96 วารสารปัญญา ปีท่ี 28 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม – เมษายน 2564) นักศึกษา และมีความต้องการที่จะศึกษาต่อ และมาตรฐานความปลอดภัย และการกำหนด ปรญิ ญาตรขี องวทิ ยาลยั เทคนคิ นครปฐม ตารางทดสอบแก้ไขและซ่อมบำรงุ งานไฟฟ้า 2.2 เนื้อหาวิชาที่ต้องการศึกษาต่อ อภิปรายผลการวิจัย ระดับปริญญาตรี สาขาวิชาเทคโนโลยีไฟฟ้า การศึกษาวิจัยเรื่อง ความต้องการ สายปฏิบัติการ ของวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม พบว่า ในภาพรวมมีความต้องการเนื้อหาวิชา ศึกษาต่อระดับปริญญาตรี สาขาวิชา ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ความ เทคโนโลยีไฟฟ้า สายปฏิบัติการ ของ ต้องการเนื้อหาวิชาของสถานประกอบการ ท่ี วิทยาลัยเทคนิคนครปฐม โดยศึกษาใน 2 ส่วน จะเรียนของวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม ในระดับ คือ จากสถานประกอบการ และจากนักศึกษา มากจำนวน 8 ข้อ ข้อทมี่ ีค่าเฉลยี่ มากท่สี ุด มี 2 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สรุป ข้อ คือ การวางแผนจัดการควบคุมงานไฟฟ้า อภิปรายผลการวิจัย ดังนี้ ตามมาตรฐานไฟฟ้าและมาตรฐานความ ปลอดภัย และการกำหนดตารางทดสอบแก้ไข 1. ส ถ า น ป ร ะ ก อ บ ก า ร ส ถ า น และซ่อมบำรุงงานไฟฟ้า รองลงมาคือ การ ประกอบการที่ได้ร่วมลงนามความร่วมมือกับ บริหารจัดการดำเนินการควบคุมงานในสถาน วิทยาลัยเทคนิคนครปฐม ในเร่อื งจัดการศึกษา ประกอบการ สำหรับข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ระบบทวิภาคี และการรับนักศึกษาแผนกวิชา คือ การออกแบบ ควบคุม ติดตั้ง ซ่อมบำรุง ช ่างไฟฟ้ากำลังเข้าฝึกงาน ในระดั บ ทดสอบเครื่องกลไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อนด้วย ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ส่วนใหญ่เป็น ไฟฟ้า นิวแมติกส์ เครื่องทำความความเย็น บุคลากรที่ทำงานในสถานประกอบการของ และปรบั อากาศ เอกชน มีความต้องการสนับสนุนให้บุคลากร ได้ศึกษาสูงขึ้น มีความรู้ความสามารถด้าน ความต้องการศึกษาต่อระดับปริญญา เทคโนโลยีไฟฟ้า และสนับสนุนให้บุคลากรเข้า ตรี สาขาวิชาเทคโนโลยีไฟฟ้า สายปฏิบัติการ สมัครศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ทั้งนี้อาจ ของวิทยาลัย เทคนิคนครปฐม โดยสถาน เป็นเพราะว่าในปัจจุบันความรู้ด้านเทคโนโลยี ประกอบการสนับสนุนให้บุคลากรเข้าสมัคร ไฟฟ้าและด้านอื่นๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่าง ศึกษาต่อ ด้านเนื้อหาวิชา ในภาพรวมมีความ รวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงจำเป็นอย่าง ต้องการเรียนในระดับมากที่สุด คือ เรื่องการ มากที่สถานประกอบการต้องสนับสนุนให้ วางแผนจัดการควบคุมงานไฟฟ้าตาม บุคลากรได้มีพัฒนาความรู้และทักษะด้าน มาตรฐานไฟฟ้าและมาตรฐานความปลอดภัย เทคโนโลยีไฟฟ้าให้ทันสมัยเพื่อไปพัฒนาสถาน และการให้คำแนะนำสอนงานในสถาน ประกอบการให้ตอบสนองความต้องการของ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ใ ห ้ ด ำ เ น ิ น ง า น อ ย ่ า ง มี รับบริการหรือลูกค้า ส่วนด้านเนื้อหาวิชาที่ ประสิทธิภาพ สำหรับนกั ศึกษาด้านเนื้อหาวิชา ต้องการเรียนในภาพรวมมีในระดับมากทุก ในภาพรวมมีความต้องการเรียนในระดับมาก รายการ แสดงให้เห็นว่า สถานประกอบการมี ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ เรื่องการวางแผน ความต้องการเนื้อหาสาระทุกรายวิชาที่ จัดการควบคุมงานไฟฟ้าตามมาตรฐานไฟฟ้า กำหนดไว้ในหลักสูตร ของสาขาวิชาเทคโนโลยี
วารสารปญั ญา ปที ี่ 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม – เมษายน 2564) 97 ไฟฟ้า สายปฏิบัติการ ของวิทยาลัยเทคนิค ภาพลักษณ์ของวิทยาลัยเทคนิคนครปฐมเป็น นครปฐม ดังท่สี มยศ นาวีการ (2549) กล่าวถึง วิทยาลัยเปิดการเรียนการสอนมายาวนาน การพัฒนาองค์การ ความสำคัญของบุคลากร เกือบ 80 ปี ซึ่งที่สถานประกอบการให้การ และการเปลี่ยนแปลง และวิธีการเปลีย่ นแปลง ยอมรับ และยังเป็นสถานศึกษาแห่งแรกของ อย่างหนึ่งที่มุ่งการเปลี่ยนแปลงบุคคลเกือบจะ สถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 4 ที่เปิดการ อย่างเดียวคือ การพัฒนาองค์การการพัฒนา เรียนการสอนในระดับปริญญาตรี สาขาวิชา องค์การจะให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีไฟฟ้า สายปฏิบัติการ ซึ่งสอดคล้อง ทัศนคติ การรับรู้ พฤติกรรม และความ กับงานวิจัยของ จุฑามาศ ชูจินดา, กิติยา คาดหวังของบุคคลในองค์การ ความคิดและ นภาลัย ภู่ตระกูล และ ณภัทร โชคธนินกุล การปฏิบัติของการพัฒนาองค์การจะอยู่บน (2558) พบว่า แรงจูงใจในการศึกษาต่อ พื้นฐานของสมมุติฐานที่สำคัญหลายข้อ คือ ระดบั อุดมศึกษาของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปี บุคคลมีความต้องการที่จะเจริญเติบโตและ ที่ 6 และประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 3 ใน พัฒนา และบุคคลต้องการถูกยอมรับโดย เขตจังหวัดนนทบุรี ในภาพรวมทุกด้านอยู่ใน บุคคลอื่นภายในองค์การ ซึ่งสอดคล้องกับ ระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยแต่ละด้านเรียงลำดับ งานวิจัยของ จำนงค์ อดิวัฒน์สิทธิ์ และสาคร จากมากไปน้อย ดังนี้ เหตตุผลส่วนตัว ปัจจัย ธระที (2555) ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง การพัฒนา ทางเศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ของสถาบัน ปัจจัย ทรัพยากรมนุษย์ของมหาวิทยาลัยจฬุ าลงกรณ ทางสงั คม และบุคคลท่ีเก่ียวข้อง ซ่ึงสอดคล้อง ราชวิทยาลัย พบว่า เป้าหมายของการบริหาร กับงานวจิ ัยของ อนนั ต์ เตียวต๋อย, สรุ กิจ ปราง จัดการทรัพยากรมนุษย์ของมหาวิทยาลัย มี สร และเมธังกร สุธีวร (2558, น. 66) ศึกษา การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร แนวโน้มความต้องการศึกษาต่อสาขาวิชาใหม่ ซ ึ ่ ง จ ะ ต ้ อ ง ไ ด ้ ร ั บ ก า ร อ บ ร ม ใ ห ้ ค ว า ม รู้ ระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ความสามารถและทักษะเพิ่มมีคุณวุฒิทาง ราชมงคลรัตนโกสินทร์ ของนักเรียนช้ัน การศกึ ษาสูงข้นึ มัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า พบว่า นักเรียน นักศึกษามีความต้องการศึกษาต่อ 2. น ั ก ศ ึ ก ษ า น ั ก ศ ึ ก ษ า ร ะ ดั บ สาขาใหม่โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ได้แก่ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 2 สาย คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรม งานไฟฟ้ากำลัง ในจังหวัดนครปฐม มีความ ศาสตร์และการออกแบบ คณะอุตสาหกรรม ต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี สาขาวิชา และเทคโนโลยี และคณะบริหารธุรกิจ และยัง เทคโนโลยีไฟฟ้า สายปฏิบัติการ ของ สอดคล้องกับงานวิจัยของ มีสิทธิ์ ชัยมณี วิทยาลัยเทคนิคนครปฐม ทั้งนี้อาจเป็น (2559, น. 97) ศึกษาเรื่องการศึกษาต่อระดับ เพราะว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่เปิดการเรียน ปริญญาตรีของนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ การสอนสาขาที่ตรงกับสาขาที่นักศึกษาจะ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยปทุมธานี พบว่า สำเร็จการศึกษา ตลอดจนสถานที่ตั้งอยู่ในเขต การศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในภาพอยู่ใน ใกล้เคียงกับภูมิลำเนาของนักศึกษา ทำให้ลด ระดับมาก โดยเรยี งลำดับของค่าเฉลยี่ จากมาก ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเรียน สำหรับ
98 วารสารปญั ญา ปีท่ี 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม – เมษายน 2564) ไปน้อย ดังนี้ ด้านชื่อเสียงของสถาบัน ด้าน ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบาย สถาพเศรษฐกิจ ด้านความสนใจและเหตุผล 1. สถานศึกษาควรจัดทำแผนการ สว่ นตวั และดา้ นบคุ คลท่ีเกย่ี วข้องตามลำดับ ประเมินความต้องการระหวา่ งสถานศึกษาและ สถานประกอบการ สำหรับหน่วยงานของรัฐ ข้อเสนอแนะ ควรร่วมประสานงานในลักษณะทวิภาคีเพื่อ ขอ้ เสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ เกิดความร่วมมืออย่างแทจ้ ริง 1. เชิงปฏิบัติ การนำผลการวิจัยครั้งนี้ ขอ้ เสนอแนะในการวจิ ัยคร้ังตอ่ ไป การวิจัยในครั้งต่อไป ควรทำการศึกษา สถานศึกษาอาชีวศึกษาสามารถศึกษาเพื่อการ วิจัยเรื่อง ความต้องการศึกษาต่อระดับ วางแผนการผลติ กำลงั คน การนำแผนการผลิต ปรญิ ญาตรี สู่การปฏิบัติ สามารถใช้ได้กับสถานศึกษาทุก สาขาวิชาเทคโนโลยีอื่น สายปฏิบัติการ ภูมภิ าค ของวิทยาลัยสังกัดสำนักงานการอาชีวศึกษา ภาคกลาง 4 แหล่งอา้ งองิ จุฑามาศ ชจู ินดา กิตยิ านภาลยั ภู่ตระกูล และณภัทร โชคธนินกลุ . (2558). แรงจงู ใจในการศึกษา ตอ่ ระดับอุดมศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 และประกาศนียบัตรวชิ าชีพ ชั้นปี ที่ 3 ในเขตจังหวัดนนทบุรี. วารสารวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มศว, 9(2), 66-77. จำนงค์ อดิวัฒน์สิทธิ์ และ สาคร ธระที. (2555). การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วทิ ยาลัย. บุญชม ศรีสะอาด. (2543). วธิ กี ารสร้างสถิตสิ ำหรับการวิจัย. กรงุ เทพฯ: สวุ ีริยาสาส์น. บญุ ชม ศรสี ะอาด. (2545). การพัฒนาการสอน. กรุงเทพฯ: ชมรมเด็ก. มีสิทธิ์ ชัยมณี. (2559). ศึกษาเรื่องการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีของนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยปทุมธานี. RMUTSB A cad. J (Humanities and Social Sciences), 1(1), 97-107. สมยศ นาวีการ. (2549). การบริหารและพฤติกรรมองค์การ (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ กรงุ ธนพัฒนา. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2555). แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับท่ี 11 พ.ศ. 2555–2559. กรงุ เทพฯ: สำนกั นายกรัฐมนตร.ี
วารสารปัญญา ปีที่ 28 ฉบับท่ี 1 (มกราคม – เมษายน 2564) 99 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2553). รายงานผลการ ดำเนินงาน 6 เดือนแห่งการ ขับเคลื่อนการปฏิรูปการอาชีวศึกษาทศวรรษที่สอง. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์ พบั ลชิ ชิ่ง. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2555). แนวปฏิบัติเกี่ยวกับหลักสูตรการอาชีวศึกษา ระดบั ปรญิ ญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบตั ิการ. กรงุ เทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศกึ ษา. อนนั ต์ เตยี วตอ๋ ย, สุรกิจ ปรางสร และ เมธังกร สุธวี ร. (2558). ศึกษาแนวโน้มความต้องการศกึ ษา ต่อสาขาวิชาใหม่ ระดับปรญิ ญาตรีของมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรัตนโกสินทร์ ของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลายหรือเทยี บเท่า. นครปฐม: มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี ราชมงคลรตั นโกสินทร์.
Received: 2021-03-15 Revised: 2021-04-07 Research Articles Accepted: 2021-04-08 มาตรการทางกฎหมายในการร้ือฟื้นคดีอาญาสำหรับนกั โทษประหารชีวิต LEGAL MEASURES TO RETRIAL CRIMINAL CASES FOR DEATH SENTENCE PRISONERS เชาวลิต สมพงษเ์ จรญิ 1 Chaowalit Sompongjaroen สังเวียน เทพผา2 Sungwian Thappa โกเมศ ขวัญเมอื ง 2 Gomes Kwanmuang Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และกฎหมายต่างประเทศและประเทศไทย ในการรื้อฟื้นคดีอาญาของนักโทษประหารชีวติ 2) เพื่อวิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมายในการรื้อฟื้นคดีอาญาของ นกั โทษประหารชวี ติ และ 3) เพ่ือเสนอแนะแนวทางแกไ้ ขปญั หาเกย่ี วกับการรื้อฟ้นื คดอี าญาของนกั โทษประหาร ชีวิต รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้แนวคิด ทฤษฎี และมาตรการกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นกรอบการวิจัย กลุ่มผู้ใหส้ ัมภาษณ์ ได้แก่ อาจารย์มหาวิทยาลัย นักกฎหมาย เจ้าหน้าท่ีราชทัณฑ์ พนักงาน อยั การ และข้าราชการตลุ าการ จำนวน 25 คน โดยใช้วิธีคัดเลอื กจากการสมุ่ ตวั อยา่ งแบบกล่มุ เครอื่ งมือที่ใช้ใน การวิจัยมี 2 ชนิด คือ 1) การสัมภาษณ์เชิงลึก 2) การศึกษาวิจัยเชิงเอกสาร วิเคราะห์ข้อมูลแล้วเขียนบรรยาย เชงิ พรรณนา ผลการวจิ ัยพบว่า 1. การรื้อฟื้นคดีอาญาของประเทศไทยสำหรับนักโทษประหารชีวิตไม่สอดคล้องกับมาตรการระหว่าง ประเทศทปี่ อ้ งกนั การดำเนินคดอี าญาทผี่ ดิ พลาด 2. กฎหมายต่างประเทศให้ความคุ้มครองสิทธิของนักโทษประหารชีวิตในการร้ือฟื้นคดอี าญาที่เจาะจง คำนิยามของพยานหลกั ฐานใหม่ท่คี รอบคลุม มกี ารระงบั โทษประหารชีวติ ออกไปพลางกอ่ น คา่ ทดแทน และการ เยยี วยาช่อื เสยี งไดด้ ีกว่ากฎหมายของประเทศไทย 3. ประเทศไทยต้องแก้ไขกฎหมายรื้อฟื้นคดีอาญาให้สิทธิแก่นักโทษประหารชีวิตที่เจาะจง เพิ่มเติมคำ นิยาม การระงับโทษประหารชีวิต ค่าทดแทน และการเยียวยาชื่อเสียง จึงจะสอดคล้องกับมาตรการระหว่าง ประเทศทปี่ ้องกนั การเนินคดอี าญาทีผ่ ิดพลาด ขอ้ คน้ พบจากงานวิจยั สามารถนำผลการวิจยั ไปใช้ประโยชน์ในแก้ไขเพ่ิมเติมจากพระราชบัญญัติการร้ือ ฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 และสามารถนำผลการวิจัยไปใช้ในการศึกษาการรื้อฟื้นคดีอาญาที่มี ความเจาะจงต่อไป เช่น นักโทษจำคุก ผู้ต้องกักขัง เป็นตน้ คำสำคัญ: การร้อื ฟืน้ คดอี าญา, นกั โทษประหารชวี ติ , พยานหลกั ฐานใหม่, คา่ ทดแทน, เยียวยา 1 นักศกึ ษา หลกั สตู รนติ ศิ าสตรดุษฎบี ัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลยั ปทมุ ธานี 2 อาจารยป์ ระจำ หลกั สูตรนิติศาสตรดษุ ฎบี ัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ปทมุ ธานี และที่ปรึกษาดษุ ฎนี พิ นธ์
วารสารปญั ญา ปีท่ี 28 ฉบับท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 101 ABSTRACT The purpose of this research were 1) to study the concepts, theories and laws of foreign countries and Thailand in the retrial of criminal cases for Death Sentence Prisoners, 2) to analyze the legal problems in the retrial of criminal cases for Death Sentence Prisoners, and 3) to suggest solutions of problems related to retrial criminal cases for Death Sentence Prisoners. The research model is a qualitative research using international law concepts, theories, and international law measures as a research framework. The interviewees were lecturers, lawyers, correctional officers, prosecutors and judges from 25 persons using the selection method from random sampling. There are two types of research instruments: 1) in-depth interviews and 2) documentary research studies. By doing Random sampling in drawn data analysis and writing a descriptive narrative. The research results were found that 1. The retrial of criminal cases for Death Sentence Prisoners in Thailand is inconsistent with the international measures to prevent misleading criminal proceedings. 2. The provisions of foreign law are protect the right of Death Sentence Prisoners to retrial specific criminal cases, the definition of the new evidence, suspending the death penalty for a while, compensation and reputation remedies better than the laws of Thailand. 3. Thailand must amend that the retrial of criminal cases by granting a specific right to for Death Sentence Prisoners. Adding definitions, suspending the death penalty for a while, compensation and reputation remedies. Therefore, it is in line with the international measures to prevent misleading criminal proceedings. The findings from the research can be utilized in the amendment to the Retrial of Criminal Cases Act 1983. The research results can then be used to study the retrial of specific criminal cases such as inmates and detainees. Keywords: Retrial criminal cases, Death Sentence Prisoners, New evidence, compensation, Remedy บทนำ ชีวิต การไมม่ ีคำนิยามเรื่องพยานหลักฐานใหม่ การแก้ไขผลของคำพิพากษาที่ถึงที่สุด เพื่อใช้ในการตีความและวินิจฉัย การไม่มี บทบัญญัติในการระงับโทษประหารชีวิต และ ในคดีที่นักโทษต้องโทษประหารชีวิต นอกจาก ความเหมาะสมของค่าทดแทน และการ วิธีการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทาน เยียวยาชื่อเสียงที่ไม่สอดคล้องกับปัจจุบัน อภัยโทษแล้ว นักโทษประหารชีวิตอาจใช้ (พระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้น ทางเลือกในการรื้อฟื้นคดีอาญา แต่การรื้อฟ้ืน พจิ ารณาใหม่ พ.ศ. 2526, 2526) คดีอาญาของนักโทษประหารชีวิตมีข้อจำกัด ทางกฎหมายในเรื่องการไม่ให้สิทธิในการรื้อ ความสำคัญของปัญหากฎหมายในการ ฟ้นื คดีอาญาโดยเจาะจง ระยะเวลาของการยื่น รื้อฟื้นคดีอาญาของนักโทษประหารชีวิตอยู่ คำร้องไม่สอดคล้องกับการบังคับโทษประหาร ตรงที่การไม่ให้สิทธิในการยื่นคำร้องขอโดย
102 วารสารปญั ญา ปที ่ี 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) เจาะจง และการไม่มีบทบัญญัติให้มีการระงับ 4) หลักเกณฑ์ค่าทดแทน และการเยียวยา การบังคับโทษในระหว่างกระบวนการ ชื่อเสียงของนักโทษประหารชีวิต เพื่อ พิจารณาคดี จึงทำให้เมื่อยื่นคำร้องขอแล้ว เสนอแนะแนวทางการการแก้ไขเพิ่มเติม นักโทษอาจถูกประหารชีวิตไปเสียก่อนที่จะ กฎหมายให้มีความสอดคล้องกับเจตนารมณ์ ดำเนินกระบวนพิจารณาสำเร็จ และไม่มีคำ ของพระราชบัญญัติการรื้อฟืนคดีอาญาข้ึน นยิ ามของพยานหลักฐานใหม่ท่ีเป็นลายลักษณ์ พิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 ตอ่ ไป อักษรที่ใช้ในการวินิจฉัยคำร้องขอ และไม่มี การจำแนกค่าทดแทน และการเยียวยา วัตถปุ ระสงค์ ชือ่ เสียงทีเ่ หมาะสม 1. เพื่อศึกษาแนวคิดและทฤษฎี กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประเด็นปัญหา กฎหมายต่างประเทศและประเทศไทยในการ กฎหมายนี้ ได้แก่ ประมวลกฎหมายวิธี รอ้ื ฟื้นคดีอาญาของนักโทษประหารชีวิต พิจารณาอาญา (พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 2. เพื่อวิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมายใน (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2548, 2548) และ การรื้อฟืน้ คดอี าญาของนักโทษประหารชีวิต พ ร ะ ร า ช บ ั ญ ญ ั ต ิ ก า ร ร ื ้ อ ฟ ื ้ น ค ด ี อ า ญ า ขึ้ น พิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 ในประเด็นของการ 3. เพื่อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหา ให้สิทธิในการยื่นคำร้องร้องขอ การตีความ เกี่ยวกับการรื้อฟื้นคดีอาญาของนักโทษ และวินิจฉัยขอบเขตของคำว่าพยานหลักฐาน ประหารชีวิต ใหม่ การระงับโทษประหารชีวิต และค่า ทดแทนทีเ่ หมาะสม โดยพเิ คราะห์เปรียบเทียบ วธิ ดี ำเนินการวิจยั กับแนวคิด ทฤษฎี หลักการ และกฎหมาย 1. ขอบเขตประชากรและกลุ่ ม ต่างประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอแนะแนว ทางแก้ไขเชิงนโยบายในการแก้ไขเพิ่มเติม ตัวอย่าง พระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาข้ึน ประชากร ได้แก่ อาจารย์มหาวิทยาลัย พิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 เพื่อให้เกิดการ ค ุ ้ มครองส ิ ทธ ิ ของน ั กโ ท ษป ร ะหารช ี ว ิ ต ท่ี นักกฎหมาย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ พนักงาน ครอบคลุมมากย่ิงข้ึน อยั การ และขา้ ราชการตุลาการ บทความวิจัยนี้จะนำเสนอมาตรการ กล ุ ่ มต ั วอย ่ าง ได ้ แก ่ อาจารย์ ทางกฎหมายในการรื้อฟื้นคดีอาญาสำหรับ มหาวทิ ยาลัย นกั กฎหมาย เจา้ หนา้ ที่ราชทัณฑ์ นักโทษประหารชีวิต ในประเด็นทางกฎหมาย พนักงานอัยการ และข้าราชการตุลาการ กลุ่ม ดังต่อไปนี้ ได้แก่ 1) การไม่ให้สิทธิแก่นักโทษ ละ 5 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 25 คน ซึ่งได้มา ประหารชีวิตในการร้ือฟ้ืนคดีอาญาโดยเจาะจง จากการสมุ่ ตัวอยา่ งแบบกลมุ่ 2) คำนิยามเรื่องพยานหลักฐานใหม่ 3) การ ระงับโทษประหารชีวิตออกไปพลางก่อน และ 2. ขอบเขตเน้อื หา 2.1 แนวความคิด ทฤษฎี หลักการ และมาตรการทางกฎหมายระหว่างประเทศใน การปฏิบัติต่อนักโทษประหารชีวิต และสิทธิ มนุษยชนในกระบวนยุติธรรมทางอาญา และ มาตรการทางกฎหมายระหว่างประเทศท่ี
วารสารปัญญา ปีที่ 28 ฉบับท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 103 ป้องกันปัญหาในการดำเนินคดีอาญาที่ 4. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ผิดพลาด กระทำทั้งข้อมูลปฐมภูมิจาก ภาคสนามโดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ และ 2.2 กลไกการรื้อฟื้นคดีอาญาสำหรับ ข้อมูลทุติยภูมิ จากการค้นคว้าจาก เอกสาร นักโทษประหารชีวิตของรัฐต่างประเทศ ได้แก่ งานทางวิจัย ฯ ซง่ึ มีขน้ั ตอนในการเก็บรวบรวม สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้แก่ 1) รวบรวมข้อมูล ศึกษาเอกสาร ประเทศญ่ีปนุ่ สาธารณรฐั ฝรงั่ เศส และสหพันธ์ กฎหมาย 2) สร้างแบบสัมภาษณ์ภายใต้ สาธารณรัฐเยอรมนี สมมติฐานของการวิจัย และกรอบแนวคิดใน การวิจัย 3) คัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิ 4) นำแบบ 2. 3 ม า ต ร ก า ร ท า ง ก ฎ ห ม า ย สัมภาษณ์เชิงลึกไปสัมภาษณ์จริง และ 5) ต่างประเทศในการจ่ายค่าทดแทนในคดีอาญา รวบรวมขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการสมั ภาษณ์ ที่ผิดพลาด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราช 5. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล อาณาจักร ประเทศญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี 5.1 วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบ สหพนั ธส์ าธารณรัฐเยอรมนี แนวความคิด ทฤษฎี หลักการ และมาตรการ ระหว่างประเทศ สิทธิมนุษยชนในกระบวน 2.4 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ยตุ ธิ รรมทางอาญา และมาตรการทางกฎหมาย ความอาญา พระราชบัญญัติการรื้อฟ้ืน ระหว่างประเทศที่ป้องกันปัญหาในการ คดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 และ ดำเนนิ คดอี าญาท่ผี ิดพลาด พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่า 5.2 วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบ ทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา กลไกการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่และ พ.ศ. 2544 การจ่ายค่าทดแทนสำหรับนักโทษประหาร ชีวิตของรัฐต่างประเทศ และกฎหมายของ 3. เครอื่ งมือทีใ่ ช้ในการวิจัย ประเทศไทย 3.1 ข้อมูลปฐมภูมิ ได้จากการ 5.3 วเิ คราะห์ขอ้ มูลท่ีได้การสมั ภาษณ์ สัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 กลุ่ม จากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้ได้ข้อมูลในเชิงลึกที่มีความเหมาะสม เกี่ยวกับกระบวนการรื้อฟื้นคดีอาญาข้ึน ภายใต้กรอบแนวคิดในการวิจัย ด้วยการออก พิจารณาใหม่ แบบสอบถามแบบปลายปิดในประเด็นท่ี กำหนด และแบบปลายเปิดเพื่อเปิดกว้างให้ สรุปผลการวิจยั แสดงความคิดเหน็ 1. ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการ 3.2 ข้อมูลทุติยภูมิ เป็นข้อมูลที่ได้ มากการรวบรวมเอกสาร แนวคิด ทฤษฎี ไม่ให้สิทธิแก่นักโทษประหารชีวิตในการร้ือ ผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ใช้การศึกษาวิจัยเชิง ฟื้นคดอี าญาโดยเจาะจง เอกสารเป็นหลัก โดยศึกษาจากแนวคิด ทฤษฎี มาตรการระหว่างประเทศ กฎหมายของ ผลการวิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมาย ต่างประเทศ และประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับ พบว่า ประเทศไทยยังมิได้ให้สิทธิต่อนักโทษ การรื้อฟื้นคดีอาญา และค่าทดแทนตาม กฎหมาย
104 วารสารปัญญา ปที ี่ 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) ประหารชีวิตในการรื้อฟื้นคดีอาญาโดยเจาะจง ประหารชีวิต” เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิ และ จึงทำให้ต้องตกอยู่ภายใต้การบังคับโทษ กอ่ ให้กระบวนการคมุ้ ครองสิทธิโดยเจาะจง ประหารชีวิตที่ไม่แน่นอน จึงอาจทำให้อาจ สูญเสียสถานะของบุคคลผู้ยื่นคำร้องขอให้มี 2. ปัญหาทางกฎหมายเรื่องคำนิยาม การรื้อฟื้นคดีอาญาเพราะอาจถูกประหารชีวิต เร่ืองพยานหลักฐานใหม่ ไปเสียก่อนที่จะได้รับพิสูจน์ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายต่างประเทศ ผลการวิจัยคำนิยามเรื่อง พบว่า ในสหรัฐอเมริกา เมื่อนักโทษประหาร พยานหลักฐานใหม่ พบวา่ ประเทศไทยยังมิได้ ชวี ิตมสี ทิ ธิท่ไี ด้ย่ืนคำร้องฯ ขอให้ปล่อยตัวและ กำหนดคำนิยามเรื่องพยานหลักฐานใหม่เอาไว้ ขอเลื่อนการลงโทษประหารชีวิตในระหว่าง เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขประกอบการตีความ และ การรื้อฟื้นคดีอาญา รวมไปถึงอาจขอให้พัก วินิจฉัยของศาล ทำให้ผู้ร้องก็ไม่มีหลักเกณฑ์ การบังคับโทษประหารชีวิตไปในระหว่างนั้นก็ ในการเขียนคำร้องเพื่อโต้แย้งคำพิพากษาเดิม ไ ด ้ ( US Supreme Court, 2019) ใ น และไม่มีเงื่อนไขตามคำขอที่ผู้ยื่นคำร้องอาจ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พนักงานอัยการมี ขอให้ได้รับยกเว้นโทษ หรือได้รับโทษน้อยลง อำนาจที่ยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ออกคำส่ัง ได้ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกา พบว่า ระงับการบังคับโทษประหารชีวิตในระหว่าง คำนิยามเรื่องพยานหลักฐานใหม่ กฎหมาย นั้นและแม้ว่าจะได้รัฐจะได้มีคำสั่งให้ประหาร กำหนดว่าจะต้องเพิ่งค้นพบใหม่ภายในสามปี ชีวิตไปแล้ว พนักงานอัยการก็มีอำนาจยื่นคำ นับแต่วันที่ศาลได้มีคำพิพากษาว่าผิด (The ร้องได้เช่นกัน (The Working Group of the National Court Rules Committee, 2020) R. O. C Laws & Regulations Database, และในกฎหมายระดับรัฐ จะต้องมเี หตุเพิ่มเติม Ministry of Justice, online, 2019) ส่วนใน ด้วยว่าจะต้องเป็นสาระสำคัญของการ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อนักโทษประหารชีวิตได้ย่ืน พิจารณาคดีเป็นอย่างยิ่ง และไม่ทราบว่ามีอยู่ คำรอ้ งขอให้รื้อฟน้ื คดีอาญา พนักงานอัยการมี ในระหว่างพิจารณาคดีเดิม ท้ัง ๆ ท่ีได้ใช้ความ อำนาจขอให้ระงับการประหารชีวิตได้เช่นกัน พยายามค้นหาพยานหลักฐานอย่างเต็มที่แล้ว ( Japanese Law Translation Database นอกจากนี้ กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา System, 2020a) ของรัฐบาลกลางยังได้บัญญัติว่าหากเป็นกรณี ของนักโทษประหารชีวิตที่ยื่นคำร้องขอให้มี จากการให้สัมภาษณ์ของผู้ทรงคุณวุฒิ การรื้อฟื้นคดีอาญา นักโทษประหารชีวิตอาจ ทั้ง 5 กลุ่ม มีความเห็นตรงกันว่าสมควรที่จะ คัดค้านว่าผลการตรวจดีเอ็นเอที่เคยถูก บัญญัติให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ นำมาใช้ในคดีเดิมว่าเป็นพยานหลักฐานที่ไม่ การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ. ถ ู กต ้ องได้ อ ี กด ้ วย (Legal Information 2526 มาตรา 6 โดยบัญญัติให้สิทธิต่อนักโทษ Institute - Cornell University, 2019) ประหารชีวิตโดยตรง ความว่า “บุคคลที่ต้อง รับโทษอาญาโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้ ส่วนสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และ ประเทศญี่ปุ่น ยังได้กำหนดเงื่อนไขอีกว่าหาก จำเลยอาจยื่นคำร้องโดยใช้พยานหลักฐานใหม่ ทอ่ี าจทำให้ตนไดร้ บั ยกเว้นโทษ หรือได้รับโทษ
วารสารปัญญา ปที ี่ 28 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 105 น้อยลงได้อีกด้วย ส่วนสาธารณรัฐฝรั่งเศส ผลการวิเคราะห์กฎหมายเกี่ยวกับการ พยานหลักฐานใหม่ยังรวมไปถึงกรณีที่ผู้ยื่นคำ ระงับโทษประหารชีวิต พบว่า ประเทศไทยไม่ ร้องอ้างว่าผู้ตายในคดีฆาตกรรมยังมีชีวิต และ มีบทบัญญัติให้มีการระงับโทษประหารชีวิต แสดงหลักฐานดังกล่าวต่อศาล (Niyomthai, อ อ ก ไ ป พ ล า ง ก ่ อ น ใ น ร ะ ห ว ่ า ง ก า ร ร ื ้ อ ฟื้ น 2017, p. 143) กรณีนี้คำกล่าวอ้างน้ีถือว่าเป็น คดีอาญา จึงทำให้นักโทษประหารชีวิตตกอยู่ พยานหลักฐานใหมส่ ำหรับคดีฆาตกรรม ในความเสี่ยงที่จะถูกพรากสิทธิในระหว่างการ พิจารณาคดี และการยื่นคำร้องขอไม่มีผลทาง ส่วนในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี มี กฎหมายเป็นการระงับการประหารชีวิต ซึ่ง การกำหนดเงื่อนไขเรื่องพยานหลักฐานใหม่ท่ี เมื่อเปรียบเทียบกฎหมายของสหรัฐอเมริกา คอ่ นข้างกว้าง ๆ ซึง่ รวมถึงข้อเทจ็ จริงใหม่ทุก ๆ นักโทษประหารชีวิตอาจใช้สิทธิยื่นคำร้อง ชนิดที่มีความเป็นไปได้ และส่งผลดีแก่ผู้ยื่นคำ ขอให้ปล่อยตัว และอาจร้องขอให้พักการ ร้อง และพยานหลักฐานใหม่นั้นจะต้องมีอยู่ บังคับโทษไปพลางก่อนในระหว่างการรื้อฟ้ืน แล้วในช่วงเวลาของการอ่านคำพิพากษาเดิม คดีอาญาก็ได้ หากศาลเห็นว่าพยานหลักฐานท่ี ซ่ึงหากนำมาพิจารณาในคดีเดิมแล้วจะไปสู่การ ใชร้ ้องขอน้ันมมี ูล (Larson, 2019) ยกฟอ้ งได้ (ตามมาตรา 359 อนมุ าตรา (5)) ส่วนในสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) การรื้อ จากการให้สัมภาษณ์ของผู้ทรงคุณวุฒิ ฟื้นคดีอาญาไม่เป็นเหตุให้ระงับโทษประหาร ทั้ง 5 กลุ่ม มีความเห็นตรงกันว่าสมควร ชีวิต แต่กฎหมายให้อำนาจพนักงานอัยการมี กำหนดคำนิยามของพยานหลักฐานใหม่เพ่ือ อำนาจที่ยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ออกคำส่ัง ช่วยในการตีความ และวินิจฉัยของศาล และ ระงับการประหารชีวิตในระหว่างการรื้อฟ้ืน เพื่อใช้ในเป็นแนวทางในการเขียนคำร้องขอ คด ี อาญา แม ้ ว ่ าจะมี การอน ุ ม ั ติ ข อง ของบุคคลผู้ยื่นคำร้อง คำนิยามจะต้องระบุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ ระยะเวลาของพยานหลักฐานที่ถูกค้นพบใหม่ ดำเนินการประหารชีวิตในระหว่างการรื้อฟื้น ภายหลังคำพิพากษาถึงที่สุดเดิม และต้อง คดีอาญา กฎหมายกำหนดให้มีการคุ้มครอง กำหนดให้การสามารถใช้การตรวจสอบดีเอ็น สิทธิโดยพนักงานอัยการก็มีอำนาจร้องขอให้ เอเป็นพยานหลักฐานใหม่ได้ด้วย ทั้งนี้ ควร ระงับการประหารชีวิตได้ภายใน 3 วันนับแต่มี ต้องระบุเงื่อนไขในการยื่นคำร้องอื่นเพิ่มเติม คำสัง่ อนมุ ัตินั้น นอกจากการพิสูจน์ว่าไม่มีความผิด โดย เพิ่มเติมการร้องขอให้ได้รับการยกเว้นโทษ ส่วนประเทศญี่ปุ่น กฎหมายได้กำหนด หรือได้รับโทษน้อยกวา่ ที่ระบุไว้ในคำพิพากษา ว่าพนักงานอัยการมีอำนาจขอให้มีการระงับ เดิม เพื่อประโยชน์ในการรื้อฟื้นคดีอาญา และ การประหารชีวิตได้จนกว่าจะมีการวินิจฉัย ตรงกับความต้องการของผู้ยื่นคำร้องได้มาก ตามคำร้องขอในการรื้อฟื้นคดีอาญา หากศาล ย่งิ ขึ้น เห็นสมควร ศาลอาจสั่งระงับโทษประหารชีวิต ไปพลางก่อนก็ได้ กฎหมายยังใหอ้ ำนาจแก่ศาล 3. ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการ ที่ได้รับคำร้องขอให้มีการรื้อฟื้นคดีอาญามี ระงับโทษประหารชีวติ อำนาจสั่งระงับการบังคับโทษประหารชีวิต
106 วารสารปญั ญา ปที ่ี 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) เอาไว้ชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาคดีด้วย สุขภาพ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ประกอบการ เ ช ่ น ก ั น ( Japanese Law Translation พิจารณาของศาล และในสาธารณรัฐจีน Database System, 2020b) (ไต้หวัน) ประเทศญี่ปุ่น สหพันธ์สาธารณรัฐ เยอรมนี และสาธารณรัฐเกาหลี ยังได้ จากการให้สัมภาษณ์ของผู้ทรงคุณวุฒิ กำหนดการเยียวยาชื่อเสียงเอาไว้วา่ หากมีการ ทั้ง 5 กลุ่ม มีความเห็นตรงกันว่าสมควรให้มี รื้อฟื้นคดีอาญาสำเรจ็ ให้มีการประกาศผลของ การแก้ไขกฎหมายการร้ือฟ้ืนคดีอาญาให้มีการ คำพิพากษานั้นในราชกิจจานุเบกษา หรือใน ระงับโทษประหารชีวิตออกไปพลางก่อน ไม่ว่า หนังสือพิมพ์ (Lueotchanakun, 2007, p. จะเป็นการระงับโทษประหารชีวิตโดยผลของ 29-34) เพื่อให้ชื่อเสียงที่สูญเสียไปกลับคืนดี กฎหมายเมื่อมีการยื่นคำร้องขอ หรืออาจ และเกิดผลทางกฎหมายที่ถือว่าบุคคลทุกคน กำหนดให้ศาลเป็นผู้สั่งให้ระงับการประหาร ทราบผลของคำพิพากษาว่าเป็นผู้บริสุทธ์ิ ชีวิต หรือกำหนดให้พนักงานอัยการเป็นผู้ยื่น นอกจากนี้ ในสาธารณรฐั ฝร่ังเศส ยงั ไดก้ ำหนด คำร้องให้มีให้ระงับการประหารชีวิต หรืออาจ หลักเกณฑ์เพิ่มเติมให้มีการโฆษณาผลของคำ ให้สิทธิแก่นักโทษประหารชีวิตในการยื่นคำ พิพากษาในเมืองต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีเดิม ร้องโดยตนเอง หรืออาจกำหนดให้มีการร้อง ดว้ ย ขอให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ระงับ โทษประหารชีวิตแทนตนก็ได้ เพื่อให้ จากการให้สัมภาษณ์ของผู้ทรงคุณวุฒิ กระบวนการรื้อฟื้นคดีอาญาสำหรับนักโทษ ทั้ง 5 กลุ่ม มีความเห็นตรงกันว่าสมควรแก้ไข ประหารชีวิตดำเนินไปได้ด้วยต่อเนื่อง เป็น เพิ่มเติมให้มีกำหนดค่าทดแทนสำหรับนักโทษ ธรรม และทำให้ไดร้ ับค่าทดแทนดว้ ยตนเอง ประหารชีวิตเป็นการเจาะจงภายหลังมีการรื้อ ฟื้นคดีอาญาสำเร็จ โดยควรได้รับค่าทดแทน 4. ปญั หาทางกฎหมายเรื่องหลักเกณฑ์ เป็นจำนวนห้าแสนบาทขึ้นไปหากยังมีชีวิตอยู่ ค่าทดแทน และการเยียวยาชื่อเสียงที่ โดยกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายทดแทน เช่น ครอบคลุมของนกั โทษประหารชีวิต การสูญเสียอาชีพ หรือรายได้ ระยะเวลาจำคุก ความเสียหายต่อสุขภาพ และจิตใจฯ และ สำหรับปัญหาทางกฎหมายเรื่อง จำแนกค่าทดแทนออกเปน็ ประเภทต่าง ๆ เชน่ หลักเกณฑ์ค่าตอบแทนและการเยียวยา ค่าทดแทนความเจ็บป่วย หรือสูญเสีย ชื่อเสียงที่ครอบคลุมของนักโทษประหารชีวิต สมรรถภาพฯ ค่าทดแทนกรณีสูญเสยี ค่าใช้จ่าย พบว่า สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ในการดำเนินคดี และค่าใชจ้ ่ายจำเปน็ อย่างอื่น ประเทศญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สหพันธ์ โ ด ย ค ิ ด จ า ก อ ั ต ร า ค ่ า ท ด แ ท น ท ี ่ ใ ก ล้ เ ค ี ย ง สาธารณรัฐเยอรมนี ได้บัญญัติเอาไว้ในทำนอง กฎหมายอื่นในปัจจุบัน และต้องกำหนดให้มี เดียวกันว่าการจ่ายค่าทดแทนจกการรื้อฟ้ืน การเยียวชื่อเสียงโดยการประกาศผลของคำ คดีอาญาจะพิจารณาจากความร้ายแรงของ พิพากษาในหนังสือพิมพ์ หรือราชกิจจา ความผิด และโทษที่ได้รับ และมีการกำหนด นุเบกษาเพือ่ ใหช้ ่ือเสยี งทส่ี ูญเสียไปกลับคืนมา หลักเกณฑ์การพิจารณาอย่างละเอียด เช่น การสูญเสียอาชีพ หรือรายได้ ระยะเวลาที่ถูก ควบคุมตัว ความเสียหายในทางทรัพย์สิน
วารสารปัญญา ปีท่ี 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 107 อภปิ รายผลการวจิ ัย พยานหลักฐานใหม่ได้อย่างถูกต้องตาม 1. อภิปรายปัญหาทางกฎหมาย เจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการรื้อฟื้น คดีอาญาขน้ึ พิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 ทำให้ไม่ เกี่ยวกับการไม่ให้สิทธิแก่นักโทษประหารชีวิต มีกรอบของคำนิยามเป็นแนวทางการเขียนคำ ในการรื้อฟื้นคดีอาญาโดยเจาะจง พบว่า เมื่อ ร้องเพื่อโต้แย้งคำพิพากษาเดิมได้อย่างถูกต้อง สรุปผลการเปรียบเทียบกับทฤษฎีกฎหมาย และอาจทำให้สูญเสียสิทธิที่จะได้รับการ พบว่า ประเทศไทยไม่มีการให้สิทธิโดยแก่ พิจารณาจากศาลได้ และเมื่อศาลได้รับคำร้อง นักโทษประหารชีวิตโดยเจาะจง จึงทำให้ตก แล้ว การไม่มีคำนิยาม ทำให้ศาลไม่มีเคร่ืองมือ อยู่ในสถานะทางกฎหมาย และกระบวนการ ที่ใช้ในการตีความ และวินิจฉัยพยานหลักฐาน บังคับโทษประหารชีวิตที่แตกต่างจากนักโทษ ใหม่ตามคำร้องที่เข้าสู่กระบวนการพิจารณา เด็ดขาดอื่น จึงไม่อาจใช้สิทธิได้อย่างเท่าเทียม ดังนี้ จึงสมควรที่จะเพิ่มเติมคำนิยามเรื่อง กับนักโทษเด็ดขาดอื่นได้ จึงเป็นการเลือก พยานหลักฐานใหม่ เพื่อให้เกิดการคุ้มครอง ปฏบิ ัตโิ ดยไม่เป็นธรรมไมส่ อดคล้องกับแนวคิด สิทธิแก่นักโทษประหารชีวิต และช่วยให้ศาล ระหว่างประเทศ และมาตรการที่ป้องกัน ในการตคี วาม และวินิจฉยั คำรอ้ งได้ตรงตามคำ ปัญหาในการดำเนินคดีอาญาที่ผิดพลาด และ นิยาม และเจตนารมณ์ของของกฎหมายย่าง กระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่เกี่ยวข้อง แทจ้ ริง ส่งผลเสียต่อนักโทษประหารชีวิตโดยตรงใน ฐานะที่เป็นผูท้ รงสทิ ธิ ทำให้ไม่สามารถใช้สิทธิ 3. อภิปรายปัญหาทางกฎหมาย ในการรื้อฟื้นคดีอาญาได้อย่างเต็มที่ และเท่า เกี่ยวกับการระงับโทษประหารชีวิต เมื่อ เทียมกับผู้มีสิทธิรายอื่น ประเทศไทยจึงต้อง สรุปผลเปรียบเทียบปัญหาทางกฎหมายกับ สร้างมาตรการทางกฎหมายในการรื้อฟ้ืน ทฤษฎีกฎหมาย พบว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้ คดีอาญาให้กับนักโทษประหารชีวิตท่ีประสงค์ ความสำคัญต่อการร้ือฟื้นคดีอาญาของนักโทษ จะใช้สิทธิโดยเฉพาะเจาะจง และต้องกำหนด ประหารชีวิตที่สิทธิในการยื่นคำร้องที่สิทธินั้น มาตรการทางกฎหมายที่เป็นหลักประกันว่า อาจถกู ระงบั ลงดว้ ยการถูกลงโทษประหารชีวิต นักโทษประหารชีวิตจะต้องมีชีวิตอยู่จนกว่า ในระหว่างการรื้อฟื้นคดีอาญา เมื่อเป็นเช่นน้ี กระบวนการรอ้ื ฟืน้ คดีอาญาสำเร็จ จึงไม่เป็นการสอดคล้องกับหลักวิธีพิจารณา ความอาญาที่ดี และหลักการดำเนินคดีที่เป็น 2. อภิปรายปัญหาทางกฎหมายเร่ืองคำ ธรรม และหลกั ความยุตธิ รรมสำหรบั เหย่ือตาม นิยามเรื่องพยานหลักฐานใหม่ พบว่า เม่ือ ปฏิญญาว่าด้วยหลักความยุติธรรมขั้นพื้นฐาน สรุปผลเปรยี บเทียบกับทฤษฎีกฎหมาย การไม่ สำหรับเหยื่ออาชญากรรมฯ ที่กำหนดให้รัฐ มีคำนิยามเรื่องพยานหลักฐานใหม่ จึงทำให้ ต้องสร้างกระบวนการคุ้มครองสิทธิของ เห็นได้ว่าประเทศไทยไม่มีการวางมาตรการ นักโทษประหารชีวิตในระหว่างการรื้อฟื้น ทางกฎหมายเพื่อป้องกันปัญหาในการ คดีอาญาโดยถือว่าเป็นเหยื่อของกระบวนการ ดำเนินคดีอาญาที่ผิดพลาดท่ีเป็นหลักประกัน ยุติธรรมที่ผิดพลาด และการชดใช้เยียวยาท่ี ว่านักโทษประหารชีวิตสามารถยื่นคำร้อง เหมาะสม ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยมีความจำ ขอให้มีการรื้อฟื้นคดีอาญาโดยใช้เงื่อนไขของ
108 วารสารปัญญา ปีที่ 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) เป็นที่ต้องวางมาตรการทางกฎหมายในการรื้อ ธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างใน ฟื้นคดีอาญาที่เอื้ออำนวยนักโทษประหารชีวิต เรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ความพิการ สภาพ สามารถใช้สิทธิในการรื้อฟื้นคดอี าญาได้จนจบ ทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคลฯ อัน กระบวนการพิจารณา โดยให้มีการระงับโทษ ไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนั้น เม่ือ ประหารชีวิตออกไปพลางก่อน เพื่อเป็น ถูกนำมาใช่ในการกำหนดการให้มีสิทธิในรื้อ หลักประกันให้การรื้อฟื้นคดีอาญาของนักโทษ ฟื้นคดีคดีอาญาที่ให้สิทธิแก่บุคคลผู้ต้องคำ ประหารชวี ิตสำเรจ็ ลงได้ พิพากษาถึงท่ีสุดในคดีอาญา แม้จะมองจาก ความเป็นภาวะวิสัยของกฎหมายที่ให้สิทธิ 4. อภิปรายปัญหาทางกฎหมายเรื่อง อย่างเท่าเทียมโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติก็ตาม หลักเกณฑ์การจ่ายค่าทดแทนที่ครอบคลุม แต่โดยแท้จริงแล้ว บุคคลผู้ต้องรับโทษทาง ให้กับนักโทษประหารชีวิต พบว่า เมื่อสรุปผล อาญาเหล่านั้นกลับมีความแตกต่างอย่างมี เปรียบเทียบปัญหาทางกฎหมายกับแนวคิด นัยสำคัญของในสถานของโทษที่ได้รับตามคำ ระหว่างประเทศ ประเทศไทยยังมิได้วาง พิพากษา จะเห็นได้ว่าความเสมอภาคทาง มาตรการทางกฎหมายในการเยียวยาความ กฎหมายไม่ได้มีส่วนช่วยให้บุคคลผู้ได้รับ เสียหายทีเ่ กิดขึ้นกับนักโทษประหารชวี ิตท่ีเป็น ผลร้ายจากกระบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาด การเจาะจง ไม่มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาค่า ได้รบั ความเสมอภาคทางกฎหมายอย่างแท้จริง ทดแทน ไม่มีการจำแนกค่าทดแทนออกเป็น แต่กลับเป็นการเลือกปฏิบัติเพราะกฎหมาย ประเภทต่าง ๆ ที่เหมาะสม และไม่มีมาตรการ การรื้อฟื้นคดีอาญามิได้จำแนกบุคคลผู้ยื่นคำ ทางกฎหมายที่เป็นการเยียวยาชื่อเสียง ทำให้ ร้องขอให้มีการรื้อฟื้นคดีอาญาออกเป็นสอง ศาลไม่มีหลักเกณฑ์การพิจารณาค่าทดแทน ประเภท ได้แก่ นักโทษประหารชีวิตที่ และ จึงไม่อาจกำหนดค่าทดแทนที่ครอบคลุมความ นักโทษเด็ดขาดในคดีอื่น ซึ่งมีมีความแตกต่าง เสียหายท่ีนักโทษประหารชีวิตได้รับ จงึ สมควร ไปการบังคับโทษตามประมวลกฎหมายวิธี ที่จะบัญญัติหลักเกณฑ์การพิจารณาการค่า พิจารณาความอาญา นักโทษประหารชีวิตตก ทดแทน และจำแนกค่าทดแทนออกเป็นกรณี อยู่ภายใต้เงื่อนไของการบังคับโทษประหาร ต่าง ๆ เช่น ค่าทดแทนการสูญเสียอาชีพ การ ชีวิตเร่ืองเวลาในการบังคับโทษที่แตกต่างจาก ขาดประโยชนท์ ำมาหาได้ และตอ้ งกำหนดให้มี นักโทษอื่น ๆ จึงทำให้ระยะเวลาที่อาจใช้สิทธิ ค่าทดแทนเกีย่ วกับการเยียวยาชื่อเสียง เพื่อให้ ในการรื้อฟื้นคดีอาญาได้มีระยะเวลาที่สั้นกว่า เกดิ การเยยี วยาความเสยี หายที่แท้จริง และทำ เพราะระยะเวลาบังคับโทษขัดแย้งกับระเวลา ให้ช่อื เสียงทีส่ ญู เสยี ไปแลว้ กลับคืนมา ของการร้ือฟนื้ คดีอาญา จงึ ทำให้ไม่อาจใช้สิทธิ ได้เท่าเทียมกับนักโทษประเภทอื่น จึงทำให้ องค์ความรู้จากการวจิ ยั เกิดช่องว่างของการบังคับใช้กฎหมายเพราะ 1. ตามหลักความเสมอภาคต่อหน้า เกิดเงื่อนไขของการใช้สิทธิท่ีแตกต่างกัน และ นักโทษประหารชวี ิตอาจถูกพรากไปเสียก่อนท่ี กฎหมายที่ให้สิทธิผู้รื้อฟื้นคดีอาญาอย่างเท่า เทียม และห้ามมิให้รัฐในฐานะที่เป็นองค์กร ผู้ใช้อำนาจปกครองเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็น
วารสารปญั ญา ปีท่ี 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 109 ตนจะได้ใชส้ ิทธิ หรอื สูญเสียสิทธิไปในระหว่าง อยู่อย่างไร ซึ่งสามารถทำให้เกิดทำนายผลของ กระบวนการรือ้ ฟืน้ คดีอาญาจะสำเรจ็ การวนิ จิ ฉัยของคำนยิ ามน้ันได้อย่างแมน่ ยำ การให้สิทธิในการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้น กรอบของการกำหนดคำนิยามควรท่ี พิจารณาใหม่เป็นการเฉพาะเจาะจง โดย จะต้องสอดคล้องต้องกันในสี่เงื่อนไข กล่าวคือ คำนึงถึงเงื่อนไชของการได้รับโทษทางอาญา เงื่อนไขในทางลายลักษณ์อักษร เงื่อนไขของ เป็นเรื่องสำคัญมากกว่าที่จะให้สิทธิโดยเท่า เจตนารมณ์ของกฎหมาย เง่ือนไขทางท่ีมาและ เทียมกันทางภาวะวิสัยของกฎหมาย กระบวนการบัญญัติกฎหมาย และเง่ือนไขทาง สาระสำคัญที่ควรมีต่อการรื้อฟื้นคดีอาญา ระบบของกฎหมายที่ใช้บังคับในประเทศไทย สำหรับนักโทษประหารชีวิต จึงควรให้ให้สิทธิ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการตีความกฎหมาย ที่มีความเจาะจงยิ่งกว่า โดยแยกนักโทษ อาญาในเชิงสารัตถะและเนื้อหากฎหมาย ประหารชีวิตผู้ใช้สิทธิเป็นการเฉพาะ รวมถึง อาญาตามตวั อักษร เจตนารมณ์ ประวัติศาสตร์ กระบวนการใช้สิทธิในการรื้อฟื้นคดีอาญาข้ึน กฎหมาย และระบบของกฎหมาย พิจารณาใหม่เท่าที่จำเป็น เพื่อให้การรื้อฟ้ืน ความสัมพันธ์เช่นนี้จะทำให้คำนิยามมีความ คดีอาญาดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและเป็น แน่นอนไม่ว่าจะในเชิงของคดีความ หรือทาง ธรรมแก่ผูย้ ่ืนคำร้องขอให้มีการร้ือฟ้ืนคดีอาญา วิชาการ ขึ้นพิจารณาใหม่ จึงจะทำให้เกิดความเสมอ ภาคตอ่ หนา้ กฎหมายอย่างแท้จรงิ เมื่อใช้วิธีการกำหนดคำนิยามเช่นนี้ จะ เป็นการปิดช่องว่างของการตีความกฎหมายที่ จึงสรุปได้ว่า การจำแนกรายละเอียด ไม่ขึ้นอยู่กับอัตวิสัยของผู้บังคับใช้กฎหมาย ท า ง ส า ร บ ั ญ ญ ั ติ ข อ ง ก ร ะ บ ว น ก า ร ร ื ้ อ ฟื้ น และก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในใช้กฎหมายมาก คดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่โดยละเอียด จะ ยิ่งขึ้น คำนิยามจะมีความชัดเจน ครอบคลุม ก่อให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมอย่าง สารัตถะ และเนื้อหาสำคัญทั้งหมดที่ต้องใช้คำ แท้จริง รวมถงึ สว่ นขยายของสถานะของบุคคล นิยามเป็นเครื่องตัดสิน ซึ่งแตกต่างจากคำ ที่สมควรได้รับการรื้อฟื้นคดีอาญา เพื่อให้ นิยามท่ีกำหนดขึ้นเองโดยไม่คำนึงถึงเรื่อง บุคคลผู้มีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย ดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ผลของการตีความที่ ตระหนักถึงสิทธิในการรื้อฟื้นคดีอาญาที่ความ เกิดผลประหลาดอันไม่น่าจะเป็นและอาจทำ เจาะจงมากยิง่ ขน้ึ และกอ่ ให้เกิดความคุ้มครอง ให้เกิดผลกระทบการอำนวยความยุติธรรมใน สิทธิอย่างแทจ้ รงิ ภาพรวม 2. สาระสำคัญของการกำหนดคำนิยาม จึงสรุปได้ว่า การกำหนดคำนิยามของ เพื่อปฏิบัติการตามกฎหมาย แสดงให้เห็นถึง กฎหมายต้องใช้วิธีการกำหนดคำนิยามที่มี ความต้องการที่จะให้มีความหมายเป็นการ ความสัมพันธ์ต่อหลักการตีความกฎหมาย เฉพาะเจาะจง และมีความแตกต่างจาก อาญา ซึ่งการกำหนดคำนิยามต้อง ความหมายโดยทั่วไป เป็นการแสดงถึงนัยยะ ประกอบด้วยเงื่อนไขในทางลายลักษณ์อักษร สำคัญของเจตนารมณ์ และกรอบของการ เงื่อนไขของเจตนารมณ์ของกฎหมาย เงื่อนไข ตีความกฎหมายว่ามีขอบเขตทางเนื้อหาว่ามี ทางที่มาและกระบวนการบัญญัติกฎหมาย
110 วารสารปัญญา ปที ่ี 28 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) และเงื่อนไขทางระบบของกฎหมายที่ใช้บังคับ บังคับโทษประหารชีวิตที่กำลังเกิดขึ้นระงับลง ในประเทศ จึงจะทำให้เกิดการคำนิยามของ ชั่วคราวได้เพราะเป็นบทบัญญัติกฎหมายที่ไม่ กฎหมายที่สมบูรณ์ และง่ายต่อการบังคับใช้ มีความสอดคล้องกัน แต่กระบวนการรื้อฟ้ืน ได้อย่างแท้จริง และใกล้เคียงคำนิยามท่ี คดีอาญากลับไม่สิ้นสุดลง และยังคงดำเนิน สมบูรณ์แบบตามแนวคิดระบบประมวลท่ี ต่อไป ทั้ง ๆ ท่ีเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของ ประเทศไทยได้รับอิทธิพลมาจากระบบ การรื้อฟื้นคดีอาญาท่ีมีต้องการให้บุคคลที่ ประมวลกฎหมายของภาคพนื้ ยโุ รป ได ้ ร ั บผลร ้ าย จา ก ก ร ะ บว น กา รยุ ต ิ ธ ร ร ม ที่ ผิดพลาดสามารถพิสูจน์ตนเองได้ว่าเป็นผู้ 3. กลไกของการรื้อฟื้นคดีอาญาของ บริสุทธ์ิภายหลังกระบวนการตามคำพิพากษา ประเทศไทยไม่เคยมีกระบวนการระงับโทษ เปน็ ท่ยี ุติ ทางอาญาเอาไว้พลางก่อนในระหว่างการร้ือ ฟื้นคดีอาญา การบังคับโทษทางอาญาใน เมื่อพิจารณาจากเจตนารมณ์ของการ ประเทศไทยมุ่งลงโทษในเชิงของการแก้แค้น รื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ หลักการ ทดแทน และการตัดออกจากสงั คมมากกกว่าที่ สำคัญของการรื้อฟื้น คือ การไม่เชื่อว่า จะต้องการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด ซ่ึง ก ร ะ บ ว น ก า ร ย ุ ต ิ ธ ร ร ม จ ะ มี ค ว า ม บ ร ิ ส ุ ท ธิ์ อาจเป็นผลดีต่อความรู้สึกทางสังคมที่มีต่อ ยตุ ิธรรมอย่างแทจ้ ริง แม้วา่ ผลของคำพิพากษา นักโทษที่ได้รับการจำคุก การกักขัง การปรับ ถึงที่สุดแล้วก็ตาม การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้น หรอื การริบทรพั ย์สิน เพราะทำใหก้ ารบังคับคำ พจิ ารณาใหมจ่ ึงเป็นการสรา้ งข้อสันนิษฐานต่อ พิพากษาที่มีต่อนักโทษในทุกคดีย่อมหลุดพ้น คดีซึ่งเคยยุติไปแล้วตามเงื่อนไขคำร้อง หรือ จากโทษไปอย่างรวดเร็ว แต่การบังคับโทษท่ี พยานหลักฐานใหม่ที่กล่าวอ้างถึงเพื่อปฏิเสธ รวดเร็วเช่นน้ีย่อมไม่เป็นผลดีต่อนักโทษ ความยุติธรรมที่ได้เคยเกิดขึ้น หรือเชื่อได้ว่า ประหารชีวิตที่มีระยะเวลาการบังคับโทษ เคยเกิดขึ้นกับตน การรื้อฟื้นคดีอาญาจึงเป็น จำกัดเพียงหกสิบวันนับแต่ศาลได้มีคำ กระบวนการที่สำคัญอย่างยิ่งยวดที่เปิดโอกาส พิพากษาถึงที่สุด ทั้งนี้ แม้ว่าการบังคับโทษ ให้มีสิทธิที่จะนำเสนอข้ออ้างของ ประหารชีวิตของประเทศไทยจะไม่แน่นอนซึ่ง พยานหลักฐานใหม่หรือผลของคำพิพากษาใน ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางสังคม ทางกระบวนการ คดีอื่น เช่น พยานหลักฐานอันเป็นเท็จ การ ยุติธรรม และทางการเมืองบางประการ แต่ทำ เบิกความเท็จ ที่อาจชี้ขาดได้ว่าหากตนได้ ให้นักโทษประหารชีวิตเป็นผู้มีความเสี่ยงที่จะ นำเสนอเช่นนั้น จะให้ตนหลุดพ้นจากคำ สูญเสียชีวิตได้ตลอดเวลาเท่าที่การบังคับโทษ พิพากษาในคดีเดิม และเป็นผู้บริสุทธิ์ท่ีได้รับ ตามคำพพิ ากษายังตกอยกู่ ับตน การเยียวยาชดใช้สิทธิที่ตนต้องเสียไปตามท่ี กฎหมายกำหนด เช่นนี้ หากว่าในระหว่างที่นักโทษ ประหารชีวิตได้ยื่นคำร้องขอให้มีการรื้อฟ้ืน อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีการรื้อฟ้ืน คดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ และมีการบังคับ คดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ของนักโทษประหาร โทษประหารชีวิตเกิดขึ้น การรื้อฟื้นคดีอาญา ชีวิตไม่อาจสำเร็จลงได้ หากไม่มีกระบวนการ ขึ้นพิจารณาใหม่ย่อมไม่อาจบังคับให้การ ระงับโทษประหารชีวิตเอาไว้พลางก่อนเพื่อรอ
วารสารปัญญา ปีที่ 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 111 ผลของการรื้อฟ้ืนคดีอาญา นักโทษประหาร ซึ่งกระบวนการยุติธรรมตามปกติมิอาจกระทำ ชีวิตอาจถูกพรากสิทธิในการพิสูจน์ความ ไดแ้ ลว้ บริสุทธิ์ของตนอีกครั้งด้วยการรื้อฟื้นคดีอาญา ขึ้นพิจารณาใหม่ การระงับโทษประหารชีวิต จึงสรุปได้ว่า การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้น เอาไว้พลางก่อนจึงเป็นกระบวนการที่สำคัญ พิจารณาใหม่เป็นกระบวนการที่สอดคล้องกับ ต่อการรื้อฟื้นคดีอาญาซึ่งควรมีจะบัญญัติ กระบวนการบังคับโทษทางอาญาที่ม่งุ ลงโทษท่ี เอาไว้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะที่แตกต่างจากการ ผู้กระทำความผิดที่แท้จริงมากกว่าลงโทษผู้ รื้อฟื้นคดีอาญาในคดีประเภทอื่น ทำให้เกิด บริสุทธิ์ การรื้อฟื้นคดีอาญาจึงเป็นการพิสูจน์ ความต่อเนื่องต่อการพิจารณาคำร้อง และเป็น ความจริงในคดีอาญาซ้ำสองโดยที่กระบวนการ ผลดีตอ่ นกั โทษประหารชวี ิตทีจ่ ะใชส้ ิทธิในการ ยุติธรรมตามปกติไม่อาจกระทำได้ เพราะ นำเสนอพยานหลักฐานด้วยตนเอง และต่อสู้ คดีอาญาได้สิ้นสุดลงไปแล้วด้วยผลของคำ คดีจนกว่ากระบวนการรื้อฟื้นคดีอาญาจะ พิพากษาที่ถึงที่สุด การรื้อฟื้นคดีอาญาจึงเป็น ส้นิ สุดลง ความพยายามของบุคคลผื่นคำร้องขอที่จะ แสดงให้เห็นถึงสถานะของผู้บริสุทธิ์ที่แท้จริง อย่างไรก็ดี การระงับโทษประหารชีวิต โดยผ่านกระบวนการทางกฎหมายอีกครั้งหน่ึง เ อ า ไ ว ้ พ ล า ง ก ่ อ น จ ึ ง ไ ม ่ เ ป ็ น ก า ร ข ั ด ต่ อ และเป็นการปฏิเสธหลักความเป็นที่สุดของคำ กระบวนการบังคับโทษทางอาญา และไม่เป็น พิพากษา โดยใช้กระบวนการทบทวน การขัดต่อต่อวัตถุประสงค์การลงโทษท่ีได้ พยานหลักฐานใหม่ตามที่กฎหมายกำหนด กำหนดเอาไว้ที่มุ่งลงโทษผู้กระทำความผิดที่ เช่นนี้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจำแนก แท้จริง แต่กลับเป็นความสอดคล้องต่อ ประเภทของบุคคลผู้ยื่นคำร้องออกเป็นสอง วัตถุประสงค์ของการลงโทษทางอาญาที่มุ่ง ประเภท คอื นักโทษประหารชวี ิต และนักโทษ ลงโทษแก่บุคคลที่ได้กระทำความผิดที่ผ่าน อื่นออกจากกัน เนื่องจากเงื่อนไขของ กระบวนการพิสูจน์ตามกระบวนยุติธรรมท่ี กระบวนการบังคับโทษด้านระยะเวลาที่ ถูกต้อง และเป็นธรรม การร้องขอให้มีการรื้อ แตกต่างกันมาก การบัญญัติกฎหมายการรื้อ ฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่แสดงถึงการ ฟื้นคดีอาญาจึงควรให้ความสำคัญต่อนักโทษ ปฏิเสธความถูกต้อง และเป็นธรรมตามคำ ประหารชีวิตมากกว่านักโทษอื่น โดยกำหนด พ ิ พา ก ษา ท ี ่ ย ุ ต ิ แ ล ้ ว ต า ม ก ฎ ห ม า ย ว ่ า เ ป็ น กระบวนการร้ือฟื้นคดีอาญาข้ึนเป็นการเฉพาะ กระบวนการที่ผิดพลาด และกำลังจะลงโทษผู้ และมีกระบวนการยับยั้งการบังคับโทษ บริสุทธิ์ การให้โอกาสในการรื้อฟื้นคดีอาญา ประหารช ี ว ิ ตเอาไว ้ เ พ ี ย งช ั ่ ว คร าว เ พ ื ่ อ ใ ห้ และการระงับโทษประหารชีวิตเอาไว้พลาง กระบวนการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ ก่อนจึงไม่เป็นการขัดต่อวัตถุประสงค์การ ต่อเนื่องและเยียวยาความเป็นธรรมให้กับ ลงโทษของกระบวนการบังคับโทษอาญาแต่ จำเลยผตู้ อ้ งโทษประหารชีวติ อยา่ งแทจ้ ริง อย่างใด แตเ่ ป็นการแสวงหาความจริงข้ึนมาให้ เพื่อพิสูจน์ด้วยการรื้อฟื้นคดีอาญาอีกครั้งได้ดี 4. ค่าทดแทนในการรื้อฟื้นคดีอาญา ของประเทศไทยไม่เคยมีการกำหนด และให้ ความสำคญั ต่อการเยียวยาชื่อเสียงของนักโทษ
112 วารสารปญั ญา ปีที่ 28 ฉบับท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) ผู้ยื่นคำร้องขอให้มีการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้น ชื่อเสียงอาจใช้การประกาศในราชกิจจา พิจารณาใหม่ จึงเท่ากับว่า กระบวนการ นุเบกษา หนังสือพิมพ์รายวัน หรือทั้งสอง ยุติธรรมได้ทำการตีตรานักโทษทุกคนว่าเป็น อย่างก็ได้ ซึ่งก่อให้เกิดผลทางกฎหมาย ผู้กระทำความผิดมาตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการ เช่นเดียวกันกับการประกาศการจดทะเบียน ยุติธรรมทางอาญา แม้ภายหลังจะมีการรื้อฟ้ืน หุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนฯ หรือการประกาศ คดีอาญาสำเร็จ และแสดงว่าเป็นจำเลยเป็นผู้ คำส่ังตา่ ง ๆ ในคดลี ้มละลาย เป็นตน้ บริสุทธิ์ แต่การถูกตีตราว่าเป็นผู้กระทำ ความผิดมาตั้งแต่ต้น ก็ไม่ทำให้ชื่อเสียงของ ความสำคัญของการประกาศเช่นนี้เป็น จำเลยในทางร้ายกลับคืนดีมาดังเดิม เพราะ การทำลายการตีตราทางสังคม และการตีตรา กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยได้ตีตรา โดยบุคคลทั้งหลายที่เคยเข้าใจผิดต่อตัวจำเลย ผู้นั้นเอาไว้ตั้งแต่ต้น และไม่เคยให้ความสำคัญ ให้สิ้นไป เป็นการยกสถานะทางสังคมของ ต่อการรื้อฟื้นคดีอาญาที่จะได้รับการชดเชย จำเลยซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างแท้จริงขึ้นมาใหม่ ชือ่ เสยี งทเี่ สยี หายให้กลับคนื ดีมาดงั เดิม ระบบ ดังเช่นบทสันนิษฐานในบทบญั ญัตริ ฐั ธรรมนูญ ของการค่าทดแทนสำหรับจำเลยผบู้ ริสุทธ์ิกลับ แห่งราชอาณาจักรไทย และตามหลักการใน มุ่งที่จะชดเชยความเสียหายเป็นตัวเงิน ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา ท่ีได้ มากกว่าที่จะมุ่งเยียวยาชื่อเสียง สถานะของ วางหลักเอาไว้ว่าจำเลยย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์ จำเลยในคดีอาญาก็ยังคงเป็นกระทำความผิด จนกว่าจะได้พิสูจน์ว่าเป็นผู้กระทำความผิด ที่ไม่อาจอ้างอิงสิทธิใด ๆ แม้ว่าจะได้มีการ โดยปราศจากข้อสงสัยตามสมควร การรื้อฟ้ืน พิสจู น์ในภายหลังแล้ววา่ เป็นผูบ้ ริสุทธ์ิ คดีอาญาจึงเป็นการกลับคืนความบริสุทธิ์และ ความยุติธรรมให้กับจำเลย และเป็นข้อพิสูจน์ ค่าทดแทนในส่วนที่เป็นเงิน จึงสมควร อย่างแท้จริงว่าเป็นการให้โอกาสจำเลยในการ ที่จะพิจารณาถึงสถานของโทษที่จำเลยได้รับ พิสูจน์ความจริงด้วยตนเองตามกระบวนการท่ี มากกว่าที่จะพิจารณาว่าจำเลยสมควรได้รับ กฎหมายกำหนด การเยียวยาความเสียหายอย่างไรบ้าง โดย จำแนกออกระหว่างจำเลยผู้ต้องคำพิพากษา จึงสรปุ ไดว้ า่ โดยแทจ้ รงิ แลว้ การรื้อฟ้ืน ให้ประหารชีวิต กับจำเลยในคดีอื่น การได้รับ คดีอาญาควรมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญต่อการ ค่าทดแทนจึงต้องมีความแตกต่างกันและมี เยียวยาชื่อเสียงของจำเลยมากกว่าที่จะมุ่ง ความเจาะจงไปตามสถานของโทษที่ได้รับตาม เยียวยาด้วยค่าทดแทนที่เป็นเงิน เพื่อให้ความ คำพิพากษา จึงจะทำให้การจ่ายค่าทดแทนมี บริสุทธิ์ และชื่อเสียงของจำเลยกลับคืนดีมา ความเที่ยงธรรมต่อผลการรื้อฟื้นคดีอาญา ดังเดิมโดยผ่านกระบวนพิสูจน์ทางกฎหมาย อยา่ งแท้จรงิ ดว้ ยการรื้อฟื้นคดีอาญาอีกครง้ั ดว้ ยตนเอง การ อำนวยการให้มีการรื้อฟื้นคดีอาญาของจำเลย นอกจากทรี่ ัฐจะต้องจ่ายเป็นตวั เงินแล้ว จนสำเร็จลงได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวด ค่าทดแทนเกี่ยวกับชื่อเสียงก็นับว่าเป็นเรื่อง มากกว่าที่จะมุ่งตัดสิทธิในการรื้อฟื้นคดีอาญา สำคัญทีก่ ่อให้เกิดผลทางกฎหมายท่ีจำเลยอาจ และมุ่งลงโทษจำเลยตามผลของคำพิพากษา ใช้ยันกับสังคม และบุคคลอื่นได้ การเยียวยา มากกวา่ ท่ีจะยอมให้จำเลยพิสูจน์ตนเอง
วารสารปญั ญา ปที ่ี 28 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 113 ข้อเสนอแนะการวิจัย ฟื้นคดีอาญา ให้ศาลมีอำนาจสั่งระงับโทษ 1. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ประหารชีวิต หรือโดยคำร้องขอของพนักงาน 1.1 สมควรที่จะแก้ไขเพิ่มเติม อัยการ หรือโดยคำร้องขอของนักโทษประหาร ชีวิตเอง ทั้งนี้ อาจร้องขอให้พนักงานอัยการ พระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาข้ึน ยื่นคำร้องแทนตนได้ เพื่อให้กระบวนการร้ือ พิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 ในมาตรา 6 โดย ฟื้นคดีอาญาที่จำเป็นต่อนักโทษประหารชีวิต เพิ่มเติมให้นักโทษประหารชีวิตเป็นผู้มีสิทธิใน สามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องจนจบ การยื่นคำร้องขอให้มีการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้น กระบวนการรื้อฟืน้ คดีอาญา พจิ ารณาใหมโ่ ดยเจาะจง เพอ่ื ให้เกิดการบังคับ ใช้การรื้อฟื้นคดีอาญาสำหรับนักโทษประหาร 1.4 สมควรให้ยกเลิกมาตรา 14 ชีวติ ท่เี ป็นผลไดจ้ ริง แห่งพระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้น พิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 และให้เพิ่มข้อความ 1.2 สมควรให้เพิ่มเติมข้อความ ค่าทดแทนสำหรับนักโทษประหารชีวติ ให้เป็น พระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาข้ึน อัตราที่เหมาะสมในปัจจุบัน และให้มีการ พิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 มาตรา 4 เป็นคำ ประกาศผลของคำพิพากษา และให้เพิ่มความ นิยามเรื่องพยานหลักฐานใหม่ โดยควรระบุ เป็นมาตรา 14/1 เรื่องค่าทดแทนความ เงื่อนไขในคำนิยามที่อาจใช้เพื่อการยื่นคำร้อง เจ็บป่วย หรือสูญเสียสมรรถภาพฯ มาตรา ขอให้ ม ี การฟ ื ้ นคด ี อาญาเพ ื ่ อให้ ได ้ ร ั บ ก าร 14/2 ค่าทดแทนกรณีสูญเสียค่าใช้จ่ายในการ ยกเว้นโทษ หรือได้รับโทษน้อยกวา่ ทีร่ ะบุไว้ใน ดำเนินคดี มาตรา 14/3 การตัดสิทธิในการ คำพิพากษาเดิม ทั้งต้องกำหนดระยะเวลาการ ขอรับค่าทดแทน และมาตรา 14/4 การ ปรากฏขึ้นของพยานหลักฐานที่ถูกค้นพบใหม่ ประกาศผลของคำพิพากษา ภายหลังคำพิพากษาเดิม และต้องกำหนดให้ ถ ื อ ว ่ า ผ ล ข อ ง ก า ร ต ร ว จ ส อ บ ดี เ อ ็ น เ อ เ ป็ น 2. ขอ้ เสนอแนะการวจิ ยั เพื่อการวจิ ัย พยานหลักฐานใหม่ด้วย เพื่อให้ผู้ร้องสามารถ 2.1 สมควรนำผลการวิจัยที่จะ ใช้เป็นแนวทางในเขียนคำร้องขอให้มีการรื้อ ฟื้นคดีอาญาเพื่อโต้แย้งคำพิพากษาในคดีเดิม ทำการศึกษาวิจัยที่ได้ไปศึกษาการรื้อฟ้ืน และอาจยกข้อต่อสู้เรื่องผลตรวจสอบดีเอ็นเอ คดีอาญาที่มีความเจาะจงต่อไป เช่น นักโทษ ขึ้นต่อสู้ก็ได้ และทำให้ศาลมีกรอบในการ จำคุก ผ้ตู อ้ งกกั ขงั ตคี วาม และวินจิ ฉยั ตามคำร้องได้อย่างถูกต้อง 2.2 สมควรที่จะนำผลการวิจัยไป 1.3 สมควรให้เพิ่มเติมข้อความใน ศึกษาเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธี พระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาข้ึน พิจารณาความอาญาให้มีความสอดคล้องกับ พิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 เปน็ มาตรา 8/1 โดย การรื้อฟื้นคดีอาญาโดยนักโทษประหารชีวิต ให้มีการระงับโทษประหารชีวิตระหว่าการร้ือ เช่น ให้มกี ารระงับโทษประหารชีวติ ในระหว่าง การรอ้ื ฟืน้ คดีอาญา
104 วารสารปัญญา ปที ี่ 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) แหลง่ อ้างอิง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2548. (2548, 8 กุมภาพันธ์). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ 122 ตอนท่ี 14ก. หน้า 30-33. พระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526. (2526, 7 เมษายน). ราชกิจจา นุเบกษา. เลม่ 100 ตอนท่ี 55. หน้า 1. Japanese Law Translation Database System. (2020a). Part IV Retrial Article 442. Retrieved 10 January 2020 from http://www.japaneselawtranslation.go. jp/ law/detail/?printID=&id=1983&re=02&vm=04. Japanese Law Translation Database System. (2020b). Part IV Retrial Article 438. Retrieved 10 January 2020, from http://www.japaneselawtranslation.go. jp/ law/detail/?printID=&id=1983&re=02&vm=04. Larson, A. ( 2019) . What is Habeas Corpus. Retrieved 20 August 2019, from https://www.expertlaw.com/library/criminal/habeas_corpus.html Legal Information Institute - Cornell University. (2019). BAZE et al. v. REES, COMMISSIONER, KENTUCKY DEPARTMENT OF CORRECTIONS, et al. Retrieved January 10, 2020, from https://www.law.cornell.edu/supct/html/07- 5439.ZS.html Lueotchanakun, W. (2007). Personal academic documents Justice Administration Program High level (10th generation), on the role of the prosecutor and the resurrection of the criminal case. Reconsider. Bangkok: College of Justice Office of Justice. (in Thai) Niyomthai, A. (2017). The principle of resuming criminal cases under consideration Foreign Law. Cul niti, 14(4), 139-147. The National Court Rules Committee. (2020). Rule 33. New Trial| Federal Rules of Criminal Procedure. Retrieved January 10, 2020, from https://www.federalrulesofcriminalprocedure.org/title-vii/rule-33-new-trial The Working Group of the R.O.C Laws & Regulations Database, Ministry of Justice. (2019). Part VIII Execution. Retrieved August 20, 2019 from https://law.moj.gov.tw/Eng/LawClass/ LawAll.aspx?PCode=C0010001. US Supreme Court. (2019). Glossip v. Gross 576 US (2015). Retrieved August 20, 2019, from https://www.law.cornell.edu/uscode/text/42/1983
Received: 2020-11-16 Revised: 2020-12-07 Research Articles Accepted: 2020-12-2 ศึกษาแนวคดิ ทางจริยศาสตร์ทีป่ รากฏในทศชาติชาดก A STUDY OF ETHICS CONCEPTS IN THE TEN BIRTH-STORIES OF THE BUDDHA พระมหาธนาศักด์ิ สตุ ธโน (สดุ สุข)1 Phramaha Thanasak Sutadhano (Sudsook) พระสทุ ธิสารเมธ2ี Phrasutthisanmethi Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ บทความวิจยั นมี้ ีวัตถุประสงค์ 1) เพ่อื ศกึ ษาทศชาติชาดก 2) เพ่ือศกึ ษาแนวคดิ ทางจริยศาสตร์ท่ีปรากฏ ในทศชาติชาดก 3) เพื่อวิเคราะห์คุณค่าทางจริยศาสตร์ที่ปรากฏในทศชาติชาดก เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการวิจัย คือพระไตรปิฎก อรรถกถา หนังสือ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อวิเคราะห์ประวัติ เนือ้ หา คุณค่าแลว้ เขียนบรรยายเชงิ พรรณา ผลการวจิ ยั พบวา่ 1) ทศชาติชาดก เป็นเรื่องราวทีก่ ลา่ วถึงอดีตชาตขิ องพระพุทธเจา้ เมื่อครั้งเปน็ พระโพธิสัตว์ ถือกำเนิด เปน็ มนุษย์และเทวดา เพ่ือทรงบำเพ็ญบารมี เพื่อเปน็ ปัจจัยทช่ี ว่ ยส่งเสริมให้ไดบ้ รรลซุ ่ึงพระอนตุ ตรสมั มาสัมโพธิ ญาณตรัสรเู้ ปน็ พระพทุ ธเจ้าในพระชาตสิ ดุ ท้าย เพ่ือโปรดสรรพสัตวท์ ้งั หลายให้พน้ จากกองกิเลสกองทุกข์ทง้ั ปวง 2) แนวคิดทางจริยศาสตร์ที่ปรากฏในทศชาติชาดก ได้แก่ แนวคิดเรื่องความดี คือความประพฤติฝ่าย กุศลที่สามารถนำประโยชน์และความสุขมาให้แก่ผู้ปฏิบัติ แก่บุคคลอื่นและแก่สังคมส่วนรวมได้ แนวคิดเรื่อง ความชว่ั คือความประพฤตฝิ ่ายอกุศลท่ีสามารถนำความทุกขแ์ ละความเดือดร้อนมาให้แกผ่ ู้ปฏิบัติ แก่บุคคลอ่ืน และแกส่ ังคมส่วนรวมได้ 3) คุณค่าทางจรยิ ศาสตร์ท่ีปรากฏในทศชาติชาดก เป็นคณุ ค่าทางจิตใจ ตอ่ การดำเนนิ ชีวติ ต่อสงั คม ต่อ การปฏบิ ัติธรรม เป็นคุณคา่ ทส่ี รา้ งประโยชนเ์ พอื่ ตนเอง อันไดแ้ ก่ประโยชนใ์ นปจั จบุ นั ประโยชน์ในภพหน้า และ ประโยชน์อย่างสูงสุดคือพระนิพพาน ประโยชน์เพื่อผู้อื่น คือ สามารถสร้างความสุขให้แก่ผู้อื่นทั้งทางกายและ ทางจติ ใจ และประโยชนเ์ พอ่ื ส่วนรวมและสงั คม คือ สามารถสร้างความสงบสุขใหเ้ กิดข้นึ แกส่ ังคมส่วนรวมได้ คำสำคญั : จรยิ ศาสตร์, ทศชาติชาดก, คุณค่า ABSTRACT The purpose of this research were 1) to study the ten birth-stories of the Buddha, 2) to study the ethical concepts in the ten birth-stories of the Buddha, and 3) to analyze the values of the ethical concepts in the ten birth-stories of the Buddha. The data of this qualitative research were collected from the Tipitaka, Commentaries, books, and research works related, To analyze history, content, values and write a descriptive lecture. 1 นกั ศึกษาหลักสูตรศาสนศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าพทุ ธศาสนาและปรัชญา มหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวิทยาลัย 2 อาจารย์ประจำหลกั สูตรสาขาวชิ าพุทธศาสนาและปรัชญา มหาวทิ ยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลยั
116 วารสารปัญญา ปที ี่ 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) Research results were found that: 1) The ten birth-stories of the Buddha retell the past lives of the Buddha when he was still a Bodhisattva who was born either a human or a deva in order to perform meritorious acts which could help him reach his ultimate goal and become the Buddha in his final life to teach all beings to free themselves from desires and sufferings. 2) Ethics concepts in the ten birth-stories of the Buddha, The good actions found in those stories are the wholesome that can bring benefits and happiness to practitioners, others and society as well. Meanwhile, the evil deeds in the stories are considered unwholesome because they can bring sufferings and troubles to the doers, others and society. 3) The ethical values in the ten birth-stories of the Buddha are for mentality, living a life, society and Dhamma practicing. These values can build and bring benefits and happiness to oneself, others and society. benefits to oneself in the present life, in the following lifetimes, and the supreme benefit or achieving enlightenment. benefits to other people in both physical and mental ways; and public benefits referring to creating peace and happiness to community and society. Keywords: ethical, ten birth-stories of the Buddha, values บทนำ กระทำอย่างไรจึงถือว่า ดี หรือ ชั่ว ถูก หรือ ระบบปร ั ชญาในโลกม ี การ แบ่ ง ผิด พร้อมกับศึกษาเกี่ยวกับความหมายของ การมีชีวิตที่ดี คำถามสำคัญในทางจริยศาสตร์ แนวความคดิ ออกเป็น 2 สายใหญ่ ๆ คือ ระบบ คือ การดำเนินชีวิตอย่างไรจึงถือว่าเป็นการมี ปรัชญาตะวันตก และระบบปรัชญาตะวันออก ชีวิตอยู่อย่างดีที่สุดหรือเป็นชีวิตที่มีคุณค่า (ทิพวรรณ ละลี, 2549, น.1) ระบบปรัชญา สูงสุดในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์ (สรรเสริญ ตะวันตกมีแหล่งกำเนิดที่ประเทศกรีก มีสำนัก อินทรัตน์, 2552, น. 2) จริยศาสตร์นับเป็น ปรัชญาที่เด่น ๆ เช่น ยุคสมัยโบราณมี เพลโต สาขาที่สำคัญอย่างหนึ่งของวิชาปรัชญาท่ี อริสโตเตลิ ในสมัยกลางมีปรัชญาศาสนาคริสต์ ระบบปรัชญาทั้ง 2 สายให้ความสำคัญที่จะ เป็นต้น ระแบบปรัชญาตะว ั นออกมี ศึกษาหาข้อสรุปตามทัศนะของปรัชญาแต่ละ แหล่งกำเนิดที่ประเทศอินเดีย โดยมีระบบ ระบบ โดยมีการยกอย่างเหตุผลมากมายใน ปรัชญาที่เด่น ๆ เช่น ปรัชญาอินเดีย ปรัชญา การอภปิ รายเพ่ือหาคำตอบของปัญหาทางจริย พระพุทธศาสนา เป็นต้น ซึ่งแนวความคิดของ ศาสตร์ โดยเฉพาะปัญหาในเร่ืองความดี ความ ปรัชญาทั้งสองสายนั้นนับได้ว ่ าเป็น ชั่ว เกณฑ์การตัดสินความดี ความชั่ว และ แนวความคิดท่สี ำคัญและเปน็ แบบอย่างในการ จดุ ม่งุ หมายในชีวติ ของมนษุ ย์ ดำเนินชีวิตของมวลมนุษย์ชาตินับตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน จริยศาสตร์คือวิชาที่ศึกษา ในบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกน้ี เกี่ยวกับความหมายของดี ชั่ว ถูก ผิด และ มนุษย์นับว่าเป็นสัตว์ผู้ประเสริฐที่สุด ความ เกณฑ์หรือมาตรฐาน สำหรับตัดสินว่าการ เป็นผู้ประเสริฐของมนุษย์คือเป็นผู้มีใจสูงด้วย
วารสารปัญญา ปีท่ี 28 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 117 คุณธรรม มีความสามารถในการพัฒนาตนเอง ว่าการกระทำอย่างนี้ดี อย่างนี้ชั่ว และปัญหา และสามารถที่จะเรียนรู้เพื่อแยกแยะความดี ที่ว่าเราจะเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ตัดสินความ และความชั่วและแสวงหาจุดมุ่งหมายในชีวิต ถูกผิดของการกระทำนั้น 3) ปัญหาที่ว่า อะไร ของตัวเอง อันเป็นบ่อเกิดของความสบงสุขใน คืออุดมคติของชีวิต อะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุด สังคม โดยเฉพาะอย่างย่ิงเม่ือสงั คมโลกเกิดการ สำหรับชีวิตมนุษย์ และอะไรเป็นคุณค่าที่ พัฒนาในด้านต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ปัญหา มนษุ ย์พงึ ปรารถนาและน่าแสวงหามากทส่ี ดุ ด้านจริยะหรือความประพฤติของมนุษย์ก็ยิ่ง ซับซ้อนมากขึ้น บางคร้ังการกระทำบางอย่างท่ี หลักจริยศาสตร์ในพระพุทธศาสนาน้ัน สังคมหนึง่ ยอมรับวา่ ดี แต่อีกสงั คมหนึ่งกลับไม่ มีปรากฏอยู่ในคัมภีร์และนิทานชาดกต่าง ๆ ยอมรับว่าดีก็มี ดังนั้นการที่มนุษย์สามารถ มากมาย อยา่ งเช่นในทศชาติชาดกท่ีปรากฏใน เรียนรู้วิธีการวินิจฉัยความดี ความชั่ว ที่ มหานิบาตชาดก ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เล่าถึง ถูกต้องตามบรรทัดฐานของสังคมนั้น ๆ และ เหตกุ ารณ์ท่ีพระพุทธเจ้าทรงเสวยพระชาติเป็น ร ู ้ จ ั ก แ ส ว ง ห า จ ุ ด ม ุ ่ ง ห ม า ย ใ น ช ี ว ิ ต จ ึ ง มี พระโพธิสัตว์ถือกำเนิดในชาติต่าง ๆ 10 ชาติ ความสำคัญอย่างมากต่อการดำรงชีวิตอยู่ของ เพื่อบำเพ็ญบารมี คือ 1) เตมิยชาดก บำเพ็ญ มนุษย์ที่อยู่รวมกันเป็นสังคม เพราะสิ่งเหล่านี้ เนกขัมมบารมี 2) มหาชนกชาดก บำเพ็ญวิริย ทำให้สังคมเกิดความสงบสุขทำให้มนุษย์ บารมี 3) สุวรรณสามชาดก บำเพ็ญเมตตา สามารถดำรงชีวิต รักษาเผ่าพันธุ์ของตนเองได้ บารมี 4) เนมริ าชชาดก บำเพญ็ อธิษฐานบารมี ยาวนาน น้ีเป็นข้อบง่ ชี้ให้เหน็ ว่าพฤติกรรมของ 5) มโหสถชาดก บำเพ็ญปัญญาบารมี 6) ภู มนุษย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้นล้วนแต่มี ริทัตตชาดก บำเพ็ญศีลบารมี 7) จันทชาดก ความเกี่ยวข้องกับจริยศาสตร์ทั้งสิ้น ในทาง บำเพ็ญขันติบารมี 8) นารทชาดก บำเพ็ญ พระพุทธศาสนามีหลักคำสอนที่เกี่ยวกับจริย อุเบกขาบารมี 9) วิธุรชาดก บำเพ็ญสัจจบารมี ศาสตร์ปรากฏอยู่มาก และคำสอนในทาง 10) เวสสันดรชาดก บำเพ็ญทานบารมี (วศิน พระพุทธศาสนาก็เป็นหลักคำสอนแห่งการ อินทสระ, 2555, น. 241) ซึ่งในขณะที่ทรง ดำเนนิ ชวี ิตด้วย (พระมหาประเสรฐิ ญาณสีโล, เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์เพื่อบำเพ็ญ 2547, น. 2) ถ้ามองในแง่ปรัชญาคำสอน บารมตี า่ ง ๆ นนั้ ก็ทรงได้พบกับเหตุการณ์ต่าง ในทางพระพุทธศาสนาก็เป็นปรัชญาแห่งชีวิต ๆ มากมาย ทั้งที่ดีบ้างและไม่ดีบ้าง ซ่ึง ดังนั้น ปัญหาเรื่องสิ่งที่มนุษย์ควรประพฤติที่ เหตุการณ์เหล่านั้น ย่อมแสดงให้เห็นถึง เรียกว่า จริยธรรม หรือหลักจริยศาสตร์ใน พฤติกรรมที่ดีบ้าง พฤติกรรมที่ชั่วบ้างของตัว พระพุทธศาสนานั้น จึงเป็นสิ่งที่ควรจะได้รับ ละครปรากฏที่อยู่ในเน้ือเรื่อง และแสดงให้เห็น การศึกษาเพื่อหาคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับ ถึงจุดมุ่งหมายในชีวิตของพระโพธิสัตว์ในชาติ ปัญหา 3 ประการ คือ 1) อะไร คือ ความดี นั้น ๆ ว่าในแต่ละชาติที่บำเพ็ญบารมีนั้นมี ความชั่ว ความถูกต้อง ความผิด ความสุข จุดมุ่งหมายในชีวิตอย่างไรบ้าง ดังนั้นใน ความทุกข์ การกระทำอย่างไรเป็นความดี บทความวิจัยนี้ ผู้วิจัยจะนำเสนอการศึกษา อย่างไรเป็นความชั่ว 2) อะไรเป็นเกณฑ์ตัดสิน พฤติกรรมของตัวละครในทศชาติชาดกตาม วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัย เพอื่ หาแนวความคิด
118 วารสารปญั ญา ปที ี่ 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) ทางจริยศาสตร์ท่ีปรากฏในทศชาติชาดก ซ่ึง เหมาะสม และอธิบายแนวคิดทางจริยศาสตร์ ผลจากการศึกษานี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อ ที่ปรากฏในทศชาติชาดกให้สอดคล้องกับ สังคมในปจั จุบนั วตั ถุประสงคข์ องงานวิจัย วัตถุประสงคข์ องการวิจัย 4. นำข้อมูลที่ได้จากการศึกษามา 1. เพือ่ ศึกษาทศชาติชาดก วิเคราะห์คุณค่าทางจริยศาสตร์ที่ปรากฏในทศ 2. เพื่อศึกษาแนวคิดทางจริยศาสตร์ท่ี ชาติชาดกให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ งานวจิ ัย ปรากฏในทศชาติชาดก 3. เพื่อวิเคราะห์คุณค่าทางจริยศาสตร์ 5. สรุปผลที่ได้จากการวิจัย และ นำเสนองานวจิ ัย ที่ปรากฏในทศชาตชิ าดก สรุปผลการวิจยั วธิ ีดำเนินการวิจยั ทศชาติชาดก การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ พบว่า ทศชาติชาดกปรากฏในมหา (Qualitative Research) ซึ่งมุ่งเน้นวิจัยทาง นิบาตชาดก ขุททกนิกาย สุตตันตปิฎก ทศ เอกสาร (Documentary Research) เพอื่ ศึกษา ชาติชาดกเป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงพระพุทธเจ้า แนวคิดทางจริยศาสตร์ที่ปรากฏในทศชาติ ในพระชาติต่าง ๆ เมื่อครั้งยังเปน็ พระโพธสิ ตั ว์ ชาดก ซ่งึ ผวู้ ิจยั ไดแ้ บง่ วิธีดำเนินการวิจัย ดงั นี้ ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา ซึ่งแต่ละ พระชาติ ทรงแสดงบุญบารมีต่าง ๆ กันไป ท้ัง 1. ศกึ ษารวมรวมข้อมูลเกี่ยวกับทศชาติ แสดงบารมีน้อยไปจนถึงแสดงบารมีครบถ้วน ชาดกจากเอกสารขั้นปฐมภูมิ (Primary ทุกประการ จนกระทั่งได้บรรลุพระโพธิญาณ Sources) โดยศึกษาจากพระไตรปิฎก แปล และตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในพระชาติชุดท้าย ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรม ทศชาติชาดกเรียกย่อว่า เต. ช. ส.ุ เน. ม. ภู. จ. ราชูปถัมภ์ เนื่องในวโรกาสครบ 200 ปี แห่ง นา. วิ. เว. แต่ละชาติหรือแต่ละชาดกกล่าวถึง พระมหาจักรีบรมราชวงศ์ กรุงรัตนโกสินทร์ พระพุทธเจ้าครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ทรงพระ พทุ ธศักราช 2525 พมิ พค์ รั้งท่ี 9 พ.ศ. 2557 นามนั้น ๆ ทรงบำเพ็ญพุทธจริยาที่เรียกว่า พทุ ธการกธรรมในอดตี ชาติ ตงั น้ี 2. ศึกษารวมรวบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ทศชาติชาดกและจริยศาสตร์ จากเอกสารข้ัน 1. เตมิยชาดก ทรงเสวยพระชาติเป็น ทุติยภูมิ (Secondary Sources) ได้แก่ อรรถ พระเตมยิ กมุ าร เพือ่ บำเพ็ญเนกขัมมบารมี กถา หนังสือ เอกสารทางวชิ าการ และงานวิจัย ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ 2. มหาชนกชาดก ทรงเสวยพระชาติ กำหนดขอบเขตของการศึกษา โดยจะเน้น เปน็ พระมหาชนก เพ่ือบำเพ็ญวิริยบารมี ศึกษาในประเด็นเกี่ยวกับแนวความคิดทางจ รยิ ศาสตรท์ ่ีปรากฏในทศชาตชิ าดกเป็นหลัก 3. สุวรรณสามชาดก ทรงเสวยพระชาติ เป็นพระสุวรรณสามกุมาร เพื่อบำเพ็ญเมตตา 3. นำข้อมูลที่ได้จากการศึกษารวบรวม บารมี มาแยกประเภทลงในบทต่าง ๆ ตามความ
วารสารปญั ญา ปที ่ี 28 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 119 4. เนมิราชชาดก ทรงเสวยพระชาติเป็น ได้แก่การก่อเวรต่อกัน เพราะเห็นเหตุให้ต้อง พระเจ้าเนมิราช เพื่อทรงบำเพ็ญอธิษฐาน จองเวรกันไปมา จนได้รับความเดือดร้อน บารมี เสยี หายท้งั สองฝ่าย 5. มโหสถชาดก ทรงเสวยพระชาติ ความดีที่ปรากฏในสุวรรณสามชาดก เป็นมโหสถบัณฑิต เพื่อทรงบำเพ็ญปัญญา ได้แก่ การบำรุงมารดาบิดา เพราะการไม่ลืม บารมี พระคุณของคนอื่นและตอบแทนพระคุณน้ัน ย่อมก่อให้เกิดผลดีแก่ทั้งผู้ปฏิบัติและผู้ได้รับ 6. ภูริทัตชาดก ทรงเสวยพระชาติเป็น การปฏิบัติ และยังเป็นการกระทำที่ทั้งเทวดา พระภรู ทิ ตั เพอ่ื ทรงบำเพ็ญศีลบารมี และมนุษย์ตา่ งกส็ รรเสริญและปกป้องคุ้มครอง ผู้ที่มีความกตัญญูกตเวที ความชั่วที่ปรากฏใน 7. จันทชาดก ทรงเสวยพระชาติเป็น สุวรรณสามชาดก ได้แก่ การประทุษร้ายผู้อ่ืน พระจันทกมุ าร เพอ่ื ทรงบำเพ็ญขันติบารมี เพราะผลของการประทุษร้ายผู้อื่นและการ เบียดเบียนชีวิตผู้อื่นนั้น มีผลคือผู้อื่นก็ได้รับ 8. นารทชาดก ทรงเสวยพระชาติเป็น ความเดือดร้อนเพราะความปฏิบัตินั้น แม้แต่ นารทพรหม เพือ่ ทรงบำเพ็ญอุเบกขาบารมี ตนเองก็ต้องเดือดร้อนในภายหลังเพราะผล กรรมของการปฏิบัตนิ ้ัน 9. วิธรุ ชาดก ทรงเสวยพระชาติเป็นวิธุร บัณฑิต เพ่ือทรงบำเพ็ญสัจจบารมี ความดีท่ีปรากฏในเนมิราชชาดก ได้แก่ การประพฤติพรหมจรรย์ เพราะทำให้ผู้ปฏิบัติ 10. เวสสันดรชาดก ทรงเสวยพระชาติ เกิดความสงบสุขทางกาย ทางจิตใจในโลกนี้ เป็นพระเวสสนั ดร เพือ่ บำเพ็ญทานบารมี และได้สมบัติต่าง ๆ มีสมบัติในพรหมโลกเป็น ต้น เมื่อสิ้นชีวิตไปแล้ว ความชั่วที่ปรากฏใน แนวคดิ ทางจริยศาสตร์ท่ีปรากฏในทศ เนมิราชชาดก ได้แก่ความชั่วทางกาย วาจา ใจ ชาตชิ าดก ทั้งหลาย มีการเบียดเบียนผู้อื่น การด่าผู้ไม่ด่า ตอบ ความเป็นผู้ตระหนี่ การด่ากระทบสมณ แนวคดิ เรอื่ งความดี-ความชั่ว พราหมณ์ผู้มีศีล การด่ากระทบผู้มีกุศลธรรม พบว่าความดีที่ปรากฏในเตมิยชาดก การสร้างพยานเท็จเพื่อคดโกงผู้อื่น การฆ่า ได้แก่การออกบวชเพื่อประพฤติพรหมจรรย์ สัตว์ด้วยวิธีอันทรมาน การมกี ารงานไมบ่ ริสุทธ์ิ เพราะเป็นเหตุให้เว้นจากการกระทำอกุศลมูล มีการคดโกงผู้อื่นเป็นต้น การถือเอาสิ่งของท่ี ทั้งหลาย ทั้งยังเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิด เจ้าของเขาไม่ได้ให้ การประทุษร้ายมิตร การ ประโยชน์สุขทั้งแก่พระองค์เองและชนเป็นอัน ฆา่ มารดาบิดาและพระอรหันต์ การช่วยปกปิด มาก มีพระบิดาพระมารดา ชาวเมืองพาราณสี ความผิดของผู้อื่น การประพฤติผิดประเวณี และชาวเมืองข้างเคียง เป็นต้น ความชั่วที่ นอกใจภรรยาสามีของตนล่วงเกินภรรยาสามี ปรากฏในเตมยิ ชาดกไดแ้ ก่ การทำปาณาติบาต ของบุคคลอื่น การเป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิคือมี เพราะเป็นการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เป็นเหตุให้ ตอ้ งตกนรกเม่ือตายไปแล้ว ความดีที่ปรากฏในมหาชนกชาดก ได้แก่ความเพียร เพราะทำให้เกิดประโยชน์แก่ ผู้ปฏบิ ตั ิ ทำใหพ้ ้นทกุ ข์คือความตาย เป็นความ เพียรที่แม้แต่เทวดายังสรรเสริญและมา ช่วยเหลือ ความชั่วที่ปรากฏในมหาชนกชาดก
120 วารสารปัญญา ปีท่ี 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) ความเห็นผิด อันเป็นเหตุให้เข้าถึงนรกภูมิเม่ือ ความดีที่ปรากฏในวิธุรชาดก ได้แก่ ส้ินชีวิตไปแลว้ การบำเพ็ญบุญ มีให้ทานเป็นต้น เพราะเป็น เหตุให้ได้มาซึ่งสมบัตติ ่าง ๆ มีสมบัติในเทวโลก ความดีที่ปรากฏในมโหสถชาดก ได้แก่ ของท้าวสักกะ สมบัติและฤทธิ์ของพระยานาค การให้อภัย เพราะเป็นการตัดความอาฆาต สมบัติของพระยาครุฑ และสมบัติของ พยาบาท ไม่ก่อให้เกิดการจองเวรซึ่งกันและ พระราชา ความชว่ั ทีป่ รากฏในวิธุรชาดก ได้แก่ กันในอนาคต ความชั่วที่ปรากฏในมโหสถ การเบียดเบียนผู้อื่น เพราะเป็นการยังความ ชาดก ได้แก่การใส่ความให้ร้ายผู้อื่น เพราะ เดือดรอ้ นใหเ้ กดิ ข้ึนแก่ผูอ้ ่ืน เป็นการกระทำที่มีผลคือก่อให้เกิดความ เดือดร้อนแกผ่ อู้ ่ืน ความดีที่ปรากฏในเวสสันดรชาดก ได้แก่ การบำเพ็ญทานบารมี เพราะเปน็ เหตุยัง ความดีที่ปรากฏในภูริทัตชาดก ได้แก่ ประโยชน์สุขให้เกิดแก่ผู้รับทาน และยังเป็น การรักษาศีลอุโบสถ เพราะเป็นเหตุให้ไป การกระทำที่เหล่าเทวดาทั่วสากลจักรวาลลว้ น บงั เกดิ ในเทวโลก ท้งั ยงั เป็นการงดเว้นจากการ แซ่ซ้องสาธุการ ทั้งยังเป็นการบำเพ็ญบารมี ทำร้ายผู้อื่นทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ เพื่อเป็นปัจจัยให้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ความชั่วที่ปรากฏในภูริทัตชาดก ได้แก่การ อันจะเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชนเป็นอัน ประทุษร้ายมิตร เพราะเป็นการสร้างความ มากทั้งเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ความชั่วท่ี เดอื ดร้อนให้แกผ่ ู้อน่ื และยังเปน็ เหตุแห่งความ ปรากฏในเวสสันดรชาดก ได้แก่ การกล่าว เสื่อมหลายประการ มุสาวาท เพราะเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้อ่นื ความดีที่ปรากฏในจันทชาดก ได้แก่ การตัดสินคดีโดยชอบธรรม เพราะเป็นเหตุนำ แนวคิดเรื่องจุดมุ่งหมายของชีวิตที่ ความยุติธรรมมาให้แก่ผู้บริสุทธิ์ ความชั่วที่ ปรากฏในทศชาตชิ าดก ปรากฏในจันทชาดก ได้แก่ การคบคนพาล เพราะเป็นเหตุนำความฉิบหายมาให้แก่ตน พบว่าจุดมุ่งหมายในชีวิตของพระเตมิย และคนรอบขา้ ง กุมารโพธิสัตว์นั้น เป็นจุดมุ่งหมายที่เป็น สัมปรายิกัตถประโยชน์ คือ ในช่วงก่อนที่จะ ความดีที่ปรากฏในนารทชาดก ได้แก่ เสด็จออกบรรพชาเพื่อประพฤติพรหมจรรย์ การคบบัณฑิต เพราะบัณฑิตย่อมนำทางให้ไป เป็นจุดมุ่งหมายในภายภาคหน้าหรือสัมปรายิ พบแต่สิ่งดี ๆ และช่วยปกป้องจากสิ่งที่ไม่ดี กัตถประโยชน์ เพราะไม่ต้องการที่จะตกนรก ทั้งหลาย และความเป็นสัมมาทิฏฐิ เพราะเป็น จึงตั้งเป้าหมายว่าจะออกบวช จะไม่ครองราช เหตุให้บุคคลบำเพ็ญแต่กรรมที่ดี บำเพ็ญ สมบัติต่อจากพระบิดา และเมื่อได้เสด็จออก หนทางอันไปสู่สุคติโลกสวรรค์ ความชั่วท่ี บวชแลว้ กท็ รงพระพฤติพรหมจรรย์ในป่าจนได้ ปรากฏในนารทชาดก ได้แก่ การคบคนพาล สำเร็จอภิญญา 5 และสมาบัติ 8 จึงนับได้ว่า และการเป็นมิจฉาทิฏฐิ เพราะเป็นเหตุแห่ง เป็นทางสู่จุดมุ่งหมายอย่างสูงสุด คือ ปรมัตถ ความเส่ือมจากคุณงามความดีทั้งหลาย ท้ังทาง ประโยชน์ กาย วาจา และใจ
วารสารปัญญา ปีท่ี 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 121 จุดมุ่งหมายในชีวติ ของพระมหาชนกใน จุดมุ่งหมายในชีวิตของพระโพธิสัตว์ ช่วงแรกนั้นคือการชิงเอาราชสมบัติอันเป็น ภูริทัตนั้น คือต้องการจะไปบังเกิดในเทวโลก ของพระราชบิดาของพระองค์คืนมา และได้ อันไพบูลย์ไปด้วยสมบัติอันเป็นทิพย์ของเหล่า ทรงครองราชสมบัตินั้นในท้ายที่สุด ฉะน้ัน เทพยดาทั้งหลาย จึงได้ทำการรักษาอุโบสถศีล จุดมุ่งหมายในชีวิตของพระมหาชนกที่ปรากฏ ตลอดชีวิต จึงนับได้ว่าเป็นประโยชน์ที่เป็นไป แลว้ น้จี งึ นับได้วา่ เป็นทฏิ ฐธัมมิกัตถะประโยชน์ ในภพหน้า เปน็ สมั ปรายกิ ัตถประโยชน์ เป็นจดุ มุ่งหมายที่เป็นปัจจุบัน และเมอ่ื ได้เสวย ราชสมบัตแิ ลว้ จุดมุ่งหมายในชวี ิตของพระมหา จุดมุ่งหมายในชีวิตของพระจันทกุมาร ชนกราชหลังจากทรงเสร็จออกบรรพชาแล้ว คือต้องการจะช่วยให้ชนท้ังหลายพ้นจากความ ค ื อการบำเพ ็ ญสมณธรรมเพ ื ่ อบรรลุ ตาย จึงนับไดว้ ่า เปน็ จดุ มุ่งหมายทเ่ี ปน็ ปัจจุบัน จุดมุ่งหมายที่เป็นสัมปรายิกัตถประโยชน์ ใน ประโยชน์ ระดบั โลกุตตระหรือปรมตั ถประโยชนน์ ั่นเอง ส ำ ห ร ั บ ท ้ า ว ม ห า พ ร ห ม น า ร ท ะ น้ั น จุดมุ่งหมายในชีวิตของสุวรรณสาม ตรวจดสู ตั ว์โลกบำเพ็ญเมตตาบารมเี ป็นประจำ กุมารโพธิสัตว์นั้น มีทั้งจุดมุ่งหมายที่เป็น เมื่อเห็นพระนางรุจาทำสัจอธิษฐานต่อเหล่า ประโยชน์ในปัจจุบัน คือการได้บำรุงมารดา เทพยาขอให้มาปลดเปลื้องพระเจ้าอังคติราช บิดาตลอดชีวิตของตน และจุดมุ่งหมายที่เป็น จากมิจฉาทิฏฐิ จึงได้จำแลงกายเป็นเพศ สัมปรายิกัตถประโยชน์คือการปฏิบัติธรรมจน บรรพชิตมาแสดงธรรม ทำให้พระเจ้าอังคติ ได้อภิญญาและสมาบัติจนได้เข้าถึงพรหมโลก ราชทรงกลับใจจากมิจฉาทิฏฐิเป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อสิ้นชีวิตไปแล้ว อันถือเป็นปรมัตถ ได้ ส่วนจุดมุ่งหมายในชีวิตของท่านที่ปรากฏ ประโยชน์ ในเนื้อเรื่องนั้น ปรากฏเพียงว่าท่านต้องการ ปลดเปล้อื งพระเจ้าอังคตริ าชจากมจิ ฉาทิฏฐิให้ จุดมุ่งหมายในชีวิตของพระเจ้าเนมิราช กลายเป็นสัมมาทิฏฐิเท่านั้น ที่ปรากฏในเนมิราชชาดกนั้น เป็นจุดมุ่งหมาย ที่เป็นไปเป็นภพหน้า เป็นสัมปรายิกัตถ จุดมุ่งหมายของชีวิตของวิธุรบัณฑิต ประโยชน์ เป็นจุดมุ่งหมายที่เป็นเป็นปรมัตถ โพธิสัตว์ เป็นจุดมุ่งหมายที่เป็นเป็นในภพหน้า ประโยชน์ อันเป็นปัจจัยไปสู่การพ้นทุกข์ใน เป็นสัมปรายิกตั ถประโยชน์ อนาคต จุดมุ่งหมายของชีวิตของพระเวสสันดร จุดมุ่งหมายในชีวิตของมโหสถบัณฑิต โพธิสัตว์นั้น คือการบริจาคทาน เพื่อบำเพ็ญ นั้นจัดเป็นจุดมุ่งหมายในปัจจุบันชาติ คือ ทานบารมีอันจะเป็นเหตุเกื้อกูลให้ทรงบรรลุ มโหสถบัณฑิต ตั้งจุดมุ่งหมายในชีวิตว่าจะรับ พระสัพพัญญุตญาณเพื่อโปรดสรรพสัตว์ ใช้พระราชาที่ตนถวายตัวเข้ารับใช้ด้วยความ ทั้งหลายทั้งเทวดาและมนุษย์ จึงจัดเป็น ซื่อสัตย์และจงรักภักดีอย่างสุดความสามารถ ปรมัตถประโยชน์ คือประโยชน์สูงสุดใน ถึงแม้จะมีพระราชาจากเมืองอื่นให้ทรัพย์ พระพทุ ธศาสนา สมบัติ ให้ยศมากกว่า ก็ไม่ละทิ้งเจ้านายของ ตนไป คุณค่าทางจริยศาสตร์ที่ปรากฏในทศ ชาตชิ าดก 1) คุณคา่ ทางจริยศาสตรท์ ม่ี ีต่อจิตใจ
122 วารสารปญั ญา ปีที่ 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) พบว่าสัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิด ความเห็นที่ ความเห็นที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เช่น ผดิ จากทำนองคลองธรรม ความเป็นมิจฉาทิฏฐิ การเห็นว่าทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว การ นั้นตรงกันข้ามกับสัมมาทิฏฐิ ซึ่งปรากฏ ทำบาปมีผลไม่ดี การทำบุญมีผลดี เป็นต้น ตัวอย่างแล้วในนารทชาดก ที่พระเจ้าอังคติ ความเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐินั้นมีคุณค่าอย่างมาก ราชทรงหลงเชื่อในถ้อยคำของเหล่าคนพาลท่ี ต่อจิตใจของมนุษย์ซึ่งจำเป็นจะต้องดำรงชีวิต เป็นมิจฉาทิฏฐิ จึงทรงกลายเป็นคนมี อยู่ในโลกนี้ เพราะว่าจิตใจนั้นเป็นเครื่อง มิจฉาทิฏฐิไปด้วย ทรงใช้ชีวิตอย่างประมาท ควบคุมกายและวาจา คือเป็นเครื่องควบคุม มัวเมาในกามคุณทั้งหลาย ตัดหนทางแห่งการ การกระทำและคำพูดของคน ถ้าจิตใจเป็น บำเพ็ญบุญมีให้ทานและรักษาศีล เป็นต้น ไม่ สัมมาทิฏฐิแล้ว จะทำ จะพูด จะคิดอะไร ก็จะ ทรงสนใจในราชกิจ ทรงทำแต่กรรมชั่วเพราะ ทำ จะพูด จะคิดแต่ในสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม หลงเป็นมิจฉาทิฏฐิ จนเกิดความเดือดร้อนไป ตามกฎกติกาตามหลักมนุษย์ธรรมและหลัก ทั่วพระนคร ดังนั้นจึงพอจะสรุปได้ว่าคุณค่า ศีลธรรมอันดีงามของสังคม การมีสัมมาทิฏฐิ ของมจิ ฉาทฏิ ฐิท่ีมีต่อจิตใจนั้น คือ ทำให้บุคคล นั้นมีคุณค่าต่อจิตใจของคนอย่างมากในทุกยุค ที่ศึกษาได้ทราบว่าการเป็นมิจฉาทิฏฐิน้ัน ทุกสมัย ในทุกสังคมของคนในโลกนี้ อย่างเช่น ก่อให้เกิดความเดือดร้อนทั้งแก่ผู้ที่เป็น ในปัจจุบันนี้ ถ้าสังคมใดบ่มเพาะให้คนมี มิจฉาทิฏฐิเองและบุคคลรอบข้างที่ได้รับ สัมมาทิฏฐิมาก สังคมนั้นก็สงบสุขไม่วุ่นวาย ผลกระทบจากการกระทำอันเกิดจากความ เพราะคนมีความเห็นมีแนวทางการใช้ชีวิตที่ เป็นเป็นมิจฉาทิฏฐิด้วย คือถ้าจิตใจเป็น ถกู ต้องดีงาม เมอ่ื คนมีแนวคิดถูกต้องแล้ว การ มิจฉาทิฏฐิแล้วก็จะใช้ชีวิตด้วยความหลงผิด กระทำทางกายและทางวาจาที่แสดงออกมาก็ กระทำสิ่งต่าง ๆ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ถูกต้อง ไม่วิปริตผิดแปลกไปจากสิ่งที่ควรจะ อย่างผิดหลักศีลธรรมของสังคม ทำให้ตนเอง เป็น ดังเช่นที่มีปรากฏตัวอย่างในนารทชาดก และสังคมเดอื ดร้อน เปน็ ต้น ที่พระนางรุจาราชธิดาเป็นผู้มีจิตใจอันเป็น สัมมาทิฏฐิ พระนางทรงทราบดีกว่ากรรมดีมี การผูกอาฆาตพยาบาท และ การให้ ผลดี กรรมช่วั มผี ลช่วั ทานทที่ ำแล้วก็ย่อมมีผล อภัย การผูกอาฆาตพยาบาท จัดเป็นความชั่ว (ขุ. ชา. 64/860/201) พระนางจึงเป็นผู้ตั้งอยู่ ทางใจที่ส่งผลให้คนประพฤติชั่วทางกาย และ ในธรรมอันดี มีปกติให้ทานและรักษาศีลเป็น ทางวาจาต่อคนที่ตนผูกอาฆาตพยาบาทได้ ประจำ พระนางจึงเป็นทรี่ ักของชนทั้งหลายทั้ง เป็นการจองเวร ก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อ่ืน เทวดาและมนุษย์และเมื่อสิ้นชีวิตไปแล้ว พระ อย่างไม่รู้จักจบสิ้น ดังที่ปรากฏตัวอย่างใน นางกไ็ ด้ไปบงั เกดิ ในเทวโลก เพราะความที่พระ จันทชาดก ที่กัณฑหาลพราหมณ์ผูกอาฆาต นางเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐินั้นเอง พระนางจึง พยาบาทในพระจันทกุมารซึ่งทำให้ตนเสีย มองเห็นโทษของความเห็นผิด เห็นโทษของ ผลประโยชน์ จนทำให้คนมากมายได้รับความ กรรมชัว่ ไมท่ ำกรรมชั่วตลอดชีวิต เดือดร้อน แม้แต่ตัวเองก็ได้รับความเดือดร้อน จนถึงสิ้นชีวิตในท้ายที่สุด ดังนั้น การผูก อาฆาตพยาบาทนั้น จึงมีคุณค่าต่อจิตใจของผู้
วารสารปญั ญา ปีที่ 28 ฉบับท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 123 ที่ศึกษา คือ ทำให้รู้และเข้าใจว่า จิตใจของคน เดิมทรงเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง นั้น ควรระวังอย่าให้ความอาฆาตพยาบาท ตามทำนองคลองธรรม เป็นพระราชาผู้ทรง ครอบงำได้ เพราะเมื่อไหร่ที่จิตใจถูกความ ธรรม แต่เมื่อทรงได้พบกับคุณาชีวกผู้เป็นคน อาฆาตพยาบาทครอบงำแล้วนั้น ไม่ว่าจะทำ พาล เป็นคนมีมิจฉาทิฏฐิ พระองค์ก็ทรงกลับ จะพูด จะคดิ อะไร ก็จะสร้างแตค่ วามเดือดร้อน กลายเป็นคนมีมิจฉาทิฏฐิ ใช้ชีวิตอย่างผิด ๆ ให้เกิดขึ้นทั้งแต่ตนเองและผู้อื่น ซึ่งวิธีที่จะตัด เช่น หลงผิดในกามคุณทั้งหลาย ละเว้นการ ความอาฆาตพยาบาทได้นั้น ก็คือต้องรู้จักการ ราชกิจต่าง ๆ จนทำให้บา้ นเมอื งและประชาชน ให้อภัย ซึ่งการให้อภัยนั้น มีคุณค่าอย่างมาก เกิดความเดือดร้อน เป็นต้น วิธีการสังเกตคน ต่อจิตใจของมนุษย์ เพราะการให้อภัย จะ พาลนัน้ คอื คนพาลมักชอบชักชวนไปในทางท่ี ส่งผลให้เป็นบุคคลที่มีใจสงบเยือกเย็น ไม่เป็น ผดิ เช่น ชกั ชวนเล่นการพนัน ชกั ชวนทำผิดกฎ พษิ เป็นภัยทั้งแก่ตนเองและผู้อ่ืน จิตใจของผู้ที่ กติกาของบ้านเมือง ชักชวนดื่มสุราเสพยาเสพ รู้จักให้อภัยนั้น เป็นจิตใจที่ประกอบด้วย ติด เป็นต้น คนพาลชอบทำแต่ในสิ่งที่ไม่เป็น เมตตา การให้อภัยนั้นเป็นการตัดซึ่งการจอง ธุระไม่มีแก่นสาร คนพาลชอบกลั่นแกล้งรังแก เวรจองกรรมต่อกันและกัน เป็นการยังศัตรูให้ คนอ่นื คนพาลชอบทำแตส่ ิ่งท่ีผิดแต่กลับคิดว่า กลับกลายมาเป็นมิตรได้ ดังที่มีปรากฏ เป็นสิ่งที่ดี คนพาลไม่ชอบอยู่ในระเบียบวินัย ตัวอย่างในมโหสถชาดก ที่มโหสถบัณฑิตได้ให้ ไมอ่ ย่ใู นกฎกติกาของสังคม คนพาลแม้ถูกผู้อื่น อภัยแก่อำมาตย์ทั้ง 4 ที่ได้ใส่ความให้ร้ายตน แนะนำสิ่งดี ๆ ด้วยความหวังดีก็โกรธ เป็นต้น จนเกือบถึงความตาย ทำให้อำมาตย์ทั้ง 4 ซ่ึง การคบคนพาลนั้นท่านเปรียบเหมือนการเอา เคยคิดร้ายต่อมโหสถบัณฑิตกลับกลายมาเป็น ใบไม้ไปห่อปลาเน่า ใบไม้แม้ไม่ได้เน่าเสีย ก็ กัลยาณมติ รได้(ข.ุ ชา. อ. 63/386.) ทั้งยงั สร้าง พลอยติดกลิ่นเหม็นของปลาเน่าไปด้วย ซ่ึง ความชื่นชมความเชื่อมั่นให้เกิดแก่พระราชา โทษของการคบคนพาลนั้นมีมากมายหลาย ว่ามโหสถบัณฑิตนั้นเป็นผู้มีจิตใจที่ดีงาม ประการ เช่น พลอยถูกมองในแง่ร้ายไปด้วย เพราะเป็นคนรู้จักให้อภัย จึงทรงมอบหมาย ไดร้ บั ความไม่ไวว้ างใจเพราะคบกับคนพาล ถูก หน้าที่อันสำคัญให้ทำ เป็นต้น ซึ่งถ้าผู้ใดมี ชักนำไปในทางที่ผิดได้ง่าย ถูกนินทาว่าร้าย จิตใจที่ประกอบด้วยเมตตา ให้อภัยผู้อื่นอยู่ ถูกดูหมิ่นดูแคลน เป็นที่เสื่อมเสียชื่อเสียง เสมอ ก็มักจะได้รับความรักความเมตตาจาก หน้าที่การงานได้รับความเสียหาย พบเจอแต่ ผูอ้ ่นื อยู่เสมอเช่นกนั ความเสื่อม เกิดภัยแก่ตนเองและคนรอบข้าง เมือ่ ตายไปแลว้ ก็ไปบังเกิดในทุคตินรกภูมิ เป็น 2) คุณค่าทางจริยศาสตร์ที่มีต่อการ ต้น ดังนั้น เมื่อมองเห็นโทษและภัยทั้งหลาย ดำเนนิ ชีวิต ของการคบคนพาลแล้ว ในการดำเนินชีวิต บุคคลจึงไม่ควรคบหาสมาคมกับคนพาล ควร พบว่าได้แก่ การไม่คบคนพาล และ ตระหนักไว้ในใจเสมอว่าคนพาลนั้นเป็นบุคคล การคบบัณฑิต การคบคนพาลนั้นย่อมทำให้ ที่ควรหลีกเลี่ยง การไม่คบคนพาลนั้นมีคุณค่า บุคคลกลายเปน็ คนพาลไปด้วย ถงึ แม้ว่าแต่เริ่ม ต่อการดำเนินชีวิตทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่น และแก่ เดิมทีจะไม่ได้เป็นคนพาลก็ตาม ดังที่มีปรากฏ ตัวอย่างในนารทชาดก ที่พระเจา้ องั คติราช แต่
124 วารสารปัญญา ปีที่ 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) สังคม กล่าวคือ คุณค่าต่อตนเองคือ ทำให้ไม่ พลอยกลายเป็นของมีกลิ่นหอมไปด้วยเพราะ กลายเป็นคนพาลไปด้วย ทำให้เป็นผู้ไม่มี ได้อย่ใู กล้ของหอมน้ันเอง การคบบัณฑติ นั้น มี มิจฉาทิฏฐิดังเช่นคนพาล ทำให้ไปถูกชักนำไป อานิสงค์หลายประการ เชน่ ทำให้เปน็ ผูม้ ีจิตใจ ในทางที่ไม่ดี ทำให้อยู่ห่างจากอบายมุข ผ่องใสทำความดีตามบัณฑิตได้ง่าย ทำให้เป็น ทั้งหลาย เป็นต้น คุณค่าต่อผู้อื่น คือ บุคคล ผู้มีปัญญาเพิ่มขึ้นเพราะอาศัยบัณฑิต ทำให้ รอบข้างทั้งหลาย เช่น บิดามารดา บุตรธิดา เป็นผู้มีความเห็นถูกเป็นสัมมาทิฏฐิ ทำให้ไม่ และมิตรสหายทั้งหลาย ก็รอดพ้นจากภัยอัน ตอ้ งเกดิ ความเดือดร้อนเพราะการทำผิด ทำให้ เกิดเพราะการคบคนพาลของตนเองด้วย คือ เป็นที่ได้รับการยกย่องสรรเสริญ ทำให้มีความ ไมไ่ ดร้ ับความเดือดเพราะการเข้าไปคบคนพาล เจริญก้าวหน้าในชีวิตและหน้าที่การงาน ทำให้ ของตน เป็นต้น คณุ ค่าต่อสังคม คือ เมื่อบุคคล เกิดความสุขกายสบายใจ ทำให้ได้รับความ ทั้งหลายในสังคม ต่างพากันไม่คบหาสมาคม ไว้วางใจจากคนรอบข้าง ทำให้ปิดกั้นการทำ กับคนพาล คนพาลก็ไม่มีอิทธิพลต่อสังคม ความชั่วทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ ส ั ง ค ม ก ็ จ ะ ก ล า ย เ ป ็ น ส ั ง ค ม ท ี ่ ส ง บ ส ุ ข ไ ม่ เพราะอาศัยเพื่อนที่ไม่ดี ทำให้ไม่ต้องตกทุคติ เดือดร้อนวุ่นว่าย เป็นต้น ดังนั้น โทษของการ นรกภมู เิ มอื่ สน้ิ ชีวติ ไปแล้ว เปน็ ตน้ คบคนพาลและอานิสงค์ของการไม่คบคนพาล จึงมีคุณค่าต่อการดำเนินชีวิตของทุกคนใน ความเพียร สังคม ความไม่เกียจคร้าน ความไม่ท้อถอยใน กิจการงานทั้งหลาย ความไม่ทอดทิ้งธุระท่ี การคบบัณฑิตนน้ั ย่อมทำให้บุคคลที่คบ เกิดขึ้นจนกว่าจะสำเร็จ เป็นต้น ความเพียร เป็นบัณฑิตไปด้วย ดังเช่นที่ปรากฏตัวอย่างใน เป็นคณุ ธรรมเคร่ืองอุดหนนุ เครื่องสนับสนุนให้ นารทชาดก ที่พระเจ้าอังคติราชหลังจากทรง สำเร็จในกิจทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ การ กลายเป็นคนพาลเป็นคนมีมิจฉาทิฏฐิเพราะไป งาน หรือการกระทำอะไรก็ตาม ที่ต้องใช้ท้ัง คบค้าสมาคมกับคุณาชีวกผู้เป็นคนพาลเป็น แ ร ง ก า ย แ ล ะ แ ร ง ใ จ บ ุ ค ค ล ใ ด เ ป ็ นผู้ มิจฉาทิฏฐิจนสร้างความเดือดร้อนให้เกิดขึ้น ประกอบด้วยความเพียร ไม่ละความเพียร ทั้งแก่พระองค์และแก่ประชาชนแก่บ้านเมือง พยายามในกิจการงานทั้งหลายที่เกิดข้ึน แล้ว ภายหลังได้อาศัยการคบกับผู้เป็นบัณฑิต บุคคลนั้นก็ย่อมจะประสบความสำเร็จตาม อย่างพระนางรุจาราชธิดาและนารทพรหม ก็ เป้าหมายที่ได้ตั้งไว้อย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว ทรงละความเป็นคนพาล ละความเป็น อย่างเชน่ ความเพียรทมี่ ีปรากฏตัวอย่างในมหา มจิ ฉาทิฏฐิได้ กลบั มาเปน็ พระราชาผู้ทรงธรรม ชนกชาดกนั้น พระมหาชนกได้อาศัยความ ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง จนท้ายที่สุดเมื่อ เพียร ว่ายน้ำอยู่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ สิ้นพระชนม์ชีพก็ได้ไปจุติในเทวโลก เพราะ มองไม่เห็นฝ่ังอยถู่ ึง 7 วนั (ขุ. ชา. 63/447/68.) อาศัยกัลยาณมิตรที่เป็นบัณฑิตอย่างพระนาง สมมติถ้าพระมหาชนกละความเพียรในการ รุจาราชธิดาและนารทพรหมนั้นเอง การคบ ว่ายน้ำเสียตั้งแต่วันแรก ๆ ก็คงจมน้ำ บัณฑิตนั้น ท่านเปรียบเสมือนการเอาใบไม้ไป กลายเปน็ อาหารของปลาและเต่าไปเช่นกับคน หอ่ ของหอม ใบไมแ้ มแ้ ต่เดิมไมไ่ ด้มีกล่ินหอม ก็ อื่น ๆ ในเรือ แต่เพราะพระมหาชนกนั้นเป็นผู้
วารสารปัญญา ปที ี่ 28 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 125 ท่ไี มล่ ะท้งิ ความเพียร จงึ ได้พ้นจากภยั คือความ ยอ่ มไดร้ ับความไว้วางใจจากทุก ๆ คนในสังคม ตายในทะเล ได้ประสบผลสำเร็จตามที่มุ่งหวัง บุคคลนั้นไม่ว่าจะทำการงานหรือกิจการอะไร ไว้ คือ ได้เป็นพระราชา ครองราชสมบัติอัน กับใครก็ตาม ก็ย่อมได้รับหน้าที่ที่สำคัญและ เคยเป็นของพระบิดาของพระองค์มาก่อน ได้รับความรักความไว้วางใจอย่างถึงที่สุด ความเพียรนั้นเป็นคุณธรรมฝ่ายดีที่มนุษย์และ ดังเช่นทีมีปรากฏตัวอย่างในมโหสถชาดก เทวดาท้ังหลายตา่ งกช็ ่นื ชมยินดี และชว่ ยเหลือ ความซื่อสัตย์ไม่ทรยศต่อพระเจ้าวิเทหราชขอ บุคคลผู้มีความเพียรให้สำเรจ็ ความประสงค์อยู่ งมโหสถบัณฑิต ที่แม้ว่าจะได้รับข้อเสนอที่จะ เสมอ ให้ทั้งทรัพย์สมบัติและอำนาจที่มากกว่าที่เคย มีจากพระเจ้าจุลนีพรหมทัต มโหสถบัณฑิตก็ ความกตัญญูกตเวที การบำรุงมารดา ไม่ละทงิ้ พระเจ้าวเิ ทหราชไป ยังทำหนา้ ท่ีรับใช้ บดิ า ในราชสำนักของพระเจ้าวิเทหราช ทำให้พระ เจ้าจุลนีพรหมทัตทรงทราบถึงความเป็นผู้มี ความกตัญญกู ตเวทนี ัน้ ทา่ นผู้ร้กู ลา่ วว่า ความซื่อสัตย์ของมโหสถบัณฑิต ในกาลต่อมา เป็นเครื่องหมายของคนดี บุคคลผู้ที่มีความ เมื่อมโหสถบัณฑิตเข้าไปรับใชใ้ นราชสำนักของ กตัญญูกตเวทีนั้นเป็นบุคคลที่มีจิตใจโอบอ้อม พระเจ้าจุลนีพรหมทัต ตามที่ได้สัญญาไว้แล้ว อารีและมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่ ต่อมาถูกคนใส่ความ พระเจ้าจุลนีพรหมทัตก็ เสมอ และมักจะเป็นที่รักทั้งเทวดาและมนุษย์ ไม่ทรงหลงเชื่อในคำใส่ความนั้น ทำให้มโหสถ ทั้งหลาย กล่าวคือ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย บัณฑิตรอดพ้นจากภัยที่ถูกใส่ความนั้นได้ ข้อ มักจะคอยปกป้องคุ้มครองผู้ที่มีความกตัญญู นี้เป็นตัวอย่างของการได้รับความไว้วางใจของ กตเวทีอยู่เสมอ เช่น การบำรุงมารดาบิดาเพ่ือ บคุ คลผูท้ ี่มีความซ่ือสัตยส์ ุจริต ฉะน้ัน จึงสรุป ตอบแทนพระคุณของท่าน ซึ่งปรากฏใน ไดว้ ่า ความซือ่ สตั ย์นน้ั เป็นคณุ ธรรมที่มีคุณค่า สุวรรณสามชาดก การที่สุวรรณสามกุมารมี และมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการดำเนิน ความกตัญญูกตเวทีคอยบำรุงเลี้ยงดูมารดา ชีวติ บิดาผู้ตาบอดอยู่ในป่า ทำให้เทวดาที่อยู่ในป่า เกิดความรักความเอ็นดูในสุวรรณสามกุมาร 3) คณุ ค่าทางจริยศาสตร์ท่มี ีต่อสังคม เมื่อสุวรรณสามกุมารมีภัยจนเกือบถึงชีวิต พบว่าได้แก่การบำเพ็ญทาน การให้ เทวดาก็ได้มาช่วยชีวิตไว้ เพราะเห็นว่าสุวรรณ การแบ่งปัน การเสยี สละ การเอื้อเฟ้ือ การให้ สามกุมารเป็นผู้ที่คอยเลี้ยงดูมารดาบิดาและ ทานนั้นเป็นการบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุอย่าง เป็นผู้ที่มีจิตเมตตา ไม่เบียดเบียนสรรพสัตว์ หนึง่ ซงึ่ การให้ทานท่ีมผี ลมากนั้นประกอบด้วย ทัง้ หลายในป่า เป็นต้น องคป์ ระกอบ 3 ประการ คอื วัตถขุ องท่ใี ห้ทาน ได้มาโดยบริสุทธิ์หรือโดยสุจริต เจตนาของ ความซ่อื สตั ย์ ผู้ให้ทานบริสุทธิ์ คือ ก่อนให้ทานก็มีจิตยินดี ความซื่อสัตย์สุจริตนั้น เป็นคุณธรรม ระหว่างให้ทานก็มีจิตยินดี หลังให้ทานก็มีจิต เคร่ืองรบั รองบุคคลได้อย่างดีทสี่ ุดข้อหนึ่ง เป็น ยินดี ไม่รู้สึกเสียดายในของที่ให้ทาน ให้ทาน คุณธรรมที่เป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และบุคคลผู้รับทาน บุคคลใดมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นคุณธรรม เครื่องนำทางในการดำเนินชีวิตแล้ว บุคคลน้ัน
126 วารสารปัญญา ปที ่ี 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) บริสุทธิ์ คือ เป็นผู้ที่มีศีล มีธรรม มีคุณธรรม ต่อบคุ คลอ่ืนของพระเจ้าอริฏฐชนกท่ีก่อเวรต่อ ของบัณฑิตเป็นเครื่องอยู่อาศัย การให้ทานนี้มี พระโปลชนก จนตัวเองต้องได้รับความ ปรากฏตวั อย่างในเรื่องเวสสันดรชาดก ซ่ึงพระ เดือดร้อนจนถึงสิ้นชีวิตในสนามรบ ที่ปรากฏ เวสสันดร ทรงมีใจฝักใฝ่ในความตรัสรู้พระ ในมหาชนกชาดก การประทุษร้ายต่ออวัยวะ อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ จึงได้ตั้งความ ของผู้อื่นในอดีตชาติของมารดาบิดาของพระ ปรารถนาตั้งแต่แรกเกิดว่าจะให้ทาน เพ่ือ สุวรรณสามกุมารอันเป็นกรรมที่ส่งผลให้ต้อง บำเพ็ญบารมีอันเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ตรัสรู้ ตาบอด การฆ่าสัตว์เบียดเบียนชีวิตผู้อื่นของ เป็นพระพุทธเจ้าให้เต็มเปี่ยม พระองค์จึงทรง พระเจ้าปิลยักขราชที่ปรากฏในสุวรรณสาม ให้ทานแก่มหาชนเป็นอันมาก ซึ่งการให้ทาน ชาดก การประทุษร้ายมิตรของเนสาท ของพระองค์นั้นก็นับได้ว่าเป็นการเกื้อกูล พราหมณ์จนเป็นเหตุให้ตนเองได้รับความ มหาชนเป็นอันมาก มีคนมากมายในสังคม เสื่อมที่ปรากฏในภูริทัตชาดก การผูกอาฆาต ได้รับประโยชน์จากการบริจาคทานของ พยาบาท พยายามทำให้ผู้อื่นถึงความสิ้นชีวิต พระองค์ ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าการให้ทานหรือ ของกัณฑหาลพราหมณ์ที่ปรากฏในจันทชาดก การบำเพ็ญทานนั้น เป็นการกระทำที่มีคุณค่า การพยายามฆ่าผู้อื่นของปุณณกยักษ์ที่ปรากฏ และมีประโยชน์เป็นอย่างมากต่อสังคม ไม่ว่า ในวธิ ุรชาดก การพดู คำเทจ็ และทำร้ายร่างกาย จะในยคุ ใด ในสมยั ใดกต็ าม และจิตใจของผู้อื่นของพราหมณ์เฒ่าชูชกที่ ปรากฏในเวสสันดรชาดก การกระทำของ การพยาบาทก่อเวรต่อกัน การ บุคคลทั้งหลาย อันเป็นกรรมชั่วทางกาย ทาง เบียดเบียนผู้อื่น การประทุษร้ายผู้อื่น การให้ วาจา ทางใจ ที่ปรากฏในชาดกเรื่องต่าง ๆ ท่ี อภยั ยกมากล่าวถึงข้างต้นนั้น ล้วนเป็นการสร้าง ความเดือดร้อนให้แกผ่ ู้อ่ืน เป็นการเบียดเบียน กรรมอนั ไม่ดีทั้งหลาย มีการเบียดเบียน ชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น เป็นการสร้าง ประทุษร้ายผู้อื่นทางกาย เช่น การทำร้าย ความเดือดร้อนวุ่นวายเป็นอย่างมากให้เกิดขน้ึ ร่างกาย ตั้งแต่ทำให้เจ็บตัว ไปจนถึงทำให้ ในสังคมนั้น ๆ แม้กระทั่งตนเองก็ยังได้รับ ส้นิ ชวี ติ เป็นต้น ทางวาจา มีการพูดคำเท็จ พูด ความเดือดร้อน บางคนถึงขั้นต้องสิ้นชีวิตไป ส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ พูดคำ เพราะการกระทำกรรมชั่วเหล่านั้น ดังนั้นจึง ผรุสวาท พูดให้ร้ายว่าร้าย พูดใส่ความผู้อื่น พอสรุปได้ว่า กรรมชั่วทางกาย วาจา ใจ ท่ี เป็นต้น ทางใจ มีการผูกใจพยาบาทต่อผู้อ่ืน ปรากฏข้างต้นนั้น มีคุณค่าต่อสังคมคือ เป็น การจองเวรต่อกัน เปน็ ต้น เหลา่ น้จี ัดเป็นกรรม กรณีศึกษาเพื่อให้สังคมกำหนดกฎกติกา ชั่วท่ีไม่ควรประพฤติ เพราะเป็นการสร้างความ กำหนดข้อปฏิบตั ิเพ่ือทีจ่ ะได้งดเว้นจากการทำ ลำบาก ยังความเดือดร้อนให้เกิดขึ้นทั้งแก่ตน กรรมชั่วเหล่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความ และแก่บุคคลอื่น ดังที่มีปรากฏตัวอย่างในทศ เดือดร้อนวุ่นวายขึ้นในสังคม ซึ่งการที่จะ ชาติชาดกหลาย ๆ เรื่อง เช่น การกล่าว ป้องกันหรือแก้ไขความชั่ว มีการผูกอาฆาต ผรุสวาท ทำปาณาติบาตของพระบิดาของพระ พยาบาท การกอ่ เวรต่อกัน เป็นต้นได้ ก็ต้องใช้ เตมิยกุมาร อันเปน็ กรรมที่ทำให้ต้องตกนรกถึง 80,000 ปี ที่ปรากฏในเตมิยชาดก การก่อเวร
วารสารปัญญา ปีท่ี 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 127 คุณธรรมคือ การใหอ้ ภัย เพราะการให้อภัย ไม่ สมบัติอันเป็นทิพย์ของเหล่าเทวดาทั้งหลาย อาฆาต ไม่พยาบาท ไม่เบียดเบียนกันนั้น ถ้า บนเทวโลก มีความปรารถนาที่ จะได้ เกิดขึ้นในสังคมใด สังคมนั้นก็จะพบกับความ ครอบครองสมบัติอันเป็นทิพย์เหล่าน้ันบ้าง จึง สงบสุข ไม่เดือดร้อน ไม่วุ่นวาย เพราะการให้ ได้ไปสมาทานรักษาศีลอุโบสถอยู่บนจอม อภัย เป็นการตัดเสียซึ่งการกระทำอันไม่ดีต่าง ปลวกริมฝั่งแม่น้ำตลอดชีวิต เมื่อสิ้นชีวิตไปก็ ๆ ที่บุคคลจะปฏิบัติต่อกันด้วยอำนาจของ ได้ไปบังเกิดในเทวโลก ได้รับสมบัติอันเป็น ความพยาบาท ดังนั้นการให้อภัยจึงมีคุณค่า ทิพยส์ มดงั ทไี่ ดต้ ้งั ความปรารถนาไว้ ดงั น้นั จึง ต่อสงั คม คือ ทำใหส้ งั คมเกิดความสงบสุข สรุปได้ว่า การรักษาศีลนั้น เป็นการปฏิบัติที่มี คุณค่าต่อการปฏิบัติธรรม เพราะผู้มีศีลย่อม 4) คุณค่าทางจริยศาสตร์ที่มีต่อการ สามารถทำให้จิตใจสงบเป็นสมาธิได้เรว็ ผู้มีศีล ปฏิบตั ธิ รรม ย่อมมีความองอาจไม่เก้อเขินในหมู่ของผู้ ปฏิบัตธิ รรมทมี่ ีศีลบรบิ รู ณ์เหมือนกัน พบว่าได้แก่การรักษาศีลอุโบสถ ศีล การสำรวมรักษา กาย วาจาใหเ้ รียบร้อย มีการ การประพฤตพิ รหมจรรย์ งดเว้นจากกายทุจริต คือเว้นจากฆ่าสัตว์ เว้น การประพฤติพรหมจรรย์ การประพฤติ จากลักขโมย เว้นจากประพฤติผิดในกาม เว้น เพียงดังพรหม การประพฤติอันประเสริฐ การ จากวจีทุจริต คือเว้นจากพูดเท็จ เว้นจากพูด ตัดเยื่อใยในโลกิยะสุขทุก ๆ อย่างเพื่อมุ่งหน้า คำหยาบคำผรุสวาท เว้นจากพูดส่อเสียด เว้น สู่โลกุตตระสุข ข้อวัตรที่เรียกว่าการประพฤติ จากพูดเพ้อเจ้อ เป็นต้น การสมาทานรักษาศีล พรหมจรรย์นั้นมีหลายอย่าง เช่น การให้ทาน อุโบสถ คือการตั้งใจที่จะงดเว้นจากการทำ การขนขวายในการทำกิจที่ชอบที่ถูกที่ควร ความชั่วทางกาย ทางวาจาทั้งหลายเหล่าน้ัน การรกั ษาศีล 5 การประพฤติพรหมวิหารธรรม อย่างเคร่งครัด เป้าหมายและประโยชน์ของ การเว้นจากกามคุณท้ังหลาย การเป็นผู้มีความ การรักษาศีลอุโบสถนัน้ ก็คือเพื่อทำกาย วาจา สันโดษ การมีความเพียรในการละกิเลส การ ให้สงบ ไม่เบียดเบียนผู้อื่นทางกายทวารและ รักษาศีลอุโบสถ การปฏิบัติตามอริยมรรคมี วจีทวาร ทั้งยังสามารถทำให้จิตใจสงบได้ง่าย องค์ 8 การศกึ ษาและปฏิบัติในสิกขา 3 คอื ศีล ในเวลาทำสมาธิ การรักษาศีลอุโบสถอย่าง สมาธิ ปัญญา เป็นต้น การประพฤติ เคร่งครัดนั้นมีอานิสงค์มากมายหลายประการ พรหมจรรย์นั้นมีอานิสงค์หลายประการ เช่น เช่น ทำให้เป็นผู้องอาจไม่เก้อเขินในสมาคม ทำให้จิตใจปลอดโปร่ง ไม่ต้องมีความกังวลใน ของผู้มีศีล ทำให้มีกิตติศัพท์อันงามมีชื่อเสียง กามคุณทั้งหลาย ทำให้เป็นอิสระจากเครื่อง เลื่องลือขจรไปไกล ทำให้สามารถรักษาและ ผกู มดั ท้งั หลายของผคู้ รองเรือน ทำให้มีเวลาใน ได้รับโภคสมบัติได้เพราะความไม่ประมาท ทำ การประกอบความดีมากเพราะไม่ต้องวุ่นวาย ใหไ้ ม่หลงทำกาละ คอื ไม่หลงเผลอสติในเวลาที่ กับเรื่องอันไม่เป็นแก่นสารต่าง ๆ ทำให้บรรลุ จะตาย และทำให้สามารถเข้าถึงสุคติบังเกิดใน คุณวิเศษมีอภิญญา สมาบัติ ทำให้บรรลุมรรค เทวโลกเมื่อสิ้นชีวิตไปแล้วได้ ดังที่มีปรากฏ ผลนิพพานได้ เป็นต้น การประพฤติ ตัวอย่างในภูริทัตชาดก ที่พระภูริทัตได้ไปเข้า พรหมจรรยท์ ่ีมปี รากฏในทศชาติชาดกน้ัน มีใน เฝ้าท้าวสักกะกับพระบิดาบนเทวโลก ได้เห็น
128 วารสารปัญญา ปที ี่ 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) เตมิยชาดก ที่พระเตมิยกุมารไม่ต้องการ ประโยชน์นิยม และเกณฑ์ตัดสินในทาง ครองราชสมบัติสืบต่อจากพระบิดาเพราะ พระพุทธศาสนา มาใช้ตัดสินคุณค่าทาง ระลึกชาติได้ว่าการครองราชสมบัติเป็นเหตุให้ จริยธรรมว่า การกระทำใดบ้างจัดเป็นความดี ต้องทำกรรมชั่ว มีกล่าวผรุสวาทและสั่งให้ทำ การกระทำใดบ้างจัดเป็นความชัว่ ตัวอย่างเช่น ร้ายผอู้ ่นื เป็นตน้ อนั เปน็ เหตุให้ต้องตกนรกถึง ในเรอ่ื งเตมิยชาดก มหาชนกชาดก สุวรรณสาม 80,000 ปี (ขุ.ชา. 63/408/5) จึงได้อดทน ชาดก เนมริ าชชาดก มโหสถชาดก ภรู ทิ ตั ชาดก แกล้งเป็นคนหูหนวก เป็นง่อยเปลี้ย เป็นใบ้ จันทชาดก นารทชาดก วิธุรชาดก และ จนในที่สุดก็ต้องออกบวชเพื่อประพฤติ เวสสันดรชาดก การกระทำที่จัดว่าเป็นความดี พรหมจรรย์ในป่า เมื่อได้ประพฤติพรหมจรรย์ ที่ปรากฏในเรื่องเหล่านี้ คือการกระทำที่เป็น จนได้บรรลุอภิญญาและสมาบัติแล้ว ก็ได้ กุศลกุศลทั้งหลายที่ก่อให้เกิดผลดี ก่อให้ เทศนาสั่งสอนพระบิดาพระมารดาและชน ประโยชน์สุขแก่ตัวผู้ปฏิบัติเอง แก่บุคคลอ่ืน ทั้งหลายเป็นอันมาก ให้ออกบวชประพฤติ และแก่สังคมส่วนรวม เช่น การออกบวชเพ่ือ พรหมจรรย์ด้วย เมื่อได้สิ้นชีวิตไป คนทั้งหมด ประพฤติพรหมจรรย์ ความเป็นสัมมาทิฏฐิ ก็ได้เข้าถึงพรหมโลก และยังมีปรากฏในเนมิ การคบบัณฑิต การให้อภัย การไม่พยาบาท ราชชาดก ที่พระเจ้าเนมิราชเมื่อทรงได้ เบียนกันซึ่งกันและกัน การบำรุงมารดาบิดา ครองราชย์แล้วทรงบริจาคทาน รักษาศีล การรักษาศีล ให้ทำบุญต่าง ๆ มีให้ทาน เป็น อุโบสถและชักชวนให้ชาวเมืองทำบุญมีให้ทาน ต้น การกระทำที่จัดว่าเป็นความชั่ว คือ การ เป็นต้นตามพระองค์ด้วย วันหนึ่งเมื่อพระองค์ กระทำท่ีเป็นอกุศลท้ังหลายท่ีก่อให้เกิดผลไม่ดี ได้ทราบจากท้าวสักกะว่าการประพฤติ มกี ารสร้างความทุกข์ความเดือดร้อนให้เกิดข้ึน พรหมจรรย์นั้นมีอานิสงค์มากกว่าการให้ทาน แก่ตัวผู้ปฏิบัติเอง แก่ผู้อื่น และแก่สังคม และรักษาศีล เมื่อถึงกาลที่พระเกศาหงอกจึง ส่วนรวม เช่น การเป็นมิจฉาทิฏฐิ การคบคน ได้ออกบวชเพื่อประพฤติพรหมจรรย์พระ พาล การผูกอาฆาตพยาบาท การเบียดเบียน ตลอดพระชนม์มายุ เมอื่ สน้ิ ชวี ติ ไปแลว้ ก็ได้ไป กัน การคดโกงผู้อื่น การทำร้ายผู้อื่นแม้เพียง บังเกิดในพรหมโลก ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า การ เลก็ น้อยไปจนถึงใหส้ ิ้นชวี ิต การกล่าวมุสาวาท ประพฤติพรหมจรรย์นัน้ มีคุณค่าต่อการปฏิบัติ การใส่ความว่าร้ายผู้อืน่ เป็นต้น ซึ่งคุณค่าของ ธรรมเป็นอย่างยิ่ง เพราะการประพฤติ การได้ศึกษาการกระทำเหล่าน้ี คอื ทำให้บุคคล พรหมจรรย์เองก็นับเป็นการปฏิบัติธรรมด้วย ผ้ศู กึ ษาร้วู ่าสิง่ ใดดีกค็ วรกระทำ สิ่งใดไมด่ กี ็ควร ทั้งยังมีอานิสงค์มากมายด้วยตามที่กล่าว เว้น ไม่ควรกระทำ เพราะมีปรากฏตัวอย่างให้ มาแลว้ ข้างต้น เห็นในทศชาติชาดกแล้วว่าการกระทำท่ี จัดเป็นความดีนั้น ย่อมนำประโยชน์สุขมาให้ 5) คุณค่าของเกณฑ์ตัดสินคุณค่าทาง ทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่นและแก่สังคมส่วนรวม ส่วน จรยิ ธรรมทปี่ รากฏในทศชาติชาดก การกระทำที่จัดเป็นความชั่วนั้น ย่อมนำความ ทุกข์ความเดือดร้อนมาให้ทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่น การตัดสินคุณค่าทางจริยธรรมในทศ และแกส่ งั คมสว่ นรวม ชาติชาดกนั้น ผู้วิจัยได้ใช้เกณฑ์ตัดสินของ กลุ่มสัมบูรณนิยม กลุ่มปฏิบัตินิยม กลุ่ม
วารสารปัญญา ปีที่ 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 129 6) คุณค่าของจุดมุ่งหมายของชีวิตท่ี เพอื่ ทีจ่ ะได้อยู่อย่างเปน็ สุขและชว่ ยให้คนอ่ืน ๆ ปรากฏในทศชาติชาดก ได้รอดพ้นจากภัยต่าง ๆ มีจากการถูกเบียน เบียด จากความตาย เป็นต้น ซึ่งจุดมุ่งหมายใน พบว่าจุดมุ่งหมายของชีวิตที่ปรากฏใน ชีวิตที่ปรากฏในทศชาติชาดกนี้ มีคุณค่าทั้งต่อ ทศชาติชาดกที่สอดคล้องกับหลักจริยศาสตร์ จิตใจ ต่อการดำเนินชีวิต ต่อสังคม และต่อการ ของกลุ่มวิมุตินิยม ซึ่งเป็นแนวคิดย่อยของกลุ่ม ปฏิบัติธรรม คือการศึกษาจุดมุ่งหมายในชีวิต อสุขนิยม ที่ปรากฏในเรื่องเตมิยชาดก มหา ของพระโพธิสัตว์นั้น ช่วยให้ไม่หลงผิดในการใช้ ชนกชาดก สุวรรณสามชาดก เนมิราชชาดก ชีวิต ช่วยให้ผู้ที่ต้องการความสงบจากความ วิธุรชาดก เวสสันดรชาดก นั้นพระโพธิสัตว์ โลภ ความโกรธ ความหลงดำเนินชีวิตตาม ต้องการความสงบของจ ิตมากกว่ าความสุ ข แบบอย่างที่ปรากฏในทศชาติชาดกได้ เพราะมี สบายทางกาย จึงได้บำเพ็ญบุญกริยาต่าง ๆ มี ตัวอย่างให้ทราบว่า เมื่อบำเพ็ญบุญมีให้ทาน การให้ทานรักษาศีลบ้าง ปฏิบัติธรรมบ้าง รักษาศีล เจริญเมตตาพรหมวิหาร ออกบวช เจริญเมตตาพรหมวิหารบ้าง ออกบวชเพ่ือ เพื่อประพฤติพรหมจรรย์แล้ว สิ่งที่ทำไปนั้นไม่ ประพฤติพรหมจรรย์บ้าง เพื่อแสวงหาความ สูญเปล่า มีผลคืออย่างน้อยจิตใจก็สงบ เม่ือ สงบทางจิต เพื่อทำตนให้เป็นอิสระจากความ ตายไปแล้วก็บังเกิดในเทวโลกในพรหมโลก โลภ ความโกรธ ความหลง เพื่อบำเพ็ญหนทาง จนถึงขั้นเข้าถึงพระนิพพานอันเป็นประโยชน์ แห่งการพ้นทุกข์ ซง่ึ จุดมุง่ หมายในชวี ติ ของพระ สูงสุดในพระพุทธศาสนาได้ และจุดมุ่งหมาย โพธิสัตว์เหล่านั้นเมื่อจัดแจงเข้าในจุดมุ่งหมาย ของชีวิตที่ปรากฏในทศชาติชาดกยังมีคุณค่า ของในชีวิตในทางพระพุทธศาสนาก็จะ คือ ช่วยให้ผู้ที่ศึกษาและปฏิบัติตามแนวทาง สอดคล้องกับประโยชน์ที่เป็นสัมปรายิกัตถะ ของพระโพธิสัตว์ให้บรรลุประโยชน์ 3 ด้าน คือ ประโยชน์ คือประโยชน์ในภพหน้า คือพระ ประโยชน์เพื่อตนเอง อันได้แก่ประโยชน์ใน โพธิสัตว์ไม่ต้องการจะไปสู่ทุคตินรกภูมิ ปัจจุบัน ประโยชน์ในภพหน้า และประโยชน์ ต้องการที่จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์และพรหม อย่างสูงสุดคือพระนิพพาน ประโยชน์เพื่อผู้อ่ืน โลก และท่สี อดคล้องกับปรมัตถะประโยชน์ คือ คือ สามารถสร้างประโยชน์สุขให้แก่ผู้อื่นท้ัง ประโยชน์อันสูงสุดในพระพุทธศาสนา คือ การ ทางวัตถุและทางจิตใจ สามารถช่วยเหลือเพ่ือน ปฏิบัติตนเพ่ือให้เข้าถึงหนทางแห่งการพ้นทุกข์ มนุษย์ได้ และประโยชนเ์ พ่ือสว่ นรวมและสังคม คือพระนิพพานในชาติสุดท้ายที่ได้ตรัสรู้เป็น คือ สามารถสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นแก่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ก็มที เี่ ปน็ ประโยชน์ใน สังคมสว่ นรวมได้ ปัจจุบัน คือทิฏธัมมิกัตถะประโยชน์ เช่น จุดมุ่งหมายของชีวิตท่ีปรากฏในมโหสถชาดก อภปิ รายผลการวจิ ัย และจันทชาดก วิธุรชาดก ที่ปรากฏว่าพระ ทศชาตชิ าดก โพธิสัตว์มีจุดมุ่งหมายในชีวิตเพื่อประโยชน์สุข พบว่าทศชาติชาดก เป็นเรื่องราวที่ ของมหาชนในปัจจุบันชาติ คือช่วยเหลือ แนะนำส่ังสอนให้พระราชาและประชาชนตั้งอยู่ กล่าวถึงอดีตชาติของพระพุทธเจ้าในพระชาติ ในธรรมทั้งหลายมีฆราวาสธรรมเป็นต้น ต่าง ๆ เมื่อครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ ถือกำเนิด
130 วารสารปญั ญา ปที ี่ 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) เป็นมนุษย์ เป็นเทวดา เพื่อทรงบำเพ็ญบารมี ทกุ ข์ ความเดอื ดร้อนมาให้แก่ผู้ปฏิบัติ แก่ผู้อ่ืน ต่าง ๆ เพื่อเป็นปัจจยั ทีช่ ่วยส่งเสริมหนุนนำให้ และแก่สงั คมส่วนรวม ซงึ่ หลกั ความดี-ความชั่ว ได้บรรลุซึ่งพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณตรัส ที่ปรากฏในทศชาติชาดกนี้สอดคล้องกับเกณฑ์ รู้เป็นพระพุทธเจ้าในพระชาติสุดท้าย เพ่ือ ตัดสินทางจริยศาสตร์ของกลุ่มสัมบูรณนิยม โปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นจากกองกิเลส กลุ่มปฏิบัตินิยม กลุ่มประโยชน์นิยม และ กองทุกข์ทั้งปวง เรื่องราวของทศชาติชาดกมี เกณฑ์ตัดสนิ ในทางพระพทุ ธศาสนา ปรากฏในพระสุตตันตปิฎก หมวดขทุ ทกนิกาย มีทงั้ หมด 10 เรอื่ ง แนวคิดเรื่องจุดมุ่งหมายของชีวิตท่ี ปรากฏในทศชาติชาดก แนวคดิ ทางจริยศาสตร์ที่ปรากฏในทศ ชาตชิ าดก พบว่าจุดมุ่งหมายในชีวิตของพระ โพธิสัตว์ที่ปรากฏในทศชาติชาดกนั้นมีท้ัง แนวคดิ เรื่องความดี-ความชั่ว จดุ มุ่งหมายที่เป็นทิฏฐธมั มิกตั ถะประโยชน์ คือ พบว่าหลักจริยศาสตร์หรือความ ประโยชน์ในปัจจุบัน คือ จุดมุ่งหมาย ประพฤติที่จัดเป็นความดีที่ปรากฏในทศชาติ ของมโหสถบัณฑิตที่ตั้งใจทำงานบริหาร ชาดกนั้น ได้แก่ การออกบวชเพื่อประพฤติ บำรุงรักษาบ้านเมืองตามที่ได้รับมอบหมาย พรหมจรรย์ ความเพียร การบำรุงมารดาบิดา หน้าที่จากพระราชา เพื่อยังประโยชน์และ การให้อภัย ความซื่อสัตย์ การรักษาศีล การ ความสุขให้เกิดขึ้นแก่มหาชน จุดมุ่งหมายของ ตัดสินคดีโดยยุติธรรม การคบบัณฑิต ความ พระจันทกุมาร ที่ต้องการจะช่วยเหลือชน เป็นสัมมาทิฏฐิ การตั้งอยู่ในธรรมของผู้ครอง ทั้งหลายให้พ้นจากภัยคือความตาย เรือน การบำเพ็ญบุญต่าง ๆ มีให้ทาน เป็นต้น จุดมุ่งหมายของพระมหาชนกในช่วงที่เดินทาง ความประพฤติเหล่านจี้ ัดเปน็ ความดีเพราะเป็น ข้ามมหาสมุทรเพื่อไปครองราชสมบัติอันเคย ความประพฤติฝ่ายกุศล สามารถนำประโยชน์ เป็นของพระบิดา จุดมุ่งหมายของสุวรรณสาม และความสุขมาให้แก่ผู้ปฏิบัติ แก่บุคคลอื่น กุมารที่ตั้งความปรารถนาจะดูแลมารดาบิดาผู้ และแก่สังคมส่วนรวมได้ หลักจริยศาสตร์หรือ ตาบอดไปตลอดชีวิตของท่าน จุดมุ่งหมายของ ความประพฤติที่จัดเป็นความชั่วที่ปรากฏใน วิธุรบัณฑิตที่ได้สอนอรรถสอนธรรมแก่ ทศชาติชาดกนั้น ได้แก่ การทำปาณาติบาต พระราชาทั่วทั้งชมพูทวีปและเหล่านาคให้อยู่ การก่อเวรต่อกัน กระประทุษร้ายผู้อื่น ความ ในการบำเพ็ญบุญทั้งหลาย มีให้ทานเป็นต้น ชั่วทางกาย วาจา ใจ อันเป็นเหตุให้ต้องเข้าถึง จดุ มุ่งหมายท่ีเป็นสัมปรายิกัตถะประโยชน์ คือ ทุคตินรกภมู ิเมื่อสิ้นชีวติ ไปแล้ว การใสค่ วามให้ ประโยชน์ในภพหน้า ได้แก่จุดมุ่งหมายของ ร้ายผู้อื่น การประทุษร้ายมิตร การรับสินบน พระภูริทัต ทร่ี กั ษาศีลอุโบสถอยู่บนจอมปลวก การผูกอาฆาตพยาบาท การคบคนพาล ความ เพ่ือทจี่ ะได้ครอบครองสมบัติอันเปน็ ทิพย์ในเท เป็นมิจฉาทิฏฐิ การเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นด้วย วโลกเมื่อสิ้นชีวิตไปแล้ว และจุดมุ่งหมายที่ การพยายามฆ่า การกล่าวมุสาวาท ความ เป็นปรมัตถะประโยชน์ คือประโยชน์อันสูงสุด ประพฤติเหล่านี้จัดเป็นความชั่ว เพราะเป็น ได้แก่ การออกบวชเพื่อประพฤติพรหมจรรย์ ความประพฤติฝ่ายอกุศล สามารถนำความ ของพระเตมิยกุมาร ของพระเจ้าเนมิราช และ
วารสารปญั ญา ปที ่ี 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 131 ของพระโพธิสัตว์ในเรื่องต่าง ๆ ท่ตี ่างก็บำเพ็ญ ของผู้นั้นก็จะพบเจอแต่ความสงบสุขทั้งทาง บารมีต่าง ๆ ทั้ง 10 บารมี และบำเพ็ญบุญ กายและทางใจ กิริยาทั้งหลาย มีการบริจาคทาน รักษาศีล เจริญเมตตาพรหมวิหาร เป็นต้น เพื่อเป็น 2) คุณค่าทางจริยศาสตร์ที่มีต่อการ ปัจจัยเกื้อหนุนให้บรรลุพระอนุตตรสัมมา ดำเนนิ ชวี ิต สมั โพธญิ าณตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเพื่อตัดกอง กิเลสกองทุกข์ใหส้ ้ินไป เพอ่ื ประโยชนอ์ ันสูงสุด พบว่าการไม่คบคนพาลนั้นมีคุณค่าต่อ ของมหาชนเปน็ อันมาก การดำเนินชีวิตทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่น และแก่ สังคม กล่าวคือ คุณค่าต่อตนเองคือ ทำให้ไม่ คุณค่าทางจริยศาสตร์ที่ปรากฏในทศ กลายเป็นคนพาลไปด้วย ทำให้เป็นผู้ไม่มี ชาติชาดก มิจฉาทิฏฐิดังเช่นคนพาล ทำให้ไม่ถูกชักนำไป ในทางที่ไม่ดี ทำให้อยู่ห่างจากอบายมุข 1) คุณคา่ ทางจริยศาสตร์ทมี่ ตี ่อจิตใจ ทั้งหลาย เป็นต้น คุณค่าต่อผู้อื่น คือ บุคคล พบว่าความเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ ความ รอบข้างทั้งหลาย เช่น บิดามารดา บุตรธิดา เป็นผู้เว้นจากมิจฉาทิฏฐิ ทำให้รู้ว่าควรมีจิตใจ และมิตรสหายทั้งหลาย ก็รอดพ้นจากภัยอัน ที่เป็นสมั มาทิฏฐิ ไมค่ วรมีมิจฉาทฏิ ฐิ เพราะว่า เกิดเพราะการคบคนพาลของตนเองด้วย คือ จิตใจนั้นเป็นเครื่องควบคุมกายและวาจา ถ้า ไม่ได้รับความเดือดเพราะการเข้าไปคบคนพาล จิตใจมีสัมมาทิฏฐิแล้ว การแสดงออกทางการ ของตน เปน็ ต้น คณุ คา่ ตอ่ สงั คม คือ เมอื่ บคุ คล กระทำและคำพูดก็ย่อมถูกต้องตามทำนอง ทง้ั หลายในสงั คมต่างพากนั ไม่คบหาสมาคมกับ คลองธรรมและศลี ธรรมอันดีของสังคม ตรงกัน คนพาล คนพาลก็ไม่มีอิทธิพลต่อสังคม สังคม ข้ามถ้าจิตใจเป็นมิจฉาทฏิ ฐิแล้วไม่ว่าจะทำ จะ ก็จะกลายเป็นสังคมที่สงบสุขไม่เดือดร้อน พูด จะคิดอะไรก็จะเป็นไปในทางที่ผิดทำนอง วนุ่ วาย เป็นต้น และการคบบัณฑิตน้ันมีคุณค่า คลองธรรมและศลี ธรรมอันดีของสังคม อย่างมากต่อการดำเนินชีวิตของบุคคล เพราะ การผูกอาฆาตพยาบาทและการให้อภัย การคบเพื่อนที่เป็นบัณฑิตนั้น เปรียบเสมือน มีคุณค่าต่อจิตใจคือ ทำให้ผู้ศึกษาทราบว่า การมีคนบอกทางที่ดี เมื่อมีคนบอกทางที่ดี บุคคลควรมีจิตใจที่ปราศจากความอาฆาต บุคคลก็ย่อมสามารถดำเนินชีวิตไปในทางท่ี พยาบาท อันเป็นเหตุให้ก่อเวรสร้างความ ถูกตอ้ ง ไม่หลงไปในทางที่ผิดได้ เดือดร้อนต่อตนและผู้อื่น ควรมีจิตใจที่รูจ้ กั ให้ อภัยอยู่เสมอ เพราะการให้อภัยซึ่งกันและกัน ความเพียร เป็นคุณธรรมที่มีคุณค่า นั้น เป็นการตัดการก่อเวรต่อกัน เป็นการยัง อย่างมากต่อการดำเนินชีวิตของคน เพราะถ้า ศัตรูให้กลับกลายมาเป็นมิตรได้ ถ้าจิตใจของ บุคคลใดไม่ละทิ้งความเพียรในการประกอบ ผู้ใดประกอบไปด้วยความอาฆาตพยาบาทแล้ว กิจการงานทั้งหลาย ความประสงค์ของบุคคล ชีวิตของผู้นั้นก็ย่อมจะประสบพบเจอแต่ความ นั้นก็ย่อมสำเร็จได้ด้วยความเพียรนั้นแน่นอน เดือดร้อนวุ่นวายทั้งทางกายและทางใจ ถ้า ความเพ ี ยรจ ึ งเป ็ นค ุ ณธรรมที่ ควรม ี ไว ้ เป็ น จิตใจของผู้ใดประกอบด้วยความให้อภัย ชีวิต แนวทางในการดำเนินชีวิตของคนในทุก ๆ สังคม
132 วารสารปญั ญา ปีท่ี 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) ความกตัญญูกตเวที การบำรุงมารดา พบว่าการบำเพ็ญทาน การให้ทานนั้นมี บิดา เป็นคุณธรรมที่มีคุณค่าและมีความ คุณค่าต่อสังคมเป็นอย่างมาก เพราะการให้ จำเป็นสำหรบั การดำเนินชวี ิตของคนเป็นอย่าง ทาน หรอื การแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ ใหแ้ ก่กันละกัน มาก เพราะถ้าบุคคลใดไม่รจู้ ักสำนึกในพระคุณ ของคนในสังคม มีให้วัตถุสิ่งของ ให้คำแนะนำ ของบุคคลอื่นและไม่ตอบแทนพระคุณของ ที่ดีในเรื่องที่ดี ๆ การให้อภัยไม่ถือโทษโกรธ บุคคลอื่นที่ทำไว้แก่ตนเอง บุคคลนั้นไม่ว่าจะ เคืองกัน เป็นต้น เป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี อยู่ในสถานะใด หรืออยู่ในสังคมใด ก็ย่อมไม่มี ให้เกิดขึ้นในสังคม ถ้าสังคมใดประกอบไปด้วย ใครอยากคบหาสมาคมด้วย ทั้งเป็นที่รังเกียจ คนที่มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันในเรื่องต่าง ๆ ของคนในสังคมนั้น ใคร ๆ ก็ไม่อยากให้ความ สังคมนั้นก็จะเป็นสังคมที่น่าอยู่ เป็นสังคมที่มี ช่วยเหลือแก่บุคคลที่อกตัญญู เพราะช่วยไปก็ แต่การเกือ้ กูลซ่งึ กนั และกัน ไม่มีประโยชน์อะไร ตรงกันข้ามกับบุคคลที่มี ความกตัญญูกตเวทีต่อบุคคลอื่น คนที่รู้จัก การพยาบาทก่อเวรต่อกัน การ สำนึกในพระคุณและรู้จักตอบแทนพระคุณ เบียดเบยี นผู้อื่น การประทุษรา้ ยผูอ้ ื่น กรรมช่ัว ของคนอื่นนั้น ไม่ว่าใครก็อยากให้ความ ทางกาย วาจา ใจ ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น มี ช่วยเหลือ อยากให้ความอนุเคราะห์ เพราะ คุณค่าต่อสังคมคือ เป็นกรณีศึกษาเพื่อให้ เมื่อเขาได้รับการช่วยเหลือได้รับการ สังคมกำหนดกฎกติกา กำหนดข้อปฏิบัติ อนุเคราะห์จากผู้อื่นแล้ว เขาจะระลึกใน เพื่อที่จะได้งดเว้นจากการทำกรรมชั่วเหล่าน้ัน พระคุณและคอยหาโอกาสตอบแทนพระคุณ เพ่อื ปอ้ งกันไม่ให้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายขึ้น อยเู่ สมอ เพราะฉะนั้น ความกตัญญกู ตเวทีจึงมี ในสงั คม ซ่ึงการท่จี ะป้องกนั หรือแก้ไขความชั่ว คุณค่าต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก เพราะ มีการผูกอาฆาตพยาบาท การก่อเวรต่อกัน เป็นคุณธรรมเครื่องแสดงให้เห็นถึงความเป็น เป็นต้นได้ ก็ต้องใช้คุณธรรมคือ การให้อภัย คนดีของบคุ คลผมู้ ีความกตัญญูกตเวทนี ั้น เพราะการให้อภัย ไม่อาฆาต ไม่พยาบาท ไม่ เบียดเบียนกันนั้น ถ้าเกิดขึ้นในสังคมใด สังคม ความซื่อสัตย์ เป็นคุณธรรมเครื่อง นั้นก็จะพบกับความสงบสุข ไม่เดือดร้อน ไม่ รับรองบุคคลได้อย่างดีท่ีสุดข้อหนึ่ง เป็น วุ่นวาย เพราะการให้อภัย เป็นการตัดเสียซ่ึง คุณธรรมที่เป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง การกระทำอันไม่ดีต่าง ๆ ท่บี คุ คลจะปฏิบัติต่อ บุคคลใดมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นคุณธรรม กันด้วยอำนาจของความพยาบาท ดังนั้นการ เครื่องนำทางในการดำเนินชีวิตแล้ว บุคคลน้ัน ให้อภัยจึงมีคุณค่าต่อสังคม คือ ทำให้สังคม ยอ่ มได้รับความไว้วางใจจากทุก ๆ คนในสังคม เกดิ ความสงบสขุ บุคคลนั้นไม่ว่าจะทำการงานหรือกิจการอะไร กับใครก็ตาม ก็ย่อมได้รับหน้าที่ที่สำคัญและ 4) คุณค่าทางจริยศาสตร์ที่มีต่อการ ได้รับความรักความไว้วางใจอย่างถึงที่สุด ปฏบิ ตั ิธรรม ความซือ่ สัตย์นั้น เป็นคณุ ธรรมท่ีมคี ุณค่าและมี ความสำคญั เปน็ อย่างมากในการดำเนนิ ชีวิต พบว่าการรักษาศีลอุโบสถ การรักษา ศีลนั้น เป็นการปฏิบัติที่มคี ุณค่าต่อการปฏิบัติ 3) คณุ คา่ ทางจริยศาสตรท์ ่ีมตี ่อสังคม ธรรม เพราะผู้มีศีลย่อมสามารถทำให้จิตใจ สงบเป็นสมาธิได้เร็ว ผู้มีศีลย่อมมีความองอาจ
วารสารปญั ญา ปีท่ี 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 133 ไม่เก้อเขินในหมู่ของผู้ปฏิบัติธรรมที่มีศีล ประโยชน์ในปัจจุบัน ประโยชน์ในภพหน้า และ บริบูรณ์เหมือนกัน ผู้มีศีลย่อมมีกิตติศัพท์อัน ประโยชน์อยา่ งสูงสดุ คือพระนิพพาน ประโยชน์ งามมีชื่อเสียงเลื่องลือขจรไปไกล ผู้มีศีลย่อม เพื่อผู้อื่น คือ สามารถสร้างประโยชน์สุขให้แก่ สามารถรักษาและได้รับโภคสมบัติได้เพราะ ผู้อื่นทั้งทางวัตถุและทางจิตใจ สามารถ ความไม่ประมาท ผู้มีศีลย่อมไม่หลงทำกาละ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้ และประโยชน์เพ่ือ คือไม่หลงเผลอสติในเวลาที่จะตาย และผู้มีศีล ส่วนรวมและสังคม คือ สามารถสร้างความสงบ ย่อมสามารถเข้าถึงสุคติบังเกิดในเทวโลกเม่ือ สุขใหเ้ กิดข้ึนแกส่ ังคมส่วนรวมได้ สน้ิ ชีวิตไปแลว้ ได้ ขอ้ เสนอแนะ การประพฤติพรหมจรรย์ มีคุณค่าคือ ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบาย ทำใหจ้ ติ ใจของผู้ประพฤตปิ ลอดโปร่ง ไม่ต้องมี 1) ควรส่งเสริมให้ชาวพุทธได้เห็น ความกังวลในกามคุณทั้งหลาย ทำใหเ้ ป็นอิสระ จากเครื่องผูกมัดทั้งหลายของผู้ครองเรือน ทำ ความสำคัญของการศึกษาแนวคิดทางจริย ให้มีเวลาในการประกอบความดีมากเพราะไม่ ศาสตร์ที่ปรากฏในคัมภีร์ต่าง ๆ ใน ต้องวุ่นวายกับเรื่องอันไม่เป็นแก่นสารต่าง ๆ พระพุทธศาสนามากขนึ้ ทำให้บรรลุคุณวิเศษมีอภิญญา สมาบัติ ทำให้ บรรลุมรรคผลนิพพานได้ เป็นต้น จึงมีคุณค่า 2) ควรมีการส่งเสริมแนวทางที่จะนำ ตอ่ การปฏิบัตธิ รรม หลักจริยธรรมที่ปรากฏในทศชาติชาดกมา ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยนำมาปรับใช้กับ 5) คุณค่าของเกณฑ์ตัดสินคุณค่าทาง ตนเอง ครอบครัว สงั คม ประเทศชาติ เพ่ือท่ีจะ จรยิ ธรรมทป่ี รากฏในทศชาติชาดก ทำใหบ้ ุคคลและสงั คมน้ัน ๆ เกิดความสงบสุข พบว่าทำให้บุคคลผู้ศึกษารู้ว่าสิ่งใดดีก็ ขอ้ เสนอแนะเพ่ือการวจิ ัย ควรกระทำ สิ่งใดไม่ดีก็ควรเว้น ไม่ควรกระทำ ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ศึกษา เพราะมีปรากฏตัวอย่างให้เห็นในทศชาติชาดก แนวความคิดทางจริยศาสตร์ที่ปรากฏในทศ แล้วว่าการกระทำที่จัดเป็นความดีนั้น ย่อมนำ ชาติชาดก ซึ่งผู้วิจัยพบว่ายังมีความน่าสนใจ ประโยชน์สุขมาให้ทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่นและแก่ ประเด็นอื่น ๆ อีก ดังนั้น ในท้ายที่สุดนี้ผู้วิจัย สังคมส่วนรวม ส่วนการกระทำที่จัดเป็นความ จึงขอเสนอแนวคิดที่น่าจะนำมาทำการวิจัย ชั่วนั้น ย่อมนำความทุกข์ความเดือดร้อนมาให้ เพม่ิ เตมิ ในหัวข้อดังต่อไปน้ี ท้ังแกต่ น แกผ่ ้อู ื่น และแกส่ ังคมสว่ นรวม 1) ศึกษาวิเคราะห์พฤติกรรมของตัว ละครหลักทป่ี รากฏในทศชาตชิ าดก 6) คุณค่าของจุดมุ่งหมายของชีวิตท่ี 2) ศึกษาวิเคราะห์แนวคิดเรื่องกรรม ปรากฏในทศชาตชิ าดก และผลของกรรมที่ปรากฏในทศชาตชิ าดก 3) ศึกษาแนวคิดทางจริยศาสตร์ใน พบว่าช่วยให้ผู้ที่ศึกษาและปฏิบัติตาม ชาดกอน่ื ๆ นอกจากทศชาติชาดก แนวทางของพระโพธิสัตว์ให้บรรลุประโยชน์ 3 ด้าน คือ ประโยชน์เพื่อตนเอง อันได้แก่
134 วารสารปัญญา ปีที่ 28 ฉบับท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) แหลง่ อา้ งอิง ทิพวรรณ ละลี. (2549). ศึกษาเปรียบเทียบแนวคิดด้านจริยศาสตร์ในทัศนะของคีร์เคกอร์ดและ พทุ ธปรัชญาเถรวาท. (วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญษมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ). พระมหาประเสริฐ ญาณสีโล (ธรรมจง). (2547). การศึกษาเชิงวิเคราะห์แนวความคิดเชิงจริย ศาสตร์ในมงคลสูตร. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหามกุฏราช วทิ ยาลยั ). มหามกุฏราชวิทยาลัย. (2557). พระไตรปิฎกและอรรถกถา (พิมพ์ครั้งที่ 9). นครปฐม: โรงพิมพ์ มหามกุฏราชวิทยาลัย. วศิน อนิ ทสระ. (2555). พระพุทธบารมีในอดีต. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ก้อนเมฆ. สรรเสริญ อนิ ทรตั น.์ (2552). จริยศาสตร์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดสุ ติ .
Received: 2021-01-10 Academic Articles Revised: 2021-04-08 Accepted: 2021-04-16 เสน้ ทางสคู่ วามสามารถของครูในศตวรรษที่ 21 THE PATH TO TEACHER COMPETENCE IN THE 21ST CENTURY ธรี ะภัทร ประสมสุข 1 Teerapat Prasomsuk สุรัตน์ ศรดี าเดช 2 Surat Sridadej สรุ ศกั ดิ์ สทุ ธศิริ 2 Surasak Suthasiri สุดา เนตรสวา่ ง 2 Suda Natesawang สาโรจน์ แกว้ อรุณ 2 Saroj Kaewaroon ทศั นีย์ บญุ มาภิ 3 Thassanee Boonmaphi Corresponding Author E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ บทความวิชาการ เรื่องเส้นทางสู่ความสามารถของครูในศตวรรษที่ 21 คือ ข้อกำหนดการศึกษาของ ครู ตามความสามารถ ความรู้ ทักษะและค่านิยม ผู้ฝึกอบรมต้องแสดงออกให้เหน็ ถึงความสำเร็จของโปรแกรม การศกึ ษา วัตถปุ ระสงค์เพอ่ื เปน็ เครื่องมือการสอน การต้ังเปา้ หมาย และการสะทอ้ นตนเอง โมเดลความสามารถ ครู คือ ความสามารถการจัดการห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ การสอนที่มีประสิทธิภาพ การประเมินที่มี ประสิทธภิ าพ และทักษะด้านเทคโนโลยี ความสามารถการจัดการห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ คือ การเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด รักษาระเบียบ วนิ ัยและขวญั กำลงั ใจ สง่ เสริมการทำงานเป็นทมี การวางแผน การส่อื สาร การมุง่ เนน้ ไปทีผ่ ลลพั ธ์ ประเมนิ ความ คืบหน้า และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การสอนที่มีประสิทธิภาพ คือ ระบุชุดผลลัพธ์ ประเมินความต้องการ การเรียนรู้ พัฒนาแผนการเรียนการสอน/หลักสูตร ส่งมอบการสอน ติดตามความคืบหน้า อย่ายอม ประนีประนอม การประเมินที่มีประสิทธิภาพ คือ ผสมผสานการทดสอบ การตอบคำถาม การประเมินผลการ มอบหมายห้องเรียน พัฒนากลยุทธ์การประเมนิ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกับผู้เรียน ทักษะด้านเทคโนโลยี คือ การรู้เวลาและ วธิ กี ารใช้เทคโนโลยีการศึกษา เส้นทางสู่ความสามารถของครูในศตวรรษที่ 21 คือ ครูแสดงความเป็นผู้นำ สร้างสภาพแวดล้อมที่ หลากหลายสำหรับนักเรียน รู้เนื้อหาที่สอน อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ สะท้อนการปฏิบัติตน และ ประเมนิ การศกึ ษาของนักเรียน คำสำคัญ: เสน้ ทาง, ความสามารถของครู, ศตวรรษท่ี 21 1 ประธานหลักสตู รศึกษาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาการบรหิ ารหารศกึ ษา มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชยี งใหม่ 2 อาจารยป์ ระจำคณะสงั คมศาสตร์และศลิ ปศาสตร์ มหาวิทยาลยั นอรท์ -เชียงใหม่ 3 นักวชิ าการอิสระ
136 วารสารปัญญา ปีท่ี 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) ABSTRACT Academic article on the path to teacher competence in the 21st century. Teacher education requirements According to competence, knowledge, skills and values. The trainer must demonstrate the success of the educational program. Objective as a teaching tool Setting goals and self-reflection. The teacher competence model are an effective classroom management, effective teaching, effective assessment and technology skills. Effective classroom management are maximizing performance, maintain discipline and morale, promote teamwork, planning, communication, focus on results, progressive assessment and Continuously improvement. Effective teaching practices are set of crucial outcomes, assess the learning needs, instructional plan curriculum, deliver instruction, monitor progress, do not compromise. Effective assessment are combines quiz tests, assessments, classroom assignments. Develop assessment strategies that are relevant to learners, technology skills are Knowing the time and how to use educational technology. The 21st-century teaching competencies are Teachers demonstrate leadership, Create a variety of environments For students, know the content, facilitate learning for students, reflect on behavior and Assess student performance. Keywords: Path, Teacher Competencies, 21st century บทนำ ละคร และอื่น ๆ แต่ละห้องเรียนจะมีโทรทัศน์ การเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษท่ี เพอื่ ให้นักเรียนทุกคนสามารถเรียนรู้ได้จากส่ือ การเรียนรู้ต่าง ๆ จากบริบทของโลก สามารถ 21 ส่งผลให้ทุกภาคส่วนการศึกษาต้องแสดง ชมการผลิตและการนำเสนอผลงานอื่นๆของ บทบาทในการจัดการศึกษาที่ชัดเจน มีการ โรงเรียน นักเรียนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ เตรียมความพร้อมและจำเป็นต้องเปลี่ยน อย่างเต็มที่ และหากเป็นไปได้นักเรียนทุกคน วิธีการให้ความรู้ ทักษะ และการพัฒนา จะมแี ลปท็อปใช้ ความสามารถเพื่อเตรียมเด็กสำหรับโลกใหม่นี้ ห้องเรียนที่เหมาะในศตวรรษที่ 21 จะ โรงเรียนในศตวรรษที่ 21 จะกลายเป็น ถูกจัดให้มีความตื่นเต้นและจูงใจกับการที่เด็ก ศูนย์กลางสำหรับครูและนักเรียนในการ ๆ ไปโรงเรียนจริง ๆ โดยมีปัญหาเรื่องระเบียบ เชื่อมต่อกับสภาพแวดล้อมใหม่และชุมชน มี วินัยน้อยหรือไม่มีเลย เพราะทุกคน บรรยากาศท่ีสดใสและกว้างขวาง เดก็ ๆ จะมี กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ในกิจกรรมและ ห้องสำหรับโครงการกลุ่มและงานที่มอบหมาย บทเรียน ชั้นเรียนประเภทนี้จะเกี่ยวข้องกับ ผนงั ห้องจะถกู แขวนไว้ดว้ ยผลงานของนักเรียน ชุมชนไม่ว่าจะเป็นในระดับท้องถิ่นหรือระดับ มีสถานที่ให้นักเรียนจัดการแสดงผลงาน โลก นักเรียนจะร่วมมือกับผู้คนจากโรงเรียน สำหรับพ่อแม่และสมาชิกในชุมชน ภายใน ต่าง ๆ และประเทศต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสการ โรงเรียนมีห้องปฏิบัติการและศูนย์การเรียนรู้ รวมถึงสตูดิโอสำหรับงานศิลปะดนตรี โรง
วารสารปัญญา ปีท่ี 28 ฉบับท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 137 เรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาที่ส่ง ผลกระทบต่อทุก และหนังสือเรียนได้จัดให้เป็นหนึ่งใน คนรวมถึงวิธีที่เราสามารถแก้ไขปัญหาเหล่าน้ี แหล่งข้อมูลที่เป็นไปได้ หลักสูตรใหม่ใน ทัง้ ในวนั นีแ้ ละในอนาคต ศตวรรษที่ 21 คือ การศึกษาเกี่ยวกับ สิ่งแวดล้อมและสิ่งแวดล้อม เด็ก ๆ ได้รับการ หลกั สูตรในห้องเรียนจะถูกออกแบบมา สอนให้รู้จักโลกของพวกเขาและมีผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรวมทักษะและระดับสติปัญญาเข้าไว้ ที่แท้จริง เช่น นักวิทยาศาสตร์และ ด้วยกันและใช้เทคโนโลยีและมัลติมีเดีย บุคคลภายนอกเข้ามาเพื่อตอบคำถามการ บทเรียนไม่ได้มีพื้นฐานมาจากตำราเรียนแต่ เรียนรู้ของนักเรียน เป็นแบบโครงงาน ทักษะและเนื้อหาได้รับการ เรียนรู้ผ่านการวิจัยและโครงการของพวกเขา นักเรียนในศตวรรษที่ 21 เด็ก ๆ ควรมีทักษะมากมายที่จะต้องมีเพื่อที่จะประสบ ความสำเร็จ ได้แก่ ความสามารถทำงานรว่ มกันเป็นทีม Ability to collaborate, work in teams ทกั ษะการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ Critical thinking skills ทักษะการนำเสนอดว้ ยวาจา Oral presentation skills ทกั ษะการสื่อสารเป็นลายลกั ษณ์อักษร Written communication skills ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี Ability to use technology ความเต็มใจตรวจสอบปัญหาของ Willingness to examine civic and global พลเมืองและโลก issues ความสามารถในการดำเนินการวิจยั เพื่อ Ability to conduct research to learn เรียนร้เู กย่ี วกับปัญหาและแนวคิด about issues and concepts ความสามารถเรยี นรู้เกี่ยวกับโอกาสการ Chance to learn about new career ทำงานใหม่ opportunities บทบาทการศึกษาและครศู ตวรรษที่ 21 ต้องพยายามเพิ่มความอยากรู้เพื่อช่วยให้ สำหรับครูในศตวรรษที่ 21 จะทำ นักเรียนกลายเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต จะต้อง สร้างหลักสูตรที่จะช่วยให้นักเรียนสามารถ หน้าที่เป็นผู้สอนน้อยลงและมีหน้าที่เป็นผู้ เชื่อมต่อกับโลกและเข้าใจปัญหาที่โลกเผชิญ กำกับข้อมูลมากขึ้นและทำให้เด็ กมี อยู่ รวมทั้งมีความยืดหยุ่นกับวิธีการสอนและ ความสามารถเปลี่ยนความรู้ให้เป็นภูมิปัญญา ให้ทรัพยากรแก่ผู้เรียนเพื่อการเรียนรู้ไปสู่ ท้งั นี้นกั การศึกษา ผบู้ ริหารและครู จำเป็นต้อง บริบทภายนอกโรงเรียน (นรรัชต์ ฝันเชียร, ฝึกฝนและมุ่งเน้นความสนใจของนักเรียนใน 2563) ด้านเนื้อหา โดยการแสดงให้เห็นว่าความรู้ ทักษะและความ สามารถเหล่านี้นักเรียนจะ นำไปใช้ในโลกแห่งความจริงได้อย่างไร โดย
138 วารสารปัญญา ปีที่ 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) ความสามารถของครู (Teacher ส่งเสริมประสิทธิภาพห้องเรียน เช่น การสร้าง Competencies) ค ว า ม ส ั ม พ ั น ธ ์ เ ช ิ ง บ ว ก ( positive relationships) ความร่วมมือ (cooperation ความสามารถของครู เป็นข้อกำหนด และการเรียนรู้อย่างมีจุดมุ่งหมาย ของการศึกษาของครู “ตามความสามารถ- (purposeful learning) การจัดระเบียบ competency- based” ร ว ม ถ ึ ง ค ว า ม รู้ (Organizing) การมอบหมาย (assigning) การ (Knowledge) ทักษะ(Skills) และค่านิยม จัดการเวลา (managing time) พื้นที่และ (Attribute) ที่กำหนดเพื่อผู้ฝึกอบรมต้อง ก ิ จ ก ร ร ม ( space and activities) แสดงออกให้เห็นเพื่อความสำเร็จของ ความสามารถและกลยุทธ์เหล่านี้จะสร้างความ โปรแกรมการศึกษาของครู ความสามารถของ มั่นใจว่านักเรียนจะมีส่วนร่วมในสร้างสรรค์ ครูนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือใน ผลงาน การสอน การตั้งเป้าหมาย และการสะท้อน ตนเองสำหรบั ครู 2) การสอนท ี ่ ม ี ประส ิ ทธ ิ ภ า พ (effective teaching practices) แสดงมุมมอง องค์กร/หน่วยงานต่างๆ มีการกำหนด ท ี ่ แ ต ก ต ่ า ง ( representing differing ความสามารถของครูไว้หลากหลาย ซึ่งนำมา viewpoints) ทฤษฎี (theories) วิธีการรู้ เสนอไว้เพื่อให้ครูนำไปใช้ในการบูรณาการใน (ways of knowing) และวิธีการสอบถามใน การปฏิบัติหน้าที่การสอน โดยพัฒนาเป็น การสอนแนวคดิ เรอ่ื งกลยุทธ์การสอนและการ กรอบหรือโมเดลความสามารถครู (Teacher เรยี นรทู้ ี่หลากหลาย ชว่ ยให้นักเรยี นมสี ่วนร่วม Competency Model/Framework) ในโอกาสการเรยี นรู้เชิงรุกที่สง่ เสริมการพัฒนา ความคิดเชิงวิพากษ์ (critical thinking) การ ครูผู้สอนควรแสดงความสามารถ โดย แ ก ้ ป ั ญ ห า ( problem solving) แ ล ะ ภาพรวม 3 ประเดน็ หลัก ต่อไปนี้ ความสามารถในการปฏิบัติงาน (performance capabilities) ช่วยระบุความ 1) ความสามารถการจดั การห้องเรียน รับผิดชอบ ที่มีประสิทธิภาพ (Effective classroom management) ประกอบด้วย การเพ่ิม หลักการสอนท่ีมปี ระสิทธภิ าพและ ประสิทธิภาพสูงสุด (maximizing efficiency) นำไปสู่ความสามารถ รักษาระเบียบวินัยและขวัญกำลังใจ ( maintaining discipline and morale) 2.1 ระบุชุดผลลัพธ์ (Set of crucial ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม (promoting outcomes) การเรียนรู้ที่สำคัญที่สามารถ teamwork) การวางแผน (planning) การ จดั การไดเ้ พอื่ มุ่งเน้นการประเมินอยา่ งต่อเนื่อง สื่อสาร (communicating) การมุ่งเน้นไปที่ ผลลพั ธ์ (focusing on results) ประเมินความ 2.2 ประเมินความต้องการการ คืบหน้า (evaluating progress) และทำการ เรียนรู้ (Assess the learning needs) ของ ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (making constant นักเรียน เพื่อกำหนดระดับทักษะ (skill adjustments) ควรใช้กลยุทธ์หลายอย่างเพ่ือ levels) และความพร้อมสำหรบั การสอน
วารสารปญั ญา ปีท่ี 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 139 2.3 พัฒนาแผนการเรียนการสอน/ assignments) การแสดงของนักเรียนและ หลักสูตร (instructional plan (curriculum)) โครงการและการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการ ที่ช่วยให้สามารถสอนหลักสูตรการเรียนรู้ท่ี เรียนท่ีเป็นมาตรฐานเพื่อเข้าใจส่ิงท่ีนักเรียนได้ หลากหลายและน่าสนใจ ในขณะเดียวกันต้อง เรียนรู้ ควรพัฒนากลยุทธ์การประเมินที่ ตดิ ตามความคบื หน้าสู่ ผลลพั ธ์ทต่ี อ้ งการ เกี่ยวข้องกับผู้เรียนในกิจกรรมการประเมิน ตนเองเพื่อช่วยให้พวกเขาตระหนักถึงจุดแข็ง 2.4 ส่งมอบการสอน (Deliver และความต้องการและกระตุ้นให้พวกเขา instruction) ให้ตรงกับความต้องการในการ ต้ังเปา้ หมายส่วนตัวสำหรบั การเรียนรู้ เรียนรู้ของนักเรียน เพื่อส่งนักเรียนที่มีความ เชยี่ วชาญไปสู่โอกาสการเรียนรู้ที่ท้าทายยิ่งข้ึน 4) ทักษะดา้ นเทคโนโลยี (technology จัดเวลาในการพัฒนาผลลัพธ์ที่จำเป็นอย่าง skills) การรู้เวลาและวิธีการใช้เทคโนโลยี เต็มที่และเพียงพอ และให้การสนับสนุนแก่ การศกึ ษาในปจั จบุ ันรวมถึงประเภทและระดับ นกั เรียนทีต่ ้องการ ของเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเพิ่มการ เรียนรูข้ องนกั เรียน 2.5 ตดิ ตามความคืบหน้า (Monitor progress) สู่ผลลัพธ์ที่จำเป็นอย่างสม่ำเสมอ ความสามารถของครมู ืออาชีพ (9 ตลอดกระบวน การเรียนการสอนและปรับ Dimension Teachers’ professional ระดับความยากเพื่อให้นักเรียนได้รับความท้า competencies) ทายมากขน้ึ มติ ิความสามารถของครูมืออาชพี 2.6 อย่ายอมประนีประนอม (Do ประกอบดว้ ย not compromise) ก ั บ ม า ต ร ฐ า น ความสามารถและ หรือสำหรับทักษะที่จำเป็น ความสามารถดา้ นบริบทงานและหน้าท่ี ซึ่งมีความสำคัญต่อความสำเร็จและสมควร Field Competencies ได้รับตลอดเวลาที่จำเป็นสำหรับการพัฒนา ความสามารถ (หมายถงึ ครมู ักจะหยวนๆ หรอื ความสามารถด้านการวิจัย Research ยินยอมให้นักเรียนผ่านมาตรฐานโดยแรง Competencies กดดันบางอย่าง ทั้งๆที่นักเรยี นไม่ผา่ นการวดั / ประเมนิ ความสามารถ) ความสามารถด้านหลักสูตร Curriculum Competencies 3) การประเมินที่มีประสิทธิภาพ (effective assessment) ผสมผสานการ ความสามารถด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทดสอบอย่างเป็นทางการ(incorporating Lifelong Learning Competencies formal tests) ; student performances and projects; การตอบคำถาม responses ความสามารถด้านสังคมวัฒนธรรม to quizzes การประเมินผลการมอบหมาย Social-Cultural Competencies ห ้ อ ง เ ร ี ย น ( evaluation of classroom ความสามารถด้านอารมณ์ Emotional Competencies ความสามารถด้านการสื่อสาร Communication Competencies
140 วารสารปัญญา ปที ่ี 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) ค ว า ม ส า ม า ร ถ ด ้ า น เ ท ค โ น โ ล ยี ความสามารถด้านสิ่งแวดล้อม- สารสนเทศและการส่ือสาร (ICT)-Information Environmental Competencies (ชัชรินทร์ and Communication Technologies (ICT) ชวนวัน, 2553) Competencies ความสามารถการสอนในศตวรรษท่ี 21 (21st-century teaching competencies) 1. ครูแสดงความเป็นผนู้ ำ (Teachers demonstrate leadership) ความสามารถประกอบ พฤติกรรมบ่งชค้ี วามสามารถสำคญั (Sub-Competency) (Behavioral Indicators) ความเป็นผู้นำ ประเมินความก้าวหนา้ ของนักเรยี นโดยใช้เป้าหมายการวดั และ ในห้องเรียน ประเมินข้อมลู ท่ีหลากหลาย วาดภาพข้อมูลทเี่ หมาะสมเพ่ือพฒั นาห้องเรียนและแผนการสอน บำรุงรักษาห้องเรยี นท่ปี ลอดภัยและเป็นระเบียบเรียบร้อย เอ้ือต่อ การเรยี นรู้ของนักเรยี น จัดการนักเรียนเชงิ บวกในพฤติกรรมท่ีก่อกวนหรืออันตรายอยา่ ง เหมาะสม สือ่ สารการกลบเกล่อื นเลื่อนข้ันเทคนิคการแยกตัวพฤติกรรมที่ ปลอดภยั และมีประสิทธิภาพ ความเป็นผูน้ ำ มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้และการทำงานร่วมกนั แบบมืออาชีพ ในโรงเรียน ระบุลักษณะหรือองค์ประกอบทส่ี ำคัญของแผนการปรบั ปรุงโรงเรยี น แสดงความสามารถใชข้ ้อมูลท่ีเหมาะสมเพ่ือระบุความต้องการไวใ้ น แผนปรับปรุงโรงเรียน ความเป็นผู้นำ เข้าร่วมในกิจกรรมการเตบิ โตและการพฒั นาอาชีพ ด้านการสอน พัฒนาความสัมพันธ์กับเครือข่ายมืออาชีพ สนับสนุนสำหรบั การเรียนรแู้ ละอาชีพของนักเรียน อำนวยความสะดวกการปรับปรงุ การเรียนการสอนและการเรียนรู้ ของนักเรียน การสง่ เสริมการเรยี นรู้อย่างมืออาชีพเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การสนับสนุนโรงเรียน ดำเนินการและปฏบิ ัติตามนโยบายและการปฏบิ ัตทิ ส่ี ่งผลกระทบเชิง และนกั เรียน บวก ต่อการเรยี นร้ขู องนักเรยี น
วารสารปัญญา ปีที่ 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 141 แสดงมาตรฐาน การปรับปรงุ การเผยแพร่และการรว่ มมือกบั ครอบครัวและชุมชน ทางจรยิ ธรรมสูง ส่งเสรมิ วัฒนธรรมการทำงานร่วมกันเพ่ือสนบั สนนุ การพัฒนาผูส้ อน และการเรยี นรู้ของนักเรยี น 2. ครูสร้างสภาพแวดล้อมทเี่ กยี่ วข้องอยา่ งหลากหลายสำหรับนกั เรยี น (Teachers establish a respectful environment for a diverse population of students) ความสามารถประกอบ พฤติกรรมบ่งชีค้ วามสามารถสำคญั (Sub-Competency) (Behavioral Indicators) การจัดสภาพแวดลอ้ ม จดั สภาพแวดล้อมทมี่ ีความสมั พนั ธเ์ ชิงบวกและห่วงใยต่อการเลีย้ งดู กับเด็กแตล่ ะคน รักษาสภาพแวดลอ้ มการเรยี นรเู้ ชิงบวกและการบำรุงดูแล การยอมรับความ ใชส้ ือ่ หรือบทเรียนตามแบบแผนและยอมรบั การมสี ่วนร่วมทุก หลากหลายในชมุ ชน วัฒนธรรม โรงเรยี นและในโลก รวบรวมมุมมองต่าง ๆ ไว้ในการสอนท่ีหลากหลาย สอนและวางแผนสอดคล้องกับความเข้าใจและอิทธิพลทหี่ ลากหลาย การปฏบิ ัติต่อนักเรยี น รักษาสภาพแวดล้อมการเรียนรู้และความคาดหวังสูงของนักเรียนทุก เป็นรายบุคคล คน ครปู รับการสอนเพ่ือประโยชน์ของนักเรียนท่ีมีความต้องการพเิ ศษ ร่วมมือกับผู้เชย่ี วชาญและการใชท้ รัพยากรเพ่ือสนับสนุนความ ต้องการ การเรยี นร้พู ิเศษของนักเรียนทุกคน ใช้กลยุทธท์ ีต่ รวจสอบโดยการวิจัยเพ่ือจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ทม่ี ี ประสทิ ธิภาพสำหรบั นักเรียนทีม่ ีความต้องการพิเศษ การทำงานร่วมกับ ส่ือสารและร่วมมือกับบ้านและชมุ ชนเพ่ือประโยชน์ของนักเรียน ครอบครัวนักเรียนและ ผใู้ หญ่ทีส่ ำคัญคนอ่ืน ๆ 3. ครูร้เู น้อื หาท่ีสอน (Teachers know the content they teach) ความสามารถประกอบ พฤติกรรมบ่งช้คี วามสามารถสำคัญ (Sub-Competency) (Behavioral Indicators) การพัฒนาและ บรู ณาการการสอนความร้ทู ่ีมปี ระสิทธภิ าพตลอดหลักสูตร ประยุกต์ใช้บทเรียนตาม สอนข้ามสว่ นเน้ือหาเพ่ือปรับปรุงการเรียนรู้ของนักเรียน หลกั สูตร
142 วารสารปญั ญา ปที ี่ 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) การเลือกเน้ือหาที่ แสดงระดบั ความรู้เน้ือหาท่ีเหมาะสมในแบบพิเศษของนักเรียน เหมาะสมกบั การสอน กระตุ้นนักเรียนสำรวจพ้นื ทีเ่ น้ือหาเพื่อขยายความรู้ที่ต้องการ พิเศษของนักเรียน สนองความอยากรู้ตามธรรมชาติของนักเรียน การแสดงการรับรทู้ ่ี แสดงให้เหน็ ถึงความรู้ในเรื่องทีเ่ ก่ียวข้องกบั สาขาวชิ าอ่ืนๆของ เช่อื มโยงกับเน้ือหา นกั เรยี น แสดงให้เห็นถึงความรู้ในเรื่องทีเ่ ก่ียวข้องกบั การรบั รู้ของเรื่องทว่ั โลก การบูรณาการเรยี นรู้ บรู ณาการทักษะการเรียนรู้แบบศตวรรษที่ 21 และเนื้อหาในการ สอน 4. ครูอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้สำหรบั นักเรียน (Teachers facilitate learning for their students) ความสามารถประกอบ พฤติกรรมบ่งช้คี วามสามารถสำคัญ (Sub-Competency) (Behavioral Indicators) ความร้ใู นวิธกี ารเรยี นรู้ ระบุการสอนการวางแผนและระดับการพัฒนาของนักเรียนแต่ละคน และการพฒั นาระดับ ประเมินและใช้ทรัพยากรที่จำเป็นแก้ไขจุดแข็งและจุดอ่อนของ สตปิ ัญญาร่างกายสังคม นักเรียน อารมณข์ องนักเรียน การวางแผนการสอน รว่ มมือกับเพ่ือนรว่ มงานติดตามผลการปฏิบตั งิ านของนักเรยี นสว่ น ทเี่ หมาะสมให้กับนักเรียน บุคคล สอนตอบสนองต่อความแตกต่างทางวฒั นธรรมและความต้องการการ เรยี นรู้ ความเฉยี บแหลมและ ใชว้ ิธกี ารและวสั ดทุ หี่ ลากหลายและเหมาะสมกับความต้องการของ ความเกง่ กาจ นักเรยี นทุกคน แสดงศักยภาพด้าน บูรณาการเทคโนโลยีเข้ากบั การสอนเพื่อเพ่ิมการเรียนรู้ของนักเรยี น เทคโนโลยียกระดบั การเรียนรู้ การช่วยให้นักเรียนเติบโต บรู ณาการการสอนทช่ี ว่ ยใหน้ ักเรยี นพัฒนาความสามารถการใช้ เปน็ บุคคลคิด กระบวนการคดิ เชิงวพิ ากษ์ บรู ณาการการสอนทชี่ ่วยนักเรียนพัฒนาความสามารถและกลยทุ ธ์ แก้ปัญหา การช่วยใหน้ ักเรียน การจัดทีมการเรยี นรู้เพื่อวัตถปุ ระสงค์พฒั นาความรว่ มมือ ทำงานเป็นทมี และพัฒนา พัฒนาความเป็นผู้นำของนักเรียน ความเป็นผู้นำ
วารสารปัญญา ปีท่ี 28 ฉบับที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 143 การมีปฏิสัมพนั ธ์และ ใชว้ ิธีการส่ือสารทห่ี ลากหลายและมีประสทิ ธภิ าพกับนักเรียนทุกคน เข้าถงึ นักเรียน สง่ เสรมิ สนบั สนุนให้นักเรียนแสดงความคิดอย่างชดั เจนและมี การประเมินการเรียนรู้ ประสิทธภิ าพ นักเรยี น ใชต้ ัวบ่งชห้ี ลายตัวเพื่อติดตามและประเมินความก้าวหน้าของนกั เรยี น จดั เตรียมหลักฐานท่ีแสดงวา่ นักเรยี นได้รับความรู้ ทักษะ และการ จดั การ ในศตวรรษที่ 21 5. ครูสะท้อนการปฏบิ ตั ิตน (Teachers reflect on their practice) ความสามารถประกอบ พฤติกรรมบ่งชีค้ วามสามารถสำคญั (Sub-Competency) (Behavioral Indicators) การวิเคราะห์การเรียนรู้ วิเคราะห์การเรียนรู้ของนักเรียน ของนักเรียน ใชข้ ้อมลู เพ่ือเสนอแนวคิดในสิง่ ทีท่ ำได้เพื่อปรับปรุงการเรยี นรู้ของ นักเรียน การเชื่อมโยงวิชาชีพ เชอื่ มโยงการเตบิ โตทางวิชาชีพผูเ้ รยี นกับเป้าหมายทางอาชีพ กับเป้าหมายอาชีพ เขา้ ร่วมกิจกรรมที่แนะนำเพ่ือการเรียนรูแ้ ละการพัฒนาอย่างมืออาชพี การทำงานและขับ ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ซบั ซอ้ นและมีพลวตั อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เคลื่อนสภาพแวดล้อม ใชว้ ิธีการวจิ ัยทีผ่ ่านการตรวจสอบเพื่อปรับปรุงการสอนและการ เรยี นรู้ที่หลากหลาย 6.ครูประเมนิ การศกึ ษาของนักเรียน (Teachers Evaluate Student Education) ความสามารถประกอบ พฤติกรรมบ่งช้คี วามสามารถสำคัญ (Sub-Competency) (Behavioral Indicators) การเลือกวิธีและพฒั นา ทกั ษะการเลือกวธิ ีการประเมนิ ท่เี หมาะสมสำหรับการตดั สินใจในการ สอน ทกั ษะในการพัฒนาวิธีการประเมินที่เหมาะสมสำหรบั การตดั สนิ ใจ สอน การนำไปใช้ส่ือสาร ทกั ษะการสื่อสารผลการประเมินให้กบั นักเรียน ผ้ปู กครอง นัก การศึกษา และกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ ทักษะการรับรูว้ ธิ ีการประเมินทีผ่ ิดจรรยาบรรณผดิ กฎหมายและอ่ืน ๆ ทไ่ี มเ่ หมาะสม ทักษะการใชข้ ้อมูลการประเมิน
144 วารสารปญั ญา ปีท่ี 28 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม –เมษายน 2564) เทคนิคและวธิ ีการ ทักษะการบริหารการให้คะแนนและการตีความผลลัพธข์ องวิธกี าร ประเมินนักเรยี น ประเมินทั้งทผ่ี ลติ จากภายนอกและที่ครูจัดทำ ทกั ษะการพฒั นาข้ันตอนการให้เกรดที่ใชก้ ารประเมินนักเรยี น ทกั ษะการใช้ผลการประเมนิ เมื่อตัดสินใจเกี่ยวกับนกั เรยี นรายบคุ คล ทกั ษะการวางแผนการสอนการพฒั นาหลักสตู รและปรับปรุงโรงเรยี น สรปุ การจัดการศึกษาตามความสามารถ ความสามารถของครูได้รับการกำหนด ( Competency - Based Education Implementation) ขององค์กรและหน่วยงาน และออกแบบมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดง ต่าง ๆ เป็นนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง ทักษะและความคิดที่จำเป็นสำหรับครูที่จะ แนวใหม่ที่จะนำไปสู่การประสบความสำเร็จ ประสบความสำเร็จในการจัดการศึกษาของ ของระบบการจัดการศึกษาตามความสามารถ โรงเรียน ความสามารถหรือโมเดล ที่ต้องอาศัยความสามารถของนักการศึกษาใน ความสามารถของครูจึงเป็นนวัตกรรมที่มี การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและต้องอดทน ความสัมพันธ์เป็นพื้นฐาน และมีการออกแบบ ต่อความท้าทายหลากหลายประการที่จะต้อง ประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นความสามารถ เผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงอาจต้องใช้เวลา เฉพาะบุคคลเพื่อสร้างการมสี ่วนร่วมและการมี สักระยะก่อนที่โรงเรียนและครูจะพร้อมที่จะ อิทธิพลต่อนักเรียน เพื่อให้นักเรียนบรรลุ จัดการศึกษาตามความสามารถอยา่ งเหมาะสม ความสำเรจ็ ในโลกที่อาศยั อยู่ในวนั นี้ เปา้ หมาย ในศตวรรษที่ 21 สิ่งสำคัญก็คือ การกำหนด การใช้ความสามารถของครูก็เพื่อใช้เป็น ผลลัพธ์การเรียนรู้ที่น่าสนใจและทันโลกแห่ง เครื่องมือในการสอน การตั้งเป้าหมาย และ การเปลี่ยนแปลง จะช่วยให้เด็ก ๆ มีส่วนร่วม การสะท้อนตนเองสำหรับครู สำหรับโมเดล และกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ ซึ่งในโลกแห่ง และมาตรฐานความสามารถครูมีการกำหนดไว้ ความเป็นจริงอาจจะดำเนินการเรียนรู้ที่บ้าน อย่างหลากหลายซึ่งจะพยายามนำมาเสนอใน และในช่วงวันหยุดจะมีทรัพยากรที่เด็กๆ โอกาสต่อๆไป ในส่วนความสามารถของครู ต้องการเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ไม่ว่าเด็ก ๆ จะ ไทย ความสามารถที่มีการนำเสนอไว้ทางเว็ป อยู่ที่ไหน การแสดงความสามารถในการ ไซต์ต่าง ๆ นั้นควรจะมีการกำหนดใน ส่งเสริมการเรียนรู้แบบนี้จึงเป็นบทบาทของ รายละเอียดขององค์ประกอบความสามารถ การศึกษาในศตวรรษที่ 21 ที่จะเป็นผู้นำการ และจัดทำเป็นมาตรฐานความสามารถ เพ่ือ เรยี นรู้ตลอดชีวติ อยา่ งแท้จริง. ประโยชน์ในการนำไปใช้ปฏิบัติการสอน การ ประเมินและการพฒั นาครูต่อไป
วารสารปัญญา ปีที่ 28 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม –เมษายน 2564) 145 แหล่งอ้างองิ ชัชรินทร์ ชวนวัน. (2553). คู่มือการพัฒนาโมเดลสมรรถนะ: Competency Model Development Manual- โครงการพัฒนาระบบสมรรถนะในองค์ทางการศึกษา. นครปฐม: สถาบันพฒั นาครู คณาจารยแ์ ละบคุ ลากรทางการศึกษา. นรรัชต์ ฝันเชียร. (2561). ครูในศตวรรษที่ 21 ต้องมีคุณลักษณะอย่างไร. สืบค้น 20 เมษายน 2563, จ า ก https://www.trueplookpanya.com/education/content/68571/- teaartedu-teaart-teaarttea
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156