Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 2 การสร้างเอกสาร

หน่วยที่ 2 การสร้างเอกสาร

Published by นางนิทรา สร้อยนาก, 2020-03-22 02:10:08

Description: หน่วยที่ 2 การสร้างเอกสาร

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 2 เริ่มสร้างเอกสาร

2 หน่วยท่ี 2 เร่ิมสร้างเอกสาร การ  แผนผงั ความคดิ รวบยอดประจาหน่วยการเรียนรู้ ความรู้เบอื้ งต้น การสร้างเอกสารใหม่ เร่ิมสร้างเอกสาร การจัดหน้าเอกสาร เร่ิมพมิ พ์เอกสาร ส การย่อ-ขยายเอกสาร การบนั ทึกไฟล์เอกสาร ส การกาหนดโฟลเดอร์ทจ่ี ะใช้ในการจัดเกบ็ ไฟล์ การเรียกใช้โฟลเดอร์เอกสารท่บี นั ทึกไว้ การแปลงไฟล์เอกสารรุ่นเก่าให้เป็ น Work 2010 การปิ ดและลบไฟล์เอกสาร

3 หน่วยที่ 2 เริ่มสร้างเอกสาร  สาระสาคญั เม่ือเขา้ สู่โปรแกรมเวิร์ดโปรแกรมจะเตรียมเอกสารให้เราเร่ิมพิมพ์ได้ทันทีโดยจะใช้ เอกสารว่า เอกสาร 1 หรือ Document 1 แต่เราก็ยงั สามารถท่ีจะสร้างข้ึนใหม่อาจจะสร้างแม่แบบที่ โปรแกรมเตรียมให้ไว้ หรือสร้างเป็ นเอกสารเปล่าเพื่อจดั รูปแบบเอกสารท้งั หมด และเมื่อเราพิมพ์ ขอ้ มูลลงในเอกสารน้นั ๆ ไดแ้ ลว้ เรากส็ ามารถบนั ทึกเกบ็ เปิ ดใช้ หรือลบเอกสารน้นั ได้  สาระการเรียนรู้ 1. การสร้างเอกสารใหม่ 2. การจดั หนา้ เอกสาร 3. เร่ิมพิมพเ์ อกสาร 4. มุมมองของเอกสาร 5. การยอ่ -ขยายเอกสาร 6. การบนั ทึกไฟลเ์ อกสาร 7. การกาหนดโฟลเดอร์ที่จะใชใ้ นการจดั เกบ็ ไฟล์ 8. การเรียกใชโ้ ฟลเดอร์เอกสารท่ีบนั ทึกไว้ 9. การแปลงไฟลเ์ อกสารรุ่นเก่าใหเ้ ป็นไฟล์ Word 2010 10.การปิ ดและการลบไฟลเ์ อกสาร  จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เรียนรู้ถึงวธิ ีการสร้างเอกสารในรูปแบบต่าง ๆ 2. สามารถเร่ิมสร้างเอกสารใหม่ได้ 3. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การดูแลเอกสารในมุมมองต่าง ๆ 4. สามารถจดั เกบ็ และเรียกใชเ้ อกสารที่สร้างข้ึนได้ 5. สามารถปิ ดและลบไฟลเ์ อกสารได้

4  1. การสร้างเอกสาร 3 1.1 การสร้างเอกสารใหม่ 1) คลิกท่ีแทบ็ แฟ้ ม (File) 2) คลิกแทบ็ สร้าง (New) 3) เลือกแบบของเอกสารท่ีจะสร้าง 4) คลิกท่ีป่ ุมสร้าง (Create) 1 2 4 ภาพท่ี 1.1 แสดงข้นั ตอนการสร้างเอกสารใหม่ Microsoft Word ที่มา : นิทรา สร้อยนาก. (2558)

5 1.2 สร้างเอกสารเปล่า 1) คลิกที่แทบ็ แฟ้ ม (File) 2) คลิกแทบ็ สร้าง (New) 3) เลือกเอกสารเปล่า (Blank document) 4) คลิกป่ ุมสร้าง (Create) 13 2 4 ภาพที่ 1.2 แสดงข้นั ตอนการสร้างเอกสารเปล่าโปรแกรม Microsoft Word ที่มา : นิทรา สร้อยนาก. (2558) 1.3 การสร้างเอกสารจากแม่แบบ เป็นการสร้างเอกสารใหม่โดยใชแ้ บบสาเร็จที่โปรแกรมจดั เตรีมไวใ้ ห้ 1) คลิกที่แทบ็ แฟ้ ม (File) 2) คลิกแทบ็ สร้าง (New) 3) คลิกท่ีตวั อยา่ งแม่แบบ (Sample temlates)

6 4) เลือกแมแ่ บบที่ตอ้ งการ 3 5) คลิกป่ ุมสร้าง (Create) 4 1 2 5 ภาพที่ 1.3 แสดงข้นั ตอนการสร้างเอกสารจากแมแ่ บบโปรแกรม Microsoft Word ท่ีมา : นิทรา สร้อยนาก. (2558)

7 1.4 การสร้างเอกสารจากแมแ่ บบของเรา ใชใ้ นกรณีที่เราไดท้ าการสร้างแม่แบบของเราไวแ้ ลว้ และตอ้ งการจะนาไปใช้ 1) คลิกท่ีแทบ็ แฟ้ ม (File) 2) คลิกแทบ็ สร้าง (New) 3) คลิกที่แม่แบบของฉนั (My tempalates) 4) เลือกแบบท่ีตอ้ งการ 5) คลิกป่ ุมสร้าง (Create) 1 3 2 4 5 ส่วนของแม่แบบของฉนั จะแสดงรายการขนองแม่แบบท่ีเราไดส้ ร้างไว้ หากไม่พบแม่แบบท่ี ตอ้ งการใชง้ านใหด้ ูใหแ้ น่ใจวา่ แมแ่ บบน้นั ถูกจดั เกบ็ ไวใ้ นโฟลเดอร์ท่ีถูกตอ้ ง 1.5 การสร้างเอกสารจากแมแ่ บบที่เคยใชแ้ ลว้ ใชใ้ นกรณีท่ีเราไดท้ าการสร้างเอกสารจากแม่แบบใด ๆ ไปแลว้ และจะตอ้ งการสร้างจาก แม่แบบน้นั ๆ อีก 1) คลิกท่ีแทบ็ แฟ้ ม (File) 2) คลิกแทบ็ สร้าง (New) 3) คลิกที่แม่แบบล่าสุด (Recent templates) 4) ดบั เบิ้ลคลิกท่ีแม่แบบที่ตอ้ งการ 5) คลิกป่ ุมสร้าง (Create)

1 8 3 5 2 4 ภาพท่ี 1.5 แสดงข้นั ตอนการสร้างเอกสารจากแม่แบบท่ีเคยใชแ้ ลว้ โปรแกรม Microsoft Word ท่ีมา : นิทรา สร้อยนาก. (2558) 1.6 สร้างแม่แบบของ Office.com หากตอ้ งการแม่แบบมากกวา่ ท่ีมีอยนู่ ้ี เรากย็ งั สามารถดาวน์โหลดไดจ้ าก Office.com โดย เราจะตอ้ งทาการเช่ือมต่ออินเตอร์เน็ตไวก้ ่อนแลว้ 1) คลิกท่ีแทบ็ แฟ้ ม (File) 2) คลิกแทบ็ สร้าง (New) 3) คลิกท่ีแทบ็ สร้างแม่แบบของ Office.com 4) ดบั เบิ้ลคลิกท่ีแม่แบบที่ตอ้ งการ 5) คลิกป่ ุม Download เพ่ือทาการดาวน์โหลด

1 9 23 5 4 ภาพที่ 1.6 แสดงข้นั ตอนการสร้างแม่แบบของ Office.com แลว้ โปรแกรม Microsoft Word ท่ีมา : นิทรา สร้อยนาก. (2558) 1.7 สร้างเอกสารใหม่จากเอกสารเดิมท่ีมีอยู่ เป็นการสร้างเอกสารท่ีถกู สร้างไวแ้ ลว้ มาสร้างเป็นเอกสารใหม่ 1) คลิกที่แทบ็ แฟ้ ม (File) 2) คลิกแทบ็ สร้าง (New) 3) เลือกสร้างจากที่มีอยู่ (New from existing) 4) เลือกช่ือไฟลเ์ อกสารที่จะนามาสร้างเอกสารใหม่ 5) เลือกป่ ุมสร้างใหม่ (Create New)

10 1 3 2 4 5 ภาพที่ 1.7 แสดงข้นั ตอนการสร้างเอกสารใหม่จากเอกสารเดิมท่ีมีอยแู่ ลว้ ที่มา : นิทรา สร้อยนาก. (2558)  2. การจัดหน้ากระดาษ ใหน้ กั เรียนสร้างเอกสารเปล่าจากตวั อยา่ งท่ีผา่ นมาท่ี 1.2 2.1 การเลือกขนาดกระดาษ 1) คลิกที่แทบ็ เคา้ โครงหนา้ กระดาษ (Page Layout) 2) ในกลุ่มต้งั ค่าหนา้ กระดาษ (Page Setup) คลิกท่ีป่ ุมขนาด (Size) 3) เลือกขนาดที่ตอ้ งการ สมมุติเลือดขนาดกระดาษ A4

11 1 2 3 2.2 การเลือกแนวการวางกระดาษ 1) คลิกที่แทบ็ เคา้ โครงหนา้ กระดาษ (Page Layout) 2) ในกลุ่มต้งั คา่ หนา้ กระดาษ (Page Setup) คลิกท่ีป่ ุมการวางแนว (Orientation) 3) เลือกแนวการวางกระดาษ 1 23 2.3 การกาหนดระยะขอบ 1) คลิกท่ีแทบ็ เคา้ โครงหนา้ กระดาษ (Page Layout) 2) ในกลุ่มต้งั ค่าหนา้ กระดาษ (Page Setup) 3) คลิกที่ป่ ุมระยะขอบ (Margins) 4) เลือกแบบที่มีระยะขอบที่ตอ้ งการ หรือเลือกแบบกาหนดเอง

12 1 2 3 4  3. เร่ิมพมิ พ์เอกสาร 3.1 วางตาแหน่งของจุดแทรก จุดแทรก (Insertion point) คือ เสน้ ต้งั ท่ีกระพริบอยตู่ ลอดเวลา ซ่ึงจะเป็นตวั บอกถึงตาแหน่งที่เรา จะพมิ พข์ อ้ ความลงไป 3.2 กดป่ ุมเปลี่ยนภาษาไทย/องั กฤษโดยปกติจะเป็นป่ ุม (มุมบนซา้ ยของแป้ น) 3.3 พมิ พข์ อ้ ความที่ตอ้ งการ (ไม่ตอ้ งกด Enter เพ่ือข้ึนบรรทดั ใหม่) เราสามารถท่ีจะพมิ พข์ อ้ ความต่าง ๆ ไปจนสุดระยะก้นั หลงั และเม่ือเราพมิ พต์ ่อไป ขอ้ ความส่วนท่ี เกินน้นั จะถูกตดั ข้ึนบรรทดั ใหม่เองโดยอตั โนมตั ิ ดงั น้นั เราจึงสามารถพมิ พข์ อ้ ความไปไดเ้ ร่ือย ๆ จนจบยอ่ หนา้ 3.4 กด Enter เม่ือจบยอ่ หนา้ เท่าน้นั

13  4. ป่ ุมทใ่ี ช้ในการพมิ พ์และแก้ไข เปล่ียนสลบั ระหวา่ งภาษาไทย-องั กฤษ Ins เปิ ด/ปิ ดภาวการณ์พมิ พแ์ ทรกหรือพิมพท์ บั โดยปกติจะเป็ นการพิมพ์แทรก หากกดป่ ุมน้ีจะ เปล่ียนเป็ นการพิมพท์ บั หากกดอีกคร้ังจะกลบั ไป เป็นการพิมพค์ ร้ังแรก สลบั กนั ไป ลบตวั อกั ษรท่ีอยหู่ นา้ ตวั จุดแทรกทีละตวั ใชใ้ นการเล่ือนระยะในการพมิ พ์ จบยอ่ หนา้ ข้ึนยอ่ หนา้ ใหม่ ลบตวั อกั ษรท่ีอยหู่ ลงั สุดแทรกทีละ  5. มุมมองของเอกสาร ตวั เอกสารท่ีปรากฏจอภาพน้นั เราสามารถเลือกลกั ษณะการแสดงผลหรือมุมมองของเอกสาร ได้ 5 แบบดว้ ยกนั คือ 1. มุมมองเคา้ โครงเหมือนพมิ พ์ (Print Layout) 2. มุมมองการอ่านแบบเตม็ หนา้ จอ (Full Screen Reading) 3. มุมมองเคา้ โครงเวบ็ (Web Layout) 4. มุมมองเคา้ ร่าง (Outline) 5. มุมมองแบบร่าง (Draft)

14 5.1 การเลือกมุมมองเอกสาร 5.1.1 มุมมองเคา้ โครงเหมือนพิมพ์ (Print Layout View) เป็นมุมมองท่ีแสดงเหมือนเอกสารจริงที่จะถูกพิมพอ์ อกทางเคร่ืองพิมพ์ ไม่วา่ จะเป็นการ จดั รูปแบบขอ้ ความ, ขอบเขตของหนา้ กระดาษ, การแบ่งคอลมั น์ 1) คลิกท่ีแทบ็ มุมมอง (View) 2) ในกลุ่มมุมมองเอกสาร (Document Views) เลือกเคา้ โครงเหมือน (Print Layout) 1 2 2 ภาพท่ี 5.1.1 แสดงข้นั ตอนการสร้างมุมมองเคา้ โครงเหมือนพมิ พ์ ที่มา : นิทรา สร้อยนาก. (2558)

15 5.1.2 มุมมองการอ่านแบบเตม็ หนา้ จอ (Full Screen Reading View) เป็นมุมมองใหม่ในการแสดงผลบนจอภาพเพ่อื ใหก้ ารอ่านขอ้ มลู ดูง่ายข้ึน มกั ใชก้ บั งาน พมิ พท์ ่ีมีขอ้ ความเป็นจานวนมาก ๆ 1) คลิกแทบ็ มุมมอง (View) 2) ในกลุ่มมุมมองเอกสาร (Document Views) เลือกการอ่านแบบเตม็ หนา้ จอ (Full Screen Reading) 1 2 2 ภาพท่ี 5.1.2 แสดงข้นั ตอนการสร้างมุมมองการอ่านแบบเตม็ หนา้ จอ ที่มา : นิทรา สร้อยนาก. (2558)

16 5.1.3 มุมมองเคา้ โครงเวบ็ (Web Layout) เป็นมุมมองที่ช่วยใหเ้ ราดูแลเอกสารน้นั เมื่อถูกแสดงดว้ ยเวบ็ บราวเซอร์ เพ่อื นาไปสร้าง เป็นเวบ็ เพจเพอ่ื เผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต 1) คลิกท่ีแทบ็ มุมมอง (View) 2) ในกลุ่มมุมมองเอกสาร (Document Views) เลือกเคา้ โครงเวบ็ (Web Layout) 1 22 ภาพท่ี 5.1.3 แสดงข้นั ตอนการสร้างมุมมองเคา้ โครงเวบ็ ท่ีมา : นิทรา สร้อยนาก. (2558) 5.1.4 มุมมองเคา้ ร่าง (Outline) เป็นมุมมองเอกสารที่เลือกไดว้ า่ จะแสดงเฉพาะหวั เร่ืองหลกั , หวั เร่ืองยอ่ ย โดยตดั เน้ือความในหวั เร่ืองออก หรืออาจใหแ้ สดงครบท้งั หมดกไ็ ด้ 1) คลิกที่แทบ็ มุมมอง (View) 2) ในกลุ่มมุมมองเอกสาร (Document Views) เลือกเคา้ ร่าง (Outine)

17 1 2 2 ภาพที่ 5.1.4 แสดงข้นั ตอนการสร้างมุมมองเคา้ ร่าง ที่มา : นิทรา สร้อยนาก. (2558) 5.1.5 มุมมองแบบร่าง (Draft) เป็นมุมมองท่ีเหมาะสาหรับการพมิ พแ์ ละแกไ้ ขงานทว่ั ไปโดยมุมมองเอกสารน้ีจะแสดง รูปแบบขอ้ ความเหมือนที่จะพิมพอ์ กทางเคร่ืองพิมพจ์ ริง เช่น แบบอกั ษร, ขนาด, ลกั ษณะตวั อกั ษร เป็นตน้ และยงั แสดงสญั ลกั ษณ์ท่ีไม่พิมพอ์ อกทางเครื่องพมิ พ์ เช่น เคร่ืองหมายยอ่ หนา้ หรือ เสน้ แบ่งหนา้ ทาใหเ้ ราสามารถแกไ้ ขเอกสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 1) คลิกที่แทบ็ มุมมอง (View) 2) ในกลุ่มมุมมองเอกสาร (Document Views) เลือกแบบร่าง (Draft)

18 1 2 2 ภาพท่ี 5.1.5 แสดงข้นั ตอนการสร้างมุมมองแบบร่าง ท่ีมา : นิทรา สร้อยนาก. (2558)  6. การย่อ-ขยายเอกสาร 1) คลิกที่แทบ็ มุมมอง (View) 2) ในกลุ่มยอ่ /ขยาย (Zoom) เลือกปรับขนาดเอกสารความตอ้ งการ 1 2 หรือลากป่ มุ ปรับย่อ/ขยาย

19  6. การบันทึกไฟล์เอกสาร เม่ือเราเสร็จสิ้นการทางานในคร้ังหน่ึง ๆ เราควรท่ีจะบนั ทึกเอกสารต่าง ๆ ท่ีเราสร้างไวเ้ กบ็ ไวใ้ นฮาร์ดดิสกเ์ พอ่ื ท่ีจะนามาใชใ้ นภายหลงั ไดอ้ ีก และในทางปฏิบตั ิแลว้ เราควรท่ีจะทาการ บนั ทึกเกบ็ ลงฮาร์ดดิสกไ์ วใ้ นระยะ ๆ เพือ่ ท่ีวา่ เมื่อเกิดปัญหาทางดา้ นเครื่องหรือกระแสไฟ ขอ้ มลู ของเรากจ็ ะไมส่ ูญหายท้งั หมด 6.1 การบนั ทึกไฟลค์ ร้ังแรก 1) คลิกที่แทบ็ แฟ้ ม (File) แลว้ เลือกบนั ทึก (Save) หรือ (Ctrl+S) 2) เลือกไดร์ฟและโฟลเดอร์ที่ตอ้ งการจะเกบ็ ไฟลน์ ้นั 3) พมิ พช์ ่ือไฟลข์ องเอกสารลงในส่วนของชื่อแฟ้ ม (File name) 4) เลือกป่ ุมบนั ทึก (Save) จะไดไ้ ฟลท์ ่ีมีชนิดเป็น .docx 1 2 3 4 6.2 การบนั ทึกไฟลท์ ่ีบนั ทึกไวแ้ ลว้ เมื่อมีการแกไ้ ขเอกสารใด ๆ ท่ีไดเ้ คยบนั ทึกไวแ้ ลว้ เราจะตอ้ งบนั ทึกซ้าอีกคร้ังเมื่อแกไ้ ขเสร็จ โดยคลิกท่ีแทบ็ แฟ้ ม (File) แลว้ เลือก บนั ทึก (Save) หรือคลิกที่ป่ ุมบนแถบเคร่ืองมือด่วน (Quick Access Toolbar) โปรแกรมจะบนั ทึกลงในไฟลเ์ อกสารชื่อเดิม 1

20 6.3 การบนั ทึกไฟลช์ นิดอื่น ๆ 1) คลิกที่แทบ็ แฟ้ ม (File) 2) เลือกบนั ทึกและส่ง (Save & Send) 3) คลิกที่เปลี่ยนชนิดไฟล์ (Change file Type) 4) เลือกชนิดไฟลท์ ี่ตอ้ งการ 5) คลิกป่ ุมบนั ทึกเป็น (Save As) 4 1 2 5 3  7. การกาหนดโฟลเดอร์ที่ใช้ในการจดั เกบ็ โดยปกติเม่ือมีการจดั เกบ็ หรือเปิ ดใชไ้ ฟลโ์ ปรแกรมจะไปยงั โฟลเดอร์ My Documents ซ่ึง เป็นโฟลเดอร์ปกติท่ีโปรแกรมกาหนดไวใ้ หเ้ องโดยอตั โนมตั ิ หากเราตอ้ งการกาหนดใหเ้ ป็น โฟลเดอร์อื่นใหก้ ระทาดงั น้ี 1) คลิกที่แทบ็ แฟ้ ม (File) แลว้ เลือกป่ ุมตวั เลือก (Options) 2) เลือกหวั ขอ้ บนั ทึก (Save) 3) กาหนดค่าใหม่ในส่วนของตาแหน่งเร่ิมของแฟ้ ม (Default file location) 4) เลือกตกลง (Ok) 3 4 1 5 2

21 7.1 การสร้างโฟลเดอร์ใหมข่ ณะจดั เกบ็ ไฟล์ 5 1) คลิกที่แทบ็ แฟ้ ม (File) 2) เลือกบนั ทึกเป็น (Save As) 3) พิมพช์ ื่อโฟลเดอร์ตามตอ้ งการ 4) คลิกตกลง (Ok) 1 2 34  8. การเรียกใช้ไฟล์เอกสารที่บนั ทกึ ไว้ เอกสารท่ีเราบนั ทึกไวเ้ ป็นไฟลใ์ นฮาร์ดดิสกส์ ามารถเรียกออกมาใชเ้ ม่ือตอ้ งการไดด้ งั น้ี 8.1 การเรียกใชไ้ ฟลเ์ อกสาร 1) คลิกที่แทบ็ แฟ้ ม (File) 2) คลิกเปิ ด (Open) หรือกดป่ ุม (Ctrl+O) 3) เลือกไดรฟ์ ที่ตอ้ งเกบ็ งาน 4) เลือกโฟลเดอร์ที่ตอ้ งเกบ็ งาน 5) เลือกช่ือไฟลท์ ี่ตอ้ งการ 6) เลือกป่ ุมเปิ ด (Open) 1 2 5 4 3 6 4

22 8.2 การใชไ้ ฟลเ์ อกสารท่ีเคยเรียกใชแ้ ลว้ 1) คลิกที่แทบ็ แฟ้ ม (File) 2) คลิกเลือกล่าสุด (Recent) โปรแกรมจะแสดงช่ือไฟลเ์ อกสารท่ีเราเคยใชม้ าแลว้ ใน ส่วนของล่าสุด (Recent) เพอื่ ใหเ้ ราสามารถเรียกใชไ้ ดอ้ ยา่ งรวดเร็วยงิ่ ข้นึ 3) คลิกเลือกไฟลท์ ี่ตอ้ งการ 13 2 8.3 การกาหนดจานวนรายชื่อไฟลท์ ่ีจะใหแ้ สดงส่วนของ Recent 1) คลิกท่ีแทบ็ แฟ้ ม (File) 2) เลือกป่ ุมตวั เลือก (Options) เลือกหวั ขอ้ ข้นั สูง (Advanced) 3) ในส่วนของแสดง (Display) กาหนดจานวนรายชื่อไฟลท์ ี่ตอ้ งการในส่วนของแสดง เอกสารล่าสุด (Show this number of Recent Documents) หากตอ้ งการแสดงใหเ้ ลย ใหใ้ ส่ 0 4) เลือกตกลง (Ok) 1 4 3 2 5

23  9. การแปลงไฟล์เอกสารรุ่นเก่าให้เป็ นไฟล์ Word 2010 1) เปิ ดใชไ้ ฟลท์ ี่ถูกสร้างจาก Office รุ่นเก่า คลิกที่แทบ็ แฟ้ ม (File) 2) เลือกป่ ุมขอ้ มูล (Info) 3) คลิกท่ีป่ ุมแปลง (Covert) โปรแกรมแจง้ ใหท้ ราบวา่ ไฟลน์ ้ีจะถูกทาการจดั รูปแบบใหม่ตามคุณลกั ษณะต่าง ๆ ของ Office2010 แลว้ ทาการบนั ทึกเป็นไฟลใ์ หม่ให้ ดงั น้นั ไฟลเ์ ดิมจะยงั คงอยู่ เนื่องจากมีชนิดของ ไฟลเ์ ป็นคนละช่ือกนั 4) คลิกตกลง (Ok) เพอ่ื ทาการแปลง 1 3 2 4  10. การปิ ดไฟล์เอกสาร เอกสารแต่ละไฟลจ์ ะแสดงอยใู่ นหนา้ ต่างของโปรมแกรมน้นั ๆ ซ่ึงเมื่อไฟลใ์ ดไม่ไดใ้ ชแ้ ลว้ ก็ ควรจะปิ ดไฟลน์ ้นั เสีย ดงั น้ี คลิกที่แทบ็ แฟ้ ม (file) แลว้ เลือกปิ ด (Close) หรือคลิกท่ีป่ ุมปิ ดหนา้ ต่าง (Close) ของหนา้ ต่าง น้นั หากไฟลน์ ้นั ยงั ไม่ไดบ้ นั ทึกการเปล่ียนแปลงคร้ังล่าสุดจะปรากฏเลือกป่ ุมบนั ทึก (Save) เพื่อ บนั ทึก เลือกป่ ุมไม่บนั ทึก (Don’t Save) เพ่อื ไม่บนั นึก 1 1 2

24  10. การลบไฟล์เอกสาร 1) คลิกท่ีแทบ็ แฟ้ ม (File) แลว้ เลือกเปิ ด (Open) 2) ในส่วนแสดงรายช่ือไฟล์ เลือกไฟลท์ ี่ตอ้ งการจะลบ 3) คลิกขวาท่ีช่ือไฟลน์ ้นั แลว้ เลือกลบ (Delete) 4) เลือกป่ ุมใช่ (Yes) เพื่อยนื ยนั การลบ หรือ ไม่ใช่ (No) หากเปล่ียนใจ 5) ปิ ดหนา้ ต่าง 1 2 3 4


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook