Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Description: 014

Search

Read the Text Version

นทิ านเวตาล ผู้แปล : น.ม.ส. ตน้ เร่อื ง พระราชาทรงนามวกิ รมาทติ ย์ ครองราชย์อยู่กรงุ อุชชยินีนบั เวลาถงึ บัดน้ได้เกอื บี ๒,๐๐๐ีปีีพระองคเ์ ปน็ กษตั รยิ ท์ รงนามเลือ่ งลอื สามารถท้ังในทางศึกแลในทางปกครองไพร่ฟูา ประชาชนให้อยเู่ ยน็ เป็นสขุ ทั้งเป็นผูเ้ อ้ือเฟ้ือต่อการเรยนรีู้ มปราชญี์ ๙ีคนีเรยกวา่ ีเนาวรตั นกวคือ กาลิทาส เปน็ ตน้ ีแตง่ กลอนยอพระเกยรติปรากฏจนเวลาน้วา่ รัชกาลพระวกิ รมาทติ ย์เป็นเวลาทว่ ชิ า รุ่งเรือง ประวัติของพระราชาองคน์ ้ีมเร่ืองจริงปะปนกับเรอ่ื งซึ่งประดิษฐ์ขนึ้ กล่าวตามความทเ่ ปน็ คาํ นาํ เร่อื งนว้ า่ เม่ือพระวิกรมาทิตย์ทรงครองราชสมบัตริ งุ่ เรอื งอย่หู ลายปีี จนพระชนมายไุ ด้ี๓๐ีพรรษา จงึ ทรงพระดาํ รวิ ่าีบา้ นเมอื งต่างประเทศท่ได้ทรงยนิ ชอ่ื ีแต่มิไดเ้ คยเห็นน้ันมมาก สมควรจะเสดจ็ ไปดู ใหเ้ ห็นเสยสกั คร้ังหนึ่ง ราชประสงค์คอื จะเท่ยวสอดรู้การในบ้านเมืองเหล่านนั้ หาช่องทางทจ่ ะเอา รวมเขา้ มาเป็นเมอื งขนึ้ ด้วยกําลงั อาวธุ หรอื กําลงั ป๎ญญา ทรงคิดฉะน้จงึ มอบราชการบา้ นเมอื งให้พระ อนุชาีทรงนามพระ ภรรตฤราช ปกครองแทนพระองค์ีแล้วทรงเครอื่ งปลอมเป็นโยคีมพระราชโอรส องคท์ ่ี๒ีทรงนาม ธรรมธวชั ตามเสดจ็ ีเทย่ วเตร็ดเตร่ไปในปุาแลเมืองต่างๆ

พระภรรตฤราชผู้อนชุ าซงึ่ ปกครองสมบตั แิ ลราชการเมอื งแทนพระราชานั้นเปน็ บรุ ษุ มหฤทัย ซมึ เซาเป็นปกติ เพราะไดเ้ สยนางผเู้ ปน็ ชายาไปดว้ ยเหตุประหลาดีมเรื่องตามทก่ ลา่ วตอ่ กนั มาวา่ วนั หนึ่งพระภรรตฤราชเสดจ็ ออกล่าเนอื้ ในปาุ พบหญงิ แมห่ มา้ ยเขา้ สู่กองเพลงิ ซึ่งเผาศพพราหมณผ์ สู้ าม หญงิ นน้ั แสดงความมั่นใจปราศจากความสะทกสะทา้ นีครัน้ พระภรรตฤราชเสดจ็ กลับถึงวงั จึงเล่าแก่ นางผเู้ ป็นชายาแหง่ พระองค์วา่ ีนางพราหมณมความสตั ยแ์ ลความกล้าฉันนัน้ ีๆ พระชายาทูลตอบวา่ เม่อื ผวั สิ้นชพไปแล้วหญิงดย่อมจะสนิ้ ชวิตดว้ ยเพลงิ แห่งความทกุ ข์ หาต้องตายในกองเพลิงซง่ึ เผา สามไมี่ พระภรรตฤราชทรงฟ๎งดังนนั้ ก็นิ่งตรกึ ตรอง มิไดต้ รสั ประการใดีครัน้ วันรงุ่ ขึน้ เสด็จออกปาุ ล่า เนือ้ อกครั้งหน่งึ ไมช่ า้ ตรสั ใหม้ หาดเล็กเชิญเครื่องทรงซง่ึ ขาดแลเป้ือนเปรอะกลับไปทลู พระชายาวา่ เกดิ เหตุวบิ ัตใิ นปุา พระภรรตฤราชสิ้นพระชนมเ์ สยแลว้ ีพระชายาได้ยินดังนน้ั ก็ล้มลงสิน้ ชวติ ดว้ ย เพลิงแห่งความทุกข์ พระภรรตฤราชกลับจากปาุ กเ็ สยพระหฤทยั หนกั หนา มอาการซึมเซากระเดยด ไปข้างจะออกเปน็ ฤาษอย่รู า่ํ ไปีแม้มชายาองค์อืน่ ีๆ จาํ นวนไม่นอ้ ยก็ไมท่ าํ ให้แชม่ ชื่นไดี้ (จนไดน้ าง มาใหม่อกองค์หน่ึง) เมอ่ื ไดร้ ับตําแหนง่ ปกครองแทนองคพ์ ระราชาแลว้ พระภรรตฤราชก็ปฎบิ ตั ิราชการโดยทาง ทช่ อบ แต่ไม่สนุกในงานท่กระทาํ จนกามเทพแผลงศรดอกไมท้ ะลุหฤทยั อกครั้งหนึง่ นางน้ันมหนา้ เหมอื นพระจันทร์วันเพ็ญ มผมดงั เมฆสนลิ โลหิตซึง่ อุม้ ฝนหอ้ ยอยบู่ นฟาู ีมผวิ ซึ่งเยย้ ดอกมะลใิ ห้ไดอ้ าย มตาเหมอื นเนอ้ื ทรายซง่ึ ระแวงภยั ีริมฝีปากเหมอื นดอกทบั ทมิ ีคอเหมอื น คอนกเขา มอื เหมือนสแห่งทอ้ งสังข์ีเอวเหมอื นเอวเสือดาวีบาทเหมอื นดอกบวั พรอ้ มด้วยลักษณะ นางงามอยา่ งแขก ซึ่งไทยเราแตง่ กาพยก์ ลอนกพ็ ลอยเอาอย่างมาเห็นงามไปดว้ ยีพระชายาองค์ใหม่ งามเช่นน้ พระภรรตฤราชกล็ ืมหลงีแตน่ างมิไดจ้ งใจภักดตอ่ พระสวาม กลบั ไปมใจรักใครก่ ับอํามาตย์ หนมุ่ คนหนึ่งชือ่ มหิบาลีมชิ ้าก็เกดิ เหตุ ในท่ใกลพ้ ระราชวัง มพราหมณค์ นหน่งึ กบั ภรยิ าเปน็ คนจนยากแค้นแสนเขญ็ ไมร่ ู้จะทาํ อะไร ก็ทาํ ตบะ คืออดข้าวีแลทรมานตวั ตา่ งๆีหน้าหนาวลงแช่นา้ํ ีหน้าร้อนนัง่ ผิงไฟรอบตัว จนเทวดา เบด็ เตลด็ พากันยาํ เกรงทัว่ ไปีในทส่ ดุ เทวทูตลงมาจากสวรรค์ ย่นื ผลไม้ให้ผลหน่งึ ีบอกว่าเป็นผลไม้ อาํ มฤตีถ้ากินแล้วจะยนื ชวิตอย่คู า้ํ ฟูา ครั้นเทวทตู อันตรธานไปแลว้ พราหมณ์ก็อ้าปากซึ่งฟ๎นหมดไปแลว้ ีเพ่ือจะกัดแลกินผล อาํ มฤตีพอนางพราหมณร้องห้ามวา่ \"ท่านเอยีทา่ นจงย้ังชัง่ ใจดูกอ่ น ความตายน้นั เป็นทุกข์ชวั่ ขณะ เดยว ความมชวติ ยากแคน้ เช่นเรานเ้ ปน็ ทกุ ขย์ าวนาน ท่านอยากจะมทกุ ขเ์ ช่นนจ้ นคํา้ ฟูาหรือีความ ยากจนน้เปน็ บาปท่เราทําไว้ในหนหลัง ทา่ นจะยดึ ทุกข์คือชวิตไปทําไมเล่าีผลไม้นนั้ ท่านอยา่ กินเลย\" พราหมณไ์ ดย้ ินภริยาท้วงดังนน้ั กล็ งั เลในใจ นั่งนง่ิ ปากอ้าตาเพง่ อยู่สกั ครหู่ นึง่ ีจงึ กลา่ วแก่ ภริยาวา่ \"ขา้ ไดร้ ับผลไมน้ ไ้ วจ้ ากเทวทูตดว้ ยหมายจะกนิ ีเมื่อเจา้ คดั คา้ นฉะนข้ า้ กส็ งสยั ในใจ เจา้ ผมู้ ป๎ญญาจะเหน็ ควรใหข้ ้าทาํ อยา่ งไรตอ่ ไปเล่า\" นางพราหมณตอบว่า \"ทา่ นกับขา้ พเจ้าเวลานก้ แ็ ก่แล้วีความชรายอ่ มกดกันความสุขซึ่งมในใจหนุ่ม แลสาว คนแกจ่ ะอยปู่ รัมปราอกช้านานก็หาประโยชน์มิได้ ถ้าการกินผลไม้น้กลบั ใหค้ วามเป็นหนมุ่ แก่ ทา่ นีข้าพเจ้ากจ็ ะมคิ ดั คา้ นเลย\" พราหมณไ์ ดย้ นิ ภริยากลา่ วดังน้ัน กส็ ิ้นความลังเลในใจทิ้งผลไมล้ งยังพน้ื ดนิ ีนางพราหมณ กย็ นิ ด แตซ่ อ่ นความอิ่มใจไว้มแิ สดงใหส้ ามเหน็ ความอ่มิ ใจนัน้ เกิดแตค่ วามเห็นแกต่ นเองฝาุ ยเดยวี คอื นางพราหมณเหน็ ว่า นางได้อยูเ่ ปน็ สามภรยิ ากับพราหมณม์ าก็ชา้ นานจนถึงความชราเหน็ ปานฉะน้ แลว้ ถา้ สามกินผลอาํ มฤตยนื ยงต่อไปีส่วนนางเองมิพน้ ความตายไดไ้ ซร้ ความเทย่ งธรรมจะมกห็ าไมี่ ครนั้ สามท้งิ ผลไมอ้ ํามฤตลงบนพืน้ ดินฉะนั้นแลว้ นางก็กล่าวติเตยนความอายุยนื ซาํ้ เติมอกจนสามเหน็ จริง กลบั โกรธเทวดาว่านําผลอํามฤตมาใหด้ ว้ ยความปองร้ายีหยิบผลไม้นนั้ จะโยนเข้ากองไฟ ภรยิ า

หา้ มไว้แลว้ กล่าวว่า\"ทา่ นอยา่ เพง่ิ ทําเรว็ ไปนกั ีผลไม้นม้ ิใช่ของหาง่าย เมื่อได้มาแลว้ กค็ วรใช้ใหเ้ ป็น ประโยชน์ีทา่ นจงไปเฝาู พระภรรตฤราชีถวายผลไมน้ ้ เธอคงจะประทานรางวัลให้สมแก่ราคาของี รางวัลน้ันแหละจะปลดทุกขค์ ือความจนของเรา ทา่ นทําตบะมาช้านานจนได้ผลเช่นน้แลว้ ีทา่ นจง กระทาํ ตามคําข้า เพือ่ ใหผ้ ลแห่งตบะนั้นเปน็ เครือ่ งนํามาซง่ึ ความสขุ เถดิ \" พราหมณ์สามไดฟ้ ๎งภริยา กลา่ วดังนัน้ กเ็ หน็ ด้วยีจงึ นาํ ผลอาํ มฤตเขา้ ไปเฝูาพระภรรตฤราช ทลู ใหท้ ราบคณุ แห่งผลไมน้ นั้ แลว้ ทูลวา่ \"พระองคจ์ งรับผลไมน้ เ้ ปน็ ของซง่ึ ข้าพเจ้าถวายเถดิ พระองค์ทรงพระชนมายยุ ืนนานจะไดเ้ ป็นท่ พงึ่ แกป่ ระชาราษฎรท์ ว่ั ไป แลถา้ ประทานรางวัลแก่ข้าพเจ้าใหส้ มแก่คา่ แห่งผลไมน้ ้ ความเป็นทพ่ ง่ึ ของพระองค์กย็ ง่ิ แผก่ วา้ งทวออกไป\" พระภรรตฤราชไดฟ้ ง๎ ดงั นั้นกท็ รงยนิ ด รับผลไมจ้ ากพราหมณแ์ ล้วตรสั ใหพ้ ราหมณ์ตาม เสดจ็ เข้าไปในคลงั ทอง อันเปน็ ทซ่ ึง่ ทองทรายกองอยูห่ ลายพ้อมีแลว้ ตรัสให้พราหมณ์ขนเอาไปเตม็ แรงท่จะขนได้ พราหมณ์กเ็ ปลอื้ งผ้าออกห่อทองทราบแลบรรจใุ นทต่ ่างๆีซึ่งจะบรรจุได้ รวมท้งั ใน ปากอันพดู คล่องแลไม่มฟ๎นนน้ั ดว้ ย ครัน้ พราหมณอ์ อกจากวงั ไปแลว้ พระภรรตฤราชกเ็ สดจ็ ไปสตู่ ําหนกั แห่งพระชายาองคใ์ หม่ี ประทานผลไมแ้ ก่นางแล้วตรสั ว่า \"เจ้าจงกนิ ผลไม้อํามฤตนเ้ ถดิ ีความงามของเจา้ จะอยใู่ ห้ข้าชมไปช่วั กาลนาน\" พระชายาซึ่งมหน้าเหมือนพระจนั ทรว์ นั เพญ็ มผมดังเมฆสนิลโลหิตซึ่งอุ้มฝนหอ้ ยอยู่บนฟาู ี มผิวซ่งึ เยย้ ดอกมะลิให้ได้อายีฯลฯ ทรงรับผลไมอ้ าํ มฤตจากพระภรรตฤราชแลว้ วางพระหตั ถ์บนอุระ พระสวาม จมุ พิตพระเนตรแลพระโอษฐ์ีพลางทลู วา่ ี\"พระองค์จงเสวยผลไมน้ เ้ ถดิ หรอื มฉิ ะน้ันแบง่ เสวยกบั ข้าพเจ้าองคล์ ะครง่ึ ผลเพอ่ื จะไดย้ ืนชนมายุไปดว้ ยกนั ความเป็นสาวอยู่เสมอนนั้ ถ้ามิไดม้ ชาย ผ้เู ป็นท่รักอย่ดู ้วยแล้วประโยชน์อันใดจะมเล่า\" พระภรรตฤราชทรงฟง๎ ดงั น้ันีก็แชม่ ชน่ื ในพระหฤทยั ี แต่ตรัสแก่นางว่า ผลอาํ มฤตนั้นตอ้ งกินคนเดยวหมดผลจึงจะมคุณดงั กลา่ ว ถ้าแบง่ กนิ คนละครงึ่ ก็ไมม่ ประโยชน์เลยีรบั ส่งั เท่าน้นั แลว้ ก็เสดจ็ ไปจากตาํ หนักนาง ทิง้ ผลอาํ มฤตไวใ้ ห้นางเสวยตามสบาย ฝาุ ยพระชายาผู้มหนา้ เหมอื นพระจนั ทร์วันเพญ็ มผมเหมือนเมฆสนลิ โลหติ ซงึ่ อมุ้ ฝนหอ้ ยอยู่ บนฟาู ฯลฯ ครั้นพระสวามเสดจ็ พน้ ตําหนักไปแล้ว นางก็ตรสั ให้คนสนิทไปตามอํามาตยห์ นุม่ ผูเ้ ป็นท่ พง่ึ พระหฤทัยไปท่ตําหนัก แลประทานผลอาํ มฤตแก่อํามาตย์หนมุ่ ด้วยกริ ิยาแลวาจาซงึ่ สําแดงเสนห่ า อยา่ งน้อยเสมอกับทไ่ ดแ้ สดงต่อพระภรรตฤราชผสู้ วาม อาํ มาตย์หน่มุ รบั ผลอาํ มฤตดว้ ยกิรยิ าแลวาจา ซงึ่ สาํ แดงเสน่หาไมห่ ยอ่ นกวา่ ท่นางสาํ แดง แล้วกลบั จากตําหนกั พระชายาีพบนางสนมรปู งามคน หน่งึ ีซง่ึ เปน็ ทพ่ ศิ วาสของอาํ มาตย์หนุ่ม อาํ มาตย์หน่มุ ก็ใหผ้ ลอาํ มฤตแก่นางน้ันดว้ ยกริ ิยาแลวาจาซึ่ง สาํ แดงเสน่หาไม่หยอ่ นกวา่ ทไ่ ด้แสดงตอ่ พระชายา ประมาณี๕ีนาทซึง่ พ้นมาแลว้ นางสนมรูปงามได้รับผลไม้สาํ คัญีไม่ทราบเรอ่ื งแตเ่ ดิมมา คิดจะหาความชอบต่อพระ ภรรตฤราชโดยความฝ๎นวา่ จะได้เปน็ ใหญี่ จึงนาํ ผลไมไ้ ปถวาย ทลู วา่ เปน็ ผลอํามฤตซึง่ ถ้าเสวยให้หมด ผลจะทรงพระชนมย์ ืนยาวชว่ั กลั ปาวสาน พระภรรตฤราชทรงรับผลอํามฤตจากนางแล้วประทานทรัพย์ เป็นรางวลั มากมาย ครัน้ นางออกจากท่เฝูาแลว้ ีก็ทรงถือผลไมใ้ นพระหตั ถี์ พศิ พลางทรงรําพงึ วา่ ี\" มายาคอื ความมงั่ คง่ั ีแลมายาคือความรักนม้ คณุ ดท่ไหนบา้ ง ความช่นื บานอันเกดิ แตม่ ายาท้ังสองน้อยู่ ไดค้ รเู่ ดยวกก็ ลับเป็นความขมตลอดชาติ ศฤงคารนเ้ หมือนเหล้าในถ้วยของนักเลงสุราีเมือ่ จบิ ครัง้ แรก มรสดเอิบอาบไปท่วั กาย ยง่ิ ดื่มบ่อยเขา้ ยิง่ หยอ่ นรสีในทส่ ดุ เปน็ ทุกข์อันหนกั ีชวติ น้มใิ ช่อืน่ ไกล คือ ความหมุนเวยนแหง่ ความช่ืนบาน ซ่งึ เป็นความหลงกับความเรา่ รอ้ นซึ่งเป็นความจริงเทา่ นน้ั วนั ท่จะ ตืน่ จากชวิตก็คือวนั ท่สิน้ สดุ แห่งชวิตนน้ั เอง ทางท่สองรองความตื่นจากชวิตน้ก็คือความเป็นดาบสไว้ ศรัทธาในตบะเพอ่ื พระผู้เป็นเจ้าจะไดท้ รงกรุณาประทานในโลกหน้า ความสขุ ซง่ึ ไม่ประทานในโลกน้\" เราได้กลา่ วมาในเบ้ืองต้นวา่ พระภรรตฤราชเปน็ ผู้มหฤทยั ซมึ เซาชวนจะเปน็ ฤษอยูเ่ สมอีๆีแล้ว ถ้อยคาํ ท่ทรงรําพงึ น้เปน็ คําของคนท่ใกลจ้ ะออกปุาเป็นดาบส เราทา่ นฟง๎ ดูไม่เห็นได้ความเปน็ เรอื่ ง เป็นราวอะไร เพราะเรายงั หา่ งไกลจากความเปน็ ดาบสมากีแลมิได้แสวงท่จะออกปาุ เป็นฤษเลย สว่ นพระภรรตฤราชนัน้ เม่ือทรงรําพึงเชน่ กลา่ วน้ันแล้ว ก็ตกลงในหฤทัยวา่ จะออกปุาเปน็

โยค แต่ยงั อยากจะสนทนากบั พระชายาผมู้ หนา้ เหมอื นพระจนั ทรว์ นั เพ็ญีฯลฯีอยู่ จึงเสด็จไปตาํ หนกั นางีซอ่ นผลอํามฤตไปดว้ ย คร้ันเสดจ็ จงึ ตรัสถามวา่ ผลอํามฤตทป่ ระทานน้นั ีนางเสวยแลว้ หรือีนาง ทลู ตอบว่า \"ไฉนพระองค์จงึ ตรัสถามเช่นน้ีข้าพเจ้าได้รบั ประทานก็กนิ แล้วเปน็ แน่ พระองคท์ รงเหน็ ข้าพเจา้ สวยนอ้ ยไปกว่าเม่ือตะกน้ ้หรือ\" พระภรรตฤราชทรงหยบิ ผลอาํ มฤตออกชใู หน้ างดแู ลว้ มดํารสั แกร่ าชบุรุษอํานวยวธิ ตดั หัวนางอย่างละเอยด สว่ นผลอาํ มฤตนนั้ มรบั สง่ั ใหล้ า้ งจนสิน้ มลทนิ ท่ติดจาก มือคนต่างีๆ แลว้ ก็เสวยหมดทงั้ ผลแลว้ ทิง้ ราชสมบัตเิ ข้าปาุ เปน็ โยค คนบางพวกกล่าวว่าพระภรรตฤ ราชยังทรงโยคะอย่ใู นแถบเขาหมิ าลยั อันเปน็ ท่กว้างยากทใ่ ครจะไปตามพบีคนบางพวกกลา่ วว่าี เมือ่ จาํ เริญตบะยง่ิ ๆีขึ้น ก็ได้เข้ารวมอยู่ในภาวะแห่งพระผูเ้ ปน็ เจ้าีอันเป็นทป่ ระมวลคนดทัว่ ไป สว่ นราชสมบัตกิ รงุ อชุ ชยนิ ซึ่งว่างผปู้ กครองน้ันกร็ ้อนถงึ พระอินทร์ตามเคยีพระอนิ ทร์ตรสั ใหอ้ สรู ตนหน่งึ ชอื่ ปถั พบี าล ลงมาปอู งกนั กรงุ อชุ ชยินมิให้มภยั มาถึง ต่อเม่อื พระวิกรมาทิตย์กลับเขา้ กรงุ เมอื่ ใดีจึงใหอ้ สรู กลับไปท่อยไู่ ด้ ป๎ถพบาลรบั เทวบญั ชาดังนน้ั กม็ าอยปู่ ระจาํ การท่กรงุ อชุ ชยิน เฝาู ยามท้งั วันท้งั คนื มิให้ภยั มมาได้ีฝายพระวิกรมาทติ ย์ เมอ่ื เสด็จพาพระโอรสปลอมเป็นโยคเท่ยว เตร็ดเตรต่ ามเมืองแลปุาตา่ งีๆ ประมาณปหี น่งึ ก็บงั เกดิ เบ่ือหนา่ ยีเพราะเสือ้ ผ้าเครือ่ งทรงไมส่ บายควร แกร่ าชูปโภค บางคราวกห็ วิ ีบางคราวกต็ อ้ งตอ่ สสู้ ัตว์ปาุ ท่นึกวา่ กษตั ริย์ี๒ีองค์คอื เนื้อี๒ีกอ้ น อนงึ่ พระราชาทิง้ ราชสมบัตไิ ปนานก็คดิ เปน็ หว่ งีเกิดวิตกตา่ งๆ ท้งั ไดย้ ินลือกันวา่ พระภรรตฤราชทิ้งเมอื ง เขา้ ปาุ เป็นฤษไปเสยแลว้ เหตุเหลา่ น้รวมกันทําให้พระวิกรมาทิตย์พาพระโอรสหนั พระพักตรส์ ูน่ คร สององค์ทรงด่วนดําเนนิ หลายวันีถึงประตนู ครเวลาเทย่ งคนื พอจะเสด็จเขา้ เมอื งกม็ ผมู้ กาย ใหญ่ยืนขวางประตูร้องถามด้วยเสยงดงั สน่ันวา่ ี\"ใครมา จะไปไหนีจงหยุดอยู่กับทแ่ ลบอกชื่อไปกอ่ น\" พระวกิ รมาทติ ย์ทรงโกรธเป็นกาํ ลังีตรสั ว่า \"เราคือพระราชาวิกรมาทติ ยี์ จะกลบั เข้าสู่นครของเราีเจ้า คอื ใครจึงกาํ เรบิ มาหา้ มฉะน้\" อสรู ปถ๎ พบาลตอบว่า \"ข้าพเจ้าเปน็ ผูท้ ่เทพยดาใหม้ ารักษาเมอื งนี้ ถา้ ท่านคือพระวิกรมา ทติ ยจ์ รงิ จงมาสู้ลองฤทธ์ิดกู อ่ น\" พระราชาตรัสว่า\"ตกลง\" เพราะไมโ่ ปรดจะทาํ อะไรยง่ิ กวา่ รบ ครนั้ ทรงเหน็บผ้าทรงมน่ั คงแล้วีก็ตรงเขา้ ต่อสูก้ ับอสูรีอสรู นั้นกําหมัดเท่าผลแตงโม ลาํ แขนแขง็ ราว ตะบองเหลก็ ีฟาดลงมาแต่ละครงั้ ดังต้นไมใ้ หญซ่ งึ่ พายุพดั ลม้ ฟาดลงมา ส่วนพระราชานั้นสงู เพยง สะดือยกั ษ์ียักษ์กม้ ลงฟาดกําหมัดคราวไรก็ตวาดด้วยเสยงอนั ดงั คนท่ไมก่ ลา้ หาญม่ันคงีอาจแพ้ เพราะเสยงน้ันอยา่ งเดยวีต่อสู้กนั อยู่ครู่หนงึ่ ยกั ษเ์ หยยบพลาดลม้ ลงีพระราชบุตรเข้าช่วยนงั่ ทับอยู่ บนท้องยักษ์ พระราชาข้ึนข่อยบู่ นคอีสองพระหัตถจ์ กิ ลงไปในกระบอกตา ตรัสวา่ \"ถา้ ยกั ษ์ไมย่ อมแพ้ จะควกั ดวงตาออกเสย\" ยกั ษ์ร้องทูลวา่ ี\"พระองคไ์ ดท้ แลว้ นับว่าทาํ ให้ขา้ พเจ้าลม้ ได้ ขา้ พเจา้ ยอม ถวายชวี ิตของพระองคแ์ ก่พระองค์\"ี พระวิกรมาทิตยท์ รงสํารวลแลตรสั ว่า \"เจา้ จะเป็นบ้าดอกกระมงั ีเจ้าอยู่ในอํานาจของข้าแล้ว ขา้ จะตัดลมหายใจของเจ้าเสยก็ได้ในบัดน้ เจา้ จะกลับมาให้ชวติ ของข้าแก่ข้าอย่างไรเลา่ ีเจา้ ไมต่ อ้ ง ให้ชวติ ขา้ ขา้ ก็มชวิตต่อไปได้\" ยักษต์ อบวา่ \"พระองค์อย่ากลา่ วเยอ่ หยง่ิ ใหเ้ กนิ ไปีพระองคต์ ง้ั อยใู่ นความไม่รู้ พระองคจ์ ะ ส้ินชวติ ในเรว็ วันน้เองีถ้าขา้ พเจา้ ช่วยให้พระองคพ์ น้ ภยั ถงึ แกช่ วิต ก็คือข้าพเจา้ ถวายชวิตแก่พระองค์ี พระองค์จงฟ๎งเรื่องซ่ึงขา้ พเจ้าจะเลา่ ถวาย แล้วทรงตรึกตรองดเู ถิดีถา้ เชอื่ ขา้ พเจ้าแลทาํ ตามคาํ ข้าพเจ้า พระองคจ์ ะทรงชนมายยุ ืนยาวประกอบด้วยผาสกุ สวสั ด เปน็ ท่พ่งึ ของประชาราษฎร์ไปชว่ั กาล นานีแลเม่ือถงึ คราวดบั พระชนม์ ก็จะดบั ด้วยความไม่กระสับกระส่าย\" พระราชาแลพระราชบุตรเสด็จลงจากตัวยกั ษ์ยืนอยยู่ ังดิน ยักษล์ ุกขึ้นน่งั แลว้ เลา่ เรอ่ื งดงั ตอ่ ไปน้ \"ในกรุงอุชชยินีมคนเกิดในวันเดอื นปเี ดยวกันแลฤกษ์เดยวกันี๓ีคน คนที่ ๑ีคอื พระองค์ ผู้ทรงนามพระวกิ รมาทติ ยี์ คนที่ ๒ีเป็นบตุ รคนคา้ นํ้ามนั ีคนที่ ๓ เปน็ โยคฆา่ คนที่ ๒ีตายเสยแล้ว

โยคน้นั ฆา่ คนท้งั หลายท่มโอกาสฆา่ ไดเ้ พอ่ื บชู านางทรุ คา ครัน้ ฆา่ บตุ รคนค้านํ้ามนั แลว้ ีโยคกไ็ ปทํา ตบะห้อยตวั เองเอาหัวลงอยู่บนต้นไม้ในปาุ ชา้ มความคดิ จะฆ่าพระองคผ์ ูเ้ ป็นพระราชาีแลได้ฆา่ แล้ว ซึ่งบตุ รของตน\" พระราชาตรสั ถามว่า \"โยคเหตุไรจึงมบตุ ร\" ยักษ์ตอบวา่ \"ข้าพเจ้ากาํ ลงั จะเล่าอยู่ เดย๋ วน้ ในเวลาซึ่งพระราชบิดาของพระองคย์ งั ทรงพระชนม์ครองราชสมบตั อิ ย่นู ้ัน วนั หน่งึ เสด็จ ออกเท่ยวปาุ ีไดท้ อดพระเนตรเหน็ โยคตนหน่ึงนง่ั ทําตบะอย่ใู นปุา ฝงู ปลวกพากันมาทาํ รงั เกาะอยู่ รอบตวั โยคีสัตว์เลอื้ ยคลานตา่ งๆีพากันไตต่ ามกายแลหน้า หมารา่ ทาํ รังห้อยอยู่บนผมีแต่โยคกม็ ิได้ รู้สึกตวั ีนัง่ น่งิ เหมอื นคนไมม่ ใจ ต่อพิจารณาละเอยดจงึ เห็นได้ว่ามชวติ ีพระราชาทอดพระเนตรเหน็ ดังนัน้ ก็แปลกพระหฤทัย สักครหู่ นึ่งกเ็ สด็จคนื พระนครีทรงม้าน่งิ ตรกึ ตรองตลอดทาง ครัน้ ถึงพระนคร กร็ บั สั่งถงึ โยคน้นั รํ่าไป ย่ิงทรงนึกถึงแลรบั ส่งั ถึงกย็ ่ิงใคร่ทรงทราบเรื่องแลทดลองตบะแหง่ โยคนน้ั ใน ทส่ ุดมรับสัง่ ให้ปุาวร้องท่ัวพระนครว่าถ้าผู้ใดทําใหโ้ ยคเขา้ มาในพระนครได้โดยลาํ พงั ความชกั ชวน จะ ประทานรางวลั มจํานวนี๑๐๐ีเหรยญสวุ รรณ \"ยังมนางเวศยาคนหนงึ่ ชอื่ นางวสันตเสนา มช่ือเสยงชํานาญการร้องรําทําเพลงย่ิงกว่า สามารถสาํ รวมฤด นางนนั้ เขา้ ไปเฝาู พระราชบดิ าของพระองคี์ อาสาจะนาํ โยคเข้ามายงั ทอ้ งพระโรง แลจะใหแ้ บกทารกมาด้วย พระราชาทรงฟง๎ กส็ งสยั คําทน่ างกล่าวว่าจะทาํ ไดแ้ ตป่ ระทานใบพลูแกน่ าง ใบหน่ึงเปน็ สญั ญา ตกลงให้ทําตามอาสาแล้วประทานอนญุ าตใหอ้ อกจากท้องพระโรงไป \"นางวสนั ตเสนาครนั้ ออกจากทเ่ ฝูาแลว้ กไ็ ปยงั ปาุ เท่ยวหาโยค พบนง่ั หิวแลกระหายน้ําอยู่ แทบใกลต้ น้ ไมใ้ หญ่ มอาการเหมอื นใกล้จะส้นิ ชวติ ด้วยความรอ้ นแลความหนาว นางจงึ ทาํ อาหารนาํ้ อยา่ งหนง่ึ ซึ่งมรสหวานแหลมีค่อยย่องเขา้ ไปใกล้แลว้ คอ่ ยๆ ปาู ยอาหารนั้นท่ปากโยคีโยคร้สู กึ ถึง ความหวานก็เลยอาหารน้ันเขา้ ไป นางก็ปูายเตมิ อกเปน็ หลายคร้ังีครน้ั วันทส่ ามโยคค่อยมกาํ ลัง พอ รสู้ ึกนวิ้ ปูายทป่ ากก็ลมื ตาขึน้ ดีู เหน็ นางวสนั ตเสนากถ็ ามวา่ ีเจา้ มาทน่ ท่ ําไม\" นางวสนั ตเสนาเตรยมตอบไว้แล้ว ครัน้ โยคถามดงั นนั้ ก็ตอบวา่ ี\"ขา้ พเจา้ เป็นลูกสาวเทวดาี ได้กระทําพรตอย่ใู นสวรรค์ บัดนข้ ้าพเจ้าลงมาพักอยู่ในปาุ น้เพอ่ื จะถอื พรตตอ่ ไป\" \"โยคเห็นนางรูปรา่ ง งาม ก็คิดว่าการทรงพรตอยู่ใกลี้ ๆนางมโฉมเช่นนส้ าํ ราญกว่าอยคู่ นเดยวมาก จงึ ถามว่าท่อยู่ของนาง อย่ทู ไ่ หนีนางวสันตเสนาก็ชว้ า่ อยใู่ กล้ีๆีน้ันเอง แลว้ แกะดนิ ปลวกให้หลุดจากกายโยคีชกั ชวนให้ อาบนา้ํ ชาํ ระกาย แลว้ พาไปทก่ ระทอ่ มซึ่งได้จดั ใหม้ ผูม้ าสรา้ งขนึ้ เตรยมไว้ในปุานน้ั ครน้ั ถงึ กระทอ่ มได้ เห็นของดีๆีตา่ งีๆ ซ่ึงควรแกช่ าวนครล้วนเป็นสงิ่ ซึ่งโยคไม่เคยพบเห็นีโยคก็พศิ วงย่งิ นกั นางวสันต เสนาก็อธิบายวา่ ีนางถือพรตชนดิ ท่ตอ้ งใช้ของดท่สดุ ซงึ่ จะหาได้ ตอ้ งแต่งตวั ให้สวยีต้องกินอาหาร ประกอบดว้ ยรสทง้ั ี๖ีทัง้ ต้องบํารุงความรน่ื เรงิ ต่างีๆ (ชะรอยจะทํานองเดยวกันกบั ชนหมู่หนง่ึ ซ่ึงนบั ถือคําสั่งสอนของวัลลภาจารย์ยังมอยู่ในอนิ เดยจนถงึ ทุกวนั น้) ครั้นไปถึงกระท่อม นางวสนั ตเสนากเ็ ล้ยงดูโยคเป็นอันดีฝุายโยคเม่ือไดร้ ู้รสท้ังี๖ีกช็ อบ ใจ ละพรตอยา่ งเก่ามาถือพรตอยา่ งใหมี่ ถือการกนิ แลด่มื แทนการอด มชิ า้ กไ็ ดอ้ ยกู่ ินกับนางวสันต เสนาตามวิธคนธรรพ์วิวาหะีคร้นั ี๑๐ เดอื นลว่ งแลว้ ไปก็มบตุ รคนหนึ่งีดังนโ้ ยคจึงมบตุ ร \"ฝาุ ยนางวสนั ตเสนาครั้นมบตุ รแลว้ ีวันหนึ่งจงึ ชักชวนโยคผู้สามวา่ ดกู รท่านผูท้ รงโยคะีเรา ไดถ้ ือพรตมาในปาุ นช้ ้านานแล้ว มาเราไปยงั ท่านํ้าอนั เปน็ บุณยสถานต่างๆีเพ่ือลา้ งกายใหห้ มดบาป เป็นท่จําเริญสขุ ต่อไป โยคได้ฟง๎ ดังนนั้ ก็เห็นชอบจงึ แบกทารกผูบ้ ุตรขึ้นบา่ แลว้ ออกเดินตามนางผู้ ภรยิ า นางก็นาํ ตรงเข้ากรุงอชุ ชยนิ เขา้ ยงั ท้องพระโรงในเวลาทพ่ ระราชาประทบั อย่ทู า่ มกลางอํามาตย์ มนตร ทอดพระเนตรเห็นนางวสนั ตเสนานาํ โยคแบกทารกเข้ามาีก็ทรงพระสรวลตรสั วา่ ี\"อโห หญงิ เวศยาไปพาโยคแบกทารกมาแลว้ \" \"พวกอํามาตย์มนตรพรอ้ มกนั ทูลว่าีพระองคต์ รัสถูกแท้ หญิงคนน้ เจยวรับจะไปพาโยคมาีนางรับจะทาํ อนั ใดกท็ ําอันนั้นสาํ เร็จแล้วทกุ ประการ\" \"พระราชาได้ทรงฟ๎งก็

ทรงพระสรวลีผู้ทเ่ ฝูาอยู่ก็หัวเราะขึ้นพรอ้ มกนั ประหนง่ึ โยคเปน็ เคร่อื งสนุกอยา่ งใหญ่ ฝุายโยคเมือ่ ไดย้ นิ พระราชาตรสั แลได้ยินคนอ่ืนๆ พดู แล้วหวั เราะเกรยวกราวดงั น้นั ก็คดิ วา่ พวกนเ้ จยวแต่งนางไปล่อเราให้เสยผลแหง่ ตบะทไ่ ด้บาํ เพ็ญมา ครัน้ รูส้ กึ เชน่ นนั้ แล้วก็แบกลูกขนึ้ บา่ ี สาปคนท้ังหลายท่อยู่ในทน่ น้ั แลว้ ออกจากทอ้ งพระโรงไปีคําทโ่ ยคสาปนนั้ ไม่เป็นผลสาํ เร็จีเพราะ เสยตบะเสยแล้ว\" \"ครน้ั โยคกลบั ไปถึงปุาก็ฆ่าบตุ รของตนเสย แลว้ เริ่มทาํ ตบะใหม่ีมาดหมายจะแก้แค้นพระ ราชบดิ าแห่งพระองค์ บดั น้พระราชบิดากส็ นิ้ พระชนม์ไปแลว้ ีโยคตั้งหน้าจะทาํ รา้ ยพระองค์ตอ่ ไป หวัง จะเอาเลอื ดพระราชาแลพระราชบุตรเปน็ เครื่องบชู านางทรุ คา เพอื่ ไดร้ ับความเปน็ ใหญ่ในโลกเป็น รางวลั \" ปถ๎ พบาลเล่าเรื่องจบแลว้ กท็ ลู พระวิกรมาทิตยว์ ่าี\"ขา้ พเจ้าไดก้ ล่าวสัญญาแล้ววา่ จะช่วยชวติ พระองค์ พระองคจ์ งฟ๎งข้าพเจา้ เถิดีตอ่ ไปน้จงระวงั พระองค์ีอย่าเชอ่ื คําผ้มู สํานักในหมูค่ นตาย แล ทรงจาํ ใสพ่ ระหฤทยั ไวว้ า่ ีผใู้ ดมุ่งจะฆ่าชวิตพระองค์ พระองคอ์ าจตัดหัวผูน้ น้ั เสยก่อนได้โดยครอง ธรรม ตอ่ นัน้ ไปจะทรงครอบครองสกลโลกดว้ ยความสขุ ีปรากฏพระนามไปช่วั กาลนาน\" ป๎ถพบาลทลู เท่านนั้ แล้วก็อนั ตรธานไป พระวกิ รมาทิตยก์ บั พระราชบตุ รก็เสดจ็ เขา้ ไปในพระ นครีฝาุ ยชาวเมือง ครนั้ พระราชาเสดจ็ คืนครองราชสมบัตกิ ็พากันยินดีร่ืนเริง ต่างแต่งกายโอ่อ่า ประกวดกนั ีบ้างก็รอ้ งราํ ทาํ เพลงีบ้างก็ประโคมดนตรกกึ ก้องไป เนาวรตั นกวกแ็ ต่งกลอนยอพระ เกยรติเชิดชูเป็นเครื่องจําเรญิ พระยศีพระราชากท็ รงสําราญ แวดลอ้ มดว้ ยพระราชวงศี์ อาํ มาตยม์ นตร แลจตุรงคนิ เสนาีเหมอื นหนึ่งสุรเทพนกิ ร แวดล้อมศักราเทวราชครองราชยั อยใู่ นกรงุ อมราวดจัดเปน็ ทิพยนครฉะนัน้ ฝุายพระวิกรมาทติ ย์ ครั้นสงบความร่นื เรงิ ในการเสด็จนครแลว้ ก็ทรงปกครองประชาราฎร์ โดยเย่ยงอยา่ งประเสรฐิ ีคนทาํ ผดิ ก็ลงราชทณั ฑ์ตามโทษานโุ ทษ เปน็ ตน้ วา่ อํามาตยค์ นหนง่ึ ข้นึ ช่อื ว่ารบั สินบนกโ็ ปรดใหร้ ิบทรัพยส์ มบตั ิของอาํ มาตยน์ ้นั ไปข้นึ ทอ้ งพระคลงั เสยสิ้น คนชาติตํ่าคนหนึง่ ม กล่นิ เหลา้ ออกจากปากก็โปรดใหส้ ักหน้าเปน็ เครื่องหมายโทษ ชา่ งทองคนหนงึ่ ประกอบการฉ้อโกงีก็ โปรดให้เอามดโกนขดเนอ้ื เปน็ รอยยาวีๆ เหมอื นฉกผา้ ีคนหนึ่งเปน็ คนปากรา้ ยีพดู จาให้โทษ ก็โปรด ให้เจาะท่กะโหลกหลงั ศรษะแล้วเอาคมจับลิ้นลากย้อนรอยไปออกทางช่องซ่ึงเจาะน้ัน คนฆา่ คนตาย สองสามคนีกโ็ ปรดใหเ้ อาข้นึ เผาทั้งเปน็ บนตารางเหลก็ แลโปรดให้อ้อนวอนพระผ้เู ป็นเจา้ ใน ขณะเดยวกันใหค้ นเหลา่ น้นั พน้ โทษซึ่งน่ากลวั จะได้รบั ในปรโลก ส่วนการรบแย่งเมืองของผูอ้ ืน่ ีก็ได้ ทรงทาํ ดว้ ยความสามารถ มชิ ้าก็มอาณาจักรไปในสกลโลก วันหน่งึ พระวิกรมาทติ ยเ์ สด็จออกวา่ ราชการเมือง มพอ่ ค้าคนหนึง่ เข้าไปเฝาู ในท้องพระโรง พ่อคา้ คนนม้ าจากเมอื งไกลขึ้นชื่อวา่ ม่งั มนกั ครัน้ ไดเ้ ขา้ เฝูากน็ าํ ผลไมผ้ ลหน่งึ ถวายแล้วทูลลาไปีเม่ือ พ่อค้าไปแล้ว พระวิกรมาทติ ยท์ รงดําริว่าีคนทย่ ักษ์บอกให้เราระวงั นนั้ อาจเป็นคนนก้ ไ็ ด้ ไมค่ วรเราจะ กนิ ผลไม้น้ีทรงดาํ รฉิ ะน้ันแลว้ ก็ตรัสเรยกชาวคลงั มารบั ผลไม้ไปรกั ษาไว้ รุง่ ข้นึ พ่อค้าก็เข้าไปเฝาู อก แลถวายผลไมอ้ กผลหนึง่ พระราชาก็ตรัสใหช้ าวคลงั รบั ผลไมน้ ้ันไปเกบ็ ไว้อกีเป็นดังนท้ ุกวนั จน ผลไม้มอย่ใู นคลังกองใหญ่ วนั หนึ่งพระวกิ รมาทติ ยเ์ สดจ็ ลงไปทอดพระเนตรม้าีณีโรงม้าตน้ ประสบเวลาทพ่ ่อค้าไป เฝาู ีพอ่ คา้ กถ็ วายผลไมท้ โ่ รงม้า พระราชาทรงรับแล้วกท็ รงเดาะผลไมน้ ้นั เลน่ แลทรงน่ิงตรกึ ตรองอยู่ เผอญิ ผลไมต้ กจากพระหัตถ์ีกล้งิ ไปใกล้ลิงซ่งึ ผูกไวใ้ นโรงม้าตน้ สําหรบั คอยรบั อปุ ๎ทวันตรายตา่ งีๆีมิ ใหเ้ กดิ แก่มา้ ลิงเหน็ ผลไมก้ ล้ิงไปใกล้กฉ็ วยเอาไปฉกกนิ ทบั ทมิ เมด็ ใหญง่ ามชว่ งโชติก็ตกจากผลไม้ นั้น พระราชาแลข้าราชการทต่ ามเสด็จตา่ งก็พศิ วงีเพราะไมม่ ใครเหน็ ทับทมิ งามเชน่ น้เลย พระวกิ รมา ทติ ย์ทอดพระเนตรทบั ทมิ อยู่สกั ครหู่ นึ่งีกร็ ะแวงพระพระหฤทัย ตรสั ถามพ่อคา้ ว่าี\"เหตไุ รเจา้ จงึ ให้

ทรัพย์แก่เราดังเช่นทับทมิ เม็ดน้\" พอ่ คา้ ทลู ว่า \" คมั ภร์โบราณสอนวา่ ีเมือ่ จะไปเฝาู พระราชาี๑ีไปหา อปุ ช๎ ฌาย์ี๑ ไปหาตุลาการี๑ีไปหาหญิงสาวี๑ีไปหาหญิงแก่ผมู้ ลูกสาวซง่ึ เราใครไ่ ดี้ ๑ อย่าใหไ้ ป มือเปลา่ ขา้ พเจ้าไดถ้ วายทบั ทมิ เชน่ เดยวกันนแ้ กพ่ ระองคม์ ามากแล้ว เหตใุ ดจงึ รับสัง่ แต่เมด็ น้เมด็ เดยวเลา่ ีผลไมท้ ข่ า้ พเจ้าถวายทุกๆีวันน้ัน มทับทมิ อย่างเดยวกับเมด็ น้ซ่อนอย่ขู า้ งในทกุ ผล\" พระราชาได้ฟ๎งดงั นัน้ กต็ รัสเรยกนายคลงั ให้ไปขนผลไมม้ าท้ังสิ้น ครัน้ ขนมาแลว้ กต็ รสั ให้ ผ่าออกดพู บทับทมิ ผลละเม็ดขนาดใหญี่ แลน้ํางามเสมอกนั ทุกีๆีเม็ด พระวิกรมาทิตย์ทอดพระเนตร เห็นกท็ รงโสมนสั ีจงึ ตรสั ให้ตามพ่อคา้ พลอยเข้ามาแลว้ ตรสั ว่า \" มนษุ ยเ์ ราเม่อื สน้ิ ชวิตแลว้ จะพาสิง่ ใดจากโลกนไ้ ปสูโ่ ลกหน้าไดน้ น้ั ไมม่ ความทรงธรรมเปน็ คุณวเิ ศษยิ่งสงิ่ อ่นื ในโลกน้ เพราะฉะนน้ั เจา้ จงบอกแกเ่ ราว่า ทับทิมเหล่าน้เมด็ หนงึ่ ๆีมคา่ เทา่ ไร\" พอ่ คา้ พลอยทูลตอบวา่ ี\"พระราชารับสั่งถกู ต้องทุกประการีผใู้ ดมธรรมในใจ ผู้นัน้ เป็น เจ้าของส่งิ ทง้ั ปวงในโลกธรรมยอ่ มจะเปน็ เพ่อื นไปในท่ทงั้ ปวง มประโยชนท์ ง้ั ในโลกน้แลโลกหนา้ ีอัน ทับทิมเหลา่ นถ้ า้ ข้าพเจ้าทลู ว่า แตล่ ะเม็ดมราคาถงึ สบิ ล้านเหรยญสวุ รรณี(๑๐,๐๐๐,๐๐๐) พระองคก์ ็ ยังไมท่ รงทราบราคาจริงของทบั ทมิ เม็ดหนึ่ง อนั ท่จรงิ ราคาทบั ทมิ เหลา่ นแ้ ตล่ ะเม็ดอาจซอ้ื ทวปได้ ทวปหน่ึงีจากจาํ นวนี๗ีทวป ซึ่งรวมกนั เปน็ โลกน้\" พระราชาไดฟ้ ๎งกท็ รงสาํ ราญพระหฤทัยีประทาน รางวลั แก่พอ่ คา้ พลอย แลว้ ตรสั ใหพ้ ่อค้าผู้ถวายทบั ทมิ ตามเสดจ็ คนื เขา้ ทอ้ งพระโรง รบั สง่ั ให้นั่งในท่ อันควรแล้วตรสั วา่ \"ราชยั ไอศวรรยข์ องเราทัง้ หมดไม่มราคาครึ่งค่อนราคาแหง่ ทบั ทิมน้เม็ดหนึ่งๆ ท่าน เปน็ คนหาประโยชนใ์ นการคา้ ขายีเหตุไรทา่ นจงึ ให้ทบั ทมิ แกเ่ ราถึงเท่าน้\" พ่อค้าทลู ตอบว่าี\"ขา้ แตพ่ ระราชาผู้ประเสริฐ คมั ภรโ์ บราณกลา่ วว่า ข้อความบางอย่างไม่ ควรกลา่ วในท่ชมุ นุมคือีการขอพรี๑ีการรา่ ยมนตร์ี๑ การวางยาี๑ีการกลา่ วคุณความดี๑ีการใน เรือนี๑ีการกนิ อาหารท่ห้ามี๑ การกลา่ วลบหลเู่ พื่อนบา้ นี๑ ถ้าข้าพเจา้ ได้เฝูาเฉพาะพระองค์ ขา้ พเจา้ จะทูลความประสงค์ของขา้ พเจา้ การอนั ใดในโลกน้ถา้ ได้ยนิ ถึงี๖ีหีู กส็ ิน้ เปน็ ความลับีถา้ ได้ ยินเพยง ๔ีหีู บางทจะไม่มใครทราบตอ่ ไปีถา้ ได้ยนิ แตี่ ๒ีหีู แมพ้ ระพรหมก็ไม่ทราบได ้\"ี (ตรงนเ้ รา ท่านสมัยนค้ วรเหน็ วา่ ีถ้าี๒ีหูนั้นเป็นหูพระพรหม พระพรหมก็อาจทราบได้บา้ งกระมงั ) พระวกิ รมา ทติ ยท์ รงฟง๎ ดงั นัน้ ก็รับสัง่ ใหพ้ อ่ คา้ เขา้ ไปเฝูาในท่ลบั ีแล้วตรัสวา่ \"ทา่ นไดใ้ หท้ บั ทมิ แก่เรามากมาย ฉะนี้ เรายงั มิไดท้ ําอนั ใดตอบแทนท่านเลย แมจ้ ะได้เลย้ งอาหารจนครง้ั หนงึ่ กห็ ามไิ ด้ีทา่ นจะประสงค์ สงิ่ ใดกจ็ งบอกเราเถิด\" พ่อคา้ ทูลตอบวา่ ี\"ขา้ พเจา้ มิใชพ่ อ่ ค้า ขา้ พเจา้ เป็นโยคชือ่ ศานตศิ ลี ขา้ พเจ้ากาํ ลังจะ กระทําพิธอันหน่ึงในปาุ ช้ารมิ ฝ่ง๎ แมน่ ้าํ โคทาวร เมือ่ ขา้ พเจ้าทําสําเร็จแล้วจะไดค้ วามเป็นใหญ่ในโลก ข้าพเจ้าขอเชญิ พระองค์และพระธรรมธวัชผู้พระราชบตุ รช่วยข้าพเจ้าในการน้ เชญิ เสดจ็ ไปทป่ ุาช้าคืน หนึง่ ีและกระทาํ การตามสั่งข้าพเจา้ ทกุ ประการ ถ้าพระองค์โปรดข้าเจา้ เช่นนี้ การพธิ ของขา้ พเจ้าจะ สําเรจ็ \" พระวกิ รมาทติ ยไ์ ด้ยนิ กล่าวถึงปาุ ช้าก็สะดุง้ พระหฤทัย ดว้ ยระลกึ ถงึ คาํ ท่ยกั ษท์ ูลไว้ แต่ พระองค์เป็นพระมหากษัตรยิ ท์ รงราบวธิ ซ่อนความรู้สึกมใิ ห้ปรากฏในกริ ยิ าอาการ โยคศานตศิ ลจะได้ ทราบวา่ ทรงระแวงน้นั หามิได้ พระวิกรมาทติ ย์ทรงนงิ่ ตรึกตรองอยคู่ รู่หนง่ึ ีทรงดํารวิ ่าไดล้ นั่ พระโอษฐ์ แล้ว ถา้ ไม่ทําตามจะเสยคาํ ไปีจงึ ตรสั วา่ ี\"เราจะไปยังปุาชา้ แลช่วยทา่ นในพิธทก่ ลา่ วน้นั ท่านจงบอก กําหนดวนั แลเวลาเถิด\" โยคทูลว่า \"เชิญเสดจ็ ไปทป่ าุ ชา้ จําเพาะแต่พระองคก์ ับพระราชบตุ รีมใิ หม้ คน ตามเสด็จ แตใ่ หท้ รงถืออาวุธไปด้วยีกําหนดวันจนั ทรแ์ รมี๑๔ีค่าํ เดือนน้\" พระราชาทรงรับแมน่ ม่ัน แลว้ ีโยคก็ทูลลาจากวงั ไปเตรยมการสาํ หรบั พธิ ทก่ ล่าวน้ัน ฝุายพระวกิ รมาทติ ย์ คร้นั โยคทูลลาไปแลว้ กเ็ สด็จขนึ้ ข้างใน ทรงดาํ รขิ ้อความซึง่ ประทาน คํามนั่ แกโยคไม่มทางจะถอยได้ แต่การอนั นเ้ ปน็ เคร่อื งซง่ึ อาจใหไ้ ดอ้ ายีจงึ มิไดร้ บั ส่งั แพรง่ พรายแก่

ใคร แมอ้ าํ มาตยท์ ส่ นิทก็มไิ ดต้ รสั ให้รู้เรื่อง ครนั้ ถึงกาํ หนดกลางคืนแรมี๑๔ีคา่ํ ีพระราชากับพระราชบตุ รกเ็ ตรยมพระองค์ ทรงผา้ โพก พนั ไปใต้คางีทรงถอื ดาบอนั เปน็ อาวธุ คูพ่ ระหัตถ์ สามารถส้อู ริทัง้ ทเ่ ป็นมนุษย์แลอมนุษย์ สององค์พากันเสดจ็ ออกจากวังดําเนนิ ไปตามถนน บา่ ยพระพักตรส์ ปู่ าุ ช้าซง่ึ อย่รู มิ แม่น้ําโค ทาวรีคืนน้นั มดื นัก พายุพัดฝนตกเยือกเยน็ ีผู้คนไมม่ เดนิ ไปมาในถนน พระราชาแลพระราชบุตรต้งั พระพักตร์รบดําเนินไปจนเหน็ แสงไฟอยู่กลางปาุ ชา้ กเ็ สด็จตรงเขา้ ไปหาแสงไฟีเม่ือถงึ ขอบปาุ ชา้ ี พระราชาหยุดชะงกั เพราะรงั เกยจเหยยบพ้นื ดินโสโครกด้วยซากศพ ทรงเหลยวดพู ระราชบตุ รเหน็ มิได้ครั้นครา้ มเลย สององคก์ ท็ รงดาํ เนนิ ตรงเข้าไปีสักครู่หนึ่งถึงกลางปาุ ชา้ พระราชาทอดพระเนตรเหน็ ส่งิ ท่ น่าเปน็ ทร่ ังเกยจตา่ งีๆ อยู่ลอ้ มกองไฟซึง่ ได้เผาศพใหมี่ ๆีภูตผปิศาจปรากฏแกต่ ารอบขา้ งีเสอื คาํ รามอยูก่ ม็ ช้างฟาดงวงอยกู่ ม็ ีหมาในซึ่งขนเรอื งๆ อยู่ในทม่ ืดก็กินซากศพซง่ึ กระจดั กระจายเปน็ ช้ิน เปน็ ท่อน หมาจิ้งจอกกต็ อ่ ส้กู นั แย่งอาหารีคือเนอ้ื แลกระดูกมนษุ ย์ หมก็ยืนเคย้ วกินตบั แห่งทารกีใน ทใ่ กล้กองไฟเหน็ รปู ผนง่ั ยืนแลลอยอย่เู ป็นอันมาก ทัง้ มเสยงลมแลฝนีเสยงสนุ ขั เห่าหอนีเสยงนก เคา้ แมวรอ้ งแลเสยงกระแสนาํ้ ไหลกลบกันไป ในทา่ มกลางสงิ่ นา่ เกลยดนา่ กลัวเหล่านี้ โยคศานติศล นง่ั อยูใ่ กลก้ องไฟ มกะโหลกศรษะวางอยู่บนเข่าีมือถือกระดูกแข้งมือละทอ่ น เคาะกะโหลกเป็นเพลง ให้ภูตต่างๆีราํ แลโลดไปมาอยูร่ อบข้าง พระวิกรมาทิตย์ทรงความกล้าอย่างทส่ ดุ ีดังจะเห็นได้ในเวลาท่รบยักษ์น้นั แล้ว แตค่ วาม กลา้ นนั้ ประกอบดว้ ยความระมัดระวังพระองค์ ครั้นเหน็ มนษุ ยแ์ วดล้อมด้วยผดงั น้ันีก็ซํา้ คดิ ถงึ ยกั ษ์ เห็นเปน็ ชอ่ งอนั ดท่จะทําลายศัตรซู ึง่ ม่งุ ร้ายตอ่ พระองค์ีทรงคิดว่าในขณะนน้ั ถ้าตรงเขา้ ไปฟน๎ ดว้ ย พระแสงดาบอันคมกลา้ ีให้หวั โยคขาดไป ก็จะทําได้สําเรจ็ ประสงคโ์ ดยงา่ ย แตท่ รงรําลกึ วา่ ได้ทรง สญั ญาเสยแล้วว่าจะมารบั ใชโ้ ยคในคนื วนั นัน้ จาํ ต้องปฏิบตั ิตามขอ้ สญั ญาีแลระวงั พระองค์คอยหา โอกาสในเวลาขา้ งหน้าตอ่ ไป พระราชาทรงดําริฉะนแ้ ลว้ จึงเสดจ็ ทรงนําพระราชบุตรเข้าไปทาํ กริ ยิ าเคารพโยคเป็นอันด แล้วทรงนัง่ ลงบนพนื้ ดนิ ตามคาํ โยคทูลเชญิ ีสกั คร่หู นงึ่ พระราชาตรสั วา่ \"เรามาทงั้ น้โดยสัญญาจะ ปฏบิ ัตคิ ําสง่ั แหง่ ทา่ นีทา่ นจะใหเ้ ราทาํ อนั ใดจงว่าไปเถดิ \" โยคทลู ตอบว่าี\"พระองค์เสดจ็ มาถงึ แล้ว ก็ จงปฏิบตั ติ ามประสงค์ขอ้ หนงึ่ ของขา้ พเจา้ ก่อน คอื ในทศิ ใตม้ ปุาชา้ เช่นเดยวกนั นอ้ กแหง่ หนง่ึ ีในปุา ช้านัน้ มตน้ อโศก บนต้นอโศกน้นั มศพแขวนอย่ศู พหน่ึงีพระองคจ์ งไปพาศพนนั้ มาใหข้ ้าพเจ้าโดยเรว็ \" พระราชาทรงฟง๎ ดังนน้ั ก็จับพระหตั ถพ์ ระราชบตุ รพากนั เดินไปในทิศใต้ ทรงทราบใน พระทยั ว่าศานติศลกาํ ลงั ตัง้ พธิ จะทาํ ร้ายพระองคแ์ ลพระราชวงศข์ องพระองค์ จาํ เป็นพระราชาตอ้ งคดิ อุบายปอู งกนั มใิ หโ้ ยคกระทําการเปน็ ภัยแกพ่ ระองคไ์ ด้ ทรงพระราชดําริเชน่ น้พลางดาํ เนนิ ไปีไดย้ ิน เสยงดนตรของโยคแลเสยงภตู ผปศิ าจต่างๆ เตน้ รําทําเพลงออ้ื อึงในปาุ ช้าีทางท่เดนิ น้ันมืดถึงแกจ่ ะ เดนิ ใหต้ รงมิได้ ทัง้ มภตู ตามลอ้ หลอกใหต้ กใจีบ้างกแ็ กล้งขวางจะให้สะดุดลม้ ีบ้างก็เป็นงมู าพนั พระ ชงฆ์ บ้างกท็ าํ แสงวบู วาบขา้ งๆีทางเดินีบา้ งก็ทาํ เสยงดงั ลนั่ ใกล้ๆีพระองค์ แม้คนทก่ ลา้ ก็นา่ หวาดเสยวีไม่อาจดําเนินต่อไปได้ แต่พระราชากบั พระราชบุตรก็มไิ ดถ้ อย พากันทรงดําเนินไปจนถงึ ปุาช้าซึ่งโยคทูลน้ัน สักครู่ หนึง่ เห็นต้นอโศกต้นใหญ่ลุกเป็นไฟแดงไปทง้ั ต้น พระราชาไม่ทรงยอ่ ท้อกเ็ ดนิ ตรงเข้าไปประเดย๋ วได้ ยินเสยงผร้องบอกวา่ ี\"ฆา่ เสย ฆา่ เสยท้ังสองคนีจบั ตัวใหไ้ ด้ีชว่ ยกนั จับตวั เผาในไฟบนตน้ ไม้ใหไ้ หม้ เปน็ จณุ ไป ทําให้รสู้ ึกพิษไฟแหง่ บาดาล\" พระราชาไมท่ รงคร่ันคร้ามีก็ตรงเข้าไปถึงต้นไม้ แตเ่ ปลว ไฟบนตน้ อโศกนัน้ มไิ ด้รอ้ นีเพราะเปน็ ไฟทป่ ศิ าจสําแดงหลอกเทา่ นัน้ เมอ่ื เข้าไปถงึ โคนต้นไม้ พระราชาก็หยดุ พิศดศู พซ่ึงแขวนอย่บู นกิง่ อโศก ศพนน้ั ลืมตาโพลง ลกู ตาสเี ขียวเรอื ง ๆ ผมสี

น้าตาล หน้าสีนา้ ตาล ตวั ผอมเห็นซ่ีโครงเป็นซ่ี ๆ ห้อยเอาหวั ลงมาท้านองค้างคาว แตเ่ ปน็ คา้ งคาวตัวใหญท่ สี่ ดุ เม่อื จับถูกตัวก็เย็นชดื เหนียว ๆ เหมือนงู ปรากฏเหมอื นหนึ่งไม่มีชีวติ แตห่ างซ่งึ เหมอื นหางแพะน้นั กระดกิ ได้ พระวกิ รมาทิตยท์ อดพระเนตรเหน็ เช่นน้ ก็ทรงคดิ วา่ ศพน้ คอื ศพลูกชายของพ่อคา้ นํ้ามัน ซ่ึงยักษ์ได้ทูลไว้ว่าโยคเอาไปแขวนไวท้ ่ตน้ ไม้ ครัน้ เมือ่ เห็นเปน็ เวตาล เช่นน้กท็ รงพิศวง แต่ทรงดําริว่าชะรอยโยคจะแกล้งเปล่ยนศพลกู ชายพอ่ คา้ นํา้ มนั ให้มรูปเปน็ เวตาล เพื่อจะลวงใหส้ นิทดอกกระมงั ทรงคิดเชน่ นแ้ ล้วีพระราชากท็ รงปีนขน้ึ ไปบนต้นไม้ ตรัสให้พระราช บตุ รยืนหลกใหห้ า่ งออกไป แลว้ ทรงพระแสงดาบฟน๎ ก่ิงไมซ้ ่งึ เวตาลห้อยอยู่นัน้ ขาดตกลงยังดินท้งั เวตาลดว้ ย ฝาุ ยเวตาลเมอื่ ตกถงึ พ้นื ดินกก็ ดั ฟน๎ รอ้ งเสยงเหมือนทารกซึ่งไดร้ บั ความเจบ็ พระราชาตรัส ว่าี\"อ้ายตัวนม้ ชวติ \" แล้วเสดจ็ โจนลงจากตน้ ไมี้ ตรัสถามเวตาลว่า \"เอง็ นอ้ ะไร\" ตรสั แทบจะยังไม่ทัน ขาดคําีเวตาลหวั เราะด้วยเสยงอันดงั แล้วกลบั ขึน้ ไปห้อยเกาะก่งิ ไม้กง่ิ อนื่ อยบู่ นต้นไมอ้ ย่างเก่า หอ้ ย พลางหัวเราะจนตวั แกว่งไปมา ฝุายพระราชาทรงคิดวา่ เวตาลน้คงจะเปน็ บุตรพ่อคา้ นํ้ามนั เป็นแน่ จาํ จะตอ้ งปีนข้ึนไปตัดกิ่ง ไมล้ งมาอกคร้ังหนง่ึ ีจงึ ตรสั แก่พระราชบุตรว่า คราวหน้าเม่ือเวตาลตกลงมาถงึ พื้นดินีกใ็ ห้จับไว้ใหจ้ ง ได้ ตรสั ส่ังแลว้ พระราชาทรงปีนข้นึ บนต้นไม้ีตัดกิ่งตกลงมาอกกงิ่ หนึ่งพร้อมกบั เวตาล พระราชบุตร คอยอยู่ขา้ งล่างกต็ รงเขา้ จับเวตาลไว้แนน่ พระราชาเสดจ็ รบลงจากตน้ ไม้เข้าชว่ ยพระราชบตุ รยดึ แลว้ ตรสั ถามวา่ ี\"เอง็ น้คอื ใคร\" ทนั ใดน้นั เวตาลกห็ วั เราะด้วยเสยงอันดังแลว้ ลน่ื หลุดลอยขึน้ ไปเกาะอยู่บน ต้นไมอ้ ยา่ งเก่า หอ้ ยพลางหวั เราะเย้ยอย่บู นกิง่ ไม้อันสงู ฝาุ ยพระราชาเมื่อเวตาลหลดุ ไปได้ถึงสองครงั้ เชน่ นี้ ก็ทรงพิโรธ ตรสั สงั่ พระราชบตุ รว่าีเมือ่ เวตาลตกลงมาถงึ พ้นื ดินให้ฟ๎นหวั ให้ขาดออกไป แล้วทรงปนี ขน้ึ ต้นไม้จบั ผมเวตาลกระชากจนหลดุ จากก่งิ ไมเ้ กาะแล้วทิง้ ลงมาถงึ พื้นดนิ พระราชบุตรคอยอยขู่ ้างล่างกฟ็ ๎นด้วยพระแสงดาบถูกหวั เวตาล ดาบบิน่ ไป ปรากฏเหมือนหน่งึ ฟ๎นหินีพอพระราชาเสดจ็ ลงจากตน้ ไมม้ าถึงดนิ ตรัสถามว่า\"เอง็ คือใคร\" แทบจะยงั ไม่ทนั สุดสาํ เนยงีเวตาลกห็ ัวเราะไปเกาะอยบู่ นต้นไมอ้ ย่างเกา่ พระวิกรมาทิตยเ์ สดจ็ ปีนขึ้น ไปีแลลงหลายครั้งกไ็ ม่ยอ่ ท้อ ปรากฏความเพยรเหมือนหนงึ่ ว่าจะยอมปนี ขึ้นปนี ลงอยูจ่ นสิน้ ยคุ แต่ ไมจ่ ําเปน็ ต้องเพยรนานถงึ เท่าน้ันีเพราะเวตาลยอมใหจ้ บั ในครง้ั ทเ่ จด็ ีแลกลา่ วว่า แม้เทวดาก็ขืนใจ คนหัวด้อื ไมไ่ ด ้ีฝาุ ยพระราชาเมอ่ื จบั เวตาลไวแ้ ล้ว ก็ปลดผ้าผนื หนงึ่ ออกจากพระองคผ์ กู เปน็ ย่ามจะ ใสเ่ วตาล เวตาลนิ่งดูอยคู่ รหู่ น่งึ แลว้ ถามว่าี\"ท่านน้คอื ใครีท่านจะทาํ อะไร\" พระราชาตรสั ตอบวา่ ี\"เอ็ง จงรูว้ า่ ข้าคอื พระวกิ รมาทติ ยพ์ ระราชากรุงอชุ ชยนิ ขา้ จะจับตัวเอ็งไปให้คนีๆีหน่ึงีซงึ่ เหน็ สนุกในการ เคาะกะโหลกหัวผเป็นเพลงให้ผฟ๎ง\" เวตาลทูลตอบว่าี\"พระองค์ผูเ้ ป็นราชา จงจําภาษิตโบราณไวว้ ่า ลนิ้ คนน้นั ตดั คอคนเสยมาก ตอ่ มากแลว้ ขา้ พเจา้ จะยอมตามพระหฤทยั พระองค์ีแลตามเสด็จไปหาบรุ ษุ ทท่ ําดนตรด้วยกะโหลก หวั ผ พระองคจ์ ะผูกขา้ พเจา้ สะพายหลงั เหมอื นยา่ มคนขอทานกต็ ามพระประสงค์ แต่พระองคจ์ งฟ๎งคํา ข้าพเจา้ ใสพ่ ระหฤทยั ไปตลอดทางีคือขา้ พเจ้าเปน็ ผชู้ ่างพดู แลทางเดนิ ตั้งแต่ท่นไ้ ปถงึ ปุาชา้ ซง่ึ เพอื่ นของพระองค์น่ังทําดนตรอยู่น้ันกินเวลาชัว่ โมงเศษ ในเวลาเดินทางขา้ พเจา้ จะเลา่ นิทานเลน่ ี เพราะ ปราชญ์ผู้มความรู้ยอ่ มใชเ้ วลาของตนในเร่ืองหนงั สอื มิใช่ใชเ้ วลาในการนอนแลการข้เกยจ อยา่ งคนโง่ ในเวลาเล่านทิ านน้ันข้าพเจา้ จะตั้งปญั หาถามพระองค์ แลพระองค์ต้องสัญญาขอ้ น้ี เสยี ก่อน ข้าพเจา้ จงึ จะยอมไปดว้ ย คอื เมือ่ ข้าพเจา้ ตง้ั ปญั หาถ้าพระองค์ตอบ จะเป็นด้วย กรรมในปางก่อนบันดาลใหต้ อบหรือด้วยแพค้ วามฉลาดของข้าพเจา้ เพราะข้าพเจา้ ล่อให้ ทรงแสดงความเย่อหย่งิ วา่ มคี วามร้กู ็ตาม ถา้ ตรัสตอบปัญหาขา้ พเจ้าเม่อื ใด ขา้ พเจ้าจะ กลับไปทอ่ี ยขู่ องข้าพเจา้ ตอ่ เมื่อพระองคไ์ มต่ อบปัญหาเพราะไดส้ ตหิ รือดว้ ยความโง่เขลา ของพระองค์กต็ าม ข้าพเจา้ จึงจะยอมไปด้วย ข้าพเจ้าขอทลู แนะน้าเสียแต่ในบดั น้ีวา่

พระองค์จงสงบความหยงิ่ ในพระหฤทัยว่าเป็นผมู้ ีความรู้ เม่ือเกิดมาเป็นคนโงแ่ ล้วกจ็ งยอมโง่ เสียเถิด มฉิ ะน้นั พระองค์จะไม่ไดป้ ระโยชน์ซ่ึงนอกจากข้าพเจ้าแล้วไม่มใี ครจะอ้านวยได้ี\" พระวกิ รมาทติ ยไ์ ดท้ รงฟ๎งดังนั้นกค็ ิดขดั เคืองในพระหฤทัยีเพราะ พระราชาไมเ่ คยฟ๎งใครดู หมนิ่ ว่าโง่ แต่ครัน้ จะไม่ยอมสญั ญาตามคําเวตาลกจ็ ะไม่ไดต้ ัวไปดงั ประสงค์ ทรงดาํ ริเช่นน้แลว้ มิได้ ตรสั ตอบประการใดีทรงจบั เวตาลใส่ลงในย่ามยกขน้ึ สะพาย แล้วตรัสให้พระราชบตุ รรบตามให้ทันี พลางเสด็จออกรบทรงดําเนนิ ไป ฝาุ ยเวตาลครัน้ ออกเดินได้สักครหู่ นง่ึ ีก็ทูลถามปญ๎ หาสัน้ ีๆ กล่าว ด้วยลมแลฝนแลโคลนในถนนีพระราชามไิ ดต้ รสั ตอบประการใดีเวตาลจงึ ทลู วา่ \"ข้าพเจ้าจะเลา่ นิทานซ่งึ เปน็ เร่ืองจริงถวายในบดั น้ี พระองค์จงฟงั เถิด\" Introduction นิทานเวตาลเรอ่ื งที่ ๑ เรือ่ งที่ ๑ ในกรงุ พาราณสมพระราชาทรงศักดิ์ใหญ่ครองราชย์สมบัตีิ ทรงนาม พระประตาปมุกุฏ มราชบุตรีทรงนามวชั รมุกุฏีมเรอื่ งดังตอ่ ไปน้ เช้าวนั หนึง่ ีพระวัชรมกุ ฏุ กับสหายีชือ่ พุทธิศรริ ะ พากันขม่ ้าออกเทย่ วล่าเนอ้ื ในปาุ ีพทุ ธิ- ศริระเป็นบตุ รของประธาน คอื หวั หน้าอาํ มาตย์ในพระนครน้ันีชายหนมุ่ ท้งั สองขม่ า้ ไปในปาุ พบสระใหญส่ ระหนึง่ มกําแพงล้อมรอบริมสระเปน็ ทร่ ่มรื่นตลบด้วย กลนิ่ ดอกไม้ ฝงู นกคอื หงส์แลนกจากพรากเปน็ ต้นีลงลอยอยู่ในสระ ในหม่ดู อกบัวอนั ชูกา้ นขน้ึ มาพน้ น้ําเปน็ ท่ชวนชม แมลงภู่ทงั้ หลายพากนั ร่อนอยเู่ หนอื นํา้ ีแลกนิ รส ดอกบวั ในสระนน้ั ีพระราชบตุ รแลสหาย ไม่เคยไปพบสระน้นั ในปุาต่างกพ็ ศิ วงจงึ ลง จากหลงั มา้ ีผูกม้าไว้แทบใตต้ ้นไม้ แลว้ เดนิ เข้าไปรมิ สระชาํ ระพระพักตรแ์ ละหตั ถ์ แล้ว ก็เข้าไปในศาลพระมหาเทพซึง่ อยใู่ กลฝ้ ่๎งสระีต่างคนกระทาํ การนอบนอ้ มแลสวดมนต์ สักครหู่ นงึ่ มหญิงสาวเปน็ อันมาก หอ้ มลอ้ มด้วยทาสพากนั มาทร่ ิมสระฟาก โนน้ ครนั้ มาถงึ ก็ยนื สนทนาแลสาํ รวลกนั อยู่ท่ขอบสระีบางนางก็ลงอาบนํา้ แต่นางผู้ เปน็ หัวหนา้ คือพระราชบุตรน้ันมิไดล้ งสระนาํ้ เสด็จเดินเทย่ วเลน่ ใต้รม่ ไมก้ บั นางอกคน หนง่ึ หา่ งฝงู นางออกไป ฝุายพระราชบตุ รปล่อยให้พทุ ธศิ รริ ะน่งั สวดมนตอ์ ย่ใู นศาลพระมหาเทพคน เดยว พระองคเ์ สด็จออกจากศาลเดินเด่ยวไปในหมู่ไม้ มิช้าพระราชบุตรแลพระราช ธิดาก็สบพระเนตรกันีนางสะด้งุ เหมอื นหนง่ึ ตกพระหฤทยั พระราชบตุ รทรงใฝฝุ ๎น ในทนั ททท่ อดพระเนตรเหน็ นางีแลตรสั ออกมาว่าี\"กามเทพเอย เหตไุ รท่านจงึ มา รบกวนเราเชน่ น้\" พระราชธดิ าไดย้ ิน ทรงยม้ิ หยดุ ยนื ดูกริ ยิ าพระราชบตุ รีเพราะเธอตก ประหม่ามริ ู้จะกลา่ วแลทาํ ประการใดได้ นางนิง่ ดูอย่คู ร่หู น่ึงกท็ าํ การเหมือนพโิ รธตรัส แก่หญงิ สหายซ่งึ แสรง้ หันหลงั เก็บดอกมะลิว่า เหตไุ รจงึ ปล่อยใหช้ ายหนุม่ มายืนจอ้ งดู นางอยู่เช่นน้ ฝาุ ยหญิงสหายเมื่อไดย้ ินดังนนั้ ก็หนั มากลา่ วคําเกรย้ วกราดขบั ไล่ให้ พระราชบุตรไปเสยจากท่ แลใหพ้ าความละลาบละลว้ งไปเสยด้วย มิฉะน้นั จะเรยก ทหารมาจับตัวทงิ้ ลงไปในสระใหส้ มแกโ่ ทษ ฝุายพระราชบตุ รยืนตกตะลึงดูนางีมิได้ ยินคําทห่ ญงิ สหายกล่าวขู่ นางท้งั สองเหน็ ดงั น้ันกพ็ ากันเดินหา่ งออกไป ครนั้ ถึงขอบสระฟากข้างโนน้ พระราชธดิ ากเ็ หลยวดวู ่าชายหนมุ่ ผู้ตก ประหม่ายังน่ิงอยู่กับทห่ รอื ทําอย่างไรต่อไป คร้นั เหน็ พระราชบุตรยงั ยนื จอ้ งดูอยูี่ นางก็ ทรงย้ิมแลว้ เสด็จลงไปทข่ อบสระ เก็บดอกบวั ดอกหนึง่ ชูขึน้ ไหว้ฟูาแล้วเอาเสยบเกศา แล้วทัดทก่ รรณีแลว้ กดั ด้วยทนต์ แลว้ ทง้ิ ลงเหยยบด้วยบาทีแลว้ กลับหยิบข้นึ ป๎กท่ อุระ ครั้นทําเช่นน้แลว้ นางกเ็ สดจ็ ไปขนึ้ ยานกลับคืนสู่นเิ วศน์แห่งนาง

ฝุายพระราชบตุ รีครั้นนางไปแล้วกเ็ รา่ รอ้ นในพระหฤทัย เสด็จกลบั ไปยงั ศาล พระมหาเทพีพบพทุ ธิศริระเดินออกมาจากศาลีพระราชบุตรกร็ ับสั่งว่า \"สหายเอยีข้า ได้เห็นนางหนงึ่ งามนกั ีจะเปน็ ีนางดนตรของพระอินทรใ์ นสวรรค์ หรือจะเปน็ นางมา จากทะเลหรือธดิ าแห่งนาคราชีหรือบุตรพระราชาในแผน่ ดนิ ีก็หาทราบไม่\" พุทธศิ ริระ ผ้จู ะเปน็ อํามาตย์มปญ๎ ญาในภายหนา้ ทูลวา่ \"พระองคจ์ งกลา่ วโฉมหน้านางใหข้ า้ พเจ้า ฟง๎ เถิด\" พระราชบตุ รตรสั วา่ \"พกั ตรน์ างเหมอื นพระจนั ทรย์ ามเพ็ญีผมเหมอื นหมผู่ ง้ึ อันเกาะห้อยอย่บู นชอ่ ดอกไม้ ปลายขนงยาวจรดถงึ กรรณีโอษฐม์ รสเหมอื นจนั ทราม ฤตีเอวเหมอื นเอวสงิ ห์ ทรงดําเนนิ เหมอื นราชหงส์ีกลา่ วเทยบเครื่องแต่งกายนางคือส ขาว กล่าวเทยบฤดนู างคอื วสนั ตฤดูีกลา่ วเทยบีดอกไม้นางคอื พทุ ธชาด กลา่ ว สําเนยงนางคือนกกาเหวา่ ีกล่าวความหอมนางคือชะมดเชยงีกล่าวความงามนางคือ พระศร กล่าวความเปน็ นางคอื ความรกั ีถ้าขา้ มไิ ดน้ างมาีขา้ จะไม่ทรงชวติ ไปเปน็ อนั ขาด ขา้ ได้ตกลงในใจเชน่ น้แลว้ \" พทุ ธศิ รริ ะไดฟ้ ง๎ พระราชบุตรตรสั ดังนั้นีก็มิไดร้ อ้ นใจีเกรงจะปลงพระชนม์ ลงในกลางปาุ เพราะเคยได้ยนิ พระราชบุตรตรัสอยา่ งเดยวกนั ทุกครง้ั ทไ่ ดเ้ หน็ นางงาม มิไดค้ ิดวา่ จะเปน็ ไปลกึ ซ้ึงยิง่ กว่าคราวก่อนๆีพุทธิศริระจึงทลู วา่ ถา้ ไมข่ น้ึ ม้าเด๋ยวน้คง จะคา่ํ อย่กู ลางปุาไมก่ ลบั ถึงนครได้ในเวลาอนั ควร พุทธิศริระกลา่ วดงั นั้นแล้วีเจ้าแลขา้ ก็ชวนกันข้นึ มา้ หันกลับเข้าเมือง ในเวลาเดนิ ทางอยูป่ ระมาณี๓ีชว่ั โมงนัน้ ชายหนุ่มท้งั สองเกือบจะมิได้ สนทนากนั เลย พระวัชรมกุ ุฏนิง่ นกึ ถึงนางมิได้รับสง่ั ประการใด เมื่อพุทธศิ ริระทลู อะไรก็ ตอ้ งทูลดงั ๆถงึ สามส่ครั้ง จึงจะตรสั ตอบคําเดยวหรือสองคําเปน็ อย่างมาก ฝุายพุทธศิ ริ ระเมื่อเหน็ พระราชบตุ รนง่ิ อย่ดู งั นั้นีก็มไิ ด้ทลู อันใดต่อไป คดิ ในใจว่าถ้าพระราชบุตร อยากไดค้ วามเห็นแลความแนะนํากใ็ ห้หารือมาเถดิ พุทธศิ รริ ะคิดดังน้ เพราะดาํ เนินความคดิ ตามวธิ ของบิดาผู้เป็นอํามาตยม์ ปญ๎ ญาีซึ่ง มไิ ดใ้ หป้ ญ๎ ญาแกผ่ ใู้ ดทม่ ไิ ดข้ อนัน้ เปน็ อันขาด ถึงแมผ้ ูท้ ่ขอป๎ญญาบางทก็ ได้เหน็ ส่ิงตรงกนั ข้าม อันผูฉ้ ลาดไม่เรยกวา่ ป๎ญญาเปน็ อันขาด ฝุายพุทธิศรริ ะีเมอื่ ข่ม้าน่ิงๆีเวลานั้นก็ตรึกตรองขอ้ ความลึกลับอันหนงึ่ ซึ่ง ข้นึ ตน้ ไวแ้ ต่เวลาเชา้ เพราะชายหนุ่มคนนม้ วิธฝึกฝนปญ๎ ญาให้คมกลา้ คอื เมอ่ื ตืน่ ขน้ึ เชา้ กค็ ิดตัง้ ป๎ญหาถามตวั เองขอ้ หนง่ึ ซงึ่ มใจความลกึ ลับ แลตรึกตรองตอบป๎ญหานัน้ ทุกขณะีท่มเวลาวา่ งีขอ้ ความทล่ กึ ลับแลละเอยด ถ้าเกย่ วกบั ปญ๎ หาน้นั กน็ าํ เอามา ตรึกตรองจนส้ินเชิง แลเมือ่ ไดท้ ําเชน่ น้มาสองสามปกี ค็ วรเป็นทเ่ ชื่อได้วา่ ชายหนุ่มคน น้มปญ๎ ญารุ่งโรจน์มาก ครนั้ กลับถงึ วังในตอนค่ํา พระราชบตุ รก็บรรทมกระสบั กระส่ายอยตู่ ลอดคืนี แลเป็นเชน่ น้นั ตลอดวันรุ่ง ครั้นวันท่สองถึงแก่ประชวรมอาการเป็นไขี้ การเขยนการ อา่ นการกนิ การนอนกง็ ดหมด ราชการซ่งึ พระราชบดิ ามอบเฉพาะพระองคก์ ็งดีการ อื่นๆีกง็ ด เพราะรบั สั่งว่าจะสิ้นพระชนมอ์ ย่แู ล้ว คร้ันพระชนมย์ ังไมส่ ิน้ ก็ทรงเขยนรูป นางงามผู้เกบ็ ดอกบวั มาทําแปลกๆ จนฝง๎ อยใู่ นพระหฤทัยีกล่าวกนั ว่าเขยนเหมอื น อยา่ งทส่ ดุ ครน้ั เขยนแลว้ ก็บรรทมพศิ ดรู ปู ีดว้ ยพระเนตรอันฉํา่ ดว้ ยน้ํา อกคร่หู นึ่งลุก ทะล่งึ ขึน้ ฉกรปู นนั้ เสย แล้วชกพระเศยรประหนึ่งว่าพระเศยรได้กระทําความผดิ เป็นข้อ ใหญ่ แลว้ กเ็ ขยนรปู นางอกรูปหนง่ึ งามย่งิ กว่ารปู ก่อน อกวันสองวันีพระราชบุตรตรัสให้เรยกพทุ ธศิ ริระเขา้ ไปเฝาู พุทธิศริระ ทราบอยหู่ ลายวนั แล้ววา่ คงจะเรยกีครนั้ เขา้ ไปเฝาู ถึงท่บรรทม เหน็ พระราชบุตรพระ พกั ตร์เผอื ดแลทรงบน่ วา่ ปวดพระเศยร พทุ ธศิ รริ ะทราบอยแู่ ล้ววา่ จะรบั สัง่ เรือ่ งอะไร แตย่ ังไมก่ ลา้ รับส่งั เพราะราชบตุ รแลสหายคนนไ้ ดส้ นทนาเรอื่ งผหู้ ญงิ หลายครั้งแล้ว พระราชบุตรตรสั ครง้ั ไร พุทธศิ รริ ะกย็ ้มิ เยย้ แลกลา่ วลบหลู่หญงิ อยา่ งเร่ยวแรงแลยงั กล่าวติเตยนชายทห่ ลงรักหญงิ อยา่ งเร่ยวแรงย่งิ ไปกวา่ ตเิ ตยนหญิงเสยอก เหตุดงั น้

พระราชบุตรจงึ อ้าํ อ้งึ ยงั ไมก่ ล่าวเร่ืองท่อย่ใู นพระหฤทยั พุทธิศริระรทู้ แลอยากใหต้ รัส ออกมาจงึ ทูลว่า \"โรคชนดิ นต้ ้องเสวยยาขมแลอดของแสลงใหจ้ รงิ มฉิ ะนน้ั โรคไมบ่ รรเทาได้\" พระราชบตุ รได้ฟ๎งพทุ ธิศรริ ะสาํ แดงความรอ้ นใจ ดังนัน้ ก็สิน้ ความอํ้าอง้ึ ีพระหัตถ์จบั มือ พทุ ธศิ ริระนา้ํ พระเนตรตกตรสั ว่า \"ชายใดเข้าเดินในทางแหง่ ความรักชายนัน้ จะรอดชวิตไปมิได้ หรอื ถา้ ยงั ไม่ ส้ินชวิตีชวติ ก็มใิ ชอ่ นื่ ีคือความทุกข์ท่ยดื ยาวออกไปนนั้ เอง\" พทุ ธิศรริ ะทลู วา่ ี \"พระองคร์ ับส่งั ถกู เปน็ แนแ่ ลว้ ีกวโบราณย่อมกล่าววา่ วิถแห่งความรกั น้ันไม่มต้นแลไม่ มปลาย บุรษุ พงึ ตรึกตรองให้ถ่องแท้แลว้ จึงวางเทา้ ลงในวิถนั้น ผู้มปญ๎ ญารูส้ ่งิ ท้ังสาม คอื ความใครี่ หญงิ หนงึ่ ีกระดานสกาหน่งึ ีการด่ืมน้าํ เมาหนึง่ อาจใหผ้ ลแกค่ นในทางท่ ไม่อาจทํานายได้ เหตุดังนัน้ วธิ ทจ่ ะปฏิบตั ิการท้ังสามสง่ิ น้ดท่สดุ กค็ ือไม่ปฏิบัตเิ สยเลย กล่าวอกนัยหนึง่ กค็ อื เวน้ ใหข้ าด แตว่ ิธของโลกน้ ถ้าไม่มวัวตวั เมยก็ต้องรดนมตัว ผู้แทน\" คําสอนของผ้มู ปญ๎ ญากลา่ วเชน่ น้ จะแปลว่ากระไรกต็ าม พระราชบตุ รย่อมจะ ทรงเห็นวา่ เป็นคําสอนทก่ ล่าวช้าไปไม่ทันกาลเสยแลว้ เธอนิ่งอยู่ครหู่ นึ่งจงึ ตรัสว่าี\"ขา้ ไดย้ ่างเท้าเดินทางนน้ั เสยแล้ว ทส่ ุดแห่งทางจะเป็นความทกุ ข์หรอื ความสุขกต็ ามบุญ ตามกรรม\" ตรัสดงั นน้ั แลว้ กท็ รงถอนใจใหญ่ีฝุายพทุ ธิศริระเห็นพระราชบตุ รมอาการ ดังนนั้ กค็ ิดสงสารจึงทูลถามวา่ ี\"นางนั้นคอื นางซง่ึ พบท่สระในปุานั้นหรอื \" พระราช บตุ รพยกั พระพักตรี์ พุทธิศริระทลู ถามวา่ \"เมอื่ นางจะไปนน้ั นางได้กลา่ วอะไรแก่ พระองคห์ รือเปลา่ หรือพระองค์ไดก้ ลา่ วอะไรแกน่ างบา้ ง\" พระราชบตุ รตรสั ว่าี\"ไม่ได้ กลา่ วอะไรแก่กนั เลย\" พทุ ธิศรริ ะกล่าวว่าี\"ถา้ เชน่ น้นั ก็ยากท่สุดท่จะได้นางมา\" พระ ราชบตุ รตรัสวา่ \"ถ้าเช่นน้ันขา้ กใ็ กลเ้ วลาตาย แลชวิตเปน็ ความทุกข์ตัง้ แตบ่ ดั น้ไปจวบ เวลาขาดลมหายใจ\" พทุ ธศิ รริ ะคิดขดั ใจทพ่ ระราชบตุ รพูดนอกเรอ่ื ง เพราะการกล่าวถึงความตาย ไม่ใชท่ างทจ่ ะได้นางมาเป็นอันขาด พทุ ธิศริระน่งิ อยคู่ รูห่ นึง่ จงึ ทลู ถามวา่ ี\"นางไม่ได้ ใหส้ ัญญาอะไรบ้างหรอื พระองค์จงเลา่ ใหข้ า้ พเจา้ ฟ๎งให้ละเอยดีคนไขท้ บ่ อกอาการ โรคครง่ึ ๆีกลางๆ ไมม่ ประโยชนเ์ ลย\" ครนั้ พทุ ธิศริระทูลดังนน้ั ีพระราชบตุ รกต็ รสั เลา่ ตั้งแตต่ ้นจนปลาย กล่าวโทษพระองคเ์ องท่ตกตะลึงแลสะทกสะทา้ นมไิ ดก้ ลา่ วอนั ใด แกน่ าง ในทส่ ุดเล่าถึงกิริยาท่นางเก็บดอกบัวมาทําท่าตา่ งๆีพทุ ธิศริระไดย้ นิ ดังนนั้ ก็ นงิ่ ตรองอยู่สกั ครูห่ น่ึงแล้วทลู พระราชบตุ ร สาํ แดงคณุ ชว่ั แห่งแห่งความสะทกสะเทิ้น ในขณะทอ่ ยู่ใกลห้ ญงิ ถา้ พระราชบุตรจะเปน็ ผมู้ ความสุขตอ้ งสาํ แดงพระองค์เปน็ คน กล้าในคราวหนา้ ท่พบนางจึงจะสาํ เร็จประสงค์ พระราชบตุ รตรสั สญั ญาวา่ ถ้าไดพ้ บนาง ก็จะเปน็ คนกล้าตามคาํ สอนน้นั แต่เมื่อไมพ่ บจะกล้าอยา่ งไรไดี้ พทุ ธิศริระกล่าววา่ ี \"พระองค์จงสงบลงบ้างเถดิ ขา้ พเจา้ รชู้ อ่ื นางแลทอ่ ยู่ของนางแลว้ ีเมือ่ นางเกบ็ ดอกบัว ข้ึนชไู หวไ้ ปในฟาู นน้ั คือนางสาํ แดงความยนิ ดตอ่ เทวะท่ได้อํานวยใหน้ างไดพ้ บพักตร์ อนั ประเสริฐของพระองค์\" พระราชบุตรไดท้ รงฟ๎งกย็ ิม้ ออกมาได้ีแลย้มิ คร้ังแรกในเวลาหลายวนั พุทธศิ รริ ะทูลตอ่ ไปวา่ ี\"เมื่อนางยกดอกบวั ข้ึนทัดหูน้ัน เปน็ ท่หมายให้ทราบว่านางเป็น ชาวเมืองกรรณาฏกะ แลเมอ่ื นางกัดดอกบัวด้วยทนตน์ ัน้ นางทําสัญญาณใหท้ รงทราบ วา่ นางเป็นราชธิดาทา้ วทันตวัต พระองคย์ อ่ มทราบวา่ ีทา้ วทนั ตวัตน้เปน็ อริใหญข่ อง พระราชบิดาแห่งพระองค์ ไม่มท่าทางจะปรองดองกันไดเ้ ปน็ อนั ขาด\" พระราชบตุ รได้ ยินดังน้ัน ก็ครางดว้ ยความเศรา้ พระหฤทัยีพทุ ธศิ รริ ะกล่าวต่อไปว่าี\"เม่อื นางเหยยบ ดอกบวั นัน้ นางให้เครอ่ื งหมายว่านางชื่อปท๎ มาวด แลเมอื่ นางเอาดอกบัวป๎กท่อุระนั้น เปน็ ท่หมายวา่ ีพระองค์สิงอยใู่ นหฤทยั แห่งนาง\" พระวชั รมุกฏุ ได้ทรงฟ๎งดงั นน้ั ก็ผดุ ลกุ ขน้ึ ดว้ ยความยนิ ด อาการไขก้ เ็ ปลอ้ื งปลดไปทันทีทรงกาํ ลังกระปรก้ ระเปร่าเหมอื นแต่ กอ่ น ตรสั ชมความรอบรู้ของพุทธศิ รริ ะ พลางรับสั่งออ้ นวอนใหช้ ่วยทูลขออนญุ าตพระ ราชบิดาไปยังนครอันเป็นท่อยแู่ หง่ นางนั้น ฝาุ ยพุทธิศรริ ะโดยความภกั ดตอ่ ราชบตุ รีกเ็ ขา้ ไปทูลพระราชาธบิ ดวา่ พระ

ราชบตุ รไมใ่ คร่ทรงสบายีควรเสด็จเท่ยวในประเทศต่างๆ เพราะพระกายตอ้ งการ เปล่ยนน้ําพระหฤทัยต้องการเปลย่ นทอ่ ยู่ คร้ันพระราชบิดาประทานอนุญาตแล้วีพระ วชั รมกุ ุฏกห็ ยดุ พกั อยรู่ มิ ทาง แล้วพุทธศิ รริ ะกแ็ ต่งตวั เปน็ คนเดินทางขนึ้ ม้าไปหลายวัน ถึงนครกรรณาฏกะก็หยุดพักอย่รู ิมทาง แล้วพทุ ธศิ ริระก็นําพระราชบตุ รออกเทย่ วถาม หาหญงิ ผู้มปญ๎ ญาโดยอธิบายว่าตอ้ งการจะให้ดเู คราะหใ์ นอนาคต แลชแ้ จงตอ่ พระ ราชบตุ รอกข้ันหน่งึ ว่าหญิงเอาใจใสต่ อ่ กจิ การในอนาคตน้ัน ยอ่ มจะเอ้ือเฟ้อื ตอ่ กิจการ ป๎จจุบัน ด้วยเหตุดังน้นั ควรสบื หาหญงิ หมอดูเปน็ ผชู้ ่วยให้สาํ เรจ็ กจิ อันประสงค์ พุทธิศริระเทย่ วถามอยคู่ รู่หนง่ึ มผ้ชู ้หญิงแกผ่ ู้หน่งึ ซึ่งน่ังป๎น่ ฝูายอยูห่ น้า กระทอ่ ม พทุ ธิศริระจงึ เขา้ ไปหาหญงิ แก่น้ันีกระทําการเคารพเป็นอนั ดแลว้ พดู วา่ \"ขา้ พเจ้าเปน็ พอ่ ค้ามาจากเมอื งไกลสองคนดว้ ยกันีสนิ คา้ ของเราตามมาข้างหลงั เรา ลว่ งหนา้ มากอ่ นเพื่อจะหาทพ่ ักีถ้ามารดายอมให้เราพกั ในเรือนน้ เราคงจะอยู่เปน็ สขุ แลใหเ้ งินแกม่ ารดาโดยอัตราอันสงู \" ฝาุ ยหญิงแก่นน้ั นอกจากเปน็ หมอดูียงั เป็นผู้รู้ ลกั ษณะคนอกดว้ ย คร้นั เห็นเคา้ หนา้ ชายหนุ่มท้งั สองกช็ อบีเพราะคิว้ กวา้ งแลปากม ลกั ษณะว่าไม่ตระหน่ จงึ ตอบพทุ ธิศริระวา่ ี\"กระท่อมน้เหมือนหน่งึ เรือนของทา่ นีเชิญ มาพักอยูใ่ หส้ บายเถิด\" พดู เทา่ น้ันแลว้ ก็พาชายหนุ่มทง้ั สองเข้าไปในเรอื น กลา่ วติ เตยนความรุงรังของตนเองแล้วเชญิ ใหช้ ายทง้ั สองพักผอ่ นกายอย่ใู นเรือนน้ัน สกั ครู่ หน่ึงหญงิ แกก่ ลบั มายงั ห้องซ่ึงชายหนุ่มทงั้ สองพกั ีพทุ ธศิ ริระจึงถามวา่ \"มารดาอยู่ทน่ ้ มความสุขอยู่หรอื ีญาตวิ งศ์สหายอยพู่ รอ้ มกนั หรอื อยา่ งไร แลมารดาหากินทางไหน\" หญิงแกต่ อบวา่ \"ลูกชายของข้าเปน็ คนใช้สนทิ ของท้าวทนั ตวัตผู้เปน็ พระราชาของเรา ข้าเป็นนางนมของนางปท๎ มาวดพระราชธดิ าองคใ์ หญ่ีครั้นข้าแกช่ รากม็ าอยใู่ นเรอื นน้ ไม่ต้องกังวลการหากินีเพราะพระราชาประทานทุกอย่าง ขา้ ไปในวงั เฝาู พระราชบุตร วันละคร้ังีนางเป็นหญิงงามอยา่ งประหลาด เป็นคนดมปญ๎ ญาหาเสมอมิได้\" พระวัชรมกุ ุฏพกั อยู่ท่เรอื นหญิงแก่ีอนั เปน็ นางนมของพระราชธิดาหลายวนั แลกระทําใหน้ างนมเอ้อื เฟอ้ื รักใครด่ ้วยความไมต่ ระหน่ ดว้ ยวาจาอ่อนหวานและดว้ ย รปู สมบตั ิของพระองค์ีครนั้ ค้นุ เคยแลรใู้ จกนั มากขึ้น พระวชั รมุกฏุ ก็ตรัสถึงพระราชธดิ าี แลกล่าวแกห่ ญงิ นางนมวา่ เม่อื ไปเฝูานางปท๎ มาวดคราวหนา้ ขอให้ช่วยถือหนังสอื ไป ถวายฉบับหนง่ึ จะได้หรือไม่ นางนมมความยนิ ดีเพราะเปน็ ธุระของนางนมท่จะตอ้ ง ยนิ ดตามแบบนทิ านชนิดน้ จึงกล่าวแก่พระวชั รมุกฏุ วา่ ี\"ลกู เอยีไม่จําเป็นจะตอ้ งคอย ถงึ พรงุ่ น้ เจา้ จงเขยนหนงั สอื เถดิ ีมารดาจะถอื ไปเด๋ยวน้\" พระวชั รมกุ ฏุ พระองคส์ นั่ ดว้ ย ความยินดีรบเสด็จไปหาพุทธิศรริ ะ ซึ่งนั่งอา่ นหนงั สืออยนู่ อกเรอื นีแล้วรับส่งั บอกวา่ นางนมรับแล้วท่จะถือหนงั สือไปถวายพระราชธดิ า ปญ๎ หายังมแต่เพยงวา่ จะเขยน หนงั สอื อย่างไรจงึ จะด จะผกู ประโยคแลใชศ้ ัพทช์ ัน้ ไหนจงึ จะถูกพระหฤทัยนางีจะใช้ ศัพทเ์ รยกนางวา่ \"แกว้ ตาแหง่ ตู\" จะเบาไปีแลศัพที์ \"โลหิตในตบั แห่งข้า\" จะหนักไป ดอกกระมัง อนึ่งการแตง่ หนังสอื สําคญั เชน่ นั้นจะทาํ ใหแ้ ล้วเรว็ ทนั ในวันน้นั ก็ยาก เป็น เร่อื งทห่ นกั พระหฤทยั อยีู่ ฝุายพุทธศิ ริระเมอ่ื ได้ยินดังนัน้ กท็ ูลว่า อยา่ ใหท้ รงเดือดร้อน เลยีจะทาํ ถวายให้เสรจ็ แลว้ พุทธศิ ริระกไ็ ปหยิบเครอื่ งเขยนมานั่งเขยนอยูค่ รหู่ นึ่ง ครั้น สาํ เร็จแลว้ กพ็ บั หนงั สือนน้ั ปิดผนึกีเขยนรูปดอกบวั ลงบนหลังผนกึ ดอกหนึ่ง แล้วส่ง ถวายพระราชบุตร พระราชบุตรก็นาํ หนงั สอื นัน้ ไปสง่ ใหห้ ญงิ แก่นางนมถือไปถวายพระ ราชธิดา นางนมไดร้ บั หนงั สือแลว้ กร็ บเขา้ วังไปท่ตําหนกั พระราชบตุ รตามเคย ฝาุ ย นางป๎ทมาวดคร้นั เหน็ นางนมเขา้ ไปเฝาู ีกต็ รสั เรยกให้นัง่ แลสนทนาด้วย นางนมพูดถงึ เรอ่ื งอ่ืนๆีอย่สู กั ครู่จงึ จึงทลู วา่ \"เมอื่ นางยงั อยใู่ นความเปน็ เดก็ อ่อนีข้าไดเ้ ลย้ งดูนาง มาดว้ ยความภักด บัดน้เทพดาให้รางวลั แกข่ ้าดว้ ยประทานความงามีความไม่มโรค แลความดแกน่ างในเวลาทท่ รงจําเริญเพยงน้ีหวั ใจของขา้ จะใครเ่ ห็นความสุขของนาง ยิง่ ๆ ข้ึนไปตราบชวติ ข้าหาไมี่ นางจงทรงอา่ นหนังสือน้ซงึ่ มาจากชายหนุ่มงามทส่ ุด

แลดทส่ ุดซงึ่ ข้าได้เคยเหน็ เป็นขวญั ตา\" พระราชธดิ าทรงรับหนังสอื ไปทอดพระเนตรดอกบวั บนหลังผนึก แล้วทรง เปิดออกอา่ นพบอนิ ทรวิเชยรฉันท์ดังนี้ o ได้เห็นพระเพ็ญโฉม ดุจโสมสวา่ งหน ราดเรา้ กําเดาดลีจติ เดอื ดบเ่ หือดลง o ศรทรงอนงคแ์ ผลง พิษแสรง้ จะเสยบองค์ ปก๎ ในหฤทัยตรงีอุระแคน้ เพราะแสนคม o วันพบประสบพักตร์ีศภุ ลกั ษณ์มโนรมย์ อม่ิ ใจจะใคร่ชมีบม่ ิพริบกระหยบิ ตา o เพญ็ โสมบ่เพญ็ ศรีดุจนี้ ณีเวหา แสงส่องบผ่ ่องปรา กฎอย่างพระนางนวล o งอนงามอร่ามโรจน์ีฉวิโชติประชนั ชวน แขง่ ขันพระจนั ทรบ์ วรณี์ ศศิแนจ่ ะแพน้ าง o ยามยลพิมลโฉม อุระโหมพระเพลิงพลาง รอ้ นรักตระหนักกลางีจิตขา้ ศิขาดูร o นางกลับและลับเนตรีกเ็ ทวศทวคณู เรา่ ร้อนบ่ผ่อนภลู ีพิษรกั ประจกั ษแ์ ด o คดิ ไปกใ็ จหายีเพราะกระต่ายจะหมายแข เวยนหวงั ระวังแล ศศิไซร้บไ่ ยด o อา้ นางสอางรัตนีวรขัติยนาร โปรดด้วยอํานวยช วะบต่ ัดสลดั ตฯู พระราชธิดาทรงอ่านหนังสือตลอดแล้วก็สาํ แดงอาการพโิ รธ ตรัสแกน่ างนม ดว้ ยสําเนยงอนั ขุ่นแค้นว่าี\"น่แกเปน็ อะไรไปจงึ บงั อาจนําหนังสอื น้มาให้ คนโง่ทเ่ ขยน หนงั สอื น้ีแตง่ ฉันทไ์ ม่เป็นกแ็ ค่นจะแตง่ กับเขาดว้ ยีคนแตง่ ฉนั ท์เลวๆ เชน่ นย้ งั อาจมา แตง่ ถวายพระราชธดิ า อยากรู้ว่าเรยนหนังสือมาแต่สาํ นักไหนจึงเลวถงึ เทา่ น้\" นางตรสั พลางทรงฉกหนังสอื ตอนทว่ า่ ี\"ศศิไซร้บไ่ ยด\" สง่ ใหน้ างนมแลว้ ตรสั วา่ \"แกจงนําเอา คาํ ตอบนไ้ ปใหช้ ายทแ่ ตง่ ฉนั ทไ์ ม่เปน็ แลตัวแกเองจงอยา่ ทาํ เอือ้ มอาจถอื หนงั สอื เข้า มาเช่นน้อกเป็นอันขาด\" หญิงแกน่ างนมไดฟ้ ๎งพระราชธิดากริ้วถงึ เพยงนั้นกเ็ สยใจรบกลับไปบา้ น พบ

พระราชบุตรตามทางกเ็ ล่าใหฟ้ ๎งทกุ ประการ พระราชบุตรได้ทรงฟง๎ แลอา่ นคําตอบแล้ว ก็เสยพระหฤทยั ยิง่ นัก เม่ือทรงดาํ เนนิ กลบั น้ันทรงคิดถึงวธิ ทาํ ลายชวติ ตนเองหลาย อย่างีเชน่ ีกระโดดนา้ํ ผูกคอตนเองแขวนีแทงอกตนเองีเป็นต้นียงั ไม่ทนตกลงว่า อยา่ งไหนจะดก็พอถึงทพ่ ัก พบพทุ ธิศริระนงั่ อยู่หนา้ เรอื นีก็ตรัสเลา่ ใหฟ้ ง๎ แลทรง สําแดงความเสยใจยงิ่ นกั พุทธศิ ริระน่งิ ฟ๎งตลอดแล้วทูลวา่ ี\"พระองค์อยา่ เพอ่ ตตนเองก่อนไข้ จงทรง ตรกึ ตรองใจความทน่ างตรสั ใหถ้ อ่ งแทก้ ่อน ต่อไปขา้ งหน้าเมือ่ พระองค์ไดส้ มาคมกบั หญิงมากๆีแลว้ จะทรงทราบวา่ เมือ่ หญิงกล่าวว่าไมไ่ ยดน้นั แปลว่ายินด เพราะฉะนั้น ตามทเ่ ราทํามาเพยงน้นับว่าสาํ เรจ็ ดังหมาย อนึง่ เมอื่ นางทรงถามวา่ พระองคท์ รงเรยน หนงั สือจากสํานกั ไหนน้ัน ถา้ จะแปลเป็นภาษาผชู้ ายแปลว่าท่านคอื ใคร\" พระวชั รมุกุฏไดท้ รงฟง๎ ดังนั้นก็ยนิ ด คร้นั วนั รงุ่ ขึน้ กท็ รงบอกนางนมวา่ พระองคเ์ ป็นยุพราชกรุงพาราณสใหน้ างนมเข้าไปทลู พระราชธดิ าเถดิ ฝุายนางนมได้ ทราบดงั น้นั กด็ ใจีแตก่ ล่าววา่ ทราบมาแต่แรกแล้ว เช้าวันนั้นก็เข้าไปในวงั เฝูาพระราช ธิดาทูลวา่ \"พระยุพราชซึ่งนางได้ทาํ ให้มใจใฝุฝ๎นต้ังแต่วันทไ่ ด้เห็นกนั รมิ สระีเมื่อวนั ขนึ้ ี๕ ค่ําีเดือนกอ่ นน้นั ีเสด็จมาท่เรือนขา้ พเจา้ แลใหข้ ้าพเจ้ามาทูลวา่ พระองค์เสดจ็ มาแล้ว นางทํากริ ยิ าเปน็ สญั ญาณทร่ มิ สระอยา่ งไรีกจ็ งทําตามสญั ญาณน้นั เถิด พระ ราชบตุ รองคน์ ท้ รงศักดส์ิ มควรแกน่ างแท้ีนางจงฟ๎งคําข้าพเจา้ เถดิ \" นางป๎ทมาวดได้ทรงฟง๎ ดงั น้ันกส็ ําแดงความโกรธยิง่ กว่าครั้งกอ่ น นางเสดจ็ ลกุ ไปเอากระแจะจันทน์ละเลงบนพระหัตถ์ทง้ั สองพระหตั ถแ์ ลว้ ตบเขา้ ทแ่ กม้ นางนม ท้ังสองแก้ม ตรสั ว่าี\"แกจงรบไปจากวงั นโ้ ดยเร็วีมิฉะนนั้ จะตอ้ งรับโทษยิง่ กวา่ น้ แก จําไมไ่ ดห้ รือวา่ ขา้ ห้ามไม่ใหเ้ อาเรื่องนม้ าพูดตอ่ ไปเปน็ อนั ขาด\" นางนมอกจากวัง กลับไปทูลพระวัชรมุกฏุ ีตา่ งคนเสยใจทไ่ ปหลงเชอื่ พทุ ธิศริระ ครัน้ เลา่ ความให้พุทธิศริระฟง๎ ีพทุ ธศิ ริระกท็ ูลพระราชบตุ รวา่ \"พระองคอ์ ยา่ ทรงตกใจีการท่พระราชธดิ าเอากระแจะจนั ทนท์ าแกม้ นางนมดว้ ยนิว้ ี๑๐ น้วิ น้ันี หมายความว่ากลางคนื ยงั มแสงพระจนั ทรอ์ ยู่อกี๑๐ีคนื ีเม่อื พน้ ี๑๐ีคืนไปแล้ว นางจะ ออกมาพบพระองค์ในท่มืดีพระองค์จงหักความกระวนกระวายในพระหฤทยั คอยไปอกี ๑๐ วันเถดิ \" พุทธศริระทลู แปลกริ ิยาแห่งพระราชธิดาแลว้ กท็ ูลตอ่ ไปวา่ นางองคน์ เ้ ห็นจะ ฉลาดเกนิ ท่จะเป็นความสุขแกส่ าม เพราะฉะนั้นพระราชบุตรควรหยดุ ยง้ั ชง่ั พระหฤทยั ดู แต่ในขณะท่ยังมเวลาจะถอนพระองค์ได้ีคาํ ตักเตอื นอันน้ีพระวัชรมุกุฏไมท่ รงฟ๎งเลย ครัน้ พน้ กาํ หนดี๑๐ีวนั ไปแลว้ ชายหนมุ่ ทงั้ สองก็ให้นางนมเข้าไปเฝาู พระ ราชธดิ า คราวนน้ างเอาหญ้าฝรนั่ ทาน้วิ พระหตั ถี์ ๓ีนวิ้ แลว้ ประไวบ้ นแก้มนางนม ครัน้ นางนมกลบั มาเล่าีพุทธศิ ริระกอ็ ธิบายวา่ ีนางขอผลดั อกี๓ีวัน เพราะยงั ประชวรพระ โรคลําดบั เดอื นีวันทส่ ่เปน็ วันนดั ให้เสดจ็ คร้นั วันทส่ ่นางนมเขา้ ไปเฝาู อกครง้ั หน่งึ ี คราวนพ้ ระราชธิดากรวิ้ มาก เสดจ็ ทรงฉดุ ตัวนางนมไปท่ประตดู ้านตะวนั ตกีทรงผลัก ให้ออกประตนู นั้ แลตรัสวา่ ถ้ากลบั เขา้ ไปอกจะตดว้ ยแส้ คร้นั นางนมกลับไปเล่าใหพ้ ทุ ธิศริระฟง๎ ีพุทธศิ ริระอธิบายว่า พระราชธิดา เชิญพระราชบตุ รให้เสด็จไปพรงุ่ น้เวลากลางคนื แลใหเ้ ข้าทางประตูด้านตะวันตกีครนั้ เวลากลางคนื วนั รุ่งข้นึ พทุ ธิศริระทลู เตอื นพระวัชรมกุ ฏุ ให้เตรยมพระองค์ีพระวัชรมกุ ุฏ ไมต่ ้องใหม้ ใครเตือน กําลงั แต่งพระองค์อยู่แลว้ ีแท้จริงแต่งพระองค์อย่หู ลายชวั่ โมง จึงเสรจ็ ครนั้ แล้วก็เสดจ็ ออกมาถามพทุ ธศิ รริ ะวา่ ีใช้ไดห้ รอื ยังีพทุ ธศิ ริระทลู ตอบว่า งามมาก แล้วทูลเตือนอกครงั้ หน่งึ ว่าีสังเกตเห็นนางฉลาดเกนิ ไป ถ้าจะไดเ้ ปน็ เมยเห็น จะไมม่ สุขอยา่ งเมยโง่ๆ

ครน้ั เวลาเท่ยงคืน ชายหนุ่มทั้งสองกพ็ ากันออกเดินไปยังประตดู ้านตะวันตก แห่งพระราชวัง ครัน้ ถึงประตูเห็นปิดงบั แงีพทุ ธศิ รริ ะก็ย่องเขา้ ไปดเู ห็นนายประตนู ง่ั หลบั อยู่ แลเห็นหญงิ คนหนึง่ มผ้าคลมุ หัวยืนคอยอยูข่ ้างใน พุทธศิ ริระก็ย่องกลับไปทูล พระราชบุตรีพระราชบตุ รกเ็ สดจ็ ย่องเข้าประตูไป พทุ ธศิ รริ ะคอยอย่สู ักครูห่ นงึ่ ก็ กลับไปทพ่ กั ีฝุายพระราชบตุ รครัน้ เข้าไปในประตูแล้ว หญงิ ท่ยืนคอยอยกู่ จ็ ับพระหตั ถ์ แลทําสญั ญาณให้เดินเบาๆีแลว้ นาํ ไปตามทางมืด บางแหง่ จุดไฟริบหรี่ สักครูห่ นงึ่ ไป ถงึ บนั ไดศิลากพ็ ากนั ขึน้ ไปบนตําหนักพระราชธิดา พระวชั รมกุ ุฏเสดจ็ ออกจากทม่ ดื เขา้ ไปทส่ วา่ งกม็ วั พระเนตรอยคู่ รูห่ นึ่ง ประเด๋ยวทอดพระเนตรดูรอบหอ้ งเปน็ ทง่ ดงาม แต่งด้วยเคร่อื งบาํ รงุ ความสําราญต่างๆ กลิ่นควันเผาเคร่อื งหอมแลกล่นิ ดอกไม้หอม ตลบไปทง้ั ห้อง ตะเกยงเงินซึ่งจุดด้วยนา้ํ มันหอมกส็ ง่ กลิน่ อันพึงสูดดม ขา้ งหนง่ึ ม ดอกไมก้ องรอบเตยงลาดผ้าขาวป๎กด้วยเสน้ ทอง โรยดว้ ยดอกพุทธชาดซงึ่ เกบ็ ใหม่ๆี อกข้างหน่ึงมภาชนะรองหบหมากแลขวดนํ้าดอกไม้เทศ มถาดรองเครือ่ งหอมตา่ งๆี แลภาชนะรองเครือ่ งหวานหลายอยา่ ง มนางกาํ นัลคอยรับใช้ประจําท่ีบ้างก็มหน้าท่ อ่านกาพยก์ ลอน บ้างก็มหนา้ ทฟ่ ูอนรําแลบรรเลงดนตร รวมความวา่ เครื่องสาํ ราญตา สําราญใจมากอย่างมอยใู่ นหอ้ งนน้ั สกั ครูห่ นึ่งพระราชธิดาเสด็จเขา้ มาเปล้อื งผา้ คลุมพระพักตร์ออกสําแดง พระองคใ์ หเ้ ห็น พระวัชรมุกุฏสะดุ้งด้วยความยนิ ดีนางเชญิ พระราชกมุ ารให้นั่ง ทรง ชโลมพระองคด์ ว้ ยกระแจะจันทน์ีแลโปรยนาํ้ กหุ ลาบถวาย แล้วทรงโบกพัดอันทําดว้ ย ขนนกยูงมดา้ มทองีพระวัชรมุกฏุ ตรสั แกน่ างว่า \"พระหัตถอ์ นั อ่อนของนางนไ้ ม่สมควรจะโบกพดั ีนางจงหยดุ เสยเถดิ ข้าได้ เหน็ นางก็มความเอบิ อ่มิ ในใจีแม้ไม่ต้องพัดก็เย็นพออยูแ่ ลว้ นางจงประทานพดั ให้ข้า เถดิ \" นางปท๎ มาวดย้ิมพลางทลู วา่ \"พระองคท์ รงอตุ สา่ หเ์ ขา้ มาถงึ ทน่ ี้ เป็นพระเดช พระคุณนกั หนา สมควรขา้ พเจ้าจะปฏิบัตพิ ระองคด์ ว้ ยความกตญั ํู\" ขณะนัน้ นางกาํ นัล คนโปรดเข้ามารับพดั ไปถวายอยู่งานีทูลว่าี\" หน้าทป่ ฏิบัตขิ องขา้ พเจา้ ีสองพระองค์ จงทรงสําราญเถดิ \" เวตาลเล่ามาถงึ เพยงน้กห็ ยุดพกั ครู่หน่งึ ีแล้วเล่าต่อไปว่าี\"ครน้ั เวลารงุ่ เชา้ นางป๎ทมาวดก็ซ่อนพระราชกุมารไวใ้ นท่ลับีครั้นกลางคืนกท็ รงสําราญอย่างคนื ก่อน พระราชกุมารมความสขุ จะหาเสมอมไิ ดี้ โลกใหญก่ ว้างก็ทรงลืมหมด คงเหลอื อยู่แต่ โลกในตําหนักนางเทา่ นั้นีฝาุ ยนางปท๎ มาวดเปน็ หญงิ เฉลยวฉลาด เมอ่ื ได้สามท่ ป๎ญญาออ่ นก็ย่งิ ผูกรกั แน่นขึ้นีดงั คําโบราณกล่าวว่า คนตรงกนั ขา้ มในเชิงป๎ญญายอ่ ม ล่อใจกัน ในชัน้ ตน้ นางตง้ั แต่งให้พระสวามเปน็ คนปราดเปรอ่ื งโดยอธบิ ายวา่ นํ้าน่งิ ไหล ลึก เม่อื พระราชกมุ ารไม่ใคร่ตรัสก็นึกว่าคงจะมความคดิ รงุ่ โรจนน์ ่งิ ไวใ้ นพระหฤทัย คน มค้วิ กว้างแลโคง้ งามเชน่ น้จะไม่ฉลาดอย่างไรได้ คนมหนวดนา่ ดเู ช่นนน้ั คงจะตอ้ งเปน็ ผู้มใจโอบเอื้ออยเู่ อง คนมตาเชน่ พระราชกุมารจะไม่เป็นคนกล้าน้ันไม่ได้ีนางป๎ทมาวด หลงคดิ ดังน้ในชนั้ ต้น คร้นั ตอ่ มาก็เหน็ พระสามฉลาดเฉลยวนอ้ ยลง แตค่ วามเสนห่ าของนางมิได้ ลดหย่อนีกลับจะมากขึ้น เปน็ ตน้ มาวา่ เม่ือสอนให้ทรงทอ่ งกาพย์กลอนีเธอจําไมใ่ คร่ ได้ นางกท็ รงพระสรวลเหน็ นา่ เอ็นดีู เมื่อเธอพดู สันสกฤตผิดไวยากรณก์ ็เห็นน่ารัก เมอ่ื เธอสบถก็เหน็ ไพเราะ ตอ่ ๆ มานางกส็ งสยั ว่าจะมใครอกคนหนึง่ ีซ่งึ ล่วงรู้กบั พระสวามในเรื่องลอบ รักกบั นางน้ แต่นางก็มิได้ทูลถามตรงๆีเปน็ แตส่ งั เกตวาจาท่ตรัสแลทูลไลเ่ ลยงออ้ ม คอ้ ม จนในทส่ ุดวชั รมกุ ุฏทรงเล่าให้นางฟง๎ ถึงพุทธศิ รริ ะผูม้ ปญ๎ ญา เริม่ แต่ความเหน็ ทับ ถมหญิงทั้งหลายตลอดจนแปลกิรยิ าต่างๆ ทน่ างได้ทําเป็นเคร่อื งสญั ญาณีในทส่ ุด ความเห็นของพุทธิศรริ ะวา่ นางฉลาดเกนิ ท่จะเปน็ เมยีซึง่ เป็นความสขุ แกผ่ วั น้นั กต็ รัส

เลา่ ดว้ ย นางป๎ทมาวดทรงคิดในใจวา่ ี\"ถ้าเราไมแ่ กแ้ คน้ ชายคนนัน้ ได้ ขอให้เราเกิด เปน็ ลาของคนทาํ สวนในชาติหนา้ เถดิ \" ทรงคิดดงั นแ้ ล้ว นางกต็ รสั ชมความฉลาดของ พทุ ธศิ รริ ะยกข้นึ ไปถึงฟาู ตรสั วา่ ทรงร้สู ึกบุญคณุ ของชายผูน้ ้ันท่ไดช้ ว่ ยให้นางถงึ ความสขุ แลสําแดงประสงค์จะใครพ่ บพทุ ธิศริระสักครัง้ หนง่ึ ฝาุ ยพระวัชรมกุ ฏุ เสดจ็ ซอ่ นอยู่ในนิเวศน์นางประมาณเดือนหน่ึงก็รําลึกถงึ โลกภายนอก เธอเสวยมากไปีไมไ่ ด้ออกขม่ ้าล่าเนื้อบอ่ ยๆีเหมอื นแตก่ อ่ นกเ็ กดิ ไม่ สบาย พระพักตรแ์ ละพระเนตรเหลืองีมอาการหาวดังซึง่ คนตับพกิ ารมักจะเปน็ บาง เวลากป็ วดพระเศยรแลเสวยอาหารไม่ไดี้ จะซ่อนอยู่กไ็ มเ่ ปน็ สุข วันหน่งึ อยูพ่ ระองค์เดยวทรงนกึ ดังๆีว่าี\"เราได้ทิง้ เมอื งมากน็ านแลว้ แล สหายซึ่งไดช้ ่วยีให้เราีได้รับความสขุ เชน่ นก้ ไ็ ม่ไดพ้ บกนั มาตัง้ เดือน สหายของเราจะ บ่นอยา่ งไรบ้างแลจะอยเู่ ป็นสขุ หรือไรเราีก็ไม่ทราบได้เลย\" ขณะนนั้ นางป๎ทมาวดเข้าไปถงึ ีได้ยนิ หางเสยงท่ตรัสกเ็ ข้าใจตลอด นางเหน็ เป็นชอ่ งอันดท่จะสาํ เร็จความคดิ ีจึงตรสั หาความพระสามวา่ พระหฤทยั ไม่ยง่ั ยนื อยากจะเปล่ยนบอ่ ยๆีคร้ันเหน็ พระสามตรสั ปฏิเสธ นางกก็ ลา่ วซํา้ จนเธอจวนจะกริว้ อยู่ แล้ว เธอจึงตรสั อา้ งคัมภร์โบราณวา่ ภรยิ าท่ไมม่ ลูกีสามควรทง้ิ ไปหาใหม่ในปที แ่ ปด ภรยิ าทม่ ลกู เกดิ มาตายหมดในปีท่๑๐ีภริยาทม่ แตล่ กู หญงิ ในปที ่ี๑๑ แลภริยาซงึ่ กล่าว ดุดันสามนั้นีสามควรทิง้ ไปหาใหมท่ นั ท นางไดย้ นิ พระสามตรสั ดงั น้ันก็อธิบายวา่ คําทน่ างกลา่ วน้ัน มิใชก่ ลา่ วถงึ ความรกั ระหวา่ งระหวา่ งสองพระองค์ นางกล่าวถงึ ขอ้ ทพ่ ระสามลมื พุทธศิ ริระผสู้ หาย น้ันดอกีนางตรสั วา่ \"พระองค์เสดจ็ อยทู่ ่นี่ พระหฤทัยออกไปอยู่กับสหายเช่นน้จะมสุข อย่างไรได้ พระองคท์ รงซอ่ นความในพระหฤทยั ไวด้ ้วยเหตใุ ด เกรงวา่ ถ้าข้าพเจ้า ทราบขา้ พเจา้ จะเดือดร้อนฉะนน้ั หรอื พระองคจ์ งเชื่อชายาของพระองค์ว่าคงจะไมม่ ประสงคใ์ หพ้ ระองค์เลกิ รา้ งจากสหายซงึ่ มคุณแก่เราทั้งสองน้ันเปน็ อันขาด\" นางป๎ทมา วดทูลเชน่ นั้นแล้วกแ็ นะนําให้เสด็จออกไปหาพุทธศิ ริระในคนื วนั น้ัน เพื่อจะได้สิ้นหว่ ง ถึงสหายีอน่งึ นางจะฝากของออกไปแทนคุณพทุ ธิศรริ ะบ้าง พระวัชรมกุ ุฏทรงยนิ ดตรง เขา้ สวมกอดนางีกลับทําใหน้ างโกรธในใจ เพราะเห็นวา่ ถนดั ทรงยนิ ดท่จะทง้ิ นางไป หาสหาย นางเกรงจะซอ่ นความโกรธไวไ้ ม่ได้กร็ บหนไปจดั ของท่จะฝากไปประทาน พุทธิศริระ สักคร่หู น่งึ นางเสดจ็ กลับมาในหอ้ งถอื ถุงบรรจุของกนิ มาส่งถวายทูลวา่ ขอใหป้ ระทานแกพ่ ุทธิศริระว่าเป็นของซ่งึ นางทําดว้ ยพระหตั ถ์ ถึงแม้คนมป๎ญญากค็ ง จะชมรสซ่งึ มในขนมนน้ั พระยพุ ราชเม่ือไดล้ ่ําลานางีสวมองคแ์ ลว้ สอดกรเลา่ ีคําลาคําทา้ ยกลบั เป็น คาํ ต้นหลายคร้ัง แลว้ กเ็ สด็จเล็ดลอดออกจากวงั ีคร้นั ผ่านพน้ ประตูซึ่งนายประตูนงั่ หลับตามเคย ถงึ ถนนใหญ่ก็รบทรงดําเนนิ ตรงไปบ้านหญงิ นางนม เวลานนั้ เป็นเวลา เทย่ งคนื แมฉ้ ะนัน้ พทุ ธศิ รริ ะยังน่งั อย่หู นา้ เรอื น ครัน้ พระยุพราชเสดจ็ ไปถึงตา่ งก็แสดง ความยินด พระวชั รมกุ ุฏตรสั แสดงความรอ้ นพระหฤทยั ทเ่ ห็นพทุ ธศฺ ริระมอาการซบู ซด พทุ ธิศริระทูลวา่ ไมไ่ ดย้ นิ ขา่ วเจา้ ช้านานก็ร้อนใจกินไมไ่ ด้ีนอนไม่หลบั จงึ มอาการ เช่นน้ พระวชั รมุกฏุ ไดท้ รงฟง๎ อธิบายถงึ ความสาํ ราญในวัง ซึง่ ทรงคิดวา่ ไมย่ งิ่ หยอ่ นกว่าความสุขในสวรรค์ีทงั้ ยกนางป๎ทมาวดเชิดชูข้ึนไปถึงฟาู เทยบกบั นาง เทพธดิ าีซ่ึงเปน็ หม่ชู นท่ไม่เคยทรงพบเห็นกจ็ ริงอยู่ แต่คงจะไม่ล้าํ เลศิ เกนิ นางป๎ทมา วดไปได้ีทัง้ ในความงามแลความเฉลยวฉลาดทุกประการ พุทธิศริระได้ยินรับสง่ั ยอ พระเกยรตินางยดื ยาวเชน่ นน้ั ก็โคลงศรษะยิม้ มิได้กล่าวประการใดีพระยพุ ราชทรง

เห็นดงั น้นั ก็ตรัสวา่ \"อย่างเกา่ อกแล้วีความสาํ ราญของท่านอยใู่ นความลบหลปู่ ญ๎ ญา ของผูอ้ ื่น ไม่เปล่ยนแปลงบ้างเลยีท่านคงจะคิดอจิ ฉานางเสยแลว้ ีอิจฉาว่ามปญ๎ ญา แลอิจฉาวา่ นางรกั ข้าีทา่ นจงเชอื่ ขา้ วา่ นางองค์นด้ หาท่เปรยบมไิ ด้ ถงึ แมท้ ่านเกลยด ผูห้ ญงิ เมื่อได้ทราบคําสรรเสริญทน่ างกล่าวถึงทา่ นทราบคาํ ส่งั ทน่ างสง่ั มาถงึ แล ทราบรสแหง่ ของกินทน่ างฝากมาประทานทา่ นจะเวน้ ชมนางไม่ได้เปน็ แน่ นแ่ นะ่ ทา่ น จงกนิ ขนมนี้ ซ่งึ นางฝากมาใหท้ ่านโดยเฉพาะ เป็นขนมซ่งึ นางทําดว้ ยพระหัตถ์นาง เอง\" พทุ ธิศรริ ะทลู วา่ \"นางส่งั มาถงึ ข้าพเจา้ อยา่ งไรได้ีอย่างไรนางจงึ ฝากของ มาประทาน นางไมท่ รงทราบวา่ มข้าพเจ้าอยู่ในโลกน้ พระองคไ์ ปรบั สัง่ ถึงขา้ พเจ้าข้ึน แลว้ กระมงั \" พระวัชรมกุ ุฏตรสั ตอบวา่ \"คนื หน่งึ ขา้ นงั่ อยู่คนเดยวกาํ ลังคิดถงึ ทา่ นก็ม อาการซมึ เซาไป นางเขา้ มาพบกถ็ ามวา่ เหตไุ รจงึ เป็นเชน่ น้นั ข้าก็ตอบนางตามจรงิ แล เล่าให้ฟ๎งถงึ ท่านแลความฉลาดของท่าน นางได้ทราบก็อนญุ าตให้ข้าออกมาหาท่านี แลสง่ ขนมนม้ าใหท้ า่ นกนิ ท่านจงกนิ ใหส้ มศรัทธาของนางผูท้ ําแลขา้ ผู้ถือมาเถดิ \" พทุ ธศิ รริ ะทูลว่า \"พระองคจ์ งประทานอภัยแก่ขา้ พเจ้าแลทรงฟง๎ คาํ ทข่ า้ พเจ้าทูลน้เถดิ การ ทร่ ับส่ังบอกชอื่ ข้าพเจ้าแก่นางนัน้ ไมด่ เลย ผ้ชู ายไมค่ วรทาํ ให้ผหู้ ญิงรู้ไดว้ า่ ความลับซึ่งนางบอกแกม่ ือ ซ้ายแหง่ ชายนัน้ ทราบไปถึงมอื ขวา ถงึ ยิ่งทราบไปถึงคนอ่ืนด้วยยง่ิ ร้ายใหญ่ อกอยา่ งหน่ึงการท่ทรง สาํ แดงให้นางทราบวา่ ีทรงพระเมตตาขา้ พเจา้ นนั้ ก็ไมเ่ ป็นทางด เพราะ ผู้หญงิ ยอ่ มจะเกลยดเพื่อน ของชายทร่ ัก \" พระยุพราชตรัสวา่ ี\"ข้าจะทาํ อยา่ งไรได้ีเมือ่ ข้ารกั นางข้ากไ็ มอ่ ยากปกปิดขอ้ ความ อะไร เมอ่ื นางถามกบ็ อกตรงๆีทั้งน้นั \" พุทธิศรริ ะทลู ว่า \"พระหฤทัยเช่นน้เมือ่ พระองค์จําเริญพระชนม์ ยง่ิ ขึ้นก็คงจะเปล่ยน เพราะจะทรงทราบไดว้ ่าีความรกั ระหวา่ งหญิงกับชายนั้น คือการเลน่ ซง่ึ ตอ้ งใช้ ปญ๎ ญาระหว่างคนสองคนทม่ เพศตา่ งกนั ฝุายหนงึ่ เพยรจะเอาเปรยบมากทส่ ุด อกฝาุ ยหนึ่งเพยรจะ เสยเปรยบนอ้ ยท่สุดท่จะเปน็ ได้ คนทงั้ สองต่อส้กู ันบนกระดานสกาเชน่ นี้ ฝาุ ยท่ปญ๎ ญาแหลมกว่าแล ชาํ นาญกว่ายอ่ มชนะเสมอ ความไมพ่ ดู นั้นเป็นสิง่ ทห่ ดั ทาํ ได้ีถา้ พระองค์ทรงซอ้ มอยู่สกั ปีหน่ึงจะทรง เหน็ วา่ การเปดิ ความลับนั้นยากกว่าการปดิ ไปเสยอกีถ้าจะกล่าวถึงขนมท่นางประทานมาน้ ข้าพเจ้า ยอมเอาชวิตขา้ พเจา้ เปน็ สินพนันกับชวติ หมาวา่ ขนมน้ผสมด้วยยาพิษ\" พระวัชรมกุ ุฏตรัสว่าี\"เป็นไป ไมไ่ ดเ้ ป็นอนั ขาดีไมม่ ใครในโลกน้จะทําอยา่ งทท่ า่ นว่า ถา้ คนไมก่ ลวั คนด้วยกนั กต็ ้องกลัวพระผูเ้ ป็น เจ้าบา้ ง\" พุทธศิ รริ ะกลา่ วว่าี\" ขา้ พเจ้าเกดิ มายงั ไมเ่ คยรู้เลยว่า ผหู้ ญงิ ท่กําลงั รักกลัวพระผู้เปน็ เจา้ หรอื กลวั อะไรบ้าง แต่ขอ้ ท่ขา้ พเจา้ กล่าวน้ันทดลองไดง้ า่ ยๆี(พูดพลางเรยกหมาท่นอนอยู่ขา้ งนัน้ แล้ว โยนขนมใหห้ น่อยหน่ึงกลา่ ววา่ ) \"เอ้า เอ็งไปหาญาตสิ ามหัวของเอง็ ซ่ึงเป็นผรู้ ับใชม้ ัจจรุ าชนนั้ เกดิ \" หมาได้ยินก็ลุกขนึ้ กินขนมท่พทุ ธิศรริ ะโยนใหี้ ประเดย๋ วกล็ ้มลงขาดใจตาย พระยุพราชเหน็ ดังนั้นก็ทรงเสยใจเป็นกําลังีตรัสวา่ ี\"นางชา่ งเป็นเช่นน้ได้ ไมค่ ดิ เลยวา่ จะชว่ั ชา้ ถงึ ปานนี้ ข้าหลงรัก นางนกั หนาีไมร่ ู้เลยวา่ ใจคอหยาบคายมาก ข้าจะกล้าอยูก่ ับนางไปอย่างไรได้\" พุทธิศริระทูลวา่ \"ส่งิ ใดเกดิ แล้วสง่ิ น้ันย่อมเกิดแลว้ ีจะแกใ้ ห้กลบั ไมเ่ กดิ นนั้ ไมไ่ ด้ ข้าพเจา้ คิดเกรงมาแต่แรกแล้ววา่ พระ ราชกมุ ารทรงปญ๎ ญาหลกั แหลมนกั คงจะทําอะไรชนดิ น้เป็นแน่ เพราะคนเราไม่มใครจะทาํ อะไรผดิ ีจะ ทาํ อะไรโง่ๆ จะทาํ อะไรนอกคอกเหมือนหญิงสาวมปญ๎ ญา แม้จะทําการทม่ โทษ ก็ทําใหส้ นิทสนม ไม่ไดี้ ขา้ พเจ้าขออยู่ห่างไกลปญ๎ ญาหญงิ ขออยูก่ บั ความโง่เขลาจึงจะเป็นสุข\" ในตอนนี้ พระราชบุตร มิไดท้ รงยกย่องความฉลาดเลย พทุ ธศิ ริระจงึ ทลู ต่อไปวา่ ี\"ขา้ พเจา้ ก็ได้ทูลกาํ ชับแล้วเพราะเกรงจะ เป็นเชน่ น้ แตบ่ ดั น้เมื่อได้เห็นฤทธ์นิ างแลว้ ก็เบาใจ นางคดิ ไมส่ ําเรจ็ ครัง้ นน้ ับวา่ สิน้ โอกาสท่จะทาํ การ เชน่ เดยวกนั อก หรอื ถ้าทาํ ก็ไมใ่ ช่ทาํ ในเรว็ วนั น้ีขา้ พเจา้ ขอทูลถามปญ๎ หาขอ้ หนึ่ง คือถา้ ไม่ไดอ้ ย่กู บั นางพระองคจ์ ะมความสุขไดห้ รือ\" พระยุพราชทรงถอนใจใหญ่ตรสั วา่ \"ไมไ่ ดเ้ ปน็ แน่\" พทุ ธิศริระทูลว่า \"ถ้าไม่ได้ก็ต้องใชป้ ญ๎ ญาดว้ ยมความรวู้ ่าไมไ่ ดน้ ้นั เป็นบรรทัด เราจะตอ้ ง ประชนั หนา้ กบั นางในสนามรบีแลเอาชัยในเชงิ อาวธุ ทน่ างใช้เอง อาวุธน้นั คือความหลอกลอ่ ีตาม ธรรมดาข้าพเจา้ ไมเ่ ตม็ ใจจะทํากลกับหญิง แต่นางองคน์ ้เหน็ จะเป็นชายาดของพระองค์แท้จรงิ การ วางยาพิษน้นางเพยรจะเอาชวิตขา้ พเจ้าีมใิ ชช่ วติ พระองค์ จะวา่ นางประทษุ ร้ายต่อพระองคไ์ มไ่ ด้ พระองค์เสดจ็ ออกมาครงั้ น้นางกําหนดให้เสด็จกลับเมอ่ื ไร\" พระยพุ ราชตรสั วา่ \"เมือ่ ขา้ สิน้ หว่ งท่าน แล้วใหก้ ลับเขา้ ไป\" พทุ ธศิ รริ ะกลา่ วว่า \"ถ้าอย่างนน้ั นางคอยทา่ เสดจ็ กลับพรุง่ น้กลางคนื เพราะจะ

เสดจ็ กลับเขา้ วงั ก่อนน้ันไมไ่ ด้ีขา้ พเจา้ จะขอทูลลาไปเข้าท่นอน เพ่อื จะไดต้ รึกตรองหาทางท่จะทาํ การให้สําเร็จประสงค์\" พทุ ธศิ รริ ะทูลดงั น้ันแลว้ พระราชบุตรก็เข้าทบ่ รรทมีพุทธิศรริ ะก็ไปนอน กลางคนื วันรุ่งข้นึ ครนั้ ถงึ เวลาเช้าพระวชั รมกุ ุฏก็เสด็จเขา้ วัง พทุ ธศิ รริ ะไปสง่ เสด็จตามทางี ทลู ว่าี\"ความประสงคข์ องเราคอื จะพาตัวพระราชกุมารไป พระองคจ์ งรับตรศลู ี(คือสามง่าม) น้ไป ซอ่ นในพระองค์ แลเมอื่ พบนางจงสาํ แดงเสนห่ าให้มากีอยา่ ตรสั เล่าถงึ การท่เป็นไปเม่อื คืนน้ นาง คอยฟง๎ ไมเ่ หน็ ตรสั ว่ากระไรก็คงจะถามถึงข้าพเจา้ พระองคจ์ งตรสั บอกนางวา่ ขา้ พเจ้ากาํ ลงั ไม่สบายี ยงั ไม่ไดก้ ินขนมท่นางประทานออกมา ข้าพเจา้ เก็บขนมน้นั ไวว้ ่าจะกินคนื วนั น้ีในกลางคนื เม่ือนาง บรรทมหลบั พระองคจ์ งลอบถอดเครอ่ื งเพชรพลอยท่ประดบั องค์นาง แลว้ เอาตรศูลนแ่ ทงทช่ งฆ์ข้าง ซา้ ยแห่งนางแลว้ รบเสด็จออกมาหาข้าพเจ้า ถา้ นางบรรทมยังไม่หลับจงประทานผงนใ้ ห้นางดมีเม่ือ ดมผงน้แล้วอย่าวา่ แต่คน ถึงชา้ งกจ็ ะหลับเหมอื นตายไปจนรุ่งสวา่ งีแมน้ แทงด้วยตรศลู กไ็ ม่ตืน่ สว่ น พระองคเ์ องนัน้ ีอยา่ ลองดมยาน้เปน็ อนั ขาด\" พระวัชรมุกุฏทรงรบั ยาจากพทุ ธิศริระแลว้ ีกท็ รงเล็ดลอดเขา้ ไปในวงั ในเวลาซง่ึ นายประตู นั่งหลับตามเคยีครัน้ ถึงตาํ หนักพบนางนัง่ คอยท่าอยู่ สององคก์ ส็ าํ แดงยินดต่อกันตามเยย่ งอย่างหญงิ ชายีฝุายนางปท๎ มาวด แลดพู ระเนตรแลสงั เกตกริ ยิ าพระสามีเหน็ ย้ิมแย้มแจม่ ใสด นางก็หลอกผซู้ ่งึ หญิงฉลาดชอบหลอกี(คือตัวเอง) ว่าีอบุ ายทค่ ิดไปน้ันสําเร็จประสงค์ พระสามไม่รกู้ ลีแลต้งั แต่บดั น้ นับว่าไม่มใครอ่ืนีซึง่ พระสามจะหว่ งถึงต่อไป นางทรงนกึ รน่ื รมย์ในหฤทัยเช่นนจ้ นบรรทมหลบั ไป ฝาุ ยพระวัชรมุกุฏีคร้ันนางหลบั แลว้ เกรงจะหลับยงั ไมส่ นิทกเ็ อายาใหด้ ม แล้วถอดเครอื่ ง เพชรพลอยซง่ึ ประดบั องคน์ างจนหมด เอาตรศลู แทงท่ชงฆ์ซ้ายแลว้ รบพาเคร่อื งประดับหนออกจาก วังไปหาพทุ ธศิ รริ ะ พุทธศิ รริ ะตรวจดขู องเหลา่ นน้ั แลว้ ีกฉ็ วยยา่ มห้อยบ่าเชิญใหร้ าชบตุ รทรงดําเนนิ ตามไป จนถึงปาุ ชา้ แหง่ หน่งึ ีพทุ ธศิ ริระกบั พระราชบุตรก็เปล่ยนเคร่อื งแต่งกาย พทุ ธุ ศิ รริ ะเองแตง่ เปน็ โยคีพระราชบุตรแตง่ เป็นศษิ ย์ แล้วซอ่ นเสื้อผา้ ซ่ึงผลดั ออกน้ันสําเร็จแล้ว พุทธศิ รริ ะผูเ้ ปน็ ครูจึงกลา่ ว แก่พระราชกุมารผ้เู ปน็ ศิษย์วา่ \"ทา่ นจงไปในตลาดแลเท่ยวบอกขายเครื่องเพชรพลอยเหล่านี้ สําแดงของให้คนเห็นมากๆ ด้วยกนั ี แลถ้าใครจับกุมทา่ นจงพาตัวมาหาขา้ พเจ้า\" ครัน้ รงุ่ เชา้ พระวัชรมกุ ุฏกพ็ าเคร่อื งประดับอันมราคาเปน็ อนั มากนัน้ ไปเท่ยวบอกขายใน ตลาด ครั้นไปถงึ ร้านชา่ งทองรา้ นหนงึ่ ีย่ืนของให้ดแู ลบอกขายท้งั ถามราคาของเหล่านนั้ ดว้ ย ช่างทองนนั่ เปน็ คนคา้ ขายโดยสจุ รติ ต่อเม่อื จําเปน็ จะสจุ ริต คร้ันเหน็ คนหนุม่ ไมร่ ูจ้ กั ราคาของ นาํ เอา ของราคามากไปบอกขายเช่นนน้ั ก็กล่าววา่ เป็นของเลว และจะรบั ซอื้ เป็นราคาเพยงหนง่ึ ในพันแหง่ ราคาจรงิ ราคาท่ชา่ งทองจะรับพระวชั รมุกุฏไม่ยอมขาย เพราะต้องการจะเท่ยวอวดของเหลา่ นนั้ ต่อไป อกีครน้ั จะสดจ็ ีออกจากรา้ น ชา่ งทองกเ็ ข้ากนั้ ประตไู วแ้ ลว้ กลา่ วว่าีถา้ ไมย่ อมขายจะเรยกตํารวจจบั เพราะของเหล่านัน้ ชา่ งทองถกู ขโมยไปเมื่อี๒ี- ๓ีวนั นั้นเอง ฝุายพระราชกุมารเมอื่ ช่างทองกล่าวขดู่ ังนนั้ ก็ไม่ทรงหวาดหวั่นกลบั ทรงพระสรวล ช่างทอง ลงั เลในใจไม่กลา้ เรยกตํารวจมาจรงิ ๆีเพราะทราบว่าถา้ เรยกตํารวจมา ส่งิ ของเหลา่ นัน้ จะเปน็ ลาภแก่ ตํารวจียิง่ กวา่ เป็นลาภแก่ช่างทองหลายรอ้ ยเทา่ ชา่ งทองกาํ ลงั ตรกึ ตรองยังไมแ่ น่ใจวา่ จะทาํ อยา่ งไร ดีพอมคนอกคนหนง่ึ เข้ามาในร้าน คนทม่ าใหมน่ น้ั เป็นช่างทองหลวงีครนั้ เห็นเคร่อื งประดับเขา้ ก็จํา ได้แลกลา่ วว่า \"เครอ่ื งประดับเพชรพลอยเหลา่ น้เปน็ ของพระราชธดิ าีขา้ พเจ้าจําได้ถนดั เพราะได้ เป็นผู้ทาํ เมอ่ื ี๒ี- ๓ีเดือนนเ้ องี(พดู เท่านน้ั แลว้ ช่างทองหลวงหนั ไปถามพระราชกมุ ารวา่ ) \"เจ้าได้ ของเหล่าน้มาแตไ่ หน\" ในเวลาทไ่ ตถ่ ามกันอยูเ่ ช่นนี้ มคนมายนื มุงดเู ปน็ อนั มาก จนข่าวทราบไปถงึ ผู้บงั คบั การ ตาํ รวจ ผบู้ งั คบั การตํารวจจึงให้ตามตัวพระราชกุมารแลช่างทองท้งั สองคนไปไต่สวน ครั้นไปถึงพรอ้ ม กนั แลตรวจของกลางแล้วีผบู้ ังคบั การตาํ รวจกถ็ ามพระราชกุมารว่า \"เจา้ ได้ของเหลา่ นม้ าแตไ่ หนีจง ใหก้ ารไปแต่ความจรงิ \" พระวัชรกุมารแสร้งทําเป็นกลวั ตรัสตอบว่าี\"ครูของขา้ พเจา้ มอบของเหล่าน้ ใหข้ า้ พเจา้ ไปเทย่ วขายีในเวลาน้ ครูของข้าพเจา้ กระทําการบชู าอย่ทู ป่ ุาชา้ นอกเมอื ง จะไดข้ อง

เหลา่ น้มาจากไหนข้าพเจา้ หาทราบไมี่ ขา้ พเจา้ เปน็ ผู้ไมม่ ความผดิ ทา่ นจงปลอ่ ยตัวขา้ พเจ้าไปเถิด\" ผบู้ ังคับการตํารวจได้ยนิ ดงั น้นั ีกใ็ ห้ไปตามพทุ ธศิ รริ ะมาจากปาุ ช้า แลว้ พาคนทง้ั สองไปเฝูา ท้าวทันตวตั ีทลู ความให้ทรงทราบทกุ ประการ ท้าวทันตวตั ทรงฟ๎งเรือ่ งตลอดแลว้ ก็ตรัสถามพุทธศิ ริระ ว่าีได้ของเหลา่ นั้นมาแตไ่ หน พทุ ธิศริระไดย้ นิ รับสั่งถามีกค็ ล่หนังโคราํ ออกปเู ปน็ อาสนะ แลว้ นงั่ ลง ชักประคําท่องมนตอ์ ยูเ่ กอื บชัว่ โมงหน่ึงีจึงทูลตอบว่า \"ขา้ พเจา้ กล่าวคําสัตย์ีด้วยมพระมหาเทพเปน็ พยานว่าของเหล่าน้เป็นสมบตั ขิ องข้าพเจ้า คอื เม่อื วันแรมสิบส่ค่าํ กลางคนื ีขา้ พเจ้าไปท่ปาุ ช้าเผาศพเพือ่ จะสวดมนต์เรยกแม่มด ข้าพเจ้าสวด เรยกอยูช่ า้ นานจงึ เรยกมาได้ีคร้ันแมม่ ดมาแลว้ ก็ทํากิริยากาํ เริบอกุ อาจ ขา้ พเจ้าจึงต้องลงโทษแทง ด้วยตรศลู อนั นี้ ถูกตรงขาซ้าย ถึงกระน้ันแล้วยังดือ้ ดงึ อยูอ่ กีข้าพเจา้ จึงปลดเอาของเหล่าน้ออกไว้ เสย แล้วไลใ่ หไ้ ปตามใจีแต่เช่นน้นั แลว้ ยงั ทาํ กิรยิ ากําเริบอยู่อกช้านาน ขา้ พเจ้าไม่เคยเหน็ แมม่ ดท่ ดอ้ื ดึงเช่นนั้นเลย ของเหลา่ นข้ า้ พเจ้าได้มาจากแมม่ ดนั้นีโดยประการท่ทลู มาเช่นน้\" ท้าวทนั ตวตั ไดท้ รงฟ๎งดงั นน้ั ก็ทรงเฉลยวใจข้นึ มา จึงตรสั ให้โยคคอยอยู่ทท่ อ้ งพระโรงีแลว้ เสด็จข้ึนขา้ งในีพบพระราชมารดาก็ทูลว่า \"พระแมจ่ งเสดจ็ ไปยงั ทอ่ ย่แู หง่ นางปท๎ มาวดีพระราชธดิ า ของข้าพเจ้า แลตรวจดูชงฆซ์ า้ ยแห่งนางว่ามรอยอันใดบ้างีแลเปน็ รอยชนิดไหน ข้าพเจา้ จะคอยฟง๎ อยู่ทน่ ้\" พระราชมารดาเสด็จไปครู่หน่งึ กเ็ สด็จกลับมาตรัสแกท่ า้ วทันตวตั ผพู้ ระราชบุตรว่าี\"แม่ไดไ้ ป ถึงห้องนางป๎ทมาวดแลว้ นางนอนอยูใ่ นทบ่ รรทมีมแผลสามรอยอยูท่ ช่ งฆ์ซ้ายีมอาการเหมือนหนึง่ เจ็บปวดมาก แมถ่ ามว่าได้แผลน้ันมาอยา่ งไรีนางตอบวา่ ตะปตู าํ ีแต่แม่ไมเ่ คยเหน็ ตะปูสามแหลม เช่นน้ นางคงจะไดท้ ุกขม์ ากเพราะแผลนั้น แม่จะรบกลับไปดูแลรกั ษามฉิ ะนั้นอาจเปน็ เหตใุ ห้เกดิ ความ เศรา้ โศกในวงศญ์ าติ\" พระราชมารดาตรสั ดงั น้นั แล้ว กเ็ สด็จกลับไปยงั ท่อยแู่ ห่งพระราชธิดา ฝุายทา้ วทนั ตวตั ได้ ทรงฟง๎ ดังน้ันก็อํา้ อึง้ ในพระหฤทยั ีทรงคดิ วา่ ี\" การในเรือนหนงึ่ ีความคิดในใจหน่ึงีความเสยหาย หนง่ึ ไมค่ วรจะบอกให้ใครทราบ เมอ่ื นางป๎ทมาวดเป็นแม่มดเช่นน้ นางกม็ ใิ ช่บุตรของเราีจาํ เราจะไป หารอื โยคดู\" ตรัสเทา่ นั้นแล้วก็เสดจ็ ออกไปท่ท้องพระโรงีตรัสใหศ้ ิษยข์ องโยคถอยออกไป แลว้ ก็ ตรสั ถามโยคว่าี\"ทา่ นผทู้ รงความรจู้ งบอกแกข่ ้าว่าีหญงิ ทเ่ ป็นแม่มดน้ัน ธรรมศาสตรบ์ ญั ชให้ลงโทษ อยา่ งไร\" พทุ ธิศรริ ะผ้เู ปน็ โยคทลู วา่ ี\"ข้าแตพ่ ระมหาราชา ธรรมศาสตรก์ ลา่ ววา่ ีถ้าพราหมณ์หรือววั หรอื หญิงหรอื เด็ก หรือผู้ทอ่ ยู่ในปกครองของเรากระทาํ ความผิดอนั นน้ั ทา่ นให้ลงโทษไล่เสยจาก บา้ นเมอื ง ถงึ แม้จะควรอย่างยิ่งท่จะลงโทษประหารชวิต ก็ลงโทษถึงปานนน้ั ไมไ่ ด้เพราะพระลักษมไม่ โปรด\" พระราชาไดท้ รงฟง๎ ดงั น้นั ก็ประทานรางวลั แก่โยคเป็นอันมาก แลว้ เสด็จขน้ึ จากท้องพระโรง คร้ันเวลาเทย่ งคืนกต็ รสั ให้ราชบุรษุ ซึง่ เปน็ ท่ไว้พระหฤทยั จบั นางปท๎ มาวดคุมตัวออกไปนอกเมือง แล ปลอ่ ยทงิ้ ไวก้ ลางปาุ ซงึ่ มากดว้ ยภูตผปีศาจแลสิงห์เสือรา้ ยท้งั ปวง ฝาุ ยพทุ ธศิ รริ ะกับพระราชกมุ ารออกจากท่เฝาู ก็รบกลบั ไปปุาชา้ ผลดั เครื่องแต่งกาย ตามเดิมแลว้ ก็กลบั ไปเรอื นหญิงนางนม ใหร้ างวัลแกห่ ญงิ น้นั มากมายจนแกนง่ั ร้องไห้ดว้ ยความยนิ ด แล้วชายทง้ั สองก็ขึ้นมา้ ออกตามพวกราชบุรุษทพ่ านางไปปล่อย ครัน้ พบนางกลางปุากช็ วนไป กรงุ พราณส เราท่านไม่ต้องสงสัยว่าเมื่อการเป็นเช่นนัน้ นางจะยอมเทย่ วเตรด็ เตรอ่ ยูอ่ งค์เดยวในปุาหรือ จะยอมไปกบั พระราชกุมาร เวตาลเลา่ มาถงึ เพยงนี้ ก็ทลู พระวกิ รมาทิตยว์ ่า \"พระองคท์ รงน่ิงฟ๎งมาช้า นานยังมิไดต้ รัสอะไรเลยีท่ทรงนิง่ ฟง๎ เช่นน้ ก็คงจะเปน็ ด้วยเพลนิ เรื่องทข่ า้ พเจา้ เล่าีแต่เมอ่ื ขา้ พเจา้ เลา่ มาจบเช่นนแ้ ลว้ ถา้ พระองค์ไมอ่ ธบิ ายปญ๎ หาทข่ ้าพเจา้ จะถามเดย๋ วน้ีพระองคค์ งจะตกนรกเป็นแน่ ป๎ญหาของขา้ พเจ้านั้นคอื วา่ ีชายหนมุ่ หน่ึงีสหายของชายหนุ่มหนงึ่ ีหญงิ สาวหนงึ่ บดิ าของหญิงสาว หนง่ึ ีทง้ั ส่นค้ วรจะติโทษใครมากท่สดุ \" พระวกิ รมาทติ ย์ตรัสวา่ ี\"ท้าวทันตวัตเป็นผู้ท่ควรได้รับความติเตยนมากกวา่ คนอืน่ \" เวตาล

ทลู ถามว่าเพราะเหตุไรีพระวิกรมาทติ ย์ตรสั วา่ \"พระวัชรมกุ ุฏนั้นอย่ใู นเวลาทล่ ุ่มหลงหญิงีเหตุฉะนนั้ เสมอกับคนบ้า จะให้รับผิดชอบความประพฤติของตนเองนั้นไม่ไดี้ พุทธิศริระเป็นข้ารับใชเ้ จา้ เม่ือทํา การใหส้ าํ เร็จประสงคเ์ จ้าแล้วก็นับว่ากระทําการดโดยหน้าท่ ส่วนนางป๎ทมาวดนัน้ นางเปน็ หญงิ สาว เพราะฉะนั้นอาจฆ่าคนได้อยู่เสมอไม่นบั วา่ ทาํ อะไรแปลกประหลาดีแต่ ทา้ วทนั ตวัตนน้ั เปน็ เจา้ ครองแผ่นดิน ชนมายไุ ม่นอ้ ย ควรจะรอบร้กู ารงานทง้ั ปวง ไมค่ วรจะหลงเชื่ออบุ ายตนื้ ๆ ยังมิ ทันไดต้ รึกตรองให้ละเอียดก็ใหน้ า้ พระราชธิดาไปปลอ่ ยกลางปา่ เช่นน้ี ควรติเตียนเปน็ อนั มาก \" เวตาลไดย้ ินรับส่ังก็หัวเราะด้วยเสยงอนั ดังีกลา่ ววา่ \"ขา้ พเจ้าจะกลับไปทต่ ้นอโศกเดย๋ วน้ ข้าพเจ้าเกดิ มายงั ไมเ่ คยได้ยนิ พระราชาติเตยนพระราชาง่ายดายถึงเพยงน้\" เวตาลพูดเท่านน้ั แลว้ ก็ ออกจากย่ามีหัวเราะกอ้ งฟูา ลอยกลบั ไปเกาะห้อยหัวอย่ยู ังตน้ อโศกตามเดิม. The Vampire's First Story นิทานเวตาลเรื่องที่ ๒ เรื่องที่ ๒ ฝุายพระวิกรมาทติ ย์ ครั้นเวตาลหลุดลอยไปแล้วก็ยนื ตะลึงนง่ิ อยคู่ รหู่ นึ่ง จึงหัน พระพกั ตร์พาพระราชบตุ รดาํ เนนิ ไปยงั ตน้ อโศก ครัน้ ถงึ ก็ปีนขึ้นไปปลดเวตาลลงมาบรรจุ ลงยา่ มแบกดําเนนิ กลับมาีเวตาลก็เลา่ เร่อื ง ซง่ึ กลา่ วว่าเปน็ เรื่องจริงอกเร่ืองหนง่ึ ดงั น้ ในเมอื งโภควดีมพระราชกุมารองค์หนึ่งซึง่ ข้าพเจา้ จะกล่าวได้ว่าทรงเกยรติคณุ แลทรงศกั ด์ิ ประดจุ ดังพระราชบุตรแห่งพระองคซ์ ่งึ ตามเสดจ็ อยู่ีณีบดั น้ เวตาลทลู ดงั นน้ั ประสงคจ์ ะทูลพระราชา ทางออ้ มแตพ่ ระราชามไิ ด้รบั สั่งประการใดเพราะไม่โปรดการยอ แต่ถา้ จ้าเปน็ ใครจะต้องยอใคร แลว้ พระวกิ รมาทติ ยโ์ ปรดให้ยอพระองค์เอง ไม่ต้องให้ยอผา่ นคนอ่ืน พระหฤทยั ในขอ้ นีเ้ นา วรตั นกวียอ่ มทราบ แลใชเ้ ป็นหลักในการยอพระเกียรติ แลใช้การยอพระเกยี รติเป็นหลัก แห่งความม่งั คัง่ ของเจา้ บทเจ้ากลอนทั้งเก้าน้ัน เวตาลเลา่ ต่อไปวา่ ีพระราชกุมารองคน์ น้ั ทรงนาม พระรามเสน เป็นพระราชบุตรของ พระราชาธบิ ด ซ่งึ ขา้ พเจา้ จําต้องกลา่ ววา่ ผิดกับพระองคม์ าก เพราะพระราชาองค์นัน้ โปรดเขา้ ปุาล่า เนือ้ ีโปรดเลน่ สกาีโปรดบรรทมกลางวัน เสวยน้าํ จัณฑก์ ลางคนื ีโปรดความสําราญซงึ่ เปน็ ไปในทาง กามีประกอบด้วยคุณชว่ั หลายอย่าง คณุ ดหายากแตเ่ ป็นท่รักทน่ ับถอื ของพระราชบตุ รแลธิดา เพราะ เธอทรงเอาใจใสท่ จ่ ะใหเ้ ปน็ เช่นน้นั เธอไม่วางลงเป็นบัญญตั ิมาแต่สวรรคว์ ่าจะมเหตุอนั ควรกด็ ีมิมกด็ ลูกจาํ เปน็ ตอ้ งรักพอ่ ให้เต็มความรักซงึ่ มในใจีมิฉะนน้ั กต็ อ้ งตกนรก ไม่เหมอื นพ่อแม่บางคนซง่ึ ถอื ตัว ว่าทรงคณุ ธรรมอันดีแตใ่ ชล้ ูกว่ิงตามหลังประหน่งึ ... เวตาลพดู ไม่ทันขาดคาํ พระวิกรมาทติ ย์ทรงพโิ รธเปน็ กําลงั กเ็ ออ้ื มพระหัตถไ์ ปข้างหลัง จบั แขนเวตาลเต็มกํากระชากดว้ ยกาํ ลังแรงีเวตาลรอ้ งโอยๆีเหมอื นหนง่ึ เจ็บปวดมาก แต่ถ้าจะสงั เกตก็ เหมอื นแกลง้ รอ้ งเป็นเชงิ เยาะเย้ยีไม่ใช่รอ้ งดว้ ยเจบ็ เพราะเม่ือพระราชาหยดุ กระชากีเวตาลก็กลา่ ว ตอ่ ไปดว้ ยสําเนยงแจม่ ใสว่า พอ่ ทั้งหลายแบง่ เปน็ สามประเภท แลถ้าจะกล่าวการจําแนกประเภทแห่งแม่ก็ฉนั เดยวกัน พ่อ ประเภททีห่ น่งึ เปน็ คนชนดิ ทก่ี ล่าวไดโ้ ดยอปุ มาวา่ มอี กกว้างสามศอก มใี จกว้างตามขนาด แห่งอก พ่อชนิดน้ีเป็นคนใจดี ชอบสนกุ เอาใจลูก มกั จะจน แตล่ ูกรักเหมือนเทวดา พ่อ ประเภทท่สี องอกกว้างเพยี งศอกคืบ มีใจแคบเขา้ มาตามสว่ นแหง่ อก พอ่ ชนิดน้ถ้าได้ยนิ ขา้ พเจา้ พูดดงั ทพ่ ระองคไ์ ด้ยินอยเู่ ด๋ยวนก้ ค็ งคิดในใจวา่ อา้ ยตวั น่มนั พดู ถกู กูจะจาํ คาํ ของมันเปน็ คติี ลองดูวา่ จะเปน็ ผลอยา่ งไรบา้ งีคดิ ดงั น้นั แล้วก็กลับไปบ้าน ปฏบิ ตั กิ ารเอาใจลกู เปน็ ขนานใหญ่ แต่ไม่ ชา้ กก็ ลับเปน็ อย่างเก่าเพราะความเทย่ งในใจไมม่ พอ่ ประเภทท่สี ามเป็นคนอกกวา้ งศอกเดียวไม่ มเี ศษ สมมุตเิ ปน็ ท่ีสุดแห่งความแคบ แลใจกไ็ ดข้ นาดกับอก

พระองคผ์ ู้เป็นพระราชาธิบดอนั สงู สุด เปน็ ตัวอยา่ งพอ่ อกศอกเดยวคือประเภททส่ ามนี้ เมอื่ ยงั ทรงพระเยาว์ พระองคท์ รงเรยนวชิ าซงึ่ มผสู้ งั่ สอนถวายีเชน่ ความรทู้ ่วา่ ไมเ้ รยี วเปน็ ตน้ ไม้ซ่งึ คน อาจปนี ข้นึ ไปไดถ้ งึ สวรรค์เปน็ ต้น คร้ันพระองคท์ รงชนมายุถงึ มัชฌิมวยั ีกท็ รงใชค้ วามรทู้ เ่ รยนมาใน เบอ้ื งต้น ทรงปลูกไม้เรยวสําหรบั ให้พระราชบตุ รปีนข้ึนไปส่ทู ิพยโลก พระองค์จะสอนอะไรตนเองก็ สอนไมไ่ ด้ ก่อนท่ีหนวดแห่งพระองค์งอกงามเปน็ ชอ่ คร้ันเม่อื งอกงามแลว้ ใครจะสอนอะไร พระองคก์ ไ็ มไ่ ดเ้ หมอื นกนั ถา้ ใครเพยี รจะท้าใหพ้ ระองค์เปล่ียนความเหน็ พระองคก์ ็กล่าวค้า ทก่ี วโี งๆ่ กลา่ วไวว้ ่า o อะไรใหมม่ ใิ ชค่ วามจรงิ แนี่ ความจริงแท้เกดิ ใหม่เกดิ ไดห้ รือ อะไรใหมไ่ ม่จรงิ ทกุ สิง่ คือีอะไรจริงใช่ชือ่ ว่าใหมเ่ อยีฯ แต่พระองค์กเ็ ปน็ ประโยชนแ์ ก่โลกเหมือนสิ่งอื่นๆ ในแผน่ ดนิ เมอ่ื ทรงชนมายุกอ็ ยู่ เหมอื นอฐู ซึ่งรับใชก้ าร เม่อื ส้นิ ชนมายุแลว้ เถา้ แลถ่านอัฐิแหง่ พระองคก์ ็ประสมธาตุอยา่ ง เดียวกับเถ้าแลถ่านอัฐแิ ห่งผ้มู ีปญั ญา พระราชาทรงจบั ยา่ มกระชากีเวตาลรอ้ งเหมอื นเจ็บ คร้นั พระราชาทรงหยุดกระชากีมนั ก็ หวั เราะแลว้ ทลู ต่อไปว่า ขา้ พเจ้ากลา่ วตรงไปตรงมามไิ ด้ออ้ มค้อมีเพราะถา้ ไมพ่ ดู ตรง จะต้องพดู ยดื ยาวจงึ จะไดค้ วามเท่าทพ่ ดู น้ีบดั นจ้ ะทลู เลา่ เร่อื งต่อไปว่า ครนั้ พระราชากรุงโภควดเปน็ อากาศปนกับอากาศไปแล้ว พระรามเสนก็ไดร้ บั ราชสมบัตเิ ปน็ มรดกสืบไปีพระรามเสนมนกแกว้ ตวั หนง่ึ ซ่งึ ไดร้ ับเปน็ มรดกจากพระราชบิดา นกแกว้ ตัวน้เป็นมรดกม คา่ ยงิ่ ทรัพย์สินเงินทองทงั้ หลายีมชือ่ วา่ จรุ ามนั พูดสันสกฤตคลอ่ งราวกับบัณฑติ ีร้ศู าสตรท์ ั้งหลายี แลมความคดิ ราวกับเทวดา เว้นแตถ่ ้าเทวดาจะไม่มความคดิ แล้วกจ็ นใจอยู่ นกจรุ ามันนเ้ ป็นท่ปรกึ ษา ของพระราชาองค์ใหมใ่ นกิจสว่ นพระองค์แลราชการบ้านเมอื งท่ัวไป วนั หนึ่งพระราชาตรสั แก่นกจุรามนั วา่ ี\"เจา้ มความรูท้ ุกอยา่ ง เจา้ จงบอกแกข่ า้ วา่ ข้าจะหานาง ไดท้ ่ไหนผ้จู ะเปน็ คูส่ มควรแก่ข้าทกุ ประการ คมั ภร์ศาสตร์กลา่ วว่าีชายจะมเมยไมค่ วรเลือกหญงิ ีใน สกลุ ซ่งึ กล่าวตอ่ ไปน้ แมส้ กุลจะมั่งคงั่ ด้วยโคีด้วยแพะีด้วยแกะีด้วยทองแลดว้ ยธญั ญาหารก็ ตอ้ งห้าม ถ้าเป็นสกลุ ซึง่ ไมก่ ระทําการบชู าตามบัญญตั ีิ ในคัมภรศาสตร์ หรือเปน็ สกุลซึง่ ไมม่ ลกู ชายี หรือเป็นสกลุ ซงึ่ ไม่มใครเคยเรยนพระเวท หรอื เป็นสกลุ ซง่ึ คนมขนข้นึ มากตามกายีหรือเป็นสกุลซ่ึงม โรคติดต่อกนั มาแต่ปูุแลบดิ า ชายจะเลอื กภรยิ าควรเลือกนางซ่ึงมกายไมม่ ตาํ หนิีซง่ึ มนามไพเราะ ซึง่ เดนิ งามเหมอื นช้างอ่อนอายีุ ซึง่ มฟน๎ แลผมพอดทง้ั ขนาดแลปรมิ าณ ซ่งึ มกายอันออ่ นนุ่มีคมั ภร ศาสตรก์ ลา่ วเชน่ น้ เจ้าจะเห็นนางทไ่ หนสมควรแกข่ ้าบา้ ง\" นกจุรามันทูลตอบว่า \"ขา้ แตพ่ ระราชาีในเมืองมคธมพระราชาทรงนาม ท้าวมคเธศวร มพระ ราชธิดาทรงนาม จนั ทราวดี นางน้จะไดก้ บั พระองคเ์ ปน็ แนี่ นางประกอบด้วยความร้แู ลงดงามนกั ม ฉวเหลืองแลนาสกิ เหมือนดอกงาีชงฆ์เรยวเหมอื นตน้ กลว้ ยีเนตรใหญเ่ หมือนใบบัว คว้ิ จดกรรณท้งั สองข้างีรมิ พระโอษฐเ์ หมอื นใบมะม่วงออ่ นีพกั ตร์เหมือนจนั ทร์เพญ็ สําเนยงเหมอื นนกกาเหว่าีกรี ยาวถงึ เข่าีศอเหมือนคอนกเขาีเอวเหมอื นเอวสิงห์ เกศาห้อยยาวถงึ เอวีทนตเ์ หมือนเมล็ดแห่งผล ทับทมิ ีดาํ เนินเหมือนชา้ งเมามัน\" พระรามเสนได้ทรงฟ๎งนกจรุ ามนั ชมโฉมนางดงั นัน้ ก็เป็นทพ่ อพระราชหฤทัย เราท่านทัง้ หลาย จะตอ้ งคิดว่าพระรามเสนเป็นแขก อาจเห็นงามในทางซ่งึ เราท่านเหน็ น่าเกลยดเป็นท่สุด อน่ึงนกจรุ า มนั เป็นนกแขกแล้วมิหนาํ ซาํ้ พดู สนั สกฤตคลอ่ งดว้ ย เหตดุ งั น้นั ความเปรยบของนกคงจะผดิ กับความ เปรยบของท่านแลขา้ พเจา้ ซึ่งไม่ใช่นกแลพดู สันสกฤตไมเ่ ปน็ จะอยา่ งไรกต็ ามคาํ ชมโฉมของนกนัน้ กระทําให้พระรามเสนคดิ ใคร่จะได้นางเป็นชายาแต่ยงั ไมแ่ นใ่ นพระหฤทัยทเดยว จึงตรสั เรยกพระราชครูไทวะจนิ ตกะเข้าไปเฝูาตรสั ถามวา่ ี\"ข้าจะไดใ้ คร เปน็ เมย\" พระราชครตู รวจตําราแม่นยาํ แล้วทลู วา่ ี\"นางทจ่ ะเป็นพระราชชายาทรงพระนาม นาง

จันทราวดี ไมช่ ้าคงจะไดม้ การววิ าหะพระองคก์ บั นางองค์นัน้ \" พระราชาไดท้ รงฟง๎ กย็ ินดีแม้ไม่เคย ทรงเห็นนางกเ็ กิดรกั แลใคร่เป็นกาํ ลงั จงึ ทรงจัดใหพ้ ราหมณ์คนหน่งึ เปน็ ทูตไปเฝูาท้าวมคเธศวรีขอ พระราชธิดา ทรงสญั ญาแกพ่ ราหมณน์ ้ันว่าีถ้าจดั การสําเร็จจะประทานรางวลั ใหส้ มกบั ความชอบ คําท่ ทรงสัญญานเ้ สมอกบั ทําให้ปีกงอกบนหลังพราหมณ์ มคํากล่าวว่าไม่เคยมใครเดนิ ทางเร็วเท่า พราหมณค์ นน้ัน ฝาุ ยพระราชธดิ าท้าวมคเธศวรมนกขนุ ทองตวั หนง่ึ พดู สันสกฤตคล่องไมห่ ยอ่ นกว่านกแกว้ ของพระรามเสน นกขนุ ทองน้ันเป็นนางนกช่ือโสมิกา มความร้อู ยใู่ นใจหลายร้อยเลม่ สมดุ จะหานก ไหนทรงความรู้เช่นนั้นไม่มีถ้าจะเวน้ ก็มแตน่ กแกว้ ของพระรามเสนกระมงั พระองค์ทรงทราบวา่ ใน กาลโบราณีคนมความรู้ทําสตั วพ์ ูดไดแ้ ลเขา้ ใจภาษามนษุ ย์ แม้ภาษาสนั สกฤตซึง่ ใช้ไวยากรณ์ยาก ทส่ ุดีนกกพ็ ดู ได้ไม่พลาดพลั้งีดงั นกช่ือจุรามัน แลนางนกช่ือโสมกิ าน้เปน็ ตวั อยา่ ง การทําใหน้ กพูดได้น้ กล่าวกนั ว่าเปน็ ความคดิ ของนักปราชญค์ นหนึ่งซงึ่ ผ่าลนิ้ นกออกให้เป็น สองภาค แล้วเปลย่ นรปู สมองดว้ ยวธิ ผูกรัดหัวกะโหลกเบ้อื งหลัง จนหวั กะโหลกเบอ้ื งหลังยน่ื ออกมาี ทาํ ใหเ้ กิดมันสมองีจนถงึ รู้คดิ แลพูดไดเ้ ปน็ ภาษาคน การท่นกั ปราชญค์ ิดทําใหน้ กรปู้ ระสาเช่นนก้ ็ม คุณดบา้ งีแต่มคณุ ชั่วมาก เหมือนความคิดนกั ปราชญท์ ้งั ปวง คอื เมื่อนกมความคิดแลพดู ได้แล้วก็คิด อยา่ งฉลาดแลพดู อยา่ งด คําทก่ ล่าวล้วนเป็นคาํ สตั ยี์ ครน้ั มนุษย์พูดเหลวไหลีปราศจากสัตย์ นกก็พูด ตเิ ตยนจนมนษุ ย์เบือ่ ความสัตย์เขา้ เต็มท่ีก็ท้ิงวิชาทําใหน้ กพดู ได้นน้ั เสย ความรจู้ ึงเสือ่ มด้วยประการ เชน่ น้ีในปจ๎ จบุ ันถ้านกแกว้ แลนกขนุ ทองยงั พูดได้ กพ็ ูดเหลวๆีเพราะความจําอยา่ งเดยวีไมใ่ ช่พดู ด้วยรคู้ ดิ อยา่ งแต่กอ่ น มนษุ ยไ์ มต่ ้องเดอื ดร้อนดว้ ยความสัตย์แหง่ นกอกต่อไป วันหนึ่งนางจันทราวดพระราชกมุ ารีทรงน่งั ตรัสกบั นางนกในทร่ โหฐาน ข้อความท่ตรัสนน้ั ไม่ เป็นขอ้ ความแปลก เพราะหญิงสาวในยุคทงั้ หลายเมอ่ื พดู กบั ผทู้ ไ่ ว้ใจสนิท จะเป็นเร่ืองใหช้ ่วย พยากรณก์ ารภายหน้ากต็ ามีให้ทํานายฝน๎ กต็ ามีจะหารอื ความในใจกต็ าม ใจความทพ่ ูดน้นั อย่างี เดยวกนั หมดีจะพูดเร่ืองอนื่ เป็นไมม่ ีเรื่องทพ่ ูดน้นั เรือ่ งท่พดู นน้ั พระองคค์ วรทราบได้ด้วยไมต่ ้องถาม ว่าอะไรีพระวกิ รมาทิตย์ทรงนิ่งอยู่ เวตาลกก็ ล่าวต่อไปวา่ นางจนั ทราวดตรัสวนเวยนสักคร่หู นึ่ง ก็ไปถึงปญ๎ หาซึ่งไดต้ รสั ถามแล้วในเดือนน้ันประมาณ ร้อยคร้ังวา่ ชายท่สมควรเปน็ สามแห่งนางมหรอื ไม่ีนางนกทลู ว่า \"ขา้ พเจา้ มความยนิ ดท่จะทูลใหท้ รง ทราบไดใ้ นวันน้ อันท่จรงิ ความมดิ เมย้ นในใจแห่งเราผูเ้ ป็นหญงิ ...\" นกทูลยงั ไม่ทันขาดคาํ นาง จนั ทราวดชิงตรัสวา่ ี\"เจ้าจงหยดุ แสดงธรรมในทันท มิฉะน้ันเจา้ จะต้องกินขา้ วกับเกลือแทนข้าวกบั ไข่\" เวตาลกลา่ วตอ่ ไปวา่ ีพระองคย์ อ่ มทราบวา่ นกขนุ ทองชอบกินข้าวกับไขี่ ไม่ชอบข้าวกบั เกลือ เมอื่ นางจันทราวดตรสั ขู่ดังนน้ั นกกง็ ดการสาํ แดงป๎ญญา ซ่งึ อาจเปน็ ประโยชนแ์ กม่ นุษยท์ ไ่ ดส้ ดบั ตอ่ ๆี กนั มาีนกทลู วา่ \"ข้าพเจา้ เหน็ การภายหน้าไดถ้ นดั ีพระรามเสนพระราชาธิบดครองกรุงโภควด จะเปน็ พระราชสามแหง่ นางีนางจะเป็นความสขุ แก่พระรามเสน ดังซ่ึงพระรามเสนจะเป็นความสขุ แก่นางี เธอเปน็ ชายหนุ่มงดงาม มัง่ ค่งั ดว้ ยทรัพยส์ มบัติีมหฤทยั เผ่อื แผแ่ กค่ นอนื่ ีสนุกงา่ ยีไมฉ่ ลาดเกิน แล ไม่มโอกาสจะเปน็ คนเจบ็ ไดเ้ ลย\" พระราชธดิ าไดฟ้ ง๎ ดังน้ัน แมไ้ มเ่ คยไดเ้ ห็นพระรามเสนก็บังเกิดความรกั ใคร่ีกลา่ วส้ันๆ พระราชาหนมุ่ และพระนารสาวต่างกเ็ ป็นปฏิพทั ธ์กนั อยู่ไกลๆ แต่เพราะเหตุท่พระแลนางอยู่ใน ตําแหน่งีสงู สมควรกนั ีความรกั อยูห่ ่างๆ จึงสาํ เรจ็ ไดด้ ังประสงค์ เมือ่ พราหมณ์ซึ่งพระรามเสนให้เปน็ ทตู ไปกลา่ วขอนางนัน้ ีไปถึงกรุงมคธ ทา้ วมคเธศวรกท็ รง รบั รองเปน็ อนั ดีแลตรสั อวยพระราชธิดาแก่พระรามเสน ทรงแต่งให้พราหมณ์ในกรงุ มคธไปกรุงโภค วดเป็นทางจาํ เริญไมตรีแลว้ ตรสั ให้เตรยม การมงคลีฝุายพระรามเสนเมื่อทรงทราบขา่ วดีกแ็ ช่มชนื่ ในพระหฤทยั ประทานรางวัลแก่พราหมณ์กรุงมคธเปน็ อันมากีครน้ั ถึงวันฤกษ์ดกอ็ อกจากกรุงโภควด แวดลอ้ มด้วยพหลแสนยากรีรอนแรมไปในปาุ จนถงึ กรุงมคธีก็เข้าเฝูาทา้ วมคเธศวร กระทําการเคารพ แลแสดงไมตรอนั ด

คร้ันถงึ ฤกษง์ ามยามบุญ ท้าวมคเธศวรกจ็ ดั การววิ าหะพระราชธดิ าีมการเลย้ งดูอยา่ งใหญ่ ม การตกแต่งด้วยโคมไฟแลจุดดอกไมเ้ พลงิ ีมการสวดรอ้ งตามซ่ึงบัญญตั ิไว้ในพระเวท มการแห่แลการ ดนตรีมเสยงดงั เอ็ดไปท้ังพระนครีครน้ั พิธวิวาหะสาํ เร็จแลว้ นางจนั ทราวดล้างขมน้ิ จากพระหัตถ์แทบ จะยังไม่ทันหายเหลือง พระรามเสนก็ทลู ลาท้าวมคเธศวรพานางกลับกรุงโภควด นางจันทราวดจะจากพระราชบิดาแลบา้ นเมืองไปกม็ ความสร้อยเศร้าจงึ ต้องพาโสมกิ า คือ นางนกขนุ ทองไปด้วยีไปตามทางีนางเล่าถงึ นกแลความฉลาดของนกถวายพระสาม แลท้งั ทลู วา่ นก เปน็ ผกู้ ลา่ วพระนามพระราชาใหน้ างทราบกอ่ นทไ่ ดย้ นิ ทางอื่น ฝาุ ยพระรามเสนได้ทรงฟง๎ ก็เล่าถึงจรุ ามันนกแก้วของพระองค์ ทรงช้แจงความฉลาดแล ความรู้ของนกนั้นีรวมทั้งขอ้ ทพ่ ูดสันสกฤตคลอ่ งนั้นดว้ ย พระราชินได้ฟง๎ ดังนน้ั ก็ทูลพระราชาวา่ \"เม่อื นกสองตวั ของเราวเิ ศษถึงปานนก้ ็ควรจะเล้ยงใน กรงเดยวกนั แลใหว้ ิวาหะกันโดยคนธรรพล์ ักษณะ นกท้ังสองจะได้เปน็ สุข\" พระราชินได้ววิ าหะใหม่ๆ กใ็ ครจ่ ะจัดการวิวาหะใหค้ ู่อน่ื บ้าง ตามซง่ึ มกั จะเป็นไปโดยมากในหม่หู ญงิ สาวซึ่งไดผ้ วั ใหม่ๆ พระราชาตรัสว่าีนางตรัสถูกแลว้ ีถา้ นกท้ังสองไมม่ คจู่ ะมสขุ อยา่ งไรได้ การทต่ รสั อย่างน้ เพราะพระองค์กาํ ลังเพลนิ ในการมคู่ ยอ่ มจะนกึ ตามอารมณข์ องผ้มู เมยใหมว่ า่ นอกจากคนมเมยแล้ว ไมม่ ใครมความสขุ เปน็ อนั ขาดีความทกุ ขจ์ ะเกิดแกผ่ มู้ เมยนนั้ ไม่อาจมได้ในโลก ครนั้ สององค์เสดจ็ ถงึ กรงุ โภควดแล้ว ก็ตรัสใหเ้ จา้ พนักงานยกกรงใหญม่ าต้งั จาํ เพาะพระ พกั ตร์ ทรงจับนกปล่อยเขา้ ไปในกรงท้ังสองตวั ีฝาุ ยนกจรุ ามนั เกาะอยบู่ นคอนเอยงคอดูนกขุนทอง นางโสมกิ านกขนุ ทองจบั อย่อู กคอนหน่ึง ยกหนา้ ชปู ากขึน้ ไปบนฟาู โดยกิรยิ าดหู มนิ่ แล้วกระโดดไป เกาะคอนอนื่ ท่หา่ งออกไป นกแก้วน่งิ ดอู ย่คู รูห่ นง่ึ กพ็ ดู ภาษาสันสกฤตว่าี\"นางนกขนุ ทอง เจ้าคงจะกลา่ วดอกกระมงั วา่ ี เจา้ ไม่อยากได้คู่\" นางนกขุนทองตอบในภาษาเดยวกันวา่ \"ทา่ นเดาเห็นจะไม่ผดิ \" นกแกว้ ี\"เพราะ เหตุไรเจ้าจึงไมอ่ ยากมคู่\" นกขุนทอง \"เพราะใจของข้าเป็นอย่างนัน้ \" นกแก้วี\"น่พูดอย่างผู้หญิง ทเดยว ข้าจะขอยืมคาํ พระราชาของข้ามากลา่ ววา่ ีทอ่ ธบิ ายเชน่ นเ้ ป็นป๎ญญาหญงิ คอื ไม่ใชป่ ญ๎ ญาแล ไมใ่ ช่อธิบายเลยีเจา้ จะพูดใหแ้ จม่ แจง้ กวา่ นส้ กั หนอ่ ยจะไดห้ รือไม่ หรือรังเกยจทจ่ ะพดู ใหผ้ อู้ น่ื เขา้ ใจ\" นกขุนทองโกรธจนแทบจะลืมไวยากรณ์สันสกฤตีตอบวา่ ี\"ข้าไม่รงั เกยจเลย ขา้ จะบอกให้ แจ่มแจ้งทส่ ุดีบางทจะแจ่มแจ้งเกนิ ความพอใจของเจ้า พวกเจ้าซง่ึ เป็นเพศชายยอ่ มประกอบขึน้ ด้วย ความบาปีความโกงีความล่อหลอก ความเห็นแก่ตวั ีความปราศจากธรรมในใจีคลอ่ งในการทําลาย พวกเราซง่ึ มเพศเปน็ หญิง เพอื่ ความสําราญของพวกเจา้ \" พระราชาตรสั แก่พระราชินว่า \"นางนกตัวน้กลา้ หาญีพูดจาไมเ่ กรงใจใครเลย\" นกแก้วทลู พระราชาว่า \"พระองคจ์ งถือวา่ คาํ ท่นางนกกล่าวน้นั เหมอื นหนึ่งลมซึ่งเข้ากรรณนไ้ ปออกกรรณโนน้ เถดิ (แลว้ เหลยวไปพดู กับนกขุนทองว่า) นางนกขนุ ทอง พวกเจา้ นั้นถา้ ไม่ไดป้ ระกอบข้นึ ด้วยความ ล่อหลอกีแลความคดในใจแลความไม่รู้ กป็ ระกอบขนึ้ ด้วยอนั ใดเลา่ พวกเจา้ มปรารถนาอย่อู ย่างเดยว แต่จะไม่ให้มชวติ เปน็ เคร่อื งสาํ ราญไดใ้ นโลกน้เปน็ อนั ขาด\" พระราชนิ ทูลพระราชาวา่ ี\"นกของพระองค์ตวั น้ีพดู จาก้าวรา้ ว ไม่ยาํ เกรงใครเลย\" นกขุนทองทูลพระราชนิ วา่ \"คาํ ท่ข้าพเจา้ กล่าวน้นั อาจนาํ พยานมาสาํ แดงได้\" นกแกว้ ทลู พระราชาวา่ ขา้ พเจา้ อาจนํานิทานมาเลา่ ให้ผหู้ ญิงเห็นจรงิ ได้\" พระราชาแลพระราชนิ ได้ทรงฟง๎ ดังน้นั ีก็ตกลงกนั ให้นกทัง้ สองนําหลักฐานมาสาํ แดง เป็น พยานคําท่กลา่ วีพระราชินขอให้นกขุนทองแสดงก่อนีพระราชายอมตกลง นางนกขนุ ทองกล่าวดังน้ นทิ านของนกขนุ ทอง เมือ่ กอ่ นท่ขา้ พเจา้ มาเป็นขา้ พระองคน์ น้ั ีข้าพเจ้าเคยอยกู่ ับ นางรัตนาวดี ธิดาพอ่ ค้าผ้มู ัง่ คั่ง

ด้วยทรัพยส์ มบัติ นางรัตนาวดเป็นหญิงนา่ รกั นา่ ชมทุกประการี(นกขนุ ทองกลา่ วเท่านนั้ ก็ร้องไห้ พระ ราชนิ ทรงสงสารกร็ ับสง่ั ปลอบโยนเป็นอนั ดีนกก็เลา่ ตอ่ ไปว่า) ใน เมอื งอิลาบุรี มพอ่ ค้ามั่งมคนหนงึ่ ีได้ความเดือดร้อนเพราะไมม่ บุตร พ่อค้าจงึ ทาํ โยคะคือ อดขา้ วเป็นตน้ ีแลทั้งเทย่ วไปในบุณยสถานตา่ งๆีเพือ่ จะขอลูก เมอื่ อยู่บา้ นกอ็ ่านปรุ าณะแลให้ทาน แก่พราหมณ์ีด้วยประสงค์อนั นั้น ต่อมาพระผเู้ ป็นเจ้าโปรดประทานใหม้ บตุ รชายมาเกิดคนหนง่ึ พอ่ คา้ ยินดก็มงานสมโภชลูก ชายใหญ่โตีให้ทานแก่พราหมณ์ผสู้ วดกลอนยอีแลพราหมณอ์ น่ื ๆ เปน็ อันมากีผทู้ จ่ นก็ไดร้ ับเงินแจก แลเสือ้ ผา้ ีผ้ทู ห่ ิวกไ็ ดร้ ับแจกอาหารแลของอืน่ ๆ เป็นอันมาก พอ่ ค้าทาํ นุบํารุงเล้ยงบตุ รชายมาจนอายไุ ดห้ ้าขวบก็หาผูม้ าสอนใหอ้ า่ นหนังสือ ครั้นโตข้ึนอก กส็ ง่ ใหไ้ ปอยู่กับครผู ู้มชอ่ื ว่ามความร้แู ลสั่งสอนด บตุ รชายโตขนึ้ มรปู สมบัติดไู ม่ไดี้ เค้าหน้าเหมอื นลงิ ี ขาเหมอื นขานกกระเรยน หลงั โกงเหมอื นหลงั อฐู พระองคค์ งจะทราบภาษติ โบราณวา่ ถ้าพบคน ขาเขยกใหเ้ ช่อื ใจไดว้ า่ พบความคด ๓๒ ขอ้ ถา้ พบคนตาบอดขา้ งหนง่ึ พบความคด ๘๐ ข้อ ถา้ พบคนหลังก้งุ ใหส้ วดมนต์อ้อนวอนพระมเหศวรให้ค้มุ ครองตน บตุ รชายพอ่ ค้าน้นั ีเมอ่ื ไปเรยนหนงั สอื กับครกู ม็ ไิ ดไ้ ปถงึ ครู ไปเทย่ วแวะเลน่ เบ้ยกบั เพ่อื นท่ เป็นพาลด้วยกนั ตา่ งคนมใจชัว่ และประพฤติทจุ รติ ตา่ งๆีเมอ่ื พบผู้หญงิ ก็เข้าเก้ยวชกั ชวนในเชิงกาม และกระทาํ การลามกจนบิดาเสยใจเปน็ โรคหนักอยู่หนอ่ ยหนงึ่ ีกถ็ ึงแก่ความตาย ครัน้ บดิ าสนิ้ ชวติ แลว้ บตุ รชายได้รับมรดกก็จา่ ยทรพั ย์เปลืองไปในการพนันแลบาํ รุงความชัว่ ไม่ช้าทรพั ยม์ รดกซึง่ ได้รับเปน็ อันมากนัน้ ก็ส้ินไปจนไมม่ อะไรเหลือ ครนั้ ทรพั ย์ของตนหมดก็ทําลาย ทรพั ย์เพอื่ นบ้านจนในทส่ ุดเขาจับได้ว่าเปน็ ขโมย เผอิญหลบหลกได้ไมถ่ ูกประหารชวิตตามอาญา เมอื ง จนในท่สดุ กล่าวลบหลู่เทวดาว่าให้แต่โชคร้าย แลว้ หนออกจากเมืองไปเดินปาุ อย่พู กั หนงึ่ ีถึง เมอื งซ่ึงเปน็ ทอ่ ยแู่ ห่ง เหมคุปต์ เศรษฐผบู้ ดิ านางรตั นาวด ได้ยนิ ชอื่ เหมคุปต์ก็นกึ ขึน้ ได้วา่ เมอ่ื บดิ า ของตนยงั มชวติ อย่นู ัน้ ได้ทาํ การคา้ ขายตดิ ต่อีจงึ เขา้ ไปหาเหมคปุ ต์ แจ้งความวา่ ตนเปน็ บุตรแหง่ พ่อค้าทไ่ ด้เคยคา้ ขายติดตอ่ กนั บัดนบ้ ิดาสน้ิ ชวติ เสยแลว้ ีพูดเทา่ นน้ั กร็ อ้ งไหร้ า่ํ ไรไปเป็นอันมาก ฝาุ ยเหมคปุ ตี์ ครนั้ ไดย้ นิ แลเห็นชายหนมุ่ แต่งกายทรุดโทรมดังนั้น กป็ ระหลาดใจแลคดิ สงสารีจึงปลอบโยนซกั ถามว่าเหตุไฉนจงึ เปน็ เช่นน้ ชายหน่มุ หลังโกงเหมือนอูฐตอบวา่ ีขา้ พเจ้าจัด สนิ คา้ บรรทุกเรือไปค้าขายในเมอื งอน่ื ครนั้ ขายของหมดแล้วีขา้ พเจ้าซื้อสนิ ค้าเมืองนั้น บรรทุกเรือจะ กลบั ไปขายในเมืองของขา้ พเจ้าีแล่นใบไปในกลางทะเล ถกู พายใุ หญ่เป็นอนั ตรายในทะเลทง้ั เรือแล สนิ ค้าีข้าพเจ้าเกาะกระดานลอยไปคนเดยว เผอญิ ยังไมถ่ ึงเวลาสนิ้ ชวติ ีจึงรอดขน้ึ ฝ๎ง่ ไดแ้ ลเดนิ ทาง มาีจนถงึ เมืองน้ ขา้ พเจา้ ไม่มหน้าจะกลับไปเมอื งของตนได้ีเพราะส้ินทรัพย์แลว้ กไ็ มม่ ใครนับถอื ผู้ท่ เปน็ ศตั รกู ม็ แตจ่ ะด่าว่าข่มข่ตา่ งๆ บดิ ามารดาของขา้ พเจา้ ก็ส้นิ ชวติ เสยนานแล้วีขา้ พเจา้ ไมร่ ู้จะหัน หน้าไปหาใคร ท้งั น้กเ็ ปน็ ผลแหง่ กรรมซึง่ กระทาํ ไว้แต่ปางก่อนีพดู เทา่ น้นั แล้วก็ร้องไหร้ ํ่าไรไป ฝุายเหมคปุ ต์เศรษฐได้ยนิ ชายหลงั อูฐร้องไห้เลา่ เรอ่ื งใหฟ้ ง๎ ดังนัน้ กเ็ กดิ สงสารเป็นกําลัง จงึ ต้อนรับเลย้ งดูให้ชายหลังอฐู อาศัยอยใู่ นบ้านของตน ชายช่ัวเห็นทางจะได้ดด้วยทําดก็ขนื ใจปฏบิ ตั ิ เป็นคนด จนเหมคปุ ต์ไวใ้ จให้มส่วนในการค้าขาย ชายหนุ่มกย็ ่งิ แสรง้ ทาํ ดจนเหมคุปตไ์ ว้ใจแลเอน็ ดู ยงิ่ ขึ้น วันหน่ึงเหมคปุ ตต์ รกึ ตรองในใจว่า เรานม้ ความรอ้ นใจมาหลายปีแลว้ เพราะบกพรอ่ งใน ครอบครัว เพอ่ื นบ้านของเรากซ็ บุ ซิบนนิ ทาเรามาช้านานีบ้างกพ็ ดู ออ้ มค้อมีบา้ งก็พดู ตรงๆีว่า ธรรมดาคนมลูกสาวีเม่อื ลูกอายุถึงี๗ีขวบี๘ีขวบีพอ่ ก็ตอ้ งจัดการให้มผัว เพราะธรรมศาสตร์บญั ญตั ิ อยา่ งนนั้ แต่บตุ รสาวเหมคุปตเ์ ศรษฐนพ้ ้นอายุทค่ วรแต่งงานมาหลายปีีจนบัดน้อายุถึงี๑๓ีหรอื ๑๔ี ปีี นางเปน็ คนร่างใหญ่รูปอวบีดเู หมือนหญิงอายีุ ๓๐ีปีทม่ ผัวแล้ว แต่บิดาก็ยงั หาจัดการใหม้ ผัวไมี่ บิดาจะกนิ แลนอนเป็นสุขอย่างไร การทป่ ลอ่ ยให้เป็นเช่นน้ย่อมเปน็ ท่ครหาีเป็นโทษโดยคดโลกแล คดธรรม แมญ้ าตวิ งศท์ ส่ ิ้นชวติ ไปแลว้ ยอ่ มได้ทุกข์เพราะเหตุทญ่ าตใิ นมนุษยโลกปล่อยลูกสาวไว้มใิ ห้

มผวั จนปุานน้ ขอ้ ตเิ ตยนขอ้ น้กท็ ําให้เราเดอื ดรอ้ นมาชา้ นานแลว้ แตเ่ รามริ ูจ้ ะแกไ้ ขอย่างไรได้ บดั น้ พระผเู้ ป็นเจ้าโปรดให้เราสิน้ ทกุ ข์ีจึงบนั ดาลใหช้ ายหนุม่ นม้ าถงึ บา้ นเรา เขากเ็ ปน็ คนดีปฏิบตั ิอยใู่ น คลองธรรมเป็นทช่ อบใจเรา จาํ เราจะยกลูกสาวให้แกช่ ายหนุม่ น้ตามโอกาสท่พระผเู้ ป็นเจ้าประทานแก่ เรา เราจะชักชา้ ตอ่ ไปไม่ควร เพราะสิง่ ใดท่จะทาํ ไดใ้ นวนั น้ สงิ่ น้ันเปน็ ดท่สดุ ีพรงุ่ นจ้ ะเปน็ อยา่ งไรเรา ทราบไมไ่ ด้ เหมคปุ ตต์ รกึ ตรองตกลงใจดังน้แล้วีกไ็ ปพดู กับภรยิ าว่า ความเกดิ ี๑ีการววิ าหะี๑ีความตายี ๑ีทั้งี๓ อยา่ งน้ยอ่ มเปน็ ไปแลว้ แตเ่ ทวดาจะบญั ญัต ิีเราต้องการใหล้ ูกหญิงของเราไดผ้ ัวทเ่ กิดใน สกลุ ดีเป็นผู้มง่ั มีเป็นผู้มรปู งาม เป็นคนฉลาดีแลเป็นผู้มความสตั ยี์ แต่เราจะหาชายหนุม่ เช่นน้ัน ไมไ่ ด้ เจ้ากล่าวว่าถา้ เจ้าบา่ วขาดคณุ ดเหล่านี้ การวิวาหะก็จะไมเ่ ปน็ ผลดงั ประสงค์ แตถ่ า้ จะไม่ใหล้ ูกม ผวั ไซรี้ เราจะเอาเชือกผูกคอลูกเราถว่ งลงในคูนก้ ไ็ มไ่ ด้ เหตดุ ังน้นั ถา้ เจา้ เหน็ ว่าบตุ รพอ่ คา้ ซง่ึ ข้าได้ รับเขา้ ไวเ้ ปน็ สหายในการค้าขายของข้าน้ เป็นคนดีควรจะให้ลกู สาวเราไดี้ เราจะรบจัดการววิ าหะ โดยเรว็ ภริยาเหมคุปต์ไดย้ นิ สามพูดดงั นัน้ กด็ ใจ เพราะชายหนุ่มหลังอูฐได้ลอ่ ลวงใหล้ ุ่มหลงอยแู่ ล้วี นางจึงตอบสามวา่ เม่ือพระผ้เู ปน็ เจา้ ช้ทางให้เห็นชดั อยเู่ ชน่ น้ีถา้ เราไมท่ ําตามกค็ ือขืนคาํ เทพยดา เรา มไิ ด้ไปเทย่ วแสวงหาท่ไหนีเจ้าบ่าวกม็ มาเองีเหตดุ ังนน้ั เราไมค่ วรจะชักช้าไปเลย ทา่ นจงรบจัดการ เถดิ สามภรยิ าปรึกษากันเช่นน้แล้วกเ็ รยกบุตรสาวเข้าไปหา นางนัน้ งามสมควรเป็นท่รักของ คนธรรพี์ นางมเกศายาวอนั เปน็ สมว่ งออ่ น เพราะแสงแห่งความเป็นสาวีเป็นมนั เหมือนปีกแมลงภู่ี ขนงบริสทุ ธิ์แลใสเหมอื นโมรา แก้วประพาฬอันเกิดแตท่ ะเลนัน้ ีเมอื่ เทยบกบั รมิ ฝีปากแหง่ นาง แก้ว ประพาฬกม็ สเผอื ดไปีทนตข์ องนางเสมอกบั ไข่มุกีภาคตา่ งๆ ในกายนางล้วนประกอบขึน้ สาํ หรับเป็นี ท่รักทั้งนั้นีเม่ือใครได้เหน็ เนตรแหง่ นาง ก็ใคร่จะเห็นอกีแลเห็นอยเู่ สมอไป ใครไดย้ นิ เสยงนางก็ใคร่ จะได้ยินดนตรนั้นอยู่เสมอีความดของนางเสมอกบั ความงาม เปน็ ทร่ กั ของบดิ ามารดาแลญาตพิ ่นอ้ ง ทว่ั ไปีเพ่ือนฝูงของนางจะหาท่ตนิ างกม็ ิได้ ถ้าขา้ พเจ้าจะเลา่ คณุ ความดของนางกค็ งไมม่ เวลาสนิ้ สดุ ได้ นกขุนทองเลา่ มาเพยงนก้ ็ร้องไหร้ ํ่าไรอยคู่ รหู่ นึ่งจงึ เลา่ ต่อไป เมือ่ บดิ ามารดาเรยกนางรัตนาวดมาบอกความประสงคใ์ ห้ทราบ นางก็ตอบว่าแล้วแตบ่ ดิ า มารดา เพราะนางไมใ่ ช่หญงิ ชนดิ ท่เกลยดอะไรไมเ่ กลยดเทา่ ชายทพ่ อ่ แม่บัญชาให้รกั อนั ท่จรงิ ข้าพเจา้ ทราบวา่ นางจะดชู ายหน่มุ ท่จะเป็นเจ้าบา่ วกด็ ูไมไ่ ด้เตม็ ตา เพราะความข้รวิ้ ของชายนน้ั แตไ่ ม่ ช้าความชา่ งพดู ของเจา้ บ่าวกท็ ําให้นางเกิดความนิยมขน้ึ ทละนอ้ ย แลทง้ั นางรสู้ กึ คุณชายหนุ่มท่ อตุ ส่าหเ์ อาใจใส่เอ้อื เฟือ้ ต่อบดิ ามารดา นบั ถือความประพฤตขิ องชายหนุม่ ซ่งึ แสร้งทําดีสงสารดว้ ย ตกยาก จนในทส่ ุดก็ลมื ความข้ริ้วของชายนนั้ เม่ือกอ่ นการวิวาหะ นางไดส้ ญั ญาในใจไวว้ ่าีเมอ่ื แต่งงานแล้ว แม้หน้าท่แห่งภริยาจะไม่เปน็ ท่ชอบใจเพยงไร นางกจ็ ะอตุ ส่าหป์ ฏบิ ตั ใิ ห้ถูกตอ้ งตามหน้าท่ีครนั้ แตง่ งานแลว้ ความไม่พอใจใน หนา้ ทน่ ้นั หามไม่ีนางกลบั รกั สามเสยอก สว่ นความข้รวิ้ ของสามนัน้ ไมเ่ ปน็ เหตุใหน้ างเกลยดชงั อันท่ จรงิ กลับจะรกั ย่ิงขึ้นเพราะความข้รว้ิ นน้ั ความรักน้เปน็ ของนา่ พศิ วงมาก เป็นแสงฟาู ฉายความสุขลงมายงั แผ่นดนิ อนั มดื แลเตม็ ไป ด้วยความซึมเซา เป็นมนตร์ซึง่ ทาํ ใหเ้ รารําลึกถึงความมชาติทส่ ูงกว่าน้ เป็นความสขุ ในขณะนแ้ ลเป็น ทางพาใหค้ ดิ ถงึ สุขในเบ้อื งหนา้ ทาํ ใหค้ วามข้รวิ้ กลับเป็นความงามีทาํ ให้ความโงก่ ลายเปน็ ความ ฉลาด ทาํ ใหค้ วามแก่เปน็ ความหนุ่มีทําใหบ้ าปเปน็ บญุ ีทาํ ให้ความซมึ เซาเป็นความแชม่ ช่นื ทําให้ใจ แคบเป็นใจกวา้ งีความรกั นเ้ ป็นโอสถอยา่ งเอก ชักให้ความตรงกันขา้ มมาเดนิ ลงรอยเดยวกัน นกขนุ ทองกลา่ วดังน้ีพลางแลดูนกแกว้ ีนกแก้วกล่าวว่า ถา้ เอาคําโบราณมาพดู นอ้ ยกว่าน้จะ เป็นการสําแดงความคดิ ตนเองมากข้ึน การท่จาํ เอาคําเก่าๆีมากลา่ วเชน่ นี้ ไม่เปน็ ไปตามทาํ นองผมู้

ปญ๎ ญาเลย นกขุนทองกล่าวต่อไปว่าีคําโบราณกล่าวว่า เสอื จะกลายเปน็ ลูกแกะนั้นยงั ไมเ่ คยม เหตุ ดงั น้ันถึงชายหนมุ่ หลงั อูฐจะไดแ้ สรง้ ประพฤตเิ ปน็ คนดอยูค่ ราวหนึง่ ก็หาดไดจ้ ริงไม่ อยู่มาวนั หนึง่ ีชายหน่มุ ราํ ลึกในใจวา่ ผมู้ ปญ๎ ญายอ่ มเอาตวั ออกห่างจากความเหนย่ วรั้งแหง่ ครอบครวั แลปลดตวั จากความรกั ลกู รกั เมยแลรกั บ้านีคดิ ดงั น้ชายหน่มุ จงึ กลา่ วแก่ภรยิ าวา่ ขา้ ไดจ้ าก เมอื งมาอยใู่ นเมอื งเจ้านก้ ็หลายปแี ลว้ ไมไ่ ดข้ า่ วคราวญาตพิ ่นอ้ งในเมอื งขา้ เลยีใจขา้ จึงเศร้าีเจ้าจง กลา่ วแกแ่ มข่ องเจ้า ขออนญุ าตใหข้ ้ากลบั ไปบ้านเมอื งีแลถา้ เจ้าจะใคร่ไปด้วยก็ได้ นางรตั นาวดได้ ยินสามว่าดงั นนั้ ีก็รบไปบอกมารดาตามคาํ ซง่ึ สามกลา่ ว มารดาได้ทราบก็ไปแจ้งแกเ่ หมคุปตี์ เหม คปุ ตต์ อบอนุญาต ให้บตุ รเขยกลบั บ้านเมืองไดต้ ามใจีแลถา้ บุตรจะยอมไปกับสามก็อนุญาต ครนั้ ตก ลงกนั ดงั นแ้ ล้วีเหมคุปตเ์ ศรษฐก็ให้ทรพั ยส์ ินแก่บตุ รเขยเปน็ อนั มาก ทัง้ ให้แกบ่ ุตรสาวอกส่วนหน่งึ ี แลจดั ทาสให้ไปดว้ ยคนหนงึ่ บุตรเขยแลบตุ รสาวก็ลาออกเดินทางเข้าปุาไป ฝาุ ยชายหนมุ่ หลังอูฐ พาภรยิ าเดินทางไปหลายวนั นิง่ ตรึกตรองไมใ่ ครจ่ ะตกลงในใจว่าจะทํา วธิ ใดจึงจะท้งิ ภริยาเสยได้ การท่จะพาไปยงั เมืองของตนนัน้ ไมไ่ ด้เปน็ อนั ขาดีเพราะเมื่อไปถึงเมือง เข้า นางก็จะจับเท็จทงั้ ปวงได้ อนงึ่ ชายหลงั อูฐอยากไดน้ างเปน็ ภรยิ ากเ็ พราะอยากได้ทรัพยส์ มบตั ีิ ไมอ่ ยากไดต้ ัวนางเอง คร้นั เมื่อพ้นตาพ่อแม่มาเช่นนก้ ็คิดหาทางจะทิง้ นางเสยแตต่ รึกตรองอย่หู ลาย วนั จนไปถึงปาุ เปล่ยวก็หยุดพกั แล้วบอกแกน่ างว่าตาํ บลน้ันโจรผรู้ ้ายชุกชมุ นางจงปลดเคร่อื งประดับ กายทั้งปวงซงึ่ มคา่ เป็นอนั มากออกให้สามซ่อนไวใ้ นไถ้ ครัน้ นางทาํ ตามแล้วชายสามก็ล่อทาสไปหา่ ง ทซ่ งึ่ ภริยานง่ั คอยอยู่ แลว้ เอามดเชอื ดคอทาสีท้งิ ศพไวเ้ ป็นอาหารสัตวใ์ นปาุ ีแล้วกลับไปหาภริยา ล่อให้เดนิ ไปใกล้เหวีแลว้ ผลกั ตกลงไปในเหว เผอญิ ก้นเหวนั้นมกง่ิ ไม้แลใบไมร้ องอย่มู ากนางจึงไม่ ส้นิ ชวิต ฝาุ ยชายหลังอูฐครัน้ ผลักภรยิ าลงเหวแล้วก็รวบรวมทรัพยส์ มบัติทัง้ ปวงออกเดนิ ทางไปสู่ เมอื งของตน ไม่ช้ามชายอกคนหนึ่งเดนิ มาในปาุ เปลย่ ว ได้ยินเสยงคนรอ้ งไหก้ ็หยดุ ยนื ฟ๎งแลนึกในใจ ว่าีปาุ น้เปล่ยวนักหนา เหตุใดมคนมาร้องไห้อยู่ในดงชัฏ ครน้ั ยืนฟง๎ อยู่ครู่หน่งึ แลว้ ก็เดินไปในทางซง่ึ ได้ยนิ เสยงรอ้ งไห้ ครน้ั ไปถงึ เหวก็หยดุ ชะโงกดเู ห็นผู้หญงิ รอ้ งไห้อยกู่ น้ เหว ชายนนั้ กป็ ลดผ้าโพกแล สายรัดตวั ออกต่อกันเปน็ สายยาวหยอ่ นลงไปในเหว ร้องให้นางเอาปลายผา้ ผกู ตวั เข้าแล้วฉุดข้ึนมาได้ แลถามนางวา่ เกิดเหตุอย่างไรจึงเป็นเชน่ น้ นางรัตนาวดตอบวา่ ข้าพเจา้ เปน็ บตุ รเหมคุปต์พ่อคา้ เศรษฐใหญ่ในกรงุ จันทปรุ ะีขา้ พเจา้ เดินทางมากับสาม พบโจรมกําลังช่วยกนั ฆา่ ทาสของข้าพเจา้ เสยแล้วมดั สามข้าพเจา้ พาตวั ไป แล เมือ่ ได้ปลดเครอื่ งประดบั กายของข้าพเจ้าออกหมดแล้วก็ผลกั ขา้ พเจา้ ตกอยู่ในเหวน้ ขา้ พเจา้ ไม่ ทราบวา่ สามจะเปน็ ตายประการใดีแลสามขา้ พเจ้ากไ็ ม่ทราบว่า ขา้ พเจ้ายังอยู่หรือสนิ้ ชวิตแลว้ ชายเดินปุาได้ฟง๎ นางเลา่ ดังนนั้ ก็เชือ่ แลพานางไปเมืองจันทปุระส่งยงั บ้านบดิ า เมื่อนางไปถึง บ้านบิดาก็เลา่ เรอื่ งอยา่ งเดยวกับทเ่ ล่าใหช้ ายเดินทางฟ๎ง เหมคุปต์เศรษฐไดย้ ินเรอ่ื งก็สงสารบตุ รีจึงกล่าวปลอบโยนวา่ \"ลกู เอ๋ยีเจา้ อยา่ รอ้ นใจไปเลยี ผัวของเจา้ ยงั คงมชวติ อยู่เป็นแน่ ธรรมดาโจรยอ่ มจะแย่งชงิ ทรพั ย์สมบัติของผู้อื่นีไมแ่ ย่งชงิ ชวติ ผ้ไู ม่ มทรพั ย์เหลือ เหตดุ ังน้เมือ่ ไรพระผู้เปน็ เจ้าโปรดีผัวของเจา้ ก็จะกลบั มาเม่อื นนั้ จงต้ังใจคอยไปเถิด\" เหมคุปตก์ ล่าวปลอบบุตรฉะนพ้ ลางจดั เคร่ืองประดับกายอนั หาคา่ มิได้ให้แกบ่ ุตรเป็นอนั มาก ท้ังบอกกลา่ วญาตพิ น่ ้องแลมติ รท้ังปวงใหม้ าเยย่ ม แลปลอบโยนช้แจงแกน่ างรัตนาวดโดยนัยเดยวกันี แตน่ างก็มไิ ด้วายเศร้า เพราะเรื่องในใจผิดกบั เรอื่ งท่เล่าบอกแก่บดิ าแลญาติมิตรท้งั น้ัน จะกลา่ วถึงชายหลงั อูฐีเม่ือผลกั ภรยิ าตกแหวแล้ว กร็ วบรวมของมราคาทัง้ หลายรบไปยงั เมอื งของตน เพ่ือนฝงู ทง้ั ปวงก็ชว่ ยกันต้อนรับเปน็ อนั ดีเพราะเหตุท่มทรัพย์เป็นอันมาก เพอ่ื นนกั เลงก็ พากนั มากลมุ้ รมุ ีชวนเล่นชวนกนิ อย่างแตก่ อ่ น การพนนั แลการเสพย์เครอ่ื งมึนเมาต่างๆีกก็ ลบั ทาํ ี ตามเดมิ ีโทษทง้ั หลายก็กลับเกิด ทรัพย์สนิ ทั้งหลายก็เปลอื งไปีในทส่ ดุ กห็ มดลงอกครง้ั หน่ึง ชน

ทง้ั หลายทเ่ ป็นสหายในการทําช่ัวแลเป็นมิตรในการชว่ ยกนั กินกนั เลน่ ตา่ งกช็ ักหา่ งออกไป ในท่สดุ เมือ่ ชายหลงั อูฐสน้ิ ทรัพยแ์ น่แล้วก็ไม่มใครคบค้าสมาคม เมือ่ ไปถึงบา้ นผูท้ ่เคยเปน็ มิตรเขากป็ ดิ ประตเู สย หรอื มฉิ ะนั้นขับไลไ่ ม่ใหเ้ ข้าเรอื นีชายหลังอฐู สนิ้ ปญ๎ ญากก็ ระทําโจรกรรม จน เขาจับได้ก็ถกู เฆ่ยนตลงโทษเป็นสาหสั ีครนั้ จะอยใู่ นเมอื งของตนต่อไปไมไ่ ด้ กห็ นออกจากเมืองอก ครง้ั หนึ่งีเดินไปในปาุ ีพลางคิดในใจว่า เราจะต้องกลบั ไปหาพอ่ ตาเลา่ นิทานใหฟ้ ง๎ วา่ บัดนน้ างรตั นา วดคลอดบตุ รเป็นชายคนหนึง่ แล้ว เราจงึ ไปหาพอ่ ตาเพ่ือจะบอกขา่ วอนั ควรยนิ ดน้ให้พ่อตาทราบ เรา อาจจะไดท้ รพั ย์สมบัตอิ กเพราะการไปบอกข่าวน้ ชายหลงั อฐู คิดดังนัน้ แล้วีก็ตั้งหนา้ เดินไปเมอื งจันทปรุ ะีตรงไปบา้ นเหมคปุ ต์เศรษฐ คร้นั ไป ถงึ ประตบู ้านกต็ กใจเปน็ กําลัง เพราะเห็นนางรตั นาวดภรยิ าลงจากเรือนวิ่งออกมารับีในชัน้ ตน้ คดิ ว่าผ เพราะนึกว่านางคงจะตายอยู่ในเหวนน้ั เองีเมือ่ คิดดงั นก้ ็กลวั จึงหนั หลงั จะวงิ่ หน ตอ่ นางตะโกนเรยก จงึ หยดุ ยนื ลงั เลดว้ ยเข้าใจว่านางคงจะกลบั ไปเล่าเร่อื งให้บิดาฟง๎ ตลอด เม่ือเหมคุปต์มาพบเขา้ กจ็ ะคง จับตัวลงโทษเป็นแน่ ฝาุ ยรตั นาวดเหน็ สามยืนลงั เลีมสหนา้ อนั ซดด้วยความกลวั เชน่ นน้ั กก็ ลา่ วแก่สามวา่ ี\"ท่าน อยา่ สะดงุ้ ตกใจไปเลยีขา้ พเจ้ามิไดเ้ ล่าความจรงิ แกบ่ ิดาดอก ขา้ พเจ้าได้เล่าว่าเราเดินทางไปกลาง ปาุ ีพบโจรหม่หู นงึ่ มกําลงั มาก โจรฆา่ ทาสของข้าพเจา้ เสยีแยง่ เคร่ืองประดบั จากกายข้าพเจา้ หมด แลว้ ผลกั ขา้ พเจ้าตกลงในเหวแลท้งั มดั ทา่ นพาตัวไปีเม่อื ทา่ นพบกับบดิ าข้าพเจ้า ท่านจงเล่าเรอ่ื งให้ ตรงกนั ีเราท้ังสองกจ็ ะกลับไดค้ วามสขุ เหมอื นเดมิ ทา่ นจงระงับความร้อนใจเสยเถิด ข้าพเจ้าดอู าการ แห่งท่านเห็นวา่ ทา่ นจะได้ทกุ ขม์ านักหนา เส้ือผ้าแลรา่ งกายจึงขะมกุ ขะมอมเหมอื นเชน่ ทเ่ ห็นอย่นู ้ ทา่ นจงตามขา้ พเจา้ ข้ึนมาบนเรอื นแลผลดั เส้อื ผ้าโสมมน้ สวมเส้อื ผ้าท่ดแลกินอาหารซ่งึ ประกอบดว้ ย รสท้งั หก ทา่ นจงถอื วา่ เหย้าเรอื นแลสมบัติเหล่านเ้ ป็นท่าน แลตวั ขา้ พเจา้ คอื ทาสผูจ้ ะปฏิบตั ิท่านให้ ได้ความสขุ ทกุ ประการ\" ชายหลงั อฐู ไดฟ้ ๎งภริยากลา่ วดงั น้ันีแม้ตวั จะเปน็ ผู้มใจบึกบึน ก็บงั เกดิ ใจออ่ นแทบจะรอ้ งไหี้ จึงตามภรยิ าขึน้ ไปบนเรือน คร้ันถึงห้องนางกล็ า้ งเทา้ ให้ีแลจัดให้อาบนาํ้ ชําระกาย แต่งเคร่ืองนงุ่ ห่ม อยา่ งดมค่าแลว้ นําเอาอาหารมาให้กิน ครน้ั เหมคุปต์เศรษฐและภรยิ ากลบั มาถงึ บ้าน นางรัตนาวดก็พาสามไปหาแลเลา่ นทิ านใหฟ้ ง๎ วา่ ีฝูงโจรไดป้ ลอ่ ยชายสามกลับมาแล้ว เหมคปุ ตแ์ ลภริยาได้ฟง๎ ก็ดใจ จดั การให้บุตรเขยอย่กู นิ ม ตาํ แหน่งในครอบครัวอยา่ งแต่กอ่ น ชายหนมุ่ หลงั อูฐได้กนิ อยู่มความสขุ ีกพ็ กั อยกู่ ับพอ่ ตาี๒-๓ีเดอื น ระหวา่ งน้นั ประพฤตติ วั เปน็ คนดีมใจโอบออ้ มอารต่อภริยา ผทู้ ไ่ ม่ร้เู ร่ืองไม่มใครสงสยั ว่าจะเปน็ คนชั่วร้าย แต่การกระทาํ ดนนั้ เปน็ การขนื นสิ ยั ีจะทาํ ไดอ้ ย่างมากกพ็ กั หนึ่งเทา่ น้ัน ไม่ชา้ กค็ บกบั โจรในเมืองนั้นีนัดหมายกนั เข้าีปลน้ บา้ นเหมคปุ ต์เศรษฐ คร้ันถึงวนั นดั เวลาเท่ยงคนื ีนางรตั นาวดกาํ ลงั หลบั สนทิ ีชายหลังอฐู กเ็ อามด แทงนางตาย แล้วเปดิ ประตูรบั พวกโจรเขา้ ไปในเรอื นีชว่ ยกันฆ่าเหมคุปตแ์ ลภรยิ าตาย แลว้ ชว่ ยกัน ขนทรพั ย์สมบัติล้วนแต่ทม่ ราคาออกจากเรือนไป นางนกขุนทองเลา่ มาเพยงนี้ ก็รอ้ งไหส้ ะอกึ สะอื้นอยู่คร่หู น่งึ จงึ กลา่ วตอ่ ไปว่า เมือ่ ชายหลังอูฐเดนิ ผ่านกรงขา้ พเจา้ ีเวลาจะออกจากบ้านหนไปนนั้ มนั แลดูขา้ พเจ้าแลหยดุ ยนื จบั ประตกู รงีจะีเปิดจับขา้ พเจ้าออกมาหกั คอ เผอิญหมาเห่าขนึ้ มนั ตกใจก็รบหนไปีขา้ พเจ้าจงึ รอดชวิตอยูไ่ ด้ นางนกขนุ ทองร้องไหส้ ะอึกสะอืน้ อยูอ่ กครู่หนึ่งจงึ ทูลพระมเหสว่า เรือ่ งน้ขา้ พเจา้ ยนิ ดว้ ยหีู รู้ด้วยตามาเอง แลเป็นเรอื่ งท่ทาํ ใหข้ ้าพเจ้าไดค้ วามทุกข์ีในเวลายงั อ่อนอายุ จึงเป็นเหตใุ ห้ ข้าพเจ้ารงั เกยจชายทั้งหลายีจะขออยไู่ ม่มคู่ไปจนสิน้ ชวิต พระองคจ์ งทรงดาํ รวิ ่าีนางรตั นาวดไม่ได้ ทาํ ความผดิ อะไรเลย ยงั เป็นได้ถึงเพยงนั้นเพราะผู้ชายย่อมมน้ําใจเป็นโจรทัง้ หมด แลผ้หู ญิงซง่ึ ยอม เป็นมิตรกับชายนัน้ เสมอกับเอางเู หา่ มาเล้ยงไว้บนอก

นางนกขนุ ทองทลู พระมเหสเชน่ น้แล้วก็หันไปพูดกับนกแก้ววา่ นแ่ น่ะเจ้านกแกว้ ีข้าไดเ้ ลา่ เรอื่ งเปน็ พยานคําของข้าแล้วีขา้ ไม่มอะไรจะพูดอก นอกจากจะกลา่ ววา่ ผู้ชายทง้ั ปวงเปน็ จําพวกคด โกงลอ่ ลวงผอู้ ่ืน เห็นแกต่ ัวแลมใจบาปหยาบร้ายหาทส่ ุดมไิ ด้ นกแก้วทูลพระราชาว่า พระองค์จงฟง๎ เถิด เมือ่ หญิงกลา่ วว่าไม่มอะไรจะพดู ท่เปน็ ข้อสาํ คญั จะอยู่ในคาํ แถมทงั้ นัน้ แลคาํ แถมย่อมจะยาวกวา่ คําพูดท่พูดมาแล้วหลายสบิ เทา่ นางนกตัวน้ก็ได้พดู มาจนนา่ จะเบอื่ เต็มทอยูแ่ ลว้ แต่อย่างน้นั ยงั นบั ว่าพงึ่ จะขนึ้ ต้นเท่าน้นั พระราชาตรสั วา่ เจ้ามเร่ืองอะไร จะนาํ มากลา่ วเป็นพยานคําตเิ ตยนหญงิ เจา้ ก็จงเลา่ ไปเถดิ ีนกแกว้ กล่าววา่ ขา้ พเจา้ จะเลา่ เรื่องซ่ึงเกิด แต่เม่ือข้าพเจา้ ยงั อ่อนอายุ แลทาํ ให้ขา้ พเจา้ ทาํ ความตกลงในใจว่าจะอยไู่ มม่ คูไ่ ปตราบจนวนั ตาย นิทานของนกแก้ว เมอ่ื ขา้ พเจา้ เป็นลกู นก ยังไม่ทันไดร้ ํ่าเรยนอันใดก็ตดิ กรงหับีแล้วมผู้นําไปขายพอ่ คา้ เศรษฐ ช่ือ สาครทตั ซ่งึ เปน็ พ่อหม้ายีมลูกสาวคนหนึ่งชื่อ นางชยั ศิริีสาครทัตกระทาํ การค้าขายกวา้ งขวางี มธรุ ะอยู่ท่ร้านตลอดวนั แลครง่ึ คนื ใช้เวลาในการก้มมองดูตัวเลขในบญั ชีแลดดุ ่าเสมยนรับใชี้ ไม่ม เวลาดูแลบตุ รสาว นางชยั ศริ ปิ ระพฤตติ นตามอาํ เภอใจแลอําเภอใจของนางนนั้ ไมม่ อาํ เภออันดเลย ชายทง้ั ปวงทม่ ลูกสาว อาจกระทาํ ผดิ เปน็ ข้อใหญไ่ ดส้ องทางคอื ีระมัดระวงั น้อยไปทางหนึง่ ระมัดระวังมากไปทางหน่งึ พ่อแม่บางจ้าพวกคอยจอ้ งมองดลู กู สาวมิใหค้ ลาดตาไปเลย คอย สงสัยว่าลกู สาวมคี วามคิดช่วั ร้ายในใจอย่เู ป็นนติ ย์ พ่อแมช่ นดิ นม้ี กั จะเขลา แลเพราะเขลาจงึ แสดงความสงสัยให้ลกู เห็น เม่ือลูกเหน็ วา่ สงสยั วา่ คดิ ช่ัวก็เสมอกบั ยุ เพราะหญงิ สาวย่อมมี มานะโดยความคิด ตนื้ ๆ วา่ เราจะทา้ ชัว่ โดยเรว็ ให้สมกบั โทษทีเ่ ราได้รับอยแู่ ลว้ ในเวลานี้เรา ยงั ไมไ่ ด้ทา้ ชั่วอะไรเลย แตก่ ็ได้รบั โทษเสมอกบั ว่าไดท้ ้าชว่ั มาช้านาน ความส้าราญแหง่ การ ทา้ ชั่วน้ันเรายังไมไ่ ด้รบั ได้รับแตท่ ุกขแ์ หง่ ความทา้ ชว่ั ไหนๆ ก็ไดร้ บั ทุกข์แล้ว เราจะทง้ิ ความ สา้ ราญเสียท้าไมเล่า เราต้องรีบทา้ ชวั่ ทนั ที เพราะเราไดท้ ุกขม์ านานแล้ว เมือ่ คิดดังน้ีแลว้ ก็ ประพฤตกิ ารเปน็ โทษต่างๆ ท่ีพอ่ แม่ไม่อาจรู้เห็น เพราะพอ่ แมน่ ัน้ ถึงจะระมดั ระวงั อย่างไร ลูกสาว ก็คงหลบหลกได้เสมอีพ่อแม่จะนั่งจอ้ งอยูว่ ันยงั ค่ําคนื ยงั รุ่งไม่ได้ ต้องมเวลาหลับตาลงบ้าง พ่อแม่อีกประเภทหนึ่ง ทา้ ผดิ ในทางท่รี ะมดั ระวังลกู สาวน้อยไป คอื ไม่ระมดั ระวัง เสียเลย ปลอ่ ยให้ลูกนัง่ เลน่ อยูเ่ ปล่าๆ ไมม่ อี ะไรทา้ เสมอกบั ฝกึ หดั ใหข้ เี้ กียจ แลเพาะพืชความ ชั่ว ปลอ่ ยใหค้ บกับคนซึ่งมคี วามคดิ บาป คือให้โอกาสให้ปฏิบัติเปน็ โทษ หญงิ สาวซงึ่ บิดา มารดาปล่อยตามอ้าเภอใจเชน่ น้ี มักจะเดนิ เข้าส่บู ว่ งซง่ึ ผู้มีเจตนาชวั่ วางดักไวแ้ ลประพฤตติ วั เปน็ โทษดว้ ยประการตา่ งๆ เพราะความไม่ระมดั ระวงั ตวั แล เพราะความลอ่ ลวงของพวกมี เจตนาชว่ั อนั เป็นชนจา้ พวกซึง่ มีความเพียรยิง่ กวา่ ผู้มเี จตนาดี ก็บดิ ามารดาซง่ึ มปญ๎ ญานน้ั ควร ทาํ อย่างไรเล่าจงึ จะหลกทางทง้ั สองนไ้ ด้ ธรรมดาบดิ ามารดาผ้มู ป๎ญญาย่อมเอาใจใส่สงั เกตนสิ ัยบุตรของตน แลดําเนินการระมดั ระวงั ตามนสิ ัยซ่งึ มในตัวบุตรีถา้ ลูกสาวมนสิ ัยดอยู่ในตวั บดิ ามารดาท่ฉลาดกค็ งจะวางใจปลอ่ ยให้ดาํ เนนิ ความประพฤติตามใจในเขตอนั ควร ถา้ บุตรสาวมนิสยั กล้าแข็งีบดิ ามารดาก็คงจะแสดงกิรยิ าประหนึง่ ว่าไวว้ างใจในบตุ ร แต่คงจะลอบระมัดระวงั อย่เู สมอ นกแกว้ แสดงวิธเล้ยงลกู สาวถวายพระราชารามเสนเช่นนต้ อ่ ไปอกครหู่ นึ่งจึงเล่าถงึ นางศิรชิ ยั ว่า นางนั้นเป็นคนสูงีคอ่ นข้างจะอ้วนีรปู ทรงดีครอบงําน้ําใจตนเองไมใ่ ครไ่ ด้ นางมเนตรใหญแ่ ลหลัง ตากวา้ งีมือมรูปอนั ดแต่ไม่เลก็ ฝุามือมไอร้อนแลเปน็ เหง่ืออยู่เสมอๆีเสยงคอ่ นข้างแหลมแลบางทฟง๎ เหมอื นเสยงผู้ชาย ผมดําเปน็ มันเหมือนขนนกกาเหวา่ ีผวิ เหมือนดอกพุทธชาด ลกั ษณะเหล่านเ้ ปน็ ลักษณะซงึ่ คนโดยมากมักจะแลดีู แตน่ างจะเป็นคนงามกไ็ มเ่ ชงิ ไม่งามก็ไม่เชงิ ีกล่าวไดว้ ่าอยู่ ใน

ระหวา่ งคนสวยแลคนข้ร้ิวอนั เป็นความดแก่ตวั หญิง เพราะความอยกู่ ลางๆีนส้ ําคัญอยู่ หญงิ ท่งามนัก อย่าวา่ แตใ่ ครแม้นางสดายังถกู ทศกัณฐ์ลักพาไป นกแก้วกล่าวต่อไปวา่ ีแต่ถงึ กระนน้ั ขา้ พเจ้ากจ็ ําตอ้ งกลา่ วว่า หญิงงามมักจะมธรรมในใจ มากกวา่ หญิงข้ริ้ว หญิงงามไดร้ ับชักชวนจูงใจไปในทางช่ัวแตม่ ความหยิ่งเปน็ เครอื่ งต่อสูป้ ูองกันตัวได้ เพราะความหยงิ่ น้นั ทําใหห้ ญิงงามสญั ญาในใจตัวเองว่า จะได้รบั ชักโยงไปในทางเดยวกันบ่อยๆี เพราะฉะนั้นถงึ จะไมย่ อมไป ในคราวนก้ ไ็ ม่สน้ิ โอกาสทจ่ ะได้รับเช้ือเชิญตอ่ ไป กลา่ วอกนยั หนงึ่ หญิงงามไม่เดินทางช่วั เพราะมความหยง่ิ ในใจว่า จะเดนิ เมอื่ ไหร่ก็เดนิ ไดี้ สว่ นหญงิ ข้รวิ้ น้ันจาํ เปน็ ต้องชกั โยงคนอน่ื ไม่ใชม่ คนอืน่ มาชักโยงีเมื่อตนโยงแล้วตนก็ต้องตามและ เมอ่ื ความโยงสําเรจ็ ด้วยความตาม ฉะน้ีความหย่ิงแลความมุ่งหมายของหญงิ ข้ริว้ ีกย็ ่อมสมหวงั ดว้ ย ความตาม ไม่ใชด่ ้วยต่อสู้ความชักโยง เราท่านอา่ นถ้อยคําของนกจุรามันมาเพยงน้กต็ อ้ งพศิ วง วา่ นกแก้วพูดดังนัน้ หมายความวา่ อยา่ งไรีถา้ ตรกึ ตรองดูสักี๕ีนาท ก็คงจะเหน็ พรอ้ มกนั หมดวา่ ีนกแก้วหมายความวา่ อยา่ งไรเหลอื ท่ จะรไู้ ด้ ท่เป็นดงั น้เห็นจะเปน็ เพราะเวลาผดิ กันประมาณี๒๐๐ีปีีอย่างหนึง่ เพราะจุรามนั เป็นนกท่าน แลข้าพเจา้ เปน็ คนอย่างหนึง่ อกอย่างหนงึ่ เพราะนกจุรามนั เปน็ นกพูดสันสกฤตจงึ เหลอื ทท่ า่ นแล ขา้ พเจ้าจะเข้าใจได้ นกจุรามันกล่าวต่อไปว่าีขา้ พเจ้าได้กล่าวแลว้ วา่ หญงิ ขร้ ้ิวมักมใจเห้ยมโหดกวา่ หญงิ งาม เหตุดังนัน้ เม่อื หมายอย่างไรก็ยอ่ มจะสมหมายบ่อยกวา่ กนั ผ้มู ป๎ญญาในโลกธรรมกลา่ วภาษติ ทเ่ ป็น ความจรงิ ไว้ว่า \"ชายรักหญงิ งามีบชู าหญงิ ข้ร้วิ \" แลเมอ่ื ถามวา่ เหตใุ ดจึงบชู าหญิงขร้ ิว้ ีก็มคาํ ตอบว่า เพราะหญงิ ข้ริ้วไม่ชว่ ยแสดงท่าทางวา่ คดิ ถึงตัวเองยิง่ กวา่ คดิ ถึงเรา ส่วนนางศริ ิชัยน้นั ก็ใช้ความงามซ่ึงมส่วนนอ้ ยนน้ั เปน็ เคร่ืองลอ่ ให้ชายตามตอมได้มาก แตใ่ ช้ ความไม่สงบเสง่ยมเป็นเครอื่ งลอ่ ไดม้ ากกวา่ แลใชค้ วามมทรพั ย์ของบดิ าเป็นเครอ่ื งล่อได้มากทส่ ุด นางชัยศิริไม่มความเขินขวยเสยเลย ไมย่ อมใหม้ ชายตามนอ้ ยกวา่ คราวละครึ่งโหลเป็นอันขาด นาง ร่ืนรมย์ในการรับแขกชายหนมุ่ ๆีเหลา่ นัน้ ติดต่อกันไปตามเวลานดั บางคราวกาํ หนดเวลาให้สนั้ ี สําหรบั จะไดไ้ ล่คนเก่าีใหม้ ทว่ ่างสาํ หรับคนใหม่ ถ้าชายคนไหนบงั อาจแสดงกริ ยิ าวาจาหวงหงึ หรอื ติ เตยนวธิ ของนางก็ตาม ชายนนั้ จะถกู เชญิ ให้ทราบประตทู างออกโดยเรว็ ครน้ั นางชัยศิรมิ อายุี๑๓ีปีี มชายหนมุ่ คนหน่งึ กลับจากเมอื งไกล ชายหนุ่มคนน้เป็นลูกพอ่ ค้า ซึ่งมเคหสถานอยู่ในท่ใกล้ แลบดิ าเป็นเพือ่ นกับสาครทตั บดิ านางชยั ศิริีชายหนุม่ นนั้ ชือ่ ศรีทตั ไป คา้ ขายเมืองไกลหลายปีี แลได้เคยรกั นางชยั ศิริมาแตน่ างยงั เปน็ เดก็ ครัน้ กลบั มาถงึ เมืองของตนก็ เหน็ สง่ิ ท้งั ปวงเปน็ ท่แชม่ ชนื่ ไปหมด ตัง้ แตล่ งุ ขเ้ หนยวโทโสรา้ ยไปจนหมาแก่ท่เห่าอยใู่ นลานบา้ นก็ เหน็ น่ารัก คนท่จากบ้านเมืองไปช้านานีเมอ่ื แรกกลับมาถงึ ีใจคอมักเป็นเช่นน้ ส่วนนางชยั ศิรนิ ้ันีศรทตั แลไม่เหน็ วา่ ไดเ้ ปล่ยนแปลงไปเปน็ อนั มาก แลมิได้เปลย่ นไปในทาง ท่ดขนึ้ เลยีจมกู นางโตออกไปกไ็ ม่เหน็ หลังตากวา้ งออกไปแลหนาขน้ึ ก็ไม่เห็นีกิริยากระด้างขน้ึ กไ็ ม่ เห็น เสยงแขง็ ข้ึนกวา่ แต่กอ่ นก็ไม่ไดย้ ิน ไมไ่ ดส้ ังเกตว่านางชํานาญการตแิ ลชมเครือ่ งแต่งตวั ชาย ไม่ สังเกตว่านางชอบคนชาํ นาญเพลงดาบีแลชอบคนรบเกง่ บนหลงั ม้าแลช้าง ข้อความเหลา่ นศ้ รทัตไม่เหน็ ีจงึ ไปกล่าวแก่บิดาของตน ในเรอื่ งทจ่ ะใคร่ไดน้ างชยั ศริ เิ ป็น ภริยา คร้ันบิดาอนญุ าตแล้วไมท่ ันไดก้ ลา่ วแก่สาครทตั ีกต็ รงไปกลา่ วแกต่ วั นางทเดยว แต่นางชยั ศิริ เปน็ หญิงชนิดใหมี่ ท่ไมต่ ้องการความเห็นบดิ าในเรอื่ งท่จะเลอื กผวั ครัน้ ศรทัตไปกล่าวดังนน้ั ีนางก็ทํา ทเหมอื นหน่งึ ตกลง ทาํ ใหช้ ายหนมุ่ คนนั้นยนิ ดโลดโผนอยหู่ น่อยหน่ึงแล้วก็บอกให้รวู้ ่า นางชอบใจ ศรทตั ในทางเป็นเพ่อื นีแต่ถ้าเป็นผัวจะเกลยดทส่ ุด นกจุรามนั กลา่ วต่อไปวา่ ีความรสู้ ึกซึง่ หญงิ มต่อชายนน้ั มสามอย่างีอย่างท่ี๑ คือความรักี อย่างที่ ๒ีคือความเกลยดีอยา่ งท่ี๓ีคือความเฉยๆีไมร่ ักไม่เกลยด ความรู้สึกประเภทที่ ๑ีคอื ความ รักนนั้ ออ่ นท่สดุ แลเคล่ือนง่ายท่สดุ หญิงอาจจะตกสคู่ วามรักงา่ ยเท่าตกจากความรัก อธิบายว่า

ประเดย๋ วอยา่ งนัน้ ประเด๋ยวอยา่ งน้ีจะเอาแน่ไมไ่ ด้ ส่วนความเกลยดน้ันเปน็ ของคู่กันกบั ความรัก ชาย มปญ๎ ญาอาจเปลย่ นความเกลยดใหเ้ ปน็ ความรกั ได้เสมอ แล ความรักซ่ึงเกดิ แตค่ วามเกลยดนัน้ มกั จะ อยู่ทนกว่าความรกั ล้วน สว่ นความเฉยๆีคือความไม่เกลยดไม่รักน้นั ชายผชู้ าํ นาญในลลาศาสตร์ย่อม เปลย่ นความเฉยๆีใหเ้ ป็นความเกลยดไดเ้ สมอ แลเมอ่ื เปลย่ นเปน็ ความเกลยดแล้วีกอ็ าจเปล่ยนเป็น ความรักได้อกชนั้ หนึ่ง ดังนป้ ระเภทความรู้สกึ ทงั้ ี๓ีก็ลงรอยเดยวกัน เวตาลเล่ามาเพยงน้ีก็ทลู ถามพระวกิ รมาทติ ย์ว่า ตามท่ขา้ พเจา้ เลา่ ถึงนกขนุ ทองแลนกแก้ว มาเชน่ น้ พระองค์ทรงเหน็ ว่านกตวั ไหนกลา่ วความจริงในสันดานมนษุ ยล์ กึ ซึ้งกว่ากนั แต่อบุ ายของเวตาลท่จะทําใหพ้ ระราชาตรัสตอบป๎ญหานน้ั ไมส่ าํ เร็จ พระวิกรมาทติ ย์ทรงร้ทู กน็ ิง่ ีรบ ทรงดําเนนิ ไป เวตาลเห็นไม่สมประสงคก์ ็เลา่ นิทานต่อไปว่า ฝาุ ยศรทตั เม่ือได้ทราบว่านางชยั ศริ ิไมย่ อมเปน็ ภริยากเ็ ดอื ดรอ้ นในใจเปน็ กาํ ลงั กาํ หนดใจจะ กระโดดน้ําตายีจะกระโดดจากยอดเขาแลทําอะไรตา่ งๆีท่แปลกแลโง่ รวมท้งั การออกปุาเปน็ โยค ด้วย ครัน้ ตรึกตรองอยู่ช้านานว่าจะทําอยา่ งไหนจงึ จะดทส่ ุดก็เห็นวา่ จะทําส่ิงโง่ๆเหลา่ นัน้ กล็ ้วนแตไ่ ม่ ดท้งั นั้น เพราะการกระโดดนํ้าตายกด็ ีการกระโดดจากยอดเขาก็ดีการออกปุาเป็นฤาษก็ด ไมเ่ ปน็ วธิ ท่ จะไดน้ างชยั ศิรมิ าเป็นภริยาทั้งนั้นีครน้ั มเวลาตรกึ ตรองมากๆ เขา้ กไ็ ดค้ วามคิดซง่ึ ใครๆีเขารู้กันมาช้า นานแล้ววา่ ีขันติเปน็ ธรรมะประเสรฐิ จึงบังคับตัวเองให้ต้งั อยใู่ นขันติีไม่ชา้ นานกส็ ําเรจ็ ประสงค์ แต่ ความสําเร็จประสงคน์ ้ันเป็นโทษแกศ่ รทัตเปน็ อันมากีดงั จะเหน็ ได้ภายหลงั ฝาุ ยนางชยั ศริ เิ มื่อตกลงใจแน่นอนแลว้ ว่าีจะไมร่ ับศรทัตเป็นสาม กย็ ่ังยนื ในใจอยพู่ กั หนง่ึ ไม่ สู้ชา้ กเ็ ปล่ยนใจใหมต่ ามเคย ศรทัตได้ทราบวา่ นางยนิ ยอมกด็ ใจโลดโผนีเรยกตวั เองว่าบุรุษผ้มู ความสขุ ทส่ ุดในโลก แลทงั้ กระทําบูชาแกส้ ินบนเทวดาทโ่ ปรดบนั ดาลให้นางเปลย่ นใจมายอมเปน็ ภรยิ าตน แลทั้งทําอะไรท่แปลกอกหลายอย่าง ซ่ึงคนทไ่ ม่บา้ หรือไม่ดใจเหลอื เกินคงไมท่ าํ เป็นอัน ขาด ตอ่ มาไมช่ ้าศรทตั แลนางชัยศิรกิ ็แตง่ งานกนั ตามธรรมเนยม ฝุายนางชยั ศิริเมือ่ ไดท้ าํ งานมงคลกับศรทตั แล้วไม่ช้ากเ็ บอ่ื จนเกลยดสามเพราะเป็นนิสยั ของ นางท่จะเป็นเชน่ นนั้ ครนั้ เกลยดสามเชน่ นแ้ ลว้ กห็ นั ไปใคร่ครวญหาชายหนมุ่ เสเพลคนหน่งึ ซง่ึ ไมเ่ คย รกั นางเลย ศรทัตผสู้ ามยงิ่ สําแดงเสน่หาต่อนางีนางกย็ ่งิ สาํ แดงความขงึ้ โกรธ เม่อื สามหยอกเย้ากท็ ํา ใหเ้ กิดหม่นั ไสี้ เมื่อพูดล้อกเ็ หน็ ไม่ขนั ครั้นหญิงสหายช่วยกนั วา่ กล่าวทดั ทานมใิ หน้ างสําแดงกิริยา เปน็ อริต่อสาม นางก็กลบั แสดงกริ ยิ าข่นุ เคือง เมอื่ สามนําเครอ่ื งประดบั กายมาให้เปน็ ของกาํ นัลนางก็ ปด๎ เสยีหันหนพลางกลา่ ววา่ บา้ นางออกจากเรือนไปเทย่ วอยทู่ อ่ ื่นวันยงั คํา่ ีแลว้ พดู แกเ่ พอ่ื นหญิงซง่ึ อายุรุ่น ราวคราวกันวา่ ีความเป็นสาวของขา้ น้ผ่านพน้ ไปทกุ ๆีวนั ขา้ ไม่ได้รับความสําราญอันควรจะ ไดร้ ับตามวยั ของข้าน้เลย ความสนกุ ในโลกน้มอยา่ งไรข้ากห็ ารรู้ สไม่ คร้นั กลับไปถึงบ้าน นางกข็ ึ้นไปแอบมองอยูบ่ นชอ่ งหนา้ ต่าง เม่ือเห็นชายเสเพลซึ่งเปน็ ท่ ใฝุฝ๎นเดนิ มาตามถนน นางก็เรยกหญิงสหายใหไ้ ปเช้ือเชิญขึน้ มาบนเรอื น คร้ันหญงิ สหายไม่ทาํ ตาม ดว้ ยความกลัวภัยจากศรทัตผูส้ าม นางกโ็ กรธแลมอาการกระสบั กระสา่ ยีบอกตวั เองวา่ ไมร่ จู้ ะพูดว่า กระไรีไม่รจู้ ะทําอะไร ไมร่ ูจ้ ะไปไหนจงึ จะถกู ใจตวั ีจะกนิ กไ็ มไ่ ด้ีจะนอนก็ไม่หลบั ีจะร้อนกไ็ ม่สบาย จะหนาวกไ็ ม่สบายีอะไรๆีกไ็ มถ่ กู ใจท้งั นัน้ นางชัยศิรกิ ระสับกระสา่ ยอยเู่ ชน่ นห้ ลายวันจึงตกลงในใจว่าถา้ ขนื อยูห่ ่างชายเสเพลซ่ึงเปน็ ท่ รัก ก็ไม่มความสุขไดเ้ ป็นอันขาดีคนื หนึง่ คร้ันสามหลบั สนิท นางก็ลกุ จากทน่ อนย่องออกจากเรอื น เดนิ ไปตามถนนมุ่งหน้าไปยังเรอื นชายเสเพล ขณะน้ันมโจรคนหน่งึ เดินมาตามทางเหน็ นางชยั ศริ ิเดิน ไปกน็ กึ ในใจวา่ หญงิ คนนป้ ระดบั กายดว้ ยเคร่ืองทองคาํ แลเพชรพลอยีจะเดินไปไหนในเวลาเทย่ งคนื จําเราจะสะกดรอยไปีเมือ่ ได้ทจะไดแ้ ยง่ เอาของเหล่านนั้ คดิ ดงั นโ้ จรกเ็ ดนิ ตามมิใหน้ างรตู้ ัว ฝาุ ยนางชัยศิริครัน้ ไปถึงเรอื นชายเสเพลกข็ ้ึนบันไดไปพบชายเจา้ ของเรือนนอนอยหู่ น้าประตู นางคดิ วา่ ชายคนน้ันนอนหลับด้วยความเมาีแต่อันทจ่ ริงชายคนนน้ั ส้นิ ชวิตเสยแลว้ เพราะได้ถกู ขโมย

แทงกอ่ นทน่ างไปถึงไม่สู้ชา้ นัก ฝุายนางชยั ศิรเิ มอ่ื เห็นชายหนมุ่ นอนอยดู่ ังนัน้ ีนางก็นง่ั ลงข้างตวั จบั สั่นจะให้ตน่ื ก็ไมต่ น่ื ีนาง เช่อื แน่วา่ เปน็ โดยพษิ ความเมา นางกเ็ อามอื ชอ้ นศรษะขน้ึ กอดรดั สาํ แดงเสน่หาตา่ งๆ ขณะน้นั ปิศาจตนหนง่ึ น่ังอยู่บนต้นไมห้ น้าบันไดเรอื นชายหน่มุ ครั้นเหน็ นางไปนัง่ กอดรัด สําแดงเสน่หาตอ่ ศพดงั นัน้ ีปิศาจกเ็ ห็นสนุก จงึ โดดลงจากต้นไมต้ รงเขา้ สิงในศพชายหนมุ่ ศพนั้นก็ ตื่นข้ึนจากความตายเหมือนคนตน่ื จากความหลบั แลว้ กระหวัดรดั กายนางเหมือนหนึง่ เสน่หา นางชยั ศิ รยิ นิ ดในความเลา้ โลมของปศิ าจกก็ ้มหน้าเข้าไปหาหนา้ ศพ ปศิ าจได้ทก็กดั จมกู นางแหวง่ ไปท้ังช้นิ แลว้ ออกจากศพกลับขนึ้ ไปน่ังหวั เราะอยู่บนตน้ ไม้ตามเดิม ฝุายนางชัยศิริเมือ่ จมกู แหว่งไปเช่นนัน้ ีกต็ กใจเปน็ กาํ ลังีแต่ไมส่ น้ิ สติ นางจงึ น่งั ตรึกตรองอยู่ กบั ท่ครหู่ นึง่ ีแลว้ รบออกเดนิ กลบั ไปบา้ น ครั้นถงึ บา้ นก็ตรงเขา้ ไปในหอ้ งซ่งึ สามนอนอยู่ ปดิ ประตหู ้อง แลว้ กเ็ อามือกมุ จมูกร้องครวญครางีได้ยินไปตลอดจนถงึ เพอื่ นบา้ น ญาติพ่นอ้ งีแลเพอ่ื นบ้านได้ยินเสยงโวยวาย คดิ วา่ เกิดเหตใุ หญโ่ ตก็พากนั มาช่วยเปน็ อัน มาก ครนั้ ไปถึงเรอื นศรทัตแลภริยาก็เข้าไปถึงประตหู ้องีเสยงนางร้องอยู่ในหอ้ ง แตป่ ระตูหอ้ งนนั้ ปิด คนท้ังหลายกพ็ ังประตเู ข้าไปเห็นนางชัยศริ ิเอามือกมุ จมกู เลอื ดไหล ศรทตั ทํากิริยางุ่มงา่ มไมป่ รากฏ ว่าจะทาํ อะไรแน่ ครั้นญาติแลเพือ่ นบ้านไปถงึ พรอ้ มกนั แลเห็นนางชัยศิริจมกู แหวง่ ดังนัน้ ก็กล่าวแก่ศรทัตว่าี เจ้านเ้ ป็นคนชั่วรา้ ยนักหนา ไมม่ ยางอายีไมม่ กรณุ าแลไมย่ ําเกรงกฎหมายบา้ นเมอื งเลย เจ้ากดั จมกู นางเสยเช่นนด้ ว้ ยเหตุไร ฝาุ ยศรทตั เม่ือได้ยินดังนัน้ ีกร็ ู้สึกว่าถกู กลภรยิ าจงึ กลา่ วแก่ตนเองว่า บรุ ุษไมค่ วรวางความ เชื่อในคนซง่ึ เปล่ยนใจหนง่ึ ีงดู าํ หนึ่ง ศัตรูซง่ึ ถืออาวธุ หนึ่งีแลควรระวังภัยอันเกิดแต่ความประพฤติ แห่งหญิง ในโลกน้ไม่มอะไรซึ่งกวปริยายไม่ไดี้ ไมม่ อะไรซ่ึงโยคไม่รู้ ไมม่ คาํ พลา่ มคําใดซง่ึ คนเมาไม่ พดู ีไม่มเขตตรงไหนซึ่งเปน็ ทส่ ดุ แหง่ มารยาหญิง เทวดานั้นมความรู้มากก็จรงิ อยู่ีแต่ไมร่ ู้ลักษณะชัว่ แหง่ มา้ ไมร่ ลู้ กั ษณะแห่งอสั นในหมูเ่ มฆีไมร่ ้คู วามประพฤติแห่งหญงิ ไม่รูโ้ ชคของชายในภายหนา้ ีก็ เมอ่ื เทวดายังไม่รูเ้ ชน่ น้ เราผ้เู ปน็ คนจะรไู้ ด้อยา่ งไรเลา่ ศรทัตกล่าวเชน่ นแ้ ลว้ กร็ ้องไห้แลสาบานต่อหนา้ ต้นแมงลกั (ตุลสิ) แลส่งิ ซึง่ เป็นทน่ บั ถอื ทัง้ ปวงีว่ามไิ ด้ทําผดิ เชน่ ทถ่ กู กลา่ วหานน้ั เลย ถา้ พูดไมจ่ รงิ ขอใหเ้ สยโคีแลขา้ วสาลแลทองจนสิ้นไป เถดิ คาํ ท่ศรทตั กล่าวเชน่ นห้ ามใครเชือ่ ไม่ ฝุายพ่อคา้ ผเู้ ปน็ บิดานางชยั ศริ ิีครนั้ เห็นเหตเุ กดิ แกล่ ูกสาวดังน้ัน ก็รบไปฟอู งต่อผู้บงั คบั การ ตํารวจีผู้บังคับการตํารวจกใ็ ช้คนไปจบั ศรทตั สง่ ไปให้ตลุ าการชาํ ระ ตลุ าการก็ชาํ ระไต่สวนเสรจ็ แลว้ ก็ พาตัวโจทกจ์ ําเลยไปยงั ทเ่ ฝาู พระราชา เผอิญเป็นเวลาซึ่งพระราชามพระราชประสงคจ์ ะลงโทษแก่ ใครสกั คนหนง่ึ ให้เปน็ ตวั อย่างแก่คนทําผิดซ่ึงเผอิญมมากในเวลานัน้ พระราชาทรงทราบเร่อื งีจึงตรัส ให้นางชยั ศิริทลู ใหก้ ารตามทเ่ กดิ โดยสัตย์จรงิ นางก็ชท้ ่จมกู แหว่งแลว้ ทลู วา่ ีข้าแตพ่ ระมหาราชา เรื่องสัตยจ์ ริงปรากฏอยูใ่ นทซ่ ึ่งควรมจมกู ติดอย่นู ้ พระราชาได้ฟง๎ คาํ ใหก้ ารซึง่ ทรงเห็นแจม่ แจ้งดงั นั้นีกต็ รัสให้จําเลยให้การีจาํ เลยทูลวา่ จมกู นางจะขาดไปดว้ ยเหตุอันใดขา้ พเจา้ ไมท่ ราบเลยีข้าพเจ้านอนหลบั อยู่ ตืน่ ข้นึ ในเวลาเท่ยงคืนก็เห็น นางเปน็ อยเู่ ช่นนี้ พระราชาได้ทรงฟง๎ ก็ตรสั ว่า ถ้าจําเลยไม่รับเปน็ สตั ย์จะตดั แขนขวาเสยีคร้นั ยงั ไมร่ บั กต็ รัสว่าจะตดั แขนซ้ายดว้ ย ครน้ั ศรทตั ไม่รบั ทั้งไมข่ อประทานโทษีกท็ รงพโิ รธเปน็ กําลังีตรัสถาม ศรทัตว่า คนใจเหย้ มโหดอย่างเจา้ น้จะทาํ อย่างไรจงึ จะสมแกโ่ ทษีศรทัตทูลวา่ พระองคท์ รงดาํ ริ อย่างไรีก็โปรดอยา่ งนนั้ เถดิ ีพระราชายิง่ ทรงกริว้ ก็ตรัสให้พาศรทัตไปเสยบไวท้ ง้ั เปน็ ราชบุรษุ ได้ฟ๎ง กเ็ ข้าจับตวั ศรทตั จะพาไปลงโทษตามรับสัง่ ฝุายขโมยซึ่งทราบเหตุแตต่ ้นจนปลายน้ันีตามเข้าไปฟง๎ ชําระอยู่ด้วย ครัน้ ไดย้ นิ คาํ ตดั สิน ลงโทษคนไม่มความผิดีก็เกดิ ยุตธิ รรมขึ้นในใจ จงึ วิ่งแหวกคนเข้าไปรอ้ งทูลพระราชาวา่ ี

พระมหากษัตริยจ์ งทรงฟง๎ ขา้ พเจ้าก่อน พระองค์เป็นพระราชาธิบดีมหนา้ ทย่ กยอ่ งคนดแลลงโทษคน ช่วั อยา่ เพง่ิ ประหารชวิตชายคนนี้ พระราชาไดท้ รงฟ๎งดังน้นั กต็ รัสใหข้ โมยเลา่ เรอื่ งถวายแตต่ ามสตั ย์ จรงิ ีขโมยทลู ว่าีข้าพเจ้าเป็นขโมย แลชายคนน้ไม่มความผิดีพระองค์จะลงโทษคนผดิ ตวั อยูแ่ ล้ว ขโมยกเ็ ล่าเร่อื งถวายแตต่ น้ จนปลายเวน้ แตข่ ้อทต่ นไปแทงชายเสเพลตายนั้นหาได้ทูลไม่ พระราชาไดท้ รงฟง๎ ตลอด กต็ รสั สงั่ ราชบุรษุ วา่ เจ้าจงไปตรวจศพชายซ่งึ เป็นทร่ ักของหญิงน้ ถา้ พบจมกู หญงิ ในปากคนตายีคําของขโมยผูม้ าเปน็ พยานน้ก็เปน็ ความจรงิ แลชายผูผ้ ัวน้ก็เป็นคนไม่ มโทษ ราชบุรษุ ได้ฟง๎ รบั สัง่ ดังน้นั กไ็ ปตรวจศพชายหนมุ่ ตามรบั สัง่ ไม่ชา้ ไดจ้ มกู นางกลับมาทูลวา่ ีได้ ค้นจมกู พบในปากแหง่ ศพสมดงั คาํ ซ่ึงขโมยทลู พระราชาทรงทราบดงั น้นั ก็ตรสั ใหศ้ รทตั พน้ โทษ แล รับสั่งให้เอาดินหมอ้ ประสมน้ํามันทาหนา้ นางชยั ศิริ ทัง้ โกนผมแลคิว้ จนเกล้ยงแลว้ ใหเ้ อาตวั ขน้ึ ข่ลา หันหนา้ ไปข้างหาง ใหจ้ ูงลาเท่ยวประจานรอบพระนครแล้วใหข้ บั นางไปสูป่ าุ ีเม่ือทรงตดั สนิ ลงโทษ ดังน้แล้ว ก็ประทานหมากพลแู ลสิง่ อน่ื ๆีแกศ่ รทัตแลขโมยีรวมทง้ั พระราโชวาทยืดยาว ซึ่งคนทั้งสอง ไม่ต้องการนนั้ ด้วย นกจุรามนั กลา่ วต่อไปว่า หญิงประกอบขน้ึ ดว้ ยคณุ ชนดิ ท่ข้าพเจา้ เลา่ นิทานเป็นตวั อยา่ งมานี้ คําโบราณกล่าววา่ ผ้าเปียกย่อมจะดบั ไฟีอาหารชวั่ ยอ่ มจะทาํ ลายกําลงั ลูกชายชว่ั ยอ่ มจะทาํ ลาย สกุลีแลเพอื่ นทโ่ กรธยอ่ มจะทาํ ลายชวติ แต่หญิงนนั้ ย่อมจะทําทุกข์ให้แกผ่ ู้อนื่ ท้งั ในคราวรักแลคราว เกลยด จะทําอะไรๆ กค็ งจะเปน็ ไปในทางท่ทําความเดอื ดร้อนให้แก่เราทัง้ นน้ั ีอน่ึง ความงามของนก ปรอดอยใู่ นสําเนยงีความงามของชายข้ร้วิ อยูใ่ นวชิ า ความงามของโยคอยู่ในความไมโ่ กรธีความงาม ของหญงิ อยู่ในสัตย์ แต่หญงิ มความงามจะหาท่ไหนจึงจะพบไดเ้ ลา่ อนึ่งพระนารทเป็นผู้ฉลาดโดย มายาในหมูฤ่ าษีหมาจิ้งจอกในหมสู่ ตั วี์ กาในหมู่นก ช่างตดั ผมในหมูค่ นีหญิงในโลกีนกแก้วกล่าว ต่อไปวา่ เรือ่ งทข่ า้ พเจ้าทูลมาน้เปน็ เรอ่ื งท่ข้าพเจา้ ยินดว้ ยหูรู้ด้วยตามาเอง ในเวลาน้นั ขา้ พเจา้ ยังเปน็ นกออ่ นีแม้กระน้ันยังทาํ ให้ขา้ พเจ้ากําหนดใจมาจนบัดน้ว่า หญิงท้งั หลายเกดิ มาสาํ หรับทําลาย ความสุขแหง่ เราเทา่ นัน้ เวตาลเลา่ ต่อไปวา่ ีเมือ่ นกขนุ ทองแลนกแก้วเลา่ นทิ านมาแล้วเชน่ น้ กเ็ กิดทุ่มเถยงกันเปน็ ขนานใหญี่ นกขุนทองก็กล่าวติเตยนชายแลยกยอหญิง นกแก้วกก็ ลา่ วยกยอชายแลติเตยนหญิง อย่างร้ายแรงจนนางจันทราวดพระมเหสทรงพิโรธนกแก้วตรสั ว่า ผู้ท่ดหู มน่ิ หญงิ มแต่พวกท่สมาคมกับ พวกต่ําช้าีหาความเทย่ งธรรมในใจมไิ ด้ อนง่ึ นกจุรามันควรละอายคําตนเองทก่ ลา่ วตเิ ตยนหญิง เพราะแมข่ องนกจุรามนั กเ็ ป็นนกตัวเมยเหมือนกนั ฝาุ ยพระราชารามเสนีเม่อื ได้ยนิ นกขุนทองกก็ รวิ้ แลตรสั สาํ แดงพโิ รธจนนกขุนทองเกาะคอน รอ้ งไห้ีประกาศวา่ ชวิตไมพ่ งึ สงวนเสยแล้ว เวตาลกล่าวต่อไปว่าีพูดสน้ั ๆีเจา้ สององค์แลนกสองตัวก็ ทมุ่ เถยงคัดคา้ นขดั คอกัน หญงิ จะชั่วกวา่ ชายีหรอื ชายจะชั่วกว่าหญิงกไ็ มต่ กลงกนั ได้ ถา้ หาก พระองค์เสด็จอยูใ่ นท่นัน้ ด้วยีปญ๎ หาก็คงจะไดร้ บั คาํ ตัดสนิ ท่ถกู ตอ้ ง เพราะพระองคท์ รงปญ๎ ญารอบรีู้ อาจช้แจงข้อความชนดิ นใ้ ห้แจม่ แจง้ ได้ อนั ท่จริงตามเร่ืองท่ขา้ พเจา้ เลา่ ถวายเปน็ ปญ๎ หาเช่นน้ พระองคค์ งจะได้ทรงดําริแน่นอนในพระหฤทัยแลว้ ว่าีใครจะชวั่ กวา่ ใคร ข้าพเจา้ เองตรกึ ตรองในใจมา ช้านานีก็ยงั ไมท่ ราบไดแ้ น่นอนจนบดั น้ พระวิกรมาทติ ย์ตรสั ตอบวา่ ีหญิงยอ่ มจะช่ัวกวา่ ชายอย่เู อง ชายนัน้ ถึงจะชว่ั ปานใดกย็ ังรูผ้ ดิ รู้ ถกู อยบู่ ้างีหญิงนั้นไมร่ เู้ สยเลยทเดยว เวตาลหัวเราะด้วยเสยงอันดังแล้วตอบว่า พระองค์ทรงเหน็ เชน่ นน้ั เพราะเป็นชาย ดอกกระมัง ข้าพเจา้ มความยินดทไ่ ด้ฟง๎ ดาํ รแิ หง่ พระองค์ เพราะพระดําริน้นั เปน็ เหตใุ ห้ ขา้ พเจา้ จะไดก้ ลับไปอย่ตู น้ อโศกเดย๋ วน้ เวตาลพดู เทา่ นั้น แลว้ กล็ อยออกจากยา่ มหวั เราะ กอ้ งฟูากลบั ไปห้อยหวั อยยู่ งั ต้นอโศกตามเดมิ The Vampire's Seacond Story

นิทานเวตาลเรือ่ งที่ ๓ เร่ืองที่ ๓ พระวิกรมาทิตย์ ครน้ั เวตาลหลุดลอยไปแลว้ ไดส้ ตกิ เ็ สดจ็ หันกลบั พาพระ ราชบุตรทรงดาํ เนินกลบั ไปยังต้นอโศก ครั้นถึงก็เสดจ็ ปีนขน้ึ ไปปลดเวตาลลงมาใส่ ลงในย่ามอย่างเก่า เสดจ็ ออกทรงดาํ เนนิ ไปไดห้ นอ่ ยหนึง่ เวตาลก็เลา่ เรอ่ื งซงึ่ กล่าว ว่าเปน็ เรื่องจรงิ อกเรอื่ งหน่ึงดงั น้ ในกาลกอ่ นมเมืองงามชือ่ โศภาวดี พระราชาทรงนาม รปู เสน มขา้ ใชใ้ กลช้ ดิ ชอ่ื สุ รเสน เปน็ ผู้มกาํ ลงั แลป๎ญญาีว่องไวชํานาญในการรบยง่ิ นกั สุรเสนคนน้แต่เดิมก็เป็นทหาร ธรรมดาแตด่ ว้ ยความกล้าแลความฉลาด ปฏิบตั กิ ารในหนา้ ท่หาผ้เู สมอมไิ ด้ีจงึ ไดเ้ ลือ่ น ตาํ แหน่งขนึ้ ไปโดยลําดบั ในท่สุดเปน็ แมท่ ัพในกรงุ โศภาวด บ้านใกลเ้ มอื งเคยงพากนั กล่าว เลอ่ื งชื่อลอื ฤทธิ์ทว่ั ไป ฝุายสุรเสนเม่ือไดร้ ับตําแหน่งแมท่ พั แลว้ กม็ ไิ ด้เว้นวา่ งการงานในหน้าทเ่ หมือนอยา่ ง ขา้ ราชการบางจําพวก ซง่ึ เมอื่ พระราชาทรงแต่งตง้ั ให้เป็นใหญแ่ ลว้ กล็ ะเวน้ ราชการ เพอ่ื จะได้ม เวลาทําพลกรรมีสนองคุณเทพยดาทบ่ นั ดาลใหต้ นได้เปน็ ใหญ่ สรุ เสนเห็นว่าการบันดาลใหต้ นเปน็ ใหญน่ นั้ ีถ้าจะจําแนกออกเปน็ หนุ้ พระราชาคงจะ ถอื ห้นุ มากกว่าผู้อืน่ ีแลการทาํ พลกรรมถวายพระราชา กค็ ือการปฏบิ ัติราชการท่ทรงมอบหมาย ให้เปน็ ไปดงั พระราชประสงค์ ส่วนเทพยดานั้นหากจะมหนุ้ อยบู่ า้ งก็เปรยบเหมือนหุ้นทไ่ มไ่ ด้จด ทะเบยน แตก่ ารบวงสรวงอาจมไดบ้ า้ งในเวลาทว่ า่ งราชการ กลา่ วการปฏิบตั ิหน้าท่ สุรเสนเปน็ ผู้กล้าใชค้ วามเห็นของตนแลแบบฉบับการ สงครามซง่ึ บัณฑิตแลพราหมณ์ผู้มิไดเ้ ป็นนักรบ บังอาจแตง่ ขึน้ ไว้เปน็ ตา้ ราใชส้ บื กนั มาแตโ่ บราณนน้ั สุรเสนแมท่ พั นํามาใช้เป็นหลักแต่ทเ่ หน็ ใช้ได้ แลใชค้ วามคดิ แลความ ชาํ นาญของตนเปน็ บรรทัดทางเดินีรจู้ ักเลือกทร่ บีรจู้ ักใช้ทหาร รู้จกั รกั ษาลาํ เลยงของตนใน ขณะท่ตัดลําเลยงข้าศกึ เมือ่ เหน็ ธนทู ่ทหารใชอ้ ยนู่ ัน้ ใชไ้ ดไ้ ม่วอ่ งไวกค็ ิดเปลย่ นเสยใหมก่ ่อนท่ จะต้องเปล่ยนเพราะแพ้ เมอ่ื เหน็ ด้ามดาบจบั ไมถ่ นดั แม้ดา้ มจะได้เคยใช้กันมาแล้วตั้งพนั ปี แล คนทงั้ หลายคิดว่าเปน็ ด้ามดทส่ ุดเพราะอายุ สรุ เสนแมท่ ัพกก็ ลา้ เปลย่ นเสยไม่เกรงพวกไม่ใช่ นักรบคือบณั ฑิตแลพราหมณต์ เิ ตยนวา่ ไมถ่ ูกต้องตามคัมภรศาสตร ี์ อนง่ึ สรุ เสนได้จัดทหารถือ ศรไฟข้นึ หม่หู น่ึงซงึ่ เมอื่ ใช้ต่อส้ทู ัพช้างของข้าศกึ ก็มชัยรอบข้าง แมพ้ ระอังคารผู้เปน็ เจา้ แหง่ การรบก็ตอ้ งชมว่าด วนั หน่งึ สุรเสนแมท่ ัพนงั่ ว่าราชการอยหู่ น้าจวนีมทนายเข้าไปบอกวา่ มชายถืออาวุธ คนหน่งึ มาจะขอเขา้ รับราชการ แมท่ พั ได้ทราบจงึ พาตวั เข้าไปซกั ถามตามธรรมเนยม

ชายผนู้ ้นั แสดงตัววา่ ีชื่อ วีรพล เปน็ คนชาํ นาญอาวธุ ีมชอื่ เสยงวา่ กล้าแลซ่ือสตั ย์ ปรากฏทั่วไปในภารตวรรษ (คืออินเดย) สรุ เสนแมท่ ัพเคยได้ยนิ คนชมตวั เองดังนน้ ับครัง้ ไมถ่ ว้ น มไิ ดเ้ ชื่อคําท่กลา่ ว แตอ่ ยากจะแสดงใหช้ ายถอื อาวธุ นัน้ รตู้ ัวละอายแกใ่ จว่าตนไม่ร้จู ักใช้อาวธุ เลย จึงบอกว่าให้ชกั ดาบออกสําแดงความสามารถใหป้ รากฏเถดิ ฝาุ ยวรพลไดย้ ินดังนัน้ กน็ ึกรู้ในใจแม่ทพั ีแตม่ ไิ ดห้ วาดหวน่ั เอามอื ขวาชักดาบออก แกวง่ เหนอื ศรษะเหมอื นจกั รยนตซ์ ่งึ หมนุ ี๑,๒๐๐ีรอบตอ่ นาท มอื ซ้ายย่ืนเหยยดออกไปีมือ ขวาหวดด้วยดาบเต็มกาํ ลัง ตดั เลบ็ นิ้วกอ้ ยแห่งมอื ซ้ายขาดตกอย่กู ับพ้ืน การตัดเลบ็ ใหข้ าดไป ด้วยดาบซึง่ ฟาดเต็มแรงนั้น ถ้าน้ิวพลอยตดิ ไปด้วยก็นับว่างา่ ยแลนบั วา่ ตัดเลบ็ สําเร็จเหมอื นกนั ถ้าตดั ไปทงั้ มือยงิ่ งา่ ยหนักเข้าีแลการตดั เล็บกเ็ ป็นอันไดต้ ัด แตว่ รพลตัดเล็บครัง้ นั้นีมไิ ดถ้ ูกนวิ้ แลเนือ้ เปน็ เหตุใหเ้ ลอื ดตกแมแ้ ตห่ ยดหนง่ึ เลย สรุ เสนแม่ทพั เหน็ ดงั นั้นกช็ อบใจีจึงสนทนากบั วรพลถงึ วธิ ยทุ ธ์ วรพลชแ้ จงแสดง ความเห็นมหลกั ฐานมัน่ คง ปรากฏวา่ มิใชแ่ ต่รอบรตู้ าํ ราซ่งึ บณั ฑิตแลพราหมณผ์ ู้ไม่เคยรบแต่ง ไวเ้ ป็นแบบฉบบั การรบ ถงึ แมข้ ้อบกพรอ่ งในตาํ ราโบราณเหลา่ นน้ั ก็รู้ด้วย เมือ่ เปน็ ดังนน้ั สุรเสน แมท่ ัพก็เหน็ ไดว้ า่ วรพลน้ันมใิ ช่คนสามัญเลยจงึ พาเข้าเฝูาท้าวรูปเสนีทูลใหท้ ราบทุกประการ ท้าวรปู เสนเป็นพระราชาทค่ ดิ มากตรสั นอ้ ยีคร้ันไดย้ ินแมท่ ัพทูลตลอดแลว้ กต็ รสั ถามวรพลวา่ ี\"ข้าควรให้เบย้ เลย้ งแก่เจ้าวนั ละเท่าไหร่\" วรพลทลู วา่ \"ถา้ ประทานเบ้ยเลย้ งแก่ ข้าพเจ้าเปน็ ทองคาํ วนั ละี๑,๐๐๐ีทนาระ จงึ จะพอเปน็ คา่ ใชส้ อยของข้าพเจ้า\" ทา้ วรูปเสนตรสั ถามวา่ ี\"เจ้ามทหารมาด้วยก่กองทพั จึงต้องใช้ทองคาํ มากถึงวันละเท่าน้นั \" วรพลทูลวา่ ี ข้าพเจ้าไมม่ กองทัพมาดว้ ย มแต่ครอบครวั ของข้าพเจา้ ีซงึ่ มจํานวนคอื ีท่หนึ่งตัวข้าพเจา้ ท่ สองภริยาของข้าพเจ้าคนหนึ่งีท่สามบตุ รชายคนหนง่ึ ีทส่ ่บุตรหญงิ คนหนง่ึ ทห่ ้าไม่ม\" คนทั้งหลายท่อยู่ในท่เฝาู ไดย้ ินดงั นนั้ ตา่ งคนกย็ ้มิ แลหัวเราะีพระราชาทรงนิ่งอยคู่ รู่ หนึง่ แล้วตรสั ให้วรพลออกไปจากท่เฝูา เวตาลกลา่ วแกพ่ ระวิกรมาทิตยต์ อ่ ไปว่า \"พระองค์คงไดท้ รงสังเกตแลว้ ว่า ใน หมู่มนุษยพ์ วกพระองค์น้นั คนมากมกั จะเชอื่ ราคาคนๆ เดียว ตามประมาณท่ีคนน้นั กา้ หนด ถ้าใครต้ังราคาตนเองสูง คนอื่นๆ คงจะพูดกันว่า \"คนนีค้ งจะมีคุณวิเศษอะไร สักอยา่ งหนึ่งซึง่ ยังไม่ปรากฏแกเ่ รา เพราะเราเปน็ ผไู้ ม่มคี วามรู้\" ดังนถ้ี า้ พระองคท์ รง บอกแก่คนทัง้ หลายว่า พระองคม์ คี วามกลา้ มีความฉลาด พระหฤทัยดี แลแม้จะตรัสวา่ พระองค์รปู งาม ไม่ชา้ กจ็ ะมผี ูเ้ ชื่อวา่ จริง แลเมื่อมีคนเชือ่ เสียแล้ว พระองค์จะกลับทา้ อยา่ งไรให้ปวงชนทราบไดว้ า่ พระองค์ไมก่ ล้า ไม่ฉลาด ไมม่ ีพระหฤทยั ดี แลไม่ทรงรูป งามน้นั จะทรงทา้ ได้ดว้ ยยากท่ีสดุ อนึ่ง...\" พระราชาเหลยวไปตรัสแก่พระราชบุตรว่าี\"อย่าฟ๎งมันีอย่าฟง๎ มัน (แล้วตรัสแก่ เวตาล) น่แน่ะีเจ้าตวั ช่างพูด ถา้ คนพากนั นบั ถือธรรมเลอะเทอะอย่างทเ่ จา้ ว่าน้ไปดว้ ยกันหมดี ความสงบเสง่ยม ความปราศจากโออ้ วดีปราศจากความเห็นแก่ตวั ฝุายเดยวแลคณุ ความดอน่ื ๆี อกมากมาย จะมสิ ญู สิ้นไปหรอื \" เวตาลตอบวา่ ี\"ข้าพเจา้ ไม่ทราบ แลไม่ใส่ใจทจ่ ะใหค้ ุณเหล่าน้นั คงมไปในโลกีแต่ ขา้ พเจา้ อาจกลา่ วไดว้ ่า ขา้ พเจ้าไดเ้ คยสิงซากศพมนุษย์มาชา้ นานีได้เปลย่ นจากศพนไ้ ปอยู่ ศพโนน้ บ่อยๆ จนไดค้ วามรู้สําคัญขอ้ หน่งึ ีคือ ผู้มปญ๎ ญาย่อมจะรูจ้ ักตนเอง ไม่ขนุ่ ข้องในใจ เกนิ ไปในเวลาทต่ กอบั ีหรอื รน่ื รมยเ์ กินไปในเวลาทช่ ะตาข้ึน เพราะรู้ตัววา่ ไม่ไดป้ ระดษิ ฐ์ตวั ขนึ้ เองย่ิงกว่าได้ประดษิ ฐ์เส้ือผ้าทไ่ ปจ้างเขาทํามาให้ สว่ นคนโงน่ ้นั ีเม่ือเอาตัวไปเทยบกับคนโง่

กวา่ ก็ยนิ ดเบกิ บานจนเกินเหตุ หรือเมือ่ เทยบตัวเองกบั คนท่โงห่ ยอ่ นกว่าีก็กระดากเดอื ดร้อนใน ใจ เพราะรวู้ า่ เขาโง่นอ้ ยกวา่ ตวั ความกระดากนี้ เรยกวา่ ความปราศจากโออ้ วด ความสงบเสง่ยมี หรือจะเรยกว่าว่ากระไรอกกย็ งั จะได้ สว่ นตัวข้าพเจา้ นน้ั เมื่อไดเ้ ข้าสิงซากศพไมว่ า่ จะเปน็ ศพชายีศพหญิงหรอื ศพเด็ก ข้าพเจ้าคงจะรูส้ ึกวา่ ข้าพเจ้าควรถอ่ มตวั เป็นอันยง่ิ เพราะรู้ว่าเหย้าท่อี าศยั ของขา้ พเจา้ นั้นเปน็ ทสี่ า้ นักของสตั วชาตทิ จี่ องหองท่สี ุด แลเจา้ ของเดมิ เพ่ิงท้งิ เหยา้ ไปยงั ไม่ทนั ชา้ เลย อนึง่ ...\" พระราชาทรงพิโรธรบั ส่งั วา่ ี\"เอ็งอยากจะให้ข้าเอาตวั เอง็ ฟาดลงกับพืน้ ดินหรือ\" เวตาลบ่นอบุ อบิ เปน็ ทํานองวา่ การแสดงป๎ญญาใหค้ นโงฟ่ ง๎ ไมม่ ประโยชน์แลว้ เลา่ นทิ านตอ่ ไป วา่ ท้าวรูปเสนไดท้ รงฟง๎ คําวรพลทลู ดงั น้นั ีกท็ รงนิ่งตรกึ ตรอง ต้ังปญ๎ หาถามพระองค์ เองวา่ ีเหตุใดชายคนนจ้ งึ ตราคาความรบั ใช้ของตนแพงเชน่ ทก่ ล่าว แล้วทรงพระดาํ รวิ า่ ีการต ราคาสูงเชน่ นค้ งจะเป็นด้วยมคุณวิเศษความดอยา่ งเอก ซ่ึงอาจจะเหน็ ไดภ้ ายหลงั ีเม่อื ทรงนึก ดังนน้ั แลว้ ก็นึกต่อไปวา่ ถา้ ประทานคา่ จ้างมากมายตามทว่ รพลทลู ไซร้ ความมใจใหญ่ของ พระองค์คงจะใหผ้ ลประโยชนแ์ กพ่ ระองคใ์ นวันหน้า เม่อื ทรงตรึกตรองเหน็ เชน่ น้ จึงรบั สัง่ เรยกวรพลกลับเข้าไปหนา้ พระทน่ งั่ แล้วรบั สง่ั เรยกชาวคลังมาส่ังวา่ จงจ่ายทองคาํ ให้แกว่ รพลวันละี๑,๐๐๐ีทนาระีแล้วตรสั ใหว้ รพลอยู่รับ ราชการต่อไป ฝาุ ยวรพลนัน้ มคําเล่ากันว่า เมือ่ ได้รับพระราชทานสนิ จา้ งมากถงึ เพยงนน้ั กไ็ ด้ใช้ ทรัพยข์ องตนในทางท่ดท่สดุ ในเวลาเชา้ ทุกวันได้เอาทรัพยท์ ่ไดใ้ นวันกอ่ นมาแบ่งออกเป็น สองสว่ น สว่ นหน่งึ แจกจา่ ยใหแ้ กพ่ ราหมณแ์ ลปุโรหิต สว่ นท่เหลือนน้ั แบ่งออกอกเปน็ สองภาคี ภาคหน่งึ แจกแกไ่ วราค คอื คนขอทานซึ่งประกาศตัวว่านบั ถอื พระวษิ ณุเปน็ เจ้าีแลสันยาส (ผู้ นับถือพระศิวะเป็นเจา้ ) ซ่ึงเปน็ ผ้มู กายอนั ชโลมดว้ ยเถ้าถ่าน แลปกปิดกายด้วยท่อนผา้ ซง่ึ จะ มิดชดิ ก็ไมม่ ิดได้ แลพากนั ย่ืนศรษะซ่ึงม่นุ เหมอื นเชือกแนน่ กันเข้าไปรับแจกท่ประตู สว่ นทรพั ย์ ทย่ ังเหลอื อยูจ่ ากท่แจกแล้วนน้ั ีวรพลให้มผู้จดั ประกอบอาหารอนั มรส แลเมือ่ ได้เล้ยงคนขัดสน อาหารทั้งหลายจนอม่ิ หนําสาํ ราญท่ัวกนั แลว้ วรพลแลบุตรภริยาจงึ กนิ แลว้ แต่จะมเหลือ การจาํ หนา่ ยทรัพยท์ กุ ๆ วนั เชน่ นม้ คาํ กล่าวสบื กันมาวา่ เปน็ วธิ ดนักีแต่พวกท่กลา่ วว่า ดนั้น พราหมณ์แลปโุ รหิตคงจะเปน็ ผกู้ ล่าวนาํ หนา้ ีไวราคแลสนั ยาสเป็นพวกทร่ องลงมา แล พวกยาจกทไ่ ดร้ บั เลย้ งทกุ ๆีวันก็คงจะกลา่ วชมวิธจาํ หน่ายทรัพย์ชนิดนัน้ ด้วย ชนพวกอ่ืนๆีท่ พลอยชมวา่ ดไปดว้ ยก็จะมบ้างดอกกระมงั แตท่ จ่ ะเป็นวิธดจรงิ หรือไมน่ ้ันเป็นขอ้ ท่น่าพศิ วง ในเวลาค่ําคนื วรพลถอื อาวธุ เขา้ ไปยืนอยู่ใกล้แทน่ ท่บรรทมทกุ คืน เม่ือใดพระราชา ตน่ื บรรทมขนึ้ ีตรัสถามวา่ ใครอยู่ท่น่นั ีวรพลกท็ ูลตอบทันทวา่ \"ขา้ พเจ้าวรพลอย่นู ่ีถา้ มโองการ ตรสั สัง่ ประการใด ขา้ พเจ้าพร้อมทจ่ ะปฏบิ ตั ิตามพระราชประสงค์\" ท้าวรูปเสนตื่นบรรทมข้ึนแลตรสั ถามครั้งใด ก็ได้ทรงยินวรพลทลู ตอบเช่นน้นั เสมอ จนแทบจะเบือ่ ีบางคราวถึงทรงอยากใหม้ เหตุอนั ใด ทจ่ ะได้ทรงใช้วรพลใหเ้ หน็ ความสามารถ บางคืนทา้ วรปู เสนมรับสั่งให้ทําอะไรทแ่ ปลกท่สุดเพือ่ ทดลองใจีเพราะ คาํ โบราณย่อมกลา่ ววา่ จะลองใจข้าใหใ้ ชท้ งั้ ในทางทค่ วรแก่เวลา แลไม่ควรแกเ่ วลาีถ้าทําตามโดยเตม็ ใจีจงทราบวา่ เปน็ ข้าทด่ ีถา้ โตต้ อบ จงไล่เสยโดยเรว็ ีการทดลองใจข้าดว้ ยประการท่กลา่ วน้ คงจะได้รจู้ รงิ เสมอกับการทดลองใจเมยด้วยความยากจนของผัว หรอื ทดลองญาตแิ ลเพือ่ นด้วยขอใหช้ ่วย

ธุระ โดยประการท่กล่าวมาน้ วรพลอยยู่ ามรักษาพระราชาคนื ยงั รงุ่ ีแลท่ทําเชน่ น้นั ก็เพือ่ สนิ จ้างท่ไดพ้ ระราชทาน แลนอกจากเวลาอยยู่ ามน้ันีจะดื่มแลกินก็ดีน่งั นอนเดินยืนกด็ จะได้ ลืมหน้าท่เป็นผู้เฝาู รักษาพระราชานัน้ หามไิ ด้ การท่ทาํ เช่นน้นั กช็ อบดว้ ยธรรมเนยมีเพราะถา้ ชายคนหนงึ่ ขายชายอกคนหน่งึ ชายคนท่สองเปน็ ผถู้ กู ขายีแตถ่ า้ ขา้ เขา้ ไปรับใชน้ ายกค็ อื ข้า ขายตวั เอง แลเม่ือชายใดเป็นข้าต้องอาศยั ผ้อู นื่ แล้วความสุขจะมกระไรได้ ธรรมดาคนจะม ปญ๎ ญาฉลาดเฉลยวแลมความร้ปู านใดกต็ ามีถ้ามนายแลอยตู่ อ่ หน้านาย ก็ย่อมจะนงิ่ เหมือนคน ใบี้ แลมความสะทกสะท้านอยูเ่ ปน็ ปกติ ต่อเมือ่ อยพู่ น้ หน้านายไปจงึ จะคอ่ ยผอ่ นกายไดบ้ า้ ง เหตดุ งั นน้ั ปราชญ์ผ้มู ป๎ญญายอ่ มกลา่ วว่าีการรับใช้ใหถ้ ูกต้องทกุ ประการนน้ั ยากย่งิ กว่าฝึกฝน ความร้ใู นทางธรรม คืนหนงึ่ พระราชาต่ืนบรรทมขนึ้ ได้ยนิ เสยงหญิงโหยไห้ครํ่าครวญอยู่ในปุาช้าท่ใกล้ พระราชวงั พระราชาตรสั ถามวา่ ใครอยยู่ ามีวรพลทลู ตอบตามเคยีจงึ รบั ส่ังวา่ \"เจ้าจงไปดูว่าม หญิงมาร้องไห้ครา่ํ ครวญอยู่ทําไม เมือ่ ไดค้ วามแล้วจงรบกลับมาโดยเร็ว\" วรพลไดฟ้ ง๎ รับสั่ง ดังนน้ั กร็ บไปทาํ ตาม ฝาุ ยพระราชาีครน้ั วรพลไปแลว้ ีกท็ รงเครอ่ื งดําคลมุ พระองค์รบตามวรพลไป เพื่อจะ ทอดพระเนตรความกลา้ ของชายผูน้ นั้ ีอกครหู่ นึง่ วรพลไปถงึ ปาุ ช้าไดเ้ หน็ หญงิ งามผู้หน่งึ ฉว เหลอื งออ่ น ประดบั กายดว้ ยเพชรพลอยต้งั แต่ศรษะถึงเท้าีมอื หน่งึ ถือเขาีมอื หนงึ่ ถือสรอ้ ยคอ ประเด๋ยวก็ยา่ งเทา้ เตน้ ไปมาีประเด๋ยวกโ็ ดดีประเด๋ยวกว็ ิง่ ไปรอบๆ ประเดย๋ วกท็ อดตวั ลงพาด บนดินีเอามอื ตศรษะตนเองีร้องไห้คร่าํ ครวญีแตจ่ ะหาน้ําตามไิ ด้ วรพลเหน็ ดังน้ัน ไม่ทราบว่านางคือนางฟูาผเู้ กิดจากเกษยรสมุทรแลเป็นท่รกั ของ ชาวฟาู ทั่วไปีจึงถามว่า \"นางคอื ใครีมาตตัวรอ้ งไห้คราํ่ ครวญเชน่ นเ้ พราะทกุ ขอ์ ันใด\" นางตอบ ว่า \"ขา้ คอื ราชลกั ษม\" วรพลถามว่าเหตุใดนางจึงโศกฉะนเ้ ลา่ นางจึงกลา่ วช้แจงให้วรพลฟง๎ วา่ ีในพระราชวงั แหง่ พระราชาน้นั มผู้กระทาํ การลามก อยา่ งท่กระทาํ กันเป็นปกตใิ นหมชู่ นซง่ึ เปน็ ศูทรมวรรณะตํา่ เหตฉุ ะนัน้ ความเส่ือมจะมมาสู่ พระราชฐานีอันเปน็ ทซ่ ึง่ นางเคยอยู่มา แลจะต้องละทงิ้ ไปในบดั น้ีอกประมาณเดอื นหนง่ึ พระราชาจะประชวรหนักถงึ สนิ้ พระชนม์ นางมความเสยใจจึงรอ้ งไห้ีนางอย่มู าในราชสาํ นกั ได้ นาํ ความสขุ มาใหม้ าก เหตุดงั นัน้ จึงเสยใจหนักีทท่ ราบวา่ คาํ ทาํ นายของนางจะไม่เปน็ ไปจริง มไิ ด้เลย วรพลถามว่าี\"ภยั ท่นางกล่าวน้ จะหาทางปูองกนั เพ่อื รักษาชวิตพระราชาไว้ให้ยง่ั ยืน รอ้ ยปีไม่ไดห้ รอื \" นางตอบว่า \"ทางปูองกันมอยู่ท่อาจทาํ ไดี้ คือีตง้ั แตน่ ไ้ ปีทางตะวนั ออกไกล ประมาณี๓ีโกรศ มศาลพระเทวศาลหนึ่งีถา้ ทา่ นตดั ศรษะบตุ รของท่านดว้ ยมือทา่ นเอง นาํ ถวายเปน็ เคร่อื งบูชาพระเทวีพระราชาจะทรงพระชนมายุยนื ยาวไปช่ัวกาลนาน จะมภัยอนั ใดมา พอ้ งพานน้นั หาไม่\" นางราชลกั ษมกล่าวเช่นนั้นแลว้ ก็อนั ตรธานหายไป ฝาุ ยวรพลเมอื่ ไดร้ บั ความรู้เชน่ น้ แล้วีก็มิไดก้ ล่าวประการใด หนั กลับรบเดินไปสูบ่ ้านแห่งตนีพระราชาก็ทรงพระดาํ เนนิ ลอบตาม ไปมิให้วรพลร้ตู ัว ไดท้ อดพระเนตรกริ ิยาแลทรงฟง๎ คําพูดีทราบแจง้ ในพระหฤทัยทกุ ประการ ฝาุ ยวรพลเม่ือออกจากปุาชา้ แล้วกร็ บเดนิ ไปปลกุ ภริยาขึ้นเล่าความใหฟ้ ๎งทกุ ประการ กลา่ วความประพฤติระหว่างสามกบั ภริยาีปราชญผ์ ู้เป็นกวโบราณแสดงไว้ว่า o นางใดฟง๎ สามีเชอ่ื ถอื ดดว้ ยวาจา อกทงั้ กริ ิยาีโอนอ่อนรบั เพราะนับถือ

o นางน้นั ได้ชื่อวา่ ีภรยิ าท่ดคอื เกยรต์เิ ฟอื่ งเลื่องบรรลือ ได้ชื่อว่าชายจริงฯ ดงั น้เม่ือนางไดฟ้ ง๎ ถ้อยคาํ สามแลว้ กร็ บปลกุ ลกู ชายขน้ึ ฝุายลูกหญงิ เม่ือไดย้ นิ ปลุก พช่ ายกพ็ ลอยตืน่ ขึน้ ดว้ ย วรพลก็พาเมยแลลูกเดินไปสู่ศาลพระเทว เม่อื เดินไปตามทางวรพลกลา่ วแกเ่ มยวา่ \"ถา้ เจา้ ยนิ ยอมให้ลูกชายของเจา้ โดยเต็ม ใจ ข้าผู้เปน็ สามจะทาํ ลายชวิตเด็กน้ันถวายเปน็ เครอื่ งบูชาพระเทว เพ่ือความยืนพระชนม์แหง่ พระราชาผู้เปน็ เจา้ ของเรา\" นางตอบวา่ ี\"พอ่ แลแม่ บตุ รแลธดิ าีพน่ อ้ งแลวงศญ์ าติท้งั ปวงในเวลานน้ บั ว่าข้าพเจ้า ไมม่ เสยแลว้ ข้าพเจ้ามทา่ นผ้เู ดยวเปน็ ผ้แู ทนพ่อแมล่ กู แลพ่นอ้ งีคัมภรศาสตรย์ ่อมกล่าววา่ ภรยิ านั้นจะบรสิ ทุ ธด์ิ ้วยทําทานแก่นกั บวชีหรอื ด้วยกระทําการบูชายัญก็หาไม่ นางใดปฏบิ ัตสิ าม ด้วยดีนางนัน้ ได้ชื่อวา่ เปน็ ผู้ครองธรรม แมส้ ามจะเปน็ ผ้งู ่อยเปลย้ เสยขาีเป็นผู้เสยมือีหรือใบี้ หหู นวกีตาบอดตาเดยว เป็นกดุ ถงั หรือหลงั คอ่ มีภรยิ ากจ็ ําตอ้ งปฏิบตั ิดว้ ยดทั้งนั้น คาํ โบราณ กล่าวความจริงไวว้ า่ O ใครมบุตรวา่ ง่ายกายปราศจากไขี้ มหทยั เสาะหาวิชาขลงั ท้งั มเพ่อื นฉลาดเฉลยวชว่ ยเหนย่ วรงั้ ีมเมยฟง๎ ถอ้ ยคําประจําใจ ผู้นัน้ ดมบุญอาจจนุ คํา้ ีโลกให้จาํ เริญสขุ ปลดทุกข์ได้ ชนท้งั หลายคลายรอ้ นหยอ่ นแยงภยั เพราะเขาใหค้ วามสุขปราศจากทกุ ข์เจยวฯ O อนงึ่ บ่าวเกยจคร้านการรบั ใชี้ พระราชาเปน็ ใหญ่ใจขเ้ หนยว อกเพอ่ื นใจไม่จริงพงิ ข้างเดยวีเมยเดด็ เด่ยวไม่ฟ๎งคําบงั คับ ทงั้ สน่ ป้ ลดสุขพาทุกขส์ ู่ีเหมือนศัตรูเขา้ มาเวลาหลับ จกั ปอู งกันฉันใดไม่ระงบั ีเหลือจักรับจักรบจกั หลบลฯ้ \" นางกลา่ วแก่สามดังน้แล้ว กห็ นั ไปกล่าวแก่บุตรว่าี\"ลกู เอยีถา้ เรายอมสละหวั ของ เจ้าเปน็ เครอื่ งบชู าพระเทว ชวิตแหง่ พระราชาจะรอดไดี้ แลบ้านเมืองจะดาํ รงสุขสบื ไป\" ลูกชายไดฟ้ ๎งแม่กล่าวดงั นัน้ แมย้ งั อ่อนอายุียังกล่าวตอบดังซึ่งเราทา่ นไม่น่าจะเช่ือ ว่าเดก็ พูดได้ แต่พึงระลกึ วา่ ในสมยั โนน้ แมแ้ ตน่ กแกว้ นกขนุ ทองยงั พดู สันสกฤตได้คลอ่ งดกว่า ทา่ นแลขา้ พเจา้ เหลือจะพรรณนา เดก็ คนน้ันเปน็ คนแล้วมิหนําซํ้ากล่าวกนั ว่าเปน็ เดก็ ฉลาดนกั ด้วย เหตุดังนน้ั การท่พดู เพยงเทา่ น้ไมป่ ระหลาดอะไร ถา้ ประหลาดกป็ ระหลาดด้วยพดู นอ้ ยไป เสยอก ลกู ชายกลา่ ววา่ \"ขา้ แต่นางผเู้ ปน็ มารดาีขา้ พเจ้าเห็นวา่ เราจะรบเรง่ ใหก้ ารอันน้ เป็นไปโดยเร็ว เพราะเหตุว่าีประการที่ ๑ีข้าพเจา้ ผบู้ ตุ รจาํ ต้องเช่อื ฟ๎งคําสง่ั ของมารดาีประการ ที่ ๒ ข้าพเจา้ จําต้องยังความเจรญิ ใหม้ แกพ่ ระราชาผู้เปน็ เจา้ ของข้าพเจ้าีประการท่ี๓ ถ้าชวติ แลรา่ งกายของขา้ พเจา้ เป็นประโยชน์แก่พระเทว กไ็ ม่มทางใดทข่ ้าพเจา้ จะใช้ชวติ แลรา่ งกาย ของข้าพเจา้ ใหด้ ยิ่งไปได้\" เวตาลเลา่ มาถงึ เพยงน้ จึงกล่าวแก่พระราชาวิกรมาทติ ยว์ า่ พระองคจ์ งประทานอภัย แก่ขา้ พเจา้ ท่ไดน้ ําเอาคาํ พดู คนเหลา่ น้นั มากล่าวยดื ยาวีเดก็ เลก็ ๆีซึ่งกําลังจะถกู เชอื ดคอน้ัน พูดจาราวกบั อาจารยธ์ รรมศาสตร์ีฟง๎ อยู่คอ่ นขา้ งจะแปลกสกั หนอ่ ย เวตาลเล่าเรื่องต่อไปวา่ เม่อื เดก็ ไดก้ ล่าวแก่มารดาแล้วก็เหลยวไปกลา่ วแกบ่ ิดาวา่ ี \"ขา้ แตท่ า่ นบิดา ผ้ใู ดไดก้ ระทาํ การเป็นคุณประโยชน์แก่นายของตนีชวติ ของผนู้ น้ั นบั ว่าไม่ เปลอื งไปเปล่า แลเพราะเหตุท่ได้ใช้ชวติ ในทางทเ่ กดิ ประโยชน์ ผู้นั้นก็คงจะได้รบั รางวัลใน

โลกหน้าๆีตอ่ ไป\" ฝาุ ยลูกหญิง เมอ่ื ได้ยินบิดามารดาแลพ่ชายพูดกนั มาเพยงน้ก็กล่าวสอดขึน้ บา้ งว่าี\" ถา้ มารดาวางยาพิษใหล้ กู หญิงกลนื ีถ้าบิดาขายลกู ชายของตน ถ้าพระราชายดึ ถอื เอา หลักทรพั ยส์ มบตั ิทัง้ ปวงของประชาราษฎรไ์ ปเป็นประโยชน์แก่พระองคเ์ อง ดงั นใ้ ครจะได้อะไร เปน็ ท่พึง่ พาํ นกั เลา่ \" ลกู หญิงพดู ดงั น้ไม่มใครฟ๎ง คนทั้งสก่ ็พากนั เดินไปจนถึงศาลพระเทวีพระราชาก็ เสด็จด้อมตามไปจนตลอดทาง อกครหู่ นง่ึ ไปถึงศาลพระเทวีเปน็ เรือนห้องเดยวมชาลารอบ ขา้ งหนา้ มเรอื นหลงั ใหญซ่ ง่ึ คนอาจเข้าไปนั่งไดห้ ลายรอ้ ยคน หน้าเทวรปู นองไปดว้ ยเลอื ดอนั ไหลจากสตั ว์มชวติ ซง่ึ มผูไ้ ดฆ้ า่ เพือ่ การบชู าในศาลน้ีเทวรปู นัน้ ดาํ ใหญี่ มกรี๑๐ีกร หตั ถข์ วา หตั ถห์ น่ึงถือหอกแทงอสรู ชอ่ื มหษิ ีหัตถ์ซา้ ยหตั ถ์หน่งึ ถือหางงแู ลผมแห่งมหษิ แลงูน้นั กดั หน้าอกอสูรีกรอืน่ ๆีถืออาวธุ ตา่ งๆีเงื้องา่ อย่เู หนอื พระเศยร แลทข่ า้ งบาทนนั้ มสงิ ห์ยืนพิงอยู่ตัว หนง่ึ ฝาุ ยวรพลเม่ือไปถึงศาล กพ็ นมมือนมัสการแลกลา่ วคาํ วงิ วอนพระเทวว่าี\"ข้าแต่พระ เทวเป็นเจ้า ขา้ พเจ้าจะประหารชวิตลกู ชายถวายเป็นเคร่อื งบชู าพระองค์ ขอพระองค์จงอาํ นวย ใหพ้ ระราชาทรงชนมายุยนื ยาวไปจวบพนั ปเี ถิดีโอพ้ ระมารดา พระองค์จงทําลายศัตรขู อง พระราชาเสยเถิด จงทรงฆ่าแลทาํ ใหศ้ ตั รเู หล่าน้นั เปน็ เถา้ ถ่านไปให้ส้นิ ีหรอื ไล่มันไปเสยใหส้ ้นิ พระองค์จงตัดมนั ทงั้ หลายให้เป็นทอ่ นแลเสวยเลอื ดมัน พระองคจ์ งล้างแลทาํ ลายมนั เสยดว้ ย วชั ระีด้วยโตมรีด้วยขรรคี์ ดว้ ยจกั ร ด้วยบาศอันเป็นอาวธุ ของพระองค์\" วรพลกล่าวดงั น้ันแลว้ ก็บอกให้ลกู ชายคุกเขา่ ลงตรงหน้าเทวรปู แลว้ ฟ๎นดว้ ยดาบถกู คอขาด หัวกระเดน็ ไปกลิ้งอยบู่ นพนื้ ชาลาแลว้ โยนดาบขว้างไปไกลตัว ฝุายลูกหญิงเม่ือเห็น พช่ ายคอขาดกระเด็นไปดังนน้ั กว็ ่งิ เข้าไปฉวยเอาดาบเชือดคอตนเองสน้ิ ไปชวติ ลงไปอกคน หน่งึ นางผ้เู ป็นมารดาเหน็ ลกู ชายแลลกู หญิงสิ้นชวิตลงไปดังน้นั ีเหลอื ทจ่ ะสะกดใจไวไ้ ด้ ก็วิ่ง ไปหยิบดาบฟน๎ คอตนเองตายลงไปอกเป็นี๓ีศพดว้ ยกัน ฝาุ ยวรพลเมื่อเห็นดังน้ันีจึงกล่าวแก่ตนวา่ ี\"ลูกเราก็ตายหมดแลว้ กจู ะอยรู่ บั ใช้ พระราชาไปทําไมเล่า เมือ่ ได้ทองคําเป็นรางวลั จากพระราชาก็ไม่มลกู จะรบั ชว่ งตอ่ ไปอกแล้ว\" คดิ ดงั น้ วรพลก็เอาดาบฟ๎นคอตนเองล้มลงขาดใจตาย ฝาุ ยท้าวรูปเสนพระราชาทรงแอบดูีทอดพระเนตรเห็นหวั ี๔ีหวั ีขาดจากตัวี๔ีตัว กลง้ิ อยู่หนา้ ศาลดงั นั้นีก็ทรงสลดพระหฤทยั ีทรงคํานงึ วา่ ี\"พ่อแม่ลูกทงั้ ี๔ น้ไดส้ ละชวติ ไป แลว้ เพื่อประโยชนแ์ ก่เราีโลกน้กวา้ งใหญ่ก็จริง แตห่ าคนทซ่ ่ือสัตย์กลา้ หาญถงึ เพยงน้หาไมไ่ ด้ ใครบ้างจะสละชวติ เช่นนเ้ พ่อื สนองคณุ พระราชาีแตม่ ไิ ด้บอกกล่าวโออ้ วดใหใ้ ครทราบเลย อาํ นาจแลความเป็นพระราชาของเราน้ีถ้าจะยงั่ ยนื อย่ไู ดด้ ้วยต้องทําลายชวิตคนถึงปานน้ กส็ นิ้ ความสําราญแลเป็นบาปีมิไดผ้ ดิ อะไรกบั ถกู แช่ง เราคงจะครองราชยั ไปก็หายุตธิ รรมมไิ ด้\" พระราชาทรงดํารเิ ช่นนแ้ ลว้ ก็ทรงหยิบดาบข้ึนจะประหารชวิตพระองค์เองีแตเ่ ทวรู ปพระเทวทรงยึดพระหตั ถไ์ ว้ รบั ส่ังหา้ มมิใหพ้ ระราชาประหารพระองค์เองีแลให้ทรงขอพร แล้วแต่พระประสงค์ ฝุายท้าวรูปเสนเมือ่ พระเทวตรสั ให้ขอพรดังนน้ั กท็ ูลขอใหป้ ระทานคืนชวติ วรพลแลลกู เมยีในพริบตาเดยว พระเทวก็ทรงไดน้ ํ้าอมฤตจากบาดลีทรงพรมศพทั้งส่ศพนน้ั ี หวั กับตวั กก็ ลับมาติดกัน คืนชวติ ข้นึ มาท้ังส่คน ทา้ วรูปเสนก็ตรัสให้คนทั้งสเ่ ดินตามเสดจ็ กลับพระราชวงั ีอยู่มาไมช่ ้า ทา้ วรูปเสนก็

แบ่งราชสมบตั ิประทานให้วรพลครอบครองตามสมควร เวตาลเล่ามาเพยงน้ก็หยดุ อย่คู รู่หนึ่งีแลว้ ทลู พระวิกรมาทิตยว์ ่าี\" ขา้ ซึง่ ไมเ่ สยดาย ชวิตตนเอง ในการรกั ษาชวิตเจ้านน้ั เปน็ ขา้ ท่มความสุข แลเจ้าซงึ่ อาจตดั รกรากแหง่ ความใคร่ เปน็ ใครอ่ ยู่ แลความจาํ เริญในราชสมบัตไิ ด้นน้ั เปน็ เจา้ ซง่ึ มความสขุ ี๓ีเทา่ ดูกรพระราชาีขา้ พเจ้าขอทลู ถามพระองค์สักขอ้ หน่งึ ว่าีบรรดาคนท้ังหา้ นนั้ คนไหน จะโง่ท่สุด\" พระวิกรมาทติ ย์ได้ทรงฟ๎งกแ็ สดงอาการพโิ รธ เพราะความถกู พระหฤทัยในเรอ่ื ง ความซ่อื ตอ่ หน้าท่ ในเร่ืองความรักกนั ในเหลา่ บตุ รแลสามภรรยาีในเรือ่ งผ้นู อ้ ยฟง๎ คําผใู้ หญ่ ใน เร่อื งคนมใจใหญแ่ ลใจมนั่ คงเหลา่ น้ันกลับกระจดั กระจายไปหมดเพราะเวตาลกลบั กล่าววา่ เป็น ความโง่เสยแลว้ แลเพราะเหตุท่กรว้ิ ดงั น้นั จึงรบั สงั่ ดว้ ยสําเนยงโกรธวา่ \"อ้ายผ ถ้าคาํ ท่เอง็ กล่าวว่าคนไหนโง่ทส่ ุดนนั้ หมายความว่า คนไหนมนํ้าใจควรเป็น ทน่ ับถอื ท่สดุ กูจะตอบไดท้ นั ทว่าคือท้าวรปู เสนผู้เป็นพระราชา\" เวตาลถามวา่ \"เหตไุ รจึงทรงเห็นอยา่ งนน้ั \" พระวิกรมาทิตยต์ รสั วา่ ี\"เอง็ เปน็ ผปญ๎ ญา ตนั ไม่อาจเข้าใจได้ีวรพลน้นั มหนา้ ท่จะสละชวิตของตนใหแ้ ก่เจ้า ซ่ึงมกรุณาให้ลาภถงึ เพยง นัน้ ีบตุ รชายของวรพลจะขืนคําบดิ าน้ันไม่ไดเ้ ปน็ อันขาด แลส่วนหญงิ เม่ือใครฆ่ากนั ท่ไหนให้ เห็นเป็นตัวอยา่ งกต็ อ้ งฆ่าตวั เองเป็นธรรมดาตามนสิ ัยผหู้ ญงิ แต่ท้าวรปู เสนนัน้ ทรงสละราชัย ของพระองค์เพื่อประโยชนแ์ กว่ รพลผเู้ ป็นขา้ แลไม่ตราคาชวติ ของพระองคี์ แลราชสมบัตซิ ่งึ เป็นของชวนใหอ้ ยากมชวติ ยิ่งกว่าราคาท่อนฟางทอ่ นหนึ่งเลยีเหตุดังน้ันกูจึงเหน็ ว่าการท่ พระราชาทรงกระทาํ นัน้ เปน็ บุญแลควรสรรเสรญิ ย่งิ กวา่ ผูอ้ ื่น\" เวตาลหวั เราะตอบวา่ \"ดกู รพระราชา แม้พระองคม์ แี ขนแลขาอยา่ งหนมุ าน พระองคก์ จ็ ะต้องเบอื่ ปนี ตน้ ไมส้ ูงโนน้ บา้ งดอกกระมงั \" พดู เท่าน้นั แล้ว เวตาลก็ออกจาก ยา่ มลอยหัวเราะกอ้ งฟ้าคนื ไปห้อยอยยู่ งั ต้นอโศกตามเดิม พระวิกรมาทิตย์กับพระราช บตุ ร ก็หันพระพักตรท์ รงด้าเนินกลบั ไปตน้ อโศกอีกครงั้ หน่ึง The Vampire's Third Story นทิ านเวตาลเรื่องท่ี ๔ เร่ืองท่ี๔ พระวกิ รมาทิตยเ์ สด็จไปถงึ ตน้ อโศกีทรงปีนข้ึนไปปลดเวตาลลงมาบรรจุ ย่าม แลว้ ทรงดาํ เนินพาพระราชบตุ รไปได้หน่อยหนง่ึ เวตาลก็เล่านิทานซง่ึ กลา่ ววา่ เปน็ เร่อื งจริงเร่ืองท่ี๔ีดงั น้ มพอ่ คา้ ไมส่ ําคัญคนหน่งึ ชือ่ หิรัณยทตั ต์ีมบุตรงามช่ือ นางมทั นเสนา มหน้า เหมอื นพระจันทร์เพ็ญีผมเหมือนเมฆ ตาเหมือนตาชะมดีคิว้ เหมอื นธนูท่ขนึ้ สายแล้วีจมกู เหมือนปากนกแก้วีคอเหมอื นคอนกเขา ฟน๎ เหมือนเมลด็ แหง่ ผลทับทมิ ีรมิ ฝปี ากสแดงเหมอื น ผลนาํ้ เต้าีเอวออ่ นเหมอื นเอวเสือ มอื แลเท้าเหมอื นดอกไม้อ่อนีผิวเหมือนมะลิ มลักษณะเป็น นางงามตามเคยมิให้ขาดได้โดยประเพณีใชแ่ ต่เพยงนน้ั ียังงามขึน้ ทุกวันๆ จนพระจันทรแ์ ล เมฆีแลตาชะมดีแลธนูทข่ ้นึ สายพานแล้วีฯลฯีจะแพห้ มด ครน้ั นางมอายุสมควรจะมเรือน บดิ ามารดาหารือกนั แลตรกึ ตรองถึงการวิวาห์บตุ ร ชนทัง้ หลายในแว่นแคว้นแห่งพระราชาทรงนาม วรี วรกษตั รยิ ์ ครอง กรุงมทั นบรุ ีตา่ งเลอื่ ง

ลือกนั ไปวา่ ีหิรณั ยทตั ต์มลกู สาวงามจบั ใจเทวดาีบรุ ุษ แลมนุ ทง้ั ปวงีชายทงั้ หลายท่ใคร่ได้ ภรยิ างามีตา่ งกไ็ ปหาช่างเขยนมาวาดรปู ตน แล้วสง่ รปู น้นั ไปยังบ้านหริ ณั ยทตั ต์ีหริ ัณยทตั ต์ก็ ส่งรปู ท้ังหมดใหบ้ ตุ รตรวจ ดูวา่ จะชอบเจ้าของรูปคนไหนีแต่นางมทั นเสนาเป็นคนเลอื กโนน่ เลือกนแ่ ลเปลย่ นใจงา่ ยๆ เหมือนกับนางงามอ่ืนๆีมากดว้ ยกนั ีครั้นบิดาบอกใหเ้ ลือกสามในหมู่ คนทส่ ่งรูปมานั้น นางกต็ อบวา่ ไมช่ อบใจใครเลยีแลขอใหบ้ ิดาเลือกคนอ่นื ทม่ รปู ดมคณุ ด แล้ว มหิ นาํ ซาํ้ ใหม้ ความคดิ ดอกดว้ ย เวตาลกล่าววา่ พระองค์ทรงป๎ญญาสามารถย่อมจะทรงทราบวา่ ชายรูปงามนัน้ ก็หา ยากอยแู่ ตก่ พ็ อหาไดี้ ชายทรงคุณดกห็ าไม่ง่าย แตก่ ็คงจะพอหาไดี้ สว่ นชายรปู งามท่ทรงคุณด นั้น ถา้ จะมในโลกก็คงจะนับใหถ้ ว้ นได้ดว้ ยนว้ิ มอื สบิ นิ้ว แต่ทจ่ ะหาเอาความคดิ ดเขา้ มาประสม อกอยา่ งหนง่ึ น้ันถ้าจะหาเข็มในมหาสมุทรก็เหน็ จะยากง่ายปานกนั วนั หน่งึ เมอ่ื เวลาล่วงไปแล้วชา้ นาน มชายส่คนมาจากสเ่ มืองไปท่เรอื นหริ ัณยทัตต์ี เพ่ือจะขอบตุ รเปน็ ภรยิ า หริ ัณยทัตต์กลา่ ววา่ ีถา้ คนท้งั ส่มคุณดอย่างไรกจ็ งแสดงใหป้ รากฏเถิด ในส่วนรปู นัน้ ก็เห็นได้อยแู่ ล้วว่าไมเ่ ลวทรามีแต่จะตอ้ งการรวู้ ่ามวิชาอะไรบ้าง ชายคนที่ ๑ีตอบว่า \"ขา้ พเจ้ามความรใู้ นพระศาสตร์หาผู้เสมอมไิ ด้ีสว่ นรปู กายของ ข้าพเจ้าน้ัน ท่านเหน็ อยู่แล้ววา่ ยอ่ มเป็นท่พงึ ใจสตร\" ชายคนที่ ๒ีกลา่ วว่า \"ข้าพเจ้ามความรู้ในการยงิ ธนไู ม่มทเ่ ปรยบ ข้าพเจ้าอาจแผลง ศรไปฆา่ สัตว์ท่ขา้ พเจา้ ไมเ่ หน็ แลหมายยิงไดด้ ว้ ยเสยงท่ได้ยินเท่านนั้ ความมรูปงามของ ข้าพเจ้าท่านกเ็ ห็นอยแู่ ลว้ \" ชายคนที่ ๓ีกล่าววา่ \"ข้าพเจา้ ร้ภู าษาสตั วน์ าํ้ แลสตั ว์บกีภาษานกแลภาษามฤค จะ หาคนมกาํ ลังเสมอข้าพเจา้ หามไิ ด้ ความงามของขา้ พเจ้ายอ่ มประจักษ์แก่ตาทา่ นอยแู่ ลว้ \" ชายคนท่ี๔ กล่าวว่าี\"ข้าพเจา้ มวธิ ทอผา้ ชนดิ หนงึ่ ีซงึ่ จะแลกทบั ทิมได้ี๕ีเม็ด แล เมอื่ ไดข้ ายผ้าผนื หนึ่งไดท้ ับทมิ มาแล้ว ขา้ พเจ้าแบง่ ทับทิมเม็ดหนึ่งให้แกพ่ ราหมณ์เปน็ ทานี เม็ดที่ ๒ ถวายเป็นเครื่องบูชาเทวดาีเมด็ ท่ี๓ีข้าพเจ้าเกบ็ ไว้ประดบั ตวั เองีเม็ดที่ ๔ ใหภ้ ริยา ประดบั กายีเมด็ ท่ี๕ีขา้ พเจา้ ขายไดเ้ งินตรามาแลว้ จําหนา่ ยในการเล้ยงแขก ความร้ขู ้าพเจา้ ม เช่นกล่าวน้ีแลไม่มผู้อ่นื มวิชาเช่นขา้ พเจ้าเลย ความมรปู งามของขา้ พเจ้ายอ่ มแจ้งแกต่ าท่าน อย่แู ล้ว\" ฝาุ ยหริ ัณยทัตตี์ เม่ือไดฟ้ ง๎ คาํ ชายท้งั ส่คนีก็น่งิ ตรกึ ตรองว่า \"ปราชญย์ ่อมกล่าวว่าส่ิง ใดๆีก็ดีถา้ มากเกนิ ไปกไ็ ม่ดเลย นางสดามความงามมากจนราวณั ลักพาหน ทา้ วมหาพลให้ ทานมากเกนิ ไปจนกลับเปน็ ท้าวแทตยท์ จ่ นีปราศจากความมง่ั คั่ง ลูกสาวของเรางามเกินไปีจะ ปล่อยใหไ้ มม่ สามอยนู่ ั้นไม่ได้ คนสค่ นนจ้ ะยกนางใหแ้ กค่ นไหนด\" หิรัณยทัตตค์ ดิ ยงั ไม่ตกลงในใจีจงึ ไปหาลูกสาวเลา่ ความใหฟ้ ๎งแล้วถามวา่ นางจะ เหน็ ควรใหบ้ ดิ ายกนางใหแ้ ก่ชายคนไหนีนางมริ ้วู ่าจะกล่าวประการใด ก็ก้มหนา้ น่ิงอยู่ หิรัณยทัตตจ์ ึงตรึกตรองต่อไปว่า \"ชายท่รูศ้ าสตรน์ ้นั เปน็ พราหมณ์ ชายทแ่ ผลงศรไป ถูกสตั วท์ ไ่ ด้ยินแตเ่ สยงน้ันเปน็ กษตั รยิ ์ แลชายท่ร้วู ชิ าทอผ้าน้นั เปน็ ศูทร แตช่ ายทเ่ ข้าใจภาษา สตั ว์นนั้ เป็นคนวรรณะเดยวกับเราีผู้น้ันเราจะยกลูกสาวให้\" หริ ัณยทตั ต์ตริตรองในใจดงั นแ้ ลว้ ีก็จัดการเตรยมวิวาหบ์ ุตร ระหว่างนั้นเป็นฤดูวสันต์ นางมัทนเสนาออกไปเดินชมดอกไมอ้ ยูใ่ นสวน เผอิญเม่อื นางออกไปน้ันมชายคนหนง่ึ ชือ่ โสมทตั ต์ีเปน็ บุตรของธรรมทตั ต์ไปเท่ยวเดนิ เล่นในปุาจะกลับ บา้ น ก็ผา่ นสวนทน่ างมทั นเสนาเดนิ ลงไปเดนิ เท่ยวอยู่ โสมทตั ตเ์ หน็ นางกง็ วยงงหลงใหลในรปู นางีจงึ กล่าวแกเ่ พอ่ื นวา่ ี\"เพื่อนเอ๋ย ถา้ ข้า

ได้นางคนนี้ ขา้ จะมความจําเริญในชวติ น้ีถ้าไม่ได้ ความเกิดมาแลอยู่ในโลกก็จะเปลืองเวลา เปล่า\" เม่อื พดู ดังน้แลว้ โสมทัตต์เกรงนางจะพน้ ไปเสยีจงึ เดนิ เขา้ ไปใกลน้ างโดยมิไดต้ ั้งใจจะ ละลาบละลว้ ง แตเ่ มื่อเขา้ ไปใกลต้ ัวนางแลว้ ไซร้ โสมทตั ตก์ มุ สติไวไ้ ม่มั่นเหลอื ทจ่ ะอดกลน้ั ไดี้ ก็ ตรงเขา้ ไปจบั มือนางแลว้ กล่าววา่ \"ข้ามความรักนางเหลือท่จะทรงสติไวไ้ ด้ีถา้ นางไมร่ ักขา้ ขา้ จะตอ้ งทอดท้งิ ชวิตเสยในบดั น้\" นางมัทนเสนาตอบว่า \"ขอทา่ นอย่าสละชวิตเสยเลยีเพราะการฆา่ ตวั ตายเปน็ อกุศล ขา้ พเจ้าจะพลอยได้บาปถกู ลงโทษเพราะช่วยทาํ ใหเ้ ลือดตก จะไดค้ วามเดือดรอ้ นท้ังโลกนแ้ ล โลกหน้า\" โสมทัตตต์ อบวา่ \"คํากล่าวออ่ นหวานของนางแทงหัวใจข้าทะลเุ สยแล้ว แล ความร้สู ึกว่าจะตอ้ งพน้ ไปจากนางเผากายข้าให้ไหม้เป็นจุณไป ความทรงจาํ แลป๎ญญาเครื่องรู้ก็ สลายไปด้วยทกุ ขอ์ ันน้ แลความรักเกินประมาณทาํ ใหข้ า้ ไม่รสู้ ึกผดิ แลชอบ แต่ถ้านางจะให้ สัญญาแกข่ ้าสกั ขอ้ หนึ่งีขา้ คงจะมชวิตตอ่ ไปได้\" นางตอบว่าี\"กลยุคมาถึงเปน็ แนเ่ สยแลว้ ีแลต้ังแตข่ ึ้นต้นกลยคุ มา ความเท็จเกิดใน โลกมากข้นึ ีแลความจรงิ ลดน้อยลงไป คนใชล้ น้ิ กล่าววาจาท่เกลย้ งเกลาแต่ใช้ใจเป็นทเ่ ลย้ ง มายาีศาสนาสลายไป ความช่ัวช้าทารณุ เกิดมากข้ึนีแลแผ่นดินก็ใหพ้ ืชผลนอ้ ย พระราชาทรง เรยกคา่ ปรบั จากราษฎรีพราหมณป์ ระพฤตไิ ปในทางละโมบีบุตรไมฟ่ ๎งคาํ แหง่ บิดา พน่ ้องไม่ ไวใ้ จกันเองีไมตรส้นิ ไปในหม่มู ิตรีความจริงไม่มในใจผเู้ ป็นนาย บ่าวเลกิ การรบั ใช้ีชายทง้ิ เสย ซ่ึงคณุ แหง่ ชายีแลหญิงก็สนิ้ ความอายีอกี๕ วันตง้ั แต่นไ้ ปจะถึงวนั วิวาหข์ องขา้ พเจา้ ีถา้ ท่าน ไมฆ่ า่ ตวั ตายีขา้ พเจ้าสัญญาวา่ ในวนั นั้นขา้ พเจ้าจะไปหาท่านก่อนแลว้ จึงจะกลบั ไปอยู่กับ สาม\" เราทา่ นในสมยั น้ เมือ่ ได้ยนิ คาํ นางมัทนเสนากลา่ วยดื ยาวถงึ เหตกุ ารณท์ ่เป็นไปใน กลยคุ กน็ า่ จะพศิ วงว่าเหตใุ ดจงึ ตอ้ งจาระไนมากมายถึงเพยงน้ัน อันทจ่ ริงนางตอ้ งการจะกลา่ ว นิดเดยวว่า นางต้องสละความอายดว้ ยกลัวจะพลอยไดบ้ าปเพราะเป็นเหตุให้โสมทตั ต์ฆา่ ตวั ตาย สว่ นนางมัทนเสนาเม่อื ไดก้ ลา่ วคาํ ม่ันดังนน้ั แลไดส้ บถเชญิ พระคงคาเป็นพยานแล้ว ก็กลับบ้านีโสมทัตต์ก็แยกทางไป ครน้ั ถงึ กาํ หนดการววิ าห์ หิรณั ยทตั ต์พ่อคา้ ก็จา่ ยเงนิ ตราเปน็ อนั มากในการเล้ยงแล หาของให้เจ้าบ่าว หนุ่มสาวท้ังคถู่ ูกทาขม้ินทว่ั ตัวีแลในคืนกอ่ นวิวาห์นน้ั ถูกฟ๎งดนตรทใ่ ชเ้ สยง มาก ทง้ั ถูกชโลมดว้ ยนํา้ มนั ทั้งตัวียังเจ้าบา่ วจะถกู โกนผมอกเล่า แห่ซึง่ พาเจ้าบ่าวไปส่งบา้ น เจา้ สาวนัน้ ครกึ คร้นื มากมาย ถนนสว่างไปด้วยคบเพลงิ ซ่งึ คนถอื ชูไปีแลดอกไม้เพลงิ ก็จุด ตลอดทางีช้างีอูฐ แลมา้ ซงึ่ แต่งเครื่องอย่างงามกเ็ ดนิ ไปตามระยะีแลกว่าจะแห่ไปถงึ บ้าน เจ้าสาว ก็มเด็กซนและชายหนุ่มช่วั ตายีเพราะถกู ดอกไมเ้ พลงิ หรือถูกช้างเหยยบ หรือเพราะ เหตอุ นื่ ๆีตัง้ ี๕ีคนี๖ีคนีเพราะแห่กลางคนื เชน่ นั้นย่อมจะมเหตุเสมอ ครนั้ เจ้าบ่าวไปถงึ บา้ นเจ้าสาว ก็กระทําการววิ าหต์ ามทบ่ ญั ญัติไวใ้ นคมั ภร์แล้วกม็ การเล้ยงอยา่ งฟมุ เฟอื ย จนแขกทน่ ั่งลงกินเลย้ งนนั้ ไมม่ ใครบน่ ว่ากระไรสกั คนเดยว ครัน้ เสรจ็ พธววิ าหแ์ ลว้ ีสามกพ็ านางมัทนเสนาผู้ภริยาไปสู่เรอื นแหง่ ตน เมอื่ วันล่วง ไปหลายวนั แลว้ ภริยาแหง่ นอ้ งสดุ ท้อง แลภรยิ าแห่งพห่ ัวปขี องเจา้ บ่าวกช็ ว่ ยกนั ฉุดคร่าพา เจ้าสาวไปส่งตัว แลใหน้ งั่ อยบู่ นท่นอนของเจ้าบา่ วซ่งึ แตง่ ดว้ ยดอกไมส้ ด ครั้นผสู้ ่งตัวออกจากหอ้ งไปแล้วีสามก็เขา้ เล้าโลมภรยิ า นางใชม้ ือท้งั สองผลักตัว สามไวใ้ หห้ า่ ง แล้วเลา่ เรอื่ งท่ไดส้ ัญญาแกโ่ สมทตั ตไ์ ว้ตามจริงทกุ ประการ เจ้าบ่าวได้ฟ๎งดงั นัน้ ก็ตอบว่าี\"ส่งิ ท้ังหลายคนอาจรไู้ ดด้ ว้ ยคาํ พูด คาํ พูดนัน้ เปน็ ฐาน

ท่ตง้ั แหง่ สิง่ ทั้งหลายีแลสิ่งทั้งหลายย่อมออกจากคําพูด เหตุดังน้ันผทู้ ําคําพูดให้เปน็ เทจ็ ีก็ทาํ ใหส้ ง่ิ ทง้ั หลายเป็นเทจ็ ไปหมด ถา้ เจา้ อยากจะไปหาเขากอ่ นีก็จงไปเถดิ \" เราท่านอา่ นคาํ พูดของเจา้ บา่ วนี้ ก็น่าจะเห็นแปลก แต่ไม่จาํ เป็นจะต้องเพยรเข้าใจ คาํ ของเขาเลย ฝุายนางมัทนเสนา เม่อื ไดร้ บั อนุญาตจากสามแลว้ กล็ ุกขึ้นรบเดินไปสู่เรอื นโสมทตั ต์ ทงั้ ท่ยังแต่งกายเตม็ ยศอยู่ีครัน้ เดนิ ไปตามถนนีกลางทางพบโจรคนหน่งึ โจรเหน็ นางแตง่ กาย ดว้ ยเครือ่ งประดับอันมคา่ เดนิ มาคนเดยวดงั น้ันก็ยนิ ด จึงตรงเข้าไปถามว่าี\"นางเดนิ ถนนมดื เช่นนใ้ นเวลาเท่ยงคนื แลแตง่ กายดว้ ยผา้ งดงามแลเคร่ืองเพชรพลอยมค่าเชน่ น้เพอ่ื จะไปไหน\" นางตอบว่าี\"ขา้ จะไปเรือนแหง่ ชายท่รัก\" โจรถามวา่ \"ตามทางท่เดนิ มานใ้ ครเป็นผู้ คุมครองรกั ษานาง\" นางตอบว่า \"ผ้ปู กครองของข้าคือกามเทพีคอื เดก็ หน่มุ งามซง่ึ แผลงศร เพลิง ทําใหเ้ กิดแผลคอื ความรักขน้ึ ในใจแห่งชนทงั้ หลายในสามโลกีคอื รตบิ ด ผมู้ นกกาเหวา่ แลแมลงภูแ่ ลลมโชยไปเปน็ เพือ่ น\" นางกล่าวเชน่ นั้นแล้วก็เลา่ เร่ืองตามจรงิ ตลอดีแล้วกลา่ วสญั ญาแกโ่ จรว่า \"ทา่ นอยา่ ทําลายเพชรพลอยเครอื่ งประดับของขา้ เลยีขา้ ใหส้ ญั ญาแกท่ า่ นวา่ เม่ือขา้ กลับมาีขา้ จะให้ สง่ิ ของเหล่านแ้ กท่ า่ นหมด\" โจรได้ฟ๎งดังนั้นก็นกึ ในใจว่า การท่จะทําลายเคร่ืองประดับของนางเสยในทนั ทหา ประโยชนม์ ไิ ด้ เพราะนางได้สัญญาแลว้ ว่าจะใหด้ ว้ ยความเตม็ ใจ เหตุดงั น้ันโจรจึงยอมให้นาง ไปตามอัชฌาสยั แลว้ นั่งลงคอยแลคํานึงในใจตามความคดิ ซงึ่ ดรู าวกับฉลาด แตเ่ ขา้ ใจยากวา่ เกย่ วข้องกบั เรื่องอยา่ งไร แต่คนผนู้ ัน้ เปน็ โจร เราเทา่ ท่เป็นสาธชุ นจะเห็นแนวความคดิ ของเขาอยา่ งไรได้ โจรน่ังคาํ นึงวา่ \"กเู ห็นประหลาดนกั ท่ทา่ นผูเ้ ล้ยงกูมาแตเ่ ม่อื กูยงั อยใู่ นครรภ์มารดา นั้น เม่อื กูมกําเนิดแล้วแลไดร้ บั ความสําราญเพราะของดท้ังปวงอันมอยู่ในโลกบัดน้ ท่านผู้นนั้ ก็ หาตามมาดแู ลรักษากไู ม่ีกไู มร่ วู้ า่ ผนู้ ั้นยังจะหลบั หรอื ตายเสยแล้ว แลกูจะยอมกลืนยาพษิ ยงิ่ กวา่ ทจ่ ะยอมขอเงินีหรอื ขอความกรณุ าอยา่ งอื่นจากชายผ้ใู ด เพราะ ของี๖ีอยา่ งน้เปน็ เคร่ือง ชกั จงู ใหช้ ายเปน็ คนต่ําชา้ คอื ไมตรกับคนไม่มสตั ยี์ ๑ีหัวเราะไมม่ เหตุี๑ีทะเลาะกับผ้หู ญิงี๑ รับใช้นายท่ไม่มคณุ ดพอควรเป็นนายี๑ีขล่ าี๑ีพูดภาษาซ่ึงไม่ใช่สันสกฤตี๑ อนง่ึ สิง่ ทง้ั ี๕ีน้ี เทวดาจารกึ ลงไว้ในโฉลกของเราในเวลาท่เราเกดิ ีคือีอายีุ ๑ีกรรม ๑ีทรพั ย์ี๑ีวชิ าศาสตร์ี๑ี เกยรติี๑ กูในเวลาน้กป็ ระกอบการดแล้ว แลธรรมดาคน ตราบใดมธี รรมอันดอี ยเู่ บอ้ื งบน ตราบน้นั คนทง้ั หลายยอมเปน็ ขา้ ปฏบิ ตั ติ ามใจทุกประการ ตอ่ เม่อื ความประพฤติธรรม หยอ่ นลงไป ชนทง้ั ปวงแม้แต่มติ รกย็ อ่ มจะคิดประทุษรา้ ย\" ในขณะทโ่ จรนง่ั ตรกึ ตรองเชน่ น้อยู่รมิ ทางเดิน นางมัทนเสนารบไปถงึ เรือนโสมทัตต์ พ่อค้าหนมุ่ ีโสมทตั ตห์ ลับอยู่ นางก็ปลกุ ให้ตน่ื ขนึ้ โสมทัตต์ร้สู ึกตวั เหน็ นางก็ตกใจโจนจากท่ นอนมอาการส่ันกลัวแลถามว่า \"นางเปน็ เทพธิดาีเปน็ นางสทิ ธาีหรือเปน็ นางนาค ขอนางจง แจ้งแกข่ ้าโดยตรงว่านางเปน็ อะไรีแลมาโดยประสงคอ์ นั ใด ขา้ จะปฏิบัติตามใจนางทุกประการ\" นางมัทนเสนาตอบวา่ \"ขา้ พเจ้าเป็นมนุษย์ีช่อื มัทนเสนาีธดิ าหริ ัณยทัตตผ์ ูเ้ ป็น พ่อคา้ ทา่ นจาํ ไม่ไดห้ รือวา่ เมอ่ื วานซนื เม่อื พบกันในสวน ท่านไดถ้ ือมือขา้ พเจ้าไว้แล้วกล่าววา่ ี ถ้าข้าพเจ้าไม่ใหค้ าํ ม่ันแก่ทา่ นว่า จะมาหาทา่ นกอ่ นจึงกลบั ไปอยูก่ บั สามชองขา้ พเจา้ ีท่านกจ็ ะ ทาํ ตัวทา่ นเองใหต้ ายไป\" โสมทตั ต์ถามว่าี\"นางไดบ้ อกใหส้ ามทราบเรื่องน้หรือเปล่า\" นางตอบว่าี\"ขา้ พเจา้ ได้เลา่ ใหฟ้ ๎งจนตลอดีสามของขา้ พเจา้ รอบรเู้ หตกุ ารณป์ น็ อันด ยอมให้ขา้ พเจ้ามา\" โสมทตั ตไ์ ด้ยนิ ดังน้นั กก็ ล่าวดว้ ยเสยงซงึ่ ส่อนํา้ ใจอันเห่ยวแหง้ วา่ ี\"การเรอ่ื งน้จะ

เปรยบก็ เหมือนมุกดาีซึ่งไมม่ เรือนอันงามีเหมอื นอาหารขาดฆี(ฆตํีฆฤตีเปรยง คอื เนยท่ได้ ละลายไฟแล้ว) เหมอื นขบั กลอนไมม่ เพลงีลว้ นแต่แปลกธรรมดาทั้งน้นั อนงึ่ เส้ือผา้ ทไ่ มส่ ะอาดี ยอ่ มทําใหค้ วามงามของผแู้ ตง่ เสื่อมไป อาหารชว่ั ทําใหห้ ยอ่ นกําลังีเมยทศุ ลเป็นเครอ่ื งกวนผัว ใหต้ ายจาก ลกู ชายท่มนสิ ัยตาํ่ ชา้ เป็นเครอ่ื งทําความฉบิ หายใหเ้ กดิ แกส่ กลุ อสรู ทโ่ กรธย่อมจะ ฆ่าชวิตผู้อนื่ ีแลหญงิ ไม่ว่าเพราะรกั หรอื เกลยด ย่อมจะเปน็ เหตแุ ห่งความทุกข์เสมอีเพราะ หญิงไม่พาความคดิ ทอ่ ยใู่ นใจมาสู่ลิ้น แม้สิ่งท่อย่ทู ่ล้ินแลว้ กไ็ มพ่ ดู ออกมาีแลเมอ่ื ทําอะไรคงจะ ไม่บอกใครเปน็ อนั ขาด พระผูเ้ ปน็ เจ้าทรงสรา้ งหญิงมาเปน็ สัตวป์ ระหลาดในโลก \" โสมทัตต์กล่าวดงั น้ันแลว้ ีก็กลา่ วแกน่ างตอ่ ไปว่าี\"นางจงกลบั ไปบ้านเสยเถดิ นาง เป็นภรยิ าชายอนื่ ีขา้ ไม่มจติ ผูกพนั กบั นาง\" ฝาุ ยนางมัทนเสนาเม่ือโสมทตั ตก์ ลา่ วดงั น้ัน ก็รบ ออกจากเรือนโสมทัตตเ์ ดินทางคืนไปสูเ่ รือนสาม เมอื่ พบโจรตามทางนางกเ็ ลา่ เรอ่ื งใหฟ้ ๎ง แล ยอมจะให้เครือ่ งแต่งกายแกโ่ จรตามสญั ญาแตโ่ จรไมร่ บั ีกลบั ชมใหญ่ แลว้ เชิญใหน้ างกลบั บ้าน คร้นั ไปถงึ บา้ นนางกเ็ ล่าให้สามฟ๎งทกุ ประการีแตเ่ ขาสิน้ รักนางเสยแลว้ ีแลกลา่ ววา่ ี \" พระราชากด็ ีผเู้ ป็นนายก็ดีผู้เปน็ ภรยิ าก็ดีผมของคนกด็ เลบ็ กด็ ีเมอื่ อยผู่ ิดทไ่ ปแล้วกไ็ ม่นา่ ดู เลยีอน่ึงนกกาเหวา่ งามเพราะเสยง คนข้ร้ิวงามเพราะความรูี้ โยคงามเพราะไมถ่ อื โทษผ้อู ืน่ แล หญิงงามเพราะความบริสุทธิ์ \" เวตาลเล่ามาเพยงน้ กเ็ ปลย่ นเสยงกลบั ทูลถามพระราชาในขณะทท่ รงฟ๎งเพลินอยู่ วา่ ี\"แลชายทง้ั ี๓ีคนน้นั คนไหนมธรรมดกว่าคนอนื่ \" พระราชาไมท่ ันยัง้ พระโอษฐ์ ตรัสตอบว่าี\"โจรดกวา่ คนอ่ืน\" เวตาลถามว่าี\"เพราะ เหตุไรจึงทรงเหน็ อย่างน้นั \" พระราชาตรัสว่า \"เพราะเหตุวา่ ชายผเู้ ป็นผัวน้นั เมื่อเห็นเมียรกั คนอน่ื เสยี แลว้ ถงึ แมค้ วามรักนน้ั ไมเ่ ป็นเหตใุ หเ้ สยี ความบริสทุ ธิก์ ย็ ่อมจะสน้ิ เสนห่ าอยู่ เอง โสมทตั ต์นั้นไมก่ ล้าทา้ ร้ายนาง เพราะกลวั พระราชาจะลงโทษภายหลัง หาใชเ่ ปน็ ด้วยเหตอุ นื่ ไม่ ส่วนโจรนนั้ โจรกรรมเปน็ เครือ่ งหากิน เป็นผไู้ ม่กลัวกฎหมายอยูแ่ ลว้ การที่โจรยอมใหน้ างไปโดยดีน้นั หาใช่เปน็ ด้วยกลัวภัยอันใดไม่ เหตดุ งั นน้ั โจรจงึ ดีกว่าคนอื่น \" เวตาลหัวเราะแล้วกล่าววา่ ี\"นิทานจบเพยงน้\" แลว้ กอ็ อกจากยา่ มลอยหวั เราะไปใน ฟาู มืด พระราชาแลพระราชบุตรกย็ นื ตะลงึ จ้องพระเนตรกนั อยู่ีพระราชาตรสั แก่พระราชบตุ รว่า \"คราวหนา้ ถ้าอ้ายตวั นัน่ มันตงั้ ปญ๎ หาถามข้าีขา้ อนุญาตใหเ้ จ้าทําละลาบละลว้ งต่อข้า คือให้จบั แขนขาบบใหร้ ูต้ วั ก่อนท่ขา้ มเวลาตอบมนั ได้ีถ้าไมเ่ ช่นน้นั เราทงั้ ี๒ จะไม่มเวลากระทํากิจอนั น้ ให้สําเร็จได้\" พระราชบุตรรับค้าพระราชบิดา แต่ไม่นกึ ว่าวิธปี ้องกันอยา่ งใหมน่ ัน้ จะไดผ้ ล ดงั หวัง ครั้นสององค์ทรงด้าเนนิ กลบั ไปถงึ ตน้ อโศก ได้ยนิ เสยี งเวตาลหัวเราะก้องอยู่ บนต้นไม้ พระราชบดิ ากท็ รงปีนขน้ึ ไปปลดลงมาตามเคย และมนั ก็เล่านิทานอีกเรื่อง หนง่ึ ซึง่ กล่าววา่ เป็นเร่ืองจริงตามเคยเหมือนกัน The Vampire's Fourth Story นทิ านเวตาลเร่อื งที่ ๕ เรื่องท่ี๕

เวตาลเริม่ ดว้ ยส้าเนียงโอนออ่ นวา่ ขา้ แตพ่ ระราชาผปู้ ระเสริฐ พระองค์ทรง ปญั ญายงิ่ ล้นหาผเู้ สมอมไิ ด้ในสามภพกจ็ รงิ แตห่ มาซงึ่ เปน็ สตั ว์สเ่ี ทา้ ยงั ร้พู ลาดแลลม้ ในเวลาเหยียบทีล่ น่ื ฉนั ใด ผู้เป็นปราชญแ์ ม้ปัญญาจะทึบเพยี งไร.... พระราชาทรงจบั ย่ามกระชาก เวตาลแกลง้ ร้องครวญครางเหมือนหน่ึงได้ความเจ็บปวด ครน้ั หยุดรอ้ งก็ เลา่ ตอ่ ไปดว้ ยสา้ เนยี งแจ่มใสวา่ ในเมืองชอ่ื มาลยะ ต้ังอย่แู ถบฝ๎ง่ เหนอื แห่ง ภารตะวรรษ (คอื อนิ เดย) มกรุงชื่อ จนั ทรอ์ ุทยั พระราชาทรงนาม รันธรี ะ เป็นกษตั ริยค์ ล้ายกับกษตั รยิ อ์ ืน่ อกหลายองคซ์ ่งึ เปน็ คน ครงึ่ เทวดา เมื่อยังหนุ่มีพระองค์เปน็ ชายชนดิ ท่เรยกสรรพรสกิ เปน็ ผูย้ นิ ดในรสทง้ั ปวงีโปรด เสวยของมโอชะแปลกๆ ทั้งชนดิ ท่ต้องเค้ยวแลไม่ต้องเค้ยวีทั้งท่เปน็ อาหารแลไมเ่ ปน็ อาหาร ท้งั ทม่ เยื่อและไม่มเยือ่ ีสว่ นของเสวยท่ไมต่ ้องเค้ยวนั้น โปรดเสวยคราวหนงึ่ มปรมิ าณมากๆีแล ซํ้าถ่ด้วย อนง่ึ เธอโปรดฟง๎ ดนตรแลทอดพระเนตรนางระบาํ ทรงหมกไหมใ้ ฝุฝน๎ ในกามคุณยิง่ กวา่ ทรงแสวงความรู้ หรอื ทาํ บญุ ต่อเทวดาหรือสนทนากับคนฉลาดีครั้นพระชนมายพุ ้นี๓๐ีปี ไปแล้ว กก็ ลับพระองคเ์ ป็นคนละคนีทรงละเว้นการคะนองยนิ ดในรปู รสกลิน่ เสยง ทรงประกอบ ราชกิจเป็นอย่างดีไมช่ า้ นักก็ได้พระนามว่าเปน็ พระราชาผู้เลิศ จะหาพระมหากษตั ริยด์ เสมอน้นั ยาก การทเ่ ปน็ ดังนก้ เ็ ป็นทน่ า่ สรรเสรญิ เพราะพระราชาซง่ึ เปน็ ผู้แทนพระพรหมอยูใ่ น โลกน้ โดยมากมกั จะทรงยินดในการกินแลด่ืมีทง้ั ทรงร่นื เรงิ ในการระบําบาํ เรอ บชู ากามเทพ ตลอดชวิต ในหมขู่ า้ ราชการของพระรนั ธระ มบุรษุ ผูห้ นงึ่ ชอ่ื คุณศังกร รบั ราชการในตาํ แหน่ง ธรรมาธกิ ารของพระนคร คุณศงั กรนเ้ ปน็ คนแปลกเหล่าีเพราะเปน็ คนฉลาดด้วย ซือ่ แลมยตุ ธิ รรมดว้ ยีการ ตดั สนิ คดย่อมทาํ โดยระมดั ระวงั ในเวลาท่กนิ ขา้ วเย็นแลว้ เสมอกับทย่ งั ไมไ่ ดก้ นิ ีถา้ มผู้มาตดิ สินบน แม้สนิ บนนั้นจะทําให้ความเจรญิ เกดิ ในครอบครวั ก็ยงั ไม่รบั ีถ้าคนจนมาต้องคด กม็ ักจะ ไดร้ ับส่ิงซง่ึ คนจนไม่ใครไ่ ดร้ บั ีคอื ความกรุณา ถา้ คนม่ังมมาเป็นความกไ็ ม่จาํ เปน็ จะถูกลงโทษ เพราะมง่ั ม เพอื่ ใหป้ รากฏว่าธรรมมาธกิ ารแลธรรมศาสตร์มิได้นับถือบคุ คลผู้ใดเลย เม่ือนัง่ บน บัลลังกว์ ่าความีก็มิไดใ้ ช้วาจาทารณุ ดดุ า่ ลูกความท่กล่าวตอบไมไ่ ด้ แลไม่ถือว่าผ้ใู ดอกุ อาจ ล่วงเกินในเวลาทห่ าใครทําเชน่ นนั้ ไม่ ชนท้งั หลายในกรุงจนั ทรอ์ ุทัยีพากันรกั แลนบั ถือคุณศังกร แตค่ วามรกั แลความนบั ถอื น้ัน จะได้เปน็ เครอื่ งปอู งกันมใิ ห้โจรกรรมเกิดแทบทกุ วันกห็ ามิได้ จนประชาชนในกรงุ จนั ทร์ อทุ ัยไมร่ ูจ้ ะปูองกนั รกั ษาทรพั ย์ของตนอย่างไร ในท่สดุ พวกพอ่ คา้ ซ่ึงถูกโจรภัยยงิ่ กว่าคนพวก อ่นื ีพากนั ไปร้องทกุ ข์ต่อคณุ ศงั กร กลา่ วว่า \"ขา้ แต่ทา่ นผู้เป็นเสาแห่งกฎหมาย พวกเราถกู พวกโจรกระทาํ การขม่ เหงจนสนิ้ ทรพั ย์ไปเป็นอนั มากีเราจะอย่ใู นกรงุ นต้ ่อไป กไ็ มอ่ าจอยไู่ ด้เสยแลว้ \" คณุ ศังกรตอบว่า \"สิง่ ใดเกดิ แล้ว สิง่ นั้นยอ่ มเกิดแลว้ ีเราจะแก้สิ่งทเ่ กิดแล้วให้กลับไม่เกดิ นน้ั แก้ ไมไ่ ด้ แตใ่ นภายหนา้ เราจะมิให้ทา่ นต้องรบั ความเดอื ดร้อนอันน้จะจดั การแกไ้ ขมใิ ห้พวกโจร เปน็ ภัยแก่ทา่ นอกได้\" เมอ่ื ได้กลา่ วเชน่ น้แล้ว คุณศงั กรกเ็ รยกเจ้าหน้าทผ่ ู้อยูใ่ ต้บงั คับมาสงั่ ใหเ้ พิม่ จํานวน กันขน้ึ แลใหช้ ่วยกนั ระวงั รกั ษาการณ์ีช้แจงวธิ การใหแ้ ยกกันเฝาู รักษายามกลางคืน ใหเ้ ปดิ ทะเบยนจดช่ือแลตาํ แหนง่ ท่พาํ นักของคนเข้าออกในกรงุ นอกกรุง ให้จดั หาผู้ชํานาญการสะกด รอยเท้าีจดั เป็นหมู่เปน็ กองีแม้โจรจะสวมเกอื กโจร (ซง่ึ มักจะทําดว้ ยด้วยท่อนแลเศษหนังีม นิว้ อย่ขู ้างส้นหรือมวธิ ลอ่ ลวงอย่างอ่ืน) กอ็ าจสะกดรอยตามไปจนจบั ตวั ได้

อนึง่ คุณศังกรส่ังอนญุ าตต่อกองตระเวนว่า ถา้ พบขโมยกําลงั กระทาํ โจรกรรมกใ็ ห้ ประหารชวิตไดด้ ้วยีไม่ต้องตง้ั ปญ๎ หาสักคําเดยว ดงั นค้ นเป็นอันมาก กช็ ่วยกันตระเวนรกั ษาถนนในพระนครเพอ่ื ปูองกนั โจรผู้รา้ ยมิ ใหก้ าํ เริบ แต่โจรกรรมกม็ ไิ ด้สงบไปเลยีชาวกรุงจนั ทรอ์ ุทัยยังเสยทรพั ย์เพราะขโมยอยเู่ นืองๆ แทบไม่เว้นคนื ีอยู่มาไม่ช้าพวกพ่อค้าก็นดั กันไปประชุมเฉพาะหนา้ คุณศงั กร แลว้ กล่าวว่า \"ขา้ แตท่ ่านผูเ้ ปน็ อวตารแหง่ ยุติธรรม ทา่ นไดเ้ ปล่ยนเจา้ พนกั งานเป็นอันมากแล้วี ท่านได้จา้ งคนยามเพม่ิ ขนึ้ มากแล้ว แลทา่ นไดจ้ ัดการตระเวนมากขึน้ แลว้ ีแตจ่ ํานวนโจรจะ ลดลงไปก็หามิได้ โจรกรรมยังเกดิ อยูอ่ ย่างเกา่ น้นั เอง\" คุณศงั กรได้ฟ๎งดงั นน้ั กพ็ าพวกพ่อค้าเข้าไปเฝูาพระราชาในพระราชวัง แลบอกให้ ถวายเร่ืองราวบังคมทูลแทบฝาุ พระบาทพระมหากษตั รยิ ์ ฝาุ ยพระราชาเมอื่ ได้ทราบดังนนั้ ีก็ ตรัสปลอบโยนพวกพ่อคา้ เป็นอันดีแล้วรับสั่งวา่ \"พวกเจา้ จงวางใจเถดิ ีคนื วันน้เราจะจัดการอยา่ งใหม่ แลถา้ เทพเจา้ ทรงกรุณาให้ การเปน็ ไปดังหมายีพวกเจ้ากค็ งจะสนิ้ เดือดรอ้ นในคร้ังน้\" ตรสั ดงั น้ันแลว้ กร็ บั สั่งให้พ่อค้า ทัง้ หลายทลู ลาจากทเ่ ฝาู ไวว้ า่ เวตาลกล่าวตอ่ ไปแก่พระกรมาทติ ยว์ ่าีพระองค์คงจะได้เคยฟง๎ คํากวโบราณกล่าว ธรรมดาคนเขลาเบาจติ คิดมชิ อบ ย่อมเกดิ กอปรด้วยความมิรู้บังคบั ยบั ย้งั ใจ ออกแล่นไปต้งั แตส่ ดุ ทางขา้ งทเ่ ป็นต้น วง่ิ ตะบันไปจนสุดหนปลายข้างโนน้ ครนั้ ถงึ ทส่ ดุ แหง่ ปลายโพ้นแล้วไซร้ จะแล่นต่อไปกม็ ิรอด เพราะเป็นทางบอดอยู่เพยงน้นั ท้ังใจกเ็ ตน้ แลเส้นก็สน่ั เพราะเหนด็ เหนอื่ ย ปญ๎ ญาก็เฉือ่ ยเพราะลา้ แลชา้ ีเพราะแล่นนัน้ เอง ปราชญใ์ นเพรงทา่ นจึงไมส่ รรเสริญ ผทู้ ่ีแล่นเรว็ เพลินต้ังแต่ตน้ จนปลาย ปราศความหมายวา่ จะทา้ ฉันใดในเมอื่ สุดทางแลว้ ผยิ งั คลาดแคล้วความประสงคม์ ุ่งมาด จะเหาะเหินเดนิ อากาศก็เหาะไมเ่ ปน็ ดังฤาจะมยิ ากลํา้ ลาํ เคญ็ เข็ญขร ประหนงึ่ ว่าต้องพิษศรแหลมเสย้ ม เหย้ มทกุ ข์ทอ่ ดั อ้ันต้นหฤทยั เยยใดจะเสรจ็ หวงั ดังปรารถนาพ่อเอยฯ พระรนั ธระเปน็ พระราชาซึ่งประชาชนนับถือวา่ เปน็ พระมหากษตั ริย์ผธู้ าํ รงธรรมทกุ ประการแลว้ ยงั ไม่พอพระหฤทยั ียังอยากจะกระทาํ ใหเ้ ลศิ กว่านั้นไปอก ถงึ ทอดพระองค์ลง ประกอบกจิ ซ่ึงไมพ่ ึงทรงกระทาํ เองเลย ในคนื นน้ั พระราชาทรงปลอมพระองคโ์ ดยวิธผดั พระพกั ตร์ดว้ ยผงสท่ทาํ ให้พระฉว ผดิ ไป ป๎น้ หนวดเหนอื พระโอษฐ์ต้งั ขน้ึ ไปเกือบถึงพระเนตร แลแสกหนวดท่คางเอาปลายป๎ดไป ทางพระกรรณทง้ั สองขา้ ง ท้ังเอาขนหางม้าผูกพระนาสิกร้ังไปขา้ งหลงั ให้แน่นจนเปล่ยนรูปไป เหมอื นจมกู คนอื่น เมื่อแตง่ พระพกั ตร์ดังน้แล้วกค็ ลมุ พระองค์ดว้ ยเสอื้ ผ้าเนอ้ื หยาบ รัดสะเอวแล ขัดกระบี่ พระกรสอดโล่พร้อมแล้วีกเ็ สด็จออกจากพระราชวงั พระองคเ์ ดยว มไิ ด้ตรสั ให้ใคร ทราบ

ทรงดําเนนิ ไปตามถนนในพระนคร คนื วนั น้ันมดื นัก พระรันธระทรงเดินไปในพระ นครอนั เงยบจนเกือบช่ัวโมงหนง่ึ กม็ ไิ ด้พบปะใคร ครน้ั ทรงเดินเขา้ ไปในตรอกแหง่ หน่งึ ีหลงั หมบู่ า้ นซึ่งเปน็ ท่อย่แู ห่งพอ่ ค้า ได้ทอดพระเนตรเห็นหมาตวั หนงึ่ ซึง่ ปรากฏเหมือนหมาไมม่ ท่ อาศยั หมาน้ันนอนอยขู่ า้ งฝาเรอื นแห่งหนง่ึ ีพระราชาทรงเดนิ เขา้ ไป พอใกลเ้ ข้าไปก็มชายคน หนึ่งลกุ ทะลึ่งขน้ึ จากท่มืดีซึ่งได้นัง่ เป็นทก่ าํ บงั อยู่ แล้วถามว่า \"น่นั ใคร\" พระรนั ธระตอบตรัสตอบวา่ \"ขา้ เป็นขโมยีเจ้าเปน็ อะไร\" ชายผู้น้นั ตอบวา่ \"ขา้ ก็เป็นขโมยเหมอื นกนั ีมาเราจงไปด้วยกนั เถดิ ีแต่เจา้ เป็นอะไร เป็นขโมยผู้ด หรือขโมยไพร่\" พระราชาตรัสตอบวา่ \"คนหากินอย่างเดยวกนั ต้องต้ังพิธเอาใจกนั สกั หน่อยจงึ จะตอ้ งตําราโจร เวลาน้พระจันทรก์ จ็ ะขึ้นอยูแ่ ลว้ ีถ้าระวังไม่ดตุลาการไดต้ วั เราไป ชําระ เวลาถูกจับกับเวลาแขวนคอของเราจะไมห่ า่ งกันก่มากน้อย\" โจรกล่าวว่า \"เจา้ จงสงบลิ้นของเจ้าเสยบา้ งเถิดีเราจะได้ลงมอื ทําการดว้ ยกนั \" ดงั นัน้ พระราชาแลโจรกพ็ ากนั ไปตามทาง พบพวกโจรแอบซมุ่ ด้อมมองอยตู่ าม ถนนเป็นอนั มากีแตด่ ้วยเหตุทก่ าํ บงั ด ผูท้ ่ไม่รู้ร่องรอยก็หาพบปะพวกเหล่าน้ันไมี่ โจรบางคนก็ ซุ่มเลย้ งสรุ ากนั บางพวกก็ทํารา้ ยชวติ เจา้ ของทรพั ย์ีบางพวกกท็ าตัวด้วยนํ้ามนั แลทาขอบตา ดว้ ยเขม่า แลว้ ทอ่ งมนตรท์ ่จะทําให้ตาสวา่ งเห็นไดไ้ กลในเวลามืด บางพวกกฝ็ ึกซ้อมวิชาซ่งึ ได้ เรยนร้เู นื่องมาจากเทวดาผู้ถือหอกทองคอื พระกรรตเิ กยะ (สกนั ทะ) ผ้เู ป็นเจา้ แห่งโจรกรรม แลเปน็ ผทู้ ่ไดแ้ สดงตาํ ราชื่อเจาริยวทิ ยาแก่ชายผหู้ น่ึงชือ่ ยุคาจารย์ีเป็นแบบฉบบั สําหรบั สง่ั สอนศษิ ยส์ ืบมา โจรบางพวกฝึกฝนวิชาซึ่งกลา่ วในตาํ ราทงั้ ี๔ีอยา่ งีสําหรบั การทาํ ทางเข้าไปใน เรอื นคอื ี(๑) เจาะผนงั เอาอิฐดินสกุ ออกทละแผน่ ๆี(๒) เจาะผนงั ตึกซ่งึ ก่อดว้ ยอิฐดนิ ดิบ เมื่อ กาํ แพงนน้ั ออ่ นดว้ ยความชน้ื ีหรือแหง้ เกราะดว้ ยแสงแดดีหรอื ดว้ ยใช้นาํ้ เกลือี(๓) เทแลสาด นํ้าราดผนังดนิ ี(๔) เจาะฝาไม้ อนงึ่ ลกู แห่งพระสกนั ทะเหลา่ นั้นเจาะฝาเป็นรูปดอกบัวีรปู พระอาทติ ย์ รปู พระจันทร์ข้างขึน้ ีรูปทะเลสาบีแลรปู หม้อนํ้าีตามวิธทบ่ ญั ญตั ิไวใ้ นคมั ภร์ แลทานํา้ มันว่านยา เป็นเคร่อื งกําบังตัวมิให้ใครเหน็ ีแลปูองกนั อาวธุ มิให้ถกู กาย คร้นั พระราชาแลโจรผู้เปน็ สหาย กระทําโจรกรรมได้ทรัพยม์ ราคาจนเต็มย่ามแล้วี โจรจงึ กลา่ วแก่พระราชาวา่ ี\"นแ่ นะ่ สหาย เราไดท้ รพั ยม์ ากแลว้ ีบดั น้เราจะกลบั ไปท่ซอ่ นของ เรา อันเป็นทซ่ ่งึ พวกเราคอยการเล้ยงเหลา้ อยแู่ ลว้ \" พระราชาทรงไดย้ นิ ก็ยนิ ดในพระหฤทัยีทรงตง้ั จํานงจะตามไปดูความลบั ของซ่อง โจรให้ได้ พระราชาแลโจรก็พากนั ไปตามทางทจ่ ะกลับไปซ่องีได้พบรหู นรู หู น่งึ ตามทาง พระราชาทรงแสดงความยนิ ดท้งั ในวาจาอาการ (เพราะการพบรหู นูถอื กันว่าเป็นเครือ่ งสง่ โชค ด) โจรเหน็ ดงั นน้ั ก็เป็นทพ่ อใจ และเช่ือวา่ พระราชาเป็นโจรอกคนหนึ่งจรงิ จงึ สอนให้ผวิ พระ โอษฐแ์ ลกล่าวคาํ อาณตั ิสญั ญาณตามวิธโจรในซ่องของตน แลทั้งสญั ญาว่าจะยอมให้รบั สว่ น แบ่งแหง่ ทรัพย์ทห่ าได้ในคืนนน้ั ด้วย คร้นั ไปถึงประตูกรุงีโจรก็เคาะตดิ ๆีกนั สองหน มผเู้ ปดิ ประตูใหท้ นั ท โจรกพ็ า สหายใหมเ่ ดนิ ไปจนใกลจ้ ะถึงเขาเต้ยแหง่ หน่ึงหา่ งกาํ แพงเมืองประมาณี๒ีโกรศ คร้นั ไปถงึ ปาุ มดื กอ่ นถึงเขาีโจรก็ยนื นิง่ อย่คู รหู่ น่ึงีแลว้ เอาน้วิ ใสป่ ากผิวติดๆ กันสองคร้ังีดังก้องไปในปาุ เงยบ คอยอยู่คร่หู นงึ่ ได้ยินเสยงตอบสัญญาณเหมือนนกเค้าแมวรอ้ ง โจรกต็ อบสญั ญาณอกครง้ั หน่ึงด้วยเสยงรอ้ งเหมอื นหมาใน ในทันใดนั้นีคนถืออาวุธประมาณี๖ คนกท็ ะลึ่งข้นึ จากท่กาํ บังแลหญ้ารกเพอ่ื จะรบั สญั ญาณอกครั้งหนงึ่ ีโจรกใ็ หส้ ญั ญาณ แลพระราชากท็ ําตามท่โจรสอนไวแ้ ล้วพากันผา่ นเลย ไป คนถอื อาวุธซ่งึ เป็นกองรกั ษาของโจรกก็ ลับหายไปในท่รกนน้ั เอง

ฝุายพระราชานนั้ ทรงสงั เกตจาํ สัญญาณเหล่าน้ไวห้ มด ทง้ั ทรงสังเกตทางเดินแล จาํ ท่หมายไว้ทุกประการ แลเม่ือเข้าปุาแลว้ ยังได้ทรงถากตน้ ไมใ้ ห้ร้ทู างไวอ้ กชั้นหน่งึ ครัน้ เดิน ไปได้ครู่ใหญๆ่ ีถึงเชิงหน้าผาีโจรกเ็ ดนิ เข้าไปทํากริ ิยาเคารพต่อหน้าผานนั้ แลว้ เดนิ ไปถึงท่ ว่างแหง่ หนง่ึ ในทใ่ กล้ีเลิกหญ้าขน้ึ แห่งหนง่ึ ก็เห็นฝาปิดปากหลุม โจรแลพระราชาก็ช่วยกันเปดิ ฝานัน้ ข้ึนีเห็นแสงสว่างขา้ งใน แลได้ยนิ เสยงคนเปน็ อันมากพูดกันอยขู่ า้ งลา่ งีโจรกลา่ วแก่ พระราชาใหต้ ามลงไปในหลุม แล้วก็ถือยา่ มลงไปกอ่ นตามบนั ไดไม้ไผ่ีพระราชากเ็ สด็จตามลง ไป ครนั้ ถงึ พนื้ ลา่ งเห็นเปน็ ห้องใหญ่มคบไฟจดุ ป๎กอยเู่ ปน็ ควันตลบไปทง้ั นน้ั เม่ือลงไปในทส่ ว่างใตด้ นิ เช่นน้ ภายหลงั ทเ่ ดนิ ไปในปุามดื ก็ทาํ ใหพ้ ระราชาทรงนกึ ถึงกรุงบาดาล ซง่ึ ทรงไดย้ นิ พระราชมารดากล่าวถงึ แตพ่ ระองคย์ งั เยาวพ์ ระชนม์ สว่ นบนพื้นถํ้า นัน้ ปดู ว้ ยพรมตัง้ แต่อยา่ งดท่สุดจนอยา่ งเลวท่สุดปะปนกัน มถุงยา่ มอาวธุ แลทรัพยท์ ก่ ระทาํ โจรกรรมมาไดแ้ ลเครื่องดื่มเครอื่ งกนิ ต่างๆ วางเรยงรายไป โจรพาพระราชาเดินผ่านห้องน้ไปเข้าอกหอ้ งหนึ่ง พบโจรเป็นอันมากเตรยมตัว สาํ หรบั ความสาํ ราญีแลการเล้ยงในเวลากลางคนื บางคนก็เปล่ยนเสือ้ ซงึ่ เปื้อนเปรอะเพราะ เท่ยวซอกซอน บางคนกล็ า้ งเลือดจากมอื แลเท้าของตนีบางคนกห็ วผมซึง่ มากไปดว้ ยฝุน บาง คนก็ทาตัวด้วยนํ้ามนั มะพรา้ วอันอบแลว้ ใหห้ อม ลว้ นเปน็ คนจําพวกหยาบชา้ ทารุณแสนสาหัส ทง้ั น้ัน บางคนชํานาญการแทงคนดว้ ยอาวุธแหลมซง่ึ ห้อยอยูก่ บั เอว บางคนเปน็ ผวู้ างยาพษิ ฆ่า คนด้วยยาซ่ึงใสถ่ งุ เลก็ แขวนอยทู่ ่แขนซา้ ย บางคนกช็ าํ นาญการอย่างอื่นซึ่งมทห่ มายใหเ้ ห็นได้ บ้างีไม่มบ้าง พระราชาเสด็จไปในท่ประชมุ คนเหลา่ น้ ใหค้ ิดยนิ ดทไ่ ด้ปลอมพระองคอ์ ยา่ งสนทิ ี ไม่มใครในหมโู่ จรทจ่ าํ พระองคไ์ ด้ แม้ข้าราชการแลพวกทร่ บั จา้ งเป็นผตู้ รวจการรักษาพระนคร ซงึ่ ทจ่ รงิ เป็นโจรแลมาอยู่ในชุมชนโจรคนื นั้นีกจ็ าํ พระราชาไม่ได้ พระราชาได้ทอดพระเนตร เห็นข้าราชการผเู้ ป็นกองตระเวนปอู งกันโจรกลบั เปน็ โจรอยใู่ นสํานกั โจรดังนนั้ ถา้ ไมท่ รงสงสัย อยู่กอ่ นก็ทรงทราบได้ในเวลาน้นั วา่ เหตุใดโจรกรรมจึงไม่สงบไปเลยในพระนคร ฝาุ ยโจรซึง่ เป็นสหายพาพระราชาเข้าไปในซอ่ งโจรคืนนนั้ ปรากฏจากอาการทห่ มู่ โจรตอ้ นรบั ว่าเปน็ นายซอ่ ง นายโจรบอกใหค้ นท้งั หลายคาํ นับเพอ่ื นโจรท่มาใหม่ แลว้ ไตถ่ ามแล ตอบกันถงึ ความสําเรจ็ หรือไม่สาํ เรจ็ ของคนทง้ั หลายซ่งึ ออกทาํ การในคืนนั้น ไมช่ า้ ก็พากันไปในหอ้ งเล้ยงีต่างคนต่างน่ังลงตามทข่ องตน กนิ อาหารด่มื สรุ าแล บรโิ ภคส่งิ อืน่ ๆีตามสมคั รแลสบาย คร้นั เม่อื ไดเ้ ล้ยงแลรน่ื เรงิ กนั แล้วสองสามชว่ั โมงีคบไฟ ตามท่อยนู่ น้ั ก็หมดไป แลความง่วงกเ็ กดิ แก่คนพวกนนั้ ีจนถงึ คนท่ง่วงยากท่สดุ ก็งว่ ง ตา่ งคน ต่างเอนตัวลงนอนเกะกะกันไปีบ้างกห็ ่มผ้าแลเอาผ้าคลุมศรษะหลบั บางคนนง่ั พงิ โงกนไปขา้ ง หน่งึ ีมอาการแนน่ ิง่ ดว้ ยพษิ ฝิ่นแลกญั ชาเหมอื นหน่ึงไมร่ ้สู ึกอะไรเลย อกสักครูห่ นึง่ มหญงิ คนหนง่ึ เดนิ เข้ามาในห้องีเปน็ บา่ วรบั ใชข้ องพวกโจรเหลา่ นั้น แลพระราชาไดท้ อดพระเนตรเห็นหญงิ นนั้ ก่อนเวลาทก่ ล่าวน้ไมี่ คร้นั เข้ามาเหน็ พระราชา หญงิ นั้นจําไดก้ ็กล่าวา่ \"น่เหตุไรพระองค์จงึ เสดจ็ เขา้ มาอยใู่ นหมคู่ นทําบาปเชน่ น้ พระองค์จงรบเสดจ็ หน ไปเสยโดยเรว็ เถดิ ถ้าไม่เชน่ นั้นคนเหลา่ น้ต่ืนข้นึ ก็คงจะประหารชวติ พระองคเ์ สยเปน็ แน่\" พระราชาตรัสตอบวา่ \"เราไม่รู้จกั ทางีเจา้ จงนาํ เราไปเถดิ \" หญงิ น้นั ก็ออกนาํ พระราชาใหเ้ สด็จหน พระองค์ทรงก้าวหลกไปในเหล่าคนทน่ อนกรนเกะกะกนั ไปรอบข้าง ทรงยอ่ งดว้ ยพระบาทอนั เบาเหมือนตนเสอื ปลาจนถงึ บนั ไดท่ทรงปนี ขน้ึ ไปเปดิ ฝาหลุม ด้วยกําลงั ท้ังหมดท่มในพระองคี์ แลว้ เสดจ็ ขึ้นจากปากหลมุ ีแลกระทาํ ทส่ งั เกตไว้ แล้วปดิ ฝาหลุมแลเอาแผ่นหญา้ คลมุ เสย ตามเดมิ ครน้ั พระราชาเสด็จกลบั ถึงวังีพอเปลอื้ งเคร่อื งปลอมพระองค์ ทรงเครอื่ งราชาภรณ์

ตามเคยเสรจ็ ยังมิทันไร พวกพ่อคา้ ในพระนครก็ประชมุ กันเข้าไปเฝูาอกครั้งหน่ึงีพวกพอ่ คา้ เหลา่ น้นั กราบทูลว่า ในกลางคืนมโจรกรรมใหญๆ่ ีมากรายไปกว่าท่เคยีแลเล่าเรือ่ งความเสย ทรัพย์ถวาย แล้วทูลวา่ \"ข้าแตพ่ ระองคผ์ ู้เป็นมุกดาแห่งยตุ ิธรรม เมอ่ื วานน้เองีพระองค์ทรงปลอบโยนพวก เราีโดยสญั ญาว่าจะทรงใชว้ ิธใหม่ปูองกันเรือน แลทเ่ กบ็ สมบตั ขิ องเรามิใหโ้ จรเข้ามารบกวนได้ แต่ท่จริงเม่อื คืนน้เราเสยทรพั ย์ไปเพราะโจรียงิ่ กว่าท่ได้เป็นมาแล้วในคืนใดๆ เสยอก\" พระราชารับสงั่ ว่าีให้พวกพ่อค้าออกจากทเ่ ฝาู ไปเถดิ ทรงสาบานวา่ คร้ังนี้ ถ้าทรง ทําลายพวกโจรท่กระทําบาปหยาบช้าทารุณเหลา่ นั้นไม่ได้ กจ็ ะสละชวติ พระองคเ์ อง พระราชาตรสั สญั ญาแกพ่ วกพ่อคา้ ดงั นนั้ แลว้ กท็ รงกําหนดการในพระหฤทัยมิได้ แพร่งพรายใหใ้ ครรู้ แต่ตรัสสง่ั ทหารธนูพวกหนึ่งใหเ้ ตรยมตัวไว้สําหรบั ราชการลับ ครนั้ ขา้ ราชการท่ไดท้ รงพบในซ่องโจรมาเข้าเฝาู ีหรือไดท้ อดพระเนตรเห็นในท่ใด ก็ตรสั ใหล้ อบจับ เอาตัวไปประหารชวิตเสยในทล่ บั เพราะเหตุวา่ คนทต่ ายแล้วน้ันผิดกบั เวตาลในขอ้ ทน่ าํ เอา อะไรไปเท่ยวเล่าไมไ่ ด้ คร้นั เวลากลางคืน พระราชาทรงประมาณว่าถงึ เวลาทพ่ วกโจรเท่ยวกระทาํ ลักชงิ ปลน้ สะดมเสร็จแล้ว คงจะคนื ไปยงั ซอ่ งของตนเพ่อื การเลย้ งแลการสาํ ราญอยา่ งแต่ก่อนๆ จึง ทรงถอื อาวุธออกนาํ หน้าพลออกจากพระนครไปยังหนา้ ผา ซงึ่ อยู่ในปาุ รกท่เป็นทางเขา้ ไปสู่ ซ่องแหง่ โจร แต่พวกโจรนัน้ เม่ือโจรคนใหม่หลบหนไปแต่ตอนกลางคนื ก็เกิดความสงสยั จงึ เทย่ วสืบรตู้ วั ว่าอาจมภัยมาในคนื นัน้ ครั้นจะแยกกนั หลบหนไปในตอนกลางวนั กก็ ลัววา่ ทหาร ของพระราชาจะเทย่ วตามพบเปน็ หมเู่ ลก็ หมู่น้อยีจะรวบรวมกันต่อสไู้ ม่ได้ คร้นั ถึงกลางคนื จะ แยกกันหนก็ยงั กลวั ีเพราะรูว้ ่ารุ่งเชา้ คงจะถูกจบั ฝาุ ยนายโจรเปน็ ผ้มู ความคิดในทางท่จะส้ทู างเดยว ครนั้ ภยั จะมาถงึ ดังน้ีก็ชักชวน พวกพ้องให้ประชุมกนั ตอ่ สูี้ แลสญั ญาวา่ ถ้าพวกโจรทําตาม กค็ งจะสูท้ หารพระราชาได้ดงั หวัง พวกโจรรู้ว่านายเปน็ คนกล้าก็มความนบั ถอื ครั้นกล่าวชักนาํ ดงั นั้นกเ็ ช่ือแลสัญญา ว่าจะกระทาํ ตามทุกประการีครัน้ เวลาค่ํา นายโจรก็ประชมุ ตรวจตราพลโจรีตรวจธนูแลศรแล อาวธุ อ่นื ๆ แลว้ พดู เอาใจแลนาํ ออกเดนิ ไปจากถํ้าีจัดใหพ้ ลเข้าซุ่มอยรู่ มิ ทาง ตนเองปนี ข้ึนไป บนแผ่นผาท่สูงเพอื่ จะไดเ้ หน็ ศัตรมู าแต่ไกลีคนอื่นๆ กก็ ม้ หลู งฟง๎ ทแ่ ผ่นดินีเพอ่ื จะไดร้ ู้ตัวเมอื่ ม อรเิ ขา้ มาใกล้ ครน้ั พระจันทร์ข้นึ ีพวกโจรท่ซุ่มคอยดอู ยู่ ก็เห็นพระราชาทรงนําทหารรบเดนิ ไป โดยมไิ ด้ระมดั ระวัง เพราะพระราชาทรงประมาทวา่ พวกโจรกาํ ลังหลบั เพราะเล้ยงดกู ันตามเคย แลคงจะทรงจับโจรไดใ้ นถา้ํ ใตด้ นิ ีเพราะความประมาทของคนพาลพวกน้ัน ดังนนั้ พระราชาเอง กลับเป็นผูป้ ระมาทเสยทแก่โจร เพราะเม่อื พระองคท์ รงนําพลไปถึงทโ่ จรซุม่ ีนายโจรก็ปลอ่ ย ใหเ้ ดนิ ถลําเข้าไปจนพอด จึงใหส้ ัญญาณใหพ้ วกทซ่ มุ่ อยโู่ จนขึน้ จากทซ่ ่อนพรอ้ มกัน เขา้ ตพล พระราชาโดยท่มิทนั รู้กันีทหารหลวงก็พากันแตกตื่นกระจัดกระจาย พากันหนไม่เป็นกระบวนี ฝาุ ยพระราชาเมอ่ื เห็นเสยทก็เสด็จหนกบั เขาดว้ ย แตน่ ายโจรว่ิงตามไปรอ้ งว่า \"โหเหา ทา่ นผูม้ ชาติเปน็ นักรบกห็ นการรบดว้ ยหรอื \" พระราชาทรงไดย้ ินดังน้ีก็เสด็จหยดุ ยนื ประจันหน้านายโจร ทง้ั สองชกั ดาบออก ต่อสกู้ นั เป็นสามารถีพระราชาเป็นผู้ชาํ นาญเพลงดาบย่งิ นัก แต่นายโจรก็ชํานาญเสมอดว้ ย พระองค์ ตา่ งคนตา่ งเรม่ิ การตอ่ สูด้ ว้ ยวิธท่คนชาํ นาญเพลงดาบยอ่ มกระทาํ คอื กม้ ตวั ลงจน เกอื บจะเป็นกอ้ นกลมๆีโจนไปเปน็ วงรอบๆีต่างคนตา่ งจ้องดตู ากัน คิว้ ขมวดแลริมฝปี ากทาํ อาการแสดงความดหู มิน่ ปฏปิ ๎กษ์ แลทงั้ โจนไปมาโดยระยะทค่ ํานวณวา่ จะได้เปรยบข้าศึกี กระโดดเข้าไปราวกบั กบกระโดด กระโดดกลับออกราวกบั ลิงีแลเคาะโลด่ ว้ ยดาบเป็นจงั หวะเร็วี แลดงั ประหนึ่งเสยงกลอง พระราชาเห็นได้ทีทรงโจนเข้าไปเอาดาบฟาดขานายโจร พรอ้ มกับทท่ รงตวาด ด้วยเสยงอนั ดังีนายโจรโดดขน้ึ สูงจากดิน พระแสงดาบกห็ วดไปใต้ขาโจรเปล่าๆีไม่เปน็ อนั ตรายแก่โจรเลยีในทนั ใดนนั้ นายโจรแกวง่ ดาบเหนือศรษะสามรอบแล้วฟาดลงมารวดเร็ว

ดังหนึ่งสายฟาู หมายเฉวยงบา่ พระราชาีพระราชาทรงรับดว้ ยโล่ีอาวุธโจรไมถ่ กู ตอ้ งพระองค์ แต่ถงึ กระนัน้ ก็ซวนเซไปดว้ ยกาํ ลังโจรีพระราชาแลโจรต่อสซู้ ่ึงกนั และกันีต่างรกุ แลรบั ตา่ งก็ โจมฟน๎ แลปูองป๎ดจนเหนอ่ื ยอ่อนแลแขนชาไปทัง้ สองฝุาย ฝีมอื อาวุธแลกาํ ลังกายแลความ กล้าก็เสมอกนั ีไมม่ ได้เปรยบเสยเปรยบกันอยู่ชา้ นาน จนนายโจรเหยยบหินซ่งึ กล้งิ ไดพ้ ลาดลม้ ลง พระราชากท็ รงโจนเขา้ จับนายโจรมัดมือไขวห้ ลงั ีทรงผลกั ไสใหโ้ จรเดนิ เข้าสูพ่ ระนคร โดย ท่ใช้ปลายพระแสงดาบเป็นเคร่ืองบงั คบั ส่วนพลโจรนั้นครัน้ นายล้มลงกพ็ ากันวง่ิ หนไปสนิ้ ครนั้ ร่งุ เชา้ ีพระราชาเสด็จไปทอดพระเนตรนายโจรทค่ ุมขงั ไว้ รบั สง่ั ให้คมุ ตวั ออกมาอาบนาํ้ ชําระกายหมดแล้วให้แต่งเส้อื ผา้ อยา่ งด แล้วใหข้ ึ้นนง่ั บนหลงั อฐู มผู้จงู ไปตระเวน รอบพระนครีมผูร้ ้องปาุ วนําหนา้ ไปดังน้ \"ชนท้งั หลายจงฟ๎งพระราชโองการซ่งึ โปรดให้เรามาปาุ วร้องีคนๆ นค้ ือโจรซง่ึ ลอบลักปลน้ สะดมชาวกรงุ จนั ทรอ์ ทุ ัย ใหช้ นทง้ั หลายชวนกนั มาประชมุ เยน็ วนั น้ในทว่ ่างหน้า ประตูนครดา้ นทะเล เพ่ือจะไดร้ ้โู ทษแหง่ การประกอบกรรมเป็นบาป แลดตู วั อย่างซ่งึ จะทาํ ให้ คนทั้งหลายระวงั ตัวกลวั ผิด\" พระราชาไดต้ รัสสัง่ แลว้ ให้ประหารชวิตโจรดว้ ยวธิ เอาตัวขน้ึ ตตะปู มอื แลเท้าใหก้ างอยทู่ ้ังสแ่ ลตัวตรง ส่งิ ใดโจรอยากกินใหป้ ูอนให้กนิ เพอื่ ชวติ จะไดย้ าวแลทน ทุกข์อยไู่ ด้นาน เมอ่ื ใกล้จะตายใหห้ ลอมทองคาํ เทลงไปในคอีจนกวา่ ทองคําจะลน้ แลแตก ออกมาตามคอแลภาคอื่นๆ ในตวั โจร ครัน้ เวลาเย็น ผู้คุมก็พาตวั โจรไปประหารชวติ โดยวธิ ทก่ ลา่ วนั้น เผอญิ กระบวนแห่ นกั โทษผา่ นไปทางเรอื นแหง่ เศรษฐผหู้ นึ่งีซง่ึ มทรพั ย์มากล้นพ้นประมาณ เศรษฐผนู้ ัน้ มลูกสาว เป็นท่รักช่ือ นางโศภนีนางเป็นผู้อยูใ่ นวยั เยาว์คือดอกไมป้ ระกอบด้วยความงามทุกประการ แลงามขึน้ ทกุ เวลาทกุ ขณะีนางนบ้ ิดาไดส้ งวนไว้มิให้ชายเห็นีจะออกนอกกําแพงสวนก็ไม่ได้ เพราะนางนมซง่ึ เปน็ ผทู้ ่ชาวบ้านใกล้เคยงพากันนบั ถอื ว่า เป็นผูฉ้ ลาดรู้การลว่ งหนา้ นั้นีได้ ทํานายไวใ้ นขณะทน่ างนมจะตายวา่ นางโศภนนจ้ ะเปน็ นางงามซ่ึงคนชมทัว่ พระนครีจะไมไ่ ด้ สามโดยววิ าหะแตจ่ ะเปน็ หมา้ ยสต (คือแม่หมา้ ยซึ่งฆ่าตัวตายในกองเพลิงเผาศพผวั ) ตั้งแต่นน้ั มาเศรษฐผบู้ ดิ ากร็ ะวงั รกั ษาบุตรเหมอื นหนึง่ เก็บมกุ ดาไวใ้ นหบ แล กําหนดทางแหง่ ชวิตของลกู สาวไวโ้ ดยหวังว่าจะใหเ้ ปน็ ไปตลอดอายุ คอื ไม่ใหเ้ ก่ยวขอ้ งพวั พนั กับชายเปน็ อนั ขาด แตก่ ารกาํ หนดทางแห่งชวติ ล่วงหน้าชา้ นานเชน่ นัน้ ปราชญ์ผเู้ ปน็ กวโบราณ กลา่ วกลอนไวเ้ ป็นเครื่องจงู ปญ๎ ญาว่า O อันวถิ ชวติ เดนิ ผิดงา่ ย แม้นผดิ หมายอาจถลํานําสเู่ ถนิ ใครกําหนดลว่ งหน้าช้าเหลือเกนิ ถึงคราวเดินอาจผดิ ท่คิดไว้ ปญ๎ ญาเราแค่คืบสบื ไม่ออก เหลอื จะบอกล่วงหนา้ ชา้ ีๆีได้ อันวิถชวติ คิดอยา่ งไร จักแจง้ ใจข้างหนา้ อนาคตฯ คาํ กลอนทม่ คตเิ ปน็ เช่นนี้ เศรษฐผู้เปน็ บดิ านางโศภนคงจะไมเ่ คยรู้ มิฉะน้นั กวผู้ กลา่ วกลอนนั้นกลา่ วทหลงั ีหรือกล่าวเพอื่ ประโยชน์แก่ตัวกวเอง มไิ ด้เก่ยวแก่ผ้อู ่นื นอกจากผู้ท่ ไดฟ้ ๎งกลอนโดยเฉพาะกเ็ ปน็ ได้ ความจรงิ จะอย่างไรก็ตามีแต่เศรษฐบิดาไดก้ ําหนดการไว้จะใหเ้ ป็นไปตลอดชวติ ลูกสาว แลตัวเศรษฐเองกก็ ล่าวให้คนท้ังหลายทราบแน่นอนว่า ถา้ บุตรสน้ิ ชวิตบดิ าจะมชวิตอยู่ ต่อไปไม่ได้เป็นอนั ขาด ความคดิ อันนม้ ่นั ในใจเศรษฐจนไดก้ าํ หนดตําแหน่งีแลวธิ ฆ่าตัวตายไว้ เสร็จีแต่ ศรคือผลแหง่ กรรมปางก่อนีอาจตามขึน้ ไปถูกแรง้ ซ่งึ รอ่ นอย่เู หนือเมฆ อาจตามลงไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook