Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการนิเทศ กศน.อำเภอชนแดน 64

รายงานการนิเทศ กศน.อำเภอชนแดน 64

Published by Warangkana Noichan, 2021-12-11 10:27:17

Description: รายงานการนิเทศ กศน.อำเภอชนแดน 64

Search

Read the Text Version

46 ประเดน็ กำรนิเทศ สภำพที่พบ ขอ้ นิเทศ 6. กำรจัดกำรเรยี นรู้ และจัด ครูมกี ำรจดั กำรเรียนรแู้ ละ ควรจดั กำรเรยี นรแู้ ละ กระบวนกำรเรียนรู้ของครู จดั กระบวนกำรเรยี นรู้ของครูตำมควำม กระบวนกำรเรียนรู้ของครู เหมำะสมกบั สภำพผเู้ รียนหรือไม่ เหมำะสมกบั สภำพผ้เู รียนควำม ตำมควำมเหมำะสมกับ อยำ่ งไร ต้องกำรเรยี นรู้ ออกแบบใบงำนเปน็ สภำพผเู้ รียนควำมตอ้ งกำร รปู ภำพ ให้กลมุ่ เปำ้ หมำยไดว้ ำดภำพ เรียนรู้ ระบำยสเี พื่อพฒั นำกล้ำมมือ ให้ฝึก เขียนตวั หนงั สือเกีย่ งข้องกบั รูปภำพ นน้ั ฝึกอ่ำนคำ ฝึกอำ่ นประโยคหรอื บรู ณำกำรเกี่ยวขอ้ งกับตัวเลขและกำร คำนวณรว่ มได้และสำมำรถประมวล ควำมรู้ตำมวิถีของสังคมและกำร ดำเนินชีวติ ได้ไปพร้อมกัน 7. กำรสร้ำงควำมมีส่วนร่วมของ เครอื ข่ำยมสี ว่ นร่วม.ในกำรจดั กิจกรรม เครอื ข่ำยมีส่วนร่วม.ในกำร เครอื ขำ่ ยในกำรจดั กจิ กรรมส่งเสรมิ กำรรู้ สง่ เสรมิ กำรรู้หนงั สอื จดั กิจกรรมส่งเสริมกำรรู้ หนงั สอื ครดู ำเนนิ กำรอยำ่ งไร หนังสือ 8. กำรใช้ส่ือ เหมำะสมกับสภำพและ มกี ำรใช้ส่อื ให้เหมำะสมกับสภำพและ ครูผู้สอนควรจดั ทำสื่อกำร พ้ืนที่ของกลุ่มเป้ำหมำยในกำรจัดกำร พน้ื ทเี่ ป้ำหมำย เรียนใหห้ ลำกหลำยมำก เรียนรู้ หรอื ไม่ อยำ่ งไร ยิง่ ขน้ึ 9. เคร่ืองมือและเกณฑ์ที่ใช้กำรวัดผล มีเคร่อื งมือและเกณฑท์ ใ่ี ชว้ ดั ผล ควรมีกำรทดสอบและ ประเมนิ ผล ครดู ำเนนิ กำรอยำ่ งไร ประเมนิ ผลกำรรูห้ นังสือครูดำเนินกำร ประเมนิ ผลระหวำ่ งเรยี น ออกแบบจัดทำเคร่ืองมือประเมนิ ผล ได้ โดยใหส้ อดคล้องกับเน้อื หำ คำ ที่ กำหนดไว้แตล่ ะสภำพตำมโครงสรำ้ ง หลกั สตู ร ให้ครอบคลมุ ทกั ษะทกุ ด้ำน ได้แก่ กำรฟัง กำรพดู กำรอำ่ น และ กำรเขียนและกำรคำนวณเบ้ืองตน้ 10. กำรออกวฒุ บิ ัตรให้กับผู้ผ่ำนกำร มกี ำรออกวฒุ ิบัตรใหก้ บั ผผู้ ำ่ นกำรวดั วัดและประเมินผล (ผูจ้ บหลักสูตร) ประเมินผล ครดู ำเนนิ กำรอยำ่ งไร 11. กำรจดั กิจกรรมสง่ เสรมิ ป้องกนั มีกำรจัดกิจกรรมสง่ เสรมิ ป้องกนั กำร ควรมกี ำรจดั กิจกรรมพฒั นำ กำรลืมหนังสืออย่ำงต่อเนื่อง ครู ลืมหนังสืออยำ่ งต่อเน่ือง ผูเ้ รียนอยำ่ งต่อเนื่อง ดำเนนิ กำรอย่ำงไร

47 ประเดน็ กำรนิเทศ สภำพทพ่ี บ ขอ้ นเิ ทศ 12. กำรสง่ เสริมกำรเรยี นรู้อน่ื ๆ ครูมีกำรสง่ เสรมิ กำรเรยี นรูอ้ น่ื ๆแกผ่ ู้ ควรส่งเสริมกำรเรียนรอู้ ืน่ ๆ แก่ผผู้ ำ่ นกำรวดั และประเมินผล ผำ่ นกำรวดั และประเมนิ ผล แกผ่ ผู้ ่ำนกำรวดั และ ครดู ำเนินกำรอยำ่ งไร ประเมินผล 13. กำรใชเ้ ทคโนโลยดี ิจทิ ัล เพอ่ื เปน็ ครมู กี ำรใช้เทคโนโลยีดจิ ิทลั เพ่ือเป็น ควรใช้สื่อกับผู้สูงอำยุ เครอ่ื งมือในกำรสง่ เสริมกำรเรียนรู้ เครื่องมอื ในกำรส่งเสรมิ กำรเรียนรู้ ตลอดชวี ติ แก่กลุ่มเปำ้ หมำย ครู ตลอดชีวิตแก่ผู้รหู้ นังสือ เช่น สอ่ื ดำเนินกำรอย่ำงไร Youtube 14. กำรสรุปรำยงำนผลกำร มี กำรสรุปผลกำรดำเนนิ งำน ควรมีกำรสรุปผลกำร ดำเนินงำนเม่ือสน้ิ สุดกำรจัดกำรเรียนรู้ ครูสรปุ ผลกำรจดั กำรเรียนกำรสอน ดำเนินงำน และสถำนศึกษำ ครดู ำเนนิ กำรอย่ำงไร กำรวดั กำรประเมินผลผำ่ นตำมเกณฑ์ ในกำรนำผลมำศึกษำ โครงสร้ำงเนือ้ หำแล้วสถำนศึกษำต้อง ประกำศและมอบวุฒิบตั รให้แกผ่ ผู้ ่ำน กำรประเมนิ 15. กำรวิเครำะห์และกำหนดแนว กำรวิเครำะห์และกำหนดแนวทำงกำร ควรวเิ ครำะห์และกำหนด ทำงกำรแก้ไข ปรบั ปรุง พฒั นำ แกไ้ ข ปรับปรุง พัฒนำ ครจู ัดบูรณำ แนวทำงกำรแก้ไข ปรบั ปรุง ครดู ำเนนิ กำรอย่ำงไร กำรกบั สภำพควำมต้องกำรและปญั หำ พฒั นำ สงั คมทส่ี อคลอ้ งกบั วถิ ีกำรดำเนนิ ชวี ติ ของผูเ้ รียน 16. เครื่องมือและเกณฑ์ทใี่ ช้กำรวัดผล มเี ครอ่ื งมือและเกณฑท์ ใี่ ชก้ ำรวัดผล ควรมีเคร่ืองมอื และเกณฑท์ ี่ ประเมนิ ผล ครดู ำเนินกำรอยำ่ งไร ประเมนิ ผล ครูดำเนินกำรใชต้ ำม ใชก้ ำรวัดผลประเมนิ ผล เกณฑ์

48 ผลกำรปฏิบตั ทิ ี่เปน็ เลศิ (Best Practice) ผลงำนดเี ดน่ /รำงวลั ท่ีได้รบั /แนวปฏบิ ัติทีด่ ี /ปัจจัยท่สี ง่ ผลต่อ ควำมสำเรจ็ (ถ้ำมี) ............................................................................................................................. ........................................................ ..................................................................................................................................................................................... ............................................................................................ .................................................................... ........................................................................................................................... ................................................... ข้อเสนอเพ่ือกำรพฒั นำ กำรดำเนนิ กำรจดั กจิ กรรมใหก้ ับประชำชนในพน้ื ที่ ตอ้ งมำจำกสภำพปัญหำและควำมต้องกำรของประชำชน ท่ีแท้จริงเปดิ โอกำสให้ผ้เู รยี นได้นำควำมรู้และประสบกำรณ์มำแลกเปลยี่ นเรยี นรตู้ ำมปรัชญำคดิ เป็น สง่ เสรมิ กำรมี ส่วนร่วมของผูเ้ รยี นครอบครัว ชุมชน และสังคม เป็นสำคัญ ลงชอื่ ...............................................ผนู้ เิ ทศ (นำงสมบตั ิ มำเนตร์) 20 กรกฎำคม 2564

49 แบบรำยงำนกำรนิเทศ ประเดน็ กำรนิเทศ เร่ือง.......จัดกำรศึกษำอำชีพเพอื่ กำรมีงำนทำอยำ่ งยงั่ ยืน (ศนู ยฝ์ กึ อำชพี ชุมชน)...... 1. เกริน่ นำ เรอื่ งของนโยบำย จุดเนน้ กำรดำเนนิ งำนของสำนักงำน กศน.ประจำปี พ.ศ.2564 นโยบำยและจุดเน้นกำรดำเนินงำน สำนักงำน กศน. ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 จำก ภำรกิจ ต่อเน่ือง ข้อ 1.3 กำรศึกษำต่อเนื่อง จัดกำรศึกษำอำชีพเพ่ือกำรมีงำนทำอย่ำงยั่งยืน โดยให้ควำมสำคัญกับกำรจัด กำรศกึ ษำอำชพี เพือ่ กำรมงี ำนทำในกลุ่มอำชีพเกษตรกรรม อตุ สำหกรรม พำณิชยกรรม คหกรรม และอำชพี เฉพำะ ทำงหรือกำรบริกำร รวมถึงกำรเน้นอำชีพช่ำงพื้นฐำน ท่ีสอดคล้องกับศักยภำพของผู้เรียน ควำมต้องกำรและ ศักยภำพของแต่ละพ้ืนที่ มีคุณภำพได้มำตรฐำนเป็นท่ียอมรับ สอดรับกับควำมต้องกำรของตลำดแรงงำน และกำร พัฒนำประเทศ ตลอดจน สร้ำงควำมเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอำชีพชุมชน โดยจัดให้มีกำรส่งเสริมกำรรวมกลุ่ม วิสำหกิจชุมชน กำรพัฒนำหน่ึงตำบลหนึ่งอำชีพเด่น กำรประกวดสินค้ำดีพรีเม่ียม กำรสร้ำงแบรนด์ของ กศน. รวมถึงกำรส่งเสริมและจัดหำช่องทำงกำรจำหน่ำยสินค้ำและผลิตภัณฑ์ และให้มีกำรกำกับ ติดตำม และรำยงำนผล กำรจดั กำรศกึ ษำอำชพี เพอื่ กำรมงี ำนทำอยำ่ งเป็นระบบและต่อเนื่อง 2. สภำพท่พี บ ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอำเภอชนแดน ได้ดำเนินกำรจัดกำรศึกษำต่อเน่ือง กิจกรรมโครงกำรศูนย์ฝึกอำชีพชุมชน มีกำร ดำเนินกำรตำมหลักสูตร ทักษะอำชีพ 4 กลุ่มอำชีพ สรุปผลกำรนิเทศ ได้ดังน้ี 1. หลักสตู รอำชีพเกษตรกรรม รวม 1 หลกั สูตร มผี ผู้ ่ำนกำรอบรม 12 คน 2. หลักสตู รอำชีพอุตสำหกรรม รวม 9 หลกั สตู ร มีผ้ผู ่ำนกำรอบรม 495 คน 3. หลกั สตู รอำชพี พำนิชยกรรมและบรกิ ำร รวม 2 หลักสูตร มผี ูผ้ ่ำนกำรอบรม 29 คน 4. หลักสูตรอำชีพควำมคิดสร้ำงสรรค์ รวม 1 หลักสตู ร มผี ูผ้ ่ำนกำรอบรม 29 คน กำรดำเนินกำรจดั กระบวนกำรเรยี นรู้ สถำนศึกษำส่วนใหญ่มีกำรบูรณำกำรกำรเรยี นรู้ให้มคี วำมสอดคล้อง กับสภำพควำมเป็นจริงในชุมชน สังคม หลกั สตู รที่ใชใ้ นกำรสอนได้พัฒนำมำจำกหลักสตู รศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชนของ สำนกั งำน กศน. โดยดำเนนิ กำร ปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับบริบทของชุมชน ผ่ำนควำมเห็นชอบและอนุมัติหลักสูตรจำก คณะกรรมกำร สถำนศึกษำ องค์ประกอบครบถ้วนตำมกระบวนกำรพัฒนำหลักสูตร เน้ือหำหลักสูตรมีกำรบูรณำกำรสภำพ ปัญหำ ควำมต้องกำรของผู้เรียนชุมชน มแี ผนงำน/ โครงกำร / กิจกรรมเพอื่ สง่ เสริมกำรเรยี นรูท้ สี่ อดคล้องกบั ควำมต้องกำร ของชุมชน แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ตำมหลักสูตรวิทยำกรและครู กศน. เป็นผู้ดำเนินกำรจัดทำร่วมกัน มีกำรจัดทำ ฐำนขอ้ มูลหลกั สูตรภูมปิ ญั ญำและวิทยำกร โดยวทิ ยำกรเปน็ ผู้ทีม่ ีควำมรู้ควำมสำมำรถตำมเน้ือหำหลักสตู ร กำรจัดกระบวน กำรเรียนรู้วิทยำกรมีควำมรู้ควำมสำมำรถและมีเทคนิคกำรถ่ำยทอดเหมำะสมดำเนินกำร จดั กิจกรรมเป็นไปตำมแผนกำรเรียนรู้ ท่ีกำหนดมกี ำรใชส้ ่ือ แหล่งเรียนรู้ /ภูมิปัญญำทอ้ งถิน่ ประกอบกำรสอน และ กำรใช้ส่ือออนไลน์ เช่น Application line facebook ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้เสริมควำมรู้ มีกำรวัดและ

50 ประเมินผลกำรเรยี นร้สู อดคล้องตำมหลกั สูตร มีกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจ ของผูเ้ รียนทุกหลกั สตู ร มีกำรอนุมตั ิกำร จบหลักสูตร และมีกำรจัดทำรำยงำนผลกำรปฏิบัติงำนเมื่อสิ้นสุดโครงกำร ผู้จบหลักสูตรสำมำรถนำควำมรู้ไป ประกอบอำชพี มงี ำนทำ มีรำยได้ มคี ุณภำพชวี ติ ทีด่ ขี ึ้น 3. ปจั จยั ที่ส่งผลต่อควำมสำเร็จ(ถำ้ มี) 1. กจิ กรรมที่ดำเนินกำรมำจำกสภำพปญั หำและควำมต้องกำรท่แี ทจ้ ริงของประชำชนในพ้ืนที่ 2. ระยะเวลำในกำรดำเนินกำรเหมำะสมตำมบริบทของชมุ ชน 3. ส่งเสรมิ อำชพี ให้กับประชำชนตอ้ งมีกำรพัฒนำต่อยอด ประสำนควำมรว่ มมือกบั หน่วยงำน ภำคี เครือข่ำยให้ประชำชนมชี ่องทำงกำรตลำดเพอ่ื จดั จำหน่ำยสินค้ำ ผลิตภณั ฑอ์ อกส่ชู มุ ชน 4. เนอ้ื หำหลกั สตู รทอ่ี บรมได้รบั ควำมสนใจของประชำชน เปน็ กิจกรรมสง่ เสริมควำมรูท้ ี่หลำกหลำย 4. ปัญหำอุปสรรค กำรดำเนินกำรหลังจำกจัดกิจกรรมส่งเสริมอำชีพให้กับประชำชนในพ้ืนท่ี ได้เรียนรู้ฝึกทักษะตำม ควำม ต้องกำรของตนเองแล้ว มักพบว่ำกลุ่มเป้ำหมำยยังไม่สำมำรถหำตลำดหรือจำหน่ำยสินค้ำผลิตภัณฑ์ได้เพิ่มมำกข้ึน ยังขำดควำมตอ่ เนื่องหรือกำรสง่ ตอ่ ควำมร้ใู ห้กับประชำชนได้มชี ่องทำงกำรตลำดทดี่ ี 5. ข้อนิเทศตอ่ ผู้รบั กำรนิเทศ แนะนำให้กลุ่มเป้ำหมำยใช้ช่องทำงกำรตลำดแบบออนไลน์ ซ่ึงสำมำรถจัดจำหน่ำยสินค้ำไปสู่ผู้บริโภคได้ โดยตรง ต้องรู้จักกำรใช้ส่ือออนไลน์เพ่ือประชำสัมพันธ์สินค้ำ ผลิตภัณฑ์ของตนเองออกสู่ชุมชนภำยนอกให้มำกข้ึน และติดตำมกลุ่มเป้ำหมำยว่ำไดน้ ำควำมรู้ไปใช้ได้จรงิ 6. ข้อเสนอแนะเพื่อกำรพฒั นำ 6.1 ข้อเสนอแนะต่อสถำนศึกษำ (ถำ้ ม)ี 1. ควรปรับ หลักเกณฑ์รูปแบบ หลักสูตร จำนวนกลุ่มเป้ำหมำยให้สอดคล้องกับ สภำวกำรณ์และควำม เปลย่ี นแปลงของพ้ืนท่ีในปัจจุบัน 2. กำรดำเนินกำรจัดกิจกรรมให้กับประชำชนในพื้นที่ต้องมำจำกสภำพปัญหำและควำมต้องกำรของ ประชำชนทีแ่ ทจ้ ริง 3. กำรอบรมวิทยำกรด้ำนอำชีพควรเพ่ิมเทคนิคกำรถ่ำยทอดควำมรู้ในรูปแบบออนไลน์ก่อนท่ีจะไป ดำเนินกำรจัดกิจกรรมในพน้ื ทเ่ี พือ่ ให้ทรำบ ขนั้ ตอน วธิ กี ำรดำเนินกำรจดั กิจกรรมในรปู แบบออนไลน์ได้ 4. ผู้ที่เข้ำรับกำรอบรมควรนำควำมรู้และประสบกำรณ์ไปถ่ำยทอดให้กับประชำชนในชุมชน แนะนำ กจิ กรรมทีไ่ ดร้ ับมำไปขยำยผลได้ เพื่อให้เกดิ ประโยชน์กบั ประชำชนในชุมชน 6.2 ขอ้ เสนอแนะต่อสำนกั งำน กศน.จงั หวัด (ถำ้ มี) ............................................................................................................................. ........................................................ .......................................................................................................................................................................

51 6.3 ข้อเสนอแนะต่อสำนักงำน กศน (ถำ้ ม)ี ............................................................................................................ ......................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... 7. Best Practice (ถ้ำมี) กศน.อำเภอชนแดน มีแหลง่ เรียนรู้ดำ้ นอำชีพพ้นื ทใ่ี หผ้ ู้เรยี นประชำชนทั่วไปได้ศกึ ษำเรยี นรจู้ ำกแหลง่ เรียนรู้ ในพื้นท่ี กศน.อำเภอชนแดน และยังเป็นท่ีศึกษำดูงำนหน่วยงำน/ผู้ท่ีสนใจ วิธีกำร กศน.อำเภอชนแดน ได้ดำเนินกำรจัดกิจกรรม กำรศึกษำพัฒนำอำชีพ และกิจกรรมอ่ืนๆ โดยใช้แหล่งเรียนในด้ำนกำรเพำะเห็ด กำรทอ เสื่อกก กำรตีมีด กำรทำผลิตภัณฑ์จำกกะลำมะพร้ำว กำรทอผ้ำ ในพ้ืนท่ีของอำเภอชนแดน ให้ผู้เรียนได้ศึกษำ เรียนรู้ และจัดกิจรรมท่ีเก่ียวข้อง โดยมีวิทยำกรเป็นภูมิปัญญำท้องถิ่นถ่ำยทอดองค์ควำมรู้ในเรื่องท่ีตนมีควำมรู้ ควำมเชย่ี วชำญเชน่ กำรจักสำน กำรทอผำ้ เป็นตน้ โดยสถำนศกึ ษำกำรดำเนินกำรทส่ี ่งผลตอ่ กำรสำเร็จด้ังน้ี 1. ส่งเสริมและยกระดบั กำรศึกษำใหป้ ระชำชนทีอ่ ำศัยอยู่ในพ้นื ท่ีของอำเภอชนแดน ในกำรจัดกำรศึกษำ นอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยได้ตำมควำมตอ้ งกำรของแตล่ ะบคุ คล 2. สถำนศึกษำเป็นท่ียอมรับของสังคม และเปิดโอกำสให้แก่ผ้ดู ้วยโอกำส ผพู้ ลำดโอกำส ผู้ขำดโอกำสได้รับ บริกำร ได้อยำ่ งท่วั ถึง 3. เกดิ กำรทำงำนแบบบูรณำกำรในกำรขบั เคลื่อนนโยบำยของรัฐบำล และวัฒนธรรม ประเพณี ในท้องถ่นิ ในกำรกำรทำงำน 4. แหล่งเรยี นรู้ของสถำนศึกษำ เชน่ เรื่องกำรเพำะเหด็ กำรทอผ้ำได้เป็นสถำนที่ต้นแบบในกำรศกึ ษำดงู ำน แกน่ ักศกึ ษำ และผทู้ ่ีสนใจจำกประชำชนในพื้นที่ และผทู้ ส่ี นใจจำกอำเภอใกลเ้ คยี ง

52 8. ภำพกิจกรรม อยำ่ งน้อย 4-6 ภำพ หรอื ลงิ ค์ คิวอำรโ์ คด้ ภำพเคล่อื นไหว (ถำ้ มี)

53 แบบบันทกึ กำรนิเทศผลกำรดำเนินงำนกำรศกึ ษำตอ่ เนือ่ ง เรื่อง จดั กำรศึกษำอำชีพเพื่อกำรมงี ำนทำอย่ำงยั่งยนื (ศูนย์ฝึกอำชีพชมุ ชน) คำชแี้ จง ใหศ้ กึ ษำนิเทศกห์ รือผู้รับผิดชอบกำรนเิ ทศ สอบถำม สัมภำษณผ์ ูร้ บั ผดิ ชอบกำรดำเนนิ งำน ครูผ้สู อนและ หรอื ผูเ้ รยี น/ผู้เกี่ยวข้อง สังเกตสภำพจริง สถำนที่ กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ตรวจเอกสำรโครงกำร หลักสูตร สื่อ ฯลฯ แล้วบนั ทึก สภำพที่พบ (จดุ เด่น – จุดที่ควรพฒั นำ) และข้อนิเทศ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะเพอ่ื กำรพฒั นำลงในแบบ บันทึกกำรนิเทศ กศน.อำเภอชนแดน...............................กศน.ตำบล/ศรช./ศศช. ...กศน.ตำบล 9 แห่ง................................. ผู้รบั กำรนิเทศ..........กศน.ตำบล 9 แหง่ ................................................................................................ ประเด็นกำรนเิ ทศ สภำพทพี่ บ ข้อนเิ ทศ 1.1 ปจั จัยป้อน (Input) จำกกำรดำเนินกำรนิเทศ หลกั สตู รทีใ่ ช้ในกำรสอน 1) หลักสูตรมีองค์ประกอบครบถ้วนตำม พบว่ำ ไดพ้ ฒั นำมำจำก -สถำนศกึ ษำมหี ลกั สูตรมี หลักสตู รศูนยฝ์ ึกอำชีพ กระบวนกำรพัฒนำหลักสตู ร องคป์ ระกอบครบถว้ นตำม ชมุ ชนของ สำนักงำน 2) หลักสตู รท่ใี ชใ้ นกำรสอนได้พฒั นำขนึ้ เองหรอื กระบวนกำรพฒั นำหลกั สตู ร กศน.จังหวัดเพชรบูรณ์ -สถำนศกึ ษำมหี ลกั สูตรท่ีใชใ้ น โดยดำเนนิ กำรปรับ นำมำจำกแหลง่ อื่น (ระบุแหล่งทม่ี ำ) กำรสอนไดพ้ ัฒนำขน้ึ เองหรอื หลักสตู รใหส้ อดคล้อง 3) เนอื้ หำหลกั สตู รมีกำรบูรณำกำรสภำพ ปญั หำ นำมำจำกแหลง่ อน่ื (ไดม้ ีกำร กบั บริบทของชุมชน พฒั นำหลักสูตรของสำนักงำน ผ่ำนควำมเหน็ ชอบและ ควำมต้องกำรของผ้เู รียนชมุ ชนและแนวโนม้ กำร กศน.จังหวดั เพชรบูรณ์เพือ่ ใช้ อนุมตั หิ ลักสูตรจำก พฒั นำ เปน็ หลักสตู รกลำง และให้ คณะกรรมกำร สถำนศกึ ษำนำมำปรบั ปรุง สถำนศกึ ษำ 4) หลักสูตรทด่ี ำเนนิ กำรสอดคลอ้ งตำมหลกั กำร หลักสตู รเพ่อื ใชใ้ นสถำนศึกษำ) องค์ประกอบครบถ้วน 5) มแี ผนงำน/ โครงกำร / กจิ กรรมเพ่ือส่งเสรมิ -เนอ้ื หำของหลกั สูตรมีกำร ตำมกระบวนกำรพัฒนำ กำรเรยี นรทู้ ่ีสอดคล้องกบั ควำมต้องกำรของ บูรณำกำรสภำพ ปัญหำ ควำม หลกั สูตร เนื้อหำ ประชำชนและตลำดแรงงำน ต้องกำรของผเู้ รียนชมุ ชนและ หลกั สูตรมกี ำร บรู ณำ 6) มีแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ตำมหลกั สูตร ใครเปน็ แนวโน้มกำรพฒั นำ กำรสภำพ ปญั หำ ควำม ผูด้ ำเนนิ กำรจัดทำ -สถำนศกึ ษำมหี ลกั สตู รที่ ตอ้ งกำรของผูเ้ รียน 7) มีกำรประชุมชแี้ จง /อบรมเทคนิควิธีกำร ดำเนินกำรสอดคล้องตำม ชุมชน มแี ผนงำน/ ถำ่ ยทอดควำมรูแ้ ก่วิทยำกรก่อนดำเนนิ กำร หลกั กำร โครงกำร / กิจกรรมเพื่อ 8) มีกำรจดั ทำฐำนข้อมูลหลกั สตู ร -สถำนศึกษำมีแผนงำน/ ส่งเสริมกำรเรยี นรทู้ ี่ ภมู ปิ ญั ญำและวิทยำกร โครงกำร / กิจกรรมเพื่อ สอดคล้องกับควำม 9) วทิ ยำกรมีควำมรู้ควำมสำมำรถตำมเน้ือหำ สง่ เสรมิ กำรเรยี นรู้ทีส่ อดคล้อง ตอ้ งกำรของชุมชน หลักสูตร แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 10) วทิ ยำกรไดร้ ับกำรพฒั นำเทคนิคกำร ถ่ำยทอดองค์ควำมรู้ 11) วัสดุ อปุ กรณ์ มเี พยี งพอและสถำนท่มี ีควำม เหมำะสม

54 ประเด็นกำรนิเทศ สภำพทพ่ี บ ข้อนเิ ทศ 12) มีกำรประเมนิ หลกั สตู รหรอื ไม่ ดำเนนิ กำร อย่ำงไร กับควำมต้องกำรของประชำชน ตำมหลักสูตร วิทยำกร 2 กำรจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ (Process) และตลำดแรงงำน และครู กศน. เปน็ 1) วทิ ยำกร มคี วำมรคู้ วำมสำมำรถและ -สถำนศึกษำมแี ผนกำรจัดกำร ผูด้ ำเนนิ กำรจดั ทำ มเี ทคนิคกำรถ่ำยทอดเหมำะสม 2) วิทยำกร จดั กำรเรยี นรตู้ ำมแผนที่กำหนด เรียนรตู้ ำมหลกั สตู ร ใครเป็น ร่วมกัน มีกำรจัดทำ ผูด้ ำเนนิ กำรจัดทำ ฐำนข้อมูลหลักสูตร ภมู ิ -สถำนศกึ ษำมกี ำรประชมุ ชีแ้ จง ปญั ญำและวทิ ยำกร โดย /อบรมเทคนคิ วธิ ีกำรถ่ำยทอด วิทยำกรเป็นผ้ทู ม่ี ีควำมรู้ ควำมรแู้ กว่ ิทยำกรก่อน ควำมสำมำรถตำม ดำเนนิ กำร เนื้อหำหลกั สตู ร -สถำนศึกษำมกี ำรจัดทำ ฐำนขอ้ มลู หลกั สตู รภมู ิปัญญำ และวทิ ยำกรไวท้ กุ ปี -วิทยำกรของสถำนศึกษำมี ควำมรูค้ วำมสำมำรถตำม เนือ้ หำหลกั สตู ร -สถำนศกึ ษำมวี ทิ ยำกรท่ี ไดร้ บั กำรพัฒนำเทคนคิ กำร ถ่ำยทอดองคค์ วำมรู้ โดยมีกำร ดำเนินกำรจดั โครงกำรอบรม วิทยำกรเพื่อเพ่ิมประสิทธิภำพ วทิ ยำกรในกำรจัดกระบวนกำร รู้เรียนรแู้ ละกำรถ่ำยทอด ควำมรู้ ทกุ ปงี บประมำณ - สถำนศึกษำมีวัสดุ อุปกรณ์ มี เพียงพอและสถำนที่มคี วำม เหมำะสม ตำมหลกั สูตรท่ี จดั กำรเรยี นกำรสอน -มกี ำรประเมนิ หลักสูตร ดำเนินกำรโดยกำรประเมิน หลักสูตรหลังนำหลกั สตู รไปใช้ จำกกำรนิเทศ พบวำ่ กำรจัดกระบวน กำร -สถำนศกึ ษำมวี ทิ ยำกร ที่มี เรยี นรู้ วิทยำกร มี ควำมรคู้ วำมสำมำรถและ ควำมรู้ ควำมสำมำรถ มีเทคนิคกำรถ่ำยทอดเหมำะสม และ มีเทคนิคกำร

55 ประเดน็ กำรนเิ ทศ สภำพทพี่ บ ข้อนเิ ทศ 3)ในกระบวนกำรจดั กำรเรยี นร้มู มี ำตรกำร -วิทยำกร จดั กำรเรยี นร้ตู ำม ถ่ำยทอดเหมำะสม ปอ้ งกนั กำรแพรร่ ะบำดของโควิด-19 แผนทกี่ ำหนด ดำเนนิ กำรจัดกิจกรรม 4) มีกำรใช้สื่อ แหลง่ เรยี นรู้ /ภมู ปิ ัญญำท้องถิน่ -ในกระบวนกำรจดั กำร เปน็ ไปตำมแผนกำร ประกอบกำรสอน เรียนรูม้ ีมำตรกำรป้องกันกำร เรยี นรู้ ทีก่ ำหนดมีกำรใช้ 5) มกี ำรประยกุ ต์ใช้ “สะเต็มศกึ ษำ”(STEMa แพร่ระบำดของโควิด-19 สอ่ื แหลง่ เรยี นรู้ /ภมู ิ Education) ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ -มกี ำรใช้สื่อ แหล่งเรยี นรู้ / ปัญญำท้องถ่ิน 6) มกี ำรใชส้ อ่ื ออนไลน์ หรอื Digital lernning ภมู ปิ ัญญำท้องถ่นิ ประกอบกำร ประกอบกำรสอน และ Platform ในกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ สอน กำรใช้ส่ือออนไลน์ เช่น 7) มีกำรวัดและประเมินผลกำรเรยี นรู้สอดคล้อง -มีกำรประยุกต์ใช้ “สะเต็ม Application line ตำมหลักสูตร และมเี ครื่องมือวดั และประเมินผล ศกึ ษำ”(STEMa Education) facebook ในกำรจดั 8) มกี ำรประเมินควำมพึงพอใจของผเู้ รียนทุก ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กจิ กรรม กำรเรียนรู้ หลกั สูตร - มีกำรใช้สอื่ ออนไลน์ หรือ เสริมควำมรู้ มีกำรวัด 9) มีกำรอนุมตั ิกำรจบหลกั สตู ร Digital lernning Platform และประเมนิ ผลกำร 10) มกี ำรจดั ทำรำยงำนผลกำรปฏิบตั งิ ำนเมื่อ ในกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ เรยี นรูส้ อดคลอ้ งตำม ส้นิ สดุ โครงกำร -มกี ำรวัดและประเมนิ ผลกำร หลกั สูตร มีกำรประเมนิ เรยี นรูส้ อดคลอ้ งตำมหลกั สตู ร ควำมพึงพอใจ ของ และมเี ครื่องมือวดั และ ผูเ้ รียนทกุ หลักสูตร มี ประเมนิ ผล กำรอนุมัตกิ ำรจบ -มีกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจ หลักสตู ร และมกี ำร ของผ้เู รยี นทุกหลกั สตู ร จัดทำรำยงำนผลกำร 9) มีกำรอนุมตั ิกำรจบ ปฏบิ ัตงิ ำนเมื่อสิน้ สดุ หลกั สูตร มกี ำรมอบใบ โครงกำร ผูจ้ บหลักสูตร ประกำศนียบัตรแกผ่ ูจ้ บ สำมำรถนำควำมรู้ไป หลกั สูตร 31 ชม.ข้ึนไป ประกอบอำชีพ มีงำนทำ 10) มกี ำรจดั ทำรำยงำนผล มรี ำยได้ กำรปฏบิ ัตงิ ำนเมื่อส้ินสดุ โครงกำร 1.3 ผลผลิต(Output) จำกกำรนเิ ทศศนู ย์ฝึกอำชีพ 1) ผูจ้ บหลักสตู รมีคุณภำพมำตรฐำนเป็นทย่ี อมรบั ชุมชน ของสถำนศึกษำ นำกำรบรู ณำกำรกำร สร้ำงเพจกำรคำ้ ขำย สอดรบั กับควำมตอ้ งกำรของตลำดแรงงำนสำมำรถ ผลจำกกำรดำเนินงำน พบว่ำ นำควำมรู้ไปประกอบอำชพี มีงำนทำอย่ำงย่ังยืน -ผูจ้ บหลกั สูตรมีคณุ ภำพ เพอ่ื กำรนำเสนอสินคำ้ 2) มกี ำรสร้ำงควำมเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอำชีพ มำตรฐำนเป็นท่ียอมรับ สอดรับ ผำ่ นร้ำนค้ำ Online ใน ชุมชนโดยสง่ เสรมิ กำรรวมกลุ่มวิสำหกิจชุมชน กับควำมต้องกำรของ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้

56 ประเด็นกำรนเิ ทศ สภำพที่พบ ข้อนิเทศ 3) มกี ำรพฒั นำหนงึ่ ตำบลหน่ึงอำชีพเดน่ สร้ำงดีพรี ตลำดแรงงำนสำมำรถนำ ให้แก่ครู กศน. เพ่ือให้ ควำมรไู้ ปประกอบอำชพี มีงำน กำรจดั กำรเรียนรู้มีควำม เมยี่ มแบรนด์ กศน. ทำอยำ่ งยั่งยนื ทันสมยั ตำมระบบธรุ กจิ - มีกำรสรำ้ งควำมเขม้ แข็ง สมัยใหมแ่ ละให้ 4) ผจู้ บหลกั สตู รมชี ่องทำงกำรจำหน่ำยสนิ คำ้ หรือ ใหก้ บั ศูนย์ฝึกอำชพี ชุมชนโดย สอดคล้องกับ ส่งเสรมิ กำรรวมกลุ่มวิสำหกจิ เปำ้ ประสงค์กำรจัด ไดร้ ับกำรจำ้ งงำนอย่ำงยง่ั ยนื ชุมชน เชน่ กลุม่ ทอผำ้ กลมุ่ กำรศึกษำอำชีพ กำรตัดเยบ็ กระเปำ๋ ผำ้ กลุ่มกำร เพำะเห็ด กำรทอและ ผลิตภัณฑจ์ ำกเสอื่ กก - มีกำรพฒั นำหนึ่งตำบลหนง่ึ อำชพี เด่นสร้ำงดีพรีเมย่ี ม แบรนด์ กศน. -ผู้จบหลกั สูตรมชี ่องทำงกำร จำหนำ่ ยสินค้ำหรือไดร้ บั กำร จำ้ งงำนอยำ่ งยั่งยนื เชน่ กำรมี ร้ำนค้ำออนไลน์เพื่อจำหนำ่ ย สินค้ำ ผลกำรปฏิบัติท่ีเปน็ เลิศ (Best Practice) ผลงำนดเี ดน่ /รำงวัลท่ไี ด้รับ/แนวปฏิบตั ทิ ดี่ ี /ปัจจยั ท่สี ง่ ผลต่อ ควำมสำเรจ็ (ถำ้ มี) กศน.อำเภอชนแดน มีแหล่งเรียนรู้ด้ำนอำชีพพื้นที่ให้ผู้เรียน ประชำชนทั่วไปได้ศึกษำเรียนรู้ จำกแหล่ง เรียนรู้ในพ้ืนท่ี กศน.อำเภอชนแดน และยังเป็นที่ศึกษำดูงำนหน่วยงำน/ผู้ที่สนใจ วิธีกำร กศน.อำเภอชนแดน ได้ ดำเนินกำรจดั กิจกรรม กำรศึกษำพัฒนำอำชีพ และกจิ กรรมอน่ื ๆ โดยใชแ้ หลง่ เรียนในด้ำนกำรเพำะเห็ด กำรทอเสื่อ กก กำรตีมีด กำรทำผลิตภัณฑ์จำกกะลำมะพร้ำว กำรทอผ้ำ ในพื้นท่ีของอำเภอชนแดน ให้ผู้เรียนได้ศึกษำเรียนรู้ และจดั กิจรรมที่เกยี่ วข้องโดยมวี ิทยำเป็นภูมิปัญญำท้องถิน่ ได้ถำ่ ยทอดองค์ควำมรู้ในเรื่อง ๆ โดยเฉพำะเรื่อง กำรจัก สำน ผลสำเร็จของสถำนศกึ ษำ 1.ส่งเสริมและยกระดับกำรศึกษำให้ประชำชนท่ีอำศัยอยู่ในพ้ืนท่ีของอำเภอชนแดน ในกำรจัดกำรศึกษำ นอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั ได้ตำมควำมต้องกำรของแตล่ ะบคุ คล 2.สถำนศึกษำเป็นที่ยอมรับของสังคม และเปิดโอกำสให้แก่ผู้ด้วยโอกำส ผู้พลำดโอกำส ผู้ขำดโอกำสได้รบั บริกำร ไดอ้ ย่ำงทัว่ ถึง 3. เกิดกำรทำงำนแบบบูรณำกำรในกำรขับเคลื่อนนโยบำยของรฐั บำล และวัฒนธรรม ประเพณี ในท้องถิ่น ในกำรกำรทำงำน

57 4. แหล่งเรยี นรูข้ องสถำนศึกษำ เชน่ เรือ่ งกำรเพำะเห็ด กำรทอผำ้ ไดเ้ ปน็ สถำนท่ีต้นแบบในกำรศึกษำดงู ำนแก่ นักศึกษำ และผูท้ ส่ี นใจจำกประชำชนในพนื้ ที่ และผทู้ ่ีสนใจจำกอำเภอใกลเ้ คยี ง ข้อเสนอเพื่อกำรพฒั นำ 1. ควรปรบั หลกั เกณฑร์ ูปแบบ หลักสตู ร จำนวนกลุม่ เป้ำหมำยใหส้ อดคล้องกับ สภำวกำรณแ์ ละควำม เปล่ียนแปลงของพื้นท่ีในปจั จุบัน 2. กำรดำเนนิ กำรจัดกิจกรรมให้กบั ประชำชนในพื้นที่ต้องมำจำกสภำพปญั หำและควำมต้องกำรของ ประชำชนทีแ่ ท้จรงิ 3. กำรอบรมวทิ ยำกรด้ำนอำชพี ควรเพ่ิมเทคนิคกำรถำ่ ยทอดควำมรู้ในรปู แบบออนไลน์ก่อนท่จี ะไป ดำเนินกำรจดั กิจกรรมในพ้ืนที่เพอื่ ใหท้ รำบ ข้นั ตอน วิธกี ำรดำเนนิ กำรจัดกจิ กรรมในรปู แบบออนไลนไ์ ด้ 4. ผทู้ เ่ี ขำ้ รับกำรอบรมควรนำควำมรูแ้ ละประสบกำรณไ์ ปถ่ำยทอดให้กับประชำชนในชมุ ชน แนะนำ กำรท กจิ กรรมท่ีได้รบั มำไปขยำยผลได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กบั ประชำชนในชุมชน ลงชือ่ ...............................................ผ้นู ิเทศ (นำงสมบตั ิ มำเนตร์) 20 กรกฎำคม 2564

58 แบบรำยงำนกำรนเิ ทศ ประเดน็ กำรนิเทศ เร่ืองกำรจัดกำรศึกษำเพอื่ พัฒนำทกั ษะชีวติ 1. เกริ่นนำ เร่อื งของนโยบำย จดุ เน้นกำรดำเนินงำนของสำนักงำน กศน.ประจำปี พ.ศ.2564 สอดคลอ้ งกบั นโยบำลของรฐั บำล (กระทรวงศกึ ษำธิกำร) 1.กำรพัฒนำและเสริมสร้ำงทรัพยำกรมนุษย์ พัฒนำผู้เรียนให้มีควำมรอบรู้และทักษะชีวิต เพ่ือเป็นเครื่องมือในกำรดำรงชีวิตและสร้ำงอำชีพ อำทิ กำรใช้ เทคโนโลยีดิจทิ ลั สขุ ภำวะและทศั นคตทิ ีด่ ีต่อกำรดแู ลสุขภำพ สอดคล้องกับนโยบำยและจุดเน้นกำรดำเนินงำน กศน. ประจำปีงบประมำณ 2564 ภำรกิจต่อเน่ือง 2) จัดกำรศึกษำเพื่อพัฒนำทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้ำหมำย โดยเฉพำะคนพิกำร ผู้สูงอำยุ ท่ีสอดคล้องกับควำม ต้องกำรจำเป็นของแต่ละบุคคล และมุ่งเน้นให้ทุกกลุ่มเป้ำหมำยมีทักษะกำรดำรงชีวิตตลอดจน สำมำรถประกอบ อำชีพพึ่งพำตนเองได้มีควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรบริหำรจัดกำรชีวิตของตนเองให้อยู่ในสังคม ได้อย่ำงมีควำมสุข สำมำรถเผชิญสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ และเตรียมพร้อมสำหรับกำร ปรับตัวให้ทันต่อกำรเปล่ียนแปลงของข่ำวสำรข้อมูลและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในอนำคต โดยจัดกิจกรรมท่ีมีเน้ือหำ สำคัญต่ำง ๆ เช่น กำรอบรมจิตอำสำ กำรให้ควำมรู้เพ่ือกำรป้องกำรกำรแพร่ระบำด ของเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (COMID - 19) กำรอบรมพัฒนำสุขภำพกำยและสุขภำพจิต กำรอบรมคุณธรรม และจริยธรรม กำรป้องกันภัยยำ เสพติด เพศศึกษำ กำรปลูกฝังและกำรสร้ำงค่ำนิยมท่ีพึงประสงค์ ควำมปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ผ่ำนกำร อบรมเรียนรู้ในรูปแบบต่ำง ๆ อำทิ ค่ำยพัฒนำทักษะชีวิต กำรจัดตั้งชมรม/ชุมนุม กำรอบรมส่งเสริมควำมสำมำรถ พิเศษตำ่ ง ๆ เปน็ ต้น 2. สภำพทพ่ี บ - มกี ำรจดั กจิ กรรมโครงกำรจัดกำรศึกษำเพ่อื พฒั นำทักษะชีวิต “เสริมสรำ้ งสุขภำพกำยและสขุ ภำพจิต ปอ้ งกนั โรคไวรสั โคโรนำ่ สำยพันธ์ุ 2019” - มีวัตถุประสงค์ในกำรจัดคอื ให้ควำมรู้เรื่องกำรป้องกัน ควำมรู้เร่ืองวคั ซีนเพ่ือป้องกันกำรแพร่ระบำดของ เช้ือไวรัสโคโรน่ำ 2019 (Covid-19) สอดคล้องกับปัญหำสถำนกำรณ์ในปัจจุบันของโรคระบำด(Covid-19) ตำม โครงกำรใช้รูปแบบกำรอบรม ให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมสำมำรถดูแลสขุ ภำพกำยและสุขภำพจิตของตนเองและสำมำรถ นำควำมรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำได้ วิทยำกรจำกโรงพยำบำลส่งเสริมสุขภำพตำบลมีควำมรู้ควำมสำมำรถและ เทคนิคกำรถำ่ ยทอดทีเ่ หมำะสมกับเร่ืองที่ใหค้ วำมรู้ -มกี ำรใชส้ ื่อ เทคโนโลยี เครอ่ื งโปรเจคเตอร์ จอเพื่อประกอบกำรจัดกจิ กรรม -มกี ำรประเมินผลกำรจัดกิจกรรม โดยมีแบบประเมินใหผ้ ูเ้ ข้ำรับกำรอบรมตอบแบบประเมิน 3. ปัจจัยทสี่ ่งผลตอ่ ควำมสำเร็จ(ถ้ำ) ประชำชนมีควำมสนใจในกำรเขำ้ รับกำรอบรมมีแนวทำงกำรปฏบิ ตั ติ นทเ่ี หมำะสมตอ่ สถำนกำรณ์ท่ีกำลัง เกิดขึน้ สำมำป้องกนั ตนเองจำกโรคระบำด(Covid-19) และสำมำรถนำองค์ควำมรไู้ ปเผยแพร่ให้ผใู้ กล้ชดิ หรือชมุ ชน ได้

59 4. ปัญหำอปุ สรรค - อำคำรสถำนที่ในกำรจดั กิจกรรมบำงแห่งยังไมม่ ีควำมพร้อมมำกนัก สอ่ื วสั ดุ อปุ กรณ์นำมำใช้ได้ไม่เต็มท่ี เชน่ สญั ญำณอนิ เทอรเ์ นต็ ไฟฟ้ำ เครื่องเสียง 5. ขอ้ นิเทศตอ่ ผรู้ บั กำรนเิ ทศ - ควรมีกำรฝึกอบรมในเร่ืองที่เปน็ ปญั หำของสถำนกำรณ์ในปจั จุบัน เพือ่ ใหป้ ระชำชนมีควำมตระหนักถึง ปญั หำและสำมำรถแกไ้ ขปัญหำในสถำนกำรณป์ ัจจุบันได้ เพื่อกำรดำเนินชวี ิตในสงั คมปจั จบุ นั ไดอ้ ยำ่ งมคี วำมสุข - ควรมกี ำรนำข้อมลู แผนชมุ ชนมำใชใ้ นกำรเป็นข้อมลู พ้นื ฐำนในกำรดำเนินงำนให้เกดิ ควำมสอดคล้องกับ ควำมตอ้ งกำรของคนในพน้ื ท่ี - สถำนทีใ่ นกำรจัดกิจกรรมควรมีควำมพร้อมในกำรอบรม เช่นมีสัญญำณอนิ เทอรเ์ น็ต ไฟฟ้ำสะดวก และ เครื่องขยำยเสียง 6. ขอ้ เสนอแนะเพื่อกำรพฒั นำ 6.1 ข้อเสนอแนะต่อสถำนศึกษำ (ถำ้ ม)ี - ควรมกี ำรสำรวจสถำนท่ีในกำรจดั กิจกรรมให้มคี วำมพรอ้ มในกำรอบรม เช่นมีสัญญำณอินเทอรเ์ น็ต ไฟฟ้ำสะดวก และเครื่องขยำยเสียง - ควรมกี ำรนำข้อมลู แผนชุมชนมำใชใ้ นกำรเปน็ ข้อมลู พื้นฐำนในกำรดำเนินงำนให้เกดิ ควำมสอดคล้องกับ ควำมตอ้ งกำรของคนในพ้นื ที่ - ในกำรดำเนนิ กิจกรรมควรให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในกำรทำงำน 6.2 ข้อเสนอแนะต่อสำนักงำน กศน.จงั หวดั (ถำ้ มี) - ควรอบรมวทิ ยำกรกลุ่มกำรศึกษำต่อเน่ืองอยำ่ งสมำ่ เสมอ - ควรพัฒนำและปรบั ปรงุ หลักสูตรใหท้ นั สมยั ใหส้ อดคล้องตำมควำมต้องกำรของประชำชน 6.3 ข้อเสนอแนะต่อสำนกั งำน กศน (ถ้ำม)ี ............................................................................................................................. ........................................................ ....................................................................................................................................................................... 7. Best Practice (ถ้ำมี) ............................................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ..........................................

60 8. ภำพกิจกรรม อยำ่ งน้อย 4-6 ภำพ หรอื ลงิ ค์ คิวอำรโ์ คด้ ภำพเคล่อื นไหว (ถำ้ มี)

61 แบบบนั ทกึ กำรนิเทศผลกำรดำเนนิ งำนกำรศกึ ษำตอ่ เนื่อง เรอ่ื ง จดั การศกึ ษาเพ่อื พัฒนาทกั ษะชีวติ คำช้แี จง ใหศ้ ึกษำนเิ ทศก์หรือผูร้ ับผิดชอบกำรนเิ ทศ สอบถำม สัมภำษณ์ผู้รบั ผดิ ชอบกำรดำเนนิ งำน ครูผู้สอนและ หรือผเู้ รียน/ผู้เกี่ยวข้อง สังเกตสภำพจรงิ สถำนที่ กระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้ ตรวจเอกสำรโครงกำร หลักสูตร สื่อ ฯลฯ แล้วบนั ทึก สภำพท่ีพบ (จุดเด่น – จดุ ท่ีควรพัฒนำ) และข้อนเิ ทศ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะเพือ่ กำรพฒั นำลงในแบบ บันทึกกำรนเิ ทศ กศน.อำเภอชนแดน..............................กศน.ตำบล/ศรช./ศศช. ..............กศน.ตำบล 9 แหง่ .......................... ผ้รู บั กำรนเิ ทศ.........ครู กศน.ตำบล 9 แหง่ .................................................................................... ประเด็นกำรนิเทศ สภำพที่พบ ข้อนิเทศ 6.1 ปัจจัยป้อน (Input) กศน.ตำบลที่ไดร้ บั กำรจัดสรร มีกำรดำเนนิ งำนที่ดี มีกำร งบประมำณในไตรมำส 3-4 จัดทำแผนและกำร 1) โครงกำร /กจิ กรรมดำเนินกำรโดยจดั กศน.ตำบล มกี ำรจัดกิจกรรม ดำเนินงำนตำมแผน กระบวนกำรเรียนรูเ้ พื่อเสรมิ สร้ำงควำมสำมำรถ โครงกำรจดั กำรศึกษำเพื่อ โครงกำรใหก้ บั ประชำชน ของบุคคลเพ่ือใหจ้ ัดกำรกับตนเองและส่ิงแวดล้อม พัฒนำทักษะชีวติ กลมุ่ เปำ้ หมำย เน้ือหำที่ เพอ่ื ใหม้ คี วำมสุขตำมอตั ภำพและควำมสขุ ควำม “เสรมิ สร้ำงสขุ ภำพกำยและ อบรมมีควำมเหมำะสม ปลอดภัยในสงั คม โดยเฉพำะคนพกิ ำรผสู้ ูงอำยุ สขุ ภำพจิตป้องกัน โรคไวรสั สอดคลอ้ งกับสถำนกำรณ์ โดยกจิ กรรมที่มีเน้อื หำสำคัญ เช่นกำรอบรมจติ โคโรน่ำสำยพนั ธุ์ 2019” ปจั จุบัน อำสำกำรให้ควำมรเู้ พือ่ ป้องกันกำรแพรร่ ะบำดของ -โดยมีวตั ถุประสงค์ ให้ เชอ้ื ไวรสั โคโรน่ำ 2019 (Covid-19) กำรอบรม ควำมรูเ้ รอื่ งกำรป้องกนั พฒั นำสุขภำพกำยและสขุ ภำพจติ กำรอบรม ควำมรู้เรอ่ื งวัคซีนเพ่ือป้องกนั คุณธรรมจริยธรรม กำรปอ้ งกันยำเสพติด กำรแพร่ระบำดของเชื้อไวรสั เพศศึกษำกำรสร้ำงคำ่ นยิ มท่ีพ่งึ ประสงคค์ วำม โคโรนำ่ 2019 (Covid-19) ปลอดภัยในชวี ติ และทรัพย์สิน ฯลฯ สอดคลอ้ งกับปัญหำ สถำนกำรณ์ในปจั จบุ นั ของ 2) โครงกำร /กิจกรรม ท่ดี ำเนนิ กำร เหมำะสม โรคระบำด(Covid-19) ตำม สอดคล้องกบั สภำพ ควำมตอ้ งกำรของประชำชน โครงกำรใช้รูปแบบกำรอบรม และชุมชน ใหผ้ เู้ ขำ้ รบั กำรอบรมสำมำรถ ดแู ลสขุ ภำพกำยและ 3) โครงกำร / กิจกรรม ท่ดี ำเนนิ กำรใช้รปู แบบ สขุ ภำพจติ ของตนเองและ กลมุ่ สนใจ ฝกึ อบรม หรืออืน่ ๆ เพรำะเหตุใด สำมำรถนำควำมรู้ทีไ่ ด้ไปใช้ ในชวี ติ ประจำได้

62 ประเด็นกำรนเิ ทศ สภำพทีพ่ บ ข้อนิเทศ 6.2 กำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ (Process) -วทิ ยำกรจำกโรงพยำบำล วิทยำกรทีใ่ หค้ วำมร้มู ี ส่งเสรมิ สุขภำพตำบล ควำมร้คู วำมสำมำรถตรง 1) วทิ ยำกรมีควำมรคู้ วำมสำมำรถและเทคนิค มคี วำมรคู้ วำมสำมำรถและ ตำมเน้อื หำทอี่ บรม กำรถำ่ ยทอดเหมำะสม เทคนิคกำรถำ่ ยทอดที่ มีกำรใชส้ ่ือเทคโนโลยี เช่น เหมำะสมกบั เรื่องที่ให้ควำมรู้ เคร่ืองโปรเจคเตอรม์ ำใช้ 2) มกี ำรใชส้ อื่ เทคโนโลยี แหล่งเรยี นรู้ ภูมิ มกี ำรใชส้ ่ือ เทคโนโลยี เพือ่ ใหเ้ กิดควำมสะดวกต่อ ปัญญำท้องถิ่นประกอบกำรจดั กจิ กรรม เครื่องโปรเจคเตอร์ จอเพื่อ ผู้เข้ำรบั กำรอบรม ใหเ้ หน็ ประกอบกำรจัดกิจกรรม ภำพชัดเจนประกอบกับ 3) มกี ำรประเมนิ ผลกำรจัดกจิ กรรม -มีกำรประเมินผลกำรจดั กำรบรรยำย 4) มีกำรจัดทำรำยงำนผลกำรจดั โครงกำร / กิจกรรม โดยมีแบบประเมิน มีกำรใหผ้ เู้ ข้ำรบั กำรอบรม กิจกรรม เมื่อส้นิ สดุ โครงกำร ให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมตอบ ได้ทำแบบประเมนิ ควำม 5) มกี ำรตดิ ตำมผลกำรนำควำมรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ แบบประเมิน พึงพอใจต่อกำรรบั กำร -มกี ำรจัดทำรำยงำนผลกำร อบรมในครงั้ นี้ 6.3 ผลผลิต (Output) จดั โครงกำร /กิจกรรม เมือ่ หลงั กำรจัดกจิ กรรม 1) ประชำชนทเ่ี ข้ำร่วมโครงกำร/กิจกรรม มี ส้นิ สุดโครงกำรโดยจัดทำเปน็ โครงกำรทด่ี ำเนินกำรเสรจ็ สรุปรำยงำนผลกำรจัด สิ้นให้จัดทำสรุปโครงกำร ควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเกย่ี วกับกำรปอ้ งกันตนเองจำก กจิ กรรมเปน็ รูปเล่ม เปน็ รปู เลม่ โรคภยั ต่ำง ๆ กำรดำรงชวี ติ ของตนเองในสังคมได้ -มีกำรตดิ ตำมผลกำรนำ ใหต้ ิดตำมผูเ้ ขำ้ รับกำร อยำ่ งมีควำมสุข ควำมรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ไดจ้ รงิ อบรมหลงั จำกอบรมเสรจ็ สิ้นแลว้ มีกำรนำไปปรับใช้ 2) ประชำชนท่ีเขำ้ รว่ มโครงกำร/กจิ กรรม มี ประชำชนทเี่ ขำ้ รว่ ม ในชวี ติ ประจำวนั และ ควำมตระหนักในกำรเสรมิ สรำ้ งสขุ ภำพกำย โครงกำร/กจิ กรรม มีควำมรู้ สำมำรถขยำยผลต่อชุมชน สุขภำพจิต มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม หลกี เลียงจำก ควำมเข้ำใจเกีย่ วกบั กำร ได้ สิ่งเสพติด ปอ้ งกนั ตนเองจำกกำรแพร่ หลงั กำรอบรมประชำชนมี ระบำดของเช้ือไวรัสโคโรนำ่ ควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ 2019 (Covid-19) ดูแล เกี่ยวกบั กำรป้องกนั ตนเอง สขุ ภำพกำยและสุขภำพจติ จำกเช้อื ไวรสั โคโรน่ำ ของตนเองและสำมำรถนำ 2019 (Covid-19) ควำมรู้ทไ่ี ด้ไปใชใ้ น ดูแลสุขภำพกำยและ ชีวติ ประจำวนั ได้ กำร สุขภำพจิตของตนเองและ สำมำรถนำควำมรู้ทไ่ี ด้ไป ใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้

63 ประเด็นกำรนิเทศ สภำพท่ีพบ ข้อนิเทศ 3) มกี ิจกรรมผำ่ นกำรเรยี นร้ใู นรปู แบบกำรอบรม ดำรงชวี ิตของตนเองในสงั คม เข้ำค่ำยให้ควำมรู้และนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ ไดอ้ ย่ำงได้อยำ่ งมคี วำมสุข ผู้เข้ำรับกำรอบรมมีควำมรู้ กระบวนกำรเข้ำรับกำรฉีด วัคซีนและดูแลตนเองจำก โรคติดต่อ ไวรัสโคโรน่ำสำย พันธุ์ 2019 มีควำมรู้ด้ำนกำร ป้องกัน เฝ้ำระวังกำรติดต่อ แ พ ร่ เ ช้ื อ ไ ว รั ส โ ค โ ร น่ ำ ส ำ ย พันธุ์ 2019 และสำมำรถนำ องค์ควำมรู้ไปเผยแพร่ให้ผู้ ใกลช้ ิดหรอื ชมุ ชนได้ ผลกำรปฏบิ ตั ทิ ี่เปน็ เลศิ (Best Practice) ผลงำนดีเดน่ /รำงวัลทไี่ ดร้ ับ/แนวปฏิบตั ิทดี่ ี /ปัจจยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ ควำมสำเรจ็ (ถำ้ มี) ประชำชนท่ีไดเ้ ขำ้ รับกำรอบรมมีแนวทำงกำรปฏบิ ัตติ นที่เหมำะสมต่อสถำนกำรณ์ท่กี ำลังเกิดข้นึ และ สามารถนาองค์ความร้ไู ปเผยแพรใ่ ห้ผใู้ กล้ชดิ หรอื ชุมชนได้ ขอ้ เสนอเพ่ือกำรพฒั นำ - ควรมีกำรฝึกอบรมในเร่ืองที่เป็นปญั หำของสถำนกำรณใ์ นปจั จบุ ัน เพอื่ ใหป้ ระชำชนมคี วำมตระหนักถึง ปญั หำและสำมำรถแกไ้ ขปัญหำในสถำนกำรณป์ จั จุบนั ได้ เพอื่ กำรดำเนินชีวติ ในสงั คมปัจจุบนั ได้อย่ำงมีควำมสขุ - ควรมีกำรนำข้อมลู แผนชุมชนมำใชใ้ นกำรเป็นข้อมลู พื้นฐำนในกำรดำเนินงำนให้เกิดควำมสอดคล้องกบั ควำมตอ้ งกำรของคนในพน้ื ที่ - สถำนที่ในกำรจดั กิจกรรมควรมคี วำมพร้อมในกำรอบรม เช่นมสี ญั ญำณอินเทอรเ์ น็ต ไฟฟำ้ สะดวก และ เครอ่ื งขยำยเสียง - ในกำรดำเนินกจิ กรรมควรใหช้ มุ ชนได้มสี ว่ นร่วมในกำรทำงำน ลงช่ือ...............................................ผนู้ เิ ทศ (นำงสำวลำวัณย์ สทิ ธกิ รวยแกว้ ) 20 กรกฎำคม 2564

64 แบบรำยงำนกำรนิเทศ ประเดน็ กำรนิเทศ เรอื่ ง กำรจัดกำรศกึ ษำเพอ่ื พัฒนำสงั คมและชมุ ชน 1. เกร่นิ นำ เรอื่ งของนโยบำย จดุ เน้นกำรดำเนินงำนของสำนักงำน กศน.ประจำปี พ.ศ.2564 สอดคล้องกับนโยบำยและจุดเนน้ กำรดำเนนิ งำน กศน. ประจำปี 2564 นโยบำยเร่งดว่ น 1. นอ้ มนำพระบรมรำโชบำยดำ้ นกำรศกึ ษำส่กู ำรปฏบิ ตั ิ 1.1 สืบสำนศำสตร์พระรำชำ โดยกำรสร้ำงและพัฒนำศูนย์สำธิตและเรียนรู้ “โคก หนอง นำ โมเดล” เพ่ือ เป็นแนวทำงในกำรจัดกำรบริหำรทรัพยำกรรูปแบบต่ำง ๆ ท้ังดิน น้ำ ลม แดด รวมถึงพืชพันธุ์ต่ำง ๆ และส่งเสริม กำรใชพ้ ลังงำนทดแทนอยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ ภำรกิจตอ่ เน่อื ง 3) จัดกำรศึกษำเพื่อพัฒนำสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ แบบบูรณำกำรในรูปแบบของกำรฝึกอบรมกำรประชุม สัมมนำ กำรจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กำรจัดกิจกรรม จิตอำสำ กำรสร้ำงชุมชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอ่ืนๆ ท่ีเหมำะสมกับกลุ่มเป้ำหมำย และบริบทของชุมชน แต่ละ พ้ืนที่ เคำรพควำมคิดของผู้อ่ืน ยอมรับควำมแตกต่ำงและหลำกหลำยทำงควำมคิดและอุดมกำรณ์ รวมท้ังสังคม พหุวัฒนธรรม โดยจัดกระบวนกำรให้บุคคลรวมกลุ่มเพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันสร้ำงกระบวนกำรจิตสำธำรณะ กำรสร้ำงจิตสำนึกควำมเป็นประชำธิปไตย กำรเคำรพในสิทธิและเสรีภำพ และรับผิดชอบต่อหน้ำที่ควำมเป็น พลเมือง ที่ดีภำยใต้กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์เป็นประมุข กำรส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม กำรเป็นจิตอำสำ กำรบำเพ็ญประโยชน์ในชุมชนกำร บริหำรจัดกำรน้ำ กำรรับมือกับสำธำรณภัย กำรอนุรกั ษ์พลังงำน ทรพั ยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อม กำรช่วยเหลอื ซ่งึ กันและกนั ในกำรพฒั นำสังคมและชุมชน อย่ำงยง่ั ยนื 2. สภำพที่พบ - มกี ำรจัดโครงกำรจัดกจิ กรรมพัฒนำสังคมและชุมชน กิจกรรมท่ี 2 โครงกำรสร้ำงควำมมั่นคงทำงอำหำร ประจำปี 2564” - โดยมีวัตถุประสงค์ดังน้ี เพื่อให้ผู้เข้ำร่วมโครงกำรมีควำมรู้เกี่ยวกับกำรสร้ำงควำมมั่นคงทำงอำหำร ผู้เข้ำ อบรมสำมรถนำควำมรู้สร้ำงอำชีพในครัวเรือน และเพ่ือลดรำยจ่ำย สร้ำงรำยได้ให้แก่ตนเองและครอบครัวและ สำมำรถนำควำมรู้ที่ได้รบั ไปปรับใชใ้ นชวี ิตประจำวันไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม - กจิ กรรมที่จดั มีควำมเหมำะสมตรงตำมควำมต้องกำรของประชำชน

65 3. ปัจจัยทส่ี ง่ ผลตอ่ ควำมสำเร็จ(ถำ้ ) 1.ประชำชนมคี วำมรเู้ ก่ียวกับกำรสรำ้ งควำมม่ันคงทำงอำหำร 2.ประชำชนสำมรถนำควำมรู้สร้ำงอำชพี ในครวั เรอื นได้ 3. ประชำชนสำมำรถลดรำยจ่ำย สร้ำงรำยได้ให้แก่ตนเองและครอบครัวได้ อย่ำงสม่ำเสมอสอดคล้องกับ สถำนกำรณ์ในปัจจบุ นั 4. ปญั หำอุปสรรค - เนื่องจำกสถำนะกำรณ์โควิด -19 ทำให้กำรจัดกิจกรรมรวมกลุ่มค่อนข้ำงยำก เนื่องจำกจำกัดผู้เข้ำร่วม อบรม 5. ขอ้ นเิ ทศตอ่ ผรู้ บั กำรนิเทศ - ควรมกี ำรติดตำมผลกำรดำเนนิ งำนหลงั จำกเสรจ็ สิ้นโครงกำร - ควรรายงานผลสรุปผลการปฏบิ ตั งิ านเม่อื ส้นิ สุดโครงการทันที - ควรอบรมวิทยำกรกลุม่ กำรศกึ ษำต่อเน่ืองอย่ำงสมำ่ เสมอ - ควรมกี ำรปรบั แผน/โครงกำรใหส้ อดคล้องกบั ควำมต้องกำรของประชำชนและมีควำมยืดหยุ่นและ สอดคลอ้ งกับสถำนกำรณ์ชว่ งโควิดกำลงั ระบำด - ควรพฒั นำและปรับปรุงหลักสูตรใหท้ นั สมยั ใหส้ อดคล้องตำมควำมต้องกำรของประชำชน 6. ขอ้ เสนอแนะเพอื่ กำรพัฒนำ 6.1 ข้อเสนอแนะต่อสถำนศึกษำ (ถำ้ ม)ี - กศน.ควรจัดอบรมและให้กำรสง่ เสรมิ สนบั สนนุ กิจกรรมอยำ่ งต่อเนือ่ ง และควรจดั กำรฝึกอบรมในเร่อื ง ทเ่ี ปน็ ปัญหำของสถำนกำรณ์ในปัจจบุ ัน เพอื่ ให้ประชำชนมีควำมตระหนักถงึ ปัญหำและสำมำรถแก้ไขปญั หำใน สถำนกำรณ์ปัจจบุ นั ได้ - ควรพัฒนำและปรับปรุงหลักสูตรใหท้ นั สมยั ใหส้ อดคล้องตำมควำมต้องกำรของประชำชน - ควรอบรมวิทยำกรกลุม่ กำรศึกษำตอ่ เนื่องอยำ่ งสม่ำเสมอ 6.2 ข้อเสนอแนะต่อสำนักงำน กศน.จงั หวดั (ถ้ำมี) ............................................................................................................................. ........................................................ 6.3 ขอ้ เสนอแนะต่อสำนักงำน กศน (ถ้ำมี) ............................................................................................................................. ........................................................ 7. Best Practice (ถำ้ มี) ............................................................................................................................................ ......................................... .......................................................................................... .............................................................................

66 8. ภำพกิจกรรม อยำ่ งน้อย 4-6 ภำพ หรอื ลงิ ค์ คิวอำรโ์ คด้ ภำพเคล่อื นไหว (ถำ้ มี)

67 แบบบนั ทึกกำรนเิ ทศผลกำรดำเนินงำนกำรศกึ ษำตอ่ เนอ่ื ง เร่ือง จัดกำรศึกษำเพอ่ื พฒั นำสงั คมและชุมชน คำชแ้ี จง ให้ศกึ ษำนิเทศกห์ รือผรู้ ับผิดชอบกำรนิเทศ สอบถำม สมั ภำษณ์ผู้รับผิดชอบกำรดำเนนิ งำน ครูผูส้ อนและ หรอื ผูเ้ รยี น/ผู้เกี่ยวข้อง สังเกตสภำพจรงิ สถำนท่ี กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ตรวจเอกสำรโครงกำร หลักสูตร ส่ือ ฯลฯ แล้วบันทึก สภำพที่พบ (จดุ เด่น – จดุ ที่ควรพัฒนำ) และข้อนเิ ทศ พร้อมท้ังข้อเสนอแนะเพ่ือกำรพฒั นำลงในแบบ บันทกึ กำรนิเทศ กศน.อำเภอชนแดน.....................................กศน.ตำบล/ศรช./ศศช. ..กศน.ตำบล 9 แห่ง.................. ผูร้ บั กำรนิเทศ.................ครู กศน.ตำบล 9 แห่ง........................................................................ ประเดน็ กำรนเิ ทศ สภำพที่พบ ขอ้ นเิ ทศ 6.1 ปจั จัยป้อน (Input) 1. กศน.ตำบลที่ได้รับกำรจัด 1.มีกำรดำเนินงำนท่ีดี 1) โครงกำร /กิจกรรมดำเนินกำรโดยมุ่งให้ ควำมร้เู กย่ี วกับกำรเสรมิ สรำ้ งคุณภำพชวี ิตทเี่ ป็น สรรงบประมำณในไตรมำส อย่ำงตอ่ เนอ่ื ง มติ รกบั สงิ่ แวดล้อม กำรป้องกันผลกระทบ กำร 3-4 และ กศน.ตำบล มีกำร 2.มีกำรจัดทำแผนและกำร ป้องกันภัยพิบตั ิธรรมชำติและสภำพภูมอิ ำกำศ กำร จัดโ ครงกำรจัดกิจกร ร ม ดำเนินงำนตำมแผนงำน ลดควำมสูญเสยี ในกำรผลิตและใช้เทคโนโลยที ี่เป็น พั ฒ น ำ สั ง ค ม แ ล ะ ชุ ม ช น ใ ห้ กั บ ป ร ะ ช ำ ช น ก ลุ่ ม มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ มและกำรคำนงึ ถงึ ส่วนรวม (เชน่ กิจกรรมท่ี 2 โครงกำรสร้ำง เป้ำหมำย เนือ้ หำท่ีอบรมมี กำรบรหิ ำรจัดกำรขยะและมลพิษในชมุ ชน/กำร ค ว ำ ม มั่ น ค ง ท ำ ง อ ำ ห ำ ร ควำมเหมำะสมสอดคล้อง ปอ้ งกันภยั พบิ ตั ิธรรมชำตแิ ละสภำพภูมิอำกำศ) ป ร ะ จ ำ ปี 2 5 6 4 ” โ ด ย มี กบั สถำนกำรณป์ จั จุบนั 2) โครงกำร /กจิ กรรม ที่ดำเนนิ กำรเหมำะสม วัตถุประสงค์ดังน้ี เพ่ือให้ สอดคล้องกบั สภำพควำมต้องกำรของประชำชน ผู้เข้ำร่วมโครงกำรมีควำมรู้ และชมุ ชน เกี่ยวกับกำรสร้ำงควำมม่ันคง ทำงอำหำร ผู้เข้ำอบรมสำม 3) โครงกำร / กิจกรรม ทด่ี ำเนนิ กำรใชร้ ูปแบบ กล่มุ สนใจ ฝึกอบรมหรืออื่น ๆ เพรำะเหตุใด รถนำควำมรู้สร้ำงอำชีพใน 4) มกี ำรจดั ทำขอ้ มูลสำรสนเทศท่เี กย่ี วข้อง ค รั ว เ รื อ น แ ล ะ เ พื่ อ ล ด รำยจ่ำย สร้ำงรำยได้ให้แก่ (สภำพภมู อิ ำกำศ /แนวโนม้ ควำมเสีย่ ง/สถติ กิ ำร เกดิ ภัยพิบตั ิ /กำรคดิ ดี ทำดี) ต น เ อ ง แ ล ะ ค ร อ บ ค รั ว แ ล ะ สำมำรถนำควำมรู้ท่ีได้รับไป ปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ อยำ่ งเหมำะสม 2. กิ จ ก ร ร ม ท่ี จั ด มี ค ว ำ ม เหมำะสมตรงตำมควำม ต้องกำรของประชำชน

68 ประเด็นกำรนเิ ทศ สภำพทพี่ บ ข้อนิเทศ 6.2 กำรจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ (Process) 1. วิทยำกรจำกพัฒนำชุมชน 1. วิทยำกรท่ีให้ควำมรู้มี 1) วทิ ยำกรมีควำมรคู้ วำมสำมำรถและเทคนคิ อำเภอชนแดน มีควำมรู้ ควำมรู้ควำมสำมำรถตรง กำรถำ่ ยทอดเหมำะสม ควำมสำมำรถและเทคนคิ กำร ตำมเน้ือหำท่ีอบรมและ 2) มกี ำรใชส้ ื่อ เทคโนโลยีแหล่งเรยี นรู้ ถ่ำยทอดควำมรู้อย่ำงชำนำญ สอนได้อย่ำงมีประสิทธิ ภูมิปัญญำท้องถ่นิ ประกอบกำรจดั กจิ กรรม และเกิดจำกประสบกำรณ์ ภำพเข้ำใจงำ่ ย 3) มกี ำรประเมนิ ผลกำรจดั กจิ กรรม จริง ซ่ึงมีควำมสอดคล้องกับ 2. มีกำรใช้สื่อเทคโนโลยี 4) มกี ำรจดั ทำรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำนโครงกำร สถำนกำรณป์ จั จุบัน มำใช้เพ่ือให้เกิดคว ำม / กิจกรรม เม่ือส้ินสุดโครงกำร รำยกจิ กรรม/ 2. มีกำรใช้ส่ือ เทคโนโลยี สะดวกต่อผู้เข้ำรับกำร รำยไตรมำส/สรปุ ผลประจำป)ี และมกี ำรติดตำมผล เพือ่ ประกอบกำรจัดกจิ กรรม อบรม ให้เห็นภำพชัดเจน กำรนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ 3. มีกำรประเมินผลกำรจัด ประกอบกับกำรบรรยำย 5) โครงกำรกจิ กรรมทดี่ ำเนนิ กำรมคี วำมสอดคล้อง กิจกรรม โดยมีแบบประเมิน 3. มีกำรให้ผู้เข้ำรับกำร กบั กับสถำนกำรณ์ปัจจุบนั (กำรแพรร่ ะบำดของ ให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมตอบ อบรมได้ทำแบบประเมิน โรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ่ 2019)4) มีกำรจดั ทำ) แบบประเมนิ ควำมพึงพอใจต่อกำรรับ 4 มีกำรจัดทำรำยงำนผลกำร กำรอบรมในคร้ังน้ี จัดโครงกำร /กิจกรรม เมื่อ 4. หลังกำรจัดกิจกรรม สิ้นสุดโครงกำรโดยจัดทำเป็น โครงกำรท่ีดำเนินกำรเสร็จ ส รุ ป ร ำ ย ง ำ น ผ ล ก ำ ร จั ด ส้ินให้จัดทำสรุปโครงกำร กจิ กรรมเปน็ รูปเลม่ เปน็ รูปเล่ม 5. มีกำรติดตำมผลกำรนำ 5. ให้ติดตำมผู้เข้ำรับกำร ควำมรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ไดจ้ ริง อบรมหลังจำกอบรมเสร็จ ส้ินแล้วมีกำรนำไปปรับใช้ ใ น ชี วิ ต ป ร ะจ ำวั นและ สำมำรถขยำยผลต่อชุมชน ได้ 6.3 ผลผลิต (Output) 1.ประชำชนมีควำมรูเ้ ก่ยี วกับกหำรลังกำรอบรมประชำชนมี 1) ประชำชนทีเ่ ข้ำร่วมโครงกำร/กจิ กรรม สรำ้ งควำมมัน่ คงทำงอำหำร ค ว ำ ม รู้ ค ว ำ ม เ ข้ ำ ใ จ มีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเกย่ี วกบั กำรปอ้ งกัน ผลกระทบและปรับตัวตอ่ กำรเปล่ยี นแปลงสภำพ 2.ประชำชนสำมรถนำควำม เกี่ยวกับควำมมั่นคงทำง ภมู อิ ำกำศ และภยั พิบัติธรรมชำติ รูส้ รำ้ งอำชีพในครัวเรอื นได้ อำหำร สามารถนาความรู้ 2) ผ้เู ข้ำร่วมโครงกำร/กิจกรรม เกดิ ควำมตระหนกั ในกำรร่วมกนั พัฒนำสังคม 3. ประชำชนสำมำรถลด ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน ชมุ ชนได้อย่ำงถกู ต้อง สรำ้ งสรรคอ์ ยำ่ งต่อเน่ือง รำยจ่ำย สร้ำงรำยได้ให้แก่ ไ ด้ อ ย่ ำ ง ส ม่ ำ เ ส ม อ ตนเองและครอบครัว ได้ สอดคล้องกับสถำนกำรณ์ ในปจั จุบัน

69 3) มีกิจกรรมเก่ยี วกับกำรร่วมกนั พฒั นำสงั คม อย่ำงสม่ำเสมอสอดคล้องกับ ชมุ ชน ในแต่ละชุมชนอยำ่ งสมำ่ เสมอ สถำนกำรณใ์ นปจั จุบนั ผลกำรปฏิบตั ทิ ่ีเป็นเลศิ (Best Practice) ผลงำนดีเดน่ /รำงวัลท่ีได้รับ/แนวปฏบิ ตั ิทีด่ ี /ปจั จัยท่ีส่งผลตอ่ ควำมสำเรจ็ (ถ้ำมี) ประชำชนที่ได้เข้ำรับกำรอบรมมีแนวทำงกำรปฏิบัติตนที่เหมำะสมต่อสถำนกำรณ์ที่กำลังเกิดข้ึน และ สามารถนาองค์ความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้และสามารถพ่ึงพาตนเอง ชว่ ยเหลือคนในชุมชนได้ ตามสถานการณ์ ที่เกดิ ข้ึนในปจั จบุ ัน ข้อเสนอเพื่อกำรพัฒนำ - กศน.ควรจัดอบรมและให้กำรส่งเสริม สนับสนุน กิจกรรมอย่ำงต่อเนื่อง และควรจัดกำรฝึกอบรมในเรอ่ื ง ที่เป็นปัญหำของสถำนกำรณ์ในปัจจุบัน เพ่ือให้ประชำชนมีควำมตระหนักถึงปัญหำและสำมำรถแก้ไขปัญหำใน สถำนกำรณ์ปัจจุบันได้ - - ควรมีกำรติดตำมผลกำรดำเนนิ งำนหลงั จำกเสรจ็ สน้ิ โครงกำร - ควรรายงานผลสรปุ ผลการปฏิบตั งิ านเมอื่ ส้นิ สุดโครงการทันที - ควรอบรมวิทยำกรกลมุ่ กำรศึกษำตอ่ เนื่องอย่ำงสมำ่ เสมอ - ควรมีกำรปรับแผน/โครงกำรให้สอดคลอ้ งกบั ควำมต้องกำรของประชำชนและมีควำมยืดหยนุ่ และ สอดคลอ้ งกับสถำนกำรณช์ ่วงโควิดกำลงั ระบำด - ควรพัฒนำและปรบั ปรุงหลักสตู รให้ทนั สมยั ให้สอดคล้องตำมควำมต้องกำรของประชำชน ลงชื่อ...............................................ผู้นิเทศ (นำงสำวลำวณั ย์ สทิ ธิกรวยแก้ว) 20 กรกฎำคม 2564

70 แบบรำยงำนกำรนิเทศ ประเด็นกำรนเิ ทศ กำรจัดกำรศึกษำตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ 1. เกรน่ิ นำ เรือ่ งของนโยบำย จุดเนน้ กำรดำเนนิ งำนของสำนักงำน กศน.ประจำปี พ.ศ.2564 สอดคลอ้ งกบั นโยบำลของรัฐบำล (กระทรวงศึกษำธิกำร) 1. กำรพฒั นำและเสรมิ สร้ำงทรัพยำกรมนุษย์ - พัฒนำผู้เรียนใหม้ ีควำมรอบรู้และทักษะชวี ติ เพื่อเป็นเครื่องมือในกำรดำรงชวี ติ และสร้ำงอำชีพ อำทิ กำรใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ัล สุขภำวะและทัศนคตทิ ด่ี ีตอ่ กำรดแู ลสุขภำพ 5. กำรจดั กำรศกึ ษำเพื่อเสริมสรำ้ งคุณภำพชีวติ ที่เป็นมิตรกับสง่ิ แวดล้อม - เสริมสร้ำงกำรรับรู้ ควำมเข้ำใจ ควำมตระหนัก และส่งเสริมคุณลักษณะและประพฤติท่ีพึง ประสงค์ด้ำนส่งิ แวดลอ้ ม - ส่งเสริมกำรพัฒนำส่ิงประดิษฐ์และนวัตกรรมท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ให้สำมำรถเป็นอำชีพ และสรำ้ งรำยได้ สอดคล้องกับนโยบำยและจุดเน้นกำรดำเนินงำน กศน. ประจำปี 2564 นโยบำยเรง่ ดว่ น 1. น้อมนำพระบรมรำโชบำยดำ้ นกำรศกึ ษำสกู่ ำรปฏบิ ตั ิ 1.1 สืบสำนศำสตร์พระรำชำ โดยกำรสร้ำงและพัฒนำศูนยส์ ำธติ และเรียนรู้ “โคก หนอง นำ โมเดล” เพื่อ เป็นแนวทำงในกำรจัดกำรบริหำรทรัพยำกรรูปแบบต่ำง ๆ ทั้งดิน น้ำ ลม แดด รวมถึงพืชพันธุ์ต่ำง ๆ และส่งเสริม กำรใชพ้ ลงั งำนทดแทนอยำ่ งมปี ระสทิ ธิภำพ ภำรกจิ ต่อเนือ่ ง 4) กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ตำมหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงผ่ำนกระบวนกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต ใน รปู แบบตำ่ ง ๆ ใหก้ ับประชำชน เพือ่ เสริมสร้ำงภูมคิ ุ้มกัน สำมำรถยืนหยดั อยู่ได้อย่ำงมนั่ คง และมีกำรบริหำรจัดกำร ควำมเสี่ยงอยำ่ งเหมำะสม ตำมทิศทำงกำรพัฒนำประเทศสู่ควำมสมดลุ และย่ังยนื 2. สภำพทพ่ี บ - มีกำรจดั กจิ กรรมโครงกำรส่งเสรมิ กำรใชส้ ำรอินทรยี ์ทดแทนสำรเคมีทำงกำรเกษตร ประจำปี 2564”โดย มวี ตั ถุประสงค์ ใหค้ วำมรู้เร่ืองกำรทำสำรสกัดสมุนไพรเพ่ือป้องกันและกำจัดแมลงศตั รูพืช กำรให้ควำมรเู้ รื่องกำร ทำสำรสกัดสมนุ ไพรเพ่อื ป้องกันและกำจดั แมลงศัตรพู ืช เพื่อสำมำรถนำไปใช้ในกำรดำเนนิ ชวี ิตไดจ้ ริง ประชำชนท่ี เข้ำร่วมโครงกำรสำมำรถนำควำมรู้ทไ่ี ดร้ บั ในกำรอบรม ไปเผยแพร่ขยำยผลในชุมชนของตนได้อย่ำงถูกตอ้ ง - มกี ำรใช้สอื่ เทคโนโลยี เครอ่ื งโปรเจคเตอร์ จอเพอ่ื ประกอบกำรจัดกิจกรรม - มกี ำรประเมินผลกำรจดั กจิ กรรม โดยมแี บบประเมนิ ให้ผู้เข้ำรบั กำรอบรมตอบแบบประเมนิ

71 3. ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลต่อควำมสำเร็จ(ถ้ำ) - ประชำชนท่ีได้เข้ำรับกำรอบรมมแี นวทำงกำรปฏบิ ัติตนท่ีเหมำะสมต่อสถำนกำรณ์ท่ีกำลังเกดิ ขึน้ และ สำมำรถนำองค์ควำมร้ไู ปเผยแพรใ่ หผ้ ู้ใกล้ชดิ หรือชุมชนได้ 4. ปัญหำอปุ สรรค - แหลง่ เรียนรบู้ ำงแห่งอยูห่ ่ำงไกลชมุ ชนไมส่ ะดวกในกำรเดินทำงและยังขำดควำมพร้อมในกำรอบรมให้ ควำมรูเ้ ช่น อำคำรสถำนท่ี วสั ดุ อุปกรณ์ เครอ่ื งขำยเสยี ง เป็นต้น 5. ข้อนิเทศต่อผู้รับกำรนิเทศ - ควรมีกำรตดิ ตำมผลกำรดำเนนิ งำนหลังจำกเสรจ็ ส้ินโครงกำร - ควรรายงานผลสรปุ ผลการปฏิบัตงิ านเมอ่ื สน้ิ สดุ โครงการทันที - ควรอบรมวทิ ยำกรกลุ่มกำรศึกษำต่อเน่ืองอย่ำงสมำ่ เสมอ - ควรมีกำรปรับแผน/โครงกำรใหส้ อดคล้องกับควำมต้องกำรของประชำชนและมีควำมยืดหยนุ่ และ สอดคล้องกับสถำนกำรณ์ช่วงโควดิ กำลังระบำด - ควรพฒั นำและปรบั ปรุงหลักสูตรให้ทนั สมยั ให้สอดคล้องตำมควำมต้องกำรของประชำชน 6. ข้อเสนอแนะเพื่อกำรพัฒนำ 6.1 ขอ้ เสนอแนะต่อสถำนศึกษำ (ถ้ำมี) - กศน.ควรจัดอบรมและใหก้ ำรสง่ เสรมิ สนับสนุนและพัฒนำแหล่งเรยี นร้อู ยำ่ งต่อเนื่อง - ควรอบรมวิทยำกรกลุม่ กำรศึกษำตอ่ เน่ืองอยำ่ งสมำ่ เสมอ 6.2 ขอ้ เสนอแนะต่อสำนักงำน กศน.จงั หวัด (ถำ้ มี) ............................................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. .......................................... 6.3 ข้อเสนอแนะต่อสำนกั งำน กศน (ถำ้ มี) ........................................................................................................................................................... .......................... ......................................................................................................... .............................................................. 7. Best Practice (ถ้ำมี) ผลกำรปฏิบตั ิทเี่ ป็นเลิศ (Best Practice) ผลงำนดเี ดน่ /รำงวัลทีไ่ ด้รบั /แนวปฏิบัตทิ ดี่ ี /ปจั จัยทส่ี ง่ ผลตอ่ ควำมสำเรจ็ หลงั จำกที่จัดโครงกำรเศรษฐกจิ พอเพียง สำมำรถเปน็ แหลง่ เรียนรูใ้ ห้กบั คนในชุมชนได้ เชน่ ณัฐภทั รฟำร์ม เห็ด ตำบลชนแดน ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลท่ำข้ำม ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลดงขุย ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลซับพุทรำ สำมำรถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับทำง กศน.และหน่วยงำนอ่ืน ๆ เช่น องคก์ ำรบรหิ ำรส่วนตำบล เทศบำล โรงเรียนตำ่ งๆ เกษตร และพัฒนำชมุ ชน

72 8. ภำพกิจกรรม อยำ่ งน้อย 4-6 ภำพ หรอื ลงิ ค์ คิวอำรโ์ คด้ ภำพเคล่อื นไหว (ถำ้ มี)

73 แบบบนั ทกึ กำรนเิ ทศผลกำรดำเนนิ งำนกำรศกึ ษำตอ่ เนอื่ ง เรื่อง กำรจดั กำรศกึ ษำตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎีใหม่ คำชแ้ี จง ให้ศกึ ษำนิเทศกห์ รือผ้รู ับผดิ ชอบกำรนิเทศ สอบถำม สมั ภำษณ์ผรู้ บั ผดิ ชอบกำรดำเนินงำน ครผู สู้ อนและ หรอื ผูเ้ รยี น/ผู้เกี่ยวข้อง สังเกตสภำพจรงิ สถำนที่ กระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้ ตรวจเอกสำรโครงกำร หลักสูตร ส่ือ ฯลฯ แล้วบนั ทึก สภำพท่ีพบ (จดุ เด่น – จุดทีค่ วรพัฒนำ) และข้อนิเทศ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะเพ่ือกำรพฒั นำลงในแบบ บนั ทกึ กำรนเิ ทศ กศน.อำเภอ.....ชนแดน..............กศน.ตำบล/ศรช./ศศช. ....กศน.ตำบล 9 แหง่ ....................................... ผ้รู ับกำรนิเทศ........ครู กศน.ตำบล 9 แห่ง..................................................................................... ประเดน็ กำรนเิ ทศ สภำพทีพ่ บ ข้อนเิ ทศ 1. ปจั จยั ป้อน (Input) -มีหลักสูตรของสถำนศึกษำ -ควรพัฒนำและปรับปรุง 1) หลักสตู รมอี งค์ประกอบครบถว้ นตำม อยู่ในระบบ C-Smart โดย หลักสูตรให้ทันสมัยให้ กระบวนกำรพัฒนำหลกั สตู ร ส ำ นั ก ง ำ น ก ศ น .จั ง ห วั ด ส อ ด ค ล้ อ ง ต ำ ม ค ว ำ ม 2) หลกั สูตรทใ่ี ช้ในกำรสอนได้พัฒนำข้นึ เองหรอื เพชรบูรณ์ เป็นผู้จัดทำและ ตอ้ งกำรของประชำชน นำมำจำกแหล่งอ่ืน (ระบุแหล่งที่มำ) รวบรวมเพื่อให้เป็นทิศทำง -ควรปรับปรุงเนื้อหำโดย 3) เน้ือหำหลักสูตรมีกำรบูรณำกำรสภำพ ปัญหำ เดยี วกัน กำรบูรณำกำรหลักสูตรให้ ควำมต้องกำรของผู้เรียนชุมชนและแนวโน้มกำร -หลักสูตรมำจำกระบบ C- ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ค ว ำ ม พัฒนำ Smartโดยสำนักงำน กศน. ตอ้ งกำรของประชำชน 4) หลักสตู รสอดคล้องตำมเกณฑ์ประเมินศูนย์กำร จั ง ห วั ด เ พ ช ร บู ร ณ์ เ ป็ น -ค ว ร มี ก ำ ร ป รั บ แ ผ น / เรยี นรตู้ ำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี งดำ้ น ผู้จัดทำ โดยใช้หลักสูตรกำร โครงกำรให้สอดคล้องกับ กำรศึกษำ ส่งเสริมกำรใช้สำรอินทรีย์ ค ว ำ ม ต้ อ ง ก ำ ร ข อ ง 5)แผนงำน/โครงกำร/ กิจกรรมเพื่อส่งเสริมกำรฝึก ทีส่ อดคล้องกับควำมตอ้ งกำรของประชำชน ท ด แ ท น ส ำ ร เ ค มี ท ำ ง ก ำ ร ประชำชนและมีคว ำม 6) วิทยำกรมีควำมร้คู วำมสำมำรถตำมเนื้อหำ เกษตร ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับ หลกั สูตร -เนื้อหำหลักสูตรมีกำรบูรณำ สถำนกำรณช์ ่วงโควิดกำลัง 7) วธิ ีกำรประเมินหลักสตู รอยำ่ งไร กำรสภำพ ปัญหำ ควำม ระบำด 8) กำรรวบรวมขอ้ มูลสำรสนเทศ ภมู ิปัญญำ ต้องกำรของผู้เรียนชุมชน -ก ำ ร ป รั บ ป รุ ง ห ลั ก สู ต ร แหลง่ เรยี นรดู้ ้ำนเศรษฐกจิ พอเพยี งและเกษตรทฤษฎี และแนวโน้มกำรพัฒนำ โ ด ย ส ำ นั ก ง ำ น ก ศ น . ใหมใ่ นชุมชนและจัดทำเปน็ ทำเนียบ ให้สืบคน้ ได้อยำ่ ง -หลักสูตรสอดคล้องตำม จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็น เกณฑ์ ผู้ดำเนินกำรให้เป็นไปใน สะดวก รวดเรว็ 9) กำรประชำสมั พนั ธส์ รำ้ งกำรรบั รูแ้ ก่ประชำชน -มี แ ผ น ง ำ น / โ ค ร ง ก ำ ร / ทิศทำงเดียวกัน โดยใช้ เกย่ี วกบั ศูนย์เรยี นรปู้ รัชญำเศรษฐกิจพอเพยี งอยำ่ งไร กิจกรรมเพ่ือส่งเสริมกำรฝึกท่ี ระบบ C-Smart 10) กำรมสี ่วนร่วมของคณะกรรมกำร ผูเ้ กยี่ วข้องทกุ สอดคล้องกับควำมต้องกำร -แนะนำให้มีแผนปฎิบัติ ภำคส่วน ของประชำชน กำรประจำปี/มีคำสั่ง/กำร 11) กำรรวมกลุ่มเครือข่ำยภูมปิ ัญญำ แหลง่ เรยี นรู้ รำยงำนผลกำรปฏิบัติงำน/ ภำยในชมุ ชน แหลง่ เรียนรู้

74 ประเด็นกำรนิเทศ สภำพที่พบ ข้อนิเทศ -วิ ท ย ำ ก ร มี ค ว ำ ม รู้ -ได้มีกำรเสนอแนะให้มี ควำมสำมำรถตำมเนื้อหำ กำรเก็บรวบรวมทำเนียบ หลักสูตร แหลง่ เรียนรู้และภูมปิ ัญญำ -ไมไ่ ด้มกี ำรประเมินหลักสูตร ทอ้ งถ่นิ -มี ก ำ ร ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล ไว้ในระบบฐำนข้อมูลเพื่อ สำรสนเทศ ภูมิปัญญำ แหล่ง กำรสืบค้นอย่ำงรวดเรว็ เรียนรู้ด้ำนเศรษฐกิจพอเพียง -ได้มีการเสนอแนะ ใ ห้ และเกษตรทฤษฎีใหม่ใน ประชาสัมพันธ์ผ่านวิทยุ ชุมชนและจัดทำเป็นทำเนียบ แ ล ะ เ พ จ ก ศ น .ต า บ ล และไลน์ ภมู ิปญั ญำท้องถนิ่ -ทาง กศน.อาเภอชนแดน ไ ด้ มี ก า ร จั ด ท า ค า สั ง ใ ห้ -มี ก า ร ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ กั บ คณะกรรมการของตาบล ชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมใน เข้ามามีส่วนร่วมในการ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ นิเทศและติดตามในการ ผา่ นวิทยแุ ละเพจ กศน.ตาบล จดั โครงการ -คณะกรรมการมีส่วนร่วมใน การจัดโครงการ/กิจกรรม -มีการรวมกลุ่มเครือข่ายภูมิ ปัญญา แหล่งเรียนรู้ภายใน ชุมชน การรวมกลุ่ม ในการ ขายสินค้าและแลกเปล่ียน ความรใู้ นแต่ละดา้ น 2. กำรจดั กระบวนกำรเรยี นรู้ (Process) 1) ดำเนินกจิ กรรม/โครงกำรตำมแผนที่กำหนด -มีกำรจัดกิจกรรม/โครงกำร -เสนอแนะให้มีกำรจัด หรอื ไม่ ถำ้ ไม่เพรำะเหตุใด ตำมแผน กิจกรรมตำมแผนที่กำหนด 2) กำรขยำยผลองค์ควำมรู้ไปยงั ครอบครวั ชมุ ชน -มีกำรขยำยผลองค์ควำมรู้ไป -มีกำรส่งเสริมสนับสนุนให้ 3) กำรดำเนินกำรของศนู ย์เรยี นรู้ ฯ อย่ำงตอ่ เน่ือง ยังครอบครวั ชมุ ชน มี ก ำ ร ข ย ำ ย ผ ล แ ล ะ ก ำ ร และเปน็ รปู ธรรม -มีกำรดำเนินกำรของศูนย์ พฒั นำอย่ำงตอ่ เนอ่ื ง 4) กำรนำเสนอผลงำนควำมสำเร็จ โครงกำร/ เรียนรู้ ฯ อย่ำงต่อเนื่องและ -จัดและส่งเสริมให้มีกำร กิจกรรมผำ่ นชอ่ งทำงทห่ี ลำกหลำย เปน็ รปู ธรรม พัฒนำอย่ำงต่อเน่ือง กำร 5) กำรจดั กำรองคค์ วำมรู้อยำ่ งเหมำะสมเพ่ือ -มี ก ำ ร น ำ เ ส น อ ผ ล ง ำ น อ บ ร ม วิ ท ย ำ ก ร ก ลุ่ ม ส่งเสรมิ กำรจัดกำรเรียนร้หู ลกั ปรชั ญำของ ค ว ำ ม ส ำ เ ร็ จ โ ค ร ง ก ำ ร / กำรศึกษำต่อเนื่องอย่ำง เศรษฐกจิ พอเพยี ง กิ จ ก ร ร ม ผ่ ำ น ช่ อ ง ท ำ ง ที่ สมำ่ เสมอ 6) กำรวดั และประเมินผลกำรเรียนรสู้ อดคล้องตำม หลำกหลำย เช่น เพจ กศน. -เ ส น อ แ น ะ ใ ห้ มี ก ำ ร หลกั สตู ร และมีเคร่อื งมือวดั และประเมินผล อำเภอชนแดน นำเสนอผลงำนควำม

75 ประเด็นกำรนิเทศ สภำพทพี่ บ ขอ้ นิเทศ 7) กำรประเมินควำมพึงพอใจของผู้เรียนทุก เพจ กศน. ตำบล ไลน์และ สำเร็จโครงกำร/กิจกรรม หลักสูตร รำยงำนขำ่ วใน PR ONIE ผ่ำนช่องทำงที่หลำกหลำย 8) กำรอนุมัติกำรจบหลักสูตรและรำยงำนผู้จบ -มีกำรจัดกำรองค์ควำมรู้ เช่น เพจ กศน.อำเภอชน หลักสูตร อย่ำงเหมำะสมเพื่อส่งเสริม แดน เพจ กศน.ตำบล ไลน์ 9) กำรจดั ทำรำยงำนผลกำรปฏบิ ตั ิงำนเม่ือสน้ิ สดุ ก ำ ร จั ด ก ำ ร เ รี ย น รู้ ห ลั ก และรำยงำนข่ำวใน PR โครงกำร ป รั ช ญ ำ ข อ ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ONIE พอเพยี ง -เสนอแนะให้มีกำรติดตำม -มีกำรวัดและประเมินผลกำร และประเมินผลผู้เรียนใน เ รี ย น รู้ ส อ ด ค ล้ อ ง ต ำ ม กลุ่มไลน์ โดยกำรส่งรูป หลักสูตร และมีเครื่องมือวัด ถ่ำยที่ประสบควำมสำเร็จ และประเมนิ ผล ลงในกลุ่ม - มีกำรประเมินคว ำมพึง -มีการประเมินความพึง พอใจของผู้เรียนทุกหลกั สูตร พอใจของผู้จบหลักสูตร ร้อยละ ๘๐ -มีกำรอนุมัติกำรจบหลักสูตร ตามระบบC-Smart ของ สานักงาน กศน.จังหวัด และรำยงำนผู้จบหลกั สตู ร เพชรบรู ณ์ -มี ก า ร อ นุ มั ติ ก า ร จ บ -มีการวัดและประเมินผลการ หลักสูตรและรายงานผู้จบ เ รี ย น รู้ ส อ ด ค ล้ อ ง ต า ม ห ลั ก สู ต ร ใ น ร ะ บ บ C- หลักสูตรและมีเครื่องมือวัด Smart ข อ ง ส า นั ก ง า น และประเมินผลในระบบ C- กศน.จังหวดั เพชรบรู ณ์ Smart -เสนอแนะให้รายงาน -มีการประเมินความพึงพอใจ ผลสรปุ ผลการปฏิบัตงิ าน ของผู้เรียนทุกหลักสูตรตาม เมอื่ สิน้ สดุ โครงการทันที ร ะ บ บ C-Smart ข อ ง ส า นั ก ง า น ก ศ น .จั ง ห วั ด เพชรบรู ณ์ -มีการอนุมัติการจบหลักสูตร และรายงานผู้จบหลกั สูตร -มีการจัดทารายงานผลสรุป ผลการปฏิบัติงานเม่ือสิ้นสุด โครงการ

76 ประเด็นกำรนเิ ทศ สภำพทพี่ บ ข้อนิเทศ 3. ผลผลติ (Output) 1) นกั ศึกษำและประชำชนมีควำมรสู้ ำมำรถนำหลกั -ประชำชนมีควำมรู้สำมำรถ -เสนอแนะให้ครูทำกลุ่ม ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งและเกษตรทฤษฎี นำหลักปรัชญำของเศรษฐกิจ ผู้เรียนกำรกำรจัดโครงกำร ใหมไ่ ปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ พอเพียงและเกษตรทฤษฎี แต่ละคร้ังเพ่ือติดตำมผล 2) ครมู คี วำมพร้อมรับกำรประเมนิ ศนู ย์กำรเรยี นรู้ ใหมไ่ ปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้ กำรดำเนินงำนหลังจำก ตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียงด้ำน -ครูมีคว ำมพร้อมรับกำร เสรจ็ สิ้นโครงกำร กำรศึกษำ ประเมินศูนย์กำรเรียนรู้ตำม -ครูได้รับกำรพัฒนำและ 3) นักศึกษำและประชำชนสำมำรถนำควำมรู้ด้ำน หลักปรัชญำของเศรษฐกิจ อ บ ร ม ต ำ ม เ ก ณ ฑ์ ก ำ ร เกษตรธรรมชำติ ไปพฒั นำอำชพี เกษตรกรรมได้ พอเพยี งด้ำนกำรศกึ ษำ ประเมนิ 4) ผลงำนเด่นท่ีสำมำรถเป็นแบบอย่ำง (good -นักศึกษำและประชำชน -นกั ศึกษำและประชำชน practice) ได้ มอี ะไรบ้ำง /ปจั จัยควำมสำเร็จคอื อะไร สำมำรถนำควำมรู้ด้ำนเกษตร สำมำรถนำควำมรู้ดำ้ น ธรรมชำติ ไปพัฒนำอำชีพ เกษตรธรรมชำติ ไปพัฒนำ เกษตรกรรมได้ อำชพี เกษตรกรรม ซึ่งใน -ผลงำนเด่น คือสำมำรถเป็น ปัจจบุ ันกำรแพรร่ ะบำด แหล่งเรียนรู้และศึกษำดูงำน ของโรคโควิด-๑๙ ทำให้ ให้กับคนในชุมชนได้ เช่น คนไม่ออกนอกบ้ำน จึงหนั ตำบลชนแดน จะมีแหล่ง มำพฒั นำอำชีพ เรียนรู้ในกำรเพำะเห็ดและ เกษตรกรรมกนั มำกข้นึ แปรรูปเห็ด และมีศูนย์เรียนรู้ -สำมำรถเปน็ แหล่งเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพยี ง และศึกษำดูงำนใหก้ ับคน ตำบลพุทธบำท มีศูนย์เรียนรู้ ในชมุ ชนได้ มีกำรขยำยผล เศรษฐกิจพอเพียง ให้กับคนในครอบครวั และ ตำบลซับพุทรำ มีศูนย์เรียนรู้ คนในชมุ ชน และมี เศรษฐกจิ พอเพียง หน่วยงำนอ่นื ๆเขำ้ มำ ตำบลท่ำข้ำม มีศูนย์เรียนรู้ ศกึ ษำดงู ำน เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง ร่ ว ม กั บ เทศบำลตำบลทำ่ ขำ้ ม ตำบลศำลำลำย มีศูนย์เรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียง ตำบลลำดแค มีศูนย์เรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียง ตำบลดงขุย มีศูนย์เรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียง

77 ประเด็นกำรนเิ ทศ สภำพทพี่ บ ข้อนิเทศ ต ำ บ ล บ้ ำ น ก ล้ ว ย มี ศู น ย์ เรยี นร้เู ศรษฐกจิ พอเพยี ง ตำบลตะกุดไร มีศูนย์เรียนรู้ เศรษฐกจิ พอเพียง ผลกำรปฏบิ ัติท่เี ป็นเลิศ (Best Practice) ผลงำนดเี ด่น /รำงวลั ท่ไี ด้รับ/แนวปฏบิ ตั ิท่ดี ี /ปจั จัยท่ีสง่ ผลต่อ ควำมสำเร็จ (ถำ้ มี) - หลังจำกท่ีจัดโครงกำรเศรษฐกิจพอเพียง สำมำรถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนในชุมชนได้ เช่น ณัฐภัทรฟำร์มเห็ด ตำบลชนแดน ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลท่ำข้ำม ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบล ดงขุย ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลซับพุทรำ สำมำรถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับทำง กศน.และหน่วยงำนอื่น ๆ เชน่ องคก์ ำรบริหำรสว่ นตำบล เทศบำล โรงเรยี นตำ่ งๆ เกษตร และพัฒนำชมุ ชน ข้อเสนอเพ่ือกำรพัฒนำ - ควรมีกำรติดตำมผลกำรดำเนินงำนหลงั จำกเสร็จสน้ิ โครงกำร - ควรรายงานผลสรุปผลการปฏิบัติงานเมอ่ื ส้ินสุดโครงการทันที - ควรอบรมวทิ ยำกรกลุม่ กำรศกึ ษำต่อเนื่องอย่ำงสม่ำเสมอ - ควรมกี ำรปรบั แผน/โครงกำรใหส้ อดคลอ้ งกบั ควำมต้องกำรของประชำชนและมีควำมยืดหยุน่ และ สอดคล้องกับสถำนกำรณช์ ่วงโควิดกำลังระบำด - ควรพัฒนำและปรบั ปรุงหลักสตู รใหท้ นั สมยั ให้สอดคล้องตำมควำมต้องกำรของประชำชน ลงช่อื ...............................................ผู้นิเทศ (นำงสมบตั ิ มำเนตร์) 20 กรกฎำคม 2564

78 แบบรำยงำนกำรนเิ ทศ ประเด็นกำรนิเทศ เร่อื ง...........โครงกำรศนู ย์ดิจิทลั ชมุ ชน....................................................... 1. เกริน่ นำ เรื่องของนโยบำย จดุ เน้นกำรดำเนินงำนของสำนักงำน กศน.ประจำปี พ.ศ.2564 1. จดุ เน้นกำรดำเนินงำนประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 1. นอ้ มนำพระบรมรำโชบำยด้ำนกำรศึกษำสกู่ ำรปฏบิ ัติ 2. ส่งเสริมกำรจัดกำรศึกษำและกำรเรยี นรูต้ ลอดชีวิตสำหรับประชำชนทีเ่ หมำะสมกับทกุ ช่วงวยั 3. พัฒนำหลักสูตร ส่ือ เทคโนโลยีและนวัตกรรมทำงกำรศึกษำ แหล่งเรียนรู้และรูปแบบ กำรจัด กำรศึกษำและกำรเรียนรู้ ในทุกระดับ ทุกประเภท 4. บูรณำกำรควำมร่วมมือในกำรส่งเสริม สนับสนุน และจัดกำรศึกษำ และกำรเรียนรู้ให้กับประชำชน อยำ่ งมีคณุ ภำพ 5. พัฒนำศกั ยภำพและประสิทธภิ ำพในกำรทำงำนของบคุ ลำกร กศน. 6. ปรับปรุงและพัฒนำโครงสร้ำงและระบบบริหำรจัดกำรองค์กร ปัจจัยพื้นฐำนในกำรจัดกำรศึกษำ และกำรประชำสมั พนั ธส์ ร้ำงกำรรับรู้ตอ่ สำธำรณะชน 2. สภำพทพ่ี บ มีกำรใช้หลักสูตรจำกส่วนกลำงมำช่วยในกำรจัดกำรสอนได้อย่ำงเหมำะสม เป็นหลักสูตรที่พัฒนำขึ้นเอง หลักสูตรมรกำรบูรณำกำรสภำพปัญหำต่ำงๆในกำรทำงำนในยุคปัจจุบันได้ดี หลักสูตรมีควำมสอดคล้องตำม หลักกำรท่ีได้ต้ังไว้ มีกำรวำงแผนงำนโครงกำรไวอ้ ย่ำงชัดเจนตอบสนองควำมต้องกำรของกลมุ่ เป้ำหมำยสนง.กศน. จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นผู้ดำเนินกำรจัดทำ มีกำรอบรมช้ีแจงถ่ำยทอดควำมรู้ให้กับวิทยำกรอยู่เสมอวิทยำกรบำงคน ไม่ถนัดด้ำนเทคโนโลยี มีวัสดุ อุปกรณ์เพียงพอต่อกำรฝึกอบรมใช้ประโยชน์ได้อย่ำงคุ้มค่ำยังไม่ค่อยดีเท่ำท่ีควร วทิ ยำกรยงั ไม่มีควำมเขำ้ ใจในเนื้อหำได้อย่ำงลกึ ซง้ึ อำจถำ่ ยทอดได้ไม่เต็มที่หรืออำจไมเ่ ปน็ ไปตำมแผนทวี่ ำงไว้ ยงั ไม่ มเี ครือ่ งมือวดั ผลท่ีแม่นยำและดีพอในกำรประเมินผล มีกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจของผู้เรียนทุกหลักสูตร กำรจบ หลกั สตู รเม่ือผู้อบรมทำแบบทดสอบผำ่ นเกณฑท์ ี่กำหนด มกี ำรจัดทำรำยงำนผลกำรปฏบิ ัติงำนต่อผู้บงั คับบญั ชำทุก ครั้ง ผู้เรียนมีทักษะที่ดีตรงตำมหลักสูตร มีกำรนำผลกำรประเมินควำมพึงพอใจมำพัฒนำและปรบั ปรงุ กำรทำงำน ทกุ ครั้ง มีควำมสอดคลอ้ งกับสถำนกำรณป์ ัจจุบนั มกี ำรปอ้ งกนั กำรแพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนำ่ 2019 3. ปัจจัยที่ส่งผลต่อควำมสำเรจ็ (ถ้ำม)ี - หลักสตู รเปน็ หลักสตู รกลำง จำกสำนักงำน กศน. มเี น้ือหำ ครบถ้วนในกำรจัดกำรเรียนรู้ทำให้กำรจดั กำร เรยี นรู้เป็นไปตำมหลักสตู รหลกั - มีกำรเพมิ่ เติมหลกั สตู รท่ีมคี วำมสอดคล้องกบั สถำนกำรณ์ในปจั จบุ นั - วิทยำกรมคี วำมรู้ ควำมสำมำรถซึง่ เปน็ ครูทผ่ี ำ่ นกำรอบรมจำกสำนกั งำน กศน

79 4. ปญั หำอปุ สรรค - อุปสรรคด้ำนวทิ ยำกรยังมคี วำมรู้ไม่เพียงพอ วทิ ยำกรไม่มีควำมถนัด ควำมชำนำญดำ้ นเทคโนโลยี - อปุ สรรคด้ำนสญั ญำณอินเทอรเ์ นต็ ไมม่ ีควำมเสถียรเพยี งพอ - อุปสรรคเร่อื งอปุ กรณก์ ำรเรียน/กำรอบรม เชน่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์มีไม่เพียงพอ 5. ข้อนเิ ทศต่อผ้รู ับกำรนิเทศ - อบรมวิทยำกรให้มคี วำมรู้ควำมเขำ้ ใจอยำ่ งแทจ้ รงิ จัดซ้อื และเช่ำสัญญำณอนิ เทอรเ์ น็ตให้มเี พยี งพอตอ่ กำรใชใ้ นกำรอบรมของผเู้ ขำ้ รับกำรอบรม จัดซ้อื อปุ กรณ์คอมพวิ เตอรต์ ำมสมควร 6. ข้อเสนอแนะเพอ่ื กำรพฒั นำ 6.1 ขอ้ เสนอแนะต่อสถำนศกึ ษำ (ถำ้ ม)ี - ควรอบรมบุคลำกรผู้ทจ่ี ะถ่ำยทอดควำมรใู้ หก้ บั ประชำชนกลุ่มเป้ำหมำยเพ่มิ มำกข้ึน - ควรสนบั สนุนจัดหำอุปกรณ์ในกำรเชอ่ื มต่อสัญญำณอนิ เทอร์เนต็ ให้มีประสิทธิภำพ - ควรมีอุปกรณ์คอมพิวเตอรไ์ วใ้ ห้บรกิ ำรสำหรับผเู้ ข้ำอบรมทย่ี งั ขำดควำมพร้อมในกำรเข้ำถงึ อินเทอร์เนต็ 6.2 ข้อเสนอแนะต่อสำนักงำน กศน.จงั หวดั (ถ้ำมี) - จดั อบรมให้ควำมรู้กบั บุคลำกรที่เกยี่ วข้อง - จดั สรรงบประมำณเพือ่ เชำ่ -ซ้ือสญั ญำณอินเทอรเ์ น็ตเพิ่มเตมิ ให้มปี ระสิทธิภำพ - จัดสรรงบประมำณเพ่ือซอ้ื อุปกรณค์ อมพิวเตอร์ไวใ้ ห้บริกำรอยำ่ งเพียงพอ 6.3 ข้อเสนอแนะต่อสำนักงำน กศน (ถำ้ มี) - จัดอบรมบคุ ลำกร ผู้มคี วำมชำนำญ ให้ควำมรู้เพิ่มเตมิ - จัดสรรงบประมำณเพ่ือ เช่ำ-ซ้อื สญั ญำณอินเทอรเ์ น็ตเพม่ิ เตมิ ให้มีประสิทธิภำพ - จดั สรรงบประมำณเพ่อื ซ้ืออุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ไว้ใหบ้ รกิ ำรอย่ำงเพยี งพอ 7. Best Practice (ถ้ำมี) ............................................................................................................................. ........... 8. ภำพกจิ กรรม อยำ่ งน้อย 4-6 ภำพ หรอื ลิงค์ คิวอำรโ์ ค้ด ภำพเคลอ่ื นไหว (ถ้ำมี)

80 แบบบนั ทกึ กำรนิเทศผลกำรดำเนินงำนกำรศกึ ษำตอ่ เน่อื ง เร่อื ง โครงกำรศูนยด์ ิจทิ ัลชุมชน คำช้แี จง ให้ศกึ ษำนิเทศก์หรือผู้รบั ผดิ ชอบกำรนิเทศ สอบถำม สัมภำษณผ์ ู้รับผดิ ชอบกำรดำเนินงำน ครูผสู้ อนและ หรอื ผู้เรยี น/ผู้เกี่ยวข้อง สังเกตสภำพจริง สถำนท่ี กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ตรวจเอกสำรโครงกำร หลักสตู ร ส่ือ ฯลฯ แล้วบันทึก สภำพที่พบ (จุดเด่น – จดุ ท่คี วรพฒั นำ) และข้อนิเทศ พร้อมท้ังข้อเสนอแนะเพอ่ื กำรพัฒนำลงในแบบ บนั ทกึ กำรนเิ ทศ กศน.อำเภอ......ชนแดน............................กศน.ตำบล/ศรช./ศศช. ......กศน.ตำบล 9 แห่ง..................... ผรู้ บั กำรนเิ ทศ....ครู กศน.ตำบล 9 แหง่ ................................................................................................ ประเด็นกำรนเิ ทศ สภำพท่ีพบ ขอ้ นเิ ทศ - ควรวิเครำะหค์ วำมยำก 1 ปัจจัยปอ้ น(Input) - กำรใช้หลกั สูตรจำก ง่ำยของหลกั สตู ร 1) หลกั สูตรมีองคป์ ระกอบครบถว้ นตำมกระบวน ส่วนกลำงมำชว่ ยในกำร กำรพฒั นำหลักสตู ร จัดกำรสอนไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม - ควรมีควำมหลำกหลำย 2) หลกั สตู รทใ่ี ชใ้ นกำรสอนได้พฒั นำขน้ึ เองหรือ เป็นหลกั สตู รทพ่ี ัฒนำข้นึ เอง ของเน้ือหำและอธิบำย นำมำจำกแหล่งอน่ื (ระบุแหล่งทม่ี ำ) - หลกั สูตรมรกำรบรู ณำกำร รำยละเอียดให้มำกข้ึน 3) เน้อื หำหลักสตู รมีกำรบูรณำกำรสภำพ ปัญหำ สภำพปัญหำต่ำงๆในกำร - ควรแยกคนทม่ี ีพ้นื ฐำน ควำมตอ้ งกำรของผ้เู รยี นชมุ ชนและแนวโน้มกำร ทำงำนในยคุ ปจั จบุ นั ได้ดี แลว้ และคนที่ไมม่ ีพน้ื ฐำน พัฒนำ - หลักสตู รมคี วำมสอดคลอ้ ง ออกจำกกนั เพ่ือสะดวกตอ่ 4) หลกั สูตรท่ีดำเนนิ กำรสอดคลอ้ งตำมหลกั กำร ตำมหลกั กำรทีไ่ ด้ต้งั ไว้ กำรสอนเน้นใหผ้ ู้เรียน 5) มีแผนงำน/ โครงกำร / กจิ กรรมเพื่อสง่ เสรมิ มกี ำรวำงแผนงำนโครงกำรไว้ นำไปใชไ้ ด้จรงิ กำรเรียนรู้ทส่ี อดคล้องกับควำมตอ้ งกำรของ อย่ำงชดั เจนตอบสนองควำม - ควรเพ่ิมรำยละเอยี ดใน ประชำชนและตลำดแรงงำน ต้องกำรของกล่มุ เป้ำหมำย ตวั หลักสูตรใหม้ ำกข้ึนตรง 6) มแี ผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ตำมหลักสูตร ใครเปน็ สนง.กศน.จังหวัดเพชรบรู ณ์ ตำมควำมต้องกำร ผู้ดำเนินกำรจัดทำ เป็นผูด้ ำเนินกำรจัดทำ กลุม่ เปำ้ หมำย 7) มกี ำรประชมุ ช้แี จง /อบรมเทคนคิ วิธกี ำร ถ่ำยทอดควำมร้แู กว่ ิทยำกรก่อนดำเนินกำร - มีกำรอบรมช้แี จงถำ่ ยทอด - เชิญผูม้ คี วำมรเู้ ข้ำร่วม ควำมรใู้ หก้ บั วิทยำกรอยู่ ดำเนนิ กำรเพ่มิ ขน้ึ 8) วิทยำกรมีควำมรู้ควำมสำมำรถตำมเนื้อหำ เสมอ -ใชเ้ วลำในกำรอบรมชแ้ี จง หลักสูตร - วทิ ยำกรบำงคนไม่ถนดั ดำ้ น ที่มำกข้ึนเพรำะเนื้อหำมำก 9) วสั ดุ อปุ กรณ์ มีเพียงพอและสถำนที่ มีควำมเหมำะสม เทคโนโลยี ผูอ้ บรมท่ีมีพืน้ ฐำนน้อย - มีวัสดุ อปุ กรณเ์ พียงพอต่อ -จัดสรรให้เพียงพอ 10) ควำมเสถยี รของสัญญำณอนิ เทอรเ์ นต็ กำรฝึกอบรมใช้ประโยชน์ได้ เหมำะสม ยงั ไมค่ ่อยดีเท่ำท่ีควร

81 ประเด็นกำรนเิ ทศ สภำพท่ีพบ ข้อนเิ ทศ 2. กำรจดั กระบวนกำรเรยี นรู(้ Process) -วทิ ยำกรยังไม่มีควำมเขำ้ ใจ - อบรมวทิ ยำกรเพม่ิ เติมให้ 1) วิทยำกร มคี วำมรคู้ วำมสำมำรถและมเี ทคนคิ ในเน้ือหำไดอ้ ยำ่ งลกึ ซ้งึ อำจ ควำมรูอ้ ยำ่ งละเอยี ดมำก กำรถ่ำยทอดเหมำะสมและจัดกำรเรยี นรู้ตำมแผนท่ี ถ่ำยทอดได้ไม่เต็มทห่ี รืออำจ กว่ำเดมิ กำหนด ไม่เป็นไปตำมแผนทวี่ ำงไว้ - สรำ้ งเครอ่ื งมือในกำร 2) วดั ผลและประเมินผลกำรเรยี นรสู้ อดคลอ้ งตำม -ยงั ไมม่ เี ครือ่ งมอื วดั ผลท่ี วดั ผลท่มี ปี ระสิทธิภำพ หลกั สตู รและมีเครือ่ งมือวดั และประเมินผล แม่นยำและดีพอในกำร เพอ่ื ใชใ้ นกำรพฒั นำกำร 3) ประเมินควำมพึงพอใจของผู้เรียนทกุ หลกั สูตร ประเมินผล อบรมในครง้ั ตอ่ ไป 4) มีกำรอนุมตั ิกำรจบหลกั สตู ร -มีกำรประเมินควำมพึงพอใจ - ควรเรง่ ดำเนินกำรจดั ทำ 5) มกี ำรจดั ทำรำยงำนผลกำรปฏบิ ัตงิ ำนเมือ่ สิน้ สดุ ของผ้เู รียนทุกหลกั สูตร สรปุ ผลกำรปฏบิ ตั ิงำน โครงกำร -กำรจบหลกั สตู รเมื่อผู้อบรม โดยเรว็ ทำแบบทดสอบผำ่ นเกณฑ์ที่ กำหนด -มีกำรจัดทำรำยงำนผลกำร ปฏบิ ัตงิ ำนต่อผบู้ ังคบั บัญชำ ทุกครัง้ 3 ผลผลิต(Output) - ผู้เรยี นมที กั ษะท่ดี ีตรงตำม - ควรเน้นหลักสตู รท่ี 1) ผ้เู รยี นมีควำมรูแ้ ละทักษะเปน็ ไปตำมหลักสตู ร หลกั สตู ร ผู้เรียนนำไปใช้ได้จริงและ - มกี ำรนำผลกำรประเมิน สะดวก 2) นำผลกำรประเมินควำมพึงพอใจมำพัฒนำและ ควำมพึงพอใจมำพฒั นำและ - ควรนำผลกำรประเมนิ ปรบั ปรุงคณุ ภำพ 3) โครงกำรกิจกรรมที่ดำเนนิ กำรมีควำมสอดคล้อง ปรับปรุงกำรทำงำน ควำมพงึ พอใจไปใช้ ปรับปรุงกำรปฏิบัติงำนทุก กับสถำนกำรณป์ จั จุบนั (กำรแพร่ระบำดของโรค - มคี วำมสอดคล้องกบั คร้ัง ติดเชือ้ ไวรสั โคโรนำ่ 2019 สถำนกำรณ์ปจั จุบัน มีกำร ป้องกันกำรแพร่ระบำดของ - ควรมีกำรป้องกนั เชื้อโรค โรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรน่ำ ท่ีดี รดั กุม เพือ่ ไมใ่ ห้เปน็ 2019 กำรแพร่กระจำยเชื้อโรค ผลกำรปฏิบตั ิท่เี ป็นเลศิ (Best Practice) ผลงำนดีเดน่ /รำงวัลท่ไี ด้รบั /แนวปฏิบตั ิที่ดี /ปจั จัยที่ส่งผลตอ่ ควำมสำเร็จ (ถำ้ มี) - วิทยำกรมคี วำมรู้ ควำมสำมำรถซงึ่ เปน็ ครูทผี่ ่ำนกำรอบรมจำกสำนกั งำน กศน - หลกั สตู รเปน็ หลกั สูตรกลำง จำกสำนกั งำน กศน. มเี น้ือหำ ครบถ้วนในกำรจัดกำรเรียนรู้ทำให้กำรจัดกำร เรียนรู้เปน็ ไปตำมหลักสตู รหลกั - มีกำรเพิม่ เติมหลักสูตรท่ีมคี วำมสอดคลอ้ งกับสถำนกำรณ์ในปจั จุบัน

82 ขอ้ เสนอเพื่อกำรพฒั นำ - ควรอบรมบุคลำกรผู้ทจ่ี ะถ่ำยทอดควำมรู้ให้กบั ประชำชนกลุ่มเป้ำหมำยเพิ่มมำกข้ึน - ควรสนับสนนุ จัดหำอุปกรณ์ในกำรเชอ่ื มตอ่ สญั ญำณอินเทอรเ์ น็ตให้มีประสทิ ธภิ ำพ - ควรมอี ุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไว้ให้บริกำรสำหรับผเู้ ข้ำอบรมทีย่ งั ขำดควำมพร้อมในกำรเข้ำถึงอนิ เทอรเ์ นต็ ลงชอ่ื ...............................................ผูน้ ิเทศ (นำงสำวลำวัณย์ สิทธกิ รวยแก้ว) 20 กรกฎำคม 2564

83 แบบรำยงำนกำรนเิ ทศ ประเดน็ กำรนเิ ทศ เรอื่ งโครงกำรภำษำต่ำงประเทศเพ่ือกำรสื่อสำรดำ้ นอำชีพ 1. เกริน่ นำ เรอ่ื งของนโยบำย จุดเน้นกำรดำเนนิ งำนของสำนกั งำน กศน.ประจำปี พ.ศ.2564 นโยบำย จดุ เนน้ กำรดำเนนิ งำนของสำนักงำน กศน.ประจำปี พ.ศ.2564 2. ส่งเสริมกำรจดั กำรศึกษำและกำรเรยี นรู้ตลอดชีวติ สำหรบั ประชำชนทเ่ี หมำะสมกับทกุ ชว่ งวัย 2.1 ส่งเสริมกำรจัดกำรศึกษำอำชีพเพ่ือกำรมีงำนทำ ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill และกำรสร้ำง นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ท่ีมีคุณภำพ มีควำมหลำกหลำย ทันสมัย และตอบสนองควำมต้องกำรของประชำชน ผรู้ บั บริกำร และสำมำรถออกใบรบั รองควำมรู้ควำมสำมำรถเพ่ือนำไปใช้ในกำรพัฒนำอำชีพได้ 2.2 ส่งเสริมและยกระดบั ทักษะภำษำองั กฤษใหก้ บั ประชำชน (English for ALL) 2.3 ส่งเสรมิ กำรเรยี นกำรสอนที่เหมำะสมสำหรับผู้ทเ่ี ข้ำสู่สังคมสงู วัย อำทิ กำรฝึกอบรมอำชีพ ทเ่ี หมำะสม รองรับสังคมสูงวัย หลักสูตรกำรพัฒนำคุณภำพชีวิตและส่งเสริมสมรรถนะผู้สูงวัย และหลักสูตร กำรดูแลผู้สูงวัย โดยเนน้ กำรมสี ่วนร่วมกับภำคเี ครือขำ่ ยทุกภำคส่วนในกำรเตรียมควำมพร้อมเข้ำสู่สงั คมสูงวยั ดำ้ นกำรจดั กำรศึกษำและกำรเรยี นรู้ กำรศึกษำต่อเนอ่ื ง - จัดกำรศึกษำอำชีพเพื่อกำรมีงำนทำอย่ำงยั่งยืน โดยให้ควำมสำคัญกับกำรจัดกำรศึกษำอำชีพ เพ่ือกำรมี งำนทำในกลุ่มอำชีพเกษตรกรรม อุตสำหกรรม พำณิชยกรรม คหกรรม และอำชีพเฉพำะทำงหรือกำรบริกำร รวมถึงกำรเนน้ อำชีพช่ำงพน้ื ฐำน ทส่ี อดคล้องกับศักยภำพของผู้เรียน ควำมตอ้ งกำรและศักยภำพของแตล่ ะพ้ืนท่ี มี คุณภำพได้มำตรฐำนเป็นท่ียอมรับ สอดรับกับควำมต้องกำรของตลำดแรงงำน และกำรพัฒนำประเทศ ตลอดจน สร้ำงควำมเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอำชีพชุมชน โดยจัดให้มีกำรส่งเสริมกำรรวมกลุ่มวิสำหกิจชุมชน กำรพัฒนำ หน่ึง ตำบลหนึ่งอำชีพเด่น กำรประกวดสินค้ำดีพรีเม่ียม กำรสร้ำงแบรนด์ของ กศน. รวมถึงกำรส่งเสริมและจัดหำ ช่องทำงกำรจำหน่ำยสินค้ำและผลิตภัณฑ์ และให้มีกำรกำกับ ติดตำม และรำยงำนผลกำรจัดกำรศึกษำอำชีพ เพื่อ กำรมีงำนทำอยำ่ งเปน็ ระบบและตอ่ เนื่อง 2. สภำพทพ่ี บ ในระหวำ่ งวันท่ี 29 - 31 มนี ำคม พ.ศ.2564 ณ ห้องประชุมศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอชน ตำบลชนแดน อำเภอชนแดน จงั หวัดเพชรบูรณ์ กระบวนกำรดำเนินงำน กำรจัดกำรศึกษำต่อเน่ือง โครงกำรภำษำอังกฤษเพื่อกำรสื่อสำรด้ำนอำชีพ สถำนศึกษำในกำกับ สำนักงำน กศน. จังหวัดเพชรบูรณ์ ดำเนินกำรตำมนโยบำยทั้งส้ิน 1 โครงกำร กลุ่มเป้ำหมำย ได้แก่ เกษตรกร พนักงำนขำย ประชำชนผู้ให้บริกำรกำรท่องเที่ยวในพื้นท่ี อำสำสมัครสำธำรณสุข ข้ำรำชกำร กำร ดำเนินกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ มีกำรบูรณำกำรกำรเรียนรู้ให้สอดคล้องกับสภำพควำมเป็นจริงและลักษณะงำน อำชีพ เช่น กำรตลำด กำรจำหน่ำยผลิตภัณฑ์ทำงกำรเกษตร/สินค้ำในชุมชน กำรนำเสนอข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวใน พื้นที่ และกำรสนทนำค้ำขำยในรูปแบบภำษำอังกฤษ โดยผสมผสำนช่องทำงกำรเรียนรู้ระหว่ำงกำรเรียนรู้ผ่ำน

84 วิทยำกรและกำรเรียนรู้ผ่ำน Social media นอกจำกน้ี กำรจัดกำรเรียนรู้ มีกำรจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ โดย สถำนศึกษำได้มีกำรปรึกษำพูดคุย ชี้แจง และวำงแผนร่วมกันในกำรจัดกำรเรียนรู้กับวิทยำกร ซึ่งเป็นผู้ที่มีควำมรู้ ทำงด้ำนกำรใช้และกำรสนทนำภำษำอังกฤษ ท้ังชำวต่ำงประเทศ และวิทยำกรคนไทยท่ีมีประสบกำรณ์ในกำรสอน ภำษำอังกฤษ รวมทั้งครูท่ีผ่ำนกำรอบรม English Boot Camp เก่ียวกับกระบวนกำร/วิธีกำรจัดกำรเรียนรู้สำหรับ ผู้ใหญ่ที่ต้องกำรเรียนรู้เพื่อกำรนำไป ใช้ได้จริง ซ่ึงเท่ำกับเป็นกำรพัฒนำวิทยำกรให้มีควำมเข้ำใจในกระบวนกำร จัดกำรเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่ โดย ครู กศน. ร่วมกับวิทยำกรผู้สอน ได้จัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ควบคู่ไปกับกำร พฒั นำหลักสูตร เพื่อเสนอขออนมุ ัติหลกั สตู รพรอ้ มกบั แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ - หลักสตู รได้รับกำรพฒั นำตำมควำมต้องกำรของกลุ่มเปำ้ หมำย ของสำนักงำน กศน. จังหวดั เพชรบรู ณ์ มเี น้ือหำท่ี สอดคลอ้ งกับวถิ ีชีวติ ดงั นี้ 1. ภำษำองั กฤษเพือ่ เพ่ือกำรสื่อสำรด้ำนอำชีพ หลกั สตู รกำรบริกำรกำรขำยสินคำ้ และท่องเที่ยว 2. ภำษำอังกฤษเพ่อื เพ่ือกำรส่ือสำรดำ้ นอำชีพ หลักสตู รอำชพี เกษตรกรรม 3. ภำษำอังกฤษเพ่ือเพ่ือกำรส่ือสำรด้ำนอำชีพ หลกั สูตรภำษำองั กฤษเพ่ือสื่อสำร 2. ภำษำองั กฤษเพื่อเพื่อกำรสื่อสำรดำ้ นอำชีพ หลกั สูตรอำชีพคำ้ ขำย 5. ภำษำองั กฤษเพื่อเพื่อกำรส่ือสำรดำ้ นอำชีพ หลักสตู รภำษำองั กฤษเพ่ือกำรทำงำน 6. ภำษำอังกฤษเพื่อเพ่ือกำรส่ือสำรด้ำนอำชีพ หลักสูตรภำษำองั กฤษเพื่อกำรสื่อสำรออนไลน์ เมอ่ื สนิ้ สุดกำรดำเนินงำนจัดกำรเรียนรู้ ผรู้ ับผิดชอบ มกี ำรจัดทำรำยงำนผลกำรจดั กำรศึกษำเม่ือสิน้ สดุ กำร จดั กำรศกึ ษำตำมวงจรคณุ ภำพ (P D C A) ผลผลิต กำรดำเนินกำรจัดกำรศึกษำต่อเน่ือง โครงกำรภำษำอังกฤษเพ่ือกำรส่ือสำรด้ำนอำชีพ พบว่ำ ผลจำกกำรดำเนินงำน กลุ่มเป้ำหมำยให้ควำมสนใจในกำรเรียนรู้ แต่ยังขำดควำมมั่นใจในกำรสื่อสำรด้ำน ภำษำอังกฤษ เป็นเพรำะกลุ่มเป้ำหมำยมีควำมรู้พื้นฐำนภำษำอังกฤษยังไม่ดีพอ มีควำมเขินอำยที่ต้องสื่อสำรโดยใช้ ภำษำอังกฤษ ซ่ึงจำกกำรดำเนินกิจกรรมในปีงบประมำณ 2564 ให้กลุ่มเป้ำหมำยเรียนจำนวนช่ัวโมง 30 ชั่วโมง ทำให้ผเู้ รียนไม่สำมำรถเข้ำเรยี นได้ครบตำมเวลำทก่ี ำหนด 3. ปจั จยั ที่สง่ ผลต่อควำมสำเร็จ(ถำ้ ) - หลักสตู รมคี วำมสอดคลอ้ งกับวถิ ชี วี ติ ของกลุ่มป้ำหมำย 4. ปญั หำอุปสรรค - ควำมรู้พื้นฐำนของผเู้ ขำ้ รว่ มอบรมมีควำมแตกตำ่ งกนั - อำยชุ ว่ งวยั ของผู้เขำ้ รว่ มอบรมมีกำรแตกตำ่ งกัน

85 5. ขอ้ นเิ ทศต่อผู้รบั กำรนิเทศ ปัจจัยป้อน (Input)จำกกำรดำเนินกำรนิเทศ พบว่ำ สถำนศึกษำมีกำรศึกษำข้อมูลของกลุ่มเป้ำหมำยเพื่อ กำรจัดกำรเรียนรู้และนำข้อมูลควำมต้องกำรของกลมุ่ เป้ำหมำยมำจัดกระทำหลักสูตร โดยรอ้ ยละ 80 ของหลกั สูตร ทั้งหมด ได้มีกำรพัฒนำข้ึนมำใหม่เพื่อให้มีควำมทันสมัยทันเหตุกำรณ์ ตำมควำมต้องกำรของชุมชนกลุ่มเป้ำหมำย และแนวทำงกำรพัฒนำ สถำนศึกษำใช้หลักสูตรเดิมท่ีมีอยู่มีใช้ในกำรจัดกำรเรียนรู้ กำรจัดกำรเรียนรู้ มีกำรจัดทำ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ โดยสถำนศึกษำได้มีกำรปรึกษำพูดคุย ชี้แจง และวำงแผนร่วมกันในกำรจัดกำรเรียนรู้กับ วิทยำกร ซง่ึ เป็นผทู้ ่ีมีควำมรู้ทำงด้ำนกำรใชแ้ ละกำรสนทนำภำษำองั กฤษ เก่ยี วกบั กระบวนกำร/วิธีกำรจดั กำรเรียนรู้ สำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องกำรเรียนรู้เพ่ือกำรนำไปใช้ได้จริง ซ่ึงเท่ำกับเป็นกำรพัฒนำวิทยำกรให้มีควำมเข้ำใจใน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้สำหรับประชำชนทุกกลุ่มเปำ้ หมำย กำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ (Process) จำกสภำพกำรดำเนินงำนดงั กลำ่ ว ได้นำเสนอข้อนเิ ทศ ดงั น้ี 1. กำรส่ือสำรภำษำอังกฤษ เป็นทักษะกำรส่ือสำรท่ีต้องมีกำรฝึก และกำรปฏิบัติเพ่ือให้เกิดควำมชำนำญ และควำมมั่นใจ ดังน้ัน ในกำรจัดกำรเรียนรู้ควรปรับตำรำงกำรฝึกอบรมเพื่อให้ผู้เรียนได้มีโอกำสใช้ทักษะกำร สอื่ สำรภำษำอังกฤษทีไ่ ดเ้ รยี นรูผ้ ่ำนมำในสถำนกำรณจ์ ริงกบั กลุม่ เปำ้ หมำยจริงด้วย 2. กำรจัดกำรเรียนรู้ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสอ่ื สำรด้ำนอำชีพ เม่ือสิ้นสุดกำรอบรมแลว้ ควรมีกำรติดตำมผล กำรนำควำมรู้ไปใช้ในงำนอำชีพ โดยควรเว้นระยะในกำรติดตำมผลประมำณ 1 – 2 เดือน เพื่อติดตำมดูว่ำ กลุ่มเป้ำหมำยมีควำมคงสภำพในกำรนำควำมรู้ไปใช้ไดจ้ ริงหรือไม่ อย่ำงไร 3. สถำนศึกษำ ควรนำผลกำรประเมินควำมพึงพอใจมำวิเครำะห์ผลว่ำ ผลกำรประเมินด้ำนวิทยำกร ด้ำน สง่ิ อำนวยควำมสะดวก และด้ำนกำรนำควำมร้ไู ปประยุกต์ใช้ มผี ลกำรประเมินเปน็ อย่ำงไร และมปี ระเดน็ ยอ่ ยในแต่ ละดำ้ นประเดน็ ใดทีด่ ีหรอื ควรปรับปรงุ ให้มีประสทิ ธิภำพ คุณภำพยงิ่ ขึน้ ต่อไป ผลผลติ (Output)จำกสภำพผลผลติ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ไดใ้ หข้ ้อนเิ ทศ ดังน้ี 1. สถำนศึกษำ ควรกำหนดและเน้นย้ำให้ผู้รบั ผดิ ชอบ ตดิ ตำมผลกำรนำควำมรู้ไปใช้ในงำนอำชีพ โดยใหม้ ี ระยะเวลำในกำรติดตำมผลหลงั ส้ินสดุ กำรอบรมประมำณ 1 – 2 เดือน เพ่ือติดตำมดวู ำ่ กลุ่มเปำ้ หมำยมีกำรนำ ควำมร้ไู ปใช้ และมคี วำมคงสภำพควำมรู้เปน็ อยำ่ งไร 2. จำกกำรดำเนินกิจกรรมในปีงบประมำณ 2564 ให้กลุ่มเป้ำหมำยเรียน จำนวนชั่วโมง 30 ชั่วโมง ทำให้ ผู้เรียนไม่สำมำรถเข้ำเรียนได้ครบตำมเวลำที่กำหนดและในปีงบประมำณ 2564 สถำนศึกษำในสังกัดสำนักงำน กศน. จังหวัดเพชรบูรณ์ มพี ฒั นำ ปรบั ปรุงวิธีกำรเรยี นกำรสอนเป็นแบบ Boot camp โดยมวี ทิ ยำกรภำยนอกที่เคย อบรมกระบวนกำรรปู แบบ Boot camp มำแล้ว และวิทยำกรชำวต่ำงชำติ ควบคูไ่ ปกบั ครู กศน. ที่เคยอบรม Boot camp มำแล้ว ทำให้สำมำรถกระตุ้นผู้เรียน ให้กล้ำแสดงออก โดยกำรฝึกพูด ฝึกเรียนรู้คำศัพท์โดยกำรเล่นเกมส์ กำรใช้บตั รคำได้

86 6. ขอ้ เสนอแนะเพ่อื กำรพัฒนำ 6.1 ข้อเสนอแนะต่อสถำนศกึ ษำ (ถ้ำมี) - ควรมีวธิ ีกำรเรียนกำรสอนท่ีหลำกหลำยเหมำะสมกับชว่ งวยั - สถำนศึกษำควรมกี ำรติดตำมผลหลังกำรอบรมกำรนำควำมร้ไู ปใช้เปน็ ระยะ - ควรนำผลกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจมำวเิ ครำะห์ ในประเดน็ ตำ่ ง ๆเพ่ือพฒั นำปรับปรงุ ให้มี ประสิทธภิ ำพ คณุ ภำพย่งิ ขึ้น 6.2 ขอ้ เสนอแนะต่อสำนักงำน กศน.จังหวดั (ถ้ำมี) ............................................................................................................................. ........................................................ .............................................................................................................................................................. ......... 6.3 ขอ้ เสนอแนะต่อสำนกั งำน กศน (ถ้ำม)ี .................................................................................. ................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... 7. Best Practice (ถำ้ มี) ............................................................................................................................. ........................................................ ....................................................................................................................................................................... 8. ภำพกจิ กรรม อย่ำงน้อย 4-6 ภำพ หรอื ลิงค์ ควิ อำร์โค้ด ภำพเคลื่อนไหว (ถำ้ มี)

87 แบบบนั ทกึ กำรนิเทศผลกำรดำเนนิ งำนกำรศึกษำตอ่ เนื่อง เรอ่ื ง โครงกำรภำษำตำ่ งประเทศเพ่อื กำรสอื่ สำรด้ำนอำชพี คำชี้แจง ให้ศกึ ษำนเิ ทศกห์ รือผรู้ บั ผดิ ชอบกำรนเิ ทศ สอบถำม สัมภำษณ์ผรู้ ับผดิ ชอบกำรดำเนนิ งำน ครผู ้สู อนและ หรอื ผเู้ รยี น/ผู้เก่ียวข้อง สังเกตสภำพจรงิ สถำนท่ี กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ตรวจเอกสำรโครงกำร หลักสูตร สื่อ ฯลฯ แลว้ บันทึก สภำพที่พบ (จุดเด่น – จุดทีค่ วรพฒั นำ) และข้อนิเทศ พร้อมท้ังข้อเสนอแนะเพ่ือกำรพฒั นำลงในแบบ บันทกึ กำรนิเทศ กศน.อำเภอ...ชนแดน............................กศน.ตำบล/ศรช./ศศช. .....กศน.ตำบล 9 แหง่ ............... ผรู้ บั กำรนิเทศ..........ครู กศน.ตำบล 9 แหง่ .............................................................................. ประเด็นกำรนิเทศ สภำพทพ่ี บ ข้อนเิ ทศ 1. ปจั จัยป้อน (Input) จดั กำรศกึ ษำอำชีพเพือ่ กำรมี จำกกำรดำเนินกำรนิเทศ 1) หลกั สูตรมอี งค์ประกอบครบถว้ นตำม กระบวนกำรพฒั นำหลกั สตู ร งำนทำอย่ำงยงั่ ยืน โดยให้ พบวำ่ สถำนศึกษำมี 2) หลกั สูตรทใี่ ช้ในกำรสอนได้พัฒนำขึ้นเอง ควำมสำคัญกับกำรจดั กำรศึกษำข้อมูลของ กำรศึกษำอำชีพ เพื่อกำรมี กล่มุ เป้ำหมำยเพื่อกำร หรือนำมำจำกแหลง่ อ่ืน (ระบุแหลง่ ทีม่ ำ) 3) เนอ้ื หำหลักสูตรมกี ำรบรู ณำกำรสภำพ งำนทำในกลุ่มอำชีพ จดั กำรเรียนรแู้ ละนำขอ้ มลู ปญั หำ ควำมต้องกำรของผเู้ รียนชมุ ชนและ เกษตรกรรม อุตสำหกรรม ควำมต้องกำรของ แนวโนม้ กำรพัฒนำ พำณิชยกรรม คหกรรม และ กล่มุ เป้ำหมำยมำจดั อำชีพเฉพำะทำงหรือกำร กระทำหลักสตู ร โดยรอ้ ย 4) หลกั สูตรทด่ี ำเนินกำรสอดคล้องตำม หลกั กำร บรกิ ำร รวมถงึ กำรเนน้ อำชีพ ละ 80 ของหลกั สูตร 5) มีแผนงำน/ โครงกำร / กจิ กรรมเพ่ือ ชำ่ งพืน้ ฐำน ที่สอดคลอ้ งกับ ทั้งหมด ไดม้ กี ำรพัฒนำข้นึ ส่งเสริมกำรเรียนร้ทู ส่ี อดคลอ้ งกับควำมต้องกำร ศกั ยภำพของผเู้ รยี น ควำม มำใหมเ่ พือ่ ใหม้ คี วำม ของประชำชนและตลำดแรงงำน ต้องกำรและศักยภำพของแต่ ทันสมยั ทันเหตกุ ำรณ์ ตำม 6) มีแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ตำมหลกั สูตร ใคร ละพนื้ ท่ี มีคุณภำพได้ ควำมต้องกำรของชมุ ชน เปน็ ผ้ดู ำเนนิ กำรจดั ทำ มำตรฐำนเปน็ ทีย่ อมรับ สอด กลุม่ เป้ำหมำยและแนว 7) มกี ำรประชมุ ช้ีแจง /อบรมเทคนคิ วธิ กี ำร รบั กบั ควำมต้องกำรของ ทำงกำรพฒั นำ ถำ่ ยทอดควำมรแู้ ก่วทิ ยำกรก่อนดำเนนิ กำร ตลำดแรงงำน และกำร สถำนศึกษำใชห้ ลักสตู ร 8) วทิ ยำกรมีควำมรู้ควำมสำมำรถตำมเนื้อหำ พฒั นำประเทศ ตลอดจน เดมิ ทมี่ ีอยมู่ ีใช้ในกำร หลักสูตร สร้ำงควำมเข้มแข็งให้กบั ศูนย์ จัดกำรเรยี นรู้ กำรจัดกำร ฝกึ อำชพี ชุมชน โดยจดั ใหม้ ี เรยี นรู้ มีกำรจดั ทำ

88 ประเด็นกำรนเิ ทศ สภำพท่ีพบ ขอ้ นิเทศ 9) วัสดุ อปุ กรณ์ มีเพียงพอและสถำนทม่ี ีควำม เหมำะสม กำรส่งเสริมกำรรวมกลุม่ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 10) มีกำรประเมนิ หลักสตู รหรอื ไม่ ดำเนนิ กำร อย่ำงไร วสิ ำหกิจชุมชน กำรพฒั นำ โดยสถำนศกึ ษำได้มีกำร 11) มกี ำรคัดเลอื กกลุ่มเป้ำหมำยท่ีเหมำะสมกับ หลักสตู รนั้น ๆ หนึ่งตำบลหน่งึ อำชพี เดน่ กำร ปรกึ ษำพดู คยุ ชี้แจง และ 2. กำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ (Process) ประกวดสินคำ้ ดีพรเี มยี่ ม กำร วำงแผนรว่ มกนั ในกำร 1) วิทยำกร มีควำมรูค้ วำมสำมำรถและมี สร้ำงแบรนด์ของ กศน. จดั กำรเรยี นรกู้ ับวทิ ยำกร เทคนคิ กำรถ่ำยทอดเหมำะสม 2) วทิ ยำกร จดั กำรเรียนรู้ตำมแผนท่ี รวมถงึ กำรสง่ เสริมและจัดหำ ซึง่ เป็นผู้ทีม่ คี วำมรู้ กำหนด ชอ่ งทำงกำรจำหน่ำยสนิ ค้ำ ทำงดำ้ นกำรใชแ้ ละกำร 3) มกี ำรใชส้ ่อื แหลง่ เรยี นรู้ /ภูมปิ ญั ญำ และผลิตภัณฑ์ และใหม้ ีกำร สนทนำภำษำอังกฤษ ทอ้ งถ่ินประกอบกำรสอน 4) มีกำรใชส้ ือ่ ออนไลน์ (เชน่ Google กำกับ ติดตำม และรำยงำน เกย่ี วกบั กระบวนกำร/ classroom Application line Facebook เป็น ผลกำรจัดกำรศึกษำอำชีพ วธิ กี ำรจดั กำรเรียนรู้ ตน้ ) ในกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ เพ่ือกำรมีงำนทำอยำ่ งเป็น สำหรับผู้ใหญท่ ต่ี ้องกำร 5) มีกำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ สอดคลอ้ งตำมหลักสตู รและมีเคร่ืองมือวัดและ ระบบและต่อเนื่อง เรยี นรเู้ พือ่ กำรนำไปใชไ้ ด้ ประเมนิ ผล จรงิ ซง่ึ เทำ่ กบั เปน็ กำร พัฒนำวิทยำกรให้มีควำม เขำ้ ใจในกระบวนกำร จัดกำรเรยี นรู้สำหรับ ประชำชนทุก กล่มุ เปำ้ หมำย กำรจดั กำรศกึ ษำต่อเน่ือง จำกสภำพกำรดำเนินงำน โครงกำรภำษำอังกฤษเพอ่ื กำร ดังกล่ำว ได้นำเสนอข้อ สอ่ื สำรด้ำนอำชีพ สถำนศึกษำ นเิ ทศ ดงั น้ี ในกำกบั สำนักงำน กศน. 1.กำรสอื่ สำรภำษำองั กฤษ จังหวัดเพชรบูรณ์ ดำเนนิ กำร เป็นทักษะกำรสื่อสำรท่ี ตำมนโยบำยทัง้ สน้ิ 1 ตอ้ งมีกำรฝึก และกำร โครงกำร กลมุ่ เป้ำหมำย ได้แก่ ปฏิบัติเพอื่ ใหเ้ กดิ ควำม เกษตรกร พนักงำนขำย ชำนำญ และควำมมน่ั ใจ ประชำชนผ้ใู หบ้ รกิ ำรกำร ดังนัน้ ในกำรจดั กำร ท่องเทีย่ วในพืน้ ท่ี อำสำสมคั ร เรยี นรู้ควรปรับตำรำงกำร สำธำรณสุข ข้ำรำชกำร กำร ฝึกอบรมเพ่อื ให้ผเู้ รยี นได้ ดำเนนิ กำรจัดกระบวนกำร มโี อกำสใชท้ ักษะกำร เรยี นรู้ มีกำรบรู ณำกำรกำร สือ่ สำรภำษำอังกฤษที่ได้

89 ประเดน็ กำรนเิ ทศ สภำพทพ่ี บ ขอ้ นิเทศ 6) มีกำรประเมินควำมพึงพอใจของ เรียนรู้ให้สอดคล้องกบั สภำพ เรียนร้ผู ำ่ นมำใน ผเู้ รยี นทกุ หลกั สูตร 7) มีกำรอนุมตั กิ ำรจบหลักสูตร ควำมเป็นจรงิ และลักษณะงำน สถำนกำรณจ์ ริงกับ 8) มีกำรจัดทำรำยงำนผลกำรปฏบิ ตั ิงำนเม่อื อำชพี เชน่ กำรตลำด กลุ่มเป้ำหมำยจริงดว้ ย สิ้นสดุ โครงกำร กำรจำหนำ่ ยผลิตภณั ฑ์ทำงกำร 2. กำรจัดกำรเรียนรู้ เกษตร/สินค้ำในชมุ ชน กำร ภำษำองั กฤษเพ่ือกำร นำเสนอข้อมลู แหลง่ ท่องเท่ียวใน สอ่ื สำรดำ้ นอำชีพ เมือ่ พนื้ ที่ และกำรสนทนำค้ำขำยใน สน้ิ สดุ กำรอบรมแลว้ ควร รูปแบบภำษำอังกฤษ โดย มกี ำรตดิ ตำมผลกำรนำ ผสมผสำนชอ่ งทำงกำรเรยี นรู้ ควำมรู้ไปใชใ้ นงำนอำชีพ ระหว่ำงกำรเรียนรผู้ ่ำนวทิ ยำกร โดยควรเว้นระยะในกำร และกำรเรยี นรผู้ ่ำน Social ติดตำมผลประมำณ 1 – 2 media นอกจำกน้ี กำรจดั กำร เดอื น เพ่ือตดิ ตำมดูวำ่ เรียนรู้ มีกำรจดั ทำแผนกำร กลุ่มเป้ำหมำยมคี วำมคง จัดกำรเรยี นรู้ โดยสถำนศึกษำได้ สภำพในกำรนำควำมรไู้ ป มีกำรปรกึ ษำพูดคยุ ชีแ้ จง และ ใช้ไดจ้ ริงหรอื ไม่ อย่ำงไร วำงแผนร่วมกันในกำรจดั กำร 3. สถำนศกึ ษำ ควรนำผล เรียนรกู้ บั วทิ ยำกร ซงึ่ เปน็ ผูท้ ่ีมี กำรประเมินควำมพึงพอใจ ควำมรูท้ ำงดำ้ นกำรใชแ้ ละกำร มำวเิ ครำะห์ผลวำ่ ผลกำร สนทนำภำษำอังกฤษ ทงั้ ชำว ประเมินด้ำนวิทยำกร ดำ้ น ต่ำงประเทศ และวิทยำกรคนไทย ส่ิงอำนวยควำมสะดวก ที่มปี ระสบกำรณ์ในกำรสอน และดำ้ นกำรนำควำมรู้ไป ภำษำอังกฤษ รวมท้ังครทู ผ่ี ่ำน ประยุกตใ์ ช้ มีผลกำร กำรอบรม English Boot Camp ประเมนิ เปน็ อย่ำงไร และมี เกยี่ วกบั กระบวนกำร/วธิ กี ำร ประเด็นย่อยในแตล่ ะด้ำน จัดกำรเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่ที่ ประเดน็ ใดท่ีดหี รือควร ตอ้ งกำรเรยี นรูเ้ พื่อกำรนำไป ปรับปรุงให้มปี ระสิทธิภำพ ใชไ้ ด้จริง ซึง่ เทำ่ กับเป็นกำร คุณภำพย่ิงข้นึ ต่อไป พัฒนำวทิ ยำกรให้มคี วำมเข้ำใจ ในกระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้ สำหรบั ผ้ใู หญ่ โดย ครู กศน. รว่ มกับวิทยำกรผ้สู อน ไดจ้ ดั ทำ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ควบคู่ไป กบั กำรพฒั นำหลกั สูตร เพื่อเสนอ

90 ประเด็นกำรนเิ ทศ สภำพที่พบ ข้อนเิ ทศ ขออนุมตั หิ ลกั สตู รพร้อมกับ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ - หลักสูตรได้รบั กำรพัฒนำตำม ควำมต้องกำรของกลุ่มเป้ำหมำย ของสำนักงำน กศน. จงั หวัด เพชรบรู ณ์ มีเน้อื หำทสี่ อดคล้อง กับวถิ ชี วี ิต ดังน้ี 1. ภำษำองั กฤษเพอื่ เพื่อกำร ส่ือสำรดำ้ นอำชีพ หลกั สตู รกำร บรกิ ำรกำรขำยสนิ ค้ำและ ท่องเทีย่ ว 2. ภำษำองั กฤษเพื่อเพื่อกำร สอ่ื สำรดำ้ นอำชีพ หลักสตู รอำชีพ เกษตรกรรม 3. ภำษำองั กฤษเพอ่ื เพื่อกำร สอ่ื สำรด้ำนอำชีพ หลักสตู ร ภำษำอังกฤษเพ่ือสอื่ สำร 2. ภำษำองั กฤษเพื่อเพ่ือกำร สือ่ สำรด้ำนอำชีพ หลกั สตู รอำชีพ คำ้ ขำย 5. ภำษำอังกฤษเพอ่ื เพื่อกำร สือ่ สำรดำ้ นอำชีพ หลักสตู ร ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรทำงำน 6. ภำษำอังกฤษเพือ่ เพ่ือกำร สื่อสำรดำ้ นอำชีพ หลกั สตู ร ภำษำองั กฤษเพื่อกำรสื่อสำร ออนไลน์ เมอ่ื ส้ินสดุ กำรดำเนินงำนจัดกำร เรียนรู้ ผู้รบั ผิดชอบ มกี ำรจัดทำ รำยงำนผลกำรจดั กำรศกึ ษำเม่อื

91 ประเดน็ กำรนิเทศ สภำพท่ีพบ ข้อนเิ ทศ สิน้ สุดกำรจัดกำรศึกษำตำมวงจร 3 ผลผลติ (Output) ผเู้ รียนมีทกั ษะกำรใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศใน คณุ ภำพ (P D C A) กำรสอื่ สำรอำชพี ตำมท่ตี ้องกำร กำรดำเนินกำรจดั กำรศึกษำ จำกสภำพผลผลติ ทีเ่ กดิ ข้นึ ต่อเน่ือง โครงกำรภำษำองั กฤษ ไดใ้ ห้ข้อนิเทศ ดังนี้ เพ่ือกำรสอื่ สำรดำ้ นอำชพี พบวำ่ 1. สถำนศึกษำ ควร ผลจำกกำรดำเนินงำน กำหนดและเน้นย้ำให้ กลมุ่ เปำ้ หมำยให้ควำมสนใจใน ผู้รบั ผดิ ชอบ ติดตำมผล กำรเรียนรู้ แตย่ ังขำดควำมมั่นใจ กำรนำควำมรู้ไปใช้ในงำน ในกำรส่อื สำรด้ำนภำษำอังกฤษ อำชพี โดยใหม้ รี ะยะเวลำ เป็นเพรำะกลุม่ เป้ำหมำยมีควำมรู้ ในกำรตดิ ตำมผลหลัง พน้ื ฐำนภำษำอังกฤษยังไม่ดีพอ มี สน้ิ สุดกำรอบรมประมำณ ควำมเขินอำยทต่ี ้องสอ่ื สำรโดยใช้ 1 – 2 เดอื น เพ่อื ติดตำมดู ภำษำอังกฤษ ซึ่งจำกกำรดำเนนิ ว่ำ กล่มุ เปำ้ หมำยมีกำรนำ กิจกรรมในปีงบประมำณ 2564 ควำมรูไ้ ปใช้ และมีควำม ให้กลุ่มเป้ำหมำยเรยี นจำนวน คงสภำพควำมรู้เป็น ชัว่ โมง 30 ช่วั โมง ทำให้ผ้เู รยี นไม่ อย่ำงไร สำมำรถเข้ำเรียนไดค้ รบตำมเวลำ 2. จำกกำรดำเนนิ กิจกรรม ทกี่ ำหนด ในปงี บประมำณ 2564 ให้ กลุม่ เป้ำหมำยเรียน จำนวนชวั่ โมง 30 ช่ัวโมง ทำใหผ้ เู้ รียนไมส่ ำมำรถเข้ำ เรยี นได้ครบตำมเวลำท่ี กำหนดและใน ปีงบประมำณ 2564 สถำนศึกษำในสังกัด สำนกั งำน กศน. จงั หวดั เพชรบูรณ์ มีพัฒนำ ปรับปรุงวธิ กี ำรเรยี นกำร สอนเปน็ แบบ Boot camp โดยมวี ิทยำกร ภำยนอกที่เคยอบรม กระบวนกำรรปู แบบ

92 ประเดน็ กำรนเิ ทศ สภำพทีพ่ บ ข้อนิเทศ Boot camp มำแล้ว และ วิทยำกรชำวตำ่ งชำติ ควบคู่ไปกับ ครู กศน. ท่ี เคยอบรม Boot camp มำแลว้ ทำใหส้ ำมำรถ กระตุ้นผูเ้ รียน ใหก้ ล้ำ แสดงออก โดยกำรฝกึ พูด ฝึกเรียนรู้คำศัพทโ์ ดยกำร เลน่ เกมส์ กำรใชบ้ ัตรคำได้ ผลกำรปฏบิ ัติท่เี ป็นเลิศ (Best Practice) ผลงำนดเี ด่น /รำงวัลท่ไี ด้รับ/แนวปฏิบัติท่ดี ี /ปจั จัยที่ส่งผลตอ่ ควำมสำเร็จ (ถ้ำมี) - หลกั สูตรมคี วำมสอดคล้องกับวิถีชีวติ ของกลุ่มปำ้ หมำย ข้อเสนอเพ่ือกำรพัฒนำ - ควรมีวธิ กี ำรเรียนกำรสอนท่ีหลำกหลำยเหมำะสมกับชว่ งวยั - สถำนศกึ ษำควรมกี ำรติดตำมผลหลงั กำรอบรมกำรนำควำมรไู้ ปใช้เปน็ ระยะ - ควรนำผลกำรประเมินควำมพงึ พอใจมำวเิ ครำะห์ ในประเดน็ ต่ำง ๆเพื่อพัฒนำปรับปรงุ ให้มปี ระสทิ ธิภำพ คุณภำพยิง่ ข้ึน ลงชือ่ ...............................................ผ้นู เิ ทศ (นำยเกรยี งฤทธ์ิ เดตะอดุ ) 20 กรกฎำคม 2564

93 แบบรำยงำนกำรนิเทศ ประเด็นกำรนเิ ทศ เรอื่ งกำรจัดกิจกรรมป้องกนั ภำวะซมึ เศรำ้ ของผู้สูงอำยุ 1. เกรนิ่ นำ เรอื่ งของนโยบำย จดุ เน้นกำรดำเนินงำนของสำนกั งำน กศน.ประจำปี พ.ศ.2564 นโยบำยและจุดเน้นกำรดำเนินงำน สำนกั งำน กศน. ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 2. ส่งสริมกำรจัดกำรศึกษำและกำรเรียนร้ตู ลอดชีวติ สำหรบั ประชำชนทเี่ หมำะสมกบั ทุกชว่ งวยั 2.3 สง่ เสริมกำรเรยี นกำรสอนทเ่ี หมำะสมสำหรับผู้ที่เข้ำสู่สงั คมสูงวยั อำทิ กำรฝกึ อบรมอำชีพท่ีเหมำะสม รองรบั สงั คมสูงวยั หลักสตู รกำรพัฒนำคุณภำพชวี ติ และส่งเสริมสมรรถนะผู้สงู วัย และหลักสูตรกำรดูแลผู้สงู วัย โดย เนน้ กำรมีส่วนรว่ มกบั ภำคีเครือขำ่ ยทุกภำคสว่ นในกำรเตรยี มควำมพร้อมเขำ้ สู่สังคมสงู วัย 2. สภำพที่พบ 2.1 ปัจจัยปอ้ น(Input) กศน.ตำบลทง้ั 9 ตำบล ในอำเภอชนแดน จงั หวัดเพชรบรู ณ์ มกี ำรวำงแผนสำรวจกลุ่มเป้ำหมำยเพื่อเตรียม ควำมพร้อมก่อนท่ีจะจัดกิจกรรมป้องกันภำวะซึมเศร้ำของผู้สูงอำยุ มีกำรดำเนินกำรสอดคล้องตำมหลักกำรจัด กิจกรรมป้องกันภำวะซึมเศร้ำของผู้สูงอำยุที่สำนักงำน กศน.กำหนด มีกำรจัดสถำนที่ แบบเว้นระยะห่ำง ตำมมำตรกำรเว้นระยะห่ำงทำงสังคมเพ่ือลดกำรระบำดของไวรัสโคโรน่ำ และอุปกรณ์ มีกำรออกแบบให้เหมำะสม สอดคล้องกับสภำพปัญหำ ควำมต้องกำรของกลุ่มเป้ำหมำย มีรูปแบบกำรจัดกำรศึกษำที่หลำกหลำยดำเนินกำรใช้ รปู แบบกำรให้ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ /ชมรม /คลังสมอง /กล่มุ สนใจ หรอื ฝกึ อบรม โดยจดั โครงกำรกำรจัดและส่งเสริม กำรจัดกำรศึกษำตลอดชีวติ เพื่อคงพฒั นำกำรทำงกำยจติ และสมองของผูส้ งู อำยุ โดยใหค้ วำมร้เู รื่องกำรทำพิมเสนน้ำ ,กำรทำสำยคล้องหน้ำกำกอนำมัย มีกำรจัดทำข้อมูลสำรสนเทศท่ีเก่ียวข้อง (สภำพ ปัญหำ ควำมต้องกำร ควำม พร้อม ภูมิปัญญำ ฯลฯ) และมีผู้นำหมู่บ้ำน/ชุมชน ท้ัง 9 ตำบล อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้ำมำมีส่วนร่วม ในกำรวำงแผน ออกแบบ โครงกำร/กิจกรรม 2.2 กำรจดั กระบวนกำรเรียนรู(้ Process) วิทยำกรมีควำมรู้ควำมสำมำรถและเทคนิคกำรถ่ำยทอดเหมำะสมมีกำรใช้ส่ือ เทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญำท้องถ่ินประกอบกำรจัดกิจกรรม กำรประเมินผลกำรจัดกิจกรรมจำกหนว่ ยงำนต้นสังกัด มีกำรจัดทำรำยงำนสรปุ ผล กำรจัดโครงกำร / กิจกรรม เม่ือสิ้นสุดโครงกำรต่อต้นสังกัดและภำคีเครือข่ำ มีกำรติดตำมผลกำรนำควำมรู้ไปใช้ ประโยชน์ และย่ังยนื 2.3 ผลผลิต(Output) ผู้สงู อำยุสำมำรถดูแลตนเอง ท้งั สุขภำพกำย / สขุ ภำพจิตได้เพ่ิมรำยได้ /อำชีพ /สวัสดกิ ำร ผสู้ ูงอำยรุ ู้จกั ใช้ ประโยชนจ์ ำกเทคโนโลยี มกี ำรรวบรวมและเผยแพรภ่ ูมปิ ัญญำของผู้สูงอำยุอยำ่ งหลำกหลำย (เอกสำร/ face book/เพจ/PR

94 ONIE) มีกิจกรรมเตรียมควำมพร้อมแก่กลุ่มเป้ำหมำยก่อนเขำ้ สวู่ ัยผู้สูงอำยุ (กำรออม /สุขภำพ/อำชีพ) ผูส้ งู อำยุใหค้ วำมสนใจ เข้ำร่วมกิจกรรมรว่ มกันอยำ่ งสมำ่ เสมอ 3. ปัจจยั ท่ีส่งผลต่อควำมสำเร็จ(ถำ้ มี) - มผี ้นู ำชุมชนและเครือขำ่ ยท่ีให้ควำมร่วมมือในกำรจัดกิจกรรม 4. ปญั หำอุปสรรค ดว้ ยสถำนกำรณโ์ ควิด อำจทำใหใ้ หก้ ำรจดั กจิ กรรม วันและเวลำ อำจคลำดเคล่อื นไม่ตรงกับวันทกี่ ำหนดใน โครงกำร 5. ข้อนเิ ทศต่อผู้รบั กำรนเิ ทศ - ควรมีกำรบูรณำกำรกจิ กรรมใหท้ ันต่อเหตุกำรณ์เพ่ือใหผ้ ู้สงู อำยุนำไปปรับใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ - ควรมสี อื่ ตัวอย่ำงท่ีชดั เจนและมีหน่วยงำนรบั รองข้อมูลท่ีสอ่ื นั้นๆ เพื่อนำไปถ่ำยทอดได้อย่ำงถูกต้อง - ควรมกี ำรติดตำมผลกำรเขำ้ รว่ มกิจกรรมของผู้สงู อำยเุ ก่ียวกบั กำรนำควำมรู้ ทีไ่ ดร้ ับจำกกำรเข้ำรว่ ม กิจกรรมไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน 6. ข้อเสนอแนะเพ่ือกำรพัฒนำ 6.1 ขอ้ เสนอแนะต่อสถำนศกึ ษำ (ถำ้ ม)ี - ควรมีกำรประเมินผลติดตำม ผสู้ ูงอำยุ ด้วยกำรสอบถำมควำมก้ำวหน้ำหลังจำกเรยี นรู้ไปแลว้ วำ่ เปน็ อย่ำงไรบ้ำง - ควรมกี ำรจดั ทำสรปุ ผลกำรตดิ ตำมเพื่อใชเ้ ป็นขอ้ มูลในกำรพฒั นำต่อไป 6.2 ขอ้ เสนอแนะต่อสำนกั งำน กศน.จงั หวดั (ถ้ำมี) ............................................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. .......................................... 6.3 ข้อเสนอแนะต่อสำนักงำน กศน (ถำ้ มี) ............................................................................................................................. ........................................................ ....................................................................................................................................................................... 7. Best Practice (ถำ้ มี) . บุคลำกรไดเ้ ข้ำรบั กำรอบรม โครงกำร หลักสูตรกำรจดั กิจกรรม ป้องกนั ภำวะซึมเศร้ำ คงสมรรถนะทำงกำย จิต สมองของผสู้ งู อำยุ กำรศึกษำนอกระบบและตำมอัธยำศัย / หลกั สตู รผู้สูงอำยุ และได้นำควำมรู้ท่ีไดม้ ำขยำยผล เพอ่ื นำสู่กำรปฏิบตั ใิ นระดบั ตำบล

95 8. ภำพกิจกรรม อยำ่ งน้อย 4-6 ภำพ หรอื ลงิ ค์ คิวอำรโ์ คด้ ภำพเคล่อื นไหว (ถำ้ มี)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook