จากนน้ั เสดจ็ เขา้ หอพระสรุ าลยั พมิ าน ทรงเศวตพสั ตร์ ทรงสะพกั ขาวขลบิ ทอง แลว้ เสดจ็ ออกจากหอพระสรุ าลยั พมิ าน โดยรวิ้ ขบวนพราหมณน์ ำ� เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปยงั มณฑปพระกระยาสนาน ทรงจดุ ธปู เงนิ เทยี นทอง สงั เวยเทวดากลางหาว แล้วเสด็จขึ้นมณฑปพระกระยาสนานท่ีชาลารอยต่อพระที่น่ังไพศาลทักษิณและพระท่ีน่ังจักรพรรดิพิมาน ประทับเหนือต่ัง อุทุมพรราชอาสน์ แปรพระพกั ตร์สทู่ ิศบรู พา จากนน้ั พลอากาศเอก สถติ ย์พงษ์ สุขวมิ ล เลขาธิการพระราชวงั ถวายบังคม เปิดพระครอบพระมุรธาภิเษกถวาย ทรงวักน้�ำสรงพระนลาฏ ต่อจากน้ัน พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์กราบบังคมทูลขอ พระราชทานพระบรมราชานญุ าตไขสหัสธาราที่เจือดว้ ยน้ำ� เบญจสทุ ธคงคาและน้ำ� ศักดิ์สิทธจ์ิ าก ๔ สระ ประทีปทองส่องทางพลังงานไทย 99
100 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
ระหวา่ งการสรงนำ�้ พระมรุ ธาภเิ ษกโดยสหสั ธารา โหรหลวงล่ันฆ้องชัย พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนกั งานประโคมฆ้องชยั สังข์ แตร และดุริยางค์ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์ บรรเลงเพลงสรรเสรญิ พระบารมี กองแกว้ จนิ ดาสงั กดั ทหารปนื ใหญย่ งิ ปนื ใหญโ่ บราณ ๔ กระบอก ซง่ึ หลอ่ ขนึ้ ในสมัยรัชกาลท่ี ๔ คือ ปืนมหาฤกษ์ ปืนมหาชัย ปืนมหาจักร ปืนมหาปราบยุค กระบอกละ ๑๐ นัด ทสี่ นามหญา้ หนา้ ศาลาสหทยั สมาคม ทหาร ๓ เหลา่ ทพั ยงิ ปนื ใหญเ่ ฉลมิ พระเกยี รตฝิ า่ ยละ ๑๐๑ นดั เมอื่ เสรจ็ พธิ ี สรงพระมรุ ธาภเิ ษกแลว้ เสดจ็ ขนึ้ หอพระสรุ าลยั พมิ าน ประทีปทองส่องทางพลงั งานไทย 101
พธิ ถี วายน้�ำอภเิ ษก ในพิธีถวายน้�ำอภิเษก ทรงเครื่องบรม ขตั ตยิ ราชภษู ติ าภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย สายสะพาย นพรัตนราชวราภรณ์ ประดับจักรีดารา สายสร้อย จุลจอมเกล้า เสด็จออกจากหอพระสุราลัยพิมาน ไปยงั พระทน่ี งั่ ไพศาลทกั ษณิ ประทบั บนพระทน่ี งั่ อฐั ทศิ อุทุมพรราชอาสน์ภายใต้พระสัปตปฎลเศวตฉัตร (ฉัตรขาว ๗ ช้ัน) โดยผินพระพักตร์ไปทางทิศบูรพา เปน็ เบ้อื งแรก เพื่อทรงรับการถวายน้�ำอภเิ ษก 102 ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
ทรงรับน้�ำอภิเษกด้วยพระเต้าเบญจคัพภ์ด้วยพระหัตถ์ซ้าย จากน้ันพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครพู ราหมณ์ ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายพระครอบเฟอื งสมั ฤทธบ์ิ รรจนุ ำ�้ เทพมนตร์ ทรงจมุ่ พระหตั ถข์ วา ลงในพระครอบเฟืองสัมฤทธ์ิแล้วทรงลูบท่ีพระนลาฏ ต่อจากน้ันพระมหาราชครูทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย นำ�้ เทพมนตรด์ ว้ ยพระมหาสงั ขพ์ ธิ พี ราหมณท์ พี่ ระหตั ถข์ วา ทรงลบู พระเศยี ร แลว้ ทรงรบั ใบมะตมู ทรงทดั จากนน้ั ทรงผนิ พระพกั ตรโ์ ดยทกั ษณิ าวฏั (เวยี นขวา) ไปเรอื่ ย ๆ รอบพระทนี่ งั่ อฐั ทศิ อทุ มุ พรราชอาสนเ์ พอ่ื ทรงรบั นำ�้ อภเิ ษก และนำ้� เทพมนตร์จนครบ ๘ ทิศ โดยผู้ถวายนำ�้ ได้แก่ ๑. ทศิ บูรพา (ตะวันออก) พลเรือเอก หมอ่ มเจา้ ปุสาณ สวสั ดวิ ตั น์ ๒. ทศิ อาคเนย์(ตะวนั ออกเฉยี งใต)้ หมอ่ มเจา้ มงคลเฉลมิ ยคุ ล ๓. ทศิ ทกั ษณิ (ใต)้ พลโท หมอ่ มเจา้ เฉลมิ ศกึ ยคุ ล ๔. ทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต)้ พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ ประธานองคมนตรี ๕. ทิศประจมิ (ตะวนั ตก) พลเอก ประยทุ ธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ๖. ทศิ พายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนอื ) นายพรเพชร วชิ ติ ชลชยั ประธานสภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาติ ๗. ทศิ อดุ ร (เหนอื ) นายชพี จลุ มนต์ ประธานศาลฎกี า ๘. ทศิ อสี าน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) นายจรัส สุวรรณเวลา ราชบัณฑิต แล้วจึงกลับสู่ทิศท่ี ๙ คือทิศตะวันออกดังเดิม ซ่ึงมีความหมายถึงทิศเบ้ืองบน เพื่อสอ่ื ความถงึ การท่ที วยราษฎร์ในทศิ ท้งั ๘ นอ้ มเกลา้ นอ้ มกระหม่อมถวาย แผ่นดินให้ทรงครอบครองแต่ละทิศจนครบท้ังหมด ประทีปทองสอ่ งทางพลังงานไทย 103
พิธถี วายเครือ่ งเบญจราชกกธุ ภณั ฑ์ ประธานพระครูพราหมณ์กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระนพปฎล มหาเศวตฉัตร (ฉัตรขาว ๙ ชัน้ ) ทรงรบั และพระราชทานผ้เู ชิญรับเชิญไว้ แลว้ เสด็จพระราชด�ำเนินโดยรว้ิ ขบวนไปประทบั เหนือพระที่นั่งภัทรบิฐภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร แปรพระพักตร์สู่ทิศบูรพา พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณถวาย นำ�้ เทพมนตรท์ พี่ ระหตั ถด์ ว้ ยพระมหาสงั ขพ์ ธิ พี ราหมณ์ ถวายใบมะตมู ทรงทดั และกลา่ วพระเวทสรรเสรญิ เปดิ ศวิ าลยั ไกรลาส ซงึ่ เสมอื นการชมุ นมุ เทวดา จากนนั้ ถวายพระสพุ รรณบฏั พระปรมาภไิ ธย พรอ้ มกราบบงั คมทลู ถวายเครอ่ื งเบญจราชกกธุ ภณั ฑ์ เครอื่ งบรมขตั ติยราชวราภรณ์ เครื่องขัตติยราชูปโภค และพระแสงศาสตราวธุ ระหวา่ งพระราชพธิ ี พระสงฆเ์ จรญิ ชยั มงคลคาถา พราหมณเ์ ปา่ สงั ข์ ภษู ามาลาแกวง่ บณั เฑาะว์ ชาวพนกั งานประโคม ฆ้องชัย แตร มโหระทึก และดรุ ิยางค์ ทหารกองเกียรตยิ ศถวายความเคารพ วงดรุ ยิ างคบ์ รรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารยิงปืนใหญ่มหาฤกษ์ มหาชัย มหาจักร มหาปราบยุค กระบอกละ ๑๐ นัด ทหารท้ังสามเหล่าทัพยิงปืนใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ ๑๐๑ นัด พระสงฆ์ในอารามท่ัวราชอาณาจักรย่�ำระฆังถวายชัยมงคลพระอารามละ ๗ ลา ประธานพระครูพราหมณถ์ วายอนุษฏุภศวิ มนตร์และถวายพระพรชัยมงคล 104 ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
เครือ่ งเบญจราชกกุธภัณฑ์ “เครอ่ื งหมายแห่งความเปน็ พระราชา” เครอ่ื งเบญจราชกกธุ ภณั ฑ์ เปน็ เครอ่ื งหมายแหง่ ความเปน็ พระราชา ซงึ่ พระราชครพู ราหมณ์ ผู้ท�ำพิธีจะน�ำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในวันท่ีประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สำ� หรับเครื่องเบญจราชกกธุ ภณั ฑ์แตล่ ะองคน์ ั้นมคี วามหมาย ดงั นี้ พระมหาพชิ ัยมงกฎุ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้สร้างข้ึน ในสมัยโบราณถือว่ามงกุฎมีค่าส�ำคัญเท่ากับ เบญจราชกกธุ ภณั ฑ์อ่ืนๆ แตพ่ ระมหาเศวตฉัตรเปน็ ส่ิงทส่ี �ำคัญสูงสดุ หากตอ่ มา เมอื่ ประเทศไทยตดิ ตอ่ กบั ประเทศในทวปี ยโุ รปมากขนึ้ จงึ นยิ มตามราชสำ� นกั ยโุ รป ทถี่ อื วา่ ภาวะแหง่ ความเปน็ พระมหากษตั รยิ อ์ ยทู่ กี่ ารสวมมงกฎุ แตน่ นั้ มาจงึ ถอื วา่ พระมหาพชิ ยั มงกฎุ เปน็ สง่ิ สำ� คญั และพระมหากษตั รยิ ท์ รงสวมพระมหาพชิ ยั มงกฎุ ในการพระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก พระมหาพิชัยมงกฎุ ทองคำ� ลงยาราชาวดีประดับเพชร สูง ๖๖ เซนติเมตร น้ำ� หนกั ๗,๓๐๐ กรัม เป็นหนึ่งในเคร่ืองเบญจราชกกุธภัณฑ์ อันแสดงความหมายถึง พระราชภาระอันหนักยิง่ ของแผ่นดนิ เพ่ือประโยชน์สุขของประชาชน พระแสงขรรค์ชยั ศรี เป็นพระขรรค์โบราณ เช่ือกันว่าเป็นพระราชศาสตราคู่บ้านคู่เมืองเขมรในรัชสมัย พระเจ้าปทุมสุริยวงศ์ จมอยู่ในทะเลสาบเมืองนครเสียมราฐมาเป็นเวลานานเท่าใดไม่มีใครทราบ ชาวประมง ไ ป ท อ ด แ ห ติ ด ข้ึ น ม า องคพ์ ระขรรคย์ งั ดไี ม่มีสนมิ ผุกรอ่ น ทา่ นเจา้ พระยาอภัยภูเบศร (แบน) ซ่งึ เปน็ ผู้ส�ำเรจ็ ราชการเมอื งพระตะบองและนครเสยี มราฐ จึงได้ มอบใหพ้ ระยาพระเขมรเชญิ เขา้ มาทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช เมอื่ พทุ ธศกั ราช ๒๓๒๗ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ช่างท�ำด้ามพระขรรค์หุ้มทองค�ำลงยาราชาวดีลายเทพนม ฝักหุ้มทองค�ำลงยา ราชาวดปี ระดบั มณขี น้ึ ดว้ ยฝมี อื อนั ประณตี งดงาม แลว้ จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหเ้ ชญิ เปน็ เครอ่ื งเบญจราชกกธุ ภณั ฑ์ ในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกเมอ่ื พทุ ธศกั ราช ๒๓๒๘ พระแสงขรรคช์ ยั ศรอี งคน์ เี้ ฉพาะองคย์ าว ๖๔.๕ เซนตเิ มตร ทสี่ นั ตอนใกลจ้ ะถงึ ด้ามคร่�ำดว้ ยทองคำ� เปน็ ลวดลายงดงาม ดา้ มพระขรรคย์ าว ๒๕.๔ เซนตเิ มตร สวมฝักแลว้ ยาว ๑๐๑ เซนติเมตร หนกั ๑,๙๐๐ กรมั เปน็ หนง่ึ ในเครอ่ื งเบญจราชกกธุ ภัณฑ์ มีความหมายถงึ ความเทย่ี งตรงและรับพระราชภาระปกปอ้ งแผน่ ดินให้พ้นจากภยนั ตราย 106 ประทปี ทองส่องทางพลังงานไทย
ธารพระกรชัยพฤกษ์ ฉลองพระบาทเชิงงอน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้าง ท�ำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ปิดทอง มหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า หวั และสน้ เปน็ เหลก็ ครำ�่ ลายทอง ทสี่ ดุ สน้ เปน็ สอ้ มสามงา่ ม เรยี กวา่ โปรดกระหม่อมให้สร้างเป็นเคร่ือง ธารพระกรชยั พฤกษ์ ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เบญจราชกกธุ ภณั ฑต์ ามแบบอนิ เดยี โบราณ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหส้ รา้ งธารพระกรขน้ึ ใหม่ เป็นฉลองพระบาทเชิงงอนท�ำด้วยทองค�ำ ทำ� ดว้ ยทองคำ� ภายในมีพระแสงเสน่า (สะ-เหน่า) ยอดมีรูปเทวดา ลงยาราชาวดฝี งั เพชร มนี ำ�้ หนกั ๖๕๐ กรมั เรยี กวา่ ธารพระกรเทวรปู มลี กั ษณะเปน็ พระแสงดาบมากกว่าเปน็ เป็นหน่ึงในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ท่ี ธารพระกร ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หมายถึงการเสด็จพระราชด�ำเนินไป ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มให้ใชธ้ ารพระกรชยั พฤกษ์ ทุกหนแห่งในแผ่นดิน ทรงท�ำนุบ�ำรุง ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสืบมาจนถึงรัชสมัยพระบาท ปวงประชาทวั่ รฐั สีมาอาณาจกั ร สมเดจ็ พระมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร เปน็ หนงึ่ ใน เครอ่ื งเบญจราชกกธุ ภณั ฑท์ มี่ คี วามหมายถงึ ความมน่ั คง ทรงดำ� รง ราชธรรมเพ่อื คำ้� จุนบ้านเมืองใหผ้ าสกุ มน่ั คง วาลวชิ นี วาลวิชนี คือพัดและแส้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงพระกรุณา โปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหส้ รา้ ง ลกั ษณะเปน็ พดั ใบตาล ทใ่ี บตาลปดิ ทองทงั้ ๒ ดา้ น ขอบขลบิ ทองค�ำ ด้ามท�ำดว้ ยทองลงยาเรียกว่า พัชนีฝกั มะขาม ตอ่ มาพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั มีพระราชดำ� รวิ ่า ตามพระบาลีท่ีเรยี กว่า “วาลวชิ น”ี ไมค่ วรจะเป็นพัดใบตาล ควรจะ เปน็ เครอื่ งโบกปดั ทที่ ำ� ดว้ ยขนจามรี เพราะวาล แปลวา่ ขนโคชนดิ หนง่ึ ตรงกบั ทไี่ ทยเรยี ก จามรี จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อมให้สรา้ งแสข้ นจามรเี ปน็ เครอื่ งเบญจราชกกุธภัณฑ์ ภายหลังใชข้ นหางช้างเผือก เรียกวา่ “พระแส้หางชา้ งเผอื ก” แต่ก็ไมอ่ าจที่จะเลกิ ใช้พดั ใบตาล ของเดิมได้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พัดใบตาลและพระแส้จามรีควบคู่กัน โดยเรียกว่า วาลวิชนี เปน็ หนง่ึ ในเครอื่ งเบญจราชกกธุ ภณั ฑ์ มคี วามหมายถงึ ทรงขจดั ปดั เปา่ ความทกุ ขย์ ากเดอื ดรอ้ น ของอาณาประชาราษฎร์ ประทีปทองส่องทางพลงั งานไทย 107
พระปฐมบรมราชโองการ ในรัชกาลท่ี ๑๐ ห ลั ง จ า ก เ ส ร็ จ สิ้ น พิ ธี ถ ว า ย เ ค ร่ื อ ง เบญจราชกกุธภัณฑ์แล้ว พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมีพระปฐมบรมราชโองการแก่ ประชาชนชาวไทย ความวา่ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผน่ ดนิ โดยธรรม เพ่อื ประโยชนส์ ขุ แห่งอาณาราษฎรตลอดไป” พระมหาราชครพู ธิ ศี รวี สิ ทุ ธคิ ณุ ประธาน พระครพู ราหมณ์ รับพระปฐมบรมราชโองการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง หลั่งทักษิโณทก ตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน ในการปฏิบตั ิตามพระปฐมบรมราชโองการ 108 ประทปี ทองสอ่ งทางพลังงานไทย
จากน้ัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อาลักษณ์อ่านประกาศ พระบรมราชโองการสถาปนาเฉลิมพระเกียรตยิ ศสมเด็จพระราชินสี ุทิดา ขึน้ เป็นสมเดจ็ พระนางเจา้ สทุ ดิ า พชั รสธุ าพมิ ลลกั ษณ พระบรมราชนิ ี พรอ้ มหลงั่ นำ�้ พระมหาสงั ข์ ทรงเจมิ พระราชทานสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ มหาจกั รบี รมราชวงศ์ เครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณอ์ นั เปน็ โบราณราชมงคลนพรตั นราชวราภรณ์ และเคร่ืองราชปู โภคอันเป็นตำ� แหนง่ พระอคั รมเหสี ประทปี ทองส่องทางพลงั งานไทย 109
เสด็จออกมหาสมาคม หลงั จากเสร็จสิ้นพระราชพิธีบรมราชาภเิ ษกอย่างสมบูรณ์ วันท่ี ๔ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ เวลา ๑๔.๕๖ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่น่งั อมรินทรวนิ จิ ฉัยมไหสูรยพิมาน 110 ประทปี ทองส่องทางพลังงานไทย
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลในนาม พระบรมวงศานุวงศ์ ตามด้วยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กราบบงั คมทลู ถวายพระพรชยั มงคลในนามคณะรฐั มนตรี ขา้ ราชการ ทหาร ตำ� รวจ พลเรอื น และราษฎรทกุ หมเู่ หลา่ นายพรเพชร วชิ ติ ชลชยั ประธานสภานติ บิ ญั ญตั ิ แหง่ ชาติ กราบบงั คมทลู ถวายพระพรชยั มงคลในนามสมาชกิ สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาติ จากน้ัน นายชพี จลุ มนต์ ประธานศาลฎีกา กราบบงั คมทูลถวายพระพรชัยมงคล ในนามข้าราชการตลุ าการ ประทปี ทองส่องทางพลงั งานไทย 111
112 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
ประกาศพระองค์เป็นพทุ ธศาสนูปถมั ภก พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงเครอื่ งบรมขตั ตยิ ราชภษู ติ าภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย ทรงพระมาลาเส้าสูงอันเป็นเครื่องราชศิราภรณ์ ที่สร้างข้ึนในสมัยรัชกาลท่ี ๑ ประทับพระราชยานพุดตานทอง เสด็จ พระราชด�ำเนินโดยขบวนพระบรมราชอิสริยยศจากพระที่น่ังอมรินทร วนิ จิ ฉยั มไหสูรยพิมาน ไปทรงนมัสการพระพทุ ธมหามณีรตั นปฏมิ ากร ณ วดั พระศรรี ตั นศาสดาราม ทรงประกาศพระองคต์ ่อทช่ี มุ นุมสงฆเ์ ปน็ พุทธศาสนูปถัมภกอันเป็นพระราชภารกิจส�ำคัญของพระมหากษัตริย์ ประทปี ทองส่องทางพลงั งานไทย 113
114 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
จากนั้น เสด็จพระราชด�ำเนินไปถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จ พระบูรพมหากษัตริยาธริ าช ณ ปราสาทพระเทพบดิ ร แลว้ จึงเสดจ็ พระราชดำ� เนิน ไปถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการี ณ พระท่ีน่ัง ดสุ ติ มหาปราสาท ประทีปทองส่องทางพลงั งานไทย 115
เฉลมิ พระราชมณเฑียร พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปยงั พระทนี่ งั่ จกั รพรรดพิ มิ าน ครน้ั ไดเ้ วลาพระฤกษ์ เสดจ็ เข้ารวิ้ ซึง่ ประกอบด้วยเจา้ พนกั งานเชิญเทียนนำ� ๑ คู่ ทรงพระด�ำเนนิ ตาม มีเจา้ พนักงานเชญิ ขนั ใสเ่ งิน เหรยี ญสำ� หรบั ทรงโปรยพระราชทานตลอดทาง พรอ้ มดว้ ยเจา้ พนกั งานเชญิ พระแสงฝกั ทองเกลยี้ ง พระแสงขรรค์ เพชรน้อย พระแส้หางช้างเผือกผู้ ธารพระกรศกั ด์สิ ิทธิ์ ไก่ขาว ศิลาบด พานพืช กุญแจทอง จ่ันหมากทอง วฬิ าร์ (แมว) พานฟกั พระสพุ รรณศรี พานพระศรี พานพระโอสถ พานพระมาลา เวยี นประทกั ษณิ รอบพระทน่ี งั่ จกั รพรรดพิ มิ าน แลว้ เสดจ็ เขา้ พระทน่ี งั่ จกั รพรรดพิ มิ าน ผเู้ ชญิ เครอ่ื งมอบของทเี่ ชญิ ใหเ้ จา้ พนกั งาน ณ หอ้ งกลาง พระราชวงศ์ผู้ใหญ่ทรงลาดพระที่ ทรงวางเคร่ืองเฉลิมพระราชมณเฑียรบางองค์ที่ปลายพระที่ แล้วประทับ บนพระแท่นราชบรรจถรณ์ ทรงเอนพระองค์เบ้ืองขวาลงบรรทมเป็นพระฤกษ์ เจ้าพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ และดรุ ิยางค์ เม่ือสุดเสียงประโคม เสด็จลงประทับบนพระแท่นลด พระราชวงศ์ผู้ใหญ่ทท่ี รงลาดพระที่ ถวายพระพรชยั มงคล ทรงโปรยดอกพกิ ลุ ทอง พกิ ลุ เงนิ พระราชทาน แลว้ ประทบั แรมในพระทนี่ ง่ั จกั รพรรรดพิ มิ าน ๑ คืน 116 ประทปี ทองสอ่ งทางพลังงานไทย
พระราชพธิ เี ฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย สถาปนาพระฐานันดรศักดพิ์ ระบรมวงศ์ วนั ที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๒๗ นาฬิกา พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั เสด็จออก ณ พระที่น่งั อมรนิ ทรวนิ จิ ฉยั พระบรมมหาราชวงั ในการพระราชพธิ เี ฉลมิ พระปรมาภไิ ธย พระนามาภไิ ธย และสถาปนาพระฐานนั ดรศกั ด์ิ พระบรมวงศ์ ทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจ�ำพระชนมวาร รัชกาลที่ ๑ - ๙ ท่ีหน้าพระท่ีนั่งบุษบกมาลา จากน้ัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพนักงานอาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการเฉลิม พระปรมาภไิ ธย พระบรมอฐั สิ มเดจ็ พระบรมชนกนาถ ตามทจ่ี ารกึ ในพระสพุ รรณบฏั วา่ “พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” ประทปี ทองส่องทางพลงั งานไทย 117
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพนักงานอาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการ เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระบรมราชชนนี ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี ันปหี ลวง” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพนักงานอาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการ เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณ วรราชภักดี สริ ิกิจการณิ พี รี ยพฒั น รฐั สมี าคณุ ากรปยิ ชาติ สยามบรมราชกุมาร”ี 118 ประทีปทองส่องทางพลงั งานไทย
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพนักงาน อ า ลั ก ษ ณ ์ อ ่ า น ป ร ะ ก า ศ พ ร ะ บ ร ม ร า ช โ อ ง ก า ร ส ถ า ป น า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า“สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อคั รราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตตยิ ราชนาร”ี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพนักงาน อาลกั ษณอ์ า่ นประกาศพระบรมราชโองการสถาปนา พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ตามที่จารึกใน พระสุพรรณบัฏว่า “พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมืน่ สุทธนารนี าถ” ประทีปทองส่องทางพลงั งานไทย 119
ท ร ง พ ร ะ ก รุ ณ า โ ป ร ด เ ก ล ้ า โ ป ร ด ก ร ะ ห ม ่ อ ม ใ ห ้ เ จ ้ า พ นั ก ง า น อ า ลั ก ษ ณ ์ อ ่ า น ป ร ะ ก า ศ พ ร ะ บ ร ม ราชโองการสถาปนาและเฉลมิ พระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า พัชรกิติยาภา ตามที่จารึกในพระ สุพรรณบัฏว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟา้ พชั รกติ ยิ าภา นเรนทริ าเทพยวด”ี ๑ ท ร ง พ ร ะ ก รุ ณ า โ ป ร ด เ ก ล ้ า โ ป ร ด ก ร ะ ห ม ่ อ ม ใ ห ้ เ จ ้ า พ นั ก ง า น อ า ลั ก ษ ณ ์ อ ่ า น ป ร ะ ก า ศ พ ร ะ บ ร ม ราชโองการสถาปนาและเฉลมิ พระนาม พระเจา้ หลานเธอ พระองคเ์ จา้ สริ วิ ณั ณวรี นารรี ตั น์ ตามทจ่ี ารกึ ในพระสพุ รรณบฏั ว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า สริ ิวณั ณวรี นารรี ัตนราชกญั ญา” ๑ เมอื่ วนั ท่ี ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อมใหส้ ถาปนาสมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ พระองคเ์ จา้ พัชรกติ ยิ าภา นเรนทริ าเทพยวดี ขึ้นเปน็ เจา้ ฟา้ ต่างกรมฝ่ายใน มพี ระนามตามที่จารึกในพระสุพรรณบฏั วา่ “สมเด็จพระเจา้ ลูกเธอ เจ้าฟา้ พัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสารณิ ีสริ พิ ชั ร มหาวัชรราชธดิ า” 120 ประทปี ทองสอ่ งทางพลังงานไทย
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เจ้าพนักงานอาลักษณ์อ่านประกาศพระบรม ราชโองการสถาปนาและเฉลมิ พระนาม พระเจา้ หลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ตามที่จารึกในพระ สพุ รรณบฏั วา่ “สมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ ทปี งั กร รัศมโี ชติ มหาวชโิ รตตมางกรู สริ ิวิบูลยราชกมุ าร” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เจ้าพนักงานอาลักษณ์อ่านประกาศพระบรม ราชโองการเปลี่ยนค�ำน�ำพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และจารึกในพระ สพุ รรณบฏั วา่ “พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้าสริ ภิ า จุฑาภรณ์” และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหมอ่ มใหเ้ จา้ พนกั งานอาลกั ษณอ์ า่ นประกาศ พระบรมราชโองการเปล่ียนค�ำน�ำพระนาม พระเจ้า หลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ และจารึก ในพระสพุ รรณบฏั วา่ “พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ อทติ ยาทรกติ คิ ณุ ” จากน้ัน ทรงรับดอกไม้ธูปเทียนแพจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ซง่ึ ทลู เกลา้ ฯ ถวาย ในนามพระบรมวงศานวุ งศ์ ต่อจากน้ัน พระราชทาน พระบรมราชวโรกาสให้พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ ในนามคณะองคมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในนามคณะรัฐมนตรี ทหาร ตำ� รวจ และข้าราชการพลเรือน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในนามสมาชิก สภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายชีพ จุลมนต์ ประธาน ศาลฎีกา ในนามข้าราชการตุลาการ พลอากาศเอก สถติ ยพ์ งษ์ สขุ วมิ ล ประธานขา้ ราชบรพิ ารในพระองค์ ในนามข้าราชบริพารในพระองค์ ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 121
122 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
เสดจ็ พระราชด�ำเนินเลยี บพระนครโดยขบวนพยหุ ยาตรา ทางสถลมารค วนั ที่ ๕ พฤษภาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ เวลา ๑๖.๔๙ น. พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ทรงเครอื่ งบรมขตั ตยิ ราชภษู ติ าภรณ์ ฉลองพระองคค์ รยุ สายสะพายจกั รี สายสรอ้ ยจลุ จอมเกลา้ ทรงพระมาลาเสา้ สงู และทรงพระแสงขรรคช์ ัยศรี เสด็จพระราชด�ำเนินจากพระท่ีนัง่ จกั รพรรดิ พิมาน ไปยังเกยพระที่น่ังอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท เพื่อประทับพระราชยานพุดตานทอง เสด็จพระราชด�ำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค เพ่ือให้พสกนิกร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทแสดงความจงรักภักดี ร่วมช่ืนชมในพระบารมีอันแผ่ไพศาลและ ประกาศพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์พระองค์ ใหม่ตามโบราณราชประเพณี ในพระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 123
124 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
โดยเสด็จพระราชด�ำเนินไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อถวายราชสักการะพระบรม ราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพล อดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร จากนนั้ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปยงั วดั ราชบพธิ สถติ มหาสมี าราม ราชวรวหิ าร เพอ่ื ถวายราชสกั การะพระบรมราชสรรี างคารพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั พระราชสรรี างคารสมเดจ็ พระนางเจา้ รำ� ไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ และพระบรม ราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แล้วเสด็จ พระราชด�ำเนินไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เพื่อถวายราชสักการะ พระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมบรมกษัตริย์ แหง่ ราชวงศ์จกั รี ก่อนเสดจ็ พระราชดำ� เนินกลบั พระบรมมหาราชวัง ประทปี ทองส่องทางพลังงานไทย 125
เสด็จออก ณ สีหบัญชร พสกนิกรชื่นชมพระบารม ี วนั ท่ี ๖ พฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ เวลา ๑๖.๓๐ น. พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยหู่ วั พร้อมด้วยสมเดจ็ พระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารรี ตั นราชกญั ญา และสมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ ทปี งั กรรศั มโี ชติ มหาวชโิ รตตมางกรู สริ วิ บิ ลู ยราชกมุ าร เสดจ็ ขน้ึ ณ ทอ้ งพระโรง พระทนี่ ง่ั สทุ ไธสวรรยป์ ราสาท ในพระบรม มหาราชวงั โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ พระราชวงศ์ และองคมนตรี เฝา้ ทลู ละอองธุลี พระบาทรบั เสดจ็ ผแู้ ทนทกุ หมเู่ หลา่ เขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ถวายพระพรชยั มงคล จากนั้น พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวเสดจ็ ออก ณ สหี บัญชร พระทน่ี ัง่ สุทไธสวรรย์ ปราสาท พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยน�ำ นายอาศสิ พทิ กั ษค์ มุ พล จฬุ าราชมนตรแี ละคณะกรรมการกลางอสิ ลาม และผนู้ ำ� ศาสนา ทั้งหลาย กับผู้แทนคณะพาณชิ ย์ ๔ คณะ เข้าเฝา้ ทูลละอองธุลพี ระบาท ถวายพระพร ชยั มงคล แลว้ จงึ เสดจ็ ออก ณ สหี บญั ชร ทหารบก ทหารเรอื ทหารอากาศ ยงิ ปนื ใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ ๒๑ นัด โดยมีพสกนิกรมารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รบั เสด็จอยเู่ ป็นจำ� นวนมาก 126 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
พลเอก ประยทุ ธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอ�ำนวยการจัดงาน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธปู เทยี นแพ แลว้ กราบบงั คมทลู ถวายพระพรชยั มงคล ในนามพสกนกิ รชาวไทยทกุ หมู่เหล่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ พัชรกิติยาภา นเรนทริ า เทพยวดี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สริ ิวบิ ลู ยราชกมุ าร เสด็จออก ณ สหี บัญชร เพอื่ ให้ ประชาชนเฝ้าถวายพระพรชัยมงคล ทุกพระองค์ ทรงโบกพระหัตถ์และแย้มพระสรวลให้กับประชาชน ท่มี าชมื่ ชมพระบารมีอยา่ งเนืองแน่น ภาพท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ี พร้อมดว้ ยพระราชธิดา และพระราชโอรสทั้ง ๓ พระองค์ ทรงโบกพระหตั ถ์ ใหก้ บั ประชาชนพรอ้ มๆ กนั ไดส้ รา้ งความปลม้ื ปตี แิ ละ ความประทับใจแก่พสกนิกรอย่างยิ่ง ต่างพากัน เปล่งเสียง “ทรงพระเจรญิ ” ดงั กึกก้องยาวนาน 128 ประทีปทองสอ่ งทางพลังงานไทย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและประชาชนท่มี า รอเฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทรบั เสดจ็ ในบรเิ วณนนั้ รว่ มรอ้ งเพลงสรรเสรญิ พระบารมี กอ่ นทที่ กุ พระองค์ จะเสด็จพระราชด�ำเนินไปยังพระท่ีน่ังจักรี มหาปราสาท ตอ่ มาในเวลา ๑๗.๓๕ นาฬิกา พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ ท้องพระโรงกลาง พระท่ีน่ังจักรีมหาปราสาท พระราชทานพระบรม ร า ช ว โ ร ก า ส ใ ห ้ ค ณ ะ ทู ต า นุ ทู ต แ ล ะ ก ง สุ ล ต่างประเทศประจ�ำประเทศไทย และผู้แทน องค์การระหว่างประเทศในประเทศไทย เข้าเฝ้า ทลู ละอองธลุ พี ระบาทถวายพระพรชยั มงคล ประทีปทองสอ่ งทางพลังงานไทย 129
130 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 131
พระบารมแี ผ่ไพศาล เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ เลยี บพระนครโดยขบวนพยหุ ยาตรา ทางชลมารค พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ จดั ขบวนพยหุ ยาตราทางชลมารคเนอ่ื งในพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก ตามโบราณราชประเพณี เพอ่ื ใหพ้ สกนกิ รไดเ้ ฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ถวายพระพรชยั มงคลและชน่ื ชมพระบารมใี นพระราชพธิ เี บอื้ งปลาย เนอ่ื งในการพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ โดย จดั ข้ึนในวนั พฤหสั บดีที่ ๑๒ ธันวาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ 132 ประทปี ทองสอ่ งทางพลังงานไทย
เวลา ๑๕.๓๐ นาฬกิ า พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงเครอื่ งบรมขตั ตยิ ราชภษู ติ าภรณ์ สายสะพายนพรตั นราชวราภรณ์ สวมสายสรอ้ ยจลุ จอมเกลา้ และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรม ราชนิ ี เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ พชั รกติ ยิ าภา นเรนทริ าเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารรี ตั นราชกญั ญา และสมเด็จพระเจา้ ลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรศั มโี ชติ มหาวชิโรตตมางกรู สริ วิ บิ ลู ยราชกมุ าร โดยรถยนตพ์ ระทนี่ งั่ จากพระทน่ี ง่ั อมั พรสถาน พระราชวงั ดสุ ติ ไปยงั เรอื นแพ ทป่ี ระทบั รบั รองบรเิ วณทา่ วาสกุ รี รถยนตพ์ ระประเทยี บอญั เชญิ พระพทุ ธปฏมิ าชยั วฒั น์ รชั กาลที่ ๙ นำ� รถยนตพ์ ระทนี่ ง่ั จากพระทนี่ ง่ั อมั พรสถาน พระราชวงั ดสุ ติ ไปยงั ทา่ วาสกุ รี ทหารกองเกยี รตยิ ศ ถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ประทปี ทองสอ่ งทางพลังงานไทย 133
เจ้าพนักงานราชูปโภคอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลท่ี ๙ ไป ประดษิ ฐานในบษุ บกเรอื พระที่นง่ั อนนั ตนาคราช ท่สี ะพานฉนวนประจำ� ท่าวาสกุ รี เรือพระท่ีน่ังอนันตนาคราชเคล่ือนออกไป เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์เข้าเทียบ สะพานฉนวนประจ�ำท่าวาสุกรี เรือพระท่ีน่ังสุพรรณหงส์เข้าเทียบเรือพระที่น่ัง อเนกชาติภชุ งค์ไว้พรอ้ มแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำ� เนนิ ไปยงั ทา่ วาสกุ รี ณ ทนี่ นั้ พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทรบั เสดจ็ พลเรอื เอก ลอื ชยั รดุ ดษิ ฐ์ ผบู้ ญั ชาการทหารเรอื ในฐานะผบู้ ญั ชาการขบวนเสดจ็ พระราชดำ� เนนิ เลยี บพระนครโดยขบวนพยหุ ยาตรา ทางชลมารคเน่ืองในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ เฝ้าฯ กราบบงั คมทลู พระกรณุ ารายงานจำ� นวนเรอื และกำ� ลงั พล จากนน้ั พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชด�ำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สริ วิ บิ ลู ยราชกมุ าร ประทบั เรอื พระทน่ี ง่ั สพุ รรณหงสอ์ อกจากทา่ วาสกุ รไี ปตามชลวถิ ี ทอ้ งนำ้� เจ้าพระยาสทู่ า่ ราชวรดิฐ 134 ประทีปทองส่องทางพลังงานไทย
136 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวทรงพระแสงขรรคช์ ัยศรี และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินี ประทบั พระราชอาสน์ สมเด็จพระเจา้ ลูกยาเธอ เจา้ ฟา้ ทีปงั กรรัศมีโชติ มหาวชโิ รตตมางกรู สริ ิวบิ ูลยราชกมุ าร ประทบั ท่ี กราบเรือพระที่น่ังด้านขวา ขณะน้ันทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญ พระบารมี ทหารบก ทหารเรอื ทหารอากาศ ยงิ ปนื ใหญเ่ ฉลมิ พระเกียรติฝ่ายละ ๒๑ นดั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปประทับพระเก้าอี้บนเรือพระท่ีน่ังอเนกชาติภุชงค์ตามเสด็จในขบวนพยุหยาตรา โดยมพี ลเรอื เอก สมชาย ณ บางชา้ ง ผคู้ วบคมุ เรอื พระทนี่ งั่ สพุ รรณหงส์ กราบบงั คมทลู พระกรณุ าขอพระราชทาน พระบรมราชานญุ าตเคลอ่ื นขบวนพยหุ ยาตราทางชลมารค ขณะนน้ั นายกรฐั มนตรี ประธานรฐั สภา ประธานศาลฎกี า ส่งเสดจ็ บรเิ วณปลายฉนวนประจำ� ท่าวาสกุ รี ประทีปทองสอ่ งทางพลังงานไทย 137
138 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
เมอื่ พรอ้ มแลว้ เวลา ๑๖.๒๕ นาฬกิ า ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม ใหเ้ คลอ่ื นขบวนเรอื พยหุ ยาตราทางชลมารคออกจากทา่ วาสกุ รไี ปตามชลวถิ ที อ้ งนำ�้ เจ้าพระยา ชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ และกลองชนะประจ�ำเรือพระราชพิธีประโคมข้ึนพร้อมกัน ขบวนพยุหยาตราทาง ชลมารคเคลอ่ื นไปตามลำ� ดบั ทหารกองเกียรตยิ ศถวายความเคารพ วงดุรยิ างค์ บรรเลงเพลงมารช์ ธงชยั เฉลมิ พลตลอดระยะทางประมาณ ๔ กโิ ลเมตร ใชบ้ ทเหเ่ รอื ท้งั หมด ๓ องกด์ ้วยกนั กกึ ก้องไปทัว่ ลำ� น�ำ้ ประกอบด้วย บทสรรเสรญิ พระบารมี (บทใหม)่ บทชมเรอื ขบวนและบทชมวงั ประพนั ธโ์ ดยนาวาเอก ทองยอ้ ย แสงสนิ ชยั ขบั รอ้ งบทเห่เรอื โดยนาวาเอก ณัฐวัฏ อร่ามเกลื้อ ประทีปทองส่องทางพลังงานไทย 139
เรือพระที่น่ังอนันตนาคราชเข้าเทียบสะพาน ฉนวนประจ�ำท่าราชวรดิฐ เจ้าพนักงานราชูปโภค อัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๙ จาก บุษบกบัลลังก์บนเรือพระท่ีน่ังอนันตนาคราช ไป ประดษิ ฐานบนพระราชยานถม เตรยี มเขา้ รว้ิ ขบวนราบ ยาตราไปยงั พระบรมมหาราชวงั จากนัน้ เรอื พระทีน่ ่งั อนันตนาคราชเคลื่อนออกไป ขณะเรือพระที่นั่ง สพุ รรณหงสจ์ ะเขา้ เทยี บสะพานฉนวนประจำ� ทา่ ราชวรดฐิ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์ บรรเลงเพลงมารช์ ธงชัยเฉลมิ พล 140 ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
กระทงั่ เวลาประมาณ ๑๗.๑๐ นาฬกิ า เรอื พระทนี่ ง่ั สพุ รรณหงส์ เข้าเทียบสะพานฉนวนประจ�ำท่าราชวรดิฐ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จ พระราชด�ำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกร รัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ข้ึนสะพาน ฉนวนประจ�ำท่าราชวรดิฐ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุรยิ างคบ์ รรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการขบวนเสด็จพระราชด�ำเนินเลียบพระนครโดย ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ เฝ้าฯ กราบบังคมทูลพระกรณุ ารายงาน จากน้ันเสด็จพระราชด�ำเนินไปยังพลับพลาทป่ี ระทบั รบั รอง เรอื พระทนี่ งั่ อเนกชาตภิ ชุ งคเ์ ขา้ เทยี บเรอื พระทนี่ งั่ สพุ รรณหงส์ ที่สะพานฉนวนประจ�ำท่าราชวรดิฐ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า พัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จขึ้นสะพานฉนวนประจ�ำท่าราชวรดิฐ แลว้ ตามเสด็จไปเฝ้าฯ ณ พลับพลาทปี่ ระทบั รบั รอง ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 141
142 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ โดยรวิ้ ขบวนราบ เขา้ สพู่ ระบรมมหาราชวงั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ พชั รกติ ยิ าภา นเรนทริ า เทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟา้ สริ วิ ณั ณวรี นารรี ตั นราชกญั ญา และสมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ ทปี งั กร รศั มโี ชติ มหาวชโิ รตตมางกรู สริ วิ บิ ลู ยราชกมุ าร ออกจากพลบั พลาทปี่ ระทบั รบั รอง ไปยงั พระท่ีนัง่ ราชกิจวนิ ิจฉัย ณ ที่น้ัน องคมนตรี นายกรฐั มนตรี และข้าราชการ ช้นั ผู้ใหญ่ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทรบั เสด็จ แล้วเสดจ็ พระราชด�ำเนินไปประทบั พระราชยานพุดตานทอง ทรงพระแสงขรรค์ชยั ศรี ยาตราโดยรว้ิ ขบวนราบไปยงั พระบรมมหาราชวงั มพี ระราชยานถมอญั เชญิ พระพทุ ธปฏมิ าชยั วฒั น์ รชั กาลท่ี ๙ น�ำร้วิ ขบวนราบ สมเดจ็ พระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟา้ พชั รกติ ยิ าภา นเรนทริ าเทพยวดี กรมหลวงราชสารณิ สี ริ พิ ชั ร มหาวชั รราชธดิ า ทรงพระด�ำเนินเข้าริ้วขบวนราบ ในฐานะราชองครักษ์ประจ�ำพระองค์คู่เคียง พระราชยาน ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลง สรรเสริญพระบารมี ริ้วขบวนราบยาตราออกจากเกยพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ท่าราชวรดฐิ ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 143
144 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
จากนนั้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟา้ สริ ิวณั ณวรี นารีรัตน ราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประทับรถยนต์พระท่ีน่ัง เสด็จไปยังพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงรอรับเสด็จ ณ พระท่ีน่ัง อาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ริ้วขบวนราบยาตราออกจากท่าราชวรดิฐ เลี้ยวซ้ายไปตาม ถนนมหาราช เลี้ยวขวาถนนหน้าพระลาน เลี้ยวขวาเข้า พระบรมมหาราชวงั ทางประตวู เิ ศษไชยศรี ประตพู มิ านไชยศรี เทยี บ พระราชยานพุดตานทองท่ีเกยพระท่ีนั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ประทับพักพระราชอิริยาบถที่พระทนี่ ่งั ราชกรัณยสภา ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 145
146 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ พระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชด�ำเนิน พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟ้าพัชรกิตยิ าภา นเรนทริ าเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิรพิ ัชร มหา วัชรราชธิดา สมเดจ็ พระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟ้าสริ วิ ัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจา้ ฟ้าทีปังกรรศั มีโชติ มหาวชโิ รตตมางกูร สริ ิวิบูลย ราชกมุ าร ออกจากพระทนี่ งั่ ราชกรณั ยสภา ไปประทบั รถยนต์พระที่นั่งข้างประตูก�ำแพงแก้ว พระท่ีนั่ง ดุสิตมหาปราสาท พร้อมด้วยรถยนต์พระประเทียบ อัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลท่ี ๙ น�ำ รถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชด�ำเนินออกจาก พระบรมมหาราชวัง กลับพระท่ีน่ังอัมพรสถาน พระราชวงั ดสุ ติ เปน็ อนั เสรจ็ พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ ประทีปทองส่องทางพลังงานไทย 147
3
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224