Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ระดับชั้น ม.1

แผนการจัดการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ระดับชั้น ม.1

Published by กิตติธัช พุทธเมฆา, 2021-05-31 12:41:10

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
จัดทำโดย นายกิตติธัช พุทธเมฆา เลขที่2 หมู่เรียน D5

Search

Read the Text Version

ห น ้ า | 47 ดา้ นจติ พิสัย (A) - นักเรยี นเล็งเห็นถึงประโยชน์จากการศึกษาวิธกี ารทางสถติ ิและความรเู้ ก่ยี วกับความนา่ จะเปน็ - นักเรียนเล็งเห็นคุณค่าและประโยชน์จากการศึกษาความรู้ทางคณิตศาสตร์เพื่อใช้ในการ แกป้ ัญหา 3. สาระสำคญั เหตกุ ารณ์ คือ คำทีใ่ ชเ้ รียกแทนสิง่ ท่เี กิดขึ้นและบ่งบอกลักษณะของสิง่ ท่ีเกิดข้นึ โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแน่นอน เหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นแน่นอน และเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น หรอื ไม่เกดิ ขนึ้ ความน่าจะเป็น คือ คำที่ใช้ประเมินสถานการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น โดยพิจารณาว่า เมื่อถึงเวลาเกิด เหตุการณ์แล้ว จะเกิดในลักษณะใด มีโอกาสที่จะเกิดมากน้อยเพียงใด ซึ่งต้องใช้การทดลองสุ่มเป็น เครื่องมือในการหาผลลัพธ์นั้น ๆ โดยเหตุการณ์ที่เกิดจากการทดลองสุ่ม สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ เหตุการณ์ท่สี นใจ Event : n(E) และเหตกุ ารณ์ท้ังหมด Sample Space : n(S) ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ = จำนวนเหตุการณ์ท่ีสนใจ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้สามารถแสดงให้เห็นว่าใน จำนวนเหตุการณ์ท้งั หมด เหตกุ ารณ์นนั้ ๆ มีโอกาสเกิดขน้ึ ได้มากนอ้ ยเพียงใด 4. สาระการเรียนรู้ - การอธบิ ายการเกดิ โอกาสจากเหตุการณ์ที่กำหนดให้ โดยใชค้ วามรเู้ ก่ียวกบั สถิติและความน่าจะ เป็น - การปฏิบัติงานรายบุคคล และงานกลุ่ม เกี่ยวกับการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หรือการ เชอ่ื มโยงคณิตศาสตร์รว่ มกับศาสตร์อื่น ๆ - การสรุปและนำเสนอผลทไ่ี ด้จากการปฏิบตั ิงาน 5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ห น ้ า | 48 6. ทกั ษะของผูเ้ รียนในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L)  ทักษะการอ่าน (Reading)  ทักษะการ เขยี น (Writing)  ทักษะการ คดิ คำนวณ (Arithmetic)  ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and problem solving)  ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation)  ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ ำ (Collaboration , teamwork and leadership)  ทักษะดา้ นความเขา้ ใจตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)  ทกั ษะดา้ น การส่ือสาร สารสนเทศ และรเู้ ท่าทนั สือ่ (Communication information and media literacy)  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing)  ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)  ทักษะการเปลี่ยนแปลง (Change)  ทักษะการเรยี นรู้ (Learning Skills)  ภาวะผู้นำ (Leadership) 7. ช้นิ งานหรือภาระงาน ( หลกั ฐาน / ร่องรอยแสดงความรู้ ) - ใบงาน - แบบทดสอบเก็บคะแนน - รายงานสำรวจ 8. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงท่ี 1-2 (ใช้รปู แบบการเรยี นรู้ : แบบนิรนยั ) ข้นั ที่ 1 กำหนดขอบเขตของปญั หา เขยี นไว้บนกระดาน 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันยกตัวอย่างเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับนักเรียน ให้ 2. ครูหาตัวอย่างเพิม่ เตมิ ให้นกั เรยี น โดยใหม้ คี วามแตกต่างหลาย ๆ แบบ

ห น ้ า | 49 ข้นั ท่ี 2 แสดงและอธบิ ายทฤษฎี หลกั การ 1. ครูอธบิ ายหลักการของเหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท 1.1 เหตกุ ารณท์ ีเ่ กดิ ข้ึนแน่นอน 1.2 เหตกุ ารณท์ ไ่ี ม่เกดิ ขึน้ แน่นอน 1.3 เหตุการณท์ ่ีอาจจะเกดิ ขนึ้ หรอื ไมเ่ กิดข้นึ 2. ครูและนักเรียนช่วยกันเลือกเหตุการณ์ที่ได้ยกตัวอย่างไว้บนกระดาน และ ร่วมกันอธบิ ายเหตุการณ์นั้น ๆ โดยพิจารณาจากคำที่ปรากฏในประโยคว่าคำใดสามารถแยกประเภทของ เหตกุ ารณไ์ ด้อย่างชดั เจน 3. นักเรียนช่วยกนั แยกประเภทและจัดแต่งประโยคใหม้ คี วามชดั เจนมากยิ่งขึ้น ข้ันท่ี 3 ใช้ทฤษฎี หลักการ 1. ครใู ห้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ 5 กลุม่ กลุ่มละเท่า ๆ กนั รว่ มกนั อภปิ รายคำที่บ่งบอก ประเภทของเหตกุ ารณจ์ ากเหตุการณท์ ีค่ รูกำหนดให้ 2. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลจากการอภิปรายร่วมกันในกลุ่มให้ กลมุ่ อน่ื ๆ และคณุ ครูร่วมกันพจิ ารณา ขน้ั ท่ี 4 ตรวจสอบและสรปุ 1. ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งจากการนำเสนอผลการอภิปรายของแตล่ ะกล่มุ 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปบทเรียนเรือ่ งเหตุการณ์ที่เกิดข้ึน และประเภทของ เหตกุ ารณ์ ขนั้ ที่ 5 ฝึกปฏิบัติ 1. ให้นักเรียนทำใบงานเรอื่ งเหตุการณ์ และสง่ ครเู พ่อื ตรวจสอบความถกู ต้อง ช่วั โมงท่ี 3-5 (ใชร้ ูปแบบการเรียนรู้ : แบบนิรนัย) ข้ันที่ 1 กำหนดขอบเขตของปัญหา 1. ครูทบทวนความรู้เรื่องประเภทของเหตุการณ์ 3 ประเภท โดยให้นักเรียน ร่วมกนั ยกตัวอย่างเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ที่เกิดขึน้ กับนกั เรียน พร้อมจำแนกประเภทของเหตกุ ารณ์น้ัน ๆ อย่าง ถกู ตอ้ ง

ห น ้ า | 50 2. ครูยกตัวอย่างสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่สามารถบอกโอกาสการเกิดขึ้นของ เหตุการณ์และลักษณะการเกิดขึ้นที่ชัดเจนได้ เช่น สุ่มการหยิบลูกบอลสี 1 ลูก จากทั้งหมด 5 ลูกที่อยู่ ภายในกล่อง โยนลกู เต๋า 1 ลูก 1 ครงั้ เปน็ ตน้ ขนั้ ท่ี 2 แสดงและอธิบายทฤษฎี หลักการ 1. ครูอธิบายหลักการความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ โดยใช้วิธีการทดลองสุ่ม เพอื่ วเิ คราะห์โอกาสการเกดิ ข้ึนของสถานการณ์น้ัน ๆ โดยแบ่งเหตุการณเ์ ป็น 2 ประเภท ได้แก่ เหตุการณ์ ทีส่ นใจ n(E) และเหตุการณ์ท้งั หมด n(S) เช่น โยนลูกเต๋า 1 ลูก จำนวน 1 ครั้ง จงหาความนา่ จะเป็นท่ีจะออกแต้มเป็นเลขคู่ เหตุการณ์ทั้งหมด n(S) คือ {1,2,3,4,5,6} = 6 เพราะลกู เตา๋ 1 ลกู สามารถออก แต้มได้ 6 แต้ม เท่านนั้ เหตุการณ์ที่สนใจ n(E) คือ {2,4,6} = 3 เพราะมีแต้มที่เป็นเลขคู่เพียง 3 แต้ม เท่านัน้ ดังนั้น n(E) = 3 และ n(S) = 6 2. ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เหตุการณ์ทั้ง 2 ประเภท จากสถานการณ์ที่ ยกตัวอยา่ งให้ 3. ครูอธิบายการวิเคราะหโ์ อกาสการเกิดของเหตกุ ารณ์นัน้ ๆ โดยให้ใชว้ ธิ ีการคดิ ดังน้ี ความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ = จำนวนเหตกุ ารณ์ท่ีสนใจ หรือ p(E) = ������(������) ������(������) จำนวนเหตุการณท์ ั้งหมด 4. ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เหตุการณ์ทั้ง 2 ประเภท และนำมาแทนค่า ตามวธิ ีการคดิ พรอ้ มคำนวณให้เปน็ ผลลพั ธ์อยา่ งง่าย เชน่ จากโจทย์ กำหนดให้ n(E) = 3 และ n(S) = 6 p(E) = ������(������) แทนคา่ เปน็ p(E) = 3 แปลงเป็นผลลพั ธ์อยา่ งงา่ ย = 1 ������(������) 6 2 ขน้ั ที่ 3 ใชท้ ฤษฎี หลักการ 1. ครูยกตัวอย่างการทดลองการโยนลูกปิงปองลงแก้วน้ำของนักเรียนในชั้นเรียน จำนวน 5 คน โดยนำผลสรุปการทดลองของนักเรียนลงในตาราง ดงั นี้

ห น ้ า | 51 ลำดับ ชื่อ ครงั้ ที่ 1 คร้ังที่ 2 คร้งั ท่ี 3 ผลการทดลอง ผ้ทู ไี่ ดร้ บั รางวลั 1 สมศรี - - 2 สมพร -  3 สมชาย - -  4 สมหมาย    5 สมปอง - - - 2. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกัน วิเคราะห์และอภิปรายจากตารางการทดลองการโยนลูกปิงปองลงแก้วน้ำ โดยใช้วิธีการคิดหาความน่าจะ เป็นของเหตุการณ์ p(E) = ������(������) ������(������) 3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลจากการอภปิ รายร่วมกนั ใน กล่มุ อธิบายถงึ ผลการทดลองของนกั เรยี นทั้ง 5 คน และนกั เรียนผทู้ ่ีควรไดร้ บั รางวัล ขั้นท่ี 4 ตรวจสอบและสรปุ 1. ครแู ละนักเรียนร่วมกันพิจารณาผลการทดลองและนักเรยี นผทู้ ี่ควรไดร้ ับรางวัล จากการทดลองครั้งนี้ 2. ครูตรวจสอบและสรุปบทเรียนเรื่องความน่าจะเป็นของเหตุการณ์และโอกาส การเกิดขน้ึ ขน้ั ท่ี 5 ฝกึ ปฏบิ ตั ิ 1. ให้นักเรียนทำใบงานในเรื่องการหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ และส่งครู เพื่อตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 2. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิม สำรวจเหตุการณ์ที่กลุ่มมีความสนใจที่เกิดขึ้นภายใน โรงเรียน เช่น การยืมหนังสือในห้องสมุดเล่มใด หมวดอะไรที่ได้รบั ความนยิ ม, การสั่งอาหารในโรงอาหาร อาหารประเภทใดที่ได้รับความนิยม เป็นต้น ทำในรูปแบบรายงาน ครูอธิบายรายละเอียดในการจัดทำ รายงานอย่างชัดเจน และให้นำมาส่งครเู พ่ือตรวจสอบความถูกตอ้ ง

ห น ้ า | 52 ช่ัวโมงท่ี 6 (ใชร้ ูปแบบการเรยี นรู้ : แบบนิรนัย) ข้ันที่ 1 กำหนดขอบเขตของปัญหา 1. ครูทบทวนความรู้เรื่องการจำแนกประเภทของเหตุการณ์ทั้ง 3 ประเภท และ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ โดยใชว้ ธิ กี ารคิดแบบ p(E) = ������(������) ������(������) 2. ครูกำหนดสถานการณ์ในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้นักเรียนได้คิดวเิ คราะห์ ความนา่ จะเป็นของเหตุการณ์ ขั้นท่ี 2 แสดงและอธบิ ายทฤษฎี หลักการ 1. ครใู หน้ กั เรียนออกมาเขียนแสดงวธิ กี ารหาคา่ ความนา่ จะเปน็ ลงในสมดุ ขัน้ ที่ 3 ใช้ทฤษฎี หลกั การ 1. นกั เรียนเขียนแสดงวิธีการคดิ หาความนา่ จะเปน็ จากสถานการณ์ท่ีครูกำหนดให้ อย่างมหี ลักการ และถูกตอ้ งตามวธิ ีการคดิ ขั้นที่ 4 ตรวจสอบและสรุป 1. ครูตรวจสอบผลลัพธ์ของนักเรียนแต่ละคน และสรุปบทเรียนเพื่อให้นักเรียน เกิดความเขา้ ใจมากย่ิงขึ้น ขน้ั ที่ 5 ฝึกปฏบิ ตั ิ 1. นักเรียนทำแบบทดสอบเก็บคะแนนเกี่ยวกับเรื่องเหตุการณ์ และ ความน่าจะเป็น ส่งครทู า้ ยคาบเรียน เพือ่ ใชเ้ ป็นคะแนนเกบ็ ในบทเรียนนี้ 9. สอ่ื การสอน - ส่ือการเรยี นการสอนประกอบส่อื PowerPoint - อุปกรณป์ ระกอบการทดลอง เชน่ ลูกปงิ ปอง แกว้ นำ้ - แผ่นป้ายตารางบันทึกผลการทดลอง 10. แหล่งเรียนรู้ในหรือนอกสถานที่ - ห้องสมุด โรงอาหาร - บุคลากร ได้แก่ ครู, ผปู้ กครอง เปน็ ต้น

ห น ้ า | 53 11. การวดั และประเมินผล ชิ้นงาน / ภาระงาน วิธีวดั ผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์การให้ เกณฑ์การประเมนิ 1. ใบงาน เรื่อง เหตุการณ์ ตรวจใบงาน วัดผล คะแนน ใบงาน คะแนน 9 – 10 = ดีมาก 2. ใบงาน เรอ่ื ง การหา ตรวจใบงาน ตอบคำถาม คะแนน 6 – 8 = ดี ความนา่ จะเป็นของ ถูกต้องตามใบ คะแนน 3 – 5 = พอใช้ เหตุการณ์ ตรวจรายงาน งานทีใ่ ห้ทำ คะแนน 0 – 2 = ปรบั ปรุง ผ่านเกณฑ์ในระดบั ดีขึน้ ไป 3. รายงานการสำรวจ ตรวจ ใบงาน ตอบคำถาม คะแนน 9 – 10 = ดีมาก เหตกุ ารณ์ แบบทดสอบ ถกู ต้องตามใบ คะแนน 6 – 8 = ดี งานที่ใหท้ ำ คะแนน 3 – 5 = พอใช้ 4. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน คะแนน 0 – 2 = ปรับปรุง เรื่อง เหตกุ ารณ์และความ รายงาน ตารางเกณฑ์การ ผ่านเกณฑ์ในระดบั ดีขึน้ ไป น่าจะเปน็ ใหค้ ะแนนการทำ คะแนน 16 – 20 = ดีมาก รายงาน คะแนน 11 – 15 = ดี คะแนน 6 – 10 = พอใช้ แบบทดสอบ ตอบคำถาม คะแนน 0 – 5 = ปรบั ปรงุ ถกู ต้องจึงจะได้ ผา่ นเกณฑ์ในระดับดขี น้ึ ไป คะแนน คะแนน 16 – 20 = ดมี าก คะแนน 11 – 15 = ดี คะแนน 6 – 10 = พอใช้ คะแนน 0 – 5 = ปรบั ปรุง ผ่านเกณฑ์ในระดับดขี ้ึนไป

ห น ้ า | 54 จุดประสงค์การเรยี นรู้ หรือ วิธวี ัดผล เครอื่ งมือวัดผล เกณฑ์การให้ เกณฑ์การ ส่ิงท่ีต้องการจะประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรม คะแนน ประเมิน 1. สามารถอธบิ ายเหตุการณแ์ ละ แบบสังเกต ผา่ นเกณฑต์ ั้งแต่ หลักการความน่าจะเป็น พฤติกรรม พิจารณาผล ระดบั ปานกลาง รายบคุ คล การประเมิน ขนึ้ ไป 2. สามารถเขียนแสดงวธิ ีการคดิ สังเกตพฤติกรรม พฤติกรรมการ หาความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ แบบสงั เกต เรยี นรู้ ผ่านเกณฑ์ต้ังแต่ ต่าง ๆ พฤติกรรม พิจารณาผล ระดบั ปานกลาง รายบุคคล การประเมิน ขึ้นไป 3. สามารถนำความรู้เก่ียวกับ สังเกตพฤติกรรม พฤติกรรมการ ความน่าจะเปน็ มาใชใ้ นการ แบบสังเกต เรยี นรู้ ผา่ นเกณฑ์ต้ังแต่ แกป้ ัญหา พฤติกรรม พจิ ารณาผล ระดับปานกลาง รายบุคคล การประเมิน ขน้ึ ไป 4. มีพฤติกรรมและทักษะในการ สังเกตพฤติกรรม พฤติกรรมการ ทำงานร่วมกบั ผู้อนื่ แบบสงั เกต เรยี นรู้ ผ่านเกณฑต์ ั้งแต่ พฤติกรรมการ พจิ ารณาผล ระดบั ปานกลาง ปฏิบัติงาน การประเมิน ข้นึ ไป รว่ มกบั ผู้อนื่ พฤติกรรมการ ปฏิบัตงิ าน รว่ มกบั ผูอ้ ื่น สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน วิธวี ดั ผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑ์การให้ เกณฑ์การ คะแนน ประเมิน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร สงั เกต แบบสังเกต ผา่ นเกณฑต์ ้ังแต่ พฤติกรรมการ ตารางเกณฑ์ ระดับปานกลาง 2. ความสามารถในการคดิ สังเกต ปฏบิ ตั งิ าน การใหค้ ะแนน ขึ้นไป รายบุคคล สมรรถนะ สำคญั ของ ผ่านเกณฑ์ต้ังแต่ แบบสังเกต ผเู้ รยี น ระดับปานกลาง พฤติกรรมการ ตารางเกณฑ์ ขนึ้ ไป ปฏิบัติงาน การใหค้ ะแนน รายบุคคล สมรรถนะ สำคญั ของ ผู้เรียน

ห น ้ า | 55 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน วิธวี ัดผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑ์การให้ เกณฑ์การ คะแนน ประเมนิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา สังเกต แบบสงั เกต ผา่ นเกณฑ์ต้ังแต่ พฤติกรรมการ ตารางเกณฑ์ ระดับปานกลาง ปฏิบัตงิ าน การใหค้ ะแนน ข้ึนไป รายบคุ คล สมรรถนะ สำคัญของ ผู้เรียน ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 วิธวี ัดผล เคร่ืองมอื วัดผล เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การ 1. ทักษะการอา่ น (Reading) สงั เกต ประเมิน แบบประเมนิ ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑต์ ั้งแต่ 2. ทักษะการเขยี น (Writing) สังเกต ดา้ นทกั ษะและ คะแนนทักษะของ ระดับปานกลาง กระบวนการ ผูเ้ รยี นในศตวรรษที่21 ขึ้นไป 3. ทกั ษะการคิดคำนวณ สังเกต แบบประเมนิ ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑ์ต้ังแต่ (Arithmetic) ด้านทกั ษะและ คะแนนทักษะของ ระดบั ปานกลาง กระบวนการ ผู้เรียนในศตวรรษที่21 ข้ึนไป 4. ทักษะด้านการคดิ อย่างมี สงั เกต แบบประเมนิ ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑ์ต้ังแต่ วิจารณญาณและทกั ษะในการ ด้านทักษะและ คะแนนทกั ษะของ ระดบั ปานกลาง แกป้ ญั หา (Critical thinking กระบวนการ ผู้เรียนในศตวรรษที2่ 1 ขน้ึ ไป and problem solving) แบบประเมิน ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑต์ ั้งแต่ 5. ทักษะด้านความร่วมมือการ สงั เกต ด้านทักษะและ คะแนนทักษะของ ระดบั ปานกลาง กระบวนการ ผู้เรียนในศตวรรษที2่ 1 ขน้ึ ไป ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ แบบประเมิน ตารางเกณฑก์ ารให้ ผ่านเกณฑต์ ้ังแต่ (Collaboration, teamwork ดา้ นทักษะและ คะแนนทักษะของ ระดับปานกลาง กระบวนการ ผเู้ รียนในศตวรรษท2่ี 1 ขึ้นไป and leadership) 6. ทักษะการเรยี นรู้ (Learning สังเกต แบบประเมนิ ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑต์ ้ังแต่ Skills) ด้านทักษะและ คะแนนทักษะของ ระดบั ปานกลาง กระบวนการ ผู้เรยี นในศตวรรษที่21 ขึ้นไป

ห น ้ า | 56 12. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................. .............................................................. 13. บนั ทกึ ผลหลังการสอน สรุปผลการเรียนการสอน นักเรยี นท้ังหมดจำนวน.....................คน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูข้ ้อที่ จำนวนนักเรยี นที่ผา่ น จำนวนนักเรียนทไี่ มผ่ ่าน จำนวนคน ร้อยละ จำนวนคน รอ้ ยละ 1 2 3 14. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................ ............................................................... 15. ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................ ............................................................... ลงช่ือ.................................................................. () ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ....................................... ลงชอ่ื ................................................................ หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ () ลงช่อื ................................................................ รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวิชาการ ()

ห น ้ า | 57 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา ได้ทำการตรวจแผนการเรยี นรู้ของ....................................................แล้วมคี วามคดิ เห็นดงั นี้ 1. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม  ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป 3. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ .................................................................................... .................................................................... ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... ลงชือ่ ............................................................................................... ( ………………………………………………… ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรียน…………………………………………………………..

ห น ้ า | 58 คำชี้แจง ให้นักเรียนวิเคราะห์เหตุการณ์ที่กำหนดให้ พร้อมระบุประเภทของเหตุการณ์ 3 ประเภท ลงในชอ่ งคำตอบใหถ้ ูกตอ้ ง เหตุการณท์ ่ีเกิดขนึ้ อย่างแนน่ อน เหตกุ ารณ์ทไ่ี ม่เกิดข้ึนอยา่ งแน่นอน เหตุการณท์ อ่ี าจจะเกดิ ขน้ึ หรือไม่เกิดขนึ้ กไ็ ด้ 1. ดวงอาทติ ยข์ น้ึ ทางทศิ ตะวนั ออก และตกทางทิศตะวนั ตก ตอบ 2. หลงั ฝนตกอาจจะเกิดรงุ้ กนิ นำ้ หรือไมเ่ กดิ กไ็ ด้ ตอบ 3. เต่าตนอุ อกลกู จำนวน 10 ตัว ตอบ 4. สมหมายโยนเหรียญ 1 บาท 1 ครั้ง อาจหงายหน้าหัวหรือหงายหน้าก้อย ก็ได้ ตอบ 5. สมฤดีโยนลูกเต๋า 2 ลูกพร้อม ๆ กัน 1 ครั้ง แต้มของลูกเต๋าทั้งสองลูก รวมกนั จะไดม้ ากกวา่ 12 แต้ม ตอบ

ห น ้ า | 59 6. นอ้ งสาวของสายสมรทำแกว้ หล่นลงพ้ืน แกว้ อาจจะแตกหรือไมแ่ ตกกไ็ ด้ ตอบ 7. ในวันเกดิ ปีนี้ปา้ ขวัญนภามอี ายคุ รบ 62 ปี และในปีหน้าป้าขวัญนภาจะมี อายุ 64 ปี ตอบ 8. ขณะท่ีหนูแดงอาบนำ้ อยู่ ร่างกายของหนแู ดงจะเปยี ก ตอบ 9. น้ำทะเลมรี สชาติเคม็ ตอบ 10. ในตอนกลางคนื เราอาจจะมองเห็นดาวหรอื มองไมเ่ หน็ กไ็ ด้ ตอบ

ห น ้ า | 60 ตอนที่ 1 คำชีแ้ จง ให้นักเรียนวิเคราะห์เหตกุ ารณท์ ีก่ ำหนดให้ พร้อมระบุคำตอบในชอ่ งว่างให้ถูกต้อง 1. ในขวดโหลมีลูกอมรสมะนาว 4 ลูก กาแฟ 2 ลูก และมิ้นท์ 3 ลูก จงหาโอกาสที่จะหยิบได้ ลูกอมรสมะนาว เหตุการณ์ท้ังหมด n(S) = …………………………………………………….. เหตุการณ์ที่สนใจ n(E) = …………………………………………………….. 2. ในถุงมีธนบัตรใบละ 1,000 บาท 1 ใบ ธนบัตรใบละ 500 บาท 2 ใบ และธนบตั รใบละ 100 บาท 4 ใบ จงหาโอกาสท่จี ะหยบิ ได้ธนบัตรทีม่ ีมูลค่าน้อยทสี่ ุด เหตกุ ารณท์ ้ังหมด n(S) = …………………………………………………….. เหตกุ ารณท์ ี่สนใจ n(E) = …………………………………………………….. 3. ในกล่องมลี ูกบอลสีแดง 5 ลูก สีเขยี ว 3 ลูก สขี าว 4 ลกู และสดี ำ 8 ลูก จงหาโอกาสทจ่ี ะหยิบ ไดล้ กู บอลสีเหลือง เหตกุ ารณท์ ั้งหมด n(S) = …………………………………………………….. เหตกุ ารณท์ ส่ี นใจ n(E) = …………………………………………………….. 4. ในบอ่ นำ้ มปี ลาดุก 15 ตวั ปลาช่อน 10 ตวั และปลานิล 20 ตัว จงหาโอกาสที่จะจับได้ปลาดุก และปลานลิ เหตกุ ารณท์ ้ังหมด n(S) = …………………………………………………….. เหตุการณ์ทส่ี นใจ n(E) = …………………………………………………….. 5. มานีโยนเหรียญ 10 บาท 1 เหรียญ จำนวน 2 ครัง้ จงหาโอกาสท่จี ะหงายหน้าเป็นหัว เหตกุ ารณ์ทั้งหมด n(S) = …………………………………………………….. เหตุการณท์ ่สี นใจ n(E) = ……………………………………………………..

ห น ้ า | 61 ตอนที่ 2 คำช้แี จง ให้นักเรยี นเขียนแสดงวธิ ีหาความนา่ จะเปน็ ของเหตกุ ารณ์ จากสถานการณท์ กี่ ำหนดให้ 1. มานะโยนลกู เตา๋ 1 ลกู 1 ครั้ง จงหาความน่าจะเป็นที่จะออกแตม้ เป็นเลขที่ 2 หารลงตัว วธิ ที ำ 2. เมย์ทายวันเกิดของน้ำ โดยน้ำบอกใบ้ว่าเกิดเดือนตุลาคม จงหาความน่าจะเป็นที่เมย์จะทาย วันเกิดของนำ้ ได้ถกู ตอ้ ง วิธีทำ 3. ณ ลานจอดรถแหง่ หนึ่ง มรี ถจอดอยู่ท้งั หมด 100 คนั เป็นรถกระบะ 60 คนั รถตู้ 30 คัน และ ทเ่ี หลือเปน็ รถเก๋ง รถทกุ คันมีโอกาสที่จะขับออกจากลานจอดรถเท่ากัน จงหาความน่าจะเป็นที่รถคันแรก ท่ขี บั ออกจากลานจอดรถจะเป็นรถเก๋ง วิธที ำ

ห น ้ า | 62 4. แจกแบบสอบถาม 30 ฉบับ เพื่อสำรวจความว่าผู้คนชื่นชอบรายการโทรทัศน์ประเภทใด (ผู้ตอบแบบสอบถามเลอื กตอบไดเ้ พียง 1 คำตอบเทา่ น้ัน) ผลการสำรวจเปน็ ดงั นี้ ข่าว 5 กีฬา 3 ละคร 12 รายการบันเทงิ 10 สุ่มหยิบแบบสอบถาม 1 ฉบับ จงหาความนา่ จะเปน็ ท่จี ะหยิบได้ของผคู้ นทีช่ ื่นชอบขา่ ว วิธีทำ 5. โรงพยาบาลแห่งหนึ่งทำการตรวจโรคให้ชาวบ้าน 50 คน พบว่าเป็นโรคไข้หวัดสายพันธ A จำนวน 8 คน โรคเท้าช้าง 5 คน โรคความดันโลหิตสูง 17 คน และจำนวนที่เหลือไม่พบโรคใด ๆ จงหา ความน่าจะเปน็ ท่ีจะสมุ่ เรยี กชาวบา้ น 1 คน แลว้ เปน็ ผทู้ ไี่ ม่พบโรคใด ๆ วิธีทำ

ห น ้ า | 63 ตอนที่ 1 คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบทถ่ี ูกต้องทีส่ ดุ (10 คะแนน) 1. การกระทำในข้อใดเปน็ การทดลองสุม่ ก. คดั แยกสาลท่ี มี่ ีตำหนอิ อกจากกองสาลี่ ซ่งึ มจี ำนวนทงั้ หมด 100 ลกู ข. เปรียบเทยี บการเจริญเตบิ โตของต้นแตงกวา 2 ต้น ซงึ่ ให้นำ้ ในปริมาณที่ต่างกัน ค. การหมุนวงล้อของสลากกนิ แบง่ รัฐบาล โดยหมุนใหล้ ูกปิงปองทม่ี ีตวั เลขออกมาจากวงลอ้ ง. การสอบคัดเลือกเข้าศกึ ษาต่อในแผนการเรยี นศลิ ป์-คำนวณ 2. เหตกุ ารณ์ใดเปน็ เหตุการณท์ เ่ี กดิ ข้ึนอย่างแนน่ อน ก. พระจันทร์ในตอนกลางคืนมที ั้งหมด 2 ดวง ข. พระอาทิตยข์ ึน้ ทางทศิ ตะวนั ออก และตกทางทศิ ตะวันตก ค. น้ำ มีสถานะเปน็ ของแข็ง ง. สตั ว์เลื้อยคลานทุกชนิดออกลูกเป็นตวั 3. เหตุการณใ์ ดเปน็ เหตุการณท์ ไ่ี มเ่ กดิ ขึ้นอยา่ งแนน่ อน ก. เพาะเมล็ดพนั ธดุ์ อกไม้จำนวน 50 ต้น แตไ่ มม่ เี มลด็ ใดงอกเลย ข. สนุ ขั ออกลูกตัวแรกเปน็ เพศผู้ ตวั ทส่ี องยอ่ มต้องเป็นเพศเมีย ค. วินยั โยนลกู เต๋า 1 ลูก 1 ครง้ั แตม้ ทอ่ี อกมคี ่ามากกว่า 6 ง. สุดาโยนเหรียญ 1 บาท 3 ครงั้ เหรยี ญจะหงายหน้าเปน็ หวั ทกุ ครง้ั 4. การโยนลกู เต๋า 2 ลูก 1 ครั้ง เหตกุ ารณท์ ่จี ะไดแ้ ตม้ ทัง้ สองรวมกนั เทา่ กับ 6 ตรงกบั ข้อใด ก. (0,6) (1,5) (2,4) (3,3) (4,2) (5,1) (6,0) ข. (1,5) (2,4) (3,3) ค. (0,6) (1,5) (2,4) (3,3) ง. (1,5) (2,4) (3,3) (4,2) (5,1) สถานการณท์ ี่กำหนดใหต้ อ่ ไปนี้ ใช้ตอบคำถามข้อ (5-8) ในกลอ่ งมลี ูกบอลสอี ย่จู ำนวนหนึ่ง มีสแี ดง 10 ลกู สเี ขียว 5 ลูก สเี หลอื ง 3 ลกู และสีขาว 2 ลกู สมุ่ หยบิ ลูก บอลสี 1 ลูก จงหาความนา่ จะเป็นท่จี ะหยบิ ได้ลูกบอลสเี ขียว 5. ข้อใดคือจำนวนของเหตุการณท์ ั้งหมด n(S) ก. 18 ข. 20 ค. 22 ง. 25 6. ขอ้ ใดคอื จำนวนของเหตุการณท์ สี่ นใจ n(E) ก. 5 ข. 3 ค. 2 ง. 10 7. ความน่าจะเป็นทจ่ี ะหยบิ ไดล้ ูกบอลสีเขียว ตรงกับขอ้ ใด ก. 5 ข. 5 ค. 3 ง. 3 22 20 22 20

ห น ้ า | 64 8. ขอ้ ใดคอื เหตุการณ์ท่เี กิดขึน้ อยา่ งแน่นอน ก. โอกาสท่จี ะหยบิ ไดล้ กู บอลสแี ดง เปน็ 10 หรอื 1 20 2 ข. 2 หรือ 1 คอื ผลลัพธ์ของโอกาสทจี่ ะหยบิ ไดล้ กู บอลสขี าว 20 10 ค. โอกาสทีจ่ ะหยบิ ได้ลูกบอลสเี หลือง เปน็ 3 20 ง. ถูกทกุ ข้อ 9. โยนลกู เตา๋ 1 ลกู 1 ครั้ง ความน่าจะเปน็ ที่แตม้ จะออกเปน็ เลขคี่ ตรงกบั ขอ้ ใด ก. 1 ข. 1 ค. 1 ง. 1 6 5 32 10. ในการสุ่มตัวอักษรภาษาอังกฤษ 1 ตัว จากคำว่า “MATHEMATIC” จงหาความนา่ จะเป็นทจ่ี ะสมุ่ ไดต้ ัวอักษร ภาษาอังกฤษท่เี ปน็ สระ ก. 1 ข. 3 ค. 2 ง. 1 2 4 53 ตอนที่ 2 คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนเขียนคำตอบและแสดงวธิ ีคดิ หาความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ จากสถานการณท์ ี่ กำหนดให้ ทำลงในกระดาษคำตอบ 1. ประเภทการเกดิ ของเหตุการณ์ มกี ีป่ ระเภท อะไรบ้าง 2. สตู รการหาตวามน่าจะเป็นของเหตุการณ์ คอื 3. โยนเหรยี ญ 5 บาท จำนวน 2 เหรยี ญ ทงั้ หมด 2 ครั้ง จงหาความน่าจะเป็นทจ่ี ะหงายหนา้ เปน็ หัว 4. โยนเหรยี ญ 10 บาท จำนวน 2 เหรยี ญ ทงั้ หมด 2 คร้ัง จงหาความน่าจะเป็นทจ่ี ะหงายหน้าเปน็ หวั อย่างน้อย1เหรียญ 5. โยนลกู เตา๋ 1 ลูก จำนวน 1 คร้งั จงหาความน่าจะเปน็ ทแี่ ตม้ จะออกเปน็ เลขคู่ 6. โยนลูกเตา๋ 2 ลูก จำนวน 1 ครง้ั พร้อม ๆ กนั จงหาความน่าจะเปน็ ท่แี ต้มท้งั สองลูกมผี ลรวมเป็นเลขค่ี 7. ในการสอบวิชาคณิตศาสตรค์ รง้ั หนงึ่ ซ่งึ มีคะแนนเตม็ 10 คะแนน ถา้ สอบได้คะแนนนอ้ ยกวา่ 5 คะแนนจะถือว่าสอบ ไมผ่ า่ น จงหาความน่าจะเปน็ ท่ีจะสอบไมผ่ า่ นในครั้งน้ี 8. ในการสุม่ ตัวอกั ษรภาษาองั กฤษ 1 ตัว จาก “ชื่อจรงิ ของนักเรยี นเปน็ ภาษาองั กฤษ” จงหาความนา่ จะเปน็ ที่จะสมุ่ ได้ ตัวอักษรภาษาองั กฤษท่ีเปน็ พยัญชนะ 9. เด็กชายเมษา ได้ย่นื สมัครเขา้ เรยี นต่อในระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 จำนวน 2 โรงเรยี น ดังนี้ โรงเรียนที1่ รับนกั เรียนเขา้ ศึกษา 80 คน จากผสู้ มัครทั้งหมด 120 คน โรงเรียนท2่ี รบั นกั เรียนเข้าศึกษา 100 คน จากผู้สมคั รท้งั หมด 200 คน โรงเรียนใดท่ีเดก็ ชายเมษาจะมีสิทธ์ิได้เข้าศึกษามากกวา่ กัน และมีคา่ ความนา่ จะเปน็ เท่าใด 10. ในกลอ่ งมลี ูกกวาดอยู่ 20 ลูก รสมะนาว 3 ลูก รสสม้ 8 ลูก และจำนวนท่เี หลอื เปน็ รสโค้ก จงหาความน่าจะเปน็ ที่จะ หยิบลกู กวาดไดร้ ถโคก้ และรสมะนาว

ห น ้ า | 65

ห น ้ า | 66 เกณฑก์ ารให้คะแนนการจดั ทำรายงาน ประเด็นการประเมิน ดมี าก (4) คะแนน ปรบั ปรงุ (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การกำหนดหวั ข้อให้ กำหนดหวั ข้อ กำหนดหัวขอ้ กำหนดหวั ข้อ กำหนดหวั ขอ้ ไม่ มีความนา่ สนใจ นา่ สนใจอย่าง ค่อนข้างนา่ สนใจ คอ่ นข้างไม่ นา่ สนใจ มาก น่าสนใจ 2. การจัดรูปแบบ จัดรูปแบบ จัดรูปแบบ จดั รูปแบบ จดั รูปแบบ รายงาน รายงานได้ดีมาก รายงานไดด้ ี รายงานค่อนขา้ งดี รายงานได้ไมด่ ี องค์ประกอบ องค์ประกอบ มีองคป์ ระกอบที่ มอี งค์ประกอบท่ี ถูกต้อง ครบถ้วน ถกู ต้องเปน็ ส่วน ผิดบางประเด็น ผิดเปน็ ส่วนใหญ่ ทุกประเด็น ใหญ่ 3. ความถูกต้องของ เน้ือหาทใ่ี ชม้ ี เนอื้ หาทใี่ ชม้ ี เน้อื หาท่ใี ชม้ ี เนือ้ หาทีใ่ ช้ไม่มี เน้ือหา ความถูกต้องและ ความถูกต้องและ ความถูกตอ้ งและ ความถกู ตอ้ งและ สอดคล้องกบั สอดคลอ้ งกับ สอดคล้องกับ ไมส่ อดคล้องกับ หวั ข้อทุกประเด็น หวั ข้อเป็นสว่ น หวั ข้อค่อนข้าง หัวขอ้ ใหญ่ นอ้ ย 4. ระบุแหล่งข้อมลู หรอื มกี ารระบุ มกี ารระบุ มีการระบุ ไม่มีการระบุ อา้ งอิงในรายงาน แหล่งขอ้ มลู หรือ แหล่งข้อมลู หรือ แหล่งขอ้ มลู หรือ แหลง่ ข้อมลู หรือ อา้ งอิงทช่ี ดั เจน อ้างองิ ทค่ี ่อนข้าง อ้างอิงท่ีไม่ชัดเจน อ้างอิงไวใ้ น และนา่ เชอ่ื ถอื ชัดเจน และ และค่อนข้างไม่ รายงาน มาก ค่อนข้าง นา่ เชอ่ื ถือ นา่ เชื่อถือ 5. การส่งงานตรงต่อ ส่งงานตามเวลาท่ี สง่ งานล่าชา้ กวา่ สง่ งานล่าช้ากว่า สง่ งานล่าช้ากวา่ เวลา กำหนด กำหนด 1-2 วัน กำหนด 3-5 วนั กำหนดเกนิ 5 วัน เกณฑ์การประเมนิ การจัดทำรายงาน คะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมนิ : มผี ลการประเมินในระดับดีข้ึนไป 16 – 20 ดมี าก จึงจะผ่านเกณฑ์การประเมนิ 11 – 15 ดี 6 – 10 พอใช้ 0–5 ปรับปรงุ

ห น ้ า | 67 เกณฑ์การประเมินพฤตกิ รรมการเรียนรรู้ ายบุคคล พฤติกรรมการเรยี นรู้ ลำดบั ช่ือ - นามสกลุ ความเข้าใจ คดิ คำนวณ นำความรไู้ ปใช้ 543215432154321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ระดบั คุณภาพ : ดมี าก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) เกณฑ์การประเมนิ : มีผลการประเมนิ ในระดับปานกลางขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงชอ่ื ....................................................................ผปู้ ระเมนิ วันท.ี่ ............./............................/.................

ห น ้ า | 68 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านร่วมกบั ผอู้ ่นื ชื่อ - สกุล.............................................................................................................ชัน้ .............เลขที.่ ............. คำชีแ้ จง ให้ครผู ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการปฏิบัตงิ านร่วมกบั ผู้อ่นื แล้ว  ลงในช่องตรง กบั ระดบั คะแนน ท่ี ประเดน็ การประเมนิ ระดับคุณภาพ 5 432 1 1 การแบ่งหนา้ ท่ีความรับผดิ ชอบภายในกลุ่ม 2 ความรว่ มมือในการทำงานรว่ มกนั ภายในกลมุ่ 3 ความสามัคคภี ายในกลมุ่ 4 การรับฟงั ความคิดเหน็ ซง่ึ กันและกันภายในกลุ่ม 5 การมนี ำ้ ใจ ช่วยเหลือซึง่ กันและกันภายในกลุ่ม ระดบั คุณภาพ : ดมี าก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) เกณฑ์การประเมิน : มผี ลการประเมนิ ในระดบั ปานกลางข้นึ ไป จงึ จะผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงชอ่ื ....................................................................ผู้ประเมนิ วนั ท.ี่ ............./............................/.................

ห น ้ า | 69 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานรายบุคคล (สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น) ช่ือ - สกลุ .............................................................................................................ชัน้ ........ .....เลขท่ี.............. คำชแ้ี จง ใหค้ รูผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรียน แลว้  ลงในช่องตรงกับระดับคะแนน ท่ี ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 5 4321 1 ความสามารถในการสื่อสาร 2 ความสามารถในการคดิ 3 ความสามารถในการแก้ปัญหา ระดบั คุณภาพ : ดีมาก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) เกณฑ์การประเมิน : มผี ลการประเมนิ ในระดับปานกลางขน้ึ ไป จงึ จะผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงชอื่ ....................................................................ผปู้ ระเมนิ วันที่............../............................/................. เกณฑก์ ารให้คะแนนสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน พฤติกรรมบง่ ชี้ คะแนน 1. ความสามารถ ดีมาก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ในการส่อื สาร มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ไมม่ ี 2. ความสามารถ ในการคดิ ในการส่อื สารได้ ในการส่ือสารได้ ในการสอ่ื สารได้ ในการสอ่ื สารได้ ความสามารถ ดเี ยยี่ ม ชดั เจน ดี ค่อนข้างดี คอ่ นข้างไมด่ ี ในการสอ่ื สาร มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ไมม่ ี ในการคิดอย่าง ในการคิดอย่าง ในการคดิ อย่าง ในการคิดและ ความสามารถ มีวจิ ารณญาณ มวี ิจารณญาณ มีวจิ ารณญาณ ตดั สินใจไดไ้ ม่ดี ในการคดิ และ สรา้ งสรรค์ และ และตดั สนิ ใจได้ และตดั สินใจได้ เท่าท่ีควร ตัดสนิ ใจ ตัดสนิ ใจไดด้ ี ดี เย่ยี ม

ห น ้ า | 70 พฤติกรรมบ่งชี้ ดมี าก (5) ดี (4) คะแนน พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) มีความสามารถ มคี วามสามารถ ปานกลาง (3) มคี วามสามารถ ไม่มี 3. ความสามารถ ในการแกไ้ ข ในการแก้ไข มคี วามสามารถ ในการแกไ้ ข ความสามารถ ในการแกป้ ัญหา ปัญหาไดด้ ีเยยี่ ม ปญั หาไดด้ ี ในการแก้ไข ปญั หาได้ไมด่ ี ในการแกไ้ ข ในทุก ปัญหาได้ เท่าทค่ี วร ปญั หา สถานการณ์

ห น ้ า | 71 แบบประเมนิ ทักษะและกระบวนการ ช่อื - สกุล.............................................................................................................ชั้น........ .....เลขท่.ี ............. คำชีแ้ จง ให้ครผู ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการปฏิบัติทกั ษะและกระบวนการ แล้ว  ลงใน ชอ่ งตรงกบั ระดับคะแนน ที่ ประเด็นการประเมิน ระดบั คุณภาพ 5 4321 1 ทกั ษะการอา่ น (Reading) 2 ทักษะการเขยี น (Writing) 3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) 4 ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและทักษะในการแกป้ ัญหา (Critical thinking and problem solving) 5 ทักษะด้านความรว่ มมือการทำงานเป็นทีม และภาวะผนู้ ำ (Collaboration, teamwork and leadership) 6 ทักษะการเรยี นรู้ (Learning Skills) ระดบั คุณภาพ : ดีมาก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) เกณฑ์การประเมิน : มีผลการประเมินในระดบั ปานกลางข้นึ ไป จึงจะผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงช่ือ....................................................................ผู้ประเมนิ วนั ที่............../............................/.................

ห น ้ า | 72 เกณฑก์ ารให้คะแนนทกั ษะของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 ทกั ษะของผูเ้ รียน คะแนน ดมี าก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) 1. ทกั ษะการอ่าน มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ไม่มี (Reading) ในการอ่านได้ ในการอ่านได้ ในการอ่านได้ ในการอ่านได้ไม่ ความสามารถ อย่างดีเยย่ี ม อยา่ งดี และ คอ่ นข้างดี และ ดีเท่าที่ควร ในการอ่าน เขา้ ใจได้ดีมาก เขา้ ใจได้ดี เข้าใจได้ 2. ทักษะการ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ไมม่ ี เขียน (Writing) ในการเขียนได้ ในการเขียนได้ ในการเขยี นได้ ในการเขียนได้ ความสามารถ อย่างดีเยี่ยม ใช้ อยา่ งดี ใช้คำได้ คอ่ นข้างดี และ ไมด่ ีเท่าที่ควร ในการเขยี นและ คำได้อยา่ ง เหมาะสม ใช้คำได้ และยงั ใช้คำไม่ การใชค้ ำ เหมาะสม พอสมควร เหมาะสม ค่อยเหมาะสม เล็กน้อย 3. ทกั ษะการคิด มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ไมม่ ี คำนวณ ในการคิด ในการคิด ในการคดิ ในการคิด ความสามารถ (Arithmetic) คำนวณได้อย่าง คำนวณได้อยา่ ง คำนวณได้ คำนวณและ ในการคิด ดเี ย่ยี ม ดี วเิ คราะห์ วิเคราะห์ข้อมลู วิเคราะหไ์ ด้ไม่ดี คำนวณและ วเิ คราะห์ข้อมูล ข้อมูลได้ดี ได้ เท่าทค่ี วร วิเคราะหข์ ้อมลู อยา่ งมเี หตุและ ผล 4. ทักษะด้านการ มีความสามรถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ไม่มี คดิ อย่างมี ในการคิดอย่าง ในการคิดอยา่ ง ในการคิดอย่าง ในการคดิ อย่าง ความสามารถ วจิ ารณญาณและ มีวจิ ารณญาณ มีวจิ ารณญาณ มีวิจารณญาณ มวี ิจารณญาณ ในการคดิ อย่าง ทกั ษะในการ และมที ักษะใน และมีทักษะใน และมีทักษะใน และทกั ษะใน มวี จิ ารณญาณ แกป้ ัญหา การแก้ไขปัญหา การแก้ไขปัญหา การแก้ไขปญั หา การแก้ไขปญั หา และไมม่ ีทักษะ (Critical ไดด้ เี ยีย่ ม มี ได้ดี มคี วาม ได้ค่อนข้างดี ไดไ้ มด่ ีเท่าที่ควร ในการแกไ้ ข thinking and ความเป็นระบบ เหมาะสม ปัญหา problem และเหมาะสม solving)

ห น ้ า | 73 ทกั ษะของผเู้ รยี น คะแนน ปานกลาง (3) ดมี าก (5) ดี (4) มีทกั ษะด้าน พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ความรว่ มมือ มที ักษะด้าน ไม่มีทกั ษดา้ น 5. ท ั ก ษ ะ ด ้ า น มที กั ษะด้าน มีทักษะดา้ น ของการทำงาน ความร่วมมอื ความรว่ มมือ เป็นทีมและ ของการทำงาน ของการทำงาน ความร่วมมือการ ความรว่ มมอื ความรว่ มมือ ภาวะผนู้ ำ เปน็ ทีมและ เป็นทีมและ คอ่ นข้างดี ภาวะผู้นำไดไ้ ม่ ภาวะผูน้ ำ ทำงานเป็นทีม ของการทำงาน ของการทำงาน ดีเท่าที่ควร เป็นทมี ทด่ี ีเยี่ยม เป็นทมี และ และภาวะผู้นำ และมภี าวะผ้นู ำ ภาวะผู้นำได้ ( Collaboration, อย่างชดั เจน อยา่ งดี teamwork and leadership) 6. ทักษะการ มที กั ษะการ มที กั ษะการ มีทกั ษะการ มที กั ษะการ ไม่มีทกั ษะการ เรยี นรู้ เรียนรทู้ ่ีดเี ยยี่ ม เรียนรู้ (Learning Skills) และมีความ เรียนรู้ท่ีดี และมี เรียนรู้ที่ เรียนรูไ้ ดไ้ ม่ดี เหมาะสม ความเหมาะสม ค่อนข้างดีและมี เทา่ ท่คี วร ความเหมาะสม

ห น ้ า | 74

ห น ้ า | 75 แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง วิเคราะหป์ ระมาณค่า เวลา 5 ช่วั โมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจถึงผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการของจำนวนและความสัมพันธ์ระหว่าง การดำเนนิ การต่าง ๆ และใช้การดำเนินการในการแกป้ ญั หา มาตรฐาน ค 1.3 ใชก้ ารประมาณค่าในการคำนวณและแก้ปญั หา มาตรฐาน ค 6.1 ความสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อความหมาย ทางคณติ ศาสตร์ และการนำเสนอ การเชอื่ มโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์ และเช่ือมโยงคณิตศาสตร์ กบั ศาสตร์อ่ืน ๆ และมคี วามคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ ตวั ชว้ี ัด ค 1.2 ม.1/2 บวก ลบ คูณ หาร เศษสว่ น และทศนิยม และนำไปใช้ในการแก้ปัญหา ตระหนักถึง ความสมเหตุสมผลของคำตอบ อธิบายผลที่เกิดขึ้นจากการบวก การลบ การคูณ การหาร และบอก ความสมั พันธข์ องการบวกกับการลบ การคูณและการหารของเศษสว่ น และทศนยิ ม ค 1.3 ม.1/1 นำความรแู้ ละสมบตั ิเกีย่ วกับจำนวณเต็มไปใช้ในการแกป้ ัญหา ค 6.1 ม.1/1 ใช้วิธกี ารที่หลากหลายแก้ปญั หา 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) - นักเรยี นเขา้ ใจเก่ยี วกับการบวก ลบ คูณ หาร เศษสว่ นไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง - นกั เรียนเข้าใจเกย่ี วกับการบวก ลบ คูณ หาร ทศนิยมได้อยา่ งถูกต้อง - นักเรยี นสามารถอธิบายผลที่เกิดข้ึนจากการบวก การลบ การคูณ การหาร เศษสว่ นและทศนิยม ไดอ้ ย่างถกู ต้อง - นกั เรียนสามารถบอกความสมั พันธข์ องการบวก การลบ การคณู การหาร เศษสว่ นและทศนยิ ม - นักเรียนสามารถบอกความหมายของการประมาณค่า และวิธีการประมาณค่าได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม

ห น ้ า | 76 - นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์คำตอบจากการประมาณค่าได้อย่างเหมาะสม - นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์และเช่ือมโยงความรูท้ างคณติ ศาสตร์ได้อย่างหลากหลาย ดา้ นทกั ษะ (P) - นักเรียนสามารถนำความรู้เกี่ยวกับการบวก ลบ คูณ หาร เศษส่วนและทศนิยม ไปใช้ในการ แกป้ ัญหาได้อย่างเหมาะสม - นกั เรยี นนำความร้เู ก่ยี วกบั การประมาณคา่ ในสถานการณ์ต่าง ๆ มาใชใ้ นการแกป้ ัญหา - นักเรยี นสามารถสื่อสารและนำเสนอความรู้ทางคณิตศาสตร์ได้อยา่ งถูกต้อง - นักเรียนสามารถนำความรูค้ วามรทู้ างคณติ ศาสตร์มาใชใ้ นการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ดา้ นจิตพสิ ยั (A) - นักเรียนเล็งเห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการบวก การลบ การคูณ การหาร เศษส่วน และทศนิยม - นักเรยี นเล็งเห็นคุณค่าและประโยชน์ของการประมาณค่าในสถานการณ์ต่าง ๆ - นักเรียนเล็งเห็นคุณค่าและประโยชน์จากการนำความรทู้ างคณติ ศาสตรม์ าใช้ในการแก้ปัญหา 3. สาระสำคญั การประมาณค่า คือ การคาดคะเนผลลัพธ์ในจำนวนอย่างง่าย ไม่ต้องมีความละเอียดถี่ถ้วนของ ข้อมูล และไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนการคำนวณ ทดลอง หรือวัดค่าใด ๆ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการ นำข้อมูลมาใช้ และสรุปผลได้ เช่น ฉันมีเงิน 589 บาท พี่มีเงิน 370 บาท ฉันและพี่จึงมีเงินรวมกัน ประมาณ 1,000 บาท ( จำนวนเงินต้องมี 589 + 370 = 959 บาท ใกล้เคียง 1,000 บาท) เป็นต้น การปัดเศษ คือ การปัดเศษจำนวนเต็มใดๆ ให้เป็นจำนวนเต็มสิบ จำนวนเต็มร้อย หรือจำนวน เตม็ พัน เป็นต้น ซงึ่ ใกลเ้ คียงที่สุด โดยอาศยั หลกั การท่ีว่า จำนวนท่ีตอ้ งการปัดเศษอยู่ระหวา่ งสองจำนวนท่ี เปน็ จำวนเตม็ สิบ จำนวนเตม็ รอ้ ย หรือจำนวนเต็มพนั ฯลฯ มีคา่ ใกลจ้ ำนวนใดมากกว่า ก็ให้ปัดจำนวนนั้น เช่น ปัดเศษ 685 ในจำนวนเต็มสิบ = 690 , ปัดเศษ 1,560 ในจำนวนเต็มรอ้ ย = 1,600 เป็นต้น 4. สาระการเรยี นรู้ - การแสดงวิธีแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับการบวก การลบ การคูณ และการหารเศษส่วน และ ทศนยิ ม - การอธบิ ายหลกั การประมาณค่าจากสถานการณ์ที่กำหนดให้ - การเขียนแสดงวิธีแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่กำหนดให้ โดยใช้วีการแก้ปัญหาได้มากกว่า หนงึ่ วธิ ี

ห น ้ า | 77 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทกั ษะของผ้เู รียนในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L)  ทักษะการอ่าน (Reading)  ทักษะการเขยี น (Writing)  ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic)  ทักษะด้านการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and problem solving)  ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation)  ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผู้นำ (Collaboration , teamwork and leadership)  ทักษะด้านความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)  ทักษะดา้ น การส่ือสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสอ่ื (Communication information and media literacy)  ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing)  ทักษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change)  ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change)  ทกั ษะการเรยี นรู้ (Learning Skills)  ภาวะผูน้ ำ (Leadership) 7. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน ( หลกั ฐาน / รอ่ งรอยแสดงความรู้ ) - ใบงาน - แบบทดสอบเก็บคะแนน - รายงานการสำรวจ

ห น ้ า | 78 8. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 1 (ใช้รปู แบบการเรยี นรู้ : แบบนิรนัย) ขนั้ ท่ี 1 กำหนดขอบเขตของปญั หา 1. ครูกำหนดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการ ประมาณคา่ และใหน้ กั เรียนลองยกตัวอย่างเหตกุ ารณ์ทล่ี กั ษณะและหลกั การท่คี ลา้ ยกับเหตกุ ารณ์ของครู ขั้นที่ 2 แสดงและอธบิ ายทฤษฎี หลักการ 1. ครูอธิบายการประมาณค่า และเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่ได้กำหนดไว้ รวม ไปถึงพิจารณาเหตุการณืที่นักเรียนยกตัวอย่าง เช่น การประมาณค่าน้ำหนักของสิ่งของให้ใกล้เคียงกับ ความเปน็ จรงิ เปน็ ต้น 2. ครูนำสื่อการสอนซึ่งมี บอร์ดที่บอกสเกลความสูง โดยให้นักเรียนที่ส่วนสูงต่ำ ปานกลาง และสงู มาก ออกมาบอกความสูงของตนก่อนจะวัดค่าความสูงจากบอร์ดสเกล เพ่ือเปรียบเทียบ คา่ ประมาณและคา่ ความจริง 3. ครูอธิบายหลักการปัดเศษ โดยใช้หลักการแบ่งช่วงของจำนวนนับเต็มสิบ เต็มรอ้ ย เต็มพัน ฯลฯ เพอ่ื ให้นักเรียนเกิดความเขา้ ใจ เช่น จำนวนเต็มสิบระหว่าง 10 ถึง 20 ให้ยึดคา่ ท่อี ยู่ กึ่งกลางของสองจำนวน คือ 15 เป็นเกณฑ์ในการเลือกปัดเศษ หากจำนวนนับมีค่ามากกว่า 15 ให้ปัดข้ึน เป็น 20 ( 17 ≈ 20 ) หากมีคา่ นอ้ ยกว่า 15 ใหป้ ัดลงเป็น 10 ( 13 ≈ 10 ) เป็นต้น 4. ครูอธิบายการประมาณค่าและการปัดเศษของจำนวนนบั ใด ๆ รว่ มกนั ขนั้ ที่ 3 ใช้ทฤษฎี หลกั การ 1. ครูให้นักเรียนหยิบอุปกรณ์การเรียนขึ้นมา 1 ชิ้น และประมาณค่าความยาว ของอปุ กรณเ์ หลา่ นน้ั ใหใ้ กล้เคยี งกบั หลักความเป็นจรงิ บนั ทึกลงสมุด 2. จากนั้นให้นักเรียนนำไม้บรรทัดวัดความยาวของอุปกรณ์เหล่านั้น พร้อม เปรียบเทียบความใกลเ้ คยี งของค่าประมาณที่ได้บันทึกไว้ 3. นำค่าของความยาวที่วัดจากไม้บรรทดั มาใช้กับหลักการในการปัดเศษ พร้อม บนั ทกึ ลงสมุด อยา่ งนอ้ ย 3 อย่าง ขั้นท่ี 4 ตรวจสอบและสรปุ 1. ครูสุ่มนักเรียน 5 คน ให้นำผลการบันทึกการประมาณค่าและปัดเศษของ ส่ิงของทีต่ นเลือก มานำเสนอแลกเปลีย่ นเรยี นรู้กับนักเรียนคนอ่นื

ห น ้ า | 79 ในเนอ้ื หามากข้นึ 2. ครูและนักเรียนที่เหลือร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อให้เกิดความเข้าใจ 3. ครสู รุปบทเรียนเร่ืองการประมาณคา่ และการปัดเศษอยา่ งพอสังเขป ข้ันท่ี 5 ฝึกปฏิบตั ิ 1. ครแู จกใบงานเรื่อง การประมาณคา่ และการปัดเศษ ใหเ้ ปน็ การบา้ น และนำมา สง่ เพ่อื ตรวจสอบความถูกตอ้ งและนำมาสง่ เพ่ือตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา ชั่วโมงท่ี 2-4 (ใชร้ ูปแบบการเรียนรู้ : แบบนริ นัย) ขั้นที่ 1 กำหนดขอบเขตของปัญหา 1. ครูทบทวนความรู้เรื่องการประมาณค่าและการปัดเศษ โดยยกตัวอย่างบน กระดานและให้นักเรยี นออกมาระบุคา่ ประมาณ และค่าจากการปดั เศษอยา่ งถูกต้อง 2. ครูกำหนดจำนวนนับในรูปแบบอื่นที่นอกเหนือจากจำนวนเต็ม เช่น ทศนิยม และเศษสว่ น และสอบถามนกั เรยี นวา่ สามารถบอกค่าประมาณ หรือปัดเศษได้อยา่ งไร ข้ันท่ี 2 แสดงและอธบิ ายทฤษฎี หลกั การ 1. ครูอธิบายการปัดเศษของจำนวนนับที่เป็นทศนิยม โดยอธิบายตำแหน่งของ ทศนิยม และหลักการพิจารณาในการปัดเศษ จนได้ผลลัพธ์ที่มีค่าเป็นทศนิยมและจำนวนเต็มตามลำดับ เช่น 3.68 ปัดเศษทศนยิ ม 1 ตำแหน่ง ≈ 3.7 , 4.346 ปัดเศษทศนยิ ม 2 ตำแหน่ง ≈ 4.35 เป็นตน้ 2. ครูอธิบายการปัดเศษของจำนวนนับที่เป็นเศษส่วน โดยใช้การแปลงค่าจาก เศษส่วนให้มีคา่ เปน็ ทศนยิ ม และใช้วิธีการเชน่ เดยี วกบั การปัดเศษของทศนิยม เชน่ 4 แปลงเปน็ ทศนิยม = 0.8 ปัดเศษเปน็ ค่าประมาณ ≈ 1 5 60 2 แปลงเปน็ ทศนิยม = 60 (0.25) ปดั เศษเป็นค่าประมาณ ≈ 60 8 ข้ันท่ี 3 ใช้ทฤษฎี หลกั การ 1. ครแู บง่ กลุ่มนกั เรยี นเท่า ๆ กนั กลุ่มละ 5 คน โดยคละนักเรียนเป็น 1:2:2 (เด็ก เรียนดี 1 คน เรียนปานกลาง 2 คน และเรียนอ่อน 2 คน) ร่วมกันกำหนดจำนวนนับที่เป็นจำนวนเต็ม ทศนยิ ม และเศษส่วน ลงในกระดาษ กลุ่มละ 5 จำนวน จากนัน้ สลบั เปลี่ยนกับกลุม่ อ่ืน เพอื่ ชว่ ยกนั ปดั เศษ และระบคุ า่ ประมาณทถี่ กู ตอ้ ง ภายในเวลา 10 นาที

ห น ้ า | 80 ขั้นที่ 4 ตรวจสอบและสรุป 1. เมื่อหมดเวลาให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำโจทย์คืนเพื่อนกลุ่มอื่น ๆ เพื่อช่วยกัน ตรวจสอบความถูกตอ้ งของเพ่อื นกลุ่มอื่น โดยมีครคู อยตรวจสอบความถกู ตอ้ งอีกคร้งั 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปบทเรียนเรื่องการปัดเศษจำนวนเต็ม ทศนิยม และ เศษสว่ น เพ่อื ให้เกิดความเขา้ ใจในเน้อื หามากย่ิงขึ้น ขน้ั ที่ 5 ฝกึ ปฏิบัติ 1. ครูแจกใบงานเรื่องการประมาณค่าจากการปัดเศษของจำนวนเต็ม ทศนิยม และเศษสว่ น นำมาสง่ เพ่ือตรวจสอบความถกู ตอ้ งและนำมาสง่ เพ่ือตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา ชวั่ โมงที่ 5 (ใชร้ ปู แบบการเรยี นรู้ : แบบนิรนัย) ข้นั ท่ี 1 กำหนดขอบเขตของปญั หา 1. ครทู บทวนความรู้เร่ืองการปัดเศษของจำนวนเตม็ ทศนิยม และจำนวนคละ 2. ครูใช้สื่อการสอนในรูปแบบ PowerPoint ซึ่งระบุโจทย์ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ การประมาณคา่ ใหน้ กั เรยี นไดล้ องคดิ วเิ คราะห์ ข้ันที่ 2 แสดงและอธิบายทฤษฎี หลกั การ 1. ครูอธิบายโจทย์ปัญหา พร้อมทั้งเขียนแสดงวิธีทำบนกระดานอย่างถูกต้อง ทั้ง โจทยป์ ัญหาการประมาณคา่ ของจำนวนเตม็ ทศนยิ ม และเศษสว่ น 2. ครูอธิบายหลักการนำการประมาณค่าไปใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมท้ัง ยกตัวอยา่ ง เช่น การคำนวณปรมิ าณวตั ถดุ บิ ในการประกอบอาหาร การคำนวณราคาสินคา้ เป็นต้น ขั้นท่ี 3 ใช้ทฤษฎี หลกั การ 1. ครูแจกใบงานเร่ืองการแก้โจทย์ปัญหาโดยการประมาณคา่ ข้นั ท่ี 4 ตรวจสอบและสรปุ 1. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบคำตอบและวธิ ีการแกโ้ จทยป์ ัญหาในใบงาน 2. ครูสรุปบทเรียนเรื่องการประมาณค่าของจำนวนเต็ม ทศนิยม และเศษส่วน รวมไปถึงการนำการประมาณคา่ ไปใช้ในชวี ิตจริง

ห น ้ า | 81 ข้นั ที่ 5 ฝึกปฏิบตั ิ 1. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละเท่า ๆ กัน 5 กลุ่ม ร่วมกันจัดทำรายงานสำรวจ รายได้จากร้านข้าวในโรงอาหารโรงเรียน กลุ่มละ 1 รา้ น ( ห้ามซำ้ กนั ) โดยใช้การประมาณค่าของจำนวน รายได้ในแต่ละวันจากการขายอาหารในรงอหาร ในช่วงเวลา 1 สัปดาห์ จัดทำในรูปแบบของรายงาน ครอู ธิบายรายละเอยี ดการจัดทำอยา่ งชดั เจน และใหน้ ักเรียนนำสง่ ครูเพ่อื การตรวจสอบความถูกต้อง 9. สอื่ การสอน - สอื่ การเรียนการสอนประกอบสือ่ PowerPoint - สอื่ ประเภทวสั ดุ เช่น บอรด์ สเกลวัดความสงู - ใบงาน 10. แหล่งเรยี นร้ใู นหรอื นอกสถานที่ - บุคลากร ได้แก่ ครู, เจ้าของรา้ นขายอาหารในโรงอาหาร เป็นตน้ - โรงอาหารของโรงเรยี น

ห น ้ า | 82 11. การวัดและประเมินผล ช้นิ งาน / ภาระงาน วธิ วี ดั ผล เครอื่ งมอื เกณฑ์การให้ เกณฑ์การประเมิน วดั ผล คะแนน 1. ใบงาน เรือ่ ง การ ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน 9 – 10 = ดีมาก ตอบคำถาม คะแนน 6 – 8 = ดี ประมาณค่า และการปดั เศษ ใบงาน ถกู ต้องตามใบ คะแนน 3 – 5 = พอใช้ งานที่ใหท้ ำ คะแนน 0 – 2 = ปรับปรุง จำนวนเตม็ ใบงาน ผ่านเกณฑ์ในระดบั ดขี ึน้ ไป ตอบคำถาม คะแนน 9 – 10 = ดีมาก 2. ใบงาน เรือ่ งการประมาณ ตรวจใบงาน รายงาน ถูกต้องตามใบ คะแนน 6 – 8 = ดี ค่าจากการปดั เศษของ งานทใ่ี ห้ทำ คะแนน 3 – 5 = พอใช้ จำนวนเตม็ ทศนยิ ม และ คะแนน 0 – 2 = ปรบั ปรงุ เศษสว่ น ตอบคำถาม ผ่านเกณฑ์ในระดับดีขน้ึ ไป ถกู ต้องตามใบ คะแนน 9 – 10 = ดีมาก 3. ใบงานเรอ่ื ง แกโ้ จทย์ ตรวจใบงาน งานทใ่ี หท้ ำ คะแนน 6 – 8 = ดี ปญั หาโดยการประมาณคา่ คะแนน 3 – 5 = พอใช้ ตารางเกณฑ์การ คะแนน 0 – 2 = ปรบั ปรงุ 4. รายงานการสำรวจรายได้ ตรวจรายงาน ให้คะแนนการทำ ผา่ นเกณฑ์ในระดับดขี น้ึ ไป ของรา้ นขายอาหารในโรง รายงาน คะแนน 16 – 20 = ดมี าก อาหาร คะแนน 11 – 15 = ดี คะแนน 6 – 10 = พอใช้ คะแนน 0 – 5 = ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ในระดับดีขนึ้ ไป

ห น ้ า | 83 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ หรอื วธิ ีวดั ผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑ์การให้ เกณฑ์การ สงิ่ ที่ตอ้ งการจะประเมนิ ผล สงั เกตพฤตกิ รรม คะแนน ประเมิน 1. สามารถอธิบายหลักการ แบบสงั เกต ผา่ นเกณฑต์ ั้งแต่ ประมาณคา่ ของจำนวนเต็ม พฤติกรรม พจิ ารณาผล ระดบั ปานกลาง ทศนยิ ม และเศษสว่ นได้ รายบคุ คล การประเมนิ ขนึ้ ไป พฤติกรรมการ 2. สามารถเขียนแสดงวิธกี ารคิด สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต เรยี นรู้ ผ่านเกณฑ์ต้ังแต่ หาค่าประมาณโดยใชก้ ารบวก พฤติกรรม พิจารณาผล ระดบั ปานกลาง ลบ คณู และหารไดอ้ ยา่ งถูกต้อง รายบคุ คล การประเมิน ขึ้นไป พฤติกรรมการ 3. สามารถนำความรูเ้ กี่ยวกบั การ สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกต เรยี นรู้ ผา่ นเกณฑ์ต้ังแต่ ประมาณคา่ ไปใช้ชวี ติ จรงิ พฤติกรรม พจิ ารณาผล ระดับปานกลาง รายบคุ คล การประเมิน ขน้ึ ไป 4. มพี ฤติกรรมและทกั ษะในการ สงั เกตพฤตกิ รรม พฤติกรรมการ ทำงานร่วมกับผู้อนื่ แบบสังเกต เรยี นรู้ ผ่านเกณฑต์ ั้งแต่ พฤติกรรมการ พิจารณาผล ระดบั ปานกลาง ปฏบิ ัติงาน การประเมนิ ข้นึ ไป ร่วมกบั ผูอ้ น่ื พฤติกรรมการ ปฏบิ ตั งิ าน ร่วมกับผู้อนื่ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น วธิ ีวัดผล เครอื่ งมือวดั ผล เกณฑ์การให้ เกณฑ์การ คะแนน ประเมิน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร สังเกต แบบสังเกต ผา่ นเกณฑต์ ้ังแต่ พฤติกรรมการ ตารางเกณฑ์ ระดับปานกลาง 2. ความสามารถในการคดิ สังเกต ปฏบิ ัตงิ าน การใหค้ ะแนน ขึ้นไป รายบุคคล สมรรถนะ สำคัญของ ผ่านเกณฑ์ต้ังแต่ แบบสังเกต ผเู้ รียน ระดับปานกลาง พฤติกรรมการ ตารางเกณฑ์ ขนึ้ ไป ปฏบิ ตั งิ าน การให้คะแนน รายบคุ คล สมรรถนะ สำคัญของ ผู้เรยี น

ห น ้ า | 84 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน วิธวี ัดผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑ์การให้ เกณฑ์การ คะแนน ประเมนิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา สังเกต แบบสงั เกต ผา่ นเกณฑ์ต้ังแต่ พฤติกรรมการ ตารางเกณฑ์ ระดับปานกลาง ปฏิบัตงิ าน การให้คะแนน ข้ึนไป รายบคุ คล สมรรถนะ สำคัญของ ผเู้ รียน ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 วิธวี ัดผล เคร่ืองมอื วัดผล เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การ 1. ทักษะการอา่ น (Reading) สงั เกต ประเมิน แบบประเมนิ ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑต์ ั้งแต่ 2. ทักษะการเขยี น (Writing) สังเกต ดา้ นทกั ษะและ คะแนนทักษะของ ระดับปานกลาง กระบวนการ ผูเ้ รยี นในศตวรรษที่21 ขึ้นไป 3. ทกั ษะการคิดคำนวณ สังเกต แบบประเมนิ ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑ์ต้ังแต่ (Arithmetic) ด้านทกั ษะและ คะแนนทักษะของ ระดบั ปานกลาง กระบวนการ ผู้เรียนในศตวรรษท่2ี 1 ข้ึนไป 4. ทักษะด้านการคดิ อย่างมี สงั เกต แบบประเมนิ ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑ์ต้ังแต่ วิจารณญาณและทกั ษะในการ ด้านทักษะและ คะแนนทกั ษะของ ระดบั ปานกลาง แกป้ ญั หา (Critical thinking กระบวนการ ผู้เรียนในศตวรรษท่ี21 ขน้ึ ไป and problem solving) แบบประเมิน ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑต์ ั้งแต่ 5. ทักษะด้านความร่วมมือการ สงั เกต ด้านทักษะและ คะแนนทกั ษะของ ระดบั ปานกลาง กระบวนการ ผู้เรียนในศตวรรษที2่ 1 ขน้ึ ไป ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ แบบประเมิน ตารางเกณฑก์ ารให้ ผ่านเกณฑต์ ้ังแต่ (Collaboration, teamwork ดา้ นทักษะและ คะแนนทักษะของ ระดับปานกลาง กระบวนการ ผเู้ รียนในศตวรรษท2่ี 1 ขึ้นไป and leadership) 6. ทักษะการเรยี นรู้ (Learning สังเกต แบบประเมนิ ตารางเกณฑก์ ารให้ ผ่านเกณฑต์ ้ังแต่ Skills) ด้านทักษะและ คะแนนทักษะของ ระดบั ปานกลาง กระบวนการ ผู้เรยี นในศตวรรษที่21 ขึ้นไป

ห น ้ า | 85 12. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................. .............................................................. 13. บนั ทกึ ผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรยี นการสอน นักเรยี นทงั้ หมดจำนวน.....................คน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรขู้ ้อที่ จำนวนนกั เรยี นทีผ่ า่ น จำนวนนกั เรียนทไี่ มผ่ ่าน จำนวนคน ร้อยละ จำนวนคน รอ้ ยละ 1 2 3 14. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................ ............................................................... 15. ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................ ............................................................... ลงชอ่ื .................................................................. () ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ....................................... ลงชอ่ื ................................................................ หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ () ลงชื่อ................................................................ รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวิชาการ ()

ห น ้ า | 86 ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา ได้ทำการตรวจแผนการเรยี นรู้ของ....................................................แลว้ มีความคดิ เห็นดังนี้ 4. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 5. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ลงชอ่ื ......................................................................................... () ผู้อำนวยการโรงเรียน…………………………………………………………..

ห น ้ า | 87 คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นแสดงวธิ กี ารประมาณค่าจากเหตกุ ารณ์ทกี่ ำหนดให้ (10 คะแนน) 1. คา่ ประมาณจำนวนเต็มสบิ ของ 156 มคี ่าเทา่ กับ ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. 2. คา่ ประมาณจำนวนเต็มสบิ ของ 1,783 มคี า่ เท่ากบั ......................................................................................................................................................... ....... .............................................................................................................................................................................. 3. ค่าประมาณจำนวนเตม็ รอ้ ยของ 799 มีค่าเทา่ กับ ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. 4. ค่าประมาณจำนวนเต็มร้อยของ 12,433 มีคา่ เทา่ กบั ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. 5. ค่าประมาณจำนวนเต็มพนั ของ 482,967 มคี ่าเทา่ กับ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................. . 6. 633, 785, 904, 1,055 จากจำนวนข้างตน้ สามารถปดั เศษจำนวนเต็มสิบ และเตม็ ร้อย ดงั นี้ ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..........................................................................................................................................................

ห น ้ า | 88 7. รายจา่ ยประจำวนั ของนกั เรียนคนหนงึ่ ในแต่ละวัน มีดังนี้ ค่ารถ 26 บาท คา่ อาหาร 38 บาท คา่ ขนม 24 บาท จงหาว่ารายจ่ายขแงนักเรยี นคนน้ี ประมาณเท่าไร .................................................................................................................................... ............................ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ...................................... 8. แม่ซอ้ื ของทีต่ ลาด มดี งั นี้ ปลาทูนงึ่ 108 บาท ผกั กาดขาว 32 บาท กะปิ 45 บาท และอ่ืน ๆ 96 บาท จงหาว่าแมซ่ ื้อของไปท้ังหมด ประมาณกีบ่ าท ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 9. 6,744, 8,496 และ 4.377 เมื่อนำมารวมกัน จะได้ผลลัพธ์ประมาณเทา่ ไร ....................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 10. ประเทศอิตาลมี พี ืน้ ทีข่ นาด 301,338 ตร.กม หากประมาณค่าเป็นจำนวนเตม็ พัน จะไดเ้ ท่าไร ....................................................................................................................................................................... ..............................................................................................................................................................................

ห น ้ า | 89 คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนแสดงวิธกี ารประมาณคา่ จากเหตุการณท์ ี่กำหนดให้ (10 คะแนน) 1. จงประมาณคา่ 48 x 52 มคี า่ เท่ากบั ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. 2. จงประมาณค่า 84 + 53 + 69 มคี า่ เทา่ กับ ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. 3. จงประมาณค่า 97 – 37 – 21 มีคา่ เท่ากบั ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. 4. จงประมาณคา่ 99 ÷ 17 มีค่าเท่ากับ ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. 5. จงประมาณคา่ 47.6 + 23.3 + 18.9 มคี ่าเทา่ กับ .............................................................................................................................................. .................. .............................................................................................................................................................................. 6. จงประมาณค่า 5.8 + 55.3 + 555.7 มีคา่ เท่ากบั ................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................

ห น ้ า | 90 7. จงประมาณค่า 3.74 + 4.37 + 7.43 x 2 มคี ่าเทา่ กบั ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................................................................................................ 8. จงประมาณคา่ 4 + 2 มคี ่าเท่ากบั 58 ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................. ............................................. .............................................................................................................................................................................. 9. จงประมาณค่า 23 4 - 12 7 มคี า่ เทา่ กับ 55 ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................. ............................................. 10. จงประมาณคา่ 272 x 453 มีคา่ เท่ากับ 9 1,348 ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................... ..... ..............................................................................................................................................................................

ห น ้ า | 91 คำชี้แจง ให้นักเรียนเขยี นแสดงการแก้โจทย์ ปญั หาการประมาณคา่ ท่ีถูกตอ้ ง ลงในสมุด 1. คุณพ่อต้องเติมน้ำมันในปริมาณ 50 ลิตร โดยน้ำมันราคาลิตรละ 19.75 บาท พอ่ จะตอ้ งเตรยี มเงนิ ไปจ่ายคา่ น้ำมันก่บี าท 2. ต้องการล้อมรั้วลวดหนาวกว้าง 45.5 เมตร ยาว 71.6 เมตร ต้องใช้ลวด หนามยาวประมาณกี่เซนตเิ มตร 3. ครอบครัวหนึ่งเดินทางจากกรุงเทพ ไปยัง ชุมพร ใช้ระยะทางตอนไป 1,258 กม. ค ร อ บ ค ร ั ว น ี ้ เ ด ิ น ท า ง ไ ป แ ล ะ ก ล ั บ เ ป็ น ระยะทางประมาณเท่าไร (ไปและกลับโดย ไม่แวะพักรถจดุ ใด)

ห น ้ า | 92 4. รา้ นค้าประกาศลดราคาโทรทัศน์ LED 20% จากราคาปกติ ถ้าโทรทัศน์ LED ราคา 5,520 บาท จะสามารถซื้อในราคาส่วนลด ประมาณเท่าไร 5. เด็กหญิงพรนับพัน มีเงินอยู่ 84 บาท ต้องนำ 6 ของเงินจำนวนนี้ไปซ้ือ 7 ของขวัญให้เพื่อน จงหาจำนวนเงินที่ ต้องนำไปใชป้ ระมาณก่ีบาท 6. ไม้ 30,000 แผ่น ถูกลำเลียงทางเรือได้คร้ัง ละ 3,510 แผ่น จงหาว่าต้องลำเลียง ประมาณก่ีเทยี่ วจึงจะหมด

ห น ้ า | 93 เกณฑ์การให้คะแนนการจัดทำรายงาน ประเด็นการประเมิน ดมี าก (4) คะแนน ปรับปรุง (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. เข้าใจในคำส่งั และ มีความเข้าใจใน ไมเ่ ข้าใจคำส่ัง ไม่เข้าใจคำสั่งเป็น ไม่เขา้ ใจคำสัง่ ทำ ประเด็นหัวข้อท่ีได้รบั คำสัง่ อยา่ งมาก เลก็ นอ้ ย สว่ นใหญ่ ผดิ ประเดน็ 2. การจัดรปู แบบ จัดรูปแบบ จัดรูปแบบ จัดรปู แบบ จัดรปู แบบ รายงาน รายงานไดด้ ีมาก รายงานไดด้ ี รายงานค่อนขา้ งดี รายงานได้ไมด่ ี องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ มีองคป์ ระกอบที่ มีองคป์ ระกอบที่ ถูกต้อง ครบถว้ น ถกู ต้องเป็นส่วน ผิดบางประเด็น ผดิ เปน็ ส่วนใหญ่ ทกุ ประเด็น ใหญ่ 3. ความถกู ต้องของ เนื้อหาทใ่ี ช้มี เนื้อหาทใี่ ช้มี เนอ้ื หาท่ีใชม้ ี เน้ือหาท่ใี ช้ไมม่ ี เนื้อหา ความถกู ต้องและ ความถกู ต้องและ ความถูกตอ้ งและ ความถกู ตอ้ งและ สอดคลอ้ งกับ สอดคล้องกบั สอดคล้องกับ ไมส่ อดคลอ้ งกับ หัวข้อทุกประเด็น หวั ข้อเปน็ ส่วน หวั ขอ้ ค่อนขา้ ง หวั ข้อ ใหญ่ นอ้ ย 4. ระบุแหล่งขอ้ มลู หรอื มกี ารระบุ มีการระบุ มีการระบุ ไม่มีการระบุ อา้ งองิ ในรายงาน แหลง่ ข้อมูลหรอื แหลง่ ข้อมูลหรือ แหล่งข้อมลู หรอื แหล่งข้อมลู หรือ อ้างอิงท่ีชัดเจน อ้างอิงท่ีค่อนข้าง อ้างอิงท่ีไม่ชดั เจน อา้ งองิ ไวใ้ น และนา่ เชอ่ื ถือ ชดั เจน และ และค่อนข้างไม่ รายงาน มาก คอ่ นข้าง นา่ เชือ่ ถอื น่าเช่อื ถือ 5. การส่งงานตรงต่อ สง่ งานตามเวลาที่ สง่ งานล่าช้ากว่า ส่งงานลา่ ช้ากวา่ ส่งงานล่าชา้ กวา่ เวลา กำหนด กำหนด 1-2 วัน กำหนด 3-5 วัน กำหนดเกิน 5 วนั เกณฑ์การประเมินการจดั ทำรายงาน คะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑ์การประเมนิ : มผี ลการประเมินในระดบั ดีขึน้ ไป 16 – 20 ดีมาก จึงจะผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 11 – 15 ดี 6 – 10 พอใช้ 0–5 ปรบั ปรุง

ห น ้ า | 94 เกณฑ์การประเมินพฤตกิ รรมการเรียนรรู้ ายบุคคล พฤติกรรมการเรยี นรู้ ลำดบั ช่ือ - นามสกลุ ความเข้าใจ คดิ คำนวณ นำความรไู้ ปใช้ 543215432154321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ระดบั คุณภาพ : ดมี าก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) เกณฑ์การประเมนิ : มีผลการประเมนิ ในระดับปานกลางขึ้นไป จึงจะผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงชอ่ื ....................................................................ผปู้ ระเมนิ วันท.ี่ ............./............................/.................

ห น ้ า | 95 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิงานร่วมกับผูอ้ นื่ ชื่อ - สกุล.............................................................................................................ช้ัน........ .....เลขท.่ี ............. คำชีแ้ จง ให้ครผู ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการปฏบิ ัตงิ านร่วมกบั ผอู้ น่ื แล้ว  ลงในช่องตรง กบั ระดบั คะแนน ท่ี ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 5 432 1 1 การแบ่งหนา้ ท่ีความรับผดิ ชอบภายในกลุ่ม 2 ความรว่ มมือในการทำงานรว่ มกนั ภายในกลมุ่ 3 ความสามัคคภี ายในกลุ่ม 4 การรับฟงั ความคดิ เห็นซึ่งกันและกนั ภายในกลุ่ม 5 การมนี ำ้ ใจ ช่วยเหลือซ่ึงกันและกันภายในกลุ่ม ระดบั คุณภาพ : ดมี าก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) เกณฑ์การประเมิน : มผี ลการประเมนิ ในระดบั ปานกลางข้นึ ไป จึงจะผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ลงชอ่ื ....................................................................ผปู้ ระเมนิ วนั ท.่ี ............./............................/.................

ห น ้ า | 96 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานรายบุคคล (สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น) ช่ือ - สกลุ .............................................................................................................ชัน้ ........ .....เลขท.ี่ ............. คำชแ้ี จง ใหค้ รูผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรียน แลว้  ลงในช่องตรงกับระดับคะแนน ท่ี ประเด็นการประเมนิ ระดับคุณภาพ 5 4321 1 ความสามารถในการสื่อสาร 2 ความสามารถในการคดิ 3 ความสามารถในการแก้ปัญหา ระดบั คุณภาพ : ดีมาก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) เกณฑ์การประเมิน : มผี ลการประเมนิ ในระดับปานกลางขน้ึ ไป จงึ จะผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงชอื่ ....................................................................ผปู้ ระเมนิ วันที่............../............................/................. เกณฑก์ ารให้คะแนนสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน พฤติกรรมบง่ ชี้ คะแนน 1. ความสามารถ ดีมาก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ในการส่อื สาร มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ไมม่ ี 2. ความสามารถ ในการคดิ ในการส่อื สารได้ ในการส่ือสารได้ ในการสอ่ื สารได้ ในการสอ่ื สารได้ ความสามารถ ดเี ยยี่ ม ชดั เจน ดี ค่อนข้างดี คอ่ นข้างไมด่ ี ในการสอ่ื สาร มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ไม่มี ในการคิดอย่าง ในการคิดอย่าง ในการคดิ อย่าง ในการคิดและ ความสามารถ มีวจิ ารณญาณ มวี ิจารณญาณ มีวจิ ารณญาณ ตดั สนิ ใจไดไ้ มด่ ี ในการคดิ และ สรา้ งสรรค์ และ และตดั สนิ ใจได้ และตดั สินใจได้ เท่าท่ีควร ตัดสนิ ใจ ตัดสนิ ใจไดด้ ี ดี เย่ยี ม