Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ วัคซีนความรู้ กศน.สู้โรคโควิด 19

คู่มือ วัคซีนความรู้ กศน.สู้โรคโควิด 19

Description: คู่มือ วัคซีนความรู้ กศน.สู้โรคโควิด 19

Search

Read the Text Version

42 แบบประเมินความรู้ตอนที่ 3 คาช้แี จง : ทาเครอ่ื งหมาย  (ถูก) หนา้ ข้อท่ีมีเน้อื หาถกู ต้อง และทาเครอื่ งหมาย  (ผดิ ) หนา้ ขอ้ ที่มีเนอ้ื หาไม่ถูกตอ้ ง 1. แอปพลิเคชนั่ ใกล้มอื หมอ ใช้ในการวนิ ิจฉัยโรคเบอื้ งต้น ของโรคโควิด 19 2. สอบถามขอ้ สงสัย ขอคาแนะนา ความชว่ ยเหลือเรือ่ งโรคโควดิ 19 ที่สายดว่ น 1422 3. ใหค้ าปรึกษาเร่อื งการปฏิบัตติ วั ระหวา่ งรอเตยี งทสี่ ายด่วน 1668 4. เหด็ หอมเปน็ สมนุ ไพรท่มี ีฤทธิก์ ระตุ้นภมู ิคมุ้ กัน 5. มะขามปอ้ มมสี ารสาคัญที่มีศักยภาพในการป้องกนั ไม่ให้ไวรสั เข้าเซลล์ 6. ดอกขเ้ี หล็กเป็นสมุนไพรทม่ี วี ิตามนิ ซแี ละสารต้านอนุมลู อสิ ระสูง 7. ขา่ วที่มาจากส่ือสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุก๊ ไลน์ มคี วามน่าเช่อื ถือสูง 8. การตรวจสอบว่าข่าวไหนจรงิ หรือปลอมสามารถตรวจสอบได้ ศนู ย์ตอ่ ต้านขา่ วปลอม แหง่ ประเทศไทย 9. ข่าวท่มี กี ารใช้ภาพนักแสดงทม่ี ีช่ือเสียงเปน็ ข่าวจริงเสมอ 10. การตดิ ตามขอ้ มลู โรคโควดิ 19 ควรตดิ ตามการรายงานจาก ศบค. เฉลยแบบประเมนิ ความรูต้ อนที่ 3 ขอ้ 1  ข้อ 2  ขอ้ 3  ขอ้ 4  ข้อ 5  ข้อ 6  ข้อ 7  ข้อ 8  ข้อ 9  ขอ้ 10 



44

45

46

47

48

49

50

51

52

53

ตอนที่ 5 การปฏิบัติตนเม่ือเริ่มเปน็ กลุ่มเสย่ี ง 5.1 ลักษณะของกลุม่ เสี่ยง สาหรบั กระทรวงสาธารณสุข (2564) ได้เสนอลกั ษณะ ของกลุ่มเสี่ยงไวว้ า่ มีประวตั ิเดนิ ทางไปในพน้ื ที่ ทม่ี กี ารระบาด เคยติดตอ่ สัมผัส กับผ้ตู ดิ เชือ้ และมีอาการป่วย มีไข้อณุ หภมู ิ ต้งั แต่ 37.5 องศาเซลเซียส ข้ึนไป ไอ มนี า้ มกู เจบ็ คอ จมกู ไม่ได้กลิน่ ล้ินไมร่ ับรส หายใจเร็ว หายใจเหนอื่ ย หรอื หายใจลาบาก

55 ประเภทของกลุ่มเสีย่ ง ซ่งึ กระทรวงสาธารณสุข (2564) แบ่งออกเปน็ 3 กลมุ่ คือ กกลลุ่มุ่มผผ้มู ู้มี ี กกลล่มุ มุ่ผผ้มู ้มูี ี กกลลุ่ม่มุผผู้มมู้ี ี คคววาามมเสเส่ยี ี่ยงสงสงู ูง คคววาามมเสเสีย่ ่ียงตงตา่ ่า คคววาามมเสเสีย่ ย่ีงง ตต่าา่มมาากก - ผูท้ ่ีสัมผสั ผู้ตดิ เชอื้ - ผูท้ ี่สมั ผสั - ผทู้ ่ีสมั ผัส ในพ้ืนทอ่ี ากาศ หรอื ใกลช้ ดิ กับ หรือใกลช้ ิดกับ ไม่ถา่ ยเท ผู้ทม่ี คี วามเสย่ี งสงู ผู้ทีม่ ีความเสยี่ งตา่ - อยูห่ ่างผตู้ ิดเชอื้ ไม่เกิน 1 เมตร นานกวา่ 15 นาที โดยไม่มกี ารปอ้ งกัน - พดู คุยกันในระยะ 1 เมตร นานกว่า 5 นาที - ผทู้ ไี่ อ จาม ใส่กัน โดยไมม่ ีการป้องกัน

56 5.2 การประเมนิ ตนเองและการขอรบั บริการการตรวจ 5.2.1 การประเมนิ ตนเอง หากท่านได้เดินทางไปในท่ีเสยี่ ง มคี วามวติ กกงั วลใจ วา่ จะตดิ โรคโควิด 19 ทา่ นสามารถทาแบบทดสอบ เพ่อื การประเมินความเสีย่ งของตนเอง จากหน่วยงานภาครัฐ ดว้ ย QR Code ดงั ต่อไปน้ี ชุดทดสอบความเสี่ยงดว้ ยตนเอง จดั ทาโดยกรมควบคมุ โรค แบบคดั กรองความกังวลต่อไวรัส แบบประเมนิ ความเส่ียง COVID-19 กรมสุขภาพจิต ก่อนมาโรงพยาบาล ต่อการตดิ เชอื้ โควดิ 19 แบบคัดกรองตนเอง สาหรบั ผสู้ งสัย โรคไวรสั โคโรนา (COVID-19) จดั ทาโดยโรงพยาบาลราชวิถี (Self-Screening) และกรมการแพทย์ จัดทาโดยคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ ระบบ BKK COVID-19 จดั ทาโดยกรงุ เทพมหานคร

57 5.2.2 การขอรบั บริการตรวจหาเช้อื โรคโควดิ 19 ทา่ นสามารถเขา้ รบั การตรวจคดั กรอง โรคโควดิ 19 ไดท้ ี่โรงพยาบาลท้ังของรัฐ และเอกชน และขอรับการตรวจ จากรถตรวจโรคโควิด 19 เคล่ือนที่ 1 นดั หมายผู้ให้บริการตรวจเช้อื ลว่ งหน้า 2 ทาแบบสอบถามคดั กรอง 3 ทาการตรวจ Swab จมกู 4 แช่ก้าน Swab ให้ตัวอยา่ งซมึ เข้ากา้ น 5 ผู้ใหบ้ รกิ ารจดั เก็บตัวอย่างเชอ้ื 6 ผู้ใหบ้ รกิ ารนาเชอ้ื ไปตรวจ 7 รอรบั ผล

58 5.3 การเข้ารับการรกั ษาเมื่อตดิ เชือ้ โรคโควดิ 19 จำกสถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดของโรคโควดิ 19 ในประเทศไทย ซึ่งพบยอดผู้ทีต่ ดิ เชอื้ เป็นจำนวนมำก เม่อื ผลตรวจออกมำเปน็ ผลบวกนนั้ หมำยถงึ ไดร้ ับเช้ือโรคโควิด 19 ผู้ปว่ ยต้องเขำ้ รบั กำรรกั ษำในโรงพยำบำลทนั ที ข้ันตอนกำรเขำ้ รับกำรรักษำโรคโควิด 19 เม่ือพบผู้ป่วยที่ติดเช้ือ เจ้ำหน้ำท่ีจะนำรถพยำบำลมำ รับตัวเพ่ื อนำผู้ป่วยไปรักษำ ณ โรงพยำบำลที่รองรับ ผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด 19 ซ่ึงมีท้ังโรงพยำบำลของ รัฐและเอกชน วธิ กี ำรรักษำเม่อื ติดเช้ือโรคโควิด 19 แพทย์จะส่งผู้ป่วยไปพักในห้องแยกโรคเดีย่ ว หรือหอ้ งเฉพำะ เพื่อประเมนิ อำกำรและรกั ษำตำมอำกำร และได้รบั ยำต้ำนไวรสั ในปริมำณที่เหมำะสม ถ้ำมอี ำกำรหนกั ข้ึน จะถกู ยำ้ ยไปยงั หอ้ งแยกผปู้ ว่ ยแพร่เชอ้ื ทำงอำกำศ (ALLR) และมีแพทยค์ อยดูแลอยำ่ งใกล้ชิด และรักษำตำมอำกำร เมอ่ื ผปู้ ่วยอำกำรดขี ึน้ จะมกี ำรตรวจหำเช้อื โรคโควิด 19 จำนวน 2 คร้ัง หำกผลตรวจออกมำเปน็ ลบ (ไม่พบเชื้อโรคโควดิ 19) กส็ ำมำรถออกจำก โรงพยำบำลได้ กำรจำหนำ่ ยผปู้ ่วยออกจำกโรงพยำบำล เปน็ ผปู้ ่วยท่พี ้นระยะแพร่เช้ือแลว้ ไมจ่ ำเป็นต้องแยกตัว หรือกกั ตัว แตใ่ ห้คงกำร ปฏิบตั ติ ำมมำตรกำรปอ้ งกัน กำรปฏบิ ัตติ นเมอ่ื ออกจำกโรงพยำบำล ไม่จำเปน็ ต้องกักตัว แตต่ อ้ งปฏบิ ัติตำมมำตรกำรปอ้ งกนั ไมใ่ ชอ้ ุปกรณ์รับประทำนอำหำร และแก้วน้ำร่วมกบั ผู้อ่นื ด่ืมนำ้ สะอำดใหเ้ พียงพอ รับประทำนอำหำรทสี่ ุก สะอำด และมปี ระโยชน์ ครบถ้วนตำมหลักโภชนำกำร หำกมอี ำกำรป่วยเกิดข้ึนใหม่ ใหต้ ิดต่อสถำนพยำบำลทันที หำกตอ้ งเดินทำง มำสถำนพยำบำล แนะนำใหส้ วมหนำ้ กำกอนำมัยระหวำ่ งเดนิ ทำงตลอดเวลำ

59 5.4 การเตรยี มตวั เมือ่ จะเข้ารับการรกั ษา ในสถานพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนาม ”วธิ ีเตรยี มตัว” กรมควบคมุ โรค กระทรวงสำธำรณสขุ แนะนำวำ่ เม่อื ทรำบผลว่ำติดเชอ้ื โรคโควดิ 19 ควรตงั้ สตแิ ละปฏิบตั ิ ดงั น้ี เตรยี มเอกสำรสำคญั โทร 1330, 1668, 1669 เช่น บัตรประชำชน เพ่ือแจง้ เรอื่ ง เอกสำรยนื ยนั ผลตรวจ เข้ำรับกำรรกั ษำ และเอกสำรสำคญั ตำ่ ง ๆ และเบอร์โทรของตนเอง หำกมีอำกำรไข้ งดออกจำกทพ่ี ัก ให้รับประทำน หรอื เดินทำงข้ำมจังหวัด ยำพำรำเซตำมอล ฝำ่ ฝืนมโี ทษผิด พ.ร.บ. และเช็ดตัวเพื่ อลดไข้ โรคตดิ ต่อ พ.ศ.2558 สวมใสห่ น้ำกำกอนำมัยตลอดเวลำ เตรียมส่ิงของ ท่จี ำเป็นให้พรอ้ ม ก่อนไปโรงพยำบำลสนำม

60 คาแนะนา เมื่อเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลสนาม เนือ่ งจากสถานการณร์ ะบาดทาให้มีผูต้ ดิ เชอื้ โรคโควิด 19 จานวนมากสง่ ผลใหพ้ นื้ ท่ีรกั ษามีจากดั เมือ่ ได้รบั การติดต่อให้เข้ารับ การรักษาทโ่ี รงพยาบาลสนาม ผู้ปว่ ยท่ีเดนิ ทางไปเขา้ รับการรกั ษา ไมค่ วรนาส่ิงของตดิ ตัวไปเกินจาเปน็ โดยส่ิงที่ควรนาตดิ ตัวไป ได้แก่ เอกสำรสำคญั บัตรประชำชน หรือ ผลตรวจโรคโควดิ 19 บตั รประกนั ชีวติ บตั รที่ทำงรำชกำรออกให้ ประกนั สุขภำพ (ถำ้ มี) ของใชท้ ่จี ำเป็น โทรศัพทม์ ือถอื เส้ือผ้ำ ของใชส้ ว่ นตัว เงนิ สดเทำ่ ทีจ่ ำเป็น ยำรักษำโรค (ถำ้ มี) หนำ้ กำกอนำมยั เจลล้ำงมือ ถงุ ผำ้ อเนกประสงค์ สำหรับผู้ป่วยท่ีมีโรคประจำตัว เตรียมบัตรนัดท่ีระบุชื่อแพทย์ในโรงพยำบำล ที่รักษำเป็นประจำ เน่ืองจำกหำกเกิดกรณีฉุกเฉิน เกิดภำวะแทรกซ้อนเม่ือเข้ำรับ กำรรักษำ แพทยเ์ จ้ำของไข้จะไดป้ รึกษำเพื่อหำแนวทำงกำรรกั ษำทีเ่ หมำะสมตอ่ ไป

61 รายการอ้างอิง ขัน้ ตอนการตรวจโควิด. สบื ค้นเม่ือ 2 พฤษภาคม 2564. จาก https://hdmall.co.th/c/procedure-covid-test ขอ้ มูลกลุม่ เส่ยี งไหน ตรวจโรคโควดิ 19. สืบคน้ เมอ่ื 6 พฤษภาคม 2564. จาก https://www.hfocus.org/content/2021/04/21366 เตรยี มตัวอย่างไรหากตดิ โควดิ -19 ต้องรกั ษาตวั ในโรงพยาบาลสนาม หรอื Hospitel. สืบค้นเมื่อ 2 พฤษภาคม 2564. จาก https://www.prachachat.net/d-life/news-658600 ประเมนิ ระดบั ความเสย่ี งตวั เอง ปอ้ งกันโรคโควดิ 19. สบื คน้ เม่ือ 6 พฤษภาคม 2564. จาก https://www.thaihealth.or.th/Content/ 54428-แนะประเมินระดบั ความเส่ยี งตวั เอง%20ป้องกนั โควดิ -19.html เปิด 8 ขัน้ ตอน หากทราบผลตรวจ ตดิ โควิด-19. สบื ค้นเมือ่ 6 พฤษภาคม 2564. จาก https://www.thansettakij.com/content/covid_19/476640 เรอื่ งควรรูห้ ลังตดิ ‘โควดิ -19’ เตรยี มตัวไป ‘โรงพยาบาลสนาม’ ยงั ไง. สืบคน้ เมื่อ 6 พฤษภาคม 2564. จาก https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/932794

62 แบบประเมินความรู้ตอนท่ี 5 คาชแี้ จง : ทาเครือ่ งหมาย ✓(ถกู ) หนา้ ข้อทีม่ เี น้ือหาถกู ตอ้ ง และทาเครือ่ งหมาย  (ผดิ ) หน้าข้อทีม่ เี นอ้ื หาไม่ถูกต้อง ............... 1. ชาลสี ัมผัสผตู้ ดิ เช้อื โรคโควดิ 19 โดยไดพ้ บปะกนั ในพื้นที่ อากาศไมถ่ า่ ยเท เปน็ กลุม่ ผมู้ คี วามเสย่ี งสูง ............... 2. บัตรประชาชน เป็นเอกสารสาคัญสาหรับผู้ตดิ เชอ้ื โรคโควดิ 19 เมอ่ื เข้ารบั การรกั ษาทีโ่ รงพยาบาล ............... 3. เม่อื ทราบผลการตรวจวา่ ตดิ เช้อื โรคโควิด 19 ให้ผปู้ ว่ ยเดนิ ทาง ไปโรงพยาบาลทนั ที ............... 4. ผู้ปว่ ยได้รบั การรักษาโรคโควดิ 19 หายแลว้ บุคคลน้ัน ไมจ่ าเป็นตอ้ งใส่หน้ากากอนามยั ............... 5. ผทู้ ่มี ีความเสีย่ งต่า คอื ผูท้ ่ไี ดส้ มั ผัสหรือใกล้ชดิ กบั ผู้มีความเสยี่ งสงู

63 เฉลยแบบประเมินความรู้ตอนที่ 5 ขอ้ ที่ 1 ข้อที่ 2 ขอ้ ท่ี 3 ขอ้ ที่ 4 ข้อที่ 5 ✓✓ ✓

6.1 การปรับเปล่ียนวถิ ีการทำงาน ส่ิงแรกที่ประชาชนต้องปรับเปล่ียนวิถีทำงานคือ เน้ น วิ นั ย ข อ ง ต น เอ ง ก่ อ น ท่ี ส ำ คั ญ คื อ ก า ร ป รั บ เป ลี่ ย น ทำงานที่บ้าน (Work from Home) และทักษะที่จำเป็น ในการปรับเปลี่ยนวิถีการทำงาน 6.1.1 วธิ ีการทำงานที่บ้าน (Work from Home) มีข้อเสนอจาก บริษทั ทีโอที จำกัด (17 เมษายน 2563) คือ 1) การสร้างบรรยากาศการทำงานใหส้ มจรงิ 2) การวางแผนสำคัญเสมอ 3) การตดิ ต่อสอ่ื สารจำเปน็ มาก 4) การพักผอ่ นช่วยไดเ้ สมอ 5) การหาความรเู้ พ่มิ เตมิ ในเวลาวา่ ง

65 6.1.2 ทกั ษะทจี่ ำเป็นในการปรับเปลย่ี นวิถี การทำงาน การปรับเปล่ียนวิถีการทำงานต้องมีทักษะ ท่ี จ ำ เป็ น กั บ ก า ร ป รั บ ตั ว ท ำ ง า น ให้ ต่ อ สู้ แ ล ะ ป้ อ ง กั น โรคโควิด 19 รวมท้ังหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซ่ึงธนชาติ นุ่มนน ท์ ได้เสนอสาระทั กษ ะท่ี จำเป็ น ไว้ในบทความ“9 ทักษะที่จำเป็นในโลกหลังโควิด” ไว้ใน หนงั สือพิมพ์กรงุ เทพธรุ กิจ (22 สงิ หาคม 2563) ความว่า 1) ต้องปรับตวั ได้และมีความยดื หยุ่น ท้ังน้ี รูป แบ บ การท ำงาน จะเป ลี่ ยน แป ลงจากเดิม การทำงานสายอาชีพตลอดชีวิตจะมีน้อยลง ดังนั้นคนทำงาน ต้องพร้อมเปลย่ี นแปลงตัวเองตลอดเวลา

66 2) ต้องเข้าใจเทคโนโลยี วิกฤตโรคโควิด 19 เป็นตัวเร่งทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ทำดิจิทัล (Digital) ทรานส์ฟอร์มเมชั่น (Transformation) และอาจตอ้ งนำเทคโนโลยี ดิจิทัลอย่าง เอไอ (AI) บิ๊กดาต้า (Big Data) หรืออินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (Internet of Things) มาใช้งาน ดังน้ันคนทำงานไมว่ ่าอยตู่ ำแหน่งใดจำเป็น จะต้องเข้าใจและทำงานโดยใชเ้ ทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างคล่องแคล่ว 3) ต้องมีความสรา้ งสรรค์และมนี วัตกรรม เทคโนโลยีและนวัตกรรมจะมีบทบาทในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างกว้างขวาง คนทำงานต้องมีความคิดสร้างสรรค์ร่วมกันผลิตรูปแบบสินค้า หรือบริการใหม่ ๆ ท่ีตรงกับความต้องการในช่วงหลังการแพร่ระบาดของ โรคโควดิ 19

67 4) ต้องมที ักษะใช้ข้อมลู ยุคอุตสาหกรรม 4.0 องค์กรที่มีข้อมูลและสามารถนำข้อมูล มาใช้วิเคราะห์ หรือคาดการณ์เร่ืองต่าง ๆ เช่น ความต้องการลูกค้า ความต้องการของตลาด เป็นต้น จะทำให้สามารถแข่งขันได้ คนทำงาน จำเป็นต้องรจู้ ักวธิ ีใช้ขอ้ มลู และเนน้ สร้างวัฒนธรรมการใชข้ อ้ มูลในองค์กร 5) ต้องคดิ เชิงวิเคราะหไ์ ด้ โลกดิจิทัล ทำให้มีข้อมูลไหลเข้ามากมาย รวมถึงข้อมูล จาก โซเชียลมีเดีย (Social Media) คนทำงานจำเป็นต้องมีความสามารถ วิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ ท่ีอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ตได้ และเลอื กข้อมูลท่ีมปี ระโยชนม์ าใชใ้ นการทำงาน

68 6) ต้องมีทกั ษะเชิงดิจทิ ัลและการเขยี นโปรแกรม การทำดิจิทลั ทรานส์ฟอร์เมชน่ั ขององคก์ รจำเป็นตอ้ งมีบุคลากรที่ มีทักษะการใช้งานเทคโนโลยีที่ดี ซึ่งอาจรวมไปถึงการเขียนโปรแกรม การทำเว็บไซต์ หรือแมแ้ ต่การทำงานการตลาดออนไลน์ 7) ต้องมีความเป็นผู้นำ องค์กรในยุคใหม่จะเป็นแนวราบมากขึ้น ไม่มีลำดับข้ันที่ซับซ้อน แบบเดมิ บางครง้ั คนทำงานอาจต้องทำงานคนเดยี วท่ีบา้ น นอกสถานที่ หรือ อาจทำงานเป็นทีมเล็ก ๆ ดังนั้นทุกคนต้องมคี วามรับผิดชอบและมคี วามเป็นผ้นู ำ ในการตัดสินใจรวมถงึ ความสามารถในการทำงานรว่ มกบั ผู้อ่นื ดว้ ย

69 8) ต้องฉลาดทางอารมณ์ ใน ส ถ า น ก า ร ณ์ ก า ร ท ำ งา น ท่ี ไม่ แ น่ น อ น ใน โล ก ท่ี เป ลี่ ย น ไป คนทำงานจะต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ ร่วมสร้างขวัญกำลังใจให้กับ เพอื่ นรว่ มงานทุกคน 9) ต้องพร้อมเรียนรู้ตลอดชีวิต การทำงานในยุคใหม่ตอ้ งการคนทำงานที่มที กั ษะใหม่ ๆ ตลอดเวลา ซ่ึงต้องพร้อมเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่อาจจำเป็นต่อการทำงานในอนาคต ซึ่ งก ารเรี ย น รู้ ใน ยุ ค ให ม่ น อ ก จ าก ก ารเรี ยน รู้ ใน ห้ อ งเรี ย น แ บ บ เดิ ม แ ล้ ว ต้องมีทักษะการเรียนออนไลน์ ทักษะที่จำเป็นดังกล่าววิถีชีวิตของประชาชน และการประกอบอาชีพต่าง ๆ สามารถนำเป็นแนวทางในการปรับเปล่ียนวิถี การทำงานได้

70 6.2 การประกอบอาชพี 6.2.1 ผลกระทบการว่างงานช่วงโรคโควิด 19 วิกฤตการณ์ของโรคโควิด 19 ก่อให้เกิด การเลิกจ้างงาน การปรับลดแรงงาน รวมท้ังความเส่ียง ที่จะว่างงาน ข้อมูลจาก Lupang (June 5,2020) กล่าวไว้ ดังน้ี การจ้างพนักงานลดน้อยลง ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาด เช้ือโรคโควิด 19 ทำให้ทุกคนต้องรักษาระยะห่าง ทางสังคม มกี าร Lock down ในหลายพื้นท่ี และในบางธุรกิจต้องถูกปิด ตัวลง ผู้คนท่ีทำงานในสาขาอาชีพ ที่มีความเสี่ยงได้รับ ผลกระทบมากที่สุดมีดว้ ยกัน 3 ภาค ดงั นี้

71 1) ภาคการท่องเที่ยว จะได้รับผลกระทบ จากการลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการท่องเที่ยว ในประเทศ 2) ภาคอุตสาหกรรม ได้รับผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างไรก็ตาม บางอุตสาหกรรม ท่ีผลิตสินค้าขายในประเทศยังขยายตัวได้ เช่น เคร่ืองด่ืมและ อตุ สาหกรรมอาหาร หรือของใชท้ จี่ ำเป็น เปน็ ตน้ 3) ภาคบริการอ่ืนที่ไม่ใช่การท่องเท่ียว ในกลุ่มน้ีจะได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ ระบาดของภาครัฐจากการปิดสถานท่ี เช่น สถานศึกษา ตลาดสด สนามกีฬา ห้างสรรพสินคา้ เป็นตน้ อัตราการถูกเลิกจ้างที่แสดงให้เห็นดังภาพเราจะเห็น ได้ว่ามีจำนวน คนไม่น้อยที่ถูกเลิกจ้างใน 3 ภ าคนี้ ซ่ึงวิธีการแก้ไขอาจเป็นไปได้ยาก แต่ ข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยทำให้เราตระหนัก ถึงการเตรียมตัวและรับมือได้ จากสถานการณ์ ดงั กล่าว

72 6.2.2 อาชีพท่มี คี วามต้องการสงู ในชว่ ง โรคโควิด19 เม่ือความสามารถทางเทคโนโลยีมีมากข้ึน หลายธุรกิจมีการนำระบบออนไลน์หรือแอปพลิเคชัน เข้าม าตอบ สน องระบ บ การสื่อสารใน การท ำงาน ธุรกิจที่เป็นแบบออฟไลน์มาก่อน ต้องปรับตัวโดยใช้ ระบบออนไลน์มาเป็นกลยุทธ์ในการขายมากข้ึน ดังที่ Pran Suwannatat (24 เมษายน 2563) กล่าวไว้ 10 อาชีพ จะขอยกตัวอยา่ งไว้ 3 อาชพี คือ

73 1) ติวเตอร์ออนไลน์ จากการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 สถานศึกษาทั้งโรงเรียนและ มหาวิทยาลัยไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามคำส่ัง ของรัฐบาล เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างในการแสวงหาความรู้ ตวิ เตอรอ์ อนไลนจ์ งึ มคี วามสำคัญท่ีสามารถเรยี นได้ทุกท่ี ทกุ เวลา 2) พนกั งานส่งอาหารและสินคา้ Delivery จากการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ผู้คนไม่สามารถออกจากบ้านได้ การส่ังอาหารและสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ จึงเป็นทางออก ในการอำนวยความสะดวกและปอ้ งกนั การติดเชอ้ื ได้เปน็ อย่างดี 3) งานทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั การทำความสะอาด การฉีด พ่ น ฆ่ าเชื้ อ รัก ษ าค ว าม ส ะอ าดเป็ น ส่ิ งที่ จำเป็ น ใน ช่ ว ง การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ซ่ึงปัจจุบันมีแอปพลิเคชันจัดหา แม่บ้านเป็นจำนวนมาก ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปใช้แอปพลเิ คชัน เหล่านนั้ ได้

74 และจากบทความ “10 อาชีพออนไลน์เพ่ิมรายได้ อยู่บา้ นก็ทำได้” (1 เมษายน 2563) ขอยกตัวอย่างอาชพี ที่สำคญั ไว้ 2 อาชีพ คือ 1) ขายของออนไลน์ เป็นอาชีพที่ลงทุนน้อยเพราะไม่ต้องเช่าหน้าร้าน สามารถ ขายของได้ ตลอดทุกช่วงเวลาที่สำคัญมีแพลตฟอร์ม (Platform) ที่สามารถเข้าไปขายของได้ โดยไม่ต้องสร้างเว็ บไซต์ เปน็ ของตวั เอง เช่น Amazon Facebook Instagram เปน็ ตน้ 2) Youtuber และ Vlogger เป็น ผู้ผลิตเน้ือหาของวิดีโอ โดยเน้ือห าของแต่ล ะช่อง จะแตกต่างกันออกไปตามรูปแบบของรายการ ท่ีทำในรูปแบบ ของ Vlog ซ่ึงรายได้จะมาจาก Google Ad หรือโฆษณาท่ีแทรก ตามคลปิ YouTube ตามยอดผู้ตดิ ตามและจำนวนผเู้ ขา้ ชม

75 การปรับเปลี่ยนวิถีการทำงานและ การประกอบอาชีพนั้น ถือได้ว่าเป็นสิง่ สำคัญ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทุกคนต้องตระหนักถึงการปรับตัวให้เข้ากับ สถาน ก ารณ์ การส ร้างค วาม ยื ด ห ยุ่ น ในการทำงาน รวมถึงการหาช่องทาง การประกอบอาชี พท่ีหลากหลายโดย ใช้เทคโนโลยีท่ีมีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทุกคนก็จะสามารถทำงานและประกอบ อาชี พ ได้อ ย่างมี ป ระสิท ธิภ าพ ใน ช่วง การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้มากยิง่ ข้นึ

76 รายการอา้ งอิง กรงุ เทพธุรกิจ. (2563). 'ทักษะที่จำเป็น' ตอ่ ทำงานใน โลกหลังยคุ โควิด. สบื คน้ เมอ่ื 3 พฤษภาคม 2564. จาก https://www.bangkokbiznews.com/new s/detail/894727. คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวทิ ยาลยั มหิดล. (2563). NEW NORMAL. สบื คน้ เมอื่ 4 พฤษภาคม 2564. จาก https://www.rama.m ahidol.ac.th/atrama/issue037/easy-living. ธนาคารแห่งประเทศไทย. (2563). กจิ การเสีย่ งและ มาตราการดแู ลภายใต้ผลกระทบของ โควิด-19. สืบคน้ เมื่อ 4 พฤษภาคม 2564. จาก https: www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublicatio ns/a articles/Pages/Article_30Apr2020.aspx. บริษัท ทีโอที จำกดั มหาชน. (2563). 5 เคล็ดลับ work from home แบบมีประสิทธิภาพ. สืบคน้ เมือ่ 3 พฤษภาคม 2564. จาก https://bit. ly/3btI.

77 Brandinside ธรุ กจิ คิดใหม่. (2563). ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน 10 อาชีพยอดฮิตความต้องการสูง สวนกระแสปลดคนช่วงวิกฤตโควดิ -19. สืบคน้ เมื่อ 5 พฤษภาคม 2564. จาก https://brandinside.as ia/10-jobs-high-demand-covid-19. Frasers Property. (2563). 10 อาชีพออนไลนเ์ พ่ิม รายได้ อย่บู า้ นก็ทำได้ !. สบื ค้นเมอ่ื 5 พฤษภาคม 2564. จาก https://bit.ly/3f8Qyam. Marketingoops. (2563). โควดิ -19 จะทำ‘คนตกงาน’ แคไ่ หน และ‘กลุ่มไหน’ เส่ยี งสดุ . สืบค้นเม่อื 3 พฤษภาคม 2564. จาก https://www.marketi ngoops.com/reports/research/thailand-une mployment-rate-covid-19.

78 แบบประเมินความรู้ตอนที่ 6 คำชแ้ี จง : จงใสเ่ ครื่องหมายวงกลมรอบตัวอกั ษรหนา้ ข้อความ ท่ีถกู ต้อง 1. ข้อใดเป็นสง่ิ แรกทปี่ ระชาชนต้องปรับวถิ ี การทำงานชว่ งการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ก. มจี ติ รกั บริการ ข. มีวินัยในตนเอง ค. เช่ือมนั่ ในตัวเอง ง. มีความเอื้อเฟือ้ กบั ผอู้ ื่น 2. ทักษะใดไมม่ ีความจำเป็นกับการปรบั ตวั ทำงานในชว่ งการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ก. ทกั ษะด้านเทคโนโลยี ข. ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ค. ทกั ษะความคดิ สรา้ งสรรค์ ง. ทักษะการเข้าสงั คมและร่วมกิจกรรม

79 3. ข้อใดเป็นทกั ษะทจี่ ำเป็นในการนำขอ้ มลู มา วเิ คราะห์ หรือคาดการณเ์ พ่ือการปรบั เปลย่ี น วถิ ีชวี ิตการทำงาน ก. ทกั ษะใชข้ ้อมูล ข. ทกั ษะการใช้เทคโนโลยี ค. ทักษะการปรับตวั ไดแ้ ละมีความยืดหยนุ่ ง. ทักษะความคิดสรา้ งสรรค์และมีนวตั กรรม 4. ขอ้ ใดเปน็ อาชีพทีส่ ามารถมีโอกาสไดท้ ำงาน มากขนึ้ ในช่วงการแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19 ก. แม่บา้ น ข. ทนายความ ค. ตวิ เตอร์ออนไลน์ ง. พนักงานรักษาความปลอดภยั

80 5. การทำงานลักษณะ Work from Home ตอ้ งมีทกั ษะมากที่สุดในข้อใด ก. ทำงานตลอดเวลา ข. ใชเ้ ทคโนโลยีในการสื่อสาร ค. จัดพ้นื ท่กี ารทำงานให้เป็นสัดสว่ น ง. ตั้งเป้าหมายการทำงานในแต่ละวนั

81 เฉลยแบบประเมินความรู้ตอนที่ 6 ขอ้ 1 ข ข้อ 2 ง ข้อ 3 ก ขอ้ 4 ค ขอ้ 5 ข

ตอนที่ 7 กฎหมายและมาตรการทเี่ กยี่ วข้อง ตามท่ไี ดเ้ กิดสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 ทีแ่ พร่ระบาดไปยงั หลายประเทศทว่ั โลก รวมท้งั ในประเทศไทย ซึ่งทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รัฐบาลไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ล้วนมีบทบาทในการควบคุมดูแลสถานการณ์ ดังกล่าว ดังจะเห็นได้จากมาตรการต่าง ๆ ทั้งในแนวทางด้าน การปฏบิ ัตแิ ละแนวทางดา้ นกฎหมาย โดยประกาศในราชกจิ จานุเบกษา กำหนดใหโ้ รคโควิด 19 เปน็ โรคติดต่ออนั ตราย คมู่ ือเลม่ นจ้ี ึงขอนำเสนอมาตรการด้าน กฎหมายในการควบคุมดูแลสถานการณ์ด้านการแพร่ระบาด ของโรคติดต่ออันตรายในประเทศไทย ซึ่งนับว่ามีความสำคัญ อกี หน่งึ ประการที่ประชาชนทุกคนจำเปน็ ต้องรู้และนำไปสู่การ ปฏิบัตไิ ดอ้ ย่างถูกต้อง

83 7.1 กฎหมายทเ่ี กยี่ วข้อง 7.1.1 พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีทั้งหมด 9 หมวด 60 มาตรา โดยกำหนดหน้าที่ให้ประชาชนมีส่วน รว่ มในการป้องกันควบคุมโรคตดิ ต่อ ดงั นี้ ร่วมให้ข้อเท็จจริง และปฏิบัติตามคำแนะนำ ของเจา้ พนักงานควบคมุ โรคติดตอ่ อยา่ งเครง่ ครัด อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อและเจ้าพนักงานท้องถิ่นในการดำเนินการ ป้องกนั ควบคุมโรคติดต่อ เจ้าของพาหนะ หรือผู้ควบคุมพาหนะ ที่เข้า มาในราชอาณาจักรจากเขตติดโรคที่รัฐมนตรีประกาศ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ อยา่ งเคร่งครดั พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เป็นเคร่ืองมือสำคัญอย่าง ยิ่งในการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 หรือโรคติดต่อต่าง ๆ ทั้งน้ี ทุกคนทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน

84 7.1.2 พระราชกำหนดการบรหิ ารราชการ ในสถานการณ์ฉกุ เฉิน พ.ศ. 2548 พระราชกำหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มีทั้งหมด 19 มาตรา ซึ่งเป็นมาตรการในการบริหารราชการสำหรับสถานการณ์ ฉกุ เฉนิ ไวเ้ ป็นพเิ ศษ ด่ังเชน่ ในปจั จุบนั ไดเ้ กิดการระบาดของ โรคโควิด 19 ระรอกใหม่ขึน้ ในเดือน เมษายน 2564 มีผู้ติด เชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผล กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและการให้บริการ ทางการแพทย์ นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดตามความ มาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการใน สถานการณฉ์ ุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบบั ที่ 22) ไว้ดังนี้ 1) การสวมหนา้ กากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเพื่อ ป้องกันการแพร่โรคเมื่ออยู่นอกเคหสถานหรืออยู่ในที่ สาธารณะ 2) การกำหนดพื้นที่สถานการณ์ ดังนี้ (1) พื้นท่ี ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัด ชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี

85 และจังหวัดสมุทรปราการ (2) พื้นที่ควบคุมสูงสุด และ (3) พ้นื ทค่ี วบคมุ 3) พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามจัด กิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกัน มากกว่า 20 คน 4) มาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (1) ร้านจำหน่ายอาหารหรือ เครือ่ งดื่ม ใหจ้ ำหนา่ ยโดยการนำกลับไปบรโิ ภคท่ีอื่นได้เท่าน้ัน (2) สนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ให้ปิด บรกิ าร และ (3) หา้ งสรรพสินค้า ศูนยก์ ารค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปดิ ให้บรกิ ารได้จนถึง 21.00 น. 5) การปฏิบัตงิ านนอกสถานทต่ี ั้ง ใหห้ วั หนา้ สว่ น ราชการ เจ้าของกิจการจัดให้บุคลากรโดยสลับวันเวลา ทำงานหรือวธิ ีอนื่ ตามสมควร กรณีผู้ใดฝ่าฝืน ข้อกำหนด ประกาศ หรือ คำส่ังท่ีออกตามมาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 หรือ มาตรา 13 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ประชาชนควรติดตาม รับฟังข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่ง อยู่เสมอ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ ตลอดเวลา และสามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง

86 7.2 มาตรการบังคับใช้กฎหมายเพ่ือ ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 7.2.1 กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศคำส่ัง กกขกอกงกคกณกะกรรมการควบคมุ โรคตดิ ตอ่ จงั หวัดกทม. พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 52 ระบุว่าผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (3) (4) (7) หรือ (8) หรือ มาตรา 40 (3) หรือ (4) หรือผู้ว่าราชการจังหวัดหรือ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามมาตรา 35 ต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินหนึง่ ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระ ราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับ ไม่เกนิ 40,000 บาท หรือทงั้ จำทัง้ ปรับ รายละเอยี ดเพ่ิมเตมิ สามารถศึกษาได้จาก

87 กกกกหกกนกก้ากกกากกผา้7.2เม.2อ่ื อกอกรนณอีไกมเค่สหวสมถหานนห้ารกอื าสกถอานนาทมี่พัยำนหักรือ ก มีความผิดตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ที่ระบุว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้า พนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (1) (2) (5) หรือ (6) มาตรา 39 (1) (2) (3) หรือ (5) มาตรา 40 (5) หรือไม่อำนวย ความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 39 (5) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท” โดยใช้บัญชีอัตรา การเปรียบเทียบแนบท้ายระเบียบคณะกรรมการโรคติดต่อ แห่งชาติ วา่ ด้วยหลักเกณฑก์ ารเปรียบเทียบ พ.ศ. 2563 มาตรา 34 (6) ห้ามผู้ใดกระทำการหรือดำเนินการ ใด ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไมถ่ ูกสุขลักษณะซึ่งอาจเปน็ เหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป โดยอตั ราคา่ ปรับกำหนดใหเ้ ปรยี บเทยี บ ดงั น้ี คร้งั ที่ 1 6,000 บาท ครงั้ ท่ี 2 12,000 บาท คร้ังท่ี 3 เป็นตน้ ไป 20,000 บาท

88 7.2.3 กรณปี ดิ บังขอ้ มลู ไทมไ์ ลน์ สิ่งที่ต้องทำ ในการสอบสวนโรคผู้ติดเชื้อ ผู้ต้อง สงสัยว่าติดเชื้อ ผู้สัมผัสโรค ต้องแจ้งข้อมูลต่อพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อ เช่น ปกปิดประวัติการเดินทางไปประเทศ เสีย่ ง ปดิ บังขอ้ มลู การสัมผสั ผ้ตู ิดเชื้อ ไมย่ อมเขา้ รบั การรักษา ไม่ยอมถูกแยกกัก กักกัน หรือการคุมสังเกตอาการ เป็นต้น ซง่ึ เปน็ การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏบิ ตั ิตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 อาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานขัดขวางหรือ ไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตาม มาตรา 34, 45, และ 55 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ตอ้ งระวางโทษปรบั ไม่เกนิ 20,000 บาท รวมถึงอาจมีความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ แก่เจ้าพนักงาน ตามมาตรา 137 แห่งประมวลกฎหมาย อาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับ ไม่เกนิ 10,000 บาท หรือท้ังจำทั้งปรับ สามารถศึกษากรณตี ัวอยา่ งฐานปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ การเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จ ต่อเจ้าพนักงานควบคุม โรคติดตอ่ ตามควิ อารโ์ ค้ดนี้

89 7.2.4 กรณีไมแ่ จ้งเจา้ พนกั งาน เม่ือพบผู้ติดเชือ้ ตามมาตรา 31 และ 50 ของพระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรการบังคับใช้กฎหมายเพื่อ ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 กรณีไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ พนักงานควบคุมโรคติดต่อเมื่อพบผู้ติดเชื้อ ผู้สงสัยว่า ตดิ เชือ้ ดงั น้ี 1) พบทบ่ี ้าน เจ้าบา้ น ผู้ควบคุมดูแลบ้าน แพทยผ์ ู้ทำการรกั ษา 2) พบในสถานพยาบาล ผรู้ ับผดิ ชอบ สถานพยาบาล 3) พบในสถานทชี่ นั สูตร ผูท้ ำการชันสูตร ผู้รับผิดชอบทำการชนั สตู ร 4) พบในสถานประกอบการ เจา้ ของ ผู้ควบคมุ สถานประกอบการ “สิ่งที่ต้องทำคือต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่พนักงานควบคุม โรคติดต่อในส่วนกลางในพื้นท่ีภายใน 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่ พบผู้ติดเชื้อ ถ้าไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการแจ้ง ฝา่ ฝืนปรับไม่เกนิ 20,000 บาท”

90 7.2.5 กรณีโรงพยาบาลเอกชนปฏเิ สธ ผ้ตู ิดเชื้อ ตามพระราชบัญญตั สิ ถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 มาตรา 33/1 เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครอง สุขภาพของประชาชน ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ คณะกรรมการมีอำนาจประกาศกำหนดผู้ป่วยฉุกเฉินตาม กฎหมายว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉิน โรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หรือโรคระบาดตามกฎหมายที่ว่า ด้วยโรคติดต่อ ซึ่งผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาล โดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาล ตามมาตรา 36 ดังนั้น สถานพยาบาลจะต้องช่วยเหลือเยยี วยา รักษาพยาบาลผู้ติด เชือ้ ใหพ้ ้นจากอันตราย ถ้าหากสถานพยาบาลไม่ช่วยเหลือเยียวยา หรือรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อ ตามพระราชบัญญั ติ สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 66 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรบั ไม่เกนิ 40,000 บาท หรือทัง้ จำทงั้ ปรบั กรณีสถานพยาบาลกระทำการละเว้นจนเป็น เหตุให้เกิดอันตรายความเสียหายมาตรา 49 และมาตรา 50 ผู้อนุญาตมีอำนาจสั่งปิดสถานพยาบาลชั่วคราวจนกว่าจะมี การดำเนินการใหถ้ ูกตอ้ งภายในระยะเวลาทกี่ ำหนด

91 7.2.6 กรณีสงสยั วา่ เปน็ โรคโควดิ 19 แตไ่ มม่ ารับการตรวจหรือรกั ษา พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ได้กำหนด บทกำหนดโทษแก่ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม ฝ่าฝืน ขัดขวาง ไม่อำนวยความสะดวก หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพระราชบัญญัติน้ี กรณี ผู้ใดที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาด หรือผู้ที่เคยเป็นผู้สัมผัสโรคหรือเป็นพาหะ แต่ไม่มารับการตรวจหรือรักษา หรือรับการชันสูตรทาง การแพทย์ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท (มาตรา 51 ประกอบกบั มาตรา 34 (1)) จากกฎหมายและมาตรการที่เกี่ยวข้องข้างต้น ถือเป็นส่งิ สำคัญประการหน่ึงทีป่ ระชาชนจะต้องรับทราบ ทำความเข้าใจ และถอื ปฏบิ ตั ิอย่างเคร่งครัด เพอ่ื เป็นการ ช่วยควบคุมและลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทั้งนี้ ประชาชนควรติดตาม รับฟัง ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือมาตรการต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และสามารถปฏิบัติตนตาม กฎหมายและมาตรการท่เี กย่ี วขอ้ งได้อยา่ งถกู ตอ้ ง