Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ไวรัสคอมพิวเตอร์

ไวรัสคอมพิวเตอร์

Published by warisarachaiwong9101, 2022-01-07 09:30:27

Description: ไวรัสคอมพิวเตอร์

Search

Read the Text Version

นำ เ ส น อ ง า น เรื่องไวรัสคอมพิ วเตอร์ บทนำสู่สถิติ

เรื่องที่ต้องรู้ ไวรัสคอมพิ วเตอร์ ความรู้เรื่อง ไวรัสคอมพิ วเตอร์ และมัลแวร์ (Malware) อย่าสับสน! ระหว่างคำว่า ไวรัสคอมพิ วเตอร์ (Computer Virus) กับไวรัสที่เป็นเชื้อโรค ไวรัสคอมพิ วเตอร์นั้นเป็นแค่ชื่อเรียกโปรแกรม ประเภทหนึ่งที่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กับไวรัสที่ เป็นเชื้อโรคที่สามารถแพร่เชื้อได้ และมักทำ อันตรายต่อสิ่งมีชีวิตที่มันอาศัยอยู่ แต่ต่างกัน ตรงที่ว่าไวรัสคอมพิ วเตอร์เป็นเพี ยงโปรแกรม ชนิดหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่ไวรัสที่เป็นสิ่งมีชีวิต เรา ลองมาดูรายละเอียดเกี่ยวกับไวรัส คอมพิ วเตอร์กันเลยนะครับ ลองติดตามดู

ไวรัสคอมพิวเตอร์ (Computer Virus) คือ โปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการสำเนาตัวเองเข้าไปติด อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไปติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์อื่นๆ ซึ่งอาจเกิดจาก การนำเอาแผ่นดิสก์หรือแฟลชไดร์ฟที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้กับอีกเครื่องหนึ่ง การที่คอมพิวเตอร์ใดติด ไวรัส หมายความว่าไวรัสได้เข้าไปผังตัวอยู่ในหน่วยความจำคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นเรียบร้อยแล้ว การที่ไวรัส จะเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำได้นั้นจะต้องมีการถูกเรียกใช้ให้ทำงาน ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ใช้มักจะไม่รู้ตัวเลยว่า ขณะที่ตนเรียกใช้โปรแกรมหรือเปิดไฟล์ใดๆขึ้นมาทำงาน ก็ได้เรียกไวรัสขึ้นมาทำงานด้วย จุดประสงค์การ ทำงานของไวรัสแต่ละตัวขึ้นอยู่กับผู้เขียนโปรแกรมไวรัสนั้น เช่น อาจสร้างไวรัสให้ไปทำลายโปรแกรมหรือข้อ มูลอื่นๆ ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแสดงข้อความวิ่งไปมาบนหน้ าจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

ชนิดของไวรัส ไวรัส (Virus) เป็น มัลแวร์ (Malware) ชนิดแรกที่ เกิดขึ้นบนโลกนี้และอยู่มานาน ดังนั้นโดยทั่วไปตาม ข่าวหรือบทความต่างๆที่ไม่เน้นไปทางวิชาการมาก เกินไป หรือเพื่ อความง่ายและคุ้นเคยที่จะพู ด ก็จะใช้ คำว่า Virus แทนคำว่า Malware แต่ถ้าจะคิดถึง ความจริงแล้วมันไม่ถูกต้อง อาจจะเป็นเพราะความ เคยชินหรืออะไรก็ตาม จึงกลายเป็นว่าคนส่วนใหญ่ ใช้คำว่า Virus แทนคำว่า Worm, Trojan, Spyware, Adware เป็นต้น ที่ถูกต้องควรใช้คำ ว่ามัลแวร์ (Malware) เพราะมัลแวร์มีหลายชนิด แต่ละชนิดก็ไม่เหมือนกัน

มัลแวร์ (Malware) ย่อมาจาก ความแตกต่างของไวรัส เวิร์ม โทรจัน Malicious Software หมายถึง และสปายแวร์ ความแตกต่างระหว่าง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกชนิดที่มีจุด ไวรัส (Virus), เวิร์ม (Worm), โทรจัน ประสงค์ร้ายต่อคอมพิวเตอร์และเครือ (Trojan), และสปายแวร์ (Spyware) ข่าย หรือเป็นคำที่ใช้เรียกโปรแกรมที่มี สามารถแบ่งแยกได้ตามลักษณะการ จุดประสงค์ร้ายต่อระบบคอมพิวเตอร์ทุก ทำงาน และพฤติกรรมของการแพร่เชื้อ ชนิดแบบรวมๆ โปรแกรมพวกนี้ได้แก่ Virus, Worm, Trojan, Spyware, เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ Keylogger, Downloader, Adware, Dialer, Hijacker, BHO, Toolbar บาง อย่าง, Hack Tool, Phishing, รวมไป ถึง Zombie network, Zero-day attack และอื่นๆ

ไวรัส (Virus) มีลักษณะการแพร่เชื้อไปติดไฟล์ ลักษณะการ อื่นๆในคอมพิวเตอร์โดยการแนบตัวมันเองเข้าไป แพร่เชื้อ มันไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่อง อื่นๆได้คือต้องอาศัยไฟล์และ Removable Drive เป็นพาหะ สิ่งที่มันทำคือสร้างความเสียหายให้กับ ไฟล์งานและไฟล์โปรแกรมต่างๆ ลองมารู้จักกับ ประเภทของไวรัสกันดังนี้ ไวรัสบูตเซกเตอร์ Boot Sector Viruses หรือ Boot Infector Viruses คือไวรัสบูตเซกเตอร์ที่เก็บตัวเองอยู่ใน บูตเซกเตอร์ของดิสก์ เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เริ่ม สตาร์ทขึ้นมาตอนแรก เครื่องจะเข้าไปอ่านบูตเซก เตอร์นี้ก่อน ซึ่งในบูตเซกเตอร์นี้จะมีโปรแกรม เล็กๆ ไว้ใช้ในการเรียกระบบปฎิบัติการขึ้นมา ทำงาน

ไวรัสมีอะไรบ้าง ไวรัสจึงอาศัยช่องทางตรงนี้เข้าไปแทนที่โปรแกรมดังกล่าว โดยทั่วไปจะเข้าไปติดอยู่บริเวณที่เรียกว่า Master Boot Sector หรือ Partition Table ของดิสก์นั้น ถ้าดิสก์ใดมีไวรัสบูตเซกเตอร์ประเภทนี้ติดอยู่ ทุกๆครั้งที่สตาร์ทบูตเครื่องขึ้นมา ตัวโปรแกรมไวรัสจะทำงานก่อน และจะเข้าไปฝังตัวอยู่ในหน่วย ความจำเพื่อเตรียมพร้อมที่จะทำงานตามที่ได้ถูกโปรแกรมเอาไว้ต่อไป2 โปรแกรมไวรัส Program Viruses หรือ File Infector viruses เป็นโปรแกรมไวรัสอีกประเภทหนึ่งที่สามารถแพร่เชื้อไปติดไฟล์ โปรแกรมที่มีนามสกุลเป็น .COM หรือ .EXE และไวรัสประเภทนี้สามารถเข้าไปติดอยู่ในไฟล์ที่มี นามสกุลเป็น .SYS หรือโปรแกรมประเภท Overlay Programs ได้ด้วย วิธีการที่ไวรัสใช้คือการแทรก ตัวเองเข้าไปอยู่ในโปรแกรม ผลก็คือหลังจากที่โปรแกรมนั้นติดไวรัสแล้วขนาดของไฟล์โปรแกรมจะ ใหญ่ขึ้น หรือถ้ามีการสำเนาตัวเองเข้าไปทับส่วนของโปรแกรมที่มีอยู่เดิมขนาดของไฟล์อาจจะไม่ เปลี่ยนแปลง และยากที่จะซ่อมแซมให้กลับมาได้เหมือนเดิม ลักษณะการทำงานของไวรัสก็คือ เมื่อมี การเรียกใช้โปรแกรมที่ติดไวรัส ส่วนตัวของไวรัสจะทำงานก่อนและจะถือโอกาสนี้ฝังตัวเข้าไปอยู่ใน หน่วยความจำ และเมื่อมีการเรียกใช้โปรแกรมอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาทำงานอีก ไวรัสก็จะสำเนาตัวเองเข้าไป ในโปรแกรมนั้นทันที แต่ก็มีไวรัสอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ต้องรอให้ผู้ใช้เปิดโปรแกรมอะไรขึ้นมาเลย แค่อาศัย จุดอ่อนของระบบปฏิบัติการ มันก็สามารถรันตัวเองให้เข้าไปหาโปรแกรมอื่นๆที่อยู่ในดิสก์ได้ด้วยตัว เอง2 โพลีมอร์ฟิกไวรัส Polymorphic Viruses เป็นชื่อที่ใช้เรียกไวรัสที่มีความสามารถในการ เปลี่ยนแปลงตัวเองเมื่อมีการสร้างสำเนาของตัวเองเกิดขึ้น ซึ่งอาจทำได้ถึงหลายร้อยรูปแบบ ผลก็คือ ทำให้ไวรัสเหล่านี้ยากต่อการถูกตรวจจับด้วยโปรแกรมตรวจหาไวรัสที่ใช้วิธีสแกนเพียงอย่างเดียว ไว รัสใหม่ๆ ในปัจจุบันก็เริ่มใช้ความสามารถนี้และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ2 สทีลต์ไวรัส Stealth Viruses เป็นชื่อเรียกไวรัสที่มีความสามารถในการพรางตัวต่อการตรวจจับด้วยโปรแกรมตรวจหาไวรัส ชนิดต่างๆ ไวรัสประเภทนี้จะทำงานด้วยการให้กำเนิด (Generate) หรือสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่เพื่อทำ หน้ าที่แทนตนเอง ถึงแม้ว่าจะสแกนด้วยโปรแกรมตรวจหาไวรัสแล้วก็ตาม แต่ก็จะพบเพียงไฟล์ไวรัสที่ สร้างขึ้นมาใหม่เท่านั้น จะไม่พบตัวตนที่แท้จริงของไวรัสเลย จึงยากต่อการตรวจจับเพราะหาเท่าไรก็ไม่ พบ จนถึงขั้นต้องฟอร์แมตล้างเครื่องใหม่กันเลยทีเดียว และไวรัสประเภทนี้นับวันจะยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook