Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การสิบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต(พืชและสัตว์)

การสิบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต(พืชและสัตว์)

Published by Saithong2422, 2020-05-10 07:41:10

Description: การสิบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต(พืชและสัตว์)

Search

Read the Text Version

สอนโดย คณุ ครูทรายทอง บวั ผา

แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรื่อง การสบื พันธุข์ องส่ิงมีชวี ติ 1.ส่วนใดของดอกท่พี บในดอกครบสว่ นและดอกสมบูรณเ์ พศ ก. มกี ลบี เล้ียงและเกสรตวั ผู้ ข. มีกลบี ดอกและเกสรตวั เมีย ค. มเี กสรตวั ผแู้ ละเกสรตวั เมยี ง. มีกลีบเล้ียง กลบี ดอก และเกสรตวั ผู้

แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรื่อง การสืบพนั ธ์ขุ องสิง่ มชี วี ติ 2.ขอ้ ใดเรยี งลาดบั ขั้นตอนการสืบพันธแุ์ บบอาศยั เพศของพืชดอกได้อยา่ งถกู ตอ้ ง A การเกดิ เมล็ดและผล ก. C -> D -> B -> A B การปฏสิ ธิ ข. C -> A -> D -> B C การสรา้ งเซลล์สืบพนั ธุ์ ค. D -> A -> C -> B D การถ่ายละอองเรณู ง. D -> C -> A -> B

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่ือง การสืบพันธุข์ องสง่ิ มีชวี ติ 3.ถา้ ตอ้ งการพัฒนาใหไ้ ดม้ ะม่วงรสชาตใิ หม่ ควรจะใชว้ ธิ กี ารขยายพันธแ์ุ บบใด ก. การตอนกิง่ ข. การติดตา ค. การเพาะเลี้ยงเนือ้ เยอ่ื ง. การเพาะเมล็ด

แบบทดสอบก่อนเรียน เรอ่ื ง การสบื พนั ธ์ุของสงิ่ มชี ีวติ 4. สว่ นใดของดอกจะเจรญิ เปน็ ผล ก. รงั ไข่ ข. ออวุล ค. กลีบดอก ง. ไข่

แบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่อื ง การสบื พนั ธุข์ องสิ่งมีชีวิต 5. ดอกไม้ของพืชชนดิ ใดทเี่ จรญิ เปน็ ผลได้โดยการถา่ ยละอองเกสรภายในดอก ก. มะละกอ ข. ฟกั ทอง ค. ขา้ วโพด ง. มะเขือ

แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง การสืบพนั ธุ์ของสิง่ มชี ีวติ 6.พืชชนดิ ใดทขี่ ยายพันธดุ์ ้วยการแตกหนอ่ ก. กลว้ ย ข. ไผ่ ค. เฟริ ์น ง. ก และ ข

แบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่อื ง การสบื พันธุ์ของส่งิ มชี วี ติ 7. ขอ้ ใดเป็นขอ้ ดขี องการผสมพันธ์ุแบบข้ามสายพนั ธุ์ ก. การจัดการภายในฟารม์ ทาได้ง่าย ข. สามารถพัฒนาพันธุ์ที่มจี ดุ เดน่ ได้ ค. ไม่ต้องอาศยั การสบื พนั ธ์แุ บบอาศยั เพศ ง. ถูกทกุ ข้อ

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอื่ ง การสบื พนั ธ์ขุ องสิง่ มชี ีวติ 8. สตั วใ์ ดท่นี ิยมในการถ่ายฝากตวั ออ่ น ก. เป็ด ไก่ ข. สกุ ร ห่าน ค. ปลาสลดิ ปลาดกุ ง. โค กระบือ

แบบทดสอบก่อนเรยี น เรอื่ ง การสบื พันธุข์ องสิ่งมชี วี ิต 9. ไฮดรามกี ารสืบพนั ธ์แุ บบไมอ่ าศยั เพศโดยวิธีใด ก. แตกหนอ่ ข. งอกใหม่ ค. แบ่งออกเปน็ สองสว่ น ง. พารธ์ โี นเจเนซสิ

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรือ่ ง การสบื พันธ์ขุ องส่งิ มีชวี ติ 10. ขอ้ ใดมีการสบื พนั ธ์แุ บบไม่อาศยั เพศแบบเดียวกบั ยสี ต์ ก. ดาวทะเล ข. ไฮดรา ค. พลานาเรยี ง. ยูกลนี า

คาถามชวนคดิ 1. ดอกชนดิ ใดท่ีสามารถถา่ ยละอองเรณใู นดอกเดียวกันได้ 2. ดอกไม่สมบรู ณ์เพศสามารถสบื พนั ธ์ุแบบอาศยั เพศโดยการถ่ายละอองเรณแู บบใด

การสืบพันธ์ุ (reproduction) เป็นสมบตั ทิ ่สี าคัญของสิ่งมชี วี ติ เพราะเป็นการดารงเผ่าพนั ธ์ุ การเพิ่มจานวน ของสิ่งมชี ีวติ และป้องกันการสูญพนั ธุ์

การสบื พนั ธ์ุ (reproduction) 1. การสืบพนั ธแ์ุ บบอาศยั เพศ 2. การสบื พนั ธ์ุแบบไม่อาศยั เพศ

1. การสืบพันธ์ุแบบอาศยั เพศ เป็นการสืบพันธ์ุโดยใชเ้ ซลล์สบื พันธ์ุ ในการเพมิ่ จานวน ลูกที่ไดจ้ ะมีลกั ษณะแตกต่างจากรุ่นพอ่ แม่ เพราะเกดิ จากเซลลส์ บื พันธ์ทุ ีน่ าสารพนั ธกุ รรมจากพอ่ และแม่มา รวมกนั ทาให้ลกู มีสารพนั ธุกรรมครง่ึ หนง่ึ มาจากพอ่ และ อีกครึ่งหน่งึ มาจากแม่

2. การสบื พันธแ์ุ บบไมอ่ าศัยเพศ เปน็ การสบื พันธ์โุ ดยใชเ้ ซลลร์ ่างกายหรือส่วนใดส่วนหนงึ่ ของรา่ งกาย ในการเพิ่มจานวน ลกู ทีไ่ ดจ้ ะมลี ักษณะเหมือนกับสิ่งมีชวี ิตเดิมทกุ ประการ ไม่มีความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม

การสบื พนั ธ์ุ (reproduction) การสบื พันธ์ุแบบอาศยั เพศ การสบื พันธแ์ุ บบไม่อาศยั เพศ พืช สตั ว์ พชื สตั ว์ การปฎิสนธิ การปฎิสนธิภายนอก การปกั ชา การติดตา การผสมเทียม การถ่ายละอองเรณู การปฎิสนธิภายใน การตอนกง่ิ การเสยี บกิง่ การโคลนน่ิง การเพาะเล้ียงเนอ่ื เย่ือ การถ่ายฝากตวั อ่อน การแบ่ง/การแยก การแตกหนอ่ /งอกใหม/่ แบง่ สว่ น

การสบื พนั ธ์พุ ืชแบบอาศยั เพศ



การถา่ ยละอองเรณู (Pollination) มี 2 แบบ

การสืบพนั ธุ์พชื แบบอาศยั เพศ การสืบพันธ์ุแบบอาศยั เพศของพชื จะเกดิ ขึน้ ภายในอวยั วะ สบื พนั ธุ์ คอื ดอก โดยมีการปฏิสนธิระหว่างเซลล์ สืบพันธ์ุเพศผหู้ รือสเปร์ิม (sperm) กบั เซลลส์ บื พันธเ์ พศ เมยี หรอื ไข่ (egg) แลว้ ไดไ้ ซโกต (zygote) ท่ีเจรญิ ไป เปน็ เอ็มบริโอ (embryo) หรือต้นอ่อน ซึ่งจะเจริญเปน็ พืช ต้นใหม่ต่อไป

การสบื พนั ธพ์ุ ืชแบบไม่อาศยั เพศ การปักชา การปกั ชา เปน็ การนาสว่ นต่าง ๆ จากตน้ แม่ไปปกั ชาในวสั ดทุ ม่ี คี วามชื้นสงู ให้รากงอก

การสบื พันธ์พุ ชื แบบไมอ่ าศยั เพศ การตดิ ตา เปน็ การนาเอาสว่ นตาของพืชทตี่ ้องการขยายพนั ธม์ุ าตดิ เข้ากบั พืชอกี ตน้ หน่งึ

การสืบพนั ธุ์พชื แบบไม่อาศยั เพศ การตอนกงิ่ ทาโดยใชม้ ีดคว่นั เอาเปลือกนอกออก แล้วนาถงุ มาหมุ้ บรเิ วณรอยควั่นใหร้ ากงอกออก

การสบื พันธุ์พืชแบบไมอ่ าศัยเพศ การเสยี บกงิ่ การเสยี บยอด เปน็ การเชื่อมประสานเนื้อเย่ือของสว่ นยอดของพชื พนั ธุ์ดกี บั พชื ตน้ ตอเข้าดว้ ยกนั

การเพาะเลี้ยงเนื่อเย่อื การสบื พันธ์พุ ืชแบบไมอ่ าศยั เพศ เปน็ การนาสว่ นตา่ ง ๆ เชน่ ปลายยอด อ่อน ปลายราก และตา มาเลยี้ งบนอาหาร สงั เคราะหส์ ภาพปลอดเชอ้ื ให้เจรญิ เตบิ โต เปน็ การ ขยายพนั ธทุ์ ่สี ามารถผลิตตน้ พืชไดจ้ านวนมากใน เวลาอันสั้น มีความสาคญั ตอ่ การปรบั ปรงุ พันธุ์พชื

การสืบพนั ธุ์พืชแบบไมอ่ าศยั เพศ การแบ่ง/การแยก เป็นการนาเอาส่วนตา่ ง ๆ เช่น หวั หน่อ แงง่ และไหล ไปตดั แยกเปน็ ช้นิ

การขยายพันธข์ุ องพชื ไร้ดอก (พืชช้นั ตา่ )

การสบื พันธ์แุ บบอาศยั เพศของสตั ว์

การสืบพนั ธุ์แบบอาศัยเพศของสตั ว์ การหลอมรวมของนิวเคลยี สของเซลล์ สืบพันธุเ์ พศผแู้ ละนวิ เคลยี สของเซลลส์ บื พนั ธเ์ุ พศเมยี เปน็ การสบื พนั ธแุ์ บบอาศยั เพศ ลูกจะมรี หสั พนั ธุกรรมจากทงั้ พ่อและแม่ จาแนกไดอ้ อกเปน็ 2 ประเภท คือ การปฏสิ นธิ ภายนอก และการปฏิสนธภิ ายใน

การสบื พันธุแ์ บบอาศยั เพศของสัตว์ จาแนกไดอ้ อกเปน็ 2 ประเภท คอื การปฏิสนธภิ ายนอก และการปฏสิ นธภิ ายใน

การสบื พนั ธแุ์ บบอาศัยเพศของสัตว์ (การปฎิสนธภิ ายนอก) การปฏสิ นธิภายนอก คือ การท่อี สุจผิ สมกับไขภ่ ายนอกร่างกายสัตวเ์ พศเมยี



การสืบพันธุแ์ บบอาศยั เพศของสัตว์ (การปฎสิ นธิภายใน) การปฏิสนธภิ ายใน คือ การทอ่ี สุจเิ ข้าไปผสมกบั ไข่ภายในร่างกายสตั วเ์ พศเมยี

การปฏิสนธภิ ายนอกของปลาและการปฏสิ นธภิ ายในของสัตวป์ กี

การสืบพนั ธุ์แบบอาศยั ไม่เพศของสัตว์ การผสมเทยี ม การปฏิสนธิภายในมาผสมเทียม ทาโดยรีด นา้ เชือ้ จากสตั ว์เพศผู้ แล้วนานา้ เชือ้ ฉดี เข้าไปในมดลูก ของแม่พันธ์ุ ในชว่ งท่ีแมพ่ ันธก์ุ าลงั เป็นสัด การผสมเทยี มในสตั ว์ทม่ี กี ารปฏสิ นธภิ ายนอก ทา โดยฉดี ฮอรโ์ มนให้ปลาทเ่ี ปน็ พอ่ แมพ่ นั ธ์ุ เพอื่ กระตนุ้ จากน้นั รดี ไขจ่ ากแมพ่ นั ธุล์ งในภาชนะ แล้วรดี น้าเชอ้ื จากพ่อพนั ธุ์ลงไปผสมกบั ไข่ แลว้ จงึ นาไข่ท่ีไดร้ บั การ ผสมพนั ธ์แุ ล้วไปปล่อยในบอ่ สาหรับเพาะเลีย้ งลกู ปลา

การโคลนน่งิ การสบื พนั ธุ์แบบอาศัยไมเ่ พศของสตั ว์ เปน็ การสรา้ งสิ่งมชี วี ติ ข้ึนมาใหม่ที่มีลักษณะทางพนั ธกุ รรมเหมอื นส่งิ มีชวี ิตต้นแบบทุกประการ ขอ้ ดขี องการผสมเทยี ม 1. ประหยัดพ่อพันธุ์ เพราะสามารถ นาไปผสมกบั แม่พนั ธ์จุ านวนมากได้ 2. ป้องกนั การแพรก่ ระจายเช้ือโรคที่ อาจจะเกดิ จากการผสมพนั ธุโ์ ดย ธรรมชาติ

การสบื พนั ธุ์แบบอาศัยไมเ่ พศของสตั ว์ การถ่ายฝากตวั ออ่ น เป็นการขยายพันธุ์ในมดลกู ของแมพ่ ันธ์ุ จากนั้นใช้เครื่องมือดูดเอาตวั ออ่ นจากแมพ่ นั ธ์ุ แล้วนาไปฝากไว้ใน มดลกู ของแม่พนั ธ์ุอกี ตวั หน่งึ สัตวท์ ีน่ ิยมคือสัตวเ์ ลย้ี งลูกด้วยนา้ นมที่มกี ารตกลูกคร้ังละ 1 ตัว เชน่ โค กระบือ ขอ้ ดีของการถา่ ยฝากตัวออ่ น 1. ขยายได้จานวนมากและได้สัตว์ลกั ษณะ ตามต้องการ และเปน็ การชว่ ยอนรุ ักษ์อกี ทาง 2. ชว่ ยลดระยะเวลาและคา่ ใช้จ่ายในการ ขยายพันธุ์



การสบื พนั ธแุ์ บบไม่อาศัยเพศ การแตกหนอ่ การแตกหนอ่ หน่อที่งอกออกมานจ้ี ะเจริญเติบโตและมีลกั ษณะเหมือนกบั ตัวเดิม และหลดุ ออกมาเปน็ ตัวใหม่ เช่น ไฮดรา ปะการัง และฟองนา้

การสืบพันธ์แุ บบไม่อาศัยเพศ งอกใหม่ ดาวทะเล การงอกใหม่ เม่ือมสี ่วนของรา่ งกาย หลดุ หรอื สูญเสยี ไป ส่วนทห่ี ลุดจะเจริญ เป็นตวั ใหม่ เช่น ดาวทะเล พลานาเรยี

การแบ่งออก การสบื พันธแุ์ บบไม่อาศยั เพศ ยกู ลีนา การแบง่ ออกเปน็ 2 สว่ น เทา่ ๆ กนั พบมาก ในสัตว์เซลลเ์ ดยี ว เช่น อะมบี า พารามีเซียม ยูกลนี า การสืบพันธแ์ุ บบนจ้ี ะเกดิ ขนึ้ โดย นิวเคลยี สของเซลลแ์ บง่ ตัวกอ่ นแลว้ ไซโทพลาซมึ จะแบ่งตาม ไดเ้ ป็น 2 เซลล์ แตล่ ะเซลลจ์ ะ พารามีเซยี ม เหมอื นเซลลเ์ ดมิ ทกุ ประการ

แบบทดสอบหลังเรยี น เรอื่ ง การสบื พันธุข์ องสิง่ มชี วี ติ 1.ส่วนใดของดอกท่พี บในดอกครบสว่ นและดอกสมบูรณเ์ พศ ก. มกี ลีบเล้ียงและเกสรตัวผู้ ข. มกี ลบี ดอกและเกสรตัวเมีย ค. มเี กสรตัวผแู้ ละเกสรตวั เมยี ง. มกี ลีบเล้ียง กลบี ดอก และเกสรตวั ผู้

แบบทดสอบหลังเรยี น เรือ่ ง การสบื พนั ธุข์ องสง่ิ มชี วี ติ 2.ข้อใดเรยี งลาดบั ข้ันตอนการสบื พันธแ์ุ บบอาศยั เพศของพืชดอกไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง A การเกิดเมล็ดและผล ก. C -> D -> B -> A B การปฏสิ นธิ ข. C -> A -> D -> B C การสรา้ งเซลล์สบื พันธ์ุ ค. D -> A -> C -> B D การถ่ายละอองเรณู ง. D -> C -> A -> B

แบบทดสอบหลงั เรยี น เรอ่ื ง การสบื พนั ธุข์ องสิ่งมีชีวติ 3.ถา้ ต้องการพัฒนาใหไ้ ดม้ ะมว่ งรสชาติใหม่ ควรจะใช้วธิ ีการขยายพนั ธแ์ุ บบใด ก. การตอนกิ่ง ข. การตดิ ตา ค. การเพาะเลี้ยงเนื้อเย่ือ ง. การเพาะเมล็ด

แบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง การสบื พนั ธ์ุของสิ่งมชี ีวติ 4. สว่ นใดของดอกจะเจรญิ เปน็ ผล ก. รังไข่ ข. ออวลุ ค. กลบี ดอก ง. ไข่

แบบทดสอบหลงั เรยี น เร่อื ง การสืบพันธ์ขุ องสิ่งมชี วี ติ 5. ดอกไม้ของพชื ชนดิ ใดทเ่ี จริญเปน็ ผลได้โดยการถา่ ยละอองเกสรภายในดอก ก. มะละกอ ข. ฟกั ทอง ค. ขา้ วโพด ง. มะเขอื

แบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่อง การสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวติ 6.พืชชนดิ ใดท่ีขยายพนั ธดุ์ ว้ ยการแตกหนอ่ ก. กลว้ ย ข. ไผ่ ค. เฟริ ์น ง. ก และ ข

แบบทดสอบหลงั เรยี น เรอื่ ง การสบื พันธ์ขุ องส่งิ มีชวี ติ 7. ขอ้ ใดเปน็ ข้อดีของการผสมพันธแุ์ บบขา้ มสายพนั ธุ์ ก. การจัดการภายในฟาร์มทาได้ง่าย ข. สามารถพัฒนาพนั ธท์ุ ม่ี จี ดุ เดน่ ได้ ค. ไม่ต้องอาศัยการสืบพันธแุ์ บบอาศยั เพศ ง. ถูกทกุ ข้อ

แบบทดสอบหลงั เรยี น เรอ่ื ง การสบื พันธ์ขุ องส่งิ มีชวี ติ 8. สตั ว์ใดทนี่ ยิ มในการถา่ ยฝากตัวออ่ น ก. เป็ด ไก่ ข. สกุ ร หา่ น ค. ปลาสลดิ ปลาดุก ง. โค กระบือ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook