Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงสร้างและหน้าที่ของออร์แกเนลล์

โครงสร้างและหน้าที่ของออร์แกเนลล์

Published by thidarat61041, 2021-02-02 05:11:36

Description: โครงสร้างและหน้าที่ของออร์แกเนลล์

Search

Read the Text Version

โครงสรา้ งและ หนา้ ทีของเซลล์ นางสาว6ธ2ิด0าร4ัต0น11์ 1ด1อ11กไม้ทอง สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทัวไป และชีววิทยา

เซลล์ คือ อะไร ? เซลล์ คือ หนว่ ยพ้นื ฐานทเี่ ล็กทสี่ ดุ ของสิง่ มีชวี ติ ซงึ่ ไมส่ ามารถมองเห็นได้ดว้ ยตาเปล่า จึง ต้องใช้กลอ้ งจุลทรรศน์ช่วยขยายภาพเซลลใ์ หเ้ รามองเหน็ ได้ โดยโครงสรา้ งและหน้าท่ขี องเซลลแ์ ตล่ ะ ชนิดจะแตกตา่ งกันออกไป อยา่ งเซลล์เม็ดเลอื ดแดงมลี กั ษณะกลมแบน ทาหน้าทีล่ าเลียงออกซิเจน แต่เซลล์เมด็ เลอื ดขาวจะมีลักษณะคอ่ นขา้ งกลม ทาหนา้ ทก่ี าจดั เชื้อโรคและสรา้ งภูมิคุ้มกัน สิง่ มชี วี ติ บางชนดิ สามารถดารงชวี ิตอย่ไู ด้โดยมีเซลล์เพยี งเซลล์เดยี ว เช่น อะมีบา ยกู ลีนา พารามี เซียม แต่สง่ิ มีชวี ติ บางชนดิ จาเป็นต้องมหี ลายเซลล์ เชน่ เหด็ รา พชื สตั ว์ รวมทงั้ มนษุ ย์เรากเ็ ป็น ส่ิงมีชวี ติ หลายเซลลเ์ ชน่ เดียวกัน ภาพการจดั ระบบของสง่ิ มชี ีวิต (ขอบคณุ ภาพจาก Encyclopædia Britannica, Inc.) แตก่ วา่ เซลลจ์ านวนมหาศาลจะรวมตัวกนั จนกลายเป็นรา่ งกายของเราไดน้ ้ัน กต็ อ้ งมีการ จัดระบบจากหนว่ ยทีเ่ ล็กท่สี ุด ไปสูห่ น่วยทใี่ หญท่ ่สี ดุ โดยเรม่ิ จากเซลล์ (cell) ทีม่ ีโครงสรา้ งและ หน้าทีค่ ลา้ ย ๆ กนั มารวมกลุม่ กนั เรยี กว่า เนอื้ เย่อื (tissue) เชน่ เน้อื เยื่อบุผวิ เนือ้ เยอื่ ประสาท โดยการรวมกลุม่ กนั ของเนอื้ เย่ือเหล่าน้ีกจ็ ะทาใหเ้ กดิ เป็น อวยั วะ (organ) ซึง่ มีรปู ร่างและหนา้ ที่ แตกต่างกัน เมือ่ อวยั วะต่าง ๆ มาทางานรว่ มกัน กจ็ ะเรียกวา่ ระบบอวัยวะ (organ system) เชน่ ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถา่ ย เมือ่ แตล่ ะระบบทาหน้าที่สัมพนั ธ์กนั กจ็ ะกลายเป็น ส่ิงมีชวี ิต (Organism) อย่างรา่ งกายของเรา ตน้ ไม้ หรือสตั วช์ นิดต่าง ๆ ท่เี รามองเห็นนั่นเอง

องค์ประกอบของเซลลม์ ีอะไรบา้ ง ? ภาพเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ัตว์ (ขอบคุณภาพจาก howstuffworks) แม้วา่ เซลลจ์ ะมีหลากหลายชนดิ แถมเซลลพ์ ชื กับเซลล์สตั ว์ก็มีทงั้ องค์ประกอบทีเ่ หมือน และแตกตา่ งกันออกไป แต่องคป์ ระกอบที่ทกุ เซลล์มีเหมือนกนั คอื เยื่อหมุ้ เซลล์ ไซโทพลาสซึม และนวิ เคลยี ส ซง่ึ ก่อนทเี่ ราจะพดู ถึงรายละเอียดของ 3 องค์ประกอบนี้ เราอยากจะเล่าให้ เพ่อื น ๆ ฟังกอ่ นว่า เซลล์สามารถแบ่งได้เปน็ 2 สว่ นใหญ่ ๆ ได้แก่ 1. สว่ นท่ีห่อห้มุ เซลล์ ซึง่ เปน็ เหมือนร้ัวหรอื กาแพงเมือง ประกอบดว้ ย ผนังเซลล์ (cell wall) เป็นส่วนท่ีอยู่ช้ันนอกสุดของเซลลบ์ างชนดิ เปรยี บเสมือน กาแพงเมืองทีช่ ่วยคงรูปและปอ้ งกนั อันตรายใหแ้ ก่เซลล์ แต่ผนงั เซลล์น้จี ะไม่มใี นเซลล์สัตว์ เย่ือหมุ้ เซลล์ (cell membrane) เป็นส่วนที่คอยหอ่ หุ้มสิ่งทีอ่ ยู่ภายในเซลล์ท้งั หมด สามารถพบไดใ้ นเซลล์ของสิ่งมชี วี ิตทกุ ชนิด โดยจะทาหน้าท่ีเปน็ เยือ่ เลอื กผา่ น (semipermeable membrane) คลา้ ยกับทหารทคี่ อยเฝา้ ประตูเมือง โดยจะมีลักษณะเปน็ เย่ือ บาง ๆ ประกอบไปดว้ ยลพิ ดิ โปรตนี และคาร์โบไฮเดรตเล็กน้อย คอยจากัดชนิดและโมเลกลุ ของสารทจ่ี ะผา่ นเขา้ ไปในเซลล์

2. โปรโทพลาสซีม (Protoplasm) เป็นเหมอื นหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ทอี่ ย่ภู ายในเซลลซ์ ง่ึ ทาหนา้ ท่ีแตกต่างกนั ออกไป ดงั น้ี นิวเคลยี ส (Nucleus) เปรียบเสมือนพระราชาของเมอื ง เพราะมีหนา้ ท่ีคอยควบคุม การทางานของเซลล์ รวมทงั้ เปน็ แหลง่ สงั เคราะห์สารพันธุกรรมหรือ DNA โดยนวิ เคลียสมี ลกั ษณะค่อนข้างกลม และเหน็ ไดช้ ดั อยตู่ รงกลางเซลล์ ไซโทพลาสซมึ (Cytoplasm) เปน็ ส่วนทอ่ี ย่ใู นเยอื่ หมุ้ เซลล์ และเป็นแหล่งกาเนดิ ปฏิกิรยิ าเคมตี ่าง ๆ ซ่งึ ประกอบด้วยดว้ ย 2 ส่วน ไดแ้ ก่ ส่วนทเ่ี ปน็ ของเหลว เรียกวา่ ไซโท ซอล(Cytosol) และออร์แกเนลล์ (Organalle) ซงึ่ ออร์แกเนลลเ์ หล่าน้ที าหนา้ ทค่ี ล้ายกบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ภายในเมือง และสาหรับบทเรียนน้ีเราจะพาเพ่อื น ๆ ไปทาความรู้จกั กับ 6 ออรแ์ กเนลล์กนั กอ่ น ซงึ่ จะมอี ะไรบา้ งนน้ั ไปดกู ันได้เลย ไรโบโซม (Ribosome) มหี นา้ ทส่ี งั เคราะหโ์ ปรตีนใชท้ ัง้ ภายในเซลล์และภายนอกเซลล์ ไซโทสเกลเลตอน (Cytoskeleton) เปน็ โปรตีนทที่ าหนา้ ท่ีเป็นโครงสร้างคา้ จนุ เซลล์ มี 3 ประเภท ได้แก่ Microtubule, Intermediate Filament และ Microfilament เซนทริโอล (Centriole) เปน็ ออร์แกเนลลท์ ี่ไม่พบในเซลลพ์ ชื ประกอบไปด้วยหลอด เล็ก ๆ ทเี่ รียกว่า ไมโครทบู ูล (Microtubule) ทาหน้าทสี่ ร้างเส้นใยสปนิ เดลิ (Spindle Fiber) ท่ีชว่ ยในการเคลื่อนทีข่ องโครโมโซมขณะแบ่งเซลล์ แวคิวโอล (Vacuole) ทาหนา้ ท่ีรักษาสมดุลนา้ และบรรจุอาหาร ซึ่งแวควิ โอลในเซลล์ พืชจะมีขนาดใหญ่กวา่ เซลล์สัตว์ ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) เปรยี บเสมือนโรงไฟฟา้ ผลติ พลงั งานให้กับเซลล์ โดยกระบวนการสรา้ งพลงั งานนเ้ี รยี กว่า การหายใจระดับเซลล์ ซึง่ ไมโทคอนเดรยี พบมากที่ บริเวณกล้ามเน้อื หวั ใจของมนุษย์ โดยประกอบด้วยเยอื่ หุ้มสองชน้ั ชน้ั นอกจะมผี ิวเรียบ ส่วน ชน้ั ในจะพบั ทบเขา้ ไปดา้ นในเรยี กว่า ครสิ ตี (Cristae) คลอโรพลาสต์ (Chloroplast) พบเฉพาะในเซลลพ์ ืช สาหรา่ ย หรือแบคทเี รยี บาง ชนดิ ประกอบดว้ ยเยื่อหมุ้ สองชน้ั ซ่งึ คลอโรพลาสตเ์ ป็นเหมอื นโรงอาหารของเซลล์ เพราะ สามารถสรา้ งอาหารได้ดว้ ยการสังเคราะห์แสง (Photosynthesis) จรงิ ๆ แล้วภายในเซลลย์ งั มอี กี หลายออร์แกเนลล์ให้เราไดท้ าความรูจ้ กั แต่สาหรบั ระดบั ชั้นม.1 เราขอเบรกไว้เท่านีก้ ่อน ไวไ้ ปทาความร้จู ักออร์แกเนลลอ์ ่นื ๆ กนั ตอ่ ในบทความ ถดั ไป (แตถ่ ้าอยากอา่ นต่อจริง ๆ แนะนาบทความการแพร่และออสโมซสิ เลย) หรอื ใครท่ี อยากจะฟงั ครสู อนสนกุ ๆ ท้งั บทเรียนวชิ าวทิ ยาศาสตร์และวิชาอื่น ๆ ก็สามารถโหลดแอป พลิเคชัน StartDee มาเรยี นกันไดท้ ุกท่ีทกุ เวลาเลย

Thanks


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook