Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เคล็ดลับการใช้พลังเทพทุกสายญาณ

เคล็ดลับการใช้พลังเทพทุกสายญาณ

Published by DPD E-Lidrary, 2020-07-07 23:48:23

Description: เคล็ดลับการใช้พลังเทพทุกสายญาณ

Search

Read the Text Version

แจกฟรีเป็ นวทิ ยาทาน ไม่สงวนลขิ สิทธ์ิทางปัญญา ของมคี รู แล้วเป็ นของแรง ควรปฏิบตั บิ ูชาด้วยการรักษาศีล เจริญภาวนา เขยี นโดย นายตะวนั เพ่งพศิ

อารัมภบทผู้เขยี น เคล็ดลบั การใชพ้ ลงั เทพทุกสายญาณ เป็ นการฝึ กอภินิหารของเทวดา หรือการมีเทวดา คุม้ ครองตวั เราเอง แตย่ งั ไมเ่ ขา้ ใจสายญาณตา่ งๆวา่ จะใชพ้ ลงั เทพอยา่ งไร หนงั สือเล่มน้ี จะช่วย ท่านได้ ใหค้ ลายจากขอ้ สงสยั ตา่ งๆ บุญฤทธ์ิ กบั เทวฤทธ์ิ แตกต่างกนั อย่างไร ในความเป็นจริง เทวฤทธ์ิ กแ็ ยกตวั ออกมาจากบุญฤทธ์ิ เพราะการเป็นเทวดา ไปบงั เกิด อยู่บนสวรรค์ ก็เพราะอาศยั อานาจของบุญกุศลเช่นกัน แต่การใช้ฤทธ์ิ ท้งั 2 ประเภทน้ี เม่ือแยกตวั กนั ออกมาแลว้ จะแตกต่างกนั คือ บุญฤทธ์ิ หมายถึง การใชฤ้ ทธ์ิของตวั เอง ดึงบุญกศุ ลท่ีสะสมออกมาใช้ เป็นฤทธ์ิ เทวฤทธ์ิ หมายถึง การใชฤ้ ทธ์ิของเทวดา โดยใหเ้ ทวดาผา่ นร่าง เพื่อยมื พลงั เทพมาใช้ เทวฤทธ์ิ มหี ลกั ใหญ่ อยู่ 2 อย่าง คอื 1. เทวดาสายบุญฤทธ์ิ 2. เทวดาสายอิทธิฤทธ์ิ นอกจากน้ี สายโปรดสัตว์ สายรักษา สายปราบมาร เป็ นตน้ ก็แยกตวั ออกมาจาก บุญฤทธ์ิ และอิทธิฤทธ์ิ ท้งั น้นั คุณสมบตั ิของผทู้ ่ีสามารถเปิ ดพลงั เทพใหไ้ ดท้ ุกสายญาณ ตอ้ งมีคุณสมบตั ิดงั น้ี กล่าวคือ 1. บาเพญ็ บารมีสาเร็จเป็ นพระโพธิสตั ว์ และมีพลงั โพธิพนั ญาณ จึงสามารถเปิ ดญาณเทวดา ใหไ้ ดท้ ุกองค์ และท้งั หมด 2. มีญาณป่ ูฤาษี 108 องค์ 3 มีญาณพระตรีมูรติ 4. มีญาณพระนารายณ์ปางเปิ ดโลก หรือพระนารายณ์ปางอวตาร (ถา้ เป็ นพระนารายณ์ ปางอ่ืน จะเปิ ดญาณเทวดาทุกสายญาณไมค่ รบ) 5. ไดร้ ับประกาศิตลงมาจากสวรรค์ จึงสามารถเปิ ดญาณเทวดาไดท้ ุกองค์ 6. ตอนอยบู่ นสวรรคเ์ คยเป็ นครูสอนของเทวดามาก่อน คร้ันจุติลงมาเป็ นมนุษยก์ ็ยงั สามารถ จาวชิ าของเทวดาทุกสายญาณได้ อธิบายโดยย่อ 1. บาเพญ็ บารมีสาเร็จเป็ นพระโพธิสตั ว์ และมีพลงั โพธิพนั ญาณ จึงสามารถเปิ ดญาณเทวดา ใหไ้ ดท้ ุกองค์ และท้งั หมด หมายถึง บุคคลท่ีบาเพ็ญบารมีสาเร็จเป็ นพระโพธิสัตว์ และสาเร็จพลงั โพธิพนั ญาณ เท่าน้นั จะสามารถรับพลงั เทพไดท้ ุกสายญาณ โดยท่ีไม่เกิดอาการหนกั ตวั จะรู้สึกวา่ ตวั เบา แมอ้ งคเ์ ทพจะผา่ นมามากแคไ่ หนกต็ าม จึงสามารถเปิ ดพลงั เทพใหผ้ อู้ ื่นไดท้ ้งั หมด

2. มีญาณป่ ฤู าษี 108 องค์ หมายถึง การมีญาณป่ ูฤาษี 108 องคอ์ ยู่ เรียกวา่ มีญาณบรมครู รวมอยทู่ ่ีตวั เองท้งั หมด เพยี งผเู้ ดียว การจะรับพลงั ญาณเทพ หรือจะเปิ ดญาณเทพใหใ้ ครท้งั หมด ยอ่ มเป็นเร่ืองง่าย 3 มีญาณพระตรีมรู ติ หมายถึง ญาณพระตรีมูรติ เป็ นญาณเทพช้ันสูง เป็ นการรวมพลังของพระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ กลายมาเป็ นหน่ึงเดียว เรียกวา่ เป็ นญาณสูงสุดในบรรดาญาณเทวดา ท้งั หมด พระตรีมูรติ ไม่ใช่ มหาเทพแห่งความรักที่ทุกคนเขา้ ใจ ความจริงแลว้ พระตรีมูรติ มีอานุภาพมากกว่าน้ัน เป็ นมหาเทพยิ่งกว่าแค่ประทานความรักธรรมดา พระองค์ยงั ประทาน อานาจเงินทอง โชคลาภ การงาน ความสาเร็จ และอ่ืนๆอีกมากมาย รวมท้งั เปิ ดพลงั เทพได้ ครบทุกสายญาณดว้ ย 4. มีญาณพระนารายณ์ปางเปิ ดโลก หรือพระนารายณ์ปางอวตาร (ถา้ เป็ นพระนารายณ์ ปางอื่น จะเปิ ดญาณเทวดาทุกสายญาณไม่ครบ) หมายถึง พระนารายณ์ปางเปิ ดโลก กบั พระนารายณ์ปางอวตารเท่าน้นั จะสามารถรวม สายญาณเทพทุกองคไ์ วท้ ่ีตนเพยี งผเู้ ดียว จะสามารถเปิ ดพลงั ญาณเทพไดท้ ้งั หมด 5. ไดร้ ับประกาศิตลงมาจากสวรรค์ จึงสามารถเปิ ดญาณเทวดาไดท้ ุกองค์ หมายถึง เป็ นบุคคลที่หาไดน้ อ้ ย และยากย่ิงในโลกมนุษย์ เพราะนอ้ ยคนนกั ท่ีจะไดร้ ับ โองการลงมาจากสวรรค์ เพ่ือจะมีอานุภาพ และอานาจประกาศิต เปิ ดพลงั เทพไดค้ รบท้งั หมด ทุกสายญาณ บุคคลท่ีจะเป็นเช่นที่กล่าวมาแลว้ น้ีได้ บุคคลน้นั ตอ้ งบาเพญ็ บุญบารมีมาสูงมาก 6. ตอนอยบู่ นสวรรคเ์ คยเป็ นครูสอนของเทวดามาก่อน คร้ันจุติลงมาเป็ นมนุษยก์ ็ยงั สามารถ จาวชิ าของเทวดาทุกสายญาณได้ หมายถึง โลกของสวรรคย์ ่อมจะปฏิบตั ิเคร่งครัดกวา่ โลกมนุษย์ โดนเฉพาะวนั 8 ค่า กับ 15 ค่า เทวดาก็ถือศีลปฏิบัติธรรมเช่นกัน การเป็ นครูสอนญาณของเทวดาท้งั หลาย แสดงวา่ ในอดีตชาติ เคยเกิดเป็ นมุนี ถึงสามารถสั่งสอนเทวดาไดท้ ุกสายญาณ คร้ันลงมาเกิด เป็ นมนุษย์ ยงั จาอดีตชาติ หรือระลึกชาติได้ วิชาดงั กล่าว ก็จะออกมาท้งั หมด ถึงสามารถรู้ พลงั เทพทุกสายญาณว่า มีวิธีใชก้ นั อย่างไร คร้ังจุติลงมาเป็ นมนุษย์ จึงสามารถแนะนาคนที่มี ญาณเทพได้ เรียกวา่ เปิ ดญาณเทพใหไ้ ดค้ รบท้งั หมดทุกสายญาณ (ซ่ึงนอ้ ยคนนกั ท่ีจะทาได)้ การจะเปิ ดญาณเทวดาใหไ้ ดท้ ุกองคน์ ้นั ยาก นอกจากคนที่มีทางน้ีครบจริงๆ เพราะการมี ญาณเทวดาไม่กี่องค์ จะสามารถแนะนาผอู้ ่ืนไดเ้ ท่าท่ีตวั เองมีเทา่ น้นั แต่การจะเปิ ดญาณเทวดาให้ ไดท้ ้งั หมด บุคคลน้นั ตอ้ งมีสายญาณบรมครูป่ ูฤาษี 108 เป็นตน้ การจะคบใคร ตอ้ งคบผทู้ ่ีมีจิตบริสุทธ์ิเทา่ น้นั เพราะในโลกน้ี คนชอบกม็ ี คนไมช่ อบก็ มีรู้มากไป พวกก็หมน่ั ไส้เอาได้ คนที่เป็นกลั ยาณมิตร กเ็ ขา้ ใจวา่ เราเมตตา สงสาร ช่วยเหลือ แนะนา สอนส่ิงดีๆ ให้คนที่เป็ นบาปมิตร ก็ว่าเราเสียๆหายๆ หาว่าอวดบา้ ง ย่ิงพูดมาก

เด๋ียวพลงั จะเส่ือมบา้ ง ในความเป็ นจริง ความจะเส่ือม หรือไม่เส่ือม ไม่ไดเ้ กี่ยววา่ เราพูดมาก การจะแนะนาพดู อ่ืน กใ็ ช่วา่ จะพดู มาก แตพ่ ดู ในส่ิงที่เป็นประโยชน์ โลกถ้าดาเนินรอยตามพระพุทธเจ้า สังคมก็เจริญ โลกถ้าดาเนินรอยตามบาปมิตร สังคมก็ไม่มีวนั เจริญ เหตุผล พระพุทธเจา้ ตรัสรู้โดยชอบดว้ ยพระองคเ์ องก็ก่อนแลว้ สามารถ แนะนาให้ผูอ้ ื่นพน้ ทุกข์ตาม ถ้าเราดาเนินรอยตามพระพุทธเจา้ จะไปนิพพาน ก็ไปด้วยกนั จะไปเส้นทางสวรรค์ ก็แนะนาผูอ้ ่ืนให้ไปด้วยกนั แต่ถ้าคนดาเนินรอยตามบาปมิตร คิดว่า จะไปบอกคนอ่ืนทาไม เก็บเอาไวใ้ ชค้ นเดียว สังคมและโลก ก็ไม่มีวนั เจริญไปได้ เปรียบเสมือน อาจารย์ไม่ยอมสอนหนังสือ แต่จะเอาเงินเดือนอย่างเดียว แล้วโลกจะเจริญไปได้อย่างไร อุปมาอุปไมย ฉนั ใดก็ฉนั น้นั ในความเป็นจริง การแนะนาผอู้ ่ืนใหใ้ ชพ้ ลงั ทางเทพเป็น และเดินอยใู่ นทางสายบุญ ผใู้ ห้ ยิ่งให้ยิ่งไดแ้ ละบารมีทางเทพจะสูงข้ึน เป็ นตน้ เรียกว่า ให้ความรู้เป็ นทาน ผทู้ ่ีห่วงความรู้ไว้ ที่ตนเพียงคนเดียว ไม่ยอมให้ใคร เขาก็มีกินมีใช้ มีพลงั เทพ ไดแ้ ค่ชาติน้ีเพียงชาติเดียว ผใู้ ช้ พลงั ทางน้ีมากๆเขา้ เด๋ียวพลงั เขาน้นั แหละ จะเส่ือมเอง เปรียบเสมือนกบั การใชเ้ งิน พอใชม้ าก เขา้ ไมห่ ามาเพิม่ อีกไมน่ าน เงินก็หมด แตผ่ ทู้ ี่ใหผ้ อู้ ื่นต่างหาก ยอ่ มไม่มีวนั เสื่อมเลย จะดาเนิน อยู่ในเส้นทางบุญ เรียกว่า ย่ิงให้ย่ิงได้ เปรียบเสมือน ใช้เงินแล้ว ก็หาเงินใหม่มาเพ่ิมเติม อยเู่ สมอ แลว้ เขาจะตกยากไปไดอ้ ยา่ งไร คนท่ีห่วงความรู้ไวท้ ่ีตนเพียงคนเดียว น้นั แหละเป็ น ผเู้ ส่ือมโดยแทจ้ ริง ไม่ใช่ผสู้ อนเป็นผเู้ ส่ือมกห็ าไม่ เพราะฉะน้นั กล่าวธรรมะอยู่ จะให้บารมีทางเทพ หรือพลงั เสื่อมลงไป ดว้ ยปากคน บาปมิตร ยอ่ มเป็นไปไม่ได้ ดว้ ยประการท้งั ปวง เร่ืองน่ารู้เกยี่ วกบั พระพทุ ธศาสนา และเทวดาสายแขก พระพุทธศาสนาถือกาเนิดที่ประเทศอินเดีย โดยท่ีเจา้ ชายสิทธัตถะ ตรัสรู้อริยสัจสี่ สาเร็จเป็นพระพุทธเจา้ ทรงพระนามใหม่วา่ พระสมณโคดม เทวดาสายแขก เป็ นเทพทางสายฮินดู หรือพราหมณ์ มีความเช่ือกนั ว่า พระนารายณ์ ทรงอวตารลงมาเป็ นพระพุทธเจา้ จึงหันมานับถือศาสนาพุทธเหมือนกัน ศาสนาพราหมณ์ จึงถือวา่ ศาสนาพทุ ธ เสมือนหน่ึงเป็นพี่นอ้ งกนั ส่วนแขกท่ีเป็ นอิสลาม จะนบั ถือพระเจา้ ของเขาเท่าน้นั จะไม่นบั ถือเทวดา ไม่นบั ถือ อยา่ งอื่น นอกจากพระเจา้ ด้วยเหตุน้ี เทวดาสายแขก จึงไม่เก่ียวขอ้ งกบั ศาสนาอิสลามแต่อย่างใด คนไม่เขา้ ใจ หรือไม่รู้จริง หรือไม่มีความรู้ทางศาสนา ก็พดู กนั แบบผดิ ๆ เพราะฉะน้นั แขกท่ีนบั ถือศาสนาพุทธก็มี ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ก็มี ศาสนาอิสลาม กม็ ี ใช่วา่ เป็นแขกแลว้ จะนบั ถืออิสลามทุกคนไป

ในความเป็ นจริง โลกของสวรรค์น้นั แตกต่างกบั โลกของมนุษยโ์ ดยสิ้นเชิง โลกของ สวรรคน์ ้นั ไมว่ า่ เทวดาจะอยศู่ าสนาอะไร ก็ถือธรรมเป็ นใหญ่ และอยรู่ ่วมกนั ไดอ้ ยา่ งมีความสุข บนโลกของสวรรค์ ส่วนบนโลกของมนุษยน์ ้นั แค่ต่างชาติ ต่างศาสนากนั ก็ถือทิฏฐิเป็ นใหญ่ อยดู่ ว้ ยกนั ยาก จะตีกนั ตาย เพราะความเห็นไม่ตรงกนั บา้ ง แมแ้ ต่ศาสนาเดียวกนั ต่างนิกายกนั ก็โจมตีกนั เป็ นประจา มีข่าวให้เห็นเป็ นตวั อย่างอยเู่ สมอ ขนาดศาสนาเดียวกนั ต่างนิกายกนั ยงั ไมส่ ามคั คีกนั ยงั มีปัญหากนั แลว้ ถา้ อยตู่ า่ งศาสนากนั ไม่ตอ้ งพดู ถึง ดว้ ยเหตุน้ี ความเป็นอยขู่ องเทวดา กบั มนุษย์ จึงแตกต่างกนั การมเี ทวดาคุ้มครอง ควรถอื ศีลปฏบิ ัติธรรม อย่างเคร่งครัด เทวดาไม่วา่ จะเป็ นสายบุญฤทธ์ิ หรือสายอิทธิฤทธ์ิ ก็ชอบใหร้ ่างตวั เอง หรือคนที่มีท่าน เป็ นเทวดาคุม้ ครองปกป้ องรักษา ถือศีล ปฏิบตั ิธรรม ดาเนินสายบุญ ต้งั มน่ั อยใู่ นความดี ก็จะ เจริญรุ่งเรือง ประสบความสาเร็จ มีโชคลาภอยเู่ สมอ พระพุทธเจา้ ตรัสวา่ เทวะตานุกมั ปิ โต โปโส สะทา ภทั รานิ ปัสสะติ แปลโดยยอ่ วา่ บุคคลใดก็ดี มีเทวดาคุม้ ครอง ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือ ทากิจการ สิ่งใด ยอ่ มจะสาเร็จทุกเมื่อ บุคคลใดก็ดี มีเทวดาคุม้ ครองแลว้ กลบั ประพฤติตวั เหลวไหล ออกจากศีลธรรม ก็จะ โดนเทวดาตวั เองลงโทษ มีปัญหาทางการงานติดขดั เงินไมพ่ อใช้ ใหป้ รับปรุงตวั เสียใหม่ เทวดาเมื่อให้พรเราแลว้ ก็ยงั จะลงโทษได้ด้วย แต่เทวดาจะเปิ ดโอกาส ให้คนที่ทา ความผิดรู้จกั ปรับปรุงตวั เสมอ ซ่ึงต่างจากคนพาล คอยจอ้ งจบั ผิดผูอ้ ่ืน เราทาความผิดอะไร พดู แต่เรื่องเดิมๆ เป็นสิบปี ก็ไม่จบ คนพาลแบบน้ี ไม่ควรคบ แมท้ ี่สุด คนพาลท่ีเอาธรรมะของพระพุทธเจา้ มาด่าผอู้ ่ืน มาข่มผอู้ ่ืน เพื่อให้ตวั เองดีกวา่ ก็ถือวา่ ใชไ้ ม่ได้ เรียกวา่ เห็นแต่โทษคนอื่น ไม่เห็นโทษของตวั เอง ธรรมะของพระพุทธเจา้ มีไวส้ อน แนะนาคนใหพ้ น้ ไปจากทุกข์ ไม่ใช่มีไวใ้ หค้ นพาล เอามาด่า หรือข่มคนอื่น การเอาธรรมภาษิตมา ส่อเสียดผอู้ ื่นอยู่ เราไม่เรียก บุคคลน้นั วา่ เป็นบณั ฑิต สมยั พุทธกาล ขนาดคนทาผดิ มากแค่ไหน พระพทุ ธเจา้ กท็ รงโปรด ใหเ้ ขาไดบ้ รรลุธรรม เทวดาก็เช่นกนั ถา้ เรารู้ตวั วา่ ทาผดิ พลาดไป ใหป้ รับปรุงตวั เทวดาก็จะเปิ ดโชคใหเ้ หมือนเดิม องค์เทพทุกสายญาณ เป็ นของมคี รู แล้วเป็ นของแรง ควรปฏิบตั บิ ูชาด้วยการรักษาศีล เจริญภาวนา เขียนโดย นายตะวนั เพง่ พิศ

สารบญั เรื่อง หน้า บทนา 1 เริ่มตน้ ฝึกพลงั เทพ 2 การเปิ ดตาที่สาม เพื่อเห็นสิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิ หรือสิ่งล้ีลบั ที่คนธรรมดามองไมเ่ ห็น 6 การอญั เชิญญาณเทพไวใ้ นวตั ถุมงคลต่างๆ (พธิ ีเทวาภิเษก) 7 การใชพ้ ลงั เทพ ท้งั สายบุญฤทธ์ิ และสายอิทธิฤทธ์ิ 8 หลวงป่ ทู วด 9 หลวงป่ โู ต 11 ทา้ วสนั ดุสิต พระบรมมหาโพธิสัตว์ 13 15 การบาเพญ็ บารมีสาเร็จเป็ นพระโพธิสตั ว์ สามารถไดร้ ับพรวเิ ศษจากเทพทุกสายญาณ 16 ป่ ฤู าษี 108 18 ป่ ูฤาษีนารอด 20 ป่ ฤู าษีสัจจพนั ธุ์ 22 ป่ ูฤาษีหนา้ ทอง 24 ป่ ูฤาษีพริ าบ 26 ป่ ูฤาษีตาไฟ 28 ป่ ฤู าษีชีวก 30 ป่ ฤู าษีเจา้ สมิงไพร 32 ป่ ูฤาษีนาคราช 34 ป่ ูฤาษีเดินดง 36 ป่ ูฤาษีพอ่ แก่ 38 พระตรีมูรติ 40 พระตรีศกั ติ 42 พระศิวะศกั ติ 44 พระหริหระมหาเทพ 46 พระศิวะ

เรื่อง หน้า พระนารายณ์ 49 พระนารายณ์ทรงครุฑ 51 พระนารายณ์ทรงบลั ลงั ก์ 53 พระนารายณ์ทรงจกั ร 55 พระนารายณ์นรสิงห์ 57 พระนารายณ์อวตาร 59 พระนารายณ์เปิ ดโลก 61 63 พระกฤษณะ 65 พระพรหม 67 พระนพเคราะห์ท้งั 9 69 71 พระอาทิตย์ 73 พระจนั ทร์ 75 พระองั คาร 77 พระพุธ 79 พระพฤหสั บดี 81 พระศุกร์ 83 พระเสาร์ 85 พระราหู 87 พระเกตุ 89 พระโพธิสัตวก์ วนอิม 91 พระอุมา 93 พระกาลี 95 พระทุรคา 97 พระลกั ษมี 99 พระสุรัสวดี 101 พระพฆิ เนศวร พระขนั ธกมุ าร

เรื่อง หน้า พระอินทร์ 104 พระแมธ่ รณี 106 พระแม่คงคา 108 พระแมโ่ พสพ 110 พระอคั นีเทพ 112 พระสุริยเทพ 114 พระวายเุ ทพ (หรือพระพาย) 116 พระพิรุณ 118 พญาครุฑ 120 กินรี 122 พญานาค 124 125 เคล็ดลบั ใหพ้ ญานาค กบั พญาครุฑ เกิดความสามคั คีกนั 126 เสือ 128 เทพมงั กร 130 เหง้ เจีย 132 หนุมาน 134 พระเจา้ ตากสินมหาราช 136 พระนเรศวรมหาราช 138 สมเด็จพระปิ ยมหาราช 140 พระยายมราช 142 ทา้ วเวสสุวรรณ 144 กุมารทอง 147 ขอ้ ควรรู้พเิ ศษ สาหรับการเจริญเทวตานุสสติ 148 การสาเร็จเป็นเทวดา หรือการมีเทวดาคุม้ ครอง ปฏิบตั ิอยา่ งไร ใหไ้ ดด้ วงตาเห็นธรรม 149 บทส่งทา้ ยผเู้ ขียน

1 บทนา เคลด็ ลบั การใช้พลงั เทพทุกสายญาณ เคล็ดลบั การใช้พลงั เทพทุกสายญาณ ผูเ้ ขียนได้เรียบเรียง เทวดาทุกสายญาณ ได้แก่ เทวดาสายพระ สายป่ ูฤาษี สายพระโพธิสัตว์ สายพรหม สายเทพท้งั (แขก จีน ไทย) สายกมุ ารทอง เพื่อเป็นประโยชน์ สาหรับผสู้ นใจศึกษาคน้ ควา้ ฌานฤทธ์ิ กบั เทวฤทธ์ิ ปฏิบตั ิตวั กบั ครูบาอาจารยข์ องตวั เองไม่เหมือนกนั สาหรับฌานฤทธ์ิ ผปู้ ฏิบตั ิจะทาตวั ผดิ ศีลอยา่ งไร ก็จะเป็ นกรรมของผนู้ ้นั เอง ไม่เคารพ ครูบาอาจารยข์ องตวั เอง เอาวชิ าหรือธรรมะที่ไดร้ ับจากครูผสู้ อนให้ กลบั ยอ้ นศรมาหาคนสอนอีก กจ็ ะไมถ่ ูกลงโทษทนั ตาเห็น แตจ่ ะเป็นกรรมขา้ มภพขา้ มชาติ สาหรับเทวฤทธ์ิน้นั การบูชาครูบาอาจารย์ เป็ นเร่ืองที่สาคญั มาก เริ่มตน้ ก็ตอ้ งบูชาครู ตอ้ งรักษาศีล เจริญภาวนา หมน่ั ทาบุญใหท้ านอยเู่ สมอ ทานเจ ทุกวนั พระไดย้ ิ่งดี ถา้ ประพฤติ ตวั เหลวไหลกบั ครูบาอาจารยข์ องตน จะโดนลงโทษทนั ตาเห็นกวา่ เรียนวชิ าดา้ นฌานฤทธ์ิ องคเ์ ทพทุกองคน์ ้นั ยอ่ มดูแลปกป้ องใหค้ วามคุม้ ครองคนดีมีคุณธรรม สาหรับคนที่ขาด คุณธรรมแล้วไซร้ ให้ความคุ้มครองไปตามหน้าท่ีด้วยความจาใจ แต่จะไม่ให้การปกป้ อง คนผนู้ ้นั จะประสบอุบตั ิ กช็ ่วยใหร้ อดตาย แต่จะไดร้ ับบาดเจบ็ สาหสั ไมเ่ หมือนกบั คนมีคุณธรรม องคเ์ ทพจะคุม้ ครองใหแ้ คลว้ คลาดจากภยนั ตรายท้งั ปวง การบูชาครู จึงเป็ นส่ิงสาคญั ในการฝึ กเทวฤทธ์ิ ยงิ่ เป็ นสายป่ ูฤาษี ยิง่ ตอ้ งปฏิบตั ิบูชาให้ มากด้วยการรักษาศีล เจริญภาวนา ห้ามประพฤติตัวเหลวไหล เหมือนกับฝึ กฌานฤทธ์ิ ญาณฤทธ์ิ และฤทธ์ิประเภทอ่ืนๆ ไม่อยา่ งน้นั องคใ์ นเราก็จะไม่เปิ ดความสาเร็จในหนา้ ที่การงาน การเงิน และวชิ าพลงั เทพทุกสาย อาทิเช่น สายรักษา มีป่ ูฤาษีชีวกคุม้ ครอง ก็ตอ้ งรักษาศีล มีคุณธรรม ไม่อย่างน้ัน เวลาไปรักษาโรคใหใ้ คร ป่ ูฤาษีชีวก ก็จะไม่เปิ ดให้ พลงั เทพกไ็ ม่มา อีกกรณีหน่ึง การมีพระยายมราช ตอ้ งรักษาศีล ประกาศิตท่ีไดร้ ับมา ก็จะคงอยตู่ ลอดไป เคลด็ ลบั วธิ ีขอพรให้องค์ลงเตม็ และไม่เต็มร่าง ในโลกน้ี มีบุคคลอยู่ 2 ประเภท ที่สามารถขอพรเทวดาได้ทุกองค์ ได้แก่ ผูม้ ี บุญบารมีมาก กบั บุคคลท่ีสาเร็จเป็ นพระโพธิสัตว์ ในบางคร้ัง เทวดาลงเต็มองค์ จะให้เรา ไม่รู้สึกตวั เป็ นอนั ตรายกบั ผูเ้ ป็ นร่าง (โดยเฉพาะคนท่ีมีญาณพระลกั ษมีอยู่ ถ้าไม่มีคนดูแล) ใครมาขออะไรก็ให้เขาไปหมด แบบน้ีร่างก็แย่ ดว้ ยเหตุน้ี เราจะพรให้ตวั เรา เวลาองคเ์ ทพมา จะใหล้ งเตม็ องค์ หรือใหล้ งไม่เตม็ องค์ ไม่เตม็ ร่าง เรากม็ ีความรู้สึกตวั ตลอดเวลา เรียกวา่ มีสติ ประสานพลงั เทพกบั ตวั เองเป็นหน่ึงเดียว จึงไม่เป็นอนั ตรายกบั ผทู้ ่ีเป็นร่าง เทวดาสายญาณต่างๆ อนั ขา้ พเจา้ จะกล่าวใหล้ ะเอียด เป็นลาดบั ในบทตอ่ ไป ดงั น้ี

2 เร่ิมต้นฝึ กพลงั เทพ ผเู้ ขียนกวา่ จะเก่งถึงทุกวนั น้ี ใชเ้ วลาต้งั หลายปี เร่ิมฝึกสมาธิมาต้งั แต่อายุ 13 ปี เริ่มฝึ ก พลงั เทพมาต้งั แต่อายุ 21 ปี จนถึงปัจจุบนั วยั กลางคน ตลอดระยะเวลา 10 กวา่ ปี ท่ีฝึกพลงั เทพมา เห็นไดว้ า่ เรื่องของฌานสมาธิ กบั เทวฤทธ์ิ มคี วามแตกต่างกนั มาก ฌาน แมจ้ ะฝึกยากกวา่ แต่กใ็ ชอ้ านุภาพสมาธิของตวั เอง ไมม่ ีอะไรมาแทรกจิต เทวฤทธ์ิ แมจ้ ะฝึกง่ายกวา่ เพยี งทาใจใหส้ งบ กส็ ามารถใชพ้ ลงั เทพได้ แต่ก็มีพลงั ญาณ หรือองคม์ าแฝง ใหม่ๆ คนไม่เขา้ ใจทางน้ี จะทาตวั เองไม่ถูก ขาดสติไปบา้ งก็มี แต่คนชินแลว้ จะไมเ่ ป็นไร การฝึ กเทวฤทธ์ิ ถา้ คุมตวั เองไดด้ ี ก็ไม่เป็ นไร ถา้ คุมตวั เองไม่อยู่ จะเกิดอาการตื่นเตน้ หรืออาการอยา่ งอื่น จะมีปัญหามาก สาหรับผเู้ ร่ิมตน้ เท่าน้นั จะไม่เป็นสาหรับคนที่เก่งแลว้ การฝึกเทวฤทธ์ิ ตอ้ งมีอาจารยค์ ุมให้ สาหรับผเู้ ริ่มตน้ เพราะฉะน้นั เราอยา่ พ่ึงไปทอ้ พึงอธิษฐานจิตวา่ ถา้ ไม่สาเร็จ ก็ไม่เลิกฝึ ก ใครจะวา่ เราอยา่ งไรก็ช่าง เราไม่จาเป็ นตอ้ ง เอาคาพดู ของคนพวกน้นั มาใส่ใจ เรากจ็ ะไม่ทอ้ สาหรับผเู้ ร่ิมตน้ ท่ีมีบุญบารมี เหมือนกบั พระโพธิสัตว์ หรือพระพทุ ธเจา้ ท่ีตรัสรู้ชอบได้ ดว้ ยตนเองเทา่ น้นั ท่ีไมต่ อ้ งมีคนอื่นคุมให้ จะเรียนผดิ เรียนถูก กจ็ ะเรียนรู้ดว้ ยตวั เอง ผเู้ ขียนก็ไม่มีใครสอนให้ เพราะดาเนินรอยตามพระพุทธเจา้ ตอ้ งศึกษาเรียนรู้ดว้ ยตวั เอง เรียนผดิ เรียนถูกมาก็มาก เพราะฉะน้นั อนั ไหนเดินแลว้ ผดิ ทาง ก็ไม่แนะนา จะแนะนาใหเ้ ดิน ถูกทางเท่าน้ัน เพ่ือไม่เป็ นการเสียเวลา ในเม่ือทางน้ี ขา้ พเจา้ ฝึ กแล้ว เดินแล้ว เสียเวลา แลว้ ไปผดิ ทาง เป็ นการทาตนเองใหล้ าบากเปล่าสายหน่ึง แลว้ ท่านจะเดินไปทาไม เพื่อไม่เป็ น การเสียเวลา จะแนะนาใหเ้ ดินถูกทางเทา่ น้นั และใหค้ นอ่ืนไปไดเ้ ร็ว ตัวอย่าง ทอมัส แอลวา เอดิสัน ผู้ประดษิ ฐ์หลอดไฟ ทอมสั แอลวา เอดิสัน กวา่ จะคน้ คิดประดิษฐห์ ลอดไฟได้ ตอ้ งผา่ นการลองผิดลองถูก มานบั คร้ังไม่ถว้ น และคนยงั มาดูถูกเขา เป็ นตน้ เมื่อเขายงั ประดิษฐไ์ ม่สาเร็จ แต่เม่ือประดิษฐ์ หลอดไฟ สาเร็จแลว้ เป็นที่ใหค้ วามสวา่ งกบั คนท้งั หลาย เม่ือน้นั ก็มีแตค่ นยกยอ่ งเขา พระพุทธเจา้ ตอนทรงเป็ นพระโพธิสัตว์อยู่ ทรงลองผิดลองถูก หลายวิธี นบั คร้ัง ไม่ถว้ น เพราะฉะน้นั เราไม่ควรจะทอ้ แทใ้ จข้ึน ยงั ไม่สาเร็จ ก็ลองใหม่ได้ ไม่มีอะไรจะเสีย มีแต่ไดก้ บั ได้ เพราะทาใหเ้ รารู้วธิ ีใหม่ๆ มากข้ึนกวา่ เดิม นอกจากน้ี บุคคลสร้างบุญบารมี กวา่ จะสาเร็จเป็นพระโพธิสตั ว์ ใชเ้ วลาสั่งสมบุญบารมี นบั ภพชาติไม่ถว้ น เป็ นอสงไขยกปั แสนกปั แค่บาเพ็ญบุญบารมีเพียงชาติเดียว สาเร็จเป็ นเทพ ยงั ง่ายกวา่ สร้างบุญบารมี สาเร็จเป็นพระโพธิสตั ว์ ไมร่ ู้จกั ก่ีเทา่ “แลว้ ท่านจะทอ้ ไปทาไม”

3 องคเ์ ทพลงมาใหม่ สาหรับคนที่คุมตวั อยา่ งไมไ่ ด้ จะแกไ้ ขอยา่ งไร คนที่คุมตวั เองไม่อยู่ อยา่ พ่ึงให้องคเ์ ทพลงมาเต็มองค์ บางคนอยากจะให้องคเ์ ทพผา่ นมา เตม็ องค์ แตล่ ืมคิด หรือต้งั สติไปวา่ ลงมาเตม็ องคแ์ ลว้ เรารับไหวหรือไม่ ถา้ รับไมไ่ หว จะแก้ อย่างไร ถา้ มีอาจารยค์ ุมให้ อาจารยก์ ็จะส่ือถึงองคใ์ นของคนน้นั ให้เทวดารับรู้วา่ ควรลงมา ระดบั ใด ใหร้ ่างท่านคุมตวั เองได้ ไม่ใหเ้ กิดอาการต่ืนเตน้ หรือเดินไปไหนมาไหน ใชพ้ ลงั เทพ พดู ถึงเทวดาตวั เอง โดยขาดการควบคุม จะเป็นอนั ตรายมาก คนเขา้ ใจเร่ืองน้ีกด็ ีไป คนไม่เขา้ ใจ เร่ืองน้ี จะวา่ เราเสียๆหายๆได้ เพราะฉะน้นั อญั เชิญเทวดาลงมาเตม็ องค์ ถา้ อยกู่ บั อาจารยต์ วั เอง ไมเ่ ป็นไร มีอะไรเกิดข้ึนมา เดี๋ยวอาจารยจ์ ะแกไ้ ขให้ ในกรณี ที่ไม่อยู่กบั อาจารย์ของตวั เอง จะแกอ้ ย่างไร แก้ให้ตวั เราเองมีสติเป็ นท่ีต้งั ถา้ อญั เชิญลงมาแลว้ แบบเต็มองค์ ยงั รับไหวหรือเปล่า มีสติหรือไม่ ถา้ รับไหว ใหอ้ ญั เชิญอยู่ ตอ่ ได้ ถา้ รับญาณบารมีเทพไม่ไหว กใ็ หต้ ้งั จิตอธิษฐาน อญั เชิญองคเ์ ทพกลบั หรือรีบถอยญาณ ทนั ที เราจะไมม่ ีอนั ตรายแตอ่ ยา่ งใด หมายเหตุ หนงั สือเล่มน้ี ก็จะเขียนโดยยอ่ เพื่อให้เขา้ เรื่อง เนน้ เน้ือหาสาระมากกวา่ น้า จุดประสงค์ เพื่อให้เขา้ ประเด็น แลว้ ท่านฝึ กได้ทนั ที จะไม่บอกให้ท้งั หมด เหมือนหนงั สือ ธรรมะ หรือผลงานของผูเ้ ขียนที่ผ่านมา เพราะตอ้ งการเปิ ดโอกาสให้คนอ่าน เขา้ มาสอบถาม ผูเ้ ขียนได้ ไม่อย่างน้ัน ฝึ กวิชาทางน้ี ถ้ายงั ไม่เก่ง ใหม่ๆแลว้ ไม่มีอาจารยด์ ูแลให้ จะเป็ น อนั ตรายมาก องคเ์ ทพลงมาจริงๆ แลว้ กจ็ ะทาอะไรไมถ่ ูกตอ้ ง ถ้าเก่งแลว้ ไม่จาเป็ น ตอ้ งมีอาจารยด์ ูแลก็ได้ จะดูแลแนะนาให้ สาหรับคนใหม่ๆ พ่ึงจะเร่ิมตน้ เทา่ น้นั การฝึ กใหม่ๆ คนเราถา้ อยากจะเก่งอะไรสกั อยา่ งหน่ึง ก็ตอ้ งทุ่มเทฝึก เทวฤทธ์ิกเ็ ช่นกนั ถา้ อยากจะเก่ง อยากเขา้ ใจเร่ืองทางน้ีมากข้ึน ก็ตอ้ งหมน่ั ฝึ ก เพราะมวั ไปถามคนอ่ืน ก็ไม่เหมือนฝึ กเอง คนอ่ืน เขากินขา้ ว กบ็ อกวา่ รสชาติอาหารเป็นอยา่ งน้ี เราไมไ่ ดก้ ินกบั เขาดว้ ย เขาบรรยายรสชาติอาหาร มาให้เราอย่างไร เราก็ไม่เขา้ ใจอยู่ ไม่เหมือนกบั เรากินเอง ย่อมจะอ่ิมเอง และรู้รสชาติของ อาหารเป็นเช่นใด เทวฤทธ์ิก็เช่นกนั ไปถามคนอ่ืนสกั ร้อย พนั คร้ัง กไ็ มเ่ ท่ากบั เราฝึกเอง การฝึ กใหม่ๆ ทาใจให้วา่ งเปล่าเป็ นอากาศธาตุ ทากายให้เบา จิตเราจะน่ิง แมจ้ ะมีองค์ เทพผา่ นมาองคเ์ ดียว หรือผา่ นมามากแค่ไหนกต็ าม เราก็จะรู้สึกเฉยๆ เวลาองคล์ งมาเตม็ องค์ เทวดาสามารถแยกญาณออกมาเป็ นหลายๆองค์ได้ บางคร้ังเจอคนมีสายญาณเดียวกนั และเป็ นองคเ์ ดียวกนั อยา่ ไปยดึ ติดของเราเองวา่ ตอ้ งเป็ นองคจ์ ริง องคภ์ าคอวตาร คนอื่นไม่ใช่ องคจ์ ริง คิดแบบน้ี เราก็มีแต่จะมากไปดว้ ยทิฏฐิ ไม่ยอมปล่อยวาง ใหเ้ ปล่ียนความคิดเสียใหม่ เรามีองคอ์ ะไร คนอ่ืนเขาก็มีไดเ้ หมือนกนั ตอ้ งเปิ ดใจใหก้ วา้ ง เทวดาแยกญาณไดเ้ ป็นหลายๆร่าง

4 เคล็ดวธิ ีเวลาเทวดาผา่ นหลายองค์ ไมใ่ หต้ วั หนกั ปกติกายสังขาร จะรับญาณเทวดาไดแ้ คท่ ีละองค์ ถา้ เทวดาผา่ นร่างกายมากเกินไป ต้งั แต่ 1 องค์ ข้ึนไป จะเกิดอาการตวั หนกั ให้แกด้ ว้ ย การฝึ กสติ ทาจิตให้น่ิง ปล่อยวาง ร่างกายเป็ นอากาศธาตุ ควบคุมจิตของ ตวั เองใหด้ ี อยา่ ต่ืนเตน้ เวลาองคผ์ า่ นมาสักกี่องคก์ ็ได้ ทาจิตให้นิ่ง กาหนดนิมิตใหร้ ่างกาย และ จิตใจของตัวเองให้กลายเป็ นอากาศธาตุ จะเกิดความรู้สึกเบา และควบคุมสติตัวเองได้ดี จะประสานพลงั ตวั เอง และพลงั เทพไดเ้ ป็นหน่ึงเดียว ไม่วา่ องคเ์ ทพจะผา่ นมาแค่ไหนก็ตาม ด้วยเหตุน้ี คุณเกิดอาการอย่างไหน เวลาองค์ผ่าน ตอ้ งให้คนมีทางน้ีแกใ้ ห้ได้เท่าน้นั คนไม่มีทางน้ี หรือญาณวิเศษ ก็แกไ้ ขให้คุณไม่ได้ ปรึกษาใคร ก็ควรพิจารณาก่อนให้ดีด้วย เพราะเร่ืองแบบน้ี คนเช่ือก็ดี คนไม่เชื่อก็วา่ เราจะเสียๆหายๆได้ นอกจากน้ี คุยและพดู ดึงเทวดาได้ หรือจะดึงญาณหลายองค์ลงมาได้ แต่อญั เชิญมาแลว้ เราตอ้ งมีสติ ถา้ ไม่มีสติ หรือทาจิตเราใหน้ ิ่งแลว้ เทวดาองคไ์ หนมา ถา้ เราไม่รู้จกั ควบคุมอารมณ์ ตวั เองใหด้ ี เทวดาองคไ์ หนมา เราก็จะมีนิสยั คลา้ ยเทวดาองคน์ ้นั และจะคุมอารมณ์ตวั เอง ไม่อยู่ ในบางคร้ัง เพราะฉะน้ัน ให้แก้ดว้ ยการมีสติ ทาจิตเราให้น่ิง จะมาสักกี่องค์ ก็แลว้ แต่ ใจเรา จะสงบ และสุขมุ เป็นปกติ ดงั น้ี วธิ ีเปลย่ี นความคดิ ใหม่ เพอ่ื ควบคุมและฝึ กใจตัวเอง ไม่ให้ตน่ื เต้น เวลาองค์เทพผ่าน ถา้ เราไปยดึ ติดในองคเ์ ทพ ในเทวฤทธ์ิมากจนเกินไป ก็อยากจะใหอ้ งคเ์ ทพผา่ น เพื่อให้ เรามีพลงั ไม่ยอมให้องคเ์ ทพกลบั กลายเป็ นยดึ ติดมากจนเกินไป เมื่อมีฤทธ์ิข้ึน ก็จะกลายเป็ น ความต่ืนเตน้ คุมตวั เองไม่อยู่ ใหแ้ กเ้ สียใหมด่ ว้ ยการฝึกปล่อยวาง กจ็ ะไม่ยดึ ติด การเปล่ียนความคิดตวั เองใหม่ ใหค้ ิดวา่ ในโลกน้ี มีฤทธ์ิต้งั มากมาย เหนือฟ้ าก็ยงั มีฟ้ า จะไปยดึ ติดกบั เทวฤทธ์ิอยา่ งเดียวไมไ่ ด้ ยงั มีท้งั ฌานฤทธ์ิ ญาณฤทธ์ิ บุญฤทธ์ิ เป็ นตน้ เราก็จะ ลดการยดึ ติดลง ไมใ่ หต้ วั เองตื่นเตน้ ได้ เวลาองคเ์ ทพผา่ น นอกจากน้ี เราตอ้ งฝึ กคุมสติให้มากๆ ทาใจให้สงบ เวลาองค์เทพผ่าน ก็ให้เห็นว่า เป็นสภาพธรรมดา วา่ งเปล่าเป็นอากาศธาตุ แมอ้ งคใ์ ดๆ จะผา่ นมามากแค่ไหน เราจะรู้สึกเฉยๆ รักษาอารมณ์ของตวั เองใหก้ ลายเป็นปกติ ไม่ต่ืนเตน้ อีกต่อไป ข้อแนะนาพเิ ศษ ไม่ควรตื่นเต้น ตอนตวั เองมฤี ทธ์ิ เราควรพิจารณาดว้ ยสติแลว้ ปล่อยวาง คิดเสียวา่ เราสร้างบุญบารมีมาเพ่ือจะมีอิทธิฤทธ์ิ เทวฤทธ์ิเพียงแค่น้ี ยงั เทียบไม่ไดก้ บั บุญบารมีท่ีตวั เองไดส้ ั่งสมมาหลายชาติ หรือยงั เทียบไม่ได้ กบั ฤทธ์ิในอดีตชาติของตวั เอง แคน่ ้ี เราจะลดความต่ืนเตน้ ลง มีสติมากข้ึน และคุมตวั เองอยู่

5 การประสานพลงั เทพกบั ตวั เอง ใหก้ ลายเป็นหน่ึงเดียว การฝึกฌานฤทธ์ิ กบั เทวฤทธ์ิ แตกตา่ งกนั อยา่ งมากมาย โดยท่ีฌานฤทธ์ิ ไม่มีอะไรเขา้ มาแทรกจิต แต่ทาไดช้ า้ หรือเร็ว ข้ึนอยกู่ บั บุญบารมีของ แตล่ ะบุคคล เทวฤทธ์ิ เราจะสามารถสัมผสั ถึงพลงั เทพด้วย เพ่ือไม่ให้เผลอสติ หรือหลงยึดติด ในพลงั เราตอ้ งควบคุมตวั เองให้ได้ ลดการต่ืนเตน้ ลง ปล่อยวางในพลงั ของเทวฤทธ์ิ แมจ้ ะมี พลงั ก็สักแตว่ า่ พลงั เฉยๆ ไม่ยดึ ติด ก็จะนิ่ง และสงบลงได้ การประสานพลงั เทพกบั ตวั เอง ให้กลายเป็ นหน่ึงเดียว คือ ฝึ กสติ ทาร่างกายตวั เอง ใหเ้ บา เป็ นอากาศธาตุ นอ้ มรับพลงั เทพ ให้หลงั่ ไหลมาทวั่ ท้งั ร่างกาย แมจ้ ะมีพลงั มากแค่ไหน ก็ทาจิตตวั เองให้นิ่ง เราจะไม่รู้สึกหนกั ตวั ร่างกายตวั เองจะเบา พลงั สมาธิของเรากบั พลงั เทพ กจ็ ะประสานกลายมาเป็นหน่ึงเดียว เรียกวา่ เป็นพลงั ทวคี ูณสองเท่า การรับขนั ธ์ ครอบเศียรที่ถูกวธิ ี การมีองคเ์ ทพ จะรับขนั ธ์หรือไมก่ ไ็ ด้ อยทู่ ี่การปฏิบตั ิตวั ของเรา ในกรณี ที่ไม่รับขนั ธ์ ใหบ้ อกกล่าวองคใ์ น และขอเนน้ การปฏิบตั ิ ในกรณี ท่ีรับขนั ธ์ ตอ้ งบอกกล่าวองคใ์ นก่อนวา่ จะไปที่ไหนดี ไม่ใช่อยๆู่ นึกจะไป ก็ไป ต้องให้ญาณในเราพาไปให้เจอท่ีดีๆ เพราะอย่าลืมว่า ทุกท่ีย่อมมีท้งั ที่ดี และที่ไม่ดี เจอท่ีดี ก็ดีไป เจอที่ไม่ดี เราก็แย่ไป แล้วแบบน้ี โทษใครไม่ได้ ตอ้ งรู้จกั โทษตวั เองก่อน ไปโทษคนอื่น ตอ้ งโทษวา่ เราผิดเอง ท่ีไม่รู้จกั พิจารณาก่อนดว้ ยปัญญาของตน จึงจะเป็ นผทู้ ี่ เจริญแลว้ ถา้ ไปโทษคนอื่น ก็แสดงวา่ ยงั ไม่ใช่คนท่ีเจริญสกั เท่าไร ดว้ ยเหตุน้ี คนที่บอกว่า คนอื่นมีองค์แลว้ ตอ้ งรับขนั ธ์ทุกคน แสดงวา่ เขายงั รู้ไม่จริง และรู้ยงั ไมห่ มด (แมแ้ ต่พระโพธิสัตว์ ผมู้ ีเทวดาคุม้ ครองนบั ไมถ่ ว้ น กไ็ ม่จาเป็นตอ้ งรับขนั ธ์) หมายเหตุ การรับขนั ธ์ ครอบเศียร จะบังเกิดมีกบั ผูท้ ี่เป็ นมนุษย์ มีเทวดาคุม้ ครอง เท่าน้นั ถึงจะไดผ้ ล แต่ใชไ้ ม่ได้ กบั ผทู้ ่ีสาเร็จเป็ นพระโพธิสัตวแ์ ลว้ เพราะบารมีสูงกวา่ เทพ พระพรหม ป่ ูฤาษีท้งั 108 ญาณ เร่ืองน้ี ท่านไม่จาเป็ นตอ้ งเชื่อก็ได้ ลองพิสูจน์ดูก็ได้ บุคคลใดท่ีมีบารมีเหนือกวา่ คน ครอบเศียรให้ หรือสาเร็จเป็ นพระโพธิสัตวแ์ ล้ว คนครอบให้จะร้อนเอง จะสังเกตเห็นได้ อยา่ งชดั เจน โดยรีบเอามือลา้ งน้ามนต์ หรือเอากระดาษเช็ดมือ เพื่อลดความร้อนลง การลาขนั ธ์ที่ถูกวธิ ี ในกรณีท่ีไปรับมาแล้วเจอท่ีไม่ดี ก็ตอ้ งลาให้ถูกวิธี ลาไม่ถูกวิธี ก็จะมีปัญหาตามมา มากมาย เช่น งานกบั เงินมีปัญหา เป็ นตน้ การลาขนั ธ์ ให้ถูกวิธี คือ จุดธูปบอกองคใ์ นวา่ ขนั ธ์ที่ไปรับมายงั ไม่ถูกตอ้ ง ขอลาขนั ธ์ ตวั เองจะปฏิบตั ิแทน ต่อไปน้ี ตวั เองจะเป็ นขนั ธ์แทน ขอใหอ้ งคเ์ ทพลงมาอยกู่ บั ตวั เองเตม็ องค์ เป็นวธิ ีท่ีถูกตอ้ งและพสิ ดารมาก แต่ใชไ้ ดจ้ ริง

6 การเปิ ดตาทส่ี าม เพอ่ื เห็นสิ่งศักด์สิ ิทธ์ิ หรือสิ่งลลี้ บั ทค่ี นธรรมดามองไม่เห็น การเปิ ดตาท่ีสาม เป็นตาญาณทิพยข์ องเทวดา เราสามารถใชพ้ ลงั เทพเห็นสมั ภเวสี เทวดา และนางฟ้ า รวมท้งั ส่ิงล้ีลบั ท่ีคนธรรมดามองไมเ่ ห็น ตาทพิ ย์ กบั ตาทสี่ าม แตกต่างกนั อย่างไร ตาทิพย์ หมายถึง เกิดจากการฝึ กสมาธิ ไปพร้อมกบั อานุภาพของกสิณ จนสาเร็จ ฌาน (กสิณท่ีจะทาใหค้ นมีตาทิพย์ มีอยู่ 3 อยา่ ง คือ กสิณไฟ กสิณแสงสวา่ ง กสิณสีขาว) ตาท่ีสาม หมายถึง เกิดจากพลงั เทพ ดว้ ยอานาจอานุภาพของเทวฤทธ์ิ จะทาใหค้ นน้นั สามารถเห็นส่ิงล้ีลบั ได้ โดยไม่จาเป็นตอ้ งสาเร็จฌาน หรือไมจ่ าเป็นตอ้ งผา่ นการฝึกกสิณมาก่อน การเปิ ดตาสามที่ดว้ ยตวั เอง มีอยู่ 2 วธิ ี คือ 1. การใชผ้ งเจิมสีแดงทาท่ีหนา้ ผาก เพ่อื เปิ ดเนตร บริกรรมภาวนาคาถาเบิกเนตรวา่ สะหัสสะเนตโต เทวนิ โท ทพิ พะจักขงุ วโิ สธะย.ิ 2. การเปิ ดตาที่สาม เนื่องด้วยการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ บาเพ็ญสมาธิภาวนา องค์เทพ ประจาตวั จะเปิ ดใหเ้ อง โดยไม่ตอ้ งเรียกร้องมาจากที่ไหน อธิบายโดยย่อ วิธีแรก การใชผ้ งแดงเจิมเบิกเนตรดว้ ยตวั เอง จิตเราตอ้ งถึง ถา้ จิตไม่ถึง และไม่นิ่งพอ วธิ ีน้ี จะใชไ้ ม่ไดผ้ ล วธิ ีท่ีสอง จะไดผ้ ลเตม็ ร้อย เพราะเป็นการปฏิบตั ิ เดี๋ยวญาณในก็จะเปิ ดใหเ้ ราเอง หลกั การฝึกตาท่ีสาม การฝึ กตาท่ีสาม พ่ึงทาสมาธิกาหนดจิต นึกถึงองค์ในเรา จะเป็ นองคใ์ ดองค์หน่ึงก็ได้ “เพราะเทวดาทุกองค์ มีตาที่สามดว้ ยกนั ท้งั น้นั ” กาหนดพลงั เทพใหอ้ อกมาจากตรงกลางหนา้ ผาก กจ็ ะเป็นการฝึกเปิ ดตาที่สาม ดว้ ยตวั เอง จะสามารถมองเห็นสิ่งล้ีลบั ได้ การเหน็ สัมภเวสี เทวดาและนางฟ้ า หลกั การใช้ตาที่สาม คือ กาหนดสมาธิ ใช้พลงั เทพให้ออกมาจากตรงกลางหนา้ ผาก หรือที่ดวงตาของเราท้งั สองขา้ ง (จะเป็ นการใชต้ าเน้ือ กบั ตาที่สามควบคู่กนั ไป) เมื่อตาท่ีสาม เปิ ดแลว้ กจ็ ะเห็นสมั ภเวสี เทวดาและนางฟ้ า ใหม่ๆแลว้ คนไม่ชอบเห็นสมั ภเวสี แต่ชอบเห็นเทวดานางฟ้ า ให้กาหนดจิตพิจารณาวา่ สังขารท้งั หลายไมเ่ ที่ยง ไมว่ า่ น่ากลวั หรือวา่ สวย สุดทา้ ยไม่มีอะไรแน่นอน กจ็ ะหายกลวั ไปเอง วธิ ีการแกอ้ าการมึนหวั ท่ีตรงหนา้ ผาก อาการแบบน้ี เรียกวา่ ใชพ้ ลงั ของตาที่สามมากจนเกินไป จะเป็ นใหม่ๆ สาหรับผใู้ ชท้ ี่ ยงั ไมช่ ิน เลยควบคุมพลงั ตวั เองไมไ่ ด้ ใหเ้ อาผา้ ชุบน้า เช็ดบริเวณหนา้ ผาก นอนพกั กห็ าย

7 การอญั เชิญญาณเทพไว้ในวตั ถุมงคลต่างๆ (พธิ ีเทวาภิเษก) การบรรจุพลงั เทพไวใ้ นวตั ถุมงคล หรือการอญั เชิญญาณเทพ มาใส่พลงั ไวใ้ นหุ่นท่าน หรือใส่พลงั ไวใ้ นรูปภาพ เครื่องราง วตั ถุมงคล เหรียญหอ้ คอย เป็นตน้ ส่วนพิธีเทวาภิเษก จะเป็ นพิธีใหญ่ นิยมปลุกเสก วตั ถุมงคลของเทวดาหลายๆองค์ เพอื่ ใหค้ นนิยมบูชา เพ่ือความเป็นสิริมงคลในชีวติ หลกั การบรรจุพลงั เทพ หรืออญั เชิญญาณเทพไวใ้ นหุ่น และวตั ถุมงคล ไม่ว่าเรา จะอญั เชิญองค์เทพองค์ใด ก็แลว้ แต่ ให้ใช้หลกั การเดียวกนั คือ น้อมจิต อญั เชิญญาณเทพองคน์ ้นั ใหม้ าผา่ นร่างเรา จากตวั เรา ส่งพลงั เทพไปที่ฝ่ ามือ อธิษฐานพลงั เทพ จากฝ่ ามือเรา ใหบ้ รรจุพลงั ญาณลงในวตั ถุมงคล หุ่นเทพ หรือเหรียญเทพ หรือรูปภาพ เป็นตน้ จะบรรจุพลงั ญาณเทพลงในวตั ถุมงคลแบบใด กใ็ หใ้ ชห้ ลกั การเดียวกนั ตามท่ีไดก้ ล่าวมาแลว้ น้ี แมท้ ่ีสุด การอญั เชิญญาณเทพ พร้อมกบั บรรจุพลงั ไวท้ ่ีเศียรป่ ฤู าษีทวั่ ไป หรือเศียรป่ ูฤาษี บรมครู 108 ก็ใชห้ ลกั การเดียวกนั ตวั อย่าง การอญั เชิญญาณป่ ฤู าษีนารอด พทุ ธคุณแคล้วคลาด กาหนดจิตอญั เชิญญาณป่ ูฤาษีนารอด ใหผ้ า่ นมาที่ตวั เรา แลว้ ถ่ายพลงั ญาณป่ ูฤาษีนารอด จากตวั เราไปท่ีปลายฝ่ ามือ แลว้ อธิษฐานจิตส่งพลงั ญาณลงไปในวตั ถุมงคล เป็ นการอญั เชิญญาณ ป่ ูฤาษีนารอด ปลุกเสกลงไปในวตั ถุมงคล เพื่อใหเ้ กิดเป็นพุทธคุณแคลว้ คลาด ตวั อย่าง การอญั เชิญญาณโชคลาภ พระลกั ษมี หรือพระพฆิ เนศ การอญั เชิญญาณพระลกั ษมี จะบรรจุพลงั ญาณไวท้ ี่หุ่น หรือเหรียญ หรือที่รูปภาพก็ได้ เพื่อสักการะบูชา ให้เกิดเป็ นสิริมงคล โชคลาภต่างๆ กาหนดจิตอญั เชิญญาณพระลกั ษมีไวท้ ี่ ตวั เรา แลว้ ถ่ายพลงั ลงไปท่ีวตั ถุมงคล วตั ถุมงคลน้นั ก็จะมีญาณของพระลกั ษมีอยู่ จะพกติดตวั หรือจะบูชาที่บา้ น กจ็ ะบงั เกิดโชคลาภ แก่ผทู้ ่ีสักการะบูชา การอญั เชิญญาณพระพิฆเนศ จะบรรจุพลงั ญาณไวท้ ่ีหุ่น หรือเหรียญ เพื่อพกติดตวั กไ็ ด้ ใชห้ ลกั การเดียวกนั คือ กาหนดจิตอญั เชิญญาณพระพิฆเนศมาไวท้ ่ีตวั เรา แลว้ ถ่ายพลงั ลงไปท่ี วตั ถุมงคล วตั ถุมงคลน้นั ก็จะมีญาณของพระพิฆเนศอยู่ เพื่อขจดั อุปสรรค ประทานโชคลาภ จะพกติดตวั ในกรณีท่ีเป็นเหรียญ ถา้ จะบชู าไวท้ ่ีบา้ น ที่ทางาน จะนิยมเป็นหุ่นท่าน หมายเหตุ องคเ์ ทพองคอ์ ื่น ก็มีหลกั การอญั เชิญญาณ และการเปิ ดญาณเหมือนกนั ข้อควรรู้ เมื่ออญั เชิญญาณเทพมาไวท้ ่ีวตั ถุมงคลแลว้ ก็ภาวนาคาถาเบิกเนตร ใชผ้ งแดง เจิมที่หนา้ ผากตรงกลาง รูปหรือหุ่นของเทวดา เพ่ือเปิ ดตาที่สาม หรือเบิกเนตรใหท้ า่ นดว้ ย คาถาเบิกเนตรภาวนาวา่ สะหสั สะเนตโต เทวนิ โท ทิพพะจกั ขงุ วโิ สธะยิ.

8 การใช้พลงั เทพ ท้งั สายบุญฤทธ์ิ และสายอทิ ธิฤทธ์ิ พลงั เทพ ไม่วา่ สายไหนก็แลว้ แต่ จะมาจากหลกั ใหญ่ 2 สาย คือ สายบุญฤทธ์ิ และ สายอิทธิฤทธ์ิ แลว้ แยกยอ่ ต่อไป เช่น สายรักษาโรค ก็แยกมาจากสายบุญฤทธ์ิ สายปราบมาร กแ็ ยกตวั ออกมาจากสายอิทธิฤทธ์ิ เป็นตน้ แมส้ ายธรรม ก็เป็นไดท้ ้งั สายบุญฤทธ์ิและอิทธิฤทธ์ิ เทวดาไม่วา่ จะเป็ นสายบุญฤทธ์ิ หรือสายอิทธิฤทธ์ิ ร่างก็ตอ้ งปฏิบตั ิตวั คลา้ ยๆกนั แต่มี อะไรที่พเิ ศษ แตกตา่ งกนั เพยี งเลก็ นอ้ ย กล่าวคือ การปฏิบตั ิตวั ของสายบุญฤทธ์ิ เทวดาสายบุญฤทธ์ิ จะเนน้ ให้ร่าง สร้างบุญบารมีใหท้ าน รักษาศีล ลงมาช่วยเหลือคน เช่น รักษาโรค เป็ นตน้ บุคคลใดก็ดี มีเทวดาสายบุญฤทธ์ิคุม้ ครอง เนน้ ใหท้ าน ช่วยเหลือคน ให้มาก ตามกาลงั ทรัพยข์ องเรา หรือทาบุญตามวดั สถานท่ีต่างๆ ส่วนการรักษาศีล ตอ้ งต้งั จิต อธิษฐานเอาเองวา่ จะรักษาศีลไดก้ ่ีขอ้ ถา้ รักษาศีลทุกขอ้ ไดย้ ง่ิ ดี ถา้ รักษาไดเ้ ป็ นบางขอ้ ไม่ควร ต้งั สจั จะวา่ จะถือใหค้ รบทุกขอ้ จะเป็นการผดิ สจั จะ และเป็นการหนกั กบั ตวั เราเอง สังคมปัจจุบนั การทางานบางอยา่ ง ทาใหค้ นเรารักษาไดเ้ ป็ นบางขอ้ เพราะใหต้ อบตรง ทุกอยา่ ง ก็จะไม่ทนั เล่ห์เหล่ียมคนกม็ ี ทาใหเ้ รารักษาศีลไดไ้ ม่ครบ หรือทางานบางอยา่ ง หรือใช้ ชีวิตอยใู่ นสังคม ทาให้ตอ้ งผิดศีลขอ้ อ่ืนๆ รักษาไดไ้ ม่ครบทุกขอ้ ก็ไม่จาเป็ นตอ้ งไปต้งั สัจจะ ทาใหเ้ ราหนกั ตวั ใหต้ ้งั สจั จะ เท่าที่เรารักษาศีลได้ (ถา้ ไมย่ อมรักษาศีลเลย อนั น้ีถือวา่ ผดิ มาก) นอกจากน้ี ควรถือศีล กินเจ ทุกวนั พระไดย้ งิ่ ดี ข้อควรทราบ เทวดาสายบุญฤทธ์ิ มีแสงในตวั เองมีเขียว คนที่มีตาท่ีสามเท่าน้นั ที่รู้ การปฏิบตั ิตวั ของสายอิทธิฤทธ์ิ เทวดาสายอิทธิฤทธ์ิ จะเนน้ ใหร้ ่าง ปฏิบตั ิสมาธิมาก บาเพญ็ ตบะภาวนา เพ่ือทาจิตให้ แน่วแน่ และเนน้ รักษาศีลให้มาก เคร่งครัดต่อการปฏิบตั ิ ส่วนเรื่องทาน ถา้ ร่างทาบุญให้ทาน ก็ดี ถ้าร่างยงั ไม่มีปัจจยั ทาบุญให้ทาน ก็จะไม่บงั คบั ไม่เน้นให้ทาน เหมือนสายบุญฤทธ์ิ แตอ่ ยา่ งไร กย็ งั ตอ้ งการใหร้ ่าง ทาบุญใหท้ านไวบ้ า้ งกด็ ี ไมถ่ ึงขนาดบงั คบั ทาบุญใหท้ าน เรียกวา่ ไม่เนน้ เร่ืองทาน แตเ่ นน้ เร่ืองของการปฏิบตั ิบาเพญ็ เพยี รภาวนา นอกจากน้ี ควรหมนั่ สวดมนตภ์ าวนาทุกวนั กินเจ ทุกวนั พระไดย้ ง่ิ ดี ข้อควรทราบ เทวดาสายอิทธิฤทธ์ิ มีแสงในตวั เองมีแดง คนท่ีมีตาท่ีสามเทา่ น้นั ที่รู้ ถ้ามีเทวดาท้งั สายบุญฤทธ์ิ และอทิ ธิฤทธ์ิ จะปฏิบตั ิตวั อย่างไร บุคคลใดก็ดี สร้างบุญบารมีมามาก เพ่ือท่ีจะมีเทวดาสายบุญฤทธ์ิ และสายอิทธิฤทธ์ิ ไปพร้อมๆกนั และรวมกนั เป็ นหน่ึงเดียว จะผลดั เปลี่ยนหมุนเวยี นกนั มา ใหค้ วามคุม้ ครองดูแล แก่ผทู้ ่ีเป็ นร่าง ให้เนน้ ทาบุญให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนตภ์ าวนาทุกเชา้ ค่า กินเจ ทุกวนั พระ ถา้ ไม่พร้อมกินเจทุกวนั พระ เพราะทางานตอ้ งเขา้ สังคม ใหเ้ นน้ ถือศีล 5 แทน

9 หลวงป่ ูทวด

10 หลวงป่ ูทวด หลวงป่ ทู วด หมายถึง องคเ์ ทพสายพระ ท่านยงั เป็นพระโพธิสตั ว์ อีกดว้ ย หลวงป่ ทู วด ท่านมีอานาจพทุ ธคุณทางแคลว้ คลาด เมตตามหานิยม และโชคลาภ การมีหลวงป่ ูทวด ตอ้ งพจิ ารณาวา่ เราจะอยทู่ างธรรม หรือทางโลก ในกรณีท่ีอยทู่ างธรรม จะไม่มีปัญหาเทา่ ไรนกั ในกรณีที่อยู่ทางโลก แลว้ เรามีคู่ครอง ตอ้ งอธิษฐานจิตบอกท่านก่อนวา่ จะถือศีล 8 ในวนั พระไดห้ รือไม่ ถา้ ยงั มีภาระหน้าที่ ท่ีตอ้ งดูแลทางโลก ขอต้งั จิตถือศีล 5 พอ จะได้ ไมม่ ีปัญหากบั การใชช้ ีวติ อยทู่ างโลก การอญั เชิญหลวงป่ ูทวดผา่ นร่าง หลวงป่ ูทวด ท่านเป็ นของแรง และของสูง ร่างต้องปฏิบตั ิด้วย จึงได้รับพรต่างๆ ถ้าร่างไม่ยอมปฏิบตั ิ ชีวิตก็จะมีแต่ปัญหา ควรหมนั่ สวดมนต์ไหวพ้ ระ ให้ทาน รักษาศีล อยเู่ สมอ การมีทา่ นคุม้ ครอง จิตเราตอ้ งสงบ เยน็ บริสุทธ์ิ ทา่ นจะมาผา่ นร่างไดเ้ ตม็ องค์ การอญั เชิญหลวงป่ ูทวดผา่ นร่าง ทาจิตใหเ้ ป็ นสมาธิ สงบ เยน็ บริสุทธ์ิ ทาร่างกายให้ เบา วา่ งเปล่าเป็นอากาศธาตุ ท่านจะมาลงเราไดเ้ ตม็ องค์ การขอพร หลวงป่ ูทวด มีอานาจพทุ ธคุณมาก ข้ึนอยวู่ า่ ทา่ นจะขอพรทางธรรมหรือทางโลก การขอพรทางธรรม ขอให้ตวั เองมีความเจริญกา้ วหนา้ ในการปฏิบตั ิธรรม จะปลุกเสก พระเคร่ือง หรือวตั ถุมงคลใดๆ กข็ ลงั มีอานาจพุทธคุณ ตามที่เราต้งั จิตอธิษฐานลงไป การขอพรทางโลก ใหต้ วั เองมีโชคลาภ มีความเจริญกา้ วหนา้ ในหนา้ ที่การงาน จะติดต่อ งานท่ีไหน กใ็ หเ้ ป็นเมตตามหานิยม เดินทางแคลว้ คลาดปลอดภยั การถูกลงโทษ การมีองคพ์ ระคุม้ ครอง จาเป็ นตอ้ งถือศีล ปฏิบตั ิธรรม อยา่ งเคร่งครัด ถา้ เราไม่ปฏิบตั ิ แลว้ ไซร้ จะโดนขา้ งในเราลงโทษ ขาดความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ขาดโชคลาภ ไปไหนมาไหน ถา้ ประสบอุบตั ิ องคก์ ็ไม่อยากให้ความคุม้ ครองช่วยเหลือเรา ถา้ ขา้ งในจาใจ ช่วยเรา ก็ช่วยให้รอดตายเท่าน้นั แต่เจ็บหนกั การมีทางน้ี ถา้ ร่างปฏิบตั ิดีๆ จะไม่เกิดอุบตั ิเหตุ ไม่มีการเจบ็ หนกั จะแคลว้ คลาดตลอด การมีองค์ทางน้ี ไม่ว่าจะเป็ นองค์ไหนก็แลว้ แต่ ย่ิงเป็ นองคท์ างพระดว้ ยแลว้ ร่างตอ้ ง ปฏิบตั ิเคร่งครัดอยู่ในศีลธรรมให้มาก ห้ามประพฤติตวั เหลวไหล ออกจากศีลธรรมอนั ดีงาม ไม่อยา่ งน้นั เราตอ้ งโดนลงโทษ ควรต้งั มน่ั อยใู่ นศีลธรรม จะทาการสิ่งใด ญาณในเราก็จะเปิ ด ใหเ้ จริญกา้ วหนา้ ท้งั ทางธรรมและทางโลก มีแตโ่ ชคลาภ

11 หลวงป่ ูโต

12 หลวงป่ ูโต หลวงป่ ูโต ช่ือทางสมณศกั ด์ิเตม็ คือ สมเดจ็ พระพุฒาจารยโ์ ต พรหมรังสี หลวงป่ ูโต หมายถึง เทพสายพระ บุคคลใดก็ดี สร้างบุญบารมีมา เพื่อมีองค์ทางพระคุ้มครอง จาเป็ นต้องรักษาศีล ปฏิบตั ิธรรมอยา่ งเคร่งครัด การมีองคพ์ ระ แลว้ อยทู่ างธรรม จะไมม่ ีปัญหาอะไร เพราะเราไม่ยงุ่ เก่ียวกบั เพศตรงขา้ ม อยแู่ ลว้ ในกรณีที่อยทู่ างโลก มีครอบครัว เราตอ้ งต้งั จิตบอกองคใ์ นก่อนวา่ จะปฏิบตั ิเท่าที่เรา ปฏิบตั ิได้ จะถือศีล 5 เป็ นตน้ ถา้ เป็ นวนั พระ จะถือศีล 8 ก็ได้ แต่ถา้ ไม่ถือศีล 8 เพราะมี ครอบครัว จาเป็นตอ้ งมีหนา้ ที่ดูแล ก็รักษาศีล 5 กพ็ อ และเวลาอยกู่ บั คู่ครอง ตอ้ งอธิษฐานจิต บอกองคใ์ นเรา ใหถ้ อยญาณออกก่อน ไม่ง้นั จะมีปัญหากบั การใชช้ ีวติ คู่ อยทู่ างโลก หลวงป่ โู ต มีอานาจอานุภาพ พระพทุ ธคุณมาก ถึง 108 ประการ การอญั เชิญหลวงป่ โู ตผา่ นร่าง หลวงป่ ูโต ท่านเป็ นองคพ์ ระ เป็ นของสูง และเป็ นของแรง มีอานาจพระพุทธคุณมาก ปกป้ องรักษา ผูเ้ ป็ นร่าง ให้แคล้วคลาดจากภยนั ตรายท้งั ปวง มีเสน่ห์เป็ นเมตตามหานิยม ใหเ้ จา้ นาย ลูกคา้ เกิดความเมตตาสงสาร รักใคร่ มีความเจริญกา้ วหนา้ ดา้ นการงาน มีโชคลาภ เพราะฉะน้นั ผูม้ ีทางน้ี ตอ้ งปฏิบตั ิ เวลาองคท์ ่านผา่ น ญาณจะมาแน่น และมาเต็ม มากไปดว้ ยอานุภาพ แห่งพระพุทธคุณ การอญั เชิญหลวงป่ ูโตผา่ นร่าง ทาจิตใหน้ ่ิง ปล่อยวาง ร่างกายใหเ้ ป็ นอากาศธาตุ ทาใจ ใหส้ งบ เยน็ บริสุทธ์ิ ทา่ นจะมาลงเราไดเ้ ตม็ องค์ การขอพร การขอพร ถึงอยทู่ ่ีวา่ ทา่ นอยทู่ างธรรมหรือทางโลก ในกรณีที่อยู่ทางธรรม ขอพรให้เจริญกา้ วหนา้ ในทางธรรม สามารถอญั เชิญพลงั ญาณ หลวงป่ โู ต มาปลุกเสกวตั ถุมงคล และพระเครื่องไดข้ ลงั มีอานาจพุทธคุณ 108 ในกรณีที่อยู่ทางโลก ขอให้ตวั เองมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าท่ีการงาน การเงิน ประสบแต่โชคลาภ และมีส่ิงดีๆ เขา้ มาในชีวิต จะเดินทางไปไหนมาไหน ก็ขอให้ตวั เอง แคลว้ คลาดจากภยนั ตรายท้งั ปวง การถูกลงโทษ หลวงป่ โู ต ท่านเป็นองคพ์ ระ ที่เคร่งครัดในเรื่องศีลธรรมมาก เมื่อทา่ นใหค้ วามคุม้ ครอง เรา ก็ควรปฏิบตั ิตวั อยู่ในศีลธรรม ห้ามประพฤติเหลวไหล ไม่อย่างน้นั จะโดนขา้ งในเรา ลงโทษ การงานติดขดั ขาดโชคลาภ เป็นตน้ ควรกลบั ตวั เสียใหม่ ใหต้ ้งั ใจทาความดีรักษาศีล

13 ท้าวสันดุสิต พระบรมมหาโพธิสัตว์

14 ท้าวสันดุสิต พระบรมมหาโพธิสัตว์ ทา้ วสันดุสิต หมายถึง พระบรมมหาโพธิสัตว์ ผูท้ ่ีจะมาตรัสรู้เป็ นพระพุทธเจ้าใน อนาคตกาล ชาติสุดทา้ ย ตอ้ งอยใู่ นสวรรคช์ ้นั ดุสิต ซ่ึงเป็นที่อยขู่ องพระโพธิสตั วท์ ้งั หลาย ทา้ วสันดุสิต และพระพุทธเจา้ ไม่ไดม้ ีองค์เดียว พอทา้ วสันดุสิต องคป์ ัจจุบนั จุติมา ตรัสรู้เป็ นพระพุทธเจา้ “พระโพธิสัตว์ หรือพระบรมมหาโพธิสัตวอ์ งคใ์ หม่” ท่ีจะมาตรัสรู้เป็ น พระพุทธเจา้ เป็นลาดบั องคต์ ่อไป จะข้ึนมาเป็นทา้ วสันดุสิตแทน พระพุทธเจา้ ตรัสวา่ ก่อนพระองค์ทรงท่องเท่ียวอยใู่ นวฏั ฏะสงสาร ท่ีพระองค์ไม่เคย ไปเกิดเป็นไม่มี เพราะฉะน้นั การไปเกิดเป็นพระนารายณ์ หรือสวรรคช์ ้นั พรหม พระองคก์ เ็ คย ไปเกิดมาหมดแลว้ พระนารายณ์ ก็ไม่ไดม้ ีองค์เดียว พอองค์เก่าอวตารลงมา องค์ใหม่จะทา หน้าท่ีแทนเช่นกนั ในพระไตรปิ ฎกยงั กล่าววา่ พระนารายณ์ที่อวตารลงมาเป็ นพระราม จะได้ ตรัสรู้เป็นพระพทุ ธเจา้ องคต์ อ่ ไป จากพระศรีอาริยเมตไตรย ทรงพระนามวา่ พระรามะพุทธเจา้ การมีท้าวสันดุสิตคุ้มครอง บุคคลน้ันต้องปรารถนานิพพานด้วย และบาเพ็ญบารมี เพอ่ื ไปนิพพานอยชู่ า้ นาน ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็จะมีทา้ วสันดุสิตคุม้ ครองได้ ถา้ ทา้ วสันดุสิต เปิ ดญาณบารมีให้ท่านหมด แสดงวา่ ท่านตอ้ งเก่งมาก พระโพธิสัตว์ หมดท้งั สวรรคช์ ้นั ดุสิต จะเป็นร้อยเป็ นพนั สายญาณ สามารถมาอยกู่ บั ทา่ นไดห้ มด และวชิ าของ ทา่ นจะพสิ ดารมาก จะรู้จริง และรู้ลึกซ้ึง วชิ าของพระโพธิสัตวใ์ นสวรรคช์ ้นั ดุสิตท้งั หมด จะรู้ได้อย่างไรว่า ท้าวสันดุสิต เปิ ดญาณบารมใี ห้แล้ว ถา้ ทา้ วสันดุสิตเปิ ดญาณบารมีให้แลว้ ตอ้ งสามารถอญั เชิญพระโพธิสัตวท์ ี่อยใู่ นสวรรค์ ช้ันดุสิตได้ทุกองค์ จะเป็ นร้อยเป็ นพนั องค์ ก็จะสามารถอญั เชิญผ่านร่างได้อย่างง่ายดาย และ มีวชิ าพสิ ดารเสมือนพระโพธิสตั วท์ ุกองค์ อยตู่ นเองเพยี งผเู้ ดียว เป็นตน้ นอกจากน้ี ยงั มีความรู้ความสามารถในวชิ าพุทธภูมิท้งั หลาย อยา่ งไรกด็ ี ตอ้ งใคร่ครวญ ก่อนให้ดีว่า สมควรหรือไม่ ท่ีจะเอาวิชาพุทธภูมิบางอย่างจากสวรรค์ช้ันดุสิตลงมาอยู่บน โลกมนุษย์ เพราะวชิ าพุทธภูมิเป็ นของสูง ไม่สมควรใหอ้ ยกู่ บั มนุษยบ์ างคน เพ่ือป้ องกนั เอาไป ใชใ้ นทางท่ีผดิ สมควรอยกู่ บั ผสู้ ร้างบุญบารมีมา เพอื่ ไปนิพพานเทา่ น้นั ข้อควรทราบ การมีองค์เป็ นพระโพธิสัตว์ กับการสาเร็จเป็ นพระโพธิสัตว์ แตกต่างกัน อย่างไร การมีองคเ์ ป็ นพระโพธิสัตว์ คือ มีเทวดาประจาตวั เป็ นสายญาณพระโพธิสัตว์ แตต่ วั เอง ไม่ไดส้ ร้างบุญบารมีมา เพ่อื พระนิพพาน ยงั ไม่ไดส้ าเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ การสาเร็จเป็ นพระโพธิสัตว์ คือ สร้างบุญบารมีมาเพ่ือพระนิพพาน สาเร็จเป็ น พระโพธิสัตวแ์ ลว้ “ไม่วา่ ตวั เองจะมีองค์เทพเป็ นสายญาณพระโพธิสัตวห์ รือไม่ก็ตาม” ก็สาเร็จ เป็นพระโพธิสัตว์ เนื่องดว้ ยการบาเพญ็ บุญบารมีของตวั เองท้งั หมด 30 ทศั

15 หมายเหตุ ถ้าท่านบาเพ็ญบารมีสาเร็จเป็ นพระโพธิสัตว์ และมีเทวดาสายโพธิสัตว์ คุม้ ครองดว้ ย เท่ากบั วา่ พลงั และบารมีของท่าน จะทวคี ูณสอง ซ่ึงหาไดย้ ากมาก นอ้ ยคนนกั ท่ีจะมี และบาเพญ็ บารมีสาเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์น้ัน บุญบารมีสูงส่ง ไม่สามารถรับขนั ธ์เทพได้ บุคคลใดก็ดี บอกวา่ มีเทพ มีองคแ์ ลว้ ตอ้ งรับขนั ธ์ แสดงวา่ เขายงั รู้ไมจ่ ริง และยงั รู้ ไม่หมด ไม่ไดใ้ ชต้ าดู หรือญาณวิเศษดูวา่ ผทู้ ี่อยตู่ รงหนา้ มีคุณธรรมช้นั ไหน หรือสาเร็จเป็ น พระโพธิสัตวห์ รือไม่ ประการใด คาวา่ ขนั ธ์เทพ ใชไ้ ดก้ บั มนุษยธ์ รรมดา ที่มีองคเ์ ทพเท่าน้นั ยงั มาใชก้ บั พระโพธิสัตว์ ไมไ่ ด้ ขนั ธ์เทพ เริ่มตน้ ที่ ขนั ธ์ 5 ต่อไปเป็นขนั ธ์ 9 สูงสุดเป็นขนั ธ์ 16 คือ ช้นั พรหม การสาเร็จเป็นพระโพธิสัตวน์ ้นั สร้างบุญบารมีเป็ นอสงไขยกปั แสนกปั บุญบารมีสูงกวา่ เทพ พรหม ป่ ูฤาษี จะมารับขนั ธ์ครอบเศียรไดเ้ ช่นใด จริงหรือไม่ ท่านลองใชส้ ติปัญญาของ ตวั เองพจิ ารณาเองเถิด การบาเพญ็ บารมสี าเร็จเป็ นพระโพธิสัตว์ สามารถได้รับพรวเิ ศษจากเทพทกุ สายญาณ การบาเพญ็ บุญบารมีมาชา้ นาน เป็นอสงไขยกปั แสนกปั ยอ่ มตอ้ งมีบุญบารมีท่ีไม่ธรรมดา และไดร้ ับพรวิเศษเทวดาทุกองค์ โดยเฉพาะทา้ วสันดุสิต ย่อมตอ้ งให้พรวิเศษท่าน ในฐานะ ผสู้ ร้างบุญบารมี สาเร็จพระโพธิสัตว์ เช่นกนั เมื่อได้รับพรวิเศษจากเทวดาทุกองค์ ย่อมได้รับการดูแลปกป้ องคุ้มครองการเทวดา ท้งั หลาย ใหแ้ คลว้ คลาดจากภยนั ตรายท้งั ปวง และมีบุญญาภินิหารที่ไม่ธรรมดา การอญั เชิญญาณท้าวสันดุสิต ผ่านร่าง พึงกาหนดจิตให้เย็นไปทวั่ ท้งั ร่างกาย เม่ือ ทา้ วสันดุสิตลงมาเต็มองค์ ตวั ท่านเองจะมีพลงั ญาณ และวิชาพุทธภูมิท้งั หมด ไม่จาเป็ นตอ้ งให้ ใครมาสอนให้ แตใ่ หญ้ าณในเรามาสอนให้ และใหญ้ าณในเราเปิ ดวชิ าพทุ ธภูมิใหท้ ้งั หมด เคลด็ ลบั การใชพ้ ลงั โพธิพนั ญาณ มนุษยธ์ รรมดา หรือผทู้ ี่มีองค์เป็ นเทพ หรือพระพรหม ไม่สามารถอญั เชิญญาณบารมี พระโพธิสัตวจ์ ากสวรรคช์ ้นั ดุสิต ครบหมดทุกองคไ์ ด้ เหตุผลเพราะ มนุษยธ์ รรมดาไม่ไดส้ ร้าง บุญบารมีข้ึนไปเพื่อนิพพาน ถา้ พระโพธิสัตวล์ งมาจริงๆ ก็จะรับบุญบารมีไมไ่ หว ผูท้ ่ีจะรับบุญบารมี และสายญาณของพระโพธิสัตวไ์ ด้ทุกองค์ บุคคลน้ัน ตอ้ งสร้าง บุญบารมีข้ึนไปเพือ่ นิพพาน หรือสาเร็จเป็นพระโพธิสตั วเ์ ท่าน้นั เม่ือบุคคลธรรมดาสร้างบุญบารมีข้ึนไปเพื่อนิพพาน จะสาเร็จพลังโพธิญาณ และ พลงั โพธิพนั ญาณไดท้ ้งั หมด การอญั เชิญพระโพธิสัตว์ หลายๆองคม์ าพร้อมกนั จะสามารถรับ พลงั ไดอ้ ยา่ งง่ายดาย พึงกาหนดร่างกายให้วา่ งเปล่าเป็นอากาศธาตุ ทาจิตใหเ้ ยน็ สงบน่ิง แมจ้ ะ เป็นพนั สายญาณ ยอ่ มสามารถรวมกนั เป็นหน่ึงเดียว และรู้วธิ ีใชพ้ ลงั โพธิพนั ญาณไดโ้ ดยอตั โนมตั ิ

16 ป่ ูฤาษี 108

17 ป่ ูฤาษี 108 ป่ ูฤาษี 108 หมายถึง การรวมสายญาณบรมครูท้งั หมด 108 ท้งั สายรักษา สายดูดวง สายปราบมาร สายการแสดง สายเวทมนต์ เป็นตน้ ป่ ูฤาษี 108 เป็ นของแรง คนท่ีมีทางน้ี ต้องถือศีลปฏิบตั ิธรรม ห้ามประพฤติตน เหลวไหลออกจากศีลธรรม เพราะจะถูกป่ ฤู าษีลงโทษไดง้ ่าย การครอบเศียร ถ้าใช้เศียรป่ ูฤาษีทว่ั ไป ถือว่า ใช้ไม่ได้ ขา้ งในของเราจะไม่ยอมรับ ตอ้ งใชเ้ ศียรบรมครูป่ ูฤาษี 108 เท่าน้นั ถึงจะครอบเศียรได้ และเกิดสัมฤทธ์ิผล การใชญ้ าณป่ ูฤาษี 108 ป่ ูฤาษี 108 เป็ นการรวมหมดทุกสายญาณ เม่ือเราถือศีลปฏิบตั ิธรรม อานาจญาณบารมี ย่ิงสูงข้ึนเอง การทาจิตให้เป็ นสมาธิ และสงบน่ิง อญั เชิญญาณบารมีป่ ูฤาษี 108 ผา่ นมาเขา้ ร่าง จะสามารถใชอ้ านาจพระพุทธคุณ และสายญาณบารมีป่ ูฤาษีไดท้ ้งั หมด ท้งั สายรักษา สายดูดวง สายปราบมาร สายการแสดง สายเวทมนต์ เป็นตน้ ตวั อยา่ งเช่น จะใชพ้ ลงั รักษาโรค โดยปกติสายรักษาจะเป็ นของป่ ูฤาษีชีวก แต่เม่ือเราไม่ใช้ญาณป่ ูฤาษีชีวก แต่มาใชญ้ าณ ป่ ูฤาษี 108 แทนกไ็ ด้ พงึ กาหนดจิตอญั เชิญญาณป่ ูฤาษี 108 มาผา่ นเขา้ ร่าง จะรู้สึกและสัมผสั พลงั เทพของป่ ูฤาษีได้ กาหนดพลงั จากจิตเรา แผพ่ ลงั ไปท่ีปลายฝ่ ามือ ใชก้ ดจุดบริเวณท่ีคนอื่น เจบ็ ไขไ้ ดป้ ่ วย ก็จะเป็นการใชพ้ ลงั ญาณบรมครูป่ ูฤาษี 108 รักษาโรคใหผ้ อู้ ่ืน คนที่มีสายญาณบรมครูป่ ูฤาษี 108 จะไม่เจบ็ ไขไ้ ดป้ ่ วยง่ายๆ ถึงมีบา้ ง ไม่เกิน 3 วนั จะหายเองเป็นปกติ ควรประพฤติตนอยใู่ นศีลธรรม จะมีพลงั ญาณเตม็ ร้อยรักษาโรคใหต้ วั เอง การใชญ้ าณพระพทุ ธคุณ 108 พระพุทธคุณ 108 เป็ นการรวมอานุภาพพระพุทธคุณไวท้ ้งั หมด ได้แก่ แคล้วคลาด เมตตามหานิยม มหาอานาจ คงทรหด และคงกระพนั ชาตรี เป็นตน้ บุคคลผใู้ ดสาเร็จสมาธิดว้ ยกสิณดิน จะมีพทุ ธคุณดา้ นทางคงทรหด และคงกระพนั ชาตรี บุคคลผใู้ ดสาเร็จสมาธิดว้ ยกสิณน้า จะมีพุทธคุณดา้ นเมตตามหานิยม บุคคลผใู้ ดสาเร็จสมาธิดว้ ยกสิณลม จะมีพุทธคุณดา้ นแคลว้ คลาด บุคคลผใู้ ดสาเร็จสมาธิดว้ ยกสิณไฟ จะมีพทุ ธคุณดา้ นมหาอานาจ หวั ใจของธาตุท้งั 4 คือ นะมะพะทะ สาหรับบุคคลผูท้ ี่มีป่ ูฤาษี 108 คุ้มครอง ไม่จาเป็ นต้องผ่านการฝึ กกสิณมาเหมือน ฌานฤทธ์ิก็ได้ เพราะเรากาลงั ใชเ้ ทวฤทธ์ิ ไมใ่ ช่ฌานฤทธ์ิ เพยี งแต่ทาใจใหส้ งบนิ่ง นึกถึงบรมครู ป่ ูฤาษีท้งั 108 อานาจพระพุทธคุณท้งั หมด ก็จะมารวมอยู่ในตวั เราเอง เพราะป่ ูฤาษีเปิ ดให้ เราจะใชพ้ ลงั พทุ ธคุณอยา่ งไหน กพ็ งึ กาหนดจิตอธิษฐานใชอ้ ยา่ งน้นั

18 ป่ ูฤาษนี ารอด

19 ป่ ูฤาษนี ารอด ป่ ูฤาษีนารอด ภาษา จะใชค้ าวา่ “นารอด” ภาษาบาลี จะใชค้ าวา่ “นารท” ผเู้ ขียนเนน้ ใชภ้ าษาไทย เพ่ือใหค้ นอ่านเขา้ ใจง่าย ส่วนมากคนท่ีไม่ไดเ้ รียนภาษาบาลีมา จะไมเ่ ขา้ ใจ ป่ ูฤาษีนารอด จะมีพระพุทธคุณทางดา้ นแคลว้ คลาด ไม่วา่ เราจะเดินทางไปไหนมาไหน ข้ึนรถลงเรือก็ตาม จะพน้ ภยั จากอุบตั ิเหตุท้งั ปวง บุคคลใดก็ดี สร้างบุญบารมีมา จนมีป่ ูฤาษีนารอดคุม้ ครอง จะแคลว้ คลาดจากอุบตั ิเหตุ ท้งั ปวง เรียกวา่ ดวงจะไม่ตายโหง น้นั เอง การอญั เชิญป่ ฤู าษีนารอดไว้กบั ตัวเอง เวลาเดินทางไปไหน ไม่จาเป็ นตอ้ งมีองค์ป่ ูฤาษีอยู่ ก็สามารถอญั เชิญท่านผา่ นร่างกายเราได้ เพื่อคุม้ ครองให้ แคลว้ คลาด จากอุบตั ิเหตุ และส่ิงไม่ดีท้งั ปวง (เพียงจิตเรานึกถึงป่ ูฤาษีนารอด ทา่ นก็มาคุม้ ครอง) การอญั เชิญป่ ูฤาษีนารอดไว้อย่กู บั รถ เพอ่ื ไม่ให้รถเกดิ อบุ ตั ิเหตุ หมายถึง การมีหุ่นป่ ูฤาษีนารอด องค์ขนาดพอสมควรต้งั บูชาไวท้ ี่รถ เพ่ือให้คุม้ ครอง แคลว้ คลาดจากอุบตั ิเหตุท้งั ปวง (การมีหุ่นฤาษีนารอดบูชาไวท้ ่ีรถ ตอ้ งผา่ นพิธีอญั เชิญญาณลงมา และเบิกเนตรแลว้ เทา่ น้นั จะมีความศกั ด์ิสิทธ์ิ เป็นเคร่ืองรางของขลงั ใหแ้ คลว้ คลาดจากอุบตั ิเหตุ ไวป้ ระจารถของเรา) คาถาอญั เชิญป่ ูฤาษีนารอด (ใหแ้ คลว้ คลาดจากอุบตั ิเหตุท้งั ปวง) พุทธงั แคลว้ คลาด ธงั มงั แคลว้ คลาด สังฆงั แคลว้ คลาด แคลว้ คลาดดว้ ยนะโมพุทธายะ โอม ฤ ฤา มหา ฤ ฤา หมายเหตุ ตวั ฤ ฤา ใหอ้ อกเสียงวา่ (รึ รือ) เวลาเจอส่ิงไมด่ ี เพยี งแคน่ ึกถึงป่ ฤู าษีนารอด แมจ้ ะภาวนาคาถาไมท่ นั กส็ ามารถคุม้ ครอง เราได้ ขอให้จิตเราถึงเท่าน้นั อานาจพระพุทธคุณแคลว้ คลาด ไม่ไดจ้ ะอยู่ท่ีใครคนไหนก็ได้ บางคนอญั เชิญมา แต่ไม่ยอมถือศีลปฏิบัติธรรม ป่ ูฤาษีนารอด ก็จะคุ้มครองได้ไม่เต็มท่ี เพราะฉะน้นั การมีเทวดาสายป่ ูฤาษีคุม้ ครอง ยงิ่ มีหลายองคม์ ากเท่าไร ยง่ิ ตอ้ งรักษาศีลใหบ้ ริสุทธ์ิ มากเทา่ น้นั แลว้ พระพุทธคุณแคลว้ คลาดในตวั ทา่ นเอง จะเกิดความศกั ด์ิสิทธ์ิเป็นอภินิหาร เคล็ดลบั อานาจพระพทุ ธคุณแคลว้ คลาด มีเคลด็ ลบั คือ ทาจิตใหน้ ่ิง และเป็นดง่ั สายลม กจ็ ะล่องหนไดเ้ หมือนกบั สายลม หรืออากาศธาตุ ใหแ้ คลว้ คลาดจากอุบตั ิเหตุท้งั ปวง การอญั เชิญป่ ูฤาษีนารอด ผ่านร่าง หรือมาสถิตท่ีร่างกายของเรา ให้อธิษฐานจิตว่า ขอใหป้ ่ ูฤาษีนารอดปกป้ อง คุม้ ครองทวั่ ท้งั กายา แคลว้ คลาดจากอุบตั ิเหตุ และภยนั ตรายท้งั ปวง

20 ป่ ูฤาษสี ัจจพนั ธ์ุ

21 ป่ ูฤาษสี ัจจพนั ธ์ุ ป่ ฤู าษีสจั จพนั ธุ์ หมายถึง บรมครูทางดา้ นเวทมนต์ อาคม ขลงั ป่ ูฤาษีสัจจพนั ธุ์ ช่ือท่านก็บอกอยู่แลว้ ว่า ท่านชอบคนมีสัจจะ และรักษาสัจจะย่ิงชีพ ญาณบารมีของท่าน จะลงมาท่ีร่างเราไดเ้ ตม็ ร้อย บุคคลใดก็ดี ถา้ มีป่ ูฤาษีสัจจพนั ธุ์คุม้ ครอง เกิดประพฤติผดิ สัจจะข้ึนมา ก็จะถูกลงโทษ เพราะฉะน้นั ก่อนพูดอะไรออกมา ตอ้ งคิดก่อนพูด ถา้ ทาไดแ้ ลว้ ค่อยพูด ถา้ ทาไม่ไดอ้ ย่าพูด จะเป็ นการไม่ผดิ สัจจะ แมก้ ารจะคบใคร หรือจะโปรดใครก็ตาม คนน้นั ตอ้ งมีสัจจะดว้ ยเช่นกนั ถา้ ไปช่วยเหลือคนที่ไม่มีสัจจะ ป่ ูฤาษีสัจจพนั ธุ์ จะดึงเราออกมาจากบุคคลผนู้ ้นั และเลิกคบกนั ไปเอง เพราะป่ ฤู าษีสจั จะพนั ธุ์ ชอบคบท่ีมีสจั จะ บุคคลใดก็ดี เอาสัจจะมาอา้ งกบั ป่ ูฤาษีสัจจพนั ธุ์ แต่ไม่รักษาคาพูด บุคคลผนู้ ้นั จะโดน ลงโทษหนกั ไปตามเวรกรรมของเขาเอง บุคคลผมู้ ีป่ ูฤาษีสัจจพนั ธุ์ จึงเป็นผมู้ ีวาจาประกาศิต การเรียกอกั ขระ เวทมนต์ อาคม พระพทุ ธคุณเขา้ ร่าง การอญั เชิญป่ ูฤาษีสัจจพนั ธุ์ผา่ นร่าง ยอ่ มมีอานาจจิต สามารถเรียกอกั ขระ พลงั พุทธคุณ เข้าร่างได้เช่นกัน วิธีน้ี เป็ นการทาให้ร่างกายตัวเองมีพลังพุทธคุณ เม่ือสามารถอัญเชิญ พลังพุทธคุณเข้าร่างเรา ได้อย่างถูกวิธี ย่อมสามารถอัญเชิญออกได้ อย่างถูกวิธีเช่นกัน โดยไม่จาเป็นตอ้ งสักธรรมดา หรือสักน้ามนั ใหเ้ ลอะตามตวั ก็สามารถมีพลงั พุทธคุณไดเ้ ช่นกนั วชิ าน้ี เป็นพทุ ธคุณข้นั สูง บุคคลผมู้ ีป่ ูฤาษีสัจจพนั ธุ์ จะเขา้ ใจ และเขา้ ถึงเอง ถา้ วชิ าไหนไม่เขา้ ใจ ใหอ้ ญั เชิญป่ ูฤาษีสัจจพนั ธุ์ลงมาสอนใหเ้ ราทางสมาธิ หรือทางนิมิต กไ็ ด้ เป็นการฝึกพลงั เทพโดยตรงจากบรมครูป่ ฤู าษีของตวั เราเอง วชิ าเรียกอกั ขระ เวทมนต์ อาคมน้ี สามารถนาไปใชป้ ลุกเสกของขลงั เช่น วตั ถุมงคล และเคร่ืองรางของขลงั เป็นตน้ ใครก็ตามที่จะแกลง้ เราดว้ ยอานาจฝ่ ายต่า หรือฝ่ ายไม่ดี ไม่สามารถทาลาย เวทมนต์ อาคม ของบุคคลท่ีมีป่ ูฤาษีสัจจพนั ธุ์ได้ คนท่ีไม่รู้จริงก็พูดไปเรื่อย และทาตามกันต่อๆมา จะแกล้งคนมีเวทมนต์ อาคม ต้องใช้ของต่า ในความจริงหาเป็ นเช่นน้ันไม่ อิทธิฤทธ์ิ ในพระพุทธศาสนามีท้งั หมด 10 ประการ ไดแ้ ก่ ฌานฤทธ์ิ ญาณฤทธ์ิ บุญฤทธ์ิ เทวฤทธ์ิ เป็นตน้ การเปิ ดพลงั เวทมนต์ อาคม ก็ตอ้ งดูดว้ ยวา่ อานาจพลงั เวทมนตเ์ กิดจากฌาน หรือญาณ หรือเป็นที่เทวฤทธ์ิ เรียกวา่ จะเปิ ดกเ็ ปิ ดแบบถูกวธิ ี ดงั น้นั คนท่ีไม่รู้จริง ยงั ไมร่ ู้ตน้ กาหนดของ อิทธิฤทธ์ิเขาวา่ มาจากสิ่งใดกนั แน่ แลว้ จะมาแกลง้ ปิ ดพลงั เขาถูกไดเ้ ช่นใด ก็เมื่อตาบอด เขา้ ไป ในหอ้ ง จะหาทางปิ ดสวทิ ซ์ไฟ แตจ่ ะทาอยา่ งไรก็หาไมเ่ จอ อุปมาอุปไมย ฉนั ใดก็ฉนั น้นั

22 ป่ ูฤาษหี น้าทอง

23 ป่ ูฤาษหี น้าทอง ป่ ูฤาษีหนา้ ทอง หมายถึง บรมครูทางดา้ นการแสดง เป็นเมตตามหานิยม บุคคลใดสร้างบุญบารมีมาทางเมตตาบารมี เป็ นตน้ ย่อมมีป่ ูฤาษีหน้าทอง ปกป้ อง คุม้ ครองรักษา เป็นเสน่ห์แก่ผพู้ บเห็น การใชญ้ าณป่ ูฤาษีหนา้ ทองทางสายการแสดง การใช้ญาณบารมีป่ ูหน้าทองมาทางสายการแสดง จะสามารถทาอารมณ์ของศิลปิ น นกั แสดงไดด้ ี ไมว่ า่ จะเป็นนกั แสดงบนเวทีทวั่ ไป ลิเก โขน อาชีพแสดงหนงั ดารา เป็นตน้ บทละครท่ียากๆ ไม่สามารถทาอารมณ์การแสดงให้ออกมาดีได้ เพียงแต่นึกถึงและ อญั เชิญป่ ฤู าษีหนา้ ทองผา่ นร่างมา กส็ ามารถแสดงบทเร่ืองน้นั ไดอ้ ยา่ งง่ายดาย การไหวค้ รูก่อนทาการแสดง เพื่อความเป็ นสิริมงคล และความเจริญกา้ วหน้าในสาย การแสดง คือ มีป่ ูฤาษีองคไ์ หน คุม้ ครองดูแลรักษา ให้บูชาองคน์ ้นั ก่อนทาการแสดงทุกคร้ัง เช่น มีป่ ูฤาษีหน้าทอง ก็ให้นึกถึงป่ ูฤาษีหน้าทอง “เราจะมีญาณทางการแสดง เป็ นเสน่ห์แก่ ผพู้ บเห็น” และสามารถทาการแสดงไดด้ ี ในบทละครต่างๆ บรมครูสายการแสดงน้นั มีหลายองค์ เช่น ป่ ูฤาษีพอ่ แก่ ป่ ูฤาษีพิราบ ป่ ูฤาษีหนา้ ทอง เป็ นตน้ การอญั เชิญญาณป่ ฤู าษีหนา้ ทอง ป่ ูฤาษีหนา้ ทองเป็ นสายญาณที่เยน็ ซ่ึงเป็นอานาจเมตตามหานิยม และมหาเสน่ห์ เมื่อจะ อญั เชิญป่ ูฤาษีหนา้ ทองผา่ นเขา้ ร่าง เพ่ือใครเห็นหนา้ เรา เกิดความเอน็ ดูรักใคร่ พงึ ทาจิตตวั เองให้ สงบเยน็ ดง่ั สายน้า กจ็ ะเขา้ ถึงพทุ ธคุณสายเยน็ ญาณป่ ฤู าษีหนา้ ทอง จะลงเราไดเ้ ตม็ ร้อย การอญั เชิญญาณป่ ูฤาษีหน้าทอง ในทางการงานที่เกี่ยวขอ้ งกบั การแสดง เพียงเราใชจ้ ิต อญั เชิญป่ ฤู าษีหนา้ ทอง จะเป็นเมตตามหานิยม ใหค้ นดูเกิดความรักใคร่นกั แสดง เป็นมหาเสน่ห์ ทาใหเ้ รามีความสามารถในการแสดง และจะตีบทแตก เขา้ ถึงอารมณ์ของตวั ละครไดท้ ุกบทบาท การอญั เชิญญาณป่ ูฤาษีหน้าทอง ในทางการงานท่ีไม่เก่ียวข้องกบั การแสดง เป็ นงาน ทุกประเภทท่ีเราทา ให้ป่ ูฤาษีหน้าทองผ่าน ผูใ้ หญ่ กบั ลูกคา้ ก็จะเกิดความเมตตา สงสาร ในตวั เรา “เป็นเมตตามหานิยม” การอญั เชิญญาณป่ ูฤาษีหน้าทอง ในทางการคา้ ขาย ให้ลูกคา้ เขา้ ร้าน เกิดเป็ นเมตตา มหานิยมทางดา้ นคา้ ขาย ก็พึงกาหนดจิตนึกถึงญาณบารมีป่ ูฤาษีหนา้ ทอง ให้ท่านผ่านร่างเรามา ใครเห็นหนา้ เรา เกิดเป็นมหาเสน่ห์ เป็นการเรียกลูกคา้ เขา้ ร้านได้ คาถาเมตตามหานิยม นะ เมตตา โม กรุณา พุท ปราณี ธา ยินดี ยะ เอ็นดู สารพดั ศตั รูวินาศสันติ เห็นหนา้ เอน็ ดูดว้ ย นะโมพทุ ธายะ โอม ฤ ฤา มหา ฤ ฤา

24 ป่ ูฤาษพี ริ าบ

25 ป่ ูฤาษพี ริ าบ ป่ ูฤาษีพิราบ หมายถึง ป่ ฤู าษีสายการแสดง และเป็นปางหน่ึงของพระศิวะ ป่ ูฤาษีพิราบ ถือวา่ เป็ นสายที่แรงมาก ร่างจาเป็ นตอ้ งถือศีลปฏิบตั ิธรรม หา้ มประพฤติ ตวั เหลวไหล เช่น ตวั เองกินเหลา้ จะมาโทษองค์ไม่ไดว้ ่า องค์ชอบ เป็ นตน้ หลายคนที่มี ทางน้ี ไม่กินเหลา้ มีเยอะแยะไป ตวั เองทาผดิ เอง ตอ้ งโทษตวั เอง จะไปโทษองคไ์ ม่ได้ เพราะ ยงิ่ พดู ถึงองคใ์ นทางท่ีไมด่ ี ตวั เองยง่ิ โดนลงโทษหนกั ป่ ูฤาษีพริ าบ ทา่ นเป็นบรมครู สายการแสดง ท้งั ดารา ลิเก โขน บุคคลใดก็ดี มีป่ ูฤาษีพริ าบคุม้ ครอง ปฏิบตั ิตวั ดีๆ ทางานสายการแสดงจะข้ึนมาก การอญั เชิญป่ ูฤาษีพิราบผา่ นร่าง ป่ ูฤาษีพิราบเป็ นของแรง และท่านจะดุกวา่ ป่ ูฤาษีหนา้ ทอง กบั ป่ ูฤาษีพ่อแก่ ในสาย บรมครูทางการแสดง ป่ ูฤาษีหนา้ ทอง จะเป็นญาณที่ใจดีที่สุด แต่การท่ีท่านดุ ศิษยค์ นไหนคิดได้ ก็จะรู้ว่า ครูท่ีดุ ลูกศิษย์ เพราะท่านรักเมตตา สงสาร ถา้ ท่านไม่รัก ไม่เมตตา จะมาคอยนงั่ ดุนงั่ วา่ บ่นทาไม ปล่อยไปไม่ดีกว่าหรือไรกนั คนที่คิดไม่ได้ อะไรนิดอะไรหน่อย โดนดุไม่ได้ ไม่มีวนั ประสบความสาเร็จในสายการแสดง หรือทุกสายงานไปได้ การทาอารมณ์เก่ียวกบั การแสดง ก็ใหอ้ ญั เชิญป่ ูฤาษีพิราบผา่ นร่าง จะทาอารมณ์ตามบท ละครต่างๆ ไดอ้ ยา่ งดี ตามที่ไดก้ ล่าวแลว้ ป่ ูฤาษีพิราบท่านเป็ นของแรง เป็ นญาณท่ีแรง ท่านชอบคนปฏิบตั ิ ร่างตอ้ งปฏิบตั ิตวั อยใู่ นศีลธรรมดว้ ย จะไม่เกิดอาการร้อน ญาณจะไดเ้ ยน็ และสงบ การอญั เชิญป่ ูพิราบผ่านร่าง จิตเราตอ้ งน่ิง เยน็ สงบ ปล่อยร่างกายให้ว่างเปล่าเป็ น อากาศธาตุ นอ้ มจิตอญั เชิญองคเ์ รามา ทา่ นกจ็ ะลงไดเ้ ตม็ องค์ การขอพร การทางานสายการแสดง เพียงต้งั จิตอธิษฐานขอองค์ในให้ช่วย ท่านก็จะสอนมา ศิลปะการแสดงให้ สามารถทาอารมณ์ไดด้ ี มีความเจริญกา้ วหนา้ ในสายการแสดง ในกรณีท่ีไม่ไดท้ างาน เก่ียวกบั สายการแสดง ทางานสายอื่น ไม่วา่ จะประกอบการงาน อาชีพอะไร ใหน้ ึกถึงป่ ูฤาษีพริ าบ ขอใหง้ านมีความเจริญกา้ วหนา้ มีโชคลาภอยเู่ สมอ การถูกลงโทษ การมีทางน้ี เราตอ้ งปฏิบตั ิ ยิ่งเป็ นสายป่ ูฤาษีแลว้ ท่านจะเคร่งมาก ถา้ ร่างไม่ปฏิบตั ิเลย จะโดนขา้ งในเราลงโทษ จะทางานอะไร ก็มีแต่ปัญหา ไม่มีโชคลาภเงินทองเขา้ มา ให้เร่ง ปรับปรุงตวั ต้งั แตว่ นั น้ี ต้งั มน่ั อยใู่ นศีลธรรม สวดมนตไ์ หวพ้ ระ เจริญภาวนาอยเู่ สมอ

26 ป่ ูฤาษตี าไฟ

27 ป่ ูฤาษตี าไฟ ป่ ฤู าษีตาไฟ หมายถึง ญาณตาทิพย์ หรือตาท่ีสาม บุคคลใดก็ดี สร้างบุญบารมีไวม้ าก เกี่ยวกบั แสงสว่าง ยอ่ มจะมีป่ ูฤาษีตาไฟคุม้ ครอง เพือ่ เปิ ดตาทิพย์ หรือตาท่ีสาม ใหเ้ ห็นสมั ภเวสี ส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ สิ่งล้ีลบั ท่ีคนธรรมดามองไมเ่ ห็น ข้อควรทราบ ป่ ูฤาษีตาไฟ ท่านเคร่งครัดอยู่ในศีลธรรม เพราะฉะน้ัน ผูม้ ีทางน้ี ตอ้ งปฏิบตั ิตวั อยู่ในศีลธรรมอนั ดีงามดว้ ย การปฏิบตั ิดีปฏิบตั ิชอบอย่าไปสนใจ ข้ีปากชาวบา้ น ทาเร่ืองท่ีสมควรทาให้ดีที่สุด ในโลกน้ี มีคนท้งั ชอบเรา คนไม่ชอบเรา ต่อให้เราดีแค่ไหน คนที่ไม่ชอบเรา ก็ว่าเราไม่ดี คนที่ชอบเรา ต่อให้เราไม่ดีแค่ไหน ก็ว่าเราดี น้ีแหละเป็ น สจั ธรรม ของการใชช้ ีวติ อยบู่ นโลกมนุษย์ ควรปลงอยา่ งมีสติ และจะปล่อยวางไดเ้ อง เคลด็ ลบั การใชต้ าท่ีสาม (ท่ีเป็นตาไฟ) ตามท่ีบอกกล่าวไวแ้ ล้ว ป่ ูฤาษีตาไฟ เป็ นของแรง ท่านชอบคนถือศีลปฏิบตั ิธรรม โดยเคร่งครัด เพราะฉะน้ัน การที่จะให้ป่ ูฤาษีตาไฟ ผ่านร่างมาเปิ ดตาท่ีสาม หรือตาไฟให้ บุคคลผนู้ ้นั ตอ้ งศีลถือปฏิบตั ิธรรมดว้ ย ในกรณีที่ป่ ฤู าษีตาไฟ เปิ ดตาที่สาม หรือตาไฟใหแ้ ลว้ มีวธิ ีใช้ ดงั น้ี เคล็ดลับการใช้ตาท่ีสาม หรือตาไฟ เพ่ือให้เห็นสิ่งล้ีลบั ที่คนธรรมดามองไม่เห็น พึงกาหนดจิต นึกถึงพลงั ไฟ หรือเปลวไฟ ออกจากมาตาเราท้งั สองขา้ ง หรือตาท่ีสาม ท่ีอยตู่ รง กลางหนา้ ผาก ก็จะสามารถเห็นส่ิงล้ีลบั ที่คนธรรมดามองไม่เห็น มีสมั ภเวสี และเทวดา เป็นตน้ การเห็นสัมภเวสี และสิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิ ใหม่ๆ สาหรับคนที่มีตาทิพยแ์ ลว้ จะกลวั เห็นนิมิตของสัมภเวสี และชอบเห็นเทวดา แต่อาการแบบน้ี จะหายไป เมื่อเราฝึ กนิมิตจนชานาญ จะหายกลวั สัมภเวสีไปเอง เพราะเราได้ สาเร็จแลว้ ในกรณีที่พ่ึงไดต้ าทิพยใ์ หม่ๆ การเห็นสมั ภเวสี ก็คิดวา่ ภูตผปี ี ศาจ ลว้ นแลว้ แต่เป็ น เพ่ือนของเรา แผเ่ มตตาจิต บุญกุศลใหพ้ วกเขาอยเู่ สมอ เราจะหายกลวั ไปเอง เม่ือเห็นสัมภเวสี สาหรับการเห็นเทวดานางฟ้ า ก็พิจารณาดว้ ยสติว่า รูปที่วา่ สวย ก็แต่วา่ ไม่เที่ยง ไม่มีส่ิงใดน่า ยึดติด จึงรักษาอารมณ์ของเราให้เป็ นปกติได้ ไม่เกิดความยินดี ต่อการเห็นรูปสวยของเทวดา อีกตอ่ ไป แกอ้ าการมึนหวั ปวดเม่ือย ตรงบริเวณตาที่สาม อาการมึนหวั ปวดเม่ือย ตรงบริเวณตาท่ีสาม คือ ตรงบริเวณหนา้ ผาก จะเกิดข้ึนต่อ เมื่อใช้พลงั ตาที่สามมากเกินไป สาหรับผูป้ ฏิบตั ิใหม่เท่าน้นั แต่อาการแบบน้ี จะหายไปเอง เมื่อทา่ นใชต้ าท่ีสามจนชินแลว้ วิธีแกอ้ าการมึนหัว ให้เอาผา้ ชุบน้า มาประคบไวบ้ ริเวณหน้าผาก แลว้ นอนพกั ผ่อน อยา่ พ่ึงไปใชพ้ ลงั ตาท่ีสาม หยดุ พกั สักครู่ แลว้ จะดีข้ึนเอง

28 ป่ ูฤาษชี ีวก

29 ป่ ูฤาษชี ีวก ป่ ูฤาษีชีวก เป็ นบรมครูทางการแพทย์ เป็ นเทวดาสายรักษา คนท่ีจะใชพ้ ลงั ป่ ูฤาษีชีวก ตอ้ งเป็นบุคคลผมู้ ีคุณธรรมเทา่ น้นั มีความเมตตาสงสารผอู้ ื่นมาก่อนเงินทอง หมอบางคนที่มีคุณธรรม รักษาคนไขก้ ่อน เร่ืองเงิน หรือเรื่องอยา่ งอ่ืนไวท้ ีหลงั หมอบางคนท่ีไม่มีคุณธรรม เวลาคนไขม้ าถึงจะถามก่อนเลยว่า มีเงินรักษาหรือไม่ แทนที่จะถามวา่ ป่ วยเป็นโรคอะไร ป่ ูฤาษีชีวก ท่านเป็นสายรักษา ยอ่ มจะไมป่ ล่อยใหร้ ่างท่านอดตาย ยงิ่ ปฏิบตั ิดีปฏิบตั ิชอบ เด๋ียวป่ ูฤาษีชีวก ก็ดึงคนไขม้ าให้เรารักษาเอง ส่วนคนท่ีไม่มีคุณธรรมไซร้ ยอ่ มไม่ไดร้ ับพรจาก ป่ ูฤาษีชีวก หรือไดร้ ับพรไปแลว้ แตท่ าตวั ไม่ดีทีหลงั ยอ่ มไดร้ ับการลงโทษเช่นกนั การฝึกพลงั สายรักษา แพทยม์ ีท้งั แผนโบราณ แผนปัจจุบนั เราจะเป็ นแพทยแ์ บบไหนก็ให้ใช้พลงั ป่ ูฤาษีชีวก แบบน้นั ตวั อยา่ ง การใชพ้ ลงั ป่ ูฤาษีชีวก ในทางการแพทยแ์ ผนโบราณ การใชพ้ ลงั ป่ ูฤาษีชีวก รักษาคนแบบแผนโบราณ พึงกาหนด พลงั ไปใหส้ ุดปลายฝ่ ามือ ของเรา กดจุดบริเวณร่างกายท่ีเขาเจ็บไขไ้ ดป้ ่ วยอยู่ ก็จะหายเป็ นปกติ และกลบั มีสุขภาพที่ แขง็ แรงข้ึน ตวั อยา่ ง การใชพ้ ลงั ป่ ูฤาษีชีวก ในทางการแพทยแ์ ผนปัจจุบนั กาหนดพลังไปท่ีปลายฝ่ ามือ จนสุดปลายนิ้วของเรา จบั ชีพจรคนไข้ ด้วยอานาจ ญาณวเิ ศษของป่ ูฤาษีชีวก เราก็จะทราบทนั ทีวา่ คนน้นั ป่ วยเป็นโรคอะไร ในกรณีท่ีบุคคลน้นั ป่ วยเป็ นโรคอะไร เพียงเราจบั ชีพจรของเขา จะบงั เกิดส่ิงที่ไม่สมดุล ในร่างกายของเขา ตรงจุดตาแหน่งที่เขาเกิดความเจ็บไขไ้ ดป้ ่ วยอยู่ จะทราบทนั ทีว่า เขาป่ วย ตรงน้นั ของบริเวณร่างกาย และทาใหท้ ราบทนั ทีวา่ ป่ วยเป็นโรคอะไร การให้พร และการถูกลงโทษ การอยเู่ ส้นทางสายรักษา ตอ้ งอยู่ในทางบุญสร้างบารมี รักษาศีล เจริญภาวนา และมี คุณธรรม เวลาเรียนวชิ าการแพทย์ ไม่วา่ จะเป็ นแผนโบราณ หรือแผนปัจจุบนั ที่ยากก็สามารถ ทาความเขา้ ใจไดง้ ่าย เพราะป่ ูฤาษีชีวกเปิ ดให้ เม่ือใดที่เอาพลงั เทพไปใชใ้ นทางท่ีผดิ ขาดคุณธรรม ไม่สนใจคนไข้ กลบั สนใจเงินแทน จะถูกป่ ูชีวกปิ ด ไม่ว่าจะเป็ นหมอ พยาบาล หรือบุคคลในวงการแพทย์ สาธารณสุขก็ตาม เรียกวา่ โดนลงโทษ จนกวา่ จะสานึกผิด และกลบั มาเดินในเส้นทางบุญอีกคร้ัง สิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิถึง จะใหอ้ ภยั (ถา้ ไม่รู้สานึกผดิ ป่ ูฤาษีชีวกจะปิ ดมากกวา่ เดิม จะถูกยดึ ใบประกอบวชิ าชีพ) เป็นตน้

30 ป่ ูฤาษเี จ้าสมงิ ไพร

31 ป่ ูฤาษเี จ้าสมงิ ไพร ป่ ูฤาษีเจา้ สมิงไพร หรือมกั เรียกกนั ส้นั ๆวา่ ป่ เู จา้ สมิงไพร ท่านเป็นป่ ฤู าษีแห่งเวทมนต์ ป่ ูฤาษีเจา้ สมิงไพร เป็ นของแรง และเป็ นของร้อน ผูม้ ีทางน้ีไม่ปฏิบตั ิจริงๆ จะโดน ลงโทษ จาเป็ นตอ้ งต้งั มน่ั ประพฤติอย่ใู นศีลธรรมอนั ดีงามดว้ ย อีกอย่าง พลงั เวทมนต์ อาคม เป็นของร้อน ผฝู้ ึกจาเป็นตอ้ งมีพ้ืนฐานดา้ นวชิ ามหาเยน็ เพ่อื ควบคุมอกั ขระ เลขยนั ต์ วชิ าอาคม ท้งั หมด ไม่ใหเ้ กิดอาการร้อนวชิ า เวลาป่ ูฤาษีเจา้ สมิงไพรผา่ น จะมีความสงบเยน็ สุขมุ เคลด็ วชิ ามหาเยน็ การใชพ้ ลงั มหาเยน็ เป็ นการควบคุมพลงั เวทมนต์ อาคม และครอบวิชาเอาไวท้ ้งั หมด เพ่ือไม่ใหเ้ กิดอาการร้อน เป็นพ้นื ฐานวชิ าทางสายเวทมนต์ อาคม ก่อนท่ีจะไปเรียนวชิ าอื่น การฝึกพลงั มหาเยน็ คือ การฝึกพลงั น้าน้นั เอง เพื่อดบั ความร้อนในร่างกายเรา พึงอธิษฐานจิต ดว้ ยอานุภาพมหาเยน็ ใหต้ วั ของขา้ เยน็ สะพร่ัง ทว่ั ท้งั กายา การอญั เชิญญาณป่ ูเจา้ สมิงไพร การเรียนวิชาทางน้ี ให้อญั เชิญป่ ูฤาษีเจา้ สมิงไพรผ่านร่าง หรือตอนเราทาสมาธิก็ได้ วิชาเวทมนต์ อาคม ท้งั หมด จะออกมาเองทางนิมิต เพราะป่ ูฤาษีเจา้ สมิงไพร บรมครูทางดา้ น เวทมนตข์ องเรา เป็นผสู้ อนให้ นอกจากน้ี การอญั เชิญญาณป่ ูฤาษีเจา้ สมิงไพรผ่าน จิตเราตอ้ งสงบนิ่ง เราจะไดว้ ิชา และมีอะไรดีๆเยอะ ถา้ จิตเราไม่นิ่ง เราจะร้อนวิชา เกิดความหงุดหงิดแทน ให้ยอ้ นกลบั ไป ฝึกพลงั มหาเยน็ ใหม่ จนกวา่ จิตของผนู้ ้นั จะสงบน่ิง และเยน็ การปลุกเสกเคร่ืองรางของขลงั การปลุกเสกวตั ถุมงคล ใหเ้ กิดเป็นเครื่องรางของขลงั ข้ึนมา ทาจิตสงบน่ิง เป็นหน่ึงเดียว อญั เชิญญาณป่ ฤู าษีเจา้ สมิงไพรผา่ นร่าง จะรู้สึกถึงพลงั พุทธคุณ และพลงั เทพ ไดไ้ หลเวยี นอยทู่ วั่ ท้งั ร่างกายเรา กาหนดจิตนึกถึงพลงั ท่ีเรามี ทาการประจุพลงั ไปที่วตั ถุมงคล เคร่ืองรางของขลงั ก็จะเกิดพุทธคุณดา้ นใดดา้ นหน่ึง ท่ีเราอธิษฐานจิตทาการปลุกเสกข้ึนมา ข้อแนะนาพเิ ศษ ป่ ูฤาษีเจา้ สมิงไพร ทา่ นจะดุ และไม่ใจดีเหมือนป่ ูฤาษีหนา้ ทอง หรือป่ ฤู าษีพอ่ แก่ เพราะ การจะมาเป็ นลูกศิษย์ หรือจะรับใครมาเป็ นศิษย์ คนน้นั ตอ้ งเช่ือฟังคาสั่งสอนของครู อาจารย์ ศิษยท์ ่ีฉลาด ก็จะคิดได้ว่า อาจารย์ท่ีดุเรา เพราะท่านยงั รักเมตตา สงสาร ศิษยค์ นไหน ถา้ อาจารยไ์ มร่ ัก ไม่เมตตา สงสาร ก็ปล่อยเลย จะมาพร่าสอนทาไม สาหรับคนโง่ คนมีทิฏฐิแรง พูดวา่ อะไรไม่ไดเ้ ลย แนะนาอะไรไป ก็มีแต่นอ้ ยใจว่า อาจารยด์ ุอีก แบบน้ีกต็ อ้ งปล่อยใหเ้ ขาอยอู่ ยา่ งน้นั เพราะพดู วา่ อะไรไมไ่ ด้ แลว้ จะสอนไปทาไม

32 ป่ ูฤาษนี าคราช

33 ป่ ูฤาษนี าคราช ป่ ูฤาษีนาคราช หมายถึง ป่ ฤู าษีสายพญานาค ที่คอยดูแลลูกหลานสายพญานาคอยู่ ป่ ฤู าษีนาคราช ท่านชอบคนปฏิบตั ิดีปฏิบตั ิชอบ ถา้ เราปฏิบตั ิตวั ดีๆ กจ็ ะข้ึน มีโชคลาภ การงาน การเงิน ประสบความสาเร็จร่ารวย ในกรณีที่มีป่ ูฤาษีนาคราชคุม้ ครองอยู่ แลว้ ตวั เองทาไม ไม่ค่อยมีโชคลาภทางการเงินเลย ถา้ ดวงไม่ตก ใหส้ ารวจศีลของตวั เอง ถึงดวงจะตกจริง อยา่ งไรป่ ูฤาษีนาคราช ตอ้ งให้โชคลาภ เราบา้ ง แตน่ ้ีโชคลาภหายหมด แสดงวา่ ท่านไม่คอ่ ยปฏิบตั ิ ต้งั ใจปฏิบตั ิดีปฏิบตั ิชอบ ต้งั แต่วนั น้ี ป่ ูฤาษีนาคราช จะเปิ ดโชคลาภใหเ้ ราเอง ป่ ฤู าษีนาคราช ชอบทานไขต่ ม้ ควรข้ึนใหท้ ่านบอ่ ยๆ การอญั เชิญป่ ฤู าษีนาคราชผา่ นร่าง ป่ ูฤาษีนาคราช เป็ นญาณท่ีเยน็ จริง แต่ก็เป็ นของแรง ผทู้ ่ีจะอญั เชิญผา่ นร่าง ควรปฏิบตั ิ ศีลธรรม และสมาธิอยเู่ สมอ จะไม่มีปัญหาอะไร ถา้ ไม่ค่อยปฏิบตั ิ เวลาท่านผา่ นร่างมา ตวั เรา จะหนัก วิธีแก้ คือ ควรปฏิบตั ิสมาธิอย่างสม่าเสมอทุกวนั ปล่อยวาง ร่างกายให้ว่างเป็ น อากาศธาตุ เวลาท่านผา่ นมา ตวั เราจะไม่หนกั หลงั จากน้นั ทาจิตเราใหน้ ่ิง เวลาองคผ์ า่ นร่างเรามา จะเกิดความสง่า และสงบ การเปิ ดโชคลาภความสาเร็จในหนา้ ท่ีการงาน และการเงิน ป่ ูฤาษีนาคราช ถ้าเราปฏิบตั ิตวั ดีจะข้ึนมาก จะบงั เกิดโชคลาภการงาน และการเงิน ประสบความสาเร็จ ร่ารวยเงินทอง มีลูกคา้ มาก ในกรณี ท่ีเป็ นลูกจ้าง ขอให้ป่ ูฤาษีนาคราช เปิ ดโชคลาภการงาน ได้รับโบนัส เล่ือนเงินเดือน ใหม้ ีรายไดเ้ หลือพอใช้ ไม่ขดั สนลาบาก ในกรณี ท่ีเป็ นเจา้ ของธุรกิจ ขอให้ป่ ูฤาษีนาคราช ดลบนั ดาลให้มีลูกคา้ มาก กิจการ เจริญกา้ วหนา้ ขอความสาเร็จ และโชคลาภทางการเงิน ดงั ที่ไดก้ ล่าวมาแลว้ ป่ ูฤาษีนาคราช ท่านชอบคนปฏิบตั ิ การจะขอพรให้ตวั เองไดร้ ับ โชคลาภทางการเงิน ตอ้ งปฏิบตั ิอยใู่ นศีลธรรมอนั ดีงาม และเจริญภาวนาอยเู่ สมอ การถูกลงโทษ เทวดาไม่ว่า จะองค์ไหนก็แลว้ แต่ จะไม่ลงโทษใครง่ายๆ ถ้าบุคคลน้นั ไม่กระทา ผดิ จริง คนเรามกั จะโทษคนอ่ืนเสมอ แต่ไม่เคยโทษตวั เอง เวลาถูกลงโทษ น้ีเป็ นสัจธรรมของ มนุษย์ สาหรับคนท่ีมีองคป์ ่ ูฤาษีนาคราชคุม้ ครองแลว้ ยงิ่ ทาผิด ยิง่ ไม่สารวมตวั เองในศีล ยงิ่ ไป โทษเทวดาและคนอ่ืน ยิ่งโดนลงโทษหนัก เพราะอย่างที่บอกตอนแรก ท่านไม่ชอบคนท่ี ไม่ปฏิบตั ิถือศีล ไม่เจริญภาวนา และมีเงินทองแลว้ เกิดลืมตวั ไม่เดินในทางบุญ ดูถูกคนตก ทุกขไ์ ดย้ าก ยง่ิ โดนลงโทษหนกั สมบตั ิที่ตวั เองมี กส็ ามารถหมดไดใ้ นพริบตา

34 ป่ ูฤาษเี ดนิ ดง

35 ป่ ูฤาษเี ดนิ ดง ป่ ฤู าษีเดินดง หมายถึง ป่ ฤู าษีทางโชคลาภ ทางดา้ นคา้ ขาย มีเมตตามหานิยม ป่ ูฤาษีเดินดง มกั ถูกปลุกเสกเป็ นวตั ถุมงคลทางดา้ นเมตตามหานิยม โชคลาภ ใครมีไว้ คา้ ขาย ก็จะมีลูกคา้ เขา้ ร้านตลอด มีโชคลาภเขา้ มาเสมอ บุคคลใดกด็ ี สร้างบุญบารมีมามาก เกี่ยวกบั ทานบารมี เมตตาบารมี เป็นตน้ ยอ่ มจะมี ป่ ูฤาษีเดินดงใหค้ วามคุม้ ครอง ปกป้ องดูแลรักษา ใหม้ ีโชคลาภไม่ขาดมือ การอญั เชิญป่ ูฤาษีเดินดงผา่ นร่าง ป่ ูฤาษีเดินดง ท่านเป็ นญาณที่สงบ ผทู้ ี่จะอญั เชิญท่านผา่ นร่าง จิตใจตอ้ งสุขุม เยอื กเยน็ สงบนิ่ง ทางานสิ่งใด จะช้าเหมือนคนแก่ แต่ว่าสุขุม งานก็ออกมามีคุณภาพ เรียกวา่ ชา้ แต่ ชวั ร์ การมีญาณป่ ูฤาษีเดินดงผา่ นร่าง จะเป็ นญาณที่เยน็ สงบ ไม่ร้อน ถา้ เราร้อน ก็แสดงวา่ เป็นองคอ์ ื่นผา่ นร่าง เช่น พระสุริยเทพ เป็นตน้ ไมใ่ ช่ป่ ฤู าษีเดินดง เพราะฉะน้ัน การใช้พุทธคุณเมตตามหานิยม เรามีองค์ไหนที่ร้อนอยู่ ให้ถอยญาณ องคน์ ้นั ออกก่อน จะขอบารมีความช่วยเหลือจากท่าน ค่อยอญั เชิญท่านมาใหม่ก็ได้ แลว้ ทา จิตใจเราใหส้ งบเยน็ ถึงจะเป็นเมตตามหานิยมได้ เคล็ดลบั เมตตามหานิยม คือ ตอ้ งทาจิตใหเ้ ยน็ เหมือนกบั น้า ญาณเราถึงจะลงไดเ้ ตม็ องค์ และเกิดเป็นเมตตามหานิยมได้ การอญั เชิญป่ ูฤาษีเดินดงผา่ นร่าง ควรทาจิตให้เยน็ ก่อน ทาใจให้สงบนิ่ง เป็ นเหมือน สายน้าที่สงบ เยน็ ทาร่างกายใหว้ า่ งเปล่าเป็นอากาศธาตุ ทากายใหเ้ บา ท่านก็ลงไดเ้ ตม็ องค์ การขอพร การทางานส่ิงใด จะประกอบการค้าขาย ก็มีแต่โชคลาภ ถ้าเราไม่ได้ทางานคา้ ขาย ทางานดา้ นอื่น จะเป็ นการตลาด การประชาสัมพนั ธ์ เป็ นตน้ ก็มีแต่ลูกคา้ มีโชคลาภ เป็ น เมตตามหานิยม การงานเจริญกา้ วหนา้ อยเู่ สมอ นอกจากน้ี การอญั เชิญป่ ูฤาษีเดินดงผา่ นร่าง เราจะเป็ นคนเดินเก่ง ไม่วา่ จะเดินจงกรม หรือการเดินทว่ั ไป เราจะเดินไดน้ าน แตเ่ ดินชา้ กวา่ คนทวั่ ไป เพราะป่ ูทา่ นแก่แลว้ การถูกลงโทษ การมีสายป่ ฤู าษี ไมว่ า่ จะเป็นองคไ์ หนก็ตาม ป่ ฤู าษีทุกองคท์ ่านเคร่ง เนน้ การปฏิบตั ิมาก ใหร้ ่าง หรือบุคคลที่มีท่านคุม้ ครอง หมน่ั ถือศีลปฏิบตั ิธรรมอยเู่ สมอ ห้ามประพฤติตวั เหลวไหล ออกจากศีลธรรมอันดีงามเด็ดขาด ไม่อย่างน้ัน จะถูกญาณในเราลงโทษ การงานติดขัด ไม่บงั เกิดโชคลาภการเงิน งานไม่คอ่ ยมีเขา้ มา เงินกไ็ ม่ค่อยมีใช้ ลูกคา้ ก็ไม่เขา้ ร้าน เพราะฉะน้นั ให้เร่งปรับปรุงตวั แก้ไข ต้งั แต่วนั น้ี หมนั่ ถือศีลปฏิบตั ิธรรม บาเพ็ญเพียรภาวนาอยู่เสมอ แลว้ ขา้ งในจะเปิ ดโชคลาภใหเ้ ราเหมือนเดิม

36 ป่ ูฤาษพี ่อแก่

37 ป่ ูฤาษพี ่อแก่ ป่ ฤู าษีพอ่ แก่ หมายถึง บรมครูสายการแสดง การทางานสายการแสดง ลิเก โขน มกั นิยมบชู าป่ ฤู าษีพอ่ แก่ก่อนเสมอ ถือกนั วา่ จะมี ความเจริญกา้ วหนา้ ในสายงานน้ีมาก การจะทางานดา้ นการแสดง ถา้ เรามีทางน้ี ควรบูชาป่ ูฤาษีพอ่ แก่ก่อนทุกคร้ัง องคใ์ นเรา จะเปิ ดให้ มีแต่โชคลาภ ความเจริญกา้ วหนา้ ในสายการแสดง การอญั เชิญป่ ูฤาษีพอ่ แก่ผา่ นร่าง ป่ ูฤาษีพ่อแก่ เป็ นญาณท่ีแรง การมีทางน้ี ห้ามประพฤติตวั เหลวไหล ออกจากศีลธรรม ไมอ่ ยา่ งน้นั จะถูกขา้ งใน เราลงโทษ ควรต้งั มน่ั อยใู่ นศีลธรรม การมีป่ ูฤาษีพ่อแก่ ให้ความคุม้ ครองดูแลรักษาเรา ถา้ ทางานสายการแสดง ก็ใหอ้ ญั เชิญ ทา่ นผา่ นร่าง บทละครไหนที่วา่ ยากๆ เพยี งป่ ฤู าษีพอ่ แก่ผา่ นมา เราจะทาอารมณ์ไดด้ ี และเห็นวา่ เป็ นของง่ายในที่สุด ในกรณีที่เราไม่ไดท้ างานเกี่ยวกบั สายการแสดง ป่ ูฤาษีพ่อแก่ ก็มีอานาจ พทุ ธคุณทางเมตตามหานิยม ทาการคา้ ขาย ทากิจการงานใดๆ ก็จะมีลูกคา้ มาก จะมีแต่คนเมตตา สงสาร รักใคร่ ช่วยเหลือเราใหป้ ระสบความสาเร็จ การอญั เชิญป่ ูฤาษีพ่อแก่ผ่านร่าง ทาจิตให้น่ิง เยน็ สงบ ทาร่างกายให้ว่างเปล่าเป็ น อากาศธาตุ ทากายใหเ้ บา ก็จะลงไดเ้ ตม็ องค์ การขอพร การทางานสายการแสดง ให้นึกถึงป่ ูฤาษีพ่อแก่ จะข้ึนมาก เราจะประสบความสาเร็จ จะเจริญกา้ วหนา้ ในหนา้ ท่ีการงาน มีคนนิยมชมชอบ ในกรณี ท่ีไม่ไดท้ างานเกี่ยวสายการแสดง ให้ขอโชคลาภจากท่าน เวลาทางานท่ีไหน ติดตอ่ กบั ลูกคา้ ใหม้ ีเมตตามหานิยม มีแต่คนรักใคร่ เมตตาสงสาร ใหบ้ งั เกิดโชคลาภ การถูกลงโทษ ป่ ูฤาษีพอ่ แก่ ตามท่ีไดก้ ล่าวไวแ้ ลว้ วา่ เป็นสายญาณที่แรงมาก ร่างทุกคน หรือบุคคลใด ก็ดี ท่ีมีท่านคุม้ ครอง ตอ้ งปฏิบตั ิตวั อยใู่ นศีลธรรมอนั ดีงาม ห้ามประพฤติตวั ออกจากศีลเด็ดขาด ไม่อยา่ งน้นั เราจะโดนญาณในลงโทษ การงานติดขดั ไม่มีโชคลาภ ทางานส่ิงใด มีแต่ปัญหา ไมเ่ จริญรุ่งเรือง ผใู้ หญ่หรือคนอื่น ไมใ่ หก้ ารสนบั สนุน ให้เร่งปรับปรุงตวั ต้งั แต่วนั น้ี ต้งั มนั่ ถือศีล ปฏิบตั ิธรรม ทาบุญให้ทาน ช่วยเหลือผตู้ ก ทุกข์ได้ยาก หมัน่ สวดมนต์ภาวนาทุกเช้าค่า เดี๋ยวข้างใน ก็จะเปิ ดโชคลาภ ความสาเร็จ ความเจริญรุ่งเรือง ใหเ้ ราเหมือนเดิม เพราะฉะน้นั มีทางน้ี หา้ มประพฤติตวั เหลวไหล ออกจาก ศีลธรรมเดด็ ขาด

38 พระตรีมูรติ

39 พระตรีมูรติ พระตรีมูรติ หมายถึง มหาเทพแห่งความรัก พระตรีมูรติ หรือพระตรีเทพ เป็ นการรวมกนั ของพระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ มาเป็ นหน่ึงเดียว พระศิวะ เป็นผทู้ าลาย พระพรหม เป็นผสู้ ร้าง พระนารายณ์ เป็นผพู้ ทิ กั ษร์ ักษา พระตรีมูรติน้นั ไม่ไดป้ ระทานความรักเพียงอยา่ งเดียวอยา่ งท่ีทุกคนเขา้ ใจ อานุภาพของ พระตรีมูรติยง่ิ ใหญก่ วา่ น้นั เช่น อานุภาพในการปราบมาร ขจดั ส่ิงชวั่ ร้ายท้งั หลาย เป็นตน้ คนที่จะเป็นตรีมูรติ ตอ้ งเขา้ ใจก่อนวา่ อะไรคือ การรวมสามเป็นหน่ึง การฝึกพลงั พระตรีมูรติ พลงั พระตรีมูรติน้นั มีอานุภาพมหาศาล ผูฝ้ ึ กตอ้ งมีสติ ไม่อย่างน้นั จะรับมหาเทพ ท้งั สาม และรวมกนั เป็ นหน่ึงไม่ได้ คนท่ีจะรวมพลงั ของพระตรีมูรติได้น้ัน ตอ้ งมีพระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ คุ้มครองด้วย แต่ยงั ไม่รวมกัน ก็สามารถฝึ กให้รวมกันได้ เพราะฉะน้นั ไมใ่ ช่ร่างท่ีไหน กจ็ ะฝึกพลงั น้ีได้ ถือวา่ เป็นข้นั สุดยอดของพลงั เทพ ในกรณีท่ีมีพระตรีมูรติคุม้ ครองอยู่แลว้ จะฝึ กพลงั ทางน้ีง่ายกว่า เพราะพลงั ที่รวมกนั เป็นหน่ึง ยอ่ มจะฝึกง่ายกวา่ พลงั ที่แยกกนั อยู่ ดงั ท่ีไดก้ ล่าวไวแ้ ลว้ อะไรคือ การรวมสามเป็ นหน่ึง ตอบได้ และเขา้ ใจเม่ือไร ท่านก็ จะสาเร็จเป็น พระตรีมรู ติ และสามารถใชพ้ ลงั ของพระตรีมรู ติได้ การรวมสามเป็ นหน่ึง คือ การรวมพลังของพระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ ให้กลายเป็ นหน่ึงเดียวกนั โดยการจะรวมเป็ นหน่ึงได้น้ัน ท่านตอ้ งปล่อยการให้ว่างเปล่าเป็ น อากาศธาตุ เพื่อรับพลงั ของมหาเทพท้งั สาม ใหก้ ลายเป็นพระตรีมรู ติ เม่ือปล่อยวาง ร่างกายใหว้ า่ งเปล่าแลว้ ทาใจใหส้ งบน่ิง ก็จะรวมพลงั ของสามมหาเทพ ใหก้ ลายเป็นหน่ึงเดียวกนั สาเร็จเป็นพระตรีมรู ติ ญาณบารมีของท่านจะสูงข้ึน การอญั เชิญญาณพระตรีมรู ติ เมื่อญาณบารมีของท่านสูงข้ึน เป็ นพระตรีมูรติ การจะอญั เชิญญาณพระตรีมูรติให้ ผา่ นร่าง ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแต่กาหนดสติข้ึน ทาจิตให้นิ่ง ปล่อยวางร่างกายให้ กลายเป็ นอากาศธาตุ ยอ่ มสามารถอญั เชิญญาณของพระตรีมูรติใหผ้ า่ นร่างได้ และสังขารร่างกาย สามารถรับพลงั ของพระตรีมรู ติไดอ้ ยา่ งง่ายดาย การขอพร ปางประทานพร จะขอใหส้ มหวงั ในเร่ืองความรัก การงาน เจริญกา้ วหนา้ มีโชคลาภเงินทอง ไหลมาเทมา มีเงินใชจ้ า่ ยไม่ขาดมือ การขอพร ปางปราบมาร จะมีอาวธุ ครบมือ สามารถขจดั สิ่งชวั่ ร้าย อุปสรรคท้งั ปวง

40 พระตรีศักติ

41 พระตรีศักติ พระตรีศกั ติ หมายถึง พระอุมา พระลกั ษมี พระสุรัสวดี รวมกนั เป็นร่างเดียว หายากมากท่ีใครจะมาเป็ นร่างพระตรีศกั ติ เพราะไปงานเทพส่วนใหญ่ จะอญั เชิญแต่ พระตรีมูรติ จะไมอ่ ญั เชิญร่างพระตรีศกั ติเลย พระตรีศกั ติ จะมีอานุภาพมาก ไม่ได้ประทานความรักให้กบั ผูห้ ญิงให้สมหวงั เท่าน้นั ยงั ประทานเงินทอง สติปัญญา ความสาเร็จในหนา้ ท่ีการงานใหก้ บั ผเู้ ป็นร่าง หรือผทู้ ี่บูชาท่าน เคลด็ ลบั การรวมพลงั สามมหาเทวใี หก้ ลายเป็นหน่ึงเดียว พระตรีศกั ติ หรือสามมหาเทวี ถา้ รวมกนั เป็นหน่ึงจะมีอานุภาพมาก สามมหาเทวี เมื่อแยกกนั อยู่ ร่างจะมีความสามารถที่โดนเด่นกนั ออกไป การจะรวมพลงั มหาเทวีท้งั สามองค์ ให้กลายเป็ นหน่ึงเดียวกนั เป็ นหลกั การเดียวกนั กบั พลงั ของพระตรีมูรติ ต่างกนั ก็ตรงที่ พลงั ของพระตรีมูรติ จะเป็ นพลงั ที่เข็มแข็ง ส่วนพลงั ของพระตรีศกั ติ จะเป็ น พลงั ที่อ่อนโยน นุ่มนวล เม่ือจะรวมพลงั ของมหาเทวีท้งั สามเขา้ ไวด้ ว้ ยกนั พึงทาจิตใหส้ งบ เยน็ เหมือนสายน้า สุขุม นุ่มนวล ให้เป็ นพลงั สายเยน็ เมื่อจิตเป็ นหน่ึงเม่ือไร พลงั ของมหาเทวีท้งั สาม ก็จะ กลายเป็นหน่ึงเดียว สาเร็จเป็นพระตรีศกั ติ การอญั เชิญพระตรีศกั ดิผา่ นร่าง พระตรีศกั ติ เป็นญาณเทพช้นั สูง ร่างตอ้ งปฏิบตั ิศีลอยา่ งเคร่งครัด และปฏิบตั ิสมาธิอยา่ ง สม่าเสมอ ทาจิตใหส้ งบ นิ่ง เยน็ ดุจสายน้า และนุ่มนวล ปล่อยวางร่างกายใหก้ ลายอากาศธาตุ กาหนดจิตใหน้ ่ิง เป็นหน่ึงเดียว ญาณพระตรีศกั ติ จะลงไดเ้ ตม็ องค์ การขอพร พระตรีศกั ติ มีอานุภาพมาก ผหู้ ญิงท่ีไม่ค่อยสมหวงั ในเร่ืองของความรัก เจอเพศตรง ขา้ มไม่ดี ใหข้ อพรท่าน แต่มีเง่ือนไขวา่ ตวั เองตอ้ งไม่ติดกรรม และประพฤติตวั เป็ นคนดีด้วย อยู่ในศีลธรรมอย่างเคร่งครัด ถึงจะสมหวงั ในเรื่องความรักได้ ยงั ขอพร ให้ประทานโชคลาภ การเงิน ความเจริญกา้ วหนา้ ในหนา้ ท่ีการงาน สติปัญญารู้เท่าทนั คน และอ่ืนๆอีกมากมาย ฯลฯ การถูกลงโทษ พระตรีศกั ติ มีพลงั มาก และอานุมาก การใช้พลงั เทพไปในทางท่ีผิด ประพฤติตวั เหลวไหล ผิดศีลธรรม ไม่ดาเนินสายบุญ ไม่ช่วยผตู้ กทุกข์ไดย้ าก ท้งั ท่ีตวั เองสามารถช่วยได้ เป็นคนไร้เมตตา ขาดคุณธรรม ยอ่ มตอ้ งไดร้ ับการลงโทษจากองคใ์ นของตวั เอง หรือพระตรีศกั ติ อยา่ งแน่นอน จนกวา่ จะสานึกผดิ กลบั เน้ือกลบั ตวั เป็นคนดี เพราะฉะน้นั การมีทางน้ี ร่างตอ้ งปฏิบตั ิศีลอยา่ งเคร่งครัดดว้ ย ดาเนินอยใู่ นเส้นทางบุญ

42 พระศิวะศักติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook