อื ..........................................สกุล.................................... รหสั นักศกึ ษา..................................................................... กศน.ตาบล ........................................................................

บนั ทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ คร้ังท่ี ……… วันท่ี …………. เดอื น …………………………………..……….. พ.ศ. …………….. ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ จานวนนกั ศึกษา ทง้ั หมด....................คน ชาย................คน หญิง..................คน จานวนนกั ศึกษาท่ีเข้าเรียน ทงั้ หมด....................คน ชาย................คน หญงิ ..................คน จานวนนกั ศึกษาทีข่ าดเรยี น ทั้งหมด....................คน ชาย................คน หญงิ ..................คน ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................... สภาพการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ปัญหาทีพ่ บและการแกไ้ ขปญั หา ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ การดาเนนิ การแก้ไข/พฒั นา ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ข้อเสนอแนะ/ความคิดเหน็ ผ้นู ิเทศ ……………………………………………………………………………………………………………………………….……….………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ ) ................................................... (ลงชือ่ ) ................................................... ผ้นู ิเทศ (........................................) (........................................) ………….. /….……… /…….…… ………….. /….……… /…….…… (ลงช่ือ) ………………………………..…………............. ผอ.กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี (นายศักด์ิชยั นาคเอี่ยม) ………….. /….……… /…….……

บรรณานกุ รม https://sites.google.com/site/totozzip/khxdi-khx-seiy ขอ้ ดขี ้อเสยี ของเทคโนโลยีสารสนเทศ https://sites.google.com/site/jhghghlkd/home/khx-seiy-khxng-thekhnoloyi โทษของเทคโนโลยีสาร https://panbacking.wordpress.com ประเพณไี ทยนั้นสามารถแบง่ ออกเป็นสามสว่ นใหญ่คอื ภาษา, ศิลปะ และประเพณี https://www.bootcampdemy.com/content/293 หลกั ธรรมในการอยู่รว่ มกันอยา่ งสนั ติสขุ ของ พทุ ธศาสนาคริสตศ์ าสนาและศาสนาอิสลาม https://www.bootcampdemy.com/content/134- ประวัติศาสตร์ชาตไิ ทยในสมยั ต่าง ๆ

คณะผู้จดั ทา แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน. แบบบูรณาการ ตามรูปแบบ ONIE MODEL หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น ภาคเรียนท่ี .......... ปกี ารศึกษา ................... ที่ปรึกษา ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี นายศักด์ชิ ัย นาคเอย่ี ม ครพู เ่ี ลีย้ ง จนั ทนะ ครชู านาญการ นางสาวชมพู คณะผจู้ ัดทา 1. ครูอาสาสมัครการศกึ ษานอกโรงเรียน กศน.อาเภอเมืองกาญจนบุรี 2. ครู กศน.ตาบล กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี 3. ครู ศรช. กศน.อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี



แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ กศน. แบบบรู ณาการ ตามรปู แบบ ONIE Model หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 หวั เรื่อง ประหยัดพลงั งานวนั นี้ เพื่อชาติพฒั นา หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ภาคเรยี นที่ ……….. ปีการศึกษา ……………. สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวดั กาญจนบรุ ี สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธิการ

คานา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองกาญจนบุรีได้ดาเนินการ จดั ทาแผนกจิ กรรมการเรียนรู้ กศน.แบบบรู ณาการ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 หัวเร่ือง ประหยัดพลังงานวันนี้ เพ่ือ ชาติพัฒนา เพ่ือให้ครูผู้สอนใช้เป็นคู่มือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้อย่างมี คุณภาพตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษา ตอนตน้ ภาคเรียนที่ ......... ปีการศึกษา ................ .... เอกสารประกอบการจัดทาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน.แบบบูรณาการ หน่วยการ เรียนรู้ท่ี 4 หัวเร่ือง ประหยัดพลังงานวันนี้ เพื่อชาติพัฒนา ประกอบด้วยแผนผังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน. แบบ ONIE Mode แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ กศน.แบบบูรณาการ ใบความรู้ แบบประเมินการจัด กิจกรรมการเรยี นรู้ แนวตอบ และแบบบันทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ การดาเนินการจัดทาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน.แบบบูรณาการ หลักสูตร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ภาคเรียน ที่ .......... ปีการศึกษา ............. ในครั้งนี้ ประสบความสาเร็จได้ด้วยดี ต้องขอขอบพระคุณ นายศักดิ์ชัย นาคเอย่ี ม ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอเมืองกาญจนบุรี นางสาวชมพู จันทนะ ครูชานาญการเป็นอย่างสูงที่เป็น ผู้ให้คาปรึกษา ในการดาเนินการจัดทาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน.แบบบูรณาการหน่วยการเรียนรู้ ที่ 4 หัวเร่ือง ประหยัดพลังงานวันนี้ เพ่ือชาติพัฒนา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ภาคเรียน ท่ี ………… ปีการศึกษา ………………… มาโดยตลอดทาให้ การดาเนินการจดั ทาแผนการเรยี นรู้แบบบูรณาการบรรลุตามวตั ถปุ ระสงค์ จดั ทาโดย กศน.อาเภอเมืองกาญจนบุรี

สารบญั หน้า เรอื่ ง คานา สารบญั แผนผงั การจัดหน่วยการเรียนรู้ กศน.แบบบรู ณาการ แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ กศน.แบบบรู ณาการตามรูปแบบ ONIE MODEL ใบความรทู้ ี่ 1 เรอื่ งพลังงานไฟฟา้ ใบความรู้ที่ 2 เร่อื งไฟฟ้ามาจากไหน ใบความรทู้ ี่ 3 เรอ่ื งวงจรไฟฟา้ และอปุ กรณ์ไฟฟ้า แบบประเมินการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ แนวตอบแบบประเมนิ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ บนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ บรรณานุกรม คณะทางาน

แผนผังหน่วยการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ กศน. แบบบูรณาการ หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ภา รายวชิ าการใช้พลงั งานไฟฟ้าใน รายวิชา สังคมศกึ ษา (สค21001) หัวเรอ่ื ง 3. เศรษฐศาสตร์ ชวี ติ ประจาวนั 2 (พว22002) เน้ือหา 1.2 ระบบเศรษฐกจิ ในประเทศไทย หัวเร่อื ง ไฟฟา้ มาจากไหน เนอ้ื หา - เชื้อเพลิงและพลงั งานที่ใช้ในการผลิต ไฟฟ้า - โรงไฟฟา้ กับการจัดการด้าน สิง่ แวดลอ้ ม รายวิชาการใช้พลงั งานไฟฟ้าใน หน่วย ชีวติ ประจาวัน 2 (พว22002) หวั เร่ือง “ประหยดั พลังงานว หัวเรอื่ ง พลังงานไฟฟ้า สภาพปญั หา เนือ้ หา 1. อ่านคา่ ไฟไม่ออก 2. การแตง่ กายของนักศึกษา - การกาเนิดของไฟฟ้า 3. การตดิ เพ่อื น ติดเกม และต - สถานการณพ์ ลังงานไฟฟา้ ของประเทศ 4. ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ไทย และประเทศในอาเซียน - หนว่ ยงานทเี่ กี่ยวขอ้ งด้านพลงั งานไฟฟ้า ในประเทศไทย

ร หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 หัวเรอื่ ง ประหยดั พลงั งานวนั นี้ เพอ่ื ชาติพฒั นา บการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 าคเรียนที่ ........ ปกี ารศึกษา ............ รายวิชา ภาษาไทย (พท21001) รายวชิ า การพัฒนา ตนเอง ชุมชน สงั คม (สค หัวเร่อื ง การเขยี น 21003) เนอ้ื หา หัวเรอื่ ง 2. พัฒนาชุมชน สังคม 2. หลกั การเขยี นแผนภาพความคดิ เนื้อหา 2. ความหมาย ความสาคญั ประโยชนข์ องขอ้ มูล ดา้ นการศกึ ษา ยที่ 4 เนื้อหาเสรมิ ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย (สค22020) วันน้ี เพ่อื ชาติพัฒนา” หัวเรอ่ื ง มรดกไทยสมัย กรงุ ศรอี ยธุ ยาและกรุงธนบุรี เนือ้ หา ตดิ ยาเสพติด 3.2 ภาษาในสมัยกรงุ ศรอี ยุธยา เน้ือหาเสริม(ภาษาอังกฤษ) 5 คา คาศัพทภ์ าษาองั กฤษทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั ศาสนา ประเพณี อาหาร การแต่งกาย วฒั นธรรม ฯลฯ 1. Religon = ศาสนา 2. Tradition = ประเพณี 3. Food = อาหาร 4. The dress = การแต่งกาย 5. Culture = วฒั นธรรม

การกาหนดประเด็น/ปัญหา/สิ่งจาเป็นทีต่ อ้ งเรยี นรู้ การจัดกิจกร 1. ผู้เรยี นไมช่ อบอา่ นหนงั สอื ไมเ่ ห็นความสาคญั ของการอ่าน 1. ใหผ้ ้เู รยี นฝ 2. ผู้เรียนบางคนแข่งขันการแต่งกายเลียนแบบดาราทาให้ไม่เอาใจใส่ เสนอหน้าหอ้ การเรยี นรภู้ ายในกลุ่ม 2. ใหผ้ ู้เรียนแ 3. ผูเ้ รยี นขาดความเอาใจใสใ่ นการเรยี นเน่อื งจากติดเพื่อน ตดิ เกม ใหผ้ ูเ้ รยี น นา และนาไปสู่การติดยาเสพติด 3. ให้ผู้เรียน 4. ผเู้ รียนส่วนมากมผี ลสัมฤทธ์ทางการเรยี นตา่ จากแหล่งเรีย 4. จดั สอนเส กศน.ตาบล โ

รรมการเรียนรู้ ฝกึ ทกั ษะการอ่านจากสื่อท่ีช่นื ชอบจากห้องสมดุ แหล่งเรยี นรู้ แลว้ ให้เขยี นสรุปเปน็ ชิ้นงาน องเรียนในวันพบกล่มุ โดยครูและผู้เรียนรว่ มกันสรปุ บทเรยี น พร้อมใหบ้ ันทึกลงใน กรต. แสดงบทบาทสมมุติ เปน็ ดาราทช่ี ื่นชอบ และสรปุ ถงึ ขอ้ ดี ข้อเสยี ของการแต่งกาย พร้อมอบหมาย าเสนอ โดยจดั เป็นบอร์ดความรู้ หน้าชั้นเรยี นในวนั พบกลุ่มโดยครแู ละผู้เรียนร่วมกนั สรุป นแบง่ กลมุ่ ศกึ ษาค้นคว้าถึงขอ้ ดี ขอ้ เสีย ของการเล่นเกม และยาเสพตดิ จากอนิ เทอร์เน็ต ยนรู้ นามาสรุปหนา้ ชั้นเรยี นโดยครแู ละผเู้ รียนร่วมกนั สรุปบทเรยี น พรอ้ มให้บันทึกลงใน กรต. สรมิ และคา่ ยวิชาการ ใหก้ ับผู้เรยี นในรายวชิ าทย่ี ากโดยเชิญวทิ ยากร ผรู้ ู้มาใหค้ วามรแู้ ก่ผู้เรียนใน โดยครแู ละผเู้ รยี นร่วมกันสรุปองค์ความรูท้ ่ีไดร้ บั

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ก หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 หวั เรือ่ ง ประ หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับกา ระดบั มัธยมศ ภาคเรยี นท่ี .......... ปีกา ครั้งท่ี วนั /เดือน/ ปี ตัวชวี้ ัด เนือ้ หาสาระการ หวั เร่ือ 4. มีทกั ษะในการ เรียนรู้ หนว่ ยที่ 4 ปฏิบตั ิตน รายวิชา ประหยดั พลังงา เพอื่ ชาตพิ ฒั นา การใช้พลงั งาน สภาพปญั หา ไฟฟา้ ใน 1. อ่านค่าไฟไม 2. การแต่งกาย ชีวิตประจาวนั 2 นักศกึ ษา 3. การตดิ เพื่อน พว22002 และตดิ ยาเสพต 4. ผลสัมฤทธิ์ท หวั เรอ่ื ง เรยี น พลังงานไฟฟ้า - การกาเนิดของ ไฟฟา้ - สถานการณ์ พลังงานไฟฟา้ ของ ประเทศไทย และ ประเทศในอาเซียน - หน่วยงานที่ เกย่ี วข้องด้าน

กศน. ตามรูปแบบ ONIE Model ะหยัดพลงั งานวันน้ี เพอื่ ชาตพิ ฒั นา ารศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ศกึ ษาตอนต้น ารศกึ ษา ..................... อง ประเดน็ /ปัญหา/ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ หมายเหตุ ส่ิงจาเปน็ ท่ีตอ้ งเรียนรู้ 1. ผู้เรียนไม่ชอบอา่ น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ านวันนี้ หนังสอื ไมเ่ หน็ 1. ให้ผเู้ รียนฝกึ ทกั ษะการ า อา่ นจากสอ่ื ที่ช่ืนชอบจาก ความสาคญั ของการ ห้องสมุด แหล่งเรยี นรู้ แล้ว ม่ออก อ่าน ยของ ใหเ้ ขยี นสรุปเป็นช้ินงาน 2. ผู้เรยี นบางคน เสนอหน้าห้องเรยี นในวนั พบ น ติดเกม แข่งขนั การแตง่ กาย ตดิ เลียนแบบดาราทาให้ กลุม่ โดยครูและผู้เรียน ทางการ รว่ มกนั สรุปบทเรยี น พร้อม ไม่เอาใจใสก่ ารเรียนรู้ ใหบ้ นั ทึกลงใน กรต. ภายในกลุม่ 2. ให้ผ้เู รยี นแสดงบทบาท 3. ผู้เรยี นขาดความเอา สมมตุ ิ เปน็ ดาราที่ชื่นชอบ ใจใส่ในการเรยี น เนอื่ งจากตดิ เพอื่ น ติด และสรปุ ถงึ ขอ้ ดี ขอ้ เสยี ของ การแต่งกาย พร้อมอบหมาย เกม และนาไปสูก่ ารตดิ ให้ผู้เรียน นาเสนอ โดย ยาเสพติด จดั เป็นบอร์ดความรู้ หนา้ ชน้ั 4. ผ้เู รยี นส่วนมากมี ผลสัมฤทธ์ทางการ

คร้งั ที่ วนั /เดือน/ ปี ตัวช้วี ัด เน้อื หาสาระการ หวั เรื่อ เรียนรู้ พลงั งานไฟฟ้าใน ประเทศไทย ไฟฟา้ มาจากไหน - เชอ้ื เพลิงและ พลงั งานท่ใี ชใ้ นการ ผลิตไฟฟา้ - โรงไฟฟ้ากับการ จดั การดา้ น ส่งิ แวดล้อม วงจรไฟฟ้าและ อุปกรณไ์ ฟฟ้า - อปุ กรณ์ไฟฟ้า - วงจรไฟฟ้า - สายดินและหลกั ดิน การใชแ้ ละการ ประหยัดพลงั งาน ไฟฟา้ - กลยทุ ธก์ าร ประหยดั พลังงาน ไฟฟา้ 3 อ. - การเลือกซื้อ การ

อง ประเดน็ /ปญั หา/ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หมายเหตุ สิ่งจาเป็นทตี่ อ้ งเรียนรู้ เรียนต่า เรยี นในวันพบกลมุ่ โดยครู และผู้เรียนร่วมกันสรปุ 3. ใหผ้ ู้เรยี นแบ่งกลุ่มศกึ ษา คน้ คว้าถงึ ขอ้ ดี ขอ้ เสยี ของการเลน่ เกม และยาเสพ ติด จากอนิ เทอรเ์ น็ต จาก แหลง่ เรียนรู้ นามาสรุปหนา้ ช้นั เรยี นโดยครูและผ้เู รยี น รว่ มกันสรปุ บทเรียน พร้อม ให้บันทึกลงใน กรต. 4. จัดสอนเสรมิ และค่าย วิชาการ ใหก้ บั ผูเ้ รยี นใน รายวิชาที่ยากโดยเชญิ วทิ ยากร ผู้รู้มาใหค้ วามรู้แก่ ผเู้ รียนใน กศน.ตาบล โดยครู และผเู้ รียนรว่ มกันสรุปองค์ ความรู้ท่ีไดร้ บั

ครั้งท่ี วัน /เดอื น/ ปี ตัวช้วี ัด เน้อื หาสาระการ หวั เรื่อ เรียนรู้ ใช้ และการดูแล รกั ษา เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ใน ครัวเรือน - การคานวณคา่ ไฟฟ้าในครวั เรือน

อง ประเดน็ /ปญั หา/ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ หมายเหตุ สิ่งจาเปน็ ที่ต้องเรยี นรู้

ใบความรู้ พลงั งานไฟฟ้าในชีวติ ประจาวนั ไฟฟ้าเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่งท่ีมีความสัมพันธ์กับชีวิตประจาวันของเรามากท่ีสุด หลอดไฟให้แสง สว่าง เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ต่างๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ต้องใช้พลังงาน ไฟฟ้าปัจจุบนั เรามีรถไฟฟา้ เปน็ ยานพาหนะชนดิ ใหม่ลา่ สุด เม่ือต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ากับแหล่งกาเนิดไฟฟ้า ประจุไฟฟ้าจะเคล่ือนท่ี ทาให้มีกระแสไฟฟ้าผ่าน เครื่องใช้ไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้าจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานรูปอ่ืนตามชนิดของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เมื่อต่อ หลอดไฟกบั แหลง่ กาเนิดไฟฟ้า จะไดพ้ ลงั งานแสงสวา่ ง ถา้ ตอ่ เตาไฟฟา้ เข้ากบั แหลง่ กาเนดิ ไฟฟ้า จะได้พลังงาน ความรอ้ นถา้ ตอ่ แหล่งกาเนดิ ไฟฟา้ เข้ากับเครื่องซกั ผ้า พัดลม และสวา่ นไฟฟา้ ก็จะไดพ้ ลังงานกล เปน็ ต้น 1. ไฟฟ้าสถิต มนุษยเ์ ร่ิมสังเกตเห็นอานาจของไฟฟ้าตั้งแต่ 2,000 ปีมาแล้ว นักปราชญ์ชาวกรีก ช่ือ เทลีส ได้นาแท่งอาพันซึ่งเป็นยางไม้สนถูกับผ้าไหม แล้วนาแท่งอาพันไปแตะกับเศษฟาง เขาขยะว่าเศษฟาง เล็กๆ เหล่านัน้ จะเกาะติดกับแท่งอาพัน พลังงานที่สามารถดูดวัตถุเหล่านี้ได้คือ ไฟฟ้านั่น-เอง ชาวกรีกเรียก อาพันว่า “ อเิ ลก็ ตรอน ” ภายหลังจึงตั้งช่ือไฟฟ้าในภาษาอังกฤษว่า “ อิเล็กตริกซิต้ี ” ไฟฟ้าชนิดน้ี เรียกว่า ไฟฟ้าสถติ ซึง่ เกดิ จากการนาวตั ถุ 2 ชนดิ มาขดั ถหู รือเสยี ดสีกัน วัตถุแต่ละชนดิ จะมีประจไุ ฟฟ้าบวก (+) และ ประจไุ ฟฟ้าลบ (-) อยใู่ นตัว เท่าๆกนั เรยี กวา่ เป็นกลาง เมือ่ เกิดเสียดสขี ึ้นประจไุ ฟฟ้าลบ (-) ท่ีเบากว่าประจุ ไฟฟ้าบวก (+) กจ็ ะเคล่ือนท่รี ะหวา่ งวัตถทุ ้งั สอง ทาใหแ้ สดงอานาจไฟ-ฟา้ ขนึ้ ประจไุ ฟฟ้าในวัตถุทั้งสอบก็จะไม่ เป็นกลางอีกตอ่ ไป วัตถุชนดิ หนง่ึ แสดงประจไุ ฟฟา้ บวก และอกี ชนิดหนึง่ แสดงประจไุ ฟฟ้าลบ พลังงานไฟฟ้าที่ เกดิ ข้ึนจะทาใหเ้ กดิ แรงดดู หรือแรงผลกั ถ้านาวตั ถทุ ม่ี ปี ระจุไฟฟ้าชนิดเดียวกันมาใกล้กันจะเกิดแรงผลักแต่ถ้า มปี ระจไุ ฟฟ้าตา่ งชนิดกนั จะเกดิ แรงดูดซ่งึ กนั และกนั 2. ไฟฟ้ากระแส ไฟฟ้าท่ีเราใช้กันท่ัวไป เกิดข้ึนจากการเคลื่อนที่ของประจุไฟฟ้าไหลผ่านตัวนาไฟฟ้า จากจดุ หนึ่งไปยงั อีกจดุ หน่ึง เรยี กว่า ไฟฟ้ากระแส แหล่งกาเนดิ ไฟฟา้ กระแสมีหลายวิธี ไดแ้ ก่ 1. ไฟฟ้าจากปฏิกิริยา ถ้าเราจุ่มแผ่นทองแดงและแผ่นสังกะสีลงในกรดกามะถันเจือจางโดยวางให้ ห่างกัน ต่อหลอดไฟระหว่างแผ่นโลหะทั้งสอง หลอดไฟจะติดสว่าง เซลล์ไฟฟ้านี้เรียกว่า เซลล์เปียก หรือ เซลล์ไฟฟา้ ของโวลตา ซ่งึ เกดิ ปฏิกิริยาเคมีระหวา่ งแผน่ โลหะกบั กรดกามะถัน จะทาใหเ้ กดิ กระแสไฟฟ้าไหลใน วงจรจากแผ่นทองแดงไปยังแผ่นสังกะสี เรียกว่า เซลล์แห้ง ไฟฟ้าท่ีได้จากปฏิกิริยาเคมี มีทิศทางการไหล แน่นอนจากข้ัวบวกไปยังข้ัวลบ เช่น ไฟฟ้าจากถ่านไฟฉาย แบตเตอร่ีรถยนต์ เรียกการไหลนี้ว่า ไฟฟ้า กระแสตรง

2. ไฟฟ้าจากเครื่องกาเนิดไฟฟ้า ไฟฟ้าที่เราใช้ตามอาคารบ้านเรือนเป็นไฟฟ้าที่เกิดจากเคร่ืองกาเนิด ไฟฟา้ หรือที่เรียกวา่ ไดนาโม หรอื เจเนอเรเตอร์ ซึ่งภายในประกอบด้วยขดลวดทองแดงเคลื่อนท่ีตัดเส้นแรง แม่เหลก็ หรอื อาจเคล่อื นทแ่ี มเ่ หล็กตัดขวดลวดทองแดงท่ีอยู่กับท่ี ก็จะเกิดกระแสไฟฟ้าในขดลวดไหลกลับไป กลับมาระหวา่ งข้วั บวกและขวั้ ลบ เรียกว่า ไฟฟ้ากระแส-สลบั 3. ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เราสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากอุปกรณ์ที่เรียกว่า โซล่าเซลล์ หรื อ เซลลแ์ สงอาทิตย์ท่ีทาหน้าทเี่ ปลย่ี นพลงั งานแสงอาทิตยใ์ ห้เปน็ พลงั งานไฟฟา้ ได้ นอกจากน้ีมนษุ ย์ยังพยายามนา พลังงานจากธรรมชาติอื่นๆ มาผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น พลังงานลม พลังงานจากความร้อนใต้พิภพ พลังงาน จากคลื่นในทะเล เป็นต้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook