Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore TukDubTuk

Description: TukDubTuk

Search

Read the Text Version

ทุกข์ มคี นสรรเสรญิ ก็จะคกู่ ับการนินทา ดงั นนั้ ลาภ ยศ สรรเสรญิ สขุ จะควบคู่ กบั เส่อื มลาภ เสื่อมยศ นนิ ทา ทุกข์ เรามัว แต่ไปชื่นชมยินดีอยู่ จิตของเราไม่หนักแน่น มีสงิ่ เลวรา้ ยมากระทบ เราก็หว่นั ไหว เรากด็ ู ไม่ทนั ฉะนน้ั วิธีฝึกดู ทา่ นให้ดูทัง้ ๒ อยา่ ง เพราะว่ายนิ ดเี ปน็ สาเหตทุ ำ�ให้เราพอใจ ท�ำ ให้ เราอยากได้ ท�ำ ใหเ้ ราครอบครอง ท�ำ ใหเ้ ราเปน็ เจา้ ของ พอเราเข้าไปครอบครองเป็นเจ้าของ ขน้ึ มา ตอนนน้ี แ่ี หละ ใครจะมาแตะตอ้ งไมไ่ ดแ้ ลว้ แต่ถ้าเราระวังตัวยินดีได้ เราก็จะไม่ไปผูกพัน ในอะไรๆ ใครจะมาแตะต้องเราก็ไมเ่ กีย่ วแลว้ คราวน้ี วธิ กี ารท�ำ ใจให้หนกั แน่น ต้อง อาศัยสติสัมปชัญญะ ต้องฝึกเจริญสติบ่อยๆ ฝึกสังเกตจิตบ่อยๆ ฝึกดูจิตบ่อยๆ รู้เท่าทัน พระอาจารย์มานพ อุปสโม 50

จิตบ่อยๆ เม่อื เรารู้เท่าทนั จิตอยู่บอ่ ยๆ แลว้ ตอ่ ไปจติ คิดอะไร เราดูทันหมด เวลาดจู ิตทัน จริงๆ จิตที่เราดูน้ันได้ดับไปแล้ว จิตตัวใหม่ ก็ไม่เกิดข้ึนตามมา ถ้าเราไม่ดู ก็จะดำ�ริถึง อารมณเ์ กา่ แลว้ ความรู้สึกใหมๆ่ จะเกิดตาม มาเร่อื ยๆ แลว้ ก็เกิดตลอด เห็นไหมเวลาที่เราโกรธไม่หยุด เรา เสยี ใจไมห่ ยดุ อยา่ งนี้ เราเศรา้ ใจ การทเี่ ราเศรา้ ใจไมห่ ยดุ อยา่ งนี้ เพราะเราดไู มท่ นั ถา้ เราดใู จ ทัน เราจะเห็นใจน้ันเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ใจนั้น ไม่ใช่เสยี ใจอยา่ งเดียว เปลีย่ นไปเป็นอย่างอน่ื ไปรอู้ ยา่ งอื่นด้วย ถา้ เราไปตามดูเราจะเหน็ ใจ นนั้ เปลยี่ น พอเหน็ ใจเปลยี่ น กเ็ ลยไมผ่ กู พนั ใน สิง่ ทท่ี ำ�ใหเ้ ราสะเทือนใจ เป็นทุกข์ ไปดูบอ่ ยๆ แล้ว เราก็จะเหน็ ใจเปล่ียนแปลง จุดมุ่งหมาย 51 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

ของการดใู จกค็ อื เหน็ ใจเปลย่ี นแปลง ไมย่ ดึ ถอื ทุกข์ทางใจเลยไม่เกิด น้ีคือประเดน็ ที่สำ�คญั ค�ำ ถามท่ี ๓ : ผูท้ ฝ่ี กึ จติ ใหม่ๆ เอาใจดูใจท่ี เปน็ ทกุ ข์ ในเรอ่ื งทที่ กุ ขย์ งิ่ ใหญ่ ทำ�ใหถ้ กู ความ ทกุ ขน์ ั้นดดู เข้าไป ไมส่ ามารถปลอ่ ยวางไดเ้ ลย เจ้าคะ่ จะปฏบิ ตั อิ ย่างไรดี เจา้ คะ พระอาจารย์ : คอื เราดไู มถ่ กู ดใู จแตไ่ ม่ถูกใจ จงึ ไมห่ ายทุกข์ ดูใจต้องถกู ตวั ใจ จึงจะดบั ทุกข์ ได้ เม่อื มีคนมาต�ำ หนิเรา แลว้ เราทุกข์ ทุกข์ ใจเพราะเราถกู ต�ำ หนิตเิ ตียน ถ้าเราดู เราไม่ ไดด้ ใู จทเ่ี ปน็ ทกุ ข์ กเ็ ลยทกุ ขไ์ มห่ ยดุ ตอนเราดู เราไปดคู นทต่ี �ำ หนเิ รา เราไมไ่ ดด้ ใู จเรา พอเรา ไปดูคนท่ีตำ�หนิเรา เราเลยทุกขไ์ ม่หยดุ เรยี ก วา่ ทกุ ขน์ นั้ ดดู เขา้ ไป เกดิ อยเู่ รอื่ ยๆ เพราะเราดู พระอาจารยม์ านพ อปุ สโม 52

ไมถ่ กู ตวั ใจ ไมถ่ กู ความรสู้ กึ คนทที่ �ำ ใหเ้ ราทกุ ข์ อยขู่ ้างนอก ใจทุกขอ์ ยู่ข้างใน ดใู จทกุ ข์ตอ้ งดู ขา้ งใน แตเ่ ราไมด่ ขู า้ งใน เราสง่ ใจไปดขู า้ งนอก ไปดคู นน้ันตอ่ พอไปดูคนนั้นตอ่ ก็เลยทุกข์ตอ่ เขาเรียกว่าดูผิดตัว ถ้าดูถูกตัว ทุกข์ต้องดับ ถ้าดูผดิ ทุกขจ์ ะเกิดอยตู่ ลอด ค�ำ ถามท่ี ๔ : ท่ีพระอาจารย์ได้เทศน์วา่ การ ทเ่ี ราคดิ ถงึ ใคร กเ็ ป็นความทุกขท์ ใี่ จเรา แลว้ เราจะใชว้ ิธีใด ในการท่จี ะไม่คิดถึงเขา เพือ่ ให้ หายทกุ ข์ เจา้ คะ พระอาจารย์ : วธิ กี ารไมใ่ หค้ ดิ ถงึ เขา ถา้ เราไป มวั บงั คบั ใจจะคดิ ไมห่ ยดุ แตถ่ า้ เราตามสงั เกต ความคิดของเราไปเรื่อยๆ ก็จะหยุดคิดถึงไป เอง สงั เกตดจู ติ เปลย่ี น จติ ของเรานนั้ จะเปลย่ี น 53 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

ไปเร่อื ยๆ ตามดูจิตไปเร่อื ยๆ เราจะมองเห็น จติ นนั้ เปลย่ี น ไปรสู้ ง่ิ หนง่ึ แลว้ กเ็ ปลยี่ นไปรอู้ กี สิง่ หนง่ึ พอมองเหน็ จิตเปล่ียนไปเรื่อยๆ ก็เลย หยดุ คดิ ถึงเขา ถา้ เราไม่ดูจติ จติ ก็จะไปดูเขา ก็เลยคิดถึงเขาไม่หยุด การดูใจเป็นตัวห้ามท่ี ดที ี่สดุ เพราะดูใจต้องดูขา้ งใน ดเู ขาเปน็ การ ดขู า้ งนอก คดิ ถึงเขา เขาอยู่ขา้ งนอก สงั เกต ความรู้สึกข้างใน ก็เป็นการหยุดส่งใจไปข้าง นอก เรยี กว่าหยุดคดิ ถงึ เขาไปในตัวด้วย คำ�ถามที่ ๕ : เราสามารถใชห้ ลักของอานา ปานสติเพ่ือท่ีจะดำ�เนินการแก้ไขทุกข์น้ัน ได้ หรือไม่ เจา้ คะ พระอาจารย์ : คือแกว้ ธิ ีนี้ เรยี กว่า แกแ้ บบ กลบ การแกม้ อี ยู่ ๒ อยา่ ง คือแกแ้ บบกลบ พระอาจารยม์ านพ อปุ สโม 54

และแก้แบบถอน แก้แบบกลบน้ีเหมือนกับหินทับหญ้า หนิ ที่ทบั หญา้ ถา้ เราเอาหินไปทบั ไว้แล้วหญา้ ไม่งอก แต่พอยกหินออกมาเวลาใด หญ้าจะ ค่อยๆ งอกตามมาเวลาน้นั สมาธิจะเป็นการ กลบไว้ชวั่ ครั้งชัว่ คราว ท�ำ ให้เราหยุดคดิ เวลา จิตเป็นสมาธิเราก็หยุดคิด แต่เวลาที่เราไม่ได้ ทำ�สมาธเิ ราก็คิดตอ่ แต่ถ้าเราดูใจทัน อานุภาพของสติน้ัน จะไม่ทิ้งใจ จะคอยตามดูใจไปเร่ือยๆ จะยืน จะเดนิ จะนงั่ จะนอน จะทำ�อะไรก็ตามดูไป เรอื่ ยๆ ขณะทตี่ ามดใู จไปเรอื่ ยๆ ตรงนน้ี แี่ หละ จิตคิดถงึ จะคดิ ถึงเขาก็คดิ ได้ คิดถึงเขาทำ�ให้ ใจเราเป็นทกุ ข์ คิดถงึ ได้ สติตามไปดูทนั เห็น ความคิดตัวใหม่เปลี่ยนไป ก็ตามตัวใหม่ไป 55 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

