Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการประชุมศึกษานิเทศก์ 24-26 ก.พ.62 -รวมเล่ม pdf

รายงานการประชุมศึกษานิเทศก์ 24-26 ก.พ.62 -รวมเล่ม pdf

Description: รายงานการประชุมศึกษานิเทศก์ 24-26 ก.พ.62 -รวมเล่ม pdf

Search

Read the Text Version

รำยงำนผลกำรประชุม คณะทำงำนสรำ้ งควำมรคู้ วำมเข้ำใจในกำรปฏบิ ัตงิ ำน ของศกึ ษำนเิ ทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธกิ ำรจังหวดั สำนักบูรณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศกึ ษำ สำนักงำนปลัดกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร กระทรวงศึกษำธิกำร

รายงานผลการประชุม คณะทางานสรา้ งความรูค้ วามเข้าใจในการปฏิบตั งิ าน ของศึกษานิเทศก์ สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั ระหว่างวันท่ี 24 - 26 กมุ ภาพนั ธ์ 2562 ณ โรงแรมรอยลั รเิ วอร์ บางพลัด กรุงเทพฯ สานกั บรู ณาการยุทธศาสตร์การศึกษา สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประชุมคณะทำงำนสรำ้ งควำมร้คู วำมเขำ้ ใจในกำรปฏบิ ตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนักงำนศกึ ษำธิกำรจงั หวัด

คำนำ รำยงำนสรุปกำรประชุมคณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด ตำมโครงกำรประชุมสัมมนำสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำน ของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด รำยงำนสรุปฉบับน้ีจัดทำเพื่อรำยงำนผลกำรดำเนินงำนกำรจัด ประชุมคณะทำงำนฯ เม่ือวันท่ี 24 - 26 กุมภำพันธ์ 2562 ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ บำงพลัด กรุงเทพฯ วตั ถุประสงค์เพ่ือวำงแผนดำเนินงำนโครงกำรฯ ในกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับกำรปฏิบัติงำนร่วมกันของ ศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธกิ ำรจงั หวดั และหำแนวทำงในกำรสง่ เสรมิ สนบั สนุนกำรพัฒนำงำนวิชำกำร ในโอกำสน้ี สำนักบูรณำกำรยุทธศำสตร์กำรศึกษำ ใคร่ขอขอบคุณคณะทำงำนฯ ทุกท่ำน และผู้ท่ีมสี ว่ นร่วมในกำรจัดกิจกรรมคร้ังน้ีทุกท่ำน ที่ให้ควำมรว่ มมอื เป็นอย่ำงดี สำนักบรู ณำกำรยุทธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. มนี ำคม 2562 ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในกำรปฏิบตั งิ ำนของศึกษำนเิ ทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจังหวดั

ก สารบญั คานา ก สารบญั ส่วนท่ี 1 บทนา 1 โครงกำรประชมุ สัมมนำสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำน ของศกึ ษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธกิ ำรจงั หวัด สว่ นท่ี 2 การดาเนินกิจกรรมตามโครงการประชุมสัมมนาสร้างความรู้ 11 ความเข้าใจในการปฏบิ ัตงิ านของศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานศึกษาธิการจงั หวัด ส่วนท่ี 3 สรุปและข้อเสนอแนะ 27 ภาคผนวก 32 - ภำพกิจกรรม - คำสั่งคณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏบิ ัติงำนของศึกษำนเิ ทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวัด - หนงั สือเชญิ คณะทำงำน หนงั สอื ขอควำมอนเุ ครำะหต์ อบแบบสอบถำม - ควำมคดิ เหน็ เกีย่ วกับคุณลักษณะของศึกษำนิเทศก์ ประชมุ คณะทำงำนสรำ้ งควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจในกำรปฏบิ ัติงำนของศกึ ษำนเิ ทศก์ สำนักงำนศึกษำธกิ ำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศกึ ษำ สป. 1 สว่ นท่ี 1 บทนำ ตำมประกำศสำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร ลงวันท่ี 11 เมษำยน 2560 ได้แบ่งหน่วยงำน ภำยในสำนักงำนศึกษำธิกำรภำค และสำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด สังกัดสำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร นั้น อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ 23 แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรกระทรวงศึกษำธิกำร พ.ศ. 2546 ข้อ 5 และข้อ 11 ของคำส่ังหัวหน้ำคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ ท่ี 19/2560 เรื่อง กำรปฏิรูปกำรศึกษำในภูมิภำค ของกระทรวงศึกษำธิกำร ลงวันที่ 3 เมษำยำน พ.ศ. 2560 ประกอบกับมติคณะกรรมกำรขับเคลื่อนกำรปฏิรูป กำรศึกษำของกระทรวงศึกษำธิกำรในภูมิภำค ครั้งที่ 7/2560 เมื่อวันที่ 12 มิถุนำยน 2560 และมติ อ.ก.พ. กระทรวงศึกษำธิกำรในครำวประชุม คร้ังที่ 3/2560 เมื่อวันท่ี 3 พฤษภำคม 2560 จึงให้ยกเลิกประกำศสำนักงำน ปลัดกระทรวง เรื่อง กำรแบ่งหน่วยงำนภำยในสำนักงำนศึกษำธิกำรภำคและสำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด สังกัด สำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร ลงวันท่ี 11 เมษำยน 2560 และประกำศกำรแบ่งหน่วยงำนภำยในและกำหนด หน้ำที่ควำมรบั ผิดชอบ ดงั นี้ สำนักงำนศึกษำธิกำรภำค แบ่งกลุ่มงำนภำยในออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มอำนวยกำร 2) กลุ่มยุทธศำสตร์กำรศึกษำ 3) กลุ่มบริหำรงำนบุคคล 4) กลุ่มพัฒนำกำรศึกษำ 5) กลุ่มตรวจรำชกำรและติดตำม ประเมนิ ผล สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด แบ่งกลุ่มงำนภำยในออกเป็น 8 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีบทบำทหน้ำที่ ควำมรบั ผดิ ชอบ ดังน้ี 1. กลมุ่ อำนวยกำร 1) รับผิดชอบงำนธุรกำรของ กศจ. คณะอนุกรรมกำร และคณะทำงำน รวมท้ังปฏิบัติงำน รำชกำรทเี่ ป็นไปตำมอำนำจหน้ำทข่ี อง กศจ. และตำมที่ กศจ. มอบหมำย 2) ปฏิบัติภำรกจิ เก่ียวกับรำชกำรประจำท่ัวไปของกระทรวงศึกษำธกิ ำร และประสำนงำนต่ำง ๆ ในระดบั จงั หวัด 3) ดำเนนิ งำนเก่ียวกับงำนบริหำรท่วั ไป 4) ดำเนนิ งำนเกย่ี วกับงำนบริหำรกำรเงนิ บญั ชี และพสั ดุ 5) ดำเนินงำนเกี่ยวกบั ระบบบริหำรงำนและกำรควบคมุ ภำยใน 6) ดำเนินงำนเกี่ยวกับงำนประชำสัมพันธ์เผยแพร่กิจกรรมและผลงำนของสำนักงำน ศกึ ษำธิกำรจงั หวดั และหน่วยงำนทำงกำรศกึ ษำในพน้ื ที่รบั ผิดชอบ 7) ดำเนนิ งำนเก่ียวกบั อำคำรสถำนท่ี สิ่งแวดล้อม และยำนพำหนะ 8) ดำเนินงำนเกีย่ วกับงำนบรหิ ำรงำนบุคคลของสำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั 9) ดำเนนิ งำนเก่ียวกบั งำนพฒั นำองค์กร 10) ปฏิบัติภำรกิจเกี่ยวกับรำชกำรประจำทั่วไปของกระทรวงศึกษำธิกำร และประสำนงำนต่ำง ๆ ในระดับจังหวัด ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. 2 11) ปฏิบัติงำนร่วมกับหรือสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนของหน่วยงำนอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับ มอบหมำย 2. กลมุ่ บรหิ ำรงำนบคุ คล 1) รับผิดชอบงำนธุรกำรของ อกศจ. และคณะทำงำนท่ีเก่ียวขอ้ ง รวมทง้ั ปฏิบัติงำนรำชกำรที่ เปน็ ไปตำมอำนำจและหน้ำท่ขี อง อกศจ. และตำมท่ี อกศจ. มอบหมำย 2) เสนอแนะเก่ียวกับกำรกำหนดจำนวนและอัตรำตำแหน่ง กำรเกล่ียอัตรำกำลังให้ สอดคล้องกับนโยบำยกำรบริหำรงำนบคุ คล ระเบยี บ หลักเกณฑ์และวิธีกำรที่ ก.ค.ศ. กำหนด 3) เสนอแนะเก่ียวกับกำรพิจำรณำวิทยฐำนะ ควำมดีควำมชอบ กำรเสริมสร้ำงขวัญกำลังใจ กำรยกย่องเชดิ ชเู กียรติ และสทิ ธปิ ระโยชน์อ่นื ของขำ้ รำชกำรและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ 4) เสนอแนะเก่ียวกับกำรส่งเสริม สนับสนุน กำรพัฒนำกำรเสริมสร้ำงและกำรปกป้อง คุ้มครองระบบคุณธรรมของข้ำรำชกำรและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ 5) เสนอแนะเกี่ยวกับกำรบรรจุและแต่งต้ังข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ เช่น กำรบรรจุและกำรแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้หรือผู้ได้รับกำรคัดเลือก กำรย้ำย กำรโอน กำรเปล่ียนตำแหน่ง และกำรเล่ือนตำแหนง่ กำรบรรจกุ ลับเขำ้ รับรำชกำร เปน็ ต้น 6) นำเสนอคณะกรรมกำรศึกษำธิกำรจังหวัดเพื่อพิจำรณำเสนอควำมดีควำมชอบของ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ผู้บริหำรกำรศึกษำในหน่วยงำนกำรศึกษำและข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ในจังหวัด 7) เสริมสร้ำงขวัญกำลังใจ กำรยกย่องเชิดชูเกียรติ และสิทธิประโยชน์อื่นของข้ำรำชกำร และบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ 8) ดำเนินกำรทำงวินัย กำรออกจำกรำชกำร กำรอุทธรณ์ และกำรร้องทุกข์ของข้ำรำชกำร และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 9) จัดทำแผนและส่งเสริมกำรพัฒนำข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในหน่วยงำน กำรศกึ ษำในพ้ืนท่ีรับผดิ ชอบ 10) จดั ทำทะเบียนประวัตขิ ำ้ รำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำในพน้ื ท่ีรบั ผดิ ชอบ 11) จัดทำมำตรฐำนคุณภำพงำน กำหนดภำระงำนขั้นต่ำ และเกณฑ์กำรประเมินผลงำน สำหรบั ข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำในพื้นท่รี ับผดิ ชอบ 12) ประเมินคุณภำพกำรบริหำรงำนบุคคลและจัดทำรำยงำนกำรบริหำรงำนบุคคลเสนอ อกศจ. เพือ่ เสนอ ก.ค.ศ. 13) ส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนำข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำให้มีควำมเป็นเลิศ ทำงวิชำกำรและวชิ ำชพี 14) ดำเนินกำรให้บริกำรและอำนวยควำมสะดวกแก่ผู้เรียน ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกร ทำงกำรศกึ ษำ ผู้ประกอบวิชำชีพทำงกำรศึกษำ และประชำชนผำ่ นระบบศูนยบ์ ริกำรแบบเบด็ เสรจ็ 15) ดูแลและควบคุมผู้ประกอบวิชำชีพทำงกำรศึกษำให้เป็นไปตำมมำตรฐำนวิชำชีพ และจรรยำบรรณของวิชำชีพที่คุรุสภำกำหนด รวมทั้งให้กำรสนับสนุน ส่งเสริม ยกย่องและพัฒนำวิชำชีพ ตำมมำตรฐำนวิชำชีพและจรรยำบรรณของวิชำชพี ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศกึ ษำ สป. 3 16) ปฏบิ ตั งิ ำนรว่ มกบั หรอื สนบั สนุนกำรปฏบิ ัตงิ ำนของหนว่ ยงำนอน่ื ท่ีเกยี่ วขอ้ งหรอื ท่ไี ด้รับมอบหมำย 3. กลุ่มนโยบำยและแผน 1) ร่วมรับผิดชอบงำนธุรกำรของคณะอนุกรรมกำรเกี่ยวกับกำรพัฒนำกำรศึกษำ และคณะทำงำนที่เก่ียวข้อง รวมทั้งปฏิบัติงำนรำชกำรท่ีเป็นไปตำมอำนำจและหน้ำท่ีของ กศจ. และตำมท่ี กศจ. มอบหมำย รว่ มกบั กลุ่มพัฒนำกำรศึกษำ 2) จัดทำข้อเสนอยุทธศำสตร์ แนวทำงกำรจัดกำรศึกษำในจังหวัดที่สอดคล้องกับ ยุทธศำสตรช์ ำติ 3) จดั ทำแผนพฒั นำกำรศึกษำของจังหวัดและแผนปฏิบัตกิ ำรของจงั หวัด 4) จัดทำแผนปฏบิ ตั ิรำชกำรของสำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด รวมทั้งกำรตดิ ตำมและรำยงำน ผลกำรปฏบิ ัติรำชกำรของสำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั 5) วิเครำะห์กำรจัดต้ังงบประมำณของส่วนรำชกำรหรือหน่วยงำนในสังกัดกระทรวงศึกษำธิกำร ในจงั หวดั 6) จัดระบบ ส่งเสริมและประสำนงำนระบบฐำนข้อมูลและสำรสนเทศทำงกำรศึกษำที่ ครอบคลุม ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน เพ่ือกำรวำงแผน กำรบริหำรจัดกำรศึกษำ กำรติดตำม ประเมินและรำยงำนผล 7) ติดตำมกำรใช้จำ่ ยงบประมำณ 8) ปฏิบัติงำนร่วมกับหรือสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนของหน่วยงำนอ่ืนท่ีเกี่ยวข้องหรือท่ีได้รับ มอบหมำย 4. กล่มุ พฒั นำกำรศกึ ษำ 1) ร่วมรับผิดชอบงำนธุรกำรของคณะอนุกรรมกำรเกี่ยวกับกำรพัฒนำกำรศึกษำ และคณะทำงำนเกี่ยวข้อง รวมทั้งปฏิบัติงำนรำชกำรท่ีเป็นไปตำมอำนำจและหน้ำท่ีของ กศจ. และตำมที่ กศจ. มอบหมำย ร่วมกับกลุม่ นโยบำยและแผน 2) ดำเนนิ กำรเก่ยี วกับกำรจดั ต้ัง ยุบ รวม เลิก และโอนสถำนศกึ ษำขนั้ พ้นื ฐำน 3) จัดระบบ ส่งเสริม และประสำนงำนเครือข่ำยข้อมูลสำรสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อกำรศกึ ษำ พัฒนำเทคโนโลยีดิจิทัลเพอ่ื กำรศึกษำและระบบบรกิ ำรอิเล็กทรอนิกส์ทม่ี ีประสิทธภิ ำพและสำมำรถ ให้บริกำรได้โดยสะดวก รวมถึงกำรพัฒนำบุคลำกรให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่ำงสร้ำงสรรค์และรู้เท่ำทัน กำรเปลย่ี นแปลง 4) ส่งเสริม สนับสนุนกำรศึกษำเพื่อคนพิกำร ผู้ด้อยโอกำสและผู้มีควำมสำมำรถพิเศษ 5) ประสำน ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินกำรวิจัยและพัฒนำเพ่ือสร้ำงองค์ควำมรู้ และนวัตกรรมกำรศึกษำ 6) ส่งเสริมสนับสนนุ กิจกรรมพัฒนำผ้เู รียน ครู และบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ 7) จัดระบบกำรประสำน สนับสนุน ช่วยเหลือ และกำรรำยงำนเหตุภัยพบิ ัติ และภำวะวิกฤต ทำงกำรศึกษำในจังหวดั 8) ส่งเสริม สนับสนุนและดำเนินกำรเกี่ยวกับกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติด ในสถำนศกึ ษำ 9) ส่งเสริมและประสำนงำนกำรศำสนำ ศิลปะ วฒั นธรรม และกำรกฬี ำเพื่อกำรศึกษำ ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศึกษำ สป. 4 10) ส่งเสริม สนับสนุนกำรจัดกำรศึกษำทุกระดับและทุกประเภท ประสำนและส่งเสริม กำรบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนกำรจัดกำรศึกษำ ของบุคคล ครอบครัว องคก์ รชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชำชีพ สถำบันศำสนำ สถำนประกอบกำร และสถำบัน สังคมอน่ื ท่ีจดั กำรศกึ ษำ เพื่อสรำ้ งโอกำสควำมเสมอภำคและควำมเทำ่ เทียมกนั ทำงสงั คม 11) ส่งเสริมและพัฒนำกำรจดั กำรศกึ ษำเฉพำะกจิ เฉพำะกลุ่ม และเฉพำะพื้นที่ 12) ปฏิบัติงำนร่วมกับหรือสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนของหน่วยงำนอื่นท่ีเกี่ยวข้องหรือท่ีได้รับ มอบหมำย 5. กลมุ่ นเิ ทศ ติดตำม และประเมนิ ผล 1) รับผดิ ชอบงำนธรุ กำรของคณะอนุกรรมกำรบรหิ ำรรำชกำรเชิงยทุ ธศำสตร์และคณะทำงำน ทเ่ี ก่ียวข้อง รวมทั้งปฏิบัตงิ ำนรำชกำรที่เป็นไปตำมอำนำจและหน้ำทีข่ อง กศจ. และตำมที่ กศจ. มอบหมำย 2) ขับเคล่ือน ประสำนงำน เร่งรัด กำกับ ติดตำม ตรวจสอบ และประเมินผลกำรบริหำร กำรจดั กำรศึกษำของหนว่ ยงำนทำงกำรศึกษำ ในสงั กัดกระทรวงศึกษำธิกำรในพน้ื ทรี่ บั ผิดชอบ 3) ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินกำรเก่ียวกับงำนด้ำนวิชำกำร กำรนิเทศและแนะแนว กำรศกึ ษำทกุ ระดับและทุกประเภท รวมทัง้ ตดิ ตำมและประเมนิ ผลระบบบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำ 4) ประสำนและสนบั สนนุ กำรตรวจรำชกำรของผตู้ รวจรำชกำรกระทรวงศกึ ษำธิกำร 5) ศึกษำ วิเครำะห์ข้อมูลสำรสนเทศ เพ่ือสนับสนุนกำรตรวจรำชกำร จัดทำแผนกำรรองรับ กำรตรวจรำชกำร และดำเนินกำรเก่ียวกับกำรตรวจรำชกำรของผู้ตรวจรำชกำรกระทรวงในกำรตรวจรำชกำร ติดตำม และประเมินผลตำมนโยบำยและแผนกำรตรวจรำชกำรของกระทรวง 6) ส่งเสริมและพัฒนำหลักสูตร กำรจัดกำรเรียนกำรสอน กระบวนกำรเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ และสือ่ กำรเรียนรู้ตำ่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้องกบั กำรสรำ้ งเสริมคณุ ภำพชวี ิตทเ่ี ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม 7) ส่ังกำร กำกับ ดูแล เร่งรัด ติดตำมและประเมินผลกำรปฏิบัติงำนของส่วนรำชกำร หรือหน่วยงำนและสถำนศึกษำในสังกัดกระทรวงศึกษำธิกำรในจังหวัด ให้เป็นไปตำมนโยบำยของกระทรวงศึกษำธิกำร และยทุ ธศำสตรช์ ำติ 8) จัดทำกรอบกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำนและกำหนดตัวช้ีวัดกำรดำเนินงำนในลักษณะ ตวั ช้วี ดั ร่วมของสว่ นรำชกำรหรอื หนว่ ยงำน และสถำนศึกษำในสงั กดั กระทรวงศึกษำธกิ ำรในจงั หวดั 9) ขบั เคลือ่ นระบบกำรประกนั คุณภำพกำรศึกษำ 10) ปฏิบัติงำนร่วมกับหรือสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนของหน่วยงำนอ่ืนท่ีเก่ียวข้องหรือท่ีได้รับ มอบหมำย 6. กลุ่มสง่ เสริมกำรศึกษำเอกชน 1) กำกับ ดูแล ประสำน ส่งเสริม และสนับสนุนสถำนศึกษำเอกชนตำมกฎหมำยว่ำด้วย โรงเรียนเอกชน 2) ดำเนินกำรเก่ียวกับกำรออกใบอนุญำตจัดตั้งโรงเรียน และกำรเปล่ียนแปลงกิจกำร โรงเรียนเอกชน 3) ดำเนินกำรเกี่ยวกับกำรสงเครำะห์และเงินทดแทนตำมกฎหมำยว่ำด้วยโรงเรียนเอกชน และทีก่ ฎหมำยอ่นื กำหนด 4) ดำเนินกำรอน่ื เก่ยี วกบั งำนกำรศกึ ษำเอกชนตำมท่กี ฎหมำยกำหนด ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. 5 5) ปฏิบัตงิ ำนร่วมกับหรอื สนบั สนุนกำรปฏบิ ตั ิงำนของหนว่ ยงำนอืน่ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งหรือท่ีได้รบั มอบหมำย 7. กลมุ่ ลกู เสอื ยุวกำชำด และกจิ กำรนักเรยี น 1) ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินกำรและประสำนเกี่ยวกับกิจกำรลูกเสือ ยุวกำชำด และกิจกำรนักเรยี น 2) ส่งเสริม สนับสนุน ศึกษำ วิเครำะห์ วิจัย เพ่ือกำรพัฒนำนักเรียน นักศึกษำ โดยผ่ำน กระบวนกำรลูกเสือและยวุ กำชำด 3) ส่งเสริม สนับสนุนกำรน้อมนำพระบรมรำโชบำยด้ำนกำรศึกษำ พระรำชปณิธำน พระรำชกระแสดำ้ นกำรศึกษำ และโครงกำรอนั เน่อื งมำจำกพระรำชดำรทิ เี่ กยี่ วกับกำรศึกษำ 4) ส่งเสริม สนับสนุน กำรจัดกำรศึกษำเพื่อเสริมสร้ำงควำมมั่นคงของสถำบันหลักของชำติ และควำมปรองดอง สมำนฉนั ท์ 5) สร้ำงจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม มีคุณธรรมจริยธรรม และนำแนวคิดตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกจิ พอเพียงสกู่ ำรปฏิบัตใิ นกำรดำเนินชวี ติ 6) สง่ เสรมิ กำรป้องกนั แก้ไข และคมุ้ ครองควำมประพฤตนิ ักเรยี น นกั ศกึ ษำ 7) ปฏิบัติงำนร่วมกับหรือสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนของหน่วยงำนอื่นท่ีเก่ียวข้องหรือท่ีได้รับ มอบหมำย 8. หน่วยตรวจสอบภำยใน 1) ดำเนนิ กำรเก่ียวกบั กำรตรวจสอบดำ้ นกำรบริหำร กำรเงนิ และกำรบัญชี ของส่วนรำชกำร หรือหน่วยงำนและสถำนศึกษำในสังกดั กระทรวงศึกษำธิกำรในพ้ืนท่รี ับผิดชอบ 2) ปฏิบัติงำนร่วมกับหรือสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนของหน่วยงำนอ่ืนท่ีเก่ียวข้องหรือท่ีได้รับ มอบหมำย สภำพปัญหำในกำรจัดกำรศึกษำของประเทศในส่วนภูมิภำคทั้งในด้ำนโครงสร้ำงขององค์กร ด้ำนระบบบริหำรจัดกำร และด้ำนบุคลำกรท่ีเก่ียวข้อง ปัญหำเหล่ำน้ีส่งผลต่อคุณภำพกำรศึกษำและกำรพัฒนำ เยำวชนซ่ึงเป็นทรัพยำกรมนุษย์และกำลังคนท่ีสำคัญในกำรพัฒนำประเทศ และเป็นอุปสรรคต่อกำรขับเคลื่อน และกำรพัฒนำด้ำนกำรศึกษำของประเทศให้มีประสิทธิภำพทัดเทียมนำนำประเทศ แม้ที่ผ่ำนมำคณะรักษำควำม สงบแห่งชำติได้มีควำมพยำยำมในกำรแก้ไขปัญหำด้วยกำรกำหนดมำตรกำรและกลไกข้ึนโดยมีคำสั่งคณะรักษำ ควำมสงบแห่งชำติมำแล้วหลำยฉบับ แต่โดยเหตุท่ีสภำพปัญหำกำรจัดกำรศึกษำของประเทศในส่วนภูมิภำค มีควำมซับซ้อนและส่ังสมมำเป็นเวลำนำน จึงเป็นเหตุให้ต้องมีกำรกำหนดมำตรกำรและกลไกเพิ่มเติม เพ่ือให้ปัญหำโดยส่วนใหญ่ได้รับกำรแก้ไขโดยเร็ว และเพ่ือเป็นประโยชน์ในกำรเตรียมกำรรองรับกำรป ฏิรูป กำรศึกษำอันเป็นเรื่องสำคัญเร่ืองหน่ึงในกำรปฏิรูปประเทศตำมที่รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทยฉบับที่ได้รับ ควำมเห็นชอบจำกประชำมตไิ ดบ้ ัญญตั ไิ ว้ ศึกษำนิเทศก์เป็นผู้ที่มีบทบำทสำคัญย่ิงในกำรท่ีจะนำพำคุณภำพกำรศึกษำของชำติไปสู่ เป้ำหมำย โดยเฉพำะในเรื่องกำรปฏิรูปกำรศึกษำและเรียนรู้อย่ำงเป็นระบบ ซึ่งประเด็นสำคัญของกำรจัดระบบ กำรศึกษำและกำรเรียนรู้ที่ต้องปฏิบัติอย่ำงเร่งด่วน 4 ประกำรหลัก คือ กำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำและเรียนรู้ กำรพัฒนำคุณภำพครูยุคใหม่ กำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำและแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่ และกำรพัฒนำคุณภำพกำร ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศกึ ษำ สป. 6 บริหำรจัดกำรใหม่ นอกจำกนั้น ศึกษำนิเทศก์ยังมีหน้ำที่พัฒนำระบบกำรนิเทศให้เป็นกำรนิเทศแนวใหม่ เพ่ือรองรับกำรเปลี่ยนของสังคมท่ีเป็นไปอย่ำงรวดเร็ว ช่วงท่ีผ่ำนมำศึกษำนิเทศก์อำจได้รับควำมสำคัญในบทบำท หน้ำที่ไม่มำก แตจ่ ำกนี้ตอ่ ไปศึกษำนเิ ทศก์จะได้รบั ควำมสำคัญมำกขน้ึ เพรำะศึกษำนิเทศกจ์ ะเป็นสะพำนเช่ือมโยง ในกำรที่จะดูแลงำนวิชำกำรในกำรพัฒนำบุคลำกรและหลักสูตรโดยตรง หำกสะพำนนี้แคบหรือขำด กำรพัฒนำ คุณภำพก็จะไมบ่ รรลุเป้ำหมำยท่ีวำงไว้ ถงึ แม้วำ่ จะทุ่มงบประมำณเปน็ จำนวนมำกก็ตำม (นำยชัยวุฒิ บรรณวัฒน์)1 ดังน้ันสำนักบูรณำกำรยุทธศำสตร์กำรศึกษำในฐำนะเลขำนุกำรของคณะกรรมกำรขับเคล่ือนกำร ปฏิรูปกำรศึกษำของกระทรวงศึกษำธิกำรในภูมิภำค มีบทบำทหน้ำที่ส่งเสริม สนับสนุน และประสำนกำรดำเนินงำน กับส่วนรำชกำรหรือหน่วยงำนในส่วนกลำง และในส่วนภูมิภำค สำนักบูรณำกำรยุทธศำสตร์กำรศึกษำจึงได้จัดทำ โครงกำรประชุมสัมมนำสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด ประจำปีงบประมำณ 2562 เพ่ือให้ศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด มีควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับกำร ปฏิบัติงำน เข้ำใจในบทบำทของตนเองท่ีชัดเจนข้ึน อันจะส่งผลให้กำรขับเคลื่อนกำรปฏิรูปกำรศึกษำของ กระทรวงศึกษำธิกำรดำเนินไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ ตลอดจนผู้บริหำรส่วนกลำง ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้รับฟังปัญหำ และใหค้ ำแนะนำแนวทำงในกำรปฏิบตั ิงำน เพอื่ ให้สำมำรถทำงำนร่วมกันไดอ้ ยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพ ช่ือโครงกำร: โครงกำรประชุมสัมมนำสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำน ศึกษำธกิ ำรจังหวดั หลักกำรและเหตุผล ด้วยข้อเทจ็ จรงิ ที่ไดป้ รำกฏใหเ้ หน็ ถึงสภำพปญั หำในกำรจัดกำรศกึ ษำของประเทศในส่วนภูมิภำค ท้ังในด้ำนโครงสร้ำงขององค์กร ด้ำนระบบบริหำรจัดกำร และด้ำนบุคลำกรท่ีเก่ียวข้อง ซ่ึงปัญหำเหล่ำน้ีส่งผลต่อ คุณภำพกำรศึกษำและกำรพัฒนำเยำวชนซ่ึงเป็นทรัพยำกรมนุษย์และกำลังคนท่ีสำคัญในกำรพัฒนำประเทศ และเป็นอุปสรรคต่อกำรขับเคลื่อนและกำรพัฒนำด้ำนกำรศึกษำของประเทศให้มีประสิทธิภำพทัดเทียม นำนำประเทศ แม้ที่ผ่ำนมำคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติได้มีควำมพยำยำมในกำรแก้ไขปัญหำด้วยกำรกำหนด มำตรกำรและกลไกขึ้นโดยมีคำสงั่ คณะรักษำควำมสงบแห่งชำติมำแล้วหลำยฉบบั แต่โดยเหตุท่สี ภำพปัญหำกำรจัด กำรศึกษำของประเทศในส่วนภูมิภำคมีควำมซับซ้อนและสั่งสมมำเป็นเวลำนำน จึงเป็นเหตุให้ต้องมีกำรกำหนด มำตรกำรและกลไกเพ่ิมเติม เพื่อให้ปัญหำโดยส่วนใหญ่ได้รับกำรแก้ไขโดยเร็ว และเพื่อเป็นประโยชน์ในกำร เตรียมกำรรองรับกำรปฏิรูปกำรศึกษำอันเป็นเร่ืองสำคัญเร่ืองหนึ่งในกำรปฏิรูปประเทศตำมท่ีรัฐธรรมนูญแห่ง รำชอำณำจักรไทยฉบับท่ีได้รับควำมเห็นชอบจำกประชำมติได้บัญญัติไว้ ดังนั้นสำนักบูรณำกำรยุทธศำสตร์ กำรศึกษำในฐำนะเลขำนุกำรของคณะกรรมกำรขับเคลื่อนกำรปฏิรูปกำรศึกษำของกระทรวงศึกษำธิกำรในภูมิภำค มีบทบำทหน้ำที่ส่งเสริม สนับสนุน และประสำนกำรดำเนินงำนกับส่วนรำชกำรหรือหน่วยงำนในส่วนกลำง และในส่วนภูมิภำค สำนักบูรณำกำรยุทธศำสตร์กำรศึกษำจึงได้จัดทำโครงกำรประชุมสัมมนำสร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด ประจำปีงบประมำณ 2562 เพ่ือให้ศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด และนักวิชำกำรศึกษำสำนักงำนศึกษำธิกำรภำค (กลุ่มพัฒนำ กำรศึกษำ) มคี วำมรู้ควำมเข้ำใจเกยี่ วกับกำรปฏบิ ัติงำน เขำ้ ใจในบทบำทของตนเองที่ชัดเจนขนึ้ อันจะส่งผลให้กำร 1 นำยชัยวุฒิ บรรณวัฒน์. (ออนไลน)์ . แหล่งท่ีมำ: http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=13319&Key=news_chaiwut ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศึกษำ สป. 7 ขับเคลือ่ นกำรปฏิรูปกำรศกึ ษำของกระทรวงศกึ ษำธิกำรดำเนนิ ไปอยำ่ งมีประสิทธภิ ำพ ตลอดจนผู้บริหำรสว่ นกลำง ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้รับฟังปัญหำและให้คำแนะนำแนวทำงในกำรปฏิบัติงำน เพ่ือให้สำมำรถทำงำนร่วมกันได้อย่ำงมี ประสิทธิภำพ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับกำรปฏิบัติงำนร่วมกันของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำน ศึกษำธกิ ำรจงั หวดั 2. เพื่อสง่ เสริม สนับสนนุ พัฒนำงำนวิชำกำร ให้มปี ระสิทธภิ ำพย่งิ ข้ึน 3. เพอื่ หำแนวทำงกำรบรู ณำกำรกำรพฒั นำกำรจัดกำรศึกษำไปสกู่ ำรปฏิบัติ กลมุ่ เป้ำหมำย 1. ผูบ้ ริหำร เจ้ำหนำ้ ทีท่ ีเ่ กีย่ วข้อง และคณะทำงำนฯ 2. ศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธกิ ำรจงั หวัด 3. นกั วิชำกำรศกึ ษำ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรภำค ตัวชว้ี ดั เป้ำหมำยโครงกำร 1. เชิงปรมิ ำณ: มีผู้เขำ้ ร่วมประชมุ ไมน่ ้อยกวำ่ ร้อยละ 80 2. เชิงคุณภำพ: ผเู้ ขำ้ ร่วมประชุมมีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ และมแี นวทำงในกำรปฏบิ ตั ิงำนร่วมกนั วิธีดำเนินกำร 1. ขออนุมัติโครงกำรประชุมสัมมนำสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศกึ ษำธกิ ำรจงั หวัด ประจำปงี บประมำณ 2562 2. แต่งตั้งคณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำน ศกึ ษำธกิ ำรจังหวดั 3. จัดทำแบบสอบถำมควำมคิดเห็นเก่ียวกบั คุณลักษณะของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศกึ ษำธิกำร จงั หวัด 4. วิเครำะห์ สังเครำะห์แบบสอบถำมแบบสอบถำมควำมคิดเห็นเก่ียวกับคุณลักษณะของ ศึกษำนเิ ทศก์ สำนักงำนศึกษำธกิ ำรจงั หวดั 5. จัดประชุมคณะทำงำนฯ เพื่อวำงแผนดำเนินงำนโครงกำรประชุมสัมมนำสร้ำงควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในกำรปฏบิ ัติงำนของศึกษำนเิ ทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด 6. จัดประชุมเชิงปฏิบัติกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึ กษำนิเทศก์ สำนักงำนศกึ ษำธกิ ำรจังหวัด 7. สรุปรำยงำนผลกำรดำเนินงำนโครงกำรประชุมสัมมนำสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำร ปฏบิ ัตงิ ำนของศึกษำนเิ ทศก์ สำนักงำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศึกษำ สป. 8 กจิ กรรม ต้นทำง กลำงทำง ปลำยทำง กจิ กรรม (หลกั ) - จดั ทำโครงกำรเพื่อขอ จัดประชุมเชิงปฏบิ ตั กิ ำร สรุปรำยงำนผล 1. ขออนุมัตโิ ครงกำร อนุมัติ สรำ้ งควำมรูค้ วำมเข้ำใจ กำรดำเนนิ งำน - แต่งต้ังคณะทำงำนฯ ในกำรปฏบิ ตั ิงำนของ 2. วำงแผนดำเนนิ งำน - จัดทำแบบสอบถำม ศกึ ษำนเิ ทศก์สำนักงำน 3. ดำเนินกำรโครงกำร ควำมคิดเหน็ ศกึ ษำธิกำรจังหวดั - วเิ ครำะห์ สังเครำะห์ 4. สรุปผลกำรประชุม แบบสอบถำม - จัดประชมุ คณะทำงำนฯ เพื่อวำงแผนกำรดำเนินงำน ระยะเวลำดำเนนิ กำร ระหว่ำงเดอื นกมุ ภำพนั ธ์ – กันยำยน 2562 สถำนทด่ี ำเนนิ กำร หน่วยงำนรำชกำรในส่วนกลำงหรอื ในสว่ นภมู ิภำค โรงแรมในเขตกรงุ เทพมหำนคร ปรมิ ณฑล หรอื โรงแรมในสว่ นภมู ิภำค ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศึกษำ สป. 9 งบประมำณ 5,096,900 บำท (ห้ำล้ำนเก้ำหม่นื หกพันเก้ำรอ้ ยบำทถ้วน) ถัวจ่ำยทกุ รำยกำร ดังนี้ รำยกำร งบประมำณ (บำท) กจิ กรรมท่ี 1 ประชุมคณะทำงำนเพ่อื วำงแผนกำรดำเนนิ งำน คำ่ ใช้จ่ำยในกำรดำเนนิ กิจกรรม จำนวน 3 วัน ผ้เู ขำ้ ร่วมประชมุ จำนวน 40 คน 1) ค่ำเบยี้ เล้ียง (240 บำท x 40 คน x 3 วัน) 28,800 2) ค่ำอำหำรกลำงวัน (300 บำท x 40 คน x 2 ม้อื ) 24,000 3) ค่ำอำหำรเย็น (350 บำท x 40 คน x 1 มือ้ ) 14,000 4) คำ่ อำหำรวำ่ งและเครอื่ งดืม่ (50 บำท x 40 คน x 4 ม้อื ) 8,000 5) ค่ำท่พี ัก (1,500 บำท x 40 คน x 2 คนื ) 120,000 6) ค่ำพำหนะผูเ้ ข้ำรว่ มประชุม (4,000 บำท x 30 คน) 120,000 7) ค่ำพำหนะเจำ้ หน้ำท่ี (1,000 บำท x 10 คน) 10,000 8) คำ่ นำ้ มนั เชอ้ื เพลิง 2,500 9) ค่ำวสั ดุ 3,000 รวมทั้งสน้ิ 330,300 กจิ กรรมท่ี 2 ประชุมเชงิ ปฏบิ ัติกำรสรำ้ งควำมรูค้ วำมเขำ้ ใจในกำรปฏิบัตงิ ำนของศกึ ษำนิเทศก์สำนักงำนศกึ ษำธิกำรจังหวดั คำ่ ใช้จ่ำยในกำรดำเนนิ กิจกรรม จำนวน 2 วัน ผเู้ ขำ้ รว่ มประชมุ จำนวน 920 คน 1) คำ่ เบีย้ เลีย้ ง (240 บำท x 920 คน x 2 วัน) 441,600 2) คำ่ อำหำรกลำงวนั (300 บำท x 920 คน x 1 มือ้ ) 276,000 3) ค่ำอำหำรเย็น (350 บำท x 920 คน x 1 ม้อื ) 322,000 4) คำ่ อำหำรวำ่ งและเครื่องดม่ื (50 บำท x 920 คน x 3 ม้ือ) 138,000 5) คำ่ ที่พกั (1,500 บำท x 920 คน x 1 คืน) 1,380,000 6) คำ่ พำหนะผเู้ ข้ำรว่ มประชุมและวิทยำกร (2,000 บำท x 920 คน) 1,840,000 7) คำ่ ตอบแทนวทิ ยำกร (1,200 บำท x 3 คน x 3 ช่ัวโมง) 10,800 8) ค่ำเช่ำหอ้ งประชมุ 30,000 9) ค่ำนำ้ มนั เชอื้ เพลิง 7,500 10) คำ่ ผำ่ นทำงด่วนพิเศษ 2,000 11) คำ่ วสั ดุ 70,000 รวมทั้งส้ิน 4,517,900 กจิ กรรมท่ี 3 ประชุมสรปุ รำยงำนผลกำรดำเนินงำน ค่ำใช้จำ่ ยในกำรดำเนนิ กจิ กรรม จำนวน 2 วัน ผเู้ ข้ำรว่ มประชุม จำนวน 40 คน 1) ค่ำเบ้ียเล้ยี ง (240 บำท x 40 คน x 2 วัน) 19,200 2) คำ่ อำหำรกลำงวัน (300 บำท x 40 คน x 1 ม้ือ) 12,000 3) ค่ำอำหำรเยน็ (350 บำท x 40 คน x 1 มอ้ื ) 14,000 4) ค่ำอำหำรวำ่ งและเครื่องดม่ื (50 บำท x 40 คน x 3 มือ้ ) 6,000 ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศกึ ษำ สป. 10 รำยกำร งบประมำณ (บำท) 5) ค่ำที่พัก (1,500 บำท x 40 คน x 1 คืน) 60,000 6) คำ่ พำหนะผเู้ ขำ้ ร่วมประชุม (4,000 บำท x 30 คน) 120,000 7) ค่ำพำหนะเจำ้ หนำ้ ท่ี (1,000 บำท x 10 คน) 10,000 8) คำ่ น้ำมนั เช้อื เพลงิ 2,500 9) คำ่ วัสดุ 5,000 รวมทั้งส้ิน 248,700 คำ่ ใช้จ่ำยกิจกรรม 1+2+3 รวมทั้งสิ้น 5,096,900 กำรวเิ ครำะห์ควำมเสี่ยงของโครงกำร ควำมเสี่ยง: ผู้เข้ำประชุมมีจำนวนมำกอำจทำให้กำรส่ือสำร กำรทำกิจกรรมร่วมกันอำจไม่ สำมำรถควบคมุ ได้ทว่ั ถึง กำรบริหำรควำมเส่ียง: วำงแผนจัดรูปแบบกำรประชุมให้เหมำะสมกับกลุ่มเป้ำหมำย หนว่ ยงำนรบั ผิดชอบ สำนกั บรู ณำกำรยุทธศำสตร์กำรศกึ ษำ สำนักงำนศกึ ษำธิกำรภำค และสำนักงำนศึกษำธกิ ำรจงั หวดั ผลประโยชนท์ ีค่ ำดว่ำจะไดร้ ับ 1. ศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด นักวิชำกำร สำนักงำนศึกษำธิกำรภำค มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจบทบำทหน้ำท่แี ละกำรปฏิบตั งิ ำนไปในทิศทำงเดยี วกนั 2. มีแนวทำงในกำรส่งเสริม สนับสนุนกำรพัฒนำงำนวิชำกำร กำรบูรณำกำรกำรจัดกำรศึกษำ ไปสู่กำรปฏิบัติไดอ้ ย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ ซ่ึงสำนักบูรณำกำรยุทธศำสตร์กำรศึกษำ สป. ได้รับกำรอนุมัติให้ดำเนินโครงกำรประชุมสัมมนำ สร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด เพ่ือสร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจ และหำแนวทำงในกำรส่งเสริมสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ของสำนักงำนศึกษำธิกำร จังหวัด โดยอนุมัติดำเนินกำรในส่วนของกิจกรรมที่ 1 ประชุมคณะทำงำนเพื่อวำงแผนกำรดำเนินงำนโครงกำร และหำแนวทำงในกำรส่งเสริมสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ของสำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดก่อน และใช้ งบประมำณประจำปี พ.ศ. 2562 จำกแผนงำนพ้ืนฐำนด้ำนกำรพัฒนำและเสริมสร้ำงศักยภำพคน ผลผลิต นโยบำยและแผนด้ำนกำรศึกษำ กิจกรรมดำเนินงำนด้ำนนโยบำยและยุทธศำสตร์ งบดำเนินงำน ของสำนักบูรณำ กำรยุทธศำสตร์กำรศึกษำ ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. 11 ส่วนที่ 2 กำรดำเนนิ กจิ กรรมตำมโครงกำรประชมุ สัมมนำสรำ้ งควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในกำรปฏิบตั ิงำน ของศกึ ษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด สำนักบูรณำกำรยุทธศำสตร์กำรศึกษำ สำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร ได้ดำเนินกำร จัดกิจกรรมตำมโครงกำรประชุมสัมมนำสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำน ศึกษำธิกำรจังหวัด กิจกรรมที่ 1 ประชุมคณะทำงำนเพ่ือวำงแผนกำรดำเนินงำน ใช้งบประมำณประจำปี พ.ศ. 2562 ของสำนักบูรณำกำรยุทธศำสตร์กำรศึกษำ จำกแผนงำนพื้นฐำนด้ำนกำรพัฒนำและเสริมสร้ำง ศักยภำพคน ผลผลิตนโยบำยและแผนด้ำนกำรศึกษำ กิจกรรมดำเนินงำนด้ำนนโยบำยและยุทธศำสตร์ งบดำเนินงำน ซ่งึ มขี ั้นตอนกำรดำเนินกำรดังนี้ 1. แต่งต้ังคณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำน ศกึ ษำธกิ ำรจังหวัด 2. จัดทำแบบสอบถำมออนไลน์โดยใช้ Google Form สอบถำมควำมคิดเห็นเก่ียวกับ คณุ ลักษณะของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศกึ ษำธิกำรจงั หวัด ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. 12 คำถำมเปน็ คำถำมแบบปลำยเปดิ จำนวน 6 ข้อ ไดแ้ ก่ 1) ท่ำนคิดว่ำศกึ ษำนิเทศกข์ องสำนักงำนศึกษำธิกำรจงั หวัด ควรมีคณุ ลักษณะอย่ำง? 2) บทบำทหน้ำที่ของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด ควรมีบทบำทหน้ำท่ี อยำ่ งไรบำ้ ง? 3) ทำ่ นจะมีวธิ ปี ฏบิ ตั งิ ำนอยำ่ งไรใหป้ ระสบควำมสำเร็จ? 4) ภำพควำมสำเรจ็ หรอื สิง่ ทคี่ ำดหวงั ของศึกษำนเิ ทศก์ สำนักงำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั ? 5) เส้นทำงควำมก้ำวหน้ำของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด ควรเป็น อยำ่ งไร? 6) อนื่ ๆ โดยสอบถำมควำมคิดเห็นของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดทุกจังหวัด เกี่ยวกับคุณลักษณะของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด ซ่ึงมีผู้ตอบแบบสอบถำม จำนวนทั้งส้ิน 245 คน ผู้ตอบแบบสอบที่เป็นเพศชำย จำนวน 83 คน คิดเป็นร้อยละ 33.88 เพศหญิง จำนวน 147 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 60 และผูท้ ่ีไม่ระบุเพศ จำนวน 15 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 6.12 เพศ จำนวน (คน) ร้อยละ ชำย 83 33.88 หญงิ 147 ไมร่ ะบุ 15 60 6.12 รวม 245 100 ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศกึ ษำ สป. 13 160 เพศ 140 147 120 15 100 83 ห งิ มระบุ 80 60 40 20 0 ชำ ตำแหนง่ ศกึ ษำนิเทศก์ปฏบิ ัติกำร จำนวน 1 คน ศกึ ษำนิเทศก์ชำนำญกำร จำนวน 51 คน ศึกษำนเิ ทศกช์ ำนำญกำรพิเศษ จำนวน 176 คน ศึกษำนเิ ทศกเ์ ช่ียวชำญ จำนวน 7 คน ไม่ระบตุ ำแหน่ง จำนวน 10 คน ตำแหน่ง จำนวน (คน) รอ้ ยละ 0.41 ศึกษำนิเทศก์ปฏิบัติกำร 1 20.82 71.84 ศึกษำนิเทศกช์ ำนำญกำร 51 2.86 4.10 ศกึ ษำนิเทศกช์ ำนำญกำรพิเศษ 176 100 ศึกษำนเิ ทศก์เชยี่ วชำญ 7 ไม่ระบุ 10 รวม 245 200 ตำแหน่ง 10 180 160 176 140 120 51 100 7 80 60 40 20 1 0 ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศกึ ษำ สป. 14 จำนวนผ้ตู อบแบบสอบถำมในแตล่ ะจังหวัด โดยแบง่ ตำมภำค 6 ภำค ภำคกลำง ศธภ. 1 (ลพบรุ ี) ศธจ. จำนวน (คน) ลพบรุ ี 2 อยุธยำ 5 15 สระบุรี 10 10 10 ศธภ ลพบรุ ี อำ่ งทอง 1 ชยั นำท 3 5 5 2 สิงห์บุรี 1 3 0 11 รวม 22 ศธภ. 2 (ปทุมธำนี) ศธจ. จำนวน (คน) ปทุมธำนี 3 ศธภ ปทุมธำนี 44 กรุงเทพมหำนคร 4 8 7 6 สมุทรปรำกำร 4 43 2 นครปฐม 7 0 3 นนทบุรี 3 รวม 21 ศธภ. 3 (รำชบรุ )ี ศธจ. จำนวน (คน) 15 12 ศธภ รำชบรุ ี รำชบุรี 2 10 7 สุพรรณบุรี 7 52 กำญจนบุรี 12 0 รวม 21 ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศกึ ษำ สป. 15 ศธภ. 4 (สมทุ รสงครำม) ศธจ. จำนวน (คน) 6 ศธภ สมทุ รสงครำม 5 สมทุ รสงครำม - 5 สมุทรสำคร 3 4 ประจวบครี ขี นั ธ์ 5 3 3 เพชรบรุ ี 1 2 รวม 9 1 1 0 ภำคใต้ ศธภ. 5 (นครศรีธรรมรำช) ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.นครศรีธรรมรำช 2 ศธจ.ชมุ พร 2 ศธจ.พัทลงุ 1 ศธภ นครศรธี รรมรำช ศธจ.สรุ ำษฎร์ธำนี 5 65 ศธจ.สงขลำ 1 4 1 22 ศธจ สงขลำ 21 รวม 11 0 ศธจ พัทลุง ศธจ สรุ ำษฎร์ธำนี ศธจ นครศรธี รรมรำช ศธจ ชุมพร ศธภ. 6 (ภเู กต็ ) ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.ภูเกต็ - ศธจ.กระบ่ี 2 ศธจ.ตรงั 2 ศธภ ภเู กต็ ศธจ.พังงำ 2 2.5 2 22 2 11 ศธจ.ระนอง 1 1.5 1 ศธจ ตรงั ศธจ พังงำ ศธจ ระนอง ศธจ สตลู ศธจ.สตูล 1 0.5 0 รวม 8 ศธจ กระบี่ ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. 16 ภำคใตช้ ำยแดน ศธภ. 7 (ยะลำ) ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.ยะลำ - ศธภ ยะลำ 15 ศธจ.นรำธวิ ำส 2 10 10 ศธจ ปตั ตำนี ศธจ.ปตั ตำนี 10 5 2 ศธจ นรำธิวำส รวม 12 0 ศธจ ยะลำ ภำคตะวนั ออก ศธภ. 8 (ชลบุร)ี ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.ชลบรุ ี 2 8 ศธภ ชลบรุ ี 6 7 ศธจ.ฉะเชงิ เทรำ 7 4 2 ศธจ.ระยอง 1 1 2 ศธจ ระยอง รวม 10 ศธจ ฉะเชิงเทรำ 0 ศธจ ชลบุรี ศธภ. 9 (ฉะเชิงเทรำ) ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.จันทบุรี 1 ศธจ.ตรำด - 7 ศธภ ฉะเชงิ เทรำ 6 1 6 ศธจ. 2 5 2 นครนำยก 4 1 3 ศธจ. 21 ศธจ ตรำด ศธจ นครนำยก ศธจ ปรำจนี บรุ ี ศธจ สระแกว้ ปรำจนี บุรี 1 0 ศธจ.สระแกว้ 6 ศธจ จนั ทบุรี รวม 10 ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศึกษำ สป. 17 ภำคตะวันออกเฉยี งเหนอื ศธภ. 10 (อดุ รธำน)ี ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.อดุ รธำนี 2 ศธจ.บึงกำฬ 2 ศธจ.เลย 5 10 ศธภ อดุ รธำนี 8 8 5 ศธจ.หนองคำย 8 6 ศธจ.หนองบัวลำภู 1 4 2 1 2 ศธจ เลย ศธจ หนองคำย ศธจ หนองบวั ลำภู 2 รวม 18 0 ศธจ อุดรธำนี ศธจ บึงกำฬ ศธภ. 11 (สกลนคร) ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.สกลนคร 3 ศธภ สกลนคร 4 ศธจ.นครพนม 1 3 3 ศธจ.มกุ ดำหำร - 2 1 1 รวม 11 0 ศธจ นครพนม ศธจ มกุ ดำหำร ศธจ สกลนคร ศธภ. 12 (ขอนแกน่ ) ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.ขอนแก่น 3 ศธจ.กำฬสนิ ธ์ุ - 10 ศธภ ขอนแกน่ 8 8 ศธจ.มหำสำรคำม - 6 43 ศธจ.รอ้ ยเอด็ 8 2 รวม 11 ศธจ กำฬสนิ ธ์ุ ศธจ มหำสำรคำม ศธจ ร้อยเอ็ด 0 ศธจ ขอนแก่น ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. 18 ศธภ. 13 (นครรำชสีมำ) ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.นครรำชสมี ำ 11 ศธจ.ชยั ภมู ิ 2 12 11 ศธภ นครรำชสมี ำ 10 ศธจ.บรุ รี ัมย์ 5 8 5 5 6 ศธจ บรุ รี มั ย์ ศธจ สรุ นิ ทร์ ศธจ.สรุ ินทร์ 5 4 2 2 ศธจ ชยั ภมู ิ รวม 23 0 ศธจ นครรำชสมี ำ ศธภ. 14 อุบลรำชธำนี) ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.อบุ ลรำชธำนี - 12 ศธภ อุบลรำชธำนี 11 ศธจ.ยโสธร 2 10 8 ศธจ.ศรีสะเกษ 11 6 ศธจ.อำนำจเจรญิ - 4 2 2 รวม 13 0 ศธจ ยโสธร ศธจ ศรีสะเกษ ศธจ อำนำจเจรญิ ศธจ อบุ ลรำชธำนี ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. 19 ภำคเหนอื ศธภ. 15 (เชยี งใหม)่ ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.เชียงใหม่ 1 ศธจ.แมฮ่ อ่ งสอน - ศธภ เชียงใหม่ ศธจ.ลำปำง 5 6 5 5 ศธจ.ลำพูน 3 4 3 3 ศธจ ลำพูน รวม 9 21 ศธจ แมฮ่ ่องสอน ศธจ ลำปำง 1 0 ศธจ เชยี งใหม่ ศธภ. 16 (เชียงรำย) ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.เชยี งรำย 4 ศธจ.น่ำน 3 5 ศธภ. 16 (เชยี งรำย) 4 ศธจ.พะเยำ 2 3 4 2 ศธจ.แพร่ - 3 รวม 9 ศธจ น่ำน ศธจ พะเยำ ศธจ แพร่ 2 1 0 ศธจ เชียงรำย ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศึกษำ สป. 20 ศธภ. 17 (พษิ ณโุ ลก) ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.พษิ ณุโลก 1 ศธจ.ตำก 1 ศธจ.เพชรบรู ณ์ 3 ศธภ พิษณุโลก ศธจ.สุโขทยั 7 87 6 ศธจ.อตุ รดติ ถ์ - 4 1 3 รวม 12 21 ศธจ ตำก ศธจ เพชรบูรณ์ ศธจ สุโขทยั ศธจ อตุ รดติ ถ์ 0 ศธจ พิษณุโลก ศธภ. 18 (นครสวรรค์) ศธจ. จำนวน (คน) ศธจ.กำแพงเพชร - ศธจ.นครสวรรค์ 6 ศธจ.พิจิตร 1 ศธภ นครสวรรค์ ศธจ.อทุ ยั ธำนี 1 76 6 5 4 รวม 8 3 1 1 ศธจ พิจติ ร ศธจ อุทัยธำนี 2 10 0 ศธจ กำแพงเพชร ศธจ นครสวรรค์ ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. 21 จำนวนผ้ตู อบแบบสอบถำมโดยแบ่งตำมภำค 6 ภำค ภำค จำนวน (คน) รอ้ ยละ ภำคกลำง 73 29.8 ภำคใต้ 19 7.75 ภำคใตช้ ำยแดน 12 4.9 ภำคตะวันออก 20 8.16 ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ 76 31.02 ภำคเหนือ 38 15.51 ไมร่ ะบุ 7 2.86 245 100 รวม ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศกึ ษำ สป. 22 3. จัดประชุมคณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำน ศึกษำธกิ ำรจังหวัด ระหวำ่ งวันท่ี 24 – 26 กุมภำพันธ์ 2562 ณ โรงแรมรอยัลรเิ วอร์ บำงพลดั กรุงเทพมหำนคร ข้นั ตอนกำรดำเนนิ กำรประชมุ คณะทำงำนฯ ดงั น้ี 1. คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำร จังหวัด แบ่งกลุ่มวิเครำะห์ข้อคิดเห็นของศึกษำนิเทศก์จำกแบบสอบถำม เพื่อแสวงหำแนวทำงกำรสร้ำงควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในกำรปฏิบัติงำน จำนวน 5 กลุม่ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 วเิ ครำะหค์ ุณลกั ษณะของศึกษำนเิ ทศก์ กลมุ่ ที่ 2 วิเครำะห์ บทบำทหน้ำท่ีของศึกษำนิเทศก์ กลุ่มท่ี 3 วิเครำะห์วิธีปฏิบัติงำนให้ประสบควำมสำเร็จ กลุ่มที่ 4 วิเครำะห์ภำพ ควำมสำเร็จหรือส่ิงท่ีคำดหวังของศึกษำนิเทศก์สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวั ด กลุ่มท่ี 5 วิเครำะห์เส้นทำง ควำมก้ำวหนำ้ ของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด 2. นำเสนองำนกลุ่มเพื่อให้ที่ประชุมคณะทำงำนฯ เสนอแนะ และนำข้อเสนอแนะมำปรับปรุง แก้ไขเพิม่ เตมิ งำนท่นี ำเสนอ กลมุ่ ท่ี 1 วเิ ครำะห์คณุ ลกั ษณะของศกึ ษำนิเทศก์ ซ่งึ วิเครำะหแ์ ละสรปุ คณุ ลักษณะของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจังหวดั ไดด้ งั น้ี 1) ควำมเป็นผู้นำทำงวิชำกำร - กำรมีวสิ ัยทศั น์ - ควำมลมุ่ ลกึ ทำงวชิ ำกำร - ควำมเชีย่ วชำญทำงหลกั สตู ร/กำรจดั กำรเรียนรู้ กำรวัดและประเมินผล - ใชก้ ำรวิจยั เป็นฐำนในกำรปฏิบัติงำน 2) คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยำบรรณวิชำชีพ - กำรมวี นิ ยั - กำรเป็นแบบอยำ่ งที่ดี - รกั และศรัทธำในวชิ ำชีพศึกษำนิเทศก์ - มคี วำมรบั ผดิ ชอบในวิชำชพี ศึกษำนิเทศก์ 3) บุคลกิ ลักษณะ - กำรวำงตวั ที่เหมำะสม - กำรแตง่ กำย เสอื้ ผ้ำ หน้ำ ผม - กำรมีปฏิสมั พันธ์เชงิ บวก - กำรบริกำรทีด่ ี - กำรสรำ้ งแรงจูงใจในกำรทำงำน ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศึกษำ สป. 23 กลุ่มท่ี 2 วเิ ครำะห์บทบำทหน้ำทีข่ องศกึ ษำนเิ ทศก์ ซึง่ วเิ ครำะห์และสรุปบทบำทหน้ำท่ขี องศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั ได้ดังนี้ 1) ส่งเสริม สนับสนุน นิเทศ ติดตำม ตรวจสอบและประเมินผลกำรจัดกำรศึกษำให้เป็นไป ตำมนโยบำยและยทุ ธศำสตร์กำรศกึ ษำ 2) บูรณำกำร ประสำน และเช่ือมโยงกับหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ให้จัดกำรศึกษำเน้นไปใน ทิศทำงเดยี วกัน สอดคลอ้ งกับนโยบำยตำมบรบิ ทของพืน้ ท่ี 3) เร่งรัด กำกับ ติดตำม ประเมินผลกำรดำเนินงำนของหน่วยงำนทำงกำรศึกษำและ สถำนศกึ ษำให้เปน็ ไปตำมนโยบำยของกระทรวงศึกษำธกิ ำร 4) วเิ ครำะห์ วจิ ยั และพฒั นำนวัตกรรม เพอื่ ใชเ้ ปน็ เคร่อื งมือในกำรจัดกำรศึกษำทส่ี อดคล้อง กบั บริบทของพ้ืนที่ 5) ส่งเสริม สนับสนุน กำรใช้เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับนโยบำยและยุทธศำสตร์กำรพัฒนำ กำรศึกษำ 6) สง่ เสริม สนบั สนุน ประสำนแผนบูรณำกำรเพื่อพฒั นำกำรจดั กำรศึกษำในพน้ื ที่ 7) ส่งเสริม สนับสนุน ประสำนข้อมูลกับหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ เพื่อสนับสนุนกำรตรวจ ตดิ ตำม และประเมินผลกำรจัดกำรศกึ ษำของกระทรวงศึกษำธกิ ำร กลุ่มที่ 3 วเิ ครำะหว์ ิธีปฏิบัติงำนให้ประสบควำมสำเรจ็ ซึ่งวิเครำะห์และสรุปวิธีปฏิบัติงำนให้ประสบควำมสำเร็จของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำน ศึกษำธกิ ำรจังหวัด ไดด้ งั นี้ 1. ศึกษำ รวบรวม ข้อมูล 1.1 วิเครำะหข์ ้อมูล (SWOT) เพอื่ จดั ทำสำรสนเทศตำมภำระงำนของศึกษำนเิ ทศก์ 1.2 สงั เครำะห์ขอ้ มลู สำรสนเทศ เพอ่ื ใชป้ ระกอบกำรปฏบิ ตั งิ ำน 1.3 ใช้กระบวนกำรวจิ ัยในกำรทำงำน 2. กำรกำหนดแผนกำรดำเนนิ งำน 2.1 กำหนดจุดมงุ่ หมำยในกำรทำงำน 2.2 กำหนดยุทธวิธีเชิงบวก กำหนดควำมสัมพันธ์เชิงบวก (สร้ำงควำมร่วมมือ/ ใชห้ ลกั กำรบรหิ ำรจัดกำร กำรมสี ่วนร่วม) 2.3 ออกแบบ วำงแผน และคิดงำนในกำรภำพกวำ้ ง 2.4 สรำ้ งรปู แบบ/แนวทำงในกำรแก้ปญั หำพัฒนำกำรศกึ ษำ 3. กำรดำเนนิ กำรตำมแผน/ขน้ั ตอน 3.1 สร้ำงภำคีเครือข่ำยกำรทำงำน - สรำ้ งสัมพันธภำพ - แตง่ ตั้งคณะทำงำนจำกทุกภำคส่วน/หนว่ ยงำน 3.2 บูรณำกำร ประสำนเครือข่ำยอย่ำงหลำกหลำยวธิ ี ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. 24 3.3 สร้ำงควำมเขำ้ ใจตำมแผน - กำหนดเป้ำหมำยทีช่ ดั เจนร่วมกนั - สร้ำงกำรรบั รู้ร่วมกัน - กำหนดปฏิทนิ ปฏบิ ัตงิ ำน - กำหนดแนวทำง/กลยทุ ธ์กำรดำเนินงำน - ออกแบบงำน/รปู แบบรว่ มกนั ในองค์กร/เครือขำ่ ย - สร้ำงเครอ่ื งมอื ในกำรนเิ ทศ ตดิ ตำม 3.4 นิเทศ ติดตำม สนับสนุน โดยมวี ธิ ีกำรท่ีหลำกหลำยอยำ่ งสม่ำเสมอ/ต่อเนอื่ ง 3.5 ประสำนกำรทำงำนด้วยควำมเปน็ กลั ยำณมิตร 3.6 ทำงำนเชงิ บูรณำกำรกำรเช่อื มโยงกำรจัดกำรศกึ ษำ 3.7 นิเทศ ตดิ ตำม ประเมนิ ผลอย่ำงตอ่ เน่อื ง 3.8 นำกระบวนกำรวจิ ัยมำใชก้ บั กำรนเิ ทศ เพื่อพัฒนำกำรศกึ ษำ 3.9 วิเครำะห์ วจิ ัย สนับสนุนให้กำรจดั กำรศึกษำทกุ ระดบั อย่ำงมีคุณภำพ 4. ประเมินผลกำรดำเนนิ งำน 4.1 กำกับ นเิ ทศ ติดตำม และประเมินผล กำรดำเนินงำนอยำ่ งสมำ่ เสมอ 4.2 นำผลกำรนเิ ทศ บูรณำกำรงำนวจิ ัย 4.3 ประเมินผลเป็นระยะ ๆ เพื่อประเมินผลควำมสำเร็จ/ควำมก้ำวหน้ำของกำร ดำเนินงำน 4.4 นำผลกำรประเมินมำใชพ้ ัฒนำคณุ ภำพกำรศึกษำ 5. ปรับปรงุ แกไ้ ขกำรดำเนนิ งำน 5.1 พัฒนำอยำ่ งต่อเนอื่ ง 5.2 ใช้กระบวนกำร PDCA 6. สรปุ รำยงำนผล/ชนื่ ชมควำมสำเร็จ 6.1 สรุปผลกำรดำเนินงำนตำมแผนกำรดำเนินงำน 6.2 รำยงำนผลกำรปฏบิ ัตเิ พ่อื ม่งุ สูผ่ ลสัมฤทธิ์ 6.3 เผยแพรผ่ ลงำนแก่สำธำรณะ/หน่วยงำนอืน่ ๆ ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศกึ ษำ สป. 25 กลุ่มท่ี 4 วิเครำะห์ภำพควำมสำเร็จหรือสิ่งท่ีคำดหวังของศึกษำนิเทศก์สำนักงำนศึกษำธิกำร จงั หวดั ซ่ึงวิเครำะห์และสรุปภำพควำมสำเร็จหรือสิ่งท่ีคำดหวังของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำน ศกึ ษำธกิ ำรจงั หวัด ได้ดังน้ี ภำพควำมสำเรจ็ 1) เป็นหน่วยงำนกลำงทำงกำรศึกษำของจังหวัดในกำรบูรณำกำรเพื่อพัฒนำคุณภำพ กำรศกึ ษำทกุ ระดับ ทุกประเภท ขบั เคล่ือนนโยบำยกระทรวงศกึ ษำสู่กำรปฏิบตั ไิ ดอ้ ย่ำงสัมฤทธ์ผิ ล 2) เป็นผู้นำทำงวิชำกำร (academic leadership) ในกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ ในพื้นที่ (Area based) สำมำรถประสำนให้เกิดควำมร่วมมือในกำรขับเคลื่อนกำรจัดกำรศึกษำที่ดีและมีคุณภำพ ได้รับควำมรว่ มมือและเป็นท่ียอมรับของทุกภำคสว่ นทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 3) เป็นหน่วยงำนกลำงด้ำนกำรนิเทศกำรศึกษำเชิงบูรณำกำรกับทุกภำคส่วนได้อย่ำงมี ประสิทธภิ ำพ 4) เป็นศูนย์รวมงำนวิจัย/นวัตกรรมทำงกำรศึกษำในพื้นท่ีลู่งำนวิจัยของสำนักนโยบำย และยุทธศำสตร์ด้วย/มีกรรมกำรประเมินเปน็ ท่ยี อมรบั 5) สนับสนุน ส่งเสริม และสร้ำงเครือข่ำยควำมร่วมมือทำงวิชำกำรทุกภำคส่วน เพอ่ื ยกระดบั คณุ ภำพกำรศึกษำทส่ี อดคลอ้ งกับบริบทของพื้นท่ี สง่ิ ทค่ี ำดหวงั 1) เป็นผสู้ ร้ำงสรรค์กำรนิเทศเพอ่ื พัฒนำคณุ ภำพกำรศึกษำ 2) มีควำมเปน็ อสิ ระทำงวิชำกำร 3) เปน็ ผศู้ ึกษำ คน้ คว้ำ วเิ ครำะห์ วิจัย และพัฒนำนวัตกรรมทำงกำรศกึ ษำ 4) เปน็ ผปู้ ระสำน เชอื่ มโยง และบูรณำกำรกบั หนว่ ยงำนทกุ ภำคส่วน 5) เป็นผนู้ ำกำรขับเคลื่อนกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรศึกษำของจังหวัด 6) มีควำมกำ้ วหน้ำในวชิ ำชพี ตำมมำตรฐำนตำแหนง่ ท่ีกำหนด 7) เป็นผู้นำในกำรประสำนควำมร่วมมือในกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำเชิงบูรณำกำร และกำรนเิ ทศกำรศกึ ษำระดับปฏิบัติกำรในทุกระดบั กำรศึกษำ 8) เป็นศนู ยร์ วมด้ำนกำรศึกษำ ค้นคว้ำ วิจยั และเครอื ขำ่ ยควำมร่วมมอื ทำงกำรศึกษำ 9) เป็นท่ียอมรับของหน่วยงำนทำงกำรศกึ ษำ ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศึกษำ สป. 26 กลุ่มที่ 5 วิเครำะห์เส้นทำงควำมก้ำวหน้ำของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด ซึ่งวิเครำะห์และสรุปเส้นทำงควำมก้ำวหน้ำของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด ได้ดังนี้ ควำมกำ้ วหนำ้ ทำงวิชำชีพศึกษำนเิ ทศก์ 1) มมี ำตรฐำนตำแหนง่ และมำตรฐำนวทิ ยฐำนะท่ีชัดเจน และคงอยู่ 2) มีกำรพัฒนำหลักสูตรศึกษำนิเทศก์ในแตล่ ะระดับตำมวิทยฐำนะ 3) ศึกษำนิเทศก์ได้รับกำรพัฒนำวิชำชีพอย่ำงต่อเนื่องและท่ัวถึงทุกคน อย่ำงน้อย ปลี ะ 1 คร้งั 4) ศึกษำนิเทศก์ควรมคี วำมรู้ด้ำนงำนวิชำกำรและกำรบรหิ ำรงบประมำณเชิงบูรณำกำร เพือ่ ใหก้ ำรปฏิบตั ิงำนเชื่อมโยงและต่อเนื่องในบริบทของพื้นทีน่ ั้นๆ ควำมกำ้ วหน้ำในกำรไดร้ ับยกย่องเชดิ ชูเกยี รติ ศึกษำนิเทศกช์ ำนำญกำรพิเศษทีเ่ งนิ เดือนเต็มขั้น คศ.3 38 ค.(2) ได้รบั สทิ ธิ์ในกำรรบั เครอ่ื งรำชอิสรยิ ำภรณ์ชั้นสำยสะพำย โครงสร้ำงหน่วยงำนศึกษำนเิ ทศก์มติ ใิ หม่ 1) กำหนดโครงสร้ำงศึกษำนิเทศก์ระดับกรม ระดับภำค ระดับจังหวัด และระดับเขต เป็นหน่วยงำนเอกเทศ ท่ีบูรณำกำร กำรนิเทศ ติดตำมและประเมินผลกำรจัดกำรศึกษำทุกระดับ ทุกประเภท และทุกสังกดั 2) มีหน่วยงำนกลำงในกำรบรู ณำกำรงำนวชิ ำกำรกบั หน่วยงำนตำ่ ง ๆ ในกระทรวงศึกษำธกิ ำร 3) มีกฎหมำย/พระรำชบญั ญัติ/กฎกระทรวง เพ่ือรองรบั กำรกำหนดโครงสร้ำง ตำแหน่ง กลุม่ งำน กำรบริหำรจดั กำรภำยใน 4) สร้ำงเครือข่ำยบูรณำกำรกำรทำงำนร่วมกับองค์กร หน่วยงำนและวิชำชีพอ่ืน เพ่อื พัฒนำคุณภำพและยกระดับกำรศกึ ษำใหม้ ีควำมก้ำวหนำ้ ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. 27 ส่วนที่ 3 สรุปและข้อเสนอแนะ สรุปผลกำรประชุมคณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำน ศกึ ษำธิกำรจังหวดั ดังน้ี 1. คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด ได้ศึกษำ วิเครำะห์ ข้อคิดเห็นของศึกษำนิเทศก์ท่ีตอบคำถำมในแบบสอบถำม โดยคณะทำงำนฯ นำมำสรุปและนำเสนอในท่ี ประชุมคณะทำงำนฯ พร้อมปรับแก้ไขตำมท่ีที่ประชุมมีข้อเสนอแนะ จนได้ข้อสรุปคุณลักษณะของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำน ศกึ ษำธกิ ำรจงั หวดั สงั กัดสำนกั งำนปลัดกระทรวงศึกษำธกิ ำร ดังแผนภำพท่ี 1 แผนภำพที่ 1 ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศึกษำ สป. 28 2. คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำน ศึกษำธิกำรจังหวดั ได้นำเสนอร่ำงกำหนดกำรจัดกจิ กรรมที่ 2 ประชมุ เชิงปฏิบัติกำรสรำ้ งควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำร ปฏบิ ัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธกิ ำรจงั หวัด โดยจัดในรูปแบบของกำรพฒั นำ ดงั แผนภำพที่ 2 แผนภำพที่ 2 ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรย โดยกำหนดร่ำงกำรจดั กำรพฒั นำ จำนวน 4 รนุ่ ร่นุ ท่ี ภำค จังหวัด 1 ภำค 14 (อบุ ลรำชธำนี) ยโสธร (10) ศรสี ะเกษ (12) อำนำจเจรญิ (9) อุบล เชียงใหม่ (22) แมฮ่ ่องสอน (7) ลำปำง (11) ลำพ ภำค 15 (เชียงใหม่) เชยี งรำย (18) นำ่ น (17) พะเยำ (10) แพร่ (9) ภำค 16 (เชียงรำย) ฉะเชิงเทรำ (11) ชลบุรี (8) ระยอง (6) ภำค 8 (ชลบรุ ี) จนั ทบุรี (10) ภำค 9 (ฉะเชิงเทรำ) รำชบุรี (11) สพุ รรณบุรี (11) กำญจนบุรี (19) 2 ภำค 3 (รำชบุร)ี สมุทรสำคร (2) สมุทรสงครำม (5) ประจวบครี ขี นั ธ ภำค 4 (สมทุ รสงครำม) นครศรธี รรมรำช (23) ภำค 5 (นครศรีธรรมรำช) บงึ กำฬ (8) เลย (11) หนองคำย (10) หนองบวั ลำ ภำค 10 (อดุ รธำน)ี นครพนม (13) มกุ ดำหำร (8) สกลนคร (16) ภำค 11 (สกลนคร) สระแกว้ (9) ตรำด (3) ภำค 9 (ฉะเชิงเทรำ) กำแพงเพชร (12) นครสวรรค์ (16) พจิ ิตร (9) อทุ 3 ภำค 18 (นครสวรรค)์ ปทุมธำนี (8) กรงุ เทพมหำนคร (8) สมุทรปรำกำร ภำค 2 (ปทุมธำนี) ลพบรุ ี (12) อยุธยำ (8) สระบรุ ี (13) อ่ำงทอง (3) ภำค 1 (ลพบรุ ี) นรำธิวำส (7) ปัตตำนี (10) ยะลำ (7) ภำค 7 (ยะลำ) ตำก (5) พษิ ณโุ ลก (15) เพชรบรู ณ์ (12) สโุ ขทยั ( ภำค 17 (พิษณโุ ลก) กระบี่ (4) ตรัง (7) พงั งำ (3) ภเู กต็ (4) ระนอง (5 4 ภำค 6 (ภูเกต็ ) กำฬสนิ ธุ์ (19) ขอนแกน่ (24) มหำสำรคำม (14) ภำค 12 (ขอนแก่น) ชยั ภูมิ (17) นครรำชสมี ำ (23) บุรรี มั ย์ (23) สุริน ภำค 13 (นครรำชสีมำ) นครนำยก (5) ปรำจนี บุรี (5) ภำค 9 (ฉะเชงิ เทรำ) ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเ

ยทุ ธศำสตร์กำรศกึ ษำ สป. 29 ดงั น้ี ลรำชธำนี (24) จำนวน รวม ระยะเวลำพฒั นำ พนู (13) 55 20 – 22 พฤษภำคม 2562 53 197 ธ์ (6) เพชรบรุ ี (12) 54 + ำภู (7) อดุ รธำนี (20) 25 10 บคุ ลำกรภำค ทยั ธำนี (1) 41 จำนวนภำคละ (5) นครปฐม (8) นนทบรุ ี (6) 25 2 คน (10 คน) ) ชยั นำท (9) สงิ หบ์ รุ ี (3) 23 (10) อตุ รดติ ถ์ (8) 56 194 23 – 25 พฤษภำคม 5) สตลู (6) 37 2562 ร้อยเอ็ด (22) 12 + นทร์ (18) 38 35 บุคลำกรภำค รวม 48 จำนวนภำคละ 24 2 คน (12 คน) 50 29 195 3 - 5 มถิ ุนำยน 2562 79 + 81 10 บุคลำกรภำค จำนวนภำคละ 785 2 คน (10 คน) 199 6 - 8 มิถนุ ำยน 2562 + บุคลำกรภำค จำนวนภำคละ 2 คน (8 คน) เทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศกึ ษำ สป. 30 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมวี ฒุ บิ ัตรมอบแก่ผ้ทู ีเ่ ขำ้ รับกำรพฒั นำ 2. ควรจัดที่สถำบันพัฒนำครู คณำจำรย์ และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ (หำกสถำนที่สำมำรถ รองรบั จำนวนผ้เู ข้ำรับกำรพฒั นำ คณะวทิ ยำกร คณะทำงำนฯ ได)้ 3. ปรับโครงกำรประชุมสัมมนำสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด ในกิจกรรมท่ี 2 จำกกำรจัดประชุมเชิงปฏิบัติกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจ ในกำรปฏิบัตงิ ำนของศึกษำนเิ ทศก์ สำนักงำนศึกษำธกิ ำรจังหวัด เป็นกำรจัดประชุมปฏิบตั ิกำรพฒั นำศึกษำนเิ ทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด และบุคลำกร สำนักงำนศึกษำธิกำรภำค (ผู้ที่ปฏิบัติหน้ำที่เก่ียวกับกำรตรวจรำชกำร กำรนิเทศ กำรติดตำม และประเมินผล) ซ่ึงจะจัดในรูปแบบของกำรพัฒนำให้ควำมรู้ควำมเข้ำใจ โดยจัดแบ่ง กำรพฒั นำเปน็ 4 รุ่น เพ่อื ให้กำรพฒั นำครอบคลมุ ทวั่ ถึงกลุ่มเปำ้ หมำย 4. ปรับกล่มุ เป้ำหมำยในสว่ นของนักวชิ ำกำรศกึ ษำของสำนักงำนศึกษำธกิ ำรภำค เป็น ล ก ่ ฏิ ติห ้ ่ ก่ย ก ก ต ก ก ิ ก ติดต แล ิ ผล อ ก ึกษ ิก ภ 5. ผู้บริหำรในระดับสูงของสำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำรควรมีข้อเสนอเก่ียวกับคุณสมบัติ ของศึกษำนิเทศก์ชำนำญกำรพิเศษ สำมำรถสอบคัดเลือกตำแหน่งรองศึกษำธิกำรจังหวัดและผู้บริหำร ในระดบั อำนวยกำรตน้ เสนอสำนักงำนคณะกรรมกำรข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ (ก.ค.ศ.) 6. ศึกษำนิเทศก์ควรมีสัดส่วนในองค์คณะอนุกรรมกำรกำรบริหำรงำนบุคคลในสังกัดสำนักงำน ปลดั กระทรวงศกึ ษำธิกำร และคณะกรรมกำรในคณะกรรมกำรศึกษำธกิ ำรจังหวัด ****************************** ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศึกษำ สป. 31 ภำคผนวก ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. 32 ภำพกิจกรรม กำรประชุมคณะทำงำนสรำ้ งควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏบิ ัติงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวดั ระหวำ่ งวันที่ 24 – 26 กมุ ภำพนั ธ์ 2562 ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ บำงพลัด กรุงเทพฯ ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศกึ ษำ สป. 33 ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศึกษำ สป. 34 คำสั่งคณะทำงำนสรำ้ งควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏบิ ตั ิงำนของศกึ ษำนเิ ทศก์ สำนักงำนศึกษำธิกำรจงั หวดั ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศกึ ษำ สป. 35 ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตร์กำรศกึ ษำ สป. 36 ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศกึ ษำ สป. 37 หนงั สือเชิญคณะทำงำนฯ ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บูรณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศกึ ษำ สป. 38 หนงั สอื ขอควำมอนเุ ครำะหต์ อบแบบสอบถำม ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศกึ ษำนิเทศก์ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั

สำนกั บรู ณำกำรยทุ ธศำสตรก์ ำรศึกษำ สป. 39 ควำมคดิ เห็นเก่ยี วกับคณุ ลกั ษณะของศกึ ษำนเิ ทศก์ สำนักงำนศกึ ษำธิกำรจงั หวัด ประชมุ คณะทำงำนสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในกำรปฏิบตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั

ภาคเหนือ ประชุมคณะทำงำนสร้ำงควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจในกำรปฏบิ ตั ิงำนของศึกษำนิเทศก์ สำนักงำนศกึ ษำธกิ ำรจงั หวดั

ภาคเหนอื 1. ท่านคิดว่าศึกษานเิ ทศกข์ องสานักงานศึกษาธกิ ารจังหวดั ควรมีคณุ ลักษณะอยา่ งไร? ตาแหนง่ ความคดิ เห็น ปฏบิ ตั ิการ มีความรบั ผดิ ชอบ รอบรู้ มีผลการปฏิบัตงิ านท่ีดี ชานาญการ ปฏิบัติงานสาเร็จ ทนั เวลา รอบคอบ รอบรู้ ชดั เจน ใจกวา้ ง ยอมรับตนเอง เพ่ือนรว่ มงานใฝร่ ู้ และมคี วามอดทนมานะพยายาม ควรมีความสงา่ งามทางวชิ าการดารงตนเหมาะสมท่ีจะเป็นแบบอย่างท่ีดแี ก่บุคคลอื่นได้ เข้าใจ เข้าถงึ สอ่ื สาร ประสานงานและสามารถร่วมพัฒนากับทุกหนว่ ยงานได้อยา่ งเป็น กัลยาณมติ ร มีคณุ ลกั ษณะคือนิเทศแบบกลั ยาณมิตร ตดิ ตามงานนโยบายในเชิงหลกั การบริหารงานในแบบ บรู ณาการและประเมินผลทางการศึกษาในเชิงการตรวจราชการ เป็นกลั ยาณมติ ร ผูน้ าดา้ นวิชาการ วิสยั ทศั น์ไกล รอบรู้ เขม้ แข็ง สขุ ุม วางเฉย เปน็ ผูม้ ีเกยี รตใิ นจังหวดั ทรงภูมิความรดู้ า้ นต่าง ๆ นิเทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา สถานศึกษาหรอื หนว่ ยงานทางศึกษาทไ่ี ด้รับ มอบหมายจากตน้ สงั กัดและทางานตามมาตรฐานตาแหน่งวิชาชพี ศกึ ษานิเทศก์ อยา่ งแทจ้ รงิ มงุ่ ม่ันตง้ั ใจทางาน \"มุง่ ม่นั ในการปฏิบัติงานในหน้าทีใ่ ห้มีคุณภาพถกู ต้อง ครบถ้วน สมบรู ณ์ มีความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ และมกี ารพฒั นาผลงานใหม้ ีคณุ ภาพอยา่ งต่อเนื่อง\" มีภมู ริ ู้ ภมู ิธรรม ภมู ิฐาน มภี ูมิรู้ ภมู ธิ รรม และภมู ฐิ าน เปน็ ผ้นู าทางวชิ าการ รอบรู้ เชี่ยวชาญ เป็นผ้นู าทางวิชาการ มีมนุษยสัมพนั ธ์ สามรถทางานรว่ มกับบุคคลอ่ืนได้ รอบรู้ด้านวชิ าการทุกระดับการศกึ ษา ทันต่อการเปลี่ยนแปลงดา้ นสารสนเทศ ฯลฯ มคี วามรบั ผดิ ชอบ รอบรู้ มีผลการปฏิบัตงิ านทด่ี ี เปน็ คนดี มีนา้ ใจ พรอ้ มทีจ่ ะทางานโดยไมเ่ อาเปรยี บเพ่ือนร่วมงาน ไม่แย่งงานกล่มุ อนื่ ทา มีความรแู้ ละมีมนุษยสมั พนั ธ์ทีด่ ี มที ักษะการนเิ ทศการจดั การเรยี นรู้ของครูผ้สู อนทุกสงั กดั มคี วามรดู้ า้ นวชิ าการ/มีการส่ือสารท่ดี ีท้ังในหน่วยงานและภายนอกหนว่ ยงาน มคี วามรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ในงานนิเทศการศกึ ษา ทางานเตม็ เวลา เตม็ ศักยภาพ รอบรงู้ านวิชาการ มีคุณธรรม เปน็ คนดี มีทักษะการใช้เทคโนโลยี ม่ันคงการเงนิ รวดเร็ว..อานาจหนา้ ที่ชัดเจนก้าวหน้ากวา่ เดมิ รอบรงู้ านวิชาการ นิเทศเป็นนเิ ทศ มีภาวะการเป็นผู้นาทางวชิ าการ ควรมคี วามรู้รอบด้านในงานการศึกษาในระดับจังหวัด และสามารถทางานกับหน่วยงาน การศกึ ษาในระดบั จงั หวดั แล้วมปี ระสบการณใ์ นความเปน็ ครูมาอยา่ งน้อย 5 ปี ประสานการทางานดว้ ยกลั ยาณมติ ร

ชานาญการพเิ ศษ รอบรูใ้ นงานศกึ ษานิเทศก์ วิสัยทศั น์ยาวไกล สรา้ งวัฒนธรรมความร่วมมือ พฒั นาตนเอง มอี ารมณ์ มนั่ คง สรา้ งความศรทั ธา \"1. มีภาวะผูน้ า 2. มีมนุษยสัมพันธ์ท่ีดี 3. พัฒนาตนเองอย่เู สมอ 4. สามารถทางานเป็นทีมได\"้ 1. เป็นผูป้ ระสานงาน นิเทศเพอื่ ตดิ ตามงานนโยบายของกระทรวงศึกษาธกิ าร นเิ ทศ ติดตามได้ทุกโรงเรียน ทกุ สังกดั มคี วามร้คู วามสามารถ ประสานงานได้ รอบร้วู ิชาการ ประสานความร่วมมือ ยึดถือความโปร่งใส ใฝใ่ จเรียนรู้ เชดิ ชูจรรยาบรรณวชิ าชพี มุง่ มั่น รอบรู้ ประสานมิตร และมีจติ สาธารณะ ผูน้ าทางวิชาการ รอบรู้ รับการเปล่ียนแปลง พรอ้ มให้ความช่วยเหลอื แนะนาทางวชิ าการ ทางานเชิงรุก มององค์กร เปน็ หลัก ไม่แยกตัวเปน็ ชนั้ ครีมของสานกั งาน \"1.1 สามารถประสานงานกบั ทกุ ภาคส่วน 1.2 มคี วามรูค้ วามสามารถในศาสตรท์ ี่ตนเองรบั ผดิ ชอบ\" เป็นกลั ยาณมิตร ผูน้ าดา้ นวิชาการ วสิ ัยทัศนไ์ กล รอบรู้ เขม้ แขง็ สุขมุ วางเฉย เป็นผมู้ ีเกียรตใิ นจังหวดั ทรงภูมคิ วามรู้ดา้ นตา่ ง ๆ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สถานศึกษาหรอื หนว่ ยงานทางการศึกษาท่ีไดรับ มอบหมายจากต้นสงั กัดและทางานตามมาตรฐานตาแหน่งวิชาชพี ศกึ ษานิเทศก์ อย่างแท้จรงิ มุ่งมนั่ ตั้งใจทางาน \"มงุ่ ม่นั ในการปฏิบตั ิงานในหน้าที่ใหม้ ีคุณภาพถกู ต้อง ครบถ้วน สมบรู ณ์ มี ความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์ และมกี ารพฒั นาผลงานใหม้ คี ุณภาพอยา่ งต่อเน่ือง\" มภี มู ิรู้ ภูมิธรรม ภมู ิฐาน มภี มู ริ ู้ ภูมิธรรม และภูมิฐาน เปน็ ผนู้ าทางวิชาการ รอบรู้ เชียวชาญ เปน็ ผู้นาทางวชิ าการ มีมนษุ ยสมั พันธ์ สามรถทางานรว่ มกบั บุคคลอ่นื ได้ รอบรดู้ า้ นวชิ าการทุกระดบั การศึกษา ทนั ตอ่ การเปลี่ยนแปลงดา้ นสารสนเทศ ฯลฯ มคี วามรบั ผดิ ชอบ รอบรู้ มผี ลการปฏิบัตงิ านท่ดี ี เปน็ คนดี มีนา้ ใจ พรอ้ มท่จี ะทางานโดยไม่เอาเปรยี บเพอ่ื นร่วมงาน ไม่แย่งงานกลุ่มอนื่ ทา มีความรแู้ ละมมี นุษยสัมพนั ธ์ท่ดี ี มที ักษะการนิเทศการจดั การเรยี นรู้ของครผู สู้ อนทกุ สงั กัด มคี วามรูด้ า้ นวิชาการ/มีการส่ือสารทด่ี ีทงั้ ในหน่วยงานและภายนอกหน่วยงาน มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ในงานนเิ ทศการศึกษา ทางานเต็มเวลา เตม็ ศักยภาพ รอบรู้งานวิชาการ มีคุณธรรม เปน็ คนดี มีทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี มั่นคงการเงนิ รวดเรว็ ..อานาจหนา้ ทีช่ ดั เจนกา้ วหน้ากวา่ เดิม รอบรงู้ านวิชาการ นิเทศเป็นนเิ ทศ มีภาวะการเปน็ ผู้นาทางวชิ าการ

ควรมคี วามูร้รอบดา้ นในงานการศกึ ษาในระดับจังหวัด และสามารถทางานกบั หน่วยงาน การศึกษาในระดับจังหวดั แลว้ มีประสบการณ์ในความเปน็ ครมู าอยา่ งน้อย 5ปี ประสานการทางานด้วยกลั ยาณมิตร รอบรใู้ นงานศกึ ษานเิ ทศก์ วิสัยทัศน์ยาวไกล สรา้ งวัฒนธรรมความร่วมมือ พฒั นาตนเอง มีอารมณ์ม่นคง สรา้ งความศรัทธา \"1. มีภาวะผนู้ า 2. มมี นุษยสมั พนั ธ์ท่ดี ี 3. พัฒนาตนเองอยู่เสมอ 4. สามารถทางานเป็นทีมได้\" 1 เป็นผปู้ ระสานงาน นเิ ทศเพ่ือติดตามงานนโยบายของกระทรวงศึกษาธกิ าร นิเทศ ติดตามได้ทุกโรงเรยี น ทุกสังกดั มคี วามรูค้ วามสามารถ ประสานงานได้ รอบรวู้ ชิ าการ ประสานความรว่ มมือ ยึดถือความโปร่งใส ใฝ่ใจเรียนรู้ เชิดชจู รรยาบรรณวชิ าชพี มงุ่ มน่ั รอบรู้ ประสานมิตร และมีจติ สาธารณะ ผนู้ าทางวชิ าการ รอบรู้ รบั การเปลีย่ นแปลง พรอ้ มใหค้ วามชว่ ยเหลือแนะนาทางวิชาการ ทางานเชิงรุก มององค์กร เปน็ หลัก ไม่แยกตวั เป็นชัน้ ครีมของสานกั งาน \"1.1 สามารถประสานงานกบั ทุกภาคสว่ น 1.2 มีความรคู้ วามสามารถในศาสตรท์ ต่ี นเองรับผิดชอบ\" ติดตาม ตรวจสอบ คุณภาพการศกึ ษาในจงั หวัด วฒุ กิ ารศึกษาอย่างนอ้ ยปริญญาโท ปฏบิ ตั งิ านสาเรจ็ ทนั เวลา รอบคอบ รอบรู้ ชดั เจน ใจกวา้ ง ยอมรับตนเอง เพ่ือนรว่ มงานใฝ่รู้ และมคี วามอดทนมานะพยายาม ความรู้ ดี ความเปน็ กลั ยาณมิตร รบั ผิดชอบไมเ่ กยี่ งงาน กลั ยาณมิตร ผู้นาวิชาการ รอบรู้ เข้มแขง็ สขุ ุม วางเฉย เป็นผ้กู ากบั ติดตาม การทางานในเชิงนโยบายในหนว่ ยงานทางการศกึ ษาของจงั หวัดราชบรุ ี มีภมู ิรู้ ภูมธิ รรม ประสานสมั พันธ์ เชงิ บรู ณาการ มคี วามรูใ้ นการกากบั ดูแล ติดตาม ประเมนิ ผลตามนโยบาย

ภาคเหนือ 2. บทบาทหน้าท่ขี องศึกษานิเทศก์สานกั งานศกึ ษาธิการจงั หวดั ควรมีบทบาทหน้าที่อย่างไรบ้าง? ตาแหน่ง ความคดิ เหน็ ปฏบิ ตั ิการ สง่ เสริม สนับสนุน นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผล การจดั การศกึ ษา ชานาญการ ประสานงาน สามัคคี ใจกว้าง นิเทศ กากับ ติดตาม และประเมนิ ผล หนว่ ยงานทางการศึกษาในจงั หวดั ทุกระดบั สง่ เสรมิ ชว่ ยเหลือ และรว่ มพัฒนากับหนว่ ยงานท่ีเกีย่ วขอ้ งไปในทิศทางเดียวกัน เป็นผู้นาทางวิชาการ นิเทศและตรวจติดตาม งานนโยบายของกระทรวงศึกษาในหน่วยงานทาง การศึกษาและสถานศึกษาในจงั หวดั รวมทง้ั ประเมินผลการศกึ ษาในเชงิ สารสนเทศเพ่ือใช้เปน็ ขอ้ มูลอา้ งองิ ในการทาวจิ ยั เพ่ือพฒั นาการศึกษา เปน็ ศนู ย์กลางในการประสานความรว่ มมอื เพื่อพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาทุกภาคส่วนทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ทง้ั นเิ ทศ ทั้งตดิ ตาม และประเมินสถานการณ์เป็น ผู้นาการศกึ ษาในระดบั จังหวัด นิเทศติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษาของหนว่ ยงานทางการศึกษาสถานศึกษาในจังหวดั ตดิ ตามประเมินผลงานโยบายท่สี าคญั ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประสานและให้ความรว่ มมือกับหน่วยงานทางการศึกษาและสถานศึกษา ส่งเสริม สนบั สนนุ นเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล และพัฒนาคุณภาพการศึกษา ควรมหี น้าท่ีนิเทศ และตดิ ตามตรวจสอบ ในคราวเดียวกนั นเิ ทศ ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล เปน็ ทั้งผนู้ าทางวิชาการและผู้ตรวจติดตาม ตามนโยบายของรัฐบาล นเิ ทศ ติดตาม ตรวจสอบ การดาเนนิ งานตามนโยบายของ ศธ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ วางแผนบรู ณาการพฒั นาคุณภาพการศึกษา ทกุ ระดบั การศกึ ษา สง่ เสริม สนับสนุน นิเทศ ติดตามและประเมินผล การจดั การศกึ ษา นิเทศตดิ ตาม ตรวจสอบความถูกต้อง และนายงานผล สามารถนเิ ทศได้ทุกสถานศกึ ษา นิเทศการจดั การเรียนรูข้ องครผู สู้ อนทุกสงั กัด ดแู ลหน่วยงานทางการศกึ ษาทุกสงั กดั ในภาพรวม ไมใ่ ชย่ กเว้น สพฐ.ซึ่งเปน็ หนว่ ยงานหลกั ทาง การศกึ ษา เอกชนเป็นหน่วยงานการศึกษาที่มีทิศทาวตวั เองชดั เจนอยูแ่ ลว้ เราไม่มีบทบาทอะไร มากมายในการลงความเห็นในกระบวนการทางาน เป็นผูป้ ระสานงาน สง่ เสริม และสนบั สนุนการนเิ ทศการจดั การศึกษาในทกุ ระดับ นิเทศการศึกษาได้อิสระ ตามกรอบภารกจิ โครงสร้างกระทรวงฯ นิเทศได้ทกุ หนว่ ยงานอย่างสะดวกด้านการเงนิ ดว้ ย นเิ ทศ ตดิ ตาม ตรวจสอบ เรง่ รัดนโยบาย ตรวจสอบ กากับติดตาม นโยบาย นเิ ทศ ประสาน พัฒนา เป็นผนู้ าดา้ นการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา ประสานงาน การจดั การเรยี นการสอน สง่ เสรมิ คุณภาพการเรียนการสอนใหส้ งู ข้นึ นิเทศการสอน และประเมินผล

ชานาญการพเิ ศษ \"1. เป็นผรู้ วบรวมข้อมูลของหน่วยการทางการศกึ ษาในจงั หวดั 2. ไมเ่ ปน็ ธุรการของสานักงานจงั หวัด 3. เปน็ ผู้ตรวจราชการย่อยในแตล่ ะอาเภอ 4. สามารถนิเทศโรงเรยี นในจังหวัดโรงเรยี นใดกไ็ ด้\" \"1 ประสานงานกบั ทุกหน่วยงานในด้านการศกึ ษา 2 นเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลเพ่ือพฒั นาการศึกษา\" นเิ ทศ ติดตามการจัดการศึกษา นิเทศติดตามโรงเรยี น งานตรวจราชการ ตามคมู่ ือการตรวจราชการ ปี 2560 และตามกรอบงานในคาสง่ั 19 /2560 นเิ ทศ ติดตาม และประเมนิ ผลการทางานของหนว่ ยงานด้านการศึกษาทุกหนว่ ยงานในจังหวดั และมีอานาจชี้ขาดคุณภาพการศกึ ษาได้ กากับดูแลการพฒั นาคุณภาพการศึกษาในภาพรวมของทง้ั จังหวัด ถา้ มตี าแหน่งศกึ ษานเิ ทศก์ ต้องทาหน้าที่นิเทศการศึกษา แต่หน้าทที่ ปี่ รากฏในภาระงานในอดตี นักวิชาการศกึ ษาของ ศธจ. ทา และถา้ ทาหน้าทีน่ ิเทศการศึกษา ไมจ่ าเปน็ ต้องมีจานวนมาก (รายอาเภอ) ควรมีบทบาทและหนา้ ที่ในการนิเทศการจัดการศึกษาของทุกหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้องกบั การศกึ ษา ของจงั หวดั นั้นๆ โดยไมอ่ ยู่กับสว่ นราชการใดๆ เพราะจะไดข้ ้อมลู ที่แทจ้ ริงและสามารถพฒั นา การศกึ ษาไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เปน็ ศูนยก์ ลางในการประสานความรว่ มมือเพื่อพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาทกุ ภาคสว่ นทีเ่ ก่ียวขอ้ ง ทั้งนเิ ทศ ทงั้ ตดิ ตาม และประเมินสถานการณเ์ ปน็ ผู้นาการศกึ ษาในระดบั จังหวัด นเิ ทศตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษาของหน่วยงานทางการศึกษาสถานศึกษาในจงั หวดั ตดิ ตามประเมินผลงานโยบายท่สี าคัญของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประสานและให้ความรว่ มมือกับหนว่ ยงานทางการศึกษาและสถานศึกษา สง่ เสรมิ สนบั สนุน นิเทศ ติดตาม ประเมินผล และพัฒนาคุณภาพการศึกษา ควรมหี น้าทน่ี เิ ทศ และติดตามตรวจสอบ ในคราวเดียวกัน นเิ ทศ ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล เปน็ ท้งั ผนู้ าทางวิชาการและผู้ตรวจตดิ ตาม ตามนโยบายของรฐั บาล นิเทศ ตดิ ตาม ตรวจสอบ การดาเนินงานตามนโยบายของ ศธ. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ วางแผนบรู ณาการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทุกระดับการศกึ ษา ส่งเสริม สนับสนุน นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผล การจดั การศึกษา นิเทศตดิ ตาม ตรวจสอบความถูกต้อง และนายงานผล สามารถนเิ ทศได้ทุกสถานศึกษา นิเทศการจดั การเรียนรู้ของครูผู้สอนทุกสงั กัด ดูแลหนว่ ยงานทางการศกึ ษาทกุ สังกดั ในภาพรวม ไม่ใชย่ กเวน้ สพฐ.ซึง่ เปน็ หน่วยงานหลักทาง การศกึ ษา เอกชนเป็นหนว่ ยงานการศึกษาที่มีทิศทาวตวั เองชดั เจนอยูแ่ ล้วเราไม่มีบทบาทอะไร มากมายในการลงความเห็นในกระบวนการทางาน เปน็ ผ้ปู ระสานงาน สง่ เสรมิ และสนับสนนุ การนิเทศการจดั การศึกษาในทกุ ระดับ นเิ ทศการศกึ ษาได้อสิ ระ ตามกรอบภารกิจโครงสรา้ งกระทรวงฯ