Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กฎหมายอาญา

กฎหมายอาญา

Published by James Thanakrit, 2022-07-04 05:53:28

Description: โครงสร้างความรับผิดทางอาญา และ กฎหมายอาญาภาคทั่วไป (ฉบับแก้ไข เดือน พย.)

Search

Read the Text Version

ามงุ่ หมายจะใหผ้ ลเกิด แบง่ ออกเป็น 4 กรณี ไดแ้ ก่ ความผดิ สาเร็จ ถา้ ผลเกิดตามความมงุ่ หมายของผกู้ ระทา ผดิ ไปจากความตงั้ ใจของผกู้ ระทากต็ าม เช่น ก ไลย่ งิ ข ทา ตน้ ยายามกระทาความผิด (มาตรา 80) บางฐานความผดิ เป็น องคป์ ระกอบความผิดก็มีความผดิ สาเรจ็ ทนั ทีเช่นความผดิ รจ็ ทนั ทีท่ีเจา้ พนกั งานไดร้ บั แจง้ ขอ้ ความโดยไมต่ อ้ งพิจารณา ทา่ กับพยามกระทาผดิ ซง่ึ เป็ นไปไม่ไดอ้ ย่างแน่แท้ ผดิ จะตอ้ งรบั ผดิ หนกั ขนึ้ ในผลนนั้ หรอื ไม่ ตอ้ งพจิ ารณาเรอ่ื ง รรมดา (มาตรา 63) 25

เลง็ เหน็ ผล กรณีจะเป็ นเจตนาเลง็ เหน็ ผลจะตอ้ งไมเ่ ป็ นเจตนาประ เลง็ เหน็ ผล คอื “เจตนาโดยออ้ ม” หมายความวา่ เลง็ เหน็ ได (ฎีกา 2548/2544) โดยหลกั การใชว้ ธุ ปืนยิงเพ่ือทารา้ ยผอู้ ่ืนเป็นเจตนาฆ นาย ก มีเจตนาฆ่านาย ข แต่จะเป็นเจตนาประสงคต์ ่อผลหรอื เลง็ อวยั วะสว่ นใดของรา่ งกาย เชน่ กระสนุ ปืนถกู บรเิ วณไหปลารา้ ซา้ ย ซง่ึ เป็นอวยั วะสาค ตายแมจ้ าเลยยิงโจทกร์ ว่ มเพียงนดั เดยี ว ก็ไม่ทาใหค้ วามผิดของจ แหง่ การกระทาและผลของการกระทา ท่ีอาจเกิดขนึ้ เป็นหลกั มิไดม้ จาเลยใชอ้ าวธุ ปืนจอ่ ยิงศีรษะผเู้ สียหายท่ีหนง่ึ ในขณะม อาจล่นั ถกู ศรี ษะของผเู้ สยี หายท่ี 1 เป็นอนั ตรายถึงชีวติ ได้ จึงเป็นก

ะสงคต์ อ่ ผล ดว้ า่ ผลนนั้ จะเกิดขนึ้ ไดอ้ ย่างแนน่ อนแตไ่ ม่ใยดีตอ่ ผลท่ีจะเกิดขนึ้ ฆ่า เช่น นาย ก ใชป้ ืนยิงในระยะ 2 เมตร ถกู หนา้ อก นาย ข ถือวา่ งเหน็ ผล ตอ้ งพิจารณาจากขอ้ เท็จจรงิ วา่ นาย ก เจตนายิงท่ี คญั จาเลยยอ่ มเลง็ เหน็ ผลไดว้ ่าอาจทาใหโ้ จทกร์ ว่ มถึงแก่ความ จาเลยเปล่ยี นแปลงไป เพราะเจตนาโดยเลง็ เห็นผลมงุ่ ถึงลกั ษณะ มงุ่ ถงึ เจตนาของผกู้ ระทาเป็นหลกั (ฎีกาท่ี 3237/2556) มีการกอดปลา้ และดนิ้ รนขดั ขืนอยู่ ย่อมเลง็ เห็นผลไดว้ ่ากระสนุ การกระทาโดยเจตนา (ฎีกาท่ี 2691/2555)

พฤตกิ ารณบ์ างกรณีทถี่ อื ว่าการใช้ปื น เป็ น เพียงหนง่ึ วาแตถ่ กู ขาเหนือตาตมุ่ (ฎีกาท่ี 1006/2501), กระสนุ ถกู ตอนขาใชเ้ วลารกั ษา 10 วนั หาย (ฎีกาท่ี 8727 อาวธุ อ่ืน ๆ กเ็ ป็นเจตนาฆา่ โดยเลง็ เหน็ ผลได้ เ เจตนาฆ่าโดยเลง็ เหน็ ผลได้ เช่น การใชไ้ มข้ นาดใหญ่เง่ีย เพียงครงั้ เดียว, จาเลยกบั พวกใชข้ วดสรุ าตีศีรษะผเู้ สียห หนกั จงึ หยดุ จาเลยผดิ ฐานพยายามฆา่ ผอู้ ่ืนโดยเลง็ เหน็

นเพยี งเจตนาทาร้ายเท่านั้น เช่น ยิงผเู้ สียหายระยะ ยิงผเู้ สยี หายซง่ึ กาลงั ยืนหนั หลงั และมโี อกาสปอ้ งกนั ตวั 7/2553) เชน่ ไม้ หรอื ขวดสรุ า หรือแมแ้ ตก่ ารรุมทารา้ ย กอ็ าจเป็น ยนตีท่ีศีรษะผตู้ ายถกู ทา้ ยทอยจนถึงแกค่ วามตาย แมต้ ี หายแลว้ ช่วยกนั รุมทารา้ ยผเู้ สียหายจนผเู้ สียหายอาการ นผล เป็นตน้

ตวั อย่างกรณีฆา่ โดยเจตนาเ คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 9711/2557 นา้ กรดท่จี าเล เขม้ ขน้ สงู แลว้ ยงั มปี รมิ าณมากทาใหโ้ จทกร์ ว่ มท่ี 1 มีบาดแผล การกระทาของตนกบั พวกเป็นเหตใุ หโ้ จทกร์ ว่ มทงั้ สามถงึ แก่คว ใสโ่ จทกร์ ว่ มทงั้ สาม จงึ เป็นการกระทาโดยไตรต่ รองไวก้ ่อน จาเ ไตรต่ รองไวก้ ่อนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (4) ป คาพพิ ากษาศาลฎกี าที่ 11822/2556 แมจ้ ะฟังว่าจ หยดุ ยงั้ มใิ หห้ ลบหนีการจบั กมุ แตก่ ารท่จี าเลยท่ี 2 ใชอ้ าวธุ ปืนย เม่อื กระสนุ ปืนถกู ผตู้ ายและถึงแก่ความตายในเวลาตอ่ มา การ 1 แมจ้ ะยิงไปตามคาส่งั ของจาเลยท่ี 2 โดยส่งั ใหย้ ิงลอ้ รถ แตเ่ ม 1 จงึ ยิงไปท่กี ระจกรถดา้ นผตู้ ายเพ่อื หยดุ ยงั้ มใิ หผ้ ตู้ ายหลบหนี พฤติการณใ์ นการยิงของจาเลยท่ี 1 และท่ี 2 เป็นเรอ่ื งทีต่ า่ งคน จาเลยท่ี 1 ยิงไปถกู กระจกแต่ไมถ่ กู ผตู้ าย การกระทาของจาเล

เล็งเหน็ ผล : ใช้นา้ กรด, ปื น ลยท่ี 1 นามาสาดใสโ่ จทกร์ ว่ มทงั้ สาม นอกจากจะมคี วาม ลถงึ 20 เปอรเ์ ซน็ ตข์ องรา่ งกาย จาเลยท่ี 1 ย่อมเลง็ เหน็ ผลไดว้ า่ วามตายได้ การท่จี าเลยท่ี 1 กบั พวกเตรยี มนา้ กรดมาเพ่อื สาด เลยท่ี 1 จงึ มีความผิดฐานพยายามฆา่ โจทกร์ ว่ มทงั้ สามโดย ประกอบมาตรา 80 จาเลยทงั้ สองมไิ ดม้ เี จตนาจะยิงผตู้ ายเพียงแต่ยิงไปเพ่อื ยิงเขา้ ไปในรถยอ่ มเลง็ เหน็ ผลไดว้ ่ากระสนุ ปืนอาจถกู ผตู้ ายได้ รกระทาของจาเลยท่ี 2 จงึ มีความผิดฐานฆา่ ผอู้ ่นื สว่ นจาเลยท่ี ม่อื จาเลยท่ี 1 ยิงลอ้ รถแลว้ ผตู้ ายยงั คงขบั รถต่อไปได้ จาเลยท่ี เป็นการเลง็ เหน็ ไดว้ ่ากระสนุ ปืนอาจถกู ผตู้ ายได้ แตจ่ าก นต่างยิงโดยมิไดม้ ีเจตนารว่ มกนั ยิงผตู้ าย เม่อื กระสนุ ปืนท่ี ลยท่ี 1 จงึ มคี วามผิดฐานพยายามฆา่ ผอู้ ่ืน

ตัวอยา่ งกรณีฆา่ โดยเจต โดยหลัก การใชอ้ าวธุ มีดกระทาตอ่ ผอู้ ่ืน จะเป การใชม้ ีดกระทาโดยแรงตอ่ อวยั วะสาคญั เป็นเจตนาฆ่า กรณีเจตนาทาร้ายโดยเลง็ เหน็ ผล ต้องเป็ น ทาร้ายโดยประสงคต์ อ่ ผล เช่น ใชป้ ืนยงิ ไปท่ีพืน้ หนง่ึ น จาเลยสองวา กระสนุ ถกู ฆ่าผเู้ สียหายบาดเจ็บ เป็นเจตน

ตนาเล็งเหน็ ผล : ใชม้ ีด ป็นเจตนาทารา้ ยโดยประสงคต์ อ่ ผล แตร่ ะวงั หากเป็น าโดยเลง็ เหน็ ผลได้ นกรณีทไ่ี ด้ความว่าไม่มเี จตนาฆ่าและไม่มเี จตนา นดั ขณะผเู้ สยี หายกาลงั เดินไปหาจาเลย และอยหู่ า่ ง นาทารา้ ยโดยเลง็ เหน็ ผล (ฎีกาท่ี 234/2529)

ตวั อยา่ งกรณีเจตนาทาให การทาตอ่ ทรพั ยผ์ อู้ ่ืนเพราะความโกรธหร ซบั โดยเลง็ เห็นผลไดเ้ ชน่ การท่ีจาเลยโยนโทรศพั ท จาเลยยอ่ มเลง็ เห็นไดว้ า่ โทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ีของผเู้ ปรากฏวา่ โทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ีของผเู้ สียหายไดร้ บั คว เป็นความผดิ ฐานพยายามทาใหเ้ สียทรพั ย์ (ฎีกาท

หเ้ สียทรัพยโ์ ดยเลง็ เหน็ ผล รอื หงึ หวงเจา้ ของ อาจเป็นกรณีเจตนาทาใหเ้ สยี ทเ์ คล่อื นท่ีของผเู้ สียหายลงไปท่ีชานพกั บนั ได เสียหายอาจจะเกิดความเสยี หายได้ เม่ือไม่ วามเสยี หายอยา่ งไร การกระทาของจาเลยจงึ ท่ี 112/2554)

ตัวอยา่ งเจตนาวางเพลงิ เ คาพพิ ากษาศาลฎกี าที่ 114/2531 การ เพราะไมพ่ อใจหญิงบรกิ ารของโรงนา้ ชานนั้ จาเล ไฟอาจจะลกุ ลามไหมเ้ ตยี งนอน ฝาผนงั เพดาน จ ความวา่ โรงนา้ ชานนั้ มีคนอยอู่ าศยั ดว้ ย จาเลยจงึ อยอู่ าศยั ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 21

เผาทรัพยโ์ ดยเลง็ เหน็ ผล รท่ีจาเลยจดุ ไฟเผาท่ีนอนในหอ้ งของโรงนา้ ชา ลยยอ่ มเลง็ เห็นผลไดว้ า่ เม่อื ท่ีนอนถกู เผาไหมแ้ ลว้ จนกระท่งั โรงนา้ ชาแหง่ นนั้ ทงั้ หมดได้ เม่ือได้ งตอ้ งมีความผิดฐานวางเพลงิ เผาโรงเรอื นท่ีคน 18(1)

เจต เจตนาตามความ เป็นจรงิ เจตนาประสงค์ เจตนาเลง็ เห็นผ ตอ่ ผล

ตนา เจตนาโดยผล ของกฎหมาย ผล เจตนาโดยพลาด 32

เจตนาโดยผลของกฎหมาย : เจตนาโดยพลา หลกั เกณฑข์ องการกระทาโดยพลาดตาม ป.อ. มาตรา 1. ตอ้ งมีผถู้ กู กระทาสองฝ่ายขนึ้ ไป ฝ่ายแรก คือ ผเู้ สียหายค ต่อผลหรอื เลง็ เหน็ ผล ฝ่ายท่สี อง คอื ผเู้ สียหายอีกคนหนงึ่ ท 2. การกระทาโดยพลาด ผกู้ ระทาจะตอ้ งไมป่ ระสงคต์ ่อผลต บคุ คลซง่ึ ไดร้ บั ผลรา้ ยดว้ ย หากเลง็ เหน็ ผลก็เป็นเจตนาตาม 60 3. หากกระทาโดยเจตนาต่อทรพั ยข์ องบคุ คลหน่งึ แตผ่ ลเกิด ตาม ป.อ. มาตรา 60 ได้ 4. แมผ้ ลจะเกิดขนึ้ แกผ่ เู้ สยี หายฝ่ายแรกสมเจตนาของผกู้ ระ กระทาโดยพลาดดว้ ยเชน่ กนั 5. การกระทาโดยพลาดตาม ป.อ. มาตรา 60 จะตอ้ งมผี ลเก

าด า 60 มดี งั ตอ่ ไปนี้ คนแรกท่ผี กู้ ระทามงุ่ หมายกระทาตอ่ โดยมเี จตนาประสงค์ ทไ่ี ดร้ บั ผลรา้ ยจากการกระทานนั้ ตอ่ บคุ คลผไู้ ดร้ บั ผลรา้ ยและตอ้ งไมเ่ ลง็ เห็นว่าผลจะเกิดแก่ ม ป.อ. มาตรา 59 มใิ ช่เจตนาโดยพลาดตาม ป.อ. มาตรา ดกบั ทรพั ยข์ องอีกคนหนึง่ ก็ถือวา่ เป็นการกระทาโดยพลาด ะทาหากผลไปเกิดแกผ่ เู้ สยี หายอกี ฝ่ายหน่งึ ก็ถือวา่ เป็นการ กิดขนึ้ แก่ผเู้ สยี หายฝ่ายท่สี องเสมอ 33

เจตนาโดยผลของกฎหมาย : เจตนาโดยพลา หลักเกณฑข์ องการกระทาโดยพลาดตาม ป.อ. มาตร 6. ตาม ป.อ. มาตรา 60 เป็นเจตนาโอน ดงั นนั้ หากเจตนา ดว้ ย หากเจตนาในตอนแรกเป็นเจตนาทารา้ ยเจตนาท่โี อน 7. หากเจตนาในตอนแรกเป็นเจตนาประเภทไตรต่ รองไวก้ ่อ ไวก้ ่อนเชน่ กนั 8. การกระทาโดยเจตนาตอ่ ผเู้ สยี หายฝ่ายแรกนนั้ หากผลไม ผกู้ ระทาตอ้ งรบั ผิดฐานพยายาม 9. ตาม ป.อ. มาตรา 60 เจตนาเทา่ นนั้ ท่สี ามารถโอนได้ สว่ 10. หากเจตนาในตอนแรกเป็นเจตนาพิเศษ เพ่อื ปอ้ งกนั สิท 67 หรอื เจตนาพิเศษในเรอ่ื งบนั ดาลโทสะ ตาม ป.อ. มาตร ฝ่ายหนง่ึ เจตนาพิเศษในตอนแรกดงั กลา่ วก็โอนไปดว้ ย

าด รา 60 มดี งั ตอ่ ไปนี้ (ตอ่ ) าในตอนแรกเป็นเจตนาฆา่ เจตนาท่โี อนมาก็เป็นเจตนาฆา่ นมาก็เป็นเจตนาทารา้ ยเชน่ กนั อน เจตนาท่โี อนมายงั ผไู้ ดร้ บั ผลรา้ ยก็เป็นเจตนาไตรต่ รอง มเ่ กิดแก่ผเู้ สียหายฝ่ายแรก ตามเจตนาของผูก้ ระทา วนการกระทาโดยประมาทโอนไมไ่ ด้ ทธิตามมาตรา 68 เจตนาพเิ ศษในเรอ่ื งจาเป็นตามมาตรา รา 72 แมจ้ ะมีการกระทาโดยพลาดเกิดผลแกผ่ เู้ สียหายอีก 34

ฎกี าที่ 3161/2559 จากคาเบกิ ความของผเู้ สีย ทาใหข้ วดไปกระทบกบั โตะ๊ เป็นเหตใุ หข้ วดแตก นา้ มนั ท่ เหน็ ไดว้ า่ ขณะท่ีจาเลยขวา้ งขวดบรรจนุ า้ มนั ท่ีมีไฟตดิ อย ผเู้ สยี หายท่ี 1 จาเลยยอ่ มเลง็ เหน็ ผลไดว้ า่ นา้ มนั ท่ีตดิ ไฟจ ผเู้ สยี หายท่ี 1 ได้ การกระทาของจาเลยจงึ เป็นการกระทา มาตรา 59 วรรคสอง หาใชเ่ ป็นการกระทาโดยพลาดตาม ฎกี าที่ 2832/2538 จาเลยไดน้ านา้ สม้ ผสมยาฆ ผเู้ สียหายโดยไตรต่ รองไวก้ ่อน แมจ้ าเลยจะมีเจตนา ฆ่าเ ผตู้ ายโดยพลาดไปกต็ อ้ งถือวา่ จาเลยมีเจตนาฆา่ ผตู้ าย โ มาตรา 60 ดว้ ย จาเลยมีความผดิ ตามมาตรา 289(4) ปร มาตรา 60

ยหายท่ี 2 วา่ คนรา้ ยขวา้ งขวดมาท่ีโต๊ะผเู้ สียหายท่ี 1 ทีอยใู่ นขวดกระเด็นมาถกู ผเู้ สียหายท่ี 2 และมีไฟลกุ ขนึ้ ยไู่ ปท่ีโต๊ะของผเู้ สียท่ี 1 นนั้ ผเู้ สยี หายท่ี 2 น่งั อยใู่ กลก้ บั จะกระเด็นไปถกู ผเู้ สียหายท่ี 2 ซง่ึ น่งั อยใู่ กลก้ บั าโดยเจตนาเลง็ เหน็ ผลตามประมวลกฎหมายอาญา มประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 60 ฆ่าแมลงไปถวายพระภิกษุผเู้ สยี หาย โดยเจตนาฆ่า เฉพาะผเู้ สียหาย แตเ่ ม่ือผลแหง่ การกระทาเกิดขนึ้ แก่ โดยไตรต่ รองไวก้ ่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา ระกอบดว้ ยมาตรา 80 และมาตรา 289(4) ประกอบดว้ ย 35

องคป์ ระกอบภ มาตรา 59 วรรคส่ี : กระทาโดยประมา กระทาโดยปราศจากความระมดั ระวงั ซง่ึ บคุ คลในภ และผกู้ ระทาอาจใชค้ วามระมดั ระวงั เช่นวา่ นนั้ ได้ แ • ภาวะ หมายถึง ขณะกระทาการนนั้ ๆ เชน่ ขณ • วิสยั หมายถงึ สภาพภายในตวั ผกู้ ระทา เช่น เจนแหง่ ชีวติ วิชาชีพ เป็นตน้ • พฤติการณ์ หมายถึง เหตภุ ายนอกตวั ผกู้ ระทา ตน้

ภายใน : ประมาท าท ไดแ้ ก่กระทาความผิดมใิ ช่โดยเจตนา แต่ ภาวะเช่นนนั้ จกั ตอ้ งมีตามวสิ ยั และพฤตกิ ารณ์ แตห่ าไดใ้ ชใ้ หเ้ พียงพอไม่ ณะขบั รถไปตามถนน ขณะหยิบปืนมาเชด็ เป็นตน้ วสิ ยั คนธรรมดา อายุ เพศ การศกึ ษา ความจดั า เชน่ สภาพรถ สภาพถนน สภาพแวดลอ้ ม เป็น 36

ตวั อย่าง : มา มาตรา 291 \"ผใู้ ดกระทาโดยประม ความตาย ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินสบิ ปี แ องคป์ ระกอบความผดิ (1) ผใู้ ด (2) กระทาโดยประการใด (3) เป็นเหตใุ หผ้ อู้ ่ืนถึงแก่ความตาย (4) โดยประมาท (องคป์ ระกอบภาย

าตรา 291 มาท และการกระทานนั้ เป็นเหตใุ หผ้ อู้ ่ืนถงึ แก่ และปรบั ไมเ่ กินสองแสนบาท\" ย ยใน (ไมต่ อ้ งมีเจตนา)) 37

ฎกี าท่ี 3055/2551 การท่ีจาเลยขบั รถขณะเ มาตรา 43 (2), 160 วรรคสาม กบั การท่ีจาเลยขบั รถดว ความเรว็ ของรถลงและหยดุ รถเพ่ือใหร้ ถยนตข์ องผตู้ าย กระทาโดยประมาท เป็นเหตใุ หร้ ถยนตข์ องจาเลยพงุ่ เข ตาย อนั เป็นความผดิ ตาม ป.อ. มาตรา 291 และ พ.ร. กระทาท่ีเก่ียวกนั และเป็นผลโดยตรงท่ีทาใหผ้ ตู้ ายถงึ แก ตอ่ กฎหมายหลายบท ตอ้ งลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 29 มาตรา 90

เมาสรุ าอนั เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ว้ ยความเรว็ สงู ในขณะเมาสรุ าจนไมส่ ามารถลด ยเลยี้ วขวาผ่านไปก่อน ซง่ึ เป็นสาเหตสุ ่วนหน่งึ ของการ ขา้ เฉ่ียวชนรถยนตท์ ่ีผตู้ ายขบั และผตู้ ายถึงแกค่ วาม .บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 43 (4), 157 นนั้ เป็นการ ก่ความตายจงึ เป็นการกระทากรรมเดียวเป็นความผดิ 91 ซง่ึ เป็นกฎหมายบทท่ีมีโทษหนกั ท่ีสดุ ตาม ป.อ. 38

จอดรถไม่ระมัดระวัง เป็ น ฎกี าท่ี 2884/2555 การท่ีจาเลยจอดรถโดยส คนั รถ ควรท่ีจาเลยจะตอ้ งปฏิบตั ิตามกฎจราจรอยา่ งเค เพ่ือใหร้ ถท่ีแลน่ ผา่ นบรเิ วณนนั้ ไดเ้ หน็ ชดั เจน เพ่ือไมใ่ ห ชนทา้ ยรถคนั ท่ีจาเลยขบั โดยทา้ ยรถของผตู้ ายชนกบั ท รถอยา่ งกะทนั หนั ทาใหร้ ถหมนุ ยอ่ มบง่ แสดงวา่ ผตู้ าย หรอื มิฉะนนั้ อาจเกิดจากผตู้ ายขบั รถทบั ยางรถยนตท์ ่ีจ สียางรถยนตก์ บั สพี ืน้ ถนนกลมกลืนกนั ทาใหผ้ ตู้ ายมอ เฉ่ียวชนกนั จงึ เกิดจากความประมาทของจาเลย ท่ีจอด หรอื สญั ญาณใหผ้ ตู้ ายท่ีขบั ตามหลงั มาเหน็ แตก่ ารกร ความตายกบั ความผดิ ฐานจอดรถโดยไมแ่ สดงเคร่ืองห กฎหมายหลายบท จงึ ลงโทษบทหนกั

นการกระทาโดยประมาท สว่ นของรถลา้ เขา้ ไปในช่องเดนิ รถดา้ นซา้ ยเกือบครง่ึ ครง่ ครดั กลา่ วคือตอ้ งแสดงเคร่อื งหมายหรอื สญั ญาณ หเ้ กิดอบุ ตั เิ หตุ การท่ีผตู้ ายขบั รถมาตามทางแลว้ เฉ่ียว ทา้ ยรถคนั ท่ีจาเลยขบั แสดงใหเ้ หน็ วา่ ผตู้ ายไดห้ า้ มลอ้ ยเหน็ รถคนั ท่ีจาเลยขบั มาจอดไวใ้ นระยะกระชนั้ ชิด จาเลยวางไว้ จงึ ตกใจหา้ มลอ้ อยา่ งกะทนั หนั เน่ืองจาก องไมเ่ หน็ เม่ือรถทบั ยางจงึ ตกใจแลว้ จงึ หา้ มลอ้ เหตุ ดรถลา้ เขา้ ไปในช่องเดนิ รถ แลว้ ไมแ่ สดงเครอื่ งหมาย ระทาฐานขบั รถโดยประมาทเป็นเหตใุ หผ้ อู้ ่ืนถงึ แก่ หมายหรือสญั ญาณ เป็นการกระทากรรมเดียวผิด 39

ข้อสังเกต 1. การกระทาโดยประมาทไมม่ ีการพยายามกระทาค กระทาความผิดมีไดเ้ ฉพาะในการกระทาความผดิ 2. การกระทาโดยประมาทจะมีการรว่ มกระทาในฐา เป็นผใู้ ชต้ ามมาตรา 84 หรอื สนบั สนนุ ใหก้ ระทาใ ท่ีมีผกู้ ระทาโดยประมาทหลายคน ตา่ งคนตา่ งรบั รว่ มกระทากบั ผอู้ ่ืนโดยเป็นตวั การ ถือวา่ ตา่ งคนต ประมาท) 3. การไมค่ วบคมุ ดแู ลสตั วด์ ใุ หด้ ีปลอ่ ยใหไ้ ปทาอนั ต

ความผิดตามมาตรา 80 เพราะวา่ การพยายาม ดโดยเจตนาเทา่ นนั้ านะเป็นตวั การตามมาตรา 83 ใชใ้ หก้ ระทาในฐานะท่ี ในฐานะเป็นผสู้ นบั สนนุ ตามมาตรา 86 ไมไ่ ด้ (ในกรณี บผิดฐานประมาทในการกระทาของตน ไมใ่ ช่ในฐานะ ตา่ งประมาท ไมใ่ ชต่ วั การรว่ มในการกระทาโดย ตรายแกผ่ อู้ ่ืน เจา้ ของสตั วต์ อ้ งรบั ผิดฐานประมาทดว้ ย 40

1.4 ความสัมพนั ธร์ ะห การจะมาพจิ ารณาขอ้ 1.4 ได้ จะต ตวั อยา่ ง นายแดงขบั รถดว้ ยความระมดั ร โดยกระชนั้ ชดิ นายแดงซง่ึ ขบั รถดว้ ยความระมดั ระ รถไดท้ นั รถของนายแดงชนเดก็ ชายดาตาย กรณีนี.้ ..นายแดงไมไ่ ดเ้ จตนา และไมไ่ ดป้ ขาดองคป์ ระกอบภายในตามขอ้ 1.3 จงึ ไมต่ อ้ งพิจ หรอื ไม่

หวา่ งการกระทาและผล ตอ้ งผ่านข้อ 1.1, 1.2, 1.3 มากอ่ น ระวงั ไปตามทอ้ งถนนเดก็ ชายดาว่งิ ตดั หนา้ รถ ะวงั ตามอตั ราท่ีกฎหมายกาหนดไม่สามารถหยดุ ประมาท จงึ ไมม่ คี วามผิดตามมาตรา 291 เพราะ จารณาขอ้ 1.4 วา่ ความตายเป็นผลโดยตรง 41

1.4 ความสัมพนั ธร์ ะหว ความผิดอาญาท่ีตอ้ งมีผลจากการกระทา เช จะตอ้ งรบั ผดิ ในผลนนั้ ตอ่ เม่ือมีความ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งการกระทาและผล การวินิจฉยั ตอ้ งมีขอ้ 1 ทกุ กรณี หากมีขอ้ 2 = 1+2 หากมี ขอ้ 3 = 1+3 จะไมม่ ี 1+2+3 หรอื 2+3

วา่ งการกระทาและผล ชน่ มาตรา 288 ผลคอื ความตาย ผกู้ ระทา มสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการกระทาและผล ผลโดยตรง ล ผลธรรมดา เหตุแทรกแซง 42

ผลโดย “ถ้าไม่มกี ารกระทา(เจตนา/ประมาท) ผลจะไ จากการกระทานนั้ แมผ้ ลนนั้ จะตอ้ งเ แตถ่ ้าไม่มกี ารกระทา ผลกย็ งั เกดิ กถ็ อื ว่าผ ตัวอย่าง จาเลยขับรถบรรทุกผ่านทางแยกท ความเรว็ โดยไม่ลดความเรว็ ลงเลย ถือเป็นการขบั รถโดย 40 เมตร แตถ่ า้ จาเลยไมข่ บั รถเรว็ ยอ่ มหยดุ รถไดท้ นั และไ ตายจงึ เป็นผลโดยตรงจากความประมาทของจาเลย = ถา้ ไม่ประมาท ผลจะไม่เกดิ

ยตรง ไม่เกดิ ถอื ว่าผลทเี่ กดิ ขนึ้ นั้นเป็ นผลโดยตรง เกิดจากการกระทาอ่ืน ๆ ดว้ ยกต็ าม ผลทเ่ี กดิ ไม่ใช่ผลโดยตรงจากการกระทานนั้ ” ท่ีสองข้างทางเป็นรา้ นค้าและบ้านคนอยู่อาศัยด้วย ยประมาท แมเ้ ดก็ ชายดาจะว่ิงตดั หนา้ รถจาเลยในระยะ ไมช่ นเดก็ ชายดา การท่ีจาเลยชนเดก็ ชายดาถงึ แก่ความ ด ผลทเ่ี กดิ เป็ นผลโดยตรง 43

วิ่งหลบหนีจากการถูกวิ่งไล่ทาร้าย ฎีกาที่ 9413/2552 ตาม ป.อ. มาตรา 290 ผอู้ ่ืนจนเป็นเหตใุ หผ้ นู้ นั้ ถึงแก่ความตาย ตอ้ งระวางโทษจ ผใู้ ดทารา้ ยผอู้ ่ืนจนเป็นเหตใุ หผ้ นู้ นั้ ถงึ แกค่ วามตายโดยมิไ เป็นการบญั ญัติใหไ้ ดร้ บั โทษหนกั ขึน้ แตกต่างจากความ หรือจิตใจของผอู้ ่ืน หรือความผิดฐานทารา้ ยร่างกายจน ความผิดฐานใชก้ าลงั ทารา้ ยผอู้ ่ืนโดยไม่ถึงกบั เป็นเหตใุ ห 297 และ 391 ตามลาดบั อนั แสดงใหเ้ ห็นถึงกฎหมายเจ แตกตา่ งกนั ไปตามความหนกั เบาของผลท่ีเกิดขนึ้ เม่ือจา รา้ ยผตู้ ายจนเป็นเหตใุ หผ้ ตู้ ายว่ิงหลบหนีกระโดดลงนา้ จ ทารา้ ยผตู้ าย ซ่ึงเม่ือมิใช่กระทาโดยมีเจตนาฆ่า แต่การ ความผดิ สาเรจ็ ตาม ป.อ. มาตรา 290 วรรคแรกแลว้ หาใ

ยโดยกระโดดลงนา้ และจมนา้ ตาย 0 วรรคแรก ท่ีบญั ญัติว่า \"ผใู้ ดมิไดม้ ีเจตนาฆ่าแต่ทารา้ ย จาคกุ ตงั้ แตส่ ามปีถึงสิบหา้ ปี \" นนั้ มีความหมายวา่ หาก ไดม้ ีเจตนาฆา่ แลว้ ผนู้ ัน้ ยอ่ มมีความผิดตามมาตรานี้ ซ่งึ มผิดฐานทารา้ ยผอู้ ่ืนจนเป็นเหตใุ ห้เกิดอนั ตรายแก่กาย นเป็นเหตใุ หผ้ ถู้ กู กระทารา้ ยรบั อนั ตรายสาหสั ตลอดจน หเ้ กิดอนั ตรายแก่กายหรือจิตใจ ตาม ป.อ. มาตรา 295, จตนาใหผ้ กู้ ระทาตอ้ งรบั โทษตามผลของการกระทานนั้ าเลยท่ี 2 ใชม้ ีดดาบเป็นอาวธุ ไลฟ่ ันผตู้ ายอนั เป็นการทา จนถงึ แก่ความตาย การกระทาของจาเลยท่ี 2 จึงเป็นการ รกระทานนั้ เป็นเหตุทาใหผ้ ตู้ ายถึงแก่ความตายจึงเป็น ใช่เป็นเพียงการพยายามกระทาความผดิ ไม่ 44

ถูกทาร้าย ทาใหห้ วั ใจเตน้ ผดิ ปก ฎีกาท่ี 1593/2542 ผตู้ ายมีโรคเดิมอย ทาใหห้ วั ใจวายอนั เป็นสาเหตใุ หผ้ ตู้ ายถึงแก่ความ ทาใหเ้ กิดอาการตกใจ หวั ใจเตน้ ผิดปกตจิ นถึงแก กระทาของจาเลย เป็นความผิดฐานมิไดเ้ จตนาฆ ตาย แมผ้ ตู้ ายเคยเขา้ รบั การรกั ษาโรคหวั ใจมาก่อ โดยมใิ ช่เกิดจากการทารา้ ยของจาเลย

กตแิ ละหวั ใจวายถงึ แก่ความตาย ย่แู ลว้ เม่ือเกิดอาการตกใจทาใหห้ วั ใจเตน้ ผิดปกติ มตายไดก้ ารท่ีจาเลยใชก้ อ้ นหินตที ่ีหนา้ ของผตู้ าย ก่ความตาย ความตายจึงเป็นผลโดยตรงจากการ ฆ่าแต่ทารา้ ยผอู้ ่ืนจนเป็นเหตใุ ห้ผนู้ นั้ ถึงแก่ความ อน ก็ไมเ่ ป็นเหตใุ หร้ บั ฟังวา่ ผู้ตายถึงแก่ความตาย 45

“ถา้ ไมม่ ีการกระทา(เจตนา/ประมาท) ผลจะ จากการกระทานนั้ แม้ผลนั้นจะตอ้ งเก ฎกี าท่ี 2210/2544 แมข้ อ้ เทจ็ จรงิ จะฟังไดว้ า่ จดุ ท ของถนนในลกั ษณะท่ีไมก่ ีดขวางการจราจรแลว้ ก็ตาม แตก่ แสงสวา่ งตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวงเพ่ือเป็นสญั ญาณให รถจกั รยานยนตพ์ งุ่ เขา้ ชนทา้ ยรถคนั ท่ีจาเลยจอดทาใหผ้ ตู้ า ไมว่ า่ จะฟังวา่ ผตู้ ายมีสว่ นประมาทอยดู่ ว้ ยกต็ ามก็ตอ้ งถือวา่ จาเลยดว้ ยจงึ เป็นผลโดยตรงท่ีเกิดจากความประมาทของจ ผลท่ีเกิดขนึ้ โดยตรงจากการขบั รถของจาเลยไม่ จาเลยจงึ ไม จราจรทางบกฯ มาตรา 43(4),157 คงผิดฐานกระทาโดยปร กฎหมายอาญา มาตรา 291

ะไม่เกิด ถือวา่ ผลท่ีเกิดขนึ้ นนั้ เป็นผลโดยตรง กดิ จากการกระทาอน่ื ๆ ดว้ ยกต็ าม ท่ีจาเลยจอดรถและเกิดเหตชุ นกนั อยใู่ นไหลท่ างดา้ นซา้ ย การท่ีจาเลยจอดรถในเวลามืดค่าโดยไมไ่ ดเ้ ปิดไฟหรอื ใช้ หผ้ ขู้ บั ข่ีมองเหน็ รถท่ีจอดอยู่ จนเป็นเหตใุ หผ้ ตู้ ายขบั ายถงึ แกค่ วามตาย อนั เป็นผลจากความประมาทของจาเลย าเหตทุ ่ีผตู้ ายถงึ แกค่ วามตายเกิดเพราะความประมาทของ จาเลยท่ีงดเวน้ การท่ีจกั ตอ้ งกระทาเพ่ือป้องกนั ผลนนั้ หาใช่ มม่ ีความผดิ ฐานขบั รถโดยประมาทตามพระราชบญั ญตั ิ ระมาทเป็นเหตใุ หผ้ อู้ ่ืนถงึ แก่ความตายตามประมวล 46

“ถา้ ไม่มกี ารกระทา ผลกย็ ังเกดิ กถ็ อื วา่ กระชนั้ ชดิ จาเลยท่ี 2 จาเลยท่ี 1 รถจกั รยานยนต์ รถยนตบ์ รรทกุ

าผลทเ่ี กดิ ไม่ใช่ผลโดยตรงจากการกระทานนั้ ” ฎกี าท่ี 717/2509 รถจกั รยานยนตข์ องจาเลย ท่ี 2 แลน่ ในช่องทางท่ี 1 หา่ งขอบถนนทางซา้ ย 1 เมตร จาเลยท่ี 1 ขบั รถยนตบ์ รรทกุ ในชอ่ งทางท่ี 2 ซง่ึ อยถู่ ดั ไป แลว้ ขบั เฉียงเขา้ มาขวางในช่องทางของรถจาเลยท่ี 2 โดยกระชนั้ ชิดเพ่ือจะเลยี้ วซา้ ย กรณีนี้ จะเหน็ ไดว้ า่ แม้ จาเลยท่ี 2 จะขบั รถเรว็ นอ้ ยกวา่ ท่ีขบั อยู่ กต็ อ้ งชนกนั ดงั นนั้ แมไ้ มม่ ีการกระทาของจาเลยท่ี 2 รถกย็ งั ชนกนั ก็ ถือไดว้ า่ ผลท่ีเกิดขนึ้ ไมใ่ ชผ่ ลโดยตรงจากการกระทาของ จาเลยท่ี 2 47

ผลธร มาตรา 63 ถา้ ผลของการกระทาความ การกระทาความผดิ นนั้ ตอ้ งเป็นผลทต่ี ามธรรม ถ้าผลนั้นทาใหผ้ ู้กระทาต้องรับโทษหนักขนึ้ ผลนั้น ผลโดยตรง แตผ่ ลนั้น “ผดิ ธรรมดา

รรมดา มผิดใดทาใหผ้ กู้ ระทาตอ้ งรบั โทษหนกั ขนึ้ ผลของ มดายอ่ มเกดิ ขนึ้ ได้ นต้องเป็ นทัง้ “ผลโดยตรง” และ “ผลธรรมดา” ถา้ เป็ น า” ผู้กระทากไ็ ม่ตอ้ งรับโทษหนักขนึ้ 48

ตัวอยา่ ง นายดาชกนายแดงท่ีใบหนา้ แตถ่ กู ดวงต 1.ผล คอื อนั ตรายสาหสั ตามมาตรา 297 ขนึ้ กลา่ วคอื ในขณะกระทา ผกู้ ระทามีเจตนาตอ่ เกิดขนึ้ ดว้ ย อนั เป็นผลท่ีเกิดขนึ้ เหนือจากเจตนาใน 2.ผลนนั้ จะตอ้ งเป็น “ผลท่ีตามธรรมดาย Note : อนั ตรายสาหสั ตามมาตรา 297 เ อนั ตรายแก่กายหรอื จิตใจตามมาตรา 295 ดงั นนั้ ตาบอด (ผล) นนั้ 1.เป็นผลโดย 2.เป็นผลธรรม

ตา ทาใหน้ ายแดงไดร้ บั อนั ตรายสาหสั ตาบอด 7 เป็นผลท่ีทาใหน้ ายดาผกู้ ระทาตอ้ งรบั โทษหนกั อผลอยา่ งหน่งึ แตใ่ นบนั้ ปลายมผี ลอีกอยา่ งหน่งึ นตอนแรก ยอ่ มเกิดขนึ้ ได”้ คือ ตอ้ งเป็นผลธรรมดา เป็นผลท่ีทาใหผ้ กู้ ระทาตอ้ งรบั โทษหนกั ขนึ้ จาก น ตอ้ ง... ยตรง มดาตามมาตรา 63 49

ผลธรรมดา คอื ผลทวี่ ญิ ญูชนคา โดย “คาดเหน็ ผล” ไม่จาตอ้ งถงึ ขั้น “เจตน ฎกี าท่ี 1867/2553 จาเลยใชอ้ าวธุ มีดปลายแหล และรถยนตข์ องบิดาของผเู้ สยี หายท่ีอยใู่ นความครอบครอ ใหผ้ เู้ สียหายรบั อนั ตรายแกก่ ายเป็นผลใหจ้ าเลยกต็ อ้ งรบั โท ท่ีตน้ แขนซา้ ยจากมีดของจาเลยเน่ืองจากอบุ ตั ิเหตุ จาเลยไ เบิกความ ผเู้ สียหายไมท่ ราบวา่ ไปโดนคมมีดตอนไหน เขา้ ไมไ่ ดเ้ กิดจากจาเลยมีเจตนาใชม้ ีดทารา้ ยผเู้ สยี หายกต็ ามก ดว้ ยเหตทุ ่ีผเู้ สยี หายรบั อนั ตรายแก่กายนนั้ จาเลยไมจ่ าตอ้ รบั อนั ตรายแก่กายนนั้ เป็นผลท่ีตามธรรมดายอ่ มเกิดขนึ้ ได ปลายแหลมจีผ้ เู้ สยี หาย การท่ีผเู้ สยี หายรบั อนั ตรายแกก่ าย กระทาของจาเลยแลว้ จาเลยมีความผิดฐานชิงทรพั ยเ์ ป็นเ