Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กฎหมายแรงงาน-01

กฎหมายแรงงาน-01

Published by ขนมถ้วย ฟู, 2021-06-25 04:32:19

Description: กฎหมายแรงงาน-01

Search

Read the Text Version

การจ้างแรงงาน เป็นสญั ญาชนิดหน่ึง และเป็นเอกเทศสญั ญาลกั ษณะจ้างแรงงาน ตามประมวลกฎหมาย แพง่ และพาณิชย์ เป็นสญั ญาท่ีนายจ้างและลกู จ้างต่างตอบแทนให้กนั และกนั โดยลกู จ้างตอบแทนให้นายจ้าง ด้วยการทาํ งานให้นายจ้าง และนายจ้างตอบแทนด้วยการให้ค่าจ้าง ซ่ึงเรียกว่าสินจ้างนัน้ แก่ลูกจ้าง สญั ญา จ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชยใ์ ช้บงั คบั แก่นายจ้างและลูกจ้างทุกประเภท ยกเว้นลกู จ้าง ของทางราชการที่มีกฎหมายของราชการส่วนนัน้ ๆ ใช้บงั คบั ไว้โดยเฉพาะอย่แู ล้ว

การจ้างแรงงานเกิดขึ้นระหว่างบุคคลสองฝ่ าย คือ ฝ่ ายนายจ้าง กับฝ่ ายลูกจ้าง ท่ีมีนิติสมั พนั ธ์ต่อกัน ก่อให้มีสัญญาเกิดข้นึ หลักกฎหมายลกั ษณะจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์วางหลักไว้ว่า “จา้ งแรงงานคอื สญั ญาซง่ึ บุคคลคนหน่ึง เรยี กว่า ลูกจ้าง ตกลงจะทํางานให้แก่บุคคลอกี คนหน่ึง เรยี กว่า นายจ้าง และนายจา้ งตกลงจะใหส้ นิ จา้ งตลอดเวลาทท่ี าํ งานให”้ จากหลกั กฎหมาย ลกั ษณะสาํ คญั ของการจ้างแรงงาน จงึ ไดแ้ ก่ จ้างแรงงานเป็นสญั ญา เป็นสญั ญาต่างตอบแทน วตั ถแุ ห่งสญั ญาคืองานท่ีทาํ ลกู จ้างต้องทาํ งานให้นายจ้าง และนายจ้างต้องให้ค่าจ้างแก่ลกู จ้าง มงุ่ ท่ีผลของงานเฉพาะคราวนัน้ ๆ นายจ้างมีอาํ นาจควบคมุ บงั คบั บญั ชาลกู จ้าง กรณี ไม่ได้ตกลงเร่ืองค่าจ้าง กฎหมายให้สันนิ ษฐานว่า นายจ้างมีคาํ มนั่ ว่าจะให้ค่าจ้าง

อน่งึ ขอบเขตของสญั ญาจา้ งแรงงาน หรอื การจา้ งแรงงานตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชยน์ ้มี ขี อ้ ยกเวน้ คอื มใิ หน้ ําไปใชแ้ ก่นายจา้ งและลกู จา้ งทเ่ี ป็นสว่ นของหน่วยราชการ เพราะขา้ ราชการทเ่ี ป็นนายจา้ งหรอื ลกู จา้ งทร่ี บั ค่าจา้ งเป็นรายเดอื นจากสว่ นราชการ และอยใู่ นความควบคุมบงั คบั บญั ชากาํ กบั ดแู ลของทางราชการนนั้ จะมกี ฎหมาย พเิ ศษแยกไวต้ ่างหาก ตามกระทรวง ทบวง กรมนนั้ ๆ ยอ่ มไมอ่ ยใู่ นบงั คบั ของคาํ วา่ ลกู จา้ ง ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ สญั ญาจา้ งแรงงาน กบั สญั ญาจา้ งทาํ ของ จะมลี กั ษณะใกลเ้ คยี งกนั มาก ซง่ึ มหี ลกั การพจิ ารณางา่ ยๆ 2 ประการ อํานาจในการควบคุมบงั คบั บญั ชาทม่ี ตี ่อลูกจา้ งอยู่ทใ่ี คร ถ้าอยู่ทน่ี ายจา้ ง นัน่ คอื การจา้ งแรงงาน แต่ถา้ ไมอ่ ยทู่ น่ี ายจา้ งกจ็ ะเป็นการจา้ งทาํ ของ ผลสาํ เรจ็ ของงานตามทต่ี กลงกนั หรอื ทาํ ในครงั้ นนั้ ๆ ถา้ ผลจะสาํ เรจ็ หรอื ไมส่ าํ เรจ็ ขน้ึ อยกู่ บั นายจา้ ง ก็จะเป็นการจ้างแรงงาน แต่ถ้าผลงานท่ีตกลงกันต้องสําเร็จแล้วส่งมอบ ก็จะเป็นจ้างทําของ เม่อื ตกลงกนั แล้วเป็นหน้าทข่ี องผูร้ บั จา้ งจะไปดําเนินการตามสญั ญา แล้วนําผลงานมาส่งมอบให้เม่อื งาน ท่ีรบั ไปเสรจ็ ตามสญั ญา และการเรยี กช่ือของคู่สญั ญาจ้างทําของ จะเรยี กต่างกับจ้างแรงงาน โดยเรยี กวา่ ผวู้ า่ จา้ งฝ่ายหน่ึง และผรู้ บั จา้ งฝ่ายหน่ึง



กฎหมายมไิ ดก้ ําหนดไวแ้ ต่อย่างใดว่า สญั ญาจา้ งแรงงานจะตอ้ งทํากนั อย่างไร ฉะนัน้ สญั ญาจา้ งแรงงานจงึ ไม่มี แบบแหง่ นิตกิ รรม ค่สู ญั ญาอาจทาํ สญั ญากนั ดว้ ยวาจา หรอื จะทาํ สญั ญากนั เป็นหนงั สอื ระหวา่ งนายจา้ งกบั ลกู จา้ งกไ็ ด้ สญั ญาดงั กลา่ วกใ็ ชบ้ งั คบั กนั ได้ อน่ึง สัญญาจ้างแรงงานอาจเกิดข้ึนโดยปริยายก็ได้ เช่น นายรวยให้นายจนขับรถยนต์ของตน และ จ่ายค่าจ้างให้เป็ นรายเดือนมาตลอด ต่อมานายจนเกิดป่ วยมาขับรถยนต์ให้นายรวยไม่ได้ จึงให้นายมา น้องชายมาขับรถยนต์แทน และนายรวยก็มิได้ว่าอะไร เช่นน้ีถือว่าสัญญาจ้างแรงงานเพ่ือให้นายมาเป็ น คนขบั รถยนตเ์ กดิ ขน้ึ แลว้ โดยปรยิ าย คําพิพากษาศาลฎีกาท่ี 1519/2557 ในการทําสัญญาจ้างพนักงานของจําเลยมิได้ปรากฏความ ตอนใดเลยว่า การบรรจุแต่งตงั้ พนักงานของจําเลยนัน้ จะต้องมุ่งทําสญั ญาจา้ งเป็นหนังสอื ทงั้ ตามขอ้ บงั คบั ก็มไิ ด้ กําหนดหลกั เกณฑก์ ารตอ้ งทาํ สญั ญาจา้ งพนักงานเป็นหนงั สอื ไว้ ดงั นนั้ การทจ่ี าํ เลยอนุมตั ติ ําแหน่งงานของโจทก์ และ ใหโ้ จทก์ลงลายมอื ช่อื ไว้ จงึ เป็นการทโ่ี จทก์สนองรบั การเสนอการจา้ งจาํ เลย ก่อใหเ้ กดิ เป็นสญั ญาจา้ งแรงงานระหวา่ ง กนั แล้ว แมก้ รรมการผูอ้ ํานวยการใหญ่ของจําเลยยงั มไิ ด้ลงลายมอื ช่อื ไวใ้ นสญั ญาก็ตาม เร่อื งดงั กล่าวเป็นแค่เร่อื ง ภายในของจาํ เลยเทา่ นนั้

เม่อื นายจา้ งและลูกจา้ งมนี ิตสิ มั พนั ธ์ตามสญั ญาจา้ งแรงงานต่อกนั แลว้ จะก่อให้เกดิ สทิ ธแิ ละหน้าทข่ี น้ึ ระหว่าง นายจา้ งกบั ลกู จา้ ง มรี ายละเอยี ดดงั น้ี นายจ้างมีสิทธิและหน้าที่ 1.1 สิ ทธิ นายจ้าง 1)มีสิทธิออกคําสัง่ ให้ลูกจ้างทํางานตามท่ีตกลงหรือมีสัญญาต่อกัน เช่น นายมีจ้างนายจน เป็นคนสวน นายมยี ่อมมสี ทิ ธอิ อกคําสงั่ บอกกล่าวช้แี นะ หรอื แนะนําให้นายจนทํางานบรเิ วณทจ่ี ะต้องถากถางดาย หญา้ และปลกู ตน้ ไมไ้ ด 2)มสี ทิ ธโิ อนสทิ ธกิ ารเป็นนายจ้างของตนให้แก่บุคคลอ่ืนได้เม่อื ลูกจ้างยนิ ยอม กรณีเปล่ียนแปลงตัว นายจา้ งทเ่ี ป็นนิตบิ ุคคล และทําการจดทะเบยี นโอนหรอื ควบกบั นิตบิ ุคคลอ่นื จนมผี ลใหล้ ูกจา้ งกลายเป็นลูกจา้ งของ นายจา้ งใหม่ ต้องได้รบั ความยนิ ยอมจากลูกจา้ งดว้ ย และนายจา้ งใหม่จะต้องให้สทิ ธปิ ระโยชน์ต่างๆ ตามเดมิ กบั ท่ี ลกู จา้ งเคยไดร้ บั 3)มสี ทิ ธบิ อกเลกิ สญั ญาจา้ งได้

4)เ ม่ือ ไ ม่ ไ ด้ กํ า ห น ด ร ะ ย ะ เ ว ล า ก า ร จ้า ง ไ ว้ น า ย จ้า ง มีสิท ธิบ อ ก เ ลิก สัญ ญ า ไ ด้ แ ต่ ต้ อ ง บอกกล่าวให้ลูกจา้ งทราบล่วงหน้า เม่อื ถงึ เดอื นก่อนกําหนดจ่ายค่าสนิ จา้ งคราวใดคราวหน่ึง เพ่อื ใหเ้ ป็นผลการเลกิ สัญญาเม่ือถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวต่อไปข้างหน้าก็ได้ เช่น จ้างลูกจ้างเป็ นรายเดือน จ่ายค่าจ้าง ทุกส้ินเดือน เม่ือถึงวนั ท่ี 25 พฤษภาคม นายจ้างได้บอกให้ลูกจ้างทราบว่าจะเลิกจ้าง และให้มีผลวนั เลิกจ้าง คอื สน้ิ เดอื นมถิ ุนายน เชน่ น้ยี อ่ มทาํ ไดโ้ ดยชอบดว้ ยกฎหมาย 5)มสี ทิ ธไิ ล่ลกู จา้ งออกจากงานโดยมติ อ้ งบอกกล่าวลว่ งหน้าได้ ถา้ ลกู จา้ งจงใจหรอื ปฏบิ ตั อิ ยา่ งใดอย่างหน่ึง ดงั น้ี ก.จงใจขดั คาํ สงั่ อนั ชอบดว้ ยกฎหมายของนายจา้ ง ข.ละเลยไมน่ ําพาต่อคาํ สงั่ อนั ชอบดว้ ยกฎหมายของนายจา้ งเป็นประจาํ ค.กระทําความผดิ อนั รา้ ยแรง เช่น กระทําใหเ้ กดิ การแตกความสามคั คใี นองคก์ ร หรอื กระทําความผดิ ทางอาญา ง. ละทง้ิ หน้าทก่ี ารงานทม่ี อบใหเ้ ป็นประจาํ หรอื ทาํ ใหง้ านเกดิ ความเสยี หาย หรอื ขาดงานเป็นประจาํ จ. ไม่สุจรติ ต่อหน้าท่ีอนั เป็นความผดิ ร้ายแรง เช่น ยกั ยอกเงินของนายจ้าง หรอื ยกั ยอกเงนิ บรษิ ัท ทเ่ี ป็นนายจา้ ง ตอกบตั รบนั ทกึ เวลาทาํ งานแทนผอู้ น่ื

1.2 หน้ าท่ีนายจ้าง 1) มหี น้าทต่ี ้องจ่ายสนิ จา้ งใหแ้ ก่ลูกจา้ งตามระยะเวลาทต่ี กลงกนั หรอื ตามจารตี ประเพณีทพ่ี งึ จะจ่ายต่อกนั และถ้าไม่มีการตกลงทัง้ สองประการดังกล่าวแล้ว ให้จ่ายสินจ้างเม่ือทํางานแล้วเสร็จ รวมถึงเงินต่างๆ ทก่ี ฎหมายกําหนด เช่น ค่าล่วงเวลา ค่าทํางานวนั หยุด ค่าทํางานล่วงเวลาวนั หยุดหรอื เงนิ ชดเชยกรณีหยุดกจิ การ ตลอดจนดอกเบย้ี จาํ นวนรอ้ ยละ 15 ต่อปี หากนายจา้ งผดิ นดั 2) มหี น้าทต่ี อ้ งออกใบสาํ คญั แสดงวา่ ลกู จา้ งมาทาํ งานนานเทา่ ไร งานทท่ี าํ เป็นอยา่ งไร เพอ่ื ใหล้ ูกจา้ งยดึ ถอื ไว้ เมอ่ื การจา้ งงานสน้ิ สุดลง ทงั้ น้ีกเ็ พอ่ื เป็นหลกั ฐานแก่ลูกจา้ งในการทจ่ี ะนําใบสําคญั น้ีไปสมคั รงานอ่นื แสดงใหเ้ หน็ ว่า เคยทาํ งานทใ่ี ด มคี วามชาํ นาญอยา่ งไรบา้ งได้ 3) มหี น้าทต่ี อ้ งออกคา่ เดนิ ทางใหล้ กู จา้ ง ถา้ เป็นกรณีทน่ี ายจา้ งไดน้ ําลกู จา้ งนนั้ มาจากต่างถนิ่ หรอื ต่างจงั หวดั เมอ่ื การจา้ งสน้ิ สุดลง เพอ่ื ใหล้ ูกจา้ งเดนิ ทางกลบั ภูมลิ ําเนาเดมิ ถ้าการจา้ งงานมไิ ดเ้ ลกิ เพราะลูกจา้ งกระทําความผดิ และลกู จา้ งกลบั ไปยงั ถนิ่ ภูมลิ าํ เนาทจ่ี า้ งมาภายในเวลาอนั สมควร 4) มหี น้าทร่ี บั ผดิ ร่วมกบั ลูกจา้ ง กรณีได้กระทําละเมดิ และเกดิ ความเสยี หายแก่บุคคลภายนอก ซง่ึ ลูกจา้ ง ไดก้ ระทาํ ไปในทางการทจ่ี า้ ง

ลกู จ้างมีสิทธิและหน้าท่ี 2.1สิทธิลกู จ้าง 1)มสี ทิ ธไิ ดร้ บั สนิ จา้ งตลอดเวลาทท่ี าํ งานใหน้ ายจา้ ง 2)มสี ทิ ธใิ หบ้ คุ คลภายนอกทาํ งานแทนตนได้ เมอ่ื นายจา้ งยนิ ยอม 3)มสี ทิ ธทิ จ่ี ะได้รบั ใบสําคญั จากนายจ้าง หลงั จากการจา้ งแรงงานสน้ิ สุดลง เพ่อื แสดงว่าลูกจา้ งทํางาน มานานเท่าไร และงานท่ีทําเป็นงานอย่างไร เพ่อื สะดวกในการท่ีลูกจ้างไปสมคั รงานใหม่ แต่นายจ้างไม่มีสทิ ธิ ระบขุ อ้ ความลงในใบสาํ คญั การทาํ งานวา่ ไดเ้ ลกิ จา้ งลกู จา้ งดว้ ยวธิ ใี ดและสาเหตุใด 4)หากลูกจา้ งเป็นบุคคลทน่ี ายจา้ งไดจ้ า้ งมาจากต่างถนิ่ และออกค่าเดนิ ทางให้ เม่อื มกี ารเลกิ จา้ งอนั มใิ ช่ เพราะความผดิ ของลกู จา้ งแลว้ ลกู จา้ งมสี ทิ ธไิ ดค้ า่ เดนิ ทางขากลบั ไปยงั ถน่ิ ทไ่ี ดจ้ า้ งมา 5)มสี ทิ ธบิ อกเลกิ สญั ญาได้ ถา้ สญั ญาจา้ งแรงงานไมไ่ ดก้ าํ หนดเวลาไว้ แต่ตอ้ งบอกกล่าวลว่ งหน้า

2.2หน้าท่ีลกู จ้าง 1)ต้องทํางานทร่ี บั จา้ งด้วยตนเอง เพราะการจา้ งนัน้ นายจา้ งจะต้องพจิ ารณาคุณสมบตั ิของลูกจา้ งเป็น สาํ คญั วา่ เหมาะสมกบั งาน หากจะใหบ้ คุ คลอน่ื ทาํ หน้าทแ่ี ทน ตอ้ งใหน้ ายจา้ งรบั รแู้ ละยนิ ยอมดว้ ย 2)ตอ้ งมคี วามสามารถตามทร่ี บั รองวา่ มคี ุณสมบตั แิ ละฝีมอื จนนายจา้ งตกลงใจจา้ ง หากปฏบิ ตั งิ านแลว้ ไม่ เป็นดงั ทร่ี บั รองหรอื ไรฝ้ ีมอื อาจถกู นายจา้ งบอกเลกิ จา้ งได้ 3)ตอ้ งทาํ ตามคาํ สงั่ และปฏบิ ตั หิ น้าทใ่ี หน้ ายจา้ งดว้ ยความสจุ รติ

สญั ญาจา้ งแรงงานอาจระงบั หรอื เลกิ ไดด้ ว้ ยเหตุใหญ่ 3 ประการ คอื ระยะเวลา ตวั ค่สู ญั ญาและการบอกเลกิ สญั ญา ระยะเวลา 1.1สัญญาจ้างกําหนดระยะเวลาไว้ สัญญาจ้างท่ีทํากันไว้อาจกําหนดเวลาจ้างเป็ นชัว่ โมง เป็ นวัน เป็นเดอื น หรอื เป็นปีกไ็ ด้ แต่ถ้าระยะเวลาส้นิ สุดลงแล้ว ลูกจา้ งยงั คงทํางานต่อไป และตวั นายจา้ งเองก็ไม่ทกั ท้วง กฎหมายใหส้ นั นษิ ฐานไวก้ ่อนวา่ ค่สู ญั ญาคอื นายจา้ งและลกู จา้ งไดท้ ําสญั ญากนั ใหม่ ตามกําหนดระยะเวลาเดมิ และมี ขอ้ ความของสญั ญาอยา่ งเดยี วกนั กบั สญั ญาเดมิ 1.2สญั ญาจ้างไม่ได้กําหนดระยะเวลาไว้ คู่สญั ญาตกลงว่าจ้างกนั แต่ไม่ได้ระบุเวลาว่าจา้ งกนั นานเท่าไร คู่สัญญาฝ่ ายหน่ึงฝ่ ายใดจะเลิกสัญญาด้วยการบอกกล่าวล่วงหน้าเม่ือถึงหรือก่อนจะถึงกําหนดจ่ายสินจ้าง ในคราวใดคราวหน่ึง เพ่ือให้เป็ นผลเลิกสัญญากันเม่ือถึงกําหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็อาจทําได้ แต่ไมจ่ าํ เป็นตอ้ งบอกกลา่ วลว่ งหน้าถงึ สามเดอื น อน่ึง ในเม่อื มกี ารบอกกล่าวล่วงหน้าแลว้ นายจา้ งจะจ่ายสนิ จา้ งใหล้ ูกจา้ งเสยี ใหค้ รบจํานวนทจ่ี ะต้องจ่ายจนถงึ เวลาเลกิ สญั ญา ตามกาํ หนดทบ่ี อกกล่าวนนั้ ทเี ดยี ว แลว้ ปล่อยลกู จา้ งออกจากงานเสยี ในทนั ทกี อ็ าจทาํ ได้



ตวั ค่สู ญั ญา คสู่ ญั ญาไดแ้ ก่นายจา้ งและลกู จา้ ง อาจมกี รณเี ป็นสาเหตุใหเ้ ลกิ สญั ญาได้ มรี ายละเอยี ดดงั น้ี 2.1ลูกจ้างตายหรือทุพพลภาพ การท่นี ายจ้างตดั สนิ ใจจ้างลูกจ้างคนใดคนหน่ึงก็ด้วยเล็งเห็นคุณสมบตั ิ ของลูกจา้ งว่าเหมาะสม และเป็นคุณสมบตั เิ ฉพาะตวั ของลูกจา้ ง วตั ถุแห่งสญั ญาคอื งานทล่ี ูกจา้ งต้องทําให้นายจา้ ง หากลกู จา้ งตายยอ่ มเป็นผลใหส้ ญั ญาระงบั แต่ถา้ ลกู จา้ งไมต่ ายเป็นเพยี งทุพพลภาพ ไม่สามารถปฏบิ ตั งิ านใหน้ ายจา้ ง ได้ สญั ญาก็ตอ้ งระงบั เช่นเดยี วกนั เพราะการชําระหน้ีคอื การทํางานใหน้ ายจา้ งตกเป็นการพน้ วสิ ยั อนั มใิ ช่ความผดิ ของลูกจา้ ง ลูกจา้ งกพ็ น้ จากการชําระหน้ีด้วยการเป็นลูกจา้ งนัน้ เวน้ เสยี แต่ว่าลูกจา้ งปฏบิ ตั งิ านไม่ได้ แล้วเสนอให้ บคุ คลภายนอกมาทาํ แทนตน โดยนายจา้ งยนิ ยอม สญั ญาจา้ งกเ็ ดนิ ต่อไปไดด้ ว้ ยการเปลย่ี นตวั ลกู จา้ งใหม่ 2.2นายจ้างตาย สญั ญาจ้างระงับหรือไม่ กรณีเช่นน้ีจะต้องพิจารณาด้วยหลักกฎหมายท่ีว่างานท่ีจ้าง มีสาระสําคัญอยู่ท่ีตัวบุคคลผู้เป็ นนายจ้างหรือไม่ ถ้างานท่ีจ้างนัน้ มีสาระสําคัญอยู่ท่ีตัวบุคคลผู้เป็ นนายจ้าง สญั ญากร็ ะงบั แต่ถา้ งานนนั้ ไมม่ สี าระสาํ คญั อยทู่ ต่ี วั บคุ คลผเู้ ป็นนายจา้ ง สญั ญากไ็ มร่ ะงบั



การบอกเลิกสญั ญา การบอกเลิกสัญญาจ้างแรงงาน อาจทําได้โดยคู่สัญญาใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาประการหน่ึง และอกี ประการหน่งึ คอื เลกิ สญั ญาโดยบทบญั ญตั ขิ องกฎหมาย 3.1คู่สัญญ าใช้สิทธิบอกเ ลิกสัญญา สิทธิของ คู่สัญญ าอาจมีไ ด้เม่ือมีการกําหนดห รือร ะบุไ ว้ ในสญั ญา หากผดิ เงอ่ื นไขหรอื ไมเ่ ป็นไปตามทต่ี กลงกนั ไว้ ใหอ้ กี ฝ่ายมสี ทิ ธบิ อกเลกิ สญั ญาได้

3.2สญั ญาเลกิ โดยบทบญั ญตั ขิ องกฎหมาย กฎหมายลกั ษณะจา้ งแรงงานกําหนดใหน้ ายจา้ งและลกู จา้ งมสี ทิ ธิ บอกเลกิ สญั ญาจา้ งแรงงานไวด้ งั น้ี 1)นายจา้ งมสี ทิ ธบิ อกเลกิ สญั ญา ก.ลกู จา้ งใหบ้ คุ คลภายนอกมาทาํ งานแทนตน โดยนายจา้ งไมไ่ ดย้ นิ ยอม ข.ลูกจา้ งรบั รองตนเองโดยแจง้ ชดั หรอื โดยปรยิ ายว่าตนเป็นผูม้ ฝี ีมอื พเิ ศษแต่ปรากฏว่าไม่เป็นดงั ท่ี รบั รองหรอื ไรฝ้ ีมอื ค.ลกู จา้ งขาดงานไปโดยไมม่ เี หตุอนั ควร ง. จา้ งไมไ่ ดก้ าํ หนดระยะเวลาไว้ เมอ่ื บอกกลา่ วลว่ งหน้าใหล้ กู จา้ งทราบแลว้ จ. นายจา้ งไลล่ กู จา้ งออก เพราะลกู จา้ งจงใจขดั คาํ สงั่ นายจา้ ง หรอื กระทาํ ผดิ อยา่ งรา้ ยแรง 2)ลกู จา้ งมสี ทิ ธบิ อกเลกิ สญั ญา ก.นายจา้ งโอนสทิ ธกิ ารจา้ งใหบ้ คุ คลภายนอก โดยลกู จา้ งไมย่ นิ ยอม ข.จา้ งไมก่ ําหนดระยะเวลา เมอ่ื ลกู จา้ งบอกกลา่ วลว่ งหน้าใหน้ ายจา้ งทราบแลว้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook