โครงงานวิทย์1

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทการทดลอง เร่อื ง มหศั จรรย์อนิ ดเิ คเตอร์จากพชื ไล่ยุงได้จรงิ หรอื โดย นกั เรียนระดับชัน้ อนบุ าล ๒ และ ๓ โรงเรียนวดั เขาดนิ สานกั นกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาฉะเชงิ เทรา เขต ๑ รายงานฉบบั นเี้ ปน็ สว่ นหน่ึงของโครงงานวิทยาศาสตร์ ระดบั ชนั้ อนุบาล ๒ และ ๓

รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทการทดลอง เรื่อง มหัศจรรยอ์ ินดเิ คเตอรจ์ ากพืชไล่ยงุ ได้จริงหรือ โดย นกั เรียนระดับชั้นอนุบาล ๒ และ ๓ ครทู ่ีปรกึ ษา คุณครศู จุ ภี รณ์ อทิ รประสาท คุณครฐู ติ ิมา บนุ ขนุ ยงั คุณครรู ดาดาว พลแสน โรงเรียนวดั เขาดิน สานักงานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาฉะเชงิ เทรา เขต ๑

ก เกย่ี วกับโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทการทดลอง เรื่อง มหัสจรรยอ์ นิ ดิเคเตอร์จากพชื ไลย่ ุงไดจ้ รงิ หรือ สง่ เสรมิ ทักษะกระบวนการคิด กิจกรรมบูรณาการเสริมประสบการณ์ที่สอดคลองกับการจัดกิจกรรมบา้ น วทิ ยาศาสตร์น้อย ระดับปฐมวัย ผู้เสนอโครงงาน ๑. นกั เรยี นระดับชนั้ อนุบาล ๒ และ ๓ ครูทีป่ รึกษาโครงงาน ๑. คุณครศู จุ ีภรณ์ อิทรประสาท ๒. คณุ ครูฐติ มิ า บุนขนุ ยงั ๓. คณุ ครูรดาดาว พลแสน สถานศกึ ษา โรงเรียนวัดเขาดนิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓

ข กิตตกิ รรมประกาศ โครงงานนี้สาเร็จข้ึนได้ด้วยบุคคลดังต่อไปน้ีคือ คุณครูศุจีภรณ์ อิทรประสาท คุณครูฐิติมา บุนขุน ยัง คุณครูรดาดาว พลแสน ท่ีให้คาปรึกษาและช่วยหาข้อมูลในการจัดทา ที่กรุณาช่วยแนะนาและ ออกแบบเอกสารรูปเล่มโครงงาน นายสุภโชค โชควิริยะสัมพันธ์ ผู้อานวยการโรงเรียนวัดเขาดิน ท่ี อนุเคราะห์เร่ืองค่าใช้จ่าย และอานวยความสะดวกในการจัดทาโครงงาน และท่ีขาดไม่ได้คือ คณะครู โรงเรียนวดั เขาดิน รวมทัง้ ผ้ปู กครองนักเรียนวัดเขาดิน ทใี่ ห้ข้อมลู และชว่ ยสนับสนนุ ตลอดมา ทา้ ยสดุ นีผ้ ้จู ัดทาหวงั เป็นอยา่ งยงิ่ ว่า โครงงานนีจ้ ะเป็นประโยชนต์ อ่ การรักษาโรคมากมาย ชว่ ยใน เรื่องปวดเม่ือยกล้ามเนอื้ แมลงสัตวก์ ดั ต่อย ของผสู้ นใจต่อไป คณะผู้จดั ทา

ค หวั ข้อโครงงาน : มหศั จรรยอ์ นิ ดเิ คเตอรจ์ ากพืชไล่ยงุ ได้จรงิ หรือ ประเภทของโครงงาน : โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทการทดลอง ผูเ้ สนอโครงงาน : นกั เรยี นระดับช้นั อนุบาล ๒ และ ๓ ครูทีป่ รึกษาโครงงาน : คณุ ครศู ุจภี รณ์ อิทรประสาท คณุ ครฐู ิตมิ า บุนขุนยงั ปีการศกึ ษา คุณครรู ดาดาว พลแสน : ๒๕๖๓ บทคดั ย่อ ในการจดั ทาโครงงานเรื่อง มหศั จรรย์อินดิเคเตอรจ์ ากพชื สมารถไล่ยงุ ได้จรงิ หรือ ไดน้ าใบพืชสอง ชนดิ ทน่ี ามาทาการทดลองจากการสารวจวา่ เป็นใบพชื ที่บ้านนักเรียนมกี นั ในเกือบทุกบา้ นของนักเรียนได้แก่ ใบตะไครแ้ ต่ใบตะไคร้จะมีกันทุกบ้านมากกวา่ และ และสว่ นใบเตยไมค่ ่อยมี หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใบ ตะไคร้มีฤทธิ์ไล่ยุงและไลแ่ มลงเมือ่ ทดสอบกับยุงก้นปล่อง โดยมีระยะเวลาในการป้องกนั นาน 2 ชม.สว่ นการ ผสมการบรู ก้อนหอม (Karaboon)คณุ สมบัติ ไล่มด ไล่แมลง เพมิ่ ความสดช่ืนด้วยความหอมเยน็ ของการบูร ด้งั นัน้ จากผลการทดลองของโครงงานน้ผี ลสรุปวา่ อิดิเคเตอรจ์ ากใบตะไคร้ผสมการบรู ก้อนจะฤทธไิ์ ล่ยงุ ไดด้ ี สว่ นสาหรับ \"ใบเตยหอม\" นั้น ทกุ คนน่าจะรู้จักกนั ดใี ชไ่ หมล่ะจะ๊ โดยเฉพาะ \"ใบเตย\" ท่ีมักถูกนามา ผสมในอาหาร เพ่ือให้อาหารมีกลน่ิ หอมนา่ รบั ประทาน แถมยงั ช่วยแต่งสเี ขยี วให้กับขนมไทยด้วย ซ่งึ คนทว่ั ไป อาจจะรูว้ า่ ประโยชน์ของ \"เตยหอม\" มีเพียงเทา่ นี้ แต่จริง ๆ แล้ว นอกจาก \"เตยหอม\" จะมีดที ีค่ วามหอมจึงไม่ มีฤทธใ์ิ นการไลย่ งุ

ง สารบัญ เร่ือง หนา้ เกี่ยวกับโครงงาน ก กติ ตกิ รรมประกาศ ข บทคัดยอ่ ค สารบัญ ง เนอื้ หา บทที่ ๑ บทนา ๑ – ๒๗ บทที่ ๒ บทนา ๑ บทท่ี ๓ บทนา ๒ บทที่ ๔ บทนา ๔ บทที่ ๕ บทนา ๖ บรรณานุกรม ๑๙ ภาคผนวก (ก) จ ภาคผนวก (ข) ฉ ช

จ บรรณานกุ รม กองบรรณาธิการ. สตู รและวิธกี ารทาผลิตภณั ฑ์สปาผลิตภณั ฑ์ทใี่ ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน. อา่ นขอ้ มูลเพมิ่ เติมได้ที่ http://www.yesspathailand.com คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล. ๒๕๕๖. (ออนไลน์) สาธติ การทานามันไพล แกป้ วดเม่ือย. อา่ นข้อมูลเพมิ่ เตมิ ไดท้ ี่ https://www.youtube.com/watch?v=0kP1APHZqjI วรี ชัย มาศฉมาดล. ๒๕๓๐. (ออนไลน)์ ผกั -อาหารก็เปน็ ยาได.้ สานกั พมิ พ์นานมบี ุ๊คส์ จากดั . นฤคม บญุ หลง.๒๕๒๕ (ออนไลน์) หลักการอตุ สาหกรรมเกษตร. คณะอตุ สาหกรรมเกษตร มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์.

ฉ ภาคผนวก (ก) ประวตั ิผู้จัดทา

ช ภาคผนวก (ข) รปู ภาพประกอบ

1 บทท่ี 1 บทนำ ที่มำและควำมสำคญั ของโครงงำน “เศรษฐกิจพอเพียง”เปน็ ปรัชญาท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ทรงมีเพื่อชแี้ นะแนวทางดาเนนิ ชีวติ แก่พสกนิกรชาวไทย ทรงเน้นยา้ แนวทางการพฒั นาที่อยู่บนพ้ืนฐานของการพ่ึงตนเอง ความพอมี พอใช้ การรจู้ ักพอประมาณการคานึงถงึ ความมเี หตผุ ล สง่ เสริมความประหยดั ในครัวเรอื นจากแนวพระราชดาริใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว เนื่องจากนักเรียนชัน้ อนบุ าลปที ี่ 2 และ ๓ ไดเ้ รียนร้กู ารเข้ารว่ มทากิจกรรมในโครงการบ้าน นักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย เรือ่ งอนิ ดเิ คเตอร์จากพืช เดก็ ๆ ตืน่ เตน้ สนุกสนานและสนใจในกิจกรรมน้ี เปน็ อยา่ งมาก และเน่ืองจากขณะทท่ี าการทดลองอย่นู ้นั ก็มเี ด็กหญิงคนหนง่ึ บอกคุณครูวา่ คุณครคู ะวนั น้ีทาไม่ ยงุ ในห้องทดลองของเราเยอะมากจังคะคุณครู กัดหนูดว้ ยคะ คุณครบู อกวา่ พอดีชว่ งนเ้ี ป็นหน้าฝน ฝนตกยงุ เลยเกิดเยอะค่ะ เด็กๆตง้ั คาถามในส่งิ ทส่ี งสัยคุณครูคะเราจะเอาอะไรมาทาฉีดไลย่ ุงกนั ดีละคะใชน้ ้าผกั สมี ่วงทีเ่ รา ทาทดลองฉีดและทาไล่ยุงได้ไหมคะ ก็เลยเกดิ ประเด็นของ โครงงานมหัศจรรย์ อนิ ดเิ คเตอร์จากพชื ไลย่ ุงได้จริง หรือ ซึ่งสาเหตขุ องโครงงานนี้เกิดขึน้ จากการใชช้ วี ิตปิ ระจาวนั ของเด็กและเด็กไดส้ มั ผสั จรงิ กบั ตัวเดก็ เองและ เด็กไดส้ ังเกต สมั ผสั กับส่ิงแวดล้อมรอบตัวเด็กๆ จากส่ิงทีเ่ ด็กๆเรยี นรู้มาจากการมที ักษะพ้นื ฐานทาง กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และนาไปสกู่ ารนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั และนาไปใช้ในครอบครวั ได้โดยอย่างมี คุณค่าและประหยดั และอยา่ งมีความสขุ ชอื่ ผ้ทู ำโครงงำน นกั เรียนชัน้ อนบุ าลปที ี่ 2 และ 3 ปีการศึกษา 2563 1. ด.ช.ภคพงษ์ ไทยเจริญ 2. ด.ช.จริ พนั ธ์ ทินกานนท์ 3. ด.ช.ปราณนต์ เจริญสขุ 4. ด.ญ.บัณฑติ า จงดี 5. ด.ญ.พชิ ญาพัชญ์ แตรสวสั ด์ิ 6. ด.ญ.ชญั ญา ลากูล 7. ด.ญ.ลาภนิ ี มณฑาประเสริฐ วัตถปุ ระสงค์ของกำรทำโครงงำน 1. เพื่อใหเ้ ดก็ ๆสังเกตเรยี นรู้ธรรมชาติรอบตวั 2. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ๆได้ฝกึ ทกั ษะการใช้ประสาทสัมผัส 3. เพือ่ ใหเ้ ด็กรว่ มกันทาการทดลอง และทางานร่วมกบั ผอู้ น่ื ได้ 4. เพ่ือใหเ้ ดก็ เรียนรู้อยา่ งสนกุ สนานกับพชื สมุนไพลใกล้ตวั

2 บทที่ 2 เอกสำรท่ีเก่ยี วขอ้ ง ผู้ทาโครงงานได้ศกึ ษาความรู้ในเรอื่ งตา่ งๆดงั นี้ เอกสารท่ีเกย่ี วข้อง 1.ต้นตะไคร้ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cymbopogon nardus Rendle วงศ์ POACEAE (GRAMINEAE) ชอ่ื ท้องถนิ่ ตะไคร้แดง จะไคมะขดู ตะไคร้มะขดู ลักษณะพืช พชื ลม้ ลุก อายหุ ลายปี มเี หงา้ ลาตน้ ต้งั ตรง สงู 2 เมตร ออกเป็นกอ ใบเกลีย้ ง รูปยาวแคบ กว้าง 5-20 มม. ยาวไดถ้ งึ 1 เมตร มีกลิน่ หอม ตรงรอยต่อระหว่างใบกบั กาบ มีแผ่นรปู ไข่ปลายตดั ย่นื ออกมา ยาว ประมาณ 2 มม. มีขนกาบหุ้มติดทน กาบล่างสุดเกยซ้อนกัน เมอื่ แหง้ จะม้วนขน้ึ ดอกออกเปน็ ช่อขนาดใหญ่ ยาวได้ถงึ 80 ซม. มใี บประดับ ลักษณะคลา้ ยกาบ ยาวประมาณ 25 มม. รองรับอยู่ ช่อดอกแยกเปน็ หลาย แขนง แต่ละแขนงมีชอ่ ย่อย 4-5 ชอ่ ผลแห้งไมแ่ ตก ตะไคร้หอมมลี กั ษณะส่วนใหญ่คล้ายกับตะไคร้กอ ต่างกนั ทกี่ ล่ิน ตน้ และใบยาวกวา่ ตะไครก้ อมาก แผน่ ใบกว้างยาวและนม่ิ กว่าเลก็ น้อย 2.ตน้ ใบเตย ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ pandans tectorins ลักษณะ เปน็ ไม้กิง่ พุ่ม ก้านใบเดียว มรี างนา้ มสี นี วล 3.ต้นมะกดู ชอื่ ทางพฤกษศาสตร์ : Citrus Hystrix วงศ์ : RUTACEAE ช่ือทีเ่ รยี ก : ในไทยทวั่ ไปเรียก มะกูด ภาคใต้เรียก ส้มมวั่ ผี ทางภาคอีสานเรียก มะหูด ทางภาคกลางเรยี ก สม้ มะกรดู ลักษณะ : ตน้ มะกรูด เป็นไม้ยืนต้นขนาดยอ่ ม ใบเขยี วหนา มคี อดกวิ่ ท่กี ลางใบ เป็นตอนๆ ดอกสีขาว เกสรมีสีเหลอื ง กลนิ่ หอมเล็กน้อย ผลคล้ายผล ส้มซ่า ผิวหนาเปน็ รอ่ งขรขุ ระท้งั ลูก มขี ั้วจุกสูง ตามต้นและกงิ่ มีหนาม ยาวเล็กน้อย นา้ ในลกู มรี สเปรี้ยว การเจริญเติบโต : ปลกู ไดไ้ ม่ต้องเลือกดิน มปี ลกู กันตามบา้ นเรอื กส 4.การปลูก ใชห้ น่อหรือเหง้าชอบขึ้นในดินรว่ นซุย น้าไม่ขัง ชอบแดดมาก สว่ นที่ใชเ้ ปน็ ยา ใบและกาบใบ สรรพคณุ ตน้ แก้รดิ สีดวงในปาก (คือปากแตกระแหง เป็น ยาไทย แผลในปาก) สตรีมคี รรภ์รับประทาน ทาใหแ้ ท้ง บีบรดั มดลกู ขบั ลมในลาใส้ แก้แน่น ตะไคร้หอมได้ถกู นามาใชไ้ ลแ่ มลง อย่างแพรห่ ลายนานมาแล้ว โดยละลายนา้ มนั ตะไครห้ อม 7 สว่ น ผสมใน แอลกอฮอล์ (70%) 93 สว่ น ฉดี พ่นหรอื ตาใบสดหมักในแอลกอฮอล์ใน อัตราส่วน 1:1 ทาตรงขอบประตู ที่ ปิดเปิดเสมอ หรือชุบสาลีแขวนเอาไว้หน้าประตเู ขา้ ออก หรือใช้ใบตะไครห้ อม มดั แลว้ ทุบให้ช้าวางใวต้ ามมมุ ห้องหรือใต้เตยี ง

3 5.สรรพคุณ รากแกป้ สั สวะแดง ใบแก้ท้องเสยี วนไรน่ า 6 .พันธุ์ได้ดว้ ยการเพาะเมลด็ การตอนกิง่ ก็ได้ ประโยชน์ : ใบนามาปรุงกบั อาหารดบั กลิ่นคาว นา้ ในผลใชใ้ นการยอ้ มผา้ ทานา้ ยาสระผมได้ สรรพคณุ : ราก กระทุง้ พิษ ถอดพิษสาแดง แกล้ มจุกเสยี ด แก้พิษฝภี ายใน แก้ เสมหะเป็นโทษ ลกู มะกรูดนามามกั ดองทาเป็นยาดองเปรี้ยวเค็ม รับประทานเปน็ ยา ฟอกลา้ งและบารงุ โลหติ ลูกมะกรูดนี้ถา้ เอามาเผาไฟ ก่อนเผาควา้ น เอาไสใ้ นออก แล้วเอามหาหงิ คใ์ุ สใ่ นกลางผล สมุ ไฟให้เกรยี มจนกรอบ บดเปน็ ผงละเอยี ด ละลายกบั น้าผึง้ ปา้ ยล้นิ เดก็ ที่คลอดใหม่ขบั ผายลม ดีนกั แก้ปวดท้อง ผิวของลูกมะกรูด ปรงุ เป็นยาลม ขับลมในลาไส้ ขับระดู

4 บทท่ี 3 วสั ดุอุปกรณ์ และวธิ กี ำรทดลอง ขนั้ ตอนกำรทำโครงงำนและระยะเวลำ 1. กำรปฏบิ ัติโครงงำนของเดก็ 1.1วสั ดอุ ุปกรณ์ 1. ใบตะไครต้ ัดละเอยี ด 2. แอลกอฮอล์ 95% 3. การบรู 4. โหลแก้ว 5. กล่นิ ตะไคร้หอม 6. ใบเตยหอม 7. นา้ เปลา่ 8.เกลือ 9.กรรไกร 1.2วธิ ีกำรดำเนินงำน ระยะท่ี 1 : ระยะเรม่ิ ต้นโครงงำน (ระยะเวลา 1 วัน ) เด็กและครสู นทนาประสบการณ์เดมิ จากการทดลองในกจิ กรรมอินดเิ คเตอร์ของพืช ครแู นะนาให้เดก็ ๆ ไปซักถามผ้ปู กครองวา่ ทบ่ี า้ นของนักเรียนมี ใบตะไคร้ ใบเตยหอม ให้ไปสารวจทีบ่ ้านของ นักเรยี น ครแู จง้ ข่าวสารถึงผปู้ กครองว่าเดก็ สนใจท่ีจะเรียนรู้โครงงานมหศั จรรย์อินดเิ คเตอรจ์ ากพชื ไลย่ งุ ได้หรอื และให้ผู้ปกครองช่วยเดก็ สารวจ สงั เกตบริเวรบา้ นวา่ มีใบพืชทีจ่ ะนามาทาการทดลอง และ เพอ่ื ช่วยเตรยี ม อุปกรณเ์ ก่ียวกับโครงงำนมำทโี่ รงเรียน ประสบการณเ์ ดิม เกีย่ วกับใบพืชจากการสารวจมาจากบ้านหลายชนดิ นอ้ งปงั ปอน - บ้านหนูมตี ะไคร้ดว้ ยครับ น้องแพรว่า - บ้านหนมู ใี บเตยคะ นอ้ งหนนู า - บ้านหนูมใี บตะไครค้ ะ น้องพรีม - บ้านหนไู มม่ ใี บตะไครม้ ีแตใ่ บตองคะ น้องเนย - บ้านหนมู ีใบมาะพรา้ วคะ น้องปราย - บ้านหนมู ีใบกระเพราคะ น้องดาว - บ้านหนมู ใี บตะไคร้ คำถำมท่เี ดก็ อยำกรู้เก่ียวกับนำ้ หลำยชนดิ นอ้ งแพรวา -ใบอะไรท่เี ราจะนามาทดลองคะ นอ้ งหนนู า - ถา้ เทนา้ เปล่าลงไปแช่สีจะออกไหมคะ น้องปราย - ถ้าเทแอลกกอฮอล์ ลงไปแช่สีจะออกไหมคะ น้องพรีม - ถา้ ใสเกลือลงไปจะหอมไหมคะ น้องปังปอน -ถ้าใส่การบูรลงไปจะหอมไหมครับ นอ้ งดาว -ถา้ เราใชใ้ บตะไคร้ยงุ จะกลวั ไหมคะ

5 นอ้ งเนย - ถ้าเราใช้ใบเตยหอมยงุ จะกลัวไหมคะ ระยะที่ 2 พัฒนำโครงงำน (ระยะเวลา 3 วัน) เดก็ และครูได้สนทนาถึงการท่ีพชื ทใ่ี ช้ไลย่ งุ่ ได้ เด็กคน้ ควา้ หาคาตอบผา่ นกิจกรรมที่ปฏบิ ตั ิ จากการทดลอง สารวจใบพชื ทเี่ พือ่ นนามาและ จากผู้ปกครอง การแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ เพ่ือให้เด็กไดร้ ับ ประสบการณ์ตรงมากทส่ี ุด ดงั น้ี 1. เดก็ สารวจใบพืชชนิดต่างๆทน่ี ามาจากบ้าน โดยเด็กๆ จงึ ขอมาทาการทดลอง 2. แบ่งเดก็ เปน็ กลุม่ ๆ ละ 4 คน ตัวแทนออกมาจดั อุปกรณอ์ ุปกรณ์ ได้แกก่ รรไกร ใบพืช แอลกอฮอล์ การบูร เกลือ นา้ เปลา่ โหลแก้ว 3. เด็กนาใบตะไคร้ล้างนา้ และใช้กรรไกรตัดใหล้ ะเอียดประมาณ 3 ถ้วยตวงแห้ และใบเตยหอมตัด ละเอียดประมาณ 3 ถว้ ยตวงแหง้ และนาใส่ขวดโหล แยกคนละ โหล 4. เด็กทดลองเทน้าเปล่าลงไปในขวดโหลที่ 1 โหลของใบเตยทลี่ ะ 1 ขวด ทาการกรองแยกน้าและ เน้อื ของใบเตยออกจากัน และ หลังจากนั้น นาเกลือ ใส่ ผสมในน้าใบเตยท่ีกรองแล้วคนให้ละลาย และกอ่ น การทดลองทกุ ครั้งครูใชค้ าถามกระตุ้นและให้เด็กเกิดทักษะการสังเกต ทักษะสารวจถงึ ส่ิงที่ใส่ลงไปและ การ ละลายหายไปและ การได้สัมผัสกล่นิ สีของอนิ ดิเคเตอร์ 5. เด็กทดลองเทแอลกอฮอล์ 1 ขวด ลงไปในที่ 2 โหลใบตะไคร้ ท่ลี ะ 1 ขวด ทาการกรองแยกน้า และเนอื้ ใบตะไคร้ออกจากกนั และหลงั จากนนั้ นาการบูร ใสผ่ สมในนา้ ใบตะไครท้ ี่กรองแล้วคนใหล้ ะลายและ ก่อนทาการทดลองทุกครั้งครูใช้คาถามกระตุ้นและให้เด็กเกิดทักษะการสงั เกต ทักษะการสารวจ ถึงสงิ่ ที่ใส่ลง ไป และการละลายหายไป และได้การสัมผัสกลน่ิ สขี องอินดเิ คเตอร์ให้เด็กคาดเดาการเปล่ยี นแปลงของอินดิเค เตอร์หรือสขี องใบพืชสองชนิดและโหลที่ 1 และโหลที่ 2 น้ี จะเป็นสอี ะไรลกั ษณะมีกลิ่นต่างกันไหมให้เดก็ ๆ ไดเ้ ปรยี บเทยี บ 6. เด็กวาดภาพสรุปผลการทดลองทุกครัง้ และถา่ ยภาพบันทึกผลการทดลอง ระยะท่ี 3 สรุปโครงงำน (ระยะเวลำ 1 วนั ) 1. เด็กแตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกนั นาเสนอผลงาน โดยเลา่ วิธีการทดลองของแต่ละกลมุ่ 2. เดก็ และครรู ว่ มกนั สรปุ กจิ กรรม และสนทนาแลกเปลยี่ นความรใู้ หมน่ าเสนอหนา้ ชน้ั เรียนทุกกลมุ่ 3. เดก็ และครูสรุปโครงงานมหัศจรรย์อนิ ดเิ คเตอร์ 4. ครูนาผลการทดลองทาตารางเปรียบเทียบ 2. กำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้แสดงถึงกำรปฏิบตั จิ รงิ ของเดก็ ปฐมวัยและกำรมีส่วนร่วมชองผู้ปกครอง 2.1 จัดประชมุ เพ่อื ปรกึ ษาหารอื ระหวา่ งคณะผ้ปู กครองกบั คณุ ครูเกยี่ วกบั กิจกรรมโครงงานมหศั จรรย์ อินดเิ คเตอร์จากพชื ไล่ยงุ ไดจริงหรือเพ่ือชีแ้ จงรายละเอียดและกาหนดการในการจดั กิจกรรม 2.2 ในวันทากิจกรรม ได้เรียนเชญิ ผปู้ กครองใหเ้ ข้ามามสี ่วนร่วมในการทากิจกรรมกับนักเรียน เพอ่ื เสรมิ สร้างความสมั พันธ์ให้ใกล้ชิดกนั มากยิ่งข้ึน 3.ระยะเวลำในกำรดำเนินงำนรวม 5 วัน ตัง้ แต่วันที่ 2 - 6 พฤศจิกำยน 2563

6 บทท่ี 4 ผลกำรดำเนินงำน ขัน้ ตอนกำรดำเนินงำน ระยะที่ 1 ขน้ั ตอนกำรสำรวจใบสมุนไพรจำกทบ่ี ำ้ นและนำมำทำกำรทดลอง

7 ขน้ั ดำเนนิ งำน ระยะท่ี 2 ข้ันตอนพัฒนำโครงงำน ข้นั ตอนท่ี 1 เตรียมส่วนผสมและขนั้ ตอนกำรดั แบ่งอุปกรณ์และเด็กๆนำไปล้ำงและใช้กรรไกรตัด โดยผ้ปู กครองมีส่วนร่วมในกำรทำโครงงำนนีด้ ้วย ปฏิบัตกิ ำรทดลองข้นั ตอนกำรตัดใบพืชทใี่ ช้ไล่ยุง เด็ก ๆ ชว่ ยกนั ตดั ใบตะไคร้

8 เดก็ ๆ รว่ มกนั ทำกำรทดลอง เดก็ มสี ่วนรว่ มในการทดลอง เด็กร่วมทาการทดลองโดยลงมือปฏบิ ัติจรงิ

9 เด็กๆสงั เกตการทดลอง

10 เดก็ ๆรว่ มสังเกตและสารวจกลิ่น เด็กร่วมกนั สารวจใบพืช

11 เด็กๆทำกำรสังเกตสีจำกใบพืชจำกกำรทดลองชุดที 1 และชดุ ที่ 2 เดก็ ๆร่วมทำกำรทดลองและเร่งสี เด็กรว่ มกันสงั เกต

12 เด็กทำกำรสงั เกต เด็กๆทำกำรทดลองชุดท่ี1

13 ทำกำรกรองนำ้ และเนื้อออกจำกกัน เด็ก ๆ ทำกำรทดลอง เดก็ ดำเนินกำรทดลองขั้นผสมส่วนผสมของกำรทดลองชุดท่ี1 เดก็ รว่ มกนั สังเกตกำรณใ์ สก่ ำรบรู และกำรคนให้ละลำยเข้ำกันของกำรทดลองชดุ ท่ี 1

14 ทำกำรทดลอง เด็กร่วมกนั บรรจชุ ุดที่ 2 เดก็ ๆชว่ ยกนั บรรจลุ งขวดและสงั เกตและเปรยี บเทียบการทดลอง

15 รปู ภำพสรุปผลกำรทำกำรทดลอง ภำพอนิ ดิเคเตอร์ไล่ยงุ ได้ชุดท่ี 1 เดก็ ๆ สงั เกตกำรทดลองและเปรียบเทียบจำกผลกำรทดลอง

16 ภำพอดิ ิเคเตอร์ไล่ยุงไม่ได้ชดุ ที่ 2 เด็กๆสังเกตเปรียเทยี บอินดเิ คเตอรท์ งั้ สองชุด

17 ผลกำรทดลอง ชนดิ ของนา้ ชนดิ ใบพืช ชนดิ ของสาร สมมตุ ิฐาน ผลการทดลอง ตรง ไม่ตรง 1.น้า ใบตะไคร้ ใบเตย เกลอื อินดิเคเตอร์จากใบ มสี ีและกลนิ่ ไล่ยุงไดด้ ี  แอลกอฮอล์ ใบตะไคร้ 95 ตะไครผ้ สมกับ ใบเตย 2.น้าเปล่า แอลกอฮอลแ์ ละเกลอื 3.น้า จะมีกลน่ิ ไล่ยงุ ได้ แอลกอฮอล์ การบรู อนิ ดเิ คเตอรจ์ าก มสี แี ละมีกลน่ิ  95 ใบเตยผสมกับนา้ และ ไล่ยุงไดด้ ี 4.น้าเปล่า การบรู จะมีกล่นิ ไล่ยงุ ได้ การบูร อนิ ดเิ คเตอร์จากใบ มสี แี ละมีกลน่ิ  ตะไคร้ผสม ที่ไลย่ ุงไดด้ ีมาก แอลกอฮอลแ์ ละ การบรู จะมีสีและมี กลน่ิ ไล่ยงุ ได้ เกลอื อนิ ดิเคเตอรจ์ าก มีสีกลิน่ ท่ี  ใบเตยผสมน้าเปลา่ ไม่สมารถไล่ยงุ ได้ และเกลือไม่สมารถไล่ ยงุ ได้ สรุปผลกำรทดลอง จากการทดลอง เรื่อง มหัศจรรย์อินดเิ คเตอรจ์ ากพืชสมารถไลย่ ุงไดจ้ รงิ หรือ ไดน้ าใบพชื สองชนดิ ที่ นามาทาการทดลองจากการสารวจว่าเป็นใบพชื ทีบ่ ้านนกั เรียนมกี ันในเกือบทกุ บ้านของนักเรยี นไดแ้ ก่ ใบ ตะไครแ้ ตใ่ บตะไคร้จะมกี ันทกุ บา้ นมากกว่า และ และส่วนใบเตยไม่ค่อยมี หลักฐานทางวิทยาศาสตรใ์ บตะไคร้มี ฤทธไิ์ ล่ยุงและไล่แมลงเมื่อทดสอบกบั ยงุ กน้ ปล่อง โดยมรี ะยะเวลาในการป้องกัน นาน 2 ชม.ส่วนการผสม การบรู ก้อนหอม (Karaboon)คณุ สมบัติ ไล่มด ไลแ่ มลง เพิ่มความสดชื่นดว้ ยความหอมเย็นของการบูร ดัง้ นน้ั จากผลการทดลองของโครงงานนี้ผลสรุปวา่ อดิ ิเคเตอร์จากใบตะไครผ้ สมการบูรกอ้ นจะฤทธไิ์ ล่ยงุ ได้ดี ส่วนสาหรบั \"ใเตยหอม\" น้ัน ทกุ คนน่าจะรู้จักกันดีใช่ไหมล่ะจะ๊ โดยเฉพาะ \"ใบเตย\" ที่มักถกู นามาผสมใน อาหาร เพื่อให้อาหารมีกล่นิ หอมน่ารับประทาน แถมยังช่วยแตง่ สีเขยี วให้กับขนมไทยด้วย ซ่ึงคนทวั่ ไปอาจจะรู้ ว่าประโยชน์ของ \"เตยหอม\" มเี พยี งเทา่ น้ี แตจ่ รงิ ๆ แล้ว นอกจาก \"เตยหอม\" จะมดี ีทคี่ วามหอมจึงไม่มีฤทธิใ์ น การไล่ยงุ ส่วนผสมของเกลอื ก็มีเกลือเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารทุกชนิด แต่หลายคนมกั จะรจู้ กั

18 สรรพคุณของเกลือ เฉพาะความเคม็ เท่านั้น สรปุ ผลการทดลองไดว้ า่ อิดเิ คตอร์จากใบเตยผสมกับก้อนเกลือมิ สมารถไลย่ งุ ได้

19 บทที่ 5 สรปุ ผลกำรดำเนินงำน /อภิปรำยผลกำรดำเนนิ งำน สรปุ สิ่งที่ไดเ้ รยี นรตู้ ำมวตั ถปุ ระสงค์ของกำรทำโครงงำน 1. เดก็ ๆได้เรยี นรทู้ ักษะการสงั เกตเรียนร้ธู รรมชาติรอบตัว 2. เด็ก ๆ ได้ฝกึ ทักษะการใช้ประสาทสมั ผสั ในการดม มอง ในการทดลอง 3. เดก็ ได้ร่วมกนั ทาการทดลอง และทางานรว่ มกบั ผู้อื่นได้ 4. เด็ก ๆ ได้เรยี นรอู้ ย่างสนุกสนานกบั พชื สมนุ ไพลใกลต้ วั ประเมินกำรปฏิบัตกิ จิ กรรม เกณฑ์กำรให้คะแนน ดี = 3 ปำนกลำง = 2 พอใช้ = 1 หวั ข้อในกำรประเมิน ท่ี รำยชื่อนกั เรยี น กำรต้ังปัญหำ หมำยเหตุ เต ีรยม ุอปกรณ์ กำรทดลอง กำรสังเกตและ ับนทึกผล กำรส ุรปผล ควำมร่วม ืมอ/ควำมเอำใจใ ่ส 1. ด.ช.ภคพงษ์ ไทยเจรญิ 2 2 3333 2. ด.ช.จริ พนั ธ์ ทินกานนท์ 2 3 2233 3. ด.ช.ปราณนต์ เจรญิ สุข 2 3 3323 4. ด.ญ.บัณฑติ า จงดี 3 3 2333 5. ด.ญ.พชิ ญาพชั ญ์ แตรสวสั ด์ิ 3 3 3233 6. ด.ญ.ชญั ญา ลากูล 3 2 3323 7. ด.ญ.ลาภนิ ี มณฑาประเสรฐิ 3 3 3333

20 สรุปประโยชน์ท่เี ดก็ ได้รับจำกกำรเรยี นรดู้ ว้ ยโครงงำนเดก็ มีพฒั นำกำรและทักษะท่พี ัฒนำขึน้ ดงั ต่อไปนี้ 1. พัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย 1.1 ทักษะที่พฒั นาขนึ้ การใช้กลา้ มเนอื้ มัดเล็ก 1.2 การพัฒนากลา้ มเน้ือมดั ใหญ่ให้มคี วามสัมพันธก์ ันอยา่ งดีในการเคล่ือนไหว 1.2 พัฒนากล้ามเน้อื มือและตา 1.3 ร่างกายแขง็ แรงและสมบูรณ์ 2. พฒั นำกำรด้ำนอำรมณ์ จติ ใจ 2.1 สนองความต้องการธรรมชาติ ความสนใจ และความพอใจของเดก็ 2.2 กลา้ แสดงออก กลา้ แสดงความคิดเห็น 2.3 มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมตา่ ง ๆ อย่างมีความสุข ละเกดิ การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง 2.4 มคี วามสนุกสนาน 3. พัฒนำกำรดำ้ นสังคม 3.1 มีความเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่ ชว่ ยเหลอื และแบง่ ปนั มีความอดทน 3.2 มีความรบั ผดิ ชอบ 3.3 ปรบั ตวั เองได้ ยอมรับความคิดเหน็ ข้อตกลงของกล่มุ และอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้ อย่างมีความสขุ 4. พฒั นำกำรด้ำนสตปิ ญั ญำ 4.1 ความคดิ สรา้ งสรรค์และจนิ ตนาการ 4.2 ฝึกทักษะการสังเกต เปรียบเทียบ แยกแยะ คาดคะเน 4.3 ฝกึ การคดิ และการแก้ปัญหาได้เหมาะสมกบั วัย 4.4 เกิดความสนใจและเขา้ ใจธรรมชาติรอบ ๆ ตวั 4.5 เรยี นรแู้ ละรบั รเู้ กี่ยวกบั พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ 4.6 พฒั นาภาษา เลา่ หรอื พูด เรือ่ งราวเกี่ยวกบั สิ่งต่างๆ รอบตวั และเรื่องราวเกยี่ วกับตนเอง ให้ผ้อู ่ืนรบั รไู้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม 4.7 ฝึกการรจู้ กั วางแผนและตดั สินใจ ข้อเสนอแนะในกำรทำโครงงำน ในการทาการทดลองในครัง้ ต่อไปควรหาพืชชนดิ อ่ืนสีอน่ื มาทาการทดลองเรื่องอดิ เิ คเตอร์จากพืช เพื่อเป็นการพฒั นาและต่อยอดโครงงาน

21 ภำคผนวก

22 ภำพส่วนผสมลุอปุ กรณ์ในกำรทดลอง ขวดบรรจุ

ภำพกำรทดลองระยะที 1 ระยะกำรสำรวจใบพชื จำกบ้ำน 23 นอ้ พรมี น้องปังปอน นอ้ งหนนู า น้องดาว ใบตอง น้องแพรวา นอ้ งเนย น้องปราย สรุปสมาชกิ ในหอ้ งมีมาก ใบกระเพรา ทส่ี ดุ คอื

24 ภาพบนั ทึกผลการทดลองระยะที 2 ใบเตย ครั้งท่ี1 ใบตะไคร้ น้าเปลา่ น้าเปลา่ ผลปรากฏไม่มีสีออก ผลปรากฏไม่มสี ีออก

25 ภำพบนั ทกึ ผลกำรทดลองระยะที่ 2 คร้ังที่ 2 การทดลองชดุ ที่ 1 การทดลองชุดท่ี 2 ใบตะไคร้ ใบเตย น้าแอลกอฮอล์ นา้ แอลกอฮอล์ ผลปรากฏมีสีออก ผลปรากฏมสี อี อก

26 ระยะท่ี 3 ผลสรปุ โดยกำรสังเกต ชดุ ท่ี 1 ผลการสกดั จากใบพชื ผลที่ทาการ ผสมจากอินดเิ ค เตอร์จากพชื ใบตะไคร้ นา้ แอลกอฮอล์ การบูร ผลสงั เกตจากเด็กและผูป้ กครองและคุณครทู า ,, การทดลองฉดี ไลย่ งุ จากอดิ ิเคเตอรจ์ ากใบพืช ปรากฏว่ายุงหนี้ในการทดลองชุดที่ 1 ,

27 ระยะที่ 3 ผลสรปุ โดยกำรสงั เกตชุดท่ี 2 ผลการสกัดจากใบพืช ผลทีท่ าการ ผสมจากอินดิเค เตอรจ์ ากพืช ผลสงั เกตจากเด็กและผปู้ กครองและคุณครทู า ,,,,,, การทดลองฉีดไล่ยุงจากอิดเิ คเตอรจ์ ากใบพืช ,,,,,,,,, ,,,,,, ปรากฏว่ายุงไม่หน้ใี นการทดลองชุดท่ี 2 ,,,,, ,,, ,,,,,, ,,,, ,, ,,, ,,, ,,,, ,,,,, ,,,, ,,,, ,,,,, .,,,, ,,,,, ,,,,,, ,,,,,,

28 ภาคผนวก

ข้อมูลผูจ้ ัดทำ อนุบาล ชัน้ ปที ี่ ๒ – ๓ สถำนศึกษำ โรงเรยี นวัดเขาดนิ สังกัด สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาฉะเชิงเทรา เขต ๑ ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๓