Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่ม 3 วิถีท่องเที่ยว

เล่ม 3 วิถีท่องเที่ยว

Published by Kaweekan Sangthong, 2022-06-25 04:28:37

Description: เล่ม 3 วิถีท่องเที่ยว

Search

Read the Text Version

เลม่ 3 วิถีการท่องเทีย่ ว ก คำนำ หนังสือสารคดีเล่าขานเรื่องราวตานาน วิถีตรัง เล่ม ๓ วิถีการท่องเที่ยว เล่มน้ี จัดทาขนึ้ เพอ่ื เปน็ สอ่ื สง่ เสริมนสิ ัยรักการอ่าน และพฒั นาทักษะการเขียนเชิงสรา้ งสรรค์ สาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๖ ซ่ึงมุ่งเน้นให้นักเรียนสามารถผลิตงานเขียนของ ตนเองในรูปแบบต่างๆได้ เนื้อหาในหนังสือสารคดีเล่าขานเรื่องราวตานาน วิถีตรัง เล่มน้ี กล่าวถึงความ งดงามและความมหัศจรรย์ของถา้ เขาช้างหาย และถา้ เลเขากอบ สถานท่ีท่องเที่ยวท่ีมีช่ือของ จังหวัด ซึ่งนาเสนอในรูปของหนังสือสารคดีท่องเท่ียว มีตัวละครเป็นผู้ดาเนินเรื่องและ ถา่ ยทอดเรือ่ งราว ความรเู้ กยี่ วกับประวัตคิ วามเปน็ มาของสถานที่ การเดินทาง หนังสือสารคดีเล่าขานเรื่องราวตานาน วิถีตรัง เล่มนี้คงอานวยประโยชน์ในการ ส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และส่งผลให้นักเรียนมีความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เพิ่มขนึ้ มคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั วิถกี ารทอ่ งเทยี่ วของคนตรงั เพมิ่ ข้นึ ขอขอบพระคุณผู้ที่มีส่วนช่วยให้คาแนะนาในการจัดทาหนังสือจนสาเร็จเรียบร้อย ด้วยดี นายภญิ โญ สิทธพิ ิสัย นางสาวอุษา บุปผะโพธ์ิ นางสาวสทุ ศิ า สนิ้ ทกุ ข์ ทปี่ รึกษา นางสาวกวีกานต์ สังขท์ อง นางสาวจฑุ ามาศ สุขสนาน

เลม่ 3 วิถีการท่องเทีย่ ว ๑ วันนี้หลังจากท่ีรับประทานอาหารเช้าเสร็จ นายนัท หัวหน้าทีม วางโครงการทอ่ งเท่ยี วอย่างคร่าวๆ วา่ จะไปชมความมหศั จรรย์ของถ้า โดยโบกรถ กันไป พวกเราเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเพราะถือว่าเป็นการประหยัดเงินท่ี อตุ สา่ หเ์ กบ็ ออมไว้ และจะได้มีเงินเหลือเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยไปเที่ยวที่อืน่ ๆ อกี

เล่ม 3 วิถีการทอ่ งเทีย่ ว ๒ พวกเรำเริม่ โบกรถบริเวณทางแยกใกล้อนุสาวรยี พ์ ระยารษั ฏานปุ ระดิษฐ์ คน แรกท่เี ริม่ โบก คอื หัวหน้าทีม รถคนั แรกมาแล้วเป็นรถกระบะสดี า นายนัทกจ็ ดั การกามือ เอาหัวแม่โป้งโผล่แหลมขนึ้ มานิดเดียว แล้วแกว่งแขนโบกเอาหวั แม่โปง้ ชไ้ี ปขา้ งหน้า ทุกคนมี สหี น้าล้นุ กันอย่างเตม็ ท่ี รถชะลอนดิ หนึ่ง แลว้ แลน่ ฉวิ ไปข้างหน้าโดยไม่ได้ใส่ใจพวกเรา ฉัน หัวเราะเสยี งดงั แตพ่ อเห็นหนา้ จอ๋ ยของนายนทั กต็ อ้ งลดเสยี งลงทง้ั ท่ีขาแทบตาย นายเกง่ กับคณุ แนน กลนั้ หวั เราะจนหนา้ แดง “เอ้า ! ต่อไปใครจะโบก” นายนัทถาม ทุกคนลงความเห็นว่าให้คนท่ีวเราะเสียงดงั ที่สดุ โชว์ฟอร์ม

เล่ม 3 วิถีการท่องเทีย่ ว ๓ เอ้าฉันละซิ ตายแน่ทีนี้ อิดออดอยู่สักพัก หนึ่ง พอรถคันสีขาวโผล่มา คุณแนนก็ดันหลังฉันให้ เริ่มทาหนา้ ที่ ฉันเลยี นแบบวิธโี บกรถของนายนทั บา้ ง “เย้! รถหยุดแล้ว” ฉันไชโยแลว้ รีบเขา้ ไปเจรจา เราบอก จุดประสงคว์ า่ จะขออาศยั รถไปลงท่ีถ้าเขาชา้ งหาย เจา้ ของรถตอบตกลง แต่บอกว่าตอ้ งให้พวกเราลงรถหนา้ ตลาดสดในเขตเทศบาลตาบลนาโยง แลว้ ค่อยโบกรถไปยงั ถ้าเขาชา้ งหาย ซ่ึงต้งั อยู่หมู่ท่ี ๕ ตาบลนาหมื่นศรี อาเภอนาโยง ระยะทางจากอาเภอนาโยงไปยงั ถ้าเขาชา้ งหายประมาณ ๕ กิโลเมตร เพื่อนๆ ให้ฉันกบั ฝ้ายไปนัง่ ขา้ งหน้า เป็ นเพื่อนคุณลุง เพราะท่านนง่ั มาคนเดียว พอถึงที่หมายเรากไ็ หวข้ อบคุณคุณลุงกนั อยา่ ง เรียบร้อย พวกเราทุกคนรู้สึกซาบซ้ึงในน้าใจของคุณลุง

เล่ม 3 วิถีการท่องเทีย่ ว ๔ ถ้ำเขำช้ำงหำยมีพ้ืนที่ประมาณ ๕๐๐ ไร่ สูงจาก พื้นดินประมาณ ๑๒๐ เมตร ยาวประมาณ ๘๕๐ เมตร ภายใน ถ้าประกอบด้วย ถ้าขนาดใหญ่และขนาดเล็กจานวนหลายถ้า ได้แก่ ถ้าลอด ถ้าทรายทอง ถ้าทวดไชยหาร ซ่ึงเป็นถ้าท่ีมีลาน กวา้ ง เคยใชเ้ ป็นทแี่ สดงหนังตะลุงเม่ือประมาณ ๔๒ ปีกอ่ น ถ้าเขาช้างหาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความงดงามตาม ธรรมชาติ ภายในถ้ามีหินงอกหินย้อยทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ มองดแู ลว้ สวยงามยิ่งนัก พ้ืนท่ีภายในถา้ กว้างขวาง เพดานสูง ดูไปก็ไม่ ต่างไปจากหอ้ งโถงใหญ่ๆ เทา่ ไรนกั

เลม่ 3 วิถีการทอ่ งเทีย่ ว ๕

เลม่ 3 วิถีการท่องเทีย่ ว ๖ ถ้ำและหินงอกหินย้อยเป็นสมบัติที่ธรรมชาติมอบให้แก่สรรพชีวิต ไม่น่าเช่ือว่าส่ิงท่ีธรรมชาติสร้างขึ้นมานั้น จะยิ่งใหญ่และสวยงามถึงเพียงน้ี ซ่ึงมนุษย์น่ีแหละ คือ ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากมัน หากไม่รวมถึงเหล่าค้างคาว ซ่ึงใช้ท่ีแห่งน้ีเป็นท่ีพักพิง มนุษย์นั้นมักจะใช้สถานที่ซ่ึงธรรมชาติสร้างขึ้นมา อย่างวิจิตรงดงามเป็นท่ีพักผ่อนหย่อนใจเสมอ ถ้าเขาช้างหายแห่งนี้ ก็ เชน่ เดยี วกัน

เลม่ 3 วิถีการท่องเทีย่ ว ๗ บัดนี้ภายในถ้ามีการนาเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานกับความเป็น ธรรมชาติเพื่อให้ง่ายแก่การเข้าชม ท้ังการสร้างทางเดินคอนกรีต ราวกั้นที่ แข็งแรง และการนาไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มแสงสว่างภายใน ทาให้สวยงามมาก ยง่ิ ขึ้น เพดานถ้ามีหินย้อยซึ่งมีสีขาวนวล ยามกระทบกับแสงไฟดูแล้วสวยงามยิ่งนัก บนพื้น ถ้ามีหินงอกมากมาย หินงอกหินย้อยที่มาบรรจบกันนั้นมีขนาดใหญ่ มองไปก็คล้ายกับเสาท่ีช่วยค้า ยันถ้าไว้ หากวันใดหินงอกหินย้อยคล้ายเสานั้นเกิดหักขึ้นมา ก็คล้ายกับว่าถ้าจะพังทลายลง มา ถึงแม้ในความเป็นจริงแล้ว ความเสียหายท่ีเกิดข้ึนมันจะไม่ได้ทาให้ถ้าพังทลายลงมาก็จริง แต่ก็ทาให้ทัศนียภาพของถ้านั้นหมดความสวยงามลงไปมากทีเดียว หากเราช่วยกันดูแลรักษา สมบตั ทิ ่ธี รรมชาติมอบให้กจ็ ะคงความสวยงามไวต้ ราบนานเท่านาน

เล่ม 3 วิถีการทอ่ งเที่ยว ๘ นัทเล่ำให้ฟังว่ำ ยายเล่าประวัติความเป็นมาของถ้าเขาช้างหายให้เขา ฟังว่าในสมัยท่ีนครศรีธรรมราชกาลังรุ่งเรืองทางพุทธศาสนา เจ้าเมืองคิดจะสร้าง เจดีย์ จึงได้ประกาศไปตามหัวเมืองต่างๆ ให้ประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธ นาสมบัติหรือของมีค่ามาบรรจุไว้ในเจดีย์ ข่าวกระจายไปถึงหัวเมืองทางใต้ นักแสวงบุญ จึงได้ยกขบวนช้างเพื่อนาของมีค่ามาบรรจุไว้ในเจดีย์ ขณะที่ ยกขบวนมามีช้างเชือกหนึ่งตกลูกระหว่างทาง ขณะหยุดพักที่หนองน้า ซ่ึง ปัจจุบันเรียกว่า “หนองช้างทอก” ลูกช้างที่พ่ึงเกิดมาน้ันซุกซนมาก ทาให้ควาญ ชา้ งและแม่ของมันตอ้ งคอยดแู ลอยูต่ ลอดเวลา แตเ่ มือ่ เผลอลูกช้างก็เดินไปเรื่อยๆ จนพบถ้าแห่งหนึ่ง มันเดินเข้าไปในถ้า ควาญช้างตกใจรีบเข้าไปหาลูกช้างภายใน ถ้า และจับลูกช้างออกมาได้ โดยใช้คาถาอาคม และด้ายแดงขาวเพียง ๓ เส้น ต่อมาขบวน กเ็ ดินทางผา่ นทงุ่ นาทช่ี าวนากาลังเก่ียวข้าวอยู่ ชาวนาเห็นว่า ลูกช้างมี ด้ายคล้องที่คอแปลกกว่าช้างเชือกอื่นๆ จึงตะโกนว่า ช้างจะขาดๆ คาพูดของ ชาวนาทาให้ คาถาเสื่อม ไม่นานด้ายที่คล้องคอช้างก็ขาดลง จากน้ันลูกช้างก็ว่ิง เข้าไปในถา้ และไม่มีใครพบอกี เลย

เลม่ 3 วิถีการทอ่ งเทีย่ ว ๙ “ช้างหายเข้าไปในถ้า จึงเรียกว่า ถ้าเขาช้างหาย” พวกเราเอ่ย พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย “ใช่แล้ว” นัทบอก พร้อมกับเดินนาไปชมถ้าย่อยๆ อีกหลายถ้า ได้แก่ ถ้าลอด ถ้าทรายทอง นอกจากน้ียังมีถ้าท่ีพวกเราไม่ได้เข้าไปชม คือ ถ้าแม่เฒ่า คล้าย ถ้าลม และถ้าโถง สาเหตุท่ีไม่ได้เข้าไปชมเพราะ นัทบอกว่าจะไปเที่ยวอีก ถ้าหนึ่งซงึ่ มีความมหัศจรรยไ์ ม่แพถ้ า้ เขาช้างหายเลยทีเดยี ว ด้วยความอยากเห็นความมหัศจรรย์ ของอีกถ้าว่าจะแตกต่างจากท่ีน่ีอย่างไร โดยไม่ รอช้า พวกเราจึงออกเดินทางกลับทันที คราว น้ีพวกเราโชคดีไม่ต้องมีใครคอยโบกรถ เพราะ มีนักท่องเท่ียวใจดีให้พวกเราได้อาศัยรถกระบะ กลับเขา้ มาในตัวเมืองตรัง

เล่ม 3 วิถีการทอ่ งเที่ยว ๑๐ พวกเรำเริ่มโบกรถกันอีกครั้งบริเวณสามแยกวัดกุฏ โดยนายเก่ง เสนอตัวเป็นคนโบกรถเอง คราวน้ีเป็นรถกระบะคันสีน้าเงินมีผู้ใหญ่วัย กลางคนนั่งคู่มากับชายหนุ่ม คงเป็นแม่ลูกกันฉันคิดไปเอง นายเก่งเข้าไป เจรจาขออาศัยไปลงที่ถ้าเลเขากอบ คาวา่ “เล” ในท่นี ้ีนา่ จะหมายถงึ คาว่า “ทะเล” แตด่ ้วยความที่คนภาคใต้นยิ มพูดตดั คาให้สน้ั ลงเพอื่ ความสะดวกรวดเรว็ ในการพดู คาวา่ “ทะเล” จงึ ส้ันลงเปน็ คาว่า “เล” ถ้าแห่งน้ีจึงได้มีชอื่ วา่ ถ้าเล แมจ้ ะมชี ่ือวา่ ถ้าเล แตท่ ่นี ี่เปน็ นา้ จดื เดมิ เปน็ แหล่งหาปลาของชาวบ้าน ต่อมาเม่ือค้นพบ ความมหัศจรรย์ของธรรมชาตจิ ึงพฒั นาข้นึ จนเป็นแหล่งทอ่ งเท่ยี วที่มชี ่อื ของจังหวัดตรัง

เลม่ 3 วิถีการท่องเทีย่ ว ๑๑ การบกุ เบิกพัฒนาถา้ เลเขากอบแห่งนี้ เริม่ มมี าตัง้ แต่ครง้ั สมัยรัชกาลท่ี ๕ โดยขุนกอบคีรีกิจ เป็นผู้นาชาวบ้านมาช่วยกันขุดลอกคลองที่ตื้นเขินเพื่อให้น้า ไหลผ่านได้ สะดวก ต่อมามีการพัฒนาคร้ังใหญ่ในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ โดยการนาของนายอาเภอนิตย์ สีห์วรางกูร ซึ่ง ได้ระดมพลขุดลอกดินโคลน เปิดทางให้สายนา้ ไหลได้สะดวกพร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในถ้า เพอ่ื ความปลอดภัย และอานวยความสะดวกแกน่ กั ท่องเทยี่ ว ปัจจุบนั ถ้าแหง่ นีม้ อี งค์การบริหารส่วนตาบลเขากอบเข้ามาดูแลบริหารจัดการด้านการท่องเท่ียว โดยบริการเรือท้องแบน ลาละ ๓๐๐ บาท พร้อมคนนาทาง ซ่ึงก็คือชาวบ้านในละแวกน้ัน นี่คือคาบอกเล่าของ มัคคเุ ทศก์หรอื คนนาทางประจาสถานทีแ่ ห่งน้ี ทีน่ ่ีเปดิ บริการทุกวนั ต้งั แต่เวลา ๐๘.๐๐ น. ถึง ๑๘.๐๐ น. พวกเรามาถึงท่ีน่ีเวลา ๑๗.๐๐ น. ซ่ึงเป็นเวลาใกล้ ค่า พวกเรามีเวลาเท่ียวชมถ้า ประมาณ ๑ ชั่วโมง ซึ่งพอดีกับเวลาของการท่องเที่ยวภายในถ้าซึ่งรอบหนึ่งๆ ใช้ เวลาประมาณ ๔๕ – ๖๐ นาที

เล่ม 3 วิถีการท่องเที่ยว ๑๓ ถ้าแรกช่อื ถ้ำคนธรรพ์ อยู่ห่างจากปากถ้าประมาณ ๓๐๐ เมตร เป็นโถงถ้าขนาด ใหญ่ มีหินย้อยเป็นแผ่นบางๆ ซ้อนเรียงกันในแนวต้ังเหมือนหีบเพลง เม่ือนักท่องเท่ียวใช้ ฝ่ามือลูบผ่านแผ่นหินเหล่านั้น จะเกิดเป็นเสียงดนตรีที่กึกก้อง ไปทั่วคูหาถ้าปาน ประหน่ึงทิพยดนตรีคีตสวรรค์ ภายในถ้ามีหินงอกหินย้อยท่ียังคงเติบโต มีหยดน้าใสจาก เพดานถ้า ตามหินปนู อ่อนในถา้ มีเกลด็ ระยบิ ระยับเรืองแสง สวยงามมาก คนนาทางบอกวา่ “ทีน่ ค่ี ือถ้าหนิ งอกหินย้อยทส่ี มบูรณ์ทสี่ ุดในประเทศไทย” ภาพทปี่ รากฏตอ่ หน้าพวกเรายืนยันคาพูดได้เป็นอย่างดี หินงอกหินย้อย รูปร่างสวยงามนับจานวนไม่ถ้วนอวดตัวให้ชมกัน ปลายสุดของหินงอกหินย้อย สะทอ้ นแสงวบั วาวราวอญั มณีลา้ ค่า ยามต้องแสงไฟนาทาง “มันคือหยดนา้ ครับ ถ้ามีหยดนา้ นี้แสดงว่ามันยังมีชีวิตจะงอกต่อไปกว่าหินจะงอกจะ ยอ้ ยได้สักนิดหน่งึ ใช้เวลานานมากครับ” คนนาทางบอก “ห้ามจบั นะครบั ” เขาเตือนเม่ือเห็นสายตาลุกวาวของพวกเราท่ีจดจ้องหยด น้านั้น พร้อมอธิบายต่อว่า ถ้าไปจับหยดน้าก็เท่ากับจบชีวิตของหินย้อยเส้นน้ัน เพราะ ไขมนั จากมือของเราจะทาใหเ้ กดิ อาการ “หินตาย” หรือหนิ ไมเ่ ติบโตตอ่ ไป

เล่ม 3 วิถีการท่องเที่ยว ๑๔ ถ้าที่ ๒ ชื่อ ถ้ำรำกไทร มีพ้ืนที่ยาวประมาณ ๒๐๐ เมตร มีหินย้อยรูปลึงค์ และโยนี คลา้ ยกบั หนิ ตาหินยายที่เกาะสมุย ถัดจากหินย้อยรูปลึงค์และโยนี มีรากไทรสีดา อันเป็นท่ีมาของชื่อถ้าลักษณะ คลา้ ยไม้ท่อนใหญ่ทอดตัวไปตลอดแนวทางเดิน ปัจจุบันรากไทรรากน้ี ผุกร่อนตามกาลเวลา ถัดไปอีกประมาณ ๙๐ เมตร จนสุดถ้า มีหินย้อยคล้ายช้างสีขาว สูงประมาณ ๑ เมตร ชาวบ้านที่นี่เรียกว่าช้างสามนม เพราะคล้ายเต้านมสามเต้า

เล่ม 3 วิถีการทอ่ งเทีย่ ว ๑๕ ถ้าท่ี ๓ คือ ถ้ำเจ้ำสำว มีหิน งอกผิวเรยี บลกั ษณะคล้ายเตียงเจ้าสาว มีม่านแพรพลิ้วอยู่ทั่วบริเวณ ทาให้ เ กิ ด ค ว า ม รู้ สึ ก ส ว ย ง า ม ป า น เ ท พ ตกแต่งให้แด่เจ้าสาว ผู้ย่างก้าวเข้าสู่ อ้อมกอดของชายผู้เป็นท่ีรัก บริเวณ นี้มีผงแป้งขาวอยู่บนพื้นดิน คนนา ทางบอกว่า ผงดังกลา่ ว คือ ผงแป้งท่ีเจ้าสาวผู้สมหวังในความรักตามที่ต้ังจิตอธิษฐาน มาโรยแก้บน ถ้าผู้ใด ยงั ไมม่ ีคู่จะลองดกู ไ็ ด้ เร่อื งอยา่ งน้ีเขาว่า “ไม่เชอ่ื อย่าลบหลู่” กำรเดนิ เท่ียวชมความงามของถ้าแห่งน้ีมีข้อควรปฏิบัติ คือ การไมจ่ ับหยดน้าท่ีหินย้อยเพราะจะทาให้หินย้อยนั้นตาย ข้อควรระวัง คือ ต้องพยายามก้มตัวเพื่อไม่ให้ศีรษะชนกับเพดานถ้า หรือหิน ยอ้ ยซง่ึ คนนาทางพดู ในเชงิ ตลกๆ วา่ “ใครที่ว่าแน่ ไม่เคยก้มหัวให้ใคร มาท่ีนี่ผมสั่งก้ม กต็ ้องก้ม” ก็ลองไม่กม้ สิ หวั จะไดช้ นเพดานถ้า “ฮา่ ! ฮา่ ! ขนื ไมก่ ้มก็เจบ็ ตัวซพิ ่ี”

เลม่ 3 วิถีการทอ่ งเทีย่ ว ๑๖ ถ้าที่ ๔ ช่ือ ถ้ำลอด หรืออีกช่ือหน่ึงว่า ถ้ำลอดท้องมังกร เพราะเพดานถ้า มีลักษณะ คล้ายกระดูกสันหลังมังกร ถ้านี้ถือว่าเป็นการผจญภัยที่สนุกสนานตื่นเต้นระทึกใจท่ีสุด เพราะ ต้องล่องเรือตามทางแคบๆ ซ่ึงมีความกว้างเท่าลาเรือกราบเรือจะไถครูดผนังถ้าเป็นระยะๆ ผนังถ้าเหนือศีรษะต่าจนแทบสัมผัสจมูกของนักท่องเที่ยว คนนาทางต้องคอยบอกให้นอน ราบกบั พน้ื เรือให้มากทสี่ ดุ ควรเกบ็ แขนขาใหเ้ รียบรอ้ ยเพือ่ ความปลอดภัย มิฉะนนั้ ใบหน้า แขน และขา อาจครูดกับผนังถ้าได้ การท่องเท่ียวเชิงผจญภัยแบบนี้จึงไม่เหมาะสาหรับผู้กลัวความ มืดและที่คับแคบ โดยเฉพาะผู้ที่พุงโต ตัวอ้วนอาจจะรู้สึกอึดอัดหวาดกลัวจนขาด ความสุข

เลม่ 3 วิถีการท่องเทีย่ ว ๑๗ มนุษย์ช่ืนชม... พวกเราทุกคนสัมผัสได้ถึงความงดงามของ พวกเราทุกคน…ร่วมกนั ดูแล ธรรมชาตทิ สี่ รรค์สร้างมิตมิ หัศจรรยใ์ หผ้ คู้ นได้ช่ืน ชมและหลงใหลไปกบั ความงามนน้ั

เลม่ 3 วิถีการท่องเที่ยว ๑๘ บรรณำนุกรม กฤษกร วงคก์ รวุฒิ. (๒๕๔๙). “นำยรอบร”ู้ นักเดนิ ทำง : ตรัง. กรงุ เทพฯ : สารคดี. จงั หวดั ตรงั . (๒๕๔๔). วฒั นธรรม พฒั นำกำรทำงประวัติศำสตร์ เอกลกั ษณ์ และภมู ิปัญญำจังหวดั ตรงั . กรุงเทพฯ : ครุ ุสภาลาดพรา้ ว. มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. (๒๕๔๘). รำยงำนฉบับสมบรู ณโ์ ครงกำรสำรสนเทศและ สื่อ เพื่อพัฒนำกำรท่องเที่ยวจังหวดั ตรงั . กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด. ยพุ า เพชรฤทธิ์. (๒๕๔๙). ชวนลูกท่องโลก. กรงุ เทพฯ : คลนิ ิกสขุ ภาพ. ราชบัณฑติ สถาน.(๒๕๔๖). พจนำนกุ รม ฉบับรำชบัณฑิตยสถำน พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพ : นานมีบคุ๊ ส์พับลเิ คช่นั ส.์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook