Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติศาสตร์สังคมยุโรปช่วง ค.ศ. 1914-1945

ประวัติศาสตร์สังคมยุโรปช่วง ค.ศ. 1914-1945

Published by I ron Van, 2019-10-16 13:38:03

Description: ประวัติศาสตร์สังคมยุโรปช่วง ค.ศ. 1914-1945 เป็นการพูดถึงสภาพของสังคมยุโรปในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 จนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

Search

Read the Text Version

1สภาพสงั คมกอ่ นสงครามโลกคร้งั ท่ี

การปฏิวตั ิอตุ สาหกรรม(Industrial Revolution) ใน คริสต์ศตวรรษที่ 18  เปลี่ยนวิถีชีวิตของชาวยุโรป จากสังคมเกษตรเป็นสังคมอุตสาหกรรม จากหัตถกรรมในครัวเรอื นเป็นระบบโรงงาน  การสรา้ งเครอ่ื งจักรกล  กาเนิดชนชัน้ นายทุนและกรรมาชีพอยา่ งชัดเจน

การเกดิ เปน็ สังคมเมอื ง การยา้ ยถิ่นของประชากรจากชนบทเข้าส่เู มอื ง เนอื่ งดว้ ยการตอ้ งการแรงงาน ในภาคอตุ สาหกรรม และเปน็ ผลมาจาก การปฎวิ ัตเิ กษตรกรรม

ประชากรละทิ้งชนบท เขา้ มาอาศยั อยู่ตามเมืองเพื่อหางานทาชาวเมอื งจงึ เพิ่มจานวนข้นึ อยา่ งรวดเรว็

การเกิดเปน็ สงั คมเมอื ง เกดิ การขยายตัวของเมอื งและการเพิ่มขึน้ ของจานวนประชากร ยุโรป ค.ศ. 1800 มเี มืองขนาดใหญ่ 23 เมอื ง มีประชากรชาวเมือง 5.5 ลา้ นคน ยโุ รป ค.ศ. 1914 เมืองขนาดใหญเ่ พม่ิ เป็น 135 เมือง ประชากรชาวเมอื งเพ่มิ เปน็ 45 ลา้ นคน

การเกิดเป็นสงั คมเมอื ง  เกดิ ความไมเ่ สมอภาคกนั ทางชนช้นั โดยเฉพาะด้าน การรักษาพยาบาล การศกึ ษา รวมท้งั การ ดาเนนิ ชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ เชน่ ในองั กฤษ ค.ศ. 1841 มีการบันทกึ อายุเฉล่ียไว้ โดย ขนุ นางอายเุ ฉลยี่ 48.6 ปี พ่อคา้ อายเุ ฉลี่ย 30.8 ปี กรรมกรอายุเฉลี่ย 23.8 ปี

ชนชน้ั กรรมาชีพ  ปลาย C19 จานวนชนชั้นกรรมาชีพในอังกฤษ 8.7 ล้านคน เยอรมนี 8.6 ล้านคน ฝรง่ั เศส 7.8 ลา้ นคน  เกดิ การกดค่าจา้ งแรงงาน เพอ่ื ลดต้นทนุ การผลติ นายทนุ และใชแ้ รงงานเด็กและสตรีเพิ่มมากขน้ึ  ค.ศ.1900 แรงงานเดก็ ถึง 1,700,000 คน ทางานวันละ 15–16 ชม. ตอ่ มามีกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดย เด็ก 10 -15 ปี ทางานวันละ 6 ชม. เป็นตน้

ชนชนั้ กรรมาชีพ คุณภาพชวี ิต รายไดต้ ่าและทางานหนัก ยังเกิดอุบตั ิเหตุและความเจบ็ ไขจ้ ากการ ทางานโดยนายจา้ งไมส่ นใจ ทอี่ ยู่อาศยั แออดั ขาดสขุ ลักษณะทีด่ ี

บริบททางสังคมชนชนั้ กลาง ชนช้ันกลาง คอื ......? เจา้ ของบริษทั วศิ วกร แพทย์ ทนาย และกลุ่มคนที่มีเงินเดือนสูง

บริบททางสังคมชนชั้นกลาง (ตอ่ ) การดาเนินชีวติ ท่ีอยู่อาศัย มักมีบ้านช่อง ใ ห ญ่ โ ต แ ล ะ นิ ย ม มี บ้านพักต่างอากาศตาม ชนบท

บรบิ ททางสังคมชนช้นั กลาง (ต่อ) การดาเนินชีวิต กาเนดิ รสนยิ มอาหารแบบ ประณีต

บรบิ ททางสงั คมชนชั้นกลาง (ต่อ) การดาเนนิ ชวี ติ คนรูปรา่ งอว้ นคือลกั ษณะของบุคคลท่ีประสบความสาเรจ็ ในชวี ติ

บริบททางสงั คมชนชั้นกลาง (ตอ่ ) คา่ นิยมทางการศกึ ษา  ชนช้นั กลาง มุง่ เนน้ การศึกษาด้านสังคมศาสตร์ มากกว่าเตรียมประกอบอาชีพ เชน่ การกีฬา วชิ าปรชั ญา เพราะถือวา่ วิชาเหลา่ น้ีแสดงใหเ้ หน็ วาเปน็ ชนชั้นหัวกะทิของ สังคม

บรบิ ททางสงั คมชนชั้นกลาง (ตอ่ ) ค่านิยมทางการศึกษา  ชนช้ันกรรมชีพ มงุ่ เน้นการเรยี นสายวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เพราะตอ้ งการ ผลักดนั ตนเองใหพ้ ้นจากความยากจน และก้าวเขา้ ส่ชู นชั้นกลาง

สงครามโลกคร้งั ท่ี 1 ค่านยิ มทางสงั คม บิสมาร์กสร้างความสัมพันธ์อันดีกับ รัสเซีย เพื่อป้องกันการโจมตีจาก การปลูกฝังชาตินิยมในเยอรมัน ตะวันออกก่อนท่ีจะนาปรัสเซียเข้าสู่ บิสมาร์กเป็นอัครมหาเสนาบดี และเร่ิมการ สงครามคอื ปฏิรูปมีนโยบายสร้างความแข็งแกร่งให้ 1) สงครามกับเดนมารก์ ค.ศ.1864 กองทัพ ต้องการนโยบาย \"เลือดและเหล็ก\" 2) สงครามออสเตรยี ค.ศ.1866 (Blood & Iron) ซง่ึ เน้นความสาคัญของการ 3) สงครามกับฝรง่ั เศส ค.ศ.1870 ทาสงครามและการใชก้ าลงั ทหารในการต่อสู้ เพ่ือผลประโยชน์ของรัฐชาติ รวมท้ังการ วางแผนทรี่ ัดกมุ เปน็ ขน้ั ตอน เพอ่ื การรวมรัฐ เยอรมนั ทงั้ หมดเข้าด้วยกนั

กลมุ่ สลาฟในคาบสมทุ รบอลข่าน ความเชอ่ื ท่ีว่าชาวสลาฟในยุโรปตะวันออกควรมี ชาติเป็นของตัวเองเป็นพลังที่แข็งแกร่งใน ภูมิภาค ลัทธิชาตินิยมสลาฟมีความแข็งแกร่ง ท่ีสุดในประเทศเซอร์เบียกลุ่มเหล่าน้ีหวังว่าจะ ผลักดันออสเตรีย - ฮังการีจากบอลข่านและ สรา้ ง 'Greater Serbia' ซ่ึงเปน็ รัฐท่รี วมเป็นหนึง่ สาหรับชาวสลาฟทั้งหมด มันเป็นลัทธิชาตินิยม แบบสลาฟท่ีเป็นแรงบันดาลใจในการลอบ สงั หาร Franz Ferdinand ทีเ่ มือง Sarajevo ในเดือนมิถุนายน 1914 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ นาไปสกู่ ารระบาดของสงครามโลก

สภาพสงั คมช่วงสงคราม สถานภาพประชาชนในรัสเซีย ชนชั้นกลาง ให้การสนับสนุนต่อการ ปกครองในระบอบซาร์และยังเป็นกลุ่มท่ี ต้องการเห็นรัสเซียได้รับชัยชนะใน สงครามครั้งน้ี แต่บรรดาผู้นาของกลุ่ม ชนชั้นกลางต่างก็ต้องประสบกับความ ผิดหวังเพราะผลกระทบท่ีได้รับจาก สงครามทาให้มีทหารบาดเจ็บและล้ม ตายไปเป็นจานวนมาก

ชนช้ันกรรมาชีพ ร่วมกันในการก่อ การปฏิวัติ โดยเริ่มจากการนัดหยุด งานและชมุ นมุ ใหญ่ของกรรมกรเข้า ร่ ว ม ม า ก ก ว่ า 2 0 0 , 0 0 0 ค น มวลชนและคนงานต่างโกรธแค้น เข้าร่วมสมทบการประท้วงมากข้ึน ทั้ งชูค า ข วัญ “ซา ร์ จงพิ นา ศ ” “สงครามจงพินาศ” และ “ขนม ปงั ” นาไปสกู่ ารปฏวิ ัตริ สั เซีย

สถานภาพประชาชนในเยอรมนั สหภาพแรงงานมีท่าทีไปในทาง สนับสนุน สงคราม แต่ทัศนะนี้หมดไปเมื่อเกิดการ เสียชีวิตของ ผู้คนจานวนมากและเกิดภาวะ ขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง เพื่อเป็นการ เอาใจสหภาพแรงงาน ในปี 1915 รฐั บาลได้ ออก กฎหมายยอมรับฐานะของสหภาพ แรงงานในการเป็นตัวแทน ที่ถูกต้องของ คนงานเยอรมนั ขนึ้ เป็นครั้งแรก

การเรยี กรอ้ งสิทธเิ ลอื กต้งั สตรีในองั กฤษ เกิดขบวนการซัฟฟราเจตข้ึนโดยมีจุดมุ่งหมายในการเรียกร้องขอสิทธิในการลงคะแนนเสียง เลือกต้งั ให้แก่สตรใี นอังกฤษ ชว่ งแรกถูกรฐั บาลตอ่ ต้านเนอ่ื งจากกอ่ กล่มุ ประท้วงอยา่ งรุนแรง สมาชิกบางคนถูกจับ ต่อมานางพังค์เฮิร์สท์ได้นากลุ่มสมาชิกออกช่วยเหลือประเทศด้วยการ อาสาเข้าไปทางานในโรงงานอุตสาหกรรม เพราะชายชาวอังกฤษส่วนใหญ่ต้องออกไปรบ เม่ือสงครามโลกคร้ังที่ 1 ยุติลงรัฐบาลจึงตอบแทนโดยให้สิทธิแก่สตรีที่มีสิทธิในการ ลงคะแนนเสียงเลือกต้งั

การลดลงของจานวนประชากรยโุ รปชว่ งสงครามโลกครงั้ ท่ี 1 สาเหตุ เกิด ตาย ย้ายถน่ิ ภาวะสงคราม ภาวะสงั คม โรคระบาด

1. ภาวะสงคราม  สงครามในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ สิ้นสุดลง นับเป็นครั้งแรกท่ีกองทัพ ขนาดใหญ่ได้ทาการสู้รบติดอาวุธ ซ่ึง เกิดจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม เท คโนโลยีในการท าลาย ล้า ง อย่างขนานใหญ่ นับว่าเป็นสาเหตุ หน่ึงที่ทาให้ต้องสูญเสียชีวิตมนุษย์ไป เป็นจานวนมหาศาล ตัวเลขที่แท้จริง รวมท้ังความสูญเสียของแต่ละชาติไม่ ส า ม า ร ถ ห า ม า ไ ด้ แ ต่ ส า ม า ร ถ ค า ด ค ะ เ น อ ย่ า ง มี เ ห ตุ ผ ล ว่ า ร ว ม ทัง้ หมดประมาณ 13,000,000 คน

Word war 1 Military Deaths (Central Power) Bulgaria 3% แผนภมู ิวงกลมฝ่ ายมหาอานาจกลางทีเ่ สยี ชีวิต

Word war 1 Military Deaths (Entente Powers) แผนภมู ิวงกลมฝ่ ายสมั พนั ธมิตรทเี่ สยี ชีวิต United States 2% Others 1%



2. ภาวะทางสงั คม  ช่วงสงครามโลกคร้ังที่ 1 ความ เ จ็ บ ปุ ว ย ท่ี พ บ เ ห็ น ไ ด้ ท่ั ว ไ ป คื อ Shell Shock ท่ีแปลตรงตัวว่า อาการตกใจเสยี งระเบิด  ก่อให้เกิดภาระทางสังคม ขาดการ เยยี่ วยา

3. ไขห้ วดั ใหญ่สเปน  ไข้หวัดใหญ่สเปนหรือ Spanish flu คือ ช่ือเรียกการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ ในปี 1918-1919 ซึ่งเกิดข้ึนหลังสิ้นสุด สงครามโลกครัง้ ที่ 1  เกิดจากเชื้อไวรัส A(H1N1)  ทาให้มีผู้เสียชีวิตไป 40-50 ล้านคน (ท่ัวโลก)  เกิดการระบาดในหลายประเทศทั้ง อังกฤษ เยอรมนี ฝร่งั เศสและอเมริกา

การศึกษาของนาซี  ปลูกฝังขบวนการชาตนิ ยิ มผา่ นเยาวชน “เยาวชนฮติ เลอร”์  ครสู ่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรคนาซี  เน้นพลศึกษา การออกกาลงั กาย  นาวชิ าศาสนาและจรยิ ศาสตร์ออกจาก บทเรียน  เยาวชนของฮิตเลอร์มีอานาจ  ต้ังโรงเรยี นผูน้ า

การศึกษาองั กฤษ การศกึ ษาเหมอื นทกุ ประเทศในโลกยคุ ปัจจุบัน - มีภาคบังคบั ในการเรียนถงึ 15 ปี - ในระดับสงู เรียนตามความสนใจ เน้นผลติ ตามความต้องการของรัฐบาลหรือ ตลาดแรงงาน ปลกู ฝงั ค่านิยม ความเชื่อ ผ่านการศกึ ษา

สาธารณสขุ ของนาซี ตอ่ ต้านการสูบบหุ รีอ่ ยา่ งหนัก นักวิทยาศาสตร์พบว่าควันพิษจากบุหร่ี ก่อให้เกดิ โรคมะเร็งเป็นครัง้ แรกของโลก นโยบายด้านสาธารณสุขโดยท่ัวไปของ เยอรมนี ได้แก่ การทาความสะอาดแหล่ง น้าการตรวจหาตะกั่วและปรอทในสินค้าท่ี ผลิตในเยอรมนี สตรีในเยอรมน้ียังได้รับคาแนะนาให้ไป ตรวจหามะเร็งเต้านม

สาธารณสุขของสหรฐั อเมรกิ า การพัฒนาการผลิตวัคซีนไขห้ วดั ใหญ่ การทาสงครามท่ีมาเกดิ ทาใหก้ องทพั ออ่ นแอ บอกว่าไข้หวัดใหญ่เปน็ ภัยดา้ นกลาโหม

บทบาทของสตรีในช่วงสงครามโลกคร้ังท่ี 2

ก่อนสงครามโลกครง้ั ที่ 2 ผู้หญิงส่วนใหญอ่ ยทู่ ี่บา้ นโดยไม่ได้รับคา่ จ้าง เม่ือ เข้าสู่สงครามความต้องการแรงงานจานวนมากเกิดข้ึนในทุกๆ ด้าน ซ่ึงก่อนหน้าน้ี แรงงานสว่ นใหญ่เป็นเพศชาย แต่ผชู้ ายจานวนมากเปน็ ที่ต้องการของกองทัพ ดังน้ัน ภาครัฐจึงทดแทนโดยการให้สตรีเข้ามาทางานในส่วนท่ีขาดแคลนโดยเฉพาะงานที่ เก่ยี วกับกองทัพ ยุทธภณั ฑ์ และปจั จัยสาคัญในสงคราม

บทบาทสตรใี นเยอรมนี  ฮิตเลอร์ให้จัดต้ังสานักงานสตรีเยอรมัน โดยมีบทบาท สาคญั ในการจัดกจิ กรรมทางสังคมและวัฒนธรรมเพือ่ ให้ สตรีอย่ใู นกรอบนโยบายของพรรคโดยเฉพาะการทางาน การกศุ ลต่าง ๆ  หน่วยงานบริการมารดาแห่งไรค์ เป็นหน่วยงานย่อย ของสานักงานสตรีเยอรมัน มีหน้าที่ฝึกอบรมสตรีท่ีเป็น มารดาเก่ียวกับงานบ้าน การเลี้ยงดูบุตร การกินอยู่ การเย็บปักถักร้อย ฯลฯ ซ่ึงจะสอดแทรกอุดมการณ์ และนโยบายพรรคนาซดี ้วย  สมาคมสตรีสังคมนิยมแห่งชาติ เป็นองค์กรสาหรับ ปัญญาชนหญิง หน้าที่ควบคุมและกาหนดนโยบายด้าน กิจกรรมต่างๆ ตลอดจนให้การศึกษาทางการเมืองและ อุดมการณ์เพื่อให้สตรีเข้าใจอย่างลึกซึ้งเก่ียวกับเช้ือชาติ ชาตนิ ิยมและการสรา้ งครอบครัวใหญ่

บทบาทสตรีในเยอรมนี พ ร ร ค น า ซี มี น โ ย บ า ย เ พื่ อ ใ ห้ ผู้หญิงมีบทบาทเป็นช้างเท้าหลังและทา หน้าท่ีเป็นภรรยาและมารดาท่ีดี จึง พยายามลดการจ้างงานผูห้ ญงิ มีการจัดทาโครงการเงินกู้เพ่ือ แต่งงาน โดยให้เงินกู้แก่คู่สมรสใหม่ ซึ่งมี เง่ือนไขว่าผู้หญิงที่จะเป็นเจ้าสาวต้อง ลาออกจากงานอาชีพ ผู้หญิงยังถูกห้าม ไมใ่ หท้ างานที่ต้องใช้แรงงานหนัก เช่น งาน เหมือง และงานในโรงหลอ่ โลหะ

บทบาทสตรีในเยอรมนี เมื่อเยอรมนีเข้าสู่สงครามมี การผลักดันให้ผู้หญิงทางานแทนผู้ชายท่ี ต้ อ ง ไ ป ร บ โ ด ย เ ฉ พ า ะ ก า ร ผ ลิ ต อ า วุ ธ ยุทโธปกรณ์ แต่ช่ัวโมงการทางานท่ี ยาวนาน ค่าตอบแทนต่าและงานหนักก็ ทาใหผ้ หู้ ญิงที่แต่งงานและกลับมาทางาน มี ภ า ร ะ ห นั ก ม า ก ข้ึ น ใ น ก า ร ด า ร ง ชี วิ ต เพราะต้องดูแลบุตรทั้งทางานบ้านและ งานอาชีพไปพร้อม ๆ กัน การผลิต ยุทโธปกรณ์ของผู้หญิงก็มีปริมาณต่าซ่ึง ส่งผลกระทบต่อการทาสงครามของเยอ รมนด้ี ้วย

บทบาทของสตรใี นโซเวยี ต ในยุคของสตาลิน โซเวียตได้มี การยกย่องและส่งเสริมสตรีมากข้ึนโดย ผ่านโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อ ซ่ึง นอกจากจะมีรูปของสตาลินบนโปสเตอร์ แล้ว นโยบายดังกล่าวยังส่งผลถึงรูปของ สตรีในฐานะที่เป็นตัวแทนของผู้ให้กาเนิด และการยกย่องสตรีที่แข็งแรง เสียสละ และมีการศกึ ษา

บทบาทของสตรีในโซเวียต การโจมตีของเยอรมนีอย่างกะทันหัน ในปี ค.ศ.1941 โดยการฝุาฝืนสัญญาไม่รุกราน ซ่ึงกันและกัน เหตุการณ์ดังกล่าวได้ปรากฏกลุ่ม ของสตรีท่ีเข้ามามีบทบาททางการทหารมากขึ้น ซึ่งพวกเธอเป็นอาสาสมัครจากท่ัวประเทศ มีท้ัง ท่ีทาหน้าที่นักบินและพลแม่นปืน รวมถึง ประเภทงานบริการและการพยาบาล ในช่วงสงครามโลกครั้งท่ี 2 สตรีชาว โซเวียตได้มีบทบาทสาคัญในสงครามผู้หญิง จานวนมากได้ทาหน้าท่ีในกองทัพ ส่วนใหญ่อยู่ ในหน่วยแพทย์ มีผู้หญิงจานวนกว่า 800,000 คน ท่ีทาหน้าท่ี ในกองทัพโซเวียตในช่วง สงคราม

บทบาทของสตรใี นอังกฤษ ชว่ งสงครามโลกครัง้ ท่ี 2 นนั้ เป็นช่วงเวลา ที่ผู้หญิงในอังกฤษก้าวขึ้นมามีบทบาทในการสังคม มากขึ้น หญิงสาวหลายคนอาสาเข้าทางานใน โรงงานแทนผู้ชาย โดยเฉพาะการทางานในโรงงาน อาวุธ รวมถึงการผลิตระเบิด ปลอกกระสุน และ การทาเหมอื งแร่

บทบาทของสตรีในอังกฤษ สงครามได้สร้างงานใหม่ให้กับผู้หญิง ไม่เพียงแต่งานผลิตอาวุธเท่าน้ัน แต่ ยังรวมไปถึงงานประเภทอื่น ๆ เช่น อาสาสมัครพยาบาล พนักงานสื่อสาร พนักงาน ขนส่ง งานไปรษณีย์ และงานร้ือถอนต่าง ๆ อย่างไรก็ตามการทางานช่วงสงครามได้เพิ่มภาระให้กับผู้หญิงมากข้ึน แต่ ผู้หญิงอังกฤษก็ตอบสนองอย่างกระตือรือร้น โดยอัตราการขาดงานต่ากว่าก่อน สงครามและอัตราการผลิตเต็มจานวน โดยท่ีผู้หญิงทางานเกินเวลาท่ีกาหนดเพื่อให้ งานเสร็จ

บทบาทของเยาวชน เยาวชนฮิตเลอร์ ฮิตเลอร์ได้ปลูกฝังอุดมการณ์นาซีให้กับเยาวชนผ่านกิจกรรมและการเรียนต่าง ๆ โดย เน้นความคิดชาตินิยม การอุทิศตนเพ่ือเยอรมนีและพลีชีพเพื่อผู้นา รวมทั้งการฝึกหนักและการ ปลูกฝงั ค่านยิ มทางทหาร เชน่ หนา้ ท่ี การเชื่อฟัง และความอามหิต เยาวชนฮิตเลอร์ หน้าท่ีเป็นหน่วยลาดตระเวน สืบหาข่าว ดูแลความสงบเรียบร้อยใน สังคม รวมถึงการสอดส่องพฤติกรรมของคนในครอบครัว ญาติมิตร คนท่ัวไปและชาวยิว เพื่อ รายงานการกระทาท่นี ่าสงสัยและเปน็ ภยั ต่อพรรคและประเทศชาตใิ ห้เอสเอสและเกสตาโปทราบ

บทบาทของเยาวชน สันนิบาตเยาวชนหญิงเยอรมัน มีหน้าท่ีปลูกฝงั อบรมเร่ืองการใหบ้ ริการ การควบคุม และสร้างระเบียบวินัยเข้มงวด การเช่ือฟังและการเคารพ กฎเกณฑ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออบรมบ่มเพาะให้ทาหน้าท่ี เป็นมารดาและภรรยาที่ซื่อสัตย์ สมาชิกท่ีอายุ 14 ปีขึ้นไปจะ เพิ่มการเรียนเข้มเก่ียวกับเรื่องที่ต้องรู้ในการดูแลงานบ้าน การ ปฐมพยาบาลและการดูแลสุขภาพ รวมท้ังเรียนรู้การจะเป็น มารดาท่ีมีสขุ ภาพดเี พือ่ เลย้ี งดูบตุ รให้แข็งแรง

ปญั หาชาวยวิ

ฮติ เลอรป์ ระสบปัญหาความยากลาบากเกยี่ วกบั ทางศาสนา - ท้งั คาทอลกิ และโปรเตสแตนต์ คดั คา้ นการแทรกแซงของ รัฐบาลในเรอ่ื งของศาสนา และยังคงคดั คา้ นต่อไป ทงั้ ๆ ทห่ี ัวหนา้ สาคญั ๆ หลายตอ่ หลายคนถูกส่งเขา้ คกุ มโนทัศน์หลักของนาซี คือ แนวคิดความสะอาดเชือ้ ชาติ - ฮิตเลอร์กลา่ วสนุ ทรพจนส์ ั้น ๆ เสนอแนวความคดิ ทจ่ี ะแยก ชาวยิวออกจากพลเมอื งเยอรมนั - ออกกฎหมายนเู รมเบิรก์ (Nuremberg Laws) ประกอบด้วย กฎหมายสองฉบบั 1. กฎหมายเพ่ือคุ้มครองสายเลอื ดเยอรมันและเกียรตภิ มู ิ เยอรมัน 2. กฎหมายวา่ ดว้ ยความเปน็ พลเมืองไรช์

มาตรการแก้ปัญหาชาวยิว : มาตรการแรก - การประกาศใชก้ ฎหมายนเู รมเบริ ก์ รัฐบาลพรรคนาซกี ็ เรม่ิ ดาเนนิ การขับไล่ชาวยิวหรือชาวเยอรมันเช้ือสายยวิ ออก จากชมุ ชน หมบู่ า้ น และเมืองต่าง ๆ ทพ่ี วกเขาเคยอยู่อาศยั มาหลายชัว่ คนเพ่อื ให้เป็นพื้นที่ปลอดชาวยวิ - ระหว่าง ค.ศ. 1936 1938 ชาวยวิ เกอื บ 3,00,000 คนเดนิ ทางออกนอกประเทศ ...100,000 คนเดนิ ทางไปสหรัฐอเมรกิ า ...63,000 คนไป ประเทศอาร์เจนตินา ...52,000 คนไปประเทศอังกฤษ ...33,000 คนไปเดนิ แดนปาเลสไตน์ ส่วนชาวยวิ ท่ยี ังคง อยู่ในประเทศก็ถกู คุกคามข่มเหง เชน่ เหตุการณค์ นื กระจกแตก

มาตรการแกป้ ญั หาชาวยวิ : มาตรการแรก ในเช้าวันที่ 10 พฤศจิกายน ท้องถนนเต็มไป - เหตุการณ์ “คืนกระจกแตก” คืนของวันที่ ด้วยเศษกระจก ซ่ึงเป็นที่มาของชื่อเหตุการณ์ 9 พฤศจกิ ายน ค.ศ. 1938 ถึงช่วงร่งุ สางของวันที่ \"คนื กระจกแตก” 10 - สมาชิกหน่วยเอสเอส หน่วยเอสเอ ยุวชน ฮิตเลอร์ กลุ่มก่อกวนอ่ืน ๆ ใช้ก้อนหินและอาวุธ ขว้างปาและทุบกระจกร้านค้าและหน้าต่าง กระจกบ้านของชาวยิว - บุกเข้าไปทาลายทรัพย์สินและยึดข้าวของ ท่ีมคี า่ รวมทงั้ ทบุ ตที าร้ายชาวยิว ผู้หญิงและเดก็ - ชาวยิวจะถูกรังแกและข่มขืน หากชาวยิว ต่อสู้ก็จะถูกรุมทาร้ายอย่างทารุณ และมีการลอบ วางเพลิงโบสถ์ยิวและเผาพระคัมภีร์รวมทั้งฉก ฉวยยดึ ทรัพยส์ ินทม่ี ีค่าและอ่นื ๆ

มาตรการแกป้ ัญหาชาวยิว : มาตรการแรก หลงั การประชุมคร้งั น้มี กี ารออกกฎหมาย หลังเหตุการณ์คืนกระจกแตกผ่าน -หา้ มยวิ ซ้อื หรอื ครอบครองปนื มดี หรืออาวุธอ่นื ๆ ไป 2 วัน มีการจัดประชุมแกนนาพรรค - หา้ มชาวยวิ ที่บรรลนุ ติ ภิ าวะปรากฏตวั ในสถานท่สี าธารณะ นาซี มีมติกาหนดแนวทางปฏิบัติงาน 4 ข้อ คือ - อกี หนึ่งเดือนตอ่ มา มกี ฎหมายห้ามยิวใช้สนามกฬี า สระ ว่ายน้า (1) ออกกฎหมายกาจัดยิวออกจาก ระบบเศรษฐกิจและยึดโอนทรัพย์สินของ ชาวยิวเปน็ ของรัฐ (2) บังคับและผลักดันชาวยิวให้ อพยพออกนอกประเทศและถอนสิทธิ์ ความเป็นพลเมอื งเยอรมัน (3) แยกชาวยิวออกจากพลเมือง เยอรมันท่ัวไปด้วยการสร้างเขตเกตโตข้ึน และ (4) ยุบเลิกองค์การอิสระต่าง ๆ ของชาวเยอรมันเช้ือสายยิว รวมทั้ง หน่วยงานและสถาบนั ของยิวทั้งหมด

มาตรการแกป้ ัญหาชาวยิว : มาตรการท่ี 2 การอพยพ  มกี ารจัดตง้ั สานักงานกลางจกั วรรดิไรด์เพอ่ื อพยพออกชาวยวิ - หน้าทีห่ ลกั คือการดาเนนิ งานทกุ วิถีทางทีจ่ ะกดดนั และบังคบั ชาวยวิ ให้อพยพออกจากเยอรมนี  วางโครงการจดั ตั้งถิ่นฐานใหมข่ องชาวยวิ ข้ึนทเี่ กาะ มาดากัสการใ์ นทวีปแอฟรกิ า  การแก้ไขปัญหายวิ ดว้ ยการอพยพประสบความสาเร็จไมม่ าก นกั - ชาวยวิ ส่วนใหญ่มีฐานะปานกลาง ซ่งึ ทาใหไ้ มส่ ามารถ รับภาระค่าใชจ้ ่ายท่สี งู ในการอพยพได้ - หลายประเทศในยโุ รปเร่มิ ออกกฎหมายจากดั จานวนชาวยวิ ที่เดนิ ทางเขา้ ประเทศ

มาตรการแกป้ ญั หาชาวยิว : มาตรการที่ 3 เกตโต  นบั แต่ฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 1940 เป็นตน้ มามกี ารจัดต้งั เกต โตข้ึนในดนิ แตนต่าง ๆ ท่เี ยอรมนีเข้าครอบครอง - เพอ่ื ใชก้ กั กันและแยกพลเมอื งยวิ ออกจาก ประชาชนทัว่ ไป - มเี นอื้ ที่จากัดและล้อมร้วั ลวดหนามสงู สภาพแวดลอ้ มเสื่อมโทรมและปราศจากสุขาภบิ าลทด่ี ี ชาวยิวอยกู่ ันอยา่ งแออัดและลาบาก ทงั้ ได้รับการบัน สว่ นอาหารน้อยกวา่ พลเมืองท่ัวไป - ค.ศ. 1941 มกี ารสัง่ งดอาหารชาวยวิ เพอ่ื ใหอ้ ด ตาย - ชาวยิวตกอยู่ในสภาพอดอยากและแรน้ แคน้ ซงึ่ ส่วนใหญจ่ ะเสยี ชีวิตเพราะโรคภยั ไข้เจบ็ และการอดตาย ชาวยวิ ในเกตโตถกู เกณฑไ์ ปใชแ้ รงงานหนักดว้ ย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook