วิชา 3.2

ใบสรปุ องคค์ วามรใู้ นสภาพจรงิ การพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษากอ่ นแตง่ ตงั้ ใหด้ ำรงตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการสถานคกึ ษา วชิ า 3.2 การบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษาเชงิ กลยทุ ธ์ วนั ที่ 3 กรกฎาคม 2564 >>>>>>>>>>>>>>>>>> ชอื่ นางสาวนิลำพูน คนคล่อง กลมุ่ ท่ี 9 เลขที่ 10 กลยทุ ธ์ เปน็ แผนการท่ีกำหนดหขึ้นโดยผมู้ สี ่วนไดเ้ สยี นอย่างรอบคอบ เป็นขัน้ ตอนมคี วามยืดหยุ่น เพือ่ หนำไปสูค่ วามเร็จตามเป้าหมายท่กี ำหนด บรู ณาการแนวคดิ การจดั การภาคเอกชน 1 ภาวะผูน้ ำ Leader ship ควรพัฒนาและสรา้ งใหเ้ กิดข้นึ กับคนทกุ คนในองคก์ ร ซึง่ เป็นทกั ษะที่ทกุ คนควรมี 2. ลกู คา้ ดว้ ยความท่ีเราถกู ปลูกฝงั มานานวา่ เราเปน็ องค์กรภาครัฐ แตค่ วามจริงเรามีลูกค้า คอื นักเรียนและผู้ปกครองทีม่ ารบั บรกิ าร 3.คู่แขง่ ศึกษาผลผลิตคู่แขง่ เพื่อนำขอ้ มลู มาพฒั นาองคก์ ร 4.สินคา้ และผลติ ภณั ฑข์ องสถานศึกษา คอื หลกั สตู ร การจดั การเรยี นการสอน มหี ลกั สตู รนา่ สนใจ การจดั การเรยี นการสอนท่ีดมี ี คุณภาพ ผปู้ กครองก็อยากจะนำลกู หลานมาเรียน 5. การคิดนอกกรอบ การคิดเชิงบรู ณาการมมี มุ มอง ใหมๆ่ ในการคดิ 6 ผู้สง่ มอบ /พันธมิตร หาปัจจยั การผลิต คอื หา รร.ทีจ่ ะสง่ มอบนกั เรียนให้เรา ตอ้ งให้ความร่วมมือกบั ทกุ ภาคส่วนเพื่อพัฒนาการศึกษา 7 การวางแผนกลยุทธ์ การวางแผนหรอื เปา้ หมายล่วงหน้า 8 ประชาสมั พันธ์ เปน็ เรื่องสำคัญ เป็นโอกาสท่ที ำให้ทุกคนได้เห็นศกั ยภาพของโรงเรียน การทำแผนกลยทุ ธ์ /แผนพฒั นาคณุ ภาพ คือ เครือ่ งมอื ทีใ่ ชว้ ิเคราะห์สภาพ และสถานการณ์ขององคก์ รในเวลาน้ัน และโอกาสในอนาคตท่ี ต้องการใหเ้ กดิ ข้ึน การจดั แผนกลยทุ ธใ์ นสถานศกึ ษา 1. ตอ้ งหาให้เจอวา่ รร เราอยจู่ ดุ ไหน เป็นยังไง (การวิเคราะห์องค์กร SWOT) 2 เราตอ้ งหาใหเ้ จอว่าอนาคตเราจะไปอยจู่ ดุ ไหน การกำหนดวิสยั ทัศน์และทศิ ทางองค์กร 3. เราจะไปจดุ นนั้ ได้อยา่ งไร (วิธีการไปถงึ จุดหมาย) 4.การกำหนดยุทธศาสตร์ /กลยุทธ์ เลือกวิธกี ารท่ีจะไปถงึ จุดหมาย 5. การเปลยี่ นอะไรบ้างเพอื ่ใหไ้ ปถงึ จุดน้ัน คือการเปลย่ี นกลยุทธส์ ู่การปฏบิ ตั การวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อมโรงเรียน (SWOT) จุดแขง็ สิ่งทโ่ี รงเรยี นเราทำดอี ยู่แล้วเด่นอยู่แลว้ จุดอ่อน คือปญั หาท่ีโรงเรยี นทำแล้วมีอุปลรรค โอกาส คือจดุ แขง็ จากภายนอก ทีม่ สี ว่ นชว่ ยให้โรงเรยี นประสบความสำเร็จ การวเิ คราะหอ์ งค์กร สภาพแวดล้อมภายในองคก์ ร จุดแข็งตอ้ งดภู ายในโรงเรียน เทคนคิ การวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายในองคก์ ร การวเิ คราะแบบ 2S 4M 1.โครงสรา้ งและนโยบาย หาจุดออ่ นจุดแขง็ เราตอ้ งการอะไร ต้องหารายละเอยี ดใหค้ รบ 2. การวเิ คราะห่ผลผลติ และการบรหิ าร (ตวั นกั เรียน) มีจุดออ่ น จดุ แขง็ อะไร เช่น ผลการเรยี น คณุ ลกั ษระอันพึงประสงค์ 3.บคุ ลากร 4.ประสทิ ธิภาพทางการเงิน งบประมาณ 5. วัสดอุ ปุ กรณ์ 6. การบรหิ ารจดั การ

การวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายนอก วิเคราะหโ์ อกาสกบั อปุ สรรค เทคนคิ C-PEST 1.พฤติกรรมของลูกค้า(ผ้ปู กครอง) ผปู้ กครองดูแลบุตรหลานไดด้ ี เปน็ โอกาส แต่ไมม่ ีเวลาดูแลอุปสรรค 2. การเมอื งและกฎหมาย การเปลย่ี นแปลงทางการเมืองกฎหมาย 3. เศรษฐกิจ 4. คมและวัฒนธรรม ความแตกต่างทางสงั คม มีอะไรเปน็ โอกาสหรืออปุ สรรค 5. เทคโนโลยี ท่ีเป็นโอกาสและอุปสรรค การประเมนิ สถานภาพของโรงเรยี น STAR คนภายนอกมองวา่ เรามีจดุ แขง็ จดุ เด่น DOG วิเคราะห์มภี ายในวา่ อปุ สรรคมาก Question mark มองว่ามีจดุ อ่อน และสามารถแกไ้ ขไดจ้ ะเป็นจดุ แข็ง Cash cows มจี ดุ แขง็ มากแตม่ ีอปุ สรรคจากภายนอก วสิ ยั ทศั น์ (vision) สง่ิ ท่ีเราต้องใหห้ นว่ ยงานเราเปน็ ภายในกรอบระยะเวลาหนึง่ ๆ (ระยะเวลาอยู่ทแี่ ผนพัฒนาคุณภาพของสถานศกึ ษา)ใช้คำท่ี ทา้ ทาย ทะเยอทะยาน (ปรชั ญากบั วสิ ยั ทศั น์ ต่างกนั วิสยั ทัศน์สามารถเปลยี่ นแปลงไดต้ ามแผน ปรัชญาจะไมม่ ีการเปลี่ยน ข้อผิดพลาดอกี ประการคอื การชอบหยบิ จุดเดน่ มาเป็นวสิ ัยทัศน์ แต่จริงๆ คือภาพลักษณ์ เอกลักษณ์ วิสัยทศั น์ไม่ใชท่ ี่องคก์ รมี หรอื กำลงั เป็นอยู่ แตเ่ ป็นสง่ิ ทีต่ ้องการให้เป็นใน อนาคต การกำหนดพนั ธกจิ หรอื ภารกจิ คอื กรอบงานทเ่ี ราต้องดำเนนิ การ เปน็ การกำหนดกรอบการทำงานในระยะเวลา 3-4 ส่ปี ีขา้ งหนา้ 1. วิเคราะห์จากภารกิจงานประจำ(ภารกจิ หลัก) 2. เช่อื มโยงสมั พนั ธก์ ับวสิ ยั ทัศน์ การกำหนดคา่ นิยมองคก์ ร เป็นรปู แบบความคดิ ความพอใจของคน เป็นความเชอื่ พ้นื ฐานทีส่ ำคัญ ใช้เปน็ เกณฑ์ในการตัดสนิ หรือให้คณุ ค่า อะไรสักอยา่ งหนึง่ การทคี่ ่านิยมแตกตา่ งกนั จะทำให้ยากต่อการพัฒนาเพราะเกิดความหลากหลาย ดงั นน้ั ควรมคี ่านิยมกลางเพือ่ ให้เป็นแนวปฏบิ ตั ใิ ห้ คลา้ ยกนั และสามารถพัฒนาไปเป็นวฒั นธรรมองค์กรทย่ี ่งั ยนื ได้ กลยทุ ธก์ บั วสิ ัยทศั นท์ ส่ี อดคลอ้ งกนั ไม่ไปคนละทศิ ละทาง ภาครฐั 1. มิตปิ ระสทิ ธิผล 2. ดูดา้ นคุณภาพการใหบ้ รกิ าร 3. ประสทิ ธิภาพการปฏิบตั ริ าชการ 4. การพฒั นาองคก์ รมีการพฒั นา เติบโตเพ่มิ ข้ึน การอธิบายใหง้ ่ายคือดมู ิติด้านนักเรยี น ดา้ นครู ด้านชมุ ชน ดา้ นโรงเรียน วา่ เม่ือบรรลุเป้าหมายแลว้ แต่ ละด้านท่กี ลา่ วมาได้อะไรบา้ ง ตวั ชวี้ ัด (นำเปา้ มากำหนดตัวชว้ี ดั ) KPI เป็นตวั บ่งชีจ้ ะทำเห็นความสำเร็จของแตล่ ะเป้า ลกั ษณะตวั ชีว้ ัด ตวั ช้ีวัดเชงิ ปรมิ าณ และเชิงคณุ ภาพ หลักการกำหนดกค่าเปา้ หมาย ถา้ มีข้อมูลฐานในเรือ่ งน้ัน วา่ มีฐานทเี่ ท่าไหร่ ปีแรกตอ้ งกำหนดให้สงู กวา่ ฐานทีม่ ี แต่อยา่ ตง้ั อยา่ งกา้ วกระโดด ตอ้ งดูวา่ เปา้ ทเ่ี ราต้ังจะมีโอกาสไปถึงไหม แต่ถ้าไม่มขี อ้ มูลฐานใหต้ ั้งปีสดุ่ ทา้ ยของแผน แล้วลดทานลงมาในปแี รก และการต้ังเปา้ หมายต้องค่อยๆ พฒั นาขึน้ การนำไประยกุ ตใ์ ช้ นำความรู้ที่ไดร้ ับไปชว่ ยผูบ้ ริหารสถานศึกษาพัฒนาสถานศึกษาในด้านตา่ งๆ เชน่ 1. ด้านการกำหนดทิศทางเชงิ กลยุทธ์ 2. ดา้ นการบริหารทรัพยากร 3. ดา้ นการสนับสนุนวัฒนธรรมองคก์ ร