287 ด่านตรวจทางบก หรือด่านตรวจรถ มไี วเ้ พ่อื ตรวจยานพาหนะท่ีผา่ นทางน้นั เพือ่ ตรวจคน้ ของ ที่ลกั ลอบหนีภาษี เช่น ด่านตรวจทุ่งหลงุ จงั หวดั ชุมพรเป็นตน้ สนามบนิ ศุลกากร หมายถึง สนามบินสาหรับการนาเขา้ และส่งออกทางอากาศไดแ้ ก่สนมบิน ศลุ กากรสุวรรภูมิ สนามบินศุลกากรหาดใหญ่ สนามบินศุลกากรภูเกต็ สนามบินศุลกากรกระบี่ เชียงใหม่ เชียงราย อดุ รธานี เป็นตน้ อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง อาจประกาศท่าหรื อที่ ด่านศุลกากร สนามบินศลุ กากรเพิ่มเติม เพือ่ รองรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การขยายตวั ทางการคา้ การลงทุน ไดต้ ามความเหมาะสมในการออกกฎกระทรวงเพ่ือกาหนดด่านศุลกากรน้นั เป็ นนโยบายรัฐบาล อนั เน่ืองจากความต้องการของประชาชนในพ้ืนท่ี ท้ังน้ีต้องคานึงถึงความพร้อมในหลายๆด้าน เช่น ปริมาณการคา้ ขายชายแดน ณ จุดน้นั ความมน่ั คงของประเทศ ความปลอดภยั ของประชาชนที่ไปมา คา้ ขายในบริเวณดงั กล่าว ความพร้อมของหน่วยงานศุลกากร เจา้ หน้าที่ตรวจคนเขา้ เมือง หน่วยงาน ปกครองในพ้ืนที่ เป็นตน้ ซ่ึงมขี ้นั ตอนการปฏิบตั ิดงั น้ี ก. ข้นั ตอนแรกเร่ิมตน้ จากการเห็นพอ้ งตอ้ งกนั ของฝ่ ายปกครอง ทหารฝ่ ายความมนั่ คง ขา้ ราชการ พอ่ คา้ ประชาชน ท่ีเกี่ยวขอ้ งในทุกระดบั ของทอ้ งท่ี ท้งั น้ีจะตอ้ งมีขอ้ มูลเก่ียวกบั การประชุม หารือ หรือประสานงานกบั หน่วยงานของประเทศเพ่อื นบา้ นท่ีเก่ียวขอ้ งจนมี ความเห็นพอ้ งดว้ ย ในการต้งั ด่านศลุ กากร ณ จดุ น้นั ข. เมอ่ื ไดข้ อ้ สรุปที่ชดั เจนวา่ จุดผา่ นแดนถาวรดงั กลา่ ว มีความพร้อมและเหมาะสมท่ีจะ กาหนดต้งั ด่านศลุ กากรแน่นอนแลว้ ฝ่ ายปกครองในสงั กดั กระทรวงมหาดไทย จะทาเรื่อง เสนอคณะรัฐมนตรีใหค้ วามเห็นชอบ ค. หลงั จากคณะรัฐมนตรีใหค้ วามเห็นชอบแลว้ จะเป็นการจดั เตรียมงบประมาณเพ่อื การ ก่อสร้างที่ทาการด่านศลุ กากร และส่วนราชการต่างๆที่เกย่ี วขอ้ ง ง. กรมศุลกากรจะเป็นผรู้ ับหนา้ ที่ในการจดั ร่างกฎกระทรวงเพ่อื จดั ต้งั ด่านศุลกากรดงั กลา่ ว โดยเสนอเรื่องใหค้ ณะกรรมการกฤษฎกี าพิจารณากลนั่ กรองก่อนเสนอเรื่องใหร้ ัฐมนตรี กระทรวงการคลงั ลงนามในกฎกระทรวง และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ต่อไป 5 .โรงพกั สินค้า หมายถงึ สถานที่ซ่ึงใชเ้ ป็นที่พกั หรือท่ีเกบ็ สิ่งของหรือสินคา้ เมื่อไดข้ นถ่ายจาก เรือแลว้ และใชเ้ ป็นที่ใชป้ ล่อยของเหล่าน้นั 6คลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ น หมายถงึ คลงั สินคา้ ของเอกชนท่ี ทาสญั ญาใหไ้ วแ้ ก่รัฐบาลว่าจะเกบ็ รักษาของน้นั ไวด้ ว้ ยดี หากเสียหายจะรับใชใ้ หจ้ นครบ เมอ่ื ผู้ นาเขา้ จะนาสินคา้ ออกจากคลงั เมอื่ ใดก็ใหช้ าระอากรในวนั ที่นาของออก พระราชบญั ญตั ิ ศุลกากร พ.ศ. 2469 กาหนดคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ นไว้ 7 ประเภทตามวตั ถปุ ระสงคก์ ารเกบ็ สินคา้ แต่ละประเภท
288 6. การค้าชายแดน เหตุท่ีประเทศไทยมีชายแดนติดต่อกบั ประเทศเพอ่ื นบา้ น4ประเทศ คือ สหภาพ เมียนมาร์ สปป. ลาว กมั พูชา และมาเลเซียโดยเมยี นมาร์มพี รมแดนติดต่อกนั ยาวที่สุดคือระยะทาง ประมาณ 2,401 กม. รองลงมาคือ สปป.ลาว ระยะทาง 1,810 กม กมั พชู าระยะทาง 798 กม และ มาเลเซียระยะทาง 647 กม. ตามลาดบั จึงมกี ารคา้ ชายแดนตดิ ต่อกบั ประเทศดงั กลา่ ว การคา้ ชายแดนท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ระบบงานศลุ กากร สามารถแยกไดเ้ ป็น 3 รูปแบบคือ 6.1 .นาเขา้ (Import) หมายถงึ นาเขา้ มาใชห้ รือบริโภคภายในประเทศ นากลบั เขา้ มา (Re import) หมายถงึ ส่งออกไปก่อนแลว้ จึงนากลบั เขา้ มาภายหลงั 6.2. ส่งออก(Export) หมายถงึ ส่งออกไปนอกราชอาณาจกั ร ส่งกลบั ออกไป (Re-Export) หมายถงึ นาเขา้ มาก่อนแลว้ จึงส่งกลบั 6.3 การคา้ ผา่ นแดน หมายถงึ การคา้ ท่ีเกิดข้ึนจากประชาชนหรือผปู้ ระกอบการคา้ จากประเทศ หน่ึงส่งผา่ นประเทศท่ีสองไปยงั ประเทศท่ีสาม หรือจากประเทศท่ีสามผ่านแดนประเทศที่สอง มายงั ประเทศที่หน่ึง ท้งั น้ี แต่ละประเทศจะตอ้ งยนิ ยอมใหม้ ีการขนส่งสินคา้ ผา่ นแดนกนั ได้ (1) นาผ่ านหรื อส่ งผ่ านประเทศ (Tran or Transshipment) หมายถึง ขนสิ นค้าผ่าน ราชอาณาจกั รโดยมิไดใ้ ชป้ ระโยชน์หรือนาไปสร้างรายไดใ้ ห้เกิดข้ึนภายในประเทศ สินคา้ ประเภทน้ี จะไม่มีภาระในอนั จะตอ้ งเสียภาษี และไมม่ ีภาระในการขออนุญาตนาเขา้ และส่งออกสินคา้ ผา่ นแดน (Transit cargo) ใชส้ าหรับประเทศ Land locked country ตามอนุสญั ญาบาเซโลนา ค.ศ. 1921 (2) สินค้าถ่ายลา (Transshipment cargo) หมายถงึ การปฏิบตั ิวิธีการศลุ กากรเพอื่ ลาเลยี งถา่ ย ของจากยานพาหนะหน่ึงทีข่ นของเขา้ มาไปยงั อีกยานพาหนะหน่ึงท่ีขนส่งของออกไปภายในท่าหรือท่ี แห่งเดียวกนั ภายใตก้ ารควบคุมของศลุ กากร โดยมจี ุดเริ่มตน้ และจุดสิ้นสุดของการขนส่งอยนู่ อก ราชอาณาจกั ร ปัจจุบนั ไดม้ ีประกาศกรมศลุ กากรที่ 91/2547 กาหนดระเบียบปฏิบตั ิไวเ้ ป็นการเฉพาะ เรื่องแลว้ นอกจากน้ียงั มี พ.ร.บ. การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ พ.ศ. 2548 ออกมาบงั คบั ใช้ เพื่อ สนบั สนุนการคา้ ระหว่างประเทศตามความผกู พนั ท่ีประเทศไทยมตี ่อนานาชาติ การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ หมายถงึ การรับขนของโดยมีรูปแบบการขนส่งท่ีแตกต่าง กนั ต้งั แต่สองรูปแบบข้ึนไปภายใตส้ ญั ญาขนส่งต่อเน่ืองหลายรูปแบบฉบบั เดียว โดยขนส่งจากสถานท่ี ซ่ึงผปู้ ระกอบการขนส่งต่อเน่ืองไดร้ ับมอบของในประเทศหน่ึงไปยงั สถานท่ีซ่ึงกาหนดใหเ้ ป็นสถานที่ ส่งมอบของในอีกประเทศหน่ึง (3) จดุ ผ่านแดนชั่วคราว หมายถงึ การเปิ ดเพื่อผอ่ นผนั ใหม้ ีการผา่ นแดนได้ เพอ่ื วตั ถปุ ระสงค์ เฉพาะภายในหว้ งเวลาท่กี าหนดไวแ้ น่นอนเฉพาะกิจ ไมม่ ผี ลกระทบต่อความมนั่ คงและความ ปลอดภยั เม่อื ครบเวลา หรือบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ ลว้ จะปิ ดจุดผา่ นแดนทนั ที โดยรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทยจะเป็นผลู้ งนามในประกาศกระทรวงมหาดไทยเพื่อปิ ดจุดผา่ นแดนทนั ที
289 (4) จุดผ่อนปรน หมายถึง ประกาศของผูว้ ่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบของ กระทรวงมหาดไทย เพื่อช่วยเหลือประเทศบา้ นดา้ นมนุษยธรรม และส่งเสริมความสมั พนั ธข์ อง ประชาชนในระดบั ทอ้ งถิน่ เพ่ือผ่อนปรนให้มีการคา้ ขายสินคา้ อุปโภคบริโภค และยารักษาโรคที่ จาเป็น ซ่ึงระดบั ทอ้ งถิ่นของท้งั สองฝ่ ายเห็นชอบร่วมกนั ปัจจุบนั ไมม่ ดี ่านศุลกากรใดต้งั อยู่ ณ จุด ผา่ นแดนชวั่ คราว หรือจุดผอ่ นปรน แต่อยา่ งใด 7. ของตกค้าง ของริบ และของยดึ 7.1 ของตกคา้ งหมายถึง ของท่ีอยใู่ นอารักขาของกรมศุลกากรในลกั ษณะใดลกั ษณะหน่ึงดงั น้ี (1) ของนาเขา้ ที่เป็นอนั ตรายตามชนิดหรือประเภทที่อธิบดีประกาศกาหนดที่ผนู้ าเขา้ ไมไ่ ด้ เสียอากร และนาของออกไปจากเขตศลุ กากรภายในเวลาท่อี ธิบดีประกาศกาหนด (2) ของอนื่ ใดนอกจากขอ้ 7.1เมื่ออยใู่ นอารักขาของศลุ กากรถงึ สองเดือน โดยไมม่ ีใบขน สินคา้ อนั ไดร้ ับรองและไมไ่ ดเ้ สียอากรหรือวางประกนั ค่าอากรที่พงึ เรียกเก็บจากของน้นั เมือ่ อธิบดีไดแ้ จง้ ไปยงั ตวั แทนเรือ ท่ีนาของน้นั เขา้ มาครบ15วนั แลว้ แต่ตวั แทนเรือดงั กล่าวยงั ไม่ มาปฏบิ ตั ิพิธีการศุลกากร เพือ่ นาของออกไป ใหถ้ อื เป็นของตกคา้ ง (3) ของท่ีนาเขา้ มาเป็นของสด เสียง่าย เจา้ ของยงั ไมไ่ ดน้ าออกไป แต่ของน้นั แสดงอาการบูด เน่าแลว้ ภายหลงั สามวนั นบั จากวนั ที่มาถึง (4) สินคา้ ผา่ นแดนท่ีนาเขา้ มาครบ5เดือนแลว้ ยงั ไม่ส่งออก กรมศุลกากรจะแจง้ ใหต้ วั แทนเรือ มานาของออกไปภายในสามสิบวนั ถา้ ไม่นาออกไปถอื เป็นของตกคา้ ง วธิ ีการดาเนินการกบั ของตกค้าง 1. ใหพ้ นกั งานนาออกขายทอดตลาด 2. ใหต้ วั แทนเรือส่งของน้นั ออกนอกราชอาณาจกั ร 3. ใหพ้ นกั งานทาลาย เงินท่ีไดจ้ ากการขายของตกคา้ ง ใหห้ กั ค่าภาษี ค่ารกั ษา ค่าขนยา้ ยใหก้ บั กรมศลุ กากร ส่วนที่ เหลอื ใหช้ าระค่าติดพนั ต่างๆ ที่เหลอื ใหต้ กเป็นของแผน่ ดิน 7.2 ของอนั พึงตอ้ งริบ หมายถงึ ของดงั ต่อไปน้ี 1. ของที่ยงั ไม่ไดเ้ สียภาษี ของตอ้ งกากดั ของตอ้ งหา้ ม หรือของใดๆที่มิไดผ้ า่ นด่านศลุ กากร โดยถูกตอ้ ง 2. เรือชนิดใดๆอนั มีระวางไม่เกิน250ตนั รถ เกวยี น ยานพาหนะ ภาชนะต่างๆท่ีช่วยในการ ขนของตามขอ้ 1 3. เรือท่ีอยภู่ ายในเขต ท่าและมสี ินคา้ ในเรือ ภายหลงั ปรากฏวา่ เรือลาน้นั เบาลอยตวั ข้ึนหรือมี แต่อบั เฉา โดยนายเรือไมส่ ามารถพิสูจนว์ า่ ไดข้ นของข้ึนโดยชอบ
290 4. หีบห่อท่ีมีขนาดหรือลกั ษณะผดิ พระราชบญั ญตั ศิ ุลกากร 5. ของที่ทาทณั ฑบ์ นวา่ จะส่งออกโดยเรือลาใด แต่มิไดน้ าลงเรือใหเ้ สร็จก่อนเรือลาน้นั ออก 6. สินคา้ ท่ีขนถ่ายจากเรือโดยมิไดร้ ับอนุมตั จิ ากอธิบดีกรมศลุ กากร 7. สินคา้ ที่เกบ็ อยใู่ นคลงั สินคา้ แลว้ ลกั ลอบนาออกไปเปล่ียนแปลงสภาพโดยมิไดร้ ับอนุญาต 8. ของที่ไดค้ ืนค่าภาษีแลว้ และใหน้ าไปท่าเรือเพ่ือการส่งออก และพบวา่ ของน้นั ไมต่ รงกบั ใบ ขนสินคา้ หรือเอกสารต่างๆเป็นเท็จ 9. ของท่ีขนส่งนอกทางอนุมตั ิ 7.3 ของยดึ หมายถึง ของใดๆอนั พงึ ตอ้ งยดึ ตามพระราชบญั ญตั ิศลุ กากร พ.ศ. 2469 ถา้ เจา้ ของ ไม่มายน่ื คาร้องภายใน60วนั สาหรับยานพาหนะที่ใชใ้ นการทาผดิ และ30วนั สาหรับส่ิงอ่นื ท้งั น้ี นบั ต้งั แต่วนั ท่ียดึ ไว้ ใหต้ กเป็นของแผน่ ดิน 8. พธิ กี ารศุลกากร พิธีการศลุ กากรเป็นการกาหนดแนวทางใหผ้ นู้ าเขา้ และผสู้ ่งสินคา้ ออกปฏบิ ตั ิเกี่ยวกบั การเสีย อากร วิธีการควบคุมสินคา้ นาเขา้ ส่งออก การจดั ท่าเรือ การควบคุมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ขอ้ หา้ มขอ้ จากดั การขนส่งทางเรือ ทางอากาศ ทางบกและ ทางรถไฟพธิ ีการศลุ กากรที่ท่ีประเทศไทยใช้ อยใู่ นปัจจุบนั ไดป้ รับปรุงแกไ้ ขใหม้ ีความทนั สมยั ตามการเปลี่ยนแปลงทางดา้ นเศรษฐกิจ และ เทคโนโลยี เพ่อื กา้ วทนั กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกการดาเนินพธิ ีการศลุ กากรขาเขา้ หรือขาออก อาจจาแนกตามสายงานคมนาคมดงั น้ี 1. พธิ ีการศุลกากรทางเรือเดินทะเล 2. พิธีการศุลกากรทางบก 3. พิธีการศลุ กากรทางอากาศยาน 4. พิธีการศุลกากรทางไปรษณีย์ 5. พธิ ีการศลุ กากรสาหรับนกั ทศั นาจร การดาเนินการพิธีการศลุ กากรตามสายงานคมนาคมน้ีจะมี ข้นั ตอนคลา้ ยคลึงกนั คือ 1. ข้นั เตรียมเอกสาร เช่น ใบขนสินคา้ แบบแสดงรายการคา้ บญั ชีราคาสินคา้ เป็นตน้ 2. ยนื่ เอกสารต่อเจา้ พนกั งาน เพอ่ื ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ที่ตรวจสอบและดาเนินการในข้นั ต่อไป 3. การตรวจสอบของเจา้ พนกั งาน พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีจะตรวจสอบ 3 ข้นั ตอนคือ ตรวจสอบ พธิ ีการ ตรวจสอบการคานวณและตรวจสอบพิกดั อตั ราศุลกากร เมอ่ื ผา่ นพิธีการศุลกากรข้นั ตอน ต่างๆแลว้ ผนู้ าเขา้ ตอ้ งชาระเงินอากร หรือเงินประกนั ภาษีอากร เจา้ หนา้ ที่ศุลกากรจึงทาการตรวจ ปลอ่ ยสินคา้ ตามปกติ ปัจจุบนั กรมศลุ กากรไดน้ าระบบคอมพิวเตอร์มาใชเ้ พือ่ ใหบ้ ริการแก่ผนู้ าเขา้ - ส่งออก คือ ระบบ EDI Based On - Line network
291 6. ระบบ EDI (Electronic data interchange) คือการใชเ้ คร่ืองคอมพวิ เตอร์ในการรับส่งเอกสารธุรกิจ ระหวา่ งหน่วยงานต้งั แต่2หน่วยงานข้ึนไป ทาใหก้ ารปฏิบตั ิพิธีการศุลกากรมคี วามแมน่ ยา รวดเร็ว และสามารถใหบ้ ริการไดต้ ลอด 24 ชม 7. สรุป ภาษีศลุ กากร เป็นการเก็บภาษีจากการนาเขา้ และส่งออกสินคา้ โดยทวั่ ไปจะไมเ่ กบ็ อากรขา ออกท้งั น้ีเพ่อื เป็นการส่งเสริมการส่งออกของประเทศ ภาษศี ลุ กากร เป็นภาษีทางออม้ ที่ผนู้ าเขา้ ผลกั ภาระไปใหผ้ บู้ ริโภคภายในประเทศไดพ้ กิ ดั ศลุ กากรในปัจจุบนั ใชร้ ะบบฮาโมไนซแ์ บ่งสินคา้ ออกเป็น 21 หมวด 97 ตอน การเกบ็ ภาษีศลุ กากรมี 3 อตั รา คืออตั ราตามราคา อตั ราตามปริมาณหรือตามสภาพ และเกบ็ ตามราคา หรือตามปริมาณแลว้ แต่วิธีใดไดจ้ านวนเงินภาษีสูงกวา่ อากรขาเขา้ เก็บจากราคาซีไอเอฟ อากรขาออกเก็บตามราคาเอฟโอบี ของที่ไดร้ ับยกเวน้ อากรมี 19 ประเภท อยา่ งไรกต็ ามภายใตข้ อ้ ตกลงความร่วมมือทางการคา้ อาจไมเ่ ก็บอากรขาเขา้ ระหวา่ งประเทศท่ี มีขอ้ ตกลงร่วมกนั ได้
292 คาถามท้ายบทท่ี 9 1. ภาษีศุลกากรคืออะไร 2. จงระบุวตั ถุประสงคก์ ารจดั เก็บภาษีศุลกากร 3. ปัจจุบนั สินคา้ ใดที่มีการเสียอากรขาออก 4. พิกดั ศุลกากรระบบฮาร์โมไนซแ์ บ่งสินคา้ เป็นก่ีหมวดหมใู่ หย้ กตวั อยา่ งประกอบมา 4 หมวดหมู่ 5. ใหอ้ ธิบายความหมายของคาต่อไปน้ี 1) ของตอ้ งกากดั 2) ของตอ้ งหา้ ม 3) ของควบคุม 4) คลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ น 6. ของตกคา้ ง หมายความว่าอยา่ งไร กรมศลุ กากรมวี ธิ ีจดั การกบั ของตกคา้ งอยา่ งไร 7. จุดผา่ นแดนชวั่ คราว กบั จุดผอ่ นปรนต่างกนั อยา่ งไร 8. ใหอ้ ธิบายความหมายของคาต่อไปน้ี 1) ท่า หรือท่ี และสนามบินศุลกากร 2) ด่านพรมแดน 3) ทางอนุมตั ิ 4) ด่านตรวจทางบก 9. พธิ ีการศลุ กากรหมายถงึ อะไร ใหอ้ ธิบายพอสงั เขป
293 เอกสารอ้างองิ สมคิด บางโม(2551)ภาษีอากรธุรกิจ,กรุงเทพฯ: โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั รามคาแหง พนู ศรี สงวนชีพ(2546) นโยบายและการบริหารการภาษีอากร,กรุงเทพฯ :โรงพิมพ์ มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช(2552)เอกสารประกอบการสอนชุดวิชากฎหมายธุรกิจและ การภาษีอากรนนทบุรี:โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช เวก ศริ ิวิมลวาทิน (2538) การภาษีอากร,กรุงเทพฯ:สานกั พมิ พศ์ ูนยส์ ่งเสริมวิชาการ พระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพิม่ เติมพระราชกาหนดพกิ ดั อตั ราศลุ กากร 2530 (ฉบบั ที่ 7) พ.ศ. 2548 ราชกิจจานุเบกษาเลม่ 122 ลว 13 ม.ค. 2548 พระราชบญั ญตั ิศลุ กากร พ ศ.2469 (แกไ้ ขฉบบั ที่ 20 พ.ศ. 2548)ราชกิจจานุเบกษาเลม่ ที่ 122 http://igff.custom.go.th
294 แผนบริหารการสอน ภาษสี รรพสามติ เนื้อหาประจาบท 1. ความหมายและวตั ถุประสงคใ์ นการจดั เกบ็ ภาษีสรรพสามติ 2. กฎ หมายที่เกี่ยวขอ้ งกบั ภาษีสรรพสามติ 3. สินคา้ และบริการที่ตอ้ งเสียภาษีสรรพสามิต 4. ผมู้ หี นา้ ที่เสียภาษีสรรพสามติ 5. ความรับผดิ ในการเสียภาษีสรรพสามติ 6. วธิ ีการจดั เก็บภาษีสรรพสามติ 7. การชาระภาษี 8. บทกาหนดโทษ 9. สรุปภาษีสรรพสามิต 10. บญั ชีอตั ราภาษีสรรพสามติ วตั ถุประสงค์เชิงพฤตกิ รรม หลงั จากเรียนบทน้ีแลว้ นกั ศกึ ษาควรมีพฤติกรรมดงั น้ี 1. อธิบายความหมายและวตั ถุประสงคใ์ นการจดั เก็บภาษีสรรพสามิตได้ 2. ระบุสินคา้ และบริการท่ีตอ้ งเสียภาษีสรรพสามิตได้ 3. ระบุผมู้ ีหนา้ ท่ีเสียภาษีสรรพสามิตได้ 4. อธิบายวิธีการจดั เก็บภาษีสรรพสามติ ได้ 5. ตอบคาถามทา้ ยบทได้ วธิ สี อนและกจิ กรรมการเรียนการสอน 1. อาจารยบ์ รรยายสรุปเน้ือหาในบทเรียน 2. นกั ศกึ ษานาเสนองานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 3. ร่วมกนั อภิปรายและตอบขอ้ ซกั ถาม 4. นกั ศกึ ษาตอบคาถามทา้ ยบทเรียน 5. นกั ศกึ ษาทาแบบฝึกหดั เพิ่มเติม สื่อการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน บทท่ี10 2. Power point สรุปเน้ือหาวิชา 3. คาถามทา้ ยบท
295 4. แบบฝึกหดั เพิ่มเติม การวดั และการประเมนิ ผล 1. สงั เกตความต้งั ใจเรียน 2. พิจารณาจากการนาเสนองานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 3. ตรวจคาถามทา้ ยบท 4. ตรวจแบบฝึกหดั เพิม่ เติม
296 บทท่ี 10 ภาษีสรรพสามิต ภาษีสรรพสามติ (excise tax) เป็นภาษีทางออ้ มอีกชนิดหน่ึง ท่ีสามารถผลกั ภาระไปยงั ผบู้ ริโภคได้ ฐานภาษีสรรพสามติ ไดแ้ กก่ ารบริโภคสินคา้ หรือบริการบางชนิดท่ีมีลกั ษณะฟ่ มุ เฟื อย ไม่ จาเป็นต่อการดารงชีพตามปกติ ขดั ต่อศลี ธรรมอนั ดี ทาลายสิ่งแวดลอ้ ม เป็นอนั ตรายต่อสุขภาพ และ บริการเพอื่ ความบนั เทิงบางประเภท ตลอดจนสินคา้ ท่ีไดร้ บั สิทธิพเิ ศษจากรัฐ โดยแยกใหเ้ ห็นตวั อยา่ ง ดงั น้ี ภาษีที่เกบ็ จากสินคา้ ที่ฟ่ ุมเฟื อยไม่จาเป็นต่อการดารงชีพ เช่น เคร่ืองแกว้ คริสตสั ภาษีท่ีเกบ็ จาก สินคา้ หรือบริการท่ีขดั ต่อศีลธรรมดีงาม (sin tax) เช่นไพ่ การพนนั ภาษีที่เกี่ยวกบั สิ่งแวดลอ้ ม (environment tax) เช่นสารที่ทาลายช้นั บรรยากาศ ภาพาษีท่ีเก่ียวกบั ความบนั เทิง (entertainment tax) รถยนตน์ ไนตค์ ลบั สถานอาบ อบตวั และนวด ภาษีท่ีเกบ็ จากสินคา้ ทไ่ี ดร้ ับสิทธิประโยชนจ์ ากรัฐ เช่น รถยนต์ เป็นตน้ 1. วตั ถุประสงค์ในการจดั เกบ็ 1.1 เพือ่ หารายได้ 1.2 เพื่อจากดั การบริโภคสินคา้ และบริการบางประเภทของประชาชน 2. กฎหมายท่ีเกยี่ วข้อง ในการจดั เกบ็ ภาษีสรรพสามิตมกี ฎหมายสาคญั ท่ีเกี่ยวขอ้ งในการปฏบิ ตั ิการจดั เกบ็ ภาษีหลาย ฉบบั ดงั น้ี 2.1 พระราชบญั ญตั ภิ าษีสรรพสามติ พ.ศ.2527 2.2 พระราชบญั ญตั ิพกิ ดั ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 2.3 พระราชบญั ญตั ิสุรา พ.ศ. 2486 2.4 พระราชบญั ญตั ิยาสูบ พ.ศ. 2509 2.5 พระราชบญั ญตั ิไพ่ พ.ศ. 2486 2.6 พระราชบญั ญตั ิจดั สรรเงินภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 2.7 พระราชบญั ญตั ิจดั สรรเงินภาษีสุรา พ.ศ. 2527 ซ่ึงกฎหมายดงั กล่าวไดม้ กี ารแกไ้ ขเพิ่มเติม เพื่อความเหมาะสมตามสภาพเศรษฐกิจและสงั คมในเวลาต่อมาตามลาดบั
297 3. สินค้าและบริการที่ต้องเสียภาษีสรรพสามติ ปัจจุบนั มสี ินคา้ และบริการท่ีตอ้ งเสียภาษีสรรพสามติ จาแนกเป็น 13 ตอนดงั น้ี ตอนที่ 1 นา้ มนั และผลติ ภัณฑ์นา้ มนั ตอนที่ 2 เคร่ืองด่ืม ตามพระราชบญั ญตั ิเคร่ืองดื่ม พ.ศ. 2495 เคร่ืองดื่ม หมายถึง สิ่งท่ีตามปกติใชเ้ ป็นเครื่องด่ืมโดยไมต่ อ้ ง เจือปนและไม่มีแอลกอฮอลโ์ ดยจะมีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ หรือไม่ก็ตาม อนั บรรจุในภาชนะและ ผนึกไวแ้ ต่ไม่รวมถงึ น้าหรือน้าแร่ตามธรรมชาติ น้ากลนั่ หรือน้ากรองสาหรับด่ืมโดยไมป่ รุงแต่ง น้านม จืด น้านมอื่นๆที่กาหนดไวใ้ นกฎหมายว่าด้วยอาหารเครื่องด่ืมที่ผผู้ ลิตไดผ้ ลิตข้ึนเพื่อขายปลีกเอง โดยเฉพาะอนั มไิ ดม้ ีกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซดอ์ ยดู่ ว้ ย ตอนที่ 3 เครื่องใช้ไฟฟ้า เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า หมายถึงผลิตภณั ฑท์ ่ีใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า และใหร้ วมถึงสิ่งท่ีใชป้ ระกอบกบั ไฟฟ้าหรือ เกี่ยวกบั ไฟฟ้าดว้ ย ตอนที่ 4 แก้วและเคร่ืองแก้ว หมายถงึ สิ่งของและเครื่องใชท้ ี่ทาดว้ ยแกว้ ตอนท่ี 5 รถยนต์ รถยนต์ หมายถึง รถที่มีลอ้ ต้งั แต่สามลอ้ และเดินดว้ ยกาลงั เครื่องยนต์ กาลงั ไฟฟ้า หรือพลงั งานอื่น แต่ ไม่รวมถงึ รถที่เดินบนราง รถจกั รยานยนตท์ ่ีมีพว่ งขา้ งไมเ่ กนิ 1 ลอ้ และรถยนตท์ ่ีรัฐมนตรีประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา รถยนตน์ งั่ หมายความวา่ รถเก๋งหรือรถยนตท์ ่ีออกแบบสาหรับใชเ้ ป็นปกติวิสยั และใหห้ มายความ รวมถึงรถยนตใ์ นลกั ษณะทานองเดียวกนั เช่นรถยนตท์ ี่มีหลงั คาติดต่อเป็นเน้ือเดียวกนั ในลกั ษณะถาวร ดา้ นขา้ งหรือดา้ นหลงั คนขบั มปี ระตูหรือหนา้ ต่างและมที ่ีนงั่ ท้งั น้ีไม่วา่ จะมีท่นี งั่ เท่าใด รถยนตโ์ ดยสาร หมายถงึ รถตูห้ รือรถยนตท์ ี่ออกแบบเพอื่ ใชข้ นส่งคนโดยสารจานวนมาก รวมท้งั รถยนตใ์ นลกั ษณะทานองเดียวกนั รถยนตก์ ระบะ หมายความวา่ รถยนตท์ ี่มีที่นงั่ ดา้ นหนา้ ตอนเดียวสาหรับคนขบั และดา้ นหลงั เป็น กระบะบรรทุก ซ่ึงเปิ ดโลง่ จนถงึ ทา้ ยรถโดยไม่มีหลงั คา ตอนท่ี 6 เรือ เรือ หมายความว่า ยานพาหนะทางน้าทกุ ชนิด ตอนที่ 7 ผลติ ภัณฑ์เคร่ืองหอมและเคร่ืองสาอาง ผลติ ภณั ฑเ์ ครื่องหอม หมายความวา่ น้าหอม หวั น้าหอม และสิ่งที่ทาใหม้ กี ลิน่ หอมต่างๆแต่ไม่รวมถงึ หวั น้าหอมที่ใชไ้ ดเ้ ฉพาะผลิตสินคา้
298 เครื่องสาอาง หมายความวา่ ผลิตภณั ฑป์ รุงแต่งเพ่ือใชบ้ นผวิ หนงั หรือส่วนใดส่วนหน่ึงของร่างกาย มนุษยส์ าหรับทาความสะอาด ป้องกนั แต่งเสริมใหเ้ กิดความงามหรือเปลย่ี นแปลงรูปลกั ษณะโดยถู ทา หรือโรย แต่ไมร่ วมถงึ เภสชั ผลติ ภณั ฑ์ ตอนท่ี 8 สินค้าอน่ื ๆ ไดแ้ ก่ พรมปูพน้ื ท่ีทาดว้ ยขนสตั ว์ รถจกั รยานยนต์ หินออ่ น หินแกรนิต แบตเตอรี สารทาลายช้นั บรรยากาศโอโซน ตอนที่ 9 กจิ การบนั เทิงหรือหย่อนใจ กิจการบนั เทิงหรือหยอ่ นใจ หมายความวา่ การประกอบกิจการในดา้ นบนั เทิงหรือหยอ่ นใจต่างๆใน สถานบริการเพือ่ หารายไดเ้ ป็นธุรกิจ เช่น ไนตค์ ลบั ดิสโกเธค เป็นตน้ ตอนที่ 10 กจิ การเสี่ยงโชค กิจการเสี่ยงโชค หมายความวา่ การประกอบกิจการในดา้ นการจดั ใหม้ กี ารเส่ียงโชคดว้ ยวิธีการใดๆ เพื่อใหไ้ ดเ้ งินรางวลั หรือประโยชน์อยา่ งอน่ื เช่น สนามแข่งมา้ เป็นตน้ ตอนท่ี 11 กจิ การทมี่ ผี ลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม หมายถึง การประกอบกิจการที่มผี ลกระทบต่อ ดุลยภาพของสิ่งแวดลอ้ มเพอ่ื หารายไดเ้ ป็นธุรกิจ เช่น สนามกอลฟ์ เป็นตน้ ตอนที่ 12 กจิ การท่ไี ด้รับสัมปทานจากรัฐ หมายความวา่ การประกอบกิจการใดๆในลกั ษณะท่ี เป็นการใหบ้ ริการแก่ประชาชนทวั่ ไป โดยไดร้ ับอนุญาตหรือสมั ปทานจากรัฐใหด้ าเนินกิจการได้ เช่น กิจการโทรคมนาคม เป็นตน้ ตอนท่ี 13 สุรา ตาม พระราชบญั ญตั ิ สุรา พ ศ . 2493 สุรา หมายถงึ วตั ถุท้งั หลายหรือของผสมท่ีมีแอลกอฮอลซ์ ่ึงดื่มกินไดเ้ ช่นเดียวกบั น้าสุรา หรือซ่ึงด่ืมกิน ไมไ่ ด้ แต่เมื่อไดผ้ สมกบั น้าหรือของเหลวอยา่ งอ่นื แลว้ สามารถดื่มกินไดเ้ ช่นเดียวกบั น้าสุรา สุราแช่ หมายถึง สุราที่ไม่ไดก้ ลน่ั และให้หมายความรวมถึงสุราแช่ท่ีได้ผสมกบั สุรา แต่ยงั มีแรง แอกอฮอลไ์ มเ่ กินสิบหา้ ดีกรีดว้ ย เช่นเบียร์ ไวน์ เป็นตน้ สุราสามทบั คือ สุรากลนั่ ที่มีแรงแอลกอฮอลแ์ ปดสิบดีกรีข้ึนไป ตามพระราชบญั ญตั ิยาสูบ พ.ศ.2509 กาหนดให้เกบ็ ภาษียาเสน้ ซิกาแรต และผลิตภณั ฑจ์ ากยาสูบ โดย เก็บจากผูผ้ ลิต และผูป้ ระกอบก ารขาย ท้ังยาสูบที่ผลิตภายในประเทศ และนาเข้ามาภายใน ราชอาณาจกั ร โดยใหน้ ิยามความหมายดงั น้ี ยาสูบ หมายถึง ใบยาหรือยาอดั ซ่ึงไดห้ นั่ เป็นเสน้ และแหง้ แลว้ ยาอดั หมายถงึ ส่วนใดส่วนหน่ึงของตน้ ยาสูบซ่ึงไดป้ นหรือย่อยและทาเป็ นแผน่ โดยมีวตั ถุอน่ื เจือปน ดว้ ยหรือไม่กต็ าม
299 บุหร่ีซิกาแรต หมายถึง ยาเสน้ หรือยาปรุง ไม่ว่าจะมีใบยาแห้ง หรือยาอดั เจือปนหรอไม่ ซ่ึงมวนดว้ ย กระดาษหรือวตั ถทุ ่ีทาข้ึนแทนกระดาษหรือใบยาแหง้ หรือยาอดั บุหรี่ซิการ์ หมายถึง ใบยาแหง้ หรือยาอดั ซ่ึงมวนดว้ ยใบยาแหง้ และยาอดั บุหร่ีอ่ืน หมายถึง ยาเสน้ หรือยาเสน้ ปรุง ซ่ึงมวนดว้ ยใบตอง กลีบบวั กาบหมาก ใบมะกา ใบจาก หรือ วตั ถุอ่นื ซ่ึงมใิ ช่กระดาษหรือวตั ถุที่ทาข้ึนใชแ้ ทนกระดาษ และท่ีมใิ ช่ใบยาหรือยาอดั ยาเสน้ ปรุง หมายถงึ ใบยาที่มิใช่ใบยาพนั ธย์ าสูบพ้ืนเมอื งหรือยาอดั ซ่ึงไดห้ นั่ เป็นเสน้ และปรุงหรือปน ดว้ ยวตั ถุอ่นื นอกจากน้า ยาเคยี้ ว หมายถึง ส่วนใดส่วนหน่ึงของใบยาแหง้ นอกจากใบยาแหง้ พนั ธพ์ ้ืนเมือง ซ่ึงไดป้ รุงหรือปน ดว้ ยวตั ถอุ ่นื นอกจากน้าเพ่ืออมหรือเค้ียว ไพ่ ตามพระราชบญั ญตั ิไพ่ พ.ศ. 2486 มาตรา 4 ใหค้ วามหมายว่า ไพ่ ซ่ึงทาดว้ ยกระดาษหรือหนงั หรือ ซ่ึงทาดว้ ยวตั ถอุ ืน่ ตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง และในมาตรา 5 หา้ มมิใหผ้ ใู้ ดทาไพห่ รือนาไพเ่ ขา้ มา เวน้ แต่ไดร้ ับอนุญาตจากอธิบดี และในมาตรา 7 หา้ มมใิ หผ้ ใู้ ดขายไพ่เป็นการคา้ เวน้ แต่ไดร้ ับอนุญาต จากเจา้ พนกั งาน การออกใบอนุญาตผขู้ อตอ้ งเสียค่าธรรมเนียมตามที่กาหนดไวใ้ นกฎกระทรวง ปัจจุบันเก็บภาษีจากไพ่ท่ีนาเขา้ เท่าน้ัน ผูน้ าเข้าตอ้ งนาไพ่ประทบั ตราสรรพสามิตและเสีย ค่าธรรมเนี ยมตามชนิ ดและวัตถุท่ีทาไม่เกินร้อยละ30บาทและปิ ดแสตมป์ ที่ซองไพ่ที่ชาระ ค่าธรรมเนียมแลว้ สาหรับไพ่ท่ีผลิตภายในประเทศไม่มีการเก็บภาษีเพราะ โรงงานผลิตไพ่เป็ น รัฐวสิ าหกิจสงั กดั กรมสรรพสามิตจะผกู ขาดการผลติ ไพเ่ พยี งผเู้ ดียว โรงงานไพผ่ ลติ ไพ่ 5ชนิดดงั น้ี 1. ไพ่ไทย หรือไพ่ผอ่ ง สารับหน่ึงมี 120 ใบ 2. ไพผ่ อ่ งจีน สารับหน่ึงมี 116 ใบ 3. ไพ่จีนสี่สี สารับหน่ึงมี 112 ใบ 4. ไพป่ ๊ อกกระดาษ สารับหน่ึงมี 54 ใบ 5. ไพป่ ๊ อกพลาสติก สารับหน่ึงมี 54 ใบ สาหรับไพ่นาเขา้ อนุญาตนาเขา้ เฉพาะไพป่ ๊ อกเท่าน้นั 4.ผ้มู หี น้าทเี่ สียภาษี ผมู้ ีหนา้ ที่เสียภาษีสรรพสามิต ไดก้ าหนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิภาษีสรรพสามติ พ.ศ. 2527 มาตรา 7 ดงั น้ี 4.1 ผปู้ ระกอบการอตุ สาหกรรม 4.2 ผปู้ ระกอบการสถานบริการ 4.3 ผปู้ ระกอบการนาเขา้ สินคา้ 4.4 ผอู้ น่ื ตามท่ีกฎหมายกาหนด เช่นผดู้ ดั แปลงรถยนตก์ ระบะใหเ้ ป็นรถยนตน์ งั่ เป็นตน้
300 5. ความรับผดิ ในการเสียภาษีสรรพสามติ ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบญั ญตั ภิ าษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 กาหนดความรับผดิ ในการ เสียภาษีสรรพสามติ ไวด้ งั น้ี 5.1 ในกรณีสินคา้ ท่ีผลิตข้ึนในราชอาณาจกั ร (ก) ถา้ สินคา้ อยใู่ นโรงงานอตุ สาหกรรม ใหถ้ อื ว่าความรับผดิ ในการเสียภาษีเกดิ ข้ึนในเวลาท่ีนา สินคา้ ออกจากโรงงานอุตสาหกรรม เวน้ แต่เป็นการนาสินคา้ ออกจากโรงงานอุตสาหกรรมไปเก็บไว้ ในคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ น และถา้ ผปู้ ระกอบการอุตสาหกรรมหรือบุคคลใดนาสินคา้ ดงั กล่าวไปใชภ้ ายใน โรงงานอุตสาหกรรมกใ็ หถ้ ือวา่ เป็นการนาสินคา้ ออกจากโรงงานอุตสาหกรรม (ข) ถา้ สินคา้ เก็บอยใู่ นคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ น ใหถ้ อื วา่ ความรับผดิ ในอนั จะตอ้ งเสียภาษีเกิดข้ึนใน เวลาท่ีนาสินคา้ ออกจากคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ น เวน้ แต่เป็นการนาสินคา้ กลบั คืนไปเก็บไวใ้ นโรงงาน อตุ สาหกรรม หรือไปเก็บไวใ้ นคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ น อีกแห่งหน่ึง ในกรณีท่ีความรับผดิ ในการเสียภาษีมูลค่าเพิม่ ตามประมวลรัษฎากรไมว่ า่ ท้งั หมดหรือบางส่วน เกิดข้ึนก่อนนาสินคา้ ออกจากโรงงานอตุ สาหกรรมหรือคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ น ใหถ้ อื ว่าความรับผดิ ในอนั ตอ้ งเสียภาษีเกิดข้ึนพร้อมกบั ความรับผดิ ในการเสียภาษีมลู ค่าเพิม่ 5.2 ในกรณีบริการ ใหถ้ อื วา่ ความรับผดิ ในอนั ตอ้ งเสียภาษีเกิดข้ึนเมอื่ ไดช้ าระราคาค่าบริการ ในกรณี ที่ความรับผดิ ในการเสียภาษีมลู ค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร ไมว่ ่าท้งั หมดหรือบางส่วนเกิดข้ึนก่อน ไดร้ ับชาระราคาค่าบริการ ใหถ้ อื วา่ ความรับผดิ ในอนั ตอ้ งเสียภาษีเกิดข้ึนพร้อมกบั ความรับผดิ ในการ เสียภาษีมลู ค่าเพิม่ 5.3 ในกรณีที่นาเขา้ ใหถ้ ือวา่ ความรับผดิ ในอนั จะตอ้ งเสียภาษีเกดิ ข้ึนในเวลาเดียวกบั ความรับผดิ ใน อนั จะตอ้ งเสียภาษีศุลกากรสาหรับของที่นาเขา้ ตามกฎหมายว่าดว้ ยศลุ กากร เวน้ แต่ในกรณีสินคา้ ท่ีเกบ็ อยใู่ นคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ นตามกฎหมายวา่ ดว้ ยศลุ กากร ใหถ้ อื ว่าความรับผดิ ในอนั จะตอ้ งเสียเกิดข้ึนใน เวลาที่นาสินคา้ ออกจากคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ นน้นั 5.4 ในกรณีดดั แปลงรถยนตเ์ กิดข้นึ เม่อื การดดั แปลงส้ินสุดลง 6 วธิ กี ารจดั เกบ็ ภาษีสรรพสามติ วธิ ีเก็บภาษีสรรพสามติ มี 2ลกั ษณะดงั น้ี 6.1 เกบ็ ตามราคาหรือตามมูลค่า หมายถึง เกบ็ เป็นร้อยละของราคาสินคา้ หรือบริการ ขอ้ ดีของ การเกบ็ ภาษตี ามมลู ค่าคือมีความเป็นธรรม เนื่องจากสินคา้ ที่มีคุณภาพสูง ราคาสูง ตอ้ งเสียภาษีสูง ตรง ขา้ มสินคา้ คุณภาพต่า ราคาต่า ยอ่ มเสียภาษีต่าดว้ ย ทาใหผ้ มู้ ีรายไดน้ อ้ ยซ่ึงปกติบริโภคสินคา้ ราคาต่าเสีย ภาษีนอ้ ยกว่าผบู้ ริโภคสินคา้ ชนิดเดียวกนั ที่มรี าคาสูงกว่า
301 สาหรับขอ้ เสียของการเก็บภาษีในลกั ษณะน้ีคอื เป็นการยากที่จะหาราคาหรือตน้ ทุนท่ี แทจ้ ริงของสินคา้ เนื่องจากโรงงานต่างๆ ยอ่ มมตี น้ ทุนการผลติ ที่ต่างกนั 6.2 เก็บตามปริมาณหรือตามสภาพ หมายถึง การเก็บภาษีตามปริมาณ ตามหน่วย ตามน้าหนกั หรือตามปริมาตร ของสินคา้ น้นั ๆ เช่นเก็บภาษีสุราต่อลิตร เก็บภาษียาสูบต่อน้าหนกั เป็นกรัม โดยไม่ คานึงถงึ ราคาสินคา้ น้นั ๆว่ามรี าคาสูงหรือต่ากว่ากนั จึงทาใหส้ ินคา้ ชนิดเดียวกนั ท่ีมีปริมาณเท่ากนั ไมว่ า่ ราคาสูงหรือต่าตอ้ งเสียภาษีเท่ากนั จึงถือวา่ ไม่เป็นธรรมสาหรับผมู้ รี ายไดน้ อ้ ย แต่ถือวา่ มีขอ้ ดคี ือมี ความสะดวก รวดเร็ว ง่ายต่อการจดั เก็บ อยา่ งไรก็ตาม พระราชบญั ญตั ิพกิ ดั อตั ราภาษีสรรพสามติ มาตรา 4 กาหนดว่า สินคา้ ใดท่ีระบุอตั ราภาษีท้งั ตามมูลค่า และตามปริมาณ ใหเ้ สียภาษีทีค่ ิดเป็นเงินสูง กว่า อน่ึงในการคานวณภาษีสรรพสามิตตามมลู ค่าไดก้ าหนดใหถ้ อื มลู ค่าดงั น้ี (ก) กรณีผลิตสินคา้ ในราชอาณาจกั ร ใหถ้ อื ตามราคาขาย ณ โรงงานอตุ สาหกรรม โดยให้ รวมภาษีสรรพสามิตที่พงึ ชาระดว้ ย (ข) ในกรณีบริการ ใหถ้ ือตามรายรับของสถานบริการ โดยใหร้ วมภาษีสรรพสามิตที่พงึ ตอ้ ง ชาระดว้ ย (ค) ในกรณี นาเข้า ให้ถือราคา ซี ไอ เอฟ ของสินค้าบวกด้วยอากรอากรขาเข้ารวม ค่าธรรมเนียมพเิ ศษตามกกหมายส่งเสริมการลงทุนและภาษีและค่าธรรมเนียมอน่ื ตามที่ไดก้ าหนดโดย กฤษฎีกา แต่ไม่รวมถึงภาษีมลู ค่าเพม่ิ โดยใหร้ วมภาษีสรรพสามติ ท่ีพงึ ตอ้ งชาระดว้ ย (ง) กรณีดดั แปลง มลู ค่าหมายถงึ ค่าแรงงานรวมค่าวสั ดุอุปกรณ์ ท้งั น้ีไมต่ ่ากว่าเกณฑข์ ้นั ต่า ท่ีอธิบดีกาหนด (มาตรา 144 เบญจ) การคิดภาษีสรรพสามติ ตามลกั ษณะท่กี ล่าวมาเรียกวา่ การคดิ ภาษีรวมใน คือตอ้ งนาภาระภาษี สรรพสามติ ซ่ึงรวมภาษีเพิม่ เพื่อกระทรวงมหาดไทยร้อยละ 10 มาเป็นฐานในการคานวณภาษี สรรพสามิตดงั น้ี ภาษีสรรพสามิต = (ราคาขาย ณ โรงงานอตุ สาหกรรม + ภาษีสรรพสามติ + ภาษีเพ่ือ กระทรวงมหาดไทย) X อตั ราภาษีสรรพสามติ กาหนดให้ T = ภาษีสรรพสามติ P = ราคาขาย ณ โรงงานอตุ สาหกรรม t = อตั ราภาษีสรรพสามติ T= [P+T+ (10/100T)]Xt T = [P+T+.10T]Xt T = Pt + (1.10T)Xt
302 T - (1.10t)t=pt+(1.10T)t-(1.10T)t T- (1.10T)t=Pt T-1.10Tt=pt T (1-1.10t)=Pt T (1-1.10t)/(1.10t)=Pt/(1-1.10t) T = Pt/(1-1.10t) ซ่ึงแสดงใหเ้ ห็นสูตรตามกรณีต่าง ๆ โดยกาหนดใหถ้ อื มูลค่าดงั น้ี (1) กรณีผลติ ในราชอาณาจกั ร ใหถ้ ือตามราคาขาย ณ โรงงานอตุ สาหกรรม โดยใหร้ วมภาษี สรรพสามิตท่ีพงึ ชาระดว้ ย (2) ในกรณีบริการ ใหถ้ ือตามรายรับของสถานบริการโดยใหร้ วมภาษีสรรพสามติ ที่พงึ ชาระดว้ ย (3) ในกรณีนาเขา้ ใหถ้ อื ราคา ซี ไอ เอฟ ของสินคา้ บวกดว้ ยอากรขาเขา้ รวมค่าธรรมเนียมพิเศษ ตามกฎหมายส่งเสริมการลงทุนและค่าภาษีและคา่ ธรรมเนียมอืน่ ตามท่ีไดก้ าหนดตามกฤษฎีกา แต่ไมร่ วมภาษีมลู ค่าเพ่มิ โดยใหร้ วมภาษีสรรพสามติ ที่พงึ ชาระดว้ ย (4) ในกรณีดดั แปลง ตามมาตรา 144 เบญจ มูลค่าใหห้ มายรวมถงึ ค่าแรงงานรวมค่าวสั ดุอปุ กรณ์ ท้งั น้ีไม่ต่ากวา่ เกณฑข์ ้นั ต่าท่ีอธิบดีกาหนด (5) การคดิ ภาษีในลกั ษณะดงั กล่าวเรียกว่าภาษีรวมใน คือ ตอ้ งนาภาระภาษีสรรพสามติ ซ่ึงรวมภาษี เพม่ิ เพ่ือกระทรวงมหาดไทยร้อยละ 10 มาเป็นฐานในการคานวณภาษีสรรพสามติ ดว้ ย โดย อธิบายเพิ่มเติมดงั น้ี การคิดภาษีสรรพสามติ ตามมูลค่าแยกพจิ ารณาเป็นกรณีดงั น้ี กรณีที่ 1 สินคา้ ผลิตในราชอาณาจกั ร ภาษีสรรพสามิต = (ราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรม+ภาษีสรรพสามติ +ภาษีเพอ่ื มหาดไทย) X อตั ราภาษีสรรพสามติ หรือสูตร ภาษีสรรพสามิต = (ราคาขาย ณ โรงงานอตุ สาหกรรม X อตั ราภาษีสรรพสามิต)/1-(1.1Xอตั ราภาษี สรรพสามติ ) ตวั อยา่ ง สินคา้ ราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรม ไมร่ วมภาษีสรรพสามติ เท่ากบั 100 บาท โดยสินคา้ ดงั กลา่ วเสียภาษีสรรพสามติ อตั ราร้อยละ 20 จงหาภาษีสรรพสามติ ท่ีพึงชาระ) ภาษีสรรพสามติ = pt/(1-1.1t) = 100X0.20/1-(1.10X0.20) = 20/1-(0.22) = 20/0.78
303 = 25.6 ไดภ้ าษีสรรพสามิต 25.64 บาทภาษีเพอ่ื มหาดไทย ร้อยละ10 (25.64X10%) เท่ากบั 2.564 ภาษีสรรพสามิตที่พงึ ชาระเท่ากบั 25.64+2.564=28.20 บาท จะไดร้ าคาขาย ณ โรงงาน อตุ สาหกรรม 128.20บาท(100 + 25.64 + 2.56) สามารถทดสอบคาตอบโดยนาราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรม X อตั ราภาษีสรรพสามติ ตามตวั อยา่ งคือ 128.20 X 20% = 25.64 บาท จะไดภ้ าษีสรรพสามติ 25.64 บาท ตรงกบั การคานวณ ภาษีแบบรวมใน กรณีที่ 2 กรณีบริการ ภาษีสรรพสามิต = (รายรับของสถานบริการ + ภาษีสรรพสามติ + ภาษีเพ่ือมหาดไทย) X อตั รา ภาษีสรรพสามิตหรือสูตร ภาษีสรรพสามิต = (รายรับของสถานบริการ X อตั ราภาษีสรรพสามติ )/1 - (1.1 X อตั ราภาษี สรรพสามติ ) กรณีท่ี 3 กรณีสินคา้ นาเขา้ มูลค่า = ราคา ซี ไอ เอฟ ของสินคา้ + อากรขาเขา้ + ค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายส่งเสริมการ ลงทุน + ค่าภาษีและค่าธรรมเนียมตามท่ีไดก้ าหนดในพระราชกฤษฎกี าแต่ไมร่ วมถึงภาษีมลู ค่าเพิ่ม + ภาษีสรรพสามติ + ภาษีเพอื่ มหาดไทย ภาษีสรรพสามติ = มลู ค่าดงั กล่าว X อตั ราภาษีสรรพสามติ หรือสูตร ภาษีสรรพสามิต = (ราคาซี ไอ เอฟ + อากรขาเขา้ + ค่าธรรมเนียมอื่นไม่รวมVAT) X อตั ราภาษี สรรพสามิต/1 - (1.1Xอตั ราภาษีสรรพสามติ ) 7. การชาระภาษี ตามพระราชบญั ญตั ิ สรรพสามิต พ.ศ. 2527 หมวด 4 เรื่องการยน่ื แบบรายการและการชาระ ภาษี หมวด 5 แสตมป์ สรรพสามิตและเคร่ืองหมายการเสียภาษี ไดก้ าหนดวิธีการเสียภาษี สรรพสามิตไว้ 3 วิธีดงั น้ี 7.1 ยน่ื ชาระภาษีภายในระยะเวลาท่ีกาหนด (1) ยนื่ ชาระภายใน 10 วนั นบั แต่วนั ที่นาสินคา้ ออกจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ น ไดแ้ ก่น้ามนั และผลิตภณั ฑน์ ้ามนั (2) ยนื่ ชาระภายใน 15 วนั ของเดือนถดั จากเดือนทนี่ าสินคา้ ออกจากโรงงานอตุ สาหกรรม หรือคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ น (กรณีความรับผดิ เกิดพร้อมความรับผดิ ในการเสียภาษีมลู ค่าเพิม่ )
304 ไดแ้ ก่เคร่ืองไฟฟ้านอกจากเคร่ืองปรับอากาศ แกว้ และเครื่องแกว้ รถยนต์ เรือ ผลติ ภณั ฑ์ เคร่ืองหอมและเคร่ืองสาอาง (3) สินคา้ ท่ีผปู้ ระกอบการอตุ สาหกรรม ขอชาระภาษีภายในวนั ท่ี15ของเดือนถดั จากเดือนที่ นาสินคา้ ออกจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ นโดยมหี ลกั ประกนั ไดแ้ ก่ เครื่องด่ืมท่ีทาหรือบรรจุหรือไดจ้ ากเคร่ืองขายเครื่องดื่ม เคร่ืองไฟฟ้านอกจาก เคร่ืองปรับอากาศ แกว้ และเคร่ืองแกว้ รถยนต์ เรือ ผลติ ภณั ฑเ์ ครื่องหอมและเครื่องสาอาง พรมและสิ่งทอปูพ้ืนอืน่ ๆ รถจกั รยานยนต์ หินออ่ นและหินแกรนิต แบตเตอรี 7.2 ใชแ้ สตมป์ สรรพสามติ เช่น ติดแสตมป์ บนภาชนะบรรจุเครื่องด่ืมและขีดฆา่ แสตมป์ ไพน่ าเขา้ จาก ต่างประเทศประทบั ตราสรรพสามติ และตดิ แสตมป์ เป็นตน้ 7.3 ใชเ้ ครื่องหมายแสดงการเสียภาษี โดยวธิ ีการควบคุมสิ่งผนึกภาชนะเช่นฝาจีบ จดทะเบียน ซ่ึงตอ้ ง ผนึกใหเ้ รียบร้อย ก่อนออกจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นตน้ แสตมป์ สรรพสามิตและสิ่งผนึกภาชนะ กรมสรรพสามติ มอี านาจจดั ทาเพยี งผเู้ ดียว และขายในราคาทุนบวกดว้ ยภาษีสรรพสามิต ผผู้ ลิตท่ี ประสงคจ์ ะใชส้ ิ่งผนึกภาชนะ เพ่ือเสียภาษี ใหข้ อจดทะเบียนสิ่งผนึกภาชนะลกั ษณะเฉพาะเจาะจงของ ตน และเก็บไวใ้ นโรงงาน ภายใต้ การควบคุมของเจา้ พนกั งาน 8. บทกาหนดโทษ 8.1 ผปู้ ระกอบการอุตสาหกรรม หรือผปู้ ระกอบการสถานบริการไมย่ น่ื คาขอจดทะเบียนสรรพสามติ รวมถงึ ไม่แจง้ ยา้ ย เลิกโรงอตุ สาหกรรมหรือสถานบริการภายในเวลาที่กาหนดมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท 8.2 ผปู้ ระกอบการอุตสาหกรรม หรือผปู้ ระกอบกิจการสถานบริการไม่แสดงใบทะเบียนสรรพสามิตไว้ ในท่ีเปิ ดเผย หรือใบทะเบียนชารุดในสาระสาคญั หรือสูญหายแลว้ ไมย่ น่ื คาขอรับใบแทนภายใน 30 วนั แต่วนั ท่ีทราบ และภายใน 15 วนั ในกรณีใบอนุญาตคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ นชารุดในสาระสาคญั หรือสูญ หายมโี ทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท 8.3 ผใู้ ดไม่แจง้ ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม หรือราคาคา่ บริการตามเวลาท่ีกาหนดมโี ทษปรับไมเ่ กิน 5,000 บาท 8.4 กรณีผมู้ ีหนา้ ที่เสียภาษี ไม่ไดย้ น่ื แบบรายการเสียภาษีภายในเวลาที่กฎหมายกาหนดตอ้ งเสียค่าปรับ อกี 2 เท่าของค่าภาษี กรณีผมู้ หี นา้ ท่ีเสียภาษียน่ื แบบรายการภาษีไวไ้ ม่ถกู ตอ้ ง ทาใหจ้ านวนภาษีท่ตี อ้ ง เสียขาดไปตอ้ งเสียเบ้ียปรับอกี 1 เท่าของภาษีท่ีขาดไป 8.5 ผมู้ ีหนา้ ท่ีเสียภาษีไม่ชาระภาษภี ายในเวลาท่ีกฎหมายกาหนดตอ้ งเสียเงินเพิ่มอกี ร้อยละ1.5ต่อเดือน หรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ตอ้ งชาระโดยไม่รวมเบ้ียปรับ ในการคานวณเงินเพิม่ มิใหค้ ิดทบตน้ และไม่เกินกว่าจานวนภาษีที่ตอ้ งชาระโดยไมร่ วมเบ้ียปรับ
305 8.6 ผใู้ ดแจง้ ขอ้ ความอนั เป็นเทจ็ ตอบคาถามถอ้ ยคาอนั เป็นเท็จ นาพยานหลกั ฐานเท็จมาแสดง หรือยนื่ บญั ชี หรือยนื่ เอกสารอนั เป็นเท็จเพ่ือหลกี เลี่ยงการเสียภาษตี อ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกิน 7 ปี บาทและ ปรับไมเ่ กิน 300,000 บาท 9. สรุป ภาษีสรรพสามติ เป็นภาษีทางออ้ ม ฐานภาษี คือ การบริโภคและบริการ สินคา้ ท่ีมคี วามฟ่ มุ เฟื อย เป็น อนั ตรายต่อสุขภาพขดั ต่อศีลธรรม หรือทาลายส่ิงแวดลอ้ ม โดยมีวตั ถุประสงคใ์ นการจดั เก็บเพื่อหา รายได้ และจากัดการบริโภคของประชาชน ปัจจุบันสินค้าและบริการที่ตอ้ งเสียภาษีสรรพสามิต จาแนกไดเ้ ป็ น 13 ตอน ซ่ึงมีการจดั เก็บภาษีในอตั ราแตกต่างกนั ไป โดยรัฐบาลมีแนวโนม้ ท่ีจะจดั เก็บ ภาษีสรรพสามิต ในอตั ราท่ีสูงข้ึนเรื่อยๆ ส่งผลให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มข้ึน เพ่ือชดเชยการขาดดุล งบประมาณ
306 10. บญั ชีอตั ราภาษีสรรพสามติ ขอยกตวั อยา่ งอตั ราภาษีสรรพสามติ สาหรับสินคา้ แ รายการ ตามมลู ค่าร้อยละ อตั ราเพดาน ห ตอนท่ี 1 นา้ มนั และผลติ ภณั ฑ์นา้ มนั น้ามนั เบนซินและน้ามนั ที่คลา้ ยกนั (1) น้ามนั เบนซินชนิดไร้สารตะกวั่ 42 ลิตร เศ4ษ2ของลติ ร ลิตใรหเศน้ ษบั ขเปอ็นงลหติ นร่ึงใ (2 ) น้ามนั เบนซินนอกจาก 42 ลิตร เศษของลติ รใ 42 ลติ ร เศษของลิตรใ (3) น้ามนั เบนซินท่ีไร้สารตะกวั่ ทีน่ าเขา้ เพ่ือจาหน่ายใหแ้ ก่ผรู้ ับเอกสิทธ์ิตามขอ้ ผกู พนั ที่ประเทศไทยมีอยตู่ ่อองคก์ าร สหประชาชาติ หรือตามกฎหมายระหว่าง ประเทศหรืตามสญั ญากบั นานาประเทศ หรือทางการทูตตามหลกั ถอ้ ยทีถอ้ ยปฏบิ ตั ิ ต่อกนั ท้งั น้ีตามหลกั เกณฑ์ (4) น้ามนั แกส๊ โซฮอล์ อี10 ตาม 42 ลติ ร เศษของลติ รใ หลกั เกณฑเ์ ง่ือนไขท่ีรัฐมนตรีประกาศ กาหนด
และบริการเพียงบางส่วนเท่าน้นั อตั ราปัจจุบนั อตั ราภาษี ตามมลู ค่าร้อยละ หน่วยละบาท นตามกฎหมาย หน่วย หน่วยละบาท งใลหติ น้ รบั เป็นหน่ึงลิตร 10 0 7.000 ใหน้ บั เป็นหน่ึงลติ ร 10 0 7.000 ใหน้ บั เป็นหน่ึงลติ ร 10 0- ใหน้ บั เป็นหน่ึงลติ ร 10 0 6.300
307 รายการ ตามมลู ค่าร้อยละ อตั ราเพดาน ห (5) น้ามนั แกส๊ โซฮอล์ อี20 ตามหลกั เกณฑ์ 42 ลติ ร เศษของลิตรใ และเงื่อนไขท่ีรัฐมนตรีประกาศกาหนด (6)น้ามนั แกส๊ โซฮอล์ อี 85 ตามหลกั เกณฑ์ 42 ลติ ร เศษของลิตรใ ที่กาหนดแบททา รีฟอร์แมทไพโรลายลสิ และของเหลวท่ีคลา้ ยกนั - แบพทา รีฟอร์แมท โพโรลายลิส กา๊ ซโซลนี และของเหลวท่ีคลา้ ยกนั (1) แบททา รีฟอร์แมทไพโรลายลิสและ 42 ลติ ร เศษของลิต ของเหลวที่คลา้ ยกนั - น้ามนั กา๊ ดและน้ามนั ท่ีจุดใหแ้ สง สวา่ งท่ีคลา้ ยกนั (1) น้ามนั ก๊าดและน้ามนั ที่จุดใหแ้ สงสวา่ ง 34 ลติ ร เศษของลิต ท่ีคลา้ ยกนั - น้ามนั เช้ือเพลิงสาหรับเครื่องบินไอพน่ (1) น้ามนั เช้ือเพลิงสาหรับเครื่องบินไอพน่ 34 ลิตร เศษของลิต ท่ีไม่ไดใ้ ชเ้ ป็นเช้ือเพลิงสาหรับอากาศยาน
นตามกฎหมาย อตั ราภาษี อตั ราปัจจบุ นั ตามมลู ค่าร้อยละ หน่วยละบาท หน่วย หน่วยละบาท 0 5.600 ใหน้ บั เป็นหน่ึงลิตร 10 ใหน้ บั เป็นหน่ึงลติ ร 10 0 1.050 ตรใหน้ บั เป็นหน่ึงลิตร 10 36 7.000 ตรใหน้ บั เป็นหน่ึงลิตร 4 0 3.055 23 3.000 ตรใหน้ บั เป็นหน่ึงลติ ร 4
308 รายการ ตามมลู ค่าร้อยละ อตั ราเพดาน ลติ ร เศษของลติ (2) น้ามนั เช้ือเพลงิ สาหรับเครื่องบินไอ 34 พน่ ท่ีนาไปใชเ้ ป็นเช้ือเพลิงสาหรับอากาศ 34 ลิตร เศษของลติ ยานในประเทศ ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ 34 ลติ ร เศษของลติ และเง่ือนไขท่ีอธิบดีกาหนด 42 ลิตร เศษของลิต (1)น้ามนั ดีเซลท่ีมีกามะถนั เกินร้อยละ 34 0.035โดยน้าหนกั กก. เศษของก (2) น้ามนั ดีเซลท่ีมีกามะถนั ไม่เกนิ ร้อยละ 0.035 โดยน้าหนกั - ก๊าชธรรมชาติเหลว (เอน็ จี แอล) และที่คลา้ ยกนั (1) กา๊ ซธรรมชาติเหลว (เอน็ จี แอล) และ กา๊ ซเหลวที่คลา้ ยกนั - ก๊าซปิ โตรเลยี มเหลว (แอล พี จี ) และกา๊ ซท่ีคลา้ ยกนั (1) กา๊ ซโพรเพนเหลวและก๊าซท่ีคลา้ ยกนั
อตั ราภาษี หน่วยละ อตั ราปัจจบุ นั นตามกฎหมาย บาท ตามมูลค่าร้อยละ หน่วยละบาท หน่วย 4 ตรใหน้ บั เป็นหน่ึงลติ ร 1 0.200 ตรใหน้ บั เป็นหน่ึงลติ ร 10 0 5.310 ตรใหน้ บั เป็นหน่ึงลติ ร 10 0 0.0050 ตรใหน้ บั เป็นหน่ึงลิตร 10 36 5.310 กก.ใหน้ บั เป็นหน่ึงกก. 9 0 2.170
309 รายการ ตามมลู ค่าร้อยละ อตั ราเพดาน กก. เศษของก (2) กา๊ ซ แอล พี จี ท่ีใชผ้ ลิตกระแสไฟฟ้า 34 และขายท้งั หมดใหก้ ารไฟฟ้าฝ่ ายผลิตแห่ง 25 บาท ประเทศไทย ตอนท่ี 2 เครื่องด่ืม 20 บาท (1) น้าแร่เทียม น้าโซดาและน้าอดั ลมที่ไม่ เติมน้าตาลหรือสารทาใหห้ วานอ่นื ๆและ ไม่ปรุงกลน่ิ รส (2) น้าแร่และน้าอดั ลมที่เติมน้าตาลหรือ สารที่ทาใหห้ วานอืน่ ๆหรือที่ปรุงกล่นิ รส และเครื่องดื่มอ่นื ๆท่ีไม่มีแอลกอฮอล์ แต่ไมร่ วมถงึ น้าผลไม้ และน้าพืชผกั ตอนท่ี 3 เคร่ืองใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศท่ีประกอบดว้ ยมอเตอร์มี ส่วนที่ใชส้ าหรับเปล่ียนอณุ หภูมไิ ม่วา่ จะมี ส่วนท่ีใชค้ วบคุมความช้นื ดว้ ยหรือไม่ก็
อตั ราภาษี หน่วยละ อตั ราปัจจุบัน นตามกฎหมาย บาท ตามมลู ค่าร้อยละ หน่วยละบาท หน่วย 9 กก.ใหน้ บั เป็นหน่ึงกก. ยกเวน้ ภาษี ยกเวน้ ภาษี ท/440 ซีซี 0.770 25 0.770 ท/440 ซีซี 0.450 20 0.370
310 รายการ อตั ราเพดาน ตามมลู ค่าร้อยละ ตาม ที่มขี นาดทาความเยน็ ไม่เกิน 72,000 - บีทียู (1) ชนิดท่ีใชก้ บั รถยนต์ - (2) อน่ื ๆ นอกจาก (1) 15 โคมไฟฟ้า และโคมระยา้ 30 ตอนที่ 4 แก้วและเครื่องแก้ว แกว้ เลคคริสตลั และแกว้ คริสตลั อื่นๆ (1) ชนิดใชบ้ นโต๊ะอาหาร ในครวั ในหอ้ งน้า ในสานกั งาน ใชต้ กแต่งภายใน หรือวตั ถุประสงคท์ ี่คลา้ ยกนั ตอนที่ 5 รถยนต์ รถยนตน์ งั่ (1) รถยนตน์ งั่ (1.1) ท่ีมคี วามจุของกระบอกสูงไม่เกนิ 2,000 cc. และมกี าลงั เคร่ืองยนตไ์ มเ่ กิน
อตั ราภาษี หน่วยละ อตั ราปัจจุบัน นตามกฎหมาย บาท ตามมลู ค่าร้อยละ หน่วยละบาท หน่วย - 30 15 - - - 15 ยกเวน้ - - ยกเวน้ ยกเวน้ - - 15 -
311 รายการ อตั ราเพดาน ตามมูลค่าร้อยละ 220 แรงมา้ (HP) 50 ตอนที่ 6 เรือ เรือยอชตแ์ ละพาหนะทางน้าที่ใชเ้ พอ่ื ความ 50 สาราญ 50 (1)เรือยอชตแ์ ละพาหนะทางน้าเพื่อความ สาราญนอกจาก 20 (2) เรือพาย เรือกรรเชียง และเรือยาง 30 ตอนท่ี 7 ผลติ ภัณฑ์เครื่องหอมและ 30 เคร่ืองสาอาง 30 (1) น้ามนั หอม และหวั น้าหอม 30 ตอนที่ 8 สินค้าอื่นๆ พรมหรือส่ิงทอปูพ้นื ทาดว้ ยขนสตั ว์ รถจกั รยานยนต์ 2 จงั หวะ รถจกั รยานยนต์ 4 จงั หวะ หินอ่อนและหินแกรนิต
อตั ราภาษี หน่วยละ อตั ราปัจจบุ นั นตามกฎหมาย บาท ตามมูลค่าร้อยละ หน่วยละบาท หน่วย - 30 - - - - ยกเวน้ ยกเวน้ - - ยกเวน้ ยกเวน้ - - 15 - - - 20 - - -5 - - - 3 ยกเวน้ - - ยกเวน้ -
312 รายการ อตั ราเพดาน ตามมลู ค่าร้อยละ ตอนท่ี 9 กจิ การบันเทงิ หรือหย่อนใจ 20 ไนตค์ ลบั และดิสโกเธค 20 (1) รายรับของสถานที่สาหรับด่ืมกินและ 20 เตน้ รา โดยจดั ใหม้ ีการแสดงดนตรี หรือ เคร่ืองเสียง หรือการแสดงอน่ื ใดเพื่อความ บนั เทิง สถานอาบน้าหรืออบตวั และนวด (1) รายรับของการใหบ้ ริการอาบน้า อบตวั หรือนวด โดยมีผใู้ หบ้ ริการ ตอนที่ 10 กจิ การเสี่ยงโชค สนามแข่งมา้ -ค่าผา่ นประตู ตอนที่ 11 กจิ การที่มผี ลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม สนามกอลฟ์
อตั ราภาษี หน่วยละ อตั ราปัจจบุ ัน นตามกฎหมาย บาท ตามมูลค่าร้อยละ หน่วยละบาท หน่วย - - 10 ยกเวน้ - - 10 ยกเวน้ - - 20 -
313 รายการ อตั ราเพดาน ตามมูลค่าร้อยละ บาทต่อลิตรแห บาทต่อลิตรแห -ค่าสมาชิก 20 บาทต่อลติ รแห ตอนที่ 12 กจิ การที่ได้รับสัมปทานจากรัฐ 50 บาทต่อลิตรแห กิจการโทรคมนาคม 50 - กิจการโทรศพั ทพ์ ้นื ฐาน 50 - กิจการโทรศพั ทเ์ คลื่อนที่หรือวิทยุ คมนาคมระบบเซลลลู ่า 60 ตอนท่ี 13 สุรา 60 สุราแช่ 50 (1) เบียร์ 50 (2) ไวทท์ ่ีทาจากองุ่น สุรากลน่ั (1) สุราขาว (2) สุราผสม
อตั ราภาษี หน่วยละ อตั ราปัจจุบนั นตามกฎหมาย บาท ตามมูลค่าร้อยละ หน่วยละบาท หน่วย - 10 - - - -0 - - - ยกเวน้ - - - ยกเวน้ - ห่งแอลกอฮอลบ์ ริสุทธ์ิ 100 60 100 ห่งแอลกอฮอลบ์ ริสุทธ์ิ 100 60 100 ห่งแอลกอฮอลบ์ ริสุทธ์ิ ห่งแอลกอฮอลบ์ ริสุทธ์ิ 400 50 150 400 50 350
314 บัญชีค่าแสตมป์ ยาสูบ อตั ราเพดาน รายการ ตามมูลค่าร้อยละ ยาเสน้ หรือยาสูบ ยาเสน้ 90 บ ค่าธรรมเนยี มประทับตราไพ่ อตั ราเพดาน รายการ ไพ่ ตามมูลค่าร้อยละ ไพ่ป๊ อก - บา
อตั ราภาษี หน่วยละ อตั ราปัจจุบนั นตามกฎหมาย บาท ตามมลู ค่าร้อยละ หน่วยละบาท หน่วย บาท/กรัม 3.00 10 0.01 อตั ราภาษี หน่วยละ อตั ราปัจจบุ ัน นตามกฎหมาย บาท ตามมลู ค่าร้อยละ หน่วยละบาท หน่วย าท/100 ใบ 30 - 30
317 ไพ่มกี ารจดั เก็บภาษีในลกั ษณะค่าธรรมเนียมประทบั ตราไพ่ที่นาเขา้ จากต่างประเทศ เท่าน้นั สาหรับไพ่ ที่ผลิตโดยกรมสรรพสามติ ไม่ตอ้ งเสียภาษีลกั ษณะน้ีเนื่องจากโรงงานไพ่ซ่ึงเป็นรัฐวสิ าหกิจสงั กดั กรม สรรพสามิตจะผกู ขาดผลติ ไพ่แต่ผเู้ ดียวโดยมกี ารผลติ ไพ่ 5 ประเภทดงั น้ี 1. ไพไ่ ทยหรือไพ่ผอ่ ง สารับหน่ึงมี 120 ใบ 2. ไพผ่ อ่ งจีน สารับหน่ึงมี 116 ใบ 3. ไพจ่ ีนสี่สี สารับหน่ึงมี 112 ใบ 4. ไพป่ ๊ อกกระดาษ สารับหน่ึงมี 54 ใบ 5. ไพป่ ๊ อกพลาสติก สารับหน่ึงมี 54 ใบ อยา่ งไรก็ตามผจู้ าหน่ายไพ่ สุรา ยาสูบ ตอ้ งเสียค่าธรรมเนียมการจาหน่ายสินคา้ ดงั กล่าวดว้ ย
318 คาถามท้ายบท 1. ภาษีสรรพสามิต คืออะไร 2. ใหอ้ ธิบายถึงวตั ถปุ ระสงคใ์ นการเกบ็ ภาษีสรรพสามิต พอสงั เขป 3. ในปัจจุบนั สินคา้ และบริการที่เสียภาษีสรรพสามติ มกี ี่ประเภท อะไรบา้ ง 4. ผมู้ ีหนา้ ท่ีเสียภาษีสรรพสามติ หมายถงึ ใครบา้ ง 5. ในการจดั เก็บภาษีสรรพสามติ จะมกี ารเก็บก่ีลกั ษณะ อะไรบา้ ง ใหอ้ ธิบาย พอสงั เขป 6. ใหร้ ะบุวธิ ีเสียภาษีสรรพสามิต 7. ความรับผดิ ในการเสียภาษีสรรพสามติ กรณีนาเขา้ สินคา้ เกิดข้ึนเมื่อใด 8. สินคา้ ราคา ขาย ณ โรงงานอตุ สาหกรรม100 บาท (ไมร่ วมภาษีสรรพสามิตร้อยละ50) มีการคิดภาษี เพือ่ กระทรวงมหาดไทยร้อยละ 10 ใหค้ านวณ 1) ภาษีสรรพสามติ ท่ีพงึ ชาระ 2) ภาษีเพือ่ มหาดไทย- 3) ราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรม รวมภาษีสรรพสามิตที่พงึ ชาระ 9. สินคา้ ราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรม 250 อตั ราภาษีสรรพสามิตร้อยละ15 มกี ารคิดภาษีเพื่อ ทอ้ งถิน่ ร้อยละ10 ใหค้ านวณหา 1) ภาษีสรรพสามติ ท่ีพงึ ชาระ 2) ภาษีเพอื่ ทอ้ งถน่ิ 3) ราคาขาย ณ โรงงานที่ยงั ไมร่ วมภาษีสรรพสามติ ท่ีพงึ ชาระ
319 เอกสารอ้างอิง สมคิด บางโม (2551) ภาษีอากรธุรกจิ กรุงเทพฯ:สานกั พมิ พว์ ทิ ยพฒั น์ พนู ศรี สงวนชีพ(2546)นโยบายและการบริหารการภาษีอากร, กรุงเทพฯ:โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั รามคาแหง มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมมาธิราช (2552) เอกสารประกอบการสอนชุดวชิ ากฏหมายธุรกิจและการ ภาษีอากร,นนทบุรี : โรงพมิ พ์ มสธ. กรมสรรพสามติ (2557) เอกสารเผยแพร่สานกั งานสรรพสามติ ภาค 3. ชุดที่ 2 พระราชบญั ญตั ภิ าษีสรรพสามติ พ.ศ. 2527 . ราชกิจจานุเบกษา เลม่ 101 ตอน 127 พงษเ์ กียรติ สมานบุตร และคณะ (2535) รวมกฎหมายสรรพสามิต. มปท. เวก ศริ ิวมิ ลวาทิน (2538)การภาษีอากร , กรุงเทพฯ:สานกั พิมพศ์ นู ยส์ ่งเสริมวิชาการ / สานกั นโยบายภาษี กรมสรรพสามติ (2555) อตั ราภาษีสรรพสามิต พระราชบญั ญตั ภิ าษีสรรพสามติ พ.ศ. 2534. ราชกิจจานุเบกษา เล่มท่ี 108 ตอนท่ี 228 (25 ธ.ค. 2534) http://taxclinic.mof.go.th/knowledge/excise-dept.php
320 บรรณานุกรม กรมสรรพากร. (2548). รายจ่ายต้องห้าม : ผลเสียหายอนั ได้กลบั คืนและผลขาดทุนสุทธิในรอบราย บัญชีก่อน. สรรพากรสาส์น, 52 (8). กรมสรรพากร. (2548). รายจ่ายต้องห้าม : รายจ่ายที่กาหนดขึ้นเองโดยไม่มีการจ่ายจริง และ รายจ่ายที่ควรจะได้จ่ายในรอบระยะบญั ชีอื่น. สรรพากรสาส์น, 52 (9). กลุ่มนกั วชิ าการภาษีอากร. (2543). ภาษอี ากรตามประมวลรัษฎากร. กรุงเทพฯ : เรือนแกว้ การพิมพ.์ กลมุ่ นกั วชิ าการภาษีอากร. (2548) ภาษอี ากรตามประมวลรัษฎากร. กรุงเทพฯ : เรือนแกว้ การพิมพ.์ ไกรยทุ ธ ธีรตยาดีนนั ท.์ (2535). ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ : ข้อคดิ และข้อวจิ ารณ์. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั . จงรัก ระรอยทรง. (2533). จากภาษกี ารค้าสู่ภาษีมูลค่าเพมิ่ . กรุงเทพฯ : นิติธรรม. ชยั สิทธ์ิ ตราชูธรรม. (2542). กรณศี ึกษาปัญหาภาษอี ากร. กรุงเทพฯ : พมิ พอ์ กั ษร. ชยั สิทธ์ิ ตราชูธรรม. (2535). ภาษีมลู ค่าเพมิ่ ฉบบั สมบูรณ์. กรุงเทพฯ : วิญญูชน. ปริชญา ไทยกลา้ . (2544). เทคนคิ วางแผนภาษีให้ประหยดั และถกู ต้อง. กรุงเทพฯ : ซีเอด็ ยเู คชนั่ . ปรีชา รุทโสธทร และบุศย์ วิสุทธิ. (2532). การภาษอี ากร. กรุงเทพฯ : มหาวยิ าลยั รามคาแหง. ปรีดา นาคเนาวทิม. (2539). เศรษฐศาสตร์การภาษีอากร. กรุงเทพฯ : สมั พนั ธม์ าณิชย.์ พนู ศรี สงวนชพี . (2532). นโยบายและการบริหารภาษอี ากร. กรุงเทพฯ : มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. เพ่มิ บุญ แกว้ เขียว. (2549). คู่มือการคานวณภาษเี งนิ ได้หกั ณ ทีจ่ ่าย. กรุงเทพฯ : บริษทั วิทยพฒั น์ จากดั . ไพจิตร โรจนวานิช. (2536). คาอธิบายประมวลรัษฎากร. กรุงเทพฯ : สามเจริญพาณิชย.์ มงคล ขนาดนิด. (2548). เงนิ สารองลงเป็ นรายจ่ายได้หรือไม่. สรรพากรสาสน์ , 52(3). มนตรี จึงธนสมบตั ิ และปิ ยฉตั ร จารุธีรศานต.์ (2555). การภาษีอากร. กรุงเทพฯ : บริษทั ธรรมนิติ เพรส จากดั . มนตรี จึงธนสมบัติ และปิ ยะฉัตร จารธีรศานต์ (2555). การภาษีอากร. กรุ งเทพฯ : โรงพิมพ์ มหาวิทยาลยั รามคาแหง. ยพุ ดี ศริ ิวรรณ. (2543). การบญั ชีภาษอี ากร. กรุงเทพฯ : อกั ษรสยามการพิมพ.์ ลาวณั ย์ อมุ วฒั น์ทรี. (2552). เอกสารการสอนชุดวชิ ากฎหมายธุรกจิ และภาษีอากร หน่วยท่ี 9. กรุงเทพ ฯ : อรุณการพมิ พ.์
321 วชิ ยั จึงรักเกียรติ. (2525). ปัญหาภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร. กรุงเทพฯ : อกั ษรสาสน์. เวก ศิริพิมลวาทิน. (2537). การภาษอี ากร. กรุงเทพ ฯ : ศนู ยส์ ่งเสริมวิชาการ. สมคิด บางโม. (2546). การภาษอี ากรธุรกจิ . กรุงเทพฯ : บริษทั วทิ ยพฒั น์ จากดั . สมคิด บางโม. (2551). ภาษอี ากรธุรกจิ . กรุงเทพฯ : บริษทั วิทยพฒั น์ จากดั . สมชยั ฤชุพนั ธ์. (2541). เศรษฐกิจ การเงิน การคลัง และการภาษีอากรของไทย. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . สมเดช โรจนต์ รีเสถยี ร์ และคณะ. (2550). การบัญชีภาษอี ากร. กรุงเทพฯ : โรงพิมพม์ หาวิทยาลยั . สุโขทยั ธรรมมาธิราช, มหาวทิ ยาลยั . (2538). เอกสารการสอนชุดวชิ า การเงินธุรกจิ และการภาษี อากร. กรุงเทพ ฯ : อรุณการพมิ พ.์ สุโขทยั ธรรมมาธิราช, มหาวทิ ยาลยั . (2555). เอกสารการสอนชุดวชิ า กฎหมายภาษอี ากร 1. กรุงเทพฯ : บริษทั ประชาชนการพมิ พ.์ สุโขทยั ธรรมมาธิราช, มหาวิทยาลยั . (2555). เอกสารการสอนชุดวชิ า กฎหมายธุรกจิ และภาษีอากร. กรุงเทพฯ : บริษทั ประชาชนการพิมพ.์ สุโขทยั ธรรมาธิราช, มหาวิทยาลยั . (2552). เอกสารการสอนชุดวชิ า กฎหมายธุรกจิ และการภาษีอากร. กรุงเทพฯ : อรุณการพิมพ.์ สุเทพ พงษพ์ ิทกั ษ.์ (2544). ภาษเี งนิ ได้ หัก ณ ทจ่ี ่าย หกั อย่างไรให้ครบถ้วนและถูกต้อง. กรุงเทพฯ : บริษทั สุขมุ และบุตร จากดั . สุวรรณ วลยั เสถยี ร. (2534). เสียภาษีอย่างไรให้ประหยดั . กรุงเทพฯ : นิติธรรม. อมรศกั ด์ิ วงษพ์ ฒั นาสิน. (2542). คาอธบิ าย VAT ภาษซี ื้อท้งั ระบบ. กรุงเทพฯ : ชวนพิมพ.์ อมรศกั ด์ิ วงษพ์ ฒั นาสิน. (2540). ประมวลรัษฎากร ฉบบั สมบูรณ์. กรุงเทพฯ : ชวนพมิ พ.์ กรมสรรพสามติ (2557) เอกสารเผยแพร่สานกั งานสรรพสามติ ภาค 3. (ชุดที่ 2) พระราชบญั ญตั ิภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 101 ตอนที่ 127 พระราชบญั ญตั ิภาษีสรรพสามติ พ.ศ.2527. ราชกิจจานุเบกษา เล่มท่ี 127/7 (20 ก.ย. 2527) พระราชบญั ญตั ิภาษีสรรพสามติ พ.ศ. 2534. ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ที่ 108 ตอนที่ 228 (25 ธ.ค.2534) http://taxclinic.mof.go.th/knowledge/excise-dept.php พงเกียรติ สมานบุตร และคณะ (2535) รวมกฎหมายสรรพสามติ มปท.
322 พระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพิม่ เติมพระราชกาหนดพกิ ดั อตั ราศลุ กากร 2530 (ฉบบั ท่ี 7) พระราชบญั ญตั ิศลุ กากร พ ศ.2469 (แกไ้ ขฉบบั ที่ 20 พ.ศ. 2548)ราชกจิ จานุเบกษาเลม่ ท่ี 122 http://igff.custom.go.th
ภาคผนวก
323 ตวั อย่างข้อสอบ คาส่ัง 1. ให้เลือกคาตอบทถี่ ูกต้องทส่ี ุดเพยี งข้อเดยี ว 1. กฎหมายว่าด้วยภาษอี ากรโดยเฉพาะของไทย 5. นายทชิ าชาติ ได้รับเงนิ เดือนจากการทางาน คือ บริษัทสิ้นปี ต้องใช้แบบรายการใดชาระภาษี ก. รัฐธรรมนูญ ก. ภงด. 90 ข. แพง่ และพาณิชย์ ข. ภงด. 91 ค. กฎหมายอาญา ค. ภงด. 94 ง. กฎหมายวิธีการพจิ ารณาความอาญา ง. ภงด. 50 จ. ประมวลรัษฎากร จ. ภงด. 53 2. ผู้ใดไม่ต้องเสียภาษเี งนิ ได้บุคคลธรรมดา 6. ดช. ออม อายุ 7 ขวบ มเี งนิ ได้จากการให้เช่า ก. คณะทูตต่างประเทศ บ้าน ผ้ใู ดมหี น้าทยี่ ่ืนแบบรายการชาระภาษี ข. ผเู้ ยาว์ ตอนสิ้นปี ค. คนชราอายุ 65 ปี ข้ึนไป ง. นกั เรียน ก. ผปู้ กครอง ข. ผแู้ ทนโดยชอบธรรม จ. นกั บวชทุกศาสนา ค. ผอู้ นุบาล 3. เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ข้อใดท่ีไม่ได้รับยกเว้นภาษี ง. ผพู้ ิทกั ษ์ ก. ค่าเบ้ียกนั ดาร จ. ผสู้ ืบสนั ดาน ข. เงินยงั ชีพ 7. เงินได้พงึ ประเมนิ ข้อใดท่ีภรรยาสามารถแยก ค. เบ้ียเล้ียง ง. เบ้ียประชุม คานวณภาษไี ด้ ก. เงินไดจ้ าการแสดงละคร จ. ดอกเบ้ียเงินฝากธนาคาร ข. เงินค่าสอบบญั ชี 4. ผู้อย่ใู นประเทศไทย หมายถึง ผู้น้นั ต้องอยู่ ภายในประเทศไทยไม่น้อยกว่ากว่ี นั ในปี ภาษี ค. เงินไดจ้ าการทาสวนยาง ง. เงินเดือน น้ัน จ. เงินปันผล ก. 60 8. นายแพทย์โรนลั โด เป็ นชาวกาน่า ได้รับ ข. 90 เงนิ เดือนจากโรงพยาบาลเอกอดุ ร ถือเงนิ ค. 120 เป็ นได้ประเภทใด ง. 180 จ. 310 ก. ม. 40 (1) ข. ข.40 (6) ค. ม.40 (7) ง. เงินไดท้ ่ีไดร้ ับการยกเวน้ ภาษี จ. นายโรนลั โดเป็ นบุคคลที่ไดร้ ับการยกเวน้ ภาษี
324 9. เงินได้ประเภทใดต้องเสียภาษเี งนิ ได้บุคคล 11. จากข้อ 10 คานวณภาษีท่ตี ้องชาระกว่ี ธิ ี ธรรมดาครึ่งปี ก. 1 ข. 2 ก. เงินเดือน ค. 3 ข. ดอกเบ้ียเงินฝากธนาคาร ค. เงินปันผล ง. 4 จ. 5 ง. ค่าเช่าบา้ น จ. ค่าลิขสิทธ์ิ 12. เงนิ ได้พงึ ประเมนิ ประเภทใดทห่ี กั ค่าใช้จ่ายได้ 10. เงนิ ได้ที่ต้องเสียภาษคี รึ่งปี ของภรรยา ใครเป็ น 2 วธิ ี ผู้ย่ืนแบบรายการ ก. ม. 40 (5) ก. สามี เน่ืองจากเงินไดข้ องภรรยาใหถ้ อื เป็น ข. ม 40 (6) ของสามี ค. ม. 40 (7) ง. ม.40 (8) ข. ภรรยา เนื่องจากความเป็นสามภี รรยายงั จ. ถูกทุกขอ้ ไมค่ รบปี ภาษี ค. สามหี รือภรรยากไ็ ด้ ง. ไมต่ อ้ งยนื่ แบบรายการ เพราะถกู หกั ภาษี 13. เงนิ ได้ค่าลขิ สิทธ์หิ กั ค่าใช้จ่ายได้กเ่ี ปอร์เซ็นต์ ณ ที่จ่ายแลว้ ก. 40% ไม่เกิน 60,000 จ. ขอ้ ก ขอ้ ข ขอ้ ค ถูก ข. 15% ค. 30% ง. 20% จ. หกั ตามความจาเป็นและสมควร นายธนากร นางมณั ทนา สามภี รรยามบี ุตรดว้ ยกนั 4 คน มรี ายรับและรายจ่ายในปี ภาษี 2553 ดงั น้ี นายธนากร เงินเดือน ๆ ล ะ 24,000 บาท (จากการรับราชการ) เงินปันผลจากบริษทั กรุงเทพ จากดั 70,000 บาท ค่านายหนา้ ขายบา้ น 10,000 บาท มีบา้ นใหผ้ อู้ น่ื เช่าไดร้ ับค่าเช่าปี ละ 60,000 บาท เงินไดจ้ ากการรับเหมาก่อสร้าง 200,000 บาท ไดร้ ับค่าเล่าเรียนบุตร 100,000 บาท รางวลั สลากกินแบ่งรัฐบาล 50,000 บาท
325 รายจ่าย ดอกเบ้ียเงินกซู้ ้ือรถยนต์ 5,000 บาท เบ้ียประกนั ชีวติ กรมธรรม์ 15 ปี 5,000 บาท จ่ายเงินเขา้ กองทุนบาเหน็จบานาญราชการ 12,000 บาท บริจาคใหส้ มาคมผปู้ กครองและครูโรงเรียนที่บุตรศกึ ษา อยู่ 50,000 บาท นางมทั นา เงินเดือน ๆ ละ 15,000 บาท ส่วนแบ่งกาไรจากหา้ งหุน้ ส่วนสามญั ไมจ่ ดทะเบียน 6,000 บาท ค่าคอมมิชชนั่ จากการขายเคร่ืองสาอางมิสทีน 60,000 บาท รายจ่าย จ่ายเงินเขา้ กองทุนเล้ียงชีพ 5,000 บาท จ่ายเงินเขา้ กองทุนประกนั สงั คม 4,000 บาท บริจาครถยนตใ์ หก้ รมตารวจ มลู ค่า 500,000 บาท บุตร 4 คน ดงั นี้ 1. ธิตินุช อายุ 22 ปี ทางานที่บณั ฑิตวทิ ยาลยั สถาบนั ราชภฏั อุดรธานี 2. ประสนั อายุ 20 ปี เรียนที่ราชภฏั อุดรธานี มเี งินไดจ้ ากการทางานรับซ่อมเคร่ือง คอมพวิ เตอร์ เดือนละ 5,000 บาท 3. ปาริชาติ อายุ 18 ปี เรียนในระดบั ปวช. มเี งินไดจ้ ากการถกู สลากกินแบ่งรัฐบาล 20,000 บาท 4. เอกภพ อายุ 15 ปี เป็นคนไร้ความสามารถ จากข้อมูลดงั กล่าว ตอบคาถามข้อ 14 – 25 เพื่อเสียภาษสี ิ้นปี โดยแยกคานวณ 14. นายธนากรมีเงินไดพ้ งึ ประเมินทตี่ อ้ งนามา 16. นายธนากรหกั ค่าใชจ้ ่ายท้งั สิ้นไดเ้ ท่าไร คานวณเพอ่ื ชาระภาษี ปี 2553 เท่าใด ก. 278,000 ก. 718,000 ข. 233,000 ข. 616,000 ค. 263,000 ค. 618,000 ง. 218,000 ง. 628,000 จ. ผดิ ทุกขอ้ จ. ไมม่ ขี อ้ ถกู 15. ตอบเหมอื นขอ้ 14 17. ตอบเหมอื นขอ้ 16
326 18. นายธนากรหกั ลดหยอ่ นท้งั หมดเท่าไร 25. ผลต่างของเครดิตภาษกี บั ภาษีท่ีคานวณได้ ก. 52,500 เท่าไร ? ข. 62,000 ก. - 5,450 ค. 43,500 ข. 15,000 ง. 54,500 ค. - 14,900 จ. 67,000 ง. -34,950 จ. 5,450 19. ตอบเหมอื นขอ้ 18 นายอนุชาเป็นคนโสด ทางานบริษทั A ไดร้ ับ 20. นายธนากรมเี งินไดส้ ุทธิเท่าไร เงินเดือน ๆ ละ 20,000 บาท ต้งั แต่ ม.ค. 43 - มิ.ย. 43 และไดร้ ับโบนสั จากบริษทั A ใน ก. 429,500 เดือน มิ.ย. 120,000 บาท เดือน ก.ค. 43 - ข. 423,000 ธ.ค. 43 ไดล้ าออกจากบริษทั A ไปทางาน ค. 426,500 บริษทั B เงินเดือน ๆ ละ 30,000 บาท ง. 430,500 (ตอบคาถามขอ้ 26 - 29 ) จ. 376,000 21. ตอบเหมือนขอ้ 20 26. บริษทั A หกั ภาษี ณ ท่ีจ่าย นายอนุชา ต้งั แต่ 22. ภาษีท่ีคานวณจากเงินไดส้ ุทธิเท่าใด ม.ค. - พ.ค. เดือนละ เท่าไร ? ก. 32,550 ก. 833.33 ข. 7,600 ข. 875 ค. 15,100 ค. 625 ง. 15,000 ง. 1,083.33 จ. 15,550 จ. ไมต่ อ้ งหกั ภาษี ณ จ่าย 23. คาตอบเหมือนขอ้ 22 24. เครดิตภาษีเงินปันผลเท่าใด ? 27. เดือน มิ.ย. บริษทั A หกั ภาษี ณ ทจ่ี ่าย นาย ก. 30,000 อนุชา เป็นเงินเท่าไร ข. 70,000 ค. - 2,550 ก. 12,000 บาท ง. - 34,950 ข. 12,625 จ. 5,050 ค. 12,875 ง. 6,000 จ. 60,000 28. ระบายคาตอบเหมอื นขอ้ 27
327 29. บริษทั B หกั ภาษี ณ ทีจ่ ่าย นายอนุชา ต้งั แต่ 31. จากขอ้ 30 หกั ลดหยอ่ นบริจาคไดก้ ี่บาท ก.ค.53 เดือนละเท่าไร ก. 3,000 บาท ข. 5,000 บาท ก. 2,000 ค. 8,000 บาท ข. 333.33 ง. 10,000 บาท ค. 1,625 จ. หาคาตอบไมไ่ ด้ ง. 375 จ. ไมต่ อ้ งหกั ณ ทีจ่ ่าย 30. รายจ่ายใดต่อไปน้ีถือเป็นรายการหกั ลดหยอ่ น เงินบริจาคในการคานวณเงินไดส้ ุทธิเพ่ือเสียภาษี บุคคลธรรมดา ก. นายทิชาชาติ จ่ายเงินค่าหอพกั และค่าเล่า เรียนใหน้ กั ศกึ ษาโรงเรียนพาณิชยการ เดือนละ 3,000 บาท ข. บิดานายเอกภพ ส่งเงินใหบ้ ุตรชายท่ี ปลอมตวั มาศึกษาในจงั หวดั อุดรธานี เดือนละ 5,000 บาท ค. นายจอ๊ ดซ้ือแหวนหม้นั ราคา 8,000 บาท ใหห้ ญิงคนรัก ง. นางสาวธารทิพย์ บริจาคเงิน 10,000 บาท ใหว้ ดั ไทยในประเทศองั กฤษ จ. น.ส. ดอกไม้ บริจาคเงินใหโ้ รงพยาบาล ศูนยอ์ ดุ รธานี 1,000 บาท
328 โจทย์ต่อไปนตี้ อบคาถามข้อ 32 – 55 บริษทั เจา้ พระยา จากดั จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิม่ แต่ไม่ไดจ้ ดทะเบียนกบั ตลาดหลกั ทรัพย์ ประกอบธุรกจิ ประกนั ภยั และขายสินคา้ มีผลการดาเนินงานในรอบ 6 ปี ที่ผา่ นมา ดงั น้ี ปี 2547 ขาดทุนสุทธิ 50,000,000 บาท ปี 2548 กาไรสุทธิ 25,000,000 บาท ปี 2549 ขาดทุนสุทธิ 20,000,000 บาท ปี 2550 กาไรสุทธิ 10,000,000 บาท ปี 2551 กาไรสุทธิ 10,000,000 บาท ปี 2552 ขาดทุนสุทธิ 5,000,000 บาท ในปี ภาษี 2553 บริษทั มีกาไรสุทธิ 60,000,000 บาท โดยมรี ายรับและรายจ่ายบางรายการ ปรากฏอยใู่ นงบการเงิน ปี 2553 ดงั น้ี 1. บริษทั รับเบ้ียประกนั ชีวิต 50 ลา้ นบาท โดยต้งั เป็นสารองเบ้ยี ประกนั ไว้ 40% ของเบ้ีย ประกนั ที่ไดร้ ับ และบนั ทึกสารองเบ้ียประกนั ชีวิต เป็นรายจ่ายเต็มจานวน 2. บริษทั รับเบ้ียประกนั อคั คีภยั จากโรงงานอุตสาหกรรม 60 ลา้ นบาท ในปี 2552 และต้งั เป็นสารองเบ้ียประกนั ภยั 40% ของเบ้ียประกนั ท่ีไดร้ ับ เพอ่ื บนั ทึกเป็นค่าใชจ้ ่าย ในปี 2552 ปรากฏวา่ ในปี เดียวกนั บริษทั ไดจ้ ่ายเงินใหผ้ เู้ อาประกนั 80 ลา้ นบาท เนื่องจาก โรงงานถกู ไฟไหม้ ดงั น้นั ในปี 2553 บริษทั จึงไมไ่ ดโ้ อนเงนิ สารองเบ้ียประกนั กลบั เพ่ือเป็ นรายได้ 3. บริษทั ไดร้ ับเงินปันผลจากกองทุนรวม 300,000 บาท ในปี 2553 แต่ไมบ่ นั ทึกเป็น รายได้ เนื่องจากไดร้ ับการยกเวน้ ภาษี 4. บริษทั ต่อเติมอาคาร เพอื่ เพม่ิ พ้ืนท่ีใชส้ อย เป็นเงิน 1,000,000 บาท เมื่อ 1 ก.ค. 2553 บริษทั ไดบ้ นั ทึกเป็นรายจ่ายค่าซ่อมแซม 1,000,000 บาท 5. บริษทั ไดบ้ นั ทึกสินคา้ คงเหลอื ปลายงวดตามราคาทุน 70,000,000 บาท ในขณะที่ราคา ตลาด 65,000,000 บาท 6. บริษทั บนั ทกึ รายจ่าย เนื่องจากการไปทศั นาจรของกรรมการบริหาร 500,000 บาท 7. รายจ่ายค่ารับรอง 100,000 บาท ท่ีบริษทั บนั ทึกไว้ ประกอบดว้ ยค่าอาหาร 30,000 บาท ค่าที่พกั 40,000 บาท ค่าเคร่ืองดื่ม 10,000 บาท ค่าใชจ้ ่ายเก่ียวกบั กีฬา 20,000 บาท 8. บริษทั บริจาคเงินใหก้ องทุนสิ่งแวดลอ้ ม 1,800,000 บาท บริจาคใหก้ ารกีฬาแห่ง ประเทศไทย 5,000 บาท บริจาคใหพ้ รรดการเมอื ง 1,000,000 บาท บริจาคเงินให้ สถาบนั ราชภฏั เพอื่ เป็นทุนการศกึ ษา 20,000 บาท
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357