Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผน-วิชากระบวนการจัดทำบัญชี

แผน-วิชากระบวนการจัดทำบัญชี

Published by ปัทมา ปลั่งเปลื่อง, 2021-05-06 02:45:41

Description: แผน-วิชากระบวนการจัดทำบัญชี

Search

Read the Text Version

การออกแบบการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ รายวิชา กระบวนการจดั ทาบญั ชี ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 จดั ทาโดย นางสาวปัทมา ปลัง่ เปล่ือง ตาแหนง่ ครู โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตาบลชา่ งเคิ่ง อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชยี งใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

คาอธบิ ายรายวชิ า รายวชิ า กระบวนการจดั ทาบัญชี ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1/2564 จานวน 100 ชัว่ โมง จานวน 2.5 หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกับพระราชบญั ญตั ิการบญั ชี พ.ศ.2542 กระบวนการจดั ทาบญั ชีตามวงจรบญั ชี ของธรุ กจิ บรกิ าร ธุรกจิ ซ้ือขายสนิ ค้า และธุรกิจอุตสาหกรรม การจดทะเบียนธรุ กจิ และการจดั การ เอกสารที่ เกย่ี วข้อง การวเิ คราะห์รายการคา้ จากเอกสาร จัดทางบการเงินตามประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ ผลการเรยี นรู้ 1. เขา้ ใจกฎหมายเก่ียวกับการทาบญั ชีและกระบวนการปฏบิ ตั งิ านบัญชีของธรุ กิจบรกิ าร ธุรกิจซื้อขาย สนิ คา้ และธุรกจิ อุตสาหกรรมในรูปแบบของกิจการเจ้าของคนเดยี ว หา้ งหนุ้ สว่ น และบรษิ ทั จากดั 2. มีทกั ษะการปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามข้นั ตอนการจดั ทาบญั ชีและนาเสนองบการเงนิ ในการปฏิบตั งิ าน ทางวิชาชพี บญั ชี 3. มกี จิ นสิ ยั มีระเบียบ ละเอยี ดรอบคอบ ซ่ือสตั ย์ มวี นิ ัยตรงต่อเวลา และมีเจตคติที่ดตี อ่ วชิ าชพี บัญชี รวมท้งั หมด 3 ผลการเรยี นรู้

ผังมโนทศั น์ รายวชิ า กระบวนการจัดทาบัญชี ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 ช่อื หน่วยท่ี 1 พระราชบญั ญตั ิการ หน่วยท่ี 2 รปู แบบของธรุ กจิ ชื่อหน่วยที่ 3 การจดทะเบยี น บัญชี พ.ศ. 2543 จานวน 5 ชั่วโมง พาณิชยแ์ ละการจดั การเอกสารที่ จานวน 5 ชัว่ โมง เกี่ยวขอ้ ง ชอื่ หนว่ ยที่ 11 การกรอกแบบแสดง จานวน 5 ชั่วโมง รายการภาษปี ระเภทต่างๆ ประมวล ชอ่ื หน่วยท่ี 4 การจดทะเบียน รัษฎากร ห้างหุ้นสว่ น จานวน 10 ช่ัวโมง จานวน 5 ชว่ั โมง ชื่อหน่วยที่ 10 การยน่ื งบการเงนิ ตามกฎหมายตอ่ กรมพฒั นาธุรกจิ รายวชิ าการกระบวนการจัดทา บัญชี การค้า จานวน 10 ช่วั โมง ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6 จานวน 100 ชัว่ โมง ช่อื หนว่ ยท่ี 9 การจดั ทางบ การเงินตามประกาศกรมพัฒนา ชือ่ หน่วยที่ 5 การจดทะเบยี น บริษัทจากัดและการจดั การเอกสาร ธุรกจิ การคา้ จานวน 5 ชว่ั โมง ที่เกย่ี วข้อง จานวน 10 ช่วั โมง ชอ่ื หนว่ ยท่ี 8 กระบวนการจัดทาบัญชี ตามวงจรบญั ชี ชือ่ หนว่ ยท่ี 7 การวิเคราะห์ ช่อื หนว่ ยท่ี 6 การจดั การเอกสาร จานวน 15 ช่ัวโมง รายการคา้ จากเอกสาร ทเี่ กย่ี วข้องในการดาเนนิ งาน จานวน 15 ชวั่ โมง ธุรกจิ จานวน 15 ช่ัวโมง

ผงั มโนทัศน์ รายวชิ า กระบวนการจัดทาบญั ชี ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ ง พระราชบัญญตั ิการบัญชี พ.ศ. 2543 จานวน 5 ชั่วโมง : 5 คะแนน ชื่อเรอื่ ง พระราชบัญญัตกิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 จานวน 5 ชว่ั โมง : 5 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง พระราชบัญญัติการบญั ชี พ.ศ. 2543 จานวน 5 ช่ัวโมง ชื่อเรอ่ื ง พระราชบญั ญตั ิการบญั ชี พ.ศ. 2543 จานวน 5 ชั่วโมง : 5 คะแนน

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง พระราชบัญญัตกิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 แผนจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ ง พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 รายวิชา กระบวนการจดั ทาบญั ชี ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 นา้ หนกั เวลาเรยี น 2.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 5 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ เวลาทใ่ี ชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 5 ชัว่ โมง .......................................................................................................................................................... แนวคิด พระราชบัญญตั กิ ารบัญชี พ.ศ.2543 ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมอื่ วันที่ 12 พฤษภาคม 2543 ซง่ึ มีผลบงั คบั ใชต้ ้งั แต่วันที่ 10 สงิ หาคม 2543 เปน็ ตน้ ไป เพ่อื เป็นการปฏบิ ัตติ ามพระราชบญั ญัตนิ ี้ สานักกากบั ดแู ลธุรกิจ กรมพัฒนาธรุ กจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ จึงได้นาขอ้ มูลเกย่ี วกับพระราชบัญญัติการ บัญชีดังกล่าวมาเผยแพร่ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ทาบญั ชี ผู้สอบบญั ชแี ละผสู้ นใจท่วั ไปได้ศึกษาทาความ เข้าใจเพอ่ื นาไปประกอบการปฏบิ ัติงานให้ถกู ต้องตอ่ ไป ผลการเรียนร้ทู ่คี าดหวัง 1. บอกหลักการของพระราชบญั ญตั ิการบัญชี พ.ศ.2543 ได้ 2. อธิบายสาระสาคญั พระราชบญั ญัตกิ ารบัญชี พ.ศ.2543 ได้ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความร้เู ก่ียวกบั กระบวนกาปฏบิ ัตงิ านบญั ชตี ามข้นั ตอนการจัดทาบัญชแี ละนาเสนองบการเงนิ ใน การปฏบิ ัติงานทางวิชาชีพบัญชี 2. บนั ทกึ บญั ชีจากเอกสารการเงินสาหรบั ธรุ กิจบริการ ธุรกิจซ้อื ขายสินค้า และธุรกจิ อุตสาหกรรมตาม ขั้นตอนการจัดทาบัญชีที่ระบุในกฎหมายทางการบัญชที ่ีเกยี่ วข้อง 3. จัดทางบการเงินและรายงานท่ีเกี่ยวข้อง สาระการเรียนรู้ 1. หลักการของพระราชบัญญัตกิ ารบัญชี พ.ศ.2543 2. สรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูพจิ ารณาถึงพน้ื ฐานความรู้ ประสบการณ์เดิม ความสามารถของผู้เรียน โดยใช้วธิ ีพูดคยุ ซกั ถาม ความรู้เบือ้ งตน้ เกยี่ วกบั ธุรกิจว่ามีลกั ษณะเป็นอยา่ งไรบา้ ง 2. ครูแจง้ เน้ือหารายวชิ าและหลกั เกณฑ์การประเมนิ ผลของวชิ านีใ้ หผ้ ู้เรียนเขา้ ใจกฎหมายเกี่ยวกบั การทาบัญชีและกระบวนการปฏิบัตงิ านบญั ชีของธุรกจิ บริการ ธรุ กจิ ซ้ือขายสนิ คา้ และธุรกจิ อตุ สาหกรรมใน รปู แบบของกิจการเจา้ ของคนเดียว หา้ งหนุ้ ส่วน และบรษิ ทั จากัด มีทกั ษะการปฏบิ ัติงานบัญชตี ามขนั้ ตอนการ จดั ทาบัญชแี ละนาเสนองบการเงินในการปฏิบัติงานทางวิชาชพี บัญชี มีกิจนสิ ยั มีระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ซือ่ สตั ย์ มวี นิ ัยตรงต่อเวลา และมเี จตคตทิ ี่ดีต่อวิชาชีพบัญชี 3. ผู้เรยี นทาแบบทดสอบเพอ่ื ใชใ้ นการเตรยี มเนอื้ หาและวิธีการสอน ขนั้ สอน 4. ครบู รรยายการสอนทเ่ี นน้ เนอื้ หาสาระทีน่ าเสนอโดยครูผสู้ อน ผ้บู รรยายจะเสนอปัญหาวิธีการตา่ งๆ ในการแกป้ ญั หา และสรปุ ด้วยวา่ วธิ ีการใดเป็นวธิ ีการแกป้ ญั หาท่ีดีที่สดุ ตามหลกั การ เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นไดร้ ับความรู้ หลายๆแนวคดิ กอ่ นท่จี ะสรุปเป็นข้อคดิ หรอื ทางเลือกทเี่ หมาะสมเกี่ยวกับพระราชบญั ญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 ในเรือ่ ง  หลักการของพระราชบัญญตั ิการบญั ชี พ.ศ.2543  สรปุ สาระสาคญั พระราชบัญญตั ิการบญั ชี พ.ศ.2543 5. ครแู ละผู้เรยี นใช้เทคนคิ วิธสี อนแบบใชโ้ สตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Material of Instruction Method) เปน็ วิธีสอนทีน่ าอุปกรณโ์ สตทัศนว์ ัสดุมาชว่ ยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทัศน์วสั ดุดังกล่าว ได้แก่ Power Point เพ่ือประกอบการอธบิ ายหลักการของพระราชบญั ญัตกิ ารบัญชี พ.ศ.2543 โดยพระราชบญั ญัตกิ ารบัญชี พ.ศ.2543 มีบทบญั ญตั ิหลายมาตราทม่ี อบอานาจใหร้ ัฐมนตรหี รืออธบิ ดี กรมพัฒนาธรุ กจิ การค้า ไปออกกฎกระทรวงหรือประกาศกาหนดหลกั เกณฑ์ปฏบิ ัตเิ ร่ืองต่าง ๆ ในทาง ปฏบิ ัติการกาหนดหลักเกณฑป์ ฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชี กรมพัฒนาธุรกจิ การค้าได้มีการหารือรว่ มกัน กับหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องและสถาบนั วิชาชพี บัญชี โดยแต่งตง้ั คณะทางานข้ึนพจิ ารณาดาเนินการประกอบดว้ ย เจา้ หนา้ ที่กรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ ผู้แทนจากสถาบันวิชาชีพ และหน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง ตลอดจนผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ ทางดา้ นบัญชีจากสถาบันการศึกษา เป็นต้น จึงเป็นหลกั ประกนั ได้ว่าข้อกาหนดตา่ ง ๆ จะเป็นไปโดยรอบคอบ และสอดคล้องกบั วิธปี ฏบิ ัตขิ องวิชาชีพและเป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิการบญั ชี พ.ศ.2543 6. ครแู ละผเู้ รียนใช้เทคนคิ การจัดการเรยี นรู้แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) หลงั จากสรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 โดยครจู ะเปน็ ผู้ถาม และผู้เรียนจะตอบ 7. ผเู้ รยี นปฏบิ ตั กิ ิจกรรมดังต่อไปนี้  ผ้เู รยี นศกึ ษากิจการทเ่ี ปน็ นิติบุคคลมา 1 แหง่ แลว้ ศกึ ษาวา่ ไดป้ ฏิบัติงานด้านบัญชีสอดคล้อง กบั พระราชบญั ญัติการบญั ชีในเรอื่ งต่อไปนอี้ ยา่ งไรบา้ ง 1. หนา้ ท่ีและความรับผิดชอบของผมู้ ีหน้าท่ีจดั ทาบญั ชี

2. คุณสมบัตขิ องผู้ทาบัญชี 3. จานวนผูม้ ีหน้าที่จดั ทาบญั ชี 4. หน้าทีแ่ ละความรับผดิ ชอบของผทู้ าบญั ชี 5. เอกสารที่ตอ้ งใชป้ ระกอบการลงบญั ชี  สรปุ เปน็ ข้อความรดู้ ังกล่าวข้างตน้ พรอ้ มท้ังนาเสนอ  ผู้สอนประเมนิ ผล และพจิ ารณาตามความเหมาะสม 8. ผู้เรยี นตอบคาถามระหวา่ งการบรรยายเร่ืองพระราชบญั ญัตกิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 เพ่ือชว่ ยให้ผู้เรียนมี ความสนใจได้ดยี ง่ิ ข้นึ 9. ครผู ู้สอนและผูเ้ รยี น ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเรือ่ งพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 ซง่ึ เป็นส่วน หนงึ่ ของกระบวนการเรยี นรู้ การศกึ ษา การฝึกตน เพอ่ื ใหเ้ กิดการปฏิบัติพฒั นาความรู้ ความคิด และการ ปฏบิ ัตทิ ่ีถูกต้อง กอ่ ใหเ้ กดิ ความเจรญิ ในดา้ นอาชพี หรือเศรษฐกิจ สงั คม และวัฒนธรรม 10. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นเพ่ิมเติม 11. ผ้เู รียนทากจิ กรรมเพอื่ ฝึกทักษะการเรยี นร้เู พิ่มเติมจากบทเรียน ขน้ั สรุปและการประยุกต์ 12.ผู้สอนสมุ่ ผู้เรยี นตอบคาถาม เพอื่ วดั และประเมินผลวา่ ผ้เู รียนเกดิ การเรียนรู้ตามจุดประสงคท์ ีก่ าหนด ไวห้ รอื ไม่ หรือมากนอ้ ยเพียงไรเพอื่ ใหส้ ามารถประยุกตใ์ ช้ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ไป 13. ผู้เรยี นและผูส้ อนสรปุ พระราชบญั ญตั ิการบญั ชี พ.ศ. 2543 14. ผ้เู รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และนาผลงานส่งครูผสู้ อน สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียนวิชากระบวนการจัดทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พิมพเ์ อมพันธ์ 2. กจิ กรรม, กรณศี ึกษา 3. กรมพัฒนาธรุ กิจการค้า กระทรวงพาณชิ ย์ หรือ http://www.dbd.go.th 4. อนิ เทอร์เนต็ 5. Power Point หลักฐาน 1. บันทกึ การสอน 2. ผลงานของผเู้ รยี น 3. แผนจดั การเรียนรู้ 4. ใบความรู้ การวัดผลและการประเมนิ ผล วิธวี ดั ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้

3. ตรวจแบบประเมินผลการฝึกปฏบิ ตั ิ เคร่อื งมอื วัดผล 1. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏิบัติ 3. แบบประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ต้องไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ 2. แบบประเมนิ ผลแบบฝกึ ปฏิบัติ เกณฑผ์ ่าน 50% 3. แบบประเมนิ ผลการเรียนรมู้ ีเกณฑ์ผ่าน 50%

ผงั มโนทัศน์ รายวิชา กระบวนการจัดทาบัญชี ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง รูปแบบของธรุ กิจ จานวน 5 ชั่วโมง : 5 คะแนน ชื่อเร่อื ง รูปแบบของธุรกจิ จานวน 5 ช่ัวโมง : 5 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง รปู แบบของธรุ กจิ จานวน 5 ชัว่ โมง ชอ่ื เรอื่ ง รปู แบบองธุรกจิ จานวน 5 ชว่ั โมง : 5 คะแนน

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง รูปแบบของธุรกิจ แผนจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง รูปแบบของธุรกิจ รายวิชา กระบวนการจดั ทาบัญชี ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 นา้ หนกั เวลาเรียน 2.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 5 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ เวลาที่ใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 5 ชว่ั โมง .......................................................................................................................................................... แนวคิด การประกอบธุรกิจสามารถดาเนินการได้หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการว่าจะเลือกรูปแบบ ใดจึงจะเหมาะสมกับตนเองมากท่ีสุด โดยคานึงถึงผลประโยชน์ท่ีกิจการจะได้รับตามประเภทของธุรกิจน้นั ได้แก่ กิจการเจ้าของคนเดียว หา้ งห้นุ ส่วน และบรษิ ัทจากัด อย่างไรก็ตาม รฐั บาลได้เสนอแนวทางให้ผปู้ ระกอบการนอ้ มนาเอาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการประกอบธุรกิจ เพื่อใหเ้ กิดความสมดุล ความม่นั คงและการพัฒนาท่ยี ง่ั ยนื ตอ่ ไป ผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวัง 1. อธบิ ายความหมายและประเภทของธุรกจิ ได้ 2. อธบิ ายกิจการเจ้าของคนเดียวได้ 3. อธบิ ายห้างหุน้ สว่ นได้ 4. อธบิ ายบริษัทจากดั ได้ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั กระบวนกาปฏิบัตงิ านบญั ชีตามขั้นตอนการจัดทาบญั ชแี ละนาเสนองบการเงนิ ใน การปฏบิ ัตงิ านทางวิชาชพี บญั ชี 2. บนั ทึกบญั ชีจากเอกสารการเงินสาหรับธรุ กิจบริการ ธรุ กิจซอ้ื ขายสินค้า และธุรกิจอุตสาหกรรมตาม ข้ันตอนการจัดทาบัญชีท่ีระบุในกฎหมายทางการบัญชที ่ีเกยี่ วข้อง 3. จัดทางบการเงนิ และรายงานที่เกีย่ วข้อง สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายและประเภทของธรุ กจิ 2. กิจการเจา้ ของคนเดียว 3. หา้ งหนุ้ สว่ น 4. บรษิ ทั จากดั

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูพิจารณาถึงพน้ื ฐานความรู้ ประสบการณเ์ ดิม ความสามารถของผเู้ รียน โดยใชว้ ธิ ีพูดคุย ซกั ถาม ความรู้เบ้อื งตน้ เกีย่ วกับธุรกจิ วา่ มลี ักษณะเปน็ อยา่ งไรบา้ ง 2. ครแู จ้งเนือ้ หารายวิชาและหลักเกณฑก์ ารประเมินผลของวชิ าน้ี 3. ผู้เรียนทาแบบทดสอบเพ่ือเตรยี มเน้ือหาและวธิ ีการสอนเร่ืองรปู แบบธุรกจิ ในปัจจุบนั โดยใช้เวลา ประมาณ 10 นาที แลว้ เก็บคะแนนไวป้ ระเมนิ ผล ข้ันสอน 4. ครแู ละผเู้ รียนใช้เทคนคิ การสอนแบบบรรยาย ซงึ่ เป็นการสอนทีเ่ น้นเนอ้ื หาสาระทน่ี าเสนอโดย ครผู ู้สอน ผู้บรรยายจะเสนอปัญหาวิธกี ารต่างๆในการแก้ปญั หา และสรปุ ดว้ ยว่าวิธีการใดเป็นวิธกี ารแกป้ ัญหา ท่ีดีท่ีสดุ ตามหลกั การ เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นไดร้ ับความร้หู ลายๆแนวคิดกอ่ นทจ่ี ะสรปุ เปน็ ข้อคดิ หรอื ทางเลือกที่ เหมาะสมเก่ยี วกบั รปู แบบธรุ กิจ ดังตอ่ ไปนี้ 4.1 ความหมายและประเภทของธรุ กิจ 4.2.กิจการเจ้าของคนเดยี ว 4.3 ห้างหุ้นส่วน 4.4.บรษิ ทั จากัด 5. ครูและผเู้ รยี นใช้ Power Point เป็นสือ่ ในการเรียนการสอน โดยเตรียมส่ือให้พรอ้ มอย่ใู นสภาพใช้ การได้ดี เพ่อื จะชว่ ยใหผ้ ู้เรียนเข้าใจบทเรยี นไดด้ ยี ิ่งขน้ึ 6. ผูเ้ รยี นเขยี นโครงสรา้ งรูปแบบการดาเนนิ ธุรกจิ กจิ การเจ้าของคนเดียว (Single Proprietorship) ห้างหนุ้ สว่ น (Partnership) และบรษิ ทั จากดั (Limited Company) 6.ผ้เู รยี นอา่ นกรณศี กึ ษาโรงแรมทวิ ตะวันแลว้ ตอบคาถามดังนี้ 6.1 มกี ารดาเนินธุรกิจตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี งอย่างไรบา้ ง 6.2 มีการนามาประยุกต์ใช้และเชื่อมโยงภายในชุมชนอย่างไรบา้ ง 6.3 การดาเนินธุรกจิ อยา่ งไร จงึ จะนาไปสู่ “การทอ่ งเทย่ี วอยา่ งยง่ั ยนื ” ดังได้กลา่ วไว้ขา้ งต้น 6.4 อ่ืนๆ 7. ผูเ้ รยี นตอบคาถามระหวา่ งการบรรยายเรือ่ งความหมายและประเภทของธรุ กจิ เพื่อชว่ ยใหผ้ ้เู รียนมี ความสนใจได้ดียง่ิ ข้ึน 8. ผเู้ รียนบอกลกั ษณะของกจิ การเจ้าของคนเดียว ห้างหุ้นสว่ น และบริษทั จากัด รวมท้งั การประกอบ ธุรกิจแบบพอเพยี ง โดยครใู หผ้ ู้เรียนตอบคาถามระหวา่ งการบรรยาย จะชว่ ยให้ผเู้ รยี นตน่ื ตวั และสนใจได้ดขี ึน้ 9. ครูผสู้ อนและผู้เรียน รว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเร่ืองรูปแบบของธรุ กิจแต่ละประเภท ซงึ่ เป็นสว่ นหนง่ึ ของกระบวนการเรยี นรู้ การศกึ ษา การฝกึ ตน เพอ่ื ใหเ้ กิดการปฏิบัตพิ ฒั นาความรู้ ความคิด และการปฏิบตั ทิ ี่ ถูกตอ้ ง ก่อใหเ้ กิดความเจริญในดา้ นอาชพี หรือเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม 10. เปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นแสดงความคิดเหน็ เพ่มิ เติม

11. ผูเ้ รียนทากิจกรรมเพ่ือฝกึ ทกั ษะการเรียนรเู้ พ่มิ เตมิ จากบทเรียน ขน้ั สรปุ และการประยกุ ต์ 12.ผ้สู อนสุม่ ผู้เรียนตอบคาถาม เพอื่ วัดและประเมนิ ผลวา่ ผเู้ รยี นเกดิ การเรียนรูต้ ามจุดประสงค์ท่ี กาหนดไวห้ รอื ไม่ หรือมากนอ้ ยเพยี งไรเพอ่ื ใหส้ ามารถประยุกตใ์ ช้ให้เกดิ ประโยชนต์ ่อไป 13. ผู้เรยี นและผสู้ อนสรปุ รูปแบบธุรกิจแต่ละประเภท โดยทากจิ กรรมผ่านกรณศี ึกษาในลกั ษณะต่างๆ 14. ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และนาผลงานส่งครผู ู้สอน ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นวชิ ากระบวนการจัดทาบญั ชี (20201-2008) ของสานักพิมพเ์ อมพนั ธ์ 2. กิจกรรม, กรณีศกึ ษา 3. กรมพฒั นาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 4. อนิ เทอรเ์ น็ต 5. Power Point หลักฐาน 1. บันทึกการสอน 2. ผลงานของผเู้ รียน 3. แผนจัดการเรียนรู้ 4. ใบความรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวัดผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏิบัติ เครื่องมอื วัดผล 1. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏิบัติ 3. แบบประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไม่มชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏิบัติ เกณฑผ์ า่ น 50% 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้มเี กณฑผ์ ่าน 50%

ผังมโนทัศน์ รายวิชา กระบวนการจดั ทาบัญชี ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรื่อง การจดทะเบียนพาณชิ ย์และการจดั การเอกสารท่เี กีย่ วขอ้ ง จานวน 5 ชว่ั โมง : 5 คะแนน ชอ่ื เรอื่ ง การจดทะเบียนพาณชิ ย์และการจดั การ เอกสารทเี่ ก่ียวขอ้ ง จานวน 5 ช่ัวโมง : 5 คะแนน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 เร่อื ง การจดทะเบยี นพาณิชยแ์ ละการจดั การ เอกสารทเี่ ก่ียวขอ้ ง จานวน 5 ชั่วโมง ชือ่ เรอื่ ง การจดทะเบียนพาณชิ ย์และการจดั การ เอกสารท่เี กี่ยวข้อง จานวน 5 ช่ัวโมง : 5 คะแนน

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การจดทะเบยี นพาณชิ ย์และการจดั การเอกสารท่เี กยี่ วข้อง แผนจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การจดทะเบยี นพาณิชย์และการจัดการเอกสารท่เี กยี่ วขอ้ ง รายวิชา กระบวนการจัดทาบัญชี ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 นา้ หนักเวลาเรยี น 2.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 5 ชัว่ โมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ช้ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5 ชว่ั โมง .......................................................................................................................................................... แนวคิด การดาเนนิ ธรุ กจิ ทีเ่ ข้าขา่ ยเปน็ กจิ การตามพระราชบัญญตั ทิ ะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 กาหนด ต้อง ยืน่ ขอจดทะเบยี นพาณิชยภ์ ายใน 30 วนั นับแต่วันทไ่ี ดเ้ ริ่มประกอบกิจการ ผ้มู ีหนา้ ทจ่ี ดทะเบยี นพาณชิ ย์ คอื บคุ คลธรรมดาคนเดียวหรือหลายคน (ห้างหุ้นส่วนสามัญ) หรอื นติ บิ ุคคล รวมทงั้ นติ ิบคุ คลที่ตง้ั ข้นึ ตามกฎหมาย ต่างประเทศท่มี าตง้ั สานักงานสาขาในประเทศไทย ซ่ึงประกอบกิจการอันเปน็ พาณิชยกจิ ตามที่กระทรวง พาณิชยก์ าหนด ผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวัง 1. บอกหนา้ ท่ขี องผจู้ ดทะเบยี นพาณชิ ย์ได้ 2. บอกกจิ การทตี่ ้องจดทะเบยี นพาณิชย์ได้ 3. บอกกิจการท่ไี ด้รับการยกเวน้ ไมต่ ้องจดทะเบียนพาณิชยไ์ ด้ 4. บอกสถานท่ีจดทะเบยี นและกาหนดระยะเวลาการจดทะเบียนพาณชิ ยไ์ ด้ 5. บอกบทกาหนดโทษและค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนพาณชิ ยไ์ ด้ 6. อธบิ ายการจดทะเบยี นผ้ปู ระกอบการพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกสไ์ ด้ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกยี่ วกับกระบวนกาปฏบิ ตั ิงานบญั ชตี ามข้ันตอนการจัดทาบัญชีและนาเสนองบการเงนิ ในการปฏบิ ัตงิ านทางวิชาชีพบัญชี 2. บนั ทกึ บัญชีจากเอกสารการเงินสาหรบั ธรุ กิจบริการ ธรุ กิจซื้อขายสนิ ค้า และธุรกิจอุตสาหกรรมตาม ขั้นตอนการจัดทาบญั ชที ี่ระบุในกฎหมายทางการบัญชีที่เกีย่ วข้อง 3. จดั ทางบการเงินและรายงานท่ีเก่ียวข้อง สาระการเรียนรู้ 1. ผูม้ หี นา้ ทีจ่ ดทะเบียนพาณิชย์ 2. ผู้ประกอบการทต่ี อ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ย์ 3. พาณิชยกจิ ท่ไี ด้รบั การยกเวน้ ไมต่ ้องจดทะเบยี นพาณิชย์ 4. สถานที่จดทะเบยี นและกาหนดระยะเวลาการจดทะเบียนพาณิชย์ 5. บทกาหนดโทษและคา่ ธรรมเนยี มการจดทะเบียนพาณชิ ย์ 6. การจดทะเบียนผู้ประกอบการพาณชิ ย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูซกั ถามพูดคยุ กบั ผู้เรียน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเรยี นในเรือ่ งการจดทะเบียนพาณิชยแ์ ละ การจัดการเอกสารที่เกยี่ วข้อง 2. ทบทวนการบรรยายในครง้ั กอ่ นเพ่ือเชอื่ มโยงกับเรอ่ื งใหม่ 3. ครูวธิ ีใช้คาถามกระตุน้ ผู้เรียน และคาแนะนารปู แบบการเรยี นการสอนแบบรว่ มแรงรว่ มใจ 4. ผ้เู รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที แล้วสลบั กันตรวจ ขน้ั สอน 5. ครูและผู้เรียนใช้เทคนิควธิ สี อนแบบใช้โสตทศั นวัสดุ (Audio-Visual Material of Instruction Method) เปน็ วธิ สี อนท่ีนาอุปกรณโ์ สตทัศนว์ สั ดมุ าชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทัศนว์ สั ดดุ ังกลา่ ว ได้แก่ Power Point เพอ่ื ประกอบการอธิบายเนอื้ หา เพ่อื ให้ผู้เรียนเกิดความรูค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจในเนอ้ื หาท่เี รียน โดย - บอกโครงเร่อื ง เครอื ขา่ ยของเนอ้ื หา และแจง้ จุดประสงคข์ องบทเรียนของเร่อื งดังต่อไปน้ี - ผมู้ ีหน้าท่ีจดทะเบียนพาณิชย์ - ผ้ปู ระกอบการทีต่ ้องจดทะเบียนพาณชิ ย์ - พาณชิ ยกจิ ทีไ่ ด้รับการยกเวน้ ไมต่ อ้ งจดทะเบียนพาณิชย์ - ประเภทการจดทะเบยี น - สถานที่จดทะเบียนและกาหนดระยะเวลาการจดทะเบียนพาณิชย์ - บทกาหนดโทษ และค่าธรรมเนยี มการจดทะเบยี นพาณิชย์ - การจดทะเบียนผปู้ ระกอบการพาณชิ ยอ์ ิเล็กทรอนิกส์ 6. ครูอธิบายเน้ือหาอย่างชัดเจนตามลาดับเนื้อหาอย่างต่อเน่ืองกัน .ในระหว่างสอนก็จะสังเกต ปฏิกริ ิยาของผ้เู รยี นตลอดเวลาเพื่อการยา้ หรอื หยุดทบทวนใหม่ 7. ครูใช้ถามคาถามในบางตอนของเนื้อหาเพอ่ื กระตุ้นความสนใจของผู้เรยี น พร้อมทั้งยกตวั อยา่ ง ประกอบ เพอื่ เพ่มิ ความแจม่ แจ้งในบทเรียน

8. ผเู้ รียนจบั คู่คุยกนั เพอื่ แลกเปลี่ยนความรู้จากการศกึ ษาในความรแู้ ละเอกสาร ตาราเรยี น 9. ผเู้ รยี นวางแผนการนาหลักของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยกุ ต์ใชใ้ นการคานวณ ซ่ึงในเนอื้ หาของ สปั ดาห์นี้สามารถสรุปไดด้ งั น้ี (1) สรา้ งภูมิค้มุ กนั ทด่ี ีในตวั เองได้ เช่น ใช้ความรอบคอบในการคานวณไมใ่ ห้ผดิ พลาด (2) มเี หตุผลในการวิเคราะห์เอกสารเพ่อื ใชใ้ นการจดทะเบียนธรุ กิจ (3) มีความเพียงพอ ในการนาเงนิ มาลงทุนในกิจการ (4) มีเง่อื นไขด้านคุณธรรม ได้แก่ การคานวณให้ถูกตอ้ ง (5) มเี งือ่ นไขวชิ าการ ไดแ้ ก่ การคานวณตามกรมพัฒนาธรกิจการค้า ขัน้ สรปุ และการประยุกต์ 10. สรุปโดยให้ผเู้ รยี นตอบคาถาม และฝึกทกั ษะปฏบิ ัติกรณศี ึกษา 1. ผู้มหี นา้ ท่ีจดทะเบียนพาณิชย์ 2. ผปู้ ระกอบการท่ตี อ้ งจดทะเบียนพาณชิ ย์ 3. พาณิชยกิจทีไ่ ดร้ ับการยกเว้นไม่ตอ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ย์ 4. สถานท่ีจดทะเบยี นและกาหนดระยะเวลาการจดทะเบยี นพาณชิ ย์ 5. บทกาหนดโทษและค่าธรรมเนยี มการจดทะเบียนพาณชิ ย์ 6. การจดทะเบยี นผู้ประกอบการพาณชิ ยอ์ ิเล็กทรอนิกส์ 11. ผู้เรียนโหลดเอกสารการไดจ้ าก http://www.dbd.go.th เพ่อื ฝึกทักษะการจดทะเบยี นพาณชิ ย์ โดยผ่านกจิ กรรมกรณศี กึ ษาต่างๆ ทีค่ รกู าหนดให้ 12. เรยี นทากิจกรรม และแบบประเมินผลการเรียนรู้ สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนวชิ ากระบวนการจัดทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ 2. กรมพฒั นาธรุ กิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หรือ http://www.dbd.go.th 3. กิจกรรม 4. อินเทอรเ์ น็ต 5. Power Point หลักฐาน 1. บันทกึ การสอน 2. ผลงานของผูเ้ รียน 3. แผนจัดการเรียนรู้ การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้

3. ตรวจแบบประเมินผลการฝึกปฏบิ ตั ิ เครอ่ื งมอื วัดผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. แบบประเมินผลแบบฝึกปฏิบัติ 3. แบบประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ตอ้ งไม่มีชอ่ งปรับปรงุ 2. แบบประเมินผลแบบฝึกปฏิบัติ เกณฑผ์ ่าน 50% 3. แบบประเมนิ ผลการเรียนรูม้ เี กณฑผ์ ่าน 50% กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ทาใบงานและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บันทึกการรบั -จ่าย 3. กจิ กรรมเสนอแนะผู้เรียนเปน็ สาคัญ และส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ 4. ฝึกทกั ษะการจดทะเบยี นพาณิชย์ ดาวโหลดเอกสารจา http://www.dbd.go.th ผ่านกจิ กรรม กรณศี ึกษาท่ีครกู าหนดให้

ผังมโนทัศน์ รายวชิ า กระบวนการจัดทาบัญชี ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่อื ง การจดทะเบยี นหา้ งหุ้นส่วน จานวน 10 ชว่ั โมง : 10 คะแนน ช่ือเรื่อง การจดทะเบียนหา้ งห้นุ สว่ น จานวน 10 ชัว่ โมง : 10 คะแนน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง การจดทะเบยี นหา้ งหนุ้ ส่วน จานวน 10 ชวั่ โมง ชอ่ื เรือ่ ง การจดทะเบยี นหา้ งหนุ้ สว่ น ช่อื เรื่อง การจดทะเบียนบริษทั จากัดและ จานวน 10 ช่วั โมง : 10 คะแนน การจดั การเอกสารทเ่ี ก่ยี วข้อง จานวน 5 ช่ัวโมง : 5 คะแนน

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เร่อื ง การจดทะเบยี นหา้ งห้นุ สว่ น แผนจดั การเรียนรู้ท่ี 4 เรอื่ ง การจดทะเบียนห้างหนุ้ ส่วน รายวชิ า กระบวนการจัดทาบัญชี ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 นา้ หนักเวลาเรียน 2.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 5 ชั่วโมง/สปั ดาห์ เวลาท่ีใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 10 ชัว่ โมง .......................................................................................................................................................... แนวคิด เมอื่ มีบคุ คลต้งั แต่สองคนขึน้ ไป ตกลงที่จะร่วมลงทนุ ประกอบกิจการเป็นห้างหุ้นส่วนนิตบิ คุ คลประเภท ใดประเภทหนึ่งแลว้ ผ้เู ปน็ หนุ้ สว่ นผู้จดั การ ซึง่ ไดร้ บั การแตง่ ตั้งจากผูเ้ ป็นหุ้นสว่ นทกุ คนจะต้องเป็นผู้มีหนา้ ที่ ดาเนินการขอจดทะเบยี นจดั ตัง้ ห้างหุ้นส่วนนั้นตอ่ พนกั งานเจ้าหนา้ ที่ ณ สานกั งานทะเบียนหุน้ ส่วนบริษัทที่ห้าง น้ันมีสานกั งานแหง่ ใหญ่ตั้งอยู่ กรณที เี่ ปน็ ห้างห้นุ ส่วนจากดั กฎหมายกาหนดให้ผ้เู ปน็ หุ้นส่วนผู้จดั การ ซ่ึง หนุ้ สว่ นผู้จดั การจะเปน็ ได้เฉพาะแต่ผู้เป็นหนุ้ สว่ นจาพวกไม่จากดั ความรับผิดเท่าน้นั ในกรณที ่ีห้างหุน้ สว่ นจดทะเบยี นไดต้ กลงท่ีจะแกไ้ ขเพิม่ เติมรายการใดๆ ทีไ่ ดจ้ ดทะเบียนไวเ้ ป็นอยา่ ง อื่น หรอื ประสงค์จะเลกิ กจิ การ กต็ อ้ งไปดาเนนิ การขอจดทะเบยี นแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ รายการนนั้ ๆ หรอื จดทะเบยี น เลิกและเสรจ็ การชาระบัญชี ณ สานกั งานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทที่ห้างนัน้ มีสานกั งานแห่งใหญต่ ั้งอยู่ ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวัง 1. จดทะเบียนจัดตงั้ ห้างหนุ้ สว่ นสามัญนิตบิ คุ คลและหา้ งห้นุ สว่ นจากดั ได้ 2. จดทะเบียนเลิกหา้ งหนุ้ สว่ นได้ 3. ชาระบัญชีและจดทะเบยี นเสรจ็ การชาระบญั ชขี องห้างหุ้นสว่ นได้ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกีย่ วกับกระบวนกาปฏบิ ตั ิงานบญั ชตี ามข้ันตอนการจัดทาบัญชแี ละนาเสนองบการเงินใน การปฏบิ ัติงานทางวิชาชีพบญั ชี 2. บันทึกบัญชีจากเอกสารการเงินสาหรบั ธรุ กิจบริการ ธรุ กิจซ้อื ขายสินค้า และธุรกจิ อุตสาหกรรมตาม ขน้ั ตอนการจัดทาบญั ชที ี่ระบุในกฎหมายทางการบัญชีท่ีเกยี่ วข้อง 3. จัดทางบการเงินและรายงานที่เกีย่ วขอ้ ง สาระการเรียนรู้ 1. การจดทะเบยี นจัดต้ังห้างหุ้นส่วนสามญั นิตบิ คุ คลและหา้ งหุน้ ส่วนจากดั 2. การเลกิ ห้างห้นุ สว่ น 3. การชาระบญั ชีและการจดทะเบยี นเสรจ็ การชาระบัญชขี องหา้ งหนุ้ ส่วน

กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครซู ักถามพูดคยุ กบั ผ้เู รียน เพื่อเตรยี มความพร้อมก่อนเรยี นในเรือ่ งการจดทะเบยี นห้างหนุ้ ส่วนและ การจดั การเอกสารที่เกย่ี วขอ้ ง 2. ทบทวนการบรรยายในครงั้ กอ่ นเรอ่ื งการจดทะเบียนพาณชิ ย์ เพ่อื เชื่อมโยงกบั เรื่องการจดทะเบยี น หา้ งหนุ้ ส่วน 3. ครูวิธีใชค้ าถามกระตนุ้ ผู้เรยี น และคาแนะนารปู แบบการเรียนการสอนแบบรว่ มแรงร่วมใจ 4. ผเู้ รียนทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที แลว้ สลบั กันตรวจ ข้นั สอน 5. ครอู ธบิ ายเน้อื หา เพ่อื ให้ผู้เรยี นเกิดความรคู้ วามรคู้ วามเขา้ ใจในเนอื้ หาท่ีเรยี น โดยบอกโครงเรอ่ื ง เครือข่ายของเน้ือหา และแจง้ จดุ ประสงค์ของบทเรยี นของเร่อื งการจดทะเบียนจดั ตัง้ ห้างหุ้นสว่ นสามัญนติ ิ บคุ คลและห้างหุน้ สว่ นจากดั การเลกิ ห้างหุน้ ส่วน การชาระบญั ชแี ละการจดทะเบียนเสร็จการชาระบัญชีของ หา้ งหุน้ ส่วน 6. ครอู ธิบายเนื้อหาอย่างชัดเจนตามลาดบั เน้ือหาอย่างต่อเนอื่ งกนั .ในระหวา่ งสอนกจ็ ะสงั เกต ปฏกิ ิรยิ าของผูเ้ รียนตลอดเวลาเพ่อื การยา้ หรอื หยุดทบทวนใหม่ 7. ครูใช้ถามคาถามในบางตอนของเนอ้ื หาเพอื่ กระตนุ้ ความสนใจของผู้เรยี น พร้อมท้ังยกตัวอย่าง ประกอบ เพ่อื เพ่มิ ความแจ่มแจง้ ในบทเรียน 8. ผูเ้ รยี นปฏิบตั กิ จิ กรรมดงั ต่อไปนี้ 8.1 เขียนแผนภมู ิ หรือโครงสร้างการจดทะเบยี นแปรสภาพหา้ งหนุ้ ส่วนเป็นบริษทั จากดั 8.2 กรอกรายละเอียดใบเอกสารทเี่ กี่ยวขอ้ งสามารถ Download ไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ www.dbd.go.th 8.3 กาหนดโจทย์กรณีศึกษาประกอบในการกรอกเอกสารเอง 8.4 นาสง่ ครู ผู้สอน เพือ่ ประเมนิ ผล 9. ผเู้ รียนปฏบิ ตั ิกจิ กรรมดงั ต่อไปนี้

9.1 เขียนแผนภูมิ หรือโครงสร้างการชาระบัญชีและการจดทะเบียนเสร็จการชาระบัญชีของ ห้างหนุ้ สว่ นจากดั 9.2 กรอกรายละเอียดใบเอกสารที่เก่ยี วข้องสามารถ Download ไดจ้ ากเว็บไซต์ www.dbd.go.th 9.3 กาหนดโจทย์กรณีศกึ ษาประกอบในการกรอกเอกสารเอง 9.4 นาส่งครู ผ้สู อน เพอื่ ประเมินผล 10. ผู้เรียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรมดงั น้ี 1. จดั ทารายงาน 1 เล่ม โดยแบง่ เป็นกลุ่มผูเ้ รยี นตามสภาพผู้เรยี น 2. ศึกษาการจดทะเบยี นห้างหนุ้ สว่ นแตล่ ะประเภท 3. เลือกกิจการหา้ งหุ้นส่วนทีส่ นใจหรือจาลองสถานการณ์จริงมา 1 กจิ การ 4. ดาเนนิ การจดทะเบยี นหา้ งหนุ้ สว่ นตามกรณี ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) จดั ต้ังหา้ งห้นุ ส่วน (2) จดทะเบียนแกไ้ ขเปล่ยี นแปลงหา้ งห้นุ ส่วนจากดั 2.1 แก้ไขเปลีย่ นแปลงวัตถุประสงคแ์ ละสานกั งาน 2.2 แกไ้ ขเพิม่ เติมเก่ียวกบั ผ้เู ป็นหนุ้ ส่วน (หุ้นสว่ นเขา้ ใหม่/ออก/เพิ่ม-ลดทนุ /เปล่ียนจาพวก) 2.3 แกไ้ ขเปลย่ี นแปลงช่อื และดวงตราสาคัญ (3) แปรสภาพหา้ งหนุ้ ส่วนเปน็ บริษัทจากัด (4) เลิกห้างหุ้นส่วน (5) แก้ไขเปล่ียนแปลงตัวผูช้ าระบัญชี (6) เสรจ็ การชาระบญั ชี 5. สามารถขอและซ้ือคาขอจดทะเบียนและเอกสารประกอบการจดทะเบียนต่างๆ ได้ท่ี หน่วยงานของกรมพฒั นาธรุ กิจการคา้ ทกุ แหง่ หรือดาวนโ์ หลดไดจ้ าก http://www.dbd.go.th 6. รวบรวมผลงานสง่ ครเู ปน็ รายงานกลุ่มละ 1 เล่ม เพอ่ื ประเมินผล 11. ผู้เรียนวางแผนการนาหลักของเศรษฐกจิ พอเพียงไปประยกุ ตใ์ ช้ในการคานวณ ซึ่งในเน้ือหาของ สัปดาหน์ ้ีสามารถสรปุ ไดด้ ังนี้ (1) สรา้ งภมู คิ ุ้มกันท่ีดีในตัวเองได้ เชน่ ใช้ความรอบคอบในการคานวณไม่ให้ผดิ พลาด (2) มเี หตุผลในการวิเคราะหเ์ อกสารเพือ่ ใชใ้ นการจดทะเบยี นหา้ งห้นุ ส่วน (3) มีความเพยี งพอ ในการนาเงินมาลงทุนในกิจการห้างหนุ้ ส่วน (4) มีเง่ือนไขด้านคุณธรรม ไดแ้ ก่ การคานวณให้ถูกตอ้ ง (5) มีเงื่อนไขวิชาการ ได้แก่ การคานวณตามกรมพัฒนาธรุ กจิ การคา้ ขน้ั สรุปและการประยุกต์ 12. สรปุ โดยให้ผเู้ รียนฝึกปฏิบัติการจดทะเบยี นจัดตง้ั ห้างหนุ้ สว่ นสามญั นิติบุคคลและหา้ งหนุ้ สว่ น จากัด การเลิกหา้ งหนุ้ สว่ น การชาระบัญชีและการจดทะเบยี นเสร็จการชาระบญั ชีของห้างหนุ้ สว่ น โดยดาวน์ โหลดเอกสารจาก http://www.dbd.go.th ผา่ นกิจกรรมกรณศี กึ ษาตา่ งๆ ทีค่ รกู าหนดให้

13. เรยี นทากิจกรรม และแบบประเมินผลการเรียนรู้ สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นวิชากระบวนการจัดทาบัญชี (20201-2008) ของสานักพมิ พเ์ อมพันธ์ 2. กรมพัฒนาธรุ กิจการคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรือ http://www.dbd.go.th 3. กจิ กรรม 4. อนิ เทอร์เนต็ 5. Power Point หลกั ฐาน 1. บนั ทึกการสอน 2. ผลงานของผู้เรยี น 3. แผนจัดการเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธวี ดั ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ 3. ตรวจแบบประเมินผลการฝกึ ปฏิบัติ เคร่ืองมือวัดผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. แบบประเมินผลแบบฝึกปฏิบตั ิ 3. แบบประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ชี ่องปรับปรุง 2. แบบประเมินผลแบบฝกึ ปฏิบตั ิ เกณฑ์ผ่าน 50% 3. แบบประเมนิ ผลการเรียนรมู้ เี กณฑผ์ ่าน 50% กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทากจิ กรรมและแบบประเมินผลการเรียนรู้ 2. บันทกึ การรบั -จ่าย 3. กิจกรรมเสนอแนะผเู้ รียนเปน็ สาคัญ และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 4. ฝึกปฏิบตั ิกิจกรรมการจดทะเบยี นหา้ งหุน้ ส่วนในกรณตี า่ งๆ

ผังมโนทัศน์ รายวชิ า กระบวนการจดั ทาบัญชี ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรอ่ื ง การจดทะเบยี นบรษิ ทั จากัดและการจดั การเอกสาร ที่เกี่ยวข้อง จานวน 10 ชว่ั โมง : 10 คะแนน ชื่อเรือ่ ง การจดทะเบียนบริษัทจากัดและการ จดั การเอกสารทเ่ี ก่ยี วข้อง จานวน 10 ชวั่ โมง : 10 คะแนน หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 เรือ่ ง การจดทะเบยี นบริษัทจากดั และการ จัดการเอกสารท่เี กีย่ วขอ้ ง จานวน 10 ช่ัวโมง ชื่อเร่อื ง การจดทะเบียนบริษทั จากัดและ การจดั การเอกสารทเี่ กี่ยวข้อง จานวน 10 ช่วั โมง : 10 คะแนน

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรือ่ ง การจดทะเบยี นบริษทั จากัดและการจัดการเอกสารทเ่ี กยี่ วขอ้ ง แผนจัดการเรยี นรู้ท่ี 5 เรื่อง การจดทะเบยี นบริษัทจากัดและการจัดการเอกสารท่ีเกยี่ วขอ้ ง รายวิชา กระบวนการจัดทาบัญชี ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 นา้ หนกั เวลาเรยี น 2.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 5 ชั่วโมง/สปั ดาห์ เวลาที่ใชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 10 ชว่ั โมง .......................................................................................................................................................... แนวคดิ การประกอบธรุ กิจท่มี บี คุ คล 3 คนขนึ้ ไปมาลงทนุ และเปน็ เจา้ ของกจิ การเรียกว่า “ผ้ถู ือหนุ้ ” ผถู้ อื หุ้น จะรบั ผดิ ในหน้ตี ่างๆ ที่เกิดขนึ้ จากการประกอบธรุ กิจไม่เกินจานวนเงนิ ที่ผู้ถือหนุ้ แต่ละคนตกลงจะรว่ มลงทุน บริษัท จากัดจะต้องจดทะเบียนเปน็ นิติบคุ คลตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ สว่ นการประกอบธุรกิจทม่ี บี คุ คล 15 คนข้ึนไปมาลงทนุ และเป็นเจ้าของกจิ การเรียกวา่ “ผู้ถอื หนุ้ ” ผู้ ถอื หุน้ จะรับผดิ ในหนต้ี ่าง ๆ ท่ีเกิดขึน้ จากการประกอบธุรกิจไม่เกนิ จานวนเงนิ ของผ้ถู อื หนุ้ แตล่ ะคน ตกลงจะ รว่ มลงทนุ คลา้ ยกบั บริษทั จากดั จะแตกตา่ งกนั ก็คือบริษัทมหาชนจากัด สามารถนาหนุ้ ออกเสนอขายตอ่ ประชาชนโดยท่วั ไปได้ และมีกฎขอ้ บงั คับต้องปฏบิ ตั เิ คร่งครัดกว่าบรษิ ทั จากัด บรษิ ัทมหาชนจากัดจะต้องจด ทะเบยี นเปน็ นิติบคุ คลตามพระราชบญั ญัตบิ ริษัทมหาชนจากดั พ.ศ. 2535 ผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวัง 1. อธบิ ายและจัดต้ังบรษิ ัทจากัดได้ 2. อธบิ ายและจดทะเบยี นเลกิ และเสร็จการชาระบัญชีบรษิ ทั จากดั ได้ 3. อธิบายและจดทะเบียนจดั ต้ังบริษัทมหาชนจากัดได้ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกับกระบวนกาปฏบิ ัตงิ านบัญชตี ามขั้นตอนการจัดทาบญั ชแี ละนาเสนองบการเงนิ ในการปฏบิ ัติงานทางวิชาชพี บัญชี 2. บนั ทึกบัญชีจากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธุรกิจบริการ ธุรกิจซือ้ ขายสินค้า และธุรกจิ อุตสาหกรรมตาม ขน้ั ตอนการจัดทาบัญชที ่ีระบุในกฎหมายทางการบัญชที ี่เกีย่ วข้อง 3. จัดทางบการเงินและรายงานที่เกยี่ วข้อง สาระการเรยี นรู้ 1. การจดั ตัง้ บรษิ ทั จากดั 2. การจดทะเบียนเลิกและเสรจ็ การชาระบัญชบี ริษัทจากัด 3. การจดทะเบียนจดั ตั้งบรษิ ัทมหาชนจากดั

กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครูสนทนากับผู้เรยี นถงึ รปู แบบของบริษัทจากดั และแสดงรปู ภาพการจดทะเบียนบริษทั จากดั ให้ ผูเ้ รียนดู เพอ่ื ใหเ้ กิดการเรยี นรู้ และงา่ ยตอ่ ความเข้าใจย่ิงข้นึ การจดทะเบยี นบริษัทจากดั (Company’s Registration) ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา 1096 ใหด้ าเนินการจัดตง้ั บรษิ ัท 2 ขั้นตอน คอื 2. ครแู ละผ้เู รยี นทบทวนการจดทะเบยี นจัดตั้งบรษิ ทั จากัด โดยแสดงรปู ภาพขนั้ ตอนตา่ งๆ ใหผ้ ้เู รยี น จัดทาและตอบคาถามได้ เพือ่ จะเช่ือมโยงไปสู่การจดทะเบยี นเลิกและเสร็จการชาระบัญชีบริษัทจากัด และการ จดทะเบียนจัดต้ังบรษิ ทั มหาชนจากดั

3. ครูแสดงตัวอยา่ งเอกสารในการจดทะเบียนของบริษทั ในลักษณะตา่ ง ๆ ข้ันสอน 4. ครูจดั การเรียนรู้แบบอภปิ ราย มงุ่ ใหผ้ ูเ้ รยี นมโี อกาสสนทนาแลกเปล่ียนความคิดเหน็ หรอื ระดม ความคิดในเรื่องการจดั ต้ังบริษัทจากัด เพ่อื หาคาตอบ แนวทางหรือแกป้ ญั หาร่วมกนั การจดั การเรียนรูแ้ บบน้ี มงุ่ เน้นใหผ้ ูเ้ รยี นมสี ่วนร่วมในการเรียนรู้ คือ รว่ มคิด ร่วมวางแผน ร่วมตดั สินใจ รว่ มปฏบิ ัติงานและช่ืนชม ผลงานรว่ มกนั 5. ครูและผ้เู รยี นสาธิตการจัดตั้งบรษิ ทั จากัดภายในวันเดียว ดังรูปภาพประกอบ 6. ผู้เรียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรมดังตอ่ ไปนี้ 6.1 กาหนดโจทย์พิเศษเป็นกรณีศึกษา ประกอบการจดทะเบียนบรษิ ัทจากัด 6.2. ดาวน์โหลดแบบพิมพ์จดทะเบียนหรือเอกสารต่างๆ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th 6.3 กรอกขอ้ มลู ในแบบพิมพห์ รือเอกสารตา่ ง ๆ เพอ่ื จดทะเบียนหนงั สอื บริคณห์สนธิ 6.4 กรอกข้อมูลในแบบพิมพ์หรือเอกสารต่าง ๆ เพื่อจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจากดั ภายในวนั เดียว 6.5 นาส่งครผู ูส้ อนเพ่อื ประเมินผล 7. ครูแนะนาผูเ้ รียนให้บนั ทกึ รายรบั -รายจา่ ย โดยกล่าวถึงเศรษฐกิจพอเพยี งกับการแก้ไขปัญหาความ ยากจนภาคปฏิบัติ เป็นการลงมอื ปฏิบตั ิเพ่ือนาพาตวั เองสเู่ ศรษฐกจิ พอเพียง ซึง่ กค็ อื การอย่อู ยา่ งพงึ่ ตนเองใน ระดับครัวเรือน จะต้องมีความพร้อมท่ีจะอยู่อย่างพงึ่ ตนเองดว้ ยการ ลดรายจ่าย เพิม่ รายได้ เพ่ือใหเ้ กดิ การ ออม การพึง่ ตนเองจะต้องอาศยั การจดบนั ทึกหรอื เรียกวา่ “จดเปน็ พงึ่ ตนเองได้” การจดบันทึกนั้นเริม่ ต้งั แต่

การทาบญั ชรี ายรบั -รายจา่ ยของครัวเรอื น ไดม้ าเท่าไรจดไว้ จ่ายไปเท่าไรก็จดไว้ ในแต่ละวนั กน็ าสมุดบญั ชี รายรับ-รายจา่ ย ทจ่ี ดไวม้ าเปิดดูว่า วนั น้ไี ดเ้ งนิ มาเท่าไร และจ่ายค่าอะไรบา้ ง มคี ่าอะไรบ้างทไี่ มม่ คี วาม จาเป็นต้องจ่าย คิดทบทวนใหร้ อบคอบ แลว้ กต็ ดั รายการทจี่ ่ายไปโดยไม่จาเป็นท้ิงไป เชน่ คา่ เหลา้ ค่าบุหร่ี เปน็ ต้น 8. ผเู้ รียนทากจิ กรรมฝึกปฏบิ ัตใิ นการจดทะเบียนจดั ต้งั บริษทั จากัด 9. ครแู ละผู้เรียนสาธิตการจดทะเบียนเลกิ และเสร็จการชาระบัญชบี ริษทั จากัด เพ่อื ใหผ้ ้เู รยี นเข้าใจ และกรอกเอกสารในการจดทะเบียนเลกิ และเสร็จการชาระบัญชีบริษัทได้ 10. ครูและผู้เรยี นจดั การเรียนรู้แบบสถานการณ์จาลอง (Simulation) โดยกาหนดกรณศี กึ ษาเปน็ บรษิ ัทจากัด และบริษทั มหาชนจากัดข้นึ มาอยา่ งละ 1 แหง่ แลว้ ให้ผเู้ รียนปฏิบัตกิ ารจดทะเบยี นการจดั ตัง้ บรษิ ทั การจดทะเบยี นเลิกและเสรจ็ การชาระบญั ชบี ริษัทจากัด และดาวนโ์ หลดเอกสารการจดทะเบียนที่ http://www.dbd.go.th 11. การจดั การเรยี นการสอนแบบสถานการณ์จาลองน้ี ถอื เป็นกระบวนการเรียนรทู้ ่ีผสู้ อนให้ผูเ้ รยี น เขา้ ไปอยใู่ นสถานการณ์ทส่ี รา้ งขน้ึ มา ซ่งึ สถานการณ์น้ันจะมีลักษณะคล้ายคลงึ กบั สภาพความจรงิ มากทสี่ ดุ ทง้ั สภาพแวดล้อมและปฏิสมั พันธโ์ ดยมกี ารกาหนดบทบาท ข้อมูลและกติกาไว้เพ่ือให้ผเู้ รยี นได้ฝกึ การคิดแกป้ ญั หา และตัดสนิ ใจจากสภาพการณท์ ี่เขากาลังเผชญิ อยู่ ซง่ึ ผเู้ รียนจะตอ้ งใชข้ ้อมูลท้งั หมดทไี่ ด้รับประกอบกับ วิจารณญาณของตนเองใหป้ ฏบิ ัติหน้าทีต่ ามสถานการณ์น้นั ใหด้ ีทสี่ ุด ซงึ่ การเรยี นรูแ้ บบสร้างสถานการณจ์ าลอง นี้จะชว่ ยให้ผู้เรยี นเกดิ การถ่ายโยงการเรยี นไดด้ แี ละสามารถนาไปใช้แกป้ ัญหาในชีวิตจริงได้ 12. ผ้เู รยี นปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 12.1 ครูกาหนดกรณศี กึ ษาให้ แล้วนาข้อมูลมาจดทะเบยี นเลกิ บริษทั จากดั และเสรจ็ การชาระบญั ชี 1.2.2 ดาวน์โหลดแบบพิมพ์จดทะเบียน หรือเอกสารต่างๆ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th 12.3 กรอกข้อมูลในแบบพิมพ์หรือเอกสารต่างๆ เพื่อจดทะเบยี นเลิกบริษัทจากัดและเสร็จการ ชาระบัญชี 12.4 นาสง่ ครผู ้สู อนเพอ่ื ประเมนิ ผล 12.5 ผ้เู รียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดงั ตอ่ ไปน้ี 12.5.1 จดั ทารายงาน 1 เล่ม 12.5.2 แบ่งผู้เรยี นเปน็ กลุ่ม แล้วจบั สลากหัวข้อทารายงานตามความเหมาะสม ดังตอ่ ไปน้ี 12.5.3 จดทะเบียนหนงั สือบรคิ ณห์สนธิ 12.5.4 จดั ตงั้ บรษิ ทั จากัด 12.5.5 จัดต้ังบริษัทจากดั ภายในวนั เดยี ว 12.5.6 เลิกบรษิ ัทจากดั 12.6 เสรจ็ การชาระบัญชี 1) ข้อมลู ทใ่ี ช้ในการจดทะเบยี นประเภทต่างๆ

2) เอกสารหลักฐานท่ีตอ้ งใช้ในการจดทะเบยี นประเภทตา่ งๆ 3) ค่าธรรมเนยี ม และสถานท่จี ดทะเบียน 12.7 กรอกรายละเอียดเอกสารทตี่ อ้ งใชใ้ นการจดทะเบยี นประเภทต่างๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ 12.8 แบบพมิ พจ์ ดทะเบียนสามารถขอและซื้อไดจ้ ากหน่วยงานของกรมพัฒนาธรุ กจิ การค้าหรือ ดาวนโ์ หลดจาก www.dbd.go.th 13. ผู้เรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมดงั ต่อไปน้ี 1) จัดทารายงาน 1 เลม่ 2) แบ่งผเู้ รียนเป็นกลุ่ม แล้วจบั สลากหวั ขอ้ ทารายงานตามความเหมาะสม ดังต่อไปน้ี - การจดทะเบยี นเกยี่ วกบั บริษัทมหาชนจากัด - การต้ังบรษิ ทั มหาชนจากดั - เอกสารหลกั ฐานที่ต้องใชใ้ นการจดทะเบยี น - คา่ ธรรมเนียม - สถานท่ีจดทะเบียน 3) กรอกรายละเอียดเอกสารท่ตี ้องใชใ้ นการจดทะเบยี นประเภทต่างๆ ใหค้ รบถว้ นสมบรู ณ์ 4) แบบพิมพ์จดทะเบียนสามารถขอและซื้อได้จากหน่วยงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือดาวนโ์ หลดจาก www.dbd.go.th 5) จัดสง่ รายงานเพ่ือประเมินผล หมายเหตุ การกรอกข้อความในแบบพิมพ์คาขอจดทะเบียนและเอกสารท่ีใช้ในการจดทะเบียนให้ พิมพ์ด้วยเครื่องพมิ พด์ ีด หรือเคร่อื งคอมพิวเตอรเ์ ทา่ น้ัน 14. ครปู ลูกฝังให้ผูเ้ รียนประพฤตติ นตามระเบียบกฎเกณฑข์ องสงั คม มีความรบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ีของ ตนเอง และการอยู่ร่วมกันของทกุ คนย่อมมคี วามสมั พันธก์ ัน ซง่ึ ตอ้ งนากฎระเบยี บและหลกั คณุ ธรรมตาม ศาสนาท่ีตนนบั ถอื มาปรับใช้ เพอื่ ความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ยในการอยูร่ ว่ มกนั ทาให้สงั คมมีความสขุ ดงั นั้น ผเู้ รยี นตอ้ งรว่ มกนั ทาประโยชน์เพอ่ื สงั คมส่วนรวม เชน่ การเปิด-ปดิ ไฟ ภายในหอ้ งเรยี น หอ้ งนา้ เปน็ ตน้ ขั้นสรุปและการประยกุ ต์ 15. ครูสรุปเน้ือหาท้งั หมดโดยอภิปรายสนั้ ๆ และใหผ้ เู้ รยี นแสดงการกรอกเอกสารเพอ่ื จดทะเบียน จัดต้งั บรษิ ทั จากัดตามปกติ และจดทะเบียนจัดต้งั ในวันเดียว เพ่ือให้มคี วามรู้ และเข้าใจในการนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวันตอ่ ไปได้ 16. ผเู้ รยี นสรปุ การจัดตงั้ บริษัทจากัด การจดทะเบยี นเลกิ และเสร็จการชาระบัญชบี ริษทั จากัด และ การจดทะเบยี นจดั ตง้ั บริษทั มหาชนจากดั โดยการฝกึ ปฏิบัติผา่ นกจิ กรรมกรณีศึกษา 17. ผ้เู รียนทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ เพ่อื ฝึกทักษะความรแู้ ละความเข้าในการหลักเกณฑ์และ ข้ันตอนในการจดทะเบียนการจัดตงั้ บริษทั จากัด การจดทะเบยี นเลกิ และเสร็จการชาระบญั ชีบริษทั จากัด และ การจดทะเบียนจดั ตง้ั บริษทั มหาชนจากดั เพือ่ นาไปประยุกต์ใชต้ ่อไป 18. ผู้เรียนทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้

19. ผเู้ รียนทากิจกรรม 20. ผเู้ รียนทาแบบฝึกปฏิบัติ และกจิ กรรมท่ีกาหนดไว้ รวมทงั้ แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนวชิ ากระบวนการจดั ทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พิมพ์เอมพนั ธ์ 2. กรมพัฒนาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณิชย์ หรือ http://www.dbd.go.th 3. กจิ กรรม 4. อินเทอรเ์ น็ต 5. Power Point หลกั ฐาน 1. บนั ทึกการสอน 2. ผลงานของผู้เรยี น 3. แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 3. ตรวจแบบประเมินผลการฝึกปฏบิ ตั ิ เคร่ืองมือวดั ผล 1. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏิบตั ิ 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรับปรงุ 2. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏิบัติ เกณฑ์ผ่าน 50% 3. แบบประเมินผลการเรียนรมู้ เี กณฑ์ผ่าน 50% กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทากจิ กรรมและแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2. บนั ทึกการรับ-จา่ ย 3. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รียนเป็นสาคญั และสง่ เสริมคณุ ธรรมนาความรู้ 4. ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการจดทะเบยี นจดั ต้ังบริษทั จากดั โดยดาวนโ์ หลดเอกสารการจดทะเบยี น บริษัทจากดั จาก http://www.dbd.go.th

ผังมโนทศั น์ รายวชิ า กระบวนการจดั ทาบัญชี ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 เรือ่ ง การจัดการเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งในการดาเนนิ งานธรุ กิจ จานวน 10 ชว่ั โมง : 10 คะแนน ช่ือเรือ่ ง การจัดการเอกสารทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ในการดาเนินงานธรุ กิจ จานวน 10 ชัว่ โมง : 10 คะแนน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 6 เรอื่ ง การจดั การเอกสารที่เก่ียวข้อง ในการดาเนนิ งานธรุ กจิ จานวน 10 ชั่วโมง ชื่อเรื่อง เอกสารการดาเนนิ งานของธุรกจิ ชื่อเรื่อง ประเภทและการจัดเก็บเอกสาร จานวน 5 ช่วั โมง : 5 คะแนน ประกอบการบันทกึ บัญชี จานวน 5 ช่ัวโมง : 5 คะแนน

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 เรื่อง การจดั การเอกสารท่เี ก่ยี วข้องในการดาเนนิ งานธรุ กจิ แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 เร่อื ง เอกสารการดาเนินงานของธรุ กิจ รายวิชา กระบวนการจดั ทาบัญชี ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 น้าหนกั เวลาเรียน 2.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 5 ชั่วโมง/สปั ดาห์ เวลาท่ใี ชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 5 ช่วั โมง .......................................................................................................................................................... แนวคิด ตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543 มาตรา 8 บญั ญตั ิให้ผู้มหี น้าท่ีจดั ทาบัญชขี องกิจการทจ่ี ัดต้ัง ขน้ึ ตามกฎหมายไทย ตอ้ งจัดทาบัญชีใหค้ รบถ้วนถูกตอ้ งตามมาตรฐานการบัญชี พระราชบญั ญตั ิการบญั ชี พ.ศ. 2543 และประกาศกรมทะเบียนการคา้ เรอื่ ง กาหนดชนิดของบญั ชที ่ีตอ้ งจัดทา ข้อความและรายการท่ีต้องมใี น บญั ชี ระยะเวลาท่ีตอ้ งลงรายการในบัญชีและเอกสารทต่ี อ้ งใช้ประกอบการลงบญั ชี พ.ศ.2544 ไดก้ าหนด ประเภทของเอกสารที่ใช้ประกอบการลงบญั ชี โดยทัว่ ไปเอกสารที่ใชป้ ระกอบการลงบญั ชนี ัน้ สามารถเปน็ รายจ่ายไดใ้ นทางภาษอี ากร ไดแ้ ก่ ใบกากับ ภาษี หรือใบเสร็จรับเงินทมี่ รี ายการสมบูรณ์ ซ่ึงผู้รับเงินค่าสนิ คา้ หรอื บริการมีหน้าท่ีต้องออกหลกั ฐานการรบั เงนิ ให้แก่ ผจู้ า่ ยเงนิ คา่ สินคา้ หรือบรกิ ารในแต่ละคราว และผู้จ่ายเงนิ ค่าสินค้าหรือบรกิ ารสามารถรอ้ งขอให้ผรู้ ับ เงินค่าสินค้า หรอื บรกิ ารออกหลกั ฐานการรับเงนิ ได้ด้วยเชน่ กนั ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวัง 1. อธิบายและวิเคราะห์เอกสารการดาเนินงานของธรุ กิจได้ 2. อธบิ ายและวิเคราะหเ์ อกสารประกอบการบันทึกบญั ชีได้ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกยี่ วกับกระบวนกาปฏบิ ัตงิ านบญั ชีตามขั้นตอนการจัดทาบญั ชีและนาเสนองบการเงนิ ใน การปฏบิ ัติงานทางวิชาชพี บญั ชี 2. บันทึกบัญชีจากเอกสารการเงนิ สาหรับธรุ กิจบริการ ธุรกิจซ้อื ขายสนิ ค้า และธุรกจิ อุตสาหกรรมตาม ขั้นตอนการจัดทาบญั ชีที่ระบุในกฎหมายทางการบัญชที ี่เกี่ยวข้อง 3. จัดทางบการเงินและรายงานที่เกี่ยวข้อง สาระการเรยี นรู้ 1. เอกสารในการดาเนินงานของธรุ กจิ 2. เอกสารประกอบการบันทกึ บญั ชี

กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน 1. ครซู ักถามพูดคุยกบั ผู้เรยี นเร่ืองเอกสารในการดาเนินงานของธรุ กจิ ซงึ่ เป็นหนังสอื หรือตราสารที่ ปรากฏความหมายเกย่ี วข้องกบั การประกอบธรุ กจิ และใช้เปน็ หลักฐานในการดาเนนิ กจิ กรรมทางการค้า เพื่อ เตรียมความพรอ้ มกอ่ นเรียน 2. ครเู น้นวา่ การประกอบธรุ กิจ จะเปน็ ต้องจัดทาเอกสารทางการคา้ เพื่อเปน็ หลักฐานในการบนั ทกึ บัญชี หรือใชอ้ า้ งอิงและตรวจสอบ การจดั ทาเอกสารอะไรบ้างนน้ั กข็ ้นึ อยูก่ ับแตล่ ะธรุ กจิ ส่วนใหญ่เอกสาร 3. ครแู ละผู้เรียนทบทวนการใชเ้ อกสารต่างๆ เป็นหลักฐานในการจดทะเบียนธรุ กจิ หา้ งหุ้วน บรษิ ัท จากัด และบริษทั มหาชนจากัด เพ่อื เชอื่ มโยงกับเรอื่ งใหม่ ขนั้ สอน 4. ครแู ละผูเ้ รียนอธิบายรายละเอยี ดท่ีควรมีในเอกสารในการดาเนนิ งานของธรุ กจิ ประเภทตา่ งๆ เอกสารที่ใชเ้ ป็นหลักฐานสาคญั ในการตดิ ต่อธุรกิจแบ่งออกได้ 3 ประเภท 4.1 เอกสารภายนอก หมายถงึ เอกสารที่บุคคลภายนอกเป็นผูจ้ ดั ทาเพอื่ สง่ ใหก้ จิ การ เช่นจดหมาย ใบ โฆษณา ใบสั่งซ้อื สนิ ค้า ใบกากับสินค้า ใบเสร็จรับเงนิ ใบส่งของ/ใบกากับสินคา้ ใบแจง้ ยอดเงนิ ฝากธนาคาร

4.2 เอกสารภายใน หมายถงึ เอกสารที่หนว่ ยงานจัดทาข้นึ แลว้ ส่งออกไปยงั ภายนอกเพอ่ื ติดต่อธรุ กิจ เช่น จดหมาย ใบแจง้ หนี้ ใบเสรจ็ รับเงนิ ใบสง่ ของ/ใบกากบั สนิ คา้ ฯลฯ โดยจะเรียงลาดบั วันท่ขี องการเกิด รายการ ซงึ่ หนังสอื ทส่ี ่งไปภายนอกนนั้ ตอ้ งเกบ็ สาเนาไวเ้ พอื่ เปน็ หลกั ฐานอกี หนงึ่ ชุด 4.3 เอกสารติดตอ่ ภายในกจิ การ หมายถึงเอกสารท่จี ดั ทาขน้ึ ใชภ้ ายในกิจการ เพอ่ื ใช้ในกิจการเอง หรอื แตล่ ะแผนกจัดทาขน้ึ เพือ่ ใหก้ ารทางานนน้ั มีความคล่องตวั มากขน้ึ หรืออาจจะเป็นเอกสารท่ีต้องการ จะแจ้งใหพ้ นกั งานทราบก็ได้ เชน่ บนั ทึกข้อความ คาสง่ั ประกาศ สญั ญา ใบยืมเงนิ ใบสาคัญจา่ ย รายงานต่าง ๆ ของกจิ การ ฯลฯ

5. ผ้เู รยี นฝกึ ทักษะโดยการออกแบบฟอร์มเอกสารท่ใี ช้เป็นหลกั ฐานในการดาเนินธรุ กิจ เช่น ใบสง่ ของ ใบกากบั สนิ ค้า ใบกากบั ภาษี ใบเสร็จรบั เงนิ ใบสาคัญจ่าย ใบสาคญั รับ เปน็ ต้น 6. ผู้เรียนปฏิบัตกิ ิจกรรม โดยพิจารณาและจัดทาเอกสารในแตล่ ะขอ้ ดงั ตอ่ ไปนี้ 6.1 ในกรณีท่ีภตั ตาคารเทียนหลง ต้งั อย่ใู นย่านสุขุมวิท ได้ไปซ้อื วัตถุดบิ ทต่ี ลาดไทเพือ่ นามาปรงุ อาหารจาหนา่ ยให้ลูกค้า แต่ผรู้ ับเงินไม่ได้ออกหลกั ฐานการรบั เงนิ ให้แก่ภัตตาคาร ถา้ นาหลกั เกณฑ์รายจา่ ยทาง ภาษี เอกสารหลกั ฐานที่ควรมี (เฉพาะกรณี) ควรจัดทารายการซือ้ แต่ละคราว ควรมขี อ้ ความใดบา้ ง 6.2 นางสาวปลายข้าวได้ดาเนนิ กิจการโดยเปน็ ผู้ค้าสนิ ค้าเกษตร เช่น การซ้อื สินคา้ จาก เกษตรกร เม่อื ซอื้ ข้าวเปลือก และพืชไร่จากเกษตรกรไดจ้ ่ายเงินให้เกษตรกรเรียบร้อยแล้ว แต่เกษตรกรซึง่ เป็นผู้รบั เงินไม่ ออกหลกั ฐานการรบั เงนิ ใหแ้ ก่นางสาวปลายขา้ ว ดังนัน้ เธอควรจะใช้หลักเกณฑ์รายจา่ ยทางภาษโี ดยเอกสาร หลักฐานที่ควรมี (เฉพาะกรณี) ควรจะจัดทารายการซือ้ ในแต่ละคราวโดยมีข้อความระบุขอ้ ความอย่างไรบ้าง 6.3 นายเทศบาลเปน็ พนักงานของบริษัทเอกชนแหง่ หนึ่ง ไดเ้ ดนิ ทางโดยรถแทก็ ซ่ีจากราชเทวี ไปที่ กรมพฒั นาธรุ กิจการคา้ กระทรวงพาณิชย์ด้วยราคา 320 บาท (ไมม่ ีเอกสารการจ่ายเงิน) และไดจ้ ้างมอเตอร์ ไซด์หนา้ ปากซอยไปส่งเอกสารให้ลูกค้าจานวน 250 บาท ซึ่งค่าใช้จา่ ยเหล่าน้ผี รู้ บั เงนิ ไมส่ ามารถออกหลักฐานการ รบั เงินได้ ดังนน้ั กิจการควรจดั ทาเอกสารใดบา้ งเพ่อื เปน็ หลักฐานในการจ่ายเงินครง้ั น้ี 7. ครูอธิบายรายละเอียดของเอกสารประกอบการบันทึกบัญชี โดยใชส้ ื่อ Power Point ประกอบ เพอื่ ส่อื ความหมายใหผ้ ู้เรยี นเข้าใจไดง้ า่ ยยิ่งขน้ึ ได้แก่ 7.1 เอกสารประกอบการลงบัญชตี ามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 7.2 เอกสารประกอบการลงบัญชตี ามประมวลรษั ฎากร 8. ผูเ้ รยี นฝึกทกั ษะฝกึ ปฏบิ ัตเิ พือ่ จดั ทาเอกสารในแตล่ ะกรณดี ังต่อไปน้ี 8.1 บริษัทท่องเท่ียวไทย จากดั ไดจ้ ่ายเงนิ เพอื่ ซ้ือของทรี่ ะลกึ ใหแ้ ก่นักท่องเท่ยี ว และจ่ายเงินใหแ้ ก่ มคั คุเทศกท์ ้องถน่ิ ท่ีอานวยความสะดวกแก่นกั ท่องเทย่ี วในทัวรข์ องตนเอง ผู้รับเงนิ (ร้านขายของท่ีระลกึ และ มัคคเุ ทศกท์ อ้ งถน่ิ ) ไดใ้ ห้หลักฐานเพียงใบส่งของหรอื ใบเสรจ็ รับเงนิ ท่มี ีรายการไม่สมบรู ณ์ (เชน่ ไมร่ ะบชุ ื่อ กิจการท่ีรบั เงนิ ) ดังนนั้ พนกั งานของบรษิ ัทท่องเทยี่ วไทย จากดั ควรจะทาอยา่ งไรจงึ จะทาให้เอกสารสมบูรณ์ ตามหลักการบญั ชี และตามหลักกฎหมายภาษีอากร 8.2 เจา้ ของกิจการให้ใช้สถานท่ีทอ่ี ยอู่ าศัยเปน็ สถานประกอบการของกิจการหรอื ให้ใชท้ รพั ย์สนิ โดยไมค่ ดิ ค่าตอบแทน และผูร้ บั เงนิ ไมอ่ อกหลักฐานการรับเงนิ และไม่ยอมใหห้ กั ภาษี ณ ทีจ่ ่าย ดงั นน้ั ควรจะ ทาอย่างไรจึงจะไดเ้ อกสารหลกั ฐานทางกฎหมายที่สมบูรณ์ 8.3 ในกรณีท่บี ริษัทเอกชนแห่งหนง่ึ ไดเ้ ช่าอาคารพาณิชย์เพือ่ เปน็ สถานประกอบการ และเมือ่ จ่ายเงนิ ค่าเช่าให้ผรู้ บั เงนิ แต่ผ้รู ับเงินไมย่ อมใหห้ ักภาษี ณ ทจี่ า่ ย ผู้ประกอบการควรจะดาเนนิ การอยา่ งไร เพ่ือใหไ้ ดเ้ อกสารหลกั ฐานทีถ่ กู ตอ้ งมาอา้ งอิงได้ 9. ผเู้ รยี นฝกึ ทกั ษะ โดยจัดทาในเสนอราคาของบริษัทควิ ตนั จากัด ดังต่อไปนี้ 9.1 ตั้งอยู่เลขที่ 156/2 ถนนอิสรภาพ แขวงพรานนก เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 โทร 0-24120990-6, Fax: 0-2966-4057

9.2 กาหนดรายการดงั น้ี 9.2.1 เล่มท่ี เลขท่ขี องเอกสาร 9.2.2 เลขประจาตวั ผู้เสยี ภาษีอากร 9.2.3 วนั เดอื น ปี 9.2.4 ชื่อ ทอ่ี ยูข่ องลกู ค้า และอนื่ ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง 9.2.5 รายการคา้ มีดังน้ี ที่ รายการ จานวน หน่วยละ จานวนเงนิ 1 ลูกปนื ปลายเกียร์ 621 1 อัน 120.00 120.00 2 ผ้าปัดศร H 10 โหล 100.00 1,000.00 3 ยางแท่นเครอ่ื ง 3 L 2 อัน 880.00 1,760.00 4 ซอ่ มบารุงตัวถงั 1 2,000.00 2,000.00 รายการดังกล่าวยังไม่รวมภาษมี ลู คา่ เพิ่ม และมีสว่ นลดทง้ั หมด 200 บาท 9.3 เพม่ิ เติมรายการอน่ื ๆ ในใบเสนอราคาให้สมบูรณ์ 10. ผเู้ รียนฝกึ ทักษะโดยการออกแบบฟอร์มเอกสารตา่ ง ๆ เพื่อใช้ดาเนินธุรกจิ ซ้อื ขายสนิ คา้ โดยกรอก ขอ้ ความให้ถูกตอ้ งสมบูรณ์ตามพระราชบญั ญตั ิการบัญชี 2543 และประมวลกฎหมายภาษีอากรดังต่อไปน้ี 10.1 ใบสงั่ ซอ้ื (Order) 10.2 ใบส่งของ (Delivery Order) หรือใบกากบั สินค้า (Invoice) 10.3 ใบกากับภาษี (Tax Invoice) 10.4 ใบเพม่ิ หน้ี (Debit Note) 10.5 ใบลดหนี้ (Credit Note) 10.6 ใบเสร็จรบั เงนิ (Receipt) 11. ผ้เู รยี นวิเคราะห์กรณีศกึ ษาของบรษิ ทั มะนาว จากดั ดังนี้ บริษัทมะนาว จากดั ดาเนินธุรกิจผลติ สินคา้ อตุ สาหกรรมมาหลายปี จงึ มเี อกสารจานวนมาก ซึง่ ยาก ต่อการเกบ็ รักษาเนอ่ื งจากใช้พน้ื ที่มาก จึงได้ประชมุ หารอื คณะกรรมการของบริษัท ผ้ถู ือหนุ้ รวมทง้ั ผูท้ ีม่ สี ว่ น เก่ียวข้องกบั การทาบญั ชขี องบรษิ ทั ทุกคน ในการประชุมคร้งั น้ีได้นาเร่อื งการกาหนดระยะเวลาการเก็บเอกสาร บัญชีตามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 ซง่ึ ถอื เปน็ เรอ่ื งทางกฎหมายท่ีบริษทั ตอ้ งปฏิบัติตามอยา่ ง เครง่ ครัด ดงั น้ันผู้เขา้ รว่ มประชุมต่างก็สงสยั ในข้อปฏิบตั วิ า่ เม่อื เก็บเอกสารทางบญั ชีไว้เป็นระยะเวลา 5 ปแี ล้ว หลังจากน้นั จะสามารถทาลายเอกสารดงั กล่าวได้หรอื ไม่ และการเกบ็ รกั ษาเอกสารภาษมี ลู คา่ เพิม่ จะต้องเก็บไว้ เป็นระยะเวลาเดียวกนั หรอื ไมอ่ ยา่ งไร ดังน้ัน คณะกรรมการของบริษทั หรือผ้รู ับผดิ ชอบเร่ืองน้จี ะอธบิ ายให้ผถู้ ือหนุ้ และผมู้ ีส่วนไดเ้ สยี ใน บริษัทใหเ้ ข้าใจได้อยา่ งไรบ้าง 12. ผ้เู รยี นฝกึ ทกั ษะโดยการพิจารณารูปภาพใบส่งสินค้า/ใบกากบั สินค้า แลว้ ตอบคาถาม  เอกสารดงั กล่าวเป็นเอกสารทางบัญชีตามกฎหมายในลกั ษณะใด

 ใครเป็นผูอ้ อกเอกสารชนิดนี้ (ระบุชอื่ ) และควรเกบ็ สาเนาเอกสารไว้อย่างน้อยกป่ี ่ี  รปู แบบของเอกสารน้ี มีข้อความอะไรบ้าง จงใส่หมายเลขกากับ (…) ให้ครบถว้ น 15 ส.ค. 2559 13. ครูปลูกฝังให้ผ้เู รียนประพฤติตนตามระเบยี บกฎเกณฑ์ของสงั คม มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ีของ ตนเอง และการอยรู่ ว่ มกันของทกุ คนย่อมมคี วามสมั พันธก์ นั ซงึ่ ต้องนากฎระเบียบและหลักคณุ ธรรมตาม ศาสนาที่ตนนบั ถือมาปรับใช้ เพ่อื ความเป็นระเบียบเรยี บร้อยในการอยู่ร่วมกนั ทาใหส้ ังคมมีความสขุ ดงั น้นั ผู้เรยี นตอ้ งร่วมกันทาประโยชนเ์ พื่อสงั คมสว่ นรวม เชน่ การเปิด-ปิดไฟ ภายในหอ้ งเรยี น ห้องน้า เปน็ ต้น 14. ผ้เู รียนทากิจกรรมโดยผ่านกรณีศกึ ษา และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ข้ันสรปุ และการประยกุ ต์ 15. ผู้เรียนสรุปโดยฝึกทกั ษะในการจดั ทาเอกสารในการดาเนินธุรกิจ และแบบฟอรม์ ต่างๆ ที่เก่ียวข้อง 16. ผเู้ รียนทาแบบฝกึ ทักษะ เพือ่ ฝกึ ทักษะความรู้และความเข้าในการหลกั เกณฑ์และข้นั ตอนในการ จดั ทาเอกสารในการดาเนินธุรกิจ และนาไปบนั ทึกบัญชเี พอื่ นาไปประยกุ ตใ์ ช้ต่อไป สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวิชากระบวนการจัดทาบัญชี (20201-2008) ของสานกั พมิ พ์เอมพันธ์ 2. กจิ กรรม, กรณศี ึกษา 3. กรมพัฒนาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 4. กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง http://www.rd.go.th

หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอน 2. ผลงานของผเู้ รียน 3. แผนจัดการเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมนิ ผล วธิ วี ดั ผล 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝกึ ปฏิบัติ เครือ่ งมือวดั ผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2. แบบประเมินผลแบบฝึกปฏิบัติ 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไม่มีชอ่ งปรบั ปรงุ 2. แบบประเมนิ ผลแบบฝกึ ปฏิบตั ิ เกณฑผ์ า่ น 50% 3. แบบประเมินผลการเรียนรู้มเี กณฑ์ผ่าน 50% กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ทากิจกรรมและแบบประเมินผลการเรยี นรู้ 2. บันทึกการรับ-จา่ ย 3. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเปน็ สาคญั และสง่ เสริมคุณธรรมนาความรู้ 4. ควรศึกษาหาความรจู้ ากกรมพฒั นาธรุ กิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หรอื http://www.dbd.go.th และกรมสรรพากร กระทรวงการคลงั http://www.rd.go.th

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 เรือ่ ง การจัดการเอกสารทเ่ี ก่ียวข้องในการดาเนินงานธรุ กิจ แผนจดั การเรียนรู้ท่ี 7 เรอ่ื ง ประเภทและการจดั เก็บเอกสารประกอบการบนั ทกึ บัญชี รายวชิ า กระบวนการจัดทาบญั ชี ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 นา้ หนกั เวลาเรยี น 2.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ช้ในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 5 ช่ัวโมง .......................................................................................................................................................... แนวคดิ ตามพระราชบัญญตั ิการบญั ชี พ.ศ.2543 มาตรา 8 บัญญัตใิ หผ้ ู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชขี องกิจการที่จัดต้ัง ขึ้นตามกฎหมายไทย ต้องจัดทาบัญชีให้ครบถ้วนถูกต้องตามมาตรฐานการบญั ชี พระราชบญั ญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 และประกาศกรมทะเบยี นการคา้ เรือ่ ง กาหนดชนดิ ของบญั ชีทีต่ ้องจัดทา ขอ้ ความและรายการทต่ี ้องมใี น บญั ชี ระยะเวลาที่ต้องลงรายการในบัญชีและเอกสารที่ตอ้ งใช้ประกอบการลงบญั ชี พ.ศ.2544 ได้กาหนด ประเภทของเอกสารทใี่ ชป้ ระกอบการลงบญั ชี โดยท่วั ไปเอกสารที่ใชป้ ระกอบการลงบญั ชนี น้ั สามารถเป็นรายจ่ายได้ในทางภาษีอากร ไดแ้ ก่ ใบกากับ ภาษี หรอื ใบเสร็จรบั เงินทม่ี ีรายการสมบรู ณ์ ซ่งึ ผู้รบั เงนิ คา่ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารมีหน้าที่ตอ้ งออกหลกั ฐานการรบั เงินให้แก่ ผู้จ่ายเงินค่าสินค้าหรอื บริการในแต่ละคราว และผู้จ่ายเงินค่าสนิ ค้าหรือบริการสามารถรอ้ งขอใหผ้ รู้ บั เงินคา่ สินคา้ หรอื บริการออกหลักฐานการรบั เงนิ ได้ด้วยเช่นกนั ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง 3. อธบิ ายและแยกประเภทของเอกสารท่ีใช้ในการบนั ทึกบัญชไี ด้ 4. อธิบายและจัดเก็บเอกสารประกอบการบันทึกบัญชไี ด้ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกีย่ วกับกระบวนกาปฏบิ ัตงิ านบัญชตี ามข้ันตอนการจัดทาบญั ชแี ละนาเสนองบการเงนิ ในการปฏิบัติงานทางวิชาชพี บัญชี 2. บันทึกบญั ชีจากเอกสารการเงินสาหรบั ธรุ กิจบริการ ธรุ กิจซื้อขายสนิ ค้า และธุรกิจอุตสาหกรรมตาม ข้นั ตอนการจัดทาบัญชีท่ีระบุในกฎหมายทางการบัญชที ี่เกย่ี วข้อง 3. จัดทางบการเงินและรายงานท่ีเกีย่ วข้อง สาระการเรยี นรู้ 3. ประเภทของเอกสารทใ่ี ช้ในการบนั ทึกบัญชี 4. การจัดเกบ็ เอกสารประกอบการบันทึกบัญชี กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครูและผเู้ รียนพูดคยุ กนั เรอ่ื งเอกสารทางบัญชี (Accounting documents) ซึง่ เป็นเอกสารท่ีใชเ้ ป็น หลักฐานประกอบการบนั ทกึ บัญชี อาจจะได้รบั จากบุคคลภายนอก เชน่ ใบเสร็จรับเงนิ ใบส่ังซื้อ ใบกากบั ภาษี

2. ครูต้ังคาถามใหผ้ ู้เรยี นตอบและสุ่มผเู้ รยี นออกมาอภปิ รายการวเิ คราะห์รายการเพื่อให้สามารถ นาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ขัน้ สอน 3. ครอู ธบิ ายประเภทของเอกสารที่ใช้ในการบนั ทึกบัญชี เพอ่ื สอื่ ให้ผเู้ รยี นเขา้ ใจยิ่งขน้ึ ซงึ่ เอกสารท่ีใช้ ในการบันทกึ บญั ชมี ี 2 ประเภท คอื 3.1 แบบฟอร์มที่กอ่ ให้เกิดรายการ ได้แก่ ใบขอซ้อื (Purchase Requisition) และใบแจง้ การรบั พนักงาน (Payroll Notification) ใบเบกิ วัตถดุ ิบ (Material Requisition) หรอื ใบเบกิ สนิ ค้า (Product Requisition) 3.2 แบบฟอร์มท่ใี ช้บนั ทึกเหตุการณ์ ได้แก่ ใบกากับสนิ คา้ ที่ขาย (Sales Invoice) ใบกากบั สินคา้ ที่ ซื้อมา (Purchase Invoice) รายงานการรบั สินค้า (Receiving Reports) บตั รลงเวลา (Time clock–cards) 4. ครูอธิบายการจัดเก็บเอกสารประกอบการบนั ทึกบัญชี โดยเอกสารทบ่ี ันทึกบญั ชีแลว้ ตอ้ งจดั เก็บเข้า แฟ้ม โดยแยกหมวดหมูแ่ ละกาหนดรหัสและเลขท่ีของเอกสาร เพอ่ื สะดวกในการคน้ หาและเก็บไว้เปน็ หลักฐาน ตรวจสอบภายหลังมีหลกั การจัดเก็บดงั น้ี 4.1 เอกสารเกีย่ วกบั ภาษีมูลคา่ เพ่ิม ได้แก่ ใบกากับภาษี ใบเพ่มิ หนี้ ใบลดหนี้ 4.2 เอกสารท่ไี มเ่ ก่ยี วกับภาษมี ูลค่าเพิม่ เชน่ การรับชาระหน้ี ใบเสรจ็ รับเงนิ ค่าใช้จา่ ยของ ผ้ปู ระกอบการท่ีไม่อยู่ในขา่ ยทีต่ อ้ งเสียภาษีมูลค่าเพ่มิ การรบั และจา่ ยชาระเงินโดยใช้ใบสาคัญรับและใบสาคญั จา่ ยเปน็ หลักฐาน ควรแยกเอกสารการรับเงนิ กับเอกสารการจา่ ยเงินไวค้ นละแฟ้ม 5. ครูอธบิ ายเพม่ิ เติมวา่ เอกสารจะต้องจดั เก็บตามลาดบั โดยแยกออกเป็นเอกสารในแต่ละเดือน ถ้ามี เอกสารจานวนไมม่ ากก็ใหเ้ กบ็ ไว้ในแฟ้มเดยี วกนั โดยทาใบสรปุ ปะหนา้ แฟม้ เอกสารใหช้ ัดเจน 5.1 เอกสารท่ยี งั ไม่ไดบ้ ันทกึ บญั ชี ควรเก็บรกั ษาดังนี้ (1) จัดทาที่เกบ็ เอกสารที่ยังไม่ไดใ้ ช้ โดยเฉพาะ (2) การนาเอกสารออกมาใช้ต้องได้รบั อนุมัตจิ ากผู้รับผิดชอบ (3) เอกสารท่ีบรรจใุ นกล่องควรมเี คร่อื งหมายกากับเพื่อสะดวกในการค้นหา (4) การเบิกเอกสารทกุ คร้งั ตอ้ งมีใบเบิก และบนั ทึกในทะเบียนคุม (5) มีการตรวจนบั เอกสารเปน็ ครง้ั คราว 5.2 เอกสารท่ีบันทกึ บญั ชแี ล้ว ควรเกบ็ รักษาไว้ ดงั น้ี (1) ตอ้ งเกบ็ ไวใ้ นสถานทที่ างานหรอื ทีท่ าการผลิต (2) ตอ้ งเกบ็ รักษาไวเ้ ปน็ เวลาไมน่ ้อยกว่า 5 ปี กรณีจาเป็นต้องขออนุญาตจากอธิบดี โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี ขยายระยะเวลาจัดเก็บได้แตต่ ้องไมเ่ กิน 7 ปี (3) ถ้าเอกสารสูญหายหรอื เสียหายต้องแจง้ ต่อ สารวตั รบญั ชภี ายใน 15 วัน 6. ผู้เรียนแสดงทางเดนิ การจัดเก็บเอกสารที่บนั ทึกบญั ชีแลว้ เอกสารทเี่ ก่ียวกบั ภาษีมูลค่าเพม่ิ ได้แก่ ใบกากับภาษี ใบเพม่ิ หนี้ ใบลดหน้ี ให้แยกเป็นแฟม้ คือแฟม้ เอกสารภาษซี ื้อและแฟม้ เอกสารภาษขี าย โดย เรียงลาดับก่อนหลงั เป็นรายเดือน หากกิจการมีเอกสารไม่มากอาจรวมทกุ เดือนในแฟม้ เดียวกนั ได้ โดยใช้

กระดาษสคี ่นั และจดั ทาดัชนีแตล่ ะเดอื นให้ชัดเจนเพ่ือความสะดวกรวดเรว็ ในการคน้ หา ซึง่ สามารถแสดงการ จัดเก็บเอกสารเข้าแฟ้มได้ดังน้ี 6.1 เอกสารการขายสินคา้ เปน็ เงินเชอ่ื แฟม้ ภำษขีำย ใบก กำบสั นิคำ/้ ใบก กำบภั ำษ ี แฟม้ เอกสำร สนิคำค้ งเหลอื 6.2 เอกสารการซอ้ื สินค้าเปน็ เงินเชอื่ แฟม้ ภำษซีอื้ 6.3 เอกสารการขายสินค้าเปน็ เงินสด ใบก กำบสั นิคำ/้ แฟม้ เอกสำร 6.4 เอกสารการซ้ือสินคา้ เปน็ เงินสด ใบก กำบภั ำษ ี สนิคำค้ งเหลอื แฟม้ ภำษขีำย ใบเสรจร็ บเั งนิ / ใบก กำบภั ำษ ี แฟม้ เอกสำร สนิคำค้ งเหลอื แฟม้ ภำษซีอื้ ใบเสรจร็ บเั งนิ / แฟม้ เอกสำร ใบก กำบภั ำษ ี สนิคำค้ งเหลอื 6.5 เอกสารการรับเงิน ใบส ำคญัรบั หรอื แฟม้ เอกสำร ใบเสรจร็ บเั งนิ กำรรบเั งนิ 6.6 เอกสารการจ่ายเงนิ ใบส ำคญัจำย่ แฟม้ เอกสำร หรอใื บเสรจ็รบเั งนิ กำรจำย่ เงนิ 7. ครูใช้วิธตี ง้ั คาถามให้ผ้เู รยี นตอบ 8. ผู้เรียนทากิจกรรมโดยผ่านกรณศี ึกษา ข้นั สรปุ และการประยกุ ต์ 9. สรุปสมุดรายวันทั่วไปโดยวิธีส่มุ ใหผ้ ้เู รยี นตอบคาถามเก่ียวกบั ประเภทของเอกสารท่ใี ช้ในการบันทึก บญั ชี และสาธิตเสน้ ทางการเดินเอกสารในการจัดเก็บเอกสารประกอบการบนั ทึกบญั ชี 10. ทาประเมินผลการเรียนรู้โดยสลับกันตรวจ ครูเฉลยใส่ Power Point หน้าชนั้ เรียน 11. ผู้เรียนทากจิ กรรมโดยผ่านกรณีศึกษา 12. ครเู น้นการจะเรียนรปู้ รัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผู้เรียนตอ้ งมคี วามรพู้ ื้นฐานเก่ยี วขอ้ งกับการบริหาร จัดการทรพั ยากรท่มี อี ยู่อย่างจากดั เพ่อื ให้มนษุ ยด์ ารงชวี ติ ในระดบั บุคคล ครอบครัว ชุมชน ประเทศ ไปจนถงึ ระดับโลกอยา่ งมีคณุ ภาพ และประสทิ ธภิ าพเพอื่ สนองความต้องการของสงั คมทุกระดับใหส้ ามารถดารงชวี ิตอยู่ ไดอ้ ยา่ งพอเพยี งและมีความสุขบนพ้ืนฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคานงึ ถึงความ

พอประมาณ ความมเี หตุผล และการสร้างภมู คิ มุ้ กันในตัว ตลอดจนใชค้ วามรู้ และคุณธรรม เป็นพน้ื ฐานในการ ดารงชวี ติ ให้อย่ไู ดอ้ ย่างม่ันคงและยง่ั ยนื ตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนวิชากระบวนการจดั ทาบญั ชี (20201-2008) ของสานักพิมพเ์ อมพันธ์ 2. กจิ กรรม, กรณศี ึกษา 3. กรมพฒั นาธุรกจิ การค้า กระทรวงพาณชิ ย์ หรือ http://www.dbd.go.th 4. กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง http://www.rd.go.th 5. มาตรฐานการบัญชี 6. Power Point หลกั ฐาน 1. บนั ทึกการสอน 2. ผลงานของผเู้ รียน 3. แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธีวัดผล 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิ เครอื่ งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏิบตั ิ 3. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีชอ่ งปรับปรุง 2. แบบประเมินผลแบบฝึกปฏิบตั ิ เกณฑ์ผ่าน 50% 3. แบบประเมนิ ผลการเรียนรมู้ เี กณฑ์ผ่าน 50% กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทากจิ กรรมและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทึกการรับ-จา่ ย 3. กจิ กรรมเสนอแนะผู้เรียนเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 4. ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะบันทกึ รายการในสมุดรายวันทั่วไปเพมิ่ เตมิ 5. ศึกษาความรูเ้ พ่มิ เตมิ จากกรมพัฒนาธุรกจิ การค้า กระทรวงพาณิชย์ หรอื http://www.dbd.go.th 6. ศึกษาความรูเ้ พ่ิมเตมิ จากกรมสรรพากร กระทรวงการคลงั http://www.rd.go.th

ผังมโนทัศน์ รายวิชา กระบวนการจดั ทาบญั ชี ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 7 เรือ่ ง การวิเคราะห์รายการค้าจากเอกสาร จานวน 15 ชัว่ โมง : 10 คะแนน ชื่อเรอ่ื ง รปู แบบของธรุ กิจ จานวน 15 ชว่ั โมง : 10 คะแนน หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 7 เร่ือง การวเิ คราะห์รายการค้าจากเอกสาร จานวน 15 ชว่ั โมง ชอ่ื เรื่อง การวเิ คราะห์เอกสารทใ่ี ช้ในการ ช่ือเรอ่ื ง การวเิ คราะหแ์ ละบันทึกบัญชเี อกสาร บนั ทึกบญั ชี ของกิจการ จานวน 7 ชวั่ โมง : 5 คะแนน จานวน 8 ช่ัวโมง : 5 คะแนน

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 7 เร่อื ง การวเิ คราะหร์ ายการค้าจากเอกสาร แผนจัดการเรียนรู้ท่ี 8 เรอื่ ง การวิเคราะห์เอกสารท่ใี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชี รายวิชา กระบวนการจัดทาบญั ชี ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 นา้ หนกั เวลาเรียน 2.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 5 ชั่วโมง/สปั ดาห์ เวลาท่ใี ชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 7 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... แนวคิด การวเิ คราะหร์ ายการคา้ นนั้ เป็นขน้ั แรกของการจัดทาบญั ชีซงึ่ สาคญั มาก โดยการวิเคราะห์รายการคา้ จาก เอกสาร (Analysis of transactions from the document) ซงึ่ เป็นหลกั ฐานตา่ งๆ ทางบัญชกี อ่ นแลว้ จงึ จะนาไป บนั ทึกรายการในสมดุ บัญชีต่าง ๆ ได้ โดยตอ้ งปฏิบัตใิ หเ้ ปน็ ไปตามหลกั กฎหมายบญั ชแี ละกฎหมายภาษีอากร อย่างถูกตอ้ ง ซงึ่ แต่ละกิจการจะมวี งจรการปฏิบัตงิ านทางบัญชที แ่ี ตกต่างกันไปตามลกั ษณะ ประเภทของ กจิ การ หากวเิ คราะห์รายการค้าผิด กจ็ ะทาใหข้ ้ันตอนตอ่ ไปผดิ ไปด้วย หากมคี วามผดิ พลาดเกดิ ข้ึนแลว้ กจ็ ะทา ใหผ้ ใู้ ชข้ อ้ มลู ทางการบญั ชีนัน้ ตัดสินใจผดิ พลาดดว้ ย ดงั นน้ั ถึงแมว้ า่ การวิเคราะห์รายการคา้ จะเป็นเพียงข้ัน เรม่ิ ตน้ ของการทาบัญชี แต่กค็ วรให้ความสนใจและทาความเข้าใจให้ถกู ตอ้ ง โดยก่อนที่จะวเิ คราะห์รายการค้า จะตอ้ งมีความเข้าใจเก่ยี วกบั รายการคา้ ใหม้ ากที่สุด อยา่ งไรกต็ ามกจิ การต้องคานงึ ถงึ ความถูกต้องเพื่อ ประโยชนต์ ่อกจิ การของตนเองและสังคมส่วนรวมตอ่ ไป ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง 1. อธิบายและวเิ คราะหเ์ อกสารทใี่ ชใ้ นการบันทกึ บญั ชไี ด้ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกยี่ วกับกระบวนกาปฏบิ ตั ิงานบญั ชีตามขนั้ ตอนการจัดทาบญั ชแี ละนาเสนองบการเงิน ในการปฏิบัติงานทางวิชาชพี บัญชี 2. บันทกึ บญั ชีจากเอกสารการเงินสาหรับธรุ กิจบริการ ธรุ กิจซือ้ ขายสินค้า และธุรกิจอุตสาหกรรมตาม ขั้นตอนการจัดทาบญั ชที ี่ระบุในกฎหมายทางการบัญชที ่ีเก่ียวข้อง 3. จัดทางบการเงินและรายงานท่ีเกีย่ วข้อง สาระการเรียนรู้ 1. เอกสารที่ใชใ้ นการบันทกึ บัญชี

กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน 1. ครพู ดู คุยกับผู้เรียนเรื่องเอกสารท่ีใช้ในการบนั ทึกบัญชกี ค็ ือ รายการค้าท่ีเกดิ จากการซ้ือขายสินค้าใน แตล่ ะวนั โดยกิจการจะนารายการค้านน้ั มาวเิ คราะหก์ อ่ นทีจ่ ะนาไปบนั ทึกบัญชี 2. ครแู ละผเู้ รียนทบทวนเรอื่ การวเิ คราะห์รายการค้า (Business transaction analysis) คือ การ วเิ คราะห์รายการคา้ ที่เกดิ ขน้ึ จากการดาเนินธรุ กิจในแตล่ ะวัน วา่ จะมผี ลกระทบตอ่ สินทรพั ย์ หนีส้ ิน สว่ นของ เจ้าของ รายไดแ้ ละคา่ ใช้จ่ายอยา่ งไร และผลกระทบต่อการเปลีย่ นแปลงนน้ั จะแสดงให้เหน็ ถงึ ฐานะการเงนิ และ ผลการดาเนนิ งานของกจิ การได้ 3. ครูแนะนารูปแบบการเรยี นการสอนแบบอภปิ ราย (Discussion Method) ในสปั ดาห์นี้ ข้ันสอน 4. ครใู ชเ้ ทคนิคการจัดการเรียนรแู้ บบอภปิ ราย (Discussion Method) เพ่ือมงุ่ ใหผ้ ้เู รียนมีโอกาส สนทนาแลกเปลีย่ นความคิดเห็นหรือระดมความคิดในเร่ืองเอกสารที่ใช้ในการบนั ทึกบญั ชี โดยมีจดุ มุ่งหมาย เพื่อหาคาตอบ แนวทางหรือแกป้ ญั หารว่ มกนั เน้นใหผ้ เู้ รียนมสี ่วนร่วมในการเรียนรู้ คอื รว่ มคดิ ร่วมวางแผน ร่วมตดั สนิ ใจ ร่วมปฏิบัติงานและช่ืนชมผลงานรว่ มกนั 5. ครแู สดงเอกสารทนี่ ามาใชป้ ระกอบในการบันทึกบญั ชเี กี่ยวกับการซือ้ ขายสนิ คา้ โดยใช้ Power Point เปน็ ส่อื เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นเข้าใจได้ย่งิ ขนึ้ 6. ครูและผ้เู รียนชว่ ยกนั สาธติ โดยวเิ คราะห์จากเอกสารเพ่ือนาไปบนั ทึกบญั ชี ซ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้ 6.1 เอกสารท่เี กีย่ วกบั การขายสนิ ค้า ซึ่งออกโดยผูป้ ระกอบการ เชน่ ใบส่งของ ใบกากับสินค้าหรือ บลิ เกบ็ เงนิ บลิ ขายสด ใบรับคนื สนิ ค้า ใบรับคาส่ังซื้อ ใบลดหน้ี รายงานขาย เปน็ ต้น

1.1 การขายสนิ ค้าเปน็ เงนิ สด ก. บนั ทกึ ในสมุดรายวนั รบั เงิน เชน่ ใบเสร็จรบั เงิน ใบเสรจ็ รับเงนิ /ใบกากบั ภาษีโดยเรียง เลขที่ใบเสรจ็ รับเงินหรอื กาหนดเลขทข่ี น้ึ มาใหม่เพื่อสะดวกในการตรวจสอบ ข. สมดุ รายวันรับคนื สนิ ค้า เชน่ ใบรบั คนื สนิ ค้าและใบลดหน้ี  เอกสารที่ใช้บนั ทกึ การขายสนิ คา้ เปน็ เงินสด ในกรณนี ถี้ อื วา่ ใบเสร็จรับเงินเป็น ใบกากับภาษีด้วย เนอื่ งจากมกี ารขายสินค้าและส่งมอบสนิ ค้าแล้วและใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการยืน่ ชาระภาษี การบันทึกรายการดงั น้ี เดบิต เงินสด XX เครดติ ขายสินค้า XX ภาษีขาย XX 1.2 การขายสินคา้ เป็นเงินเชื่อ จะบนั ทกึ บญั ชีในสมุดรายวันขาย เชน่ ใบกากับสนิ ค้า ใบสง่ ของ/ ใบกากับภาษี โดยเรยี งเลขทีต่ ามใบกากบั สนิ ค้าที่ออก  เอกสารท่ีใช้บันทกึ รายการขายสินค้าเป็นเงินเชอ่ื กรณที เ่ี อกสารไม่ได้ออกเป็นชดุ เมื่อมีการขายสนิ ค้า (ข้อสงั เกต ความรบั ผดิ ในภาษีจะเกิดขึ้นเม่อื มกี ารขายหรอื สง่ มอบสนิ ค้า ไมว่ า่ จะมีการชาระ เงนิ โดยทนั ทหี รือไมก่ ต็ าม ดงั นัน้ ใบสง่ ของหรือใบกากบั สนิ คา้ จะต้องแสดงเปน็ ใบกากบั ภาษีดว้ ย เพื่อเปน็ หลักฐานในการยืน่ ชาระภาษีในเดือนทีม่ ีการขายหรือส่งมอบสนิ คา้ ) การบนั ทกึ รายการดงั น้ี เดบิต ลูกหนี้การค้า XX เครดติ ขายสินค้า XX ภาษขี าย XX ขายสนิ ค้าเป็นเงนิ เช่อื  เอกสารที่ใช้บันทึกรายการขายสินค้าเปน็ เงนิ เชื่อ กรณีทเ่ี อกสารไมไ่ ด้ออกเปน็ ชดุ เมื่อมกี ารรับชาระเงิน (ขอ้ สังเกต ใบเสร็จรับเงินจะไมม่ ีข้อความแสดงเปน็ ใบกากบั ภาษอี กี เนอื่ งจากใบกากับ ภาษีแสดงอยูใ่ นเอกสารใบสง่ ของหรือใบกากับสินค้าเมือ่ มกี ารขายหรอื ส่งมอบสนิ ค้าแลว้ ในกรณนี ี้ ใบเสรจ็ รับเงนิ ใช้เปน็ หลักฐานในการเรยี กเกบ็ เงินและบนั ทกึ บญั ชีเท่าน้นั ไมไ่ ดใ้ ชเ้ ป็นหลกั ฐานในการชาระภาษี) การบนั ทกึ รายการดงั น้ี เดบิต เงนิ สด XX เครดติ ลูกหนก้ี ารคา้ XX ได้รับชาระหน้ี 6.2 เอกสารทบี่ นั ทึกรายการเกย่ี วกบั การซื้อสนิ ค้า ซง่ึ ได้รบั จากบคุ คลภายนอก 2.1 ซื้อสินค้าเป็นเงินสด

ก. บันทึกในสมุดรายวันจา่ ยเงิน เชน่ ใบเสร็จรบั เงนิ ใบกากับภาษี ท่ีออกโดยบุคคลภายนอก ซ่งึ จะตอ้ งนาเลขท่เี อกสารมากาหนดขน้ึ มาใหมเ่ ช่นเดยี วกัน ข. สมดุ รายวนั ส่งคนื เชน่ ใบส่งคนื สนิ ค้าและใบเพ่ิมหนี้ การบนั ทึกบญั ชเี ป็นดังน้ี เดบิต ซอื้ สนิ ค้า XX ภาษซี ้ือ XX เครดิต เงินสด XX ซื้อสินคา้ เป็นเงินสด 2.2 ซือ้ สินค้าเป็นเงินเชื่อ บันทกึ ในสมดุ รายวันซอื้ เช่น ใบกากบั สนิ คา้ ใบส่งของ ใบกากบั ภาษี ใบรบั คนื สินคา้ ใบส่งคนื สนิ คา้ เปน็ ตน้ ซงึ่ จะเรียงลาดบั เลขทข่ี น้ึ มาใหม่โดยเขียนทมี่ ุมขวามือของเอกสาร การ ให้เลขรหัสขน้ึ อยู่กับผู้บนั ทกึ บัญชีว่าจะกาหนดอย่างไร ท้งั น้จี ะตอ้ งสื่อความหมายถงึ เอกสารท่ีเกยี่ วข้องได้เป็น อย่างดี เนอื่ งจากเลขท่จี ากเอกสารเปน็ การออกเอกสารจากหลายบริษทั เลขท่ีเอกสารจะไมต่ รงกันทาใหไ้ ม่ สะดวกในการค้นหาและตรวจสอบเอกสาร การบันทกึ บญั ชีเปน็ ดงั น้ี เดบติ ซื้อสินค้า XX ภาษซี ้ือ XX เครดติ เจา้ หนกี้ ารคา้ XX ซื้อสนิ คา้ เปน็ เงนิ เชื่อ 6.3 เอกสารอ่ืนๆ ทีเ่ กย่ี วข้องในการบันทกึ บญั ชี ก. บนั ทึกในสมดุ รายวันรบั เงิน เชน่ ใบสาคญั รบั ใบรบั รองภาษีเงินไดห้ ัก ณ ทีจ่ า่ ยท่ีกิจการ ออกให้บุคคลอ่ืน เชน่ เมอื่ รบั ชาระค่าซอ่ มแซมสนิ ค้า (เปน็ รายไดค้ ่าซ่อมแซม) การบนั ทกึ บญั ชีเป็นดงั นี้ เดบติ เงนิ สด XX เครดติ รายได้ค่าซ่อมแซม XX ภาษขี าย XX รบั ชาระค่าซ่อมแซม  กรณที ม่ี ีภาษีเงินไดห้ ัก ณ ทจ่ี ่าย เมือ่ กจิ การมีเงินได้จากการให้บรกิ าร ซึ่งผู้จ่ายเงนิ มี หนา้ ทห่ี ักภาษี ณ ที่จ่ายตามกฎหมายและจะออกหนงั สอื รบั รองการหักภาษี ณ ทจี่ ่าย ซ่งึ เปรยี บเสมือนกับ กิจการถูกหักภาษไี ว้ล่วงหน้า จะต้องนาภาษนี ี้ไปหกั ยอดภาษีเงนิ ได้ในตอนสิ้นปี ภาษเี งินไดห้ กั ณ ที่จ่ายจะมี ยอดอยู่ด้านเดบิตถือเป็นสนิ ทรัพย์

การบันทกึ บญั ชีเปน็ ดังน้ี เดบติ เงินสด XX ภาษเี งินได้หัก ณ ท่จี ่าย XX เครดติ รายได้คา่ ซอ่ มแซม XX XX ภาษขี าย รบั ชาระคา่ ซ่อมแซม และถกู หกั ภาษเี งินได้ ณ ทจ่ี ่าย ข. บนั ทกึ ในสมดุ รายวันจ่ายเงนิ เช่น ใบสาคญั จา่ ย เอกสารใบเสรจ็ ค่าใชจ้ า่ ยตา่ งๆ เชน่ ใบเสร็จคา่ น้า คา่ ไฟฟา้ ใบรบั รองการหกั ภาษีทผ่ี ูอ้ ืน่ ออกให้  กิจการขนสง่ สินคา้ จะไดร้ บั การยกเว้นไมต่ ้องเสยี ภาษมี ลู ค่าเพิม่ แต่ตอ้ งเสยี ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในอตั รารอ้ ยละ 1 ของจานวนเงนิ ท่ีเกินกว่า 1,000 บาท โดยผู้ท่จี ่ายเงินมหี นา้ ทีห่ ักตามกฎหมาย และตอ้ งออก ใบรบั รองภาษหี กั ณ ท่จี า่ ยใหก้ ับบริษัททีใ่ ห้บรกิ ารขนส่ง กิจการมหี น้าท่ีหักภาษี ณ ท่ีจา่ ย และนาส่งสรรพากรภายใน 7 วันนบั แต่วันสิ้นเดือน ดงั นนั้ กจิ การมี ภาระท่ีจะต้องนาสง่ ภาษี บญั ชภี าษหี ัก ณ ทีจ่ ่ายจึงมียอดทางด้านเครดิต การบนั ทึกบัญชเี ป็นดงั นี้ เดบิต ค่าขนสง่ เข้า XX เครดิต เงินสด XX XX ภาษเี งินไดห้ ัก ณ ท่ีจ่าย (1,800X1%) จ่ายค่าขนสง่ เข้า และหักภาษเี งินได้ ณ ที่จ่าย ค. บันทกึ ในสมุดรายวนั ท่ัวไป เช่น ใบแจ้งหนี้ ใบรับคืนและส่วนลด ใบสง่ คนื และเพ่มิ หน้ี (กรณีท่ีกิจการมรี ายการประเภทน้ไี มม่ ากนกั และไม่ไดเ้ ปิดสมุดรายวันเฉพาะ)  ตวั อยา่ งใบแจง้ หนค้ี า่ บรกิ ารท่ีมีภาษมี ูลค่าเพม่ิ กรณกี ารใหบ้ รกิ ารจะเกดิ เมื่อมกี ารชาระ เงินสดเทา่ นั้น เมือ่ ได้รบั ใบแจง้ หน้ีจงึ ยังไม่ถอื วา่ ตอ้ งชาระภาษภี ายในเดอื นทไี่ ดร้ บั ใบแจง้ หน้ี ความรับผดิ ชอบ จะเกดิ ขนึ้ เมอ่ื มีการชาระเงิน เม่อื ได้รับใบแจง้ หนจ้ี ะบันทึกเป็นภาษีท่ยี ังไม่ถงึ กาหนดชาระ การบันทึกบญั ชีเปน็ ดังน้ี เดบิต คา่ รักษาความสะอาด XX ภาษซี ื้อ (ยังไม่ครบกาหนดชาระ) XX เครดิต เจ้าหนี้การค้า XX ไดร้ บั ใบแจ้งหนี้ค่ารักษาความสะอาด 7. ผูเ้ รยี นศกึ ษาข้อมูลโดยผ่านกรณีศึกษาท่ีครกู าหนดให้ เพอ่ื จดั ทากรณีดงั ตอ่ ไปนี้

7.1 บันทกึ รายการในสมุดรายวันซื้อ สมุดรายวันขาย สมดุ รายวันรับเงิน สมุดรายวันจ่ายเงินและ สมุดรายวันท่วั ไป 7.2 ผา่ นรายการไปบญั ชีแยกประเภททั่วไป บัญชีแยกประเภทลกู หนแี้ ละเจา้ หนีร้ ายตัว 73 จัดทารายละเอยี ดลูกหนี้รายตัวและเจ้าหน้ีรายตัว 7.4 จัดทารายงานภาษีซอ้ื และรายงานภาษขี าย 7.5 จัดทาบัญชีคุมสินคา้ และทารายละเอยี ดสนิ ค้าคงเหลอื ต่อไปนี้เปน็ เอกสารเก่ียวกับการซ้อื ขายสินคา้ ของบริษทั กรุงเทพภณั ฑ์ จากดั เฉพาะเดือนตุลาคม 2559บรษิ ัทมวี ธิ ีการบันทกึ บญั ชีและจดั เรยี งเอกสารเขา้ แฟ้มดังนี้ 1. เอกสารเกี่ยวกับการขายสดและขายเช่อื เมอ่ื บันทึกบญั ชแี ลว้ ใหล้ งลายมือชอื่ ผบู้ ันทกึ บัญชีลง ในเอกสารใหน้ าเอกสารนัน้ จดั เข้าแฟ้มภาษีขายโดยเรยี งลาดับตามวนั ที่ของเอกสาร และใหก้ าหนดรหสั ของ เอกสารขึ้นใหมเ่ รมิ่ ตน้ ด้วยรหสั ภข.10/01 2. เอกสารเกยี่ วกับการซื้อสดและซ้อื เชื่อ เมื่อบันทึกบญั ชแี ลว้ ใหล้ งลายมอื ชอื่ ผู้บันทึกบญั ชลี งใน เอกสาร ใหน้ าเอกสารนั้นจัดเขา้ แฟ้มภาษีซือ้ โดยเรียงลาดับตามวนั ท่ขี องเอกสาร และให้กาหนดรหสั ของ เอกสารข้ึนใหมเ่ รมิ่ ต้นดว้ ยรหสั ภซ.10/01 3. เอกสารอนื่ ๆ ถ้ามนี อกจากเอกสารการซือ้ ขายสินค้า ซ่งึ มจี านวนไม่มาก เม่อื บนั ทึกบญั ชแี ลว้ ให้ ลงลายมอื ชื่อผูบ้ นั ทกึ บญั ชีลงในเอกสาร ใหน้ าเอกสารนน้ั จัดเก็บเขา้ แฟ้มโดยเรียงลาดบั ตามวนั ที่ของเอกสาร กาหนดรหัสเอกสารขน้ึ ใหม่เริ่มต้นด้วย บท.10/01 4. ให้ทาสาเนาเอกสารเกี่ยวกับการซอื้ ขายสินค้า นาไปบันทกึ ในบญั ชีสนิ ค้าคงเหลือรายตวั เมอ่ื บนั ทกึ บัญชีแล้วให้ลงลายมอื ชอ่ื ผู้บันทกึ ลงในเอกสาร ใหน้ าเอกสารนนั้ จดั เก็บเข้าแฟม้ โดยเรยี งลาดบั ตามวันที่ ของเอกสาร กาหนดรหสั เอกสารขนึ้ ใหม่ ถา้ เปน็ การซอื้ สนิ ค้าให้ใช้รหัสเริ่มตน้ ดว้ ย ร.10/01 ขายสินค้าให้ใช้ รหัสเริ่มต้นด้วย จ.10/01 5. การตีราคาสินค้าคงเหลือให้ใช้วิธี FIFO (First in–First out) 8. ครเู นน้ ความรู้เรือ่ งความพอเพยี งของเศรษฐกจิ พอเพียง จะตอ้ งประกอบดว้ ยคณุ ลักษณะ 3 ประการ คอื ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมภี มู คิ ้มุ กันทด่ี ใี นตวั โดยความหมายของความ พอประมาณน้นั หมายถึง ความพอดี ท่ีไมน่ ้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบยี นตนเองและผอู้ ืน่ เช่น การผลิตและการบริโภคทอ่ี ยู่ในระดับพอประมาณ 9. ผู้เรียนฝึกปฏบิ ตั กิ ิจกรรมในกรณีศกึ ษา ขั้นสรุปและการประยุกต์ 10. ผู้เรียนวิเคราะหร์ ายการ และบนั ทึกบญั ชเี กยี่ วกับเอกสารทีใ่ ชใ้ นการบันทึกบัญชี 11. ผู้เรียนทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้ 12. ผู้เรียนทากจิ กรรมโดยผ่านกจิ กรรม

สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ ากระบวนการจัดทาบญั ชี (20201-2008) ของสานักพมิ พ์เอมพันธ์ 2. กิจกรรม, กรณีศึกษา 3. กรมพฒั นาธุรกจิ การค้า กระทรวงพาณิชย์ หรือ http://www.dbd.go.th 4. กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง http://www.rd.go.th 5. มาตรฐานการบญั ชี หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2. ผลงานของผเู้ รียน 3. แผนจัดการเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมนิ ผล วธิ ีวดั ผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ 3. ตรวจแบบประเมินผลการฝึกปฏิบัติ เครอ่ื งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมินผลแบบฝกึ ปฏิบตั ิ 3. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไม่มีช่องปรับปรงุ 2. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏิบัติ เกณฑผ์ า่ น 50% 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ ีเกณฑผ์ ่าน 50% กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทากจิ กรรมและแบบประเมินผลการเรียนรู้ 2. บนั ทกึ การรับ-จา่ ย 3. กิจกรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ และส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ 4. ศึกษาความรเู้ พม่ิ เติมจากกรมพัฒนาธรุ กิจการค้า กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 5. ศึกษาความรู้เพมิ่ เตมิ จากกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง http://www.rd.go.th 6. ศึกษามาตรฐานการบัญชีเพมิ่ เติม

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7 เรื่อง การวิเคราะห์รายการคา้ จากเอกสาร แผนจัดการเรียนรู้ท่ี 9 เรือ่ ง การวเิ คราะห์และบนั ทกึ บญั ชเี อกสารของกิจการ รายวิชา กระบวนการจัดทาบัญชี ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 นา้ หนักเวลาเรยี น 2.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 5 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ เวลาทใ่ี ชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 7 ชว่ั โมง .......................................................................................................................................................... แนวคดิ การวิเคราะห์รายการค้านนั้ เป็นขั้นแรกของการจดั ทาบญั ชีซึ่งสาคัญมาก โดยการวเิ คราะห์รายการคา้ จาก เอกสาร (Analysis of transactions from the document) ซึง่ เปน็ หลักฐานตา่ งๆ ทางบญั ชีกอ่ นแลว้ จึงจะนาไป บันทกึ รายการในสมดุ บัญชีต่าง ๆ ได้ โดยตอ้ งปฏบิ ัติใหเ้ ป็นไปตามหลักกฎหมายบัญชีและกฎหมายภาษีอากร อยา่ งถกู ต้อง ซ่งึ แตล่ ะกิจการจะมีวงจรการปฏิบตั ิงานทางบัญชที แี่ ตกต่างกันไปตามลกั ษณะ ประเภทของ กิจการ หากวเิ คราะห์รายการค้าผิด กจ็ ะทาให้ข้นั ตอนตอ่ ไปผิดไปด้วย หากมีความผิดพลาดเกดิ ขึน้ แล้วกจ็ ะทา ให้ผใู้ ช้ข้อมูลทางการบญั ชนี ้ันตดั สนิ ใจผดิ พลาดดว้ ย ดงั นน้ั ถงึ แม้วา่ การวเิ คราะห์รายการคา้ จะเปน็ เพียงข้ัน เร่มิ ตน้ ของการทาบญั ชี แตก่ ็ควรให้ความสนใจและทาความเข้าใจใหถ้ ูกต้อง โดยกอ่ นทจี่ ะวิเคราะห์รายการคา้ จะต้องมีความเขา้ ใจเก่ยี วกับรายการคา้ ให้มากท่ีสุด อยา่ งไรกต็ ามกิจการตอ้ งคานงึ ถงึ ความถกู ตอ้ งเพื่อ ประโยชนต์ ่อกิจการของตนเองและสงั คมสว่ นรวมต่อไป ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง 2. วิเคราะหแ์ ละนาเอกสารมาบันทกึ บัญชีของกจิ การได้ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั กระบวนกาปฏบิ ัติงานบญั ชตี ามขน้ั ตอนการจัดทาบัญชีและนาเสนองบการเงิน ในการปฏบิ ัตงิ านทางวิชาชพี บัญชี 2. บนั ทึกบัญชีจากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธุรกิจบริการ ธรุ กิจซือ้ ขายสนิ ค้า และธุรกิจอุตสาหกรรมตาม ขน้ั ตอนการจัดทาบัญชที ่ีระบุในกฎหมายทางการบัญชที ี่เก่ียวข้อง 3. จัดทางบการเงินและรายงานท่ีเกย่ี วขอ้ ง สาระการเรียนรู้ 2. การนาเอกสารมาบันทึกบัญชขี องกิจการ กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1. ครูสนทนากบั ผู้เรยี นว่าการนาเอกสารมาบนั ทกึ บัญชี โดยท่วั ไปจะทาการแยกเอกสารแต่ละชนิด เพอื่ ความสะดวกในการบนั ทกึ บญั ชี เนื่องจากในทางปฏบิ ตั ิบริษัทมักจะแบง่ แยกหน้าที่การทางานของพนกั งาน บัญชอี อกเปน็ หลายฝ่าย เช่น พนกั งานบนั ทึกบัญชีซ้ือและบัญชีเจา้ หน้ี พนักงานบันทกึ บัญชขี ายและ บัญชลี กู หนี้ พนกั งานบันทกึ บญั ชสี นิ ค้าคงเหลือ เป็นต้น ดังนัน้ จงึ สามารถแยกเอกสารให้พนกั งานแต่ละฝ่ายทา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook