150 มาตรา ๓๐๔ ผู้ใดเพียงแต่พยายามกระทาความผิดตามมาตรา ๓๐๑ หรือมาตรา ๓๐๒ วรรคแรก ผ้นู นั้ ไมต่ ้องรับโทษ * มาตรา ๓๐๕ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๓๐๑ หรือมาตรา ๓๐๒ เป็ นการกระทาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลกั เกณฑ์ ของแพทยสภาในกรณีดงั ตอ่ ไปนี ้ผ้กู ระทาไมม่ คี วามผิด (๑) จาเป็นต้องกระทาเน่ืองจากหากหญิงตงั้ ครรภ์ตอ่ ไปจะเส่ียงตอ่ การได้รับอนั ตรายตอ่ สขุ ภาพทางกายหรือจิตใจของหญิงนนั้ (๒) จาเป็ นต้ องกระทาเนื่องจากมีความเส่ียงอย่างมากหรื อ มีเ หตุผ ลท า งก า รแ พ ทย์ อันค ว รเ ช่ื อไ ด้ ว่า หา ก ทา ร กค ล อด อ อก ม าจ ะ มี ความผิดปกตถิ งึ ขนาดทพุ พลภาพอย่างร้ายแรง (๓) หญิงยืนยันต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมว่าตนมีครรภ์ เน่ืองจากมกี ารกระทาความผิดเกี่ยวกบั เพศ (๔) หญิงซ่ึงมีอายุครรภ์ไม่เกินสิบสองสปั ดาห์ยืนยันท่ีจะยุติการ ตงั้ ครรภ์ (๕) หญิงซงึ่ มีอายคุ รรภ์เกินสิบสองสปั ดาห์ แต่ไม่เกินยี่สิบสปั ดาห์ ยืนยันท่ีจะยุติการตงั้ ครรภ์ภายหลงั การตรวจและรับคาปรึกษาทางเลือก จากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพอ่ืนตามหลกั เกณฑ์ และวิธี การท่ีรั ฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกา หนดโดย คาแนะนาของแพทยสภาและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้ องตามกฎหมายว่าด้ วย การป้ องกนั และแก้ไขปัญหาการตงั้ ครรภ์ในวยั รุ่น ____________________________________ *มาตรา ๓๐๕ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๘) พ.ศ. ๒๕๖๔ มาตรา ๔ ใช้บงั คบั ตงั้ แต่ วนั ท่ี ๗ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔ (ราชกิจจานเุ บกษาวนั ท่ี ๖ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔)
151 หมวด ๔ ความผิดฐานทอดทงิ้ เดก็ คนป่ วยเจบ็ หรือคนชรา *มาตรา ๓๐๖ ผู้ใดทอดทิง้ เด็กอายุยังไม่เกินเก้าปี ไว้ ณ ที่ใด เพ่ือ ให้เด็กนัน้ พ้นไปเสียจากตน โดยประการท่ีทาให้เด็กนัน้ ปราศจากผู้ดูแล ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทงั้ จา ทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๐๗ ผู้ใดมีหน้าท่ีตามกฎหมายหรือตามสญั ญา ต้องดูแล ผู้ซึ่งพึ่งตนเองมิได้ เพราะอายุ ความป่ วยเจ็บ กายพิการหรือจิตพิ การ ทอดทิง้ ผู้ซ่ึงพ่ึงตนเองมิได้นัน้ เสียโดยประการที่น่าจะเป็ นเหตุให้ เกิด อนั ตรายแก่ชีวติ ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่น บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ มาตรา ๓๐๘ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๓๐๖ หรือมาตรา ๓๐๗ เป็ นเหตุให้ ผู้ถูกทอดทิง้ ถึงแก่ความตายหรือรับอันตรายสาหัส ผ้กู ระทาต้องระวางโทษดงั ที่บญั ญตั ิไว้ในมาตรา ๒๙๐ มาตรา ๒๙๗ หรือ มาตรา ๒๙๘ นนั้ ____________________________________ *มาตรา ๓๐๖ และมาตรา ๓๐๗ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่มิ เติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
152 ลักษณะ ๑๑ ความผดิ เก่ียวกับเสรีภาพและช่อื เสียง หมวด ๑ ความผดิ ต่อเสรีภาพ *มาตรา ๓๐๙ ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทาการใด ไม่กระทาการใด หรือจายอมต่อส่ิงใด โดยทาให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ช่ือเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนัน้ เองหรือของผู้อ่ืน หรือโดยใช้กาลงั ประทุษร้ ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทาการนนั้ ไม่กระทา การนัน้ หรือจายอมต่อสิ่งนนั้ ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสามปี หรือปรับ ไมเ่ กินหกหมน่ื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ถ้าความผิดตามวรรคแรกได้กระทาโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทา ความผิดด้วยกันตัง้ แต่ห้าคนขึน้ ไป หรือได้กระทาเพ่ือให้ผู้ถูกข่มขืนใจ ทา ถอน ทาให้ เสียหาย หรือทาลายเอกสารสิทธิอย่างใด ผู้กระทา ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาท หรือทงั้ จา ทงั้ ปรับ ถ้ากระทาโดยอ้างอานาจองั้ ยี่หรือซ่องโจร ไมว่ ่าองั้ ย่ีหรือซ่องโจรนนั้ จะมีอยู่หรือไม่ ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกตัง้ แต่หนึ่งปี ถึงเจ็ดปี และ ปรับตงั้ แตส่ องหมน่ื บาทถงึ หนงึ่ แสนส่ีหมนื่ บาท ____________________________________ *มาตรา ๓๐๙ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพมิ่ เติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
153 *มาตรา ๓๑๐ ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทาด้วย ประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ต้องระวางโทษจาคุก ไมเ่ กินสามปี หรือปรับไมเ่ กินหกหม่นื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ถ้าการกระทาความผิดตามวรรคแรก เป็ นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยว ถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนัน้ ถึงแก่ความตาย หรือ รับอนั ตรายสาหสั ผู้กระทาต้องระวางโทษดงั ท่ีบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๙๐ มาตรา ๒๙๗ หรือมาตรา ๒๙๘ นนั้ **มาตรา ๓๑๐ ทวิ ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อ่ืน หรือกระทา ด้วยประการใดให้ผ้อู ื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผ้อู ่ืนนนั้ กระทา การใดให้ แก่ผู้กระทาหรือบุคคลอ่ืน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้ าปี และปรับไมเ่ กินหนง่ึ แสนบาท ***มาตรา ๓๑๑ ผู้ใดกระทาโดยประมาท และการกระทานนั้ เป็ นเหตุ ให้ผู้อื่นถูกหน่วงเหนี่ยว ถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหนงึ่ ปี หรือปรับไมเ่ กินสองหมื่นบาท หรือทงั้ จา ทงั้ ปรับ ถ้าการกระทาความผิดตามวรรคแรก เป็ นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหน่ียว ถูกกักขัง หรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนัน้ ถึงแก่ความตายหรือ ____________________________________ *มาตรา ๓๑๐ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔ **มาตรา ๓๑๐ ทวิ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพม่ิ เติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๔ ***มาตรา ๓๑๑ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
154 รับอนั ตรายสาหสั ผู้กระทาต้องระวางโทษดงั ท่ีบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๙๑ หรือมาตรา ๓๐๐ *มาตรา ๓๑๒ ผู้ใดเพ่ือจะเอาคนลงเป็ นทาส หรื อให้ มีฐานะ คล้ายทาส นาเข้าในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจกั ร พามาจากที่ใด ซือ้ ขาย จาหน่าย รับหรือหน่วงเหน่ียวซง่ึ บุคคลหนึ่งบุคคลใด ต้องระวางโทษ จาคกุ ไมเ่ กินเจ็ดปี และปรับไมเ่ กินหนง่ึ แสนสี่หม่ืนบาท **มาตรา ๓๑๒ ทวิ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๓๑๐ ทวิ หรือ มาตรา ๓๑๒ เป็ นการกระทาต่อเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ผู้กระทาต้อง ระวางโทษจาคกุ ตงั้ แตส่ ามปี ถงึ สิบปี และปรับไมเ่ กินสองแสนบาท ถ้าการกระทาความผิดตามวรรคแรก หรือมาตรา ๓๑๐ ทวิ หรือ มาตรา ๓๑๒ เป็นเหตใุ ห้ผ้ถู กู กระทา (๑) รับอนั ตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุก ตงั้ แตห่ ้าปี ถงึ สิบห้าปี และปรับไมเ่ กินสามแสนบาท (๒) รับอันตรายสาหัส ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกตลอดชีวิต หรือจาคกุ ตงั้ แตเ่ จ็ดปี ถงึ ยี่สิบปี (๓) ถึงแก่ความตาย ผู้กระทาต้องระวางโทษประหารชีวิต จาคุก ตลอดชีวติ หรือจาคกุ ตงั้ แตส่ ิบห้าปี ถงึ ย่ีสบิ ปี ____________________________________ *มาตรา ๓๑๒ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔ **มาตรา ๓๑๒ ทวิ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพม่ิ เติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๔
155 *มาตรา ๓๑๒ ตรี ผ้ใู ดโดยทจุ ริตรับไว้ จาหนา่ ย เป็นธุระจดั หา ลอ่ ไป หรือพาไปซึ่งบุคคลอายุเกินสิบห้ าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี แม้ ผู้นัน้ จะยินยอมก็ตาม ต้ องระวางโทษจาคุกไม่เกิ นห้ าปี หรือปรับไม่เกิน หนงึ่ แสนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ถ้าการกระทาความผิดตามวรรคแรก เป็ นการกระทาแก่เด็กอายุ ยงั ไมเ่ กินสิบห้าปี ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินเจ็ดปี หรือปรับไมเ่ กิน หนง่ึ แสนส่ีหมืน่ บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ **มาตรา ๓๑๓ ผ้ใู ดเพื่อให้ได้มาซงึ่ คา่ ไถ่ (๑) เอาตวั เดก็ อายไุ มเ่ กินสิบห้าปี ไป (๒) เอาตวั บคุ คลอายกุ วา่ สิบห้าปี ไป โดยใช้อบุ ายหลอกลวง ข่เู ข็ญ ใช้กาลงั ประทุษร้ าย ใช้อานาจครอบงาผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจ ด้วยประการอนื่ ใด หรือ (๓) หน่วงเหน่ียวหรือกกั ขงั บคุ คลใด ต้องระวางโทษจาคกุ ตงั้ แตส่ ิบห้าปี ถงึ ย่ีสิบปี และปรับตงั้ แตส่ ามแสน บาทถงึ ส่ีแสนบาท หรือจาคกุ ตลอดชีวิต หรือประหารชีวติ ถ้าการกระทาความผิดตามวรรคแรกเป็ นเหตใุ ห้ผ้ถู ูกเอาตวั ไป ผ้ถู ูก หน่วงเหน่ียวหรือผู้ถูกกักขงั นนั้ รับอนั ตรายสาหสั หรือเป็ นการกระทาโดย ทรมาน หรือโดยทารุณโหดร้ าย จนเป็ นเหตใุ ห้ผู้ถูกกระทานนั้ รับอนั ตราย แกก่ ายหรือจิตใจ ผ้กู ระทาต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจาคกุ ตลอดชีวิต ____________________________________ *มาตรา ๓๑๒ ตรี แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่มิ เติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๒ **มาตรา ๓๑๓ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๑
156 ถ้ าการกระทาความผิดนัน้ เป็ นเหตุให้ ผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูก หน่วงเหนี่ยวหรือผู้ถูกกักขังนัน้ ถึงแก่ความตาย ผู้กระทาต้องระวางโทษ ประหารชีวิต มาตรา ๓๑๔ ผ้ใู ดเป็นผ้สู นบั สนุนในการกระทาความผิดตามมาตรา ๓๑๓ ต้องระวางโทษเช่นเดยี วกบั ตวั การในความผิดนนั้ *มาตรา ๓๑๕ ผู้ใดกระทาการเป็ นคนกลาง โดยเรียก รับหรือยอม จะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อย่างใดท่ีมิควรได้จากผ้กู ระทาความผิดตาม มาตรา ๓๑๓ หรือจากผู้ที่จะให้ค่าไถ่ ต้องระวางโทษจาคกุ ตงั้ แต่สิบห้าปี ถึงยี่สิบปี และปรับตงั้ แต่สามแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจาคกุ ตลอดชีวิต มาตรา ๓๑๖ ถ้าผ้กู ระทาความผิดตามมาตรา ๓๑๓ มาตรา ๓๑๔ หรือมาตรา ๓๑๕ จัดให้ผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือผู้ถูกกักขัง ได้รับเสรีภาพกอ่ นศาลชนั้ ต้นพิพากษา โดยผู้นนั้ มิได้รับอนั ตรายสาหสั หรือ ตกอย่ใู นภาวะอนั ใกล้จะเป็นอนั ตรายตอ่ ชีวติ ให้ลงโทษน้อยกว่าท่ีกฎหมาย กาหนดไว้ แตไ่ มน่ ้อยกวา่ กงึ่ หนงึ่ **มาตรา ๓๑๗ ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยัง ไมเ่ กินสิบห้าปี ไปเสยี จากบิดามารดา ผ้ปู กครอง หรือผ้ดู แู ล ต้องระวางโทษ ____________________________________ *มาตรา ๓๑๕ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๐ **มาตรา ๓๑๗ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๑
157 จาคกุ ตงั้ แตส่ ามปี ถงึ สิบห้าปี และปรับตงั้ แตห่ กหมื่นบาทถงึ สามแสนบาท ผ้ใู ดโดยทจุ ริต ซอื ้ จาหน่าย หรือรับตวั เดก็ ซง่ึ ถกู พรากตามวรรคแรก ต้องระวางโทษเชน่ เดยี วกบั ผ้พู รากนนั้ ถ้าความผิดตามมาตรานีไ้ ด้กระทาเพื่อหากาไร หรือเพื่อการอนาจาร ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี และปรับตงั้ แต่หน่ึงแสน บาทถงึ ส่ีแสนบาท *มาตรา ๓๑๘ ผ้ใู ดพรากผ้เู ยาว์อายกุ วา่ สิบห้าปี แตย่ งั ไมเ่ กินสิบแปด ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นัน้ ไม่เต็มใจ ไปด้วย ต้องระวางโทษจาคกุ ตงั้ แตส่ องปี ถงึ สิบปี และปรับตงั้ แตส่ ี่หมื่นบาท ถงึ สองแสนบาท ผู้ใดโดยทุจริต ซือ้ จาหน่าย หรือรับตัวผู้เยาว์ซ่ึงถูกพรากตาม วรรคแรก ต้องระวางโทษเช่นเดียวกบั ผ้พู รากนนั้ ถ้าความผิดตามมาตรานีไ้ ด้กระทาเพ่ือหากาไร หรือเพ่ือการอนาจาร ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคกุ ตงั้ แตส่ ามปี ถงึ สิบห้าปี และปรับตงั้ แตห่ กหมน่ื บาทถงึ สามแสนบาท *มาตรา ๓๑๙ ผ้ใู ดพรากผ้เู ยาว์อายกุ วา่ สบิ ห้าปี แตย่ งั ไมเ่ กินสิบแปด ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพ่ือหากาไรหรือเพ่ือการ อนาจาร โดยผู้เยาว์นนั้ เต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจาคกุ ตงั้ แต่สองปี ถึง สบิ ปี และปรับตงั้ แตส่ หี่ มน่ื บาทถงึ สองแสนบาท ____________________________________ *มาตรา ๓๑๘ และมาตรา ๓๑๙ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิม่ เติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๑
158 ผู้ใดโดยทุจริต ซือ้ จาหน่าย หรือรับตัวผู้เยาว์ซ่ึงถูกพรากตาม วรรคแรก ต้องระวางโทษเช่นเดยี วกบั ผ้พู รากนนั้ *มาตรา ๓๒๐ ผู้ใดใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กาลงั ประทุษร้ าย ใช้อานาจครอบงาผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอ่ืนใด พาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจกั ร ต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แต่สองปี ถงึ สิบปี หรือปรับตงั้ แตส่ ีห่ มนื่ บาทถงึ สองแสนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ถ้ าการกระทาความผิดตามวรรคแรกได้ กระทาเพื่อให้ ผ้ ูถูกพาหรื อ ส่งไปนนั้ ตกอยู่ในอานาจของผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือเพ่ือละทิง้ ให้เป็ นคนอนาถา ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกตัง้ แต่สามปี ถึงสิบห้าปี และปรับตงั้ แตห่ กหม่นื บาทถงึ สามแสนบาท มาตรา ๓๒๑ ความผิดตามมาตรา ๓๐๙ วรรคแรก มาตรา ๓๑๐ วรรคแรก และมาตรา ๓๑๑ วรรคแรก เป็นความผิดอนั ยอมความได้ **มาตรา ๓๒๑/๑ การกระทาความผิดตามมาตรา ๓๑๒ ตรี วรรคสอง และมาตรา ๓๑๗ หากเป็ นการกระทาตอ่ เดก็ อายไุ ม่เกินสิบสามปี ห้ามอ้าง ความไมร่ ู้อายขุ องเดก็ เพ่ือให้พ้นจากความผิดนนั้ ____________________________________ *มาตรา ๓๒๐ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพม่ิ เติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๐ **มาตรา ๓๒๑/๑ เพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพม่ิ เติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๓) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๕
159 หมวด ๒ ความผิดฐานเปิ ดเผยความลับ *มาตรา ๓๒๒ ผู้ใดเปิ ดผนึกหรือเอาจดหมาย โทรเลขหรือเอกสาร ใด ๆ ซ่ึงปิ ดผนึกของผู้อ่ืนไป เพ่ือล่วงรู้ข้ อความก็ดี เพื่อนาข้ อความ ในจดหมาย โทรเลขหรือเอกสารเชน่ วา่ นนั้ ออกเปิ ดเผยก็ดี ถ้าการกระทานนั้ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หน่งึ ผ้ใู ด ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหกเดือน หรือปรับไมเ่ กินหนงึ่ หม่ืนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๒๓ ผู้ใดล่วงรู้หรือได้มาซึ่งความลับของผู้อื่น โดยเหตุ ที่เป็ นเจ้าพนกั งานผู้มีหน้าท่ี โดยเหตุที่ประกอบอาชีพเป็ นแพทย์ เภสชั กร คนจาหน่ายยา นางผดงุ ครรภ์ ผ้พู ยาบาล นกั บวช หมอความ ทนายความ หรือผู้สอบบัญชี หรือโดยเหตุท่ีเป็ นผู้ช่วยในการประกอบอาชีพนัน้ แล้วเปิ ดเผยความลบั นนั้ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผ้หู นึ่งผ้ใู ด ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงหมื่นบาท หรือ ทงั้ จาทงั้ ปรับ ผ้รู ับการศกึ ษาอบรมในอาชีพดงั กล่าวในวรรคแรก เปิ ดเผยความลบั ของผ้อู นื่ อนั ตนได้ลว่ งรู้หรือได้มาในการศกึ ษาอบรมนนั้ ในประการท่ีน่าจะ เกิดความเสยี หายแก่ผ้หู นง่ึ ผ้ใู ด ต้องระวางโทษเชน่ เดยี วกนั *มาตรา ๓๒๔ ผู้ใดโดยเหตทุ ี่ตนมีตาแหน่งหน้าที่ วิชาชีพหรืออาชีพ ____________________________________ *มาตรา ๓๒๒ ถึงมาตรา ๓๒๔ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
160 อนั เป็นท่ีไว้วางใจ ลว่ งรู้หรือได้มาซง่ึ ความลบั ของผ้อู ่ืนเกี่ยวกบั อตุ สาหกรรม การค้นพบ หรือการนิมิตในวิทยาศาสตร์ เปิ ดเผยหรื อใช้ความลับนัน้ เพ่ือประโยชน์ตนเองหรือผู้อ่ืน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไมเ่ กินหนงึ่ หม่นื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ มาตรา ๓๒๕ ความผิดในหมวดนีเ้ป็นความผิดอนั ยอมความได้ หมวด ๓ ความผดิ ฐานหม่นิ ประมาท *มาตรา ๓๒๖ ผ้ใู ดใสค่ วามผ้อู ื่นตอ่ บคุ คลที่สาม โดยประการท่ีน่าจะ ทาให้ผ้อู ่ืนนนั้ เสยี ชื่อเสยี ง ถกู ดหู มน่ิ หรือถกู เกลียดชงั ผ้นู นั้ กระทาความผิด ฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกิน สองหม่ืนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ มาตรา ๓๒๗ ผู้ใดใส่ความผู้ตายต่อบุคคลที่สามและการใส่ความ นนั้ น่าจะเป็ นเหตุให้บิดา มารดา คู่สมรสหรือบุตรของผู้ตายเสียชื่อเสียง ถูกดูหม่ินหรือถูกเกลียดชัง ผู้นัน้ กระทาความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษดงั บญั ญตั ไิ ว้ในมาตรา ๓๒๖ นนั้ ____________________________________ *มาตรา ๓๒๖ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓
161 *มาตรา ๓๒๘ ถ้าความผิดฐานหม่ินประมาทได้กระทาโดยการ โฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตวั อกั ษร ที่ทาให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบนั ทึกเสียง บนั ทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทาโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทาการป่ าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุก ไมเ่ กินสองปี และปรับไมเ่ กินสองแสนบาท มาตรา ๓๒๙ ผ้ใู ดแสดงความคิดเหน็ หรือข้อความใดโดยสจุ ริต (๑) เพื่อความชอบธรรม ป้ องกนั ตนหรือป้ องกนั ส่วนได้เสียเกี่ยวกบั ตนตามคลองธรรม (๒) ในฐานะเป็นเจ้าพนกั งานปฏิบตั ิการตามหน้าที่ (๓) ติชมด้วยความเป็ นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอนั เป็ นวิสยั ของ ประชาชนยอ่ มกระทา หรือ (๔) ในการแจ้ งข่าวด้ วยความเป็ นธรรมเร่ืองการดาเนินการ อนั เปิ ดเผยในศาลหรือในการประชมุ ผ้นู นั้ ไมม่ คี วามผิดฐานหมิน่ ประมาท มาตรา ๓๓๐ ในกรณีหม่ินประมาท ถ้าผู้ถูกหาว่ากระทาความผิด พิสูจน์ได้ว่าข้อท่ีหาว่าเป็ นหมิ่นประมาทนัน้ เป็ นความจริง ผู้นัน้ ไม่ต้อง รับโทษ ____________________________________ *มาตรา ๓๒๘ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพม่ิ เติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๔
162 แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าข้อท่ีหาว่าเป็ นหมิ่นประมาทนัน้ เป็ นการ ใสค่ วามในเรื่องสว่ นตวั และการพิสจู น์จะไมเ่ ป็นประโยชน์แกป่ ระชาชน มาตรา ๓๓๑ ค่คู วาม หรือทนายความของคู่ความ ซ่ึงแสดงความ คิดเห็น หรือข้ อความในกระบวนพิจารณาคดีในศาล เพื่ อประโยชน์ แกค่ ดขี องตน ไมม่ ีความผิดฐานหมน่ิ ประมาท มาตรา ๓๓๒ ในคดีหม่ินประมาทซ่ึงมีคาพิพากษาว่าจาเลย มคี วามผิด ศาลอาจสงั่ (๑) ให้ ยึดและทาลายวัตถุหรือส่วนของวัตถุที่มีข้ อความหม่ิน ประมาท (๒) ให้ โฆษณาคาพิ พ ากษาทัง้ ห มด ห รื อแ ต่บ าง ส่วนใ น หนงั สือพิมพ์หนงึ่ ฉบบั หรือหลายฉบบั ครัง้ เดยี วหรือหลายครัง้ โดยให้จาเลย เป็นผ้ชู าระคา่ โฆษณา มาตรา ๓๓๓ ความผิดในหมวดนีเ้ป็นความผิดอนั ยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผิดฐานหมิ่นประมาทตายเสียก่อนร้ องทุกข์ ให้บิดา มารดา คสู่ มรสหรือบตุ รของผ้เู สียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือวา่ เป็ น ผ้เู สียหาย
163 ลักษณะ ๑๒ ความผิดเก่ียวกับทรัพย์ หมวด ๑ ความผดิ ฐานลกั ทรัพย์และว่งิ ราวทรัพย์ *มาตรา ๓๓๔ ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อ่ืน หรือที่ผู้อ่ืนเป็ นเจ้าของรวม อยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นัน้ กระทาความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษ จาคกุ ไมเ่ กินสามปี และปรับไมเ่ กินหกหมนื่ บาท **มาตรา ๓๓๕ ผ้ใู ดลกั ทรัพย์ (๑) ในเวลากลางคืน (๒) ในท่ีหรือบริเวณที่มีเหตุเพลิงไหม้ การระเบิด อุทกภัย หรือ ในท่ีหรือบริเวณที่มีอุบัติเหตุ เหตุทุกขภัยแก่รถไฟ หรือยานพาหนะอื่น ท่ีประชาชนโดยสาร หรือภัยพิบัติอ่ืนทานองเดียวกัน หรื ออาศัยโอกาส ที่มีเหตเุ ช่นวา่ นนั้ หรืออาศยั โอกาสท่ีประชาชนกาลงั ตน่ื กลวั ภยนั ตรายใด ๆ (๓) โดยทาอนั ตรายส่งิ กีดกนั้ สาหรับค้มุ ครองบคุ คลหรือทรัพย์ หรือ โดยผา่ นสงิ่ เช่นวา่ นนั้ เข้าไปด้วยประการใด ๆ (๔) โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทาขึน้ โดยไม่ได้จานงให้เป็ นทาง คนเข้า หรือเข้าทางชอ่ งทางซง่ึ ผ้เู ป็นใจเปิ ดไว้ให้ (๕) โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็ นผู้อื่น มอมหน้าหรือทาด้วย ____________________________________ *มาตรา ๓๓๔ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔ **มาตรา ๓๓๕ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพม่ิ เติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๕
164 ประการอนื่ เพื่อไมใ่ ห้เห็นหรือจาหน้าได้ (๖) โดยลวงวา่ เป็นเจ้าพนกั งาน (๗) โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทาความผิดด้วยกันตงั้ แต่สองคน ขนึ ้ ไป (๘) ในเคหสถาน สถานที่ราชการหรือสถานที่ท่ีจดั ไว้เพื่อให้ บริการ สาธารณะท่ีตนได้เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ นนั้ ๆ (๙) ในสถานท่ีบชู าสาธารณะ สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน ท่ีจอดรถ หรือเรือสาธารณะ สาธารณสถานสาหรับขนถ่ายสินค้า หรือในยวดยาน สาธารณะ (๑๐) ท่ีใช้หรือมีไว้เพ่ือสาธารณประโยชน์ (๑๑) ที่เป็นของนายจ้างหรือท่ีอย่ใู นความครอบครองของนายจ้าง (๑๒) ท่ีเป็นของผ้มู อี าชีพกสิกรรม บรรดาที่เป็ นผลิตภณั ฑ์ พืชพนั ธ์ุ สัตว์ หรื อเ ครื่ องมืออันมีไว้ สาห รั บประก อบกสิกรร มหรื อได้ ม าจากกา ร กสิกรรมนนั ้ ต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แต่หน่ึงปี ถึงห้าปี และปรับตงั้ แต่สองหมื่น บาทถงึ หนงึ่ แสนบาท ถ้าความผิดตามวรรคแรกเป็ นการกระทาที่ประกอบด้วยลกั ษณะ ดงั ที่บญั ญตั ิไว้ในอนมุ าตราดงั กลา่ วแล้วตงั้ แตส่ องอนมุ าตราขนึ ้ ไป ผ้กู ระทา ต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แต่หนึ่งปี ถึงเจ็ดปี และปรับตัง้ แต่สองหม่ืนบาท ถงึ หนงึ่ แสนสี่หมืน่ บาท ถ้าความผิดตามวรรคแรกเป็ นการกระทาตอ่ ทรัพย์ท่ีเป็ นโค กระบือ เครื่องกลหรือเครื่องจกั รท่ีผู้มีอาชีพกสิกรรมมีไว้สาหรับประกอบกสิกรรม
165 ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แต่สามปี ถึงสิบปี และปรับตงั้ แต่หกหม่ืน บาทถงึ สองแสนบาท ถ้าการกระทาความผิดดังกล่าวในมาตรานี ้ เป็ นการกระทาโดย ความจาใจหรือความยากจนเหลือทนทาน และทรัพย์นัน้ มีราคาเล็กน้อย ศาลจะลงโทษผ้กู ระทาความผิดดงั ท่ีบญั ญตั ไิ ว้ในมาตรา ๓๓๔ ก็ได้ *มาตรา ๓๓๕ ทวิ ผู้ใดลกั ทรัพย์ท่ีเป็ นพระพุทธรูปหรือวตั ถุในทาง ศาสนา ถ้าทรัพย์นัน้ เป็ นท่ีสักการะบูชาของประชาชน หรือเก็บรักษาไว้ เป็นสมบตั ิของชาติ หรือสว่ นหนงึ่ ส่วนใดของพระพุทธรูป หรือวตั ถดุ งั กลา่ ว ต้องระวางโทษจาคุกตัง้ แต่สามปี ถึงสิบปี และปรับตัง้ แต่หกหมื่นบาท ถงึ สองแสนบาท ถ้าการกระทาความผิดตามวรรคแรก ได้กระทาในวัด สานักสงฆ์ สถานอันเป็ นท่ีเคารพในทางศาสนา โบราณสถานอันเป็ นทรัพย์สิน ของแผ่นดิน สถานท่ีราชการหรือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ผู้กระทาต้อง ระวางโทษจาคุกตัง้ แต่ห้าปี ถึงสิบห้าปี และปรับตัง้ แต่หนึ่งแสนบาทถึง สามแสนบาท **มาตรา ๓๓๖ ผู้ใดลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซ่ึงหน้า ผู้นัน้ กระทา ความผิดฐานว่งิ ราวทรัพย์ ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกิน หนง่ึ แสนบาท ____________________________________ *มาตรา ๓๓๕ ทวิ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๐ **มาตรา ๓๓๖ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
166 ถ้าการวิ่งราวทรัพย์เป็ นเหตุให้ผู้อ่ืนรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แต่สองปี ถึงเจ็ดปี และปรับตงั้ แต่สี่หม่ืน บาทถงึ หนง่ึ แสนสหี่ ม่ืนบาท ถ้าการวิ่งราวทรัพย์เป็ นเหตุให้ผู้อ่ืนรับอันตรายสาหัส ผู้กระทา ต้องระวางโทษจาคุกตัง้ แต่สามปี ถึงสิบปี และปรับตัง้ แต่หกหม่ืนบาท ถงึ สองแสนบาท ถ้ าการวิ่งราวทรัพย์เป็ นเหตุให้ ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทา ต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แต่ห้าปี ถึงสิบห้าปี และปรับตงั้ แต่หนึ่งแสนบาท ถงึ สามแสนบาท *มาตรา ๓๓๖ ทวิ ผู้ใดกระทาความผิดตามมาตรา ๓๓๔ มาตรา ๓๓๕ มาตรา ๓๓๕ ทวิ หรือมาตรา ๓๓๖ โดยแต่งเครื่องแบบทหาร หรือตารวจหรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็ นทหารหรือตารวจ หรือโดยมีหรือ ใช้อาวุธปื นหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้ยานพาหนะเพ่ือสะดวกแก่การ กระทาผิดหรือการพาทรัพย์นนั้ ไป หรือเพ่ือให้พ้นการจบั กุม ต้องระวางโทษ หนกั กวา่ ที่บญั ญตั ิไว้ในมาตรานนั้ ๆ กงึ่ หนงึ่ ____________________________________ *มาตรา ๓๓๖ ทวิ เพม่ิ เติมโดยประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ที่ ๑๑ พ.ศ. ๒๕๑๔ ข้อ ๑๓
167 หมวด ๒ ความผดิ ฐานกรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชงิ ทรัพย์ และปล้นทรัพย์ *มาตรา ๓๓๗ ผู้ใดข่มขืนใจผู้อ่ืนให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือ ผู้อื่นได้ประโยชน์ในลกั ษณะที่เป็ นทรัพย์สิน โดยใช้กาลงั ประทุษร้ ายหรือ โดยข่เู ข็ญวา่ จะทาอนั ตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ช่ือเสียงหรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านนั้ ผู้นนั้ กระทาความผิดฐานกรรโชก ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี และปรับ ไมเ่ กินหนงึ่ แสนบาท ถ้าความผิดฐานกรรโชกได้กระทาโดย (๑) ขู่ว่าจะฆ่า ขู่ว่าจะทาร้ ายร่างกายให้ผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อ่ืน ให้ ได้รับอันตรายสาหัส หรือขู่ว่าจะทาให้ เกิดเพลิงไหม้แก่ทรัพย์ของ ผ้ถู กู ขม่ ขืนใจหรือผ้อู ่นื หรือ (๒) มอี าวธุ ติดตวั มาข่เู ขญ็ ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคกุ ตงั้ แตห่ กเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตงั้ แต่ หนง่ึ หมื่นบาทถงึ หนง่ึ แสนสห่ี มนื่ บาท *มาตรา ๓๓๘ ผู้ใดข่มขืนใจผู้อ่ืนให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือ ผู้อ่ืนได้ประโยชน์ในลักษณะท่ีเป็ นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่าจะเปิ ดเผย ____________________________________ *มาตรา ๓๓๗ และมาตรา ๓๓๘ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
168 ความลับ ซึ่งการเปิ ดเผยนนั้ จะทาให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหาย จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านัน้ ผู้นัน้ กระทาความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ต้องระวางโทษจาคุกตัง้ แต่หน่ึงปี ถึงสิบปี และปรับตัง้ แต่สองหมื่นบาท ถงึ สองแสนบาท *มาตรา ๓๓๙ ผู้ใดลกั ทรัพย์โดยใช้กาลงั ประทุษร้ าย หรือขู่เข็ญว่า ในทนั ใดนนั้ จะใช้กาลงั ประทษุ ร้าย เพื่อ (๑) ให้ความสะดวกแกก่ ารลกั ทรัพย์หรือการพาทรัพย์นนั้ ไป (๒) ให้ยื่นให้ซง่ึ ทรัพย์นนั้ (๓) ยดึ ถือเอาทรัพย์นนั้ ไว้ (๔) ปกปิ ดการกระทาความผิดนนั้ หรือ (๕) ให้พ้นจากการจบั กมุ ผ้นู นั้ กระทาความผิดฐานชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษจาคกุ ตงั้ แต่ห้าปี ถงึ สบิ ปี และปรับตงั้ แตห่ นง่ึ แสนบาทถงึ สองแสนบาท ถ้าความผิดนนั้ เป็ นการกระทาท่ีประกอบด้วยลกั ษณะดงั ที่บัญญัติ ไว้ในอนุมาตราหนึง่ อนุมาตราใดแห่งมาตรา ๓๓๕ หรือเป็ นการกระทาต่อ ทรัพย์ที่เป็ นโค กระบือ เคร่ืองกลหรือเคร่ืองจักรที่ผู้มีอาชีพกสิกรรม มีไว้สาหรับประกอบกสิกรรม ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกตัง้ แต่สิบปี ถงึ สบิ ห้าปี และปรับตงั้ แตส่ องแสนบาทถงึ สามแสนบาท ถ้ าการชิงทรัพย์เป็ นเหตุให้ ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคกุ ตงั้ แตส่ ิบปี ถึงยี่สิบปี และปรับตงั้ แต่สองแสน ____________________________________ *มาตรา ๓๓๙ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพม่ิ เติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๐
169 บาทถงึ ส่ีแสนบาท ถ้ าการชิงทรัพย์เป็ นเหตุให้ ผู้อ่ืนรับอันตรายสาหัส ผู้กระทา ต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แต่สิบห้าปี ถึงย่ีสิบปี และปรับตงั้ แต่สามแสนบาท ถงึ สแ่ี สนบาท ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตใุ ห้ผ้อู ื่นถงึ แกค่ วามตาย ผ้กู ระทาต้องระวาง โทษประหารชีวิตหรือจาคกุ ตลอดชีวิต *มาตรา ๓๓๙ ทวิ ถ้าการชิงทรัพย์ได้กระทาต่อทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคแรก ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แต่สิบปี ถึงสิบห้าปี และปรับตงั้ แตส่ องแสนบาทถงึ สามแสนบาท ถ้าการชิงทรัพย์นัน้ เป็ นการกระทาในสถานที่ดังท่ีบัญญัติไว้ใน มาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคสองด้วย ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แต่สิบปี ถงึ ย่ีสบิ ปี และปรับตงั้ แตส่ องแสนบาทถงึ ส่ีแสนบาท ถ้ าการชิงทรัพย์ตามวรรคแรกหรื อวรรคสองเป็ นเหตุให้ ผู้อ่ืน รับอนั ตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคกุ ตัง้ แต่สิบห้าปี ถงึ ย่ีสบิ ปี และปรับตงั้ แตส่ ามแสนบาทถงึ ส่ีแสนบาท ถ้ าการชิงทรัพย์ตามวรรคแรกหรื อวรรคสองเป็ นเหตุให้ ผู้อื่น รับอนั ตรายสาหสั ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคกุ ตลอดชีวิต หรือจาคกุ ตงั้ แต่ สบิ ห้าปี ถงึ ยี่สิบปี ถ้าการชิงทรัพย์ตามวรรคแรกหรือวรรคสองเป็ นเหตุให้ผู้อ่ืนถึงแก่ ความตาย ผ้กู ระทาต้องระวางโทษประหารชีวิต ____________________________________ *มาตรา ๓๓๙ ทวิ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพมิ่ เติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๐
170 *มาตรา ๓๔๐ ผ้ใู ดชิงทรัพย์โดยร่วมกนั กระทาความผิดด้วยกนั ตงั้ แต่ สามคนขึน้ ไป ผู้นนั้ กระทาความผิดฐานปล้นทรัพย์ ต้องระวางโทษจาคุก ตงั้ แตส่ บิ ปี ถงึ สบิ ห้าปี และปรับตงั้ แตส่ องแสนบาทถงึ สามแสนบาท ถ้ าในการปล้ นทรั พย์ ผ้ ูกร ะทาแม้ แต่คนหน่ึงคนใดมีอาวุธติดตัว ไปด้วย ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แต่สิบสองปี ถึงยี่สิบปี และปรับ ตงั้ แตส่ องแสนสี่หมน่ื บาทถงึ สี่แสนบาท ถ้ าการปล้นทรัพย์เป็ นเหตุให้ ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทา ต้องระวางโทษจาคกุ ตลอดชีวิต หรือจาคกุ ตงั้ แตส่ บิ ห้าปี ถงึ ย่ีสบิ ปี ถ้าการปล้นทรัพย์ได้กระทาโดยแสดงความทารุณจนเป็นเหตใุ ห้ผ้อู ่ืน รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ใช้ปื นยิง ใช้ วตั ถุระเบิด หรือกระทาทรมาน ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคกุ ตลอดชีวิต หรือจาคกุ ตงั้ แตส่ ิบห้าปี ถึงย่ีสิบปี ถ้ าการปล้ นทรัพย์เป็ นเหตุให้ ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทา ต้องระวางโทษประหารชีวิต **มาตรา ๓๔๐ ทวิ ถ้าการปล้นทรัพย์ได้กระทาต่อทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคแรก ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคกุ ตงั้ แตส่ ิบปี ถึงย่ีสิบปี และ ปรับตงั้ แตส่ องแสนบาทถงึ สแี่ สนบาท ถ้าการปล้นทรัพย์นัน้ เป็ นการกระทาในสถานท่ีดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคสองด้วย ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคกุ ตงั้ แต่สิบห้าปี ถงึ ยี่สบิ ปี และปรับตงั้ แตส่ ามแสนบาทถึงสแี่ สนบาท ____________________________________ *มาตรา ๓๔๐ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิม่ เติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๖ **มาตรา ๓๔๐ ทวิ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๖
171 ถ้าการปล้นทรัพย์ตามวรรคแรกหรือวรรคสอง ผ้กู ระทาแม้แตค่ นหนงึ่ คนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วย ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกตลอดชีวิต หรือ จาคกุ ตงั้ แตส่ ิบห้าปี ถงึ ย่ีสบิ ปี ถ้าการปล้นทรัพย์ตามวรรคแรกหรือวรรคสองเป็ นเหตุให้ ผู้อื่น รับอนั ตรายสาหสั ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคกุ ตลอดชีวติ ถ้ าการปล้ นทรั พย์ ตามวรรคแรกหรื อวรรคสองได้ กระทาโดยแสดง ความทารุณจนเป็ นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ใช้ปื นยิง ใช้วัตถุระเบิดหรือกระทาทรมาน ผู้กระทาต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจาคกุ ตลอดชีวิต ถ้าการปล้นทรัพย์ตามวรรคแรกหรือวรรคสองเป็ นเหตุให้ ผู้อ่ืน ถงึ แก่ความตาย ผ้กู ระทาต้องระวางโทษประหารชีวติ *มาตรา ๓๔๐ ตรี ผู้ใดกระทาความผิดตามมาตรา ๓๓๙ มาตรา ๓๓๙ ทวิ มาตรา ๓๔๐ หรือมาตรา ๓๔๐ ทวิ โดยแต่งเครื่องแบบทหาร หรือตารวจหรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็ นทหารหรือตารวจ หรือโดยมีหรือ ใช้ อาวุธปื นหรื อวัตถุระเบิด หรื อโดยใช้ ยานพาหนะเพื่อกระทาผิด หรือพาทรัพย์นัน้ ไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ต้องระวางโทษหนักกว่า ท่ีบญั ญตั ิไว้ในมาตรานนั้ ๆ กง่ึ หนง่ึ ____________________________________ *มาตรา ๓๔๐ ตรี เพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ท่ี ๑๑ พ.ศ. ๒๕๑๔ ข้อ ๑๕
172 หมวด ๓ ความผดิ ฐานฉ้อโกง *มาตรา ๓๔๑ ผ้ใู ดโดยทุจริต หลอกลวงผ้อู ื่นด้วยการแสดงข้อความ อันเป็ นเท็จ หรือปกปิ ดข้ อความจริงซ่ึงควรบอกให้ แจ้ ง และโดยการ หลอกลวงดงั ว่านัน้ ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทาให้ผ้ถู ูกหลอกลวงหรือบุคคลท่ีสามทา ถอนหรือทาลายเอกสารสิทธิ ผู้นัน้ กระทาความผิดฐานฉ้ อโกง ต้ องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไมเ่ กินหกหมื่นบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๔๒ ถ้าในการกระทาความผิดฐานฉ้อโกง ผ้กู ระทา (๑) แสดงตนเป็นคนอ่นื หรือ (๒) อาศัยความเบาปัญญาของผู้ถูกหลอกลวงซึ่งเป็ นเด็ก หรือ อาศยั ความออ่ นแอแห่งจิตของผ้ถู กู หลอกลวง ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหน่ึงแสน บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๔๓ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๓๔๑ ได้กระทา ด้วยการแสดงข้ อความอันเป็ นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิ ด ความจริง ซ่ึงควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุก ไมเ่ กินห้าปี หรือปรับไมเ่ กินหนง่ึ แสนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ____________________________________ *มาตรา ๓๔๑ ถงึ มาตรา ๓๔๓ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
173 ถ้าการกระทาความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ต้องด้วยลักษณะ ดังกล่าวในมาตรา ๓๔๒ อนุมาตราหน่ึงอนุมาตราใดด้วย ผู้กระทา ต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แตห่ กเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตงั้ แต่หน่ึงหมื่นบาท ถงึ หนงึ่ แสนสห่ี ม่ืนบาท *มาตรา ๓๔๔ ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงบุคคลตงั้ แต่สิบคนขึน้ ไป ให้ประกอบการงานอยา่ งใด ๆ ให้แกต่ นหรือให้แก่บุคคลที่สาม โดยจะไม่ใช้ ค่าแรงงานหรือค่าจ้างแก่บุคคลเหล่านัน้ หรือโดยจะใช้ค่าแรงงานหรือ ค่าจ้างแก่บุคคลเหล่านัน้ ต่ากว่าที่ตกลงกัน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน สามปี หรือปรับไมเ่ กินหกหม่นื บาท หรือทัง้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๔๕ ผ้ใู ดสง่ั ซอื ้ และบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม หรือเข้าอยู่ ในโรงแรม โดยรู้ว่าตนไม่สามารถชาระเงินค่าอาหาร ค่าเคร่ืองด่ืม หรือ คา่ อย่ใู นโรงแรมนนั้ ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินสามเดือน หรือปรับไม่เกิน ห้าพนั บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๔๖ ผู้ใดเพ่ือเอาทรัพย์สินของผู้อื่นเป็ นของตนหรือ ของบุคคลที่สาม ชักจูงผู้หนึ่งผู้ใดให้จาหน่ายโดยเสียเปรียบซงึ่ ทรัพย์สิน โดยอาศัยเหตุที่ผู้ถูกชักจูงมีจิตอ่อนแอหรือเป็ นเด็กเบาปัญญา และ ไม่สามารถเข้าใจตามควรซ่ึงสาระสาคญั แห่งการกระทาของตน จนผู้ถูก ____________________________________ *มาตรา ๓๔๔ ถึงมาตรา ๓๔๖ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
174 ชกั จูงจาหน่ายซึง่ ทรัพย์สินนนั้ ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสองปี หรือปรับ ไมเ่ กินสี่หมน่ื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๔๗ ผู้ใดเพื่อให้ตนเองหรือผู้อ่ืนได้รับประโยชน์จากการ ประกันวินาศภัย แกล้งทาให้เกิดเสียหายแก่ทรัพย์สินอันเป็ นวัตถุท่ีเอา ประกนั ภยั ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ มาตรา ๓๔๘ ความผิดในหมวดนี ้ นอกจากความผิดตามมาตรา ๓๔๓ เป็นความผิดอนั ยอมความได้ ____________________________________ *มาตรา ๓๔๗ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพม่ิ เติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
175 หมวด ๔ ความผดิ ฐานโกงเจ้าหนี้ *มาตรา ๓๔๙ ผู้ใดเอาไปเสีย ทาให้เสียหาย ทาลาย ทาให้เสื่อมค่า หรือทาให้ไร้ ประโยชน์ซ่ึงทรัพย์อันตนจานาไว้แก่ผู้อ่ืน ถ้าได้กระทาเพ่ือ ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้รับจานา ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไมเ่ กินส่หี มน่ื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๕๐ ผ้ใู ดเพ่ือมใิ ห้เจ้าหนีข้ องตนหรือของผ้อู ่ืนได้รับชาระหนี ้ ทงั้ หมดหรือแตบ่ างสว่ น ซงึ่ ได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชาระหนี ้ ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้ นหรือโอนไปให้แก่ผู้อ่ืนซ่ึงทรัพย์ใดก็ดี แกล้งให้ตนเอง เป็นหนีจ้ านวนใดอนั ไม่เป็ นความจริงก็ดี ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินสองปี หรือปรับไมเ่ กินสีห่ มน่ื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ มาตรา ๓๕๑ ความผิดในหมวดนีเ้ป็นความผิดอนั ยอมความได้ ____________________________________ *มาตรา ๓๔๙ และมาตรา ๓๕๐ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่มิ เติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
176 หมวด ๕ ความผิดฐานยกั ยอก *มาตรา ๓๕๒ ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซ่ึงเป็ นของผู้อ่ืน หรือซ่ึงผู้อื่น เป็ นเจ้าของรวมอย่ดู ้วย เบียดบงั เอาทรัพย์นนั้ เป็ นของตนหรือบุคคลท่ีสาม โดยทุจริต ผู้นัน้ กระทาความผิดฐานยกั ยอก ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน สามปี หรือปรับไมเ่ กินหกหมื่นบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ถ้าทรัพย์นัน้ ได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของผู้กระทาความผิด เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสาคญั ผิดไปด้วยประการใด หรือเป็ นทรัพย์สิน หายซง่ึ ผ้กู ระทาความผิดเก็บได้ ผ้กู ระทาต้องระวางโทษแตเ่ พียงกง่ึ หนง่ึ *มาตรา ๓๕๓ ผู้ใดได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่น หรือทรัพย์สินซึ่งผู้อ่ืนเป็ นเจ้าของรวมอยู่ด้วย กระทาผิดหน้าที่ของตน ด้วยประการใด ๆ โดยทุจริต จนเป็ นเหตใุ ห้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ ในลักษณะที่เป็ นทรัพย์สินของผู้นัน้ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไมเ่ กินหกหมน่ื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๕๔ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๓๕๒ หรือมาตรา ๓๕๓ ได้กระทาในฐานที่ผ้กู ระทาความผิดเป็ นผู้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่น ตามคาสง่ั ของศาล หรือตามพินยั กรรม หรือในฐานเป็ นผ้มู ีอาชีพหรือธุรกิจ อนั ย่อมเป็ นที่ไว้วางใจของประชาชน ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกิน ____________________________________ *มาตรา ๓๕๒ ถึงมาตรา ๓๕๔ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
177 ห้าปี หรือปรับไมเ่ กินหนงึ่ แสนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๕๕ ผ้ใู ดเกบ็ ได้ซงึ่ สงั หาริมทรัพย์อนั มีคา่ อนั ซ่อนหรือฝังไว้ โดยพฤติการณ์ซง่ึ ไมม่ ีผู้ใดอ้างว่าเป็ นเจ้าของได้ แล้วเบียดบงั เอาทรัพย์นนั้ เป็นของตนหรือของผ้อู ่นื ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหนึ่งปี หรือปรับไมเ่ กิน สองหมน่ื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ มาตรา ๓๕๖ ความผิดในหมวดนีเ้ป็นความผิดอนั ยอมความได้ หมวด ๖ ความผดิ ฐานรับของโจร **มาตรา ๓๕๗ ผู้ใดช่วยซ่อนเร้ น ช่วยจาหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซือ้ รับจานาหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทา ความผิด ถ้าความผิดนัน้ เข้ าลักษณะลักทรัพย์ ว่ิงราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยกั ยอกหรือเจ้าพนกั งานยกั ยอก ทรัพย์ ผ้นู นั้ กระทาความผิดฐานรับของโจร ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินห้าปี หรือปรับไมเ่ กินหนงึ่ แสนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ถ้าการกระทาความผิดฐานรับของโจรนัน้ ได้กระทาเพื่อค้ากาไร หรือได้กระทาต่อทรัพย์อนั ได้มาโดยการลกั ทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕ (๑๐) ____________________________________ *มาตรา ๓๕๕ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔ **มาตรา ๓๕๗ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๖
178 ชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกตัง้ แต่หกเดือน ถงึ สบิ ปี และปรับตงั้ แตห่ นง่ึ หมนื่ บาทถงึ สองแสนบาท ถ้ าการกระทาความผิดฐานรับของโจรนัน้ ได้กระทาต่อทรัพย์ อนั ได้มาโดยการลกั ทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ การชิงทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๙ ทวิ หรือการปล้นทรัพย์ตามมาตรา ๓๔๐ ทวิ ผ้กู ระทาต้องระวางโทษ จาคกุ ตงั้ แตห่ ้าปี ถงึ สบิ ห้าปี และปรับตงั้ แตห่ นง่ึ แสนบาทถงึ สามแสนบาท หมวด ๗ ความผิดฐานทาให้เสียทรัพย์ *มาตรา ๓๕๘ ผู้ใดทาให้เสียหาย ทาลาย ทาให้เสื่อมค่าหรือทาให้ ไร้ประโยชน์ ซง่ึ ทรัพย์ของผ้อู ่นื หรือผ้อู น่ื เป็นเจ้าของรวมอย่ดู ้วย ผ้นู นั้ กระทา ความผิดฐานทาให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสามปี หรือปรับ ไมเ่ กินหกหมืน่ บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๕๙ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๓๕๘ ได้กระทา ตอ่ (๑) เครื่องกลหรือเครื่องจักรที่ใช้ในการประกอบกสิกรรมหรือ อตุ สาหกรรม (๒) ปศสุ ตั ว์ ____________________________________ *มาตรา ๓๕๘ และมาตรา ๓๕๙ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
179 (๓) ยวดยานหรือสัตว์พาหนะที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะหรือ ในการประกอบกสิกรรมหรืออตุ สาหกรรม หรือ (๔) พืชหรือพืชผลของกสิกร ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสน บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๖๐ ผู้ใดทาให้เสียหาย ทาลาย ทาให้เส่ือมค่าหรือทาให้ ไร้ ประโยชน์ ซ่ึงทรัพย์ท่ีใช้หรือมีไว้เพ่ือสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษ จาคกุ ไมเ่ กินห้าปี หรือปรับไมเ่ กินหนงึ่ แสนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ **มาตรา ๓๖๐ ทวิ ผู้ใดทาให้เสียหาย ทาลาย ทาให้เสื่อมค่า หรือ ทาให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคหน่งึ ที่ประดิษฐาน อยู่ในสถานที่ตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคสอง ต้องระวางโทษจาคุก ไมเ่ กินสบิ ปี หรือปรับไมเ่ กินสองแสนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ มาตรา ๓๖๑ ความผิดตามมาตรา ๓๕๘ และมาตรา ๓๕๙ เป็นความผิดอนั ยอมความได้ ____________________________________ *มาตรา ๓๖๐ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพม่ิ เติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔ **มาตรา ๓๖๐ ทวิ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๖
180 หมวด ๘ ความผดิ ฐานบกุ รุก *มาตรา ๓๖๒ ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อ่ืน เพ่ือถือการ ครอบครองอสงั หาริมทรัพย์นนั้ ทงั้ หมดหรือแต่บางส่วน หรือเข้าไปกระทา การใด ๆ อนั เป็ นการรบกวนการครอบครองอสงั หาริมทรัพย์ของเขาโดย ปกติสุข ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกินสองหม่ืนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๖๓ ผู้ใดเพ่ือถือเอาอสังหาริ มทรัพย์ของผู้อ่ืนเป็ น ของตนหรือของบุคคลท่ีสาม ยักย้ายหรือทาลายเคร่ืองหมายเขตแห่ง อสังหาริมทรัพย์นัน้ ทัง้ หมดหรือแต่บางส่วน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน สามปี หรือปรับไมเ่ กินหกหมน่ื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๖๔ ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอนั สมควร เข้าไปหรือซ่อนตวั อยู่ใน เคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสานักงานในความครอบครอง ของผู้อ่ืน หรือไม่ยอมออกไปจากสถานท่ีเช่นว่านัน้ เมื่อผู้มีสิทธิที่จะห้าม มิให้เข้าไปได้ไล่ให้ออก ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน สองหม่นื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ____________________________________ *มาตรา ๓๖๒ ถึงมาตรา ๓๖๔ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
181 *มาตรา ๓๖๕ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๓๖๒ มาตรา ๓๖๓ หรือมาตรา ๓๖๔ ได้กระทา (๑) โดยใช้กาลงั ประทษุ ร้าย หรือข่เู ข็ญวา่ จะใช้กาลงั ประทษุ ร้าย (๒) โดยมีอาวธุ หรือโดยร่วมกระทาความผิดด้วยกันตงั้ แต่สองคน ขนึ ้ ไป หรือ (๓) ในเวลากลางคนื ผ้กู ระทาต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสน บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ มาตรา ๓๖๖ ความผิดในหมวดนี ้ นอกจากความผิดตามมาตรา ๓๖๕ เป็นความผิดอนั ยอมความได้ ____________________________________ *มาตรา ๓๖๕ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพมิ่ เติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔
182 *ลักษณะ ๑๓ ความผดิ เก่ียวกับศพ **มาตรา ๓๖๖/๑ ผู้ใดกระทาเพ่ือสนองความใคร่ของตน โดยการใช้ อวัยวะเพศของตนล่วงลา้ อวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของศพ ต้ องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรื อปรับไม่เกินหกหม่ืนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ มาตรา ๓๖๖/๒ ผู้ใดกระทาอนาจารแก่ศพ ต้องระวางโทษจาคุก ไมเ่ กินสองปี หรือปรับไมเ่ กินส่หี มื่นบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ มาตรา ๓๖๖/๓ ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ทาให้ เสียหาย เคล่ือนย้าย ทาลาย ทาให้เส่ือมค่า หรือทาให้ไร้ ประโยชน์ ซึง่ ศพ ส่วนของ ศพ อฐั ิ หรือเถ้าของศพ ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินสามปี หรือปรับไมเ่ กิน หกหม่ืนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ มาตรา ๓๖๖/๔ ผู้ใดกระทาด้วยประการใด ๆ อนั เป็ นการดูหม่ิน เหยียดหยามศพ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกิน ห้าพนั บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ____________________________________ *ลกั ษณะ ๑๓ ความผิดเก่ียวกบั ศพ มาตรา ๓๖๖/๑ ถงึ มาตรา ๓๖๖/๔ เพ่ิมเติม โดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๕ **มาตรา ๓๖๖/๑ แก้ ไขโดย พ.ร.บ. แก้ ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบับที่ ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๑๕ ราชกิจจานเุ บกษาวนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒
183 ภาค ๓ ลหุโทษ *มาตรา ๓๖๗ ผ้ใู ดเมื่อเจ้าพนกั งานถามช่ือหรือท่ีอยู่ เพื่อปฏิบตั ิการ ตามกฎหมาย ไม่ยอมบอกหรื อแกล้ งบอกช่ือหรื อที่อยู่อันเป็ นเท็จ ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินหนงึ่ พนั บาท *มาตรา ๓๖๘ ผ้ใู ดทราบคาสงั่ ของเจ้าพนกั งานซง่ึ สง่ั การตามอานาจ ท่ีมีกฎหมายให้ ไว้ ไม่ปฏิบัติตามคาส่ังนัน้ โดยไม่มีเหตุหรือข้ อแก้ ตัว อนั สมควร ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสิบวนั หรือปรับไม่เกินห้าพนั บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ถ้ าการสั่งเช่นว่านัน้ เป็ นคาส่ังให้ ช่วยทากิจการในหน้ าท่ีของ เจ้าพนกั งานซงึ่ กฎหมายกาหนดให้สง่ั ให้ชว่ ยได้ ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กิน หนงึ่ เดือน หรือปรับไมเ่ กินหนง่ึ หมนื่ บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๖๙ ผู้ใดกระทาด้ วยประการใด ๆ ให้ ประกาศ ภาพโฆษณา หรือเอกสารใดที่เจ้าพนักงานผู้กระทาการตามหน้าท่ีปิ ด หรื อแสดงไว้ หรื อสั่งให้ ปิ ด หรื อแสดงไว้ หลุด ฉีกหรือไร้ ประโยชน์ ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินห้าพนั บาท * มาตรา ๓๗๐ ผู้ใดส่งเสียง ทาให้เกิดเสียงหรือกระทาความอือ้ อึง โดยไม่มีเหตุอนั สมควร จนทาให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้ อน ต้องระวาง ____________________________________ *มาตรา ๓๖๗ ถงึ มาตรา ๓๗๐ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๖
184 โทษปรับไมเ่ กินหนง่ึ พนั บาท *มาตรา ๓๗๑ ผู้ใดพาอาวธุ ไปในเมือง หม่บู ้านหรือทางสาธารณะ โดยเปิ ดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้ มีขึน้ เพ่ือนมัสการ การรื่นเริงหรือการอื่นใด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน หนง่ึ พนั บาท และให้ศาลมีอานาจสง่ั ให้ริบอาวธุ นนั้ *มาตรา ๓๗๒ ผู้ใดทะเลาะกันอย่างอือ้ อึงในทางสาธารณะ หรือ สาธารณสถาน หรือกระทาโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้ อย ในทางสาธารณะหรือสาธารณสถาน ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินห้าพนั บาท *มาตรา ๓๗๓ ผู้ใดควบคุมดแู ลบุคคลวิกลจริต ปล่อยปละละเลย ให้บุคคลวิกลจริตนัน้ ออกเที่ยวไปโดยลาพัง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ห้าพนั บาท *มาตรา ๓๗๔ ผู้ใดเห็นผู้อ่ืนตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ซึ่งตน อาจชว่ ยได้โดยไมค่ วรกลวั อนั ตรายแก่ตนเองหรือผ้อู ื่น แต่ไม่ช่วยตามความ จาเป็น ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหนง่ึ เดือน หรือปรับไมเ่ กินหนึง่ หม่ืนบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๗๕ ผู้ใดทาให้รางระบายนา้ ร่องนา้ หรือท่อระบายของ โสโครก อนั เป็นส่ิงสาธารณะเกิดขดั ข้องหรือไม่สะดวก ต้องระวางโทษปรับ ไมเ่ กินห้าพนั บาท ____________________________________ *มาตรา ๓๗๑ ถงึ มาตรา ๓๗๕ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๖
185 *มาตรา ๓๗๖ ผ้ใู ดยิงปื นซงึ่ ใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตใุ นเมือง หม่บู ้าน หรือที่ชุมนุมชน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสิบวนั หรือปรับไม่เกินห้าพัน บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๗๗ ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุหรือสตั ว์ร้ าย ปล่อยปละละเลย ให้สตั ว์นัน้ เท่ียวไปโดยลาพัง ในประการท่ีอาจทาอนั ตรายแก่บุคคลหรือ ทรัพย์ ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหน่งึ เดือน หรือปรับไมเ่ กินหนึง่ หมื่นบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๗๘ ผู้ใดเสพสุราหรือของเมาอย่างอื่น จนเป็ นเหตุ ให้ตนเมา ประพฤติวุ่นวายหรือครองสติไม่ได้ขณะอยู่ในถนนสาธารณะ หรือสาธารณสถาน ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินห้าพนั บาท *มาตรา ๓๗๙ ผู้ใดชกั หรือแสดงอาวุธในการวิวาทต่อสู้ ต้องระวาง โทษจาคกุ ไมเ่ กินสิบวนั หรือปรับไมเ่ กินห้าพนั บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๘๐ ผู้ใดทาให้เกิดปฏิกูลแก่นา้ ในบ่อ สระหรือท่ีขังนา้ อนั มีไว้สาหรับประชาชนใช้สอย ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงเดือน หรือปรับไมเ่ กินหนง่ึ หมนื่ บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๘๑ ผ้ใู ดกระทาการทารุณตอ่ สตั ว์ หรือฆ่าสตั ว์โดยให้ได้รับ ทุกขเวทนาอนั ไม่จาเป็ น ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงเดือน หรือปรับ ไมเ่ กินหนงึ่ หมื่นบาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ____________________________________ *มาตรา ๓๗๖ ถงึ มาตรา ๓๘๑ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๖
186 *มาตรา ๓๘๒ ผู้ใดใช้ให้สตั ว์ทางานจนเกินสมควรหรือใช้ให้ทางาน อนั ไมส่ มควร เพราะเหตทุ ่ีสตั ว์นนั้ ป่ วยเจ็บ ชราหรือออ่ นอายุ ต้องระวางโทษ จาคกุ ไมเ่ กินหนงึ่ เดือน หรือปรับไมเ่ กินหนง่ึ หมน่ื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๘๓ ผู้ใดเมื่อเกิดเพลิงไหม้หรือสาธารณภัยอ่ืน และ เจ้าพนกั งานเรียกให้ชว่ ยระงบั ถ้าผ้นู นั้ สามารถชว่ ยได้แต่ไม่ช่วย ต้องระวาง โทษจาคกุ ไมเ่ กินหนงึ่ เดือน หรือปรับไมเ่ กินหนงึ่ หมนื่ บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๘๔ ผู้ใดแกล้งบอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็ นเหตุ ให้ประชาชนตื่นตกใจ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงเดือน หรือปรับ ไมเ่ กินหนง่ึ หมนื่ บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๘๕ ผู้ใดโดยไม่ได้ รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมาย กีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็ นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความ สะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิง้ ส่ิงของ หรือโดยกระทาด้วย ประการอ่ืนใด ถ้าการกระทานัน้ เป็ นการกระทาโดยไม่จาเป็ น ต้องระวาง โทษปรับไมเ่ กินห้าพนั บาท *มาตรา ๓๘๖ ผู้ใดขุดหลุมหรือราง หรือปลูกปักหรือวางสิ่งของ เกะกะไว้ในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมาย หรือทาได้โดยชอบด้วยกฎหมาย แตล่ ะเลยไม่แสดงสญั ญาณตามสมควร เพื่อป้ องกนั อปุ ัทวเหตุ ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินห้าพนั บาท ____________________________________ *มาตรา ๓๘๒ ถงึ มาตรา ๓๘๖ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๖
187 *มาตรา ๓๘๗ ผ้ใู ดแขวน ติดตงั้ หรือวางส่ิงใดไว้โดยประการที่น่าจะ ตกหรือพงั ลง ซงึ่ จะเป็ นเหตอุ นั ตราย เปรอะเปื อ้ นหรือเดือดร้อนแก่ผ้สู ญั จร ในทางสาธารณะ ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินห้าพนั บาท *มาตรา ๓๘๘ ผู้ใดกระทาการอนั ควรขายหน้าต่อหน้าธารกานัล โดยเปลือยหรือเปิ ดเผยร่างกาย หรือกระทาการลามกอย่างอื่น ต้องระวาง โทษปรับไมเ่ กินห้าพนั บาท *มาตรา ๓๘๙ ผู้ใดกระทาด้วยประการใด ๆ ให้ของแข็งตกลง ณ ที่ใด ๆ โดยประการที่น่าจะเป็ นอันตรายหรือเดือดร้ อนราคาญแก่บุคคล หรือเป็ นอนั ตรายแก่ทรัพย์ หรือกระทาด้วยประการใด ๆ ให้ของโสโครก เปรอะเปื ้อนหรือน่าจะเปรอะเปื ้อน ตวั บุคคล หรือทรัพย์ หรือแกล้งทาให้ ของโสโครกเป็ นท่ีเดือดร้ อนราคาญ ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไมเ่ กินหนง่ึ หมน่ื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๙๐ ผ้ใู ดกระทาโดยประมาท และการกระทานนั้ เป็ นเหตุ ให้ผ้อู ืน่ รับอนั ตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหนง่ึ เดือน หรือปรับไมเ่ กินหนง่ึ หม่นื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ *มาตรา ๓๙๑ ผู้ใดใช้กาลงั ทาร้ ายผู้อ่ืนโดยไม่ถึงกับเป็ นเหตใุ ห้เกิด อนั ตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับ ไมเ่ กินหนง่ึ หมนื่ บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ____________________________________ *มาตรา ๓๘๗ ถึงมาตรา ๓๙๑ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๖
188 *มาตรา ๓๙๒ ผู้ใดทาให้ ผู้อ่ืนเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน หนงึ่ หมืน่ บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ **มาตรา ๓๙๓ ผู้ใดดูหม่ินผู้อ่ืนซ่ึงหน้ าหรื อด้ วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหน่ึงเดือน หรือปรับไม่เกินหนงึ่ หม่ืนบาท หรือ ทงั้ จาทงั้ ปรับ ***มาตรา ๓๙๔ ผ้ใู ดไล่ ต้อนหรือทาให้สตั ว์ใด ๆ เข้าในสวน ไร่หรือนา ของผู้อื่นที่ได้แต่งดินไว้ เพาะพันธ์ุไว้ หรือมีพืชพันธ์ุ หรือผลิตผลอยู่ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทงั้ จาทงั้ ปรับ ***มาตรา ๓๙๕ ผู้ใดควบคุมสตั ว์ใด ๆ ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นัน้ เข้าในสวน ไร่หรือนาของผู้อ่ืนท่ีได้แต่งดินไว้ เพาะพันธ์ุไว้ หรือมีพืชพันธ์ุ หรือผลติ ผลอยู่ ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินห้าพนั บาท ***มาตรา ๓๙๖ ผู้ใดทิง้ ซากสัตว์ซึ่งอาจเน่าเหม็นในหรือริมทาง สาธารณะ ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินห้าพนั บาท ____________________________________ *มาตรา ๓๙๒ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพมิ่ เติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๖ **มาตรา ๓๙๓ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิม่ เติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๗ ***มาตรา ๓๙๔ ถงึ มาตรา ๓๙๖ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ท่ี ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๖
189 *มาตรา ๓๙๗ ผู้ใดกระทาด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อ่ืน อันเป็ นการ รังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทาให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้ อน ราคาญ ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินห้าพนั บาท ถ้ าการกระทาความผิดตามวรรคหน่ึงเป็ นการกระทาในท่ี สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกานัล หรือเป็ นการกระทาอันมีลักษณะ ส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไมเ่ กินหนงึ่ หมน่ื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ถ้าการกระทาความผิดตามวรรคสองเป็ นการกระทาโดยอาศยั เหตุ ที่ผู้กระทามีอานาจเหนือผู้ถูกกระทา อนั เนื่องจากความสมั พันธ์ในฐานะ ท่ีเป็ นผู้บงั คบั บญั ชา นายจ้าง หรือผู้มีอานาจเหนือประการอ่ืน ต้องระวาง โทษจาคกุ ไมเ่ กินหนง่ึ เดือน และปรับไมเ่ กินหนง่ึ หมื่นบาท **มาตรา ๓๙๘ ผู้ใดกระทาด้วยประการใด ๆ อันเป็ นการทารุณ ตอ่ เดก็ อายยุ งั ไมเ่ กินสบิ ห้าปี คนป่ วยเจ็บหรือคนชรา ซง่ึ ต้องพ่ึงผ้นู นั้ ในการ ดารงชีพหรือการอ่ืนใด ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับ ไมเ่ กินหนงึ่ หม่นื บาท หรือทงั้ จาทงั้ ปรับ ______________________ ____________________________________ *มาตรา ๓๙๗ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพ่ิมเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๘ **มาตรา ๓๙๘ แก้ไขโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบบั ที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๙
190 ระเบยี บราชการฝ่ ายตุลาการศาลยุตธิ รรม ว่าด้วยการกาหนดจานวนช่ัวโมงท่ถี ือเป็ นการทางานหน่ึงวัน และแนวปฏบิ ัตใิ นการให้ทางานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ แทนค่าปรับ และการเปล่ียนสถานท่กี กั ขงั พ.ศ. ๒๕๔๖ ________________ โดยท่ีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔ วรรคสาม และมาตรา ๓๐/๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมาย อาญา (ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ กาหนดให้ศาลมีอานาจสั่งให้ผู้ต้อง โทษปรับทางานบริการสงั คมหรือทางานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ ในกรณีที่ผ้นู นั้ ไมม่ เี งินชาระคา่ ปรับ และให้ประธานศาลฎีกากาหนดจานวน ชั่วโมงการทางานของผู้ต้องโทษปรับที่ถือเป็ นการทางานหนึ่งวัน โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อสร้ างจิตสานึกท่ีดีให้แก่ผู้ต้องโทษปรับ เพ่ือให้เข้ามา มีบทบาทช่วยเหลือสร้ างคุณประโยชน์แก่สังคม และกาหนดให้ ศาล มีอานาจเปล่ียนแปลงสถานท่ีกักขังผ้ ูต้ องโทษกักขังหรื อผ้ ูถูกกักขังแทน คา่ ปรับ หากมีเหตตุ ามที่กฎหมายบญั ญัติ อนั เป็ นมาตรการในการคุ้มครอง สวสั ดิภาพความปลอดภยั ให้แก่ผ้ตู ้องโทษกกั ขงั หรือผ้ถู ูกกกั ขงั แทนคา่ ปรับ เพ่ือกาหนดจานวนชั่วโมงท่ีถือเป็ นการทางานหนึ่งวัน และเพ่ือ ให้การทางานบริการสงั คมหรือทางานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับและ การเปล่ียนสถานที่กกั ขงั ตามคาสง่ั ศาลเป็ นไปโดยเรียบร้อย อาศยั อานาจ ตามความในมาตรา ๓๐/๑ วรรคหก แห่งประมวลกฎหมายอาญา และ มาตรา ๕ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ประธานศาลฎีกาออกระเบียบไว้ ดงั นี ้
191 หมวด ๑ บทท่วั ไป ข้อ ๑ ระเบียบนีเ้รียกวา่ “ระเบียบราชการฝ่ ายตลุ าการศาลยตุ ิธรรม ว่าด้วยการกาหนดจานวนช่ัวโมงที่ถือเป็ นการทางานหนึ่งวัน และแนว ปฏิบตั ิในการให้ทางานบริการสงั คมหรือสาธารณประโยชน์แทนคา่ ปรับและ การเปล่ียนสถานที่กกั ขงั พ.ศ. ๒๕๕๖” ข้อ ๒ ระเบียบนีใ้ ห้ใช้บังคบั ตงั้ แต่วนั ที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๖ เป็ นต้นไป หมวด ๒ จานวนช่ัวโมงท่ถี อื เป็ นการทางานหน่ึงวัน ข้อ ๓ เพื่อประโยชน์ในการกาหนดจานวนช่ัวโมงทางานบริการ สังคมหรือทางานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับตามมาตรา ๓๐/๑ วรรคหก แห่งประมวลกฎหมายอาญา ให้ถือวา่ ๓.๑ การทางานช่วยเหลือดูแลอานวยความสะดวกหรือให้ความ บันเทิงแก่คนพิการ คนชรา เด็กกาพร้ าหรือผู้ป่ วยในสถานสงเคราะห์หรือ สถานพยาบาล งานวิชาการหรืองานบริการด้านการศึกษา เช่น การสอน หนงั สือ การค้นคว้าวิจยั หรือการแปลเอกสาร เป็นต้น จานวน ๒ ชวั่ โมงเป็ น การทางานหนง่ึ วนั ๓.๒ การทางานวิชาชีพ งานช่างฝี มือหรืองานที่ต้องใช้ความรู้ความ เชี่ยวชาญ เช่น งานช่างฝี มือเคร่ืองยนต์ ก่อสร้ าง คอมพิวเตอร์หรือวิชาชีพ อย่างอ่นื เป็นต้น จานวน ๓ ชวั่ โมง เป็นการทางานหนง่ึ วนั ๓.๓ การทางานบริการสังคมหรือบาเพ็ญสาธารณประโยชน์อ่ืน
192 ที่ไม่ต้องใช้ ความรู้ ความเช่ียวชาญหรืองานอ่ืนนอกจากที่กาหนดไว้ เช่น งานทาความสะอาดหรือพฒั นาสถานท่ีสาธารณะ งานปลูกป่ า หรือ ดูแลสวนป่ าหรือสวนสาธารณะ งานจราจร เป็ นต้น จานวน ๔ ช่ัวโมง เป็นการทางานหนง่ึ วนั ในกรณีมีเหตุอนั สมควร ศาลอาจกาหนดจานวนชวั่ โมงการทางาน ตามวรรคหนง่ึ ให้ลดน้อยลงได้ ทงั้ นี ้โดยคานึงถงึ หลกั เกณฑ์ตามข้อ ๗ และ ให้ระบเุ หตผุ ลไว้โดยชดั แจ้งด้วย หมวด ๓ แนวปฏบิ ตั ใิ นการมีคาส่ังให้ทางานบริการสังคม หรือสาธารณประโยชน์ ข้อ ๔ ผู้ต้องโทษปรับซึ่งไม่มีเงินชาระค่าปรับอาจร้ องขอทางาน บริการสังคมหรือทางานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับต่อศาลชัน้ ต้น ที่พิพากษาคดี โดยระบุรายละเอียดและประวัติของผู้ร้ องตามแบบพิมพ์ ที่กาหนดไว้ท้ายระเบียบนี ้ ข้อ ๕ ในคดที ่ีศาลมคี าพิพากษาปรับไม่เกินแปดหม่ืนบาท ศาลอาจ สอบถามว่าผู้ต้องโทษปรับมีเงินชาระค่าหรับหรือไม่ และแจ้งให้ทราบถึง สทิ ธิท่ีจะขอทางานบริการสงั คมหรือทางานสาธารณประโยชน์แทนคา่ ปรับ ก็ได้ ให้ ศาลจัดให้ มีการช่วยเหลือหรื ออานวยความสะดวกในการจัดทา และย่ืนคาร้องตามข้อ ๔ ด้วย ข้อ ๖ ในการพิจารณาว่าสมควรให้ผู้ต้องโทษปรับทางานบริการ สงั คมหรือทางานสาธารณประโยชน์แทนคา่ ปรับหรือไม่ ศาลควรคานึงถึง
193 ประโยชน์ท่ีจะเกิดจากมาตรการบริการสงั คมและสาธารณประโยชน์ให้มาก และพึงให้ความสาคญั แก่ข้อมลู ที่เก่ียวกบั ฐานะการเงิน ประวตั ิและสภาพ ความผิดของผู้ต้องโทษปรับ และเพ่ือการนี ้ ศาลอาจสอบถามหรือไต่สวน ข้อเท็จจริงเพ่ิมเติมเพ่ือให้ได้ข้อมลู ประกอบการพิจารณาครบถ้วน รวมทงั้ อาจขอความร่วมมือจากพนักงานอัยการหรื อหน่วยงานอ่ืนในการ สืบเสาะหาข้อมลู เพ่ือประกอบการพิจารณาก็ได้ ฐานะการเงินของผู้ต้องโทษปรับ ให้พิจารณาจากรายได้ ทรัพย์สิน ความเป็ นอยู่ ภาระหนีส้ ินต่าง ๆ เพ่ือให้ ได้ข้ อเท็จจริงปรากฏว่าผู้นัน้ มเี งินพอที่จะชาระคา่ ปรับได้ในเวลาที่ย่ืนคาร้องหรือไม่ ประวตั ิของผ้ตู ้องโทษปรับให้พิจารณาถงึ ประวตั ิการกระทาความผิด การศึกษา อาชีพ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ครอบครัว และสภาพแวดล้อม รวมทงั้ ข้อมลู สว่ นบคุ คลประการอ่นื สภาพความผิด ให้พิจารณาถึงความหนักเบาแห่งข้อหา ความ รุนแรงของการกระทาความผิด สภาวะทางจิตใจ การกระทาความผิด โดยเจตนาหรือประมาท ความเสียหายท่ีเกิดจากการกระทาความผิด สภาพความผิดท่ีไมค่ วรอนญุ าตให้ทางานแทนคา่ ปรับ ได้แก่ ความผิดท่ีได้ กระทาไปด้วยเจตนาร้ ายหรือทุจริตฉ้อฉล อนั มีผลกระทบต่อสาธารณชน ส่วนรวม หรือความผิดที่กฎหมายมุ่งประสงค์จะลงโทษในทางทรัพย์สิน ต่อผู้กระทาผิดเพื่อมิให้ผู้นัน้ ได้รับประโยชน์จากการกระทาความผิด เช่น ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ความผิดเก่ียวกับการค้ายาเสพติด ความผิดเก่ียวกบั การฟอกเงิน ความผิดตามกฎหมายวา่ ด้วยหลกั ทรัพย์และ ตลาดหลกั ทรัพย์ ความผิดตามกฎหมายวา่ ด้วยการประกอบกิจการสถาบนั การเงิน หรือความผิดตามกฎหมายศลุ กากร เป็นต้น
194 ข้อ ๗ กาหนดระยะเวลา สถานที่ และประเภทของการทางาน บริการสังคมหรือการทางานสาธารณประโยชน์ นอกจากปัจจัยต่าง ๆ ตามท่ีบญั ญัติไว้ในมาตรา ๓๐/๑ วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายอาญา แล้ว ศาลควรพิจารณาด้วยว่าการทางานนัน้ ต้องไม่ก่อความเสียหายแก่ สงั คมหรือบุคคลอ่ืน และต้องไม่ก่อให้เกิดภาระเกินสมควรแก่ผู้ต้องโทษ ปรับ ทงั้ นี ้ให้พิจารณาจากวิถีชีวิต การดารงชีพ การศกึ ษาเลา่ เรียน ความ รับผิดชอบต่อครอบครัว ระยะทางและความสะดวกในการเดินทาง ไปทางาน ความเป็ นผู้ป่ วยเจ็บหรือเป็ นโรคติดต่ออย่างร้ ายแรง การติดยา เสพติดหรือสรุ าเรือ้ รัง ประวตั ิในการกระทาผิดทางเพศ พฤติกรรมในทาง ก้าวร้าวรุนแรง ปัญหาทางอารมณ์หรือความบกพร่องทางจิตของผ้ตู ้องโทษ ปรับด้วย ข้อ ๘ ระยะเวลาการทางานของผู้ต้องโทษปรับในแต่ละวนั ไม่ควร กาหนดให้เกินวนั ละ ๖ ชว่ั โมง โดยพิจารณาจากลกั ษณะหรือประเภท และ ความเหมาะสมของงาน ความจาเป็ นของผู้ต้องโทษปรับ รวมถึงปัจจัย แวดล้อมอ่นื ประกอบด้วย เม่ือผู้ต้องโทษปรับทางานครบจานวนช่วั โมงท่ีกาหนดไว้ตามข้อ ๓ ก็ให้ถือว่าได้ทางานหนึ่งวัน และให้นับเช่นนัน้ ไปจนครบจานวนช่ัวโมง ท่ีได้ทางานทงั้ หมดรวมกนั ข้อ ๙ ศาลจะกาหนดให้ผู้ต้องโทษปรับทางานติดต่อกันทุกวัน หรือไมก่ ็ได้ แตค่ วรกาหนดให้ทางานอย่างน้อยสปั ดาห์ละ ๑ วนั และไมเ่ กิน ๕ วันในแต่ละสัปดาห์ เว้ นแต่มีพฤติการณ์พิเศษตามคาร้ องขอของ ผ้ตู ้องโทษปรับ ศาลอาจกาหนดหรือเปลี่ยนแปลงคาสง่ั เป็นอย่างอ่นื กไ็ ด้ ข้อ ๑๐ ให้สานกั งานศาลยุติธรรมติดต่อประสานงานกับกระทรวง
195 การพัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวง แรงงาน องค์กรส่วนท้ องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือองค์ การ ซ่ึงมีวัตถุประสงค์เพ่ือการบริ การสังคม การกุศลสาธารณะหรื อ สาธารณประโยชน์ เช่น องค์กรที่ทางานเกี่ยวกับเด็ก หน่วยงานบริการ ข่าวสาร บริการสุขาภิบาล หน่วยงานควบคุมป้ องกันอัคคีภัย ควบคุม มลภาวะ บรรเทาสาธารณภัย ดแู ลรักษาหรือทาความสะอาด ดูแลรักษา สวนสาธารณะ จราจร หน่วยงานจัดทาโครงการฝึ กอบรมหรือฝึ กหดั งาน แก่เยาวชน สถานศกึ ษา หรือโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลท่ีดูแลรักษา คนพิการ เด็ก คนชรา เป็ นต้น เพื่อให้รับเป็ นผู้ดูแลการทางาน รวมทัง้ ให้จดั ระบบการติดต่อประสานงานระหว่างศาลกบั หน่วยงานดงั กล่าว และ กาหนดประเภทและลักษณะการทางาน เพื่อให้ศาลนามาตรการการ ทางานบริการสังคมและสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับมาใช้ ให้ เกิด ประโยชน์สงู สดุ ข้อ ๑๑ เม่ือได้สง่ั ให้ผู้ต้องโทษปรับทางานบริการสงั คมหรือทางาน สาธารณประโยชน์ ศาลอาจกาหนดเงื่อนไขให้ผู้ต้องโทษปรับปฏิบัติเพื่อ แก้ไขฟื น้ ฟหู รือป้ องกนั มใิ ห้ผ้นู นั้ กระทาความผิดขนึ ้ อกี กไ็ ด้ เช่น ๑๑.๑ การเข้าร่วมโครงการฝึ กอบรมทางศีลธรรมหรือฝึ กวินยั หรือ โครงการอื่นตามท่ีศาลเหน็ สมควร ๑๑.๒ การละเว้นการคบหาสมาคมหรือการประพฤติใดอันอาจ นาไปสกู่ ารกระทาความผิดในทานองเดียวกนั อีก ๑๑.๓ การห้ามเสพส่ิงเสพติดทกุ ชนิด ข้อ ๑๒ เม่ือศาลมีคาสง่ั อนุญาตให้ทางานแทนคา่ ปรับ ให้ศาลแจ้ง คาสง่ั ไปยงั ผ้ทู ี่ยินยอมรับดแู ลและให้แจ้งด้วยวา่ เม่ือการทางานเสร็จสิน้ ลง
196 หรือมีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไป ให้ผู้ดแู ลรายงานเกี่ยวกบั การทางานให้ ศาลทราบด้วย หมวด ๔ แนวปฏบิ ัตใิ นการส่ังเปล่ียนสถานท่กี ักขัง ข้อ ๑๓ ในการใช้ดุลพินิจเปล่ียนสถานท่ีกักขังตามมาตรา ๒๔ วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายอาญา ศาลอาจขอความร่วมมือจาก กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ กรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ หรือหน่วยงานอื่นตามท่ีกาหนดไว้ในข้อ ๑๐ ในการ สืบเสาะหาข้อมลู เพ่ือประกอบการใช้ดลุ พินิจ รวมทัง้ ความร่วมมือในการ จดั หาสถานท่ีกกั ขงั ท่ีเหมาะสมและผ้ทู ่ียินยอมรับควบคมุ ดแู ลก็ได้ ข้อ ๑๔ เพ่ือให้การปฏิบตั ิตามระเบียบนีเ้ ป็ นไปด้วยความเรียบร้อย ศาลอาจกาหนดแนวทางปฏิบัติของแต่ละศาลได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้ ง กบั ระเบียบนี ้เช่น ระบบการประสานงานกบั หน่วยงานตามข้อ ๑๐ เป็นต้น ข้อ ๑๕ ในกรณีท่ีต้องมีวิธีการใดในทางธุรการเพ่ือให้การปฏิบัติ ตามระเบียบนีเ้ ป็ นไปด้วยความเรียบร้ อย ให้เลขาธิการสานักงานศาล ยตุ ิธรรมเป็นผ้กู าหนดวธิ ีการนนั้ ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๖ อรรถนิติ ดษิ ฐอานาจ ประธานศาลฎีกา
197 พระราชบญั ญัติ ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ _________________ ภมู พิ ลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันท่ี ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ เป็ นปี ท่ี ๕๖ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรม ราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศวา่ โดยท่ีเป็ นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยค่าตอบแทนผู้เสียหาย และคา่ ทดแทนและคา่ ใช้จา่ ยแกจ่ าเลยในคดอี าญา พระราชบญั ญัตินีม้ ีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกบั การจากดั สิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ซง่ึ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๗ และมาตรา ๓๙ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บญั ญตั ิให้กระทาได้โดยอาศยั อานาจตามบทบญั ญตั ิแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึน้ ไว้โดย คาแนะนาและยินยอมของรัฐสภา ดงั ตอ่ ไปนี ้
198 มาตรา ๑ พ ร ะ ร าช บัญ ญั ติ นี เ้ รี ย ก ว่ า “ พ ระร า ช บั ญ ญั ติ ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จาเลยใน คดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔” *มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินีใ้ ห้ ใช้ บังคับตัง้ แต่วันถัดจากวัน ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญตั นิ ี ้ “ผู้เสียหาย” หมายความวา่ บุคคลซง่ึ ได้รับความเสียหายถึงแก่ชีวิต หรือร่างกายหรือจิตใจเนื่องจากการกระทาความผิดอาญาของผ้อู ื่น โดยตน มไิ ด้มีสว่ นเก่ียวข้องกบั การกระทาความผิดนนั้ “จาเลย” หมายความว่า บุคคลซึ่งถูกฟ้ องต่อศาลว่าได้กระทา ความผิดอาญา “ค่าตอบแทน” หมายความว่า เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อ่ืนใด ท่ีผู้เสียหายมีสิทธิได้รับเพ่ือตอบแทนความเสียหายท่ีเกิดขึน้ จากหรือ เน่ืองจากมีการกระทาความผิดอาญาของผ้อู น่ื “ค่าทดแทน” หมายความว่า เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อ่ืนใด ที่จาเลยมีสิทธิได้รับเนื่องจากการตกเป็ นจาเลยในคดีอาญาและถูกคุมขัง ระหว่างการพิจารณาคดี และปรากฏว่าคาพิพากษาถึงที่สุดในคดีนัน้ ฟังเป็ นยุติว่าจาเลยมิได้เป็ นผู้กระทาความผิดหรือการกระทาของจาเลย ไมเ่ ป็นความผิด “สานักงาน” หมายความว่า สานักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ ผ้เู สยี หายและจาเลยในคดอี าญา “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการพิจารณา ____________________________________ *ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ๑๑๘ ตอนที่ ๑๐๔ ก หน้า ๒๓ วนั ที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๔
199 คา่ ตอบแทนผ้เู สียหาย และคา่ ทดแทนและคา่ ใช้จ่ายแก่จาเลยในคดีอาญา “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการพิจารณาค่าตอบแทน ผ้เู สียหาย และคา่ ทดแทนและคา่ ใช้จา่ ยในคดีอาญา “พนักงานอัยการ” หมายความว่า พนักงานอัยการตามกฎหมาย วา่ ด้วยพนกั งานอยั การหรืออยั การทหารตามกฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาล ทหาร “พนักงานเจ้าหน้ าท่ี” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตัง้ ให้ ปฏิบตั ิการตามพระราชบญั ญตั นิ ี ้ “รัฐมนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรีผ้รู ักษาการตามพระราชบญั ญัติ นี ้ มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงยตุ ธิ รรมและรัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี ้ และให้มีอานาจออก กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศแต่งตัง้ พนักงานเจ้ าหน้ าที่เพื่อ ปฏิบตั กิ ารตามพระราชบญั ญตั นิ ี ้ กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศนัน้ เม่ือได้ประกาศในราชกิจจา นเุ บกษาแล้ว ให้ใช้บงั คบั ได้ หมวด ๑ บทท่วั ไป มาตรา ๕ การเรียกร้ องหรือการได้มาซ่ึงสิทธิหรือประโยชน์ตาม พระราชบญั ญัตินี ้ไม่เป็ นการตดั สิทธิหรือประโยชน์ท่ีผู้เสียหายหรือจาเลย พงึ ได้ตามกฎหมายอืน่ มาตรา ๖ ในกรณีท่ีผ้เู สยี หายหรือจาเลยถงึ แก่ความตายก่อนที่จะ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225