Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรภูมิปัญญาท้องถิ่นๅ

หลักสูตรภูมิปัญญาท้องถิ่นๅ

Description: หลักสูตรภูมิปัญญาท้องถิ่นๅ

Search

Read the Text Version

หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น การละเลน่ ดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลมุ 2 ดว้ ย สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ( สานกั งาน กศน. ) ไดใ้ ห้ กศน. ตาบลบา้ นหลุม จดั ทาหลกั สูตรทอ้ งถิ่น เพอ่ื เป็นการขบั เคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษ ท่ีสอง ( ๒๕๕๒ – ๒๕๕๖ ) โดยใชก้ ลไกการดาเนินงานการเรียนการสอนจากครูภูมิปัญญาทอ้ งถิ่นร่วมกบั กศน.ตาบลบา้ นหลุม จดั ทาหลกั สูตรทอ้ งถิ่นข้ึนมาให้นักศึกษาไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั ภูมิปัญยาทอ้ งถ่ินซ่ึงเป็ น หน่วยจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบ และ การศึกษาตามอัธยาศัย เป้าหมายคือ ให้นักศึกษาและ ประชาชนในตาบลบา้ นหลมุ ไดเ้ รียนรู้และร่วมกนั อนุรักษภ์ ูมิปัญญาน้ีไว้ ดงั น้นั กศน.ตาบลบา้ นหลุม จะเป็นกลไกในการขบั เคล่ือนการศึกษาในระดบั ทอ้ งถิ่นและ ชุมชนให้เข้าถึงการศึกษาอย่างใกล้ชิด รวมท้ังเป็ นแหล่งเรียนรู้ของคนทุกเพศทุกวยั ท้ังเด็ก เยาวชน ประชาชน สามารถเขา้ รับบริการไดต้ ลอดเวลา กศน.ตาบลบา้ นหลุม ร่วมกบั ครูภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินในดา้ น ศิลปะการละเล่นดนตรีมงั คละจดั ทาหลกั สูตรน้ีข้นึ มา กศน.ตาบลบา้ นหลมุ หวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ หลกั สูตรน้ีจะ เป็นประโยชน์ตอ่ ผสู้ นใจในดา้ นการละเลน่ พ้ืนบา้ นดนตรีมงั คละเป็นอยา่ งยงิ่ จดั ทาโดย นายอดุ มศกั ด์ิ ชูยมิ้ (หวั หนา้ กศน.ตาบลบา้ นหลุม) นายดารง ศรีมว่ ง (ครูภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน) ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น การละเล่นดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลมุ 3 เร่ือง หนา้ คานา 2 สารบญั 3 หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ินการละเลน่ ดนตรีมงั คละ 4 ความสาคญั 4 จุดมงุ่ หมาย 5 วตั ถปุ ระสงค์ 5 เน้ือหาของหลกั สูตร 6 เวลาเรียน 6 แหลง่ การเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียน 6 การวดั ผลประเมินผลการเรียน 7 ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ ับ 7 โครงสร้างเน้ือหาของหลกั สูตร 7 ประวตั ิและการสืบทอดดนตรีมงั คละตาบลบา้ นหลมุ 8 ประวตั ิการละเลน่ มงั คละพ้ืนบา้ นสุโขทยั 10 เครื่องดนตรีมงั คละ 11 11 ลกั ษณะของเครื่องดนตรีมงั คละ 12 - กลองมงั คละ 13 - กลองสองหนา้ 14 - ฆอ้ ง 15 - ปี่ 16 - ฉิ่ง ฉาบ 17 19 จงั หวะการตีมงั คละ 20 การประยกุ ตท์ า่ รากบั ดนตรีมงั คละ 20 ข้นั ตอนการบรรเลง 21 วิธีการบรรเลงแตล่ ะเพลง การไหวค้ รูดนตรีมงั คละ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น การละเลน่ ดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 4 หลกั สูตรภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน การละเลน่ ดนตรีมงั คละ ความสาคญั มังคละ หมายถึง มงคล หรืองานที่เจริญกา้ วหนา้ มงั คละจึงเป็นดนตรีท่ีเป็นมงคล ในศิลา จารึกหลกั ที่ 1 ที่วา่ \"ทา้ วหวั ราน คาบง คากลอง ดว้ ยเสียงพาทยเ์ สียงพิณ เลื่อนขบั \" คาวา่ คาบง คากลอง เป็น คาโบราณท่ีมีใชต้ ้งั แตส่ มยั กรุงสุโขทยั แปลวา่ การประโคม ดงั น้นั คาวา่ คาบง คากลอง จึงหมายถึงการตี กลองหรือประโคมกลองที่ขึงดว้ ยหนงั กลองมงั คละเป็นดนตรีในลงั กา ท่ีใชแ้ สดงในพิธีมงคลทุกอยา่ ง เช่ือ วา่ กลองมงั คละน้ีเขา้ มาพร้อมๆ กบั พระพทุ ธศาสนาลทั ธิลงั กาวงศใ์ นสมยั กรุงสุโขทยั โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ใน สมยั พระยาลิไท ดงั น้นั มงั คละจึงมิใช่เป็นของใหมท่ ี่ชาวบา้ นคิดข้ึนเอง แตเ่ ป็นดนตรีหลกั ที่กลบั กลายมาเป็น ดนตรีพ้ืนบา้ นของสุโขทยั เคร่ืองดนตรีท่ีใชใ้ นการแสดงมงั คละน้นั มี กลองมงั คละ ชาวบา้ นเรียกวา่ \"โจ๊ก โกร๊ด\" ลกั ษณะเหมือนกลองยาวแต่มีขนาดเลก็ กวา้ งประมาณ 6 นิ้ว ไมเ่ กิน 7 นิ้ว สูงประมาณ 1 ฟุตเศษ หนา้ กลองขึงดว้ ยหนงั ลกั ษณะเหมือนกลองยาวเด็ก แตก่ ารเจาะขดุ ในตวั กลองน้นั ทาเลก็ กวา่ กลองยาว เสียงจะดงั แหลม และเป็นตวั สาคญั ในการเลน่ มงั คละ นอกจากกลองมงั คละแลว้ ก็มีกลองสองหนา้ อยู่ 2 ใบ ใบที่หน่ึง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น การละเลน่ ดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลมุ 5 เป็นกลองที่ใชต้ ียนื อีกตวั หน่ึงเป็นกลองท่ีตีหลอน ชาวบา้ นเรียกวา่ จงั หวะขดั นอกจากน้ีกม็ ีโหม่ง 3 ใบ ฉาบ เลก็ หรือฉาบกรอ และฉาบใหญ่ เป็นเคร่ืองใหจ้ งั หวะในการเล่นมงั คละ มงั คละพ้ืนบา้ นน้นั ใชผ้ บู้ รรเลง 7 คน ส่วนผแู้ สดงท้งั ชายและ หญิงไม่ต่ากวา่ 5 คนรวมแลว้ ประมาณ 20 คน การแตง่ กายฝ่ายชายนุ่งโจงกระเบน สวมเส้ือคอกลม คาดเอว ดว้ ยผา้ สีสนั สดใส บางรายกป็ ระแป้ง แต่งหนา้ ส่วนฝ่ายหญิงน้นั นิยมนุ่งโจงกระเบน ห่มผา้ แถบ แตง่ หนา้ แต่งผมใหส้ วยงาม เวลาที่ใชใ้ นการแสดงประมาณ 1 ชวั่ โมง เพลงที่ใชบ้ รรเลงมีหลายเพลง มีทา่ ราที่สวยงาม และแปลกประหลาด เช่น ท่ากวางเหลียวหลงั ทา่ แมห่ มา้ ยทิง้ แป้ง ท่าลิงอมุ้ แตง ฯลฯ คนดูเห็นแลว้ ก็ชอบใจ เพราะเป็นทา่ ท่ีพ่อครู แมค่ รูไดป้ ระดิษฐท์ า่ รามาจนชานิชานาญสืบทอดมาถึงลกู หลาน ปัจจุบนั ไดม้ ีหน่วยงาน ตา่ ง ๆ เห็นความสาคญั ของการแสดงพ้นื บา้ นของจงั หวดั สุโขทยั โดยเฉพาะสถานีโทรทศั น์ตา่ ง ๆไดม้ าถา่ ย ทาวดิ ีทศั น์ นาไปประชาสมั พนั ธ์เผยแพร่ทว่ั ประเทศ จดุ มุ่งหมาย 1.เพอ่ื ใหช้ ุมชนในทอ้ งถิ่นอนุรักษว์ ฒั นธรรมพ้นื บา้ นการละเลน่ ดนตรีมงั คละของตาบลบา้ นหลุม 2.เพอื่ ส่งเสริมสนบั สนุนใหช้ ุมชนทอ้ งถ่ิน มีความรู้เกิดทกั ษะ ในการละเลน่ พ้ืนบา้ น ประเภทดนตรี มงั คละของตาบลบา้ นหลุม 3.เพอ่ื ใหช้ ุมชนทอ้ งถ่ินร่วมกนั สืบทอดภูมิปัญญาทางดา้ นการละเล่นดนตรีมงั คละ วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้และความเขา้ ใจในการละเล่นดนตรีมงั คละ 2. เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนมีการพฒั นาทกั ษะในการละเลน่ ดนตรีมงั คละ 3. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีความรักและร่วมกนั อนุรักษใ์ นวฒั นธรรมพ้นื บา้ น 4. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนร่วมกนั สืบทอดภมู ิปัญญาทางดา้ นการละเลน่ ดนตรีมงั คละ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน การละเล่นดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 6 เนื้อหาของหลกั สูตร หลกั สูตร ประกอบดว้ ยเน้ือหา 7 เร่ือง ดงั น้ี 1. ประวตั ิและการสืบทอดดนตรีมงั คละตาบลบา้ นหลมุ 2. ประวตั ิการละเล่นมงั คละพ้ืนบา้ นสุโขทยั 3 ชวั่ โมง 3. เคร่ืองดนตรีมงั คละ 3 ชว่ั โมง 4. จงั หวะการตีมงั คละ 27 ชวั่ โมง 5. การประยกุ ตท์ ่ารากบั ดนตรีมงั คละ 6 ชวั่ โมง 6. ข้นั ตอนการบรรเลง 3 ชวั่ โมง 7. การไหวค้ รูดนตรีมงั คละ 3 ชว่ั โมง เวลาเรียน หลกั สูตร หลกั สูตร การละเล่นดนตรีมงั คละ ใชเ้ วลาเรียนท้งั หมด 48 ชวั่ โมง ภาคทฤษฎี 18 ชว่ั โมง ภาคปฏิบตั ิ 30 ชวั่ โมง แหล่งการเรียนรู้และส่ือประกอบการเรียน 1. เน้ือหาทางวิชาการละเลน่ ดนตรีมงั คละ 7 เร่ือง 2. การเขา้ ไปเรียนรู้ปฏิบตั ิจริงกบั ครูภูมิปัญญา 3. ใบความรู้ 4. การพบกล่มุ ผเู้ รียน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น การละเล่นดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลมุ 7 การวดั ผลประเมนิ ผลการเรียน หลกั สูตร วธิ ีการวดั และประเมินผลการเรียน ประกอบดว้ ย 1. การสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ / การรับรู้ / การมีส่วนร่วม 2. การสงั เกตการปฏิบตั ิจริงในการเรียนรู้กบั ครูภูมิปัญญา 3. ใบงาน/กิจกรรมของการเรียนรู้ ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับ หลกั สูตร 1. ผเู้ รียนมีความรู้และความเขา้ ใจในการละเล่นดนตรีมงั คละ 2. ผเู้ รียนมีการพฒั นาทกั ษะในการละเลน่ ดนตรีมงั คละ 3. ผเู้ รียนมีความรักและร่วมกนั อนุรักษใ์ นวฒั นธรรมพ้ืนบา้ น 4. ผเู้ รียนร่วมกนั สืบทอดภมู ิปัญญาทางดา้ นการละเลน่ ดนตรีมงั คละ โครงสร้างเนื้อหาของหลกั สูตร ประกอบด้วยเนื้อหา 7 เร่ือง ดงั นี้ หลกั สูตร เร่ืองท่ี 1 ประวตั ิและการสืบทอดดนตรีมงั คละตาบลบา้ นหลมุ จานวน 3 ชว่ั โมง เรื่องท่ี 2 ประวตั ิการละเล่นมงั คละพ้ืนบา้ นสุโขทยั จานวน 3 ชวั่ โมง เรื่องที่ 3 เครื่องดนตรีมงั คละ จานวน 3 ชว่ั โมง เร่ืองที่ 4 จงั หวะการตีมงั คละ จานวน 27 ชวั่ โมง เร่ืองที่ 5 การประยกุ ตท์ ่ารากบั ดนตรีมงั คละ จานวน 6 ชว่ั โมง เร่ืองที่ 6 ข้นั ตอนการบรรเลง จานวน 3 ชว่ั โมง เรื่องที่ 7 การไหวค้ รูดนตรีมงั คละ จานวน 3 ชวั่ โมง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น การละเลน่ ดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 8 ประวตั ิและการสืบทอดดนตรีมงั คละตาบลบ้านหลมุ วงมงั คละตาบลบา้ นหลุมเริ่มก่อต้งั วงโดย พอ่ แก่ดดั ไกรบุตร เม่ือประมาณ 100 ปี กวา่ มาแลว้ โดยมีลูกศิษย์ 2 รุ่นดว้ ยกนั ลกู ศิษยร์ ุ่นแรก ประกอบดว้ ย 1.นายสม สารทเทศ 2.นายปลูก เท่ียงมณี 3.นายแป้น จรแจ่ม 4.นายแบน 5.นายแมน้ เพง็ เปรม 6.นายเป่ี ยม ไกรบตุ ร 7.นายเพยี น 8.นางจรูญ กอ้ นเกตุ 9.นายเต๋ียว ชูยมิ้ ลกู ศิษยร์ ุ่นที่สอง ประกอบดว้ ย 1.นายจวน ไกรบุตร 2.นายดารง ศรีม่วง 3.นายอารีย์ ไกรบุตร 4.นายจุน คมุ้ มี 5.นายสุชาติ พฒุ เพง็ 6.นายผอ่ ง นาคปาน 7.นายประเทือง ทองเป้า 8.นายบรรจง กอ้ นเกตุ เม่ือพอ่ แก่ดดั ไกรบุตร เสียชีวติ วงมงั คละจึงไม่มีใครสืบสานการละเล่นมงั คละตอ่ และต่อมา ท่านพระครูสิริธรรมโสภิต (หลวงพอ่ เล่ือน ธมฺมธโร/ไกรบตุ ร) เจา้ อาวาสวดั ศรีมหาโพธ์ิ ตาบลบา้ นหลุม อาเภอเมือง จงั หวดั สุโขทยั ไดเ้ ป็นผอู้ นุรักษเ์ ก็บรวบรวมเคร่ืองดนตรีมงั คละไวใ้ นวดั ศรีมหาโพธ์ิ และ ทา่ นไดใ้ หล้ กู ศิษยท์ ่านมาฟ้ื นฟฝู ึกวงมงั คละข้นึ มาใหม่ โดยใหน้ ายดารง ศรีม่วง เป็นผูน้ าฟ้ื นฟูในการตี มงั คละข้ึนมาใหมแ่ ละเป็นการอนุรักษภ์ มู ิปัญญาทางดา้ นดนตรีของตาบลบา้ นหลมุ สืบต่อไป ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น การละเล่นดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลมุ 9 การสืบทอดดนตรีมงั คละมีลกั ษณะ เป็นวฒั นธรรมที่สืบทอดต่อกนั ภายใน ครอบครัวและกลุม่ บา้ น ที่อาศยั อยรู่ วมกนั ที่ มีดนตรีมงั คละ ผสู้ นใจจะตอ้ งมีความชอบ ความใกลช้ ิด ไดย้ นิ ไดฟ้ ังอยเู่ ป็นประจา การ ถา่ ยทอดเป็นลกั ษณะการบอกปาก เปล่าและการใชค้ วามจา จากน้นั ก็ฝึกตีให้ เกิดความชานาญ ซ่ึงเยาวชนรุ่น ใหมไ่ มค่ อ่ ย ใหค้ วามสนใจนกั เนื่องจากไดร้ ับอิทธิพล จากดนตรีอื่นที่งา่ ยกวา่ เขา้ มาสัมพนั ธ์กบั วถิ ี ชีวติ ปัจจุบนั ตอ่ มามีหน่วยงานต่างๆใหค้ วามสาคญั ในการละเลน่ มงั คละของตาบลบา้ นหลุมและไดน้ าเยาวชนเขา้ มาฝึกการตีมงั คละดงั น้ี 1.โครงการวดั วิถีพุทธเฉลิมพระเกียรติ วดั ศรีมหาโพธ์ิ ตาบลบา้ นหลุม โดยการนาของพระ อาจารยอ์ ุดมศกั ด์ิ อุตฺตมชาโต (ชูยมิ้ ) และ พระอาจารยพ์ ร ธนพโล (อ่วมบุญ) ไดเ้ ห็นความสาคญั ของ การละเลน่ มงั คละ โดยไดน้ าคณะพทุ ธอาสาท้งั ชายและหญิง ประมาณ 30 คน เขา้ มาฝึก โดยเชิญ นาย ดารง ศรีม่วง ภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่นทางดา้ นดนตรีโดยเฉพาะการละเล่นมงั คละ เขา้ มาเป็นครูภมู ิปัญญาในการ สอนคร้ังน้ี 2.โรงเรียนศรีมหาโพธ์ิ ตาบลบา้ นหลมุ ไดเ้ ชิญ นายดารง ศรีม่วง ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ินทางดา้ น ดนตรีโดยเฉพาะการละเลน่ มงั คละ เขา้ มาเป็นครูภมู ิปัญญาในการสอน 3.โรงเรียนบา้ นกระชง ตาบลบา้ นหลมุ ไดเ้ ชิญ นายดารง ศรีมว่ ง ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่นทางดา้ นดนตรี โดยเฉพาะการละเล่นมงั คละ เขา้ มาเป็นครูภมู ิปัญญาในการสอน 4.โรงเรียนอนุบาลจงั หวดั สุโขทยั ไดเ้ ชิญ นายดารง ศรีม่วง ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินทางดา้ นดนตรี โดยเฉพาะการละเล่นมงั คละ เขา้ มาเป็นครูภูมิปัญญาในการสอน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน การละเล่นดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 10 ประวตั ิการละเล่นมงั คละพ้ืนบา้ นสุโขทยั มงั คละ หมายถึง มงคล หรืองานท่ีเจริญกา้ วหนา้ มงั คละจึงเป็นดนตรีที่เป็นมงคล ในศิลา จารึกหลกั ที่ 1 ที่วา่ \"ทา้ วหวั ราน คาบง คากลอง ดว้ ยเสียงพาทยเ์ สียงพิณ เลื่อนขบั \" คาวา่ คาบง คากลอง เป็น คาโบราณท่ีมีใชต้ ้งั แต่สมยั กรุงสุโขทยั แปลวา่ การประโคม ดงั น้นั คาวา่ คาบง คากลอง จึงหมายถึงการตี กลองหรือประโคมกลองท่ีขึงดว้ ยหนงั กลองมงั คละเป็นดนตรีในลงั กา ที่ใชแ้ สดงในพิธีมงคลทุกอยา่ ง เช่ือ วา่ กลองมงั คละน้ีเขา้ มาพร้อมๆ กบั พระพทุ ธศาสนาลทั ธิลงั กาวงศใ์ นสมยั กรุงสุโขทยั โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ใน สมยั พระยาลิไท ดงั น้นั มงั คละจึงมิใช่เป็นของใหมท่ ี่ชาวบา้ นคดิ ข้นึ เอง แต่เป็นดนตรีหลกั ท่ีกลบั กลายมาเป็น ดนตรีพ้ืนบา้ นของสุโขทยั เคร่ืองดนตรีที่ใชใ้ นการแสดงมงั คละน้นั มี กลองมงั คละ ชาวบา้ นเรียกวา่ \"โจ๊ก โกร๊ด\" ลกั ษณะเหมือนกลองยาวแต่มีขนาดเลก็ กวา้ งประมาณ 6 นิ้ว ไม่เกิน 7 นิ้ว สูงประมาณ 1 ฟุตเศษ หนา้ กลองขงึ ดว้ ยหนงั ลกั ษณะเหมือนกลองยาวเด็ก แต่การเจาะขดุ ในตวั กลองน้นั ทาเลก็ กวา่ กลองยาว เสียงจะดงั แหลม และเป็นตวั สาคญั ในการเลน่ มงั คละ นอกจากกลองมงั คละแลว้ กม็ ีกลองสองหนา้ อยู่ 2 ใบ ใบท่ีหน่ึง เป็นกลองที่ใชต้ ียนื อีกตวั หน่ึงเป็นกลองท่ีตีหลอน ชาวบา้ นเรียกวา่ จงั หวะขดั นอกจากน้ีก็มีโหม่ง 3 ใบ ฉาบ เลก็ หรือฉาบกรอ และฉาบใหญ่ เป็นเครื่องใหจ้ งั หวะในการเล่นมงั คละ มงั คละพ้นื บา้ นน้นั ใชผ้ บู้ รรเลง 7 คน ส่วนผแู้ สดงท้งั ชายและหญิงไม่ต่ากวา่ 5 คนรวมแลว้ ประมาณ 20 คน การแตง่ กายฝ่ายชายนุ่งโจงกระเบน สวมเส้ือคอกลม คาดเอวดว้ ยผา้ สีสนั สดใส บางรายกป็ ระแป้ง แต่งหนา้ ส่วนฝ่ายหญิงน้นั นิยมนุ่งโจงกระเบน ห่มผา้ แถบ แตง่ หนา้ แตง่ ผมใหส้ วยงาม เวลาท่ีใชใ้ นการแสดงประมาณ 1 ชวั่ โมง เพลงที่ใชบ้ รรเลงมีหลาย เพลง มีทา่ ราท่ีสวยงามและแปลกประหลาด เช่น ท่ากวางเหลียวหลงั ท่าแมห่ มา้ ยทิง้ แป้ง ท่าลิงอมุ้ แตง ฯลฯ คนดูเห็นแลว้ ก็ชอบใจ เพราะ เป็นท่าที่พ่อครู แมค่ รูไดป้ ระดิษฐท์ า่ รามาจนชานิชานาญสืบทอดมาถึงลกู หลาน ปัจจุบนั ไดม้ ีหน่วยงานต่าง ๆ เห็นความสาคญั ของการแสดงพ้นื บา้ นของจงั หวดั สุโขทยั โดยเฉพาะสถานีโทรทศั น์ตา่ ง ๆไดม้ าถ่ายทา วิดีทศั น์ นาไปประชาสมั พนั ธ์เผยแพร่ทวั่ ประเทศ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน การละเลน่ ดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลมุ 11 เครื่องดนตรีมงั คละ ลกั ษณะของเคร่ืองดนตรีมังคละ คาวา่ มงั คละ เป็นช่ือเครื่องดนตรีชนิดหน่ึงซ่ึงมีเสียงดงั โกร๊ก ๆ มีลกั ษณะเด่นกวา่ เครื่องดนตรี ชนิดอ่ืน ๆ จึงใชเ้ ป็นช่ือเรียก วงดนตรีน้ีวา่ มงั คละ สมเด็จเจา้ ฟ้ากรมพระยานริศรานุวตั ติวงศ์ กล่าววา่ เครื่องมงั คละน้ีเป็นเครื่องเบญจดุริยางคแ์ ท้ ซ่ึง ประกอบดว้ ยเคร่ืองดนตรี ๕ ชนิด ดงั น้ี ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน การละเลน่ ดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 12 กลองมงั คละ ๑. กลองมังคละ เป็นเคร่ืองดนตรีชิ้นเอกของวง มีขนาดเลก็ หนา้ กลองหุม้ ดว้ ยหนงั ขนาด เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางประมาณ ๕ - ๖ นิ้ว ยาวประมาณ ๑ ฟุต ส่วนมากทาจากไมข้ นุน หนา้ ตดั อีกดา้ นหน่ึง เจาะรูขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง ๑ นิ้ว ไวต้ รงกลาง เวลาตีใชต้ ีดว้ ยหวาย ๒ อนั หวายแต่ละอนั มีขนาดยาว ประมาณ ๑๗ นิ้ว ปลายหวายพนั เอาไวด้ ว้ ยเชือกเมื่อตีจะเกิดเสียงดงั โกร๊ก ๆ บางทอ้ งถ่ินเรียกกลองมงั คละ วา่ โกรก หรือมงั คโละ การบรรเลงมงั คละจะใชค้ น ๒ คน คนหน่ึงเป็นผถู้ ือลองคอยราร่ายป้อไปมา อีกคนหน่ึงถือหวาย ขา้ งละมือเดินตีกลองรัวตามไป เสียงของกลองมงั คละดงั ชดั เจนกวา่ เครื่องดนตรีชนิดอื่น ๆ ในวงมงั คละ คนที่ตีกต็ อ้ งแสดงออกดว้ ย ท่าทางและลีลา ตามแบบศิลปพ้ืนบา้ น คลา้ ยกบั วงกลองพ้ืนเมือง ทว่ั ไป บทบาทและหนา้ ท่ีของกลองมงั คละน้ีโดดเด่นมาก มีสุ้มเสียงเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั เสียงดงั โกร๊ก ๆ ที่รัวละเอียด กระช้นั กระชบั ยว่ั เยา้ หยอกลอ้ กบั กลองยนื และกลองหลอน บางทีตีชดั บางช่วงก็ สอดแทรกเสริมสลบั คลอเคลา้ ไปกบั ทานองเพลงของท้งั วง ถือไดว้ า่ กลองมงั คละเป็นเครื่องดนตรีท่ีเพิ่มสีสนั และรสชาติใหก้ บั วงมงั คละอยา่ งแทจ้ ริง ถา้ จะเปรียบเทียบกลองชนิดน้ีกบั วงกลองพาเหรดของตะวนั ตก กลองมงั คละก็จะทาหนา้ ที่คลา้ ย กลองแต๊ก (Snare Drum) ที่คอยตีขดั กบั กลองใหญ่ (Bass Drum) นนั่ เอง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น การละเลน่ ดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลมุ 13 กลองสองหน้า 2. กลองสองหน้า เป็นกลองขนาดใหญ่หุม้ ดว้ ยหนงั สองหนา้ มีลกั ษณะคลา้ ยกลองมลายหู รือกลอง แขกมีสายสะพายคลอ้ งคอ หนา้ กลองมีขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางประมาณ ๑๐ นิ้ว ใชต้ ีดว้ ยไมย้ าวประมาณ ๗ นิ้ว ดา้ นหลงั มีเส้นผา่ ศูนยก์ ลางประมาณ ๗ นิ้ว ตีดว้ ยมือ มงั คละแตล่ ะวงจะมีกลอง ๒ หนา้ สองชนิด กลองสองหน้าแบ่งออกเป็ น ๒ ชนดิ คือ ๒.๑ กลองยืน กลองชนิดน้ีทาหนา้ ท่ียนื หนา้ ทบั หลงั หนา้ เลก็ (หนา้ มดั ) ใชม้ ือตี (ปะ) ส่วนหนา้ ใหญ่ (หนา้ ร่าย) ใชไ้ มต้ ี (เทง่ ) เพลงตา่ ง ๆ ของมงั คละจะสังเกตไดจ้ ากกลองยนื ซ่ึงเป็นหลกั ในการกาหนด วา่ จะเลน่ เพลงอะไรจึงถือไดว้ า่ กลองยนื เป็นหวั ใจของวงมงั คละโดยแท้ ๒.๒ กลองหลอน หรือกลองหล่อน เป็นกลองท่ีใชเ้ ล่นเหมือนกลองยนื แต่จะตีขดั เสริมทานอง กลอง มิใหจ้ งั หวะหนา้ ทบั ห่างจนเกินไป ทาใหเ้ กิดเสียงสูง-ต่าคู่กนั ทาหนา้ ท่ียว่ั เยา้ เคลา้ คลอไปกบั กลองยนื อยา่ งน่าฟัง หนา้ เลก็ (หนา้ มดั ) ใช้มือตี (โจ๊ะ) หนา้ ใหญ่ (หนา้ ร่าย) ใชไ้ มต้ ี (ติง) หลอกลอ่ หรือลอ้ เลียน จงั หวะในวงทาใหค้ รึกคร้ืนสนุกสนานยง่ิ ข้นึ ถา้ เปรียบเทียบกบั กลองแขกของวงป่ี พาทยแ์ ลว้ กลองหลอนกค็ อื กลองตวั ผู้ ส่วนกลองยนื ก็คือ กลองตัวเมีย นนั่ เอง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน การละเล่นดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 14 ฆ้อง ๓. ฆ้อง ในวงดนตรีมงั คละมีฆอ้ งแขวนคานหาม ๓ ใบ คดั เลือกใหม้ ีขนาดและเสียงลดหลน่ั แตกต่างกนั ออกไปฆอ้ งท่ีแขวนอยบู่ นคานหามส่วนท่ีอยหู่ นา้ สุดจะเป็นฆอ้ งใบเลก็ สุดเรียกวา่ เหม่งหนา้ ใช้ เป็นเคร่ืองดนตรีนาวงก่อนจะบรรเลงกจ็ ะตีเหม่งหนา้ ๓ คร้ังจึงจะเริ่มรัวกลองมงั คละ นอกจากน้ียงั ใชร้ ัว จงั หวะเพอ่ื แจง้ การเปลี่ยนแปลงเพลงและใชต้ ียนื จงั หวะ ตลอดการเลน่ ส่วนฆอ้ งอีก ๒ ใบ มีขนาดเทา่ กนั เรียกวา่ ฆ้องโหม่ง ฆ้องคู่ หรือ ฆ้องหลงั แขวนไวบ้ นคาน หามคูก่ นั คนละขา้ งใชไ้ มต้ ีเพื่อใหจ้ งั หวะ ขา้ งละ ๑ คร้ังสลบั กนั ไป การเลือกฆอ้ งเหม่ง และโหมง่ จะตอ้ งใชค้ วามพิถีพิถนั อยา่ งมาก เลือกใหไ้ ดเ้ สียงสูง ต่า ตามท่ี ตอ้ งการเมื่อตียนื จงั หวะแลว้ ใหฟ้ ังดูกลมกลืนไปกบั เสียงของเครื่องดนตรีท้งั วง จึงจะถือไดว้ า่ เป็นเสียงฆอ้ ง ท่ีดี ข้อสังเกต คานหามท่ีใชแ้ ขวนฆอ้ งท้งั ๓ ใบ จะมีการประดิษฐ์ตกแต่งคานหามเป็นรูปสตั วต์ า่ ง ๆ เช่น รูป พญานาคบา้ ง รูปพญาหงส์บา้ ง รูปจระเข้ รูปปลา หรือรูปเทวดา เป็นตน้ นอกจากน้ียงั มีการลงรัก ปิ ดทอง เพ่ือความสวยงามแสดงใหเ้ ห็นถึงความเป็น ช่างประดิษฐข์ องคนพ้ืนบา้ นซ่ึงแตกตา่ งจากเครื่อง ดนตรีพ้ืนบา้ นในทอ้ งถิ่นอื่น ๆ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น การละเลน่ ดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 15 ปี่ ๔. ปี่ เป็นเคร่ืองดนตรีชนิดเดียวท่ีทาหนา้ ที่บรรเลงทานองวงมงั คละ ปี่ ที่นิยมใชก้ นั ทว่ั ไปเป็นป่ี พ้นื เมือง มีลกั ษณะ คลา้ ยปี่ จีน เลาปี่ มีลกั ษณะเป็นขอ้ ๆ ส่วนลิ้นปี่ มีลกั ษณะคลา้ ยปี่ ชวา หรือป่ี แน บางวงที่เห็นใชป้ ี่ นอกก็มี เสียงของปี่ เป็นเสียงท่ีเร้าใจ จะดงั เจิดจา้ แจ่มใสและมีเสียงดงั พอที่จะตอ้ งประชนั กบั กลองท้งั วงได้ ส่วนทานองเพลงของป่ี ใชท้ านองเพลงไทยบา้ ง เพลงพ้ืนบา้ นบา้ ง แตส่ ่วนใหญจ่ ะเป่ าระบายลมดน้ ทานองเคลา้ คลอไปใหเ้ ขา้ กบั เพลงแม่ไมต้ า่ ง ๆ ของวงมงั คละ ทานองจึงไม่สลบั ซบั ซอ้ นมากนกั ฟังดูคุน้ คลา้ ยกบั ปี่ ในวงกลองยาว มีลกั ษณะการเป่ าดน้ ไปเร่ือย ๆ ซ่ึงแสดงถึงความเป็นดนตรีพ้ืนบา้ นในทอ้ งถิ่น เพลงที่นิยมเล่นจะแตกตา่ งกนั ไปตามสภาพของงานที่เป็นงานมงคล หรืองานอวมงคล ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน การละเล่นดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 16 ฉิ่ง ฉาบ ๕. ฉิ่ง ฉาบ เป็นเคร่ืองกากบั จงั หวะ บางคร้ังใชก้ รับนามาร่วมบรรเลงในวงได้ เครื่องดนตรีเหล่าน้ี จะทาหนา้ ท่ีเสริมใหฟ้ ังดูแลว้ มีจงั หวะจะโคนที่หนกั แน่น ครึกคร้ืนสนุกสนานยง่ิ ข้ึน ฉาบมี ๒ คู่ คือ ฉาบล่อ เป็นฉาบขนาดกลางใชต้ ีเพอื่ เสริมลีลาของผเู้ ลน่ ใหเ้ กิดความสนุกสนาน และ ฉาบใหญ่ เรียกวา่ ฉาบยืนจงั หวะในวงมงั คละ เคร่ืองดนตรีมงั คละในแตล่ ะวง จะใชผ้ เู้ ลน่ ต้งั แต่ ๘ - ๑๒ คน ส่วนใหญเ่ ป็นผชู้ ายลว้ นอายุ ๑๖ ปี ข้ึนไปจนถึง ๘๐ ปี บางคณะก็มีผหู้ ญิงตีกลอง และแสดงท่าราดว้ ย ปัจจุบนั ผเู้ ลน่ ดนตรีมงั คละเป็นเด็กวยั รุ่นอายตุ ้งั แต่ ๑๒ -๒๔ ปี ส่วนใหญเ่ ป็นลูกหลานของคณะ ดนตรีในแต่ละคณะ เดก็ ๆ เหล่าน้ีใชเ้ วลาวา่ งจากการงานมาฝึกซอ้ มกนั เพือ่ จะใชแ้ สดงในงานบญุ ต่าง ๆ เช่น ทอดผา้ ป่ า ทอดกฐิน สงกรานต์ และงานร่ืนเริงต่าง ๆ โรงเรียนประถมศึกษาบางแห่ง ไดม้ ีการต้งั คณะยวุ มงั คละ ข้นึ ในโรงเรียนของตนแสดงใหเ้ ห็นวา่ ดนตรีมงั คละยงั คงเป็นศิลปะพ้ืนบา้ นท่ีจะอยคู่ ูเ่ มือง พษิ ณุโลกต่อไป ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน การละเลน่ ดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 17 จังหวะการตมี งั คละ 1.ท่าไม้หนง่ึ กลองมังคละ กลองยืน จุ๊บ จง เทง่ จง กลองหลอน ตึด ป๊ ะ ติง เท่ง ตึด ป๊ ะ ติง หนึด เทง่ ตึด ตึง ป๊ ะ ติง เท่ง ตึด 2.ท่าไม้สอง กลองมังคละ กลองยืน จุ๊บ จง เทง่ ติง เทง่ กลองหลอน ป๊ ะ ติง หนึด เทง่ ติง เทง่ ตึด ตึด เท่ง ติง เท่ง ติง ตะ๊ ติง เทง่ ติง เท่ง 3.ท่าไม้สาม กลองมงั คละ กลองยืน จุ๊บ จง เทง่ จง จุ๊บ จง เท่ง ติง เทง่ กลองหลอน ป๊ ะ ติง หนึด เทง่ ตึด ตึง ป๊ ะ ติง เทง่ ตึด ติง หนึด เทง่ ตึง หนึด ตึด ป๊ ะ ติง เทง่ ตึด ติง ป๊ ะ ติง เท่ง ตึด 4.ท่าไม้สี่ กลองมงั คละ กลองยืน จุบ๊ จง เทง่ ติง เท่ง จง ป๊ ะ ติง เทง่ จง กลองหลอน ป๊ ะ ติง หนึด เทง่ ติง เท่ง ตึด ป๊ ะ ตึง เทง่ ตึด ป๊ ะ ติง หนึด เท่ง ติง หนึด ตึด ป๊ ะ ติง เทง่ ตึด ติง ป๊ ะ ติง เทง่ ตึด ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน การละเล่นดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 18 5.ท่าไม้ห้า กลองมงั คละ กลองยืน จุ๊บ จง เท่ง ติง เทง่ จง ป๊ ะ ติง เท่ง จง เทง่ จง เท่ง จง เท่ง ติง เทง่ จุ๊บ จง กลองหลอน ป๊ ะ ติง หนึด เทง่ ติง เทง่ ตึด ป๊ ะ ติง เทง่ ตึด เทง่ ตึด เทง่ ตึง ป๊ ะ ติง เทง่ ตึด ตึด 6.ท่าไม้หก จุบ๊ จง จงเท่ง จงเท่ง จง จง จุบ๊ จง เท่ง กลองมังคละ จง เทิด เทิง้ จงจง กลองยืน ป๊ ะ ติง หนึด ตึด เท่ง ติง เทง่ ตึด ตึด ตึด ป๊ ะ ติง เทง่ ตึด ติง เท่ง ตึด ตึด กลองหลอน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน การละเลน่ ดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 19 การประยุกต์ท่ารากบั ดนตรีมงั คละ การเลน่ ดนตรีมงั คละ แตเ่ ดิมน้นั บรรเลงอยา่ งเดียว ใชบ้ รรเลงในเวลาแห่นาคเขา้ วดั งานทอดผา้ ป่ า งานสงกรานต์ งานทอดกฐิน เป็นตน้ เพลงท่ีบรรเลง ชาวบา้ นกเ็ ป็นผคู้ ิดจงั หวะและต้งั ชื่อเอง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน การละเล่นดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 20 ข้นั ตอนการบรรเลง 1.ไหวค้ รู 2.บรรเลงเพลงไมส้ ่ี (นกั ดนตรี มงั คละถือวา่ เป็นเพลงครู) 3.บรรเลงเพลงตามความถนดั ไป เรื่อย ๆ 4.จบการบรรเลงดว้ ยเพลงไมส้ ่ี เพ่อื เป็นสิริมงคล วิธีการบรรเลงแต่ละเพลงมี ลกั ษณะเฉพาะ ดงั นี้ 1.เร่ิมบรรเลงข้นึ ตน้ ดว้ ยการตีรัว กลองมงั คละ 2.ปี่ เป่ าทานองรัวโหนเสียงไปกบั กลองมงั คละ 3.กลองยนื ตีนาข้นึ เพลงเป็นไม้ กลองเพ่อื บอกใหน้ กั ดนตรีในวงตีตามใน เพลงน้นั ๆ 4.เคร่ืองดนตรีอ่ืนๆ จึงตีตาม พร้อมกนั ท้งั วง 5.ลงจบดว้ ยการตีรัวกลองมงั คละ พร้อมท้งั ปี่ เป่ ารัวเพื่อเป็นสัญญาณในการลง จบเพลงในจงั หวะ สุดทา้ ยอยา่ งพร้อมเพรียง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน การละเล่นดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลุม 21 การไหว้ครูดนตรีมงั คละ การเรียนวิชาใด ๆ ก็ตาม คนไทยใหค้ วามเคารพครูบาอาจารยเ์ สมอ จึงมีวนั ไหวค้ รูเกิดข้ึน โดย กาหนดใหว้ นั พฤหสั บดีเป็นวนั ไหวค้ รู การไหวค้ รูมงั คละก็เช่นกนั จะกาหนดวนั พฤหสั ดี ขา้ งข้นึ เดือน ๖ เป็นวนั ไหวค้ รูมงั คละทุกปี เครื่องเซ่นไหว้ครูมังคละ ประด้วย บายศรี ๒ สารับ เครื่องกระยาบวช เช่น หวั หมู ไก่ ไข่ สุรา ขา้ วสุกและกบั ขา้ ว ขนมตม้ ขนม บวั ลอย ขา้ วเหนียวแดง ขา้ วเหนียวขาว มะพร้าวอ่อน กลว้ ย ขนุน ผลไม้ หมากพลู และยา เป็นตน้ บริเวณพธิ ี นาเคร่ืองดนตรีมงั คละมาจดั วางไวบ้ นโต๊ะ แวดลอ้ มดว้ ยเครื่องบชู าขา้ งตน้ ก่อนเริ่มพธิ ีไหวค้ รู จะมีการบูชาพระก่อน แลว้ จึงถวายขา้ วพระ ลาขา้ วพระเป็นลาดบั ต่อจากน้นั จึงจุดธูป ๙ ดอก เทียน ๙ เลม่ ปักไวท้ ่ีเคร่ืองบูชา แลว้ จึงกล่าวคาไหวค้ รูดงั น้ี แบบไหว้ครูมังคละ ใหช้ ุมนุมเทวดาก่อน ใหเ้ พลงสาธุการ มีคาบชู าครูดงั น้ี พระเพชรฉลูกนั พระวษิ ณุกรรม พระประโคนธรรพ ขอคานบั ถวาย สักการบชู า อนุรักษ์ คนั ตุ บริบนู วนั ตุฯ แบบไหว้ครู - อุกาสะวนั ทิตวา ขา้ พเจา้ จะขออญั เชิญพระวิษณุกรรม และพระเพชรฉลูกนั ท้งั เทพบตุ รท้งั สี่ กบั ท้งั พระมหาฤาษที ้งั สี่พระองค์ จงมาสโมสรประชุมในสถานท่ีน้ี (กราบ) - วนั น้ีกเ็ ป็นวนั ดี ขอใหเ้ จริญศรีสุขสวสั ด์ิ ขา้ พเจา้ ต้งั ใจปฏิพทั ธน์ มสั การพระชินสีห์ พระชนกกฎุ ี คุณพระพระปกเกลา้ เกศีทกุ ค่าเชา้ เพรางาย ขา้ พเจา้ ขอไหวพ้ ระอิศวร ขา้ พเจา้ ขอไหวพ้ ระนารายณ์ ขา้ พเจา้ ขอไหวเ้ ทวดาท้งั หลาย ขา้ พเจา้ ขอไหวพ้ ระคณุ บิดามารดา คณุ ครู จงรักษาใหอ้ ยเู่ ป็นสุข (กราบ 1) - นโมขา้ ขอนมสั การขา้ พเจา้ ขอกราบกราน ไหวเ้ ทพไทท้งั ๓ พระองค์ พระวิษณุกรรมผทู้ รง ประสิทธ์ิประสาทสรรค์ เครื่องเล่นสารพนั ในใตห้ ลา้ อีกท้งั เทวดาปัญจสิงขรณ์ ท่านทา้ วกางพระกร ท่าน ทา้ วถือพณิ ดีดดงั เสนาะสนน่ั อีกท้งั ท่านพระประโคนธรรพ และครูเฒ่าครูท้งั นนั่ เลา่ สืบ ๆ กนั มา ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั

หลกั สูตรภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น การละเล่นดนตรีมงั คละ กศน.ตาบลบา้ นหลมุ 22 จนถึงทกุ วนั น้ี ขา้ พเจา้ ขออญั ชุลี ขอเชิญพระฤาษที ้งั เจ็ดตน จงมาอวยพรในการมงคล ใหแ้ ก่ขา้ พเจา้ พร้อม ท้งั ของน้ี (กราบ ๑ แลว้ เปิ ดเครื่องสงั เวย) - ศรีสิทธิฤทธิเดโชชยั เดชะพระเลิศไกร ประสิทธ์ิดว้ ยพรมงคล ขา้ พเจา้ ขอเชิญเทวดาทุกสถาน เบ้ืองบน มาสถิตแห่งสากลกนั เสนียดและจญั ไร สรรพทกุ ข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภยั อปุ ัทวนั ตราย อยา่ ไดม้ ีมา วินาศสนั ติ อิมสั มิง อะหงั วนั ทามิ อาจาริยงั ประพาสายงั วินาศสันติ สิทธิการ ประระประชา ตสั มิงสิทธิ พระวะตสุ ับ (กราบ ๑) ถวายครูว่าดงั นี้ สรรพประโคนธรรพ ปะเทวิมสั มิงทิสามาเค สันติเทวา มะหิตทิกาเตตุ ตมุ หิ อะนุรักคนั ตุ ปะริพูนยนั ตุ (ทุติ, ตะติ ๓ หน) (กราบ ๑ ที) - อกุ าสะ ขา้ พเจา้ ขอประสิทธ์ิเคร่ืองพณิ ดีดสีตีเป่ า ขบั ร้องฟ้อนรา สิทธิธงั สิทธิกามงั สิทธิการิยะ ตะถาระคะโต สิทธิการิยะ ตะถาระคะโต สิทธิเตโช ชยั โยนิจจงั สิทธิลาภงั พระวนั ตเุ ต - ปัตติ ๆ บชู า คนั ทพั พระนาคา เวสสุกรรม ปัญจสิงขร เทวาสมั บชู าเย (กราบ ๓ ที) (เซ่นเหลา้ ) ลาครูไหว้ดงั นี้ - สรรพประโคนธรรพ สรรพปะโคนธา มหาเดชะ อิมสั มิง อดั ทะราเค เทวาพระลายนั ตุฯ (ทุติ, ตะติ ๓ หน) (กราบ ๓ หน) หมดพิธี เม่ือเสร็จพธิ ีไหวค้ รูแลว้ กน็ าเคร่ืองบชู าเหลา่ น้นั มารับประทาน แลว้ ก็เล้ียงขา้ วปลาอาหารกนั และ อาจจะมีการบรรเลงเพลงมงั คละเพอ่ื ความสนุกสนานร่ืนเริงดว้ ย เป็นท่ีน่าสงั เกตวา่ บทไหวค้ รู จะกล่าวถึงเทพทางวิชาดนตรี ครูผสู้ ืบทอดวิชา และสงั่ สอนต่อ ๆ กนั มาไมว่ า่ จะเป็นครูประเภทครูแนะนา ครูสั่งครูสอน ครูท่ีช่วยตอ่ กลอน ต่อสติ ตอ่ ปัญญาใหแ้ ก่ศิษยจ์ ะ อญั เชิญมารับการสักการบูชาท้งั หมด เช่น ครูทอง ครูไทย ป่ ูกาล หลวงตาง่วน ลุงเส้ง เขียวเอี่ยม เป็นตน้ น่ีคอื ความกตญั ญทู ี่แฝงอยใู่ นศิลปการ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองสุโขทยั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook