Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใครคือโทมัส อัลวา เอดิสัน

ใครคือโทมัส อัลวา เอดิสัน

Published by Forward 1, 2019-10-24 23:25:33

Description: เป็นหนังสือชีวประวัติของวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์ชื่อก้องโลก ผู้มีนามว่า โทมัส อัลวา เอดิสัน

Keywords: โทมัส อัลวา เอดิสัน

Search

Read the Text Version

ใครคือ Tomas Alva Edison ? วนั หนึ่งคนในครอบครวั Edison หาเด็กชายวัยหกขวบไมเ่ จอ คนในครอบครัวจะเรยี กเขาวา่ Al ในปี พ.ศ. 2396 (ค.ศ.1853) พวก เขาได้ไปเย่ียมพ่ีสาวและพ่เี ขยของ Al ทฟ่ี าร์มซึ่งอยู่ในรฐั Ohio เมอื ง Milan ทนั ใดน้ันลุงของ Al นึกขน้ึ ได้ เลยวงิ่ ออกไปทโี่ รงนาและเขาเหน็ Al กาลังนง่ั อย่ทู ่ีกองฟาง โดยที่ เขาพยายามท่ีจะฟักไขห่ า่ น เขา กาลังมองแม่ไก่กาลังกกไข่อยู่ แลว้ มีลกู ไก่ฟักตวั ออกมา Al ก็ เลยต้องการให้ไข่ห่านฟักลูก ออกมาเหมือนกัน

Edison ไม่ได้ร้สู ึก ประหลาดใจแต่อยา่ งใด เขามีลูก 3 คน แต่ Al เปน็ ลกู คนสดุ ท้อง เขา เป็นคนทใี่ ฝุรู้ และเป็นแบบน้ันมา โดยตลอด โลกไดแ้ ตกตา่ งออกไปใน ตอนที่ Al ยังเป็นเด็ก ตอนน้นั ไม่มี ไฟฟูาให้ใช้ ไม่มเี ครื่องบนั ทกึ เสียงไว้ฟังเพลง ไม่มีหนังให้ดู แต่ Alva Edison เป็นคนท่เี ปล่ยี นชวี ติ ของเราไปตลอดกาล โดย Alva Edison เช่อื ว่าส่ิงประดิษฐจ์ ะทาให้การ ใช้ชวี ิตของเราน้นั สะดวกสบาย และงา่ ยย่ิงข้นึ และเขาก็ทามนั สาเรจ็ บางที Tomas Alva Edison อาจจะเปน็ นักประดิษฐ์ ทเี่ กง่ ทสี่ ดุ ในยคุ น้นั ก็เป็นได้

บทที่ 1 อยากรู้อยากเหน็ ตลอดเวลา Thomas Alva Edison เกิดเมื่อวันท่ี 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2390 (ค.ศ.) ในคืนอันเหน็บหนาวท่ามกลางหิมะในเมือง Milan รัฐโอไฮโอ พ่อแม่ ข อ ง เ ข า ชื่ อ ว่ า Nancy และ Samuel ได้ต้ังช่ือ เ ข า ว่ า Thomas ตามชื่อท้ายของตา ของเขา และ Alva ตามชื่อของ เพื่อนของพ่อเขา คนในครอบครัวจะ ไ ม่ เ รี ย ก เ ข า ว่ า Tom หรอื Tommy แตพ่ วกเขาเรียกว่า Al Al ตัวนอ้ ยต้องการค้นหาทกุ อยา่ งทีเ่ กี่ยวกับสิ่งตา่ งๆรอบตัว ของเขา เขาทาราวกบั วา่ ตัวเองเป็นนักวิทยาศาสตรท์ ี่กาลังทาการ ทดลอง

เขาไม่เพยี งแค่ถามคาถาม แต่เขายงั ชอบค้นหาคาตอบ ดว้ ยตวั เขาเอง ครั้งหนงึ่ Al ทาลายรังผ้งึ เพื่อดูว่ามีอะไร อยขู่ ้างในรัง ต่อมา เขาสังเกตดูนกกินหนอนและบินออกไป ดังนัน้ Al จงึ ทาการผสมนา้ และหนอนบด

หลังจากนั้นเขาให้สิ่งนั้นแก่เพื่อนบ้านสาวด่ืม เขาอยากรู้ว่าการกิน ห น อ น จ ะ ท า ใ ห้ ห ญิ ง ส า ว ค น นั้ น บิ น ไ ด้ ห รื อ ไ ม่ แ ต่ สุ ด ท้ า ย มันกลบั ทาใหผ้ ้หู ญิงคนนัน้ ปวุ ย สุดท้าย Al ถกู ตีดว้ ยไม้เรยี ว ไม่มีสิ่งใดหยุด Al ได้ ไม่ใช่ผึ้ง ไม่ใช่ไม้เรียว และไม่ใช่แม้แต่ การตกลงไปในถังเก็บธัญพืช ในขณะท่ีเขาเดินอยู่บนขอบถัง เขาก็ตก ลงไปในถัง โชคดีมีคนช่วยเขาด้วยการดึงขาของเข้าออกมาก่อนท่ีเขา จะจมลงใต้กองขา้ วสาลี พ่อของ Al เป็นเจ้าของโรงงานผลิตธัญพืชและไม้ซุงในเมือง Milan เรือหลายๆลาของ Captain Alva Bradley

ส่งไม้ซุงจากแคนาดาผ่านทะเลสาบ Erie ลงสู่แม่น้า Huron และผ่าน คลอง Milan ท่ีนั้น มันจะถูกตัดให้เป็นท่อนและแผ่นกระดาน ที่ โรงงาน เชน่ เดียวกบั ของนาย Edison รถบรรทุกและรถยนต์ ยังไม่ได้รับการคิดค้น และรถไฟยังมา ไม่ถึงเมือง Milan แต่อยู่มาวันหน่ึงทางรถไฟก็ถูกสร้างข้ึน รถไฟเริ่ม ได้ยินเสียงในเขต เมือง และคลอง เป็นสิ่งที่ไม่สาคัญ ม า ก อี ก ต่ อ ไ ป ระบบรถไฟใช้งาน ได้เร็วและง่ายกว่า ใ น ก า ร ข น ส่ ง ส่ิ ง ข อ ง ภายในประเทศ ดังน้ันเมื่อ Al อายุ 7 ขวบ

ครอบครวั ยา้ ยบ้านใหม่ไปยังเมือง Port Huron รัฐมิชิแกน ระยะทาง กว่า 160 กิโลเมตร ไปทางเหนอื ของเมือง Milan พวกเขาอาศัยอยู่ ในบ้านหลังใหญ่บนแม่น้า St. Clair พ่อ ของ Al ทาหลายส่ิงเพื่อหาเลี้ยงชีพ เขา ทางานเป็นช่างไม้ เขาเปิดร้านขายของ ชา เขาทาสวนผัก เขาพยายามทานา และเขาก็ยังสร้างปูอมปราการสูง 30 เมตร ท่ีสามารถมองเห็นแม่น้าได้ ทุก คนสามารถปีนข้ึนและมองเรือแล่นผ่าน ได้ โดยการจ่ายเงนิ ประมาณ 25 เซนต์ ครอบครวั Edison อย่ทู น่ี ัน่ แค่ เวลาสนั้ ๆ เม่ือ Al ปุวยเปน็ ไข้ อดี าอีแดง มันคือโรคท่รี นุ แรงในช่วงนน้ั ไม่มียารักษาท่ใี ช้กนั ทุกวนั น้ี

เขามีไข้สูง ผื่นสีแดงขึ้นตามผิวหนังของเขา หลังจากท่ี Al หายจาก อาการปุวย แต่เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถได้ยินได้ดีเหมือนอย่างที่ผ่าน มา อาจเปน็ เพราะไข้อดี าอแี ดง ท่ีโรงเรียนครู บ่นว่า Al ไม่ต้ังใจเรียน เขาล่องลอย เขาอาจจะ เ บื่ อ ห รื อ ไ ม่ ก็ อ า จ จ ะ ไม่ได้ยนิ เสียงอะไรเลย วนั หนึง่ เมอ่ื เขา อายุ 8 ขวบ Al ได้ยิน ครูของเขากาลังเล่าให้ บางคนฟังว่า เขาสมอง กลวง เขาหมายความว่าสมองของ Al ไดร้ ับการกระทบกระเทือน เม่ือ Al เล่าให้แม่เขาฟังทาให้แม่ของเขาโกรธมาก เขานาลูกชายของเขา ออกจากโรงเรยี นและเรมิ่ สอนหนังสอื ให้ลูกเขาท่ีบ้าน Al รกั ในการอา่ น ครขู อง Al ประหลาดใจมากเทา่ ทแ่ี ม่ของ Al ให้หนังสือที่ยากมากแก่ Al

ห นั ง สื อ เ ห ล่ า น้ั น เ กี่ ย ว กั บ ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติและ วิทยาศาสตร์ Al อ่านหนังสือ เหล่าน้ันเร็วท่ีสุดเท่าท่ีเขาจะทาได้ หนังสือเล่มท่ีเขาชอบมากที่สุดซึ่งมี ช่ือว่า A school Compendium of Natural and Experimental Philosophy มั น เ ป็ น ห นั ง สื อ วิทยาศาสตร์พูดถึงเกี่ยวกับกระแสไฟฟูา แบตเตอร่ี ของเล่นไฟฟูา และอน่ื ๆอกี มากมาย มันคอื การทดลองท่วั ไป Al ตื่นเต้นมาก เขาเร่ิมทาการทดลองต่างๆทุกที่ในบ้าน เขา ใช้ส่ิงของเช่น ขนนก ข้ีผ้ึง และสารเคมีจากร้านยา ห้องนอนของเขา เต็มไปด้วยเหยือกละขวด ในที่สุดแม่ของเขาส่งเข้าไปยังห้องใต้ดิน เพื่อใหเ้ ปน็ ห้องทดลองของเขาเอง

รหสั Morse ( 2334 – 2415 ) Samuel Morse เกิดในยา่ น Charlestown รัฐแมสซาซเู ซตส์ เขาคอื จิตรกรทาสรี ปู ปั้นคนในชว่ งครึ่ง ชวี ิตแรกของเขา

Morse มกั จะสนใจในเรื่องวทิ ยาศาสตร์โดยเฉพาะเรื่อง กระแสไฟฟูา เขาเกิดแนวคิดเม่ือตอนที่เขาอายุ 41 ปี อะไรคือ การส่งข้อความโดยรหัส ผ่านสายไฟ แนวคิดนี้ผุดขึ้นในหัวเขา ในขณะท่ีเขาอยู่บนเรือ เดินทางกลับบ้านจากฝรั่งเศส ที่ซ่ึงใช้ เวลายาวนานถึง 1 เดือน สาหรับการส่งจดหมายฉบับหนึ่งให้ การไปถงึ เขาจากอเมรกิ า การทดลองอันแสนธรรมดาท่ีเขาได้สร้างในปี พ.ศ. 2382 (ค.ศ. 1837) ถูกใช้งานคร้ังแรก แต่มันใช้งานไม่ได้ จนกระท่ังในปี พ.ศ. 2382 (ค.ศ. 1844) เขาสามารถส่งโทร เลขคร้ังแรกอย่างเป็นทางการ Morse พิมพ์ประโยคจากคาภีร์ ไบเบิล \"What hath god wrough?\" มันถูกส่งจากวอชิงตัน ดี.ซี. ไปยังเมือง Baltimore รัฐแมรี่แลนด์ ระยะทาง 55 กิโล ไกลออกไป มันใช้เวลาน้อยกว่า 1 วินาทีในการเดินทางผ่าน สายไฟ

ส่วนหนึ่งในหนังสือที่ทาให้ Al สนใจมากท่ีสุด มันเกี่ยวกับ พยัญชนะระบบการส่งโทรเลขของ Morse Morse คือ ชื่อของรหัส มันถกู ใชเ้ พ่ือส่งข้อความไปยังที่ตา่ งโดยผ่านสายโทรเลข ในตอนนั้นยัง ไม่มีโทรศัพท์ใช้ คุณไม่สามารถพูดคุยกับคนอ่ืนท่ีอยู่ไกล แต่คุณ สามารถสง่ ข้อความทถี่ ึงพวกเขาได้อยา่ งรวดเร็ว Samuel Morse สร้างรหัสขึ้นมา แทนการใช้ตัวอักษรและ ตัวเลข เขาใช้จุดและเคร่ืองหมายขีดเพ่ือส่งข้อความ ซึ่งกลายเป็นที่ ร้จู กั กันในชอ่ื โทรเลข

ทางรถไฟมีบทบาทอยา่ งมาก เพราะสายโทรเลขท่ขี นสง่ โทร เลขถกู พาไว้กับเสาตลอดทางรถไฟ ผ้คู วบคมุ สถานีรถไฟสามารถส่ง โทรเลขล่วงหน้า ในกรณถี า้ ตารางการเดินรถมีการเปลี่ยนแปลง หรอื มอี ุบตั เิ หตุหรือเกดิ ความลา่ ช้าในบางกรณี การส่งโทรเลขทาใหร้ ถไฟมี ความปลอดภัยมากข้ึน ผู้ปฏิบตั ิงานพมิ พข์ ้อความดว้ ยการเคาะจดุ และเคร่ืองหมาย ขดี โดยใชก้ ุญแจโลหะบนแปูนพมิ พ์ ขอ้ ความถูกส่งอย่างรวดเรว็ ผ่าน เสาไฟฟูาไปยังสถานีข้างหน้า จุดและขีดถกู ทาใหเ้ ปน็ รอยบากหรือ ตัดลงไปบนมว้ นกระดาษ ผู้ปฏิบตั ิงานถอดรหัสข้อความโดยการใช้ รหสั Morse และเขยี นข้อความเปน็ คาต่าง โทรเลขมีราคาแพง ดงั นั้นส่วนใหญ่จะใช้ส่งโทรเลขกันในทาง ธุรกิจ แต่คนท่ัวไปก็ส่งโทรเลขเช่นกัน เพื่อ ส่งข่าวให้ครอบครัวและ เพือ่ นได้ทราบอยา่ งรวดเรว็ เช่น การเกดิ ของลูกคนใหม่ Al ไมส่ ามารถท่จี ะรอเพ่ือใช้มัน เขาสรา้ งรหัสโทรเลขแบบธรรมดา และเขากเ็ ร่ิมเรยี นรรู้ หสั Morse และเขาก็ยงั สรา้ งสายขึน้ มาระหว่าง บา้ นของเขากับบา้ นของเพ่อื นเขาซง่ึ อยใู่ กล้กัน

