แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 19 สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ รายวิชา คณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน รหัสวิชา ค 11101 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การบวกจำนวนสองจำนวนที่ผลบวกไมเ่ กนิ 10 เรอื่ ง ทดสอบกอ่ นเรียน เวลา 1 ชวั่ โมง วนั ที.่ ............ เดอื น........................................ พ.ศ. ................... ครูผู้สอน........................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลท่เี กดิ ขึน้ จากการดำเนนิ การ สมบัตขิ องการดำเนินการ และการนำไปใช้ 2. ตัวช้ีวดั ชั้นปี หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค สญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและ ประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการลบ ของจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0 (ค 1.1 ป.1/4) แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบของจำนวนนบั ไมเ่ กิน 100 และ 0 (ค 1.1 ป.1/5) 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. หาผลบวกในประโยคสัญลกั ษณ์ การบวกของจำนวนนบั ไม่เกนิ 10 และ 0 (K) 2. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา การบวกของจำนวนนับไม่เกนิ 10 และ 0 (K) 3. มคี วามสามารถในการแก้ปญั หา (P) 4. มีความสามารถในการส่อื สาร ส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ (P) 5. มคี วามสามารถในเชื่อมโยงความรทู้ างคณิตศาสตร์ (P) 6. มีความสามารถในการคดิ สรา้ งสรรค์ (P) 7. มีความมุมานะในการทำความเขา้ ใจปัญหาและแก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ (A) 8. มรี ะเบียบวินยั ในการทำงาน (A) 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. มคี วามสามารถในการส่อื สาร
2. มคี วามสามารถในเช่ือมโยง 3. มคี วามสามารถในการคดิ สร้างสรรค์ 5. สาระสำคญั 1. จำนวนสองจำนวนรวมกัน หาจำนวนทง้ั หมดได้ด้วยการนบั เขียนเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์การบวก ได้ เช่น 1 + 2 = 3 2. การหาผลบวกทำได้หลายวธิ ี ไดแ้ ก่ การวาดรูป 3. จำนวนใดบวกกบั 0 ผลบวกจะเทา่ กบั จำนวนนัน้ 4. จำนวนเดียวกนั บวกกันและมีผลบวกไมเ่ กนิ 10 ไดแ้ ก่ 1+1 = 2, 2+2 = 4, 3+3 = 6, 4+4 = 8, 5+5 = 10 5. จำนวนแสดงจำนวนท่บี วกกนั ได้ 10 ได้แก่ 1 กบั 9, 2 กับ 8, 3 กับ 7, 4 กบั 6, 5 กบั 5, 6 กบั 4, 7 กบั 3, 8 กับ 2, 9 กับ 1, 10 กับ 0, 0 กบั 10 6. ความสัมพันธ์แบบส่วนยอ่ ย – สว่ นรวม กับการบวก จำนวน สองจำนวนบวกกันสามารถสลบั ทีก่ ัน ได้ เนอื่ งจากผลบวกเท่ากนั 7. เรอื่ งราวท่ีแสดงใหเ้ ห็นถึงการนำจำนวนมารวมกันเปน็ สถานการณ์การบวก 8. การแก้ปัญหาทำได้โดยอา่ นทำความเข้าใจปัญหา วางแผนซึง่ อาจใช้การวาดภาพ หาคำตอบ และ ตรวจสอบ ความสมเหตุสมผล 6. สาระการเรยี นรู้ 1. การบวกจำนวนสองจำนวนทผ่ี ลบวกไม่เกนิ 10 2. การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวก โจทยป์ ัญหาการลบ และการสร้างโจทย์ปญั หา พรอ้ มทง้ั หาคำตอบ 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ใหน้ ักเรยี นทดสอบก่อนเรยี น โดยใชแ้ บบทดสอบเรือ่ งการบวกจำนวนสองจำนวนท่ผี ลบวกไม่เกิน 10 เพอ่ื ตรวจสอบความพรอ้ มและพน้ื ฐานของนักเรียน 8. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 2. แบบทดสอบเรือ่ ง การบวกจำนวนสองจำนวนท่ผี ลบวกไม่เกนิ 10
9. การวัดและประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑ์ แบบฝึกหดั ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 9.1 การวัดผล รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ แบบทดสอบเรื่อง การบวกจำนวน วิธกี าร สองจำนวนที่ผลบวกไม่เกนิ 10 ตรวจแบบฝกึ หดั ตรวจแบบทดสอบเร่ือง การบวก แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ จำนวนสองจำนวนทผ่ี ลบวกไม่เกิน รายบุคคล 10 สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน รายบคุ คล 9.2 การประเมินผล ประเด็นการ 4 ระดับคณุ ภาพ 1 ประเมิน (ดมี าก) (ตอ้ งปรบั ปรุง) 32 (ด)ี (กำลงั พัฒนา) 1. เกณฑ์การ ทำแบบฝกึ หัด/ ทำแบบฝึกหดั / ทำแบบฝกึ หัด/ ทำแบบฝกึ หดั / แบบทดสอบได้อย่าง แบบทดสอบได้อยา่ ง ประเมินการทำ แบบทดสอบได้อย่าง แบบทดสอบได้อย่าง ถกู ต้องร้อยละ 60 - ถูกต้องต่ำกว่าร้อยละ แบบฝกึ หัด/ ถกู ต้องร้อยละ 90 ข้นึ ไป ถกู ต้องร้อยละ 80 - แบบทดสอบ 89 79 60 2. เกณฑ์การ ทำความเข้าใจปัญหา คิด ทำความเข้าใจปัญหา ทำความเข้าใจปญั หา ทำความเข้าใจปัญหา ประเมินความ วิเคราะห์ วางแผน คิดวเิ คราะห์ วางแผน คดิ วิเคราะห์ คิดวเิ คราะห์ มี สามารถในการ แกป้ ญั หา แก้ปญั หา วางแผนแก้ปญั หา ร่องรอยของการ แกป้ ัญหา และเลือกใชว้ ิธีการ และเลือกใชว้ ธิ กี าร และเลอื กใช้วิธกี าร วางแผนแกป้ ัญหาแต่ ที่เหมาะสม โดยคำนึงถงึ ทเี่ หมาะสม แตค่ วาม ได้บางสว่ น คำตอบท่ี ไม่สำเรจ็ ความสมเหตุสมผลของ สมเหตสุ มผลของ ได้ยังไม่มคี วาม คำตอบพรอ้ มท้ัง คำตอบยังไม่ดพี อ และ สมเหตสุ มผล และไม่ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ตรวจสอบความถูกต้อง มกี ารตรวจสอบความ ได้ ไม่ได้ ถกู ต้อง 3. เกณฑ์การ ใช้รูป ภาษา และ ใช้รปู ภาษา และ ใช้รูป ภาษา และ ใช้รูป ภาษา และ สัญลกั ษณท์ าง สญั ลักษณท์ าง สญั ลกั ษณท์ าง ประเมนิ ความ สัญลักษณท์ าง คณิตศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ คณติ ศาสตร์ในการ สามารถในการ สอ่ื สาร สอื่ สาร สอ่ื สาร สื่อสาร ส่อื คณติ ศาสตร์ในการ ส่ือความหมาย สื่อความหมาย สอ่ื ความหมาย ความหมายทาง ส่อื สาร สรปุ ผล และนำเสนอ สรุปผล และ สรปุ ผล และ คณิตศาสตร์ ส่อื ความหมาย สรุปผล และนำเสนอได้อยา่ ง ถกู ต้อง ชดั เจน ไดถ้ ูกตอ้ ง แต่ขาด นำเสนอได้ถูกต้อง นำเสนอไม่ได้
ประเดน็ การ 4 ระดบั คุณภาพ 1 ประเมิน (ดมี าก) (ตอ้ งปรับปรุง) 32 (ด)ี (กำลังพัฒนา) รายละเอียดที่สมบรู ณ์ บางสว่ น 4. เกณฑ์การ ใช้ความรทู้ าง ใชค้ วามร้ทู าง ใชค้ วามร้ทู าง ใช้ความรทู้ าง ประเมินความ คณติ ศาสตร์เป็น คณิตศาสตร์เป็น สามารถในการ คณิตศาสตรเ์ ป็น คณิตศาสตร์เป็น เคร่ืองมือในการ เครอ่ื งมอื ในการ เชอื่ มโยง เรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ เรียนรู้คณิตศาสตร์ เครื่องมอื ในการเรยี นรู้ เครื่องมือในการเรยี นรู้ เน้ือหาต่าง ๆ หรือ เน้อื หาต่าง ๆ หรอื 6. เกณฑ์การ ศาสตรอ์ ืน่ ๆ และ ศาสตรอ์ ืน่ ๆ และ ประเมินความ คณิตศาสตร์ เนื้อหาต่าง คณติ ศาสตร์ เน้ือหา นำไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ นำไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ๆ หรือศาสตรอ์ น่ื ๆ ตา่ ง ๆ หรอื ศาสตร์อ่นื ขยายแนวคดิ ที่มอี ยู่ ขยายแนวคิดท่ีมีอยู่ เดิมได้ แตส่ รา้ ง เดิมไม่ได้ สร้าง และนำไปใช้ในชวี ติ จรงิ ๆ และนำไปใชใ้ นชีวิต ได้อย่างสอดคลอ้ ง จรงิ ไดบ้ างสว่ น เหมาะสม ขยายแนวคิดที่มีอยเู่ ดมิ ขยายแนวคดิ ที่มีอยเู่ ดิม หรือสร้างแนวคดิ ใหมเ่ พื่อ หรือสร้างแนวคดิ ใหม่ สามารถในการ ปรับปรุงพัฒนาองค์ เพื่อ แนวคดิ ใหมเ่ พ่อื แนวคดิ ใหมเ่ พอื่ คดิ สรา้ งสรรค์ ความรู้ได้อย่างสมบรู ณ์ ปรับปรงุ พัฒนาองค์ ปรบั ปรงุ พัฒนาองค์ ปรบั ปรงุ พฒั นาองค์ ความรู้ไดแ้ ต่ไม่สมบูรณ์ ความรู้ไม่ได้ ความรู้ไม่ได้ 7. เกณฑ์การ มีความตัง้ ใจและพยายาม มีความตั้งใจและ มีความต้ังใจและ ไมม่ ีความตัง้ ใจและ ประเมินความมุ ในการทำความเขา้ ใจ พยายามในการทำ พยายามในการทำ พยายามในการทำ มานะในการทำ ปญั หาและแก้ปญั หาทาง ความเข้าใจปัญหาและ ความเขา้ ใจปัญหา ความเข้าใจปัญหา ความเข้าใจ คณิตศาสตร์ มีความ แกป้ ัญหาทาง และแก้ปัญหาทาง และแก้ปัญหาทาง ปัญหาและ อดทนและไม่ท้อแทต้ ่อ คณติ ศาสตร์ แต่ไม่มี คณติ ศาสตร์ แต่ไม่มี คณติ ศาสตร์ ไมม่ ี แก้ปัญหาทาง อุปสรรคจนทำให้ ความอดทนและทอ้ แท้ ความอดทนและ ความอดทนและ คณติ ศาสตร์ แกป้ ัญหาทาง ตอ่ อุปสรรคจนทำให้ ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคจน ท้อแทต้ อ่ อุปสรรคจน คณิตศาสตร์ได้สำเรจ็ แกป้ ัญหาทาง ทำให้แกป้ ัญหาทาง ทำให้แก้ปัญหาทาง คณติ ศาสตร์ได้ไม่ คณิตศาสตร์ได้ไม่ คณิตศาสตร์ได้ไม่ สำเร็จเล็กนอ้ ย สำเร็จเป็นส่วนใหญ่ สำเรจ็ 8. เกณฑ์การ สมดุ งาน ชนิ้ งาน สะอาด สมดุ งาน ช้นิ งาน สมุดงาน ช้ินงาน สมุดงาน ชิ้นงาน สะอาดเรียบร้อย ไมค่ ่อยเรียบรอ้ ย ประเมินการมี เรียบร้อย สะอาดเรียบร้อย ปฏิบตั ิตนอยใู่ น ไมป่ ฏิบตั ิตนอยใู่ น ข้อตกลงทก่ี ำหนด ให้ ข้อตกลงท่ีกำหนด ให้ ระเบยี บวนิ ัยใน ปฏิบัติตนอยู่ในข้อตกลง ปฏิบตั ิตนอยูใ่ น ร่วมกันเป็นบางครั้ง รว่ มกัน ตอ้ งอาศยั การทำงาน ทกี่ ำหนด ให้ร่วมกนั ทกุ ขอ้ ตกลงทีก่ ำหนด ให้ คร้งั รว่ มกนั เป็นส่วนใหญ่ การแนะนำ
10. บันทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 10.1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนรู้..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................. นกั เรยี นนไี่ มผ่ ่าน มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทีไ่ มผ่ ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................................................................ 2. นกั เรยี นมีความรู้ความเข้าใจในคณิตศาสตร์ (K) ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... 3. นกั เรยี นเกิดทักษะทางคณิตศาสตร์ (P) ............................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................................................................ 4. นกั เรียนมคี ณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ (A) ............................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. ........................... 10.2 ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ............................. ............................................................................................................................. ............................. 10.3 ขอ้ เสนอแนะ .......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................. ลงชอ่ื ........................................................... (นางจรภิ า ศิลประเสรฐิ ) ตำแหนง่ ครโู รงเรยี นอนบุ าลระแงะ
11. ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย 1. ความเหมาะสมของกิจกรรม ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง ........................................................................................................................................ 2. ความเหมาะสมของเนื้อหา ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ........................................................................................................................................ 3. ความเหมาะสมของเวลา ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 4. ความเหมาะสมของสื่อ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 5. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ .................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ .. ลงช่อื ........................................................... (นายบัญญตั ิ แทนหนู) ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลระแงะ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 20 สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ รายวิชา คณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน รหสั วชิ า ค 11101 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การบวกจำนวนสองจำนวนทผี่ ลบวกไมเ่ กนิ 10 เรอื่ ง เตรียมความพร้อม เวลา 1 ชวั่ โมง วันท่ี............. เดอื น........................................ พ.ศ. ................... ครผู ู้สอน........................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลทเ่ี กิดขนึ้ จากการดำเนินการ สมบัตขิ องการดำเนนิ การ และการนำไปใช้ 2. ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยค สญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและ ประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบ ของจำนวนนับไม่เกิน 100 และ 0 (ค 1.1 ป.1/4) แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบของจำนวนนบั ไม่เกิน 100 และ 0 (ค 1.1 ป.1/5) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. หาผลบวกในประโยคสญั ลกั ษณ์ การบวกของจำนวนนับ ไมเ่ กนิ 10 และ 0 (K) 2. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หา การบวกของจำนวนนับไมเ่ กนิ 10 และ 0 (K) 3. มีความสามารถในการแก้ปญั หา (P) 3. มคี วามสามารถในการสือ่ สาร ส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ (P) 4. มีความสามารถในเชื่อมโยงความรู้ทางคณติ ศาสตร์ (P) 5. มคี วามมุมานะในการทำความเข้าใจปัญหาและแก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ (A) 6. มีระเบยี บวนิ ัยในการทำงาน (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1. มคี วามสามารถในการส่ือสาร 2. มีความสามารถในเช่ือมโยง
5. สาระสำคัญ 1. จำนวนสองจำนวนรวมกนั หาจำนวนท้งั หมดได้ด้วยการนบั เขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณก์ ารบวก ได้ เช่น 1 + 2 = 3 2. เรอ่ื งราวท่ีแสดงใหเ้ หน็ ถึงการนำจำนวนมารวมกนั เป็น สถานการณ์การบวก 6. สาระการเรียนรู้ การบวกจำนวนสองจำนวนท่ีผลบวกไม่เกิน 10 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครพู านกั เรียนสำรวจบริเวณโรงเรยี น แนะนำอาคารสถานท่ตี า่ งๆ สนทนาเก่ยี วกบั โรงเรยี นท่นี ่า อย่โู ดยใชค้ ำถาม -นกั เรยี นคิดว่าโรงเรียนของเราน่าอย่หู รือไม่ เพราะเหตใุ ด -โรงเรยี นท่ีนา่ อย่จู ะมีลกั ษณะของห้องเรียนเป็นอย่างไร -บริเวณโรงเรยี นควรเป็นอยา่ งไร -นักเรยี นคดิ อย่างไร หากมีขวดนำ้ พลาสติกหรือกล่องนมท้งิ อยทู่ ่ัวไปในโรงเรยี น -การทำโรงเรียนใหน้ ่าอยู่เป็นหน้าทข่ี องใคร 2. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสรุปโรงเรยี นของเรานา่ อยู่เพราะทุกคนร่วมมือกันรกั ษาความสะอาด จดั ส่ิงของต่างๆ ให้เป็นระเบยี บ หากพบขยะหรือมขี ยะที่ไม่ใช้แลว้ ตอ้ งนำไปทง้ิ ในถงั ขยะ 3. ใหน้ ักเรยี นสงั เกตภาพในหนังสือเรียน หน้า 62 แลว้ ถามว่า - นกั เรียนสังเกตเหน็ อะไรในภาพบ้าง (มีนกั เรียนสองคนถือขวดคนละ 1 ใบ กำลังทิ้งขวดใส่ถงั ขยะ สีเหลอื ง) - ทงั้ สองคนมขี ้อสงสยั หรือมีปัญหาอะไร (จะรู้ไดอ้ ยา่ งไรว่า ขวดท่ที ง้ิ ใส่ถงั ขยะรวมกันเปน็ จำนวน ทงั้ หมดเท่าไร) 4. ครใู ห้นกั เรียนจับค่ตู ามความสามารถเพอื่ ใหโ้ อกาสนกั เรียนทน่ี ับจำนวนได้ช้าตอ้ งนับทีละอนั ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี นเลน่ กิจกรรมน้ใี นเวลาวา่ งโดยจดั ตวั นับไวท้ ี่มุมคณติ ศาสตร์พร้อมใบบนั ทกึ การเขา้ เล่น และ มเี กณฑก์ ารใหร้ างวลั ผเู้ ขา้ เล่นสม่ำเสมอ 5. ครแู จกตวั นับ อธบิ ายวธิ ีเล่น นักเรียนแต่ละคนทราบจำนวนตัวนบั ของตนเอง เมอื่ วางพรอ้ มกนั บนโตะ๊ นกั เรียนต้องนับต่อจำนวนตวั นบั ของเพื่อนอย่างรวดเร็ว และบอกจำนวนทั้งหมดท่ีนับได้ 6. ครอู าจใหน้ ักเรยี นฝกึ เลน่ ไดบ้ อ่ ยๆ ทำให้นกั เรยี นนับคล่องขึ้น บอกจำนวนทั้งหมดได้วอ่ งไวขึ้น
8. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 2. แบบฝกึ หัดเตรยี มความพร้อม 9. การวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์ แบบฝึกหดั เตรียมความพร้อม รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 9.1 การวัดผล ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน วิธีการ รายบุคคล ตรวจแบบฝึกหัดเตรียมความพร้อม สังเกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล 9.2 การประเมินผล ประเด็นการ 4 ระดับคุณภาพ 1 ประเมิน (ดมี าก) (ต้องปรบั ปรุง) 32 (ด)ี (กำลังพัฒนา) 1. เกณฑ์การ ทำแบบฝึกหัด ทำแบบฝกึ หัด ทำแบบฝึกหัด ทำแบบฝึกหดั ประเมินการทำ ได้อยา่ งถูกตอ้ งร้อย ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งร้อย ไดอ้ ย่างถูกต้องร้อย ไดอ้ ย่างถูกต้องต่ำ แบบฝึกหัด ละ 90 ข้ึนไป ละ 80 - 89 ละ 60 - 79 กว่าร้อยละ 60 2. เกณฑ์การ ทำความเข้าใจปัญหา ทำความเข้าใจปัญหา ทำความเข้าใจปญั หา ทำความเข้าใจ ประเมนิ ความ คิดวเิ คราะห์ คิดวิเคราะห์ คดิ วิเคราะห์ ปญั หา คดิ วิเคราะห์ สามารถในการ วางแผนแกป้ ญั หา วางแผนแกป้ ญั หา วางแผนแกป้ ัญหา มีร่องรอยของการ แก้ปญั หา และเลอื กใชว้ ธิ ีการ และเลอื กใชว้ ธิ กี าร และเลอื กใช้วิธกี าร วางแผนแก้ปัญหา ทีเ่ หมาะสม โดย ที่เหมาะสม แต่ ไดบ้ างส่วน คำตอบที่ แตไ่ มส่ ำเรจ็ คำนงึ ถึงความ ความสมเหตสุ มผล ได้ยงั ไม่มคี วาม สมเหตสุ มผลของ ของคำตอบยังไมด่ ี สมเหตุสมผล และไม่ คำตอบพร้อมท้ัง พอ และตรวจสอบ มีการตรวจสอบ ตรวจสอบความ ความถูกตอ้ งไม่ได้ ความถกู ตอ้ ง ถกู ต้องได้ 3. เกณฑ์การ ใช้รปู ภาษา และ ใช้รปู ภาษา และ ใชร้ ูป ภาษา และ ใชร้ ปู ภาษา และ ประเมนิ ความ สัญลักษณท์ าง สัญลกั ษณ์ทาง สญั ลกั ษณ์ทาง สัญลักษณ์ทาง สามารถในการ คณติ ศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ คณติ ศาสตร์ในการ สอ่ื สาร สอื่ คณิตศาสตร์ในการ สื่อสาร สื่อสาร สอ่ื สาร ความหมาย สื่อสาร สื่อความหมาย สื่อความหมาย สือ่ ความหมาย สรปุ ผล และ สรุปผล และ สรุปผล และ ทาง ส่ือความหมาย คณิตศาสตร์ สรุปผล และ
ประเดน็ การ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ 4 32 1 (ดีมาก) (ด)ี (กำลงั พัฒนา) (ต้องปรบั ปรุง) นำเสนอได้อยา่ ง นำเสนอไม่ได้ นำเสนอได้ถูกต้อง นำเสนอได้ถกู ต้อง ถกู ต้อง ชดั เจน ใชค้ วามรทู้ าง แตข่ าดรายละเอยี ดท่ี บางสว่ น คณิตศาสตรเ์ ป็น เครือ่ งมอื ในการ สมบูรณ์ เรียนร้คู ณติ ศาสตร์ เนื้อหาตา่ ง ๆ หรือ 4. เกณฑ์การ ใชค้ วามร้ทู าง ใช้ความรทู้ าง ใชค้ วามรูท้ าง ศาสตรอ์ ่ืน ๆ และ ประเมนิ ความ คณิตศาสตรเ์ ป็น นำไปใชใ้ นชีวิตจริง สามารถในการ เครื่องมือในการ คณติ ศาสตรเ์ ป็น คณิตศาสตรเ์ ป็น เชือ่ มโยง เรยี นรู้คณิตศาสตร์ เคร่อื งมือในการ เคร่ืองมือในการ เรยี นร้คู ณิตศาสตร์ เรียนรู้คณิตศาสตร์ เนื้อหาต่าง ๆ หรือ ศาสตรอ์ น่ื ๆ และ เนอื้ หาต่าง ๆ หรอื เน้อื หาต่าง ๆ หรือ นำไปใชใ้ นชวี ติ จริง ศาสตรอ์ ่ืน ๆ และ ศาสตร์อน่ื ๆ และ ได้อย่างสอดคลอ้ ง นำไปใชใ้ นชีวิตจรงิ นำไปใช้ในชีวติ จรงิ เหมาะสม 5. เกณฑ์การ มคี วามตงั้ ใจและ ได้บางส่วน ประเมนิ ความมุ พยายามในการทำ มีความต้งั ใจและ มีความต้ังใจและ ไมม่ ีความต้งั ใจและ พยายามในการทำ พยายามในการทำ พยายามในการทำ มานะในการทำ ความเขา้ ใจปัญหา ความเขา้ ใจปัญหา ความเข้าใจปัญหา ความเขา้ ใจปัญหา และแก้ปัญหาทาง และแก้ปัญหาทาง และแก้ปัญหาทาง ความเข้าใจ และแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ แต่ไม่มี คณิตศาสตร์ แต่ไม่มี คณติ ศาสตร์ ไมม่ ี ความอดทนและ ความอดทนและ ความอดทนและ ปญั หาและ คณิตศาสตร์ มี ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรค ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรค ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรค จนทำให้แกป้ ัญหา จนทำให้แกป้ ัญหา จนทำให้แกป้ ัญหา แกป้ ญั หาทาง ความอดทนและไม่ ทางคณิตศาสตร์ได้ ทางคณิตศาสตร์ได้ ทางคณิตศาสตร์ได้ ไมส่ ำเร็จเล็กน้อย ไมส่ ำเร็จเปน็ สว่ น ไมส่ ำเร็จ คณติ ศาสตร์ ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรค ใหญ่ จนทำให้แก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ได้ สำเร็จ 6. เกณฑ์การ สมดุ งาน ช้ินงาน สมดุ งาน ช้นิ งาน สมดุ งาน ช้ินงาน สมดุ งาน ช้ินงาน ประเมนิ การมี สะอาดเรียบร้อย สะอาดเรียบร้อย สะอาดเรยี บร้อย ไมค่ ่อยเรียบรอ้ ย ระเบยี บวินัยใน ปฏบิ ตั ติ นอยูใ่ น ปฏบิ ัตติ นอย่ใู น ปฏบิ ัตติ นอยใู่ น ไม่ปฏบิ ตั ติ นอย่ใู น การทำงาน ข้อตกลงที่กำหนด ขอ้ ตกลงทกี่ ำหนด ข้อตกลงท่กี ำหนด ขอ้ ตกลงท่กี ำหนด ใหร้ ่วมกันเป็นสว่ น ใหร้ ว่ มกนั เป็น ใหร้ ่วมกัน ต้องอาศัย ให้รว่ มกนั ทกุ ครงั้ ใหญ่ บางครั้ง การแนะนำ
10. บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 10.1 สรุปผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. ไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. นักเรยี นน่ีไม่ผ่าน มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนท่ีไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. .......................... ...................................................................................................................................... .................. 2. นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจในคณิตศาสตร์ (K) ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... 3. นักเรียนเกิดทักษะทางคณิตศาสตร์ (P) ............................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................................................................ 4. นกั เรียนมคี ุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ (A) ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... 10.2 ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ............................. ............................................................................................... ........................................................... 10.3 ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................. ........................................................................................................................................ .................. ลงช่อื ........................................................... (นางจริภา ศลิ ประเสรฐิ ) ตำแหน่งครโู รงเรียนอนุบาลระแงะ
11. ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ ผทู้ ไ่ี ด้รับมอบหมาย 1. ความเหมาะสมของกิจกรรม ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 2. ความเหมาะสมของเน้ือหา ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 3. ความเหมาะสมของเวลา ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ........................................................................................................................................ 4. ความเหมาะสมของส่ือ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ........................................................................................................................................ 5. ข้อเสนอแนะอื่นๆ .................................................................................................................................... ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ ........................................................... (นายบญั ญตั ิ แทนหนู) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลระแงะ
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 21 สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ รายวชิ า คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน รหัสวชิ า ค 11101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 การบวกจำนวนสองจำนวนที่ผลบวกไมเ่ กิน 10 เรื่อง การรวมจำนวนสองจำนวน เวลา 1 ชว่ั โมง วนั ท.ี่ ............ เดือน........................................ พ.ศ. ................... ครผู ้สู อน........................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลท่ีเกิดขน้ึ จากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนินการ และการนำไปใช้ 2. ตวั ช้ีวัดชั้นปี หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค สญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและ ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการลบ ของจำนวนนบั ไมเ่ กิน 100 และ 0 (ค 1.1 ป.1/4) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกผลรวมของจำนวนสองจำนวน และแสดงการหาจำนวนทัง้ หมดได้โดยการนับ (K) 3. มีความสามารถในการแก้ปัญหา (P) 4. มีความสามารถในการสอื่ สาร ส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ (P) 5. มีความสามารถในเชื่อมโยงความร้ทู างคณิตศาสตร์ (P) 6. มคี วามมุมานะในการทำความเขา้ ใจปญั หาและแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ (A) 7. มรี ะเบียบวนิ ัยในการทำงาน (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1. มคี วามสามารถในการสือ่ สาร 2. มคี วามสามารถในเชื่อมโยง 3. มีความสามารถในการแก้ปญั หา
5. สาระสำคญั 1. จำนวนสองจำนวนรวมกนั หาจำนวนทัง้ หมดไดด้ ้วยการนับ 6. สาระการเรียนรู้ ความหมายของการบวก 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครทู บทวนเกยี่ วกบั จำนวนไม่เกิน 10 โดยสนทนาเก่ยี วกบั ส่งิ ของตา่ ง ๆ รอบตัวนักเรยี น และให้ นักเรียนนับจำนวนส่งิ ของท่ีมีจำนวนไมเ่ กนิ 10 2. จัดวางของจริงท่เี ป็นขยะรีไซเคลิ บนโต๊ะ ให้นักเรยี นสังเกตทลี ะกลมุ่ 3. ใหต้ ัวแทนนกั เรยี น 2 คน แสดงบทบาทสมมตุ ิ ตามขอ้ มูลหนังสอื หนา้ 65 ท้ิงขวดลงในถงั สีเหลอื ง ขณะทำกิจกรรมเนน้ ใหน้ ักเรียนพูดว่า จำนวนใด รวมกับจำนวนใด เป็น เท่าไร ทกุ ครง้ั (3 รวมกบั 1 เป็น 4) 4. ใหน้ ักเรียนตรวจสอบความถกู ต้องดว้ ยการนับต่อ 5. ครูประเมนิ ว่านกั เรียนบวกจำนวน 1-10 ได้ถกู ต้อง หรือไม่ 6. ครเู ลือกตัวแทนนักเรยี นคู่ใหม่ ถอื กล่องนมทิง้ ลงถังสเี หลือง นักเรยี นทง้ั ห้องบอกข้อความและ ตรวจสอบ ความถูกต้องด้วยการนับตอ่ 7. ในสถานการณส์ ุดทา้ ยของหนา้ น้ี ให้นกั เรียนแต่ละคนเขยี นผลรวม แล้วจงึ ตรวจสอบร่วมกัน ใน ขนั้ ตอนน้ี จะให้ประสบการณ์จากของจรงิ ซง่ึ เป็นการรว่ มกันของสงิ่ ของ 2 กลมุ่ 8. ครูแนะนำให้นักเรยี นรู้จกั ขยะที่เปน็ อันตราย โดยใชบ้ ัตรภาพในหนา้ 66 ใหค้ วามรู้เพ่ิมเตมิ เกีย่ วกบั การแยกขยะอันตราย วา่ มีอะไรบา้ ง และตอ้ งทง้ิ ลงในถงั ขยะสีสม้ 9. ให้นกั เรยี นสงั เกตบตั รภาพทีละใบแลว้ พดู เป็นข้อความ บอกผลรวม ตรวจสอบ โดยการนับตอ่ 10. ครสู ุม่ นกั เรยี นตอบเปน็ รายบุคคล แล้วมีทีมตรวจสอบ หากนักเรยี นตอบไม่ถูก ครูควรใหค้ วาม ช่วยเหลอื โดยใหน้ ับตัวนับทเ่ี ปน็ ของจริง 11. ครูใช้สอื่ แผนภาพในหนังสือเรยี น หน้า 67 แทนบัตรภาพ เพ่ือใหน้ ักเรียนเชื่อมโยงการรบั รู้ทเี่ ป็น ลำดับขนั้ จาก ของจรงิ -> ภาพ -> แผนภาพ ใหน้ กั เรียนสังเกตแผนภาพแล้วพดู เปน็ ข้อความ ทำทีละขอ้ ข้อ 2 และ ขอ้ 3 ใหน้ ักเรียน ลองทำด้วยตนเอง ตรวจสอบร่วมกันโดยการนบั ต่อ 12. หากมเี วลาเหลอื ครูอาจทำกจิ กรรมเพิ่มเตมิ โดยครูบอกข้อความใหน้ กั เรยี นแสดงด้วยการหยิบ ของจรงิ หรือบัตรภาพ ตามข้อความที่ครูกำหนด
13. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น โดยครูจำลองสถานการณ์ การท้งิ ขยะถูกถงั หรือเชื่อมโยง กจิ กรรมรวมเป็นเท่าไร เพอ่ื ใหเ้ กิดความสนุกสนาน โดยครูอา่ นสถานการณจ์ ากหนังสือเรียนหนา้ 68 ให้ นักเรียนเติมตวั เลขแสดงจำนวนทีละขอ้ ตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยแสดงการนับต่อ 14. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดงั น้ี จำนวนสองจำนวนรวมกนั หาจำนวนทง้ั หมดได้ โดย การนบั ตอ่ 15. ให้นกั เรียนทำแบบฝึกหัด 2.1 หน้า 45 – 47 และแบบฝกึ ทกั ษะชดุ ที่ 2.1 เปน็ รายบุคคล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 2. แบบฝึกหดั 3. แบบฝกึ ทกั ษะชดุ ที่ 2.1 4. ของจรงิ เชน่ ขวดพลาสติก กล่องนม กระป๋องน้ำอดั ลม 5. บตั รภาพ 6. แถบประโยค 9. การวัดและประเมินผล เครอื่ งมอื เกณฑ์ แบบฝึกหดั รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 9.1 การวดั ผล รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ฝึกทกั ษะชุดท่ี 2.1 ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ วิธกี าร ตรวจแบบฝกึ หดั แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ตรวจฝึกทักษะชดุ ท่ี 2.1 รายบุคคล สงั เกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล 9.2 การประเมินผล ประเด็นการ ระดับคณุ ภาพ ประเมิน 4 32 1 (ดีมาก) (ตอ้ งปรบั ปรุง) (ดี) (กำลงั พัฒนา) ทำแบบฝึกหดั / 1. เกณฑ์การ ทำแบบฝกึ หัด/ ทำแบบฝกึ หดั / ทำแบบฝึกหัด/ แบบฝึกทกั ษะได้ อยา่ งถูกต้องตำ่ กว่า ประเมินการทำ แบบฝกึ ทักษะได้อย่าง แบบฝึกทกั ษะได้ แบบฝกึ ทกั ษะได้อย่าง ร้อยละ 60 แบบฝึกหัด/ ถกู ต้องร้อยละ 90 ข้ึนไป อย่างถูกต้องรอ้ ยละ ถูกต้องร้อยละ 60 - ทำความเข้าใจ ปัญหา คดิ วเิ คราะห์ แบบฝกึ ทักษะ 80 - 89 79 2. เกณฑ์การ ทำความเข้าใจปัญหา คิด ทำความเข้าใจปัญหา ทำความเข้าใจปญั หา ประเมนิ ความ วิเคราะห์ วางแผน คิดวิเคราะห์ คิดวิเคราะห์ วางแผน
ประเดน็ การ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ 4 32 1 สามารถในการ (ดีมาก) (ตอ้ งปรับปรุง) แก้ปญั หา แก้ปัญหา (ดี) (กำลังพัฒนา) มีรอ่ งรอยของการ และเลือกใช้วธิ ีการ วางแผนแก้ปญั หา 3. เกณฑ์การ ทีเ่ หมาะสม โดยคำนึงถึง วางแผนแก้ปญั หา แกป้ ัญหา แตไ่ มส่ ำเรจ็ ประเมนิ ความ ความสมเหตุสมผลของ สามารถในการ คำตอบพรอ้ มทง้ั ตรวจสอบ และเลือกใชว้ ธิ ีการ และเลอื กใช้วธิ ีการ ใชร้ ปู ภาษา และ ส่อื สาร สือ่ ความถกู ต้องได้ สัญลกั ษณท์ าง ความหมาย ท่ีเหมาะสม แต่ ได้บางส่วน คำตอบที่ คณติ ศาสตร์ในการ ทาง ใช้รูป ภาษา และ ส่ือสาร คณิตศาสตร์ สัญลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์ ความสมเหตสุ มผล ได้ยงั ไมม่ คี วาม สอ่ื ความหมาย ในการสือ่ สาร สรุปผล และ 4. เกณฑ์การ ส่ือความหมาย สรุปผล ของคำตอบยงั ไมด่ ีพอ สมเหตสุ มผล และไม่มี นำเสนอไม่ได้ ประเมินความ และนำเสนอได้อยา่ ง สามารถในการ ถูกต้อง ชัดเจน และตรวจสอบความ การตรวจสอบความ ใชค้ วามรู้ทาง เชือ่ มโยง คณิตศาสตร์เป็น ใช้ความรทู้ างคณิตศาสตร์ ถกู ต้องไมไ่ ด้ ถกู ต้อง เครื่องมอื ในการ 5. เกณฑ์การ เปน็ เครือ่ งมอื ในการเรยี นรู้ เรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ประเมินความมุ คณติ ศาสตร์ เนื้อหาตา่ ง ๆ ใชร้ ูป ภาษา และ ใชร้ ูป ภาษา และ เนอื้ หาต่าง ๆ หรอื มานะในการทำ หรือศาสตร์อืน่ ๆ และ ศาสตรอ์ ่ืน ๆ และ ความเข้าใจ นำไปใชใ้ นชวี ิตจริงได้อย่าง สัญลักษณท์ าง สญั ลักษณ์ทาง นำไปใชใ้ นชีวิตจรงิ ปญั หาและ สอดคลอ้ ง เหมาะสม แก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ ไมม่ ีความตัง้ ใจและ คณติ ศาสตร์ มคี วามต้ังใจและพยายาม พยายามในการทำ ในการทำความเขา้ ใจ สื่อสาร สอื่ สาร ความเข้าใจปัญหา ปัญหาและแก้ปัญหาทาง และแก้ปัญหาทาง คณติ ศาสตร์ มีความ สื่อความหมาย สอื่ ความหมาย คณติ ศาสตร์ ไมม่ ี อดทนและไม่ท้อแท้ต่อ ความอดทนและ อุปสรรคจนทำให้แก้ปญั หา สรุปผล และ สรุปผล และนำเสนอ ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรค ทางคณิตศาสตร์ได้สำเรจ็ จนทำให้แกป้ ัญหา นำเสนอได้ถกู ต้อง ไดถ้ ูกต้องบางส่วน ทางคณิตศาสตร์ได้ แตข่ าดรายละเอียดที่ สมบูรณ์ ใชค้ วามรูท้ าง ใช้ความรทู้ าง คณิตศาสตร์เป็น คณติ ศาสตร์เป็น เครอ่ื งมือในการ เครอื่ งมอื ในการเรียนรู้ เรยี นรู้คณติ ศาสตร์ คณิตศาสตร์ เนื้อหา เน้อื หาต่าง ๆ หรือ ตา่ ง ๆ หรอื ศาสตร์อน่ื ศาสตรอ์ น่ื ๆ และ ๆ และนำไปใช้ในชวี ิต นำไปใช้ในชวี ติ จริงได้ จริง บางสว่ น มีความต้งั ใจและ มคี วามตง้ั ใจและ พยายามในการทำ พยายามในการทำ ความเขา้ ใจปัญหา ความเข้าใจปัญหาและ และแกป้ ัญหาทาง แกป้ ญั หาทาง คณิตศาสตร์ แต่ไม่มี คณติ ศาสตร์ แต่ไม่มี ความอดทนและ ความอดทนและท้อแท้ ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคจน ต่ออุปสรรคจนทำให้ ทำให้แก้ปัญหาทาง แกป้ ญั หาทาง คณติ ศาสตร์ได้ไม่ คณติ ศาสตร์ได้ไม่
ประเด็นการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน 4 32 1 (ดีมาก) (ตอ้ งปรับปรุง) (ดี) (กำลังพัฒนา) ไมส่ ำเร็จ สำเร็จเลก็ น้อย สำเร็จเป็นสว่ นใหญ่ 6. เกณฑ์การ สมดุ งาน ช้ินงาน สะอาด สมดุ งาน ชิ้นงาน สมุดงาน ชน้ิ งาน สมดุ งาน ชน้ิ งาน ประเมินการมี เรยี บร้อย สะอาดเรยี บร้อย สะอาดเรียบร้อย ไม่ค่อยเรียบรอ้ ย ระเบยี บวนิ ยั ใน ปฏิบตั ติ นอยูใ่ นข้อตกลงที่ ปฏิบตั ิตนอยู่ใน ปฏิบัติตนอยู่ใน ไม่ปฏบิ ตั ิตนอยู่ใน การทำงาน กำหนด ให้ร่วมกันทุกครั้ง ข้อตกลงท่ีกำหนด ให้ ขอ้ ตกลงทก่ี ำหนด ให้ ข้อตกลงท่ีกำหนด ร่วมกนั เป็นส่วนใหญ่ รว่ มกันเปน็ บางคร้ัง ให้รว่ มกนั ต้อง อาศยั การแนะนำ 10. บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 10.1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. ไม่ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. นักเรยี นน่ไี มผ่ ่าน มดี ังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรยี นท่ไี มผ่ า่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................................................................ 2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในคณิตศาสตร์ (K) ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... 3. นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะทางคณิตศาสตร์ (P) ............................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................................................................ 4. นกั เรียนมคี ณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ (A) ......................................................................................................... .............................................. ............................................................................................................................. ........................... 10.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข .................................................................................................................................. ........................ 10.3 ขอ้ เสนอแนะ ...........................................................................................................................................................
ลงชื่อ........................................................... (นางจริภา ศลิ ประเสริฐ) ตำแหนง่ ครูโรงเรียนอนุบาลระแงะ 11. ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย 1. ความเหมาะสมของกิจกรรม ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ........................................................................................................................................ 2. ความเหมาะสมของเน้ือหา ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ........................................................................................................................................ 3. ความเหมาะสมของเวลา ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง ........................................................................................................................................ 4. ความเหมาะสมของสื่อ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง ........................................................................................................................................ 5. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ ........................................................... (นายบัญญตั ิ แทนหนู) ตำแหน่งผอู้ ำนวยการโรงเรียนอนบุ าลระแง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 22 สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ รายวิชา คณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน รหัสวชิ า ค 11101 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 การบวกจำนวนสองจำนวนท่ีผลบวกไมเ่ กนิ 10 เร่อื ง การบวกและประโยคสัญลักษณ์การบวก เวลา 1 ชว่ั โมง วันที่............. เดือน........................................ พ.ศ. ................... ครผู ูส้ อน........................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลทเ่ี กิดขึน้ จากการดำเนนิ การ สมบัติของการดำเนินการ และการนำไปใช้ 2. ตัวชี้วัดชน้ั ปี หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยค สญั ลักษณ์แสดงการบวกและ ประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบ ของจำนวนนบั ไม่เกิน 100 และ 0 (ค 1.1 ป.1/4) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เขยี นประโยคสญั ลักษณก์ ารบวกได้ (K) 2. มีความสามารถในการสอ่ื สาร สอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ (P) 3. มีความสามารถในเช่ือมโยงความรู้ทางคณิตศาสตร์ (P) 4. มรี ะเบียบวินยั ในการทำงาน (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. มคี วามสามารถในการส่ือสาร 2. มคี วามสามารถในเชื่อมโยง 5. สาระสำคญั จำนวนสองจำนวนรวมกนั หาจำนวนทัง้ หมดได้ด้วยการนบั เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การบวกได้ เชน่ 1 + 2 = 3
6. สาระการเรียนรู้ การหาผลบวกของจำนวนนบั และประโยคสัญลักษณ์การบวก 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครนู ำสนทนาเรื่องระเบยี บวนิ ัยท่ีทำใหโ้ รงเรียนของเราน่าอยู่ จำลองสถานการณ์ในโรงอาหารโดย ใหต้ ัวแทนนักเรยี นชาย 4 คน นักเรียนหญงิ 1 คน เข้าแถวหนา้ หอ้ งเรยี น ใหน้ กั เรยี นบอกสิ่งทีส่ งั เกตได้ ( ใน แถวมีนักเรยี นชาย 4 คน นักเรยี นหญิง 1 คน มนี ักเรยี นทง้ั หมด 5 คน ) 2. ครตู ิดแถบประโยคขอ้ ความ “4 รวมกบั 1 เป็น 5” 3. ครูแนะนำเครื่องหมายบวกแสดงการรวมกนั แนะนำวธิ เี ขยี นเคร่อื งหมายบวก 4. ครูแนะนำเครื่องหมายเทา่ กบั แสดงการเท่ากนั ของทงั้ สองด้าน และวธิ เี ขยี นเครือ่ งหมายเท่ากับ จากประโยคขอ้ ความดงั กล่าวสามารถเขียนโดยใช้เคร่ืองหมาย บวกแทนคำวา่ รวมกันและเคร่ืองหมายเท่ากบั แทนการเทา่ กนั (รวมเป็น) เรียกวา่ ประโยคสัญลกั ษณ์การบวก 5. ครตู ดิ แถบประโยค สัญลักษณก์ ารบวก “4 รวมกบั 1 เป็น 5” “4 + 1 = 5” 6. ครูเนน้ ใหเ้ ห็นว่าเคร่ืองหมายบวกแสดงการรวมกันของ 4 กบั 1 เครื่องหมายเท่ากับ แสดงผลของ การรวมกนั เปน็ 5 ดังนน้ั 5 เปน็ ผลบวกของ 4 กับ 1 จากสถานการณ์นสี้ ามารถบอกได้อีกว่า จำนวนนกั เรียน หญงิ 1 คน รวมกบั จำนวนนักเรียนชาย 4 คน เป็นนกั เรียนท้ังหมด 5 คน ประโยคข้อความ คือ 1 รวมกับ 4 เป็น 5 7. ให้นกั เรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์ในหนังสอื เรยี น หนา้ 69 8. ครวู างกระติกน้ำ 6 ใบ ไว้บนโต๊ะ ให้นกั เรยี นบอกสิ่งที่ได้จากการสงั เกต 9. วางกระตกิ เพ่ิมอกี 2 ใบ ถามวา่ เกดิ อะไรข้นึ ( มีกระติกวางเพิ่มอีก 2 ใบ ) 10. ใหน้ ักเรียนบอกลำดบั ขั้นท่ีเกดิ ขึน้ โดยการใช้คำถาม -สังเกตเหน็ อะไรจากสถานการณ์แรก ( มีกระติกน้ำวางอย่บู นโต๊ะ 6 ใบ ) -ต่อมามีอะไรเกิดขน้ึ ( มีกระติกน้ำเพิ่มอีก 2 ใบ ) -สถานการณเ์ หมือนเดิมหรือไม่ ( ไม่ ) -ไม่เหมอื นเดิมอยา่ งไร ( มกี ระติกน้ำเพ่ิมข้ึน รวมเป็น 8 ใบ ) -จะพูดเปน็ ประโยคข้อความได้อย่างไร ( 6 เพมิ่ อีก 2 เปน็ 8 ใบ )
-เขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างไร ( 6 + 2 = 8 ) 11. ครูสนทนาเกี่ยวกบั ภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 70 และ หนา้ 71 ทีละสถานการณ์ 12. ให้นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์ หากนักเรียนมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนครูอธบิ ายเปน็ รายบคุ คลโดยยกตัวอย่างสถานการณ์ ใกลต้ ัวเพม่ิ เติมจนนักเรียนเข้าใจ 13. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยใหน้ กั เรียนเขียน ประโยคสญั ลกั ษณ์การบวก จาก ประโยคข้อความทก่ี ำหนดให้ หน้า 72 โดยครอู าจเริ่มจากการชแู ถบประโยคสัญลกั ษณ์ ใหน้ ักเรียนพูดเปน็ ประโยคข้อความพรอ้ มกัน 2-3 ตวั อยา่ ง แลว้ จึงให้นักเรยี นเขียนในหนงั สอื เรยี น หน้า 72 14. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ดังน้ี จำนวนสองจำนวนรวมกนั แลว้ ได้ผลรวมของสอง จำนวนนัน้ เขียนเปน็ ประโยคสัญลักษณ์การบวกได้ เชน่ 1+2 = 3 15. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด 2.2 หนา้ 48–49 และแบบฝกึ ทักษะชดุ ท่ี 2.2 เปน็ รายบคุ คล 8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 2. แบบฝึกหัด 3. แบบฝกึ ทกั ษะชุดท่ี 2.2 4. แถบประโยคข้อความ 5. แถบประโยคสญั ลกั ษณ์ การบวก 6. ของจรงิ (กระติกนำ้ 8 ใบ) 9. การวดั และประเมนิ ผล 9.1 การวัดผล วิธกี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์ ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝึกหัด ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบฝกึ ทักษะชุดที่ 2.2 แบบฝกึ ทักษะชุดท่ี 2.2 ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล รายบุคคล 9.2 การประเมินผล ประเดน็ การ ระดับคณุ ภาพ ประเมิน 4 32 1 (ดีมาก) (ตอ้ งปรบั ปรุง) (ดี) (กำลงั พัฒนา) ทำแบบฝกึ หดั / 1. เกณฑ์การ ทำแบบฝึกหดั / ทำแบบฝกึ หัด/ ทำแบบฝึกหัด/ แบบฝกึ ทกั ษะได้ อยา่ งถูกต้องตำ่ กว่า ประเมนิ การทำ แบบฝึกทักษะได้ แบบฝกึ ทักษะได้ แบบฝกึ ทักษะได้ ร้อยละ 60 แบบฝกึ หัด/ อยา่ งถูกต้องรอ้ ยละ อย่างถูกต้องรอ้ ยละ อย่างถูกต้องร้อยละ แบบฝกึ ทักษะ 90 ขึน้ ไป 80 - 89 60 - 79
ประเดน็ การ ระดับคุณภาพ ประเมิน 4 32 1 (ดมี าก) (ด)ี (กำลงั พัฒนา) (ต้องปรบั ปรุง) ใช้รปู ภาษา และ 2. เกณฑ์การ ใช้รปู ภาษา และ ใช้รูป ภาษา และ ใชร้ ปู ภาษา และ สัญลักษณ์ทาง คณิตศาสตร์ในการ ประเมินความ สัญลักษณท์ าง สัญลักษณ์ทาง สญั ลกั ษณ์ทาง ส่อื สาร สามารถในการ สอ่ื ความหมาย ส่ือสาร สอื่ คณิตศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ สรปุ ผล และ ความหมาย สอ่ื สาร นำเสนอไม่ได้ ส่อื สาร สอื่ สาร ใช้ความรู้ทาง ทาง สือ่ ความหมาย สื่อความหมาย สื่อความหมาย คณติ ศาสตร์เป็น เครื่องมือในการ คณิตศาสตร์ สรุปผล และ สรุปผล และ สรุปผล และ เรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ เนือ้ หาต่าง ๆ หรอื นำเสนอได้อย่าง นำเสนอได้ถูกต้อง นำเสนอได้ถกู ต้อง ศาสตร์อน่ื ๆ และ นำไปใชใ้ นชวี ติ จรงิ ถูกต้อง ชดั เจน แตข่ าดรายละเอยี ดท่ี บางสว่ น สมุดงาน ชนิ้ งาน สมบูรณ์ ไม่ค่อยเรยี บรอ้ ย ไมป่ ฏบิ ัตติ นอยใู่ น 3. เกณฑ์การ ใช้ความรู้ทาง ใชค้ วามรู้ทาง ใช้ความรู้ทาง ขอ้ ตกลงทก่ี ำหนด ประเมนิ ความ คณิตศาสตร์เป็น คณติ ศาสตร์เป็น คณิตศาสตรเ์ ป็น ใหร้ ว่ มกนั ตอ้ งอาศัย สามารถในการ เครื่องมือในการ เคร่อื งมอื ในการ เคร่อื งมือในการ การแนะนำ เชอ่ื มโยง เรียนร้คู ณติ ศาสตร์ เรียนร้คู ณิตศาสตร์ เรยี นร้คู ณิตศาสตร์ เนื้อหาตา่ ง ๆ หรือ เน้ือหาต่าง ๆ หรอื เนอื้ หาตา่ ง ๆ หรอื ศาสตรอ์ น่ื ๆ และ ศาสตรอ์ ่ืน ๆ และ ศาสตร์อน่ื ๆ และ นำไปใช้ในชีวติ จรงิ นำไปใชใ้ นชีวิตจรงิ นำไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ได้อยา่ งสอดคลอ้ ง เหมาะสม ได้บางสว่ น 4. เกณฑ์การ สมดุ งาน ชิน้ งาน สมุดงาน ชน้ิ งาน สมุดงาน ช้ินงาน ประเมินการมี สะอาดเรยี บร้อย สะอาดเรยี บร้อย สะอาดเรยี บร้อย ระเบียบวินัยใน ปฏบิ ตั ติ นอยู่ใน ปฏิบตั ิตนอย่ใู น ปฏบิ ตั ติ นอยใู่ น การทำงาน ขอ้ ตกลงท่ีกำหนด ขอ้ ตกลงท่ีกำหนด ขอ้ ตกลงทีก่ ำหนด ให้รว่ มกนั เปน็ สว่ น ให้ร่วมกนั เป็น ใหร้ ว่ มกนั ทกุ คร้ัง ใหญ่ บางคร้ัง
10. บันทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 10.1 สรปุ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ 1. นกั เรยี นจำนวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. นกั เรียนนี่ไมผ่ ่าน มดี ังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนท่ีไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. .......................... ...................................................................................................................................... .................. 2. นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจในคณิตศาสตร์ (K) ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... 3. นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะทางคณิตศาสตร์ (P) ............................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................................................................ 4. นกั เรยี นมีคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ (A) ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... 10.2 ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ............................. .......................................................................................................................................................... 10.3 ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................. ........................................................................................................................... ............................... ลงช่ือ........................................................... (นางจริภา ศลิ ประเสรฐิ ) ตำแหน่งครโู รงเรียนอนุบาลระแงะ
11. ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ ผ้ทู ี่ได้รับมอบหมาย 1. ความเหมาะสมของกิจกรรม ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง ........................................................................................................................................ 2. ความเหมาะสมของเน้ือหา ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 3. ความเหมาะสมของเวลา ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 4. ความเหมาะสมของส่ือ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ........................................................................................................................................ 5. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ .................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................. ............. ..................................................................................................................... ......................................................... ลงช่ือ........................................................... (นายบัญญตั ิ แทนหนู) ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลระแงะ
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 23 สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ รายวชิ า คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน รหัสวิชา ค 11101 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การบวกจำนวนสองจำนวนทผ่ี ลบวกไม่เกิน 10 เรอ่ื ง การหาผลบวกโดยการวาดรูป เวลา 1 ชวั่ โมง วันท่ี............. เดอื น........................................ พ.ศ. ................... ครูผู้สอน........................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลท่เี กดิ ข้นึ จากการดำเนนิ การ สมบตั ขิ องการดำเนนิ การ และการนำไปใช้ 2. ตัวช้ีวดั ช้นั ปี หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยค สญั ลักษณแ์ สดงการบวก และประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบ ของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100 และ 0 (ค 1.1 ป.1/4) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. วาดรูปแสดงการหาผลบวกได้ (K) 3. มีความสามารถในการแก้ปญั หา (P) 4. มคี วามสามารถในการสือ่ สาร สอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ (P) 5. มคี วามสามารถในเชื่อมโยงความรู้ทางคณติ ศาสตร์ (P) 6. มีความสามารถในการคิดสรา้ งสรรค์ (P) 7. มีความมมุ านะในการทำความเข้าใจปัญหาและแกป้ ญั หาทางคณติ ศาสตร์ (A) 8. มีระเบียบวนิ ัยในการทำงาน (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. มคี วามสามารถในการสอื่ สาร 2. มคี วามสามารถในเชื่อมโยง 3. มคี วามสามารถในการคิดสรา้ งสรรค์ 4. มีความสามารถในการแก้ปญั หา
5. สาระสำคัญ 1. จำนวนสองจำนวนรวมกนั หาจำนวนท้งั หมดได้ด้วยการนับ เขยี นเปน็ ประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวก ได้ เชน่ 1 + 2 = 3 2. การหาผลบวกทำไดห้ ลายวธิ ี ได้แก่ การวาดรปู 6. สาระการเรียนรู้ การหาผลบวกโดยการวาดรูป 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูทบทวนเก่ียวกบั การบวก เคร่ืองหมายบวก เครื่องหมายเทา่ กับ 2. ครูจดั กจิ กรรมคิดดว้ ยภาพตามข้อมูลในหนังสอื เรยี น เพ่อื ประเมินความเข้าใจของนักเรียนถงึ การ สอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์จากภาพและประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวก หากพบวา่ นักเรียนมคี วามเขา้ ใจ คลาดเคลอื่ นใหค้ รูพดู ประโยคขอ้ ความ เพื่อเช่ือมโยงระหว่างประโยคสญั ลักษณแ์ ละบตั รภาพ 3. ครูใช้ขอ้ มูลจากหนังสือเรียน หรืออาจจำลองสถานการณ์ใหน้ กั เรียนออกมาเขียนรปู บนกระดาน โดยครูบอกสถานการณ์ ตวั แทนนกั เรยี นออกมาเขียนรูปตามลำดับสถานการณ์ ครูใชค้ ำถาม -จากภาพพดู เปน็ ข้อมูลได้อยา่ งไร -เขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณ์ได้อยา่ งไร -ผลทเ่ี กิดข้นึ เป็นอย่างไร (มีปูทั้งหมด 6 ตวั และ 6 เป็นผลบวกของ 5 กบั 1) 4. ครูสนทนาถึงสถานการณ์ท่ี 2 ให้นักเรยี นเปรยี บเทียบรปู ทนี่ กั เรียนชายวาด กับรปู ที่นักเรยี นหญงิ วาด รปู ไหนถูกต้อง -ใครคดิ วา่ รปู ทน่ี กั เรียนชายวาดถกู ต้อง เพราะเหตใุ ดให้เหตุผล -ใครคดิ ว่ารูปทนี่ ักเรียนหญิงวาดถูกต้อง เพราะเหตุใดใหเ้ หตุผล -แต่ละรปู พูดเปน็ ข้อความได้อย่างไร -แต่ละรูปเขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ์ได้อยา่ งไร -ข้อความและประโยคสญั ลักษณ์เหมือนกันหรอื ไม่ 5. ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่า เราสามารถวาดรูปเหมอื นจริงหรือรูปเรขาคณิตในการ หาผลบวกได้
6. ใหน้ กั เรียนวาดรูปแสดงการหาผลบวกและเตมิ คำตอบในหนงั สอื เรียน หน้า 75 โดยครูอา่ น สถานการณ์ หากนักเรียนมีความพรอ้ มในการอ่านให้อา่ นพรอ้ มกันหรืออ่านทลี ะหมู่ หรอื แบ่ง ชาย หญงิ 7. ครูเดินดูผลงานของนักเรียน แนะนำการใช้เวลาในการวาดรปู และจะวาดแบบไหนก็ได้ ครู กำหนดใหเ้ หมาะสม 8. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น โดยใหห้ าผลบวกจาก ประโยคสัญลักษณ์ โดยการวาดรปู แล้ว เขียนเป็นประโยคสญั ลักษณ์ให้สมบรู ณ์ หน้า 76 9. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปความร้เู กี่ยวกบั การบวก ดังน้ี สามารถหาผลบวกได้โดยการวาดรปู 10. ใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหัด 2.3 หน้า 50 – 51 และแบบฝกึ ทกั ษะชุดท่ี 2.3 เป็นรายบุคคล 8. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 2. แบบฝึกหดั 3. แบบฝกึ ทักษะชดุ ที่ 2.3 4. บตั รภาพ 5. บตั รประโยคสัญลกั ษณ์การบวก 6. แถบขอ้ ความ 7. แถบประโยคสญั ลักษณก์ ารบวก 9. การวดั และประเมินผล 9.1 การวัดผล วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบฝึกทกั ษะชดุ ที่ 2.3 แบบฝกึ ทักษะชดุ ที่ 2.3 ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล รายบุคคล 9.2 การประเมนิ ผล ประเดน็ การ 4 ระดบั คุณภาพ 1 ประเมิน (ดมี าก) (ต้องปรบั ปรุง) 32 1. เกณฑ์การ ทำแบบฝกึ หดั / (ด)ี (กำลังพัฒนา) ทำแบบฝึกหดั / แบบฝกึ ทกั ษะได้ ประเมนิ การทำ แบบฝกึ ทกั ษะได้ ทำแบบฝึกหดั / ทำแบบฝกึ หดั / แบบฝกึ ทกั ษะได้ แบบฝึกทกั ษะได้
ประเด็นการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน 4 32 1 แบบฝึกหดั / (ดีมาก) (ตอ้ งปรับปรุง) แบบฝึกทักษะ อยา่ งถูกต้องรอ้ ยละ (ด)ี (กำลังพัฒนา) อย่างถูกต้องต่ำกวา่ 2. เกณฑ์การ 90 ขนึ้ ไป รอ้ ยละ 60 ประเมนิ ความ ทำความเข้าใจปัญหา อยา่ งถูกต้องรอ้ ยละ อยา่ งถูกต้องร้อยละ ทำความเข้าใจ สามารถในการ คิดวิเคราะห์ ปญั หา คดิ วิเคราะห์ แกป้ ญั หา วางแผนแก้ปญั หา 80 - 89 60 - 79 มรี ่องรอยของการ และเลอื กใชว้ ธิ ีการ วางแผนแก้ปญั หา 3. เกณฑ์การ ทเ่ี หมาะสม โดย ทำความเข้าใจปญั หา ทำความเข้าใจปญั หา แตไ่ มส่ ำเรจ็ ประเมินความ คำนงึ ถึงความ สามารถในการ สมเหตสุ มผลของ คดิ วิเคราะห์ คิดวิเคราะห์ ใช้รูป ภาษา และ สือ่ สาร ส่อื คำตอบพรอ้ มทง้ั สัญลักษณ์ทาง ความหมาย ตรวจสอบความ วางแผนแกป้ ญั หา วางแผนแกป้ ัญหา คณติ ศาสตร์ในการ ทาง ถูกต้องได้ สอ่ื สาร คณิตศาสตร์ ใชร้ ูป ภาษา และ และเลอื กใชว้ ิธีการ และเลือกใช้วิธีการ ส่อื ความหมาย สรุปผล และ 4. เกณฑ์การ สญั ลักษณท์ าง ท่เี หมาะสม แต่ ไดบ้ างสว่ น คำตอบที่ นำเสนอไม่ได้ ประเมนิ ความ สามารถในการ คณติ ศาสตร์ในการ ความสมเหตสุ มผล ไดย้ ังไมม่ ีความ ใชค้ วามรทู้ าง เช่อื มโยง คณิตศาสตรเ์ ป็น สือ่ สาร ของคำตอบยงั ไมด่ ี สมเหตุสมผล และไม่ เคร่อื งมอื ในการ 5. เกณฑ์การ เรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ประเมินความ ส่ือความหมาย พอ และตรวจสอบ มกี ารตรวจสอบ เนอ้ื หาตา่ ง ๆ หรอื สามารถในการ ศาสตรอ์ น่ื ๆ และ สรุปผล และ ความถกู ตอ้ งไม่ได้ ความถกู ตอ้ ง นำไปใช้ในชีวิตจรงิ นำเสนอได้อยา่ ง ใชร้ ูป ภาษา และ ใช้รูป ภาษา และ ขยายแนวคิดที่มอี ยู่ เดิมไม่ได้ สรา้ ง ถกู ต้อง ชดั เจน สญั ลกั ษณ์ทาง สัญลกั ษณ์ทาง แนวคิดใหมเ่ พอ่ื ใช้ความรู้ทาง คณิตศาสตร์ในการ คณติ ศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์เป็น เครื่องมอื ในการ สื่อสาร ส่ือสาร เรียนรคู้ ณิตศาสตร์ เน้อื หาตา่ ง ๆ หรอื สอ่ื ความหมาย สื่อความหมาย ศาสตรอ์ ่ืน ๆ และ นำไปใช้ในชวี ติ จริง สรปุ ผล และ สรุปผล และ ได้อยา่ งสอดคล้อง เหมาะสม นำเสนอได้ถูกต้อง นำเสนอได้ถูกต้อง ขยายแนวคิดท่ีมีอยู่ เดมิ หรอื สรา้ ง แตข่ าดรายละเอยี ดท่ี บางสว่ น แนวคิดใหม่เพ่อื สมบรู ณ์ ใช้ความรู้ทาง ใชค้ วามร้ทู าง คณิตศาสตรเ์ ป็น คณติ ศาสตร์เป็น เครอ่ื งมอื ในการ เคร่ืองมอื ในการ เรยี นรู้คณิตศาสตร์ เรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ เน้ือหาตา่ ง ๆ หรือ เน้ือหาตา่ ง ๆ หรอื ศาสตร์อนื่ ๆ และ ศาสตรอ์ ื่น ๆ และ นำไปใชใ้ นชวี ิตจริง นำไปใช้ในชวี ติ จริง ไดบ้ างสว่ น ขยายแนวคิดที่มอี ยู่ ขยายแนวคิดท่ีมีอยู่ เดิม หรอื สรา้ ง เดิมได้ แตส่ ร้าง แนวคิดใหม่เพ่อื แนวคดิ ใหม่เพื่อ
ประเด็นการ ระดบั คุณภาพ ประเมิน 4 321 (ดมี าก) (ดี) (กำลังพัฒนา) (ต้องปรบั ปรุง) คดิ สรา้ งสรรค์ ปรบั ปรงุ พัฒนาองค์ ปรับปรงุ พฒั นาองค์ ปรบั ปรงุ พฒั นาองค์ ปรับปรุงพัฒนาองค์ ความรู้ได้อยา่ ง ความรู้ได้แตไ่ ม่ ความรู้ไม่ได้ ความรู้ไม่ได้ สมบูรณ์ สมบรู ณ์ 6. เกณฑ์การ มีความตง้ั ใจและ มคี วามตัง้ ใจและ มคี วามต้งั ใจและ ไมม่ ีความตงั้ ใจและ ประเมินความมุ พยายามในการทำ พยายามในการทำ พยายามในการทำ พยายามในการทำ มานะในการทำ ความเข้าใจปัญหา ความเข้าใจปัญหา ความเข้าใจปัญหา ความเขา้ ใจปัญหา ความเขา้ ใจ และแก้ปัญหาทาง และแกป้ ัญหาทาง และแกป้ ัญหาทาง และแก้ปัญหาทาง ปัญหาและ คณิตศาสตร์ มี คณิตศาสตร์ แต่ไม่มี คณิตศาสตร์ แต่ไม่มี คณติ ศาสตร์ ไมม่ ี แกป้ ญั หาทาง ความอดทนและไม่ ความอดทนและ ความอดทนและ ความอดทนและ คณิตศาสตร์ ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรค ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรค ทอ้ แท้ตอ่ อปุ สรรค ท้อแท้ต่ออปุ สรรค จนทำให้แก้ปัญหา จนทำให้แกป้ ัญหา จนทำให้แก้ปัญหา จนทำให้แกป้ ัญหา ทางคณิตศาสตร์ได้ ทางคณิตศาสตร์ได้ ทางคณิตศาสตร์ได้ ทางคณิตศาสตร์ได้ สำเร็จ ไมส่ ำเรจ็ เลก็ น้อย ไมส่ ำเรจ็ เปน็ ส่วน ไมส่ ำเรจ็ ใหญ่ 7. เกณฑ์การ สมดุ งาน ช้ินงาน สมดุ งาน ช้นิ งาน สมดุ งาน ช้ินงาน สมดุ งาน ชิ้นงาน ประเมินการมี สะอาดเรียบร้อย สะอาดเรยี บร้อย สะอาดเรียบร้อย ไมค่ ่อยเรียบรอ้ ย ระเบยี บวินัยใน ปฏบิ ัติตนอยใู่ น ปฏบิ ตั ติ นอยูใ่ น ปฏบิ ตั ิตนอยู่ใน ไม่ปฏบิ ตั ติ นอย่ใู น การทำงาน ข้อตกลงที่กำหนด ขอ้ ตกลงทก่ี ำหนด ข้อตกลงทก่ี ำหนด ขอ้ ตกลงทกี่ ำหนด ใหร้ ว่ มกนั เปน็ ส่วน ให้ร่วมกนั เป็น ให้รว่ มกนั ต้องอาศยั ให้ร่วมกันทุกครง้ั ใหญ่ บางครง้ั การแนะนำ
10. บันทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 10.1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. นักเรยี นน่ีไม่ผา่ น มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรยี นทีไ่ มผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................................................................ 2. นกั เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจในคณิตศาสตร์ (K) ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... 3. นกั เรยี นเกดิ ทักษะทางคณิตศาสตร์ (P) ............................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................................................................ 4. นักเรียนมคี ณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ (A) ......................................................................................................... .............................................. ............................................................................................................................. ........................... 10.2 ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข .................................................................................................................................. ........................ ....................................................................................................... ................................................... 10.3 ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................. .............................................................................................. ............................................................ ลงช่อื ........................................................... (นางจริภา ศิลประเสริฐ) ตำแหน่งครูโรงเรยี นอนบุ าลระแงะ
11. ความคิดเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย 1. ความเหมาะสมของกิจกรรม ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ........................................................................................................................................ 2. ความเหมาะสมของเนื้อหา ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ........................................................................................................................................ 3. ความเหมาะสมของเวลา ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 4. ความเหมาะสมของสื่อ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 5. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ .................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................. ................................ .................................................................................................. ............................................................................ ลงช่ือ........................................................... (นายบญั ญัติ แทนหนู) ตำแหน่งผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลระแงะ
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 24 สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ รายวชิ า คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน รหัสวชิ า ค 11101 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 การบวกจำนวนสองจำนวนที่ผลบวกไม่เกนิ 10 เรื่อง ศูนย์กบั การบวก เวลา 1 ชว่ั โมง วนั ท.่ี ............ เดอื น........................................ พ.ศ. ................... ครผู ้สู อน........................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลท่เี กดิ ขน้ึ จากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนนิ การ และการนำไปใช้ 2. ตัวชี้วัดช้นั ปี หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค สญั ลกั ษณแ์ สดงการบวก และประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบ ของจำนวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0 (ค 1.1 ป.1/4) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. หาผลบวกของศนู ย์กับจำนวน 1–10 ได้ (K) 2. มีความสามารถในการแก้ปญั หา (P) 3. มคี วามสามารถในการส่อื สาร สอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ (P) 4. มคี วามสามารถในเช่ือมโยงความร้ทู างคณิตศาสตร์ (P) 5. มคี วามมุมานะในการทำความเขา้ ใจปญั หาและแก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์ (A) 6. มรี ะเบยี บวินยั ในการทำงาน (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. มคี วามสามารถในการสือ่ สาร 2. มีความสามารถในเชื่อมโยง 3. มคี วามสามารถในการแก้ปัญหา (P)
5. สาระสำคญั จำนวนใดบวกกบั 0 ผลบวกจะเท่ากบั จำนวนนน้ั 6. สาระการเรยี นรู้ การบวกจำนวนนับกบั ศนู ย์ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ทบทวนความหมายของศูนยโ์ ดยใชค้ ำถาม -นกั เรียนคนใดต่นื นอนแล้วไปแปรงฟัน (มี 0 คน) -ใครไม่มกี ระเป๋านักเรยี นบ้าง -ให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งที่ใช้ 0 แสดงจำนวน 2. ใชข้ อ้ มลู หนา้ 77 สนทนากบั นักเรียน ดังนี้ -นักเรียนหญิงไม่มีดนิ สอ นับคือ มีดนิ สอ 0 แท่ง เพื่อนใจดมี นี ำ้ ใจให้ขอยมื 1 แทง่ รวมเป็นดินสอง 1 แท่ง -นกั เรยี นเขียนประโยคสัญลักษณ์ 1 เปน็ ผลบวกของ 0 กบั 1 วางกล่องดินสอ 2 กล่อง บนโตะ๊ กลอ่ งหนึ่งไม่มี ดนิ สอ อกี กล่องหนึ่งมีดนิ สอ 4 แท่ง ให้นักเรียนบอก สถานการณ์ หรอื สิ่งท่ไี ดจ้ ากการสังเกต เขยี นประโยคสัญลักษณ์ 4 เป็นผลบวกของ 0 กับ 4 3. ใหน้ ักเรียนสงั เกตและสรปุ ศนู ยบ์ วกจำนวนใดจะไดผ้ ลบวกเท่ากบั จำนวนน้ัน 4. สนทนาเกี่ยวกับภาพใน หน้า 78 สอดแทรกการปฏิบัตติ นเมอ่ื อ่านหนังสือแล้วควรเก็บเข้าที่ ใหน้ ักเรียนพดู สถานการณ์จากภาพ เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ เน้นถามผลบวกเท่าใด 5. ครูติดบตั รแผนภาพ นักเรียนบอกสถานการณ์ แล้วเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์ ให้นกั เรียนสงั เกตศนู ย์กับการ บวกแลว้ สรุป จำนวนใดบวกกับศูนยเ์ ทา่ กบั จำนวนนน้ั 6. ใหน้ ักเรยี นหาผลบวกของศนู ย์กบั จำนวน 1-10 โดยเขยี นตวั เลขแสดงจำนวนในหนังสือเรยี น หน้า 79 7. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น โดยให้โยงเส้นบตั รศนู ย์ บวกกับจำนวนใด และจำนวนใดบวกกับศนู ย์ กบั ผลบวกให้ถกู ต้อง หน้า 80 8. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ี จำนวนใดบวกกับ 0 หรอื 0 บวกกับจำนวนใด ผลบวก จะเท่ากบั จำนวนนั้น 9. ให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั 2.4 หนา้ 52 – 53 และแบบฝึกทกั ษะชดุ ที่ 2.4 เป็นรายบุคคล 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.1 เลม่ 1 2. แบบฝึกหดั 3. แบบฝกึ ทักษะชดุ ท่ี 2.4 4. ของจรงิ กลอ่ ง ดินสอ
5. บตั รภาพ 6. บตั รแผนภาพ 7. แถบขอ้ ความ 8. แถบประโยคสญั ลักษณ์ 9. การวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑ์ แบบฝกึ หดั รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 9.1 การวัดผล รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ แบบฝึกทักษะชุดที่ 2.4 ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ วธิ กี าร ตรวจแบบฝึกหดั แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ตรวจแบบฝึกทกั ษะชุดท่ี 2.4 รายบุคคล สังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน รายบุคคล 9.2 การประเมนิ ผล ประเด็นการ 4 ระดบั คุณภาพ 1 ประเมิน (ดีมาก) (ตอ้ งปรบั ปรุง) 32 (ดี) (กำลังพัฒนา) 1. เกณฑ์การ ทำแบบฝกึ หัด/ ทำแบบฝึกหัด/ ทำแบบฝกึ หดั / ทำแบบฝึกหดั / ประเมนิ การทำ แบบฝึกทกั ษะได้ แบบฝึกทักษะได้ แบบฝกึ ทักษะได้ แบบฝกึ ทักษะได้ แบบฝึกหัด/ อย่างถูกต้องร้อยละ อย่างถูกต้องรอ้ ยละ อย่างถูกต้องร้อยละ อยา่ งถูกต้องต่ำกว่า แบบฝึกทกั ษะ 90 ขึน้ ไป 80 - 89 60 - 79 รอ้ ยละ 60 2. เกณฑ์การ ทำความเข้าใจปัญหา ทำความเข้าใจปัญหา ทำความเข้าใจปัญหา ทำความเข้าใจ ประเมินความ คดิ วเิ คราะห์ คิดวเิ คราะห์ คดิ วเิ คราะห์ ปญั หา คดิ วิเคราะห์ สามารถในการ วางแผนแกป้ ญั หา วางแผนแกป้ ัญหา วางแผนแกป้ ัญหา มรี ่องรอยของการ แก้ปัญหา และเลอื กใชว้ ธิ กี าร และเลือกใช้วธิ กี าร และเลอื กใช้วิธกี าร วางแผนแกป้ ญั หา ทีเ่ หมาะสม โดย ท่เี หมาะสม แต่ ได้บางสว่ น คำตอบท่ี แตไ่ มส่ ำเรจ็ คำนงึ ถงึ ความ ความสมเหตุสมผล ไดย้ งั ไม่มคี วาม สมเหตสุ มผลของ ของคำตอบยังไมด่ ี สมเหตุสมผล และไม่ คำตอบพร้อมทง้ั พอ และตรวจสอบ มกี ารตรวจสอบ ตรวจสอบความ ความถูกตอ้ งไม่ได้ ความถูกตอ้ ง ถูกต้องได้ 3. เกณฑ์การ ใช้รปู ภาษา และ ใชร้ ปู ภาษา และ ใช้รปู ภาษา และ ใชร้ ูป ภาษา และ ประเมินความ สญั ลักษณท์ าง สญั ลกั ษณ์ทาง สญั ลกั ษณ์ทาง สัญลกั ษณท์ าง สามารถในการ สื่อสาร ส่ือ คณติ ศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ
ประเด็นการ ระดบั คุณภาพ ประเมิน 4 32 1 ความหมาย (ดีมาก) (ด)ี (กำลงั พัฒนา) (ตอ้ งปรบั ปรุง) ทาง สอ่ื สาร สอื่ สาร คณิตศาสตร์ สือ่ สาร ส่ือสาร สอ่ื ความหมาย สอ่ื ความหมาย สรปุ ผล และ สอื่ ความหมาย สอ่ื ความหมาย นำเสนอไม่ได้ สรุปผล และ สรปุ ผล และ สรปุ ผล และ ใช้ความรทู้ าง นำเสนอได้อย่าง คณิตศาสตรเ์ ป็น นำเสนอได้ถูกต้อง นำเสนอได้ถกู ต้อง เครื่องมอื ในการ ถกู ต้อง ชดั เจน เรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ แตข่ าดรายละเอียดท่ี บางสว่ น เนือ้ หาต่าง ๆ หรอื ศาสตร์อ่นื ๆ และ สมบรู ณ์ นำไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ 4. เกณฑ์การ ใชค้ วามรูท้ าง ใชค้ วามรูท้ าง ใช้ความรทู้ าง ประเมินความ คณิตศาสตร์เป็น สามารถในการ เครื่องมอื ในการ คณติ ศาสตร์เป็น คณติ ศาสตรเ์ ป็น เชอื่ มโยง เรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ เครื่องมอื ในการ เคร่อื งมอื ในการ เรยี นรู้คณติ ศาสตร์ เรยี นรู้คณิตศาสตร์ เนอ้ื หาตา่ ง ๆ หรือ ศาสตร์อนื่ ๆ และ เน้ือหาตา่ ง ๆ หรอื เนื้อหาตา่ ง ๆ หรอื นำไปใช้ในชวี ติ จริง ศาสตรอ์ น่ื ๆ และ ศาสตร์อน่ื ๆ และ ได้อย่างสอดคล้อง นำไปใช้ในชวี ติ จรงิ นำไปใช้ในชวี ิตจรงิ เหมาะสม 5. เกณฑ์การ มีความตั้งใจและ ได้บางสว่ น ประเมินความมุ พยายามในการทำ มีความตัง้ ใจและ มีความตง้ั ใจและ ไมม่ ีความตง้ั ใจและ พยายามในการทำ พยายามในการทำ พยายามในการทำ มานะในการทำ ความเข้าใจปัญหา ความเข้าใจปัญหา ความเข้าใจปัญหา ความเขา้ ใจปัญหา และแกป้ ัญหาทาง และแก้ปัญหาทาง และแก้ปัญหาทาง ความเข้าใจ และแกป้ ัญหาทาง คณิตศาสตร์ แต่ไม่มี คณติ ศาสตร์ แต่ไม่มี คณิตศาสตร์ ไมม่ ี ความอดทนและ ความอดทนและ ความอดทนและ ปัญหาและ คณติ ศาสตร์ มี ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรค ท้อแท้ต่ออปุ สรรค ทอ้ แท้ต่ออุปสรรค จนทำให้แกป้ ัญหา จนทำให้แก้ปัญหา จนทำให้แก้ปัญหา แกป้ ญั หาทาง ความอดทนและไม่ ทางคณิตศาสตร์ได้ ทางคณิตศาสตร์ได้ ทางคณิตศาสตร์ได้ ไมส่ ำเร็จเลก็ น้อย ไมส่ ำเร็จเป็นส่วน ไมส่ ำเร็จ คณิตศาสตร์ ท้อแทต้ ่ออปุ สรรค ใหญ่ จนทำให้แกป้ ัญหา ทางคณิตศาสตร์ได้ สำเร็จ 6. เกณฑ์การ สมุดงาน ชน้ิ งาน สมดุ งาน ชิน้ งาน สมุดงาน ชิ้นงาน สมดุ งาน ช้นิ งาน ประเมินการมี สะอาดเรียบร้อย สะอาดเรียบร้อย สะอาดเรยี บร้อย ไม่ค่อยเรยี บร้อย ระเบยี บวนิ ยั ใน ปฏบิ ัตติ นอย่ใู น ปฏิบตั ติ นอยู่ใน ปฏบิ ตั ิตนอย่ใู น ไม่ปฏิบตั ติ นอยู่ใน การทำงาน ขอ้ ตกลงท่ีกำหนด ขอ้ ตกลงทก่ี ำหนด ขอ้ ตกลงท่กี ำหนด ข้อตกลงทกี่ ำหนด ให้ร่วมกนั เป็นสว่ น ใหร้ ่วมกันเป็น ให้ร่วมกนั ตอ้ งอาศัย ให้รว่ มกนั ทกุ ครัง้ ใหญ่ บางคร้ัง การแนะนำ
10. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 10.1 สรปุ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรียนรู้..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. นกั เรยี นนไี่ มผ่ ่าน มดี ังน้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... 2. นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจในคณิตศาสตร์ (K) ............................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................................................................ 3. นกั เรยี นเกิดทักษะทางคณิตศาสตร์ (P) ............................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ........................... 4. นกั เรยี นมีคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ (A) ............................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................................................................ 10.2 ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ............................. ............................................................................................................................. ............................. 10.3 ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................. .............................................................................................. ............................................................ ลงช่อื ........................................................... (นางจรภิ า ศลิ ประเสรฐิ ) ตำแหน่งครโู รงเรยี นอนบุ าลระแงะ
11. ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ ผทู้ ่ไี ด้รับมอบหมาย 1. ความเหมาะสมของกิจกรรม ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง ........................................................................................................................................ 2. ความเหมาะสมของเนื้อหา ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ........................................................................................................................................ 3. ความเหมาะสมของเวลา ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 4. ความเหมาะสมของส่ือ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 5. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ .................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ........................................................... (นายบัญญตั ิ แทนหนู) ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอนบุ าลระแงะ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 25 สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ รายวิชา คณติ ศาสตรพ์ ื้นฐาน รหัสวชิ า ค 11101 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 การบวกจำนวนสองจำนวนทผี่ ลบวกไมเ่ กนิ 10 เร่ือง การบวกจำนวนเดยี วกัน เวลา 1 ชวั่ โมง วนั ท่ี............. เดอื น........................................ พ.ศ. ................... ครูผู้สอน........................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการดำเนินการ สมบัตขิ องการดำเนนิ การ และการนำไปใช้ 2. ตวั ชี้วัดชนั้ ปี หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยค สญั ลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบ ของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100 และ 0 (ค 1.1 ป.1/4) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. หาผลบวกจำนวนเดียวกนั ได้ (K) 2. มีความสามารถในการส่ือสาร ส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ (P) 3. มีความสามารถในเช่ือมโยงความรู้ทางคณติ ศาสตร์ (P) 4. มรี ะเบียบวนิ ยั ในการทำงาน (A) 4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 1. มีความสามารถในการสือ่ สาร 2. มีความสามารถในเช่ือมโยง 5. สาระสำคญั จำนวนเดยี วกนั บวกกันและมีผลบวกไม่เกิน 10 ไดแ้ ก่ 1+1 = 2, 2+2 = 4, 3+3 = 6, 4+4 = 8, 5+5 = 10
6. สาระการเรยี นรู้ การบวกจำนวนเดยี วกนั 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ให้นกั เรียนพจิ ารณากิจกรรมพัฒนาความรู้หน้า 81 ซ่ึงความรูแ้ ละประสบการณ์ท่ไี ด้จากการบวก จำนวนเดียวกันทำให้นกั เรยี นหาผลบวกได้รวดเรว็ โดยไมต่ ้องนบั เชอื่ มโยงไปส่กู ารหาจำนวนสองเทา่ (Double) การสงั เกตภาพเสรมิ ทกั ษะการสังเกตและสื่อสารถึงการเท่ากัน เชน่ -จักรยาน 2 คนั คนั ละ 2 ลอ้ -ถงุ มือ 1 คู่ มีนิ้วข้างละ 5 นว้ิ จากนัน้ สงั เกตอย่างละเอียดทลี ะภาพ บอกสงิ่ ที่ได้จากการสังเกตแล้วเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ สรปุ ผลบวกจำนวนเดยี วกัน 2. ครูกระตุน้ ให้นักเรยี นวิเคราะหป์ ระโยคสญั ลักษณ์และผลบวกท่ไี ด้โดยใชค้ ำถาม ในหน้า 82 ดังน้ี -ประโยคสัญลักษณท์ ุกข้อมีความเหมือนหรือความตา่ งกันอย่างไร (จำนวนต่างกัน ผลบวกตา่ งกนั แต่ละ ประโยค สญั ลักษณบ์ วกด้วยจำนวนเดยี วกันเหมอื นกัน) -ยกตวั อยา่ งส่งิ ของหรือสถานการณ์ท่ีต้องใช้การบวกจำนวนเดยี วกนั (ฝาแฝด 1+1 = 2 รูป 2 รูปแต่ละรปู มี 3 ดา้ น 3+3 = 6) 3. ครใู ชก้ รอบสิบเปน็ ส่อื การบวกจำนวนเดียวกันเพ่ือเปล่ียนการเรยี นรจู้ ากภาพท่เี ป็นรูปธรรม ในหนา้ 83 กรอบสิบท่ีเปน็ สื่อก่ึงสญั ลักษณ์ การบวกจำนวนเดยี วกัน โดยใชก้ รอบสบิ เปน็ ส่ือจะเหน็ ชัดเจนว่า ผลบวกเป็น สองเทา่ (Double) ซง่ึ การฝึกฝนทักษะบ่อยๆ จะทำใหน้ ักเรียนหาผลบวกได้อยา่ งคลอ่ งแคลว่ เมือ่ บวกจำนวน เดียวกัน 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยใช้กระดาษ A4 หน้าเดยี วพบั จรวดอยา่ งง่ายมี 2 ปีก แตล่ ะปีกเขยี น จำนวนเดยี วกนั พงุ่ จรวดไปด้านบนหากจรวดตกลงใกล้ใครให้บอกผลบวกอย่างรวดเร็ว 5. ร่วมกนั สรปุ บทเรยี นโดยเติมตวั เลข แสดงจำนวนเดียวกนั ท่ีมผี ลบวกตามท่กี ำหนด หน้า 84 จำนวนเดียวกนั บวกกันและมีผลบวกไมเ่ กิน 10 ได้แก่ 1+1=2 2+2=4 3+3=6 4+4=8 5 + 5 = 10 6. ใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัด 2.5 หนา้ 54-55 และแบบฝึกทกั ษะชุดท่ี 2.5 เปน็ รายบุคคล 8. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.1 เลม่ 1 2. แบบฝึกหดั
3. แบบฝึกทักษะชุดท่ี 2.5 4. ปา้ ยนเิ ทศ 5. บตั รภาพจกั รยาน 2 บัตร 6. บตั รภาพเชงิ เทยี น 2 บัตร 7. บัตรภาพแมงมุม 2 บัตร 8. บตั รภาพถงุ มือ 1 คู่ หรอื ถงุ มือ 1 คู่ 9. กระดาษ A4 หน้าเดียว 5 แผ่น 9. การวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์ แบบฝกึ หดั รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 9.1 การวดั ผล รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ แบบฝึกทักษะชดุ ที่ 2.5 ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ วธิ ีการ ตรวจแบบฝกึ หดั แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ตรวจแบบฝึกทักษะชุดที่ 2.5 รายบคุ คล สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน รายบุคคล 9.2 การประเมนิ ผล ประเด็นการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ 4 32 1 (ดมี าก) (ตอ้ งปรบั ปรุง) (ด)ี (กำลงั พัฒนา) ทำแบบฝึกหัด/ แบบฝึกทกั ษะได้ 1. เกณฑ์การ ทำแบบฝกึ หดั / ทำแบบฝึกหดั / ทำแบบฝึกหดั / อยา่ งถูกต้องต่ำกวา่ รอ้ ยละ 60 ประเมนิ การทำ แบบฝกึ ทกั ษะได้ แบบฝึกทักษะได้ แบบฝึกทักษะได้ ใช้รูป ภาษา และ แบบฝกึ หัด/ อย่างถูกต้องร้อยละ อย่างถูกต้องรอ้ ยละ อยา่ งถูกต้องร้อยละ สญั ลกั ษณ์ทาง แบบฝึกทักษะ 90 ขึ้นไป 80 - 89 60 - 79 คณติ ศาสตร์ในการ 2. เกณฑ์การ ใช้รูป ภาษา และ ใชร้ ูป ภาษา และ ใชร้ ปู ภาษา และ ส่อื สาร ประเมินความ สัญลักษณท์ าง สญั ลักษณท์ าง สัญลกั ษณท์ าง สือ่ ความหมาย สามารถในการ สื่อสาร ส่ือ คณติ ศาสตร์ในการ คณติ ศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ สรุปผล และ ความหมาย สอ่ื สาร ส่ือสาร สือ่ สาร นำเสนอไม่ได้ ทาง สอื่ ความหมาย ส่ือความหมาย สื่อความหมาย คณิตศาสตร์ สรุปผล และ สรุปผล และ สรุปผล และ นำเสนอได้อย่าง นำเสนอได้ถกู ต้อง นำเสนอได้ถูกต้อง ถูกต้อง ชดั เจน แตข่ าดรายละเอียดท่ี บางส่วน สมบูรณ์
ประเด็นการ 4 ระดบั คุณภาพ 1 ประเมิน (ดีมาก) (ตอ้ งปรับปรุง) 32 (ดี) (กำลงั พัฒนา) 3. เกณฑ์การ ใช้ความรทู้ าง ใชค้ วามรูท้ าง ใช้ความรู้ทาง ใชค้ วามรทู้ าง ประเมินความ คณติ ศาสตรเ์ ป็น คณิตศาสตร์เป็น คณิตศาสตร์เป็น คณิตศาสตร์เป็น สามารถในการ เครอื่ งมอื ในการ เคร่อื งมอื ในการ เครื่องมอื ในการ เครื่องมือในการ เช่อื มโยง เรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ เรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ เรียนร้คู ณติ ศาสตร์ เรยี นรู้คณิตศาสตร์ เน้อื หาตา่ ง ๆ หรอื เน้ือหาต่าง ๆ หรือ เนอ้ื หาตา่ ง ๆ หรอื เน้อื หาต่าง ๆ หรือ ศาสตร์อ่นื ๆ และ ศาสตร์อนื่ ๆ และ ศาสตรอ์ ืน่ ๆ และ ศาสตร์อน่ื ๆ และ นำไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ นำไปใช้ในชีวิตจรงิ นำไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ นำไปใช้ในชวี ติ จริง ได้อย่างสอดคล้อง ไดบ้ างส่วน เหมาะสม 4. เกณฑ์การ สมดุ งาน ช้นิ งาน สมดุ งาน ช้นิ งาน สมดุ งาน ช้นิ งาน สมดุ งาน ชิ้นงาน ประเมนิ การมี สะอาดเรยี บร้อย สะอาดเรยี บร้อย สะอาดเรยี บร้อย ไมค่ ่อยเรยี บรอ้ ย ระเบยี บวินัยใน ปฏิบตั ติ นอยใู่ น ปฏบิ ตั ิตนอย่ใู น ปฏบิ ัตติ นอยใู่ น ไมป่ ฏบิ ัตติ นอยูใ่ น การทำงาน ขอ้ ตกลงท่ีกำหนด ขอ้ ตกลงทีก่ ำหนด ขอ้ ตกลงท่ีกำหนด ขอ้ ตกลงทก่ี ำหนด ให้รว่ มกนั เป็นส่วน ให้รว่ มกนั เปน็ ใหร้ ่วมกนั ต้องอาศัย ให้ร่วมกันทกุ คร้ัง ใหญ่ บางคร้งั การแนะนำ 10. บันทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 10.1 สรุปผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นจำนวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. นกั เรยี นนี่ไม่ผา่ น มดี งั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทีไ่ ม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................................................................ 2. นกั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจในคณิตศาสตร์ (K) ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... 3. นักเรยี นเกิดทกั ษะทางคณิตศาสตร์ (P) ............................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................................................................ 4. นกั เรียนมีคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ (A)
............................................................................................................................. ........................... 10.2 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ............................. ................................................................................................ .......................................................... 10.3 ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................. ลงชอื่ ........................................................... (นางจรภิ า ศลิ ประเสรฐิ ) ตำแหนง่ ครโู รงเรียนอนบุ าลระแงะ 11. ความคิดเหน็ ของหัวหน้าสถานศึกษา/ ผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 1. ความเหมาะสมของกิจกรรม ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 2. ความเหมาะสมของเน้ือหา ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ........................................................................................................................................ 3. ความเหมาะสมของเวลา ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง ........................................................................................................................................ 4. ความเหมาะสมของส่ือ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง ........................................................................................................................................ 5. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ .................................................................................................................................... ลงชอ่ื ........................................................... (นายบญั ญัติ แทนหนู) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลระแงะ
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 26 สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ รายวชิ า คณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน รหสั วชิ า ค 11101 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 การบวกจำนวนสองจำนวนท่ีผลบวกไม่เกนิ 10 เรอ่ื ง การบวกที่ผลบวกเปน็ สิบ เวลา 1 ชว่ั โมง วนั ท่ี............. เดือน........................................ พ.ศ. ................... ครูผู้สอน........................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลท่เี กิดขึ้นจากการดำเนนิ การ สมบตั ิของการดำเนินการ และการนำไปใช้ 2. ตัวช้ีวดั ชน้ั ปี หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยค สญั ลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบ ของจำนวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0 (ค 1.1 ป.1/4) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. หาตัวไมท่ ราบค่าของจำนวนสองจำนวนทีผ่ ลบวกเปน็ 10 (K) 2. มคี วามสามารถในการสื่อสาร สอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ (P) 3. มรี ะเบียบวนิ ัยในการทำงาน (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 1. มคี วามสามารถในการสือ่ สาร 5. สาระสำคัญ จำนวนแสดงจำนวนท่ีบวกกนั ได้ 10 ได้แก่ 4 กับ 6, 1 กับ 9, 2 กับ 8, 3 กับ 7, 8 กับ 2, 5 กับ 5, 6 กบั 4, 7 กับ 3, 9 กบั 1, 10 กบั 0, 0 กับ 10 6. สาระการเรยี นรู้ การบวกทผ่ี ลบวกเปน็ สบิ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครทู บทวนเร่อื งการบวกจำนวนเดียวกัน
2. นักเรยี นจบั ค่ทู ำกจิ กรรมคู่สิบ ในหน้า 85 เพื่อใหน้ กั เรียนไดค้ น้ หาคำตอบโดยการจัดกระทำกับ ของจรงิ เนน้ การพดู ส่ือความหมาย เชน่ หนึ่งกับเกา้ เปน็ สิบ บันทกึ ข้อมลู ท่ีได้ และตรวจสอบใหถ้ ูกต้องไม่ซำ้ กนั 3. ใหน้ กั เรยี นอภปิ รายผลงานใบบนั ทกึ ผลงานของคใู่ ดประณตี สวยงาม จดั เรียงข้อมูลใหด้ ูได้ง่าย เป็นไปตามลำดับ เช่น หนงึ่ กับเกา้ เปน็ สบิ สองกบั แปดเป็นสบิ ......... สิบกบั ศนู ย์เปน็ สิบ 4. ครูใช้คำถามต่อไปนี้ จากการลำดับข้อมูลดงั กล่าวนกั เรียนสงั เกตเห็นสงิ่ ใด (จำนวนคู่สิบจะลดลง และเพิ่มขน้ึ ทีละหน่วย ติดใบบนั ทกึ ที่ปา้ ยนิเทศ) 5. ครูติดกรอบสิบบนกระดาษใช้คำถามทบทวนความรู้เดมิ โดยใหน้ กั เรยี นบอกสง่ิ ที่ได้จากการสงั เกต (มี 10 ช่อง ด้านบน 5 ช่อง ด้านลา่ ง 5 ช่องเป็นแถบ 5 สองอันค่กู ัน) ถามสถานการณ์ปัญหาพร้อมทง้ั ติดตัวนบั ท่แี ถบสบิ -มีอยู่ 9 ต้องเพิ่มอีกเท่าใดเปน็ 10 ดงั นั้น 10 = 9 + 1 -มีอยู่ 8 ตอ้ งเพ่ิมอีกเทา่ ใดเป็น 10 ดังนนั้ 10 = 8 + 2 -จำนวนใดรวมกบั 3 เป็น 10 ดังนน้ั 10 = 7 + 3 6. ครูสังเกตหากนักเรียนฝึกจากของจรงิ จนคล่องแคลว่ แล้ว ใหน้ กั เรยี นเขียนตัวเลขแสดงจำนวนท่ี บวกกนั ไดส้ บิ ในหนังสอื เรยี น หนา้ 85 และ หน้า 86 ครูประเมนิ ความถูกต้องหรืออาจให้นกั เรยี นตรวจสอบใบ บนั ทกึ บนปา้ ยนเิ ทศ หากพบว่ามนี กั เรียนเข้าใจคลาดเคล่อื น ใหท้ ำกจิ กรรมในข้อ 1 ซำ้ เป็นรายบคุ คล 7. ครจู ัดกิจกรรมเสริม : กิจกรรมหาคใู่ ห้สบิ ดงั นี้ แจกกรอบสิบ และตัวนับตา่ งสี ให้นักเรยี นเล่น เปน็ คู่ วางตวั นบั ตามคำสง่ั ครู -10 เทา่ กับ 9 รวมกับจำนวนใด (นกั เรยี นชาย 10 = 9 + 1) -10 เทา่ กับ จำนวนใดรวมกบั 8 เป็นตน้ 8. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น โดยระบายสีช่องที่มี ผลบวกเป็น 10 ใหค้ รบทกุ คู่ หนา้ 88 แล้วแลกเปล่ยี นกนั กับเพื่อนพจิ ารณาวา่ ภาพท่ไี ด้จากการระบายสเี ป็นภาพอะไร 9. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปความรู้ ดงั นี้ จำนวนสองจำนวนที่บวกกันได้ 10 ได้แก่ 1 กับ 9 9 กับ 1 2 กับ 8 8 กับ 2 3 กบั 7 7 กบั 3 4 กับ 6 6 กบั 4 10 กบั 0 0 กบั 10 10. ให้นักเรยี นทำแบบฝึกหัด 2.6 หน้า 56-58 และแบบฝึกทกั ษะชดุ ท่ี 2.6 เปน็ รายบุคคล
8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 2. แบบฝึกหดั 3. แบบฝกึ ทักษะชดุ ท่ี 2.6 4. กจิ กรรมคสู่ ิบ 5. ตวั นับ 6. ใบบันทึก 7. กรอบสิบ 8. ตัวนบั ตา่ งสี สลี ะ 10 อนั 9. การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ แบบฝกึ หดั รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 9.1 การวัดผล รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ แบบฝกึ ทักษะชดุ ท่ี 2.6 ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ วิธกี าร ตรวจแบบฝกึ หดั แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ตรวจแบบฝึกทักษะชุดที่ 2.6 รายบคุ คล สังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน รายบคุ คล 9.2 การประเมนิ ผล ประเดน็ การ ระดับคุณภาพ ประเมิน 4 32 1 (ดมี าก) (ตอ้ งปรบั ปรุง) (ด)ี (กำลังพัฒนา) ทำแบบฝึกหัด/ แบบฝกึ ทกั ษะได้ 1. เกณฑ์การ ทำแบบฝึกหัด/ ทำแบบฝกึ หัด/ ทำแบบฝกึ หัด/ อย่างถูกต้องต่ำกวา่ รอ้ ยละ 60 ประเมินการทำ แบบฝกึ ทักษะได้ แบบฝึกทกั ษะได้ แบบฝึกทักษะได้ ใช้รูป ภาษา และ อยา่ งถูกต้องรอ้ ยละ อย่างถูกต้องรอ้ ยละ แบบฝึกหัด/ อย่างถูกต้องรอ้ ยละ สญั ลกั ษณ์ทาง แบบฝึกทักษะ 90 ข้นึ ไป 80 - 89 60 - 79 คณติ ศาสตร์ในการ 2. เกณฑ์การ ใชร้ ปู ภาษา และ ใช้รูป ภาษา และ ใชร้ ปู ภาษา และ สอื่ สาร ประเมินความ สญั ลกั ษณ์ทาง สัญลกั ษณท์ าง สญั ลักษณท์ าง สื่อความหมาย สามารถในการ สือ่ สาร ส่ือ คณิตศาสตร์ในการ คณติ ศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ สรปุ ผล และ ความหมาย สือ่ สาร สอื่ สาร สอื่ สาร นำเสนอไม่ได้ ทาง ส่ือความหมาย สื่อความหมาย ส่อื ความหมาย คณติ ศาสตร์ สรุปผล และ สรปุ ผล และ สรปุ ผล และ นำเสนอได้อย่าง นำเสนอได้ถูกต้อง นำเสนอได้ถกู ต้อง
ประเด็นการ 4 ระดบั คุณภาพ 1 ประเมนิ (ดีมาก) 32 (ตอ้ งปรับปรุง) (ด)ี (กำลังพัฒนา) ถกู ต้อง ชัดเจน แตข่ าดรายละเอียดท่ี บางสว่ น สมดุ งาน ชิน้ งาน ไมค่ ่อยเรียบร้อย 3. เกณฑ์การ สมดุ งาน ชิน้ งาน สมบรู ณ์ ไมป่ ฏิบัตติ นอยใู่ น ประเมินการมี สะอาดเรียบร้อย ขอ้ ตกลงทีก่ ำหนด ระเบยี บวนิ ยั ใน ปฏบิ ตั ติ นอย่ใู น สมดุ งาน ชน้ิ งาน สมุดงาน ชิน้ งาน ให้รว่ มกัน ตอ้ งอาศยั การทำงาน ขอ้ ตกลงทกี่ ำหนด สะอาดเรียบร้อย สะอาดเรียบร้อย การแนะนำ ปฏิบตั ิตนอยูใ่ น ปฏบิ ตั ติ นอยู่ใน ให้รว่ มกนั ทุกครง้ั ข้อตกลงท่กี ำหนด ขอ้ ตกลงท่กี ำหนด ใหร้ ว่ มกนั เป็นส่วน ให้ร่วมกันเปน็ ใหญ่ บางครงั้ 10. บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 10.1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. นักเรียนจำนวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. ไม่ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้..................คน คิดเป็นร้อยละ.................. นกั เรียนนี่ไมผ่ า่ น มีดงั น้ี 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ........................................................................................................................................................ 2. นักเรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจในคณิตศาสตร์ (K) ...................................................................................................... .................................................. 3. นักเรยี นเกดิ ทกั ษะทางคณิตศาสตร์ (P) ............................................................................................................................. ........................... 4. นักเรียนมีคุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ (A) ............................................................................................................................. ........................... 10.2 ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ............................. 10.3 ขอ้ เสนอแนะ ........................................................................................................................................................... ลงชือ่ ........................................................... (นางจรภิ า ศลิ ประเสรฐิ ) ตำแหนง่ ครโู รงเรียนอนุบาลระแงะ
11. ความคดิ เห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ ผู้ที่ได้รบั มอบหมาย 1. ความเหมาะสมของกิจกรรม ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง ........................................................................................................................................ 2. ความเหมาะสมของเนื้อหา ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ........................................................................................................................................ 3. ความเหมาะสมของเวลา ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 4. ความเหมาะสมของส่ือ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ........................................................................................................................................ 5. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ .................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ........................................................... (นายบญั ญตั ิ แทนหนู) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนบุ าลระแงะ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 27 สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ า คณติ ศาสตรพ์ ื้นฐาน รหสั วิชา ค 11101 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 การบวกจำนวนสองจำนวนที่ผลบวกไม่เกิน 10 เรื่อง ความสมั พันธข์ องจำนวนแบบส่วนย่อย - สว่ นรวมกบั การบวก เวลา 1 ชว่ั โมง วันท.่ี ............ เดือน........................................ พ.ศ. ................... ครูผสู้ อน........................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลทเี่ กิดข้นึ จากการดำเนินการ สมบัตขิ องการดำเนินการ และการนำไปใช้ 2. ตัวช้ีวัดชั้นปี หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยค สัญลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบ ของจำนวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0 (ค 1.1 ป.1/4) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกของจำนวน 1-9 และ 0 ได้ (K) 2. มีความสามารถในการสอื่ สาร สอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ (P) 3. มรี ะเบียบวินัยในการทำงาน (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 1. มีความสามารถในการส่ือสาร 5. สาระสำคัญ ความสมั พนั ธ์แบบสว่ นย่อย – สว่ นรวม กบั การบวก จำนวน สองจำนวนบวกกนั สามารถสลับที่กนั ได้ เนอ่ื งจากผลบวกเท่ากัน 6. สาระการเรยี นรู้ ความสัมพันธข์ องการบวก และการลบ
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครทู บทวนเรอื่ งการบวกที่ผลบวกเปน็ 10 2. นักเรยี นจับคูท่ ำกจิ กรรมคู่บวกตามข้อมลู ในหนังสือเรียน หนา้ 89 ซง่ึ จำนวนบนใบบันทึกมีตง้ั แต่ 4-9 เม่อื เสร็จกจิ กรรม แลว้ นำใบบนั ทกึ มาติดบนกระดานดำ ตรวจสอบความถูกต้อง 3. ครูจำลองสถานการณ์ปญั หา หา “คบู่ วกของ 5” ในหนงั สอื เรียน หน้า 90 ข้อ 1 โดยใช้คำถาม 0 รวมกับจำนวนใด เป็น 5 ดังนัน้ 5 = 0 + 5 (ครูใหค้ วามรู้ 0 กบั 5 เป็นสว่ นยอ่ ย 5 เป็นสว่ นรวม) 1 กบั จำนวนใด เป็น 5 ดงั นนั้ 5 = 1 + 4 (1 กับ 4 เป็นส่วนย่อย 5 เปน็ ส่วนรวม) 4. ในขณะทำกิจกรรมให้นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องกับบัตรบันทึกคู่บวก 5 5. ครแู นะนำสว่ นยอ่ ยสว่ นรวมอกี รูปแบบ ให้นักเรยี นหา “คบู่ วกของ 6” ในขอ้ 2 โดยใชค้ ำถาม 6 รวมกบั จำนวนใดเปน็ 6 เขียนสว่ นย่อย ในภาพแล้วเตมิ ประโยคสญั ลกั ษณ์การบวกใหส้ มบรู ณ์ ตรวจสอบกับใบ บันทกึ ของจำนวน 6 หรือใชต้ ัวนับ 6. ให้นักเรยี นหาส่วนยอ่ ยของ 9 (คู่บวกของ 9) อาจแจกตัวนบั ใหน้ กั เรยี นคลู่ ะ 9 อัน 7. ครูใชค้ ำถามต่อไปนี้ 9 เปน็ สว่ นรวมของ 3 กบั จำนวนใด 9 = 3+6 9 เท่ากับ 5 กับจำนวนใด 9 = 5+4 10. นกั เรยี นเตมิ ตวั เลขแสดงจำนวนในหนงั สือเรยี น หนา้ 91 11. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น โดยใหน้ กั เรยี นเติมตัวเลข แสดงจำนวน หน้า 92 12. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้ ดังน้ี จำนวนสองจำนวนทีบ่ วกกนั และผลบวกเทา่ กัน อาจมไี ด้ หลายคู่ เชน่ 4=0+4 4=4+0 4=1+3 4=3+1 4=2+2 13. ใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหัด 2.6 หนา้ 56-58 และแบบฝกึ ทกั ษะชดุ ท่ี 2.7 เปน็ รายบุคคล
Search