คกวา้ าวมขจ้า�ำมเจ พระไพศาล วสิ าโล
คจกขวำ�า้า้ าเมวจม พระไพศาล วสิ าโล ภ า พ ป ร ะ ก อ บ เซมเบ้
กา้ วขา้ มความจ�ำเจ พระไพศาล วิสาโล www.visalo.org Pdf file Book Phra Paisal Visalo วัดป่าสคุ ะโต ธรรมชาต ิ ท่ีพักใจ ชมรมกลั ยาณธรรม หนังสือดีลำ� ดับท่ี ๔๐๑ พิมพ์ครั้งท ี่ ๑ : ธนั วาคม ๒๕๖๒ จำ� นวนพมิ พ์ ๔,๐๐๐ เลม่ จัดพิมพโ์ ดย ชมรมกลั ยาณธรรม ๑๐๐ ถ.ประโคนชัย ต.ปากน�้ำ อ.เมือง จ.สมทุ รปราการ ๑๐๒๗๐ โทรศพั ท ์ ๐-๒๗๐๒-๗๓๕๓ และ ๐-๒๗๐๒-๙๖๒๔ โทรสาร ๐-๒๗๐๒-๗๓๕๓ ออกแบบปก/รูปเลม่ คนข้างหลัง พสิ ูจน์อักษร ทมี งานกัลยาณธรรม พมิ พ์ท่ี บริษทั ส�ำนักพิมพ์สภุ า จ�ำกัด โทร. ๐-๒๔๓๕-๘๕๓๐ สพั พทานัง ธมั มทานงั ชินาต ิ การให้ธรรมะเป็นทาน ยอ่ มชนะการให้ทัง้ ปวง www.kanlayanatam.com kLainnela yoaffnicaitaalm :2 kanlayanatam
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล อะไรกต็ ามที่เราท�ำซำ้� ๆ 3 ทีจ่ รงิ มนั ไมซ่ �ำ้ เดมิ มันเป็นของใหม่อยเู่ สมอ
ก้าวขา้ มความจำ� เจ คาํ ปรารภ 4 เมอื งไทยกำ� ลงั กา้ วสยู่ คุ 5G นน่ั หมายความวา่ ชวี ติ เราจะม ี ความสะดวกสบายเพม่ิ ขน้ึ เพราะเทคโนโลยจี ะมสี มรรถภาพ (หรอื “ฉลาด”) มากขึน้ การตดิ ตอ่ สอ่ื สารทำ� ไดร้ วดเรว็ ข้ึน แต่ในเวลาเดียวกัน ชีวิตเราก็จะต้องเร่งรีบยิ่งกว่าเดิม และ ถูกรุมเร้าด้วยข้อมูลข่าวสารมากมาย แม้ทุกวันน้ีเรายังอยู่ ในยคุ 4G หลายคนกพ็ บวา่ ชวี ติ มเี วลาวา่ งนอ้ ยลง มคี วาม เหนอื่ ยลา้ และความเครยี ดมากขนึ้ เพราะวงิ่ ตามโลกไมห่ ยดุ และคิดไมเ่ ลิก จนไมไ่ ด้พัก ท้ังกายและใจ
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล เทคโนโลยี แม้ช่วยให้ชีวิตเรามีความสะดวกสบาย มากข้ึน อีกทั้งช่วยทุ่นเวลาและทุ่นแรงของเราได้มาก แต่ บ่อยครั้งเรากลับเสียเวลาและพลังงานมากมายไปกับมัน จนมีเวลาว่างน้อยลงและเหน่ือยล้ามากข้ึน แทนท่ีมันจะ ช่วยให้เราเปน็ อสิ ระมากขึ้น เรากลับพ่ึงพิงมัน จนขาดมัน ไมไ่ ด ้ ผลกค็ อื แทนทเี่ ราจะเปน็ นายมนั มนั กลบั เปน็ นายเรา เราต้องทุ่มเทส่ิงส�ำคัญต่างๆ ในชีวิตเพื่อมัน รวมท้ังละท้ิง สิ่งมีค่าหลายอยา่ งในชีวิตเพื่อมัน 5 โทรศัพท์มือถือ เป็นตัวอย่างของเทคโนโลยีท่ีเข้ามา มบี ทบาทสำ� คญั อยา่ งมากในชวี ติ ของเรา จนกลา่ วกนั วา่ มนั ได้ กลายเปน็ อวัยวะสว่ นหนงึ่ ของคนยุคนี้ไปแล้ว แตถ่ ึงอย่างไร มนั กย็ งั ตา่ งจากอวยั วะของเรา เพราะแมข้ าดมนั เรากย็ งั อย ู่ ได้เป็นปกติ อันท่ีจริง ถ้าอยากให้ชีวิตและจิตใจของเรา เปน็ ปกตสิ ขุ เราควรหา่ งมนั หรอื วางมนั ลงบ้าง อยา่ งนอ้ ยๆ ก็ช่วยให้เรามีเวลาว่างมากข้ึน หรือมีเวลาให้กับคนส�ำคัญ
ก้าวข้ามความจำ� เจ ในชีวิต เช่น พ่อแม่ ลูกหลาน คนรัก รวมทั้งมีเวลาให้กับ สงิ่ ส�ำคญั ในชีวิต เช่น การฝกึ จิต เติมความสงบใหแ้ ก่ใจ แมว้ ่าการอยหู่ า่ งจากโทรศพั ท ์ รวมทงั้ เทคโนโลยชี นดิ อื่นๆ อาจท�ำให้ชีวิตมีรสชาติหรือความสนุกสนานต่ืนเต้น น้อยลง ยิ่งเอาเวลาท่ีเคยให้กับโทรศัพท์มาใช้ในการฝึกจิต ทำ� สมาธภิ าวนาดว้ ยแลว้ ชวี ติ กย็ งิ่ จดื ชดื เพราะตอ้ งทำ� สงิ่ ท ่ี ซ�้ำๆ ชั่วโมงแล้วช่วั โมงเล่า วันแล้ววันเลา่ ส�ำหรับหลายคน มันคือความทุกข์ทรมานอยา่ งยิง่ เพราะเคยชินกับชีวิตท่ีถูก 6 ปลกุ เรา้ ดว้ ยสงิ่ ใหมๆ่ ตลอดเวลา อยา่ งไรกต็ าม ในความซำ�้ ดังกล่าว มีคุณค่าหลายอย่างท่ีเรานึกไม่ถึง จะว่าไปแล้ว ในความซ้�ำเหล่านั้น มีส่ิงใหม่อยู่เสมอ ไม่ใช่ความซ�้ำซาก จ�ำเจ หากวางใจให้ถูก อยู่กับปัจจุบันขณะ ท�ำด้วยความ รู้สึกตัว เราก็จะพบคุณภาพใหม่ท่ีเกิดข้ึนกับจิตใจ ชนิดที่ เทคโนโลยใี ดๆ กไ็ มส่ ามารถให้แกเ่ ราได้
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล หนงั สอื เลม่ เลก็ นป้ี ระกอบดว้ ยสองบทความ ซง่ึ มที มี่ า จากค�ำบรรยายของข้าพเจ้าต่างวาระต่างโอกาส แม้เนื้อหา จะต่างกัน แต่ก็มีส่ิงหนึ่งที่เหมือนกัน คือช่วยให้เราอยู่ใน ยุคดิจิตอลด้วยใจที่สดชื่นเบิกบาน แทนท่ีจะว่ิงตามกระแส หรอื เอาแตร่ ทู้ นั โลก กห็ นั มารทู้ นั ตวั เอง ไมไ่ หลไปตามกระแส โลก จนพลดั สวู่ งั วนแหง่ ความทุกข์ คณุ หมออจั ฉรา กลน่ิ สวุ รรณ ์ แหง่ ชมรมกลั ยาณธรรม 7 แจ้งความประสงค์ขอน�ำค�ำบรรยายทั้งสองบทมาตีพิมพ์ เพอื่ เผยแพรเ่ ปน็ ธรรมทาน โดยจดั ทำ� รปู เลม่ ใหพ้ เิ ศษเนอ่ื งใน โอกาสขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้ายินดีอนุญาตและขออนุโมทนาใน กศุ ลเจตนา ปรารถนาใหค้ วามเจรญิ งอกงามในธรรม อยเู่ ยน็ เปน็ สุขบังเกิดแก่เพอ่ื นมนุษยโ์ ดยถ้วนหนา้ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
กา้ วข้ามความจ�ำเจ คาํ นํา ชมรมกลั ยาณธรรม ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน มีน้อยคนนักท่ีจะไม่ใช้โทรศัพท์ มือถือ เทคโนโลยีกลายเป็นสว่ นส�ำคญั ในชวี ติ ทีเ่ ข้ามาช่วย อ�ำนวยความสะดวก ให้ผู้คนได้ทันโลก ทันเหตุการณ์และ 8 ติดต่อส่ือสารฉับไว แต่ในขณะเดียวกันมันกลายเป็นส่ิงท ่ี ผกู ลา่ มเราไวไ้ มใ่ หม้ โี อกาสเปน็ อสิ ระจากสงิ่ กระตนุ้ หาความ สงบได้ยาก แม้ในวัด ในส�ำนักปฏิบัติธรรม สิ่งน้ีก็ยังเป็น ตัวไวรสั รา้ ยทีค่ อยบอ่ นทำ� ลายความสงบของจติ ใจ หนังสือเล่มนี้ได้เรียบเรียงจากค�ำบรรยายของท่าน พระอาจารยไ์ พศาล วสิ าโล เปน็ เรอื่ งสนั้ ๆ สองเรอ่ื งรวมกนั
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล ที่ได้แสดงให้เห็นทั้งปัญหา และทางแก้พร้อมวิธีปฏิบัติอยู่ ในเลม่ เดยี วกนั โดยเรอ่ื งแรกเปน็ เรอ่ื ง “กา้ วขา้ มความจำ� เจ” เรียบเรียงจากการบรรยายธรรมส้ันๆ เรื่อง “คุณค่าของ การท�ำซ�้ำ” ซ่ึงท่านพระอาจารย์แสดงให้เห็นถึงอานิสงส์ ของการทำ� อะไรซำ้� ๆ ไมใ่ ชว่ ่าจะซ�้ำซาก แตท่ กุ ขณะมคี วาม เปลยี่ นแปลงและใหมเ่ สมอ เฉกเชน่ ชวี ติ เรา ทม่ี ปี จั จบุ นั ขณะ ให้ได้ต่ืนตาต่ืนใจ และได้เรียนรู้ ยอมรับมันโดยไม่ผลักไส และไม่ยึดถือ เมื่อท�ำเป็นหนังสือก็ได้รับความกรุณาจาก 9 ศลิ ปนิ ใจบญุ “เซมเบ”้ ชว่ ยวาดภาพประกอบใหอ้ ยา่ งงดงาม ขออนโุ มทนาในนำ้� ใจทมี่ ีให้ชมรมกลั ยาณธรรมตลอดมา ส่วนหลังของหนังสือ ซ่ึงได้ออกแบบทันสมัย คือมี สองปก ใหพ้ ลกิ อา่ นกลบั ดา้ นกนั และมคี วามโดดเดน่ ไมแ่ พ้ เรอ่ื งแรก เปน็ เรอื่ งทจ่ี ะกระตกุ สตขิ องพวกเราไดอ้ ยา่ งด ี เมอื่ พระอาจารย์สอนให้ “วางมือถือลงบ้าง” หลายๆ ประโยค
ก้าวข้ามความจ�ำเจ สะดดุ ใจใหห้ วนกลบั มามองพฤตกิ รรมของตนเองและเพอ่ื นๆ วา่ เราตกเปน็ ทาสของมอื ถอื จรงิ อยา่ งทท่ี า่ นวา่ ไหม และชวี ติ จะดขี นึ้ มากเพยี งไร หากเราใชม้ นั อยา่ งรเู้ ทา่ ทนั บทบรรยาย ส้ันๆ แต่ประทับใจ วางไม่ลง ท้ังได้ภาพประกอบจากคุณ “แตง” ทสี่ อ่ื อารมณแ์ ละแสดงถงึ ความกวนใจของมอื ถอื ตวั ดี ไดอ้ ยา่ งนา่ เอน็ ดู ตอ้ งขออนโุ มทนาในนำ�้ ใจมา ณ ทนี่ ี้ รวมถงึ ทุกทา่ นท่อี ยเู่ บอื้ งหลังงานหนงั สือน่าอ่านสง่ ทา้ ยศักราชกนั 10 ชมรมกัลยาณธรรมขอน้อมกราบบูชาพระคุณ ท่าน พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ที่เมตตามอบต้นฉบับท้ังสอง เร่ืองน้ีให้ชมรมฯ ได้จัดพิมพ์แจกรับเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๓ เปน็ ของขวญั ทางปญั ญาจากใจชมรมกลั ยาณธรรม เพอ่ื นอ้ ม บูชาธรรมอันประเสริฐขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใหส้ บื ทอด ยนื ยาวตอ่ ไป ดว้ ยสำ� นวนทเี่ ขา้ ใจงา่ ย และภาษา ท่ีทันสมัย ช่วยให้สามารถส่งต่อให้เพื่อนๆ ได้ โดยไม่ต้อง
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล กลัวว่าจะอ่านยาก ทั้งเรื่องราวท่ีเข้ากับยุคสมัย เป็นธรรมะ ส�ำหรับสงั คมยุคดจิ ิตอลทีน่ า่ อนุโมทนาอยา่ งยงิ่ หวังว่า ท่านผู้อ่านจะได้รับประโยชน์จากหนังสือ และสามารถนำ� ไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ของทา่ นได ้ เพอ่ื ปรบั เปลย่ี น การใชเ้ ทคโนโลยใี หเ้ หมาะสมและมชี วี ติ ทเ่ี ปน็ อสิ ระ โปรง่ เบา มากขน้ึ โดยสามารถจดั สรรเวลามาปฏบิ ตั ภิ าวนา หาความ สงบ และชาร์ตแบตเตอร่ีให้หัวใจของเรา รับขวัญศักราช 11 ใหมก่ ันค่ะ กราบอนโุ มทนาในธรรม ทพญ.อจั ฉรา กลน่ิ สุวรรณ์
เราควรตระหนกั วา่ เราโชคดีทร่ี ู้สึกเบอ่ื มนั แสดงว่าชีวติ เราปกติ ไม่มเี หตรุ ้ายเกิดขนึ้ จงึ ควรขอบคุณ ความเบอ่ื และอยู่กบั ความเบอื่ ใหไ้ ด้ ต่อไปถา้ เราฝึกไปเรอ่ื ยๆ กจ็ ะไมร่ ูส้ ึกเบอ่ื
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล วนั หนงึ่ ๆ กจิ วตั รประจำ� วนั ของพวกเราทน่ี ไ่ี มค่ อ่ ยมอี ะไรมาก ตื่นเช้าตี ๓ ท�ำวัตรสวดมนต์ตี ๔ จากนั้นก็ไปบิณฑบาต หรอื ทำ� กจิ สว่ นรวม เชน่ ทำ� ครวั เสรจ็ แลว้ กฉ็ นั อาหาร หรอื 15 รบั ประทานอาหารรว่ มกนั แลว้ แยกยา้ ยไปภาวนาหรอื ทำ� กจิ ส่วนตัว บางวันมีฉันเพล บางวันก็ไม่มี แล้วมาพบกันอีกที เพ่ือท�ำวัตรเย็นตอน ๖ โมง หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป ท�ำกิจส่วนตัว ทุกวันก็เป็นอย่างนี้ วันแล้ววันเล่า นานๆ ถงึ จะมอี ะไรแปลกไปจากน้ีบา้ ง เชน่ มงี านบวชเณร มีงาน กฐิน หรือมีงานปฏิบัติบูชาคุณหลวงพ่อ อย่างที่ได้ท�ำไป เมอื่ อาทิตย์ท่ีแล้ว
กา้ วขา้ มความจำ� เจ ครั้นมาดูกิจวัตรแต่ละอย่าง มันก็ซ�้ำกัน ท�ำวัตร สวดมนต์ก็ท่องบทเดิม ซ้�ำๆ กันทุกวัน มีบทใหม่บ้าง ก็ นิดหน่อย ถ้าไม่ได้ท�ำวัตรสวดมนต์ เราก็มาท�ำความเพียร มนั กซ็ ำ�้ ๆ กนั อกี เดนิ กลบั ไปกลบั มา พอเดนิ สดุ ทางจงกรม กว็ กกลบั มา แลว้ กเ็ ดนิ กลบั ไปอกี ยกมอื สรา้ งจงั หวะกซ็ ำ้� เดมิ ๑๔ จงั หวะ ครบจงั หวะท ี่ ๑๔ กก็ ลบั มาเรม่ิ ตน้ จงั หวะท ี่ ๑ ใหม่ ดูซ้�ำๆ ชวนใหห้ ลายคนรสู้ ึกเบื่อ 16 ที่จริงแล้วมันไม่ได้ซ้�ำเลย สิ่งที่เราท�ำ ถ้าดูท่ีอากัป- กิริยาภายนอก มันซ�้ำเดิมจนกลายเป็นซ้�ำซาก แต่ท่ีจริง ไม่ซ�้ำซากหรอก แต่ละอย่างที่เราท�ำ แม้จะท�ำเหมือนเดิม แต่ว่ามันใหม่เสมอ อยู่ท่ีว่าเราจะสังเกตหรือรู้สึกไหม การท�ำวัตรสวดมนต์ แม้จะเป็นบทเดิมๆ แต่ถ้าเราท�ำด้วย ความรู้สึกตัว เราสาธยายด้วยความใส่ใจ จะพบว่า มันมี อะไรใหม่ๆ ใหก้ บั เราเสมอ
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล อาตมาบวชมา ๓๖ ปแี ลว้ ถา้ คดิ เปน็ วนั ก ็ ๑๓,๐๐๐ วนั ทำ� วตั รสวดมนตเ์ ชา้ และเยน็ ตลอด ๓๐ กวา่ ป ี รวมแลว้ กค็ งไมน่ อ้ ยกวา่ ๒๐,๐๐๐ ครงั้ แมจ้ ะไมไ่ ดส้ วดทกุ วนั กต็ าม สวดมาเปน็ หมนื่ ๆ ครงั้ แลว้ แตก่ ย็ งั มอี ะไรใหมๆ่ ใหเ้ รยี นร ู้ อยู่เสมอ มีแง่คิดท่ีท�ำให้ตัวเองเกิดความเข้าใจในธรรมะ เพ่ิมขึ้นอยู่เรื่อยๆ และไม่คิดว่า จะไม่ได้รับอะไรใหม่ๆ ใน วันขา้ งหน้า 17 มนั อยทู่ ใ่ี จของเรา ถา้ ใจของเรามคี วามรสู้ กึ ตวั ใสใ่ จ อยู่เป็นนิจ ก็จะได้อะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ เหมือนคนท่ีอ่าน นยิ าย อา่ นเมอื่ ๑๐ ปที แี่ ลว้ กบั อา่ นเมอ่ื ๕ ปที แ่ี ลว้ หรอื อา่ นเมอื่ ปที แ่ี ลว้ ถา้ เปน็ นยิ ายดๆี จะไดแ้ งค่ ดิ ใหมๆ่ ตลอด เวลา เรียกว่า ได้อะไรใหม่ๆ ตามวัย ตามประสบการณ์ ของเรา บางเรอ่ื งบางอยา่ ง เราอา่ นไมร่ เู้ รอ่ื งเมอื่ ๑๐ ปกี อ่ น แต่พอมาอ่านใหม่ก็เข้าใจ เพราะว่าเราไม่ใช่คนเดิม เราม ี
กา้ วข้ามความจ�ำเจ ประสบการณ์ท่ีใหม่ เราผ่านโลก ผ่านชีวิต ผ่านความรู้สึก และอารมณ์ต่างๆ มามากมาย ท้ังหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยท ี่ ช่วยให้เราได้แง่คิดใหม่ๆ จากนิยาย แม้ว่าจะอ่านมาเป็น ครั้งท ่ี ๒๐ แลว้ ก็ตาม เดินจงกรม สร้างจังหวะก็เหมือนกัน แม้ว่าอากัป- กริ ยิ าภายนอกจะซำ�้ ไปซำ�้ มา แตท่ จี่ รงิ มนั ใหมเ่ สมอ มนั ใหม่ เสมอแต่ละขณะ มันไม่ได้เกิดขึ้นอย่างว่างเปล่า มันจะม ี 18 ภาวะทางกาย ภาวะทางอารมณ ์ ภาวะทางจติ เกดิ ขนึ้ ควบค่ ู ไปด้วย เวลายกมือสร้างจังหวะ มือเคล่ือนไหวในท่าเดิมๆ แต่ว่า ความคิดหรืออารมณ์และความรู้สึกที่เกิดข้ึน มัน ไม่เคยซ�้ำเดิม มันมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ สร้างจังหวะ เมอ่ื ๑๐ ปที แ่ี ลว้ เมอ่ื ปที แ่ี ลว้ หรอื เมอ่ื วานกบั วนั น ้ี มนั ไม่ เหมือนเดิม มันไม่ใช่ความซ้�ำซาก มันมีความเปลี่ยนแปลง เกดิ ข้นึ อยูเ่ รือ่ ยๆ
กา้ วขา้ มความจำ� เจ แต่มันเกิดข้ึนอย่างช้าๆ ความเปลี่ยนแปลงทางใจ มนั คลา้ ยตน้ ไม ้ เราดเู มอ่ื วาน กบั วนั น ี้ มนั กเ็ หมอื นเดมิ แต ่ ที่จริงไม่ใช่ มันมีความเปล่ียนแปลงเกิดข้ึนกับต้นไม้ทุกวัน อาจจะทุกชั่วโมง แต่เราไม่ได้สังเกต ยิ่งต้นไผ่แล้ว มันโต ทุกช่ัวโมงก็ว่าได้ ต้นไผ่เม่ือวานกับวันน้ี ไม่ใช่ต้นเดิม มัน คนละต้น มันมีการเติบโตเปล่ียนแปลงจากเดิม มองด้วย ตาเปล่า เราจะเห็นการเติบโตของมันไม่ชัด แต่ถ้าเราถ่าย ภาพนง่ิ เมอ่ื วานและวนั น ้ี หรอื อกี ๑๐ วนั ข้างหนา้ แลว้ เอา 20 ภาพเหล่านี้มาเทียบกันดู จะพบวา่ มนั เป็นคนละตน้ เพราะ วา่ ไผว่ นั นส้ี งู ขน้ึ เปน็ นว้ิ หรอื อาจจะหลายนว้ิ ดว้ ยซำ้� เหมอื น กบั เขม็ สนั้ ของนาฬกิ า เราดกู เ็ หน็ มนั นง่ิ ไมเ่ หมอื นเขม็ วนิ าท ี เขม็ วนิ าทขี ยบั ตลอดเวลา แตเ่ รากร็ วู้ า่ เขม็ สนั้ ไมไ่ ดห้ ยดุ อย่ ู กับท่ี ตาเราหลอกเราว่ามันน่ิง แต่ความจริงมันขยับตลอด เวลา มนั ขยับทีละนิดๆ
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล ส่ิงที่เราท�ำเป็นกิจวัตร ไม่ว่าท�ำวัตรสวดมนต์ การ เดินจงกรม การสร้างจังหวะ แม้อากัปกิริยาภายนอก ด ู เหมือนว่ามันซ้�ำๆ เหมือนเดิม แต่ที่จริงมันไม่ซ้�ำ มันใหม่ เสมอ จะวา่ ไปแลว้ ไมใ่ ชแ่ คก่ จิ วตั รเหล่านเ้ี ทา่ นนั้ ทกุ อยา่ ง มันใหม่เสมอ ในแต่ละขณะ ต้นไม้ที่เราเห็นเม่ือวาน หรือ เมื่อเช้า กับต้นไม้วันนี้ ตอนน้ี มันไม่ใช่ต้นเดิม มันเป็น ตน้ ใหมแ่ ละใหม่เสมอ 21 นักปราชญ์กรีกคนหน่ึงช่ือเฮราคลิตุส วาทะประโยค หน่ึงของเขาที่มีช่ือเสียงมากก็คือ “ไม่มีใครท่ีก้าวเท้าลงไป ในแม่น�้ำสายเดียวได้ ๒ ครั้ง” เราทุกคนท�ำได้แค่คร้ังเดียว เพราะถ้าก้าวลงไปอีกคร้ัง มันก็เป็นแม่น�้ำสายใหม่แล้ว แมว้ า่ ชอ่ื มนั ยงั เปน็ ชอ่ื เดมิ เชน่ ลำ� ปะทาว เจา้ พระยา ช ี มลู หรือบางปะกง เมื่อวานกับวันนี้ มันยังมีช่ือเดิม แต่ที่จริง แมน่ ำ้� เมอื่ วานกบั วนั น ี้ เปน็ แมน่ ำ้� คนละสาย ทเ่ี หน็ ตอนนเ้ี ปน็
กา้ วข้ามความจำ� เจ แม่น้�ำสายใหม่ มันไม่ใช่แค่เม่ือวาน แม้วินาทีที่ผ่านมา กับวินาทีน้ี แม่น้�ำท่ีอยู่ต่อหน้าเราก็เป็นแม่น�้ำคนละสาย เราจึงไม่สามารถก้าวเท้าลงไปในแม่น้�ำสายเดิมได้ ๒ คร้ัง ท�ำได้แคค่ รัง้ เดยี ว เทียนท่ีเราจุดก็เหมือนกัน วินาทีที่แล้ว กับวินาทีนี้ มันเป็นเทียนคนละเล่ม ลองถ่ายรูปหรือเอาไปช่ังน้�ำหนักดู ก็จะพบว่ามันมีความเปล่ียนแปลงขึ้น คือส้ันลงหรือเบาลง 22 เพราะฉะน้ันทุกอย่างไม่เคยซ้�ำเดิม มันไม่ซ้�ำซาก มันใหม่ เสมอ อยูท่ ีว่ ่าเราจะสงั เกตไหม อยู่ที่ใจของเรา ในสมัยพุทธกาล มีพระรูปหน่ึง ชื่อ พระจูฬปันถกะ ท่านมีพ่ีชายชื่อพระมหาปันถกะ เป็นคนฉลาดมาก บรรล ุ ธรรมเป็นพระอรหันต์ได้เร็ว ตรงข้ามกับท่านจูฬปันถกะ เปน็ คนสมองทบึ มคี วามจำ� ทแ่ี ยม่ าก แคค่ าถาเดยี ว ทา่ นใช ้
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล เวลา ๔ เดือนก็ยังจ�ำไม่ได้ จนพี่ชายไล่ออกไปจากส�ำนัก ท่านจูฬปันถกะเสียใจมากจึงคิดจะสึก บังเอิญได้พบพระ พทุ ธเจา้ พระองคท์ รงเหน็ วา่ ทา่ นจฬู ปนั ถกะ เปน็ ผทู้ มี่ คี วาม ตง้ั ใจ ถึงจะโงเ่ พียงใด กส็ ามารถบรรลุธรรมได้ 23
กา้ วข้ามความจ�ำเจ พระพทุ ธเจา้ จงึ ประทานผา้ ขาวบรสิ ทุ ธใิ์ ห ้ แลว้ ตรสั สง่ั ให้ท่านจูฬปันถกะลูบคล�ำผ้าผืนน้ันพร้อมกับบริกรรมด้วย คำ� สนั้ ๆ วา่ รโชหรณํ (ระ-โช-หะ-ระ-นงั ) แปลวา่ ผา้ เปอ้ื นฝนุ่ ทา่ นจฬู ปนั ถกะเปน็ คนวา่ งา่ ย เมอื่ พระพทุ ธองคส์ งั่ กท็ ำ� ตาม ทา่ นลบู ผา้ ไปเรอ่ื ยๆ ลบู ไปกท็ อ่ ง รโชหรณๆํ ๆ ไปดว้ ย ตอน แรกก็ไม่มีอะไรเกิดข้ึน แต่พอลูบไปนานๆ ผ่านไปหลาย ช่ัวโมง ผ้าก็เร่ิมคล้�ำ ท่ีจริงมันไม่ใช่เพิ่งคล�้ำ มันเริ่มคล้�ำ ทนั ทที ถ่ี กู ลบู คลำ� แลว้ แตไ่ มป่ รากฏชดั เจน ครน้ั ลบู ไปนานๆ 24 รอยคล�้ำท่เี กิดจากฝนุ่ กม็ ีมากขน้ึ จนมองเหน็ ไดช้ ัดเจน ทีแรกท่านจูฬปันถกะลูบผ้าโดยไม่ได้คิดอะไร ท่าน ลบู เพียงเพราะพระพทุ ธเจา้ สั่ง แต่เมือ่ ลบู ไปนานๆ ท�ำซ้�ำๆ ไปเร่ือยๆ ก็เร่ิมเห็นว่าผ้าขาวกลายเป็นผ้าคล้�ำ ความท่ี ท่านท่อง รโชหรณํ ท่องไปนานๆ จิตก็แนบแน่นอยู่กับ คำ� ดงั กลา่ ว จนเปน็ สมาธ ิ เมอ่ื จติ เปน็ สมาธ ิ สงบตง้ั มนั่ พอ
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล เห็นความคล�้ำของผ้า ก็ได้คิดขึ้นมาว่า ไม่มีอะไรท่ีเที่ยงแท ้ แน่นอน เม่ือเช้าผ้ายังขาว แต่ตอนน้ีมันหมองคล�้ำเสียแล้ว ทา่ นยงั เหน็ ตอ่ ไปวา่ ฝนุ่ ทำ� ใหผ้ า้ คลำ�้ เฉกเชน่ กเิ ลสทำ� ใหจ้ ติ มวั หมอง ผา้ คลำ�้ เพราะฝนุ่ จติ กห็ มองทกุ ขก์ เ็ พราะกเิ ลส ได้ คิดเช่นน้ที ่านก็เห็นโทษของกิเลส ขณะเดียวกนั เมอ่ื ได้เห็น อนิจจังของผ้า ท่านก็เกิดปัญญาแจ่มแจ้งในพระไตรลักษณ์ บรรลอุ รหัตตผล เปน็ พระอรหนั ต์ทรงอภิญญา 25 จากคนโง่ท่ีหวังเอาดีทางธรรมแทบไม่ได้ กลับกลาย เป็นพระอรหันต์ ทั้งน้ีเป็นเพราะท่านขยันท�ำซ้�ำๆ ทุกครั้ง ท่ีท่านลูบผ้า ผ้าไม่ใช่ผืนเดิม เป็นผ้าผืนใหม่ มันมีความ คลำ�้ หรอื ความสกปรกเกดิ ขน้ึ ทลี ะนดิ ๆ เปน็ ผลของการทำ� ซำ้� ๆ พจิ ารณาใหด้ จี ะพบวา่ ไมใ่ ชแ่ ตก่ ารลบู ผา้ เทา่ นน้ั อะไร ก็ตามท่ีเราท�ำซ้�ำๆ ท่ีจริงมันไม่ซ�้ำเดิม มันเป็นของใหม่อยู่ เสมอ แต่เราเข้าใจผิดว่ามันเป็นความซ้�ำซาก พอมองว่า
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล ซำ้� ซาก กเ็ ลยกลายเปน็ ความจำ� เจ พอเหน็ วา่ จำ� เจ ความเบอ่ื ก็เกดิ ข้ึนตามมา ท่ีจริงแม้วา่ เป็นการท�ำซ้�ำๆ แต่อย่าลืมวา่ ชีวิตของเรา อยไู่ ดก้ เ็ พราะการทำ� อะไรซำ้� ๆ นแี่ หละ ทกุ วนั เราตอ้ งกนิ ขา้ ว เชา้ กก็ นิ ขา้ ว กลางวนั กก็ นิ ขา้ ว เยน็ กก็ นิ ขา้ ว พรงุ่ นก้ี ก็ นิ ขา้ ว มะรืนกก็ นิ ขา้ ว สมยั กอ่ นคนไทยยงั ไมร่ จู้ กั ขนมปงั กก็ นิ ข้าว ไดท้ กุ วนั ทุกวันน้ีเรากินข้าวทุกวันเหมือนกัน ไม่เห็นมีใคร 27 บ่นว่ามันซ้�ำซาก ทุกวันเราต้องเข้านอน นอนวันละ ๗ - ๘ ช่ัวโมง กไ็ มเ่ ห็นใครบ่นว่ามันซ�้ำซาก ย่ิงลมหายใจแล้วย่ิงเห็นชัด หายใจเข้าหายใจออก อยู่อย่างนี้ทั้งปีทั้งชาติ ต้ังแต่เกิดจนตาย ลมหายใจเราม ี ๒ จงั หวะเทา่ นนั้ คอื เขา้ และออก เขา้ และออก เขา้ และออก มันไม่ใช่แค่เข้านานๆ ที และออกนานๆ ที มันเข้าออก
กา้ วขา้ มความจ�ำเจ แทบทุกวินาที ก็ไม่มีใครบ่นว่าท�ำไมถึงหายใจซ�้ำซาก ปอด กับหัวใจของเราก็เหมือนกัน มันยุบและขยายอย่างน้ีทุกวัน ทุกวินาที ดูให้ดีจะพบว่าชีวิตเราต้องพึ่งพาอาศัยความซ�้ำๆ ต้ังแต่เกิดจนตาย เราเป็นหนี้บุญคุณความซ้�ำ จึงไม่ควร รังเกียจมัน ควรเห็นอานิสงส์ของความซ้�ำ เห็นคุณค่า ของมันบ้าง 28 จะวา่ ไป เราควรฝกึ ใจใหค้ นุ้ กบั ความซำ้� เสยี แตต่ อนน ี้ เพราะต่อไปจะต้องไปเจอกับความซ้�ำแบบที่ไม่อยากจะเจอ เช่น เวลาเจ็บป่วย ต้องนอนติดเตียง หรือนอนอยู่ในท่า เดยี ว ยง่ิ กวา่ ซำ้� อกี แถมอาจจะตอ้ งกนิ อาหารทซ่ี ำ�้ เพราะวา่ เป็นเบาหวาน จึงต้องคุมอาหาร โรคบางชนิดพอเป็นหนัก แล้ว เราจะกินอะไรไม่ได้มาก ต้องกินอาหารที่ซ�้ำๆ ชีวิต ของพวกเราแต่ละคนมีโอกาสมากท่ีจะไปอยู่ในสภาพน้ัน ในอนาคต คือนอนติดเตียงเป็นเดือน วันๆ ไม่เห็นอะไร
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล นอกจากเพดาน ผนัง ซ้�ำเดิม เพราะไปไหนไม่ได้ อยู่ใน หอ้ งเดมิ ๆ ๒๔ ชว่ั โมง อยบู่ นเตยี งตวั เดมิ อาหารอยา่ งเดมิ ถา้ เราไม่รู้จักทำ� ใจใหใ้ หมเ่ สมอกับสง่ิ ซ้�ำๆ ถึงเวลาทเ่ี ราต้อง นอนติดเตียงเพราะป่วยหนัก หรือเกิดเป็นอัมพาต จนถึง วาระสดุ ทา้ ยของชวี ติ จะทกุ ข์ทรมานมาก หลายคนท�ำใจไม่ได้ เพราะว่าแต่ก่อน มีอะไรใหม่ๆ 29 ให้ท�ำ ให้เสพเสมอ ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ แก่แล้วยังไม่รู้จัก ปรบั ตวั ปรบั ใจใหอ้ ยกู่ บั ความซำ�้ ได ้ ตอ้ งดนิ้ รนไปเทย่ี ว จะได ้ เจออะไรใหมๆ่ ไมใ่ หซ้ ำ้� ซากจำ� เจ ถา้ ไปเทย่ี วไมไ่ หว เพราะ ไม่มีก�ำลังไปด้วยตัวเอง ก็ต้องรบเร้าให้ลูกหลานขับรถพา ไปเที่ยว พาไปกิน ไปดูหนัง ไปชมวิวทิวทัศน์ใหม่ๆ หรือ เจออะไรแปลกๆ คนแบบน้ีมีมากข้ึนเรื่อยๆ เพราะว่าทน กบั ความซำ�้ ซากจ�ำเจไม่ได ้ และเมือ่ ถึงเวลาท�ำแบบน้นั ไม่ได้ ตอ้ งปว่ ยนอนตดิ เตยี ง จะรสู้ กึ ทรมานมาก เพราะตอ้ งอยกู่ บั
ก้าวข้ามความจ�ำเจ สง่ิ ซำ�้ ๆ ๕ ปี ๑๐ ปี กวา่ จะตาย ทง้ั น้ี เพราะวา่ ไมร่ จู้ กั ปรบั ตวั ปรับใจให้อยู่กบั สง่ิ ซ้ำ� ๆ ได้ คนสมยั นขี้ เี้ บอ่ื เพราะวา่ ไดเ้ สพไดส้ มั ผสั กบั อะไรใหมๆ่ อยตู่ ลอดเวลา หลายคนตดิ โทรทศั นต์ ง้ั แตอ่ าย ุ ๒ - ๓ ขวบ คนท่ีเติบโตมากับโทรทัศน์ จะว่าไปก็น่าสงสาร เพราะเขา 30
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล เห็นแต่สิ่งท่ีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในจอ ลองสังเกตด ู จอโทรทัศน์ มันไม่ค่อยมีภาพนิ่งๆ เกิน ๕ วินาที ไม่ว่า จะเป็นโฆษณา หนัง ละคร ยกเว้นสารคดี แม้แต่สารคดี ก็ต้องเปล่ียนภาพฉับไวตลอดเวลา เด็กท่ีโตมากับโทรทัศน ์ ไอแพด ยูทูบ จะเป็นคนท่ีเบื่อง่าย ถ้าเจออะไรที่ซ�้ำๆ แค่ ๕ วินาที อย่าว่าแต่การมาเดินจงกรมท้ังวัน หรือสร้างจังหวะ 31 นับชั่วโมงเลย หลายคนฟังบรรยายแค่ ๕ นาที ก็เบ่ือแล้ว บอกวา่ ยาวไป นา่ เบอ่ื เพราะเขาคนุ้ กบั สงิ่ ใหมๆ่ ทห่ี ลง่ั ไหล เข้ามาตลอดเวลา เวลาดูภาพในจอ ไม่ว่าจอโทรทัศน์หรือ จอโทรศพั ท ์ ก็ตอ้ งมกี ารตดั ภาพสลบั ไปสลับมา ทกุ ๒ - ๓ วินาที ถึงจะดึงความสนใจของเขาได้ ถ้าภาพน่ิงๆ แค่ ๕ วนิ าทกี เ็ บอ่ื แลว้ และหากคลปิ วดี โี อยาวเกนิ ๕ นาท ี กเ็ บอื น หน้าหนีแล้ว คนสมัยน้ีเบ่ือง่าย เราจึงเห็นผู้คนจ�ำนวนมาก
ก้าวขา้ มความจำ� เจ ไมค่ อ่ ยชอบอยกู่ บั ท ่ี ว่างๆ กต็ อ้ งออกไปหาอะไรใหมๆ่ กนิ ดูหนังใหม่ๆ ฟังเพลงใหม่ๆ ไปช้อป หรือหาซื้อของใหม่ๆ ท้ังวันหมดเวลาไปกับการเสพส่ิงใหม่ๆ รวมทั้งหาประสบ- การณใ์ หมๆ่ เสมอ จะไดไ้ มร่ ูส้ ึกเบื่อ ไม่ซำ�้ ซาก หลายคนพอมาวัด มาปฏิบัติ จึงรู้สึกทรมานมาก เพราะถูกความเบ่ือเล่นงาน ทั้งวันมีแต่กิจวัตรซ้�ำเดิม ไม่มี หนงั ใหด้ ู ไมม่ เี พลงใหฟ้ งั ไมม่ ขี อ้ ความหรอื ขา่ วใหมๆ่ ใหด้ ู 32 เพราะโทรศัพท์ถูกยึด สมัยนี้คนติดโทรศัพท์มาก ส่วนหน่ึง ก็เพราะมันมีอะไรให้เสพทางตา ทางหูตลอดเวลา ไม่ว่า จะเป็นภาพ เพลง คลิป รวมทั้ง ข่าวสารใหม่ๆ ไหลหล่ัง พรง่ั พร ู ใหเ้ ราไดเ้ สพทง้ั วนั ทงั้ คนื อยากดอู ยากเสพตอนไหน ก็ได้ท้ังนั้น แต่ก่อนกว่าจะได้ดูข่าวก็ต้องรอให้ค�่ำเสียก่อน แต่เด๋ียวน้ีมีข่าวโดยเฉพาะเรื่องดราม่าให้เสพตลอดวัน ม ี โทรศพั ทแ์ คเ่ ครอ่ื งเดยี ว กไ็ ดเ้ จอ ไดเ้ หน็ ไดด้ ู ไดฟ้ งั ไดอ้ ่าน
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล ไดเ้ สพสง่ิ ใหมๆ่ ตลอดเวลา ดงั นนั้ พอเจออะไรซำ�้ ๆ จงึ รสู้ กึ เบอ่ื แมจ้ ะซำ้� แค ่ ๕ นาทกี เ็ บอ่ื แลว้ ยงิ่ มาปฏบิ ตั ทิ ว่ี ดั กย็ ง่ิ เบอื่ คนที่เพ่ิงมาๆ เวลายกมือสร้างจังหวะเจริญสติแค่ ๕ นาที ก็ง่วงแล้ว เพราะไม่มีอะไรใหม่ๆ มากระตุ้นจิตให้ตื่น พอ เจออะไรซ้ำ� ๆ จะร้สู กึ เบอ่ื หรือง่วงทนั ที แตถ่ า้ ทำ� ไปเรอื่ ยๆ จติ จะปรบั ตวั ดขี นึ้ แตก่ อ่ นเจรญิ สติ 33 แค่ ๕ นาทีก็หลับ แต่ตอนหลังท�ำเป็นชั่วโมงก็ไม่หลับ เพราะว่าจิตจะรับรู้ได้ว่า แต่ละขณะ แต่ละวินาทีมันไม่ได ้ ซ�้ำเดิม มันใหม่เสมอ อีกส่วนหน่ึงเป็นเพราะจิตเร่ิมปรับตวั ได้ มีความละเอียดขึ้น เพียงแค่ยกมือ มีความเคล่ือนไหว แค่เล็กน้อย จิตก็ต่ืนแล้ว จิตมันไม่หยาบเหมือนเม่ือก่อน แต่ก่อนหากมีอะไรมากระตุ้นเบาๆ ก็ไม่รู้สึก เพราะคุ้นกับ ส่ิงเร้าหนักๆ แรงๆ เช่น หนัง เพลง หรือการพูดคุยเฮฮา เจอแบบน้ีจิตจะต่ืน แต่ถ้าไม่ได้ดูหนัง ฟังเพลง ไม่ได้กิน
ก้าวขา้ มความจ�ำเจ อะไร ไมไ่ ดค้ ยุ กบั ใคร กร็ สู้ กึ งว่ ง แมม้ เี สยี งนก เสยี งลมพดั เสยี งใบไมไ้ หว มากระทบห ู กย็ งั งว่ ง เพราะเปน็ สมั ผสั ทเ่ี บา ไม่สามารถปลกุ จติ ให้ต่ืน แตท่ จ่ี รงิ แมแ้ ตค่ วามเบอ่ื มองใหด้ มี นั มปี ระโยชน ์ จะ วา่ ไปแลว้ เราโชคดที เี่ บอื่ เพราะความเบอ่ื เปน็ ตวั บง่ ชว้ี า่ ชวี ติ เราตอนนี้ราบร่ืนเป็นปกติ ไม่มีอะไรย่�ำแย่เลวร้ายเกิดข้ึน แตเ่ มอื่ ใดทชี่ วี ติ ของเราเกดิ ไมป่ กตขิ นึ้ มา ความเบอ่ื จะหายไป 34 มอี ารมณอ์ ยา่ งอนื่ มาแทนท ี่ ซงึ่ แยก่ วา่ ความเบอ่ื เสยี อกี เชน่ ถา้ มีคนมาด่าเรา เราจะยงั รสู้ กึ เบือ่ ไหม ไมเ่ บือ่ แล้ว เพราะ มีความโกรธมาแทน ถ้าเงินหาย รถถูกขโมย ถามว่ายังจะ เบ่ืออยู่ไหม ไม่เบื่อแล้ว เพราะมีความเสียใจและเคืองแค้น มาแทน ถา้ เกดิ แฟนทง้ิ ขอเลกิ เราจะยงั เบอื่ อยไู่ หม ไมเ่ บอื่ แลว้ เพราะมคี วามโศกเศรา้ และกลมุ้ ใจมาแทน ถา้ หากงาน มีปัญหา เราจะไม่รู้สึกเบื่อ แต่จะรู้สึกหนักใจ เครียดจัด
ก้าวขา้ มความจำ� เจ ถ้าเกิดคนรักตาย ก็ไม่รู้สึกเบ่ือเช่นกัน เพราะความเศร้า เสยี ใจ อาลยั อาวรณ์ มาแทน ลองถามตัวเอง ระหว่าง ความโกรธ ความเศร้า ความเสียใจ ความอาลยั อาวรณ ์ ความหนกั อกหนกั ใจ กบั ความเบอ่ื จะเลอื กอะไร เราคงจะเลอื กความเบอื่ ความเบอ่ื ดกี วา่ ความโกรธ ดกี วา่ ความเศรา้ ดกี วา่ ความเสยี ใจ ดกี วา่ ความหนกั ใจ ดกี วา่ ความกลมุ้ ใจ ใครค่ รวญใหด้ ี ความเบอ่ื 36 แสดงว่าชีวิตเราปกติ ราบร่ืน ถ้าชีวิตเราไม่ปกติ เราจะ ไมเ่ บอ่ื มนั จะมคี วามรสู้ กึ อน่ื มาแทนท ่ี อยา่ งทยี่ กตวั อยา่ งไป เราชอบไหม ระหว่างชีวิตปกติกับชีวิตที่ไม่ปกติ มีเหตุร้าย เกิดขึ้น จะเลือกอะไร ระหว่างชีวิตปกติกับชีวิตท่ีมีเหตุร้าย เกิดขึ้น ท�ำให้ชีวิตไม่เหมือนเดิม เช่น สูญเสียคนรัก เงิน หาย ถูกต่อว่าด่าทอ ถูกแฟนทิ้ง งานมีปัญหา ถูกไล่ออก จากงาน ดังน้ันเราควรตระหนักว่าเราโชคดีที่รู้สึกเบ่ือ มัน
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล แสดงว่าชีวิตเราปกติ ไม่มีเหตุร้ายเกิดข้ึน จึงควรขอบคุณ ความเบอื่ และอยกู่ บั ความเบอ่ื ใหไ้ ด ้ ตอ่ ไปถา้ เราฝกึ ไปเรอ่ื ยๆ ก็จะไมร่ ้สู กึ เบือ่ ถา้ เราวางใจเปน็ มสี ต ิ มคี วามรสู้ กึ ตวั เสมอ การปฏบิ ตั ิ จะเป็นของใหม่เสมอ และท�ำให้เรามีความสุข แม้จะท�ำส่ิง ทด่ี เู หมอื นซำ้� เดมิ กต็ าม สภาวะดงั กลา่ วจะเกดิ ขนึ้ ไดก้ ต็ อ่ เมอื่ เราปลุกฉันทะให้เกิดขึ้นในการปฏิบัติ ถ้าเรามีฉันทะ คือ 37 ความชอบในการปฏบิ ตั ิ ความเบอ่ื กจ็ ะละลายหายไป จะเกดิ ความพงึ พอใจในการทำ� แมจ้ ะเปน็ การทำ� ซำ้� ๆ กต็ าม ขณะ เดยี วกนั ใหเ้ ราลองนกึ ถงึ ภาพอนาคตวา่ ถา้ เราไมท่ ำ� ความเพยี ร วนั น ี้ ตอ่ ไปวนั หนา้ เราจะเจอเหตรุ า้ ยตา่ งๆ มากมาย เจอ ความแก่ เจอความป่วย เจอความพลัดพราก เจอสภาพที่ ตอ้ งนอนตดิ เตยี ง ถงึ ตอนนนั้ ถา้ เราไมส่ ามารถอยกู่ บั ตวั เอง อยา่ งมคี วามสขุ ดว้ ยสต ิ ดว้ ยปญั ญา เราจะทกุ ขท์ รมานมาก
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล ขณะที่เรายังเป็นหนุ่มเป็นสาว ควรมีความเพียร ในการเจริญสติ ท�ำสมาธิภาวนา แม้มันจะน่าเบื่ออย่างไร กอ็ ยา่ ทอ้ เพราะถา้ เราแกเ่ มอื่ ไหร ่ กจ็ ะทำ� ลำ� บาก ในขณะที ่ เรายังมีสุขภาพดี ก็ให้รีบท�ำ เพราะถ้าเราเจ็บป่วยเม่ือไหร่ เราจะท�ำไม่ได้ แถมยังทุกข์ทรมานจากความเจ็บความป่วย ด้วย ในขณะท่ีเรายังกินอิ่มนอนอุ่น ยังมีการงานที่มั่นคง ก็ควรรีบท�ำความเพียร เพราะถ้าชีวิตเราในอนาคตมีปัญหา ข้าวยากหมากแพง ไม่สามารถกินอ่ิมนอนอุ่นได้ แถม 39 ตกงาน ก็จะปฏิบัติลำ� บาก ควรคิดถึงอนาคตว่าอะไรๆ ก็ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้า ตรัสว่าให้ระลึกถึง “อนาคตภัย” อยู่เสมอ หมายความว่า วันข้างหน้าอาจมีเหตุร้ายเกิดข้ึน เช่น ความแก่ ความเจ็บ ความป่วย ข้าวยากหมากแพง บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย เกิดศึกสงคราม หรือ ชุมชนของเราเกิดการทะเลาะวิวาท
ก้าวขา้ มความจ�ำเจ แตกสามัคค ี ทง้ั หมดน้ที ำ� ให้การปฏิบตั ขิ องเราเปน็ เรื่องยาก นอกจากปฏิบตั ิไม่ได้แล้ว ยังท�ำให้เกิดความทุกข์ด้วย หาก ไม่เตรียมใจเอาไว้ ดังนั้นในขณะที่เรายังหนุ่มยังสาว มี สุขภาพดี ชีวิตของเรายังราบร่ืน มีกินมีใช้ บา้ นเมืองยังไม ่ วุ่นวาย ไมเ่ กิดศึกสงคราม เราควรรีบท�ำความเพียร ในขณะทช่ี มุ ชน ไมว่ า่ จะเปน็ ครอบครวั หมสู่ งฆ ์ ยงั ม ี 40 ความสามคั คกี นั เปน็ โอกาสดที เ่ี ราควรทำ� ความเพยี ร มนั จะ
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล เบอ่ื อยา่ งไร กใ็ หน้ กึ ถงึ อนาคตขา้ งหนา้ วา่ อะไรๆ กเ็ กดิ ขน้ึ ได ้ ปญั หาตา่ งๆ อาจเกดิ ขนึ้ ในวนั ขา้ งหนา้ จะไมส่ ขุ สบายอยา่ ง ทุกวันนี้ การคิดเช่นนี้ ท�ำให้ไม่ประมาท เกิดแรงผลักหรือ แรงกระต้นุ ใหท้ ำ� ความเพยี ร จนเอาชนะความเบื่อได้ เวลาเราท้อแท้หรือรู้สึกเบื่อข้ึนมา ให้ลองนึกถึง อนาคตภยั การคดิ ถงึ อนาคตในแงน่ ไี้ มใ่ ชเ่ รอ่ื งเสยี หาย เปน็ ส่ิงควรท�ำด้วยซ้�ำ เพราะแม้แต่พระพุทธเจ้าก็เตือนพระภิกษุ 41 สงฆ์ ให้ระลึกถึงหลักอนาคตภัย การอยู่กับปัจจุบัน ไม่ได้ แปลวา่ นกึ ถงึ อนาคตไมไ่ ด ้ ถา้ นกึ ถงึ อนาคตแลว้ เราเหน็ คณุ คา่ และความสำ� คญั ของปจั จบุ นั ขณะ มคี วามเพยี ร ไมป่ ระมาท อยา่ งนถ้ี อื ว่าดี ใหเ้ รานกึ ถงึ อนาคตภยั ทจี่ ะเกดิ ขนึ้ กบั เราในวนั ขา้ งหนา้ จะได้เกิดความตื่นตัว ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่า
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล ประโยชน์ ถึงแมว้ ่าเบื่อ ถงึ แม้วา่ เซ็งกับการปฏบิ ัติ เราก็จะ ไม่ย่อท้อ หรือยอมแพ้มัน เราจะใช้เวลาที่มีอยู่ ท�ำความ เพยี รใหเ้ ตม็ ท ่ี การคดิ ถงึ อนาคตแบบนเ้ี ปน็ สงิ่ ด ี และควรคดิ ด้วย ท�ำให้เราไม่ท้อแท้หรือท้อถอย เพียงเพราะรู้สึกเบ่ือ เทา่ นนั้ ขอใหต้ ระหนกั วา่ ความเบอื่ เปน็ อปุ สรรคเลก็ นอ้ ยเมอ่ื 43 เทียบกับส่ิงท่ีเราจะต้องเจอในวันหน้า เพราะส่ิงท่ีรอเราอยู ่ ข้างหน้าน้ันหนักกว่าความเบื่อมากมายหลายร้อยเท่า เช่น ความเจบ็ ปว่ ย การสญู เสยี คนรกั และทรพั ยส์ มบตั ิ ใครค่ รวญ ใหด้ จี ะพบวา่ ความเบอื่ ทเี่ กดิ ขนึ้ กบั เราในการปฏบิ ตั เิ ปน็ เรอื่ ง กระจิริดมาก ถ้าข้ามความเบ่ือไม่ได้ รวมท้ังข้ามความง่วง ไม่ได้ ก็ไม่ต้องพูดถึงการก้าวข้ามอุปสรรคอย่างอ่ืน ท่ี หนักหนากว่ามาก
ก้าวขา้ มความจำ� เจ 44
พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล ฝนุ่ ทำ� ใหผ้ ้าคล้ำ� 45 เฉกเชน่ กิเลสท�ำใหจ้ ิตมวั หมอง ผา้ คล้�ำเพราะฝ่นุ จิตก็หมองทุกข์ก็เพราะกเิ ลส
พระไพศาล วสิ าโล
พระไพศาล วสิ าโล ภ า พ ป ร ะ ก อ บ แตง
เ ร า เ ค ย ถ า ม ตั ว เ อ ง ไ ห ม ว่ า
ในแต่ละวัน “เราเติมอะไรให้ใจ”
Search