Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนปฏิบัติการ เขาสวนกวาง64

แผนปฏิบัติการ เขาสวนกวาง64

Published by nuynapitchaya, 2021-11-20 08:39:08

Description: แผนปฏิบัติการ เขาสวนกวาง64

Search

Read the Text Version

แผนปฏิบัติการ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเขาสวนกวาง สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวัดขอนแกน่ สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั สานกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธิการ

คานา แผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอาเภอเขาสวนกวาง ฉบับน้ีเป็นแผนที่แสดงให้เห็นภาพรวมในการดาเนินงานการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอาเภอเขาสวนกวาง ท่ีสนองตอบต่อทิศทางการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาล มติคณะรัฐมนตรี เก่ียวกับข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) มติคณะรัฐมนตรีเก่ียวกับการ ส่งเสริมการอ่านให้เป็นวาระแห่งชาติเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต แผนปฏิบัติราชการประจาปี งบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ ของสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ.๒๕๕๑ รวมท้ังนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน.จังหวัด ขอนแกน่ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ สาระของแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ ของศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเขาสวนกวาง ประกอบด้วยสรุปภาพรวมงาน/โครงการและงบประมาณ รวมท้ังรายละเอียดงาน/โครงการและงบประมาณท่ีดาเนินการ ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ ของหน่วยงานในสังกัด ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเขาสวนกวาง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเขาสวนกวาง ขอขอบคุณ ทุกท่านท่ีให้ความร่วมมือในการจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๔ ของศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเขาสวนกวาง ฉบับน้ีจนสาเร็จลุล่วงไปด้วยดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ของศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ เขาสวนกวาง จะเป็นแนวทางในการบริหารงาน/โครงการ และงบประมาณของหน่วยงานในศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเขาสวนกวาง ประจาปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๓ ตลอดจนเป็นเคร่ืองมือใน การกากับติดตามผลการดาเนินงานของผู้บริหาร รวมท้ังเป็นข้อมูลสาหรับหน่วยงาน และผู้สนใจกิจกรรมงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตอ่ ไป ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเขาสวนกวาง เดอื นตลุ าคม พ.ศ.๒๕๖๔

สารบญั คานา สารบญั หน้า สว่ นที่ ๑ ข้อมูลสถานศกึ ษา ๑.๑ความเปน็ มา ๑ ๑.๑.๑ ขอ้ มูลพื้นฐาน ประวัติ ทต่ี ง้ั ๑ ๑.๑.๒ สภาพชมุ ชน ๒ ๑.๑.๓ ปรชั ญา/ปณธิ านของสถานศึกษา ๔ ๑.๒ สภาพปจั จุบนั ๑.๒.๑บทบาทหนา้ ที่ของสถานศึกษา ๔ ๑.๒.๒ โครงสรา้ งการบริหาร ๕ ๑.๒.๓ทาเนยี บผ้บู รหิ าร ๖ ๑.๒.๔ ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ๖ ๑.๒.๕ หลักสตู รการเรยี นการสอน ๗ ๑.๓ การวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อม ๗ ๑.๓.๑ การวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อม ๑.๓.๒ เป้าหมายหลกั ของการบริหารและการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษา ๘ ส่วนที่ ๒สาระสาคัญของแผนปฏบิ ัติการ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ๙ ๒.๑แผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐ ๒.๒แผนการศกึ ษาแหง่ ชาตพิ .ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ ๑๒ ๒.๓ทกั ษะทสี่ าคญั ของผูเ้ รียนในศตวรรษท่ี ๒๑ ๑๖ ๒.๔นโยบายและจุดเนน้ การดาเนินงานสานักงาน กศน.ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ ๒๔ สว่ นท่ี ๓ รายละเอียดแผนงาน/โครงการ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ๑๐๓ ๓.๑ ตารางแสดงรายละเอียดการใชจ้ า่ ยงบประมาณ ๓.๒ แบบ กศน. กผ-๐๒ ๕๔ ภาคผนวก ๗๓ - โครงการ/กจิ กรรมหลกั คณะดาเนินงาน

๑ สว่ นท่ี ๑ ข้อมลู สถานศึกษา ๑.๑ความเป็นมา ๑.๑.๑ขอ้ มลู พืน้ ฐาน ประวัติ ทต่ี ้งั ๑) ชอ่ื สถานศกึ ษา: ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเขาสวนกวาง ๒) สถานที่ตง้ั : เลขท่ี ๓๗๒ หมู่ท่ี ๑๑ ตาบลคามว่ ง อาเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแกน่ ๔๐๒๘๐โทรศพั ท์ ๐๔๓-๔๔๙๔๕๔ โทรสาร ๐๔๓๔๔๙๔๕๔ : http://khonkaen.nfe.go.th/khaosuankwang ๓)สงั กดั สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จังหวัดขอนแกน่ ๔)ประวตั คิ วามเป็นมาของสถานศึกษา ๔.๑) ประวัติสถานศึกษา ประวตั คิ วามเป็นมาของสถานศึกษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเขาสวนกวาง (ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอาเภอเขาสวนกวาง )จังหวัดขอนแก่น จัดต้ังข้ึนตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ ๒๗สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๖โดยนายปราโมทย์ สุขุม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ลงนามประกาศ เป็นสถานศึกษาในราชการส่วนกลาง สังกัดศูนย์ การศึกษานอกโรงเรียน จังหวัดขอนแก่น กรมการศึกษานอกโรงเรียนกระทรวงศึกษาธิการมีผู้ทาหน้าท่ีเป็นหัวหน้า สถานศึกษาคนแรกคือนายสุเมธทิพยเนตรโดยเช่าอาคารพาณิชย์ เลขที่ ๑๙๙/๓๑บริเวณตลาดมิตรภาพธานีตาบล เขาสวนกวางอาเภอเขาสวนกวางจงั หวัดขอนแก่น เปน็ สานักงานชัว่ คราว จนถงึ ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ กรมการศึกษานอกโรงเรียน ได้มีคาสั่งแต่งต้ัง นายประสิทธิ์ พรจันทึก เป็นผู้บริหารศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอาเภอเขาสวนกวาง และได้ย้ายที่ทาการจากอาคา ร พาณิชย์ มาอยู่ท่บี ริเวณวดั ทางพาดตาบลคามว่ ง อาเภอเขาสวนกวาง จงั หวดั ขอนแกน่ ปีพ.ศ. ๒๕๔๖ กรมการศึกษานอกโรงเรียนได้มีคาสั่งแต่งตั้ง นางแวววรรณ จิกชาตรีเป็นผูบ้ รหิ ารศูนยบ์ รกิ ารการศกึ ษานอกโรงเรียนอาเภอเขาสวนกวางและได้ย้ายทที่ าการจากวัดทางพาดมา อยูบ่ ้านเชา่ เลขที่ ๑๘๕ หม่ทู ี่ ๑๑ ตาบลคาม่วง อาเภอเขาสวนกวาง จงั หวดั ขอนแกน่ ปีพ.ศ.๒๕๕๐ สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้มีคาสั่งแต่งตั้งนายสุทธิศักดิ์เพ็ชรแก่น เป็นผู้บริหาร ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอาเภอเขาสวนกวาง จนถึงพ.ศ.๒๕๕๘ และได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงาน เครือข่ายทง้ั ภาครัฐและภาคเอกชนและประชาชนในพ้ืนทดี่ าเนินการก่อสร้างอาคารหลงั ใหมเ่ ป็นทท่ี าการถาวร ปีพ.ศ. ๒๕๕๘สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้มีคาสั่งแต่งตั้งนางสาวอุบล สีหา เป็นผู้บริหารศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเขาสวนกวาง จนถึงปจั จุบัน (พ.ศ. ๒๕๖๐) หมายเหตุ:พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศยั พ.ศ. ๒๕๕๑ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๑โดยให้มีผลบังคับใช้ต้งั แต่วัน ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน็ ตน้ ไป คอื วันที่ ๔ มนี าคม พ.ศ.๒๕๕๑ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศรายช่ือสถานศึกษา เม่ือวันที่๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เม่ือวันที่๒๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๑โดยได้เปล่ียนชื่อดังนี้ ช่ือเดิม ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอาเภอเขาสวนกวาง เรียกโดยย่อว่า “ศบอ.เขาสวนกวาง”ชื่อใหม่ศูนย์

๒ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเขาสวนกวาง เรียกโดยย่อว่า“กศน .อาเภอเขาสวน กวาง” ทศิ เหนอื ติดต่อกับเขตอาเภอโนนสะอาด อาเภอหนองแสง จงั หวดั อุดรธานี ทศิ ใต้ ติดต่อเขตอาเภอนา้ พอง จังหวัดขอนแก่น ทิศตะวนั ออก ติดต่อเขตอาเภอนา้ พอง จังหวัดขอนแก่น ทศิ ตะวนั ตก ติดต่อกับอาเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น อาเภอโนนสังข์จังหวัด หนองบวั ลาภู ๑.๑.๒สภาพชมุ ชน สภาพพ้ืนทม่ี ีลักษณะท่ัวไปเป็นทร่ี าบเชิงเขา ด้านทศิ ตะวันตกเป็นทร่ี าบเชิงเขาในอุทยานแห่งชาติภูเก้า - ภูพานคา ด้านทิศตะวันตกเป็นที่ราบเชิงเขาสวนกวาง มีภูเขาในเขตพื้นท่ี คือภูเก้า- ภูพานคา และภูเขาสวนกวาง ไม่มีแม่น้าไหลผ่าน มีเพียงลาห้วยเสือเต้นที่มีน้าตลอดปีพื้นที่และการใช้ประโยชน์พ้ืนที่อาเภอเขาสวนกวางเป็นที่ ราบกับพื้นที่ราบเชิงเขา แบ่งพ้ืนท่ีการใช้ประโยชน์เป็นพื้นท่ีราบเชิงเขาสาหรับทาการเกษตร ๗๕ พื้นท่ีภูเขาและ ป่าไม้ ๒๐ และพื้นท่ีน้าและพ้นื ท่ีอื่นๆ รายละเอยี ดดงั นี้ พ้ืนทที่ านา จานวน ๕๑,๓๘๖ ไร่ พน้ื ทที่ าสวน จานวน ๓,๔๕๑ ไร่ พื้นท่ที าไร่ จานวน ๙๗,๕๑๖ ไร่ พ้ืนท่ีปา่ สาธารณะ จานวน ๑๙,๓๕๗ ไร่ พนื้ ที่เตรียมการ จานวน ๗๑,๒๕๐ ไร่ ๑) สภาพภมู อิ ากาศลักษณะเปน็ แบบมรสุม ๓ ฤดู ฤดูร้อน เร่ิมตัง้ แต่ปลายเดือนกุมภาพนั ธ์ – ต้นเดือนพฤษภาคม ฤดูฝน เร่มิ จากเดือนพฤษภาคม – ปลายเดอื นตุลาคม ฤดหู นาว เรมิ่ จากเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนกุมภาพันธ์ ๒) ข้อมูลด้านสังคมรายได้เฉล่ียประชากรมีรายได้เฉลี่ย/คน/ปี๓๓,๔๕๖บาท โดยประชาชนมี อาชีพส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างต่างถิ่น ปลูกอ้อย ปลูกมัน ทานา ทิ้งให้ผู้สูงวัยเล้ียงลูกหลานอยู่บ้าน สภาพ สังคม/วัฒนธรรมสภาพสังคมและวัฒนธรรม และภาษาแตกต่างกันน้อยมากประชาชนส่วนใหญ่จะยึดวัฒนธรรม ประเพณีเหมือนกับประชาชนในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนท่ัวๆ ไป ได้แก่ ฮีตสิบสองคองสิบ ส่ี ขนบธรรมเนียมประเพณีท่ีปฏิบตั ิสบื ตอ่ กันมาถึงปัจจบุ นั ๓) ด้านการศึกษาสถานศึกษาในเขตพ้ืนท่ีอาเภอเขาสวนกวาง ท่ีสังกัดสานักงานเขตพื้นท่ี การศึกษา ขอนแก่นเขต ๔ มี จานวน ๓๖ แห่ง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จานวน ๖ แห่ง โรงเรียนสังกัดสานักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จานวน ๒แห่ง และสังกัดสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดขอนแก่น คือ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเขาสวน กวาง จานวน ๑ แห่ง ๔) ด้านสาธารณสุขอาเภอเขาสวนกวางมีโรงพยาบาล ๑ แห่ง สานักงานสาธารณสุข ๑ แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ๕ แห่ง

๓ ๕) การปกครอง การปกครองอาเภอเขาสวนกวางแบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลกั ษณะ ปกครองท้องถ่ิน พ.ศ. ๒๕๕๙ แบง่ ออกเปน็ ๔ ตาบล ๒ เทศบาล รวมทงั้ สิ้น ๕๖ หมบู่ า้ น ดงั นี้ ๑. ตาบลเขาสวนกวาง มี ๕ หม่บู ้าน ๒. ตาบลคามว่ ง มี ๘ หมูบ่ ้าน ๓. ตาบลดงเมอื งแอม มี ๑๕ หมบู่ ้าน ๔. ตาบลนางิว้ มี ๗ หมบู่ ้าน ๕. เทศบาล ต.เขาสวนกวาง มี ๑๑ หมู่บา้ น ๖. เทศบาล ต.โนนสมบรู ณ์ มี ๑๐ หมบู่ ้าน ตารางที่ ๑ ข้อมูลประชากรจาแนกตามรายตาบล ที่ ตาบล/ เทศบาล จานวน จานวนประชากร จานวน หมบู่ า้ น ครวั เรือน ๑. ตาบลคาม่วง ชาย หญิง รวม ๒. ตาบลเขาสวนกวาง ๘ ๒,๒๗๙ ๒,๒๘๐ ๔,๕๕๙ ๑,๓๗๑ ๓. ตาบลดงเมืองแอม ๕ ๘๒๔ ๔. ตาบลนางว้ิ ๑๕ ๑,๓๗๗ ๑,๓๙๗ ๒,๗๗๔ ๒,๑๗๑ ๕. เทศบาล ต.เขาสวนกวาง ๗ ๑,๒๔๘ ๖. เทศบาล ต.โนนสมบูรณ์ ๑๑ ๔,๔๑๙ ๔,๔๕๙ ๘,๘๗๘ ๒,๒๔๔ ๑๐ ๑,๔๓๑ รวม ๕๖ ๒,๖๐๔ ๒,๖๓๔ ๕,๒๓๘ ๙,๒๘๙ ๔,๖๓๒ ๔,๖๕๘ ๙,๒๙๐ ๓,๒๐๙ ๓,๓๐๒ ๖,๕๑๑ ๑๘,๕๒๐ ๑๘,๗๓๐ ๓๗,๒๕๐ ๑.๑.๓ ปรัชญา/วิสัยทศั น์ ๑) ปรัชญา “ ส่งสเรมิ การเรยี นรูต้ ลอดชวี ิต ตามแนวทางปรชั ยาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ” ๒) วิสัยทัศน์ “ จดั การศึกษาสาหรับประชาชน ทอ่ี ยู่นอกระบบโรงดรียนให้ไดร้ บั การศกึ ษาตอ่ เน่ือง “ ๓) เอกลักษณ์ “ พัฒนาคน พฒั นางาน ” ๔) อัตลกั ษณ์ “ รักการอ่าน พัฒนาอาชพี มีความรู้ คู่คุณธรรม ”

๔ ๑.๒ สภาพปัจจบุ ัน ๑.๒.๑บทบาทหน้าทข่ี องสถานศึกษา ๑) จดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ๒) ส่งเสริม สนบั สนุน และประสานภาคเี ครือขา่ ย เพื่อการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัย ๓) ดาเนนิ การตามนโยบายพเิ ศษของรฐั บาลและงานเสรมิ สรา้ งความมนั่ คงของชาติ ๔) จดั ส่งเสรมิ สนับสนนุ และประสานงานการจัดการศึกษาตามโครงการอนั เน่ืองมาจาก พระราชดาริในพน้ื ที่ ๕) จดั ส่งเสรมิ สนับสนนุ พัฒนาแหล่งเรียนรู้และภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่น ๖) วจิ ยั และพัฒนาคุณภาพหลักสูตร สอ่ื กระบวนการเรียนรู้ และมาตรฐานการศกึ ษานอกระบบ ๗) ดาเนินการเทียบโอนผลการเรียน การเทียบโอนความรูแ้ ละประสบการณ์ ๘) กากับ ดแู ล ตรวจสอบ นิเทศภายใน ติดตามประเมนิ ผลและรายงานผลการดาเนนิ งาน ๙) พฒั นาครู และบุคลากรทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ๑๐) ระดมทรัพยากรเพ่ือใช้ในการจดั และพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัย ๑๑) ดาเนินการประกันคุณภาพภายใน ใหส้ อดคลอ้ งกับระบบหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการท่กี าหนด ๑๒) ปฏบิ ัตงิ านอื่นๆ ตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย

๑.๒.๒ โครงสรา้ งการบริหาร ๕ ผบู้ รหิ าร คณะกรรมการสถานศึกษา กลมุ่ อานวยการ กลมุ่ ส่งเสรมิ ปฏิบตั ิการ กลุ่มภาคีเครอื ขา่ ยและกจิ การพิเศษ ๑. งานธุรการและสารบรรณ ๑. งานส่งเสรมิ การรู้หนังสอื ๑. งานส่งเสรมิ สนบั สนุนภาคี เครอื ขา่ ย ๒. งานการเงินและบัญชี ๒. งานการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐานนอกระบบ ๒. งานกจิ กรรมพิเศษ ๓. งานงบประมาณและระดมทรัพยากร ๓. งานการศกึ ษาต่อเน่ือง ๓. งานปอ้ งกันแกไ้ ขปญั หายาเสพติด/ ๔. งานพสั ดุ ๔. งานการศึกษาเพอ่ื พัฒนาอาชพี โรคเอดส์ ๕. งานบคุ ลากร ๕. งานการศึกษาเพอ่ื พฒั นาทักษะชีวิต ๔. งานสง่ เสริมกิจกรรมประชาธปิ ไตย ๖. งานอาคารสถานทแี่ ละยานพาหนะ ๖.งานการศึกษาเพื่อพฒั นาสงั คมและชมุ ชน ๕. งานสนบั สนนุ ส่งเสริมนโยบาย ๗. งานแผนงานและโครงการ ๗.งานการศึกษาตามอัธยาศัย จังหวดั /อาเภอ ๘. งานประชาสัมพันธ์ ๘. งานจัด พัฒนาแหล่งเรียนรแู้ ละ ๖. งานกิจกรรมยุวกาชาด ๙. งานสวสั ดกิ าร ๗. งานกองทนุ กยู้ ืมเงนิ เพ่อื การศึกษา ๑๐. งานขอ้ มลู สารสนเทศและ รายงาน ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ ๑๑. ศนู ย์ราชการใสสะอาด ๙. งานจัดและพฒั นาศูนยก์ ารเรียนชุมชน ๑๒.งานควบคมุ ภายใน ๑๐. งานห้องสมดุ ประชาชน ๑๓.งานนิเทศภายใน ติดตามและประเมนิ ผล ๑๑. งานกลมุ่ เป้าหมายพิเศษ (ผู้สงู อาย)ุ ๑๔. งานเลขานุการคณะกรรมการสถานศึกษา ๑๒. งานการศกึ ษาเคล่ือนที่ ๑๕. งานประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา ๑๓. งานการศกึ ษาทางส่ือสารมวลชน ๑๔. งานพัฒนาหลกั สูตร สอ่ื นวตั กรรม และเทคโนโลยที างการศกึ ษา ๑๕. งานทะเบียนและวดั ผล ๑๖. งานศูนยใ์ หค้ าปรกึ ษาแนะนา ๑๗. งานกจิ การนกั ศกึ ษา

๖ ๑.๒.๓ทาเนียบผ้บู ริหาร ตาแหน่ง ระยะเวลา ท่ี ช่อื – สกลุ ทดี่ ารงตาแหน่ง ๑. นายสเุ มธ ทพิ ยเนตร หัวหน้าศนู ยบ์ ริการการศกึ ษานอก พ.ศ.๒๕๔๐ – พ.ศ. โรงเรยี นอาเภอเขาสวนกวาง ๒. จ.ส.อ. สรุ พร สุทธิประภา ผ้อู านวยการศนู ย์บริการการศึกษา ๒๕๔๔ นอกโรงเรียนอาเภอเขาสวนกวาง พ.ศ.๒๕๔๕ – พ.ศ. ๓. นางแวววรรณ จิกชาตรี ผอู้ านวยการศูนยบ์ ริการการศึกษา ๒๕๔๖ ๔. นายสุทธศิ ักด์ิ เพ็ชรแกน่ นอกโรงเรยี นอาเภอเขาสวนกวาง ( รักษาการ) ๕. นางสาวอุบล สหี า พ.ศ.๒๕๔๖ – พ.ศ. ผ้อู านวยการศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ๒๕๔๙ อาเภอเขาสวนกวาง พ.ศ.๒๕๕๐ – พ.ศ. ผู้อานวยการศูนย์การศึกษานอก ๒๕๕๘ ระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเขาสวนกวาง พ.ศ.๒๕๕๘ – ปจั จุบนั ๑.๒.๔ ครูและบุคลากรทางการศึกษา วฒุ กิ ารศกึ ษา บคุ ลากรศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเขาสวนกวาง ปรญิ ญาโท ที่ ชื่อ – สกลุ ตาแหน่ง ปริญญาโท ปริญญาโท ๑. นางสาวอบุ ล สีหา ผูอ้ านวยการ ปรญิ ญาโท ๒. นายชยั วัฒน์ อดทน ครู ปรญิ ญาโท ๓. นายไพรบูลย์ มชี ิน ครอู าสาสมคั รกศน. ปริญญาตรี ๔. นางพัชรยี า ศรีบญุ เรอื ง ครอู าสาสมคั รกศน. ปรญิ ญาตรี ๕. นายทองเหลมิ หงษว์ รรณนา ครู กศน.ตาบล ปรญิ ญาตรี ๖. นายไชยกรานต์ งานจตั รุ สั ครู กศน.ตาบล ปริญญาโท ๗. นางสุณีรตั น์ นลิ สาคู ครู กศน.ตาบล ปริญญาโท ๘. นางฉันทนา กรองไตร ครู กศน.ตาบล ปรญิ ญาตรี ๙. นางสาววิชตุ า แก้วกลุ งาม ครู กศน.ตาบล ปรญิ ญาตรี ๑๐. นายภวู ดล วนั ละคา ครู กศน.ตาบล ปริญญาตรี ๑๑. นายธีรวฒั น์ บตุ รราช ครู กศน.ตาบล ปรญิ ญาตรี ๑๒. นายวุฒิชัย ศรีสม ครู ศรช. ปรญิ ญาตรี ๑๓. นายธนาธร นรนิ นอก ครู ศรช. ปริญญาตรี ๑๔. นางปฎั ฐมานยี ์ ภวู ิชัย ครู ศรช. ปริญญาตรี ๑๕. นางสาวปิยะมาศ สงคราม ครู ศรช. ปริญญาตรี ๑๖. นางสาวอภริ ดา ชาวพงษ์ ครู ศรช. ปริญญาตรี ๑๗. นางณพชิ ญา ใบงาม ครู ศรช. ปรญิ ญาตรี ๑๘. นายภมรธรรม โทปญุ ญานนท์ ครู ศรช. ๑๙. นางสาววิภาภรณ์ โคปาก ครู ปวช. ๒๐. นางสาวศริ พิ ร สวัสดิผล บรรณารกั ษ์จา้ งเหมาบรกิ าร

๗ ๑.๒.๕ หลักสูตรการเรียนการสอน ระดับ ท่ี หลกั สตู ร ๑ หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ัพน้ื ฐาน ระดบั ประถมศึกษา ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ๒ หลักสตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ พุทธศักราช ๒๕๕๖ ระดับ ปวช. สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ ๑.๓ การวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อม ๑.๓.๑ การวเิ คราะห์สภาพแวดล้อม ๑) จดุ แขง็ (Strength) ๑.๑) ผู้บริหารมีความรู้ ความสามารถในการบริหารจัดการในการบริหารและสนับสนุนส่งเสริมการจัด กระบวนการเรยี นรู้ ๑.๒) โครงสร้างและการบริหารงานขององค์กร มีความยืดหยุ่น มีการกระจายอานาจการบริหาร อย่างมี แผนและมีเป้าหมาย สอดคล้องกับนโยบายของสานักงาน กศน. มีการมอบหมายหน้าท่ีการปฏิบัติงานของแต่ละ กลมุ่ งาน และมผี ูร้ บั ผิดชอบงานอย่างชัดเจน ๑.๓) บุคลากรในองค์กร มีความสามารถในการปฏิบัติงานประสิทธิภาพ และมีความพร้อมในการ เปล่ียนแปลง และเรียนรู้ มคี วามรบั ผดิ ชอบ เปน็ ผมู้ ีจติ อาสา และมีความสามารถในการทางานเปน็ ทีม ๑.๔) หลักสตู รในการจดั การเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ตรงตามความตอ้ งการของผ้เู รยี น ๑.๕) งาน/กิจกรรมขององค์กร มีความหลากหลาย ยืดหยุ่น สอดคล้องกับวิถีชีวิตสภาพแวดล้อมบริบท ของชมุ ชน และตอบสนองความตอ้ งการของกลุ่มเป้าหมาย ๑.๖) ดา้ นเทคโนโลยแี ละนวตั กรรม มีระบบสารสนเทศทดี่ ี บุคลากรมคี วามรมู้ ีทกั ษะเปน็ อยา่ งดี ๒) จุดออ่ น (Weakness) ๒.๑) จานวนข้าราชการมีน้อย เพราะบุคลากรส่วนใหญ่เป็นพนักงานราชการ และลูกจ้างชั่วคราวทาให้ การดาเนินงานดา้ นการเงิน บัญชี พสั ดุ และงานอื่นๆติดขัดบ้างในบางกรณเี น่อื งจากพนักงานราชการตอ้ งทาหนา้ ที่ จัดกิจกรรมการเรยี นการสอนดว้ ย พร้อมทัง้ ต้องรบั ผิดชอบงานดา้ นการเงิน บญั ชี พสั ดุ งานทะเบยี นควบคกู่ นั ไป ๒.๒) นกั ศึกษาส่วนใหญ่ประกอบอาชพี ไปด้วยเรยี นไปดว้ ยทาให้มขี ้อจากดั ในการจดั กจิ กรรม ๒.๓) นกั ศึกษามผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนค่อนข้างต่า ๓) โอกาส (Opportunity) ๓.๑) มี พรบ.กศน. ทส่ี ่งเสริมการจดั การศกึ ษาตลอดชีวติ ใหก้ ับผคู้ นในสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม ๓.๒) มหี ลักสูตรในการจัดการเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย ตรงตามความตอ้ งการ และวิถีการดาเนินชีวติ ของผ้เู รียน ๓.๓) มแี หล่งเรียนรทู้ ี่ทห่ี ลากหลายและมคี วามเหมาะสมกบั สภาพการดาเนินชีวติ ของผเู้ รียน ๓.๔) ผนู้ าชุมชน มีสว่ นร่วมและสนบั สนุน กจิ กรรมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ๓.๕) ไดร้ ับความร่วมมือจาก เครอื ขา่ ยพันธมิตร ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน และชมุ ชนเป็นอย่างดี ๓.๖) องค์กรเป็นท่ียอมรับของชุมชนและสงั คม

๘ ๔) อุปสรรค (Threats) ๔.๑) นโยบายของรัฐท่ีมีการปรับเปล่ียนตามสถานการณ์ของสังคมทาให้การจัดกิจกรรมบางอย่างไม่มี ความต่อเนือ่ ง ๔.๒) ภาระงานท่ีนอกเหนือจากแผนงานที่กาหนด และปริมาณงานที่มากทาให้ขาดการพัฒนางาน เพียงแตแ่ กป้ ัญหาเฉพาะหนา้ ๔.๓) การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของวิทยาการและเทคโนโลยีต่างๆ รวมท้ังการเปล่ียนแปลงในการ บริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ อาทิ การเปลี่ยนแปลงระบบการเงิน ทาให้จะต้องมีระบบพัฒนาบุคลากรอย่าง จริงจังและเป็นระบบและต้องพัฒนาศักยภาพให้ก้าวทันเทคโนโลยีท่ีเปลี่ยนแปลง เพื่อท่ีจะเพ่ิมประสิทธิภาพการ บริการ ตลอดจนต้องปรบั ปรงุ ระบบงบประมาณให้มกี ารใช้จ่ายงบประมาณอย่างมเี หตุมผี ลและคุม้ ค่า ๑.๓.๒ เปา้ หมายหลกั ของการบรหิ ารและการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษา ๑) การศึกษานอกระบบ ๑.๑)ประชาชนได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาศักยภาพ และสังคม ท่ีใช้ความรู้และภูมิ ปญั ญาเป็นฐานในการพัฒนา ท้ังด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง และคุณภาพชวี ิตตามแนว ทางการพฒั นาประเทศ ๑.๒ภาคีเครอื ขา่ ยเกดิ แรงจงู ใจและมคี วามพรอ้ มในการมีสว่ นรว่ มเพื่อจดั กิจกรรมการศึกษา ๒) การศึกษาตามอัธยาศยั ๒.๑)ผ้เู รยี นได้รบั ความรู้และทักษะพ้ืนฐานในการแสวงหาความร้ตู อ่ การเรยี นรู้ตลอดชีวิต ๒.๒)ผู้เรียนไดเ้ รียนรสู้ าระทส่ี อดคล้องกบั ความสนใจและความจาเป็นในการยกระดบั คุณภาพ ชวี ิต ทัง้ ในดา้ นการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ๒.๓) ผูเ้ รียนสามารถนาความรทู้ ่ีได้รับไปใช้ประโยชน์ และนาผลการเรียนไปเทยี บโอนผลการเรียนกบั การศึกษาในระบบ และการศึกษานอกระบบ

๙ ส่วนท่ี ๒ สาระสาคญั ของแผนปฏิบัตกิ าร ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ๒.๑ แผนยุทธศาสตรช์ าติ ๒๐ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐ คณะกรรมการจัดทายุทธศาสตร์ชาติได้ดาเนินการจัดทายุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑- ๒๕๘๐) เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาประเทศในระยะ ๒๐ ปี โดยกาหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมายและ ยทุ ธศาสตร์ ดงั นี้ วิสยั ทัศน์ “ประเทศไทยมคี วามมั่นคง มั่งคั่ง ย่ังยืน เป็นประเทศพฒั นาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง” และเป็นคติพจน์ประจาชาตวิ ่า “มนั่ คง มงั่ คงั่ ยง่ั ยนื ” เป้าหมาย ๑. ความมัน่ คง ๑.๑ การมีความม่ันคงปลอดภัยจากภัยและการเปล่ียนแปลงท้ังภายในประเทศและ ภายนอก ประเทศในทุกระดับ ท้ังระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคลมีความม่ันคงในทุกมิติ ท้งั มิตเิ ศรษฐกิจ สงั คม ส่ิงแวดล้อม และการเมอื ง ๑.๒ ประเทศมีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย มีสถาบันชาติ ศาสนาและ พระมหากษัตริย์ ที่เข้มแข็ง เป็นศูนย์กลางและที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน ระบบการเมืองมีความม่ันคง เป็น กลไกทนี่ าไปสกู่ ารบรหิ ารประเทศท่ตี ่อเนื่องและโปร่งใสตามหลกั ธรรมาภบิ าล ๑.๓ สังคมมีความปรองดองและความสามัคคี สามารถผนึกกาลังเพื่อพัฒนาประเทศ ชมุ ชน มคี วามเข้มแขง็ ครอบครัวมคี วามอบอุน่ ๑.๔ ประชาชนมีความม่ันคงในชีวิต มีงานและรายได้ท่ีม่ันคงพอเพียงกับการดารงชีวิต มที ี่อยอู่ าศัย และความปลอดภัยในชีวิตทรพั ยส์ นิ ๑.๕ ฐานทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อม มคี วามมน่ั คงของอาหาร พลังงาน และนา้ ๒. ความม่งั คง่ั ๒.๑ ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเน่ือง ยกระดับเป็นประเทศใน กลุ่มรายได้สงู ความเหลอ่ื มลา้ ของการพัฒนาลดลงประชากรไดร้ บั ผลประโยชน์จากการพัฒนาอยา่ งเท่าเทียมกัน ๒.๒ เศรษฐกิจมีความสามารถในการแข่งขันสูง สามารถสร้างรายได้ท้ังภายในและ ภายนอกประเทศ สร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคต และเป็นจุดสาคัญของการเช่ือมโยงในภูมิภาค ท้ังการ คมนาคมขนส่ง การผลิต การค้าการลงทุนและการทาธุรกิจ มีบทบาทสาคัญในระดับภูมิภาค และระดับโลก เกิด สายสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกิจและการคา้ อยา่ งมีพลัง ๒.๓ ความสมบูรณ์ในทุนท่ีจะสามารถสร้างการพัฒนาคนอย่างต่อเนื่องได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา ทุนทางการเงิน ทุนท่ีเป็นเครื่องมือเคร่ืองจักร ทุนทางสังคม และทุนทรัพยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดลอ้ ม ๓. ความยั่งยืน ๓.๑ การพัฒนาที่สามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้เพ่ิมข้ึนอย่างต่อเน่อื ง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทไี่ มใ่ ชท้ รัพยากรธรรมชาติเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะ ต่อส่ิงแวดลอ้ มจนเกนิ ความสามารถในการรองรับและเยยี วยาของระบบนเิ วศน์

๑๐ ๓.๒ การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมและสอดคล้องกับกฎระเบียบ ของ ประชาคมโลก ซ่ึงเป็นท่ียอมรับร่วมกัน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมมีคุณภาพดีข้ึน คนมีความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม มีความเอือ้ อาทร เสยี สละเพือ่ ผลประโยชน์ส่วนรวม ๓.๓ ประชาชนทกุ ภาคสว่ นในสังคมยึดถือและปฏบิ ัติตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพ่ือสร้างความปรองดองสมานฉนั ท์ ๒. เพอ่ื เพมิ่ กระจายโอกาสและคณุ ภาพการใหบ้ ริการของรัฐอยา่ งท่วั ถึง เท่าเทยี ม เปน็ ธรรม ๓. เพอ่ื ลดต้นทนุ ใหภ้ าคการผลติ และบริการ ๔. เพื่อเพมิ่ มูลค่าสินค้าเกษตร อตุ สาหกรรม และบรกิ ารด้วยนวัตกรรม ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๑-๒๕๘๐) ๖ ด้าน โดยมียุทธศาสตร์ท่ีเกี่ยวข้องกับจุดเน้นเชิง นโยบายรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธิการและภารกิจสานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ๖ ยุทธศาสตร์ ดงั นี้ ๑. ยทุ ธศาสตร์ดา้ นความมนั่ คง ๑) เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข ๒) ปฏิรูปกลไกการบริหารประเทศและพัฒนาความม่ันคงทางการเมือง ขจัดคอร์รัปช่ัน สรา้ งความเช่อื มั่น ในกระบวนการยุตธิ รรม ๓) การรักษาความม่ันคงภายในและความสงบเรียบร้อยภายใน ตลอดจนการบริหาร จดั การความมัน่ คงชายแดนและชายฝ่ังทะเล ๔) การพัฒนาระบบ กลไก มาตรการและความร่วมมือระหว่างประเทศทุกระดับ และ รกั ษาดุลยภาพความสัมพันธ์กบั ประเทศมหาอานาจ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความมัน่ คงรูปแบบใหม่ ๕) การพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพการผนึกกาลังป้องกันประเทศ การรักษาความสงบ เรยี บรอ้ ยภายในประเทศ สรา้ งความรว่ มมอื กับประเทศเพื่อนบ้านและมติ รประเทศ ๖) การพัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติและระบบบริหารจัดการภัยพิบัติ รักษา ความมัน่ คงของฐานทรัพยากรธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ ม ๗) การปรบั กระบวนการทางานของกลไกทีเ่ ก่ียวข้องจากแนวดงิ่ สู่แนวระนาบมากข้ึน ๒. ยทุ ธศาสตร์ดา้ นการสรา้ งความสามารถในการแข่งขัน ๑) การพัฒนาสมรรถนะทางเศรษฐกจิ สง่ เสริมการค้า การลงทนุ พัฒนาส่ชู าติการคา้ ๒) การพัฒนาภาคการผลิตและบริการ เสริมสร้างฐานการผลิตเข้มแข็งยั่งยืน และ ส่งเสริมเกษตรกรรายยอ่ ยสเู่ กษตรย่งั ยืนเปน็ มิตรกบั สิ่งแวดลอ้ ม ๓) การพัฒนาผู้ประกอบการและเศรษฐกิจชุมชน พัฒนาทักษะผู้ประกอบการ ยกระดับ ผลติ ภาพแรงงาน และพฒั นา SMEs สู่สากล ๔) การพัฒนาพื้นท่ีเศรษฐกิจพิเศษและเมือง พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และ พัฒนาระบบเมอื งศนู ยก์ ลางความเจรญิ ๕) การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการขนส่ง ความมั่นคงและพลังงาน ระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการวิจยั และพัฒนา ๖) การเช่ือมโยงกับภูมิภาคและเศรษฐกิจโลก สร้างความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนากับ นานาประเทศ ส่งเสริมใหไ้ ทยเปน็ ฐานของการประกอบธุรกจิ ฯลฯ

๑๑ ๓. ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาและเสริมสร้างศกั ยภาพคน ๑) พัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ๒) การยกระดับการศึกษาและการเรียนรใู้ ห้มีคณุ ภาพเท่าเทยี มและทั่วถึง ๓) ปลูกฝงั ระเบยี บวนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมที่พงึ ประสงค์ ๔) การสรา้ งเสริมให้คนมีสขุ ภาวะทีด่ ี ๕) การสร้างความอย่ดู ีมีสขุ ของครอบครัวไทย ๔. ยทุ ธศาสตรด์ ้านการสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสงั คม ๑) สรา้ งความมนั่ คงและการลดความเหลอ่ื มล้าทางเศรษฐกิจและสังคม ๒) พัฒนาระบบบริการและระบบบรหิ ารจดั การสขุ ภาพ ๓) มสี ภาพแวดลอ้ มและนวัตกรรมทเ่ี อื้อตอ่ การดารงชีวิตในสังคมสงู วยั ๔) สรา้ งความเขม้ แขง็ ของสถาบันทางสังคม ทนุ ทางวัฒนธรรมและความเขม้ แข็ง ๕) พฒั นาการส่อื สารมวลชนใหเ้ ปน็ กลไกในการสนับสนุนการพัฒนา ๕. ยุทธศาสตรด์ า้ นการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท่เี ปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดลอ้ ม ๑) จัดระบบอนรุ ักษ์ ฟน้ื ฟแู ละป้องกันการทาลายทรัพยากรธรรมชาติ ๒) วางระบบบริหารจัดการน้าให้มีประสิทธิภาพท้ัง ๒๕ ลุ่มน้า เน้นการปรับระบบ การบรหิ ารจัดการอุทกภัยอย่างบรู ณาการ ๓) การพัฒนาและใชพ้ ลังงานทีเ่ ปน็ มิตรกบั สง่ิ แวดล้อม ๔) การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชงิ นิเวศและเมืองที่เป็นมติ รกับสง่ิ แวดลอ้ ม ๕) การร่วมลดปัญหาโลกร้อนและปรบั ตัวให้พรอ้ มกับการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศ ๖) การใช้เคร่อื งมอื ทางเศรษฐศาสตรแ์ ละนโยบายการคลังเพื่อสง่ิ แวดลอ้ ม ๖. ยุทธศาสตร์ดา้ นการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ๑) การปรบั ปรุงโครงสร้าง บทบาท ภารกิจของหน่วยงานภาครฐั ใหม้ ีขนาดท่ีเหมาะสม ๒) การวางระบบบรหิ ารราชการแบบบรู ณาการ ๓) การพัฒนาระบบบริหารจัดการกาลงั คนและพัฒนาบุคลากรภาครัฐ ๔) การตอ่ ตา้ นการทจุ ริตและประพฤตมิ ิชอบ ๕) การปรบั ปรุงกฎหมายและระเบียบต่างๆ ให้ทนั สมยั เป็นธรรมและเป็นสากล ๖) พฒั นาระบบการใหบ้ รกิ ารประชาชนของหนว่ ยงานภาครัฐ ๗) ปรบั ปรุงการบริหารจดั การรายได้และรายจา่ ยของภาครัฐ

๑๒ ๒.๒ แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้จัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙ ข้ึน เพื่อวาง กรอบเป้าหมายและทิศทางการจัดการศึกษาของประเทศ โดยมุ่งจัดการศึกษาให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึง โอกาสและความเสมอภาคในการศึกษาที่มีคุณภาพ พัฒนาระบบการบริหารจัดการศกึ ษาที่มีประสิทธิภาพ พัฒนา คนใหม้ ีสมรรถนะในการทางานท่ีสอดคลอ้ งกบั ความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ แนวคิดการ จัดการศึกษาตามแผนการศึกษาแห่งชาติ ยึดหลักสาคัญในการจัดการศึกษาประกอบด้วย หลักการจัดการศึกษา เพ่ือปวงชน (Education for All) หลักการจัดการศึกษาเพ่ือความเท่าเทียมและท่ัวถึง (Inclusive Education) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) และหลักการมีส่วนร่วมของสังคม (All For Education) อีกท้ังยึดตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goal : SDGs ๒๐๓๐) ประเด็นภายในประเทศ (Local Issues) อาทิ คุณภาพของคนช่วงวัย การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของ ประเทศ ความเหลื่อมล้าของการกระจายรายได้ และวิกฤติด้านส่ิงแวดล้อม โดยนายุทธศาสตร์ชาติมาเป็นกรอบ ความคิดสาคัญในการจดั ทาแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ โดยมสี าระสาคัญ ดงั น้ี วิสัยทัศน์ : คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดารงชีวิตอย่างเป็นสุข สอดคล้องกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเปลยี่ นแปลงของโลกศตวรรษท่ี ๒๑ วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการจดั การศึกษาทมี่ ีคุณภาพและมปี ระสิทธิภาพ ๒. เพ่ือพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะ ทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับ บทบญั ญัตขิ องรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ และยทุ ธศาสตร์ชาติ ๓. เพ่ือพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามัคคี และ รว่ มมือผนกึ กาลังมงุ่ สกู่ ารพฒั นาประเทศอยา่ งยั่งยนื ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๔. เพ่ือนาประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้า ภายในประเทศลดลง ยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์ประกอบ ๖ ยุทธศาสตร์ โดยมียุทธศาสตร์ท่ีเก่ียวข้องจุดเน้นเชิงนโยบาย รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการและภารกิจสานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ๖ ยทุ ธศาสตร์ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ท่ี ๑ การจดั การศึกษาเพื่อความม่ันคงของสงั คมและประเทศชาติ เปา้ หมาย ๑. คนทุกช่วงวัยมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดม่ันการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข ๒. คนทุกช่วงวัยในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นท่ีพิเศษ ไดร้ บั การศกึ ษาและเรยี นรูอ้ ยา่ งมคี ุณภาพ ๓. คนทุกชว่ งวยั ไดร้ ับการศึกษา การดูแลและป้องกันจากภยั คกุ คามในชีวติ รูปแบบใหม่ แนวทางการพัฒนา ๑. พัฒนาการจัดการศึกษาเพ่ือเสรมิ สร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ และการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ ๒. ยกระดับคุณภาพและส่งเสรมิ โอกาสในการเข้าถึงการศกึ ษาในเขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะ กจิ จงั หวัดชายแดนภาคใต้

๑๓ ๓. ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาในพ้ืนที่พิเศษ (พ้ืนที่สูง พื้นท่ีตามแนวตะเข็บชายแดน และพื้นที่เกาะแก่ง ชายฝ่ังทะเล ท้ังกลุ่มชนต่างเช้ือชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม กลุม่ ชน-ชายขอบ และแรงงานตา่ งด้าว) ๔. พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อการจัดระบบการดูแลและป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบ ใหม่ อาทิ อาชญากรรมและความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติจากธรรมชาติภัยจากโรคอุบัติใหม่ ภยั จากไซเบอร์ เป็นต้น ยุทธศาสตร์ท่ี ๒ การผลิตและพัฒนากาลังคน การวิจัย และนวัตกรรมเพื่อสร้างขีด ความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ เป้าหมาย ๑. กาลังคนมีทักษะที่สาคัญจาเป็นและมีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดงาน และการพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศ ๒. สถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่จัดการศึกษาผลิตบัณฑิตท่ีมีความเช่ียวชาญและ เปน็ เลศิ เฉพาะดา้ น ๓. การวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่สร้างผลผลิตและมูลค่าเพ่ิม ทางเศรษฐกิจ แนวทางการพฒั นา ๑. ผลิตและพฒั นากาลังคนใหม้ สี มรรถนะในสาขาที่ตรงตามความต้องการของตลาดงาน และการพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศ ๒. สง่ เสริมการผลิตและพฒั นากาลงั คนท่มี คี วามเชย่ี วชาญและเป็นเลิศเฉพาะด้าน ๓. ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมท่ีสร้างผลผลิตและ มลู ค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ยทุ ธศาสตร์ที่ ๓ การพฒั นาศักยภาพคนทุกชว่ งวัย และการสรา้ งสงั คมแห่งการเรียนรู้ เปา้ หมาย ๑. ผู้เรยี นมีทักษะและคุณลักษณะพื้นฐานของพลเมืองไทยและทักษะและคุณลักษณะท่ี จาเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ ๒. คนทุกช่วงวัยมีทักษะความรู้ความสามารถและสมรรถนะตามมาตรฐานการศึกษา และมาตรฐานวชิ าชีพ และพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตได้ตามศกั ยภาพ ๓. สถานศกึ ษาทุกระดับการศึกษาสามารถจัดกิจกรรม/กระบวนการเรียนรตู้ าม หลกั สตู รไดอ้ ย่างมคี ุณภาพและมาตรฐาน ๔. แหล่งเรียนรู้ ส่ือตาราเรียน นวัตกรรมและสื่อการเรียนรู้มีคุณภาพและมาตรฐาน และประชาชนสามารถเขา้ ถึงไดโ้ ดยไม่จากัดเวลาและสถานท่ี ๕. ระบบและกลไกการวดั การติดตามและประเมนิ ผลมปี ระสิทธภิ าพ ๖. ระบบการผลิตครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาได้มาตรฐานระดับสากล ๗. ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาไดร้ บั การพฒั นาสมรรถนะตามมาตรฐาน

๑๔ แนวทางการพัฒนา ๑. ส่งเสริม สนับสนุนให้คนทุกช่วงวัยมีทักษะ ความรู้ความสามารถ และการพัฒนา คุณภาพชีวติ อย่างเหมาะสม เต็มตามศักยภาพในแต่ละชว่ งวยั ๒. ส่งเสรมิ และพัฒนาแหล่งเรยี นรู้ ส่ือตาราเรยี น และส่ือการเรียนรู้ต่าง ๆ ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และประชาชนสามารถเขา้ ถึงแหลง่ เรียนรไู้ ดโ้ ดยไมจ่ ากัดเวลาและสถานที่ ๓. สร้างเสรมิ และปรับเปล่ียนค่านิยมของคนไทยให้มีวินัย จิตสาธารณะ และพฤติกรรม ท่พี งึ ประสงค์ ๔. พฒั นาระบบและกลไกการติดตาม การวัดและประเมินผลผเู้ รียนให้มีประสิทธภิ าพ ๕. พฒั นาคลังขอ้ มลู สอื่ และนวัตกรรมการเรยี นรู้ ท่มี คี ุณภาพและมาตรฐาน ๖. พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ๗. พฒั นาคุณภาพครู อาจารย์ และบคุ ลากรทางการศกึ ษา ยุทธศาสตรท์ ่ี ๔ การสร้างโอกาส ความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางการศกึ ษาเปา้ หมาย ๑. ผ้เู รยี นทกุ คนไดร้ บั โอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถึงการศกึ ษาทมี่ ีคุณภาพ ๒. การเพ่ิมโอกาสทางการศึกษาผา่ นเทคโนโลยีดจิ ิทัลเพื่อการศึกษาสาหรับคนทกุ ชว่ งวยั ๓. ระบบข้อมูลรายบุคคลและสารสนเทศทางการศึกษาที่ครอบคลุม ถูกต้อง เป็น ปัจจบุ ัน เพ่ือการวางแผนการบรหิ ารจัดการศกึ ษา การติดตามประเมนิ และรายงานผล แนวทางการพฒั นา ๑. เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคในการเขา้ ถึงการศึกษาท่ีมคี ณุ ภาพ ๒. พฒั นาระบบเทคโนโลยีดิจทิ ลั เพอ่ื การศึกษาสาหรบั คนทกุ ช่วงวยั ๓. พัฒนาฐานข้อมูลด้านการศกึ ษาทม่ี ีมาตรฐาน เช่ือมโยงและเข้าถึงได้ ยทุ ธศาสตร์ท่ี ๕ การจดั การศกึ ษาเพ่ือสรา้ งเสรมิ คุณภาพชีวิตทเี่ ป็นมติ รกบั ส่งิ แวดลอ้ ม เปา้ หมาย ๑. คนทุกช่วงวัย มีจิตสานึกรักษ์สิ่งแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และนาแนวคิดตาม หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งสกู่ ารปฏิบัติ ๒. หลักสูตร แหล่งเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรกับ ส่งิ แวดล้อม คุณธรรม จรยิ ธรรม และการนาแนวคิดตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่การปฏบิ ตั ิ ๓. การวิจัยเพ่ือพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตท่ีเป็น มิตรกบั สิ่งแวดลอ้ ม แนวทางการพฒั นา ๑. ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างจิตสานึกรักษ์ส่ิงแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และนา แนวคิดตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบตั ิในการดาเนนิ ชีวิต ๒. ส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ ทเี่ กี่ยวข้องกบั การสร้างเสรมิ คุณภาพชีวติ ทีเ่ ปน็ มิตรกบั ส่งิ แวดล้อม ๓. พัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรม ด้านการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็น มติ รกับสิ่งแวดลอ้ ม

๑๕ ยุทธศาสตรท์ ี่ ๖ การพฒั นาประสทิ ธิภาพของระบบบริหารจดั การศึกษาเป้าหมาย ๑. โครงสร้าง บทบาท และระบบการบริหารจัดการการศึกษามีความคล่องตัว ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้ ๒. ระบบการบริหารจัดการศึกษามีประสิทธิภาพและประสิทธิผลส่งผลต่อคุณภาพและ มาตรฐานการศึกษา ๓. ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาท่ีตอบสนองความต้องการของ ประชาชนและพื้นท่ี ๔. กฎหมายและรูปแบบการบริหารจัดการทรัพยากรทางการศึกษารองรับลักษณะท่ี แตกต่างกันของผู้เรยี น สถานศกึ ษา และความตอ้ งการกาลังแรงงานของประเทศ ๕. ระบบบริหารงานบุคคลของครู อาจารย์ และบคุ ลากรทางการศกึ ษามีความเป็นธรรม สร้างขวญั กาลังใจ และสง่ เสรมิ ให้ปฏบิ ัติงานได้อย่างเต็มตามศักยภาพ แนวทางการพฒั นา ๑. ปรบั ปรงุ โครงสร้างการบริหารจัดการศึกษา ๒. เพ่มิ ประสทิ ธิภาพการบริหารจดั การสถานศึกษา ๓. ส่งเสริมการมีส่วนรว่ มของทกุ ภาคสว่ นในการจดั การศึกษา ๔. ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับระบบการเงินเพ่ือการศึกษาที่ส่งผลต่อคุณภาพและ ประสิทธิภาพการจดั การศกึ ษา ๕. พฒั นาระบบบริหารงานบคุ คลของครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ๒.๓ ทกั ษะที่สาคัญของผ้เู รียนในศตวรรษที่ ๒๑ การศึกษาได้รับการคาดหมายให้ทาหน้าที่ต่างๆ มากมายทั้งในทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ นับตั้งแต่การช่วยให้ประชาชนอ่านออกเขียนได้และคิดเป็น เรียนรู้จริยธรรมและความเป็นพลเมือง ตลอดจน พฒั นาทักษะทางเศรษฐกิจ ซ่ึงจะช่วยเพ่มิ ความเทา่ เทยี มในสงั คมในระยะยาว จากบทบาทหน้าที่ที่สาคัญหลายประการดังกล่าว การศึกษาท่ีไม่มีคุณภาพจึงก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงต่อ ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศตวรรษท่ี ๒๑ ซึ่งประชาชนต้องการทักษะการคดิ และการดารงชีวิตท่ีแตกต่างจาก อดีตท่ผี ่านมาอย่างมีนยั สาคัญ เพ่ือการพัฒนาประเทศไทยช้ีให้เห็นว่า เป้าหมายของการปฏิรูประบบการศึกษาไทย คือ (๑) การพัฒนาระบบการเรียนการสอนเพื่อเติมเต็มศักยภาพให้นักเรียนมีทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ (๒) การ พัฒนาระบบครใู ห้มีคณุ ภาพ (๓) การสร้างความรบั ผิดชอบ (accountability) ในระบบการศกึ ษา และ (๔) การลด ปญั หาความเหลอ่ื มลา้ ด้านต่างๆ ในระบบการศกึ ษา ๑.๑ การพัฒนาระบบการเรียนการสอนเพือ่ เติมเต็มศักยภาพใหน้ ักเรยี นมที ักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ แนวคิดทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ ต้ังอยู่บนฐานคิดท่ีเช่ือว่า รูปแบบการศึกษาแบบดั้งเดิมในช่วง ศตวรรษท่ี ๒๐ ซึ่งเน้นย้าแต่การเรียนและท่องจาเน้ือหาในสาระวิชาหลัก อาทิ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาศาสตร์ สังคมศึกษา ไม่เพียงพออีกต่อไปแล้วในการดารงชีวิตและการทางานในโลกศตวรรษใหมภ่ ายใต้ความ ท้าทายใหม่ สาหรับแนวคิดทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ นั้น ต้ังต้นจากผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้ที่จาเป็นสาหรับ ศตวรรษท่ี ๒๑ โดยให้ความสาคัญกับการปลูกฝัง “ทักษะ” ท่ีจาเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ เช่น ทักษะในการคิดข้ันสูง ทักษะในการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะชีวิตและการทางาน ทักษะด้านสารสนเทศและการสื่อสาร ควบคู่กับ “เนื้อหา” ในสาระวิชาหลักและความรู้อ่ืนที่สาคัญในศตวรรษที่ ๒๑ เช่น ความรู้เร่ืองโลก ความรู้ด้านการเงิน เศรษฐกิจ ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ความรู้ด้านพลเมือง ความรู้ด้านสุขภาพ และความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านหลักสูตรที่มีลักษณ ะกระชับ (lean curriculum) ช่างคิด (thinking curriculum) และบูรณ าการ (interdisciplinary curriculum) เพ่ือสร้างนักเรียนที่มี “คุณลักษณะ” อันพึงปรารถนาของโลกศตวรรษที่ ๒๑ ได้

๑๖ น่ันคือ รู้จักคิด รักการเรียนรู้ มีสานึกพลเมือง มีความกล้าหาญทางจริยธรรม มีความสามารถในการแก้ปัญหา ปรับตวั สื่อสาร และทางานรว่ มกบั ผอู้ ื่นไดอ้ ย่างมีประสิทธิผลตลอดชวี ติ นอกจากนี้ การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ยังต้องมีการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับเนื้อหาและ วิธีการสอน โดยใช้เทคโนโลยีสนับสนุนทฤษฎีการเรียนรู้แบบใหม่ในการพัฒนาเน้ือหาและทักษะแบบใหม่อีกด้วย เทคโนโลยเี พอ่ื การเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ควรมคี ณุ ลักษณะทีม่ ชี ีวิต มพี ลวตั มีปฏสิ มั พันธ์ การเช่อื มตอ่ และมสี ่วน รว่ ม ใช้ส่ือผสมอย่างหลากหลาย ปรับเปลย่ี นตามความสามารถและระดับของผู้เรียน มีเน้ือหาท่ีไม่ยึดติดกับตัวสื่อ เลอื กประกอบเนื้อหาได้เอง ค้นหา-แกไ้ ข-จดบันทึกได้ เกบ็ ประวัติการเรียนร้อู ย่างเปน็ ระบบ และมรี ะบบการ ภาพท่ี ๑ เปา้ หมายของการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ๑.๒ การสรา้ งความรบั ผิดชอบ (accountability) ในระบบการศึกษา ๑.๒.๑ สภาพปญั หา ปญั หาของระบบศึกษาไทยไมไ่ ดเ้ กดิ จากการขาดแคลนทรพั ยากรอีกตอ่ ไป แต่เปน็ ปญั หาเร่ืองการ ใชท้ รัพยากรอยา่ งไม่มปี ระสิทธภิ าพ กล่าวคือ ใช้ทรัพยากรมากแตผ่ ลสมั ฤทธ์ิต่า ดังท่ีข้อมูลชี้ว่าในช่วง ๑๐ ปีทีผ่ า่ น มา งบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการเพ่ิมข้ึนกว่า ๓ เท่า และอยู่ในระดับไม่น้อยกว่าประเทศอ่ืนในเอเชีย ส่วน รายได้ต่อเดือนของครูท่ีมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีและสอนอยู่ในโรงเรียนรัฐก็เพ่ิมสูงขึ้นจากประมาณ ๑.๕ หม่ืนบาทในปี ๒๕๔๔ เป็นประมาณ ๒.๕ หมื่นบาทในปี ๒๕๕๓ ซึ่งถือเป็นระดับรายได้ท่ีไม่น้อยกว่าอาชีพอ่ืน แต่ ในทางตรงกันข้าม ผลคะแนนการทดสอบมาตรฐานของนักเรยี นไทยท้ังในระดับประเทศและระดบั นานาชาตกิ ลับมี แนวโนม้ ลดต่าลงมาก

๑๗ แนวความคิ เรือง accountability รั บาล การแส งออก าง การอุ หนุน การเมอื ง กากบั แู ล ประเมินผล สายความรับผิ อบยาว และ ห้รางวัล พอ่ แม่เลือก รงเรียนจากขอ้ มูล คุณภาพ รงเรียน รงเรยี นมอี ิสระ นการบริหาร สายความรบั ผิ อบสนั สถานศึกษา การกากบั ูแลและ ห้รางวัล พ่อแม่ ั แปลงจาก World Bank (2011) ครู ภาพที่ ๒ กรอบแนวคดิ เรือ่ งความรับผิดชอบ ในกรณีของระบบการศึกษา หัวใจสาคัญของการปฏิรูปเพื่อสร้างความรับผิดชอบคือ การทาให้ โรงเรียนมีความรบั ผิดชอบโดยตรงต่อผู้ปกครองและนกั เรียนมากข้นึ โดยโรงเรียนควรมีอิสระในการบริหารจัดการ และผู้ปกครองควรมีสิทธิเลือกโรงเรียนให้ลูกตามข้อมูลคุณภาพของโรงเรียนที่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ กล่าวคือ มีการส่งเสริมให้เกดิ ระบบ “ความรับผิดชอบสายส้นั ” (short-route of accountability) หรือสายความ รับผดิ ชอบระหวา่ ง “ผ้ปู กครอง-โรงเรยี น-คร”ู โดยไม่ต้องผา่ นรฐั บาล เพมิ่ มากข้ึน กระน้ัน ในอีกด้านหนึ่งก็ต้องมีการปฏิรูประบบ “ความรับผิดชอบสายยาว” (long-route of accountability) หรือสายความรับผิดชอบระหวา่ ง “ผู้ปกครอง-รัฐบาล-โรงเรียน-ครู” ซ่ึงมีรัฐบาลเป็นตัวค่ันกลาง ในระบบ โดยรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐที่เก่ียวข้องควรมีบทบาทในการเสริมสร้างความรับผิดชอบของระบบ การศึกษา เช่น การปรับปรุงระบบการเงินเพ่ือการศึกษา ระบบประเมินผลงานครู และระบบประเมิน คุณภาพ สถานศึกษา ในแนวทางท่ีทาให้ผู้บริหารโรงเรียนและครูต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของ นักเรียน ระบบความรับผิดชอบมีความสาคัญต่อระบบการศึกษามาก ดังแสดงไว้ในภาพที่ ๓ กล่าวคือ ระบบความรับผิดชอบท่ีดีเป็นปัจจัยหลักในการส่งเสริมให้กระบวนการแปลงทรัพยากรนาเข้า (inputs) เป็น ผลลัพธ์ (outputs) และ/หรือผลได้ต่อสังคม (outcomes) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล นั่นคือมี การใชท้ รพั ยากรทางการศกึ ษาเพ่ือบรรลผุ ลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นร้อู ยา่ งคุ้มคา่ ท้ังน้ี บนเส้นทางของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพ่ือบรรลุผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้ที่พึง ปรารถนา ระบบการสร้างความรับผิดชอบต้องทางานร่วมกับระบบอ่ืนๆ ที่มีความสาคัญไมย่ ่ิงหย่อนไปกว่ากนั นั่น คือ ระบบการเรียนรู้ อันได้แก่ หลักสูตร ตาราเรียน ส่ือและเทคโนโลยี และระบบสนับสนุนการเรียนรู้ อันได้แก่ ระบบการบริหารจัดการโรงเรียนท่ีเป็นอิสระ ท้ังเร่ืองการประเมินคุณภาพสถานศึกษา การพัฒนาคุณภาพครู และ การมีงบประมาณที่เพียงพอต่อการยกระดับผลการเรียนของนักเรียน รวมถึงระบบการช่วยเหลือและยกระดับ คณุ ภาพนกั เรียน ครู และสถานศึกษา

๑๘ ภาพที่ ๓ ความรบั ผดิ ชอบในระบบการศกึ ษา ในกระบวนการสร้างความรับผิดชอบให้แก่ระบบการศึกษาไทย จาเป็นต้องสร้างเง่ือนไขพ้ืนฐาน สามประการให้เกิดขึ้น มิเช่นนั้นระบบความรับผิดชอบย่อมมิอาจทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เงื่อนไขพื้นฐาน เหลา่ น้ี ไดแ้ ก่ หน่ึงการปฏิรูประบบข้อมูลข่าวสาร หมายถงึ การผลติ และการกระจายขอ้ มูลด้านสิทธแิ ละหน้าที่ ของฝ่ายต่างๆ และข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียนและครู ผลลัพธ์ และผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา สาหรับการประเมิน เพื่อใหร้ างวัลและปรบั ปรุงพัฒนา สองการปฏิรูประบบบริหารจัดการโรงเรียน หมายถึง การกระจายการตัดสินใจไปยังโรงเรียน ให้ โรงเรยี นมอี สิ ระในการบริหารจดั การตนเอง ภายใตร้ ะบบความรบั ผดิ ชอบท่ีดี สามการปฏิรูปโครงสร้างส่ิงจูงใจ หมายถึง การเช่ือมโยงการจ้างงานหรือผลตอบแทนครูและ ผบู้ ริหารโรงเรียนเข้ากับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้ของนักเรียนในระดับท่ีเหมาะสม เพ่ือให้ครูและผูบ้ ริหารโรงเรียน ใส่ใจในการเป็นเจ้าภาพรบั ผดิ ชอบในการพัฒนานกั เรียนอย่างแทจ้ รงิ ๑.๒.๒ ข้อเสนอเพอ่ื การปฏริ ูป ระบบความรับผิดชอบควรถูกออกแบบข้ึนโดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาบน เส้นทางของการสร้างนักเรียนให้มีทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ โดยรับผิดชอบต่อนักเรียนและผู้ปกครอง ผ่านระบบ การให้รางวลั และลงโทษ และผา่ นระบบการใหค้ วามช่วยเหลือนกั เรียน ครู หรือสถานศกึ ษาท่ีมีปัญหา กล่าวโดยสรุป หัวใจสาคัญของการปฏิรูประบบการศึกษาอยู่ที่การสร้างระบบความรับผิดชอบ เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามแนวคิดทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ โดยให้โรงเรียนมีความรับผิดชอบโดยตรงต่อ ผูป้ กครองและนักเรียนมากขึ้น โดยโรงเรียนควรเปน็ หน่วยหลักในการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา และมีอิสระในการ บริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นเร่ืองของการออกแบบหลักสูตร วิธีการสอน และวิธีการวัดผลตามแนวคิดทักษะแห่ง ศตวรรษที่ ๒๑ ให้สอดคล้องกบั วสิ ัยทัศน์และเจตนารมณ์ของโรงเรยี น รวมถึงตอบสนองตอ่ สภาพปัญหาและความ ต้องการชุมชน รวมถึงการฝึกอบรมพัฒนาครู และการประเมินคุณภาพสถานศึกษาภายใน โดยมีการปฏิรูประบบ การจัดทาและเผยแพร่ข้อมลู เก่ียวกบั คุณภาพของสถานศกึ ษาตอ่ สาธารณะเพ่ือเป็นพ้ืนฐานสาหรับการตัดสินใจของ ผูป้ กครองในการคัดเลือกโรงเรยี น และสร้างระบบให้ความช่วยเหลือโรงเรยี น ครูและนักเรียนท่ีมีปัญหาการปฏิรูป ระบบการศึกษาต้องดาเนินการร่วมกันใน ๕ ด้าน อันได้แก่ (๑) การปฏิรูปหลักสูตร สื่อการเรียนรู้และเทคโนโลยี (๒) การปฏิรูประบบการวัดและประเมินผลการเรียน (๓) การปฏิรูประบบการพัฒนาคุณภาพครู (๔) การปฏิรูป

๑๙ ระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษา และ (๕) การปฏิรูประบบการเงินเพื่อการศึกษา ซึ่งรายละเอียดของ ขอ้ เสนอเพือ่ การปฏิรปู จะเล่าสู่กนั ฟงั ในโอกาสตอ่ ไป ๑.๓ การสร้างนกั เรยี นใหม้ ี “ทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑” ในฐานะเปา้ หมายของระบบความรับผิดชอบ ระบบความรับผิดชอบเพ่ือการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนและการช่วยเหลือนักเรียน ครู และ สถานศึกษาท่ีมีปัญหา จักเกิดข้ึนได้ก็ต่อเม่ือมีการกาหนดเป้าหมาย พันธะหน้าท่ี เจ้าภาพในการรับผิดชอบพันธะ หน้าท่ีต่างๆ และระบบการประเมินผล เช่นน้ีแล้ว ผู้มอบหมายจึงจะสามารถกากับดูแล ติดตาม ประเมินผล และ ตรวจสอบการทาหน้าที่ของผู้ได้รับมอบหมายได้ ซึ่งทาให้ผู้มอบหมายและภาครฐั สามารถเข้าไปร่วมช่วยเหลอื และ ร่วมพัฒนาในกรณีท่ีผู้ได้รับมอบหมายมีความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ระบบความรับผิดชอบควรถูกออกแบบ ขึ้นเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาบนเส้นทางของการสร้างนักเรียนให้มีทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑โดยรับผิดชอบต่อ นักเรียนและผู้ปกครอง ผ่านระบบการให้รางวัลและการลงโทษ และผ่านระบบการให้ความช่วยเหลือนักเรียน ครู หรือสถานศึกษาท่ีมีปัญหา เป้าหมายของระบบความรับผิดชอบก็คือความสามารถในการสร้างนักเรียนให้มีทักษะ แหง่ ศตวรรษที่ ๒๑ ๑.๔ การปฏิรปู ระบบการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐานให้เกิดความรับผดิ ชอบภายใตแ้ นวคดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ ๒๑ หัวใจสาคัญของการปฏิรูประบบการศึกษาอยู่ท่ีการสร้างระบบความรับผิดชอบเพ่ือพัฒนาคุณภาพ การศึกษาตามแนวคิดทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ และมีอิสระในการบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นเร่ืองของการ ออกแบบหลักสูตร วิธีการสอน และวิธีการวัดผลตามแนวคิดทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ และเจตนารมณ์ รวมถึงตอบสนองต่อสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชน ตลอดจนการฝึกอบรมและการ พัฒนาครู และการประเมินคุณภาพสถานศึกษาภายใน โดยมีการปฏิรูประบบการจัดทา และเผยแพร่ข้อมูล เก่ียวกบั คุณภาพของสถานศกึ ษาต่อสาธารณะ เพือ่ เปน็ พื้นฐานสาหรบั การตดั สินใจ การปรับหลักสูตร สื่อการเรียนรู้ และการพัฒนาครู ก็ยังคงเป็นหัวใจสาคัญของการปฏิรปู ระบบการศึกษา เพราะระบบในปัจจุบันยังไม่เอื้ออานวยให้เกิดการเรียนรตู้ ามแนวคิดทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑แต่การปฏิรูประบบ การเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับบรบิ ทของศตวรรษท่ี ๒๑ จาเป็นต้องลงมือทาควบคู่ ไปกับการปฏิรูปด้านอื่นๆ เช่น การสร้างระบบความรับผิดชอบดังท่ีได้กล่าวไป รวมถึงการลดความเหลื่อมล้าของ คุณภาพการศึกษา โดยจัดสรรงบประมาณให้กับพื้นที่ท่ีมีปญั หาทางเศรษฐกิจและสังคมมากข้ึน และสรา้ งระบบให้ ความชว่ ยเหลือโรงเรยี น ครู และนกั เรียนทีม่ ีปญั หา ทง้ั นี้ การปฏิรูประบบการศกึ ษาตอ้ งดาเนินการร่วมกนั ทั้ง ๕ ดา้ น ได้แก่ (๑) การปฏิรูปหลักสตู ร ส่ือการเรียนรู้ และเทคโนโลยี (๒) การปฏิรปู ระบบการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น (๓) การปฏริ ปู ระบบการพฒั นาคณุ ภาพครู (๔) การปฏริ ูประบบการประเมนิ คณุ ภาพสถานศึกษา และ (๕) การปฏิรปู ระบบการเงินเพ่ือการศึกษา

๒๐ ภาพที่ ๔ การปฏริ ปู ๕ ด้าน เพอื่ พัฒนาการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ โดยการปฏิรูปนั้นต้องดาเนินไปท้ังสองระดับ คือ “ระดับประเทศ” ท่ีมุ่งตอบโจทย์ด้านการสร้างความ รับผิดชอบโดยบทบาทของรัฐเป็นสาคัญ และ “ระดับสถานศึกษา” ที่มุ่งตอบโจทย์ด้านความเป็นอิสระของ สถานศึกษาในฐานะหนว่ ยหลกั ของการจัดการเรยี นการสอนและการพัฒนาคุณภาพการเรยี นการสอนเปน็ สาคัญ (๑) การปฏริ ูประบบการศึกษาในระดบั ประเทศ แนวทางการปฏิรูประบบการศึกษาในระดับประเทศ มุ่งเน้นไปที่การสรา้ งระบบความรับผิดชอบ เป็นสาคัญ โดยรฐั ปรับบทบาทมาเป็นผู้กากับดแู ลคุณภาพของระบบการศกึ ษา ในการนี้จุดเร่ิมต้นของการปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อสร้างความรับผิดชอบ คือการปฏิรูประบบ การทดสอบมาตรฐานระดับประเทศ (standardized test) ให้เป็นการทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจและทักษะ (literacy-based test) ซ่ึงสอดคล้องกับแนวคิดทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ มากกว่าการทดสอบที่มุ่งวัดความรู้ใน เน้อื หาวิชาตามหลักสูตรดงั ทีเ่ ป็นอยูใ่ นปัจจุบนั เพ่ือสร้างความรับผิดชอบในระบบการศึกษา ผลการสอบมาตรฐาน ระดับประเทศแบบใหม่จะถูกนาไปใช้ในการประเมินผลงานของครู การประเมินคุณภาพสถานศึกษา และการ ประเมินผลผู้บริหารสถานศึกษา กระบวนการสร้างความรับผิดชอบท้ังหมดน้ีมีเป้าหมายสุดท้ายคือเพ่ือให้เกิดการ พฒั นาคุณภาพการจัดการเรยี นการสอน โดยสรา้ งผ้เู รยี นใหม้ ีทกั ษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ภาพที่ ๕ แนวทางการปฏริ ปู ระบบการศกึ ษาในระดบั ประเทศ (๒)การปฏิรปู ระบบการศึกษาในระดับสถานศึกษา

๒๑ แนวทางการปฏิรูปการศึกษาในระดับสถานศึกษาถือว่าโรงเรียนเป็นศนู ย์กลางในการปรับเปล่ียน โดยโรงเรียนต้องทาหน้าท่ีเป็นหน่วยหลักของการจัดการเรียนการสอนและการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน เงอ่ื นไขท่ีจาเป็นของการปฏิรูปคือโรงเรียนต้องมีความเป็นอิสระในการบริหารการศึกษา โดยได้รับงบประมาณและ การสนบั สนนุ ทางวชิ าการท่ีเพียงพอจากรัฐ การปฏิรูปการศึกษาในระดับสถานศึกษาเน้นไปท่ีการพัฒนาคุณภาพของการจัดการเรียนการ สอนเป็นสาคญั ภายใต้หลักความยืดหยุ่น ความหลากหลาย ความมีพลวัต การมสี ่วนรว่ มจากผู้ปกครองและชุมชน ความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้เรียนและชุมชน และการมีสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่เอื้อ ใหเ้ กิดการเรียนรู้และการพัฒนา ภาพที่ ๖ แนวทางการปฏริ ูประบบการศึกษาในระดับสถานศึกษา (๓) การปฏริ ปู หลกั สูตร สอ่ื การเรยี นรู้ และเทคโนโลยี หลักสูตร ส่ือการเรียนรู้ และเทคโนโลยี ของระบบการศึกษาไทยยังมีช่องว่างในการปรับปรุงให้ สอดคลอ้ งกบั แนวคิดทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ในสว่ นของการวิเคราะห์หลกั สตู รแกนกลางของไทย พบว่า (๑.๑) หลักสูตรยังขาดวิสัยทัศน์และเป้าหมายท่ีชัดเจนในการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิตามแนวทางการ เรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ (๑.๒) องค์ประกอบหลายส่วนในหลักสูตรยังไม่ได้รับการออกแบบให้ส่งเสริมการพัฒนาทักษะ แหง่ ศตวรรษที่ ๒๑ ตามแนวคิด “หลักสูตรกระชบั ” “หลักสตู รชา่ งคิด” และ “หลักสูตรบรู ณาการ” (๑.๓) โครงสร้างเวลาเรียนกาหนดเวลาเรียนอย่างเคร่งครัดตามสาระการเรียนรู้ และกาหนด จานวนชั่วโมงเรยี นตามข้อบังคบั ของหลักสตู รมากเกินไป ซง่ึ ขดั แยง้ กับแนวคดิ “สอนใหน้ อ้ ยลง เรยี นรู้ใหม้ ากขน้ึ ” (๑.๔) ตัวช้ีวัดมีลักษณะอิงเนื้อหาค่อนข้างมากในหลายสาระการเรียนรู้ ซึ่งทาให้เน้ือหาใน หลักสูตรมลี ักษณะแยกสว่ น และไมส่ นบั สนุนการพัฒนาทกั ษะเทา่ ที่ควร (๔) การปฏริ ปู ระบบการวดั และประเมินผลการเรยี น ระบบการวัดและประเมินผลการเรียนในปัจจุบัน ซึ่งเน้นการทดสอบเป็นหลัก ไม่สามารถนาพา นักเรียนให้มีทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ ได้ เนื่องจากข้อสอบส่วนใหญ่มีลักษณะท่องจาและมุ่งเน้นแต่เนื้อหา ไม่ ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และการวิพากษ์ อีกท้ังไม่ช่วยเสริมสร้างทักษะอื่นที่จาเป็น เช่น ความคิดสร้างสรรค์และ การทางานเป็นทีม การปฏิรูประบบการวัดและประเมินผลการเรียนในสองระดับ ทั้งในระดับประเทศ เพื่อสร้าง ความรับผิดชอบ และในระดับโรงเรียน เพ่ือพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ในระดับประเทศ ระบบ การทดสอบ มาตรฐานในระดับประเทศ โดยปรับจากระบบ O-NET และอ่ืนๆ ในปัจจุบัน เป็นการทดสอบเพ่ือวัดความรู้ความ

๒๒ เข้าใจและทักษะ (literacy-based test) ซึ่งสามารถประยุกต์เนือ้ หาเข้ากับโจทย์ในชีวิตประจาวนั ได้ นักเรยี นต้อง ใช้ความเข้าใจและความสามารถในการประยุกต์เพ่ือทาข้อสอบ มากกว่าใช้ความจาหรือการใช้เทคนิคการทา ขอ้ สอบ โดยปราศจากความเข้าใจท่ีแท้จริง และนาผลการทดสอบมาตรฐานระดับประเทศแบบใหม่นี้ไปสร้างความ รับผิดชอบในระบบการศึกษา เช่น การประเมินผลงานของครู การประเมินสถานศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพและ ช่วยเหลือสถานศกึ ษาทม่ี ีปญั หา และการประเมนิ ผลและใหร้ างวัลแก่ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา (๕) การปฏิรปู ระบบการพฒั นาคุณภาพครู การศึกษาวิเคราะห์ระบบการพัฒนาคุณภาพครูในสองมิติ ได้แก่ ระบบการฝึกอบรมครู และ ระบบการประเมนิ สมรรถนะและผลงานครูเพ่ือให้ผลตอบแทน ในส่วนของระบบการฝึกอบรมครู ชี้ว่าสภาพปญั หา สาคัญในปัจจุบันคือรัฐมีบทบาทอย่างมากในการจัดหาผู้จัดการอบรมและจัดทาเกณฑ์รับรองหลักสูตร ทาให้ หลักสูตรการฝึกอบรมครูไม่สอดคล้องกับปัญหาท่ีครูและโรงเรียนเผชิญ การอบรมส่วนใหญ่เป็นการฟังบรรยาย มากกว่าการฝึกปฏิบัติ รวมทั้งยังขาดระบบติดตามและสนับสนุนให้มีการนาความรู้ไปใช้ จึงทาให้การอบรมส้ินสุด เพียงขั้นตอนการสร้างและถ่ายทอดความรู้ แต่ไปไม่ถึงข้ันตอนการนาความรู้ไปปฏิบัติ การฝึกปฏิบัติ และการ ทบทวนและแลกเปล่ียนเพื่อแก้ไขปัญหาจากการปฏิบัติ อีกท้ังผลการประเมินคุณภาพครูและสถานศึกษาไม่ได้ถูก นามาใชใ้ นการประเมินคณุ ภาพของการฝึกอบรมครู (๖) การประเมินคณุ ภาพสถานศึกษา การประเมนิ คุณภาพสถานศกึ ษากระทาผ่านระบบการประเมินคุณภาพภายนอก ภายใตก้ ารดูแล ของสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เป็นหลักระบบการประเมินคุณภาพ ภายนอกดังกล่าวมีปัญหาหลายประการในปฏิบัติการจริง ตัวอย่างเช่น ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรียนมี น้าหนักเพียงร้อยละ ๒๐ ของคะแนนทั้งหมด และวัดจากสัดส่วนของนักเรียนท่ีผ่านขีดจากัดล่าง ซึ่งอยู่ในระดับ ค่อนขา้ งต่า ผู้ประเมนิ มีปญั หาด้านคุณภาพและความเป็นมืออาชพี และทรัพยากรในการประเมินมีจากัด ในขณะท่ี ตอ้ งประเมนิ สถานศึกษาจานวน ๓๕,๐๐๐ แหง่ ภายในเวลา ๕ ปี สาหรับการประเมินคุณภาพภายในโดยสถานศึกษาเองก็ยังมปี ัญหาในเชิงคณุ ภาพ โดยมุ่งกระทา เพื่อสนับสนุนระบบประเมินคุณภาพภายนอกมากกว่าจะเป็นไปเพ่ือพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนใน สถานศึกษาการประเมินคุณภาพภายนอกยังเช่ือมโยงการใช้ประโยชน์จากการประเมิ นคุณภาพภายในได้ไม่ดีพอ เช่น ผู้ประเมินภายนอกไม่ได้รับรายงานการประเมินคุณภาพภายในก่อนออกตรวจประเมิน ข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อการปฏิรูประบบประเมินคุณภาพสถานศึกษา โดยชี้ว่าระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษาควรใช้การ ประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษาเป็นหน่วยหลักในการประเมินเพื่อพัฒนาคุณภาพ โดยสะท้อนให้เห็นจุด แข็งและจดุ ออ่ นของสถานศึกษาตามทีเ่ ปน็ จริงแบบไมม่ ุ่งตดั สิน แต่มบี ทบาทในการชี้ปัญหาเพ่อื แก้ไข (๗) การปฏิรูประบบการเงนิ เพ่ือการศกึ ษา ข้อเสนอเชิงนโยบายเพ่ือการปฏิรูประบบการเงินเพ่ือการศึกษาคือ แนวทางการปฏิรูปควรมี วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรับผิดชอบและลดความเหล่ือมล้าระหว่างพ้ืนที่ควบคู่กันไป ผ่านสูตรการจัดสรร งบประมาณของรัฐที่คานึงถึงสภาพเศรษฐกิจและสังคมในแต่ละพื้นท่ีท่ีแตกต่างกัน และให้งบประมาณอย่าง เพียงพอต่อการพัฒนานักเรียนให้ข้ามผ่านมาตรฐานข้ันต่าตามท่ีกาหนดเป็นเป้าหมายไว้ได้ ในระยะยาว รัฐควร ปรับเปล่ียนระบบการเงินเพื่อการศึกษาไปสู่ระบบการเงินด้านอุปสงค์ให้มากข้นึ จะช่วยเพิม่ ระดับความรับผิดชอบ ให้แกร่ ะบบการศึกษา ๒.๔นโยบายและจุดเน้นการดาเนนิ งานสานกั งาน กศน.ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ วิสัยทัศน์

๒๓ คนไทยได้รับโอกาสการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ สามารถดารงชีวิตที่ เหมาะสมกับชว่ งวัย สอดคลอ้ งกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและมที ักษะทีจ่ าเปน็ ในโลกศตวรรษท่ี ๒๑ พนั ธกิจ ๑. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีมีคุณภาพ เพื่อยกระดับ การศึกษา พัฒนาทักษะการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมทุกช่วงวัย และพร้อมรับการ เปลย่ี นแปลงบรบิ ททางสังคม และสรา้ งสังคมแหง่ การเรยี นรูต้ ลอดชีวติ ๒. ส่งเสริม สนับสนุน และประสานภาคีเครือข่าย ในการมีส่วนร่วมจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมทั้งการดาเนินกิจกรรมของศูนย์การเรียนและแหล่งการ เรยี นรู้อ่ืน ในรปู แบบต่างๆ ๓. ส่งเสริมและพัฒนาการนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิด ประสทิ ธิภาพในการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ให้กับประชาชนอยา่ งท่ัวถึง ๔. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรม การวัดและประเมินผล ในทกุ รูปแบบใหส้ อดคล้องกับบรบิ ทในปจั จุบนั ๕. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เพ่ือมุ่งจัดการศึกษาและการ เรยี นรทู้ ีม่ ีคุณภาพ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล เปา้ ประสงค์ ๑. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมทงั้ ประชาชนท่ัวไปได้รับโอกาสทาง การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน การศกึ ษาต่อเน่อื งและการศึกษาตามอธั ยาศัย ทีม่ ีคณุ ภาพ อย่างเท่าเทียมและท่ัวถึง เป็นไปตามสภาพ ปญั หา และความตอ้ งการของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ๒. ประชาชนได้รับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และความ เป็นพลเมืองอันนาไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพ่ือพัฒนาไปสู่ความม่ันคง และยงั่ ยนื ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม ประวตั ิศาสตร์ และสงิ่ แวดล้อม ๓. ประชาชนได้รับโอกาสในการเรียนรู้และมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม สามารถคิด วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน รวมทั้งแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่าง สรา้ งสรรค์ ๔. ประชาชนไดร้ ับการสร้างและส่งเสรมิ ให้มีนสิ ัยรักการอา่ นเพือ่ การแสวงหาความร้ดู ้วยตนเอง ๕. ชุมชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคสว่ น ร่วมจดั ส่งเสริม และสนับสนุนการดาเนินงานการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั รวมทงั้ การขบั เคลอ่ื นกจิ กรรมการเรยี นรู้ของชมุ ชน ๖. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนา เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการ ยกระดบั คุณภาพในการจดั การเรยี นร้แู ละเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ให้กบั ประชาชน ๗. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาสื่อและการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนา คณุ ภาพชีวิต ท่ีตอบสนองกับการเปล่ียนแปลงบริบทดา้ นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ แล ส่ิงแวดลอ้ ม รวมทั้งตามความต้องการของประชาชน และชุมชนในรปู แบบท่หี ลากหลาย ๘. บุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ๙. หน่วยงานและสถานศกึ ษามรี ะบบการบรหิ ารจัดการตามหลกั ธรรมาภบิ าล นโยบายเร่งด่วนเพอ่ื ร่วมขับเคล่อื นยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาประเทศ ๑. ยุทธศาสตรด์ า้ นความมั่นคง

๒๔ ๑.๑ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่ปลูกฝังคุณธรรม สร้างวินัย การมีจิตอาสา และอุดมการณ์ความยึดม่ันใน สถาบนั หลกั ของชาติ ๑) เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปกครองระบอบประชาธิปไ ตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความเป็นพลเมืองดี เคารพความคิดของผู้อ่ืน ยอมรับความแตกต่าง และความ หลากหลายทางความคิดและอดุ มการณ์ รวมทัง้ สังคมพหุวัฒนธรรม ๒) ส่งเสรมิ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีปลูกฝังคุณธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ และอุดมการณ์ ความยึดม่ันในสถาบันหลักของชาติ รวมท้ังการมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมลูกเสือ กศน. และกิจกรรมอ่ืนๆ ตลอดจน การสนบั สนนุ ให้มีการจดั กิจกรรมเพอื่ ปลูกฝังคณุ ธรรม จรยิ ธรรมใหก้ ับบุคลากรในองค์กร ๑.๒การรว่ มขบั เคลอื่ นการพฒั นาประเทศตามโครงการไทยนยิ ม ยั่งยนื โดยบูรณาการขับเคลื่อนการทางานตามแนวทางประชารัฐ ดาเนินการโครงการ/กิจกรรมในพ้ืนท่ี ท้ังในระดับตาบล หมู่บ้านโดยใช้ทีมขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ย่ังยืน ระดับตาบลเป็น แกนหลกั และสนับสนุนกลไกการขบั เคลอ่ื นในพ้ืนทีท่ ุกระดับตง้ั แต่จงั หวัด อาเภอ ตาบล และหม่บู ้าน ๑.๓ พัฒนาการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัด ชายแดนภาคใต้ และพน้ื ทชี่ ายแดน ๑) พฒั นารปู แบบการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีความสอดคล้องกับ บริบทของสังคม วัฒนธรรม และพืน้ ท่ี เพอื่ สนบั สนุนการแก้ไขปญั หาและพฒั นาพื้นที่ ๒) เร่งจัดทาแผนและมาตรการด้านความปลอดภัยที่ชัดเจนสาหรับหน่วยงาน และสถานศึกษา รวมทั้งบุคลากรที่ปฏิบัติงานในพ้ืนที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยบูรณาการแผนและ ปฏิบตั ิงานรว่ มกบั หน่วยงานความมนั่ คงในพน้ื ท่ี ๓) สง่ เสรมิ และสนับสนุนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ในสถาบันศึกษาปอเนาะ ในรูปแบบต่างๆ ที่ หลากหลายตรงกับความต้องการของผู้เรียน อาทิ การเพ่ิมพูนประสบการณ์ การเปิดโลกทัศน์ การยึดมั่นในหลัก คุณธรรม และสถาบันหลักของชาติ ๔) สนับสนุนให้มีการพัฒนาบุคลากรทกุ ระดับ ทกุ ประเภทให้มีสมรรถนะท่ีสูงข้ึน เพื่อให้สามารถ ปฏบิ ตั ิงานไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ๑.๔การส่งเสริมการจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงบริบทด้านสังคม การเมือง รวมทั้งความตอ้ งการชองประชาชน และชุมชนในรูปแบบท่ีหลากหลาย ใหป้ ระชาชนคดิ เป็น วเิ คราะห์ได้ ตัดสินใจ ภายใต้ข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น ความรู้เรื่องการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระ ประมุข การเลอื กตงั้ เปน็ ตน้ ๒. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนากาลังคน การวิจัย และนวัตกรรมเพ่ือสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของ ประเทศ ๒.๑ การขับเคลอื่ นการดาเนนิ งานภายใต้แผนพัฒนาการศกึ ษาระดับภาค ๑)สร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้กับบุคลากร เก่ียวกับการดาเนินงานภายใต้แผนพัมนาการศึกษา ระดับภาค เพือ่ ร่วมขบั เคล่อื นยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาภาค ๒)เร่งดาเนินการจัดทายุทธศาสตร์และการพัฒนาการศึกษาระดับภาค ของสานักงาน กศน.ให้ สอดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาการศกึ ษาระดับภาค ๒.๒พัฒนากาลังคนใหม้ ที กั ษะความเข้าใจ และใช้เทคโนโลยีดิจิทลั (Digital Literacy) ๑) การพัฒนาความรู้ และทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อให้ สามารถให้ Social Media และ Application ตา่ งๆ ในการพฒั นารปู แบบการจัดการเรียนการสอน

๒๕ ๒) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนมีทักษะความเข้าใจและใช้ เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ท่ีสามารถนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวนั รวมทั้งสร้างรายไดใ้ หก้ บั ตนเองได้ ๓) พัฒนาทกั ษะ และส่งเสรมิ ให้ประชาชนประกอบธุรกิจการค้าออนไลน์(พาณิชยอ์ ิเล็กทรอนิกส์) มีการใชค้ วามคิดสรา้ งสรรคเ์ ชิงนวตั กรรมในการประกอบอาชีพ สร้างทักษะอาชีพที่สูงข้ึนใหก้ ับประชาชน เพ่ือร่วม ขับเคลอื่ นเศรษฐกจิ ดจิ ทิ ัล ๒.๓ พฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษเพือ่ การสอื่ สารให้กับประชาชนเพ่ือรองรบั การพฒั นาประเทศ ๑) การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสารของประชาชนในรูปแบบต่างๆ อย่างเป็น รปู ธรรมโดยเน้นทกั ษะภาษาอังกฤษเพอื่ อาชพี ทั้งในภาคธรุ กิจ การบรกิ าร และการทอ่ งเทยี่ ว ๒) พัฒนาความรู้และทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล การใช้Social Media และ Application ต่างๆ เพอื่ พฒั นารูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ๒)พัฒนาสื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เพ่ือส่งเสริมการใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสาร และการ พฒั นาอาชพี ๓. ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการพฒั นาและเสริมสร้างศักยภาพคนใหม้ คี ุณภาพ ๓.๑ เร่งรัดดาเนินการจัดการศกึ ษาอาชพี เพื่อยกระดับทกั ษะอาชพี ของประชาชนส่ฝู ีมอื แรงงาน ๑) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาที่สอดคล้องกับศักยภาพของชุมชน และความต้องการ ของตลาด ให้ประชาชนสามารถนาไปประกอบอาชีพได้จริง โดยให้เน้นหลักสูตรการศึกษาอาชีพช่างพ้ืนฐาน โดย ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนด้านอาชีพ เช่น การเรียนผ่าน Youtube การเรียนผ่าน Facebook Live ระบบการเรียนรู้ในระบบเปิดสาหรับมหาชน (Massive Open Online Courses :MOOCs) คอมพิวเตอรช์ ่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) เป็นต้น รวมถึงสนบั สนนุ ให้เกิดระบบการผลิตท่ี ครบวงจร และเปดิ พน้ื ที่สว่ นราชการเปน็ ท่แี สดงสินคา้ ของชมุ ชนเพอื่ เปน็ การสร้างรายได้ให้กบั ชมุ ชน ๒) บูรณาการความรว่ มมือในการพัฒนาฝมี ือแรงงานกับสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผา่ นศูนย์ประสานงานการผลิต และพัฒนากาลังคนอาชีวศึกษาภาคทั่วประเทศ เพ่ือมุ่งพัฒนาทักษะของประชาชน โดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพและภมู ิสังคมเฉพาะพื้นที่ และดาเนินการเชิงรุกเพ่ือเสรมิ จดุ เด่นในระดบั ภาค ในการ เป็นฐานการผลิตและบริการท่ีสาคัญ รวมถึงมุ่งเน้นสร้างโอกาสในการสร้างรายได้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ ของตลาดแรงงานทัง้ ภาคอุตสาหกรรมและการบริการ ๓) พัฒนากลุ่มอาชีพพื้นฐานที่รองรับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ท่ี สามารถพฒั นาศักยภาพไปส่รู ะดับฝมี ือแรงงาน โดยศึกษาตอ่ ในสถาบันอาชีวศกึ ษา ๓.๒ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้เทคโนโลยีมรการสร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับสินค้า การทาช่องทางเผยแพร่ และ จาหนา่ ยผลติ ภณั ฑ์ของวสิ าหชุมชนให้เป็นระบบครบวงจร และสนบั สนุนการจาหนา่ ยสนิ คา้ และผลิตภัณฑ์ผา่ นศูนย์ จาหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ออนไลน์ กศน. (ONIE Online Commerce Center : OOCC) เพื่อจาหน่ายสินค้า ออนไลน์ระดับตาบล ๓.๓ส่งเสริมการพัฒนาสุขภาวะของประชาชนทุกวัย โดยการสร้างความรู้ความเข้าใจการสนับสนุน กิจกรรมสขุ ภาวะ และสรา้ งเครือข่ายภาคประชาชนในการเฝ้าระวังปอ้ งกัน และควบคุมโรคใหก้ บั ประชาชนทุกช่วง วัย โดยเฉพาะในพื้นท่ีห่างไกล พ้ืนท่ีชายแดน และชายแดนภาคใต้ โดยประสานงานร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตาบล และเจ้าหน้าที่ อสม. ในการให้ความรู้เกี่ยวกบั การดูแลสุขภาวะอนามัยให้กบั ประชาชน รวมท้ังผลิต ชุดความร้เู ก่ยี วกับสุขภาวะ สขุ อนามัย เพือ่ ใชป้ ระกอบการเรยี นรู้ในหลักสตู รการศึกษาของ กศน. ๓.๔ เพ่ิมอัตราการอ่านของประชาชน โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในรูปแบบต่างๆ เช่น อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุดประชาชน บ้านหนังสือชุมชน ห้องสมุดเคลื่อนที่ฯ ผลักดันให้เกิดห้องสมุดสู่

๒๖ การเป็นห้องสมุดเสมือนจริงต้นแบบ เพื่อพัฒนาให้ประชาชนมีความสามารถในระดับการอ่านคล่อง เข้าใจความ คิดวิเคราะห์พ้ืนฐาน และสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารท่ีถูกต้องและทันเหตุการณ์ รวมท้ังนาความรู้ท่ีได้รับไปใช้ ปฏบิ ัตจิ ริงในชีวติ ประจาวัน ๓.๕ เตรียมความพร้อมเข้าสูส่ งั คมผสู้ ูงอายทุ ี่เหมาะสมและมีคุณภาพ ๑) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมให้กับประชาชนเพ่ือสร้างตระหนักถึงการเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคม ผู้สูงอายุ (Ageing Society) มีความเข้าใจในพัฒนาการของช่วงวัย รวมทั้งเรียนรู้และมีส่วนร่วมในการดูแล รบั ผิดชอบผ้สู งู อายุในครอบครัวและชุมชน ๒) พัฒนาการจัดบริการการศึกษาและการเรียนรสู้ าหรับประชาชนในการเตรียมความพรอ้ มเขา้ สู่ วยั สงู อายทุ ่เี หมาะสมและมีคุณภาพ ๓) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสาหรับผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด “Active Aging” การศึกษาเพ่ือพฒั นาคุณภาพชวี ติ และพัฒนาทักษะชีวติ ใหส้ ามารถดูแลตนเองท้ังสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ และ รู้จักใช้ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยี ๔) สร้างความตระหนักถึงคุณค่าและศักด์ิศรีของผู้สูงอายุ เปิดโอกาสให้มีการเผยแพร่ภูมิปัญญา ของผู้สงู อายุ และให้มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมดา้ นตา่ งๆ ในชมุ ชน เช่น ด้านอาชีพ กฬี า ศาสนาและวฒั นธรรม ๕) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานท่ี เก่ยี วขอ้ งในทกุ ระดบั ๔ ยทุ ธศาสตรด์ ้านการสร้างโอกาสและความเสอมภาคทางการศึกษา ๔.๑ ส่งเสรมิ การรูภ้ าษาไทย เพิ่มอัตราการรหู้ นงั สอื และยกระดับการรหู้ นงั สอื ของประชาชน ๑) ส่งเสริมการรู้ภาษาไทย ให้กับประชาชนในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สามารถฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาไทย เพื่อประโยชน์ในการใช้ ชวี ติ ประจาวนั ได้ ๒) เร่งจัดการศึกษาเพื่อเพิ่มอัตราการรู้หนังสือ และคงสภาพการรู้หนังสือให้กับประชาชน สามารถอ่านออก เขียนได้ และคิดเลขเป็น โดยมีการวัดระดับการรู้หนังสือ การใช้สื่อ กระบวนการและกิจกรรม พัฒนาทักษะในรูปแบบต่างๆ ท่ีเหมาะสม และสอดคลอ้ งกับสภาพพืน้ ทแ่ี ละกลุ่มเป้าหมาย ๓) ยกระดับการรู้หนังสือของประชาชน โดยจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการรู้หนังสือในรูปแบบ ตา่ งๆ รวมท้ังพัฒนาให้ประชาชนมีทักษะท่ีจาเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ เพ่ือเป็นเคร่ืองมือในการเรียนรู้ตลอดชีวิตของ ประชาชน ๔.๒ เพม่ิ โอกาสทางการศึกษาให้กบั ประชาชนวัยเรียนทอ่ี ยู่นอกระบบการศึกษา ๑) เร่งดาเนินการหาตัวตนของประชากรวัยเรียนท่ีอยู่นอกระบบการศึกษา ให้กลับเข้าสู่ระบบ การศึกษา โดยใช้กลวิธี “เคาะประตูบ้าน รุกถึงท่ี ลุยถึงถิ่น” โดยประสานกับสานักงานศึกษาธิการจังหวัด เพื่อ ดาเนินการตรวจสอบขอ้ มูลทะเบียนราษฎร์เทียบกบั ขอ้ มูลการลงทะเบยี นเรยี นของทกุ หนว่ ยงาน ค้นหาผู้ทไี่ ม่ไดอ้ ยู่ ในระบบการศึกษาเป็นรายบุคคล และรวบรวมจัดทาเป็นฐานข้อมูล และลงพ้ืนที่ติดตามหาตัวตนของ กลุ่มเป้าหมาย หาสาเหตุของการไม่เข้าเรียน และสอบถามความต้องการในการศึกษาต่อ พร้อมท้ังจาแนกข้อมูล ตามประเภทของสาเหตุ และประเภทความต้องการในการศึกษาต่อ และส่งต่อกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้รับการศึกษา ต่อความตอ้ งการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๒) ติดตามผลของกลุ่มเป้าหมายประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาที่ได้รับการจัดหาที่ เรียน และท้ังจัดทาฐานข้อมูลผู้สาเร็จการศึกษาของกลุ่มเป้าหมาย รวมท้ังพัฒนาระบบเพ่ือการติดตาม กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการช่วยเหลือให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาแบบครบวงจร โดยติดตามต้ังแต่การเข้าศึกษาต่อ จนจบการศกึ ษา

๒๗ ๔.๓ ส่งเสริม และพัฒนาระบบการสะสมและเทียบโอนหน่วยการเรียน (Credit Bank System) ของ สถานศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐานและสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเพื่อประโยชน์ในการ ดาเนินการเทยี บโอนความรู้และประสบการณ์ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ๔.๔ สง่ เสริม และสนับสนุนให้เกิดต้นแบบเมืองแห่งการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรอู้ ย่างต่อเนื่องให้กับ ประชาชนในชุมชน โดยกาหนดพนื้ ท่ีนาร่องที่ผ่านมาตรฐานเทียบวัด (Benchmark)ของสานกั งาน กศน. ๔.๕ พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะส้ัน ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับบริบท ของพน้ื ที่ และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผ้รู บั บรกิ าร ๔.๖ พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกล ให้มีความทันสมัย มีหลักสูตรและสาระการเรียนรู้ที่ หลากหลาย และสถานศกึ ษา กศน. สามารถนาไปใชใ้ นการจัดการเรยี นรใู้ หก้ ับกลุม่ เป้าหมายไดอ้ ย่างเหมาะสม ๔.๗สร้างกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบ E-learning ที่ใช้ระบบเทคโนโลยีเขา้ มาบริหารจดั การเรียนรู้ เพ่ือ เป็นการสร้างและขยายโอกาสในการเรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้สะดวก รวดเร็ว ตรงตามความต้องการของ ประชาชนของประชาชนผู้รับบริการ เช่น ระบบการเรียนรู้ในระบบเปิดสาหรับมหาชน (Massive Open Online Courses : MOOCs) ๔.๘ ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายทหารกองประจาการ รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายพิเศษอ่ืนๆ เช่น ผู้ต้องขัง คนพิการ เด็กออกกลางคัน ให้จบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สามารถนาความรู้ท่ี ได้รับไปพฒั นาตนเองไดอ้ ย่างต่อเน่ือง ๕. ยุทธศาสตรด์ ้านการสง่ เสรมิ และจดั การศึกษาเพื่อเสรมิ สรา้ งคณุ ภาพชีวติ ที่เปน็ มิตรกับสง่ิ แวดลอ้ ม ๕.๑ส่งเสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชน เกี่ยวกับการป้องกันผลกระทบ และปรับตัวต่อการ เปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ และภยั พิบตั ธิ รรมชาติ ๕.๒ สร้างความตระหนักถึงความสาคญั ของการสร้างสังคมสเี ขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับ การคดั แยก การแปรรปู และการกาจดั ขยะ รวมทัง้ การจัดการมลพิษในชมุ ชน ๕.๓ สง่ เสริมให้หนว่ ยงานและสถานศึกษาใช้พลังงานที่เป็นมติ รกับสิ่งแวดลอ้ ม รวมทั้งลดการใช้ทรัพยากร ทส่ี ง่ ผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อม ๖. ยทุ ธศาสตร์ด้านการพัฒนาประสทิ ธภิ าพระบบบริหารจดั การ ๖.๑ พัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เพ่ือการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และ เชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ เพ่ือการบริหารจัดการ และบูรณาการข้อมูลของ ประชาชนอยา่ งเปน็ ระบบ ๖.๒ ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตาแหน่ง ให้ ตรงกับสายงานความชานาญ และความต้องการของบคุ ลากร ๖.๓ ส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวทิ ยฐานะ และเลื่อนวิทยฐานะ (ว ๒๑/๒๕๖๐) การขับเคลอ่ื นกศน. สกู่ ศน. WOW ดา้ นที่๑การพัฒนาครกู ศน.และบุคลากรที่เก่ียวข้องกับการจดั กจิ กรรมการศกึ ษาและเรียนรู้:Good Teacher ขอ้ ที่ ๑.๑ เรอ่ื งการเพ่ิมอตั ราขา้ ราชการครูกศน. แนวทางการขบั เคลอื่ นระดับหนว่ ยงาน/สถานศกึ ษา ดาเนนิ การสอบแข่งขันและคัดเลือกบุคคลเพ่ือบรรจแุ ละแต่งตัง้ เขา้ รับราชการเป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครูผชู้ ่วยสงั กัดสานกั งานกศน. ตามที่ก.ค.ศ. กาหนดดังนี้

๒๘ ๑. ตามหนังสอื สานักงานก.ค.ศ. ท่ศี ธ ๐๒๐๖.๖/ว ๑๖ ลงวันท่ี ๒๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๗ เรอ่ื ง หลักเกณฑ์และวิธีการคดั เลือกบคุ คลเพอ่ื บรรจุและแต่งต้งั เข้ารับราชการเปน็ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาตาแหนง่ ครูผูช้ ว่ ยกรณีที่มีความจาเป็นหรือมีเหตุพเิ ศษ ๒. ตามหนังสือสานักงานก.ค.ศ. ทีศ่ ธ ๐๒๐๖.๖/ว ๑๗ ลงวันท่ี ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เรอ่ื ง หลักเกณฑ์และวิธีการคดั เลอื กพนักงานราชการลกู จ้างประจาครูสอนศาสนาอสิ ลามวิทยากรอสิ ลามศกึ ษาพนักงาน จ้างเหมาบริการครอู ัตราจ้างหรือลูกจ้างชั่วคราวเพื่อบรรจแุ ละแตง่ ตงั้ เขา้ รับราชการเป็นข้าราชการครูและบคุ ลากร ทางการศกึ ษาตาแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ยในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้เฉพาะจังหวัดยะลานราธิวาส ปัตตานีและ ๔ อาเภอในจังหวดั สงขลา (อาเภอจะนะอาเภอเทพาอาเภอนาทวีและอาเภอสะบา้ ย้อย) ๓. ตามหนงั สอื สานักงานก.ค.ศ. ท่ศี ธ ๐๒๐๖.๖/ว ๕ ลงวนั ท่ี ๖ มถิ นุ ายน ๒๕๖๑ เรอ่ื ง หลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการสอบแข่งขนั เพ่ือบรรจแุ ละแต่งตง้ั บุคคลเขา้ รับราชการเปน็ ข้าราชการครแู ละบุคลากร ทางการศกึ ษาตาแหนง่ ครผู ูช้ ่วย ขน้ั ตอนการดาเนนิ การขับเคลื่อน ๑. ขออนุมัติงบประมาณโครงการสอบแข่งขนั และคัดเลือกบคุ คลเพ่ือบรรจุและแตง่ ตง้ั เข้ารับ ราชการเป็นข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ยสังกัดสานักงานกศน. ๒. กาหนดสดั ส่วนในการสอบแขง่ ขันและคัดเลือกบคุ คลเพ่ือบรรจุและแตง่ ตั้งเขา้ รับราชการ เป็นข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครผู ู้ช่วยสังกดั สานักงานกศน. ๓. ดาเนนิ การสารวจกลมุ่ วชิ า/ทาง/สาขาวิชาเอกความต้องการของสถานศึกษา - สถานศึกษาดาเนินการแจง้ ข้อมูลความต้องการและความจาเปน็ ของกลุ่มวชิ า/ทาง/สาขา วิชาเอก -สานักงานกศน.จงั หวดั ดาเนินการรวบรวมและสรปุ ความต้องการและความจาเป็นของ สถานศกึ ษาในสังกดั ๔. ดาเนินการประกาศรบั สมัครสอบแข่งขันและคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแตง่ ตั้งเข้ารบั ราชการเปน็ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครผู ้ชู ่วยสังกดั สานักงานกศน. ๕. จัดทาคู่มอื และจัดประชุมชแ้ี จงแนวปฏบิ ัตใิ นการดาเนนิ การสอบแขง่ ขันและคัดเลือก บคุ คลเพื่อบรรจแุ ละแตง่ ตงั้ เข้ารับราชการเปน็ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตาแหน่งครูผู้ชว่ ยสังกัด สานกั งานกศน. ให้กบั สานกั งานกศน.จงั หวัดซ่ึงทาหนา้ ท่ีเป็นหนว่ ยรบั สมัคร ๖. สานกั งานกศน.จังหวดั เขา้ รว่ มประชมุ เพื่อรับฟังแนวปฏิบตั ใิ นการดาเนินการสอบแขง่ ขัน และคดั เลือกบุคคลเพือ่ บรรจุและแตง่ ต้ังเขา้ รบั ราชการเป็นข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครู ผู้ช่วยสังกดั สานกั งานกศน. ๗. สานกั งานกศน.จงั หวดั ดาเนินการรบั สมคั รและตรวจสอบคุณสมบัตผิ สู้ มัครสอบคัดเลือก บคุ คลเพื่อบรรจุและแตง่ ตั้งเข้ารับราชการเป็นขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ยสังกดั สานกั งานกศน. ๘. สานักงานกศน.จงั หวัดรวบรวมใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานสง่ ใหส้ านักงานกศน. ๙. สานกั งานกศน. ดาเนนิ การรบั สมคั รและตรวจสอบคณุ สมบัติผูส้ มัครสอบแขง่ ขนั เพ่ือบรรจุ และแต่งตั้งเขา้ รับราชการเปน็ ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครูผชู้ ่วยสังกดั สานกั งานกศน. ๑๐. ดาเนนิ การประกาศรายชอ่ื ผู้มสี ิทธิสอบข้อเขยี นท้ังประเภทการสอบแขง่ ขนั และคัดเลือก เพื่อบรรจุและแตง่ ตัง้ เข้ารบั ราชการเปน็ ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครผู ู้ช่วยสังกดั สานกั งานกศน. ๑๑. ดาเนินการจดั สอบดงั นี้

๒๙ -จัดเตรยี มข้อมลู เอกสารเพื่อใชใ้ นการจัดสอบ -ประสานงานใชส้ ถานที่เพ่ือดาเนินการออกขอ้ สอบและสถานท่ีสอบ -แตง่ ตัง้ คณะกรรมการดาเนินการจัดสอบแขง่ ขันและคัดเลือกเพ่อื บรรจแุ ละแต่งตงั้ เข้ารับ ราชการเปน็ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครูผู้ช่วยสังกดั สานักงานกศน. - ดาเนินการออกขอ้ สอบและจัดพมิ พข์ ้อสอบทั้งประเภทการสอบแขง่ ขันและคัดเลอื กเพือ่ บรรจุ และแต่งต้ังเขา้ รบั ราชการเปน็ ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครผู ู้ช่วยสงั กดั สานกั งานกศน. -ดาเนนิ การจดั สอบขอ้ เขียนท้ังประเภทการสอบแข่งขันและคดั เลอื กเพ่ือบรรจุและแตง่ ตง้ั เข้ารบั ราชการเป็นข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วยสงั กัดสานักงานกศน. ๑๒. ประมวลผลการสอบขอ้ เขียนและดาเนนิ การประกาศรายชอ่ื ผผู้ ่านการสอบขอ้ เขียนทงั้ ประเภทการสอบแข่งขนั และคดั เลอื กเพื่อบรรจุและแตง่ ตัง้ เข้ารับราชการเปน็ ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการ ศึกษาตาแหน่งครผู ูช้ ่วยสงั กดั สานกั งานกศน. ๑๓. ดาเนินการสอบสัมภาษณท์ ง้ั ประเภทการสอบแข่งขันและคัดเลือกเพ่ือบรรจุและแต่งตัง้ เขา้ รบั ราชการเปน็ ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาตาแหน่งครูผ้ชู ่วยสงั กัดสานกั งานกศน. ๑๔. ประมวลผลการสอบท้ังประเภทการสอบแข่งขันและคัดเลอื กเพอ่ื บรรจุและแต่งตง้ั เข้ารับ ราชการเปน็ ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาตาแหน่งครูผ้ชู ว่ ยสังกดั สานักงานกศน. ๑๕. ประกาศขน้ึ บญั ชีผสู้ อบสอบแข่งขนั เพ่อื บรรจุและแตง่ ต้ังเข้ารับราชการเปน็ ขา้ ราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ยสงั กัดสานกั งานกศน. และประกาศผลการคัดเลอื กเพ่ือบรรจุและ แต่งตัง้ เข้ารบั ราชการเปน็ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ยสังกัดสานกั งานกศน. ๑๖. ดาเนินการเรียกตัวผสู้ อบแขง่ ขันได้และผ้ไู ด้รบั การคดั เลอื กมารายงานตัวเพ่ือบรรจแุ ละ แตง่ ตัง้ เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วยสงั กัดสานกั งานกศน. ๑๗. ดาเนนิ การบรรจุและแตง่ ต้ังผสู้ อบแข่งขนั ไดแ้ ละผู้ได้รบั การคัดเลือกมารายงานตวั เพื่อ บรรจุและแต่งต้ังเข้ารับราชการเปน็ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาตาแหน่งครูผู้ชว่ ยสงั กัด สานักงานกศน. -สานกั งานกศน.จงั หวัด/สถานศกึ ษาขึ้นตรงแจ้งสานักงานกศน. เมื่อไดร้ บั รายงานตวั ผู้ สอบแข่งขันได้และผู้ไดร้ บั การคัดเลือกมารายงานตวั เพ่อื บรรจุและแตง่ ตั้งเข้ารบั ราชการเปน็ ขา้ ราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ครูผชู้ ่วยสังกดั สานักงานกศน. - สานักงานกศน.ดาเนินการจัดทาคาสั่งบรรจแุ ละแตง่ ต้ังผู้สอบแข่งขันได้และผู้ไดร้ ับการ คดั เลอื กมารายงานตัวเพอื่ บรรจุและแตง่ ตั้งเขา้ รับราชการเปน็ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตาแหน่งครู ผชู้ ว่ ยสงั กัดสานักงานกศน. ดา้ นที่๑การพฒั นาครกู ศน.และบคุ ลากรทีเ่ กย่ี วข้องกับการจดั กิจกรรมการศึกษาและเรยี นรู้:Good Teacher ข้อที่ ๑.๒ เรื่องการพฒั นาครแู ละบุคลากร แนวทางในการขบั เคลอื่ น ๑. ดาเนินการพฒั นาครูกศน.ตาบลเพื่อใหส้ ามารถปฏิบตั ิงานได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพโดยเนน้ เรอื่ งการพฒั นาทักษะการจดั การเรียนการสอนออนไลนท์ ักษะภาษาต่างประเทศทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้ ๒. ดาเนินการพฒั นาศึกษานิเทศก์ให้สามารถปฏิบัติการนเิ ทศได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ๓. ดาเนินการพฒั นาบุคลากรกศน.ทุกระดับทกุ ประเภทให้มีทักษะความรเู้ รอื่ งการใช้ ประโยชน์จากดจิ ิทลั และภาษาตา่ งประเทศทจี่ าเป็น ขน้ั ตอนการดาเนินการขับเคลอื่ น ๑. กลุ่มการเจ้าหนา้ ทดี่ าเนินการประสานงานกับกลมุ่ แผนงานจดั ทาแนวทางการขับเคล่ือนใน

๓๐ การพฒั นาครูกศน.ตาบลใหม้ ีความรู้ความเข้าใจในการจัดการเรยี นการสอนออนไลน์ ๑.๑ ดาเนนิ การขออนมุ ัติงบประมาณในการพัฒนาครูกศน.ตาบลให้ทักษะการจัดการเรียน การสอนออนไลน์ ๑.๒ ดาเนนิ การจัดทากรอบแนวทางเพ่ือจัดทาเป็นคูม่ ือการขับเคลอื่ นการดาเนนิ งาน ๑.๓ ดาเนินการแต่งตง้ั คณะกรรมการดาเนนิ การขับเคลอื่ นการพฒั นาครกู ศน.ตาบลให้มี ความรู้ความเข้าใจในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ๑.๔ ดาเนนิ การจดั ประชุมชแี้ จงรายละเอียดการขบั เคลอื่ นการดาเนนิ งานพฒั นาครูกศน.ตาบล ๑.๕ ดาเนินการพฒั นาครูกศน.ตาบล ๑.๖ จัดทารายงานผลการพฒั นา ๒. กลุม่ การเจ้าหน้าท่ดี าเนินการประสานงานกับกลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศยั จดั ทาแนวทางการขบั เคล่ือนในการพัฒนาครกู ศน.ตาบลให้มีทักษะภาษาตา่ งประเทศและ ทกั ษะการจดั กระบวนการเรียนรู้ ๒.๑ ดาเนินการขออนุมตั งิ บประมาณในการพฒั นาครูกศน.ตาบลให้มีทักษะภาษาตา่ งประเทศ และทักษะการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ๒.๒ ดาเนินการปรับปรุงและทบทวนหลกั สูตรเน้ือหากระบวนการเรียนรเู้ พ่อื สรา้ งทกั ษะ พ้ืนฐานท่ีจาเปน็ ๒.๓ ดาเนนิ การแต่งตั้งคณะกรรมการดาเนนิ การขับเคล่อื นการพฒั นาครกู ศน.ตาบลให้มี ความรู้ความเข้าใจในการจดั กระบวนการเรยี นรดู้ า้ นการส่อื สารภาษาตา่ งประเทศหรือภาษาท้องถน่ิ ที่มชี ายแดน ติดต่อกับประเทศไทย ๒.๔ ดาเนนิ การพฒั นาครูกศน.ตาบลในด้านภาษาต่างประเทศเพื่อส่งเสริมสนับสนุนใน กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ๒.๕ จัดทารายงานผลการพัฒนา ๓. กล่มุ การเจ้าหนา้ ทด่ี าเนนิ การจดั ทาหลกั สตู รหลักเกณฑ์และวิธกี ารรวมทั้งขออนุมัติ จัดสรรงบประมาณสนบั สนุนการพัฒนาบุคลากรทุกระดบั ทกุ ประเภทให้มีความรเู้ รื่องการใช้ประโยชนจ์ ากดจิ ทิ ัล และภาษาต่างประเทศท่ีจาเป็นโดยเป็นการดาเนินงานรว่ มกบั สถาบันกศน.ภาค ๓.๑ ประสานสถาบนั กศน.ภาคร่วมกันดาเนนิ การจัดทาหลักสูตรและคู่มอื การพฒั นา บุคลากรทุกระดบั ทกุ ประเภท ๓.๒ แต่งตั้งคณะกรรมการดาเนินการขับเคลอื่ นการพัฒนาบุคลากร ๓.๓ ประชมุ ชแี้ จงแนวทางการดาเนนิ งาน ๓.๔ มอบหมายสถาบันกศน.ภาคเป็นหนว่ ยในการจัดการพัฒนา ๓.๕ ดาเนนิ การพฒั นาหลกั สูตรที่เหมาะสม ๓.๖ รายงานผลการดาเนินงานให้สานักงานกศน. (กลุ่มการเจา้ หนา้ ที่) ทราบ การพัฒนาศกึ ษานิเทศกเ์ พอื่ ขับเคลื่อนกศน. สกู่ ศน. Wow ประจาปงี บประมาณพ.ศ. ๒๕๖๓ แนวทางในการขับเคล่อื น ดาเนนิ การพฒั นาศกึ ษานเิ ทศก์รองผู้อานวยการสานกั งานกศน.จังหวดั หรือผทู้ ที่ าหนา้ ทีน่ ิเทศ ของสานักงานกศน.จังหวดั ในจงั หวัดทไ่ี มม่ ีศึกษานิเทศกใ์ ห้สามารถปฏิบัติการนิเทศไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ข้นั ตอนการดาเนนิ การขับเคล่อื น กลุ่มการเจ้าหนา้ ท่ีดาเนนิ การประสานงานกบั หนว่ ยศึกษานิเทศก์จัดทาแนวทางการขับเคลื่อน

๓๑ ในการพฒั นาศึกษานเิ ทศก์ให้มีความรู้ความเข้าใจในการนิเทศการขบั เคล่ือนกศน. สู่กศน. Wow ๑.๑ ดาเนินการขออนมุ ัติงบประมาณในการพฒั นาศึกษานิเทศก์ใหส้ ามารถปฏบิ ตั ิการนิเทศ ๑.๒ ดาเนนิ การจดั ทากรอบแนวทางเพื่อจดั ทาเปน็ คมู่ ือการขับเคล่อื นการดาเนินงาน ๑.๓ ดาเนินการแต่งตง้ั คณะกรรมการดาเนินการขบั เคลือ่ นการพฒั นาศึกษานิเทศกใ์ หม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจกิจกรรมกศน. สู่กศน. Wow ๑.๔ ดาเนนิ การจดั ประชุมชีแ้ จงรายละเอยี ดการขบั เคล่ือนการดาเนินงานพฒั นาศึกษานิเทศก์ ๑.๕ ดาเนินการพัฒนาศึกษานเิ ทศก์ ๑.๖ ศกึ ษานเิ ทศกไ์ ดร้ ายงานผลการพฒั นากิจกรรมในพน้ื ท่ีรวบรวมปญั หาอปุ สรรคแนว ทางการแก้ไขปญั หา ๑.๗ สรุปผลการพัฒนา ดา้ นที่ ๒ การพฒั นาหน่วยงาน/สถานศกึ ษาใหม้ ีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมท่เี อื้อต่อการเรยี นรู้ : Good Place – Best Check in ขอ้ ที่ ๒.๑ เร่ืองเรง่ ยกระดบั กศน. ตาบล ๙๒๘ แห่ง (อาเภอละ ๑ แหง่ ) เปน็ กศน. ตาบล ๕ ดพี รเี ม่ียม แนวทางการขบั เคลื่อนระดับหน่วยงาน/สถานศกึ ษา การเร่งยกระดบั กศน. ตาบล ๙๒๘ แห่ง (อาเภอละ ๑ แห่ง) ใหเ้ ปน็ กศน. ตาบลต้นแบบ ๕ ดี พรีเมี่ยมมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกศน. ตาบลต้นแบบให้เป็นต้นแบบในการพัฒนากศน. ตาบล/แขวงให้มี ประสิทธิภาพอันเป็นประโยชน์ต่อการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในชุมชนและเป็น แนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงกศน. ตาบล/แขวงให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมุ่ง สง่ เสริมและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในชุมชนให้เกิดการศึกษาตลอดชีวติ ได้อย่างแท้จรงิ โดยกศน. ตาบลต้นแบบจะต้องนารปู แบบการบรหิ ารจัดการมาประยุกต์ใช้ให้เกิดผลเชิงประจักษ์ประชาชนในชุมชนเกิดการ เรียนรแู้ ละการศกึ ษาตลอดชวี ิตตามองค์ประกอบทั้ง ๕ ดา้ นท่ีกาหนดไว้ได้แก่ ๑. การพัฒนาครกู ศน. และบุคลากรทเี่ กีย่ วข้องกบั การจดั กิจกรรมการศกึ ษาและเรยี นรู้ (Good Teacher) ๒. การพฒั นากศน.ตาบลให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมท่เี อ้ือต่อการเรยี นรู้(Good Place Best Check-In) ๓. ส่งเสรมิ การจดั กิจกรรมการเรยี นรูท้ ท่ี นั สมัยและมปี ระสิทธภิ าพภายในกศน.ตาบล/แขวง (Good Activities) ๔. เสริมสรา้ งและให้ความรว่ มมือกับภาคเี ครือข่าย (Good Partnership) ๕. การนาเทคโนโลยีดิจิทลั นวตั กรรมเข้ามาบูรณาการปรบั ปรุงพฒั นาและประยุกต์ใชต้ อ่ การจดั การศึกษาและกลมุ่ เป้าหมาย (Good Innovation) ทง้ั นกี้ ศน.ตาบลทีย่ กระดบั ใหเ้ ปน็ กศน. ตาบลตน้ แบบจานวน ๙๒๘ แห่ง (อาเภอละ ๑ แห่ง) จะได้รับงบประมาณสนับสนุนเพ่ิมเติม (Top up) เพ่ือนาไปพัฒนาและปรับปรุงกศน.ตาบลให้สอดคล้องกับ แนวทางและหลกั เกณฑท์ ่สี านกั งานกศน. กาหนดหลังจากนน้ั จะมีการประเมนิ และคดั เลือกกศน.ตาบลต้นแบบเพ่ือ เปน็ ตัวแทนกศน.ตาบลต้นแบบจากหนว่ ยงานระดบั เหนอื ขึน้ ไปต้ังแต่ระดบั จงั หวัดระดับกลุ่มสานักงานกศน.จังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศเพ่ือคัดเลือกเป็นต้นแบบระดับจังหวัดต้นแบบระดับกลุ่มจังหวัดต้นแบ บระดับภาค และต้นแบบระดบั ประเทศ ข้นั ตอนการดาเนินการขบั เคล่ือนกจิ กรรม ๑. กาหนดกรอบแนวทางและหลักเกณฑ์เพ่ือจดั ทาเปน็ คู่มือการขับเคล่ือนการดาเนินงาน “กศน. ตาบลตน้ แบบ ๕ ดพี รีเมยี่ ม”

๓๒ ๒. จดั ประชมุ ชี้แจงรายละเอียดการขับเคลอื่ นดาเนินงาน “กศน. ตาบลตน้ แบบ ๕ ดพี รีเมยี่ ม” เพือ่ สรา้ งการรบั รู้และสามารถนาไปใช้เป็นฐานข้อมลู ในการคดั เลือก “กศน. ตาบลตน้ แบบ ๕ ดพี รเี มี่ยม” จาก ระดบั ตาบลเป็นตัวแทนระดบั อาเภอ/เขตของตนเองจานวน ๑ แหง่ ๓. กศน. อาเภอ/เขตคดั เลอื ก “กศน. ตาบลตน้ แบบ ๕ ดีพรีเมยี่ ม” ระดับอาเภอ/เขตท่มี ี ความพร้อมและมศี ักยภาพตามองค์ประกอบทีก่ าหนดไว้อย่างละ ๑ แห่ง/อาเภอเพื่อเข้ารับการพฒั นาและจดั สง่ ข้อมลู ดังกลา่ วใหส้ านักงานกศน. จงั หวัด/กทม. ทราบ ๔. สานักงานกศน.จังหวัด/กทม. รวบรวมรายชอื่ กศน.ตาบลต้นแบบจากกศน.อาเภอ/เขต ในสังกดั ของตนเองแจ้งใหส้ านักงานกศน. ทราบเพ่ือดาเนินการจดั สรรงบประมาณให้กศน. ตาบลตน้ แบบต่อไป ๕. โอนจดั สรรงบประมาณสนับสนุนเพมิ่ เติม (Top up) ใหก้ ศน. ตาบลต้นแบบที่ไดร้ บั การ คัดเลอื กในระดบั อาเภอนาไปพัฒนาและปรับปรงุ ใหต้ รงกบั แนวทางฯและหลักเกณฑท์ ส่ี านักงานกศน. กาหนด ๖. จดั ทาเกณฑ์ประเมนิ “กศน. ตาบลตน้ แบบ ๕ ดีพรีเม่ยี ม” ๗. กศน. อาเภอ/เขตดาเนินการนเิ ทศกากบั ติดตามกศน.ตาบลตน้ แบบในระดบั พ้ืนท่ีตนเอง อย่างสม่าเสมอ ๘. กศน.ตาบลต้นแบบจดั ทาเอกสาร “รายงานผลการขบั เคล่ือนกศน. ตาบลสกู่ ศน.ตาบล ต้นแบบ ๕ ดพี รเี มย่ี ม” และจัดส่งให้กศน.อาเภอ/เขตของตนเองเพือ่ เข้ารบั การประเมินและคัดเลอื กจาก คณะกรรมการระดับจังหวัด/กทม. เพือ่ เป็นตัวแทนระดับจังหวัด ๙. จัดการประกวด “กศน. ตาบลต้นแบบ ๕ ดีพรเี ม่ยี ม” ระดบั จงั หวดั ระดบั กลมุ่ จังหวดั ระดับภาคและระดับประเทศ ๑๐. สานักงานกศน. จัดงานเผยแพรแ่ ละถอดรปู แบบ “กศน. ตาบลตน้ แบบ ๕ ดพี รเี ม่ยี ม” ดีเด่นระดบั ประเทศสรุปผลการดาเนินงาน ดา้ นที่ ๒ การพฒั นาหน่วยงาน/สถานศกึ ษาให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมทีเ่ อื้อต่อการเรียนรู้ : Good Place -Best Check In ข้อที่ ๒.๒ เรื่องจดั ใหม้ ีศูนยก์ ารเรยี นร้ตู ้นแบบกศน. ใน ๕ ภมู ภิ าคเปน็ Co-learning space แนวทางการขับเคลื่อน เพ่ือใหเ้ ปน็ ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ท่ีมีความทันสมัยประกอบด้วยส่อื และเทคโนโลยสี ารสนเทศสาหรับ การศึกษาค้นควา้ ข้อมูลสือ่ Multimedia เพื่อความรู้และความบนั เทงิ ห้องกิจกรรม (Activities) สาหรับการทางาน หรือประชุมรวมท้ังบริการดา้ นอาหารเคร่อื งดม่ื (Café Wi-Fi) และบริการอ่ืนที่เก่ียวข้องเสริมสรา้ งและสนบั สนุนให้ เด็กนักเรียนนักศึกษาประชาชนทั่วไปและผู้สูงอายุได้ยกระดับการเรียนรู้พัฒนาความสามารถของตนเองอย่าง สร้างสรรค์รองรับการเรียนรู้แบบ Active Learning และเป็น “ศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ(Co – Learning Space)” เพ่ือปลูกฝังและส่งเสริมนิสัยรักการอ่านการเรียนรู้ผ่านกระบวนการจัดกิจกรรมเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศเช่ือมโยงเครือขา่ ยกระจายความรู้ในลักษณะศนู ย์รวมส่ือและข้อมูลท่ีสะดวกในการเขา้ ถึงเพ่ือ เป็นประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพของเด็กนักเรียนนักศึกษาประชาชนทั่วไปและผู้สูงอายุให้ สอดคล้องกับบรบิ ทของแต่ละทอ้ งถ่ินพืน้ ท่ขี องศนู ย์การเรยี นรู้ตน้ แบบประกอบด้วย ๑. โซนทางานหรอื ประชุม (Co - working zone) ๒. โซนสง่ เสรมิ การอ่านคน้ คว้าข้อมลู สื่อ (Learning zone) ๓. ห้องคอมพวิ เตอร์ศนู ย์ภาษาหอ้ งชมภาพยนตร์ (Multimedia zone and Language Center) ๕. รา้ นกาแฟ (Coffee shop) ๖. โซนกจิ กรรม (Activities zone)

๓๓ ๗. โซนผ่อนคลาย (Relax zone) ขัน้ ตอนการดาเนนิ งาน ๑. กาหนดกรอบแนวทางและหลักเกณฑเ์ พ่ือจัดทาคมู่ ือการขบั เคล่อื นการดาเนนิ งานศูนย์ เรยี นร้ตู น้ แบบกศน. ใน ๕ ภมู ภิ าคเปน็ Co – Learning Space ๒. จัดประชมุ ชีแ้ จงรายละเอียดการขบั เคล่ือนดาเนินงานศนู ย์เรียนรู้ต้นแบบกศน. ใน ๕ ภมู ภิ าคเปน็ Co – Learning Space ๓. สานักงานกศน.จงั หวดั สารวจพนื้ ท่ีทมี่ ีความพร้อมตามแนวทางทีก่ าหนดและจดั ส่งขอ้ มูล ดงั กล่าวให้สานักงานกศน. ทราบ ๔. โอนจัดสรรงบประมาณให้สานกั งานกศน.จงั หวัดนาไปพัฒนาและปรับปรุงใหต้ รงกบั แนวทางฯ ๕. สานักงานกศน. ดาเนินการนเิ ทศกากบั ตดิ ตามและสรปุ ผลการดาเนินงานศูนยเ์ รยี นรู้ ต้นแบบกศน. ใน ๕ ภมู ภิ าคเป็น Co – Learning Space ด้านท่ี ๒ การพฒั นาหน่วยงาน/สถานศึกษาใหม้ ีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมท่เี อ้ือต่อการเรยี นรู้ : Good Place – Best Check in ขอ้ ท่ี ๒.๓ เร่ืองพัฒนาหอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมารี” ใหเ้ ป็น Digital Library แนวทางการขับเคล่ือน ๓.๑ กาหนดกรอบแนวทางและหลักเกณฑ์เพอื่ จัดทาเป็นแนวทางการขบั เคลอ่ื นการดาเนินงาน ๓.๒ จดั ประชุมช้ีแจงรายละเอียดการขบั เคลื่อนการดาเนินงานเพ่ือสรา้ งการรบั รู้รว่ มกนั ๓.๓ สานักงานกศน. โอนจัดสรรเงนิ งบประมาณสนบั สนุนการพฒั นาหอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” ให้เปน็ หอ้ งสมุด Digital Library จานวน ๑๐๔ แหง่ ๓.๔ สานักงานกศน.จังหวดั / สานกั งานกศน.อาเภอ (ท่ีเก่ียวข้อง) และสถาบนั การศกึ ษาและ พัฒนาต่อเน่ืองสิรินธรดาเนินการพัฒนาห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” ในพ้ืนที่ให้เป็นห้องสมุด Digital Library โดยดาเนินการดงั น้ี หัวข้อ องค์ประกอบ ๑ พฒั นาอาคารสถานท่ีให้มีบรรยากาศท่เี อื้อ -จัดหอ้ งประชุมกล่มุ ย่อย ต่อการอ่านและการเรยี นรเู้ ป็น Good Place – Best -จดั หอ้ งแลกเปลี่ยนเรยี นรู้กิจกรรมสง่ เสรมิ การอา่ น Check in และการเรยี นรตู้ ามอธั ยาศยั -แบง่ พนื้ ทีเ่ รียนรู้ใหเ้ ปน็ สดั สว่ นสงบสะดวกสะอาด ปลอดภัยและสะดดุ ตา -จดั หาสิ่งอานวยความสะดวกทหี่ ลากหลายท่ีเอื้อต่อ การอ่านและการเรยี นรู้ฯลฯ หวั ข้อ องคป์ ระกอบ ๒ จัดมมุ เรียนรดู้ ้วยเทคโนโลยี -ตดิ ตัง้ เครือขา่ ยอินเทอร์เน็ตหรอื สญั ญาณ Wi-Fi ที่ เสถยี ร -จดั หาคอมพิวเตอร์ท่ีทันสมยั รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ -จัดหา Smart TV เพ่ือรองรับการเชื่อมต่อออนไลน์ ตา่ งๆ

๓๔ ๓ จัดหาหนังสือและส่อื การเรียนรู้เพมิ่ เติม -เพม่ิ สื่อการเรียนรู้ดจิ ิทัลเชน่ e-book หนังสอื AR -เปน็ จุดที่ผู้ใช้บริการสามารถเรียนรู้และได้รบั ๔ ประสานความร่วมมือกบั ภาคเี ครือขา่ ยทั้ง ประโยชน์สงู สุดจากการเข้ามาใช้บริการ ภาครัฐและเอกชน -จดั ทารหสั คิวอาร์ (QR Code) เพอ่ื ใช้ในการศกึ ษา และเรยี นรขู้ ้อมลู ต่างๆฯลฯ ๕ พัฒนาบุคลากร ๖ การประชาสัมพันธ์ -ส่ือหนังสอื และส่ือมัลตมิ ีเดยี ใหม่และทันสมยั -จัดทาคลงั ความร้ดู ิจิทัล -จัดทารหสั ควิ อาร์ (QR Code) เพอ่ื สะดวกใน การศึกษาและเรียนรู้ เพ่อื เป็นอาสาสมัครรว่ มจดั ส่งเสริมและสนับสนนุ การ จดั กิจกรรมส่งเสรมิ การอ่านและการเรยี นรทู้ งั้ ระบบ ออฟไลน์และออนไลนเ์ ช่นกจิ กรรมการเรียนรดู้ ้าน ภาษากิจกรรมการเรียนร้ดู า้ นอาชีพกจิ กรรมการ เรยี นรูอ้ อนไลนต์ ่างๆฯลฯ ใหม้ ีความรดู้ ้านเทคโนโลยแี ละการจดั กจิ กรรม สง่ เสรมิ การอ่านและการเรียนรู้ ในรปู แบบตา่ งๆเชน่ แผ่นพบั ใบปลิวนิทรรศการ เคล่ือนทรี่ ายงานผา่ นเวป็ ไซต์/เอกสารฯลฯ ด้านท่ี ๒ การพัฒนาหนว่ ยงาน/สถานศกึ ษาใหม้ ีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมท่เี อื้อต่อการเรียนรู้ : Good Place – Best Check In ขอ้ ที่ ๒.๔ เร่ืองการปรับปรงุ รถการอ่านเคลอ่ื นท่ี แนวทางการขบั เคลอ่ื นระดับหนว่ ยงาน / สถานศึกษา ระดบั หน่วยงาน ๑. ดำเนนิ การสารวจข้อมลู เร่งดว่ นเกย่ี วกับประเภทรถ/จานวนรถการอา่ นเคลอ่ื นที่/จานวน งบประมาณทีต่ ้องใชใ้ นการปรับปรุงรถการอ่านเคล่ือนทีแ่ ละปญั หา/ความต้องการ/ขอ้ เสนอแนะทีเ่ กยี่ วข้องในการ จัดใหบ้ รกิ ารรถการอ่านเคล่ือนที่ ๒. ขออนมุ ตั ิงบประมาณและดาเนินการจดั สรรงบประมาณตามท่ไี ด้รับจรงิ ตามความ เหมาะสม ๓. สานักงานกศน. กทม./จังหวัดทกุ แหง่ ท่ีได้รบั งบประมาณ (ตามข้อ ๒) ดาเนินการปรับปรุง “รถการอา่ นเคลื่อนท”่ี ๔. สานกั งานกศน. กทม./จงั หวดั ทุกแหง่ สามารถจดั ทาแผนให้บรกิ ารสง่ เสริมการอา่ นโดย “รถการอ่านเคลื่อนที่” ในพ้ืนท่ีต่างๆได้หลากหลายครอบคลุมพ้ืนที่และกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นอย่างมีคุณภาพและ ประสิทธิภาพ ด้านท่ี ๓ การสง่ เสรมิ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ท่ที ันสมัยและมีประสิทธิภาพ : Good Activities ขอ้ ท่ี ๓.๑ เร่อื งพัฒนาการจัดการศกึ ษาออนไลนก์ ศน. แนวทางการขบั เคลอ่ื นระดับหน่วยงาน/สถานศึกษา ระยะท่ี ๑ พฒั นาระบบการจัดการศกึ ษาดว้ ยระบบออนไลน์ ๑. รูปแบบของระบบ

๓๕ ๑) พฒั นาระบบจัดการการเรียนการสอน (LMS : Learning Management System) ใหม้ ี คุณลกั ษณะ (features) และเครือ่ งมือ (Tools) ท่สี ามารถรองรบั การจัดการเรียนการสอนออนไลนไ์ ด้อย่างมี คุณภาพและประสทิ ธิภาพ ๒) พัฒนาระบบนาสง่ การเรียนการสอน (Delivery System) ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ระบบ (System software) ให้มีความคณุ ลักษณะ (features) ทสี่ ามารถรองรับการจดั การเรียนการสอนออนไลนไ์ ด้ อย่างมีคณุ ภาพและประสทิ ธิภาพ ๓) พัฒนาระบบซอฟทแ์ วรแ์ ละจัดหาอปุ กรณ์ที่เก่ยี วข้อง ๒. องค์ประกอบของ LMS ประกอบด้วย ๕ สว่ นดงั น้ี ๑) ระบบจัดการหลักสตู ร (Course Management) กลุม่ ผูใ้ ชง้ านแบ่งเปน็ ๓ ระดบั คือผูเ้ รียน ผสู้ อนและผูบ้ รหิ ารระบบโดยสามารถเข้าสูร่ ะบบจากที่ไหนเวลาใดก็ไดโ้ ดยผา่ นเครือข่ายอนิ เตอร์เน็ตระบบสามารถ รองรบั จานวน user และจานวนบทเรยี นได้ไมจ่ ากัดโดยขึ้นอยู่กบั hardware/software ท่ีใชแ้ ละระบบสามารถ รองรบั การใชง้ านภาษาไทยอยา่ งเตม็ รปู แบบ ๒) ระบบการสรา้ งบทเรยี น (Content Management) ระบบประกอบดว้ ยเคร่ืองมือในการ ชว่ ยสร้าง Content ระบบสามารถใชง้ านได้ดที งั้ กบั บทเรียนในรูป Text - based และบทเรยี นในรูปแบบ Streaming Media ๓) ระบบการทดสอบและประเมินผล (Test and Evaluation System) มรี ะบบคลังข้อสอบ โดยเปน็ ระบบการสุม่ ขอ้ สอบสามารถจบั เวลาการทาข้อสอบและการตรวจข้อสอบอตั โนมตั พิ ร้อมเฉลยรายงานสถติ ิ คะแนนและสถติ ิการเขา้ เรียนของนักเรยี น ๔) ระบบสง่ เสริมการเรียน (Course Tools) ประกอบด้วยเครือ่ งมือต่างๆทีใ่ ชส้ ื่อสารระหวา่ ง ผ้เู รยี น -ผู้สอนและผ้เู รียน -ผ้เู รียนไดแ้ ก่ Web board, Chat room, Google Classroom ฯลฯโดยสามารถเกบ็ ประวัติของข้อมลู เหลา่ นไ้ี ด้ ๕) ระบบจัดการขอ้ มูล (Data Management System) ประกอบด้วยระบบจดั การไฟล์และ โฟลเดอร์ผ้สู อนมเี นื้อทเี่ กบ็ ข้อมูลบทเรยี นเป็นของตนเองโดยได้เน้ือทตี่ ามที่ Admin กาหนดให้การศึกษาต้องไม่ยดึ ติดกบั รูปแบบเดียวควรนาสว่ นดีของรูปแบบการศกึ ษาอืน่ ๆนามาใช้ ๓. กาหนดกรอบทิศทางการพฒั นาการจัดการศึกษาออนไลน์กศน. ๑) การศึกษาต้องไม่ยึดตดิ กบั รูปแบบเดยี วเปน็ การนาส่วนดีของรูปแบบการศึกษาท้ังการศกึ ษา ในระบบนอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยนามาใช้เน้นการเรียนแบบ Active Learning ๒) ปรบั เปล่ียนจากการเน้นการสอนมาเปน็ เน้นการเรียนรู้ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นเปน็ ผสู้ รา้ งความรู้ หรือร่วมกนั สรา้ งองค์ความรู้ ๓) เน้นการเรยี นรูด้ ว้ ยตนเองโดยครูเปลยี่ นบทบาทเป็นผู้นาพากระบวนการเรียนรู้ (Facilitator) ๔) ประยุกต์ใช้การจดั การศึกษาออนไลนใ์ ห้เปน็ ส่วนหนงึ่ ของระบบการจดั การศึกษาเพอื่ เป็น ชอ่ งทางไปสูม่ วลของความรูใ้ นโลกกว้างเพ่ือสง่ เสริมสนบั สนุนใหผ้ ู้เรียนเปน็ ผู้แสวงหาความรู้ไม่ใชผ่ ู้รบั ความรู้ ๕) การวัดผลการเรยี นรู้ควรวดั ผลในรปู ของแฟ้มสะสมผลงานวัดความสามารถของความรู้ และพฒั นาการท่เี พ่มิ ขึน้ ฯลฯ ระยะที่ ๒ พัฒนา E-Folio (แฟ้มประวตั ิออนไลน์) บทบาทส่วนกลาง ๑) ข้อมูลบุคคลสว่ นหน่งึ สามารถดงึ ข้อมูลบัตรประชาชนจากโปรแกรม itw๕๑ จากขอ้ มูล การศึกษาที่ลงทะเบียนในระบบอ่ืนๆเช่นช่อื – นามสกุลเลขทบ่ี ัตรประชาชนครอบครวั

๓๖ ๒) ข้อมลู การศึกษาระหว่างเรียนดงึ จาก itw๕๑ สถานศกึ ษา ๓) ข้อมูลอื่นๆเชน่ ประวตั ิการพักงาน (ถา้ มี) ๔) พัฒนาระบบ E-Folio ๕) ประชุมชแ้ี จงอบรมสถานศึกษาในการนาภาพ E-Folio ไปใช้ ๖) ตดิ ตามผลการใช้ระบบ E-Folio สอื่ พฒั นาปรับปรงุ บทบาทจังหวัด ๑) ส่งเสริมสนบั สนนุ การใช้ภาพ E-Folio ๒) ติดตามการประเมนิ ผลการใช้ E-Folio บทบาทสถานศึกษา / กศน.ภาค / ศฝช. /ศว./ศกพ. ๑) นาระบบ E-Folio ไปใช้ ๒) พฒั นาบุคลากรการใช้ภาพ E-Folio ๓) แนะแนวผู้เรยี นในการใช้ E-Folio ระยะท่ี ๓ พฒั นาหลักเกณฑ์การจัดการศึกษารปู แบบออนไลน์ บทบาทส่วนกลาง ๑) ประชมุ พฒั นาร่างหลกั เกณฑ์การจัดการศึกษารูปแบบออนไลนบ์ รรณาธิการตรวจสอบ และขออนุมตั ปิ ระกาศใช้หลกั เกณฑ์ฯ ๒) ประชมุ ช้แี จงการนาเอกสารหลกั เกณฑก์ ารจัดการศึกษาออนไลนไ์ ปใช้ ๓) ตดิ ตามผลการนาเอกสารหลักเกณฑ์ไปใชเ้ พ่ือแก้ไขพฒั นาและปรบั ปรุงหลักเกณฑ์ให้ เหมาะสมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึน้ บทบาทสถานศึกษา/ภาค/ศฝช./ศว./ศกพ. ๑) พัฒนาบุคลากรในการนาหลักเกณฑ์การจัดการศึกษารปู แบบออนไลน์สูก่ ารปฏบิ ตั ิ ๒) แนะแนวปฐมนิเทศนักศึกษาที่สนใจเรียนแบบออนไลน์ บทบาทกศน.จงั หวัด ๑) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ การจดั การศึกษาออนไลน์ ๒) ติดตามผลและประเมนิ เพื่อปรับปรุงและพฒั นา ระยะที่ ๔ กระบวนการขับเคลื่อน Google Classroom และระบบการจัดการศึกษา ออนไลนใ์ หก้ ับหน่วยงาน/สถานศกึ ษาประกอบด้วย ๓ ขัน้ ตอน ขั้นตอนท่ี ๑ ข้นั เตรียมการ ๑) มอบหมายให้ครผู ้สู อนทาแผนการจัดกระบวนการเรยี นรู้รายสปั ดาหท์ ั้งภาคเรยี นโดย จาแนกเปน็ ระดบั การกาหนดระดับประถมม.ต้นม.ปลาย (ใบความรู้/ใบงาน/แบบทดสอบ/แบบฝกึ หัด) ๒) จดั พัฒนาบคุ ลากรที่เป็นผู้สอนโดยมเี น้ือหาการอบรมประกอบด้วย ๒.๑) ความสาคัญของ Google Classroom ๒.๒) Application ต่างๆทเี่ กี่ยวข้องกบั Google Classroom (ใชร้ ะยะเวลาการฝึกอบรม ๓-๕ วนั ) ข้ึนอยู่กับพน้ื ฐานของผ้เู ข้ารบั การอบรม ขนั้ ตอนที่ ๒ ข้นั ดาเนนิ การ ๑) ให้ผู้เรยี นสมคั ร g-mail เพ่ือขอใช้ Username / password ๒) ผู้ชแ้ี จงกระบวนการ/จัดทาคู่มอื การเรยี นออนไลน์ ๓) ผสู้ รา้ งห้องเรยี น Google Classroom ระดบั ตาบลโดยจาแนกเป็นระดบั การศกึ ษาซงึ่ ใน

๓๗ ห้องเรยี นประกอบดว้ ย ๓.๑) แผนการจดั กระบวนการเรยี นรรู้ ายสัปดาห์ ๑๘ สัปดาห์ ๓.๒) ส่อื ตา่ งๆทีม่ าจากการสร้างร่วมกันเชน่ เนอ้ื หาความรู้แตล่ ะวชิ าชิน้ งานของผูเ้ รยี น (ผู้บรหิ ารสามารถเข้าไปตรวจแผนการสอนผลงานฯลฯได้) ๓.๓) ในหอ้ งเรยี นผู้เรียนและครูสามารถส่อื สารสนทนาได้ท้ังการประกาศขา่ วเอกสาร ประชาสัมพันธ์การนัดหมายทากจิ กรรมตารางสอนฯลฯ ขนั้ ตอนที่ ๓ ข้ันตดิ ตามผลมีการตดิ ตาม ๒ รปู แบบ ๑) ตดิ ตามโดยบคุ คล (ผ้บู รหิ ารกลับจังหวดั อาเภอศึกษานิเทศก์) ๒) ลงสถานทีจ่ ริง ระยะที่ ๕ การทดสอบวัดผลและประเมินผล ๑. ประชุมเพอื่ กาหนดแนวทางหลกั เกณฑ์และวิธกี ารในการกาหนดรปู แบบการทดสอบ ออนไลน์ ๒. กาหนดวธิ กี ารวดั และประเมนิ ผลดว้ ยการทดสอบก่อนเรียนทดสอบระหว่างเรียนหรอื การ ประเมินรูปแบบอ่นื ๆ ๓. ประชมุ จดั ทาเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลใหส้ อดคล้องกบั การเรียนการสอนพร้อมกาหนด สดั ส่วนการวัดและประเมินผลผู้เรียนทงั้ การทดสอบระหวา่ งเรียนและการทดสอบหลงั เรยี นของเน้ือหาและ หลกั สูตรในภาพรวมเชน่ ๑) ระหวา่ งภาคกี่ % หลักเกณฑ์ ๒) มแี บบฝกึ หดั วัดหลัง-กอ่ นการเรยี น ๓) การประเมนิ โดยโครงงานชิ้นงาน ๔) สัดส่วนแบบทดสอบระหว่างภาคเป็นอัตนยั /ปรนัยคิดเป็นก่ี % ๕) ประชมุ พัฒนา แบบทดสอบกอ่ นเรยี นระหวา่ งเรียนและ/หรือปลายภาค ๔. กาหนดแนวทางในการติดตามกระบวนการเรยี นการสอนและแนวทางการขบั เคลอ่ื นการ ทดสอบวดั ผลและประเมนิ ผลระหว่างหนว่ ยงานทางการศึกษา ดา้ นท่ี ๓ การสง่ เสรมิ การจดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ที่ ันสมัยและมปี ระสทิ ธภิ าพ : Good Activities ขอ้ ที่ ๓.๒ เรอ่ื งจัดให้มหี ลักสูตรลูกเสือมคั คุเทศก์ แนวทางการขบั เคลื่อนระดับหน่วยงาน/สถานศึกษา ๓.๑ จัดดาเนินการอบรมโครงการลูกเสอื มัคคุเทศกใ์ ห้กบั นักศกึ ษากศน. เพ่ือชีแ้ จงทาความ เข้าใจให้ความรู้และฝึกปฏิบัติจริงเนื้อหาท่ีเกี่ยวข้องได้แก่ความรู้ด้านวิชาการเก่ียวกับประวัติศาสตร์ภูมิปัญญา ทอ้ งถ่ินหลกั การมัคคเุ ทศกก์ ารส่ือสารความรพู้ ้นื ฐานของพน้ื ที่และพืน้ ทใ่ี กล้เคยี ง ๓.๒ ผูผ้ ่านการอบรมจะได้รับวฒุ ิบัตรและสะสมหน่วยการเรยี นรู้สาหรับนาไปใชป้ ระกอบการมี ใบประกอบวชิ าชีพต่อไป ๓.๓ ผู้ผ่านการอบรมนาความรู้ทีไ่ ด้รบั เพอ่ื ฝกึ ปฏิบตั ิจริงแต่ตอ่ ยอดสู่การประกอบอาชพี มัคคเุ ทศก์ ด้านที่ ๓ การส่งเสรมิ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ทีท่ ันสมัยและมปี ระสทิ ธิภาพ : Good Activities ขอ้ ท่ี ๓.๓ เรื่องเร่งการปรบั หลักสูตรการศึกษาอาชพี กศน. แนวทางการขับเคลอ่ื นระดับหน่วยงาน/สถานศกึ ษา การดาเนนิ งานระยะที่ ๑ การทบทวนผลการดาเนนิ งานและการพฒั นาหลกั สตู รการศกึ ษา อาชีพกศน. ๑) การศึกษาข้อมูลผลการดาเนินงานและปญั หาอปุ สรรคจากการดาเนนิ งานทผี่ ่านมาและ ความตอ้ งการของสถานศกึ ษา

๓๘ ๒) กาหนดประเด็น / กรอบเพอ่ื การพัฒนาหลักสูตรการศึกษาอาชีพกศน. โดยวิเคราะห์ เชอื่ มโยงกันระหวา่ งหลักสตู รอาชีพเพอ่ื การมีงานทาและหลักสูตร OTOP Mini MBA กบั ข้อมูลจากผลการ ดาเนนิ งานและปัญหาอปุ สรรคจากการดาเนินงานทผ่ี ่านมาและความต้องการของสถานศึกษา ๓) ดาเนนิ การพัฒนาหลักสูตรการศึกษาอาชีพกศน. ซงึ่ ตอ้ งพฒั นาให้เป็นไปตามกรอบ โครงสรา้ งหลักสตู รดังนค้ี วามเป็นมาหลกั การของหลักสูตรจุดม่งุ หมายกลุ่มเป้าหมายโครงสรา้ งหลกั สตู รการจดั กระบวนการเรยี นรู้ส่ือการเรียนรู้การวดั และประเมนิ ผลการจบหลักสตู รเอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาการเทียบโอน ทัง้ น้ีสถานศึกษาสามารถพัฒนาหลักสตู รการศึกษาอาชพี กศน. เปน็ ของสถานเองได้ นอกเหนือจากที่สานกั งานกศน. กาหนดเพอื่ ให้สอดคลอ้ งกับสภาพบริบทและความต้องการของประชาชนในชุมชน ทอ้ งถน่ิ ๔) จัดทา/พฒั นาเปน็ คลงั หลกั สตู รการศกึ ษาอาชีพกศน. ๕) ดาเนินการจดั ทา/พฒั นาคู่มือการจัดการศึกษาตอ่ เน่ืองพร้อมท้งั ขออนมุ ัติใชค้ ู่มือฯ การดาเนินงานระยะท่ี ๒ การนาหลักสูตรการศึกษาอาชีพกศน. ไปใช้ในสถานศึกษา ๑) กาหนดแนวทางการสร้างความรูค้ วามเข้าใจให้แก่ผู้บริหารครูครผู สู้ อนบคุ ลากร วทิ ยากรและบุคลากรทีเ่ กยี่ วข้องเพ่ือให้มีศักยภาพในการนาหลักสตู รไปใช้ในพ้นื ท่ีซง่ึ อยา่ งนอ้ ยตอ้ งประกอบดว้ ย - รายละเอยี ดหลกั สตู ร - วธิ ีการจดั กระบวนการเรยี นรู้ - การใช้ส่อื /อปุ กรณ์เพ่ือการจัดการเรยี นรู้ - การวัดและการประเมนิ ผล - การจดั ทารายงานผลการประเมินผ้เู รยี น ๒) ดาเนนิ การเตรียมความพร้อมในดา้ นตา่ งๆเพื่อการจัดกจิ กรรมสรา้ งความรู้ความเขา้ ใจเชน่ วทิ ยากรสอ่ื ประกอบเป็นตน้ ๓) ดาเนนิ การจดั กิจกรรมสร้างความรูค้ วามเข้าใจให้แกผ่ ้บู ริหารครูครผู ู้สอนบุคลากร วทิ ยากรและบุคลากรท่ีเกี่ยวข้องเพื่อให้มีศักยภาพในการนาหลักสูตรไปใช้ในพ้นื ท่ี ๔) สถานศกึ ษาดาเนินการจดั กระบวนการเรยี นรตู้ ามหลักสูตรการศกึ ษาอาชีพกศน. โดยมี สถาบันกศน.ภาคสานกั งานกศน. จงั หวดั นิเทศกากับติดตามการดาเนินงานของสถานศึกษา ๕) สถานศกึ ษารายงานผลการจดั กระบวนการเรยี นรู้ตามหลักสตู รการศึกษาอาชีพกศน. ไปยงั สานกั งานกศน. การดาเนนิ งานระยะท่ี ๓ การตดิ ตามและประเมินผลการดาเนินงาน ๑) กาหนดแนวทาง / เครือ่ งมือเพ่ือใช้ในการกากบั ตดิ ตามและประเมินผล ๒) ดาเนินการตดิ ตามและประเมินผลการดาเนนิ งานทงั้ ระหวา่ งทจ่ี ัดกระบวนการเรยี นรู้และ หลงั การจดั กระบวนการเรียนรเู้ พอ่ื นาข้อมลู ไปใช้ในการพัฒนา/ปรับปรงุ หลกั สูตรและการดาเนนิ งานตอ่ ไป ๓) รวบรวมวิเคราะหแ์ ละสรปุ ผลการการติดตามและประเมินผลการดาเนนิ งานเพอื่ เสนอตอ่ สานักงานกศน. ด้านท่ี ๔ เสรมิ สร้างความร่วมมือกบั ภาคเี ครือข่าย : Good Partnerships ข้อท่ี ๔.๑ เรอื่ งจดั ทาทาเนยี บภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ ขอ้ ท่ี ๔.๒ เรื่องส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถ่ินสกู่ ารจดั การเรยี นรสู้ ูช่ มุ ชน ขอ้ ท่ี ๔.๓ เรื่องประสานความรว่ มมือกับภาคีเครอื ขา่ ย แนวทางการขบั เคลือ่ นระดับ สง่ เสรมิ ภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ สู่การ ประสานความร่วมมอื กับภาคี หน่วยงาน/สถานศึกษาจดั ทา จดั การเรียนรู้ส่ชู ุมชน เครอื ข่าย

๓๙ ทาเนียบภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ ๑) กศน. อาเภอ/เขตเกบ็ ข้อมูล ๑) พฒั นาภูมปิ ญั ญาเฉพาะผู้ท่ี ๑) สานกั งานกศน. จังหวัด/กทม. ดว้ ยเอกสารตาม “แบบบนั ทึกชุด ได้รบั การเชญิ มาเป็นวิทยา สนับสนนุ อานวยความสะดวก ข้อมลู คลงั ปญั ญา-ภูมปิ ญั ญา กรกศน. ใหม้ ีความรคู้ วามเข้าใจใน เพือ่ ใหเ้ กิดการสื่อสารสร้างความ ทอ้ งถน่ิ ” โดยมีเงอ่ื นไขวา่ ขอ้ มูลท่ี เรือ่ งกระบวนการถา่ ยทอดความรู้ เข้าใจกบั หัวหน้าส่วนราชการ จดั เกบ็ ต้องเป็นข้อมลู ปฐมภมู ิท่ีได้ และวธิ กี ารวัดผลให้เหมาะกับ ระดับจังหวดั เพื่อ “เชือ่ มโยงหนุน จากการสัมภาษณภ์ ูมปิ ญั ญา สภาพจรงิ เพื่อใหส้ ามารถจดั การ เสริมตอ่ ยอด” การขับเคล่ือนงาน ทอ้ งถิ่นโดยตรงจากครกู ศน. ใน เรยี นรใู้ นรูปแบบตา่ งๆได้อยา่ ง เชิงนโยบายแบบบรู ณาการระดับ อาเภอนั้นๆเทา่ น้ันไม่อนุญาตให้ เหมาะสมโดยให้กพ. กป. และศท. จงั หวดั ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจเปน็ ไปใน จัดเกบ็ ข้อมูลโดยวิธีการคดั ลอก รว่ มกันสร้างหลกั สตู รพฒั นาภูมิ ทิศทางเดียวกนั ทั้งจงั หวดั ข้อมลู จากแหล่งข้อมูลอนื่ ๆ ปัญญาแบบ Online ผ่าน ETV ๒) กศน. อาเภอ/เขตมีสว่ นร่วมใน ๒) สถาบันฯภาคบรรณาธกิ าร ๒) นาภมู ิปญั ญามาเป็นวิทยากร กลไกการขับเคลอื่ นการพัฒนา “ชดุ ข้อมูลคลังปัญญา-ภูมิปัญญา จัดการเรียนรตู้ ามหลักสูตร คณุ ภาพชีวิตของประชาชนใน ทอ้ งถิน่ ” ทเ่ี ก็บรวบรวมไดใ้ นภาค การศึกษาข้ันพน้ื ฐานการศึกษา ระดับอาเภอ/เขตเช่น น้นั ใหถ้ กู ต้องครบถ้วนสมบรู ณ์ ต่อเน่อื งและการศึกษาตาม คณะกรรมการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ก่อนบันทึกข้อมลู ใน “ระบบคลงั อธั ยาศัย ระดับอาเภอ (พชอ.)/ ปญั ญา” ที่ ๓) พฒั นาพื้นทข่ี องภูมปิ ัญญาให้ คณะกรรมการชุมชนระดับเขต https://thaisynergy.org/ เป็นแหล่งเรียนรู้ของชมุ ชน ๓) สานักงานกศน. จังหวดั /กทม. ๓) พฒั นาบุคลากรเร่ืองการบันทกึ ๔) จดั กจิ กรรมยกย่องเชิดชแู หลง่ กศน. อาเภอ/เขตออกแบบ ข้อมลู “ระบบคลังปัญญา” และ เรียนรใู้ หเ้ ปน็ ตวั อยา่ งหรือตน้ แบบ กจิ กรรมและสร้างการมีสว่ นร่วม “ระบบแหลง่ เรยี นรู้” แบบ ของชุมชน ของภาคีเครือขา่ ยเพื่อเตรียมความ Online โดยสวทช. เป็นวทิ ยากร ๕) กศน. อาเภอ/เขตบนั ทึกข้อมลู พร้อมใหก้ บั คนทกุ ชว่ งวยั ในชุมชน เผยแพรผ่ า่ น ETV แหลง่ เรยี นร้ใู น “ระบบแหลง่ ใหส้ อดคล้องกบั สภาพสงั คมที่มี ๔) กศน. อาเภอ/เขตบนั ทึกข้อมลู เรยี นรู้” ของสวทช. เพอื่ เผยแพรส่ ู่ การเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเร็ว ในระบบ “คลังปัญญา” สาธารณะ ของสวทช. - กาหนด User Name ให้กศน. อาเภอ/เขต -จดั ทาคมู่ ือการใชร้ ะบบ “คลงั ปญั ญา”และ“ระบบแหล่งเรียนรู้” จัดทา “บนั ทึกข้อตกลงความร่วมมอื การพฒั นาบารงุ รักษาและการเผยแพรแ่ บบ Online “ระบบคลงั ปญั ญา” และ “ระบบแหลง่ เรยี นรู้” ระหว่างสานักงานกศน. และสานกั งานพฒั นาวิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช) หมายเหตุเป็นความร่วมมือของ ๓ หนว่ ยงาน ๑) กศน. รับผิดชอบการสัมภาษณ์จดั เก็บข้อมลู ภมู ปิ ัญญาในทอ้ งถ่นิ และบนั ทึกขอ้ มลู ในระบบคลังปญั ญา ๒) สวทช. รบั ผดิ ชอบการพฒั นา “ระบบคลงั ปัญญา” และ “ระบบแหลง่ เรียนรู้” www. และ Server การ จดั เกบ็ ฐานข้อมูล ๓) มสพช. สนับสนุนการจัดการความรแู้ ละเผยแพร่คลงั ปัญญาเพื่อสนับสนุนการขับเคลอื่ นการบูรณาการ คุณภาพชีวติ รองรับ “สังคมสงู อายุ”

๔๐ ด้านที่ ๕ พฒั นานวัตกรรมทางการศกึ ษาเพอื่ ประโยชนต์ ่อการจดั การศกึ ษาและกล่มุ เป้าหมาย : Good Innovation ข้อที่ ๕.๑ เรื่องเรง่ จัดตงั้ ศูนย์ให้คาปรึกษาและพฒั นาผลติ ภัณฑ์ Brand กศน. ขอ้ ที่ ๕.๒ เรือ่ งส่งเสริมการใชเ้ ทคโนโลยใี นการปฏบิ ตั งิ านการบรหิ ารจัดการและการจัดการเรยี นรู้ ข้อที่ ๕.๓ เรอ่ื งใหม้ กี ารใช้วิจยั อย่างงา่ ยเพ่ือสรา้ งนวตั กรรมใหม่ แนวทางในการขบั เคล่ือน ๑. กาหนดแนวทางในการดาเนินงานของศนู ย์ “Advice Innovative Learning Center” ๒. สร้างความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั แนวทางการดาเนินงานของศนู ย์ “Advice Innovative Learning Center” ๓. จัดตงั้ ศนู ย์“Advice Innovative Learning Center” จานวน ๙๒๘ ศูนย์ ๔. สง่ เสริมการใชเ้ ทคโนโลยีในการปฏิบตั งิ านการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ ๕. สรุปผลการพฒั นา/ปรบั ปรงุ ๖. ใหม้ ีการวิจัยอย่างงา่ ยเพื่อสรา้ งนวัตกรรม ดา้ นท่ี ๖ จดั ตัง้ ศนู ยก์ ารเรียนรสู้ าหรับทุกช่วงวยั : Good Learning Centre ข้อที่ ๖.๑ เรือ่ งเร่งประสานงานกับสพฐ. เพ่อื จดั ทาทาเนียบข้อมลู โรงเรยี นที่ถกู ยุบรวมหรือคาดวา่ นา่ จะถูกยบุ รวม ขอ้ ที่ ๖.๒ เรื่องใหส้ านกั งานกศน. จงั หวดั ในทุกจังหวดั ที่มีโรงเรียนท่ถี กู ยุบรวมประสานขอใช้พนื้ ทเ่ี พ่ือ จัดตงั้ ศูนย์การเรยี นรสู้ าหรบั ทุกช่วงวัยกศน. แนวทางการดาเนินงาน “ศนู ยก์ ารเรียนรู้สาหรบั ทกุ ช่วงวัยกศน.” กศน.ตาบล... ภารกิจ การจดั ตั้ง “ศนู ย์การเรยี นรู้สาหรบั ทกุ ชว่ งวยั กศน.” กศน.ตาบล... เพอื่ ส่งเสรมิ และสนับสนนุ ใหค้ นในชมุ ชนใช้เปน็ ทจี่ ดั กจิ กรรมการเรยี นรูต้ า่ งๆของชมุ ชนอาทิ ๑. กิจกรรมด้านสุขภาวะพ้นื ฐานเชน่ ออกกาลังกายเผยแพร่ความรู้ด้านสุขอนามัยเบื้องต้น ผา่ นสื่อตา่ งๆเสริมสร้างความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบ้อื งต้นฯลฯ ๒. กิจกรรมการเรยี นรู้ดา้ นสงั คมและส่งิ แวดล้อมเชน่ ปลูกต้นไม้รว่ มกันในชุมชนฝึกให้เด็กรัก ธรรมชาติสนใจส่งิ แวดล้อมชว่ ยกนั ลดโลกร้อนปลูกผกั สวนครัวฯลฯ ๓. กิจกรรมการเรียนรดู้ า้ นศลิ ปะวฒั นธรรมประเพณีในโอกาสสาคญั ตา่ งๆที่ทกุ คนสามารถ ทาได้เช่นการทาของขวญั เครื่องประดับจดั ต้งั ชมรมดนตรีไทยดนตรีสากลชมรมนาฏศลิ ป์ไทยกจิ กรรมในงาน เทศกาลวนั สาคญั ทางศาสนาวาดรปู ตามจินตนาการระบายสตี ามอารมณ์ทาผ้ามัดยอ้ มทาผา้ บาติกทอผา้ รวมกลมุ่ กนั ทางานเพื่อสงั คมเช่นทาบา้ นปลาเพ่ือนาไปวางกลางทะเลปลี ะครัง้ เพ่ือเปน็ แหล่งทอ่ี ยู่อาศยั ของปลาตวั เล็กๆฯลฯ ๔. ศูนยก์ ลางการจัดกิจกรรมของคนในชมุ ชนและต่างชมุ ชนเชน่ เวทชี าวบา้ นเวทีประชาคม เวทแี ลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ สถานทีพ่ บปะเสวนาตลาดนัดชุมชนฯลฯโดยมแี นวทางการดาเนนิ งานดงั นี้ ๓.๑การขับเคลอื่ นกิจกรรมของ “ศูนยก์ ารเรยี นรู้สาหรับทุกช่วงวยั กศน.” กศน.ตาบล... ๑) การจดั ตั้ง “ศนู ยก์ ารเรียนรูส้ าหรบั ทุกชว่ งวยั กศน.” กศน.ตาบล... -ใช้พ้นื ที่ของโรงเรยี นในสังกัดสพฐ. ทีถ่ ูกประกาศยกเลิกโดยปรับสถานภาพโรงเรยี นที่ถูกควบ รวมให้เป็น “ศนู ย์การเรยี นรสู้ าหรบั ทุกช่วงวยั กศน.” กศน.ตาบล... โดยปรับปรุงซอ่ มแซมให้มสี ภาพและความ เหมาะสมในการจัดกจิ กรรม -มหี นังสืออนุญาตจากผมู้ ีอานาจใหใ้ ชส้ ถานท่ี/หรอื มีกรรมสิทธเิ พือ่ จัดต้ัง “ศนู ย์การเรียนรสู้ า

๔๑ หรับทกุ ช่วงวัยกศน.” กศน.ตาบล -พฒั นา “ศนู ย์การเรยี นรู้สาหรับทุกช่วงวยั กศน.” กศน.ตาบล...เพอื่ เป็นศูนย์การเรยี นรูต้ ลอด ชีวติ ของชมุ ชน ๒) แต่งต้งั ครูกศน.ตาบลเปน็ ผู้รบั ผิดชอบในการปฏิบัติงานจัดการศึกษาและการเรยี นรู้ใน “ศนู ยก์ ารเรียนรู้สาหรบั ทุกช่วงวัยกศน.” กศน.ตาบล... ๓) พัฒนาระบบฐานขอ้ มูลและสารสนเทศระดบั ชมุ ชนให้ครบถว้ นถกู ต้องทันสมัยเพ่ือ ประโยชน์ในการวางแผนการจดั การเรียนรู้ ๔) พัฒนาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารเพ่อื เป็นกลไกสาคัญในการส่งเสริมให้ ประชาชนสามารถเข้าถงึ แหล่งขอ้ มลู ข่าวสารและแหล่งความรทู้ ่ีหลากหลายไดอ้ ยา่ งทนั ความตอ้ งการ ๕) นาเสนอความรู้ข้อมูลข่าวสารทถ่ี กู ต้องและทันสมัยตามความต้องการและความสนใจของ ชุมชนในรูปแบบท่หี ลากหลาย ๖) พฒั นาครูกศน.ตาบลให้เป็นนกั จัดการความรู้มืออาชีพโดยจัดใหม้ รี ะบบการพัฒนา สมรรถนะบุคลากรให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสทิ ธผิ ล ๗) จัดให้มกี ารพัฒนาความรู้ให้กับคณะกรรมการ “ศูนยก์ ารเรยี นรู้สาหรับทกุ ชว่ งวยั กศน.” กศน.ตาบล... เพื่อสร้างความร้คู วามเขา้ ใจในบทบาทหนา้ ที่ของ “ศนู ย์การเรียนรสู้ าหรับทุกช่วงวัยกศน.” กศน. ตาบล... ความร้เู รื่องการดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ๘) จดั ทาแผนปฏิบัติการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาตลอดชีวติ โดยใหค้ ณะกรรมการกศน.ตาบล ชุมชนและผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการดาเนนิ การ ๙) พฒั นารปู แบบการให้บรกิ ารใน “ศนู ยก์ ารเรยี นรูส้ าหรับทกุ ช่วงวยั กศน.” กศน.ตาบล... ให้ มคี วามสอดคล้องกับความตอ้ งการและรปู แบบการดาเนินชวี ติ ของชมุ ชน ๑๐) ออกแบบกจิ กรรม/โปรแกรมการศึกษาท่ีเหมาะสมกบั แตล่ ะกลุ่มเปา้ หมายมีการบูรณา การระหว่างวถิ ชี วี ติ การทางานและการเรียนร้ใู หส้ อดคล้องเปน็ เรื่องเดียวกนั ๑๑) จัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ในชุมชนทั้งท่ีมรี ปู แบบและไร้รูปแบบ (ไมม่ ีรอบไม่มีรนุ่ ไมจ่ ากัดจานวน) โดยใช้ “ศูนย์การเรยี นร้สู าหรับทกุ ชว่ ง วัยกศน.” กศน.ตาบล... เปน็ ฐานและประสานภาคีเครือขา่ ยรว่ มดาเนินการ ๑๒) สง่ เสรมิ และสนับสนนุ ให้คนในชุมชนใช้ “ศนู ยก์ ารเรียนรู้สาหรับทกุ ชว่ งวัยกศน.” กศน. ตาบล... เป็นท่ีจัดกิจกรรมตา่ งๆของชุมชนอาทิศาสนาประเพณีวฒั นธรรมกีฬาการส่งเสริมสขุ ภาพเวที ประชาธปิ ไตยตลอดจนเปน็ เวทแี ลกเปล่ยี นเรยี นรู้ของคนในชุมชนและต่างชมุ ชน ๑๓) ประชาสัมพนั ธ์เพ่ือสร้างกระแสใหป้ ระชาชนและทุกภาคส่วนของชมุ ชนเห็นความสาคัญ และเขา้ มามสี ่วนรว่ มในการดาเนินกิจกรรม “ศนู ยก์ ารเรียนร้สู าหรบั ทกุ ชว่ งวัยกศน.” กศน.ตาบล... ทงั้ ในฐานะ ผูร้ ับบรกิ ารผใู้ หบ้ ริการและผูส้ ่งเสริมและสนบั สนุนการดาเนินงาน “ศนู ยก์ ารเรยี นรูส้ าหรบั ทุกชว่ งวัยกศน.” กศน. ตาบล... ๑๔) ประสานความรว่ มมือในแนวราบกบั ภาคเี ครือข่ายตา่ งๆในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ ท้ังด้านวิทยาศาสตร์คณติ ศาสตรศ์ นู ยซ์ ่อมสร้างช่างชนบทอาสาสมัครสง่ เสรมิ การอ่านอาชีพกิจกรรมสาหรับเด็ก เยาวชนและผสู้ ูงอายุและกิจกรรมตามความสนใจอืน่ ๆ ๑๕) สง่ เสริมให้ทุกภาคสว่ นของสงั คมเข้ามามสี ว่ นร่วมในการพฒั นางาน “ศนู ย์การเรียนร้สู า หรบั ทกุ ชว่ งวยั กศน.” กศน.ตาบล อย่างต่อเนอ่ื ง ๓.๒บทบาทหน้าท่ี

๔๒ ๑) บทบาทหน้าทข่ี องครูกศน.ตาบลทีป่ ฏบิ ัตงิ านใน “ศูนยก์ ารเรียนรู้สาหรบั ทกุ ช่วงวัย กศน.” กศน.ตาบล... ๑.๑) ศึกษาสารวจชมุ ชนโดยละเอยี ดเพอื่ จัดทาฐานข้อมลู ชุมชนซ่ึงประกอบดว้ ยข้อมูล ประชากรจาแนกตามอายเุ พศอาชีพฯลฯข้อมลู เกยี่ วกบั สภาพทางภูมิศาสตรป์ ระวัติชมุ ชนข้อมลู ด้านอาชพี รายได้ ข้อมูลทางสังคมประเพณีวัฒนธรรมภมู ิปัญญาท้องถิน่ ๑.๒) จดั เวทีประชาคมรว่ มกับชุมชนและหนว่ ยงานต่างๆเพ่ือร่วมกันจดั ทาแผนงานโครงการ ทรี่ ะบคุ วามต้องการในการพัฒนาชมุ ชนความต้องการการเรยี นรหู้ รอื การศึกษาต่อฯลฯของประชาชนในชุมชน ๑.๓) จดั ทาโครงการ/กิจกรรมรว่ มกับชุมชนที่ผ่านความเห็นชอบของชุมชนเพื่อขอรบั การ สนบั สนนุ งบประมาณและประสานขอความร่วมมือจากภาคเี ครอื ขา่ ยในการดาเนนิ กิจกรรมรว่ มกัน ๑.๔) ประสานงานแสวงหาความรว่ มมอื จากภาคเี ครือขา่ ยองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ผู้ทรงคุณวฒุ ิภมู ปิ ัญญาท้องถิ่นตลอดจนอาสาสมัครต่างๆเพื่อร่วมจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั ของชมุ ชนทร่ี ับผดิ ชอบ ๑.๕) จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ที่เกย่ี วข้องและตรงตามความต้องการของชุมชนทกุ ชว่ งวัย ๒) บทบาทหนา้ ทขี่ อง “ศูนยก์ ารเรยี นรู้สาหรบั ทุกช่วงวัยกศน.” กศน.ตาบล... ๒.๑) การวางแผนการพัฒนาและแผนปฏิทนิ เป็นรายเดือนของโครงการเพอื่ สง่ เสริมสนับสนนุ โครงการใน “ศูนย์การเรียนรู้สาหรับทกุ ช่วงวยั กศน.” กศน.ตาบล - จัดทาฐานข้อมลู ชมุ ชน - จัดทาแผนปฏบิ ตั ิการประจาปี ๒.๒) จัดใหบ้ รกิ ารการเรยี นรูใ้ น “ศูนยก์ ารเรียนรสู้ าหรับทุกช่วงวัยกศน.” กศน.ตาบล รว่ มกับภาคีเครือขา่ ย ๒.๓) สร้างและพัฒนาภาคเี ครือข่ายการเรยี นรู้ในชุมชนโดยการประสานขอความร่วมมือจาก ภาคเี ครอื ขา่ ยองคก์ รชมุ ชนผรู้ ู้ผู้ทรงคุณวุฒติ ลอดจนภมู ิปัญญาท้องถ่ินเพอื่ รว่ มเปน็ อาสาสมัครกศน. อาสาสมคั ร สง่ เสรมิ การอ่านเป็นตน้ ๒.๔) ประชาสมั พนั ธแ์ ละเผยแพร่แผนงานโครงการกจิ กรรมและผลการดาเนนิ งานของ “ศูนย์ การเรยี นรูส้ าหรับทกุ ช่วงวยั กศน.” กศน.ตาบล... ในรูปแบบตา่ งๆ ๒.๕) รายงานผลการปฏบิ ัตงิ าน - รายงานขอ้ มูลทีเ่ กี่ยวข้องตามแบบและระยะเวลาทก่ี าหนด - รายงานผลการปฏบิ ัตงิ านประจาปี ๓) บทบาทหนา้ ท่ขี องกศน.อาเภอ/เขตท่ีมตี ่อ “ศูนย์การเรยี นรูส้ าหรับทุกช่วงวัยกศน.” กศน.ตาบล... ๓.๑) สรา้ งความรู้ความเข้าใจในการจดั กจิ กรรมการศึกษาตลอดชีวิตของคนในชุมชนตั้งแต่ เด็กวัยกอ่ นเรียนจนถึงวัยผสู้ ูงอายุ ๓.๒) สนบั สนนุ งบประมาณตามแผนปฏบิ ตั ิงานประจาปขี อง “ศูนย์การเรยี นรสู้ าหรับทุกช่วง วัยกศน.” กศน.ตาบล ๓.๓) จดั ซื้อจดั หาส่ือวสั ดุอปุ กรณ์ท่จี าเป็นต่อการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้และการใหบ้ ริการ ๓.๔) พฒั นาอาสาสมคั รและคณะกรรมการ “ศูนยก์ ารเรียนรสู้ าหรบั ทุกช่วงวยั กศน.” กศน. ตาบล ๓.๕) ประสานภาคีเครอื ข่ายเขา้ ร่วมจัดกจิ กรรมรว่ มกับ “ศูนยก์ ารเรยี นรู้สาหรบั ทุกชว่ งวัย กศน.” กศน.ตาบล

๔๓ ๓.๖) รว่ มกับ “ศูนยก์ ารเรียนรู้สาหรับทุกช่วงวัยกศน.” กศน.ตาบล จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ๓.๗) นิเทศติดตามและประเมินผลการดาเนนิ งาน “ศนู ยก์ ารเรยี นรูส้ าหรับทุกชว่ งวยั กศน.” กศน.ตาบล ๓.๘) สรปุ วิเคราะห์ผลการดาเนินงาน “ศนู ย์การเรยี นร้สู าหรบั ทุกชว่ งวัยกศน.” กศน.ตาบล ในระดบั อาเภอรายงานสานักงานกศน.จงั หวดั ๓.๙) เสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏบิ ตั ิงานในรูปแบบตา่ งๆ ๔) บทบาทหน้าท่ขี องสานักงานกศน.จงั หวดั /กทม. ทมี่ ีต่อ “ศนู ย์การเรียนร้สู าหรบั ทกุ ช่วง วยั กศน.” กศน.ตาบล... ๔.๑) ช้ีแจงนโยบายจดุ เน้นการดาเนนิ งาน ๔.๒) สนับสนุนงบประมาณตามแผนปฏิบตั งิ านประจาปี “ศนู ยก์ ารเรยี นรูส้ าหรบั ทุกช่วงวยั กศน.” กศน.ตาบล ๔.๓) พฒั นาครอู าสาสมัคร “ศูนย์การเรยี นรูส้ าหรับทุกชว่ งวัยกศน.” กศน.ตาบล ใหเ้ ป็น นกั จัดการความร้มู ืออาชีพ ๔.๔) ประสานภาคีเครือขา่ ยระดบั จังหวัดเขา้ ร่วมจัดกจิ กรรมร่วมกับ “ศูนยก์ ารเรียนรูส้ าหรบั ทุกช่วงวยั กศน.” กศน.ตาบล ๔.๕) กากบั ติดตามและประเมินผลการดาเนนิ งาน “ศนู ยก์ ารเรยี นรู้สาหรับทกุ ช่วงวัยกศน.” กศน.ตาบล ๔.๖) จัดทาเกณฑ์การประเมินผลการดาเนินงานของ “ศนู ย์การเรียนรูส้ าหรับทกุ ชว่ งวัยกศน.” กศน.ตาบล ใหเ้ ปน็ ไปตามท่สี านกั งานกศน. กาหนด ๕) บทบาทหน้าท่ขี องศนู ย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนศูนย์ วิทยาศาสตร์เพือ่ การศกึ ษาและสถานศกึ ษาขน้ึ ตรงท่ีอยใู่ นจังหวัดนน้ั ๆท่ีมตี ่อ “ศนู ยก์ ารเรยี นรสู้ าหรบั ทกุ ชว่ งวัยกศน.” กศน.ตาบล... ๕.๑) ร่วมจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนดา้ นอาชพี ๕.๒) ร่วมจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนดา้ นวิทยาศาสตร์ ๕.๓) ร่วมจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเกษตรทฤษฎี ใหมศ่ าสตร์พระราชา ๖) บทบาทหน้าทีข่ องสถาบันกศน.ภาคที่มตี ่อ “ศูนย์การเรียนร้สู าหรบั ทกุ ช่วงวยั กศน.” กศน.ตาบล ๖.๑) สนบั สนนุ สอื่ การเรยี นรู้ ๖.๒) ร่วมพัฒนาหลักสูตรการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ๖.๓) รว่ มพฒั นาครกู ศน. ตาบล ๗) บทบาทหนา้ ทขี่ องสานกั งานกศน. ทีม่ ตี ่อ “ศูนย์การเรยี นรสู้ าหรับทุกช่วงวยั กศน.” กศน.ตาบล ๗.๑) วางแผนและจดั รูปแบบองค์ประกอบกรอบแนวทางในการขบั เคล่ือนกจิ กรรมของ “ศนู ยก์ ารเรยี นรู้สาหรบั ทุกช่วงวัยกศน.” กศน.ตาบล ๗.๒) ดาเนนิ งานจดั สรรงบประมาณเพ่ือดาเนนิ งานใน “ศูนยก์ ารเรยี นรสู้ าหรับทุกชว่ งวัย กศน.” กศน.ตาบล ๗.๓) จัดประชุมชี้แจงติดตามผลการดาเนินงาน “ศูนยก์ ารเรยี นรสู้ าหรบั ทุกชว่ งวัยกศน.” กศน.ตาบล

๔๔ ๗.๔) สรุปรายงานผลการดาเนนิ งานของ “ศนู ยก์ ารเรยี นรู้สาหรับทกุ ช่วงวยั กศน.” กศน.ตาบลให้ ผู้บรหิ ารสานักงานกศน. ทราบเพื่อนาไปใช้เปน็ ฐานข้อมลู ในการวางแผนวิเคราะห์และพัฒนา “ศูนยก์ าร เรยี นรู้สาหรบั ทกุ ช่วงวยั กศน.” กศน.ตาบล ในอนาคตต่อไป ๗.๕) แตง่ ตั้งคณะทางานของ “ศูนย์การเรยี นรสู้ าหรบั ทุกชว่ งวัยกศน.” กศน.ตาบล สว่ นท่ี ๓ รายละเอยี ดแผนงาน/โครงการ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ แผนงาน : ยุทธศาสตร์สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ระยะเวลา หมายเหตุ โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจดั การศึกษาต้ังแต่ระดับอนุบาลจนจบการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน งบเงินอุดหนนุ เงินอุดหนนุ ทั่วไป ท่ี รายการ/กิจกรรม จานวน นศ. จานวนเงิน

๔๕ งบประมาณท่ไี ด้รับจดั สรรประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ๙๗๖ ๒,๒๙๖,๑๖๘ ๑ ค่าจดั การเรียนการสอน ๙๗๖ ๒,๒๙๖,๑๖๘ ๑ ต.ค. ๖๒ รหัส : ๒๐๐๐๒๔๒๗๑๖๕๐๐๔๒๙ - - ระดบั ประถมศึกษา - ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ๗๒ ๑๒๗,๒๙๖ ๓๐ ก.ย. ๖๓ - ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ๓๘๑ ๘๒๖,๐๐๘ - ระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ (ปวช.) ๕๒๓ ๑,๑๓๓,๘๖๔ ๓๘ ๒๐๙,๐๐๐ ๒ ค่ากิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น ๙๗๖ ๕๘๔,๗๖๐ รหัส : ๒๐๐๐๒๔๒๗๑๖๕๐๐๔๒๑ - ระดับประถมศึกษา ๗๒ ๒๐,๑๖๐ - ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ ๓๘๑ ๒๒๐,๙๘๐ - ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ๕๒๓ ๓๐๓,๓๔๐ - ระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชพี (ปวช.) ๓๘ ๔๐,๒๘๐ ๓ ค่าหนงั สือเรียน ๙๗๖ ๗๗๒,๔๘๐ รหัส : ๒๐๐๐๒๓๓๐๑๖๕๐๐๒๐๐ - ระดับประถมศึกษา ๗๒ ๔๑,๗๖๐ - ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ๓๘๑ ๒๗๔,๓๒๐ - ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ๕๒๓ ๔๑๘,๔๐๐ - ระดับประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.) ๓๘ ๓๘,๐๐๐ แผนงาน : ยทุ ธศาสตร์สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา โครงการสนบั สนุนค่าใช้จา่ ยในการจดั การศกึ ษาตั้งแตร่ ะดับอนุบาลจนจบการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน งบเงนิ อุดหนุน เงนิ อุดหนุนทว่ั ไป รายการค่าจัดการเรียนการสอน รหสั งบประมาณ ๒๐๐๐๒๔๒๗๑๖๕๐๐๔๒๙ ที่ รายการ จานวนเงนิ พ้ืนท่ี ระยะเวลา หมายเหตุ ดาเนนิ การ ดาเนินการ

๔๖ งบประมาณทไี่ ด้รบั จัดสรร กศน.อาเภอ ( ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ – ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๓ ) ๒,๒๙๖,๑๖๘ เขาสวนกวาง คา่ ใชจ้ ่าย ทุก ๑ ค่าตอบแทนบุคลากร (ไตรมาสที่ ๑-๒ ) ๑,๔๔๐,๐๐๐ กศน.อาเภอ ๑ ต.ค. ๖๒ ประเภท ๗๒๐,๐๐๐ เขาสวนกวาง ถึง ทใ่ี ชง้ บ - ครู ศรช. (๗ คน x ๑๕,๐๐๐บ. x ๖ ด.) ๖๓๐,๐๐๐ กศน.ตาบล ๓๑ มี.ค. ๖๓ อุดหนุน - ครู ปวช. (๑ คน x ๑๕,๐๐๐บ. x ๖ ด.) ๙๐,๐๐๐ ๕ แหง่ ในการ บรหิ าร ๗๒๐,๐๐๐ กศน.อาเภอ ๑ เม.ย. ๖๓ จัดการ คา่ ตอบแทนบคุ ลากร(ไตรมาสท่ี ๓-๔ ) ๖๓๐,๐๐๐ เขาสวนกวาง ถึง - ครู ศรช. (๗ คน x ๑๕,๐๐๐บ. x ๖ ด.) ๙๐,๐๐๐ กศน.ตาบล ๓๐ ก.ย. ๖๓ - ครู ปวช. (๑ คน x ๑๕,๐๐๐บ. x ๖ ด.) ๕ แหง่ ๒ ค่าสาธารณูปโภค ๙๐,๐๐๐ กศน.อาเภอ ๑ ต.ค. ๖๒ - ค่าไฟฟ้า ๓๕,๐๐๐ เขาสวนกวาง ถึง - คา่ น้าประปา ๒๕,๐๐๐ - คา่ โทรศัพท์ ๓๕,๐๐๐ ๓๐ ก.ย. ๖๓ แผนงาน : ยทุ ธศาสตร์สร้างความเสมอภาคทางการศกึ ษา โครงการสนบั สนุนค่าใช้จา่ ยในการจัดการศกึ ษาตงั้ แตร่ ะดับอนุบาลจนจบการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน งบเงินอุดหนุน เงนิ อุดหนุนท่วั ไป รายการคา่ จัดการเรียนการสอน รหัสงบประมาณ ๒๐๐๐๒๔๒๗๑๖๕๐๐๔๒๙ ที่ รายการ จานวนเงิน พน้ื ท่ี ระยะเวลา หมายเหตุ ดาเนนิ การ ดาเนินการ งบประมาณทไ่ี ดร้ บั จดั สรร (ยอดยกมา) ๒,๒๙๖,๑๖๘ กศน.อาเภอ เขาสวนกวาง ๓ ค่าดาเนนิ การสอบ / สนามสอบ / ข้อสอบ ๑๒๔,๐๐๐ ร.ร.เขาสวน ม.ี ค. ๖๓ ๑) ภาคเรียนท่ี ๒/๒๕๖๒ ๖๒,๐๐๐ กวางวทิ ยา - คา่ สนามสอบ ( ๒,๐๐๐ บาท ) ๒,๐๐๐ นุกลุ - คา่ ดาเนนิ การสอบ ๖๐,๐๐๐ บาท ๖๐,๐๐๐

๔๗ - คา่ ข้อสอบรายวชิ าเลือก (๒๐ บาท ) ๓๑,๘๖๐ -กนั ไวท้ ่ี สนง.กศน. ๒) ภาคเรียนที่ ๒/๒๕๖๒ ๖๒,๐๐๐ ร.ร.เขาสวน ก.ย. ๖๓ จังหวัด - ค่าสนามสอบ ( ๒,๐๐๐ บาท ) ๒,๐๐๐ กวางวทิ ยา - คา่ ดาเนนิ การสอบ ๖๐,๐๐๐ บาท ๖๐,๐๐๐ - คา่ ขอ้ สอบรายวิชาเลือก (๒๐ บาท ) ๓๑,๘๖๐ นุกุล ๙ คา่ เดินทางไปราชการ ๕๕,๐๐๐ -กันไว้ที่ สนง.กศน. ๑๐ ค่าพัฒนาบคุ ลากร จังหวดั -ศกึ ษาดูงาน -อบรม/ประชุม ๒๐๐,๐๐๐ จ. ๑๐๐,๐๐๐ อุบลราชธานี ๑๐๐,๐๐๐ แผนงาน : ยทุ ธศาสตร์สรา้ งความเสมอภาคทางการศกึ ษา โครงการสนบั สนนุ ค่าใช้จา่ ยในการจดั การศกึ ษาต้ังแตร่ ะดับอนบุ าลจนจบการศึกษาขน้ั พื้นฐาน งบเงินอุดหนนุ เงนิ อดุ หนุนทั่วไป รายการค่าจัดการเรียนการสอน รหสั งบประมาณ ๒๐๐๐๒๔๒๗๑๖๕๐๐๔๒๙ ที่ รายการ จานวนเงนิ พื้นที่ ระยะเวลา หมายเหตุ ดาเนนิ การ ดาเนินการ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook