แนวทางการจัดการเรียนรู้เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวน) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

แนวทางการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวน) ระดับชนั้ 2ประถมศกึ ษาปที ่ี

สารบัญ บทท่ี 1 เรอ่ื งปัดกวาดเช็ดถูจัดตจู้ ัดโตะ๊ 4 บทท่ี 2 เร่ืองอะตอมอร่ามยามรุ่งอรณุ 10 บทที่ 3 เรอ่ื ง รตั ตกิ าล 15 บทที่ 4 เรอ่ื ง นกั อ่านจ๋ิว 21 บทที่ 5 เรื่อง บางกอกมีเสาชงิ ชา้ 28 บทที่ 6 เร่ือง งานเล้ยี งชมรมกับขนมเจ้าปญั หา 33 บทที่ 7 เรื่อง เกมเส้นทางปรศิ นา 38 บทที่ 8 เรื่อง เชฟน่าเลฟิ คนเสิรฟ์ นา่ รกั 44 บทท่ี 9 เรอ่ื ง งานประจาปี 4.0 50

สมาชิกของกล่มุ นางสาว วชั ราภรณ์ กลุ วัฒนาสทุ ธา รหสั 61131114019 (หัวหน้ากลมุ่ ) นางสาว มนสชิ า แสงเรอื ง นาย ธรรมาทิตย์ เพ็ชรเส้ง นางสาว อรญั ญา บุญเวช รหสั 61131114008 รหสั 61131114017 รหสั 61131114025 นางสาว กญั ฐิกา ใยดี นางสาว อรนภา วนั แสวง รหสั 61131114029 รหสั 61131114033

แนวทางการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวน) หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 2ระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ ปดั กวาดเช็ดถูจัดตจู้ ดั โตะ๊

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ผเู้ รียนมคี วามร้แู ละความสามารถดังน้ี 1. จดั ลาดบั ขน้ั ตอนการทางาน 2. เปรียบเทียบผลจากการจัดลาดบั ขนั้ ตอนการทางานแบบตา่ งๆ 2 ตัวชีว้ ัด ป.2 ขอ้ 1 แสดงลาดบั ขน้ั ตอนการทางานหรอื การแก้ปัญหา อยา่ งง่ายโดยใชภ้ าพ สญั ลกั ณ์ หรือข้อความ 3 สาระการเรียนรู้ - การแสดงขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาโดยการบอกเลา่ หรอื ใช้สญั ลกั ณ์ - การเปรยี บเทียบผลจากการจัดลดับขนั้ ตอนการทางานแบบตา่ ง 4 แนวคดิ การจดั ลาดบั ขน้ั ตอนในการทางานทีด่ ี ชว่ ยใหไ้ ม่ต้องทางาน ซ้าซอ้ น ทาให้ประหยดั เวลาและประหยัดแรง ผลลัพธ์ทีผ่ ดิ พลาดอาจ เกิดจากลาดบั ขน้ั ตอนท่ไี มเ่ หมาะสม 5 สื่อและอปุ กรณ์ - ใบงานที่ 1.1 เซฟน้อยเข้าครวั - ใบงานที่ 1.2 จัดของขึ้นรถไฟ - ใบงานที่ 1.3 กอ่ ร่างสรา้ งบา้ น - ดนิ สอสี

6 แนวทาง การจดั การเรยี นรู้ การจัดเตรยี ม - ใบกจิ กรรมตามจานวนผเู้ รยี น - คลปิ วดิ โี อเกย่ี วกบั การทางานหรอื การแกไ้ ขปญั หาตามลาดับ ข้ันตอน เช่น วธิ กี ารทาขนมลกู ชบุ การทาแซนต์วิช ขั้นตอนดาเนินากร 1. ครนู าเขา้ สบู่ ทเรยี น โดยการพดู คยุ ชักถามเก่ีบวกับกจิ กรรม ต่างๆ ท่ีทาในชวี ติ ประจาวนั และนกั เรียนมีวิธีการปฎบิ ตั ิหรือมี ลาดบั ขนั้ ตอนในการทากิจกรรมนนั้ อย่างไร (การเก็บทนี่ อน เชน่ ดึงผ้าปูทีน่ อนใหต้ ึง จดั หมอนใหเ้ ข้าที่) 2. ครูนานักเรยี นศกึ ษาเนอ้ื หาในบทเรยี นที่1 เร่ืองปดั กวาดเช็ดถู จดั ตู้จัดโตะ๊ โดยในคาถามสารวจความรูก้ อ่ นเรียน ครูอาจเพ่มิ ขั้นตอนการล้างผ้าหลงั การซกั ด้วยผงซกั ฟอกหรือเพ่มิ เตมิ ขน้ั ตอนอ่ืนๆ ตามประสบการณข์ องนกั เรยี น เมอ่ื นกั เรียน เรยี งลาดบั ขน้ั ตอนแต่ละขอ้ แลว้ ครนู าอภิปรายวา่ ขนั้ ตอนเหลา่ น้ี สามารถสลับทไ่ี ดห้ รอื ไม่ เพราะเหตุใด 3. ครนู าอภิปรายวา่ นักเรยี น เคยรูจ้ กั หรือเคยรับประทานแซนด์วชิ และลูกชุบหรอื ไม่ ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ ในกรณีท่นี กั เรยี นไม่ร้จู ัก หรือให้นักเรยี นชมวิดีโอในสอื่ และแหลง่ เรียนรู้ จากน้ันให้ นกั เรยี นจับคู่ทากิจกรรมที่ 1.1 เซฟน้อยเขา้ ครัวแลว้ นาเสนอ คาตอบ

6 แนวทาง การจดั การเรียนรู้ 4. ครูให้นกั เรียนทาใบกจิ กรรมที่ 1.2 จัดของขึ้นนรถไฟ โดยครชู ้แี จง การทาใบกจิ กรรมและให้นักเรยี นทกุ คนรว่ มกนั ทา และให้นักเรยี น นาเสนอคาตอบ แลว้ อภปิ รายเปรียบเทียบคาตอบของแตล่ ะกลมุ่ ว่า เหมอื นหรือต่างกันอย่างไร 5. ครชู ้แี จงการทาใบกจิ กรรมท่ี 1.3 ก่อรา่ งสรา้ งบ้าน โดยเนน้ ย้ากับ นักเรยี นว่าตวั ต่อไมส่ ามารถหมุนได้ แลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ รว่ มกนั วางแผน กอ่ นระบายสีลงในใบกจิ กรรม เช่น เขียนข้อความเป็นชอื่ สกี อ่ น ระบายสีจรงิ และอภปิ รายเปรยี บเทียบคาตอบของแต่ละกลมุ่ วา่ เหมือน หรือต่างกันย่างไร มีวิธกี ารอน่ื อกี หรอื ไม่ 6. ครตู ้ังคาถามเพ่อื นาไปสู่ข้อสรุป เช่น - นักเรียนจะนาความรู้เกี่ยวกับการกาหนดขั้นตอนการทางานไปใช้ใน การทากิจกรรมอย่างไรบา้ ง อย่างไร - การเรียงลาดบั ขน้ั ตอนในการทางานมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร

7 การวดั และ การประเมนิ ผล - ตรวจคาตอบในใบกิจกรรม - เลือกใช้แบบประเมินในภาคผนวกตามความเหมาะสม 8 สือ่ และ แหลง่ การเรยี นรู้ หนงั สือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 สสวท. วธิ กี ารทา วธิ ีการทา แซนด์วิชทนู า่ ขนมลูกชุบ

9 ข้อเสนอแนะ 1. ครอู าจอธิบายเพมิ่ เติมวา่ ถวั่ ทใี่ ชใ้ นการทาลกู ชบุ คอื ถ่วั เขยี วที่ นาเอาเปลอื กออกแลว้ 2. ใบกิจกรรมที่ 1.2 จดั ของข้นึ รถไฟ และใบกจิ กรรมที่ 1.3 ก่อสรา้ งบา้ นครอู าจทาบตั รภาพเพอื่ เปน็ ส่อื แทนการระบายสใี น ใบกิจกรรม ตัวอยา่ งตามภาพดา้ นลา่ ง และอาจทาสไลดเ์ พ่ือ แสดงตวั อยา่ งคาตอบ 1 วิธี เพอื่ ใหน้ กั เรยี นเข้าใจวิธีกการตอบ มากขน้ึ

แนวทางการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวน) หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 2ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ อะตอมอร่ามยามรุง่ อรณุ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ผู้เรียนมีความรูแ้ ละความสามารถดังน้ี 1. เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใชบ้ ตั รคาสัง่ 2. ตรวจหาข้อผิดพลาดและแกไ้ ข 2 ตัวช้วี ัด ป.2 ขอ้ 2 เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรอื สือ่ และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม 3 สาระการเรียนรู้ - การเขยี นโปรแกรมโดยใชบ้ ตั รคาส่ัง - การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม 4 แนวคิด การเขยี นโปรแกรมทุกครงั้ จะต้องทาการทดสอบ เมอ่ื พบ ข้อผิดพลาดตอ้ งแกไ้ ขโปรแกรมใหถ้ กู ตอ้ งเพื่อทางานตาม เป้าหมายได้สาเรจ็ 5 สือ่ และอุปกรณ์ - ใบงานที่ 2.1 สารวจโรงเรยี น - ใบงานท่ี 2.2 หุน่ ยนตเ์ ก็บเหรียญ - ใบงานท่ี 2.3 เปา่ ยิ้งบบุ ปบุ๊ ปั๊บ - บัตรคาสงั่

6 แนวทาง การจดั การเรยี นรู้ การจัดเตรยี ม - ใบกิจกรรมตามจานวนผู้เรียน - บัตรคาส่งั ขั้นตอนดาเนินากร 1. ครูทบทวนความรูเ้ ก่ยี วกบั การเขียนโปรแกรมโดยวาดช่อง ตารางและใหน้ กั เรยี น เขียน โปรแกรมเพ่อื ไปหยุดอยู่ท่ีชอ่ งท่ี ครกู าหนด 2. ครสู มมตสิ ถานการณว์ า่ “ในวนั รณรงคร์ ักษาความสะอาด ของโรงเรยี น ทุกคนชว่ ยกันทาความสะอาดทว่ั บรเิ วณ โรงเรียน โดยนักเรยี นได้รบั มอบหมายให้ช่วยเดินเก็บขยะ ” ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายว่า นกั เรียนจะมวี ิธกี ารอยา่ งไรใน การเดนิ เก็บขยะใหท้ วั่ บรเิ วณโรงเรียน 3. ครูและนักเรยี นอภปิ รายคาตอบ ในสารวจความรู้กอ่ นเรยี น โดยครใู หจ้ ังหวะในการปรบมอื 4. ครนู ักเรยี นศึกษาเนอื้ หาในบทเรียน เรือ่ ง อะตอมอร่าม ยาม รุ่งอรณุ โดยให้นักเรียนสงั เกตโปรแกรมหนังสอื โดยครอู าจให้ นักเรียนเขยี นโปรแกรมของตนเองเพื่อนับดอกอะตอม 5. ครใู หน้ ักเรียนจบคเู่ พอ่ื ทาใบกจิ กรรม ครชู ีแ้ จงการทา ใบกจิ กรรมที่2.1 สารวจโรงเรยี น และใหน้ ักเรยี นตอบคาถาม ในใบกจิ กรรมครูส่มุ นกั เรยี นนาเสนอคาตอบ

6 แนวทาง การจดั การเรยี นรู้ 6. ครูชแี้ จงการทากิจกรรมใบท่ี 2.2 หุน่ ยนต์เก็บเหรียญ แลว้ ให้นกั เรียนทาใบกจิ กรรมและสุ่มนกั เรียนออกมานาเสนอ คาตอบ โดยเน้นกระบวนการคิดหาคาตอบทลี ะขน้ึ ตอน 7. ครชู ีแ้ จงและใหน้ ักเรยี นทาใบกจิ กรรมท่ี 2.3 เป่ายง้ิ บบุ ปบุ๊ ปบ๊ั โดยอธบิ ายวิธีการคดิ คะแนน ถ้าชนะจะได้ 1 คะแนน ถา้ แพ้จะถกู ลบ 1 คะแนน และถ้าเสมอจะไม่ไดค้ ะแนน 8. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายเก่ียวกบั ความรทู้ ไ่ี ดจ้ าก การทากจิ กรรมโดยใชป้ ระเดน็ คาถามตอ่ ไป - ข้อผิดพลาดทอี่ าจเกิดขนึ้ ในการเขยี นโปรแกรมมีอะไรบา้ ง 7 การวดั และ การประเมินผล - ตรวจคาตอบในใบกจิ กรรม - เลือกใช้แบบประเมนิ ในภาคผนวกตามความเหมาะสม 8 สื่อและ แหลง่ การเรียนรู้ หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 สสวท.

9 ข้อเสนอแนะ 1. ครูอาจจัดกจิ กรรมท่ี 2.3 โดยให้นักเรียนเล่นเกมแขง่ ขนั เปา่ ยง้ิ บบุ ปบุ๊ ปบ๊ิ ดงั นี้ 2. แบ่งนักเรียนเป็น 2 ทีม กาหนดให้ทมท่ี 1 เปน็ หนุ่ ยนตค์ ่แู ขง่ และทมี ที่ 2 เป็นทีมอิ่ม 3. นักเรียนทง้ั 2 ทมี ปรกึ ษากนั และส่งตัวแทนของกลมุ่ ออกมาแข่งขัน (อาจกาหนดโจทยข์ ้นึ ใหมห่ รอื ใช้โจทย์จาก ใบกิจกรรม) มเี วลาให้แตล่ ะทมี ในการกาหนดโจทยแ์ ละตอบ คาถามทีมละ 2 นาที 4. เมื่อแขง่ ขนั ครบ 5 ครงั้ ใหท้ ้งั 2 ทมี สลบั หนา้ ท่ีกนั 5. เม่อื จบการแขง่ ขนั ครสู รุปคะแนนของทงั้ 2 ทีม

แนวทางการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวน) หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 2ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ รตั ตกิ าล

จุดประสงค์การเรียนรู้ ผูเ้ รยี นมีความรแู้ ละความสามารถดังนี้ 1. บอกข้อตกลงในการใช้งานคอมพวิ เตอร์ 2. บอกวธิ รี ักษาความสะอาดอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ 3. บอกวิธใี ช้คอมพิวเตอรอ์ ย่างปลอดภัย 2 ตวั ช้ีวดั ป.2 ข้อ 4. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ปฎบิ ตั ิ ตามขอ้ ตกลงในการใช้คอมพวิ เตอรร์ ว่ มกนั ดูแลรกั ษา อุปกรณเ์ บือ่ งต้น ใช้งานอยา่ งเหมาะสม 3 สาระการเรียนรู้ - ข้อตกลงในการใชง้ านคอมพวิ เตอร์ - การดูแลรักษาความสะอาดอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ - การใช้คอมพวิ เตอร์อยา่ งปลอดภยั

4 แนวคิด การใช้คอมพิวเตอร์ และสมาร์ตโฟน ต้องคานงึ ถึงความ ปลอดภัย รักษาความสะอาด ไมใ่ ชน้ านเกนิ ไป นอกจากน้ี ควรปฎิบัตติ ามข้อตกลงในการใชง้ านคอมพวิ เตอร์รว่ มกัน 5 สอ่ื และอปุ กรณ์ - ใบงานท่ี 3.1 หมบู่ า้ นอลเวง - ใบงานท่ี 3.2 ถกู หรือผดิ คิดกอ่ นทา

6 แนวทาง การจดั การเรยี นรู้ การจัดเตรียม - ใบกจิ กรรมตามจานวนผเู้ รยี น - คอมพวิ เตอรห์ รืออปุ กรณ์อ่ืนๆ เชน่ สมารโ์ ฟน แท็บเลต็ ขน้ั ตอนดาเนนิ ากร 1. ครนู าเข้าสูบ่ ทเรยี นโดยนาอภปิ รายในประเด็นตอ่ ไปนี้ - นักเรยี นคิดว่าโรงเรยี นใช้คอมพิวเตอรใ์ นการทางานใดบา้ ง ( เกบ็ ข้อมูลนักเรยี น พิมพ์เอกสาร นาเสนอขอ้ มูลเกี่ยวกบั โรงเรยี น เกบ็ ข้อมลู ค่าใช้จา่ ย) - ห้องสมุดของโรงเรยี นใช้คอมพวิ เตอรใ์ นการทางาน อะไรบา้ ง (สืบคน้ ขอ้ มูลหนังสอื เกบ็ ขอ้ มูลการยืมคนื ค้นหา ขอ้ มลู ในอนิ เทอร์เน็ต) - ในชีวติ ประจาวันของเรา ใชค้ อมพวิ เตอร์ทางานใดบา้ ง 2. ครนู านักเรียนศกึ ษาเนอ้ื หาบทเรยี น บทที่ 3 เรือ่ ง รัตติกาล โดยอาจใหค้ วามรู้เพิ่มเติมเกยี่ วกับการสะกดเพอื่ ฝกึ ทักษะ การอ่านและรว่ มกนั ครูชแี้ จงและให้นักเรียนทาใบกจิ กรรมที่ 3.1 หมูบ่ า้ นอลเวงแล้วส่มุ นกั เรียนออกมานาเสนอคาตอบและ รว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 3. ครูเปดิ วดิ ีโอเรอื่ ง การดรู กั ษาอุปกรณค์ อมพิวเตอร์ และเร่อื ง กฏระเบยี บการใชห้ อ้ งคอมพิวเตอร์ จากนน้ั รว่ มกนั อภิปราย ความรู้และการนาความร้แู ละการนาความรไู้ ปใชใ้ น ชีวิตประจาวนั

6 แนวทาง การจัดการเรียนรู้ 1. ครชู ีแ้ จงและให้นกั เรียนจบั คู่กันเพื่อทาใบงานกจิ กรรมท่ี 3.2 ถูกตอ้ งหรือผดิ คิดกอ่ นทา จากนัน้ สมุ่ นกั เรียนเสนอ คาตอบครแู ละนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุป เกยี่ วกับ ขอ้ ตกลงในการใช้งานคอมพิวเตอร์ การดูแลรักษาความ สะอาดอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ การใช้คอมพิวเตอรอ์ ย่าง ปลอดภยั ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ - นักเรยี นจะนาความรูท้ ไี่ ดร้ ับจากบทเรียนนี้ไปใช้ใน ชวี ิตประจาวนั อย่างไร - หากนักเรียนพบเหน็ คนท่ีไมด่ แู ลรกั ษาอปุ กรณ์ คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตโฟน ไมร่ ักษาความสะอาด และใช้ งานอยา่ งไมป่ ลอดภัยนักเรยี นจะมีวธิ แี นะนนาอย่างไร 7 การวดั และ การประเมนิ ผล - ตรวจคาตอบในใบกิจกรรม - เลือกใชแ้ บบประเมินในภาคผนวกตามความเหมาะสม 8 สื่อและ แหล่งการเรยี นรู้ หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 สสวท. กฏระเบียการใชห้ อ้ งและ การดแู ลรักษาอุปกรณ์ คอมพวิ เตอร์

9 ข้อเสนอแนะ 1. คอมพวิ เตอรใ์ นห้องสมุดใชส้ าหรบั ค้นหาขอ้ มูลและความรู้ ไม่ ควรใช้เล่นเกม เพราะเป็นการรบกวนผู้อ่นื สว่ นการ รับประทานอาหารในหอ้ งสมุดจะทาใหม้ กี ลน่ิ รบกวน อาจมี เศษอาหารตกหลน่ ทาใหอ้ ุปกรณส์ กปรก เสียหาย และมสี ัตว์ หรอื แมลงเขา้ มาได้ 2. อาหาร ขนม ปืนบีดนา้ นา้ ทุเรยี น รองเท้า (ขึน้ อยกู่ ับ ขอ้ ตกลงแตล่ ะแหง่ )

แนวทางการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวน) หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 2ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี นกั อ่านจว๋ิ

จุดประสงค์การเรยี นรู้ ผเู้ รียนมคี วามรู้และความสามารถ ดังนี้ 1. สรา้ งและจัดหมวดหม่ไู ฟลแ์ ละโฟลเดอร์ 2. เรยี กคนื ไฟลจ์ ากถงั รไี ซเคลิ 3. ใชง้ านโปรแกรมประมวลคา 2 ตวั ช้ีวดั ป.2 ข้อ 3. ใช้เทคโนโลยใี นการสร้าง จดั หมวดหมู่ ค้นหา จัดเกบ็ เรียใชข้ อ้ มูลตามวตั ถุประสงค์ 3 สาระการเรียนรู้ - การสรา้ งและการจัดหมวดหมไู่ ฟล์และโฟลเดอร์ - เรยี กคนื ไฟล์จากถงั รีไซเคิล - ใชง้ านโปรแกรมประมวล 4 แนวคิด การสรา้ ง การจดั หมวดหมไู่ ฟลแ์ ละโฟลเดอร์ ช่วยทาให้ เราสามารค้นหาไฟลไ์ ดส้ ะกวดและรวดเร็ว เราสามารถเรยี ก คืนไฟล์ทล่ี บไปแลว้ ได้ โดยเปดิ ถงั รไี ซเคิลคลกิ ทไ่ี ฟล์น้นั และ คลกิ กูค้ นื (restore) โปรแกรมประมวลคา เปน็ โปรแกรม ประมวล เปน็ โปรแกรมทใี่ ชส้ ร้างหรือแกไ้ ขเอกสาร เช่น รายงาน เมนูอาหาร แผ่นพับ และโปรเตอร์

5 สอื่ และอปุ กรณ์ - ใบงานที่ 4.1 จัดใหเ้ ปน็ หมอู่ ยใู่ หถ้ กู ท่ี - ใบงานที่ 4.2 ตามหาไฟลท์ ่หี ายไป - ใบงานท่ี 4.3 ช่วยกนั คนละไมค้ นละมอื - เครื่องคอมพิวเตอร์ทต่ี ิดตง้ั โปรแกรมประมวลคา - กล่องใส่เครื่องเขียนของเลน่ เช่น ดนิ สอ ยางลบ สมุด ดนิ นา้ มนั ลกู แกว้ ไมบ้ รรทดั - กระดาษบรู๊ฟ 6 แนวทาง การจัดการเรยี นรู้ การจดั เตรียม - ใบกจิ กรรมตามจานวนผู้เรียน - กล่องใส่เครอ่ื งเขียนและของเลน่ ตามจานวนกลมุ่ ข้ันตอนดาเนนิ ากร 1. ครูแบ่งนกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 2-4 คน ครแู จก กลอ่ งใสเ่ คร่อื งเขียนและของเลน่ ใหน้ กั เรียนกลมุ่ ละ 1 กล่อง แลว้ ใหน้ ักเรยี นนาสง่ิ ของออกจากกลอ่ งวางบนโตะ๊ จากนัน้ ครนู าอภปิ รายในประเดน็ ต่อไปน้ี - สง่ิ ของทนี่ ักเรียนเห็น จดั เรียงเรียบรอ้ ยหรอื ไม่ - ถา้ สง่ิ ของวางเกะปะปนกัน จะสะดวกตอ่ การหยิบใช้งาน หรอื ไม่ - ถ้านกั เรยี นต้องการหยบิ ใช้สง่ิ ของเหลา่ นใ้ี หง้ า่ ยข้นึ ควร จดั การอยา่ งไร 2. ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกล่มุ จัดหมวดหมสู่ งิ่ ของให้เรียบรอ้ ย แลว้ ออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น วา่ จาแนกเปน็ หมวดหมู่ ใดได้บา้ ง

6 แนวทาง การจดั การเรยี นรู้ 3. ครูนานกั เรียนศกึ ษาเน้อื หาในหนงั สือเรยี นบทที่ 4 เรอ่ื ง นกั อ่านจ๋วิ และอภิปรายความรู้ทไ่ี ด้ ตัวอยา่ งประเด็นการอภิปราย เช่น - ถา้ นกั เรยี นเป็นโป้ง กอ้ ยและ กุ้ง จะจัดหมวดหมู่ไฟลโ์ ดยมี โฟลเดอร์อะไรบ้าง - นักเรยี นคิดว่าจะใชซ้ อฟตแ์ วร์ในการทาโปสเตอร์หรอื ไม่และ เพราะเหตุใด หากเลือกใชซ้ อฟต์แวรจ์ ะใชซ้ อฟตแ์ วรใ์ ด - นกั เรยี นเคยเผลอลบไฟลห์ รอื ไม่ และแกไ้ ขปญั หาอยา่ งไร เพราะเหตุใด - นกั เรียนเคยใชง้ านเทมเพลตในการสรา้ งขน้ึ งานหรือไม่ - นกั เรียนเคยพบการใช้งานเทมเพลตในการสร้างชนิ้ งาน หรอื ไม่ 4. ครูช้ีแจงและให้นกั เรยี นทาใบกจิ กรรมที่ 4.1 จดั ให้เป็นหมู่อยู่ ให้ถูกที่ 5. ครชู ี้แจงและให้นกั เรียนนทาใบกจิ กรรมท่ี 4.2 ตามหาไฟล์ หายท่ีหายไป โดยให้เรียงลาดบั ขนั้ ตอนการเรียกคอื ไฟลจ์ าก ถงั รไี ซเคลิ ให้ถกู ต้อง และสมุ่ นักเรยี นออกมานาเสนอคาตอบ

6 แนวทาง การจดั การเรียนรู้ 6. ครชู แี้ จงวธิ กี ารทาใบกจิ กรรมท่ี 4.3 ชว่ ยกนั คนละไมค้ นละ มอื ให้นักเรยี นออกแบบป้ายประชาสมั พันธ์การรกั ษาความ สะอาดในโรงเรียน ด้วยโปรแกรมประมวลคาโดยนกั เรียน ออกแบบช้ินงานลงในใบกจิ กรรม และครสู ่มุ นกั เรียนออกมา นาเสนอผลงาน และอาจให้นักเรยี นพิมพ์ผลงานไปติดไวป้ า้ ย นิเทศนห์ รือตามบรเิ วณต่างๆในโรงเรยี นตามความเหมาะสม 7. ครนู านกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความร้ทู ่ไี ดจ้ ากการจัดกจิ กรรม เช่น - การจัดหมวดหมู่ไฟลแ์ ละโฟลเดอร์ มีประโยชน์อยา่ งไร สะดวกต่อการเรียกใช้งาน ไม่เสียเวลาค้นหา - การสรา้ งชน้ิ งานด้วยโปรแกรมประมวลคามีขน้ั ตอน อยา่ งไรบา้ ง สามารถตกแตง่ เอกสารใหส้ วยงามไดอ้ ยา่ งไร หรอื เพิ่มเตมิ อะไรไดบ้ ้าง

7 การวดั และ การประเมินผล - ตรวจคาตอบในใบกจิ กรรม - แบบประเมินใบกิจกรรมท่ี 4.3 8 สือ่ และ แหล่งการเรียนรู้ หนังสอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 สสวท. การกคู้ นื ไฟลห์ รือ เวิรด์ ราชวิถีพีชี เวริ ด์ จฬุ าหรอื ซี โฟลเดอรจ์ ากถงั รี ยูไรเตอร์ ไซเคลิ

9 ข้อเสนอแนะ 1. ครูอาจทาบตั รภาพไอคอนไฟลต์ ่างๆ และจดั กจิ กรรมเปน็ เกมใหน้ กั เรยี นจัดหมวดหมู่ เพอื่ ให้นกั เรียนได้เขา้ ใจกาจดั หมวดหม่ไู ฟลแ์ ละโฟลเดอรม์ ากย่งิ ขน้ึ 2. ใบกิจกรรมท่ี 4.1 จดั ใหเ้ ป็นหมอู่ ยใู่ ห้ถกู ที่ ขอ้ 2. ครอู าจ แบง่ นกั เรียนเปน็ กลมุ่ ให้แตล่ ะกลมุ่ ออกแบบใบกจิ กรรมลงใน กระดาษบรฟู๊ ในรูปแบบทแี่ ตกต่างจากทคี่ รกู าหนดใหเ้ พือ่ ฝึก ทกั ษะการคดิ หรอื ทาบัตรภาพทต่ี รงตามไอคอนทีก่ าหนด ใหน้ ักเรียนใช้บัตรภาพติดลงในกระดาษบรฟู๊ ตามหมวดหมทู่ ่ี จดั แยกเพ่ือความรวดเร็วในการทากจิ กรรม 3. ใบกจิ กรรม อาจใหน้ กั เรียนทาเปน็ งานเดี่ยวหรอื คู่ 4. ครอู าจเลา่ เร่ืองโปรแกรมประมวลคาของไทย เชน่ เวริ ์ดราช วถิ พี ซี ีเวิร์ดจฬุ า เพ่ือใหเ้ หน็ ความสามารถของคนไทย

แนวทางการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวน) หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 2ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี บางกอกมีเสาชิงช้าบนทอ้ งฟ้ามที าง ชา้ งเผอื ก

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ผู้เรยี นสามารถบอกวิธกี ารปกป้องขอ้ มูลส่วนตัว 2 ตวั ชวี้ ดั ป.2 ขอ้ 4 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฎบิ ัติตาม ข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอรร์ ว่ มกนั ดูแลรกั ษาอุปกรณเ์ บอ้ื งต้น ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม 3 สาระการเรียนรู้ - ข้อมูลสว่ นตวั และอตั รายจากการเผยแพรข่ อ้ มูลสว่ นตัว - การคน้ หาและการตดิ ตามสมาร์ตโฟน 4 แนวคดิ การปกปอ้ งขอ้ มูลสว่ นตัวทาให้ปลอดภยั จากผ้ไู มป่ ระสงค์ดี ขอ้ มลู สว่ นตวั ทไี่ มค่ วรเปิดเผยตอ่ คนแปลกหน้า เช่น วันเดอื นปีเกดิ ท่ี อยู่ หมายเลขบญั ชีธนาคารหมายเลขประจาตวั ประชาชน หมายเลข โทรศพั ท์ของผปู้ กครอง ในบางกรณีเราอาจจาเป็นต้อง เปดิ เผยข้อมลู สว่ นตวั กบั ผอู้ ่ืน จึงตอ้ งพจิ ารณาเบพาะ ผู้ท่ีไว้วางใจไดเ้ ทา่ นนั้

5 สื่อและอปุ กรณ์ - ใบงานท่ี 5.1 ข้อมลู เราอย่าบอกเขานะ - ใบงานท่ี 5.2 ป้ายชอื่ ทัศนศกึ ษา - ใบงานที่ 5.3 คนแปลกหน้าขอถา่ ยภาพ 6 แนวทาง การจัดการเรียนรู้ การจัดเตรยี ม - ใบกิจกรรมตามจานวนผูเ้ รยี น ขนั้ ตอนดาเนนิ ากร 1. ครูนาเข้าสู่บทเรียนโดยนาอภปิ รายเกยี่ วกบั ขอ้ มูลสว่ นตวั ดงั นี้ - นกั เรยี นรู้ข้อมลู อะไรเก่ยี วกบั เพอ่ื นบา้ ง (วนั เดืนปี เกิด คะแนนสอบ สีท่ชี อบ อาหารท่ีชอบ ชอ่ื สัตวท์ ีช่ อบ กรปุ๊ เลือด เลขประจาตวั ประชาชน ตาแหน่งทตี่ ง้ั ของบา้ น อาชีพ ผ้ปู กครอง จานวนเงินท่ีมี ตาแหนง่ ไฝหรอื แผลเปน็ ) โดยครู เขียนคาตอบของนกั เรยี นบนกระดาษ - นกั เรียนอยากใหค้ นอ่นื รขู้ อ้ มลู ของเราหรือไม่ เพราะ อะไร - ถา้ มคี นรขู้ ้อมลู ของเราจะมีขอ้ ดีและขอ้ เสยี อยา่ งไร 2. ครนู านักเรยี นศึกษาเนอ้ื หาหนงั สือเรียนและอภปิ รายความรู้ ทไี่ ด้ เชน่ - ถ้านกั เรียนเป็นโปแ้ ละก้อย จะช่วยเหลอื นกั ทอ่ งเท่ยี ว คน้ หาสมาร์ตโฟนหรอื ไม่ อย่างไร - นกั เรยี นชอบถา่ ยภาพหรอื ไม่ ถ้ามคี นแปลกหนา้ มา ถา่ ยภาพเราจะสง่ ผลอยา่ งไร

6 แนวทาง การจดั การเรยี นรู้ 3. ครูชี้แจงให้นักเรียนทาใบกจิ กรรม ข้อมลู ของเราอย่าบอกเขานะ แลว้ สุ่มนักเรยี นเพือ่ นาเสนอคาตอบพรอ้ มระบเุ หตุผล 4. ครชู แี้ จงให้นักเรยี นทาใบกจิ กรรมที่ 5.2 ปา้ ยชื่อทัศนศึกษา แลว้ ส่มุ นักเรยี นเสนอคาตอบพรอ้ มเหตุผล ใหน้ ักเรียน อภิปรายว่าสามารถเผยแพร่หมายเลขโทรศพั ทข์ องคณุ ครไู ด้ หรือไม่ (กรณที ่ีคุณครอู นุญาตกส็ ามารถแพรไ่ ด)้ 5. ครูชแี้ จงและให้นกั เรยี นทาใบกจิ กรรม่ี 5.3 คนแปลกหน้าขอ ถา่ ยภาพ แล้วสมุ่ นักเรียนนาเสนอคาตอบพรอ้ มเหตุผล 6. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปวิธกี ารปกป้องขอ้ มลู ส่วนตัว รวม มึงผลกระทบทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ หากนักเรยี นไม่ปกปอ้ งขอ้ มูลของ ตนเองโดยใชป้ ระเด็นคาถามดงั น้ี - นกั เรยี นคดิ วา่ ขอ้ มูลใดทไี่ มค่ วรบอกบคุ ลคนแปลกหนา้ - ถ้านกั เรียนไม่ปกป้องขอ้ มลู ของตนเองจะเกดิ อะไรขนึ้ - นกั เรยี นมวี ิธีการป้องกนั ขอ้ มูลส่วนตวั อยา่ งไร

7 การวัดและ การประเมนิ ผล - ตรวจคาตอบในใบกิจกรรม - เลือกใช้แบบประเมินในภาคผนวกตามความเหมาะสม 8 สือ่ และ แหล่งการเรียนรู้ หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 สสวท. 9 ข้อเสนอแนะ 1. ใบกิจกรรมที่ 5.1 ครอู าจอธิบายคาคัพทเ์ พิ่มเตมิ เชน่ งาน อดเิ รก หมายถึง งานทท่ี าเพือ่ ความเพลเิ พลนิ 2. คาตอบบางขอ้ ในใบกิจกรรมอาจถกู หรอื ผิดกไ็ ดข้ นึ้ อยู่กับ เหตผุ ลทน่ี ักเรยี นอธิบาย 3. การทาใบกจิ กรรมท่ี 5.1 – 5.3 สามารถจัดเป็นกจิ กรรม กลมุ่ และเม่อื ทาใบกจิ กรรมเสรจ็ แลว้ ให้ตวั แทนกลมุ่ มาเลา่ ถึงเหตผุ ลในการตอบของกลมุ่ ตนเอง จากนั้นครูและ นกั เรยี นร่วมกันสรุป 4. ใบกจิ กรรมที่ 5.3 อาจเพมิ่ ประเดน็ การสนทนาเกีย่ วกบั การทาทา่ ถ่ายรปู เพ่อื บดบงั หนา้ ตา ในกรณีที่ไม่สามารถ ปฎิเสธเมอ่ื ถูกคนแปลกหน้าถา่ ยรูป ตัวอยา่ งเชน่ ใช้มอื ทาท่า ฮ.นกฮูกตาโต เพ่ือบังหนา้ ตา

แนวทางการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวน) หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 2ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี งานเล้ียงชมรมกับขนมเจ้าปัญหา

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ผู้เรียนสามารถแสดงลาดบั ขนั้ ตอนการคน้ หาและ แก้ปญั หาอย่างง่าย 2 ตัวชวี้ ัด ป.2 ขอ้ 1. แสดงลาดบั ขน้ั ตอนการทางานหรอื การ แกป้ ญั หาโดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์ หรอื ข้อความ 3 สาระการเรียนรู้ - การแสดงลาดบั ขน้ั ตอน - การคิดอยา่ งเปน็ ระบบ 4 แนวคิด การคดิ อย่างเปน็ ระบบและปรับปรุงวิธกี ารแกป้ ัญหาใหด้ ขี นึ้ จะชว่ ยให้แกป้ ัญหาไดส้ าเรจ็ 5 สอื่ และอปุ กรณ์ - ใบงานท่ี 6.1 ชา้ งมา้ วัวควาย - ใบงานที่ 6.2 กระตา่ ยกบั เตา่ - ใบงานท่ี 6.3 เจ้าลมกรด

6 แนวทาง การจดั การเรยี นรู้ การจัดเตรยี ม - ใบกิจกรรมตามจานวนผู้เรยี น - นทิ านเร่ือง กระต่ายกบั เตา่ ข้ันตอนดาเนินากร 1. ครนู าอภปิ รายและทบทวนเน้ือหาในหนงั สือเรยี น เทคโนโลยี(วทิ ยาการคานวณ) ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 บทที่ 7 เร่ือง วนั งานโรงเรียน 2. ครูนานักเรยี นศึกษาเนือ้ หาในหนงั สอื เรียนบทท่ี 6 เรือ่ ง งานเลี้ยงชมรมกบั ขนมเจ้าปญั หา และอภิปรายความรทู้ ่ี ได้ 3. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปเกี่ยวกับความรู้ทไี่ ดร้ บั จาก การศกึ ษาเน้อื หาในบทเรียน 4. ครูช้แี จงและให้นักเรียนทาใบกจิ กรรมที่ 6.1 ช้างมา้ ววั ควายแล้วส่มุ นกั เรียนออกมานาเสนอคาตอบหรอื แสดง วิธหี าคาตอบ 5. ครชู ี้แจงและให้นกั เรยี นทาใบกจิ กรรมท่ี 6.2 กระต่ายกบั เตา่ จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นท่ีตอบถกู และหาคาตอบได้เรว็ ทสี่ ดุ ออกมานาเสนอวธิ กี ารในการหาคาตอบ 6. ครแู บ่งนกั เรยี นเปน็ กล่มุ กลมุ่ ละ2คน ชี้แจงให้นักเรียน ทาใบกจิ กรรมท่ี 6.3 เจา้ ลมกรด 7. นักเรียนและครรู ่วมกนั อภปิ รายเกีย่ วกบั การแกป้ ญั หา อย่างง่าย สามารถใช้ภาพ สญั ลักษณ์ หรอื ขอ้ ความใน การแสดงวธิ กี ารแกป้ ญั หา

6 แนวทาง การจัดการเรยี นรู้ 8. ครูสรปุ เก่ียวกบั การแกป้ ัญหาและแสดงลาดบั ขนั้ ตอน การทางานหรอื แกป้ ญั หาอยา่ งง่าย 9. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายเกี่ยวกบั การนา วิธีการค้นหาอยา่ งเปน็ ระบบไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน 7 การวดั และ การประเมนิ ผล - ตรวจคาตอบในใบกจิ กรรม - เลือกใช้แบบประเมนิ ในภาคผนวกตามความเหมาะสม 8 ส่ือและ แหลง่ การเรียนรู้ หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 สสวท. นทิ านกระต่ายกบั เตา่

9 ขอ้ เสนอแนะ - การหาคาตอบว่าอาหารชนิดใดทาให้กงุ้ และพก่ี วาง ท้องเสีย อาจใชว้ ิธีการสร้างตารางตามตวั อย่างตอ่ ไปนี้ ช่ือ/อาหาร ไก่สะเตะ๊ กลว้ ยทอด ฝอยทอง บวั ลอย ขนมเคก้ โป้ง กิน กิน กิน กิน กอ้ ย กิน กิน กิน กงุ้ กิน กิน กิน พ่เี อก กิน กิน พ่กี วาง กิน กิน

แนวทางการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวน) หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 2ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี เกมเสน้ ทางปรศิ นา

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สามารถเขียนโปรแกรมท่ีมีเง่อื นไขโดยใช้บตั รคาส่ัง 2 ตวั ชว้ี ดั ป.2 ขอ้ 2. เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ยโดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรอื สื่อ และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม 3 สาระการเรียนรู้ - การเขยี นโปรแกรมแบบมีเงอื่ นไข 4 แนวคดิ โปรแกรมท่มี เี ง่อื นไขสามารถทางานตามลาดบั คาส่ังทแ่ี ตกตา่ งกัน และ ได้ผลลพั ธแ์ ตกตา่ งกัน 5 สอื่ และอุปกรณ์ - ใบงานที่ 7.1 จุดหมายปลายทาง - ใบงานที่ 7.2 สามสหายหาสมบตั ิ - ใบงานท่ี 7.3 รูปอะไรนะ - กระดาษสี - บัตรคาส่ัง-ผงั ตาราง

6 แนวทาง การจัดการเรียนรู้ การจดั เตรียม - ใบกจิ กรรมตามจานวนผเู้ รียน - บัตรคาสั่งตามกิจกรรม - ผงั ตาราง

6 แนวทาง การจดั การเรยี นรู้ ข้ันตอนดาเนินากร 1. ครูนาเขา้ สู่บทเรยี นโดยใหน้ กั เรยี นสาธิตการทาทา่ กระต่าย ชา้ ง และนก จากน้ันแจกกระดาษสใี หก้ บั นกั เรยี นคนละ1แผ่น ใหน้ ักเรยี นฟงั เงือ่ นไขท่คี รกู าหนด แลว้ ปฏบิ ตั ิตามคาส่ัง 2. ครตู งั้ คาถาม นกั เรียนทกุ คนทาทา่ เหมอื นกันหรือไม่ อะไรทา ใหน้ กั เรยี นทาทา่ แตกต่างกนั 3. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายถงึ การใช้เง่อื นไขตา่ ง ๆ ทีพ่ บ ในชวี ติ ประจาวัน 4. ครูนานักเรียนศึกษาเน้ือหาในหนงั สือเรยี นบทท่ี7 เรอ่ื ง เกม เสน้ ทางปรศิ นา และอภิปรายความรู้ที่ได้ 5. ครูนาเสนอผังตารางและใหน้ กั เรียนพจิ ารณาตวั เลขทป่ี รากฏ อยดู่ า้ นซ้ายและดา้ นลา่ งของตาราง ซึง้ ใช้สาหรบั อ้างองิ ตาแหน่ง ของสิ่งท่ีอยู่บนตาราง 6. ครูชแ้ี จงและใหน้ กั เรยี นทาใบกจิ กรรมที่ 7.1 จุดหมาย ปลายทางจากนน้ั ครสู ่มุ นักเรียนออกมานาเสนอขัน้ ตอนการ ทางานตามบตั รคาสั่งและคาตอบทไ่ี ด้

6 แนวทาง การจัดการเรียนรู้ 7. ครูชแ้ี จงและให้นักเรียนทาใบกจิ กรรมท่ี 7.2 สามสหาย หาสมบัติ จากน้นั ส่มุ นักเรยี นออกมานาเสนอคาตอบ 8. ครชู แ้ี จงและใหน้ ักเรียนทาใบกจิ กรรมท่ี 7.3 รูปอะไรนะ แล้วสุม่ นักเรยี นออกมานาเสนอขน้ั ตอนการทางานตาม บตั รคาสงั่ และคาตอบ 9. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายสรุปเกี่ยวกบั ความรทู้ ี่ ได้รับจากการทากจิ กรรม 7 การวดั และ การประเมินผล - ตรวจคาตอบในใบกิจกรรม - เลอื กใชแ้ บบประเมินในภาคผนวกตามความเหมาะสม 8 ส่ือและ แหลง่ การเรียนรู้ หนงั สือเรียนรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 สสวท.

9 ข้อเสนอแนะ 1. ครูอาจปรับเปลีย่ นคาสงั่ จากการใช้บตั รคาสง่ั ไดต้ ามความ เหมาะสม 2. ในขัน้ ตอนการนาเขา้ ส่บู ทเรียน ครูอาจให้นักเรียนช่วยกนั คดิ เง่อื นไขในการออกคาสงั่ เพ่ือให้เพ่ือนทาตาม 3. ครอู าจใหน้ ักเรียนใช้สิ่งของเปน็ ตวั แทนในการเคลื่อนท่ีไปตาม แผนท่หี รือแผนผงั 4. หากต้องการพฒั นาทกั ษะของนกั เรยี นเพ่มิ เติม ครูอาจให้ นกั เรยี นสรา้ งชุดคาสั่ง เพ่ือวาดรูปตามความสนใจ

แนวทางการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวน) หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 2ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี เชฟนา่ เลิฟคนเสิรฟ์ น่ารัก

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ผ้เู รียนสามารถเขียนโปรแกรมทมี่ เี ง่ือนไขโดยใชบ้ ตั รคาส่งั 2 ตัวช้ีวดั ป.2 ขอ้ 2. เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใชซ้ อฟต์แวร์หรอื ส่ือ และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม 3 สาระการเรยี นรู้ - การเขยี นโปรแกรมแบบมเี งื่อนไข - การทดสอบโปรแกรมก่อนใช้งานจรงิ 4 แนวคิด โปรแกรมท่มี ีเง่ือนไขสามารถทางานตามลาดบั คาสั่งที่แตกตา่ งกันและ ไดผ้ ลลพั ธแ์ ตกตา่ งกนั เพ่ือให้โปรแกรมทางานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 5 ส่ือและอปุ กรณ์ - ใบงานท่ี 8.1 โปรแกรมแยกขยะ - ใบงานที่ 8.2 โปรแกรมข้าวมนั ไก่ - ใบงานท่ี 8.3 โปรแกรมจัดกระเป๋า - ภาพ แผนทเ่ี ส้นทาง - บัตรคาส่ัง

6 แนวทาง การจัดการเรยี นรู้ การจัดเตรียม - ใบกจิ กรรมตามจานวนผู้เรยี น - บตั รคาสั่ง

6 แนวทาง การจัดการเรยี นรู้ ขัน้ ตอนดาเนนิ การ 1. ครูนาเขา้ ส่บู ทเรียนโดยใช้คาถามและเขยี นคาตอบของ นักเรยี นบนกระดาษ 2. ครูแสดงภาพ แผนทเ่ี ส้นทาง จากนน้ั ให้นกั เรยี นช่วยกนั บอกวธิ เี ดินไปทรี่ า้ นไอศกรีมและสระวา่ ยน้า โดยให้นักเรยี น ชว่ ยกันบอกตามลาดบั ขนั้ ตอน และครเู ขยี นคาตอบของ นักเรยี นบนกระดาน 3. ครูให้นักเรียนสงั เกตวา่ ขอ้ ใดหรือขนั้ ตอนใดทท่ี าใหเ้ รา เดนิ ทางไปจุดหมายไดแ้ ตกตา่ งกนั จากนัน้ ครูอธบิ าย เพิ่มเติมว่าในการแกป้ ัญหาหนึ่ง 4. ครูนานักเรียนศึกษาเน้อื หาในหนังสือเรียนบทที่ 8 เรือ่ ง เชฟน่าเลิฟคนเสริ ์ฟน่ารกั และอภิปรายความร้ทู ี่ได้

6 แนวทาง การจัดการเรยี นรู้ 5. ครูชีแ้ จงและใหน้ ักเรยี นทาใบกจิ กรรม โปรแกรมแยกขยะ โดยครใู ห้ความรู้เพ่ิมเติมเกีย่ วกบั ความหมายของคาวา่ แปร รูป วา่ หมายถงึ การเปลีย่ นสภาพของส่ิงของใหอ้ ย่ใู นอกี รูปแบบหน่งึ 6. ครชู ี้แจงให้นกั เรยี นทาใบกจิ กรรม โปรแกรมขา้ วมันไก่แลว้ สุ่มนกั เรยี นนาเสนอคาตอบ 7. ครชู ้ีแจงรายละเอยี ดของใบกจิ กรรม โปรแกรมจดั กระเปา๋ 8. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายสรุปเกีย่ วกบั ความรทู้ ่ีได้รบั จากการทากจิ กรรม 7 การวัดและ การประเมินผล - ตรวจคาตอบในใบกจิ กรรม - เลอื กใช้แบบประเมินในภาคผนวกตามความเหมาะสม 8 สอ่ื และ แหลง่ การเรียนรู้ หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 สสวท.

9 ข้อเสนอแนะ 1. ครูอาจแบง่ กลมุ่ นักเรยี น กลุ่มละ 3-4 คน ในการทาใบ กิจกรรมเพอ่ื ให้นกั เรยี นไดฝ้ กึ ทกั ษะดา้ นการทางานกลมุ่ แล้ว สมุ่ นกั เรยี นออกมานาเสนอแนวคดิ ของกลมุ่ 2. นกั เรียนอาจเรยี งลาดบั คาสง่ั แตกตา่ งกนั การตรวจใหค้ ะแนน หรือประเมนิ ความเข้าใจอาจพจิ ารณาจากการใหเ้ หตผุ ลของ นักเรียน

แนวทางการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวน) หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 9 2ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี งานประจาปี 4.0