Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการลดความอ้วนๅ

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการลดความอ้วนๅ

Published by Smith Anucha, 2019-12-09 01:52:23

Description: ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการลดความอ้วนๅ

Search

Read the Text Version

“ความเชอ่ื ผิด ๆ เก่ยี วกบั การลดความอ้วน” ผจู้ ัดทา นายอนชุ า หมัน่ คูณ คณะครุศาสตร์ สาขาวชิ าการศึกษาปฐมวัย ชั้นปีท่ี 4/16

ความเช่ือผิด ๆ เก่ียวกบั การลดความอ้วน การลดนา้ หนกั ทีด่ ีและได้ผล คอื การลดทปี่ ริมาณไขมันสะสมในรา่ งกาย โดยมวี ธิ ีการหลักๆอยู่ 2 วธิ ี คอื ควบคมุ อาหารและการออกก้าลงั กาย โดยสองหลกั การนจี ะท้างานกันเป็นทีม การควบคุมอาหารจะชว่ ยให้เรา ไดร้ บั พลังงานและสารอาหารอยา่ งพอเหมาะ และการออกกา้ ลังกายจะชว่ ยให้รา่ งกายแขง็ แรง เสริมสรา้ ง กล้ามเนอื ช่วยเพ่ิมการเผาพลาญพลงั งาน และชว่ ยในการควบคมุ น้าหนกั จึงขาดสิ่งใดส่งิ หนึ่งไปไมไ่ ด้ แต่ถา้ หากเรามเี วลาจา้ กดั ไม่สามารถจดั สรรเวลาใหไ้ ปออกกา้ ลังกายได้บอ่ ยๆ ทางออกคือการควบคุมอาหารอย่าง เคร่งครดั แต่ใช่ว่าจะไม่ออกก้าลังกายเลย เพราะอย่างที่กลา่ วไป การจะได้รับผลดที ่ีสุดก็คือ ลดน้าหนกั ลงได้ และไม่กลบั มาอว้ นอีก ซ่ึงต้องอาศัยการปฏิบัติทงั สองอย่างคู่กัน เมื่อเราควบคุมอาหารดีแลว้ เรากไ็ ม่จะเป็น ต้องหักโหมออกก้าลังกายแบบบ้าคลงั่ แถมยังมีแรงเหลือไปออกกา้ ลงั กายไดอ้ ยา่ งเต็มท่ี ไม่ทา้ ลายสขุ ภาพและ มีรปู ร่างสมส่วนไม่เหยี่ วไมย่ ว้ ยอกี ดว้ ย ซงึ่ ผ้คู นส่วนใหญ่เรียนรวู้ ธิ กี ารลดความอ้วนแบบผิดๆ มีดังนี 1.รับประทานอาหารสารอาหารตา่ การอ่านฉลากโภชนาการควรให้ความส้าคญั กบั รายละเอยี ดหรอื ส่วนประกอบของอาหารด้วยทงั ปริมาณ โปรตีน เกลือแร่ และสารปรงุ แต่งอน่ื ๆ ไม่ใชส่ นใจแค่เพียงปริมาณแคลอรรี วมหรือปริมาณไขมนั เทา่ นนั กา รับประทานอาหารที่มไี ขมันต้่าหรือไม่มีไขมนั เลย อาจชว่ ยลดแคลอรีไดม้ ากกวา่ รับประทานอาหารปกติ แต่ อาหารไขมนั ต่า้ บางส่วนอาจมีสารอาหารทีเ่ ป็นประโยชนต์ อ่ รา่ งกายต้า่ กวา่ อาหารปกติชนิดเดยี วกัน อกี ทงั ยงั อาจจะต้องมีการดดั แปลงเพิ่มแปง้ เกลือ หรือนา้ ตาลลงไปเพื่อเพ่มิ รสชาตใิ ห้อร่อยขนึ หลงั จากเอาไขมันออกไป ดงั นนั การเลือกอาหารจากการพิจารณาปริมาณไขมันเพยี งอยา่ งเดียวจึงอาจไม่ใชว่ ิธีทด่ี ที ่ีสุด 2. ลดความอว้ นต้องอดอาหาร หากต้องการลดนา้ หนกั เราต้องให้รา่ งกายมีการใช้พลังงานหรือมีการเผาผลาญพลังงานใหม้ ากกว่า พลังงานจากอาหารทีเ่ รารบั ประทานเข้าไป ดังนนั การลดน้าหนักหรอื ลดความอว้ นจึงต้องมีการควบคมุ ปริมาณ แคลอรีจากการรับประทานอาหาร ซง่ึ ไมใ่ ช่การอดอาหาร โดยเฉล่ยี ผูห้ ญิงต้องการพลังงานประมาณ 2000 kcal และผู้ชายตอ้ งการพลังงานประมาณ 2500 kcal เพอ่ื ใช้ในชีวติ ประจ้าวันและรักษานา้ หนกั ตวั ใหค้ งที่ หากตอ้ งการลดนา้ หนัก แนะน้าให้ลองลดแคลอรีในอาหารทร่ี ับประทานลงวนั ละ 500 kcal หรอื เพมิ่ กิจวัตร ประจา้ วนั /กจิ กรรมทเี่ พ่ิมการเผาผลาญมากขึน 500 kcal ก็จะเป็นทางหนง่ึ ทช่ี ่วยลดนา้ หนกั หรือลดความอ้วน ได้ ปจั จัยท่สี ่งผลกับการใช้พลังงานในรา่ งกายของแต่ละคนไมเ่ หมอื นกนั โดยขนึ กับเพศ อายุ กิจวตั รประจ้าวนั ฯลฯ หากไม่แนใ่ จว่าเราควรรับประทานอาหารในปริมาณเท่าไหรถ่ ึงจะเหมาะสมกับการลดน้าหนกั โดยท่ียงั มี สขุ ภาพแข็งแรง การปรึกษาผู้เชีย่ วชาญน่าจะเป็นทางเลือกที่ทา้ ใหส้ ามารถเดนิ ไปสู้เปา้ หมายไดด้ ีขึน

ทมี่ า : https://www.google.com/search?q=%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0 %B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3&sxsrf= 3. รบั ประทานแค่ผกั และผลไม้ หัวใจของการลดน้าหนักอย่างหนึ่ง คือ การควบคุมปรมิ าณแคลอรขี องอาหารท่รี บั ประทาน โดยไม่ให้ มากกวา่ ปริมาณท่ีเราใช้ในแต่ละวัน และทีส่ ้าคญั กค็ ือการควบคุมแคลอรนี ันต้องไม่ทา้ ให้รา่ งกายขาดสารอาหาร ท่ีจ้าเป็นในการด้ารงชีวิต การรับประทานผักและผลไม้เพยี งอย่างเดยี วนัน ถึงจะไดร้ บั พลงั งานเพยี งพอแต่กจ็ ะ ทา้ ให้รา่ งกายขาดสารอาหารท่ีจา้ เป็นอื่น ๆ จึงไมแ่ นะนา้ ให้รับประทานแตผ่ ักและผลไมเ้ พ่อื ลดนา้ หนัก การ รับประทานผกั เพ่มิ ในมืออาหารหรือการรบั ประทานผลไม้ทดแทนขนมหวานหรือขนมจุกจกิ ระหว่างมือ นา่ จะ เป็นทางเลอื กทดี่ ีกวา่ เพราะผกั /ผลไมม้ ีกากใย ช่วยเร่ืองรูส้ ึกอม่ิ ได้เรว็ ขนึ อกี ทังยังช่วยในการขับถ่าย แต่ก็ควร ระวังไม่เลือกรับประทานผลไมท้ ีม่ ีรสหวานจัดจนเกินไป 4. งดอาหารประเภทแปง้ อาหารกลมุ่ คาร์โบไฮเดรตยงั คงเปน็ สารอาหารหลักท่ีใหพ้ ลังงานและมีความจ้าเปน็ สา้ หรบั ร่างกาย การ รับประทานแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตในปริมาณทีเ่ หมาะสมจงึ ไมท่ า้ ใหอ้ ้วน เน่อื งจากปัจจบุ ันอาหารทเ่ี รา รบั ประทานมสี ่วนประกอบของแป้งหรอื คารโ์ บไฮเดรตในปริมาณมาก จงึ ได้เกิดคา้ แนะนา้ สา้ หรับการลด นา้ หนกั วา่ ใหล้ ดหรอื งดแปง้ ทังทจ่ี ริงแลว้ สารอาหารจ้าพวกแปง้ หรือคารโ์ บไฮเดรตไม่ใช่สาเหตทุ งั หมดของ ความอ้วน คา้ แนะน้าเบืองตน้ ในการเลอื กรับประทานแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตกค็ ือ เรายงั สามารถรับประทาน แปง้ หรือคารโ์ บไฮเดรตได้ในมือเชา้ และมือกลางวัน แตค่ วรงดหรือจา้ กดั ปริมาณในมือเยน็ สา้ หรบั ชนดิ ของ คารโ์ บไฮเดรตนนั ควรเลือกเป็นคารโ์ บไฮเดรตเชงิ ซอ้ น เชน่ ขา้ วกล้อง ข้าวโอ๊ด ข้าวไม่ขดั สีตา่ งๆ ขนมปงั โฮลวที เพราะจะท้าใหร้ ะดับนา้ ตาลในร่างกายเพ่ิมขนึ ช้า ๆ รู้สึกอิ่มได้นาน ลดความอยากอาหารและชว่ ยลดความหวิ

ได้ ส้าหรบั มอื เยน็ นนั แนะนา้ ให้เน้นทานอาหารกลมุ่ โปรตีนและผกั ใบเขยี วทดแทนอาหารกล่มุ แปง้ ก็จะเป็นวิธี ที่สามารถชว่ ยลดน้าหนักได้ 5. รบั ประทานเนื้อสัตวไ์ ม่ทาให้อว้ น ในภาวะปกติทร่ี า่ งกายไม่ได้อยใู่ นสภาวะอดอาหารหรือขาดอาหารอย่างรนุ แรง รา่ งกายจะไม่มีการน้า โปรตีนมาเปลย่ี นเป็นพลงั งาน หรอื นา้ โปรตีนไปเป็นแหล่งพลังงาน เพราะร่างกายสามารถไดร้ บั พลังงานอย่าง เพยี งพอจากสารอาหารกลมุ่ แปง้ และไขมนั แล้ว ดังนนั การรับประทานอาหารกลุ่มโปรตีนจา้ พวกเนือสัตวจ์ ึง ไมไ่ ด้เป็นสาเหตขุ องความอ้วน แต่เน่อื งจากในเนือสัตวม์ ีชนั ไขมันแทรกอยู่ การรบั ประทานเนอื สัตวท์ ต่ี ดิ มนั หรือมีไขมันแทรกเปน็ จา้ นวนมากอาจเป็นสาเหตขุ องแคลอรที ี่เกินได้และท้าใหอ้ ้วนได้ ดงั นนั หากตอ้ งการลด หรือควบคุมนา้ หนัก แนะน้าใหร้ ับประทานเนือสัตว์ชนิดทม่ี ีไขมันต้่า ตวั อย่างเช่น เนืออกไก่ เนือสนั ในหมู ไข่ ขาวตม้ โปรตนี จากพชื เปน็ ต้น 6. รับประทานอาหารเมือ่ รู้สึกหวิ การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา หรือปล่อยให้ร่างกายอดอาหารเป็นเวลานานจนรู้สึกหิว จะ ไปกระตุ้นฮอร์โมนความเครียดท่ีชื่อ Cortisol ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารมากขึน โดยเฉพาะอาหารกลุ่มที่มีนา้ ตาลและไขมันสูง การรับประทานอาหารกลุ่มนีมาก ๆ ก็เป็นสาเหตุหน่ึง ของการได้รับพลังงานเกินกว่าความต้องการ และเกิดโรคอ้วนได้ ดังนัน จึงควรรับประทานอาหารให้ ตรงเวลา 3 มือ มากกว่าการรับประทานเมื่อหิว 7. กินยาลดความอ้วน ผทู้ ใี่ ชย้ าลดความอว้ นมักจะต้องการผลท่ีรวดเร็ว โดยท่ตี นเองไม่ต้องเหน่ือยหรือทรมานมากนัก ย่งิ ดว้ ย วิธีการทางการตลาดทมี่ กั เน้นวา่ ไม่ตอ้ งออกก้าลังกาย ไม่ต้องอดอาหาร สามารถทานอาหารไดต้ ามปกติ แต่ อย่างไรกต็ ามการลดน้าหนักท่ีดีควรจะทา้ ทุกอยา่ งควบคู้กนั ไป ผลขา้ งเคียงท่ีเกิดจากการทานยาลดความอ้วน สะสมนานเกนิ ไปมักเกิดอาการ ดงั ตอ่ ไปนี 7.1 โยโย่ เป็นผลกระทบอย่างแรกทมี่ ักเกิดขึนจากการลดความอ้วนผิดวธิ ี นา้ หนกั ทีล่ ดลงไปอย่าง รวดเร็วประกอบกบั การไม่ออกก้าลงั กายทา้ ให้กล้ามเนือไม่กระชับ ไมช่ ว่ ยสร้างมวลกลา้ มเนือใหมอ่ ย่างแท้จริง เมอ่ื หยดุ ยาท้าใหน้ า้ หนักกลงั มาเพิ่มขึนอย่างรวดเร็ว บางครงั น้าหนักมากกว่าเดิมเหมอื นลกู โยโย่ และแน่นอน ว่าการลดความอ้วนครังหลังนียากกว่าเดมิ ดว้ ย 7.2 เกิดรอยแตกลาย เปน็ ปัญหาหนกั มากสา้ หรบั ผู้ที่นา้ หนกั ลดลงอยา่ งรวดเรว็ เน่ืองจากมวลกล้ามเนือ ภายในรา่ งกายหายไปแตผ่ วิ หนังของเราปรบั สภาพตามไม่ทันจงึ มักทิงร่องรอยแตกลายอาไว้ ไมว่ า่ จะเป็นต้นขา ท้องแขน หรอื น้อง ซ่ึงการเกิดผิวแตกลายนีแก้ไขไดย้ ากกว่าการลดความอ้วนเสียอีกโดยเฉพาะบรเิ วณที่ มองเหน็ ได้ชดั 7.3 ผิวหนงั หย่อนคลอ้ ย ต้นเหตคุ ลา้ ยกบั การท่ีเกดิ รอยแตกลายก็คือนา้ หนักลดลงอย่างรวดเรว็ แต่ กลา้ มเนือยังไม่แขง็ แรง โดยเฉพาะคนท่ีอ้วนมาก ๆ แลว้ นา้ หนกั ลดลงมากกวา่ 20 กิโลกรมั จงึ มักทิงผวิ หนัง หย่อนคล้อยไวท้ ่ีท้องแขนหรอื หนา้ ท้องจนท้าให้กลายคนไม่กลา้ ใสเ่ สือตัวเลก็ ๆ กันเลยทีเดียว

อนั ตรายทีเ่ กดิ จากการทานยาลดนา้ หนกั ในตัวยาลดความอ้วนมกั มีสารท่ีเป็นอันตรายอยูห่ ลายชนดิ อย่างเช่น แอมเฟตตามีน เป็นส่วนผสมของ ยาบา้ ซึ่งถือวา่ อันตรายมาก หากตรวจพบกส็ ามารถท้าใหฉ้ ี่มว่ งไดเ้ ชน่ กัน ลกั ษณะอาการของผ้ทู ่ีทานยานี คือ ปากแหง้ , ไม่อยากอาหาร, นอนไม่หลับ หรอื บางรายอาจพบอาการทางจิตประสาทเชน่ เป็นคนซมึ เศร้า ยง่ิ ถ้า หากเปน็ โรคซึมเศรา้ อยู่แลว้ แล้วทานยาลดความอว้ นที่มสี ารแอมเฟตามีนจะท้าใหเ้ กิดภาวะซมึ เศร้ารนุ แรงได้ เม่อื ใช้ยาสารเคมีลดความอ้วนมากจนเกนิ ไป อาจก่อให้เกิดโรคเหลา่ นี โรคความดันโลหิตสงู , โรคหลอดเลือด หวั ใจ, โรคหลอดเลอื ดอุดตนั , โรคจิตประสาท, โรคซึมเศร้า, มภี าวะต่อมไทรอยดท์ ้างานผิดปกติ, มีอาการตดิ ยา อย่างรุนแรง หากทานยาติดต่อกันนานเกิน 3 เดอื นอาจสง่ ผลเสียตอ่ ระบบการท้างานของรา่ งกาย ร้านแรงทสี่ ดุ คอื เสยี ชวี ิต 8. การนอนไม่สัมพันธก์ ับน้าหนกั บางคนคดิ วา่ การอดนอนจะท้าให้ผอม แต่ความจริงแล้ว การพกั ผ่อนอยา่ งเพยี งพอมสี ่วนช่วยควบคมุ น้าหนกั รายงานการศึกษาในปี ค.ศ. 2012 ฉบบั หนงึ่ วจิ ัยความเช่ือมโยงระหว่างการอดนอนและน้าหนักพบว่า การอดนอนทา้ ให้ฮอรโ์ มนเปล่ียนแปลงการควบคุมระดับนา้ ตาลเกิดผดิ ปกติ โดยศึกษาเปรยี บเทยี บกลุ่มคนท่ี นอนโดยเฉล่ยี วนั ละ 4 ชั่วโมงและวันละ 9 ชวั่ โมง พบว่าคนที่นอนน้อยจะมีความต้องการกนิ อาหารท่ีมแี คลอรี เพม่ิ ขนึ หรือในรายงานการศึกษาอกี ฉบับหนึ่งเมื่อปคี .ศ. 2006 ทศ่ี ึกษาในผู้หญิง 68,000 รายเปน็ เวลา 16 ปี พบว่า คนท่นี อนน้อยกว่าวนั ละ 5 ชัว่ โมงมแี นวโน้มน้าหนกั ขึนมากกว่าคนทีน่ อนวนั ละหลายชวั่ โมง การอด นอนแลว้ ท้าใหน้ า้ หนักเพ่ิมขนึ สว่ นหนึง่ เป็นเพราะการเปล่ยี นแปลงของฮอรโ์ มนท่ีชือ่ วา่ กรีลิน (ghrelin) ซง่ึ เป็นฮอรโ์ มนท่ที า้ ใหเ้ กิดความอยากอาหาร และฮอรโ์ มนเลปตนิ (leptin) ซ่ึงเป็นฮอรโ์ มนเก่ยี วกบั การสง่ สัญญาณต่อความรูส้ ึกอมิ่ ดังนัน จงึ ทา้ ให้คนอดนอนมแี นวโนม้ ท่ีจะกนิ มากขนึ โดยเฉพาะอาหารจ้าพวกแป้งซ่งึ มแี คลอรีเยอะ เพื่อไปสร้างพลังงานชดเชยเนอ่ื งจากการอดนอน (ทีเ่ ท่ากับเปน็ การกระตุ้นให้รา่ งกายเครยี ด อย่างหนง่ึ ) นอกจากนีการอดนอนยงั ท้าให้รา่ งกายอ่อนเพลีย จนทา้ ให้ไม่มแี รงจะไปออกกา้ ลงั กายด้วย ที่มา : https://goodlifeupdate.com/healthy-body/148808.html/2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook