Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 15080411110359999_1604110550716

15080411110359999_1604110550716

Published by Arunrat Deemasor, 2018-10-10 02:14:47

Description: 15080411110359999_1604110550716

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการบรรยาย เรอ่ื งสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

คำนำ ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ ¡ฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สอ่ื การเรยี นการสอน นบั เปน็ องคป์ ระกอบทส่ี ำคญั มากประการหนง่ึ ในกระบวนการเรยี นการสอน นอกเหนอื จากตวั ผสู้ อน ผเู้ รยี น และเทคนคิ วธิ กี ารตา่ ง ๆ บทบาทของสอ่ื การเรยี นการสอน กค็ อื เปน็ ตวั กลาง หรอื พาหนะ หรอื เครอ่ื งมอื หรอื ชอ่ งทางทใ่ี ชน้ ำเรอ่ื งราว ขอ้ มลู ความรหู้ รอื สง่ิ บอกกลา่ ว (Information) ของผสู้ ง่ สารหรอื ผสู้ อนไปสผู่ รู้ บั หรอื ผเู้ รยี น เพอ่ื ทำใหก้ ารเรยี นรหู้ รอื การเรยี นการสอนบรรลผุ ลสำเรจ็ ตาม วัตถุประสงค์หรือจุดมุ่งหมายที่วางไว้ได้เป็นอย่างดี สื่อการเรียนการสอนได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สอดคลอ้ งกบั การพฒั นาทางดา้ นเทคโนโลยดี า้ นตา่ ง ๆ จากสอ่ื พน้ื ฐานซง่ึ เปน็ ภาษาพดู หรอื เขยี น ถงึ ปจั จบุ นั สอ่ื มหี ลายประเภท หลายรปู แบบ ใหผ้ สู้ อนไดพ้ จิ ารณาเลอื กใชต้ ามความเหมาะสมของสอ่ื แตล่ ะประเภท ทม่ี คี ณุ ลกั ษณะหรอื คณุ สมบตั เิ ฉพาะตวั ของมนั เอง สอ่ื การเรยี นการสอนทถ่ี อื วา่ ทนั สมยั มากในปจั จบุ นั กค็ อื สื่อประเภทซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งการพัฒนาเป็นไปอย่างรวดเร็วควบคู่ไปกับเทคโนโลยีทางด้าน คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) หรอื สอ่ื ประสมทเ่ี รยี กวา่ มลั ตมิ เิ ดยี (Multi Media) เปน็ ตน้ เนื้อหาของเอกสารเล่มนี้จะกล่าวถึง นิยาม ความสำคัญ เทคนิคการใช้ การจำแนกประเภท การพจิ ารณาเลอื กประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน แนวทางในการเกบ็ รกั ษา ตลอดจนเงอ่ื นไขเกย่ี วกบั การ สรา้ งสอ่ื การเรยี นการสอน ซง่ึ สามารถใชศ้ กึ ษาเพอ่ื เปน็ แนวทางในการเลอื กใช้ ออกแบบและพฒั นาและสรา้ ง สอ่ื การเรยี นการสอน ชวลติ เขง่ ทอง ฝา่ ยสอ่ื การเรยี นการสอน สำนกั พฒั นาเทคนคิ ศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนอื

สารบญั ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ ¢ อปุ สรรคในการเรยี นการสอน หนา้ ความหมายของสอ่ื การเรยี นการสอน 1 ทำไมจงึ ตอ้ งใชส้ อ่ื การเรยี นการสอน 1 การจำแนกประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน 2 การเลอื กสอ่ื การเรยี นการสอนใหเ้ หมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์ 2 เทคนคิ การใชส้ อ่ื การเรยี นการสอน 4 ประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน 7 ลกั ษณะและแนวทางการใชส้ อ่ื ประเภทตา่ ง ๆ 8 สอ่ื e-Learning 8 แนวทางการเกบ็ รกั ษาสอ่ื การเรยี นการสอน 15 เงอ่ื นไขเกย่ี วกบั การสรา้ งสอ่ื การเรยี นการสอน บทสรปุ 18 บรรณานกุ รม 19 20 21ฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ อปุ สรรคและความหมายของการเรยี นการสอน ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 1/21 1 ãºà¹×éÍËÒ 1. อปุ สรรคในการเรยี นการสอน เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้ผู้สอนสถาบันอาชีวะ และเทคนิคศึกษาต้องประสบปัญหาอย่างมาก ในการที่จะทำให้ผลการเรียนการสอนบรรลุเป้าหมาย อยเู่ สมอ การทจ่ี ะใหผ้ สู้ ำเรจ็ การศกึ ษาในแตล่ ะวชิ าไดอ้ อกไปปฏบิ ตั งิ านเปน็ ชา่ งเทคนคิ ทม่ี ที กั ษะจรงิ ๆ นน้ั ยอ่ มไมส่ ามารถเปน็ ไปไดด้ ว้ ยการเลา่ เรยี นในชว่ งระยะเวลาสน้ั ๆ แตผ่ สู้ อนจะตอ้ งเลง็ เหน็ ถงึ ความสำคญั ของการที่จะต้องมีเวลาเพียงพอ สำหรับทำความคุ้นเคยกับวัสดุเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ตลอดจน การเรียนรู้ถึงขั้นตอนหรือวิธีการดำเนินงานต่าง ๆ ในสาขาวิชานั้น ๆ หากลำดับขั้นตอนที่เกิดขึ้นใน กระบวนการทางเทคนิคยิ่งซับซ้อนมากเท่าใด การถ่ายทอดความรู้ในชั้นเรียนก็ยิ่งเผชิญกับอุปสรรค มากขน้ึ เทา่ นน้ั ปจั จบุ นั น้ี นอกเหนอื จากความรทู้ างวชิ าการแลว้ ผสู้ อนวชิ าทางเทคนคิ ยงั จะตอ้ งรจู้ กั นำเอาวธิ กี าร และสื่อต่าง ๆ มาใช้เพื่อให้การเรียนการสอนนั้น ๆ มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ นิยามของ ประสทิ ธภิ าพในการสอนทางเทคนคิ η มดี งั น้ี η = เนอ้ื หาทผ่ี เู้ รยี นไดจ้ ากการสอน เนอ้ื หาทผ่ี สู้ อนเตรยี มจากหลกั สตู รและถา่ ยทอดใหใ้ นชน้ั เรยี น 2. ความหมายของสอ่ื การเรยี นการสอน (Instructional Media) สอ่ื (Media) หมายถงึ ตวั กลางทใ่ี ชถ้ า่ ยทอดหรอื นำความรใู้ นลกั ษณะตา่ ง ๆ จากผสู้ ง่ ไปยงั ผรู้ บั ใหเ้ ขา้ ใจ ความหมายไดต้ รงกนั ในการเรยี นการสอน สอ่ื ทใ่ี ชเ้ ปน็ ตวั กลางนำความรใู้ นกระบวนการสอ่ื ความหมาย ระหวา่ งผสู้ อนกบั ผเู้ รยี นเรยี กวา่ สอ่ื การเรยี นการสอน (Instruction Media) ในทางการศึกษามีคำที่มีความหมายแนวเดียวกันกับสื่อการเรียนการสอน เช่น สื่อการสอน (Instructional Media or Teaclning Media) สอ่ื การศกึ ษา (Educational media) อปุ กรณช์ ว่ ยสอน (Teaching Aids) เป็นต้น ในปัจจุบันนักการศึกษามักจะเรียกการนำสื่อการเรียนการสอนชนิดต่าง ๆ มารวมกนั วา่ เทคโนโลยที างการศกึ ษา (Educational) ซง่ึ หมายถงึ การนำเอาวสั ดุ อปุ กรณแ์ ละวธิ กี ารมา ใชร้ ว่ มกนั อยา่ งมรี ะบบในการเรยี นการสอน เพอ่ื เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการเรยี นการสอน

ทำไมจงึ ตอ้ งใชส้ อ่ื และการจำแนกประเภทของสอ่ื ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 2/21 2 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 3. ทำไมจงึ ตอ้ งใชส้ อ่ื การเรยี นการสอน ข้อพิจารณาในการตอบคำถามว่า ทำไมจึงต้องใช้สื่อเพื่อช่วยในการเรียนการสอน มีอยู่หลาย ประการดงั น้ี 3.1 ชว่ ยใหค้ ณุ ภาพการเรยี นรดู้ ขี น้ึ เพราะมคี วามจรงิ จงั และมคี วามหมายชดั เจนตอ่ ผเู้ รยี น 3.2 ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ รยี นรใู้ นปรมิ าณมากขน้ึ ในเวลาทก่ี ำหนดไวจ้ ำนวนหนง่ึ 3.3 ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นสนใจ และมสี ว่ นรว่ มอยา่ งแขง็ ขนั ในกระบวนการเรยี นการสอน 3.4 ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นจำ ประทบั ความรสู้ กึ ไดร้ วดเรว็ และดขี น้ึ 3.5 ชว่ ยสง่ เสรมิ การคดิ และการแกป้ ญั หาในกระบวนการเรยี นการสอน 3.6 ชว่ ยใหส้ ามารถเรยี นรใู้ นสง่ิ ทเ่ี รยี นไดล้ ำบาก เพราะ 3.6.1 ทำสง่ิ ทซ่ี บั ซอ้ นใหง้ า่ ยขน้ึ 3.6.2 ทำนามธรรมใหเ้ ปน็ รปู ธรรมขน้ึ 3.6.3 ทำสง่ิ ทเ่ี คลอ่ื นไหวหรอื เปลย่ี นแปลงชา้ ใหด้ เู รว็ ขน้ึ 3.6.4 ทำสง่ิ ทเ่ี คลอ่ื นไหวหรอื เปลย่ี นแปลงเรว็ ใหด้ ชู า้ ลง 3.6.5 ทำสง่ิ ทใ่ี หญม่ ากใหย้ อ่ ขนาดขน้ึ 3.6.6 ทำสง่ิ ทเ่ี ลก็ มากใหข้ ยายขนาดขน้ึ 3.6.7 นำอดตี มาใหน้ กั ศกึ ษาได้ 3.6.8 นำสิ่งที่อยู่ไกลหรือลี้ลับมาศึกษาได้ ในกรณีนี้เป็นการส่งเสริมการเรียนการสอน มคี ณุ ภาพดขี น้ึ และยงั สอดคลอ้ งกบั วธิ กี ารสอนทค่ี รผู สู้ อนพจิ ารณาเลอื กเอามาใชส้ อน อกี ดว้ ย 3.7 ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นเรยี นสำเรจ็ งา่ ยขน้ึ และผา่ นการวดั ผลอนั หมายถงึ การบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ องบทเรยี น 4. การจำแนกประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน มกี ารจำแนกประเภทสอ่ื การเรยี นการสอนตามแนวความคดิ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ดงั ตวั อยา่ ง 4.1 จำแนกประเภทสอ่ื การเรยี นการสอน โดยพจิ ารณาจากลกั ษณะประสาทการรบั รขู้ องผเู้ รยี น จากการเหน็ และการฟงั ซง่ึ สามารถจำแนกประเภทของสอ่ื ไดด้ งั ตอ่ ไปน้ี 4.1.1 สอ่ื ทเ่ี ปน็ ภาพ (Visual Media) ก. ภาพทไ่ี มต่ อ้ งฉาย (Non-Projected) ไดแ้ ก่ ภาพบนกระดาษดำ ภาพจากแผน่ ภาพ ภาพจากหนงั สอื และสง่ิ พมิ พต์ า่ ง ๆ ข. ภาพทต่ี อ้ งฉาย (Projected) ไดแ้ ก่ ภาพจากเครอ่ื งฉายภาพขา้ มศรี ษะ เครอ่ื งฉายสไลด์ เครอ่ื งฉายภาพยนตรห์ รอื วดิ ที ศั น์ 4.1.2 สอ่ื ทเ่ี ปน็ เสยี ง (Audio Media) ไดแ้ ก่ สอ่ื ประเภทเสยี งทใ่ี ชใ้ นกระบวนการเรยี นรู้ เชน่ เทปบนั ทกึ เสยี ง วทิ ยุ เปน็ ตน้ 4.1.3 สอ่ื ทเ่ี ปน็ ทง้ั ภาพและเสยี ง (Audio-Visual Media) ไดแ้ ก่ สอ่ื ทแ่ี สดงภาพและเสยี ง พรอ้ ม ๆ กนั เชน่ สไลดป์ ระกอบเสยี ง ภาพยนตรท์ ม่ี เี สยี ง (Sound-film) เทปโทรทศั น์ บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ ชว่ ยสอน (CAI) และมลั ตมิ เิ ดยี เปน็ ตน้

ฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ทำไมจงึ ตอ้ งใชส้ อ่ื และการจำแนกประเภทของสอ่ื ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 3/21 3 ãºà¹×éÍËÒ 4.2 จำแนกประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน ในทางเทคโนโลยกี ารศกึ ษา อาจจำแนกไดเ้ ปน็ 4.2.1 เคร่ืองมืออปุ กรณ์ (Hardware) สื่อการเรียนการสอนประเภทเครื่องมือหรืออุปกรณ์ เรยี กกนั โดยทว่ั ไปวา่ ฮารด์ แวร์ (Hardware) หรอื สอ่ื ใหญ่ (Big Media) หมายถงึ สง่ิ ทเ่ี ปน็ อุปกรณ์ทางเทคนิคทั้งหลายที่ประกอบด้วยกลไกไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่ใช่สิ่ง สิ้นเปลือง ได้แก่ เครื่องฉายทั้งหลาย เช่น เครื่องฉายภาพยนตร์ เครื่องฉายสไลด์ เครอ่ื งฉายภาพทบึ แสง เครอ่ื งฉายภาพขา้ มศรี ษะ เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รวมทง้ั เครอ่ื งมอื หรืออุปกรณ์ทางเทคนิคอื่น ๆ ที่เป็นทางผ่านของความรู้ เช่น เครื่องฉายจุลซีวัน เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เปน็ ตน้ 4.2.2 วสั ดุ (Software) สอ่ื การเรยี นการสอนประเภทวสั ดุ บางครง้ั เรยี กวา่ ซอฟตแ์ วร์ (Software) หรอื สอ่ื เลก็ (Small Media) ซง่ึ เปน็ วสั ดทุ เ่ี กบ็ ความรใู้ นลกั ษณะของภาพ เสยี ง และตวั อกั ษร ในรปู แบบตา่ ง ๆ จำแนกได้ 2 ประเภท คอื ก. วัสดุที่ต้องอาศัยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ (Hardware) เพื่อเสนอเรื่องราว ข้อมูล หรอื ความรอู้ อกมาสอ่ื ความหมายแกผ่ เู้ รยี น ไดแ้ ก่ ฟลิ ม์ แผน่ ใส เทปบนั ทกึ เสยี ง เปน็ ตน้ ข. วสั ดทุ เ่ี สนอความรไู้ ดด้ ว้ ยตนเอง โดยไมต่ อ้ งอาศยั เครอ่ื งมอื หรอื อปุ กรณใ์ ด ๆ เชน่ ตำรา หนงั สอื เอกสาร คมู่ อื รปู ภาพ แผน่ ภาพ ของจรงิ ของตวั อยา่ ง หนุ่ จำลอง เปน็ ตน้ 4.2.3 เทคนคิ และวธิ กี าร (Technique and Method) การสอ่ื ความหมายในการเรยี นการสอน บางครง้ั ไมอ่ าจทำไดด้ ว้ ยเครอ่ื งมอื อปุ กรณห์ รอื วสั ดุ แตจ่ ะตอ้ งอาศยั เทคนคิ หรอื วธิ กี าร เพอ่ื การใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ หรอื ใชท้ ง้ั วสั ดอุ ปุ กรณแ์ ละวธิ กี ารไปพรอ้ ม ๆ กนั แตเ่ นน้ ทว่ี ธิ กี าร เปน็ สำคญั เชน่ การสาธติ ประกอบการใชเ้ ครอ่ื งมอื เครอ่ื งจกั ร การทดลอง การแสดงบทบาท การศกึ ษานอกสถานท่ี การจดั นทิ รรศการ เปน็ ตน้ ดงั นน้ั เทคนคิ หรอื วธิ กี ารตา่ ง ๆ ดงั กลา่ ว จงึ จดั ว่าเป็นสื่อการเรียนการสอนอีกประเภทหนึ่ง แตส่ ่อื ประเภทนีม้ ักจะใช้ร่วมกับสื่อ 2 ประเภทแรก จงึ จะไดผ้ ลดี เมอ่ื กลา่ วถงึ การสอ่ื การเรยี นการสอนในกระบวนการเรยี นการสอนโดยทว่ั ไป สว่ นใหญจ่ ะคำนงึ ถงึ วสั ดุ อปุ กรณ์ ทใ่ี ชป้ ระกอบการเรยี นรู้ ซง่ึ ไดแ้ ก่ ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ มากกวา่ เทคนคิ หรอื วธิ กี าร ดงั นน้ั จงึ นยิ มเรยี กสอ่ื การเรยี นการสอนวา่ อปุ กรณช์ ว่ ยสอนหรอื อปุ กรณก์ ารสอน (Teaching Aids) ซง่ึ หมายถงึ วสั ดแุ ละอปุ กรณท์ ใ่ี ชป้ ระกอบการเรยี นรหู้ รอื เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการสอ่ื ความหมาย อนั จะสง่ ผลใหผ้ เู้ รยี น เกดิ ความเขา้ ใจในบทเรยี นไดง้ า่ ยขน้ึ

การเลอื กใชส้ อ่ื ใหเ้ หมาะกบั วตั ถปุ ระสงค์ ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 4/21 4 ãºà¹×éÍËÒ 5. การเลอื กสอ่ื การเรยี นการสอนใหเ้ หมาะกบั วตั ถปุ ระสงค์ ในการพจิ ารณาเลอื กใชห้ รอื สรา้ งสอ่ื การเรยี นการสอนใหเ้ หมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงคใ์ นขน้ั ตน้ จะตอ้ ง พจิ ารณาเปา้ หมายของวตั ถปุ ระสงคข์ องบทเรยี นเปน็ หลกั โดยการวเิ คราะหเ์ นอ้ื หาของวตั ถปุ ระสงคน์ ั้น ๆ ว่า มจี ดุ สำคญั อะไรควรสอ่ื ความหมายลกั ษณะใด จากนน้ั จงึ เลอื กลกั ษณะของสอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาหลกั ของวตั ถปุ ระสงคน์ น้ั โดยพจิ ารณาเลอื กเรยี งลำดบั จากสง่ิ ทเ่ี ปน็ นามธรรม (Abstract) ไปสสู่ ง่ิ ทเ่ี ปน็ รปู ธรรม (Concrete) ดงั น้ี วตั ถปุ ระสงค์  วเิ คราะหเ์ นอ้ื หาเพอ่ื จดุ สำคญั  พจิ ารณาเลอื ก ของวตั ถปุ ระสงค์ ลกั ษณะของสอ่ื  ของจรงิ หนุ่ จำลอง รปู ภาพเคลอ่ื นไหว รปู ภาพนง่ิ คำพดู /คำบรรยายฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ รปู ธรรม (Concrete)  (Abstract) นามธรรม ตวั อยา่ งการเลอื กสอ่ื การเรยี นการสอน วตั ถปุ ระสงคข์ องบทเรยี น : หลงั จากจบบทเรยี นแลว้ ผเู้ รยี นจะสามารถ ก. อธบิ ายความหมายของคำวา่ “สอ่ื การเรยี นการสอน” ได้ ข. บอกชอ่ื สว่ นตา่ งๆ ของหลอดไฟแบบมไี ส้ (Incandescent Lamp)ได้ ค. อา่ นคา่ แรงดนั กระแส ความตา้ นทานทย่ี า่ นวดั ตา่ งๆ ของมลั ตมิ เิ ตอรไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง การพจิ ารณาเลอื กสอ่ื การเรยี นการสอน  วตั ถปุ ระสงคข์ อ้ ก. พบวา่ สอ่ื ทจ่ี ำเปน็ ในการใชส้ อนเพอ่ื ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายไดก้ ค็ อื ใชเ้ พยี งคำพดู บรรยายกเ็ พยี งพอแลว้  วตั ถปุ ระสงคข์ อ้ ข. ถา้ ใชค้ ำพดู หรอื บรรยายเพยี งอยา่ งเดยี วคงไมพ่ อทจ่ี ะใหผ้ เู้ รยี นบรรลเุ ปา้ หมาย ไดง้ า่ ยนกั ดงั นน้ั จงึ ตอ้ งมสี อ่ื การเรยี นการสอนอน่ื ๆ ชว่ ย เชน่ รปู ภาพนง่ิ หนุ่ จำลอง หรอื ของจรงิ ซง่ึ สอ่ื ทง้ั 3 ลกั ษณะนน้ี า่ จะชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคท์ ต่ี ง้ั ไวไ้ ดด้ กี วา่ แตก่ ารทจ่ี ะกำหนดวา่ เปน็ สอ่ื ประเภทใดนน้ั จะตอ้ งพจิ ารณาตอ่ ไปถงึ ปจั จยั อน่ื ประกอบ ดังนั้นในวัตถุประสงค์ข้อนี้สื่อการเรียนการสอนที่เลือกใช้จึงอาจเป็นแผ่นใสหรือแผ่นภาพที่เป็น รูปหลอดไฟฟ้าขนาดใหญ่หรือใช้หลอดไฟฟ้าจริงก็ได้เนื่องจากหาได้ง่าย แต่จะต้องมีจำนวนเพียงพอกับ ความตอ้ งการของผเู้ รยี น เนอ่ื งจากของจรงิ มขี นาดเลก็ เกนิ ไป

การเลอื กใชส้ อ่ื ใหเ้ หมาะกบั วตั ถปุ ระสงค์ ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 5/21 5 ãºà¹×éÍËÒ  วตั ถปุ ระสงคข์ อ้ ค. เนอ่ื งจากมลั ตมิ เิ ตอรข์ องจรงิ มขี นาดเลก็ ผเู้ รยี นทง้ั ชน้ั ไมส่ ามารถมองเหน็ สเกล หรอื อา่ นคา่ ไดพ้ รอ้ ม ๆ กนั ควรเพม่ิ ขนาดมลั ตมิ เิ ตอรใ์ หใ้ หญข่ น้ึ โดยทำเปน็ แผน่ ภาพ แผน่ ใส หรือจำลองแบบจากของจริงจะเป็นสื่อที่ชัดเจนกว่า และผู้สอนสามารถควบคุมชั้นเรียนได้ ในเวลาเดยี วกนั สว่ นการใชม้ ลั ตมิ เิ ตอรจ์ รงิ จะควบคมุ การสอนไดย้ ากในชว่ งของการใหเ้ นอ้ื หา แตถ่ า้ เปน็ การประลองหรอื เปน็ แบบฝกึ หดั จะเหมาะสมกวา่ แผน่ ภาพหรอื แผน่ ใส เมอ่ื พจิ ารณาไดล้ กั ษณะของสอ่ื จาการวเิ คราะหเ์ นอ้ื หาหลกั ของวตั ถปุ ระสงคบ์ ทเรยี นแลว้ ในขน้ั ตอ่ ไป เปน็ การวเิ คราะหต์ อ่ เพอ่ื หาประเภทของสอ่ื หรอื อปุ กรณช์ ว่ ยสอนทส่ี อดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคน์ น้ั โดยพจิ ารณา จากคณุ สมบตั เิ ฉพาะตวั และความเหมาะสมในการใชป้ ระกอบการสอนของสอ่ื การเรยี นการสอนแตล่ ะประเภท ดงั รายละเอยี ดตอ่ ไปน้ี ก. รปู ภาพนง่ิฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  ภาพสเกต็  (ภาพเหมอื น) ภาพลายเสน้ 2 มติ ิ ภาพลายเสน้ 3 มติ ิ ภาพถา่ ยของจรงิ   แผน่ ภาพ.สไลด์ แผน่ ใส(ถา่ ย)  แผน่ ใส ภาพสไลด์ ภาพงา่ ย ๆ ใช้ ภาพซบั ซอ้ นตอ้ งการ เวลาเขยี นสน้ั ๆ ความละเอยี ดใชเ้ วลา กระดานดำ แผน่ ภาพ.แผน่ ใส

การเลอื กใชส้ อ่ื ใหเ้ หมาะกบั วตั ถปุ ระสงค์ ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 6/21 6 ãºà¹×éÍËÒ ข. รปู ภาพเคลอ่ื นไหว   ภาพ 2 มติ ิ ภาพ 3 มติ ิ     เคลอ่ื นไหวดว้ ยมอื เคลอ่ื นไหวอตั โนมตั ิ ภาพลายเสน้ ภาพถา่ ย    แผน่ ภาพ,แผน่ ใส ภาพยนต,์ วดิ ที ศั น์ หนุ่ จำลองพลาสตกิ แผน่ ใสเคลอ่ื นท่ี เคลอ่ื นไหวดว้ ยมอื เคลอ่ื นไหวอตั โนมตั ิ ฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ แผน่ ภาพ,แผน่ ใส ภาพยนต,์ วดิ ที ศั น์ ค. หนุ่ จำลอง   แบบตายตวั แบบเคลอ่ื นไหวได้     แบบแยกชน้ิ ได้ แบบแยกชน้ิ ไมไ่ ด้ ขบั ดว้ ยมอื หมนุ ขบั ดว้ ยมอเตอร์

การเลอื กใชส้ อ่ื ใหเ้ หมาะกบั วตั ถปุ ระสงค์ ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 7/21 7 และเทคนคิ การใชส้ อ่ื ãºà¹×éÍËÒ จ. คำบรรยาย ขอ้ ความหรอื  คำอธบิ ายยาว ๆ หวั ขอ้ สน้ั ๆ อยา่ งอสิ ระไมเ่ รยี บเรยี ง คำอธบิ ายยาว ๆ ขอ้ ความ มกี ารเรยี บเรยี ง อา้ งองิ คำพดู   จดบนกระดานดำหรอื ใชส้ อ่ื เขยี นเปน็ ตำรา ชนดิ อน่ื ทใ่ี ชไ้ ดค้ ลา้ ยกนั หรอื ใบเนอ้ื หาฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 6. เทคนคิ การใชส้ อ่ื สารการเรยี นการสอน การใชส้ อ่ื การเรยี นการสอน ยอ่ มจะมเี ทคนคิ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ไปตามเงอ่ื นไขตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เชน่ ลกั ษณะและคณุ สมบตั ขิ องสอ่ื แตล่ ะประเภท กลมุ่ ผเู้ รยี น ผสู้ อน สถานท่ี ความพรอ้ มของอปุ กรณแ์ ละเครอ่ื งมอื ประกอบตลอดจนสภาพแวดลอ้ มตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ แตห่ ลกั การสำคญั ทจ่ี ะตอ้ งคำนงึ ถงึ อยเู่ สมอกค็ อื “เงอ่ื นไข การเรยี นร”ู้ คนิ เตอร์ ไดใ้ หข้ อ้ เสนอแนะในการใชส้ อ่ื การเรยี นการสอนไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี 6.1 ไมม่ วี ธิ กี ารสอนหรอื วสั ดปุ ระกอบการสอนชนดิ ใด ทจ่ี ะสามารถใชก้ บั ผเู้ รยี นและบทเรยี นทว่ั ไปได้ วธิ สี อนและวสั ดปุ ระกอบการสอนแตล่ ะประเภทยอ่ มมจี ดุ มงุ่ หมายเฉพาะของมนั เอง 6.2 ในบทเรยี นหนง่ึ ๆ ไมค่ วรใชส้ อ่ื การเรยี นการสอนมากเกนิ ไป ควรใชเ้ พยี งแตเ่ ทา่ ทจ่ี ำเปน็ เทา่ นน้ั ในบางครง้ั กไ็ มค่ วรใชส้ อ่ื อยา่ งเดยี วตลอด 6.3 สอ่ื การเรยี นการสอนทใ่ี ชค้ วรจะตอ้ งสอดคลอ้ งกบั บทเรยี นและกระบวนการเรยี นการสอน 6.4 สื่อการเรียนการสอนควรสร้างให้เกิดโอกาสที่ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการเตรียมและการใช้ อนั กอ่ ใหเ้ กดิ ประสบการณก์ ารเรยี นรทู้ ไ่ี มล่ มื งา่ ย 6.5 กอ่ นใชส้ อ่ื การเรยี นการสอน ผสู้ อนควรทดลองใชก้ อ่ นเพอ่ื ความแนใ่ จวา่ จะใชไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง และ มปี ระสทิ ธภิ าพนอกจากนน้ั ยงั ตอ้ งจดั เตรยี มอปุ กรณแ์ ละเครอ่ื งมอื ประกอบใหพ้ รอ้ มทกุ อยา่ ง

ประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 8/21 8 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 7. ประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน สอ่ื การเรยี นการสอนทใ่ี ชป้ ระกอบในการเรยี นการสอนเทา่ ทพ่ี บเหน็ และจากประสบการณ์ พอสรปุ เปน็ ประเภทตา่ ง ๆ ดงั นค้ี อื 7.1 กระดานดำ (Chalk Boards) 7.2 หนงั สอื ตำราเรยี น/ใบเนอ้ื หาและใบงาน (Book or text/Information and Worksheets) 7.3 แผน่ ภาพ (Wall Charts) 7.4 แผน่ ใส (Overhead Transparencies)/สไลดอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (Electronics Slide) 7.5 โมเดลพลาสตกิ (Overhead Plastic Models) 7.6 ภาพสไลดแ์ ละแผน่ ภาพยนต์ (Slide Series and Filmstrips) 7.7 แถบบนั ทกึ เสยี ง (Audiotape Recordings) 7.8 แถบวดิ ที ศั น/์ แผน่ วดิ ที ศั น์ (Videotape Recordings and Videodiscs) 7.9 หนุ่ จำลอง (Models) 7.10 อปุ กรณท์ ดลอง/สาธติ (Experimental/Demonstration Sets) 7.11 ของจรงิ (Real Objects) 7.12 บทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน(CAI) หรอื ซอฟตแ์ วรค์ อมพวิ เตอรอ์ น่ื ๆ เปน็ ตน้ 8. ลกั ษณะและแนวทางการใชส้ อ่ื ประเภทตา่ ง ๆ 8.1 กระดานดำ (Chalk Boards) ก. เหตผุ ลทเ่ี ลอื กใช้  ขอ้ ความทแ่ี สดงสน้ั ๆ  ภาพทแ่ี สดงเปน็ ภาพงา่ ยๆ ใชเ้ วลาเขยี นสน้ั ๆ  ไมม่ ไี ฟฟา้ หรอื อปุ กรณอ์ น่ื ๆ  ตอ้ งการเปลย่ี นแปลง แกไ้ ขภาพหรอื ขอ้ ความบอ่ ยๆ  ใชก้ บั ผเู้ รยี นจำนวนไมม่ ากนกั ข. กจิ กรรมในการเรยี นการสอน  เหมาะสำหรบั การเรยี นการสอนแบบบรรยาย หรอื ถาม-ตอบ  สามารถใหผ้ เู้ รยี นรว่ มกจิ กรรมบนกระดานดำไดง้ า่ ย และพรอ้ มกนั หลายคนได้  เปลย่ี นแปลงและเพม่ิ เตมิ รายละเอยี ดตา่ ง ๆ ไดง้ า่ ย ค. ลกั ษณะทางเทคนคิ  ไมต่ อ้ งใชอ้ ปุ กรณอ์ น่ื ๆ ประกอบ  ไมต่ อ้ งใชไ้ ฟฟา้  เกบ็ รกั ษาไวไ้ มไ่ ด้  อายกุ ารใชง้ านสน้ั  มเี นอ้ื ทใ่ี นการใชง้ านกวา้ ง

ประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 9/21 9 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 8.2. ใบเนอ้ื หาและใบงาน (Information Sheet and Work Sheets) ก. เหตผุ ลทเ่ี ลอื กใช้  ไมม่ ตี ำราหรอื หนงั สอื ทเ่ี หมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการโดยตรง  เนอ้ื หาทต่ี อ้ งการกระจดั กระจายอยใู่ นตำราหลายเลม่  ตำรามรี าคาแพงเกนิ ไป และมเี นอ้ื หาเกนิ ความตอ้ งการ  รายละเอยี ดเนอ้ื หามมี าก หรอื มภี าพและวงจรทซ่ี บั ซอ้ นเสยี เวลานานในการลอกจาก กระดานดำ  ในการสอนผู้เรียนจำนวนมาก ๆ แบบบรรยายควรมีใบเนื้อหา ใบงานประกอบ เพอ่ื ใหท้ กุ คน เรยี นไดท้ ว่ั ถงึ ข. กจิ กรรมในการเรยี นการสอน  เหมาะสำหรบั การเรยี นการสอนแบบบรรยาย ถาม-ตอบ แบบเปน็ กลมุ่ ยอ่ ย หรอื เรยี น ดว้ ยตนเอง  ผเู้ รยี นทกุ คนสามารถมกี จิ กรรมพรอ้ มกนั ในเวลาเดยี วกนั เชน่ อา่ นและทำใบงาน  สามารถใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาและทบทวนบทเรยี นไดด้ ว้ ยตนเอง  ขณะทผ่ี สู้ อนกำลงั บรรยายหรอื ปอ้ นขอ้ คำถามระหวา่ ง บทเรยี นไมค่ วรแจกใบเนอ้ื หา ใหผ้ เู้ รยี นอา่ น ค. ลกั ษณะทางเทคนคิ  ตอ้ งใชว้ สั ดอุ ปุ กรณใ์ นการสรา้ ง เชน่ กระดาษไข กระดาษ เครอ่ื งโรเนยี ว เครอ่ื งถา่ ยเอกสาร หรอื เครอ่ื งพมิ พค์ อมพวิ เตอร์ เปน็ ตน้  ตอ้ งใชพ้ นกั งานพมิ พด์ ดี ชว่ ย หรอื ผสู้ อนตอ้ งพมิ พเ์ องในการสรา้ งตน้ ฉบบั  สามารถทำสำเนาไดจ้ ำนวนมากไมจ่ ำกดั  จดั เกบ็ รกั ษางา่ ย และสะดวกตอ่ การนำไปใชค้ รง้ั ตอ่ ไป

ประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 10/21 10 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 8.3แผน่ ภาพ (Wall Charts) ก. เหตผุ ลทเ่ี ลอื กใช้  ภาพทแ่ี สดงยงุ่ ยากซบั ซอ้ นตอ้ งใชเ้ วลาเขยี นมาก  ไมม่ ไี ฟฟา้ หรอื อปุ กรณเ์ ครอ่ื งฉายภาพอน่ื ๆ ในหอ้ งเรยี น  ดงึ ดดู ความสนใจของผเู้ รยี นทง้ั ชน้ั มาทภ่ี าพได้  ตอ้ งการแสดงใหเ้ หน็ ทลี ะขน้ั ตอนโดยใชภ้ าพแยกสว่ น ข. กจิ กรรมในการเรยี นการสอน  เหมาะกบั การสอนแบบบรรยาย หรอื ถาม-ตอบ  สามารถใหผ้ เู้ รยี นรว่ มกจิ กรรมได้ โดยใชด้ นิ สอสหี รอื ชอลค์ สเี พม่ิ เตมิ รายละเอยี ดได้  ใหผ้ เู้ รยี นอธบิ ายสว่ นประกอบตา่ งๆ ของภาพหนา้ ชน้ั เรยี นได้  ภาพทกุ ภาพควรมรี ายการคำถามทด่ี ปี ระกอบ เพอ่ื กระตนุ้ ใหผ้ เู้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในการ คดิ หาคำตอบ ค. ลกั ษณะทางเทคนคิ  ไมต่ อ้ งใชอ้ ปุ กรณเ์ ครอ่ื งมอื ทย่ี งุ่ ยากในการสรา้ ง ยกเวน้ ในกรณตี อ้ งการลอกรปู ภาพ ทซ่ี บั ซอ้ น จากตำราตอ้ งใชเ้ ครอ่ื งขยายภาพ  ไมต่ อ้ งใชไ้ ฟฟา้ หรอื อปุ กรณใ์ นขณะใชส้ อน  การเกบ็ รกั ษาคอ่ นขา้ งยงุ่ ยากเพราะมขี นาดใหญ่ 8.4แผน่ ใส (Overhead Transparencies ) ก. เหตผุ ลทเ่ี ลอื กใช้  ภาพทแ่ี สดงยงุ่ ยากซบั ซอ้ น เสยี เวลาในการเขยี นมาก  ตอ้ งการแสดงรปู ภาพทเ่ี ปน็ ขน้ั ตอน โดยใชภ้ าพซอ้ น (Over Lay)  ตอ้ งการขยายภาพใหม้ ขี นาดใหญห่ รอื เลก็ ไดต้ ามตอ้ งการ  ตอ้ งการใชภ้ าพซอ้ นทส่ี ามารถเลอ่ื นหรอื เคลอ่ื นทไ่ี ด้  สามารถควบคมุ ชน้ั เรยี นไดด้ ใี นขณะสอน ข. กจิ กรรมในการเรยี นการสอน  เหมาะกบั การสอนแบบบรรยาย หรอื ถาม-ตอบ  ผเู้ รยี นสามารถรว่ มกจิ กรรมโดยเขยี นลงบนแผน่ ใสได้  ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายรายละเอยี ดตา่ งๆ ของภาพหนา้ ชน้ั เรยี นได้  การเตรยี มภาพแผน่ เดย่ี วหรอื ภาพซอ้ น ควรมรี ายการคำถามประกอบภาพทเ่ี หมาะสม เปน็ ขน้ั ตอน ค. ลกั ษณะทางเทคนคิ  สามารถสรา้ งขน้ึ เองไดง้ า่ ย ๆ โดยใชป้ ากกาเขยี นแผน่ ใส (ปจั จบุ นั สามารถลอกภาพ ทซ่ี บั ซอ้ นจากตน้ ฉบบั โดยใชเ้ ครอ่ื งถา่ ยเอกสาร หรอื เครอ่ื งสแกนเนอร)์  ฉายภาพในหอ้ งสวา่ งได้ ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งใชใ้ นหอ้ งมดื  การเกบ็ รกั ษางา่ ยและเคลอ่ื นยา้ ยสะดวก  ตอ้ งใชไ้ ฟฟา้ และเครอ่ื งฉายภาพโปรง่ ใส (Overhead Projector)

ประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 11/21 11 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 8.5โมเดลพลาสตกิ (Overhead Plastic Models) ก. เหตผุ ลทเ่ี ลอื กใช้  แสดงหลกั การทำงานของชน้ิ สว่ นทเ่ี คลอ่ื นไหวได้  แสดงสว่ นประกอบหลกั ทไ่ี มย่ งุ่ ยากนกั  สามารถควบคมุ ชน้ั เรยี นไดด้ ขี ณะสอน  ชว่ ยกระตนุ้ ใหผ้ เู้ รยี นมกี จิ กรรมรว่ ม ข. กจิ กรรมในการเรยี นการสอน  เหมาะกบั การสอนแบบบรรยาย และถาม-ตอบ  สามารถใหผ้ เู้ รยี นรว่ มกจิ กรรมไดโ้ ดยการอธบิ ายประกอบการเคลอ่ื นไหวชน้ิ สว่ นตา่ ง ๆ  ขน้ั ตอนการเคลอ่ื นทข่ี องชน้ิ สว่ นตา่ งๆ ผสู้ อนสามารถเตรยี มคำถามไวถ้ ามเปน็ ขน้ั ตอนได้ ค. ลกั ษณะทางเทคนคิ  สามารถสรา้ งไดง้ า่ ย ราคาไมแ่ พง  สามารถฉายในหอ้ งทส่ี วา่ งได้ ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งใชห้ อ้ งมดื  ชน้ิ สว่ นตา่ ง ๆ มขี นาดพอเหมาะ และนำ้ หนกั เบา  การเกบ็ รกั ษาและทำความสะอาดงา่ ย  สามารถเคลอ่ื นยา้ ยสะดวก 8.6ภาพสไลด์ และแผน่ ภาพยนต์ (Slide Series and Filmstrips) ก. เหตผุ ลทเ่ี ลอื กใช้  แสดงภาพทย่ี งุ่ ยากซบั ซอ้ นมากหรอื ภาพถา่ ยของจรงิ  ดงึ ดดู ความสนใจของผเู้ รยี นมารวมทภ่ี าพได้  สามารถยอ่ ภาพใหเ้ ลก็ หรอื ขยายใหญต่ ามขนาดของกลมุ่ ผเู้ รยี นได้  ตอ้ งการแสดงภาพประกอบเสยี งในกรณที ต่ี อ้ งการใหผ้ เู้ รยี นเรยี นดว้ ยตนเอง โดยใช้ ภาพสไลด์ ชดุ ประกอบเทป ( Slide-tape Program) ข. กจิ กรรมในการเรยี นการสอน  ภาพสไลดเ์ ดย่ี วสามารถสอนไดโ้ ดยวธิ กี ารบรรยาย หรอื ถาม-ตอบ สว่ นสไลดช์ ดุ ประกอบ เทป สามารถเรยี นไดด้ ว้ ยตนเอง  ผเู้ รยี นรว่ มกจิ กรรมไดโ้ ดยการตอบคำถามจากผสู้ อนเมอ่ื สอนดว้ ยภาพสไลดเ์ ดย่ี ว  ผเู้ รยี นสมารถอธบิ ายรายละเอยี ดจากภาพหนา้ ชน้ั เรยี นได้  การใชภ้ าพสไลดเ์ ดย่ี วผสู้ อนควรเตรยี มรายการคำถามประกอบภาพ ไวเ้ ปน็ ขน้ั ตอน จะดกี วา่ การสอนแบบบรรยายจากภาพโดยตรง ค. ลกั ษณะทางเทคนคิ  สามารถทำขน้ึ ใชเ้ องไดง้ า่ ย โดยใชก้ ลอ้ งถา่ ยรปู ธรรมดา  กระบวนการลา้ งฟลิ ม์ ทำไดง้ า่ ยสะดวกโดยรา้ นถา่ ยรปู ถว่ั ไป  การเกบ็ รกั ษาภาพงา่ ย และสะดวกเพราะมขี นาดเลก็  เครอ่ื งฉายภาพสไลดช์ นดิ ไฟแรงสงู สามารถฉายไดใ้ นมมุ มดื ของหอ้ ง โดยไมต่ อ้ งฉาย ในหอ้ งมดื  สามารถใชร้ ว่ มกบั เทปเปน็ ชดุ สไลดป์ ระกอบเสยี ง  สามารถถา่ ยสำเนาเปน็ หลาย ๆ ชดุ ไดส้ ะดวก

ประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 12/21 12 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 8.7แถบวดิ ที ศั น์ และแผน่ วดิ ที ศั น์ (Videotape Recording and Videodiscs) ก. เหตผุ ลทเ่ี ลอื กใช้  อธบิ ายโดยภาพเคลอ่ื นไหวหรอื การเคลอ่ื นทอ่ี ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง  ดงึ ดดู ความสนใจของผเู้ รยี นไดเ้ ปน็ อยา่ งดี  สามารถยอ้ นกลบั ไปเรม่ิ เนอ้ื หาเดมิ ไดต้ ลอดเวลา  สามารถยอ่ หรอื ขยายภาพไดต้ ามขนาดตามความเหมาะสมของผเู้ รยี น  สามารถใชภ้ าพนง่ิ หรอื ภาพเคลอ่ื นไหวรว่ มกนั ได้  มเี สยี งบรรยายทส่ี มั พนั ธก์ บั ภาพจรงิ เคลอ่ื นไหวหรอื ภาพเคลอ่ื นไหวดว้ ยเทคนคิ พเิ ศษ  สามารถเลอื กกรอบเฉพาะเจาะจงไดบ้ นแผน่ วดิ ที ศั น์ ข. กจิ กรรมในการเรยี นการสอน  สามารถใชก้ บั การเรยี นการสอนไดห้ ลากหลายวธิ ี รวมถงึ การเรยี นดว้ ยตนเอง  ผเู้ รยี นรว่ มกจิ กรรมไดร้ ะหวา่ งบทเรยี นโดยการตอบคำถามหรอื ทำกจิ กรรมกลมุ่ ค. ลกั ษณะทางเทคนคิ  สามารถจดั ทำใชไ้ ดด้ ว้ ยตนเองโดยใชเ้ ครอ่ื งมอื อปุ กรณท์ ไ่ี มย่ งุ่ ยาก  ตอ้ งใชป้ ระกอบกบั เครอ่ื งเลน่ และเครอ่ื งฉาย  ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งฉายในหอ้ งมดื  ตอ้ งพฒั นาใหท้ นั กบั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศทท่ี นั สมยั  สามารถใชร้ ว่ มกบั เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์  ผลติ ตน้ ฉบบั ราคาสงู  สะดวกในการสำเนาหลาย ๆ ชดุ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็  งา่ ยและสะดวกตอ่ การบำรงุ รกั ษา จดั เกบ็ และเคลอ่ื นยา้ ย

ประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 13/21 13 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 8.8หนุ่ จำลอง (Models) ก. เหตผุ ลทเ่ี ลอื กใช้  สามารถมองเหน็ ได้ 3 มติ ิ เขา้ ใจงา่ ย  สาธติ การทำงานของอปุ กรณ์ ชน้ิ สว่ นหรอื กลไกทย่ี งุ่ ยากใหเ้ ขา้ ใจไดง้ า่ ยและรวดเรว็ ขน้ึ  สาธติ การทำงานทเ่ี คลอ่ื นไหวรวดเรว็ ใหช้ า้ ลง  ตรวจปรบั ความเขา้ ใจของผเู้ รยี นระหวา่ งภาพกบั ของจรงิ โดยเฉพาะวชิ าเขยี นแบบ เทคนคิ ข. กจิ กรรมในการเรยี นการสอน  เหมาะกบั การสอนแบบรรยาย และถาม-ตอบ  สงั เกตการสาธติ ของผสู้ อนและตอบคำถาม  ผสู้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกนั ปฏบิ ตั ขิ ณะสาธติ  อภปิ รายปญั หารว่ มกนั ค. ลกั ษณะทางเทคนคิ  มรี ปู ทรงเปน็ 3 มติ ิ คลา้ ยของจรงิ  สรา้ งไดเ้ องในสถานศกึ ษา  มขี นาดเหมาะ นำ้ หนกั เบา จดั เกบ็ และเคลอ่ื นยา้ ยสะดวก  ใชว้ สั ดทุ ห่ี าไดง้ า่ ยในทอ้ งถน่ิ และราคาถกู 8.9ชดุ ทดลอง/สาธติ (Experimental/Demonstration Sets)หรอื ชดุ ฝกึ ปฏบิ ตั ิ ก. เหตผุ ลทเ่ี ลอื กใช้  ตอ้ งการพสิ จู นข์ อ้ เทจ็ จรงิ  ทำใหผ้ เู้ รยี นหรอื ผรู้ บั การฝกึ ไดเ้ หน็ ปรากฎการณจ์ ากการทดลองปฏบิ ตั จิ รงิ  ตอ้ งการแสดงกระบวนการหรอื ขน้ั ตอนตา่ ง ๆ ของผลลพั ธท์ ต่ี อ้ งการ  กระตนุ้ ความสนใจของผเู้ รยี นหรอื ผรู้ บั การฝกึ ไดด้ ี  ผเู้ รยี นหรอื ผรู้ บั การฝกึ สามารถเรยี นรเู้ ปน็ รายบคุ คล เปน็ กลมุ่ หรอื รว่ มกบั ผสู้ อนได้ ข. กจิ กรรมในการเรยี นการสอน  สามารถใชก้ บั การสอนหรอื การฝกึ ไดห้ ลายวธิ ี  ผสู้ อนหรอื ผฝู้ กึ เตรยี มเครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ และวสั ดตุ า่ ง ๆ ทต่ี อ้ งใชส้ ำหรบั การทดลอง หรอื สาธติ  ผสู้ อนหรอื ผฝู้ กึ ใหค้ ำปรกึ ษาแนะนำระหวา่ งบทเรยี นหรอื การฝกึ ไดต้ ลอดเวลา  ผเู้ รยี นหรอื ผรู้ บั การฝกึ มกี จิ กรรมรว่ มระหวา่ งบทเรยี นหรอื การฝกึ ค. ลกั ษณะทางเทคนคิ  ตอ้ งใชเ้ วลาในการเตรยี มการคอ่ นขา้ งมาก  มขี นาดใหญ่ นำ้ หนกั คอ่ นขา้ งมาก และเคลอ่ื นยา้ ยไมส่ ะดวก  อปุ กรณป์ ระกอบมรี าคาแพง  ตอ้ งการสถานทใ่ี นการจดั เกบ็ และบำรงุ รกั ษา

ประเภทของสอ่ื การเรยี นการสอน ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 14/21 14 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 8.10 ของจรงิ (Real Objects) ก. เหตผุ ลทเ่ี ลอื กใช้  ไมส่ ามารถใชส้ อ่ื ชนดิ อน่ื ๆ ไดด้ เี ทา่  ของจรงิ สามารถหาไดง้ า่ ย หรอื ยมื มาไดจ้ ากโรงฝกึ งาน  ของจรงิ สามารถแสดงรายละเอยี ดและวตั ถปุ ระสงคท์ ต่ี อ้ งการได้  ของจรงิ มนี ำ้ หนกั และขนาดพอเหมาะทจ่ี ะนำมาใชป้ ระกอบการสอนในชน้ั เรยี นได้ ข. กจิ กรรมในการเรยี นการสอน  เหมาะกบั การสอนแบบบรรยาย สาธติ หรอื ถาม-ตอบ  ผเู้ รยี นสามารถรว่ มกจิ กรรมโดยอธบิ ายหรอื สาธติ จากของจรงิ นน้ั ไดโ้ ดยตรง  จบั ตอ้ ง สงั เกต ศกึ ษาไดด้ ว้ ยตนเอง หรอื เปน็ กลมุ่ ยอ่ ย โดยใชใ้ บงานประกอบ ค. ลกั ษณะทางเทคนคิ  สว่ นใหญไ่ ดม้ าจากโรงฝกึ งาน หรอื หอ้ งประลองเพอ่ื นำมาประกอบการสอนทางดา้ น ทฤษฎี ภายในหอ้ งเรยี น  ขนาด นำ้ หนกั คอื ขอ้ จำกดั ในการนำมาใช้  ตอ้ งการการจำแนกความแตกตา่ งของชน้ิ สว่ น โดยใชส้ หี รอื สญั ลกั ษณ์  ต้องการสื่อประเภทอื่นช่วย ในกรณีที่ไม่สามารถเห็นการทำงานที่ยุ่งยาก ซับซ้อน หรอื มขี นาดเลก็ เกนิ ไป

สอ่ื e-Learning ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 15/21 15 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 9. สอ่ื e-Learning e-Learning Center แห่งสหราชอาณาจักรได้ให้ ความหมายของ e-Learning ไวว้ า่ “e-Learning is the delivery of learning and training using electronic media. for example: using computers. internet. intranet .ln principle e-Learning is a kind of distance learning: learning learning materlals can be accessed from the web or CD via a computer. Tutors and learners can cimmunicate with each other using e-mail or discussion forums. e-Learning can be used as the main method of delivery of training or as a combined approach with classroom-based training” สรุปได้ว่า “e-Learning เปน็ การนำสง่ บทเรยี นเพอ่ื การศกึ ษา และฝกึ อบรม โดยใชส้ อ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เชน่ คอมพวิ เตอร์ และเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ นต็ อนิ ทราเนต็ โดยหลกั แลว้ e-Learning เปน็ การศกึ ษาทางไกลวธิ หี นง่ึ ทผ่ี เู้ รยี น สามารถศกึ ษาวสั ดกุ ารเรยี นผา่ นคอมพวิ เตอรจ์ ากเวบ็ ไซตห์ รอื ซดี ี ซง่ึ ผสู้ อนเสรมิ และผเู้ รยี นสามารถตดิ ตอ่ สอ่ื สารซง่ึ กนั และกนั โดยใชจ้ ดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ สห์ รอื การใชบ้ อรด์ วเิ คราะหร์ ว่ มกนั e-Learning จงึ สามารถ ใชเ้ ปน็ วธิ กี ารหลกั ในการนำสง่ บทเรยี นเพอ่ื การฝกึ อบรมหรอื ใชค้ วบคกู่ บั การฝกึ อบรมปกตใิ นชน้ั เรยี น” ความสำคญั ของ e-Learning จงึ อยทู่ ต่ี วั วสั ดกุ ารเรยี น หรอื Learning Materials ทเ่ี ปน็ หวั ใจ ในการถา่ ยทอดองคค์ วามรไู้ ปยงั ผเู้ รยี นตามทผ่ี สู้ อนออกแบบขน้ึ มา ซง่ึ การออกแบบวสั ดกุ ารเรยี นดงั กลา่ วน้ี ตอ้ งเปน็ ไปตามหลกั การเรยี นรทู้ กุ ประการโดยยดึ ท่ี วตั ถปุ ระสงค์ หรอื เปา้ หมายทางการเรยี นเปน็ หลกั ซง่ึ Ruth C. Clark ไดก้ ลา่ วสนบั สนนุ ในประเดน็ นไ้ี วว้ า่ “e-Learning is an instruction delivered on a computer by way of CD-ROM lnternet ,or lnternet with the following features :1) includes content relevant to the learning objective 2) uses instructional methods such as examples and practice to help learning 3) uses media elements such as words and pictures to deliver the content and methods, and 4) builds new knowledge and skills linked to individual learning goals or to improved organizational performance “ การศกึ ษาหรอื การฝกึ อบรมในระบบ e-Learning จะไดผ้ ลหรอื ไม่ จงึ ขน้ึ อยกู่ บั คณุ ภาพของตวั วสั ดกุ ารเรยี น ซง่ึ นอกจากจะตอ้ งออกแบบใหส้ มั พนั ธก์ บั วตั ถปุ ระสงคต์ ามหลกั การเรยี นรแู้ ลว้ ยงั ตอ้ งเลอื กใชส้ อ่ื ทง้ั ขอ้ ความและภาพทเ่ี หมาะสมเพอ่ื นำเสนอขอ้ มลู รวมทง้ั ยงั ตอ้ งสรา้ งองค์ ความรใู้ หม่ ๆ ทเ่ี ชอ่ื มโยงไปยงั ประสบการณข์ องผเู้ รยี นแตล่ ะคนอกี ดว้ ยวสั ดกุ ารเรยี นในรปู ของสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ จงึ มคี วามสำคญั ตอ่ การศกึ ษาหรอื การฝกึ อบรมในระบบ e-Learning เปน็ อยา่ งมาก หากมกี ารพฒั นาวสั ดุ การเรยี นทม่ี คี ณุ ภาพ กย็ อ่ มสง่ ผลใหก้ ารเรยี นรใู้ นระบบ e-Learning มปี ระสทิ ธภิ าพตามไปดว้ ย

วสั ดกุ ารเรยี น (Learning Materials) ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 16/21 16 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 9.1 วสั ดกุ ารเรยี น (Learning Materials) วสั ดกุ ารเรยี น (Learning Materials) หมายถงึ บทเรยี น สอ่ื การเรยี น กจิ กรรมการเรยี นการสอน แบบทดสอบ การตรวจ ปรบั และกระบวนการเรยี นรอู้ น่ื ๆ ทน่ี ำเสนอผา่ นคอมพวิ เตอร์ เพอ่ื ถา่ ยทอดไปยงั ผเู้ รยี น ตามวัตถุประสงค์ของบทเรียนที่กำหนดไว้ ซึ่งนำเสนอในรูปของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Media) จำแนกออกเปน็ 6 ประเภทใหญๆ่ ไดแ้ ก่ 1. บทเรยี นคอมพวิ เตอรบ์ นเวบ็ (Web Based lnstruction) หมายถงึ บทเรยี นสำเรจ็ รปู ทน่ี ำเสนอ ผ่านคอมพิวเตอร์หรือระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทั้งเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและเครือข่าย อินทราเน็ต ได้แก่ WBI (Web Based lnstruction), WBT (Web Based Training), IBI (lnternet Based lnstruction), NBI (Net Based lnstruction)หรือบทเรียนที่มีชื่ออื่น ๆ เพอ่ื ใชใ้ นการศกึ ษาดว้ ยตนอง 2. สไลด์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Slide) หมายถึง สื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้นำเสนอข้อมูล ตา่ ง ๆ เพอ่ื การเรยี นการสอน เชน่ PowerPoint Slide หรอื Presentation Files 3. หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Books) หมายถงึ หนงั สอื ทน่ี ำเสนอผา่ นจอภาพของเรอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เพอ่ื การศกึ ษาดว้ ยตนเอง ซง่ึ พฒั นาขน้ึ ภายใตแ้ นวความคดิ ของการนำเสนอหนงั สอื ทว่ั ๆ ไป 4. เอกสารประกอบการบรรยายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Lecture Notes) หมายถงึ เอกสารประกอบ การสอน หรอื เอกสารประกอบการสอน หรอื เอกสารคำสอนทผ่ี สู้ อนใชเ้ พอ่ื ประกอบการสอนผเู้ รยี น ซง่ึ อยใู่ นรปู ของสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เชน่ Document Files, Text Files และ PDF Files 5. ไฟลภ์ าพเคลอ่ื นไหวและเสยี งดจิ ติ อล (Video File and Digital Sound) หมายถงึ ภาพ เคลอ่ื นไหว และเสยี งทน่ี ำเสนอผา่ น คอมพวิ เตอร์ เพอ่ื ใชเ้ ปน็ วสั ดปุ ระการศกึ ษาหรอื การฝกึ อบรม เพอ่ื นำเสนอขอ้ มลู ในลกั ษณะของมลั ตมิ เี ดยี 6. เอกสารไฮเปอรเ์ ทก็ ซแ์ ละไฮเปอรม์ เี ดยี (Hypertext and Hypermedia Document) หมายถงึ ไฟลเ์ อกสารตา่ ง ๆ ในรปู ของ HTML Files ซง่ึ นำเสนอผา่ นทางเวบ็ เบราเซอร์ ประกอบดว้ ย ขอ้ ความ ภาพ และการเชอ่ื มโยง (Link) ไปยงั สว่ นตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ทง้ั ภายในและภายนอก วัสดุการเรียนทั้ง 6 ประเภทดังกล่าว บทเรียนคอมพิวเตอร์บนเว็บนับว่ามีความสำคัญที่สุด ตอ่ การเรยี นรใู้ นระบบ e-Learning เนอ่ื งจากเปน็ วสั ดทุ ใ่ี ชน้ ำเสนอเนอ้ื หาสาระแกผ่ เู้ รยี นโดยตรงบทเรยี น คอมพวิ เตอรเ์ วบ็ จงึ มบี ทบาทตอ่ การศกึ ษาและการฝกึ อบรมในการเรยี นรู้ e-Learning เปน็ อยา่ งมาก จงึ ทำให้ บางคนคดิ วา่ การศกึ ษาดว้ ยตนเองผา่ นบทเรยี น WBI หรอื WBT กค็ อื e-Learning ซง่ึ ไมน่ า่ จะเปน็ คำตอบ ทถ่ี กู ตอ้ งนกั เนอ่ื งจากคำตอบทแ่ี ทจ้ รงิ นน้ั e-Learning lnc แหง่ เยอรมนั นี ไดส้ รปุ ไว้ คอ่ นขา้ งชดั เจนวา่ “e- Learning is the solution of the next education” การออกแบบและพฒั นาบทเรยี นคอมพวิ เตอรบ์ นเวบ็ จงึ เปน็ เรอ่ื งสำคญั ทจ่ี ะตอ้ งดำเนนิ การอยา่ งเปน็ ระบบ และมกี ารตรวจปรบั ทกุ ขน้ั ตอน เพอ่ื ใหไ้ ดม้ าซง่ึ บทเรยี น ทม่ี คี ณุ ภาพ ซง่ึ จะสง่ ผลใหก้ ารศกึ ษาและการฝกึ อบรมระบบe-Learning มคี ณุ ภาพตามไปดว้ ย

ฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ความแตกตา่ งระหวา่ งบทเรยี น CAI กบั เรยี น WBI ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 17/21 17 ãºà¹×éÍËÒ 9.2 ความแตกตา่ งระหวา่ งบทเรยี น CAI กบั บทเรยี น WBI บทเรียน WBI เป็นบทเรียนคอมพิวเตอร์ประเภทหนึ่งที่นำเสนอ โดยใช้เว็บเบราเซอร์ผ่าน เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ง้ั เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ นต็ หรอื อนิ ทราเนต็ ภายในองคก์ ร โดยพน้ื ฐานแลว้ จะไมแ่ ตกตา่ ง กบั บทเรยี นทน่ี ำเสนอในรปู ของ CD-ROM Based System เชน่ บทเรยี น CAI ทย่ี ดึ หลกั การ 4 ls เชน่ เดยี วกนั ไดแ้ ก1่ ) lnformation คอื ความเปน็ สารสนเทศ 2) interactive คอื การปฏสิ มั พนั ธ์ 3)lndividualization คอื การศกึ ษา ตนเอง และ 4) immediate Feedback คอื การตอบสนองโดยทนั ที สำหรบั สว่ นทแ่ี ตกตา่ งของ บทเรยี นคอมพวิ เตอรบ์ นเวบ็ กค็ อื การใชค้ ณุ สมบตั แิ ละเทคโนโลยขี องเวบ็ เบราเซอรน์ ำเสนอสว่ นตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ สว่ นของการตดิ ตอ่ กบั ผใู้ ช้ การสบื ทอ่ งขอ้ มลู และสว่ นของการสนบั สนนุ กระบวนการเรยี นรู้ เนอ่ื งจากบทเรยี น WBI ถกู ออกแบบขน้ึ มาเพอ่ื ใชใ้ นการศกึ ษาทางไกลมากกวา่ การใชใ้ นชน้ั เรยี น จงึ มกี ารใชส้ ว่ นบรกิ ารตา่ ง ๆ บนเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรเ์ ออ้ื ประโยชนแ์ กผ่ เู้ รยี นแตกตา่ งจากบทเรยี น CAI ทอ่ี าศยั ผสู้ อนเปน็ ผชู้ แ้ี นะแนว ทางการเรยี น อย่างไรก็ตามบทเรียน CAI ก็สามารถพัฒนาให้เป็นบทเรียน WBI ได้เช่นกัน โดยการเพิ่มเติม ส่วนสนับสนุน กระบวนการเรียนรู้เข้าไปและนำเสนอผ่านเว็บเบราเซอร์ก็จะกลายเป็นบทเรียน WBI โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในปจั จบุ นั ความสามารถของระบบนพิ นธบ์ ทเรยี น (Authonng System) สามารถนำเสนอ บทเรยี นผา่ นเบราเซอรไ์ ด้ จงึ ไมม่ ขี อ้ จำกดั ใดๆในการพฒั นาบทเรยี น CAI ใหเ้ ปน็ บทเรยี น WBI 9.3 ประเภทของบทเรยี น WBI บทเรยี น WBI จำแนกออก 3 ประเภท ตามลำดบั ความยาก ไดแ้ ก่ 1. Embedded WBI เปน็ บทเรยี นคอมพวิ เตอรบ์ นเวบ็ ทน่ี ำเสนอ ดว้ ยขอ้ ความและกราฟกิ เปน็ หลกั จดั วา่ เปน็ บทเรยี นขน้ั พน้ื ฐานทพ่ี ฒั นามาจากบทเรยี น CAI สว่ นใหญพ่ ฒั นาขน้ึ ดว้ ยภาษา HTML (Hypertext Markup Langrage) 2. IWBI (lnteractive WBI) เปน็ บทเรยี นคอมพวิ เตอรบ์ น เวบ็ ทพ่ี ฒั นาขน้ึ จากบทเรยี นประเภทแรก โดยเน้นการปฏิสัมพันธ์ กับผู้เรียนเป็นหลัก นอกจากจะนำเสนอด้วยสื่อต่าง ๆ ทั้งข้อความ กราฟิก และภาพเคลอ่ื นไหวแลว้ การพฒั นาบทเรยี นในระดบั น้ี จงึ ตอ้ งใชภ้ าษาคอมพวิ เตอรย์ คุ ท่ี 4 ภาษาเชงิ วตั ถุ (Object Oriented Programming) เชน่ Visual Basic, Visual c++ รวมทง้ั ภาษา HTML, Perl เปน็ ตน้ 3.IMMWBI (lnteractive Multimedia WBI) เปน็ บทเรยี นคอมพวิ เตอรบ์ นเวบ็ ทน่ี ำเสนอ โดย ยดึ คณุ สมบตั ทิ ง้ั 5 ดา้ นของมลั ตมิ เี ดยี ไดแ้ ก่ ขอ้ ความ ภาพนง่ิ ภาพเคลอ่ื นไหว การปฏสิ มั พนั ธ์ และเสยี ง จดั วา่ เปน็ ระดบั สงู สดุ ของบทเรยี น WBI เนอ่ื งจากปฏสิ มั พนั ธเ์ พอ่ื จดั การทางดา้ นภาพเคลอ่ื นไหว และเสยี ง ของบทเรยี นโดยใชเ้ วบ็ เบราเซอรน์ น้ั มคี วามยงุ่ ยากมากกวา่ บทเรยี นทน่ี ำเสนอแบบใชง้ านเพยี งลำพงั ผพู้ ฒั นา บทเรยี นจะตอ้ งใชเ้ ทคนคิ ตา่ ง ๆ เขา้ ชว่ ยเพอ่ื ใหก้ ารตรวจปรบั ของบทเรยี นจากการมปี ฏสิ มั พนั ธเ์ ปน็ ไปดว้ ย ความรวดเร็วแดละราบรื่น เช่น การเขียนคุกกี้ (Cookies) ช่วยสื่อสารข้อมูลระหว่างเว็บเซิร์ฟเวอร์กับ ตวั บทเรยี นทอ่ี ยใู่ นไคลเอนท์ ตวั อยา่ งของภาษาทใ่ี ชพ้ ฒั นาบทเรยี น ระดบั น้ี ไดแ้ ก่ Java, ASP,JSP และ PHP เปน็ ตน้

แนวทางการเกบ็ รกั ษาสอ่ื และเงอ่ื นไขการสรา้ งสอ่ื ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 18/21 18 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 10. แนวทางการเกบ็ รกั ษาสอ่ื การเรยี นการสอน การเกบ็ รกั ษาสอ่ื เปน็ สง่ิ สำคญั ประการหนง่ึ ในเรอ่ื งการใช้ ผสู้ อนหรอื สถานศกึ ษาหลายแหง่ อาจจะ มองขา้ มความสำคญั ในเรอ่ื งนไ้ี ป ถา้ หากมสี อ่ื การสอนตา่ ง ๆ ไมม่ ากนกั กอ็ าจจะไมจ่ ำเปน็ แตต่ อ้ งมมี ากขน้ึ กจ็ ำเปน็ ตอ้ งมหี นว่ ยจดั เกบ็ บรกิ ารเบกิ ยมื สอ่ื การเรยี นการสอน ประโยชนท์ จ่ี ะตอ้ งไดน้ อกจากสะดวกแก่ การเบิกยืม ยังช่วยในการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง ในระบบใหญ่สามารถจะนำเครื่อง คอมพวิ เตอรม์ าใชใ้ นการจดั การดา้ นน้ี การจดั การใหเ้ กดิ ระบบในการเกบ็ รกั ษาสอ่ื จะตอ้ งกำหนดสง่ิ เหลา่ นใ้ี หแ้ นน่ นอนเสยี กอ่ น 10.1 เลขหมายรหสั ของสอ่ื สอ่ื การเรยี นการสอนแตล่ ะประเภทแตล่ ะชน้ิ จะตอ้ งใหเ้ ลขหมายรหสั ถา้ หากเปน็ ประเภทเดยี วกนั แตม่ หี ลายชน้ิ เชน่ ใบงาน ใบเนอ้ื หา สไลด์ ควรจะใหเ้ พยี งเลขหมายเดยี ว เลขหมายทใ่ี หน้ ้ี จะทำหนา้ ทแ่ี ทนชอ่ื ของสื่อการเรียนการสอนนั้น ๆ เลขหมายจะเป็นเลขกี่หลัก ขึ้นอยู่กับจำนวนที่คาดการณ์ว่าจะมีได้ ไมค่ วรจะใหเ้ ลขหมายรหสั ของสอ่ื ทำหนา้ ทแ่ี ทนเลขหมายการจดั จำแนกดว้ ย เพราะจะไดต้ วั เลขทย่ี าวมาก อยา่ งไรกต็ ามเลขหมายรหสั สามารถจะจดั แบง่ ใชเ้ ปน็ ชว่ งๆ เชงิ การจำแนกทจ่ี ะสะดวกตอ่ การคน้ หาใชง้ าน เชน่ แบง่ เปน็ ชว่ ง ๆ เพอ่ื จำแนกสาขาวชิ า สอ่ื การเรยี นการสอน แตล่ ะประเภทจะตอ้ งกำหนดบรเิ วณทต่ี ดิ ตาม เลขหมายเลขรหสั ทแ่ี นน่ อนเหมอื น ๆ กนั 10.2 เลขหมายการจดั จำแนก เป็นเลขหมายที่กำหนดขึ้น เพื่อกำกับคู่กับเลขหมายรหัสของสื่อ สำหรับใช้ในการจำแนก และคน้ หาสอ่ื จำนวนตวั เลขจะขน้ึ อยกู่ บั ขอบเขตของการจำแนก และจะเรยี งกนั ไปตามลำดบั ความสำคญั ในการจำแนก ความสะดวกในการคน้ หาเพอ่ื นำไปใชง้ าน เชน่ จำแนกสาขา หวั เรอ่ื ง ประเภทสอ่ื เปน็ ตน้ 10.3 สถานท่ี อปุ กรณ์ สำหรบั เกบ็ สอ่ื สถานท่ี อปุ กรณ์ ไดแ้ ก่ หอ้ ง ตู้ ชน้ั ของ กลอ่ ง อปุ กรณส์ ำหรบั แขวน ยดึ เปน็ ตน้ ตอ้ งจดั เตรยี ม ใหเ้ หมาะสม กบั สอ่ื การเรยี นการสอนแตล่ ะประเภท และจดั เตรยี มเลขหมายตชู้ น้ั ไวด้ ว้ ย นอกจากการจัดเตรียมสิ่งทั้งสามประการแล้ว ควรจะจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ใน การทำงาน ดว้ ย เชน่ ใบทะเบยี น เพอ่ื รวยรวมรายละเอยี ดตา่ ง ๆ ของสอ่ื แตล่ ะชน้ิ เชน่ เลขหมายรหสั ชอ่ื สอ่ื การจดั จำแนกตชู้ น้ั ทจ่ี ดั เกบ็ แหลง่ ทม่ี าไดม้ าอยา่ งไรขอ้ มลู ดา้ นเทคนคิ (ขนาด จำนวน นำ้ หนกั เปน็ ตน้ ) ราคาเลขหมายรหสั สอ่ื ทต่ี อ้ งใชป้ ระกอบเอกสารอกี ประการหนง่ึ คอื บญั ชสี อ่ื เพอ่ื ตรวจสอบการออกเลขหมาย รหสั สอ่ื นอกจากนน้ั กต็ อ้ งจดั เตรยี มใบเบกิ ยมื สอ่ื กำหนด ระเบยี บขน้ั ตอนการเบกิ ยมื เอกสารความรเู้ กย่ี วกบั การจดั แบบเกบ็ รกั ษาสอ่ื เพอ่ื ใหผ้ ทู้ จ่ี ะมาทำหนา้ ทใ่ี นเรอ่ื งนไ้ี ดเ้ ขา้ ใจระบบงานและการพฒั นาระบบตอ่ ไปในอนาคต

เงอ่ื นไขการสรา้ งสอ่ื การเรยี นการสอน ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 19/21 19 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 11.เงอ่ื นไขเกย่ี วกบั การสรา้ งสอ่ื การเรยี นการสอน สอ่ื การเรยี นการสอนทม่ี อี ยใู่ นสถานศกึ ษาอาจกลา่ วไดม้ าจาก 2 แหลง่ คอื มาจากแหลง่ ภายนอก ไดแ้ ก่ การจดั ซอ้ื หรอื การบรจิ าค และอกี แหลง่ มาจากการทำขน้ึ เอง โดยผสู้ อนหรอื ผเู้ รยี นภายในสถานศกึ ษา การจดั ใหม้ สี อ่ื สารการเรยี นการสอนนน้ั อาจกลา่ วไดว้ า่ ขน้ึ อยกู่ บั เงอ่ื นไขตา่ ง ๆ ในสถานศกึ ษา เชน่ นโยบาย งบประมาณ วสั ดุ เทคโนโลยี ความรปู้ ระสบการณใ์ นการสรา้ ง ความรปู้ ระสบการณต์ ลอดจนทศั นคติ ของผสู้ อนและเงอ่ื นไขเกย่ี วกบั ผเู้ รยี นเงอ่ื นไขตา่ ง ๆ พอจะสรปุ ในรายละเอยี ดไดด้ งั น้ี 11.1 เงอ่ื นไขจากสถานศกึ ษา 11.1.1 สถานภาพของการศกึ ษา ไดแ้ ก่ ขนาดของสถานศกึ ษา งบประมาณ ความพรอ้ มและ ความสะดวกในเรอ่ื งวสั ดุ อปุ กรณเ์ ครอ่ื งมอื และเครอ่ื งจกั รตา่ ง ๆ 11.1.2 การบรหิ ารงาน ผบู้ รหิ ารไดเ้ นน้ หรอื ใหค้ วามสำคญั ในเรอ่ื งสอ่ื การเรยี นการสอน หรอื ไมเ่ พยี งใด 11.1.3 ลกั ษณะการเรยี นการสอน เชน่ หลกั สตู รการศกึ ษา แผนการสอน ระดบั ชน้ั และ สาขาการศกึ ษา 11.2 เงอ่ื นไขจากตวั ผสู้ อน 11.2.1 พน้ื ฐานความรแู้ ละประสบการณข์ องผสู้ อนแตล่ ะคนจะแตกตา่ งกนั ประสบการณใ์ น การสอน และความเชย่ี วชาญในเนอ้ื หาวชิ า ทำใหเ้ ออ้ื อำนวยตอ่ การสรา้ งและใชส้ อ่ื การเรยี นการสอนไดด้ กี วา่ 11.2.2 ประสบการณใ์ นการทำสอ่ื การเรยี นการสอน ผทู้ เ่ี คยทำการออกแบบสรา้ งสอ่ื การเรยี น การสอน จะสามารถทำไดด้ ว้ ยตนเอง และเขา้ ใจปญั หาตา่ ง ๆ ระหวา่ งดำเนนิ งาน 11.2.3 ทศั นคตใิ นการใช้ เชน่ ความกลา้ ความกระตอื รอื รน้ ทจ่ี ะใชส้ อ่ื ตลอดจนการใฝห่ าความรู้ ในดา้ นนอ้ี ยเู่ สมอ 11.3 เงอ่ื นไขจากกจิ กรรมในบทเรยี น 11.3.1 การวางแผนบทเรยี น จะเปน็ ตวั กำหนดคณุ ลกั ษณะและแผนการในการสรา้ งสอ่ื 11.3.2 วธิ กี ารเรยี นการสอน แตล่ ะชว่ งของบทเรยี นซง่ึ ผสู้ อนไดก้ ำหนดกจิ กรรมจะเปน็ ตวั กำหนด ลกั ษณะของสอ่ื การเรยี นการสอน 11.3.3 ความพรอ้ ม ความสะดวกในชน้ั เรยี น เชน่ ปลก๊ั ไฟ การทำใหห้ อ้ งมดื เพอ่ื ฉายสไลด์ ตำแหนง่ ทจ่ี ะวางจอความสะดวกในการขนยา้ ยเครอ่ื ง OHP เปน็ ตน้ 11.3.4 ประสบการณแ์ ละความกลา้ ในการมสี ว่ นรว่ มทจ่ี ะใชส้ อ่ื ของผเู้ รยี น เปน็ ปจั จยั อยา่ งหนง่ึ ทจ่ี ะทำใหส้ อ่ื นน้ั มคี ณุ คา่ สำหรบั การเรยี นการสอน ผสู้ อนตอ้ งทำใหผ้ เู้ รยี นมกี จิ กรรมรว่ ม ในการใชส้ อ่ื การเรยี นการสอนเสมอ

บทสรปุ ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 20/21 20 ãºà¹×éÍËÒ จากเงอ่ื นไขตา่ ง ๆ ทไ่ี ดก้ ลา่ วมานน้ั เงอ่ื นไขใดทจ่ี ำเปน็ ตอ้ งจดั เตรยี มหรอื ทำใหเ้ กดิ ขน้ึ กจ็ ะตอ้ ง ดำเนนิ การเงอ่ื นไขใดทจ่ี ะเปน็ อปุ สรรคก์ ต็ อ้ งแกไ้ ขหรอื ทำใหห้ มดไป อยา่ งไรกต็ ามโดยปกตบิ คุ คลสำคญั ทจ่ี ะ ผลักดันให้มีสื่อการเรียนการสอนใช้ในสถานศึกษาก็คือ ผู้บริหารและผู้สอน ผู้บริหารจะต้องมีนโยบาย ใหค้ วามสนบั สนนุ ตา่ ง ๆ ผสู้ อนจะตอ้ งมงุ่ มน่ั ดำเนนิ การพยายาม ศกึ ษาหาความรทู้ างดา้ นน้ี และจดั ใหม้ กี าร สรา้ งขน้ึ ใชเ้ อง ในสถานศกึ ษา โดยระดมทรพั ยากรตา่ ง ๆ กำลงั งานของผเู้ รยี น วสั ดุ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งจกั ร และแผนเวลา งานฝกึ ปฏบิ ตั ขิ องผเู้ รยี น สามารถจะใชเ้ พอ่ื ทำสอ่ื การเรยี นการสอนได้ สง่ิ สำคญั จะตอ้ งจดั การดว้ ยกค็ อื ระบบของแบบงานและการเกบ็ รกั ษาฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 12. บทสรปุ ในระบบการเรียนการสอน สื่อการเรียนการสอนนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะทำให้ การเรยี นการสอนดำเนนิ ไปไดจ้ นบรรลผุ ลสำเรจ็ ตามเปา้ หมายอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สอ่ื การเรยี นการสอน มหี ลายประเภท แตล่ ะประเภทกม็ คี ณุ ลกั ษณะหรอื คณุ สมบตั ติ า่ งกนั ไป ผสู้ อนทต่ี ระหนกั ในคณุ คา่ ของสอ่ื จะตอ้ งศกึ ษาใหเ้ ขา้ ใจถงึ เงอ่ื นไขการเลอื กใช้ และใชง้ านไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เงอ่ื นไขทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การตดั สนิ ใจ เลอื กใชส้ อ่ื ไดแ้ ก่ เงอ่ื นไขทเ่ี กย่ี วกบั เนอ้ื หาวชิ า ตวั ผเู้ รยี น วธิ กี ารสอนความพรอ้ มทางดา้ นอน่ื ๆ นอกจากนน้ั กต็ อ้ งคำนงึ ถงึ คณุ สมบตั เิ ฉพาะตวั ของสอ่ื แตล่ ะประเภท และแมแ้ ตเ่ งอ่ื นไขท่ี เกย่ี วกบั ตวั ผสู้ อนดว้ ย เมื่อมีความรู้ประสบการณ์เกี่ยวกับสื่อการเรียนการสอน สามารถเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง ก็มี ความพรอ้ มทผ่ี สู้ อนจะสามารถทำสอ่ื ขน้ึ ใชเ้ อง แตโ่ ดยมากมกั จะประสบกบั ปญั หาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ ใน สถานศกึ ษา ปญั หาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ เหลา่ นน้ั กค็ วรจะแกไ้ ขใหห้ มดไป ผทู้ ม่ี บี ทบาทสำคญั ในเรอ่ื งน้ี คอื ผบู้ รหิ ารและผสู้ อนทจ่ี ะสามารถผลกั ดนั ใหม้ สี อ่ื การเรยี นการสอนใชใ้ นสถานศกึ ษา นอกจากนน่ั สง่ิ สำคญั อกี ประการทไ่ี มค่ วรจะมองผา่ น กค็ อื ระบบการจดั เกบ็ สอ่ื การเรยี นการสอน เพอ่ื ทำใหก้ ารนำสอ่ื ไปใชส้ อนครบวงจร

บรรณานกุ รม ÊÍè× ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ 21/21 21 ãºà¹×éÍËÒฝ่ายสื่อการเรียนการสอน สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ บรรณานกุ รม 1. ชม ภมู ภิ าค เทคโนโลยที างการเรยี นและศกึ ษา. กรงุ เทพมหานคร : สำนกั งานพมิ พป์ ระสานมติ ร 2. ณรงค์ สมพงษ์ สื่อเพื่องานส่งเสริมเผยแพร่. กรุงเทพมหานคร : งานการพิมพ์ฝ่ายสื่อการศึกษา สำนกั สง่ เสรมิ และฝกึ อบรม มหาวทิ าลยั เกษตรศาสตร.์ 2530. 3. พสิ ฐิ เมธาภทั ร . ธรี ะพล เมธกี ลุ ยทุ ธวธิ กี ารเรยี นการสอนวชิ าเทคนคิ . กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พส์ ถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนอื , 2531. 4. ลดั ดา ศขุ ปรดี ี เทคโนโลยกี ารเรยี นการสอน. กรงุ เทพมหานคร: สำนกั พมิ พโ์ อเดยี นสโตร.์ 2523 5. มนต์ชัย เทียนทอง อุปกรณ์ช่วยสอน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนอื . 2530. 6. มนตช์ ยั เทยี นทอง กา้ วไกล วารสารพฒั นาเทคนคิ การศกึ ษาปที ่ี 16 ฉบบั ท่ี 48 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2546. 7. วลั ลภ จนั ทรต์ ระกลู การเลอื ก-ใช้ –สรา้ งสอ่ื การสอน. เอกสารอดั โรเนยี ว สำนกั พฒั นาเทคนคิ ศกึ ษา สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนอื . มปป. 8. วสิ ทุ ธ์ิ ววิ ฒั นว์ ศิ วกร. สอ่ื การเรยี นการสอน เอกสารประกอบการบรรยาย. สำนกั พฒั นาเทคนคิ ศกึ ษา สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนอื , 2532. (อดั สำเนา) 9. Jerrolde.Kemp, Don C.Smellie.Planning, Producing, and Using Instructional Media. 6thed. NewYork : Harper&Row, Publishers,1989.

สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือถนนพบิ ลู สงคราม บางซอ่ื กรงุ เทพฯ 10800โทรศพั ท์ 0-2586-9017, 0-2585-7590 โทรสาร 0-2585-7590http : // www.ited.kmutnb.ac.th E-mail : [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook