Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวทางการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์แพร่ระบาด

แนวทางการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์แพร่ระบาด

Published by nvpikup, 2020-06-21 07:13:17

Description: แนวทางการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid-19) ของโรงเรียนบ้านยะพอ ปีการศึกษา 2563

Search

Read the Text Version

ปีการศกึ ษา 2563

I คำนำ ดว้ ยสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขัน้ พนื้ ฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร ได้ ตระหนกั ถึงควำมสำคญั ในกำรดูแลนกั เรียน ผู้ปกครอง ครูและบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ จึงไดจ้ ัดทำแนวทำงกำรจัดกำรเรียนกำนสอนของโรงเรยี นสังกัดสำนกั งำนคณะกรรมกำร กำรศึกษำขั้นพนื้ ฐำน ในสถำนกำรณ์กำรระบำดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019 (Covid-19) ปกี ำรศกึ ษำ 2563 เพือ่ ให้โรงเรยี นใช้เป็นแนวทำงในกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนของโรงเรียน ในสงั กัดอย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ โรงเรยี นบ้ำนยะพอ เป็นสถำนศึกษำภำยใตก้ ำรกำกบั ของสำนกั งำนคณะกรรมกำร กำรศึกษำขั้นพื้นฐำนกระทรวงศกึ ษำธิกำร สงั กดั สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศกึ ษำประถมศึกษำ ตำก เขต 2 ได้ทรำบและตระหนักถึงควำมรนุ แรงทจี่ ะเกิดขนึ้ หำกมกี ำรแพร่ระบำดในสถำน ศกึ ษำจึงได้จดั ทำแนวปฏบิ ัตแิ ละแนวทำงกำรจดั กำรเรียนกำรสอนเพอื่ ใหเ้ กิดควำมปลอดภยั ทง้ั นักเรียนและครูอย่ำงสูงสดุ แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

II สำรบญั เรอื่ ง หนา้ คำนำ I สำรบญั II 1 ควำมรเู้ กี่ยวกับโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (Covid19) 3 ข้อมูลโรงเรียนบำ้ นยะพอ 4 โรงเรยี นบ้ำนยะพอกบั สถำนกำรณโ์ รคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (Covid19) 6 กำรประเมินคววำมพรอ้ มของโรงเรียนบำ้ นยะพอปกี ำรศกึ ษำ 2563 12 ข่ำวสำรจำกงำนอนำมัยโรงเรยี นบำ้ นยะพอ 16 รูปแบบกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนของโรงเรยี น 16 23 ระดับโรงเรยี น 53 ระดับช้ันเรยี น บทบำทกำรสอนของครู แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

1 ความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid19) โรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)คอื อะไร โรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019 (CoroavirusDisease 2019:COVID-19) เป็นตระกูลของไวรสั ท่กี ่อให้เกิดอำกำรปว่ ยตัง้ แตโ่ รคไข้หวัดธรรมดำ ไปจนถึงโรคท่มี ีควำมรนุ แรงมำก เช่น โรคระบบทำงเดนิ หำยใจในตะวันออกกลำง (MERS-CoV) โรคระบบทำงเดินหำยใจเฉียบพลนั รนุ แรง (SARS-CoV) เป็นต้น ซ่งึ เปน็ สำยพนั ธ์ใุ หมท่ ่ไี มเ่ คยพบมำกอ่ นในมนษุ ย์ กอ่ ให้เกดิ อำกำรปว่ ยระบบทำงเดินหำยใจในคน และ สำมำรถแพร่เช้อื จำกคนสคู่ นได้ โดยเช้ือไวรสั นีพ้ บกำรระบำด ครง้ั แรกในเมืองอู่ฮนั่ มณฑลหูเป่ย์ สำธำรณรฐั ประชำชนจีน ในช่วงปลำยปี 2019 หลงั จำกนัน้ ได้มีกำรระบำดไปท่วั โลก องคก์ ำรอนำมยั โลก จึงตงั้ ชื่อกำรตดิ เช้ือไวรสั โคโรนำสำยพนั ธ์ุใหมน่ ้วี ่ำ โรคCOVID-19 อาการของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID -19) อำกำรท่วั ไป ได้แก่ อำกำรระบบทำงเดินหำยใจ มไี ข้ ไอ มนี ้ำมูก เจบ็ คอ หำยใจลำบำก เหนอื่ ยหอบ ไม่ไดก้ ลิ่น ไม่ร้รู ส ในกรณที ่อี ำกำรรนุ แรงมำก อำจทำให้เกดิ ภำวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ ไตวำย หรอื อำจเสียชีวิต โรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19)แพร่กระจายเช้ือได้อยา่ งไร โรคชนิดนมี้ คี วำมเป็นไปไดท้ ่ีมสี ตั ว์เปน็ แหลง่ รงั โรค ส่วนใหญแ่ พรก่ ระจำยผำ่ นกำรสัมผัสกับผูต้ ิดเชื้อผ่ำน ทำงละอองเสมหะจำกกำรไอ นำ้ มกู นำ้ ลำย ปัจจบุ ันยังไมม่ ีหลักฐำนสนับสนนุ กำรแพรก่ ระจำยเชื้อผ่ำน ทำงพนื้ ผวิ สัมผัสทมี่ ีไวรสั แล้วมำสมั ผัสปำก จมกู และตำ สำมำรถแพร่เช้อื ผ่ำนทำงเช้อื ทถี่ ูกขับถ่ำยออก มำกับอจุ จำระเข้ำสู่อกี คนหน่งึ โดยผำ่ นเข้ำทำงปำก ไดด้ ว้ ย แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

2 โรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID -19)รกั ษาไดอ้ ยา่ งไร ยังไม่มียำสำหรับป้องกนั หรอื รกั ษำโรคโควดิ 19 ผูท้ ี่ติดเชอ้ื อำจตอ้ งไดร้ ับกำรรักษำแบบประคับ ประคองตำมอำกำร โดยอำกำรทแี่ สดงแตกต่ำงกัน บำงคนรุนแรงไมม่ ำก ลักษณะเหมอื นไข้หวัดทว่ั ไป บำงคนรุนแรงมำก ทำใหเ้ กดิ ปอดอักเสบได้ ตอ้ งสังเกตอำกำรอย่ำงใกล้ชดิ รว่ มกับกำรรักษำด้วยกำร ประคบั ประคองอำกำรจนกวำ่ จะพน้ อำกำรชว่ งน้นั และยังไม่มียำตัวใด ทม่ี หี ลกั ฐำนชัดเจนวำ่ รักษำโรคโควิด 19ได้โดยตรง แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

3 ขอ้ มูลโรงเรยี นบ้านยะพอ โรงเรียนบำ้ นยะพอเป็นโรงเรียนขนำดกลำง เปิดสอนระดับอนุบำล มธั ยมศึกษำตอนต้น ตัง้ อยู่ หมู่ 5 ตำบลวำเลย่ ์ อำเภอพบพระ จงั หวัดตำก รหัสไปรษณีย์ 63160 (อยใู่ นเขตบรกิ ำร องคก์ ำรบรหิ ำรสว่ นตำบลวำเลย่ )์ เปิดกำรจดั กำรเรียนกำรสอน ดังนี้ (ขอ้ มลู วันที่ 10 มิถุนำยน 2563) ระดับชัน้ เรียน จานวน จานวนเด็กปกติ (คน) จานวนเดก็ พเิ ศษ (คน) รวม ห้อง ชาย หญงิ ชาย หญงิ อนบุ ำล 2 22 10 00 41 อนุบำล 3 2 31 25 00 56 2 53 45 00 98 รวม 4 14 10 00 24 ประถมศกึ ษำปที ่ี 1/1 1 12 13 00 25 ประถมศกึ ษำปที ี่ 1/2 1 9 11 00 20 ประถมศึกษำปที ี่ 2/1 1 9 11 00 20 ประถมศึกษำปีท่ี 2/2 1 23 12 00 35 ประถมศกึ ษำปที ี่ 3 1 15 13 00 28 ประถมศกึ ษำปีท่ี 4 1 17 17 00 34 ประถมศึกษำปที ่ี 5 1 15 19 00 34 ประถมศึกษำปที ่ี 6 1 114 106 00 220 8 13 17 00 30 รวม 1 16 20 00 36 มัธยมศึกษำปีท่ี 1 1 9 19 00 28 มัธยมศึกษำปที ่ี 2 1 38 56 00 94 มัธยมศกึ ษำปที ่ี 3 3 205 207 00 412 15 รวม รวมจานวนนักเรียน แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

4 โรงเรียนบา้ นยะพอกับสถานการณโ์ รคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (Covid19) โรงเรยี นบ้ำนยะพอเปน็ สถำนทท่ี ม่ี นี ักเรียนอยู่รวมกนั จำนวนมำก มักจะมคี วำมเสย่ี งสูง หำกมรี ะบบกำร จดั กำรท่ไี ม่ดี อำจจะมีกำรแพร่ระบำดของเชอื้ COVID-19 ได้ ในกลุ่มเดก็ เนื่องจำกพบว่ำกำรติดเชือ้ COVID-19 สว่ นใหญ่จะไมค่ ่อยมีอำกำรหรือมีอำกำรแสดง คอ่ นข้ำงนอ้ ย ควำมรุนแรงจะน้อยมำก แต่เด็กนกั เรยี นจะเอำเชอ้ื กลับบำ้ น อำจทำให้ กำรแพร่ระบำดเกดิ ขึน้ ได้อย่ำงรวดเรว็ (Super spread spread) ไปยงั บุคคลในบ้ำน หำกมี กำรระบำดในกลุ่มเดก็ ขน้ึ จะมผี ลกระทบในสังคมหรอื ผู้ใกลช้ ิด เช่น ครู พอ่ แม่ ผู้สงู อำยุ ทีต่ ดิ เชือ้ จำกเดก็ ดังนั้น หำกมีกำรเปิดเรียน มโี อกำสสงู ที่จะเกดิ กำรติดเชือ้ ใน กล่มุ เดก็ เพิม่ มำกขนึ้ ซง่ึ เด็กเปน็ กลุ่มทีต่ ้องได้รับกำรดูแลและระมดั ระวังในกำรกระจำยเชือ้ เปน็ อยำ่ งมำก มำตรกำรในกำรเปิดเทอม จึงมีควำมสำคัญมำกในกำรควบคุมกำรระบำด กำรวำงแผนเปิดเทอมจงึ ตอ้ งมั่นใจ วำ่ สำมำรถควบคุมไมใ่ ห้เกิดกำรระบำดของโรค ในเด็กนกั เรียนได้ แนวทางการจดั การเรียนรขู้ องโรงเรยี นบ้านยะพอในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชอ้ื ไวรสั โคโรนา่ 2019 (COVID-19) ตำมประกำศกระทรวงศึกษำธกิ ำร เรือ่ ง กำรเปดิ เรียนของสถำนศึกษำในสงั กดั และในกำกบั ของกระทรวง ศกึ ษำธิกำร ลงวนั ท่ี 9 เมษำยน 2563 ได้ประกำศใหส้ ถำนศกึ ษำทั้งในและนอกระบบซึ่งอยูใ่ นสังกัดและใน กำกบั ของกระทรวงศกึ ษำธิกำรเปดิ เรยี นในวนั ที่ 1 กรกฎำคม 2563 โรงเรยี นบำ้ นยะพอจงึ ได้ดำเนินกำร เตรยี มควำมพรอ้ มรองรบั กำรเปิดภำคเรยี นในวนั ดงั กลำ่ ว ดังน้ี 1. การเตรียมพร้อมกอ่ นเปดิ ภาคเรียน (1) กำรรบั นักเรียน โดยชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 1 รับสมคั รระหวำ่ งวนั ท่ี 3-12 พฤษภำคม 2563 โดย ประสำนกบั ผูใ้ หญ่บำ้ นและประกำศลงเพจโรงเรียน กำรรับสมัครผ่ำนระบบออนไลน์ และนดั พบเพ่ือยน่ื เอกสำรกำรสมคั ร (2) กำรจดั หำสถำนศึกษำและกำรรับรำยงำนตัว/มอบตัวของนกั เรียนทุกคน จะแล้วเสรจ็ ภำยในวนั ท่ี 15 มิถุนำยน 2563 (3) กำรจดั ประชุมชี้แจงทำควำมเขำ้ ใจกำรเตรียมควำมพรอ้ มให้กับครู ในวันท่ี 1 มถิ ุนำยน 2563 และผู้ทเ่ี กยี่ วข้อง ในวนั ที่ 15 มิถนุ ำยน 2563 เพอ่ื เตรยี มกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนในรปู แบบท่ีหลำกหลำย แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

5 2. การจดั การเรยี นการสอน (1 กรกฎาคม 2563 – 30 เมษายน 2564) รปู แบบท่ีโรงเรียนเลือก สำหรับ 2 สถำนกำรณ์ ดังน้ี สถานการณท์ ่ี 1 กรณที ส่ี ถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของเช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019 (Covid – 19) ไม่ คลค่ี ลำย จะจดั กำรเรยี นกำรสอนระดบั ปฐมวัยถงึ ระดบั มธั ยมศึกษำตอนตน้ ดังน้ี กำรจัดกำรเรยี นกำรสอนเป็นรปู แบบทำงเลือกในสถำนกำรณ์ CoVid 19 Educational Disruption สำหรับผ้ปู กครองของเด็กหรือนักเรยี นมคี วำมพร้อม สำมำรถดำเนนิ กำรร่วมกับโรงเรยี น นักเรยี น ผปู้ กครอง และครู ตอ้ งรว่ มมอื กัน ในกำรใหค้ วำมรกู้ ับผเู้ รียน รวมทง้ั มีกำรใช้สื่อ แหลง่ เรียนรู้ และทรัพยำกรท่ีมอี ยอู่ ย่ำงเกดิ ประโยชนส์ งู สดุ อำจไมจ่ ำเป็นตอ้ งจดั หำหรอื จดั สรรทรพั ยำกรเพิ่มเตมิ ท่ีสำคัญสำมำรถลงมอื ไดท้ นั ที กำรจดั กำรเรียนตำมรูปแบบอำจจำแนกผ้เู รียนออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กล่มุ นกั เรียนท่มี คี วำมพรอ้ มสำมำรถเรียนดว้ ยตนเองได้ 2. กลมุ่ นักเรยี นที่มคี วำมพรอ้ มบำงสว่ นสำมำรถเรียนไดโ้ ดยกำรเรยี นรว่ มกบั ผู้อื่นหรอื มี ผปู้ กครองคอยดแู ล 3. กลุ่มนกั เรียนท่ไี มม่ ีควำมพร้อมไมส่ ำมำรถเรียนดว้ ยตนเองได้ครูต้องจดั กำรเรียนกำรสอนให้ และคอยกำกับดแู ล จำกนัน้ จดั กำรเรียนกำรสอนตำมควำมพร้อม บรบิ ทของผเู้ รียนและครอบครัว โดย ผู้สอนมหี นำ้ ท่ีในกำรดำเนนิ กำรจัดกำรเรยี นกำรสอน ดงั น้ี 1. จัดเตรยี มแผนกำรสอนและอปุ กรณ์กำรสอน จำกท่มี อี ยู่เดมิ จัดชดุ เป็นชดุ กำรเรียนรสู้ ำหรบั นักเรยี นแต่ละคน ในแต่ละวิชำ 2. จัดหำและสบื ค้นสอ่ื ออนไลน์ ไม่วำ่ จะเป็นสื่อของสำนกั พิมพ์ตำ่ ง ๆ ทจี่ ัดทำเผยแพร่ หรือสือ่ ของระบบกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนทำงไกล DLTV ซึง่ เป็นสือ่ กำรสอนทำงไกลท่ีมกี ำรจดั หมวดหมตู่ ำม เนอ้ื หำวิชำและมีกำหนดกำรสอบพรอ้ มแบบประเมนิ ประกอบอยูแ่ ล้วสะดวกแกผ่ ู้สอนทจี่ ะนำมำ ประยกุ ตใ์ ช้ ไม่ต้องสร้ำงใหม่ 3. ปรบั ปรุงแผนกำรจดั กำรเรียนกำรสอนใหส้ อดคล้องกับรปู แบบทจ่ี ะนำมำใช้ กำหนดบทบำท ของบุคคลท่จี ะต้องมีส่วนร่วมอย่ำงชดั เจนและครอบคลุม ตำมระดับควำมพรอ้ มของผู้เรียน 4. จดั เตรยี มระบบสอื่ สำรออนไลนร์ ะหว่ำง ผเู้ รียน ผู้ปกครอง และผูส้ อนให้พรอ้ ม โดยใชร้ ะบบ ทม่ี ีอย่เู ดมิ และไมจ่ ำเป็นต้องจัดหำเพิม่ เติม เช่น facebook ,Line ,Google หรอื เบอร์โทรศัพท์ หำกไม่ สำมำรถส่ือสำรในแบบออนไลน์ได้ผู้สอนจำเป็นตอ้ งรู้จกั บ้ำนพกั นักเรียนเพ่อื เดินทำงไปแนะนำ จัดกำร เรียนกำรสอนให้เปน็ พิเศษ แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

6 การประเมินความพรอ้ มของโรงเรยี นบ้านยะพอ ปกี ารศึกษา 2563 สถานศึกษา โรงเรียนบ้านยะพอ สงั กดั สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาตาก เขต 2 จานวนนกั เรียน 412 คน ครู 22 คน รวมทงั้ สิน้ 433 คน ตาบล วาเล่ย์ อาเภอ พบพระ จงั หวดั ตาก . โทรศพั ท์ 055-508960 มติ ทิ ี่ 1 ความปลอดภยั จาการลดการแพรเ่ ช้ือโรค ขอ้ ประเดน็ มี ไมม่ ี หมายเหตุ 1 มมี ำตรกำรคดั กรองวดั ไข้ ใหก้ บั นักเรียน ครู และผู้เขำ้ มำติดตอ่  ทกุ คนก่อนเขำ้ สถำนศกึ ษำหรือไม่ 2 มีมำตรฐกำรสงั เกตอำกำรเสย่ี งโควิด 19 เช่น ไอ มีนำ้ มูก เจ็บคอ  เหน่อื ยหอบ หำยใจลำบำก จมกู ไม่ได้กล่ิน ลน้ิ ไมร่ รู้ ส พร้อมบันทึก ผลสำหรับนักเรยี น ครู และผเู้ ข้ำมำติดตอ่ ทุกคน ก่อนเข้ำ สถำนศกึ ษำหรือไม่ 3 มนี โยบำยกำหนดใหน้ ักเรียน ครู และผเู้ ขำ้ มำในสถำนศึกษำทกุ คน  ต้องสวมหนำ้ กำกผ้ำหรอื หนำ้ กำกอนำมัย หรือไม่ 4 มกี ำรจัดเตรียมหน้ำกำกผ้ำหรือหนำ้ กำกอนำมยั สำรองไว้ใหก้ ับ  นกั เรียนร้องขอ หรอื ผ้ทู ไ่ี ม่มหี นำ้ กำกเข้ำมำในสถำนศึกษำ หรอื ไม่ 5 มจี ดุ ลำ้ งมอื ด้วยสบู่ อย่ำงเพียงพอ หรอื ไม่  6 มกี ำรจัดวำงเจลแอลกอฮอล์สำหรับใชท้ ำควำมสะอำดมอื บรเิ วณ  ทำงเขำ้ อำคำรเรียน หนำ้ ประตหู ้องเรยี น ทำงเข้ำโรงอำหำร อยำ่ งเพียงพอหรอื ไม่ 7 มกี ำรจดั โต๊ะเรียน เก้ำอ้ีนงั่ เรยี น ทนี่ ่งั ในโรงอำหำร ทน่ี ั่งพัก โดยจดั  เวน้ ระยะห่ำงระหวำ่ งกนั อย่ำงน้อย 1-2 เมตร (ยึดหลกั Social distancing) หรอื ไม่ 8 มีกำร ทำสัญลกั ษณแ์ สดงจดุ ตำแหนง่ ชัดเจนในกำรจัดเวน้ ระยะห่ำง  ระหวำ่ งกันหรือไม่ 9 กรณีหอ้ งเรยี นไมส่ ำมำรถจดั เว้นระยะห่ำงตำมทีก่ ำหนดได้ มกี ำร  สลับวนั เรยี นของแต่ละชน้ั เรยี นหรอื กำรแบ่งจำนวนหอ้ งเรียนหรือไม่ แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

มิตทิ ่ี 1 ความปลอดภยั จาการลดการแพรเ่ ช้อื โรค (ตอ่ ) 7 ขอ้ ประเดน็ มี ไมม่ ี หมายเหตุ 10 มกี ำรทำควำมสะอำดหอ้ งเรยี น หอ้ งต่ำง ๆ และอปุ กรณ์ท่ใี ช้ในกำร  เรยี นกำรสอน กอ่ นและหลังใช้งำนทกุ ครัง้ เช่น ห้องคอมพวิ เตอร์ หอ้ งดนตรี อปุ กรณ์กฬี ำ หรือไม่ 11 มกี ำรทำควำมสะอำดบริเวณจดุ สัมผัสเส่ียงรว่ มทุกวัน เชน่ โตะ๊ เก้ำอ้ี  รวมบันได ลฟิ ต์ และกลอนประตู มือจบั ประตู-หนำ้ ตำ่ งหรือไม่ 12 มีถงั ขยะแบบมีฝำผิดในหอ้ งเรียน หรือไม่  13 มีกำรปรบั ปรงุ ซ่อมแซมประตู หนำ้ ต่ำง และพดั ลมของหอ้ งเรยี นให้มี  สภำพกำรใชง้ ำนไดด้ ี สำหรับปิด-เปิดใหอ้ ำกำศถำ่ ยเทสะดวก หรอื ไม่ 14 มีกำรแบ่งกลมุ่ ยอ่ ยนกั เรียนในห้องเรยี นในกำรทำกิจกรรมหรอื ไม่  15 มีกำรปรบั ลดเวลำในกำรทำกจิ กรรมประชำสัมพนั ธ์ ภำยหลงั  กำรเข้ำแถวเคำรพธงชำตหิ นำ้ เสำธง หรือไม่ 16 มกี ำรจัดเหลอื่ มเวลำทำกิจกรรมนกั เรียน เหลอื่ มเวลำกนิ อำหำร  กลำงวนั หรอื ไม่ 17 มีมำตรกำรให้เวน้ ระยะหำ่ งกำรเขำ้ แถวทำกิจกรรม หรือไม่  18 มีกำรกำหนดให้ใช้ของใชส้ ่วนตัว ไม่ใช้สง่ิ ของร่วมกับผู้อนื่ เชน่ แกว้ นำ้  ช้อน ส้อม แปรงสีฟัน ยำสฟี นั ผ้ำเช็ดหน้ำ หรือไม่ 19 มีหอ้ งพยำบำลหรอื พนื้ ที่สำหรับแยกผู้มีอำกำรเส่ียงทำงระบบทำงเดิน  หำยใจหรอื ไม่ 20 มีนักเรียนแกนนำด้ำนสขุ ภำพ จิตอำสำ เปน็ อำสำสมัคร ในกำรชว่ ย  ดแู ลสขุ ภำพเพื่อนนักเรยี นดว้ ยกันหรอื ดแู ลรุ่นนอ้ งหรอื ไม่ แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

8 มิติที่ 2 การเรยี นรู้ ข้อ ประเดน็ มี ไมม่ ี หมายเหตุ 21 มีกำรตดิ ป้ำยประชำสมั พันธ์แนะนำกำรปฏบิ ัตเิ พ่อื สุขอนำมยั ท่ีดี เช่น  วธิ ลี ้ำงมือทีถ่ กู ต้อง กำรสวมหนำ้ กำกอนำมยั กำรเว้นระยะหำ่ งระหว่ำง บคุ คล เปน็ ต้น หรอื อน่ื ๆ ทเ่ี ก่ียวกับโรคโควิด 19 หรอื ไม่ 22 มกี ำรเตรียมควำมพรอ้ มกำรจัดกำรเรียนกำรสอนโดยคำนงึ ถงึ กำร  เรียนรู้ตำมวัยและสอดคลอ้ งกับพฒั นำกำรด้ำนสังคม อำรมณ์ และ สติปญั ญำหรือไม่ 23 มมี ำตรกำรกำหนดระยะเวลำในกำรใช้ส่ือออนไลนใ์ นสถำนศึกษำใน  เด็กเลก็ (ประถม) ไม่เกนิ 1 ช่วั โมงตอ่ วนั และในเดก็ โต (มธั ยม) ไม่เกิน 2 ช่ัวโมงตอ่ วนั หรอื ไม่ 24 มีกำรใชส้ อ่ื รอบรู้ด้ำนสขุ ภำพผำ่ นช่องทำง Social media เชน่  Website, Facebook, Line, QR code, Email หรือไม่ แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

9 มิตทิ ี่ 3 การครอบคลุมถึงเดก็ ดอ้ ยโอกาส ข้อ ประเดน็ มี ไม่มี หมายเหตุ 25 มีกำรเตรียมหนำ้ กำกผ้ำ สำรองสำหรบั เด็กเล็ก หรือไม่  26 มกี ำรปรับรูแบบกำรเรยี นกำรสอนใหส้ อดคล้องกบั บรบิ ทกำรเข้ำถึง  กำรเรียนรใู้ นสถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดของโควิด 19 หรือไม่ 27 มมี ำตรกำรสง่ เสรมิ ให้นกั เรียนได้รบั บรกิ ำรสุขภำพขัน้ พ้ืนฐำนอยำ่ ง  ทั่วถึงหรือไม่ 28 มีมำตรกำรทำควำมสะอำดและจัดสภำพแวดล้อมของที่พักและเรือน  นอนใหถ้ ูกสุขลกั ษณะ พรอ้ มมตี ำรำงเวรทกุ วนั หรอื ไม่ (กรณมี ีท่พี ักและ เรือนนอน) 29 มีมำตรกำรกำรทำควำมสะอำดและจดั สภำพแวดลอ้ มใหส้ อดคลอ้ งกับ  ข้อบัญญตั กิ ำรปฏิบตั ิด้ำนศำสนกิจ พรอ้ มมตี ำรำงเวรทกุ วัน หรอื ไม่ (กรณีมสี ถำนท่ปี ฏบิ ัติศำสนกิจ) 30 มมี ำตรกำรดแู ลนกั เรียนทม่ี ีควำมบกพรอ่ งดำ้ นพัฒนำกำร กำรเรียนรู้  หรือด้ำนพฤติกรรมอำรมณ์ รวมถงึ ภำวะสมำธิสั้น และเดก็ ออทิสตกิ ทสี่ ำมำรถเรยี นรว่ มกบั เด็กปกตหิ รอื ไม่ แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

10 มิติท่ี 4 สวัสดิภาพและการคุ้มครอง มี ไม่มี หมายเหตุ  ข้อ ประเด็น   31 มกี ำรจดั เตรียมแผนรองรบั กำรจดั กำรเรียนกำรสอนสำหรบั นักเรยี น  ป่วย กัดตวั หรอื กรณีปิดโรงเรยี นหรือไม่  32 มกี ำรจดั เตรยี มแนวปฏบิ ตั กิ ำรสอ่ื สำรเพอ่ื ลดกำรรังเกียจและกำร ตรีตรำทำงสังคม (Social Stigma) หรอื ไม่ 33 มีกำรจดั เตรยี มแนวปฏบิ ัตดิ ้ำนกำรจดั กำรควำมเครยี ดของครแู ละ บุคลำกรทำงกำรศกึ ษำหรอื ไม่ 34 มกี ำรตรวจสอบประวตั เิ ส่ียงของนักเรยี นและบุคลำกร รวมท้ัง ตรวจสอบเรื่องกำรกักตัวใหค้ รบ 14 วนั กอ่ นมำทำกำรเรียนกำร สอนตำมปกติ และทุกวนั เปดิ เรียน หรอื ไม่ 35 มกี ำรกำหนดแนวทำงปฏบิ ตั ิตำมระเบยี บสำหรบั นักเรียน ครู และ บุคลำกรท่สี งสัยติดเช้อื หรอื ป่วยด้วยโรคโควดิ 19 โดยไมถ่ อื เปน็ วัน ลำหรอื วันหยดุ เรียน หรือไม่ มติ ิที่ 5 นโยบาย มี ไม่มี หมายเหตุ  ขอ้ ประเด็น  36 มกี ำรสื่อสำรประชำสัมพันธค์ วำมรู้กำรป้องกันโรคโควิด 19 แก่  นกั เรียน ครู และบคุ ลำกร และผู้ปกครอง โดยกำรประชมุ ช้ีแจงหรอื  ผ่ำนช่องทำงต่ำง ๆ อย่ำงนอ้ ย 1 ครั้ง กอ่ นหรอื วันแรกของกำรเปิด  ภำคเรยี นหรือไม่ 37 มีนโยบำยและแนวทำงกำรปอ้ งกันกำรแพรร่ ะบำดโรคโควดิ 19 ของ สถำนศกึ ษำ อย่ำงเป็นลำยลกั ษณห์ รอื มีหลักฐำนชดั เจน หรอื ไม่ 38 มกี ำรประชมุ คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำหรือไม่ 39 มกี ำรแต่งตั้งคณะทำงำนป้องกนั กำรแพร่ระบำดโรคโควดิ 19 และ กำหนดบทบำทหน้ำทีอ่ ย่ำงชัดเจนหรือไม่ 40 มีมำตรกำรจัดกำรควำมสะอำดบนรถรับ-ส่งนักเรยี น เว้นระยะห่ำง ระหวำ่ งบุคคล จดั ทนี่ ่งั บนรถหรอื มสี ญั ลักษณ์จดุ ตำแหน่งทชี่ ัดเจน หรอื ไม่ (กรณีมรี ถรับสง่ นกั เรียแนน)วทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

มติ ิท่ี 6 การบรหิ ารการเงนิ 11 ข้อ ประเดน็ มี ไม่มี หมายเหตุ 41 มแี ผนกำรใชง้ บประมำณในกำรปอ้ งกันกำรแพรร่ ะบำดของโรค  โควดิ 19 ตำมมำควำมจำเปน็ และเหมำะสมหรอื ไม่ 42 มกี ำรจดั หำซอื้ วสั ดอุ ปุ กรณ์ป้องกนั โรคโควดิ 19 สำหรบั นกั เรยี นและ  บุคลำกรในสถำนศกึ ษำ เชน่ หน้ำกำกผ้ำหรือหนำ้ กำกอนำมยั เจลแอลกอฮอลล์ สบู่ หรอื ไม่ 43 มีกำรประสำนแสวงหำแหลง่ ทุนสนับสนนุ จำกหน่วยงำน องค์กร หรอื  เอกชน เช่น ท้องถิน่ บรษิ ทั หำ้ งร้ำน NGO เป็นตน้ เพ่ือดำเนินกจิ กรรม กำรป้องกนั กำรแพร่ระบำดของโรคโควิด 19 หรือไม่ 44 มกี ำรจัดหำบุคลำกรเพม่ิ เติมในกำรดแู ลนกั เรยี นและกำรจัดกำร  ส่ิงแวดลอ้ มในสถำนศึกษำหรอื ไม่ สรปุ ผลการประเมนิ Ranking = สีเขยี ว เกณฑก์ ารประเมนิ = ผ่านท้งั หมด 44 ข้อ การแปรผล = โรงเรียนสามารถเปดิ เรยี นได้ ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน………………………………………………………………. วนั ทีป่ ระเมนิ ………………………………………………………………. แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

12 ขา่ วสารจากงานอนามัยโรงเรยี นบา้ นยะพอ เพอื่ ปอ้ งกนั การแพรร่ ะบาดของไวรสั โคโรน่า 1.การคัดกรองนักเรยี น 1.1 จดั ประชุมคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ 1.2 หำรอื ขอควำมร่วมมอื กำหนดหน้ำที่ ผู้ทำหน้ำท่คี ัดกรองในทป่ี ระชมุ คณะกรรมกำร สถำนศกึ ษำขัน้ พน้ื ฐำน 1.3 โรงเรียนสำเนำแบบคัดกรองใหค้ รบตำมจำนวนเดก็ นักเรยี น นำไปใหผ้ ูค้ ดั กรองแตล่ ะ หมู่บำ้ นในเขตบริกำร 1.4 หมบู่ ้ำนดำเนินกำรคัดกรอง แล้วออกใบรับรองให้นักเรยี น 1.5 นกั เรยี นนำใบรับรองมำสง่ ครใู นวนั ที่ 1 ก.ค.63 แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

13 2. จดุ คัดกรองนักเรียน 2.1 นักเรียนนาใบรบั รองทีผ่ า่ นการรับรอง จาก ผใู้ หญ่บ้านและสาธารณสขุ มายื่นต่อครเู วร ประจาวนั หนา้ ประตทู างเขา้ โรงเรยี นในวนั แรก ครู รบั ใบรบั รองและมอบหนา้ กากอนามัยให้กับนักเรียน 2.2 ครูคดั กรองนกั เรียนบรเิ วณทางเขา้ โรงเรียน โดยใช้เคร่อื งวัดอุณหภูมิรา่ งกาย (สาหรบั นกั เรียนท่ี มอี ุณหภมู ริ ่างกายมากกวา่ 37.5 องศา มีไข้ ไอ จาม มีนา้ มกู หายใจเหนื่อยหอบ ให้นกั เรยี นกลับบ้านและ ทาแบบบันทกึ การคดั กรองนักเรยี นแจง้ ให้ผู้ปกครอง ทราบ และใหน้ านักเรียนไปพบแพทย)์ 2.3 นกั เรียนเดนิ ในช่องทางท่ีกาหนดไปยังบรเิ วณอ่าง ล้างมอื หนา้ หอ้ งอนบุ าล โดยใชส้ บู่ จากนนั้ ล้างมือ ด้วยเจลแอลกอฮอลอ์ กี ครัง้ แล้วทาสญั ลกั ษณ์โดยใช้ ตราปม๊ั วันท่ี ทขี่ อ้ มือนกั เรยี นท่ีผา่ นการคัดกรอง 3. จุดลา้ งมอื จัดเตรยี มสบเู่ หลว บริเวณอา่ งลา้ งมือให้นกั เรียนทุกจดุ (หน้าอาคารเรยี น โรงอาหาร ห้องประชมุ ) แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

14 4. การเข้าแถวหนา้ เสาธง ให้นักเรยี นเข้ำแถวเวน้ ระยะห่ำงอย่ำงน้อย 1 เมตร โดยยนื ตำมจดุ ทีท่ ำสัญลักษณไ์ ว้ 5. หอ้ งเรยี น 5.1 กำรจัดโต๊ะเรียนในห้องเรียน ครปู ระจำชน้ั จดั โต๊ะเรยี นโดยกำรเวน้ ระยะหำ่ ง ระหว่ำงบุคคลอยำ่ งนอ้ ย 1 เมตร หอ้ งเรียนละไมเ่ กนิ 20 คน 5.2 มีแนวการปฏบิ ตั ิตนของนกั เรยี น ในการป้องกนั ตนเอง การเวน้ ระยะหา่ ง ทางสงั คม ในสถานการณแ์ พรร่ ะบาดของไวรสั โคโรนา่ ตดิ ไวท้ กุ หอ้ งเรียน แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

15 6. โรงอาหาร 6.1 ใหน้ กั เรียนลา้ งมือดว้ ยสบทู่ ี่จดุ ลา้ งมือ ก่อนเขา้ โรงอาหาร 6.2 บรเิ วณทางเขา้ โรงอาหาร ใหน้ กั เรียนเขา้ แถวเวน้ ระยะห่าง 1 เมตร แลว้ ลา้ งมือ ดว้ ยเจลแอลกอฮอล์ 6.3 ภายโรงอาหาร ใหน้ กั เรยี นเขา้ แถวรบั อาหารตามจดุ ท่ีทาเคร่ืองหมายไว้ แลว้ ไป น่งั รบั ประทานอาหาร โต๊ะละ 3 คน 6.4 บรเิ วณอา่ งลา้ งจาน ใหน้ กั เรยี นเขา้ แถวลา้ งจาน โดยเดินตามจดุ ที่ทา เครอ่ื งหมายไวใ้ ห้ 7. นา้ ดมื่ นกั เรียนเตรยี มขวดน้ำเพ่อื มำใสน่ ำ้ ด่มื ของตนเอง ไม่ใชแ้ ก้วรว่ มกนั กบั ผอู้ ื่น สำมำรถ เติมน้ำดม่ื ไดท้ จ่ี ดุ บรกิ ำรน้ำที่ทำงโรงเรยี นได้จดั เตรียมไวใ้ ห้ แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

16 การจดั การเรยี นการสอนโรงเรยี นบ้านยะพอ ระดบั โรงเรยี น โรงเรียนบ้ำนยะพอเปน็ โรงเรยี นขนำดกลำง เปดิ สอนระดบั อนบุ ำล มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ ตั้งอยู่ หมู่ 5 ตำบลวำเลย่ ์ อำเภอพบพระ จงั หวัดตำก รหสั ไปรษณยี ์ 63160 (อยู่ในเขตบริกำรองคก์ ำรบริหำรส่วนตำบล วำเลย่ )์ เปิดกำรจดั กำรเรียนกำรสอน ดังน้ี (ข้อมลู วนั ที่ 10 มถิ นุ ำยน 2563) หลังจำกโรงเรยี นได้ทำกำร ประเมินตนเองแลว้ พบวำ่ มีศกั ยภำพเพียงพอในกำรเปิดเรียนภำคเรียนที่ 1 ปกี ำรศึกษำ 2563 ในวันที่ 1 กรกฎำคม 2563 ได้ โดยกำหนดวันเปิดภำคเรียนและปิดภำคเรียน ดงั นี้ ภาคเรยี นที่ 1 / 2563 วนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2563 – 13 พฤศจกิ ายน 2563 รวม 93 วัน ภาคเรียนท่ี 2 / 2563 วันที่ 1 ธนั วาคม 2563 – 9 เมษายน 2564 รวม 88 วนั โดยเวลำเรียนท่ขี ำดหำยไปกล่มุ บรหิ ำรงำนวิชำกำรจะพจิ ำรณำให้เรียนชดเชยเพ่อื ให้ผเู้ รียนไดเ้ รยี นครบตำม หลักสูตรตำมควำมเหมำะสมตอ่ ไป โรงเรียนบำ้ นยะพอจัดเปน็ โรงเรียนขยำยโอกำสขนำดกลำงมีนักเรยี น จำนวนทั้งสิ้น 412 คน และเนอื่ งจำกโรงเรียนได้ประเมนิ ตนเอง ซง่ึ ผลปรำกฏวำ่ อยใู่ นระดบั สเี ขียว (โรงเรยี นสำมำรถเปิดเรียนได้) จงึ ได้เตรยี มกำรนำเสนอ รูปแบบกำรจดั กำรเรียนกำรสอน ต่อคณะกรรมกำรติดตำม ตรวจสอบ ประเมินผลและนเิ ทศกำรศึกษำ (ก.ต.ป.น.) เพื่อทรำบ พร้อมใหข้ ้อเสนอแนะ ในกำรเสนอต่อ คณะกรรมกรรมกำรศกึ ษำธกิ ำรจังหวดั พจิ ำรณำตอ่ ไป แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

17 โครงสร้างเวลาเรยี นตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พ.ศ. 2551 ระดับชนั้ ช่วั โมง/ปี ชม วชิ า ชม วิชา ชม กิจกรรม เวลาเรยี น อนุบาล พื้นฐาน/ปี เพมิ่ เตมิ /ปี พฒั นา ประถมศึกษา ผเู้ รยี น/ปี มธั ยมศึกษาตอนต้น โครงสร้ำงเวลำในกำรจดั ประสบกำรณ์ให้กบั เด็กโดยประมำณ มเี วลำเรยี นไมต่ ่ำ กว่ำ 180 วนั /ปี ไมน่ ้อยกวำ่ 840 ชม. ไมน่ ้อยกวำ่ 120 ชม. ไม่เกนิ 5 ชม 1,000 ชม/ปี 40 ขม. ไม่นอ้ ยกว่ำ ไมเ่ กิน ไม่เกนิ 120 ชม. ไมเ่ กนิ 6 ชม. 1,200 ชม/ปี 880 ขม./ปี 200 ชม/ปี โครงสร้างเวลาเรยี น ตามท่หี ลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พ.ศ. 2551 ได้กาหนด สรปุ ไดว้ า่ ช้ันประถมศกึ ษำ เวลำเรยี นไม่นอ้ ยกวำ่ 1,000 ช่วั โมง/ปี ไมเ่ กนิ 5 ชัว่ โมง/วัน = 200วัน/ปี ชน้ั มัธยมศึกษำตอนตน้ เวลำเรยี นไมน่ อ้ ยกว่ำ 1,200 ชัวโมง/ปี ไมเ่ กิน 6 ชว่ั โมง/วนั = 200วัน/ปี “เพมิ่ ” เวลาพกั “ลด” ประเมนิ “งด” กจิ กรรมทไี่ ม่จาเปน็ แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

18 โครงสรา้ งเวลาเรยี น หลักสูตรสถำนศึกษำโรงเรียนบำ้ นยะพอ 2560 ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักรำช 2563 ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พนื้ ฐำน 2551 ฉบับปรบั ปรงุ 2560 กำหนดกรอบ โครงสรำ้ งเวลำเรียน ดงั น้ี กลุม่ สาระการเรียนรู้/ กิจกรรม ระดบั ประถมศึกษำ เวลาเรียน ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนตน้  กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ป. 1 ป. 2 ป. 3 ป. 4 ป. 5 ป. 6 ม. 1 ม. 2 ม. 3 คณติ ศาสตร์ 200 200 200 160 160 160 120 120 120 (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) วทิ ยาศาสตรแ์ ละวิทยาการคานวณ 200 200 200 160 160 160 120 120 120 สงั คมศกึ ษา ศาสนา (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) และวฒั นธรรม 80 80 80 120 120 120 120 120 120 ประวัตศิ าสตร์ (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) 40 40 40 80 80 80 120 120 120 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) 40 40 40 40 40 40 ศลิ ปะ 40 40 40 การงานอาชีพและ 40 40 40 80 80 80 (1นก.) (1นก.) (1นก.) เทคโนโลยี 80 80 80 ภาษาต่างประเทศ 40 40 40 40 40 40 (2นก.) (2นก.) (2 นก.) 80 80 80 รวมเวลาเรยี น (พ้ืนฐาน) 40 40 40 80 80 80 (2นก.) (2 นก.) (2 นก.) รายวิชาเพ่ิมเตมิ 80 80 80 ภาษาองั กฤษเพิม่ เตมิ 160 160 160 80 80 80 (2นก.) (2 นก.) (2 นก.) คอมพวิ เตอร์ 120 120 120 คณติ ศาสตร์เพ่มิ เติม 840 840 840 840 840 840 (3 ก.) (3 นก.) (3 นก.) วทิ ยาศาสตร์เพ่มิ เติม 880 880 880 40 40 40 40 40 40 (22 นก.) (22 นก.) (22 นก.) 40 40 40 40 200 200 200 40 40 40 40 40 80 80 80 40 40 40 40 40 40 กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน 120 120 120 120 120 120 120 120 120 กจิ กรรมแนะแนว 40 40 40 40 40 40 40 40 40 40 40 40 กิจกรรมนักเรยี น 40 40 40 40 40 40 40 40 40 - กิจกรรมลกู เสือ-เนตรนารี 40 40 40 40 40 40 - ชุมนุม ไม่เกนิ 1,200 ชัว่ โมง/ปี รายวชิ า / กจิ กรรมที่สถานศกึ ษาจดั เพมิ่ เตมิ ตามความพร้อมและจดุ เน้น รวมเวลาเรียนทัง้ หมด แนวทางการจดั การเรไยี มน่เกกานิรสอ1น,ใ0น0ส0ถานชก่ัวาโรมณงกื /าปรแี พรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

19 ตารางแสดงการวเิ คราะห์จานวนนักเรียน และจานวนห้องเรยี นในการจดั การเรียน การสอนตามนโยบายสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน กรณีนกั เรียนมาเรยี นไดเ้ ต็มจานวนแต่ยงั ตอ้ งแยก กรณนี ักเรยี นไม่สามารถมาเรียนครบจานวนและต้องแยกหอ้ งเพ่ือ หอ้ งและสลับวนั เรยี น สลับวนั สอน ระดับชั้นเรยี น จำนวนนักเรยี นทมี่ ำ จำนวนหอ้ งเรยี นทใ่ี ช้ (ไม่ จำนวน นกั เรยี นทคี่ ำดว่ำไม่ จำนวนหอ้ งเรยี นที่ เรียนได้ เกนิ 20 คน / หอ้ งเรียน) นักเรยี นที่มำ สำมำรถมำเรียนได้ ใช้ (ไม่เกนิ 20 คน / อนุบำล 2 อนุบำล 3 42 3 เรียนได้ 2 ห้องเรยี น) 56 3 3 รวม 98 6 40 5 2 ประถมศึกษำปีท่ี 1/1 24 2 53 9 3 ประถมศึกษำปที ่ี 1/2 25 2 93 9 5 ประถมศกึ ษำปที ี่ 2/1 20 1 15 4 1 ประถมศกึ ษำปีที่ 2/2 20 1 16 4 1 ประถมศึกษำปที ่ี 3 35 2 16 5 1 ประถมศึกษำปีที่ 4 28 2 16 0 1 ประถมศกึ ษำปีที่ 5 34 2 30 5 2 ประถมศกึ ษำปีที่ 6 34 2 28 0 2 220 14 29 36 2 รวม 30 2 34 3 2 มธั ยมศึกษำปที ี่ 1 36 2 184 3 12 มัธยมศึกษำปที ี่ 2 28 2 27 3 2 มัธยมศกึ ษำปที ่ี 3 94 6 33 9 2 412 26 25 50 2 รวม 85 6 รวมจานวนนักเรียน 336 23 แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

20 โรงเรยี นบ้ำนยะพอ ไดก้ ำหนดรูปแบบกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนแบบบรู ณำกำรสำหรบั โรงเรียน ในสถำนกำรณ์กำรแพรร่ ะบำดของโรคตดิ ตอ่ เชอื้ ไวรัสโคโรน่ำ 2019 (Covid19 โดย จัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Blended Learning) ซง่ึ ครูผสู้ อนสำมำรถพิจำรณำ เลอื กใช้วธิ กี ำรท่ีเหมำะสม กำรจดั กำรเรยี นกำรสอนแบบผสมสำน คือ กำรจดั กำรเรียนรู้ ทีใ่ ช้รปู แบบกำรเรยี นรู้ หลำกหลำย ไมว่ ่ำจะเปน็ กำรเรยี นรู้ที่เกิดข้ึนในห้องเรยี น ผสมผสำนกบั กำรเรยี นรู้นอกห้องเรยี น ท่คี รูและนักเรยี นไม่ไดเ้ ผชิญหน้ำกัน หรือกำรใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ ทม่ี อี ยอู่ ย่ำงหลำกหลำย ซึง่ มี เป้ำหมำยอยทู่ ี่กำรเรียนรขู้ องนักเรียนเปน็ สำคัญ โดยโรงเรียนบ้ำนยะพอไดใ้ ชว้ ธิ ิกำรได้ แก่ 1. การสลับชน้ั มาเรยี นแบบสลับวนั เรียน ในกำรสลับช้ันเรียนมำเรยี นโรงเรียนไดจ้ ดั เตรียมหอ้ งเรียนจำนวน 17 ห้องเรยี น มีรำยละเอยี ด ดังน้ี หอ้ งเรยี นท่ี 1 = ห้องอนุบำล 2/1 ห้องเรยี นที่ 9 = ห้อง ป.3 ห้องเรียนท่ี 2 = หอ้ งอนบุ ำล 2/2 หอ้ งเรยี นท่ี 10 = ห้อง ป.4 หอ้ งเรียนท่ี 3 = หอ้ งอนบุ ำล 3/1 ห้องเรียนท่ี 11 = หอ้ ง ป.5 หอ้ งเรียนท่ี 4 = หอ้ งอนุบำล 3/2 หอ้ งเรียนท่ี 12 = หอ้ ง ป.6 ห้องเรยี นท่ี 5 = หอ้ ง ป.1/1 หอ้ งเรียนท่ี 13 = หอ้ ง ม.1 หอ้ งเรียนท่ี 6 = ห้อง ป.1/2 หอ้ งเรียนท่ี 14 = ห้อง ม.2 หอ้ งเรียนท่ี 7 = ห้อง ป.2/1 ห้องเรียนที่ 15 = ห้อง ม.3 ห้องเรียนท่ี 8 = หอ้ ง ป.2/2 หอ้ งเรยี นท่ี 16 = ห้องพละศกึ ษำ ห้องเรียนท่ี 17 = อำคำรร่มไทร แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

21 ตารางแสดงการสลับชนั้ มาเรยี นของนกั เรียน แบบสลบั วนั เรยี น โรงเรียนบ้านยะพอ ระดบั ชน้ั จนั ทร์ องั คาร จานวน พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ หอ้ งเรยี น 1. ระดับก่อนประถมศึกษำ (อนุบำลปที ่ี 2-3) ท่ีใช้ 2. ระดบั มธั ยมศกึ ษำ 12 ตอนต้น หอ้ งเรยี น (มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1-3) 14 ห้องเรยี น 1. ประถมศกึ ษาปีท่ี 1-6 ระดบั ก่อนประถมศึกษา (อนุบาล) และ ระดับช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ มาเรียน วนั องั คาร และวนั พฤหสั บดี ระดับประถมศกึ ษาปที ่ี 1-6 มาเรยี น วนั จันทร์ วนั พุธ วันศกุ ร์ แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

22 2. รปู แบบหรอื วิธอี น่ื ๆ เพิม่ เตมิ 2.1 การจดั การเรียนการสอนโดยใชใ้ บงาน ใบความรู้ โรงเรยี นมกี ำรนดั หมำยให้นักเรยี นรบั อปุ กรณ์กำรเรยี นและรบั หนังสือเรียน หรอื ใบควำมรู้ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นได้เรียนรแู้ ละทำแบบฝึกหัดจำกท่ีบำ้ นในรำยวิชำท่ีนกั เรียนไมไ่ ดม้ ำเรยี น ในชั้นเรยี น (On Site) 2.2 การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ (Online) กำรเรยี นกำรสอนแบบออนไลน์ เปน็ กำรศึกษำผ่ำนเครอื ข่ำยอินเทอรเ์ นต็ โดยนกั เรียนสำมำรถเลือกเรียนตำมควำมสนใจ หรอื ครู อำจกำหนดเน้อื หำกำรเรียนรู้ เพ่ือให้นักเรียนเข้ำถงึ เน้อื หำดว้ ยตนเองไดท้ กุ ทท่ี ุกเวลำ เนอ้ื หำอำจ ประกอบดว้ ย ข้อควำม , รปู ภำพ , เสียง , วดิ โี อและสอื่ มลั ติมเี ดยี อน่ื ๆ ซ่ึงนกั เรียน ครู และเพือ่ น รว่ มช้นั เรยี น สำมำรถตดิ ต่อ สื่อสำร ปรึกษำ หรือแลกเปลยี่ นควำมคิดเหน็ แบบเดยี วกับกำรเรยี น ในช้นั เรยี นท่ัวไป โดยใชช้ ่องทำงกำรส่อื สำรผำ่ น E mail, Chat, Social Network เปน็ ต้น แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

23 การจัดการเรียนการสอนโรงเรยี นบ้านยะพอ ระดบั ชั้นเรียน โครงสรา้ งเวลาเรียนปีการศกึ ษา 2563 โครงสรา้ งเวลาเรยี นปกี ารศกึ ษา 2563 ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 1 รหสั วิชา ช่ือวิชา จานวน (ชวั่ โมง) นาหนัก (หน่วยกิต) รายวิชาพนื้ ฐาน 5.0 ท 11101 ภำษำไทย 200 5.0 200 2.0 ค 11101 คณติ ศำสตร์ 80 1.0 ว 11101 วทิ ยำศำสตร์และวทิ ยำกำร 40 1.0 คำนวณ 40 1.0 40 1.0 ส 11101 สังคมศกึ ษำ ศำสนำ และ 40 1.0 40 4.0 วัฒนธรรม 160 1.0 ส 11102 ประวัตศิ ำสตร์ 40 40 22 หนว่ ยกิต พ 11101 สขุ ศึกษำและพละศกึ ษำ 40 ศ 11101 ศิลปะ 40 1,000 ช่วั โมง ง 11101 กำรงำนอำชีพ อ 11101 ภำษำองั กฤษ รายวชิ าเพม่ิ เติม อ 11201 ภำษำองั กฤษเพือ่ กำรสือ่ สำร1 กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมนกั เรยี น - ลกู เสอื -เนตรนำรี - ชุมนุม รวม แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

24 ตารางเรียน แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

25 โครงสร้างเวลาเรยี นปกี ารศึกษา 2563 ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 รหัสวชิ า ช่ือวิชา จานวน (ชว่ั โมง) นาหนกั (หนว่ ยกิต) รายวชิ าพน้ื ฐาน ท 12101 ภำษำไทย 200 5.0 200 5.0 ค 12101 คณติ ศำสตร์ 80 2.0 40 1.0 ว 12101 วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี ส 12101 สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และ วัฒนธรรม ส 12102 ประวัตศิ ำสตร์ 40 1.0 40 1.0 พ 12101 สขุ ศึกษำและพละศึกษำ 40 1.0 40 1.0 ศ 12101 ศิลปะ 160 4.0 ง 12101 กำรงำนอำชพี อ 12101 ภำษำอังกฤษ รายวิชาเพ่มิ เตมิ อ 12201 ภำษำอังกฤษเพอ่ื กำรสือ่ สำร 2 40 1.0 40 กิจกรรมแนะแนว กจิ กรรมนกั เรยี น - ลูกเสือ-เนตรนำรี 40 40 - ชุมนมุ 1,000 ชว่ั โมง รวม 22 หน่วยกติ แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

26 ตารางเรียน แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

27 โครงสรา้ งเวลาเรียนปกี ารศกึ ษา 2563 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 รหสั วชิ า ชื่อวชิ า จานวน (ช่ัวโมง) นาหนกั (หน่วยกิต) รายวชิ าพื้นฐาน 200 5.0 200 5.0 ท 13101 ภำษำไทย 80 2.0 40 1.0 ค 13101 คณติ ศำสตร์ 40 1.0 ว 13101 วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี 40 1.0 40 1.0 ส 13101 สังคมศึกษำ ศำสนำ และ 40 1.0 160 4.0 วัฒนธรรม 40 1.0 ส 13102 ประวัตศิ ำสตร์ 40 22 หน่วยกติ พ 13101 สขุ ศกึ ษำและพละศกึ ษำ 40 40 ศ 13101 ศลิ ปะ 1,000 ช่วั โมง ง 13101 กำรงำนอำชีพ อ 13101 ภำษำองั กฤษ รายวิชาเพม่ิ เตมิ อ 13201 ภำษำองั กฤษเพ่อื กำรสอื่ สำร 2 กจิ กรรมแนะแนว กจิ กรรมนกั เรียน - ลูกเสือ-เนตรนำรี - ชมุ นุม รวม แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

28 ตารางเรียน แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

29 โครงสรา้ งเวลาเรยี นปกี ารศกึ ษา 2563 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 รหสั วชิ า ชือ่ วิชา จานวน (ชั่วโมง) นาหนกั (หนว่ ยกิต) รายวิชาพนื้ ฐาน ท 14101 ภำษำไทย 160 4.0 160 4.0 ค 14101 คณิตศำสตร์ 120 3.0 80 2.0 ว 14101 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ส 14101 สงั คมศึกษำ ศำสนำ และ วฒั นธรรม ส 14102 ประวัติศำสตร์ 40 1.0 80 2.0 พ 14101 สขุ ศกึ ษำและพละศกึ ษำ 40 1.0 80 2.0 ศ 14101 ศิลปะ 80 2.0 ง 14101 กำรงำนอำชพี อ 14101 ภำษำองั กฤษ รายวิชาเพม่ิ เติม ว 14201 คอมพวิ เตอร์ 40 1.0 40 กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนกั เรียน - ลกู เสือ-เนตรนำรี 40 40 - ชมุ นุม 1,000 ชั่วโมง รวม 22 หนว่ ยกติ แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

30 ตารางเรียน แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

31 โครงสรา้ งเวลาเรยี นปกี ารศกึ ษา 2563 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 รหัสวชิ า ชื่อวิชา จานวน (ชัว่ โมง) นาหนกั (หน่วยกิต) รายวิชาพนื้ ฐาน ท 15101 ภำษำไทย 160 4.0 160 4.0 ค 15101 คณติ ศำสตร์ 120 3.0 80 2.0 ว 15101 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ส 15101 สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และ วฒั นธรรม ส 15102 ประวตั ศิ ำสตร์ 40 1.0 80 2.0 พ 15101 สขุ ศกึ ษำและพละศกึ ษำ 40 1.0 80 2.0 ศ 15101 ศลิ ปะ 80 2.0 ง 15101 กำรงำนอำชพี อ 15101 ภำษำอังกฤษ รายวิชาเพม่ิ เติม ว 15201 คอมพวิ เตอร์ 40 1.0 40 กจิ กรรมแนะแนว กจิ กรรมนกั เรียน - ลูกเสือ-เนตรนำรี 40 40 - ชุมนมุ 1,000 ชั่วโมง รวม 22 หนว่ ยกติ แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

32 ตารางเรียน แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

33 โครงสรา้ งเวลาเรยี นปีการศกึ ษา 2563 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 รหสั วชิ า ช่อื วิชา จานวน (ชว่ั โมง) นาหนัก (หนว่ ยกติ ) รายวชิ าพืน้ ฐาน 160 4.0 160 4.0 ท 16101 ภำษำไทย 120 3.0 80 2.0 ค 16101 คณติ ศำสตร์ 40 1.0 80 2.0 ว 16101 วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี 40 2.0 80 2.0 ส 16101 สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม 80 2.0 ส 16102 ประวตั ศิ ำสตร์ 40 1.0 40 พ 16101 สุขศกึ ษำและพละศกึ ษำ 22 หนว่ ยกติ 40 ศ 16101 ศิลปะ 40 1,000 ชัว่ โมง ง 16101 กำรงำนอำชพี อ 16101 ภำษำอังกฤษ รายวชิ าเพิม่ เตมิ ว 16201 คอมพวิ เตอร์ กิจกรรมแนะแนว กจิ กรรมนักเรยี น - ลูกเสอื -เนตรนำรี - ชมุ นุม รวม แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

34 ตารางเรียน แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

35 โครงสร้างเวลาเรยี นภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 รหัสวชิ า ชื่อวชิ า จานวน (ชว่ั โมง) น้าหนัก (หน่วยกติ ) รายวิชาพืน้ ฐาน 60 1.5 60 1.5 ท 21101 ภำษำไทย 60 1.5 60 1.5 ค 21101 คณติ ศำสตร์พ้นื ฐำน 20 0.5 40 1.0 ว 21101 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 40 1.0 40 1.0 ส 21101 สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม 60 1.5 ส 21102 ประวตั ิศำสตร์ 40 1.0 20 0.5 พ 21101 สุขศกึ ษำและพละศึกษำ 20 0.5 20 0.5 ศ 21101 ทัศนศิลป 20 13.5 หน่วยกติ ง 21101 กำรงำนอำชีพ 20 20 อ 21101 ภำษำองั กฤษ 600 ช่วั โมง รายวิชาเพ่มิ เตมิ ว 21202 คอมพิวเตอร์ อ 21201 ภำษำอังกฤษเพอื่ กำรส่ือสำร ค 21201 คณติ ศำสตร์เพม่ิ เตมิ ว 21201 วิทยำศำสตร์เพ่มิ เตมิ กจิ กรรมแนะแนว กจิ กรรมนักเรียน - ลกู เสือ-เนตรนำรี - ชมุ นมุ รวม แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

36 ตารางเรียน แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

37 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 รหสั วชิ า ชอ่ื วิชา จานวน (ชวั่ โมง) นา้ หนัก (หนว่ ยกติ ) รายวชิ าพ้ืนฐาน ท 22101 ภำษำไทย 60 1.5 60 1.5 ค 22101 คณติ ศำสตรพ์ น้ื ฐำน 60 1.5 60 1.5 ว 22101 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 20 0.5 40 1.0 ส 22101 สังคมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม 40 1.0 40 1.0 ส 22102 ประวัตศิ ำสตร์ 60 1.5 พ 22101 สุขศึกษำและพละศึกษำ ศ 22101 ทัศนศิลป ง 22101 กำรงำนอำชีพ อ 22101 ภำษำอังกฤษ รายวิชาเพิม่ เตมิ ว 22202 คอมพิวเตอร์ 40 1.0 20 0.5 อ 21201 ภำษำอังกฤษเพ่อื กำรสอื่ สำร 20 0.5 20 0.5 ค 21201 คณติ ศำสตรเ์ พม่ิ เติม 20 ว 22201 วทิ ยำศำสตรเ์ พ่มิ เติม กิจกรรมแนะแนว กจิ กรรมนกั เรียน - ลกู เสือ-เนตรนำรี 20 20 - ชุมนมุ 600 ชั่วโมง รวม 13.5 หนว่ ยกติ แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

38 ตารางเรียน แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

39 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1 รหสั วิชา ชอ่ื วชิ า จานวน (ช่ัวโมง) น้าหนกั (หน่วยกติ ) รายวชิ าพน้ื ฐาน ท 23101 ภำษำไทย 60 1.5 60 1.5 ค 23101 คณิตศำสตรพ์ ื้นฐำน 60 1.5 60 1.5 ว 23101 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 20 0.5 40 1.0 ส 23101 สังคมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม 40 1.0 40 1.0 ส 23102 ประวัติศำสตร์ 60 1.5 พ 23101 สขุ ศกึ ษำและพละศกึ ษำ ศ 23101 ทัศนศิลป ง 23101 กำรงำนอำชพี อ 23101 ภำษำอังกฤษ รายวิชาเพิ่มเติม ว 23202 คอมพิวเตอร์ 40 1.0 20 0.5 อ 23201 ภำษำอังกฤษเพ่อื กำรส่ือสำร 20 0.5 20 0.5 ค 23201 คณติ ศำสตร์เพิ่มเติม 20 ว 23201 วิทยำศำสตรเ์ พ่มิ เตมิ กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมนกั เรยี น - ลูกเสือ-เนตรนำรี 20 20 - ชุมนุม 600 ชั่วโมง รวม 13.5 หน่วยกิต แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

40 ตารางเรียน แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

41 โครงสรา้ งเวลาเรยี นภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 รหัสวิชา ช่ือวิชา จานวน (ชัว่ โมง) นา้ หนัก (หน่วยกิต) รายวชิ าพ้ืนฐาน 60 1.5 60 1.5 ท 21102 ภำษำไทย 60 1.5 60 1.5 ค 21102 คณติ ศำสตรพ์ ืน้ ฐำน 20 0.5 40 1.0 ว 21102 วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี 40 1.0 40 1.0 ส 21102 สงั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม 60 1.5 ส 21102 ประวัติศำสตร์ 40 1.0 20 0.5 พ 21102 สุขศกึ ษำและพละศึกษำ 20 0.5 20 0.5 ศ 21102 ดนตรี-นำฏศิลป 20 13.5 หนว่ ยกติ ง 21102 กำรงำนอำชีพ 20 20 อ 21102 ภำษำองั กฤษ 600 ช่วั โมง รายวิชาเพ่ิมเติม ว 21204 คอมพวิ เตอร์ อ 21201 ภำษำอังกฤษเพอ่ื กำรสือ่ สำร ค 21201 คณิตศำสตร์เพิม่ เตมิ ว 21203 วิทยำศำสตรเ์ พ่มิ เติม กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน - ลูกเสอื -เนตรนารี - ชมุ นมุ รวม แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

42 ตารางเรียน แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

43 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 รหัสวิชา ชอ่ื วชิ า จานวน (ชั่วโมง) น้าหนกั (หน่วยกิต) รายวชิ าพนื้ ฐาน 60 1.5 60 1.5 ท 22102 ภำษำไทย 60 1.5 60 1.5 ค 22102 คณติ ศำสตรพ์ นื้ ฐำน 20 0.5 40 1.0 ว 22102 วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี 40 1.0 40 1.0 ส 22102 สังคมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม 60 1.5 ส 22102 ประวัติศำสตร์ 40 1.0 20 0.5 พ 22102 สุขศึกษำและพละศกึ ษำ 20 0.5 20 0.5 ศ 22102 ดนตรี-นำฏศลิ ป 20 13.5 หนว่ ยกติ ง 22102 กำรงำนอำชพี 20 20 อ 22102 ภำษำองั กฤษ 600 ชัว่ โมง รายวิชาเพ่มิ เติม ว 22204 คอมพวิ เตอร์ อ 22201 ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรส่ือสำร ค 22201 คณติ ศำสตรเ์ พิม่ เติม ว 22203 วทิ ยำศำสตรเ์ พิม่ เติม กจิ กรรมแนะแนว กจิ กรรมนักเรยี น - ลูกเสอื -เนตรนำรี - ชมุ นุม รวม แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

44 ตารางเรียน แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

45 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 รหัสวิชา ชื่อวชิ า จานวน (ชว่ั โมง) นาหนัก (หน่วยกิต) รายวชิ าพ้นื ฐาน 60 1.5 60 1.5 ท 23102 ภำษำไทย 60 1.5 60 1.5 ค 23102 คณติ ศำสตร์พ้ืนฐำน 20 0.5 40 1.0 ว 23102 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 40 1.0 40 1.0 ส 23102 สงั คมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม 60 1.5 ส 23102 ประวตั ศิ ำสตร์ 40 1.0 20 0.5 พ 23102 สุขศึกษำและพละศกึ ษำ 20 0.5 20 0.5 ศ 23102 ดนตรี-นำฏศิลป 20 13.5 หน่วยกิต ง 23102 กำรงำนอำชพี 20 20 อ 23102 ภำษำองั กฤษ 600 ชว่ั โมง รายวิชาเพ่ิมเตมิ ว 23204 คอมพวิ เตอร์ อ 23201 ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรส่ือสำร ค 23201 คณติ ศำสตรเ์ พ่มิ เตมิ ว 23203 วิทยำศำสตร์เพ่มิ เติม กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน - ลกู เสือ-เนตรนำรี - ชุมนุม รวม แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดตอ่ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรียนบา้ นยะพอ

46 ตารางเรียน แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณืการแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ

47 การวัดและประเมินผล กำรวดั และประเมินผลกำรเรยี นรูข้ องผเู้ รยี นตอ้ งอย่บู นหลักกำรพน้ื ฐำนสองประกำรคือ กำรประเมนิ เพือ่ พัฒนำผู้เรยี นและเพื่อตดั สินผลกำรเรยี น ในกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรเรยี นรขู้ องผ้เู รียน ให้ประสบผลสำเรจ็ น้ัน ผ้เู รียนจะต้องไดร้ ับกำรพัฒนำและประเมินตำมตัวชวี้ ัดเพ่ือใหบ้ รรลุตำมมำตรฐำน กำรเรยี นรู้ สะท้อนสมรรถนะสำคญั และคุณลักษณะอนั พึงประสงคข์ องผ้เู รียนซง่ึ เป็นเปำ้ หมำยหลกั ในกำร วัดและประเมนิ ผลกำรเรยี นรใู้ นทกุ ระดบั ไมว่ ำ่ จะเปน็ ระดับชั้นเรยี น ระดับสถำนศกึ ษำ ระดบั เขตพืน้ ที่ กำรศึกษำ และระดับชำติ กำรวัดและประเมินผลกำรเรยี นรู้ เปน็ กระบวนกำรพัฒนำคณุ ภำพผู้เรยี นโดยใช้ ผลกำรประเมนิ เป็นข้อมูลและสำรสนเทศท่ีแสดงพฒั นำกำร ควำมก้ำวหน้ำ และควำมสำเรจ็ ทำงกำรเรียน ของผู้เรยี น ตลอดจนข้อมลู ท่เี ปน็ ประโยชน์ต่อกำรส่งเสริมให้ผเู้ รยี นเกิด กำรพฒั นำและเรยี นรอู้ ย่ำงเตม็ ตำมศกั ยภำพ กำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรียนรโู้ รงเรยี นบำ้ นยะพอในระดบั ช้ันเรยี น และระดับสถำนศึกษำ การประเมินระดับชนั้ เรียน เปน็ กำรวดั และประเมนิ ผลท่อี ยู่ในกระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ผสู้ อน ดำเนินกำรเปน็ ปกติและสมำ่ เสมอ ในกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน ใชเ้ ทคนิคกำรประเมนิ อย่ำงหลำกหลำย เชน่ กำรซักถำม กำรสงั เกต กำรตรวจกำรบำ้ น กำรประเมนิ โครงงำน กำรประเมนิ ชิ้นงำน/ ภำระงำน แฟ้ม สะสมงำน กำรใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผสู้ อนเป็นผู้ประเมนิ เองหรอื เปดิ โอกำส ใหผ้ ู้เรียน ประเมินตนเอง เพื่อนประเมนิ เพ่อื น ผูป้ กครองรว่ มประเมนิ ในกรณที ไ่ี ม่ผ่ำนตัวช้วี ดั ให้มี กำรสอนซ่อม เสริม กำรประเมนิ ระดบั ช้ันเรียนเปน็ กำรตรวจสอบว่ำ ผู้เรยี นมพี ัฒนำกำรควำมกำ้ วหนำ้ ใน กำรเรียนรู้ อันเปน็ ผลมำจำกกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนหรือไม่ และมำกน้อยเพียงใด มีส่งิ ทจี่ ะตอ้ ง ไดร้ บั กำรพฒั นำปรับปรุงและส่งเสริมในด้ำนใด นอกจำกนย้ี งั เปน็ ข้อมลู ใหผ้ ู้สอนใชป้ รบั ปรงุ กำรเรยี นกำรสอนของตนดว้ ย ท้งั นีโ้ ดยสอดคล้องกบั มำตรฐำนกำรเรียนร้แู ละตวั ชี้วัด การประเมนิ ระดบั สถานศึกษา เปน็ กำรประเมนิ ท่ีสถำนศกึ ษำดำเนนิ กำรเพอื่ ตัดสินผลกำรเรียน ของผเู้ รียนเปน็ รำยปี/รำยภำค ผลกำรประเมินกำรอำ่ น คดิ วิเครำะห์และเขยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ และกิจกรรมพฒั นำผ้เู รียน นอกจำกนเ้ี พ่อื ให้ไดข้ อ้ มลู เกีย่ วกับกำรจัดกำรศึกษำ ของสถำนศกึ ษำ วำ่ สง่ ผล ตอ่ กำรเรยี นรูข้ องผู้เรยี นตำมเปำ้ หมำยหรือไม่ ผ้เู รยี นมีจดุ พฒั นำในดำ้ นใด รวมทง้ั สำมำรถนำผลกำรเรยี น ของผู้เรียนในสถำนศึกษำเปรยี บเทียบกับเกณฑร์ ะดับชำติ ผลกำรประเมนิ ระดับสถำนศกึ ษำจะเป็นข้อมลู และสำรสนเทศเพอ่ื กำรปรบั ปรงุ นโยบำย หลักสตู ร โครงกำร หรือวธิ กี ำรจัดกำรเรียนกำรสอน ตลอดจน เพื่อกำรจดั ทำแผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำของสถำนศกึ ษำ ตำมแนวทำงกำรประกันคณุ ภำพกำรศึกษำ และกำรรำยงำนผลกำรจัดกำรศึกษำตอ่ คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำ สำนักงำนเขตพ้ืนทก่ี ำรศึกษำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขนั้ พื้นฐำน ผปู้ กครองและชมุ ชน แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณกื ารแพรร่ ะบาด ของโรคติดต่อเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 โรงเรยี นบา้ นยะพอ