ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร

ภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ประกาศนียบตั รวิชาชพี ขัน้ สงู

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาองั กฤษเพ่อื ธุรกจิ บรกิ าร รหสั วชิ า 30000-1208 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพชน้ั สูงปีท่ี 1 อาจารยว์ ฒั นา พรหมจรรย์ ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 วทิ ยาลยั เทคโนโลยีหาดใหญ่อานวยวทิ ย์ อาเภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา

ลกั ษณะรายวชิ า 30000-1208 ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกิจบรกิ าร รหสั และช่ือวชิ า English for Service Business ภาษาองั กฤษ หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศ สภาพรายวิชา ธุรกิจ หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชน้ั สูง พ.ศ. 2563 ประเภทวชิ าบริหารธุรกิจ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร ระดบั วิชา หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สูงปีท่ี 1 พ้นื ฐาน - เวลาเรยี น ทฤษฎี 3 ชวั่ โมงต่อสปั ดาหร์ วม 18 สปั ดาหจ์ านวน 54 คาบต่อภาคเรยี น หน่วยกติ 3 หน่วยกิต จดุ ประสงคร์ ายวชิ า 1. เพอ่ื ใหเ้ขา้ ใจหลกั การใชภ้ าษาองั กฤษในธุรกจิ บรกิ าร 2. เพอ่ื ใหส้ ามารถนาภาษาองั กฤษไปใชเ้ป็นเครอ่ื งมอื สอ่ื สารในธุรกิจบรกิ าร 3. เพอ่ื ใหม้ เี จตคตแิ ละกิจนิสยั ในการใชภ้ าษองั กฤษในงานอาชีพและการศึกษาต่อ สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั การใชภ้ าษาองั กฤษในงานอาชพี ดา้ นธุรกิจบรกิ าร 2. สนทนาในสถานการณ์งานบรกิ ารตามมารยาทสงั คมของเจา้ ของภาษา 3. พูดนาเสนอขอ้ มลู เก่ยี วกบั งานบรกิ ารและกจิ กรรมบนั เทงิ 4. สรุปใจความสาคญั เร่อื งทอ่ี ่านเก่ยี วกบั ธุรกจิ บรกิ ารจากสอ่ื สง่ิ พมิ พแ์ ละ สอ่ื ออนไลน์ 5. เขยี นบนั ทกึ และรายงานการปฏบิ ตั งิ านในงานอาชพี ดา้ นธุรกจิ บรกิ าร 6. ใชเ้ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื พฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในธุรกจิ บรกิ าร คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาและปฏบิ ตั ิเก่ียวกบั การฟงั พูด อ่าน และเขยี นภาษาองั กฤษในงานอาชีพ ดา้ นธุรกิจบริการ การสนทนาในสถานการณ์การใหบ้ ริการการใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ทพ่ี กั สง่ิ อานวยความสะดวก อาหาร และเครอ่ื งดม่ื สนิ คา้ และบรกิ าร การเดนิ ทาง สถานท่ที ่องเท่ยี ว การนาเสนองานบริการและกิจกรรมบนั เทิง การอ่านขอ้ มูล เอกสาร คู่มือ ประกาศ ตารางป้ ายสญั ลกั ษณ์ กาหนดการ การกรอกขอ้ มูล ในแบบฟอรม์ การเขยี นบนั ทกึ รายงานการปฏบิ ตั งิ าน ขอ้ ความบนสอ่ื สงั คมออนไลน์ และการใชเ้ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื พฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในธุรกิจบรกิ าร

การแบ่งหน่วยการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรูร้ ายวิชาภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สูง พทุ ธศกั ราช 2563 จานวนหน่วยการเรยี นรู้ 5 หน่วย จานวน 54 ชวั่ โมง หน่วยท่ี ช่ือหน่วยการเรยี น สาระการเรยี นรู้ จานวนคาบเรยี น ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ รวม 1 Hotel Manager and Hotel Manager and Secretary 12 - 12 Secretary 1.1 Hotel manager responsibility 3 - 3 1.2 Hotel personnel 3-3 1.3 Telephone conversation 3 - 3 1.4 Making appointment 3-3 2 Salesperson and Shop Salesperson and Shop Assistant 9 - 9 Assistant 2.1 Selling documentation 3 - 3 2.2 Sales target 3-3 2.3 Containers 3-3 3 Waitperson and Nurse Waitperson and Nurse 9-9 3.1 Greet and invite customers 3 - 3 3.2 Method to cook 3-3 3.3 Describe symptom 3-3 4 Postal Worker and Travel Postal Worker and Travel Agent 9 - 9 Agent 4.1 Postal services 3-3 4.2 Materials for packing 3-3 4.3 E-ticket and Boarding pass 3 - 3 5 Event Manager and Event Manager and 12 - 12 Customer-Service Customer-Service 5.1 Different types of events 3 - 3 5.2 Details of a formal event 3 - 3 5.3 Conversation with customers 3 - 3 5.4 Information, Warnings, 3 - 3 Instructions รวม 51 - 51 สอบปลายภาค 3 - 3 รวมทง้ั หมด 54 - 54

แผนการจดั การเรยี นรูว้ ิชาภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกิจ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สูง พทุ ธศกั ราช 2563 แผนท่ี 1 Hotel Manager and Secretary ระยะเวลา 12 ชวั่ โมง 1. สมรรถนะประจาหน่วย 1.1 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั การปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆ ในโรงแรม บทสนทนาทางโทรศพั ท์ และการนดั หมาย 1.2 เขยี นอธบิ ายความสาคญั เก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆ ในโรงแรมสนทนา ทางโทรศพั ทแ์ ละการนดั หมายได้ 1.3 แสดงพฤตกิ รรมดา้ นการมมี นุษยสมั พนั ธ์ 2. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 111. บอกความหมายของสานวนทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรมไดถ้ กู ตอ้ ง 112. บอกความหมายคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั แผนกต่างๆ ในโรงแรมไดถ้ กู ตอ้ ง 113. อธบิ ายโครงสรา้ งบทสนทนาทางโทรศพั ทไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 114. อธบิ ายบทสนทนาทเ่ี กย่ี วกบั การนดั หมายไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 121. แยกประเภทของสานวนทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรมไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 122. ใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั แผนกต่างๆ ในโรงแรมไดถ้ กู ตอ้ ง 123. สนทนาโตต้ อบทางโทรศพั ทไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 124. ใชส้ านวนทางภาษาในการนดั หมายไดอ้ ย่างเหมาะสม 131. แสดงกรยิ าทา่ ทางสภุ าพ 132. รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 133. ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผูอ้ น่ื 134. ชน่ื ชมยนิ ดเี มอ่ื ผูอ้ น่ื ประสบความสาเร็จ 3. แนวคิดและสาระการเรยี นรู้ 3.1 การปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม 3.2 แผนกต่างๆ ในโรงแรม 3.3 บทสนทนาทางโทรศพั ท์ 3.4 การนดั หมาย

4. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 4.1 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ 4.2 กระบวนการกลมุ่ 4.3 กจิ กรรม 3P 4.4 กระบวนการเรยี นภาษา 4.5 กระบวนการปฏบิ ตั ิ 5. สอ่ื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 อนิ เตอรเ์ น็ต 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั - ตรวจแบบฝึกหดั - ตรวจบทสนทนา - สงั เกตการทางานกลมุ่ 6.2 เคร่อื งมอื วดั - แบบฝึกหดั 6.3 เกณฑก์ ารวดั - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งผา่ นเกณฑท์ ก่ี าหนดรอ้ ยละ 60 7. แหลง่ การเรยี นรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website : www.aimphan.co.th 7.3 Youtube : Aimphan Channel 8. ผลงาน/ช้ินงานของนกั เรยี น - 9. ความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื /การบูรณาการ (Integrated) -

10. บนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ/ปญั หา/อน่ื ๆ) ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบูรณาการ

แผนการจดั การเรยี นรูว้ ิชาภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกจิ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สูง พทุ ธศกั ราช 2563 แผนท่ี 2 Salesperson and Shop Assistant ระยะเวลา 9 ชวั่ โมง 1. สมรรถนะประจาหน่วย 2.1 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั สานวนทใ่ี ชใ้ นการสนทนาการซ้อื ขายสนิ คา้ บทสนทนาสาหรบั ผูช้ ่วยดูแล รา้ น และคานาม Containers ทเ่ี ป็น Countable noun และ Uncountable noun 2.2 สนทนาซ้อื ขายสนิ คา้ สนทนาโตต้ อบในฐานะผูช้ ่วยดูแลรา้ น และบอกคานาม containers ทเ่ี ป็น countable noun และ uncountable noun ได้ 2.3 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนิสยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ 2. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 211. บอกสานวนทใ่ี ชใ้ นการสนทนาการซ้อื ขายสนิ คา้ ไดถ้ กู ตอ้ ง 212. บอกบทสนทนาทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ผูช้ ่วยดูแลรา้ นไดถ้ กู ตอ้ ง 213. อธบิ ายลกั ษณะคานาม Containers ทเ่ี ป็น Countable noun และ Uncountable noun ไดถ้ กู ตอ้ ง 221. สนทนาซ้อื ขายสนิ คา้ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 222. สนทนาโตต้ อบในฐานะผูช้ ่วยดูแลรา้ นไดอ้ ย่างเหมาะสม 223. แยกประเภทคานาม Containers ทเ่ี ป็น Countable noun และ Uncountable noun ไดถ้ กู ตอ้ ง 231. มคี วามพรอ้ มในการเรยี นและการปฏบิ ตั งิ าน 232. ปฏบิ ตั งิ านตามขนั้ ตอนทว่ี างไว้ 233. มคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นและการปฏบิ ตั งิ าน 3. แนวคดิ และสาระการเรยี นรู้ 3.1 บทสนทนาการซ้อื ขายสนิ คา้ 3.2 บทสนทนาสาหรบั ผูช้ ่วยดูแลรา้ น 3.3 คานาม Containers 4. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 4.1 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ 4.2 กระบวนการกลมุ่ 4.3 กิจกรรม 3P 4.4 กระบวนการเรยี นภาษา 4.5 กระบวนการปฏบิ ตั ิ

5. สอ่ื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 อนิ เตอรเ์ น็ต 5.3 โบรชวั ร์ 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั - ตรวจแบบฝึกหดั - ตรวจบทสนทนา - สงั เกตการทางานกลมุ่ 6.2 เคร่อื งมอื วดั - แบบฝึกหดั 6.3 เกณฑก์ ารวดั - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งผา่ นเกณฑท์ ก่ี าหนดรอ้ ยละ 60 7. แหลง่ การเรยี นรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website : www.aimphan.co.th 7.3 Youtube : Aimphan Channel 8. ผลงาน/ช้ินงานของนกั เรยี น - 9. ความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื /การบูรณาการ (Integrated) - 10. บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ/ปญั หา/อน่ื ๆ) ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบูรณาการ

แผนการจดั การเรยี นรูว้ ชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกิจ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สูง พทุ ธศกั ราช 2563 แผนท่ี 3 Waitperson and Nurse ระยะเวลา 9 ชวั่ โมง 1. สมรรถนะประจาหน่วย 3.1 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั คาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั หนา้ ทข่ี องพนกั งานเสริ ฟ์ คากรยิ าทใ่ี ชใ้ นการปรงุ อาหาร ลกั ษณะต่างๆ และการอธบิ ายอาการเจบ็ ป่วยต่างๆ 3.2 เขยี นความหมายของคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั หนา้ ทข่ี องพนกั งานเสริ ฟ์ คากรยิ าทใ่ี ชใ้ นการปรงุ อาหารลกั ษณะต่างๆ และการอธบิ ายอาการเจบ็ ป่วยต่างๆ 3.3 แสดงพฤตกิ รรมความสนใจใฝ่รูใ้ นเร่อื งต่างๆ 2. จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 311. บอกความหมายของคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั หนา้ ทข่ี องพนกั งานเสริ ฟ์ ไดถ้ กู ตอ้ ง 312. ยกตวั อย่างคากรยิ าทใ่ี ชใ้ นการปรุงอาหารลกั ษณะต่างๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง 313. อธบิ ายโครงสรา้ งสานวนแสดงอาการเจบ็ ป่วยต่างๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง 321. เขยี นความหมายของคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั หนา้ ทข่ี องพนกั งานเสริ ฟ์ ไดถ้ กู ตอ้ ง 322. ใชค้ ากรยิ าเขยี นบรรยายการปรงุ อาหารลกั ษณะต่างๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง 323. เขยี นอธบิ ายอาการเจบ็ ป่วยต่างๆ ไดไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง 331. ศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง 332. ซกั ถามปญั หาขอ้ สงสยั 333. มคี วามกระตอื รอื รน้ ในการใฝ่หาความรูใ้ หม่ 3. แนวคดิ และสาระการเรยี นรู้ 3.1 คาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั หนา้ ทข่ี องพนกั งานเสริ ฟ์ 3.2 คากรยิ าทใ่ี ชใ้ นการปรุงอาหารลกั ษณะต่างๆ 3.3 การอธบิ ายอาการเจบ็ ป่วยต่างๆ 4. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 4.1 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ 4.2 กระบวนการกลมุ่ 4.3 กิจกรรม 3P 4.4 กระบวนการเรยี นภาษา 4.5 กระบวนการปฏบิ ตั ิ

5. สอ่ื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 อนิ เตอรเ์ น็ต 5.3 Dictionary 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั - ตรวจแบบฝึกหดั - ตรวจบทสนทนา - สงั เกตการทางานกลมุ่ 6.2 เคร่อื งมอื วดั - แบบฝึกหดั 6.3 เกณฑก์ ารวดั - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งผา่ นเกณฑท์ ก่ี าหนดรอ้ ยละ 60 7. แหลง่ การเรยี นรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website : www.aimphan.co.th 7.3 Youtube : Aimphan Channel 8. ผลงาน/ช้ินงานของนกั เรยี น - 9. ความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื /การบูรณาการ (Integrated) - 10. บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ/ปญั หา/อน่ื ๆ) ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบูรณาการ

แผนการจดั การเรยี นรูว้ ชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกจิ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สูง พทุ ธศกั ราช 2563 แผนท่ี 4 Postal Worker and Travel Agent ระยะเวลา 9 ชวั่ โมง 1. สมรรถนะประจาหน่วย 4.1 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั คาศพั ทแ์ ละสานวนเก่ยี วกบั การสง่ จดหมายและพสั ดุไปรษณีย์ และ สานวนในการใหข้ อ้ มลู บรกิ ารการทอ่ งเทย่ี วและเดนิ ทางแก่ลูกคา้ 4.2 เขยี นคาศพั ทแ์ ละสานวนเก่ยี วกบั การสง่ จดหมายและพสั ดไุ ปรษณีย์ และเขยี นขอ้ มลู บรกิ าร การทอ่ งเทย่ี วและเดนิ ทางแก่ลูกคา้ 4.3 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความเช่อื มนั่ ในตนเอง 2. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 411. ยกตวั อย่างคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั การสง่ จดหมายและพสั ดุไปรษณียไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 412. บอกสานวนเก่ยี วกบั การสง่ จดหมายและพสั ดไุ ปรษณียไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 413. บอกสานวนการใหข้ อ้ มลู บรกิ ารการทอ่ งเทย่ี วและเดนิ ทางแก่ลูกคา้ ไดถ้ กู ตอ้ ง 421. เขยี นคาศพั ทแ์ ละสานวนเก่ยี วกบั การสง่ จดหมายและพสั ดุไปรษณียไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 422. สาธติ ขน้ั ตอนการสง่ จดหมายและพสั ดไุ ปรษณียไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 423. แสดงบทบาทสมมตกิ ารใหข้ อ้ มลู บรกิ ารการท่องเทย่ี วและเดนิ ทางแก่ลูกคา้ ไดถ้ กู ตอ้ ง 431. กลา้ แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตผุ ล 432. กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง 433. กลา้ ยอมรบั ความจรงิ 3. แนวคิดสาระการเรยี นรู้ 3.1 คาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั การสง่ จดหมายและพสั ดุไปรษณีย์ 3.2 สานวนเก่ยี วกบั การสง่ จดหมายและพสั ดไุ ปรษณีย์ 3.3 สานวนการใหข้ อ้ มลู บรกิ ารการท่องเทย่ี วและเดนิ ทางแก่ลูกคา้ 4. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 4.1 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ 4.2 กระบวนการกลมุ่ 4.3 กิจกรรม 3P 4.4 กระบวนการเรยี นภาษา 4.5 กระบวนการปฏบิ ตั ิ

5. สอ่ื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 อนิ เตอรเ์ น็ต 5.3 Dictionary 6. การวดั ผลและการประเมนิ ผล 6.1 วธิ วี ดั - ตรวจแบบฝึกหดั - ตรวจบทสนทนา - สงั เกตการสนทนา 6.2 เครอ่ื งมอื วดั - แบบฝึกหดั 6.3 เกณฑก์ ารวดั - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งผ่านเกณฑท์ ก่ี าหนดรอ้ ยละ 60 7. แหลง่ การเรยี นรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website : www.aimphan.co.th 7.3 Youtube : Aimphan Channel 8. ผลงาน/ช้ินงานของนกั เรยี น - 9. ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื /การบูรณาการ (Integrated) - 10. บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ/ปญั หา/อน่ื ๆ) ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบูรณาการ

แผนการจดั การเรยี นรูว้ ิชาภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกจิ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สูง พทุ ธศกั ราช 2563 แผนท่ี 5 Event Manager and Customer-Service ระยะเวลา 12 ชวั่ โมง 1. สมรรถนะประจาหน่วย 5.1 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั คาศพั ทแ์ สดงประเภทและรูปแบบการจดั งาน คาศพั ทแ์ ละสานวน ภาษาองั กฤษทเ่ี ก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การงานอเี วน้ ท์ และการใหข้ อ้ มลู การแจง้ เตอื น และการแนะนา 5.2 เขยี นและอธบิ ายคาศพั ทแ์ สดงประเภทและรูปแบบการจดั งาน คาศพั ทแ์ ละสานวน ภาษาองั กฤษทเ่ี ก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การงานอเี วน้ ท์ และการใหข้ อ้ มลู การแจง้ เตอื น และการแนะนา 5.3 แสดงพฤตกิ รรมในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความสามคั คี 2. จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 511. ยกตวั อย่างคาศพั ทแ์ สดงประเภทและรูปแบบการจดั งานไดถ้ กู ตอ้ ง 512. อธบิ ายคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาองั กฤษทเ่ี ก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การงานอเี วน้ ทไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 513. บอกขนั้ ตอนการพดู ใหข้ อ้ มลู และการแจง้ เตอื นไดถ้ กู ตอ้ ง 514. บอกขน้ั ตอนการพดู แนะนาต่างๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง 521. เขยี นคาศพั ทแ์ สดงประเภทและรูปแบบการจดั งานไดถ้ กู ตอ้ ง 522. แสดงบทบาทสมมตเิ ก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การงานอเี วน้ ทไ์ ดเ้หมาะสม 523. พดู ใหข้ อ้ มลู และการแจง้ เตอื นไดถ้ กู ตอ้ ง 524. พูดแนะนาขอ้ มลู ต่างๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง 531. ร่วมมอื ในการทางานดว้ ยความกลมเกลยี วและปรองดอง 532. รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 533. ปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทผนู้ าและผูต้ ามทด่ี ี 534. ยอมรบั ความแตกต่างทางวฒั นธรรม ความคดิ ความเช่อื ทห่ี ลากหลาย พรอ้ มทจ่ี ะปรบั ตวั เพอ่ื อยู่ร่วมกนั อย่างสนั ติ 3. แนวคดิ สาระการเรยี นรู้ 3.1 คาศพั ทแ์ สดงประเภทของการจดั งาน 3.2 คาศพั ทแ์ สดงรูปแบบของการจดั งาน 3.3 คาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาองั กฤษทเ่ี กย่ี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การงานอเี วน้ ท์ 3.4 การใหข้ อ้ มลู การแจง้ เตอื นและการแนะนา

4. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 4.1 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ 4.2 กระบวนการกลมุ่ 4.3 กิจกรรม 3P 4.4 กระบวนการเรยี นภาษา 4.5 กระบวนการปฏบิ ตั ิ 5. สอ่ื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 อนิ เตอรเ์ น็ต 5.3 Dictionary 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั - ตรวจคาตอบ - สงั เกตการสนทนา 6.2 เคร่อื งมอื วดั - แบบบนั ทกึ คะแนน - แบบทดสอบ 6.3 เกณฑก์ ารวดั - นกั เรยี นตอบคาถามเกย่ี วกบั ประเภทและรูปแบบการจดั งานไดถ้ กู ตอ้ ง - นกั เรยี นบอกขนั้ ตอนการพดู ใหข้ อ้ มลู และการแจง้ เตอื นไดถ้ กู ตอ้ ง - พูดใหข้ อ้ มลู และการแจง้ เตอื นไดถ้ กู ตอ้ ง 7. แหลง่ การเรยี นรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website : www.aimphan.co.th 7.3 Youtube : Aimphan Channel 8. ผลงาน/ช้ินงานของนกั เรยี น -

9. ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื /การบูรณาการ (Integrated) - 10. บนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ/ปญั หา/อน่ื ๆ) ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบูรณาการ

ตารางกาหนดน้าหนกั คะแนนการวดั วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร รหสั วชิ า 30000-1208 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สูง พทุ ธศกั ราช 2563 (ปวส. 1) กระทรวงศึกษาธิการ น้าหนกั คะแนน พทุ ธพิ สิ ยั พฤติกรรม เกณฑ์ ่ผาน (%) คะแนนรวมรายเ ้ืนอหา หน่วยท่ี ความ ูร้-ความจา เน้ือหา ความเข ้าใจ การนาไปใช ้ การวิเคราะห์ ูสงกว่า ทักษะพิสัย จิตพิสัย รวม อันดับความสาคัญ 1 Hotel Manager and Secretary 70 15 7 4 4 - - 5 20 1 2 Salesperson and Shop Assistant 70 6 2 2 2 - - 4 10 4 3 Waitperson and Nurse 70 6 2 2 2 - - 5 11 3 4 Postal Worker and Travel Agent 70 8 4 2 2 - - 3 11 3 5 Event Manager and Customer- 70 15 8 4 3 - - 3 18 2 Service รวม 50 23 14 13 20 20 70 อนั ดบั ความสาคญั 123 * คะแนนดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั 50 หมายเหตุ : สูงกวา่ เช่น การสงั เคราะห์ การประเมนิ ค่า * คะแนนดา้ นทกั ษะพสิ ยั 20 * คะแนนดา้ นจติ พสิ ยั 20 * คะแนนงานทม่ี อบหมาย 10 รวมทง้ั ส้นิ 100

ใบความรู้ (Information Sheet) ใบความรู้ (Information Sheet) รหสั วชิ า 30000-1208 วชิ า ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร หน่วยกติ 3 หน่วยกติ หน่วยท่ี 1 ชอ่ื หน่วย Hotel Manager and Secretary จานวนชวั่ โมงรวม 12 ชวั่ โมง ใบความรูท้ ่ี 1 ชอ่ื ใบความรู้ Hotel Manager’s responsibility จานวนชวั่ โมง 3 ชวั่ โมง สมรรถนะประจาหน่วย 1.1 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั การปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆ ในโรงแรม บทสนทนา ทางโทรศพั ทแ์ ละการนดั หมาย 1.2 บอกความสาคญั เก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆ ในโรงแรม บทสนทนาทางโทรศพั ทแ์ ละ การนดั หมาย 1.3 แสดงพฤตกิ รรมดา้ นการมมี นุษยสมั พนั ธ์ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 111. บอกความหมายของสานวนทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรมไดถ้ กู ตอ้ ง 121. แยกประเภทของสานวนทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรมไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 131. แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพ สาระการเรยี นรู้ จดั การโรงแรม (hotel Manager) มกี ารบรหิ ารจดั การเป็นไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ยตามเจตนารมณ์ของเจา้ ของ โรงแรม เพอ่ื อานวยความสะดวกในเร่อื งทพ่ี กั และอาหาร ผูจ้ ดั การโรงแรมควรจะผ่านการฝึกอบรมวชิ าการบริหาร จดั การโรงแรม ควบคุมดูแลการทางานของเจา้ หนา้ ทท่ี งั้ หมดเพอ่ื ใหก้ ารบริการเป็นทพ่ี อใจแก่ลูกคา้ ปรบั ปรุงการ ปฏบิ ตั ิงาน พรอ้ มทงั้ ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของฝ่ายต่าง ๆ ตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรมน้ี ไดร้ บั ค่าตอบแทนเป็น เงนิ เดือนท่คี ่อนขา้ งสูง เน่ืองจากการว่าจา้ งบุคลากรในอาชีพน้ีตอ้ งการผูม้ ปี ระสบการณ์ในการบริหารงานโรงแรม มาแลว้ เป็นอาชีพทต่ี อ้ งมคี วามรบั ผดิ ชอบสูง อดทน และตอ้ งบริหารงานตลอด 24 ชวั่ โมง อตั ราเงนิ เดอื นข้นึ อยู่กบั ขนาดของโรงแรม และอาชพี น้ไี ดร้ บั ผลประโยชนอ์ ย่างอน่ื เป็นสวสั ดกิ าร โบนสั และสทิ ธปิ ระโยชนอ์ น่ื ๆ เอกสารอา้ งองิ ไกรวลั ศรปี ระทกั ษ.์ ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร. กรุงเทพฯ: เอมพนั ธ.์ 2563

ใบงาน (Job Sheet) ใบงานท่ี 1 (Job Sheet) รหสั วชิ า 30000-1208 วชิ า ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกิจบรกิ าร หน่วยกติ 3 หน่วยกติ หน่วยท่ี 1 ช่อื หน่วย Hotel Manager and Secretary จานวนชวั่ โมงรวม 12 ชวั่ โมง ชวั่ โมง ใบงานท่ี 1 ชอ่ื ใบงาน Telephone conversation จานวนชวั่ โมง 3 จุดประสงคก์ ารเรยี นการสอน รายการสอน สมรรถนะประจาหน่วย 1.1 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั การปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่ง Telephone conversation ผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆ ในโรงแรม บทสนทนา ทางโทรศพั ทแ์ ละการนดั หมาย 1.2 บอกความสาคญั เก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆ ในโรงแรม บทสนทนาทางโทรศพั ทแ์ ละ การนดั หมาย 1.3 แสดงพฤตกิ รรมดา้ นการมมี นุษยสมั พนั ธ์ จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 113. อธบิ ายโครงสรา้ งบทสนทนาทางโทรศพั ทไ์ ด้ อย่างถกู ตอ้ ง 123. สนทนาโตต้ อบทางโทรศพั ทไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 133. ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผูอ้ น่ื เคร่อื งมอื และอปุ กรณ์ วสั ดุ 1. มดี , กรรไกร 1. ปากกา 2. กระดาษ 100 ปอนด์ 2. ดนิ สอ 3. กาว 3. สสี าหรบั ตกแต่ง 4. สี ลาดบั ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 1. แบ่งนกั เรยี นตามความสมคั รใจ 5 กลมุ่ เลอื กหวั หนา้ กลมุ่ ประชมุ แบง่ หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ 2. ศึกษาขอ้ มลู บทสนทนาทางโทรศพั ท์ 3. เขยี นสรปุ เน้อื หาย่อยๆ ลงในกระดาษ 4. ออกแบบช้นิ งานลงในกระดาษ 100 ปอนด์ 5. ผา่ นการตรวจสอบความถกู ตอ้ งจากครูผูส้ อน 6. นาเสนอช้นิ งาน บรหิ ารเวลากลมุ่ ละ 10 นาที 7. นกั เรยี นบนั ทกึ ขอ้ มลู ลงสมดุ บรหิ ารเวลา 10 นาที

การประเมินผล 4 คะแนน 1. วธิ วี ดั 4 คะแนน - ตรวจผลงาน 2 คะแนน 2. เคร่อื งมอื วดั - เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 3. เกณฑก์ ารวดั - ความถกู ตอ้ ง - ความคดิ สรา้ งสรรค์ - ตรงเวลา เอกสารอา้ งองิ ไกรวลั ศรปี ระทกั ษ.์ ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร. กรงุ เทพฯ: เอมพนั ธ.์ 2563

แผนภมู กิ ารจดั งาน (Flow’s Chart) 1. แบ่งนกั เรียนตามความสมคั รใจ 5 กลุ่มเลอื กหวั หนา้ บรหิ ารเวลา 20 นาที กลมุ่ ประชมุ แบ่งหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ 2. ศึกษาขอ้ มลู บทสนทนาทางโทรศพั ท์ บรหิ ารเวลา 20 นาที 3. เขยี นสรุปเน้อื หาย่อยๆ ลงในกระดาษ บรหิ ารเวลา 30 นาที 5. ผา่ นการตรวจสอบความถกู ตอ้ งจากครูผูส้ อน บรหิ ารเวลา 20 นาที 6. นาเสนอช้นิ งาน บรหิ ารเวลากลมุ่ ละ 10 นาที บรหิ ารเวลา 55 นาที 7. นกั เรยี นบนั ทกึ ขอ้ มลู ลงสมดุ บรหิ ารเวลา 20 นาที บรหิ ารเวลา 20 นาที รวมเวลา 165 นาที

ตารางกาหนดเวลาการปฏบิ ตั กิ าร (Gantt’s Chart) วิชา ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร รหสั วชิ า 30000-1208 ภาคเรยี นท่ี 2 พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. จด ท่ี งาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 บนั ทกึ 1 ESB Conversation Book 2 3 4 5 สถานศึกษา วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ อาจารยผ์ ูส้ อน อ.วฒั นา พรหมจรรย์

แบบฟอรม์ การประเมนิ ผลการนาเสนอช้ินงาน (Folio) แบบประเมนิ ผล กจิ กรรม.................................................................................................................... ชอ่ื ..............................ชอ่ื สกลุ ...................................สาขาวชิ า..............................เลขท.่ี .................. ท่ี รายการประเมนิ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ บนั ทึก 4321 1 ดา้ นการออกเสยี ง 1.1 ออกเสยี งอกั ขระถกู ตอ้ งชดั เจน 1.2 ใชร้ ะดบั ภาษาไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม มคี วามมนั่ ใจ 2 ดา้ นบคุ ลกิ ภาพ ความคลอ่ งแคลว่ 2.1 พูดไดต้ ่อเน่อื ง ไมต่ ดิ ขดั ตะกกุ ตะกกั 2.2 กม้ หนา้ อา่ นเน้อื หานอ้ ยมาก 2.3 แสดงทา่ ทางประกอบเหมาะสมกบั เรอ่ื ง 2.4 แต่งการสุภาพเรยี บรอ้ ย 3 ดา้ นการนาเสนอ 3.1 นาเสนอไดอ้ ย่างน่าสนใจ 3.2 เสนอเร่อื งตามลาดบั ขน้ั ตอน 3.3 ชกั ชวนผูฟ้ งั ใหต้ ดิ ตาม 3.4 ใชส้ อ่ื ประกอบการนาเสนอไดเ้หมาะสม 4 ดา้ นเวลา 4.1 พดู จบเน้อื หาภายในเวลาทก่ี าหนด 4.2 ใชเ้วลามากนอ้ ยจากทก่ี าหนดไมเ่ กนิ 2 นาที รวม บนั ทกึ ความคิดเหน็ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ .......................................... อาจารยป์ ระจาวชิ า .........../........../..........

กจิ กรรม/ขอ้ เสนอแนะ 1. วชิ าภาษาองั กฤษเพ่อื ธุรกิจบริการ หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลุ่มวชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกิจ เรยี นทฤษฎี 3 ชวั่ โมงต่อสปั ดาห์ ระยะเวลา 18 สปั ดาห์ รวมทงั้ ส้นิ 54 ชวั่ โมง ตลอดภาคเรยี น 3 หน่วยกติ จดุ ประสงคร์ ายวชิ าเนน้ ในเร่อื งทกั ษะ (skill) เพอ่ื นาไปใชใ้ นอาชีพไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธิภาพ ดงั นน้ั การเรยี นการสอนจงึ ตอ้ งม่งุ เนน้ การสรา้ งทกั ษะ โดยการฝึกปฏบิ ตั ิยึดหลกั ไวยากรณ์ กระบวนการในการทางาน ความสามารถเฉพาะตวั และการทางานเป็นทมี ยดึ ผูเ้ รียน เป็นสาคญั โดยมี ช้นิ งานเป็นร่องรอยการปฏบิ ตั งิ านมแี ผนบูรณาการกบั วชิ าอน่ื ทเ่ี ก่ียวขอ้ งเพอ่ื นาไปสู่กระบวนการการเรยี น การสอน มเี กณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน/ช้นิ งาน 2. ม่งุ สรา้ งความรบั ผิดชอบงาน/ภารกิจ ความเป็นระเบียบในการทางาน การบูรณาการเนน้ การฝึกปฏิบตั ิเพอ่ื ใหเ้ กิดทกั ษะ นกั เรียนแต่ละคนจะมคี วามรูใ้ นส่วนท่เี ป็นทฤษฎี หลกั การกระบวนการ (คือการสรปุ คาศพั ทส์ านวนทใ่ี ชใ้ นสถานการณต์ ่างๆ ตอบคาถามเพอ่ื ทบทวน) และส่วนทเ่ี ป็นทกั ษะ (skill) โดยนาเอากระบวนการของทฤษฎไี ปสู่ภาคปฏบิ ตั ิ (การนาเสนอช้นิ งาน การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ฯลฯ) นกั เรยี น แต่ละคนจะไดร้ บั การเอาใจใสจ่ ากครูผูส้ อน โดยใชเ้กณฑก์ ารใหค้ ะแนน ทกุ ช้นิ งานจะถกู ควบคมุ โดยตาราง เวลาควบคมุ การปฏบิ ตั งิ าน (Gantt’s Chart) 3. ม่งุ เนน้ สรา้ งบคุ ลกิ ภาพทด่ี ี ความรอบรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูอ้ ่นื ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น และนามาประยุกตใ์ ชใ้ หเ้หมาะสมกบั สถานการณ์ในการสนทนาโตต้ อบ 4. จดั ป้ายนเิ ทศการนาเสนอและการสาธติ 5. สนทนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร การแสดงบทบาทสมมติ 6. กิจกรรม/ภารกิจทุกช้ินงาน ผูส้ อนจะมอบหมายงานล่วงหนา้ อย่างชดั เจน เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียน ทราบวา่ จะไดร้ บั ประโยชนอ์ ะไรบา้ ง และนาไปใชใ้ นสถานการณจ์ รงิ ไดอ้ ย่างไร

การวดั ผลและการประเมินผลการเรยี น 1. ผูส้ อนจะตอ้ งเตรียมการวางแผนการสอนอย่างรอบคอบ โดยสรุปบทเรียนแต่ละบทท่เี ป็น สาระสาคญั ในส่วนทเ่ี ป็นทฤษฎี กระบวนการ ตามกาหนดเวลาและจดั หาสอ่ื การเรียนการสอนประกอบ ในแต่ละบทเรยี น 2. มอบหมายกจิ กรรม/ภารกิจ ส่วนทเ่ี ป็นความรูแ้ ละสว่ นทเ่ี ป็นทกั ษะตลอดภาคเรยี น 3. กาหนดตารางการส่งงาน ครง้ั ท่ี 1 เน้อื งาน 10 4. การส่งงานทุกครงั้ ผูส้ อนจะตอ้ งสรุปขอ้ ท่ีควรปรบั ปรุงและแกไ้ ขใหต้ รงกบั ความตอ้ งการ ของผูส้ อน 5. ผูส้ อนจะตอ้ งออกแบบประเมินผลตามหลกั เกณฑ์ และอธิบายใหผ้ ูเ้ รียนไดท้ ราบการ ประเมินผลกิจกรรมบางอย่าง เช่น การนาเสนอหนา้ ชนั้ เรียน ควรใหผ้ ูเ้ รียนมีส่วนร่วมประเมินดว้ ย เป็นการสรา้ งความยุติธรรมระหว่างผูส้ อนและผูเ้ รียน (การออกแบบประเมินผลอาจออกแบบร่วมกนั ระหวา่ งผูส้ อนและผูเ้รยี นก็ได)้ 6. ผูส้ อนจะตอ้ งอธบิ ายการวดั ผลและประเมนิ ผลใหผ้ ูเ้รยี นไดร้ บั รูอ้ ย่างชดั เจน 7. วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื งานบริการโรงแรม การใหน้ า้ หนกั คะแนนเป็นไปตามระเบยี บ การวดั ผล ของโรงเรียน โดยมแี นวคิดดงั น้ี วชิ าการเรียนภาษาองั กฤษผ่านสอ่ื อิเลก็ ทรอนิกส์ เป็นการผสมผสาน ระหว่างทฤษฎีและปฏบิ ตั ิ โดยนาเอาทฤษฎสี ู่การปฏบิ ตั ิเพอ่ื ใหเ้ ป็นช้นิ งาน (Folio) ดงั นน้ั นา้ หนกั คะแนน จะเป็น 80:20 ซ่งึ หมายความว่า 80 คะแนนเป็นคะแนนสอบรายจุดประสงค์ 50 คะแนน ช้ินงาน 10 คะแนน จติ พสิ ยั 20 คะแนน และ 20 คะแนนเป็นคะแนนสอบปลายภาค

แนวขอ้ สอบปลายภาค 40 10 Final Examination 10 English for Service Business (30000-1208) 5 Part I Choose the correct answer Part II Matching the meaning Part III Fill in the blanks Part IV Reading comprehension

หนงั สอื อา้ งองิ /เอกสารประกอบการสอน รายช่อื หนงั สอื ทน่ี กั เรยี นใชเ้รยี นและคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ ในวชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร หนงั สอื หลกั เลม่ ท่ี ชอ่ื หนงั สอื ชอ่ื ผูเ้รยี บเรยี ง พ.ศ. ทพ่ี มิ พ์ 1 ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกิจบรกิ าร ไกรวลั ศรปี ระทกั ษ์ 2563 หนงั สอื ประกอบ เลม่ ท่ี ช่อื หนงั สอื ชอ่ื ผูเ้รยี บเรยี ง พ.ศ. ทพ่ี มิ พ์

กาหนดการสอน สปั ดาห์ คาบท่ี รายการสอน หมายเหตุ 1. Hotel Manager and Secretary 1 1-3 2 3-6 1.1 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั การปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่ง ผูจ้ ดั การโรงแรม 3 7-9 แผนกต่างๆในโรงแรม บทสนทนา ทางโทรศพั ท์ และการนดั หมาย 4 10-12 1.2 เขยี นอธบิ ายความสาคญั เกย่ี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆ ในโรงแรม สนทนาทางโทรศพั ทแ์ ละการนดั หมายได้ 1.3 แสดงพฤตกิ รรมดา้ นการมมี นุษยสมั พนั ธ์ 111. ความหมายของสานวนทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การ โรงแรม 121. ประเภทของสานวนทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การ โรงแรม 131. แสดงกรยิ าทา่ ทางสุภาพ 112. ความหมายของคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั แผนกต่างๆ ในโรงแรม 122. ขอ้ มลู เก่ยี วกบั แผนกต่างๆ ในโรงแรม 132. รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ น่ื 113. โครงสรา้ งของบทสนทนาทางโทรศพั ท์ 123. บทสนทนาโตต้ อบทางโทรศพั ท์ 133. ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผูอ้ น่ื 114. บทสนทนาทเ่ี กย่ี วกบั การนดั หมาย 124. สานวนทางภาษาในการนดั หมาย 134. ช่นื ชมยนิ ดเี มอ่ื ผูอ้ น่ื ประสบความสาเร็จ 2. Salesperson and Shop Assistant 2.1 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั สานวนทใ่ี ชใ้ นการสนทนาการซ้อื ขายสนิ คา้ บทสนทนาสาหรบั ผูช้ ่วยดูแลรา้ น และคานาม containers ทเ่ี ป็น countable noun และ uncountable noun 2.2 สนทนาซ้อื ขายสนิ คา้ สนทนาโตต้ อบในฐานะผูช้ ่วยดูแลรา้ น และบอก คานาม Containers ทเ่ี ป็น Countable noun และ Uncountable noun ได้ 2.3 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนิสยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ

กาหนดการสอน (ตอ่ ) สปั ดาห์ คาบท่ี รายการสอน หมายเหตุ 5 13-15 211. สานวนทใ่ี ชใ้ นการสนทนาการซ้อื ขายสนิ คา้ 221. บทสนทนาซ้อื ขายสนิ คา้ 231. มคี วามพรอ้ มในการเรยี นและการปฏบิ ตั งิ าน 6 16-18 212. บทสนทนาทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ผูช้ ่วยดูแลรา้ น 222. บทสนทนาการโตต้ อบในฐานะผูช้ ่วยดูแลรา้ น 232. ปฏบิ ตั งิ านตามขน้ั ตอนทว่ี างไว้ 7 19-21 213. คานาม Containers ทเ่ี ป็น Countable noun และ Uncountable noun 223. ประเภทคานาม Containers ทเ่ี ป็น Countable noun และ Uncountable noun ได้ 233. มคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นและการปฏบิ ตั งิ าน 3. Waitperson and Nurse 3.1 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั คาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั หนา้ ทข่ี องพนกั งานเสริ ฟ์ คากรยิ าทใ่ี ชใ้ นการปรงุ อาหารลกั ษณะต่างๆ และการอธบิ ายอาการ เจบ็ ป่วยต่างๆ 3.2 เขยี นความหมายของคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั หนา้ ทข่ี องพนกั งานเสริ ฟ์ คากรยิ าทใ่ี ชใ้ นการปรงุ อาหารลกั ษณะต่างๆ และการอธบิ ายอาการ เจบ็ ป่วยต่างๆ 3.3 แสดงพฤตกิ รรมความสนใจใฝ่รูใ้ นเรอ่ื งต่างๆ 8 22-24 311. คาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วกบั หนา้ ทข่ี องพนกั งานเสริ ฟ์ 321. ความหมายของคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั หนา้ ทข่ี องพนกั งานเสริ ฟ์ 331. ศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง 9 25-27 312. คากรยิ าทใ่ี ชใ้ นการปรุงอาหารลกั ษณะต่างๆ 322. คากรยิ าทใ่ี ชใ้ นการเขยี นบรรยายการปรุงอาหารลกั ษณะต่างๆ 332. ซกั ถามปญั หาขอ้ สงสยั 10 28-30 313. โครงสรา้ งสานวนแสดงอาการเจบ็ ป่วยต่างๆ 323. อธบิ ายอาการเจบ็ ป่วยต่างๆ 333. มคี วามกระตอื รอื รน้ ในการใฝ่หาความรูใ้ หม่

กาหนดการสอน (ตอ่ ) สปั ดาห์ คาบท่ี รายการสอน หมายเหตุ 4. Postal Worker and Travel Agent 4.1 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั คาศพั ทแ์ ละสานวนเก่ยี วกบั การส่งจดหมาย และพสั ดไุ ปรษณีย์ และสานวนในการใหข้ อ้ มลู บรกิ ารการท่องเทย่ี วและ เดนิ ทางแก่ลูกคา้ 4.2 เขยี นคาศพั ทแ์ ละสานวนเก่ยี วกบั การสง่ จดหมายและพสั ดุ ไปรษณีย์ และเขยี นขอ้ มลู บรกิ ารการท่องเทย่ี วและเดนิ ทางแก่ลูกคา้ 4.3 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความเชอ่ื มนั่ ใน ตนเอง 11 31-33 411. คาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั การส่งจดหมายและพสั ดไุ ปรษณีย์ 421. สานวนเกย่ี วกบั การสง่ จดหมายและพสั ดไุ ปรษณีย์ 431. กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล 12 34-36 412. คาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั ขนั้ ตอนการสง่ จดหมายและพสั ดไุ ปรษณีย์ 422. ขนั้ ตอนการส่งจดหมายและพสั ดไุ ปรษณีย์ 432. กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง 13 37-39 413. สานวนการใหข้ อ้ มลู บรกิ ารการท่องเทย่ี วและเดนิ ทางแก่ลูกคา้ 423. บทบาทสมมตกิ ารใหข้ อ้ มลู บรกิ ารการท่องเทย่ี วและเดนิ ทาง แก่ลูกคา้ 433. กลา้ ยอมรบั ความจรงิ 5. Event Manager and Customer-Service 5.1 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั คาศพั ทแ์ สดงประเภทและรูปแบบการจดั งาน คาศพั ทแ์ ละสานวน ภาษาองั กฤษทเ่ี ก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การงานอเี วน้ ท์ และการใหข้ อ้ มลู การแจง้ เตอื น และการแนะนา 5.2 เขยี นและอธบิ ายคาศพั ทแ์ สดงประเภทและรูปแบบการจดั งาน คาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาองั กฤษทเ่ี ก่ยี วกบั ตาแหน่งผจู้ ดั การงานอีเวน้ ท์ และการใหข้ อ้ มลู การแจง้ เตอื น และการแนะนา 5.3 แสดงพฤตกิ รรมในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความสามคั คี 14 40-42 511. คาศพั ทแ์ สดงประเภทและรูปแบบการจดั งาน 521. สานวนแสดงประเภทและรูปแบบการจดั งาน 531. ร่วมมอื ในการทางานดว้ ยความกลมเกลยี วและปรองดอง

กาหนดการสอน (ตอ่ ) รายการสอน หมายเหตุ สปั ดาห์ คาบท่ี 512. คาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาองั กฤษทเ่ี ก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การงาน 15 43-45 อเี วน้ ท์ 522. บทบาทสมมตเิ ก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การงานอเี วน้ ท์ 16 47-49 532. รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ น่ื 17 50-51 513. ขน้ั ตอนการพดู ใหข้ อ้ มลู และการแจง้ เตอื น 523. การใหข้ อ้ มลู และการแจง้ เตอื น 18 52-54 533. ปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทผูน้ าและผูต้ ามทด่ี ี 514. ขน้ั ตอนการพดู แนะนาต่างๆ 524. การใหข้ อ้ มลู ต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 534. ยอมรบั ความแตกต่างทางวฒั นธรรม ความคดิ ความเชอ่ื ท่ี หลากหลาย พรอ้ มทจ่ี ะปรบั ตวั เพอ่ื อยู่ร่วมกนั อย่างสนั ติ สอบปลายภาค

การประเมินผลรายวชิ า รายวชิ าน้ีแบ่งออกเป็น 5 หน่วยการเรียน แยกได้ 17 หวั ขอ้ การวดั และประเมนิ ผลจะ ดาเนินการดงั น้ี 1. วธิ กี าร ดาเนนิ การรวบรวมขอ้ มลู เพอ่ื การประเมนิ ผลแยกเป็น 3 ส่วน โดยแบง่ คะแนนแต่ละสว่ นจาก คะแนนเตม็ 100 คะแนน 1.1 พจิ ารณาผลงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 10 คะแนน หรอื 10% 1.2 พจิ ารณาจติ พสิ ยั ความสนใจ การเขา้ ร่วมกิจกรรม 20 คะแนน หรอื 20% 1.3 การทดสอบหน่วยการเรยี น 70 คะแนน หรอื 70% 1.3.1 สอบเก็บคะแนน 5 ครง้ั 50 คะแนน หรอื 50% 1.3.2 สอบกลางภาค ครงั้ คะแนน หรอื 1.3.3 สอบปลายภาค 1 ครงั้ 20 คะแนน หรอื 20% 2. เกณฑผ์ ่าน ผูท้ ผ่ี า่ นวชิ าน้ีจะตอ้ ง 2.1 ทาผลงานทม่ี อบหมายได้ 7 คะแนน เป็นอย่างนอ้ ยหรือรอ้ ยละ 70 ของคะแนนผลงาน 2.2 มเี วลาเขา้ หอ้ งเรยี นไม่ตา่ กวา่ รอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นทง้ั หมด 2.3 ผลรวมของคะแนนทง้ั หมดตอ้ งไมต่ า่ กวา่ รอ้ ยละ 70 2.4 ตอ้ งสอบผ่านหน่วยท่สี าคญั 4 หน่วย คือ หน่วยท่ี 1 ถงึ หน่วยท่ี 5 ซง่ึ เป็น หน่วยบงั คบั ไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ 70 ถา้ สอบไม่ผ่านตามเกณฑใ์ หม้ โี อกาสสอบแกต้ วั ในหน่วยท่ตี ก 1 ครงั้ เป็นอย่างนอ้ ย 3. เกณฑค์ ่าระดบั คะแนน 3.1 พจิ ารณาตามเกณฑผ์ ่านรายวชิ าตามขอ้ 2 ผูไ้ มผ่ า่ นเกณฑข์ อ้ 2.2 จะไดร้ บั ค่าคะแนน 1 หรือ จ หรอื F 3.2 ผูท้ ส่ี อบผ่านเกณฑข์ อ้ ท่ี 2 จะไดค้ ่าคะแนนตามเกณฑด์ งั น้ี คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 4 หรอื ก หรอื A คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 3.5 หรอื ข+ หรอื B+ คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 3 หรอื ข หรอื B คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 2.5 หรอื ค+ หรอื C+ คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 2 หรอื ค หรอื C คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 1.5 หรอื ง+ หรอื D+ คะแนนรอ้ ยละ ข้นึ ไปได้ 1 หรอื ง หรอื D

วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวิทย์ สปั ดาหท์ ่ี 1 คาบท่ี 1-3 ท-ป-น 3-0-3 เวลา 3 คาบ 165 นาที รหสั วิชา 30000-1208 วชิ า ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร หน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย Hotel Manager and Secretary ****************************************************************************************** รายการสอน Hotel manager responsibility สาระสาคญั ผูจ้ ดั การโรงแรม (Hotel Manager) มกี ารบริหารจดั การเป็นไปดว้ ยความ เรียบรอ้ ยตามเจตนารมณ์ของเจา้ ของโรงแรม เพ่อื อานวยความสะดวกในเร่ือง ทพ่ี กั และอาหาร ผูจ้ ดั การโรงแรมควรจะผ่านการฝึกอบรมวชิ าการบริหารจดั การ โรงแรม ควบคุมดูแลการทางานของเจา้ หนา้ ท่ที งั้ หมดเพ่อื ใหก้ ารบริการเป็นท่ี พอใจแก่ลูกคา้ ปรบั ปรุงการปฏบิ ตั ิงาน พรอ้ มทงั้ ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานของ ฝ่ายต่าง ๆ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. นกั เรยี นมวี นิ ยั ในตนเอง 2. นกั เรยี นมคี วามกลา้ แสดงออกมากข้นึ 3. นกั เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ คณุ ธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา สมรรถนะประจาหน่วย 1.1 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั การปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่ง ผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆในโรงแรม บทสนทนา ทางโทรศพั ท์ และการนดั หมาย 1.2 เขยี นอธบิ ายความสาคญั เก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆ ในโรงแรมสนทนาทางโทรศพั ทแ์ ละการนดั หมายได้ 1.3 แสดงพฤตกิ รรมดา้ นการมมี นุษยสมั พนั ธ์ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 111. บอกความหมายของสานวนทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การ โรงแรมไดถ้ กู ตอ้ ง 121. แยกประเภทของสานวนทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การ โรงแรมไดถ้ กู ตอ้ ง 131. แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพ เน้ือหา Hotel manager responsibility - Hotel manager introduction - Type of room in the hotel

เน้ือหา (คาบท่ี 1-2) Hotel manager introduction How are you doing? Good Morning! How are you today? Have a nice stay! May I help you? Have fun! What can I do for you? Enjoy your stay! These are sentences of my life. I have to say those over and over again every day. Anyway, I’m feeling so good every time I do, because it means I will have a chance to take care of people and make them happy. I always keep reminding myself of my first and only priority, being service-minded and caring. Oh! I forgot to introduce myself. My name is Parinya. I’m 35 years of age. I earned my bachelor in Hotel and Tourism Management. Working at a 4-star hotel in Chiang Mai, I’m now a front office manager. If I have enough money next year, I will go for a master’s degree in Hotel Management somewhere in Switzerland. Sentences for Hotel manager - How are you doing? - Good Morning! - How are you today? - Have a nice stay! - May I help you? - Have fun! - What can I do for you? - Enjoy your stay! Types of sentences Congratulate Assistance Greeting Have a nice stay! May I help you? Have fun! What can I do for you? How are you doing? Enjoy your stay! Good Morning! How are you today?

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี 1-2) กจิ กรรม 3P 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สขุ ภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูสนทนากบั นกั เรยี นเก่ยี วกบั งานของการเป็นผูจ้ ดั การโรงแรมวา่ มหี นา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ อะไรบา้ งโดยใชค้ าถาม - Who is a hotel manager? - What are the hotel manager's responsibilities? 2. ขน้ั กจิ กรรม 2.1 ขนั้ นาเสนอ (P1 = Presentation) ครูอธบิ ายรายละเอยี ดสานวนทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของ ตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม 2.2 ขน้ั ฝึก (P2 = Practice) นกั เรยี นแยกประเภทของสานวนทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่ง ผูจ้ ดั การโรงแรม 2.3 ขน้ั นาไปใช้ (P3 = Production) นกั เรยี นใชส้ านวนในการปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผจู้ ดั การ โรงแรมไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง และมกี ริ ยิ าท่าทางทส่ี ภุ าพ 3. ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เน้อื หาเกย่ี วกบั สานวนทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การ โรงแรม 4. ขน้ั การประเมนิ ผล 4.1 เคร่อื งมอื วดั ผล - คาถามเก่ยี วกบั สานวนทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผจู้ ดั การโรงแรม 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - การตรวจคาตอบ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งรอ้ ยละ 60

ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การปฏบิ ตั งิ านในองคก์ รธุรกจิ - วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การตดิ ต่อทางธุรกิจ กจิ กรรมเสนอแนะ - การคน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม สอ่ื การเรยี นการสอน - ใบความรู้ เอกสารอา้ งองิ ไกรวลั ศรปี ระทกั ษ.์ ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร. กรงุ เทพฯ: เอมพนั ธ.์ 2563

เน้ือหา (คาบท่ี 3) Type of room in the hotel - Single: A room assigned to one person. May have one or more beds. - Double: A room assigned to two people. May have one or more beds. - Triple: A room assigned to three people. May have two or more beds. - Quad: A room assigned to four people. May have two or more beds. - Queen: A room with a queen-sized bed. May be occupied by one or more people. - King: A room with a king-sized bed. May be occupied by one or more people. - Twin: A room with two beds. May be occupied by one or more people. - Double - double: A room with two double (or perhaps queen) beds. May be occupied by one or more people. - Studio: A room with a studio bed - a couch that can be converted into a bed. May also have an additional bed Types of Suites can include: - Master Suite: A parlor or living room connected to one or more bedrooms. - Mini-Suite or Junior Suite: A single room with a bed and sitting area. Sometimes the sleeping area is in a bedroom separate from the parlor or living room. Other types of rooms can include: - Connecting rooms: Rooms with individual entrance doors from the outside and a connecting door between. Guests can move between rooms without going through the hallway. - Adjoining rooms: Rooms with a common wall, but no connecting door. - Adjacent rooms: Rooms close to each other, perhaps across the hall.

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี 3) กระบวนการเรยี นภาษา 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูยกตวั อย่างประโยคคาถามทใ่ี ชใ้ นการสอบถามขอ้ มลู เก่ยี วกบั หอ้ งพกั ในโรงแรมโดยใชป้ ระโยค - Which type of room contains two single beds? - Which type of bed is only big enough for one person? 2. ขน้ั กจิ กรรม 2.1 ทาความเขา้ ใจสญั ลกั ษณ์ นกั เรยี นศึกษาประเภทหอ้ งพกั ในโรงแรม 2.2 สรา้ งความคิดรวบยอด นกั เรยี นบอกความหมายของคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั ประเภทหอ้ งพกั ในโรงแรม 2.3 สอ่ื ความหมาย ความคดิ นกั เรยี นอธบิ ายรายละเอยี ดเก่ยี วกบั ประเภทหอ้ งพกั ในโรงแรม 2.4 พฒั นาความสามารถ นกั เรยี นสนทนาโตต้ อบคาถามเก่ยี วกบั ประเภทหอ้ งพกั ในโรงแรม โดยใช้ กิรยิ าท่าทางทส่ี ุภาพ 3. ขน้ั สรุป ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ รายเน้อื หาเก่ยี วกบั ประเภทหอ้ งพกั ในโรงแรม 4. ขน้ั การประเมนิ ผล 4.1 เครอ่ื งมอื วดั ผล - คาถามเก่ยี วกบั ความหมายของคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั ประเภทหอ้ งพกั ในโรงแรม 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - การตรวจคาตอบ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งรอ้ ยละ 60 ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การปฏบิ ตั งิ านในองคก์ รธุรกจิ - วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การตดิ ต่อทางธุรกิจ

กจิ กรรมเสนอแนะ - ขอ้ มลู เก่ยี วกบั หอ้ งพกั ในโรงแรม สอ่ื การเรยี นการสอน - ใบความรู้ เอกสารอา้ งองิ ไกรวลั ศรปี ระทกั ษ.์ ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร. กรงุ เทพฯ: เอมพนั ธ.์ 2563

วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวทิ ย์ สปั ดาหท์ ่ี 2 คาบท่ี 4-6 ท-ป-น 3-0-3 เวลา 3 คาบ 165 นาที รหสั วชิ า 30000-1208 วชิ า ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร หน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย Hotel Manager and Secretary ******************************************************************************************* รายการสอน Hotel personnel สาระสาคญั การจดั ทาโครงสรา้ งองคก์ รของธุรกิจโรงแรมและทพ่ี กั นน้ั เป็นไปเพอ่ื กาหนดและ แบง่ แผนกหรอื หน่วยงานแตกต่างกนั ออกไป ทง้ั ยงั เป็นการแบ่งบทบาทการทางาน ของพนกั งาน เพอ่ื เป็นประโยชนต์ ่อการบรหิ ารธุรกิจมากข้นึ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. นกั เรยี นมวี นิ ยั ในตนเอง 2. นกั เรยี นมคี วามกลา้ แสดงออกมากข้นึ 3. นกั เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ คณุ ธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา สมรรถนะประจาหน่วย 1.1 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั การปฏบิ ตั ิงานของตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆในโรงแรม บทสนทนาทางโทรศพั ท์ และการนดั หมาย 1.2 เขยี นอธบิ ายความสาคญั เก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆ ในโรงแรมสนทนาทางโทรศพั ทแ์ ละการนดั หมายได้ 1.3 แสดงพฤตกิ รรมดา้ นการมมี นุษยสมั พนั ธ์ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 112. บอกความหมายคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั แผนกต่างๆ ในโรงแรมไดถ้ กู ตอ้ ง 122. ใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั แผนกต่างๆ ในโรงแรมไดถ้ กู ตอ้ ง 132. รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ ่นื เน้ือหา Hotel personnel - Types of Positions at Hotel - Oldest Hotel in the world

เน้ือหา (คาบท่ี 4-5) Types of Positions at Hotel Guest Services/Entry level Front Desk Clerks: As the name implies, these employees man the reception area, which is the first place guests go when they arrive at a hotel. Porters: These employees also used to be called bellhops, and in some hotels they still are. They usually dress in uniform, so that guests recognize that they are employees of the hotel. As soon as a guest checks in at the front desk, the porter helps the guest take his or her luggage to the room and makes sure the room is acceptable to the guest Concierges: At full service and high end or luxury hotels, concierges are available to act as liaisons with guests. If a guest needs a specific service, such as a babysitter, the guest can contact the concierge, who will coordinate the execution of this service. Housekeeping: Nothing reflects worse on a hotel than dirty rooms or an unclean lobby area. Hotels rely on repeat business, and guests usually won't return to a hotel they think is dirty. Having a quality housekeeping staff on the premises ensures that the hotel is clean, rooms are clean, and guests will return. Room Service: If the hotel is equipped with a kitchen, it often offers room service. Guests who want to eat but don't want to leave the hotel or go to the hotel restaurant (if there is one) can order from a menu in their room. Waiter/Waitress: If the hotel has a restaurant, it also needs waiters and waitresses. In a hotel, the most requested meal is usually breakfast, so be prepared to work early hours. Kitchen Staff: As the name implies, as a kitchen staff member you may be cooking, washing dishes, preparing salads, ordering supplies, planning menus, or similar duties, depending on your job. Guest Services/More advanced positions Supervisor of Guest Services: As the supervisor of guest services, you may be responsible for hiring staff members that provide housekeeping services, front desk personnel, reservations coordinators, or concierges.

Front Desk Supervisor: The front desk supervisor manages the front desk workers. You may need to hire, fire, or discipline these workers. Housekeeping Supervisor: If you've worked for several years as a housekeeper, you may be able to be promoted to supervisor. In this position you may be in charge of hiring housekeepers and training them. Kitchen Manager: There are usually many kitchen workers, and the manager needs to be in charge to make sure that kitchen operations are going smoothly.. Restaurant Manager: While the kitchen manager takes care of kitchen operations, the restaurant manager focuses on the guest services in the restaurant. Executive Chef: The executive chef plans the menus for all meals, according to hotel policies and guidelines. He or she is in charge of supervising all other line cooks, sous chefs, and similar kitchen employees. He or she may also be in charge of ordering all of the food and maintaining a budget. Administrative Marketing and Advertising: The marketing and advertising coordinator is in charge of promoting the hotel to the community through various advertising channels, depending on the marketing and advertising budget. Accounting: Accounting staff members are in charge of making sure that the hotel is properly recording all of its income and expenses, paying its bills, taxes, and employees. Purchasing: Purchasing employees look at the usage of items used for running the hotel and make sure there are plenty of those items in stock to meet guests' needs. Event Planner: Many hotels have conference rooms, ballrooms, dining halls, or other spaces that they rent out to businesses and individuals for events such as weddings, seminars, and similar occasions.. Assistant Hotel Manager: The assistant manager performs administrative work for the manager, overseeing a lot of the operations and also compiling and preparing a lot of the reports and budgets the hotel uses. Hotel Manager: The hotel manager is usually where the \"buck stops.\" He or she is ultimately in charge of all aspects of the running of the hotel. If the hotel is getting fewer guest visits, the manager will need to explain what caused this drop and have a plan in place to recover the income.

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี 4-5) กระบวนการกลมุ่ 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูสอบถามนกั เรยี นเก่ยี วกบั ตาแหน่งต่างๆ ในโรงแรมโดยใชป้ ระโยค - What is the position in the hotel? - What is the responsibility of each position in hotel? 2. ขน้ั กจิ กรรม 2.1 เตรยี ม นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน เพอ่ื ศึกษาความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั ตาแหน่งต่างๆ ในโรงแรม 2.2 ปฏบิ ตั ิ นกั เรยี นบอกความหมายของคาศพั ทแ์ ละใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั ตาแหน่งต่างๆ ในโรงแรม 2.3 วเิ คราะห์ นกั เรยี นจดบนั ทกึ ขอ้ มลู และรายละเอยี ดความหมายของคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั ตาแหน่งต่างๆ ในโรงแรม 2.4 สงั เคราะห์ นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั ความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั ตาแหน่ง ต่างๆ ในโรงแรม ซง่ึ นกั เรยี นรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ น่ื 3. ขน้ั สรปุ นกั เรยี นตอบคาถามเก่ยี วกบั ความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั ตาแหน่งต่างๆ ในโรงแรม 4. ขน้ั การประเมนิ ผล 4.1 เครอ่ื งมอื วดั ผล - คาถามเก่ยี วกบั ความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั ตาแหน่งต่างๆ ในโรงแรม 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - สงั เกตการทากจิ กรรมและการตรวจคาตอบ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งรอ้ ยละ 60

ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การปฏบิ ตั งิ านในองคก์ รธุรกจิ - วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การตดิ ต่อทางธุรกิจ กจิ กรรมเสนอแนะ - คาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั ตาแหน่งต่างๆ ในโรงแรม สอ่ื การเรยี นการสอน - เอกสารอา้ งองิ ไกรวลั ศรปี ระทกั ษ.์ ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร. กรงุ เทพฯ: เอมพนั ธ.์ 2563

เน้ือหา (คาบท่ี 6) Oldest Hotel in the world Final Examination

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี 6) กระบวนการเรยี นภาษา 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สขุ ภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูถามคาถามนกั เรยี นเกย่ี วกบั โรงแรมทเ่ี ก่าแก่ทส่ี ุดในโลกโดยใชค้ าถาม - Do you know the oldest hotel in the world? - What is the name of oldest hotel in the world? 2. ขน้ั กจิ กรรม 2.1 ทาความเขา้ ใจสญั ลกั ษณ์ นกั เรยี นศึกษาเน้อื หาเก่ยี วกบั โรงแรมทเ่ี ก่าแก่ทส่ี ดุ ในโลก 2.2 สรา้ งความคิดรวบยอด นกั เรยี นบอกความหมายคาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั โรงแรมทเ่ี ก่าแก่ทส่ี ุดในโลก 2.3 สอ่ื ความหมาย ความคดิ นกั เรยี นอธบิ ายรายละเอยี ดคาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั โรงแรมทเ่ี ก่าแก่ทส่ี ดุ ในโลก 2.4 พฒั นาความสามารถ นกั เรยี นตอบคาถามเก่ยี วกบั โรงแรมทเ่ี ก่าแก่ทส่ี ดุ ในโลก ซง่ึ นกั เรยี นรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ น่ื 3. ขน้ั สรุป ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ รายเน้อื หาเก่ยี วกบั โรงแรมทเ่ี ก่าแก่ทส่ี ุดในโลก 4. ขน้ั การประเมนิ ผล 4.1 เครอ่ื งมอื วดั ผล - คาถามเก่ยี วกบั โรงแรมทเ่ี ก่าแก่ทส่ี ุดในโลก 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - การตรวจคาตอบ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งรอ้ ยละ 60 ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การปฏบิ ตั งิ านในองคก์ รธุรกจิ - วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การตดิ ต่อทางธุรกิจ

กจิ กรรมเสนอแนะ - สอ่ื การเรยี นการสอน - ใบความรู้ เอกสารอา้ งองิ ไกรวลั ศรปี ระทกั ษ.์ ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร. กรงุ เทพฯ: เอมพนั ธ.์ 2563

วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวทิ ย์ สปั ดาหท์ ่ี 3 คาบท่ี 7-9 ท-ป-น 3-0-3 เวลา 3 คาบ 165 นาที รหสั วชิ า 30000-1208 วชิ า ภาษาองั กฤษเพอ่ื ธุรกจิ บรกิ าร หน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย Hotel Manager and Secretary ****************************************************************************************** รายการสอน Telephone conversation สาระสาคญั การติดต่อส่อื สารทางโทรศพั ทเ์ ป็นวธิ ีการท่สี ะดวกและรวดเร็ว การรบั และพูด โทรศัพท์ โดยใชภ้ าษาองั กฤษดว้ ยสานวนท่ีถูกตอ้ งและชัดเจนตรงตาม ความตอ้ งการของผูพ้ ูดจะช่วยใหส้ ่ือสาร ไดเ้ ขา้ ใจตรงกนั ตามวตั ถุประสงค์ นกั เรียนจงึ ตอ้ งศึกษาคาศพั ท์ สานวนและประโยคภาษาองั กฤษ ในการสนทนา ทางโทรศพั ทใ์ หเ้ขา้ ใจและนาไปใชใ้ นแต่ละสถานการณ์ไดอ้ ย่างเหมาะสม คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. นกั เรยี นมวี นิ ยั ในตนเอง 2. นกั เรยี นมคี วามกลา้ แสดงออกมากข้นึ 3. นกั เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ คณุ ธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา สมรรถนะประจาหน่วย 1.1 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั การปฏบิ ตั งิ านของตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆในโรงแรม บทสนทนาทางโทรศพั ท์ และการนดั หมาย 1.2 เขยี นอธบิ ายความสาคญั เก่ยี วกบั ตาแหน่งผูจ้ ดั การโรงแรม แผนกต่างๆ ในโรงแรมสนทนาทางโทรศพั ทแ์ ละการนดั หมายได้ 1.3 แสดงพฤตกิ รรมดา้ นการมมี นุษยสมั พนั ธ์ จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 113. อธบิ ายโครงสรา้ งบทสนทนาทางโทรศพั ทไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 123. สนทนาโตต้ อบทางโทรศพั ทไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 133. ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผูอ้ น่ื เน้ือหา Telephone conversation - Telephone business conversation - Conversation between Jane and her colleagues

เน้ือหา (คาบท่ี 7-8) Telephone business conversation Telephoning is an important part of doing business in English. Telephone conversations, especially business telephone conversations, follow certain patterns: 1. Someone answers the phone and asks if they can help. 2. The caller makes a request-either to be connected to someone or for information. 3. The caller is connected, given information or told that they are not in the office at the moment. 4. If the person who is requested is not in the office, the caller is asked to leave a message. 5. The caller leaves a message or asks other questions. 6. The phone call finishes. Of course, all business telephone conversations do not follow this rigid scheme. But this is the basic outline for most business telephone conversations, especially those made to request information or ask for clarification. Example Telephone business conversation Ray : Good morning, this is Ray speaking. Is Lee in? Lee : Hi, Ray. This is Lee. Ray : Good morning, Lee. How is it going with you today? Lee : Things are wonderful. What can I help you with? Ray : Could we meet for lunch tomorrow to discuss the new project? Lee : That would be great. What restaurant did you have in mind? Ray : We could go to Lozano's downtown. Lee : That would be perfect. It's a nice quiet place to meet. Ray : I'll see you there around twelve then. Lee : I am looking forward to meeting with you. See you then.

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี 7-8) กระบวนการปฏบิ ตั ิ 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูยกตวั อย่างประโยคทใ่ี ชใ้ นการสนทนาทางโทรศพั ท์ A : Good morning. How is it going with you today? B : Things are wonderful. What can I help you with? 2. ขน้ั กจิ กรรม 2.1 การสงั เกต ครูอธบิ ายรายละเอยี ดโครงสรา้ งของบทสนทนาทางโทรศพั ท์ 2.2 การทาตามแบบ นกั เรยี นวางแผนการเขยี นบทสนทนาทางโทรศพั ท์ 2.3 การทาโดยไม่มแี บบ นกั เรยี นฝึกสนทนาโตต้ อบทางโทรศพั ทก์ บั เพอ่ื น ซง่ึ นกั เรยี นใหค้ วามร่วมมอื กบั ผูอ้ น่ื 2.4 การฝึกใหเ้กดิ ทกั ษะ นกั เรยี นสนทนาโตต้ อบทางโทรศพั ทก์ บั เพอ่ื นในสถานการณ์ต่างๆ 3. ขน้ั สรุป ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เน้อื หาเก่ยี วกบั บทสนทนาทางโทรศพั ท์ 4. ขน้ั การประเมนิ ผล 4.1 เคร่อื งมอื วดั ผล - บทสนทนาทางโทรศพั ท์ 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - สงั เกตการปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นสนทนาโตต้ อบทางโทรศพั ทไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื - วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การปฏบิ ตั งิ านในองคก์ รธุรกิจ - วชิ าภาษาองั กฤษเพอ่ื การตดิ ต่อทางธุรกิจ