เร่ือยๆ ตวั จติ น้ีจะเปลี่ยนไมห่ ยุด จติ จะไมน่ ง่ิ เวลาดูจิตเราไม่ได้ดูให้น่ิง ดูจิต เราต้องการ จะให้เห็นจิตเปล่ียนไม่หยุด เห็นจิตเปลี่ยนไป เรื่อยๆ แล้วจิตจะไม่ไปผูกติดกับอารมณ์ใด อารมณ์หน่งึ เพียงอารมณ์เดียว แต่ถ้าเราไม่ตามดูจิต เราเลยเข้าใจว่า จิตผูกติดกับเรื่องใดเร่ืองหนึ่งเพียงเร่ืองเดียว พอจติ หวนกลบั ไปหาเรอื่ งนนั้ เรากเ็ ลยสะเทอื น ใจ แต่พอจิตไปหาเร่ืองอน่ื เราไม่ตามดู พอ จติ หวนกลบั มาหาเรือ่ งนน้ั อกี เราก็สะเทือนใจ อกี แลว้ เรากส็ ะเทอื นใจอยเู่ รอ่ื ยๆ เรากเ็ ลยคดิ ว่า เราคดิ ไม่หยุด แตจ่ ริงๆ แล้วหยดุ ใจนน้ั เปลีย่ นไป เราไม่ตามดู ถ้าเราไปตามดู ตามดู ตามดู จะเห็นว่า เขาเปล่ียนไปยาวเลย และกว่าเขาจะหวนมา พระอาจารยม์ านพ อุปสโม 56

ใหม่ บางทไี ปตงั้ นานแล้ว เรากำ�ลังคดิ ถงึ อะไร สกั อย่างหน่ึง เสียงดงั กไ็ ปรเู้ สียงแลว้ กลิ่นมีก็ ไปรกู้ ลน่ิ แล้ว จติ ไดเ้ ปล่ียนไปเรอ่ื ยๆ พอเรา เหน็ จติ เปลยี่ น กท็ �ำ ใหจ้ ติ ไมเ่ กาะกบั อารมณน์ นั้ พอจติ ไม่เกาะกับอารมณน์ นั้ ทุกขก์ ็ไมเ่ กิด แต่ เราไม่ตามดูจิตเปลี่ยน อุปาทานจะเขา้ ไปเกาะ ในอารมณน์ ้ัน ถา้ ตามจติ ทนั อปุ าทานไมเ่ กดิ ถา้ เราไม่ ตามดจู ิต อุปาทานจะเกดิ อุปาทานเกดิ ก็เขา้ ยดึ ถอื ยึดถอื แลว้ ใจก็เป็นทกุ ข์ แตถ่ ้าเราตาม ดจู ติ ไปเร่ือยๆ อุปาทานไม่มีที่เกาะ ฉะนัน้ การ ตามดจู ติ นั้น แก้ไขปัญหาใจได้จริงๆ คำ�ถามที่ ๖ : ดงั ที่ไดบ้ รรยายมาท่ีเราใช้ทุกข์ ดับทุกข์นน้ั เราก�ำ ลงั ด�ำ เนนิ อยู่ในเรือ่ งของสติ 57 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

ปัฏฐาน ๔ ใช่ไหม เจ้าคะ พระอาจารย์ : ทกุ อยา่ งกห็ นไี มพ่ น้ เรอ่ื งสตปิ ฏั ฐาน ธรรมะทุกหมวดสามารถสงเคราะห์เข้า ในสติปัฏฐานได้ท้ังหมด ถามว่าทุกข์คืออะไร ทุกข์เป็นความรู้สึกเท่าน้ันเอง เป็นความรู้สึก ไมส่ บาย ความรู้สกึ ไมส่ บายกาย เขาเรียกวา่ ทกุ ขเวทนา ความรสู้ กึ ไมส่ บายใจเปน็ ทกุ ขเวทนา มีทุกขเวทนาทางกาย และก็ทุกขเวทนาทาง ใจ แตถ่ า้ เราจะเรยี กชอ่ื แบบแยกออกจากกนั ก็ คือไมส่ บายกาย ท่านเรยี กว่าทกุ ขเวทนา แต่ ไม่สบายใจ ท่านเรียกว่าโทมนัส ทั้งโทมนัส ทง้ั ทกุ ขเวทนา เอามาเรยี กเปน็ ช่อื เดียวกนั ว่า ทกุ ขเวทนา ดงั นั้น ทกุ ขก์ ็คอื เวทนานนั่ เอง ถ้าเราไปตามดูความรู้สึกทุกข์ ก็เรียก ว่าไปตามดเู วทนา ขณะตามดูเวทนาตรงนี้เขา พระอาจารยม์ านพ อปุ สโม 58

เรียกว่า เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน ถ้าเรา อยากได้ เรากไ็ ปสงั เกตความอยากได้ เรียก วา่ ธัมมานุปสั สนาสติปฏั ฐาน ถ้ามเี ย็น ร้อน ออ่ น แขง็ หย่อน ตึง มากระทบกายใหใ้ จได้ รู้สึกไปรู้สึกทางกาย ไปสังเกตทางกาย เห็น อากัปกิริยาอาการของกาย ก็เป็นกายานุปัส สนาสตปิ ัฏฐาน ถ้าไปเหน็ ความรู้สกึ ทางใจ ก็ จะเป็นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน แล้วแต่จะ สงเคราะห์ลงสตปิ ัฏฐานข้อใด ฉะนน้ั ธรรมะท้งั หมด ๘๔,๐๐๐ พระ ธรรมขันธ์ ต้องสงเคราะห์ลงใน มหาสติปัฏ ฐานได้หมด แล้วแต่เราจะหยิบยกสติปัฏฐาน ข้อใดขอ้ หนึง่ มาพดู กัน เท่านน้ั เอง 59 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

ค�ำ ถามท่ี ๗ : แล้วมคี วามเกี่ยวเนอื่ งกบั ทุกข์ ใน อริยสัจจ์ ๔ อย่างไรเจ้าคะ ทุกข์ สมุทัย นโิ รธ มรรค พระอาจารย์ : ทุกข์ในอริยสัจจ์ ๔ น้ัน ทกุ ขเวทนา ก็เป็นทกุ ข์ในอรยิ สัจจ์ ๔ ดว้ ย อยา่ งทกุ ขใ์ นอรยิ สจั จ์ ๔ นี้ ทา่ นแสดงวา่ ภาวะ ของตวั ทกุ ข์ หรือ สภาพของทกุ ขท์ เ่ี ป็นทกุ ข สจั จ์ ท่านต้องการจะแสดงสภาวะธรรมนี้เป็น ๒ ชนดิ คอื ส่วนโลกยี ะส่วนหน่ึง แล้วกส็ ว่ น โลกุตตระอกี ส่วนหนึง่ ในสว่ นของโลกยี ะ มอี ะไรบา้ ง สว่ นของ โลกยี ะกม็ ี ภาวะของจติ ใจ ภาวะของรปู รา่ งกาย รูปร่างกายของตัวเราทั้งหมด เป็นส่วนของ โลกียะล้วนๆ รูปขันธ์ทั้งหมดเป็นรูปร่างกาย ล้วนๆ แล้วก็เกี่ยวกับจิตใจ ภาวะของจิตใน พระอาจารยม์ านพ อปุ สโม 60

สว่ นของโลกยี ะ ท่ยี งั ไม่หลดุ พ้นยงั ไม่ได้บรรลุ เป็นอริยบุคคล ภาวะของจติ ทง้ั หมดในส่วนท่ี เปน็ โลกยี ะน้ี ทา่ นเรยี กวา่ เปน็ ตวั ทกุ ขอรยิ สจั จ์ และกย็ งั มตี วั ปรงุ แตง่ จติ เวทนาทเ่ี ราพดู เมอื่ สกั คร่นู กี้ ค็ อื ทุกขอรยิ สจั จ์ท่านยกเว้นอย่างเดียว คือตัวตัณหา ตัวตัณหา ตัวยินดีนี้ท่านเรียก วา่ สมทุ ัย นอกนัน้ เป็นทกุ ขอรยิ สัจจ์ท้งั หมด ขดั เคืองใจ ตวั โทสะ ปฏิฆะ เปน็ ทกุ ขอริยสัจจ์ ฉะน้นั เรยี กว่า เปน็ ทกุ ขสจั จ์ทงั้ หมด สจั จะ ๔ ประการ กม็ ที กุ ข์ สมทุ ัย นิโรธ มรรค ตัวสมุทัย ท่านเอาตัวตัณหา ตัณหา- ความอยากได้ ตัณหา-ความพอใจ เป็นตัว สมทุ ัย ส่งิ ตา่ งๆ ทง้ั หมด กเ็ อาไปจดั เป็นอรยิ สจั จต์ วั อ่ืนๆ นิพพานเป็นนโิ รธ แลว้ ถ้ามรรค ทา่ นเอาสภาวะธรรม ๘ ชนิด 61 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

สภาวะธรรม ๘ ชนดิ มอี ะไรบา้ ง มปี ญั ญา ท่านเรียกว่าสัมมาทิฏฐิ และก็สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สมั มาสติ สมั มาสมาธ ิ สติน้ี ถ้าเป็นสติในโลกุตตระท่านเรียก วา่ มรรค สตทิ เี่ ราเจรญิ สตปิ ฏั ฐานธรรมดาเปน็ ทกุ ขสจั จ์ ฉะนนั้ ตวั สตเิ ปน็ ไดท้ ง้ั ทกุ ขสจั จ์ เปน็ ไดท้ ้งั มรรคสัจจ์ เปน็ ได้ ๒ อยา่ ง ถา้ เอาสตทิ ต่ี ามระลกึ ถงึ กาย เวทนา จติ ธรรม ตวั นก้ี ็เป็นทุกขอริยสจั จ์ ถา้ เราเอาสตทิ ี่ เกิดขึ้นกบั มรรคจติ เปน็ จิตของพระอรยิ บคุ คล กเ็ รยี กวา่ มรรคสจั จะ แลว้ แตจ่ ะสงเคราะหล์ งไป ค�ำ ถามที่ ๘ : การทีเ่ ราดทู ี่ใจ เมอื่ ดไู ปเร่ือยๆ นะเจ้าคะ จะสามารถสำ�เร็จได้ถึงข้ันไหนคือ พระอาจารย์มานพ อปุ สโม 62

วา่ จะสามารถทจี่ ะบรรลถุ งึ พระอรหนั ตไ์ ดห้ รอื ไม่ เจ้าคะ พระอาจารย์ : การบรรลธุ รรมบรรลุท่ี ใจ ไม่ไดบ้ รรลุทีอ่ ื่น การบรรลธุ รรมนนั้ ไม่ใช่ อ่ืนไกล คือดูใจตัวเองทันทุกความรู้สึกเป็น พระอรหันต์ เกดิ ความรสู้ ึก แลว้ เราสามารถ ตดิ ตามดคู วามรสู้ กึ ทนั ทกุ ความรสู้ กึ ไมห่ ลงลมื ในการสังเกตความรู้สึก เรียกว่าพระอรหันต์ แล้ว พอมีความรู้สึกเกิดข้ึนต้องไม่หลงลืม รู้สึกทางตาก็ไม่หลงลืมสังเกต เสียงมารู้สึก ทางหู ก็ตอ้ งไมห่ ลงลืมสงั เกต มีกล่ินใจกร็ สู้ ึก ไม่หลงลมื สงั เกต พอลิ้มรสอาหารใจร้สู ึก ก็ไม่ หลงลมื สังเกต เยน็ รอ้ น อ่อน แขง็ หย่อน ตงึ กระทบกาย ใหใ้ จได้รู้สกึ เรากไ็ ม่ลืมสงั เกต พอมีความรู้สึกทางใจคิดไปถึงอดีต 63 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

อนาคต ทุกๆ ความคิด เราไม่หลงลืมในการสงั เกตดู พระอรหนั ตท์ า่ นตามดไู ดห้ มดเลย ความ รู้สึกทกุ ๆ ความรู้สกึ เมือ่ ทา่ นไปตามดูความ รู้สึกได้ทุกความรู้สึก ท่านจึงไม่ปล่อยจิตให้ ไปเกาะติดกับอารมณ์ ท่ีทำ�ให้ใจเป็นทุกข์ อุปาทานเลยไม่เข้าไปเกาะติด จิตของพระ อรหนั ต์เลยไม่เปน็ ทุกข์ ทา่ นมองเห็นภาวะจติ ท่ที า่ นตามดู ร้สู กึ แลว้ ก็ดบั ไป แลว้ รสู้ ึกตัวใหมก่ ม็ าแทน แลว้ ท่านก็ดอู กี แล้วก็ดับไป ร้สู ึกตัวใหมก่ ็มาแทน อกี ทา่ นกด็ อู กี จะเหน็ ความรสู้ กึ เปลย่ี นใหท้ า่ น ดอู ยเู่ รอื่ ยๆ พอดทู นั ใจนน้ั จะเปลยี่ นมาเปลยี่ น ไป มาแลว้ ไป จะเปน็ อยา่ งนี้ มอี ะไรๆ จรเข้า มาใหใ้ จรสู้ กึ แลว้ กจ็ ากไป ทา่ นกไ็ ปมองเหน็ ทกุ พระอาจารยม์ านพ อุปสโม 64

อยา่ ง ทเ่ี ขา้ มาแลว้ กอ็ อกไป ดงั นนั้ การตามดใู จ ทันตรงน้ีน่ีแหละ เป็นหนทางเข้าถึงความดับ ทกุ ข์ การบรรลุธรรมน้ี ต้องไปดูท่ที ่านแสดง ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู ร พระพทุ ธเจา้ แสดง ธมั ม จักกัปปวัตตนสูตร ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แสดงแก่ภิกษุปัญจวัคคีย์ พอแสดงจบ ท่าน พระโกณฑัญญะบรรลธุ รรม ทา่ นบรรลุอยา่ งไร รู้ไหม ท่านบรรลุอยา่ งน้ี ยังกิญจิ สะมุทะยะ ธัมมัง สัพพันตัง นโิ รธะธัมมนั ติ 65 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

พระอาจารยม์ านพ อุปสโม 66

“สง่ิ ใดสงิ่ หนงึ่ มคี วามเกดิ ขนึ้ เปน็ ธรรมดา สิง่ ท้งั ปวงนน้ั มคี วามดบั เปน็ ธรรมดา” คอื ท่านไปมองเหน็ ทุกอย่างท่มี าให้ใจได้ รสู้ ึก แล้วกม็ องเห็นความร้สู กึ ของตัวเองท่เี กิด ขน้ึ รบั รู้ รบั รู้ รบั รู้ แลว้ ลว้ นดบั ไป ดบั ไป ดบั ไป สิง่ ท่ีมาใหใ้ จร้กู ล็ ว้ นหายไป หายไป มาให้ ใจรแู้ ลว้ หมดไป ใจเกดิ ข้นึ รับรู้แลว้ ดบั ไป เม่ือ มาใหร้ ใู้ หม่ ตวั รตู้ วั ใหมเ่ กดิ อกี ดบั อกี ทกุ ๆ ครง้ั ของความรู้สึกที่เกิดขึ้น ท่านมองเห็นเกิดขึ้น เป็นธรรมดา แลว้ หมดไปเปน็ ธรรมดา พอเห็นอย่างนี้ เรียกว่ามีดวงตาเห็น ธรรมแล้ว ท่านพระโกญทัญญะได้บรรลุเป็น พระโสดาบันบุคคล บรรลุดว้ ยการตามดูใจทนั การตามดใู จทนั ตรงนล้ี ะกเิ ลสไดจ้ รงิ ๆ ละความ 67 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

ยนิ ดยี นิ ร้ายไดจ้ ริงๆ ขณะเราตามดูใจอยู่ จติ ก็ หยดุ คดิ ถงึ อดตี อนาคต จติ หยดุ คดิ ถงึ เขา พอ จิตไม่คิดถงึ เขา ไมค่ ดิ ถึงอดีต อนาคต จติ ก็ ไม่มกี ารปรุงแต่ง เมอื่ ไมม่ ีการปรงุ แตง่ ยินดกี ็ ไมเ่ กดิ ยินร้ายก็ไม่เกดิ แต่ถ้าดใู จไม่ทัน การ ปรงุ แต่งก็จะเกดิ ลองมองมาทดี่ อกไมน้ ี้่ มองมาแลว้ ถาม วา่ รไู้ หม รอู้ ยทู่ ไ่ี หน เกดิ ทไ่ี หน รเู้ กดิ ทใ่ี จ แตเ่ รา ไม่ได้มองใจใช่ไหม เรามองดอกไม้ แบบน้ี ไม่เห็นใจ แต่ถ้ามองใจ กท็ ้งิ ดอกไม้ มองใจก็ เหน็ ความรสู้ กึ นน้ั หาย แตถ่ า้ ไมม่ องใจ กไ็ ปเจอ ดอกไม้ เรยี กว่ารู้เปน็ อนพุ ยัญชนะ พอเจออนุ พยัญชนะตอนน้นี ่แี หละ กม็ กี ารปรงุ แตง่ แลว้ กเ็ กดิ ความยนิ ดยี นิ รา้ ย การดใู จทนั ดบั ทกุ ขไ์ ด้ จริงๆ ดใู จทัน แลว้ บรรลุธรรมได้จรงิ ๆ พระอาจารยม์ านพ อปุ สโม 68

ค�ำ ถามท่ี ๙ : ขอค�ำ แนะนำ�เพ่ิมเตมิ ในการ เจรญิ วปิ สั สนากรรมฐานทีถ่ กู ตอ้ ง เจา้ คะ่ พระอาจารย์ : การเจรญิ วปิ สั สนากรรมฐานนนั้ จดุ มงุ่ หมายของการเจรญิ วปิ สั สนากรรมฐาน ก็ คอื ตามดคู วามรสู้ กึ ใหท้ นั พอเราไปตามดคู วาม รสู้ กึ ทนั ทกุ ๆ อยา่ งมาปรากฏทใี่ จทง้ั หมด รปู กระทบตากม็ าปรากฏทคี่ วามรู้สกึ ตามความ รสู้ กึ ทนั กเ็ หน็ รปู ทก่ี ระทบตา เสยี งกระทบหู กม็ า ปรากฏทค่ี วามรสู้ กึ ตามความรสู้ กึ ตรงนท้ี นั ก็ จะเหน็ เสยี งทม่ี ากระทบหู กลน่ิ ทมี่ ากระทบจมกู ก็ให้ใจรู้สึก ตามความรู้สึกทัน ก็จะเห็นกลิ่น ท่ีกระทบจมูก รสที่มากระทบล้ินแต่ละครั้งๆ แล้วก็ให้ใจเรารู้สึก ถ้าเราตามความรู้สึกทัน เราก็เห็นส่งิ นนั้ หมดไปจากความร้สู ึก นค้ี อื จุด 69 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

มุ่งหมายของการเจรญิ วิปัสสนา ท่านตอ้ งการ ใหต้ ามดู เมอ่ื มอี ะไรๆ มากระทบตา กระทบหู กระทบจมูก กระทบล้ิน กระทบกาย หรือผุด ข้นึ ในใจ แลว้ ใจรบั รู้ เอาสตไิ ปตามดูตรงนี้ทนั แลว้ เหน็ ความจรงิ ของสง่ิ เหลา่ นน้ั เปลย่ี นไปอยู่ เร่อื ยๆ ตรงนี้เรยี กว่า วปิ ัสสนากรรมฐาน พระอาจารย์มานพ อุปสโม 70

71 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

ประวัติของท่านพระอาจารย์มานพ อุปสโม พระอาจารยม์ านพ อปุ สโม เปน็ พระวปิ สั สนาจารย์ เนน้ การสอนตามแนวมหาสตปิ ฏั ฐาน 4 จบการศกึ ษาพระอภธิ รรม จากอภธิ รรมโชตกิ วทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณร์ าชวทิ ยาลยั ท�ำ งาน เผยแผธ่ รรมะ ทง้ั ภาคปรยิ ตั แิ ละภาคปฏบิ ตั ิ ภาคปรยิ ตั ิ พระอาจารยม์ านพ อปุ สโม สอนอยทู่ อ่ี ภธิ รรม โชตกิ วทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณร์ าชวทิ ยาลยั และยวุ พทุ ธกิ สมาคม แหง่ ประเทศไทย ทง้ั ยงั ออกอากาศเผยแผธ่ รรมะเปน็ ประจ�ำ ทาง สถานวี ทิ ยุ พล ม. 2 AM. 936 ทกุ วนั เวน้ วนั อาทติ ย์ เวลา 06.15-06.45 น. ทกุ วนั เสาร์ เวลา 09.10-10.00 น. และวนั อาทติ ย์ เวลา 08.30-09.00 น. นอกจากนท้ี า่ นยงั เปน็ ผดู้ ำ�เนนิ การกอ่ ตง้ั สถานวี ทิ ยเุ พอ่ื พระพทุ ธศาสนา เฉลมิ พระเกยี รติ 84 พรรษาราชนครนิ ทร์ เชน่ 1. FM 107.50 Mhz. จงั หวดั จนั ทบรุ ,ี ตราด, ชลบรุ ี 2. FM 104.25 Mhz. จงั หวดั จนั ทบรุ ,ี ระยอง, ล�ำ พนู 3. FM 107.20 Mhz. เมอื งพทั ยา 4. FM 105.50 Mhz. จงั หวดั นครนายก 5. FM 104.50 Mhz. จงั หวดั ยโสธร 6. FM 99.75 Mhz. อ.คลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี พระอาจารยม์ านพ อุปสโม 72

ภาคปฏบิ ตั ิ พระอาจารยม์ านพ อปุ สโม เปน็ พระวปิ สั สนา จารยป์ ระจ�ำ ศนู ยป์ ฏบิ ตั ธิ รรม 84 พรรษาราชนครนิ ทร์ และยวุ พทุ ธกิ สมาคมทง้ั สองแหง่ คอื ศนู ยท์ ่ี 1 ถ.เพชรเกษม กรงุ เทพฯ และศนู ยท์ ่ี 2 ปทมุ ธานี ทง้ั ยงั เปน็ พระวปิ สั สนาจารยใ์ หก้ บั สถาน ทป่ี ฏบิ ตั ธิ รรมทว่ั ไปอกี หลายแหง่ ในงานพฒั นา พระอาจารยม์ านพ อปุ สโม เปน็ ประธาน ด�ำ เนนิ งานการกอ่ สรา้ งศนู ยป์ ฏบิ ตั ธิ รรม 84 พรรษาราชนครนิ ทร์ (ศนู ยป์ ฏบิ ตั ธิ รรมประจ�ำ ภาคตะวนั ออกของประเทศไทย) ซง่ึ ตง้ั อยู่ ทเ่ี ขาดนิ หนองแสง ต.เขาวงกต อ.แกง่ หางแมว จ.จนั ทบรุ ี เปน็ ส�ำ นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมประจ�ำ จงั หวดั แหง่ ท่ี 7 ไดด้ �ำ เนนิ งานกอ่ สรา้ ง อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง และพฒั นาเรอ่ื ยมาตง้ั แตป่ พี ทุ ธศกั ราช 2537 ณ ปจั จบุ นั “ศนู ยป์ ฏบิ ตั ธิ รรม 84 พรรษาราชนครนิ ทร”์ เปน็ สถานทอ่ี บรมปฏบิ ตั ธิ รรมแกภ่ กิ ษสุ งฆ์ และมปี ระชาชนทว่ั ไป อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ท�ำ ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ กก่ ารพฒั นาทางดา้ นจติ ใจของ พระพทุ ธศาสนกิ ชนอยา่ งกวา้ งขวาง 73 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

ขอเชญิ รบั ฟงั รายการธรรมะทางสถานวี ทิ ยุ พล ม. 2 AM. คลน่ื 936 รายการ วนั เวลา “สาระนา่ ร”ู้ ทกุ วนั เวน้ วนั อาทติ ย์ 06.05-06.45 น. “ปฏบิ ตั ธิ รรมคอื อะไร” ทกุ วนั เสาร ์ 9.10-10.00 น. “ปรมตั ถธรรมทางอากาศ” วนั อาทติ ย ์ 08.30-09.00 น. และรายการธรรมะทางสถานวี ทิ ยเุ พอ่ื พระพทุ ธศาสนา เฉลมิ พระเกยี รติ 84 พรรษา ราชนครนิ ทร์ ตลอด 24 ชว่ั โมง ทกุ วนั คลน่ื ความถ่ี เอฟเอม็ 107.5 Mhz. จ.จนั ทบรุ ี ศนู ยป์ ฏบิ ตั ธิ รรมฯ 107.5 Mhz. จ.จนั ทบรุ ี วดั เขาแดง อ.โปง่ น�ำ้ รอ้ น 107.5 Mhz. จ.ตราด บา้ นฉางเกลอื 107.5 Mhz. จ.ชลบรุ ี วดั หนองเสอื ชา้ ง 107.5 Mhz. จ.ชลบรุ ี วดั ธรรมนมิ ติ 107.5 Mhz. กรงุ เทพฯ ถ.พฒั นาการ 104.25 Mhz. จ.จนั ทบรุ ี วดั นายายอาม 104.25 Mhz. จ.จนั ทบรุ ี เทศบาลทา่ ชา้ ง พระอาจารย์มานพ อุปสโม 74

104.25 Mhz. จ.ระยอง วดั เขาพระบาท 104.25 Mhz. จ.ชลบรุ ี วดั ทา่ ขา้ ม 104.25 Mhz. จ.ล�ำ พนู วดั พระบาทหว้ ยตม้ 107.2 Mhz. จ.ชลบรุ ี เมอื งพทั ยา 105.5 Mhz. จ.นครนายก บา้ นไรส่ าลกิ า 104.5 Mhz. จ.ยโสธร วดั หว้ ยกอย อ.เลงิ นกทา 99.75 Mhz. จ.ปทมุ ธานี อ.คลองหลวง ซอยเทพกญุ ชร 23 และเชญิ รบั ฟงั วทิ ยอุ อนไลน์ http:/www.nhongsang.com ขอเชญิ ฟงั วทิ ยอุ อนไลทท์ าง website จากศนู ยป์ ฏบิ ตั เิ ฉลมิ พระเกยี รติ 84 พรรษา ราชนครนิ ทร์ 24 ชว่ั โมง ทกุ วนั ท่ี www.p-manop.org. และตดิ ตามขา่ วสารประชาสมั พนั ธไ์ ดท้ ่ี www.nhongsang.com ฝา่ ยประชาสมั พนั ธ์ 086-012-2633 และ 086-012-2477 75 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

ผมู้ คี วามประสงคจ์ ะรว่ มกองทนุ เผยแพรธ่ รรมะ ณ ศนู ยป์ ฏบิ ตั ธิ รรมเฉลมิ พระเกยี รติ 84 พรรษา ราชนครนิ ทร์ (เขาดนิ หนองแสง) กรณุ าสง่ เปน็ ธนาณตั /ิ ตว๋ั แลกเงนิ /เชค็ ขดี ครอ่ ม สง่ั จา่ ยในนาม พระอาจารยม์ านพ อปุ สโม หรอื เชค็ ขดี ครอ่ ม ในนาม ศนู ยป์ ฏบิ ตั ธิ รรมเฉลมิ พระเกยี รติ 84 พรรษาราชนครนิ ทร์ หรอื โอนเขา้ บญั ชี ส�ำ นกั สงฆเ์ ขาดนิ หนองแสง ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร สาขานายายอาม บญั ชเี ลขท่ี 742-2-48846-8 และบญั ชี พระมานพ อปุ สโม ธนาคารไทยพาณชิ ย์ สาขายอ่ ยทา่ พระจนั ทร์ เลขทบ่ี ญั ชี 114-2-10518-6 (โปรดสง่ ส�ำ เนาใบฝากเงนิ มาใหท้ างโทรสาร (039) 317-219 หรอื โทร.แจง้ (039) 317-220 (089) 532-2976 และหาก ตอ้ งการใบอนโุ มทนา โปรดแจง้ ชอ่ื ทอ่ี ยใู่ หช้ ดั เจน) พระอาจารย์มานพ อุปสโม 76

ขอเชญิ เปน็ ผมู้ สี ว่ นรว่ มซอ้ื ทด่ี นิ สรา้ งอโุ บสถ จ�ำ นวน 28 ไร่ จ�ำ นวน 1 ไร่ ไรล่ ะ 250,000 บาท จ�ำ นวน 1 งาน (100 ตรว.) งานละ 62,500 บาท จ�ำ นวน 1 ตารางวา ตรว.ละ 625 บาท และตง้ั กองทนุ สรา้ ง-ซอ่ ม-บ�ำ รงุ สถานวี ทิ ยาเพอ่ื พระพทุ ธ ศาสนา เฉลมิ พระเกยี รติ 84 พรรษา ราชนครนิ ทร์ คลน่ื ความถ่ี FM.107.5 MHz, FM. 104.25 MHz และในเครอื ขา่ ยตา่ ง ๆ 77 ใ ช้ ทุ ก ข์ ดั บ ทุ ก ข์

ทุกขเ์ กิดขน้ึ ทใ่ี จ เวลาดบั กต็ อ้ งดบั ทใ่ี จ วิธีการดับทกุ ขท์ างใจ เราจะสามารถดับได้ เมื่อเรารูเ้ ท่าทนั ใจ ของตัวเราเอง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook