Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กิจกรรมลูกเสือวิสามัญ2-11

กิจกรรมลูกเสือวิสามัญ2-11

Published by pond_moku, 2021-12-02 12:15:54

Description: กิจกรรมลูกเสือวิสามัญ2-11

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 11 ลกู เสือกบั ความรู้ เรื่องอิเลก็ ทรอนิกส

เคร่อื งหมายวิชาพิเศษ วิชาอิเลก็ ทรอนิกส ลกั ษณะเครื่องหมาย เป็นรูปไข่ ยาว 4 ซม. กว้าง 3.5 ซม. มีเคร่ืองหมาย คล่นื ไฟฟ้าสเี หลอื งทอง ทาดว้ ยผา้ สขี าบขลบิ รมิ สเี หลอื งทอง มี อกั ษร ล.ว. อย่ทู ร่ี มิ ดา้ นล่างผทู้ ส่ี อบผ่านใหป้ ระดบั เคร่อื งหมาย ตดิ ทอ่ี กเสอ้ื เหนือกระเป๋ าดา้ นขวา

ความร้เู บอื้ งต้นเก่ียวกบั เร่ืองคลื่นเสียงและคลื่นวิทยุ คลื่นคืออะไร มผี ใู้ หค้ าจากดั ความของคล่นื ไวม้ ากมาย และสามารถสรปุ รวมๆ กนั ไดว้ า่ คล่นื หมายถงึ พลงั งานรปู หน่ึงทม่ี พี าหะทาใหม้ นั เคล่อื นทไ่ี ปได้ จะแบง่ ออกเป็นสว่ นประกอบตา่ งๆ ไดด้ งั น้ี แสดงสว่ นประกอบของคลน่ื ในน้า 1.ระยะจาก 1-2 และ 3-4 เรยี กวา่ ความสงู ของคล่นื หรอื Amplitude 2.ระยะจาก 1-7 เรยี กวา่ ความยาวคล่นื หรอื Wavelength 3.ระยะจาก 5-3 เรยี กวา่ 1 เฮริ ตซ์ หรอื Hertz

ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั เรอ่ื งคลน่ื เสยี งและคลน่ื วทิ ยุ คล่ืนวิทยุเป็นคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าท่มี ีความถ่ีและ ความเรว็ สงู คอื มคี วามถร่ี ะหวา่ ง 10,000-100,000 เฮริ ตซ์ ตอ่ วนิ าที ลกั ษณะของคล่นื วทิ ยจุ ะมยี อดคล่นื เท่ากนั และเพ่อื ท่จี ะใหค้ ล่นื เสยี งเดนิ ทางไปได้ไกลตามความต้องการ จงึ มกี ารนาคล่นื เสยี งมาผสมกบั คล่นื วทิ ยุ จะไดค้ ล่ืนผสมทส่ี ง่ ไป ยังเคร่ืองรับวิทยุตามบ้าน ลักษณะของคล่ืนผสมจะมียอด ไม่เท่ากัน ข้ึนอยู่กับน้าหนักของคล่ืนเสียงท่ีไปเกาะอยู่กับ คล่นื วทิ ยุ แสดงลกั ษณะคล่นื ผสม

เคร่ืองส่งและเครื่องรบั วิทยุ เคร่ืองส่ง การสง่ กระจายเสยี งจากสถานีสง่ นนั้ เป็นการเปลย่ี นคล่นื เสยี งเป็นคลน่ื ไฟฟ้า และสง่ ออก ไปรวมกบั คล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าทท่ี าหน้าทเ่ี ป็นตวั นาคล่นื เสยี งไปในอากาศในความถส่ี งู การสง่ วทิ ยุ โดยทวั่ ไปจะมี 2 แบบ คอื 1.การส่งวิทยแุ บบ AM (Amplitude Modulation) คอื การใชค้ ล่นื เสยี งซง่ึ แปลงเป็นคล่นื ไฟฟ้าไปรวมกบั คล่นื ทส่ี รา้ งขน้ึ สาหรบั เป็นตวั พาคล่นื เสยี งไป ยงั เครอ่ื งรบั เมอ่ื เกดิ การผสมกนั ของคล่นื เสยี งและคล่นื พาห์ กท็ าใหส้ ว่ นสงู ของคล่นื พาหเ์ ปลย่ี นแปลงไป

เครอ่ื งสง่ และเครอ่ื งรบั วทิ ยุ 2.การส่งวิทยแุ บบ FM (Frequency Modulation) เป็นการผสมคล่นื เสยี งและคล่นื พาหใ์ นทาง ความถ่ี ซง่ึ ทาใหค้ ล่นื วทิ ยเุ ปลย่ี นแปลงไปในทางกวา้ ง คอื คล่นื เสยี งจะแคบบ้างหรอื กวา้ งบา้ ง แต่ความสงู ของคล่นื ไมเ่ ปลย่ี นแปลง เครื่องรบั วิทยุ เคร่อื งรบั วทิ ยุมหี น้าทร่ี บั คล่นื วทิ ยทุ ผ่ี สมมาจากเครอ่ื งส่ง แลว้ เปลย่ี นคล่นื ผสม ใหเ้ หลอื เพยี งคล่นื เสยี งเท่านัน้ แล้ววงิ่ ออกสู่ลาโพง ทาใหเ้ ราได้ยิน โดยมรี ะบบการ ทางานดงั น้ี

เครอ่ื งสง่ และเครอ่ื งรบั วทิ ยุ 1. ระบบสายอากาศและสายดนิ ทาหน้าทจ่ี บั สญั ญาณทส่ี ง่ มาจากสถานีสง่ 2. ระบบจนู เนอร์ เป็นระบบทเ่ี ลอื กสญั ญาณหรอื คล่นื วทิ ยเุ พยี งคล่นื เดยี วเขา้ เครอ่ื งรบั สว่ นคล่นื ท่ี ไมส่ ามารถเขา้ มาได้ กจ็ ะวง่ิ อยใู่ นระหวา่ งสายอากาศและสายดนิ 3. ระบบ IF หรอื OSC (Opensorce Certifi ed) เป็นระบบทช่ี ว่ ยลดความถข่ี องคล่นื วทิ ยลุ งอยใู่ น ระดบั ทเ่ี ครอ่ื งจะรบั ได้ 4. ระบบดเี ทคเตอร์ (Detector) เป็นระบบทเ่ี ลอื กเอาคล่นื สว่ นบนทเ่ี ป็นปาก เพอ่ื สง่ ต่อไปยงั ระบบ ขยาย 5. ระบบขยายเสยี ง เป็นระบบทท่ี าการขยายคล่นื เพอ่ื สง่ ไปยงั ลาโพง 6. ระบบลาโพง

เคร่ืองเสียงชนิ ดไฮ-ไฟ คอื เคร่อื งเสยี งท่ใี หส้ ญั ญาณเสยี งออกมาเหมอื นเสยี งจรงิ ทุกประการ โดยไมผ่ ดิ เพย้ี น และไมม่ เี สยี งแทรกแซง คาวา่ ไฮ-ไฟ (HI-FI) เป็นคาย่อของคา วา่ ไฮฟิเดลติ ี (High fi delity) เครอ่ื งเสยี งชนิดไฮ-ไฟ จะมคี ุณภาพเสยี งแตกต่าง จากเคร่อื งเสยี งชนิดท่ไี ม่เป็นไฮ-ไฟ ส่วนท่เี ป็นตวั จากดั ของคาว่าไฮ-ไฟ ก็คอื ย่านการตอบสนองความถ่ขี องเคร่อื งเสยี งเหล่านัน้ เคร่อื งเสยี งทไ่ี ม่ใช่ไฮ-ไฟ จะ ใหส้ ญั ญาณเสยี งออกมาทางดา้ นเสยี งทุม้ และเสยี งแหลมออกมาน้อยหรอื ไมอ่ อก สว่ นเคร่อื งเสยี งชนิดไฮ-ไฟจะใหส้ ญั ญาณเสยี งออกมาครอบคลุมทงั้ เสียงทุม้ และ เสยี งแหลม

เครอ่ื งเสยี งชนดิ ไฮ-ไฟ ความถต่ี ่าหรอื เสยี งทมุ้ กบั ความถส่ี งู หรอื เสยี งแหลม โดธรรมชาตขิ องมนั แลว้ จะมคี วาม ดงั ต่ากวา่ ความถใ่ี นยา่ นกลางหรอื เสยี งกลาง ฉะนนั้ เครอ่ื งเสยี งชนิดทไ่ี มใ่ ช่ไฮ-ไฟ จงึ มกั ไมไ่ ดย้ นิ เสยี งทุม้ และเสยี งแหลมชดั เจนนัก ในเคร่อื งเสยี งชนิดไฮ-ไฟ โดยปกตจิ ะมปี ุ่มพเิ ศษสาหรบั การ ปรบั เร่งเสยี งทุม้ และเสยี งแหลมใหด้ งั ขน้ึ เป็นพเิ ศษ ทาใหไ้ ดย้ นิ ชดั เจน และยังสามารถเร่งลด สญั ญาณเสยี งเหลา่ นนั้ ไดด้ ว้ ย

เครอ่ื งเสยี งชนดิ ไฮ-ไฟ ระบบเสยี งไฮ-ไฟทส่ี มบรู ณ์แบบจะประกอบดว้ ยสว่ นประกอบทจ่ี ะตอ้ งปรุงแตง่ เสยี ง ใหไ้ ดค้ ุณภาพครอบคลุมยา่ นความถเ่ี สยี ง และปราศจากความผดิ เพย้ี น แบ่งไดด้ งั น้ี 1.ภาคกาเนิดเสียง ประกอบดว้ ย 1.1 FM และ FM สเตอรโิ อมลั ตเิ พลก็ ซ์ จนู เนอร์ 1.2 เครอ่ื งเล่นแผน่ เสยี ง 1.3 เครอ่ื งเลน่ เทป 1.4 เครอ่ื งเล่นคอมแพกตด์ สิ ก์ (Compact Disc : CD) หรอื เครอ่ื งเล่นดวี ดี ี (Digital Versatile Disc : DVD)

เครอ่ื งเสยี งชนดิ ไฮ-ไฟ 2.ภาคปรบั แต่งเสียงและขยายเสียง ประกอบดว้ ย 2.1 พร-ี โทน แอมป์ 2.2 กราฟิก อคิ วอไลเซอร์ 2.3 เพาเวอรแ์ อมป์ 3.ภาคเปล่ียนสญั ญาณไฟฟ้าเป็นสญั ญาณเสียง ประกอบดว้ ย 3.1 ลาโพงเสยี งทมุ้ เสยี งกลาง เสยี งแหลม และหฟู ัง 3.2 ตูล้ าโพง

เครอ่ื งเสยี งชนดิ ไฮ-ไฟ จนู เนอร (Tuner) คอื เครอ่ื งรบั วทิ ยุ AM, FM และ FM สเตอรโิ อมลั ตเิ พลก็ ซ์ ทไ่ี มม่ ภี าคขยายเสยี ง โดยปกติจูนเนอร์ท่ีใช้สาหรับเคร่ืองเสียงท่ีเป็ นไฮ -ไฟ จะไม่ทาสาหรับรับวิทยุคล่ืนสัน้ (SW) ส่วนประกอบของภาคจูนเนอร์ไม่ว่าจะเป็น AM, FM จะประกอบด้วยภาครบั เรยี กว่า ฟรอนเอนด์ สาหรบั วทิ ยุ FM และเรยี กว่า คอนเวอรเ์ ตอร์ สาหรบั วทิ ยุ AM, ภาคขยาย IF ของวทิ ยุ FM ใชค้ วามถ่ี 10.7 MHz ของวิทยุ AM ใช้ความถ่ี 455 KHz ภาคดีเทคเตอร์ และมีภาคสเตอริโอ-มัลติเพล็กซ์ ดโี คดเดอร์ ในเคร่อื งรบั วทิ ยุ FM สเตอรโิ อมลั ตเิ พลก็ ซ์ สญั ญาณทถ่ี ูกส่งออกจากภาคจูนเนอร์ จะเป็น สญั ญาณเสยี งทย่ี งั ไมไ่ ดถ้ กู ขยาย

เครอ่ื งเสยี งชนิดไฮ-ไฟ เครอ่ื งเล่นแผน่ เสียง (Turntable) ถอื วา่ เป็นแหล่งกาเนิดเสยี งอยา่ งหน่ึงในระบบเครอ่ื งเสยี งชนิดไฮ-ไฟ ความนิยมในปัจจุบันมีแนวโน้มลดลง เพราะมีเคร่ืองเล่นแบบใหม่ท่ีให้คุณภาพเสียงท่ีเป็นไฮ-ไฟ ไดด้ กี ว่า ท่นี ิยมเล่นในปัจจุบนั จะเป็นแบบ ลองเพลย์ (Long Play) ใชค้ วามเรว็ ในการเคล่ือนท่ี 331/2 รอบต่อนาที มขี นาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 12 น้ิว

เครอ่ื งเสยี งชนดิ ไฮ-ไฟ เครือ่ งเล่นเทป (Tape) ในทน่ี ้ีจะทางานได้ 2 ลกั ษณะ คอื 1.ทาหน้าที่เล่นเทป โดยเป็นตวั เปลย่ี นสญั ญาณเสยี งทเ่ี กบ็ ไวใ้ น รูปแม่เหล็กถาวรในตลับเทปออกมาเป็นสญั ญาณเสียงในรูป สญั ญาณไฟฟ้า 2.ทาหน้าที่บนั ทึกเทป หรือถ่ายเทป โดยทาการบนั ทกึ เสยี ง ทม่ี าจากแหล่งกาเนิดเสยี งอ่นื ๆ นาสญั ญาณเสยี งดังกล่าวมา เกบ็ ไวใ้ นตลบั เทปในรปู ของสญั ญาณแมเ่ หลก็ ถาวร

เครอ่ื งเสยี งชนดิ ไฮ-ไฟ เครื่องเล่นคอมแพกตดิสก (Compact Disc Digital Audio) ใชค้ ายอ่ วา่ CD หรอื เคร่อื งเลน่ เลเซอรด์ สิ ก์ (Laser Disc) หรอื ดจิ ทิ ลั ดสิ ก์ (Digital Disc) คอื เคร่อื งเล่นชนิดเดยี วกนั ท่มี รี ะบบการบนั ทกึ เสยี งและการเล่น ใช้หลกั การของดิจทิ ลั โดยสญั ญาณเสยี งต่างๆ จะถูกแปลงสญั ญาณจากสญั ญาณแอนะล็อก (Analog) คือ สญั ญาณเสยี งเปล่ยี นแปลงขน้ึ ลงในรูปของสญั ญาณไซน์ (Sine Wave) ไปเป็นสญั ญาณดจิ ทิ ลั (Digital) คือ สญั ญาณเสยี งเป็นลกั ษณะสญั ญาณสเ่ี หลย่ี มทม่ี คี ุณสมบตั เิ ป็น 2 ลกั ษณะ คอื มสี ญั ญาณกบั ไมม่ สี ญั ญาณ หรอื เป็นตวั เลข คอื เลข “1” กบั เลข “0” และเกบ็ สญั ญาณเสยี งลงแผ่น ในรปู ของหลุมเลก็ ๆ ท่มี ขี นาดความกวา้ ง 6 ไมครอน และลกึ 2 ไมครอน (1 ไมครอน เท่ากบั 1/1,000,000 เมตร) หลุมเลก็ ๆ ท่เี จาะไวน้ ้ีจะอย่สู ลับกบั ชอ่ งวา่ ง หลุมและชอ่ งวา่ งจะแทนรหสั ของ ดจิ ทิ ลั คอื “0” และ “1” เครอ่ื งเลน่ คอมแพก็ ต์ ดสิ ก์ จะมอี ยู่ 3 แบบ คอื แบบใชเ้ ล่น CD เพลง แบบใชเ้ ล่น VDO CD หรอื ชมภาพยนตร์ และแบบใชเ้ ลน่ CD เพลงและ VDO CD

เครอ่ื งเสยี งชนดิ ไฮ-ไฟ ปรี-โทน แอมป (Pre-Tone Amplifi er) เป็นสว่ นหน่ึงของเครอ่ื งขยายเสยี งทถ่ี ูกแยกออกมา โดยมี อตั ราขยายสญั ญาณไมส่ งู มาก มชี ่อื เรยี กวา่ ภาคปรแี อมปลฟิ ายเออร์ (Pre Amplifi er) สญั ญาณท่ี ถูกขยายจะต้องไม่ผิดเพ้ียน นอกจากนัน้ ยังมีวงจรปรับแต่งเสียงทุ้ม เสียงแหลม ท่ีเรียกว่า โทน คอนโทรล (Tone Control) วงจรเรง่ ลดความดงั ของสญั ญาณเสยี งทเ่ี รยี กว่า วอลุ่ม (Volume) วงจรช่วยยกระดบั เสยี งทุม้ เสยี งแหลมทเ่ี รยี กว่า ลาวดเ์ นส (Loudness) และวงจรอ่นื ๆ อกี แลว้ แต่ รนุ่ และเครอ่ื งของแต่ละบรษิ ทั ภายในภาคขยายเสยี งปร-ี โทน จะประกอบดว้ ยสว่ นประกอบหลกั 4 สว่ น คอื วงจรอนิ พุต (Input) วงจรปรแี อมป์ (Pre Amp) วงจรวอลุ่ม (Volume) และลาวด์เนส (Loudness) วงจรโทน คอนโทรล (Tone Control) ภาคขยายเสยี งปร-ี โทนน้ี อาจเป็นแบบแยกสว่ น หรอื รวมกบั เพาเวอร์ แอมป์ กไ็ ด้

เครอ่ื งเสยี งชนิดไฮ-ไฟ เพาเวอร แอมป (Power Amplifi er) คอื ภาคขยายกาลงั หรอื ภาคขยายเสยี งภาคสดุ ทา้ ยก่อนสง่ สญั ญาณเสยี งไปลาโพง หน้าทข่ี องเพาเวอร์ แอมป์ คอื ขยายสญั ญาณเสยี งทส่ี ่งมาจากปร-ี โทน แอมป์ หรอื กราฟิก อคิ วอไลเซอรม์ าขยายสญั ญาณใหแ้ รงขน้ึ ทลี ะขนั้ ใหแ้ รงทส่ี ดุ แบบไมผ่ ดิ เพย้ี น

เครอ่ื งเสยี งชนดิ ไฮ-ไฟ ลาโพงและตู้ลาโพง (Loudspeaker) เป็นอุปกรณ์เปล่ยี นสญั ญาณเสยี งท่ีอยู่ในรูป สญั ญาณไฟฟ้าใหก้ ลบั มาเป็นสญั ญาณเสยี งในรูปการสนั่ สะเทอื น ทาใหอ้ ากาศทอ่ี ยู่ รอบๆ ลาโพงเกดิ การสนั่ สะเทอื นไปดว้ ย การสนั่ สะเทอื นทเ่ี กดิ ขน้ึ นนั้ กค็ อื ความถข่ี อง สัญญาณเสียงนัน่ เอง ถ้าสัน่ สะเทือนเร็วก็ได้ความถ่ีสูง (เสียงแหลม) ออกมา ถ้าสนั่ สะเทอื นช้าก็ได้ความถ่ีต่า (เสยี งทุ้ม) ออกมา ดงั นัน้ ความสาคญั ของลาโพง กอ็ ยู่ท่กี ารสนั่ สะเทอื นท่ตี วั ลาโพงสามารถทาได้ การสนั่ สะเทอื นดังกล่าวจะได้กวา้ ง หรอื แคบ ครอบคลุมย่านความถ่เี สยี งมากน้อยแค่ไหนขน้ึ อย่กู บั โครงสรา้ งของลาโพง ทผ่ี ลติ ขน้ึ มา

เครอ่ื งเสยี งชนิดไฮ-ไฟ ขนาดของตู้ลาโพงจะต้องจดั ใหเ้ หมาะสมกบั ขนาดของ ลาโพงแต่ละชนิด และจะต้อง จัดวางตาแหน่งของลาโพง เสยี งทุม้ เสยี งกลาง และเสยี งแหลม ในตาแหน่งท่ไี ดค้ ุณภาพ เสยี งดที ส่ี ุด นอกจากนัน้ วสั ดุท่บี ุภายในตู้ลาโพงกม็ สี ่วนสาคญั ในการเพ่ิมความหนักแน่นของเสียง และลดเสียงสะท้อนลง บรษิ ทั ผผู้ ลติ ตูล้ าโพงจงึ แขง่ ขนั กนั ในการสรา้ งตู้ลาโพงทใ่ี สว่ สั ดุ ป้องกนั เสยี งสะทอ้ น และเสยี งรบกวนออกมาจาหน่าย ซ่ึงจะใช้ วสั ดบุ ุภายในตูแ้ ละออกแบบตูแ้ ตกตา่ งกนั วสั ดุทใ่ี ชอ้ าจเป็นพวก ใยแกว้ ไมโครไฟเบอร์ ฟองน้าหรอื อะคสู ตกิ โฟม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook