51 ส๑๓๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เวลา 80 ชวั่ โมง ___________________________________________________________________________ สาระ: ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ศึกษา และลงมือปฏิบัติในเร่ือง อธิบายความสาคัญของ พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ ในฐานะท่ีเป็นรากฐานสาคัญของวัฒนธรรมไทย สรุปพุทธ- ประวัติต้ังแตํการบาเพ็ญเพียรจนถึงปรินิพพานหรือประวัติของศาสดาท่ีตนนับถือตามท่ีกาหนด ชื่นชม และบอกแบบอยํางการดาเนินชีวิตและข๎อคิดจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเลําและศาสนิกชนตัวอยําง ตามท่ีกาหนด บอกความหมาย ความสาคัญของพระไตรปิฎก หรือคัมภีร์ของศาสนาท่ีตนนับถือ แสดง ความเคารพพระรัตนตรัยและปฏิบัติตามหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของ ศาสนาท่ีตนนับถือตามท่ีกาหนด เห็นคุณคําและสวดมนต์ แผํเมตตา มีสติที่เป็นพื้นฐานของสมาธิ ในพระพทุ ธศาสนาหรือพัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือตามที่กาหนด บอกชื่อ ความสาคัญ และปฏบิ ตั ติ นได๎อยํางเหมาะสมตอํ ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบคุ คลของศาสนาอ่ืน ๆ ปฏิบัติตนอยํางเหมาะสมตํอสาวก ศาสนสถาน ศาสนวัตถุของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ีกาหนด ได๎ถกู ตอ๎ ง เห็นคุณคําและปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรมและวันสาคัญทางศาสนาตามท่ีกาหนดได๎ถูกต๎อง แสดงตนเป็นพุทธมามกะหรือแสดงตนเป็นศาสนิกชนของศาสนาทต่ี นนับถือ สาระ : หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม ศึกษาหลักการแนวทางปฏิบัติ ในเร่ือง สรุปประโยชน์และปฏิบัติตนตามประเพณีและวัฒนธรรมในครอบครัวและท๎องถ่ิน บอก พฤติกรรมการดาเนินชีวิตของตนเอง และผอ๎ู ่ืนทอ่ี ยํใู นกระแสวฒั นธรรมทหี่ ลากหลาย อธิบายความสาคัญของวันหยุดราชการท่ีสาคัญ ยกตัวอยํางบุคคล ซึ่งมีผลงานที่เป็นประโยชน์ แกํชุมชนและท๎องถ่ินของตน ระบุบทบาทหน๎าที่ของสมาชิกของชุมชนในการมีสํวนรํวมในกิจกรรม ตาํ ง ๆ ตามกระบวนการประชาธปิ ไตย วิเคราะห์ความแตกตํางของกระบวนการการตัดสินใจในชั้นเรียน โรงเรียนและชุมชนโดยวิธีการออกเสียงโดยตรงและการเลือกตัวแทนออกเสียง ยกตัวอยํางการ เปล่ยี นแปลงในช้นั เรยี น โรงเรยี นและชุมชนท่เี ปน็ ผลจากการตดั สินใจของบุคคลและกลุมํ สาระ : เศรษฐศาสตร์ ศึกษาเรื่อง จาแนกความต๎องการและความจาเป็นในการใช๎สินค๎าและ บริการในการดารงชีวิต วิเคราะห์การใช๎จํายของตนเอง อธิบายได๎วําทรัพยากรท่ีมีอยูํจากัดมีผลตํอการ ผลิตและบริโภคสินค๎าและบริการ บอกสินค๎าและบริการที่รัฐจัดหาและให๎บริการแกํประชาชน บอก ความสาคญั ของภาษีและบทบาทของประชาชนในการเสียภาษี อธิบายเหตุผลการแขํงขันทางการค๎าท่ีมี ผลทาให๎ราคาสนิ ค๎าลดลง สาระ : ภูมิศาสตร์ ศึกษาเรื่อง ใช๎แผนท่ี แผนผัง และภาพถํายในการหาข๎อมูลทางภูมิศาสตร์ใน ชุมชนได๎อยํางมีประสิทธิภาพ เขียนแผนผังงําย ๆ เพ่ือแสดงตาแหนํงท่ีตั้งของสถานที่สาคัญในบริเวณ โรงเรียนและชุมชน บอกความสัมพันธ์ของลักษณะกายภาพกับลักษณะทางสังคมของชุมชน เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล๎อมในชุมชนจากอดีตถึงปัจจุบัน อธิบายการพ่ึงพาส่ิงแวดล๎อม และทรัพยากรธรรมชาติในการสนองความต๎องการพื้นฐานของมนุษย์และการประกอบอาชีพ อธิบาย
52 เกยี่ วกับมลพิษและการกํอให๎เกิดมลพิษโดยมนุษย์ อธิบายความแตกตํางของเมืองและชนบท ตระหนัก ถึงการเปล่ยี นแปลงของสง่ิ แวดล๎อมในชมุ ชน โดยการใช๎ภาพ ขําว หรือสถานการณ์ตําง ๆ ให๎ผ๎ูเรียนฝึกการสังเกต ตอบคาถามเชิงวิเคราะห์ และสรุปความรู๎ที่ได๎เป็นแผนผังความคิด กระตุ๎นให๎แสดงความคิดเห็นอยํางหลากหลาย เพื่อให๎ผ๎ูเรียน รวํ มกันหาแนวทางปฏิบัตทิ ีถ่ กู ต๎อง เหมาะสม สงํ เสรมิ การทางานกลํุมเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม นาไปสูํ การยอมรบั และเห็นคณุ คําของตนเองและผู๎อน่ื ตระหนักถึงการปฏิบัติตนในฐานะท่ีเป็นสํวนหน่ึงของสังคมประชาธิปไตย ปฏิบัติตนตามหลัก ศาสนาท่ีตนนับถือ มีแนวคิดท่ีเหมาะสมในการดาเนินชีวิตอยํางพอเพียง และมีความเข๎าใจสภาพ ภูมิศาสตร์รอบตัว เลือกใชแ๎ ละอนรุ ักษส์ งิ่ แวดลอ๎ มอยํางยง่ั ยืน รหสั ตัวช้ีวดั ส 1.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ป.3/5 ป.3/6 ป.3/7 ส 1.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ส 2.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ส 2.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ส 3.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ส 3.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ส 5.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ส 5.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ป.3/5 รวมทั้งหมด 31 ตวั ชี้วัด
53 ส ๑๔๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา 80 ชว่ั โมง ______________________________________________________________________ สาระ : ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ศึกษาและเป็นแนวทางปฏิบัติในเร่ือง อธิบายความสาคัญ ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือในฐานะเป็นศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชน สรุปพุทธประวัติ ต้ังแตํบรรลุธรรมจนถึงประกาศธรรมหรือประวัติศาสดาท่ีตนนับถือตามท่ีกาหนด เห็นคุณคําและปฏิบัติ ตนตามแบบอยํางการดาเนินชีวิตและข๎อคิดจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเลํา และศาสนิกชนตัวอยําง ตามท่ีกาหนด แสดงความเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท 3 ใน พระพุทธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือตามที่กาหนด ชื่นชมการทาความดีของตนเอง บคุ คลในครอบครัว โรงเรียนและชุมชนตามหลักศาสนาพร๎อมท้ังบอกแนวปฏิบัติในการดาเนินชีวิต เห็น คุณคําของการสวดมนต์ แผํเมตตา มีสติที่เป็นพื้นฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิต ตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนับถือตามท่ีกาหนด ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ เพ่ือ การอยํูรํวมกันเป็นชาติได๎อยํางสมานฉันท์ อธิบายประวัติศาสดาของศาสนาอ่ืน ๆ โดยสังเขป อภิปราย ความสาคัญและมีสํวนรํวมในการบารุงรักษาศาสน-สถานของศาสนาท่ีตนนับถือ มีมารยาทของความ เปน็ ศาสนกิ ชนที่ดีตามท่กี าหนดปฏบิ ตั ติ นใน ศาสนพธิ ี พิธกี รรม และวันสาคัญทางศาสนาตามทก่ี าหนดได๎ถกู ต๎อง สาระ : หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม ศึกษาและเป็นแนวทาง ปฏบิ ตั ใิ นเรือ่ ง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยในฐานะสมาชิกที่ดีของชุมชน ปฏิบัติตนใน การเปน็ ผู๎นาและผู๎ตามทด่ี ี วิเคราะห์สิทธิพนื้ ฐานทเ่ี ด็กทุกคนพงึ ไดร๎ ับตามกฎหมาย อธิบายความแตกตําง ทางวัฒนธรรมของกลุํมคนในท๎องถ่ิน เสนอวิธีการที่จะอยูํรํวมกันอยํางสันติสุขในชีวิตประจาวัน อธิบาย อานาจอธิปไตยและความสาคัญของระบอบประชาธิปไตย อธิบายบทบาทหน๎าท่ีของพลเมืองใน กระบวนการเลือกต้ัง อธิบายความสาคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ตามระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ สาระ : เศรษฐศาสตร์ ศึกษาในเรื่อง ระบปุ จั จัยท่ีมีผลตํอการเลือกซ้ือสินค๎า และบริการ บอก สิทธิพื้นฐานและรักษาผลประโยชน์ของตนเองในฐานะผ๎ูบริโภค อธิบายหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง และนาไปใช๎ในชีวิตประจาวันของตนเอง อธิบายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของคนในชุมชน อธิบาย หนา๎ ทีเ่ บ้อื งต๎นของเงนิ สาระ : ภูมศิ าสตร์ ศกึ ษาในเร่อื ง การใช๎แผนที่ ภาพถําย ระบลุ ักษณะสาคญั ทางกายภาพของจังหวัดตนเอง ระบุแหลํงทรัพยากรและสิ่งตําง ๆ ในจังหวัดของตนเองด๎วยแผนที่ ใช๎ แผนท่ีอธิบายความสัมพันธ์ของสิ่งตําง ๆ ท่ีมีอยํูในจังหวัด อธิบายสภาพแวดล๎อมทางกายภาพ ของ ชมุ ชนท่สี งํ ผลตํอการดาเนินชีวติ ของคนในจังหวัด อธิบายการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล๎อม ในจังหวัด และผลที่เกดิ จากการเปลย่ี นแปลงนนั้ มีสํวนรํวมในการอนรุ ักษ์สงิ่ แวดล๎อมในจงั หวัด โดยการให๎ผ๎เู รยี นมีประสบการณ์ที่สอดคล๎องกับชวี ติ จริง เปน็ เหตุการณ์ใกล๎ตัวในท๎องถิ่น ชุมชน และสังคม การบอกเลําเหตุการณ์สมมุติที่อาจพบได๎ในชีวิตประจาวัน และเสนอแนวทางแก๎ไขที่มีความ นําติดตามอยํางตํอเนื่อง เพ่ือให๎เกิดการเชื่อมโยงประสบการณ์เดิม สูํการสร๎างประสบการณ์ใหมํ การใช๎ ภาพ ขาํ ว หรือสถานการณ์ตําง ๆ ใหผ๎ ู๎เรยี นฝกึ การสังเกต ตอบคาถามเชงิ วิเคราะห์ และสรุปความร๎ูท่ีได๎
54 เป็นแผนผังความคิด กระต๎ุนให๎แสดงความคิดเห็นอยํางหลากหลาย เพื่อรํวมกันหาแนวทางปฏิบัติท่ี ถกู ตอ๎ ง เหมาะสม สงํ เสริมการทางานกลํุม เพ่ือพัฒนาทักษะทางสงั คม นาไปสํกู ารยอมรับและเห็นคุณคํา ของตนเองและผูอ๎ ืน่ เห็นความสาคัญในการเรียนรู๎และเข๎าใจหลักสาคัญทางศาสนา ปฏิบัติตนในฐานะพลเมืองดี เพื่อการอยรูํ วํ มกันอยํางสนั ติสุขในสังคม มีแนวคิดท่ีเหมาะสมในการดาเนินชีวิตอยํางพอเพียง และมี ความเข๎าใจสภาพภมู ิศาสตรใ์ นท๎องถน่ิ เลือกใชแ๎ ละอนรุ ักษ์ส่ิงแวดลอ๎ มอยํางย่งั ยืน รหสั ตัวชี้วัด ส 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8 ส 1.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ส 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5 ส 2.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ส 3.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ส 3.2 ป.4/1, ป.4/2 ส 5.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ส 5.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 รวมท้ังหมด 30 ตวั ช้วี ดั
55 ส๑๕๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาพน้ื ฐาน กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๕ เวลา 80 ชั่วโมง ___________________________________________________________________________ สาระ : ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ศึกษาและลงมือปฏิบัติในเร่ือง วิเคราะห์ความสาคัญของ พระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือในฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและหลักในการพัฒนาชาติ ไทย สรุปพุทธประวัติตั้งแตํเสด็จกรุงกบิลพัสด์ุจนถึงพุทธกิจสาคัญหรือประวัติศาสดาท่ีตนนับถือตามที่ กาหนด เห็นคณุ คาํ และประพฤติตนตามแบบอยํางการดาเนินชีวิตและข๎อคิดจากประวัติสาวก ชาดก เรอ่ื งเลํา และศาสนกิ ชนตวั อยํางตามทีก่ าหนด อธบิ ายองค์ประกอบ และความสาคญั ของพระไตรปิฎก หรือคัมภีร์ของศาสนาทีต่ นนบั ถอื แสดงความเคารพพระรัตนตรัยและปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรม โอวาท 3 ในพระพุทธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ีกาหนด เห็นคุณคําและสวด มนต์แผํเมตตา มีสติท่ีเป็นพื้นฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนาหรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของ ศาสนาท่ีตนนับถือตามท่ีกาหนด ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือเพ่ือการพัฒนาตนเอง และส่ิงแวดล๎อม จัดพิธีกรรมตามศาสนาที่ตนนับถืออยํางเรียบงํายมีประโยชน์และปฏิบัติตนถูกต๎อง ปฏิบัติตนใน ศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสาคัญทางศาสนาตามท่ีกาหนด และอภิปรายประโยชน์ที่ ได๎รบั จากการเข๎ารวํ มกจิ กรรม มีมรรยาทของความเปน็ ศาสนิกชนท่ดี ตี ามทก่ี าหนด สาระ : หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม ศึกษาหลักการแนวทาง ปฏิบัติในเรื่อง ยกตัวอยํางและปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิเสรีภาพ และหน๎าที่ในฐานะ พลเมืองดี เสนอวิธีการปกปูองค๎ุมครองตนเองหรือผู๎อื่นจากการละเมิดสิทธิเด็ก เห็นคุณคําวัฒนธรรม ไทยทีม่ ผี ลตํอการดาเนินชวี ติ ในสงั คมไทย มสี ํวนรํวมในการอนุรักษ์และเผยแพรํ ภูมิปัญญาท๎องถิ่นของ ชุมชน อธิบายโครงสร๎าง อานาจ หน๎าที่ และความสาคัญของการปกครองสํวนท๎องถ่ิน ระบุบทบาท หนา๎ ที่และวธิ ีการเขา๎ ดารงตาแหนํงของผู๎บริหารท๎องถ่ิน วิเคราะห์ประโยชน์ท่ีชุมชนจะได๎รับจากองค์กร ปกครองสํวนทอ๎ งถนิ่ สาระ : เศรษฐศาสตร์ ศึกษาเรื่อง อธิบายปัจจัยการผลิตสินค๎าและบริการประยุกต์ใช๎แนวคิด ของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการทากิจกรรมตําง ๆ ในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน อธิบายหลักการสาคัญและประโยชน์ของสหกรณ์ อธิบายบทบาทหน๎าที่เบื้องต๎น ของธนาคาร จาแนกผลดแี ละผลเสยี ของการกูย๎ มื สาระ : ภมู ศิ าสตร์ ศึกษาเรื่อง รู๎ตาแหนํง (พิกัดภูมิศาสตร์ ละติจูด ลองจิจูด) ระยะ ทิศทาง ของภูมิภาคของตนเอง ระบุลักษณะภูมิลักษณ์ที่สาคัญในภูมิภาคของตนเองในแผนที่ อธิบาย ความสัมพันธ์ของลักษณะทางกายภาพกับลักษณะทางสังคมในภูมิภาคของตนเอง วิเคราะห์ สภาพแวดล๎อมทางกายภาพที่มีอิทธิตํอลักษณะการตั้งถิ่นฐานและการย๎ายถ่ินของประชากรในภูมิภาค อธบิ ายอทิ ธิพลของสิ่งแวดล๎อมทางธรรมชาติท่ีกํอให๎เกิดวิถีชีวิตและการสร๎างสรรค์วัฒนธรรมในภูมิภาค นาเสนอตัวอยํางที่สะท๎อนให๎เห็นผลจากการรักษาและการทาลายสภาพแวดล๎อม และเสนอแนวคิดใน การรักษาสภาพแวดล๎อมในภูมภิ าค โดยให๎ผ๎ูเรียนฝึกการสังเกต ตอบคาถามเชิงวิเคราะห์และสรุปความร๎ูที่ได๎เป็นแผนผังความคิด กระตุ๎นให๎แสดงความคิดเห็นอยํางหลากหลาย เพ่ือให๎ผู๎เรียนรํวมกันหาแนวทางปฏิบัติท่ีถูกต๎อง
56 เหมาะสม สํงเสริมการทางานกลุํมเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม นาไปสูํการยอมรับและเห็นคุณคําของ ตนเองและผ๎อู ื่น ตระหนักถึงการปฏิบัติตนในฐานะที่เป็นสํวนหน่ึงของสังคมประชาธิปไตย ปฏิบัติตนตามหลัก ศาสนาที่ตนนับถือ มีแนวคิดท่ีเหมาะสมในการดาเนินชีวิตอยํางพอเพียง และมีความเข๎าใจสภาพ ภมู ศิ าสตร์รอบตวั เลือกใช๎และอนรุ กั ษส์ ิ่งแวดลอ๎ มอยาํ งยง่ั ยืน รหัสตวั ชว้ี ดั ส 1.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 ป.5/6 ป.5/7 ส 1.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ส 2.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ส 2.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ส 3.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ส 3.2 ป.5/1 ป.5/2 ส 5.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ส 5.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 รวมตวั ชีว้ ดั ทั้งหมด 28 ตัวช้วี ัด
57 ส๑๖๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาพนื้ ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา 80 ชว่ั โมง ___________________________________________________________________________ สาระ : ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ศึกษาและลงมือปฏิบัติในเรื่อง วิเคราะห์ความสาคัญของ พระพทุ ธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจาชาตหิ รือความสาคัญของศาสนาทตี่ นนบั ถอื สรุปพุทธประวัติ ต้งั แตปํ ลงอายุสงั ขารจนถึงสังเวชนยี สถาน หรือประวัติศาสดาทีต่ นนับถือตามท่ีกาหนด เห็นคุณคําและ ประพฤติตนตามแบบอยํางการดาเนนิ ชวี ิตและข๎อคิดจากประวตั ิสาวก ชาดก เรื่องเลํา และศาสนิกชน ตัวอยํางตามท่ีกาหนด วิเคราะห์ความสาคัญและเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตามไตรสิกขาและ หลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ีกาหนด ช่ืนชมการ ทาความดีของบุคคลในประเทศตามหลักศาสนาพร๎อมทั้งบอกแนวปฏิบัติในการดาเนินชีวิต เห็น คุณคําและสวดมนต์ แผํเมตตา และบริหารจิตเจริญปัญญา มีสติท่ีเป็นพื้นฐานของสมาธิใน พระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือตามที่กาหนด ปฏิบัติตน ตามหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ เพ่อื แก๎ปัญหาอบายมขุ และส่ิงเสพติด อธิบายหลักธรรมสาคัญ ของศาสนาอ่ืน ๆ โดยสังเขป อธิบายลักษณะสาคัญของศาสนพิธี พิธีกรรมของศาสนาอ่ืน ๆ และ ปฏิบัติตนได๎อยํางเหมาะสมเมื่อต๎องเข๎ารํวมพิธี อธิบายความร๎ูเกี่ยวกับสถานท่ีตําง ๆ ในศาสนสถาน และปฏิบัติตนได๎อยํางเหมาะสม มีมรรยาทของความเป็น ศาสนิกชนที่ดีตามที่กาหนด อธิบาย ประโยชน์ของการเข๎ารํวมในศาสนพิธี พิธีกรรม และกิจกรรมในวันสาคัญทางศาสนาตามที่ กาหนด และปฏิบัติตนได๎ถูกต๎องแสดงตนเป็นพุทธมามกะ หรือแสดงตนเป็นศาสนิกชนของศาสนา ทต่ี นนบั ถือ สาระ : หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม ศึกษาหลักการแนวทาง ปฏบิ ตั ใิ นเรื่อง ปฏิบตั ติ ามกฎหมายที่เก่ียวข๎องกับชีวิตประจาวันของครอบครัวและชุมชน วิเคราะห์การ เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมตามกาลเวลาและธารงรักษาวัฒนธรรมอันดีงาม แสดงออกถึงมารยาทไทยได๎ เหมาะสม ถูกกาลเทศะ อธิบายคุณคําทางวัฒนธรรมที่แตกตํางกันระหวํางกลุํมคนในสังคมไทย ติดตามข๎อมูลขําวสาร เหตุการณ์ตําง ๆ ในชีวิตประจาวัน เลือกรับและใช๎ข๎อมูลขําวสารในการเรียนร๎ู ได๎เหมาะสม เปรียบเทียบบทบาท หน๎าที่ขององค์กรปกครองสํวนท๎องถิ่นและรัฐบาล มีสํวนรํวมใน กจิ กรรมตาํ ง ๆ ท่สี ํงเสริมประชาธิปไตยในทอ๎ งถิ่นและประเทศ อภปิ รายบทบาท ความสาคัญในการใช๎ สิทธอิ อกเสยี งเลือกตงั้ ตามระบอบประชาธิปไตย สาระ : เศรษฐศาสตร์ ให๎ผู๎เรียนศึกษาเร่ือง อธิบายบทบาทของผ๎ูผลิตท่ีมีความรับผิดชอบ อธิบายบทบาทของผ๎ูบริโภคท่ีรู๎เทําทัน บอกวิธีและประโยชน์ของการใช๎ทรัพยากรอยํางยั่งยืน อธิบาย ความสัมพันธ์ระหวํางผู๎ผลิต ผ๎ูบริโภค ธนาคาร และรัฐบาล ยกตัวอยําง การรวมกลํุมทางเศรษฐกิจ ภายในท๎องถนิ่ สาระ : ภูมิศาสตร์ ให๎ผ๎ูเรียนศึกษาเรื่อง ใช๎เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ (แผนที่ ภาพถํายชนิดตําง ๆ) ระบุลักษณะสาคัญทางกายภาพและสังคมของประเทศ อธิบายความสัมพันธ์ระหวํางลักษณะทาง กายภาพกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของประเทศ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหวํางสิ่งแวดล๎อมทาง
58 ธรรมชาติกับสิ่งแวดล๎อมทางสังคมในประเทศ อธิบายการเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติในประเทศไทย จากอดตี ถงึ ปัจจุบัน และผลที่เกดิ ขน้ึ จากการเปลี่ยนแปลงนัน้ จดั ทาแผนการใช๎ทรพั ยากรในชุมชน โดยให๎ผู๎เรียนฝึกการสังเกต ตอบคาถามเชิงวิเคราะห์และสรุปความรู๎ท่ีได๎เป็นแผนผังความคิด กระตุ๎นให๎แสดงความคิดเห็นอยํางหลากหลาย เพื่อให๎ผ๎ูเรียนรํวมกันหาแนวทางปฏิบัติที่ถูกต๎อง เหมาะสม สํงเสริมการทางานกลํุมเพ่ือพัฒนาทักษะทางสังคม นาไปสูํการยอมรับและเห็นคุณคําของ ตนเองและผอู๎ น่ื ตระหนักถึงการปฏิบัติตนในฐานะท่ีเป็นสํวนหน่ึงของ สังคมประชาธิปไตย ปฏิบัติตนตามหลัก ศาสนาท่ีตนนับถือ มีแนวคิดที่เหมาะสมในการดาเนินชีวิตอยํางพอเพียง และมีความเข๎าใจสภาพ ภูมศิ าสตร์รอบตัว เลือกใช๎และอนุรักษส์ ่งิ แวดลอ๎ มอยาํ งยั่งยืน รหัสตัวชว้ี ดั ส 1.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5 ป.6/6 ป.6/7 ป.6/8 ป.6/9 ส 1.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ส 2.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5 ส 2.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ส 3.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ส 3.2 ป.6/1 ป.6/2 ส 5.1 ป.6/1 ป.6/2 ส 5.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 รวมทั้งหมด 31 ตัวชีว้ ัด
59 ส๑๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ รายวิชาพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาวิธีการหาขอ๎ มลู ทางประวัติศาสตร์เพ่อื ให๎ทราบข๎อมูลเรื่อง บอกวัน เดือน ปี และ การนับชํวงเวลาตามปฏิทินท่ีใช๎ในชีวิตประจาวัน เรียงลาดับเหตุการณ์ในชีวิตประจาวันตามวัน เวลาท่ี เกิดข้ึน บอกประวัติความเป็นมาของตนเองและครอบครัว โดยสอบถามผ๎ูเก่ียวข๎อง บอกควา ม เปลีย่ นแปลงของสภาพแวดล๎อม สงิ่ ของ เคร่ืองใช๎หรือการดาเนินชีวิตของตนเองกับสมัยของพํอแมํ ปูุยํา ตายาย บอกเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในอดีตที่มีผลกระทบตํอตนเองในปัจจุบัน อธิบายความหมายและ ความสาคัญของสัญลักษณ์สาคัญของชาติไทยและปฏิบัติตนได๎ถูกต๎อง บอกสถานท่ีสาคัญซึ่งเป็นแหลํง วัฒนธรรมในชุมชน ระบสุ ่งิ ที่ตนรักและภาคภมู ิใจในทอ๎ งถน่ิ ใช๎วิธีการทางประวตั ิศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ตําง ๆ อยํางเป็นระบบเพื่อให๎เกิดความเข๎าใจ พัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน และเข๎าใจความเป็นมาของวัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย ตระหนักและเห็นคุณคําของเวลา วิถีชีวิตของชุมชนจากอดีตถึงปัจจุบัน และมีความรักความภูมิใจใน ความเป็นไทย ภมู ิปญั ญาไทย และธารงรักษาความเปน็ ไทย รหสั ตวั ช้ีวัด ส 4.1 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ส 4.2 ป.1/1 ป.1/2 ส 4.3 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 รวมทั้งหมด 8 ตัวช้ีวดั
60 ส๑๒๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ รายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาวิธีการหาข๎อมูลทางประวัติศาสตร์เพ่ือให๎ทราบข๎อมูลเรื่อง การใช๎คาระบุเวลาที่แสดง เหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ลาดับเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นในครอบครัวหรือในชีวิตของตนเองโดยใช๎ หลักฐานท่ีเกี่ยวข๎อง สืบค๎นถึงการเปล่ียนแปลงในวิถีชีวิตประจาวันของคนในชุมชนของตนจากอดีตถึง ปัจจุบันอธิบายผลกระทบของการเปล่ียนแปลงที่มีตํอวิถีชีวิตของคนในชุมชน ระบุบุคคลที่ทาประโยชน์ตํอ ทอ๎ งถน่ิ หรือประเทศชาติ ยกตัวอยาํ งวฒั นธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาไทยท่ีภาคภูมใิ จและควรอนุรักษ์ไว๎ โดยใช๎วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ตําง ๆ อยํางเป็นระบบ เข๎าใจพัฒนาการ ของมนษุ ยชาตจิ ากอดตี ถึงปจั จบุ ัน เขา๎ ใจความเปน็ มาของวัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย เพ่อื ให๎ผู๎เรียนเข๎าใจและตระหนกั ถงึ การเหน็ คุณคาํ ของเวลา วิถีชวี ิตของชมุ ชนจากอดีตสํูปจั จุบัน และมคี วามรกั มีความภาคภูมใิ จในวัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย และธารงรกั ษาความเป็นไทยไว๎สืบไป รหสั ตวั ชว้ี ัด ส 4.1ป.2/1, ป.2/2 ส 4.2ป.2/1, ป.2/2 ส 4.3ป.2/1, ป.2/2 รวมท้งั หมด 6 ตัวชี้วดั
61 ส๑๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ รายวชิ าพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาวิธีการหาข๎อมูลทางประวัติศาสตร์เพ่ือให๎ทราบข๎อมูล เรื่อง เทียบศักราชท่ีสาคัญตาม ปฏทิ ินที่ใช๎ในชีวิตประจาวัน แสดงลาดับเหตุการณ์สาคัญของโรงเรียน และชุมชนโดยระบุหลักฐานและ แหลงํ ข๎อมูลทเ่ี กี่ยวข๎อง ระบุปัจจัยที่มีอิทธิพลตํอการต้ังถิ่นฐานและพัฒนาการของชุมชน สรุปลักษณะท่ี สาคัญของขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของชุมชนเปรียบเทียบความเหมือนและความ แตกตํางทางวัฒนธรรมของชุมชนตนเองกับชุมชนอื่น ๆ ระบุพระนามและพระราชกรณียกิจ โดยสังเขปของพระมหากษัตริย์ไทยที่เป็นผู๎สถาปนาอาณาจักรไทย อธิบายพระราชประวัติและ พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบันโดยสังเขป เลําวีรกรรมของบรรพบุรุษไทยท่ี มสี วํ นปกปูองประเทศชาติ โดยใชว๎ ิธีการทางประวัติศาสตรม์ าวเิ คราะห์เหตุการณ์ตําง ๆ อยาํ งเปน็ ระบบ เพื่อให๎ผเ๎ู รยี นเกดิ ความเขา๎ ใจพฒั นาการของมนุษยช์ าตจิ ากอดีตถงึ ปัจจบุ ัน และเข๎าใจความเป็นมาของวัฒนธรรมภูมิ ปญั ญาไทย ตระหนักและเหน็ คุณคาํ ของเวลา วิถีชีวิตของชุมชนจากอดีตถงึ ปจั จบุ นั และมีความรักความ ภูมิใจในความเป็นไทย ภูมิปัญญาไทย และธารงรกั ษาความเปน็ ไทย รหสั ตวั ช้ีวัด ส 4.1 ป.3/1, ป.3/2 ส 4.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ส 4.3 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 รวมท้ังหมด 8 ตัวชี้วัด
62 ส๑๔๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ รายวิชาพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาในเรื่อง นับชํวงเวลาเป็นทศวรรษ ศตวรรษ และสหัสวรรษ อธิบายยุคสมัยใน การศึกษาประวัติของมนุษยชาติโดยสังเขป แยกแยะประเภทหลักฐานที่ใช๎ในการศึกษาความเป็นมาของ ท๎องถ่ิน อธิบายการตั้งหลักแหลํงและพัฒนาการของมนุษย์ยุคกํอนประวัติศาสตร์และยุคประวัติศาสตร์ โดยสังเขป ยกตัวอยํางหลักฐานทางประวัติศาสตร์ท่ีพบในท๎องถ่ินท่ีแสดงพัฒนาการของมนุษยชาติใน ดินแดนไทย อธิบายพัฒนาการของอาณาจักรสุโขทัยโดยสังเขป บอกประวัติและผลงานของบุคคลสาคัญ สมยั สุโขทัย อธบิ ายภมู ปิ ญั ญาไทยทส่ี าคัญสมัยสุโขทัยทน่ี ําภาคภมู ใิ จและควรคาํ แกํการอนรุ ักษ์ โดยใช๎วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ตําง ๆ อยํางเป็นระบบ เพ่ือให๎เกิดความ เข๎าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจบุ ัน และเขา๎ ใจความเป็นมาของวัฒนธรรม ภูมิปญั ญาไทย เพื่อให๎ผ๎ูเรียนตระหนักและเห็นคุณคําของเวลา วิถีชีวิตของชุมชนจากอดีตถึงปัจจุบัน และมีความ รักความภูมใิ จในความเป็นไทย ภูมปิ ญั ญาไทย และธารงรักษาความเป็นไทย รหัสตัวชว้ี ดั ป.4/3 ส 4.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ส 4.2 ป.4/1 ป.4/2 ส 4.3 ป.4/1 ป.4/2 รวมทัง้ หมด 8 ตวั ช้ีวดั
63 ส๑๕๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ รายวิชาพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาวธิ กี ารหาขอ๎ มูลทางประวัติศาสตร์เพื่อให๎ทราบข๎อมลู เรื่อง สบื คน๎ ความเปน็ มาของท๎องถิน่ โดยใช๎หลักฐานที่หลากหลาย รวบรวมข๎อมูลจากแหลํงตําง ๆ เพื่อตอบคาถามทางประวัติศาสตร์อยํางมี เหตผุ ล อธิบายความแตกตาํ งระหวาํ งความจริงกับข๎อเท็จจริงเก่ียวกับเร่ืองราวในท๎องถ่ิน อธิบายอิทธิพลของ อารยธรรมอินเดียและจีนท่ีมีตํอไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต๎โดยสังเขป อภิปรายอิทธิพลของ วัฒนธรรมตํางชาติที่มีตํอสังคมไทยปัจจุบันโดยสังเขป อธิบายพัฒนาการของอาณาจักรอยุธยาและธนบุรี โดยสังเขป อธิบายปัจจัยที่สํงเสริมความเจริญรํุงเรืองทางเศรษฐกิจและการปกครองของอาณาจักรอยุธยา บอกประวัติและผลงานของบุคคลสาคัญสมัยอยุธยาและธนบุรีท่ีนําภาคภูมิใจ อธิบายภูมิปัญญาไทยที่สาคัญ ในสมัยอยุธยาและธนบรุ ีทนี่ าํ ภูมิใจและควรคําแกํการอนุรักษ์ไว๎ โดยใชว๎ ธิ กี ารทางประวตั ิศาสตรม์ าวิเคราะหเ์ หตุการณ์ตําง ๆ อยํางเป็นระบบ เพื่อให๎ผู๎เรียนเข๎าใจ พฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตถงึ ปัจจุบัน เข๎าใจความเปน็ มาของวัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย เพือ่ ให๎ผเู๎ รยี นเขา๎ ใจและตระหนกั ถึงการเห็นคุณคําของเวลา วิถีชีวติ ของชุมชนจากอดีตสูปํ ัจจุบนั และมคี วามรัก ความภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย ภมู ปิ ัญญาไทย และธารงรักษาความเป็นไทย รหัสตัวชี้วดั ส 4.1ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3 ส 4.2ป.5/1, ป.5/2 ส 4.3ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 รวมท้ังหมด 9 ตวั ชี้วดั
64 ส๑๖๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ รายวชิ าพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาวิธีการหาข๎อมูลทางประวัติศาสตร์เพื่อให๎ทราบข๎อมูล อธิบายความสาคัญของวิธีการทาง ประวัติศาสตร์ในการศึกษาเร่ืองราวทางประวัติศาสตร์อยํางงําย ๆ นาเสนอข๎อมูลจากหลักฐานที่ หลากหลายในการทาความเขา๎ ใจเร่ืองราวสาคัญในอดีต อธิบายสภาพสังคม เศรษฐกิจและการเมืองของ ประเทศเพ่ือนบ๎านในปัจจุบัน บอกความสัมพันธ์ของกลุํมอาเซียนโดยสังเขป อธิบายพัฒนาการของไทย สมัยรัตนโกสินทร์โดยสังเขป อธิบายปัจจัยที่สํงเสริมความเจริญรํุงเรืองทางเศรษฐกิจและการปกครอง ของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ยกตัวอยํางผลงานของบุคคลสาคัญด๎านตําง ๆ สมัยรัตนโกสินทร์ อธิบายภูมิ ปัญญาไทยท่สี าคัญสมัยรตั นโกสนิ ทร์ทน่ี ําภาคภูมใิ จ และควรคาํ แกกํ ารอนุรกั ษไ์ ว๎ โดยใช๎วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ตําง ๆ อยํางเป็นระบบ เพ่ือให๎เกิดความ เข๎าใจพฒั นาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดีตถงึ ปัจจบุ นั และเขา๎ ใจความเปน็ มาของวฒั นธรรมภูมปิ ัญญาไทย ตระหนักและเห็นคุณคําของเวลา วิถีชีวิตของชุมชนจากอดีตถึงปัจจุบัน และมีความรัก ความ ภมู ิใจในความเป็นไทย ภูมปิ ัญญาไทย และธารงรกั ษาความเป็นไทย รหัสตวั ชว้ี ัด ส 4.1 ป.6/1, ป.6/2 ส 4.2 ป.6/1, ป.6/2 ส 4.3 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4 รวมท้ังหมด 8 ตัวช้วี ัด
65 ส ๑๑๒๐๑ ตา้ นทจุ ริตศึกษา รายวิชาเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาเก่ียวกับการแยกแยะระหวํางผลประโยชน์สํวนตนและผลประโยชน์สํวนรวม มีการคิด แยกแยะ โดยระบบคดิ ฐาน ๒ และระบบคดิ ฐาน ๑๐ ความละอายและความไมทํ นตอํ การทุจริต เก่ียวกับ การทาการบ๎าน การทาเวร การสอบและกิจกรรมนักเรียน STRONG จิตพอเพียงตํอการตํอต๎านการ ทุจริต ได๎แกํความพอเพียง ความโปรํงใส ต๎านทุจริตและความเอื้ออาทร ร๎ูหน๎าท่ีของพลเมืองและ รับผิดชอบตํอสังคมในการตํอต๎านทุจริต การเคารพสิทธิหน๎าที่ตนเองและผ๎ูอ่ืน ปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบ กติกาและกฎหมาย และคณุ ลกั ษณะของ พลเมืองทดี่ ี หน๎าทีข่ องพลเมอื งท่ีดี โดยใช๎กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทาโครงงาน กระบวนการ เรียนร๎ู ๕ ขั้นตอน (5 STEPs) การอภปิ ราย การสบื สวน การแก๎ปัญหา ทักษะการอํานและ การเขยี น เพ่ือให๎มี ความตระหนักและเหน็ ความสาคัญของการตํอต๎านและการปอู งกันการทจุ รติ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง ๑. มีความรู๎ความเข๎าใจเก่ยี วกับการแยกแยะระหวํางผลประโยชนส์ ํวนตน กับผลประโยชน์สวํ นรวม ๒. มคี วามร๎ู ความเข๎าใจเกีย่ วกบั ความละอายและความไมทํ นตํอการทุจรติ ๓. มคี วามรู๎ ความเข๎าใจเก่ยี วกบั STRONG จิตพอเพียงตอํ การตํอตา๎ นการทจุ รติ ๔. มีความรู๎ ความเข๎าใจเก่ียวกบั พลเมืองและมีรบั ผดิ ชอบตํอสงั คม ๕. สามารถคิดแยกแยะระหวาํ งผลประโยชนส์ วํ นตน กบั ผลประโยชนส์ ํวนรวมได๎ ๖. ปฏิบัตติ นเปน็ ผูล๎ ะอายและความไมํทนตอํ การทจุ ริตทกุ รปู แบบ ๗. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผ๎ู STRONG จติ พอเพยี งตอํ การตอํ ตา๎ นการทจุ รติ ๘. ปฏบิ ัติตนตามหนา๎ ท่ีพลเมอื งและมคี วามรบั ผิดชอบตอํ สังคม ๙. ตระหนักและเหน็ ความสาคัญของการตํอต๎านและปูองกนั ทุจริต
66 ส ๑๒๒๐๑ ต้านทจุ รติ ศกึ ษา รายวิชาเพิม่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหวํางผลประโยชน์สํวนตนและผลประโยชน์สํวนรวม มีการคิด แยกแยะ โดยระบบคิดฐาน ๒ และระบบคดิ ฐาน ๑๐ ความละอายและความไมํทนตอํ การทุจริต เกี่ยวกับ การทาการบ๎าน การทาเวร การสอบและกิจกรรมนักเรียน STRONG จิตพอเพียงตํอการตํอต๎านการ ทุจริต ได๎แกํความพอเพียง ความโปรํงใส ต๎านทุจริตและความเอื้ออาทร รู๎หน๎าท่ีของพลเมืองและ รับผิดชอบตํอสังคมในการตํอต๎านทุจริต การเคารพสิทธิหน๎าที่ตํอชุมชนและสังคม ปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบ กติกาและกฎหมาย โดยใช๎กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทาโครงงาน กระบวนการ เรียนร๎ู ๕ ขั้นตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสบื สวน การแก๎ปัญหา ทักษะการอํานและ การเขียน เพ่อื ใหม๎ ี ความตระหนกั และเห็นความสาคญั ของการตํอตา๎ นและการปอู งกันการทจุ ริต ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวงั ๑. มคี วามรู๎ความเขา๎ ใจเก่ยี วกบั การแยกแยะระหวํางผลประโยชน์สวํ นตน กบั ผลประโยชนส์ วํ นรวม ๒. มคี วามร๎ู ความเขา๎ ใจเก่ียวกบั ความละอายและความไมทํ นตํอการทุจริต ๓. มีความรู๎ ความเขา๎ ใจเก่ียวกับ STRONG จิตพอเพียงตอํ การตอํ ต๎านการทุจรติ ๔. มีความร๎ู ความเขา๎ ใจเกย่ี วกบั พลเมืองและมรี ับผดิ ชอบตอํ สังคม ๕. สามารถคดิ แยกแยะระหวํางผลประโยชนส์ วํ นตน กับผลประโยชนส์ ํวนรวมได๎ ๖. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผล๎ู ะอายและความไมทํ นตอํ การทจุ ริตทุกรปู แบบ ๗. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู๎ STRONG จติ พอเพียงตอํ การตอํ ตา๎ นการทจุ รติ ๘. ปฏบิ ัติตนตามหนา๎ ทพี่ ลเมืองและมคี วามรับผิดชอบตอํ สังคม ๙. ตระหนักและเห็นความสาคญั ของการตํอต๎านและปูองกันทุจรติ
67 ส ๑๓๒๐๑ ต้านทุจรติ ศึกษา รายวิชาเพมิ่ เติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหวํางผลประโยชน์สํวนตนและผลประโยชน์สํวนรวม มีการคิด แยกแยะ โดยระบบคดิ ฐาน ๒ และระบบคิดฐาน ๑๐ ความละอายและความไมํทนตํอการทุจริต เก่ียวกับ การทาการบ๎าน การทาเวร การสอบ การแตํงกายและกิจกรรมนักเรียน STRONG จิตพอเพียงตํอการ ตํอต๎านการทุจริต ได๎แกํ ความพอเพียง ความโปรํงใส ต๎านทุจริตและความเอ้ืออาทร รู๎หน๎าที่ของ พลเมืองและรับผิดชอบตํอสังคมในการ ตํอต๎านทุจริต การเคารพสิทธิหน๎าที่ตนเองและผ๎ูอื่นการเคารพ สทิ ธิหน๎าทีต่ ํอชุมชนและสงั คม ปฏิบตั ิตนตามกฎ ระเบยี บ กติกาและกฎหมาย โดยใช๎กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทาโครงงาน กระบวนการ เรียนร๎ู ๕ ข้ันตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสบื สวน การแก๎ปัญหา ทักษะการอํานและ การเขยี น เพื่อให๎มี ความตระหนกั และเห็นความสาคญั ของการตอํ ตา๎ นและการปอู งกันการทจุ ริต ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั ๑. มคี วามรค๎ู วามเข๎าใจเกี่ยวกับการแยกแยะระหวาํ งผลประโยชนส์ วํ นตน กับผลประโยชน์สํวนรวม ๒. มีความรู๎ ความเขา๎ ใจเกี่ยวกับความละอายและความไมํทนตํอการทุจริต ๓. มคี วามรู๎ ความเขา๎ ใจเก่ยี วกบั STRONG จติ พอเพียงตอํ การตํอตา๎ นการทุจรติ ๔. มีความรู๎ ความเขา๎ ใจเกย่ี วกับพลเมอื งและมรี ับผดิ ชอบตอํ สงั คม ๕. สามารถคดิ แยกแยะระหวาํ งผลประโยชน์สวํ นตน กบั ผลประโยชน์สวํ นรวมได๎ ๖. ปฏิบัติตนเปน็ ผูล๎ ะอายและความไมทํ นตอํ การทจุ ริตทกุ รปู แบบ ๗. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผ๎ู STRONG จิตพอเพยี งตํอการตอํ ต๎านการทจุ ริต ๘. ปฏิบตั ิตนตามหน๎าท่ีพลเมอื งและมีความรบั ผดิ ชอบตํอสงั คม ๙. ตระหนกั และเหน็ ความสาคญั ของการตอํ ต๎านและปูองกันทจุ ริต
68 ส ๑๔๒๐๑ ต้านทจุ รติ ศกึ ษา รายวิชาเพมิ่ เติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาเก่ียวกับการแยกแยะระหวํางผลประโยชน์สํวนตนและผลประโยชน์สํวนรวม มีการคิด แยกแยะ โดยระบบคิดฐาน ๒ และระบบคิดฐาน ๑๐ ความแตกตํางระหวํางจริยธรรมและการทุจริต ความละอายและ ความไมํทนตํอการทุจริต เกี่ยวกับการทาการบ๎าน การทาเวร การสอบ การแตํงกาย และกิจกรรมนักเรียนภายใน โรงเรียน STRONG จิตพอเพียงตํอการตํอต๎านการทุจริต ได๎แกํการ ดารงชวี ิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความโปรํงใส ความตื่นรู๎และต๎านทุจริต การมํุงไปข๎างหน๎า และความเอื้ออาทร ร๎ูหน๎าท่ีของพลเมืองและ รับผิดชอบตํอสังคมในการตํอต๎านทุจริต การเคารพสิทธิ หน๎าที่ตนเองและผ๎ูอื่นการเคารพสิทธิหน๎าที่ตํอชุมชน และสังคม ปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบ กติกาและ กฎหมาย ความรบั ผดิ ชอบตอํ สงั คมและพลเมอื งทด่ี ี โดยใช๎กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทา โครงงาน กระบวนการ เรียนร๎ู ๕ ขนั้ ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสืบสวน การแก๎ปัญหา ทักษะการอํานและ การเขยี น เพ่อื ใหม๎ ี ความตระหนักและเห็นความสาคญั ของการตํอตา๎ นและการปูองกันการทจุ รติ ผลการเรยี นรูท้ ี่คาดหวงั ๑. มคี วามรู๎ความเข๎าใจเกยี่ วกบั การแยกแยะระหวาํ งผลประโยชนส์ ํวนตน กบั ผลประโยชน์สํวนรวม ๒. มคี วามรู๎ ความเขา๎ ใจเก่ียวกบั ความละอายและความไมทํ นตํอการทจุ รติ ๓. มีความรู๎ ความเข๎าใจเก่ียวกบั STRONG จิตพอเพียงตอํ การตํอต๎านการทจุ รติ ๔. มคี วามร๎ู ความเข๎าใจเกย่ี วกับพลเมืองและมรี บั ผดิ ชอบตอํ สังคม ๕. สามารถคดิ แยกแยะระหวํางผลประโยชน์สํวนตน กบั ผลประโยชนส์ วํ นรวมได๎ ๖. ปฏิบัติตนเปน็ ผลู๎ ะอายและความไมทํ นตอํ การทุจรติ ทุกรปู แบบ ๗. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู๎ STRONG จติ พอเพยี งตอํ การตอํ ต๎านการทจุ ริต ๘. ปฏิบัตติ นตามหนา๎ ท่ีพลเมืองและมคี วามรบั ผดิ ชอบตอํ สังคม ๙. ตระหนักและเห็นความสาคัญของการตอํ ต๎านและปูองกันทจุ ริต
69 ส ๑๕๒๐๑ ต้านทุจรติ ศึกษา รายวชิ าเพิม่ เติม กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๕ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหวํางผลประโยชน์สํวนตนและผลประโยชน์สํวนรวม มีการคิด แยกแยะ โดยระบบคิดฐาน ๒ และระบบคดิ ฐาน ๑๐ ความแตกตํางระหวาํ งจรยิ ธรรมและการทุจริต การ ขดั กันระหวําง ประโยชน์สวํ นตนและประโยชน์สํวนรวม ผลประโยชน์ทับซ๎อนและรูปแบบของประโยชน์ ทับซ๎อน ความละอาย และความไมํทนตํอการทุจริต เก่ียวกับการทาการบ๎าน การทาเวร การสอบ การ แตํงกายและกิจกรรมนักเรียน ภายในห๎องเรียน โรงเรียน ชุมชนและสังคม การสร๎างจิตสานึกความ พอเพียงตํอการต๎านทุจริต STRONG จิต พอเพียงตํอการตํอต๎านการทุจริต การดารงชีวิตตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความโปรํงใส ความตื่นรู๎และ ต๎านทุจริต การมํุงไปข๎างหน๎าและความเอ้ือ อาทร ร๎ูหน๎าที่ของพลเมืองและรับผิดชอบตํอสังคมในการตํอต๎าน ทุจริต การเคารพสิทธิหน๎าที่ตนเอง และผ๎ูอนื่ การเคารพสทิ ธิหน๎าท่ตี ํอชมุ ชนและสังคม ปฏิบตั ิตนตามกฎ ระเบียบ กติกาและกฎหมาย ความ รับผิดชอบตํอสังคมและพลเมอื งท่ีดี โดยใช๎กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทาโครงงาน กระบวนการ เรยี นรู๎ ๕ ขัน้ ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสบื สวน การแก๎ปัญหา ทักษะการอํานและ การเขียน เพ่อื ใหม๎ ี ความตระหนักและเห็นความสาคญั ของการตํอตา๎ นและการปอู งกันการทุจริต ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง ๑. มคี วามร๎ูความเข๎าใจเก่ยี วกับการแยกแยะระหวํางผลประโยชนส์ ํวนตน กับผลประโยชนส์ ํวนรวม ๒. มคี วามรู๎ ความเขา๎ ใจเกีย่ วกับความละอายและความไมทํ นตํอการทจุ รติ ๓. มีความร๎ู ความเข๎าใจเกยี่ วกบั STRONG จิตพอเพียงตอํ การตํอต๎านการทจุ รติ ๔. มคี วามรู๎ ความเขา๎ ใจเก่ียวกบั พลเมอื งและมรี ับผดิ ชอบตํอสังคม ๕. สามารถคดิ แยกแยะระหวํางผลประโยชนส์ วํ นตน กับผลประโยชน์สํวนรวมได๎ ๖. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผล๎ู ะอายและความไมทํ นตอํ การทจุ ริตทุกรปู แบบ ๗. ปฏิบตั ิตนเป็นผ๎ู STRONG จติ พอเพียงตอํ การตอํ ต๎านการทุจรติ ๘. ปฏิบตั ิตนตามหน๎าทีพ่ ลเมอื งและมีความรับผิดชอบตํอสงั คม ๙. ตระหนกั และเหน็ ความสาคญั ของการตอํ ต๎านและปูองกนั ทจุ ริต
70 ส ๑๖๒๐๑ ตา้ นทุจรติ ศึกษา รายวชิ าเพิม่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหวํางผลประโยชน์สํวนตนและผลประโยชน์สํวนรวม มีการคิด แยกแยะ โดยระบบคิดฐาน ๒ และระบบคดิ ฐาน ๑๐ ความแตกตํางระหวาํ งจรยิ ธรรมและการทุจริต การ ขดั กันระหวําง ประโยชน์สวํ นตนและประโยชนส์ วํ นรวม ผลประโยชน์ทับซ๎อนและรูปแบบของประโยชน์ ทับซ๎อน ความละอาย และความไมํทนตํอการทุจริต เก่ียวกับการทาการบ๎าน การทาเวร การสอบ การ แตํงกายและกิจกรรมนักเรียน ภายในห๎องเรียน โรงเรียน ชุมชนและสังคม การสร๎างจิตสานึกความ พอเพียงตํอการต๎านทุจริต STRONG จิต พอเพียงตํอการตํอต๎านการทุจริต การดารงชีวิตตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความโปรํงใส ความตื่นรู๎และ ต๎านทุจริต การมํุงไปข๎างหน๎าและความเอ้ือ อาทร ร๎ูหน๎าที่ของพลเมืองและรับผิดชอบตํอสังคมในการตํอต๎าน ทุจริต การเคารพสิทธิหน๎าที่ตนเอง และผ๎ูอนื่ การเคารพสทิ ธิหน๎าท่ีตอํ ชุมชนและสังคม ปฏิบตั ิตนตามกฎ ระเบียบ กติกาและกฎหมาย ความ รับผิดชอบตํอสังคมและพลเมืองท่ีดี โดยใช๎กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทาโครงงาน กระบวนการ เรยี นรู๎ ๕ ขัน้ ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสบื สวน การแก๎ปัญหา ทักษะการอํานและ การเขียน เพ่อื ใหม๎ ี ความตระหนักและเห็นความสาคญั ของการตํอตา๎ นและการปอู งกันการทุจริต ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง ๑. มคี วามร๎ูความเข๎าใจเก่ยี วกับการแยกแยะระหวาํ งผลประโยชนส์ ํวนตน กับผลประโยชนส์ ํวนรวม ๒. มคี วามรู๎ ความเขา๎ ใจเกีย่ วกับความละอายและความไมํทนตํอการทจุ รติ ๓. มีความร๎ู ความเข๎าใจเกยี่ วกับ STRONG จติ พอเพียงตอํ การตํอต๎านการทจุ รติ ๔. มคี วามรู๎ ความเขา๎ ใจเก่ียวกบั พลเมอื งและมีรบั ผดิ ชอบตอํ สงั คม ๕. สามารถคดิ แยกแยะระหวาํ งผลประโยชนส์ วํ นตน กับผลประโยชน์สํวนรวมได๎ ๖. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผล๎ู ะอายและความไมทํ นตอํ การทุจรติ ทกุ รูปแบบ ๗. ปฏิบตั ิตนเป็นผ๎ู STRONG จิตพอเพียงตอํ การตํอตา๎ นการทจุ รติ ๘. ปฏิบตั ิตนตามหน๎าทีพ่ ลเมืองและมคี วามรับผิดชอบตอํ สงั คม ๙. ตระหนกั และเหน็ ความสาคัญของการตอํ ต๎านและปูองกันทุจริต
71 กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ระดับประถมศกึ ษา จานวน 40 ชว่ั โมง รายวชิ าพ้ืนฐาน จานวน 40 ชั่วโมง จานวน 40 ชวั่ โมง พ๑๑๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา จานวน 80 ชั่วโมง พ๑๒๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา จานวน 80 ชว่ั โมง พ๑๓๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา จานวน 80 ชวั่ โมง พ๑๔๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา พ๑๕๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา พ๑๖๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา
72 พ๑๑๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รายวชิ าพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา 40 ช่ัวโมง ___________________________________________________________________________ ศึกษาลักษณะหน๎าท่ีและการดูแลรักษาอวัยวะภายนอกตาหูคอจมูกผมมือเท๎าเล็บ ผิวหนัง อวัยวะภายในชอํ งปากทีม่ กี ารเจริญเติบโตและพัฒนาการไปตามวัยสมาชิกและความรักความผูกพันของ สมาชกิ ในครอบครัวจดุ เดํนจุดด๎อยของตนเองลักษณะความแตกตํางของเพศชายและเพศหญิงธรรมชาติ ของการเคลื่อนไหวรํางกายในชีวิตประจาวันแบบอยํูกับท่ีแบบเคล่ือนท่ีแบบใช๎อุปกรณ์ประกอบและ กิจกรรมทางกายท่ีใช๎การเคล่ือนไหวตามธรรมชาติเชํนการเลํนเกมเบ็ดเตล็ด การออกกาลังกายการเลํน เกมเบ็ดเตล็ดและการปฏิบัติตามกฎกติกาข๎อตกลงในการเลํนเกมเบ็ดเตล็ด การปฏิบัติตนตามหลักสุข บัญญัติแหํงชาติการบอกลักษณะอาการเจ็บปุวยและวิธีปฏิบัติตนเม่ือมีอาการเจ็บปุวยเกิดข้ึนกับตนเอง การระบุสงิ่ ที่ทาใหเ๎ กดิ อันตรายทบ่ี ๎านโรงเรยี นและวธิ กี ารปูองกันการบอกสาเหตุที่ทาให๎เกิดอันตรายจาก การเลํนและการปอู งกันการแสดงคาพดู หรือทําทางขอความชวํ ยเหลือจากบคุ คลท่ีควรขอความชํวยเหลือ เมือ่ เกิดเหตุรา๎ ยทีบ่ ๎านและโรงเรียน โดยใช๎ทกั ษะกระบวนการคดิ วิเคราะหส์ งั เคราะห์อภปิ รายสรปุ เพื่อให๎เกิดความรู๎ความเข๎าใจและ สามารถนาไปใชใ๎ นชีวิตประจาวันตลอดจนทาใหม๎ ีทกั ษะในดา๎ นการเคลื่อนไหวอยํางสมดุล เหน็ คุณคาํ ของการรักษาสุขภาพใฝุเรียนรูม๎ ีความซอื่ สตั ยต์ ํอกฎกตกิ าตํางๆมีวินัยในตนเองในการ ดูแลรกั ษาสขุ ภาพตลอดจนรักความเป็นไทยโดยเข๎ารวํ มกจิ กรรมทางกายและกฬี าท่เี หมาะสมกับเพศและ วัยตามประเพณีและวฒั นธรรมไทยมีนา้ ใจเป็นนกั กฬี าอยูํรํวมกบั ผ๎ูอ่ืนได๎อยํางมีความสุข รหัสตัวช้ีวัด พ ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ พ ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ พ ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ พ ๓.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒ พ ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ พ ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ รวมทั้งหมด ๑๕ ตัวช้วี ดั
73 พ๑๒๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าพน้ื ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ เวลา 40 ช่ัวโมง ___________________________________________________________________________ อธิบายลักษณะหน๎าท่ีของอวัยวะภายในท่ีมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการไปตามวัย ( สมอง หวั ใจ ตบั ไต ปอด กระเพาอาหาร ลาไส๎ ฯลฯ ) การดูแลรักษาอวัยวะภายใน, การระมัดระวังการ กระแทก,การออกกาลังกาย,การกินอาหารธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ต้ังแตํเกิดจนตาย ระบุบทบาท หน๎าท่ีของสมาชิกในครอบครัวตนเอง ,พํอแมํ,พ่ีน๎อง,ญาติความสาคัญของเพ่ือน เชํน พูดคุย,ปรึกษา ,เลนํ ฯลฯ พฤตกิ รรมทเ่ี หมาะสมกับเพศ ความเปน็ สุภาพบุรุษ,ความเป็นสภุ าพสตรแี ละความภาคภูมใจ ในเพศหญิงเพศชาย บอกลักษณะของการมีสุขภาพดี รํางกายแข็งแรง,จิตใจรําเริง แจํมใสมีความสุขมี ความปลอดภัย อาหารมีประโยชน์และไมํมีประโยชน์ของใช๎และของเลํนท่ีมีผลเสียตํอสุขภาพ อาการ และวิธีปูองกันการเจ็บปุวย ตาแดง ท๎องเสีย ฯลฯ อาการและวิธีการปูองกันการบาดเจ็บถูกของมีคม แมลงสัตว์กัดตํอย หกลม ฯลฯ ปฏิบัติตนในการปูองกันอุบัติเหตุทางน้าและทางบกสาเหตุของ อุบัติเหตุทางน้าและทางบกและวิธีการปูองกันอุบัติเหตุทางน้าและทางบก ยาสามัญประจาบ๎านชื่อยา สามัญประจาบ๎าน การใช๎ยาตามความจาเป็นและลักษณะอาการ สารเสพติดและสารอันตรายใกล๎ตัว โทษของสารเสพติดและสารอันตรายใกล๎ตัวและวิธีปูองกัน สัญลักษณ์และปูายเตือนของส่ิงของหรือ สถานที่ที่เป็นอันตรายความหมายของสัญลักษณ์และปูายเตือน อัคคีภัยและการหนีไฟโดยใช๎ทักษะใน การดาเนินชีวิต การดารงสุขภาพ การปูองกันโรคแลพการสร๎างเสริมสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ เพ่ือให๎ เน๎นคุณคําของตัวเอง ครอบครัว เพศศึกษาและการสรา๎ งเสรมิ สขุ ภาพ ควบคุมลักษณะและวิธกี ารของการเคลื่อนไหวรํางกายแบบอยูํกับที่ เชํน กระโดด บิดตัว ดึง ผลัก แบบเคล่ือนท่ี เชํน กระโดดเขยํง ก๎าวชิดก๎าว วิ่งตามทิศทางที่กาหนดและแบบใช๎อุปกรณ์ เชํน คบี ขวา๎ ง ตี การเลนํ เกมเบด็ เตล็ดและเข๎ารํวมกิจกรรมทางกายท่ีวิธีเลํนอาศัยการเคลื่อนไหวเบ้ือง ต๎นแบบอยูํกับที่ เคล่ือนท่ีและใช๎อุปกรณ์ประกอบ ออกกาลังกายและเลํนเกมเบ็ดเตล็ด ประโยชน์ของ การออกกาลังกายและการเลํนเกม กฎ กติกา ข๎อตกลงในการเลํนเกมเป็นกลุํมโดยใช๎ทักษะในการ เคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลํนเกมและกีฬา ฝึกปฏิบัติเป็นประจาอยํางสม่าเสมอเพ่ือให๎รักการ ออกกาลังกาย การเลํนเกม และการเลํนกีฬา มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนักกีฬา มีจิต วญิ ญาณในการแขํงขนั และชืน่ ชมในสนุ ทรภี าพของการกีฬา รหสั ตวั ช้ีวัด พ 1.1 ป.2/1,ป.2/2,ป.2/1/3 พ 2.1 ป.2/1,ป.2/2,ป.2/3 ป.2/4 พ 3.1 ป.1/1,ป.1/2, พ 3.2 ป.2/1,ป.2/2 พ 4.1 ป.2/1,ป.2/2,ป.2/3,ป.2/4,ป.2/5 พ 5.1 ป.2/1, ป.2/2,ป.2/3 รวม 1๙ ตัวชี้วัด
74 พ๑๓๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวิชาพน้ื ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรูส้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา 40 ชั่วโมง ___________________________________________________________________________ อธิบายลักษณะและการเจริญเติบโต โดยเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ระบุปัจจัยที่มีผลตํอ การเจริญเติบโตของรํางกาย อธิบายความสาคัญและความแตกตํางของแตํละครอบครัว สร๎าง สัมพันธภาพในครอบครัวและกลุํมเพือ่ น ใช๎ทักษะการปฏิเสธเพอื่ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมท่ีนาไปสูํการถูกลํวง ละเมดิ ทางเพศ ปฏิบตั ิตนให๎เป็นผู๎มสี ุขภาพทด่ี ี เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แปรงฟันอยํางถูกวิธี และ เสริมสร๎างสมรรถภาพทางกายได๎เหมาะสม และปูองกันตนเองจากการแพรํกระจายของโรค ปฏิบัติตน เพ่ือความปลอดภัยจากอุบัติเหตุภายในบ๎าน โรงเรียน และการเดินทาง เลือกขอความชํวยเหลือจาก บคุ คลและแหลํงตํางๆ เม่ือเกดิ เหตรุ ๎าย และสามารถปฐมพยาบาลเมื่อเกดิ การบาดเจ็บจากการเลนํ มีทักษะในการปฏิบัติกิจกรรมการเคล่ือนไหวรํางกายแบบอยํูกับที่ แบบเคล่ือนท่ี แบบใช๎ อุปกรณ์ประกอบการเลํนเกมเบ็ดเตล็ด การละเลํนพื้นเมือง ตามกฎ กติกา ข๎อตกลง เพื่อให๎เกิดความมี วินัย รักการออกกาลงั กาย มีนา้ ใจนกั กฬี า เกิดความสนกุ สนานและปลอดภัย โดยใช๎ทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการปฏิบัติ ทักษะการเคล่ือนไหวรํางกาย การ สืบค๎นข๎อมลู การแก๎ปัญหา การระดมสมอง และการอภิปราย เพื่อให๎เกิดความร๎ู ความคิด ความเข๎าใจ มีทักษะสื่อสาร สามารถตัดสินใจ และนาความร๎ูไป ประยุกตใ์ ช๎ในชีวิตประจาวัน มีการพัฒนาทางดา๎ นราํ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม และจริยธรรม คุณธรรม และคํานยิ มทเ่ี หมาะสม ตวั ชีว้ ัด พ 1.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 พ 2.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 พ 3.1 ป.3/1 ป.3/2 พ 3.2 ป.3/1 ป.3/2 พ 4.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ป.3/5 พ 5.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 รวม 18 ตัวช้ีวัด
75 พ๑๔๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา รายวชิ าพืน้ ฐาน กลุม่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา 80 ช่ัวโมง ___________________________________________________________________________ ศกึ ษา วเิ คราะห์ การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของรํางกายและจิตใจตามวัย (ในชํวงอายุ 9-12 ปี) ความสาคัญของกล๎ามเน้ือ กระดูก และข๎อท่ีมีผลตํอการเจริญเติบโตและพัฒนาการ การดูแลรักษา กล๎ามเนื้อกระดูก และข๎อให๎ทางานอยํางมีประสิทธิภาพ คุณลักษณะของความเป็นเพื่อนและสมาชิกที่ดี ของครอบครัว พฤติกรรมที่เหมาะสมกับเพศของตนตามวัฒนธรรมไทย วิธีการปฏิเสธการกระทาท่ีเป็น อันตรายและไมํเหมาะสมในเรื่องเพศ ผลพัฒนาการของตนเองในการออกกาลังกาย เลํนเกม และเลํน กีฬา ความสัมพันธร์ ะหวาํ งสิ่งแวดล๎อมกับสขุ ภาพ การจัดส่ิงแวดล๎อมที่ถูกสุขลักษณะและเอ้ือตํอสุขภาพ สภาวะอารมณ์และความรู๎สึก ผลที่มีตํอสุขภาพ ข๎อมูลบนฉลากอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ความสาคัญของการใช๎ยาและหลักการใช๎ยาอยํางถูกวิธี วิธีปฐมพยาบาล ผลเสียของการสูบบุหรี่และด่ืม สรุ า ปฏิบัติ แสดงคาพูดหรือทําทาง พฤติกรรมท่ีเหมาะสมกับเพศของตนตามวัฒนธรรมไทย วิธีการ ปฐมพยาบาลเมื่อไดร๎ บั อนั ตรายจากการใช๎ยาผดิ สารเคมี แมลงสตั ว์กดั ตํอยและการบาดเจ็บจากการเลํน กีฬา ปฏิบัติกิจกรรม ทดสอบ ควบคุมการเคลื่อนไหวในลักษณะผสมผสานได๎ทั้งแบบอยูํกับที่ แบบ เคล่ือนท่ี และแบบใช๎อุปกรณ์ประกอบ กายบริหารมือเปลําประกอบจังหวะ เลํนเกมเลียนแบบและ กจิ กรรมแบบผลดั การเลนํ กฬี าพน้ื ฐานตามกฎ กตกิ าการเลํน สมรรถภาพทางกาย โดยใชท๎ กั ษะกระบวนการปฏิบัติ ทักษะการเคลื่อนไหวรํางกาย กระบวนการคิด การสืบค๎นข๎อมูล การแก๎ปญั หาและการอภปิ ราย เพ่อื ให๎เกดิ ความรู๎ ความคิด ความเข๎าใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนร๎ู มีความสามารถตัดสินใจ และ นาความรู๎ไปประยุกต์ใช๎ในชีวิตประจาวัน มีการพัฒนาทางด๎านรํางกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และมี จรยิ ธรรม คุณธรรม และคาํ นิยมทเี่ หมาะสม ตวั ชว้ี ดั ป.4/2 ป.4/3 พ 1.1ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 พ 2.1ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 พ 3.1ป.4/1 ป.4/2 พ 3.2ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 พ 4.1ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 พ 5.1ป.4/1 รวม 19 ตัวช้วี ัด
76 พ๑๕๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา รายวชิ าพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา 80 ช่ัวโมง ___________________________________________________________________________ ศกึ ษา วเิ คราะห์ อธิบายความสาคัญและการดูแลระบบยอํ ยอาหารและระบบขับถาํ ยที่มีผลตอํ สุขภาพ การเจริญเตบิ โต และพฒั นาการ อธิบายการเปลยี่ นแปลงทางเพศ การดูแลตนเอง และการ วางตัวทีเ่ หมาะสมกบั เพศตามวฒั นธรรมไทย อธิบายความสาคญั ของการมคี รอบครวั ท่ีอบอุํนตาม วฒั นธรรมไทย และระบุพฤติกรรมท่ีพงึ ประสงคแ์ ละไมํพงึ ประสงค์ในการแก๎ไขปญั หาความขดั แยง๎ ใน ครอบครวั และกลํมุ เพื่อน วเิ คราะห์ปจั จัยที่มีอิทธิพลตํอการใชส๎ ารเสพตดิ และผลกระทบของการใช๎ยา และสารเสพติดท่มี ตี ํอรํางกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คม และสติปัญญา ปฏบิ ัติตนเพื่อความปลอดภยั จากการ ใช๎ยาและหลกี เลี่ยงสารเสพติด และวิเคราะหอ์ ทิ ธิพลของสอื่ ทีม่ ตี ํอพฤตกิ รรมสุขภาพ ปฏิบัติตนตามหลักสุขบัญญัติแหํงชาติ และค๎นหาข๎อมูลขําวสารเพ่ือใช๎สร๎างเสริมสุขภาพ วเิ คราะห์สอ่ื โฆษณาในการตัดสินใจเลอื กซ้อื อาหารและผลิตภัณฑ์สขุ ภาพอยํางมีเหตุผล วิธีปฏิบัติตนเพื่อ ปูองกันโรคทพ่ี บบํอยในชวี ิตประจาวัน ปฏิบัติกิจกรรม ทดสอบ ควบคุมการเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน และควบคุมตนเองเม่ือใช๎ทักษะ การเคลื่อนไหวตามแบบท่ีกาหนด การรับแรง การใช๎แรง และความสมดุล ออกกาลังกายอยํางมีรูปแบบ และปฏิบัติตามกฎ กติกา การเลํนเกมกีฬาไทยและกีฬาสากล ปฏิบัติตนตามสิทธิของตนเองและไมํ ละเมดิ สทิ ธิของผ๎อู ื่น ยอมรับความแตกตาํ งระหวาํ งบคุ คลในการเลํนเกมกีฬา และมนี า้ ใจนักกีฬา โดยใช๎ทักษะกระบวนการปฏิบัติ ทักษะการเคล่ือนไหวรํางกาย กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลํมุ การสบื คน๎ ขอ๎ มลู การแก๎ปญั หา และการอภิปราย เพ่ือให๎เกิดความรู๎ ความคิด ความเข๎าใจ มีทักษะสื่อสารสิ่งที่เรียนร๎ู สามารถตัดสินใจและนา ความรู๎ไปประยุกต์ใช๎ในชีวิตประจาวัน มีการพัฒนาทางด๎านรํางกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และมี จริยธรรม คณุ ธรรมและคํานยิ มท่ีเหมาะสม ตวั ชี้วัด ป.5/2 พ 1.1ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 พ 2.1ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 ป.5/6 พ 3.1ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 พ 3.2ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 พ 4.1ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 พ 5.1ป.5/1 รวม 25 ตวั ชี้วัด
77 พ๑๖๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เวลา 80 ชัว่ โมง ___________________________________________________________________________ ศึกษา วิเคราะห์ และอธิบายความสาคัญและวิธีการดูแลระบบหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิต และ ระบบสืบพันธุ์ที่มีผลตํอสุขภาพ การเจริญเติบโต และพัฒนาการ เห็นความสาคัญของการสร๎างและการ รกั ษาสมั พันธภาพกบั ผ๎ูอื่น วเิ คราะหพ์ ฤติกรรมเส่ียงท่อี าจนาไปสํกู ารมีเพศสมั พันธ์ การติดเชื้อเอดส์ และ การต้ังครรภก์ ํอนวัยอนั ควร ปูองกนั และแกป๎ ัญหาสงิ่ แวดล๎อมทีม่ ผี ลตอํ สขุ ภาพ วเิ คราะห์ผลกระทบที่เกิด จากการระบาด ของโรค และเสนอแนวทางการปูองกันโรคติดตํอ และมีความรับผิดชอบตํอสุขภาพ ของสํวนรวม วิเคราะห์ผลกระทบจากความรุนแรงของภัยธรรมชาติท่ีมีตํอรํางกาย จิตใจ และสังคม ปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากธรรมชาติ วิเคราะห์สาเหตุของการติดสารเสพติด และชักชวนให๎ผู๎อื่น หลกี เลีย่ งสารเสพตดิ แสดงทกั ษะการเคล่ือนไหวรํวมกับผู๎อ่ืนในลักษณะแบบผลัด และแบบผสมผสานได๎ทั้งแบบอยํูกับ ที่ เคล่ือนที่ และใช๎อุปกรณ์ประกอบ และการเคลื่อนไหวประกอบเพลง จาแนกหลักการเคลื่อนไหว รํางกายในการเลํนเกม เลํนกีฬา และนาผลมาปรับปรุงวิธีการปฏิบัติของตนและผู๎อ่ืน เลํนกีฬาไทย กีฬา สากล ประเภทบุคคลและประเภททีม ใช๎ทักษะกลไกเพ่ือปรับปรุงความสามารถของตนและผู๎อื่นในการ เลํนกีฬา ปฏิบัติกิจกรรมนันทนาการ ออกกาลังกายเพื่อสร๎างเสริม สมรรถภาพทางกาย ตามผลการ ประเมินจากการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ฝึกเลํนเกมท่ีใช๎ทักษะการวางแผนและสามารถเพ่ิมพูน ทักษะการออกกาลังกายและการเคลื่อนไหว อยํางเป็นระบบ เลํนกีฬาท่ีตนเองชื่นชอบและสามารถ ประเมินทักษะการเลํนของตนเองได๎ และปฏิบัติตามกฎ กติกาตามชนิดกีฬาท่ีเลํน โดยคานึงถึงความ ปลอดภัยของตนเองและผอ๎ู ืน่ โดยใช๎ทักษะกระบวนการปฏิบัติ ทักษะการเคลื่อนไหวรํางกาย กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลุํม กระบวนการสืบค๎นข๎อมูล และกระบวนการแก๎ปัญหา เพ่ือให๎เกิดความรู๎ ความคิด ความเข๎าใจ มีทักษะสื่อสาร ส่ิงที่เรียนรู๎ สามารถตัดสินใจและนาความรู๎ไปประยุกต์ใช๎ใน ชวี ติ ประจาวัน มกี ารพัฒนาทางดา๎ นรํางกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และมีจริยธรรม คุณธรรม และคํานิยม ทเี่ หมาะสม ตวั ชว้ี ดั ป.6/5 พ 1.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/5 ป.6/6 พ 2.1 ป.6/1 ป.6/2 พ 3.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 พ 3.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 พ 4.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 พ 5.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 รวม 22 ตัวชีว้ ัด
รายวิชาพน้ื ฐาน 78 ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ศ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ กลุม่ สาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ ศ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ศ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ ระดับประถมศกึ ษา ศ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ศ๑๖๑๐๑ ศิลปะ จานวน 40 ชว่ั โมง จานวน 40 ชั่วโมง จานวน 40 ชั่วโมง จานวน 80 ชั่วโมง จานวน 80 ชั่วโมง จานวน 80 ชวั่ โมง
79 ศ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ รายวชิ าพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๑ เวลา 40 ชั่วโมง ___________________________________________________________________________ ศกึ ษาและอธปิ รายเกย่ี วกับจดุ เส๎น รูปราํ ง ความหมายและประเภทของความรู๎สึก ความรู๎สกึ กับ ส่ิงแวดล๎อม การถํายทอดความร๎ูสกึ ออกมาเปน็ ผลงาน วธิ ีการใชส๎ เี ทียน เทคนคิ การใชส๎ เี ทยี น วธิ ีการเก็บรักษา สีเทยี น วิธกี ารและเทคนิคการใชส๎ ีไม๎ วธิ กี ารเก็บรักษาสไี ม๎ วัสดุอุปกรณใ์ นการใช๎สนี า้ วธิ กี ารและเทคนคิ การ ใชส๎ นี า้ การเกบ็ รกั ษาสนี า้ วสั ดุอุปกรณใ์ นการใช๎สีโปสเตอร์ การเก็บรกั ษาสโี ปสเตอร์ และทัศนศลิ ปใ์ น ชวี ิตประจาวนั กิจกรรมการเรียนรู๎มุํงเน๎นให๎มีความรู๎และเข๎าใจเก่ียวกับรูปรําง รูปทรงและทัศนธาตุของสิ่งตําง ๆ ใน ธรรมชาติและงานทัศนศิลป์ มีทักษะพื้นฐานการใช๎วัสดุอุปกรณ์สร๎างผลงาน เพ่ือถํายทอดความคิด ความรู๎สึก ออกมาเปน็ ผลงาน มีการสงํ เสรมิ ความคดิ สร๎างสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ สํงเสรมิ กิจกรรมท่ีบรู ณาการรวํ มกับกลํุม สาระการเรียนร๎ูอื่น และสํงเสริมการเรียนรู๎ทัศนศิลป์ในท๎องถิ่น มีการประเมินชิ้นงานโดยใช๎เกณฑ์การให๎ คะแนน (Rubrics) มคี วามคิดริเริ่มสรา๎ งสรรค์ มจี ินตนาการทางศิลปะ สนใจในการปฏบิ ัตงิ านศลิ ปะ และทางานรวํ มกบั ผอ๎ู ่ืนอยํางมคี วามสุข ศกึ ษาและปฏบิ ตั เิ กีย่ วกบั การกาเนิดเสียง คณุ ลักษณะของเสยี ง จังหวะและการร๎องเพลง เพลงในชีวติ ประจาวนั บทเพลงในท๎องถน่ิ การเคลื่อนไหวพ้ืนฐาน ภาษาทาํ ทางนาฏศิลป์ไทยและนาฏยศัพท์ การแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย และการละเลนํ ของเด็กไทย ให๎นักเรียนสังเกตภาพและคิดวิเคราะห์โดยใช๎กระบวนการคิดวิเคราะห์ จาแนก ปฏิบัติ สรุปความร๎ู ความเข๎าใจเกี่ยวกับเรื่องการกาเนิดเสียง คุณลักษณะของเสียง จังหวะและการร๎องเพลง เพลงใน ชีวิตประจาวัน บทเพลงในท๎องถิ่น การเคลื่อนไหวพื้นฐาน ภาษาทําทางนาฏศิลป์ไทยและนาฏยศัพท์ การ แสดงนาฏศิลป์ไทยและการละเลํนของเด็กไทย รวมถึงการปฏิบัติทํารา และมารยาทท่ีดีในการชมการแสดง สามารถอธบิ ายความรู๎จากประสบการณ์เดิม เคล่ือนไหวทําทางเลียนแบบได๎อยํางเหมาะสม เพื่อนาไปเป็นแนวทาง ในการปฏิบัติทํารา ขับร๎องเพลงได๎ไพเราะและสามารถแสดงออกได๎อยํางอิสระตามความร๎ูสึกและความคิด สรา๎ งสรรค์ของตนเอง เห็นคุณคาํ ของศลิ ปวฒั นธรรมไทยในดา๎ นดนตร-ี นาฏศลิ ป์ นาความรท๎ู ี่ไดม๎ าปรบั ใชใ๎ นชีวิตประจาวนั ได๎ เหมาะสม รหัสตัวช้ีวดั ศ 1.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4, ป.1/5 ศ 1.2 ป.1/1 ศ 2.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4, ป.1/5 ศ 2.2 ป.1/1, ป.1/2 ศ 3.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 ศ 3.2 ป.1/1, ป.1/2 รวมท้งั หมด 18 ตัวชีว้ ัด
80 ศ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ รายวิชาพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๒ เวลา 40 ชวั่ โมง ___________________________________________________________________________ ระบแุ ละบรรยายเก่ียวกับงานวาด งานป้ัน งานพิมพ์ พ้ืนฐานการวาดภาพคน การวาดภาพเก่ียวกับ ครอบครัวและเพ่อื นบ๎าน วัสดุ อุปกรณท์ ใ่ี ชใ๎ นการตัด ฉีก ปะติด การสร๎างงานโครงสร๎างเคลื่อนไหว และ ทศั นศิลป์ในทอ๎ งถิน่ ทีไ่ ด๎พบในชวี ิตประจาวนั กิจกรรมการเรียนร๎ูมํุงเน๎นให๎มีความรู๎และเข๎าใจเก่ียวกับรูปรําง รูปทรงและทัศนธาตุของส่ิง ตําง ๆ ในธรรมชาติและงานทัศนศิลป์ มีทักษะพ้ืนฐานการใช๎วัสดุ อุปกรณ์สร๎างผลงาน เพื่อถํายทอด ความคิด ความร๎ูสึก ออกมาเป็นผลงาน มีการสํงเสริมความคิดสร๎างสรรค์และจินตนาการ สํงเสริม กิจกรรมท่ีบูรณาการรํวมกับกลุํมสาระการเรียนร๎ูอื่น และสํงเสริมการเรียนรู๎ทัศนศิลป์ในท๎องถ่ิน มีการ ประเมนิ ชิ้นงานโดยใช๎เกณฑก์ ารให๎คะแนน (Rubrics) มีความคิดริเร่ิมสร๎างสรรค์ มีจินตนาการทางศิลปะ สนใจในการปฏิบัติงานศิลปะและทางาน รํวมกับผูอ๎ ่นื อยาํ งมคี วามสขุ ศึกษาและปฏบิ ัติเก่ยี วกับเร่ืองเสียงมนุษย์ เสียงดนตรี คุณลกั ษณะของเสียงดนตรี คุณลักษณะ ของจงั หวะ การขบั ร๎อง ความหมายและความสาคัญของบทเพลง บทเพลงและดนตรีพื้นเมอื ง กจิ กรรม ดนตรี ในโอกาสพเิ ศษ การเคลื่อนไหวอยํางมรี ูปแบบ การใช๎นาฏยศัพท์และภาษาทําทางนาฏศิลป์ไทย การ มีมารยาทในการชมการแสดงนาฏศิลป์ไทยและการละเลํนพื้นบ๎านของไทย ใหผ๎ ูเ๎ รียนสงั เกตภาพการกาเนิดเสียง เคร่อื งดนตรีไทย การเคลื่อนไหวอยํางมีรปู แบบ นาฏย ศัพท์ ภาษาทาํ ทางนาฏศลิ ป์ไทย ทาํ ทางการรํายราประกอบเพลงตําง ๆ การเปน็ ผู๎ชมท่ดี แี ละไมดํ เี พือ่ วิเคราะหแ์ ละเขียนอธบิ ายเกีย่ วกับภาพ การอาํ นสถานการณ์และวเิ คราะห์คาถาม การฝกึ การขับรอ๎ งเพลง ใหถ๎ ูกต๎องตามจงั หวะสามารถเขยี น บอก เลํา อธิบายความรสู๎ ึกไดจ๎ ากประสบการณ์เดิม โดยการ ถํายทอดจินตนาการและความคิดของตนเองอยาํ งอิสระ สามารถปฏิบัตทิ าํ รา ขับร๎อง และเข๎าใจ จงั หวะได๎ดว๎ ยตนเองโดยการใชท๎ กั ษะกระบวนการตําง ๆ และสรุปความรท๎ู ี่ได๎ลงในแผนภาพตําง ๆ เหน็ คณุ คาํ และความสาคญั ของศลิ ปวฒั นธรรมทางดนตรี-นาฏศิลป์ นาความรมู๎ าประยกุ ต์ใช๎ใน ชวี ิตประจาวันไดอ๎ ยํางเหมาะสม และมจี ติ สาธารณะในการอนุรกั ษศ์ ลิ ปวัฒนธรรมไทย รหัสตัวช้ีวดั ศ 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/7, ป.2/8 ศ 1.2 ป.2/1, ป.2/2 ศ 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5 ศ 2.2 ป.2/1, ป.2/2 ศ 3.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5 ศ 3.2 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3 รวมทั้งหมด 25 ตวั ชวี้ ัด
81 ศ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ รายวชิ าพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา 40 ช่ัวโมง ___________________________________________________________________________ บรรยายและจาแนกทัศนธาตุในสิ่งแวดล๎อมและงานทัศนศิลป์ การฝึกฝนทักษะพื้นฐานในการทางาน ทัศนศลิ ป์ สร๎างสรรค์งานออกแบบ การวาดหนุํ นิง่ การวาดภาพธรรมชาติและส่ิงแวดล๎อมท่ีมองเห็น ส่ิงที่ชื่นชม และสิ่งท่ีควรปรับปรุงในงานวาดภาพของตนเอง วัสดุอุปกรณ์ที่ใช๎ในการปั้น การป้ันนูนต่า การปั้นนูนสูง การ ป้ันลอยตัว ขั้นตอนการวาดภาพถํายทอดความคิด ความรู๎สึกจากเหตุการณ์ชีวิตจริง ส่ิงท่ีช่ืนชมและส่ิงที่ควร ปรับปรงุ ในผลงานของตนเอง วธิ ีสร๎างงานทัศนศลิ ป์ในท๎องถ่ิน กิจกรรมการเรียนรู๎มํุงเน๎นให๎มีความร๎ูและเข๎าใจเกี่ยวกับรูปรําง รูปทรงและทัศนธาตุของสิ่งตําง ๆ ในธรรมชาติและงานทัศนศิลป์ มีทักษะพ้ืนฐานการใช๎วัสดุอุปกรณ์สร๎างผลงาน เพื่อถํายทอดความคิด ความร๎ูสึกออกมาเป็นผลงาน มีการสํงเสริมความคิดสร๎างสรรค์และจินตนาการ สํงเสริมกิจกรรมที่บูรณาการ รํวมกับกลํุมสาระการเรียนรู๎อื่น และสํงเสริมการเรียนรู๎ทัศนศิลป์ในท๎องถิ่น มีการประเมินชิ้นงานโดยใช๎ เกณฑก์ ารให๎คะแนน (Rubrics) มีความคิดริเร่ิมสร๎างสรรค์ มีจินตนาการทางศิลปะ สนใจในการปฏิบัติงานศิลปะ และทางาน รํวมกบั ผอ๎ู ืน่ อยาํ งมีความสุข ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับลักษณะและเสียงของเครื่องดนตรีไทยและสากล ระดับเสียงของตัว โน๎ต การนับจังหวะ บทบาทหน๎าที่และประเภทของเพลง ทักษะในการขับร๎องและการบรรเลงดนตรี หลักการวิเคราะห์เพลง การเคลื่อนไหวตามอารมณ์ของบทเพลง ดนตรีในชีวิตประจาวัน ดนตรีใน ทอ๎ งถิน่ ลักษณะเดํนและเอกลักษณข์ องดนตรใี นทอ๎ งถ่นิ ไทย 4 ภาค หลักและวิธีการปฏิบัตินาฏศิลป์ การเคล่ือนไหวรํางกายประกอบทําทาง บทเพลง และสถานการณ์ตําง ๆ ความร๎ูพื้นฐานเกี่ยวกับราวง มาตรฐาน นาฏศิลป์พ้ืนเมือง การแสดงนาฏศิลป์ไทยและการบูรณาการนาฏศิลป์กับกลํุมสาระการ เรียนรอู๎ ่ืน ให๎ผ๎ูเรียนสังเกตภาพเก่ียวกับเคร่ืองดนตรี การบรรเลงดนตรีไทย การฟังดนตรี บรรทัด 5 เส๎น การเลียนแบบทําทางตําง ๆ การแสดงทําราประกอบเพลง ฝึกออกเสียงตามบันไดเสียงที่ กาหนดให๎ ปรบมือตามจังหวะเพลง อํานสัญลักษณ์โน๎ต การขับร๎องเพลงและการบรรเลงดนตรีแล๎ว ตอบคาถาม ฟังเพลงและอธิบายความสาคัญและบทบาทหน๎าที่ของเพลง เปลํงเสียงตามระดับเสียง เครื่องดนตรี วาดภาพเครื่องดนตรีได๎สอดคล๎องกับเคร่ืองดนตรี ผู๎เรียนสามารถเขียนอธิบายและวิเคราะห์ ความสาคญั ของดนตรแี ละนาฏศลิ ป์ได๎ โดยใช๎ประสบการณ์เดิม สามารถปรบมือได๎ตรงตามจังหวะของ ดนตรี เห็นประโยชน์ของดนตรีและนาฏศิลป์ แสดงทําราตําง ๆ ได๎ถูกต๎อง มีความคิดจินตนาการในการ สร๎างสรรค์ทําทางตําง ๆ อยํางอิสระและเต็มความสามารถ ฟังดนตรี และชมการแสดงนาฏศิลป์ได๎ด๎วย อารมณส์ ุนทรี ผ๎ูเรียนเห็นคุณคําและความสาคัญของศิลปวัฒนธรรมทางดนตรี-นาฏศิลป์ นาความรู๎มา ประยุกตใ์ ช๎ในชวี ิตประจาวนั ไดอ๎ ยํางเหมาะสม และมีจติ สาธารณะในการอนรุ กั ษ์ศลิ ปวฒั นธรรมไทย รหัสตัวชว้ี ัด ศ 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9, ป.3/10
82 ศ 1.2 ป.3/1, ป.3/2 ศ 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7 ศ 2.2 ป.3/1, ป.3/2 ศ 3.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5 ศ 3.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 รวมทัง้ หมด 29 ตวั ช้วี ัด
83 ศ๑๔๑๐๑ ศิลปะ รายวชิ าพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา 80 ช่วั โมง ___________________________________________________________________________ เปรียบเทียบและอภิปราย เกี่ยวกับเส๎น สี รูปรําง รูปทรง พ้ืนผิว พ้ืนท่ีวําง การแบํงวรรณะสี การเลือกใช๎วรรณะสีในงานทัศนศิลป์ การเปรียบเทียบความร๎ูสึกท่ีถํายทอดผํานงานทัศนศิลป์ งานพิมพ์ จากแมํพิมพ์ ธรรมชาติ แมํพิมพ์จากการแกะสลัก แมํพิมพ์จากแผํนพลาสติก การจัดระยะความลึก นา้ หนกั และแสงเงาในการวาดภาพ และงานทศั นศลิ ปใ์ นวฒั นธรรมท๎องถิ่น กจิ กรรมการเรียนร๎ูมุํงเน๎นให๎มีความรู๎และเข๎าใจเกี่ยวกับรูปรําง รูปทรงและทัศนธาตุของส่ิงตําง ๆ ในธรรมชาติและงานทัศนศิลป์ มีทักษะพื้นฐานการใช๎วัสดุอุปกรณ์สร๎างผลงานเพื่อถํายทอดความคิด ความรสู๎ กึ ออกมาเปน็ ผลงาน มกี ารสํงเสริมความคิดสร๎างสรรค์และจนิ ตนาการ สงํ เสริมกิจกรรมท่ีบูรณา การรํวมกบั กลุํมสาระการเรยี นรอู๎ ืน่ และสํงเสริมการเรียนรู๎ทัศนศิลป์ในท๎องถ่ิน มีการประเมินชิ้นงานโดย ใช๎เกณฑ์การให๎คะแนน (Rubrics) มีการรํวมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงาน มีความคิดริเริ่มสร๎างสรรค์ มีจินตนาการทางศิลปะ สนใจในการปฏิบัติงานศิลปะและทางาน รวํ มกบั ผู๎อ่นื อยํางมคี วามสขุ ศึกษาและปฏบิ ัตเิ กี่ยวกับเครื่องดนตรปี ระเภทตาํ ง ๆ เสียงของเครื่องดนตรี การใชแ๎ ละการดูแล รักษาเครื่องดนตรี จงั หวะ ทานอง และประโยคเพลง โนต๎ ดนตรสี ากล โนต๎ ดนตรีไทย หลักและวธิ ีการขับ รอ๎ งเพลง วถิ ีชวี ิตไทยกับดนตรีและเพลงพืน้ บ๎าน การอนุรักษ์สํงเสริมวฒั นธรรมทางดนตรีไทย การ เคลื่อนไหวประกอบจงั หวะพ้นื เมือง การฝึกปฏบิ ัตินาฏยศัพทแ์ ละภาษาทําทางนาฏศิลป์ไทย การแสดง นาฏศิลปไ์ ทย การละคร และนาฏศลิ ป์ไทยกับการแสดงท๎องถิ่น ให๎ผ๎ูเรียนได๎ใช๎กระบวนการคิดวิเคราะห์ การสรุปความรู๎ การให๎เหตุผล การจัดระบบความคิด เป็นแผนภาพ การแก๎ปัญหาเก่ียวกับเรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีไทยและเคร่ืองดนตรีสากล การอําน เขียนตัวโน๎ตสากล สัญลักษณ์โน๎ตดนตรีไทยและสากล ทําทางรํายราประกอบเพลง อธิบายเกี่ยวกับวิถี ชีวิต การแสดงพื้นเมืองตาํ ง ๆ ฝึกขับร๎องตามหลักและวิธกี ารขับร๎อง ปฏิบัติเก่ียวกับนาฏศิลป์และแสดง ความคิดเห็นเก่ียวกับการอนุรักษ์นาฏศิลป์ไทยและสากล การละคร และการแสดงจากวัฒนธรรมท๎องถ่ิน สามารถปฏิบัติกิจกรรมเกี่ยวกับดนตรีและนาฏศิลป์ได๎อยํางเหมาะสม เกิดความคิดสร๎างสรรค์ และ จินตนาการมากขึ้น สามารถใช๎และดูแลรักษาเคร่ืองดนตรีได๎อยํางเหมาะสม เกิดสุนทรียะท่ีดีในการฟัง ดนตรี เห็นประโยชน์และคุณคําของดนตรีและนาฏศิลป์ที่เกี่ยวข๎องในชีวิตประจาวันและนาความรู๎ ด๎านดนตรี-นาฏศิลป์ มาประยุกต์ใช๎ในชีวิตประจาวันได๎เหมาะสม เห็นความสาคัญของดนตรี-นาฏศิลป์ท่ี เปน็ มรดก เอกลักษณแ์ ละวฒั นธรรมของชาติ รหัสตวั ชว้ี ดั ศ 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8, ป.4/9 ศ 1.2 ป.4/1, ป.4/2 ศ 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7
84 ศ 2.2 ป.4/1, ป.4/2 ศ 3.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5 ศ 3.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 รวมทั้งหมด 29 ตัวช้ีวัด
85 ศ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ รายวิชาพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ เวลา 80 ช่วั โมง ___________________________________________________________________________ บรรยายและเปรียบเทียบจังหวะและตาแหนํงของส่ิงตําง ๆ ท่ีปรากฏในสิ่งแวดล๎อมและงานทัศนศิลป์ ปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์และการส่ือความหมายในงานทัศนศิลป์ กลํุมสีที่มีน้าหนักและกลุํมสีท่ีไมํมี นา้ หนกั น้าหนักแสงเงาและวรรณะสี การปั้นจากดินน้ามันหรือดินเหนียวตามจินตนาการ งานพิมพ์ภาพจาก ดอกไม๎ วัสดุตําง ๆ แมํพิมพ์ดินเหนียว และแมํพิมพ์กระดาษ งานทัศนศิลป์ท่ีสะท๎อนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาใน ท๎องถ่นิ กิจกรรมการเรียนรู๎มุํงเน๎นให๎มีความรู๎และเข๎าใจเก่ียวกับรูปรําง รูปทรงและทัศนธาตุของสิ่งตําง ๆ ใน ธรรมชาติและงานทัศนศิลป์ มีทักษะพ้ืนฐานการใช๎วัสดุอุปกรณ์สร๎างผลงาน เพื่อถํายทอดความคิด ความร๎ูสึก ออกมาเป็นผลงาน มกี ารสงํ เสริมความคิดสร๎างสรรค์และจินตนาการ สํงเสริมกิจกรรมท่ีบูรณาการรํวมกับกลํุม สาระการเรียนรู๎อ่ืน และสํงเสริมการเรียนร๎ูทัศนศิลป์ในท๎องถ่ิน มีการประเมินชิ้นงานโดยใช๎เกณฑ์การให๎ คะแนน (Rubrics) มีการรํวมแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นเกีย่ วกบั ผลงาน มีความคิดริเริ่มสร๎างสรรค์ มีจินตนาการทางศิลปะ สนใจในการปฏิบัติงานศิลปะ และทางานรํวมกับผ๎ูอื่น อยาํ งมีความสขุ ศกึ ษาและปฏบิ ตั เิ กย่ี วกับเครื่องดนตรีไทยและสากลประกอบจังหวะและทานอง วงดนตรีไทย วงดนตรีสากล องค์ประกอบดนตรี เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี หลักการขับร๎อง ดนตรีกับการแสดงนาฏศิลป์ ดนตรีกับ ประเพณีท๎องถิ่น การแสดงทําทางประกอบนิทานและบทเพลง นาฏยศพั ทแ์ ละภาษาทําราทางนาฏศิลป์ไทยการแสดง นาฏศลิ ป์ไทย องค์ประกอบนาฏศิลป์ ละคร หลักการชมการแสดงนาฏศิลป์ไทย และนาฏศลิ ปส์ ากล ให๎นักเรียนสังเกตภาพเคร่ืองดนตรีไทย เคร่ืองดนตรีสากล วงดนตรีไทย วงดนตรีสากล ตัวโน๎ต ประเพณีท๎องถิ่น การแสดงนาฏศิลป์ เพื่อวิเคราะห์และอธิบายเก่ียวกับภาพด๎วยประสบการณ์และใช๎ทักษะ กระบวนการคิดตําง ๆ บันทึกตัวโน๎ต ฝึกขับร๎องเพลง และปฏิบัติทําราประกอบเพลงจากภาพที่กาหนดได๎อยําง ถูกต๎องเหมาะสม สามารถปฏิบัติกิจกรรมเกี่ยวกับดนตรีและนาฏศิลป์ได๎อยํางเหมาะสม เกิดความคิดสร๎างสรรค์ จินตนาการ เห็นคณุ คํา และตระหนักถงึ ความสาคัญของดนตรีและนาฏศิลป์ที่เป็นมรดก เอกลักษณ์ของชาติที่สะท๎อน ถึงวัฒนธรรม ประเพณี และสามารถนาความร๎ูทางดนตรี และนาฏศิลป์มาประยุกต์ใช๎ในชีวิตประจาวันได๎อยําง เหมาะสม รหสั ตวั ชว้ี ดั ศ 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7 ศ 1.2 ป.5/1, ป.5/2 ศ 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7 ศ 2.2 ป.5/1, ป.5/2 ศ 3.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป5/6 ศ 3.2 ป.5/1, ป.5/2 รวมทง้ั หมด 17 ตัวชีว้ ัด
86 ศ๑๖๑๐๑ ศิลปะ รายวิชาพน้ื ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ เวลา 80 ชวั่ โมง ศึกษาและอธิบายความสมดุล ขนาด สัดสํวน รูปและพื้นที่วําง การใช๎สีคูํตรงข๎าม รูป 2 มิติ และ รูป 3 มิติ รูปทรงกับแสงเงา หลักการลงน้าหนักแสงเงา เงาตกกระทบ หลักการเพ่ิมและลดในงานป้ัน การ สร๎างงานทัศนศิลป์เป็นแผนภาพ แผนผังและภาพประกอบ บทบาทของงานทัศนศิลป์ในชีวิตและสังคม อิทธิพลของศาสนาและวฒั นธรรมในท๎องถ่ินท่มี ีผลตํอการสร๎างงานทัศนศิลป์ โดยใช๎การบรรยาย อภิปรายให๎มีความรู๎และเข๎าใจเกี่ยวกับรูปรําง รูปทรงและทัศนธาตุของสิ่ง ๆ ตําง ๆในธรรมชาติและงานทัศนศิลป์ มีทักษะพื้นฐานการใช๎วัสดุอุปกรณ์สร๎างผลงาน เพ่ือถํายทอดความคิด ความรู๎สึก ออกมาเป็นผลงาน มีการสํงเสริมความคิดสร๎างสรรค์และจินตนาการ สํงเสริมกิจกรรมที่บูรณา การรํวมกบั กลมุํ สาระการเรียนร๎ูอืน่ และสํงเสรมิ การเรียนร๎ูทัศนศลิ ป์ในท๎องถน่ิ มีความคิดริเริ่มสร๎างสรรค์ มีจินตนาการทางศิลปะ สนใจในการปฏิบัติงานศิลปะ และทางาน รํวมกับผ๎ูอน่ื อยํางมคี วามสขุ ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับองค์ประกอบดนตรี ศัพท์สังคีต ประเภทและหน๎าที่ของเคร่ืองดนตรี พื้นบ๎าน ประเภทเครื่องดนตรีสากล โน๎ตเพลงไทย โน๎ตเพลงสากล การขับร๎อง การวิเคราะห์และการฟัง เพลง วิวัฒนาการดนตรีไทย การประดิษฐ์ทําทางประกอบเพลงพ้ืนเมือง นาฏยศัพท์และภาษาทําทาง นาฏศิลปไ์ ทย การแสดงนาฏศิลป์และละคร มารยาทในการชมการแสดงนาฏศิลป์และละคร บทบาทหน๎าท่ี งานนาฏศิลป์และการละคร ประวตั นิ าฏศลิ ป์และการละครของไทย ให๎นักเรียนสังเกตภาพเครื่องดนตรีไทย นาฏยศัพท์ ภาษาทําทางนาฏศิลป์ไทย การรํายรา ประกอบ เพลงตําง ๆ การเป็นผ๎ูชมที่ดีและไมํดี เพ่ือวิเคราะห์และเขียนอธิบายภาพการฝึกการขับร๎อง การวิเคราะห์เพลง การฟังเพลง วิเคราะห์บทบาทหน๎าท่ีงานนาฏศิลป์และการละคร การสรุปความร๎ู ทางด๎านดนตรีและนาฏศิลป์ สามารถจาแนก บรรยาย อําน เขียนแสดงความรู๎สึก อภิปรายแสดงความ คิดเห็นได๎จากประสบการณ์ มีการใช๎ความคิดสร๎างสรรค์ การใช๎จินตนาการของตนเองอยํางอิสระ สามารถเข๎าใจและปฏบิ ัติเกี่ยวกับดนตรีและนาฏศลิ ปโ์ ดยใช๎ทักษะกระบวนการตําง ๆ ไดด๎ ๎วยตนเอง เห็นคุณคําและความสาคัญของศิลปวัฒนธรรมไทยทางดนตรี – นาฏศิลป์ นาความรู๎ท่ีได๎มา ประยุกต์ใช๎ ในชีวิตประจาวันได๎อยํางเหมาะสม เกิดความรักและหวงแหนในศิลปวัฒนธรรมไทยท่ีเป็น มรดกของชาตมิ ีจิตสาธารณะในการอนุรักษ์ศลิ ปวัฒนธรรมไทยให๎คงอยํสู บื ไป รหสั ตัวช้ีวัด ศ 2.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6 ศ 2.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3 ศ 3.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6 ศ 3.2 ป.6/1, ป.6/2 ศ 1.1 ป.6/1, ป.6/2 , ป.6/3, ป.6/4 , ป.6/5 , ป.6/6, ป.6/7 ศ 1.2 ป.6/1, ป.6/2 รวมทงั้ หมด 26 ตวั ชว้ี ดั
87 กล่มุ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี ระดบั ประถมศกึ ษา รายวชิ าพนื้ ฐาน ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี จานวน 40 ชวั่ โมง ง๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน 40 ชว่ั โมง ง๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน 40 ชว่ั โมง ง๑๔๑๐๑ การงานอาชพี จานวน ๔0 ชั่วโมง ง๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๔0 ช่วั โมง ง๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ จานวน ๔0 ชั่วโมง
88 ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี รายวชิ าพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ เวลา 40 ชวั่ โมง ___________________________________________________________________________ บอกประเภทของงานบ๎าน ประโยชน์ของการทางานบ๎าน การทางานเพ่ือชํวยเหลือตนเอง เสื้อผ๎าและเครื่องแตํงกายในชีวิตประจาวัน ประโยชน์ของเสื้อผ๎าและเครื่องแตํงกาย การแตํงกายด๎วย ตนเองความสาคัญของงานเกษตร ประเภทของงานเกษตร การนาผลผลิตจากพืชและสัตว์ไปใช๎ ประโยชน์ การดแู ลรกั ษาพชื ประเภทของงานประดษิ ฐ์ ประโยชน์ของงานประดิษฐ์ การพับกระดาษเป็น ของเลํน เลือกใช๎อุปกรณ์ให๎เหมาะสมกับลักษณะงาน เรียงลาดับขั้นตอนการทางานในรูปแบบแผนภาพ ฝึกการวางแผนและปฏิบัติงานตําง ๆ อยํางมีหลักการและใช๎กระบวนการกลํุมในการทางานตามท่ี วางแผนไว๎และประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านรวํ มกนั มีเจตคติที่ดีตํอการทางาน ปลูกจิตสานึกในการใช๎พลังงานและทรัพยากรอยํางประหยัดและ คมุ๎ คาํ สรา๎ งเจตคติที่ดีตํอการประกอบอาชีพสุจรติ และนาความรู๎ไปใช๎ในชวี ติ ประจาวัน รหสั ตัวชวี้ ดั ง 1.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 รวมท้ังหมด 3 ตัวช้วี ัด
89 ง๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ รายวชิ าพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา 40 ช่วั โมง ___________________________________________________________________________ บอกวิธีการและประโยชน์ของบทบาทและหน๎าที่ของสมาชิกในบ๎าน ประโยชน์ของการทางานบ๎าน เพอ่ื ชํวยเหลือตนเองและครอบครวั การกวาดบ๎าน การล๎างอุปกรณ์เคร่ืองใช๎ในการรับประทานอาหาร การแตงํ ตัวไปโรงเรียน การดแู ลรกั ษาเสื้อผ๎าขณะสวมใสํ การจัดวาง การเก็บเส้ือผา๎ และรองเท๎า การลา๎ งผัก และผลไม๎ การจัดเตรียมผักและผลไม๎ การใช๎วัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือ ให๎เหมาะสมกับงาน และปลอดภัย การเพาะเมล็ด การดูแลแปลงเพาะกล๎า การออกแบบสิ่งของเครื่องใช๎ในชีวิตประจาวัน การประดิษฐ์ของใช๎ สํวนตวั เลือกใช๎อุปกรณ์ให๎เหมาะสมกับลักษณะงาน เรียงลาดับขั้นตอนการทางานในรูปแบบแผนภาพ ฝึกการวางแผนและปฏิบัติงานตําง ๆ อยํางมีหลักการและใช๎กระบวนการกลุํมในการทางานตามท่ี วางแผนไวแ๎ ละประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านรํวมกัน มีเจตคติที่ดีตํอการทางาน ปลูกจิตสานึกในการใช๎พลังงานและทรัพยากรอยํางประหยัดและ คมุ๎ คาํ สรา๎ งเจตคติทีด่ ีตํอการประกอบอาชีพสุจรติ และนาความรไ๎ู ปใชใ๎ นชีวิตประจาวัน รหสั ตัวช้วี ดั ง 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3 รวมทั้งหมด 3 ตัวช้วี ัด
90 ง๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ รายวชิ าพืน้ ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๓ เวลา 40 ชว่ั โมง __________________________________________________________________________ บอกประโยชน์ของการทางานบา๎ น การทางานเพอื่ ชวํ ยเหลอื ตนเอง ครอบครวั และสํวนรวม เส้ือผ๎าและเคร่ืองแตํงกายในชีวิตประจาวัน ประโยชน์ของเส้ือผ๎าและเคร่ืองแตํงกาย การแตํงกายด๎วย ตนเองความสาคัญของงานเกษตร ประเภทของงานเกษตร การนาผลผลิตจากพืชและสัตว์ไปใช๎ ประโยชน์ การดแู ลรักษาพชื ประเภทของงานประดิษฐ์ ประโยชนข์ องงานประดษิ ฐ์ เลือกใช๎อปุ กรณ์ให๎เหมาะสมกบั ลักษณะงาน เรยี งลาดบั ขน้ั ตอนการทางานในรปู แบบแผนภาพ ฝึกการวางแผนและปฏิบัติงานตําง ๆ อยํางมีหลักการและใช๎กระบวนการกลุํมในการทางานตามท่ี วางแผนไว๎และประเมินผลการปฏิบัตงิ านรํวมกนั มีเจตคตทิ ่ดี ตี อํ การทางาน ปลูกจติ สานกึ ในการใช๎พลงั งานและทรัพยากรอยํางประหยดั และคุ๎มคํา สร๎างเจตคติท่ดี ีตอํ การประกอบอาชพี สุจรติ และนาความรู๎ไปใช๎ในชีวิตประจาวัน รหสั ตัวชีว้ ดั ง 1.1ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 รวมท้ังหมด 3 ตัวชวี้ ัด
91 ง๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ รายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา 80 ชัว่ โมง ___________________________________________________________________________ วิเคราะห์และอธิบายเหตุผลในการดแู ลรักษาของใช๎สํวนตัว การจัดต๎ูเสื้อผ๎า การจัดโต๏ะเขียนหนังสือ การจัดกระเป๋านักเรียน การปลูกไม๎ดอกหรือไม๎ประดับ การซํอมแซมอุปกรณ์ เครื่องมือและเครื่องใช๎ การประดิษฐ์ของใช๎ ของตกแตํงจากใบตองและกระดาษ การจัดเก็บเอกสารสํวนตัว มีมารยาทในการ ปฏิบัติตน ในการต๎อนรับบิดามารดาหรือผ๎ูปกครองในโอกาสตําง ๆ การรับประทานอาหาร การใช๎ ห๎องเรียนห๎องน้าและหอ๎ งส๎วม อธบิ ายความหมายและความสาคญั ของอาชพี ฝึกปฏิบัติดูแลรักษาของใช๎สํวนตัว จัดตู๎เส้ือผ๎า จัดโต๏ะเขียนหนังสือ จัดกระเป๋านักเรียน ซํอมแซมอุปกรณ์ เครื่องมือและเครื่องใช๎ การปลูกไม๎ดอกหรือไม๎ประดับ ประดิษฐ์ของใช๎ ของตกแตํง จากใบตองและกระดาษ จัดเก็บเอกสารสํวนตัว โดยใช๎ทักษะกระบวนการทางานอยํางเป็นข้ันตอน การ จัดการ กระบวนการแกป๎ ัญหา การทางานรวํ มกันและการแสวงหาความร๎ู ใชร๎ ะบบปฏิบัติ มีความร๎ูความ เข๎าใจในการทางาน และรูจ๎ ักสรา๎ งองคค์ วามรูด๎ ว๎ ยตนเอง มเี จตคตทิ ่ดี ตี ํอการทางาน มมี ารยาท ขยัน อดทน รับผิดชอบ และซ่อื สตั ยใ์ นการทางาน ปลกู จิตสานึกในการใช๎พลังงานและทรัพยากรอยาํ งประหยัดและคุ๎มคํา สรา๎ งเจตคตทิ ี่ดีตํอการ ประกอบอาชีพที่สุจรติ ตลอดจนนาความร๎ไู ปใชใ๎ นชีวิตประจาวนั ได๎ รหสั ตวั ชวี้ ดั ง 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 ง 2.1 ป.4/1 รวมทั้งหมด 5 ตัวชว้ี ัด
92 ง๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ รายวชิ าพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา 80 ชัว่ โมง ___________________________________________________________________________ วเิ คราะห์และอธบิ ายการทางานกบั สมาชกิ ในครอบครัว ลักษณะงานบา๎ นทส่ี มาชกิ ทุกคนในครอบครวั ตอ๎ งชวํ ยกนั ทา มารยาทในการทางานกบั สมาชิกทุกคนในครอบครัว ประโยชน์ของการทางานบ๎านรํวมกับ สมาชิกในครอบครัว การจดั การงานบ๎านอยาํ งเปน็ ระบบ กระบวนการทางานบา๎ น แผนการทางานบา๎ นทด่ี ี การซํอมแซมเสื้อผ๎า สัญลกั ษณ์สากลในการดแู ลรกั ษาเสอ้ื ผ๎า การซักเส้ือผ๎าและการตากเสื้อผ๎า การเก็บเส้ือผ๎า และการพับเส้ือผ๎า การรีดเสื้อผ๎า ความร๎ูท่ัวไปเกี่ยวกับการปลูกพืช การซํอมแซมอุปกรณ์ของใช๎ในบ๎านการ ประดิษฐ์ของใช๎ ของตกแตงํ จากวัสดุเหลอื ใชท๎ ี่มีอยํูในท๎องถิ่น การทาบัญชี การจัดเก็บเอกสารสาคัญ การดูแล รกั ษาและใชส๎ มบัตสิ วํ นตวั สมบัตสิ มาชิกในครอบครัว และสมบตั ิสวํ นรวม ความสาคญั ของอาชีพในชุมชน เลือกใชอ๎ ปุ กรณ์ใหเ๎ หมาะสมกบั ลักษณะงาน เรียงลาดบั ข้ันตอนการทางานในรปู แบบแผนภาพ ความคิดการวางแผนและปฏิบัติงานตําง ๆ อยํางมีหลักการและใช๎กระบวนการกลุํมในการทางานตามท่ี วางแผนไว๎และประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านรวํ มกนั มเี จตคตทิ ด่ี ตี อํ การทางาน ปลกู จติ สานกึ ในการใชพ๎ ลงั งานและทรัพยากรอยํางประหยดั และคุ๎มคํา สรา๎ งเจตคตทิ ่ดี ตี อํ การประกอบอาชพี สุจรติ และนาความรไ๎ู ปใชใ๎ นชวี ติ ประจาวนั รหัสตวั ชว้ี ดั ง 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 ง 2.1 ป.5/1, ป.5/2 รวมท้ังหมด 6 ตัวชี้วัด
93 ง๑๖๑๐๑ การงานอาชพี รายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา 80 ชว่ั โมง ___________________________________________________________________________ วิเคราะห์และอธิบายการดูแลรักษาสมบัติภายในบ๎าน มารยาทในการทางานรํวมกับสมาชิกใน ครอบครัวและผู๎อืน่ การจัดอาหารให๎สมาชกิ ในครอบครัว การเตรียม การประกอบอาหารและเครื่องด่ืมให๎สมาชิก ในครอบครัว การเลี้ยงปลาสวยงาม วัสดุ อุปกรณ์ท่ีใช๎เลี้ยงปลาสวยงาม ประโยชน์ของการเล้ียงปลาสวยงาม ตวั อยาํ งการเลยี้ งปลาสวยงาม การติดต้ัง ประกอบของใช๎ในบ๎าน งานประดิษฐ์ของใช๎ ของตกแตํงให๎สมาชิกใน ครอบครัวหรอื ผ๎ูอ่ืนการบนั ทกึ รายรบั -รายจําย การจัดเก็บเอกสารทางการเงิน ความสาคัญของอาชีพ ประเภท ของอาชพี การสารวจตนเอง คณุ ธรรมในการประกอบอาชีพ เลือกใชอ๎ ปุ กรณใ์ ห๎เหมาะสมกบั ลกั ษณะงาน เรียงลาดบั ขนั้ ตอนการทางานในรปู แบบแผนภาพความคิด การวางแผนและปฏบิ ตั ิงานตําง ๆ อยํางมีหลกั การและใชก๎ ระบวนการกลํมุ ในการทางานตามท่วี างแผนไว๎ และประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านรํวมกัน มเี จตคตทิ ด่ี ีตํอการทางาน ปลูกจติ สานกึ ในการใช๎พลงั งานและทรพั ยากรอยํางประหยดั และคุ๎มคาํ สร๎างเจตคตทิ ีด่ ตี ํอการประกอบอาชีพสุจริต และนาความรูไ๎ ปใชใ๎ นชวี ติ ประจาวนั รหัสตวั ชว้ี ดั ง 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3 ง 2.1 ป.6/1, ป.6/2 รวมท้ังหมด 5 ตัวชว้ี ัด
94 กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ รายวชิ าพ้ืนฐาน ระดับประถมศกึ ษา อ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ จานวน 80 ชัว่ โมง อ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ จานวน 80 ชวั่ โมง อ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จานวน 80 ชว่ั โมง อ๑๔๑๐๑ ภาษาอังกฤษ จานวน 40 ชั่วโมง อ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จานวน 40 ชั่วโมง อ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษ จานวน 40 ช่วั โมง รายวิชาเพ่ิมเติม อ๑๑๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร จานวน 120 ชั่วโมง อ๑๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร จานวน 120 ชว่ั โมง อ๑๓๒๐๑ ภาษา อังกฤษเพือ่ การสอ่ื สาร จานวน 120 ช่ัวโมง อ๑๔๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่อื สาร จานวน ๑๒๐ ชั่วโมง อ๑๕๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอื่ การส่ือสาร จานวน ๑๒๐ ชว่ั โมง อ๑๖๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอื่ สาร จานวน ๑๒๐ ช่วั โมง
95 อ11101 ภาษาองั กฤษ รายวิชาพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 เวลา 80 ช่ัวโมง __________________________________________________________________________________________________________ ฟังและปฏิบัติตามคาสั่งงําย ๆ แล๎วระบุตัวอักษรและเสียง เลือกภาพตรงตามความหมายของคา ตอบคาถามจากการฟังเรื่องใกล๎ตัว ใช๎คาสั่งงําย ๆ ตามแบบท่ีฟังและบอกความต๎องการงําย ๆ ของตนเอง ตามแบบที่ฟัง ฟังแล๎วใชภ๎ าษาตํางประเทศเพอ่ื รวบรวมคาศพั ท์เก่ยี วขอ๎ งใกล๎ตัว พูดในสถานการณ์งําย ๆ ท่ีเกิดขึ้นในห๎องเรียน พูดโต๎ตอบด๎วยคาสั้น ๆ งํายๆ ในการส่ือสาร ระหวํางบุคคลตามแบบที่ฟัง พูดให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับตนเองและเร่ืองใกล๎ตัว พูดแล๎วทาทําประกอบตาม วัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา ระบตุ ัวอกั ษรและเสยี งตัวอักษรของภาษาตํางประเทศและภาษาไทย บอกชื่อ และคาศพั ทท์ ่ีเก่ียวกับเทศกาลสาคญั ของเจา๎ ของภาษาและบอกคาศัพท์ที่เก่ียวข๎องกับกลํุมสาระการเรียนรอ๎ู น่ื อาํ นออกเสียงและสะกดคางําย ๆ ถกู ตอ๎ งตามหลักการอําน เข๎ารํวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัย มีความสนุกสนานในการเรียน ภาษาอังกฤษและมีนิสัยท่ีดีในการฟังและพูด ใฝุเรียนร๎ูและเห็นคุณคําในตนเอง มีเจตคติที่ดีในการเรียน วิชาภาษาอังกฤษ รหสั ตัวชี้วัด ต 1.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4 ต 1.2 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4 ต 1.3 ป.1/1 ต 2.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 ต 2.2 ป.1/1 ต 3.1 ป.1/1 ต 4.1 ป.1/1 ต 4.2 ป.1/1 รวมทั้งหมด 16 ตวั ชี้วดั
96 อ12101 ภาษาอังกฤษ รายวิชาพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 80 ชั่วโมง __________________________________________________________________________________________________________ ฟังสถานการณ์งําย ๆ ที่เกิดข้ึนในห๎องเรียนแล๎วปฏิบัติตามคาส่ัง คาขอร๎องงําย ๆ โดยระบุ ตัวอักษรและเสยี ง แลว๎ เลือกภาพตรงตามความหมายของคา กลุํมคาและประโยคที่ฟัง ใช๎คาส่ังและคา ขอรอ๎ งงาํ ย ๆ ตามแบบท่ีฟงั พูดในสถานการณ์งําย ๆท่ีเกิดข้ึนในห๎องเรียน พูดโต๎ตอบด๎วยคางําย ๆ ในการส่ือสารระหวําง บุคคลตามแบบที่ฟัง พูดขอและให๎ข๎อมูลงําย ๆเกี่ยวกับตนเองตามแบบท่ีฟัง พูดให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับตนเอง และเรอ่ื งใกล๎ตวั พดู และทาทาํ ทางประกอบตามวัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา ตอบคาถามจากการฟังประโยค บทสนทนาหรอื นทิ านงาํ ย ๆ ท่ีมภี าพประกอบ บอกชอื่ คาศัพทเ์ กยี่ วกับเทศกาลสาคัญของเจ๎าของภาษา ระบุ ตัวอักษรและเสียงตัวอักษรของภาษาตํางประเทศและภาษาไทย บอกคาศัพท์ท่ีเกี่ยวข๎องกับกลุํมสาระการ เรียนรอู๎ ืน่ อํานออกเสยี งคา สะกดคาและอํานประโยคงําย ๆ ถูกต๎องตามหลกั การอาํ น เขา๎ รวํ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่เี หมาะสมกับวัย ใช๎ภาษาตํางประเทศเพ่ือรวบรวมคาศัพท์ ที่เกี่ยวข๎องใกล๎ตัวมีเจตคติทีด่ ใี นการเรยี นวชิ าภาษาองั กฤษ ใฝุรู๎ใฝุเรยี นและเห็นคณุ คาํ ในตนเอง สาระท้องถ่นิ รหสั ตวั ชี้วัด ต 1.1 ป 2/1 ป 2/2 ป 2/3 ป 2/4 ต 1.2 ป 2/1 ป 2/2 ป 2/3 ป 2/4 ต 1.3 ป 2/1 ต 2.1 ป 2/1 ป 2/2 ป 2/3 ต 2.2 ป 2/1 ต 3.1 ป 2/1 ต 4.1 ป 2/1 ต 4.2 ป 2/1 รวม 16 ตวั ชี้วัด
97 อ13101 ภาษาองั กฤษ รายวชิ าพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 80 ชวั่ โมง __________________________________________________________________________________________________________ ฟังคาสั่ง คาขอร๎องจากสถานการณ์งําย ๆ ในห๎องเรียน สิ่งตํางๆที่ใกล๎ตัวหรือกิจกรรมตํางๆแล๎ว ปฏิบัติตามด๎วยการเลือก ระบุภาพหรือสัญลักษณ์ตรงตามความหมายของกลํุมคาและประโยคท่ีฟัง รวมท้ัง ฟังประโยคบทสนทนาบทสนทนาหรือนิทานงําย ๆ แล๎วตอบคาถาม พดู โตต๎ อบด๎วยคาส้ัน ๆ งําย ๆ ในการส่อื สารระหวํางบคุ คล บอกความตอ๎ งการ ความร๎ูสกึ ขอและให๎ข๎อมูลงํายๆเกี่ยวกับตนเอง เพ่ือนและเร่ืองใกล๎ตัว บอกช่ือคาศัพท์งําย ๆ เก่ียวกับเทศกาล/วัน สาคัญ/งานฉลองและชีวิตความเป็นอยํูของเจ๎าของภาษา พูดและทาทําประกอบตามมารยาทสังคม/ วัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา บอกความแตกตํางของเสียงตัวอักษร คา กลุํมคา และประโยคงําย ๆ ของ ภาษาตาํ งประเทศและภาษาไทย การอํานออกเสียงคา กลุํมคา ประโยค คาส่ัง คาขอร๎อง บทสนทนานิทานงําย ๆ บทพูดเข๎าจังหวะ (chant) การสะกดคา การจัดหมวดหมูํคาตามประเภทของบุคคล สัตว์ สิ่งของ คาศัพท์ท่ีเก่ียวข๎องกับกลุํม สาระการเรียนร๎ูอืน่ และคาศัพท์ท่ีใกล๎ตวั การใช๎ประโยคคาสง่ั คาขอร๎อง บทสนทนาถูกตอ๎ งตามโครงสรา๎ งและหลกั การใชภ๎ าษา เข๎ารํวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะกับวัยมีความมํุงมั่น ใฝุร๎ูใฝุเรียนรักความเป็นไทย และเรียนร๎สู คํู วามเปน็ สากล รหัสตัวชี้วัด ต 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4 ต 1.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5 ต 1.3 ป.3/1, ป.3/2 ต 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ต 2.2 ป.3/1 ต 3.1 ป.3/1 ต 4.1 ป.3/1 ต 4.2 ป.3/1 รวมท้ังหมด 18 ตวั ชี้วัด
98 อ14101 ภาษาอังกฤษ รายวชิ าพ้นื ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 40 ช่ัวโมง __________________________________________________________________________________________________________ ฟังคาส่ัง คาขอร๎องและคาแนะนา(instructions)งําย ๆ จากสถานการณ์ในห๎องเรียน สถานศึกษา สง่ิ ตําง ๆ ทใ่ี กล๎ตัวหรือกจิ กรรมตําง ๆ แลว๎ ปฏบิ ตั ิตามดว๎ ยการเลือก ระบุภาพ สัญลักษณ์หรือเคร่ืองหมาย ตรงตามความหมายของประโยคและข๎อความสั้น ๆ ที่ฟัง รวมทั้งฟังประโยค บทสนทนาและนิทานงําย ๆ แล๎วตอบคาถาม พดู โต๎ตอบในการสื่อสารระหวาํ งบุคคล บอกความรส๎ู กึ ความตอ๎ งการ ความคดิ เหน็ ความสัมพันธ์ ของสง่ิ ใกล๎ตัวและกจิ กรรมตาํ ง ๆ ขอและให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง เพื่อนและครอบครัว ขอความชํวยเหลือ ในสถานการณ์งําย ๆ ท่ีเกิดข้ึนในห๎องเรียนและสถานศึกษา พูดและทาทําประกอบตามมารยาทสังคม/ วัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา บอกความแตกตํางของเสียง ตัวอักษร คา กลํุมคา ประโยค และข๎อความ ของภาษา ตํางประเทศและภาษาไทย ความเหมือน/ความแตกตํางระหวํางเทศกาลและงานฉลองตาม วัฒนธรรมของ เจ๎าของภาษากับของไทย อํานออกเสียงคา กลํุมคา ประโยค คาสง่ั คาขอรอ๎ ง คาแนะนา (instructions)งาํ ย ๆ ขอ๎ ความงําย ๆส้ัน ๆ บทสนทนา บทพูดเข๎าจังหวะ นิทานงํายๆคาศัพท์ที่เกี่ยวข๎องกับกลุํมสาระการเรียนร๎ู อน่ื และคาศพั ท์ท่ีใกลต๎ วั การสะกดคา การเลือก/ระบุภาพ สญั ลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมาย ของประโยคและข๎อความสนั้ ๆ ในสถานการณ์ทเี่ กดิ ข้ึนในหอ๎ งเรยี นและสถานศกึ ษา เขยี นโต๎ตอบในการสอื่ สารระหวาํ งบุคคล ความต๎องการของตนเอง ขอความชํวยเหลอื ใน สถานการณง์ ําย ๆ ข๎อมลู เก่ียวกบั ตนเอง เร่อื งใกล๎ตัว นาเสนอคาศพั ท์ทเี่ ก่ยี วข๎องกบั กลุมํ สาระการเรียนรู๎ อนื่ และวาดภาพแสดงความสมั พันธข์ องส่ิงตําง ๆ ใกล๎ตวั ใช๎ประโยคคาส่ัง คาขอร๎อง คาแนะนางําย ๆ (instructions)ข๎อความงําย ๆ สั้น ๆ และบทสนทนา ถกู ตอ๎ งตามโครงสร๎างและหลักการใช๎ภาษา เข๎ารํวมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะกับวัยมีความมุํงม่ัน ใฝุร๎ูใฝุเรียนมีสุนทรียภาพด๎าน ภาษา ศลิ ปะ รกั ความเป็นไทยและเรยี นรส๎ู ํูความเปน็ สากล รหสั ตวั ชี้วัด ต 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 ต 1.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5 ต 1.3 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ต 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ต 2.2 ป.4/1, ป.4/2 ต 3.1 ป.4/1 ต 4.1 ป.4/1 ต 4.2 ป.4/1 รวมท้ังหมด 20 ตัวช้ีวัด
99 อ15101 ภาษาอังกฤษ รายวชิ าพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 40 ชว่ั โมง __________________________________________________________________________________________________________ ฟังคาสั่ง คาขอรอ๎ ง และคาแนะนางาํ ย ๆ จากสถานการณ์ในห๎องเรียนและสถานศึกษา แล๎วปฏิบัติ ตามด๎วยการเลือก ระบุภาพ สัญลักษณ์ เคร่ืองหมาย แผนผัง และแผนภูมิแสดงข๎อมูลตําง ๆ ตรงตาม ความหมายของประโยคและข๎อความสั้น ๆ ท่ีฟัง รวมท้ังฟังบทสนทนา นิทานงําย ๆหรือเร่ืองส้ัน ๆ แล๎ว บอกใจความสาคัญและตอบคาถาม พูดโตต๎ อบในการส่ือสารระหวํางบุคคล ความร๎ูสกึ เก่ียวกับเร่ืองตําง ๆ ใกล๎ตัวและกิจกรรมตํางๆ พรอ๎ มทัง้ ให๎เหตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ บอกความต๎องการ ความคดิ เหน็ ความสมั พนั ธข์ องสง่ิ ใกล๎ตัวและ กิจกรรมตําง ๆ ขอและให๎ข๎อมลู เก่ียวกบั ตนเอง เพื่อนและครอบครัว ขอความชวํ ยเหลือ ตอบรบั และปฏเิ สธ การให๎ความชํวยเหลอื ในสถานการณ์งาํ ย ๆ ใช๎ถ๎อยคาน้าเสยี งและกริ ิยาทําทางอยํางสภุ าพตามมารยาท สงั คม/ วฒั นธรรมของเจา๎ ของภาษา ตอบคาถาม/บอกความสาคัญ บอกความเหมือน/ความแตกตาํ ง ระหวาํ งเทศกาล งานฉลอง ชีวิตความเปน็ อยํงู าํ ยๆ ของเจา๎ ของภาษากับของไทย อํานออกเสียงประโยค ข๎อความและบทกลอนสั้น ๆ คาส่ัง คาขอร๎อง คาแนะนางําย ๆ บทสนทนา นิทานงําย ๆ เร่ืองส้ัน ๆ แผนผัง และแผนภูมิแสดงข๎อมูลตําง ๆ การอํานแล๎วจับใจความสาคัญ ตอบ คาถามบทสนทนา นิทานงําย ๆ หรือเรื่องสั้น ๆ เลือก/ระบุภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตาม ความหมายของประโยคและขอ๎ ความสั้น ๆ ในสถานการณท์ เี่ กิดขึ้นในห๎องเรยี นและสถานศกึ ษา เขยี นโต๎ตอบในการสอ่ื สารระหวํางบุคคล แสดงความร๎ูสึกของตนเองเก่ียวกับเรื่องตํางๆ ใกล๎ตัว และ กิจกรรมตําง ๆพร๎อมท้ังให๎เหตุผลสั้น ๆ ประกอบ ขอและให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับตนเองเพื่อน ครอบครัวและเร่ือง ใกล๎ตัว เขียนภาพ แผนผัง และแผนภูมิแสดงข๎อมูลตําง ๆ นาเสนอคาศัพท์ท่ีเกี่ยวข๎องกับกลํุมสาระการ เรยี นรูอ๎ ่นื และวาดภาพแสดงความสมั พนั ธข์ องสงิ่ ตาํ ง ๆ ใกลต๎ ัว ใชป๎ ระโยคคาสงั่ คาขอร๎อง คาแนะนางําย ๆ ขอ๎ ความงาํ ย ๆ สั้น ๆ บทสนทนา การใช๎เครื่องหมาย วรรคตอน และการลาดับคา(order)ตามโครงสร๎างประโยคของภาษาตํางประเทศและภาษาไทยถูกต๎องตาม โครงสร๎างและหลักการใชภ๎ าษา เขา๎ รวํ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะกับวัยมีความมํุงมั่น ใฝุร๎ูใฝุเรียนมีสุนทรียภาพด๎าน ภาษา วัฒนธรรม ศลิ ปะ รักความเป็นไทยและเรียนรู๎สํคู วามเปน็ สากล รหัสตัวชี้วดั ต 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 ต 1.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5 ต 1.3 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3 ต 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3 ต 2.2 ป.5/1, ป.5/2 ต 3.1 ป.5/1 ต 4.1 ป.5/1 ต 4.2 ป.5/1 รวมท้ังหมด 20 ตวั ชว้ี ัด
100 อ16101 ภาษาองั กฤษ รายวชิ าพืน้ ฐาน กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 40 ช่วั โมง __________________________________________________________________________________________________________ ฟงั คาสั่ง คาขอร๎อง และคาแนะนางาํ ย ๆ จากสถานการณ์ในห๎องเรียนและสถานศึกษา แล๎วปฏิบัติ ตามด๎วยการเลอื ก ระบปุ ระโยคขอ๎ ความสัน้ ๆ ตรงตามภาพสัญลักษณ์ เครื่องหมาย แผนผัง และแผนภูมิ แสดงขอ๎ มลู ตาํ ง ๆ ตรงตามความหมายของประโยคและขอ๎ ความสนั้ ๆ ทฟี่ งั รวมทัง้ ฟงั บทสนทนา นิทานงําย ๆ เร่ืองส้นั ๆและเร่ืองเลํา แลว๎ บอกใจความสาคัญและตอบคาถาม พูดโต๎ตอบในการส่ือสารระหวํางบุคคล ความรู๎สึกเก่ียวกับเรื่องตําง ๆ ใกล๎ตัวและกิจกรรมตํางๆ พร๎อมท้ังให๎เหตุผลสั้น ๆ ประกอบ บอกความต๎องการ ความคิดเห็น ความสัมพันธ์ของสิ่งใกล๎ตัวและ กิจกรรมตําง ๆ ขอและให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง เพ่ือนและครอบครัว ขอความชํวยเหลือ ตอบรับและ ปฏิเสธการให๎ความชํวยเหลือในสถานการณ์งําย ๆ ใช๎ถ๎อยคาน้าเสียงและกิริยาทําทางอยํางสุภาพตาม มารยาทสงั คม/ วฒั นธรรมของเจ๎าของภาษา บอกความเหมือน/ความแตกตํางระหวํางเทศกาล งานฉลอง ชีวิตความเปน็ อยงํู ําย ๆ ของเจา๎ ของภาษากบั ของไทย อํานออกเสียงประโยค ข๎อความและบทกลอนส้ัน ๆ คาส่ัง คาขอร๎อง คาแนะนางําย ๆ บทสนทนา นิทานงําย ๆ เร่ืองสั้น ๆ แผนผัง และแผนภูมิแสดงข๎อมูลตํางๆ การอํานแล๎วจับใจความสาคัญ ตอบ คาถามบทสนทนา นทิ านงาํ ย ๆ เรอ่ื งสน้ั ๆ เรื่องเลํา เลือก/ระบุประโยค สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรง ตามความหมายของประโยคและขอ๎ ความส้นั ๆ ในสถานการณ์ทเี่ กิดขึ้นในหอ๎ งเรยี นและสถานศึกษา เขยี นโตต๎ อบในการส่ือสารระหวาํ งบคุ คล แสดงความรูส๎ ึกของตนเองเกย่ี วกับเรื่องตําง ๆ ใกล๎ตัว และ กิจกรรมตําง ๆพร๎อมทั้งให๎เหตุผลสั้น ๆ ประกอบ ขอและให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับตนเองเพื่อน ครอบครัวและเรื่อง ใกล๎ตัว เขียนภาพ แผนผัง และแผนภูมิแสดงข๎อมูลตําง ๆ นาเสนอคาศัพท์ท่ีเกี่ยวข๎องกับกลุํมสาระการ เรยี นร๎อู ่ืนและวาดภาพแสดงความสมั พันธข์ องส่ิงตําง ๆ ใกลต๎ ัว ใช๎ประโยคคาส่ัง คาขอร๎อง คาแนะนางําย ๆ ข๎อความงําย ๆ ส้ัน ๆ บทสนทนา การออกเสียง ประโยคชนิดตําง ๆ การใช๎เคร่ืองหมายวรรคตอนและการลาดับคาตามโครงสร๎างประโยคของ ภาษาตํางประเทศและภาษาไทยถูกต๎องตามหลกั การใชภ๎ าษา เข๎ารํวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะกับวัยมีความมํุงม่ัน ใฝุร๎ูใฝุเรียนมีสุนทรียภาพด๎าน ภาษา วฒั นธรรม ศิลปะ รกั ความเป็นไทยและเรียนรู๎สํูความเป็นสากล รหัสตวั ชี้วดั ต 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4 ต 1.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5 ต 1.3 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3 ต 2.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3 ต 2.2 ป.6/1, ป.6/2 ต 3.1 ป.6/1 ต 4.1 ป.6/1 ต 4.2 ป.6/1 รวมทั้งหมด 20 ตวั ช้วี ั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117