Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนประวัติศาสตร์ ป.1

แผนประวัติศาสตร์ ป.1

Published by ลักษณา ไชยบุตร, 2019-09-03 02:57:09

Description: แผนประวัติศาสตร์ ป.1

Search

Read the Text Version

0แผนจัดการเรียนรูรายวิชา ประวัตศิ าสตร รหัสวชิ า ส 11102 0ระดบั ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1 0กลมุ สาระการเรยี นรู สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม จัดทําโดย นางลกั ษณา ไชยบุตร ตําแหนง พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห 31 ตาํ บลชางเคิ่ง อาํ เภอแมแจม จังหวดั เชยี งใหม สํานักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ สาํ นกั งานการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจดั การเรยี นรู ช่ือหนว ยการเรยี นรูท่ี 1 การใชปฏทิ ินในชวี ติ ประจําวนั แผนการสอนท่ี 1 เรือ่ ง รจู กั ปฏิทิน รายวชิ าประวัตศิ าสตร ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 รหัสวิชา ส 11102 ครูผสู อน นางลกั ษณา ไชยบตุ ร ตําแหนง พนักงานราชการ เวลาท่ีใช 2 ช่วั โมง ตัวชี้วดั /ผลการ เนอื้ หาสาระ ภาระงาน/ชนิ้ งาน การวดั และประเมินผล กจิ กรรมการเรียนรู ส่อื /แหลง เรียนรู เรยี นรู 1. ชอื่ วัน เดอื น 1.ใบงานท่ี 1.1เรือ่ งการ 1. แบบทดสอบกอนเรยี น ชัว่ โมงที่ 1-2 รจู ักปฏิทนิ 1. ปฏิทินแบบตางๆ ส 4.1 ป.1/1 บอก ป ตามระบบ ใชปฏทิ นิ หนวยการเรยี นรทู ่ี 1 วนั เดือน ป และ สรุ ิยคติท่ปี รากฏ 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ 1. ครูใหน ักเรียนทาํ แบบทดสอบกอนเรยี น หนว ยการเรียนรู 2.ใบงานท่ี 1.1เรื่อง ทํางานกลุม การใชป ฏทิ นิ การนบั ชว งเวลา ในปฏิทิน 3. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ท่ี 1 เรอ่ื ง การใชปฏิทนิ ในชวี ติ ประจําวัน 2. ชือ่ วัน เดอื น อนั พงึ ประสงค 3. หนังสือเรยี น ตามปฏิทินทีใ่ ชใน 2. ครใู หน กั เรียนดปู ฏิทนิ รูปแบบตางๆ ดงั นี้ ประวตั ศิ าสตร ชนั้ ป ตามระบบ – ปฏิทนิ แบบแขวน ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 ชีวติ ประจําวัน 4. หองสมดุ โรงเรียน จนั ทรคตทิ ีป่ รากฏ – ปฏิทนิ แบบตัง้ โตะ เว็บไซตตางๆ ในปฏิทนิ – ปฏทิ นิ แบบพกพา 3. ครูและนักเรียนรว มกนั สนทนาเกี่ยวกบั ปฏทิ ินรูปแบบตา งๆ 3. ชว งเวลาท่ใี ช ตามประเด็นท่ีกําหนด ดังนี้ ในชีวติ ประจําวัน เชน วันน้ี ตอน 1) วันนีเ้ ปน วันทเี่ ทา ไร เชา ตอนเยน็ 2) วนั นต้ี รงกบั วัน เดอื น ปอะไร 3) ปฏิทินท่คี รูนาํ มาใหน กั เรียนดมู ีรปู แบบใดบา ง 4) ทีบ่ านของนักเรยี นมปี ฏทิ นิ รูปแบบใด 4. นักเรยี นตอบคําถามกระตนุ ความคดิ 4.1 ปฏิทนิ มสี ว นประกอบอะไรบา ง 4.2 ปฏทิ นิ มีทั้งหมดก่เี ดอื น

4.3 วันแรกของปใ นปฏทิ ินคือวันทีเ่ ทา ไร เดือนอะไร 4.4 วันสดุ ทา ยของปในปฏทิ ินคือวนั ท่ีเทาไร เดอื นอะไร 5. ครูอธิบายเชอ่ื มโยงความคิดของนกั เรียนเพอื่ ใหเ ห็นถงึ ความสําคญั ของปฏทิ ินท่ใี ชในชีวิตประจาํ วัน 6. นักเรียนทาํ ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง การใชปฏทิ นิ 7. ครแู ละนกั เรียนรว มกนั เฉลยคาํ ตอบในใบงานที่ 1.1 เรื่อง การใชป ฏทิ ิน 8. ครูและนกั เรยี นรว มกนั สรุปความรเู กีย่ วกับปฏทิ นิ

แผนการจดั การเรียนรู ชื่อหนวยการเรยี นรูท่ี 1 การใชปฏทิ นิ ในชวี ิต ประจาํ วัน แผนการสอนท่ี 2 เรื่อง วนั แบบสุรยิ คติ รายวชิ าประวัติศาสตร ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1 รหสั วชิ า ส 11102 ครูผสู อน นางลกั ษณา ไชยบตุ ร ตําแหนง พนกั งานราชการ เวลาท่ีใช 1 ชวั่ โมง ตัวชีว้ ดั /ผลการ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวัดและประเมินผล กจิ กรรมการเรยี นรู สื่อ/แหลง เรียนรู เรยี นรู ส 4.1 ป.1/1 ชอื่ วัน เดอื น ป 1. แบบสงั เกตพฤติกรรม 1. แบบสงั เกตพฤติกรรม ชัว่ โมงท่ี 3 วันแบบสุริยคติ 1. ปฏิทิน บอกวนั เดอื น ป ตามระบบสรุ ิยคติ การตอบคําถารายบุคคล การทาํ งานรายบุคคล และการนบั ที่ปรากฏใน 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรม 1. ครูใหนักเรียนดปู ฏิทินขนาดใหญที่แสดงเดือนครบท้ัง 12 เดอื น ของป 2. บัตรคํา ชว งเวลาตามปฏิทนิ ปฏทิ นิ การตอบคําถามรายราย การทาํ งานรายกลุม ทใ่ี ชใ น กลมุ 3. แบบประเมิน ปจ จุบัน แลวใหน กั เรียนรว มกันตอบคาํ ถามตามประเด็นทก่ี ําหนด ดังนี้ 3. เอกสาร ชีวติ ประจําวนั 3. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ 1.1 ปฏิทนิ นเ้ี ปนปฏิทนิ ปพ ุทธศักราชใด และตรงกับคริสตศ กั ราชใด ประกอบการเรียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค 1.2 ปฏทิ นิ นม้ี ีทงั้ หมดกเ่ี ดอื น อะไรบาง ประสงค 4. หนงั สือเรียน 1.3 ใน 1 สัปดาห มีทัง้ หมดกวี่ ัน อะไรบาง ประวตั ิศาสตร ชน้ั 1.4 วันแรกของสปั ดาหคือวนั อะไร และวนั สดุ ทา ยของสัปดาหคอื วันอะไร ประถมศึกษาปที่ 1 2. ครูใหนักเรยี นดูบตั รคําชอ่ื วนั ทัง้ 7 วนั ใน 1 สปั ดาห แลว ใหนักเรียนฝก 5. หองสมดุ อาน 1 รอบ โรงเรยี นเวบ็ ไซต 3. ครแู ละนกั เรียนรวมกันสรปุ ความรทู ี่ไดจากการปฏิบัตกิ ิจกรรมวา ตา งๆ ทาํ ใหสามารถนบั วนั ตามแบบสรุ ิยคติได 4. นักเรียนศกึ ษาความรูเกยี่ วกับวันตามแบบสรุ ยิ คติ จากหนงั สือ เรยี น จากนั้นใหนักเรียนแบง กลุม กลมุ ละ 7 คน ตามวันเกิดของ ตนเอง โดยเรียงลําดับจากวนั อาทิตย- วันเสาร แลวนง่ั รวมกันเปน แถว 5. ครนู าํ บตั รคําชือ่ วนั ใน 1 สปั ดาห มาตดิ ทหี่ นา แถวของนกั เรยี นตาม

วนั ท่ีนักเรียนเกดิ 6. ครูแจง ใหน กั เรียนทราบถงึ ชอื่ เกม “วันเกดิ ของฉัน” แลว ชี้แจงกตกิ า และข้นั ตอนการเลนเกม 7. ครูสาธิตการเลนเกมวนั เกดิ ของฉัน โดยใหน ักเรยี นรว มกันรองเพลง และปรบมอื ตามจังหวะ ปรบมอื 3 คร้ัง ปรบใหดังกวานี้ ปรบใหมอีกที ปรบใหด กี วา เดมิ ครูเปล่ยี นจังหวะการปรบมือเปน 1, 3, 5 ครัง้ ตามความเหมาะสม โดยใหนกั เรยี นฝก ซอมการเลนเกม 2-3 คร้งั กอนเลนเกม 8. ครใู หนักเรียนแตล ะกลุม เลนเกม “วันเกดิ ของฉนั ” ตามเอกสาร ประกอบการสอน 9. ครแู ละนักเรยี นรวมกนั อภิปรายผลจากการเลนเกม “วนั เกิดของฉนั ” วา นักเรยี นเกดิ การเรยี นรูอยา งไร ตามประเด็นทกี่ าํ หนด ดังน้ี 9.1 นกั เรียนกลมุ ท่ีปฏบิ ัติกจิ กรรมไดเรว็ และพรอ มเพรยี งมีความรสู ึก อยางไร 9.2 กิจกรรมดงั กลาวมีประโยชนก บั นักเรียนอยา งไร 9.3 นักเรียนทีป่ ฏบิ ัตกิ ิจกรรมไดช า หรอื ไมพรอ มเพรยี งมีความรสู ึก อยางไร 9.4 นกั เรียนมีวธิ ีการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมอยางไร เพ่ือใหก ลุมของตนเอง ประสบความสาํ เร็จ 10. ครแู ละนักเรยี นรว มกนั สรปุ ความรทู ี่ไดจ ากการปฏิบตั ิกจิ กรรม วา ทําใหสามารถนับวนั ตามแบบสรุ ิยคติได

แผนการจดั การเรยี นรู ชอ่ื หนว ยการเรยี นรูท่ี 1 การใชป ฏิทนิ ในชวี ติ ประจําวัน แผนการสอนท่ี 3 เรอื่ ง เดือนแบบสรุ ยิ คติ รายวิชาประวตั ิศาสตร ช้ันประถมศึกษาปท ี่ 1 รหสั วิชา ส 11102 ครผู ูสอน นางลกั ษณา ไชยบุตร ตําแหนง พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช 1 ชัว่ โมง ตัวชี้วัด/ผลการ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ชน้ิ งาน การวัดและประเมนิ ผล กจิ กรรมการเรยี นรู สื่อ/แหลง เรียนรู เรียนรู ชอื่ วนั เดอื น ป 1. ใบงานท่ี 3.11 เรอ่ื ง 1. ใบงานท่ี 3.11 เรื่อง เดอื น ชวั่ โมงท่ี 4 เดือนแบบสุริยคติ 1. ใบงานที่ 3.1 เรือ่ ง ส 4.1 ป.1/1 บอก ตามระบบสุรยิ คติ เดือนแบบสรุ ิยคติ แบบสรุ ิยคติ วัน เดือน ป และ ที่ปรากฏใน 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 1. ครูใหนักเรยี นดูปฏทิ นิ ขนาดใหญทแ่ี สดงเดอื นครบทัง้ 12 เดือนแบบสรุ ิยคติ การนับชวงเวลา ปฏิทิน รายบคุ คล 2. ปฏิทนิ ตามปฏิทนิ ที่ใชใ น 3. แบบประเมินการนาํ เสนอ เดอื นของปป จจุบัน ชวี ิตประจาํ วัน ผลงาน 2. ครใู หนกั เรียนรว มกันสงั เกต แลว ตอบคําถามตามประเดน็ ท่ี 3. บัตรคํา 4. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ 4. หนงั สอื เรียน อันพึงประสงค กําหนด ดังน้ี ประวตั ศิ าสตรช ้นั 2. 1 ปฏทิ นิ น้เี ปน ปฏิทินปพุทธศกั ราชใด และตรงกบั ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 ครสิ ตศักราชใด 5. หองสมุดโรงเรียน 2.2 ใน 1 ป มีกเี่ ดอื น อะไรบา ง เว็บไซตต างๆ 2. 3 เดือนแรกของปในปฏทิ ิน คอื เดือนอะไร 2. 4 เดอื นสุดทา ยของปในปฏทิ นิ คือเดอื นอะไร 3. ครูอธบิ ายใหน ักเรียนเขา ใจวา ใน 1 ป มี 12 เดือน ดงั น้ี 1) เดือนมกราคม 2) เดอื นกมุ ภาพันธ 3) เดือนมนี าคม 4) เดอื นเมษายน 5) เดอื นพฤษภาคม 6) เดอื นมิถนุ ายน 7) เดือนกรกฎาคม 8) เดอื นสิงหาคม 9) เดือนกนั ยายน 10) เดอื นตุลาคม

11) เดอื นพฤศจิกายน 12) เดือนธนั วาคม 4. ครใู หน กั เรยี นตอบคาํ ถาม ตามประเดน็ ทีก่ าํ หนด ดังน้ี 1) เดือนใด มี 28 หรอื 29 วัน 2) เดอื นใด มี 30 วนั 3) เดือนใด มี 31 วนั 5. ครใู หนกั เรียนสังเกตความสมั พันธของจาํ นวนวันกบั คาํ ลง ทา ยของแตล ะเดือน 6. นกั เรียนศกึ ษาความรูเ กย่ี วกับเดอื นแบบสุรยิ คติ จากหนังสอื เรยี น แลวทาํ ใบงานท่ี 3.1 เรอื่ ง เดือนแบบสรุ ิยคติ โดยให นักเรยี นแตล ะคนคิดหาคําตอบดวยตนเองกอ นแลวจงึ จับคูกับ เพ่ือนเพ่อื อภิปรายคําตอบ 7. ครสู มุ เรียกนักเรยี น 2-3 คู ออกมานาํ เสนอคาํ ตอบในใบ งานท่ี 3.1 หนาชน้ั เรยี น โดยครูและเพือ่ นเปนผตู รวจสอบ ความถกู ตอง 8. ครูและนกั เรยี นรวมกนั สรุปความรูเกี่ยวกับเดือนแบบ สุรยิ คตจิ นไดวา เดอื นแบบสรุ ิยคตมิ ีทั้งหมด 12 เดือน เรม่ิ นับ เดือนมกราคมเปน เดอื นแรกและนบั เดือนธันวาคมเปน เดอื น สดุ ทา ย โดยแตละเดอื น จะมจี าํ นวนวนั แตกตา งกันไปซง่ึ สามารถสังเกตไดจากคําลงทายของเดือน ดังน้ี 8. 1 เดอื นท่ลี งทายดวยคาํ วา “พนั ธ” จะมี 28 หรือ 29 วัน 8. 2 เดอื นท่ีลงทา ยดวยคําวา “ยน” จะมี 30 วนั 8. 3 เดือนทล่ี งทา ยดว ยคําวา “คม” จะมี 31 วัน 9. ครปู ระเมนิ ชน้ิ งานของนักเรียนแตล ะคน

แผนการจัดการเรยี นรู ชื่อหนว ยการเรยี นรูที่ 1 การใชปฏทิ นิ ในชวี ิต ประจําวนั แผนการสอนที่ 4 เรือ่ ง เวลาแบบจนั ทรคติ รายวิชาประวตั ิศาสตร ช้ันประถมศกึ ษาปที่ 1 รหสั วชิ า ส 11102 ครูผูสอน นางลกั ษณา ไชยบตุ ร ตาํ แหนง พนักงานราชการ เวลาทีใ่ ช 1 ชัว่ โมง ตัวช้วี ัด/ผลการ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวดั และประเมินผล กจิ กรรมการเรยี นรู สอ่ื /แหลง เรยี นรู เรยี นรู ช่ือ วนั เดอื น ป 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 1. แบบประเมนิ การนาํ เสนอ ช่วั โมงที่ 5 เวลาแบบจันทรคติ 1. บัตรภาพการเกดิ ส 4.1 ป.1/1 ตามระบบ การทํางานรายบคุ คล ผลงาน บอกวนั เดือน ป จนั ทรคติท่ีปรากฏ 2. แบบสงั เกตพฤติกรรม 2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการ 1. ครใู หนกั เรียนดบู ัตรภาพการเกิดขา งข้ึน ขา งแรม แลว ขา งข้ึน ขางแรม และการนับ ในปฏทิ นิ การทํางานกลมุ ทํางานรายบคุ คล ชวงเวลาตามปฏทิ ิน 3. แบบประเมิน 3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ใหนกั เรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นตามประเด็นท่ีกาํ หนด 2. บตั รภาพการโคจร ทใี่ ชใ น คุณลักษณะอันพึง ทาํ งานกลมุ ชวี ติ ประจาํ วนั ประสงคถ าม 4. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ดงั น้ี รอบโลกของดวงจนั ทร อนั พงึ ประสงค 1.1 นักเรียนเคยสังเกตดวงจนั ทรในแตละวนั หรอื ไม 3. บัตรคํา 1.2 ดวงจันทรม ีลกั ษณะอยางไร 4. หนงั สอื เรียน 1´3 นักเรียนเหน็ การเปลยี่ นแปลงของดวงจันทรห รอื ไม ประวัตศิ าสตร ช้นั อยางไร ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 2. นักเรยี นตอบคาํ ถามกระตนุ ความคิด 5. หองสมดุ โรงเรยี น 3. นกั เรยี นศึกษาความรูเ รอ่ื ง รจู ักปฏิทิน : แบบจันทรคติ เวบ็ ไซตตางๆ จาก หนงั สือเรียน 4. ครใู หนกั เรยี นดบู ัตรภาพการโคจรรอบโลกของดวงจันทร แลว ใหนกั เรยี นชว ยกนั อธบิ ายและตอบคําถามตามประเด็น ท่กี ําหนด ดังน้ี 4.1 ดวงจนั ทรใ นวันขางขึน้ มลี กั ษณะอยางไร 4. 2 ดวงจันทรในวันขา งแรม มลี ักษณะอยา งไร

4. 3 ดวงจนั ทรในวนั เพ็ญ หรือวันข้นึ 15 ค่ํา มลี กั ษณะ อยางไร 4.4 ดวงจันทรใ นวันแรม หรอื วันเดือนดับ หรอื วนั แรม 15 ค่าํ 5. ครูติดบตั รคาํ ชอื่ เดอื นทั้ง 12 เดือน แบบจันทรคติ บนกระดานหนา ชน้ั เรยี น แลวใหน กั เรยี นฝกอาน 1 รอบ 6. นักเรยี นรวมกลุมเดิม (จากแผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 1) แลว รว มกนั อภปิ รายเกีย่ วกบั เดอื นแบบจันทรคตติ าม ประเดน็ ทกี่ ําหนด ดงั น้ี 6.1 การนับเดือนแบบจนั ทรคตมิ วี ธิ กี ารนับอยา งไร 6.2 เดือนแบบจันทรคติแตล ะเดือนมีช่ือเรยี กวา อะไร 7. ตัวแทนนักเรยี นแตล ะกลุม ออกมานําเสนอผลการ อภิปราย หนาช้นั เรยี น แลวใหน ักเรียนกลุมอ่นื ท่มี คี วามคิดเหน็ แตกตางกันแสดงความคิดเห็นเพ่ิมเตมิ 8. ครูเขยี นตารางลงบนกระดานหนาชน้ั เรียน ดงั นี้ เดือนแบบจนั ทรคติ เดือนแบบสรุ ิยคติ 8.1 นักเรยี นชวยกันนาํ บัตรคาํ ชือ่ เดอื นแบบจันทรคติและ บตั รคํา ชอื่ เดอื นแบบสุรยิ คตทิ ้งั 12 เดือน มาตดิ เรียงลําดับ ลงในตารางใหถูกตอง โดยครูนําปฏทิ ินมาใหน กั เรียนดู ประกอบ 8. 2 นกั เรยี นตอบคาํ ถามกระตนุ ความคดิ ขอ 1-2 9. นกั เรยี นนําความรูทีไ่ ดจากการศกึ ษามาวเิ คราะหเ พ่อื จาํ แนกหา ขอ ดแี ละขอ เสียของเวลาแบบจันทรคติ

9. 1 ครแู ละนักเรียนรวมกนั แสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับ ประโยชนข องเวลาแบบจันทรคติ 9. 2 นกั เรยี นตอบคาํ ถามกระตุนความคดิ ขอ 1-2 10. ครแู ละนักเรยี นรวมกนั สรปุ ความรูแ ละประโยชนข อง เวลาแบบจันทรคติ

แผนการจัดการเรยี นรู ชื่อหนวยการเรียนรูท่ี 1 การใชป ฏทิ ินในชวี ติ ประจาํ วนั แผนการสอนที่ 5 เรอื่ ง การนบั เวลาแบบสรุ ยิ คติและจันทรคติ รายวิชาประวัติศาสตร ชั้นประถมศึกษาปที่ 1 รหสั วชิ า ส 11102 ครูผูส อน นางลกั ษณา ไชยบุตร ตาํ แหนง พนกั งานราชการ เวลาทใ่ี ช 1 ช่ัวโมง ตัวชว้ี ดั /ผลการ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวดั และประเมินผล กิจกรรมการเรียนรู สื่อ/แหลงเรียนรู เรยี นรู ส 4.1 ป.1/1 1. ชื่อ วัน เดอื น 1. ใบงานท่ี 5.1 เรอื่ ง 1. ใบงานท่ี 5.1 เร่อื ง การนบั ช่วั โมงที่ 6 การนับเวลาแบบสรุ ิยคตแิ ละจันทรคติ 1. เพลงตบมอื บอกวนั เดือน ป ป ตามระบบ การนบั เวลาแบบสรุ ยิ คติ เวลาแบบสุริยคตแิ ละ 1. ครนู าํ นกั เรียนรองเพลงตบมือ พรอ มปรบมอื ประกอบเพอ่ื 2. ปฏิทิน และการนบั สรุ ิยคตทิ ่ปี รากฏ และจันทรคติ จันทรคติ บริหารสมองและฝกสมาธิ 3. บัตรภาพวนั สาํ คัญ ชว งเวลาตามปฏิทนิ ในปฏทิ ิน 2. แบบสังเกตพฤติกรรมการ ทางพระพุทธศาสนา ท่ใี ชใ น 2. ชือ่ วัน เดอื น ทํางานรายบคุ คล ตบมอื ขา้ งซา้ ย ตบมอื ขา้ งขวา ทกุ คนสนุกเรงิ รา่ 4. ใบงานที่ 5.1 เรอ่ื ง ชวี ิตประจําวนั ป ตามระบบ 3. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ตบมอื ขา้ งขวา ตบมอื ขา้ งซา้ ย การนบั เวลาแบบ จันทรคตทิ ปี่ รากฏ อันพงึ ประสงค 2. ครูทบทวนความรูเร่ือง รูจักปฏทิ ิน พรอมนาํ ปฏทิ ินมาให สุริยคตแิ ละจันทรคติ นักเรียนดปู ระกอบ 5. หนังสือเรียน ในปฏทิ ิน 3. ครูนําปฏิทินท่มี เี วลาแบบสุริยคตแิ ละจันทรคติในปป จจุบนั มา ประวตั ิศาสตร ชั้น ใหน ักเรยี นดู แลวใหน กั เรียนรวมกนั สนทนาเกี่ยวกับปฏทิ นิ ประถมศึกษาปท ่ี 1 ดงั กลา ว 6. หอ งสมุดโรงเรยี น 4. นักเรียนศึกษาความรเู กี่ยวกับการนับเวลาแบบสุรยิ คติและ เว็บไซตต า งๆ จันทรคติ จากหนงั สือเรยี น 5. ครูและนกั เรียนรวมกันวิเคราะหค วามแตกตา งของการนับเวลา แบบสรุ ยิ คตแิ ละจันทรคติ 6. ครแู ละนักเรยี นรวมกนั วิเคราะหล ักษณะรวมของการนบั เวลา

แบบ สุริยคติและจันทรคติ 7. ครใู หนักเรียนดูบัตรภาพวนั สาํ คัญทางพระพุทธศาสนา แลว รวมกันแสดงความคดิ เห็นตามประเดน็ ที่กาํ หนด ดงั น้ี 7.1 ภาพทีน่ ักเรียนเหน็ เปน เหตกุ ารณใด 7.2 จากเหตกุ ารณในภาพตรงกบั เวลาแบบสุริยคติและจันทรคติ อะไร 8. ครแู ละนักเรียนรว มกันสรุปความรเู ก่ยี วกับการนบั เวลาแบบ สรุ ิยคติและจนั ทรคติ ดงั นี้ 8.1 การนบั เวลาแบบสุรยิ คติจะเริ่มนับวันอาทิตยเปนวันแรก จนกระทัง่ ถงึ วนั เสาร และเริ่มนับเดือนมกราคมเปนเดือนแรก จนกระท่งั ถงึ เดอื นธันวาคมเปน เดือนสุดทา ย 8.2 การนบั เวลาแบบจันทรคตจิ ะนบั วนั แบบขางข้ึนและขา งแรม และเร่มิ นับเดือนอายเปน เดือนแรกและนบั เดอื นสิบสองเปน เดือน สดุ ทา ย 9. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความสาํ คญั และประโยชน์ของ การนบั เวลาแบบสรุ ยิ คตแิ ละจนั ทรคตจิ นไดว้ า่ การนบั เวลา แบบสุรยิ คติ และจนั ทรคตชิ ่วยใหเ้ รารเู้ หตุการณ์ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กบั ชวี ติ ประจาํ วนั 10. นกั เรยี นแตล ะคนทําใบงานที่ 5.1 เรอื่ ง การนบั เวลาแบบสุริ ยคตแิ ละจนั ทรคติ 11.ครูและนักเรยี นรวมกันเฉลยคาํ ตอบในใบงานที่ 5.1

แผนการจัดการเรียนรู ช่ือหนวยการเรียนรูท่ี 1 การใชป ฏทิ ินในชวี ิต ประจําวนั แผนการสอนที่ 6 เร่อื ง ปฏิทนิ บอกความสําคัญของวนั สาํ คญั รายวชิ าประวัติศาสตร ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี 1 รหัสวชิ า ส 11102 ครูผูสอน นางลกั ษณา ไชยบุตร ตําแหนง พนกั งานราชการ เวลาที่ใช 2 ช่วั โมง ตวั ชว้ี ัด/ผลการ เนอ้ื หาสาระ ภาระงาน/ช้ินงาน การวัดและประเมินผล กจิ กรรมการเรยี นรู สอ่ื /แหลง เรียนรู เรยี นรู ส 4.1 ป.1/1 1. ช่ือ วัน เดือน 1. ใบงานที่ 6.1 เรอ่ื ง 1. ใบงานท่ี 6.1 เรอื่ ง วัน ชัว่ โมงท่ี 7-8 ปฏทิ นิ บอกความสาํ คญั ของวันสาํ คญั 1. บตั รภาพวนั สาํ คัญของป บอกวัน เดอื น ป ป ตามระบบ วันสาํ คัญของป 2. แบบประเมนิ การนาํ เสนอ 1. ครใู หน กั เรียนดูบัตรภาพวันสาํ คัญตางๆ แลวรวมกนั วเิ คราะห สําคัญตา งๆ ผลงาน ตามประเดน็ ท่กี ําหนด ดงั นี้ 2. ปฏิทิน และการนบั สุริยคตทิ ่ปี รากฏ 1.1 ภาพแตละภาพเปน เหตุการณใ ด 3. ใบงานที่ 6.1 เรือ่ ง 3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการ 1.2 เหตกุ ารณในภาพเกิดขึ้นในวันอะไร วนั สาํ คญั ของป ชว งเวลาตามปฏทิ ิน ในปฏิทนิ 2. ครูอธิบายใหน กั เรียนเขาใจเกย่ี วกับเหตุการณในภาพ แลวให 4. หนงั สอื เรยี น ทํางานรายบคุ คล นกั เรียนศึกษาปฏิทนิ ทคี่ รนู ํามาใหด เู พ่ือเชื่อมโยงเหตุการณ ประวตั ศิ าสตร ชัน้ ทีใ่ ชใน 2. ชื่อ วนั เดอื น 4. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ และวันสําคัญนัน้ ๆ ประถมศึกษาปท่ี 1 3. นักเรยี นรวมกลมุ เดิม แลวรว มกันศกึ ษาความรูเ รือ่ ง 5. หองสมุดโรงเรยี น ชวี ติ ประจาํ วนั ป ตามระบบ อันพึงประสงค ความสําคญั ของปฏิทนิ : ปฏิทนิ บอกความสําคญั ของวนั สําคญั เว็บไซตตา งๆ จันทรคติท่ีปรากฏ ในปฏทิ นิ จากหนังสือเรียน 4. ครูใหน กั เรยี นแตล ะกลุม ทําใบงานท่ี 6.1 เรอ่ื ง วนั สาํ คญั ของป 5. นกั เรียนแตล ะกลุมรวมกนั วิเคราะหและประเมินคา ความรเู พอ่ื พิจารณาหาคําตอบในใบงานท่ี 6.1 6. ครแู ละนกั เรียนรวมกันเฉลยคําตอบในใบงานท่ี 6.1 แลว ครู อธบิ ายเพิ่มเตมิ จนนกั เรียนมคี วามรูความเขาใจ

7. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลุมคนหาวันสําคัญตา งๆ ในปฏิทนิ 8. ตัวแทนแตล ะกลุมออกมานําเสนอผลงานหนา ชั้นเรียน 9. ครแู ละนักเรียนรว มกันสรปุ ความรเู รอื่ ง ความสาํ คัญของปฏทิ นิ : ปฏทิ ินบอกความสําคญั ของวันสาํ คัญ จนไดวา ปฏทิ ินชวยใหรูถงึ วนั สาํ คัญตา งๆ ของปท ่เี ก่ียวขอ งกับชวี ิตประจาํ วัน

แผนการจดั การเรยี นรู ชอื่ หนวยการเรียนรูที่ 1 การใชปฏิทินในชีวิต ประจําวัน แผนการสอนที่ 7 เร่ือง ปฏิทินใชช ว ยเตอื นความจําของเรา รายวิชาประวัติศาสตร ช้ันประถมศึกษาปที่ 1 รหสั วิชา ส 11102 ครผู ูสอน นางลักษณา ไชยบตุ ร ตําแหนง พนกั งานราชการ เวลาที่ใช 1 ช่ัวโมง ตวั ช้ีวัด/ผลการ เนอ้ื หาสาระ ภาระงาน/ชน้ิ งาน การวดั และประเมนิ ผล กจิ กรรมการเรียนรู สอื่ /แหลงเรียนรู เรียนรู ส 4.1 ป.1/1 1. ชือ่ วนั เดือน 1. ใบงานที่ 7.1 เร่ือง 1. ใบงานท่ี 7.1 เรอื่ ง ปฏิทิน ชวั่ โมงท่ี 9 ปฏิทนิ ใชช วยเตือนความจาํ ของเรา 1. เอกสาร บอกวัน เดอื น ป ป ตามระบบ ปฏิทนิ ชว ยเตือนความจํา ชวยเตือนความจํา 1. ครใู หน กั เรยี นดปู ฏิทนิ เดอื นเมษายนตามเอกสารประกอบการ ประกอบการสอน และการนับ สุริยคติท่ีปรากฏ 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ สอน แลวรว มกันแสดงความคิดเห็นตามประเด็นทกี่ ําหนด ดังน้ี 2. ใบงานท่ี 7.1 เรอ่ื ง ชวงเวลาตามปฏทิ นิ ในปฏิทิน ทาํ งานรายบุคคล 1.1 เดือนเมษายนตามปฏิทินนี้มีวนั หยุดพเิ ศษกว่ี ัน อะไรบาง ปฏทิ นิ ชวยเตือน ทใ่ี ชใ น 2. ชอื่ วัน เดือน 3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการ 1.2 วนั หยดุ พเิ ศษนัน้ ๆ ตรงกบั วันแบบสุรยิ คติและจันทรคตทิ ี่ ความจํา ชวี ติ ประจาํ วัน ป ตามระบบ ทํางานกลมุ เทาไร 3. หนงั สือเรยี น จันทรคตทิ ่ปี รากฏ 4. แบบประเมนิ คุณลักษณะ 1.3 วันหยุดพิเศษนั้นๆ มคี วามสําคัญอยางไร ประวัตศิ าสตร ชน้ั ในปฏทิ ิน อันพงึ ประสงค 2. ครูอธิบายใหน ักเรียนเขา ใจวา ปฏทิ นิ ทาํ ใหเรารวู าเร่ืองราวใด ประถมศึกษาปท่ี 1 เกิดขนึ้ เมอื่ ใด ชวยใหเราลาํ ดบั เรอ่ื งราวทเ่ี กิดขึ้นไดอ ยางถูกตอง 4. หองสมุดโรงเรียน และเปน เคร่ืองชวยเตือนความจําของเราได เว็บไซตตา งๆ 3. ครูแบง นกั เรยี นเปน กลมุ กลมุ ละ 4 คน คละกันตาม ความสามารถ คอื เกง ปานกลางคอ นขา งเกง ปานกลางคอ นขาง ออ น และออนแลวใหสมาชิกแตละคนกําหนดหมายเลขประจาํ ตวั เปน หมายเลข 1-4 4. นักเรียนแตละกลมุ รวมกันศึกษาความรเู ร่ือง ความสําคญั ของ ปฏทิ ิน : ปฏิทนิ ใชชวยเตอื นความจําของเรา จากหนังสอื เรียน

แลวทาํ ใบงานท่ี 7.1 เรื่อง ปฏิทนิ ชวยเตือนความจาํ โดยให นกั เรียน แตล ะกลมุ ชวยกนั อธบิ ายคําตอบใหเ พือ่ นในกลุมฟงจน ทุกคนมคี วามรูค วามเขาใจท่ถี ูกตอง ชดั เจน 5. ครูสุมเรยี กนักเรียนหมายเลขใดหมายเลขหนงึ่ ในแตล ะกลมุ ออกมาอธิบายและนาํ เสนอคาํ ตอบในใบงานท่ี 7.1 หนา ชน้ั เรยี น 6. ครูและนกั เรยี นรวมกนั สรปุ ความรูเ รอื่ ง ความสําคัญของปฏทิ ิน : ปฏิทนิ ใชชวยเตือนความจาํ ของเรา

แผนการจัดการเรยี นรู ช่อื หนว ยการเรยี นรูท่ี 1 การใชป ฏิทนิ ในชวี ติ ประจําวัน แผนการสอนที่ 8 เรื่อง การแบง ชวงเวลาใน 1 วนั รายวชิ าประวัติศาสตร ช้ันประถมศกึ ษาปท ่ี 1 รหสั วชิ า ส 11102 ครผู สู อน นางลักษณา ไชยบตุ ร ตําแหนง พนักงานราชการ เวลาทีใ่ ช 1 ช่ัวโมง ตวั ช้ีวัด/ผลการ เน้ือหาสาระ ภาระงาน/ช้ินงาน การวัดและประเมนิ ผล กิจกรรมการเรยี นรู สื่อ/แหลงเรียนรู เรียนรู ส 4.1 ป.1/1 1. ชว งเวลาท่ีใช 1. ใบงานที่ 8.1 เร่ือง 1. ใบงานที่ 8.1 เรอื่ ง การแบง ชั่วโมงที่ 10 การแบงชว งเวลาใน 1 วัน 1. ใบงานท่ี 8.1 เร่ือง บอกวนั เดือน ป ในชวี ิตประจาํ วัน การแบงชว งเวลาใน1 วนั ชวงเวลาใน1 วัน 1. ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั กจิ วตั รประจําวันของนักเรียน การแบง ชวงเวลาใน1 และการนับ เชน วนั นี้ ตอน 2. แบบประเมินการนาํ เสนอ ตงั้ แตต ื่นนอนตอนเชา จนกระทง่ั ถงึ เขา นอนตอนกลางคนื วนั ชวงเวลาตามปฏทิ นิ เชา ตอนเย็น ผลงาน 2. ครูอธิบายใหน กั เรียนเขาใจวา การแบงชวงเวลาใน 1 วันตามคาํ 2. หนงั สือเรียน ทีใ่ ชใน 2. เหตกุ ารณที่ 3. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ บอกชว งเวลาจะทาํ ใหเรารลู าํ ดับเร่อื งราวไดชดั เจน และสามารถ ประวตั ศิ าสตร ชนั้ ชวี ติ ประจาํ วนั เกดิ ขนึ้ ใน ทาํ งานรายบคุ คล ปฏิบัติกจิ กรรมตางๆ ไดถ กู ตอ ง เหมาะสมและสอดคลอ งกับ ประถมศกึ ษาปที่ 1 ส 4.1 ป.1/2 ชวี ติ ประจําวัน 4. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ชว งเวลา 3. หองสมุดโรงเรยี น เรยี งลําดบั ของนกั เรยี น เชน ทํางานกลุม 3. นกั เรียนรวมกลุมเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 7) แลวให เว็บไซตต า งๆ เหตุการณใน ต่ืนนอน เขา นอน 5. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ แตละกลมุ รว มกันศึกษาความรเู ร่ือง การแบง ชว งเวลาใน 1 วนั ชีวติ ประจาํ วันตาม เรียนหนงั สือ เลน อนั พงึ ประสงค จากหนังสือเรียน วันเวลาทีเ่ กดิ ขนึ้ กีฬารบั ประทาน 6. แบบประเมนิ ปฏทิ นิ ชีวติ 4. นกั เรียนแตล ะกลุม รว มกนั ทาํ ใบงานที่ 8.1 เรื่อง การแบง อาหาร ฯลฯ ชว งเวลาใน 1 วันโดยใหนกั เรียนแตละคนคิดหาคําตอบดว ย 3. ใชค าํ บอก ตนเองกอน จากน้นั จบั คกู ับเพือ่ นในกลมุ แลว ผลดั กนั อธบิ าย ชว งเวลา แสดง คาํ ตอบของตนเองใหเ พอื่ นฟง ลําดบั เหตกุ ารณท่ี 5. นกั เรียนรวมกลมุ เดิม 4 คน แลวผลัดกนั อธิบายคําตอบของคู เกิดข้นึ ได ตนเองใหเ พอื่ นอีกคหู นึง่ ฟง เพื่อหาขอสรปุ ของกลมุ

6. ตวั แทนแตล ะกลุมออกมานําเสนอคําตอบในใบงานที่ 8.1 หนา ชน้ั เรียน โดยครูเปน ผูต รวจสอบความถกู ตองและอธิบายเพิ่มเติม ในสวนทบี่ กพรอง 7. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรุปความรูเรอื่ ง การแบงชว งเวลาใน 1 วนั 8. นกั เรียนทําแบบทดสอบหลงั เรยี น หนวยการเรียนรทู ่ี 1 เรอ่ื ง การใชป ฏทิ ินในชวี ิตประจาํ วนั

แผนการจดั การเรยี นรู ชือ่ หนวยการเรยี นรูที่ 2 ความเปน มาของเรา แผนการสอนท่ี 1 เร่ือง เราเปนใคร รายวิชาประวัตศิ าสตร ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 รหัสวชิ า ส 11102 ครูผสู อน นางลกั ษณา ไชยบุตร ตาํ แหนง พนกั งานราชการ เวลาท่ีใช 2 ชัว่ โมง ตัวชี้วดั /ผลการ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ชนิ้ งาน การวดั และประเมินผล กจิ กรรมการเรียนรู สอ่ื /แหลง เรยี นรู เรียนรู ส 4.1 ป.1/3 บอก 1. วธิ ีการสบื คน 1.ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง ชื่อนนั้ 1. แบบทดสอบกอนเรียน ชั่วโมงที่ 1-2 เราเปน ใคร 1. ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง ประวตั ิความเปน มา ประวตั คิ วาม สาํ คญั ไฉน หนวยการเรยี นรูที่ / 1. ครูถามคําถามนักเรียนเกี่ยวกบั ภาพถายในอดตี เชน ชอ่ื น้ันสําคญั ไฉน - นักเรยี นเคยเห็นภาพถายของพอ แมต อนเดก็ ๆ หรอื ไม และ 2. หนงั สือเรยี น ของตนเองและ เปนมาของตนเอง 2. ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง ชื่อนน้ั ภาพถายนนั้ มลี ักษณะอยางไร ประวัตศิ าสตร ชนั้ - นกั เรียนเคยเห็นภาพถา ยของตนเองตอนเดก็ ๆ หรือไม และ ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 ครอบครัวโดย และครอบครวั สาํ คญั ไฉน ภาพถายนั้นมลี กั ษณะอยางไร 3. หอ งสมดุ โรงเรียน - เมอื่ นักเรียนเหน็ ภาพถายในอดีตแลว นักเรียนมีความรสู ึก เวบ็ ไซตต างๆ สอบถามผเู กยี่ วขอ ง อยา งงา ยๆ 3. แบบประเมินการนําเสนอ ผลงาน 4. แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ทํางานรายบุคคล อยา งไร 5. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ 2. ครูสมุ เรียกนกั เรยี น 2-3 คน ออกมาเลา ประวตั คิ วามเปน มา ทาํ งานกลมุ ของตนเองและครอบครัวใหเพ่ือนฟง หนาชั้นเรียนพอสงั เขป นักเรียนตอบคาํ ถามกระตนุ ความคดิ 3. นักเรียนแบงกลุม กลมุ ละ 4 คน ตามความสมคั รใจ แลว ให แตละกลุมรว มกนั ศกึ ษาความรูเ รอ่ื ง เราเปนใคร จากหนังสือ เรียน 4.นกั เรียนแตละคนในกลมุ นาํ ความรทู ี่ไดจ ากการศึกษามาเปน พ้นื ฐานในการตอบคําถาม เชน

- ปู ยา ตา ยายของนกั เรยี นชื่อวา อะไร และประกอบอาชีพ อะไร - พอ แมของนักเรียนเกิดท่ีไหน และเรยี นที่ไหน - นักเรียนมญี าตพิ ่นี องกค่ี น และอยทู ่ีไหนบา ง - นกั เรยี นเกดิ ท่ีไหน และใครเปนคนตั้งช่อื ใหน กั เรยี น - พอ แมข องนกั เรียนทาํ งานท่ีไหน และทํางานเกยี่ วกบั อะไร 5. ครสู มุ เรียกตวั แทนของแตละกลมุ ออกมานําเสนอคาํ ตอบ หนา ชัน้ เรยี น 6. นักเรยี นแตละคนทาํ ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ชื่อนน้ั สาํ คญั ไฉน นกั เรียนตอบคําถามกระตนุ ความคิด 7. นักเรยี นแตล ะคนผลัดกนั นาํ เสนอคาํ ตอบในใบงานที่ 1.1 ใหสมาชิกภายในกลมุ ฟง แลวผลัดกันอธบิ ายความรทู ไ่ี ดจาก การศึกษาใหส มาชิก ทุกคนในกลุม มคี วามเขา ใจตรงกนั 8. นักเรียนรว มกนั สรปุ ความรูเร่อื ง เราเปนใคร โดยครเู ปน ผู ตรวจสอบความถูกตอง และอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ในสว นทบี่ กพรอง

แผนการจดั การเรยี นรู ช่ือหนว ยการเรียนรูที่ 2 ความเปนมาของเรา แผนการสอนที่ 2 เรื่อง ความเปน มาของตนเอง รายวชิ าประวัตศิ าสตร ช้นั ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 รหสั วชิ า ส 11102 ครูผสู อน นางลักษณา ไชยบตุ ร ตําแหนง พนักงานราชการ เวลาทีใ่ ช 2 ชว่ั โมง ตวั ช้ีวัด/ผลการ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ชิน้ งาน การวดั และประเมนิ ผล กิจกรรมการเรยี นรู สื่อ/แหลงเรยี นรู เรียนรู 1. สูติบตั ร ส 4.1 ป.1/3 การบอกเลา 1. ใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง 1. การทําใบงานท่ี 2.1 ชั่วโมงท่ี 3-4 ความเปนมาของตนเอง ประวตั ิของฉัน 2. บตั รประจําตวั บอกประวัติความ ประวตั ิความ เรือ่ งประวัตขิ องฉนั 1. ครใู หน กั เรยี นออกมาเลาเรื่องของตนเองหนาชนั้ เรยี น ตามประเดน็ ท่ี ประชาชน 2. แบบประเมนิ การ 3. ใบงานที่ 2.1 เปนมาของตนเอง เปนมาของตนเอง นาํ เสนอผลงาน กาํ หนดและตอบคาํ ถาม ดังนี้ เรื่องประวัติของฉนั 3. แบบสังเกตพฤติกรรม 4. หนังสือเรียน และครอบครวั โดย การทาํ งานรายบุคคล 1.1 ชอ่ื -นามสกุล 1.2 วนั เดอื น ปเ กิด ประวัติศาสตร ชนั้ 4. แบบสังเกตพฤตกิ รรม ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 สอบถามผูเ ก่ียวขอ ง การทํางานกลุม 1.3 ท่ีอยปู จ จุบัน 1.4 สมาชิกในครอบครัว 5. หองสมุด โรงเรียนเว็บไซต 1.5 อาหารทชี่ อบรบั ประทาน 1.6 สตั วที่ชอบ ตา งๆ 1.7 สีท่ชี อบ 1.8 งานอดเิ รก 5. แบบประเมนิ 2. นกั เรียนรวมกลมุ แลวใหแตละกลมุ รว มกันศึกษาความรูเรือ่ ง ความ คณุ ลักษณะอนั พงึ เปนมาของตนเอ จากหนังสือเรียน ประสงค 3. นกั เรยี นแตล ะคนทาํ ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง ประวตั ิของฉัน เสรจ็ แลว นาํ สงครตู รวจ 4. นกั เรยี นแตล ะคนนําความรทู ่ไี ดจากการศกึ ษามาอธิบายรวมกันภายใน กลุม 5. ครูใหน ักเรียนดสู ตู บิ ัตรและบัตรประจําตัวประชาชนของครู จากน้ันให นกั เรียนแตละกลุมรวมกันวเิ คราะห แลวตอบคําถามตามประเด็นท่ี กาํ หนด ดงั น้ี

- นักเรียนรูจ ักส่งิ ทคี่ รูนาํ มาใหด หู รือไม คืออะไร - ส่งิ ที่ครูนํามาใหดมู ีความสาํ คัญอยางไร - ส่งิ ทีค่ รูนาํ มาใหด สู ามารถบอกอะไรไดบ า ง 6. ตัวแทนนกั เรยี นแตล ะกลุมออกมานาํ เสนอคําตอบหนาชั้นเรียน นักเรียนตอบคาํ ถาม 7. นกั เรยี นแตละกลมุ รวมกนั วิเคราะหค วามสาํ คญั ของการสบื คน ประวัติ ความเปนมาของตนเอง 8. ตัวแทนนกั เรียนแตล ะกลมุ ออกมานาํ เสนอผลการวเิ คราะหห นาชนั้ เรียน โดยครเู ปนผูตรวจสอบความถูกตอ ง และเสนอแนะเพ่ิมเติมในสวน ทีบ่ กพรองนกั เรียนตอบคาํ ถามกระตนุ ความคดิ 9. ครอู ธิบายใหนักเรยี นเขา ใจถึงความสาํ คญั และความจําเปน ที่ เราจะตอ งรูจกั ตนเองและท่มี าของตนเอง 10. ครูประเมินผลนักเรยี นจากการทําใบงานท่ี 2.1 11. นักเรียนรวมกันสรปุ ความรูเก่ยี วกบั ความเปนมาของตนเอง โดยครู เปนผูตรวจสอบความถูกตอง และอธบิ ายเพิม่ เติมในสว นทบี่ กพรอง

แผนการจดั การเรยี นรู ช่ือหนว ยการเรียนรูที่ 2 ความเปน มาของเรา แผนการสอนท่ี 3 เร่ือง ความเปนมาของครอบครวั รายวชิ าประวตั ิศาสตร ช้ันประถมศกึ ษาปท ่ี 1 รหสั วิชา ส 11102 ครผู ูส อน นางลกั ษณา ไชยบตุ ร ตาํ แหนง พนกั งานราชการ เวลาทใ่ี ช 2 ช่ัวโมง ตัวชว้ี ดั /ผลการ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ชนิ้ งาน การวัดและประเมนิ ผล กิจกรรมการเรยี นรู สื่อ/แหลงเรียนรู เรยี นรู 1. ใบงานท่ี 3.1เรื่อง ส 4.1 ป.1/3 บอก การบอกเลา ความเปนมาของ 1. ใบงานท่ี 3.1เร่อื ง ความ ช่ัวโมงที่ 5-6 ความเปน มาของครอบครวั 1. ภาพถาย ครอบครวั เปนมาของครอบครัว 2. ใบงานท่ี 3.1 เร่อื ง ประวัตคิ วามเปน มา ประวตั คิ วาม 2. แบบประเมินการนําเสนอ 1. ครูใหนกั เรยี นดูภาพถา ยครอบครัวของครู แลวเลาเรื่อง ความเปนมาของ เกี่ยวกบั ประวัตคิ วามเปน มาของครอบครวั ใหนักเรยี นฟง ครอบครัว ของตนเองและ เปนมาของ ผลงาน 2. ครถู ามคําถามใหน ักเรียนชว ยกนั ตอบ เชน 3. หนงั สอื เรยี น - นักเรียนเคยเหน็ ภาพถายของพอแมต อนเด็กๆ หรอื ไม ประวัตศิ าสตรช้ัน ครอบครัวโดย ครอบครวั 3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการ - ภาพถา ยน้นั มลี กั ษณะอยางไร ประถมศึกษาปที่ 1 ทาํ งานรายบุคคล - นักเรียนมีความรสู ึกอยา งไร เม่ือเหน็ ภาพถา ยเหลาน้ัน 4. หองสมดุ โรงเรียน สอบถามผูเก่ยี วของ - ครอบครวั ของนกั เรยี นมญี าตพิ ี่นอ งก่คี น ใครบา ง เว็บไซตตางๆ 4. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ - ครอบครวั ของนักเรียนตั้งถ่ินฐานอยูทใ่ี ด ทาํ งานกลุม 3.นกั เรยี นตอบคําถามกระตนุ ความคดิ และรวมกลุมแลว ใหแ ต 5. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ละกลุมรวมกนั ศกึ ษาความรเู รือ่ ง ความเปนมาของครอบครวั จากหนังสือเรียน หรือสอบถามความรเู พ่มิ เติมจากพอแมห รือ อนั พงึ ประสงค ผปู กครอง 6. แบบทดสอบหลงั เรียน หนวยการเรยี นรูท่ี 2 4. นกั เรยี นแตละคนผลัดกันอธบิ ายความรูทีต่ นไดไ ปศกึ ษามา ใหเ พอ่ื นในกลุม ฟง จนทกุ คนในกลุมมคี วามรูค วามเขา ใจท่ี ถูกตองตรงกนั

5. ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ ใหนกั เรยี นเขาใจเกย่ี วกับความสาํ คญั ของ การรูประวตั ิความเปนมาของครอบครัว 6. นกั เรียนแตละกลุม รวมกนั ทําใบงานท่ี 3.1 เรื่อง ความ เปน มาของครอบครัว โดยใหน ักเรียนแตละคนคิดหาคาํ ตอบ ดว ยตนเองกอน เสร็จแลว จบั คูกับเพื่อนในกลุมผลัดกันอธิบาย คาํ ตอบของตนเองใหเพือ่ นฟง 7. นกั เรยี นรวมกลุม 4 คน แลวผลัดกันอธบิ ายคําตอบของคู ตนเองใหเพอ่ื นอีกคหู นึ่งในกลุมฟงจนไดมตขิ องกลุม เขียน คาํ ตอบลงในใบงานที่ 3.1 8. ตวั แทนของแต่ละกลมุ่ ออกมานําเสนอคาํ ตอบในใบงานท่ี 3.1 หน้าชนั้ เรยี น โดยครเู ป็นผตู้ รวจสอบความถกู ตอ้ ง 9. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ กย่ี วกบั ความเป็นมา ของครอบครวั

แผนการจดั การเรียนรู ช่ือหนวยการเรยี นรูท่ี 3 ชวี ติ ทเี่ ปลี่ยนแปลง แผนการสอนที่ 1 เรอ่ื ง ความเปล่ยี นแปลงของสภาพแวดลอ ม รายวชิ าประวตั ิศาสตร ชัน้ ประถมศึกษาปที่ 1 รหสั วิชา ส 11102 ครผู ูส อน นางลักษณา ไชยบตุ ร ตาํ แหนง พนกั งานราชการ เวลาทใี่ ช 2 ชัว่ โมง ตัวช้วี ัด/ผลการ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ชน้ิ งาน การวดั และประเมนิ ผล กจิ กรรมการเรยี นรู ส่ือ/แหลง เรียนรู เรยี นรู 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น ส 4.2 ป.1/1 บอก 1. ความ 1.ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ความ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ช่ัวโมงท่ี 1-2 ความเปล่ียนแปลงของสภาพแวดลอม 1. ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง 2. ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ความ 1. ครูใหน กั เรียนดูบตั รภาพการดาํ เนินชีวติ ของคนในชุมชน ความเปลีย่ นแปลง ความเปล่ียนแปลง เปลี่ยนแปลงของ เปล่ียนแปลงของ เปลย่ี นแปลงขอสภาพแวด เมอื ง และการดําเนนิ ชวี ติ ของคนในชมุ ชนชนบท แลวรว มกนั ของสภาพแวดลอ ม ลอม แสดงความคิดเห็นตามประเด็นท่ีกาํ หนด ดงั นี้ 2. บัตรภาพการ ของสภาพแวดลอม สภาพแวดลอ ม สภาพแวดลอ ม 3. แบบประเมินการนําเสนอ 1.1 การดําเนินชวี ติ ของคนในชุมชนเมืองมีความแตกตา งกับ ดาํ เนนิ ชีวติ ผลงาน การดาํ เนินชวี ิตของคนในชุมชนชนบทหรอื ไม อยางไร 3. หนังสอื เรยี น สิง่ ของ เครอ่ื งใช สง่ิ ของ เคร่ืองใช 4. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ 1.2 การดาํ เนินชีวิตของคนในชุมชนเมืองในปจ จุบันมคี วาม ประวตั ศิ าสตร ช้ัน ทํางานรายบคุ คล แตกตา งไปจากอดีตหรือไม อยางไร ประถมศึกษาปท ่ี 1 หรอื การดาํ เนนิ ชวี ิต หรือการดําเนินชีวิ 5. แบบสงั เกตพฤติกรรมการ 1.3 การดาํ เนนิ ชวี ิตของคนในชมุ ชนชนบทในปจจุบนั มีความ 4. หองสมุดโรงเรยี น ทํางานกลมุ แตกตา งไปจากอดีตหรอื ไม อยา งไร เว็บไซตตางๆ ของตนเองกับสมยั ของอดตี กับ ของพอแม ปูยา ตา ปจ จุบนั ทเ่ี ปน ยาย รปู ธรรมและใกล ตัวเด็ก เชน การ ใชค วายไถนา รถ ไถนา เตารดี ถนน 2. ครแู บง นกั เรยี นเปน กลมุ กลุมละ 3 คน คละกนั ตาม ความสามารถ คือ เกง ปานกลางคอ นขา งเกง ปานกลาง เกวยี น รถอแี ตน คอ นขา งออน และออ น แลวใหแ ตละกลมุ รว มกันศึกษาความรู เรอ่ื ง ความเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดลอม จากหนงั สือเรียน 3. นกั เรียนแตละกลุมรวมกนั สนทนาและอธิบายความรู เกีย่ วกบั ความเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดลอม ตามประเด็นท่ี

กาํ หนด ดงั น้ี ของเลน , การเดินทาง , ทีอ่ ยอู าศัย ยานพาหนะ 4. ครูอธบิ ายความรูเก่ียวกบั ความเปลี่ยนแปลงของ สภาพแวดลอ มเพ่ิมเตมิ จนนักเรยี นมคี วามรู ความเขาใจ นกั เรียนตอบคาํ ถามกระตนุ ความคิด 5. นักเรยี นแตล ะกลุมรว มกันแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั แนว ทางการปรับตัวใหเขา กบั สภาพแวดลอ มท่ีเปลย่ี นแปลง พรอม ใหเ หตุผลประกอบ 6. ตวั แทนนกั เรียนแตละกลมุ ออกมานาํ เสนอความคิดเหน็ ของ กลุมหนา ช้นั เรยี น แลวใหน กั เรยี นกลมุ อน่ื ท่มี คี วามคดิ เหน็ แตกตา งกันออกไปแสดงความคิดเห็นเพ่มิ เติม 7. ครใู หนักเรียนแตละกลุมนําความรูทไ่ี ดจ ากการศึกษามาเปน พน้ื ฐานในการทาํ ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ความเปล่ยี นแปลงของ สภาพแวดลอ ม 8. ครสู มุ เรยี กตัวแทนของแตล ะกลุมออกมานําเสนอคําตอบใน ใบงานท่ี 1.1 หนา ชนั้ เรยี น แลว ใหเ พื่อนกลุมอื่นวิจารณการ นาํ เสนอผลงานอยา งสรางสรรค โดยครเู ปนผูต รวจสอบความ ถกู ตอง และเสนอแนะเพม่ิ เตมิ ในสว นทบ่ี กพรอ ง 9. ครูและนักเรียนรว มกันสรุปความรูเ รื่อง ความเปลยี่ นแปลง ของสภาพ แวดลอ ม และขอ ดี-ขอเสยี ของความเปลยี่ นแปลง ของสภาพแวดลอ ม

แผนการจดั การเรียนรู ชื่อหนวยการเรียนรูที่ 3 ชวี ติ ท่ีเปลยี่ นแปลง แผนการสอนที่ 2 เรอ่ื ง การเปลย่ี นแปลงในครอบครัว รายวิชาประวัตศิ าสตร ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 รหัสวชิ า ส 11102 ครผู สู อน นางลักษณา ไชยบุตร ตําแหนง พนกั งานราชการ เวลาทใ่ี ช 2 ช่ัวโมง ตัวช้ีวดั /ผลการ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวัดและประเมนิ ผล กจิ กรรมการเรยี นรู สื่อ/แหลงเรยี นรู เรียนรู ส 4.2 ป.1/1 1. ความเปล่ยี น 1. ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง 1. ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง ช่ัวโมงที่ 3-4 ความเปนมาของตนเอง 1. ใบงานที่ 2.1 บอกความ แปลงของ การเปลี่ยนแปลงใน การเปลี่ยนแปลงใน 1. ครใู หนกั เรียนดูบตั รภาพสง่ิ ของ เครอื่ งใชภายในบา น แลว ตอบคําถาม เรอ่ื ง การ ครอบครวั ตามประเด็นทก่ี ําหนด ดงั นี้ เปลย่ี นแปลงใน เปลี่ยนแปลงของ สภาพแวดลอม ครอบครัว 1.1 นักเรียนรจู ักส่งิ ของ เครอื่ งใชใ นภาพหรอื ไม คืออะไร ครอบครวั 2. ใบงานท่ี 2.2 เรือ่ ง 1.2 ท่ีบานของนกั เรยี นมสี ิง่ ของ เครอ่ื งใชใ นภาพหรอื ไม สภาพแวดลอม ส่งิ ของ เครอื่ งใช 2. ใบงานที่ 2.2 เร่ือง การเปล่ยี นแปลงใน 1.3 นักเรียนพบเห็นส่งิ ของ เครื่องใชในภาพถกู ใชท่ไี หน 2. ใบงานท่ี 2.2 สิง่ ของ เคร่อื งใช หรือการดาํ เนนิ การเปลย่ี นแปลงใน ครอบครวั ของฉนั และใชอ ยางไร เรื่อง การ หรอื การดาํ เนินชวี ติ ชีวติ ของอดีตกับ ครอบครวั ของฉนั 3. แบบสงั เกตพฤติกรรม เปล่ยี นแปลงใน ของตนเองกับสมยั ปจ จุบันทเี่ ปน การทาํ งานรายบุคคล ครอบครัวของฉัน ของพอ แม ปูยา ตา รูปธรรมและใกล 4. แบบสังเกตพฤตกิ รรม 2. นักเรยี นรวมกลุมแลว ใหแตละกลมุ รว มกนั ศึกษาความรเู รื่อง การ 3. บตั รภาพสง่ิ ของ ยาย ตัวเดก็ เชน การ เปลยี่ นแปลงในครอบครวั จากหนงั สอื เรียน ใชค วายไถนา รถ การทาํ งานกลมุ เคร่อื งใชภายใน 3. ครูและนกั เรยี นรวมกนั วเิ คราะหเกีย่ วกบั การเปล่ียนแปลงในครอบครัว บาน ไถนา เตารีด ถนน 5. แบบประเมิน ตง้ั แตอ ดีตจนถึงปจจุบนั ตามประเด็นทก่ี ําหนด ดงั นี้ เกวยี น รถอแี ตน คณุ ลกั ษณะอันพึง 3.1 ส่งิ ของ เครือ่ งใช 3.2 อาหาร 4. หนังสือเรียน ประสงค 3.3 วิถีการดาํ เนินชีวิต 3.4 สภาพแวดลอม ประวัตศิ าสตร ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี 1 4. นกั เรยี นชวยกันยกตัวอยา งการเปลีย่ นแปลงในครอบครัวตงั้ แตอดีต 5. หอ งสมุด จนถึงปจ จบุ ัน เชน โรงเรียนเว็บไซต - เตาถาน  เตาแกส  เตาไฟฟา ตา งๆ

- เตารดี ถา น  เตารดี นํา้ มันกาด  เตารดี ไฟฟา - ตะกรา ไมไ ผ/ หวาย  ถงุ พลาสติก/ตะกราพลาสติก 5. ครแู ละนักเรยี นรวมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ขอดี-ขอ เสยี และผล ทตี่ ามมาของการเปลีย่ นแปลงในครอบครัว 6. นกั เรียนแตละกลมุ รวมกันทําใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง การเปลย่ี นแปลงใน ครอบครวั 7. ตัวแทนของแตล ะกลมุ ออกมานําเสนอคาํ ตอบในใบงานท่ี 2.1 หนา ช้ันเรียน โดยครูเปนผูต รวจสอบความถูกตอ ง และเสนอแนะเพิม่ เติมใน สว นทบ่ี กพรอ ง 8. นักเรียนแตล ะคนทาํ ใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง การเปลีย่ นแปลงใน ครอบครัวของฉัน เสร็จแลว นาํ สงครูตรวจ 9. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรูเรอ่ื ง การเปลยี่ นแปลงในครอบครัว จนไดวา ความเปลีย่ นแปลงที่เกิดข้ึนในครอบครวั เปน ผลมาจากความ เปลยี่ นแปลงของสภาพแวดลอ มทําใหมสี ง่ิ ใหมเ กิดขึน้ แทนส่งิ เกา ซ่งึ มีทง้ั ขอดแี ละขอ เสยี ทาํ ใหค นเราตองมีการปรบั ตวั ใหทนั ตอ ส่ิงใหมๆ ยอมรบั การเปล่ยี นแปลงเพ่ือการดํารงชวี ิตอยา งมีความสุข

แผนการจัดการเรียนรู ช่ือหนว ยการเรยี นรูท่ี 3 ชีวิตทเี่ ปลยี่ นแปลง แผนการสอนท่ี 2 เรื่อง สาเหตแุ ละผลของการเปล่ียนแปลง รายวิชาประวัติศาสตร ชั้นประถมศกึ ษาปท่ี 1 รหัสวชิ า ส 11102 ครูผูสอน นางลักษณา ไชยบตุ ร ตาํ แหนง พนกั งานราชการ เวลาที่ใช 2 ชั่วโมง ตวั ชี้วดั /ผลการ เนอื้ หาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวดั และประเมนิ ผล กิจกรรมการเรียนรู ส่ือ/แหลงเรยี นรู เรียนรู 1. ใบงานที่ 3.1 เรือ่ ง ส 4.2 ป.1/1 สาเหตแุ ละผล สาเหตุและผลของการ 1. ใบงานที่ 3.1 เรอื่ ง สาเหตุ ชัว่ โมงท่ี 5-6 ความเปน มาของครอบครวั 1. บตั รภาพที่พัก เปล่ียนแปลง และผลของการเปลยี่ นแปลง บอกความ ของการ 2. แบบประเมนิ การนาํ เสนอ 1. ครใู หนกั เรียนดบู ตั รภาพท่พี กั เชน บานเรือนไทย และ 2. ใบงานที่ 3.1 เร่ือง ผลงาน เปลยี่ นแปลงของ เปล่ยี นแปลงของ 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการ คอนโดมิเนยี ม แลวตอบคําถามตามประเด็นท่กี าํ หนด ดังนี้ สาเหตแุ ละผลของ ทาํ งานรายบุคคล สภาพแวดลอม สิ่งตา งๆ ตาม 4. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ 1.1 บา นของนกั เรียนมคี วามแตกตา งจากในภาพหรอื ไม การเปล่ยี นแปลง ทํางานกลุม สง่ิ ของ เครือ่ งใช กาลเวลา 5. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ อยา งไร 3. หนังสอื เรียน อนั พงึ ประสงค หรอื การดาํ เนนิ ชีวิต 6. แบบทดสอบหลังเรยี น 1.2 ในอดีตคนนยิ มสรางบานบริเวณใด ประวตั ิศาสตรช ้นั หนว ยการเรียนรูท่ี 3 ของตนเองกับสมยั 7. แบบประเมินรายงาน เร่อื ง 1.3 ปจ จุบันคนนิยมสรา งบานบรเิ วณใด ประถมศกึ ษาปที่ 1 ชวี ติ ที่เปลีย่ นแปลง ของพอแม ปยู า ตา 1.4 นักเรยี นคิดวา บานในอดตี และปจจบุ ันมีความแตกตางกัน 4. หอ งสมุดโรงเรยี น ยาย หรอื ไม อยางไร เว็บไซตต า งๆ 2. นกั เรียนรวมกลุมเดิม (จากแผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 1) แลว ใหแตล ะกลมุ รว มกันศึกษาความรูเร่ือง สาเหตุและผลของการ เปลยี่ นแปลง จากหนงั สอื เรียน 3. นักเรยี นแตละกลุมจบั คกู ันเปน 2 คู แลว ใหแ ตละคูนาํ ความรทู ่ีไดจากการศึกษามาเปนพน้ื ฐานในการทําใบงานท่ี 3.1 เร่อื ง สาเหตุและผลของการเปลย่ี นแปลง 4. นักเรยี นแตละคผู ลดั กันนาํ เสนอคําตอบในใบงานที่ 3.1 ให

สมาชกิ อกี คูห นึง่ ภายในกลุมฟง แลวผลัดกนั อธิบายความรจู น ทกุ คนในกลมุ มคี วามเขา ใจตรงกัน 5. นักเรยี นแตละกลมุ รวมกันสรุปความรูเรอื่ ง สาเหตแุ ละผล ของการเปลยี่ นแปลง จนไดวา การเปล่ยี นแปลงเกิดขนึ้ ตลอดเวลา การเปล่ียนแปลงของบา นเมืองและสภาพแวดลอ ม ทําใหผูคนเปล่ียนแปลงไปจากอดีต ดังน้ันเราจงึ ตอ งปรับตัวให ทันตอ สง่ิ ใหมๆ ยอมรบั สิง่ ที่เปล่ียนแปลงเพือ่ การดาํ รง ชีวติ อยา งมีความสุข 6. ตวั แทนนักเรยี นแตละกลมุ ออกมานาํ เสนอคําตอบในใบงาน ท่ี 3.1 หนา ช้นั เรยี น โดยครแู ละเพ่ือนเปนผตู รวจสอบความ ถูกตอ ง 7. ครูแนะนาํ ใหนักเรยี นนําความรูท ่ีไดจากการศึกษาไป ประยุกตใชในชวี ติ ประจาํ วนั เพื่อจะไดด ํารงชวี ิตอยา งมคี วามสขุ

แผนการจัดการเรียนรู ชื่อหนวยการเรียนรูที่ 4 เหตุการณใ นอดีตท่มี ีผลกับปจจุบัน แผนการสอนท่ี 1 เร่อื ง เหตกุ ารณในอดีตทมี่ ีผลตอ ตนเองในปจจุบนั รายวชิ าประวัตศิ าสตร ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1 รหสั วิชา ส 11102 ครผู ูส อน นางลกั ษณา ไชยบุตร ตําแหนง พนักงานราชการ เวลาที่ใช 2 ชัว่ โมง ตวั ช้วี ดั /ผลการ เนอ้ื หาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวัดและประเมนิ ผล กิจกรรมการเรียนรู ส่อื /แหลง เรียนรู เรียนรู 1. เหตุการณ 1. แบบทดสอบกอนเรยี น 1. แบบทดสอบกอ นเรยี น ชัว่ โมงที่ 1-2 เหตกุ ารณในอดตี ทมี่ ีผลกบั ปจ จบุ นั 1. บตั รคํา ส 4.2 ป.1/2 บอก เหตกุ ารณท่เี กดิ ขนึ้ สาํ คัญทีเ่ กิดข้ึนใน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนว ยการเรียนรทู ี่ 4 1. ครใู หน ักเรียนดบู ัตรภาพพ่ีนองวง่ิ เลน ในบา นในขณะที่แม 2. บัตรภาพพนี่ อ งว่ิง ในอดตี ท่มี ี ครอบครัว เชน 2. . ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง 2. . ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ถอื หมอตมนา้ํ แกง แลวใหนักเรยี นสังเกตและอภปิ ราย เลน ในบาน ผลกระทบตอ การยายบาน การ เหตุการณในอดีตท่มี ผี ลตอ เหตุการณในอดตี ท่ีมผี ลตอ รวมกนั เพ่ือใหตระหนักถงึ ผลทจ่ี ะตามมา ตามประเด็นท่ี 3. ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ตนเองในปจ จบุ ัน ยา ยโรงเรยี น การ ตนเองในปจจุบนั ตนเองในปจ จุบัน กําหนด ดังนี้ เหตุการณใ นอดตี ท่ีมี สญู เสียบุคคลใน 3. ใบงานที่ 1.2 เรือ่ ง ความ 3. ใบงานที่ 1.2 เร่ือง ความ 1.1 จากภาพ นกั เรียนคดิ วาจะเกดิ เหตุการณใ ดข้ึน ผลตอ ตนเองใน ครอบครัว ประทับใจในอดตี ที่มีผลตอ ประทับใจในอดีตท่มี ีผลตอ เหตุการณดังกลา วมีผลอยา งไร ปจ จุบนั ตนเองในปจ จุบนั ตนเองในปจจบุ นั นกั เรยี นคดิ วา การกระทาํ ของพี่นอ งคูนีเ้ หมาะสมหรือไม 4. ใบงานที่ 1.2 เร่ือง 4. แบบประเมินการนําเสนอ อยางไร ความประทับใจใน ผลงาน 1.2 หากนกั เรียนเปนพนี่ องคูน ้ี นกั เรียนจะปฏิบตั ติ นอยา งไร อดีตที่มีผลตอตนเอง 5. แบบสงั เกตพฤติกรรมการ 1.3 นกั เรยี นตอบคําถามกระตุนความคดิ ในปจจุบัน ทาํ งานรายบุคคล 2. ครูอธิบายใหนกั เรียนเขา ใจวา ในชวี ิตของแตล ะคนมี 5. หนังสือเรยี น 6. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ เหตกุ ารณท่เี กดิ ขนึ้ หลายเหตุการณซ ่ึงเหตกุ ารณที่เกิดขน้ึ จะ ประวัติศาสตร ช้นั อนั พงึ ประสงค์ สง ผลตอ การใชชวี ติ ของเราในปจจบุ นั ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 3. นักเรียนศึกษาความรูเรอื่ ง เหตุการณใ นอดตี ที่มีผลกับ 6. หอ งสมุดโรงเรียน ปจจุบนั จากหนงั สอื เรยี น เวบ็ ไซตตา งๆ 4. ครูตดิ บัตรคาํ ตัวอยา งเหตกุ ารณทเ่ี กิดข้นึ บนกระดานหนาช้ัน

เรียน 5. ครแู ละนกั เรยี นรวมกันสนทนาและประเมินเหตกุ ารณจ าก บัตรคําทีก่ ําหนดให ตามประเด็นทก่ี าํ หนด ดงั น้ี 5.1 เหตุการณใดทีน่ กั เรียนควรปฏิบัติ และเหตกุ ารณใดที่ นกั เรยี นไมควรปฏิบตั ิ พรอมอธบิ ายเหตผุ ล 5.2 ผลของเหตุการณข า งตน คอื อะไร 5.3 หากนักเรยี นอยใู นเหตุการณขา งตน นกั เรียนจะปฏิบตั ติ น อยา งไร 6. ครแู ละนักเรียนรว มกันแสดงความคดิ เหน็ ตอ เหตุการณ ขา งตน และผลตอ ตนเองในปจจุบนั เชน 6.1 ถานักเรยี นเลน นํ้าฝนจะทําใหนกั เรยี นไมสบาย 6.2 ถานักเรยี นขามทางมาลายจะทาํ ใหน ักเรยี นปลอดภยั จาก อุบัติเหตุ 7. ครูสนทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกับเหตกุ ารณจ ากบัตรคําวา นักเรยี นชอบการปฏิบัตติ นของใครและในเหตุการณใด พรอม อธบิ ายเหตุผล 8. ครสู ุม เรยี กนกั เรยี น 1- 2 คน ออกมาเลาเหตกุ ารณในอดีตท่ี มผี ลตอ ตนเองในปจจบุ นั หนาชนั้ เรยี น เชน การไดรับรางวลั อุบัตเิ หตุ และ ความภาคภูมิใจ เปน ตน 9. ครยู กตวั อยา งเหตกุ ารณต า งๆ ตามความเหมาะสมเพือ่ ให นกั เรียนชวยกันกาํ หนดแนวทางปฏิบตั ิตนตอเหตกุ ารณน้นั ๆ 10. นกั เรียนทาํ ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง เหตุการณในอดีตทมี่ ผี ล ตอตนเองในปจ จบุ นั 11. ครูและนักเรยี นรวมกนั เฉลยคําตอบในใบงานท่ี 1.1 แลว

ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ จนนกั เรยี นมีความรูความเขา ใจ 12. ครูและนกั เรยี นรวมกนั สนทนาตามประเดน็ ทีก่ าํ หนด ดงั นี้ - เหตกุ ารณใ นอดตี มีผลตอนกั เรยี นอยา งไร - เหตุการณใ นอดีตมีผลตอการดําเนนิ ชีวิตของนกั เรียนหรอื ไม อยางไร - นักเรยี นมแี นวทางปฏบิ ตั ิตนอยางไรเพ่อื ใหค รอบครวั ภาคภูมิใจ และนักเรียนมีความรสู กึ อยา งไรท่ไี ดป ฏิบัติตาม แนวทางทตี่ นเองวางไว 13. นักเรียนทําใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง ความประทบั ใจในอดตี ที่มี ผลตอตนเองในปจ จบุ ัน 14. ครคู ัดเลือกผลงานเพ่อื เปน ตัวอยา ง 2-3 ผลงาน แลวให นกั เรยี นเจาของผลงานออกมานําเสนอผลงานหนา ช้ันเรยี น 15. ครูและนกั เรยี นรว มกนั สรุปความรเู รือ่ ง เหตุการณในอดีต ทมี่ ีผลตอตนเองในปจ จุบัน

แผนการจดั การเรยี นรู ช่อื หนว ยการเรยี นรูที่ 4 เหตุการณใ นอดีตท่ีมผี ลกับปจจบุ ัน แผนการสอนที่ 2 เรอื่ ง เหตุการณใ นอดีตท่มี ีผลตอ ครอบครวั รายวชิ าประวัติศาสตร ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี 1 รหสั วชิ า ส 11102 ครูผูสอน นางลกั ษณา ไชยบตุ ร ตาํ แหนง พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช 2 ช่ัวโมง ตวั ชี้วัด/ผลการ เนอื้ หาสาระ ภาระงาน/ชน้ิ งาน การวัดและประเมินผล กิจกรรมการเรียนรู สือ่ /แหลงเรยี นรู เรยี นรู 1. เหตกุ ารณ 1. ใบงานที่ 2.1 เรื่อง 1. ใบงานที่ 2.1 เร่ือง ชว่ั โมงท่ี 3-4 ความเปนมาของตนเอง 1.กรณีตวั อยา ง ส 4.2 ป.1/2 บอกเหตกุ ารณที่ สําคัญทเ่ี กิดข้นึ ใน เหตุการณใ นอดตี ท่มี ีผล เหตุการณในอดตี ท่ีมผี ล 1. ครแู ละนักเรยี นรวมกนั สนทนาเก่ียวกบั เหตุการณท ี่เกดิ ข้ึนในครอบครัว 2.ใบงานที่ 2.1 ครอบครวั เชน ตอ ครอบครัวในปจจบุ นั ตอครอบครัวในปจจุบัน ตามประเดน็ ทีก่ าํ หนด ดังน้ี เรอ่ื ง เหตุการณใน เกิดขึ้นในอดีตที่มี การยายบา น การ 2. แบบทดสอบหลงั เรยี น 1.1 นักเรยี นสามารถรูเรอื่ งราวของครอบครัวตนเองไดจากท่ใี ด อดตี ท่ีมผี ลตอ ยา ยโรงเรยี น การ หนว ยการเรยี นรทู ี่ 4 2. แบบประเมนิ การ 1.2 เหตุการณใ ดของครอบครัวทีน่ กั เรยี นคิดวา มคี วามสาํ คญั พรอ ม ครอบครัวใน ผลกระทบตอ สญู เสียบุคคลใน 3. แบบประเมนิ การ นาํ เสนอผลงาน อธิบายเหตผุ ล ปจ จบุ ัน ตนเองในปจจบุ ัน ครอบครัว นําเสนอเหตุการณของ 3. แบบสงั เกตพฤติกรรม 2. ครเู ลากรณีตัวอยางเหตุการณทเี่ กดิ ขึน้ ในครอบครวั ของเอกพล ให 3. หนังสอื เรยี น ครอบครวั ในอดตี ทมี่ ีผล การทาํ งานรายบคุ คล นักเรียนฟง ประวตั ศิ าสตร ชั้น ตอ ตนเองและครอบครวั 4. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 การทาํ งานกลมุ เมือ่ ปทีแ่ ลว ครอบครัวของเอกพลยา ยบานจากกรุงเทพฯ ในปจจุบัน 5. แบบประเมนิ 4. หอ งสมุด คณุ ลกั ษณะอันพงึ ไปอยจู ังหวัดขอนแกน เพราะพอ ของเอกพลไดรับแตง ต้งั เปน โรงเรยี นเวบ็ ไซต ประสงค ผูอาํ นวยการโรงเรียนประจาํ จังหวดั ตา งๆ 6. แบบทดสอบหลังเรยี น 3. นกั เรยี นรว มกันสนทนาตามประเดน็ ที่กาํ หนด ดงั นี้ หนว ยการเรยี นรูท่ี 4 3.1 เอกพลยายบานไปอยทู ใ่ี ด เพราะเหตุใด 7. แบบประเมินการ 3.2 เหตุการณใดทท่ี าํ ใหเอกพลรสู ึกภาคภูมิใจ นําเสนอเหตกุ ารณข อง 4. ครอู ธบิ ายเช่อื มโยงใหนักเรยี นเขาใจวา เหตุการณท ่ีเกดิ ขน้ึ ใน ครอบครวั ในอดีตท่ีมีผล ครอบครวั ของตนเองมผี ลตอ การดําเนินชวี ิตในปจ จบุ นั

ตอตนเองและครอบครัว 5. ครูแบงนักเรยี นเปนกลมุ กลมุ ละ 3 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ ในปจ จุบนั เกง ปานกลางคอ นขางเกง ปานกลางคอนขา งออน และออน แลว ใหแ ต ละกลุมรวมกนั ศกึ ษาความรูเรือ่ ง เหตุการณใ นอดตี ที่มีผลกบั ปจ จบุ นั จาก หนังสือเรียน 6. นกั เรยี นนําความรูท ่ีไดจ ากการศึกษาในชัว่ โมงทแี่ ลว มาทาํ ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง เหตุการณใ นอดีตทีม่ ผี ลตอครอบครัวในปจ จบุ ัน โดยให นักเรยี นแตละกลมุ จบั คูกัน แลวใหแ ตละคูป ฏิบตั ิกจิ กรรม ดังนี้ - นักเรียนคนท่ี 1 ทําหนา ที่ ตอบคาํ ถาม - นักเรียนคนที่ 2 ทําหนา ท่ี สงั เกตและตรวจสอบคาํ ตอบ เสรจ็ แลวใหส ลับกนั ทาํ หนา ที่ในขอถดั ไป 7. เมอื่ นักเรียนแตละกลุม ตอบคาํ ถามครบทุกขอ แลว ใหนักเรียนทงั้ 2 คู นาํ คาํ ตอบมาเปรียบเทียบกนั เพอื่ หาคําตอบทเ่ี ปน มตขิ องกลมุ 8. ตวั แทนแตละกลมุ ออกมานําเสนอคําตอบในใบงานท่ี 2.1 หนา ชน้ั เรียน โดยครูเปน ผูต รวจสอบความถูกตอ ง และเสนอแนะเพิ่มเติม ในสว นที่บกพรอ ง 9. ครแู ละนักเรยี นรว มกันสนทนาเกีย่ วกบั เหตุการณข องครอบครัวในอดตี ทม่ี ีผลตอ นกั เรยี นในปจจบุ ัน 10. นกั เรยี นทําแบบทดสอบหลังเรียน หนว ยการเรยี นรูที่ 4 เร่ือง เหตกุ ารณใ นอดตี ทม่ี ผี ลกบั ปจ จุบนั

แผนการจดั การเรียนรู ชอ่ื หนว ยการเรียนรูที่ 5 สัญลกั ษณข องชาติไทย แผนการสอนที่ 1 เรอ่ื ง เพลงชาติไทย รายวิชาประวตั ศิ าสตร ช้นั ประถมศกึ ษาปที่ 1 รหสั วชิ า ส 11102 ครผู สู อน นางลกั ษณา ไชยบตุ ร ตาํ แหนง พนกั งานราชการ เวลาทีใ่ ช 1 ช่ัวโมง ตวั ชว้ี ดั /ผลการ เนอื้ หาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวัดและประเมินผล กิจกรรมการเรียนรู สือ่ /แหลงเรียนรู เรียนรู 1. ความหมายและ 1. แบบทดสอบกอ นเรยี น 1. แบบทดสอบกอนเรียน ช่ัวโมงที่ 1 เพลงชาติไทย 1. ซีดีเพลงชาตไิ ทย ส 4.3 ป.1/2 ความสาํ คัญของ หนวยการเรยี นรูท ี่ 5 หนวยการเรียนรทู ่ี 5 อธบิ ายความหมาย สัญลักษณทส่ี าํ คญั 2. ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง เพลง 2. ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง เพลง 1. ครูนําเนอื้ เพลงชาติไทยมาตดิ บนกระดานหนาช้นั เรยี น 2. ใบงานที่ 1.1 และความสําคัญ ของชาตไิ ทยท่เี ปน ชาตไิ ทย ชาติไทย ความภาคภมู ใิ จและ 3. แบบประเมินการนําเสนอ จากนนั้ เปด ซดี เี พลงชาติไทยใหน กั เรยี นฟง แลวรวมกันฝก เรอื่ ง เพลงชาตไิ ทย ของสญั ลกั ษณ การมีสวนรว มทีจ่ ะ ผลงาน อนุรักษไว ไดแ ก ชาติ 4. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ รอ งเพลง 3. หนงั สือเรียน สาํ คัญของชาติไทย ศาสนา ทํางานกลุม และปฏิบัตติ นได พระมหากษตั รยิ  5. แบบประเมินคุณลักษณะ 2. ครูและนักเรียนรวมกันสนทนาเกยี่ วกับเพลงชาตไิ ทย ประวตั ศิ าสตร ช้นั (เพลงชาต)ิ อันพงึ ประสงค ถูกตอ ง 2.การเคารพธงชาติ 3. ครูอธิบายใหน ักเรียนเขา ใจวา สัญลักษณของชาติเปน สิง่ ประถมศึกษาปที่ 1 การรอ งเพลงชาตแิ ละ เพลงสรรเสรญิ พระ ทแ่ี สดงถึงความเปนชาติที่ทกุ คนควรใหความเคารพและ 4. หอ งสมุดโรงเรียน บารมี การเคารพพระ บรมฉายาลักษณการ ภาคภมู ิใจซง่ึ สัญลกั ษณของชาตไิ ทยมีหลายส่งิ เชน เพลง เวบ็ ไซตต า งๆ เคารพ ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน ชาติไทย ธงชาติไทยเปนตน 4. ครูแบงนกั เรยี นเปนกลุม กลมุ ละ 4 คน คละกนั ตาม ความสามารถ คอื เกง ปานกลางคอนขา งเกง ปานกลาง คอนขางออ น และออน แลว ใหแ ตล ะกลุม รวมกนั ศึกษา ความรูเกีย่ วกบั เพลงชาติไทย จากหนังสอื เรียน 5. ครใู หน ักเรียนแตละกลมุ นําความรทู ี่ไดจากการศกึ ษามา เปน พนื้ ฐานในการตอบคาํ ถาม ตามประเด็นทกี่ ําหนด ดังน้ี 5.1 เน้ือหาในเพลงชาตไิ ทยหมายความวา อยางไร 5.2 เพลงชาตไิ ทยมคี วามสําคญั อยางไรตอ นักเรยี น

5.3 นกั เรียนควรปฏบิ ตั ิตนอยางไร เมอื่ ไดยนิ เพลงชาตไิ ทย 6. ตวั แทนแตละกลมุ ออกมานาํ เสนอคาํ ตอบหนา ชั้นเรียน โดยครูเปน ผตู รวจสอบความถูกตอง และเสนอแนะ เพ่มิ เติมในสวนทีบ่ กพรอง 7. นักเรยี นแตละกลุมรวมกนั ทําใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง เพลง ชาติไทย เสร็จแลวตรวจสอบความถกู ตองของใบงาน 8. ครูและนักเรยี นรวมกนั สรุปความรเู ก่ยี วกบั ความหมาย ความสาํ คัญของเพลงชาตไิ ทย และการปฏบิ ัตติ นตอเพลง ชาตไิ ทยทเี่ ปน สัญลกั ษณสําคญั ของชาติไทย 9. ครูและนักเรียนรวมกนั เฉลยคาํ ตอบในใบงานที่ 1.1 10. ครสู งั เกตพฤติกรรมการทาํ งานกลุมของนักเรียน แลว เสนอแนะในสวนทบ่ี กพรองเพือ่ นําไปปรับปรงุ แกไขในการ ทาํ งานครัง้ ตอ ๆ ไป

แผนการจดั การเรยี นรู ช่อื หนว ยการเรียนรูท่ี 5 สญั ลักษณข องชาตไิ ทย แผนการสอนท่ี 2 เรอื่ ง ธงชาตไิ ทย รายวชิ าประวัตศิ าสตร ช้ันประถมศึกษาปท ่ี 1 รหัสวิชา ส 11102 ครผู สู อน นางลักษณา ไชยบตุ ร ตาํ แหนง พนักงานราชการ เวลาท่ีใช 1 ชั่วโมง ตวั ช้ีวดั /ผลการ เนอ้ื หาสาระ ภาระงาน/ชน้ิ งาน การวดั และประเมนิ ผล กิจกรรมการเรยี นรู สอื่ /แหลง เรยี นรู เรยี นรู 1. ความหมาย 1. ใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง ธง 1. ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง ธง ชัว่ โมงที่ 2 เรือ่ ง ธงชาตไิ ทย 1.เพลงไตรรงค ส 4.3 ป.1/1 และความสําคญั ชาติไทย ชาติไทย 2.ธงชาตไิ ทย อธิบายความหมาย ของสัญลักษณที่ 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรม 1. ครูสอนใหน กั เรียนรอ งเพลงไตรรงค 3.ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง และความสาํ คญั สําคัญของชาติ การทาํ งานรายบคุ คล ธงชาตไิ ทย ของสัญลกั ษณ ไทยท่เี ปนความ 3. แบบประเมิน ไตรรงคธงไทย ปลวิ ไสวสวยงามสงา สแี ดงคือชาติ 4. หนงั สอื เรยี น สาํ คัญของชาตไิ ทย ภาคภูมิใจและ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประวัตศิ าสตร ช้นั และปฏบิ ัตติ นได การมีสว นรวมที่ ประสงค สขี าวศาสนา สนี ้ําเงินหมายวาพระมหากษัตรยิ ไทย ประถมศึกษาปท่ี 1 ถูกตอ ง จะอนรุ ักษไว 5. หองสมดุ โรงเรียน ไดแ ก ชาติ พระมหากษัตรยิ ไ ทย เวบ็ ไซตต างๆ ศาสนา พระมหากษัตริย 2. นกั เรียนรวมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เพลงไตรรงค (ธงชาติ) ตามประเดน็ ที่กําหนด ดงั น้ี 2. การเคารพธง 2.1 ธงชาติไทยมีชอื่ เรยี กวาอะไร ชาติ การรองเพลง 2.2 ธงชาติไทยมีกีส่ ี อะไรบาง ชาติ และเพลง 2.3 สีของธงชาตไิ ทยแตล ะสหี มายถงึ อะไร สรรเสรญิ พระบารมี 3. ครูอธิบายเช่ือมโยงใหน ักเรียนเขา ใจวา เน้อื เพลงไตรรงค การเคารพพระบรม กลา วถึง ธงชาตไิ ทยที่เปนสัญลักษณสําคัญของชาติไทย 4. ครนู ําธงชาติไทย มาใหนกั เรยี นดู แลว ใหนักเรยี นศึกษาความรู เกยี่ วกับธงชาติไทย จากหนงั สือเรียน 5. นกั เรียนนาํ ความรทู ไี่ ดจากการศกึ ษามาทําใบงานที่ 2.1 เรื่อง

ฉายา ธงชาตไิ ทย ลักษณ การเคารพ 6. ครแู ละนกั เรียนรวมกันเฉลยคาํ ตอบในใบงานที่ 2.1 ศาสนวตั ถุ ศาสน 7. ครูสุมเรียกนกั เรียน 2-3 คน ออกมานําเสนอใบงานท่ี 2.1 สถาน หนา ชั้นเรยี น แลวใหเ พอื่ นติชมผลงานอยา งสรา งสรรค 8. นกั เรยี นรว มกนั วเิ คราะหค วามสําคญั ของธงชาติไทย โดยครูเปน ผูตรวจสอบความถกู ตอง และเสนอแนะเพิ่มเติมในสวนท่ีบกพรอ ง 9. ครแู ละนักเรียนรว มกันสนทนาและแสดงความคดิ เหน็ วา เพราะ เหตใุ ด สถานทูตไทยในตางประเทศจึงตอ งประดบั ธงชาติไทย 10. ครตู งั้ ประเดน็ คําถามถามนักเรยี นเกี่ยวกบั ความหมาย ความสาํ คัญ และวิธกี ารปฏบิ ตั ติ นตอ ธงชาตไิ ทยทีเ่ ปนสญั ลกั ษณ สําคัญของชาตไิ ทย 11. ครูใหน กั เรยี นชวยกันยกตัวอยา งสถานทีต่ า งๆ ทปี่ ระดบั ธง ชาติไทย

แผนการจัดการเรียนรู ชอื่ หนวยการเรียนรูท่ี 5 สัญลักษณของชาติไทย แผนการสอนที่ 3 เรอื่ ง ศาสนาของชาตไิ ทย รายวิชาประวตั ศิ าสตร ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 รหสั วชิ า ส 11102 ครูผสู อน นางลกั ษณา ไชยบตุ ร ตําแหนง พนกั งานราชการ เวลาทใี่ ช 1 ชั่วโมง ตัวชวี้ ดั /ผลการ เนือ้ หาสาระ ภาระงาน/ช้ินงาน การวดั และประเมินผล กจิ กรรมการเรียนรู สือ่ /แหลงเรียนรู เรยี นรู 1. ความหมาย 1. ใบงานที่ 3.1 เรื่อง 1. ใบงานที่ 3.1 เรื่อง ช่วั โมงท่ี 3 เรอ่ื ง ศาสนาของชาติไทย 1.ใบความรู เร่อื ง ส 4.3 ป.1/1 และความสาํ คัญ ศาสนาทีส่ าํ คัญของชาติ ศาสนาทส่ี ําคัญของชาติ อธบิ ายความหมาย ของสญั ลกั ษณท่ี ไทย ไทย 1. ครใู หน กั เรียนดูบัตรภาพการทําบญุ ตักบาตร แลว รว มกันแสดงความ ศาสนาที่สาํ คญั ของ และความสาํ คญั สาํ คัญของชาติ คิดเหน็ เกีย่ วกบั ศาสนาท่ีเปนสัญลักษณส าํ คัญของชาตไิ ทยตามประเดน็ ที่ ชาติไทย ของสญั ลกั ษณ ไทยทเี่ ปนความ 2. แบบประเมินการ กําหนด ดงั นี้ 2.บัตรภาพการ สําคญั ของชาตไิ ทย ภาคภมู ิใจและ นําเสนอผลงาน 1.1 ภาพทน่ี ักเรียนเห็นเปน ภาพอะไร ทาํ บญุ ตักบาตร และปฏบิ ัติตนได การมสี วนรว มท่ี 3. แบบสังเกตพฤตกิ รรม 1.2 นักเรยี นเคยปฏิบัติตนเหมอื นอยา งในภาพหรอื ไม อยา งไร 3. ใบงานท่ี 3.1 ถกู ตอ ง จะอนรุ ักษไว การทาํ งานกลุม 1.3 ภาพท่ีนกั เรยี นเหน็ เก่ียวของกับศาสนาอะไร เรอ่ื ง ศาสนาที่ ไดแก ชาติ 4. แบบประเมิน สําคญั ของชาติไทย ศาสนา คณุ ลกั ษณะอันพึง 2. นักเรียนรวมกลุมเดิม (จากแผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 1) แลว ให แต 4. หนงั สอื เรยี น พระมหากษัตริย ประสงค ละกลมุ รวมกนั ศกึ ษาความรูเ รอื่ ง ศาสนาที่สําคัญของชาตไิ ทย จากใบ ประวตั ศิ าสตรช ้ัน (พระพุทธรูป) ความรู ประถมศึกษาปที่ 1 2. การเคารพธง 3. นักเรยี นแตล ะกลุม รว มกนั สนทนาและอธิบายความรเู ก่ยี วกับ ศาสนา 5. หอ งสมุด ชาติ การรอ งเพลง ท่ีสําคัญของชาตไิ ทย ตามประเด็นท่ีกําหนด ดงั น้ี ชาติ และเพลง 3.1 คนไทยสวนใหญน ับถือศาสนาอะไร โรงเรียน สรรเสริญ 3.2 สัญลักษณแ ทนพระพทุ ธศาสนา คอื อะไร เว็บไซตตา งๆ พระบารมี 3.3 นักเรยี นมีแนวทางปฏิบตั ิตนตามหลักพระพทุ ธศาสนาอยางไร 4. ครูอธิบายความรเู ก่ียวกับศาสนาทีส่ าํ คัญของชาตไิ ทยเพิม่ เติมจน

การเคารพพระบรม นกั เรยี นมีความรู ความเขา ใจ ฉายาลักษณ การ 5. นกั เรียนแตละกลุม รวมกนั แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับการนํา เคารพ ศาสนวัตถุ พระพุทธศาสนาและหลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนามาเปน แนวทางใน ศาสนสถาน การดําเนินชีวติ พรอ มใหเ หตผุ ลประกอบ 3. เอกลกั ษณอืน่ ๆ 6. ตัวแทนแตล ะกลมุ ออกมานําเสนอความคิดเห็นของกลุม เชน ศาสนา หนา ชนั้ เรียน แลว ใหนกั เรยี นกลุมอ่นื ที่มีความคดิ เหน็ แตกตางกนั แสดง ความคดิ เห็นเพ่มิ เติม 7. ครใู หน ักเรียนแตละกลุม นาํ ความรทู ี่ไดจ ากการศกึ ษามาทาํ ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง ศาสนาท่ีสําคัญของชาตไิ ทย 8. ครูสุมเรียกนกั เรียนแตละกลุมออกมานาํ เสนอใบงานที่ 3.1 หนา ช้นั เรยี น แลวใหเพ่ือนกลุมอ่ืนวจิ ารณการนาํ เสนอผลงานอยา ง สรางสรรค โดยครูเปน ผูต รวจสอบความถูกตอ งและเสนอแนะเพมิ่ เติมใน สวนทีบ่ กพรอง 9. ครูและนกั เรยี นรว มกันสรุปความรเู รอ่ื ง ศาสนาทสี่ ําคัญของชาตไิ ทย และประโยชนของการนาํ หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนามาเปนหลักใน การดําเนินชวี ิต

แผนการจัดการเรียนรู ชือ่ หนวยการเรียนรูที่ 5 สัญลักษณของชาตไิ ทย แผนการสอนท่ี 4 เรอ่ื ง พระมหากษัตรยิ ข องชาตไิ ทย รายวชิ าประวัตศิ าสตร ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1 รหสั วิชา ส 11102 ครูผสู อน นางลักษณา ไชยบุตร ตําแหนง พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช 1 ช่วั โมง ตวั ช้ีวัด/ผลการ เนอ้ื หาสาระ ภาระงาน/ชนิ้ งาน การวดั และประเมินผล กจิ กรรมการเรียนรู สอื่ /แหลงเรยี นรู เรียนรู 1. ความหมาย 1. ใบงานที่ 4.1 เร่ือง 1. ใบงานท่ี 4.1 เร่ือง ชัว่ โมงที่ 4 เรอ่ื ง พระมหากษตั รยิ ข องชาตไิ ทย 1.ใบความรู เร่ือง ส 4.3 ป.1/1 และความสําคัญ พระมหากษตั รยิ  พระมหากษัตรยิ  อธิบายความหมาย ของสญั ลักษณท ่ี 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรม 1. ครเู ปดซีดเี พลงรักกันไวเ ถิด ใหนักเรยี นฟง แลวใหน กั เรียนฝก รองเพลง พระมหากษตั รยิ  และความสาํ คญั สาํ คัญของชาติ การทาํ งานรายบุคคล ตาม สญั ลกั ษณส ําคัญ ของสัญลกั ษณ ไทยท่ีเปน ความ 3. แบบประเมนิ 2. ครแู ละนักเรยี นรวมกนั สงั เกตและวเิ คราะหค วามหมายและขอคิด ที่ ของชาตไิ ทย สาํ คญั ของชาติไทย ภาคภมู ิใจและ คณุ ลักษณะอนั พึง ไดจ ากเน้อื เพลงเพ่อื ใหต ระหนกั ถึงความรัก ความสามคั คี และความ 2.ซดี เี พลงรักกันไว และปฏบิ ตั ติ นได การมีสวนรว มที่ ประสงค จงรักภักดีของคนในชาติ เถิด ถกู ตอง จะอนุรกั ษไ ว 3. ครใู หน ักเรียนดบู ัตรภาพพระบรมฉายาลักษณพ ระบาทสมเด็จ พระ 3. บัตรภาพพระ ไดแ ก ชาติ เจา อยหู ัว แลว ใหน กั เรียนรว มกันสนทนาตามประเดน็ ทีก่ าํ หนด ดงั น้ี บรมฉายาลักษณ ศาสนา 3.1 นักเรยี นรจู ักพระบรมฉายาลกั ษณหรือไม พระบาทสมเด็จ พระมหากษัตรยิ  3.2 บุคคลในพระบรมฉายาลักษณทรงมีพระนามวาอะไร พระเจา อยูห วั (พระพทุ ธรูป) 4. บตั รภาพพระ 2. การเคารพธง 4. ครใู หนักเรยี นชวยกันวิเคราะหแ ละประเมินบัตรภาพพระราช-กรณยี ราชกรณียกิจของ ชาติ การรอ งเพลง กิจของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหวั วา พระองคท รงประกอบพระราช ชาติ และเพลง กรณียกิจดานใดบาง และนักเรยี นไดร ับประโยชนอ ยางไรในการท่ี พระบาทสมเด็จ สรรเสริญ พระองคท รงปฏิบัติพระราชกรณยี กจิ ดา นนน้ั ๆ พรอ มอธบิ ายเหตผุ ล พระเจาอยหู ัว พระบารมี 5. ใบงานที่ 4.1 5. นกั เรียนศกึ ษาความรเู ร่ือง พระมหากษตั รยิ ส ัญลักษณส ําคัญของชาติ เรอ่ื ง พระมหากษตั รยิ  ไทย จากใบความรู

การเคารพพระบรม 6. ครสู นทนากับนกั เรียนเกี่ยวกับพระราชกรณยี กิจของพระบาท สมเด็จ ไทย ฉายาลักษณ การ เคารพ ศาสนวตั ถุ พระเจาอยหู วั วา นกั เรยี นชอบพระราชกรณยี กิจดา นใดของพระองคม าก 6. หนงั สือเรียน ศาสนสถาน 3. เอกลักษณอ ่นื ๆ ที่สุด พรอ มอธบิ ายเหตุผล ประวัติศาสตรชัน้ เชน ศาสนา 7. ครูสนทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกับการประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตนดําเนินรอยตาม ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 7. หอ งสมุด พระองคทานเพอื่ ปลูกฝง คา นิยมที่ดีงามและใหต ระหนกั ถึงการเปน โรงเรยี น ประชาชนคนหนงึ่ ของชาติ เว็บไซตตา งๆ 8. นักเรยี นทําใบงานท่ี 4.1 เร่ือง พระมหากษัตรยิ ไ ทย 9. ครูและนักเรียนรว มกันเฉลยคําตอบในใบงานท่ี 4.1 โดยครอู ธบิ าย เพม่ิ เติมจนนักเรียนมคี วามรคู วามเขา ใจ 10. ครูนําบัตรภาพพระบรมฉายาลกั ษณพ ระบาทสมเดจ็ พระเจา อยหู วั มา ใหนกั เรยี นดอู ีกครง้ั จากนั้นใหน ักเรียนถวายความเคารพ โดยผูชายโคง คาํ นบั และผูหญงิ ถอนสายบวั แลวครูชมเชยนกั เรยี นทีป่ ฏิบัตติ นไดถ ูกตอง สวยงาม 11. ครูและนกั เรยี นรว มกันสรุปความรเู ร่ือง พระมหากษัตรยิ สัญลกั ษณ สาํ คัญของชาติไทย จนไดวา พระมหากษตั รยิ เ ปน สัญลกั ษณส ําคญั ของ ชาติไทยที่คนไทยเคารพและภาคภูมิใจ

แผนการจัดการเรียนรู ชอื่ หนวยการเรียนรูที่ 5 สัญลกั ษณข องชาตไิ ทย แผนการสอนที่ 5 เรือ่ ง การแสดงความเคารพตอสัญลกั ษณสาํ คัญของชาตไิ ทย รายวิชาประวัติศาสตร ช้ันประถมศกึ ษาปท่ี 1 รหสั วิชา ส 11102 ครูผูสอน นางลกั ษณา ไชยบตุ ร ตาํ แหนง พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช 1 ชวั่ โมง ตัวชวี้ ดั /ผลการ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ช้ินงาน การวัดและประเมนิ ผล กิจกรรมการเรียนรู สือ่ /แหลง เรียนรู เรียนรู 1. ความหมาย 1. แบบสังเกตพฤติกรรม 1. แบบสังเกตพฤติกรรม ชวั่ โมงท่ี 5 เรือ่ ง การแสดงความเคารพตอ สัญลักษณสาํ คัญของชาติ 1.ใบความรู เรือ่ ง ส 4.3 ป.1/1 และความสาํ คญั การทาํ งานรายบคุ คล การทํางานรายบคุ คล ไทย การแสดงความ อธิบายความหมาย ของสญั ลักษณท่ี 2. แบบประเมิน 2. แบบประเมิน เคารพตอ และความสาํ คญั สําคัญของชาติ คุณลกั ษณะอันพึง คณุ ลักษณะอันพึง 1. ครใู หน ักเรยี นดูบัตรภาพสญั ลกั ษณข องชาติ ศาสนา และพระมหา สัญลกั ษณส ําคญั ของสญั ลักษณ ไทยทเ่ี ปน ความ ประสงค ประสงค กษตั ริยซึง่ เปนสญั ลักษณสาํ คัญของชาติไทย ของชาติไทย สําคัญของชาติไทย ภาคภูมิใจและ 2. ครแู ละนักเรยี นรวมกนั อภิปรายเกีย่ วกบั การแสดงความเคารพตอ 2.บัตรภาพ และปฏิบตั ิตนได การมสี ว นรวมที่ สัญลักษณส าํ คญั ของชาติไทย ตามประเดน็ ท่กี ําหนด ดงั น้ี สัญลกั ษณข องชาติ ถูกตอ ง จะอนุรกั ษไ ว 2.1 นกั เรียนควรปฏิบตั ิตนอยา งไร เม่ือเขา แถวเชิญธงชาตขิ ้นึ สูยอดเสา ศาสนา และ ไดแก ชาติ 2.2 นักเรียนควรปฏิบัตติ นอยางไร เมอ่ื เหน็ พระพทุ ธรปู พระมหากษัตริย ศาสนา 2.3 นกั เรียนควรปฏิบัติตนอยางไร เมื่อไดย ินเพลงสรรเสรญิ 3. หนงั สือเรียน พระมหากษตั ริย พระบารมี ประวัติศาสตรช นั้ (พระพุทธรูป) 3. นกั เรยี นศกึ ษาความรเู รือ่ ง การแสดงความเคารพตอสญั ลักษณสําคญั ประถมศึกษาปท ี่ 1 2. การเคารพธง ของชาติไทย จากใบความรู 4. หองสมุด ชาติ การรอ งเพลง 4. ครูอธบิ ายความรเู พม่ิ เติมเก่ียวกับการแสดงความเคารพตอ ชาติ โรงเรยี น ชาติ และเพลง ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ซึ่งเปน สญั ลกั ษณส ําคญั ของชาติไทย เว็บไซตตา งๆ สรรเสริญ 5. ครแู สดงความเคารพตอสญั ลกั ษณส าํ คญั ของชาตไิ ทย โดยการยนื ตรง การโคง คํานับ การถอนสายบวั และการไหวใ หน ักเรียนดเู ปนตัวอยา ง

พระบารมี 6. ครูใหน ักเรียนฝกแสดงความเคารพตอสญั ลกั ษณสาํ คญั ของชาตไิ ทย การเคารพพระบรม โดยการยนื ตรง การโคง คาํ นับ การถอนสายบัว และการไหว ตาม ฉายาลักษณ การ แบบอยางท่คี รูทาํ ใหดู เคารพ ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน 7. นกั เรียนแสดงความเคารพตอ สัญลกั ษณสําคญั ของชาตไิ ทยโดยการยืน 3. เอกลักษณอืน่ ๆ ตรง การโคง คาํ นับ การถอนสายบวั และการไหวโ ดยไมม ตี วั อยาง เชน ศาสนา 8. ครูใหน กั เรยี นนําความรแู ละวิธกี ารแสดงความเคารพตอ สัญลกั ษณ สาํ คัญของชาตไิ ทย โดยการยนื ตรง การโคง คํานบั การถอนสายบัว และ การไหวไปปฏิบตั กิ จิ กรรมหนาเสาธงตอนเชาในการรองเพลงชาติ การ สวดมนต การกลา วคําปฏญิ าณตน และการรอ งเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยครคู อยสงั เกตอยา งใกลช ิด

แผนการจดั การเรยี นรู ชือ่ หนวยการเรยี นรูท่ี 5 สัญลักษณข องชาติไทย แผนการสอนที่ 6 เรื่อง ภาษาไทย รายวชิ าประวัติศาสตร ช้ันประถมศกึ ษาปท่ี 1 รหัสวิชา ส 11102 ครผู ูสอน นางลกั ษณา ไชยบุตร ตาํ แหนง พนกั งานราชการ เวลาท่ีใช 1 ช่วั โมง ตัวชวี้ ัด/ผลการ เน้ือหาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวดั และประเมนิ ผล กจิ กรรมการเรียนรู สอ่ื /แหลง เรยี นรู เรียนรู 1. ความหมาย 1.ใบงานที่ 6.1 เรื่อง 1.ใบงานที่ 6.1 เรื่อง ชวั่ โมงที่ 6 เรอื่ ง ภาษาไทย 1.เอกสาร ส 4.3 ป.1/1 และความสําคัญ ภาษาไทย ภาษาไทย อธบิ ายความหมาย ของสัญลักษณท ่ี 2. แบบสังเกตพฤติกรรม 1. ครูใหน ักเรยี นรว มกนั ทบทวนพยญั ชนะไทยทั้ง 44 ตัว โดยใหนักเรียน ประกอบการสอน และความสําคญั สําคัญของชาติ การทาํ งานรายกลมุ คนใดคนหน่ึงบอกพยญั ชนะไทยตัวแรก (ก ไก) แลว ใหน ักเรียนคนตอไป 2.ใบงานที่ 6.1 ของสญั ลักษณ ไทยทีเ่ ปนความ 3. แบบประเมนิ บอกพยญั ชนะไทยตัวตอ ไปเรยี งไปเรอื่ ยๆ จนครบท้ัง 44 ตัว เรือ่ ง ภาษาไทย สาํ คญั ของชาติไทย ภาคภูมิใจและ คุณลกั ษณะอันพงึ 2. ครเู ลอื กเกม “ส่ือสารดว ยภาษาไทย” มาใหน กั เรยี นเลน เพอ่ื ให 3. หนังสือเรยี น และปฏิบัติตนได การมีสวนรว มที่ ประสงค นกั เรยี นตระหนักถงึ ความสาํ คัญของภาษาไทยท่ีเปน สญั ลกั ษณส ําคญั ของ ประวัติศาสตรช ้นั ถกู ตอ ง จะอนุรักษไว ชาติไทย ประถมศึกษาปท ่ี 1 ไดแ ก ชาติ 4. หองสมุด ศาสนา 3. นกั เรียนรวมกลุม เดิม (จากแผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 1) แลว ใหแตละ โรงเรียน พระมหากษตั รยิ  กลมุ รวมกันศึกษาความรูเรอ่ื ง ภาษาไทย จากหนงั สอื เรียน (พระพุทธรูป) เว็บไซตต างๆ 2. การเคารพธง 4. นกั เรยี นแตล ะกลุม เลอื กหวั หนา กลุม และรองหัวหนากลมุ พรอมท้งั ต้ัง ชาติ การรองเพลง ชาติ และเพลง ชื่อกลมุ ของตนเอง สรรเสริญ พระบารมี 5. ครแู จงใหน ักเรยี นทราบถงึ ช่อื เกม วัตถุประสงค และกตกิ าในการเลน เกม ตามเอกสารประกอบการสอน 6. ครอู ธบิ ายวธิ กี ารเลนเกมตามลําดบั ขนั้ ตอนใหนกั เรียนมคี วามรู ความ เขาใจ 7. ครใู หนักเรยี นทดลองเลน เกม 1 รอบ กอนการเลน จริง

การเคารพพระบรม 8. ครูใหนักเรียนแตละกลุมเลนเกม “สอ่ื สารดว ยภาษาไทย” โดยครูคอย ฉายาลกั ษณ การ สังเกต ควบคมุ ดแู ลนกั เรียน รวมถงึ กระตุน ใหน กั เรยี นมีสว นรวมในการ เคารพ ศาสนวตั ถุ ปฏบิ ัติกจิ กรรมรว มกัน ศาสนสถาน 3. เอกลักษณอ น่ื ๆ 9. ครแู ละนักเรยี นรวมกนั อภปิ รายผลหลงั จากเลน เกม “สือ่ สารดว ย เชน ศาสนา ภาษาไทย” ตามประเดน็ ทีก่ ําหนด ดังน้ี 9.1 นักเรียนมีความรสู ึกอยา งไรตอ กิจกรรมนี้ 9.2 กจิ กรรมน้ีมปี ระโยชนกับนกั เรยี นอยางไร 9.3 กิจกรรมนพ้ี ฒั นาทักษะของนกั เรียนดา นใด จงอธิบาย 10. ครูและนกั เรียนรวมกันสรปุ ความรูเรอ่ื ง ภาษาไทย จนไดวา ภาษาไทยเปน ภาษาประจําชาตทิ ีเ่ ราคนไทยควรตระหนักเห็นคณุ คาและ ใชภาษาไทยอยางถูกตอ ง 11. ครูและนักเรยี นรว มกนั สรุปความรเู ร่ือง ภาษาไทย 12. นกั เรยี นแตล ะคนทาํ ใบงานที่ 6.1 เรือ่ ง ภาษาไทย เสร็จแลว นาํ สง ครูตรวจ

แผนการจัดการเรียนรู ชอื่ หนวยการเรยี นรูท่ี 5 สญั ลกั ษณของชาตไิ ทย แผนการสอนท่ี 7 เร่อื ง อาหารไทย รายวิชาประวตั ิศาสตร ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี 1 รหสั วิชา ส 11102 ครผู ูสอน นางลักษณา ไชยบตุ ร ตําแหนง พนักงานราชการ เวลาท่ีใช 1 ชัว่ โมง ตวั ชีว้ ดั /ผลการ เนือ้ หาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวดั และประเมินผล กิจกรรมการเรียนรู สอื่ /แหลง เรียนรู เรียนรู 1. ความหมาย 1.ใบงานที่ 7.1 เรอ่ื ง 1.ใบงานท่ี 7.1 เรอื่ ง ชวั่ โมงที่ 7 เรอื่ ง อาหารไทย 1.เอกสาร ส 4.3 ป.1/1 และความสาํ คัญ อาหารไทย อาหารไทย อธิบายความหมาย ของสัญลักษณท่ี 2. แบบสังเกตพฤติกรรม 1. ครเู ลือกเกม “อาหารไทย” มาใหน ักเรยี นเลน เพอื่ ใหนักเรียนตระหนัก ประกอบการสอน และความสําคัญ สาํ คญั ของชาติ การทํางานรายกลมุ ถงึ ความสาํ คญั ของอาหารไทยที่เปนสญั ลักษณส ําคญั ของชาติไทย 2.ใบงานท่ี 7.1 ของสัญลกั ษณ ไทยท่ีเปน ความ 3. แบบประเมนิ เร่ือง อาหารไทย สําคัญของชาตไิ ทย ภาคภูมิใจและ คุณลกั ษณะอนั พงึ 2. นักเรยี นรวมกลมุ เดมิ (จากแผนการจัดการเรยี นรูท่ี 1) แลวใหแตละ 3. หนังสือเรยี น และปฏบิ ัตติ นได การมสี วนรวมท่ี ประสงค กลมุ รว มกันศกึ ษาความรเู ร่อื ง อาหารไทย จากหนังสอื เรยี น ถูกตอง จะอนรุ ักษไ ว ประวตั ศิ าสตรช ัน้ ไดแ ก ชาตศิ าสนา 3. นักเรยี นแตล ะกลมุ เลอื กหวั หนากลมุ และรองหวั หนากลมุ พรอ มทัง้ ตั้ง ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 พระมหากษตั ริย ช่อื กลุม ของตนเอง (ธงชาติ เพลงชาติ 4. หองสมุด พระพุทธรูป พระ 4. ครูแจงใหนกั เรียนทราบถึงชือ่ เกม วัตถุประสงค และกตกิ าในการเลน โรงเรยี น บรมฉายาลักษณ เกม ตามเอกสารประกอบการสอน ภาษาไทย เวบ็ ไซตต างๆ อักษรไทย) 5. ครูอธิบายวธิ ีการเลน เกมตามลาํ ดับขน้ั ตอนใหนักเรยี นมคี วามรู ความ 2. เอกลกั ษณ อน่ื ๆ เชน อาหาร เขา ใจ 6. ครูใหน กั เรียนทดลองเลนเกม 1 รอบ กอนการเลน จรงิ 7. ครูใหนักเรียนแตล ะกลุม เลน เกม “อาหารไทย” โดยครูคอยสงั เกต ควบคมุ ดูแลนกั เรียน รวมถงึ กระตนุ ใหนักเรียนมีสว นรว มในการปฏบิ ตั ิ กิจกรรมรว มกนั 8. ครแู ละนกั เรียนรวมกนั อภปิ รายผลหลังจากเลน เกม “อาหารไทย”ตาม

ไทย (อาหารไทย ประเด็นท่ีกําหนด ดงั น้ี ที่ตา งชาติยกยอ ง 8.1 นกั เรยี นมีความรูสกึ อยางไรตอกิจกรรมนี้ เชน ตมยาํ กงุ ผัด 8.2 กิจกรรมนม้ี ปี ระโยชนกับนักเรียนอยางไร ไทย) 8.3 กิจกรรมนี้พฒั นาทักษะของนกั เรียนดานใด จงอธบิ าย 9. ครูและนกั เรียนรว มกันสรุปความรเู ร่อื ง อาหารไทย จนไดวาอาหาร ไทยเปนเอกลักษณสําคัญของชาตไิ ทยทที่ าํ ใหช าวตา งชาติรจู ักชาติไทยซ่งึ เราคนไทยควรภาคภมู ใิ จ 10. ครูและนักเรียนรว มกันสรปุ ความรูเร่ือง อาหารไทย 11. นักเรียนแตละคนทาํ ใบงานท่ี 7.1 เร่ือง อาหารไทย เสรจ็ แลว นาํ สง ครูตรวจ

แผนการจดั การเรยี นรู ช่อื หนว ยการเรียนรูท่ี 5 สญั ลกั ษณข องชาตไิ ทย แผนการสอนที่ 8 เร่ือง วัฒนธรรมและประเพณีไทย รายวชิ าประวัตศิ าสตร ชนั้ ประถมศึกษาปท ่ี 1 รหัสวชิ า ส 11102 ครูผูสอน นางลักษณา ไชยบตุ ร ตาํ แหนง พนกั งานราชการ เวลาทใ่ี ช 1 ชัว่ โมง ตัวช้วี ดั /ผลการ เน้ือหาสาระ ภาระงาน/ชิน้ งาน การวดั และประเมินผล กจิ กรรมการเรยี นรู สือ่ /แหลง เรยี นรู เรยี นรู 1. ความหมาย 1.ใบงานท่ี 8.1 เร่อื ง 1.ใบงานท่ี 8.1 เรือ่ ง ช่วั โมงที่ 8 เรือ่ ง วฒั นธรรมและประเพณีไทย 1.ใบความรู เรื่อง ส 4.3 ป.1/1 และความสาํ คญั วฒั นธรรมและประเพณี วฒั นธรรมและประเพณี วฒั นธรรมและ อธิบายความหมาย ของสัญลักษณท ี่ ไทย ไทย 1. ครูสอนใหน ักเรียนรองเพลงลอยกระทง ประเพณีไทย และความสาํ คญั สําคัญของชาติ 2. แบบสังเกตพฤติกรรม 2.เพลงลอยกระทง ของสญั ลักษณ ไทยท่เี ปนความ การทาํ งานรายกลุม วันเพ็ญเดอื นสิบสอง นา้ํ นองเต็มตลง่ิ 3. ใบงานท่ี 8.1 สาํ คัญของชาตไิ ทย ภาคภมู ิใจและ 3. แบบประเมิน เราท้งั หลายชายหญงิ สนุกกนั จรงิ วันลอยกระทง และปฏิบัติตนได การมีสวนรวมที่ คุณลกั ษณะอนั พงึ ถูกตอง จะอนรุ ักษไ ว ประสงค ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง เรื่อง วัฒนธรรม ไดแ กช าติ ศาสนา ลอยกระทงกนั แลว ขอเชญิ นองแกว ออกมารําวง และประเพณไี ทย พระมหากษัตรยิ  ราํ วงวันลอยกระทง ราํ วงวันลอยกระทง 4. หนงั สอื เรยี น (ธงชาติ เพลงชาติ บญุ จะสงใหเราสขุ ใจ บญุ จะสง ใหเราสขุ ใจ ประวัติศาสตรช ั้น พระพุทธรูป พระ บรมฉายาลักษณ 2. ครแู ละนักเรยี นรว มกนั วิเคราะหขอคดิ ท่ไี ดจากเน้อื เพลง ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 ภาษาไทย อักษรไทย) 3. นักเรยี นรวมกลุมเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรูที่ 1) แลว ให แตล ะ 5. หองสมุด 2.เอกลกั ษณอ ่ืนๆ กลุม รวมกนั ศึกษาความรูเรื่อง วัฒนธรรมและประเพณไี ทย จากใบความรู โรงเรียน เชน วัฒนธรรม 4. ครูและนักเรยี นรว มกันวเิ คราะหเก่ียวกบั วัฒนธรรมและประเพณีไทย เวบ็ ไซตตางๆ ตามประเดน็ ทีก่ ําหนด ดังน้ี 4.1 วฒั นธรรมและประเพณี หมายถึงอะไร 4.2 นกั เรียนเห็นดว ยกบั คาํ นิยามของวฒั นธรรมและประเพณีไทยท่ี กาํ หนดไวใ นใบความรหู รือไม อยางไร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook