Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สมุดสัตว์ p

สมุดสัตว์ p

Published by siroratyoseng, 2022-07-06 03:09:55

Description: สมุดสัตว์ p

Search

Read the Text Version

สัตว์รอบบ้านของฉัน Write by sirorat

ไส้เดือน ไฟลมั ช้นั อนั ดบั ชื่อวทิ ยาศาสตร์

ลกั ษณะท่วั ไป ไส้เดือนดินจะมีส่วนช่วยทาใหโ้ ครงสร้างของดินดีข้ึน โดยการ ชอนไช ทาใหด้ ินร่วนซุย ทาใหก้ ารระบายน้าและอากาศไปสู่ดินได้ ไส้เดือนดิน หรือไสเ้ ดือน เป็นสตั วท์ ไ่ี ม่มีกระดูกสันหลงั ดีข้ึนไส้เดือนดินสามารถชอนไชลงใตด้ ินไดล้ ึกกวา่ 20 เมตร ซ่ึง ในไฟลมั แอนเนลิดา มีลกั ษณะลาตวั เป็นขอ้ ปลอ้ ง เป็นการไถพรวนทางธรรมชาติ ทเ่ี ครื่องกลทางการเกษตรไม่ พบไดท้ วั่ ไปในดิน ใตก้ องใบไม้ หรือใตม้ ูลสัตว์ สามารถทาได้ และยงั ช่วยใหด้ ินอดุ มสมบูรณ์โดยการช่วยเพ่มิ เป็นสตั วท์ ่ีมี 2 เพศในตวั เดียวกนั มีการสืบพนั ธุ์ อนิ ทรียวตั ถุและธาตุอาหารแก่ดิน นอกจากน้ียงั พบวา่ ไส้เดือนดินมี ท้งั แบบอาศยั เพศและไม่อาศยั เพศ ประโยชนต์ ่อพืชและยงั สามารถบง่ บอกถึงการปนเป้ื อนสารเคมีใน ดิน ดว้ ยการดูจากความหนาแน่นของประชากรไส้เดือนท่มี ีอยู่ พฤตกิ รรม ไสเ้ ดือนดินจะดึงใบไมล้ งไปในรูและอาจเหลือบางส่วนของใบไม้ ใหย้ น่ื ออกมาอุดบริเวณปากรู เพราะไส้เดือนตอ้ งการพรางรูทอ่ี ยู่ อาศยั ของมนั และป้องกนั น้าไม่ใหไ้ หลลงรู ทอ่ี ยูอ่ าศยั ในดนิ

ทากฟ้า ไฟลมั ช้นั อนั ดบั วงศ์ ชื่อวทิ ยาศาสตร์

ลกั ษณะทว่ั ไป เป็นสัตวท์ ี่ไม่มีเปลือกหุม้ เหมือนหอยทากทว่ั ไป ที่ลาตวั จึงมี เมือกเหนียว เอาไวป้ กป้อง และรักษาความช้ืนบนร่างกาย ฉะน้นั เป็นหอยที่ไม่มีเปลือก ลาตวั แบน ดา้ นหลงั โคง้ เลก็ นอ้ ย เวลาเดินไปไหนจะมีรอย ท่สี ังเกตุไดเ้ ป็นทางยาว เวลาจะไปหา อาจมีสีเทา สีน้าตาลอ่อนจนถึงเขม้ อาจมีจุดสีน้าตาลประปราย ทากตวั น้ี มกั จะดูรอยเมือกน้ีเป็นที่สังเกต ดา้ นทอ้ งมกั มีสีอ่อน กว่าดา้ นหลงั มีร่องยาวตลอดลาตวั ซ่ึงเป็นทอี่ ยขู่ องเทา้ ทม่ี ีขนาดเลก็ ที่ลาตวั จึงมีเมือกเหนียวๆ พฤตกิ รรม เอาไวป้ กป้อง และรักษาความช้ืนบนร่างกาย ลกั ษณะนิสัยตอนกลางวนั ชอบหลบอยตู่ ามท่ีช้ืนๆ เยน็ ๆ ตาม ใบไม้ ซากวชั พืช กาบกลว้ ย อาศยั หากินพืชต่างๆ เป็นอาหารใน ตอนกลางคืน ท่อี ยู่อาศัย ตามซอกใบไมท้ ่มี ีความช้ืน

หอยทาก ไฟลมั ช้นั อนั ดบั วงศ์ สกลุ ชื่อวิทยาศาสตร์

ลกั ษณะท่ัวไป เปลือกเป็นทรงโดมเต้ีย เปลือกบางแต่แขง็ แรง เปลือก ดา้ นบนมีผวิ เป็นริ้ว ตาข่ายละเอยี ดและมีสีน้าตาลเขม้ เปลือก หอยทากเป็นสตั วไ์ ม่มีกระดูกสันหลงั จาพวกหอยฝาเดียว ซ่ึง ดา้ นล่างค่อนขา้ งเรียบ และมีสีขาวนวลแตกต่างจากดา้ นบน เปลือกหอย จะมีลกั ษณะลวดลายสีสนั และรูปทรงทแี่ ตกต่างกนั อยา่ งชดั เจน อาจพบแถบสีน้าตาลดา ที่บริเวณดา้ นขา้ งของ ไปในหอยทากแต่ละชนิด ส่วนลาตวั ทเ่ี ป็นเน้ือสามารถยนื่ ออก เปลือก ลาตวั มกั มีสีขาวนวล น้าตาลออ่ นจนถึงสีเทาดา มานอกเปลือกได้ ซ่ึงบริเวณดา้ นล่างขา้ งลาตวั มีแผน่ กลา้ มเน้ือเทา้ สาหรับใชใ้ นการคลาน โดยหอยทากจะขบั น้าเมือกออกมา พฤติกรรม เพอ่ื สร้างความล่ืนช่วยใหเ้ คลอ่ื นทไ่ี ดอ้ ยา่ งสะดวกยงิ่ ข้ึน หอยทากหากินในเวลากลางคืนช่วงดึกและหลงั ฝนตก เพราะ อากาศจะเยน็ และมีน้าคา้ งตกบนพ้ืน ทาใหเ้ คลื่อนทไี่ ดง้ ่าย ท้งั ไม่เสี่ยงต่อการสูญเสียน้า หรืออนั ตรายจากศตั รูนกั ล่า ทอี่ ย่อู าศัย ขอนไม้ เศษใบไม้ หรือกิ่งไมผ้ ทุ บั ถมกนั

แมงมุม ไฟลมั ช้นั อนั ดบั วงศ์ สกุล ชื่อวิทยาศาสตร์ :

ลกั ษณะทั่วไป ปากมีเข้ียวพษิ ที่เรียกว่า chelecerae ซ่ึงมีทอ่ ต่อถึงส่วนที่เป็น ส่วนหวั และอกซ่ึงเป็นท่อี ยขู่ องต่อมพษิ ต่อมผลิตใยของแมง ขนมีสีน้าตาลอ่อนสลบั กบั สีน้าตาลเขม้ ส่วนหวั คลา้ ย มุม อยทู่ ป่ี ลายสุดของส่วนทอ้ ง แมงมุมจะชกั ใยเพ่ือสร้างที่ ลูกแพร ส่วนทอ้ งเรียวยาวเป็นรูปไข่ ขาสีน้าตาลออ่ น อยอู่ นั ปลอดภยั และใชจ้ บั เหยอ่ื นอกจากน้ียงั ใชใ้ ยสร้างถุงใส่ สลบั กบั สีดา ซ่ึงเพศเมีย มีลวดลายและลกั ษณะคลา้ ย ไข่ของมนั ดว้ ย เพศผแู้ ต่มีสีเขม้ กวา่ มีลาตวั เป็นปลอ้ ง ๆ ส่วนหวั และ อกรวมกนั ส่วนทอ้ งซ่ึงเป็นถุงแยกออกจากส่วนหวั และ พฤตกิ รรม อกมี pedicel คน่ั อยู่ แมงมุมมีขา 4 คู่ ชอบทาใยยงุ่ ๆ ตามซอกบา้ น ซอกเตียง หรือซอกเกา้ อ้ี มีขา ยาวๆ เกง้ กา้ ง ท่ีอยู่อาศัย ในบา้ น ตามเปลือกไมใ้ นสวนหรือในป่ าดิบช้ืนหรือป่ าโปร่ง

จิ้งหรีด ไฟลมั ช้นั อนั ดบั วงศ์ สกลุ ชื่อวทิ ยาศาสตร์

ลกั ษณะทวั่ ไป จิ้งหรีดจะผสมพนั ธุเ์ มื่อเป็นตวั เตม็ วยั การผสมพนั ธุแ์ ละ วางไข่แต่ละรุ่นจะใชเ้ วลาประมาณ 15 วนั ต่อคร้ัง ในแต่ละ หนวดยาว ขาคู่หลงั มีขนาดใหญ่และแขง็ แรง เพศเมีย รุ่น เมื่อหมดการวางไข่รุ่นสุดทา้ ยแลว้ ตวั เมยี ก็จะตาย ปี กเรียบและมีอวยั วะวางไข่ ยาวแหลมคลา้ ยเขม็ ยนื่ ออกมา จากส่วนทอ้ ง เพศผมู้ ีปี กคู่หนา้ ยน่ สามารถทาเสียงได้ พฤติกรรม จิ้งหรีดเป็นแมลงที่มีวงจรชีวิตแบบไม่ตอ้ งผา่ นการเป็น หนอนหรือดกั แด้ ตวั ออ่ นที่เกิดมาจะเหมือนตวั เตม็ วยั การส่งเสียงร้องและการผสมพนั ธุ์ท่เี พศเมียจะคร่อมบนเพศผู้ เพียงแต่ยงั ไม่มีปี ก และมีสีท่อี อ่ นกว่าตอ้ ง ผา่ นการลอกคราบ เสมอ เสียก่อน จึงจะมีปี กและทาเสียงได้ ทีอ่ ยู่อาศัย ขุดรูอยใู่ นดินและบนทราย

ดว้ งมูลสตั ว์ ไฟลมั : ช้นั : อนั ดบั : วงศ์ : สกลุ : ช่ือวทิ ยาศาสตร์ :

ลกั ษณะท่วั ไป ชอบขดุ เจาะสร้างรังเป็นรูไวใ้ ตด้ ินเพอ่ื ใชเ้ ป็นที่วางไข่และ เป็นอาหารของตวั ออ่ น ดว้ งมูลสตั วท์ ีป่ ้ันมูลเป็นกอ้ นกลมๆ ลาตวั แบ่งเป็นส่วนหวั อก และส่วนทอ้ งอยา่ งชดั เจน บริเวณ แลว้ กลิ้งกอ้ นมูลออกไปจากกองมูลดิน เพ่ือหาท่ีอยอู่ าศยั ที่ ส่วนหวั จะแบนและบาน กลางหวั และอกมีเขา ตวั เมีย เหมาะสม ดว้ งกาฝากหรือหวั ขโมย จะเขา้ ไปขโมยเอาท้งั กอ้ น เขาจะส้ัน ตวั ผเู้ ขายาวคลา้ ยนอแรดมีปี กสองคู่ ปี กคู่หนา้ มูลและตวั เมีย ขณะท่ตี วั อน่ื กาลงั กลิ้ง กอ้ นมูลผา่ นมา หรือ เป็นแบบปี กแขง็ ยาวปกคลุมลาตวั ปี กคู่หลงั เป็นแบบอ่อนบาง แอบแฝงเขา้ มาอาศยั อยภู่ ายในรังของดว้ งมูลสตั วช์ นิดอน่ื ใสหรือขาวสาหรับใชบ้ ิน พฤติกรรม ใชช้ ีวิตและหากินอาหารอยบู่ นกองมูลสัตว์ ช่วยยอ่ ยสลายมูล สตั ว์ ท่อี ย่อู าศัย มกั พบอาศยั อยใู่ นข้ีววั ข้ีควาย ท่ีถ่ายมูลไวต้ ามธรรมชาติ

ตก๊ั แตนตาขา้ ว ไฟลมั : ชนั้ : อนั ดบั : วงศ์ : สกลุ : ชือ่ วิทยาศาสตร์

ลกั ษณะท่ัวไป ตกั๊ แตนตาขา้ วเป็นแมลงที่มีข้นั ตอนการเจิญเติบโตท่ีไม่ สมบูรณ์ กล่าวคือไม่มีระยะดกั แด้ ตก๊ั แตนตาขา้ วเม่ือฟักออก มีขาคู่หนา้ ท่พี ฒั นาใหก้ ลายเป็นขาหนีบใชส้ าหรบั จบั เหยอื่ จากไข่มีขนาดเลก็ มาก รูปร่างคลา้ ยมด แต่ละคร้ังที่มีการลอก เวลาเมื่อไม่ไดใ้ ชง้ าน มกั จะยกข้ึนประกบกนั อยทู่ ่ีดา้ นหนา้ คราบขนาดและรูปร่างก็จะเปล่ียนแปลงไปโดยปี กจะยาวข้ึน คลา้ ยท่ายกมือไหวห้ รือการจรดมวย ส่วนหวั ของตกั๊ แตนตาขา้ ว หลงั การลอกคราบคร้ังสุดทา้ ย 2-3 สัปดาห์ ชา้ หรือเร็วข้ึนอยู่ สามารถหมุนคอไดเ้ กือบรอบ 360 องศา จดั เป็นแมลงที่สามารถ กบั ชนิด การผสมพนั ธุ์ มองผา่ นไหล่ของตวั เองไปดา้ นหลงั ได้ นอกจากน้ีแลว้ ยงั มี ตาเดี่ยวอีกสามดวงตาอยตู่ รงกลางหนา้ ผากระหวา่ งตารวม พฤติกรรม ท้งั สองขา้ ง ตาเดี่ยวทาหนา้ ท่รี ับแสงมากกวา่ รับภาพเหมือน ตารวม สามารถอาพรางตวั ใหเ้ หมือนกบั สิ่งแวดลอ้ มได้ ทอ่ี ย่อู าศัย ตามธรรมชาติในทงุ่ หญา้ หรือสถานท่ีท่ไี ม่มีมนุษยม์ ากนกั

ผเี ส้ือ ไฟลมั : ช้นั : อนั ดบั : วงศ์ : สกุล : ช่ือวิทยาศาสตร์

ลักษณะทวั่ ไป ตามปกติผเี ส้ือมกั วางไข่ฟองเดียวโดดๆ หรือ เป็นกลุ่มเลก็ ๆ มี นอ้ ยชนิดทว่ี างไข่ไวเ้ ป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่มไข่น้ีจะแตกต่างกนั ไป เพศผพู้ ้ืนผวิ ปี กหลงั เป็นสีดาสนิท แต่มีจุดทโี่ ดดเด่นสามจุด ตามแต่ชนิดของผเี ส้ือ บางชนิดจะวางไข่ติดกนั เป็นเส้นหอ้ ยลง สองจุดท่ีส่วนหนา้ และอกี จุดบนปี กหลงั ตวั เมียมีลกั ษณะ มา คลา้ ยกบั ลูกปัทมท์ นี่ ามาร้อยต่อกนั มีนอ้ ยชนิดที่วางไข่ ที่ส่วนหลงั ทแี่ ปรผนั ไดม้ าก เน่ืองจาก การมีอยขู่ องท้งั ความ เรี่ยราดไวต้ ามพ้ืนดิน หลากหลายทางพนั ธุกรรม มีวงชีวติ เริ่มแรกต้งั แต่ระยะไข่ ระยะหนอน ระยะดกั แด้ ตราบจนระยะการเปล่ียนสัณฐาน พฤตกิ รรม เขา้ สู่ระยะการโตเตม็ วยั ที่มีปี กหลากสีตอ้ งตาผคู้ น บนิ ไปเกาะตามตน้ ไมต้ ่างๆ ท่ีอยู่อาศัย ส่วนใหญ่อยใู่ นป่ าที่เปี ยก/แหง้ (เช่น ทุ่งหญา้ สะวนั นาในเขต ร้อน) ป่ าฝน และพุ่มไม้

หนอนผเี ส้ือจรวดลายพราง ไฟลมั : ช้นั : อนั ดบั : วงศ์ : สกุล : ช่ือวิทยาศาสตร์ :

ลกั ษณะท่ัวไป การเปลี่ยนแปลงรูปร่างและการเจริญเติบโตแบบ Holometabola โดยมี 4 ระยะการเจริญเติบโต คือ ไข่ หนอน ลกั ษณะของมนั เป็น ตวั สีเขียว แลดูน่ารัก มนั คลานอยา่ ง ดกั แด้ และ ตวั เตม็ วยั ตามลาดบั ลกั ษณะของตวั หนอนจะไม่ เชื่องชา้ มนั ใชเ้ วลาเดิน 1 ไมบ้ รรทดั ใชเ้ วลาเพยี ง 1-2 นาที มีตารวม มีปี กท่เี จริญอยภู่ ายใน ตวั หนอนมีการเจริญเติบโต เป็นระยะเวลาทีม่ นั ใชช้ ีวิตดว้ ยการกินใบไม้ ขนาดของลาตวั ข้ึนไปไดห้ ลายระยะ โดยการลอกคราบจนถึงระยะสุดทา้ ยจะ ประมาณ 6-8 ซม. ตวั อว้ นกลม เป็นหนอนที่กินอยา่ งเดียว ลอกคราบกลายเป็นดกั แด้ เจา้ หนอนผเี ส้ือน้ี ยงั ชอบกินใบชวนชม ลนั่ ทม แพงพวย และ พญาสัตบรรณ เวลากินเพื่อสะสมพลงั งานก่อนเขา้ ดกั แด้ พฤติกรรม มนั จะกินเก่งมาก มีแรงทาลายลา้ งมหาศาล กินเยอะมากโดยเฉพาะใบของตน้ ไมม้ นั จะกินจนหมด ที่อยู่อาศัย บริเวณที่มีตน้ ไมจ้ านวนมาก

ผเี ส้ือกลางคืน ไฟลมั : ช้นั : อนั ดบั : วงศ์ : สกุล : ชื่อวทิ ยาศาสตร์

ลกั ษณะทั่วไป ผเี ส้ือกลางคืนมีความสาคญั มาก โดยเฉพาะผเี ส้ือกลางคืนตวั ผู้ เพราะหนวดเป็นส่ิงสาคญั ในการหาคู่ เคยมีผทู้ ดลองพบว่าผเี ส้ือ ร่างกายเหมือนผเี ส้ือกลางวนั ทุกอยา่ ง ลาตวั แบง่ เป็นส่วนหวั กลางคืนตวั ผใู้ ชห้ นวดรับกล่ินผเี ส้ือกลางคืนตวั เมียสามารถบนิ ตาม ส่วนอก และ ส่วนทอ้ งเหมือนกนั มีปี กสี่ปี กเหมือนกนั ไปถูกทิศทางและตามไปไดถ้ ึงตวั เสมอ จะผดิ กนั ก็ตรงที่ผเี ส้ือกลางคืนเม่ือเกาะพกั จะกางปี กแผต่ รง ออกไปขา้ งลาตวั หรือยกปี กคลุมตวั ไวแ้ บบเตน็ ท์ ไม่ชูปี ก พฤติกรรม ต้งั ตรงเหนือลาตวั แบบใบเรืออยา่ งผเี ส้ือกลางวนั ส่วน ของร่างกายทีแ่ ตกต่างกนั พอใหเ้ ป็นทส่ี ังเกตไดง้ ่ายอยา่ งหน่ึง ผเี ส้ือกลางคืนมกั นอนในช่วงเวลาทีไ่ ม่เหมาะสมต่อการออกหากิน ไดแ้ ก่ หนวด หนวดของผเี ส้ือกลางวนั มีป่ มุ ทป่ี ลายหนวด เช่น เวลากลางวนั หรือช่วงทอ้ งฟ้ามืดคร้ึม เวลานอนผเี ส้ือจะกาง ท้งั สองเส้น ปี กและเอาหวั ลง หนวดช้ีตรง ไปขา้ งหนา้ ทอ่ี ย่อู าศัย หลบตวั อยตู่ ามพ่มุ ไม้

กิ้งกือกระบอก ไฟลมั : . ช้นั : อนั ดบั : วงศ์ : สกุล : ช่ือวิทยาศาสตร์

ลักษณะท่วั ไป กิ้งกือทกุ ชนิดมีประโยชนต์ ่อระบบนิเวศ ตน้ ไมใ้ นป่ าเขตร้อน อาจไม่สามารถยนื ตน้ ไดห้ ากไม่มีกิง้ กือ ทท่ี าหนา้ ท่ียอ่ ยสลาย มีเปลือกตวั แขง็ ลาตวั ยาวแบ่งเป็นปลอ้ ง ไม่แบ่งอกหรือทอ้ ง เศษซากพืช ใบไม้ ลูกไม้ ใหก้ ลายเป็นแร่ธาตุอาหารกลบั คืนสู่ ใหเ้ ห็นปลอ้ งตามลาตวั จบั กนั เป็นคู่ตามยาวยดื หดเขา้ หากนั ได้ ธรรมชาติโดยมีจุลินทรียค์ อยช่วยเหลือ กิ้งกือทาหนา้ ที่น้ีมา ทาใหส้ ามารถขดตวั เป็นวงกลมไดเ้ ม่ือรบกวน ปลอ้ งแต่ละคู่ ยาวนานหลายลา้ นปี ซากพชื ทกี่ ิ้งกือกินเขา้ ไป กจ็ ะถูกถ่าย จะมีขาสองคู่ ยกเวน้ ปลอ้ งแรกไม่มีขา ปลอ้ งทีส่ องถึงส่ีมขี า ออกมาเป็นมูลกอ้ นเลก็ ๆ คลา้ ยยาลูกกลอน เพยี งคู่เดียว จานวนขาอาจมีไดถ้ ึงสองร้อยสี่สิบคู่ พฤติกรรม หากินตามพ้นื ตน้ ไมใ้ นเวลากลางคืน กินแมลงเป็นอาหาร ทอ่ี ย่อู าศัย พบในบา้ นและป่ าดงดิบหรือป่ าโปร่ง

เขียดตะปาด ไฟลมั : ช้นั : อนั ดบั : วงศ์ : สกลุ : ช่ือวทิ ยาศาสตร์ :

ลกั ษณะทัว่ ไป พฤตกิ รรม เขียดตะปาดมีลกั ษณะลาตวั ค่อนขา้ งแบน ลาตวั มีสีเหลือง กระโดดไดไ้ กล และมกั เกาะตามผนงั บา้ นเรือน วางไข่โดย แกมน้าตาล บางชนิดมีลายเป็นแถบตามความยาวของลาตวั ทาฟองโฟมหุม้ ไข่ตามใบไม้ หรือวสั ดุใกลแ้ หล่งน้าขงั และสามารถเปลี่ยนสีไดต้ ามสภาพแวดลอ้ ม ส่วนหวั มีลกั ษณะ สามเหล่ียม ริมขอบปากบานโคง้ ข้ึนเลก็ นอ้ ย ทาใหม้ องเห็น ทอ่ี ย่อู าศัย เป็นร่องบริเวณแกม้ ส่วนตามีขนาดใหญ่ ตาอยหู่ ่างกนั มาก ผวิ หนงั ทว่ั ลาตวั ค่อนขา้ งบาง ส่วนขามี 4 ขา ขาหนา้ เลก็ ในป่ า บา้ นเรือน หอ้ งน้า หรือแหล่งน้าน่ิงขงั ชวั่ คราว กวา่ ขาหลงั แต่ละขามีนิ้วยาว ดา้ นล่างของนิ้วมีตุ่มจบั สาหรับ ยดึ เกาะ ระหวา่ งนิ้ว มีพงั ผดื ช่วยใหว้ า่ ยน้าไดด้ ี

อ่ึงอ่าง ไฟลมั : ช้นั : อนั ดบั : วงศ์ : สกุล : ชื่อวิทยาศาสตร์

ลกั ษณะทว่ั ไป ลาตวั ดา้ นหลงั สีออกน้าตาลคล้า หรือน้าตาลแกมแดง มีลาย แถบกวา้ งสีน้าตาลออ่ นพาด ต้งั แต่เหนือลูกตาจนถึงโคนขาท้งั มีผวิ หนงั มนั ลื่น มีสีน้าตาลลายขาว ขนาดเมื่อโตเตม็ ที่มี สองขา้ ง ความยาวประมาณ 7 เซนติเมตร มกั ทาตวั พองเม่ือถูกรบกวน มกั ร้องเสียงดงั เม่ือน้านองโดยเฉพาะหลงั ฝนตกท่ีมีอากาศ พฤตกิ รรม เยน็ ช้ืน เสียงร้องดงั ระงม มีลาตวั อว้ นกลม ไม่มีคอ หวั กวา้ ง และปลายปากแหลมไม่มาก ขาและแขนค่อนขา้ งส้ัน จาศีลใตด้ ินหรือในโพรงไม้ ในฤดูแลง้ และออกมาจบั คู่ผสม มีความยาวไล่เล่ียกนั พนั ธุ์ วางไข่ในฤดูฝน ทีอ่ ย่อู าศัย พบทวั่ ไปตามแหล่งน้า ทงุ่ นา ในป่ าโปร่ง สวนในบา้ นเรือน

งู ไฟลมั : ช้นั : อนั ดบั : วงศ์ : สกลุ : ช่ือวิทยาศาสตร์

ลกั ษณะท่วั ไป พฤตกิ รรม ตวั ผจู้ ะยาวกวา่ ตวั เมียโดยมีหางยาวตามสัดส่วน หวั แบน โดยทวั่ ไป มกั ซ่อนตวั อยใู่ นรูหนู ดินร่วน หรือใตเ้ ศษซาก และคอแทบไม่เห็น ลาตวั เป็นทรงกระบอกเรียวไปทางหาง ไม่ค่อยพบเห็น มนั มกั จะมว้ นตวั เป็นลูกขดหลวม โดย หางส้นั และโคง้ มน ดวงตาค่อนขา้ ง เลก็ มีรูม่านตามน ซ่อนหวั ไวอ้ ยา่ งดี โดยทว่ั ไปแลว้ จะเป็นสีดาหรือสีน้าเงินอมดา โดยทวั่ ไป มกั ซ่อนตวั อยใู่ นรูหนู ดินร่วน หรือใตเ้ ศษซาก ไม่ค่อย ทอี่ ยู่อาศัย พบเห็น มนั มกั จะมว้ นตวั เป็นลูกขดหลวม โดยซ่อนหวั ไวอ้ ยา่ งดี มนั อาศยั อยใู่ นแหล่งทีอ่ ยอู่ าศยั ท่หี ลากหลายต้งั แต่ทงุ่ นา และป่ าละเมาะต่ารวมถึงพ้ืนท่ีต้งั รกราก

ไก่ ไฟลมั : ช้นั : อนั ดบั : วงศ์ : สกลุ : ช่ือวิทยาศาสตร์

ลกั ษณะทว่ั ไป วิธีการเล้ียงไก่บา้ นน้นั ก็ไม่ไดแ้ ตกต่างไปจากไก่ชนิดอื่นมากนกั หากเริ่มจากการนาแม่พนั ธุแ์ ละพ่อพนั ธุ์มาเล้ียง นอกจากจะให้ มีลกั ษณะหลากหลายสีสนั ในตวั เดียว โดยหากเป็นตวั ผู้ อาหาร ขา้ วเปลือกผสมกบั ใบเตยและขา้ วโพดแลว้ ยงั สามารถให้ จะมีขนปกคลุมไปตลอดท้งั ตวั และมีสีดาแดงเหลืองทอง ไก่บา้ นออกไปหาอาหารกินเองได้ จากน้นั กเ็ พียงแต่เตรียมน้า แต่งแตม้ อยตู่ ามร่างกาย รวมท้งั มีจะงอยไก่สีแดงบุคลิกดี สะอาดไวเ้ ท่าน้นั แต่ถา้ เป็นลูกไก่ก็ใหอ้ าหารสาเร็จรูปแบบเมด็ ลาคอต้งั ตรงมีคอยาวกวา่ ตวั เมีย แต่ถา้ เป็นตวั เมียแลว้ ขนาด ตวั จะอวบและเต้ียกว่าตวั ผมู้ ีหลากหลายสีสนั เหมือนกนั พฤตกิ รรม แต่ส่วนใหญ่จะมีสีดาเทา สีเหลืองทองตลอดท้งั ตวั หรือบา้ งกจ็ ะมีสีขาวอยดู่ ว้ ย มกั จะคุย้ เข่ียอาหารตามพ้นื ดิน ที่อย่อู าศัย รอบบริเวณบา้ น ในป่ า

แมว ไฟลมั : ช้นั : อนั ดบั : วงศ์ : สกลุ : ช่ือวิทยาศาสตร์

ลกั ษณะทัว่ ไป แมวเป็นสตั วเ์ ลือดอนุ่ ทมี่ ีรูปร่างเพรียว มีหางยาว และบงั คบั หางได้ มีใบหนา้ ทเ่ี รียวและโครงหนา้ แหลมเช่นเดียวกบั เสือ มีช่วงลาตวั ต้งั แต่จมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 4 เมตร และสัตวอ์ นื่ ๆ ในวงศเ์ ดียวกนั เป็นสัตวท์ ี่มีเลบ็ แหลมคม และ แมวทเี่ ล้ียงตามบา้ น จะมีรูปร่างขนาดเลก็ ขนาดลาตวั ยาว มีตาท่ีสามารถมองเห็นในเวลากลางคนื ไดด้ ี แมวจะนอนหลบั ช่วงขาส้นั และจดั อยใู่ นกลุ่มของประเภทสตั วก์ ินเน้ือเป็น ในเวลากลางวนั และต่ืนในเวลากลางคืน อาหาร มีเข้ียวและเลบ็ แหลมคมสามารถหดซ่อนเลบ็ ได้ เช่นเดียวกบั เสือ สืบสายเลือดมาจากแมวป่ าที่มีขนาดใหญก่ ว่า พฤติกรรม ซ่ึงลกั ษณะบางอยา่ งของแมวยงั คงพบเห็นไดใ้ นแมวบา้ น ปัจจุบนั ไม่วา่ จะเป็นแมวพนั ธุแ์ ทห้ รือแมวพนั ธุ์ทาง ชอบเล่นสิ่งของทุกอยา่ งในบา้ น มีความซุกซนมาก ทอี่ ยู่อาศัย ในบา้ น

สุนขั ไฟลมั : ช้นั : อนั ดบั : วงศ์ : สกุล : ชื่อวิทยาศาสตร์

ลกั ษณะท่ัวไป มีความใจเยน็ เช่ือมนั่ ในตวั เอง มีความซ่ือสตั วต์ อ่ เจา้ ของ รัก และยอมเสี่ยงตวั เองเพื่อปกป้องเจา้ ของ จดั เป็นสุนขั คู่หูท่ีดีพนั ธุ์ ล่าและมีพลงั ความกะทดั รัดและโครงสร้างที่บึกบนึ หน่ึง แต่ก็มีความสามารถในการทาลายสูงมากเช่นกนั ซ่ึง เป็นเคร่ืองบ่งบอกถึงความแขง็ แรง สุนขั เพศผจู้ ะมีโครงสร้าง เจา้ ของควรแสดงความรัก ความเอาใจใส่ กอดสุนขั หรือนอน ท่ีใหญ่กว่าสุนขั เพศเมียโดยที่เพศเมียแมจ้ ะมีขนาดเลก็ กว่า กบั สุนขั หวั มียาวปานกลาง หากมองดา้ นขา้ ง หนา้ ผากจะโคง้ เลก็ นอ้ ย จมูกใหญ่สีดา ปากห้อยยอ้ ยมีความยาวพอดีกบั ขนาดหัว พฤติกรรม ริมฝี ปากชุ่มช้ืนสีดา เหงือกควรจะสีดาเขม้ ขากรรไกรบนและ ขากรรไกรล่างกวา้ งแข็งแรง เป็นสุนขั ทมี่ ีความมน่ั ใจ หนกั แน่น และปราศจากความกลวั แต่ ตอ้ งสอนให้ รู้สถานะของตวั เขาในครอบครัว ปกติจะอดกล้นั กบั เดก็ ทอี่ ยู่อาศัย บา้ น

สุกร ไฟลมั : ช้นั : อนั ดบั : วงศ์ : สกุล : ชื่อวิทยาศาสตร์

ลกั ษณะทั่วไป อตั ราการเปล่ียนอาหารประมาณ 5-7 มีเน้ือแดงนอ้ ย ไขมนั มาก ขอ้ ดีของสุกรพ้ืนเมืองคือ ทนทานต่อสภาพดินฟา้ อากาศ ลกั ษณะทวั่ ไปของสุกรพ้ืนเมืองไทย มีลาตวั ส้นั และทนต่อการตรากตราไดอ้ ยา่ งดี ใหล้ ูกดก เล้ียงลกู เก่ง และ หวั ค่อนขา้ งใหญ่ ไหล่และสะโพกแคบ หลงั แอน่ ทอ้ งยาน ทนทานต่อการกกั ขงั ขาและขอ้ ขาออ่ น ตวั เลก็ ขนาดโตเตม็ ทนี่ ้าหนกั 80 กิโลกรัม ส่วนใหญ่สีดา บางพนั ธุ์อาจมีสีพ้นื ทอ้ งสีขาว เจริญเติบโตชา้ พฤติกรรม 180-350 กรัมต่อวนั ใชจ้ มูกดม ขดุ คุย้ และดุนพ้นื ท่ีอย่อู าศัย ในคอกหมู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook