ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ม.3

ภูมภิ าคของโลก กับพัฒนาการทางประวตั ศิ าสตร์ ประวัติศาสตร์ ม.3 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ • อธบิ ายพฒั นาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมอื งของภมู ิภาคตา่ งๆ ในโลกโดยสงั เขปได้

คลกิ๊ ท่ีทวีปเลยครับ

ทวีปยโุ รป ทีต่ ้ังและสภาพภูมิศาสตร์ท่มี ผี ลตอ่ พฒั นาการของทวปี • ประกอบด้วยท่รี าบลุ่ม ท่รี าบสงู เทือกเขา และคาบสมุทรจานวนมาก • ประเทศส่วนใหญม่ ีผืนดนิ ตดิ ตอ่ ทะเลและมีชายฝงั่ ทะเลยาวมาก บางประเทศเปน็ เกาะ ซงึ่ เหมาะแกก่ ารทาประมง และการเดินเรือ สว่ นประเทศทเี่ ปน็ ผนื ดินและมที รี่ าบกวา้ งใหญแ่ ละมแี ม่นาสาคญั ๆ ไหลผา่ นหลายสาย เหมาะแก่ การเพาะปลกู • นอกจากนี ยงั มีอากาศอบอุ่นและหนาวเย็น ทาใหม้ ีผู้คนเขา้ มาตังหลักแหลง่ และสร้างอารยธรรมต่างๆ มาตังแต่สมยั โบราณจนถงึ ปจั จบุ ัน เทอื กเขาแอลป์ มีอาณาเขตติดตอ่ ประเทศฝรง่ั เศส เยอรมนี ลิกเตนสไตน์ ออสเตรีย สวิตเซอรแ์ ลนด์ อิตาลี และสโลวีเนยี โดยมยี อดสูงสุดชอื่ มงบล็อง

พัฒนาการและการสร้างสรรค์ด้านตา่ งๆ พฒั นาการด้านการเมืองการปกครอง ระบอบกษตั ริย์ภายใตร้ ัฐธรรมนญู เรม่ิ ขนึ ทีป่ ระเทศองั กฤษ โดยพระเจา้ จอห์นยอมรบั แมก เกดิ รฐั สภาที่ประกอบดว้ ย สภาขนุ นาง และสภาสามญั นาคาร์ตา หรอื มหากฎบัตร ทาให้อานาจสทิ ธ์ขิ าดของกษัตริย์ลดลง เกดิ การปกครองแบบกษตั รยิ ภ์ ายใต้รัฐธรรมนูญอย่าง กษัตรยิ ์ละเลยอานาจของรัฐสภา นาไปสู่การปฏวิ ัติ แท้จริง อนั ร่งุ โรจน์ ขบั กษัตริย์ออกจากราชบลั ลงั ก์ และให้กษตั ริย์ พระองคใ์ หม่ยอมรับอานาจรัฐสภา

ระบอบกษตั ริยแ์ บบสมบรู ณาญาสทิ ธริ าชย์ ค.ศ.๑๖๑๔ สภาฐานันดรในฝร่ังเศสประกาศยุบตัว สมยั จักรพรรดโิ ปเลียนท่ี ๑ (ค.ศ. ๑๘๐๔ - ๑๘๑๕) และประกาศให้อานาจอธิปไตยสงู สุดเป็นของกษัตรยิ ์ ฝร่ังเศสกลับไปปกครองในระบอบกษตั รยิ ์อีกครัง หลังจากสงครามสามสบิ ปี (ค.ศ.๑๖๑๘ – ๑๖๔๘) ปรสั เซยี ในคริสต์วรรษท่ี ๑๙ อานาจของกษัตริยเ์ รม่ิ ถูกต่อต้าน และออสเตรียจัดการปกครองแบบรวมศนู ยอ์ านาจไวท้ ก่ี ษัตรยิ ์ เน่อื งจากการแพรข่ ยายของลทั ธิเสรนี ิยมและชาตนิ ยิ ม ทาใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงรูปแบบการปกครองให้กษตั ริย์ ค.ศ.๑๖๘๒ - ๑๗๒๕ เป็นยคุ แหง่ สมบรู ณาญาสิทธริ าชย์ อยภู่ ายใตอ้ านาจของรฐั สภาในดินแดนตา่ งๆ ท่ัวยโุ รป ของรัสเซยี หลงั สินสดุ สงครามโลกครังท่ี ๑ (ค.ศ. ๑๙๑๔ - ๑๙๑๘) ค.ศ. ๑๗๘๙ ปฏิวัติฝร่ังเศส ระบบการปกครองแบบกษตั รยิ ใ์ นรสั เซีย เยอรมนี ออสเตรยี สนิ สดุ ลง ค.ศ. ๑๗๙๒ ฝรัง่ เศสสถาปนาระบอบการปกครอง แบบสาธารณรัฐแต่ไม่ประสบความสาเรจ็

ระบอบการปกครองของยุโรปในปัจจุบนั ระบอบประชาธิปไตย ระบอบเผดจ็ การคอมมิวนิสต์ • เกิดขนึ ตังแตส่ มยั กรกี โบราณ เนน้ ความเปน็ ปัจเจกบุคคล • ใช้ครงั แรกในสหภาพโซเวยี ต หลังจากการปฏวิ ตั ริ ัสเซีย นิยมและเสรภี าพ และขยายไปในหลายประเทศหลงั สนิ สุดสงครามโลกครงั ท่ี ๒ • มีหลักการสาคญั คอื สิทธิ เสรีภาพของประชาชน ประชาชน • เปน็ ระบอบการปกครองทม่ี ่งุ เน้นการสร้างสังคมทีป่ ราศจาก เป็นทม่ี าของอานาจอธปิ ไตย ทุกคนมีสทิ ธิ เสรีภาพ และ ความเสมอภาคภายใตก้ ฎหมาย ชนชันและให้มคี วามเสมอภาคกันในดา้ นต่างๆ

พัฒนาการด้านเศรษฐกจิ • ในช่วงของยุคกลางตอนต้น ระบบเศรษฐกิจของยุโรปอยู่ในลกั ษณะของแมเนอร์ ซึง่ เน้นการผลิตเพื่อเลียงตนเองเป็นหลกั • การเกดิ สงครามครูเสด ส่งผลใหเ้ ศรษฐกิจของยโุ รปเริม่ ฟนื้ ตัวเพราะมกี ารเดทิ างเข้า มาตดิ ต่อค้าขายจากคนภายนอก ทาใหเ้ กิดเมืองศูนย์กลางการค้า และเกิดเป็น ระบบทุนนิยม • การประดิษฐค์ ิดค้นวทิ ยาการและเทคโนโลยสี มยั ใหม่ในสมยั กลางตอนปลาย นาไปสู่ ยุคแห่งการคน้ พบและการสารวจ เกิดเปน็ การปฏวิ ัติทางการค้า ทาให้ ระบบเศรษฐกจิ แบบพาณิชยนิยม ทนุ นิยม และสงั คมนิยมถกู พัฒนาใหเ้ ตบิ โต ขนึ มาจนถงึ ปัจจุบนั

พัฒนาการดา้ นสังคมและศลิ ปวัฒนธรรม การกาเนิดชนชนั้ • สมัยกลางตอนตน้ สงั คมยโุ รปประกอบดว้ ย ชนชันกษตั รยิ ์ ขนุ นาง นักบวช และชาวนาชาวไร่ • ครสิ ต์ศตวรรษที่ ๑๑ เกิดชนชันกระฎมุ พีหรอื ชนชนั กลาง ซึง่ มบี ทบาทสาคญั ในการสร้างสรรค์ สังคมยุโรปให้มคี วามกา้ วหน้าและทันสมัย การขยายตวั ของเมือง • เรม่ิ ขยายตวั อย่างเดน่ ชัดในกลางคริสต์ศตวรรษท่ี ๑๙ มาจนกระทงั่ ถงึ ปัจจุบนั ซงึ่ พบวา่ ประชากร ในยุคปฏวิ ตั อิ ุตสาหกรรม ยโุ รป ในปจั จุบนั อาศัยอยู่ในเขตเมืองเป็นส่วนใหญ่ การสร้างสรรค์ • สมัยกลาง ศิลปะแบบกอธิกได้รบั ความนิยมไปท่ัวยุโรป ทางศิลปวัฒนธรรม • ยคุ ฟน้ื ฟศู ิลปวทิ ยาการ เกดิ รปู แบบศลิ ปะทเี่ นน้ ความงามของธรรมชาติและกายวิภาคของมนษุ ย์ • ต้นครสิ ต์ศตวรรษที่ ๑๘ เกดิ งานศิลปะแบบบาโรก หรอื ศลิ ปะโรโกโก • กลางครสิ ต์ศตวรรษท่ี ๑๙ เกิดศิลปะแบบเรยี ลลสิ ตห์ รอื สจั นิยม และศลิ ปะอิมเพรสชนั นสิ ต์ • หลังสงครามโลกครงั ที่ ๑ และ ๒ ศลิ ปะของยโุ รปเนน้ พัฒนาในด้านเทคนคิ และการแสดงออกโดยนยิ ม สรา้ งสรรค์งานศลิ ปะทีส่ อดคลอ้ งกับความต้องการของสงั คม

อิทธิพลของทวีปยโุ รปต่อสงั คมโลก ๑ ๒ ๓ แนวคิดประชาธิปไตยสมยั กรกี เป็น กฎหมายสิบสองโตะ๊ ของโรมันที่ให้ งานศิลปะแขนงตา่ งๆ สมัยกรกี โรมัน แม่แบบของระบอบการปกครองแบบ ความยตุ ิธรรมทุกชนชนั เป็นแม่แบบของ เปน็ ตน้ แบบในงานสร้างสรรค์ทว่ั โลกโดย ประชาธิปไตยและระบอบกษัตริยภ์ ายใต้ ประมวลกฎหมายในนานาประเทศ เฉพาะงานสถาปัตยกรรม รฐั ธรรมนญู ๔ ๕ ๖ เมืองและระบบการปกครองแบบ ยคุ การคน้ พบ เกิดลัทธพิ าณิชยนิยม การปฏวิ ตั ดิ ้านตา่ งๆ ในยคุ ภูมธิ รรม เทศาภิบาลในสมยั กลางเปน็ แมแ่ บบของ และการปฏวิ ตั ิทางการค้า ครสิ ต์ศาสนา นาโลกเขา้ สู่สังคมแหง่ อตุ สาหกรรม เมอื ง และการจัดระบบการปกครองใน ภาษาตะวันตก และเชือโรคบางชนดิ แพร่ ทุนนยิ ม เทคโนโลยี ประชาธปิ ไตย ปจั จุบัน ไปท่ัวโลก และชาตนิ ิยม ๗ ๘ ๙ หลงั สนิ สดุ สงครามโลกครังท่ี ๒ ผลจากลทั ธสิ งั คมนยิ มนาไปสกู่ าร การจดั ตงั สหภาพยโุ รปหรอื อียูกลาย เกิดการจัดตังองคก์ รระวา่ งประเทศเพ่ือ ปฏิวตั ริ ัสเซีย เกดิ การปกครองระบอบ เปน็ แมแ่ บบในการจดั ตงั อาเซียนใน เสริมสร้างสันตภิ าพและความรว่ มมอื คอมมวิ นสิ ตแ์ ละขยายตัวไปยงั ท่ีต่างๆ ภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของโลก ทั่วโลก

พัฒนาการและการสร้างสรรคด์ า้ นตา่ งๆ พัฒนาการดา้ นการเมืองการปกครอง สหรฐั อเมริกา • ค.ศ.๑๗๗๖ - ๑๗๘๑ เกิดสงครามการปฏวิ ตั ขิ องชาวอเมริกัน จนสามารถประกาศเอกราชจากองั กฤษได้สาเร็จ และใช้ รูปแบบการปกครองแบบสหพันธรัฐสาธารณรัฐ • ค.ศ.๑๘๒๓ สหรัฐอเมรกิ าดาเนินนโยบายอยอู่ ยา่ งโดดเด่ียว และประกาศหลักการมอนโรหา้ มประเทศในยโุ รปเขา้ มา แสวงหาผลประโยชน์ในทวีปอเมรกิ า • หลงั สินสุดสงครามกลางเมอื งใน ค.ศ.๑๘๖๕สหรัฐอเมรกิ าแบง่ แยกอานาจการปกครองออกเปน็ ๓ ฝ่าย อานาจการปกครอง นิติบัญญัติ ในอเมริกา ตลุ าการ บรหิ าร โดยมีหลักการสาคญั ของการปกครอง คอื ประชาชนเปน็ แหล่งทมี่ าของอานาจสูงสุด

พัฒนาการด้านเศรษฐกิจ สหรฐั อเมรกิ า แคนาดา เมก็ ซิโกและประเทศในอเมริกากลาง • เปน็ ระบบการคา้ เสรี โดยมีรัฐเป็น • ระบบเศรษฐกจิ ขึนอยู่กับ • ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ผคู้ วบคมุ และดาเนินการทางธรุ กิจ ทรัพยากรธรรมชาติ เพราะเป็น เกษตรกรรมและการประมงเปน็ ทเ่ี กย่ี วกับกจิ การทางสาธารณะและ ผูผ้ ลติ และส่งออกแรท่ ่ีสาคัญหลาย หลกั โดยมลี ักษณะสาคญั ทาง สวสั ดิภาพของสงั คมสว่ นรวม ชนดิ เช่น ยูเรเนียม แกส๊ เศรษฐกจิ รว่ มกัน คือ การพง่ึ พิงเงนิ โปแตสเซียม เปน็ ตน้ ลงทนุ จากตา่ งประเทศ และพงึ่ พงิ สหรัฐอเมรกิ าและแคนาดา

พฒั นาการด้านสังคมและศิลปวัฒนธรรม สหรฐั อเมริกาและแคนาดา เมก็ ซิโกและอเมริกากลาง เปน็ สังคมกลุ่มแองโกลอเมริกามีลกั ษณะ เป็นสังคมลาตินอเมริกา มีลกั ษณะเปน็ สงั คม เปน็ สังคมเมืองและสงั คมอตุ สาหกรรม เกษตรที่มคี วามแตกตา่ งกนั มากระหว่างเมือง มีมาตรฐานการครองชพี สงู แลเจริญก้าวหน้า กบั ชนบท ประชากรส่วนใหญ่ยากจนและยงั ทางวทิ ยาการมีวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อย อา่ นเขียนไม่ได้ มีวฒั นธรรมทางด้านดนตรีและ กลายเป็นเอกลักษณข์ องชาติ การเตน้ ราเป็นอัตลกั ษณ์ของประเทศในแถบนี

อทิ ธพิ ลของทวปี อเมริกาเหนอื ตอ่ สงั คมโลก สหรฐั อเมรกิ าเป็นประเทศ สหรัฐอเมรกิ าเป็นผูน้ า ชนั นาในการพฒั นาดา้ นเทคโนโลยีการ แบบแผนการดาเนินชีวิตและวัฒนธรรม คมนาคมและการสือ่ สาร เปน็ ตน้ กาเนิด อเมรกิ นั เผยแพรไ่ ปทวั่ โลก จนเป็นท่ีรู้จกั ของกระแสโลกาภวิ ัตน์ท่กี ระจายไปทัว่ โลก และคนุ้ เคยของคนทวั่ โลกอยา่ ง กวา้ งขวาง สหรัฐอเมรกิ าเปน็ ประเทศอภมิ หาอานาจทไ่ี ดช้ อ่ื ว่าเปน็ สหรัฐอเมริกาเป็น ผู้นาในการปกครองระบอบ ผนู้ าดา้ นอวกาศและนิวเคลียร์ ประชาธปิ ไตย ซงึ่ นานาประเทศการ ทาให้มีบทบาทโดดเด่นด้านความ ยอมรบั และนาไปใช้ปกครองประเทศ มัน่ คงทางการเมอื ง เป็นผู้นาทาง ของตน การทหารของโลก และมีบทบาท สาคญั ในการแก้ปญั หาความ ขัดแยง้ ต่างๆ ท่ัวโลก

ทวีปอเมริกาใต้ ทีต่ ง้ั และสภาพภมู ิศาสตร์ท่ีมผี ลต่อพัฒนาการของทวปี เทือกเขาแอนดีส ประกอบด้วยภูเขาไฟหลายลูก จึงทาใหม้ กี ารทาเกษตรกรรมในทส่ี ูงซงึ่ ใช้ประโยชน์จากดินภูเขาไฟ บรรดาอาณาจกั รของชาวพนื เมืองก่อนถูกชาตติ ะวนั ตกรกุ รานจงึ กอ่ ตังในเขตเทือกเขานรี วมทัง จักรวรรดอิ นิ คา(Incas) หลงั สเปนเข้ายดึ ครองแล้วกพ็ บอกี ว่าเป็นเขตท่อี ุดมสมบรู ณ์ด้วยแรธ่ าตุ จงึ สร้างความมงั่ คงั่ อย่างมหาศาล แม่นา้ แอมะซอน มีต้นนาเร่มิ จากเขตหิมะละลายในเทือกเขาแอนดสี บริเวณประเทศเปรู จากนนั สาขาต่างๆ ไหลมา บรรจบกัน โดยไหลจากเขตทีส่ งู ฝ่งั ตะวนั ตกส่ทู ร่ี าบฝั่งตะวนั ออกระยะทางประมาณ ๖,๒๗๕ กโิ ลเมตร ผ่านบริเวณป่าดงดบิ เป็นสว่ นใหญ่ เขตป่าฝนของแม่นาแอมะซอนนีนบั เปน็ เขตป่าฝน ท่กี วา้ งใหญท่ ี่สุดของโลกดว้ ย จึงเรียกว่าเป็นเขตปอดของโลก

พัฒนาการและการสร้างสรรค์ด้านต่างๆ พัฒนาดา้ นการเมืองการปกครอง ตน้ ครสิ ต์วรรษที่ ๑๙ ประเทศส่วนใหญใ่ นอเมริกาใต้ แผนทป่ี ระเทศในทวปี อเมริกาใต้ ได้รบั เอกราช และปี ค.ศ. ท่ีไดร้ ับเอกราช หลงั จากรบั เอกราช หลายประเทศตกอยภู่ ายใต้อานาจ การบรหิ ารของนายทหารพวกกอดลิ โย ประมาณ ค.ศ.๑๙๘๐ ประเทศในอเมริกาใตส้ ่วนใหญ่ ปกครองโดยนายทหารระดบั สงู ปลายทศวรรษ ๑๙๘๐ พลเมืองเรยี กร้องให้ เปลยี่ นเป็นระบอบประชาธิปไตยมากขนึ โดยให้มรี ฐั บาลมาจากการเลือกตัง แตย่ งั ประสบปัญหาต่างๆ มาจนกระทงั่ ปัจจุบัน

พัฒนาการด้านเศรษฐกจิ การพัฒนาและการขยายตวั ทางเศรษฐกิจของอเมริกาใต้เริ่มขึนใน ช่วงเวลาใกลเ้ คียงกบั การได้รบั เอกราช ซึ่งมสี ว่ นทาใหเ้ กดิ การขยายตัว ของชนชันกลางกล่มุ ใหมอ่ ย่างรวดเร็ว ในหลายประเทศประสบปัญหาชอ่ งว่างระหวา่ งคนรวยกบั คนจน ปัจจบุ นั เศรษฐกิจในภาพรวมยังคงเนน้ การผลิตในภาคเกษตรกรรม ตา่ งและใหค้ วามสนใจในการแกป้ ญั หาเศรษฐกจิ ดว้ ยการรบั ลทั ธสิ ังคมนยิ ม เปน็ หลกั ในขณะท่ีบางประเทศใหค้ วามสาคัญกบั การผลิตแรเ่ พื่อ ส่งออกอย่างจรงิ จงั กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจท่ีสาคญั ของทวีปอเมรกิ าใต้ ซึ่งสร้างรายได้ใหแ้ กป่ ระเทศ ผูผ้ ลติ เป็นจานวนมหาศาลในแต่ละปี

พัฒนาการดา้ นสังคมและศลิ ปวัฒนธรรม สังคมของอเมรกิ าใต้เป็นการผสมผสานระหว่างกลุ่มชาตพิ ันธ์ตุ า่ งๆ ดงั นี ๑. ชนพนื เมืองของทวีปอเมริกา ๒. พวกท่ีสบื เชือสายมาจากชาวยุโรป ๓. พวกที่สืบเชอื สายมาจากพวกทาส หรือพวกอนิ เดยี น ท่นี าเข้ามาจากทวีปแอฟรกิ า

อิทธพิ ลของทวีปอเมรกิ าใตต้ อ่ สังคมโลก ทวปี อเมรกิ าใตเ้ ป็นดินแดนอารยธรรมเกา่ แก่ และมีป่าแอมะซอนอันกว้างใหญ่ทาใหด้ งึ ดูด นักทอ่ งเทีย่ วจากทั่วโลกให้เดินทางเขา้ ไปเป็น จานวนมาก ใน ค.ศ. ๒๐๑๑ ได้มกี ารก่อตังสหภาพ บางประเทศในทวปี อเมริกาใต้ เช่น แหง่ ประชาชาติอเมรกิ าใต้ โดยใชส้ หภาพ เวเนซเุ อลา เปน็ ประเทศผลิตนามนั รายใหญ่ ยุโรปเป็นแมแ่ บบในการดาเนนิ งาน ซึ่งจะ ของโลก ซ่ึงมีอิทธพิ ลตอ่ การกาหนดราคา ทาให้ อเมรกิ าใตเ้ ป็นกลมุ่ การค้าเสรีใหญ่ นามนั ในตลาดโลก เปน็ อันดบั ๓ ของโลก

ทวีปแอฟรกิ า ทต่ี ง้ั และสภาพภมู ศิ าสตรท์ ีม่ ผี ลต่อพัฒนาการของทวปี • ตงั อยู่ทางตอนใตข้ องทวีปยโุ รป • ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศส่วนใหญ่เป็นทรี่ าบสงู มที ะเลทรายกว้างใหญ่อยูบ่ รเิ วณตอนเหนือของทวีป สว่ นตอนกลางเป็นปา่ ฝนร้อนชนื ส่งผลให้การคมนาคมสัญจรลาบากและมโี รคภัยชกุ ชมุ ผู้คนจงึ เข้าไปอาศยั อย่นู ้อย • ขณะท่ีบรเิ วณเขตที่ราบลมุ่ แมน่ าและบริเวณชายฝง่ั ทะเลเมดิเตอร์เรเนยี น ซ่งึ เหมาะแก่การทาเกษตรกรรมและการคมนาขนส่ง จะมผี คู้ นอาศยั อยูห่ นาแน่น ภูเขาคิลมิ นั จาโร ในประเทศแทนซาเนีย มียอดสงู ทีส่ ุด ชอ่ื คีโบ สงู ๕,๘๙๕ เมตร ถือเป็นจุดสงู สุดในทวปี แอฟริกา

พฒั นาการและการสร้างสรรคด์ ้านต่างๆ พฒั นาการดา้ นการเมอื งการปกครอง ปลายทศวรรษ ๑๙๕๐ ประเทศ หลังจากรับเอกราช ในบางประเทศ ปจั จบุ ันรปู แบบการปกครองของ ในทวปี แอฟริกาเรมิ่ ไดร้ ับเอกราช เกดิ สงครามกลางเมืองจากความ ประเทศตา่ งๆ มักยึดตามเมอื งแมเ่ ดมิ ขัดแยง้ กันเองของชนพนื เมอื ง แตย่ งั ขาดความมนั่ คง ทาใหเ้ กิดปญั หา ความขัดแยง้ การขบั ไลร่ ัฐบาล การ คอรร์ ัปชัน การลิดรอนสทิ ธิ และ ปัญหาอ่นื ๆ เกดิ ขึนบอ่ ยครงั

การพัฒนาการด้านเศรษฐกิจ • แม้ทวปี แอฟรกิ าจะอุดมไปดว้ ยแร่ธาตุทีม่ มี ูลคา่ มหาศาล แตย่ ังมกี ารสารวจและการทาเหมอื งแร่นอ้ ย ประชากร สว่ นใหญ่ยงั เป็นชาวชนบททด่ี ารงชีพดว้ ยการเพาะปลูก ทังนี เหตุผลท่ที วีปแอฟรกิ ามีความลา้ หลงั ทางเศรษฐกจิ กว่าทวีปอ่ืนๆ ในโลก ได้แก่ ๑. การตกอยภู่ ายใต้การชนี าทางเศรษฐกิจของประเทศตะวันตก ท่เี ขา้ มาตงั อาณานิคม ๒. ความลาบากในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ และการคมนาคมขนส่งสินคา้ และวตั ถดุ ิบในทวีป ๓. การทาเกษตรกรรมไม่ได้ผลดี การขดุ เหมืองทองคาท่ีเมอื งโจฮนั เนสเบริ ์กในแอฟริกาใต้ ซงึ่ เปน็ แหลง่ ผลติ แร่ทองคาทสี่ าคัญของโลก

การพัฒนาการด้านสังคมและ ศลิ ปวัฒนธรรม • พลเมอื งประกอบด้วย ๒ กลุ่มใหญ่ ได้แก่ พวกแอฟริกันผวิ ดา และพวกคอเคเซยี น • ต่างมรี ูปแบบสงั คมและวฒั นธรรมท่แี ตกต่างกัน • ภาษาท่ีใชพ้ ูดในทวีปแอฟรกิ ามีมากกวา่ ๑,๐๐๐ภาษา • มหี ลายประเทศทใ่ี ช้ภาษาตะวันตกเป็นภาษาราชการ • ศาสนาท่ีสาคญั ในทวปี แอฟริกา ได้แก่ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอสิ ลาม และความเชอื่ ดงั เดิมในท้องถนิ่ พวกทตุ ซี เป็ นพวกแอฟริกนั ผวิ ดากล่มุ หน่ึง ซึ่งอาศัยอยู่ในทวปี แอฟริกา

อิทธิพลของทวีปแอฟริกาต่อสงั คมโลก • ทวีปแอฟริกามรี ะดับการพฒั นาลา้ หลงั ท่สี ดุ ในโลกและประสบปญั หารุนแรงเรื่องขาดแคลนอาหารและ โรคระบาด โดยเฉพาะโรคเอดส์ • ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ีย่ ังคงมีอย่เู ป็นจานวนมากในแอฟริกาและแรงงานราคาถูกทาใหม้ หี ลายประเทศ เข้าไปลงทุน เช่น จีน เปน็ ต้น • เมอ่ื ค.ศ.๒๐๐๒ มีการจัดตังสหภาพ แอฟริกาขนึ และมีแผนจะจัดตังประชาคมเศรษฐกจิ แอฟรกิ า ทใ่ี ช้สกลุ เงนิ เดียวกัน ภายใน ค.ศ.๒๐๒๓

ทวปี ออสเตรเลียและโอเชยี เนยี ทีต่ ง้ั และสภาพภูมิศาสตรท์ ่มี ผี ลต่อพัฒนาการของทวีป • ประกอบดว้ ยแผ่นดนิ ในภาคพืนทวปี รอ้ ยละ ๙๙.๕ ส่วนทเ่ี หลอื เปน็ เกาะขนาดเล็ก • ลักษณะภูมปิ ระเทศโดยทว่ั ไปเปน็ ทร่ี าบสงู และตังอยทู่ างทิศตะวนั ตก พนื ทีส่ ่วนใหญ่ เป็นทะเลทราย แห้งแลง้ และทรุ กนั ดาร • ส่วนบริเวณตอนกลางเป็นเขตแหง้ แล้งมากท่ีสดุ ขณะทเี่ ขตชายฝัง่ ตะวันออกจะมแี มน่ าสายสาคญั ไหลผา่ น ทาใหม้ ผี ู้คนตงั ถนิ่ ฐานอย่อู ยา่ งหนาแนน่

พฒั นาการและการสรา้ งสรรค์ด้านตา่ งๆ การพฒั นาการด้านการเมอื งการปกครอง • ค.ศ.๑๘๒๑ รฐั บาลองั กฤษเริ่มสง่ เสริมให้เสรีชนเข้ามาตงั หลักแหล่งในออสเตรเลยี ทาให้เกิดการขยายตวั ของชุมชนและมกี ารจดั ตงั รฐั ต่างๆ ขึนเป็นอิสระจากกนั • ค.ศ.๑๘๔๒ รฐั บาลอังกฤษผา่ นพระราชบญั ญตั ิ ค.ศ.๑๘๔๒ ทาให้มีการจดั ตังสภานติ บิ ญั ญตั ิขึนในรัฐนวิ เซาท์เวลส์ • ค.ศ.๑๘๕๑ มีการค้นพบทองคาในออสเตรเลยี ทาใหช้ าวตะวนั ตกและชาตติ า่ งๆ อพยพกันเข้ามาอาศัยและดาเนนิ ธุรกจิ เพ่มิ ขึน • ค.ศ.๑๘๕๖ รฐั วกิ ตอเรยี จดั การเลือกตังท่ัวไป โดยการลงคะแนนด้วยวธิ ีลับ ออสเตรเลยี จึงเป็นชาตแิ รกทใ่ี ช้วิธีดังกล่าว

• ค.ศ.๑๘๕๗ รฐั วกิ ตอเรยี ยกเลกิ ขอ้ กาหนดการครองทรัพย์สนิ อนั เป็นคณุ สมบัตขิ องผู้ลงคะแนนเสยี งในสภาลา่ ง • ค.ศ.๑๘๕๘ รฐั นิวเซาทเ์ วลสอ์ อกกฎหมายการปฏิรูปการเลือกตัง โดยให้สิทธิเลือกตังแก่ผู้ชายทุกคนท่ีเข้ามาอาศัยในรัฐ ๖ เดือน ขนึ ไป • ค.ศ.๑๘๙๔ รัฐเซาทอ์ อสเตรเลยี ใหส้ ทิ ธกิ ารลงสมคั ร เลือกตังและการลงคะแนนเสียงเลอื กตังแกส่ ตรีเปน็ รัฐแรก • ค.ศ.๑๙๐๑ รัฐต่างๆ รวมตวั กนั เปน็ ประเทศ เรียกวา่ เครอื รัฐออสเตรเลีย จัดการปกครองในรูปแบบสหพันธรัฐใช้ระบบสองสภา มีสมาชิกมาจากการเลอื กตัง ปัจจุบนั ออสเตรเลียเปน็ สมาชกิ ของเครือจักรภพทม่ี ปี ระมขุ ของอังกฤษเป็นผู้นา และทรงแต่งตงั ผู้สาเรจ็ ราชการให้มาประจาอยใู่ นออสเตรเลีย

การพฒั นาการด้านเศรษฐกิจ การปศุสตั ว์ ขนแกะจัดเป็นสินคา้ ส่งออกสาคญั ของออสเตรเลีย จงึ ทาให้การทาฟาร์มปศุสตั วข์ องออสเตรเลยี แกะเป็นสัตวเ์ ศรษฐกิจสาคัญของออสเตรเลีย โดย มกี ารขยายตวั อยา่ งกวา้ งขวาง เริ่มเลียงกันมาตังแต่กลางทศวรรษท่ี ๑๗๙๐ และขยายพืนท่ี เลียงอย่างกว้างขวาง ทาให้ขนแกะกลายเป็นสินค้าส่งออกไปยัง อังกฤษท่ีสาคัญ ส่งผลให้อุตสาหกรรมทอผ้าขนสัตว์ในอังกฤษ ขยายตวั อย่างตอ่ เนอื่ ง การเกษตร หลังจากทองคาเริ่มลดลง ออสเตรเลียได้ดาเนินนโยบายเปิดพรมแดนเพ่ือขยายพืนที่การเกษตร พร้อมทังตังวิทยาลัยการเกษตรและใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับปรุงพัฒนาพันธุ์พืชและการเพาะปลูก จนกลายเป็นประเทศท่ีเจรญิ ก้าวหน้าด้านการเกษตรและเป็นผนู้ าส่งออกพชื พันธ์ุต่างๆ

การพัฒนาการด้านสงั คมและ ศลิ ปวัฒนธรรม ในระยะของการบกุ เบกิ สงั คมและวฒั นธรรม เมื่อมกี ารค้นพบแหล่งทองคาในทศวรรษท่ี ๑๘๕๐ ทาใหม้ ี ของออสเตรเลียมีลกั ษณะเปน็ ตะวนั ตก และเปน็ สงั คมแบบสมภาค ผู้อพยพชนชนั กลางเข้ามาในออสเตรเลียมากขึน เกิดเปน็ ขบวนการเรยี กร้องและปฏิรปู กฎหมายการเลือกตงั จน การเข้ามาของชาวจนี ทนี่ าเอาวัฒนธรรมของตนเขา้ มาดว้ ย ทา นาไปสกู่ ารเลือกตงั เป็นผลสาเรจ็ ให้เกิดนโยบายออสเตรเลยี สาหรับคนผิวขาว หลังสงครามโลกครงั ที่ ๒ ออสเตรเลียมลี กั ษณะเป็น เพื่อปอ้ งกนั การเข้ามาของคนผวิ เหลืองและคนผิวดา สังคมนานาชาตทิ มี่ คี วามหลากหลายทางดา้ นวัฒนธรรม ซ่ึงถกู ยกเลิกไปในช่วงทศวรรษที่ ๑๙๖๐ เร่ิมเปดิ ตัวตอ่ สงั คมโลกมากขึน และการศกึ ษา ในระดบั อุดมศึกษาเกิดการขยายตวั เปน็ อย่างมาก ตงั แตท่ ศวรรษ ๑๙๖๐ รฐั บาลออสเตรเลยี เริ่มให้ความสนใจ และสนบั สนนุ ในศิลปะ วัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของ ชาวอะบอรจิ นิ สิ พร้อมทังสร้างความสมานฉันท์ระหวา่ ง ชาวออสเตรเลียผิวขาวและชนพืนเมืองอยา่ งเป็นรปู ธรรม

อิทธิพลของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชียเนยี ตอ่ สงั คมโลก • ศิลปะวิทยาการของชาวอะบอริจินิส ชนพืนเมืองของออสเตรเลีย ได้รับการฟื้นฟูจน กลายเปน็ ท่นี ิยมและช่นื ชอบของคนทั่วโลก • ออสเตรเลยี เป็นประเทศผนู้ าในดา้ นโทรทศั น์ วิทยุ อตุ สาหกรรมบันทกึ เสยี งและอุตสาหกรรม ภาพยนตร์ ซ่งึ เปน็ ท่รี ู้จกั ไปท่วั โลก • ออสเตรเลียเป็นประเทศผลผลิตทางเกษตรกรรมรายใหญ่ของโลก มีการปรับปรุงพันธ์ุพืช และใชเ้ ทคโนโลยสี มัยใหม่มาพฒั นาผลผลติ ใหม้ คี ณุ ภาพ • ปัจจุบนั ออสเตรเลียเปน็ ประเทศผู้นาท่ีสาคัญท่ีสุดในการส่งออกแร่ ถ่านหิน บ็อกไซต์ และ โอพอล • ออสเตรเลยี เป็นประเทศแรกที่ใช้ วิธีการลงคะแนนเสียงเลือกตังโดยวิธีลับ จนมีการนาไปใช้ใน หลายประเทศทั่วโลก