Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore sukrit

sukrit

Published by epalateh, 2022-08-10 13:32:03

Description: sukrit

Search

Read the Text Version

พิจารณาคัดเลือกสุดยอดผู้นำการพัฒนา ในวาระครบรอบ 60 ปี กรมการพัฒนาชุมชน ป ร ะ เ ภ ท ที่ 3 สุ ด ย อ ด ผู้ นำ สั ม ม า ชี พ ชุ ม ช น ก ร ม ก า ร พั ฒ น า ชุ ม ช น นายสุกฤษฎ์ คงขวัญ บ้านประชานิมิตร หมู่ที่ 4 ตำบลกาหลง อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส สนับสนุนโดย...สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส

พิจารณาคัดเลอื กสุดยอดผู้นาการพัฒนา ในวาระครบรอบ 60 ปี กรมการพัฒนาชุมชน ประเภทท่ี 3 สุดยอดผู้นาสัมมาชพี ชุมชน นายสุกฤษฎ์ คงขวญั บ้านประชานิมิตร หมู่ท่ี 4 ตาบลกาหลง อาเภอศรสี าคร จงั หวดั นราธวิ าส สนับสนนุ โดย สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอศรสี าคร

คานา กรมการพัฒนาชุมชน กาหนดจดั กิจกรรมครบรอบ 60 ปี กรมการพัฒนาชุมชน เพ่ือ แสดงพลังและศักยภาพของงานพัฒนาชุมชนในการพัฒนาประเทศ ชุมชนและท้องถ่ิน และการ พัฒนาคุณภาพชีวติของประชาชนในรอบ ๖๐ ปีที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้สานักงานพัฒนา ชุมชนจงั หวัดและอาเภอ ประชาสัมพันธใ์ ห้ผู้นา กลุ่มองค์กรและเครอื ข่ายของกรมการพัฒนา ชุมชน ที่มีผลงานดีเด่นและมีคณุ สมบตั ิตามเกณฑ์ท่กี รมการพัฒนาชุมชนกาหนดไว้ สานักงานพัฒนาชุมชนจงั หวัดนราธวิ าส ได้พิจารณาคัดเลือกสุดยอดผู้นาการพัฒนา ใน วาระครบรอบ 60 ปี กรมการพัฒนาชุมชน ประเภทที่ ๓ สุดยอดผู้นาสัมมาชพี ชุมชน เข้ารบั การประเมินจานวน 1 ราย คือ นายสุกฤษฎ์ คงขวัญ เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่ กรมการพัฒนาชุมชนกาหนดไว้ และเป็นกลไกสาคัญในการขับเคลื่อนงานสัมมาชพี ชุมชนของ กรมการพัฒนาชุมชนในการพัฒนาหมู่บ้านตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีกิจกรรมท่ี ส่งเสรมิ ให้ประชาชนในหมู่บ้านมีวถิ ีชวี ติ เศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นรูปธรรม โดยคนในชุมชนมีส่วน รว่ มในการบรหิ ารจดั การ สามารถเปน็ ต้นแบบในการบรหิ ารจดั การชุมชนเพ่ือพ่งึ ตนเองได้ คณะทำงำน 8 สิงหำคม 2565

สารบัญ หน้า 1 ส่วนท่ี 1 บทนา ส่วนที่ 2 ประสบการณ์และการได้รบั การยอมรบั จากสังคม 6 8 ประสบการทางานผู้นาสัมมาชพี ชุมชน ความเปน็ ผู้นา หรอื การยอมรบั จากชุมชน/สังคม 13 ส่วนที่ 3 ผลงานด้านการพัฒนาชุมชนของผู้นาสัมมาชพี ชุมชน 16 เปน็ ประจกั ษ์ ต่อตนเอง 19 ต่อส่วนรว่ ม 28 ส่วนท่ี 4 ผลงานความสาเรจ็ และส่ิงทภี่ าคภูมิใจในการเปน็ ผู้นา 38 สัมมาชพี ของกรมการพัฒนาชุมชน 45 การสรา้ งความม่ันคงทางอาหาร 62 การสรา้ งส่ิงแวดลอ้ มให้ยั่งยืน ส่งเสรมิ การสรา้ งภูมิค้มุ กันทางสังคม ส่วนที่ 5 ได้รบั รางวลั ในระดับต่างๆ ส่วนท่ี 6 ครวั เรอื นขยายผล

แบบเสนอข้อมูลผู้ที่เข้ารบั การพิจารณาคัดเลือกสุดยอดผู้นาการพฒั นา ในวาระครบรอบ 60 ปี กรมการพัฒนาชุมชน …………………………………….. 1. หน่วยงาน/จงั หวดั ที่เสนอ สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอศรสี าคร จงั หวดั นราธวิ าส 2. ประเภท (ผู้นา กลมุ่ องค์กร และเครอื ขา่ ย 1 คน สามารถสมัครเขา้ รบั การพจิ ารณาได้เพียง 1 ประเภท เท่านั้น)  ประเภทที่ 1 สุดยอดผู้นาอาสาพัฒนาชุมชน  ประเภทท่ี 2 สุดยอดผู้นาสตร ี  ประเภทที่ 3 สุดยอดผู้นาสัมมาชพี ชุมชน  ประเภทท่ี 4 สุดยอดผู้นา OTOP  ประเภทที่ 5 สุดยอดผู้นากองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี  ประเภทที่ 6 สุดยอดผู้นาการเปล่ียนแปลง  ประเภทที่ 7 สุดยอดผู้นากลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พ่ือการผลติ  ประเภทที่ 8 สุดยอดผู้นาหมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพียง  ประเภทท่ี 9 สุดยอดผู้นากองทุนแม่ของแผ่นดิน  ประเภทที่ 10 สุดยอดผู้นา กข.คจ ส่วนที่ 1. ขอ้ มูลของผู้สมัคร 1) ประวตั ิส่วนตัวและครอบครวั ของผู้สมัคร ชอ่ื นายสุกฤษฎ์ คงขวญั เพศ ชาย อายุ 46 ปี เกิดเม่ือ วนั ท่ี 15 เดือนเมษายน พ.ศ. 2519 ศาสนา พุทธ อยูบ่ า้ นเลขท่ี 28/32 หมู่ท่ี 4 ตาบลกาหลง อาเภอศรสี าคร จงั หวดั นราธวิ าส หมายเลขโทรศัพท์ 098 – 2014091 ประกอบอาชพี ทาสวน (เกษตรกรรม) ตาแหน่งทางสังคม 1.ผู้ใหญบ่ า้ นประชานิมิตร หมู่ที่ 4 ตาบลกาหลง อาเภอศรสี าคร จงั หวดั นราธวิ าส 2.ประธานคณะกรรมการกลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พ่อื การผลติ บา้ นประชานิมิตร 3.ประธานศูนยจ์ ดั การกองทุนชุมชนบ้านประชานิมิตร 4.ประธานกองทุนหมู่บา้ นประชานิมิตร(กทบ.) 5.ประธานสภาองค์กรชุมชน (พอช.) ตาบลกาหลง 6.ประธานกลุ่มวสิ าหกิจชุมชน (ยางก้นถ้วย) บ้านประชานิมิตร 7.ทีป่ รกึ ษากองทุนแม่ของแผ่นดินบา้ นประชานิมิตร 8.ปราชญ์สัมมาชพี ชุมชนบ้านประชานิมิตร 9.ประธานศูนยเ์ รยี นรเู้ ศรษฐกิจพอเพยี งบา้ นประชานิมิตร

10.ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพนื้ ฐานโรงเรยี นคีรรี าษฎรร์ งั สฤษฏ์ 11.คณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับตาบลและระดับอาเภอ 12.คณะกรรมการสานักงานหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตาบลกาหลง 13.คณะกรรมการชมรมกานันผู้ใหญ่บ้านอาเภอศรสี าคร 14.รองประธานสภาสันติสุขตาบลกาหลง 15.คณะกรรมการศูนยถ์ ่ายทอดเทคโนโลยที างการเกษตรตาบลกาหลง 16.คณะกรรมการพฒั นานิคมศรสี าคร (สารวตั รนิคม) 17.คณะกรรมการสวนยางอาเภอรอื เสาะ สมาชกิ ในครอบครวั 1. ชอื่ นางจุฑามาศ คงขวญั อายุ 36 ปี การศึกษา มัธยมศึกษาปที ่ี 6 เกี่ยวข้องเปน็ ภรรยา . 2. ชอื่ นางมะลิ คงขวญั อายุ 64 ปี การศึกษา - เกี่ยวข้องเปน็ มารดา 3. ชอ่ื นางสาวสิรปิ ระภา ศรรี ะวรรณ์ อายุ 16 ปี การศึกษา มัธยมศึกษาปที ่ี 4 เกี่ยวขอ้ งเป็น ลูกเลย้ี งทีต่ ิดภรรยา 4. ชอ่ื เด็กชายธนกร พรมเต็ม อายุ 9 ปี การศึกษา ประถมศึกษาปีที่ 3 เกี่ยวขอ้ งเป็น ลกู เลี้ยงที่ติดภรรยา 5. ชอื่ เด็กหญิงณัชชา คงขวญั อายุ 6 ปี การศึกษา อนุบาล 2 เกี่ยวข้องเป็น บุตร 6. ชอื่ เด็กชายภาคภมู ิ คงขวญั อายุ 3 เดือน การศึกษา - เก่ียวข้องเป็น บุตร 2) ประวตั ิการศึกษาของผู้สมัคร - วฒุ ิการศึกษา อนปุ รญิ ญาตร ี วทิ ยาลยั ชุมชนจงั หวดั นราธวิ าส - การฝึกอบรมอื่นๆ 1. ฝึกอบรมหลักสูตรผนู้ าหน่วยชุดรกั ษาความปลอดภัยหมู่บา้ น (ชรบ.) รนุ่ ท่ี 4 พ.ศ. 2556 2. ฝึกอบรมโครงการพฒั นาผู้นาสัมมาชพี หลกั สูตร “ วทิ ยากรผู้นาสัมมาชพี ” รนุ่ ที่ 4/2560 3. อบรมหลกั สูตร พฒั นาศักยภาพกานัน ผู้ใหญ่บา้ น ในพ้ืนท่จี งั หวดั ชายแดนใต้ รนุ่ ท่ี 3 ประจาปี 2560 4. ผ่านการทดสอบกาลงั ใจ โดดหอสูง 34 ฟตุ พ.ศ.2556 5. โครงการประกวดการจดั การขยะมูลฝอยชุมชน “หมู่บา้ น/ชุมชนสะอาด” ระดับตาบล ประจาปี 2560

3) การเปน็ หรอื กรรมการขององค์การต่างๆ คือ ลาดับท่ี ชอื่ องค์การ ตาแหน่ง ชว่ งเวลาทดี่ ารงตาแหน่ง จาก พ.ศ. ถึง พ.ศ. 1 กลุม่ ออมทรพั ยเ์ พ่อื การ ประธานคณะกรรมการกลุ่มออม 2555 - ปจั จุบนั ผลติ บา้ นประชานิมิตร ทรพั ยเ์ พื่อการผลติ บา้ นประชา นิมิตร 2 ศูนยจ์ ดั การกองทุนชุมชน ประธานศูนยจ์ ดั การกองทุน 2564 - ปจั จุบนั บา้ นประชานิมิตร ชุมชนบา้ นประชานิมิตร 3 กองทุนหมู่บ้านประชานิมิตร ประธานกองทนุ หมู่บา้ นประชา 2555 - ปัจจุบนั 2558 - ปจั จุบัน นิมิตร(กทบ.) 2559 - ปจั จุบัน 4 สภาองค์กรชุมชน (พอช.) ประธานสภาองค์กรชุมชน 2560 - ปจั จุบัน 2560 - ปัจจุบนั ตาบลกาหลง (พอช.) ตาบลกาหลง 2560 - ปัจจุบัน 2560 - ปัจจุบนั 5 กลุ่มวสิ าหกิจชุมชน ประธานกล่มุ วสิ าหกิจชุมชน 2560 - ปจั จุบัน (ยางก้นถ้วย) (ยางก้นถ้วย) 2560 - ปจั จุบัน บา้ นประชานิมิตร บา้ นประชานิมิตร 2555 - ปัจจุบนั 6 กองทุนแม่ของแผ่นดินบา้ น ที่ปรกึ ษากองทุนแม่ของแผ่นดิน 2558 - ปจั จุบัน ประชานิมิตร บา้ นประชานิมิตร 7 บา้ นประชานมิตร ปราชญ์สัมมาชพี ชุมชนบ้าน ประชานิมิตร 8 บ้านประชานิมิตร ประธานศูนยเ์ รยี นรูเ้ ศรษฐกิจ พอเพียงบ้านประชานิมิตร 9 โรงเรยี นคีรรี าษฎรร์ งั สฤษดิ์ ประธานคณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพ้นื ฐานโรงเรยี น คีรรี าษฎรร์ งั สฤษด์ิ 10 กองทุนแม่ของแผ่นดิน คณะกรรมการกองทุนแม่ของ ตาบล แผ่นดินระดับตาบลและระดับ อาเภอ 11 สานักงานหลกั ประกัน คณะกรรมการสานักงาน สุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตาบลกาหลง (สปสช.) ตาบลกาหลง 12 ชมรมกานันผู้ใหญบ่ ้าน คณะกรรมการชมรมกานัน อาเภอศรสี าคร ผู้ใหญ่บ้านอาเภอศรสี าคร 13 สภาสันติสุขตาบลกาหลง รองประธานสภาสันติสุขตาบล กาหลง

14 สานักงานเกษตรอาเภอ คณะกรรมการศูนยถ์ ่ายทอด 2562 - ปัจจุบนั ศรสี าคร เทคโนโลยที างการเกษตรตาบล กาหลง 2563 - ปัจจุบนั 15 นิคมสรา้ งตนเองศรสี าคร คณะกรรมการพัฒนานิคม 2562 - ปจั จุบนั ศรสี าคร (สารวตั รนิคม) 16 การยางแห่งประเทศไทย คณะกรรมการสวนยาง อาเภอรอื เสาะ 4) การได้รบั รางวลั หรอื ประกาศเกียรติคณุ ลาดับท่ี รางวลั และเกียรติคณุ ท่ไี ด้รบั องค์การท่ใี ห้ เม่ือ พ.ศ. พ.ศ. 2556 1 ประกาศกรมการปกครอง ฝึกอบรม กรมการปกครอง พ.ศ. 2560 หลักสูตรผู้นาหน่วยชุดรกั าความ พ.ศ. 2560 ปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) รนุ่ ที่ 4 พ.ศ. 2556 2 ประกาศกรมการพฒั นาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน ประจาปี 2560 ฝึกอบรมโครงการพัฒนาผู้นา ประจาปี สัมมาชพี หลกั สูตร “ วทิ ยากรผู้นา 2559 สัมมาชพี ” รนุ่ ท่ี 4 3 ประกาศศูนยอ์ านวยการบรหิ าร ศูนยอ์ านวยการบรหิ ารจงั หวดั จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ อบรม ชายแดนภาคใต้ หลกั สูตร พัฒนาศักยภาพกานัน ผู้ใหญบ่ า้ น ในพนื้ ทจ่ี งั หวดั ชายแดน ใต้ รนุ่ ท่ี 3 4 ประกาศกองบิน 5 ได้ผ่านการ กองบิน 5 ทดสอบกาลังใจ โดดหอสูง 34 ฟตุ 5 ประกาศ โครงการประกวดการ องค์การบรหิ ารส่วนตาบล จดั การขยะมูลฝอยชุมชน “หมู่บ้าน/ กาหลง อาเภอศรสี าคร ชุมชนสะอาด” ระดับตาบล จงั หวดั นราธวิ าส 6 ประกาศเกียรติคุณ เป็นหม่บู า้ นทีม่ ี อาเภอศรสี าคร รอ้ ยละของผู้ไปใชส้ ิทธอ์ิ อกเสียงของ จงั หวดั นราธวิ าส ประชามติรา่ งรฐั ธรรมนูญและ ประเด็นเพ่ิมเติมมากทส่ี ุดในระดับ ตาบลกาหลง อาเภอศรสี าคร จงั หวดั นราธวิ าส

ส่วนท่ี 2 ผลงานผู้สมคั ร - รายละเอียดผลการดาเนินงานของผู้สมัครแต่ละประเภท ขอให้จดั ทารายละเอียดตาม หลกั เกณฑที่แต่ละประเภทกาหนด ประสบการทางานผู้นาสัมมาชพี ชุมชน เป็นปราชญส์ ัมมาชพี ชุมชน เรอ่ ื งการ น้อมนาหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง “ไรท่ องผาภมู ิ” - ผ่านฝึกอบรมวทิ ยากรผู้นาสัมมาชพี ณ ศูนยศ์ ึกษาและการพัฒนาชุมชนจงั หวดั ยะลา - เป็นวทิ ยากรให้ความรดู้ ้านการดารงชวี ติ ตามหลักของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง เปน็ วทิ ยากรผู้นาสัมมาชพี ชุมชน ดังนี้ 1. เปน็ วทิ ยากรด้านการทาปุ๋ยมูลสัตว์ มูลไส้เดือน 2. เปน็ วทิ ยากรด้านการทากาแฟอาราบกี ้า ชาดอกกาแฟ 3. เป็นวทิ ยากรด้านการทาสบู่รงั ไหม 4. เปน็ วทิ ยากรด้านการปลูกกาแฟ 5. เป็นวทิ ยากรด้านการอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ ด้านการทาฝายมีชวี ติ 6. เปน็ วทิ ยากรด้านการทาเกษตรผสมผสาน ความเปน็ ผู้นา หรอื การยอมรบั จากชุมชน/สังคม ในการดาเนินกิจกรรมต่างๆ ของหมู่บ้าน การจดั เวทีประชาคมเพ่ือให้ประชาชนในพ้ืนท่ี เข้ามารบั ฟังและรว่ มแสดงความคิดเห็น เสนอแนะแนวทางในการดาเนินกิจกรรม และมีการ ถ่ายทอดความรวู้ ชิ าการและการดารงชวี ติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลงานด้านการพัฒนาชุมชนของผู้นาสัมมาชพี ชุมชนเปน็ ประจักษ์ ต่อตนเอง การศึกษาทาความเข้าใจชุมชนเพ่ือวเิ คราะห์ความสาคัญต่ อการกาหนดแผนการ ดาเนินงานในชุมชน เพื่อหาข้อเท็จจรงิ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชนนั้นๆ ทั้งทางด้านส่ิงแวดล้อมทาง กายภาพ สังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมืองการปกครอง นามาซ่ึงความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการกาหนดปัญหา การประเมินศักยภาพในด้านต่างๆ ของชุมชน อันจะนามาซงึ่ โครงการและกิจกรรม เพื่อการพัฒนาหรอื แก้ไขปัญหา จากสถานการณ์ดังกล่าว ทาให้ต้องหันมา พงึ่ พาตนเองด้วยหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ดังนี้ 1.ยึดความประหยดั ตัดทอนค่าใชจ้ า่ ยในทุกด้านลดละความฟุ่มเฟือยในการดารงชพี อย่าง จรงิ จงั ความเปน็ อยูท่ ่ีต้องไม่ฟ้งุ เฟ้อต้องประหยดั ไปในทางท่ถี กู ต้อง 2.ยดึ ถือการประกอบอาชพี ด้วยความถูกต้อง สุจรติ แม้จะตกอยูใ่ นภาวะ ขาดแคลนในการ ดารงชีพก็ตาม เพราะความเจรญิ ของคนทั้งหลายย่อมเกิดมาจากการประพฤติชอบ และการหา เล้ียงชพี ของตนเป็นหลกั สาคัญ 3.ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์และแข่งขันกันในทางการค้าขาย ประกอบอาชีพแบบ ต่อสู้กันอย่างรุนแรง ความสุขความเจรญิ อันแท้จรงิ นั้น หมายถึงความสุขความเจรญิ ท่ีบุคคล แสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรมท้ังในเจตนา และการกระทาไม่ใชไ่ ด้มาด้วยความบังเอิญ หรอื ด้วยการแก่งแยง่ เบยี ดบังมาจากผู้อื่น

4.ไม่หยุดน่ิงที่จะหาทางในชีวติ หลุดพ้นจากความทุกข์ยากครงั้ นี้ โดยต้องขวนขวายใฝ่หา ความรูใ้ ห้เกิดมีรายได้เพ่ิมพูนขึ้นจนถึงขัน้ พอเพียงเปน็ เป้าหมายสาคัญ ต้องการให้ทุกคนพยายาม ที่ จะหาความรูแ้ ละสรา้ งตนเองให้มั่นคงน้ีเพ่ือตนเอง เพื่อท่ีจะให้ตัวเองมีความเป็นอยู่ที่ก้าวหน้า ที่มีความสุขพอมีพอกินเปน็ ขนั้ หน่ึงและข้ันต่อไปก็คือให้มีเกียรติวา่ ยนื ได้ด้วยตัวเอง 5.ปฏิบัติตนในแนวทางท่ีดีลดละส่ิงย่ัวกิเลสให้หมดส้ินไป พยายามไม่ก่อความชัว่ ให้เป็น เครอ่ ื งทาลายตัว ทาลายผู้อ่ืน พยายามลด พยายามละความชวั่ ท่ีตัวเองมีอยู่ พยายามก่อความดี ให้แก่ตัวอยูเ่ สมอ พยายามรกั ษา และเพม่ิ พูนความดีท่มี ีอยูน่ ้ันให้งอกงามสมบูรณ์ข้ึน ต่อส่วนรว่ ม ด้านส่งเสรมิ เศรษฐกิจ 1.) มีการนาแนวคิดมาขยายผลการดาเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดาร ิ ในหมู่บ้านมีสมาชกิ ศูนย์ศีลปาชพี จานวน 2 ศูนย์ คือ ศูนย์ศีลปาชพี บ้านประชา นิมิตร จานวน 22 คน ศูนย์ศีลปาชพี โคกโพธส์ิ ันติ จานวน 20 คน กิจกรรมที่ดาเนินงาน คือ การทอผ้า และ การปักผ้า 2.) พัฒนาและส่งเสรมิ การประกอบอาชีพหลักและอาชีพเสรมิ เพ่ือให้สังคมอยู่ รว่ มกันอยา่ งมีความสุขภายใต้ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยมีกลุม่ ต่าง ๆในชุมชน 3.) สนับสนุนและส่งเสรมิ ผู้ด้อยโอกาสและผู้ว่างงานในหมู่บ้านให้สามารถพัฒนา ไปสู่ความพออยู่พอกิน ซง่ึ เป็นเป้าหมายขั้นต้นของหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยการจา้ ง งานผู้วา่ งงานในหมู่บ้านให้โดยเฉลย่ี จากผลกาไรของกล่มุ เฉลยี่ เทย่ี วละ 800 บาท 4.) เปิดโอกาสให้ประชาชนได้รบั รูบ้ ัญชีรายรบั – รายจา่ ยของโครงการต่างๆ ใน หมู่บ้าน โดยมีการชแี้ จงการดาเนินงาน/กิจกรรมต่าง ๆ เป็นประจาทุกเดือนในการประชุมราษฎร ประจาเดือน 6.) ประสานเจา้ หน้าท่ีของรฐั และหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องลงพ้ืนท่ีให้คาแนะนาการ ส่งเสรมิ อาชพี และบรหิ ารจดั การโครงการเปน็ ระยะ ๆ เชน่ โครงการอบรมเกษตรกร การจดั การดิน เพ่อื เพิม่ ผลผลติ ยางพาราตามค่าวเิ คราะห์ดิน โดยสานักงานกองทุนสงเคราะห์การทาสวนยางพารา จงั หวดั นราธวิ าส สนับสนนุ การดาเนินงานสัมมาชพี ชุมชนอยา่ งต่อเน่ือง 7.) สนับสนุนและส่งเสรมิ การลดต้นทุนและปัจจัยในการผลิต เช่น ส่งเสรมิ กิจกรรมลดรายจา่ ย เพิ่มรายได้ให้กับครวั เรอื น (กินทกุ อยา่ งทีป่ ลูก ปลูกทกุ อยา่ งทก่ี ิน) 8.) ส่งเสรมิ สนับสนุนการดาเนินงานด้านเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเองในหมู่บ้าน เชน่ การดาเนินกิจกรรมของรา้ นค้าสตร ี กลุ่มออมทรพั ย์เพ่ือการผลิต สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของชุมชน (เครอ่ ื งแกง) ผลงานความสาเรจ็ และส่ิงทภ่ี าคภมู ิใจในการเปน็ ผู้นาสัมมาชพี ของกรมการ พัฒนาชุมชน 1.1 การสรา้ งความมั่นคงทางอาหาร 1) ส่งเสรมิ ครวั เรอื นในหมู่บ้านปลูกผักสวนครวั อยา่ งน้อย 10 ชนิด 2) ส่งเสรมิ ครวั เรอื นมีการเล้ียงสัตวไ์ วเ้ พ่ือบรโิ ภค 3) ส่งเสรมิ การแปรรปู อาหารและสมุนไพร

4) จดั ตั้งศูนยแ์ บง่ ปันเมล็ดพันธแุ์ ละต้นกล้า 5) ส่งเสรมิ การสรา้ งคลังอาหารชุมชนโดยใชพ้ ้ืนทสี่ าธารณะประโยชน์ 1.2 การสรา้ งส่ิงแวดล้อมให้ยงั่ ยืน 1) ส่งเสรมิ ให้ครวั เรอื นในหมู่บ้านมีการคัดแยกขยะ 2) ส่งเสรมิ ครวั เรอื นในหมู่บ้านมีการทาปุย๋ ชวี ภาพ/ปุ๋ยอินทรยี ์ 3) ส่งเสรมิ ครวั เรอื นในหมู่บา้ นมีการใชท้ รพั ยากรอยา่ งค้มุ ค่า 4) ส่งเสรมิ ให้ครวั เรอื นจดั บ้านเรอื นเป็นระเบยี บ สะอาดถกู สุขลักษณะ 5) ส่งเสรมิ การจดั กิจกรรมอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม 1.3 ส่งเสรมิ การสรา้ งภูมิคุ้มกันทางสังคม 1) มีกิจกรรมส่งเสรมิ ด้านศาสนา ประเพณี วฒั นธรรม 2) ส่งเสรมิ กิจกรรมจติ อาสา กิจกรรมลงแขก กิจกรรมแบ่งปนั เอื้อเฟ้ ือระหวา่ งกัน 3) กิจกรรมการออกกาลงั กายเสรมิ สุขภาพ 4) กิจกรรมจดั สวสั ดิการชุมชน ผลงานเด่นในรอบการประเมิน 1. ได้รบั โลห์สิงห์ทอง รางวัลชนะเลิศ ครวั เรอื นสัมมาชีพชุมชนตัวอย่าง ประจาปี 2564 จงั หวดั นราธวิ าส 2. รองชนะเลิศอันดับท่ี 1 ครวั เรอื นสัมมาชีพชุมชนตัวอย่าง ระดับภาคใต้ (14 จงั หวัด) ประจาปี 2564 3. รางวลั โลห์พระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ าร ี หมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพยี ง “อยูเ่ ยน็ เป็นสุข” ประจาปี 2564 4. รางวลั รองชนะเลิศอันดับที่ 2 กล่มุ องค์กรแกนหลักในการพฒั นาชุมชนกองทุนแม่ของ แผ่นดินบ้านประชานิมิตร 5. ปราชญ์สัมมาชพี ชุมชนในการปลูกกาแฟอาราบกี ้า 6. ผู้นาสัมมาชพี ชุมชนในการทาปุย๋ มูลสัตว์ ไส้เดือน น้าหมักชวี ภาพ และน้าส้มควนั ไม้ 7. ผู้นาสัมมาชพี ชุมชนในการปลูกทุเรยี นคุณภาพเกษตรอินทรยี ์ 8. ผู้นาสัมมาชพี ชุมชน เรอ่ ื งการ น้อมนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง “ไรท่ องผาภมู ิ” 9. รองชนะเลิศอันดับท่ี 1 กลุ่มออมทรพั ย์เพ่ือการผลิต ที่มีการบรหิ ารจดั การที่ดีตาม หลกั ธรรมาภิบาล ประจาปี 2564 10. รองชนะเลศิ อันดับท่ี 1 กองทุนแม่ของแผ่นดินดีเด่นระดับจงั หวดั ประจาปี 2564 11. รบั รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” ประจาปี 2561 12. รบั รางวลั ชนะเลศิ การประกวดหมู่บ้านสารสนเทศดีเด่นจงั หวดั นราธวิ าส ประจาปี 2561 13. รบั รางวัลรองชนะเลิศ อันดับท่ี 1 การประกวดศูนย์เรยี นรูก้ องทุนแม่ของแผ่นดิน ดีเด่นจงั หวดั นราธวิ าส ประจาปี 2560

14. รบั รางวลั ชนะเลิศ การประกวดผลงานของคณะกรรมการหมู่บา้ น (กม.) ในหมู่บ้านทมี่ ี ผลการปฏิบตั ิงานของคณะกรรมการหมู่บา้ น (กม.) ดีเด่น (A) ระดับอาเภอและระดับจงั หวดั ประจาปงี บประมาณ 2556 15. ประกาศกรมการปกครอง ฝึกอบรมหลักสูตรผู้นาหน่วยชุดรกั าความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) รนุ่ ท่ี 4 พ.ศ. 2556 16. ประกาศกรมการพัฒนาชุมชน ฝึกอบรมโครงการพัฒนาผู้นาสัมมาชพี หลักสูตร “วทิ ยากรผู้นาสัมมาชพี ” รนุ่ ที่ 4/2560 17. ประกาศศูนยอ์ านวยการบรหิ ารจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ อบรมหลักสูตร พฒั นา ศักยภาพกานัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพน้ื ท่ีจงั หวดั ชายแดนใต้ รนุ่ ท่ี 3 ประจาปี 2560 18. ประกาศกองบิน 5 ได้ผ่านการทดสอบกาลังใจ โดดหอสูง 34 ฟุต พ.ศ.2556 19. ประกาศ โครงการประกวดการจดั การขยะมูลฝอยชุมชน “หมู่บ้าน/ชุมชนสะอาด” ระดับตาบล ประจาปี 2560 20. รบั รางวลั รองชนะเลิศอันดับ 2 การประกวดหมู่บา้ นดีเด่นตามโครงการ “บาบัดทุกข์ บารงุ สุข แบบ ABC” จงั หวดั นราธวิ าส ประจาปี 2556 21. เกียรติบัตร ได้พฒั นาตนเองตามระบบมาตรฐานงานชุมชน ผ่านการประกวดผล ประเภท “ชุมชน” ประจาปี 2556 22. รบั รางวลั ที่ 2 การประกวดสับปะรด ในงานของดีศรสี าคร ครงั้ ท่ี 8 ประจาปี 2560 23. รบั รางวลั ท่ี 2 การประกวดต้นดาวเรอื ง ในงานของดีศรสี าคร ครงั้ ท่ี 8 ประจาปี 2560 24. ประกาศเกียรติคุณ เป็นหมู่บ้านทม่ี ีรอ้ ยละของผู้ไปใชส้ ิทธอิ์ อกเสียงของประชามติ รา่ งรฐั ธรรมนญู และประเด็นเพ่ิมเติมมากทส่ี ุดในระดับตาบลกาหลง อาเภอศรสี าคร จงั หวดั นราธวิ าส ประจาปี 2559 25. รบั รางวลั ดีเด่น การประชาสัมพนั ธก์ ารตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจาการ ประจาปี 2560 (ลงนาม)...................................................ผู้สมัคร ( นายสุกฤษฎ์ คงขวญั ) ผู้เสนอ ความเห็นผู้รบั รอง ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................... (ลงนาม) (.......................................................................) ตาแหน่ง พัฒนาการจงั หวดั นราธวิ าส

1 ส่วนท่ี 1 บทนำ ประวตั ิส่วนตัว 1. ชอ่ื นำยสุกฤษฎ์ คงขวญั 2. เลขประจำตัวประชำชน 13 หลัก 4960700002442 ส่วนสูง 168 ซม. 3. ตำแหน่ง ผู้ใหญบ่ ำ้ นประชำนิมิตร หมู่ที่ 4 ตำบลกำหลง อำเภอศรสี ำคร จงั หวดั นรำธวิ ำส 4. เกิดเมื่อ วนั ที่ 15 เดือนเมษำยน พ.ศ. 2519 อำยุ 43 ปี 5. ดำรงตำแหน่งเมื่อวันท่ี 17 เดือน กรกฎำคม พ.ศ. 2555 6. อยู่บ้ำนเลขท่ี 28/32 หมู่ที่ 4 ตำบลกำหลง อำเภอศรสี ำคร จงั หวดั นรำธวิ ำส หมำยเลขโทรศัพท์ 098 - 2014091 7. กำรศึกษำสูงสุด อนุปรญิ ญำตร ี วทิ ยำลยั ชุมชนจงั หวดั นรำธวิ ำส 8. ศำสนำ พุทธ 9. ประกอบอำชพี ทำสวน (เกษตรกรรม) 10. ตำแหน่งทำงสังคม ระดับหมู่บ้ำน / ตำบล  ประธำนคณะกรรมกำรกล่มุ ออมทรพั ยเ์ พือ่ กำรผลติ บ้ำนประชำนิมิตร  ประธำนกองทนุ หมู่บ้ำนประชำนิมิตร(กทบ.)  ประธำนกลุ่มวสิ ำหกิจชุมชน (ยำงก้นถ้วย) บำ้ นประชำนิมิตร  ประธำนกองทุนแม่ของแผ่นดินบำ้ นประชำนิมิตร  ปรำชญส์ ัมมำชพี ชุมชนบำ้ นประชำนิมิตร  ประธำนศูนยเ์ รยี นรเู้ ศรษฐกิจพอเพียงบ้ำนประชำนิมิตร  ประธำนคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนโรงเรยี นคีรรี ำษฎรร์ งั สฤดิ์  คณะกรรมกำรปลูกทเุ รยี นคุณภำพบำ้ นประชำนิมิตร  ประธำนกลุ่มกำแฟอำรำบีก้ำบำ้ นประชำนิมิตร  ประธำนกลุ่มอำชพี ทำสบูก่ ำแฟรงั ไหมบ้ำนประชำนิมิตร ระดับอำเภอ  ประธำนสภำองค์กรชุมชน (พอช.) ตำบลกำหลง  คณะกรรมกำรสำนักงำนหลักประกันสุขภำพแห่งชำติ (สปสช.) ตำบลกำหลง  คณะกรรมกำรชมรมกำนันผู้ใหญ่บำ้ นอำเภอศรสี ำคร  รองประธำนสภำสันติสุขตำบลกำหลง  คณะกรรมกำรศูนยถ์ ่ำยทอดเทคโนโลยที ำงกำรเกษตรตำบลกำหลง

2  คณะกรรมกำรพฒั นำนิคมศรสี ำคร (สำรวตั รนิคม)  คณะกรรมกำรสวนยำงอำเภอรอื เสำะ - ศรสี ำคร  ประธำนเครอื ขำ่ ยกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับอำเภอ  คณะกรรมกำรผู้ทรงคุณวฒุ ิด้ำนสิ่งแวดลอ้ มของศูนยอ์ ำนวยกำรปฏิบัติกำรขจดั ควำม ยำกจนและพัฒนำคนทุกชว่ งวยั อยำ่ งยง่ั ยนื (ศจพ.อ.)  คณะทำงำนศูนยป์ ระสำนงำนองค์กำรชุมชน (ศอช.อ.)  อำสำปศุสัตวอ์ ำเภอศรสี ำคร  คณะกรรมกำรวสิ ำหกิจชุมชนอำเภอศรสี ำคร  คณะกรรมกำรกำรปลกู ทุเรยี นคณุ ภำพ (ทเุ รยี นแปลงใหญ่) ระดับจงั หวัด  คณะกรรมกำรเครอื ขำ่ ยกองทนุ แม่ของแผ่นดินระดับจงั หวดั 11. ผลงำนเด่นในรอบกำรประเมิน 1. ได้รบั โล่สิงห์ทอง รำงวลั ชนะเลิศ ครวั เรอื นสัมมำชพี ชุมชนตัวอย่ำง ประจำปี 2564 จงั หวดั นรำธวิ ำส 2. รองชนะเลิศอันดับท่ี 1 ครวั เรอื นสัมมำชพี ชุมชนตัวอยำ่ ง ระดับภำคใต้ (14 จงั หวดั ) ประจำปี 2564 3. รำงวลั โล่พระรำชทำนจำกสมเด็จพระกนิษฐำธริ ำชเจำ้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นรำชสุดำ ฯ สยำมบรมรำชกมุ ำร ี หมู่บ้ำนเศรษฐกิจพอเพยี ง “อยูเ่ ยน็ เปน็ สุข” ประจำปี 2564 4. รำงวัลรองชนะเลิศอันดับท่ี 2 ประเภทกลุ่มองค์กรแกนหลักในกำรพัฒนำหมู่บ้ำน ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้ำนประชำนิมิตร 5. ปรำชญ์สัมมำชพี ชุมชนในกำรปลกู กำแฟอำรำบกี ้ำ 6. ผู้นำสัมมำชพี ชุมชนในกำรทำปุ๋ยมูลสัตว์ มูลไส้เดือน น้ำหมักชวี ภำพ และนำ้ ส้มควนั ไม้ 7. ผู้นำสัมมำชพี ชุมชนในกำรปลูกทเุ รยี นคณุ ภำพเกษตรอินทรยี ์ 8. ผู้นำสัมมำชพี ชุมชน เรอ่ ื งกำร น้อมนำหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง “ไรท่ องผำภูมิ” 9. รองชนะเลิศอันดับที่ 1 กลุ่มออมทรพั ย์เพื่อกำรผลิต ท่ีมีกำรบรหิ ำรจดั กำรท่ีดีตำม หลักธรรมำภิบำล ประจำปี 2564 (ระดับดีมำก) 10. รองชนะเลิศอันดับท่ี 1 ศูนย์เรยี นรูก้ องทุนแม่ของแผ่นดินดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2564 11. รำงวลั รองชนะเลศิ อันดับที่ 1 หมู่บ้ำนเศรษฐกิจพอเพียง “อยูเ่ ยน็ เปน็ สุข” ประจำปี 2561 12. รำงวลั ชนะเลศิ กำรประกวดหมู่บ้ำนสำรสนเทศดีเด่นจงั หวดั นรำธวิ ำส ประจำปี 2561 13. รำงวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 กำรประกวดศูนย์เรยี นรูก้ องทุนแม่ของแผ่นดิน ดีเด่นจงั หวดั นรำธวิ ำส ประจำปี 2560

3

4 12. วสิ ัยทัศน์กำรทำงำน ควำมรเิ รม่ ิ สรำ้ งสรรค์เสรมิ สรำ้ งกำรทำงำนให้ประสบควำมสำเรจ็ “ชุมชนสำมัคคี น้อมนำทฤษฎีเกษตรผสมผสำน บรหิ ำรชุมชนที่เข้มแข็ง เป็นแหล่ง เรยี นรู้ สู่ชุมชนต้นแบบ” ชุมชนสำมัคคี ส่งเสรมิ ให้ประชำชน ชว่ ยเหลือเกื้อกูลกัน และมีกิจกรรมรว่ มกันอยูอ่ ย่ำง สม่ำเสมอ ทั้งๆ ที่ต่ำงคนต่ำงที่มำ จำกหลำกหลำยจงั หวัด หลำยพ้ืนที่ แต่ทุกๆ คนต่ำงน้อมเข้ำหำ กัน พูดจำปรำศรยั กันด้วยควำมโอบอ้อมอำรยี ์ เวลำมีปัญหำเกิดข้ึนในพ้ืนท่ีละแวกใกล้เคียง ทุก คนต่ำงอำสำลงขันชว่ ยกันแก้ไขปญั หำโดยไม่เกี่ยงงอน น้อมนำทฤษฎีเกษตรผสมผสำน สนับสนุนให้ชำวบ้ำนดำรงชวี ติ อยำ่ งพอเพียง โดยกำร น้อมนำหลักปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพียงมำปรบั ใช้ในกำรดำเนินชวี ติ รูจ้ กั พอประมำณ มีเหตุผล และสรำ้ งภูมิคุ้มกันในตัวเอง โดยอำศัยควำมรอบคอบ ควำมรู้ ควำมระมัดระวัง ขยันอดทน ซอื่ สัตย์สุจรติ ชว่ ยเหลือ แบ่งปัน เป็นต้น เป็นตัวอยำ่ งให้กับรำษฎรในพื้นที่ ในกำรน้อมนำหลกั ปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทำงในกำรดำเนินชวี ติ บรหิ ำรชุมชนทเ่ี ข้มแข็ง 1. กำรวำงแผน สำมำรถอธบิ ำยแนวโน้มของสถำนกำรณ์ทั้งภำยในและภำยนอก หมู่บำ้ นได้ อยำ่ งมีหลักกำรและมีเหตุผล 2. กำรแก้ไขปัญหำและกำรตัดสินใจ สำมำรถระบุสภำพปัญหำของหมู่บ้ำนจดั ตำมลำดับ ควำมสำคัญของปัญหำ ตลอดจนวเิ ครำะห์หำสำเหตุของปัญหำได้อย่ำงรอบด้ำน โดยสำมำรถ แยกแยะสำเหตุท้ังทีค่ วบคมุ ได้และควบคมุ ไม่ได้ 3. กำรพัฒนำงำนอยำ่ งต่อเน่ือง สำมำรถเพ่ิมผลงำนได้ โดยใชท้ รพั ยำกรที่มีอยู่ ในหมู่บ้ำน ได้อยำ่ งเต็มทแ่ี ละมีประสิทธภิ ำพ ค้มุ ค่ำ 4. กำรสร้ำงและพัฒนำทีมงำน สำมำรถประสำนและนำกลุ่มคนท่ีมีควำม แตกต่ำงกันมำ ทำงำนรว่ มกันได้ โดยสำมำรถกำหนดแนวทำงไปสู่เปำ้ หมำยและมำตรฐำนเดียวกันได้ เป็นแหล่งเรยี นรู้ 1. เพอ่ื เป็นแหล่งกำรศึกษำตลอดชวี ติ ท่ีประชำชนสำมำรถหำควำมรตู้ ่ำงๆ ได้ด้วย ตนเองตลอดเวลำ 2. เพื่อส่งเสรมิ ให้ชุมชนและพืน้ ทีใ่ กล้เคียง มีแหล่งกำรเรยี นรเู้ พ่ือกำรศึกษำท่ี หลำกหลำย สำมำรถเรยี นรไู้ ด้ตำมอัธยำศัย 3. เปน็ เครอ่ ื งมือทสี่ ำคัญของบุคคลในท้องถิ่น ในกำรแสวงหำควำมรูเ้ พ่อื พฒั นำ ตนเอง สมำชกิ ในครวั เรอื น

5 สู่ชุมชนต้นแบบ 1.เพอ่ื พฒั นำศูนยก์ ำรเรยี นรชู้ ุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียงที่สำมำรถขยำยผลได้ ในระยะยำว 2.เพื่อสรำ้ งเกษตรกรรุน่ ใหม่ทม่ี ีจติ สำนึกต่อส่ิงแวดล้อม ขยนั หมั่นเพยี ร เสียสละ เพือ่ ส่วนรวม และมีควำมพอเพยี งอยูใ่ นหัวใจ 3.เพื่อส่งเสรมิ ควำมเข้มแข็งให้กับองค์กรชุมชนในกระบวนกำรศึกษำเพ่ือชวี ติ สำมำรถปฏิบัติได้จรงิ ในชุมชน ทัง้ มิติทำงสังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจชุมชน บนฐำนของภมู ิ ปัญญำท้องถิ่นสู่กำรพึ่งตนเอง ตำมแนวทำง “เศรษฐกิจพอเพียง” 4.เพอ่ื เปิดพ้ืนทีแ่ ห่งกำรแลกเปล่ียนเรยี นรคู้ วบค่กู ับกำรพัฒนำตำมแนวทำง “เศรษฐกิจพอเพียง” อยำ่ งต่อเนื่อง 5.เพือ่ ให้ชำวบำ้ นตระหนักถึงภัยคุกคำมจำกภำยนอก อำทิกำรสูญเสียทด่ี ินทำกิน ปำ่ และสิ่งแวดล้อมถูกทำลำย ปลูกฝังให้ชำวบำ้ นรกั หวงแหน และทำกินในแผ่นดินเกิดได้อยำ่ งมี ควำมสุข และมีควำมมั่นคงในชวี ติ

6 ส่วนท่ี 2 ประสบกำรณ์และกำรได้รบั กำรยอมรบั จำกสังคม ประสบกำรทำงำนผู้นำสัมมำชพี ชุมชน เป็นปรำชญ์สัมมำชพี ชุมชน เรอ่ ื งกำร น้อมนำหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง “ไรท่ องผำภูมิ” - ผ่ำนฝึกอบรม วทิ ยำกรผู้นำสัมมำชีพ ณ ศูนย์ศึกษำและกำรพัฒนำชุมชน จงั หวดั ยะลำ - เป็นวทิ ยำกรให้ควำมรดู้ ้ำนกำรดำรงชวี ติ ตำมหลกั ของปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพียง เป็นวทิ ยำกรผู้นำสัมมำชพี ชุมชน ดังน้ี 1. เป็นวทิ ยำกรด้ำนกำรทำปุย๋ มูลสัตว์ มูลไส้เดือน 2. เปน็ วทิ ยำกรด้ำนกำรค่ัวกำแฟอำรำบีก้ำ ชำดอกกำแฟ 3. เปน็ วทิ ยำกรด้ำนกำรทำสบูร่ งั ไหม 4. เป็นวทิ ยำกรด้ำนกำรปลกู กำแฟ 5. เป็นวทิ ยำกรด้ำนกำรอนุรกั ษ์ทรพั ยำกรธรรมชำติ ด้ำนกำรทำฝำยมีชวี ติ 6. เปน็ วทิ ยำกรด้ำนกำรทำเกษตรผสมผสำน 7. เปน็ วทิ ยำกรกำรทำนำ้ ส้มควนั ไม้ 8. เป็นวทิ ยำกรกำรเล้ียงผึ้งชนั โรง

7 - เข้ำรว่ มกิจกรรมกำรประกวด

8 ควำมเปน็ ผู้นำ หรอื กำรยอมรบั จำกชุมชน/สังคม ในกำรดำเนินกิจกรรมต่ำงๆ ของหมู่บ้ำน กำรจดั เวทีประชำคมเพื่อให้ประชำชนในพืน้ ท่ีเข้ำ มำรบั ฟังและรว่ มแสดงควำมคิดเห็น เสนอแนะแนวทำงในกำรดำเนินกิจกรรม และมีกำร ถ่ำยทอดควำมรวู้ ชิ ำกำรและกำรดำรงชวี ติ ตำมหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง เปน็ วทิ ยำกร ถ่ำยทอดองค์ควำมรดู้ ้ำนกำรปลกู พชื ผสมผสำน ให้แก่ผู้ทมี่ ำเรยี นรศู้ ึกษำดูงำน จดั เวทปี ระชำคม ถ่ำยทอดกิจกรรมกำรน้อมนำหลักปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพยี ง

9 เป็นวทิ ยำกร ถ่ำยทอดควำมรดู้ ้ำนกำรทำกำแฟอำรำบีก้ำ และกำรเลี้ยงผึ้งชนั โรง

10 เป็นวทิ ยำกร ถ่ำยทอดควำมรดู้ ้ำนกำรทำสบูร่ งั ไหมแก่นักเรยี นและผู้ปกครองโรงเรยี นคีรรี ำษรฎ์รงั สฤษด์ิ

11 สนับสนนุ กิจกรรมทบู นี ัมเบอรว์ นั ในกำรขบั เคล่ือนกิจกรรมกำรส่งเสรมิ อำชพี เสรมิ ให้แก่เยำวชนและผู้สูงอำยุในชุมชน

12 ส่วนที่ 3 ผลงำนด้ำนกำรพัฒนำชุมชนของผู้นำสัมมำชพี ชุมชนเปน็ ประจกั ษ์ กำรศึกษำทำควำมเข้ำใจชุมชนเพ่ือวเิ ครำะห์ควำมสำคัญต่อกำรกำหนดแผนกำร ดำเนินงำนในชุมชน เพื่อหำข้อเท็จจรงิ ต่ำงๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชนน้ันๆ ทั้งทำงด้ำนสิ่งแวดล้อมทำง กำยภำพ สังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และกำรเมืองกำรปกครอง นำมำซง่ึ ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ควำมสำมำรถในกำรกำหนดปัญหำ กำรประเมินศักยภำพในด้ำนต่ำงๆ ของชุมชน อันจะนำมำซงึ่ โครงกำรและกิจกรรม เพ่อื กำรพฒั นำหรอื แก้ไขปญั หำ จำกสถำนกำรณ์ในรอบปีท่ีผ่ำน บ้ำนประชำนิมิตร หมู่ท่ี 4 ตำบลกำหลง อำเภอศรสี ำคร จงั หวดั นรำธวิ ำส ประสบปญั หำต่ำงๆ ดังนี้ 1.ปัญหำด้ำนโรคระบำด โควดิ – 19 ชุมชนได้รบั ผลกระทบอยำ่ งมำก เน่ืองจำก ชุมชนมีกำรปิดหมู่บ้ำน / ตำบล ไม่อนุญำตให้บุคคลภำยนอกเข้ำมำในพ้ืนท่ีชุมชน มีกำรตั้งด่ำน คัดกรองเป็นระยะเวลำประมำณ 3 เดือน ชำวบ้ำนเองก็ไม่สำมำรถทีจ่ ะออกไปซอ้ื สินค้ำอุปโภค บรโิ ภคในกำรดำรงชีพได้จำกนอกพื้นที่ได้ เพรำะต้องทำเรอ่ ื งขออนุญำตและต้องมีหนังสือ รบั รอง กำรเข้ำออก ทำให้ไม่สะดวก เกิดควำมยุง่ ยำกในกำรจดั ทำเอกสำรผ่ำนเข้ำออกหมู่บ้ำน 2.ปัญหำน้ำท่วม ในรอบปีท่ีผ่ำนมำในพ้ืนที่ประสบปัญหำฝนตกระยะเวลำ ยำวนำน 5 – 6 เดือน ทำให้ปรมิ ำณน้ำฝนเยอะ ชำวบ้ำนประสบปัญหำน้ำท่วมคอสะพำนทรุด ทำให้ชำวบ้ำนไม่สำมำรถสัญจรไปจบั จำ่ ยซอ้ื ของมำอุปโภค บรโิ ภคได้ 3.ปัญหำด้ำนรำยได้ ในช่วงฤดูฝนกำรประกอบอำชีพกรดี ยำงไม่สำมำรถหำ รำยได้ให้ครอบครวั เพรำะปรมิ ำณน้ำฝนเยอะ ทำให้หน้ำยำงเปียก จงึ ทำให้ครวั เรอื นกรดี ยำง จงึ ไม่มีน้ำ ยำงขำยให้กับนำยทนุ ได้ ทำให้ขำดรำยได้มำดูแลครอบครวั

13 ต่อตนเอง จำกสถำนกำรณ์ดังกล่ำว ทำให้ต้องหันมำพงึ่ พำตนเองด้วยหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจ พอเพยี ง ดังนี้ 1.ยึดควำมประหยัด ตัดทอนค่ำใช้จ่ำยในทุกด้ำนลดละควำมฟุ่มเฟือยในกำรดำรงชีพ อยำ่ งจรงิ จงั ควำมเป็นอยูท่ ีต่ ้องไม่ฟ้งุ เฟ้อต้องประหยดั ไปในทำงที่ถูกต้อง 2.ยดึ ถือกำรประกอบอำชพี ด้วยควำมถกู ต้อง สุจรติ แม้จะตกอยูใ่ นภำวะ ขำดแคลนใน กำรดำรงชพี ก็ตำม เพรำะควำมเจรญิ ของคนท้งั หลำยยอ่ มเกิดมำจำกกำรประพฤติชอบ และกำร หำเลีย้ งชพี ของตนเป็นหลกั สำคัญ 3.ละเลิกกำรแก่งแย่งผลประโยชน์และแข่งขันกันในทำงกำรค้ำขำย ประกอบอำชพี แบบ ต่อสู้กันอย่ำงรุนแรง ควำมสุขควำมเจรญิ อันแท้จรงิ นั้น หมำยถึงควำมสุขควำมเจรญิ ท่ีบุคคล แสวงหำมำได้ด้วยควำมเป็นธรรมทั้งในเจตนำ และกำรกระทำไม่ใชไ่ ด้มำด้วยควำมบังเอิญ หรอื ด้วยกำรแก่งแยง่ เบียดบังมำจำกผู้อ่ืน 4.ไม่หยุดน่ิงท่ีจะหำทำงในชวี ติ หลุดพ้นจำกควำมทุกข์ยำกครง้ั นี้ โดยต้องขวนขวำยใฝ่หำ ควำมรูใ้ ห้เกิดมีรำยได้เพิ่มพูนข้ึนจนถึงข้ันพอเพียงเป็นเป้ำหมำยสำคัญ ต้องกำรให้ทุกคน พยำยำมท่ี จะหำควำมรแู้ ละสรำ้ งตนเองให้ม่ันคงน้ีเพ่ือตนเอง เพ่อื ท่จี ะให้ตัวเองมีควำมเป็นอยู่ท่ี ก้ำวหน้ำ ท่ีมีควำมสุขพอมีพอกินเปน็ ข้นั หน่ึงและข้นั ต่อไปก็คือให้มีเกียรติวำ่ ยนื ได้ด้วยตัวเอง 5.ปฏิบัติตนในแนวทำงท่ีดีลดละส่ิงย่ัวกิเลสให้หมดส้ินไป พยำยำมไม่ก่อควำมชวั่ ให้เป็น เครอ่ ื งทำลำยตัว ทำลำยผู้อ่ืน พยำยำมลด พยำยำมละควำมชวั่ ท่ีตัวเองมีอยู่ พยำยำมก่อควำมดี ให้แก่ตัวอยูเ่ สมอ พยำยำมรกั ษำ และเพิ่มพนู ควำมดีทมี่ ีอยูน่ ั้นให้งอกงำมสมบูรณ์ขึ้น 1. ด้ำนกำรน้อมนำหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่กำรปฏิบัติ \"กำรน้อมนำแนวพระรำชดำรขิ องสมเด็จพระกนิษฐำธิรำชเจ้ำกรมสมเด็จพระเทพ รตั นรำชสุดำ สยำมบรมรำชกุมำร ี สู่แผนปฏิบัติกำร 90 วัน ปลูกผักสวนครวั เพ่ือสรำ้ งควำม ม่ันคงทำงอำหำร\" โดยเน้นกำรพึ่งตนเองและสรำ้ งควำมสำมัคคีของคนในชุมชน เป็นกำรสรำ้ ง ควำมม่ันคงทำงอำหำรในใจระดับครวั เรอื น และลดรำยจำ่ ยในกำรดำรงชวี ติ ของประชำชน สรำ้ ง รำยได้ระยะส้ันทั้งในระดับครวั เรอื นและระดับกลุ่มอำชพี โดยเรม่ ิ ดำเนินกำรปลูกผักสวนครวั ใน บรเิ วณทีอ่ ยูอ่ ำศัย เกิดกำรเรยี นรแู้ นวทำงกำรสรำ้ งพน้ื ฐำนควำมพอมี พอกิน พอใชข้ องประซำชน เพ่ือพึ่งตนเองที่พระบำทสมเด็จพระเจำ้ อยูห่ ัว รชั กำลที่ 9 ทรงพระรำชทำนไว้ รวมท้ังแลกเปลยี่ น แบ่งปันควำมรู้ เมล็ดพันธุ์ และผลผลิตระหว่ำงกันเพื่อให้ทำงกำรดำเนินงำน \"น้อมนำแนว พระรำชดำรขิ องสมเด็จพระกนิษฐำธริ ำชเจำ้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นรำชสุดำ ฯบรมรำชกุมำร ี สู่ แผนปฏิบัติกำร 90 วัน ปลูกผักสวนครวั เพื่อสรำ้ งควำมมั่นคงทำงอำหำร\" เกิดควำมย่ังยืนและ อำนวยประโยชน์แก่ประชำชนมำกข้นึ

14 ในกำรดำรงชวี ติ มีมุ่งมั่นในกำรสรำ้ งควำมมั่นคงให้กับครวั เรอื นในกำรสรำ้ งควำมมั่นคง ทำงอำหำร ลดรำยจำ่ ย เพิ่มรำยได้แก่ตนเอง และสำมำรถมีแหล่งอำหำรภำยในครวั เรอื น สรำ้ ง ควำมม่ันคงทำงอำหำร ให้กับประชำชนในสภำวะกำรแพรร่ ะบำดของไวรสั โควดิ -19 จึงได้มี โอกำสเป็นส่วนหนึ่งใน โครงกำรปฏิบัติกำร 90 วัน ปลูกผักสวนครวั เพ่ือสรำ้ งควำมมั่นคงทำง อำหำร เพ่ือตอบสนองในกำรพัฒนำที่ยั่งยืน ส่งเสรมิ กำรเกษตรกรรมท่ียั่งยืน เพ่ือพัฒนำ คุณภำพชวี ติ ของประชำชนในชนบท และพึ่งตนเองได้อย่ำงย่ังยืน และเพ่ือเป็นกำรสรำ้ งรำยได้ สรำ้ งเสรมิ ควำมรกั ควำมสำมัคคี และกำรเก้ือกลู ของคนในชุมชน/หมู่บำ้ น ดำรงชวี ติ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพียง

15 ขับเคลอื่ นกิจกรรม ถนนกินได้ เพ่ือแบง่ ปนั ผลผลติ ให้แก่ชำวบำ้ น สนับสนุนกิจกรรมของกลมุ่ เครอ่ ื งแกงบ้ำนประชำนิมิตร สำธติ กำรทำกำแฟอำรำบีก้ำ

16 ต่อส่วนรว่ ม ด้ำนส่งเสรมิ เศรษฐกิจ 1.) มีกำรนำแนวคิดมำขยำยผลกำรดำเนินงำนตำมโครงกำรอันเนื่องมำจำก พระรำชดำร ิ ในหมู่บ้ำนมีสมำชกิ ศูนย์ศีลปำชพี จำนวน 2 ศูนย์ คือ ศูนยศ์ ีลปำชพี บ้ำนประชำ นิมิตร จำนวน 22 คน ศูนย์ศีลปำชพี โคกโพธส์ิ ันติ จำนวน 20 คน กิจกรรมท่ีดำเนินงำน คือ กำรทอผ้ำ และ กำรปกั ผ้ำ 2.) พัฒนำและส่งเสรมิ กำรประกอบอำชพี หลักและอำชพี เสรมิ เพ่ือให้สังคมอยู่ รว่ มกันอยำ่ งมีควำมสุขภำยใต้ปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีกลมุ่ ต่ำง ๆในชุมชน มีรำยละเอียด ดังนี้ 2.1.1 กลุ่มทอผ้ำบ้ำนประชำนิมิตร ☺ ดำเนินกำร เม่ือวนั ท่ี 19 เดือนพฤษภำคม พ.ศ.2529 ☺ สมำชกิ ทง้ั หมด 22 คน 2.1.2 กลุ่มทอผ้ำโคกโพธส์ ันติ ☺ ดำเนินกำร เม่ือวนั ท่ี 19 เดือนพฤษภำคม พ.ศ.2529 ☺ สมำชกิ ทัง้ หมด 20 คน 2.1.3 กลุ่มปักผ้ำ ☺ ดำเนินกำร เม่ือวนั ที่ 19 เดือนพฤษภำคม พ.ศ.2529 ☺ สมำชกิ ทง้ั หมด 9 คน 2.1.4 กองทุนหมู่บ้ำนและชุมชนเมือง (กทบ.) ☺ ดำเนินกำร เม่ือวนั ท่ี 17 เดือนกรกฎำคม พ.ศ.2544 ☺ สมำชกิ ทงั้ หมด 96 คน ☺ ยอดเงนิ ท้ังหมด 2,300,000 บำท 2.1.5 กำรดำเนินงำนกลุ่มออมทรพั ย์เพ่ือกำรผลิต ผลกำรดำเนินงำน ☺ ก่อตั้งเมื่อวนั ท่ี 10 เดือนมกรำคม พ.ศ. 2552 ☺ สมำชกิ ก่อต้ัง 100 คน ☺ สมำชกิ ปัจจุบัน 129 คน ☺ มีเงนิ สัจจะทั้งหมด 1,161,600 คน ☺ สวสั ดิกำร ดังน้ี  เงนิ ขวญั ถุงบุตรแรกเกิด คนละ 500 บำท  เจบ็ ป่วย คนละ 500 บำท  สมำชกิ เสียชวี ติ มีเงนิ ฌำปนกิจ รำยละ 2,000 บำท  สำธำรณประโยชน์ 10 % 2.1.6 กลุ่มเยำวชนแกะสลักไม้ (เทพนิมิตร) ☺ ดำเนินกำร เมื่อวนั ท่ี 15 เดือนพฤษภำคม พ.ศ.2558 ☺ สมำชกิ ท้งั หมด 9 คน

17 2.1.7 กลุ่มอำหำร – ขนม ☺ ดำเนินกำร เม่ือวนั ที่ 20 เดือนพฤษภำคม พ.ศ.2559 ☺ สมำชกิ ทั้งหมด 6 คน 2.1.8 กลุ่มวสิ ำหกิจชุมชนยำงก้นถ้วย ผลกำรดำเนินงำน ☺ ก่อต้ังเม่ือวนั ท่ี 17 เดือนธนั วำคม พ.ศ.2559 ☺ สมำชกิ ก่อตั้ง 38 คน ☺ กำไรต่อปี  ปีท่ี 1 พ.ศ.2560 มีกำไร 52,922 บำท  ปีท่ี 2 พ.ศ.2561 มีกำไร 70,724 บำท  ปีที่ 3 พ.ศ.2562 มีกำไร 71,000 บำท 2.1.9 กลุ่มกำแฟอำรำบีก้ำบ้ำนประชำนิมิตร ☺ ดำเนินกำร เมื่อวนั ที่ 10 เดือนกุมภำพันธ์ พ.ศ.2560 ☺ สมำชกิ ทั้งหมด 15 คน 2.1.10 กลุ่มไม้กวำดดอกหญ้ำ ☺ ดำเนินกำร เม่ือวนั ท่ี 12 เดือนกมุ ภำพันธ์ พ.ศ.2560 ☺ สมำชกิ ทัง้ หมด 9 คน 2.1.11 กลุ่มเครอ่ ื งแกงบ้ำนประชำนิมิตร ☺ ดำเนินกำร เมื่อวนั ท่ี 15 เดือนพฤศจกิ ำยน พ.ศ.2560 ☺ สมำชกิ ทง้ั หมด 15 คน 2.1.12 กลุ่มวสิ ำหกิจเกษตรอินทรยี แ์ ละสมุนไพรบ้ำนประชำนิมิตร ☺ ดำเนินกำร เมื่อวนั ท่ี 16 เดือนพฤศจกิ ำยน พ.ศ.2560 ☺ สมำชกิ ทัง้ หมด 7 คน 2.1.13 กลุ่มเลี้ยงผ้ึงชนั โรง ☺ ดำเนินกำร เม่ือวนั ท่ี 10 เดือนกุมภำพนั ธ์ พ.ศ.2561 ☺ สมำชกิ ท้ังหมด 5 คน 2.1.14 กลุ่มดอกไม้ตัดดอก ☺ ดำเนินกำร เม่ือวนั ที่ 3 เดือนกรกฎำคม พ.ศ.2562 ☺ สมำชกิ ทงั้ หมด 9 คน 3.) สนับสนุนและส่งเสรมิ ผู้ด้อยโอกำสและผู้ว่ำงงำนในหมู่บ้ำนให้สำมำรถพฒั นำ ไปสู่ควำมพออยู่พอกิน ซง่ึ เป็นเป้ำหมำยข้ันต้นของหลักปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพียง โดยกำรจำ้ ง งำนผู้วำ่ งงำนในหมู่บ้ำนให้โดยเฉล่ียจำกผลกำไรของกลมุ่ เฉล่ยี เทยี่ วละ 800 บำท 4.) เปิดโอกำสให้ประชำชนได้รบั รูบ้ ัญชรี ำยรบั – รำยจำ่ ยของโครงกำรต่ำงๆ ใน หมู่บ้ำน โดยมีกำรชแ้ี จงกำรดำเนินงำน/กิจกรรมต่ำง ๆ เป็นประจำทุกเดือนในกำรประชุมรำษฎร ประจำเดือน 6.) ประสำนเจำ้ หน้ำที่ของรฐั และหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องลงพื้นท่ีให้คำแนะนำกำร ส่งเสรมิ อำชพี และบรหิ ำรจดั กำรโครงกำรเป็นระยะ ๆ เชน่ โครงกำรอบรมเกษตรกร กำรจดั กำร

18 ดินเพื่อเพ่ิมผลผลิตยำงพำรำตำมค่ำวเิ ครำะห์ดิน โดยสำนักงำนกองทุนสงเครำะห์กำรทำสวน ยำงพำรำ จงั หวดั นรำธวิ ำส สนับสนุนกำรดำเนินงำนสัมมำชพี ชุมชนอยำ่ งต่อเน่ือง 7.) สนับสนุนและส่งเสรมิ กำรลดต้นทุนและปัจจัยในกำรผลิต เช่น ส่งเสรมิ กิจกรรมลดรำยจำ่ ย เพมิ่ รำยได้ให้กับครวั เรอื น (กินทุกอยำ่ งที่ปลกู ปลูกทกุ อยำ่ งที่กิน) 8.) ส่งเสรมิ สนับสนุนกำรดำเนินงำนด้ำนเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเองในหมู่บ้ำน เชน่ กำรดำเนินกิจกรรมของรำ้ นค้ำสตร ี กลุ่มออมทรพั ย์เพื่อกำรผลิต สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของ ชุมชน (เครอ่ ื งแกง) สนับสนุนกำรทำเครอ่ ื งแกงบ้ำนประชำนิมิตร เพื่อรบั ซอ้ื ผลผลิตของชำวบำ้ น

19 ส่วนที่ 4 ผลงำนควำมสำเรจ็ และสิ่งทภ่ี ำคภูมิใจในกำรเปน็ ผู้นำสัมมำชพี ของกรมกำรพัฒนำชุมชน กำรสรำ้ งควำมมั่นคงทำงอำหำร 1) ส่งเสรมิ ครวั เรอื นในหมู่บำ้ นปลกู ผักสวนครวั อยำ่ งน้อย 10 ชนิด เพื่อเป็นกำรสนองพระรำชปณิธำนพระบำทสมเด็จพระวชริ เกล้ำเจำ้ อยู่หัว ในกำร ทรงงำนเพื่อจะสืบสำน รกั ษำ และต่อยอดโครงกำรอันเน่ืองมำจำกพระรำชดำร ิในพระบำทสมเด็จ พระบรมชนกำธเิ บศร มหำภูมิพลอดุลยเดชมหำรำช บรมนำถบพิตร ทรงนำแนวทำงปรชั ญำของ เศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ เพ่ือพัฒนำคุณภำพชีวติ ท่ีดีขึ้นของพสกนิกรของพระองค์ สืบไป รวมถึงในเรอ่ ื งควำมมั่นคงทำงอำหำร โดยน้อมนำแนวพระรำชดำรขิ องสมเด็จพระกนิษฐำธิ รำชเจำ้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำร ี ท่ีทรงพระรำชทำนแนวทำง และ ทรงสรำ้ งพ้ืนท่ีต้นแบบอย่ำงหลำกหลำยพื้นท่ี ภำยใต้โครงกำร “บ้ำนน้ีมีรกั ปลูกผักกินเอง” เพิ่ม พ้ืนที่สีเขียวให้กับชุมชน ขยำยผลกำรปลูกผักสวนครวั มีกำรสรำ้ งคลังอำหำรเพ่ิมขึ้น ได้รบั ประโยชน์อยำ่ งเป็นรูปธรรมมีผักปลอดสำรพษิ ไวร้ บั ประทำนในยำมเกิดวกิ ฤต โดยที่ไม่ต้องซอ้ื หำ จำกข้ำงนอก ปลูกผักท่ีกิน กินผักที่ปลูก ประหยัดรำยจำ่ ย เท่ำกับเพิ่มรำยได้ เสรมิ สรำ้ งควำม แข็งแรงให้กับรำ่ งกำย ด้วยผักใบเขียวและลดกำรสะสมสำรพิษภำยในรำ่ งกำย เสรมิ สรำ้ งสุขภำพ รำ่ งกำยให้แขง็ แรง จงึ มองไปข้ำงหน้ำต่อยอดขบั เคล่ือนกิจกรรม ปฏิบัติกำร 90 วนั ปลกู ผักสวน ครวั เพื่อสรำ้ งควำมม่ันคงทำงอำหำร เพรำะต้องกำรให้เกิดควำมยั่งยืนอย่ำงแท้จรงิ ในทุกชุมชน เรม่ ิ จำก “ควำมต่อเน่ืองคือพลัง” ส่งเสรมิ กำรปลูกพืชผักที่ปลูกอยู่แล้วให้เป็นไปอย่ำงต่อเนื่อง ส่งเสรมิ กำรปลูกผักสวนครวั แบบเขำ้ ถึงทกุ ครวั เรอื น และสรำ้ งเครอื ข่ำยขยำยผล ซงึ่ เป็นแนวทำง ขบั เคล่อื นทีเ่ ข้มแขง็ และประสบผลสำเรจ็ ได้รบั ประโยชน์และเชอ่ื วำ่ จะเป็นทำงรอดท่ยี งั่ ยนื ตลอดถึง มีกิจกรรมสรำ้ งควำมรกั ควำมสำมัคคี ควำมอบอุ่นภำยในครอบครวั ได้อยำ่ งยง่ั ยนื กำรปลูกพชื - ชำวบ้ำนมีควำมต้องกำรท่ีกินผักที่ปลูกปลอดสำรเคมี มีผักปลอดภัยกินกันใน ครอบครวั โดยเฉพำะผู้สูงวัย แม่บ้ำน ได้หันมำปลูกผักอินทรยี ก์ ินเองในบ้ำน เหลือจำกบรโิ ภค แล้วค่อยนำมำฝำกขำยท่ีรำ้ นค้ำชุมชนในหมู่บ้ำน เพ่ือกระจำยพืชผักปลอดภัยสู่ชำวบ้ำนให้ท่ัวถึง ส่วนใหญ่พืชท่ีชำวบ้ำนปลูก เป็นผักที่ใช้ประจำในครวั เช่น ข่ำ ตะไคร้ ขมิ้น กะเพรำ โหระพำ แมงลัก สะระแหน ซง่ึ เป็นผักที่ปลูกครงั้ เดียวกินได้นำน ทำให้ครวั เรอื นมีผักกินเองในบ้ำนโดยท่ีไม่ ต้องซอื้ หำจำกข้ำงนอก ปลูกผักท่ีกิน กินผักท่ีปลูก ประหยัดรำยจำ่ ย เท่ำกับเพ่ิมรำยได้ กระตุ้น ให้ครวั เรอื นในหมู่บ้ำนทีด่ ำเนินกำรปลูกผักสวนครวั อย่ำงน้อยครวั เรอื นละ ๑๐ ชนิด เน้นพชื ผัก ท่ีใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ประกอบด้วย

20 ๑. พชื ผักสมุนไพรคู่บำ้ นคู่ชวี ติ เชน่ มะกรูด มะนำว ขิง ขำ่ ตะไคร้ กระชำย ขมิ้น พรกิ ไทยดำ พรกิ

21 2. พืชผักสวนครวั ประจำครวั เรอื นอ่ืนๆ เชน่ ผักหวำนบ้ำน โหระพำ ผักบุ้ง ผักคะน้ำ บวบ ฟักเขยี ว ฟักทอง ผักเสี้ยน มะเขอื แตงกวำ กลว้ ย มะละกอ มะระขี้นก สับปะรด มะเขือ ถั่วฝักยำว ถั่วพลู

22 2) ส่งเสรมิ ครวั เรอื นมีกำรเลีย้ งสัตวไ์ วเ้ พอื่ บรโิ ภค บ้ำนประชำนิมิตร หมู่ท่ี 4 ตำบลกำหลง อำเภอศรสี ำคร จังหวัดนรำธิวำส ลักษณะภูมิประเทศของหมู่บ้ำนเป็นพื้นท่ีสูงชันเป็นหุบเขำ มีพื้นที่รำบลุ่มเป็นส่วนน้อยและมี แหล่งน้ำ ลำห้วยผ่ำนชุมชน สภำพดินอุดมสมบูรณ์เหมำะแก่กำรเพำะปลูก รวมท้ังมีแหล่งน้ำท่ี ใช้อุปโภค บรโิ ภคสมบูรณ์ จึงมีคนมำอำศัยอยู่มำกข้ึน เกิดกำรขยำยตัวของชุมชนมำกข้ึน กว่ำเดิม และมีภูมิอำกำศเหมำะสม ไม่รอ้ นหรอื หนำวจนเกินไป พอถึงฤดูรอ้ นจะมีอำกำศเย็น มี ลมพดั ผ่ำนเยน็ สบำยเหมำะแก่กำรปลกู พืช ผลไม้ และทำกำรเกษตรอื่นๆ เชน่ กำรทำสวนกำแฟ , และไม้ผลต่ำงๆ เชน่ ทเุ รยี น ลองกอง เงำะโรงเรยี น เป็นต้น กำรเล้ียงสัตวป์ รกติเป็นงำนควบคู่กันไปกับกำรปลูกพืชในชนบท มีกำรเล้ียงสัตว์ อำชพี หลักและอำชพี เสรมิ เพ่ือมำตรฐำนเศรษฐกิจของครอบครวั กำรเลยี้ งสัตวจ์ งึ มีควำมสำคัญท่ี ทำให้ครวั เรอื นมีรำยได้จำกกำรจำหน่ำยสัตว์ ผลิตภัณฑ์และส่วนต่ำงๆของสัตว์ เชน่ เน้ือ นม ไข่ เป็นกำรใชเ้ วลำว่ำงให้เปน็ ประโยชน์ ทำให้เกิดควำมเพลิดเพลินและพฒั นำจติ ใจให้เป็นคนใจเยน็ สุขุม ทำให้เห็นคุณค่ำของตัวเอง สำมำรถนำเศษอำหำรทีเ่ หลือใชม้ ำเล้ียงสัตว์ เชน่ -กำรเล้ียงโคเน้ือ สำมำรถนำมูลไปเปน็ ปุ๋ยคอกใส่ในพืชผักได้ และสำมำรถนำไป จำหน่ำยให้เกิดรำยได้กระสอบละ 50 บำท -กำรเล้ียงไก่ไข่ สำมำรถขำยปุ๋ยขีไ้ ก่ได้ ขำยไขไ่ ก่ได้ และเม่ือไก่ไขห่ มดระวำง สำมำรถขำยไก่เปน็ เน้ือได้ เปน็ กำรเพิ่มรำยได้ให้กับครวั เรอื น -กำรเล้ียงปลำ ประเภทปลำกินพชื เพื่อไม่ให้เปลืองในค่ำอำหำรปลำ สำมำรถ เล้ียงหญ้ำให้เป็นอำหำรได้ เปน็ กำรลดต้นทุน -กำรเลี้ยงแพะ สำมำรถนำมูลไปเป็นปุ๋ยคอกใส่ในพชื ผักได้

23 กำรส่งเสรมิ ให้ชุมชนบ้ำนประชำนิมิตร มีกำรประกอบอำชพี เสรมิ มีกำรเลี้ยงสัตว์ พ้นื บำ้ น เพือ่ ชว่ ยรกั ษำควำมอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน ทั้งนี้ เพรำะมูลของสัตวป์ ระกอบด้วยแรธ่ ำตุ ต่ำง ๆ ซง่ึ เป็นปุ๋ยแก่พืชสัตว์จะให้มูลซ่ึงนับเป็นปุ๋ยคอก (manure) หรอื ปุ๋ยอินทรยี ์ (organic fertilizer) ที่ทำให้ดินมีควำมอุดมสมบูรณ์สูง ชว่ ยกำจดั วชั พืชได้เป็นอยำ่ งดี วชั พชื บำงอยำ่ ง เชน่ หญ้ำคำ เป็นกำรเลี้ยงสัตว์ด้วยวัตถุดิบจำกพืชธรรมชำติ เชน่ จำกใบไม้ หยวกกล้วย แถมกำร เล้ียงด้วยอำหำรธรรมชำติเป็นสิ่งท่ีปลอดภัยต่อผู้บรโิ ภคอย่ำงแน่นอน เพรำะไม่มีสำรปนเป้ ือน หรอื ตกค้ำง เล้ียงสัตว์ พื้นทบ่ี ้ำนประชำนิมิตรดำเนินกำรเลีย้ งสัตวท์ ำให้เกิดควำมสมดุลด้ำนต่ำง ๆ ดังนี้ ด้ำนเศรษฐกิจ กำรเล้ียงวัว เล้ียงแพะ และเล้ียงหมู ถือเป็นอำชพี หนึ่งที่สรำ้ ง รำยได้จำกกำรเลี้ยงในแต่ละปี เกษตรกรมีเลี้ยงเพื่อจำหน่ำยเป็นส่วนใหญ่ ซงึ่ สำมำรถช่วยลด ปัญหำในด้ำนรำยจำ่ ยและกำรมีหนี้สิน สำมำรถทำกำรลงทุนท่ีเป็นของตนเอง เชน่ กำรลงทุนทำ กำรเกษตร กำรซอ้ื สัตว์มำเพำะเลี้ยงหรอื กำรพัฒนำทำงด้ำนเศรษฐกิจในครวั เรอื น สำมำรถมี รำยได้ในกำรซอ่ มแซมต่อเติมบ้ำนเรอื น กำรซอื้ ของใชท้ ีจ่ ำเปน็ เพ่ือควำมสะดวกในครวั เรอื น ฯลฯ ซงึ่ ชุมชนมีกำรจดั กำรระบบกำรเลยี้ งทดี่ ี โดยชุมชนบำ้ นประชำนิมิตร จะเลยี้ งสัตว์ประเภทววั เป็น ส่วนมำก รองลงมำคือกำรเลี้ยงไก่ มีระบบกำรเล้ียงในพื้นที่สวน ไม่ต้องใชค้ ่ำใชจ่ ำ่ ยอำหำรมำก ในกำรเลี้ยงโดยกำรทำอำหำรตำมแบบธรรมชำติ เป็นสัตว์เลี้ยงประเภทหนึ่งที่สรำ้ งรำยได้ เป็น สัตวเ์ ศรษฐกิจในชุมชน เพรำะควำมต้องกำรของตลำดในชว่ งฤดูกำลประเพณีมีจำนวนมำก ด้ำนสังคม ชว่ ยให้ผู้เล้ียงมีอำหำรไวร้ บั ประทำนภำยในครอบครวั ในกรณีที่เล้ียง สัตว์เพ่ือเป็นอำหำร เชน่ กำรเลี้ยงไก่เพ่ือนำเน้ือและไข่มำเป็นอำหำร กำรเลี้ยงปลำในบ่อดิน เป็นกำรเป็นแบบธรรมชำติ ใช้เศษอำหำรในกำรเลี้ยง มีกำรแจกจำ่ ย แลกเปล่ียนผลิตภัณฑ์ ภำยในชุมชน และมีกำรจำหน่ำย เป็นรำยได้ให้แก่ครวั เรอื นอีกด้วย ด้ำนทรพั ยำกรสิ่งแวดล้อม กำรเลี้ยงสัตว์ทำให้ทรพั ยำกรมีควำมสมดุลมำกข้ึน เน่ืองจำกเป็นระบบที่เชอื่ มควำมสันพันธใ์ นเรอ่ ื งควำมสมบูรณ์ของทรพั ยำกร เชน่ มูลสัตวเ์ ป็นปุย๋ ในกำรปลูกพืช ลดกำรใชส้ ำรเคมี ลดกำรเส่ือมสภำพของดิน และกำรปนเป้ ือนสำรเคมีในน้ำ ฯลฯ 3) ส่งเสรมิ กำรแปรรูปอำหำรและสมุนไพร สมุนไพรและคุณประโยชน์ของสมุนไพร เป็นของขวญั ท่ีธรรมชำติมอบให้กับมวล มนุษยชำติคนไทย ไม่เพียงแต่ใชส้ มุนไพรเป็นยำรกั ษำโรคเท่ำน้ัน แต่นำมำดัดแปลงเพื่อบรโิ ภค ในรูปของอำหำรและเครอ่ ื งดื่ม สมุนไพรบำรงุ สุขภำพ ชวี ติ ควำมเป็นอยูข่ องคนไทยน้ันมีรำกฐำน มำนำนนับรอ้ ยนับพันปี อำรยธรรมต่ำงๆ จงึ ไม่น่ำแปลกเลยที่อำหำรและเครอ่ ื งดื่มของไทยน้ัน จะแฝงไว้ด้วยเจตนำรมณ์ให้ผู้บรโิ ภคได้ซมึ ซบั ทั้งรสชำติและคุณประโยชน์ไปพรอ้ มๆ กันอย่ำง ชำญฉลำด กำรแปรรูปสมุนไพรของบ้ำนประชำนิมิตร หมู่ท่ี 4 ตำบลกำหลง อำเภอศรสี ำคร จงั หวัดนรำธวิ ำส จะเน้นสมุนไพรพื้นบ้ำนทม่ี ีกำรปลูกกันมำกในแต่ละชุมชน เกือบทุกบ้ำนจะปลกู

24 สมุนไพร และพืชผักสวนครวั ไว้กินเอง รวมถึงปลูกเป็นไม้ประดับควบคู่กับกำรทำพืชสวนชนิด อ่ืนๆ กำรส่งเสรมิ ให้เกษตรกรรูจ้ กั สมุนไพร และคุณประโยชน์ของ สมุนไพรใกล้ตัวท่ีมีคุณค่ำ มำกกว่ำกำรใช้บรโิ ภคเพียงอย่ำงเดียวจึงเกิดข้ึน กำรส่งเสรมิ สุขภำพของประชำชนด้วยกำร พ่ึงตนเองจงึ เน้นกำรดูแลรกั ษำสุขภำพในเบื้องต้นก่อนโรคภัยไข้เจบ็ จะมำถึงด้วยสมุนไพรท่ีมีอยู่ ในชุมชน รวมถึงกำรแปรรูปสมุนไพรในรูปแบบต่ำง ๆ เพื่อให้เกษตรกร และ กลุ่มแม่บ้ำนมี รำยได้เสรมิ นอกภำคกำรเกษตร ใชเ้ วลำว่ำงให้เกิดประโยชน์ ลดรำยจำ่ ยในครวั เรอื น และยัง ชว่ ยส่งเสรมิ ควำมม่ันคงทำงเศรษฐกิจ ควำมสำมัคคีของชุมชนอีกด้วย กำรส่งเสรมิ กำรแปรรูปผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นกำรเพ่ิมมูลค่ำของผลิตภัณฑ์ให้สูงข้ึน เกิดผลดีต่อกำรแปรรูป คงไว้ซงึ่ คุณค่ำและสรรพคุณท่ีดีของพืชสมุนไพร จึงได้ส่งเสรมิ กำร รวมกลุ่มอำชพี คือ กลุ่มเครอ่ ื งแกงบ้ำนประชำนิมิตร เพื่อจำหน่ำยภำยในชุมชน ตำบล และ ส่งออกไปขำยในอำเภอ และส่งเสรมิ ให้ประชำชนในพื้นที่รวมกลุ่มเป็นสมำชิก นำผลผลิตใน หมู่บ้ำน เชน่ ข่ำ ตะไคร้ พรกิ ขมิ้น มำขำยกับกลุ่ม ทำให้ชำวบ้ำนมีรำยได้เพิ่มข้ึน และยังมี กลุ่มท่ีทำลูกประคบสมุนไพร ก็ได้ผลผลิตจำกภำยในชุมชนด้วยเชน่ กัน มีผลิตภัณฑ์ท่ีจะต้องใช้ เชน่ ขมิ้น ใบมะขำม ไพล นำวตั ถดุ ิบต่ำง ๆ ทไ่ี ด้ตำกแดดให้แห้ง นำส่วนผสมอื่นๆ ท่ีในชุมชน ผลติ ไม่ได้ เชน่ กำรบูร พิมเสน มำผสมด้วย สำมำรถส่งจำหน่ำยได้ตำมควำมต้องกำรของลูกค้ำ หรอื หำกมีใครสนใจที่จะใชบ้ รกิ ำรนวดประคบทำงหมู่บ้ำนก็มีบรกิ ำร กลุ่มกำแฟอำรำบีก้ำ เป็น อีกลุ่มที่สำมำรถสรำ้ งรำยได้ให้แก่สมำชกิ ในชุมชน โดยท่ีผู้นำชุมชนรณรงค์ให้ทุกครวั เรอื นปลูก กำแฟในสวนยำง และได้จดั ต้ังกลุ่มเพื่อรองรบั ผลผลิตของชำวบ้ำน แล้วนำมำแปรรูปกำแฟ พรอ้ มชง ลูกค้ำมำซอ้ื เองทก่ี ล่มุ และชอ่ งทำงกำรจำหน่ำยในส่ือออนไลน์ต่ำง ๆ กลุ่มกาแฟอาราบกี า้ บา้ นประชานมิ ิตร หมูท่ ี่ 4 ตาบลกาหลง

25 กลมุ่ วิสาหกิจ เกษตรอนิ ทรยี แ์ ละสมนุ ไพร บ้านประชานิมิตร ลูกประคบ กลุม่ เครือ่ งแกง บ้านประชานิมิตร กล่มุ วิสาหกิจ เกษตรอินทรยี แ์ ละสมนุ ไพร บ้านประชานมิ ติ ร ชาดาวอินคา

26 4) จดั ต้ังศูนยแ์ บง่ ปนั เมล็ดพันธแุ์ ละต้นกลำ้ ได้น้อมนำแนวพระรำชดำรแิ ละขยำยผลกำรปลูกพืชผัก หนุนสรำ้ งควำมม่ันคง ด้ำนอำหำรชุมชน ด้วยหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสรมิ ให้ชำวบ้ำนปลูกพืชผักสวน ครวั เพ่ือสรำ้ งควำมมั่นคงทำงอำหำร ภำยใต้แนวคิด “จะพัฒนำใครเขำ ต้องเรม่ ิ ที่ตัวเรำก่อน ” โดยน้อมนำหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียงมำปฏิบตั ิเน้นกำรปลกู ผักสวนครวั เปน็ ขน้ั พื้นฐำน ในกำรสรำ้ งภูมิคุ้มกัน และสรำ้ งควำมมั่นคงทำงอำหำรในภำวะวกิ ฤต ต่อสู้ COVID - 19 ไป ด้วยกัน โดยมีศูนย์เรยี นรูข้ องชุมชนสนับสนุนต้นกล้ำพืชผักสวนครวั แก่ครวั เรอื นที่ขำดแคลน และจะดำเนินกำรขยำยผล โดยทำงศูนยไ์ ด้แจกฟรเี มลด็ พันธพุ์ ชื ผกั สวนครวั ชว่ ยเหลอื ประชำชน ท่ีได้รบั ผลกระทบจำกกำรระบำดเช้ือโควดิ - 19 เพ่ือให้สำมำรถดำรงชีพต่อไปได้ เป็นกำร ป้องกันตัวเองยำมวกิ ฤตท่ีไม่สำมำรถออกไปจบั จำ่ ยซอ้ื จำกข้ำงนอกได้ และมีกำรเตรยี มต้นกล้ำ พันธุ์ไม้หลำยชนิดเพื่อแจกจ่ำยให้กับประชำชนเพื่อนำไป ปลูกในพื้นท่ีของตนเอง สำหรบั บรโิ ภคในครวั เรอื น หรอื นำไ ป ขยำยพัน ธุ์เ พื่อ ป ลูก เชิงพ ำ ณิช ย์ต่อไ ป ไ ด้ เช่น พันธเุ์ มล็ดกำแฟ พันธเุ์ มล็ดมะละกอ พันธเุ์ มล็ดพรกิ พันธุ์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดพันธุม์ ะเขือ เมล็ดพันธุ์ถั่วฝักยำว ต้น กล้ำกำแฟ ต้นกล้ำผักเหลียง ต้นกล้ำพรกิ ต้นกล้ำมอล เบอรร์ ่ ี พันธุเ์ มล็ดสะตอ(ตำมฤดูกำล) ซงึ่ เมล็ดพันธุพ์ ืชที่ แจกจำ่ ยในครงั้ น้ีเป็นเมล็ดพันธุพ์ ืชผักท่ีได้จำกศูนย์เรยี นรู้ ของชุมชน และจำกกำรแบ่งปันกันของคนใน เพื่อสืบสำนแนวทำงกำรดำเนินชีวติ ตำมปรชั ญำ ของเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง “กำรสรำ้ งภูมิคุ้มกัน” ในกำรตั้งหลักใชช้ วี ติ ท่ำมกลำง กำรระบำดของไวรสั โควดิ – 19 และเพ่ือรักษำ เสถียรภำพควำมม่ันคงทำงอำหำร สำมำรถต่อ ยอดชีวติ ที่ดีจำกกำรบรโิ ภคผักสดและปลอดภัย จำกสำรพิษ เกิดกระบวนกำรสรำ้ งเป็นบ้ำนสำน เป็นกลุ่ม ชุมชนรวมกลุ่มของสมำชิกครวั เรอื นท่ี ป ลู ก พื ช ผั ก แ ล ะ แ ล ก เ ป ล่ี ย น เรยี นรู้ ช่วยเหลือ แบ่งปันเมล็ดพันธุ์กล้ำพันธุ์ พื ช ผั ก ทั้ ง ใ น แ ล ะ น อ ก ชุ ม ช น ส ร้ำ ง ชุ ม ช น สี เขียว เปน็ มิตรกับสิ่งแวดล้อม

27 5) ส่งเสรมิ กำรสรำ้ งคลังอำหำรชุมชนโดยใชพ้ น้ื ที่สำธำรณะประโยชน์ ได้ขับเคลือ่ นกำร “น้อมนำแนวพระรำชดำรขิ อง สมเด็จพระกนิษฐำธริ ำชเจำ้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำร ี สรำ้ งควำมมั่นคงทำงอำหำร สู่ปฏิบัติกำร 90 วัน ปลูกผักสวนครวั เพ่ือสรำ้ งควำมม่ันคงทำงอำหำร” เพอ่ื สรำ้ งพลังควำมต่อเน่ืองในกำรสรำ้ งควำมมั่นคงทำงอำหำร ให้ยั่งยืน และเพื่อลดรำยจ่ำย สรำ้ งรำยได้ระยะส้ัน ทั้งใน ระดับครวั เรอื นและระดับกลุ่มอำชพี มีเป้ำหมำยดำเนินกำรให้ ทุกครวั เรอื นมีกำรปลูกผักสวนครวั ไว้บรโิ ภคภำยในครวั เรอื น พรอ้ มสรำ้ งคลังอำหำรของชุมชนไว้ เพ่ือเป็นอำหำรและสรำ้ ง รำยได้ให้แก่ชุมชน โดยกำรปลูกผักสวนครวั ในท่ีสำธำรณะของหมู่บ้ำน ใชพ้ ้ืนที่สวนยำงของหมู่บ้ำน ปลูกผักสวนครวั ได้แก่ ปลูกผักเหลียง และปลูกกำแฟ ผักหวำนป่ำ ผักหวำนบ้ำน พรกิ กะเหรย่ ี ง ฯลฯ สำมำรถเก็บผลผลิตจำหน่ำยรำยได้เข้ำสวัสดิกำร ชุมชน เพือ่ ใชก้ ำรกิจกรรมต่ำง ๆ ของชุมชน เชน่ กำรใชจ้ ำ่ ย ในกำรพฒั นำหมู่บ้ำน สนับสนนุ ค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรเปดิ บวชใน เดือนรอมฎอน กำรจัดกิจกรรมวันปีใหม่ และได้มีกำร ขยำยผลสรำ้ งวัฒนธรรมปลูกพืชผักประจำครวั เรอื น เพ่ือ ตอบสนองต่อเป้ำหมำยกำรพัฒนำหมู่บ้ำนให้ยั่งยืน อีกทั้ง สรำ้ งรำยได้และเสรมิ สรำ้ งควำมรกั ควำมสำมัคคีและควำม เกื้อกูลกันของคนในชุมชน “ทุกครวั เรอื น คือ คลังอำหำร ทุกหมู่บ้ำน คือ ศูนย์แบ่งปัน” รว่ มรณรงค์ให้ทุกครวั เรอื นปลูกผัก สวนครวั เพ่ือสรำ้ งควำมม่ันคงทำงอำหำร และขยำยผลอย่ำงต่อเนื่อง เพ่ือให้มีกำรดำเนินงำน อย่ำงต่อเนื่อง และย่ังยนื ได้รณรงค์ประชำสัมพันธ์ สรำ้ งกำรรบั รูใ้ นวงกว้ำง เกิดกำรบูรณำกำร ควำมรว่ มมือในกำรขับเคล่ือนงำนให้เกิดผลสำเรจ็ อย่ำงเป็นรูปธรรม โดยได้รบั ควำมรว่ มมือจำก ภำคีเครอื ข่ำยในหลำยภำคส่วน พรอ้ มผลักดันแผนกำรส่งเสรมิ และรณรงค์ให้มีกำรปลูกผักสวน ครวั ในทุกครวั เรอื น สรำ้ งชุมชนเข้มแข็งกำรพึ่งตนเอง ได้และเกิดควำมสำมัคคีของคนในชุมชน และเพ่ือเป็น กำรต่อยอดขยำยผลกำรดำเนินงำนปลูกผักสวนครวั สรำ้ งควำมม่ันคงทำงอำหำรในระดับหมู่บ้ำน/ชุมชนให้มี ควำมย่ังยืน เพ่ือให้ประชำชนในพื้นท่ีมีควำมมั่นคง มั่ง ค่ัง และยั่งยืนทำงอำหำรได้ในที่สุด ภำยใต้โครงกำร “คลังอำหำรชุมชน ถนนกินได้ บ้ำนประชำนิมิตร”

28 กำรสรำ้ งสิ่งแวดล้อมให้ยงั่ ยืน กำรพัฒนำท่ียงั่ ยืน เป็นกำรคำนึงถึงควำมเสียหำยของสิ่งแวดล้อม มีกำรป้องกันปัญหำ ที่เกิดแก่สิ่งแวดล้อม หรอื ถ้ำจำเป็นจะต้องเกิดควำมเสียหำย ก็จะต้องทำในขอบเขตที่เสียหำย น้อยที่สุด กำรพัฒนำท่ียั่งยืนในมิติทำงด้ำนทรพั ยำกรและสิ่งแวดล้อมน้ี จงึ เป็นรูปแบบกำรใช้ ทรพั ยำกรท่ีมีกำรบำรุงรกั ษำ และมีอัตรำกำรใชท้ ่ีอยู่ในขอบเขตกำรอำนวยให้หรอื ศักยภำพท่ี ทรพั ยำกรนี้จะคืนสู่สภำพปกติได้ กำรปรบั ปรุงในเชงิ คุณภำพให้ดีข้ึน โดยท่ียงั มีกำรรกั ษำระดับ ทรพั ยำกรพนื้ ฐำนส่ิงแวดลอ้ มท่ียงั คงทำหน้ำทไี่ ด้อยำ่ งปกติ กำรพัฒนำในอดีตที่ผ่ำนมำเกิดข้ึนจำกกำรพัฒนำภำยใต้กำหนดเวลำสั่นๆ เท่ำน้ัน นอกจำกน้ียังให้ควำมสำคัญเฉพำะคนในรุน่ ปัจจุบัน แต่จำกกระแสเรยี กรอ้ งในสังคมท่ี ต้องกำร ให้กำรพฒั นำน้ันคำนึงถึงกำรอยูร่ อดและกำรกินดีอยูด่ ีของคนในอนำคตรว่ มกัน จงึ เป็นเหตุ ให้มี ควำมยั่งยืนเข้ำมำเป็นองค์ประกอบกำรพัฒนำและกระบวนกำรตัดสินใจ กำรพัฒนำเศรษฐกิจ และสังคมเป็นสิ่งจำเป็นแต่ต้องดำเนินกำรควบคู่ในกับกำรพัฒนำคุณภำพชีวติ และกำรรกั ษำ คุณภำพ สิ่งแวดล้อม น่ันคือจะต้องดำเนินกำรอย่ำงถูกต้องรอบคอบ และมีกำรจดั กำรท่ีดีท้ัง ด้ำนวตั ถุ และกำรยกระดับมำตรฐำนคณุ ภำพชวี ติ เท่ำๆ กับควำมเจรญิ รงุ่ เรอื งทำงเศรษฐกิจ ทัง้ นี้ เพรำะถ้ำมุ่งเรง่ พัฒนำเฉพำะทำงด้ำนวัตถุอย่ำงเดียวจะไม่สำมำรถมีคุณภำพชีวติ ท่ีดีและมี ควำมสุขได้ เพรำะยงั ต้องเผชญิ กับปญั หำภำวะมลพษิ ต่ำง ๆ เชน่ อำกำศเสีย นำ้ เน่ำ เสียงดัง เปน็ ต้น บ้ำนประชำนิมิตร หมู่ท่ี 4 ตำบลกำหลง อำเภอ ศรสี ำคร จงึ ขับเคล่ือนกิจกรรมกำร พัฒนำหมู่บ้ำน ท่ีส่งเสรมิ กำรสรำ้ งส่ิงแวดล้อมควบค่กู ับกำรพัฒนำ ท่ีย่ังยืน เพ่ือให้ชุมชนดำรงชีวติ อยู่ในสังคมท่ี เจรญิ ก้ำวหน้ำอยู่บนพื้นฐำนของกำรพัฒนำทำง เทคโนโลยี จงึ ต้องมีกำรบูรณำกำรหรอื ประสำน ประโยชน์เข้ำด้วยกัน ระหว่ำงกำรพัฒนำทำง เศรษฐกิจกับกำรจดั กำรทรพั ยำกรธรรมชำติ และ สิ่ งแ วด ล้อม แ ละมี กำรวำงแผ น ก ำ ร ใ ช้ ประโยชน์จำกทรพั ยำกรธรรมชำติต่ำง ๆ ให้ เหมำะสม รอบคอบ และคำนึงถึงสภำพกำรท่ี อำนวยให้ของทรพั ยำกรที่มีอยู่ ดังนั้นสังคมที่ จะพัฒนำอย่ำง ยั่งยืนจะต้องพิจำรณำจำก หลำย ๆ องค์ประกอบ

29 1) ส่งเสรมิ ให้ครวั เรอื นในหมู่บำ้ นมีกำรคัดแยกขยะ บ้ำนประชำนิมิตร หมู่ที่ 4 ตำบลกำหลง อำเภอศรสี ำคร จงั หวดั นรำธวิ ำส เป็น หมู่บำ้ นทมี่ ีลักษณะเป็นหมู่บ้ำนขนำดเลก็ อยูบ่ นเขำทส่ี ูงทส่ี ุดของอำเภอศรสี ำคร ลกั ษณะกำรตั้ง ถ่ินบ้ำนเรอื นของครวั เรอื น ตั้งบ้ำนเรอื นกระจดั กระจำย ซง่ึ ทำงผู้นำชุมชนบ้ำนประชำนิมิตร รณรงค์ให้ทุกหลังคำเรอื นมีกำรคัดแยกขยะ สรำ้ งควำมรู้ ควำมเข้ำใจในกำรบรหิ ำรจดั กำรขยะ เปียก นำเศษอำหำรมำทำเปน็ ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชวี ภำพ ใส่แปลงผัก กำรดูแลรกั ษำควำมสะอำด ครวั เรอื นให้ถูกสุขลักษณะ ดูแลรกั ษำภูมิทัศน์ ส่ิงแวดลอ้ ม ในฐำนะของผู้นำชุมชนและผู้นำสัมมำชพี จงึ ได้วเิ ครำะห์ปัญหำของชุมชนของกำร ประชุมประจำเดือนของหมู่บ้ำนประชำชนให้ควำมสำคัญในกำรแก้ปัญหำขยะและกำรจดั กำรขยะ โดยชุมชน จงึ ได้เลอื กปัญหำกำรจดั กำรขยะในครวั เรอื นและในชุมชน สถำนกำรณ์ขยะของชุมชน บ้ำนประชำนิมิตร เกิดจำกสำเหตุของปญั หำขยะในชุมชนเกิดจำก 1. สำเหตุด้ำนพฤติกรรมของประชำชน คือประชำชนทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทำง ควำมเคยชนิ ทิ้งขยะ กำจดั ขยะไม่ถูกวธิ มี ีกำรเผำถุงพลำสติก ขำดควำมรูก้ ำรกำจดั และจดั กำรขยะ ทถ่ี ูกวธิ ี 2. สำเหตุจำกสภำพแวดล้อม ไม่มีกลไกกำรจัดกำรขยะของชุมชน ขำดกติกำ ขอ้ ตกลงรว่ มในกำรจดั กำรขยะ ไม่มีกำรรวมกล่มุ กำรแก้ปัญหำขยะ ทงิ้ ขยะขำ้ ง 3. สำเหตุปัญหำขยะด้ำนระบบภำยนอก คือ ไม่มีหน่วยงำนรบั ผิดชอบขยะ อันตรำยอยำ่ งต่อเนื่อง กำรจดั กำรของเทศบำลยงั ไม่ครอบคลมุ ผลกระทบของปัญหำขยะ คือ ส่งผลให้ส่ิงแวดล้อมในชุมชนนั้นมีขยะสองรมิ ทำง มีจุดคนทงิ้ ขยะ ทำให้ทศั นียภำพไม่สวยงำม เกิดกองขยะในชุมชน ซง่ึ กลำยเป็นแหลง่ เพำะเชอื้ โรค และเป็นที่อยูอ่ ำศัยของพำหะนำโรคต่ำง ส่งกลิ่นรมกวนให้กับประชำชนที่อยูใ่ กล้ เมื่อมีฝนตกมีกำร ชะล้ำงลงคลองน้ำเสียจำกกองขยะไหลลงคลอง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้ำในคลองทำให้บำงจุดน้ำ ไม่สำมำรถใชใ้ นกำรบรโิ ภค นำ้ ในคลองลงอำบแล้วทำให้เป็นผื่นคัน เผำขยะไม่ถกู หลักและกำรนำ ขยะเชน่ ถุงพลำสติก โฟม ทำให้เกิดมีสำรพิษปนเป้ ือนในอำกำศ จำกผลกระทบเกิดข้ึนนำไปสู่ กำรเกิดควำมขัดแย้งในชุมชน มีข้อรอ้ งเรยี นเรอ่ ื งขยะ ทำให้ค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรรกั ษำสุขภำพ และ ค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรจดั กำรขยะเพ่มิ ขน้ึ จำกปัญหำดังกล่ำว เรม่ ิ ตระหนักถึงควำมสำคัญของปัญหำขยะในชุมชน จำก กระบวนกำรจดั ทำแผนชุมชนพ่ึงตนเอง ชุมชนต้องลุกข้ึนมำจดั กำรขยะโดยชุมชนเอง เพรำะถ้ำ ไม่มีกำรปรบั เปลี่ยนจำกสถำนกำรณ์ปัญหำมีแนวโน้มมีขยะเพ่ิมข้ึน และส่งผลกระทบกับชุมชนท้ัง ด้ำนเศรษฐกิจ สังคม ส่ิงแวดล้อมและสุขภำพ สุขภำวะของชุมชน ชุมชุนได้มีแนวทำงในกำร ขับเคล่ือนของชุมชนมีกลไกขับเคล่ือนชุมชนจดั กำรขยะโดยชุมชน คนมีควำมรูแ้ ละตระหนักถึง ควำมสำคัญของปญั หำและกำรจดั กำรขยะโดยชุมชน

30 กำรดำเนินงำนโครงกำรกำรจัดกำรขยะโดยชุมชนบ้ำนประชำนิมิตร มีกำร ขบั เคลือ่ นกำรดำเนินงำนในกำรแก้ปัญหำขยะ โดยมีกำรพฒั นำกลไกกำรขับเคลื่อนชุมชนจดั กำร ขยะท่ีสำมำรถขับเคลื่อนและมีกำรปรบั เปล่ียนพฤติกรรมของประชำชนในชุมชนจดั กำรขยะใน ครอบครวั เพ่ือลดขยะในครอบครวั กำรคัดแยกขยะ กำจดั ขยะให้ถูกวธิ แี ละเหมำะสม กำรใช้ ประโยชน์ขยะ นำขยะอินทรยี ม์ ำทำปุ๋ยหมักชวี ภำพ ขยะอินทรยี ซ์ งึ่ เกิดจำกเศษอำหำร วชั พืช เศษ พืช ผัก ผลไม้ และผลพลอยได้คือเกษตรกร ส่งเสรมิ ให้ชำวบ้ำนลดกำรใชส้ ำรเคมีทำงกำรเกษตร เพือ่ เปน็ กำรลดค่ำใชจ้ ำ่ ย และลดปัญหำกำรตกค้ำงของสำรเคมีในส่ิงแวดล้อม สำหรบั กำรนำขยะ กลับมำใชป้ ระโยชน์ใหม่ได้อย่ำงมีประสิทธภิ ำพและเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม เชน่ กระดำษ หรอื ขวดนำไปขำย เศษวัชพืช พืชผล นำไปผลิตอินทรยี ์สำร ขยะอันตรำยแยกไว้เพ่ือให้ หน่วยงำน รบั ผิดชอบนำไปกำจดั กำรกำจดั ขยะที่เหมำะสมคือกำรนำขยะเหล่ำน้ันมำแปรรูปเพื่อให้เกิด ประโยชน์ทำงกำรเกษตรชุมชนมีเป้ำหมำยลดขยะในชุมชน เป็นอีกแนวทำงหนึ่งท่ีนำไปสู่กำร สรำ้ งเมืองให้เป็นสีเขียว โดยที่ทำงหมู่บ้ำนประชำนิมิตรมีโครงกำรธนำคำรขยะ ท่ีช่วยให้ ประชำชนมีแรงจูงใจในกำรคัดแยกขยะเพื่อเพิ่มรำยได้ให้แก่ครอบครวั และเกิดรำยได้ให้แก่ ครวั เรอื นอีกด้วย

31 2) ส่งเสรมิ ครวั เรอื นในหมู่บ้ำนมีกำรทำปุย๋ ชวี ภำพ/ปุย๋ อินทรยี ์ กำรดำเนินกิจกรรมท่ีส่งเสรมิ กำรพัฒนำหมู่บ้ำนอีกทำงหน่ึง ที่ผู้นำชุมชนบ้ำน ประชำนิมิตร มีกำรรณรงค์ให้ครวั เรอื นในหมู่บำ้ นมีกำรทำปุ๋ยชวี ภำพ/ปุ๋ยอินทรยี ์ ซง่ึ เป็นอีกหน่ึง ในทำงเลือกที่ทุกคนและทุกบ้ำนทำได้โดยไม่ต้องรอรถขยะมำจดั เก็บก็คือ กำรนำเศษอำหำรไปทำ ปุ๋ยหมัก โดยอำศัยกำรย่อยสลำยจำกจุลินทรยี ์ นอกจำกชว่ ยลดค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรจำ้ งเก็บขยะมูล ฝอยแล้ว ยังไม่เป็นภำระต่อสังคม ไม่ต้องเสียเวลำในกำรขุดหลุมฝัง แถมยังได้ปุ๋ยอินทรยี ์ไว้ใส่ ต้นไม้ในบ้ำนชว่ ยประหยดั อีกต่อหน่ึงด้วย กำรทำปุ๋ยหมักจำกเศษอำหำรมีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน คือ 1. เศษอำหำร เช่น เศษข้ำว เศษผัก เปลือกผลไม้ เปลือกไข่ ก้ำงปลำ ขนมปัง ฯลฯ ท่ีเหลือจำกกำรบรโิ ภค ไม่วำ่ จะเป็นครวั เรอื น รำ้ นอำหำร โรงอำหำร หรอื โรงครวั เม่ือนำมำ ทำปุ๋ยหมักจะใชเ้ ฉพำะส่วนทเี่ ป็นกำก จงึ ต้องแยกน้ำท่ีอยูใ่ นเศษอำหำรออกก่อน หำกเศษอำหำร มีขนำดใหญก่ ็สับให้มีขนำดเล็กลง 2. จุลินทรยี ์ ควรเป็นประเภทที่ใชอ้ อกซเิ จน จะชว่ ยให้ไม่ส่งกลิ่นเหม็นและไม่ทำ ให้ เกิดน้ำเสีย แหล่งจุลินทรยี ์ที่หำได้ง่ำยคือมูลสัตว์ต่ำง ๆ ไม่ว่ำจะเป็น มูลวัว มูลไก่ มูลหมู มูล แพะ ซงึ่ มีจุลนิ ทรยี ห์ ลำยประเภทและจำนวนมำก เชน่ เชอ้ื รำแอคติโนมัยซตี ส์ (Actinomycetes) ชว่ ย ให้กระบวนกำรยอ่ ยสลำยเศษอำหำรกลำยเปน็ ปุ๋ยหมักได้เรว็ ขน้ึ 3. เศษใบไม้ ชว่ ยให้เศษอำหำรมีควำมโปรง่ พรุน ไม่อัดแน่นจนเกินไป ทั้งยังมี ธำตุ คำรบ์ อนท่ีจำเปน็ ต่อกำรเจรญิ เติบโตและสรำ้ งเซลลข์ องจุลินทรยี ์ ปุ๋ยหมักจำกเศษอำหำรในถังพลำสติก วธิ ที ำ 1. เตรยี มถังหมักพลำสติกพรอ้ มฝำปดิ ขนำด 20 ลติ ร โดยใชเ้ หล็กรอ้ น ๆ เจำะรูรอบถังเพ่ือใชเ้ ป็นชอ่ งระบำยอำกำศ แล้วพันด้วยตำข่ำยเพื่อป้องกันแมลงวนั มำวำงไข่และ สรำ้ งควำมรำคำญ 2. ใส่เศษอำหำร มูลสัตว์ และเศษใบไม้ อย่ำงละ 1 ส่วนลงในถัง ผสม คลุกเคล้ำให้ทั่วแล้วปิดฝำ ระยะแรกไม่ต้องเติมน้ำเน่ืองจำกเศษอำหำรมีควำมช้ืนสูง หำกวัน ถัดไปมี เศษอำหำรอีกก็ผสมมูลสัตวแ์ ละเศษใบไม้ในอัตรำส่วนเดิม ใส่ลงในถังได้อีก 3. ใชไ้ ม้คนส่วนผสมให้คลุกเคลำ้ กันทุกวนั วนั ละ 1-2 ครงั้ ในชว่ ง 3 - 10 วันแรกอำจมีควำมรอ้ นเกิดขึ้น เนื่องจำกจุลินทรยี ์คำยควำมรอ้ นออกมำเพ่ือทำปฏิกิรยิ ำย่อย สลำย หำกควำมชน้ื ลดลงเกือบแห้งควรพรมน้ำเพิม่ 4. ใชเ้ วลำประมำณ 30 วัน จะได้ปุ๋ยหมักในปรมิ ำตรท่ีลดลงรอ้ ยละ 40 หำกปุย๋ ยงั มีควำมชนื้ อยู่ ควรงดพรมนำ้ และปล่อยให้แห้งสนิท เพอ่ื ให้จุลนิ ทรยี ห์ ยุดกำรยอ่ ยสลำย ปุ๋ยหมักทไี่ ด้จะมีสีดำคลำ้ เป่ อื ยยุย่ มีขนำดเล็กลง น้ำหนักเบำ และไม่มีกลนิ่ เหม็น

32 ปุ๋ยหมักเป็นปุ๋ยอินทรยี ์อีกชนิดท่ีได้จำกกำรหมักวัสดุเหลือท้ิงที่เป็นสำรอินทรยี ์ บำง ชนิด โดยนำวัสดุเหล่ำนั้นมำกองรวมกัน รดน้ำให้ชน้ื ท้ิงไวใ้ ห้เกิดกำรยอ่ ยสลำยโดยกิจกรรม ของ จุลินทรยี ์ จำกนั้นจงึ นำไปปรบั ปรุงดิน ซง่ึ นอกจำกกำรทำปุ๋ยหมักจำกเศษอำหำรในครวั เรอื น แล้ว ยัง มีปุ๋ยหมักจำกวัสดุอินทรยี ์อ่ืน ๆ อีกมำกมำยท่ีหำได้ง่ำยในแต่ละท้องถิ่นให้ลองไปทำกัน ไม่ว่ำจะเป็น ปุ๋ยหมักจำกวัสดุเหลือใช้จำกกำรเพำะเห็ด ปุ๋ยหมักจำกชำนอ้อย ปุ๋ยหมักจำก ผักตบชวำ ปุ๋ยหมักมูล ไส้เดือน ปุ๋ยหมักปลำ น้ำหมักชวี ภำพ ฯลฯ

33 3) ส่งเสรมิ ครวั เรอื นในหมู่บ้ำนมีกำรใชท้ รพั ยำกรอยำ่ งค้มุ ค่ำ ได้รณรงค์ครวั เรอื นในหมู่บ้ำนมีกำรใช้ทรพั ยำกรอย่ำงคุ้มค่ำ โดยใช้วธิ ีกำร ประชำสัมพันธใ์ นที่ประชุมประจำเดือน เพรำะทรพั ยำกรเป็นสิ่งที่มีคุณค่ำ จงึ ควรใชท้ รพั ยำกร ต่ำงๆ อย่ำงชำญฉลำด และคุ้มค่ำท่ีสุดด่ังคำสอนของพ่อหลวงรชั กำลที่ 9 รณรงค์ไม่ให้นำ ทรพั ยำกรไปใช้ให้ส้ินเปลืองโดยไรป้ ระโยชน์ ให้ใช้ด้วยควำมประหยัดรอบคอบ ซึ่งกำรใช้ ทรพั ยำกรอย่ำงประหยัดน้ี จะชว่ ยประหยัดเงนิ ยังมีผลดีจำกกำรประหยัดพลังงำนท่ีจะทำให้มี สุขภำพที่ดีข้ึนได้ 1) กำรใช้อย่ำงประหยัด คือ กำรใช้เท่ำท่ีมีควำมจำเป็น เพื่อให้มีทรพั ยำกรไว้ ใชไ้ ด้นำนและเกิดประโยชน์อยำ่ งค้มุ ค่ำมำกทีส่ ุด 2) กำรนำกลับมำใชซ้ ้ำอีก สิ่งของบำงอยำ่ งเม่ือมีกำรใชแ้ ล้วครง้ั หน่ึงสำมำรถที่จะ นำมำใช้ซ้ำได้อีก เชน่ ถุงพลำสติก กระดำษ เป็นต้น หรอื สำมำรถที่จะนำมำใช้ได้ใหม่โดยผ่ำน กระบวนกำรต่ำงๆ เชน่ กำรนำกระดำษที่ใชแ้ ล้วไปผ่ำนกระบวนกำรต่ำงๆ เพื่อทำเปน็ กระดำษแข็ง เป็นต้น ซง่ึ เป็นกำรลดปรมิ ำณกำรใชท้ รพั ยำกรและกำรทำลำยส่ิงแวดล้อมได้ 3) กำรบูรณซอ่ มแซมสิ่งของบำงอย่ำงเมื่อใชเ้ ป็นเวลำนำนอำจเกิดกำรชำรุดได้ เพรำะฉะนั้นถ้ำมีกำรบูรณะซอ่ มแซม ทำให้สำมำรถยดื อำยุกำรใชง้ ำนต่อไปได้อีก 4) กำรบำบดั และกำรฟ้ ืนฟู เปน็ วธิ กี ำรทีจ่ ะชว่ ยลดควำมเสื่อมโทรมของทรพั ยำกร ด้วยกำรบำบัดก่อน เช่น กำรบำบัดน้ำเสียจำกบ้ำนเรอื น เป็นต้น ก่อนที่จะปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ สำธำรณะ ส่วนกำรฟ้ ืนฟูเป็นกำรรอ้ ื ฟ้ ืนธรรมชำติให้กลับสู่สภำพเดิม เชน่ กำรปลูกป่ำชำยเลน เพือ่ ฟ้ ืนฟูควำมสมดุลของปำ่ ชำยเลนให้กลับมำอุดมสมบูรณ์ เป็นต้น 5) กำรใช้สิ่งอ่ืนทดแทน เป็นวธิ ีกำรที่จะช่วยให้มีกำรใช้ทรพั ยำกรธรรมชำติ น้อยลง และไม่ทำลำยส่ิงแวดล้อม เชน่ กำรใชถ้ งุ ผ้ำแทนถุงพลำสติก กำรใชใ้ บตองแทนโฟม กำร ใชพ้ ลงั งำน แสงแดดแทนแรเ่ ชอื้ เพลิง กำรใชป้ ุ๋ยชวี ภำพแทนปุ๋ยเคมี เป็นต้น 6) กำรเฝ้ำระวังดูแลและป้องกัน เป็นวธิ กี ำรท่ีจะไม่ให้ทรพั ยำกรธรรมชำติและ ส่ิงแวดล้อมถูกทำลำย เชน่ กำรเฝ้ำระวังกำรท้ิงขยะ ส่ิงปฏิกูลลงแม่น้ำ คูคลอง กำรจดั ทำแนว ปอ้ งกันไฟป่ำ

34 4) ส่งเสรมิ ให้ครวั เรอื นจดั บำ้ นเรอื นเป็นระเบียบ สะอำดถกู สุขลักษณะ 1. มีกำรประชุมผู้นำชุมชนในกำรส่งเสรมิ กำรรกั ษำส่ิงแวดลอ้ มและกำรจดั บำ้ นให้น่ำอยู่ 2.ให้ทุกครวั เรอื นดำเนินกำรส่งเสรมิ กำรจดั บ้ำนให้น่ำอยู่ เป็นกำรจดั กำรทำง สิ่งแวดล้อมให้เอ้ืออำนวยต่อสุขภำพดี ทั้งรำ่ งกำยและจติ ใจของสมำชกิ ภำยในบ้ำน รวมผู้มำ เยี่ยมเยือนและชุมชนโดยรอบ รวมถึงกำรจัดกำรด้ำนอนำมัยสิ่งแวดล้อมและกำรสรำ้ ง สภำพแวดล้อมในบ้ำน เพ่ือสนับสนุนให้สมำชิกทุกคน มีวถิ ีกำรดำรงชีวติ ประจำวันอย่ำงถูก สุขลักษณะ และมีควำมสุขเมื่ออยู่บ้ำน รวมท้ังกำรปลูกจิตสำนึกท่ีดีต่อสังคมและชุมชน ครอบครวั หมำยถึง สถำบันสังคมท่ีประกอบด้วย สำมี ภรรยำ และบุตรเป็นต้นครอบครวั และ เครอื ญำติ หมำยถึง ควำมสัมพันธข์ องกลุ่มคนทำงสำยโลหิต เป็นกำรกำหนดวถิ ีชวี ติ ของชุมชน หมู่บ้ำน “บ้ำนน่ำอยู่ คู่ครอบครวั ไทย” เพื่อให้ชำวบ้ำนตระหนักควำมสำคัญของสิ่งท่ีอยู่ใกล้ตัว เรำมำกที่สุดก็คือ “บ้ำน” ชว่ ยกันปรบั ปรุงสภำพแวดล้อมภำยในบ้ำน และบรเิ วณบ้ำนให้ถูกต้อง ตำมหลักสุขำภิบำล ปรบั ปรุงพฤติกรรมอนำมัยส่ิงแวดล้อมของสมำชกิ ทุกคนในบ้ำนรวมทั้งมี ส่วนรว่ มพัฒนำชุมชน ซงึ่ เป็นจุดเรม่ ิ ต้นที่ดีของกำรพัฒนำด้ำนอื่นๆ ในสังคมอย่ำงต่อเนื่องกำร ทำบำ้ นให้น่ำอยูส่ ่งผลดีหลำยประกำร ได้แก่ 1. สภำพแวดลอ้ มทีเ่ อ้ือต่อกำรมีสุขภำพทดี่ ี ทั้งรำ่ งกำยและจติ ใจ 2. สุขนิสัยท่ดี ีในเรอ่ ื งสุขำภิบำลสิ่งแวดลอ้ มและพฤติกรรมอนำมัยสิ่งแวดลอ้ ม 3. ป้องกันและลดอัตรำกำรเกิดโรค อุบัติเหตุ ปัญหำสุขภำพจิต รวมทั้ง อำชญำกรรมในสังคม 4.. ครอบครวั อบอุ่น มีควำมรกั เอ้ืออำทรต่อกันซง่ึ เปน็ หัวใจสำคัญของกำรพัฒนำชุมชน 5. ชุมชนเข้มแข็ง มีควำมรกั / สำมัคคี รว่ มแรงรว่ มใจพัฒนำสังคมให้ดีย่ิงขึ้น นำไปสู่กำรเปน็ บ้ำนเมืองน่ำอยูแ่ ละเมืองไทยแข็งแรง (Healthy Thailand) จะทำบำ้ นให้น่ำอยู่ ได้อย่ำงไร กำรจัดสภำพบ้ำนเรอื นให้น่ำอยู่ น่ำอำศัย ให้ถูกต้องตำมหลักสุขำภิบำล พึงควร คำนึงถึง ตัวบ้ำน บรเิ วณบ้ำน ภำยในบำ้ น สุขภำวะในครอบครวั ตัวบำ้ นม่ันคงแขง็ แรง 6. สะอำด รม่ รน่ ื เป็นระเบยี บ จดั เก็บสิ่งของเป็นสัดส่วน 7. ในกรณีท่ีมีกำรเลี้ยงสัตว์ เชน่ ววั ควำย ไก่ เป็นต้น ต้องจดั คอกสัตวใ์ ห้ไกล อยูน่ อกตัวบำ้ น ลำ้ งทำควำมสะอำดสมำ่ เสมอ (ไม่ควรมีคอกสัตวใ์ ต้ถนุ บ้ำน) 8. ไม่มีขยะทุกชนิด ป้องกันไม่ให้เกิดแหล่งเพำะพันธุแ์ มลงวัน แมลงสำบ และ แหล่งอำหำรหนู แยกขยะก่อนทิง้ มีทีร่ องรบั ขยะ ทิง้ / กำจดั ขยะสม่ำเสมอ (ไม่ควรมีขยะตกค้ำง ในบ้ำนและบรเิ วณบำ้ น) 9. ไม่มีน้ำขังในหลมุ บ่อ หรอื ภำชนะต่ำงๆ เพอ่ื ป้องกันไม่ให้เกิดแหลง่ เพำะพันธยุ์ ุง 10. ปลกู ต้นไม้ให้รม่ รน่ ื ภำยในบ้ำน มีแสงสวำ่ งเพียงพอ 11. อำกำศถ่ำยเทสะดวก กำจดั แหล่งยุงในบ้ำน 12. จดั ห้อง / พื้นท่ีใชส้ อยเป็นสัดส่วน จดั เก็บขำ้ วของเครอ่ ื งใชเ้ ปน็ ระเบียบ ทำ ควำมสะอำดประจำสมำ่ เสมออยำ่ งน้อยสัปดำห์ละ 1 ครง้ั

35 13. มีน้ำดื่มน้ำใชส้ ะอำด (น้ำประปำ นำ้ กรอง น้ำต้ม เปน็ ต้น) เพียงพอ 14. อำหำรปรงุ สุก มีภำชนะปกปิด (เชน่ ฝำชคี รอบหรอื ใส่ตู้กับขำ้ ว หรอื ตู้เยน็ ) 15. ออกกำลังกำยอยำ่ งสม่ำเสมอ อยำ่ งน้อยสัปดำห์ละ 3 วนั ๆละ 30 นำที

36 5) ส่งเสรมิ กำรจดั กิจกรรมอนรุ กั ษ์ทรพั ยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดลอ้ ม ได้รณรงค์ครวั เรอื นในหมู่บ้ำนมีกำรใชท้ รพั ยำกรอย่ำงคุ้มค่ำกิจกรรมกำรอนุรกั ษ์ ทรพั ยำกรธรรมชำติ เพรำะเป็นแหล่งกำเนิดและเป็นท่ีพ่ึงพิงของทุกชีวติ ของหมู่บ้ำน และ ทรพั ยำกรธรรมชำติก็เปรยี บเป็นสมบัติล้ำค่ำของชุมชน แต่ย่ิงเกิดกำรพัฒนำเศรษฐกิจมำกขึ้น เทำ่ ไร ปญั หำทรพั ยำกรธรรมชำติก็ยงิ่ ทวคี วำมรุนแรงมำกขึ้นเท่ำนั้น เรำนำทรพั ยำกรธรรมชำติมำ ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ จ น ห ล ง ลื ม ไ ป ว่ ำ มั น มี วั น ห ม ด ล ด น้ อ ย ห ร อื เ สื่ อ ม โ ท ร ม ไ ด้ ก ำ ร อนุ รักษ์ ทรพั ยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อม เป็นกำรใชท้ รพั ยำกรธรรมชำติและ ส่ิงแวดล้อมอยำ่ งฉลำด โดย ใชใ้ ห้น้อยเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยบ้ำนประชำนิมิตร หมู่ที่ 4 ตำบลกำหลง อำเภอศรสี ำคร จังหวัดนรำธิวำส คำนึงถึงระยะเวลำในกำรใช้ให้ยำวนำน และ ก่อให้เกิดผลเสียหำยต่อ ส่ิงแวดลอ้ มน้อยทีส่ ุด รวมทั้งต้องมีกำรกระจำยกำรใชท้ รพั ยำกรธรรมชำติอยำ่ งทวั่ ถึง ส่งเสรมิ กำรขับเคลื่อนกิจกรรมรณรงค์กำรอนุรกั ษ์ทรพั ยำกรธรรมชำติและ ส่ิงแวดล้อม ท้ังทำงตรงและทำงอ้อม ดังนี้ กำรอนุรกั ษ์ทรพั ยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมโดย ทำงตรง ดังน้ี 1) กำรใชอ้ ยำ่ งประหยดั คือ กำรใชเ้ ทำ่ ท่มี ีควำมจำเป็น เพื่อให้มีทรพั ยำกรไว้ใชไ้ ด้ นำนและเกิดประโยชน์อยำ่ งค้มุ ค่ำมำกท่สี ุด 2) กำรนำกลับมำใชซ้ ้ำอีก สิ่งของบำงอยำ่ งเม่ือมีกำรใชแ้ ล้วครง้ั หน่ึงสำมำรถทจ่ี ะ นำมำใชซ้ ้ำได้อีก เชน่ ถุงพลำสติก กระดำษ เป็นต้น เป็นกำรลดปรมิ ำณกำรใชท้ รพั ยำกรและกำร ทำลำยส่ิงแวดลอ้ มได้ 3) กำรบูรณะซอ่ มแซม ส่ิงของบำงอยำ่ งเมื่อใชเ้ ป็นเวลำนำนอำจเกิดกำรชำรุดได้ เพรำะฉะน้ันถ้ำมีกำรบูรณะซอ่ มแซม ทำให้สำมำรถยดื อำยุกำรใชง้ ำนต่อไปได้อีก 4) กำรบำบัดและกำรฟ้ ืนฟูเป็นวธิ กี ำรท่ีจะชว่ ยลดควำมเส่ือมโทรมของทรพั ยำกร ด้วยกำรบำบัดก่อน เชน่ กำรบำบัดน้ำเสียจำกบ้ำนเรอื น กำรรอ้ ื ฟ้ ืนธรรมชำติให้กลับสู่สภำพเดิม เชน่ กำรทำฝำยมีชวี ติ กำรปลกู ป่ำทดแทน 5) กำรใช้ส่ิงอ่ืนทดแทน เป็นวธิ ีกำรที่จะช่วยให้มีกำรใช้ทรพั ยำกรธรรมชำติ น้อยลง และไม่ทำลำยส่ิงแวดล้อม เช่น กำรใชถ้ ุงผ้ำแทนถุงพลำสติก กำรใช้ปุ๋ยชวี ภำพแทน ปุ๋ยเคมี เป็นต้น 6) กำรเฝ้ำระวังดูแลและป้องกัน เป็นวธิ กี ำรที่จะไม่ให้ทรพั ยำกรธรรมชำติและ ส่ิงแวดล้อมถูกทำลำย เชน่ กำรเฝ้ำระวังกำรท้ิงขยะ สิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ คูคลอง กำรจดั ทำแนว ป้องกันไฟป่ำ กำรจดั ทำฝำยชะลอน้ำกำรจดั ทำประปำภูเขำ กำรรกั ษำทำงน้ำไหลโดยจดั ผู้ดูแล เป็นผู้ชว่ ยผู้ใหญ่บ้ำน หรอื คนในชุมชน เพอื่ ไม่ให้เกิดกำรทบั ถมของกิ่งไม้ใบหญ้ำ ขวำงทำงนำ้ เพอื่ ใชใ้ น ชุมชน

37 กำรอนุรกั ษ์ทรพั ยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดลอ้ มโดยทำงอ้อม ดังน้ี 1) กำรพัฒนำคุณภำพประชำชน โดยสนับสนุนกำรศึกษำด้ำนกำรอนุรักษ์ ทรพั ยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อมท่ีถูกต้อง ซงึ่ สำมำรถทำได้ทุกระดับอำยุ เพ่ือให้ประชำชน เกิดควำมตระหนักถึงควำมสำคัญและควำมจำเป็นในกำรอนุรกั ษ์ เกิดควำมรกั ควำมหวงแหน และให้ ควำมรว่ มมืออยำ่ งจรงิ จงั 2) กำรใชม้ ำตรกำรทำงสังคมและกฎหมำย กำรจดั ตั้งกลุ่ม ชุมชน ชมรม เพื่อกำร อนุรกั ษ์ทรพั ยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อมต่ำงๆ ตลอดจนกำรให้ควำมรว่ มมือทงั้ ทำงด้ำนพลังกำย พลงั ใจ พลงั ควำมคิด ด้วยจติ สำนึกในควำมมีคณุ ค่ำของส่ิงแวดลอ้ มและทรพั ยำกรทมี่ ีต่อตัวเรำ 3) ส่งเสรมิ ให้ประชำชนในท้องถิ่นได้มีส่วนรว่ มในกำรอนรุ กั ษ์ชว่ ยกันดูแลรกั ษำให้ คงสภำพเดิมไม่ให้เกิดควำมเส่ือมโทรม เพื่อประโยชน์ในกำรดำรงชีวติ ในท้องถิ่นของตน กำร ประสำนงำนเพื่อสรำ้ งควำมรูค้ วำมเข้ำใจ และควำมตระหนักระหว่ำงหน่วยงำนของรฐั องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีบทบำทหน้ำท่ีในกำรปกป้องคุ้มครอง ฟ้ ืนฟูกำรใชท้ รพั ยำกรอย่ำงคุ้มค่ำ และ เกิดประโยชน์สูงสุดให้มีบทบำทหน้ำท่ีในกำรปกป้องคุ้มครอง ฟ้ ืนฟูกำรใชท้ รพั ยำกรอย่ำง ค้มุ ค่ำและ เกิดประโยชน์สูงสุด 4) ส่งเสรมิ พัฒนำเทคโนโลยีมำใช้ในกำรจัดกำรกับทรพั ยำกรธรรมชำติและ สิ่งแวดล้อมให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น กำรใช้ควำมรูท้ ำงเทคโนโลยีสำรสนเทศมำจัดกำร วำงแผน พัฒนำ กำรพัฒนำอุปกรณ์เครอ่ ื งมือเครอ่ ื งใชใ้ ห้มีกำรประหยดั พลงั งำนมำกขนึ้ 5) กำรกำหนดนโยบำยและวำงแนวทำงในกำรอนุรกั ษ์และพัฒนำส่ิงแวดล้อมท้ัง ในระยะสั้นและระยะยำว เพรำะเป็นสิ่งจำเป็นต่อกำรดำเนินชวี ติ ตลอดเวลำ จงึ ให้ควำมสำคัญเป็น อยำ่ งยง่ิ และจะต้องเอำใจใส่ดูแลเพ่ือรกั ษำทรพั ยำกรธรรมชำตินั้นให้คงไวใ้ ชไ้ ด้นำน

38 กำรส่งเสรมิ กำรสรำ้ งภูมิคุ้มกันทำงสังคม 1) มีกิจกรรมส่งเสรมิ ด้ำนศำสนำ ประเพณี วฒั นธรรม บ้ำนประชำนิมิตร หมู่ที่ 4 ตำบลกำหลง เ ป็ น ชุ ม ช น พ หุ วั ฒ น ธ ร ร ม ส ำ ห รับ ขอบเขตของสิทธทิ ำงวัฒนธรรมในกำร เข้ำรว่ มกิจกรรมทำงศำสนำของชำวบ้ำน ที่เป็นไทยพุทธและไทยมุสลิมตำมกรอบ ของศำสนำ กำรเข้ำรว่ มกิจกรรมทำง ศำสน ำต่ อกำรด ำรงชีวติ ต ำม กรอบ ศำสนำไม่มีปรำกฏหลักฐำนตำมคำสอน ของพระพุทธศำสนำวำ่ ห้ำมมิให้คนพุทธ เข้ำรว่ มกิจกรรมทำงศำสนำของศำสนำ อื่น และเช่นเดียวกันสำหรับคนต่ำง ศำสนำสำมำรถเข้ำรว่ มกิจกรรม หรอื พิธกี รรมของพุทธ เป็นท่ีอนุญำตโดยไม่มีข้อยกเว้น เพรำะกำรนับถือศำสนำคือสิทธขิ ั้นพ้ืนฐำน ของทุกคน แต่สำหรบั คนมุสลิมในกำรเข้ำรว่ มปฏิบัติกิจกรรมบำงอย่ำงต้องดูควำมเหมำะสม ซง่ึ ควำมเหมำะสมในที่นี้ ขึ้นอยู่กับกำรปฏิบัติของตนเองในแต่ละกิจกรรมท่ีเข้ำรว่ ม หำกเป็น กิจกรรมที่เป็นพิธกี รรมศำสนำก็ควรอยู่ นอกพิธี คือไม่ควรรว่ มพิธกี รรมเหล่ำน้ัน แต่หำกเป็น กิจกรรมท่ัวไปท่ีไม่ใชพ่ ิธกี รรมศำสนำหรอื ควำมเช่ือก็สำมำรถเข้ำรว่ มได้ ศำสนำอิสลำมไม่มีกำร บังคับไม่ว่ำกรณีใดก็ตำม ทุกคนมีสิทธเิ สรภี ำพในกำรนับถือศำสนำของตนเอง ทั้งนี้หำกมอง ด้วยหลักกำรของอิสลำมพบว่ำบำงกรณีสำมำรถยืดหยุ่นได้ และ ในบำงกรณีก็ไม่สำมำรถ ย ืด ห ยุ ่น อ ย ่ำ ง ก ร ณีกิจ ก ร ร ม ที่เ ป ็น พิธกี รรมทำงศำสนำไม่เป็นที่อนุญำต เว้นแต่ ด้ วยควำมจำเป็นถึงข้ันต้อง เสียชวี ติ (ควำมจำเป็นข้ันสูงสุด) ก็เป็น ที่อนญุ ำตเชน่ กัน บ้ ำ น ป ร ะ ช ำ นิ มิ ต ร ป ร ะ ก อ บ กิจกรรมทำงศำสนำอย่ำงสม่ำเสมอ ในวัน สำคัญทำงศำสนำ เช่น กำรทำบุญ เดือนสิบ กำรบวชสำมเณรภำคฤดู รอ้ น กำรละหมำดวันศุกร์ กำรทำเมำ ลิด กำรกวนอำซูรอ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook