Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สนทนาธรรม กับ อ.วศิน อินทสระ เล่ม 5

สนทนาธรรม กับ อ.วศิน อินทสระ เล่ม 5

Published by Sarapee District Public Library, 2020-09-21 03:44:36

Description: สนทนาธรรม กับ อ.วศิน อินทสระ เล่ม 5

Keywords: ธรรมะ

Search

Read the Text Version

100 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ค�ำถามท ่ี ๑๒๒๙ เราจะอธบิ ายความแตกตา่ งของสมจุ เฉทวมิ ตุ ต ิ ปฏปิ สั สทั ธวิ มิ ตุ ต ิ และนสิ สรณวิมุตต ิ โดยความหมายและโดยสภาวะไดอ้ ยา่ งไรคะ   ตอบ สมุจเฉทวิมุตติก็คือ  มรรคญาณ  ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ  แปลว่า  หลุดพ้นด้วยการสงบระงับ  ได้แก่  ผลญาณ  นิสสรณวิมุตติ  แปลว่า  หลดุ พน้ ดว้ ยการสลดั ออกไป หมายถงึ  นพิ พาน  ค�ำถามท่ี ๑๒๓๐ “มัชฌิมาปฏิปทา”  กับ  “มัชเฌนธรรม”  มีความหมายเหมือนกัน  ไหมคะ และ “มัชเฌนปฏิสมั ภทิ า” หมายถึงอะไรคะ ตอบ มัชฌมิ าปฏปิ ทากร็ กู้ นั อยู่โดยท่ัวไปแล้ว มัชเฌนธรรม หมายถึง  ปฏิจจสมุปบาท    ส่วนค�ำว่า  มัชเฌนปฏิสัมภิทา  ไม่รู้หมายถึงอะไร  ไมเ่ คยได้ยิน คำ� ถามท่ ี ๑๒๓๑ สวสั ดคี ะ่ อาจารย ์ เวลาทหี่ นไู หวพ้ ระ มกั จะนกึ ถงึ ภาพพระพทุ ธรปู   บา้ ง บางครง้ั กน็ กึ ถงึ ภาพทวี่ ดั พระเชตวนั บา้ ง ดว้ ยความรสู้ กึ รกั และเคารพ  ในพระผู้มีพระภาคเจ้า  พระธรรม  พระอริยสงฆ์  ใจหนึ่งก็ทราบว่า 

สนทนาธรรมกบั 101 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ สิ่งเหล่าน้ันเป็นวัตถุ  แต่ใจหน่ึงก็รู้สึกว่าถ้านึกเฉยๆ  แบบไม่เห็นภาพ  อะไร  ก็เหมือนว่าในใจไม่ค่อยชัดเจนเวลาท่ีเราปรารถนาจะระลึกถึง  พระรัตนตรัยค่ะ  ไม่ทราบว่าต้องแก้ไขอย่างไรคะ  หนูระลึกถึงอาจารย์  เสมอนะคะ ตอบ ท่ีคุณระลึกถึงอยู่ก็ดีแล้ว  และขอขอบคุณท่ีระลึกถึงผมอยู่เสมอ  การระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าและใจไปเหนี่ยวเอาพระพุทธรูปเป็น  อารมณ์เป็นพุทธานุสติ  นับว่าเป็นการดี  ท่านสร้างพระพุทธรูปไว ้ มากมายก็เพ่อื จดุ ประสงค์อันน้ี คำ� ถามท่ ี ๑๒๓๒ สวสั ดคี รบั  ไดอ้ า่ นขา่ วตา่ งประเทศวา่  พวกเขาไดท้ �ำการ “การณุ ย-  ฆาต”  แกะท่ีมันป่วยแล้วรักษาไม่หาย  ถ้าเป็นระบบศีลธรรมก็แล้วแต ่ หลักของแต่ละศาสนา  แต่ถ้าเป็นสัจธรรมล่ะครับ  เราจะมีหลักอย่างไร  ครบั  ความจริงคือหา้ มฆา่ ใช่หรือเปล่าครับ ตอบ การุณยฆาต  แปลว่า  การฆ่าด้วยความกรุณา  ยังเป็นปัญหาอยู ่ ทั้งทางจริยศาสตร์และทางศาสนา  บ้างก็ว่าควร  บ้างก็ว่าไม่ควร  เป็น  ปญั หาทยี่ งั คา้ งคาใจของนกั จรยิ ศาสตรแ์ ละนกั ศาสนาอยมู่ าจนถงึ เวลาน้ี  ตามหลกั พทุ ธศาสนา การฆา่ ทำ� นองนผี้ ดิ ศลี ขอ้ ปาณาตบิ าต แตจ่ ะบาป  มากหรอื บาปนอ้ ยเปน็ อกี ปญั หาหนง่ึ  ควรทำ� หรอื ไมค่ วรทำ� เปน็ อกี ปญั หา 

102 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ หนึ่ง  ผมเองก็ตัดสินให้คุณไม่ได้  การยืดชีวิตคนป่วยด้วยเคร่ืองมือทาง  วิทยาศาสตร์ก็ยังเป็นปัญหาทางการแพทย์  และญาติผู้ป่วยอยู่จนถึง  เวลาน ้ี ผมคงตอบคณุ ไดเ้ พียงเทา่ นี้ ค�ำถามท่ ี ๑๒๓๓ ทราบมาว่าพระโสดาบันละความตระหนี่ได้เด็ดขาดแล้ว  ส่วน  ความโลภน้ันผู้ใดละได้เด็ดขาด  พระพุทธองค์ตรัสประกันว่าเป็น  พระอนาคาม ี อาจารยก์ รณุ าอธบิ ายถงึ ความแตกตา่ งระหวา่ งความโลภ  กบั ลาภมัจฉรยิ ะใหด้ ว้ ยนะคะ กราบขอบพระคุณคะ่ ตอบ ลาภมจั ฉรยิ ะ หมายถงึ  ตระหนล่ี าภอนั เปน็ ของตน ไมอ่ ยากใหใ้ คร  แม้แกค่ นท่คี วรให ้  สว่ นความโลภนัน้  หมายถึง ๑. อยากได้ทรัพย์สินของผู้อื่นโดยทางทุจรติ ๒. ความไมร่ จู้ ักพอ คอื  อยากได้เกินประมาณ ๓.  ความติดใจรักใคร่ในสิ่งอันเป็นของตนมากเกินไป  หวงแหน  ผูกพนั  ไม่รู้จักปล่อยวางเสยี บา้ ง คำ� ถามท ่ี ๑๒๓๔ ผมมีปัญหาทางสมองครับ  ๓-๔  ปีแล้วไปหาหมอไม่หายสักท ี มีความคิดตลอดเวลา ทำ� อะไรไม่ได้ เรียนหนังสือไม่ได้เลย ผมเคยไป  เรอื นธรรมครง้ั หนง่ึ  กเ็ ลยพยายามนงั่ สมาธเิ พราะมนั คดิ เยอะมาก มแี ต ่

สนทนาธรรมกับ 103 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ความรู้สึกแย่ๆ  บางครั้งก็หลอนไปเลย  คิดว่าคงเป็นเพราะสารเสพติด  เม่ือก่อน  ตอนนี้ผมเลิกแล้ว    อยากถามว่า  ตอนนั่งสมาธิ  บางคร้ังก็ไป  ได้ดี แต่หลายคร้ังก็มีอาการแปลกมาก ตัวร้อน ขนลุก หัวเหว่ียงไปมา  ต่างๆ  นานา  คือผมต้องการจะหยุดคิดแล้วก็อยากรู้ทางแก้ปัญหาชีวิต ตอนน ี้  เมอื่ กอ่ นไปหาหมอดหู มอผเี ขาบอกผมมเี ทพมเี จา้ กรรมนายเวร  อะไรพวกนี้  ผมเลยอยากรู้ว่าผมเป็นอะไรกันแน่ครับ  โรคทางร่างกาย  หรือโรคกรรม  แล้วพอจะมีทางออกไหมครับ  เร็วๆ  น้ีมีพระจะให้ผมไป  บวช ๑ พรรษานี่ถูกต้องหรือเปล่าครับ ขอบคณุ ครับ   ตอบ สงสัยว่าสารเสพติดที่คุณพูดถึงนั้นคืออะไร  ถ้าไม่บอกมาให้ชัดก ็ ตอบไม่ได้ว่าควรจะท�ำอย่างไรต่อไป  น่าจะลองไปปรึกษาจิตแพทย์ดู  คงจะได้ค�ำแนะน�ำอะไรมาบ้าง การท�ำสมาธิวปิ ัสสนาเป็นของดี แตถ่ ้า  ทำ� ไมถ่ ูกวิธีกม็ ผี ลเสียไดเ้ หมอื นกนั   คำ� ถามท ี่ ๑๒๓๕ ขี้กลัว ขี้กงั วลนี ่ แก้อย่างไรครับ   ตอบ ถามว่ากลัวอะไร  กังวลเรื่องอะไร  ต้องแก้เป็นเรื่องๆ  ไป  ไม่ใช่ยา  ขนานเดียวแกไ้ ด้ทุกโรค 

104 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ คำ� ถามที่ ๑๒๓๖ สวัสดีครับอาจารย ์ ผมไดเ้ คยอ่านพระวินัยมาบา้ งเลยทราบมาว่า  พระท่านสามารถบิณฑบาตได้ต้ังแต่พระอาทิตย์ขึ้นแลเห็นลายมือ  เส้นใหญ่  จนถึงเวลาก่อนเที่ยงเพ่ือให้กลับมาฉันก่อนเท่ียง  (อันน้ีเป็น  ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ)    ในสมัยพุทธกาลตอนท่ีพระพุทธเจ้า  ยังมีพระชนม์ชีพอยู่  ยังมิได้บัญญัติพระวินัยเรื่องฉันเร่ืองบิณฑบาต  ตา่ งคนตา่ งทำ� หนา้ ทคี่ อื เผยแผส่ งั่ สอนธรรม บางทา่ นกฉ็ นั เชา้  บางทา่ น  ก็ฉันเท่ียง  ไม่รู้มีบางท่านฉันเย็นด้วยหรือเปล่า  มันคงดูไม่เป็นระบบ  ระเบียบ  และแบบอย่างของพระใหม่  ถึงแม้พระสงฆ์ที่เป็นพระอรหันต์  จะไม่ยึดม่ัน และท�ำอะไรด้วยกิเลสตัณหา แต่ก็ยังเป็นแค่ผู้ปฏิบัติตาม  เป็นผู้บรรลุตาม  มองการณ์ไม่ได้ไกลเท่าพระพุทธเจ้าท่ีเป็นสัพพัญญู  แต่ที่บัญญัติน้ีคงมีเหตุเกิดข้ึนจึงทรงบัญญัติเพ่ือความน่าเลื่อมใสแก ่ ผพู้ บเหน็  แตเ่ ดยี๋ วนมี้ คี นถามกนั เยอะวา่  เอ! ท�ำไมยงั เหน็ พระสงฆท์ า่ น  มาบิณฑบาตเช้าบ้าง แต่ก็ยังเห็นพระมาบิณฑบาตตอนสายบ้าง ผมก็  เลยอยากได้ข้อคิดเห็นที่อาจจะเป็นข้อยุติเกี่ยวกับเรื่องนี้เพ่ือให้ค�ำตอบ  แกพ่ วกผใู้ ฝธ่ รรมทต่ี อ้ งการเรม่ิ ตน้  กระจา่ งและแจม่ แจง้ ขนึ้ มาบา้ ง เลย  ขอถามผู้รูอ้ ยา่ งอาจารย์มา ณ ทีน่ ด้ี ว้ ยครับ ขอบคณุ ครับ ตอบ การบิณฑบาตของพระสงฆ์นั้นท�ำได้ต้ังแต่รุ่งอรุณไปจนถึงก่อน  เที่ยง  สมัยพุทธกาลเคยมีพระออกบิณฑบาตกลางคืน  ชาวบ้านตกใจ  กลัวคิดว่าผีหลอก  พระพุทธเจ้าทรงทราบ  ตรัสห้ามเสีย  เคยมีพระฉัน  อาหารเย็นเหมือนกัน  พระพุทธเจ้าทรงทราบ  ตรัสขอร้องให้งดเสีย  ให้  ฉันเฉพาะเช้าถึงเทย่ี ง เวลานี้พระสงฆส์ ่วนมากก็ปฏิบัตติ ามน้ี

สนทนาธรรมกบั 105 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ค�ำถามท ่ี ๑๒๓๗ สวสั ดคี ะ่  หนไู ดอ้ า่ นหลกั ความเชอ่ื  “หลกั กาลามสตู ร” พอไดอ้ า่ น  แล้วรู้สึกถึงการให้อิสระในความเช่ือ  แต่ให้ใช้ปัญญามากกว่า  คือยัง  ไมเ่ ชอ่ื แตใ่ หฟ้ งั ดว้ ยดนี ำ� เอาไปปฏบิ ตั หิ รอื พจิ ารณาดว้ ยด ี แลว้ จงึ ปลงใจ  เชื่อ  ชอบใจตรงข้อสุดท้ายที่ว่า  อย่าเพ่ิงเชื่อแม้แต่ครูอาจารย์ของเรา  หรอื ผพู้ ดู เปน็ สมณะทเ่ี ราควรเชอ่ื โดยสนทิ ใจ  พระพทุ ธเจา้ ทา่ นไดใ้ หอ้ สิ ระ  ทางปัญญาเราขนาดที่ว่า  แม้แต่ออกมาจากปากของท่าน  พวกเธอก็  อย่าเพ่ิงเชื่อ  หนูไม่เห็นว่าจะมีศาสนาอะไรสอนให้มีปัญญาได้ขนาดน ้ี มีแต่ว่าถ้าไม่เช่ือบทบัญญัตินี้ก็บาปเลย หนูก็เลยท�ำตัวเป็นลูกศิษย์ที่ดี  คอื  ยงั ไมค่ อ่ ยเชอื่ อะไรงา่ ยแตเ่ อาไปปฏบิ ตั กิ อ่ น ถา้ ดคี อื ลดทกุ ขล์ ดโทษ  ลงได้หนูก็สมาทานค่ะ  หลัก “กาลามสูตร” น้ีหนูเอาไปสอนเด็กกับผู้ท่ี  เรมิ่ ศกึ ษาพทุ ธศาสนาใหมๆ่  หนรู สู้ กึ ไดถ้ งึ ผลลพั ธท์ ไ่ี มค่ อ่ ยดที ห่ี นจู บั จดุ   ได้  คือ  หลักกาลามสูตรน้ีน่าจะเหมาะสมกับผู้ที่ได้ศึกษามาบ้างหรือ  พอจะมีปัญญาในทางธรรมมาบ้าง  แต่ถ้าเป็นเด็กๆ  พวกเขาจะไม่เชื่อ  อะไรเลย (เลอื กทจี่ ะเชอ่ื ในสงิ่ ทเี่ ขา้ กนั ไดก้ บั นสิ ยั ) หนสู อนอะไร พวกเดก็   ก็จะอ้างว่าไม่เช่ือ  บอกว่า  พระพุทธเจ้าสอนว่าอย่าเชื่อ  มันเป็น  อย่างนี้ค่ะ  ฟังก็ไม่ครบถ้วนแล้วด่วนตัดสินใจ  แล้วเอามาอ้างให้  คล้อยตามใจหรือนิสัยตน  ถ้าเป็นอาจารย์  จะมีอุบายวิธีในการสอน  เด็กๆ  อย่างไรดีคะ  อย่างนี้ถือว่าหนูคัดเลือกธรรมไม่เหมาะสมแก ่ พวกเขาหรือเปล่าคะ  ธรรมะมีหลายระดับเราไม่สามารถหว่านไปได้  ทุกเพศทุกวัย หรือเก่ยี วกบั ระดบั สติปัญญาอย่างเดียวเท่านั้นคะ ตอบ ความเห็นของคุณถูกต้องดีแล้ว  หลักกาลามสูตรนั้นไม่เหมาะ

106 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ สำ� หรบั สอนเดก็  เหมาะส�ำหรบั ผใู้ หญท่ ม่ี วี ยั วฒุ  ิ คณุ วฒุ พิ อสมควรแลว้   ท่ีพระพุทธเจ้าตรัสเรื่องน้ีก็ตรัสกับชาวกาลามะผู้มีภูมิปัญญามากแล้ว  ไตรต่ รองใครค่ รวญไดเ้ องแลว้  การสอนธรรมะ เราตอ้ งเลอื กบคุ คลและ  เลือกธรรมะท่ีจะสอนกับบุคคลนั้นๆ  จึงจะได้ผลดี  มิฉะน้ันก็สูญเปล่า  เหมอื นหวา่ นพชื ลงบนหนิ  ขอช่ืนชมคุณที่มคี วามเห็นอนั ถกู ต้องดีแลว้ ค�ำถามที ่ ๑๒๓๘ สวสั ดคี รบั อาจารย ์ เหน็ วยั รนุ่ หนมุ่ สาวสมยั นน้ี ยิ มอา่ น พระพทุ ธพจน ์ เพราะมีพระอาจารย์ท่านหน่ึงได้ปลุกกระแสให้อ่าน  โดยไม่ให้ความ  ส�ำคัญกับคัมภีร์ชั้นหลังๆ  มากเกินไป  หรือธรรมอ่ืนท่ีสาวกได้รจนาขึ้น  อยา่ งนเ้ี ปน็ ความคดิ สดุ โตง่ หรอื เปลา่ ครบั  แลว้ เราจะพอรไู้ ดบ้ า้ งไหมครบั   วา่ คำ� ไหนเปน็ คำ� สอนของพระพทุ ธเจา้  มหี ลกั ไหนสอบสวนบา้ งครบั  จะ  ได้เอาไวเ้ ป็นตะแกรงร่อนธรรม ขอบคุณครบั ตอบ อา่ นพระพทุ ธพจนน์ น้ั เปน็ สง่ิ ทด่ี  ี แตไ่ มค่ วรปฏเิ สธคมั ภรี ร์ นุ่ หลงั เสยี   ทั้งหมด  เพราะคัมภีร์รุ่นหลัง  เช่น  อรรถกถา  ก็มีประโยชน์มาก  ปกรณ์  พเิ ศษเชน่  วสิ ทุ ธมิ รรค และ มงั คลตั ถทปี น ี กม็ สี าระและมปี ระโยชนม์ าก  การชพู ระพทุ ธพจนน์ นั้ เปน็ เรอ่ื งด ี แตค่ วรอา่ นและท�ำความเขา้ ใจคมั ภรี ์  รุ่นหลังด้วย  ความเห็นผมเป็นอย่างน้ี  แม้พระไทยท่ีเขียนหนังสือเป็น  ภาษาไทยก็มีประโยชน์มากซึ่งควรอ่านด้วยเหมือนกัน  มิฉะนั้นเราจะ  แคบไป การขดุ บอ่ นน้ั ถา้ ลกึ อยา่ งเดยี วไมม่ สี ว่ นกวา้ ง ยง่ิ ลกึ กย็ ง่ิ มดื  ควร  จะใหม้ ีส่วนกว้างพอสมควร มสี ภุ าษติ อยบู่ ทหนึง่ ว่า

สนทนาธรรมกบั 107 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ “รบู้ างสงิ่ บางอยา่ งในทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ ง รทู้ กุ อยา่ งในบางสง่ิ บางอยา่ ง เป็นลกั ษณะของผ้มู กี ารศกึ ษาด”ี คำ� ถามที ่ ๑๒๓๙ สวัสดีครับ  โทษประหารชีวิตเหมาะสมหรือผิดต่อหลักของพุทธ-  ศาสนาหรือไม่  ผมได้ยินผู้รู้ท่านอ้างมาว่า  ถ้ายอมรับกฎโทษประหาร  ก็ต้องยอมรับความจริงคือถ้าฆ่าก็บาป  ความจริงคือห้ามฆ่า  แต่ถ้าฆ่า  ก็ต้องบาป  จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็บาปมากบาปน้อย  คือธรรมะ  ลงโทษ  สว่ นทางเจา้ หนา้ ทปี่ ระหารถา้ ทำ� จนรสู้ กึ ชนิ ชาหรอื มคี วามคดิ วา่   ไอค้ นเลวตายซะเถอะ อยา่ งนถี้ า้ เขาไมท่ ำ� หนา้ ทกี่ ไ็ มเ่ หมาะสม แตถ่ า้ ทำ�   กบ็ าปไปตามสดั สว่ นของเจตนา  ผมมคี วามเหน็ ของผมวา่  ตอ้ งถอื ธรรม  หรือความจริงเป็นใหญ่แล้วเอามาวางเป็นฐานแล้วเอามาใช้จริงเป็น  วินัย  คนส่วนใหญ่ไม่มีศีลธรรม  อย่างนั้นแล้วถ้าเราไม่เอาโทษประหาร  เป็นอาญา  ผู้ปกครองประเทศคงต้องท�ำงานเผยแผ่ธรรมะกันอย่าง  หนกั  ผมเหน็ แกป้ ญั หากนั ทป่ี ลายเหต ุ อยา่ งนใี้ ชเ้ งนิ ทนุ กนั แกป้ ญั หากนั   เท่าไหร่ก็คงไม่ดีข้ึน  ต่อให้ประชาชนมีอันจะกิน  แต่ก็คงจะไม่พอใจ  พวกเขาไดห้ รอกครบั  แลว้ อาจารยม์ คี วามเหน็ อยา่ งไรกบั เรอ่ื งนบี้ า้ งครบั   ขอความเมตตาตอบดว้ ยครับ ตอบ โทษประหารชวี ติ  เหน็ มมี าตลอดประวตั ศิ าสตรข์ องมนษุ ยชาตแิ ละ  มีอยู่ท่ัวโลก  แสดงว่าเป็นความจ�ำเป็นทางรัฐศาสตร์  บุคคลผู้ท�ำผิด  กฎหมายย่อมได้รับโทษตามกฎหมายลดหลั่นกันลงมา  การฆ่าคนหรือ 

108 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ฆ่าสัตว์ย่อมผิดศีลข้อปาณาติบาต  แต่ถ้าจ�ำเป็นต้องท�ำเขาก็ท�ำ  เช่น  ทหารออกรบ  เจ้าของบ้านก�ำจัดปลวกที่ข้ึนกินบ้าน  เป็นต้น  ยังมีเร่ือง  อ่ืนๆ  อีกมากมายที่อยู่ในลักษณะจ�ำเป็นต้องท�ำ  คนที่มีชีวิตอยู่ได้โดย  ไม่ต้องท�ำบาปจึงถือว่าเป็นคนโชคดีมาก  ปัญหาของคุณเป็นปัญหา  ที่คิดกันมาตลอดกาลยาวนาน  การสอนให้คนเป็นคนดีมีศีลธรรมเป็น ทางออกทางหนง่ึ ของปญั หาน ้ี ถงึ กระนน้ั มนษุ ยก์ ย็ งั เบยี ดเบยี นกนั ไมเ่ วน้   แต่ละวัน  ข่มเหงรังแกแม้ต่อเด็กและผู้หญิง  เป็นเร่ืองน่าเศร้าสลดใจ  อย่างย่ิง น่าเศร้าใจจริงๆ ที่สังคมของเราไม่ปลอดภัย อยู่กันอย่างมีภัย  รอบดา้ น รอดชวี ติ ไปไดว้ นั หนึ่งๆ ก็นับว่าโชคดแี ล้ว คำ� ถามท่ี ๑๒๔๐ พระพทุ ธองคต์ รสั สอนอนสุ ต ิ ๑๐ กบั ใครและทใี่ ดคะ มเี หตอุ นั ใด  จึงตรสั สอนธรรมบทน้คี ะ ตอบ อนสุ ติ ๑๐ พระพุทธเจา้ ตรัสสอนภิกษทุ ัง้ หลายในฐานะเปน็ ธรรม  เปน็ ไปเพอ่ื ความเบอื่ หนา่ ย คลายกำ� หนดั  ฯ นพิ พาน ปรากฏใน องั คตุ ตร- นิกาย  เอกนิบาต  หน้า  ๓๙-๔๐  ข้อ  ๑๗๙-๑๘๐  ตรัสว่า  แต่ละอย่าง  มีพุทธานุสติ  เป็นต้น  จนถึง  อุปสมานุสติ  เป็นไปเพื่อนิพพานท้ังน้ัน  หมายความว่า เจริญแล้วท�ำให้มากแล้ว ยอ่ มท�ำใหถ้ งึ ทสี่ ุดทุกขไ์ ด้

สนทนาธรรมกับ 109 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ คำ� ถามที่ ๑๒๔๑ เราจะปลอบใจและให้ก�ำลังใจบุคคลที่เดินทางชีวิตผิดหรือได ้ หลงผิดไปในบางเร่ืองบางส่ิง  ที่เขาคิดว่าเลวร้ายแต่อยากจะกลับตัว  กลบั ใจใหมด่ ว้ ยค�ำพดู อยา่ งไรดีคะ ตอบ ไม่มวี ันสายสำ� หรบั การกลบั ตัว  ค�ำถามท ่ี ๑๒๔๒ หนูยังมีข้อสงสัยค�ำถามข้อท่ี  ๑๒๓๓  ท่ีว่า  พระโสดาบันละความ  ตระหนี่ได้เด็ดขาดแล้ว เป็นดังนั้นหรือคะ ไม่ทราบพระพุทธองค์ตรัสไว้  ทใี่ ดคะ ความตระหน ี่ ในทนี่ ห้ี มายถงึ ลาภมจั ฉรยิ ะเพยี งอยา่ งเดยี ว หรอื   ความโลภอนื่ ๆ บางประเภทดว้ ยคะ กราบขอบพระคณุ ทา่ นอาจารยแ์ ละ  ทา่ นผูถ้ ามด้วยนะคะ ตอบ พระโสดาบนั ละความตระหนไ่ี ด้ทกุ อย่างทงั้  ๕ อย่าง คอื ๑. ลาภมจั ฉรยิ ะ ตระหนลี่ าภ ๒. อาวาสมจั ฉริยะ ตระหน่ีทอี่ ยู่ ๓. กลุ มจั ฉริยะ ตระหนต่ี ระกูล ๔. วณั ณมจั ฉรยิ ะ ตระหน่ีวรรณะ ๕. ธมั มมัจฉรยิ ะ ตระหน่ีความรู้ (อังคุตตรนิกาย  ปัญจกนิบาต  พระไตรปิฎก  เล่ม  ๒๒  ข้อ  ๒๕๔  หนา้  ๓๐๑)

110 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ค�ำถามที ่ ๑๒๔๓ บาปทท่ี ำ� กบั ลกู เมยี เขาโดยหญงิ เปน็ ฝา่ ยเรม่ิ กอ่ น ผมเองบาปมาก  ไหมครบั   ตอบ ค�ำถามไม่ชัดเจน  ไม่ทราบว่าเป็นลูกเขาหรือเป็นเมียเขา  ถ้า  เป็นเมียเขาก็ไม่ควรท�ำ  แม้เขาจะเริ่มก่อนก็ตาม  ถ้าเป็นลูกเขาบรรล ุ นติ ภิ าวะแลว้  รบั ผดิ ชอบตวั เองไดแ้ ลว้  เปน็ อสิ ระแกต่ วั  กไ็ มบ่ าป แตว่ า่   ให้ระวังปัญหาต่างๆ ท่ีจะตามมาภายหลัง ปัญหาที่คุณถามน้ีเป็นเรื่อง  พูดยาก  พูดข้ึนทีไรก็มีเง่ือนไขมีข้อโต้แย้งต่างๆ  มากมายทุกคราวไป  มันเป็นปัญหาสังคมดว้ ย ไมใ่ ชป่ ัญหาทางศลี ธรรมอยา่ งเดียว คำ� ถามท่ี ๑๒๔๔ เวลาทพ่ี ระสวด “อนจิ จา วะตะสงั ขารา” ในงานศพ เราตอ้ งพนมมอื   ไหวห้ รอื เปลา่ คะ ตอบ ควรทีเดียว  เพราะน่ันคือพระธรรมค�ำสอนที่ดีมาก  ใจความว่า  “สงั ขารทงั้ หลายไมเ่ ทย่ี งหนอ มคี วามเกดิ ขนึ้ และดบั ไปเปน็ ธรรมดา เกดิ ขึ้นแล้วก็ดับไป การสงบสังขารเสียได้เปน็ สขุ ” คำ� วา่  “สงั ขาร” หมายได ้ ๒ อยา่ ง คอื  สงั ขารทเี่ ปน็ รปู ธรรม สงั ขาร  ทเ่ี ปน็ นามธรรม ไดแ้ ก ่ ความคดิ ปรงุ แตง่ ตา่ งๆ เชน่  สงั ขารทกี่ ลา่ วถงึ ใน  ขนั ธ ์ ๕

สนทนาธรรมกับ 111 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ค�ำถามที ่ ๑๒๔๕ ในใจหนูมีแต่ความไม่พอใจเรื่องคนอยู่ตลอดเวลา  ไม่ว่าจะรู้จัก  หรือไม่ก็ตาม  เช่น  เวลาขึ้นรถโดยสาร  (สองแถว...บ้านอยู่ต่างจังหวัด)  คนสว่ นมาก ๙๙ % ไมย่ อมนงั่ ตวั ตรงจะนงั่ เอยี งหนั ขา้ งไปทางหนา้ ตา่ ง  รถ  ไม่ยอมกระเถิบเข้าไปข้างใน  คนท่ีขึ้นมาทีหลังก็ต้องน่ังเบียด  หนูก ็ จะโมโหและด่าพวกเขาในใจว่าไม่มีวัฒนธรรม  หรือในท่ีท�ำงานคนจบ  ระดบั ปรญิ ญาตร-ี โทดว้ ยซำ้�  ชอบคยุ กนั ขวางทางเขา้ ออกทางประต ู หรอื   ทางเดินบันได  คนต้องเดินผ่านก็ไม่รู้จักหลบไปทางเดียวกัน  หรือขยับ  ถอยออกไป  หนูก็จะโมโหมากและด่าเขาในใจอีกว่าพวกไม่มีมารยาท  หนเู กลยี ดมาก  อกี เรอ่ื งกค็ อื การไมเ่ ขา้ แถวตามลำ� ดบั ควิ  ไมว่ า่ ใครถา้ มา  แซงควิ  หนจู ะวา่ เขาและดา่ ดว้ ยสายตาอยา่ งแรงและจะไมใ่ หอ้ ภยั ดว้ ย  ในสังคมนอกจากนิสัยคนที่กระท�ำเลวแล้ว  ยังมีนิสัยคนท่ีไม่มีมารยาท  ทางสังคมอีกเยอะท่ีเราต้องพบเจออยู่ทุกวัน  ท�ำให้หนูหงุดหงิด  โมโห  และเก็บมาเป็นอารมณ์ขุ่นมัวในจิตใจ  รู้ว่าไม่ดีแต่ก็เป็นอย่างน้ีทุกวัน  วันละหลายๆ  ครั้ง  ไม่ได้ว่าตัวเองดี  แต่หนูไม่เคยท�ำพฤติกรรมดังเช่น  ท่ีว่ากล่าวคนอื่นค่ะ  อาการอย่างนี้หนูจะแก้ไขตัวเองอย่างไรดีคะ  ต้อง  ไปปรกึ ษาจติ แพทยห์ รือเปลา่ คะ ตอบ ไปปรึกษาจิตแพทย์ก็ได้  แต่ก่อนจะไปปรึกษาจิตแพทย์ลองฝึก  ใหอ้ ภยั ด ู วา่ คนเราเกดิ มาไมเ่ หมอื นกนั  ไมเ่ ทา่ เทยี มกนั ในหลายๆ อยา่ ง  เช่น  การศึกษา  การอบรม  การฝึกฝนตนเอง  ตัวเราเองเราก็ไม่รู้ว่าเป็น  ทรี่ ำ� คาญของใครบา้ งหรอื เปลา่  เราอยใู่ นสงั คมตอ้ งเตรยี มใจใหอ้ ภยั ทาน  อยู่เสมอ  คุณก็น่าจะมีความสุขข้ึน  เห็นใจคุณจริงๆ  แต่ลองท�ำดูตาม 

112 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ที่แนะน�ำอาจจะได้ผล  เคยมีนิทานเล่าไว้เรื่องหน่ึง  ขอให้คุณฟังอย่าง  นิทาน  คือ  ที่ศาลาพักคนเดินทางแห่งหนึ่ง  กลางคืนคนนอนเรียงกัน  ม ี ผีตนหน่ึงเห็นคนนอนไม่มีระเบียบ  จึงไปดึงศีรษะให้เท่ากัน  แต่พอมา  มองดทู เ่ี ทา้  เทา้ กไ็ มเ่ ทา่ กนั  จงึ ดงึ เทา้ ใหเ้ ทา่ กนั  ไปดทู ศ่ี รี ษะกไ็ มเ่ ทา่ กนั อกี   เพราะคนสูงต่�ำไม่เท่ากัน  ผีตนนั้นท�ำอยู่เช่นนี้เป็นเวลานานแต่ไม่อาจ ให้ส�ำเร็จได้  ท่านเล่าเร่ืองน้ีไว้เพ่ือสอนใจว่า  คนในสังคมก็ไม่เท่าเทียม กนั ดังกล่าวมาแล้ว  คำ� ถามท ่ี ๑๒๔๖ เรยี นทา่ นอาจารยว์ ศนิ ทเี่ คารพ หนไู ดร้ บั หนงั สอื จากทา่ นผมู้ ใี จอารี  ท่านหน่ึงช่ือ  วิธีสร้างความดีและความมีเงื่อนไขของกรรม  เมื่ออ่านถึง  ตอนชาดกเร่ืองดาบสกับคนแจวเรือจ้างแล้ว  ท�ำให้หนูนึกได้ว่าหนูเคย  สงสยั มานานแลว้ วา่  เพราะเหตใุ ดพระพทุ ธเจา้ จงึ กลา่ วกบั นางมาคนั ทยิ า  ว่า  “ไม่อยากจะถูกต้องนางมาคันทิยาแม้ด้วยเท้า”  หนูเชื่อว่าจะต้องม ี เหตุอันสมควร  และข้อคิดท่ีดีจากเร่ืองนี้ท่ีหนูจนปัญญาจะเข้าใจได้ค่ะ  จึงขอรบกวนเรียนถามค่ะ  ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ  และขอให ้ คณุ พระชว่ ยคมุ้ ครองใหท้ า่ นอาจารยม์ สี ขุ ภาพแขง็ แรง ชว่ ยใหแ้ สงสวา่ ง  แกพ่ วกเราไปนานๆ คะ่ ตอบ ท่านกล่าวว่า พระพุทธเจ้ามุ่งเอาความสำ� เร็จมรรคผลของมารดา  บิดาของนางมาคันทิยาจึงตรัสเช่นน้ัน  หลายคนสงสัยเช่นเดียวกับคุณ  เพราะมีเหตุร้ายมากมายเกิดข้ึนภายหลัง  เพราะการกระท�ำของนาง 

สนทนาธรรมกับ 113 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ มาคันทิยา ผูกพยาบาทในพระผู้มีพระภาค  แต่เรื่องพุทธวิสัยเป็น  อจนิ ไตยอยา่ งหนงึ่  ทา่ นบอกวา่ หา้ มคดิ เพราะไมใ่ ชส่ ง่ิ ทเี่ ราจะคดิ เอาได้  หรอื รู้ไดด้ ว้ ยความคดิ  ผมกค็ งตอบได้เท่าน้ี ค�ำถามท่ี ๑๒๔๗ สวสั ดคี รบั  ผทู้ ก่ี ระท�ำอนนั ตรยิ กรรมไมส่ ามารถกระท�ำนพิ พานให้  แจ้งได้ เพราะจติ ยงั จดจ�ำการกระท�ำอนั เปน็ กรรมหนกั ไวห้ รือเปล่าครับ ตอบ ทา่ นกลา่ ววา่  ผทู้ ท่ี �ำอนนั ตรยิ กรรมแลว้ ไมอ่ าจไปสวรรคไ์ มอ่ าจถงึ   นิพพานได้ในชาติน้ีและชาติหน้า  คติในสัมปรายภพตกนรกอย่างเดียว  หมายความวา่ เขาต้องตกนรกแน่นอน อนนั ตริยกรรม ๕ คือ ๑. ฆา่ มารดา ๒. ฆ่าบดิ า  ๓. ฆ่าพระอรหนั ต์ ๔.  ท�ำร้ายพระพุทธเจ้าถึงโลหิตห้อ  แปลว่า  ช�้ำเลือด  เพราะม ี ธรรมดาอยวู่ า่  ใครจะทำ� รา้ ยพระพทุ ธเจา้ จนพระโลหติ ออกจากรา่ งกาย  ไม่ได้ ๕. สงั ฆเภท คือ ท�ำสงฆ์ใหแ้ ตกกัน

114 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ คำ� ถามที ่ ๑๒๔๘ สวัสดีค่ะ อาจารย์ที่เคารพ ถามว่าควรแนะนำ� ผู้ท่ีกลัวไม่มีคนรัก  แครค์ นรอบขา้ งไปหมด แลว้ เขากท็ กุ ขเ์ พราะขาดความอบอนุ่ ทตี่ อ้ งการ  บอกเขาอย่างไรดีท่ีจะอยู่คนเดียวให้ได้ ยืนได้ด้วยตนเอง ขอบพระคุณ  คะ่ ตอบ มสี ภุ าษติ ฝรงั่ อยบู่ ทหนง่ึ วา่  “คนโงเ่ ทา่ นนั้ ทจ่ี ะสามารถท�ำใหท้ กุ คน  พอใจได”้  (Only a fool can please everybody.) นอกจากน ้ี ควรให ้ เขาสำ� เหนยี กบอ่ ยๆ วา่  มคี นรกั กเ็ ปน็ ทกุ ข ์ มคี นเกลยี ดกเ็ ปน็ ทกุ ข ์ แตข่ อ  ให้ท�ำใจไว้ว่า  คนเกลียดไม่กลัว  กลัวคนรัก  เพราะถ้าคนเขาเกลียดเรา  เราก็ไม่มีภาระเก่ียวกับคนน้ัน  แต่ถ้ามีคนมารักเราก็ต้องมีภาระกับเขา  ในโอวาทปาฏโิ มกข ์ (คำ� สอนอนั เปน็ หลกั ของพระพทุ ธเจา้ )  มอี ยขู่ อ้ หนง่ึ   วา่  “ทนี่ อนทนี่ งั่ อนั สงดั  เปน็ คำ� สอนของพระพทุ ธเจา้ ” หมายความวา่  ให้  เรายินดีในทส่ี งบสงดั  ไมพ่ ลุกพลา่ นด้วยผ้คู น คำ� ถามท่ี ๑๒๔๙ สวสั ดคี รับ มคี นฝากมาถามครบั ว่า การถือศลี  ๘ มันเปน็ ความดี  อยา่ งไร คนถามเขาออกความคดิ เหน็ วา่  มนั ไมส่ ดุ โตง่ ไปหนอ่ ยหรอื  ตอ้ ง  อดข้าวเย็น  งดดูละคร  ห้ามประพรมเครื่องหอมต่างๆ  ผมอธิบายไป  เล็กน้อยตามท่ีผมเข้าใจว่า  มันเป็นการศึกษาเพ่ือออกไปจากกาม  ไม่ยึดติดความสุขท่ีต้องพ่ึงปัจจัยภายนอก  ผมตอบไปอย่างนั้น  แต ่ ความหมายจรงิ ๆ ตอ้ งรบกวนอาจารยเ์ มตตาตอบดว้ ยครบั   ในสว่ นคำ� ถาม 

สนทนาธรรมกับ 115 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ของผม ทางสายกลางของพระพทุ ธเจา้ ทา่ นหมายถงึ อรยิ มรรคมอี งค ์ ๘  คือทางท่ีพอดีแก่การพ้นทุกข์ใช่หรือเปล่าครับ  ส่วนตัวถ้าใครคิดว่ามัน  ตึงไปโดยเอาตัวเองในทางโลกไปตัดสิน มันก็คงตึงถูกต้องแล้วสำ� หรับ  ตัวคนๆ นั้น เพราะเวลาทผ่ี มถอื ศีลอโุ บสถ แลว้ ตอ้ งไปงานเลี้ยงอาหาร  กม็ พี วกมาถามวา่  ทำ� ไมไมท่ านขา้ วเยน็  ผมกต็ อบไปวา่  วนั นอ้ี ยอู่ โุ บสถ  พวกเขาก็หัวเราะแล้วบอกว่า  อย่าเคร่งให้มาก  ตึงไปแล้ว  ทรมาน  ตวั เองเปลา่ ๆ แตใ่ นความรสู้ กึ ของผมผมกลบั ไมร่ สู้ กึ วา่ มนั เครง่  (เครง่ ครดั   แต่ไม่เคร่งเครียด)  กลับรู้สึกเบาสบายดี  ท่ีไม่ต้องพ่ึงพาของพวกนี้มาก  อาจารย์มีค�ำอธิบายดีๆ  เก่ียวกับเร่ืองการปฏิบัติว่าเคร่งหรือไม่เคร่ง  อย่างไรบ้างครบั  ขอบคุณครบั ตอบ ศลี  ๘ เปน็ แนวทางหนง่ึ ในการลดละกเิ ลสใหเ้ บาบาง อาจทำ� ไมไ่ ด้  ส�ำหรับบางคน  แต่ส�ำหรับบางคนเขาท�ำได้โดยไม่เดือดร้อน  ส�ำหรับ  คนทห่ี นกั ใจในเรอื่ งการรกั ษาศลี  ๘ เพราะตอ้ งอดขา้ วเยน็  ตอ้ งเวน้ จาก  ที่นอนอ่อนนุ่ม  เว้นจากแต่งเน้ือแต่งตัวด้วยของหอม  เว้นจากดูหนัง  ละครอันไม่เกี่ยวกับธรรม  ขอแนะน�ำให้รักษาศีลกรรมบถ  ๑๐  ซ่ึงม ี ขอ้ ปฏบิ ตั ทิ างกาย ๓ ทางวาจา ๔ ทางใจ ๓ ซง่ึ ดแู ลว้ ละเอยี ด ประณตี   และตอ้ งฝกึ ฝนจติ ใจดว้ ย ไมใ่ หโ้ ลภ ไมใ่ หพ้ ยาบาท ไมใ่ หม้ คี วามเหน็ ผดิ   จากท�ำนองคลองธรรม  ผมคงไม่ต้องแจงรายละเอียดเร่ืองกุศลกรรม-  บถ ๑๐ ถา้ บคุ คลใดตงั้ อยใู่ นกศุ ลกรรมบถ ๑๐ และบญุ กริ ยิ าวตั ถ ุ ๑๐  ก็ปลอดภัยทงั้ ในชีวติ น้ีและชีวติ หนา้ ขอขอบคณุ มา ณ โอกาสนี้ด้วยสำ� หรบั ทกุ ๆ ค�ำถาม

116 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ คำ� ถามท ่ี ๑๒๕๐ เรียนท่านอาจารย์ท่ีเคารพ  คนคนหน่ึงมีความปรารถนาท่ีจะได้  ชีวิตหน้าที่แวดล้อมอยู่ด้วยเหล่ากัลยาณมิตร  อยากได้พ่อ  แม่  พ่ีน้อง  ครู  เพื่อนท่ีส่งเสริมให้เขาเจริญในธรรมยิ่งๆ  ข้ึน  เขาเล่าว่าได้พยายาม  ทำ� ตวั เปน็ กลั ยาณมติ รกบั ทกุ ๆ คน ดว้ ยปรารถนาสง่ิ นตี้ อบแทน และเขา  ได้ท�ำความดีพิเศษเช่น  ถือศีล  หรือกินเจ  ในวันครบรอบวันเกิด  วัน  อุปสมบท  หรือวันเสียชีวิตของครูอาจารย์ทางธรรมที่เขาศรัทธา  เพราะ  เขาเช่ือว่าจะช่วยให้เขาสมปรารถนาในเร่ืองน้ีได้ง่ายข้ึน  ท่านอาจารย์  วา่ เปน็ เหตุและผลกันไหมคะ ตอบ ถา้ คณุ อยากไดก้ ลั ยาณมติ ร คณุ กต็ อ้ งท�ำตวั เปน็ กลั ยาณมติ รของ  ใครตอ่ ใครกอ่ น ทจี่ รงิ ควรจะตงั้ ใจวา่  เราจะเปน็ เพอื่ นทดี่ ขี องคนทเี่ ขา้ มา  เก่ยี วข้อง แทนการอ้อนวอนขอร้องวา่ ใหเ้ ขาเป็นมติ รที่ดีของเรา ค�ำถามที ่ ๑๒๕๑ เรยี นทา่ นอาจารยท์ เี่ คารพ ถา้ ใครคนหนง่ึ เขามาดถู กู เราแลว้ ทำ� ให ้ เรามคี วามเพยี รทจี่ ะเลา่ เรยี นหรอื ทำ� งาน จนประสบความสำ� เรจ็ อยา่ งยง่ิ   ดว้ ยความเจบ็ ใจในคำ� ดถู กู นน้ั  เราจะเรยี กบคุ คลทดี่ ถู กู เราวา่ กลั ยาณมติ ร  ไหมคะ ขอบพระคณุ ค่ะ  

สนทนาธรรมกับ 117 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ตอบ ก็ได้  เพราะคุณมีโยนิโสมนสิการ  ท�ำขยะมูลฝอยให้เป็นปุ๋ย  ท�ำ  มะนาวเปรยี้ วใหห้ วานโดยเหยาะน้�ำตาลลงไป ทำ� คำ� ดถู กู ใหเ้ ปน็ เหมอื น  ยาขมสำ� หรบั แกโ้ รค มคี นได้ดเี พราะมคี นดูถูกมาเยอะแล้ว ค�ำถามที ่ ๑๒๕๒ สวัสดีค่ะ  มีท่านผู้รู้ได้กล่าวไว้ว่า  โลกทั้งโลกถูกขับเคล่ือนไปด้วย  เวทนา  คือ  สุข  ทุกข์  และไม่สุขไม่ทุกข์  หนูอยากทราบว่าเวทนาน้ีเป็น  กลไกการทำ� งานของธรรมชาต ิ เปน็ แคค่ วามรสู้ กึ ตามธรรมชาตเิ ทา่ นนั้ เอง  หรือเปล่าคะ  คือมันเป็นไปเองของประสาทสัมผัส  แต่เราไปให้ความ  สำ� คญั กบั มนั  เชน่  อากาศเยน็  ผวิ หนงั สมั ผสั อากาศนน้ั แลว้ เรารสู้ กึ เยน็   แต่เราเกิดรู้สึกเย็นสบายดี  ตรงนี้เป็นแค่ความรู้สึกตามธรรมชาติ  แต่ถ้าเกิดเรารู้สึกชอบใจตรงน้ีจะกลายเป็นตัณหาไปเพราะเราไป  ยึดความสบายเข้าแล้ว  ไม่รู้หนูเข้าใจถูกหรือเปล่า  อย่างน้ีท่ีพระท่าน  บอกให้เราตัดขบวนการปฏิจจสมุปบาท  ให้ตัดตอนเวทนา  ไม่ให้ไปถึง  ตัณหา  มันก็รู้สึกว่ายากมากๆ  เพราะมันคุ้นและมองไม่ออก  ดูไม่ทัน  เลยคะ่  รบกวนอาจารย์ช่วยอธบิ ายเพิ่มเติมด้วยคะ่  ขอบคณุ ค่ะ ตอบ ความรสู้ กึ รอ้ นหนาวหรอื เยน็ เปน็ โผฏฐพั พะ คอื สง่ิ ทม่ี าถกู ตอ้ งกาย  หรอื เรยี กอกี อยา่ งหนงึ่ วา่ กายวญิ ญาณ ความรสู้ กึ ทางกาย ถา้ เกดิ พอใจ  ก็เป็นสุขเวทนา  ถ้าไม่พอใจก็เป็นทุกขเวทนา  ถ้าเฉยๆ  ก็เป็นอุเบกขา  เวทนา เมอ่ื ไดร้ บั เวทนาแลว้ จะเกดิ ตณั หาหรอื เกดิ ปญั ญา กอ็ ยทู่ โ่ี ยนโิ ส-  มนสิการ หรืออโยนิโสมนสิการ

118 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ค�ำถามที ่ ๑๒๕๓ สวสั ดคี รบั อาจารย ์ “ธรรมะ” คอื อะไร เปน็ อยา่ งไร เพอื่ ใคร รบกวน  ตอบดว้ ยครับ    ตอบ ธรรมะ คอื  คณุ ากร แปลวา่  บอ่ เกดิ แหง่ คณุ ความด ี เพอื่ คนทกุ คน  เพราะฉะนนั้ สงั คมจงึ ตอ้ งมธี รรมะ ถ้าขาดธรรมะกจ็ ะยุ่งเหยงิ กันใหญ่ ค�ำถามที ่ ๑๒๕๔ เดก็ สมยั น ้ี พอ่ แมม่ กั เลยี้ งดอู ยา่ งตามใจ คอยระวงั ไมใ่ หล้ กู ผดิ หวงั   ของเลน่  ของกนิ  ความสะดวกสบายอะไรทพี่ อ่ แมเ่ คยอยากไดใ้ นวยั เดก็   แล้วไม่ได้  ก็ปรนเปรอตามใจลูก  คอยแก้ปัญหาในเร่ืองท่ีควรปล่อย  ให้เขาได้เรียนรู้ผลจากการกระท�ำของเขาเอง  ท�ำให้เด็กสมัยน้ีมีขีด  ความอดทนต่�ำ คดิ วา่ ตนเองเปน็ ผกู้ �ำกบั เหตกุ ารณช์ วี ติ ของตนเอง และ  ผู้อื่นรอบตัว  เวลาเรียนก็คุยกันตามใจชอบ  ชวนครูคุยเรื่องอ่ืนๆ  จน  หมดช่ัวโมงได้ก็ดีใจว่าไม่ต้องเรียน  ไม่ต้องมีการบ้าน  พอพ่อแม่จะดุ  ก็ฉอเลาะ  ชวนพ่อแม่คุยเรื่องอ่ืนจนพ่อแม่ลืมดุ  ลืมสอน  ปัญหาเช่นน้ ี จะชีอ้ ยา่ งไรใหเ้ ดก็ เห็นวา่ เป็นโทษแกต่ วั เองคะ ขอบคณุ อยา่ งยิ่งค่ะ   ตอบ อยา่ ไปตามใจเขามากเกนิ ไป ขดั ใจเสยี บา้ ง สงิ่ ทเ่ี ขาควรจะไดก้ ใ็ ห ้ ไดย้ ากหนอ่ ย อยา่ ใหไ้ ดง้ า่ ยเกนิ ไป เพราะจะทำ� ใหเ้ ขาโง ่ การทเี่ ขาอยาก  ไดส้ งิ่ ใดแลว้ ไดย้ ากนนั้  ท�ำใหเ้ ขามคี วามพากเพยี รมาตง้ั แตเ่ ดก็  จะปลกู  

สนทนาธรรมกับ 119 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ พืชต้องเตรียมดิน  จะสร้างคนต้องสร้างอุปนิสัยของเขาก่อน  อุปนิสัย  นิสยั ดจี ะมอี นาคตทด่ี ี คำ� ถามท ี่ ๑๒๕๕  กราบสวัสดีท่านอาจารย์ที่เคารพ  เรียนถามท่านว่า  ตัณหา  ๓  อปุ าทาน ๔ มรี ายละเอยี ดเปน็ อย่างไร ขอบพระคณุ ทา่ นมากคะ่ ตอบ ตณั หา ๓ คอื   ๑. กามตณั หา การดนิ้ รนทะยานอยากในกามคณุ  ๕ คอื  รปู  เสยี ง  กลิน่  รส โผฏฐพั พะ (ผัสสะทางกาย) ๒. ภวตณั หา ความดน้ิ รนทะยานอยากในความมคี วามเปน็  อยาก  เป็นนน่ั อยากเปน็ นี่ ๓. วภิ วตณั หา ความดนิ้ รนทะยานอยากในความไมม่ ไี มเ่ ปน็  คอื   ความทะยานอยากท่ีเจือด้วยโทสะ  เช่น  อยากด่าคน  อยากฆ่าคน  เป็นต้น อปุ าทาน ๔ คือ ๑. กามปุ าทาน ยดึ มนั่ ในกามคณุ  ๕ ดงั กลา่ วแลว้ ในเรอื่ งตณั หา  เหน็ ว่ากามคณุ  ๕ นเ้ี ทา่ นั้นที่ทำ� ใหไ้ ด้สขุ ๒. ทฏิ ฐุปาทาน ยึดมั่นในความเห็นผิด ทำ� ใหด้ �ำเนินชีวิตผิด ๓.  สีลัพพตุปาทาน  ยึดม่ันในศีลและพรตที่ผิด  ไม่เป็นไปเพื่อ ความสิ้นทกุ ข์ ๔.  อัตตวาทุปาทาน  ยึดม่ันในลัทธิว่ามีตัวตน  พุทธศาสนาสอน เรื่องอนตั ตา ความไม่มตี ัวตนของส่ิงทง้ั หลาย

120 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ คำ� ถามท ่ี ๑๒๕๖ อาจารย์ครับ  อยากทราบว่าการอธิษฐานกับการอ้อนวอนต่างกัน  อยา่ งไรครับ ขอบคณุ มากครบั   ตอบ การอธิษฐานอยู่บนพ้ืนฐานของการท�ำคุณงามความดี แล้วอธิษ-  ฐานขอให้ได้นั่นเป็นนี่  ส่วนการอ้อนวอนนั้นไม่ได้อยู่บนพ้ืนฐานของ  คุณงามความดี  คือ  ไม่ได้สร้างคุณงามความดีอะไร  เพียงแต่อ้อนวอน  ส่ิงศกั ดิส์ ิทธ์ติ ่างๆ ให้ชว่ ยดลบันดาลให้ตนไดใ้ นสงิ่ ท่ีตนปรารถนา ค�ำถามท ่ี ๑๒๕๗ สวสั ดคี รบั  ผมไดอ้ า่ นหนงั สอื ของทา่ นพทุ ธทาส ทา่ นไดก้ ลา่ วไวว้ า่   “ความชั่วและความดี  ล้วนแต่อัปรีย์  คือ  ไม่น่ารัก  ไม่ควรยึดม่ัน”  แต ่ ชาวบา้ นมกั จะถอื เอาความดเี ปน็ บรมธรรม กพ็ าลจะคดิ เอาซะวา่  ไมใ่ ห ้ ทำ� ความด ี  อยา่ งนเ้ี ราควรทำ� ความดเี พอื่ ความด ี เพราะเหน็ เปน็ ประโยชน ์ ตอ่ ผอู้ นื่  ไมไ่ ดม้ งุ่ หมายเอาผลของการท�ำความดเี ปน็ ตวั วตั ถ ุ เชน่  ทรพั ย ์ ยศ อำ� นาจ คำ� สรรเสรญิ  แตม่ งุ่ ผลไปทกี่ ารขดั เกลากเิ ลส คอื  โลภ โกรธ  หลง ในตนออกไป อยา่ งทเี่ รยี กวา่  ทำ� ด ี ดเี สรจ็ แลว้   แลว้ ถา้ เราจะพดู กนั   ในแงร่ ะดบั โลกตุ ระละ่ ครบั  คอื  ตวั สภาวะ หรอื ธรรมะ มนั ไมม่ ดี หี รอื ชว่ั   อยู่แล้ว  มันเป็นแต่เพียงว่า  เมื่อท�ำอย่างนี้มันก็ได้อย่างน้ี  ท�ำอย่างนั้น  มันก็ได้อย่างน้ัน  ทุกๆ  อย่างล้วนเป็นไปตามธรรมดา  ธรรมชาติอย่าง  นั้นๆ  คือความเข้าใจของผมมีอยู่อย่างนี้  ผิดถูกอย่างไรโปรดเมตตา  ช้ีแนะด้วยครบั  ขอบคณุ มากครับ

สนทนาธรรมกบั 121 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ตอบ ท�ำความดีไปก่อน มาถึงที่สุดแล้วค่อยละความดี คำ� สอนซึ่งเป็น  หลักส�ำคัญในพุทธศาสนาในโอวาทปาฏิโมกข์ ก็สอนไว้ว่า ไม่ทำ� บาป  ทั้งปวง  ท�ำความดีให้พรั่งพร้อม  และท�ำจิตให้บริสุทธ์ิ  ทรงแสดงธรรม  เปรยี บเสมอื นเรอื หรอื แพสำ� หรบั ขา้ มฝง่ั  เมอื่ ขา้ มฝง่ั ไดแ้ ลว้ จงึ คอ่ ยทงิ้ เรอื   หรอื แพ เมอื่ ถงึ นพิ พานแลว้ กล็ ะทง้ั ดแี ละชวั่  การกระทำ� ของพระอรหนั ต์  จงึ เป็นเพียงกริ ยิ าไม่เปน็ กรรม คำ� ถามที่ ๑๒๕๘ สวสั ดคี รบั  “ความดี” ในทางพุทธศาสนาท่านหมายถงึ สิง่ ใดครบั ตอบ ความดกี ค็ อื ความด ี เชน่  ไมเ่ บยี ดเบยี นตน ไมเ่ บยี ดเบยี นผอู้ นื่  การ  ให้ทาน การรกั ษาศีล การเจรญิ ภาวนา อบรมจติ ใหด้  ี ค�ำถามที่ ๑๒๕๙ กราบรบกวนอาจารยช์ ว่ ยใหท้ างสวา่ งดว้ ยคะ่  คอื กรณที พี่ ระอาจารย์  รปู หนง่ึ นำ� พระพทุ ธวจนมาเสนอใหช้ าวพทุ ธใหค้ วามสนใจศกึ ษาคำ� สอน  ของพระพทุ ธเจา้ โดยตรง และใหเ้ ลกิ สนใจศกึ ษาค�ำสอนของครอู าจารย ์ อื่นๆ  ท้ังหมดโดยสิ้นเชิง  พร้อมท้ังมีการน�ำพระพุทธวจนที่เป็นเหมือน  ค�ำพูดของพระพุทธเจ้า ที่ต้องการให้ชาวพุทธอย่าสนใจคำ� สอนสาวก  ใดๆ ทง้ั สน้ิ  ใหส้ นใจแตค่ ำ� พระพทุ ธเจา้ เทา่ นน้ั  ไมท่ ราบวา่ ความเปน็ จรงิ  

122 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ เป็นอย่างไรคะ  และอีกอย่างดิฉันก็เกรงว่าการท่ีดิฉันไปท�ำบุญด้วยใน  หลายรปู แบบ จะนำ� ไปสกู่ ารมสี ว่ นในการทำ� ใหส้ งฆแ์ ตกแยกหรอื ไมค่ ะ  ดฉิ นั กลวั มากคะ่ ในขอ้ น ี้ องคป์ ระกอบทจ่ี ะใชต้ ดั สนิ ในเรอื่ งสงฆแ์ ตกแยก  เปน็ อยา่ งไรคะ ขอกราบขอบพระคุณอาจารยม์ าด้วยค่ะ ตอบ สงฆ์แตกแยก คือสงฆ์ที่อยู่ในวัดเดียวกันไม่ทำ� อุโบสถสังฆกรรม  ร่วมกัน  แต่ถ้าต่างนิกายกันและอยู่กันคนละวัดก็ไม่ถือว่าแตกแยกกัน  สำ� หรบั เรอื่ งการศกึ ษาพระพทุ ธวจนนนั้ เปน็ เรอื่ งด ี แตไ่ มค่ วรทง้ิ อรรถกถา  และคำ� สอนของอาจารยต์ า่ งๆ เสยี ทง้ั หมด เพราะมสี ว่ นดอี ยมู่ าก ประดบั   สติปัญญาของเรา  พระพุทธวจนบางตอนก็ยากท่ีจะเข้าใจ  ต้องอาศัย  อรรถกถาและคำ� บอกเล่าของครบู าอาจารย ์ ขอตอบเพยี งเทา่ นกี้ อ่ น คำ� ถามท ่ี ๑๒๖๐ สวสั ดคี รบั  มคี ำ� พดู อยปู่ ระโยคหนง่ึ พดู วา่  “ทำ� ในสงิ่ ทเ่ี ชอ่ื  เชอื่ ในสงิ่ ที่ท�ำ” ฟังแล้วดูมันหลวมๆ เหมือนงมงายยังไงก็ไม่รู้ ต้องใช้ปัญญานำ�   ดีกวา่ แลว้ ใหศ้ รทั ธาหนุนจะปลอดภยั กวา่ หรอื เปลา่ ครับอาจารย์ ตอบ ถกู ตอ้ งแล้ว ศรัทธาต้องมปี ญั ญาก�ำกบั จงึ จะเป็นศรัทธาท่ถี กู ต้อง  มิฉะนั้นจะงมงาย  ไร้ประโยชน์  ถูกหลอกลวง  ผมมีหนังสือเล่มหนึ่งช่ือ  ศรัทธากับปัญญาในพุทธศาสนา ลองเสาะแสวงหามาอ่านดู ถามไปท่ ี ชมรมกัลยาณธรรมกไ็ ดท้ ี ่ www.kanlayanatam.com

สนทนาธรรมกบั 123 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ค�ำถามที่ ๑๒๖๑ สวสั ดคี ะ่ อาจารย ์ ดฉิ นั มเี รอ่ื งรบกวนใจมาเรยี นถามคะ่  คอื ดฉิ นั ได ้ พบบันทึกคล้ายๆ จะเป็นพนิ ยั กรรมของคุณแม่ (คุณแม่ป่วยเป็นมะเร็ง  ในถุงน้�ำดีระยะสุดท้าย  มีชีวิตอยู่ได้อีก  ๑  เดือน)  ท่านได้เขียนไว้ว่า  ๑. ถา้ แมป่ ว่ ยจนไมส่ ามารถหายดว้ ยตวั เองไดห้ รอื หมอดงึ ชวี ติ แมข่ น้ึ มา  แต่ต้องเล้ียงชีวิตด้วยออกซิเจน  ขอให้ถอดสายออกซิเจนออก  เพราะ  แม่เข้าใจความจริงของธรรมชาติ  ยอมรับธรรมชาติน้ัน  ลูกๆ  และหมอ  รบกวนให้ยอมรับและท�ำตามดิฉันด้วย  ๒.  เม่ือแม่ตายลงแล้ว  ขอให ้ จัดงานเผาแม่อย่างเรียบง่ายและประหยัดที่สุด คือให้ต้ังศพไว้วันเดียว  แล้วเผา  โดยมิให้พระท่านต้องสวด  แต่ให้เปิดเทปที่แม่ได้อัดเสียงไว้  เปิดให้ญาติฟังแทนก่อนเผา  (ในนั้นมีค�ำอธิบายให้ญาติๆ  ได้เข้าใจ)  โดยงดพิธีรีตองต่างๆ  เช่น  การใส่ดอกไม้จันทน์  มัดตราสังข์  ล้างหน้า  ดว้ ยมะพรา้ ว งดรบั พวงหรดี  คณุ แมท่ า่ นบอกวา่ บญุ กศุ ลแมท่ �ำมาเยอะ  แลว้  ใหท้ ำ� แคถ่ วายทานใหแ้ กพ่ ระสงฆท์ า่ นเทา่ นน้ั  ๓. เมอื่ เผาจนเหลอื   แต่เถ้าและกระดูก  ขอให้ลูกๆ  อย่าเก็บกระดูกแม่ไว้  แต่ขอให้ไปฝังใน  พ้ืนที่ในบริเวณวัดน้ัน  อย่าน�ำไปโปรยลอยในน้�ำเพราะมันจะสกปรก  ถ้าคิดว่าไม่มีอะไรจะระลึกถึงแม่  ให้นึกถึงคุณงามความดีของแม่แล้ว  ให้กระท�ำตามแม่นั้นจะนับว่าเคารพแม่อย่างสุดยิ่งแล้ว  ฯลฯ  จริงๆ  มี  รายละเอยี ดกบั ทรพั ยอ์ กี แตด่ ฉิ นั ขอเลอื กมาถามเฉพาะพธิ กี รรมเทา่ นนั้ คะ่   พธิ กี รรมตา่ งๆ เปน็ ไปตามหลกั พทุ ธศาสนาหรอื เปลา่  แลว้ ดฉิ นั จะเลอื ก  ปฏบิ ตั ติ ามคำ� สง่ั เสยี ของคณุ แมจ่ ะผดิ หลกั ศาสนาหรอื เปลา่ คะ อาจารย ์ ชว่ ยอธบิ ายเปน็ ขอ้ ๆ เพอ่ื ใหด้ ฉิ นั และนอ้ งๆ ไดค้ ลายจากความกงั วลใจ  เร่ืองน้ีของคุณแม่ด้วย  คุณแม่ท่านปฏิบัติธรรมมาตลอดชีวิต  ท่านจึง  เข้าใจความจริงแต่กับพวกลูกๆ  แล้ว  ยังท�ำใจยอมรับไม่ได้  รบกวน  อาจารย์ใหค้ �ำแนะนำ� แกพ่ วกดิฉันและน้องๆ ดว้ ย ขอบพระคุณมาก

124 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ตอบ ใหญ้ าตพิ น่ี อ้ งประชมุ กนั แลว้ ทำ� ไปตามความเหน็ ของสว่ นมาก แม ้ จะผดิ ค�ำสงั่ ของแมไ่ ปบา้ งกไ็ มเ่ ปน็ ไร เพราะวา่ เปน็ งานบญุ กศุ ลอทุ ศิ ให้  ทา่ นไปตามประเพณนี ยิ ม น่าจะท�ำให้สบายใจด้วยกนั ทกุ ฝ่าย คำ� ถามท่ี ๑๒๖๒ สวัสดีค่ะอาจารย์  แต่ก่อนได้อ่านหนังสือธรรมะแล้วไปเจอค�ำว่า  “โดยปรมัตถธรรมแล้ว  ไม่มีใครเกิด-ไม่มีใครตาย”  ตอนแรกรู้สึกงงค่ะ  เขา้ ใจผดิ วา่ เปน็ มจิ ฉาทฏิ ฐ ิ แตพ่ อไดอ้ า่ นหนงั สอื ของอาจารย ์ เหมอื นได ้ เขม็ ทศิ  ทราบวา่ ตนไดเ้ ขา้ ใจผดิ  จงึ หมนุ ใจใหมแ่ ลว้ น�ำไปปฏบิ ตั โิ ดยการ  วปิ สั สนา ดกู ารเกดิ ขนึ้  ตงั้ อย ู่ และดบั ไป รสู้ กึ วา่ งา่ ยและมคี วามกา้ วหนา้   กว่าตอนท่ีเริ่มต้นด้วยสมาธิ เลยพอจะเข้าใจ คำ� ว่า “ไม่มีใครเกิด-ไม่มี  ใครตาย”  หนขู อสง่ การบา้ นจากการไดภ้ าวนามาตลอดดว้ ยความเขา้ ใจ  เฉพาะตัวของหนูว่า  ท่ีเรากล่าวว่า  มีเรา  บุคคลอื่น  สัตว์  หรือสิ่งต่างๆ  เป็นแต่เพียงสมมติเพื่อสะดวกในการใช้ชีวิตบนโลกน้ี  เป็นความจริง  โดยสมมติ  แต่ถ้าเป็นปรมัตถธรรมแล้วจะไม่มีส่ิงเหล่าน้ีเลย  แต่ด้วย  อวชิ ชาเลยยดึ ถอื เปน็ สง่ิ เหลา่ น ้ี โดยตามความเปน็ จรงิ แลว้  มแี ตส่ งั ขาร  การปรุงแต่งไปตามกฎของธรรมชาติล้วนๆ  โดยท่ีมันเปลี่ยนแปลงไป  เรื่อยตามกฎแห่งธรรมชาติ  (อิทัปปัจจยตา)  แต่ด้วยความต่อเนื่อง  อย่างรวดเร็วจึงดูไม่ออก  แต่เราก็ต้องยอมรับท้ังสมมติและปรมัตถ ์ คือต้องมีโยนิโสมนสิการ  ไม่อย่างนั้นเราก็จะไม่ยอมรับอะไรๆ  เลย  ในทางโลก  บาปบุญ  ดีช่ัว  กุศลอกุศล  เราก็จะมีแต่ความแข็งกระด้าง  หลุดโลกไป  ต้องกราบระลึกบุญคุณของพระพุทธเจ้าท่ีน�ำเอาส่ิงท่ีเป็น 

สนทนาธรรมกบั 125 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ธรรมดานี้มาให้พวกเรา  ท่ีมองไม่ออกได้เห็นความธรรมดานี้  รวมทั้ง  บุญคุณของอาจารย์ที่ได้ย่อยธรรมะให้พวกหนูได้ลิ้มรสชาติของความ  ธรรมดาในธรรมชาติแห่งชีวิต  ได้มีความเบาสบายของจิตใจ  ถ้าความ  เขา้ ใจของหนเู ปน็ มจิ ฉาทฏิ ฐ ิ อาจารยช์ ว่ ยเมตตาสง่ั สอนเพมิ่ เตมิ ดว้ ยคะ่   ขอบพระคุณมากค่ะ ตอบ ความเข้าใจของคณุ ถกู ต้องดแี ล้ว ขออนุโมทนาดว้ ย  ค�ำถามท่ ี ๑๒๖๓ สวัสดีครับอาจารย์  อันน้ีเป็นค�ำถามท่ีเพื่อนสงสัยฝากถามมา  นะครับ ๑.  พระอริยบุคคลระดับโสดาบัน  และสกทาคามี  เป็นบรรพชิต  และฆราวาส  จิตหรือการเข้าถึงธรรมแตกต่างกันหรือไม่  หรือแตกต่าง  กนั แคร่ ูปแบบของศีลธรรมในความเป็นพระและชาวบ้านเทา่ นน้ั ๒. ถา้ พระโสดาบนั และสกทาคาม ี ยงั เปน็ ผบู้ รโิ ภคกามอย ู่ โดยยงั   มกี ามราคะและปฏฆิ ะอย ู่ ถา้ เกดิ ทา่ นไมม่ คี คู่ รอง ทา่ นสามารถชว่ ยเหลอื   ตัวเองได้หรือไม่  เพราะเข้าใจมาว่าท่านถือศีลสมบูรณ์  แต่สมาธิและ  ปัญญายังมีพอประมาณ  แต่ท�ำอะไรต่างๆ  ไม่ก้าวล่วงเกินศีลที่ถือได้  บรสิ ทุ ธิ์ ๓. ถา้ พระโสดาบนั  พระสกทาคามที เี่ ปน็ ฆราวาส เปน็ ผทู้ ย่ี งั เกยี่ ว  ขอ้ งกบั การบรโิ ภคเพศตรงขา้ ม อารมณต์ รงนนั้ เปน็ การกระทำ� ไปเพอ่ื เปน็   ผสั สาหาร เพอื่ ลดความกระวนกระวายใจเพราะยงั รสู้ กึ กระสบั กระสา่ ย 

126 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ต่อเวทนานั้น  แต่เราจะถือว่าความรู้สึกนั้นเป็นกิเลสเต็มข้ันหรือเปล่า  เพราะต่อให้แม้มีศีลเป็นกรอบขวางกั้น  แต่เราก็พอจะทราบว่าศีลเป็น  กรอบแค่กายกับวาจาเทา่ นนั้  รบกวนถามเพยี งเทา่ นคี้ รบั  ขอบคุณครบั ตอบ ๑. การเขา้ ถึงธรรมไม่แตกต่างกัน  ๒. ผมเขา้ ใจว่า การช่วยเหลอื ตัวเองทำ� ได ้ เพราะไม่ผิดศีลข้อใด ๓.  ความหนาและเบาบางของกิเลสเรื่องน้ี  ของแต่ละคนมีไม่เท่า กันอยูแ่ ล้ว ค�ำถามท่ ี ๑๒๖๔ สวสั ดคี รบั  การทเ่ี ราจะเขา้ ไปเกย่ี วขอ้ งกบั อะไรหรอื มสี ภาวะอารมณ ์ อะไรมากระทบเขา้  มผี รู้ ทู้ า่ นบอกวา่  เราตอ้ งมญี าณโดยรวู้ า่  ทกุ สง่ิ มนั ม ี อัสสาทะ  อาทีนวะ  และนิสสรณะ  ผมฟังแล้วไม่เข้าใจ  อาจารย์ช่วย  อธิบายด้วยครับ ตอบ อสั สาทะ คอื  รสทนี่ า่ พอใจ อาทนี วะ คอื  โทษของสง่ิ นนั้  นสิ สรณะ คือ  ปัญญาท่ีจะสลัดออกจากส่ิงนั้น  คือถอนตัวออก  รู้ว่าอะไรเป็นรส  ทน่ี า่ พอใจของสง่ิ นน้ั  อะไรเปน็ โทษของสง่ิ นนั้  และอบุ ายวธิ สี ำ� หรบั ทจี่ ะ  ถอนตัวออกจากสง่ิ น้นั

สนทนาธรรมกบั 127 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ค�ำถามท่ ี ๑๒๖๕ สปั ดาหท์ แี่ ลว้ ดฉิ นั ไดก้ ราบเรยี นถามเกยี่ วกบั พระอาจารยท์ ร่ี ณรงค์  การศึกษาและเผยแผ่พุทธวจน แต่ให้เลิกสนใจธรรมของครูอาจารย์ทั้ง  หลาย ดฉิ ันมคี วามกังวลมาก จงึ ใครข่ อเรยี นถามให้ชดั เจนมากข้นึ คอื ๑. ถอ้ ยคำ� ทที่ า่ นกลา่ ววา่ พระพทุ ธเจา้ ไมต่ อ้ งการใหช้ าวพทุ ธสนใจ  ค�ำสอนของสาวกคนอ่ืนๆ  ให้ศึกษาเฉพาะค�ำสอนของท่านเท่าน้ัน  เป็น  คำ� พดู ท่มี ีบริบทเป็นอยา่ งไรคะ ๒. ฆราวาสมีโอกาสท�ำสงฆ์ใหแ้ ตกแยกไดห้ รอื เปล่าคะ ๓. หากดฉิ นั ไดท้ ำ� บญุ กบั วดั ทา่ น ทำ� บญุ สนบั สนนุ การพมิ พห์ นงั สอื   พุทธวจน  เข้าอบรมการปฏิบัติธรรมกับท่าน  ช่วยเผยแผ่หนังสือ  พุทธ วจน  อย่างน้ีดิฉันจะมีส่วนเข้าไปใกล้กับการสนับสนุนให้สงฆ์แตกแยก หรือเปล่าคะ  เพราะดิฉันเกรงว่าท้ายที่สุดการเผยแผ่ในลักษณะสุดกู่นี ้ อาจน�ำไปสู่การแตกแยกของสงฆ์ได้  ในขณะน้ีดิฉันได้ตัดสินใจหยุด  เก่ียวข้องอีกต่อไปแล้วค่ะ  เพ่ือความสบายใจ  แต่ก็ยังกังวลกับส่ิงท่ีได้  ท�ำมาแล้วว่าเข้าข่ายท�ำสงฆ์ให้แตกแยกหรือไม่  เพราะดิฉันต้องการ  บรรลุธรรมในชาตินี้ค่ะ ขอบพระคณุ ท่านอาจารยม์ ากเลยค่ะ ตอบ ๑.  เอาอย่างนี้ดีกว่า  ค�ำสอนของใครก็ได้ท่ีถูกต้องชอบธรรม  พระพุทธเจ้าก็ทรงอนุมัติ  ทรงเห็นด้วย  และทรงเห็นว่าควรศึกษาและ  ปฏบิ ตั ติ าม เชน่  คำ� สอนของพระสาวกตา่ งๆ มพี ระสารบี ตุ ร เปน็ ตน้  แม้  ค�ำสอนของศาสดาอ่ืนในสมัยก่อนพระพุทธองค์ก็ทรงอ้างถึง  เช่น  ค�ำสอนของอรกศาสดา สอนเรอ่ื งชวี ติ เป็นของนอ้ ย เป็นต้น ๒. ไม่ได้

128 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ๓.  คุณท�ำให้สงฆ์แตกแยกกันไม่ได้หรอก  ไม่ต้องกังวลใจ  เลือก  ทำ� สง่ิ ที่คุณสบายใจนั้นดแี ลว้  ชีวติ มีทางเลือกอกี มากมาย คำ� ถามท ่ี ๑๒๖๖ เรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ  การกรวดน้�ำออกช่ือหรือนึกถึงหน้า  ญาติพ่ีน้องเรา คนต่างๆ ท่ีเราเกี่ยวข้องด้วย กับการกรวดนำ�้ ตามบท  มาตรฐาน (อมิ นิ า...) อยา่ งไหนเหมาะสมและควรกวา่ กนั คะ  หนรู สู้ กึ วา่   แบบออกช่ือคนรู้จัก  ท�ำให้เรามั่นใจว่าเราแผ่บุญกุศลไปให้เขาแน่  แต่  ก็รู้สึกว่าเป็นความผูกพันส่งเสริมด้านตัวตน  ถ้าจะไม่ออกชื่อก็กลัวเขา  จะไม่ได้รบั บญุ คะ่ ตอบ ออกช่ือดกี วา่   คำ� ถามท ี่ ๑๒๖๗ ขอสอบถามเรอ่ื งคำ� ขน้ึ ตน้ และคำ� ลงทา้ ยในการเขยี นหนงั สอื ราชการ  ถงึ วดั คะ่  ใชค้ ำ� ขน้ึ ตน้ วา่  ๑. นมสั การเจา้ อาวาสวดั ... หรอื  ๒. นมสั การ  ท่านเจ้าอาวาสวัด...  ใช้ค�ำลงท้ายว่า  ๑.  ขอนมัสการด้วยความเคารพ  อย่างสูง  หรือ  ๒.  ขอนมัสการด้วยความเคารพ  ข้อใดถูกต้องคะ  และ  จะทราบได้อย่างไรว่าท่านเจ้าอาวาสวัดมีต�ำแหน่งเป็นพระราชาคณะ  หรือพระสงฆ์ท่ัวไป

สนทนาธรรมกับ 129 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ตอบ ข้อ  ๒  ดีกว่า  ส�ำหรับค�ำลงท้าย  ข้อ  ๑  ดีกว่า  ข้อที่จะรู้ว่าท่านเจ้า อาวาสมสี มณศกั ดเ์ิ ปน็ อะไร ต้องสบื ดจู ึงจะรู้  ค�ำถามท ี่ ๑๒๖๘ เวลาเขยี นในกำ� หนดการจดั กจิ กรรม ใชค้ �ำวา่ ถวายภตั ตาหารเพล  หรือถวายทาน คำ� ใดถูกตอ้ งคะ ตอบ ถวายภตั ตาหารเพล ถกู ต้องกว่า  คำ� ถามที่ ๑๒๖๙ เวลาสนทนากบั พระสงฆ ์ ควรใชส้ รรพนามเรยี กพระสงฆว์ า่ อยา่ งไร  คะ (หลวงพอ่  หลวงพ ี่ พระอาจารย ์ ทา่ น) และใชส้ รรพนามแทนตนเอง  ว่าอยา่ งไรคะ (ดิฉนั  หนู ชอ่ื เลน่ ) ตอบ ใช้ค�ำว่า  “ท่าน”  เป็นค�ำกลางๆ  ดี  ส่วนใช้ค�ำแทนตัวเองว่า  “หนู”  กด็  ี

130 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ค�ำถามที่ ๑๒๗๐  สวสั ดคี ะ่  ไดฟ้ งั ธรรมบรรยายของทา่ นพทุ ธทาส ทา่ นไดก้ ลา่ วไวว้ า่   “ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งลว้ นเกดิ มาจากจติ ... ถา้ ยงั มตี วั เราเปน็ ผหู้ ลดุ พน้  แสดงวา่ ยังไม่หลุดพ้น  ความสุขความทุกข์  จิตที่มีอวิชชามันยึดถือเอาว่ามันมี มนั เปน็  มนั ได”้  ถา้ อยา่ งนนั้ วธิ กี ารทเี่ ราปฏบิ ตั อิ ยทู่ เี่ รยี กวา่  การเจริญสติ  กค็ ือการให้จติ รูส้ ึกตวั  ใหร้ ู้ตวั อย่างนั้นเองหรอื คะ ตอบ ปฏิบัติไปตามมรรคมีองค์  ๘  ดีท่ีสุด  พระพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างนั้น  ไม่ต้องไปคดิ อะไรมาก ค�ำถามที ่ ๑๒๗๑ สวสั ดคี รบั  การเจรญิ ภาวนาตามทางของปญั ญาวมิ ตุ ต ิ คอื การท�ำ  วิปัสสนา  โดยดูทุกสิ่งทุกอย่างตามความเป็นจริง  คือเห็นไตรลักษณ์  พอเราเห็นไตรลักษณ์ตามความจริงท่ีไม่ได้มาจากความคิดเอาเอง  อย่างนี้เรียกว่ามีญาณแล้วหรือเปล่าครับ  แล้วระยะต่อมาเราต้องบ่ม  ความหนา่ ยในอารมณน์ หี้ รอื เปลา่ ครบั  จนกวา่ มนั จะหลดุ จากอารมณน์  ี้ อาจารย์ชว่ ยแนะแนวด้วยครับ ตอบ ดแี ลว้  ใชไ้ ดเ้ ลย ไมม่ อี ะไรจะแนะ คณุ ทำ� ดแี ลว้  ไมม่ อี ะไรจะแนะ  เพมิ่ เตมิ  

สนทนาธรรมกบั 131 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ คำ� ถามที่ ๑๒๗๒ มีคนมาถามผมว่า  ตัวเขาฟันผุปวดฟันมากแล้วต้องการดูเวทนา  ความเจ็บน้ัน จะท�ำให้ฟันหายปวดหรือเปล่า ผมบอกว่า “ก็ไปถอนฟัน  ซะส ิ จะไดห้ ายปวด งา่ ยจะตาย” เขามองหนา้ ผมแลว้ กเ็ ดนิ จากไป ผม  เลยได้คิดว่า  เด๋ียวน้ีท�ำไมคนเราถึงได้เอาของดีๆ  ไปใช้ผิดทางอย่างน้ ี ผมมองกรณีน้ีเป็นความประมาท  คือเอาสมาธิภาวนามาเป็นยากล่อม  มาสะกดความเจบ็ ปวด คอื อาจจะหายเจบ็ ตอนภาวนา แตพ่ อออกจาก  สมาธภิ าวนากป็ วดเหมอื นเดมิ  ดจู ะเปน็ มจิ ฉาสมาธอิ อกแนวๆ ประมาท  ซะมากกว่า  ผมว่าถ้าเราเจ็บป่วยก็รักษาไปตามเรื่องตามราวง่ายกว่า  ต้ังเยอะครับ คอื เหตุมนั อยตู่ รงไหนเราก็ตดั มันตรงนัน้  แต่ถ้าเหตกุ ารณ์  มันเปลี่ยนเรากต็ อ้ งเปล่ียนทา่ ทใี หม่กไ็ ด้ การใช้สมาธอิ ยา่ งนีเ้ หมือนกบั   ที่ฤๅษ ี โยค ี ในสมยั ก่อนท�ำกนั หรอื เปล่าครับ คือขม่ กดกิเลสไว้ ตอบ เหน็ ด้วยกบั ความคดิ ของคณุ   คำ� ถามที ่ ๑๒๗๓ ในลักษณะของสมาธิ  มีคุณสมบัติอย่างหนึ่งท่ีบอกว่า  “ควรแก ่ การงาน” คือ การเอาสมาธิไปใชง้ านหรอื เปล่าครบั ตอบ หมายความวา่  ควรแกก่ ารงานในการทจ่ี ะท�ำสมาธ ิ ทำ� ฌาน หรอื   ทำ� วปิ สั สนาไดด้  ี แมจ้ ะน�ำมาใชใ้ นการงานอยา่ งโลกๆ กใ็ ชไ้ ดด้  ี เหมอื น 

132 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ดินหมาดหรือดินน้�ำมัน  เจ้าของจะปั้นเป็นรูปใดก็ได้  ในพระบาล ี พระพุทธพจน์โดยมากจะตรัสถึงคุณสมบัติข้อน้ี  เม่ือผู้บ�ำเพ็ญสมาธิได ้ จตุตถฌานแล้วน้อมจิตไปเพื่ออภิญญาต่างๆ  เช่น  ปุพเพนิวาสานุสติ ญาณ เป็นตน้ ค�ำถามท ี่ ๑๒๗๔ พออ่านหนังสือพิมพ์แล้วรู้สาเหตุในการฆ่าตัวตายว่า  ผู้ตายเป็น  นักเรียนทุนเรียนเก่ง  แต่ติดหน้ีเป็นเงิน  ๑  ล้านบาท  เครียดเลยโดดตึก  ตาย คอื สวนทางกบั การศกึ ษา เรียนมาสูงแต่คิดได้สั้น เสียดายความร ู้ น่าจะไปพัฒนาประเทศได้อีกต้ังเยอะ  ท�ำไมการศึกษาในปัจจุบันถึง  เน้นกันท่ีความฉลาด  ฉลาดท่ีจะเอาเปรียบ  พอไม่ได้เปรียบก็บอกว่า  ไมย่ ตุ ธิ รรม ไมม่ ธี รรมะคอยควบคมุ ความฉลาดกนั เสยี เลย อาจารยค์ รบั   ถา้ อาจารยเ์ ปลยี่ นระบบการศกึ ษาไดอ้ าจารยจ์ ะเปลย่ี นอะไรหรอื เพม่ิ เตมิ   อะไรลงไปบ้างครบั ตอบ ผมคดิ วา่  ในเรอ่ื งการศกึ ษาของเดก็ หรอื ของผใู้ หญก่ ต็ าม ควรเนน้   ทค่ี วามเปน็ คนดมี ศี ลี ธรรม มากกวา่ ความเปน็ คนเกง่  คอื สอนเขาใหเ้ ปน็   คนดกี อ่ น สอนวชิ าความรภู้ ายหลงั  หรอื อยา่ งนอ้ ยกค็ วบคกู่ นั ไป ศลี ธรรม  เป็นรากแก้วของสังคม  เหมือนรากแก้วของต้นไม้  มีสุภาษิตทางจริย-  ศาสตร์อยู่บทหน่ึง  แปลเป็นไทยว่า  “ชีวิตที่เรียบง่ายเป็นชีวิตที่ดีที่สุด ศีลธรรมเป็นวิถีชีวิตท่ีดีที่สุด”  ในหนังสือ  จริยศาสตร์  ที่ผมได้เขียนไว ้ เม่ือหลายสิบปีมาแล้ว  ตอนท่ีว่าด้วยค�ำน�ำ  ผมได้เน้นย้�ำเร่ืองน้ีไว้มาก  ถา้ มีโอกาสคุณลองหามาอ่านดู

สนทนาธรรมกับ 133 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ คำ� ถามท่ี ๑๒๗๕ ไดอ้ า่ นประวตั ขิ องพระโพธสิ ตั ว ์ สว่ นใหญท่ า่ นจะไดอ้ อกบวช แลว้   ได้ฌาน  อภิญญา  พอสิ้นชีพแล้วไปเกิดเป็นพรหม  แสดงว่าในสมัยน้ัน  การได้ฌานเป็นเร่ืองสูงสุดแล้วใช่หรือเปล่าครับ  หรือว่าพระโพธิสัตว์  (พระพทุ ธเจา้ องคป์ จั จบุ นั ) ไมไ่ ดเ้ คยพบกบั พระพทุ ธเจา้ พระองคอ์ นื่ เลย  หรอื ผทู้ ต่ี อ้ งเปน็ พระพทุ ธเจา้ ตอ้ งดำ� เนนิ หรอื เปน็ ไปตามเหตปุ จั จยั นค้ี รบั   เพื่อทีจ่ ะเปน็ พระพทุ ธเจา้ ตอบ สมัยท่ีเป็นพระโพธิสัตว์อยู่  ท่านได้เคยพบพระพุทธเจ้าองค์อ่ืน  เหมือนกัน  เช่น  ได้พบพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าในสมัยท่ีท่านเป็น  สุเมธดาบส  ในสมัยน้ันท่านมีคุณสมบัติพร้อมท่ีจะเป็นพระอรหันต์  แต่  เน่ืองจากมุ่งหมายที่จะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต  จึงทรงหลีกเล่ียง  ความเป็นพระอรหันต์เสีย  ท่านต้ังความปรารถนาที่จะเป็นพระสัมมา-  สมั พทุ ธเจา้ เชน่ เดยี วกบั ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทปี งั กรเปน็ อยเู่ วลานนั้  พระพทุ ธ-  เจ้าทีปังกรทรงพยากรณ์ว่า  สุเมธดาบสจะได้เป็นพระพุทธเจ้าใน  ภายหนา้  คือ พระโคตมพทุ ธ ค�ำถามท ี่ ๑๒๗๖ สวสั ดคี รบั  ผมมคี วามสงสยั วา่ ขนั ธ ์ ๕ เกดิ พรอ้ มกนั ทงั้  ๕ เลยหรอื   เปล่า  แล้วเราจะดูขันธ์  ๕  ท�ำงานกันทันอย่างไรครับ  แล้วเราดูขันธ์  ๕  เพ่ืออะไรครบั  เพื่อให้มสี ตเิ ท่านั้นหรอื เปล่าครับ

134 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ตอบ ธาต ุ ๕ คอื  ดนิ  นำ�้  ไฟ ลม อากาศ รวมกนั เปน็ รปู ขนั ธ ์ ความรสู้ กึ   เปน็ สขุ บา้ ง ทกุ ขบ์ า้ ง ไมท่ กุ ขไ์ มส่ ขุ บา้ งเปน็ เวทนาขนั ธ ์ ความจ�ำไดห้ มายร้ ู เปน็ สญั ญาขนั ธ ์ ความคดิ ปรงุ แตง่ ใหด้ บี า้ งใหช้ ว่ั บา้ ง ใหเ้ ปน็ กลางๆ บา้ ง  คอื  ไม่ดไี มช่ ั่วเป็นสงั ขารขันธ ์ จติ เปน็ วญิ ญาณขนั ธท์ ั้ง ๕ อยา่ งนีย้ อ่ ลง  เป็นรูปและนาม  เป็นรูป  ๑  เป็นนาม  ๔  ในนาม  ๔  นั้นเป็นจิต  ๑  เป็น  เจตสิก  ๓  ต่างก็ท�ำหน้าที่ของตนๆ  ขณะใดรู้สึกสุขหรือทุกข์ขณะน้ัน  เปน็ เวทนา ขณะใดจำ� ไดห้ มายรซู้ ง่ึ รปู  เสยี ง เปน็ ตน้  ขณะนนั้ เปน็ สญั ญา  ขณะใดนกึ คดิ ไปตา่ งๆ ขณะนน้ั เปน็ สงั ขาร ขณะใดรอู้ ารมณต์ า่ งๆ ขณะ  น้ันเป็นวิญญาณ  ท้ังหมดน้ีท�ำงานร่วมกัน  เปรียบเหมือนเคร่ืองยนต ์ ซึ่งมีชื่อต่างๆ แต่ท�ำงานร่วมกัน มีหน้าที่ต่างกัน เช่น สัญญากับสังขาร  มหี นา้ ทตี่ า่ งกนั  สญั ญามหี นา้ ทจี่ ำ�  สงั ขารมหี นา้ ทค่ี ดิ ปรงุ แตง่  แตอ่ าศยั   กันท�ำงานร่วมกัน  หวังว่าผู้ถามคงเข้าใจพอสมควร  เรื่องน้ีอธิบายยาก  เขา้ ใจกย็ าก พิจารณาขันธ์  ๕  เพ่ือให้เห็นความไม่เที่ยง  ความเป็นทุกข์  ความ  เปน็ อนตั ตา แล้วละความยึดมน่ั ถอื มั่นในขนั ธ ์ ๕ เสยี คำ� ถามท ี่ ๑๒๗๗ สวัสดีค่ะอาจารย์  พระอนาคามีเป็นผู้มีศีลและสมาธิสมบูรณ์  สมาธิในท่ีนี้ไม่ได้หมายถึง  สมาธิที่เป็นฌานแบบไม่ต้องมีเจตนา  เป็น  ธรรมชาติของพระอนาคามีใช่หรือเปล่าคะ  ขนาดสมาธิเป็นฌานแบบ  โลกียย์ งั รู้สกึ เปน็ สุขขนาดนั้นเลยคะ่

สนทนาธรรมกับ 135 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ตอบ พระอนาคามที ไ่ี ดฌ้ านกม็ ที ไี่ มไ่ ดฌ้ านกม็  ี พระอนาคามที เ่ี ปน็ สกุ ข-  วิปัสสกไม่ได้ฌาน  แต่ท่ีว่ามีสมาธิสมบูรณ์นั้นเพราะท่านละกามราคะ  ไดแ้ ลว้  ละปฏฆิ ะดว้ ย  สว่ นพระอนาคามที ไ่ี ปทางสายเจโตวมิ ตุ ตจิ งึ จะ  ไดฌ้ านดว้ ย  คำ� ถามที ่ ๑๒๗๘ สวัสดีค่ะ  ดิฉันขอเรียนถามค่ะ  ควรท�ำอย่างไร  เม่ือเรารู้ว่าเรา  ดอ้ ยกวา่  แลว้ ยงั ถกู เพอื่ นรว่ มงานทเี่ ดก็ กวา่ ดถู กู  บางครงั้ วา่ เราเสยี หาย  บางครงั้ กเ็ อาเปรยี บ พดู จาเหยยี บใหต้ ำ่�  หรอื ไมใ่ หเ้ กยี รต ิ ควรทำ� อยา่ งไร  ดคี ะ ขอค�ำตอบยาวๆ ด้วยคะ่  เพ่อื เปน็ ขวญั และกำ� ลังใจ   ตอบ ต้องท�ำตนเป็นคนไม่มีปม  คือ  ไม่มีทั้งปมด้อยและปมเขื่อง  ใน  โลกน้ีไม่มีใครสูงตำ�่ กว่ากันโดยประการท้ังปวง สูงเป็นบางแง่ ด้อยเป็น  บางแง่  เขาพูดเหยียดหยามเราเพราะเขาไร้เมตตาก็เป็นเวรกรรมของ  เขาเอง เราอยา่ ไปรว่ มเวรกรรมกบั เขาเลย คนเราเกดิ มาดไี ม่เหมือนกนั   ชว่ั ไมเ่ หมอื นกนั  ความรคู้ วามสามารถไมเ่ ทา่ กนั  ดใี นบางแง ่ เสยี ในบางแง ่ อย่าเอาตนไปเปรียบเทียบกับใคร  อย่าเอาใครมาเปรียบเทียบกับตน  เท่านีก้ พ็ อท�ำให้สบายใจได ้ ปากดั่งป ู หูดง่ั ตะกรา้  ตาดัง่ ตะแกรง ปากไม่แพรง่  หไู มอ่ า้  ตาไม่เห็น เป็นหลักธรรมน�ำให้หวั ใจเยน็

136 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ คนควรเปน็ เชน่ น้ันบา้ งในบางคราว [จาก อทุ านธรรม พระศาสนโสภน (แจม่  จตฺตสลฺโล)] ค�ำถามท่ี ๑๒๗๙ (จากค�ำถาม  ๑๒๗๖)  ขันธ์  ๕  ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นทุกข์  คือ  ขันธ์ที่มีอุปาทานครองไว้  คือถ้ามันท�ำหน้าท่ีตามกระบวนการของมัน  เฉยๆ ก็ยงั ไมเ่ ป็นทุกข ์ หรอื มันเป็นทุกข์โดยตัวมันเองครบั ตอบ เป็นทุกข์โดยตัวมันเองบ้าง  เป็นทุกข์เพราะมีอุปาทานบ้าง  ตัวอย่างเช่น  รูปขันธ์เป็นทุกข์โดยตัวมันเอง  เพราะแก่  เจ็บ  ตาย  ตาม  พระบาลที ว่ี า่  “ชาตปิ  ิ ทกุ ขฺ า ชราป ิ ทกุ ขฺ า พยาธปี  ิ ทกุ ขฺ า มรณมปฺ  ิ ทกุ ขฺ ”ํ ส่วนขันธ์ที่เหลือเป็นทุกข์เพราะมีอุปาทาน  เรียกว่า  อุปาทานขันธ์  แต่  โดยมากทา่ นกลา่ วรวมวา่  อปุ าทานขนั ธท์ ง้ั  ๕ เปน็ ทกุ ข ์ (ปญฺ จ ปุ าทาน- กฺขนฺธา  ทุกฺขา)  พระอรหันต์ที่หมดอุปาทานแล้วก็ยังต้องเป็นทุกข์เร่ือง  รูปขันธอ์ ันเปน็ ทุกขท์ างกายโดยสภาพ ค�ำถามที่ ๑๒๘๐ เมื่อละสักกายทิฏฐิได้แล้ว  วิจิกิจฉาและสีลัพพตปรามาสก็หมด  ไปดว้ ยหรอื เปล่าครับ  

สนทนาธรรมกบั 137 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ตอบ แต่ละอย่างมีสภาวะต่างกัน  มีลักษณะต่างกัน  จึงต้องละแต่ละ  อย่างๆ  ไป  ตัวอย่างเช่น  ละสักกายทิฏฐิ  วิจิกิจฉา  สีลัพพตปรามาสได้  หมดแล้ว  แต่กามราคะและปฏิฆะยังอยู่  เป็นต้น  เพราะฉะนั้นจึงสรุป  ได้ว่า ตอ้ งละแต่ละอยา่ ง ค�ำถามท ี่ ๑๒๘๑ ขณะที่โกรธบางคร้ังก็ไม่ทัน  โพล่งออกไป  แต่กลับมาทบทวน  อกี ครงั้  วา่ อารมณใ์ นขณะนน้ั คงไมส่ ดู้  ี เกดิ อาการเครยี ด แบบนจี้ ะตอ้ ง  ท�ำอยา่ งไรคะ ตอบ ต้องฝึกสติให้มากขึ้น และตั้งสัจจาธิษฐานว่า จะไม่โกรธใครและ  ไมโ่ กรธสงิ่ ใด ทอ่ งไวใ้ นใจเสมอๆ สตจิ ะคอยกำ� กบั ไมใ่ หพ้ ลงุ่ ออกไปโดย  งา่ ย เหมอื นทำ� นบกนั้ นำ�้ ไวไ้ มใ่ หไ้ หลบา่ ไปในทท่ี ไี่ มค่ วรไป ดงั พระพทุ ธ-  พจนท์ ว่ี า่  “ยาน ิ โสตาน ิ โลกสมฺ  ึ สต ิ เตส ํ นวิ ารณ”ํ  แปลวา่  “กระแสแหง่   กิเลสเหล่าใดมีอยู่  สติเป็นเคร่ืองกั้นกระแสแห่งกิเลสเหล่านั้น”  สต ิ ในทน่ี ห้ี มายถึง ความระวงั  ความไม่ประมาท

138 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ค�ำถามที่ ๑๒๘๒ สวสั ดคี ะ่  ชว่ งวนั อาสาฬหบชู าทผ่ี า่ นมาหนไู ดไ้ ปท�ำบญุ ถวายเทยี น  วดั ทบี่ า้ นเกดิ ตา่ งจงั หวดั  พอถวายเสรจ็  ไดส้ นทนากบั เจา้ อาวาส ทา่ นบอก  วา่ ชว่ งนสี้ ขุ ภาพไมค่ อ่ ยด ี ไปหาหมอไดย้ ามากนิ กไ็ มด่ ขี น้ึ  เลยใหย้ กศาล  พระภมู เิ จา้ ทเี่ สยี ใหม ่ อาการกเ็ ลยดขี น้ึ  คงเปน็ เพราะท�ำพธิ  ี “รบั ขนั ธ”์  ก็  เลยรา่ งกายไมค่ อ่ ยด ี หนสู งสยั คะ่  วา่ พธิ รี บั ขนั ธเ์ ปน็ พธิ ใี นทางพทุ ธศาสนา  หรือเปล่า แลว้ ภายในวัดสามารถมพี ระภูมเิ จ้าที่ไดด้ ว้ ยหรอื คะ ตอบ ไม่เคยเห็นวัดไหนมีศาลพระภูมิเจ้าที่  ส�ำหรับโรคร้ายไข้เจ็บน้ัน  เป็นธรรมดาของสังขารหรือร่างกาย  ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า  “เรามี ความเจบ็ ไขเ้ ปน็ ธรรมดา ไมล่ ว่ งพน้ ความเจบ็ ไขไ้ ปได”้  (พยาธ ิ ธมโฺ มมหฺ ิ  พยาธ ิ อนตโี ต) อาการเจบ็ ไขอ้ าจฟน้ื ขน้ึ ไดเ้ พราะถงึ เวลาทย่ี าใหผ้ ลกไ็ ด้  สภาพร่างกายปรับตัวเองได้บ้าง  โรคบางอย่างรักษาก็หาย  ไม่รักษา  ก็หาย  โรคบางอย่างรักษาหาย  ไม่รักษาไม่หาย  โรคบางอย่างรักษา  กต็ าย ไม่รกั ษาก็ตาย คำ� ถามท ี่ ๑๒๘๓ สวัสดีครับ  เห็นผู้ใหญ่หลายๆ  ท่านได้บอกให้ฟังว่า  พระท่ีบวช  ใหม่ๆ  เน้ือหอม  พวกผีชอบมาขอส่วนบุญ  ถ้าเกิดเราได้ท�ำบุญกับพระ  ท่ีบวชออกมาจากวัดใหม่ๆ  เราจะได้บุญมาก  เพราะท่านบริสุทธิ์ยัง  ไมท่ ำ� ผดิ ศลี เลยสกั ขอ้  อยา่ งนถ้ี อื วา่ เปน็ ความเหน็ ทห่ี ละหลวมหรอื เปลา่   ครับ แตถ่ ้าจริงอยา่ งนน้ั พวกผมทีเ่ ป็นชาวบา้ นกน็ า่ จะมีบุญเยอะเพราะ 

สนทนาธรรมกบั 139 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ไมท่ ำ� ผดิ ศีลของพระหลายๆ ขอ้ เลย นา่ จะถอื ว่าบุคคลบรสิ ุทธ์ไิ ดเ้ พราะ  ปัญญามากกว่า  คือรู้แล้วไม่ท�ำ  ผิดกับว่าท�ำเพราะไม่รู้  อะไรถูกต้อง  รบกวนอาจารยช์ ว่ ยอธบิ ายดว้ ยครบั  ไมไ่ ดต้ อ้ งการตำ� หนผิ ใู้ หญน่ ะครบั   แตอ่ ยากได้ความเข้าใจท่ถี ูกตอ้ งนะครบั ตอบ ค�ำพูดของคุณท่ีว่า  “บุคคลย่อมบริสุทธ์ิได้ด้วยปัญญา”  ตรงกับ  พระพุทธภาษิตที่ว่า  “ปญฺาย  ปริสุชฺฌติ”  พระท่ีบวชมานานก็มีศีลท ่ี บรสิ ทุ ธไิ์ ด ้ และมศี ลี มานานดว้ ย มคี ณุ ธรรมกม็ ากและมคี ณุ ธรรมสงู ดว้ ย  เรียกว่าได้อบรมตนมาดีเป็นเวลานาน คุณลองคิดดูเถิดว่า การทำ� บุญ  กบั พระทบี่ วชเสรจ็ ใหมๆ่  กบั พระทบี่ วชมานาน อยา่ งไหนควรจะไดบ้ ญุ   มากกวา่  แต่ทง้ั นขี้ ้ึนอยู่กบั องคป์ ระกอบอน่ื ๆ ดว้ ยอกี หลายอยา่ ง  ค�ำถามที่ ๑๒๘๔ สวัสดีครับอาจารย์  ช่วงวันหยุดน้ีผมได้ไปท�ำบุญท่ีวัดพบว่ามี  ชาวบ้านมาขายปลา  เต่า  นก  ให้ปล่อยที่ท่าน�้ำของวัด  ผมเห็นแล้ว  รู้สึกสังเวชพวกสัตว์ท่ีมันถูกจับมาขาย  แต่ผมก็ไม่ซ้ือพวกมันมาปล่อย  คือผมคิดว่าถ้าซ้ือเท่ากับเราส่งเสริมให้พวกชาวบ้านเขาไปจับมาขาย  เพิ่มข้ึน  ผมมีความคิดข้ึนมาว่าท�ำไมเจ้าอาวาสถึงได้ปล่อยให้พวกเขา  ประกอบอาชีพอย่างนี้  พอถามชาวบ้านแถบๆ  น้ัน  ได้ค�ำตอบว่าอย่า  มายงุ่  นเ่ี ปน็ อาชพี ของพวกเขา นา่ จะมที างออกในปญั หานที้ ด่ี ตี อ่ ทกุ ฝา่ ย  นะครับ  อาจารย์มีความคิดเห็นเก่ียวกับปัญหานี้ที่มีอยู่เกือบจะทุกวัด  อยา่ งไรครับ เงนิ ทองของบาดใจจริงๆ ครบั

140 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ตอบ เร่ืองน้ีคุณควรจะรู้จักตัดตอน  คือ  เขาไปจับมาขายนั้นตอนหน่ึง  คนท่ีซ้ือไปปล่อยนั้นตอนหนึ่ง  น่าเห็นใจด้วยกันท้ังสองฝ่าย  พวกหน่ึง  ท�ำเพ่ืออาชีพ  เพ่ือมีชีวิตอยู่ได้  อีกพวกหน่ึงท�ำเพ่ือบุญท่ีคิดว่าตนจะได้  เพราะการปล่อยปลาปล่อยเต่า  คิดดูคล้ายๆ  กับการให้เงินแก่ขอทาน  พวกหน่ึงขอเพื่ออาชีพ  เพื่อมีชีวิตอยู่ได้  อีกพวกหนึ่งให้เพราะอยาก  ได้บุญ  บางคนต�ำหนิว่าเป็นการส่งเสริมขอทาน  แต่เร่ืองพวกนี้เราต้อง  รู้จักตัดตอน  มิฉะนั้นแล้วปัญหาจะพัวพันยุ่งกันไปหมด  เปรียบเหมือน  รถไปชนกนั  คนตายบา้ งเจบ็ บา้ ง เราจะไปโทษคนสรา้ งรถ คนขายนำ้� มนั   และคนสรา้ งถนนได้อยา่ งไร ค�ำถามท ่ี ๑๒๘๕ สวัสดีครับอาจารย์  ได้อ่านหนังสือของอาจารย์  สงสัยเกี่ยวกับ  เวทนาคือ  ในเวทนามีสุข  ทุกข์  และไม่สุขไม่ทุกข์  แต่อาจารย์อธิบาย  ไม่สุขไม่ทุกข์  (อทุกขมสุข)  ว่าเป็นสุขอ่อนๆ  คือ  เพลินๆ  ค�ำว่าเป็นสุข  ออ่ นๆ เพลนิ ๆ มนั เขา้ กนั ไดก้ บั พวกโมหะหรอื เปลา่ ครบั  เปน็ นนั ททิ เ่ี ปน็   พวกเดยี วกบั อปุ าทานหรอื เปลา่ ครบั ตอบ คอื อยา่ งน ้ี เวทนา ๒ กม็  ี เวทนา ๓ กม็  ี ทนี  ้ี เวทนา ๓ ม ี อทกุ ขม-  สขุ เวทนาดว้ ย ถามวา่  ถา้ จดั เวทนาเปน็  ๒ อทกุ ขมสขุ เวทนา จะเขา้ อย่ ู ในเวทนาไหน  ตอบว่า  จัดเข้าในสุขเวทนา  เพราะเป็นสุขอ่อนๆ  ก็เท่าน้ี  แหละ ขอใหค้ ณุ จบั หลกั ใหไ้ ด ้ จะได้ไมส่ บั สน

สนทนาธรรมกับ 141 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ คำ� ถามท่ี ๑๒๘๖ สวัสดีครับ  เคยได้ยินมาว่า  มีเณรอายุ  ๗  ปี  ได้บรรลุเป็นพระ  อรหันต์อย่างนี้ก็แสดงว่าธรรมะเป็นของสากลจริงๆ  คือใครมีปัญญา  ก็เข้าถึงได้ไม่จ�ำกัดวัย  แล้วพระอรหันต์ที่อายุน้อยๆ  กว่าน้ีมีหรือเปล่า  ครบั  พวกทา่ นเหล่าน้นั ทำ� บุพกรรมอะไรครับถงึ ไดบ้ รรลตุ อนอายุน้อยๆ ตอบ เคยมีสามเณรอายุ  ๗  ขวบบรรลุเป็นพระอรหันต์  ผู้หญิงก็มีเช่น  นางวิสาขามหาอุบาสิกาเป็นพระโสดาบัน  ท่านก็มีบุญมาแต่อดีตชาติ  สงั่ สมมาเรอ่ื ยๆ จนมาถึงชาติสดุ ทา้ ย คำ� ถามท ี่ ๑๒๘๗ เหน็ เขาสรา้ งพระพทุ ธรปู แบบแปลกใหมๆ่  กนั ขน้ึ มา มชี อื่ วา่  พระ  เศรษฐีนวโกฏิ  เห็นผู้สร้างบอกว่าเกิดจากพระโสดาบันที่เป็นเอกทาง  ดา้ นการใหท้ าน ๙ ทา่ นมารวมกนั  ถา้ ใครมไี วค้ รอบครองจะร�่ำรวยเปน็   เศรษฐ ี มีคำ� ถามครับ  ๑.  สร้างขึ้นมาเพื่อให้ร่�ำรวยแบบจตุคามรามเทพ  อย่างนี้ผิดหลัก  พทุ ธศาสนาหรือเปลา่ ครับ  ๒. ผสู้ รา้ งบอกวา่  พระโสดาบนั เปน็ ไดจ้ ากการใหท้ าน ไมแ่ นใ่ จวา่   มีทานเป็นพ้ืนฐานหรือว่าให้แค่ทานอย่างเดียวจนบารมีเต็ม  แล้วก็  เปน็ ได้เลย ความคิดอยา่ งนถ้ี กู ตอ้ งหรือเปล่าครบั ๓. เราจะไหวส้ ง่ิ ศกั ดส์ิ ทิ ธอิ์ ะไรกไ็ ด ้ แตต่ อ้ งเคารพไมเ่ กนิ คณุ ธรรม  คือเอาคุณธรรมเป็นใหญ่  อย่างนี้ไม่ผิดหลักชาวพุทธ  หรือถ้าเราจะ

142 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ เคารพอะไร ควรน้อมใจอยา่ งไรเพ่อื ไม่ให้ผดิ หลกั ครบั ๔. เหน็ พวกนกั วปิ สั สนาบอกวา่ ท�ำบญุ แลว้ หวงั ไมไ่ ด ้ ตอ้ งทำ� ดว้ ย  ความไมย่ ดึ  เราจะทำ� ใจอย่างไรครับ ๕. ทาน ศีล ภาวนา ถา้ เราจะเป็นคนหวั หมอ เลอื กท�ำแต่ภาวนา  เพราะไดบ้ ญุ เยอะสดุ  อยา่ งนผ้ี ดิ หรอื เปลา่ ครบั  เหน็ นกั วปิ สั สนาบอกวา่   ในการภาวนากม็ ที านอยา่ งสงู สดุ อยคู่ อื การเสยี สละตนเองเปน็ ทาน แลว้   กม็ ศี ลี ครบ คอื มเี จตนาตง้ั มน่ั ในขณะนนั้ เปน็ ตวั ศลี  ทเี่ ขากลา่ วมาถกู ตอ้ ง  ตามหลักหรือเปล่าครับ ๖. ในศลี  ๘ หา้ ขอ้ แรกผมเหน็ วา่ มนั ด ี แตอ่ กี  ๓ ขอ้ ทเ่ี พม่ิ มา มนั ดี  อยา่ งไรครับ ทรมานตัวเองจงั ๗. มพี ระภกิ ษณุ ที เี่ ปน็ พระอรหนั ตถ์ กู ขม่ ขนื  ดว้ ยวบิ ากกรรมอะไร  ครับถึงได้ถูกข่มขืน แล้วมีอธิบายหรือเปล่าครับว่าทำ� ไมท่านถึงไม่หนี  คนเหล่านน้ั   ๘.  พระพุทธเจ้าองค์ปฐมมีในพุทธประวัติหรือพระพุทธเจ้าเราได้  ตรัสไว้บ้างหรือเปล่าครับ  ค�ำถามทั้งหมดมีผู้ฝากมาถามเลยรวบรวม  ถามทีเดียวเลย ตอ้ งกราบขอบพระคุณอาจารย์มา ณ ท่นี ้ีด้วยท่ีเมตตา  ตอบครับ   ตอบ ๑. เรือ่ งทงั้ หมดที่คุณพูดมา ไมน่ า่ จะเปน็ ไปได้ คอื วา่  ไมเ่ ป็นจรงิ ๒.  ต้องมีทั้งทาน  ท้ังศีล  ทั้งภาวนา  การฟังธรรมจัดเข้าในภาวนา  บางทา่ นฟงั ธรรมเพยี งคร้งั เดยี วก็ไดบ้ รรลเุ ปน็ พระโสดาบัน ๓.  เคารพส่ิงท่ีควรเคารพ  บูชาสิ่งท่ีควรบูชา  ด้วยการใช้ปัญญา  ไม่เพยี งแต่เชื่อถือตามๆ กนั มา ต้องใชป้ ัญญาให้มาก

สนทนาธรรมกบั 143 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ๔.  หวังก็ได้ไม่หวังก็ได้  เหมือนเราอาบน�้ำ  หวังให้เย็นก็ได้เย็น  ไม่หวังให้เย็นก็ได้เย็น  หรือถ้าเป็นน้�ำอุ่นเราจะหวังหรือไม่หวังก็อุ่นอยู่  นั่นเอง  เรากินข้าวก็เช่นเดียวกัน  จะหวังให้อ่ิมหรือไม่หวัง  เมื่อกิน  พอสมควรก็อิ่มอยู่น่นั เอง ๕. ทำ� วปิ สั สนากไ็ ดว้ ปิ สั สนา ใหท้ านกไ็ ดอ้ านสิ งสข์ องทาน รกั ษา  ศลี กไ็ ดอ้ านสิ งสข์ องการรกั ษาศลี  ท�ำสง่ิ ใดกไ็ ดอ้ านสิ งสข์ องสงิ่ นนั้  ไมท่ �ำ  กไ็ มไ่ ด ้ ทา่ นจงึ ใหท้ ำ� ไวห้ ลายๆ อยา่ ง เหมอื นเรามสี วนผลไม ้ ปลกู ตน้ ไม้  ไวห้ ลายๆ ชนดิ  ก็ได้กนิ ผลหลายอยา่ ง มีนกหลายชนดิ มาอาศยั ดว้ ย ๖. ทา่ นตอ้ งการใหข้ ดั เกลากเิ ลสบางอยา่ ง อบรมตนใหเ้ ปน็ คนรจู้ กั   อดทน ถา้ คณุ รูส้ กึ ลำ� บากในการรกั ษาศลี  ๘ คุณถอื ศีลกรรมบถก็ได ้ มี  ๑๐ ขอ้  จัดเป็นทางกาย ๓ ทางวาจา ๔ ทางใจ ๓ คิดว่ากุศลกรรมบถ  ๑๐  นี้ได้ประโยชน์มาก  ในมงคล  ๓๘  ข้อว่า  ธรรมจริยา  ท่านก็ระบุถึง  กุศลกรรมบถ  ๑๐  มีเว้นจากปาณาติบาต  เป็นต้น  เว้นจากมิจฉาทิฏฐ ิ เป็นสุดท้าย  ขอให้คุณลองไปค้นดูกุศลกรรมบถ  ๑๐  จะเห็นว่าสะดวก  ในการปฏิบัต ิ และมอี านิสงส์มากด้วย ๗. ยงั ไมเ่ คยพบคำ� อธบิ ายในขอ้ นี้ ๘. ตามต�ำราบอกว่า พระพุทธเจ้าองค์แรกพระนามว่า ตัณหังกร  ไม่เคยพบประวัติท่ีท่านเล่าไว้  มีเล่าไว้ในมหาปทานสูตร  ต้ังแต่พระ  วปิ สั สสี มั มาสมั พทุ ธเจา้ ลงมาจนถงึ พระพทุ ธเจา้ องคป์ จั จบุ นั  ในทบ่ี างแหง่   พระพุทธเจ้าตรัสว่า  ต่อไปภายหน้า  เมื่อมนุษย์อายุ  ๘๐,๐๐๐  ปี  พระ  อาริยเมตไตรยจะอุบัติข้ึน  เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่  ๕  ของภัทรกัปน ้ี พระพุทธเจ้าที่ล่วงมาแล้วรวม ๒๘ องค์ มพี ระตัณหงั กรเปน็ ปฐม

144 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ค�ำถามที่ ๑๒๘๘ สวัสดีค่ะ  ได้อ่านหนังสือค�ำอธิบายคุณสมบัติและลักษณะของ  พระโสดาบนั มา กเ็ ลยมคี วามรสู้ กึ วา่ พระโสดาบนั นม้ี คี วามใกลเ้ คยี งกบั   ปถุ ชุ นชนั้ ดมี ากๆ เลยคะ่  ทา่ นกย็ งั ม ี โลภ โกรธ หลงครบถว้ นแตม่ คี วาม  รู้สึกสลดสังเวชต่อชีวิตอันน้อยน้ีตลอด  ไม่กลืนไปกับกระแสเหมือน  ปถุ ชุ น ถา้ ในความคดิ ของหน ู พระโสดาบนั กบั พระสกทาคามจี ะมคี วาม  กลมกลืนได้กับชีวิตปุถุชนมากท่ีสุด  ส่วนพระอนาคามีนั้นเร่ิมที่จะปลีก  วเิ วกแลว้  การเหน็ ธรรมะของพระโสดาบนั กบั พระอรหนั ต ์ มคี วามแตกตา่ ง  กนั อยา่ งไรคะ ยกตวั อยา่ งเชน่  การกนิ อาหารของทา่ น พระอรหนั ตท์ า่ น  มีความรู้สึกอร่อย  เผ็ด  หวาน  ตามแบบประสาทสัมผัสของมนุษย ์ ธรรมดาหรือเปล่าคะ  แล้วท�ำไมพระอานนท์ตอนยังเป็นโสดาบันถึงได้  กล่าวกับพระพุทธเจ้าว่า  ปฏิจจสมุปบาทที่ปุถุชนเห็นว่ายุ่งยากแต่พระ  อานนท์กลับเห็นเป็นของง่าย  เหมือนกลุ่มก้อนด้ายที่วางอยู่บนฝ่ามือ  กลง้ิ ไปกลง้ิ มาดไู ดร้ อบ ดไู ดร้ อบแตก่ ย็ งั ไมร่ อบเทา่ พระอรหนั ตใ์ ชไ่ หมคะ ตอบ พระโสดาบนั กบั พระสกทาคาม ี มคี ณุ สมบตั ใิ กลเ้ คยี งกนั  เพยี งแต ่ พระสกทาคามี ทำ� ราคะ โทสะ และโมหะ ให้เบาบางกว่าพระโสดาบัน  ส่วนพระอนาคามีและพระอรหันต์นัน้ เปน็ พระอริยบคุ คลระดบั สงู ปฏิจจสมุปบาทที่พระอานนท์ทูลพระศาสดาว่า  ปฏิจจสมุปบาท  เป็นของยาก  แต่ปรากฏแก่ท่านเหมือนของง่ายนั้น  เพราะท่านเป็น  พหสู ตู แตกฉานในธรรม การเขา้ ถงึ ธรรมของพระโสดาบนั กบั พระอรหนั ต์  ไมเ่ ทา่ เทยี มกนั  กเิ ลสทลี่ ะไดแ้ ลว้ กไ็ มเ่ ทา่ กนั  อาหารทอี่ รอ่ ยพระอรหนั ต์  ก็รู้สึกได้ว่าอร่อย  เพราะเป็นเรื่องของชิวหาประสาท  แต่ท่านไม่ติดใน 

สนทนาธรรมกับ 145 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ความอร่อยนน้ั  เหมอื นใบบัวไม่ติดน�ำ้  น้ำ� ไมต่ ิดใบบัว คำ� ถามที ่ ๑๒๘๙ สวัสดีครับ  หลักไตรสิกขาท่ีพระพุทธศาสนาสอนเพ่ือให้เข้าถึง  “ไตรลกั ษณ”์  คอื  อนจิ จงั  ทกุ ขงั  อนตั ตา ผมพอจะเขา้ ใจครา่ วๆ อนจิ จงั   กับทุกขัง  แต่พออนัตตา  ใจมันไม่ค่อยยอมรับครับ  คือไม่มีตัว  แล้ว  ร่างกายเรา โน้น น่ี นั้น มันคืออะไร ผมเห็นเป็นวัตถุต่างๆ เต็มไปหมด  ถา้ มนั ไมม่ ตี วั แลว้  ทเ่ี ราทำ� อยทู่ กุ วนั นท้ี ำ� ไปเพอื่ ใคร แตถ่ า้ อกี ความหมาย  หนงึ่ คอื  มนั กม็ อี ยแู่ ตไ่ มไ่ ปยดึ มนั่ มนั  อยา่ งนพี้ อจะเปน็ อนตั ตาหรอื เปลา่   ครบั ตอบ อนตั ตาในซกี โลกยี ะ หมายความวา่  ประกอบดว้ ยเหตปุ จั จยั  เปน็   ไปตามเหตุปัจจัย  เราเลือกเอาไม่ได้ตามท่ีต้องการ  ไม่อยู่ในอ�ำนาจ  ปรารถนาเอาไม่ได้ว่าจงเป็นอย่างน้ีเถิดอย่าเป็นอย่างนั้นเลย  ส่วน  อนัตตาในซีกโลกุตระกล่าวคือพระนิพพานระดับสูงสุด  เป็นอนัตตา  เหมือนกัน แต่ไม่มีเหตปุ จั จัยปรงุ

146 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ คำ� ถามท ี่ ๑๒๙๐ รู้สึกว่าความดีทางพุทธศาสนา  จะระดับสูงกว่าศีลธรรมทั่วไป  คือเล็งผลในทางท่ี  ไม่โลภ  ไม่โกรธ  และไม่หลง  ผมเป็นชาวคริสต์แต่  มีความรู้สึกว่าบทบัญญัติเป็นข้อบังคับ  ไม่เชื่อก็บาป  แต่พอมาศึกษา  พุทธศาสนา  รู้สึกว่ามีอิสระในความคิด  เน้นไปท่ีปัญญาท่ีใช้ดับทุกข ์ คือถ้ามันดับทุกข์ได้ผมรับเอามาใช้หมด  หลักปฏิบัติก็ดีคล้ายกับเป็น  ของสากลที่มนุษย์ทุกคนล้วนปฏิบัติตามได้ตามก�ำลังของสติปัญญา  มใี หห้ มดทกุ ระดบั  ผมวา่ มนั เยยี่ มมากๆ ถา้ ผมทเี่ ปน็ ชาวครสิ ตจ์ ะนำ� เอา  หลกั พทุ ธไปปฏบิ ตั บิ า้ ง จะไดผ้ ลเตม็ ทห่ี รอื เปลา่  แลว้ การทผี่ มยงั ไมร่ สู้ กึ   เคารพพระพุทธเจ้าเท่าที่ควรจะเป็นการบาปหรือเปล่า  แต่ผมคิดว่า  ถา้ ผมไดศ้ กึ ษาในเชงิ ลกึ กวา่ น ี้ ผมคงจะศรทั ธาและรคู้ ณุ ของพระพทุ ธเจา้   พระธรรม  และพระสงฆ์ได้เอง  ตามท่ีมันเป็นไปของสติปัญญาของผม  อาจารยม์ ขี อ้ เสนอแนะน�ำอะไรเกย่ี วกบั การเขา้ มาเกยี่ วขอ้ งของผนู้ บั ถอื   ตา่ งศาสนาแนวผมบา้ งหรอื เปลา่ ครบั  เพราะรสู้ กึ วา่ ตวั เองเปน็ คนไมจ่ รงิ   ที่เหน็ อะไรดๆี  ของศาสนาอน่ื ก็เอามาใช้ เหมือนเปน็ คนไมม่ ั่นคง ตอบ ดแี ลว้ ครบั  เหน็ อะไรดๆี  กเ็ กบ็ รวบรวมไวน้ ำ� มาใชป้ ระโยชน ์ ไมว่ า่   ของศาสนาใด ทุกศาสนามขี องดใี ห้เลือก

สนทนาธรรมกับ 147 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ คำ� ถามท ่ี ๑๒๙๑ ฝากบอกเสียงธรรมของท่านพุทธทาสทางเว็บไซต์เรือนธรรม  ลงชื่อผิดว่า  หลวงพ่อปัญญา  ติดตามการตอบค�ำถามของอาจารย์มา  พอสมควรโดยไมต่ อ้ งถามเอง ขอชน่ื ชม และขอบคณุ อาจารยท์ ท่ี ำ� ใหค้ น  ที่ศึกษาธรรม ได้เข้าใจอย่างถูกต้อง ขอให้อาจารย์สุขภาพเเขง็ แรงค่ะ   ตอบ ขอบคณุ ครับ  ค�ำถามท ่ี ๑๒๙๒ “สัมมาทิฏฐิ”  ที่ทรงระบุว่า  โลกหน้ามี  บุญคุณบิดามารดา  นรก  สวรรคม์  ี มกี รรม คนทำ� กรรม วบิ าก เปน็ สมั มาทฏิ ฐริ ะดบั โลกยี ะ แตถ่ า้   เป็นผู้ท่ีเข้าหลักปฏิจจสมุปบาท  ก็จะมีสัมมาทิฏฐิที่ไม่เอียงไปทางว่า  มหี รอื ไมม่  ี คอื จะตอบอะไรออกไปวา่  เปน็ ไปตามเหตปุ จั จยั  เพราะสงิ่ นมี้ ี  ส่ิงน้ีจึงมี  เพราะส่ิงนี้ไม่มี  สิ่งนี้จึงไม่มี  คือไม่เอียงไปในทาง  “อัตถิตา  และนตั ถติ า” เปน็ การตอบแบบทางสายกลางแทๆ้  แสดงวา่ พระพทุ ธเจา้   ท่านตรัสสอนไว้เป็น  ๒  แบบ  คือ  แบบพวกที่ยังมีตัวตน  กับพวกฉลาด  แล้วพร้อมที่จะลดตัวตน  ท�ำให้ค�ำสอนของท่านไม่ขัดแย้งกันและ  สอดรับกันได้อย่างดีตามล�ำดับ  ถ้าท�ำความเข้าใจอย่างนี้ถือถูกต้อง  หรอื เปล่าครบั ตอบ ถกู ตอ้ งครบั  พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงธรรมเปน็ เอนกปรยิ าย ใหเ้ หมาะ  แกอ่ ุปนสิ ยั ของผ้ฟู ัง 

148 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ค�ำถามท่ ี ๑๒๙๓ สวสั ดคี รบั  วญิ ญาณกบั ปญั ญา แตกตา่ งกนั อยา่ งไร อปุ มาใหฟ้ งั   ด้วยครบั ตอบ วญิ ญาณ มจี กั ษวุ ญิ ญาณเปน็ ตน้  คอื การรแู้ จง้ ในอารมณท์ ง้ั หก มี  รปู  เปน็ ตน้  สว่ นปญั ญา เลง็ ถงึ ความเขา้ ใจในสงิ่ ตา่ งๆ ตามความเปน็ จรงิ   ตัวอย่างเช่น  วิญญาณรู้รูปว่าเป็นรูป  เสียงว่าเป็นเสียง  แต่ปัญญาจะรู้  ละเอียดลงไปว่า  รูปอะไร  เสียงอะไร  เกิดขึ้นอย่างไร  จะดับไปอย่างไร  เหมอื นการเหน็ วตั ถอุ ยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ของเดก็ ไรเ้ ดยี งสา กบั ของผใู้ หญ่  ท่ีมีความช�ำนาญในเร่ืองนนั้ ๆ ความเขา้ ใจยอ่ มจะตา่ งกัน คำ� ถามท ี่ ๑๒๙๔ ไดอ้ า่ นหนงั สอื  ไตรลกั ษณ ์ กบั  ปฏจิ จสมปุ บาท ของอาจารย ์ ชอบใจ  ที่อาจารย์เขียนว่า  บางคนรู้จักขันธ์ห้าแต่ตัวหนังสือ  แต่ไม่รู้จักตัวจริง  ของขนั ธห์ า้  เปรยี บเหมอื นรชู้ อื่ แตไ่ มเ่ คยเหน็ หนา้  คลา้ ยกบั คนทไ่ี มร่ จู้ กั   แต่เดินผ่านกันทุกวัน  แต่ถ้ารู้จักขันธ์ห้าตามความเป็นจริง  คือรู้ว่าใคร  เปน็ ใคร แมจ้ ะเดนิ ปะปนกบั คนหลากหลายแตพ่ อเหน็ กร็ ทู้ นั ท ี อาจารย ์ อุปมาให้ฟังได้คมคายมาก  ถ้าเรายังต้องอธิบายให้คนท่ียังไม่ได้สัมผัส  รู้สึกถึงธรรมจริงก็คงต้องอุปมากันต่อไป  เหมือนกับที่พระพุทธเจ้าทรง  ต้องบรรยายธรรมเปรียบเทียบให้บุคคลทั้งหลายตามระดับสติปัญญา  ทรงเป็นสพั พญั ญูจรงิ ๆ

สนทนาธรรมกบั 149 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๕ ตอบ ขอบคุณมากครบั ท่ีเขยี นมาให้ปลมื้ ใจ  คำ� ถามท ี่ ๑๒๙๕ อยากทราบวา่ เราดม่ื เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล ์ ในบางเวลา และไมไ่ ด้  เมาจนขาดสต ิ เพอื่ นๆ สงสยั จากทฟี่ งั มาเรอื่ งของศลี  ๕ ทวี่ า่ ถา้ ตายไป  จะโดนกรอกน�้ำในกระทะทองแดงนั้น  ข้อเท็จจริงในข้อน้ีเป็นเช่นใด  อยากใหท้ า่ นอาจารย์ช่วยอธบิ ายให้ทราบ ขอบพระคุณ ตอบ การดื่มเหล้าแต่ไม่ถงึ กับเมา ก็ยงั ผิดศีลข้อสุรา ส่วนเรื่องเม่ือตาย  ไปแลว้  ไปตกนรกถกู กรอกนำ้� ทองแดงนน้ั  ผมไมอ่ าจยนื ยนั หรอื ปฏเิ สธได ้ เพราะไมร่ จู้ รงิ ๆ  คำ� ถามท่ ี ๑๒๙๖ สวัสดีครับอาจารย์  ผมได้ฟังซีดีธรรมะของท่านพุทธทาสเก่ียวกับ  เรอ่ื งปรมตั ถสภาวะธรรม ทา่ นบอกวา่  “นพิ พานมอี ยใู่ นอายตนะ เพราะ  รสู้ กึ ไดด้ ว้ ยจติ แตเ่ ปน็ อสงั ขตะ” สง่ิ ทท่ี า่ นบอก ผมเขา้ ใจวา่ เปน็ ธรรมะท่ ี ปรากฏแก่จิต  คือนิพพานธาตุที่ปรากฏแก่จิตย่อมรู้สึกได้ทางอายตนะ  เป็นสิ่งท่ีไม่มีส่ิงอะไรปรุงแต่งรู้สึกได้  ความเข้าใจอย่างน้ีถือว่านิพพาน  เป็นอนัตตา  ผิดถูกประการใดอาจารย์ช่วยช้ีแจงด้วยครับ  หรือมีท่ีมา  อธบิ ายอะไรชว่ ยแนะนำ� ดว้ ยครบั  (คำ� ถามนมี้ ที มี่ าจากธรรมบรรยายของ  ทา่ นพทุ ธทาสเรอ่ื งปรมตั ถสภาวะธรรม หวั ขอ้ ธาตทุ มี่ าอยใู่ นรปู อายตนะ)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook