Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การสร้างนวัตกรรมเพื่องานวิจัย

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การสร้างนวัตกรรมเพื่องานวิจัย

Published by Pongsaton Palee, 2022-08-07 04:03:20

Description: วัตถุประสงค์ของการเรียน
1.....................................
2.....................................
3......................................

Keywords: Research and Design,Digital Learning

Search

Read the Text Version

Research_Design for Digital Innovation Instruction Curriculum ECI703 นวัตกรรมและเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั เพือ่ การพฒั นาหลกั สูตรและการสอน Credit : Dr. Pongsaton Palee, Computer Education, RRU

Vision

นวัตกรรม Innovation • ช้ินงาน ผลงาน วธิ กี ารใหม่ ทผี่ า่ นการทดลอง/ไดร้ ับการพัฒนาแล้ว • ความคิด เทคนคิ วิธีการท่มี ีอยแู่ ล้วแต่นามาใช้ใหม่ภายใต้สถานการณ์ เง่ือนไข ท่ีเปลย่ี นแปลงไป • การพัฒนา ปรบั ปรุงของเดิม ใหเ้ หมาะสมกบั การเปลย่ี นแปลงของสงั คม

นวัตกรรม Innovation Invention Development Pilot Project Innovation Technology • Innovation = Innovate = to renew / to modify • เริ่มจากการคดิ ค้น (Invention) การพฒั นา (Development) อาจมกี ารทดลองปฏิบัติกอ่ น (Pilot Project) แลว้ จึงนาไปปฏบิ ตั ิจริง ท่ีแตกตา่ งไปจากการปฏบิ ัตเิ ดมิ ทีเ่ คยปฏิบัตมิ า (Thomas Hughes, 2011)

กระบวนการสรา้ งนวตั กรรมทางการศกึ ษา ทศิ นา แขมมณี (2555) การระบปุ ญั หา (Problem) การกาหนดจดุ ม่งุ หมาย (Objective) การศกึ ษาข้อจากดั ต่างๆ (Constraints) การประดิษฐ์คดิ ค้นนวัตกรรม (Innovation) การทดลองใช้ (Experimentation) การเผยแพร่ (Dissemination)

ความหมายของการวจิ ัย Research การคน้ หาความร้ใู หม่ โดยมีวตั ถุประสงคท์ ีแ่ นน่ อน ด้วยวธิ กี ารที่เป็นระบบระเบยี บ และเชื่อถือได้ วิธกี ารท่ีเปน็ ระบบระเบยี บและเชอื่ ถือได้ = วิธกี ารวจิ ัย (Research Methodology)

ขัน้ ตอนการวิจยั 1. ศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ัยทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 7. เลือกกลมุ่ ตวั อย่าง 2. กาหนดปญั หาการวจิ ัย 8. สร้างเคร่ืองมอื การวจิ ัย 3. ต้งั วตั ถุประสงค์การวิจัย 9. ตรวจสอบคณุ ภาพเครื่องมือการวจิ ัย 4. ตง้ั สมมติฐานการวิจยั 10. เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การวจิ ยั 5. ออกแบบการวจิ ยั 11. วเิ คราะห์ขอ้ มลู การวิจยั 6. เขยี นเค้าโครงการวจิ ัย 12. เขยี นรายงานการวจิ ยั

ปัญหา >> งานวิจัย >> ปัญญา • ปญั หาของหนว่ ยงาน • ประสบการณ์ของตนเอง • การฟังประสบการณ์ของนักวิจยั • การอภิปรายและร่วมประชุมสัมมนาทางวชิาการ • การอา่ นและการคน้ คว้าอย่างหนัก • การเขยี นเชิงวิชาการ • บทความวชิ าการ • บทความวจิ ยั นาร่อง • บทความประชุมวิชาการ

ฐานข้อมลู ระดบั นานาชาติ

การตั้งคาถามการวจิ ยั

การศกึ ษาปัญหาเพือ่ กาหนดหัวขอ้ วิจยั • การวเิ คราะห์ สังเคราะหเ์ อกสาร • การศึกษานารอ่ ง • การศึกษาความตอ้ งการจาเปน็ • การสังเคราะหต์ วั แปร • การสัมภาษณเ์ ชงิ ลกึ • การศกึ ษาบรบิ ท • การฝงั ตวั

บทความวิจยั กับ บทความวิชาการ • บทความวิจัย – ส่วนหนึง่ /ทัง้ หมดของงานวจิ ยั • มี Reviewer • Article • Conference Paper Full Paper • บทความวิชาการ • เอกสารทางวิชาการทเ่ี รียบเรยี งอยา่ งเป็นระบบ มขี ้อความรูท้ ส่ี ะทอ้ นมุมมอง แนวคดิ เชงิ ทฤษฎที ี่ไดจ้ ากประสบการณ์ การสงั เคราะหเ์ อกสาร หรอื การวิจยั • จัดทาในรปู ของบทความเพือ่ ตพี ิมพ์เผยแพร่ในสารสารวชิ าการทีม่ ีคุณภาพซึ่งมีผตู้ รวจอา่ น

ความหมายของบทความวจิ ยั • ขนาด 3 – 20 หน้ากระดาษ • เปน็ ส่วนหนึ่งของวทิ ยานพิ นธ์ • เปน็ ส่วนหน่ึงของงานวจิ ยั • เป็นการสรุปงานวิจัยฉบับสมบรู ณ์

ลกั ษณะของบทความวจิ ยั • เสนอแนวคดิ • เสนอกระบวนการ • เสนอผลการวจิ ัย • ผลการวิจยั บางส่วน • ผลการวจิ ยั ภาพรวมทัง้ หมด

องคป์ ระกอบของบทความวิจัย • ช่ือเรอื่ ง Topic • บทคัดย่อ Abstracts • บทนา Introduction • วตั ถปุ ระสงค์การวิจยั Objective • ขอบเขตการวจิ ยั Scope • วธิ ีการวจิ ัย Research Methods • ผลการวิจัย Results • อภปิ รายผล Discussion • บทสรุป Conclusion • กติ ติกรรมประกาศ Acknowledgement • รายการอ้างอิง References

ระดับของบทความวิจัย บทความวจิ ยั ใน บทความวิจยั ใน บทความวจิ ยั การวารสาร การประชุม ในวารสาร ระดบั ประเทศ วชิ าการระดับ ระดับ นานาชาติ นานาชาติ บทความ บทความวิจัย วิชาการ ในการประชมุ วิชาการ ระดบั ประเทศ

ทาไมต้องเป็น Papers ระดับ Inter “หน่วยงานท่ที าหน้าที่สนับสนนุ การวิจัย ตา่ งกก็ ระตุ้นส่งเสริมใหน้ ักวิจยั ไทยสง่ ผลงานไปตีพิมพ์ ในวารสารทมี่ ี Impact Factors สงู ๆ เพราะตา่ งทราบดีวา่ เปน็ การยกระดบั มาตรฐานของประเทศไปในตัว” ศ. ดร. ยอดหทยั เทพธรานนท์

สง่ิ สาคัญทน่ี ักวจิ ัยพงึ ตระหนัก ในการออกแบบการวิจยั • ข้ันตอนในการตรวจสอบความแมน่ ตรงภายใน (Internal Validity) ของขอ้ มลู ชว่ ยให้ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู มคี วามถูกตอ้ งที่เช่ือถอื ได้ • ปัจจัยตามท่กี าหนดให้เปน็ ตัวแปรอิสระ จะสามารถนาไปสกู่ ารเปลย่ี นแปลงในตวั แปรตามได้ • ปจั จัยทมี่ ผี ลต่อความแม่นตรงภายในไดแ้ ก่ การวดั การทดสอบ คาถาม การสรา้ งแบบสอบถาม เครอื งมอื อุปกรณ์ ฯลฯ • ขน้ั ตอนในการตรวจสอบความแมน่ ตรงภายนอก (External Validity) ของขอ้ มูล สว่ นใหญ่เนน้ ทกี่ ารเป็นตวั แทน สามารถนาผลการวิจยั ไปอา้ งองิ กลมุ่ ประชากรได้ ปัจจัยที่มผี ลตอ่ ความแม่นตรงภายนอก ไดแ้ ก่ วธิ กี ารส่มุ ตัวอย่าง

การต้งั ช่อื การวิจยั Research Title

การเขยี นสว่ นหวั ของบทความ • ชือ่ เร่อื งของบทความ • ช่อื เรื่องภาษาอังกฤษ • ช่อื ผู้เขยี นบทความ ควรมหี ลายคน • ชอื่ หนว่ ยงานทส่ี งั กดั • อเี มลของผรู้ บั ผิดชอบบทความ

การเขียนสว่ นหวั ของบทความ

การเขียนสว่ นหวั ของบทความ

การตงั้ ชอ่ื การวิจยั Research Title • แสดงตวั แปรสาคัญที่ศกึ ษา และ/หรอื ความสมั พนั ธข์ องตวั แปรทศ่ี กึ ษา • สอ่ื ความหมาย ระบขุ อบเขตประชากร ขอบเขตทางภมู ิศาสตร์ พ้ืนที่เปา้ หมายของการวจิ ัย • บอกวิธกี ารวิจยั การวจิ ยั เชงิ สารวจ การวิจัยเชิงเปรยี บเทยี บ การวจิ ัยเชิงสหสัมพันธ์ การวจิ ัยเชงิ ทดลอง การวจิ ยั และพฒั นา • สน้ั และมคี วามหมายชัดเจน 5W1H • สอดคล้องกบั ศาสตร์ สาขาวิชาท่ที าวิจยั ศัพท์เทคนคิ ควรเปน็ ทยี่ อมรับในสาขาวชิ านัน้ ๆ • ชือ่ เร่ืองไม่ซา้ ซ้อนกับผู้อ่นื แม้ว่าประเดน็ ศึกษานน้ั จะคลา้ ยกนั ก็ตาม

การต้ังช่ือนวตั กรรมแบบไมม่ ีตัวแปร • การใช้แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะการอ่านและการเขยี นภาษาองั กฤษ เรือ่ ง ASEAN • การพฒั นาบทเรยี นออนไลน์ภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สารผา่ นเครือขา่ ยสงั คม เร่อื ง ASEAN สาหรับนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 • การพฒั นาบทเรียนอเี ลริ น์ นิง เรือ่ ง การออกแบบภาพกราฟกิ พน้ื ฐานเพ่อื สง่ เสรมิ ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี นของนักเรียนมัธยมศกึ ษาตอนต้น • เว็บฝึกอบรมผสานเอกสารแบบแบ่งปนั เรื่อง วธิ ีการพสิ จู นส์ ลากสาหรบั พนกั งานสลากกิน แบ่งรฐั บาล

การต้ังช่ือนวัตกรรมแบบมตี ัวแปร • ผลการจัดการเรียนรูแ้ บบวฏั จกั รการสืบเสาะหาความรู้ โดยใช้บทเรยี นแบบเวบ็ เควสท์ ทมี่ ีผลต่อผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นและการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ • การพัฒนารปู แบบการเรยี นรโู้ ดยใชโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์ เรอื่ ง พชื สมนุ ไพรอาเซียน เพื่อเสริมทักษะดา้ นการเรยี นรแู้ ละนวัตกรรม

การต้งั ชือ่ นวตั กรรมแบบแสดงผลวจิ ยั • ผลการใชส้ อื่ การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง เร่อื ง การนวดเทา้ ดว้ ยกะลาสาหรบั ผปู้ ่วยโรคเรอ้ื รงั • ผลสัมฤทธิ์การเรยี นวิชาคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ จากสือ่ เสมอื นจริงของ นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 • ผลการวดั ทกั ษะการเขียนโปรแกรมของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 จากการเรยี นผ่านเวบ็ วิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์

การต้ังชอื่ นวัตกรรมแบบประเมนิ ผล • ผลการประเมนิ คณุ ภาพเว็บฝกึ อบรมแบบออนไลน์ เรอ่ื ง วธิ กี ารจดั ซือ้ จดั จา้ งสาหรบั นกั พสั ดุ • การประเมินผลบทเรยี นอีเลริ น์ นงิ เรื่อง การออกแบบภาพกราฟกิ พน้ื ฐานสาหรบั นักเรยี น มธั ยมศึกษา • การหาประสทิ ธิภาพสือ่ การเรยี นรแู้ บบปฏิสมั พันธด์ ้วยเทคโนโลยีผสานจริง วชิ าคอมพวิ เตอรเ์ พอื่ การอาชพี ระดบั ประถมศกึ ษาปีที่ 6

การตัง้ ชอ่ื นวัตกรรมแบบวจิ ยั และพัฒนา ศึกษานิเทศก์ • รูปแบบฝึกอบรมฐานสมรรถนะแบบอิงประสบการณ์ ด้วยชมุ ชนนกั ปฏบิ ตั ิภควนั ตภาพเพ่อื การเปลี่ยน ผา่ นของศกึ ษานเิ ทศก์ดจิ ิทัล Competency Experience-Based Training (CEBT) Model with Ubiquitous Community of Practice (U- CoP) to Enhance Transformation Digital Supervisor • รูปแบบการใหค้ าปรึกษาเชิงปญั ญารายบุคคลผา่ นเกมสุขภาพทางไกลเสมือนเพ่อื ส่งเสริมความรอบรู้ด้าน สุขภาพดจิ ทิ ลั สาหรบั พลเมืองดิจิทลั Personalized Cognitive Counseling Model via Virtual Telehealth Game to Promote Digital Health Literacy for Digital Citizen • รปู แบบการนิเทศแบบผสมผสานผ่านชุนชนการเรียนรู้ทางวชิ าชีพเสมือนเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูนวตั กร • รูปแบบชุมชนการฝกึ อบรมทางวชิ าชพี เสมือนเพ่อื พัฒนาสมรรถนะครูดิจิทลั Virtual Professional Training Community Model for Developing Digital Teacher Competencies

การตัง้ ชอ่ื นวัตกรรมแบบวจิ ัยและพัฒนา - ครู • ระบบทานายอาชีพอัจฉรยิ ะฐานเทคโนโลยเี ชงิ ปญั ญาเพื่อการผลติ บณั ฑิตสกู่ าลงั คนดจิ ทิ ัล Intelligent Career Prediction System Using Cognitive Technology for Producing Graduates to Digital Manpower • สภาพแวดลอ้ มการเรยี นรู้แบบดม่ื ด่าเสมอื นจริงด้วยการเล่าเรอื่ งดจิ ิทลั เพ่อื ส่งเสรมิ การเรยี นรู้เชิงลกึ ของ นกั สึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี Virtual Immersive Learning Environment Based on Digital Storytelling to Enhance Deeper Learning for Undergraduate Students • การพัฒนารปู แบบการสอนแบบจินตวศิ วกรรมแบบร่วมมอื ผ่านจักรวาลนฤมิตเพ่ือเสริมสร้างสมรรถนะน วัตกรและนวัตกรรมสรา้ งสรรค์ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6

การตั้งชอ่ื นวัตกรรมแบบวิจัยและพัฒนา - ครู • รูปแบบการเรยี นรเู้ อม็ เมียบผ่านจักรวาลนฤมิตเพอื่ พฒั นาสมรรถนะวศิ วกรรมของนักศึกษาเตรียม วศิ วกรรมศาสตร์ M-MIAP Learning Model via Metaverse to Develop Engineering Competency f the Pre-Engineering Students • รูปแบบการเรียนรู้แบบจนิ ตวิศวกรรมโดยใช้ผังมโนทศั นด์ ้วยเทคโนโลยเี ชื่อมโยงสรรพสิ่งเพือ่ สร้าง นวัตกรรมเกษตรอจั ฉริยะ Imagineering Learning Model Using Advance Organizers with Internet of Things to Create Smart Agricultural Innovation • การผนึกกาลังทางสังคมด้วยเกมฟิ ิเคชนั ผ่านชมุ ชนนกั ปฏิบตั ิร่วมหลายมิติเพื่อเสริมสร้างความตระหนัก ด้านความมัน่ คงปลอดภยั ไซเบอร์ Gamified Social Collaboration via Mesh Community of Practice to Enhance Cybersecurity Awareness

การตง้ั ชื่อนวัตกรรมแบบวิจยั และพฒั นา • ระบบนิเวศอัตโนมิติด้วยเกมฟิ ิเคชนั โดยใช้วจิ ัยเปน็ ฐานเพ่อื สง่ เสรมิ สมรรถนะนกั วจิ ัยดิจิทัล Hyperautomation Ecosystem using Gamification Research-based Learning to Enhance Digital Researcher Competency • การเรียนรู้แบบนวัตจินตวิศวกรรมดว้ ยชมุ ชนการเรียนร้สู รา้ งสรรคเ์ สมอื นจริงเพือ่ สร้างเสรมิ สมรรถนะ นวตั กรหุ่นยนต์ Innolmagineering Learning on Virtual Creative Learning Community to Enhance Robotics Innovator Competencies • การเรยี นรู้ทา้ ทายแบบไฮบริดโดยใช้แพลตฟอร์มบอร์ดเกมเสมอื นเพอื่ สง่ เสรมิ สมรรถนะนักเรยี น มาตรฐานสากล Challenge-based Hybrid Learning Using Virtual Board Games Platform to Enhance International Standard Student Competency

การตั้งชื่อนวัตกรรมแบบคดิ ไมอ่ อก • ความพงึ พอใจของนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ทม่ี ีต่อสื่อเสมือนจรงิ วิชาภาษาไทย • ความคิดเหน็ ของนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 จากการเรียนการสอนผา่ นเวบ็ วิชา โครงงาน

คาสาคญั Keywords

การเขียนคาสาคัญ Keywords • มาจากชือ่ นวัตกรรม/งานวจิ ัย • ไมน่ อ้ ยกวา่ 3 คา • คาสาคัญ คือ ตัวแปรของการวจิ ัย / 5W1H • คาสาคญั คอื คาเฉพาะในงานวิจยั น้นั เป็นคาท่เี ปน็ สากลยอมรบั กันท่ัวไป • คาสาคญั จะนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นการเขียนบทนา

วรรณกรรมที่เก่ยี วข้อง Literature Review

การศึกษาวรรณกรรมท่เี กย่ี วข้อง • การค้นคว้า อ่าน เกบ็ รวบรวมประเด็นสาคัญเกีย่ วกบั ความรทู้ ีม่ ีมาก่อนท่ีสนใจจะทาวิจัย แลว้ นามาวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และเรยี บเรียงอย่างเปน็ ระบบระเบียบ • มปี ระโยชนต์ อ่ การดาเนนิ การวิจยั ทกุ ขัน้ ตอน ตงั้ แต่ตน้ จนจบ สาระสาคญั ทีต่ อ้ งศกึ ษา จากเอกสารและงานวิจัยทีเ่ ก่ยี วข้อง • สาระสาคัญด้านเน้ือหา • สาระสาคัญด้านวิธีการ

แนวทางการศึกษาวรรณกรรมท่ีเกย่ี วข้อง 1 กาหนดขอบข่ายทต่ี ้องการศึกษา 2 แสวงหา รวบรวมเอกสารและงานวิจัยทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 3 วางแผนการอา่ น สอบถามผู้เชยี่ วชาญเพิ่มเตมิ 4 อ่านและบันทกึ 5 เรียบเรยี งเอกสารและงานวิจยั ทเี่ กี่ยวขอ้ ง

การบนั ทึกสาระสาคัญ วรรณกรรมทเ่ี กยี่ วข้อง • ชอื่ งานวจิ ัย แบบถอดความ แบบสรปุ สาระสาคญั • วตั ถุประสงคก์ ารวจิ ัย • สมมตฐิ านการวจิ ยั • วิธีการวิจัย กลุม่ ตวั อย่าง เคร่อื งมือการวิจัย • การเก็บรวบรวมขอ้ มูล • การวิเคราะห์ข้อมูล • ผลการวจิ ยั • บรรณานุกรม

เกณฑ์การพจิ ารณาคณุ ค่า ของวรรณกรรมทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง • ความรถู้ ูกตอ้ ง เช่ือถอื ได้ • ภาษาอา่ นเขา้ ใจไดง้ ่าย • ความรู้ใหม่ ทันต่อเหตุการณ์ • ผแู้ ตง่ มคี วามเชี่ยวชาญ • เนื้อหาตรงกับท่ีผู้วจิ ัยตอ้ งการ • สานกั พมิ พ์เช่ือถือได้ • ภาพประกอบถกู ตอ้ ง ชดั เจน

การเขยี นบทความวจิ ยั

การเขยี นสว่ นหวั ของบทความ • ชือ่ เร่อื งของบทความ • ช่อื เรื่องภาษาอังกฤษ • ช่อื ผู้เขยี นบทความ ควรมหี ลายคน • ชอื่ หนว่ ยงานทส่ี งั กดั • อเี มลของผรู้ บั ผิดชอบบทความ

การเขียนสว่ นหวั ของบทความ

การเขียนสว่ นหวั ของบทความ

การเขียนสว่ นหวั ของบทความ



การเขียนบทคดั ยอ่ (Abstracts)

การเขียนบทคดั ยอ่ (Abstracts) • การเขียนบทคดั ยอ่ • วตั ถปุ ระสงค์ • วิธีดาเนินการวจิ ยั กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมอื วจิ ัย สถิติ • ผลการวจิ ยั • คาสาคัญ

การเขียนบทคดั ยอ่ (Abstracts)

การเขียนบทคดั ยอ่ (Abstracts)

การเขียนบทคดั ยอ่ (Abstracts)