37 เงนิ ได้พึงประเมินประเภทท่ี 7 (มาตรา 40 (7)) ไดแ้ ก่ เงินไดจ้ ากการรับเหมาที่ผรู้ ับเหมาตอ้ ง ลงทุนดว้ ยการจดั หาสัมภาระในส่วนสาคญั นอกจากเครื่องมือ เช่น รับเหมาก่อสร้างท้งั ของและท้ัง แรงงาน หากรับเหมาเฉพาะแรงงานจะเป็นเงินไดต้ าม ม.40(2) เป็นการรับทางานให้ เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 8 (มาตรา 40 (8)) ได้แก่ เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ หรือการอ่ืนนอกจากที่ระบุไวใ้ น ประเภทท่ี 1 ถึงประเภทที่ 7 แลว้ 6. การคานวณภาษีโดยผู้มเี งนิ ได้ประเมินตนเองตอนสิ้นปี การเสียภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา กรณีท่ีผมู้ เี งินได้ ประเมนิ ตนเอง จะมีการคานวณภาษี 2 แบบ (อตั ราภาษีแบบกา้ วหนา้ และแบบคงที่) และเสียภาษีตามวิธีท่ีคานวณแลว้ ไดจ้ านวนเงินภาษีมากกวา่ ภาษีเงนิ ได้บุคคลธรรมดาสิ้นปี แบบที่ 1 (อตั ราภาษีแบบก้าวหน้า) เงินไดพ้ งึ ประเมนิ XX หกั ค่าใชจ้ ่าย XX เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย XX หกั ลดหยอ่ น XX เงินไดก้ ่อนหกั บริจาค หกั เงินบริจาค XX เงินไดส้ ุทธิ XX จานวนเงินภาษี = เงินไดส้ ุทธิ X อตั ราภาษี แบบที่ 2 (อตั ราภาษีคงท่ี)เงินไดพ้ ึงประเมนิ X 5 = จานวนเงินภาษี 1000 (ยกเวน้ ภาษีจานวนที่ไม่เกิน 5,000 บาท คานวณภาษีวิธีที่ 2 เฉพาะเงินไดพ้ ึงประเมิน ประเภทท่ี (2) – (8) ที่มีจานวนรวมกนั ต้ังแต่ 60,000 บาทข้ึนไป สาหรับเงินพึงประเมินประเภทท่ี (5) ถึง (8) แต่ไม่รวมเงินกินเปล่า เงินช่วยค่า ก่อสร้าง เงินค่าซ่อมแซม ค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนท่ีไดร้ ับกรรมสิทธ์ิตอ้ งเสียภาษีเงินได้บุคคล
38 ธรรมดาคร่ึงปี ซ่ึงมีวิธีการคานวณ 2 วิธี เหมือนกบั การคานวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาส้ินปี จะ แตกต่างเฉพาะเงินไดพ้ ึงประเมินท่ีนามาคานวณน้ันตอ้ งเป็ นเงินไดต้ ้งั แต่เดือน ม.ค.-มิ.ย. ส่วนการหกั ลดหยอ่ นน้นั ใหห้ กั ลดหยอ่ นไดก้ ่ึงหน่ึง กรณีการชาระภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาคร่ึงปี ให้สามีภรรยาต่างฝ่ ายต่างยืน่ แบบเสียภาษีใน นามของตนเอง แต่ถา้ เป็ นการย่ืนแบบรายการชาระภาษีสิ้นปี เงินไดพ้ ึงประเมินประเภทที่ (2) – (8) ของภรรยาใหถ้ อื เป็นของสามี และสามเี ป็นผมู้ ีหนา้ ที่ยนื่ แบบรายการเพื่อชาระภาษีสิ้นปี ยกเวน้ เงินได้ ท้งั ประเมินประเภทที่ (1) ของภรรยา ภรรยาสามารถแยกคานวณต่างหากได้ หรือจะนาไปรวมคานวณ กบั เงินไดข้ องสามีกไ็ ด้ (หลกั เกณฑเ์ ดิม) ต้งั แต่ปี 2555 เป็นตน้ ไป ไดม้ พี ระราชกาหนดแกไ้ ขเพิม่ เติม ประมวลรัษฎากร (ฉบบั ท่ี 18) ไดก้ าหนดหลกั เกณฑ์การจดั เกบ็ สาหรับสามีและภรรยาข้ึนใหม่สรุป ดงั น้ี (1) นาเงินไดข้ องสามแี ละภรรยารวมกนั และยน่ื เสียภาษีในนามฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึง (2) ใหถ้ อื เอาเงิน ไดต้ ามมาตรา 40(2)-(8) ของภรรยาเป็นเงินไดข้ องสามี หรือเงินไดต้ ามมาตรา 40(2)-(8) ของสามีเป็ น เงินไดข้ องภรรยา สาหรับเงินไดต้ ามมาตรา 40(1) ของแต่ละฝ่ ายใหเ้ สียภาษีในนามตนเอง (3) ใหส้ ามี และภรรยายน่ื รายการและเสียภาษีต่างหากจากกนั ตามส่วนเงินไดข้ องตน กรณีไม่อาจแยกชดั เจนไดว้ ่า เป็นของสามีหรือภรรยาจานวนเท่าใดใหเ้ ลือกได้ 2 วิธี คือ 1) แบ่งเป็ นของสามแี ละภรรยาคนละคร่ึง 2) เฉพาะเงินไดต้ าม ม. 40(8) แบ่งเป็นเงินไดข้ องแต่ละฝ่ ายตามที่ตกลงกนั กไ็ ด้ 7. การหักค่าใช้จ่าย สาหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ (2) หักค่าใช้จ่ายได้ 40% ของเงินได้พึง ประเมินท้ัง 2 ประเภทรวมกันแต่ตอ้ งไม่เกิน 60,000 บาท กรณีที่สามีภรรยาต่างฝ่ ายมีเงินได้ ให้หัก ค่าใชจ้ ่ายร้อยละ 40 แต่ไมเ่ กิน 60,000 บาท ท้งั 2 ฝ่ าย ตวั อย่าง สามีมีเงินไดต้ ามมาตรา 40(1) คือ เงินเดือน 200,000 บาท มเี งินไดต้ ามมาตรา 40(2) คือ ค่า นายหน้า 100,000 บาท ส่วนภรรยามีเงินได้ ตามมาตรา 40 (1) คือ ค่าจา้ ง 100,000 บาท ค่านายหนา้ 200,000 บาท กรณีตามตวั อยา่ งสิทธิในการหกั ค่าใชจ้ ่ายของสามแี ละภรรยา แสดงไดด้ งั น้ี
39 วธิ ีท่ี 1 (รวมคานวณ) สิทธิในการหกั ค่าใชจ้ ่ายของภรรยา สิทธิหกั ค่าใชจ้ ่ายของสามี 200,000 เงินไดพ้ งึ ประเมนิ ม. 40(1) ภรรยา 100,000 100,000 เงินไดพ้ ึงประเมนิ ม. 40(2) ภรรยา 200,000 เงินไดพ้ ึงประเมนิ ม. 40(1) สามี 300,000 เงินไดพ้ ึงประเมนิ ม. 40(1)+(2) ภรรยา 300,000 เงินไดพ้ งึ ประเมนิ ม. 40(2) สามี 60,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% (ไมเ่ กิน 60,000) 60,000 เงินไดพ้ ึงประเมิน ม. 40(1)+(2) สามี หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% (ไม่เกิน 60,000) ถา้ ผมู้ เี งินไดป้ ระสงคจ์ ะคานวณภาษีตามกรณีท่ี 1 ดาเนินการ ดงั น้ี เงินไดพ้ ึงประเมินมาตรา 40(1) สามี 200,000 เงินไดพ้ งึ ประเมินมาตรา 40(2) สามี 100,000 เงินไดพ้ งึ ประเมินมาตรา 40(1) + (2) ของสามี 300,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% (ไม่เกิน 60,000) 60,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 240,000 ------------- เงินไดพ้ งึ ประเมินมาตรา 40(1) ภรรยา 100,000 เงินไดพ้ ึงประเมนิ มาตรา 40(2) ภรรยา 200,000 เงินไดพ้ ึงประเมนิ มาตรา 40(1) + (2) ของภรรยา 300,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% (ไมเ่ กิน 60,000) 60,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 240,000 ------------- เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายท้งั ส้ิน + = 480,000 หลงั จากน้นั จึงเขา้ สู่ข้นั ตอนการหกั ลดหยอ่ นต่อไป
40 วธิ ีที่ 2 (ใหถ้ อื เงินได้ ม.40 (2)-(8) ของภรรยาเป็นของสามี หรือถอื เงินไดข้ องสามเี ป็นของภรรยา) วธิ ีที่ 2 (ลกั ษณะท่ี 1) ใหถ้ อื เงินได้ ม.40 (2)-(8) ของภรรยาเป็นของสามี สามี ภรรยา เงินไดพ้ ึงประเมนิ ม. 40(1)+(2) สามี 300,000 เงินไดพ้ งึ ประเมิน ม. 40(1) ภรรยา 100,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 60,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 20,000 ** เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย (1) 240,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 80,000 เงินไดต้ าม ม.40 (2) ของภรรยา 200,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 40,000 * เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย (2) 160,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายท้งั ส้ิน (1)+(2) 400,000 เงินไดพ้ ึงประเมินของภรรยาตาม ม.40 (1) 100,000 รวมกบั เงินได้พึงประเมินตาม ม.40 (2) 200,000 บาท รวมเงินไดท้ ้งั ส้ินของภรรยา 300,000 บาท หลกั เกณฑก์ ารหกั ค่าใชจ้ ่ายคือ 40% (ไม่เกิน 600,000 บาท) จึงสามารถหกั ค่าใชจ้ ่ายได้ 60,000 บาท เงินไดพ้ งึ ประเมิน 300,000 หกั ค่าใชจ้ ่ายได้ 60,000 บาท เงินไดพ้ งึ ประเมิน 200,000 หกั ค่าใชจ้ ่ายได้ 60,000 x 200,000 หกั ค่าใชจ้ ่ายได้ = 300,000 หมายความว่า เงิน 200,000 บาท ตาม ม.40 (2) หกั ค่าใชจ้ ่ายได้ ฉะน้นั เงินได้ 100,000 บาท ตาม ม.40 (1) หกั ค่าใชจ้ ่ายได้ 40,000 บาท (*) 40,000 บาท 20,000 บาท (**)
41 วธิ ีที่ 2 (ลกั ษณะที่ 2) คือ ใหถ้ อื เงินได้ ม.40 (2)-(8) ของสามีเป็นของภรรยา คานวณไดด้ งั น้ี สามี ภรรยา เงินไดพ้ ึงประเมิน ม. 40(1) สามี 200,000 เงินไดพ้ งึ ประเมนิ ม. 40(1)+(2) ภรรยา 300,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% (ไม่เกิน 60,000) 40,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 60,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 160,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายของภรรยา (1) 240,000 เงินไดต้ าม ม.40 (2) ของสามี 100,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 20,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย (2) 80,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายท้งั ส้ิน (1)+(2) 320,000 อยา่ งไรกต็ าม ไดม้ ฎี ีกา 6220/2549 วินิจฉยั ว่า ไม่ตอ้ งเฉลี่ยค่าใชจ้ ่ายกไ็ ด้ ซ่ึงหมายถึง ค่าใชจ้ ่าย 40% แต่ไมเ่ กิน 60,000 บาท หกั จากเงินไดพ้ ึงประเมนิ ประเภทใดเพียงประเภทเดียวก็ได้ วธิ ีท่ี 3 ใหส้ ามภี รรยายนื่ รายการและเสียภาษีต่างหากจากกนั สามี ภรรยา เงินไดต้ าม ม. 40(1)+(2) 300,000 เงินไดต้ าม ม. 40(1) 100,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 60,000 เงินไดต้ าม ม.40 (2) 200,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 240,000 เงินไดต้ ามม. 40(1) + (2) 300,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 60,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 240,000 หลกั เกณฑก์ ารจดั เก็บภาษีสาหรับสามีและภรรยาท้งั 3 กรณี โดยปกติแลว้ การใชห้ ลกั เกณฑ์ ตามกรณีที่ 3 จะทาให้ประหยดั ภาษีมากที่สุด เน่ืองจากเงินไดพ้ ึงประเมินของสามแี ละภรรยาไดถ้ ูกแยก ออกจากกนั ทาใหเ้ งินไดส้ ุทธิมีจานวนนอ้ ยกว่าการนาเงินไดพ้ ึงประเมนิ ไปรวมกนั จึงเสียภาษีในอตั รา ที่ต่าตามลกั ษณะของอตั ราภาษีแบบกา้ วหนา้ เงินได้พึงประเมินตามม. 40 (3) หักค่าใช้จ่ายเป็ นการเหมาได้ 40 % แต่ไม่เกิน 60,000 บาท เฉพาะค่าแห่งลิขสิทธ์ิ กรณีท่ีสามแี ละภรรยาต่างฝ่ ายต่างมีเงินได้ใหห้ กั ค่าใชจ้ ่ายไดใ้ นเกณฑเ์ ดียวกนั ท้งั 2 ฝ่ าย เงินไดพ้ ึงประเมินตามม. 40 (3) นอกจากค่าแห่งลขิ สิทธ์ิไมส่ ามารถหกั ค่าใชจ้ ่ายได้ เงินไดพ้ ึงประเมนิ ตามม. 40 (4) กฎหมายไม่ยอมใหห้ กั ค่าใชจ้ ่ายใดๆ
42 เงินไดพ้ ึงประเมินตามม. 40 (5) เงินไดจ้ ากการใหเ้ ช่าทรัพยส์ ิน กฎหมายให้ผมู้ ีเงินได้ เลือกหัก ค่าใชจ้ ่ายลกั ษณะ ใดลกั ษณะหน่ึงดงั น้ี (ก) หกั ตามความจาเป็นและสมควร (ข) หกั เป็นการเหมาจ่าย กรณีหักเป็ นการเหมาจ่ายให้หักไดใ้ นอตั ราร้อยละ ตามกฎหมายกาหนด ถา้ เจา้ ของทรัพยส์ ิน เป็นผใู้ ห้เช่าเอง ยกเวน้ กรณีใหเ้ ช่าช่วงใหห้ กั ค่าใชจ้ ่ายไดเ้ ฉพาะค่าเช่าที่เสียให้กบั ผใู้ หเ้ ช่าเดิม หรือผใู้ ห้ เช่าช่วงแลว้ แต่กรณี (5.1) เงินไดจ้ ากการใหเ้ ช่าบา้ นโรงเรือนส่ิงปลกู สร้างอยา่ งอื่นหรือแพหกั ค่าใชจ้ ่ายไดร้ ้อยละ30 (5.2) ท่ีดินที่ใชใ้ นการเกษตร หกั ค่าใชจ้ ่ายไดร้ ้อยละ 20 (5.3) ที่ดินท่ีมิไดใ้ ชเ้ ป็นการเกษตรกรรม หกั ค่าใชจ้ ่ายไดร้ ้อยละ 15 (5.4) ยานพาหนะหกั ค่าใชจ้ ่ายได้ ร้อยละ 30 (5.5) ทรัพยส์ ินอยา่ งอน่ื หกั ค่าใชจ้ ่ายไดร้ ้อยละ 10 (5.6) การผดิ สญั ญาเช่าซ้ือทรัพยส์ ิน หกั ค่าใชจ้ ่ายไดร้ ้อยละ 20 วธิ ีเดียว (5.7) การผดิ สญั ญาซ้ือขายเงินผ่อน ซ่ึงผขู้ ายไดร้ ับคืนทรัพยส์ ินท่ีขายน้ันโดยไม่ตอ้ งคืนเงิน หรือประโยชนท์ ่ีไดร้ ับไวแ้ ลว้ หกั ค่าใชจ้ ่ายเป็นการเหมาไดร้ ้อยละ 20 วิธีเดียว เงินไดพ้ งึ ประเมนิ ตามม. 40 (6) เลือกหกั ค่าใชจ้ ่ายวิธีใดวธิ ีหน่ึงดงั น้ี (ก) หกั ตามความจาเป็นและสมควร หรือ (ข) หกั เป็นการเหมาจ่าย กรณีหกั ค่าใชจ้ ่ายเป็ นการเหมาจ่าย วิชาชีพอิสระ จากการประกอบโรคศลิ ป์ หกั ไดร้ ้อยละ 60 วิชาชีพอสิ ระอ่ืนหกั ไดร้ ้อยละ 30 เงนิ ได้พงึ ประเมินตามม. 40 (7) เลือกหักค่าใชจ้ ่ายได้ 2 วิธี เหมือนเงินไดป้ ระเภทที่ 6 ถา้ เลือก หกั เป็นการเหมาจ่ายหกั ค่าใชจ้ ่ายไดร้ ้อยละ 70 เงินได้ พึงประเมินตามม. 40(8) ได้แก่ เงินได้จากธุรกิจ การพาณิ ชย์ การเกษตร การ อุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสงั หาริมทรัพย์ นอกจากท่ีระบุไวใ้ นประเภทท่ี 1-7 หกั ค่าใชจ้ ่ายได้ 2 วธิ ี เหมือนกบั เงินไดพ้ ึงประเมนิ ตามม. 40 (5), (6), (7) ถา้ เลือกหกั ค่าใชจ้ ่ายเป็นการเหมาใหห้ กั ในอตั ราร้อยละดงั น้ี
43 ตารางแสดงอตั ราการหักค่าใช้จ่ายเป็ นการเหมา สาหรับเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามม. 40 (8) ร้อยละ ประเภทเงนิ ได้พงึ ประเมนิ 65 70 (1) การเก็บค่าต๋ง หรือค่าเกมสจ์ ากการพนนั การแข่งขนั หรือ การเล่นต่าง ๆ 70 (2) การถ่าย ลา้ ง อดั หรือขยายรูปภาพยนตร์ รวมท้งั การขายส่วนประกอบ 70 (3) การทากจิ การคานเรือ อูเ่ รือ หรือ ซ่อมเรือท่ีมใิ ช่ซ่อมเคร่ืองจกั รเคร่ืองกล 70 (4) การทารองเทา้ และเคร่ืองหนงั แท้ หรือหนงั เทียม รวมท้งั การขาย ส่วนประกอบ 70 (5) การตดั เยบ็ ถกั ปักเส้ือผา้ หรือส่ิงอนื่ ๆ รวมท้งั การขายส่วนประกอบ 70 (6) การทา ตกแต่ง หรือซ่อมแซม เคร่ืองเรือน รวมท้งั การขายส่วนประกอบ 70 (7) การทากจิ การโรงแรม หรือภตั ตาคารหรือการปรุงอาหารหรือเครื่องดื่มจาหน่าย 70 (8) การดดั ตดั แต่งผม หรือตกแต่ง ร่างกาย 75 (9) การทาสบู่ แชมพู หรือเครื่องสาอาง 75 (10) การทาวรรณกรรม (11) การคา้ เคร่ืองเงิน ทอง นาก เพชรพลอยหรือ อญั มณีอ่นื รวมท้งั การขายส่วนประกอบ 75 (12) การทากิจการสถานพยาบาลตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยสถานพยาบาล เฉพาะท่ีมเี ตียงรับ 75 80 ผปู้ ่ วยไวค้ า้ งคืน รวมท้งั การรักษาพยาบาลและการจาหน่ายยา 80 (13) การโม่หรือยอ่ ยหิน (14) การทาป่ าไม้ สวนยาง หรือไมย้ นื ตน้ 80 (15) การขนส่ง หรือรับจา้ งดว้ ยยานพาหนะ 80 (16) การทาบลอ็ กและตรา การรับพมิ พ์ หรือเยบ็ สมุด เอกสาร รวมท้งั การขาย 85 80 ส่วนประกอบ 80 (17) การทาเหมืองแร่ 80 (18) การทาเครื่องด่ืมตามกฎหมายว่าดว้ ยภาษีเคร่ืองดื่ม (ฉบบั ท่ี 16) พ.ศ. 2502 (19) การทาเครื่องกระเบ้ือง เครื่องเคลอื บ เครื่องซีเมนต์ หรือดินเผา (20) การทาหรือจาหน่ายกระแสไฟฟ้า (21) การทาน้าแข็ง (22) การทากาว แป้งเปี ยก หรือสิ่งท่ีมลี กั ษณะทานองเดียวกนั และการทาแป้งชนิดต่าง ๆ ท่ีมใิ ช่เครื่องสาอาง
44 ประเภทเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ร้อยละ (23) การทาลูกโป่ ง เคร่ืองแกว้ 80 80 (24) การซกั รีด หรือยอ้ มสี 80 (25) การขายของนอกจากที่ระบุไวใ้ นขอ้ อน่ื ซ่ึงผขู้ ายมิไดเ้ ป็นผผู้ ลติ 80 (26) รางวลั ที่เจา้ ของมา้ ไดจ้ ากการส่งมา้ เขา้ แข่ง 85 (27) การรับสินไถท่ รัพยส์ ินทีข่ ายฝาก หรือการไดก้ รรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินโดยเดด็ ขาดจาก 85 การขายฝาก 85 (28) การรมยาง การทายางแผน่ หรือยางอยา่ งอน่ื ท่ีมใิ ช่ยางสาเร็จรูป 85 (29) การฟอกหนงั 85 (30) การทาน้าตาล หรือน้าเหลอื งของน้าตาล 85 (31) การจบั สตั วน์ ้า 85 (32) การทากิจกรรมโรงเลอ่ื ย (33) การกลน่ั หรือหีบน้ามนั 85 (34) การใหเ้ ช่าซ้ือสงั หาริมทรัพยท์ ี่ไมเ่ ขา้ ลกั ษณะตามมาตร 40(5) แห่งประมวลรัษฎากร 85 85 ซ่ึงแกไ้ ข เพิม่ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพิม่ เติมประมวลรัษฎากร (ฉบบั ที่ 16) 85 (35) การทากิจการโรงสีขา้ ว 85 (36) การทาเกษตรกรรมประเภท ไมล้ ม้ ลุกและธญั ชาติ 85 (37) การอบหรือบ่มยาสูบ 85 (38) การเล้ียงสตั วท์ ุกชนิด รวมท้งั การขายวตั ถพุ ลอยได้ (39) การล่าสตั วจ์ าหน่าย รวมท้งั ขายวตั ถพุ ลอยได้ 85 (40) การทานาเกลอื 61 (41) การขายเรือกาปั่นหรือเรือมีระวาง ต้งั แต่หกตนั ข้นึ ไป เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ มี ระวางต้งั แต่หา้ ตนั ข้ึนไป หรือแพ (42) การขายท่ีดินเงินผอ่ นหรือการใหเ้ ช่าซ้ือท่ีดิน
45 (43) การแสดงของนกั แสดงละครภาพยนตร์ วทิ ยหุ รือโทรทศั น์ นกั ร้อง นกั ดนตรี นกั กีฬา อาชีพ หรือนกั แสดง เพ่ือความบนั เทิงใด ๆ (ก) สาหรับเงินไดส้ ่วนท่ีไม่เกิน 300,000 บาท 60 (ข) สาหรับเงินไดส้ ่วนท่ีเกิน 300,000 บาท 40 การหกั ค่าใชจ้ ่ายตาม (ก) และ (ข) รวมกนั ตอ้ งไม่เกิน 600,000 บาท หกั ค่าใชจ้ ่าย (44) เงินไดท้ ี่มิไดร้ ะบุไวต้ ้งั แตข่ อ้ (1) ถึงขอ้ (43) ตามความเป็ น จริงและ สมควร การหกั ค่าใชจ้ ่ายตามความจาเป็นและสมควรน้นั หมายความว่า การท่ีผมู้ เี งินไดแ้ สดงหลกั ฐาน ค่าใชจ้ ่ายต่อเจา้ พนกั งานประเมิน ซ่ึงเป็ นรายจ่ายตามปกติ มีความเก่ียวขอ้ งและจาเป็นต่อการประกอบ ธุรกิจแต่ละประเภทซ่ึงเป็ นที่มาของเงินได้เป็ นจานวนที่เหมาะสมแก่กิจการ และไม่เป็ นรายจ่าย ตอ้ งหา้ มตามกฎหมาย กส็ ามารถแสดงหลกั ฐานการจ่ายมาหักเป็ นค่าใชจ้ ่าย แทนการหักเป็ นการเหมา จ่ายก็ได้ 8. การหักลดหย่อน เงินไดพ้ ึงประเมินเมื่อหักค่าใชจ้ ่ายแลว้ เพื่อบรรเทาภาระภาษี ผูม้ ีเงินได้สามารถหักลดหย่อน รายการ ต่าง ๆ ไดอ้ กี ตามภาระของผมู้ เี งินไดซ้ ่ึงค่าลดหยอ่ นที่สามารถหกั ไดม้ ีดงั น้ี 8.1 หกั ลดหยอ่ นผมู้ เี งินได้ 30,000 บาท (ไมว่ า่ จะอยใู่ นประเทศ ถงึ 180 วนั หรือไม่กต็ าม) 8.2 สามีหรือภริยาของผมู้ ีเงินได้ 30,000 บาท (1) สามหี รือภริยาของผมู้ ีเงินไดท้ ี่มีสิทธิ จะตอ้ งเป็นสามหี รือภริยาชอบดว้ ยกฎหมาย การสมรส ไม่ครบปี ภาษีก็มีสิทธิหักลดหยอ่ นได้ เช่น จดทะเบียนสมรสระหว่างปี ภาษี หรือตาย ระหว่างปี ภาษี กม็ สี ิทธิหกั ลดหยอ่ นภาษีได้ 30,000 บาท (2) สามหี รือภริยาของผมู้ ีเงินไดท้ ี่จะนามาหกั ลดหยอ่ นจะตอ้ งไม่มเี งินไดพ้ ึงประเมินหรือมแี ต่ ไมไ่ ดแ้ ยกคานวณภาษี
46 ตวั อย่าง สามีหรือภริยาแต่งงานครบปี ภาษีและต่างฝ่ ายต่างมีเงินไดป้ ระเภทที่ 1 กรณีดงั กล่าว ภริยาสามารถแยกคานวณภาษีต่างหากจากสามีไดโ้ ดย ชอบ ท้งั สามีภริยาจึงไม่มสี ิทธินาคู่สมรสมาหกั ลดหยอ่ นไดแ้ ต่หากภริยามีเงินไดป้ ระเภท อน่ื (2-8) ใหส้ ามีนาเงินไดข้ องภริยามารวมคานวณและมี สิทธินาคู่สมรสมาหกั ลดหยอ่ นได้ 8.3 บุตรชอบดว้ ยกฎหมายหรือบุตรบุญธรรมของผมู้ ีเงินได้ รวมท้ังบุตรชอบดว้ ยกฎหมายของ สามหี รือภรรยาของผมู้ เี งินได้ ในการพจิ ารณาหกั ลดหยอ่ นบุตรน้นั มขี ้นั ตอนสาคญั 2 ข้นั ตอน (1) ประเภทของบุตรที่สามารถนามาหักลดหยอ่ นได้ ไดแ้ ก่ บุตรชอบดว้ ยกฎหมายหรือบุตร บุญธรรมของผูม้ ีเงินได้ และบุตรชอบดว้ ยกฎหมายของสามีหรือภรรยาของผมู้ เี งินได้ ซ่ึงหมายถงึ บุตร ติดของสามีหรือภรรยา นนั่ เอง (2) คุณสมบตั ิของบุตรที่มีสิทธิหกั ลดหยอ่ นซ่ึงตอ้ งมคี ุณสมบตั ิดงั น้ี (ก) เป็ นผูเ้ ยาว์หรื อเป็ นบุตรท่ีถูกศาลส่ังให้เป็ นคนไร้ความสามารถหรื อเสมือนไร้ ความสามารถ (ข) เป็นบุตรที่มีอายไุ ม่เกิน 25 ปี และยงั ศึกษาอยใู่ นมหาวิทยาลยั หรือข้นั อดุ มศึกษา โดยบุตรตามขอ้ ก และ ข ตอ้ งอย่ใู นความอุปการะของผมู้ ีเงินไดแ้ ละบุตรดงั กล่าวตอ้ งไม่มี เงินไดพ้ ึงประเมินในปี ภาษีท่ีล่วงมาแลว้ เกิน 15,000 บาทข้ึนไป โดยเงินไดด้ งั กล่าวตอ้ งมิใช่เงินไดท้ ่ี ไดร้ ับยกเวน้ ตามมาตรา 42 ใหไ้ มต่ อ้ งรวมคานวณเพ่ือเสียภาษีเงินได้ (3) พจิ ารณาจานวนบุตรที่หกั ลดหยอ่ นได้ บุตรที่มคี ุณสมบตั ิครบตามหวั ขอ้ 8.3.1 จานวนที่ผมู้ ี เงินไดม้ ีสิทธินามาหกั ลดหยอ่ นดงั น้ี (ก) บุตรที่เกิดก่อนหรือใน พ.ศ. 2522 หรือที่ได้รับเป็ นบุตรบุญธรรมก่อน พ.ศ.2522 สามารถหกั ลดหยอ่ นไดท้ ุกคน (ข) บุตรท่ีเกิดหลงั พ.ศ. 2522 หรือที่ไดร้ ับเป็ นบุตรบุญธรรมในหรือหลงั พ.ศ. 2522 สามารถนามาหกั ลดหยอ่ นไดอ้ กี แต่เมอื่ รวมกนั บุตรในขอ้ (ก) แลว้ จานวนบุตรท่ีมีชีวิตอยู่ตอ้ งไม่เกิน 3 คน ซ่ึงการนบั จานวนบุตรให้นับเฉพาะ บุตรที่มีชีวิตอยู่ตามลาดับอายุสูงสุดของบุตร โดยให้นับ รวมท้งั บุตรท่ีไม่อยใู่ นเกณฑไ์ ดร้ ับการหกั ลดหยอ่ นดว้ ย ตวั อย่าง ผมู้ ีเงินไดใ้ นปี ภาษี 2545 มีบุตรเกิด พ.ศ. 2520 , 2521 ,2522 , 2524 บุตรทุกคนไม่มี เงินได้ และศึกษาอยู่ในระดบั อุดมศึกษา และอยู่ในความอุปการะของผูม้ ีเงินได้ เช่นน้ี สามารถหัก ลดหยอ่ นได้ 3 คน (เกิด พ.ศ. 2520 , 2521, 2522) แต่ถา้ บุตรเกิด พ.ศ. 2520 เรียนจบมงี านทามรี ายไดแ้ ลว้
47 สามารถหกั ลดหยอ่ นได้ 2 คน (เกิด พ.ศ. 2521 , 2522) เพราะเหตุว่าการนบั จานวนบุตรที่เกิดก่อนหรือ ใน พ.ศ. 2522 ที่ยงั มีชีวติ อยมู่ ีจานวน 3 คน (ถึงแมบ้ ุตรที่เกิด พ.ศ. 2520 หกั ลดหยอ่ นไม่ไดก้ ต็ าม) (4) จานวนเงินท่ีหกั ลดหยอ่ น บุตรที่ไม่ศกึ ษาหรือศึกษาในต่างประเทศหักลดหย่อนไดค้ นละ 15,000 ต่อปี บุตรท่ีศึกษาในประเทศไทย หกั ลดหย่อนไดค้ นละ 17,000 บาทต่อปี กรณีสามภี รรยา แยกคานวณภาษีและแยกยื่นแบบรายการต่างฝ่ ายต่างหักลดหย่อนบุตรได้คนละ 15,000 บาทหรือ 17,000 บาท แลว้ แต่กรณี 8.4 เบ้ียประกนั ชีวติ ท่ีจ่ายไปสามารถนามาหกั ลดหยอ่ นได้ โดยมีเง่ือนไขดงั น้ี (1) ตอ้ งเป็นการประกนั ชีวิตของผมู้ เี งินไดห้ รือคู่สมรส (2) ตอ้ งเป็นการจ่ายเบ้ียประกนั ใหก้ บั บริษทั ประกนั ชีวติ ท่ีประกอบกิจการในราชอาณาจกั ร (3) อายกุ รมธรรม์ 10 ปี ข้ึนไป จานวนเงินท่ีนามาหกั ลดหยอ่ น ส่วนแรกหกั ได้ 10,000 บาท ส่วนที่เกิน 10,000 บาท หกั ได้ ไมเ่ กินเงินไดห้ ลงั จากหักค่าใชจ้ ่ายแต่ไม่เกิน 90,000 บาท ซ่ึงมีผลใหใ้ ชส้ ิทธิประโยชน์ลดหยอ่ นภาษี จากเบ้ียประกนั ชีวิตไดป้ ี ละไมเ่ กิน 100,000 บาท กรณีคู่สมรสมเี งินได้ ก็ใหห้ กั ไดเ้ ช่นเดียวกบั ผมู้ ีเงินได้ การฝากเงินออมสินประเภทสงเคราะห์ ชีวติ และครอบครัวกอ็ ยใู่ นข่ายน้ีจะขอหกั ลดหยอ่ นตามเกณฑน์ ้ีไดด้ ว้ ย 8.5 เงินสะสมท่ีจ่ายเขา้ กองทุนสารองเล้ียงชีพ ซ่ึงเป็ นไปตามหลกั เกณฑ์วิธีการและเง่ือนไข ที่ กาหนดโดยกฎกระทรวง ตามท่ีจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท โดยหักไดท้ ้งั สามแี ละภรรยา ที่จ่ายเขา้ กองทุนสารองเล้ียงชีพตามเกณฑ์ ขา้ งตน้ ส่วนท่ีจ่ายเขา้ กองทุนเกิน 10,000 บาท แต่ไมเ่ กิน 490,000 บาท เป็นเงินไดท้ ี่ไดร้ ับการยกเวน้ ภาษี โดยนาเงินส่วนท่ีเกินดงั กล่าว หกั จากเงินไดพ้ ึงประเมนิ ก่อนหัก ค่าใชจ้ ่าย เงนิ กองทุนสารองเลยี้ งชีพ หมายถึง กองทุนที่นายจา้ งและลูกจา้ งร่วมกนั จดั ต้งั ข้ึนประกอบดว้ ย เกณฑท์ ี่ฝ่ ายลูกจา้ งจ่ายสะสมและเกณฑ์ที่นายจา้ งจ่ายสมทบและหมายรวมถึงดอกผลที่เกิดจากเกณฑ์ ดงั กล่าวเพ่ือจ่ายให้ลูกจา้ งที่ออกจากงานตามระเบียบกองทุนของบริษทั โดยกฎกระทรวงฉบบั ที่ 112 ไดก้ าหนดใหล้ ูกจา้ งตอ้ งจ่ายเงินสะสมเขา้ กองทุนสารองเล้ียงชีพในอตั ราที่แน่นอนแต่ไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ3 ของค่าจา้ ง ส่วนบริษทั ที่เป็นนายจา้ งจ่ายเงินเขา้ สมทบ กองทุนสารองเล้ียงชีพ ในอตั ราท่ีแน่นอนแต่ไม่ เกินร้อยละ15 ของค่าจา้ งที่บริษทั จ่ายให้ลูกจา้ งในรอบระยะเวลาบญั ชีน้ันและไม่ต่ากว่าท่ีลูกจ้างจ่าย สะสมเขา้ กองทุน นอกจากน้ันยงั ไดก้ าหนดใหอ้ านาจผจู้ ดั การกองทุนว่าสามารถนาเงินเขา้ กองทุน สารองเล้ียงชีพไปหาผลประโยชน์ในลกั ษณะใดไดบ้ า้ ง
48 ผู้จดั การกองทุน ไดแ้ ก่ ธนาคาร บริษทั เงินทุน บริษทั ประกนั ชีวติ หรือบริษทั หลกั ทรัพยท์ ี่ไดร้ ับ อนุญาตใหป้ ระกอบกิจการจดั การลงทุน 8.6 ค่าซ้ือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเล้ียงชีพ เฉพาะส่วนท่ีไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้ โดยเม่ือรวมกบั เงินสะสมกองทุนสารองเล้ียงชีพและหรือกองทุน กบข. แลว้ ไมเ่ กิน 500,000 บาท 8.7 ค่าซ้ืออาคาร อาคารพร้อมท่ีดิน หอ้ งชุดในอาครชุดหรือท่ีดินพร้อมกบั วา่ จา้ งก่อสร้างอาคาร ในที่ดินที่ไดโ้ อนกรรมสิทธ์ิต้งั แต่วนั ที่ 7 กนั ยายน 2544 ถงึ วนั ที่ 6 กนั ยายน 2545 เงินไดท้ ี่ไดจ้ ่ายไปเป็ นค่าซ้ืออาคาร อาคารพร้อมที่ดิน ห้องชุดในอาคารชุดหรือท่ีดินพร้อม ว่าจา้ งก่อสร้างอาคารในท่ีดินตอ้ งเป็นไปตามหลกั เกณฑด์ งั น้ี (1) ตอ้ งเป็นการซ้ืออาคาร อาคารพร้อมท่ีดิน หอ้ งชุดในอาคารชุด หรือที่ดินพร้อมกบั ว่าจา้ ง ก่อสร้างอาคารในที่ดินแต่เพียงแห่งเดียว (2) ตอ้ งทาสัญญาซ้ือขายหรือสญั ญาจะซ้ือจะขายอาคารพร้อมที่ดิน ห้องชุดในอาคารชุดหรือ ท่ีดินพร้อมกบั วา่ จา้ งก่อสร้างอาคารในที่ดินระหวา่ งวนั ที่ 7 กนั ยายน 2544 ถงึ วนั ที่ 6 กนั ยายน 2545 และตอ้ มมหี ลกั ฐานจากผขู้ ายหรือผรู้ ับจา้ งี่พสิ ูจนไ์ ดว้ ่ามีการจ่ายเงินตามสญั ญาภายในเวลาดงั กลา่ ว (3) ต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิในอสังหาริมทรัพยต์ าม (2) ระหว่างวนั ที่ 7 กนั ยายน 2544 ถึงวนั ที่ 6 กนั ยายน 2545 หรือกรณีซ้ือที่ดินพร้อมกบั ว่าจา้ งก่อสร้างอาคารในที่ดิน ตอ้ งโอน กรรมสิทธ์ิในท่ีดินที่ซ้ือพร้อมกบั ก่อสร้างอาคารตอ้ งแลว้ เสร็จระหวา่ งวนั ท่ี 7 กนั ยายน 2544 ถงึ วนั ท่ี 6 กนั ยายน 2545 (4) การโอนกรรมสิทธ์ิในอสังหาริมทรัพยท์ ี่ซ้ือโดยไมม่ ีการจานองอสังหาริมทรัพยท์ ี่ซ้ือหรือ อาคารท่ีสร้างน้นั เป็นประกนั การกูย้ มื เงินเพ่ือซ้ืออสงั หาริมทรัพยห์ รือสร้างอาคารดงั กลา่ วใหไ้ ดร้ ับสิทธิ หกั เป็นค่าลดหย่อนเท่ากบั จานวนท่ีจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 200,000 บาท โดยใหห้ กั จากเงินไดห้ ลกั จากหกั ค่าใชจ้ ่ายปี ภาษีละคร่ึงหน่ึงของจานวนที่จ่ายจริงแต่ไมเ่ กิน 100,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 ปี ติดต่อกนั นบั แต่ปี ภาษีที่ผมู้ เี งินไดร้ ับโอนกรรมสิทธ์ิ (5) การโอนกรรมสิทธ์ิในอสังหาริมทรัพยท์ ่ีซ้ือโดยมีการจานองอสังหาริมทรัพยท์ ่ีซ้ือหรือ อาคาร ท่ีก่อสร้างน้ันเป็ นประกนั การกูย้ มื เงินเพ่ือซ้ืออสงั หาริมทรัพยห์ รือสร้างอาคารดงั กล่าว ใหห้ ัก จากเงินไดห้ ลงั จากหกั ค่าใชจ้ ่ายเท่ากบั จานวนท่ีจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท โดยใหห้ กั ในภาษีที่มี การโอนกรรมสิทธ์ ิน้ นั
49 (6) กรณีสามีและภริยาร่วมกนั ซ้ืออาคาร อาคารพร้อมที่ดิน หอ้ งชุดในอาคารชุด หรือท่ีดิน พร้อมกบั ว่าจา้ งก่อสร้างในที่ดินหลายแห่ง ใหห้ ักไดแ้ ต่เพียงแห่งแรกแห่งเดียว ถา้ สามีภริยามีเงินได้ ฝ่ ายเดียวใหผ้ มู้ ีเงินไดห้ กั ลดหยอ่ น ไดเ้ ตม็ จานวนตามท่ีจ่ายจริง แต่ไมเ่ กิน 100,000 บาท กรณีผูม้ ีเงินได้ซ่ึงมีสิทธิหักลดหย่อน อยู่ก่อนแลว้ ต่อมาได้สมรสกัน ให้ยงั คงหัก ลดหยอ่ นไดด้ งั ต่อไปน้ี (ก) ถา้ ความเป็นสามีภริยามไิ ดอ้ ยตู่ ลอดปี ภาษีที่ไดร้ ับสิทธิหกั ลดหยอ่ น ใหต้ ่างฝ่ ายต่างหกั ลดหยอ่ นไดต้ ามจานวนที่จ่ายจริงแต่ไมเ่ กิน 100,000 บาท (ข) ถา้ ความเป็นสามีภริยาไดม้ ียตู่ ลอดปี ภาษีท่ีไดร้ ับสิทธิหกั ลดหยอ่ น และสามีภริยา ยน่ื รายการโดยรวมกนั ตามจานวนที่จ่ายจริง แต่ไมเ่ กิน 100,000 บาท (ค) ถา้ ความเป็ นสามีภริยาไดม้ ีอยู่ตลอดปี ภาษีที่ได้รับสิทธิหักลดหย่อน และภริยายื่น รายการโดยแยกคานวณภาษีใหส้ ามีและภริยาต่างฝ่ ายต่างหกั ไดก้ ่ึงหน่ึงของจานวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท (7) ผมู้ ีเงินไดต้ อ้ งมีช่ือเป็นเจา้ ของกรรมสิทธ์ิในอาคาร อาคารพร้อมที่ดิน ห้องชุด หรือท่ีดิน เป็ นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี นับแต่วนั ที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินดังกล่าว 8.8 ดอกเบ้ียเงินกยู้ มื ที่ผมู้ ีเงินไดจ้ ่ายใหแ้ ก่ธนาคาร สถาบนั การเงินอนื่ ริษทั ประกนั ชีวิต สหกรณ์ นายจา้ ง ซ่ึงมีระเบียบเกี่ยวกบั เงินกองทุนที่จดั สรรไวเ้ พื่อเป็นสวสั ดิการแก่ลูกจา้ ง หรือบรรษทั ตลาด รอง สินเชื่อที่อยอู่ าศยั สาหรับการกูย้ มื เพื่อซ้ือ เช่าซ้ือ หรือสร้างอาคารอยอู่ าศยั โดยจานองอาคารท่ีซ้ือ หรือสร้าง เป็นประกนั การกยู้ มื น้ี ประกาศอธิบดีฯ (ฉบบั ที่ 86) ใชบ้ งั คบั 1 มกราคม 2543 ไดก้ าหนดหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการ หกั ลดหยอ่ นดอกเบ้ียเงินกยู้ มื ฯ ไวด้ งั น้ี (1) ตอ้ งจ่ายดอกเบ้ียเงินกูย้ มื ใหแ้ ก่ผใู้ หก้ ยู้ มื ท่ีประกอบกิจการในราชอาณาจกั รเฉพาะที่กาหนดไว้ ไดแ้ ก่ ธนาคาร บริษัทตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลกั ทรัพยแ์ ละธุรกิจ เครดิตฟองซิเอร์ บริษทั ประกนั ชีวิต สหกรณ์ นายจา้ งซ่ึงมีระเบียบเก่ียวกบั เงินกองทุนท่ีจดั สรรไว้ เพื่อสวสั ดิการแก่ลูกจา้ ง บรรษทั ตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศยั ตามกฎหมายว่าด้วยบรรษทั ตลาดรอง สินเชื่อท่ีอยอู่ าศยั กองทุนรวมอสงั หริมทรัพยเ์ พือ่ แกไ้ ขปัญหาในระบบสถาบนั การเงินท่ีจดั ต้งั ข้ึนตาม กฎหมายว่าดว้ ยหลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์
50 (2) ตอ้ งกูเ้ งินมาเพื่อซ้ือ เช่าซ้ืออาคาร อาคารพร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารในชุด หรือ เพื่อสร้างอาคารอยอู่ าศยั บนท่ีดินของตนเองหรือบนที่ดินท่ีตนเองมีสิทธิครอบครอง (การกูย้ ืมเงินเพื่อ ซ้ือที่ดินอยา่ งเดียว หรือ เพอื่ ซ่อมแซมต่อเติมบา้ น นาดอกเบ้ียไปหกั ค่าลดหยอ่ นไม่ได)้ (3) ตอ้ งจานองอาคารหรือหอ้ งชุดในอาคารชุด หรืออาคารพร้อมท่ีดินเป็นประกนั การกยู้ มื เงิน น้นั โดยมรี ะยะเวลาการจานองตามระยะเวลาการกูย้ มื (4) ตอ้ งมีอาคารหรือห้องชุดในอาคารชุดขา้ งตน้ เป็ นท่ีอย่อู าศยั ในปี ท่ีไดร้ ับการยกเวน้ ภาษี แต่ไม่รวมถึงกรณีลูกจา้ งซ่ึงถกู นายจา้ งสงั่ ใหไ้ ปปฏบิ ตั ิงานของนายจา้ ง ณ ต่างถิน่ เป็นประจา หรือกรณี อาคารหรือหอ้ งชุด ดงั กลา่ วเกิดอคั คีภยั ภยั ธรรมชาติ หรือภยั อนั เกิดจากเหตุอ่ืน ท้งั น้ี เฉพาะท่ีมใิ ช่ ความผดิ ของผมู้ เี งินไดจ้ นไม่อาจใชอ้ าคารหรือหอ้ งชุดน้นั อยอู่ าศยั ได้ (5) กรณีผมู้ ีเงินไดม้ ีอาคารหรือห้องชุดในอาคารชุดเป็นท่ีอยู่อาศยั ในปี ที่ขอหักลดหยอ่ นเกิน กวา่ 1 แห่ง ใหห้ กั ลดหยอ่ นไดท้ ุกแห่งสาหรับอาคารหรือหอ้ งชุดในอาคารชุดดงั กลา่ ว (6) ให้หักลดหย่อนได้ตลอดปี ภาษีไม่ว่ากรณีที่จะหักลดหย่อนได้น้ันจะมีอยู่ตลอดปี ภาษี หรือไม่ (7) กรณีผมู้ ีเงินไดห้ ลายคนร่วมกนั กูย้ มื ให้หักลดหยอ่ นไดท้ ุกคนโดยเฉลี่ยค่าลดหยอ่ นตาม ส่วนจานวนผมู้ เี งินได้ แต่รวมกนั ตอ้ งไมเ่ กินจานวนตามท่ีจ่ายจริงและไมเ่ กิน 100,000 บาท (8) กรณีสามีภริยา ร่วมกนั กูย้ มื โดยสามีหรือภริยามีเงินไดฝ้ ่ ายเดียว ใหห้ กั ลดหยอ่ นสาหรับผู้ มเี งินได้ เต็มจานวนตามที่จ่ายจริง แต่ไมเ่ กิน 100,000 บาท (9) กรณีผมู้ เี งินไดซ้ ่ึงมีสิทธิหกั ลดหยอ่ นอยกู่ ่อนแลว้ ต่อมาไดส้ มรสกนั ใหย้ งคงหกั ลดหยอ่ น ไดด้ งั น้ี (ก) ถา้ ความเป็ นสามีภริยามไิ ดอ้ ยตู่ ลอดปี ภาษีที่ขอหกั ลดหยอ่ น ให้ต่างหกั ลดหยอ่ นได้ ตามจานวนท่ีจ่ายจริง แต่ไมเ่ กิน 100,000 บาท (ข) ถา้ ความเป็ นสามีภริยาไดม้ ีอยู่ตลอดปี ภาษีที่ขอหักลดหย่อน และภริยาไม่ใชส้ ิทธิ แยกยน่ื รายการและเสียภาษีต่างหากจากสามี ใหห้ กั ลดหยอ่ นไดร้ วมกนั ตามจานวนที่จา่ ยจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ถา้ ความเป็ นสามีภริยาไดม้ ีอย่ตู ลอดปี ภาษีท่ีขอหักลดหย่อน และภริยาใชส้ ิทธิแยกย่ืน รายการและเสียภาษีต่างหากจากสามี ใหส้ ามีและภริยาต่างฝ่ ายต่างหกั ลดหยอ่ นตามจานวนนี่จ่ายจริง ไม่เกิน 100,000 บาท
51 สาหรับในปัจจุบนั (2556) มีหลกั เกณฑ์สาคญั คือ ถา้ สามีภรรยาต่างฝ่ ายต่างกู้ไม่ว่าจะอยู่ ร่วมกนั ตลอดปี หรือไม่ ต่างฝ่ ายต่างหกั ลดหย่อนและยกเวน้ ไม่เกิน 100,000 บาท ถา้ กูร้ ่วมกนั หัก ลดหยอ่ นฝ่ ายละไมเ่ กิน 50,000 บาท 8.9 ค่าอปุ การะเล้ยี งดูบิดามารดาของผมู้ ีเงินได้ รวมท้งั บิดามารดาของสามีหรือภรรยาของผมู้ เี งิน ไดค้ นละ 30,000 บาท โดยบุคคลดงั กล่าวตอ้ งมีอายุ 60 ปี ข้ึนไป มีรายไดไ้ ม่เพียงพอแก่การยงั ชีพ และอยใู่ นความอปุ การะของผมู้ ีเงินได้ 8.10 ค่าอุปการะเล้ียงดูบิดามารดา สามีหรือภรรยา บุตรชอบดว้ ยกฎหมาย หรือบุตรบุญธรรม ของผมู้ เี งินได้ บิดามารดา บุตรชอบดว้ ยกฎหมายของสามีหรือภรรยาของผมู้ ีเงินได้ หรือบุคคลอ่ืนที่ผู้ มีเงินไดเ้ ป็นผดู้ ูแลตามกฎหมายว่าดว้ ยการส่งเสริมและพฒั นาชีวติ คนพิการคนละ 60,000 บาท 8.11 เงินสมทบ ที่ผปู้ ระกนั ตนจ่ายเขา้ กองทุนประกนั สงั คม ตามกฎหมายว่าดว้ ยการ ประกนั สงั คม ตามจานวนที่จ่ายจริง ในกรณีสามีหรือภริยาของผูม้ ีเงินได้ ซ่ึงเป็ นผูป้ ระกนั ตนจ่ายเงินสมทบเขา้ กองทุนประกนั สงั คมขา้ งตน้ และความเป็นสามีภริยาไดม้ ีอยตู่ ลอดปี ภาษีใหห้ กั ลดหยอ่ นไดด้ ว้ ยสาหรับ เงินสมทบของสามีหรือภริยาที่จ่ายเขา้ กองทุนประกนั สงั คมดงั กล่าวตามเกณฑข์ า้ งตน้ 8.12 เงินบริจาค เมื่อหกั ลดหย่อนต่าง ๆ หมดแลว้ เหลือเท่าใดใหห้ กั ลดหยอ่ นไดอ้ ีกสาหรับเงิน บริจาค เงินบริจาคท่ีหกั ลดหยอ่ นไดน้ ้นั ผมู้ ีเงินไดต้ อ้ งบริจาคเป็นเงินใหแ้ ก่การกุศลสาธารณะโดยหกั ได้ เท่าจานวนเงินท่ีจ่ายจริงแต่ไมเ่ กินร้อยละ 10 ของเงินไดห้ ลงั จากหกั ค่าใชจ้ ่ายและหกั ค่าลดหย่อนต่างๆ ขา้ งตน้ แลว้ การบริจาค ไดแ้ ก่ (1) การบริจาคเป็นทรัพยส์ ิน เช่น ท่ีดิน รถยนต์ ฯลฯ จะตีราคาเป็นเงินเพอื่ หกั ลดหยอ่ นไมไ่ ด้ (2) ในกรณีท่ีใบเสร็จรับเงินบริจาค ระบุช่ือผมู้ ีเงินไดแ้ ละสามหี รือภริยาเป็นผบู้ ริจาคโดยไม่ได้ แยกส่วนกนั ไวใ้ หถ้ ือว่าบริจาคคนละคร่ึงของจานวนเงินบริจาคท้งั หมด (3) ในกรณีมชี ื่อบุคคลหลายคนในใบเสร็จรับเงินบริจาค ใหเ้ ฉลีย่ เท่า ๆ กนั (4) ใบเสร็จรับเงินระบุวนั บริจาคไวใ้ นปี ภาษีใด ใหน้ ามาหักลดหยอ่ นไดใ้ นปี ภาษีน้นั เท่าน้นั (5) ตอ้ งบริจาคเป็นเงินใหแ้ ก่ องคก์ ารสถานสาธารณกศุ ล ตามรายชื่อที่กาหนด 8.13 การหักลดหย่อนในกรณสี ามภี ริยา ต่างฝ่ ายต่างมเี งนิ ได้ ถา้ ความเป็นสามีภริยาไดม้ ีอยตู่ ลอด ปี ภาษีเงินไดข้ องภริยาให้ถือเป็ นเงินไดข้ องสามี (รวมคานวณ) การหักลดหยอ่ นตาม ขอ้ 8.1 ใหห้ ัก ลดหยอ่ นรวมกนั ได้ 60,000 บาท แต่ถา้ ภริยาแยกคานวณภาษีต่างหากจากสามี หรือถา้ ความเป็ นสามี
52 ภริยามิไดอ้ ยตู่ ลอดปี ภาษี ใหต้ ่างฝ่ ายต่างคานวณภาษีและแยกหกั ลดหยอ่ นไดต้ าม ขอ้ 8.1 (ลดหยอ่ นผู้ มีเงินได)้ คนละ 30,000 บาท ในปี ภาษีน้นั 8.14 การหักลดหย่อนในกรณผี ู้มีเงินได้มไิ ด้เป็ นผู้อยู่ในประเทศไทย การหักลดหยอ่ นใหห้ กั ได้ เฉพาะสามหี รือภริยา บุตร และบิดามารดาที่อยใู่ นประเทศไทย 8.15 การหักลดหย่อนในกรณีผู้มีเงินถึงแก่ความตาย ให้หักลดหยอ่ นไดเ้ สมือนผตู้ ายมีชีวิต อยู่ ตลอดปี ภาษีท่ีผนู้ ้นั ถงึ แก่ความตาย 8.16 การหักลดหย่อนในกรณีผู้มเี งนิ ได้เป็ นกองมรดกทีย่ งั ไม่ได้แบ่ง ใหห้ กั ลดหยอ่ นสาหรับผมู้ ี เงินได้ 30,000 บาท 8.17 การหกั ลดหย่อนในกรณผี ู้มเี งินได้เป็ นห้างหุ้นส่วนสามญั หรือคณะบุคคลที่มใิ ช่นิตบิ ุคคล ให้หักลดหย่อนสาหรับผมู้ ีเงินไดแ้ ก่ผเู้ ป็ นหุน้ ส่วนหรือบุคคลในคณะบุคคลแต่ละคนท่ีอยใู่ นประเทศ ไทยคนละ 30,000 บาท แต่รวมกนั ตอ้ งไมเ่ กิน 60,000 บาท รายช่ือสถานพยาบาล สถานศึกษาและสถานสาธารณะกศุ ลทผี่ ู้บริจาคมสี ิทธิขอหักลดหย่อน 1. องค์การสถานสาธารณะกุศลซ่ึงกฎหมายกาหนดให้เป็ นองค์การสาธารณะกุศลตลอดไป 1.1 สถานพยาบาลของทางราชการ 1.2 สถานพยาบาลขององคก์ ารของรัฐบาล 1.3 สถานศึกษาของทางราชการ 1.4 สถานศกึ ษาขององคก์ ารของรัฐบาล 1.5 สถานศึกษาท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยโรงเรียนเอกชน โดยบริษทั หรือหา้ งหุ่นส่วน นิติบุคคล หรือนิติบุคคลอน่ื 1.6 สถานศึกษาท่ีเป็ นสถาบนั อุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมาย ว่าดว้ ยสถาบนั อุดมศึกษา เอกชน 1.7 สภากาชาติไทย 1.8 วดั วาอาราม (ไม่รวมวดั ในต่างประเทศ) 2. องค์การสถานสาธารณะกุศลซ่ึงกฎหมายกาหนดให้เป็ นองค์การสาธารณะกศุ ลแต่อาจเพิก ถอนได้ หากการดาเนนิ การไม่เป็ นตามหลกั เกณฑ์ตามทร่ี ัฐมนตรีประกาศกาหนดในราชกจิ จานุเบกษา
53 2.1 กองทุนและองคก์ ารอืน่ ๆ นอกจากมูลนิธิและสมาคม - กองทุนเงินช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิภาคใต้ (176) - กองทุนพฒั นาเดก็ ชนบท (13) - กองทุนพฒั นาเดก็ ในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ (18) - กองทุนพฒั นาเด็กและเยาวชนในถิน่ ทรุกนั ดาร (กพด.) (205) - กองทุนลานกีฬาตา้ นยาเสพติด สานกั นายกรัฐมนตรี (316) - ทุนการกศุ ลสมเดจ็ ยา่ - เงินทุนหมุนเวยี นพฒั นากฎหมาย - คณะลูกเสือแห่งชาติ - โครงการก่อสร้างหอแกว้ มกุ ดาหารเฉลิมพระเกียติกาญจนาภิเษก - โครงการร่วมใจชาวสวนยางเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั สิริราช สมบตั ิครบ 50 ปี - โครงการร้อยใจไทยเป็นหน่ึงเดียว - โครงการสืบสานพระราชปณิธาน “กาญจนาภิเษก” - สถานบนั เทคโนโลยแี ห่งเอเชีย - สภาสงั คมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย - องคก์ ารทุนเพือ่ นเดก็ แห่งสหประชาชาติ (ยนู ิเซฟ) 2.2 มลู นิธิ - กตเวทิน (82) - กตญั ญุตาธรรม (151) - กรมหลวงสงขลานครินทร์ (50) - กฤตานุสรณ์ (4) - กองทุนการกศุ ลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (120) - กองทุนการศกึ ษาเพ่ือการพฒั นา (255) - กลั ยาณวตั ร จงั หวดั ขอนแก่น (154) - การศกึ ษามติ รภาพ (96) - กมุ ารโรงพยาบาลพระมงกฎุ เกลา้ (217) - คณะสงฆจ์ งั หวดั อา่ งทอง (241)
54 - คาธอลคิ สุราษฏร์ธานี (145) - จอห์น เอฟ.เคนเนดี (141) - จุฬาภรณ์ (80) - ช่วยการศกึ ษาเทศบาลเมืองพนสั นิคม (157) - ช่วยเหลอื การศกึ ษาบุตรสมาชิกครุสภา (258) - ช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย (75) - ช่วยคนปัญญาออ่ น (53) - ช่วยครูอาวโุ สในพระบรมราชูประถมั ภ์ (259) - ช่วยผปู้ ระสบภยั จากการก่อการร้าย (256) - ช่วยเหลอื นกั เรียนยากจน จงั หวดั พงั งา (21) - ชยั พฤกษม์ ลู นิธิ (360) - ชยั พฒั นา (169) - ดร. เทียม โชควฒั นา (212) - ดวงประทีป (135) - ดารงราชานุภาพ (119) - ทวี บุญยเกตุ (323) - ทุนการกศุ ลสมเดจ็ พระเทพฯ (312) - ทุนพระพทุ ธยอดฟ้า (237) - ทุนศรีพฤฒา (9) - ไทยรัฐ (365) - ประชาธิปก – ราไพพรรณี (105) - เปรม ติณสูลานนท์ จงั หวดั นครราชสีมา (211) - เปรม ติณสูลานนท์ จงั หวดั เชียงใหม่ (284) - พระอาจารยศ์ รี มหาวโี ร (246) - พลตารวจเอกบุญทิน วงศร์ ักมติ ร (352) - เพ่อื การศกึ ษาบริเวณชายแดน (341) - เพอื่ ศูนยก์ ลางอิสลามแห่งประเทศ (164) - เพื่อสถาบนั การศึกษาวิชาการจดั การแห่งประเทศไทย (45)
55 - เพอ่ื สถาบนั วจิ ยั ออ้ ย และน้าตาลทราย (332) - แมฟ่ ้าหลวงในพระราชูปถมั ภส์ มเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี (92) - เยน็ ศริ ะเพราะพระบริบาล (12) - ร่วมกตญั ญู (172) - ร่วมจิตนอ้ มเกลา้ ฯ เพื่อเยาวชน (16) - ร่วมพฒั นาแผน่ ดินเกิดลมุ่ น้าปากพนงั สนองพระราชดาริ (366) - รัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ (17) - โรงพยาบาลสงฆ์ (109) - ลิปตพลั ลภ (336) - วดั สามพระยา (194) - วางแผนครองครัว แห่งประเทศไทย (256) - วิจยั ประสาท ในพระบรมราชูประถมั ภ์ (98) - ศิริราชมลู นิธิ (85) - สงเคราะห์เดก็ ของศาลคดี เด็กและเยาวชน จงั หวดั นครราชสีมา (28) - สงเคราะห์ครอบครัวทหารผา่ นศึก (125) - สงเคราะห์ผปู้ ่ วยอนาถาโรงพยาบาลขอนแก่น (215) - สงเสริมอาหารกลางวนั นกั เรียนจงั หวดั ศรีสะเกษ (238) - สตรีศึกษาร้อยเอด็ (276) - สถาบนั วิจยั เพื่อการพฒั นาประเทศไทย (23) - สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช (275) - สมเดจ็ หลวงพอ่ ทวด และพระครูวิสยั โสภณ (ทิม ธมฺมธโร) วดั ชา้ งให้ (146) - สายใจไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์ (49) - สามาชีวศลิ ปมลู นิธิ (99) ยงั มีรายช่ือสถานสาธรณะกุศลที่ผบู้ ริจาคมสี ิทธิหกั ลดหยอ่ นอีกหลายองคก์ ร รายชื่อที่กลา่ วมา เป็นตวั อยา่ งเพยี งบางส่วนเท่าน้นั
56 ตารางรายการลดหย่อนและยกเว้นเงนิ ได้เพ่ือการคานวณภาษเี งนิ ได้บุคคลธรรมดา ปี ภาษี 2555 รายการ ค่าลดหย่อนและยกเว้น 1. คา่ ลดหยอ่ นส่วนบคุ คล 1.1 ส่วนตวั ผมู้ ีเงนิ ได้ 30,000 บาท 1.2 คู่สมรสไม่มเี งินได้ 30,000 บาท 1.3 บตุ รท่ไี มศ่ ึกษาหรือศึกษาในต่างประเทศ คนละ 15,000 บาท 1.4 บุตรท่ศี ึกษาในประเทศ คนละ 17,000 บาท 1.5 อุปการะบิดามารดาผู้มีเงินได้หรือบิดามารดา คนละ 30,000 บาท คู่สมรสที่ไม่มีเงนิ ได้ 1.6 อุปการะเล้ียงดคู นพกิ ารหรือทุพพลภาพ คนละ 60,000 บาท 2. ลดหยอ่ ยเบ้ียประกนั ภยั 2.1 เบ้ยี ประกนั ชวี ติ ผมู้ ีเงนิ ได้ 1. ส่วนแรกตามจานวนทจี่ ่ายจริงแต่ไมเ่ กิน 10,000 บาท 2. ส่วนทีส่ องคอื เกิน 10,000 บาท แต่ไมเ่ กิน 90,000 บาท หกั ไดไ้ ม่เกนิ เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 2.2 คู่สมรสไม่มีเงินได้ (จดทะเบียนและอยู่ด้วยกนั เทา่ ที่จ่ายจริงแต่ไม่เกนิ 10,000 บาท ตลอดปี ภาษี) 2.3 เบ้ยี ประกนั ชีวิตแบบบานาญของผมู้ เี งนิ ได้ หกั เพิม่ จาก 2.1 ไดอ้ ีก 15% ของเงินไดแ้ ต่ไมเ่ กิน 200,000 บาท แต่เมื่อรวมกบั กองทุนสารองเล้ียงชีพ กองทุน กบข. กองทุนสงเคราะห์ ร.ร.เอกชน ค่าซ้ือกองทุน RMF ตอ้ ง ไมเ่ กนิ 500,000 บาท 2.4 เบ้ยี ประกนั สุขภาพบดิ ามารดา ผูม้ เี งนิ ได้ หรือบดิ า เทา่ ทจ่ี ่ายจริงแต่รวมกนั แลว้ ตอ้ งไม่เกิน 15,000 บาท มารดา คสู่ มรสทไี่ ม่มีเงินได้ 3. คา่ ลดหยอ่ นเงินสะสมเขา้ กองทนุ สารองเล้ียงชพี เท่าท่ีจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10,000 (เกิน 10,000 แต่ไม่เกิน 490,000 บาท ยกเวน้ ภาษีโดยหกั จากเงนิ ไดพ้ งึ ประเมิน) 4. ค่าซ้ือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเล้ียงชีพ ยกเวน้ 15% ของเงินไดแ้ ตเ่ ม่ือรวมกบั กองทุนสารองเล้ียง (RMF) ชพี กองทุน กบข. กองทุนสงเคราะห์ครู ร.ร.เอกชน แลว้ ตอ้ งไม่เกนิ 500,000 บาท 5. ค่าซ้ือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุน้ ระยะยาว (LTF) ยกเวน้ 15% ของเงนิ ไดแ้ ต่ไมเ่ กิน 500,000 บาท 6. หกั ลดหยอ่ นดอกเบ้ยี เงนิ กยู้ มื เพอื่ ซ้ือทอี่ ยอู่ าศยั เทา่ ท่จี ่ายจริงแต่ไม่เกนิ 100,000 บาท 6.1 ผมู้ เี งินไดก้ ูย้ มื คนเดียว
57 รายการ ค่าลดหย่อนและยกเว้น 6.2 ผมู้ ีเงนิ ไดห้ ลายคนร่วมกนั กู้ เฉลย่ี ดอกเบ้ียกยู้ มื ตามจานวนผูก้ ูแ้ ต่รวมกนั ไม่เกิน 100,000 บาท 6.3 กรณีกยู้ มื หลายแห่ง หกั ไดท้ ุกแห่งทีอ่ ยอู่ าศยั แต่รวมกนั ไมเ่ กิน 100,000 บาท 6.4 สามภี รรยากูย้ มื ร่วมกนั (มเี งินไดท้ ้งั 2 ฝ่ าย) หกั ไดค้ นละก่งึ หน่ึง แตร่ วมแลว้ ตอ้ งไม่เกิน 100,000 บาท 6.5 สามีภรรยากยู้ มื ร่วมกนั (มีเงินไดฝ้ ่ ายเดียว) เทา่ ที่จ่ายจริง แตไ่ ม่เกนิ 100,000 บาท 6.6 สามภี รรยากยู้ มื ร่วมกนั (คูส่ มรสฝ่ายทีไ่ มม่ ีเงนิ ได้ หกั ลดหยอ่ นไมไ่ ด้ เป็นผกู้ ู)้ 6.7 สามภี รรยาต่างฝ่ ายต่างกูย้ มื เทา่ ท่ีจ่ายจริงแต่ไมเ่ กนิ 100,000 บาท ท้งั สามีและภรรยา 7. หกั ลดหยอ่ นเงนิ ที่จ่ายเขา้ สมทบกองทนุ ประกนั สงั คม 7.1 ผมู้ เี งินได้ หกั ลดหยอ่ นเทา่ ท่ีจ่ายจริงไม่เกินตามกฎหมาย 7.2 คสู่ มรส ประกนั สังคม 8. หกั ลดหยอ่ นเงินบริจาค เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10% ของเงินไดห้ ลงั จากหกั ค่าใชจ้ ่ายและลดหยอ่ นรายการอืน่ แลว้ 9. เงนิ บริจาคสนบั สนุนการศึกษา หกั ได้ 2 เทา่ ของเงินบริจาคแต่ไม่เกิน 10% ของเงนิ ได้ หลงั หกั คา่ ใชจ้ ่ายและลดหยอ่ นรายการอน่ื แลว้ 10. เงินบริจาคกองทนุ พฒั นาครู หกั ได้ 2 เทา่ ของเงนิ บริจาคแต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้ หลงั หกั คา่ ใชจ้ ่ายและลดหยอ่ นรายการอ่ืนแลว้ 11. เงนิ บริจาคใหแ้ ก่สถานศึกษา เพือ่ จดั หาหนงั สือหรือ หกั ได้ 2 เทา่ ของเงินบริจาคแตไ่ ม่เกนิ 10% ของเงนิ ได้ ส่ืออิเลคทรอนิกส์ เพอื่ ส่งเสริมการอ่าน หลงั หกั คา่ ใชจ้ ่ายและลดหยอ่ นรายการอน่ื แลว้ 12. เงินบริจาคใหแ้ กอ่ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ในการ หกั ได้ 2 เทา่ ของเงินบริจาคแต่ไมเ่ กนิ 10% ของเงินได้ จดั ต้งั ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ หรือสนบั สนุนการดาเนินงาน หลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายและลดหยอ่ นรายการอน่ื แลว้ ของศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ 13. เงินที่จ่ายใหค้ นพกิ ารไดร้ ับสิทธิเขา้ ถึงและใช้ หกั ได้ 2 เท่าของเงนิ บริจาคแตไ่ มเ่ กนิ 10% ของเงินได้ ประโยชนไ์ ดจ้ ากสิ่งอานวยความสะดวกอนั เป็นสาธารณะ หลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายและลดหยอ่ นรายการอนื่ แลว้ ตลอดจนสวสั ดิการและความชว่ ยเหลืออืน่ จากรัฐ 14. เงนิ บริจาคใหแ้ กโ่ ครงการศึกษาอบรมอาชีพและการ หกั ได้ 2 เท่าของเงินบริจาคแต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้ จดั กิจกรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การบาบดั แกไ้ ข ฟ้ื นฟู และ หลงั หกั คา่ ใชจ้ ่ายและลดหยอ่ นรายการอนื่ แลว้ สงเคราะห์เดก็ และเยาวชนของสถานพินิจและคมุ้ ครอง เดก็ และเยาวชน กระทรวงยตุ ธิ รรม
58 9. อัตราภาษี อตั ราภาษเี งนิ ได้บุคคลธรรมดา สาหรับปี ภาษี 2556 เป็ นต้นไป อตั ราภาษี ภาษีแต่ละข้นั ภาษีสะสมสูงสุด เงินไดส้ ุทธิ ช่วงเงินไดส้ ุทธิ ร้อยละ เงินไดส้ ุทธิ ของข้นั 1-150,000 150,000 ยกเวน้ - - 150,001-300,000 150,000 5 7,500 7,500 300,001-500,000 200,000 10 20,000 27,500 500,001-750,000 250,000 15 37,500 65,000 750,001-1,000,000 250,000 20 50,000 115,000 1,000,001-2,000,000 1,000,000 25 250,000 365,000 2,000,001-4,000,000 2,000,000 30 600,000 965,000 4,000,001 บาทข้ึนไป 35 - - - ต้งั แต่ 1 มกราคม 2546 เป็ นตน้ ไปไดม้ ีพระราชกฤษฎีกา ให้ยกเวน้ ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา สาหรับเงินไดส้ ุทธิในส่วนท่ีไม่เกิน 80,000 บาทแรก สาหรับการคานวณภาษีเงินไดต้ ามมาตรา48 (1) คือ การนาเงินไดพ้ ึงประเมิน หักค่าใชจ้ ่าย และลดหย่อนออกเหลือเงินไดส้ ุทธิแลว้ จึงนาเงินไดส้ ุทธิไป คานวณภาษีตามอตั ราภาษี สาหรับการคานวณภาษีวธิ ีอื่นจะไม่มกี ารยกเวน้ แต่อยา่ งใด (พ.ศ. 2547 เป็น ตน้ ไป ยกเวน้ เงินไดส้ ุทธิท่ีไม่เกิน 100,000 บาท และต้ังแต่ พ.ศ. 2551 ยกเวน้ เงินไดส้ ุทธิท่ีไม่เกิน 150,000 บาท) บทสรุป ผมู้ ีหน้าที่เสียภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดามีท้งั หมด 4 ประเภท โดยฐานของภาษีเงินได้บุคคล ธรรมดาได้แก่ รายได้ ซ่ึงตามประมวลรัษฎากร เรียกว่า เงินไดพ้ ึงประเมิน แบ่งออกเป็ น 8 ประเภท การคานวณภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดามอี ตั ราภาษี 2 ลกั ษณะคือ อตั ราภาษีกา้ วหนา้ กบั อตั ราคงที่การคานวณ ภาษีอตั รากา้ วหนา้ จะตอ้ งนาเงินไดพ้ ึงประเมินหกั ค่าใชจ้ ่ายหกั ลดหย่อนต่างๆ หักลดหยอ่ นเงินบริจาค เหลือเงินไดส้ ุทธิ จึงนามาคานวณภาษีในอตั รากา้ วหน้า ซ่ึงใชป้ ฏิบตั ิกบั เงินไดพ้ ึงประเมนิ ทุกประเภท สาหรับการคานวณภาษีในอตั ราคงท่ีจะใชก้ บั เงินไดพ้ งึ ประเมินประเภทท่ี 2 ถึงประเภทที่ 8 ท่ีมจี านวน ต้งั แต่ 60,000 บาทข้ึนไป และตอ้ งเสียภาษีตามผลการคานวณท่ีมีเงินภาษีตอ้ งชาระสูงกว่า
59 คาถามท้ายบทที่ 2 1. นายอีแวนเดอร์ โฮลิฟิ ล เป็ นนกั มวยชาวต่างประเทศ เดินทางมาชกป้องกนั แชมป์ WBC ใน ประเทศไทยเม่อื 30 กนั ยายน 2540 โดยไดร้ ับรางวลั จากการชก 10,000,000 บาท และไดร้ ับ เงินจากการเป็ นนายแบบโฆษณาใหก้ บั บริษทั ขายอุปกรณ์กีฬา 500,000 บาท โดยนายโฮลิฟิ ล ไดเ้ ดินทางกลบั ประเทศตนเองเม่ือ 10 ตุลาคม 2540 ในวนิ ิจฉยั ว่า นายโฮลิฟี ลตอ้ งนาเงินไดจ้ ากรายการใดมาเสียภาษีใหก้ บั ประเทศไทย และ วธิ ีการเสียภาษีใชว้ ิธี การใด 2. นายโสภณมีรายไดจ้ ากการทางานในต่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2546 3,000,000 บาท และไดส้ ่ง เงินไดด้ งั กล่าวให้ภริยาที่อยใู่ นเมืองไทยเป็ นเงิน 2,000,000 บาทในปี เดียวกนั โดยนายโสภณ ไม่ไดก้ ลบั มาเมอื งไทยตลอดปี 2546 ใหว้ ินิจฉยั วา่ นายโสภณจะตอ้ งเสียภาษีใหก้ บั ประเทศไทยหรือไมจ่ านวนเท่าใด 3. นาย ก มีบ้านและที่ดินให้ผูอ้ ื่นเช่าโดยเรียกเก็บค่าเช่าเดือนละ 50,000 บาท ต้ังแต่เดือน มกราคม – กนั ยายน 2540 ต่อมาในเดือน ตุลาคม 2540 นาย ก ไดถ้ ึงแก่กรรมผจู้ ดั การมรดก นาย ก ไดเ้ ก็บค่าเช่าต่อมาในนามของนาย ก จนกระทงั่ เดือนมกราคม พ.ศ. 2542 จึงไดโ้ อน บา้ นและทีดินให้ ด.ช. ข ตามพินัยกรรมให้วินิจฉัยว่าปี พ.ศ. 2540 – 2542 ค่าเช่าที่ไดร้ ับเสีย ภาษีในนามใคร และใครเป็นผมู้ หี นา้ ที่ยน่ื แบบรายการ 4. นางเสาวภา พนกั งานธนาคารกรุงเทพ จากดั มหาชน ไดร้ ับคาสง่ั ใหไ้ ปปฎิบตั ิงาน ณ สาขานคร เวียงจนั ทร์ ต้งั แต่ 1 มีนาคม 2540 เป็นตน้ ไป โดยไดร้ ับเงินเดือน ๆ ละ 300,000 บาท และ โบนัสจ่ายส้ินธันวาคม 2540 100,000 บาท ใน พ.ศ. 2540 นางเสาวภาไม่ไดเ้ ดินทางกลบั ประเทศไทยเลย ในปี 2541 นางเสาวภาทางานและได้รับเงินเดือนจากสาขานครเวียงจนั ทร์ ต้งั แต่ มกราคม – พฤษภาคม หลงั จากน้ันได้เดินทางกลบั ประเทศไทย เพื่อมาปฏิบัติงาน ณ สาขาอุดรธานี โดยนางเสาวภาได้นาเงินไดท้ ้ังหมดกลบั มาในประเทศไทย ประกอบดว้ ย เงินเดือนที่ไดร้ ับในปี 2541 100,000 บาท เงินเดือนและโบนสั ที่ไดร้ ับในปี พ.ศ. 2540 จานวน 200,000 บาท นอกจากน้ันใน พ.ศ. 2541 นางเสาวภายงั ไดร้ ับเงินปันผลจากห้างหุน้ ส่วนสามญั
60 ไมจ่ ดทะเบียนอีก 100,000 บาทใหว้ ินิจฉยั ว่า ในปี 2541 นางเสาวภาตอ้ งเสียภาษีหรือไม่ จาก รายไดอ้ ะไรบา้ ง เพราะเหตุใด ? 5. นาย ก ทางานบริษทั A ไดร้ ับเงินเดือน ๆ 30,000 บาท นาง ข ผเู้ ป็นคู่สมรสนาย ก ทางาน โดยการรับราชการไดเ้ งินเดือน ๆ 20,000 บาท และนาง ข ไดร้ ับค่านายหนา้ จากการขายบา้ น และท่ีดิน 200,000 บาท ในปี ภาษี 2555 นาย ก และ นาง ข สามารถย่ืนแบบรายการ และ คานวณภาษีไดก้ ่ีวธิ ี พร้อมท้งั แสดงการหกั ค่าใชจ้ ่ายประกอบแต่ละวธิ ี 6. นาย ก และนาง ข สามภี รรยา มบี ุตร 5 คน ดงั น้ี (ปี ภาษี 2552) 1. บุตรคนที่ 1 เกิด พ.ศ. 2528 เรียนมหาวิทยาลยั ในต่างประเทศ ไมม่ ีเงินได้ 2. บุตรคนท่ี 2 เกิด พ.ศ. 2529 เรียนมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ไดร้ ับเงินรางวลั สลากกิน แบ่งรัฐบาล 100,000 บาท 3. บุตรคนที่ 3 เกิด พ.ศ. 2531 เรียนระดบั ปวส. ในวทิ ยาลยั อาชีวะศึกษา ไดร้ ับเงินจาก การส่งบทความเขา้ ประกวดเพือ่ ต่อตา้ นยาเสพติด จากกรมอาชีวะศึกษา 60,000 บาท 4. บุตรคนที่ 4 อายุ 12 ปี เรียนระดบั ประถมศกึ ษา 5. บุตรคนท่ี 5 เป็นคนไร้ความสามารถ ใหว้ ินิจฉยั วา่ นาย ก และนาง ข สามารถหกั ลดหยอ่ นบุตรไดก้ ่ีคน เป็นเงินเท่าใด 7. ใหร้ ะบุรายการหกั ลดหยอ่ นภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาในปี ภาษี 2555 ทุกรายการ
61 เอกสารอ้างองิ กลุม่ นกั วชิ าการภาษีอากร. (2543). ภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร. กรุงเทพฯ : เรือนแกว้ การพมิ พ.์ กลมุ่ นกั วชิ าการภาษีอากร. (2548). ภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร. กรุงเทพฯ : เรือนแกว้ การพมิ พ.์ ชยั สิทธ์ิ ตราชูธรรม. (2542). กรณศี ึกษาปัญหาภาษีอากร. กรุงเทพฯ : พิมพอ์ กั ษร. ปรีชา รุทโสธทร และบุศย์ วิสุทธิ. (2532). การภาษีอากร. กรุงเทพฯ : มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. ปริชญา ไทยกลา้ . (2544). เทคนคิ วางแผนภาษใี ห้ประหยดั และถูกต้อง. กรุงเทพฯ : ซีเอด็ ยเู คชนั่ . ไพจิตร โรจนวานิช. (2536). คาอธบิ ายประมวลรัษฎากร. กรุงเทพฯ : สามเจริญพาณิชย.์ มงคล ขนาดนิด. (2548). เงนิ สารองลงเป็ นรายจ่ายได้หรือไม่. สรรพากรสาสน์ , 52(3). มนตรี จึงธนสมบตั ิ และปิ ยะฉตั ร จารธีรศานต์ (2555). การภาษีอากร. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ มหาวิทยาลยั รามคาแหง. กรมสรรพากร. (2548). รายจ่ายต้องห้าม : ผลเสียหายอนั ได้กลบั คืนและผลขาดทุนสุทธิในรอบราย บัญชีก่อน. สรรพากรสาส์น, 52 (8). กรมสรรพากร. (2548). รายจ่ายต้องห้าม : รายจ่ายทก่ี าหนดขนึ้ เองโดยไม่มกี ารจ่ายจริง และรายจ่ายท่ี ควรจะได้จ่ายในรอบระยะบญั ชีอื่น. สรรพากรสาส์น, 52 (9). วชิ ยั จึงรกั เกียรติ. (2525). ปัญหาภาษอี ากรตามประมวลรัษฎากร. กรุงเทพฯ : อกั ษรสาสน.์ เวก ศิริพิมลวาทนิ . (2537). การภาษอี ากร. กรุงเทพฯ : ศูนยส์ ่งเสริมวชิ าการ. สุโขทยั ธรรมมาธิราช, มหาวิทยาลยั . (2538). เอกสารการสอนชุดวิชา การเงินธุรกิจและการภาษีอากร. กรุงเทพ ฯ : อรุณการพิมพ.์ สุโขทยั ธรรมมาธิราช, มหาวทิ ยาลยั . (2555). เอกสารการสอนชุดวิชา กฎหมายภาษีอากร 1. กรุงเทพฯ : บริษทั ประชาชนการพิมพ.์ สุโขทยั ธรรมมาธิราช, มหาวิทยาลยั . (2555). เอกสารการสอนชุดวิชา กฎหมายธุรกจิ และภาษีอากร. กรุงเทพฯ : บริษทั ประชาชนการพมิ พ.์ สุเทพ พงษ์พทิ กั ษ.์ (2544). ภาษีเงนิ ได้ หกั ณ ทจี่ ่าย หักอย่างไรให้ครบถ้วนและถูกต้อง. กรุงเทพฯ : บริษทั สุขุมและบุตร จากดั . สุวรรณ วลยั เสถยี ร. (2534). เสียภาษีอย่างไรให้ประหยดั . กรุงเทพฯ : นิติธรรม.
แผนบริหารการสอนประจาบทท่ี 3 ภาษเี งินได้บุคคลธรรมดา : การประเมินตนเอง เนื้อหาประจาบท 1. การคานวณเงนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดาคร่ึงปี 2. การคานวณภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาส้ินปี 2.1 การคานวณภาษีสิ้นปีโดยนาเงินไดข้ องภรรยาและสามีรวมกนั (รวมคานวณ) 2.2 การคานวณภาษีส้ินปี โดยนาเงินไดต้ าม ม. 40 (2)-(8) ของฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึงเสียภาษี ในนามของอีกฝ่ าย ซ่ึงมี 2 ลกั ษณะ 2.3 การคานวณภาษีสิ้นปีของสามแี ละภรรยา โดยแยกต่างหากจากกนั 3. เงินไดท้ ่ีสามารถแยกคานวณจากเงนิ ไดอ้ นื่ 4. การชาระภาษีโดยประเมนิ ตนเองดว้ ยแบบ ภงด. 90, 91, 93 และ 94 วตั ถุประสงค์เชิงพฤตกิ รรม หลงั จากเรียนบทน้ีแลว้ นกั ศกึ ษาควรมพี ฤติกรรม ดงั น้ี 1. คานวณภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดาคร่ึงปี ไดถ้ กู ตอ้ ง 2. คานวณภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดาตอนส้ินปี ไดท้ ุกวธิ ี และสามารถตดั สินใจเลือกวิธีท่ี ทาใหป้ ระหยดั ภาษีไดม้ ากท่ีสุด 3. กรอกแบบ ภงด. 90, 91, 93 และ 94 ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง วธิ ีสอนและกิจกรรมการเรียนการสอน 1. อาจารยบ์ รรยายสรุปเน้ือหา 2. นกั ศกึ ษาทาแบบฝึกหดั 3. นกั ศกึ ษากรอกแบบ ภงด. ตามกรณีศกึ ษา 4. อภิปรายและถามตอบ
63 สื่อการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนบทที่ 3 2. แผน่ ใส 3. ประกาศ คาสงั่ กรมสรรพากร 4. ใบงานเพิ่มเติม 5. ภงด. 90, 91, 93 และ 94 การวดั และประเมินผล 1. สงั เกตความต้งั ใจเรียน 2. ตรวจคาตอบทา้ ยบทเป็นรายบคุ คล 3. ตรวจการกรอกแบบ ภงด. ต่างๆ ในใบงานเพ่มิ เติม
64 บทท่ี 3 ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา : การประเมนิ ตนเอง ในการเสียภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาจะมีกฎหมายกาหนดแนวปฏิบตั ิไว้ 3 วธิ ีดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ 1) ผมู้ เี งินไดย้ น่ื แบบประเมนิ ตนเอง 2) ใหผ้ จู้ ่ายหกั ภาษีไว้ ณ ท่ีจ่าย 3) การประเมนิ โดยเจา้ พนกั งาน ประเมิน สาหรับการประเมนิ ตนเองน้นั ไดก้ าหนดใหป้ ระเมนิ ตนเองปี ละ 2 คร้ัง เรียกว่า ภาษคี ร่ึงปี และภาษีสิ้นปี และในบางกรณีผมู้ ีเงินไดป้ ระเมนิ ตนเองปี ละ 1 คร้ังเท่าน้นั คือ ตอนสิ้นปี ท้งั น้ีข้ึนอยู่ กบั ประเภทของเงินไดพ้ ึงประเมนิ ที่ไดร้ ับในแต่ละปี ซ่ึงจะไดก้ ล่าวในรายละเอียดต่อไป 1. ภาษีเงนิ ได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี เงินได้พึงประเมินที่อย่ใู นข่ายต้องเสียภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาคร่ึงปี ได้แก่ เงินไดพ้ ึง ประเมินตามมาตรา 40(5)-(8) แต่ไม่รวมถึงเงินกินเปล่า เงินช่วยค่าอาคาร เงินค่าซ่อมแซม ค่าแห่ง อาคารหรือโรงเรือนที่ไดร้ ับกรรมสิทธ์ิ วธิ คี านวณ แบบที่ 1 เงินไดพ้ ึงประเมิน ม.40(5)-(8) ท่ีไดร้ ับต้งั แต่ ม.ค.-มิ.ย. xx หกั ค่าใชจ้ ่ายตามกาหนดกฎหมาย xx เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย xx หกั ค่าลดหยอ่ นคร่ึงหน่ึงตามกาหนดกฎหมาย xx เงินไดส้ ุทธิ xx จานวนเงินภาษีคร่ึงปี ตามอตั ราภาษี xx วธิ ีคานวณ แบบท่ี 2 เงินไดพ้ ึงประเมินตาม ม.40(5)-(8) ต้งั แต่ ม.ค.-ม.ิ ย. xx (1) ภาษี = 5/1000 X จานวนเงินตาม (1) ชาระภาษีคร่ึงปี ตามจานวนเงินภาษีท่ีคานวณตามแบบท่ี 1 หรือแบบท่ี 2 ที่มีจานวนเงินสูงกวา่ ตวั อย่างท่ี 1 แสดงการคานวณเพ่ือเสียภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาคร่ึงปี นายอนนั ต์ - พญ.สมศรี สามีภรรยา มีบุตรผเู้ ยาว์ 3 คน ศึกษาอยูใ่ นช้นั ประถมศึกษา ในปี ภาษี 2555 มีรายละเอยี ดรายรับ รายจ่ายดงั น้ี
65 นายอนนั ต์ มเี งินไดด้ งั น้ี - รับราชการไดร้ ับเงินเดือนๆละ 35,000 บาท - รับเงินปันผลจากบริษทั กรุงไทย จากดั 280,000 บาท พญ.สมศรี มเี งินไดด้ งั น้ี - รับราชการโรงพยาบาลหมอไพโรจน์ ไดเ้ งินเดือนๆละ 50,000 บาท - เปิ ดคลินิกรักษาผปู้ ่ วยนอกจากเวลางานปกติ ไดร้ ับเงินได้ 5,000,000 บาท ต้งั แต่ ม.ค.-มิ.ย. 2554 - เงินไดจ้ ากการใหเ้ ช่าบา้ นเดือนละ 30,000 บาท แพทยห์ ญิงสมศรีไดท้ าประกนั ชีวิตไวก้ ับบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จ่ายเบ้ียประกัน 15,000 บาท กาหนดจ่ายในเดือนกรกฎาคมของทุกปี โดยอายกุ รมธรรมป์ ระกนั ชีวิตของท้งั 2 คนมี อายุ 15 ปี นอกจากน้นั นายอนันต์และแพทยห์ ญิงไดร้ ่วมกนั กูเ้ งินจากธนาคารอาคารสงเคราะห์โดย จ่ายดอกเบ้ียเงินกยู้ มื เพื่อซ้ือท่ีอยู่อาศยั ใหก้ บั ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เดือนละ 10,000 บาท ต้งั แต่ พ.ศ. 2550 เป็นตน้ มา การคานวณภาษเี งินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี แพทยห์ ญิงสมศรี คานวณแบบท่ี 1 (อตั ราภาษีแบบกา้ วหนา้ ) เงินไดจ้ ากการประกอบอาชีพโรคศิลป์ ม.40(6) 5,000,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 60% 3,000,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 2,000,000 --------- เงินไดจ้ ากการใหเ้ ช่าบา้ น ม.40(5) (300,00 x 6) 180,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 30% 54,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 126,000 ---------- เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายท้งั ส้ิน + 2,126,000 หกั ลดหยอ่ น ผมู้ ีเงินได้ 15,000 คู่สมรส 15,000 บุตร 3 คน (8,500 x 3) 25,000 ดอกเบ้ียเงินกูย้ มื เพอ่ื ที่อยอู่ าศยั 50,000 105,500 เงินไดส้ ุทธิ 2,020,500 ภาษีคร่ึงปี (แบบที่ 1) 371,150
66 แบบที่ 2 (อตั ราคงที)่ เงินไดพ้ ึงประเมนิ ตาม ม.40(2)-(8) ต้งั แต่ ม.ค.-ม.ิ ย. (5,000,000 + 180,000) = 5,180,000 ภาษีท่ีคานวณได้ 5,180,000 x 5/1,000 = 25,900 ตอ้ งเสียภาษีคร่ึงปี ตามแบบที่คานวณแลว้ ไดม้ ากกว่าคือ 371,150 ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาคร่ึงปี น้นั ใหน้ าไปเครดิตออกจากภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาตอน ส้ินปี เช่น ตามตวั อยา่ งที่ 1 ถา้ ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาส้ินปี คานวณได้ 500,000 ตอ้ งหกั ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาท่ีถกู หกั ณ ที่จ่าย xx หกั ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาคร่ึงปี 371,150 ชาระเพิม่ เติม (ไดร้ ับคืน) แลว้ แต่กรณี xx 2. การคานวณภาษเี งนิ ได้บุคคลธรรมดาสิ้นปี ตวั อย่างที่ 2 นายคมกริช นางแชมเปญ เป็นสามภี รรยาชอบดว้ ยกฎหมายและอยรู่ ่วมกนั ตลอด ปี ภาษี 2555 ท้งั สองมีบุตรดว้ ยกนั 4 คน คนท่ี 1 คมคาย เกิด พ.ศ.2531 เรี ยนอยู่ในระดับปริญญาตรี ในมหาวิทยาลยั ราชภัฏ อุดรธานี คนท่ี 2 คมเคียว เกิด พ.ศ.2538 ไม่ไดศ้ ึกษาและอาศยั อยกู่ บั บิดามารดา คนท่ี 3 บรั่นดี เกิด พ.ศ.2533 สาเร็จการศึกษาในระดบั ปวส. ทางานท่ีธนาคารกรุงไทย จากดั ไดร้ ับเงินเดือน ๆ ละ 12,000 บาท คนที่ 4 วสิ ก้ี เกิด พ.ศ.2534 เรียนอยู่ในระดบั ปริญญาตรี มีเงินไดจ้ ากการถูกรางวลั สลาก กินแบ่งรัฐบาล 300,000 บาท ในปี ภาษี 2555 นายคมกริช นางแชมเปญ มีรายไดด้ งั น้ี นายคมกริช 1. รับราชการเงินเดือนๆละ 40,000 บาท จ่ายเงินเขา้ กองทุนบาเน็จบานาญขา้ ราชการ (กบข.) ในอตั รา 3% ของเงินเดือน (ถกู หกั ภาษี ณ ท่ีจ่ายเดือนละ 1,000 บาท) 2. ค่านายหน้าขายบา้ นพร้อมที่ดินที่ไดร้ ับจากบริษทั A 100,000 บาท (ถูกหกั ภาษี ณ ท่ี จ่าย 10,000 บาท) 3. ดอกเบ้ียเงินฝากประจาจากธนาคารพาณิชย์ 200,000 บาท (ถูกหัก ณ ที่จ่าย 30,000 บาท)
67 4. ได้รับเงินค่าสอนพิเศษให้กบั นักศึกษาระดบั ปริญญาตรี จากมหาวิทยาลยั ราชภัฎ อุดรธานี เป็นเงิน 200,000 บาท นางแชมเปญ 1. ไดร้ ับเงินเดือนจากบริษทั สามมิตร จากดั เดือนละ 30,000 บาท ( ถกู หกั ณ ที่จ่าย เดือนละ 10,000 บาท ) 2. จ่ายเงินเขา้ กองทุนสารองเล้ียงชีพ 15,000 บาท 3. รายไดจ้ ากการใหเ้ ช่าอาคารสานกั งาน จากบริษทั กรุงเทพประกนั ชีวิต เดือนละ 100,000 บาท(ถกู หกั ณ ท่ีจ่ายเดือนละ 50,000 บาท) นายคมกริชและนางแชมเปญไดป้ ระกนั ชีวิตไวก้ บั บริษทั ไทยประกนั อายกุ รมธรรม์ 12 ปี จ่ายเบ้ียประกนั คนละ 15,000 บาทต่อปี และบริจาคใหม้ หาวทิ ยาลยั ราชภฏั 205,000 บาท ต้งั แต่ปี 2555 เป็นตน้ ไป สามารถคานวณภาษีและยน่ื แบบรายการได้ 3 วธิ ี 1) นาเงินไดข้ อง สามแี ละภรรยามารวมกนั และยนื่ เสียภาษีในนามฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึง (รวมคานวณภาษ)ี 2) นาเงินไดต้ าม มาตรา 40(1) ของแต่ละฝ่ ายให้เสียภาษีในนามตนเอง 3) ให้สามีและภรรยายน่ื รายการและเสียภาษี ต่างหากจากกนั ดงั น้ี วธิ ที ี่ 1 (รวมคานวณภาษ)ี อตั ราก้าวหน้า เงินไดพ้ ึงประเมนิ ตาม ม.40(1) สามี เงินเดือน 40,000 x 12 480,000 หกั เงินไดท้ ่ีจ่ายเขา้ กองทุน กบข. ( 3 x 480,000) 14,400 100 465,600 คงเหลือ เงินไดพ้ ึงประเมนิ ตาม ม.40(2) (สามี) 100,000 เงินไดพ้ งึ ประเมินตาม ม.40(1) + (2) 565,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% (ไมเ่ กิน 60,000 บาท) 60,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 505,000 ------------ ดอกเบ้ียเงินฝากประจาธนาคาร ม.40 (5) 200,000 ------------ เงินไดพ้ ึงประเมนิ ตาม ม.40(1) ภรรยา เงินเดือน 30,000 x 12 360,000 หกั เงินที่จ่ายเขา้ กองทุนสารองเล้ียงชีพ (ส่วนที่เกิน 10,000) 5,000 คงเหลอื 355,000
68 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% (ไมเ่ กิน 60,000) 60,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 295,000 ------------ เงินไดพ้ งึ ประเมินตาม ม. 40(5) ค่าเช่าอาคารสานกั งาน (100,000 x 12) 1,200,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 30% (1,200,000 x 30%) 360,000 ------------ เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 840,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายท้งั ส้ิน +++ 1,840,000 หกั ลดหยอ่ น ผมู้ เี งินได้ 30,000 คู่สมรส 30,000 บุตรคนท่ี 1 17,000 บุตรคนท่ี 2 15,000 32,000 กองทุนสารองเล้ียงชีพ 10,000 เบ้ียประกนั ชีวิตสามี 15,000 เบ้ียประกนั ชีวติ ภรรยา 15,000 132,000 คงเหลือก่อนหกั บริจาค 1,708,000 หกั บริจาค สนบั สนุนการศกึ ษา 170,800 บริจาคทว่ั ไป 119,600 247,660 เงินไดส้ ุทธิ 1,417,600 ภาษีส้ินปี (7,500 + 20,000 + 37,500 + 50,000 + 104,400) 219,400 คานวณภาษี (อตั ราคงท)ี่ เงินไดพ้ งึ ประเมนิ ตาม ม.40 (2) - (8) x 5 1,000 (ค่านายหนา้ + ดอกเบ้ียเงินฝากธนาคาร+ค่าเช่าอาคารสานกั งาน) x 5 1,000 (10,000 + 200,000 + 1,200,000) x 5 1,000 1,500,000 x 5 = 7,500 บาท 1,000 ตอ้ งชาระภาษีสิ้นปี 219,400
69 หกั ภาษีหกั ณ ที่จ่าย เงินเดือน (1,000 x 12) 12,000 ค่านายหนา้ 10,000 ดอกเบ้ียเงินฝากธนาคาร 30,000 เงินเดือนภรรยา (1,000 x 12) 12,000 ค่าเช่าอาคารสานกั งาน (5,000 x 12) 60,000 124,000 ชาระเพิ่ม (ตอนสิ้นปี ) 95,400 ซ่ึงสามารถอธิบายความสาคญั ตามลาดบั ดงั น้ี 1. เงินไดท้ ่าที่จ่ายเขา้ กองทุนบาเหน็จบานาญขา้ ราชการ (กบข.) ไดร้ ับยกเวน้ ภาษีตามที่จ่าย จริงแต่ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี ในกรณีตามตวั อยา่ งจานวน 14,400 บาท ตอ้ งนามาหักออกจาก เงินเดือนก่อนนาเงินที่เหลอื มารวมกบั เงินค่านายหนา้ (ม. 40(2)) แลว้ จึงหกั ค่าใชจ้ ่ายร้อยละ 40 (แต่ ไมเ่ กิน 60,000 บาท) 2. ดอกเบ้ียเงินฝากประจาธนาคาร เป็นเงินไดพ้ ึงประเมนิ ตาม ม. 40(4) หักค่าใชจ้ ่ายไม่ได้ ผมู้ เี งินไดส้ ามารถเลอื กนามารวมกบั เงินไดป้ ระเภทอืน่ เพือ่ คานวณภาษี (ตามตวั อยา่ ง) หรือเลือกเสีย ภาษีตามที่ถกู หกั ณ ท่ีจ่าย โดยไม่ตอ้ งนามารวมกบั เงินไดป้ ระเภทอน่ื เพอื่ คานวณภาษีสิ้นปี กไ็ ด้ 3. เงินท่ีนางแชมเปญจ่ายเขา้ กองทุนสารองเล้ียงชีพตอ้ งดาเนินการ 2 ลกั ษณะ คือ 1) หัก ลดหยอ่ นไดต้ ามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท 2) เป็นเงินไดร้ ับยกเวน้ ส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ ไม่เกิน 490,000 บาท ฉะน้ัน ตามตวั อย่าง จ่ายเงินเขา้ กองทุนสารองเล้ียงชีพ 15,000 บาท จึงหัก ลดหยอ่ นได้ 10,000 บาท และหกั จากเงินเดือน 5,000 บาท 4. เงินไดค้ ่าเช่าอาคารสานกั งานเป็นเงินไดต้ าม ม. 40(5) หกั ค่าใชจ้ ่ายไดร้ ้อยละ 30 5. บุตรคนที่ 1 หักลดหย่อนได้ 17,000 บาท เนื่องจากอายุไม่เกิน 25 ปี และศึกษา ระดบั อุดมศกึ ษาในประเทศไทย บุตรคนที่ 2 อายุ 18 ปี เป็นผเู้ ยาว์ ซ่ึงไม่ไดศ้ ึกษา จึงหกั ลดหยอ่ นได้ 15,000 บาท บุตรคนที่ 3 เป็ นผมู้ ีเงินไดแ้ ลว้ ซ่ึงตอ้ งเสียภาษีจากเงินไดพ้ ึงประเมินของตนเอง บิดา มารดาไมส่ ามารถนามาหกั ลดหยอ่ นไดอ้ กี บุตรคนท่ี 4 มคี ุณสมบตั ิครบถว้ นแต่บิดามารดานามาหกั ลดหยอ่ นไมไ่ ดเ้ น่ืองจากบุตรที่มีชีวิตอยลู่ าดบั ก่อนครบ 3 คนแลว้ 6. การหกั บริจาคสนบั สนุนการศึกษาตามท่ีกระทรวงศกึ ษาธิการเห็นชอบไดเ้ ป็น 2 เท่าของ รายจ่ายบริจาคจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายและหกั ลดหยอ่ นต่างๆ แลว้ คือ ไมเ่ กิน 10% ของ 1,708,000บาท เป็นเงิน 170,800 บาท ดงั น้นั รายจ่ายท่ีนามาหกั บริจาคคือ 85,400 บาท (2 เท่า เป็ นเงิน 170,800 บาท) ส่วนที่เหลือ 119,600 (205,000-85,400) สามารถนามาหกั ลดหยอ่ น ทว่ั ไปไดเ้ ตม็ จานวนเพราะไม่เกิน 170,800 บาท (ร้อยละ 10 ของ 1,708,000 บาท)
70 7. คานวณภาษีสิ้นปี อตั รากา้ วหน้า เงินภาษีท่ีตอ้ งชาระ 230,085 บาท คานวณภาษีสิ้นปี อตั ราคงท่ี (เนื่องจากมเี งินไดต้ าม ม. 40(2) (4) (5)) เป็นเงิน 7,500 บาท ซ่ึงตอ้ งเสียภาษีตามผลการ คานวณที่มคี ่ามากกว่าคือ 230,085 บาท 8. เม่อื ไดจ้ านวนเงินภาษีท่ีตอ้ งชาระเท่าใดใหน้ าภาษีหกั ณ ที่จ่าย และภาษีคร่ึงปี มาหกั ออก เหลือเท่าใดคือภาษีที่ชาระเพิ่มเติม ถา้ ผลติดลบ หมายถงึ สามารถของเงินภาษีคืน 9. ค่าสอนพเิ ศษนกั ศึกษาระดบั ปริญญาตรีจากมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อุดรธานี 200,000 บาท เป็นเงินไดจ้ ากค่าสอนค่าสอบที่ทางราชการจ่ายใหไ้ ดร้ ับการยกเวน้ ภาษี จึงไมต่ อ้ งนามาคานวณ วธิ ีที่ 2 (ลกั ษณะท่ี 1) นาเงินไดต้ ามม. 40 (2)-(8) ของภรรยาเป็ นเงินไดข้ องสามี สาหรับ เงินไดต้ าม ม.40 (1) ใหเ้ สียภาษีในนามตนเอง ภาษีสิ้นปี (อตั รากา้ วหนา้ ) สามี เงินได้ ม. 40(1) สามี 480,000 หกั เงินที่จ่ายเขา้ กบข. 14,400 คงเหลอื 465,600 เงินได้ ม.40(2) สามี 100,000 เงินไดต้ าม ม. 40 (1) + (2) 565,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 60,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 505,000 เงินไดต้ ามม. 40(4) สามี 200,000 เงินไดต้ ามม. 40(5) ภรรยา 1,200,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 30% 360,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 840,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายท้งั ส้ิน ++ 1,545,000 หกั ลดหยอ่ น ผมู้ เี งินได้ 30,000 บุตรคนที่ 1 17,000 บุตรคนที่ 2 15,000 เบ้ียประกนั ชีวิต 15,000 77,000 เงินไดก้ ่อนหกั บริจาค 1,468,000 หกั บริจาคสนบั สนุนการศกึ ษา (73,400 x 2) 146,800 บริจาคทว่ั ไป (102,500-73,400) 29,100
71 เงินไดส้ ุทธิ 1,292,100 ภาษีส้ินปี 188,025 หกั ภาษีหกั ณ ที่จ่าย จาก ภาษีเงินเดือนสามี 12,000 112,000 ค่านายหนา้ สามี 10,000 76,025 ดอกเบ้ียเงินฝากธนาคาร (สาม)ี 30,000 360,000 ค่าเช่าอาคาร (ภรรยา) 60,000 5,000 ชาระเพิม่ 355,000 ภาษีส้ินปี ของภรรยา 60,000 เงินไดต้ าม ม.40(1) 295,000 หัก เงินท่ีจ่ายเข้ากองทุนสารองเล้ียงชีพ (ส่วนท่ีเกิน 10,000) 87,000 คงเหลอื 208,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 20,800 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 20,800 หกั ลดหยอ่ น 166,400 ผมู้ ีเงินได้ 30,000 บุตรคนท่ี 1 17,000 820 บุตรคนที่ 2 15,000 12,000 กองทุนสารองเล้ียงชีพ 10,000 11,180 เบ้ียประกนั ชีวิต 15,000 เงินไดก้ ่อนหกั บริจาค หกั บริจาคสนบั สนุนการศกึ ษา (10,400 x 2) หกั บริจาคทว่ั ไป (102,500-10,400) แต่ไดไ้ มเ่ กินร้อยละ 10 เงินไดส้ ุทธิ ภาษีส้ินปี หกั ภาษีหกั ณ ที่จ่าย เงินเดือน ภรรยา ไดร้ ับเงินคืน ซ่ึงสามารถอธิบาย ดงั น้ี
72 1. เงินบริจาคร่วมกนั กบั สามี จึงนามาหกั ลดหยอ่ นไดค้ นละคร่ึง คือ 102,500 ( ) 2. ภรรยาคานวณภาษีเฉพาะเงินไดต้ าม ม. 40 (1) ของตนเอง จึงไม่ตอ้ งคานวณภาษีใน อตั ราคงท่ี วธิ ีที่ 2 (ลกั ษณะที่ 2) นาเงินไดต้ ามม. 40 (2)-(8) ของสามีเป็ นเงินไดข้ องภรรยา ส่วนเงิน ไดต้ าม ม.40 (1) ใหค้ านวณภาษีและเสียภาษีในนามตนเอง ภาษีอตั รากา้ วหนา้ สามี เงินเดือน 480,000 หกั เงินที่จ่ายเขา้ กบข. 14,400 เหลือ 465,600 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 49,302 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 416,208 หกั ลดหยอ่ น ผมู้ ีเงินได้ 30,000 บุตรคนที่ 1 17,000 บุตรคนท่ี 2 15,000 เบ้ียประกนั ชีวติ 15,000 77,000 เงินไดก้ ่อนหกั บริจาค 339.208 หกั บริจาคสนบั สนุนการศกึ ษา (16,960 x 2) 64,449 บริจาคทว่ั ไป 30,529 เงินไดส้ ุทธิ 274,759 ภาษีส้ินปี 6,237.95 หกั ภาษีหกั ณ ที่จ่าย จาก เงินเดือน 12,000 ไดเ้ งินคืน 5,762.05 ภรรยา เงินเดือน ภรรยา 360,000 หกั เงินท่ีจ่ายเขา้ กองทุนสารองเล้ียงชีพ 5,000 เหลอื 355,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 60,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 295,000
73 ค่าเช่าอาคารสานกั งาน ภรรยา 1,200,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 30% 360,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 840,000 100,000 10,608 ค่านายหนา้ สามี 89,392* หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 200,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 1,424,392 87,000 ดอกเบ้ียเงินฝากธนาคาร (สาม)ี 1,337,392 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย +++ 199,348 หกั ลดหยอ่ น 7,500 ผมู้ เี งินได้ 30,000 บุตรคนที่ 1 17,000 199,348 บุตรคนท่ี 2 15,000 112,000 กองทุนสารองเล้ียงชีพ 10,000 87,348 เบ้ียประกนั ชีวติ 15,000 465,600 เงินไดส้ ุทธิ 100,000 60,000 ภาษีส้ินปี 60,000 ภาษีอตั ราคงที่ 1,500,000 x 5 1,000 เสียภาษี หกั ภาษี ณ ที่จ่าย จาก เงินเดือน ภรรยา 12,000 ค่าเช่าอาคาร ภรรยา 60,000 ค่านายหนา้ สามี 10,000 ดอกเบ้ียเงินฝาก สามี 30,000 ชาระเพิม่ * เฉลยี่ ค่าใชจ้ ่ายสาหรับเงินไดต้ าม ม.40 (1) และ (2) ของสามี เงินได้ ม. 40(1) เงินเดือน สามี เงินได้ ม. 40(2) ค่านายหนา้ สามี หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% เงินได้ (565,000) หกั ค่าใชจ้ ่าย
74 เงินได้ (100,000) หกั ค่าใชจ้ ่าย 60,000 x 100,000 10,608 565,000 เงินค่านายหนา้ 100,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 10,608 บาท เงินเดือน 465,000 หกั ค่าใชจ้ ่ายได้ 49,392 (60,000-10,608) วธิ ที ี่ 3 (สามีภรรยาชาระภาษีแยกต่างหากจากกนั จากเงินไดข้ องแต่ละฝ่ าย) สามี (นายคมกริช) เงินไดพ้ งึ ประเมนิ ม. 40(1) สามี 480,000 หกั เงินท่ีจ่ายเขา้ กบข. 14,400 คงเหลอื 465,600 เงินไดพ้ ึงประเมนิ ม.40(2) สามี 100,000 รวมเงินไดต้ าม ม.40 (1) + (2) 565,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 60,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 505,000 ดอกเบ้ียเงินฝากประจาธนาคาร 200,000 รวมเงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายท้งั ส้ิน 705,000 หกั ลดหยอ่ น ผมู้ ีเงินได้ 30,000 บุตรคนท่ี 1 17,000 บุตรคนที่ 2 15,000 เบ้ียประกนั ชีวติ 15,000 77,000 เงินไดก้ ่อนหกั บริจาค 628,000 หกั บริจาคสนบั สนุนการศึกษา (31,400 x 2) 62,800 หกั บริจาคทว่ั ไป 62,800 เงินไดส้ ุทธิ 502,400 1,500 คานวณภาษีอตั ราคงที่ (100,000 + 200,000) x 5 1,000 นายคมกริชตอ้ งเสียภาษีสิ้นปี 27,860
75 หกั ภาษีหกั ณ ท่ีจ่าย จาก เงินเดือน 12,000 ค่านายหนา้ 10,000 ดอกเบ้ียเงินฝากธนาคาร 30,000 52,000 ไดเ้ งินคืน 24,140 ภรรยา (นางแชมเปญ) 360,000 เงินไดต้ ามม.40(1) ภรรยา 5,000 หัก เงินที่จ่ายเข้ากองทุนสารองเล้ียงชีพ (ส่วนท่ีเกิน 355,000 10,000 บาท) 60,000 เหลอื 295,000 หกั ค่าใชจ้ ่าย 40% 1,200,000 360,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 840,000 1,135,000 เงินไดพ้ ึงประเมนิ ตาม ม.40(5) หกั ค่าใชจ้ ่าย 30% 87,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่าย 1,048,000 1,048,000 127,000 เงินไดห้ ลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายท้งั ส้ิน + หกั ลดหยอ่ น 6,000 ผมู้ ีเงินได้ 30,000 127,000 บุตรคนท่ี 1 17,000 บุตรคนท่ี 2 15,000 กองทุนสารองเล้ียงชีพ 10,000 เบ้ียประกนั ชีวิต 15,000 เงินไดก้ ่อนหกั บริจาค หกั บริจาค เงินไดส้ ุทธิ ภาษีส้ินปี คานวณภาษีอตั รากา้ วหนา้ 1,200,000 x 5 1,000 ตอ้ งเสียภาษี
76 หกั ภาษี ณ ท่ีจ่าย จาก 12,000 เงินเดือน ค่าเช่าอาคาร 60,000 72,000 ชาระเพิม่ 55,000 การคานวณภาษีตามที่ไดแ้ สดงใหเ้ ห็นท้งั 3 วธิ ี ปรากฏวา่ วิธีท่ี 1 สามภี รรยาเสียภาษีรวมกนั เป็ นเงิน 219,400 บาท วิธีท่ี 2 (กรณีที่ 1) สามีภรรยาเสียภาษีรวมกนั เป็ นเงิน 165,300 บาท วิธีที่ 2 (กรณีท่ี 2) เป็นเงิน 205,585.95 บาท วธิ ีที่ 3 สามีภรรยาเสียภาษี รวมเป็นเงิน 154,860 บาท ผมู้ ีหน้าที่เสียภาษีสามารถเลือกวิธีการเสียภาษีที่ทาใหป้ ระหยดั ภาษีไดม้ ากท่ีสุด ซ่ึงตาม ตวั อยา่ งคือการเลือกเสียภาษีในวิธีท่ี 3 (สามีภรรยาเสียภาษีแยกต่างหากจากกนั ) สาหรับดอกเบ้ียเงิน ฝากธนาคารผมู้ ีเงินไดส้ ามารถเลือกปฏิบัติไดว้ ่าจะนามารวมกบั เงินไดอ้ ื่นและคานวณภาษีส้ินปี หรือเสียภาษีตามที่ถกู ธนาคารหกั ไว้ ณ ท่ีจ่าย โดยไม่ตอ้ งนามาคานวณภาษีตอนสิ้นปี อกี 3. เงนิ ได้ท่ีสามารถแยกคานวณจากเงนิ อื่นได้ เงินไดบ้ างประเภทและบางกรณี หากผมู้ เี งินได้ ไดม้ ีการคานวณ และถกู หกั ภาษีเงินได้ ณ ท่ีจ่ายตามหลกั เกณฑใ์ นเรื่องการหกั ภาษี ณ ที่จ่ายแลว้ กส็ ามารถเสียภาษีเงินไดต้ ามจานวนท่ีถกู หัก ภาษี ณ ที่จ่ายไว้ โดยไม่นาไปรวมกบั เงินไดอ้ ื่นเพื่อเสียภาษีเงนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดาส้ินปี อกี แตอ่ ยา่ งใด แต่ถา้ ผมู้ เี งินไดเ้ ห็นวา่ การนาไปรวมกบั เงินไดอ้ ่ืนเพื่อคานวณภาษีตามหลกั ทวั่ ไปจะเสียภาษีนอ้ ยกว่า หรือทาให้ไดภ้ าษีคืน ก็ชอบที่จะนาไปรวมกบั เงินไดอ้ ืน่ เพ่ือคานวณภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาสิ้นปี ตามหลกั ทว่ั ไปได้ โดยเป็นสิทธิของผมู้ ีเงินไดท้ ่ีจะเลอื กปฏิบตั ิ เงินไดเ้ หล่าน้ีไดแ้ ก่ (1) ดอกเบ้ียพนั ธบตั ร ดอกเบ้ียเงินฝากธนาคารในราชอาณาจกั ร ดอกเบ้ียเงินฝากสหกรณ์ ดอกเบ้ียเงินกู้ ดอกเบ้ียตว๋ั เงินที่ได้รับจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอ่ืน ดอกเบ้ียเงินกู้ยืมที่ไดจ้ ากบริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ดอกเบ้ียที่ไดจ้ าก สถาบนั การเงินที่มกี ฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจดั ต้งั ข้ึนสาหรับใหก้ ูย้ มื เงินเพอื่ ส่งเสริมการ เกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม (2) ผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกบั ราคาจาหน่ายตว๋ั เงิน หรือตราสารแสดงสิทธิในหน้ีท่ี บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นเป็นผอู้ อก
77 (3) ผลประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากการโอนพนั ธบตั ร หุน้ กู้ หรือตวั๋ เงิน หรือตราสารแสดงสิทธิใน หน้ีท่ีบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอน่ื เป็นผอู้ อก ท้งั น้ีเฉพาะที่ตีราคาเป็นเงินได้ เกินกว่าที่ลงทุน เงินไดต้ าม (1) (2) และ (3) ผมู้ ีเงินไดจ้ ะเลือกเสียภาษีใน อตั ราร้อยละ 15 ของเงินได้ ซ่ึงเป็นอตั ราเดียวกนั กบั ภาษีหกั ณ ที่จ่าย โดยไม่นาไปรวมคานวณภาษีตามปกติกไ็ ด้ (4) เงินไดต้ ามมาตรา 40 (4) (ข) ที่ไดร้ ับจากบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลที่ต้งั ข้ึนตาม กฎหมายไทย กองทุนรวม หรือสถาบนั การเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทย จดั ต้งั ข้ึน สาหรับใหก้ ูย้ มื เงินเพอ่ื ส่งเสริมการเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออตุ สาหกรรม ถา้ ผมู้ ีเงินไดเ้ ป็ น ผอู้ ยู่ในประเทศไทย ผมู้ ีเงินได้จะเลือกเสียภาษีใน อตั ราร้อยละ 10 ของเงินได้ ซ่ึงเป็ นอตั รา เดียวกบั ภาษีหกั ณ ที่จ่าย โดยไม่นาไปรวมคานวณอตั ราภาษีตามปกติก็ได้ (5) เงินไดต้ ามมาตรา 40 (8) ที่ไดร้ ับจากการขายอสงั หาริมทรัพยอ์ นั เป็ นมรดก จากการ ให้โดยเสน่หา หรืออสังหาริมทรัพยท์ ี่ไดม้ าโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากาไร และไดถ้ ูก คานวณหกั ภาษี ณ ที่จ่ายไวแ้ ลว้ (6) ผมู้ เี งินไดพ้ งึ ประเมนิ จากการขายอสงั หาริมทรัพย์ ภายใน 5 ปี นบั แต่วนั ไดม้ า ซ่ึงไม่ มพี ฤติการณ์จดั สรรขาย หรือปลูกสร้างเพ่ือขาย และไม่ใช่อสงั หาริมทรัพยท์ ี่มไี วใ้ นการประกอบ กิจการนอกจากการเกษตรกรรม ถา้ ไดถ้ ูกหกั ภาษี ณ ท่ีจ่ายและเสียภาษีธุรกิจเฉพาะไวแ้ ลว้ ใหไ้ ดร้ ับ บรรเทาภาระภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาจากการขายอสงั หาริมทรัพยด์ งั กลา่ ว โดยการยกเวน้ ไม่ตอ้ ง นาเงินไดด้ งั กล่าวไปรวมภาษีเงินได้ แต่ต้องแสดงรายละเอียดการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามแบบ และภายในระยะเวลาท่ีอธิบดีกาหนด ท้งั น้ี เฉพาะกรณีท่ีผมู้ ีเงินไดด้ งั กล่าวไมข่ อรับเงินภาษีท่ีถูก หกั ไวน้ ้นั คืน หรือไม่ขอเครดิตภาษีท่ีถูกหักไวน้ ้นั ไม่ว่าท้งั หมดหรือบางส่วน (พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ท่ี 247) พ.ศ. 2534) (7) ผมู้ ีเงินไดซ้ ่ึงอย่ใู นประเทศไทย และไดร้ ับเงินส่วนแบ่งของกาไรจากกองทุนรวมตามที่ จดั ต้งั ตามพระราชบญั ญตั ิหลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ พ.ศ. 2535 และยอมใหผ้ จู้ ่ายเงินไดห้ ัก ภาษี ณ ท่ีจ่ายในอตั ราร้อยละ 10 ของเงินได้ ให้ไดร้ ับการยกเวน้ ไม่ตอ้ งนาเงินไดด้ งั กล่าวไปรวม คานวณภาษีเงินได้ (พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที่ 262) พ.ศ. 2536) (8) เงินไดพ้ ึงประเมินประเภทที่ 1 และ 2 ซ่ึงเป็ นเงินท่ีนายจา้ งจ่ายให้คร้ังเดียวเพราะเหตุ ออกจากงาน ซ่ึงไดค้ านวณจ่ายจากระยะเวลาท่ีทางาน และไดจ้ ่ายตามหลกั เกณฑ์วิธีการ และ เง่ือนไขที่อธิบดีกาหนด ผมู้ เี งินไดอ้ าจไมน่ าเงินไดไ้ ปรวมคานวณภาษีตามอตั ราปกติ และอาจแยก คานวณไดโ้ ดยวิธีการเดียวกนั กบั การคานวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตามหวั ขอ้ การหักภาษี ณ ที่จ่าย (1.2) แต่ตอ้ งแสดงรายการในใบแนบ พร้อมกบั การยนื่ แบบแสดงรายการดว้ ยในกรณีน้ี
78 4. การชาระภาษีโดยการประเมินตนเอง ผมู้ ีเงินไดพ้ งึ ประเมินในปี ที่ล่วงมาแลว้ (ม.ค.-ธ.ค.) มหี นา้ ที่ตอ้ งคานวณภาษีท่ีตอ้ งชาระกบั แสดงภาษีท่ีถูกหัก ณ ท่ีจ่าย เพ่ือแสดงแบบรายการภาษีที่ต้องชาระเพิ่มเติม หรือไดร้ ับเงินคืน แลว้ แต่กรณี 4.1 การเสียภาษเี งนิ ได้โดยย่ืนแบบแสดงรายการประเมนิ ตนเอง มาตรา 56 แห่งรัษฎากรไดก้ าหนดใหผ้ ชู้ าระภาษีแสดงรายการประเมนิ ตนเอง ดงั น้ี “ใหบ้ ุคคลทุกคนเวน้ แต่ผเู้ ยาว์ หรือผทู้ ่ีศาลสั่งใหเ้ ป็ นคนไร้ความสามารถหรือเสมือน ไร้ความสามารถ ยื่นรายการเกี่ยวกบั เงินไดพ้ ึงประเมินที่ตนไดร้ ับในระหว่างปี ภาษีที่ลว่ งมาแลว้ พร้อมท้งั ขอ้ ความอ่ืนๆ ภายในเดือนมีนาคมทุกปี ตามแบบท่ีอธิบดีกาหนดต่อเจ้าพนกั งานซ่ึง รัฐมนตรีแต่งต้งั ถา้ บุคคลน้นั เป็น (1) ไมม่ ีสามหี รือภรรยา และมเี งินไดพ้ งึ ประเมินในปี ท่ีลว่ งมาแลว้ เกิน 30,000 บาท (2) ไม่มีสามีหรือภรรยา และมีเงินไดพ้ ึงประเมนิ ในปี ภาษีที่ล่วงมาแลว้ เฉพาะเงินได้ ตาม ม.40 (1) ประเภทเดียวเกิน 50,000 บาท (3) มีสามีหรือภรรยา และมีเงินไดพ้ งึ ประเมินในปี ท่ีล่วงมาแลว้ เกิน 60,000 บาท (4) มีสามหี รือภรรยา และมีเงินไดพ้ ึงประเมินในปี ท่ีลว่ งมาเฉพาะเงินไดต้ าม ม.40(1) ประเภทเดียวแลว้ เกิน 100,000 บาท (5) กรณีหา้ งหุน้ ส่วนจากดั หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล มีเงินไดพ้ ึงประเมินในปี ท่ี ลว่ งมาแลว้ เกิน 30,000 บาท (6) กองมรดกที่ยงั ไม่ไดแ้ บ่ง มเี งินไดพ้ งึ ประเมนิ ในปี ภาษีล่วงมาแลว้ เกิน 30,000 บาท 4.2 แบบแสดงรายการภาษเี งินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90 เป็นแบบแสดงรายการภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา ใชส้ าหรับผมู้ ีเงินไดห้ ลาย ประเภท หรือประเภทเดียวแต่มิใช่เงินไดต้ ามมาตรา 40(1) ตามประมวลรัษฎากร และตอ้ งยนื่ แบบ รายการชาระภาษีภายในเดือนมีนาคมของปี ถดั ไป ภ.ง.ด. 91 เป็นแบบแสดงรายการภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา ใชส้ าหรับผมู้ ีเงินไดจ้ ากการ จา้ งแรงงานตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากรเพยี งประเภทเดียว ภ.ง.ด. 93 เป็ นแบบแสดงรายการภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา ใชส้ าหรับผมู้ ีเงินไดท้ ี่ขอ ชาระภาษีก่อนถึงกาหนดเวลาย่นื แบบแสดงรายการ เสียภาษีตามมาตรา 53 ทวิ แห่งประมวล รัษฎากร
79 ภ.ง.ด. 94 เป็ นแบบแสดงรายการภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาคร่ึงปี ใชส้ าหรับผมู้ เี งินได้ ท่ีตอ้ งชาระภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาคร่ึงปี ตามมาตรา 40(5) (6) (7) หรือ (8) ที่ไดร้ ับต้งั แต่เดือน มกราคม ถึง มิถุนายน และชาระภาษีภายในเดือนกนั ยายนของทุกปี 4.3 สถานทย่ี ื่นแบบรายการ สาหรับทอ้ งท่ีกรุงเทพมหานครให้ย่ืน ณ สานักงานสรรพากรเขต หรือสาขา สาหรับ ต่างจงั หวดั ให้ยนื่ ณ สานักงานสรรพากรอาเภอ หรือสาขา หรือกิ่งอาเภอ ถา้ มีภาษีที่ตอ้ งชาระ หรือชาระเพิ่มเติมอาจชาระเป็นเงินสด หรือธนาณตั ิ 4.4 การผ่อนชาระภาษี ถา้ มีภาษีท่ีตอ้ งชาระต้งั แต่ 3,000 บาทข้ึนไป ท้งั ภาษีคร่ึงปี และภาษีสิ้นปี ผเู้ สียภาษีมี สิทธิขอผอ่ นชาระภาษีไดเ้ ป็น 3 งวดเท่ากนั ดงั น้ี งวดที่ 1 ชาระพร้อมกบั การยนื่ แบบแสดงรายการภายใน 30 กนั ยายน หรือ 31 มีนาคม งวดท่ี 2 ชาระภายใน 1 เดือนนบั แต่วนั ที่ตอ้ งชาระงวดที่ 1 งวดที่ 3 ชาระภายใน 1 เดือนนบั แต่วนั ท่ีตอ้ งชาระงวดที่ 2 4.5 การขอคืนภาษี กรณีผเู้ สียภาษี ไดถ้ ูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายและนาส่งแลว้ เป็ นจานวนเงินเกินกวา่ ท่ีควร ตอ้ งชาระ หรือไดย้ น่ื ชาระภาษีไวเ้ กินกวา่ ท่ีตอ้ งชาระ ผเู้ สียภาษีมีสิทธิขอคืนเงินภาษีท่ีถูกหกั ไวเ้ กิน หรือท่ีไดช้ าระเงินโดยปฏิบตั ิดงั น้ี 1. ยน่ื คาร้องขอคืนภาษีโดยใชแ้ บบ ค. 10 หรือ 2. กรณีท่ีไดย้ น่ื แบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 90 , 91 อาจขอคืนโดยกรอกขอ้ ความและลง นามในช่องขอคืนเงินภาษีอีกส่วนหน่ึง 3. การขอคืนเงินภาษีให้ขอคืนได้ภายใน 3 ปี นับต้งั แต่วนั สุดทา้ ยกาหนดเวลาย่ืน รายการภาษี หรือนบั แต่วนั ท่ียนื่ รายการ (กรณียน่ื เกินกวา่ กาหนดเวลา) หรือนบั แต่วนั ที่ไดร้ ับแจง้ คาวินิจฉยั อุทธรณ์ หรือวนั ท่ีมีคาพิพากษาถงึ ที่สุด แลว้ แต่กรณี 4. การยนื่ คาร้องตามขอ้ 1. ให้ยนื่ ต่ออธิบดีกรมสรรพากรพ้ืนที่ต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพฯ ส่วนต่างจงั หวดั ใหย้ นื่ ต่อ(วา่ ราชการจงั หวดั ณ ท่ีวา่ การหรือก่ิงอาเภอ การใชแ้ บบแสดงรายการเป็ น คาร้องขอคืนเงินภาษี ถา้ ยนื่ ณ อาเภอภูมิลาเนา จะไดร้ ับเงินคืนเร็วกวา่ ยน่ื ที่อน่ื 5. ใหแ้ นบหลกั ฐานที่เกี่ยวขอ้ งเพิม่ เติม (1) สาเนาใบสาคญั การสมรส หรือสาเนาใบสาคญั การหยา่ หรือสาเนาใบมรณ บตั รของคู่สมรส
80 (2) สาเนาสูติบตั รของบุตร หนงั สือรับรองบุตร หรือหนงั สือทะเบียนการรับบุตร บุญธรรมที่ขอหกั ลดหยอ่ น หรือสาเนาทะเบียนบา้ นท่ีมชี ่ือบุตร (3) สาเนาหนงั สือแสดงการเปล่ยี นชื่อตวั ชื่อสกลุ (ถา้ มีการเปลย่ี นแปลง) (4) หลกั ฐานอ่นื ท่ีเกี่ยวขอ้ งแลว้ แต่กรณี 6. ผมู้ ีอานาจสัง่ คืนเงินภาษี จะพิจารณาคืนใหภ้ ายใน 60 วนั นบั แต่วนั ไดค้ าร้อง โดยแจง้ เป็ นหนงั สือแบบ ค.20 ไปยงั ผขู้ อคืน ผขู้ อคืนจะไปรับเงินคืนไดต้ ามที่ระบุในหนงั สือแบบ ค.20 ในการไปรับเงินคืนจากอาเภอหรือกิ่งอาเภอ ผขู้ อคืนจะตอ้ งนาหนงั สือแบบ ค.20 และบตั ร ประชาชนไปแสดงต่อเจา้ หนา้ ที่ผูจ้ ่ายเงินคืนดว้ ย ในกรณีท่ีสัง่ คืนเงินภาษีล่าชา้ ทางราชการจะจ่าย ดอกเบ้ียใหต้ ามหลกั เกณฑท์ ่ีกาหนด ในกรณีผูข้ อคืนตอ้ งการให้กรมสรรพากรนาเงินภาษีที่ไดร้ ับ คืนเขา้ บญั ชีเงินฝากธนาคารของตนจะตอ้ งปฏบิ ตั ิตามเง่ือนไขหลกั เกณฑท์ ่ีกาหนด 4.6 เบยี้ ปรับ เงนิ เพม่ิ และโทษ เบยี้ ปรับ เงนิ เพม่ิ (1) กรณีไม่ชาระภาษีภายในกาหนดเวลา จะต้องเสียเงินเพ่ิมอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ตอ้ งชาระน้ัน นบั แต่วนั พน้ กาหนดเวลาการยืน่ รายการจนถึงวนั ชาระภาษี เวน้ แต่กรณีที่ไดร้ ับอนุมตั ิจากอธิบดีกรมสรรพากร ให้ขยายกาหนดเวลาชาระภาษีได้ เงินเพิม่ คงเสียร้อยละ 0.75 (2) กรณีเจา้ พนกั งานตรวจสอบออกหมายเรียก และปรากฏวา่ มิไดย้ นื่ แบบแสดงรายการ ไวห้ รือยนื่ แบบแสดงรายการไวแ้ ต่ชาระภาษีขาดหรือต่าไป นอกจากจะตอ้ งรับผดิ ชาระเพิ่มเติมตาม (1) แลว้ ยงั จะตอ้ งรับผิดเสียเบ้ียปรับอีก 1 เท่า หรือ 2 เท่าของเงินภาษีท่ีตอ้ งชาระแลว้ แต่กรณี เงินเบ้ียปรับดงั กล่าวอาจลดหรืองดไดต้ ามระเบียบที่อธิบดีกาหนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรี โทษทางอาญา (1) กรณีไม่ยนื่ ขอมเี ลขประจาตวั ผเู้ สียภาษี ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกินสองพนั บาท (2) กรณีไมท่ าบญั ชีแสดงรายการเงินไดห้ รือรายรับประจาวนั ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กิน สองพนั บาท (3) กรณีไมย่ น่ื แบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.90 , 91 หรือ 94 ภายในกาหนดเวลา ตอ้ งระวาง โทษปรับไม่เกินสองพนั บาท (4) กรณีจงใจ แจง้ ขอ้ ความเท็จ หรือแสดงหลกั ฐานเท็จหรือฉอ้ โกงฯ หรือหลีกเลีย่ งหรือ พยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ต้องระวางโทษจาคุกต้ังแต่สามเดือนถึงเจ็ดปี และปรับต้งั แต่สองพนั บาทถึงสองแสนบาท
81 กรณีเจตนาละเลยไม่ย่ืนแบบแสดงรายการเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ตอ้ งระวางโทษปรับไม่ เกินหา้ พนั บาทหรือจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือท้งั จาท้งั ปรับ
82
83
84
85
86
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357