1 รูปแบบการพัฒนาครอู าชวี ศกึ ษาภาครฐั ภาคเอกชนและครอู าชีวศกึ ษาทหาร เรอื อากาศโทสมพร ปานดา ตาแหนง่ ทีป่ รึกษาดา้ นมาตรฐานอาชวี ศกึ ษาช่างอุตสาหกรรม สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา
2ก คานา การศึกษาระดับอาชีวศึกษาถือหัวใจสาคัญของประเทศ เป็นการสร้างคน สร้างชาติ ดังคากล่าวที่ว่า “อาชีวะสร้างชาติ” ทั้งยังเป็นการเตรียมทักษะอาชีพ เข้าสู่ตลาดแรงงาน นั่นคือ “การอาชีวศึกษา” ซึ่งถือว่า ผู้เรยี นอาชีวศึกษาเป็นบุคคลที่ทรงคุณค่าของประเทศและเศรษฐกิจไทย เพื่อเป็นรากฐานท่ีสาคัญที่สุดในการ สร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้า ตลอดจนการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในสังคม เนื่องจากการศึกษาอาชีวศึกษาจะเป็น กระบวนการท่ีช่วยพัฒนาคนในด้านต่างๆ ต้ังแต่แรกเกิด ให้เกิดการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถท่ีจะ ดารงชีพและประกอบอาชีพได้อย่างมีความสุข การพัฒนาคนสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน ให้ ความสาคัญกบั การพัฒนาคณุ ภาพคนไทย ให้มี ภมู ิคมุ้ กันต่อการเปล่ียนแปลง มุ่งพัฒนาคุณภาพคนไทยทุกช่วง วัย ดังนั้นการศึกษาท่ีมีคุณภาพจึงเป็นหลักชัยใน การพัฒนาคน บุคคลสาคัญที่สุดในกระบวนการพัฒนา การศึกษาและการพัฒนาการเรียนรู้ก็คือ “ครู” โดยเฉพาะครูอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นการพัฒนาครูจากฐานล่าง (Bottom Up) ครยู งั คง เป็นผทู้ ม่ี ีความหมายและปัจจัยสาคัญมากท่ีสุดในห้องเรียน และเป็นผู้ท่ีมีความสาคัญ ต่อคุณภาพการศึกษา รูปแบบการพัฒนาครูอาชีวศึกษาภาครัฐ ภาคเอกชนและครูอาชีวศึกษาทหาร จึงมี ความสาคัญและจาเป็นต่อการพัฒนาครู สามารถเชื่อมโยงกับ ผลงานวิชาการ สร้างความก้าวหน้าในตาแหน่ง ทางวชิ าการของครู และผลลัพธส์ ดุ ท้าย คอื ส่งผลต่อคณุ ภาพ การศึกษาของผู้เรียนทมี่ ีผลสมั ฤทธิ์สูงขึน้ เรอื อากาศโทสมพร ปานดา ตาแหน่ง ท่ีปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาชา่ งอตุ สาหกรรม สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
สารบญั ข3 คานา หน้า สารบัญ ก ข รปู แบบการพัฒนาครอู าชวี ศึกษาภาครัฐ ภาคเอกชนและครูอาชวี ศึกษาทหาร 1 นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 2 นโยบายสานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา 3 วทิ ยาลยั /ผูบ้ รหิ าร 4 สถานประกอบการ/ชุมชน 5 ครอู าชีวศกึ ษา 6 เพื่อนครู/ครูพเ่ี ลย้ี ง 8 ชมุ ชนแห่งการเรยี นรู้ PLC 9 ระบบติดตาม 10 ตลาดนัดวชิ าการ 11 ผลงานทางวชิ าการสู่การเลือ่ นวิทยฐานะ 12
รูปแบบการพัฒนาครูอาชวี ศึกษาภาครัฐ ภาคเอกชนและครอู าชวี ศึกษาทหาร 4 กระทรวงศกึ ษาธิการ Ministry of Education สอศ. Vocational Education Commission 1. การปรับปรุงหลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรูใ้ ห้ทนั สมัย และทันกาSร 1. การจัดการศกึ ษาระบบทวภิ าค/ี ความรว่ มมอื 2. หลกั สตู ร/การสอน/มาตรฐานวชิ าชีพ/ความเปน็ เลศิ ทางการ เปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษท่ี 21 อาชีวศึกษา (Excellent Center) 2. นานวตั กรรมและเทคโนโลยีทท่ี นั สมยั มาใช้ในการจัดการศึกษาของ 3. พฒั นาครแู ละผ้เู รยี น ในยุคใหม่ (ศตวรรษท่ี 21) อาชวี ศกึ ษา 4. สง่ เสรมิ สนบั สนนุ สิง่ ประดษิ ฐ์ นวัตกรรม 3. ขับเคล่อื นศนู ยค์ วามเป็นเลิศทางการอาชวี ศึกษา (Excellent Center) 5 .สง่ เสรมิ การการบริหารวิชาการแบบมสี ่วนรว่ ม เพอ่ื พฒั นา 4. การจัดสรรและการกระจายทรพั ยากรใหท้ ว่ั ถึงทกุ กล่มุ เป้าหมาย คุณภาพผเู้ รยี น สามรปู แบบกลยทุ ธ์ คือ กลยทุ ธ์เชิงรุก (SO 5. สรา้ งขวญั กาลังใจและสนบั สนนุ ครูอยา่ งต่อเนื่อง 6. สนับสนุนระบบ Online ภายใต้สถานการณ์ Covid-19 Strategy) กลยุทธ์เชิงแกไ้ ข (WO Strategy) และ กลยุทธป์ อ้ งกนั 7. การนากรอบคณุ วุฒิแหง่ ชาติ National Qualifications Framework (NQF) และกรอบคุณวฒุ ิอ้างอิงอาเซยี น ASEAN Qualification (ST Strategy) Reference Framework (AQRF) สูก่ ารปฏบิ ตั ิ เปน็ การผลติ และการ พัฒนากาลงั คนเพอ่ื การพัฒนาประเทศ 6. สนบั สนุนระบบ Online ภายใตส้ ถานการณ์ Covid-19 8. สร้างฐานขอ้ มลู /คลังความรู้ ระบบติดตาม และรายงานการขับเคลื่อน 7. พฒั นาครดู ้านการสอนและศกั ยภาพงานหนา้ ทพี่ ิเศษ นโยบายการจดั การศึกษาของกระทรวงศกึ ษาธิการ 8. สง่ เสรมิ ผเู้ ชยี่ วชาญ/ผู้ทรงคุณวฒุ ิคืนถิ่น (สมองไหล) 9. สร้างฐานขอ้ มูล/คลังความรู้ ระบบติดตาม และรายงานการ ขบั เคล่อื นนโยบายการจดั การศกึ ษาของสานักงานคณะกรรมการ การอาชีวศกึ ษา วทิ ยาลัย/ผ้บู ริหาร - คลงั ความรู้ ครูอาชีวศึกษา - ระบบตดิ ตาม 1. เสริมแรงบวกพฒั นาครูดา้ นการสอน 1. ความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง 2. สนบั สนุนงบประมาณโครงการผลิตสื่อฯ 2. มแี รงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิของตนเองและผเู้ รยี น 3. พัฒนาครทู ุกด้านและต่อเนอ่ื ง 3. การเรยี นรู้จากการปฏิบัติงานสอน/หนา้ ทพ่ี ิเศษ 4. สนบั สนนุ ผ้ทู รงคณุ วฒุ คิ นื ถิ่น (สมองไหล) 4. เรยี นรภู้ าษาอังกฤษ/การใชด้ ิจทิ ัล 5. คลงั ความร/ู้ ระบบติดตามผล สถานประกอบการ ชุมชน คุณภาพสถานศึกษา ครูพ่ีเลยี้ ง/เพอ่ื นครู 1. สถานประกอบการเปน็ ฐานในการเรยี น คณุ ภาพครู-ผเู้ รยี น 1. รว่ มดว้ ยชว่ ยกนั รว่ มมอื ร่วมใจ 2. เปน็ ผ้เู ชีย่ วชาญ/ครฝู ึกรว่ มสอน 2. ใหค้ าปรึกษา 3. เปน็ พี่เลีย้ ง/พฒั นาหลักสตู ร/พัฒนาผูเ้ รยี น 3. ระดมสมอง แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ 4. สรา้ งผปู้ ระกอบการขนาดย่อม 4. ความเป็นกัลยาณมติ ร ชว่ ยแก้ไขปัญหา ชุมชนแหง่ การเรียนรู้ การสร้างสรรค์ผลงาน (PLC) วทิ ยฐานะ ตลาดนดั ทางวชิ าการ SOWOST Model เรอื อากาศโทสมพร ปานดา ตาแหนง่ ทป่ี รึกษาดา้ นมาตรฐานอาชีวศกึ ษาชา่ งอตุ สาหกรรม สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
นโยบายของกระทรวงศึกษาธกิ าร 5 1. การปรับปรงุ หลักสตู รและกระบวนการเรียนรู้ให้ทนั สมัย และทันการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษท่ี 21 โดยมุง่ พัฒนาผเู้ รียนทุกระดบั การศึกษาใหม้ ีความรู้ ทักษะและคณุ ลกั ษณะ ทเ่ี หมาะสมกับบริบทสงั คมไทย 2. นานวัตกรรมและเทคโนโลยีท่ีทันสมัยมาใช้ในการจัดการศึกษาของอาชีวศึกษา สร้าง “TRUST” หรือ “ความเชือ่ มนั่ ไว้วางใจ” ใหก้ บั สงั คม โดยเฉพาะอย่างย่งิ เด็กและผู้ปกครอง โดยทุกหน่วยงานสามารถที่จะเป็น หลัก หรือเปน็ ทพ่ี งึ่ ได้ T (Transparency) หมายถึง ความโปร่งใส R (Responsibility) หมายถึง ความรับผดิ ชอบ U (Unity) หมายถึง ความเปน็ อันหนงึ่ อนั เดียว S (Student-Centricity) หมายถึง ผู้เรยี นเป็นเปา้ หมายแหง่ การพฒั นา T (Technology) หมายถงึ เทคโนโลยี 3. ขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) สนับสนุนการดาเนินงานของศูนย์ ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) ตามความเป็นเลิศของแต่ละสถานศึกษาและตาม บริบทของพน้ื ที่ สอดคล้องกับความต้องการของประเทศท้ังในปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนมีการจัดการเรียน การสอนดว้ ยเคร่อื งมอื ท่ีทันสมยั สอดคล้องกับเทคโนโลยีปัจจบุ นั 4. การจัดสรรและการกระจายทรัพยากรให้ทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย การจัดสรรและการกระจายทรัพยากรให้ ทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการระดมทรัพยากรทางการศึกษาจากความร่วมมือทุกภาคส่วน เพ่ือให้การ จัดสรรทรัพยากรทางการศึกษามีความเป็นธรรมและสร้างโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายได้เข้าถึงการศึกษาที่มี คุณภาพทัดเทียมกลุ่มอ่ืน ๆ กระจายทรัพยากรท้ังบุคลากรทางการศึกษา งบประมาณและสื่อเทคโนโลยีได้ อยา่ งท่ัวถึง 5. สร้างขวัญกาลังใจและสนับสนุนครูอย่างต่อเนื่อง การศึกษาเพ่ืออาชีพและสร้างขีดความสามารถในการ แข่งขนั ของประเทศ เพื่อให้ผู้จบการศึกษาระดับปริญญาและอาชีวศึกษามีอาชีพและรายได้ท่ีเหมาะสมกับการ ดารงชพี และคุณภาพชวี ิตท่ดี ี มีสว่ นช่วยเพม่ิ ขดี ความสามารถในการแข่งขันในเวทโี ลกได้ 6. สนับสนุนระบบ Online ภายใต้สถานการณ์ Covid-19 การปฏิรูปการเรียนรู้ด้วยดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์ม การเรียนรู้ด้วยดิจิทัลแห่งชาติ (NDLP) และการส่งเสริมการฝึกทักษะดิจิทัลในชีวิตประจาวัน เพื่อให้มี หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรดู้ ้วยดิจทิ ลั แหง่ ชาติ ทีส่ ามารถนาไปใชใ้ นกระบวนการจัดการ เรยี นรทู้ ี่ทนั สมัย และเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้อย่างกว้างขวางผ่านระบบออนไลน์ และการนาฐานข้อมูลกลางทาง การศึกษา มาใชป้ ระโยชน์ในการพัฒนาประสทิ ธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษา 7. การนากรอบคุณวุฒิแห่งชาติ National Qualifications Framework (NQF) และกรอบคุณวุฒิอ้างอิง อาเซียน ASEAN Qualification Reference Framework (AQRF) สู่การปฏิบัติ เป็นการผลิตและการพัฒนา
6 กาลังคนเพ่ือการพัฒนาประเทศ โดยใช้กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ เช่ือมโยงระบบการศึกษาและการอาชีพ โดยใช้ กลไกการเทียบโอนประสบการณ์ดว้ ยธนาคารหนว่ ยกติ และการจดั ทามาตรฐานอาชีพในสาขาที่สามารถอ้างอิง อาเซยี นได้ 8. สร้างฐานข้อมูล/คลังความรู้ ระบบติดตาม และรายงานการขับเคล่ือนนโยบายการจัดการศึกษาของ กระทรวงศึกษาธิการ ให้มีคณะกรรมการติดตาม ประเมินผล และรายงานการขับเคลื่อนนโยบายการจัด การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ สู่การปฏิบัติระดับพื้นที่ ทาหน้าท่ีตรวจราชการ ติดตาม ประเมินผลใน ระดับนโยบาย และจัดทารายงานเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธิการ ทราบตามลาดบั นโยบายของสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 1. การจดั การศึกษาระบบทวิภาคี/ความร่วมมือ การจดั การศึกษาวชิ าชีพทเ่ี กดิ จากขอ้ ตกลงระหวา่ งงสถานศกึ ษา หรือสถาบนั กบั สถานประกอบการ 1.1 การจัดหลักสตู ร 1.2 การจดั การเรียนการสอน 1.3 การจดั การฝกึ อาชพี 1.4 การวดั และการประเมินผล 2. หลกั สตู ร/การสอน/มาตรฐานวิชาชีพ/ความเป็นเลิศทางการอาชวี ศกึ ษา (Excellent Center) ขับเคล่ือนศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) สนับสนุนการดาเนินงานของศูนย์ ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) ตามความเป็นเลิศของแต่ละสถานศึกษาและตาม บรบิ ทของพืน้ ที่ สอดคล้องกับความต้องการของประเทศท้ังในปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนมีการจัดการเรียน การสอนดว้ ยเครอ่ื งมอื ทท่ี ันสมัย สอดคลอ้ งกับเทคโนโลยปี จั จุบนั 3. พฒั นาครูและผเู้ รียน ในยุคใหม่ (ศตวรรษท่ี 21) การปรับปรุงหลักสตู รและกระบวนการเรียนรู้ให้ทันสมัย และทันการเปล่ียนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งพัฒนาผเู้ รยี นทกุ ระดบั การศึกษาใหม้ ีความรู้ ทักษะและคุณลักษณะ ทเี่ หมาะสมกบั บริบทสังคมไทย 4. สง่ เสริม สนบั สนุนสงิ่ ประดษิ ฐ์ นวัตกรรม เพอื่ ใหผ้ ู้เรียน 4.1 ใช้เวลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ 4.2 เพิ่มคณุ คา่ ของวสั ดุ 4.3 สร้างความแปลกใหม่ท่ีมีอยู่เดมิ 4.4 อนุรกั ษศ์ ลิ ปวฒั นธรรมไทย 4.5 เพม่ิ รายไดใ้ ห้แก่ตนเองและครอบครัว 4.6 เกิดความภมู ิใจในตนเอง
7 4.7 มีความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ผลงานใหมๆ่ 4.8 พฒั นาผู้เรยี นทางดา้ นทักษะ บูรณาการรายวิชา 5. ส่งเสริมการการบริหารวิชาการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน สามรูปแบบกลยุทธ์ คือ กลยุทธ์ เชิงรุก (SO Strategy) กลยุทธเ์ ชงิ แก้ไข (WO Strategy) และ กลยุทธ์ปอ้ งกัน (ST Strategy) 5.1 กลยุทธ์เชิงรุก (SO Strategy) ได้มาจากการนาข้อมูลการประเมินสภาพแวดล้อมท่ีเป็นจุดแข็งและ โอกาสมาพจิ ารณาร่วมกนั เพ่อื ทีจ่ ะนามากาหนดเป็นยุทธ์ศาสตรห์ รอื กลยุทธใ์ นเชิงรุก 5.2 กลยุทธ์เชิงป้องกัน (ST Strategy)ได้มาจากการนาข้อมูลการประเมินสภาพแวดล้อมท่ีเป็นจุดแข็งและ ข้อจากัดมาพิจารณาร่วมกัน เพื่อท่ีจะนามากาหนดเป็นยุทธ์ศาสตร์หรือกลยุทธ์ในเชิงป้องกัน ทั้งน้ีเน่ืองจาก องค์การมีจุดแข็ง ขณะเดียวกันองค์การก็เจอกับสภาพแวดล้อมที่เป็นข้อจากัดจากภายนอกท่ีองค์การควบคุม ไมไ่ ด้ แต่องคก์ ารสามารถใชจ้ ุดแขง็ ท่มี ีอยู่ในการป้องกันข้อจากัดท่ีมาจากภายนอกได้ 5.3 กลยทุ ธเ์ ชิงแก้ไข (WO Strategy) ได้มาจากการนาข้อมูลการประเมินสภาพแวดล้อมท่ีเป็นจุดอ่อนและ โอกาสมาพิจารณาร่วมกนั เพอื่ ทจี่ ะนามากาหนดเป็นยุทธ์ศาสตรห์ รือกลยทุ ธ์ในเชงิ แกไ้ ข ทั้งนี้เน่ืองจากองค์การ มีโอกาสที่จะนาแนวคดิ หรอื วธิ ใี หม่ ๆ มาใชใ้ นการแก้ไขจุดออ่ นทีอ่ งค์การมีอยไู่ ด้ 6. สนบั สนนุ ระบบ Online ภายใตส้ ถานการณ์ Covid-19 การปฏิรูปการเรียนรู้ด้วยดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วยดิจิทัลแห่งชาติ (NDLP) และการส่งเสริม การฝึกทักษะดิจิทัลในชีวิตประจาวัน เพ่ือให้มีหน่วยงานรับผิดชอบพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วยดิจิทัล แห่งชาติ ที่สามารถนาไปใช้ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ท่ีทันสมัย และเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้อย่างกว้างขวาง ผ่านระบบออนไลน์ และการนาฐานข้อมูลกลางทางการศึกษา มาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิภาพการ บรหิ ารและการจดั การศึกษา 7. พัฒนาครดู ้านการสอนและศกั ยภาพงานหนา้ ที่พเิ ศษ พัฒนาให ครูมีทักษะทางเทคโนโลยีและการแสวงหาความรู ดวยตนเองอีกทั้งยังต องพัฒนาให ครูมีความรู รอบตัวความรูในวิชาที่สอน และความรูดานการวิจัยอยางแทจริง นอกจากน้ียังตองพัฒนาครูใหมีความรูดาน การถายทอดความรูจิตวทิ ยาการวัดและประเมนิ ผลรวมถงึ จะตองพฒั นาครูใหสามารถจัดบรรยากาศการเรียนรู ท่ีนาสนใจและทาใหผูเรียนเกิดความเขาใจในเนอื้ หาวชิ าท่เี รียน 8. ส่งเสริมผู้เชยี่ วชาญ/ผทู้ รงวุฒิคืนถ่นิ (สมองไหล) การพัฒนาครู สนบั สนุน ผู้ทรงคณุ วุฒคิ ืนถิ่น (สมองไหล) ยงั ตองไดรบั การสนบั สนนุ จากผูรบั ผิดชอบ และ หนวยงานท่เี ก่ยี วของ โดยจะตองมีกระบวนการสรรหาผูมคี วามสามารถเปนเลิศเพ่ือมาเรยี นครูมีงบประมาณสงู ในการจัดโครงการพัฒนาครูมีการพัฒนาสถาบนั ผลติ ครมู ีการปฏิรูปหลกั สูตรการผลติ ครูใหทนั สมัย มีการแบ่ง เขตพนื้ ทใี่ นการพฒั นาครูกฎหมายบังคบั ใชกบั ครูในพื้นที่ของตนและมรี ะบบการรกั ษา 9. สร้างฐานข้อมูล/คลังความรู้ ระบบติดตาม และรายงานการขับเคล่ือนนโยบายการจัดการศึกษาของ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้มีคณะกรรมการติดตาม ประเมินผล และรายงานการขับเคลื่อน นโยบายการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ สู่การปฏิบัติระดับพ้ืนที่ ทาหน้าท่ีตรวจราชการ ติดตาม
8 ประเมินผลในระดับนโยบาย และจัดทารายงานเสนอต่อเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทราบ ตามลาดบั วิทยาลัย/ผู้บรหิ าร 1. เสรมิ แรงบวกพัฒนาครดู า้ นการสอน ยกยองครูทมี ีผลงานดเี ดนใหคงอยูในวชิ าชีพตลอดชวี ิต โดยพัฒนาระบบการใหรางวัล หรือคาตอบแทน ทั้ง แบบรายบุคคล และรายกลุมการพัฒนาผูบริหาร นอกจากนี้ควรมีการใหทุนศึกษาตอ มีตออายุใบประกอบ วชิ าชีพครูและการตรวจสอบคุณภาพครทู กุ ระยะ 2. สนบั สนุนงบประมาณโครงการผลิตสอ่ื ฯ ความสามารถในการแสวงหาทุน แหล่งทุน และการบริหารงบประมาณของสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ การประสานงานกับหน่วยงานบุคคล องค์การ ศิษย์เก่า ชุมชน และการดาเนินกิจกรรมเพ่ือการศึกษาจะเป็น แหล่งสาคัญของเงินทุน ภารกิจหลักของสถานศึกษา และจะต้องจัดให้มีระบบการติดตามงบประมาณ ตรวจสอบการใชง้ บประมาณดา้ นตา่ งๆของสถานศึกษาให้มปี ระสทิ ธภิ าพ 3. พฒั นาครูทกุ ดา้ นและต่อเนื่อง จะต องพัฒนาให ครูมีทักษะทางเทคโนโลยีและการแสวงหาความรู ดวยตนเองอีกทั้งยังต องพัฒนาให ครูมี ความรูรอบตัวความรูในวชิ าทีส่ อน และความรูดานการวิจัยอยางแทจรงิ นอกจากน้ียังตองพัฒนาครูใหมีความรู ดานการถายทอดความรูจิตวิทยาการวัดและประเมินผลรวมถึงจะตองพัฒนาครูใหสามารถจัดบรรยากาศการ เรียนรูที่นาสนใจและทาใหผูเรียนเกิดความเขาใจในเน้ือหาวิชาที่เรียน และสามารถดึงความสามารถและ กระตนุ้ ใหผู้เรียนแสดงความคิดเห็น ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงความรูนั้นไปประยุกตใชในชีวิตประจาวันไดยิ่ง ไปกวานนั้ ยงั ตองพัฒนาครใู หสามารถพฒั นาผูเรียนใหมีความใฝรูกาวทันเทคโนโลยีและใชภาษาในการส่ือสาร ไดและมมี มุ มองทก่ี วางและวิจารณญาณทจี่ ะแยกแยะสง่ิ ถกู และส่ิงผิด อีกทั้งยังตองสามารถนาความรูไปพัฒนา และแกปญหาในสังคมได 4. สนับสนนุ ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิคนื ถิน่ (สมองไหล) การพฒั นาครู สนับสนนุ ผูท้ รงคณุ วุฒคิ ืนถ่นิ (สมองไหล) ยังตองไดรับการสนับสนุนจากผูรับผิดชอบ และ หนวยงานทเี่ ก่ียวของ โดยจะตองมกี ระบวนการสรรหาผูมีความสามารถเปนเลศิ เพื่อมาเรียนครูมีงบประมาณสูง ในการจัดโครงการพัฒนาครูมีการพัฒนาสถาบันผลิตครูมีการปฏิรูปหลักสูตรการผลิตครูใหทันสมัย มีการแบ่ง เขตพืน้ ที่ในการพัฒนาครูกฎหมายบังคับใชกบั ครูในพน้ื ทขี่ องตนและมีระบบการรักษา 5. คลงั ความร/ู้ ระบบติดตามผล
9 5.1 ดาเนินงานในลักษณะ PMA (Performance and Management Audit) คือ การตรวจสอบ แล ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานและการบริหารจดั การ ดว้ ยวิธีการทางานร่วมกันระหว่างผู้ประเมินและผู้ถูกประเมิน อยา่ งสรา้ งสรรค์ และเชงิ เปน็ มติ รมิใชก่ ารจ้องจับผิด (Positive Mental Attitude – Friendly Audit) 5.2 การตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลงาน เน้นการตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบัตงิ าน เพื่อการปรับปรุงงานอยา่ งต่อเนอื่ ง ดว้ ยการติดตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานตามภารกิจของ วทิ ยาลัยโดยใชก้ ระบวนการประเมนิ แบบมีสว่ นร่วม และมกี ารรบั ฟังความคิดเหน็ อย่างกว้างขวางจากผู้มีสว่ น สัมพนั ธเ์ กยี่ วขอ้ งกบั การปฏบิ ตั ิภารกจิ ของวทิ ยาลัย 5.3 ระบบติดตามการเรยี นการสอน เพื่อให้ครูสามารถเช็คเวลาเรียนของนักเรียนในชวั่ โมงสอน นกั เรยี น สามารถรายงานการปฏิบัติหนา้ ท่กี ารสอนของครู และผูป้ กครองสามารถติดตามการขาด/ลาของนักเรียนใน ปกครองของตวั เอง ครอู าชีวศกึ ษา 1. ความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง รู้จกั ประพฤตปิ ฏิบัติให้เหมาะสม ละเว้นความช่ัว รู้จักประมาณในการใช้จ่ายและมีความประหยัด สามารถ จัดหาเคร่ืองอุปโภคบริโภคสาหรับตนเองได้อย่างเหมาะสม ถูกกาลเทศะในแต่ละวัย สานึกในบทบาทและ หนา้ ท่ีของตน หมัน่ ใฝห่ าความรู้และฝึกฝนตนเองให้มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ จนประสบความสาเร็จในการ ดารงชีวิต ยอมรับผลการกระทาของตนเองทั้งที่เป็นผลดีและผลเสีย ไม่ปัดความรับผิดชอบในการกระทาของ ตนเองให้แก่คนอ่ืน ไตร่ตรองให้รอบคอบว่าส่ิงท่ีทาลงไปนั้นจะเกิดผลเสียหายขึ้นหรือไม่ ปฏิบัติแต่ส่ิงที่ทาให้ เกิดผลดี และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขเพ่ือให้ได้ผลดีย่ิงข้ึน รู้บทบาทของตนเองท่ีเป็นส่วนหนึ่งของสังคม จะตอ้ งดารงตนใหอ้ ยใู่ นฐานะที่สามารถชว่ ยตนเองได้ รู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก ยอมรับผลการกระทาของตน ท้ังที่ เป็นผลดี และผลเสีย 2. มีแรงจงู ใจใฝ่สมั ฤทธ์ขิ องตนเองและผู้เรยี น รูปแบบการจัดการเรียนการสอนของอาชีวศึกษาจะเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ใช้วิธีการจัดการความรู้ (Knowledge Management) กระบวนการสร้างคณุ ค่า (Value Creation Process) และสรา้ งวัฒนธรรมแห่ง องค์กรแหง่ การเรยี นรู้ (Learning Organization) โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาและการบริการ วิชาการเพ่ือการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนการสอนท่ีมุ่งให้มีการพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความรู้ความเข้าใจใน บทเรียนสูงขึ้น มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อมีปัญหาในการเรียนการสอนจึงมุ่งที่จะค้นคว้าหาต้นตอ ปัญหา เพอื่ หาทางแกไ้ ขปัญหา บูรณาการให้มกี ารปรบั วธิ ีการสอนหลายวิธี ซง่ึ ส่งผลต่อสัมฤทธิ์ผลของการเรียน ของผู้เรียนใหด้ ยี ิง่ ขึน้
10 ครูมอื อาชีพต้องสรา้ งแรงจูงใจในการเรียนรู้มากกว่าแค่การถ่ายทอดความรู้จากตาราเป็นหลักสถานการณ์มัก สร้างให้ผู้เรียนรู้จักแก้ปัญหา เพื่อแข่งขันกับคนอื่นและเอาชนะใจตนเอง การสร้างแรงขับภายในจะดีกว่าแค่ การส่งเสริมให้ผู้เรียนท่องจา เนื้อหาสาระ เพราะเป็นการสร้างคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนที่คงทนมากกว่าการ จดจาเพ่ือสอบ ความกระหายอยากที่จะรู้จะเป็นแรงกระตุ้นให้นักเรียนสร้างเครื่องมือและวิธีการสืบเสาะหา คาตอบดว้ ยตนเอง ซ่งึ จะมคี ุณค่าและความหมายในการเรยี นเพอื่ รู้การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 มุง่ สร้างแรงจูงใจ ใฝ่เรียนรู้แก่ผู้เรียน พร้อมๆ กับการเสริมสร้างทักษะที่ จาเป็นต่อการพัฒนาตนเอง โดยนัยท่ีว่าการสร้าง แรงจงู ใจในการเรยี นรูช้ ว่ ยให้ผู้เรียนเกิดความกระหายอยากท่ีจะมีพลังทางการใฝ่รู้ ผู้เรียนจะมีความรู้สึกอิสระ ท่ีจะนาพาตนเองสู่การค้นคว้าหาคาตอบ ซึ่งการสร้างแรงจูงใจในการเรียนจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการนาตนเอง (Autonomous Learner) ครูมืออาชีพในศตวรรษที่ 21 จึงมักเลือกการให้เครื่องมือทางการเรียนรู้และเสริม แรงจงู ใจแก่ผเู้ รียนมากกวา่ แค่การส่งผา่ นและถา่ ยทอดเนอ้ื หาสาระวิชา 3. การเรียนรู้จากการปฏิบตั ิงานสอน/หน้าท่ีพเิ ศษ การจัดการเรียนการสอนเป็นภาระงานของครูท่ีต้องรับผิดชอบให้การจัดการศึกษาเป็นไปตามเจตนารมณ์ ของหลักสูตรสถานศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีท้ังความรู้ ความคิด ความสามารถ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อพัฒนาคนให้มีความสมดุล โดยยึดหลักผู้เรียนสาคัญท่ีสุด ทุกคนมี ความสามารถในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความธรรมชาติและเต็มศักยภาพ ตาม พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 หมวด 4 เรื่อง แนวการจัดการศึกษามาตรา 24 ข้อ 4 แสดงให้เห็นถึงความสาคัญของคุณธรรม จริยธรรม โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ ให้สถานศึกษาและ หน่วยงานที่เก่ยี วขอ้ งดาเนนิ การ คือ การจัดการเรยี นการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ดา้ นต่างๆ อย่างสมดุล กัน รวมท้ังให้มีการปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยมท่ีดีงาม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นคนเก่ง มีสมรรถภาพ ในการดาเนินชีวิต มีความสุขบนพ้ืนฐานความเป็นไทย เป็นผู้ท่ีมีความสามารถพึ่งตนเองได้ ครูผู้สอนนอกจาก จะมีหน้าท่จี ดั การเรยี นรู้ทีห่ ลากหลายเพอ่ื ใหส้ อดคล้องกับสภาพผเู้ รียนแลว้ ยงั ต้องดูแลผเู้ รียนตามบทบาทครูท่ี ปรึกษา รวมท้ังรับผิดชอบงานพิเศษอื่นๆ อีกด้วย ท้ังน้ีเพื่อให้สถานศึกษาดาเนินกิจกรรมการจัดการศึกษา เปน็ ไปตามมาตรฐานการศึกษาและการประกันคุณภาพ 4. เรยี นรู้ภาษาองั กฤษ/การใช้ดจิ ทิ ัล 4.1 ทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล หรือ Digital literacy เป็นทักษะในการนาท่ีรู้จักการใช้ เคร่ืองมือเทคโนโลยีสื่อสารตา่ งๆใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการให้มีการใช้เคร่ืองมือทางเทคโนโลยีเข้ามาใช้ใน การเรียนการสอนเพ่ือให้เกิดประสิทธิภาพในการการเรียนการสอน ผู้เรียนจึงได้ใช้เคร่ืองมือทางเทคโนโลยี ต่างๆอยู่เป็นประจา เรียกไดว้ ่า การใชเ้ ทคโนโลยีเปน็ สว่ นหนึง่ ในชวี ติ ประจาวนั ของนักเรยี นไปเลย 4.2 ทักษะการเรียนรู้ภาษาใหม่ การเรียนรู้มากกว่าหน่ึงภาษาทาให้ประสิทธิภาพความจาท่ีดีข้ึนและมี ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละมคี วามยืดหย่นุ ทางสมองมากกว่า คนทพ่ี ดู ภาษาเดยี ว ทกั ษะการเรยี นภาษาใหม่นั้น ทา ใหป้ ระสทิ ธิภาพของสมองน้ันถือเปน็ ศักยภาพสาคญั อนั ดับต้นๆของยุคแห่งโลกอนาคต 4.3 ทกั ษะการส่อื สาร เป็นสิง่ ที่อยู่ในชีวติ ประจาวันของคนทกุ คนแต่การส่ือสารท่ีใช้ภาษาอื่นให้กับคนที่พูด กนั ละภาษาเขา้ ใจนส้ี ิ ท่ีต้องมีการฝึกฝน ในปัจจุบันการสื่อสารเกิดขึ้นทุกท่ีทุกเวลาเพราะมีสื่อโซเชียลซ่ึงมีอิทธิ
11 ผลและบทบาทในสังคมมากท้ังในสื่อออนไลน์และออฟไลน์ เพราะฉะน้ัน ทักษะการสื่อสารโดยใช้การคิด วิเคราะห์ผ่านกระบวนการต่างๆ ทั้งต้องแปลงภาษา หรือการสื่อสารผ่านคนต่างวัฒนธรรม ทาให้ข้อมูลหรือ สารท่ีออกมานนั้ จะดนู ่าสนใจ และมหี ลากหลายมิติ สถานประกอบการ/ชุมชน 1. สถานประกอบการเปน็ ฐานในการเรยี น สถานศกึ ษาใชห้ ลกั สูตรฐานสมรรถนะที่สอดคล้องกบั ความต้องการของผเู้ รียน ชมุ ชน สถานประกอบการ ตลาดแรงงาน มีการปรับปรุงรายวิชาเดิม หรือกาหนดรายวิชาใหม่ หรือกลุ่มวิชาเพิ่มเติมให้ทันต่อการ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการของตลาดแรงงาน โดยความร่วมมือกับสถานประกอบการหรือ หน่วยงานทเ่ี กีย่ วข้อง โดยให้สถานประกอบการเป็นฐาน (Platform) ในการเรียนการสอน 2. เป็นผเู้ ช่ียวชาญ/ครูฝึกร่วมสอน มาตรฐานอาชพี ครูฝกึ ในสถานประกอบการ โดย สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมกับ UNESCO-UNEVOC หรือ ศูนย์ระหว่างประเทศด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และ วัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ ยกระดับมาตรฐานอาชีพครูฝึกในสถานประกอบการที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) จัดทาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ และคนในอาชีพ เป็นตัวอย่างนวัตกรรมด้านการบูรณาการ สมรรถนะและคุณวุฒิใหม่ ซ่ึงผลงานชิ้นดังกล่าว มีการนามาตรฐานอาชีพครูฝึกในสถานประกอบการ ซ่ึงทา หน้าท่ีสอนงาน ถ่ายทอดความรู้ Upskill และ Reskill กาลังคนสาขาต่างๆ ได้อย่างมีมาตรฐานเทียบเท่า มาตรฐานสากล 3. เปน็ พ่ีเลี้ยง/พัฒนาหลักสูตร/พฒั นาผเู้ รียน การจัดการศึกษาวิชาชีพท่ีเกิดจากข้อตกลงระหว่างสถานศึกษาอาชวี ศกึ ษาหรือสถาบันกับสถานประกอบการ รฐั วสิ าหกิจหรอื หนว่ ยงานของรัฐ ในเรื่องการจดั หลักสตู ร การจดั การเรียนการสอน การจัดการฝึกอาชพี การ วดั และประเมินผล โดยผ้เู รียนใชเ้ วลาส่วนหน่งึ ในสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรอื สถาบัน และเรียนภาคปฏบิ ตั ใิ น สถานประกอบการ รฐั วิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ ใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะในการจัดการเรียนการสอนท่ี เนน้ ผู้เรยี นเป็นสาคญั 4. สรา้ งผปู้ ระกอบการขนาดย่อม ผ้ปู ระกอบการ (Entrepreneur) หมายถงึ ผู้ที่คดิ รเิ ร่มิ ดาเนนิ ธรุ กิจขึ้นมาเป็นของตนเองมีการวางแผนการ ดาเนินงาน และดาเนินธุรกิจทุกด้านด้วยตนเอง โดยยอมรับความเส่ียงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพื่อมุ่งหวัง ผลกาไรทเี่ กดิ จากผลการดาเนนิ งานของธุรกิจขนาดย่อมของตนเอง คุณลกั ษณะพ้ืนฐานของผู้ประกอบการธุรกจิ ขนาดย่อม (Characteristic) มดี งั นี้
12 1. เน้นการใช้นวัตกรรม (Innovation) เปน็ การนาเอาแนวความคิดใหม่หรือการนาประโยชน์จากสิ่งท่ีมีอยู่ แต่เดิมมาใช้ในรูปแบบใหม่ เพ่ือทาให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือการทาในสิ่งที่แตกต่างจากคนอ่ืน ซึ่ง สามารถแบ่งประเภทของนวตั กรรมไดด้ ังนี้ 1.1 นวตั กรรมกระบวนการ (Process Innovation) 1.2 นวตั กรรมผลิตภัณฑ์ (Product Innovation) 2. มคี วามคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ (Creativity) 3. เนน้ การพัฒนาทกั ษะความชานาญ (Skill Based) 4. มศี ักยภาพเชิงพาณิชย์ (High Potential) คณุ สมบัตขิ องผู้ประกอบการ 1. มีความม่งุ ม่ันทจี่ ะประสบความสาเรจ็ (Willingness to Succeed) 2. มคี วามมัน่ ใจในตนเอง (Self-Confidence) 3. มแี นวคิดเก่ียวกบั ธุรกิจของตนเองอย่างชัดเจน (A Clear Business Idea) 4. มีแผนงานท่เี ป็นระบบ (The Business Plan) 5. มคี วามสามารถบริหารการเงิน (Exact Control of Finances) 6. มคี วามสามารถทางการตลาด (Targeted Marketing) 7. มคี วามสามารถในการแข่งขันได้ (A Step Ahead of The Competition) 8. มีแหลง่ สนบั สนุนทดี่ ี (Management Support) 9. มีทกั ษะประสานงาน (Cooperation) 10. มกี ารจดั องค์กรทเี่ หมาะสม (Clear Company Structure) ครพู ่เี ล้ียง/เพ่ือนครู 1. ร่วมด้วยชว่ ยกนั ร่วมมือร่วมใจ 1.1 บทบาทของผูส้ อื่ สารทด่ี ี (Communicator) ครูพี่เล้ียงจะต้องเป็นผทู้ ี่ผา่ นการฝึกฝนในดา้ นทักษะ การส่ือสาร การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพ่ือส่ือสารกับ เพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ 1.2 บทบาทของผู้อานวยความสะดวก (Facilitator) ในการเรียนรู้และฝึกฝนอบรม เพ่ือช่วยเหลือและ เพ่ือใหเ้ กดิ การเรียนรูอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ 1.3 บทบาทของผู้ประเมนิ (Evaluator) ครพู ี่เลีย้ งควรมีทกั ษะในการสังเกตการณ์และให้ผลยอ้ นกลับ (feedback) ได้อย่างถูกต้อง โดยการให้คาแนะนาเพื่อปรับปรุงแก้ไข มีความกล้าและความรับผิดชอบต่อการ ประเมนิ ผลการปฏิบตั ิ พฒั นาขีดความสามารถไดอ้ ย่างเต็มศักยภาพ
13 1.4 บทบาทของผสู้ นบั สนนุ (Advocate) ครูพเี่ ลยี้ งควรสรา้ งความเช่อื ม่ันและศรทั ธาในการรบั ราชการ ครโู ดยเป็นผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายของหนว่ ยงาน บคุ ลากรในหนว่ ยงาน วิธีการปฏิบัติงานตลอดจนแนวทาง ในการทางาน สามารถปรับตวั และวางแผนการปฏิบตั งิ านได้อยา่ งเหมาะสม 2. ใหค้ าปรึกษา 2.1 ให้คาแนะนาและสนับสนนุ วสั ดุในการทาสือ่ การสอนเท่าที่จะสนบั สนุนได้ 2.2 ให้คาแนะนา ชีแ้ จงในข้อควรแก้ไข พร้อมเสนอแนะแนวทางแกไ้ ข 2.3 ให้คาปรึกษาและแนะแนวทางแก้ปัญหาในการปฏบิ ัติงานเม่ือเกดิ ปัญหา 2.4 บทบาททปี่ รกึ ษา (Counselor) ครพู ี่เล้ียงจะเป็นผูท้ ีค่ อยอยู่เคยี งขา้ ง เป็นหว่ งเป็นใย การเอาใจใส่ ดูแล ให้คาปรึกษา และให้คาแนะนา รวมทง้ั เปน็ ผู้ใหข้ ้อมูลที่จะเปน็ ประโยชนต์ ่อการปฏบิ ตั หิ น้าที่ 3. ระดมสมอง แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ดา้ นการเรยี นการสอน 3.1 ผู้เป็นแหล่งข้อมูล (Information Source) ครูพี่เล้ียงควรมีความรู้เก่ียวกับทักษะในการทางาน ในข้อ กฎหมาย และระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ เป็นอย่างดีมีความฉลาดรอบรู้งานในหน้าที่และมีความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ หรือพัฒนาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง 3.2 บทบาทของครูหรือผู้สอน (Teacher) เป็นผู้ที่ทาหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ท่ีมี อยขู่ องตนเอง โดยมีความสามารถทจี่ ะใชส้ อ่ื และเทคนคิ การสอนอย่างหลากหลาย 4. ความเปน็ กัลยาณมิตร ชว่ ยแกไ้ ขปัญหา เป็นตัวแบบ หรือแม่แบบท่ีดี (Role Model) ครูพี่เล้ียงควรมีลักษณะของบุคคลต้นแบบท่ีดี มีความเป็นผู้ให้ มากกวา่ การเปน็ ผรู้ บั มที ศั นคติท่ีดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ี คานึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเสมอ มีน้าใจและมี คณุ ธรรมจรยิ ธรรมในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ ช่วยแกไ้ ขปัญหาท่ีเกิดข้ึน ชุมชนแหง่ การเรียนรู้ PLC (PLC) การจดั การเรยี นการสอนท่เี นน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ น้ัน ผสู้ อนจะต้องจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับ ผู้เรียน เพราะผู้เรียนแต่ละคนมีความถนัดและวิธีการเรียนรู้ไม่เหมือนกัน ดังนั้น จะต้องใช้กระบวนการที่ เสริมสรา้ งพลังความสามารถท่มี ีอยู่ในตวั ของผูเ้ รยี นใหเ้ จรญิ เตบิ โตเต็มศักยภาพใหผ้ ู้เรยี นสามารถคิดเป็น พึ่งตนเองไดแ้ ละรู้จกั วิธีการแก้ปัญหาจะเป็นกระบวนการเรียนรู้ท่ีมีพลัง เพื่อเป้าหมายของการจัดการศึกษาให้ เป็นคนดี คนเก่งและมีความสุขสามารถท่ีจะดารงชีวิตอยู่ในโลกยุคโลกาภิวัตน์ได้ความสาคัญของการจัดการ เรียนรู้ที่เน้นผ้เู รยี นเป็นสาคัญน้ัน อยูท่ ่กี ารพฒั นา ผูเ้ รยี นใหม้ คี ณุ ภาพ เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นลงมือปฏิบตั ดิ ้วย ตนเอง ครูมีบทบาทเป็นผู้ดูแล คอยแนะนา ให้คาปรึกษา ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีภายในกลุ่ม ปรับปรุงการ ทางาน ตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน สามารถปรับเปล่ียนพฤติกรรมของตนให้เข้ากับส่ิงแวดล้อม ตา่ ง ๆ ได้ การนาแนวคิดชุมชนการเรียนรูท้ างวิชาชีพเพื่อจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ การพัฒนา
14 แนวทางการส่งเสริมให้ครู มีความรู้ ความเขา้ ใจในการใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อจัดการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญจะต้องประกอบไปด้วยวิธีการพัฒนาและกิจกรรมท่ีหลากหลาย ได้แก่ การสนับสนุน และการเปน็ ผนู้ าร่วม คา่ นิยมและวสิ ยั ทัศนร์ ว่ ม ทีมเรียนรแู้ ละการจดั การความรู้ร่วมกัน การส่งเสรมิ แหล่ง เรียนรู้และเทคโนโลยีสารสนเทศ นอกจากน้ีครูผู้สอนเองจะต้องมีความเข้าใจในเร่ืองของหลักสูตร มาตรฐาน การเรยี นรู้ ตัวชีว้ ัด การออกแบบการเรยี นรู้ การจดั กิจกรรมการเรยี นรูแ้ ละการวดั และประเมินผล ทั้งนี้ในกระบวนการวินิจฉัยข้อบกพร่องของผู้เรียนนั้น จะทาให้เราวิเคราะห์ได้ว่ามาตรฐานการเรียนรู้ที่ ผเู้ รยี นมีปญั หาน้ันอยู่ในระดับพฤติกรรมใด และจะกาหนดแนวทางแก้ปัญหาด้วยเทคนิค วิธีการสอนแบบใดส่ิง หน่ึงที่จะช่วยให้ครูทางานได้อย่างมีประสิทธิผลคือการใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเข้ามาขับเคลื่อน นน่ั เอง ตลาดนัดวิชาการ (PLC) 1. เพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้ทางวิชาการระหว่างผู้เรียน ครู ผู้บริหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางการศึกษา 2. เพือ่ สง่ เสริมให้ผเู้ รยี นได้แสดงความสามารถ และร่วมกันประกวดแข่งขันทักษะทางวิชาการด้านต่าง ๆ ให้มี ศกั ยภาพสงู ขนึ้ สมู่ าตรฐานสากล 3. เพ่ือนาเสนอวิธีการจัดการเรียนการสอนท่ีมีประสิทธิภาพในการส่งเสริมสร้างศักยภาพผู้เรียน 4. เพื่อนาเสนอ นวัตกรรมดีเด่นหรือผลงานคุณภาพของนักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษาและสถานศึกษา เพอื่ การแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ และประชาสัมพันธใ์ หส้ าธารณชนทราบ 5. เพื่อส่งเสริมให้ชุมชน และหน่วยงานทางการศึกษาอื่นๆ ได้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาและนาเสนอ ผลงานทมี่ คี ุณภาพ โดยมีกิจกรรมตา่ ง ๆ ดงั น้ี 5.1 การแข่งขันทักษะทางวชิ าการของผูเ้ รียน 5.2 ตลาดนดั วิชาการ ทกุ สาขาวชิ า 5.3 การประกวดนวัตกรรมครู ผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา 5.4 การนาเสนอนวตั กรรม ครู ผู้บริหารสถานศึกษาและบคุ ลากรทางการศึกษา 5.5 กจิ กรรม Child Show 5.6 คลีนิคครสู ู่การเล่ือนวิทยฐานะ 5.7 การพฒั นาทกั ษะการคิดสู้ห้องเรียน
15 ผลงานทางวิชาการสู่การเลื่อนวทิ ยฐานะ กาหนดประเดน็ และรวบรวมผลงานวิชาการวทิ ยฐานะเชี่ยวชาญ ได้จานวนผลงานท้งั สน้ิ 94 เร่อื ง ผลงานวิชาการ ผบู้ ริหารสถานศึกษา 30 เรือ่ ง ผลงานวชิ าการ ครู 64 เร่อื ง ประเดน็ จากผลงาน ผ้บู รหิ าร ฯ 4 ประเดน็ 1. อาชวี ศกึ ษาระบบทวภิ าคี 2. หลกั สูตร/มาตรฐานวิชาชีพ 3. การพัฒนาผู้เรยี น 4. การบรหิ ารจัดการ ประเดน็ จากผลงานครู 5 ประเด็น 1. อาชีวศกึ ษาระบบทวภิ าคี 2. หลักสตู ร/มาตรฐานวชิ าชีพ 3. การพัฒนาผเู้ รยี น 4. การพฒั นาทกั ษะผเู้ รียนในยคุ ใหม่ (ศตวรรษท่ี 21) 5. สงิ่ ประดิษฐน์ วตั กรรม
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: