Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เงาะป่า

เงาะป่า

Published by Guset User, 2022-01-22 06:00:25

Description: เงาะป่า

Search

Read the Text Version

๔๔ ไม้ไผ่ เป็นตัวละครท่ีมีควำมสำคัญลำดับต่อมำ เป็นน้องชำย ของนำงลำหับ กล้ำคิด กล้ำทำ มีบทบำทที่สำคัญ คือเป็น พ่อสือ่ ของซมพลำ ไมไ้ ผ่นัน้ ช่ืนชอบควำมเกง่ กำจของซมพลำแต่ ไมช่ อบฮเนำ และไม้ไผเ่ ป็นผูน้ ัดแนะซมพลำลกั พำตัวนำงลำหบั ดังบทกลอนวำ่ ไม้ไผใ่ จคอหำ้ วหำญ เมอื่ นั้น ก็รบี รน้ ลนลำนวงิ่ ไป บดั น้จี ะมำบอกลำภใหญ่ สมจิตคิดไวเ้ ห็นได้กำร เจำ้ มำคงได้พบพูดกนั คร้ันถงึ จ่ึงแจง้ แกซ่ มพลำ พร่งุ นพี้ ขี่ ้ำจะเข้ำไพร

๔๕ คนัง เป็นเพ่ือนของไม้ไผ่ มีควำมคิดท่ีรอบคอบ และได้เรียน วิชำเปำ่ ลกู ดอกจำกซมพลำเชน่ เดียวกับไม้ไผ่ คนังจึงกลำยเป็น ผู้สมรู้ร่วมคิดกับไม้ไผ่ คนังมีบทบำทเพียงเล็กน้อย สุดท้ำย ของเร่ืองเม่ือมีกำรตำยเกิดข้ึน คนังเป็นซ่ึงเด็กกำพร้ำจึงถูก เลือกให้นำตัวไปถวำยพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำ เจำ้ อยูห่ วั ในเวลำตอ่ มำ ดงั บทกลอนวำ่ ถึงเดก็ น้อยคนงั คนขยนั มำจะกล่ำวบทไป ชำยเขตขัณฑพ์ ทั ลงุ พำรำ ดำขำวตอ้ งไฟดับสงั ขำร์ อยู่ทบั แทบป่ำพนำวนั อยู่ด้วยเชษฐำชอื่ อำ้ ยแค บิดำมำรดำกห็ ำไม่ ช่ือไมไ้ ผ่ตวั เตง็ เก่งแก๋ นำงควำกหอบดิ้นสน้ิ ชีวำ ตง้ั แต่พ่อแม่ยงั ไม่ตำย มีเพอ่ื นชอบนกั รกั ใคร่ เคยคบกันไปปำ่ พำเชือนแช

๔๖ เนอื้ เร่ืองยอ่ ของบทละคร เรือ่ งเงาะปา่ ตอนคนังและไม้ไผ่ ออกเที่ยวป่าลา่ สตั ว์ คนัง ชำวเงำะพัทลุงท่ีกำพร้ำพ่อแม่ อำศัยอยู่กับพี่ชำยช่ือแค คนังกับ ไม่ไผ่เป็นเพ่ือนรักกัน วันหน่ึงคนังคิดถึงไม้ไผ่ที่ไม่ได้เจอกันหลำยวัน กลัวว่ำ ไม้ไผ่จะป่วยไม่สบำย คนังจึงไปหำถึงทับ เม่ือไปถึงก็ชวนกันออกเท่ียวป่ำล่ำ สัตว์ ไปยงิ นกตกปลำ หำอำหำรจำกธรรมชำติมำแบ่งกินกันอย่ำงสนุกสนำน ตำมประสำชำวปำ่

๔๗ ถอดคาประพันธบ์ ทละคร เรื่องเงาะปา่ ตอนคนงั และไม้ไผอ่ อก เทีย่ วปา่ ลา่ สตั ว์ มำจะกลำ่ วบทไป ถงึ เด็กน้อยคนงั คนขยนั อยู่ทับแทบปำ่ พนำวนั ชำยเขตขนั ธพ์ ทั ลุงภำรำ บิดรมำรดำก็หำไม่ ดำขำวต้องไฟดับสังขำร์ นำงควำกหอบด้นิ สน้ิ ชวี ำ อยูด่ ว้ ยเชษฐำชอ่ื อำ้ ยแค กล่ำวถึงเด็กน้อยคนหน่ึงมีชื่อว่ำคนัง เป็นเด็กท่ีเข้มแข็งและเก่ง อำศัยอยู่ใน ป่ำเขตพัทลุง ไม่มีพ่อแม่ ซ่ึงพ่อท่ีช่ือดำขำวและแม่ที่ช่ือนำงขวำกนั้นได้ตำยจำกไป กอ่ น เขำจึงตอ้ งอำศัยอยู่กับพ่ีชำยที่ชอ่ื อำ้ ยแค

๔๘ มเี พ่ือนชอบนกั รักใคร่ ชื่อไมไ้ ผต่ วั เตง็ เกง่ แก๋ เคยคบกนั ไปป่ำพำเชือนแช ตงั้ แตพ่ ่อแมย่ ังไมต่ ำย มีเพ่ือนรักคนหนึ่งช่ือว่ำไม้ไผ่ เป็นเด็กที่เก่งมำกอีกคนหนึ่งจึงทำให้ท้ัง สองเป็นเพื่อนท่ีรักใคร่กัน ชอบพำกันไปในป่ำเป็นประจำตั้งแต่ที่พ่อแม่ ของคนงั ยังไมต่ ำย

๔๙ วันหนึ่ง ให้คิดรำพึงถงึ สหำย จะเจบ็ ป่วยเป็นไรไม่สบำย จงึ มไิ ด้พบหลำยวนั มำ จำกูจะไปดูใหถ้ ึงทบั ที่อยู่ใกลก้ ันกบั ปำกคหู ำ ชวนมันดั้นดดั พนำวำ เท่ียวเป่ำปักษำให้สำรำญ วนั หนึง่ คนงั มีควำมคดิ ถงึ สหำยของเขำท่ีไม่ได้พบกันหลำยวัน เป็นอะไรหรือ เปล่ำ กลัวว่ำจะไม่สบำย เขำจึงไปดูที่บ้ำนของไม้ไผ่ที่อยู่ใกล้กันกับปำกถ้ำ พลำง คิดวำ่ จะชวนไปเทย่ี วป่ำ เปำ่ นกกันให้สบำยใจ

๕๐ คดิ แลว้ เลำะเตีย๊ ะตวดั คำด จับหลอดไมผ้ งำดอำจหำญ มือกมุ ก้อนดินเดินทยำน จำกสถำนเข้ำปำ่ ด้วยวอ่ งไว เมอ่ื คดิ ได้ดังนัน้ เขำจงึ ใส่เลำะเตี๊ยะ ซึ่งเป็นผ้ำนุ่งสำหรับผู้ชำย นุ่งคำบหว่ำง ขำแล้วกระหวัดรอบเอว ปล่อยชำยท้ังหน้ำและหลัง แล้วจึงจับหลอดไม้ด้วยควำม กลำ้ หำญ องอำจ มือก็ถือก้อนดินท่ีไว้ใช้สำหรับหลอดไม้ ซ่ึงเป็นอำวุธคู่ใจของเขำ จำกนั้นกเ็ ดนิ จำกบ้ำนมุ่งเขำ้ ปำ่ ไปอยำ่ งรวดเรว็

๕๑ มำถงึ ยังซ่ึงปำกชอ่ งคหู ำใหญ่ คอ่ ยเดินยอ่ งย่ำงวำงเข้ำไป ที่ในฮอยะมไิ ด้ช้ำ เม่ือมำถึงที่หมำยบ้ำนของไม้ไผ่ท่ีช่องปำกถ้ำ ก็ค่อย ๆ เดินเข้ำไป ในกระทอ่ ม

๕๒ เม่ือนน้ั ไมไ้ ผ่ดีใจเป็นหนกั หนำ วิง่ ไปกอดฅอพำคลอคลำ เขำ้ มำน่งั ในปรำไสยทกั มธี รุ ะกงั วลกลใดเหวย อย่ำนงิ่ เลยบอกกรู ู้ตระหนกั แต่มิไดพ้ บพำนกันนำนนัก กคู ิดถงึ เพ่ือนรักจะขำดใจ เม่ือไม้ไผ่เห็นก็มีอำกำรดีใจมำก รีบวิ่งเข้ำไปกอดคอ แล้วพำเข้ำมำน่ัง พดู คุยทักทำยกัน ถำมว่ำมีธรุ ะอะไรกังวลรเึ ปล่ำ เหน็ มำถึงท่ีน่ี รีบบอกให้ไม้ไผ่ไดร้ ู้ ดว้ ยควำมท่ไี ม่ไดพ้ บกันนำน ไมไ้ ผก่ ็คดิ ถงึ กนั มำกเหมือนกนั

๕๓ เมอื่ นั้น นำยคนังฟงั เพอ่ื นปรำไส จงึ ตอบควำมตำมจิตรทค่ี ิดไว้ กูจะใคร่ไปชมพนำวำ จงึ มำชวนมงึ ไปดว้ ย จะไดช้ ว่ ยกันเป่ำปกั ษำ เสำะหำตำกบตำมมรรคำ อีกท้งั กำเบอะในดงดำน คนงั ท่ีนั่งฟังเพอ่ื นพดู จึงตอบออกไปตำมท่ีตวั เองไดค้ ิดไว้กอ่ นหนำ้ ว่ำตนนนั้ จะไปเท่ียวป่ำ ก็เลยจะมำชวนไม้ไผ่ไปด้วย จะได้ไปช่วยเป่ำนกกัน อีกท้ังจะไปหำ หัวมันตำมทำง และก็ไปหำผลไม้กันในปำ่ ทึบ

๕๔ ฟังวำ่ ไมไ้ ผ่ปรีดำเกษมสำนต์ ยนื ข้นึ เลำะเตย๊ิ ะมทิ ันนำน ไว้ไกพ๊อกให้ยำนประจุดนิ คว้ำบอเลำเป่ำลองสอ่ งตลอด เหน็ เกลยี้ งปลอดชน่ื ชมสมถวลิ ชวนเพ่อื นรักเดนิ มำไมร่ ำคิน ผนั ผนิ หำกำเหวำ่ เข้ำปำ่ ไป ไม้ไผ่เมื่อได้ฟังก็รู้สึกดีใจ ตื่นเต้นไปด้วย รีบลุกข้ึนไปแต่งตัวตำมรูปแบบ ของชำวเงำะอยำ่ งรวดเรว็ ซ่ึงไดไ้ ว้ชำยผำ้ หอ้ ยข้ำงหน้ำลำกดิน แล้วไปคว้ำอุปกรณ์ หลอดไมอ้ ำวธุ คใู่ จมำลองสอ่ งดู เมื่อเหน็ วำ่ ยังคงสภำพดกี ็สมใจหวงั อย่ำงทค่ี ิด แลว้ ท้ังสองเพ่ือนรักก็ชวนกันเดินออกมำอย่ำงผิองใส พลำงหันมองหำกำเหว่ำไปด้วย กอ่ นเขำ้ ปำ่ ไป

๕๕ เที่ยวไปในดงพงชัฎ ล้วนขนดั พฤกษำสงู ไสว เห็นมุเตยี วตดิ คอู่ ยคู่ บไม้ ลำเตำ๊ ะไตต่ ำมกงิ่ กินตองตง ในป่ำทึบนี้ มีต้นไม้สูง ๆ เรียงรำยกันแน่นป่ำ มีสัตว์นำนำนชนิดอำศัยอยู่ เห็นนกขนำดเล็กอยู่คู่กันบนต้นไม้ นกขนำดเล็กตัวลำยก็ไล่ไต่ตำมกิ่งกำลังกินละมุด กนั

๕๖ เองแอ๊งแอบพวงอเวยห์ วำน ลิงยดบินทยำนกินหวำ้ หลง กะเจ๊กลกู เตม็ ต้นจนหลน่ ลง โกวลั วงแวดชำยอยรู่ ำยเรยี ง นกเล็กขนำดนกกระจำบก็กำลังแอบพวงต้นหวำย นกขนำดเล็กสีชมพูกำลัง บินทะยำนกินหว้ำ มะม่วงหิมพำนต์ที่มีลูกเต็มต้นก็หล่นลง นกยำงก็ยืนอยู่เรียงรำย

๕๗ นกแซ็ดแซด็ ซอ้ งซอ้ ตน้ จอเฮด็ จงจกิ เมลด็ กินพลำงตำ่ งสง่ เสียง บำ้ งโผผินบินขยบั ลงจับเคยี ง เปล่งสำเนยี งเสนำะยิง่ ยนื นิ่งฟงั นกแซด็ แซด็ กส็ ง่ เสยี งรอ้ งอยบู่ นตน้ ไทร จกิ เมล็ดกันพลำงสง่ เสยี งร้องกนั บำง ตัวก็บนิ กันไปมำเคยี งกัน เปล่งเสียงกันอย่ำงสนุกสนำน

๕๘ นกตำเอ๊ชระเหจ็ เหนิ เวหำสงู เห็นเปน็ ฝูงนับรอ้ ยลอยสะพร่ัง ที่ริมทำงสลำ้ งล้วนต้นกำยงั นกยวังจบั รำยสุดสำยตำ นกตำเอ๊ชที่เป็นนกขนำดใหญ่ก็บินอยู่ท่ีสูงเป็นร้อยตัวท่ีกำลังลอยอยู่บนฟ้ำ ล่องอำกำศ บริเวณริมทำงก็จะมีต้นเตย เม่ือเดินกันไปเร่ือย ๆ มีนกยวังซึ่งเป็นนก ขนำดใหญก่ ำลงั มองมำจนสุดสำยตำ

๕๙ ยนิ สำเนียงเพยี งเยำะอำ้ ยเงำะนอ้ ย ยงิ กหู น่อยกไู ม่หนยี งิ สหิ วำ ทั้งสองเงำะอำยใจเมินไคลคลำ มนั ใหญก่ วำ่ เกินอำวธุ สุดเสยี ดำย นกส่งเสียงออกมำเยำะพวกเงำะน้อยสองเพ่ือนรักน้ี โดยเยำะให้สองเงำะ ยิงมันหน่อยมันจะไม่หนีเลย เงำะก็ละอำยใจเพรำะว่ำนกน้ีตัวใหญ่เกินอำวุธของ พวกเขำ มนั จงึ กล้ำทำ้ ทำย เงำะทำไม่สนใจแลว้ เดินต่อไป

๖๐ นำงบำซงิ เหน่ยี วกง่ิ มอเจนโหน พำลกู น้อยลอยโจนนำ่ ใจหำย บำวัดงำ้ งทุเรยี นกินปลนิ้ เมล็ดคำย ดรู ำ่ งกำยกำยำล่ำกวำ่ คน ค่ำงตัวเมียท่ีกำลังโหนก่ิงทุเรียน พร้อมด้วยพำลูกของมันลอยโหนอย่ำงน่ำ ใจหำย หันไปอีกทำงเห็นลิงใหญ่ที่กำลังง้ำงกินทุเรียนอย่ำงชำนำญ มีรูปร่ำงที่ล่ำ กว่ำคนก็วำ่ ได้

๖๑ วำนรยดแลตำยกลูกกกเกำะ เทีย่ วไตเ่ หรำะตำมกิ่งชว่ งชงิ ผล บำ้ งจบั หมัดปดั แมลงวนั คนั สกนธ์ แลน่ ลกุ ลนหลบมองมนั วอ่ งไว ลิงอีกชนดิ ทก่ี ำลังดลู งิ เสนยกลกู ขึ้นมำกก แลว้ ไต่ไปตำมกิ่งเพอ่ื หำของกิน จับ หมัดปัดแมลงที่ทำใหร้ ำ่ งกำยคนั ออกบำ้ ง แลว้ มันก็รบี หลบอยำ่ งรวดเรว็

๖๒ ต้นลวำยก่ิงชำยลงรม่ คร้ึม เสียงพำพมึ ฝูงเตำโว๊ะโผลไ่ สว แล้วสง่ เสยี งปวั๋ ป๋วั ทัว่ กิ่งไป วงั เวงใจจ้องเดนิ ดำเนนิ มำ ตน้ เสมด็ ท่ขี น้ึ กแ็ ผก่ ิ่งเป็นรม่ เงำคร้ึมให้ มีฝงู ชะนีท่ีโผลอ่ ย่ตู ำมกิ่ง แล้วสง่ เสียง ร้องไปตำมทั่วกิ่งน้ัน ทำใหส้ องเงำะรู้สกึ วังเวงจึงเดนิ กนั ต่อมำ

๖๓ ชวนกันดอ้ มอ้อมหำกำเหวำ่ น้อย พบนบั ร้อยบอกกันตำ่ งหรรษำ มอื ขวำควักดินพลำงยำ่ งยอ่ งคลำ คลงึ ไคลกบั อรุ ำจนกลมดี คนังกับไม้ไผ่ช่วยกันมองหำกำเหว่ำ เม่ือเห็นนกหลำยตัวก็รีบบอกกันอย่ำง ดีใจ รื่นเริง ไม่รอช้ำพวกเขำก็ใช้มือขวำนำดินที่เตรียมมำออกป้ันทำให้มันกลม พลำงคอ่ ย ๆ เดนิ ย่องเขำ้ ไป

๖๔ แลว้ สอดลูกเข้ำไวใ้ นลำกล้อง หลิ่วตำมองแน่ใจเห็นไดท้ ่ี ก็เป่ำไปต้องนกตกทันที ทัง้ สองศรียงิ ซำ้ ดว้ ยชำนำญ จำกน้ันก็ได้นำดินนั้นสอดไว้ในลำกล้องท่ีเขำจะใช้สำหรับเป่ำยิงนก เมื่อเล็ง จนแนใ่ จแลว้ ก็จัดกำรยงิ ไปที่นกจนตกลงมำทนั ที ทัง้ สองเพื่อนรักก็ยิงซ้ำไปมำอย่ำง ชำนำญ

๖๕ ครน้ั ไดม้ ำกมำยหลำยสบิ นก ต่ำงอิ่มอกปรีเปรมเกษมศำนต์ ดึงเถำวัลยพ์ นั ผกู กล้องแทนคำน พำดไหลแ่ ลน่ ทยำนเหยำ่ ครรไล เมื่อยิงนกได้มำกมำยแล้ว ท้ังสองต่ำงมีควำมสุข สบำยใจ ชื่นชมยินดีกับ สิ่งทต่ี ัวเองไดท้ ำ จำกนนั้ จึงช่วยกนั ดึงเถำวลั ยม์ ำผกู กบั อำวธุ ของพวกเขำเพ่ือทำคำน แล้วนำมำพำดไหลพ่ รอ้ มเดนิ เล่นกันไปอยำ่ งหรรษำออกไป

๖๖ มำถงึ ยังซงึ่ ฝั่งธำรลหำนใหญ่ ทงั้ สองรอ้ นรนเป็นพน้ ไป กช็ วนกันลงในลำธำร เดินกันมำถึงบริเวณฝงั่ ลำธำรใหญ่ ทง้ั สองทมี่ ีอำกำรรอ้ นมำก จึงชวนกันไป เล่นนำ้ ในลำธำรเพอ่ื ดับร้อนกนั

๖๗ จบั ตะพดมะพร้ำววกั ตกั วำรี รดทัว่ อินทรยี ์อำบสนำน นั่งชมุ่ แช่เย็นฉำ่ สำรำญ นำ้ เป็นเกลยี วเชย่ี วฉำนทำนกำยรับ ทงั้ สองใชก้ ะลำมะพรำ้ วตักน้ำรดไปทั่วร่ำงกำยอย่ำงสนุกสนำน นั่งแช่น้ำเย็น ฉ่ำอย่ำงสำรำญใจ น้ำที่ไหลแรงเป็นเกลียว สองเพ่ือนรักก็เล่นน้ำโดยเอำตัว ต้ำนทำนสำยนำ้ ที่ไหลแรงน้ัน

๖๘ เห็นฝูงปลำมำเป็นพรวนทวนกระแส สองเงำะแบมอื จอ้ งเทย่ี วมองจบั เหยียบศลิ ำกลิ้งกลมลืน่ ลม้ พบั ลงนอนทับกน้ งอนหงอ่ หวั รอ่ ริก เม่ือเห็นฝูงปลำม่ีกำลังว่ำยน้ำทวนกระแสมำเป็นพรวน ทั้งสองก็แบมือออก จ้องมองเพื่อท่ีจะจับ จนไปเหยียบหินก็ลื่นล้มพับนอนทับกัน แล้วต่ำงหัวเรำะกัน ออกมำ

๖๙ โก้งโค้งมองจอ้ งมอื จะช้อนใหม่ กลวั ปลำตกใจไม่กระดิก พอไดท้ ฉี วยผบั ปลำกลบั พลิก ดิ้นดกี๊ ดก๊ี โยนไปไวก้ ลำงทรำย พยำยำมมองจ้องมือเพ่ือท่ีจับใหม่ ค่อย ๆ แบมือเพื่อไม่ให้ปลำตกใจหนี เมือ่ ได้ทีก็รบี จบั ปลำพลิกอย่ำงไว ปลำก็ด้นิ จงึ รบี โยนปลำไปท่กี ลำงทรำย

๗๐ ปนู อ้ ยน้อยวงิ่ รอ่ ยตำมรมิ หำด ทงั้ สองมำดหมำยตะครุบปุบเปดิ หำย คอยปำกรปู ูไมท่ ันจะซ่อนกำย จับได้หลำยตวั ชักหักกำ้ มไว้ เมื่อมองไปที่ริมหำดก็มีปูน้อย ๆ ท่ีกำลังวิ่งกัน ทั้งสองก็รีบวิ่งหมำยท่ีจะไป ตะครุบกัน คอยดูปูท่ีปำกรูปูเพื่อไม่ให้ปูได้หนีทัน เมื่อจับปูได้ก็หักกล้ำมปูออกจน ได้มำหลำยตวั

๗๑ จนเหนอ่ื ยอ่อนรอ้ นอกี ลงนอนขวำง ทใ่ี นกลำงสำยชลลน้ หลงั่ ไหล แล้วชวนกันชำระสระเหงือ่ ไคล เรง่ ผอ่ งใสแสนสำรำญบำนกระมล ทงั้ สองที่เร่มิ เหน่ือยก็ลงไปนอนขวำงกลำงลำธำร เล่นน้ำกันอีกรอบ ชวนกัน ชำระล้ำงตวั ชำระเหงอื่ ไคลออก เรง่ เพ่ือใหผ้ อ่ งใสกันอย่ำงสำรำญสบำยใจ

๗๒ เสรจ็ สนำนเลียบธำรเทย่ี วแลหำ ตำมรมิ ท่ำหำดใหญใ่ ตต้ ้นสน เห็นรม่ รน่ื พนื้ รำบชอบกล สองคนพำกันข้นึ หยดุ พกั เล่นกันอยู่นำน เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท้ังสองก็เดินเลียบลำธำรมำแล้ว มองหำท่นี ั่งตำมรมิ หำดใต้ตน้ สนใหญ่ เม่อื เจอท่ีร่มรื่นและพ้ืนท่ีรำบอย่ำงท่ีต้องกำร แล้ว ทง้ั สองก็พำกนั หยดุ พกั กันตรงนั้น

เมื่อนั้น ๗๓ คิดควรชวนคนังเพอ่ื นรกั ไม้ไผใ่ จฅอหนว่ งหนัก เกบ็ ก่ิงสนหักมำเป็นกอง จำกน้ันไม้ไผ่ที่รู้สึกใจคอไม่ค่อยดี จึงชวนเพื่อนรักอย่ำงคนังไปเก็บก่ิงไม้ กงิ่ สนมำหักไว้เปน็ กอง

๗๔ ล้วงเหล็กไฟในไกพอ๊ กออกตีตอ่ ย เหมอื นห่ิงหอ้ ยแวววับจบั ชุดจอ้ ง แล้วเปำ่ ฮดุ ชุดตดิ ตำมทำนอง จดุ ฟนื ทง้ั สองช่วยกันซกุ ล้วงเอำหินกับเหล็กทอี่ ยู่ท่ีชำยท่ีหอ้ ยข้ำงหน้ำเครื่องนุ่งห่มออกมำตีกันเพื่อให้ เกิดประกำยไฟขึ้นมำ ไฟที่เป็นประกำยส่องแสงเหมือนห่ึงห้อยระยิบระยับ ท้ังสอง ชว่ ยกันเป่ำเพ่ือใหไ้ ฟตดิ กันตำมทำนอง

๗๕ เอำนกหนปู ปู ลำเขำ้ มำเผำ พลกิ แล้วพลกิ เล่ำดจู นสุก แล้วปนั กันกนิ เลน่ เปน็ กลุ ียคุ สรวลสนุกเฮฮำประสำใจ นำเอำหนูปปู ลำทไี่ ด้มำน้นั มำเผำ ช่วยกพ็ ลกิ ไปพลกิ มำดูจนสุก แล้ว ท้งั สองก็แบ่งกันกนิ อย่ำงสนกุ ตำมประสำของสองเพ่อื นรัก

๗๖ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ ฮำในเฮำซีวำ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ ฮังวิชเบแบมฮำ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ ตำกบลอเกียนนำ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ ฮอเง็ดกำเคี๊ยดบำ๊ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ กำเยอะกอเฮด็ ต๋ำ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ ปะเยอเจำะโนรำ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ เลเลเอเลลำ เหปะเยอวำ เลเลเอเลลำ เม่อื ไดก้ นิ ทง้ั สองร้องเพลงออกมำอย่ำงสนุก พร้อมกินของท่ีอร่อยถูกใจด้วย ควำมร่ืนเรงิ สนกุ สนำน

๗๗ ดูมันวิง่ ตำมกิ่งไทร ใช่อะไรคอื กรำ มือมันกำผลไม้ เห็นฤๅไม่นน่ั แนก่ รำ ชวนกันดูสัตว์ท่ีว่ิงตำมก่ิงไทร ตอนแรกมองดูไม่ค่อยแน่ใจว่ำใช่ลิงหรือ เปล่ำ เพรำะมือมันถอื ผลไม้ เห็นหรือไมต่ ้องเปน็ ลิงแน่

๗๘ วิ่งข้ำงหน้ำวิ่งข้ำงหลงั ไมห่ ยุดยงั้ เลยหนอกรำ เซเรยำต้นโน่น ลิงทโมนฤๅออ้ กรำ ว่ิงกนั ไปมำทง้ั ขำ้ งหนำ้ หลัง และหอ้ ยโหนกันอย่ำงไม่หยุดยั้ง ต้นไทรต้น โนน้ ทตี น้ นท้ี ี เปน็ ลงิ ทโมนกนั หรอื

๗๙ ตน้ เงำะเปลอื กแดงแจ๋ แม้แม้ดซู กิ รำ กอไผใ่ บชอมุ่ เกำะเปน็ กลุ่มลว้ นแตก่ รำ ต้นเงำะมีลกู ที่เปลอื กแดงแจ๋ ดสู ลิ งิ กอไผก่ ็ใบชอุ่ม ล้วนแล้วแต่มีฝูงลิงที่ เกำะกันอยู่เป็นกลุ่ม

๘๐ ต้นไผ่ตำยขยุ ดูอกุ อุยอุ๊ยลกู กรำ ที่กงิ่ ยอ้ ยหวั ห้อยเหนยี่ ว ไม่นึกเสยี วเลยฤๅกรำ ต้นไผ่ท่ีกำลังเห่ียวจะตำย มีลูกลิงที่เกำะห้อยหัวโหนลงมำอย่ำงไม่เกรง กลวั หรอื เสยี วเลย

๘๑ ดมู นั ว่ิงบนก่งิ เสมด็ ตนี เหนียวเดด็ จรงิ หวำกรำ โลดโผนโจนรอ้ งแรก เสยี งแจ๊กแจก๊ เจ็บฤๅกรำ ดูพวกลิงท่ีว่ิงกันอยู่บนกิ่งเสม็ด ตีนก็คอยเหนียวไว้ไม่ให้ตก ดูแล้วช่ำง โลดโผน แลว้ รอ้ งกนั อย่ำงไม่เกรงกลัวใด ๆ เลย

๘๒ โผล่แผลบ็ แอบไมล้ บั กลวั กจู บั ฤๅอำ้ ยกรำ หวั ชนั ยิงฟันขำว ข่กู ูฉำวเจียวอำ้ ยกรำ ลิงท่ีกลัวถูกสองเงำะจับได้จึงทำทีไปแอบหลังพุ่มไม้ พยำยำมขู่ยิงฟัน ขำวอย่ำงเจี๊ยวจ๊ำวตำมประสำลงิ เพ่ือให้ทัง้ สองกลัว

๘๓ ต้นไมน้ อ้ ยห้อยทกุ กง่ิ เอมำกจรงิ ฝงู ลงิ กรำ อยำกนกฤๅอยำกมนั กินดว้ ยกันหวำอำ้ ยกรำ เลียบเลียงเมยี งมำใกล้ เอำ้ กูใหม้ งึ อ้ำยกรำ เท่ำนัน้ ทไี ม่มหี มด เรำจะอดเพรำะอ้ำยกรำ ต้นไม้น้อยใหญ่ต่ำงก็มีฝูงลิงเกำะอยู่เต็มไปหมด สองเงำะถำมออกไป อยำกกินนกหรืออยำกกินมัน มำกินด้วยกันไหม ทำทีเดินเข้ำไปใกล้ ๆ ให้ลิง แลว้ บอกแค่นน้ั พอ เพรำะวำ่ เด่ยี วพวกเรำจะอดเพรำะลิง

ศพั ท์ภาษาก็อย ๘๔ และสานวนภาษา ศพั ทภ์ าษาก็อย หมำยถงึ ลงิ หมำยถงึ มะม่วงหิมพำนต์ กรำ หมำยถึง กะเจ๊ก หมำยถงึ ผลไม้ กำเบอะ หมำยถงึ ต้นเตย กำยงั หมำยถงึ นกยำง โกวลั หมำยถงึ ต้นไทร จอเฮ็ด หมำยถงึ นกขนำดเลก็ แซ็ดแซด็ หมำยถงึ ละมดุ ตองตง หมำยถึง หวั มนั ตำกบ ลงิ เสน ตำยก

๘๕ ศัพทภ์ าษาก็อย ตำเอช๊ หมำยถึง นกขนำดใหญ่ เตำโวะ๊ หมำยถึง ชะนี บำซิง หมำยถงึ บำวดั หมำยถงึ ค่ำงตวั เมยี มอเจน หมำยถึง ลิงใหญ่ ยด หมำยถงึ ทุเรยี น ลงิ ยด หมำยถึง ลำเตำ๊ ะ อเวย์ หมำยถงึ นกขนำดเลก็ ฮอยะ หมำยถึง ตน้ หวำย ฮงั วชิ หมำยถงึ ทับ กระท่อม อรอ่ ย

๘๖ สานวนภาษา คิดถงึ เพ่ือนรกั จะ เ ป็ น ส ำ น ว น เ ห มื อ น ท่ี ขำดใจ กล่ำวว่ำ “คิดถึงจะตำย” คือคิดถึงมำก น้ำเปน็ เกลียวเชีย่ ว น้ำไหลแรงเป็นเกลียว ฉำนทำนกำยรบั (เดก็ ทง้ั สอง) เลน่ น้ำโดย เอำตัว ต้ำนทำนน้ำท่ี ไหลแรงนัน้ ล้วงเหลก็ ในไกพ็อกออก เมื่อนำเหล็กตีกับหินจน ตีต่อย เหมอื นห่ิงห้อย เกิดเป็นประกำยไฟวับ ๆ แวววับจับชุดจอ้ ง เหมือนแสงห่ิงห้อยแล้ว จงึ ถอื ชดุ คอยจุดไฟ

๘๗ สานวนภาษา ล้วนขนดั พฤกษำสูง ต้นไม้สูง ๆ เรียงรำยกัน ไสว แน่นปำ่ อยำกนกหรอื อยำก อยำกกนิ นกหรืออยำกกิน มัน มนั อยทู่ บั แทบปำ่ พนำวนั อ ยู่ ใ น ก ร ะ ท่ อ ม ใ ก ล้ ป่ ำ (ทับ หมำยถงึ กระทอ่ ม)

๘๘ คณุ ค่าทไ่ี ด้รับ คณุ คำ่ ดำ้ นภำษำ ใช้ภำษำไดเ้ หมำะสมกับเรื่อง มีกำร เล่นสัมผัสพยัญชนะ และสัมผัสสระทำให้ กลอนมีเสียงคล้องจองกันอย่ำงไพเรำะ ใช้ ภำษำง่ำย ไม่มีคำศัพท์ยำก และแทรก ภำษำกอ็ ยพอสมควรไม่ถงึ กบั รกตำ

๘๙ คุณคำ่ ในทำงอำรมณ์ ควำมรู้สึกช่ืนชมในธรรมชำติ อันสวยงำมและควำมอดุ มสมบูรณใ์ น ป่ำ กำรใช้ชีวิตตำมประสำชำวป่ำท่ี อยกู่ บั ธรรมชำติ

๙๐ คณุ คำ่ ทำงสังคม กำรถ่ำยทอดควำมรู้นอกห้องเรียน ด้วยกำรปฏิบัติจริงจำกรุ่นสู่รุ่น รวมถึง สังคมท้องถิ่นสำมัญชำวป่ำที่แสดงถึงกำร ใช้อำวุธด้ังเดิมในกำรดำรงชีพ ควำม เปน็ อยู่ท่ใี ชช้ วี ติ เรยี บงำ่ ย

๙๑ คณุ ค่ำในทำงศลี ธรรม บทละครเร่ืองเงำะป่ำ เป็นรักสำมเส้ำ ที่แฝงศีลธรรมกำรสอนของพระบำทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว ในเรื่องผู้ที่กล้ำ เส่ียงชีวิตต่อควำมรัก มิเกรงกลัวส่ิงใดตำม ผลกฎแห่งกรรม ควำมร้สู กึ ผิดทำให้จิตใจไม่ เป็นสขุ

๙๒ ขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากเรื่อง ๑. ควำมรักของหนุม่ สำวนน้ั มีอำนุภำพรุนแรงท่ีสุด อำจบันดำลให้ ผ้ทู ่ีอยใู่ นหว้ งรักทำอะไรๆ เพอื่ ควำมรกั ได้ทั้งนั้น บำงครง้ั ก่อใหเ้ กิด โศกนำฏกรรม เช่นในเร่ืองเงำะป่ำ แม้ในปัจจุบันน้ีควำมตำยของ หน่มุ สำวที่เกิดจำกควำมรกั เป็นเหตุกย็ ังคงมอี ยู่เสมอ ๆ ๒. ผใู้ ดทม่ี คี วำมรัก ไม่วำ่ จะเป็นควำมรักประเภทใด ผูน้ ัน้ ก็มกั จะมี ควำมทุกขต์ ำมมำด้วยเพรำะรกั แลว้ อำจไมส่ มหวัง หรอื รักแล้วอำจ ต้องพลัดพรำกกัน (ท่ใี ดมรี กั ทีน่ ่ันมีทุกข์ ควำมรักเป็นสั่งท่ีดีแต่ควร รกั อยำ่ งมสี ติ) ๓. กำรเรียนรู้ของเงำะแม้ไม่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน แต่กำรใช้ชีวิต ในป่ำ กำรยิงนกตกปลำ ชมนกชมไม้ เล่นน้ำในลำธำร สิ่งเหล่ำน้ี ล้วนเป็นกำรเรียนรู้ตำมประสำของเงำะที่ได้ชีวิตตำมแบบของชำว เงำะเชน่ เดยี วกัน

๙๓ ๔. ไมว่ ่ำในสังคมใด แมจ้ ะปำ่ เถือ่ นเช่นสังคมเงำะ กย็ กยอ่ งผู้หญิงที่ ซ่ือสัตย์มั่นคงในควำมรักเหมือนนำงลำหับ แม้ตำยไปแล้วก็ยังมีผู้ สรรเสรญิ เปน็ สจั ธรรมทีแ่ ท้จริงคอื ควำมดเี ท่ำนนั้ ที่คงทนจีรงั ยงั่ ยนื ชำวเงำะถึงแม้จะมีรูปช่ัวตัวดำหรือมีควำมอัปลักษณ์แต่เป็นคนท่ีมี จิตใจดีงำม แสดงให้เห็นว่ำอย่ำมองคนเพียงรูปลักษณ์ภำยนอก เทำ่ นั้น ๕. ประเพณีกำรแต่งงำนแบบคลุมถุงชน บำงคร้ังก่อให้เกิดควำม เดือดร้อน และควำมทุกข์ทรมำน เพรำะคู่บ่ำวสำวอำจมีคนรักอยู่ แล้วเหมือนนำงลำหับในเรื่องนี้ ดังน้ันบิดำมำรดำจึงไม่ควรบังคับ ควรถำมควำมสมคั รใจของทั้งค่กู ่อน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook