Database Plan

1013. ขอ้ ใดไม่ใช่รูปแบบฟอร์มที่เราสามารถสร้างข้ึนจากวซิ าร์ดใน Access ก. SubForm ข. Slide Master ค. Datasheet ง. Columnar4. ลกั ษณะของฟอร์มแบบ Tabular ที่สร้างข้ึนจากวซิ าร์ดใน Access มีลกั ษณะอยา่ งไร ก. เป็นฟอร์มที่มีฟอร์มอ่ืนอยใู่ นฟอร์มดว้ ย ข. เป็นฟอร์มที่แสดงขอ้ มูลเรียงฟิ ลดจ์ ากบนลงล่าง ค. เป็นฟอร์มที่มีลกั ษณะเดียวกบั Datasheet ง. เป็ นฟอร์มท่ีแสดงข้อมูลเรียงจากซ้ายไปขวา5. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกตอ้ งเก่ียวกบั การสร้างฟอร์มดว้ ย AutoForm ก. เป็นการสร้างฟอร์มท่ีสามารถสร้างไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ข. สามารถสร้างฟอร์มได้ 2 ประเภทเท่าน้ัน คือ Columnar และ Tabular ค. ไม่สามารถเลือกฟิ ลดเ์ ฉพาะที่ตอ้ งการใหแ้ สดงได้ ง. สร้างจากตารางหรือคิวรีเพียง 1 ตารางเทา่ น้นั6. หากเราตอ้ งการสร้างฟอร์มท่ีแสดงผลเป็นแผนภูมิขอ้ มูล เราควรเลือกสร้างฟอร์มดว้ ยวิธีใด ก. AutoForm ข. Design Form ค. Form Wizard ง. Chart Wizard7. ลกั ษณะของฟอร์มแบบ Columnar ที่สร้างข้ึนจากวซิ าร์ดใน Access มีลกั ษณะอยา่ งไร ก. เป็นฟอร์มท่ีมีฟอร์มอ่ืนอยใู่ นฟอร์มดว้ ย ข. เป็ นฟอร์มท่แี สดงข้อมูลเรียงฟิ ลด์จากบนลงล่าง ค. เป็นฟอร์มท่ีมีลกั ษณะเดียวกบั Datasheet ง. เป็นฟอร์มที่แสดงขอ้ มลู เรียงจากซา้ ยไปขวา8. หากเราตอ้ งการสร้างฟอร์มที่สามารถติดต่อกบั ผใู้ ชด้ ว้ ยคอนโทรลดว้ ย เราควรเลือกสร้างฟอร์มดว้ ยวธิ ีใด ก. AutoForm ข. Design Form ค. Form Wizard ง. Chart Wizard9. ลกั ษณะของฟอร์มแบบ SubForm ท่ีสร้างข้ึนจากวซิ าร์ดใน Access มีลกั ษณะอยา่ งไร ก. เป็ นฟอร์มทม่ี ีฟอร์มอน่ื อยู่ในฟอร์มด้วย

102 ข. เป็นฟอร์มที่แสดงขอ้ มลู เรียงฟิ ลดจ์ ากบนลงล่าง ค. เป็นฟอร์มท่ีมีลกั ษณะเดียวกบั Datasheet ง. เป็นฟอร์มท่ีแสดงขอ้ มลู เรียงจากซา้ ยไปขวา10. ขอ้ ใดกล่าวไมถ่ ูกตอ้ งเกี่ยวกบั การสร้างฟอร์ม ก. การสร้างฟอร์มท่ีง่ายท่ีสุดคือการสร้างดว้ ย AutoForm ข. หากตอ้ งการแสดงผลขอ้ มูลในรูปแผนภูมิตา่ งๆ เราตอ้ งเลือกสร้างฟอร์มดว้ ย Chart Wizard ค. ฟอร์มชนิด Datasheet เราสามารถสร้างข้ึนดว้ ย Form Wizard ง. การสร้างฟอร์มด้วย AutoForm น้ันสามารถเลอื กฟิ ลด์ทตี่ ้องการให้แสดงได้ตอนท่ี 2 จงทาเคร่ืองหมาย หน้าข้อทม่ี ีข้อความถูกต้อง และเครื่องหมาย หน้าข้อทม่ี ีข้อความไม่ถูกต้อง.......... 1. ประโยชนข์ องการใชง้ านฟอร์มกค็ ือ เราสามารถจดั ระเบียบในการแสดงฟิ ลดต์ า่ งๆ ได้ตามความ ตอ้ งการของเราเอง.......... 2. ขอ้ เสียของฟอร์มกค็ ือ ไม่สามารถแสดงขอ้ มูลบางบางชนิดได้ เช่น รูปภาพ หรือเสียง ได้.......... 3. การสร้างฟอร์มใน Access น้นั สามารถทาํ ได้ 2 วธิ ี คือ การสร้างดว้ ยวซิ าร์ด และการสร้าง ดว้ ยมุมมอง Form Design.......... 4. รูปแบบของฟอร์มที่สามารถสร้างข้ึนดว้ ยวซิ าร์ดคือ Columnar, Tabular, Datasheet และ Presentation.......... 5. การสร้างฟอร์มที่ง่ายท่ีสุด คือการสร้างดว้ ย AutoForm.......... 6.หากเราตอ้ งการสร้างฟอร์มท่ีแสดงขอ้ มูลในรูปแบบของกราฟแบบแผนภมู ิ เราควรเลือกสร้างฟอร์ม ดว้ ย Form Wizard.......... 7. การสร้างฟอร์มดว้ ย AutoForm ไมส่ ามารถเลือกฟิ ลดเ์ ฉพาะท่ีตอ้ งการใหแ้ สดงผลได้.......... 8. ฟอร์มประเภท SubForm สามารถสร้างไดด้ ว้ ย AutoForm.......... 9. ขอ้ เสียของการสร้างฟอร์มแบบ AutoForm กค็ ือ ไม่สามารถสร้างไดจ้ ากตารางหลายๆตาราง หรือ จากคิวรีหลายๆ คิวรี.......... 10. SubForm เป็นลกั ษณะของฟอร์มที่มีฟอร์มอ่ืนอยภู่ ายในดว้ ย

103แผนจัดการเรียนรู้ วชิ า การใช้โปรแกรมฐานข้อมูล รหัสวชิ า 2201-2405 ช้ัน ปวช.หน่วยที่ 9 เรื่อง การสร้างฟอร์มในมุมมอง สัปดาห์ท่ี 11 เวลา 4 ชั่วโมง1. สาระสาคัญ ในการใชโ้ ปรแกรมฐานขอ้ มูลแอก๊ เซส จาํ เป็นตอ้ งเรียนรู้เก่ียวกบั การสร้างฟอร์มในมุมมอง Form Design ซ่ึงจะทาํ ใหก้ ารทาํ งานเกิดรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน มีระเบียบ แสดงผลขอ้ มลู เป็น แบบฟอร์มท่ีสวยงาม สมบูรณ์แบบ และสามารถออกแบบฟอร์มดว้ ยคอนโทรลได้ หรือสามารถ ออกแบบฟอร์มดว้ ยตนเองได้ เพื่อใหเ้ กิดความหลากหลายในการทาํ งาน2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ทวั่ ไป (จุดประสงค์นาทาง) 1. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การสร้างฟอร์ม 2. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การสร้างฟอร์มในมุมมอง Form Design 3. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การสร้างฟอร์มดว้ ยคอนโทรล 4. มีความรู้ความสามารถในการทาํ งานเกี่ยวกบั การสร้างฟอร์มในรูปแบบต่าง ๆ 2.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (จุดประสงค์ปลายทาง) 1. เขา้ ใจการใชม้ ุมมอง Form Design 2. เขา้ สู่การใชง้ านมุมมอง Form Design ได้ 3. บอกส่วนประกอบต่าง ๆ ในมุมมอง Form Design ได้ 4. อธิบายรายละเอียดของทลู บาร์ในมุมมอง Form Design ได้ 5. บอกรายละเอียดของทลู บาร์ Toolbox ไดถ้ ูกตอ้ ง 6. ออกแบบฟอร์มดว้ ยคอนโทรลได้ 7. บอกข้นั ตอนในการทาํ งานในรูปแบบต่าง ๆ กบั คอนโทรลได้ 8. อธิบายรายละเอียดของคอนโทรลที่อยใู่ นทลู บอ๊ กซ์ได้ 9. สามารถใชค้ อนโทรลวซิ าร์ดได้ 10. แสดงการดูผลลพั ทข์ องฟอร์มที่สร้างในมุมมอง Form View ได้

1044. กจิ กรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรียนข้ันนาเข้าสู่บทเรียน( 30 นาท)ี1. ตรวจสอบรายช่ือนกั ศึกษาท่ีเขา้ เรียน 1. ใหค้ วามร่วมมือกบั ครูในการตรวจสอบ2. ใหน้ กั ศึกษาคน้ ควา้ การสร้างฟอร์ม การสร้าง 2. คน้ ควา้ การสร้างฟอร์ม การสร้างฟอร์มในฟอร์มในมุมมอง Form Design การสร้างฟอร์ม มุมมอง Form Design การสร้างฟอร์มดว้ ยดว้ ยคอนโทรล คอนโทรล3. ร่วมสนทนาเกี่ยวกบั เรื่อง การสร้างฟอร์มใน 3. ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็นมุมมองข้นั ดาเนินการสอน( 180 นาท)ี1. บอกจุดประสงคก์ ารเรียน 1. ฟัง ทาํ ความเขา้ ใจและซกั ถาม2. บรรยาย อธิบาย ยกตวั อย่าง แสดงวิธีการ 2. ฟัง ทาํ ความเขา้ ใจและปฎิบตั ิตามปฎิบตั ิในแต่ ละหวั ขอ้ การเรียนและใหน้ กั ศึกษา 3. ผเู้ รียนซกั ถามขอ้ สงสยั และจดบนั ทึกปฎิบตั ิไปพร้อมกนั 4. รับการประเมิน3. ครูบอกวธิ ีการและแนวคิดในการปฏิบตั ิท่ีถูกตอ้ งใหแ้ ก่ผเู้ รียน4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยครูจะซกั ถามในแตล่ ะคนข้ันสรุป( 30 นาท)ี 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาํ คญั1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาํ คญั 2. นกั เรียนสอบถามขอ้ สงสยั2. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามขอ้ สงสัย 3. ฟังและจดบนั ทึก3. มอบหมายใหไ้ ปหดั ทาํ และศึกษาเพ่ิมเติม 4. ทาํ แบบทดสอบทา้ ยบท4. ทาํ แบบทดสอบ5. กจิ กรรมการเรียนรู้

105 ก่อนเรียน 1. คน้ ควา้ การสร้างฟอร์ม การสร้างฟอร์มในมุมมอง Form Design การสร้างฟอร์มดว้ ย คอนโทรล ขณะเรียน 1. ผเู้ รียนร่วมกนั ศึกษาเน้ือหาปฎิบตั ิตามแลว้ ตอบคาํ ถามและแสดงความคิดเห็น 2. ทาํ ใบงานและแบบฝึกหดั หลงั เรียน 3. ร่วมกนั เฉลยใบงานและแบบฝึกหดั หลงั เรียน 4. จดบนั ทึก เทคนิค แนวการที่เป็นประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียน จากขอ้ แนะนาํ ของครูผสู้ อน 5. ผเู้ รียนสรุปความรู้ท่ีไดจ้ ากการเรียนการสอน 6. ผเู้ รียนซกั ถามในหวั ขอ้ ที่สงสัยในเน้ือหาการเรียนรู้6. ส่ือการเรียนการสอน 1. หนงั สือเรียนวชิ า การใชโ้ ปรแกรมฐานขอ้ มูล 2. ใบความรู้ประจาํ หน่วย 3. ใบงานและแบบฝึกหดั 4. เคร่ืองไมโครคอมพวิ เตอร์ 5. แผน่ ใสและเคร่ืองฉายภาพขา้ มศีรษะ 6. ซีดีส่ือการสอน7. วดั ผลประเมินผล 1. ผเู้ รียนปฏิบตั ิภาระงานท่ีมอบหมายเสร็จทนั เวลาท่ีกาํ หนด 2. ตอบคาํ ถามและสรุปผลงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3. ทาํ แบบฝึกหดั หลงั เรียนเสร็จทนั เวลาที่กาํ หนดและถูกตอ้ ง 4. สนใจกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ตอบคาํ ถาม สรุปสาระการเรียนรู้ และกลา้ แสดงความคิดเห็น 5. มีความพยายามปรับปรุงแกไ้ ขใบงานและแบบฝึกหดั ใหถ้ ูกตอ้ งแลว้ นาํ ส่งครูผสู้ อน8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ถา้ ผูเ้ รียนมีการเตรียมตวั ในการเรียนที่ดี เช่น อ่าน และทาํ การศึกษาหนงั สือเก่ียวกบั หน่วยการเรียนมากก่อน ถึงชว่ั โมงเรียน ผเู้ รียน จะสามารถเรียน และทาํ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ครูผสู้ อนมอบหมายไดอ้ ยา่ งมีความสุข และเกิดความชอบ และสนุกกบั การเรียนในช้นั เรียน

1062. ผเู้ รียนตอ้ งมีความขยนั หมน่ั ฝึกฝนบทเรียนอยเู่ สมอท้งั ก่อนและหลงั เรียน3. ผเู้ รียนควรฝึกหดั ในการเขียนสัญลกั ษณ์ของวงจรพร้อมนิยามของวงจรแต่ละชนิด4. ผเู้ รียนตอ้ งมีความพยายามและมีทศั นคติท่ีดีในเน้ือหาบทเรียน3. ผเู้ รียนตอ้ งมีความกลา้ ที่จะถามเมื่อสงสยั ท้งั ในหอ้ งและนอกหอ้ งเรียนกบั ครูผสู้ อน เกณฑก์ ารประเมินผลวดั ผลสมั ฤทธ์ิจากแบบประเมินผลการเรียนรู้ร้อยละ 80-100 หมายถึง ผลการเรียนดีมาก ผลการเรียนดีร้อยละ 70-79 หมายถึง ผลการเรียนปานกลาง ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60-69 หมายถึง ผลการเรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์ร้อยละ 50-59 หมายถึงต่าํ กวา่ ร้อยละ 50 หมายถึงแบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล หมายถึง มีพฤติกรรมดี หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้8-10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุง5-7 คะแนนต่าํ กวา่ 5 คะแนน

107แบบและเกณฑ์ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคลคาํ ช้ีแจง ใหผ้ ปู้ ระเมินขีดเครื่องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมท่ีคาดหวงั ให้เกิดกบั นกั เรียนเกณฑ์การตดั สิน 2 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั แบบสม่าํ เสมอ 1 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ผา่ นเกณฑ์ 0 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ไมผ่ า่ นเกณฑ์เกณฑ์การประเมนิ หมายถึง มีพฤติกรรมดี หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ 8 - 10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุง 5 - 7 คะแนน ต่าํ กวา่ 5 คะแนนเลข ช่ือ – สกลุ พฤตกิ รรมของนักเรียน ความ รวมท่ี ผรู้ ับการ รอบคอบ 20 ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยนั หมนั่ ประเมิน รับผดิ ชอบ สมั พนั ธ์ เพยี ร 432112 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 213456789

10810111213141516171819202122 ผปู้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)บันทึกหลงั การสอน (ปัญหาและข้อเสนอแนะ)ผลการใชแ้ ผนการสอนผลการเรียนของนกั เรียน

109ผลการสอนของครูเฉลยแบบฝึ กหัด หน่วยท่ี 9ตอนที่ 1 จงทาเครื่องหมายวงกลม หน้าข้อทถ่ี ูกต้องทสี่ ุดเพยี งข้อเดียว1. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะของฟอร์มที่เราสร้างข้ึนจากมุมมอง Form Design ก. ฟอร์มที่มีการใชค้ อนโทรลท่ีซบั ซอ้ น ข. ฟอร์มท่ีสามารถนาํ รูปภาพมาแสดงร่วมกบั ขอ้ มูลได้ ค. ฟอร์มท่ีมีป่ ุมคอนโทรลเพื่อสัง่ ใหท้ าํ งานบางอยา่ งได้ ง. ถูกทกุ ข้อ2. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ส่วนประกอบท่ีอยใู่ นมุมมอง Form Design

110ก. Background ข. Rulerค. หนา้ ตา่ ง Properties ง. ทูลบาร์ Formatting3. จากทลู บอ็ กซ์ที่อยบู่ นมุมมอง Form Design หากเราตอ้ งการแทรกรูปภาพลงในฟอร์ม เราตอ้ ง Click mouse ที่ป่ ุมใดก. ข.ค. ง.4. ขอ้ ใดต่อไปน้ีที่สอดคลอ้ งกนัก. แทรกเช็คบอ็ กซ์ ข. แทรกคอมโบบ็อกซ์ค. แทรกลสิ ต์บ็อกซ์ ง. แทรกรูปภาพ5. ป่ ุม บนทูลบอ็ กซ์ในมุมมอง Form Design มีไวส้ าํ หรับใชง้ านในเร่ืองใดก. แทรกเทก็ ซ์บอ็ กซ์ลงบนฟอร์ม ข. แทรกเฟรมลงบนฟอร์มค. แทรกคอมโบบอ็ กซ์ลงบนฟอร์ม ง. แทรกแทบ็ คอนโทรลลงบนฟอร์ม6. เมื่อเราตอ้ งการเลือกคอนโทรลอ่ืนๆ นอกเหนือจากที่อยบู่ นทลู บอ็ กซ์ จะมีวธิ ีทาํ ไดอ้ ยา่ งไรก. เลือกเมนู View>Toolboxข. Click mouse ที่ป่ ุมค. เลือกเมนู Help>Microsoft Access Helpง. Clcik mouse ทป่ี ่ ุม7. คอนโทรลประเภทใดที่ใชใ้ นการแสดงตวั เลือกท่ีสามารถเลือกไดเ้ พียงคร้ังละ 1 เทา่ น้นัก. คอมโบบอ็ กซ์ ข. ลิสตบ์ อ็ กซ์ค. เช็คบอ็ กซ์ ง. ออบช่ันบตั ทอน8. กรณีท่ีเราตอ้ งการแสดงผลขอ้ มลู แก่ผใู้ ช้ โดยใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถแกไ้ ขขอ้ มลู ไดด้ ว้ ย ควรเลือกใช้คอนโทรลใดก. ลิสตบ์ อ็ กซ์ ข. เทก็ ซ์บอ็ กซ์ค. เลเบล ง. เช็คบอ็ กซ์9. คอนโทรล ทอ็ กเกล้ิ บตั ทอน น้นั มีไวส้ าํ หรับใชใ้ นกรณีใดก. แสดงผลขอ้ มูลเป็นกลุ่มของค่า และตวั เลือกข. แสดงตวั เลือก ท่ีสามารถเลือกหรือไม่ก็ได้

111 ค. แสดงรายการตวั เลือก โดยใหเ้ ลือกเพียง 1 ตวั เลือก ง. แสดงรายการตัวเลอื ก ทส่ี ามารถแสดงรูปภาพได้10. หากเราตอ้ งการจดั หมวดหมู่การแสดงผลบนฟอร์ม ควรเลือกใชค้ อนโทรลใดจะเหมาะสมท่ีสุด ก. ข. ค. ง.ตอนที่ 2 จงทาเครื่องหมาย หน้าข้อทมี่ ขี ้อความถูกต้อง และเครื่องหมาย หน้าข้อทมี่ ีข้อความไม่ถูกต้อง.......... 1.ฟอร์มที่เราออกแบบในมุมมอง Form Design น้นั ประกอบดว้ ย 3 ส่วนคือ Form Header, Form Detail และ Form Footer.......... 2. ป่ ุม ในทูลบอ็ กซ์ใชส้ าํ หรับแทรกรูปภาพเขา้ มาในฟอร์ม.......... 3. เช็คบอ็ กซ์แตกตา่ งจากคอมโบบอ็ กซ์ คือเช็คบ็อกซ์สามารถเลือกไดเ้ พียงตวั เลือกเดียวเท่าน้นั.......... 4. ป่ ุม ในทลู บอ็ กซ์ มีชื่อเรียกวา่ ทอ็ กเกิ้ลบตั ทอน.......... 5. หากเราตอ้ งกนแทรกป่ ุมคาํ สั่งเขา้ มาในฟอร์ม ทาํ ไดโ้ ดย Click mouse เลือกป่ ุม.......... 6. ป่ ุม เราใชเ้ มื่อตอ้ งการแทรกคอนโทรลชนิดอื่นๆ นอกเหนือจากท่ีมีอยใู่ นทลู บอ็ กซ์.......... 7. คอนโทรลเทก็ ซ์บอ็ กซ์สามารถเขา้ ไปแกไ้ ขขอ้ ความภายในได้ แต่คอนโทรลเลเบลเพียงแสดงขอ้ มลู ใหผ้ ใู้ ชเ้ ห็นเท่าน้นั ไม่สามารถเขา้ ไปแกไ้ ขได้.......... 8. ป่ ุม เรียกวา่ ออบชน่ั บตั ทอน เป็นคอนโทรลแสดงตวั เลือกท่ีเราสามารถเลือกหรือไม่เลือกกไ็ ด้.......... 9. เม่ือตอ้ งการพมิ พฟ์ อร์มหรือรายงาน ใหข้ ้ึนหนา้ ใหม่ตรงท่ีมีตาํ แหน่งคอนโทรลน้ีอยู่สามารถทาํ ไดโ้ ดย ใชค้ อนโทรล.......... 10. คอนโทรลฟอร์มยอ่ ย (SubForm) จะเป็นคอนโทรลท่ีใชส้ าํ หรับแสดงผลฟอร์มอื่นๆภายใตฟ้ อร์มน้ี

แผนจัดการเรียนรู้ วชิ า การใช้โปรแกรมฐานข้อมูล 112หน่วยที่ 10 เร่ือง การสร้างรายงาน รหสั วชิ า 2201-2405 ช้ัน ปวช. สัปดาห์ท่ี 12-13 เวลา 8 ชั่วโมง1. สาระสาคัญ ในการทาํ งานโปรแกรมฐานขอ้ มูลแอก๊ เซส มีลกั ษณะการทาํ งานท่ีเอ้ือประโยชน์ใหก้ บั ผใู้ ชง้ านในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การสร้างรายงาน จึงควรมีความรู้เก่ียวกบั ความรู้เก่ียวกบั รายงาน การสร้างรายงานดว้ ย วซิ าร์ด การสร้างรายงานในมุมมอง Report Design การสร้าง รายงานดว้ ยตวั เอง ซ่ึงทาํ ใหผ้ ใู้ ชเ้ ลือกท่ีจะ ทาํ งานไดต้ ามที่ตนเองตอ้ งการ และสวยงาม2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ทว่ั ไป (จุดประสงค์นาทาง)1. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความหมายของการสร้างรายงาน 2. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การสร้างรายงานดว้ ยวซิ าร์ด 3. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การสร้างรายงานในมุมมอง Report Design 4. มีความรู้ความสามารถในการสร้างรายงานดว้ ยตวั เอง 2.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (จุดประสงค์ปลายทาง) 1. ศึกษาเก่ียวกบั ความรู้เก่ียวกบั รายงาน 2. บอกความแตกตา่ งระหวา่ งฟอร์มกบั รายงานได้ 3. สร้างรายงานอยา่ งง่ายดว้ ย AutoReport ได้ 4. สร้างรายงานดว้ ย Report Wizard ได้ 5. สร้างรายงานที่แสดงขอ้ มลู ในรูปกราฟดว้ ย Chart Wizard ได้ 6. อธิบายการสร้างรายงานแบบเลเบลดว้ ย Label Wizard ได้ 7. บอกข้นั ตอนในการสร้างรายงานในมุมมอง Report Design ได้ 8. เขา้ สู่มุมมอง Report Design ได้ 9. บอกส่วนประกอบตา่ ง ๆ ในมุมมอง Report Design ได้ 10. อธิบายรายละเอียดของทลู บาร์ในมุมมอง Report Design ได้ 11. สามารถสร้างรายงานดว้ ยตวั เองได้

1134. กจิ กรรมการเรียนรู้กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรียนข้นั นาเข้าสู่บทเรียน(สัปดาห์ละ 30 นาท)ี1. ตรวจสอบรายช่ือนกั ศึกษาที่เขา้ เรียน 1. ใหค้ วามร่วมมือกบั ครูในการตรวจสอบ2. ให้นกั ศึกษาคน้ ควา้ ความหมายของการสร้าง 2. คน้ ควา้ ความหมายของการสร้างรายงาน การรายงาน การสร้างรายงานดว้ ยวซิ าร์ด การสร้าง สร้างรายงานด้วยวิซาร์ด การสร้างรายงานรายงานในมุมมอง Report Design ในมุมมอง Report Design3. ร่วมสนทนาเกี่ยวกบั เรื่อง การสร้างรายงาน 3. ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็นข้นั ดาเนินการสอน(สัปดาห์ละ 180 นาท)ี1. บอกจุดประสงคก์ ารเรียน 1. ฟัง ทาํ ความเขา้ ใจและซกั ถาม2. บรรยาย อธิบาย ยกตวั อย่าง แสดงวิธีการ 2. ฟัง ทาํ ความเขา้ ใจและปฎิบตั ิตามปฎิบตั ิในแต่ ละหวั ขอ้ การเรียนและให้นกั ศึกษา 3. ผเู้ รียนซกั ถามขอ้ สงสัยและจดบนั ทึกปฎิบตั ิไปพร้อมกนั 4. รับการประเมิน3. ครูบอกวธิ ีการและแนวคิดในการปฏิบตั ิที่ถูกตอ้ งใหแ้ ก่ผเู้ รียน4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยครูจะซกั ถามในแต่ละคนข้นั สรุป(สัปดาห์ละ 30 นาท)ี 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาํ คญั1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาํ คญั 2. นกั เรียนสอบถามขอ้ สงสัย2. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามขอ้ สงสัย 3. ฟังและจดบนั ทึก3. มอบหมายใหไ้ ปหดั ทาํ และศึกษาเพ่ิมเติม 4. ทาํ แบบทดสอบทา้ ยบท4. ทาํ แบบทดสอบ5. กจิ กรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. คน้ ควา้ ความหมายของการสร้างรายงาน การสร้างรายงานดว้ ยวิซาร์ด การสร้างรายงานใน มุมมอง Report Design

114ขณะเรียน1. ผเู้ รียนร่วมกนั ศึกษาเน้ือหาปฎิบตั ิตามแลว้ ตอบคาํ ถามและแสดงความคิดเห็น2. ต้งั ใจฟังการอธิบาย และแนะนาํ จากครู3. ทาํ ใบงานและแบบฝึกหดั หลงั เรียน4. ร่วมกนั เฉลยใบงานและแบบฝึกหดั หลงั เรียน5. จดบนั ทึก เทคนิค แนวการท่ีเป็นประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียน จากขอ้ แนะนาํ ของครูผสู้ อน6. ผเู้ รียนสรุปความรู้ท่ีไดจ้ ากการเรียนการสอน7. ผเู้ รียนซกั ถามในหวั ขอ้ ที่สงสยั ในเน้ือหาการเรียนรู้6. ส่ือการเรียนการสอน 1. หนงั สือเรียนวชิ า การใชโ้ ปรแกรมฐานขอ้ มูล 2. ใบความรู้ประจาํ หน่วย 3. ใบงานและแบบฝึกหดั 4. เครื่องไมโครคอมพวิ เตอร์ 5. แผน่ ใสและเครื่องฉายภาพขา้ มศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน7. วดั ผลประเมินผล 1. ผเู้ รียนปฏิบตั ิภาระงานท่ีมอบหมายเสร็จทนั เวลาท่ีกาํ หนด 2. ตอบคาํ ถามและสรุปผลงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3. ทาํ แบบฝึกหดั หลงั เรียนเสร็จทนั เวลาที่กาํ หนดและถูกตอ้ ง 4. สนใจกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ตอบคาํ ถาม สรุปสาระการเรียนรู้ และกลา้ แสดงความคิดเห็น 5. มีความพยายามปรับปรุงแกไ้ ขใบงานและแบบฝึกหดั ใหถ้ ูกตอ้ งแลว้ นาํ ส่งครูผสู้ อน8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ถา้ ผเู้ รียนมีการเตรียมตวั ในการเรียนท่ีดี เช่น อ่าน และทาํ การศึกษาหนงั สือเก่ียวกบั หน่วยการเรียนมากก่อน ถึงชวั่ โมงเรียน ผเู้ รียน จะสามารถเรียน และทาํ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ครูผสู้ อนมอบหมายไดอ้ ยา่ งมีความสุข และเกิดความชอบ และสนุกกบั การเรียนในช้นั เรียน

1152. ผเู้ รียนตอ้ งมีความขยนั หมน่ั ฝึกฝนบทเรียนอยเู่ สมอท้งั ก่อนและหลงั เรียน3. ผเู้ รียนตอ้ งมีความกลา้ ท่ีจะถามเมื่อสงสัยท้งั ในหอ้ งและนอกหอ้ งเรียนกบั ครูผสู้ อน เกณฑก์ ารประเมินผลวดั ผลสัมฤทธ์ิจากแบบประเมินผลการเรียนรู้ร้อยละ 80-100 หมายถึง ผลการเรียนดีมาก ผลการเรียนดีร้อยละ 70-79 หมายถึง ผลการเรียนปานกลาง ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60-69 หมายถึง ผลการเรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 50-59 หมายถึงต่าํ กวา่ ร้อยละ 50 หมายถึงแบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล หมายถึง มีพฤติกรรมดี หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้8-10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมท่ีตอ้ งปรับปรุง5-7 คะแนนต่าํ กวา่ 5 คะแนน

116แบบและเกณฑ์ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคลคาํ ช้ีแจง ใหผ้ ปู้ ระเมินขีดเครื่องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมท่ีคาดหวงั ให้เกิดกบั นกั เรียนเกณฑ์การตดั สิน 2 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั แบบสม่าํ เสมอ 1 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ผา่ นเกณฑ์ 0 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ไมผ่ า่ นเกณฑ์เกณฑ์การประเมนิ หมายถึง มีพฤติกรรมดี หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ 8 - 10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมท่ีตอ้ งปรับปรุง 5 - 7 คะแนน ต่าํ กวา่ 5 คะแนนเลข ช่ือ – สกลุ พฤตกิ รรมของนักเรียน ความ รวมท่ี ผรู้ ับการ รอบคอบ 20 ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยนั หมนั่ ประเมิน รับผดิ ชอบ สมั พนั ธ์ เพยี ร 432112 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 213456789

11710111213141516171819202122 ผปู้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)บันทึกหลงั การสอน (ปัญหาและข้อเสนอแนะ)ผลการใชแ้ ผนการสอนผลการเรียนของนกั เรียน

118ผลการสอนของครูเฉลยแบบฝึ กหัด หน่วยท่ี 10ตอนท่ี 1 จงทาเคร่ืองหมายวงกลม หน้าข้อทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพยี งข้อเดยี ว1. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกตอ้ ง เรื่องความแตกตา่ งระหวา่ งรายงานกบั ฟอร์ม ก. ฟอร์มใชส้ าํ หรับแสดงขอ้ มูลทางหนา้ จอ ข. รายงานใชส้ าํ หรับแสดงขอ้ มูลทางส่ิงพิมพต์ า่ งๆ ค. เราสามารถกาํ หนดขนาดของรายงานไดจ้ าก Printer Setup ดว้ ย ง. ข้อมูลบนฟอร์มใช้สาหรับแสดงผลอย่างเดียว แก้ไขไม่ได้2. การสร้างรายงานในฐานขอ้ มูล Access สามารถทาํ ไดก้ ี่วธิ ี

119ก. 2 วธิ ี ข. 3 วธิ ีค. 4 วธิ ี ง. 5 วธิ ี3. ขอ้ ใดไมใ่ ช่รูปแบบรายงานท่ีสร้างข้ึนจากวซิ าร์ดใน Accessก. Label ข. Tabularค. SubReport ง. Group/total reports4. จากรูปเป็นลกั ษณะของรายงานท่ีสร้างข้ึนจากวซิ าร์ดรูปแบบใดก. Label ข. Tabularค. SubReport ง. Columnar5. ฟอร์มรูปแบบ Label ท่ีสร้างข้ึนจากวซิ าร์ดใน Access มีลกั ษณะเช่นใดก. แสดงขอ้ มูลเรียงฟิ ลดแ์ ต่ละเรคอร์ดจากซา้ ยไปขวาข. แสดงขอ้ มลู เรียงฟิ ลดแ์ ตล่ ะเรคอร์ดจากบนลงล่างค. แสดงข้อมูลเรียงฟิ ลด์คล้ายกบั แต่ละเซลในตารางง. ใชแ้ สดงขอ้ มูลบางอยา่ งที่มีการจดั กลุ่มขอ้ มูล6. จากรูปเป็นลกั ษณะของรายงานท่ีสร้างข้ึนจากวซิ าร์ดรูปแบบใดก. Label ข. Tabularค. Group/total reports ง. Columnar7. การสร้างรายงานแบบ Report Wizard หรือ Group/Total ใน Access น้นั สามารถสร้างไดก้ ่ีชนิดก. 2 ชนิด ข. 3 ชนิดค. 4 ชนิด ง. 5 ชนิด8. หากเราตอ้ งการสร้างรายงาน ท่ีตอ้ งการนาํ เสนอขอ้ มูลในรูปแบบของแผนภูมิวงกลม เราตอ้ งสร้างดว้ ยวธิ ีใดก. Label Wizard ข. Chart Wizardค. Report Design ง. Auto Report9. ขอ้ ใดไม่ใช่ส่วนประกอบท่ีอยใู่ นมุมมอง Report Design ของ Accessก. ทูลบาร์ Formatting ข. Rulerค. หน้าต่าง Transaction ง. หนา้ ต่าง Properties

12010. การเพ่มิ ฟิ ลดห์ มายเลขหนา้ ลงในรายงานสามารถทาํ ไดด้ ว้ ยวธิ ีใดก. เลือกเมนู View>Ruler ข. Click mouse ท่ีป่ ุมค. เลอื กเมนู Insert>Page Number ง. Click mouse ท่ีป่ ุมตอนที่ 2 จงทาเคร่ืองหมาย หน้าข้อทม่ี ขี ้อความถูกต้อง และเคร่ืองหมาย หน้าข้อที่มีข้อความไม่ถูกต้อง.......... 1.รายงานสามารถใชใ้ นการสร้างเอกสารตา่ งๆ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี.......... 2. รายงานถูกออกแบบมาสาํ หรับแสดงผลออกทางหนา้ จอ และฟอร์มถูกออกแบบเพือ่ ใชส้ ร้างสิ่งพิมพ์ ต่างๆ.......... 3.ขอ้ มลู ตา่ งๆ ท่ีอยบู่ นรายงานน้นั นอกจากจะใชแ้ สดงผลแลว้ ยงั สามารถแกไ้ ขไดเ้ ช่นเดียวกบัฟอร์ม อีกดว้ ย.......... 4. การสร้างรายงานใน Access น้นั ทาํ ได้ 2 วธิ ี คือ การสร้างดว้ ยวซิ าร์ด และการสร้างดว้ ย มุมมอง Report Design.......... 5. รูปแบบต่างๆ ของรายงานที่เราสามารถสร้างดว้ ยวซิ าร์ดคือ Tabular, Columnar, Label,Group/ tatal และ Presentation.......... 6.การสร้างรายงานแบบ Group/Toal น้นั มีอยู่ 2 ชนิดคือ รายงานแบบจดั กลุ่มอยา่ งเดียว ไม่มีการ คาํ นวณสรุป และแบบมีการคาํ นวณสรุปดว้ ย.......... 7. หากเราตอ้ งการสร้างรายงานท่ีตอ้ งการแสดงผลเป็นรูปของแผนภูมิขอ้ มลู ดว้ ย เราควรเลือกสร้าง รายงานดว้ ย Chart Wizard.......... 8.หากเราตอ้ งการสร้างงานประเภทที่ใหม้ ีคอนโทรล เพ่อื ใหม้ ีการทาํ งานบางอยา่ งเม่ือทาํ งาน กบั คอนโทรลน้นั เราควรเลือกสร้างฟอร์มในมุมมอง Report Design.......... 9. Ruler เป็นส่วนประกอบหน่ึงท่ีอยใู่ นมุมมอง Report Design.......... 10. ส่วนประกอบที่สาํ คญั ของรายงานสาํ หรับออกแบบในมุมมอง Report Design มีอยู่ 2 ส่วนคือ Report Header และ Report Footer

121แผนจัดการเรียนรู้ วชิ า การใช้โปรแกรมฐานข้อมูล รหัสวชิ า 2201-2405 ช้ัน ปวช.หน่วยท่ี 11 เร่ือง การใช้เคร่ืองมอื ต่างๆในแอ๊กเซส สัปดาห์ท่ี 14-15 เวลา 8 ช่ัวโมง1. สาระสาคัญ ในการทาํ งานบนโปรแกรมฐานขอ้ มลู แอก๊ เซส จาํ เป็นตอ้ งศึกษาเก่ียวกบั การใชเ้ คร่ืองมือต่าง ๆ ในโปรแกรม ซ่ึงจะทาํ ใหส้ ามารถใชง้ านไดถ้ ูกตอ้ ง ง่ายดาย เช่น การใชง้ านเครื่องมือตา่ ง ๆ เก่ียวกบั ไฟลฐ์ านขอ้ มูล การเชื่อมและนาํ เขา้ ขอ้ มูลในรูปแบบอ่ืน ๆ การส่งออกขอ้ มลู ในรูปแบบอ่ืน การกาํ หนดความปลอดภยั ใหก้ บั ฐานขอ้ มูล การเพิ่มประสิทธิภาพใหก้ บั ฐานขอ้ มูล การสร้าง เอกสารเก่ียวกบั ฐานขอ้ มลู เพื่อใหใ้ ชง้ านไดถ้ ูกประเภท2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ทวั่ ไป (จุดประสงค์นาทาง) 1. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การใชเ้ คร่ืองมือตา่ ง ๆ ในไฟลฐ์ านขอ้ มลู 2. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การเช่ือมและนาํ เขา้ ขอ้ มูล 3. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การส่งออกขอ้ มลู ในรูปแบบอื่น ๆ 4. มีความรู้ความสามารถในการกาํ หนดความปลอดภยั ใหก้ บั ฐานขอ้ มลู 5. มีความรู้ความสามารถในการสร้างเอกสารเกี่ยวกบั ฐานขอ้ มูล 2.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (จุดประสงค์ปลายทาง)1. ศึกษาการใชเ้ ครื่องมือตา่ ง ๆ ท่ีเกี่ยวกบั ไฟลฐ์ านขอ้ มูลได้2. สามารถลดขนาดและซ่อมไฟลฐ์ านขอ้ มลู ได้3. อธิบายการเช่ือมและนาํ ขอ้ มูลในรูปแบบอ่ืนได้4. บอกข้นั ตอนในการเช่ือมตารางจากฐานขอ้ มูลอื่นได้5. เขา้ ใจการส่งออกขอ้ มูลในรูปแบบอ่ืนได้6. สามารถส่งออกขอ้ มูลไปเป็นเทก็ ซ์ไฟลไ์ ด้7. บอกข้นั ตอนในการกาํ หนดความปลอดภยั ใหก้ บั ฐานขอ้ มูลได้8. สามารถเพิ่มประสิทธิภาพใหก้ บั ฐานขอ้ มูลโดยใช้ Performance Analyzer ได้9. สร้างเอกสารเกี่ยวกบั ฐานขอ้ มูลได้

1224. กจิ กรรมการเรียนรู้กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรียนข้นั นาเข้าสู่บทเรียน(สัปดาห์ละ 30 นาท)ี1. ตรวจสอบรายช่ือนกั ศึกษาท่ีเขา้ เรียน 1. ใหค้ วามร่วมมือกบั ครูในการตรวจสอบ2. ใหน้ กั ศึกษาคน้ ควา้ การใชเ้ ครื่องมือตา่ ง ๆ ใน 2. คน้ ควา้ การใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในไฟล์ไฟลฐ์ านขอ้ มูล การเช่ือมและนาํ เขา้ ขอ้ มูล การ ฐานข้อมูล การเช่ือมและนาํ เข้าข้อมูล การส่งออกขอ้ มลู ในรูปแบบอื่น ๆ ส่งออกขอ้ มูลในรูปแบบอ่ืน ๆ3. ร่วมสนทนาเก่ียวกับเรื่องการใช้เครื่องมือ 3. ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็นตา่ งๆในแอก๊ เซสข้นั ดาเนินการสอน(สัปดาห์ละ 180 นาท)ี1. บอกจุดประสงคก์ ารเรียน 1. ฟัง ทาํ ความเขา้ ใจและซกั ถาม2. บรรยาย อธิบาย ยกตวั อย่าง แสดงวิธีการ 2. ฟัง ทาํ ความเขา้ ใจและปฎิบตั ิตามปฎิบตั ิในแต่ ละหวั ขอ้ การเรียนและใหน้ กั ศึกษา 3. ผเู้ รียนซกั ถามขอ้ สงสัยและจดบนั ทึกปฎิบตั ิไปพร้อมกนั 4. รับการประเมิน3. ครูบอกวธิ ีการและแนวคิดในการปฏิบตั ิท่ีถูกตอ้ งใหแ้ ก่ผเู้ รียน4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยครูจะซกั ถามในแต่ละคนข้นั สรุป(สัปดาห์ละ 30 นาท)ี 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาํ คญั1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาํ คญั 2. นกั เรียนสอบถามขอ้ สงสัย2. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามขอ้ สงสัย 3. ฟังและจดบนั ทึก3. มอบหมายใหไ้ ปหดั ทาํ และศึกษาเพิ่มเติม 4. ทาํ แบบทดสอบทา้ ยบท4. ทาํ แบบทดสอบ5. กจิ กรรมการเรียนรู้

123 ก่อนเรียน 1. คน้ ควา้ การใชเ้ คร่ืองมือต่าง ๆ ในไฟล์ฐานขอ้ มูล การเช่ือมและนาํ เขา้ ขอ้ มูล การส่งออก ขอ้ มูลในรูปแบบอ่ืน ๆ ขณะเรียน 1. ผเู้ รียนร่วมกนั ศึกษาเน้ือหาตามใบงานแลว้ ตอบคาํ ถามและแสดงความคิดเห็น 2. ต้งั ใจฟังการอธิบาย และแนะนาํ จากครู 3. ทาํ ใบงานและฝึกหดั 4. ร่วมกนั เฉลยใบงานและแบบฝึกหดั 5. จดบนั ทึก เทคนิค แนวการที่เป็นประโยชนต์ ่อผเู้ รียน จากขอ้ แนะนาํ ของครูผสู้ อน 6. ผเู้ รียนซกั ถามในหวั ขอ้ ท่ีสงสัยในเน้ือหาการเรียนรู้ 7. ผเู้ รียนสรุปความรู้ที่ไดจ้ ากการเรียนการสอน6. สื่อการเรียนการสอน 1. หนงั สือเรียนวชิ า การใชโ้ ปรแกรมฐานขอ้ มูล 2. ใบความรู้ประจาํ หน่วย 3. ใบงานและแบบฝึกหดั 4. เครื่องไมโครคอมพวิ เตอร์ 5. แผน่ ใสและเคร่ืองฉายภาพขา้ มศีรษะ 6. ซีดีส่ือการสอน7. วดั ผลประเมินผล 1. ผเู้ รียนปฏิบตั ิภาระงานท่ีมอบหมายเสร็จทนั เวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคาํ ถามและสรุปผลงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3. ทาํ แบบฝึกหดั หลงั เรียนเสร็จทนั เวลาที่กาํ หนดและถูกตอ้ ง 4. สนใจกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ตอบคาํ ถาม สรุปสาระการเรียนรู้ และกลา้ แสดงความคิดเห็น 5. มีความพยายามปรับปรุงแกไ้ ขใบงานและแบบฝึกหดั ใหถ้ ูกตอ้ งแลว้ นาํ ส่งครูผสู้ อน8. กจิ กรรมเสนอแนะ

124 1. ถา้ ผูเ้ รียนมีการเตรียมตวั ในการเรียนท่ีดี เช่น อ่าน และทาํ การศึกษาหนงั สือเกี่ยวกบั หน่วยการเรียนมากก่อน ถึงชว่ั โมงเรียน ผเู้ รียน จะสามารถเรียน และทาํ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ครูผสู้ อนมอบหมายไดอ้ ยา่ งมีความสุข และเกิดความชอบ และสนุกกบั การเรียนในช้นั เรียน 2. ผเู้ รียนตอ้ งมีความขยนั หมนั่ ฝึกฝนบทเรียนอยเู่ สมอท้งั ก่อนและหลงั เรียน 3. ผเู้ รียนตอ้ งมีความกลา้ ที่จะถามเมื่อสงสยั ท้งั ในหอ้ งและนอกหอ้ งเรียนกบั ครูผสู้ อน เกณฑก์ ารประเมินผลวดั ผลสัมฤทธ์ิจากแบบประเมินผลการเรียนรู้ร้อยละ 80-100 หมายถึง ผลการเรียนดีมาก ผลการเรียนดีร้อยละ 70-79 หมายถึง ผลการเรียนปานกลาง ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60-69 หมายถึง ผลการเรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 50-59 หมายถึงต่าํ กวา่ ร้อยละ 50 หมายถึงแบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล หมายถึง มีพฤติกรรมดี หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้8-10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมท่ีตอ้ งปรับปรุง5-7 คะแนนต่าํ กวา่ 5 คะแนน

125แบบและเกณฑ์ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคลคาํ ช้ีแจง ใหผ้ ปู้ ระเมินขีดเครื่องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมท่ีคาดหวงั ให้เกิดกบั นกั เรียนเกณฑ์การตดั สิน 2 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั แบบสม่าํ เสมอ 1 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ผา่ นเกณฑ์ 0 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ไมผ่ า่ นเกณฑ์เกณฑ์การประเมนิ หมายถึง มีพฤติกรรมดี หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ 8 - 10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมท่ีตอ้ งปรับปรุง 5 - 7 คะแนน ต่าํ กวา่ 5 คะแนนเลข ช่ือ – สกลุ พฤตกิ รรมของนักเรียน ความ รวมท่ี ผรู้ ับการ รอบคอบ 20 ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยนั หมนั่ ประเมิน รับผดิ ชอบ สมั พนั ธ์ เพยี ร 432112 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 213456789

12610111213141516171819202122 ผปู้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)บันทึกหลงั การสอน (ปัญหาและข้อเสนอแนะ)ผลการใชแ้ ผนการสอนผลการเรียนของนกั เรียน

127ผลการสอนของครู เฉลยแบบฝึ กหดั หน่วยท่ี 11ตอนท่ี 1 จงทาเครื่องหมายวงกลม หน้าข้อทถี่ ูกต้องทสี่ ุดเพยี งข้อเดยี ว1. เราสามารถลดขนาดของไฟลฐ์ านขอ้ มลู ใน Access ไดโ้ ดยใชค้ าํ ส่งั ใด ก. Tools>Database Utilities>Convert Database ข. Tools>Database Utilities>Compact Database ค. Tools>Database Utilities>Repair Database ง. Tools>Database Utilities>Make MDE File2. คาํ สัง่ Convert Database ในเมนู Tools>Database Utilities น้นั ใชเ้ พ่ือวตั ถุประสงคใ์ ด

128ก. แปลงเวอร์ช่ันของไฟล์ฐานข้อมูล ข. ลดขนาดของฐานขอ้ มลูค. นาํ เขา้ ไฟลฐ์ านขอ้ มลู จากท่ีอื่น ง. ซ่อมไฟลฐ์ านขอ้ มูล3. หากเราตอ้ งการซ่อมแซมไฟลฐ์ านขอ้ มลู ที่ใชใ้ น Access สามารถทาํ ไดโ้ ดยใชค้ าํ ส่งั ใดก. Tools>Database Utilities>Convert Databaseข. Tools>Database Utilities>Compact Databaseค. Tools>Database Utilities>Repair Databaseง. Tools>Database Utilities>Make MDE File4. เมื่อตอ้ งการนาํ เขา้ ไฟลข์ อ้ มูลชนิดอื่นๆ มายงั Access แต่ไม่ตอ้ งการแปลงชนิดฐานขอ้ มลู น้นั ควรใชค้ าํ ส่งั ใดก. Tools>Database Utilities>Make MDE Fileข. Tools>Database Utilities>Compact Databaseค. File>Get External Data>Importง. File>Get External Data>Link Table5. ไฟลข์ อ้ มลู ชนิดใดบา้ งท่ีฐานขอ้ มลู Access สนบั สนุนในการนาํ เขา้ก. เทก็ ซ์ไฟล์ ข. ไฟลข์ อง Excelค. ไฟลฐ์ านขอ้ มูล dBase ง. ถูกทุกข้อ6. การส่งขอ้ มลู ออกไปยงั ไฟลภ์ ายนอก เราสามารถทาํ ไดโ้ ดยใชค้ าํ สัง่ ใดก. Tools>Database Utilities>Make MDE Fileข. Tools>Database Utilities>Compact Databaseค. File>Save As/Exportง. File>Save As HTML7. เมนูคาํ สงั่ Tools>Analyze>Performance น้นั ใชเ้ พ่อื ขอ้ ใดก. ตรวจสอบความซ้าํ ซอ้ นของตารางข. แยกขอ้ มูลตา่ งๆ ออกเป็นหลายๆ ตารางค. ตรวจสอบประสิทธิภาพของฐานขอ้ มูลง. ถูกทกุ ข้อ8. ขอ้ ใดไม่ใช่โหมดการเปิ ดฐานขอ้ มูลใน Access

129 ก. Full ข. Share ค. Exclusive ง. ทุกขอ้ เป็นโหมดการเปิ ดฐานขอ้ มูล9. ขอ้ ใดต่อไปน้ีสมั พนั ธ์กนั ก. Analyze Table ข. Analyze Performance ค. Documentor ง. ทกุ ข้อสัมพนั ธ์กนั10. เมนูคาํ สง่ั Tools>Analyze>Documentor ใชใ้ นกรณีใดต่อไปน้ี ก. ตอ้ งการตรวจสอบความซ้าํ ซอ้ นของตาราง ข. ตอ้ งการตรวจสอบประสิทธิภาพของฐานขอ้ มูล ค. ตอ้ งการแยกขอ้ มลู รวมขอ้ มลู ที่ซ้าํ ซอ้ นเขา้ ดว้ ยกนั ง. ต้องการเลอื กออบเจ็กต์เพ่ือสร้างเอกสารออกมาตอนท่ี 2 จงทาเคร่ืองหมาย หน้าข้อทมี่ ขี ้อความถูกต้อง และเครื่องหมาย หน้าข้อทม่ี ีข้อความไม่ถูกต้อง.......... 1. หากเราตอ้ งการลดขนาดของไฟลฐ์ านขอ้ มลู ท่ีสร้างข้ึน สามารถทาํ ไดโ้ ดยเลือกเมนูTools>Database Utilities>Compact Database.......... 2. คาํ สงั่ Tools>Database Utilities>Repair Database ใชส้ าํ หรับแปลงชนิดของฐานขอ้ มลู ใหเ้ ป็นแบบอื่นๆ.......... 3. การเชื่อมฐานขอ้ มลู น้นั เป็นการนาํ ขอ้ มูลรูปแบบอ่ืนๆ มาใช้ และมีการแปลงชนิดขอ้ มูลใหต้ รงกบั Access ดว้ ย.......... 4. รูปแบบของเทก็ ซ์ไฟลท์ ี่สามารถนาํ เขา้ ไดจ้ าก Access มี 2 รูปแบบคือ แบบ Delimited และแบบ Fixed-Width.......... 5. การส่งออกขอ้ มูลจาก Access สามารถทาํ ไดโ้ ดยเลือกเมนู File>Save As/Export.......... 6. ในการเปิ ดไฟลฐ์ านขอ้ มลู Access น้นั สามารถเลือกได้ 3 โหมด คือ โหมด Exclusive,โหมด Share และโหมด Full

130.......... 7. เมนู Tools>Security>Set Database Password ใชใ้ นกรณีท่ีเราตอ้ งการกาํ หนดรหสั ผา่ นใหก้ บั ฐานขอ้ มลู Access.......... 8. หากเราตอ้ งการตรวจสอบความซ้าํ ซอ้ นของขอ้ มูลในตาราง สามารถทาํ ไดโ้ ดยเลือกเมนู Tools>Analyze>Perforance.......... 9. การตรวจสอบประสิทธิภาพของฐานขอ้ มูลใน Access สามารถทาํ ไดโ้ ดยเลือกเมนูTools>Set Database.......... 10. คาํ สั่งเมนู Tools>Analyze>Document สาํ หรับสร้างเอกสารต่างๆ ตามที่เรากาํ หนดจาก ฐานขอ้ มูล

131แผนจัดการเรียนรู้ วชิ า การใช้โปรแกรมฐานข้อมูล รหัสวชิ า 2201-2405 ช้ัน ปวช.หน่วยที่ 12 เร่ือง การใช้งานมาโคร สัปดาห์ที่ 16-17 เวลา 8 ชั่วโมง1. สาระสาคญั การทาํ งานในโปรแกรมฐานขอ้ มูล สิ่งท่ีควรจะตอ้ งเรียนรู้อีกคือ การใชง้ านมาโคร ซ่ึงจะ ทางดา้ นทาํ งานเอกสารใหส้ มบูรณ์แบบ มีความกระทดั รัด ง่ายต่อการใชง้ าน จาํ เป็ นตอ้ งศึกษาวา่ มาโครคืออะไร การใชง้ านมุมมอง Macro Design การสร้างมาโคร การเร่ิมตน้ ทาํ งานเมื่อเปิ ดไฟล์ ฐานขอ้ มลู ซ่ึงจะทาํ ใหก้ ารทาํ งานอยา่ งมีประสิทธิภาพเพ่ิมมากข้ึน สะดวกในการทาํ งานในรูปแบบ ตา่ ง ๆ2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ทว่ั ไป (จุดประสงค์นาทาง) 1. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความหมายของมาโคร 2. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การใชง้ านมุมมอง Macro Design 3. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การสร้างมาโคร 4. มีความรู้ความสามารถในการเร่ิมตน้ ทาํ งานเม่ือเปิ ดไฟลฐ์ านขอ้ มูล 2.2 จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (จุดประสงค์ปลายทาง) 1. รู้จกั กบั มาโคร 2. อธิบายการใชง้ านมุมมอง Macro Design ได้ 3. บอกข้นั ตอนและรายละเอียดในการสร้างมาโครได้ 4. อธิบายรายละเอียดของมาโครแตล่ ะประเภทได้ 5. สามารถรันมาโครที่สร้างข้ึนได้ 6. เขา้ ใจถึงการเร่ิมตน้ ทาํ งานเมื่อเปิ ดไฟลฐ์ านขอ้ มลู 7. กาํ หนดคุณสมบตั ิเร่ิมตน้ ของฐานขอ้ มูลได้

1324. กจิ กรรมการเรียนรู้กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรียนข้นั นาเข้าสู่บทเรียน(สัปดาห์ละ 30 นาท)ี1. ตรวจสอบรายช่ือนกั ศึกษาท่ีเขา้ เรียน 1. ใหค้ วามร่วมมือกบั ครูในการตรวจสอบ2. ให้นักศึกษาคน้ ควา้ ความหมายของมาโคร 2. คน้ ควา้ ความหมายของมาโคร การใช้งานการใชง้ านมุมมอง Macro Design การสร้างมา มุมมอง Macro Design การสร้างมาโครโคร 3. ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น3. ร่วมสนทนาเก่ียวกบั เรื่องการใชง้ านมาโครข้นั ดาเนินการสอน(สัปดาห์ละ 180 นาท)ี1. บอกจุดประสงคก์ ารเรียน 1. ฟัง ทาํ ความเขา้ ใจและซกั ถาม2. บรรยาย อธิบาย ยกตวั อย่าง แสดงวิธีการ 2. ฟัง ทาํ ความเขา้ ใจและปฎิบตั ิตามปฎิบตั ิในแต่ ละหวั ขอ้ การเรียนและใหน้ กั ศึกษา 3. ผเู้ รียนซกั ถามขอ้ สงสัยและจดบนั ทึกปฎิบตั ิไปพร้อมกนั 4. รับการประเมิน3. ครูบอกวธิ ีการและแนวคิดในการปฏิบตั ิที่ถูกตอ้ งใหแ้ ก่ผเู้ รียน4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยครูจะซกั ถามในแตล่ ะคนข้ันสรุป(สัปดาห์ละ 30 นาท)ี 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาํ คญั1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาํ คญั 2. นกั เรียนสอบถามขอ้ สงสยั2. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั 3. ฟังและจดบนั ทึก3. มอบหมายใหไ้ ปหดั ทาํ และศึกษาเพิ่มเติม 4. ทาํ แบบทดสอบทา้ ยบท4. ทาํ แบบทดสอบ5. กจิ กรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. คน้ ควา้ ความหมายของมาโคร การใชง้ านมุมมอง Macro Design การสร้างมาโคร

133 ขณะเรียน 1. ผเู้ รียนร่วมกนั ศึกษาเน้ือหาปฎิบตั ิตามแลว้ ตอบคาํ ถามและแสดงความคิดเห็น 2. ต้งั ใจฟังการอธิบาย และแนะนาํ จากครู 3. ทาํ ใบงานและฝึกหดั 4. ร่วมกนั เฉลยใบงานและแบบฝึกหดั 5. จดบนั ทึก เทคนิค แนวการที่เป็นประโยชน์ต่อผเู้ รียน จากขอ้ แนะนาํ ของครูผสู้ อน 6. ผเู้ รียนซกั ถามในหวั ขอ้ ท่ีสงสัยในเน้ือหาการเรียนรู้ 7. ผเู้ รียนสรุปความรู้ที่ไดจ้ ากการเรียนการสอน6. ส่ือการเรียนการสอน 1. หนงั สือเรียนวิชา การใชโ้ ปรแกรมฐานขอ้ มูล 2. ใบความรู้ประจาํ หน่วย 3. ใบงานและแบบฝึกหดั 4. เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผน่ ใสและเคร่ืองฉายภาพขา้ มศีรษะ 6. ซีดีส่ือการสอน7. วดั ผลประเมนิ ผล 1. ผเู้ รียนปฏิบตั ิภาระงานท่ีมอบหมายเสร็จทนั เวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคาํ ถามและสรุปผลงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3. ทาํ แบบฝึกหดั หลงั เรียนเสร็จทนั เวลาที่กาํ หนดและถูกตอ้ ง 4. สนใจกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ตอบคาํ ถาม สรุปสาระการเรียนรู้ และกลา้ แสดงความคิดเห็น 5. มีความพยายามปรับปรุงแกไ้ ขใบงานและแบบฝึกหดั ใหถ้ ูกตอ้ งแลว้ นาํ ส่งครูผสู้ อน8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ถา้ ผเู้ รียนมีการเตรียมตวั ในการเรียนที่ดี เช่น อ่าน และทาํ การศึกษาหนงั สือเก่ียวกบั หน่วยการเรียนมากก่อน ถึงชว่ั โมงเรียน ผเู้ รียน จะสามารถเรียน และทาํ กิจกรรมต่าง ๆ ท่ีครูผสู้ อนมอบหมายไดอ้ ยา่ งมีความสุข และเกิดความชอบ และสนุกกบั การเรียนในช้นั เรียน 2. ผเู้ รียนตอ้ งมีความขยนั หมน่ั ฝึกฝนบทเรียนอยเู่ สมอท้งั ก่อนและหลงั เรียน 3. ผเู้ รียนตอ้ งมีความกลา้ ท่ีจะถามเมื่อสงสยั ท้งั ในหอ้ งและนอกหอ้ งเรียนกบั ครูผสู้ อน เกณฑก์ ารประเมินผล

134วดั ผลสมั ฤทธ์ิจากแบบประเมินผลการเรียนรู้ร้อยละ 80-100 หมายถึง ผลการเรียนดีมาก ผลการเรียนดีร้อยละ 70-79 หมายถึง ผลการเรียนปานกลาง ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60-69 หมายถึง ผลการเรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 50-59 หมายถึง มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ต่าํ กวา่ ร้อยละ 50 หมายถึง มีพฤติกรรมท่ีตอ้ งปรับปรุงแบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล หมายถึง หมายถึง8-10 คะแนน หมายถึง5-7 คะแนนต่าํ กวา่ 5 คะแนนแบบและเกณฑ์ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคลคาํ ช้ีแจง ใหผ้ ปู้ ระเมินขีดเครื่องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมท่ีคาดหวงั ให้เกิดกบั นกั เรียนเกณฑ์การตัดสิน 2 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั แบบสม่าํ เสมอ 1 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ผา่ นเกณฑ์ 0 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ไมผ่ า่ นเกณฑ์เกณฑ์การประเมนิ หมายถึง มีพฤติกรรมดี หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ 8 - 10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุง 5 - 7 คะแนน ต่าํ กวา่ 5 คะแนน

135เลข ช่ือ – สกลุ พฤตกิ รรมของนักเรียน ความ รวมที่ ผรู้ ับการ รอบคอบ 20 ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยนั หมน่ั ประเมิน รับผดิ ชอบ สัมพนั ธ์ เพียร 432112 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 21345678910111213141516171819202122

136 ผปู้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)บันทกึ หลงั การสอน (ปัญหาและข้อเสนอแนะ)ผลการใชแ้ ผนการสอนผลการเรียนของนกั เรียนผลการสอนของครู

137เฉลยแบบฝึ กหดั หน่วยที่ 12ตอนท่ี 1 จงทาเครื่องหมายวงกลม หน้าข้อทถี่ ูกต้องทส่ี ุดเพยี งข้อเดยี ว1. ขอ้ ใดเป็นความสามารถของมาโคร ก. เรียกใชค้ าํ ส่ังต่างๆ ที่อยใู่ นเมนูของ Access ได้ ข. สร้างแอพพลิเคชน่ั ต่างๆ สาํ หรับจดั การฐานขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ค. เป็นชุดคาํ สงั่ ท่ีช่วยใหก้ ารทาํ งานต่างๆ กบั ฐานขอ้ มลู เป็นไปแบบอตั โนมตั ิข้ึน ง. ถูกทุกข้อ2. การสร้างมาโครใน Access น้นั สามารถทาํ ไดก้ ่ีวธิ ี อะไรบา้ ง ก. ทาได้เพยี งวธิ ีเดยี ว คอื Macro Design ข. ทาํ ได้ 2 วธิ ี คือ Macro Wizard และ Macro Design ค. ทาํ ได้ 3 วธิ ี คือ Macro Wizard, Macro Design และการนาํ เขา้ จากโปรแกรมอื่น ง. ทาํ ไดเ้ พียงวธิ ีเดียว คือ Macro Wizard3. ขอ้ ใดไม่ใช่ส่วนประกอบท่ีอยใู่ นมุมมอง Macro Design ก. Macro Designer Toolbar ข. Macro Presentation ค. Macro Agrument ง. Macro Design Grid4. ส่วนประกอบของ Macro Design ส่วนใดท่ีใชส้ าํ หรับกาํ หนดพารามิเตอร์ต่างๆ ก. Macro Designer Toolbar ข. Macro Presentation ค. Macro Argument ง. Macro Design Grid

1385. ขอ้ ใดไม่ใช่ประเภทของมาโคร ท่ีเราสามารถสร้างข้ึนใน Accessก. การแปลงฐานข้อมูลข. การคน้ หา และฟิ ลเตอร์ขอ้ มูลค. การพมิ พ์ง. การนาํ เขา้ และการส่งขอ้ มลู6. หากเราตอ้ งการกระโดดไปยงั เรคอร์ดที่ตอ้ งการในตาราง เราควรเลือกใชม้ าโครใดก. ApplyFilter ข. FindRecordค. FindNext ง. GotoRecord7. มาโครท่ีช่ือวา่ Beep ใชส้ าํ หรับการทาํ งานใดก. บีบขนาดของฐานขอ้ มูลใหเ้ ล็กลงข. แสดงขอ้ ความที่กาํ หนดใหท้ ราบค. ส่งเสียงเตือนผู้ใช้ง. วาดออบเจก็ ตต์ ามที่กาํ หนด8. หากเราตอ้ งการกาํ หนดขนาดของหนา้ ต่างแอพพลิเคชน่ั ท่ีทาํ งานอยู่ เราควรเลือกใชม้ าโครใดก. GotoPage ข. GotoRecordค. MoveSize ง. Restore9. ขอ้ ใดต่อไปน้ีที่สัมพนั ธ์กนั อยา่ งถูกตอ้ งก. GotoRecord ไปยงั หนา้ ฟอร์มท่ีตอ้ งการข. FindNext กระโดดไปยงั เรคอร์ดที่ตอ้ งการค. MoveSize กาหนดขนาดของหน้าต่างปัจจุบนัง. Restore ทาํ ใหห้ นา้ ตา่ งปัจจุบนั แสดงเตม็ จอภาพ10. เราสามารถกาํ หนดใหแ้ อพพลิเคชนั่ ท่ีสร้างข้ึนเริ่มทาํ งานทนั ที เมื่อเปิ ดไฟลฐ์ านขอ้ มลู ดว้ ยวธิ ีใดก. เลือกเมนู Tools>AutoCorrectข. เลอื กเมนู Tools>Startupค. เลือกเมนู File>Open Databaseง. เลือกเมนู Run>Run

139ตอนที่ 2 จงทาเคร่ืองหมาย หน้าข้อทม่ี ขี ้อความถูกต้อง และเคร่ืองหมาย หน้าข้อทม่ี ีข้อความไม่ถูกต้อง.......... 1. การสร้างมาโครน้นั สามารถสร้างไดจ้ ากมุมมอง Macro Design เท่าน้นั.......... 2.ในการสร้างมาโครน้นั เราสามารถรวมกลุ่มของมาโคร เพ่ือช่วยทาํ งานตา่ งๆ ท่ีซ้าํ ซอ้ นข้ึนได้.......... 3. Macro Presentation เป็นส่วนประกอบหน่ึงที่อยใู่ นมุมมอง Macro Design.......... 4. ส่วน Macro Design Grid เป็นส่วนท่ีใหเ้ ราใส่ลาํ ดบั ของมาโครตามท่ีตอ้ งการ.......... 5. มาโครประเภทการรันแอพพลิเคชนั่ น้นั เป็นแอพพลิเคชน่ั หน่ึงท่ีมีอยใู่ น Access.......... 6. หากเราตอ้ งการคน้ หาเรคอร์ดในตารางตอ่ จากการคน้ หาคร้ังแรก มาโครที่สามารถใชไ้ ด้คือ ApplyFilter.......... 7. มาโคร SetValue เป็นมาโครที่ใชใ้ นการกาํ หนดค่าต่างๆ ใหก้ บั คอนโทรล.......... 8. มาโครเก่ียวกบั การพมิ พ์ เป็นมาโครประเภทหน่ึงท่ีมีอยใู่ น Access เช่นกนั.......... 9. หากเราตอ้ งการกระโดดไปยงั หนา้ ฟอร์มหรือเรคอร์ดท่ีตอ้ งการ ใหเ้ ราเรียกใชง้ านมาโครGotoPage........... 10. มาโคร TranferSpreadsheet เป็นมาโครที่ใช้นาํ เขา้ และส่งฐานขอ้ มูลออกไปเป็นโปรแกรม Excel ภาคผนวก รูปแบบการประเมินผลให้คะแนน กจิ กรรมการเรียนรู้ ทุกหน่วยการเรียน

140 แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรม วชิ า การใช้โปรแกรมฐานข้อมูล รหัสวชิ า 2201-2405 ภาคเรียนที่ …….. ปี การศึกษา ………. ระดบั ช้ัน ปวช. สาขางานคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ วทิ ยาลยั (ผู้เรียนประเมินตนเอง) สอนโดย ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หัวข้อประเมิน 1. การปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของสถานศึกษา 2. มีความรับผดิ ชอบใฝ่ ดีใฝ่ รู้ 3. สนใจปฏิบตั ิงานท่ีมอบหมายดว้ ยความกระตือรือร้น 4. สะอาดเป็นระเบียบและมีความรอบคอบในการทาํ งาน 5. ซ่ือสตั ย์ เสียสละ และมีน้าํ ใจ 6. รู้หนา้ ท่ีและตระหนกั ในความพอเพียงตามศกั ยภาพของการเป็นนกั เรียนนกั ศึกษา

141.............................................................................................................................................................รูปแบบการประเมินให้คะแนน5 = ดีมาก , 4 = ดี , 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรับปรุง , 1 = ร่วมกิจกรรม ,0 = ไมร่ ่วมกิจกรรม หวั ขอ้ ประเมินเลขท่ี ช่ือ – สกลุ 1. 2. 3. 4. 5. 6. รวม ลงชื่อผปู้ ระเมิน (5) (5) (5) (5) (5) (5) คะแนน 1 2 3 4 5ข้อคิดเหน็ จากผู้ประเมนิ……………………………………………………………………………………………………….… ลงชื่อ...............................................ผู้ประเมิน (……………………………) วนั ที่…………เดือน……………ปี พ.ศ.……… แบบประเมนิ สาระการเรียนรู้ วชิ า การใช้โปรแกรมฐานข้อมูล รหัสวชิ า 2201-2405 ภาคเรียนท่ี …….. ปี การศึกษา ………. ระดบั ช้ัน ปวช. สาขางานคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ วทิ ยาลยั (ผู้เรียนประเมนิ ตนเอง) สอนโดย---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หัวข้อประเมนิ 1. รู้ความหมายและความสาํ คญั ของฐานขอ้ มลู 2. เขา้ ใจลกั ษณะการจดั เก็บขอ้ มลู เชิงสัมพนั ธ์ 3. เขา้ ใจประเภทของโปรแกรมฐานขอ้ มูล 4. มีทกั ษะในการทาํ งานโดยใชโ้ ปรแกรมฐานขอ้ มูล 5. มีกิจนิสยั และส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดี ในการใชค้ อมพวิ เตอร์……………………………………………………………………………………………………….

142รูปแบบการประเมินให้คะแนน5 = ดีมาก , 4 = ดี , 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรับปรุง , 1 = ร่วมกิจกรรม ,0 = ไม่ร่วมกิจกรรม หวั ขอ้ ประเมินเลขที่ ชื่อ – สกุล 1. 2. 3. 4. 5. 6. รวม ลงช่ือผปู้ ระเมิน (5) (5) (5) (5) (5) (5) คะแนน 1 2 3 4 5 6ข้อคิดเหน็ จากผ้ปู ระเมนิ……………………………………………………………………………………………………….… ลงชื่อ...............................................ผ้ปู ระเมิน (……………………………) วนั ท่ี…………เดอื น……………ปี พ.ศ.……… แบบประเมนิ คุณธรรมจริยธรรม วชิ า การใช้โปรแกรมฐานข้อมูล รหัสวชิ า 2201-2405 ภาคเรียนท่ี …….. ปี การศึกษา ………. ระดบั ช้ัน ปวช. สาขางานคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ วทิ ยาลยั (ผู้สอนประเมินผู้เรียน) สอนโดย ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หัวข้อประเมนิ 1. การปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของสถานศึกษา 2. มีความรับผดิ ชอบใฝ่ ดีใฝ่ รู้ 3. สนใจปฏิบตั ิงานท่ีมอบหมายดว้ ยความกระตือรือร้น 4. สะอาดเป็นระเบียบและมีความรอบคอบในการทาํ งาน 5. ซื่อสตั ย์ เสียสละ และมีน้าํ ใจ 6. รู้หนา้ ที่และตระหนกั ในความพอเพียงตามศกั ยภาพของการเป็นนกั เรียนนกั ศึกษา

143.............................................................................................................................................................รูปแบบการประเมินให้คะแนน5 = ดีมาก , 4 = ดี , 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรับปรุง , 1 = ร่วมกิจกรรม ,0 = ไม่ร่วมกิจกรรม หวั ขอ้ ประเมินเลขที่ ช่ือ – สกุล 1. 2. 3. 4. 5. 6. รวม หมายเหตุ (5) (5) (5) (5) (5) (5) คะแนน 1 2 3 4 5ข้อคิดเห็นจากผ้ปู ระเมิน……………………………………………………………………………………………………….… ลงช่ือ...............................................ผู้ประเมนิ (……………………………) วนั ที่…………เดอื น……………ปี พ.ศ.……… แบบประเมนิ สาระการเรียนรู้ วชิ า การใช้โปรแกรมฐานข้อมูล รหัสวชิ า 2201-2405 ภาคเรียนที่ …….. ปี การศึกษา ………. ระดบั ช้ัน ปวช. สาขางานคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ วทิ ยาลยั (ผ้สู อนประเมินผ้เู รียน) สอนโดย---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หัวข้อประเมิน 1. รู้ความหมายและความสาํ คญั ของฐานขอ้ มลู 2. เขา้ ใจลกั ษณะการจดั เกบ็ ขอ้ มูลเชิงสัมพนั ธ์ 3. เขา้ ใจประเภทของโปรแกรมฐานขอ้ มูล 4. มีทกั ษะในการทาํ งานโดยใชโ้ ปรแกรมฐานขอ้ มลู 5. มีกิจนิสยั และส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมท่ีดี ในการใชค้ อมพิวเตอร์……………………………………………………………………………………………………….

144รูปแบบการประเมินให้คะแนน5 = ดีมาก , 4 = ดี , 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรับปรุง , 1 = ร่วมกิจกรรม ,0 = ไมร่ ่วมกิจกรรม หวั ขอ้ ประเมินเลขที่ ชื่อ – สกลุ 1. 2. 3. 4. 5. 6. รวม หมายเหตุ (5) (5) (5) (5) (5) (5) คะแนน 1 2 3 4 5 6ข้อคดิ เห็นจากผ้ปู ระเมิน……………………………………………………………………………………………………….… ลงช่ือ...............................................ผ้ปู ระเมนิ (……………………………) วนั ท่ี…………เดือน……………ปี พ.ศ.……… แบบสอบถามความพงึ พอใจ/ความคิดเห็นต่อสื่อการสอน วชิ า การใช้โปรแกรมฐานข้อมูล ประจาภาคเรียนท่ี ปี การศึกษา ระดับ ปวช. สาขางานคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ วทิ ยาลยั โดย ................................................................... เพื่อทราบผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้และการใชส้ ื่อการสอนวิชาการใชโ้ ปรแกรมฐานขอ้ มูลซ่ึงจะเป็นประโยชนอ์ ยา่ งมากตอ่ การปรับปรุงและพฒั นาใหม้ ีประสิทธิภาพต่อผใู้ ชแ้ ละผเู้ รียนมากย่งิ ข้ึนในการดาํ เนินกิจกรรมการเรียนรู้ตอ่ ไปความหมายของระดบั ความคิดเห็น 4 หมายถึง ระดบั ความคิดเห็น ดีมาก 3 หมายถึง ระดบั ความคิดเห็น ดี 2 หมายถึง ระดบั ความคิดเห็น นอ้ ย 1 หมายถึง ระดบั ความคิดเห็น นอ้ ยมาก

145ตอนที่ 1 โปรดกาเครื่องหมาย  ลงในช่องที่ตรงกบั ความคิดเห็นของท่าน1. ขอ้ มลู ทว่ั ไปเก่ียวกบั ผตู้ อบแบบสอบถาม 1.1 สถานภาพ  นกั เรียน- นกั ศึกษา  ครูผสู้ อน  อื่น ๆ…………………… 1.2 ระดบั กากรศึกษา  ปวช.หรือเทียบเท่า  ปวส.  ปริญญาตรี  สูงกวา่ ปริญญาตรี2. ความคิดเห็นเกี่ยวกบั ส่ือการสอนและผลท่ีไดจ้ ากการใชส้ ่ือ ระดบั ความ รายการ คิดเห็น 43212.1ความคิดเห็นดา้ นเน้ือหาสาระใบงานและแบบฝึกหดั 2.1.1 เน้ือหาสาระครอบคลุมตามหลกั สูตรการอาชีวศกึ ษากระทรวงศึกษาธิการ 2.1.2 สื่อการสอนน้ีช่วยใหฟ้ ้ื นฟคู วามรู้เดิมและเกิดความเชื่อมนั่ มากนอ้ ยเพยี งใด 2.1.3 สื่อการสอนน้ีช่วยใหเ้ กิดความรู้ใหม่เพ่มิ ข้ึนเพียงใด 2.1.4 สื่อการสอนน้ีทาํ ใหน้ กั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจเพ่ิมข้ึนเพยี งใด 2.1.5 ช่วยเพิม่ ใหเ้ กิดกระบวนการคิดเพอื่ นาํ ไปประยกุ ตใ์ ชเ้ พยี งใด 2.1.6 ช่วยใหผ้ ใู้ ชค้ วามเช่ือมนั่ ในตนเองในหลกั การท่ีถูกตอ้ งเพียงใด 2.1.7 ช่วยเสริมสร้างใหเ้ กิดความคิดรวบยอดนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชเ้พยี งใด 2.1.8 การเรียงลาํ ดบั ความสาํ คญั ของเน้ือหาสาระมีความเหมาะสมเพยี งใด ระดบั ความ รายการ คิดเห็น 4321 2.1.9 กิจกรรมในการจดั การเรียนการสอนเหมาะสมเพยี งใด 2.1.10 ใบงาน/แบบฝึกหดั มีความเหมาะสมเพียงใด2.2 ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ของผสู้ อน 2.2.1 ครูผสู้ อนมีความรู้ความสามารถในการสอนเพียงใด 2.2.2 ครูผสู้ อนมีเทคนิคในการสอนมากนอ้ ยเพยี งใด 2.2.3 ครูผสู้ อนมีการบรู ณาการสอนและการจดั กิจกรรมการสอนน่าสนใจเพยี งใด 2.2.4 ครูผสู้ อนมีการเฉลยแบบฝึกหดั หลงั บทเรียนในช้นั เรียนเพอื่ ใหผ้ เู้รียนได้

146 รับรู้และปรับปรุงขอ้ ผดิ พลาดทุกหน่วยการเรียนมากนอ้ ยเพียงใด 2.2.5 ครูผสู้ อนมีการแทรกและอบรมคุณธรรมจริยธรรมใหแ้ ก่นกั เรียนใน การจดั กิจกรรมการสอนในระดบั ใด2.3 ความคิดเห็นดา้ นอื่นๆ 2.3.1 สาํ นวนภาษาท่ีใชง้ ่ายต่อความเขา้ ใจเพยี งใด 2.3.2 รูปแบบเหมาะสมเพยี งใด 2.3.3 มีความถกู ตอ้ งชดั เจนมากนอ้ ยเพียงใด 2.3.4 ผสู้ ร้างสื่อน้ีมีความรู้ ทกั ษะและเทคนิคในการถ่ายทอดอยู่ในระดบั ใด 2.3.5 ความพงึ พอใจของท่านจากการใชส้ ่ือน้ีอยใู่ นระดบั ใดตอนท่ี 21. ผเู้ รียนมีความคิดเห็นอยา่ งไรในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ของครูผสู้ อนความรู้ความสามารถในการสร้างและใชส้ ่ือการสอนรวมท้งั บูรณาการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1.1 ขอ้ ดีและ/หรือ ขอ้ ท่ีประทบั ใจ.......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 1.2 ขอ้ ควรปรับปรุง.......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 1.3 ขอ้ เสนอแนะ……………………………………………………………………………………………................. .............................................................................................................................................................