Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปรากฏการ์หยาดน้ำฟ้า

ปรากฏการ์หยาดน้ำฟ้า

Published by Saithong2422, 2020-05-16 02:04:57

Description: ปรากฏการ์หยาดน้ำฟ้า

Search

Read the Text Version

สอนโดย คณุ ครทู รายทอง บัวผา โรงเรยี นอนบุ าลรกั ภาษา

สอนโดย คณุ ครทู รายทอง บัวผา โรงเรยี นอนบุ าลรกั ภาษา

ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน เรื่อง ฝน หมิ ะ ลูกเหบ็

1.เมฆข้อใดกอ่ ใหเ้ กิด “ฝน” ก. เมฆเซอรัส ข. เมฆสเตรตัส ค. เมฆควิ มลู สั ง. เมฆนิมโบสเตรตสั

2. ปรากฏการณใ์ ดที่มสี ถานะเป็นของแข็ง ก. เมฆ ข. ลูกเห็บ ค. หมอก ง. นาค้าง

3.สภาพอากาศลกั ษณะใดทม่ี กี ารระเหยของนาไดม้ าก ก. อากาศชนื ข. อากาศแห้ง ค. อากาศเปยี ก ง. อากาศอม่ิ ตัว

4. การทดลองการเกดิ ลกู เหบ็ โดยใสน่ าแขง็ ลงในกระป๋องนม เหตใุ ดจึงต้องใสเ่ กลอื ลง ไปในกระปอ๋ งนมด้วย ก. เพื่อใหเ้ กลือดูดความชนื ออกจากนาแข็ง ข. เพ่ือใหเ้ กลอื ดูดความร้อนออกจากนาแขง็ ค. เพอื่ ให้นาแขง็ เกดิ การหลอมละลายเรว็ ขึน ง. เพอื่ ป้องกนั ไมใ่ หน้ าแข็งเกาะรวมกันเปน็ ก้อน

5. ข้อใดกล่าวถึงหยาดนาฟ้าไม่ถูกตอ้ ง ก. ฝน เปน็ ของเหลว ข. หมิ ะ เปน็ ของแขง็ ค. ลกู เหบ็ เป็นของแข็ง ง. ฝน หมิ ะ ลกู เห็บ เปน็ ของแขง็



หยาดนาฟ้าแตกตา่ งจากหยดนาหรอื ละอองนาในกอ้ นเมฆ (Cloud droplets) ตรงทีห่ ยาดนาต้องมี ขนาดใหญแ่ ละมีนาหนักมากพอที่จะชนะแรงต้านอากาศ และตกสพู่ นื โลกได้โดยไมร่ ะเหยเปน็ ไอนาเสยี ก่อน ขณะที่ อยู่ใต้ระดับควบแนน่ ฉะนนั กระบวนการเกิดหยาดนาฟ้าจงึ มคี วามสลบั ซบั ซอ้ นมากกวา่ กระบวนการควบแน่นที่ทาให้ เกิดเมฆ





















หยาดนาฟ้า (Precipitation) เป็นช่อื เรยี กรวมของ หยดนา และนาแขง็ ท่ีเกิด จากการควบแนน่ ของไอนาแล้วตกลงมาสพู่ นื เช่น ฝน ลกู เห็บ หิมะ เป็นต้น



ชนิดของหยาดน้าฟ้า ฝน (Rain) ฝนละออง (Drizzle) ละอองหมอก (Mist) ลูกเหบ็ (Hail) หิมะ (Snow)



ฝน (Rain) • เกดิ จากอนภุ าคของไอนาขนาดตา่ งๆในกอ้ นเมฆมีขนาดใหญ่จนไม่สามารถลอยตัวอยู่ในกอ้ นเมฆ จงึ ตกลงมาเปน็ ฝน • ฝน เป็นหยดนามขี นาดประมาณ 0.5-5 มิลลิตเมตร ฝนส่วนใหญ่ตกลงมาจากเมฆนมิ โบสตราตสั และเมฆคิวมูโลนิมบสั

ภาพจาลองการเกดิ ฝน การเกดิ ฝน ในกอ้ นเมฆท่วั ไป หยดนาเลก็ ๆ มีขนาดเท่ากนั และตกลงมา อยา่ งช้าๆ ดว้ ยความเร็วเดยี วกัน หยดนาเหล่านนั จึงไม่มีโอกาสท่ี จะชนหรอื รวมตวั กนั ใหม้ ขี นาดใหญ่ขึนไดเ้ ลย แตภ่ ายในเมฆกอ่ ตัว ในแนวตัง เชน่ เมฆควิ มูโลนมิ บัสจะมีหยดนาหลายขนาด หยดนา ขนาดใหญจ่ ะตกลงมาดว้ ยความเรว็ ทม่ี ากกว่าหยดนาขนาดเลก็ จงึ ชนและรวมตวั กับหยดนาขนาดเลก็ ทอี่ ย่เู บืองล่าง ทาใหเ้ กิดการ สะสมตัวจนมขี นาดใหญข่ นึ ดงั ภาพ เราเรียกกระบวนการนวี ่า “กระบวนการชนและรวมตัวกัน”

อปุ กรณ์วดั นา้ ฝน ในการวัดปริมาณน้าฝน เราใชห้ น่วยวัด เปน็ มิลลิเมตร เชน่ ถ้าฝนตกลงมาทา้ ใหร้ ะดับน้าฝน ในภาชนะทีร่ องรบั สงู ขนึ 10 มลิ ลเิ มตร หมายความวา่ ฝนตกวัดได้ 10 มิลลเิ มตร อปุ กรณ์วัดน้าฝน (Rain gauge) ขนาด มาตรฐานเปน็ ทรงกระบอกขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 20 เซนตเิ มตร บนปากกระบอกมกี รวยรอรับน้าฝน ให้ตกลงสู่กระบอกตวงซงึ่ อย่ภู ายในซงึ่ มเี ส้นผ่าน ศนู ยก์ ลางขนาดเล็กกวา่ กระบอกนอก 10 เทา่ (เส้น ผา่ นศูนย์กลาง 2 เซนตเิ มตร) ทงั นเี พอ่ื ขยายมาตรา ส่วนขยายขึน 10 เทา่ ท้าใหเ้ กิดความสะดวกในการ อ่านค่าปริมาณนา้ ฝนไดล้ ะเอียดยิ่งขึน

ฝนละออง (Drizzle) เปน็ หยดนา้ ขนาดเลก็ กวา่ 0.5 มิลลเิ มตร เกดิ จากเมฆสเตรตัส พบเหน็ บ่อยบนยอดเขาสงู ตกต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายช่วั โมง

ละอองหมอก (Mist) เป็นหยดน้าขนาด 0.005 – 0.05 มิลลเิ มตร เกิดจากเมฆสเตรตัส ท้าให้เรารู้สกึ ชนื เม่อื เดินผา่ น มักพบบนยอดเขาสงู



ลกู เห็บ (Hail) เปน็ กอ้ นนา้ แข็งขนาดใหญก่ วา่ 5 เซนติเมตร เกดิ ขึนจากกระแสในอากาศไหลขนึ (updraft) และไหลลง (downdraft) ภายในเมฆคิวมโู ลนมิ บัส พัดใหผ้ ลึกนา้ แข็งปะทะ กับนา้ เย็นยิ่งยวด กลายเป็นกอ้ นน้าแข็งห่อหมุ้ กนั เป็นชันๆ จนมีขนาดใหญ่ และตกลงมา





หมิ ะ (Snow) เปน็ ผลึกน้าแข็งขนาดประมาณ 1 – 20 มลิ ลิเมตร ซ่งึ เกดิ จากไอนา้ จากนา้ เยน็ ย่งิ ยวด ระเหดิ กลับเปน็ ผลกึ นา้ แข็ง แลว้ ตกลงมา











ชนดิ ชนิดของหยาดนา้ ฟ้า ฝน (Rain) ฝนละออง (Drizzle) ลักษณะ ละอองหมอก (Mist) ลกู เห็บ (Hail) เป็นหยดน้ามขี นาดประมาณ 0.5 – 5 มลิ ลิเมตร ฝนสว่ นใหญ่ตกลงมาจากเมฆนิมโบสเตรตัส และ เมฆคิวมูโลนิมบสั หิมะ (Snow) เปน็ หยดนา้ ขนาดเล็กกวา่ 0.5 มลิ ลิเมตร เกิดจากเมฆสเตรตัส พบเหน็ บอ่ ยบนยอดเขาสูง ตก ตอ่ เน่ืองเปน็ เวลานานหลายช่ัวโมง เป็นหยดนา้ ขนาด 0.005 – 0.05 มิลลเิ มตร เกดิ จากเมฆสเตรตัส ท้าให้เรารสู้ ึกชืนเมือ่ เดินผ่าน มกั พบบนยอดเขาสูง เปน็ ก้อนน้าแข็งขนาดใหญก่ วา่ 5 เซนตเิ มตร เกิดขนึ จากกระแสในอากาศไหลขึน (updraft) และ ไหลลง (downdraft) ภายในเมฆคิวมโู ลนิมบัส พัดให้ผลึกน้าแข็งปะทะกบั นา้ เยน็ ยงิ่ ยวด กลายเปน็ ก้อนน้าแขง็ ห่อหุม้ กันเปน็ ชนั ๆ จนมีขนาดใหญ่ และตกลงมา เปน็ ผลกึ นา้ แข็งขนาดประมาณ 1 – 20 มลิ ลิเมตร ซ่ึงเกิดจากไอนา้ จากนา้ เย็นยงิ่ ยวด ระเหิดกลบั เปน็ ผลึกนา้ แข็ง แล้วตกลงมา

1.เมฆข้อใดกอ่ ใหเ้ กิด “ฝน” ก. เมฆเซอรัส ข. เมฆสเตรตัส ค. เมฆควิ มลู สั ง. เมฆนิมโบสเตรตสั

2. ปรากฏการณใ์ ดที่มสี ถานะเป็นของแข็ง ก. เมฆ ข. ลูกเห็บ ค. หมอก ง. นาค้าง

3.สภาพอากาศลกั ษณะใดทม่ี กี ารระเหยของนาไดม้ าก ก. อากาศชนื ข. อากาศแห้ง ค. อากาศเปยี ก ง. อากาศอม่ิ ตัว

4. การทดลองการเกดิ ลูกเห็บโดยใสน่ าแข็งลงในกระปอ๋ งนม เหตใุ ดจงึ ต้องใส่เกลอื ลง ไปในกระปอ๋ งนมดว้ ย ก. เพือ่ ให้เกลือดดู ความชืนออกจากนาแขง็ ข. เพ่อื ให้เกลอื ดูดความร้อนออกจากนาแขง็ ค. เพื่อให้นาแขง็ เกดิ การหลอมละลายเรว็ ขนึ ง. เพื่อป้องกนั ไมใ่ หน้ าแขง็ เกาะรวมกันเปน็ ก้อน

5. ข้อใดกล่าวถึงหยาดนาฟ้าไม่ถูกตอ้ ง ก. ฝน เปน็ ของเหลว ข. หมิ ะ เปน็ ของแขง็ ค. ลกู เหบ็ เป็นของแข็ง ง. ฝน หมิ ะ ลกู เห็บ เปน็ ของแขง็


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook