Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติ สู้ภัยโควิด 19 : แนวปฏิบัติในการป้องกัน

รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติ สู้ภัยโควิด 19 : แนวปฏิบัติในการป้องกัน

Description: รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติ สู้ภัยโควิด 19 : แนวปฏิบัติในการป้องกัน

Keywords: รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติ สู้ภัยโควิด 19 : แนวปฏิบัติในการป้องกัน

Search

Read the Text Version

รØวÜมÖพÓลÚังæºพÓลÚเóมÖอืíâงºตÊ่ืนüÎí รØูğūï ½ชĞÜว×ย½ชèาÊตêūิ ßสğÕïูภ æ×ัยöโ·ควÜดิêÉ 19 õแนÎ วÜปÐฏÃบิÏêัตæÊิ÷êใÎน³กาèรØปÐอâĚงºก³ นัæÎ แõลÚะåเóฝÒาĚèรØะåวÜังæºโöรØค· öโค· วÜดิÉêū179? ūใ÷นÎ ช½ุมÖî ช½นÎ 1

สสารบญั คาํ นํา หน้า 1. ขอ้ มลู ทวั� ไปเกย�ี วกบั โรคโควดิ �� 2. แนวปฏบิ ตั ใิ นการป้องกนั และเฝ้าระวงั โรคโควดิ �� ในชุมชน � � 2.1 กลไกการดาํ เนินงานเฝ้าระวงั และป้องกนั โรคโควดิ �� ในชมุ ชน � 2.2 การจดั การขอ้ มลู ขา่ วสารโรคโควดิ �� ในชมุ ชน �� 2.3 การเตรยี มพรอ้ มของประชาชนในชมุ ชน �� 2.4 การป้องกนั และเฝ้าระวงั โรคโควดิ �� ของชมุ ชน �� 2.5 การจดั การความรสู้ กึ ของคนในชุมชน �� แหล่งทม�ี าของขอ้ มลู �� 3

คาํ นาํา ดว้ ยสถานการณ์การระบาดของโรคโควดิ 19 มคี วามรุนแรงมากขน�ึ จนกลายเป็นวกิ ฤติ ของประเทศ เพราะขณะน�ีมผี ูป้ ว่ ยโรคน�ีและประชาชนกลุ่มเสย�ี งตดิ เชอ�ื ไวรสั ทต�ี ้องอยใู่ นระหว่าง เฝ้าระวงั กกั บรเิ วณในท�พี กั เพมิ� มากข�นึ อย่างรวดเรว็ และกระจายอยู่เกือบครบทุกจงั หวดั ทวั� ประเทศ ทําให้รฐั บาลต้องประกาศใช้ พ.ร.ก. การบรหิ ารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องท�ีทวั � ราชอาณาจกั ร ตัง� แต่วนั ท�ี 26 มนี าคม ถึง 30 เมษายน พ.ศ. 2563 และกรุงเทพมหานคร รวมทงั� อกี หลายจงั หวดั ไดป้ ระกาศปิดเมอื ง ลด การเคลอ�ื นไหวของประชาชนเพอ�ื รบั มอื และหยดุ การแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 สถานการณ์วกิ ฤตขิ องประเทศจากภยั ดงั กล่าว ทําใหห้ น่วยงานภาคดี า้ นสุขภาพ ด้าน สงั คม และดา้ นปกครอง ต้องจบั มอื รวมพลงั ร่วมกบั เครอื ข่ายภาครฐั สถาบนั วชิ าการ ธุรกจิ เอกชน และภาคประชาสงั คมในพ�นื ท�ี เพ�อื ไปหนุนช่วยหน่วยงานภาครฐั และองค์กรชุมชนใน ระดบั ตําบลและชุมชนหมู่บ้าน ให้ร่วมกนั ขบั เคล�อื นยกระดบั การรบั รู้และการมสี ่วนร่วมของ ประชาชน เปล�ยี นจากประชาชนท�ตี �ืนกลวั เป็นพลเมอื งท�ตี �นื รู้ในการดูแลตนเอง ครอบครวั สงั คม และมสี ่วนรว่ มกําหนดมาตรการต่างๆ ของชุมชนในการรบั มอื กบั การแพร่ระบาดของโรค โควดิ 19 ในชุมชนของตนภายใต้แนวคดิ “รวมพลงั พลเมืองต�ืนรู้ ช่วยชาติ สู้ภยั โควิด 19” โดยมตี าํ บลเป็นพืน� ที�จดั กระบวนการหรือเวทีของประชาชนเพ�ือให้เกิดข้อตกลงร่วมหรือ ธรรมนูญประชาชนสู้ภยั โรคโควิด 19 ของแต่ละตาํ บลและทุกชุมชนหมู่บ้าน เพราะการ รบั รูแ้ ละบทบาทการมสี ่วนร่วมของประชาชนเป็นปจั จยั สําคญั สุดท�จี ะช่วยไทยใหผ้ ่านพน้ วกิ ฤติ ครงั� น�ี สาํ นกั งานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จงึ ไดร้ ว่ มกบั องคก์ รภาคเี ครอื ขา่ ยจดั ทํา เอกสาร “รวมพลงั พลเมืองตื�นรู้ ช่วยชาติ ส้ภู ยั โควิด 19 - แนวปฏิบตั ิในการป้ องกนั และ เฝ้ าระวงั โรคโควิด 19 ในชุมชน” ขน�ึ โดยเอกสารฉบบั น�ีไดก้ ล่าวถงึ เร�อื งแนวทาง และกลไก การดาํ เนนิ งานเฝ้าระวงั และป้องกนั โรคโควดิ 19 ในชุมชน รวมถงึ การจดั การขอ้ มลู ขา่ วสาร การ เตรยี มพรอ้ มของประชาชน และการจดั การความรสู้ กึ ของคนในชมุ ชนดว้ ย สช. หวงั เป็นอย่างยงิ� ว่าเอกสารฉบบั น�ีจะเป็นประโยชน์สําหรบั นําไปใชเ้ ป็นแนวทางใน การยบั ยงั� การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 ในชุมชนต่อไป สาํ นกั งานคณะกรรมการสุขภาพแหง่ ชาติ มนี าคม 2563 4

รวรมวพมพลลงั พงั พลลเมเมืองต่นื รู ชว ยยชชาาตติ ิสสภู ภู ยั ัยโคโวคดิวดิ 1919 “แน“วแนปวฏปบิ ฏตั บิ ิใตั นใิ นกการาปรปอ องงกกันนั แและเฝาารระะววงั งัโรโครคโคโควดิวดิ 1919ในใชนมุ ชชุมนช”น” ในสถานการณ์ท�มี กี ารระบาดของโรคโควดิ �� ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ�น หน่วยงานในพ�ืนท�ี ครอบครวั และบุคคลล้วนมีความสําคัญท�ีจะช่วยยบั ยงั� หรือชะลอการ แพรก่ ระจายของโรคได้ ดว้ ยการกระตุน้ ใหค้ นในชุมชนแสดงพลงั ช่วยการทํางานของรฐั โดยเอา ใจใส่ดแู ลคนในชุมชนและครอบครวั ปฏบิ ตั ติ วั ตามคาํ แนะนําของรฐั สนับสนุนความเขม้ แขง็ ของ การป้องกนั และเฝ้าระวงั โรคโควดิ �� ในพน�ื ทต�ี นเองและพ�นื ทข�ี า้ งเคยี งเพ�อื ใหค้ นไทยก้าวผ่าน สถานการณ์วกิ ฤตนิ �ไี ปดว้ ยกนั 5

6

1. ขอมูลลททวั่ วั่ ไปไปเกเกยี่ ย่ีววกกับบัโรโครโคโวคดิ วิด1919 1.1 โรคโควิด �� เกดิ จากเชอ�ื ไวรสั โคโรนาสายพนั ธุ์ใหม่ 2019 ซง�ึ เป็นกลุ่มเชอ�ื ทก�ี ่อใหเ้ กดิ โรคทางเดนิ หายใจในคน สามารถแพร่กระจายได้ผ่านทางการไอ จาม สมั ผสั น�ํามูก น�ําลาย มรี ะยะฟกั ตวั ไดน้ านถงึ 14 วนั โดยผูป้ ่วยมกั จะมอี าการคล้ายไขห้ วดั อาการ ทางเดนิ หายใจ เช่น มไี ข้ ไอ มนี �ํามกู ในผปู้ ่วยบางรายโดยเฉพาะผูส้ ูงอายุ อาจมอี าการ รุนแรงทําใหเ้ กดิ ภาวะแทรกซอ้ น เช่น ปอดบวม ปอดอกั เสบ ไตวาย หรอื อาจเสยี ชวี ติ ได้ 1.2 ประเทศไทยได้ประกาศให้โรคโควิ ด �� เป็ นโรคติ ดต่ออันตรายตาม พระราชบญั ญตั ิโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 แล้ว ตามรายละเอยี ดในประกาศกระทรวง สาธารณสุข เร�อื ง ช�อื และอาการสําคญั ของโรคตดิ ต่ออนั ตราย (ฉบบั ท�ี 3) พ.ศ. 2563 ลงวนั ท�ี 26 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2563 7

1.3 โรคโควิด �� สามารถป้ องกนั ได้ หากปฏิบตั ิตามคําแนะนําของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ 2. แนวปฏิบตั ใิในนกกาารรปปอ อ งงกกันันแแลละะเฝเฝา ารระะววังงัโรโรคคโคโคววดิ ิด1199 ใในนชชมุ มุ ชชนน 2.1 กลไกการดาํ เนินงานเฝ้ าระวงั และป้ องกนั โรคโควิด �� ในชมุ ชน (1) พระราชบญั ญตั ิโรคตดิ ต่อ พ.ศ. 2558 กําหนดให้มคี ณะกรรมการโรคติดต่อ จงั หวดั หรอื คณะกรรมการโรคตดิ ต่อกรุงเทพมหานคร ท�มี ผี วู้ ่าราชการจงั หวดั หรอื ผวู้ ่าราชการ กรุงเทพมหานคร เป็นประธานกรรมการและมนี ายแพทยส์ าธารณสุขจงั หวดั หรอื ผู้อํานวยการ สาํ นกั อนามยั กรงุ เทพมหานคร เป็นกรรมการและเลขานุการ (2) มปี ระกาศกระทรวงสาธารณสุข เร�อื ง แต่งตงั� เจา้ พนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามพระราชบญั ญตั ิโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 (ฉบบั ท�ี 3) และ (ฉบบั ท�ี 4) พ.ศ. 2563 ลงวนั ท�ี 12 มนี าคม พ.ศ. 2563 ซง�ึ มที งั� ขา้ ราชการของกระทรวงสาธารณสุข ผบู้ รหิ ารและเจา้ พนักงาน ปกครองระดบั จงั หวดั อําเภอ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน�ิ ทุกระดบั กรุงเทพมหานคร และเมอื ง พทั ยา รวมถึงผู้ปฏิบตั ิงานท�อี ยู่ใกล้ชดิ กบั ชุมชน ได้แก่ ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขซ�งึ รบั ผิดชอบงานด้านระบาดวิทยา การเฝ้าระวงั ป้องกนั หรอื ควบคุมโรคติดต่อในสํานักงาน สาธารณสุขจังหวัด สํานักงานสาธารณสุขอําเภอ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทัว� ไป โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตําบล กํานัน ผูใ้ หญ่บ้าน แพทยป์ ระจาํ ตําบล สารวัตรกํานัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพ�ือประโยชน์ในการเฝ้ าระวังโรค เจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อมอี ํานาจออกหนังสอื เรยี กบุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคํา แจ้งข้อเท็จจรงิ หรอื เขา้ ไปยงั อาคารบ้านเรือนเพ�อื การตรวจสอบ นอกจากน�ี กระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กํานัน ผใู้ หญ่บา้ น อาํ นวยความสะดวกแก่บคุ คลกลุ่มเสย�ี งทเ�ี ดนิ ทางกลบั ไปเฝ้าระวงั อาการยงั ภูมลิ าํ เนา และประชาสมั พนั ธถ์ งึ วธิ ปี ้องกนั ตวั เองแก่คนในชุมชนดว้ ย (3) มีหนังสือคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เร�ือง ขอความร่วมมือจัดทํา แผนปฏบิ ตั กิ ารคน้ หา เฝ้าระวงั และป้องกนั โรค ระดบั อําเภอและหมู่บา้ น กรณีผูเ้ ดนิ ทางกลบั จากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลงวันท�ี 21 มีนาคม พ.ศ. 2563 ขอความร่วมมือให้ คณะกรรมการโรคติดต่อจงั หวดั จดั ทําแผนปฏบิ ตั กิ ารค้นหา เฝ้าระวงั และป้องกนั โรค ระดบั อําเภอและหม่บู า้ น โดยใหม้ ที มี อาสาโควดิ 19 ระดบั อําเภอและหม่บู า้ น ดาํ เนินการคน้ หาและ เฝ้าระวงั มกี ารจดั ทําฐานขอ้ มลู ผทู้ เ�ี ดนิ ทางกลบั มาจากกรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล และให้ ความรคู้ วามเข้าใจแก่ผู้ท�ีเดนิ ทางกลบั มาจากกรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑลปฏบิ ตั ิตนอย่าง เครง่ ครดั ในเรอ�ื งการแยกตวั สงั เกตอาการจนครบ 14 วนั นบั จากวนั ทเ�ี ดนิ ทางมาถงึ จงั หวดั โดย หากมอี าการไขแ้ ละอาการทางเดนิ หายใจใหร้ บี แจง้ เจา้ หน้าทส�ี าธารณสุขในพน�ื ทท�ี นั ที 8

9

(4) กรมสนบั สนุนบรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข ไดจ้ ดั ทาํ โครงการสนบั สนุน บทบาทอาสาสมคั รสาธารณสุขประจาํ หมบู่ า้ น (อสม.) เคาะประตูบา้ นใหค้ วามรปู้ ระชาชนในการ ป้องกนั และเฝ้าระวงั โรคโควดิ �� โดยมงุ่ สรา้ งความร่วมกบั เครอื ข่ายสุขภาพภาคประชาชนใน การใหค้ วามรแู้ ละสนบั สนุนใหป้ ระชาชนป้องกนั โรคดว้ ยตนเอง (5) สํานักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) รว่ มกบั สถาบนั พฒั นาองคก์ ร ชุมชนฯ (พอช.) และภาคี สนับสนุนการ “รวมพลงั พลเมอื งต�นื รู้ สู้ภยั โควดิ 19” ในระดบั ชุมชน เพ�อื เปิดพ�นื ทก�ี ลางระดมการมสี ่วนร่วมของหน่วยงานองค์กรทงั� ภาคราชการ องค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถนิ� ผแู้ ทนจากสถาบนั การศกึ ษา นกั วชิ าการ และภาคประชาชน เช่น ภาคธุรกจิ เอกชน ส�ือชุมชน แกนสมชั ชาสุขภาพจงั หวดั กรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดบั อําเภอ (พชอ.) กรรมการเขตสุขภาพเพ�อื ประชาชน (กขป.) เพ�อื กําหนดมาตรการ กิจกรรมเพ�อื ป้องกนั เฝ้า ระวังโรค รวมถึงการดูแลสุขภาพกาย จิตและสังคมของคนในชุมชนทัง� บุคคล กลุ่มเส�ียง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชน และประชาชนทวั� ไปในชุมชน เช่น การจดั กลไกกรรมการ ระดบั พน�ื ทเ�ี พ�อื รบั ผดิ ชอบและเชอ�ื มโยงงานกบั กลไกรฐั สนับสนุนกจิ กรรมจติ อาสา เช่น ช่วยทมี อาสาโควดิ 19 ในการเฝ้าระวงั โรค รวมพลงั ทาํ ความสะอาดพน�ื ทเ�ี สย�ี ง การผลติ หน้ากากอนามยั หรอื ผลติ ภณั ฑจ์ าํ เป็นอ�นื ๆ 2.2 การจดั การข้อมลู ข่าวสารโรคโควิด �� ในชุมชน องคค์ วามรแู้ ละขอ้ มลู ข่าวสารเป็นหวั ใจสาํ คญั ของการจดั การวกิ ฤติโรคโควดิ �� เพราะ ข่าวลอื และข่าวปลอมต่าง ๆ จะสรา้ งความตระหนกของประชาชน รวมถงึ ความเขา้ ใจผดิ หรอื การกล่าวโทษบุคคลกล่มุ เสย�ี ง ซง�ึ ยงิ� จะทาํ ใหเ้ กดิ ผลเสยี ในการจดั การปญั หา หากไม่ไดร้ บั ความ ร่วมมือในการดําเนินงานจากคนในชุมชน ดังนัน� ชุมชนจึงควรจัดการข้อมูลข่าวสารตาม แนวทาง ดงั น�ี (1) มีศูนย์ข้อมูลข่าวสารหรือศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารใน ชุมชน เพ�อื เป็นศูนยข์ อ้ มลู โควดิ 19 ของชุมชนทใ�ี หข้ อ้ มลู อย่างถูกตอ้ งและเท่าทนั สถานการณ์ โรค ทงั� ระดบั ชาติ จงั หวดั อําเภอและพ�นื ท�ชี ุมชน เป็นกลไกจดั การข่าวลอื ข่าวปลอมท�สี ร้าง ความเขา้ ใจทไ�ี มถ่ ูกต้อง ความตระหนก สบั สน รวมถงึ สรา้ งความเช�อื มนั� ในการดําเนินชวี ติ และ ปฏบิ ตั ติ วั ทถ�ี ูกตอ้ งของประชาชนในชมุ ชน (2) กาํ หนดบคุ คลและบทบาทของผ้ใู ห้ข้อมลู ข่าวสาร เก�ยี วกบั สถานการณ์โรค ให้ชดั เจนซ�งึ ควรเป็นบุคคลท�มี คี วามเชี�ยวชาญหรอื มาจากหน่วยงานที�มหี น้าที�รบั ผดิ ชอบ โดยตรงหรอื เป็นเจา้ พนักงานตามพระราชบญั ญตั ิโรคตดิ ต่อฯ เช่น ผอู้ ํานวยการโรงพยาบาล ชุมชน สาธารณสุขอําเภอ ผอู้ าํ นวยการโรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตําบล กาํ นนั ผใู้ หญ่บา้ น อสม. 10

(3) ติดตามข้อมูล ข่าวสาร องค์ความรู้อย่างเท่าทันสถานการณ์โรค และ เลือกใช้ช่องทางและรูปแบบการสื�อสารท�ีเหมาะสมกบั ประชาชนทุกกลุ่มในชุมชน โดยเฉพาะกลมุ่ คนทเ�ี ดนิ ทางกลบั มาจากพน�ื ทเ�ี สย�ี ง กล่มุ คนเปราะบาง เชน่ ผสู้ งู วยั คนชายขอบ ผปู้ ว่ ยตดิ เตยี ง ผยู้ ากไร้ พรอ้ มทงั� คาํ นงึ ถงึ ความแตกต่างดา้ นความเช�อื จารตี ประเพณี วถิ ปี ฏบิ ตั ิ ศาสนา วฒั นธรรม โดยเลอื กใชข้ อ้ มลู จากหน่วยงานของรฐั ทเ�ี ช�อื ถอื ไดเ้ ท่านนั� เช่น กรมควบคุม โรค กระทรวงสาธารณสุข เพ�อื ใหไ้ ดค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจและความตระหนักท�ถี ูกต้อง ครบถ้วน ลดความตระหนกจากการรบั ข้อมูลข่าวสารท�ีไม่ถูกต้องของประชาชนในชุมชน คล�ีคลาย วกิ ฤตกิ ารณ์ของสงั คม ไม่ส�อื สารขอ้ มลู ข่าวสารทม�ี ลี กั ษณะเป็นข่าวลอื ข่าวปลอม หรอื ข่าวจาก แหล่งทไ�ี ม่น่าเช�อื ถอื หรอื ไม่ทราบแหล่งทม�ี า รวมถงึ สนับสนุนใหป้ ระชาชนในชุมชนระมดั ระวงั การส�อื สารสารขอ้ มลู โดยตอ้ งมกี ารตรวจสอบใหช้ ดั เจนก่อนเผยแพร่หรอื ส่งต่อ ตามหลกั “ชวั ร์ ก่อนแชร”์ (4) หากเกดิ สถานการณ์ทร�ี ุนแรงและรา้ ยแรงท�มี ผี ลกระทบต่อชุมชน ผ้ใู ห้ข้อมูล ข่าวสารของชุมชนต้องส�ือสารด้วยข้อเทจ็ จริง โดย “แจง้ ให้หมด บอกให้ไว” เพ�อื ไมใ่ หเ้ กดิ ความตระหนก สบั สนของประชาชนในชุมชน (5) นําเสนอข้อมลู ข่าวสารที�สร้างความเอื�ออาทรกนั ภายในชุมชน ไม่นําเสนอ ขอ้ มลู ขา่ วสารทส�ี รา้ งความขดั แยง้ แตกแยกในชุมชน ขยายประเดน็ ไม่กล่าวหาว่าผหู้ น�ึงผใู้ ดคอื ต้นเหตุท�สี ร้างผลกระทบให้กบั ชุมชน หรอื สรา้ งความตระหนกให้กบั ชุมชน กรณีท�มี ผี ูป้ ่วยใน ชุมชนหรอื บุคคลกลุ่มเส�ยี งท�ตี ้องกกั กนั เฝ้าระวงั การนําเสนอข้อมูลข่าวสารต้องเคารพต่อ ความเป็ นส่วนตวั และสิทธิของผ้ปู ่ วย รวมถงึ ครอบครวั ญาตพิ น�ี ้องของผู้ป่วย โดยต้องไม่ นําเสนอหรอื ส�อื สารขอ้ มลู สว่ นบคุ คลและขอ้ มลู สุขภาพของบุคคล 2.3 การเตรยี มพร้อมของประชาชนในชมุ ชน ควรนํา แนวคิด “3 ไม่” ในสถานการณ์ระบาดของโรคโควดิ 19 สอ�ื สารเพอ�ื การเตรยี มการ ของประชาชนในชมุ ชน ไดแ้ ก่ (1) ไม่ละเมิด คอื ไม่นําเอาขอ้ มูลส่วนบุคคลและขอ้ มูลสุขภาพของผู้ทต�ี ดิ เชอ�ื และ ครอบครวั ของผทู้ ต�ี ดิ เชอ�ื ไปเผยแพรห่ รอื สง่ ต่อ (2) ไม่ปกปิ ด คอื ต้องไม่ปกปิดขอ้ มูลของตนเองหรอื ครอบครวั หรอื คนในชุมชน หากมกี ารเดนิ ทางกลบั มาจากพ�นื ทเ�ี สย�ี งหรอื พน�ื ทท�ี ม�ี กี ารระบาดของโรคโควดิ �� โดยตอ้ งแจง้ ใหเ้ จา้ พนักงานควบคุมโรคทราบตามแนวปฏบิ ตั ขิ องกรมควบคุมโรค เพ�อื การสอบสวนโรคและ การป้องกนั เฝ้าระวงั อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพในชุมชน (3) ไม่ฉกฉวย คือ ไม่ฉกฉวยผลประโยชน์ใด ๆ จากประชาชนในชุมชนใน สถานการณ์วกิ ฤตโิ รคระบาดครงั� น�ี 11

12

2.4 การป้ องกนั และเฝ้ าระวงั โรคโควิด �� ของชมุ ชน (1) จดั ทําบอรด์ หรอื ป้ายประชาสมั พนั ธ์ ณ ศูนยเ์ ผยแพร่ขอ้ มูล หรอื สถานท�รี วมคน ของชุมชน หมู่บ้านจดั สรร อาคารชุด รวมถึงใช้ส�ือเสียงตามสายหรอื อ�ืน ๆ เพ�ือแจ้งเตือน ประชาชนในชมุ ชน ผพู้ กั อาศยั และผตู้ ดิ ต่อในชุมชน ถงึ สถานการณ์การระบาดของโรคโควดิ �� และปรบั ปรุงให้ทนั สถานการณ์ประจําวนั ตามขอ้ มูลทห�ี น่วยงานรฐั ชแ�ี จงรวมถงึ ประชาสมั พนั ธ์ มาตรการป้องกนั และเฝ้าระวงั โรคสาํ หรบั ประชาชน (2) แจง้ ใหป้ ระชาชนในชุมชนทราบว่า หากมคี นในครอบครวั รวมทงั� บุคคลใกล้ชดิ ทงั� ทพ�ี กั อยดู่ ว้ ยกนั ในชุมชน หอ้ งพกั หรอื ผมู้ าเยย�ี ม หากมไี ข้ หรอื มอี าการไอ เจบ็ คอ มนี �ํามกู ให้ สวมใส่หน้ากากอนามยั ตลอดเวลา ลา้ งมอื ดว้ ยน�ําและสบ่บู ่อย ๆ และรบี ไปพบแพทย์ ทงั� น�ี ควร ให้ความสําคญั กบั การกําจดั ขยะของผู้ป่วย เช่น หน้ากากอนามยั หรอื กระดาษชําระทใ�ี ช้แล้ว โดยรวบรวมกําจดั เป็นการเฉพาะ (3) ในกรณที เ�ี ป็นผทู้ เ�ี พงิ� เดนิ ทางกลบั จากต่างประเทศหรอื กลบั จากพน�ื ทเ�ี สย�ี ง เช่น กรุงเทพมหานครหรอื มญี าตเิ ดนิ ทางกลบั มาจากพน�ื ทเ�ี หล่าน�ี ให้แจง้ ใหเ้ จา้ พนกั งานควบคุมโรค หรอื คณะกรรมการเฝ้าระวงั โรคในชุมชนทราบโดยทนั ที เพ�อื ให้ชุมชนและครอบครวั ร่วมกัน สนับสนุนการกกั กนั ตนเองเพ�อื เฝ้าสงั เกตอาการ 14 วนั ให้ผ่านไปได้อย่างปลอดภยั และมี ความสุข ทงั� น�ี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะนําการปฏบิ ตั ติ นของผู้อย่อู าศยั และ ทาํ ลายเชอ�ื ในสง�ิ แวดลอ้ มของบา้ นทม�ี ผี กู้ กั ตวั หรอื สงั เกตอาการ ไดแ้ ก่ สมาชกิ ในบา้ นทุกคนตอ้ ง ลา้ งมอื บ่อย ๆ ด้วยน�ําและสบู่ หลกี เล�ยี งการใกลช้ ดิ กบั ผูก้ กั ตวั หากต้องอย่กู บั ผู้กกั ตวั ใหส้ วม หน้ากากอนามยั และอย่หู ่างกนั ไม่น้อยกว่า 1 เมตร ตามหลกั Social distancing หรือ หลกั การเพิ�มระยะห่างทางสงั คม โดยไมใ่ ชข้ องสว่ นตวั รว่ มกนั แยกชดุ อาหาร ทาํ ความสะอาด เสอ�ื ผา้ ของใช้ส่วนตวั ดว้ ยผงซกั ฟอก หมนั� ทําความสะอาดทพ�ี กั และสงั เกตอาการของตนเอง ตลอด 14 วนั หลงั สมั ผสั ใกลช้ ดิ กบั ผกู้ กั ตวั (4) สําหรบั อาคารชุด หรอื สถานทส�ี าธารณะในชุมชน เช่น วดั โรงเรยี น สถานท�ี ราชการ ควรจดั ให้มแี อลกอฮอลเ์ จลลา้ งมอื ไว้ในบริเวณพ�นื ทส�ี ่วนกลาง เช่น ประตูทางเขา้ ออก หอ้ งอาหาร หน้าลฟิ ท์ เพ�อื ช่วยลดความเสย�ี งในการแพรก่ ระจายเชอ�ื ระหวา่ งบคุ คล (5) จดั เจา้ หน้าทห�ี รอื จติ อาสาทําหน้าทด�ี ูแลทําความสะอาดสงิ� ของท�ใี ชง้ านบ่อย ๆ ในสถานทส�ี าธารณะทม�ี ปี ระชาชนใช้ประโยชน์รว่ มกนั เช่น หอ้ งน�ําสาธารณะ ราวบันได มอื จบั ประตู เคาน์เตอรบ์ รกิ ารท�มี ผี ู้มาตดิ ต่อบ่อย ๆ ทงั� น�ี น�ํายาขดั ลา้ งหอ้ งสุขา น�ํายาซกั ผ้าขาวผสม น�ํา 1 ต่อ 10 และ 70% แอลกอฮอล์ สามารถทาํ ลายเชอ�ื ไวรสั ได้ 13

(6) แจง้ พนักงานทําความสะอาดและเกบ็ ขยะของชุมชน ให้ทราบถงึ ความเส�ยี งใน การรบั เชอ�ื โดยใหค้ วามสําคญั ในการป้องกนั ตนเองไดแ้ ก่ การสวมหน้ากากอนามยั แว่นตากนั ลม และถุงมอื ยางยาวขณะปฏบิ ตั งิ าน (7) สถานท�เี ฉพาะต่าง ๆ ในชุมชน เช่น สถานท�ที ํางาน สถานศึกษาท�พี กั อาศยั ศาสนสถาน ค่ายทหาร สถานทป�ี ระชุมสมั มนา สถานทท�ี ม�ี กี ารรวมกนั ของคนหม่มู าก เช่น การ แข่งขนั กฬี า สวนสนุก สระว่ายน�ํา ชุมชนและเจา้ ของสถานทห�ี รอื ผู้จดั งานต้องเน้นเร�อื งการให้ ความรตู้ ามหลกั Social distancing หรือ หลกั การเพิ�มระยะห่างทางสงั คม มาตรการคดั กรอง การวเิ คราะหส์ ถานการณ์เพ�อื งดหรอื เล�อื นการจดั กจิ กรรมทม�ี คี นมารวมตวั กนั เกนิ กว่า 50 คน การรกั ษาความสะอาด การเตรยี มอุปกรณ์ป้องกนั การลดความแออดั ซ�งึ สามารถศกึ ษา รายละเอยี ดไดใ้ นเวบ็ ไซตข์ องกรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข 2.5 การจดั การความร้สู ึกของคนในชมุ ชน (1) สอ�ื สารใหค้ นในชมุ ชนเขา้ ใจรว่ มกนั ว่า ผปู้ ่วยหรอื ผตู้ ดิ เชอ�ื หรอื ผูท้ ถ�ี ูกกกั ตวั เพ�อื เฝ้าระวงั โรค คอื เพ�อื นมนุษยเ์ หมอื นทุกคน ซง�ึ อาจเป็นพ่อแม่ ป่ยู ่าตายาย ญาตพิ น�ี ้อง ลกู หลาน เป็นคนทต�ี อ้ งการการดแู ลหรอื รกั ษาใหห้ ายถา้ ตดิ เชอ�ื ตอ้ งการกาํ ลงั ใจและการเกอ�ื กูลในยามต้อง กกั กนั ตวั เอง (2) ส�ือสารให้คนในชุมชนเข้าใจร่วมกันว่า ครอบครวั ท�ีมีผู้ติดเช�ือหรือผู้ป่วยก็ เช่นกนั เป็นเพ�อื นบ้านผู้ร่วมในสถานการณ์น�ีร่วมกบั คนในชุมชน จงึ ต้องช่วยเหลอื เก�อื กูลกนั เหน็ อกเหน็ ใจ ใสใ่ จดแู ลและเฝ้าระวงั สุขภาพของเพ�อื นบา้ น โดยเฉพาะครอบครวั ทม�ี ผี สู้ ูงอายุซง�ึ มคี วามเส�ยี ง หรอื ผู้สูงอายุท�อี าศยั อยู่คนเดยี ว ชุมชนต้องไม่เลอื กปฏบิ ตั ิ รงั เกียจ ตฉิ ินนินทา หรอื มงุ่ รา้ ยทาํ ลายกนั เพราะทุกคนในชมุ ชนตอ้ งผ่านวกิ ฤตนิ �ไี ปดว้ ยกนั (3) ผู้ท�ีมีร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี ควรเข้าร่วมทําประโยชน์ต่อชุมชนตาม ศักยภาพท�ีตนมี เช่น การเป็นจติ อาสา หรอื ร่วมในกิจกรรมของชุมชน โดยใช้ความถนัด ความสามารถ หรอื จติ อาสาเพ�อื สงั คมสว่ นรวม ในการดาํ เนินการดา้ นต่าง ๆ ในชมุ ชน ไดแ้ ก่ - มสี ่วนร่วมในการป้องกนั ควบคุมการระบาดของโรคในชุมชนโดยเฝ้าระวงั อาการผิดปกติของตนเอง และครอบครวั และให้ความร่วมมือ อสม. กรรมการชุมชน และ เจา้ หน้าทร�ี ฐั ในการปฏบิ ตั ติ ามมาตรการของรฐั ทก�ี ําหนด - รว่ มสงั เกตและแจง้ ขอ้ มลู ความผดิ ปกตทิ อ�ี าจเสย�ี งต่อการเกดิ โรคฯ แก่ อสม. กรรมการชมุ ชนและเจา้ หน้าทข�ี องรฐั - ใหค้ วามช่วยเหลอื อสม. กรรมการชุมชนและเจา้ หน้าทร�ี ฐั กรณไี ดร้ บั การรอ้ ง ขอตามกาํ ลงั ความสามารถ 14

- บรจิ าคสนบั สนุนทุนทรพั ย์ อุปกรณ์ เครอ�ื งมอื เครอ�ื งใชท้ จ�ี าํ เป็นใหส้ ่วนกลาง ไวใ้ ชเ้ พ�อื ส่วนรวม - การจดั หาอาหารเครอ�ื งด�มื สาํ หรบั ผปู้ ว่ ย ผถู้ กู กกั ตวั และครอบครวั ผปู้ ว่ ย - การสนับสนุนให้มกี ารรวมกลุ่มเพ�อื จดั กจิ กรรมจติ อาสาดา้ นสุขอนามยั เช่น การทาํ หน้ากากผา้ ทาํ เจลลา้ งมอื เพอ�ื ใชใ้ นชมุ ชนหรอื แจกจา่ ยใหผ้ ทู้ ข�ี าดแคลน - การส่งเสรมิ กจิ กรรมสนั ทนาการในรูปแบบต่าง ๆ ท�เี หมาะสม เช่น จดั หา หนังสอื ภาพยนตร์ คลปิ วดิ โี อ ธรรมมะ หรอื ส�อื รปู แบบต่าง ๆ ท�ชี ่วยสรา้ งแรงบนั ดาลใจ สรา้ ง พลงั ใหก้ ําลงั ใจ ใหค้ วามหวงั โดยงดเวน้ การส�อื สารทอ�ี าจก่อใหเ้ กดิ ความแตกแยกต�นื ตระหนก หรอื ส่งเสรมิ ใหม้ กี ารทาํ กจิ กรรมทเ�ี หมาะสมกบั สภาพสงั คม ความถนัดและทกั ษะของผถู้ ูกกกั ตวั เพอ�ื คลายความเครยี ด - การส่งเสรมิ การรวมกลุ่มของผทู้ ม�ี รี า่ งกายแขง็ แรง สุขภาพดี สามารถบรจิ าค โลหติ ได้ ชวนกนั ไปบรจิ าคโลหติ ทโ�ี รงพยาบาลต่าง ๆ ในขณะทส�ี ถานการณ์ยงั สามารถควบคุม ได้ เพอ�ื โรงพยาบาลจะไดม้ โี ลหติ ใชใ้ นยามขาดแคลน - การสรรหากิจกรรมท�ชี ่วยให้เกิดความสงบและไม่ตระหนกในชุมชน เช่น การทาํ สมาธิ การภาวนา การเจรญิ สตติ ามแนวปฏบิ ตั ขิ องแต่ละศาสนา 15

แหลง ที่มมาาขขอองงขขอ อ มมูลลู 1. พระราชบญั ญตั โิ รคตดิ ต่อ พ.ศ. 2558 2. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรอ�ื ง ช�อื และอาการสาํ คญั ของโรคตดิ ต่ออนั ตราย (ฉบบั ท�ี 3) พ.ศ. 2563 ลงวนั ท�ี 26 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2563 3. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เร�ือง แต่งตัง� เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตาม พระราชบญั ญตั โิ รคตดิ ต่อ พ.ศ. 2558 (ฉบบั ท�ี 3) พ.ศ. 2563 ลงวนั ท�ี 12 มนี าคม พ.ศ. 2563 4. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เร�ือง แต่งตัง� เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตาม พระราชบญั ญตั โิ รคตดิ ต่อ พ.ศ. 2558 (ฉบบั ท�ี 4) พ.ศ. 2563 ลงวนั ท�ี 12 มนี าคม พ.ศ. 2563 5. หนังสอื คณะกรรมการโรคตดิ ต่อแห่งชาติ ท�ี สธ 0410.7/ว217 เร�อื ง ขอความร่วมมอื จดั ทําแผนปฏบิ ตั กิ ารคน้ หา เฝ้าระวงั และป้องกนั โรค ระดบั อําเภอและหม่บู า้ น กรณีผู้ เดนิ ทางกลบั จากกรงุ เทพมหานครและปรมิ ณฑล ลงวนั ท�ี 21 มนี าคม พ.ศ. 2563 6. คําแนะนํา อสม. ในการตดิ ตามสงั เกตอาการ ณ ท�พี กั อาศยั (Self–Quarantine at Home) สําหรบั ผู้ท�เี ดินทางกลบั มาจากประเทศท�เี ป็นเขตติดโรคตดิ ต่ออนั ตราย และ พน�ื ทท�ี ม�ี กี ารระบาดของโรคต่อเน�อื ง วนั ท�ี 15 มนี าคม พ.ศ. 2563 7. แนวทาง อสม. เคาะประตูบา้ นตา้ นโควดิ 8. https://ddc.moph.go.th/ 16



รชแวนว วมยทพชางากลตางัริจพสดัในลวภู งรเยัปมะรดโคกึอื ับษวงพาิดตหื้นาื่นร1ทือ9รี่ู

แนวทางการจดั วงปรกึ ษาหารือ รวมพลงั พลเมอื งตน่ื รู้ ชว่ ยชาติ สภู้ ยั โควดิ 19 ในระดบั พน้ื ท่ี

สารบญั ความสาคัญของการจดั วงปรกึ ษาหารือ รวมพลังพลเมืองต่นื รู้ ชว่ ยชาติ สู้ภยั โควดิ 19 ในระดับพืน้ ที่ หนา้ การจดั วงปรึกษาหารอื รวมพลังพลเมืองต่ืนรู้ ช่วยชาติ สภู้ ยั โควิด 19 ระดบั จงั หวัด 1 4 แนวทางการจัดวงปรึกษาหารือ “รวมพลงั พลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติ สภู้ ยั โควิด 19 ” ระดบั จงั หวัด 4 7 การจดั วงปรึกษาหารือ รวมพลังพลเมืองตน่ื รู้ ช่วยชาติ สภู้ ยั โควิด 19 ระดบั อาเภอ 7 10 แนวทางการจัดวงปรึกษาหารือ “รวมพลังพลเมืองตน่ื รู้ ช่วยชาติ ส้ภู ัยโควิด 19” ระดับอาเภอ 11 15 การจดั วงปรึกษาหารอื รวมพลังพลเมอื งตืน่ รู้ ชว่ ยชาติ สู้ภยั โควิด 19 ระดับตาบล 21 แนวทางการจัดวงปรึกษาหารือ “รวมพลงั พลเมืองตน่ื รู้ ช่วยชาติ ส้ภู ยั โควดิ 19” ระดบั ตาบล (ตัวอย่าง) ประกาศธรรมนญู /ขอ้ ตกลงตาบล......... ป้องกนั ควบคมุ และแก้ไขปัญหา โรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) (ตัวอยา่ ง) ปา้ ยไวนลิ ประชมุ “รวมพลงั พลเมืองตนื่ รู้ ชว่ ยชาติ สู้ภยั โควดิ 19”

ความสาคญั ของการจดั วงปรึกษาหารอื รวมพลังพลเมอื งตนื่ รู้ ชว่ ยชาติ ส้ภู ยั โควดิ 19 ในระดบั พน้ื ท่ี .............................................................................................................................................................................. สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่เข้าสู่ภาวการณ์ระบาดใหญ่ท่ัวโลก (Pandemic) สาหรับประเทศไทย การแพร่ระบาดได้กระจายลงสู่ระดับพ้ืนท่ีอย่างกว้างขวาง ทาให้รัฐบาลต้องประกาศ มาตรการรับมือทเ่ี ข้มขน้ มากขน้ึ เร่ือย ๆ ตง้ั แต่ระดบั จังหวัด อาเภอ ตาบลไปจนถงึ ระดับหมบู่ า้ น จากการหารือกบั ภาคเี ครอื ขา่ ย หน่วยงาน องค์กรทเี่ ก่ียวข้อง ตา่ งเห็นพอ้ งกันว่าการรับมือสถานการณ์ คร้ังน้ีลาพังเพียงกลไกรัฐแต่ฝ่ายเดียวจะไม่สามารถดาเนินการให้บรรลุผลได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจาก ประชาชนทีม่ คี วามร้คู วามเข้าใจต่อสถานการณ์ ข้อมูล วิธีการปฏิบัติตน หรือท่ีเรียกได้ว่าเป็น “พลเมือง” และ บทบาทของภาคส่วนต่าง ๆ ทางสังคมที่จะช่วยกันหนุนช่วยกลไกรัฐ ดังนั้น จึงร่วมกันกาหนดให้มีวง ปรึกษาหารือระดับจังหวัด ระดับอาเภอ และระดับตาบล เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างพลังทางสังคม พลัง ความรู้ และพลังของรัฐ ที่จะทาให้เกิดข้อตกลง มาตรการทางสังคมที่จะสนับสนุนมาตรการทางการปกครอง และมาตรการด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงเห็นถึงบทบาทของภาคส่วนต่าง ๆ ท้ังวิชาการ ธุรกิจเอกชน และ ประชาสังคม ในการร่วมกันดาเนินการในลักษณะต่าง ๆ อาทิ การเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง การส่งต่อข้อมูล ความรู้ ข่าวสาร การระดมทรัพยากรเพื่อหนุนช่วยการดูแลรักษา การหาแนวทางการดูแลคนในชุมชน สังคม ฯลฯ โดยแต่ละหน่วยงานจะมนี โยบายไปถึงหน่วยงานในสังกดั /เครอื ขา่ ยระดับพ้นื ท่ีใหร้ ว่ มกนั ดาเนินการ กระบวนการจัดวงปรึกษาหารือระดับจังหวัด อาเภอ และตาบล ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรค มีหลายส่ิงที่ต้องคานึงถึง เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ให้สามารถดาเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมและ เหมาะสมกับสถานการณ์ การเชิญชวนผูเ้ ขา้ รว่ มวงปรึกษาหารือจะแตกต่างกันไปตามแต่ผู้ท่ีเกี่ยวข้อง ทั้งระดับ จังหวัด อาเภอ และตาบล และลักษณะการจัดวงปรึกษาหารือก็ขึ้นอยู่กับบริบทของสถานการณ์ในขณะน้ัน เช่น การไม่จัดวงปรึกษาหารือท่ีมีคนมากเกินไป และต้องปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสุขภาพอย่างเคร่งครัด เช่น การมีระยะห่างระหว่างคนที่เหมาะสม (social distancing) การคาดหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อย ๆ (อย่างถกู วิธ)ี การไม่ใช้ของใช้ร่วมกบั ผู้อืน่ ฯลฯ ซง่ึ มีแนวทางการจัดกระบวนการปรึกษาหารือ 3 ระดับ ดงั นี้ 1) แนวทางการจัดวงปรึกษาหารือ รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติ สู้ภัยโควิด 19 ระดับจังหวัด เครือข่าย สมัชชาสขุ ภาพจังหวดั เปน็ ผู้ดาเนนิ การ 2) แนวทางการจัดวงปรึกษาหารือ รวมพลังพลเมืองตืน่ รู้ ช่วยชาติ สู้ภัยโควิด 19 ระดับอาเภอ คณะกรรมการ พัฒนาคณุ ภาพชีวติ ระดับอาเภอ/สานกั งานสาธารณสุขอาเภอ เป็นผู้ดาเนนิ การ 1

3) แนวทางการจดั วงปรึกษาหารือ รวมพลังพลเมืองต่ืนรู้ ช่วยชาติ สู้ภัยโควิด 19 ระดับตาบล ท้องถ่ิน/ท้องที่/ รพ.สต./สภาองค์กรชมุ ชน รว่ มกันดาเนนิ การ การรวมพลังทางสังคมคร้ังน้ี นอกจากการจัดวงปรึกษาหารือกันในแต่ละระดับแล้ว ยังต้องมีการ เช่ือมโยงการทางานร่วมกันของแต่ละระดับ ให้เกิดการส่งต่อข้อมูล ความรู้ การสนับสนุนการทางานระหว่าง กนั รวมถึงการติดตามผลการดาเนินงานร่วมกัน เช่น ระดับอาเภอ มี คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับ อาเภอ (พชอ.) ทาหน้าทใี่ นการกระตนุ้ สนับสนนุ และติดตามการจัดวงปรึกษาหารือระดับตาบล และเม่ือมีการ สรุปผลจากแต่ละตาบลเป็นภาพรวมอาเภอแล้วจึงส่งต่อข้อมูลไปสู่ระดับจังหวัด ซ่ึงอาจมีทั้ง ข้อเสนอนโยบาย การขอรับการสนบั สนนุ จากภาคสว่ นต่าง ๆ ไปใชใ้ นการทากิจกรรมต่าง ๆ ในระดับตาบล ในส่วนระดับจังหวัด และอาเภอ ก็มีการส่งต่อนโยบาย ความรู้ไปสู่ระดับตาบลเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการระดับตาบล การดาเนินการ ทั้งหมดจะทาให้เกิดการสานพลังการทางานแนวราบ (พลังทางสังคม) ไปหนุนเสริมการทางานแนวดิ่ง (พลัง กลไกรัฐ) ตวั อย่างประเด็นท่คี วรหารอื และสร้างมาตรการทางสังคมร่วมกัน 1. แนวทางการปฏิบัติตน ของบคุ คลและครอบครวั 2. การเปน็ เครอื ขา่ ยเฝ้าระวงั และประสานสนบั สนนุ ข้อมลู กับเจา้ พนกั งานควบคุมโรคระดับต่าง ๆ 3. การช่วยเหลือดูแลกันของคนในชุมชน ท้องถิ่น สังคม การดูแลกลุ่มเปราะบางต่าง ๆ ทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สงั คม 4. การจดั การสาธารณปู โภค สาธารณปู การ ให้รองรบั คนในชมุ ชน ทอ้ งถ่ิน สังคมได้ 5. การจัดการขยะ สง่ิ แวดลอ้ ม โดยเฉพาะขยะตดิ เชือ้ 6. การจัดกจิ กรรมบาเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ อาสาสมคั รต่าง ๆ 7. การจัดกิจกรรมทางสังคม ประเพณี 8. การส่อื สาร รณรงค์ สรา้ งความรู้ความเขา้ ใจสู่ประชาชน และสาธารณะ 2

ผังภาพรวมการจดั วงปรกึ ษาหารอื รวมพล 3

ลงั พลเมอื งตน่ื รู้ ชว่ ยชาติ สภู้ ยั โควดิ 19 3

การจดั วงปรกึ ษาหารอื รวมพลังพลเมอื งตนื่ รู้ ชว่ ยชาติ ส้ภู ยั โควดิ 19 ระดับจงั หวดั สมัชชาสุขภาพจังหวัด เป็นกลไกท่ีทางานนโยบายสาธารณะด้านสุขภาพในระดับจังหวัด ที่มีทุน เครือข่ายความร่วมมือหลายภาคส่วน แสดงบทบาทเป็นแกนกลางประสานความร่วมมือภาคส่วนต่าง ๆ ทาง สังคมและวิชาการให้เกิดการหารือร่วมกับกลไกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อสร้างมาตรการทางสังคม หนนุ เสริมการทางานของกลไกรัฐ รวมถึงทาขอ้ ตกลงถงึ บทบาทของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน ภาควิชาการ ภาคธุรกิจเอกชน ภาคประชาสังคม ที่จะพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวัง เครือข่ายข้อมูล ข่าวสาร การระดมทุน ทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ เพ่ือสนับสนุนงานของภาครัฐ ภาคประชาสังคม องค์กร เอกชนและจติ อาสาต่าง ๆ ท้ังระดบั จังหวัดไปจนถึงระดบั ตาบล แนวทางการจดั วงปรกึ ษาหารอื “รวมพลงั พลเมอื งตนื่ รู้ ชว่ ยชาติ สภู้ ยั โควดิ 19” ระดบั จงั หวดั …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือระดมการมีส่วนรว่ มจากทุกองค์กร ทุกรูปแบบ จานวนไม่เกิน 20 คน ท่ปี ระกอบดว้ ย ภาครัฐ ทอ้ งถน่ิ ภาควิชาการ และธุรกิจเอกชน ไดแ้ ก่ ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั /นายแพทยส์ าธารณสขุ จังหวัด/ องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั /สมัชชาสุขภาพจังหวดั /ประธานชมรมสาธารณสุขอาเภอ/ศูนยป์ ระสานงาน 4

เครอื ขา่ ยหลักประกนั สขุ ภาพประชาชน/ชมรม อสม./ส่ือมวลชนท้องถิน่ /ขบวนองค์กรชุมชน/ศูนย์ประสานงาน ภาคีการพัฒนาจังหวัด/สถาบันวิชาการศึกษา/วิชาชีพ/วิชาการ ในการสร้างความร่วมมือ หนุนเสริมให้เกิด มาตรการทางสังคมระดับอาเภอและตาบล 2. รูปแบบการดาเนนิ งาน: 2.1 จดั วงปรกึ ษาหารอื วงเลก็ ๆ ไม่เน้นวงใหญ่ หามาตรการท่ีเปน็ รปู ธรรม และใหเ้ กิดความรว่ มมอื ระหว่างภาคประชาสังคมกบั ภาครัฐอย่างใกล้ชดิ - การนาเสนอสถานการณป์ ัญหาและบทบาทภาคส่วนต่าง ๆ - การหามาตรการและความรว่ มมือระหวา่ งภาครัฐและภาคประชาสงั คม 2.2 หาโอกาสในการทาให้เกิดการปรึกษาหารือระหว่างภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม เอกชน และ ภาครัฐ โดยเฉพาะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดซึ่งมี ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการ และมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เป็นกรรมการและเลขานุการ เพ่ือให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วม ทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาอยา่ งเปน็ รูปธรรม 3. ประเด็น (ตัวอยา่ งประเดน็ การพูดคุย) 3.1 ความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ในระดับจังหวัด กับการหนุนเสริมให้เกิด ความร่วมมือหรือข้อตกลง ในระดบั อาเภอ ตาบล 3.2 ความร่วมมือของภาคสว่ นต่าง ๆ ในระดบั จังหวดั กับการหนุนเสริมให้เกิดความร่วมมือหรือข้อตกลงใน ระดบั อาเภอและตาบล 3.3 บทบาทภาคประชาสังคมในการหนุนช่วยให้ประชาชนตระหนักและให้ความร่วมมือกับมาตรการ ภาครฐั 3.4 กิจกรรมอ่นื ๆ ตามบริบทพ้ืนที่ 4. ผลที่เกดิ ขน้ึ 4.1 เกิดความร่วมมือของภาคสว่ นตา่ ง ๆ ในระดบั จงั หวัดในการแก้ไขปัญหาโรคโควิด 19 4.2 เกิดขอ้ ตกลงรว่ มในการหนนุ เสริมให้เกิดมาตรการทางสังคมระดับอาเภอและตาบล 5. แหล่งงบประมาณ: สมชั ชาสขุ ภาพจังหวัด/ทุนทรัพยากรในจังหวัด เช่น องค์การบริหารสว่ นจงั หวัด(อบจ.) /ภาคธรุ กิจเอกชน ฯลฯ 5

6

การจดั วงปรกึ ษาหารอื รวมพลังพลเมอื งตนื่ รู้ ชว่ ยชาติ สู้ภยั โควดิ 19 ระดบั อาเภอ การดาเนินงานระดับอาเภอซึ่งมี พชอ. เป็นกลไกสาคัญทาหน้าท่ีประสานภาคส่วนต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง ในระดับอาเภอให้เข้ามาร่วมกันหารือถึงมาตรการทางสังคมช่วยหนุนเสริมการดาเนินงานของกลไกหน่วยงาน ภาครัฐ รวมถึงกาหนดแนวทางการสนับสนุนการจัดวงปรึกษาหารือระดับตาบล และการเป็นจุดประสานการ ทางานระหว่างระดบั จังหวัดและระดับตาบล ใหเ้ กดิ การส่งผ่านข้อมูล ความรู้ และผลการดาเนนิ การ แนวทางการจดั วงปรกึ ษาหารอื “รวมพลงั พลเมอื งตน่ื รู้ ชว่ ยชาติ สู้ภยั โควดิ 19” ระดบั อาเภอ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. วตั ถุประสงค์ เพ่ือเปิดพืน้ ทีก่ ลางระดมการมสี ว่ นร่วมจากทุกองค์กร ทุกรูปแบบ ในการสร้างมาตรการทาง สงั คม และหนนุ เสรมิ การสรา้ งมาตรการสังคมระดับตาบลรับมือโควดิ 19 2. สถานทีป่ ระชุม: ท่วี ่าการอาเภอ ศาลาประชาคม หรือ โรงเรียน หรือ พจิ ารณาตามบรบิ ทของพืน้ ที่ 7

3. องคป์ ระกอบผู้เข้าประชุม 3.1 นายอาเภอ ในฐานะประธานกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอาเภอ (พชอ.) ทาหน้าท่ีประธานที่ ประชุมและกล่าวเปิดการประชมุ 3.2 สาธารณสุขอาเภอ(สสอ.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ พชอ. และมีโรงพยาบาลชุมชนสนับสนุน ดา้ นขอ้ มลู และวชิ าการ 3.3 ผู้เข้าประชุม ควรมีจานวนไม่มาก พิจารณาตามบริบทของอาเภอ ทั้งควรประกอบด้วยผู้แทน จาก คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอาเภอ (พชอ.) องค์กรเอกชน, ชมรมอสม. ศูนย์ประสานงาน หลักประกันสุขภาพประชาชน, เครือข่ายภาคประชาสังคมต่าง ๆ ในระดับอาเภอ, พระสงฆ์ สอื่ มวลชนท้องถน่ิ เป็นต้น 4. ระยะเวลาการประชุม คร่ึงวัน หรอื ตามสถานการณ์พน้ื ที่ 5. ขัน้ ตอนการดาเนนิ การประชุม 5.1 ช่วงที่ 1 เป็นการให้ข้อมูลสถานการณ์ นโยบาย ความรู้จากด้านการแพทย์ และกรอบแนวคิด เบ้ืองต้นจากภาคประชาสงั คม 5.2 ช่วงที่ 2 เป็นการปรึกษาหารือ กาหนดมาตรการทางสังคม รูปธรรมของกิจกรรมต่าง ๆ ใช้วิธี แบง่ กลมุ่ ย่อยหารอื มวี ิทยากรกระบวนการ (facilitator) ประจากล่มุ และนามาสรปุ รวมกัน 5.3 ชว่ งที่ 3 เป็นการประกาศมาตรการร่วมกันของทุกภาคสว่ น 6. ประเด็น (ตวั อยา่ งประเด็นการพูดคยุ ) 6.1 ความรว่ มมอื ของภาคสว่ นต่าง ๆ ในระดบั อาเภอ กับการหนุนเสรมิ ใหเ้ กดิ ความร่วมมือหรือข้อตกลง ในระดับอาเภอ ตาบล 6.2 บทบาทภาคประชาสงั คมในการหนุนชว่ ยใหป้ ระชาชาชนตระหนกั และให้ความร่วมมอื กับมาตรการ ภาครฐั 6.3 อน่ื ๆ ตามบริบทพ้นื ท่ี 7. ผลท่เี กดิ ขนึ้ 7.1 เกิดความรว่ มมือของทุกภาคส่วนการป้องกัน เฝา้ ระวัง และแก้ไขปัญหา 7.2 เกิดการประกาศมาตรการทางสงั คมท่ีทกุ ภาคสว่ นตกลงจะแก้ไขปญั หาร่วมกนั 7.3 แนวทางการสนับสนุนและตดิ ตามการสร้างมาตรการสงั คมระดับตาบล 8. แหลง่ งบประมาณ : คณะกรรมการพฒั นาคุณภาพชวี ิตระดับอาเภอ (พชอ.) 8

9

การจดั วงปรกึ ษาหารอื รวมพลังพลเมอื งตนื่ รู้ ชว่ ยชาติ สภู้ ยั โควดิ 19 ระดบั ตาบล เน้นการสร้างความร่วมมือและการหารือ 3 ภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ (ท้องถ่ิน/ ท้องท่ี) ภาควิชาการ (รพ.สต./อสม.) และภาคสังคม (สภาองค์กรชุมชน/ประชาชน/ฯลฯ) เพื่อให้ประชาชนในตาบลมีความรู้ความ เข้าใจต่อสถานการณ์ กลไก วิธีการดาเนินงานของภาครัฐ เห็นบทบาทของภาคส่วนต่าง ๆ จนทาให้เกิดการ สร้างข้อตกลงร่วม มาตรการทางสังคม ที่ภาคส่วนต่าง ๆ และประชาชนในท้องถิ่นจะร่วมกันดาเนินการ เพื่อ หนุนเสริมการทางานของภาครัฐในภาวะวิกฤติ ข้อตกลงร่วมหรือมาตรการต่าง ๆ ท่ีเกิดขึ้นจะถูกนาไปปฏิบัติ อย่างเป็นรูปธรรมภายใต้การสนับสนุนทรัพยากรของ ท้องถิ่น/กองทุนหลักประกันสุขภาพตาบล/กองทุน สวัสดิการชมุ ชน/ผปู้ ระกอบการ ภาคธรุ กจิ เอกชน ฯลฯ เพื่อรว่ มกนั สภู้ ยั โควิด 19 ให้สาเร็จ 10

ทรพั ยากรท่ีใช้ในการจดั กระบวนการปรึกษาหารือและการทากิจกรรมตามข้อตกลงหรือมาตรการเป็น การระดมทรพั ยากรที่มีในพืน้ ที่ ไม่วา่ จะเป็นจากทอ้ งถ่ิน จากกองทุนหลักประกันสุขภาพตาบล/ท้องถ่ิน (โดยมี สภาองคก์ รชมุ ชนตาบลเป็นผ้เู ขียนโครงการเสนอและมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลเป็นพี่เลี้ยงสนับสนุน) หรือจากกองทุนสวสั ดิการชมุ ชนตาบล ส่งิ สนับสนนุ 1. นโยบายจากกระทรวงมหาดไทยถงึ ผ้วู ่าราชการจังหวดั นายอาเภอ และท้องถิน่ ทกุ พืน้ ท่ที ่ัวประเทศ 2. นโยบายจากกระทรวงสาธารณสขุ ถงึ สานักงานสาธารณสขุ จังหวดั /คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับ อาเภอ (พชอ.) และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตาบล (รพ.สต.) 3. ตวั อย่างการเขยี นโครงการเสนอกองทุนหลักประกันสุขภาพตาบล/ท้องถนิ่ 4. ตัวอยา่ งการเขียนประกาศธรรมนญู /ข้อตกลงตาบล แนวทางการจดั วงปรกึ ษาหารอื “รวมพลังพลเมอื งตนื่ รู้ ชว่ ยชาติ สภู้ ยั โควดิ 19” ระดบั ตาบล …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. วตั ถุประสงค์ เพ่ือเปิดพน้ื ที่กลางท่รี ะดมการมีสว่ นรว่ มจากทุกองค์กร ทุกรูปแบบในการสร้างมาตรการทาง สังคมรับมือโควิด 19 2. รปู แบบการดาเนินงาน: 2.1. ใช้กลไกสภาองค์กรชุมชน กองทุนหลักประกันสุขภาพตาบล ร่วมกับกลไกภาคพลเมือง จัดเวทีระดม ความคิดและรปู ธรรมการจัดการ 2.2. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลสนับสนุนด้านข้อมูลและวิชาการ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนนุ ด้านทรพั ยากร 3. สถานทปี่ ระชุม: ตามบริบทพนื้ ท่ี อาจใช้ ศาลาประชาคม, ศาลาวัด หรือ หอ้ งประชมุ ของโรงเรียน, เปน็ ต้น 4. องคป์ ระกอบผเู้ ข้าประชุม 4.1 นายกเทศมนตร/ี องค์การบรหิ ารส่วนตาบล 4.2 รพ.สต สนับสนนุ ดา้ นขอ้ มลู และวชิ าการ 4.3 สภาองคก์ รชมุ ชนทาหน้าที่ฝา่ ยเลขานกุ ารฯทป่ี ระชมุ 11

4.4 ผู้เข้าประชุม จานวนไม่ควรมาก พิจารณาตามบริบทของพ้ืนที่ ประกอบด้วยแกนนาหรือผู้แทน จาก เทศบาล/องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล/สภาองค์กรชุมชน/องค์กรเอกชน/ชมรม อสม. /ศูนย์ประสานงาน หลักประกันสุขภาพประชาชน/เครือข่ายภาคประชาสังคมต่าง ๆ ในระดับพ้ืนท่ี/ผู้อานวยการ โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตาบล/กานนั /ผูใ้ หญ่บ้าน/ผนู้ าชมุ ชน/พระสงฆ์ เปน็ ต้น 5. ระยะเวลาการประชมุ คร่ึงวนั หรือตามสถานการณพ์ ้ืนท่ี 6. ขนั้ ตอนการดาเนินการประชุม 6.1 ชว่ ง 1 เปน็ การให้ข้อมูลสถานการณ์ นโยบาย ความรู้จากด้านการแพทย์ และ กรอบแนวคิดเบื้องต้น จากภาคประชาสงั คม 6.2 ชว่ งท่ี 2 เปน็ การปรกึ ษาหารอื กาหนดมาตรการทางสังคม รปู ธรรมของกจิ กรรมต่าง ๆ ใช้วิธีแบ่งกลุ่ม ย่อยหารอื มวี ิทยากรกระบวนการ (facilitator) ประจากลมุ่ และนามาสรปุ รวมกัน 6.3 ช่วงท่ี 3 เปน็ การประกาศมาตรการ/ข้อตกลงรว่ มกันของทกุ ภาคสว่ น 6.4 กาหนดการประชมุ (ตามแนบ) 7. ประเด็น (ตัวอยา่ งประเด็นการพูดคุย) 7.1 เราจะช่วยกนั ทาใหค้ นในชุมชนของเรา ไมต่ ืน่ ตระหนก แตเ่ กดิ ความตระหนักในการป้องกัน ปฏิบัติตัว ให้ถูกต้องตามคาแนะนาของ กรมควบคุมโรค ได้แก่ “กินร้อน ช้อนฉัน อยู่ห่างกัน หม่ันล้างมือ (อยา่ งถูกวิธ)ี ” ได้อย่างไร 7.2 การเฝ้าระวงั ในชมุ ชนจะทาอยา่ งไร การป้องกันไม่ให้เช้ือโรคแพร่ระบาดเข้าชุมชน และจะทาอย่างไร ถึงจะทราบว่า มผี ู้เสี่ยง ผูส้ ัมผสั หรอื ผปู้ ว่ ยในชุมชน 7.3 ระหวา่ งน้ี มีคนกลบั จากกรุงเทพจานวนมาก หากมีผู้ที่เข้าข่ายกักตัวเองจะทาอย่างไรให้ผู้สัมผัส หรือ ผู้ป่วย กักตัวเองในบ้านอย่างเคร่งครัด และชุมชนจะช่วยเขาด้านความเป็นอยู่ อาหารการกิน ด้าน จิตใจ ได้อยา่ งไรบา้ ง? 7.4 จะทาอย่างไรให้ระบบบริการสาธารณูปโภค โครงสร้างพ้ืนฐานและบริการสาธารณะต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล ประปาชุมชน ไฟฟ้า บริการเก็บขยะ ตลาดสด ร้านค้าชุมชน วัด ไมเ่ กิดเป็นจุดแพร่กระจายเชอ้ื โรค 7.5 จะมีวิธีการการจัดการขยะ/สิ่งปฏิกูล/สิ่งแวดล้อม ให้ปลอดภัยได้อย่างไร? เช่นการกาจัดขยะติดเช้ือ จากบา้ น การปอ้ งกันการสมั ผัสขยะตดิ เชือ้ ของพนกั งานเก็บขยะจะทาอย่างไร? 7.6 กิจกรรมตามประเพณีท่ีไม่สามารถงดการจัดงานได้ จะมีวิธีการปฏิบัติอย่างไร จึงจะปลอดภัย เช่น งานศพ งานแตง่ งาน งานทาบุญขนึ้ บ้านใหม่ หรอื การปฏิบัตติ ามประเพณีทางศาสนา 12

7.7 คนในชุมชนจะมีส่วนร่วมการทากิจกรรมอื่น ๆ เช่น การร่วมมือกันในการทา กิจกรรมบาเพ็ญ ประโยชนต์ า่ ง ๆ การผลิตหน้ากากผ้า, สนับสนุนหรือช่วยเหลือหมอ พยาบาล เจ้าหน้าท่ีสาธารณสุข ให้ปฏิบัติงานได้อยา่ งปลอดภยั ลดภาระการทางานของเจ้าหน้าท่ไี ด้อย่างไร 7.8 ชุมชนจะช่วยกันดูแล กลุ่มบุคคลต่าง ๆ เช่น พระสงฆ์ นักบวช หรือ คนเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง คนด้อยโอกาสต่าง ๆ เพ่ือลดผลกระทบท้ังด้าน สุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ ได้ อย่างไรบา้ ง 7.9 ในสถานการณ์ท่ียากลาบาก ทั้งจาก โรคระบาด, ภัยแล้ง, ตกงาน ฯลฯ ชุมชนจะร่วมมือร่วมใจกันทา ให้คนในชุมชนให้มีความรัก ไม่แก่งแย่ง แต่ แบ่งปัน ช่วยเหลือกัน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ฉวยโอกาสจาก ความเดอื ดรอ้ นของสังคม จะทาใหช้ มุ ชนของเรา เป็นชมุ ชนทม่ี คี วามสุขได้อยา่ งไร? ต้องระบุให้ได้ ว่า กิจกรรมต่าง ๆ นน้ั ใครจะทาในสว่ นใดได้บา้ ง เร่มิ จากประชาชน ครอบครัว ห้างร้าน ผู้ประกอบการ ผู้นาท้องถิ่น ท้องท่ี ผู้นาทางสังคม ศาสนา หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม กลุ่ม ประชาชนทุกกลุ่ม 8. ผลท่ีเกิดขน้ึ 8.1 เกิดความร่วมมือของทกุ ภาคส่วนในการป้องกันเฝ้าระวงั และแกไ้ ขปัญหา 8.2 เกดิ การประกาศธรรมนญู /ข้อตกลงของชุมชนที่ทกุ ภาคส่วนตกลงจะแก้ไขปัญหารว่ มกัน 8.3 เกิดมาตรการทางสงั คมสาหรับเปน็ แนวทางปฏิบตั ิทคี่ นในชุมชนใหค้ วามร่วมมือ 9. แหลง่ งบประมาณ : องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ /กองทนุ หลกั ประกันสขุ ภาพตาบล/กองทุนสวัสดิการชุมชน ฯลฯ 13

14

(ตัวอย่าง) ประกาศธรรมนูญ/ขอ้ ตกลงตาบล......... ป้องกันควบคุมและแก้ไขปัญหาโรคไวรสั โคโรนา 2019 (โควดิ 19) อาเภอ...............................จังหวดั ............................... ********************* ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) ให้มีการแพร่กระจายของโรคโควิด 19 เป็น “ภาวะการระบาดใหญ่ทั่วโลก” และประเทศไทยก็ได้ประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตราย ซ่ึงทามีผู้ป่วยจากไวรัสสายพันธ์ุใหม่น้ี รวมทั้ง ประชาชนกลุ่มเส่ียงที่ต้องอยู่ในระหว่างเฝ้าระวัง กักบริเวณในท่ีพานักเพ่ิมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นภาระงาน หนกั ของโรงพยาบาลและบุคคลากรในระบบสาธารณสุขอย่างมาก และสร้างความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชน วงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ ผลกระทบท้ังด้านสาธารณสุข สังคม เศรษฐกิจ และความม่ันคงของประเทศเร่ิมเห็น ชัดเจนมากขึ้น สถานการณ์วิกฤติของประเทศจากภัยดังกล่าว มีความจาเป็นอย่างย่ิงที่องค์กรปกครองส่วน ท้องถ่ิน กานัน ผู้ใหญ่บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น สภาองคก์ รชมุ ชน กลุ่มองค์กรภาคประชาชน เครือข่ายภาคสังคม อาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมู่บ้าน ผู้นา ทางศาสนา หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่เก่ียวข้องต้องจับมือรวมพลังแสดงบทบาทร่วมรับผิดชอบ และหนุนเสริมเพ่ือช่วยเสริมมาตรการของรัฐอย่างเป็นระบบและเป็นเอกภาพในการรับมือกับการระบาด ของไวรัส ด้วยการบูรณาการภารกิจ เครื่องมือ และทรัพยากรของแต่ละองค์กรเข้าด้วยกันร่วมกันขับเคล่ือน ยกระดับการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชนท้องถ่ิน เปล่ียนจากประชาชนที่ตื่นตระหนก เป็นพลเมืองที่ต่ืนรู้และตระหนักในการดูแลตนเอง ครอบครัว สังคม และมีส่วนร่วมในการหนุนช่วยมาตรการ ตา่ ง ๆ ของภาครฐั ในการสู้ภยั โควดิ 19 15

ด้วยเหตุน้ี ประชาชนในตาบล..............ทุกภาคส่วน จึงได้ปรึกษาหารือและระดมสมองร่วมกันอย่างมี ส่วนร่วมเพื่อหาข้อตกลงร่วมกันในการสร้างมาตรการทางสังคมในระดับตาบล ให้สามารถป้องกันและแก้ไข ปัญหาจากการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวได้ตามความจาเป็น เหมาะสม และทันต่อสถานการณ์ได้ จึงได้ กาหนดมาตรการทางสังคมร่วมกันเพ่ือเป็นมาตรการส่งเสริมสนับสนุนการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการ แพร่ระบาดของโรคไม่ให้เกิดขึ้นในตาบล รวมท้ังหาแนวทางหรือเตรียมการฟื้นฟูสุขภาวะของคนในชุมชนที่ ได้รับผลกระทบจากเชอ้ื ไวรัสสายพันธุใ์ หม่ COVID-19 ใหส้ ามารถกลับมามีร่างกาย จิตใจ และคุณภาพชีวิตท่ีดี ต่อไป ดงั นี้ หมวดท่ี 1 บททั่วไป ข้อ 1 ข้อตกลงนี้เรียกว่า ธรรมนูญตาบลป้องกันควบคุมและแก้ไขปัญหาโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ตาบล....................... อาเภอ................................. จังหวัด............................ ............. ข้อ 2 ข้อตกลงนี้ใช้เปน็ ข้อบงั คบั ตามกฎประชาคมของตาบล....................... ท้ัง.......หมู่บ้าน ให้ทุกคน ตอ้ งปฏิบตั ติ ามกฎหมายว่าดว้ ยการปอ้ งกันควบคุมโรคติดต่ออันตราย และปฏิบัติตามกฎ กติกาของชุมชนและ บงั คบั ใช้โดยชมุ ชน ประกอบกบั ต้องมกี ารแจ้งแนะนาเตือนบุคคลภายนอกทเี่ ข้ามาในชุมชนเราดว้ ย ขอ้ 3 คณะกรรมการป้องกันควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ประกอบด้วย ............................................................................................................................. ................................................. . โดยคณะกรรมการมหี น้าทีค่ วบคมุ ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการปฏบิ ัตติ ามธรรมนูญ/ข้อตกลงตาบล ข้อ 4 คณะกรรมการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 ดาเนินการจัดทาโครงการ เพื่อขอรับการ สนบั สนนุ จากกองทนุ หลักประกนั สุขภาพระดับท้องถ่ินหรือตาบล ขอรับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น จากหน่วยงานต่าง ๆ หรือการรับบริจาค หรือการระดมทุน เพื่อสนับสนุนการดาเนินการตาม ธรรมนญู /ขอ้ ตกลง ขอ้ 5 ………………………………………………………………………………………………………..…………………. หมวดที่ 2 การปฏิบตั ติ นของบุคคลและครอบครัว ขอ้ 6 …………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ 7 …………………………………………………………………………………………………………………………. 16

ข้อ 8 ………………………………………………………………………………………………………………..…………. ข้อ 9 …………………………………………………………………………………………………………………..………. ข้อ 10 …………………………………………………………………………………………….……………..……………. หมวดที่ 3 การชว่ ยเหลือดแู ลกันในชมุ ชน การดูแลกลมุ่ เปราะบาง ขอ้ 11 …………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ 12 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 13 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 14 …………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ 15 …………………………………………………………………………………………………………………………. หมวดที่ 4 การจัดการสาธารณปู โภค โครงสรา้ งพ้นื ฐาน และบริการสาธารณะต่าง ๆ ข้อ 16 …………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ 17 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 18 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 19 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 20 …………………………………………………………………………………………………………………………. หมวดท่ี 5 การจดั การสงิ่ แวดลอ้ ม ขยะตดิ เช้อื ขอ้ 21 …………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ 22 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 23 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 24 …………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ 25 …………………………………………………………………………………………………………………………. 17

หมวดท่ี 6 การจดั กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ อาสาสมคั รต่าง ๆ ขอ้ 26 …………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ 27 …………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ 28 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 29 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 30 …………………………………………………………………………………………………………………………. หมวดที่ 7 การจัดกิจกรรมสงั คมและประเพณี ข้อ 31 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 32 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 33 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 34 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 35 …………………………………………………………………………………………………………………………. หมวดที่ 8 การรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจ ขอ้ 36 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 37 …………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ 38 …………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ 39 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 40 …………………………………………………………………………………………………………………………. 18

บทลงโทษ ขอ้ 41 หากมีผู้ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ คณะกรรมการป้องกันควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ของระดบั ตาบลและหม่บู า้ น มีสิทธพิ์ จิ ารณาดาเนนิ การตามลาดับ ดังนี้ - หนังสอื วา่ กล่าวตักเตือน - ประกาศตามหนงั สือวา่ กลา่ วตักเตอื นไว้ ณ ศาลาหมูบ่ า้ น - ตดั สทิ ธิประโยชนใ์ นการจดั สวัสดิการของหมู่บา้ น - แจง้ เจา้ หนา้ ที่ของทางราชการดาเนินการตามกฎหมายและระเบียบท่เี กย่ี วข้อง ข้อ 42 …………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อ 43 …………………………………………………………………………………………………………………………. บทเฉพาะกาล ข้อ 44 การแก้ไขเพ่ิมเติมข้อตกลงฉบับนี้ ให้กระทาโดยข้ันตอนเดียวกับการจัดทา โดยมี คณะกรรมการเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในกระบวนการ โดยต้อเสนอหลักการและเหตุผลประกอบท่ีชัดเจน และผ่านการปรึกษาหารือในคณะทางานอย่างน้อย 3 คร้ัง และแจ้งวาระดังกล่าวต่อประชาชน ก่อนการเปิด เวทีความคิดเห็นอย่างน้อย 15 วัน มติการแก้ไขเพิ่มเติมต้องมีผู้เห็นชอบไม่น้อยกว่าคร่ึงหน่ึงของผู้เข้าร่วม ประชาคม จึงประกาศใหท้ ราบและยดึ ถือปฏบิ ัตอิ ย่างเครง่ ครัดโดยท่ัวกัน ประกาศ ณ วันที.่ . เดอื น.................... ลงชอื่ .......................................................... () นายกองคก์ ารบริหารส่วนตาบล/นายกเทศมนตรี.................... ลงชอ่ื .......................................................... () ผอู้ านวยการโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตาบล........................ 19

ลงชอ่ื .......................................................... () กานันตาบล ลงช่อื .......................................................... () ประธานสภาองค์กรชมุ ชนตาบล........................ ลงชื่อ.......................................................... () ผู้ใหญ่บ้าน 20

21

1