รายงานวธิ กี ารและผลการดาเนินงาน ตามเกณฑร์ างวลั คุณภาพแห่งสานักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน (OBECQA) ระดบั ScQA ประจาปี 2564 โรงเรยี นพนมดงรักวทิ ยา อาเภอพนมดงรัก จงั หวดั สรุ นิ ทร์ สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษาสุรนิ ทร์ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ผงั โครงสร้างองคก์ ร
อภธิ านศพั ท์ การมงุ่ เนน้ การปฏบิ ตั งิ านโดยใชก้ ระบวนการ PROUD Model โดยอาศยั แนวคิดทฤษฎเี ชงิ ระบบคือปัจจยั นาเขา้ (Input) กระบวนการ (Process) และผลผลิต (Output) โดยองคป์ ระกอบหลกั ท่สี มั พนั ธข์ องค่านิยม PROUD ประกอบดว้ ย P - Perception การรบั รู้ เขา้ ใจถึงสภาพปัญหา/บรบิ ท/โครงการ R - Realization ตระหนกั ถึงสภาพปัญหา/บรบิ ท/โครงการ O - Operation ลงมือทาใหเ้ กิดผล U - Unity รว่ มมือจนเป็นหนงึ่ เดียว D - Durable เกิดผลท่ีย่งั ยืน เพ่ือส่งผลใหร้ ะบบบรรลวุ ิสยั ทัศน์ พนั ธกิจ และค่านิยม เป็นภาพความสาเร็จท่ีตอ้ งการในอนาคตของ โรงเรียน
คานา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐานมีความม่งุ หวังท่ีจะพฒั นาผูเ้ รียนใหม้ ีคุณภาพเทียบเท่า มาตรฐานสากล โดยใหโ้ รงเรียนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาโดยพัฒนาระบบบริหารจัดการดว้ ยระบบ คุณภาพตอบสนองความตอ้ งการของสงั คมตามเกณฑร์ างวัลคุณภาพแห่งสานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขนั้ พืน้ ฐาน (OBECQA) ระดบั ScQA โดยใหโ้ รงเรียนประเมนิ ตนเองภายใตส้ ภาวะแวดลอ้ มท่ีเปล่ียนแปลงอย่าง ต่อเน่ือง ม่งุ เนน้ ผลการดาเนินงานตามกลยุทธข์ องโรงเรียน มีผูบ้ ริหารโรงเรียน ครู และบุคลากร ทราบถึงปัญหา ท่ีแทจ้ รงิ สามารถกาหนดวิธีการและเป้าหมาย เพ่ือการพฒั นาดว้ ยกระบวนการและความรว่ มมือ ส่งผลใหผ้ เู้ รียน บรรลตุ ามเกณฑค์ ณุ ภาพโรงเรยี นมาตรฐานสากล โรงเรียนไดด้ าเนินการประเมินภายใตส้ ภาวะแวดลอ้ มท่ีเปลี่ยนแปลง มุ่งเน้นผลการดาเนินงานตาม กลยุทธข์ องโรงเรียน โดยมีสว่ นรว่ มของผเู้ กี่ยวขอ้ งประกอบดว้ ย ผบู้ รหิ าร ครู บคุ ลากร คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการสมาคมศิษย์เก่า คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง มีความมุ่งม่ันท่ีจะผลักดัน สถานศึกษาใหข้ ับเคล่ือนไปในทิศทางเดียวกัน บรรลเุ ป้าหมายตามวิสัยทัศนท์ ่ีกาหนด โดยการร่วมคิด ร่วมทา ร่วมแกไ้ ขปัญหา สรา้ งบรรยากาศอย่างเป็นกลั ยาณมิตร แลกเปล่ียนเรียนรู้ อนั เป็นเป้าหมายของการจดั การเรียน การสอน โดยจัดทาเอกสาร รายงานวิธีการและผลการดาเนินงานตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสานักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน (OBECQA) ระดบั ScQA ขนึ้ เพ่อื รบั การประเมนิ ต่อไป ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารโรงเรียน คณะครู บุคลากร โรงเรียนพนมดงรักวิทยาทุกท่าน ท่ีไดใ้ หค้ วามร่วมมือในการจดั ทารายงานวิธีการและผลการดาเนินงานตามเกณฑร์ างวัลคณุ ภาพแห่งสานกั งาน คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน (OBECQA) ระดับ ScQA ของโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล ประจา ปี 2564 และหวงั เป็นอย่างยง่ิ วา่ เอกสารรายงานฉบบั นจี้ ะเป็นประโยชนใ์ นการพฒั นาสถานศกึ ษาต่อไป โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา
สารบัญ ข ผงั โครงสรา้ งองคก์ ร หน้า อภธิ านศพั ท์ คานา ก สารบญั ข สารบญั ตาราง ค สารบญั ภาพ ง โครงรา่ งองคก์ ร 1 หมวด 1 การนาองคก์ ร 11 11 1.1 การนาองคก์ รโดยผนู้ าระดบั สงู 15 1.2 การกากบั ดแู ลองคก์ รและความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม 20 หมวด 2 กลยทุ ธ์ 20 2.1 การจดั ทากลยทุ ธ์ 26 2.2 การนากลยทุ ธไ์ ปปฏิบตั ิ 30 หมวด 3 นกั เรียนและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย 30 3.1 เสียงของนกั เรียนและผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี 35 3.2 ความผกู พนั ของนกั เรียนและผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสีย 42 หมวด 4 การวดั การวิเคราะหแ์ ละการจดั การความรู้ 42 4.1 การวดั การวเิ คราะห์ การปรบั ปรุงผลการดาเนินงานของโรงเรยี น 48 4.2 การจดั การความรู้ สารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ 52 หมวด 5 บคุ ลากร 52 5.1 สภาพแวดลอ้ มของบคุ ลากร 57 5.2 ความผกู พนั ของบุคลากร 64 หมวด 6 การปฏิบตั ิการ 64 6.1 กระบวนการทางาน 73 6.2 ประสิทธิผลของการปฏบิ ตั กิ าร 79 หมวด 7 ผลลพั ธ์ 79 7.1 ผลลพั ธด์ า้ นหลกั สตู รและกระบวนการ 84 7.2 ผลลพั ธด์ า้ นนกั เรียนและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย 86 7.3 ผลลพั ธด์ า้ นบุคลากร 89 7.4 ผลลพั ธด์ า้ นการนาองคก์ รและกากบั ดแู ลองคก์ ร 93 7.5 ผลลพั ธด์ า้ นการเงนิ และการตลาด
ค สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 1 แสดงจานวนขา้ ราชการครูและวฒุ ิทางการศกึ ษา ปีการศกึ ษา 2564 3 2 แสดงสาขาวชิ าท่จี บการศกึ ษาจาแนกตามกลมุ่ สาระการเรียนรูแ้ ละภาระงานสอน ปีการศกึ ษา 2563 4 3 แสดงอาคารสถานท่ี เทคโนโลยี และอปุ กรณส์ าคญั 4 4 แหลง่ เรียนรูใ้ นโรงเรียน 5 5 แสดงกฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั และแนวปฏิบตั ใิ นการดาเนนิ งานท่สี าคญั ของโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา 5 6 แสดงความทา้ ทายเชงิ กลยทุ ธข์ องโรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา 10 7 แสดงการรบั ฟังนกั เรยี นปัจจบุ นั และผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี 31 8 แสดงการรบั ฟังนกั เรียนในอนาคตและผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี 33 9 แสดงการจดั การศกึ ษาและบรกิ ารทางการศกึ ษาอ่ืน ๆ ท่สี ง่ เสรมิ การเรยี นรูแ้ ละการสนบั สนนุ นกั เรียน 36 10 แสดงปัจจยั การขบั เคลื่อนความผกู พนั 58 11 แสดงวธิ ีการประเมินความผกู พนั ของบคุ ลากร 58 12 การจดั ทาขอ้ กาหนดท่ีสาคญั ของหลกั สตู รและกระบวนการทางาน 64 13 การจดั ทาขอ้ กาหนดของระบบงาน 67 14 แนวคิดในการออกแบบหลกั สตู ร 67 15 แสดงกระบวนการจดั การเรียนการสอน 68 16 การจดั กระบวนการสนบั สนนุ 69 17 แนวปฏบิ ตั เิ พ่อื ปอ้ งกนั ขอ้ ผิดพลาดจากการดาเนินงาน 74 18 แสดงขนั้ ตอนการเตรียมความพรอ้ มต่อภาวะฉกุ เฉินหรือภยั พิบตั ิ 78 19 ตวั ชวี้ ดั สขุ ภาพ อนามยั ความปลอดภยั และการรกั ษาความปลอดภยั ในโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา 83 20 ผลการประเมินภายนอกรอบ 4 ดา้ นครู และการบรหิ าร 90 21 ตวั วดั ท่สี าคญั ดา้ นกฎหมาย กฎระเบียบขอ้ บงั คบั และจรยิ ธรรม 90 22 แสดงจานวนครงั้ ในการใหบ้ ริการของโรงเรยี นตอ่ ชุมชน หน่วยงานภาครฐั และเอกชน 91
สารบัญภาพ ง ภาพท่ี หน้า 1 ตราสญั ลกั ษณป์ ระจาโรงเรยี น 1 2 แผนผงั โครงสรา้ งองคก์ ร 6 3 ผงั ความสมั พนั ธก์ ารบรหิ ารจดั การคณุ ภาพการศกึ ษาของโรงเรยี นพนมดงรกั วทิ ยา โดยใชร้ ูปแบบ PROUD MODEL 10 4 กระบวนการทางานดว้ ยวงจรการควบคมุ คณุ ภาพ 11 5 การกาหนดวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจ และค่านิยม 12 6 กระบวนการสรา้ งบรรยากาศเพ่อื ประสบผลสาเรจ็ 13 7 กระบวนการมงุ่ เนน้ การปฏิบตั ิงาน 15 8 ระบบการกากบั ดแู ลโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา 16 9 แสดงกระบวนการสง่ เสริมใหเ้ กิดการปฏิบตั อิ ย่างมจี ริยธรรม 18 10 ขนั้ ตอนการจดั ทานวตั กรรมของโรงเรยี นพนมดงรกั วทิ ยา 22 11 การบรหิ ารจดั การโรงเรียนทงั้ ระบบดว้ ยกระบวนการ PDCA-TPSpr 23 12 แผนผงั เปา้ ประสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธม์ าตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา 25 13 กระบวนการรบั ฟังนกั เรยี นและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย 30 14 กระบวนการประเมินความพงึ พอใจเชิงเปรียบเทียบ 35 15 แสดงกระบวนการสรา้ งความสมั พนั ธท์ ่มี ีต่อนกั เรียนและผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสีย 40 16 แสดงกระบวนการจดั การกบั ขอ้ รอ้ งเรยี น 40 17 กระบวนการบรหิ ารจดั การโรงเรียนทงั้ ระบบดว้ ยกระบวนการ PROUD MODEL 42 18 กระบวนการจดั การขอ้ มลู สารสนเทศ 44 19 กระบวนการเลือกขอ้ มลู นกั เรยี นและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี 46 20 ระบบการวดั ผลการดาเนินการของโรงเรยี น 46 21 การขบั เคลื่อนการจดั การความรูข้ องโรงเรยี น 48 22 แนวทางการเรียนรูร้ ะดบั องคก์ ร 49 23 กระบวนการดาเนินงานเอกสาร/คมู่ ือการใชง้ าน 50 24 กระบวนการดาเนินงานขอ้ มลู สารสนเทศ 50 25 กระบวนการดาเนินงานใชง้ านในภาวะฉกุ เฉิน 51 26 แสดงการสรรหาวา่ จา้ งบรรจแุ ละรกั ษาบคุ ลากรใหม่ 54 27 แสดงรูปแบบการดาเนินการดา้ นสภาพแวดลอ้ มของการทางาน 56 28 แสดงหลกั การบรหิ ารจดั การโรงเรยี นทงั้ ระบบดว้ ยกระบวนการ PDCA 59 29 แสดงจานวนช่วั โมงเฉล่ยี การอบรม สมั มนา พฒั นาตนเองของบคุ ลากร 61
สารบัญภาพ (ตอ่ ) จ ภาพท่ี หน้า 30 แผนผงั ระบบการจดั การความกา้ วหนา้ ในวชิ าชพี ของโรงเรยี น 62 31 แสดงจานวนรางวลั ท่ีบุคลากรทางการศกึ ษาไดร้ บั จาแนกตามระดบั เขตและระดบั ประเทศ 63 32 ระบบการสรา้ งและพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา 66 33 การดาเนนิ การปรบั ปรุงหลกั สตู รของโรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา 71 34 การนานวตั กรรมสกู่ ระบวนการทางาน 73 35 การควบคมุ ตน้ ทนุ 73 36 การจดั การเกี่ยวกบั ผสู้ ง่ มอบ 75 37 กระบวนการการสารวจความปลอดภยั ภายในโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา 76 38 แนวทางปฏิบตั ิต่อภาวะฉกุ เฉินทางกายภาพ 77 39 ความพงึ พอใจของนกั เรียนและผปู้ กครองเกี่ยวกบั หลกั สตู รสถานศกึ ษา 79 40 การเขา้ ศกึ ษาตอ่ ท่ีโรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา 80 41 ค่าคะแนนเฉลี่ยการทดสอบระดบั ชาติ (O-NET) ของนกั เรยี นระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 80 42 คา่ คะแนนเฉลี่ยการทดสอบระดบั ชาติ (O-NET) ของนกั เรียนระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 81 43 แสดงผลการเรียนระดบั 3 ขนึ้ ไปรายวิชา IS ของนกั เรียน 81 44 รอ้ ยละของการศกึ ษาตอ่ ของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 82 45 รอ้ ยละของการศกึ ษาต่อของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 82 46 รอ้ ยละของการศกึ ษาต่อของนกั เรยี นชนั้ ปวช.3 83 47 แสดงค่าเฉลี่ยระดบั ความพงึ พอใจของนกั เรยี นท่มี ีต่อครูผสู้ อน 84 48 แสดงคา่ เฉลี่ยระดบั ความพงึ พอใจของผปู้ กครองท่ีมีต่อครูผสู้ อน 85 49 แสดงจานวนนกั เรียนท่สี มคั รเรยี นระดบั ชนั้ ม.4 85 50 แสดงจานวนครูและบคุ ลากรทางการศึกษา 86 51 แสดงจานวนครูท่มี วี ิทยฐานะ 86 52 แสดงคา่ ระดบั ความพงึ พอใจบรรยากาศในการทางานของบคุ ลากร 87 53 แสดงรอ้ ยละของจานวนผลงานวจิ ยั ของครูปี 2563 88 54 แสดงจานวนช่วั โมงเฉล่ียการอบรม สมั มนา พฒั นาตนเอง 88 55 แสดงคา่ เฉลี่ยระดบั ความพงึ พอใจของนกั เรียน ครู และผปู้ กครองต่อการนาองคก์ ร 89 56 แสดงค่าเฉล่ียระดบั ความพงึ พอใจของครู นกั เรียน ท่มี ีต่อการสง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา 90 57 รอ้ ยละของผใู้ ชบ้ ริการสารสนเทศ ปี 2563 91 58 แสดงรอ้ ยละของครูท่จี ดั การเรียนการสอนท่เี นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ปี 2563 92
สารบัญภาพ (ตอ่ ) ฉ ภาพท่ี หน้า 59 เปรียบเทียบโครงการตามแผนปฏิบตั ิการบรรลเุ ปา้ หมาย 92 60 เปรียบเทยี บงบประมาณท่ไี ดร้ บั จดั สรร 93 61 แสดงจานวนนกั เรียนในเขตและนอกเขตพนื้ ท่บี ริการท่มี าสมคั รเรียนต่อในระดบั ม.1 ปี 2564 94 62 แสดงจานวนนกั เรียนในเขตและนอกเขตพนื้ ท่บี ริการท่มี าสมคั รเรียนต่อในระดบั ม.4 ปี 2564 94
โครงร่างองคก์ ร 1. ลกั ษณะขององคก์ ร (Organizational Description) ก. สภาพแวดล้อมขององคก์ ร (Organizational Environment) โรงเรียนพนมดงรักวิทยา จังหวัดสุรินทร์ สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ กระทรวงศกึ ษาธิการ ตงั้ อยู่ เลขท่ี 101 หม่ทู ่ี 10 ตาบลจีกแดก อาเภอพนมดงรกั จงั หวดั สรุ นิ ทร์ เดิมช่ือ โรงเรียน โคกกลางวิทยา ไดร้ บั อนุญาตใหจ้ ดั ตงั้ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการเม่ือวันท่ี 11 ธันวาคม พ.ศ. 2527 และ เปิดทาการสอนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นคร้ังแรก ในปีการศึกษา 2528 โดยขอความร่วมมือ ใช้อาคาร อเนกประสงค์ของโรงเรียนบ้านจีกแดก สังกัดสานักงานการประถมศึกษา อาเภอพนมดงรกั จังหวัดสุรินทร์ เพ่ือเป็นสถานท่ีเรียนช่วั คราว เม่ือสรา้ งอาคารเรียนหลงั แรกเสร็จ จึงยา้ ยมาทาการเรียนการสอน ณ ท่ีตงั้ ปัจจุบนั เม่อื เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2528 เปิดทาการสอนในระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลายครงั้ แรกใน ปีการศกึ ษา 2536 และเปิดทาการสอนในระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 2 สาขาวิชา ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาช่างเช่ือม ปีการศกึ ษา 2551 ประเภทวิชาพาณิชยกรรม สาขาคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ ปีการศกึ ษา 2558 ประเภท วชิ าพาณิชยกรรม สาขาการบญั ชี ปีการศกึ ษา 2561 (1) หลกั สูตร (Product Offerings) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา จัดการเรียนการสอนตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ตามโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล จดั ทาหลกั สตู รสถานศกึ ษา หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 8 กลมุ่ สาระ และ หลักสูตรชัน้ เรียนท่ีเอือ้ ต่อการเรียนรู้ รวมทัง้ หลกั สูตรระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) ใชแ้ หล่งเรียนรูแ้ ละ การสรา้ งเครือข่ายความร่วมมือจากชุมชนและภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน โดยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรายวิชา เพิ่มเติมของหลกั สูตรเทียบเคียงโรงเรียนมาตรฐานสากล ตงั้ แต่ ปี พ.ศ. 2555 ไดแ้ ก่ รายวิชาการศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง (IS1, IS2, และ IS3) เพ่ือสนองความตอ้ งการของนกั เรียนท่ีมีความสนใจในการเรียนรูท้ ่ีแตกต่างและ หลากหลาย โรงเรียนจึงจดั แผนการเรียนใหน้ กั เรียนไดเ้ ลือกเรียนตามความสนใจเทียบเคียงมาตรฐานสากล ดงั นี้ 1) แผนการเรยี นวิทย์ - คณิต 2) แผนการเรียนศิลป์ - ภาษาองั กฤษ ความสาคญั เปรียบเทียบของหลกั สตู รและการบรกิ ารท่ีส่งเสรมิ การเรียนรู้ และบรกิ ารอ่ืน ๆ ต่อความสาเร็จ แต่ละแผนการเรียน ไดจ้ ดั ทาโครงสรา้ งรายวิชาท่ีส่งเสริมใหผ้ ูเ้ รียนไดพ้ ัฒนาศกั ยภาพตนเองตามความถนัด ส่งผลให้ นกั เรยี นมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนสงู ขนึ้ และสามารถสอบเรยี นต่อในระดบั อดุ มศึกษาได้ กลไกท่ีโรงเรียนใชว้ ิธีการบรหิ ารจดั การหลกั สตู ร รวมทงั้ บรกิ ารอ่นื ๆ โรงเรยี นเนน้ การบรหิ ารจดั การหลกั สตู ร มีการปรบั ปรุงหลกั สตู รสนองตามนโยบายหน่วยงานตน้ สงั กดั สอดแทรกหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ จดั รายวิชาในหลกั สตู รท่ีสอนนอกเหนือจากรายวิชาบงั คบั ตามโครงสรา้ งของหลกั สตู ร โดยคานึงถึงความตอ้ งการ และความสนใจของผู้เรียน ผู้ปกครองและชุมชน มีความพรอ้ มด้านบุคลากร อาคารสถานท่ี วัสดุ - อุปกรณ์ แหลง่ เรียนรูท้ งั้ ในและนอกโรงเรียน และปัจจยั ท่ีเก่ียวขอ้ งทุกดา้ น มีการนิเทศ ติดตามประเมินผลเพ่ือพัฒนาและ ปรบั ปรุงการนาหลกั สตู รไปใชจ้ ดั การศกึ ษาท่มี งุ่ พฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา
2 (2) วิสัยทัศน์ พันธกิจ และคา่ นิยม (Vision, Mission and Values) วิสัยทัศน์ (Vision) โรงเรียนพนมดงรักวิทยา น้อมนาศาสตร์พระราชา มุ่งพัฒนาผู้เรียนเป็นคนดี มีคณุ ภาพสมู่ าตรฐานสากล พรอ้ มสาหรบั วถิ ีชีวิตในศตวรรษท่ี 21 พันธกิจ (Mission) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาไดก้ าหนดพนั ธกิจสาคญั ไว้ 5 ประการ คอื 1. พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีความรูท้ างวิชาการและทกั ษะทางวิชาชีพส่มู าตรฐานสากลและมีความพรอ้ มสาหรบั วิถีชีวิตในศตวรรษท่ี 21 2. พฒั นาศกั ยภาพครู สกู่ ระบวนการจดั การเรยี นรูท้ ่ตี อบสนองต่อการเปลย่ี นแปลงในศตวรรษท่ี 21 3. พฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษาตามกลมุ่ ศกั ยภาพผเู้ รยี น ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษท่ี 21 4. นอ้ มนาศาสตรพ์ ระราชาส่กู ารพฒั นาระบบการบรหิ ารการจดั การอย่างมีคณุ ภาพ 5. สง่ เสรมิ เครอื ข่ายความรว่ มมือ ภาครฐั ภาคเอกชน ใหม้ สี ว่ นรว่ มพฒั นา และสนบั สนนุ การจดั การศกึ ษา ค่านิยม (Values) ยดึ ม่นั เป้าหมาย หลากหลายวธิ ีการ สื่อสารองคก์ ร สะทอ้ นระบบการทางาน เป้าประสงค์ (Goals) 1. ผเู้ รียนมีความรูท้ างวิชาการและทกั ษะทางวิชาชีพตามมาตรฐานสากลและมีความพรอ้ มสาหรบั วิถีชีวิต ในศตวรรษท่ี 21 2. ครูมศี กั ยภาพในการจดั การเรียนรูต้ อบสนองต่อการเปล่ียนแปลงในศตวรรษท่ี 21 3. โรงเรียนมหี ลกั สตู รสถานศกึ ษาตามกลมุ่ ศกั ยภาพผเู้ รยี นตอบสนองต่อการเปล่ยี นแปลงในศตวรรษท่ี 21 4. โรงเรียนมีระบบการบรหิ ารการจดั การตามศาสตรพ์ ระราชาอย่างมคี ณุ ภาพ 5. โรงเรยี นมีเครือข่ายความรว่ มมือ ภาครฐั ภาคเอกชนในการพฒั นาและสนบั สนนุ การจดั การศกึ ษา กลยทุ ธ์ 1. กลยทุ ธท์ ่ี 1 พฒั นาผเู้ รียนดา้ นวิชาการและทกั ษะทางวิชาชีพ 2. กลยทุ ธท์ ่ี 2 ครูมศี กั ยภาพในการจดั การเรยี นรูต้ อบสนองต่อการเปล่ยี นแปลง 3. กลยุทธ์ท่ี 3 พัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษาตามกลุ่มศักยภาพผูเ้ รียนตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงใน ศตวรรษท่ี 21 4. กลยทุ ธท์ ่ี 4 นอ้ มนาศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารพฒั นาระบบบรหิ ารจดั การอย่างมีคณุ ภาพ 5. กลยทุ ธท์ ่ี 5 สง่ เสรมิ พฒั นาระบบภาคีเครือขา่ ย สญั ลกั ษณป์ ระจาโรงเรยี น ภาพที่ 1 ตราสญั ลกั ษณป์ ระจาโรงเรียน ตราประจาโรงเรียนพนมดงรักวทิ ยา : ชอ่ ชยั พฤกษล์ อ้ มรอบดอกบวั ทงั้ 2 ขา้ ง ฐานของดอกบวั มีช่ือยอ่ โรงเรียน พ.ร.
3 ความหมายของสัญลกั ษณ์ : ชอ่ ชยั พฤกษ์ หมายถึง ปัญญา ดอกบวั 4 กลีบซา้ ย หมายถึง สงั คหวตั ถุ 4 ดอกบวั 4 กลีบขวา หมายถึง อทิ ธิบาท 4 ปรัชญาประจาโรงเรยี น : วิรเิ ยน ทกุ ฺขมจฺ เจติ “บคุ คลลว่ งทกุ ขไ์ ดด้ ว้ ยความเพยี ร” คาขวัญประจาโรงเรยี น : ประพฤติดี มีวิชา กีฬาเด่น วิสัยทัศน์ : โรงเรียนพนมดงรักวิทยา น้อมนาศาสตร์พระราชา มุ่งพัฒนาผู้เรียนเป็นคนดี มีคุณภาพ สมู่ าตรฐานสากล พรอ้ มสาหรบั วถิ ีชวี ติ ในศตวรรษท่ี 21 เอกลักษณส์ ถานศึกษา : งานอาชีพ อัตลกั ษณน์ ักเรียน : ยมิ้ ไหว้ ทายทกั อักษรย่อของโรงเรียน : พ.ร. สปี ระจาโรงเรียน : เหลือง-แดง สีเหลือง หมายถงึ สงบ เยอื กเยน็ มีคณุ ธรรม สีแดง หมายถึง รกั ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ (3) ลักษณะโดยรวมของบุคลากร (WORKFORCE Profile) 1. ขอ้ มลู ขา้ ราชการครู ตารางที่ 1 แสดงจานวนขา้ ราชการครูและวฒุ ิทางการศึกษา ปีการศกึ ษา 2564 เพศ วุฒกิ ารศกึ ษา ตาแหน่ง ชาย หญิง ปรญิ ญาโท ปริญญาตรี ต่ากว่าปริญญา รวม ชาย หญงิ ชาย หญิง ชาย หญงิ 1. สายผบู้ รหิ าร - ผอู้ านวยการโรงเรยี น 1-1---- - 1 - รองผอู้ านวยการโรงเรยี น - 2 - 1 - 1 - - 2 2. สายปฏิบตั ิการสอน - ครู ค.ศ.4 --- --- - 0 - ครู ค.ศ.3 13-211- - 4 - ครู ค.ศ.2 32- -32- - 5 - ครู ค.ศ.1 15 12 - 2 14 12 - - 27 - ครูผชู้ ว่ ย -4---4- - 4 3. พนกั งานราชการ 21- -4- - - 4 4. ลกู จา้ งช่วั คราว 22- -13- - 4 5. ลกู จา้ งประจา 1-----1 - 1 รวมทงั้ สนิ้ 25 26 1 5 24 22 2 0 52
4 2. ข้อมลู สาขาวิชาทจี่ บการศึกษาจาแนกตามกลุม่ สาระการเรียนรู้และภาระงานสอน ตารางที่ 2 แสดงสาขาวชิ าท่ีจบการศกึ ษาจาแนกตามกล่มุ สาระการเรียนรูแ้ ละภาระงานสอน ปีการศกึ ษา 2563 สาขาวชิ า จานวน (คน) ภาระงานสอนเฉล่ยี ของครู 1 คน ในแตล่ ะสาขาวชิ า (ชม./สปั ดาห)์ 1. บรหิ ารการศกึ ษา (ผบู้ รหิ าร) 3 - 2. คณิตศาสตร์ 5 28 3. วิทยาศาสตร์ 10 18 4. ภาษาไทย 5 23 5. ภาษาองั กฤษ 4 27 6. สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 6 22 7. ศลิ ปะ 3 26 8. การงานอาชพี และเทคโนโลยี 2 25 9. สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 3 22 10.กล่มุ ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) 7 31 11.กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 1 22 12.สายสนบั สนนุ 3- รวม 52 (4) สนิ ทรัพย์ (Assets) 4.1ข้อมูลดา้ นอาคารสถานท่ี แหลง่ เรียนรู้และการใช้ ดา้ นอาคาร และส่งิ ก่อสร้าง อาคาร ไดแ้ ก่ อาคารเรยี น 5 หลงั อาคารเรยี นก่งึ ถาวร 1 หลงั อาคารฝึกงาน 2 หลงั บา้ นพกั ครู/ภารโรง 8 หลงั หอ้ งนา้ 4 หลงั หอประชมุ 1 หลงั อาคารอเนกประสงคห์ ลงั คาโคง้ (โดม) 2 หลงั สิ่งกอ่ สร้าง สนามกีฬา สนามฟตุ บอล ฟ3 พเิ ศษ 1 แหง่ สนามบาสเก็ตบอล 1 แหง่ ลานกีฬา 1 แห่ง ตารางท่ี 3 แสดงอาคารสถานท่ี เทคโนโลยี และอปุ กรณส์ าคญั ที่ ประเดน็ ลักษณะอาคาร สภาพใชง้ าน 1 อาคารเรยี น จานวน 6 หลงั แบบ 108 ล 5 หลงั แบบก่ึงถาวร 1 หลงั ดี 2 อาคารฝึกงาน แบบ 102/27 จานน 2 หลงั ดี 3 หอ้ งสว้ มหญิง 3 หลงั ๆ ละ 6 หอ้ ง พอใช้ 4 หอ้ งสว้ มชาย 6 หอ้ ง พอใช้ 5 บา้ นพกั ครู แบบ 203/27 จานวน 4 หลงั พอใช้ 6 บา้ นพกั ครู 203/27 แบบ 205/26 จานวน 2 หลงั พอใช้ 7 บา้ นพกั นกั การภารโรง แบบ /32 จานวน 2 หลงั ทรุดโทรม 8 หอประชมุ 100/27 1 ชนั้ พนื้ เสมอดิน ทรุดโทรม 9 สนามกีฬา สนามฟตุ บอล แบบ ฟ3 พิเศษ สนามกลางแจง้ พนื้ ดิน ทรุดโทรม 10 สนามบาสเก็ตบอล คอนกรีตพนื้ เสมอดนิ ทรุดโทรม 11 ลานกีฬา ลานอเนกประสงค์ คอนกรตี พนื้ เสมอดิน พอใช้ 12 อาคารอเนกประสงค์ อาคารหลงั คาโคง้ ดี
5 4.2 หอ้ งสมุด มีหอ้ งสมดุ ขนาด 300ตารางเมตร มีหนงั สือทงั้ หมด 3000 เลม่ จาแนกตามหมวดหม่รู ะบบทศนิยมของ D.C. 4.3 โรงเรียนมีคอมพิวเตอร์เพ่ือการเรียนการสอน จานวน 80 เคร่ือง มีการติดตั้งอินเตอร์เน็ต เพ่ือการศึกษาค้นคว้าของนักเรียน มีจานวน 80 เครื่อง และเคร่ืองคอมพิวเตอร์สาหรับทางานการเงิน บรหิ ารวิชาการ บรหิ ารงบประมาณ บรหิ ารงานบคุ คล บรหิ ารท่วั ไป จานวน 10 เคร่ือง 4.4 แหลง่ เรียนรู้ในโรงเรยี น ดังตารางท่ี 4 ตารางที่ 4 แหลง่ เรียนรูใ้ นโรงเรียน แหลง่ เรยี นรู้ สนับสนุนการเรยี นการสอนกลุม่ สาระ 1. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น ,หอ้ งสมดุ อาเซยี น ทกุ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ 2. หอ้ งศนู ยก์ ารเรียนรู้ หอ้ งดนตรี , หอ้ งศิลปะ ,หอ้ งนาฎศิลป์ ศลิ ปะ 3. หอ้ งพยาบาล สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 4. หอ้ งศนู ยก์ ารเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรท์ ่วั ไป , หอ้ งเคมี วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5. อาคารฝึกงานอตุ สาหกรรม ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ 6. หอ้ งคหกรรม การงานอาชพี 7. สวนพฤษศาสตร์ ทกุ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ 8. หอ้ งสืบคน้ USO ทกุ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ 9. สนามกีฬา สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา (5) กฎระเบียบข้อบังคับ (Regulatory Requirements) ครูและบคุ ลากรโรงเรียนพนมดงรกั วิทยาใชก้ ฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั และแนวปฏิบตั ิท่ีสาคญั ๆ เก่ียวขอ้ งกบั การ ดาเนินงานของโรงเรียน ตารางท่ี 4 แสดงกฎระเบียบ ขอ้ บงั คับและแนวปฏิบัติในการดาเนินงานท่ีสาคัญของ โรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยาดงั นี้ ตารางท่ี 5 แสดงกฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั และแนวปฏบิ ตั ใิ นการดาเนินงานท่สี าคญั ของโรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา ดา้ นการดาเนนิ งาน กฎระเบียบขอ้ บงั คับทเี่ กีย่ วขอ้ ง กฎระเบยี บดา้ นอาชีวอนามยั 1. แนวปฏิบตั ิในการใชห้ อ้ งปฏบิ ตั กิ าร และความปลอดภยั 2. มีการตดิ ตงั้ ถงั ดบั เพลิงทกุ อาคาร การจดั อบรมการปอ้ งกนั อคั คภี ยั 3. มกี ารประกนั อบุ ตั ิเหตสุ าหรบั นกั เรยี น 4. มโี ครงการตรวจสขุ ภาพประจาปีสาหรบั บคุ ลากร ขอ้ บงั คบั ดา้ นมาตรฐาน การ 1. พระราชบญั ญัตกิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติพ.ศ. 2542 และฉบบั แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ท่ี3) พ.ศ. 2553 ประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา ว่าดว้ ยมาตรฐานและการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา 2. กฎกระทรวงว่าดว้ ยระบบหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา พ.ศ. 2561 กฎระเบียบ เกยี่ วกบั หลกั สตู ร 1. พระราชบญั ญัตกิ ารศกึ ษาแหง่ ชาตพิ .ศ. 2542 และฉบบั แกไ้ ขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี3) พ.ศ. 2553 การจดั การเรยี นการสอน และ ซ่งึ ว่าดว้ ยแนวการจดั การศกึ ษา การบรกิ ารเสรมิ พิเศษ 2. ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เร่อื ง นโยบายมาตรฐานการพฒั นาเทคโนโลยีสารสนเทศและ การส่อื สารเพ่อื การศกึ ษาเม่ือวนั ท่ี 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2550
6 ดา้ นการดาเนินงาน กฎระเบยี บขอ้ บงั คับทเ่ี กี่ยวขอ้ ง กฎระเบียบ เกีย่ วกบั การ 3. พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547 ว่าดว้ ยการบรรจุ ปฏบิ ตั ิงานทางการศกึ ษา และแต่งตงั้ กฎระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ดา้ น 1. พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547 ว่าดว้ ยการ การเงินและ ส่ิงแวดลอ้ ม บรรจแุ ละแตง่ ตงั้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2553) 2. พระราชบญั ญัตริ ะเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ (ฉบบั ท่ี2) พ.ศ.2553 3. ระเบยี บกระทรวงการคลงั ว่าดว้ ยลกู จา้ งประจาของสว่ นราชการ พ.ศ. 2537 4. พระราชบญั ญัตริ ะเบยี บขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2547 และท่แี กไ้ ข เพิม่ เตมิ (ฉบบั ท่ี2) พ.ศ.2551 5. พระราชบญั ญัตเิ งินเดอื น เงนิ วทิ ยฐานะ และเงนิ ประจาตาแหน่งขา้ ราชการครูและบคุ ลากร ทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547 และท่แี กไ้ ขเพ่มิ เตมิ (ฉบบั ท่ี2) พ.ศ. 2554 6. ประกาศคณะกรรมการบรหิ ารพนกั งานราชการ เร่ือง คา่ ตอบแทนของพนกั งานราชการ (ฉบบั ท่ี 6) พ.ศ. 2556 7. ระเบยี บวา่ ดว้ ยเร่ืองจรรยาบรรณวิชาชีพครู พ.ศ. 2556 1. ระเบยี บกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยการเบกิ คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดินทางไปราชการ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2554 2. ระเบยี บวา่ ดว้ ยการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยงบกลาง รายการเงนิ สารองจา่ ย เพ่อื กรณีฉกุ เฉิน หรอื จาเป็น พ.ศ. 2560 (หนงั สอื สานกั งบประมาณ ท่ี นร. 0702/ว82 ลว. 16 พ.ค. 2560) 3. พระราชบญั ญัตกิ ารจดั ซอื้ จดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. 2560 4. ระเบยี บกระทรวงการคลงั และประกาศของโรงเรยี นท่วี า่ ดว้ ยการเบิกจา่ ยตา่ ง ๆ ข. ความสมั พนั ธร์ ะดับองคก์ ร (Organizational Relationships) (1) โครงสร้างองคก์ ร (Organizational Structure) ภาพที่ 2 แผนผงั โครงสรา้ งองคก์ ร
7 โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาจัดระบบบริหารจดั การโดยการกระจายอานาจเป็น 4 กล่มุ บริหารโดยใหท้ ุกฝ่ าย มีส่วนร่วมในการตดั สินใจ มีกากบั ติดตามและนิเทศของกล่มุ บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐานและ รายงานไปยังหน่วยงานตน้ สงั กัด โรงเรียนมีวัฒนธรรมองคก์ ร คือ ทางานเป็นทีม โดยประสานความร่วมมือจาก บคุ ลากรทกุ ฝ่ายในการปฏิบตั ิงานตามบทบาทหนา้ ท่ี (2) นักเรยี นและผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสีย (STUDENTS and STAKEHOLDERS) โรงเรียนมีเป้าหมาย วิสยั ทัศน์ พันธกิจ ท่ีกาหนดไวช้ ดั เจน โดยใหท้ ุกฝ่ ายมีส่วนร่วมในการกาหนด โดยเปิด การเรียนการสอน 2 หลกั สตู ร และมจี ดุ ควรพฒั นา ดงั นี้ ดา้ นผู้เรยี น ผเู้ รียนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนในระดบั ชาติอยู่ในระดับควรปรบั ปรุง ตอ้ งพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ใหส้ งู ขึน้ รวมทงั้ การพฒั นานกั เรียนเพ่ือการศกึ ษาต่อและการประกอบอาชีพ ด้านจัดการเรียนการสอน ครูไม่ครบตามเกณฑ์ ควรพัฒนาเทคนิคการสอนท่ีเน้นให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดแกป้ ัญหา คิดสรา้ งสรรค์ ฯลฯ และพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนทุกกลุ่มสาระฯ สรรหาและ แต่งตงั้ ครูใหค้ รบตามเกณฑ์ 1 หอ้ งเรียนต่อครู 2 คนโดยเฉพาะวิชาเอกภาษาอังกฤษ ภาษาเขมร ดนตรี เป็นตน้ พัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรูท้ ่ีเน้นให้ผูเ้ รียนมีความสามารถในดา้ นการคิดและใหม้ ีผลสัมฤทธิ์ทาง การเรยี นสงู ขึน้ ดา้ นการบรหิ ารและการจดั การศึกษา งบประมาณในการบริหารจัดการไม่เพียงพอ ควรพัฒนาและจัดระบบนิเทศ ควบคุมกากับติดตามผล การปฏิบัติงานตามแผน โรงเรียนยังขาดบุคลากรในส่วนของนักการภารโรง คนสวน แม่บา้ น ท่ีจะมาช่วยดูแล ดา้ นสภาพแวดล้อมและบางกิจกรรม/โครงการท่ีสาคัญไม่กาหนดเป็นนโยบายของโรงเรียนอย่างจริงจัง เช่น กิจกรรมลดละเลิกใชถ้ งุ พลาสติกในโรงเรียน เป็นตน้ ดา้ นอาคารสถานท่ี โรงเรียนยังขาดหอ้ งเรียนคุณภาพตามมาตรฐานห้องเรียน เน่ืองจากมีอาคารเรียน เพ่ิมขึน้ ทาใหห้ อ้ งเรียนทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และ หอ้ งฝึกอาชีพ ยังขาดอุปกรณ์ เคร่ืองมือ ท่ีมีความจาเป็นต่อการพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รียน รวมถึงนักเรียนมีจานวนเพิ่มขึน้ แต่จานวนอาคารบาง อาคารมีไม่เพียงพอกับจานวนนักเรียน เช่น หอ้ งนา้ หอ้ งสว้ ม โรงอาหาร เป็นตน้ และมีบางส่วนท่ีตอ้ งปรบั ปรุง พฒั นา เน่อื งจากสภาพเกา่ เช่น สนามกีฬา เป็นตน้ ดา้ นการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ ขอความร่วมมือกับชุมชนให้มีการเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทาหลักสูตรระดับสถานศึกษาและ ความตอ้ งการของชุมชนในการพัฒนาสถานศึกษาใหม้ ากกว่านี้ เพ่ือพัฒนาสถานศึกษาและชุมชนใหเ้ ป็นชุมชน แห่งการเรยี นรูไ้ ปดว้ ยกนั
8 ผลสาเร็จตามภาระงาน/เป้าหมาย ด้านผู้เรยี น ผู้เรียนมีความรูค้ วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการเรียนรูม้ ีความสามารถในการใช้ คอมพิวเตอรพ์ ืน้ ฐานทุกคน รวมทงั้ นกั เรียนมีเปา้ หมายในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ ทงั้ ทางดา้ นสายสามญั และสายอาชพี โดยเฉพาะ โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา เป็นสถานศกึ ษาท่มี ีการผลิตนกั เรียนสายอาชีพทางดา้ นสาขา ช่างเช่ือมโลหะ สาขาคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ สาขาบญั ชี สามารถสง่ เสริมอาชีพและการศกึ ษาต่อในระดบั ท่ีสงู ขนึ้ ไปได้ และมีการจัดโครงการทดสอบฝีมือแรงงานของนกั เรียนประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.3) สาขาช่างเช่ือม เพ่ือให้ มีมาตรฐานและเขา้ สู่ตลาดแรงงานได้ เช่น มีการสอบเขา้ ทางานต่างประเทศ (ประเทศญ่ีป่ ุน) หรือส่งเสริมให้ นกั เรยี นสอบศกึ ษาต่อโดยใชท้ ุนของวิทยาลยั เทคโนโลยยี านยนตโ์ ตโยตา้ สถานประกอบการอ่นื ๆ และไดศ้ กึ ษาต่อ ทุกคนตามตอ้ งการ ส่วนทางดา้ นสายสามญั ม.3 และ ม.6 มีการศึกษาต่อ ในระดบั ท่ีสงู ขึน้ และบางส่วนสามารถ ออกมาประกอบอาชพี ท่ตี นเองสนใจได้ ดา้ นจัดการเรยี นการสอน ครูมีคุณธรรมจริยธรรม และปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ครูมีความมุ่งม่ันและอุทิศตนใน การสอนและพัฒนาผูเ้ รียน ครูมีวุฒิภาวะทางการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าขึน้ ไป ครูสอนตรงตาม วิชาเอก-โท หรือตรงตามความถนัด เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ และเน้นการจัดการเรียนการสอนท่ีสอดคลอ้ งกับ กระบวนการเรียนรูใ้ นศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการบริหารและการจดั การศกึ ษา ผบู้ ริหารมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและปฏิบตั ิตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ผบู้ รหิ ารมีความคิดริเร่มิ มีวิสยั ทศั น์ เป็นผนู้ าทางวชิ าการ บรหิ ารโดยยดึ หลกั ธรรมาภิบาล ด้านการพัฒนาชุมชนแห่งการเรยี นรู้ สถานศกึ ษามีการร่วมมือกนั ระหว่างชุมชน องคก์ รทางศาสนา สถาบนั ทางวิชาการและองคก์ รภาครฐั และ เอกชน เพ่ือพัฒนาวิถีการเรียนรูใ้ นชุมชน เป็นแหล่งวิทยากรในการแสวงหาความรูแ้ ละบริการชุมชน มีการ แลกเปล่ยี นเรยี นรูร้ ว่ มกนั ใหม้ สี ว่ นรว่ มในการพฒั นาสถานศกึ ษาและชว่ ยเหลือสถานศกึ ษา (3) ผู้ส่งมอบและพันธมติ ร (Suppliers and PARTNERS) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาม่งุ จดั การศกึ ษาใหบ้ รรลเุ ป้าหมายสาคญั คือ นกั เรียนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนตาม จุดมุ่งหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง 2561) หลักสูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) ปรบั ปรุงพุทธศักราช 2560 และผูม้ ีส่วนได้ส่วนเสียโดยอาศัยความร่วมมือจาก ผสู้ ง่ มอบ พนั ธมติ รและผใู้ หค้ วามรว่ มมือ ดงั นี้ ผู้ส่งมอบ โรงเรียนได้พิจารณาคัดเลือกองค์กรท่ีมีความสามารถเฉพาะมาสนับสนุนช่วยเหลือให้การจัด การเรียนรูใ้ หม้ ีประสทิ ธิภาพท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ สานกั งานพัฒนาฝีมอื และสมรรถนะแรงงาน ไดท้ าขอ้ ตกลงท่ีจะร่วมมือ กับโรงเรียนในการฝึกอบรมโครงการยกระดับเพิ่มศักยภาพฝีมือและสมรรถนะแรงงาน และสถานประกอบการ อ่ืน ๆ รบั นกั ศกึ ษาประสบการณ์ โดยมีคณะกรรมการท่ีโรงเรียนแต่งตงั้ ขึน้ ทาหนา้ ท่ีกากบั ติดตาม ตรวจสอบ และ ประเมินผลการปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลงของผสู้ ง่ มอบ และรายงานผลทกุ ภาคเรียน
9 โรงเรียนไดจ้ ดั ทาขอ้ ตกลงความร่วมมือกับองคก์ รการศึกษา เพ่ือการแลกเปลี่ยนเรียนรูแ้ ละความร่วมมือใน การพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาท่สี าคญั ไดแ้ ก่ วทิ ยาลยั เทคนิคจงั หวดั สรุ นิ ทร์ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน คือ ส่วนราชการอาเภอพนมดงรัก องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ สานักงานศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตสรุ นิ ทร์ โรงเรียนมีองคก์ รท่ีใหค้ วามร่วมมือและช่วยเหลือโรงเรียนท่ีสาคัญ ไดแ้ ก่ เครือข่ายผูป้ กครองและครูโรงเรียน พนมดงรกั วิทยา เครือข่ายศิษยเ์ ก่าโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา หวั หนา้ ส่วนราชการ หน่วยงานรฐั วิสาหกิจ ผบู้ รหิ าร องค์กรส่วนท้องถ่ินและกานันตาบลในเขตอาเภอพนมดงรัก สานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ วิทยาลยั เทคนิคจงั หวดั สรุ นิ ทร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ นิ ทร์ เป็นตน้ โรงเรียนมีการจัดการหลักสูตรท่ีตอบสนองความตอ้ งการของผูเ้ รียน ผูป้ กครองและชุมชน จัดครูผูส้ อนตรง ตามสาขาวิชาทกุ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 2. สภาวการณข์ ององคก์ ร (Organizational Situation) ก. สภาพแวดลอ้ มของการแขง่ ขัน (Competitive Environment) (1) ลาดบั ในการแข่งขัน (Competitive Position) 1. ไดร้ บั รางวัลเหรียญทอง ชนะเลิศ 100 คะแนน จากการแข่งขันประดิษฐ์ของใชจ้ ากวัสดธุ รรมชาติ ในทอ้ งถ่ิน ระดบั ชนั้ ม.4-6 งานศลิ ปหตั ถกรรมนกั เรยี นระดบั ชาติ ปีการศกึ ษา 2560 2. ได้คะแนนเฉลี่ยวิชาคณิตศาสตรเ์ พิ่มขึน้ 4.73 % จากผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ขนั้ พืน้ ฐาน (O-NET) ปีการศกึ ษา 2561 เพ่ิมขึน้ รอ้ ยละ 3 3. เขา้ รว่ มการประกวดการแตง่ คาขวญั /สโลแกน รณรงค์ คา่ นิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ โครงการ วนั เดก็ แหง่ ชาติ เด็กดมี ีคณุ ธรรม The Idol สะเรน็ ประจาปีการศกึ ษา 2562 4. ไดร้ บั รางวัลการประกวดภาพถ่าย “แต่งกายไทย สไตลส์ ุรินทร”์ โครงการวันเด็กแห่งชาติ เด็กดี มีคณุ ธรรม The Idol สะเรน็ ประจาปีการศกึ ษา 2562 (2) การเปลยี่ นแปลงความสามารถในการแขง่ ขนั (Competitiveness Changes) ความเปล่ียนแปลงท่ีมีผลกระทบต่อสภาพการแข่งขนั ของโรงเรียน โครงสรา้ งหลกั สูตรเปิดสอนรายวิชาท่ี คลา้ ยคลึงกันของโรงเรียนอ่ืน ๆ ท่ีใกลเ้ คียง โดยคานึงถึงความถนัดและความตอ้ งการของผูร้ บั บริการและชมุ ชน เช่น หลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ซ่ึงส่งเสริมสนับสนุนด้านทักษะอาชีพเพ่ือการมีงานทา สรา้ งความเช่ือม่นั ใหก้ บั ผเู้ รียนและผูป้ กครองเพ่มิ มากขนึ้ ใหค้ วามสาคญั กบั การยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน และระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียนใหม้ ีประสทิ ธิภาพ โดยมีการออกเย่ยี มบา้ นนกั เรยี นครบ 100% (3) แหล่งข้อมลู เชิงเปรียบเทยี บ (Comparative Data) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาเทียบเคียงกบั โรงเรียนกาบเชิงวิทยา มีขอ้ มลู และสารสนเทศเชิงเปรียบเทียบและ เชิงแข่งขนั ในดา้ นการศึกษาจากแหลง่ ขอ้ มลู สาคญั ไดแ้ ก่ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน (สพฐ.) สถาบนั ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) สานักงานประเมินและรบั รองคณุ ภาพการศึกษาองคก์ รมหาชน (สมศ.) สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษาสรุ นิ ทร์ การแขง่ ขนั ทกั ษะ ทางวชิ าการในระดบั จงั หวดั ระดบั เขต พนื้ ท่กี ารศกึ ษา ระดบั ภาค และระดบั ประเทศ
10 ข. บรบิ ทเชิงกลยุทธ์ (Strategic Context) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาระบุความทา้ ทายเชิงกลยุทธ์และความไดเ้ ปรียบเชิงกลยุทธ์ท่ีสาคัญ ดา้ นการจัด การหลกั สตู ร ดา้ นปฏบิ ตั ิการ ดา้ นความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมและดา้ นทรพั ยากรบคุ คลของโรงเรียน ดงั ตารางท่ี 6 ตารางท่ี 6 แสดงความทา้ ทายเชิงกลยทุ ธข์ องโรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา ความทา้ ทายเชงิ กลยทุ ธ์ สง่ิ ทท่ี า้ ทาย ด้านการจดั การหลกั สตู ร 1. นกั เรียนมผี ลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ นั้ พนื้ ฐาน O-NET และ V-NET มีค่าเฉลยี่ สงู กวา่ ระดบั จงั หวดั ทกุ รายวชิ า ทงั้ ม.3 ม.6 และ ปวช.3 2. มีจานวนหลกั สตู รท่หี ลากหลายใหเ้ ลอื กเรียนตามความตอ้ งการของนกั เรยี น ระดบั ใน ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 2 แผนการเรยี น 3. นกั เรยี นมีผลการเรยี นในรายวชิ า การศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง (Independent Study : IS) ทงั้ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ในระดบั ผลการเรียน 3 ขนึ้ ไป ดา้ นการปฏบิ ตั กิ าร 1. โรงเรียนดาเนนิ งานตามระบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา 2. โรงเรยี นมกี ารบรหิ ารจดั การ โดยใชก้ ระบวนการ PROUD MODEL มีกากบั นเิ ทศ ติดตามอยา่ งเป็นระบบ ด้านความรับผิดชอบ 1. โรงเรียนมงุ่ ม่นั พฒั นานกั เรยี นใหอ้ อกสสู่ งั คมอย่างมคี ณุ ภาพ ต่อสงั คม 2. สง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ ม รบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 1. ครูพฒั นาตนเองดา้ นวชิ าการอย่างนอ้ ย คนละ 40 ช่วั โมงตอ่ ปี รอ้ ยละ 80 ดา้ นทรัพยากรบคุ คลของ 2. ครู รอ้ ยละ 100 มผี ลงานวจิ ยั เพ่อื พฒั นาการเรยี นการสอนทกุ ปีการศกึ ษา โรงเรยี น ค. ระบบการปรับปรุงผลการดาเนินงาน (Performance Improvement System) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา มีรูปแบบการบรหิ ารจดั การคณุ ภาพการศึกษาท่ีพฒั นาขึน้ ช่ือว่า “การบรหิ ารจดั การ คุณภาพการศึกษาของโรงเรียนพนมดงรักวิทยาโดยใชร้ ูปแบบ PROUD MODEL” ซ่ึงอาศัยแนวคิดทฤษฎี เชงิ ระบบ คอื ปัจจยั นาเขา้ กระบวนการ และผลผลิต โดยแต่ละองคป์ ระกอบจะมี 3 ส่วนย่อย ดังนี้ ดา้ น ปัจจัยนาเขา้ ประกอบดว้ ย 3 ทีม ไดแ้ ก่ ทีมผูบ้ ริหาร โรงเรียน ทีมครู และทีมคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานและผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกระบวนการ ประกอบดว้ ย การบรหิ าร การนิเทศติดตาม และการ เรียน การสอนท่ีเช่ือมโยงกับภารกิจงานและการมี ส่วนร่วมทกุ ภาคส่วน และดา้ นผลผลิต ประกอบดว้ ย คณุ ภาพของโรงเรียนและทีมบุคคล และคณุ ลกั ษณะ ท่ีพึงประสงค์ของนักเรียน มีลักษณะเป็ นผัง ความสมั พนั ธ์ ดงั ภาพท่ี 3 ภาพท่ี 3 ผงั ความสมั พนั ธก์ ารบรหิ ารจดั การคณุ ภาพการศกึ ษา ของโรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา โดยใชร้ ูปแบบ PROUD MODEL
11 หมวด 1 การนาองคก์ ร (Leadership) โรงเรยี นไดด้ าเนินการโดยกลมุ่ บรหิ ารโรงเรียนกาหนดนโยบาย สง่ เสรมิ สนบั สนนุ มีการกากบั ติดตามดว้ ย ระบบนิเทศภายในสถานศกึ ษา เพ่อื ใหเ้ กิดการพฒั นาอย่างตอ่ เน่ืองและย่งั ยืน ตามภาพท่ี 4 ภาพท่ี 4 กระบวนการทางานดว้ ยวงจรการควบคมุ คณุ ภาพ 1.1 การนาองคก์ รโดยผู้นาระดับสงู (Senior Leadership) การดาเนนิ การของกลมุ่ บรหิ ารโรงเรียนท่เี ป็นผนู้ าองคก์ รระดบั สงู ในการกาหนดวิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ และค่านยิ ม การสื่อสารและผลการดาเนินการของโรงเรียน แบบมีส่วนร่วมโดยใช้เทคนิคการประชุมชีแ้ จงการประชุม เชงิ ปฏบิ ตั ิการ การประชมุ สมั มนา ศกึ ษา วิเคราะห์ ทบทวน พฒั นางานท่เี กี่ยวขอ้ งอยา่ งต่อเน่ือง ก. วสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ และค่านิยม (Vision, Mission and Values) (1) วสิ ัยทัศน์ พันธกจิ และค่านิยม (Vision, Mission and Values) ผูอ้ านวยการ รองผูอ้ านวยการ และผูช้ ่วยผูอ้ านวยการ (อา้ งอิงจากคาส่งั สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษา มธั ยมศึกษาสรุ ินทร์ ท่ี 337/2562 ลงวนั ท่ี 27 กนั ยายน 2562) มีบทบาทในการขบั เคลื่อนการกาหนดวิสยั ทศั นข์ อง โรงเรียน ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผรู้ บั บริการ และกระตนุ้ ให้บคุ ลากร ม่งุ ม่นั ท่ีจะปฏิบตั ิงานโดยรูปแบบ PROUD Model โดยอาศยั แนวคิดทฤษฎีเชิงระบบคือปัจจยั นาเขา้ (Input) กระบวนการ (Process) และผลผลิต (Output) โดยองคป์ ระกอบหลกั ท่สี มั พนั ธข์ องคา่ นิยม PROUD ประกอบดว้ ย P - Perception การรบั รู้ เขา้ ใจถงึ สภาพปัญหา/ บรบิ ท/ โครงการ R - Realization ตระหนกั ถงึ สภาพปัญหา/บริบท/โครงการ O - Operation ลงมอื ทาใหเ้ กิดผล U - Unity รว่ มมือจนเป็นหนง่ึ เดียว D - Durable เกดิ ผลท่ีย่งั ยืน เพ่ือส่งผลให้ระบบบรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม เป็นภาพความสาเร็จท่ีต้องการในอนาคตของ โรงเรียน ตามภาพท่ี 5
12 แตง่ ตงั้ คณะกรรมการดาเนินงาน ประชมุ เชงิ ปฏิบตั กิ ารเพ่ือวิเคราะหข์ อ้ มลู วิเคราะห์ SWOT กลมุ่ สาระฯ และกลมุ่ งาน กาหนดเปา้ หมายของโรงเรยี น คดั เลอื กเปา้ หมายเพื่อกาหนดภาพความสาเร็จ กาหนดวิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ และคา่ นยิ ม ประกาศวิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ และคา่ นิยม จดั ทาแผนพฒั นาการศกึ ษาระยะ 5 ปี ทบทวนวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจและคา่ นิยม ภาพท่ี 5 การกาหนดวิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ และค่านิยม จากภาพ การกาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจและค่านิยมของโรงเรียนซ่ึงมีกระบวนการสาคัญ ๆ เร่ิมจาก กล่มุ บริหารแต่งตงั้ คณะกรรมการดาเนินงานประชุมเชิงปฏิบัติการ เพ่ือรวบรวมขอ้ มูลพืน้ ฐานของโรงเรียน เช่น นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายของสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานนโยบายและจดุ เนน้ ของสานกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษาสรุ นิ ทร์ ความคาดหวงั และความต้องการของนกั เรียนและผมู้ ีสว่ นได้ สว่ นเสีย ทบทวนภารกิจของโรงเรียนโดยดสู รุปผลการดาเนินงานของโรงเรียนท่ีผ่านมา มีการประชุมกล่มุ บริหาร ครู และบคุ ลากร เพ่ือวิเคราะหศ์ กั ยภาพโรงเรียน เช่น อตั รากาลงั ครูและบุคลากร ขอ้ มลู นกั เรียน แหล่งเรียนรู้ และ ผลการทดสอบการศกึ ษาระดบั ชาติขนั้ พนื้ ฐาน (O-NET) ท่สี ง่ ผลตอ่ การพฒั นาโรงเรยี นในอนาคต นามมุ มองของ ทกุ คนมาเช่ือมโยง กาหนดเปา้ หมายของโรงเรียนและจดั ลาดบั ความสาคญั เพ่อื กาหนดเป็นวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกจิ และ ค่านิยม นาวิสยั ทศั น์ พันธกิจ และค่านิยม เขา้ ส่กู ารพิจารณาเลือกเป้าหมายและกาหนดภาพความสาเร็จ โดย คณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน เครือข่ายศิษยเ์ ก่า เครือข่ายผปู้ กครอง เพ่ือรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นและ ปรบั ปรุงแกไ้ ขใหส้ มบรู ณ์ โรงเรียนประกาศวิสยั ทศั น์ พันธกิจและค่านิยม เพ่ือใหค้ รู บุคลากร นกั เรียน รวมถึงผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสียทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียนทราบ เขา้ ใจ เกิดความเช่ือม่นั และยอมรบั ในการนาวิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ และคา่ นิยมไป เป็นทิศทางในการจัดการศึกษาดว้ ยช่องทางท่ีหลากหลาย เช่น จดหมายจากโรงเรียนถึงผูป้ กครอง วารสาร
13 ปา้ ยนิเทศ การประชมุ ครูประจาเดือน การประชมุ ผปู้ กครอง Webpage โรงเรียน เป็นตน้ จากนนั้ นาไปสกู่ ารจดั ทา แผนพฒั นาการศกึ ษาระยะ 5 ปี และแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปีงบประมาณ หลงั จากนาสกู่ ารปฏบิ ตั ิแลว้ กลมุ่ บรหิ าร ไดม้ ีการทบทวนผล การปฏบิ ตั ิงานทกุ ๆ ปี หากมีการเปล่ยี นแปลงบรบิ ทท่เี ก่ียวขอ้ งจะดาเนินการปรบั ปรุงวสิ ยั ทศั น์ พันธกิจและค่านิยมทุก 5 ปี ใหเ้ หมาะสมตามสภาพการณป์ ัจจุบนั ในการทางานของโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา เน้นการทางานเป็นทีมและเน้นการเขา้ ใจ ยอมรบั และการมีส่วนร่วมของผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย ในทุกขั้นตอนของ การปฏิบตั ิงาน โดยมีหลกั ในการทางานร่วมกันว่า “ร่วมคิด ร่วมทา ร่วมรบั ผิดชอบ” และเน้นการพัฒนาอย่าง ต่อเน่ือง ดงั ปรากฏในโครงร่างองคก์ รมาใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพของงาน เพ่ือใหก้ ารปฏิบตั ิงานบรรลเุ ป้าหมายท่ี วางไวอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ (2) การสง่ เสริมการประพฤตปิ ฏิบตั ติ ามกฎหมาย และการประพฤติปฏิบัติอย่างมีจรยิ ธรรม (Promoting Legal and Ethical Behavior) กลุ่มบริหารของโรงเรียนตระหนักถึงความสาคัญของการปฏิบัติตามกฎหมาย มีจริยธรรม หากครูและ บุคลากรละเลยประเด็นดา้ นกฎหมายและจริยธรรมอาจนามาซ่ึงขอ้ ขดั แยง้ ในองคก์ ร แลว้ อาจส่งผลต่อนักเรียน และผูม้ ีส่วนได้ส่วนเสีย ดังนัน้ กลุ่มบริหารต้องดารงตนตามกฎหมายและจรรยาบรรณครูอย่างเคร่งครัดเป็น แบบอย่างท่ีดีแก่ผูใ้ ตบ้ งั คับบญั ชา มีการสรา้ งบรรยากาศในการทางานเพ่ือส่งเสริมใหม้ ีการปฏิบตั ิตามกฎหมาย และจรยิ ธรรม (3) การสร้างโรงเรยี นทป่ี ระสบผลสาเร็จ (Creating a Successful Organization) เพ่ือใหอ้ งคก์ รประสบความสาเร็จ กลุ่มบริหารซ่ึงนาโดยผูอ้ านวยการโรงเรียน มีการสรา้ งบรรยากาศ เพ่ือพัฒนาให้ประสบผลสาเร็จ บรรลุตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ และวัตถุประสงค์ ผ่านแผนพัฒนาการศึกษา พ.ศ. 2563 - 2565 ถ่ายทอดส่แู ผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ 2563 ดาเนินการอย่างต่อเน่ือง ตลอดจนได้ ทบทวนประเมินโครงการตามแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ 2563 ยอ้ นกลบั ไปสู่แผนพัฒนาการศึกษา พ.ศ. 2563 -2565 อยา่ งเป็นขนั้ ตอน ตามภาพท่ี 6 ดงั นี้ ภาพท่ี 6 กระบวนการสรา้ งบรรยากาศเพ่อื ประสบผลสาเรจ็ จากภาพ ดาเนินงานและกิจกรรมดงั นี้ 1. การสรา้ งบรรยากาศเพ่อื ใหเ้ กิดการปรบั ปรุงผลการดาเนินการ 1.1 ประชมุ กลมุ่ บรหิ ารและหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ย่างสม่าเสมอ
14 1.2 ประชุมเพ่ือกระจายอานาจการตดั สินใจไปยงั หวั หนา้ งาน หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ในเรื่องการแบ่ง หนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบเวรประจาวนั ระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรียน การนิเทศชนั้ เรียน การตรวจเย่ียมชนั้ เรียน และ เพ่มิ ช่องทางรบั ฟังความคิดเห็นจากครูและบคุ ลากรใหม้ ากขึน้ 2. สรา้ งบรรยากาศเพ่ือใหเ้ กิดวฒั นธรรมการปฏิบตั งิ านของครูและบคุ ลากร โดยผบู้ รหิ ารไดใ้ หค้ วามสาคญั กบั การสรา้ งวฒั นธรรมการปฏิบตั ิงานของครูและบุคลากรของโรงเรยี น เพราะเป็นปัจจยั สาคญั ท่ีจะทาใหโ้ รงเรียนเกิด การพฒั นาอย่างย่งั ยืน โดยกาหนดแนวทางเสรมิ สรา้ งและพฒั นาองคก์ รท่ีตอ้ งการ ไดแ้ ก่ การมงุ่ ม่นั พฒั นาคณุ ภาพ การเรียนการสอน และระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรียน เครือข่ายผปู้ กครอง การวดั ผลประเมินผลการปฏิบตั ิงานของ ครูและบคุ ลากร โดยใชน้ วตั กรรมบรหิ ารจดั การโรงเรียนทงั้ ระบบดว้ ยกระบวนการ PROUD Model ซ่งึ การวดั ผล ประเมินผลจะทาอยา่ งต่อเน่อื งเพ่ือพฒั นาบคุ ลากร 3. พฒั นาบรรยากาศเพ่ือใหเ้ กิดการเรียนรูใ้ นระดบั บคุ คลและระดบั โรงเรียนโดยผบู้ รหิ ารจดั การพฒั นาความรู้ ความสามารถในการปฏิบตั ิงานของครูและบุคลากร โดยจดั อบรมใหค้ วามรูแ้ ละทกั ษะการปฏบิ ตั ิงาน การศกึ ษาดู งาน การนิเทศภายใน โดยเนน้ การนิเทศแบบกลั ยาณมิตร เพ่ือรบั ทราบปัญหาและใหค้ าแนะนาในการปฏิบตั ิงาน รวมทงั้ การสรา้ งขวญั และกาลงั ใจแก่ครูและบุคลากร ภายหลงั การนิเทศไดจ้ ัดใหม้ ีการประชมุ โดยผ่านชมุ ชนแห่ง การเรียนรูท้ างวิชาชีพ (PLC) แลกเปลี่ยนเรียนรูว้ ิธีการปฏิบตั ิท่ีเป็นเลิศของแต่ละบคุ คล และกล่มุ สาระการเรียนรู้ เพ่อื เป็นแบบอยา่ งและพฒั นาไปสนู่ วตั กรรมขององคก์ รตอ่ ไป 4. ประเมิน/ทบทวน เพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะความเป็นผนู้ าใหก้ บั ครูและบคุ ลากร โดยผบู้ ริหารโรงเรียนไดก้ าหนด หลกั เกณฑใ์ หม้ ีการปรบั เปล่ียนหมุนเวียนตาแหน่งหนา้ ท่ีของหัวหนา้ งาน หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้า ระดบั โดยกาหนดวาระการดารงตาแหน่งไว้ เพ่อื ใหค้ รูและบุคลากรเกิดการเรียนรูแ้ ละมองเห็นภาพรวมขององคก์ ร อย่างชัดเจน ซ่ึงจะช่วยใหเ้ กิดการเช่ือมโยงของแต่ละงานและเป็นการพัฒนาครูและบุคลากรเพ่ือเป็นผู้นาใน อนาคตต่อไป สง่ ผลใหอ้ งคก์ รมีความย่งั ยืน นอกจากนีก้ ลุ่มบริหารไดเ้ สนอแนะความรู้ วิธีการใหม่ ๆ ท่ีไดร้ บั จากการเรียนรูม้ าทบทวน เพ่ือเป็นปัจจัยหรือ โอกาสสาหรบั การปรบั ปรุงใหบ้ รรลตุ ามวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจ และคา่ นยิ มขององคก์ ร สรา้ งความย่งั ยืนใหก้ บั โรงเรียน ข. การส่อื สารและผลการดาเนินการของโรงเรียน (Communication and Organizational PERFORMANCE) (1) การส่ือสาร (Communication) การส่ือสารและการสรา้ งความผูกพันกับบุคลากรในโรงเรียน กล่มุ บริหารมีวิธีการติดต่อสื่อสารกบั ครูและ บุคลากร นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน โดยเน้นการสื่อสารแบบสองทางเพ่ือชีแ้ จงนโยบาย ข่าวสาร ผลการดาเนินงาน และรบั ฟังความคิดเห็น ประชาสมั พนั ธไ์ ปยงั บคุ ลากร นกั เรียน ผรู้ บั บรกิ าร ตลอดจนผมู้ ีส่วนได้ ส่วนเสีย และเปิดโอกาสใหค้ รูและบุคลากรสามารถเขา้ พบผูบ้ ริหาร เพ่ือเสนอรายงานหรือปรึกษาหารือเกี่ยวกบั การปฏิบัติงาน มีการประสานงานร่วมกันกระตุ้นใหเ้ กิดการส่ือสารอย่างตรงไปตรงมา มีทัศนคติใหม่ ๆ ใน การดาเนินงาน มีการประชุมครูและบุคลากรเป็นประจาทุกเดือน ตลอดจนการประชุมแบบไม่เป็นทางการ การสนทนา การนิเทศ ติดตาม รบั ทราบขอ้ มลู นาไปปรบั ปรุงการบริหารจดั การองคก์ ร เปิดช่องทางรบั ขอ้ มลู ผ่าน Facebook อเี มล ไลน์ อยา่ งต่อเน่อื ง
15 (2) การทาให้เกดิ การปฏบิ ัตอิ ยา่ งจริงจงั (Focus on Action) กลุ่มบริหารมีวิธีการดาเนินการเพ่ือให้ครูและบุคลากรมุ่งเน้นการปฏิบัติงานอย่างจริงจัง ปรับปรุง กระบวนการทางาน นาไปส่กู ารสรา้ งนวตั กรรมใหม่ ๆ เพ่ือบรรลวุ ิสยั ทัศนข์ องโรงเรียน โดยใชก้ ระบวนการสื่อสาร ถ่ายทอดวิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ และเปา้ ประสงค์ สแู่ ผนพฒั นาการศึกษา พ.ศ. 2563 - 2565 และแผนปฏิบตั ิการประจาปี งบประมาณ 2563 ตามโครงการและกจิ กรรม โดยมีกระบวนการปฏบิ ตั ิงานเพ่อื ใหเ้ กิดผลลพั ธ์ ตามภาพท่ี 7 ดงั นี้ ภาพท่ี 7 กระบวนการม่งุ เนน้ การปฏิบตั ิงาน จากภาพ การม่งุ เนน้ การปฏิบตั ิงานโดยใชก้ ระบวนการ PROUD Model เพ่ือใหค้ รูและบุคลากรปฏิบตั ิงาน บรรลวุ ิสยั ทศั นข์ องโรงเรียน ผบู้ รหิ ารขบั เคลื่อนการปฏิบตั ิงานอย่างจรงิ จงั โดยนานโยบายการปฏิบตั ิงาน กลยุทธ์ และจุดเนน้ ของสานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษาสรุ นิ ทร์ วิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ และเป้าประสงคข์ องโรงเรียน ความคาดหวงั ของผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย จดั ทาคาส่งั แต่งตงั้ คณะกรรมการดาเนินงาน ประชุมชีแ้ จงมอบหมายงาน ระดบั กลมุ่ บรหิ ารงาน กลมุ่ งาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ กาหนดแนวทางวิธีการตรวจสอบ ประเมนิ ผล การปฏบิ ตั ิงาน และดาเนินงานตามโครงการ/กิจกรรม ตามแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ 2563 ของโรงเรียน กากบั ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล โดยแตง่ ตงั้ คณะกรรมการในการนเิ ทศตรวจสอบประเมนิ ผล วเิ คราะหผ์ ลการดาเนินงาน และทบทวนแนวทางการดาเนินงาน นาเสนอปัญหา ขอ้ เสนอแนะ เม่ือสิน้ สดุ ปีการศกึ ษานามาปรบั ปรุงแกไ้ ขหรือ พฒั นาใหบ้ รรลวุ ิสยั ทศั นข์ องโรงเรยี น 1.2 การกากับดแู ลองคก์ รและความรับผิดชอบตอ่ สังคม (Governance and Societal Responsibilities) ก. การกากบั ดูแลโรงเรยี น (Organizational GOVERNANCE) (1) ระบบการกากับดแู ลโรงเรยี น (GOVERNANCE System) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา มีกระบวนการการกากบั ดแู ลองคก์ ร ใชห้ ลกั กระจายอานาจและการบริหาร โดย ม่งุ เนน้ ผลงานเชิงกลยุทธต์ ามโครงสรา้ งการบริหารท่ีมีกล่มุ บริหารกากบั ดแู ลกล่มุ บริหารงาน กล่มุ งาน และกล่มุ สาระการเรียนรู้ โดยใชก้ ระบวนการ PROUD Model เป็นเคร่อื งมอื กากบั ดแู ล ตามภาพท่ี 8 ดงั นี้
16 ภาพที่ 8 ระบบการกากบั ดแู ลโรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา จากภาพ ระบบการกากับดูแลโรงเรียนพนมดงรักวิทยา ตามโครงสร้างการบริหารท่ีมีกลุ่มบริหาร ทาหนา้ ท่ีกากบั ดแู ล กลมุ่ บริหารงาน กล่มุ งาน และกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ งานแผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา ระยะ 5 ปี และแผนปฏิบตั ิการงบประมาณประจาปี โดยมีมาตรฐานการปฏิบตั ิงานเป็นเป้าหมายของการวัดผล ประเมนิ ผล และตามกระบวนการ PROUD Model เพ่อื นาไปสกู่ ารปฏิบตั ิโดยมีผูร้ บั ผิดชอบกากบั ดแู ล การวดั ผล การดาเนนิ การดา้ นประสทิ ธิผล ตามตวั ชวี้ ดั ความสาเรจ็ ตามประเดน็ กลยทุ ธ์ (2) การประเมินผลการดาเนินการ (PERFORMANCE Evaluation) การประเมินผลการปฏิบตั ิงานโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา ผบู้ รหิ ารมีการสรุปผลการดาเนินการต่อท่ีประชมุ ครู และบุคลากร และท่ีประชุมระดับกลุ่มบริหารงาน พรอ้ มรบั ฟังความคิดเห็น และรายงานผลการดาเนินการต่อ ผเู้ กี่ยวขอ้ งตามภาระงาน โดยมีขนั้ ตอน ดงั นี้ 1) มีแบบประเมินและเกณฑก์ ารประเมินมอบใหผ้ ูเ้ กี่ยวขอ้ งประเมินบุคลากรในสายงานท่ีไดร้ บั การ แต่งตงั้ จากกลมุ่ บริหารงานบุคคล มีวิธีการจดั การกบั ผลการปฏิบตั ิงานของบุคลากรผ่านตามระดับสายงาน โดย แต่ละสายงานมีการวางแผนการคดั เลือกบคุ ลากรท่มี ผี ลการปฏิบตั งิ านจากการจดั ทาเอกสารประกอบการประเมิน ดคู วามถี่ของการพิจารณารบั ความดีความชอบ รวบรวมขอ้ มลู วิเคราะหผ์ ลการประเมนิ และลาดบั ผลการประเมิน 2) รายงานผบู้ รหิ าร ผบู้ ริหารรว่ มคดั กรองอีกครง้ั และพิจารณาตดั สินความดีความชอบการประเมนิ ผล การปฏิบตั ิงานทุกกลุ่มงาน มีการประเมินปีละ 2 ครงั้ คือ ช่วงเดือนกันยายน สิน้ ภาคเรียนท่ี 1 และช่วงเดือน มีนาคม สนิ้ ปีการศกึ ษา 3) รวบรวมขอ้ มลู ทงั้ หมดและดาเนนิ การตามขนั้ ตอนโดยกลมุ่ บรหิ ารงานบคุ คล 4) กลุ่มบริหารงานบุคคลจะนาข้อมูลของปีท่ีผ่านมาเป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขให้เกิด ความพงึ พอใจและมีคณุ ภาพ เท่ยี งตรงในการจดั ทาแบบประเมินผลการปฏิบตั ิงานในปีถดั ไป
17 ข. การประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตามกฎหมายและมจี ริยธรรม (Legal and ETHICAL BEHAVIOR) (1) การประพฤตปิ ฏบิ ัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคบั (Legal and Regulatory Behavior) ผู้บริหารเป็ นแบบอย่างท่ีดีในการประพฤติปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ มี การบริหารงานโดยยึดหลักธรรมาภิบาล มีการประชุม ชี้แจง การปฏิบัติตน การปฏิบัติงาน ตามแผนงาน จรรยาบรรณวิชาชีพ แนวทางการจดั การศึกษาตามนโยบายในการประชุม ไดม้ ีการสรา้ งบรรยากาศในการทางาน ดว้ ยค่านิยมองคก์ ร รูร้ กั สามัคคี ช่ืนชมใหก้ าลงั ใจ ยกย่อง แสดงความยินดี ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของบุคลากร นกั เรียนกบั หน่วยงานต่าง ๆ เช่น จงั หวดั อาเภอ หน่วยงานจากกระทรวงต่าง ๆ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน เพ่ือ พัฒนาทักษะชีวิตให้มีคุณภาพออกสู่สังคม ซ่ึงมีกระบวนการส่งเสริมการประพฤติปฏิบัติตามกฎหมาย และ ระเบยี บขอ้ บงั คบั ดงั นี้ 1) จัดทาคาส่งั แต่งตั้งคณะกรรมการดาเนินงานจากผูท้ ่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ ง ประกอบดว้ ย ผูบ้ ริหารกล่มุ บรหิ ารงานทงั้ 4 กลมุ่ และคณะทางาน 2) มคี ณะทางานรวบรวมกฎหมายและระเบียบขอ้ บงั คบั ต่าง ๆ จดั ทาเป็นเอกสาร/ไฟลง์ านเพ่อื ขยายผล 3) ใชก้ ารส่ือสารแบบสองทิศทาง ไดแ้ ก่ แจง้ ในวาระการประชุมครูและบุคลากรเป็นประจาทุกเดือน หนงั สือเวียน วารสาร ค่มู ือโรงเรียน ไลน์ Facebook และ Webpage ของโรงเรียน เพ่ือใหค้ รูและบุคลากรรบั ทราบ และนาไปปฏบิ ตั ิ 4) วางแผนเชิงรุก จัดกิจกรรมสนับสนุน ได้แก่ จัดอบรมเพิ่มเติม ศึกษาดูงาน ประชุมสัมมนา จัด กิจกรรมยกย่องเชิดชูเกียรติเสรมิ แรงกบั ครูและบุคลากรใหไ้ ดร้ บั การดแู ลเอาใจใสจ่ ากทางโรงเรียนอย่างเสมอภาค และยตุ ธิ รรม (2) การประพฤตปิ ฏบิ ตั อิ ย่างมจี รยิ ธรรม (ETHICAL BEHAVIOR) โรงเรียนกาหนดมาตรการ กระบวนการ ตวั ชีว้ ดั และเปา้ ประสงคใ์ นการบรหิ ารจดั การในการดาเนนิ การและ การใหบ้ ริการของโรงเรียน และกากับใหบ้ ุคลากรทางานใหถ้ ูกต้องตามระเบียบ ขอ้ บงั คับ หลักจริยธรรมและ จรรยาบรรณวิชาชีพ การแต่งตงั้ คณะกรรมการติดตามประเมินผลในคาส่งั งานต่าง ๆ การประเมินความพึงพอใจ ของผปู้ กครองต่อการบรหิ ารงานของโรงเรียน การประเมินความพงึ พอใจของนกั เรียนต่อการจดั กิจกรรมการเรียน การสอนของครู และ/หรือขอ้ รอ้ งเรยี นของผปู้ กครองจากการสรุปผลการประชมุ ผปู้ กครองในแต่ละภาคเรียนเป็นตน้ โดยมกี ระบวนการตามภาพท่ี 9 ดงั นี้
18 / ภาพท่ี 9 แสดงกระบวนการสง่ เสรมิ ใหเ้ กิดการปฏิบตั อิ ย่างมจี รยิ ธรรม โรงเรียนมีกระบวนการสง่ เสรมิ ใหเ้ กิดการปฏิบตั ิอย่างมีจริยธรรม โดยสง่ เสริมใหค้ รูและบคุ ลากรปฏิบตั ิตน อย่างมคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในฐานะตน้ แบบท่ีดี และสง่ เสรมิ นกั เรียนเขา้ ค่ายคณุ ธรรมเพ่ือเป็นตน้ แบบนกั เรียนท่ี มีจรยิ ธรรม ตามโครงสรา้ งระบบกากบั ดแู ลโรงเรยี น โรงเรยี นมีการประชมุ /อบรมบุคลากรในโรงเรยี นใหป้ ระพฤติปฏิบตั ิตามกฎหมายและมีจริยธรรม สอดแทรก คุณธรรม จริยธรรมในหลักสูตรสถานศึกษา เพ่ือให้ครูได้นาไปจัดการเรียนรูใ้ ห้สอดคล้องตามคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ โดยมีกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนเป็นผูด้ ูแลพฤติกรรมนักเรียน ประชุมวางแผน และออกคาส่งั มอบหมาย ครูท่ีปรึกษาไดป้ ลูกฝังและอบรมคุณธรรม จริยธรรมใหแ้ ก่นักเรียน ส่งเสริมและกากับดูแลเพ่ือให้ บุคลากรประพฤติตน ตามกฎหมายและจริยธรรม กลุ่มบริหารงานบุคคลจะตักเตือนและตัดสินความผิด และ ทาบนั ทกึ รอ่ งรอยพฤติกรรมท่ีแสดงลกั ษณะความผิดรายงานไปยงั คณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน ประชุม แลกเปลย่ี น เพ่อื ปรบั ปรุงและพฒั นาใหป้ ฏิบตั ไิ ดถ้ กู ตอ้ ง รายงานผลการปฏบิ ตั ิ เพ่อื เป็นแบบอย่างต่อไป ค. ความรับผดิ ชอบต่อสังคม (Societal Responsibilities) (1) ความผาสุกของสงั คม (Societal Well-Being) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา ไดด้ าเนินการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายของ สพฐ. และ นโยบายของสานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาสรุ ินทร์ เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของชุมชน โดย โรงเรียนไดก้ าหนดองคป์ ระกอบความรบั ผิดชอบต่อสงั คมและการสนบั สนนุ ชมุ ชนของโรงเรียน ประกอบดว้ ย 1) ความผาสุกของสังคม โรงเรียนได้ดาเนินการในด้านต่าง ๆ เพ่ือให้สังคมเกิดความผาสุก ดา้ นการศกึ ษา ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม
19 2) การสนบั สนนุ ชมุ ชน โรงเรียนไดส้ นบั สนนุ ชมุ ชนในดา้ นตา่ ง ๆ เช่น บรกิ ารดา้ นการศกึ ษา บรกิ ารดา้ น อาคารสถานท่ี บรกิ ารดา้ นกิจกรรมชมุ ชน ทงั้ นีโ้ รงเรยี นไดแ้ ตง่ ตงั้ คณะกรรมการดาเนินงานตามองคป์ ระกอบต่าง ๆ ผ่านการทบทวนกากับและประเมินผลการดาเนินงานโดยใช้กระบวนการ PROUD Model เพ่ือปรับปรุง พฒั นาการดาเนนิ งานตอ่ ไป โรงเรยี นพนมดงรกั วทิ ยา มรี ะบบของความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมในมมุ กวา้ งใน 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ 1) ดา้ นการศกึ ษา ภารกจิ หลกั ของโรงเรยี นสอดคลอ้ งกบั เปา้ หมายของชมุ ชน คอื การพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ี ความรู้ ค่คู ณุ ธรรม เป็นทรพั ยากรมนษุ ยท์ ่ีมีคณุ ค่าของสงั คมคือบุตรหลานของบุคคลในชมุ ชน โรงเรียนและชมุ ชน จึงมีความสมั พันธเ์ ชิงร่วมมือ โดยโรงเรียนม่งุ ม่ันพฒั นาคุณภาพการจัดการเรียนการสอน ส่วนชุมชนมีบทบาท สนบั สนนุ ภารกิจของโรงเรียน 2) ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม โรงเรียนกาจัดขยะมลู ฝอยภายในและรอบ ๆ บริเวณโรงเรียน มีการคัดแยกขยะ ตามโครงการธนาคารขยะ เพ่อื ไมใ่ หเ้ กิดผลกระทบตอ่ ชมุ ชนโดยรอบ 3) ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรมโรงเรียนร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชนเพ่อื สบื สานประเพณีวฒั นธรรมไทย เช่น ร่วมกิจกรรมวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีลอยกระทง แห่เทียนเขา้ พรรษา การบรจิ าคโลหติ วนั สารทเดอื นสิบ และกิจกรรมจิตอาสาต่าง ๆ เป็นตน้ (2) การสนับสนุนชุมชน (Community Support) คณะกรรมการบริหารโรงเรียนได้ดาเนินการ เพ่ือพัฒนาและสนับสนุนชุมชน พรอ้ มทั้งใหบ้ ริการชุมชน เพ่ือสรา้ งความผูกพันและกาลังใจ สาหรบั การขับเคล่ือนงานไดม้ ีการบูรณาการร่วมกันหลายฝ่ ายท่ีมีแนวทาง การปฏิบตั ิอยา่ งชดั เจน ดงั นี้ 1) ประชมุ ผบู้ รหิ าร คณะกรรมการสถานศกึ ษา ครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา เพ่อื วางแผนในการช่วยเหลือ ชมุ ชนท่ีเหมาะสมในดา้ นวิชาการ โดยการจดั อบรมใหค้ วามรู้ และการสนบั สนุนวิทยากร ดา้ นอาคารสถานท่ี โดย ใหค้ วามอนเุ คราะหก์ ารใชส้ นามกีฬา อาคารเรียน หอประชุมแก่หน่วยงานอ่ืน ๆ ดา้ นกิจกรรมชมุ ชน โดยการร่วม กจิ กรรมงานประเพณีต่าง ๆ เชน่ งานประเพณีวนั สงกรานต์ วนั ลอยกระทง และดา้ นบรกิ ารสาธารณประโยชน์ เชน่ โครงการจิตอาสาของนกั เรียน ครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา 2) จดั ทาโครงการท่เี หมาะสมและสอดคลอ้ ง เพ่อื ใชใ้ นการสนบั สนนุ การดาเนนิ งานของชมุ ชน 3) ประเมนิ นเิ ทศ และติดตามผลของการดาเนนิ โครงการ 4) สรุปผลการดาเนินโครงการ เพ่ือทาการพัฒนา ปรบั ปรุง และเผยแพร่ต่อไป มีตัวชีว้ ัดท่ีสาคัญ คือ ความพงึ พอใจของผปู้ กครองต่อชมุ ชนและสงั คม
20 หมวด 2 กลยทุ ธ์ (Strategy) 2.1 การจดั ทากลยุทธ์ (Strategy Development) ก. กระบวนการจดั ทากลยทุ ธ์ (Strategy Development PROCESS) (1) กระบวนการวางแผนกลยทุ ธ์ (Strategy Planning PROCESS) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา มีการจัดทาแผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2563 – 2565) โดยการมีส่วนรวมของ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทา ได้แก่ ตัวแทนนักเรียน ตัวแทนผู้ปกครอง ตัวแทนชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐานของโรงเรียน ตวั แทนสมาคมผปู้ กครองและครู เครือข่ายผปู้ กครองและศิษย์ เก่า นกั เรยี น ซ่งึ มกี ระบวนการในการจดั ทาแผนพฒั นาการศึกษาและการนากลยทุ ธไ์ ปปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ ข้ันตอนท่ี 1 การเตรียมการ ไดม้ ีการแต่งตงั้ คณะกรรมการดาเนินงานจัดทาแผนพฒั นาการศึกษา ประกอบดว้ ย คณะกรรมการบริหารโรงเรียน คณะครูและบุคลากรทุกคน ไดป้ ระชุมปรึกษาหารือ เพ่ือทบทวน รวบรวมขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยนาขอ้ มลู จาก ยุทธศาสตรช์ าติ นโยบายของสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษา ขนั้ พืน้ ฐาน มาตรฐานการประเมนิ คณุ ภาพภายนอกของสานกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา มาตรฐานของโรงเรียนมาตรฐานสากล มาตรฐานการปฏิบตั ิงานโรงเรียนมธั ยมศึกษา กลยุทธส์ านกั งานเขตพืน้ ท่ี การศกึ ษามธั ยมศึกษาสรุ ินทร์ สภาพแวดลอ้ มและแนวโนม้ ทางการศึกษาของโรงเรียน ขอ้ มลู นกั เรียน ขอ้ คิดเ ห็น ของผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสีย ขอ้ มลู การเงิน การใหบ้ ริการเปรียบเทียบกบั ค่แู ข่งขนั สภาวะเศรษฐกิจและสงั คม เพ่ือเป็น ขอ้ มลู ในการวางแผน กลยทุ ธข์ องโรงเรยี น ข้ันตอนที่ 2 การทบทวนกลยุทธ์ โดยคณะกรรมการไดว้ ิเคราะหค์ วามตอ้ งการความคาดหวงั ของ ผรู้ บั บริการและผมู้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย โรงเรียนไดม้ ีการจดั รบั ฟังความคิดเห็น ความตอ้ งการจากนกั เรียนและผมู้ ีสว่ น ไดส้ ่วนเสียจากการประชมุ ภาคี 4 ฝ่าย การประชุมผปู้ กครอง มีการรบั ฟังความคิดเห็นของนกั เรียน กล่องรบั ความ คิดเห็น จดหมาย และทางโทรศัพท์ เพ่ือใหท้ ราบความตอ้ งการและความคาดหวงั ของผรู้ บั บริการและผมู้ ีส่วนได้ สว่ นเสีย รวมถึงรบั ทราบความคิดเห็นต่อการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรียนผ่านระบบออนไลน์ และผ่าน เว็บไซตข์ องโรงเรียน จากนนั้ วิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มขององคก์ ร (SWOT Analysis) ประกอบดว้ ย การประเมิน สภาพแวดลอ้ มภายนอก และการประเมินสภาพแวดลอ้ มภายใน เพ่ือใหท้ ราบถึงจุดแข็ง (Strength–S) จุดอ่อน (Weakness–W) โอกาส (Opportunity–O) และอปุ สรรค (Threat-T) จากนนั้ ทาการทบทวนแผนกลยุทธ์เดิม จากผลการดาเนินงานท่ีผ่านมา เพ่ือใหท้ ราบจุดเด่น โอกาส ทั้งภายนอกและภายใน ของแผนพฒั นาการศึกษา เพ่อื นาไปพฒั นาต่อยอด และทราบถึง จดุ ดอ้ ย อปุ สรรค เพ่อื นามาปรบั ปรุงแกไ้ ข นาขอ้ มลู ทงั้ หมดไปกาหนดความ ทา้ ทายและความไดเ้ ปรียบเชงิ กลยทุ ธ์ ข้ันตอนที่ 3 การวางแผนกลยุทธ์ จดั ประชมุ เชิงปฏิบตั ิการคณะกรรมการดาเนินงาน เพ่ือนาผลท่ีได้ จากการวิเคราะหข์ อ้ มลู สารสนเทศ และวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มขององคก์ ร (SWOT Analysis) ความทา้ ทาย และความไดเ้ ปรียบเชิงกลยุทธ์ มากาหนดวิสยั ทัศน์ (Vision) พันธกิจ (Mission) เป้าประสงค์ (Goals) และ กลยุทธ์ (Strategy) ของโรงเรียน นามากาหนดเป็นวัตถุประสงคเ์ ชิงกลยุทธ์ เพ่ือทบทวนความสมดุล ความ เช่ือมโยงของ กลยทุ ธ์ จากนนั้ นาเสนอและขออนมุ ตั จิ ากคณะกรรมการสถานศกึ ษา
21 ขั้นตอนท่ี 4 การนากลยุทธส์ ู่การปฏิบัติ จากท่โี รงเรยี นไดจ้ ดั ทาแผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2563– 2565) แลว้ นั้น เพ่ือให้สามารถนากลยุทธ์สู่การปฏิบัติได้ โดยการจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 แผนบริหารงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ ท่ีสอดคลอ้ งกนั ใหส้ ามารถดาเนินงานตามแผนงานท่ี กาหนดได้ โดยทกุ กลมุ่ งาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ จดั ทาโครงการใหส้ อดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาการศกึ ษาของโรงเรียน พร้อมกาหนดรายละเอียดด้านต่าง ๆ เช่น ด้านงบประมาณ ตัวชี้วัดและเป้าหมาย ผู้รับผิดชอบ ระยะเวลา ในการดาเนนิ งานใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายของตวั ชวี้ ดั ขั้นตอนที่ 5 การติดตามและประเมินผล โดยการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลกลยุทธท์ ่ีนาไป ปฏิบตั ิ เพ่ือใหท้ ราบถึงปัญหาอุปสรรคและแนวทางการแกไ้ ขและเสนอแนะแนวทางแกไ้ ข เพ่ือใหแ้ น่ใจว่ากลยุทธ์ นนั้ จะกอ่ ใหเ้ กิดผลการปฏิบตั งิ านท่ีตรงตามแผนท่ีไดต้ งั้ ไวห้ รือไมใ่ นการกาหนดกรอบเวลาการวางแผนของโรงเรียน นัน้ แผนพัฒนาการศึกษาระยะ 3 ปี คือ แผนพัฒนาการศึกษาโรงเรียน พ.ศ. 2563 – 2565 ส่วนแผนระยะสั้น มีระยะ 1 ปี คอื แผนปฏบิ ตั ิการประจาปีและแผนบรหิ ารงบประมาณ ซง่ึ กาหนดตามปีงบประมาณ (2) นวตั กรรม (Innovation) โรงเรยี นพนมดงรกั วทิ ยา มกี ารจดั ทานวตั กรรมดว้ ยกระบวนการ PDCA-TPSpr Model ดงั นี้ 1. ขั้นการวางแผน (Plan : P) โรงเรียนมีคาส่ังแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทานวัตกรรมโดยอาศัย แนวคิดทฤษฎีเชิงระบบคือปัจจยั นาเขา้ (Input) กระบวนการ (Process) และผลผลิต (Output) โดยองคป์ ระกอบ หลกั ท่ีสมั พนั ธก์ บั ทฤษฎเี ชงิ ระบบ 3 Main Teams หรือ ทีมหลกั ซ่งึ ประกอบดว้ ย ทีมผบู้ ริหารโรงเรียน ทีมครู และ ทีมคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐานและผทู้ รงคณุ วฒุ ิ มีประชุมเชิงปฏิบตั ิการ เพ่ือกาหนดโอกาสเชิงกลยุทธ์ (Strategy Opportunity) จากกระบวนการ SWOT Analysis ไดโ้ อกาสเชิงกลยุทธท์ ่ีสาคญั คือ ผเู้ รียนมีความรู้ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการเรียนรูม้ ีความสามารถในการใชค้ อมพิวเตอรพ์ ืน้ ฐานทุกคน ครูมีคุณธรรมจริยธรรมและปฏิบตั ิตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ครูมีความม่งุ ม่นั และอทุ ิศตนในการสอนและ พัฒนาผูเ้ รียน ครูมีวุฒิภาวะทางการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าขึน้ ไป ครูสอนตรงตามวิชาเอกหรือ ตรงตามความถนดั ครูมีความสามารถในการจดั การเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพและเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั สถานศึกษามีการร่วมมือกันระหว่างชุมชน องคก์ รทางศาสนา สถาบนั ทางวิชาการและองคก์ รภาครฐั และเอกชน เพ่ือพัฒนาวิถีการเรียนรูใ้ นชุมชน เป็นแหล่งวิทยากรในการแสวงหาความรูแ้ ละบริการชุมชน มีการแลกเปลี่ ยน เรียนรูร้ ่วมกัน มีการพัฒนาองคก์ ารนกั เรียน เครือข่ายผูป้ กครอง และองคก์ ารชุมชน ใหม้ ีส่วนร่วมในการพัฒนา สถานศึกษา และช่วยเหลือสถานศึกษาอย่างต่อเน่ือง จึงได้นาประเด็นความเสี่ยงรอบด้าน คือ ด้านสังคม วฒั นธรรม ดา้ นเทคโนโลยี ดา้ นเศรษฐกิจ ดา้ นการเมือง ทาใหโ้ รงเรียนเลือกโอกาสกลยทุ ธท์ ่สี าคญั คือ ดา้ นพฒั นา ผู้เรียนด้านวิชาการและทักษะทางวิชาชีพ ด้านพัฒนาครูให้มีศักยภาพในการจัดการเรียนรู้ตอบสนองต่อ การเปลี่ยนแปลง ดา้ นหลกั สตู รสถานศกึ ษาตามกลมุ่ ศกั ยภาพผเู้ รียนตอบสนองต่อการเปล่ียนแปลงในศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการนอ้ มนาศาสตรพ์ ระราชาส่กู ารพฒั นาระบบบรหิ ารจดั การอย่างมีคณุ ภาพ และดา้ นการส่งเสรมิ พฒั นา ระบบภาคีเครือข่าย โดยเน้นการปฏิบัติตามบทบาทหน้าท่ีของครูและบุคลากรทางการศึกษาในรูปแบบ 3 Partnerships หรือ หุน้ ส่วน ในส่วนของกระบวนการ (Process) ประกอบดว้ ย การบริหาร การนิเทศติดตาม การดาเนินงานตามแผนงาน โครงการและการเรียนการสอนท่ีบรู ณาการเช่ือมโยงกบั ภารกิจงานและการมสี ว่ นร่วม
22 ทกุ ภาคส่วน และมีการติดตามผล 3 Success หรือ ความสาเร็จ ประกอบดว้ ย คณุ ภาพของโรงเรียน คณุ ภาพของ ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา และคณุ ภาพของผเู้ รยี น และ pr (Proud) ความพงึ พอใจของผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสียของ ทกุ ภาคสว่ น pr ภาพท่ี 10 ขนั้ ตอนการจดั ทานวตั กรรมของโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา 2. ขั้นปฏิบัติการตามแผน (Do : D1) ออกแบบนวตั กรรม จากการรวบรวมขอ้ มลู นามาสกู่ ารสรา้ ง นวัตกรรมของโรงเรียน คือ การบริหารจัดการโรงเรียนทัง้ ระบบ ดว้ ยกระบวนการ PDCA-TPSpr ประกอบดว้ ย 3 Main Teams หรือ ทีมหลกั ซ่ึงประกอบดว้ ย ทีมผูบ้ ริหารโรงเรียน ทีมครู และทีมคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพืน้ ฐานและผู้ทรงคุณวุฒิ 3 Partnerships หรือ หุน้ ส่วน ในส่วนของกระบวนการ (Process) ประกอบด้วย การบริหาร การนิเทศติดตาม และการเรียนการสอนท่ีเช่ือมโยงกับภารกิจงานและการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน 3 Success หรือ ความสาเร็จ ประกอบดว้ ย คณุ ภาพของโรงเรียนและทีมบุคคล และคณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงคข์ อง นกั เรียน 3. ข้ันปฏิบัติการตามแผน (Do : D2) สรา้ งนวัตกรรม โดยจัดทานวัตกรรมตามโครงสรา้ งและ รูปแบบท่กี าหนดไว้ ดงั ภาพท่ี 11
23 ภาพท่ี 11 การบรหิ ารจดั การโรงเรียนทงั้ ระบบดว้ ยกระบวนการ PDCA-TPSpr 4. ข้นั ปฏบิ ตั ิการตามแผน (Do : D3) นาไปปฏิบตั ิ โดยผบู้ รหิ ารนาเสนอนวตั กรรมการบรหิ ารจดั การ โรงเรียนทงั้ ระบบดว้ ยกระบวนการ PDCA- TPSpr ในท่ีประชุมใหบ้ ุคลากรทุกคนไดร้ บั ทราบ เขา้ ใจในนวัตกรรม แลว้ นาไปใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอนและการบรหิ ารจดั การใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สดุ 5. ขั้นการตรวจสอบ (Check : C) ติดตามและประเมินผล ผบู้ ริหาร หวั หนา้ งาน หวั หนา้ กล่มุ สาระ การเรียนรู้ ดาเนินการติดตามการใชน้ วัตกรรมเพ่ือกากับดูแล อานวยความสะดวกและช่วยแก้ไขปัญหาระหว่าง ดาเนนิ งาน และเม่ือดาเนินการเสรจ็ บคุ ลากรทุกคนตอ้ งทาการสรุปและประเมินผลการนานวัตกรรมไปปฏิบตั ิ 6. ขั้นการปรับปรุงการดาเนินการ (Action : A) นาผลการประเมินไปปรบั ปรุงพัฒนา แลว้ นา นวตั กรรมไปปฏบิ ตั ิ (3) การวเิ คราะหแ์ ละกาหนดกลยุทธ์ (Strategy Considerations) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีกระบวนในการวิเคราะหแ์ ละกาหนดกลยทุ ธข์ องโรงเรียน โดยการใช้ PROUD Model ดงั นี้ 1. วางแผน/รวบรวมข้อมูล (P Perception เข้าใจถึงสถาพปั ญหา บริบท โครงการ) โดย การวิเคราะหข์ อ้ มลู สารสนเทศ จากการ SWOT Analysis ขอ้ มลู ความคาดหวงั ความตอ้ งการของผรู้ บั บรกิ ารและ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย 2. กาหนดกลยุทธ์ (R Realization ตระหนักถึงปัญหา บริบท โครงการ) โดยการจดั ประชุมเชิง ปฏิบตั กิ ารในการจดั ทากลยทุ ธข์ องโรงเรยี นโดยการมีสว่ นรว่ มของบุคลากรทกุ คน 3. การนากลยุทธ์สู่การปฏิบัติ (O Operation ลงมือทาให้เกิดผล) โดยการนากลยุทธท์ ่ีไดจ้ าก การประชมุ เชิงปฏิบตั ิการไปตรวจสอบความเหมาะสมของกลยุทธ์ เพ่ือยืนยนั และสรา้ งความม่นั ใจวา่ เป็น กลยทุ ธ์
24 ท่ีดี มีความครอบคลมุ และสอดคลอ้ งกบั เป้าประสงค์ พันธกิจ และวิสยั ทัศนข์ องโรงเรียน โดยความร่วมมือของ ทกุ ภาคสว่ น (Unity ร่วมมอื จนเป็ นอันหน่ึงอนั เดยี วกนั ) 4. การปรับปรุงและนากลยุทธไ์ ปใช้ (D Durable เกิดผลทย่ี งั ยืน) โดยผบู้ รหิ ารโรงเรียนไดป้ ระชมุ ชแี้ จงใหบ้ คุ ลากรทกุ คนไดร้ บั ทราบ มคี วามเขา้ ใจและนากลยทุ ธไ์ ปใชไ้ ดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ (4) ระบบงานและสมรรถนะหลกั ของโรงเรียน (WORK SYSTEMS and CORE COMPETENCIES) โรงเรียนพนมดงรักวิทยาโดยการนาของผู้บริหารและคณะกรรมการบริหารโรงเรียนร่วมกันกาหนด แนวคิดและออกแบบระบบงาน (WORK SYSTEMS) โดยคานึงถึงสมรรถนะหลักของโรงเรียน (CORE COMPETENCIES) โดยมขี นั้ ตอน ดงั นี้ 1) กาหนดความตอ้ งการ (P) ของนกั เรียนและผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสีย วิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ สมรรถนะหลกั 2) ออกแบบและจดั ทาขอ้ กาหนดของระบบงาน (D) 3) ถา่ ยทอดสบู่ คุ ลากรและวพิ ากษร์ ว่ มกนั โดยการประชมุ เชงิ ปฏิบตั ิการ (C) 4) ปรบั ปรุงตามขอ้ วพิ ากษ์ ไดร้ ะบบงานท่ีปรบั ปรุงแลว้ (A) 5) ตงั้ ระบบงานสู่กระบวนการปฏิบตั ิ (A) ถ่ายทอดสู่บุคลากรทงั้ โรงเรียน โดยการสรา้ งความเข้าใจ เบอื้ งตน้ ในการประชมุ เชงิ ปฏิบตั กิ าร 6) ติดตาม ทบทวนจากผลการประเมินภายนอกของ สมศ. เพ่ือประเมินความสามารถในการแข่งขนั ตามขั้นตอนการวางแผนและการกาหนดกลยุทธ์ท่ีสอดคลอ้ งกับสมรรถนะสาคัญ (A) ดังนัน้ จึงไดร้ ะบบงาน 2 ระบบ คือ 1) ระบบการเรียนการสอน 2) ระบบสนับสนุน และมี 4 ปัจจัยเพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนใหบ้ รรลผุ ล สาเร็จ ไดแ้ ก่ เทคโนโลยี สภาพแวดลอ้ ม งบประมาณ และการบริหารจัดการดว้ ยระบบคณุ ภาพ โดยจดั ทาเป็น คมู่ ือประกนั คณุ ภาพภายในของโรงเรยี น ข. วตั ถุประสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธ์ (STRATEGIC OBJECTIVES) (1) วัตถุประสงคเ์ ชิงกลยทุ ธท์ ส่ี าคญั (KEY STRATEGIC OBJECTIVES) โรงเรยี นมีการกาหนดวตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงกลยทุ ธต์ ามท่รี ะบไุ วใ้ นแผนกลยทุ ธ์ 3 ปี ดงั นี้ 1. ออกแบบ/วางแผนเพ่ือวิเคราะหแ์ ละรวบรวมขอ้ มูลเพ่ือใชใ้ นการจดั ทาวตั ถุประสงคเ์ ชิงกลยทุ ธ์ (P) ไดแ้ ก่ วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจ เปา้ ประสงค์ กลยทุ ธ์ และสมรรถนะหลกั ของโรงเรียน 2. กาหนดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ (D) โดยใช้แนวคิด Balanced Scorecard และนาข้อมูลจาก นโยบายของ สพฐ. มาตรฐานการประเมนิ ผลภายนอกของ สมศ. มาตรฐานของโรงเรียนมาตรฐานสากล มาตรฐาน การปฏิบตั ิงานโรงเรียนมัธยมศึกษา กลยุทธส์ านักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาสุรินทร์ มาวิเคราะหเ์ ป็น วิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ และสมรรถนะหลกั ของโรงเรียน ไปส่ชู ุดของการวดั ผลสาเรจ็ ของกลยุทธ์ และระบบการจดั การ ซง่ึ จะพิจารณาออกเป็น 4 มติ ิ 3. จดั ทาแผนท่กี ลยทุ ธ์ (Strategy Map) (D) เพ่อื ยนื ยนั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเปา้ ประสงคเ์ ชิงกลยทุ ธ์ มาตรฐานการศึกษากับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ของโรงเรียน ซ่ึงจากการจัดทาแผนพัฒนาการศึกษา โรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา ไดเ้ ปา้ ประสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธม์ าตรฐานการศกึ ษา ทงั้ หมด 29 ขอ้ ดงั ภาพท่ี 12
25 15 2 12 29 ภาพท่ี 12 แผนผงั เปา้ ประสงคเ์ ชิงกลยทุ ธม์ าตรฐานการศกึ ษา โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา 4. กาหนดตวั ชีว้ ัด ค่าเปา้ หมาย และกรอบระยะเวลาเพ่ือใชใ้ นการวดั ผลความสาเรจ็ ของเป้าประสงค์ เชิงกลยุทธ์ (D) โดยมีกรอบเวลาระยะยาว 3 ปี ตามแผนพฒั นาการศึกษา และกรอบเวลาระยะสนั้ คือ 1 ปี ตาม แผนปฏิบตั กิ ารประจาปีงบประมาณ 5. กระจายตัวชีว้ ัดใหผ้ ูร้ บั ผิดชอบ พรอ้ มทงั้ กาหนดแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ตวั ชีว้ ัดของโครงการ/ กิจกรรม ระยะเวลาและงบประมาณใหส้ อดคลอ้ ง (D) 6. ดาเนินการตามแผน ตดิ ตามแผนจากผลการรายงานตวั ชวี้ ดั พรอ้ มทงั้ ปรบั ปรุงแกไ้ ข (C and A) (2) การพิจารณาเป้ าประสงค์เชิงกลยุทธ์ (STRATEGIC OBJECTIVES Considerations) มีขนั้ ตอนดงั นี้ 1. กาหนดกรอบในการพิจารณาเป้าประสงค์เชิงกลยุทธ์ โดยประเด็นท่ีต้องพิจารณา ได้แก่ การตอบสนองความทา้ ทายเชิงกลยทุ ธ์ การใชป้ ระโยชนจ์ ากสมรรถนะหลกั ของโรงเรียน ความไดเ้ ปรียบเชงิ กลยุทธ์ และโอกาสเชิงกลยทุ ธ์ ความสมดลุ ระหว่างกรอบเวลาระยะสน้ั ระยะยาว สรา้ งความสมดลุ ระหว่างความตอ้ งการ ของผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสีย 2. ทบทวนกระบวนการท่เี ก่ียวขอ้ งกบั การไดม้ าซง่ึ เปา้ ประสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธ์ ตามประเด็นท่กี าหนด 3. วิเคราะหข์ อ้ มูล จากการวิเคราะหข์ อ้ มูลท่ีไดจ้ ากการทบทวนกระบวนการดาเนินงานท่ีเก่ียวข้อง พบว่า เป้าประสงคเ์ ชิงกลยุทธข์ องโรงเรียนไดต้ อบสนองต่อความทา้ ทาย รวมถึงมีการนาผลจากการวิเคราะห์ SWOT พบว่าโอกาสท่ีสาคัญของโรงเรียน ไดแ้ ก่ ครูมุ่งเน้นการจัดการเรียนรูท้ ่ีเนน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคัญ ชุมชนให้ ความร่วมมือ ผูป้ กครองเห็นความสาคญั ของการศึกษา โดยการส่งนกั เรียนมาเรียนเพิ่มขึน้ และโรงเรียนอยู่ใกล้ แหลง่ เรียนรู้ รวมทงั้ นาสมรรถนะหลกั ของโรงเรียน คือ พฒั นาหลกั สตู รตามความตอ้ งการของนักเรียนและชุมชน จดั การเรียนรูย้ ึดผเู้ รียนเป็นสาคญั และการบรหิ ารจดั การแบบมีส่วนรว่ ม นามากาหนดผลท่ีเกิดกบั โรงเรียนทงั้ ใน
26 ระยะสน้ั และระยะยาว เพ่ือตรวจสอบความสมดลุ ระหว่างวตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงกลยุทธก์ บั โอกาสและความทา้ ทายให้ เกิดความสมดุล โดยได้ดาเนินการตามขั้นตอนการจัดทาแผนพัฒนาการศึกษาเป็นประจาทุกปี โดยจัดใหม้ ี การระดมสมองจากคณะครู ผบู้ รหิ ารทงั้ หมดของโรงเรียนรว่ มพิจารณากล่นั กรองความเหมาะสมจงึ ทาใหม้ ่นั ใจว่า เปา้ ประสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธ์ 29 ขอ้ ครอบคลมุ กลยทุ ธ์ ทงั้ 5 ประเด็นกลยทุ ธ์ 4. ประเมินผลเป้าประสงคเ์ ชิงกลยุทธ์ โดยการประเมินผลการดาเนินการจากตวั ชีว้ ัดท่ีกาหนดไวต้ าม แผนงาน/โครงการ/กจิ กรรม พรอ้ มทงั้ ปรบั ปรุงแกไ้ ข 2.2 การนากลยทุ ธไ์ ปปฏิบัติ (Strategy Implementation) ก. การจดั ทาแผนปฏิบตั กิ ารและการถ่ายทอดสู่การปฏิบตั ิ (ACTION PLAN Development and DEPLOYMENT) (1) การจดั ทาแผนปฏิบัติการ (ACTION PLAN Development) การจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ โรงเรียนได้ดาเนินการ เพ่ือขับเคลื่อนขั้นตอนตาม แผนพฒั นาการศกึ ษา พ.ศ. 2563 – 2565 โรงเรยี นพนมดงรกั วทิ ยาดงั นี้ ขนั้ ตอนท่ี 1 การเตรียมการ วางแผน กล่มุ บริหารและคณะกรรมการทุกฝ่ ายท่ีเก่ียวขอ้ งใหค้ วามเห็นชอบ ทิศทางกลยทุ ธแ์ ละเป้าประสงคเ์ ชิงกลยทุ ธ์ มีการแต่งตงั้ คณะทางานและประชุมเชิงปฏิบตั ิการขบั เคล่ือนกลยทุ ธส์ ู่ การปฏบิ ตั ิโดยการจดั ทาแผนปฏิบตั กิ ารประจาปีงบประมาณ โดยทกุ ฝ่ายรว่ มกนั จดั ทาแผนการใชจ้ า่ ยงบประมาณ เพ่ือการดาเนินโครงการ/กิจกรรม และจัดทาปฏิทินการปฏิบัติงานเพ่ือเป็นแนวทางในการวางแผนการจัดทา โครงการ/กจิ กรรม ขนั้ ตอนท่ี 2 การจดั ทาแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ และแผนการใชจ้ ่ายงบประมาณ บคุ ลากรในแต่ ละกล่มุ งาน กล่มุ สาระการเรียนรูจ้ ดั ทาโครงการใหส้ อดคลอ้ งกับกลยุทธ์ และการใชจ้ ่ายงบประมาณอย่างคมุ้ ค่า และใหเ้ กิดประสิทธิภาพสงู สดุ เสนอต่อคณะกรรมการบริหารโรงเรียนพิจารณาและใหข้ อ้ เสนอแนะในการแกไ้ ข ปรับปรุงโครงการ จัดทาร่างแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ ให้คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐาน เพ่อื พจิ ารณาความเหมาะสมของกิจกรรมหรือโครงการท่จี ะดาเนินการ แลว้ นาไปทบทวนปรบั ปรุงตามขอ้ เสนอแนะ หลังจากผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารโรงเรียนแลว้ จึงจัดทาแผนปฏิบัติการประจา ปีงบประมาณฉบบั สมบรู ณ์ ขนั้ ตอนท่ี 3 การนาแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ สกู่ ารปฏิบตั ิ จดั การประชมุ เพ่ือเผยแพรแ่ ผนปฏิบตั ิ การใหบ้ ุคลากรทุกคนทราบ แผนการใชจ้ ่ายงบประมาณ ปฏิบตั ิตามแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ และ ปฏบิ ตั กิ ารปฏิบตั งิ าน เพ่อื ใหก้ ารดาเนนิ งานบรรลตุ ามกลยทุ ธท์ ่วี างไว้ ขั้นตอนท่ี 4 การติดตามผล เพ่ือให้ทราบถึงปัญหาอุปสรรคและแนวทางการแก้ไข ก่อให้เกิดผล การปฏบิ ตั ิงานท่ีตรงตามแผนท่ตี งั้ ไว้ และเป็นขอ้ มลู สะทอ้ นกลบั ในการพฒั นา (2) การนาแผนปฏิบัติการไปปฏิบัติ (Action PLAN Implementation) โรงเรียนมีขนั้ ตอนในการนา แผนปฏบิ ตั ิการประจาปีงบประมาณ ไปปฏิบตั ิ ดงั นี้ 1. การเตรียมการปฏิบตั ิ โดยโรงเรียนมีการประชุมส่กู ารปฏิบตั ิใหเ้ กิดประสิทธิผลตามเป้าหมายและ ตวั ชวี้ ดั ความสาเรจ็
27 2. ดาเนินการตามแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ โดยผรู้ บั ผิดชอบโครงการดาเนินกิจกรรมตามท่ี กาหนดไวใ้ หบ้ รรลเุ ปา้ หมายและตวั ชวี้ ดั ความสาเรจ็ 3. ติดตามผลการปฏิบัติงาน โดยนายกสมาคมศิษยเ์ ก่า ประธานเครือข่ายผูป้ กครอง นายกสมาคม ผปู้ กครองและครู ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน คณะผบู้ รหิ าร งานแผนงาน งานประเมินโครงการ หวั หนา้ งาน/ฝ่าย หวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ และผรู้ บั ผิดชอบโครงการ รว่ มกนั ตดิ ตามผลการปฏบิ ตั ิงานอย่างต่อเน่ือง 4. ประเมินผลตามแผนปฏิบัติงาน เพ่ือใชเ้ ป็นขอ้ มูลยอ้ นกลับในการทบทวนกระบวนการปรบั ปรุง แผนพฒั นาการศกึ ษา พ.ศ. 2563 – 2565 โรงเรยี นพนมดงรกั วทิ ยาในปีถดั ไป และมีความเช่ือมโยงกบั ผลลพั ธ์ (3) การจัดสรรทรัพยากร (Resource Allocation) โรงเรียนพนมดงรักวิทยามีกระบวนการใน การจดั สรรทรพั ยากร ดงั นี้ 1. วิเคราะห์ปัจจัย โดยจัดประชุมจัดสรรทรัพยากรประจาปี ทบทวนการจัดสรรทรพั ยากร ทั้งดา้ น การเงิน บคุ ลากร และดา้ นต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การจดั การเรียนการสอนใหม้ ที รพั ยากรเพียงพอและสมดลุ เพ่ือให้ เกดิ ความเหมาะสมตอ่ การดาเนนิ โครงการ/กจิ กรรมท่ีจะดาเนินการจรงิ เพ่อื ใหป้ ฏบิ ตั งิ านไดต้ ามแผน 2. จัดทาแผนงานการจัดสรรทรพั ยากร ไดแ้ ก่ การจัดสรรอัตรากาลัง โดยการวิเคราะห์อัตรากาลัง ปัจจุบนั เพ่ือจดั สรรอตั รากาลงั และกาหนดภาระงานใหเ้ หมาะสม และมีการจดั สรรงบประมาณเงินรายไดส้ าหรบั จ้างบุคลากร เพ่ือไม่ใหก้ ระทบกับคุณภาพการจัดการเรียนการสอน การจัดสรรงบประมาณ มีการวิเคราะห์ จากการประเมินโครงการในปีท่ีผ่านมา และวิเคราะหป์ ระมาณการ รายรบั และรายจ่ายของโรงเรียนในอนาคต เพ่ือกาหนดโครงการ/กิจกรรมท่ีจะดาเนินการพร้อมจัดสรรงบประมาณ ดงั นนั้ โรงเรียนจึงมีการจัดการความเสี่ยง เร่ืองงบประมาณโดยการจดั สรรงบประมาณสารองไว้ รอ้ ยละ 10 สาหรบั กรณีมีเหตฉุ ุกเฉินจาเป็นตอ้ งใชเ้ งิน และ การสนับสนุนงบประมาณจากการระดมทรพั ยากรจากหน่วยงานอ่ืน เพ่ือใหเ้ กิดความม่ันใจว่าสามารถดาเนิน การตามแผนงานไดบ้ รรลผุ ลสาเรจ็ 3. รวบรวมแผนงาน/โครงการ/กจิ กรรม และวิเคราะหง์ บประมาณของทกุ ฝ่าย 4. ประชุมเชิงปฏิบตั ิการการจัดทาแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ เพ่ือร่วมกันจัดสรรทรพั ยากร ดา้ นการเงนิ และทรพั ยากรบคุ คล เพ่อื เสนอต่อคณะกรรมการบรหิ ารโรงเรยี น 5. กลมุ่ บรหิ ารแผนงานและงบประมาณประชาสมั พนั ธใ์ หบ้ ุคลากรและผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสียไดท้ ราบถึง งบประมาณท่ีไดร้ บั จดั สรร เพ่อื ใหแ้ ต่ละฝ่ายไดด้ าเนนิ โครงการตามแผนท่ีวางไว้ (4) แผนด้านบุคลากร (WORKFORCE Plans) เม่ือคณะกรรมการบริหารโรงเรียนอนุมัติกรอบวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ และประเด็นกลยุทธ์ แลว้ ฝ่ ายบริหารและงานแผนงาน จะดาเนินการถ่ายทอดใหก้ ลุ่มบริหาร/กลุ่มงาน/กลุ่มสาระการเรียนรูต้ ่าง ๆ ตาม 2.2 ก ขอ้ ท่ี 1 ดงั นนั้ เพ่อื ใหม้ ่นั ใจวา่ ทรพั ยากรดา้ นบุคลากรเพียงพอในการสนบั สนนุ ใหโ้ รงเรยี นบรรลวุ สิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจ เป้าประสงค์ และประเด็นกลยทุ ธท์ ่ีกาหนดไวใ้ นแผนพฒั นาการศกึ ษาปี 2563 - 2565 และในแผนปฏิบตั ิ การประจาปีงบประมาณ โรงเรียนจงึ มขี นั้ ตอนในการพฒั นาบคุ ลากร ดงั นี้ 1. เตรียมการพฒั นาบคุ ลากร โดยผบู้ ริหาร คณะกรรมการบริหารโรงเรียนและกลมุ่ บรหิ ารงานบุคคลมี การประชมุ เตรยี มการ การวเิ คราะหอ์ ตั รากาลงั เพ่อื ใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการวางแผนดา้ นบคุ ลากร
28 2. จดั ทาโครงการพฒั นาประสิทธิภาพการบริหารจดั การสถานศึกษา โดยกลมุ่ บรหิ ารงานบุคคลจัดทา แผนอตั รากาลงั เพ่ือเป็นกรอบในการสรรหา บรรจุแต่งตงั้ การจา้ งเหมาบุคลากรมาปฏิบตั ิงานสนบั สนนุ การเรียน การสอน และจดั ทาโครงการพฒั นาศกั ยภาพผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา เพ่อื สนบั สนนุ ในดา้ นการศกึ ษา อบรม เรียนรูเ้ พ่ิมเติม เพ่อื เพมิ่ ขีดความสามารถในงานท่เี กี่ยวขอ้ ง 3. ดาเนินการตามแผนโครงการเพ่ือใหเ้ พียงพอต่อความตอ้ งการ และดาเนินการพฒั นาบุคลากรตาม วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ 4. ประเมินโครงการทุกปี และนาขอ้ มูลมาวิเคราะหค์ วามเส่ียงดา้ นการดาเนินงานทรพั ยากรบุคคล เพ่ือใหก้ ารดาเนินงานเป็นไปอย่างต่อเน่ือง สอดคลอ้ งกบั วิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ เป้าประสงค์ และประเด็นกลยุทธข์ อง โรงเรยี นอย่างมีประสิทธิภาพ 5. นาข้อเสนอแนะจากการประเมินโครงการมาวิเคราะห์ เพ่ือปรับปรุงการพัฒนาบุคลากรใหเ้ ป็น ปัจจุบนั และตอบสนองต่อนโยบายทางการศึกษาท่ีอาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึน้ ได้ เพ่ือใหก้ ารดาเนินงานบรรลุ ตามวตั ถปุ ระสงคอ์ ย่างมีประสทิ ธิภาพ (5) ตัววดั ผลการดาเนินการ (PERFORMANCE MEASURES) โรงเรยี นพนมดงรกั วทิ ยามีขนั้ ตอน ดงั นี้ 1. ศึกษานโยบายจากหน่วยงานต้นสังกัดระดับชาติ ได้แก่ นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมประชาชาติฉบับท่ี 12 และแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2574 ระดับ จังหวัด ไดแ้ ก่ แผนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาจังหวัดสรุ ินทร์ 4 ปี (พ.ศ. 2561 - 2564) แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัด สุรินทร์ พ.ศ. 2560 – 2564 และแผนพัฒนาการศึกษาสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาเขต 33 (พ.ศ. 2560 - 2564) 2. ประชุมเพ่ือกาหนดตัวชีว้ ัดความสาเร็จตามประเด็นกลยุทธ์ โดยพิจารณาจากวิสยั ทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ อัตลักษณ์โรงเรียนและเอกลักษณ์ของโรงเรียน จากแผนพัฒนาการศึกษา พ.ศ. 2563 – 2565 โรงเรยี นพนมดงรกั วทิ ยา อาเภอพนมดงรกั จงั หวดั สรุ นิ ทร์ 3. ประชมุ เชิงปฏิบตั ิการเพ่อื ชีแ้ จงใหบ้ คุ ลากรทกุ คนทราบและแต่งตงั้ คาส่งั คณะกรรมการดาเนินงาน 4. ดาเนนิ การตามตวั ชวี้ ดั ใหส้ อดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาการศกึ ษา พ.ศ. 2563 – 2565 5. ประเมินโครงการทุกปีงบประมาณ สามารถตรวจสอบความสอดคลอ้ งส่งผลต่อความสาเรจ็ ทาให้ นโยบายถูกนามาปฏิบตั ิไดจ้ ริง มีการติดตามประเมินผลการปฏิบตั ิงานอย่างต่อเน่ืองและบรรลตุ ามเป้าหมายท่ี กาหนด (6) การคาดการณ์ผลการดาเนินการ (PERFORMANCE PROJECTIONS) โรงเรียนได้ มีการคาดการณผ์ ลการดาเนินงาน ดงั นี้ 1. การกาหนดประเด็นกลยุทธ์ในการคาดการณ์ผลการดาเนินงาน เพ่ือใชใ้ นการติดตามตัวชี้วัด ความสาเรจ็ ท่ีกาหนดในแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปีงบประมาณ ท่แี สดงใหเ้ ห็นถงึ ความสาเรจ็ ขององคก์ ร
29 2. ทบทวนผลการดาเนินงานของโรงเรียน จากผลการประเมิน ครง้ั ท่ีผ่านมาใชเ้ ป็นขอ้ มลู วิเคราะห์ แนวโนม้ ในการกาหนดตวั ชีว้ ดั ความสาเร็จตามประเด็นกลยทุ ธ์ เพ่ือคาดการณผ์ ลการดาเนินงานตามแผนพฒั นา การศกึ ษา พ.ศ. 2563 – 2565 โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา และแผนปฏบิ ตั ิการประจาปีงบประมาณ 3. กาหนดค่าเป้าหมายของตัวชี้วัดความสาเร็จ ความถี่ในการเก็บข้อมูล เพ่ือใช้ติดตามผล การดาเนินงาน โดยโรงเรียนได้มีการคาดการณ์ผลการดาเนินงานของโรงเรียนทั้งระยะส้ันซ่ึงกาหนดไว้ใน แผนปฏบิ ตั ิการประจาปีงบประมาณ และในแผนระยะยาวท่กี าหนดไวใ้ นแผนพฒั นาการศกึ ษา พ.ศ. 2563 – 2565 โรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา 4. กากับติดตามผลการดาเนินงานตามตัวชีว้ ัดความสาเร็จตามประเด็นกลยุทธ์ท่ีตัง้ ไว้ ถา้ หากผล การดาเนินงานไม่เป็นไปตามค่าท่ีตงั้ ไวอ้ าจคาดการณไ์ ดว้ ่าตวั ชีว้ ัดนนั้ อาจจะไม่ประสบผลสาเรจ็ ซ่งึ ผรู้ บั ผิดชอบ โครงการและผู้เกี่ยวข้องต้องรีบหาวิธีปรับปรุงและแก้ไขให้ตัวชี้วัดนั้นบรรลุผลตามท่ีคาดการณ์ไว้ โดยใน ปีงบประมาณ 2563 โรงเรียนมีผลการดาเนินงานท่ีพัฒนาขึน้ จากรอบปีงบประมาณท่ีผ่านมา โดยสามารถ พิจารณาไดจ้ ากการประเมินโครงการท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงขึน้ รวมทั้งโรงเรียนมีผลการดาเนินงานท่ีดีขึน้ ในทุกด้าน โรงเรียนดาเนินการตามระบบคุณภาพมีผลการดาเนินงานตามท่ีคาดการณ์ไว้ สามารถตรวจสอบได้ใน เอกสารรายงานการประเมินโครงการประจาปีงบประมาณ 2563 และ SAR โดยมีคณะกรรมการบริหารโรงเรียน งานแผนงาน และผูเ้ กี่ยวขอ้ งประชมุ ทบทวนการดาเนินงานทงั้ ระบบ ปรกึ ษาหารือหามาตรการแกไ้ ขและพฒั นา เพ่อื เพิ่มประสิทธิภาพ ทาใหผ้ ลการดาเนินงานเป็นไปตามท่ตี งั้ เป้าหมายและคาดการณไ์ ว้ ข. การปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติการ (ACTION PLAN Modification) โรงเรียนมีการปรับเปลี่ยน แผนปฏิบตั กิ าร ตามขนั้ ตอน ดงั นี้ 1. วิเคราะหค์ วามเสี่ยงและความจาเป็นท่ีทาใหต้ อ้ งมีการปรบั เปล่ียนแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ ไดแ้ ก่ ความเส่ียงท่ีทาใหโ้ ครงการ/กิจกรรม ดาเนินการต่อไปไม่ได้ อาจเน่ืองมาจากเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ เช่น ภัยพิบตั ิ เหตกุ ารณท์ างการเมือง หรืองานเรง่ ดว่ นอ่นื ๆ ซง่ึ หากไม่ดาเนินการอาจเกิดความเสยี หาย 2. เสนอและขออนุมัติโครงการ/กิจกรรมท่ีมีการปรับเปล่ียน โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ ได้แก่ หัวหน้าแผนงาน รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารแผนงานงบประมาณ และผู้อานวยการโ รงเรียน และ ปรบั เปลย่ี นแผนปฏบิ ตั กิ ารตามความเหมาะสม 3. ชีแ้ จงเพิ่มประสิทธิภาพ ใหบ้ ุคลากรไดร้ บั ทราบโดยท่ัวกันทางช่องทางต่าง ๆ เช่น การประชุม บนั ทึก ขอ้ ความแจง้ ใหท้ ราบ ประชาสมั พนั ธท์ าง กลมุ่ ไลน์ ตน้ 4. ดาเนินการตามโครงการ/กจิ กรรม และมีการกากบั ติดตามประเมินผลโครงการปีงบประมาณละ 2 ครง้ั 5. นาขอ้ เสนอแนะในปีการศึกษาท่ีผ่านมาปรบั ปรุงเปล่ียนแปลงกระบวนการต่าง ๆ ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายหรือ วัตถุประสงค์ท่ีตั้งไว้ และสอดคลอ้ งกับความพึงพอใจของผูม้ ีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนจึงเกิดเป็นทิศทาง การพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาของโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา
30 หมวด 3 นักเรยี นและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย (Student and Stakeholder) 3.1 เสียงของนักเรียนและมผี ู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสยี (VOICE OF THE STUDENT and Stakeholder) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีการรวบรวมขอ้ มูลสารสนเทศจากนักเรียนและผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย โดยการสรา้ ง ความผูกพันกับนักเรียนและผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย เพ่ือความสาเร็จในระยะยาว ครอบคลุมถึงการรบั ฟังเสียงของ นกั เรียนและผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี เพ่อื ปรบั ปรุงและคน้ หาโอกาสในการสรา้ งนวตั กรรม ดงั ภาพท่ี 13 ภาพท่ี 13 กระบวนการรบั ฟังนกั เรยี นและผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสยี จากภาพ โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาไดจ้ ดั ทาหลกั สตู รสถานศกึ ษาท่ีม่งุ เนน้ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของนกั เรียน ใหเ้ ต็มตามศกั ยภาพ โดยตอบสนองความตอ้ งการของนกั เรียนตามกรอบนโยบายกระทรวงศกึ ษาธิการ สานกั งาน เขตพืน้ ท่ีการศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ มีการวิเคราะห์องคก์ ร (SWOT) วิเคราะหม์ าตรฐานและตัวชีว้ ัด จดั ทา หลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล ออกแบบการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ วดั และประเมินผลตามสภาพจริง มีการจดั กิจกรรมการเรียนรูแ้ ละกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนอย่างมีคณุ ภาพ เพ่ือพฒั นานกั เรียนใหม้ ีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตามท่กี าหนด มีกลยทุ ธใ์ นการสรา้ งความผกู พนั ท่ีครอบคลมุ ถึงวธิ ีการท่โี รงเรียนรบั ฟังเสียงของนกั เรียนทงั้ นกั เรียน ในปัจจุบนั นกั เรียนในอดีตและนักเรียนในอนาคต การใชข้ อ้ มลู สารสนเทศเพ่ือปรบั ปรุงและคน้ หาโอกาสในการ สรา้ งนวัตกรรม ดังนั้น โรงเรียนมีกระบวนการรับฟังนักเรียน ดว้ ยกระบวนการ PDCA เพ่ือใหก้ ารดาเนินงาน ประสบผลสาเรจ็ ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ ก. การรับฟังนักเรียนและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี (STUDENT and Stakeholder Listening) (1) นักเรยี นปัจจบุ ันและผู้มสี ่วนได้ส่วนเสีย (Current STUDENTS and Stakeholders) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา มีกระบวนการรบั ฟังนกั เรียนปัจจุบนั และผมู้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสียโดยมีการจดั โครงการ กิจกรรม และวิธีการในการรบั ฟังเสียงนกั เรียนและผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสียในปัจจุบนั เพ่ือตอบสนองวิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ ซ่งึ จะเนน้ การใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศ ส่ือสงั คมออนไลน์ (Social Media) และ Website ต่าง ๆ เพ่ือใหไ้ ดข้ อ้ มลู
31 สารสนเทศท่ีสามารถนาไปปฏิบตั ิและใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ซ่งึ สามารถสรุปโครงการและกิจกรรมการดาเนินงานต่าง ๆ ไดด้ งั นี้ ตารางท่ี 7 แสดงการรบั ฟังนกั เรยี นปัจจบุ นั และผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี การรับฟังนักเรียนและ ผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสยี ใน เป้าหมายการดาเนินงาน วธิ ดี าเนินการ อนาคต 1. ระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื - เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เบอื้ งตน้ และขอ้ มลู โรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา มีระบบการดแู ลชว่ ยเหลือ นกั เรยี น เชงิ ลกึ ท่เี ป็นความตอ้ งการ ความ นกั เรยี นท่มี ีประสทิ ธิภาพมีกระบวนการครบ 5 คาดหวงั และขอ้ มลู ท่เี ป็นจรงิ ของ ขนั้ ตอน มีการจดั เกบ็ ขอ้ มลู โดยครูท่ปี รกึ ษาเพ่อื รูจ้ กั นกั เรยี นและผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี ได้ นกั เรยี นเป็นรายบคุ คล คดั กรองนกั เรยี น และแยก อย่างเป็นระบบ กล่มุ นกั เรียนออกเป็น 3 กลมุ่ ไดแ้ ก่ กลมุ่ ปกติ กลมุ่ - นาขอ้ มลู ไปใชป้ ระโยชนไ์ ดจ้ รงิ เสย่ี ง กล่มุ มีปัญหา เพ่อื จดั กจิ กรรมส่งเสรมิ แกไ้ ข - สามารถป้องกนั ไมใ่ หเ้ กิดปัญหาและ ปัญหา และการส่งต่อเพ่อื แกป้ ัญหาและพฤติกรรม ความเสี่ยงท่อี าจเกิดขนึ้ กบั นกั เรยี น รวมทงั้ ทกุ ฝ่ายรว่ มกนั ดาเนนิ งานอยา่ งเขม้ แขง็ ทงั้ ได้ กล่มุ บรหิ ารกจิ การนกั เรยี น งานแนะแนว งานครูท่ี - สามารถแกไ้ ขปัญหาท่เี กิดขนึ้ ได้ ปรกึ ษา หวั หนา้ ระดบั ชน้ั ครูท่ปี รกึ ษา นกั เรยี น ทนั ท่วงทแี ละตรงจดุ ผปู้ กครอง และชมุ ชน ซ่งึ ช่องทางในการรบั ฟังความ คิดเห็นของทกุ ฝ่ายสอดแทรกอยใู่ นกจิ กรรมต่าง ๆ เชน่ กจิ กรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม กจิ กรรมเย่ียม บา้ นนกั เรียน กจิ กรรมโฮมรูม การดแู ลชว่ ยเหลือ นกั เรียนในดา้ นอน่ื ๆ เป็นตน้ 2. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ - เพ่อื พฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ครูผสู้ อนมีการสารวจความคิดเหน็ ของนกั เรยี นโดยใช้ ของกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ของนกั เรยี น เครือ่ งมอื ในการรบั ฟังเสียงนกั เรยี น ไดแ้ ก่ กล่มุ ประกาศนียบตั รวิชาชพี - จดั กจิ กรรมการเรยี นรูต้ รงกบั ความ แบบสอบถาม แบบสงั เกตแบบสมั ภาษณ์ และแบบ และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ตอ้ งการของนกั เรยี น ประเมินความพงึ พอใจ ซง่ึ เนน้ การมสี ว่ นรว่ ม ให้ - เพ่อื สนบั สนนุ สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นมี นกั เรียนไดอ้ อกแบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูต้ าม อาชพี ท่ตี รงตามความตอ้ งการใน ความตอ้ งการของผเู้ รียน อนาคต -นกั เรยี นออกฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ในสถาน ประกอบการจรงิ ขา้ งนอก 3. การจดั ตงั้ คณะกรรมการ - เป็นช่องทางในการรบั ฟังเสียง มกี ารเลือกตงั้ คณะกรรมการนกั เรยี นตามวิถีระบอบ นกั เรยี น สะทอ้ นของนกั เรียนโดยตรง ประชาธิปไตย เพ่อื ใหน้ กั เรยี นไดม้ ีบทบาท และมีส่วน รว่ มในการดาเนนิ งานโครงการ และกจิ กรรมตา่ งๆ ท่ี สง่ เสรมิ และพฒั นานกั เรียนตามเหมาะสมและความ ตอ้ งการของนกั เรยี น ซง่ึ คณะกรรมการนกั เรียนถือเป็น สือ่ กลางระหวา่ งโรงเรียนกบั นกั เรยี นใหม้ คี วามเขา้ ใจ ตรงกนั เพ่อื รว่ มพฒั นาองคก์ รต่อไป
32 การรับฟังนักเรียนและ เป้าหมายการดาเนินงาน วธิ ีดาเนินการ ผ้มู สี ว่ นได้สว่ นเสียใน - เพ่อื ศกึ ษาความตอ้ งการของตลาด สารวจขอ้ มลู เบอื้ งตน้ ของนกั เรยี นโดยใชเ้ ครื่องมอื ท่ี อนาคต แห่งการเรียนรูข้ องผเู้ รียนอย่างมี เหมาะสมในการเก็บรวบรวมรบั ฟังความคิดเหน็ และ 4. การจดั ทาระบบขอ้ มลู ประสทิ ธิภาพ ขอ้ เสนอแนะของนกั เรยี น ผปู้ กครอง และชมุ ชนในเขต สารสนเทศของนกั เรียนท่อี ยู่ - เพ่อื นาขอ้ มลู ไปใชใ้ นการวเิ คราะห์ พนื้ ท่บี รกิ ารของโรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา และจดั เก็บ ในเขตพนื้ ท่บี รกิ ารของ องคก์ ร (SWOT) ขอ้ มลู สารสนเทศอยา่ งเป็นระบบท่สี มบรู ณพ์ รอ้ มใช้ โรงเรยี นอยา่ งเป็นระบบ - เพ่อื ใชเ้ ป็นขอ้ มลู สารสนเทศวางแผน งาน อนาคต 5. การจดั กิจกรรมเพ่อื - เพ่อื พฒั นาคณุ ลกั ษณะอนั พึง มีการจดั กจิ กรรมเพ่อื เสรมิ สรา้ งคณุ ลกั ษณะอนั พงึ พฒั นานกั เรยี นใหม้ ี ประสงคข์ องนกั เรยี น ประสงค์ เนน้ การมีสว่ นรว่ ม จิตอาสา จติ สาธารณะ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - เพ่อื สรา้ งความเช่ือม่นั และ เพ่อื เป็นการปลกู ฝังจติ สานึกท่ดี ใี หแ้ กน่ กั เรียน ทงั้ นมี้ ี การยอมรบั ในชมุ ชนและสงั คม การรบั ฟังความคิดเหน็ โดยการสงั เกต สอบถาม 6. การจดั สภาพแวดลอ้ ม พดู คยุ ทง้ั นกั เรียน ผปู้ กครอง และชมุ ชนท่นี กั เรยี น แหล่งเรยี นรูแ้ ละจดั - เพ่อื สนบั สนนุ การพฒั นาคณุ ภาพ อาศยั อยู่ บรรยากาศท่เี ออื้ ตอ่ การจดั การศกึ ษา มกี ารจดั โครงการ กจิ กรรม บรรยากาศ และ กจิ กรรมการเรยี นรู้ - เพ่อื ส่งเสรมิ คณุ ภาพการเรียนรู้ สภาพแวดลอ้ มเพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการของ - เพ่อื สรา้ งโอกาสในการแขง่ ขนั ของ นกั เรียน และผมู้ ีส่วนไดส้ ว่ นเสีย เช่น การจดั หอ้ งเรยี น 7. การใชเ้ ทคโนโลยี นกั เรยี นและสถานศกึ ษา คณุ ภาพ มมุ ความรู้ บอรด์ ความรู้ ระเบยี งความรู้ ปา้ ย สารสนเทศ ความรูร้ มิ ทางเดินโดยนกั เรยี น หอ้ งสมดุ มีชวี ติ หอ้ ง - เพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการของ สืบคน้ แหลง่ เรยี นรูน้ อกสถานท่ี โครงการสปั ดาห์ นกั เรยี นและผมู้ ีส่วนไดส้ ว่ นเสยี หอ้ งสมดุ โครงการสปั ดาหว์ ทิ ยาศาสตร์ โครงการวนั - เป็นชอ่ งทางการสรา้ งสรรค์ ภาษาไทย โครงการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม เป็นตน้ ความสมั พนั ธแ์ ละความเขา้ ใจ โดยในทกุ กจิ กรรม มกี ารรบั ฟังความคดิ เห็นและ ระหวา่ งครู นกั เรยี น และผมู้ ีส่วนได้ ขอ้ เสนอแนะเพ่ือปรบั ปรุงแกไ้ ข พฒั นากจิ กรรมใหด้ ี สว่ นเสีย ยง่ิ ขนึ้ โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยาใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศท่ี ทนั สมยั รวดเรว็ และทนั เหตกุ ารณเ์ พ่อื รบั ฟังความ คดิ เห็น แลกเปล่ยี นขอ้ มลู ข่าวสาร เช่น Webpage ของโรงเรยี น แอพพลิเคชนั ไลน์ (Line) เป็นตน้ อีกทง้ั ยงั มกี ารสรุปรายงานผลการดาเนนิ งานของโรงเรียน ภาคเรยี นละ 1 ครงั้ เพ่อื สอ่ื สารทาความเขา้ ใจ และให้ ทราบถงึ ผลการดาเนนิ งานของโรงเรียน และสะทอ้ น ผลความพงึ พอใจของนกั เรยี น ผปู้ กครอง และชมุ ชน
33 (2) นักเรยี นในอนาคตและผู้มสี ว่ นได้สว่ นเสยี (Potential STUDENT and Stakeholders) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีกระบวนการรบั ฟังเสียงนักเรียนในอนาคตและผูม้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสียอย่างเป็นระบบ เ พ่ือให้ไ ด้ข้อมูล เ ชิ ง ส ารส นเ ทศเ ป็ นข้อมูล ย้อน กลับใ นการ ปรับปรุ ง พัฒ น าหลักสูตรแล ะ การจัดก าร ศึ ก ษ า การใหบ้ ริการทางการศึกษา และการส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเนน้ การมีส่วนร่วมของทุกฝ่ าย ทงั้ นี้ การดาเนินการในกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือนาขอ้ มลู สารสนเทศท่ีเป็นขอ้ มลู ในอดีตมาใชใ้ นการวางแผนการดาเนินงาน อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต ซง่ึ สามารถสรุปกิจกรรม โครงการและการดาเนนิ งานตา่ ง ๆ ไดด้ งั นี้ ตารางที่ 8 แสดงการรบั ฟังนกั เรียนในอนาคตและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย การรับฟังนักเรยี นและ ผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสียใน เป้าหมายการดาเนินงาน วิธีดาเนนิ การ อนาคต 1. คณะกรรมการ - เพ่อื พฒั นาการศกึ ษาของ มีการประชมุ วางแผนงาน และดาเนินกจิ กรรมตาม สถานศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน สถานศกึ ษาไดอ้ ยา่ งมีระบบและ นโยบายท่ีกาหนด รว่ มกนั สรา้ งและปรบั ปรุงนโยบาย มีประสทิ ธิภาพ ของสถานศกึ ษา เพ่อื ใหเ้ กดิ การพฒั นา มีการระดม ความคิด แลกเปล่ียนความคดิ เหน็ กากบั ดแู ลการจดั กิจกรรม โครงการตา่ ง ๆ ของโรงเรยี นเพ่อื พฒั นา การศกึ ษาของโรงเรยี น 2. คณะกรรมการเครอื ข่าย - เพ่อื สรา้ งความเช่ือม่นั และเกบ็ มกี ารคดั เลอื กประธานและคณะกรรมการเพ่อื เป็น ผปู้ กครองนกั เรียน รวบรวมขอ้ มลู เพ่อื วางแผนงานใน ตวั แทนในการประชมุ แสดงความคดิ เหน็ แลกเปล่ยี น อนาคต ขา่ วสาร และชแี้ จงถงึ ความตอ้ งการในดา้ นตา่ ง ๆ โดย - เพ่อื ทราบความตอ้ งการดา้ นการ ทางโรงเรยี นจะเก็บรวมรวมขอ้ มลู ความตอ้ งการ เพ่อื บรหิ ารดาเนินงานในอนาคต วางแผน และพฒั นาการดาเนินงานของโรงเรียนใน อนาคต 3. การแนะแนวการศกึ ษา - เพ่อื เพมิ่ ส่วนแบ่งทางการตลาด โรงเรยี นมีการแนะแนวการศกึ ษาเชิงรุกใหก้ บั นกั เรยี น เชิงรุก ทางการศกึ ษา ในเขตและนอกเขตพนื้ ท่บี รกิ ารเพ่อื ใหข้ อ้ มลู สะทอ้ น - เพ่อื ศกึ ษาความตอ้ งการของตลาด และสารวจความตอ้ งการของนกั เรียนในอนาคตและ ทางการศกึ ษา ผมู้ ีส่วนไดส้ ว่ นเสยี โดยจะนาขอ้ มลู ท่ไี ด้ ไปพฒั นาการ จดั การศกึ ษาต่อไป 4. การประชมุ ผปู้ กครอง - เพ่อื ขอความรว่ มมือ โรงเรยี นไดจ้ ดั ใหม้ กี ารประชมุ ผปู้ กครองนกั เรยี น นกั เรียน - เพ่อื สรา้ งความสมั พนั ธอ์ นั ดีระหว่าง ภาคเรยี นละ 1 ครงั้ เพ่อื ชีแ้ จงผลการดาเนินงานของ สถานศกึ ษา นกั เรยี นและผมู้ ีส่วนได้ โรงเรยี น เปิดโอกาสใหผ้ ปู้ กครองแสดงความคิดเห็น สว่ นเสีย แลกเปลีย่ นขา่ วสาร และพดู คยุ กบั ครูท่ปี รกึ ษาอย่าง ใกลช้ ดิ
34 ข. การประเมินความพึงพอใจและความผูกพันของนักเรยี นและผ้มู สี ่วนได้ส่วนเสยี (Determination of STUDENT and Stakeholders Satisfaction and ENGAGEMENT) (1) ความพึงพอใจ ความไม่พงึ พอใจ และความผกู พัน (Satisfaction, Dissatisfaction and ENGAGEMENT) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยากาหนดขนั้ ตอนการประเมินความพงึ พอใจ ความไม่พึงพอใจและความผูกพนั ของ นกั เรยี นและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสียเพ่อื การตอบสนองความตอ้ งการ ดงั นี้ 1) รบั ฟังเสียงของนกั เรียนและผมู้ ีส่วนไดส้ ่วนเสยี จากชอ่ งทางการรบั ฟังเสียง ไดแ้ ก่ โทรศพั ท์ จดหมาย กลอ่ งรบั ความคดิ เห็น การสมั ภาษณ์ ช่องทางผา่ นส่อื ออนไลน์ จากการใหบ้ รกิ าร การประชมุ ผปู้ กครอง การประชมุ นกั เรียนทกุ ระดบั ชนั้ เครอื ข่ายศิษยเ์ ก่าโรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา กลมุ่ /งานท่ีเก่ียวขอ้ งและครูท่ปี รกึ ษามีเวลาสาหรบั พบนกั เรียนทกุ วนั ในช่วั โมง โฮมรูมเพ่ือใหน้ กั เรียนสามารถขอรบั คาปรกึ ษา สะทอ้ นความไม่พงึ พอใจไดต้ ามความ ตอ้ งการและเป็นรายบคุ คล และทาง Social Media 2) รวบรวมขอ้ มลู วเิ คราะหแ์ ยกแยะและจดั เรยี งลาดบั ความเรง่ ดว่ น 3) นาเสนอต่อกลมุ่ ผบู้ รหิ ารเพ่ือวินิจฉยั และส่งั การใหผ้ ทู้ ่เี ก่ียวขอ้ งไดด้ าเนินการ 4) กลมุ่ งานท่เี กี่ยวขอ้ งชีแ้ จงเหตผุ ลท่ีไมส่ ามารถตอบสนองความตอ้ งการอนั เป็นสาเหตขุ องความไม่พึง พอใจ ประชมุ นกั เรียนทุกระดับชนั้ เป็นประจาทุกสปั ดาห์ ประชุมผปู้ กครอง เครือข่ายศิษยเ์ ก่าโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา หน่วยงานราชการภาครฐั และเอกชนในอาเภอพนมดงรกั ตวั แทนชุมชนเพ่ือรบั ฟังความคิดเห็นและชีแ้ จง ขอ้ มลู ความเปล่ียนแปลงต่าง ๆ ภาคเรียนละ 1 ครงั้ 5) ร่วมกันสรา้ งภาพลักษณก์ ารดาเนินงานท่ีดีของโรงเรียน แก้ไขปัญหาความเขา้ ใจท่ีคลาดเคล่ือน ใหข้ อ้ มลู ทางเลือกท่เี หมาะสมแก่นกั เรยี นและผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ในการตดั สินใจ 6) ผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ งนาขอ้ มลู มาสรุปและรายงานผลการดาเนินงานต่อผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสียและทางโรงเรียน ทราบ เพ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ในภาพรวมของโรงเรียนพนมดงรกั วิทยาและนาขอ้ มลู มาปรบั ปรุงพฒั นาระบบบรหิ ารการจดั การศกึ ษาต่อไป ผลการประเมินนาไปเป็นข้อมูลป้อนกลับให้กับกระบวนการต่าง ๆ ในหมวด 3 ได้แก่ กลุ่มลูกค้า (Segmentation) กระบวนการจัดทาแผนกลยุทธ์ (Strategy Plan) กระบวนการรับฟังเสียงของนักเรียน กระบวนการสรา้ งความสมั พนั ธก์ บั นกั เรียน รวมถงึ การเช่ือมโยงกระบวนการวางแผนเชิงกลยทุ ธ์ (2) ความพงึ พอใจเปรียบเทยี บกบั คู่แข่ง (Satisfaction Relative to Competitors) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีวิธีการในการสรรหาสารสนเทศดา้ นความพึงพอใจของนักเรียนและมีส่วนได้ ส่วนเสียท่ีมีต่อโรงเรียนเปรียบเทียบกับโรงเรียนอ่ืนท่ีมีขนาดเดียวกันและหลักสูตรท่ีคล้ายคลึงกันซ่ึงขอ้ มูล สารสนเทศของผลการประเมินความพึงพอใจ จะไดม้ าจากการเปรียบเทียบขอ้ มลู ระหว่างโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา กบั โรงเรียนอ่ืน ๆ ท่ีมีขนาดเดียวกนั 3 ดา้ น คือ ดา้ นการบริหารและการจดั การ ดา้ นผเู้ รียน และดา้ นบุคลากร ดงั นี้ การผ่านการประเมินภายนอก ผลการทดสอบระดับชาติขนั้ พืน้ ฐาน (O-NET) จานวนนกั เรียนท่ีจบหลกั สตู รและ รายงานผลการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา รางวัลของครูและนักเรียนในระดับชาติ ทั้งนี้เม่ือได้ผล การเปรียบเทียบแลว้ จะมีการวิเคราะหผ์ ลดงั กล่าวโดยใช้ SWOT ซ่ึงจะทาการวิเคราะหท์ งั้ ขององคก์ รและของ
35 คู่แข่ง จะทาใหส้ ามารถส่งเสริมจุดแข็ง ปรบั ปรุงจุดอ่อน สรา้ งโอกาสในการพฒั นา และพรอ้ มรบั กับอุปสรรคท่ี อาจจะเกดิ ขนึ้ กบั องคก์ รได้ สรุปเป็นภาพท่ี 14 ดงั นี้ ภาพที่ 14 กระบวนการประเมนิ ความพงึ พอใจเชิงเปรียบเทียบ 3.2 ความผกู พันของนักเรียนและผ้มู ีสว่ นไดส้ ว่ นเสีย (Student and Stakeholder Engagement) ก. หลักสูตรและการสนับสนุนนักเรยี นและผูม้ ีสว่ นได้ส่วนเสีย (Product Offerings STUDENT and Stakeholder Support) (1) หลักสูตร (Product Offering) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาไดพ้ ฒั นาหลกั สตู รและส่งเสรมิ การเรียนรูต้ ่าง ๆ เพ่ือจดั การศกึ ษาตามความตอ้ งการ ของชมุ ชนและทอ้ งถ่ิน โดยมีกระบวนการดงั นี้ 1) สารวจความตอ้ งการของนักเรียนผูป้ กครองและชุมชนจากการสมั ภาษณ์และตอบแบบสอบถาม การจัดประชุมผู้ปกครองนักเรียน การประชุมภาคี 4 ฝ่ าย โดยกลุ่มบริหารวิชาการและงานพัฒนาหลักสูตร สถานศกึ ษาทาการสารวจหลกั สตู รสถานศกึ ษา ภาคเรยี นละ 1 ครงั้ และช่องทางอ่นื ๆ 2) วิเคราะหส์ รุปและรายงานต่อผบู้ รหิ าร 3) แตง่ ตงั้ คณะกรรมการและผรู้ บั ผดิ ชอบ คอื กลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ (งานพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4) ประเมนิ หลกั สตู ร 5) วิเคราะหแ์ ละรายงานผลการประเมินหลกั สตู รใหผ้ ูเ้ ก่ียวขอ้ งทราบ ทาใหโ้ รงเรียนไดส้ ารสนเทศใน การพฒั นาหลกั สูตร เพ่ือนาไปใชใ้ นการปรบั ปรุงและพฒั นาหลกั สูตรใหต้ รงตามความตอ้ งการของนกั เรียนและ ผมู้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย โรงเรียนจดั หลกั สตู รเป็น 3 ระดบั คือ หลกั สตู รสถานศกึ ษา หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้ และ หลกั สตู รชนั้ เรียน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มีแผนการเรียนรองรบั ความตอ้ งการ ของนกั เรยี น ไดแ้ ก่ แผนการเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย คือ แผนการเรียนวทิ ย–์ คณิต แผนการเรยี นศิลป์ -ภาษา แผนการเรียนประกาศนียบตั รวิชาชีพ นาหลกั สตู รเสนอคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐานพิจารณาเห็นชอบ และนาหลกั สตู รเขา้ ส่หู อ้ งเรียน มีการนิเทศกากับ ติดตาม นาผลการนิเทศมาเป็นขอ้ มลู ในการปรบั ปรุงหลกั สตู ร อย่างต่อเน่ือง เพ่ือพฒั นานกั เรียนใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานของหลกั สูตร สอดแทรกหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ
36 พอเพียงในทกุ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ เปิดรายวิชาอาเซียนศกึ ษาและรายวิชา IS โรงเรียนดาเนินการประชาสมั พนั ธ์ หลกั สตู ร เช่น วารสาร แผ่นพบั Webpage ของโรงเรยี น Facebook Line กิจกรรมแนะแนวการศกึ ษาต่อ นอกจากนี้ เพ่อื ดงึ ดดู นกั เรยี นและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสียกลมุ่ ใหมแ่ ละสรา้ งโอกาสในการขยายความสมั พนั ธก์ บั นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โรงเรียนได้ประชาสัมพันธ์ทางwebpageโรงเรียนพนมดงรักวิทยา สถานี วิทยุกระจายเสียงชุมชน จัดทาแผ่นพบั ประชาสมั พันธ์ แนะแนวการศึกษา ประชุมนกั เรียนทุกระดับชั้น ประชุม คณะกรรมการสถานศึกษา ประชุมเครือข่ายผูป้ กครอง หน่วยงานราชการภาครฐั และเอกชนในอาเภอพนมดงรกั ตวั แทนชมุ ชน กาหนดวตั ถปุ ระสงคข์ องการพฒั นาหลกั สตู ร เพ่อื นาไปใชใ้ นการปรบั ปรุงและพฒั นาหลกั สตู รใหต้ รง ตามความคาดหวังของผูเ้ รียนและผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย วางแผนการบริหารจัดการหลกั สูตร บริหารจัดการเรียน การสอน วิเคราะหแ์ ละรายงานผลการประเมินหลกั สูตรใหผ้ ูเ้ กี่ยวขอ้ งทราบทุกโครงการท่ีพัฒนาขึน้ มานนั้ ไดร้ บั การประเมินจากผูเ้ ช่ียวชาญในด้านต่าง ๆ การจัดการเรียนรู้ 2 หลกั สูตร ไดแ้ ก่หลักสูตรการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน มี 8 กล่มุ สาระการเรียนรูแ้ ละหลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพ มี 2 สาขา กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน การวัดผลและ ประเมนิ ผล สามารถนาไปใชจ้ ดั การเรยี นการสอนไดต้ ามจดุ เนน้ ของแต่ละโครงการ (2) การสนับสนุนนักเรียนและผ้มู สี ่วนไดส้ ่วนเสีย (STUDENT and Stakeholder Support) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีกระบวนการสนบั สนนุ นกั เรียนและผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสีย เพ่ือใหน้ กั เรียนไดพ้ ฒั นา ตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงได้มีการจัดระบบการสืบค้นข้อมูลสารสนเทศ การส่งเสริมการรักการอ่าน การส่งเสริมด้านกีฬา การส่งเสริมดา้ นวิชาชีพ การส่งเสริมความสามารถพิเศษและยกระดับคุณภาพผูเ้ รียน การเย่ียมบา้ นนักเรียนเป็นรายบุคคลใหแ้ ก่นกั เรียน เพ่ือใหน้ ักเรียนไดร้ บั ทราบถึงหลกั สูตรการศึกษาและบริการ ทางการศึกษา ตลอดจนการยอ้ นกลบั ของขอ้ มลู มีการกาหนดกลไกหลกั เพ่ือสนบั สนนุ ส่งเสริมนกั เรียน และกลไก หลกั ในการติดต่อสื่อสาร มีการกาหนดวิธีการส่งเสรมิ สนบั สนุนนกั เรียนเพ่ือทาให้ม่นั ใจไดว้ ่าขอ้ กาหนดไดน้ าไปสู่ การปฏิบตั โิ ดยทกุ คนและทกุ กระบวนการท่เี กี่ยวขอ้ งอย่างเป็นระบบตามตารางท่ี 9 ดงั นี้ ตารางท่ี 9 แสดงการจดั การศกึ ษาและบรกิ ารทางการศึกษาอ่นื ๆ ท่สี ง่ เสรมิ การเรียนรูแ้ ละการสนบั สนนุ นกั เรียน การสนับสนุนนกั เรยี น กลุม่ เป้าหมาย วิธีดาเนนิ การ ผลทไ่ี ด้รับ และผมู้ สี ว่ นได้สว่ นเสีย 1. การพฒั นาดา้ น - ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา - ใหบ้ รกิ ารสบื คน้ ขอ้ มลู - นกั เรยี น ครู บคุ ลากรทางการ เทคโนโลยีสารสนเทศ โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา ทาง website ของ ศกึ ษาโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา - นกั เรียนโรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา โรงเรยี น และผมู้ สี ว่ นไดส้ ่วนเสีย - ผมู้ สี ่วนไดส้ ่วนเสยี - ประชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู สามารถใชป้ ระโยชนจ์ าก ขา่ วสาร เทคโนโลยีในการสื่อสาร ติดต่อ ประสานงาน และสืบคน้ ขอ้ มลู ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ - ไดป้ ระชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู ขา่ วสารท่เี ป็นประโยชนแ์ ก่ นกั เรยี นและผมู้ ีส่วนไดส้ ว่ นเสีย มีการใหค้ วามรว่ มมือกนั ทาง
37 การสนับสนุนนกั เรยี น กลุ่มเป้าหมาย วธิ ีดาเนนิ การ ผลทไี่ ดร้ ับ และผมู้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสีย 2. การส่งเสรมิ - นกั เรยี นโรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา - จดั กจิ กรรมรกั การ ชมุ ชนและพฒั นาแหลง่ เรยี นรู้ การรกั การอา่ น - ผปู้ กครอง และคนในชมุ ชน อ่านในทกุ ระดบั ชนั้ เพ่อื กา้ วทนั ตามยคุ สมยั - จดั ใหม้ หี อ้ งสมดุ - นกั เรียนมคี วามสามารถดา้ น 3. การส่งเสรมิ ดา้ นกีฬา - นกั เรยี นโรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา อาเซียนเพ่อื บรกิ าร การอ่านคดิ วิเคราะหแ์ ละผา่ น เป็นแหล่งเรยี นรูข้ อง การประเมินการอา่ น คดิ 4. การสง่ เสรมิ - นกั เรียนโรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา คนในชมุ ชน วิเคราะหต์ ามหลกั สตู รใน ความสามารถดา้ นอาชีพ แตล่ ะปี และยกระดบั คณุ ภาพ - จดั กจิ กรรมส่งเสรมิ - ชมุ ชนเขา้ ถึงการใหบ้ รกิ าร ผเู้ รียน ศกั ยภาพดา้ นกีฬา ขอ้ มลู ใหแ้ กน่ กั เรียน - การแขง่ ขนั กีฬาทง้ั ภายในและ 5. การเย่ยี มบา้ นนกั เรยี น - นกั เรยี นโรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา - สง่ นกั เรียนเขา้ รว่ ม ภายนอกโรงเรยี น การแข่งขนั กีฬา - นกั เรียนมีสขุ ภาพรา่ งกาย เป็นรายบคุ คล - ผมู้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย หน่วยงานต่าง ๆ แขง็ แรง - จดั คา่ ยวชิ าการเพ่อื - ผลการแขง่ ขนั กีฬาใน ส่งเสรมิ ความสามารถ หน่วยงานต่าง ๆ พิเศษของนกั เรียน - นกั เรียนไดพ้ ฒั นาตนเองและ - จดั กจิ กรรมทบทวน เพิม่ ทกั ษะกระบวนการคดิ ความรูใ้ นระดบั ชนั้ อย่างมีประสิทธิภาพ ม.3 ม.6 และปวช.3 - ผลการทดสอบระดบั ชาติ - สง่ เสรมิ ความสามารถ ขนั้ พนื้ ฐาน (O-NET) สงู ขนึ้ พเิ ศษของนกั เรยี น - ผลการทดสอบระดบั ชาติ อย่างรอบดา้ น ขนั้ พนื้ ฐาน (V-NET) สงู ขนึ้ - จดั คา่ ยพฒั นาฝีมือ ดา้ นอาชพี - ไดท้ ราบปัญหาและเหน็ สภาพ - วิเคราะหผ์ เู้ รยี น ความเป็นอยทู่ ่แี ทจ้ รงิ ของ รายบคุ คล (ปพ 8, นกั เรียนแตล่ ะคน สามารถ ประเมนิ SDQ, แกไ้ ขปัญหาไดต้ รงจดุ รายงานคดั กรอง - ครู นกั เรียนและผมู้ สี ว่ นไดส้ ่วน นกั เรยี นรายบคุ คล) เสยี มคี วามผกู พนั ซ่งึ กนั และกนั - คณุ ครูท่ปี รกึ ษาเย่ียม บา้ นนกั เรียนเป็น รายบคุ คล
38 (3) การจาแนกนักเรยี น (STUDENT Segmentation) โรงเรียนเก็บรวบรวมขอ้ มูลสารสนเทศของนักเรียนและผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสียแต่ละหลักสูตรท่ีชัดเจนไวใ้ น ระบบฐานขอ้ มูลรูปแบบเอกสาร และระบบฐานขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ จึงสามารถจัดบริการการศึกษาและปัจจัย สนับสนุนท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ นาขอ้ มูลเหล่านีม้ าวิเคราะห์ จาแนกนักเรียน กลุ่มนักเรียน โดยสามารถจาแนก นกั เรียนออกเป็น 2 กล่มุ คือ นกั เรียนปัจจุบนั และนกั เรยี นในอนาคต นกั เรียนปัจจบุ นั จาแนกโดยใชร้ ะยะเวลาและ หลกั สูตรการศึกษาเป็นเกณฑ์ สามารถจาแนกออกเป็น 2 หลกั สูตร 1) หลกั สตู รการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน ระดับชั้น 6 ระดบั ชนั้ คือ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 – 6 2) หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพ คือ ระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพ ปีท่ี 1 - 3 มี 2 สาขา คอื สาขาช่างเช่อื มโลหะ และสาขาคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ มกี ระบวนการจาแนก ดงั นี้ 1) สารวจความตอ้ งการของนกั เรยี นและผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี 2) จดั ทาหลกั สตู รสถานศกึ ษาประชมุ ชแี้ จงบุคลากร 3) รบั สมคั รนกั เรียนระดบั ชนั้ ม.1 และ ม.4 และสอบคดั เลอื กนกั เรยี นท่เี ขา้ ศกึ ษาต่อ 4) จดั การเรยี นการสอนตามหลกั สตู ร 5) สอบวดั ประเมนิ ความรูท้ กุ ภาคเรียน 6) สิน้ ปีการศึกษานาผลการเรียนท่ีไดแ้ ต่ละภาคเรียนมาวิเคราะหผ์ ลตามมาตรฐานตัวชีว้ ัดหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ปรบั ปรุง ปี 2561) 7) สรุปรายงานตอ่ ฝ่ายบรหิ าร เพ่อื นาไปปรบั ปรุงพฒั นาบรหิ ารสถานศกึ ษาต่อไป นักเรียนในอนาคตสามารถใช้หลักสูตรเป็นเกณฑใ์ นการจาแนกนักเรียนออกเป็นแผนการเรียนรูต้ ่าง ๆ ท่ีโรงเรียนเปิดสอน คือ ในชนั้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย มีแผนการเรียน ดงั นี้ แผนการเรียนวิทย์-คณิต แผนการเรียน ศิลป์ -ภาษาอังกฤษ แผนการเรียนประกาศนียบัตรวิชาชีพ ในสาขาช่างเช่ือมโลหะ สาขาคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ และสาขาบญั ชี มีกระบวนการจาแนกนักเรียนใหส้ อดคลอ้ งและตรงตามความตอ้ งการของนักเรียนใหม้ ากท่ีสุด ดงั นี้ 1) สารวจความตอ้ งการของนกั เรียนและผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสีย การกรอกแบบสอบถาม การสมคั รเขา้ เรียน การสมั ภาษณ์ 2) กล่มุ บริหารวิชาการร่วมกับงานแนะแนวใชข้ อ้ มลู เหล่านีใ้ นการแนะแนวทางการศึกษาใหน้ ักเรียน สง่ ผลใหม้ นี กั เรยี นสมคั รเขา้ เรยี นเพิม่ ทกุ ปีการศกึ ษา 3) การสอบวดั ความถนดั ทางการเรียนสาหรบั นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 และ ประกาศนียบตั รวิชาชีพ เพ่ือจาแนกนกั เรียนออกเป็นแผนการเรียน ก่อนเร่มิ การเรียนการสอนในแต่ละปีการศกึ ษา 4) กลมุ่ บรหิ ารวชิ าการกาหนดใหห้ วั หนา้ งานหลกั สตู รประเมนิ ความเหมาะสมของรายวิชาท่ีกาหนดใน หลกั สตู ร 5) นาขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ดั ทาขอ้ มลู สารสนเทศ เพ่ือรายงานต่อคณะกรรมการบริหารโรงเรียน คณะกรรมการ สถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน และการประชุมผปู้ กครองในแต่ละภาคเรียน เพ่ือพฒั นาหลกั สตู รการศกึ ษาในปีการศกึ ษา ต่อไป
39 6) คณะกรรมการบริหารหลกั สตู รของโรงเรียนรบั ทราบผล การประเมินทุกแผนการเรียนวิเคราะหแ์ ละ ให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงและพัฒนารายงานต่อ คณะกรรมการบริหารโรงเรียนและคณะกรรมการ สถานศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน จากการรับฟังเสียงของนักเรียนและศิษย์เก่าหลาย ๆ รุ่น สรุปได้ว่า นักเรียนมีความต้องการหลักคือ การสาเร็จการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ โดยมีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานการจัดการศึกษาใหเ้ ท่าเทียมกับโรงเรียนอ่ืน และนาความรูท้ ่ีไดร้ บั ไปสอบแข่งขัน เขา้ ศกึ ษาตอ่ ในระดบั อดุ มศกึ ษาและมีความสามารถในการแข่งขนั ในตลาดแรงงาน ข. การสร้างความสัมพนั ธก์ บั นักเรียนและผ้มู สี ่วนได้ส่วนเสยี (Building STUDENT and Stakeholders Relationships) (1) การจัดการความสมั พันธ์ (Relationship Management) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีวิธีการในการสรา้ งและจดั การกบั ความสมั พนั ธท์ ่ีมีต่อนกั เรียนใหบ้ รรลผุ ลสาเร็จ ไดอ้ ย่างเหมาะสม โดยจดั กิจกรรมท่ีเนน้ การมีสว่ นรว่ มและเสรมิ สรา้ งความสมั พนั ธค์ วามรกั และความผูกพนั ของ บคุ ลากรของโรงเรยี นกบั นกั เรยี นและชมุ ชน ดงั นี้ 1) กิจกรรมท่ีส่งเสริมและสร้างความเข้าใจอันดีของโรงเรียนท่ีมีต่อนักเรียนใหม่ ได้แก่ กิจกรรม การเรียนรูแ้ ละการเรียนปรบั พนื้ ฐานของนกั เรยี นใหม่ กจิ กรรมปฐมนเิ ทศนกั เรียน 2) กิจกรรมท่ีตอบสนองความตอ้ งการและความคาดหวงั ของนกั เรียนในแต่ละช่วง ตามแผนปฏิบตั ิการ ประจาปีงบประมาณ จะกาหนดกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีส่งเสรมิ ความสมั พนั ธอ์ นั ดีกับโรงเรียน ไดแ้ ก่ กิจกรรมโครงการ ของกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 8 กลมุ่ สาระ กลมุ่ ประกาศนียบตั รวิชาชพี และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 3) กจิ กรรมระบบการดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียน มีแบบแผนและขนั้ ตอนตามหลกั วิชาการ มีค่มู ือการทางาน ของครูท่ีปรึกษา ดูแลนักเรียนอย่างใกลช้ ิดมีการกาหนดกิจกรรมการพัฒนานักเรียนท่ีทาใหค้ รูและนักเรียนมี ความสัมพันธ์ท่ีดีต่อกัน การประสานงานร่วมกันกับผู้ปกครอง หน่วยงาน องค์กร ชุมชนตลอดจนผู้ท่ีมีความ เช่ียวชาญในสาขาตา่ ง ๆ ท่เี กี่ยวขอ้ ง เพ่อื สนบั สนนุ สง่ เสรมิ แกไ้ ข พฒั นานกั เรยี นอย่างเหมาะสม 4) กิจกรรมแนะแนวเชิงรุกท่ีมุ่งสู่อนาคตและผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน การแนะแนวการศึกษาต่อ การสอบเขา้ เรียนในมหาวิทยาลยั ทงั้ ภาครฐั และภาคเอกชนไดเ้ ป็นจานวนมาก และสถิติการสอบแข่งขนั เขา้ ศึกษา ตอ่ ในระดบั อดุ มศกึ ษา การประกอบอาชพี การจดั สรรเงนิ ทนุ การศกึ ษาใหก้ บั นกั เรียน 5) กิจกรรมการสรา้ งความสัมพันธ์กับนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชน ได้แก่ การประชุมผูป้ กครอง นกั เรยี นอยา่ งนอ้ ยภาคเรียนละ 1 ครง้ั การประชมุ เครือข่ายผปู้ กครองนกั เรียน การเย่ยี มบา้ นนกั เรียนเป็นตน้ ซ่งึ แต่ ละกิจกรรมเนน้ การสรา้ งความสมั พันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนกับนักเรียนทาใหท้ ราบถึงความตอ้ งการและสภาพ ปัญหาในการท่จี ะสนบั สนนุ สง่ เสรมิ พฒั นา และแกไ้ ขไดอ้ ย่างเหมาะสม สรุปดงั ภาพท่ี 15
40 ภาพที่ 15 แสดงกระบวนการสรา้ งความสมั พนั ธท์ ่มี ีตอ่ นกั เรียนและผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสีย (2) การจดั การกับขอ้ ร้องเรยี น (Complaint Management) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามวี ิธีการจดั การกบั ขอ้ รอ้ งเรียนของนกั เรยี นและผมู้ สี ว่ นไดส้ ่วนเสยี โดยวธิ ีการจดั ทา ใหข้ อ้ รอ้ งเรียนใหไ้ ดร้ บั การแกไ้ ขอยา่ งทนั ท่วงที ดงั ภาพท่ี 16 ภาพที่ 16 แสดงกระบวนการจดั การกบั ขอ้ รอ้ งเรียน จากภาพ โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีวิธีการในการจดั การกับขอ้ รอ้ งเรียนท่ีไดร้ บั อย่างประสิทธิภาพ และ ทันท่วงที ส่งผลต่อ ความเช่ือม่ันของนักเรียน ผูป้ กครอง ศิษย์เก่า และผูร้ บั นักเรียนเพ่ือไปศึกษาต่อ รวมทั้ง เสริมสรา้ งความพึงพอใจ และความผูกพนั มีการรบั ฟังความคิดเห็น ขอ้ รอ้ งเรียน ขอ้ เสนอแนะ และชีแ้ จงแกไ้ ข ปัญหาโดยตรงในทนั ที กรณี ปัญหาซบั ซอ้ นและเกี่ยวขอ้ งกบั บุคคลอ่ืน ๆ ซ่งึ จาเป็นตอ้ งมีการสืบสวน สอบสวนหา ขอ้ เท็จจริงจะดาเนินตามขนั้ ตอนวิธีการท่ีโรงเรียนกาหนดอย่างเรง่ ด่วนโดยกล่มุ บรหิ ารกิจการนกั เรียนจะประสาน ความรว่ มมอื กบั ผทู้ ่เี ก่ียวขอ้ งทกุ ฝ่าย โดยใชก้ ารสอ่ื สาร 2 ทาง ดงั นี้
41 1) ทางตรง ผูน้ าระดบั สงู ของโรงเรียนจะเชิญผูร้ อ้ งเรียนมาพบเป็นการส่วนตัว และชีแ้ จงขอ้ รอ้ งเรียน โดยละเอยี ด ชดั เจนและโปรง่ ใสมีขอ้ มลู รองรบั ท่ถี กู ตอ้ ง และหาแนวทางแกไ้ ขรว่ มกนั 2) ทางออ้ ม กลุ่มบริหารงานต่าง ๆ รวบรวมข้อรอ้ งเรียนจากช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook Line E-mail จดหมายโทรศัพท์ โทรสาร กล่องรบั ความคิดเห็น การประชุมต่าง ๆ เป็นตน้ และนาเขา้ ท่ีประชุมบริหาร เพ่อื หาแนวทางปรบั ปรุง แกไ้ ขและแจง้ ผลใหผ้ รู้ อ้ งเรียนทราบต่อไป
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104