ขณะท่พี วกเขาเรียนร้รู หัส เขากเ็ ร่มิ สง่ ขอ้ ความโต้ตอบไปมา ในไมช่ า้ น้ี Al จะไปทางานทส่ี ถานีรถไฟ และที่นัน่ ก็ทาให้ ความสนใจในเทคนิคการสง่ โทรเลขเพิ่มขน้ึ และจรงิ จังมากขึ้น

บทท่ี 2 นกั ประดษิ ฐ์นอ้ ย เมื่อ Al มีอายุได้ 12 ปี พ่อของเขาช่วยหางานให้เขาทาที่ทาง รถไฟGrand Trunkเส้นทางรถไฟท่เี ดินทางไปมาระหวา่ ง Port Huron และ Detroit รฐั มชิ แิ กนทกุ ๆ วัน Al เคยเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ เขาได้เขา้ รว่ มกบั เด็กผู้ชายคน อืน่ ๆ ขายหนงั สือพิมพ์ นิตยสาร และขนมขบเค้ียว เชน่ ลกู อมและถั่ว หรอื แซนดว์ ชิ

รถไฟไม่มีรถเสบียง ผโู้ ดยสาร จงึ ต้องนาอาหารของตัวเองมา หรือซ้ือจากเด็กๆ ที่ขาย รถไฟออกจาก Port Huron ในตอน 7 นาฬิกาตอน เชา้ และกลบั มาถึงตอน 9 นาฬิกากลางคืน โดยใชเ้ วลา 3 ชั่วโมงในแต่ละเสน้ ทาง Al มีเวลามากตอนทีร่ ถไฟอยู่ท่ี Detroit ก่อน จะกลับบา้ น Al ไมใ่ ช่เดก็ ผชู้ ายท่ีนั่งคอยและไม่ทาอะไร เขาใชเ้ วลาใน ห้องสมดุ เพอ่ื อ่านหนงั สือ สว่ นมากจะเปน็ หนงั สอื ที่เก่ยี วกับ วทิ ยาศาสตร์ และเขาก็ยังจดุ ประกายฝนั อนื่ ๆ เพ่ือทีจ่ ะหารายได้บน รถไฟอีกด้วย เขาซื้อของจากตลาดท่ี Detroit และขายบนรถไฟ เส้นทางจากบา้ นไปยงั Port Huron ทน่ี ัน่ เขาไดน้ าผักจากฟาร์มของ ครอบครัวมาขายทีส่ ถานดี ้วย หลังจากนัน้ ทสี่ ถานี Detroit เขาได้สังเกตเห็นว่ามี หนังสอื พมิ พถ์ ูกโยนท้งิ ขว้าง โดยมชี ิ้นส่วนของนา้ หมึก แผน่ กระดาษ

Al จึงซ้ือเคร่ืองปรน้ิ เลก็ ๆ และเรม่ิ พมิ พห์ นังสอื พิมพร์ าย สปั ดาห์ เขาใช้ชื่อวา่ “Grand Trunk Herald” โดยมคี า่ สมัคร สมาชิก 8 เซน็ ต์ตอ่ เดอื น เขาขายหนงั สือพิมพไ์ ด้ประมาณ 200 เลม่ ต่อสปั ดาห์ ผู้คนชอบหนงั สือพิมพ์ของ Al เพราะมีการนาเสนอข่าว ทอ้ งถ่นิ ตารางรถไฟ โฆษณาและขา่ วซบุ ซบิ Al ไดต้ ิดตั้งเครอ่ื งพิมพ์ตรงทวี่ างสมั ภาระบนรถไฟ เขายงั ตดิ ตง้ั หอ้ งทดลองงา่ ย ๆ อีกด้วย เขาเขียน พมิ พ์ และทาการทดลอง หลาย ๆ อยา่ ง โดยท่ีเจา้ หนา้ ท่ีควบคมุ รถไฟไม่ได้ถือสาวา่ อะไรเขา

และแลว้ วันหน่ึง หน่ึงในสว่ นผสมทางเคมขี องเขาไหม้ลุกเป็น ไฟ ทาใหเ้ จ้าหน้าที่ควบคมุ รถไฟโกรธเขาอย่างยิ่ง เขาไล่Alลงจาก รถไฟพร้อมสมั ภาระตา่ งๆ ของเขาอีกด้วย แตน่ ั่นก็ไม่ได้ทาให้ Al ตอ้ ง ตกงานในฐานะเด็กสง่ หนงั สือพิมพ์ แตเ่ ขาแค่ ไมม่ หี ้องทดลองบน รถไฟอีกต่อไป ในปี พ.ศ. 2947 ( ค.ศ. 1861) พลเรอื นไดแ้ ตกแยก ออกเป็น 2 ฝาุ ย คือ ฝาุ ยเหนือ และใต้ รฐั มชิ ิแกนอยู่ทางฝาุ ย เหนือ ซ่ึงเปน็ ฝาุ ยของ ประธานาธบิ ดี Abraham Lincoln ข่าวเกยี่ วกบั เหตุการณ์นี้สรา้ ง ความกงั วลอยา่ งยิง่ ต่อประชาชน ขา่ วนนี้ เ่ี องทที่ าให้ Al มองเหน็ แนวทางทจี่ ะทาให้หนงั สือพิมพข์ องเขาขายได้มากข้นึ เขามี ผปู้ ระกอบการโทรเลขใน Detroit เพอ่ื ส่งขา่ วเกยี่ วกบั สงครามในวนั นนั้ ล่วงหนา้ ไปยงั สถานีระหว่างไป Port Huron ผูป้ ระกอบการได้ เขยี นข่าวบนกระดานดาทสี่ ถานี

เมื่อรถไฟมาถึง ผูโ้ ดยสารกไ็ ด้ทราบว่าเกดิ อะไรขนึ้ และพวก เขาตอ้ งการอ่านเพมิ่ เตมิ เกี่ยวกบั เหตกุ ารณท์ ่ีเกิดขน้ึ ตามหนังสือพิมพ์ Al ขายหนังสอื พิมพ์ไดป้ ระมาณ 100 ฉบับอยูบ่ ่อย ๆ วนั ทข่ี ่าวร้ายมา จากการสรู้ บกนั ท่เี มืองไชโลห์ รัฐเทนเนสซี เมอ่ื ผ้ชู ายถกู สงั หารและ บาดเจบ็ มากกวา่ 23,000 คน หนังสอื พมิ พข์ องเขาย่ิงขายดีมากข้ึน เป็น 1,000 ฉบบั Al เตบิ โตเปน็ วัยรนุ่ และเขาไดต้ ัดสินใจว่าเขาต้องการทจ่ี ะ ถูกเรยี กขานวา่ Tom หลังจากนนั้ เปน็ ตน้ มา เขาก็ไดเ้ ปน็ ที่รจู้ กั ในนาม ของชือ่ Tom หรอื Thomas วันหนงึ่ Tom เห็นรถไฟกาลงั จะพุ่งชน Jimmy ลูกชายของ นายสถานีรถไฟท่ีอายุเพียง 3 ขวบ Tom จงึ รบี คว้าตัวเดก็ คนนนั้ ได้ ทัน และปลอดภยั

เพอ่ื เปน็ การขอบคุณ Tom ที่ช่วยเหลือลูกของเขา นาย สถานีรถไฟได้เสนอที่จะสอน Tom เกย่ี วกับเทคนิคการส่งโทรเลข Tom รสู้ กึ ปลาบปลม้ื เขาเพิง่ ทราบเก่ียวกบั รหัสมอร์ส (Morse Code) นเ่ี ปน็ โอกาสทจี่ ะ ทาให้เขาได้ เรียนรู้ วธิ ีการที่ทา ใหเ้ ขาได้ เป็นนักสง่ โทรเลข การส่งโทรเลขไม่ใชเ่ ป็นเพยี งแค่การสง่ จากสถานีรถไฟเท่าน้ัน แตย่ ังมี การส่งจากสานกั งานทีเ่ ปน็ เจ้าของโดยบรษิ ัททีช่ อ่ื วา่ Western Union. Tom ขยนั ทางานจนเขาได้ทางานใหมท่ ่ี Western Union ที่ Port Huron ในขณะทีเ่ ขามีอายไุ ดเ้ พยี ง 17 ปีเทา่ นน้ั Tom เรมิ่ รับ และสง่ ข้อความได้เรว็ มากข้ึนกวา่ เดิม ซงึ่ การเป็นนักโทรเลขทด่ี ี สามารถรบั และส่งคาประมาณ 45 คาต่อนาที

Tom อยากทาให้ดีท่ีสดุ เขาจึงฝึกฝนในห้องของเขาใน ตอนกลางคืน เขาชอบเคาะเล่น บทละครอยา่ ง Hamlet ทแ่ี ตง่ โดย William Shakespeare. วนั หนึง่ เพื่อนของ Tom บอกเขาเก่ียวกับงานที่ Western Union ในเมอื งบอสตนั รัฐ แมสซาชเู ซตส์ ในปี พ.ศ. 2411 (ค.ศ. 1868) สงครามกลางเมืองไดส้ ้ินสุดลงเม่ือ 3 ปีกอ่ น ตอนน้ี Tom อายุ 21 ปี แลว้ เขาก็ไปอยา่ งฉับพลนั Tom ทางานกลางคืน ในระหว่างวันทเ่ี ขาทางานเกี่ยวกับ สง่ิ ประดษิ ฐ์ของเขา เขาใชเ้ วลาอยูท่ ี่รา้ นขายเครื่องจกั ร ที่ซึง่ พวกเขา สามารถสร้างชิน้ ส่วนในสงิ่ ในส่งิ ที่เขากาลังสรา้ งอยู่ นั่นหมายความวา่ การนอนไมเ่ พียงพอ กลายเป็นพฤติกรรมท่ตี ดิ ตวั เขาไปตลอดช่วงชวี ิต ของเขา

Tom จะพกสมุดเล่มเลก็ ๆ ใส่ไวใ้ นกระเป๋าของเขาอยูเ่ สมอ เพื่อที่เขาจะได้จด ความคดิ ของเขา ลงไป ซึง่ สิง่ ประดิษฐ์ของ เขาก็คือ เครื่อง ลงคะแนนไฟฟาู เขาคิดวา่ ส่ิงประดษิ ฐน์ ้ีสามารถขายได้ เขาสังเกตเห็นวา่ สมาชิกสภา นิตบิ ัญญัติของรัฐแมสซาชูเซตส์ ใช้เวลานานในการลงคะแนน และทกุ ครั้งท่ีมีการลงคะแนนพวกเขาจะเขยี นดว้ ยมือ ดงั น้นั เคร่ืองลงคะแนน ไฟฟาู นจี้ ะทาให้การลงคะแนนนัน้ เรว็ ขนึ้ Tom ไดย้ ืน่ ขอจดสทิ ธิบัตรจากรฐั บาลสหรัฐฯ ในกรงุ วอชงิ ตนั ดี.ซ.ี เปน็ สิทธบิ ัตรคมุ้ ครองเจ้าของความคิดการประดษิ ฐ์ เพอื่ ท่ีจะปูองกนั การลอกเลยี แบบและการขาย โดยเขาระบวุ นั เวลา และสถานท่ีท่ไี ด้คดิ คน้ ข้ึน

อกี ทั้งในสทิ ธิบตั รนัน้ ยังครอบคลุมคาอธิบายและภาพการร่าง ความคิด ซ่งึ รายละเอยี ดทงั้ หมด จะอยูใ่ นเอกสาร ของเขา เพ่ือเปน็ การยืนยนั วา่ เขานน้ั ไดล้ งมือทาจรงิ Tom ได้รบั สทิ ธิบตั รการคุ้มครองมากกว่า 1,093 รายการ เป็นเวลา 60 กวา่ ปแี ลว้ รวมถึงทุกวันนีด้ ้วย Tom ได้พยายามท่จี ะขาย เคร่อื งลงคะแนนของเขาใหแ้ ก่รัฐบาล แต่ถูกปฏเิ สธ เนื่องจากพวกเขาน้ัน ยนิ ดที จ่ี ะให้การลงคะแนนนัน้ เปน็ ไป อย่างลา่ ชา้ เพราะวิธีนี้นี่เองที่พวกเขา จะได้ลองและชักชวนให้ผอู้ น่ื ได้แกไ้ ข คะแนนกอ่ นท่ีการลงคะแนนจะส้นิ สดุ ลง

Tom ไดเ้ ดนิ ทางไปกรงุ วอชิงตนั ด.ี ซ.ี เพื่อที่จะดูว่ารัฐสภา สหรัฐฯ ตอ้ งการสิ่งประดษิ ฐ์นี้หรือไม่ แตด่ ้วยเหตผุ ลเดมิ คือพวกเขา ไดป้ ฏเิ สธ Tom ไมอ่ ยากจะเช่ือเลย เขาได้ตัดสินใจทันทวี ่าเขาจะไม่ ประดิษฐเ์ คร่ืองประดิษฐใ์ ดๆ อีกต่อไปแลว้ เวน้ แต่เขาจะแน่ใจไดว้ า่ ผ้คู นตอ้ งการมนั นเี่ ปน็ วิธีเดยี วทีจ่ ะไดเ้ งินมา Tom ไม่ไดต้ ้องการเป็น นักประดิษฐ์ที่รา่ รวย แตเ่ ขาเข้าใจว่ามันตอ้ งใช้เงนิ ในการทีจ่ ะ ประดิษฐ์ส่งิ ประดษิ ฐ์ใหเ้ ป็นจริงขนึ้ มา Tom ไดเ้ ขียนบทความเก่ยี วกับโทรเลข ผคู้ นทีไ่ ด้อ่าน บทความของ Tom ต่างกช็ ่ืนชมนักประดิษฐ์นอ้ ยคนน้ี หลายคนได้ เรยี กเขาวา่ อัจฉริยะ บางคนท่ีเปน็ นักลงทนุ ถึงขัน้ อยากจะมอบเงินแก่ เขาเพ่ือชว่ ยใหเ้ ขาไดค้ ดิ คน้ ส่ิงประดษิ ฐ์ขึ้นมา Tom ลาออกจากงานที่ Western Union โดยเขาใชเ้ วลา สว่ นใหญ่ไปกบั การประดิษฐ์ของเขา เขาอยากรวู้ ธิ ีการสง่ ข้อความที่ มากกวา่ หนึ่งขอ้ ความไดแ้ ต่ละครั้ง เพื่อท่จี ะได้สง่ โทเลขได้มากขึ้น แต่ หลังจากผา่ นไปเพียง 1 ปี เงินของเขาหมด ทาใหเ้ ขาตัดสนิ ใจทจ่ี ะ ย้ายออกจากบอสตนั ไปอยู่ทนี่ ิวยอรก์

บทที่ 3 ทอมและเด็ก ๆ ของเขา ในปี ค.ศ.1869 Tomได้มาถึง New York โดยที่ไม่มีงานทา แต่ Tom ก็ไม่มีปัญหาในการหางาน เขาได้รับการกล่าวขานและยก ย่องให้เป็นเด็กหนุ่มท่ีมีความคิดที่น่าตื่นเต้นและมีความคิดริเร่ิม เขา เปน็ คนหนึ่งที่สามารถสรา้ งสง่ิ ใหมๆ่ ได้

Tom ไมม่ ีอปุ สรรคในการหางาน เพียงไม่นาน เขาและเพื่อน รว่ มงานไดเ้ รมิ่ ทาธุรกจิ เปน็ ของตนเอง การสรา้ งและพัฒนาเครื่องจักร รูปแบบใหม่คือส่ิงที่พวกเขาจะทา บริษัทเครื่องจักรกลส่วนใหญ่ท่ี ประสบความสาเร็จถูกเรียกว่าหุ้นสากลเคร่ืองพิมพ์ ตลอดทั้งวันส่ง ราคาเปล่ียนแปลงของทอง ให้กับธุรกิจบนกาแพงถนน Tom ได้พัฒนาเครื่องพิมพ์ และเขาขายสิทธิบัตรให้กับ Western Union ด้วยราคา สามหม่ืนดอลลาร์ ดว้ ยเงินจานวนนีแ้ ละนกั ลงทุนสองคน Tom เร่ิมเปิดบรษิ ัท เป็นของเขาเอง ในปี ค.ศ.1870 เขาพบอาคารขนาดใหญใ่ น Newark New Jersey สาหรับ Newark Telegraph Works ของเขา เขาทางานอยา่ งต่อเน่ืองให้กบั งานประดษิ ฐ์ของเขา แต่ บรษิ ทั ยงั ผลิตหรือสร้างเคร่ืองจกั รเพื่อขาย Tom ทางานอยู่เสมอเพื่อ พฒั นาเคร่ืองจักรชนิดตา่ ง ๆ และ บริษัท อย่าง Western Union ไดม้ าหาเขาเพื่อสรา้ งเคร่อื งจักรทพ่ี วกเขาต้องการ หรอื เพื่อแก้ไข ปัญหาเกย่ี วกบั เคร่ืองจักรที่พวกเขาใชอ้ ยู่แล้ว

การทางานกบั Tom หมายถงึ การทางานทีน่ านหลายชว่ั โมง เขาอยู่ท่สี านักงานใน Newark ตลอดเวลา เขารทู้ กุ สงิ่ ทีเ่ กิดขึน้ เขา เก็บบันทึกรายละเอยี ด เขารา่ งความคิดใหม่ๆ เขาทางานหนกั กวา่ ใคร Tom เชอื่ ในประสบการณข์ องตวั เองที่ทาอะไรบางอย่างดว้ ยตัวเอง เช่นการสร้างเครอ่ื งจกั รเปน็ วิธที ดี่ ีทส่ี ดุ เพื่อการเรยี นรู้ วนั หนึ่ง มหี ญงิ สาวช่อื Mary Stilwell มาทางานที่บริษทั นี้ เธอและ Tom ไดต้ กหลมุ รักกัน ขณะนน้ั เธออายุได้16 ปี สว่ นทอม อายุ 24 ปี 3 เดือนต่อมาพวกเขาแต่งงานกนั ซ่ึงตรงกับวัน คริสตม์ าสพอดี ถึงกระน้นั ในวนั นั้น Tom ก็ยงั ออกไปทางานเป็นเวลา สกั ชั่วโมงกว่าๆ และ Mary ก็ ได้คน้ พบวา่ Tom จะใชเ้ วลา อย่กู ับงานมากกวา่ อยู่ท่ีบา้ น

ผ่านมาหลายปี ครอบครัว Adison’s ก็ได้บุตรเป็นจานวน สามคน บุตรคนแรกช่ือ Marian ตามมาด้วย Thomas Junior พ่อ เรียกพวกเขาด้วยความรักว่า จุดและเส้นประ ได้ช่ือน้ีจากรหัสมอร์ส จากนั้นก็มีบุตรชายอีกคนช่ือ William Tom รัก ครอบครวั ของเขา แต่ถึงกระนั้น เขากย็ ังใชเ้ วลาทางานมากกว่าท่ี บ้าน น่ีจึงไม่ใช่เร่ืองง่ายสาหรับ Mary และเดก็ ๆเลย บ่อยคร้ังที่ ภ ร ร ย า ข อ ง เ ข า รู้ สึ ก เ ห ง า แ ล ะ ผดิ หวัง นักประดิษฐ์ส่วนใหญ่มักทางานคนเดียว แต่ Tom นั้น แตกต่าง เขาชอบทางานเป็นกลุ่มโดยท่ีเขาเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาจ้าง คนที่มีความสามารถสูงที่สุดเท่าท่ีเขาจะหาได้ เขาจ้างนักร่างภาพท่ี สามารถร่างความคดิ ของเขาลงบนกระดาษ จ้างช่างที่สามารถผลิตส่ิง ต่าง ๆ จากภาพท่ีร่าง และจ้างคนที่สามารถเข้าใจความต้องการของ เขาและพยายามปรับปรุงพฒั นางานด้วยตนเอง

Tom เรียกเพื่อนร่วมร่วมงานว่า เด็ก ๆ และพวกเขาก็เรียก ทอมว่า ชายชรา แม้ว่า Tom จะมีอายุเพียง 24 ปีเท่าน้ันและก็ยัง อ่อนกว่าเพ่ือนร่วมงานอีกหลายคน เพ่ือนร่วมงานบางส่วนได้ทางาน ร่วมกับ Tom มาเปน็ เวลาถงึ 20 ปี บ้างก็ 30 ปี ในช่วงปีแรกๆ Tom คิดวิธีการส่งโทรเลขสี่ข้อความพร้อม กันแบบสองทาง คือ ส่งไปยังคนแรก กับส่งไปยังคนที่สองได้ด้วยใน เวลาเดยี วกัน คนอื่น ๆ มีวิธีรับและส่งข้อความได้ครั้งหนึ่งเท่ากับสอง ขอ้ ความ คนอ่นื รู้เพยี งวิธีการรบั ส่งสองข้อความแบบเดิม แต่การรับส่ง ไดส้ ข่ี อ้ ความนน้ั หมายถึงการทาการรับส่งข้อความแค่สองครั้งซึ่งจะใช้ เวลาน้อยกวา่ เขาเรียกลกั ษณะการรบั ส่งรูปแบบนี้วา่ quadruplex เขาได้สร้างปากกาไฟฟูาอีกด้วย นักเขียนไดเ้ ขียนข้อความ ด้วยปากกา มีมอเตอรข์ นาดเลก็ ทางานด้วยพลังงานแบตเตอร่ที า หน้าทย่ี ้ายจุดปากกาขน้ึ และลง ฉลรุ กู ระดาษใหเ้ ปน็ ลายฉลุ จากนั้น กระดาษทเี่ ต็มไปดว้ ย ข้อความก็จะถกู ฉาบด้วยนา้ หมึก จากน้ันนาไปกล้ิงบน กระดาษแผ่นอนื่ ดว้ ยลกู กลิ้ง ขอ้ ความก็จะถกู พมิ พ์ได้อีก

ซา้ ๆ ไปเร่ือย ๆ หลงั จากหกปีที่ Newark Tom รูส้ กึ วา่ ได้เวลาแห่งการ เปลย่ี นแปลงอีกครง้ั เขาอยากทีจ่ ะใช้เวลาไปกบั การประดิษฐ์แทนที่ จะผลติ เพื่อขาย เขาพบสถานที่แห่งหนึ่งเปน็ ชมุ ชนเกษตรพ้ืนท่เี ลก็ ๆ แถบ New Jersey เรยี กวา่ Menlo Park ซึ่งอยหู่ า่ งจาก New York City เป็นระยะทางประมาณ 25 ไมล์ เปน็ ที่ทเ่ี หมาะสาหรับครอบครัว ของเขาและเด็ก ๆ ของเขาทเี่ ป็นโขยงๆอีกด้วย



ในปี ค.ศ. 1876 Tom ได้ซ้ือท่ีดินขนาดใหญ่ 2 ผืนและได้มี การเริ่มวางแผนก่อสร้าง เขามีการดาเนินงานสร้างอาคาร 2 แห่งโดย อาคารหนึ่งใช้สาหรับเป็นห้องปฏิบัติการของเขา และอีกอาคารหนึ่ง ใช้เป็นสานักงานและห้องสมุดซึ่งก็จะประกอบไปด้วยโรงไม้ ร้านขาย เครื่องจักร ร้านขายเครื่องแก้วเปุา และบ้านเครื่องยนต์ นอกจากนี้ เขายังสร้างเป็นหอพักสาหรับเด็ก ๆ ของเขาเพ่ือสามารถเข้าไปพัก อาศัยไดอ้ ีกดว้ ย Tom มีบ้านหลังใหญ่แสนน่าอยู่สาหรับครอบครัวของเขา แต่แม้พวกเขาจะอยู่ใกล้กันก็ไม่ได้แปลว่า Tom จะอยู่บ้านมากขึ้น เขาไม่ค่อยอยู่รับประทานอาหารอาหารเย็น แม้จะสัญญากับ Mary แล้วก็ตาม และเขาก็ไม่เคยกลับบ้านมารับประทานอาหารเท่ียงเลย บางครั้ง Marian ลูกสาวของเขาก็จะมาร่วมรับประทานอาหารเที่ยง ร่วมกับเขาที่ห้องทดลองด้วย เธอเป็นคนน่ารักสดใสและเป็นคนช่าง สังเกต ช่างโชคร้ายที่น้องชายของเธอที่ช่ือ Thomas Junior มักจะ ปุ ว ย อ ยู่ บ่อย ๆ

บางคร้ัง Marian พบว่าพ่อของเขาใช้เวลาไปกับเด็ก ๆ ของ พวกเขามากเกินไป บางครั้งเธอก็พบว่าเขานั่งอยู่ท่ีโต๊ะธรรมดาๆหัน หน้าไปทางสิง่ วุ่นวายรอบตัวเขา ถ้าเธอโชคดีเขาก็จะให้เศษเหรียญให้ เธอไว้ซ้ือขนม Marian ชอบไปแวะเย่ียมทุกที่ท่ีเธอมองดูแล้วแปลก เช่นยา คมุ กาเนิดทปี่ ระดษิ ฐเ์ สรจ็ ไปแลว้ ครึง่ หน่ึงวางอย่บู นโตะ๊ ทางาน ชั้นวาง ท่ีเตม็ ไปด้วยขวดแกว้ และเหยอื กเป็น pack และขวดทรงกลมท่ีเต็มไป ด้วยขนนก หิน และวัสดุอ่ืน ๆ ที่น่าสนใจ Tom และเด็ก ๆ ของเขา รัก Menlo Park พวกเขาดีใจที่ได้ออกห่างจากความวุ่นวายของเมือง Newark พวกเขาไม่ได้ว่าอะไรหาก Tom จะให้ถอดนาฬิกาออก เพราะว่าจะได้ไม่ต้องมีใครให้ความสนใจว่าตอนน้ีเป็นเวลาเท่าไหร่ แล้ว พวกเขายังคงทางานเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่สาหรับเวลาของ Tom แลว้ บางครงั้ Tom ก็ไม่ได้กลับบ้านเลย เขานอนหลับไปพร้อม กับชุดท่ีเขาสวมใส่บนช้ันวางในห้องทดลองสัก 2-3 ช่ัวโมง จากน้ันก็ กลบั เขา้ ไปทางานใหม่

Menlo Park เป็นสถานท่ีท่ีเหมาะที่สุดสาหรับการใช้ ความคิด คร้ังหนึ่ง Tom พูดว่า “คนที่ไม่ได้คิดท่ีปลูกฝังนิสัยการคิด น้นั ไมส่ ามารถทีท่ าประโยชนส์ งู สุดแก่ตนเองได้ ทุก ๆ ความก้าวหน้า ทกุ ๆ ความสาเร็จ เกิดจากความคิด” เขาเรียก Menlo Park ว่าเป็น “โรงงานประดิษฐ์” ทีมงานของเขาคือ เด็ก ๆ ซ่ึงทางานมากถึง40 โครงการ Tom ที่ประสบความสาเร็จมากขึ้น ทาให้ได้รับความสนใจ มากขึ้น มีกลุ่มนักลงทุนมาหาเขา นิตยสารและหนังสือพิมพ์ได้ลง บทความเกย่ี วกับเขาและสิ่งประดิษฐ์ของเขา

Tom เหมือนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ย่ิงผู้คนได้ยินเกี่ยวกับ สงิ่ ประดษิ ฐ์ของเขา ผูค้ นกย็ ิง่ ตอ้ งการเขา ช่วงเวลาเดียวกันน้ี Alexander Graham Bell คิดค้น โทรศพั ท์ Tom อยากให้ตนเองคดิ ถึงเรอ่ื งนีก้ ่อน

โทรศพั ท์ นกั ประดิษฐ์ผูม้ ชี อ่ื เสียงแหง่ วงการโทรศพั ท์ มนี ามวา่ Alexander Graham Bell เกิดท่ี Scotland เพยี งไม่กีเ่ ดือนหลงั จาก ท่ี Adison เกดิ แมข่ องเขาเป็นนัก เปยี โนช่างสีทมี่ ีความสามารถ ซงึ่ เปน็ คนท่เี กือบจะหูหนวกสนิท ปแุู ละพ่อของเขา รวมถึงตวั เขาเอง กเ็ ป็นครูสอนคนหูหนวก พ่อของเขา ประดิษฐ์ “เสียงพดู ที่มองเห็นได้” เปน็ ลักษณะของการใช้อักษรเป็น สญั ลกั ษณซ์ ง่ึ ช่วยให้คนหหู นวกเรยี น รทู้ จี่ ะพูดคุย Bell ยา้ ยไปยัง Boston ในปี ค.ศ. 1871 เขาสนใจในเรือ่ งท่ี เก่ียวกบั ไฟฟูาเช่นเดียวกับ Adison ท่ปี ระสบความสาเรจ็ ในการ ปรบั ปรงุ โทรเลข ดว้ ยเหตุนจ้ี งึ นาพาเขาไปสกู่ ารประดิษฐ์โทรศพั ท์ในปี ค.ศ.1876 เขาได้พูดคาแรกกับผ้ชู ่วยของเขาซง่ึ อยใู่ นอีกห้องขา้ ง ๆ ว่า “Watson มานห่ี นอ่ ย ฉันต้องการคุณ”

แต่แล้วโทรศัพท์ของ Bell นั้นมีปัญหาคือ สามารถที่จะ ทางานได้ในระยะทางส้ันๆ และต้องตะโกนดังๆเพื่อให้ได้ยินเสียง บริษัท Western Union จึงได้มาปรึกษา Tom เพ่ือทาให้โทรศัพท์ใช้ งานดขี ้ึน สิ่งที่โทรศัพท์ต้องการคือ ทรานสมิตเตอร์ (transmitter) เป็นส่วนท่ีทาหน้าท่ีส่งสัญญาณเสียงจากโทรศัพท์เคร่ืองหนึ่งไปยังอีก เคร่ืองหน่ึง ซึ่งอุปกรณ์จะอยู่ภายในโทรศัพท์ในส่วนท่ีผู้พูดใช้พูด เมื่อ เสียงพูดเดินทางมาถึงทรานสมิตเตอร์ ก็จะเกิดการสั่นสะเทือนหรือ เคลือ่ นทไ่ี ปมา เสยี งจะถูกเปลี่ยนให้อยู่รูปของไฟฟูา สามารถที่จะเดิน ทางผ่านขดลวดเปน็ ระยะทางไกล ๆ ได้

ทรานสมิตเตอร์ของ Bell ผลิตจากโลหะซึ่งทาให้เกิดปัญหา คือไม่ทนทานพอที่ใช้สาหรับการส่ันสะเทือน Tom จึงพยายามหา วสั ดุทใ่ี ช้งานดกี วา่ โลหะ เวลาน้ี Tom และทมี งานของเขาทางานท้ังวันทั้งคืน สุดท้าย Tom กไ็ ด้มาซง่ึ คาตอบ วัน หน่ึ ง Tom ได้ขูดบาร์คอนบางส่วน ออกจากชนิ้ ส่วนของแก้ว ท่ีแตกจากตะเกียงน้ามัน อันเก่า คาร์บอนหรือ เขม่าดา คือ เขม่าเทียน Tom กล้งิ คาร์บอนไปมา ระหว่างน้ิวมือของเขา ราวกับว่าเป็นดินเหนียวอ่อน เขาปั้นเป็นทรงกลมสองก้อน เขาติด ก้อนคาร์บอนนี้บนทรานสมิตเตอร์โลหะของ Bell ก้อนหนึ่งและอีก ก้อนหน่ึงติดอยู่ใกล้ ๆ เกือบจะสัมผัสกัน เมื่อเกิดการส่ันสะเทือน กระแสไฟฟาู จะสง่ สญั ญาณทแี่ รงและชัดเจนผ่านสายโทรศัพท์ ปัญหา กไ็ ด้รบั แก้ไข

Tom รสู้ ึกผดิ หวงั ท่เี ขาไม่ได้ประดิษฐ์โทรศัพท์ แต่คาร์บอนท รานสมิตเตอร์ของเขาได้ทาให้โทรศัพท์ทางานดีข้ึน และทรานสมิต เตอร์ของเขาได้นาพาเขาสู่ส่ิงประดิษฐ์ท่ียอดเย่ียมของเขา ยังไม่เคยมี ใครทาการบันทึกเสียงและเล่นเสียงบุคคลได้ในภายหลัง Tom คือ คนทีท่ าสง่ิ นน้ั สง่ิ ประดิษฐข์ องเขาถูกเรียกวา่ แผน่ เสยี ง

บทท่ี 4 โครงงานสิง่ ประดิษฐ์ของเขา ในกลางปี พ.ศ.2343 (ค.ศ.1800) ได้มชี ายหนุ่มชาวฝรั่งเศส และหนุ่มจากรัฐ Massachusetts พวกเขาท้ังสองคดิ ค้นเร่ืองของการ บันทกึ เสยี ง แตแ่ บบแผนในกระดาษเต็มไปด้วยเครอื่ งยัตภิ งั ค์และจุด ซ่ึงเปน็ รหสั มอร์ส ไม่มใี ครหา คาตอบของวิธีการ บนั ทึกเสยี งและเล่น เสยี งที่บันทึกได้ และน่นั คอื ส่ิงที่ Tom ตอ้ งการ ทา เขามแี นวความคดิ แต่ไมร่ วู้ า่ จะใชง้ านได้ หรอื ไม่ เขาจึงวาดแบบ ครา่ ว ๆ

Tom และทมี ของเขาทางานเก่ียวกับเครื่องอัดเสยี งเป็น เวลา 8 เดอื น ในระหวา่ งนน้ั พวกเขาทางานเกยี่ วกบั ส่งิ ประดษิ ฐอ์ นื่ ไป ด้วย พวกเขาดาเนนิ งานโดยไม่ไดเ้ รง่ รีบแต่ต่อมาก็ไดม้ ีการปรากฏ บทความในนิตยสารท่ีสาคัญ Scientific American พูดถงึ Thomas Edison ได้ ประดษิ ฐเ์ คร่ืองท่นี ่าอัศจรรย์ มันเลน่ เสียง ของมนุษย์ “เคร่ืองประดษิ ฐ์มหศั จรรย์” พวกเขาประกาศดว้ ยข่าวทน่ี ่ายนิ ดี Tom รูว้ า่ ทกุ คนจะต้องถามถึงการได้ ยินเสียงของเครอ่ื งอัดเสยี งของเขา

Tom ตอนน้ีจึงต้องเร่งรีบ มีคนจาก Menlo Park ได้บอกกับนักข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่ Tom กาลังทา Tom ไม่ใส่ใจเขาอาจจะรู้ว่าเป็นใครที่เป็นคนบอกกับ นิตยสารเกี่ยวกับเคร่ืองบันทึกเสียงนั้น เขาชอบการมีชื่อเสียงแต่ ตอนนเี้ ขาต้องสรา้ งเครอื่ งบันทึกเสียงตอ่ ไป เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2420 (ค.ศ. 1877) Tom น่ังวาด แบบโครงร่างอ่ืน เขามอบมันให้กับคนคุมเคร่ืองที่ดีของเขา คนอื่น ๆ อาจจะรู้สึกสับสนงงงวยกับการทาตามแบบมัน แต่คนคุมเครื่องคนน้ี ใชแ้ บบโครงร่างของTom สัปดาห์ต่อมาเขากลับมาพร้อมแบบจาลอง

แบบจาลองมีสกรยู าวสาหรบั การยดึ เพยี งตัวเดยี ว สกรูสอดผ่าน ช่องกระบอกโลหะท่ีหุ้มโดยแผ่นดีบุก อีกฝ่ังของกระบอกจะเป็นแผ่น โลหะท่ปี กั ดว้ ยหมุดและทอ่ กลวงส้ัน Tom หันหน้าไปทางเคร่ืองจกั รหมุนท่จี บั และพดู ใส่ช่องหน่ึง พร้อมกับหมุนสกรูที่อยู่ติดกับกระบอกอีกข้างไปพร้อมกัน “Marry มี แกะตัวน้อย ขนแกะท่ีขาวราวกับหิมะ และทุกท่ีท่ี Mary ไป เจ้าแกะ กจ็ ะตามไปดว้ ย”

เสียงของ Tom ทาให้แผ่นเสียงท่ีถูกหมุดปักไว้ส่ันและขูดไป ตามเสียงบนแผ่นดีบุก เมื่อเขาหยุดพูด Tom คอมดึงหมุดออกจาก กระบอก เขาหมุนท่ีจับในทิศทางที่ตรงกันข้ามกัน และย้ายกระบอก กลบั ไปอยูท่ เ่ี ดมิ เขาปักหมุดไปทางอกี ดา้ นหน่งึ เพ่ือตา้ นกระบอก

วธิ กี ารทางานของเครอ่ื งเลน่ เสียง บันทกึ เสียง : เสยี งเข้าสู่ชอ่ งแตร กระบงั ลมสน่ั ไปกบั เข็ม เพราะรอยบุ๋มท่ีหมุนอยูบ่ นกระบอกทห่ี ุ้มด้วยแผ่นดบี ุก เล่นเสียงที่บันทึก : รอยบุ๋มที่อยู่บนกระบอกจะมีการสั่น เขม็ และกระบังลมที่อยู่อกี ข้างหน่งึ เสยี งจะออกทางช่องแตร

ตอนนี้คือสถานการณ์ท่ียิ่งใหญ่ Tom หมุนท่ีจับอีกครั้ง กระบอกหมุนไปตามสกรูและเสียงพูดของเขาท่ีออกมานั้นคล้ายกับ จังหวะเสยี งกล่อมเด็ก Tom มกั จะเป็นคนท่ีส่วนใหญ่ประหลาดใจ เขาเช่ือว่าเคร่ือง เลน่ เสยี งของเขาใชง้ านได้เปน็ ครัง้ แรก Tom พมิ พ์อะไรไปท่สี านักงาน Scientific American เพื่อน เล่นเคร่ืองเล่นเสียงท่ีน่าอัศจรรย์ของเขา บรรดานักบรรณาธิการต่าง ตื่นเต้นและอยู่ล้อมรอบอย่างอัดแน่น ว้าว พวกเขาไม่เคยเห็นหรือได้ ยินเกี่ยวกบั อะไรแบบน้ีมาก่อน

ในเดือนเมษายนปีพ.ศ.2421 (ค.ศ.1878) Tom ได้เดินทาง ไปยังรัฐวอชิงตัน ดี.ซี. เขาได้พูดท่ีสถาบันวิทยาศาสตร์นานาชาติ เกี่ยวกับส่ิงประดิษฐ์ของเขา Matthew Brady ซึ่งเป็นช่างภาพ สงครามกลางเมอื งชอื่ ดงั กไ็ ดถ้ ่ายรูปเขาไว้

Matthew Brady Matthew Brady เคยเรียนถ่ายรูปที่นคร นิวยอร์ก กับ Samuel Morse ซึ่งเป็นนัก ประดิษฐ์ระบบการส่ง โทรเลข เ ข า ไ ด้ ถ่ า ย รู ป ผู้ ที่ มี ชื่อ เ สีย ง มา ก มา ย ใ น อ เ ม ริ ก า ร ว ม ไ ป ถึ ง Abraham Lincoln เ ข า ถ่ า ย รู ป Lincoln ก่ อ น ที่ จ ะ ก ล า ย เ ป็ น ประธานาธบิ ดี Brady ใชเ้ วลาถ่ายรูปนั้นประมาณ 15 วนิ าที Lincoln ต้องสวม Clamp เพ่ือยึดศีรษะของเขาให้อยู่นิ่งมิฉะนั้นรูปท่ีออกมา จะดูพร่ามัว Brady เปน็ ชา่ งภาพคนแรกท่ีได้ถ่ายรูปสนามรบ ในช่วงสงคราม กลางเมือง

ห ลั ง จ า ก ก า ร พ บ ป ะ และการตอ้ นรบั ผา่ นไปหลายวัน ประธานาธิบดี Rutherford B. Hayes ขอให้ Tom มาที่ ทาเนียบขาว เขาไปถงึ ที่นั่นเวลา 2 3 . 0 0 น . ป ร ะ ธ า น า ธิ บ ดี ประทับใจในแผ่นเสียงของTom เข าส าม าร ถท าใ ห้คุ ณน า ย Hayes ลุกออกจากเตียงเพื่อฟัง มนั ตอนแรก Tom คิดว่าหลาย ๆ บริษัทคงจะใช้แผ่นเสียงของ เขาในการทาธุรกิจ เขามองว่ามันเป็นเหมือนเครื่องโทรเลขสาหรับ การเขียนจดหมายต่าง ๆ หลายกิจการก็เคยใช้มาแล้ว พ ว ก เ ข า เ รี ย ก สิ่ ง น้ี ว่ า Ediphone แต่ในช่วงชีวิตของเขา Tom ไม่คาดคิดว่าความ นิ ย ม ข อ ง เ ค ร่ื อ ง เ สี ย ง จ ะ เตบิ โตขนาดนี้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook